☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]  (อ่าน 195321 ครั้ง)

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
พี่เพลิงงงงงงงงม

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พี่เพลิงจริงๆใช่ใหม


พี่เพลิงปลอดภัยใช่ใหม

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ใจหายใจคว่ำ พระเอกของเราต้องมีกี่ชีวิตถึงจะพอเสี่ยงภัยที่มาทุกรูปแบบ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ผู้ช่วยทำเราตกใจไม่พอ ทำเนตรตกใจมากด้วย
เกือบไปแล้วไหมล่ะ เนตรถึงกับเข่าอ่อนเลยนะ

ชอบความเพลิงที่ห่วงเนตรมาก เลยไม่ให้ตามไปด้วย
แต่เรื่องเนตรห่วงเหมือนกัน เพลิงต้องทำเข้มใส่ถึงบอกได้ 
เอ็นดูเนตร ตอนนี้ความรู้สึกชัดเจนมากเกินจะบรรยายแล้วมั้ง

สัญญาไว้แล้วไง เพลิงไม่ทำผิดสัญญาด้วย


ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ใจหายหมดเลยคุณเพลิงง :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ Tommytime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :m25:
รออ่านแทบไม่ไหวแล้วค่ะ คือแบบว่าอ่านแล้วมันละมุนมากเข้าถึงชีวิตจริงมากเลยค่ะ อ่านแล้วประทับใจมาก ถ้าเรื่องนี้แต่งจบอยากให้ทำเป็นหนังมากเลยค่ะอ่านแล้วยิ้มตลอดเลย เรื่องที่ไรท์แต่งทุกเรื่องละมุมมากเลยค่ะอ่านแล้วหัวใจเบิกบาน5555
#จะรอตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
พี่เพลิงใจหายโหม๊ดดด
โอ๋ๆน้อง ขวัญเอ๋ยขวัญมา

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ใจหายหมด :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ [Karnsaii]

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +523/-17
[ 14 ]


รเณศทำหน้าไม่ถูกหลังจากที่ผละออกจากอ้อมกอดของเพลิงแล้วเห็นสายตาของเจ้าหน้าที่ในชุดลายพรางคนอื่นๆ พร้อมใจกันยิ้มก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น คนเมืองหน้าแดงวาบเพราะรู้ตัวว่าเผลอแสดงกิริยาประหลาดแบบนั้นกับเพลิงท่ามกลางสายตาของหลายๆ คู่

“ผมไปช่วยป้าจำเนียรก่อนนะ”

รเณศเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะเดินตุปัดตุเป๋ผละออกมาแทบจะทันที เพราะนอกจากสายตาคนอื่นแล้วแววตาเป็นประกายของเพลิงนั่นก็ทำให้เขาทำตัวไม่ถูกเช่นกัน ท่าทางเก้อกระดากของคนเมืองส่งผลให้ร่างสูงใหญ่มองจนลับตา

พลสีไหล่เกิ้งยิกๆ ก่อนที่หันไปสบตากับเปลวที่ลอบยิ้มอยู่

“ไม่ตามเหรอครับ”

เกิ้งพูดขึ้นลอยๆ นั่นทำให้เพลิงถอนสายตาจากใครบางคนหันมามองลูกน้องตัวเองที่ยืนยิ้มราวกับคนเสียสติอยู่ตรงหน้า

“ตามใคร”

“โธ่ผู้ช่วย”

พลร้องโอดโอยจนเพลิงขยับรอยยิ้มทันทีหลังจากแกล้งทำหน้าตายถามกลับไปเมื่อกี้ นั่นทำเอาบรรยายกาศรอบตัวสบายขึ้น เพราะก่อนหน้านี้เจอกับสถานการณ์ที่กดดันและตึงเครียด เนื่องจากเพลิงเกือบจมน้ำแต่เป็นโชคดีว่าเชือกที่เพลิงมัดติดกับตัวนั้นไม่ขาดไปตามกระแสน้ำจึงทำให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันดึงเขาและเด็กน้อยขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย ถึงแม้จะทุลักทุเลพอสมควรเพราะมวลน้ำมหาศาลนั่นพัดเพลิงไปติดกับต้นไม้ที่ถูกท่วมจนเกือบมิดไม่อย่างนั้นเขาคงหลุดลอยไปไกล

เพลิงรู้ดีว่าสถานการณ์ก่อนหน้าที่ทำเอาเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เสียกำลังใจมากแค่ไหน ถึงแม้จะช่วยเขาขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยแต่บรรยากาศระหว่างกันกลับตึงเครียดพอสมควร แม้เพลิงจะบอกว่าเขาไม่เป็นอะไรมากเพียงแค่เคล็ดขัดยอกไปทั่วตัวเพราะถูกเศษไม้พัดมากระแทกจนเกิดรอยช้ำ

“ไปอาบน้ำพักผ่อนกันเถอะ”

เพลิงพูดขึ้น

“เสร็จแล้วมากินข้าวกัน”

“ครับ”

“วันนี้ขอบคุณทุกคนมากนะ ทำได้ดีมาก”

การชื่นชมและให้กำลังใจลูกน้องถือเป็นเรื่องที่สมควรทำอย่างยิ่ง เพราะน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ นี่จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีกำลังใจในการทำงาน นอกจากนี้คำพูดนั้นยังทำให้เจ้าหน้าที่พากันขยับรอยยิ้มท่าทางโล่งใจไม่น้อย

“ผมใจหายมากเลยนะพี่”

เปลวพูดเสียงแผ่ว มันหลุบตามองพื้นดูหงอยลงไปถนัดตา

“ภาพที่พี่จมลงไปยังติดตาผมอยู่เลย”

เพลิงขยับไปตบบ่าอีกฝ่ายเบาๆ

“พี่ไม่เป็นไรแล้ว”

เพลิงขยี้ศีรษะเด็กหนุ่มเมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นตาแดงๆ เหมือนกำลังสะกดกลั้นอารมณ์ตัวเองอยู่

“เรื่องปกติน่ะเปลว” เพลิงยิ้มให้อีกฝ่าย

“การทำงานมันมีความเสี่ยงแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดา”

“ผมรู้พี่”

เปลวถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ทำใจให้เข้มแข็งไว้”

เพลิงมองสบตากับเจ้าหน้าที่แต่ละคน แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเอื้ออาทร

“ชีวิตในป่ามันไม่แน่ไม่นอนหรอก ในเมื่อเลือกที่จะก้าวเข้ามาในจุดนี้ต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น อย่าเสียกำลังใจไปเลย ผมรู้ว่าทุกคนทำดีแล้ว เรื่องที่ผ่านมาคือสิ่งที่กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ จงภูมิใจที่ทำ จงเข้าใจและยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดเวลา”

เพลิงรู้ว่าเจ้าหน้าที่แต่ละคนกำลังเสียขวัญ

“ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอแล้ว”

เปลวสอบตากับเพลิงนิ่ง

“ครับ ผมสัญญา”

แวบหนึ่งมันมองเห็นความเอ็นดูที่เพลิงมีให้ อาจเพราะเปลวเป็นน้องเล็กที่สุดในกลุ่ม แม้จะผ่านเรื่องราวชีวิตมาพาสมควร แต่ประสบการณ์การทำงานแบบนี้ยังน้อยนัก คราแรกเพลิงเองก็อดวิตกกังวลไม่ได้ แต่เห็นเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ให้ความเอ็นดูและคอยช่วยเหลือกันเขาก็เบาใจ

เพลิงยังจำได้ว่าตอนที่เจอเด็กนี่ครั้งแรกเพราะฝ่ายนั้นกระทำความผิดจนถูกจับ ใครจะไปคิดว่าเด็กที่ดูไม่เอาไหนวันนั้นจะเติบโตทั้งความคิดและการกระทำได้ขนาดนี้ ผู้ช่วยหนุ่มยิ้มน้อยๆ ตอนที่พลและเกิ้งต่างกระโดดมารั้งคอเปลวราวกับจะปลอบขวัญจนเจ้าตัวยืนเซ

“ขอบคุณที่ไม่ทิ้งผมนะ”

เพลิงมองหน้าเจ้าหน้าที่แต่ละคนแล้วพูดขึ้น

“ผู้ช่วยไม่เคยทิ้งพวกผม ทำไมเราถึงจะทิ้งผู้ช่วยล่ะครับ จริงมั้ยพวกเรา”

เกิ้งหันไปพยักพเยิดกับคนอื่นๆ เงินเดือนไม่พอใช้ผู้ช่วยก็ช่วยเหลือ ใครเดือดร้อนทุกข์ใจมาเพลิงก็ยื่นมือเข้ามาช่วยทุกครั้ง ผู้ช่วยไม่เคยเอาเปรียบลูกน้องตรงกันข้ามผู้ชายคนนี้มีน้ำใจให้พวกเขาอยู่เสมอ

“เรามันทีมเดียวกันนี่ครับ รวมกันเราอยู่ ขืนแยกกันคงซี้แหงแก๋ เฮ้อ ยิ่งเดือนนี้เงินตกเบิกอยู่ด้วย”

พลพูดสำทับแต่ท้ายประโยคนั่นทำเอาที่เหลือพากันฮาครืน


.


.


รเณศโผล่ไปช่วยป้าจำเนียรได้ไม่นานฝ่ายนั้นก็ไล่ให้เขาไปอาบน้ำพักผ่อน หลังจากที่ป้าแกช่วยหาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน คนเมืองหอบเสื้อผ้าเดินลัดเลาะไปทางท้ายหมู่บ้านที่ป้าแกบอกว่าเป็นธารน้ำกว้างและมีน้ำตาซึ่งเป็นสถานที่อาบน้ำ หมู่บ้านท้ายเขาแบบนี้ไม่มีห้องน้ำในบ้านกันหรอกต้องอาศัยอาบกันที่ริมธารเท่านั้น บ้านผู้ใหญ่ดีหน่อยมีพื้นที่กั้นเป็นส่วนตัวแต่รเณศดันเกิดอยากไปสำรวจน้ำตกท้ายหมู่บ้านนั่นเพื่อยลโฉมความงามกับตาเลยตัดสินใจเดินดุ่มๆ ออกมา

เกือบสิบนาทีที่รเณศเดินตามเสียงน้ำตกมาจนถึงธารน้ำใสสะอาด มีน้ำตกไหลมาตามร่องหินขนาดใหญ่เป็นทาง ต้นไม้สูงใหญ่นับสิบต้นโอบล้อมคล้ายกับเป็นวงล้อมธรรมชาติซึ่งเมื่อเดินไปหยุดที่โคนต้นไม้ต้นหนึ่งเขาจึงแหงนหน้าขึ้นสูงจึงเห็นว่าแทบทุกต้นโน้มกิ่งเขาหากันราวกับโดมสูงใหญ่ มันสวยงามจนเผลอยืนตะลึง

“สวยมาก”

รเณศเผลอครางออกมาก่อนจะทรุดตัวนั่งยองๆ วักน้ำใสสะอาดลูบไล้ใบหน้า น้ำในธารนั่นเย็นจนสะดุ้งอาจจะเพราะฝนเพิ่งหยุดตกใหม่ๆ จึงทำให้ลำธารแห่งนี้เย็นจนขนลุกได้ คนเมืองแอบยู่หน้ากับความเย็นแต่พอเอาปลายเท้าจุ่มลงไปในน้ำนั่นทำให้เขาเผลอยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี ท้ายสุดรเณศเลยตัดสินใจเปลื้องผ้าอาบน้ำทันที

เขาดำผุดดำว่ายอยู่นานสองนานจนกระทั่งเดินยินเสียงพูดคุยและเสียงฝีเท้าของคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ รเณศมุ่นหัวคิ้วก่อนจะว่ายไปหลบหลังโขดหินเพื่อพิจารณาผู้มาใหม่

“ไหนบอกว่าแค่ช้ำไงครับผู้ช่วย นี่มีแผลเป็นทางยาวที่หัวไหล่ด้วยนี่”

ใครคนหนึ่งพูดขึ้น

“ไม่รู้สิ สงสัยโดนกิ่งไม้เกี่ยวเอา”

“งั้นผู้ช่วยรีบอาบน้ำเลย พวกผมจะทำแผลให้”

รเณศสะดุ้งโหยงเมื่อแอบโผล่หน้าออกมาจากโขดหินแล้วเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เคยอยู่ในชุดลายพรางบัดนี้เปลือยแผ่นอกเหลือไว้เพียงกางเกงส่วนล่างกันทุกคนเลย

“อ้าวพี่เนตร”

รเณศรีบหลบว่ายแต่ไม่พ้นไปจากสายตาของเปลวที่เหลือบมาเห็นพอดี มันร้องทักเขาจนทำให้ชายกลุ่มนั้นหันมามองเป็นแถว ไม่เว้นแม้แต่ตัวคนเป็นหัวหน้าที่ยกยิ้มทันทีที่รเณศค่อยๆ โผล่หน้าออกมา

“ผมตามหาอยู่นึกว่าพี่หายไหน”

รเณศยิ้มแหยๆ พยายามกอดตัวเองอยู่ใต้น้ำเพื่อให้ไกลจากสายตาคนที่มองอยู่ อาการขัดเขินเก้อกระดากนั่นทำให้เพลิงมุ่นหัวคิ้ว ชายหนุ่มเหลือบตามองกองผ้าที่ใต้โคนต้นไม้สลับกับคนที่อยู่ในน้ำ เพราะสายน้ำที่ใสสะอาดนั่นทำให้สังเกตไม่ยากหรอกว่าคนที่อยู่ใต้น้ำนั่นขาวสว่างขนาดไหน

“กลับกันก่อนเถอะ”

เพลิงหันไปบอกลูกน้องก่อนจะทำตาดุใส่แต่ละคนที่จ้องคนในน้ำจนฝ่ายนั้นว่ายไปหลบหลังโขดหินอีกครา

“ให้คุณเนตรอาบน้ำเสร็จก่อน พวกเราค่อยมาอีกที”

“ครับๆ”

คนอื่นๆ พากันหันหลังกลับ ยกเว้นแต่เกิ้งและพลที่ยืนรอท่าเขาอยู่

“ผู้ช่วยอยู่เป็นเพื่อนคุณเนตรแกก่อนเถอะครับ”

“ใช่พี่เพลิง โพล้เพล้แบบนี้กลัวแกเดินไปเหยียบสัตว์อันตรายตอนกลับเอาได้”

เพลิงพยักหน้าหงึกหงักก่อนหน้านี้ก็คิดไว้อยู่แล้วว่าหากเจ้าหน้าที่ผละออกไปหมดแล้ว เขาจะยืนเฝ้าอยู่แถวๆ นี้เพราะกลัวว่าคนเมืองจะได้รับอันตรายเอา ฝนตกใหม่ๆ แบบนี้สัตว์เลื้อยคลานมีพิษมักจะมากเป็นพิเศษ

รเณศเองเมื่อเห็นว่าบรรดาเจ้าหน้าที่ผละออกไปแล้วจึงรีบอาบน้ำให้เสร็จก่อนจะขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ระหว่างนั้นอารามรีบร้อนเท้าข้างหนึ่งจึงเผลอเหยียบตะไคล้น้ำริมฝั่งจนเซถลาลื่นล้มหัวเข่ากระแทกโดนเหลี่ยมหินเต็มๆ จนได้เลือด

“โอ๊ย”

เสียงร้องของรเณศเรียกให้คนที่ยืนรออยู่แถวนั้นขยับตัวเข้ามาหาอย่างว่องไว เพลิงเหลือบตามองคนในเสื้อยืดตัวโคล่งกับกางเกงขาสั้นนั่งนิ่วหน้าอยู่กับพื้น ปลายเส้นผมที่มีหยดน้ำไหลหยดแหมะจนทำให้บริเวณเสื้อตรงหัวไหล่เปียกเป็นหย่อมๆ

สีหน้าเหยเกของคนเมืองทำให้นึกร้อนใจ

“เกิดอะไรขึ้น”

รเณศเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโต

“คุณเลือดออกนี่”

เพลิงก้มลงมาพิจารณาแผลตัวหัวเข่าแล้วนิ่วหน้า

“ลื่นล้มงั้นหรือ”

“ครับ”

รเณศสูดปากด้วยความเจ็บ

“หินบาดเอา”

“คุณลุกไหวมั้ย”

คนเจ็บพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะค่อยๆ ผุดลุกขึ้นตามแรงพยุงของอีกฝ่ายแต่แค่ขยับเขาก็เจ็บแปลบแล้ว รเณศทรุดตัวลงไปนั่งด้วยใบหน้าเหยเก ดวงตาสีแดงก่ำที่โดยรอบมีน้ำใสๆ เอ่อคลออยู่นั่นทำให้เพลิงใจกระตุก

คงจะเจ็บไม่น้อย

แต่ถึงเจ็บก็ไม่ปริปากบ่นสักคำ

แวบหนึ่งเพลิงนึกเอ็นดูคนเจ็บที่พยายามสะกดกลั้นความเจ็บอย่างสุดกำลังจนเผลอเลื่อนปลายนิ้วไปเกลี่ยแก้มอีกฝ่ายเบาๆ

รเณศชะงักกึกก่อนจะรู้สึกร้อนวูบวาบบริเวณแก้มด้านที่โดนจับ

“เจ็บมากมั้ย”

“...”

“รเณศ...คุณเจ็บมากมั้ย”

พอได้สบตากันในระยะประชิดหัวใจเขาจึงสั่นไหวอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“ผมห่วงคุณนะ ช่วยตอบผมทีว่าคุณรู้สึกยังไง”

‘ห่วง’ คำเดียวที่มีอิทธิพลกับใจคนฟัง

“ผมห่วงคุณเหมือนที่คุณเป็นห่วงผมก่อนหน้านี้”

“ใครบอก...”

รเณศตอบเสียงอ้อมแอ้ม

“ผมห่วงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทุกคนนั่นแหละ”

เพลิงกดยิ้มมุมปาก

“ครับ...ผมเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ป่าไม้”

รเณศกลั้นยิ้มจนปวดแก้มเพราะคำตอบนั่นเหมารวมได้ว่าเขาห่วงเพลิงแน่นอน คนเมืองเหลือบตามองไปที่หัวไหล่ซึ่งมีรอยเลือดเป็นทางยาว เพราะอีกฝ่ายเปลือยท่อนบน รเณศจึงเห็นมัดกล้ามเนื้ออันสวยงามแต่กลับมีรอยช้ำเขียวม่วงไปทั่ว

“เจ็บมากมั้ย”

รเณศเผลอเลื่อนมือไปลูบไล้รอยช้ำเหล่านั้นก่อนจะสบตากับเพลิงตรงๆ ได้ยินมาว่าเพลิงเกือบจมน้ำเพราะถูกน้ำป่าซัดพาไป ระหว่างนั้นคงโดนพัดจนไปเกี่ยวกระแทกกับสิ่งที่ลอยมาตามน้ำ ดูสิเนื้อตัวถึงได้เขียวช้ำเป็นหย่อมๆ ขนาดนี้

เพลิงคว้าปลายนิ้วข้างที่ฝ่ายนั้นลูบแผ่นอกเขาเอาไว้ก่อนจะรวบข้อมือขาวมากุมไว้

“ถ้าบอกว่าเจ็บคุณจะห่วงผม”

รเณศเม้มปากแน่น ขณะที่อีกฝ่ายมองหน้าเขายิ้มๆ

“เคยมีใครบางคนถามผมว่า ถ้าวันหนึ่งผมมีครอบครัวแล้วยังจะทำงานนี้อยู่มั้ย”

รเณศทำหน้าสนใจ

“คุณรู้มั้ยว่าผมตอบเขาไปว่ายังไง”

เพลิงยิ้มน้อยๆ ตอนที่รเณศส่ายหัวไปมา

“ผมตอบว่าผมไม่อยากให้ใครมาลำบาก ไม่อยากให้เขาต้องกระวนกระวายเวลาเข้าป่า และสุดท้ายผมไม่อยากให้เขาต้องทุกข์ทรมานใจไปชั่วชีวิต”

“ทำไม”

รเณศพึมพำ

“ถ้าหากวันหนึ่งผมไม่มีโอกาสได้กลับมาหาเขา”

คนฟังนั่งอึ้งก่อนจะกระพริบตาปริบๆ แล้วมองหน้าเพลิงนิ่ง

“ป่าคือบ้านที่ผมไม่สามารถทิ้งมันไปได้”

“...”

“ถ้าหากว่าคุณเป็นครอบครัวนั้นของผม คุณจะรู้สึกยังไง”

เพลิงยิ้มน้อยๆ ตอนที่รเณศทำอิหลั่กอิเหลื่อวางหน้าไม่ถูกไม่รู้ว่าจะตกใจหรือจะเขินดี

“ถ้าผมเป็นครอบครัวของคุณงั้นเหรอ”

“ใช่”

รเณศหลุบตามองพื้น

“ถ้าผมคือคนที่ต้องให้คำตอบ ผมคงห้ามไม่ให้ห่วงคุณไม่ได้ หากเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วคนๆ นั้นของคุณ เขาไม่กลัวลำบากหรอก เขาอาจจะกระวนกระวายใจเวลาคุณไปทำหน้าที่ แต่เขาจะรับรู้มันด้วยความเข้าใจ และสุดท้าย...”

รเณศกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ

“เขาคงรอคอยคุณกลับมาอย่างปลอดภัย เฝ้ารอทุกลมหายใจให้คุณกลับมา”

“...”

“ถึงแม้เขาจะเสียใจที่คุณไม่กลับมา แต่เขาจะไม่เสียใจเลยที่เลือกคุณ”

รเณศรู้สึกว่าหัวตาตัวเองร้อนผ่าว

“งั้นผมคงเป็นคนที่โชคดีมากที่ ‘เขา’ เข้าใจ”

เพลิงเกลี่ยน้ำตาให้รเณศอย่างแผ่วเบา

 “คุณ”

“หือ?”

“ผมไม่ได้อ่อนไหวนะ”

“...”

“ผมแค่เจ็บแผล”

เพลิงทำหน้างงสักพักก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างขบขันตอนที่ใบหน้าขาวปรายตามองมายังแผลที่ถูกหินบาดตรงหัวเข่าด้วยสีหน้าเหยเก

คนตัวโตประคองรเณศลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลก่อนจะหันหลังย่อตัวให้อีกฝ่ายปีนป่ายขึ้นหลังเขา คนเมืองกอดคอเพลิงแน่น โดยที่ขาทั้งสองข้างนั่นเพลิงใช้แขนเกาะเกี่ยวเอาไว้ไม่ให้เขาหล่น เพลิงค่อยออกเดินช้าๆ โดยมีรเณศขี่หลังอยู่

เวลาโพล้เพล้นั่นได้ยินแต่เสียงสกุณาบินอยู่บนฟ้ากับเสียงจิ้งหรีดไรเรี่ยที่เกาะอยู่ตามโคนต้นไม้ นอกนั้นก็เงียบสงัดจนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นระรัว รเณศแอบแนบใบหน้าของตัวเองไปที่บ่าและแผ่นหลังกว้างเพื่อฟังเสียงจังหวะการเต้นของอวัยวะที่หน้าอกด้านซ้าย

“จริงๆ แล้วผมไม่ได้ชอบคนในเครื่องแบบชุดกาวน์หรอก”

รเณศเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ

“หือ?”

เพลิงทำหน้าสนใจก่อนจะเอี้ยวใบหน้ามายังคนด้านหลัง

“นี่ผมเข้าใจผิดเหรอเนี่ย”

“เปล่าสักหน่อย”

“คุณรู้มั้ยว่าผมหวังคำตอบจากคุณ”

“คำตอบอะไร”

รเณศกลั้นยิ้ม

“คำตอบที่ว่า..”

“ว่า”

รเณศแกล้งทวนซ้ำ

“ผมชอบคนในเครื่องแบบนะ แต่ไม่ใช่ชุดกาวน์”

“แล้ว”

รเณศเลิกคิ้ว

“แต่เป็นชุดลายพราง”


เพลิงพูดจบก่อนจะกดยิ้มมุมปากแล้วเอี้ยวมามองเขาตาเป็นกระกาย

โอ๊ย

หัวใจเต้นแรงมาก...กลั้นยิ้มไม่ไหวแล้ว

ในความเงียบที่ได้ยินแต่เสียงลมหายใจนั่น เสียงทุ้มของเพลิงก็ร้องเพลงๆ หนึ่งซึ่งมีเนื้อหาไม่คุ้นหูเอาซะเลย แต่รเณศก็กอดคอเพลิงนิ่งฟังอยู่อย่างนั้น เนื้อหามันทำให้นึกภาพตามก่อนจะกอดคอคนที่เดินแบกเขาให้แน่นขึ้น

*เราปองพิทักษ์วนา

ปกป้องแนวป่าไม้ของเมืองไทย

มิเคยหวั่นเกรงอันตราย

ผองเราชาติชายยอมตายในไพร*

ผู้ชายตัวโตที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยศรัทธากำลังฮัมเพลงนั้นไปตลอดทางโดยมีคนด้านหลังยิ้มน้อยๆ แล้วเอียงหน้าซบที่หัวไหล่แข็งแรงนั่นด้วยความรู้สึกอุ่นใจ

รเณศรู้สึกว่าปลอดภัยทุกครั้งที่อยู่กับเพลิง

.

.

.

อีกฟากหนึ่งซึ่งมีกลุ่มคนสี่ห้าคนหลบอยู่มุมหลังต้นไม้ใหญ่พากันส่ายหัว

“ให้ตายเถอะ ผู้ช่วยนึกยังไงร้องเพลงคณะจีบหนุ่มวะ”

“ทำเป็นพูดดี ถ้าเป็นพี่จะร้องเพลงอะไรจีบสาวอ่ะ”

“กูอ่ะเหรอ”

ที่เหลือพากันพยักหน้าหงึกหงัก ขณะที่เกิ้งลูบคางตัวเองอย่างใช้ความคิด

“จะเลิกคุย (กับพยาบาล) ทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว”

พลโพล่งขึ้น แน่นอนว่านั่นทำให้ที่เหลือฮาครืน

“ถุยยยยยยยยยย”

คนพูดวิ่งหลบปลายเท้าของเกิ้งอย่างว่องไว ท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนอื่นๆ

☘☘☘☘

 

เวลาพลบค่ำนั่นผู้นำหมู่บ้านยกสำรับอาหารมาเลี้ยงพวกเราอย่างเป็นกันเองที่ลานกลางหมู่บ้าน และเพราะที่นี่ไม่มีไฟฟ้าจึงต้องอาศัยแสงไฟจากกองไฟที่จุดอยู่กลางลานโดยมีชาวบ้านนั่งล้อมวงปะปนไปกับเจ้าหน้าที่ เพลิงมองภาพนั้นแล้วยิ้มน้อยๆ ดูเหมือนว่าการที่เจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือชาวบ้านที่จมน้ำเนื่องจากสะพานขาดจะทำให้ชาวบ้านเป็นกันเองกับพวกเรามากขึ้น จริงอยู่ว่าเพลิงเข้ามาที่หมู่บ้านนี้หลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งเขาก็ยังรู้สึกว่าได้มีคนกลุ่มหนึ่งดูจะระแวดระวังจับตามองเหล่าเจ้าหน้าที่เป็นพิเศษ ต่างจากครั้งนี้ที่บรรยากาศผ่อนคลายลงไปโข

ถึงแม้ว่ามื้อเย็นรอบกองไฟครั้งนี้พ่อเฒ่าที่เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของที่นี่จะไม่โผล่มาก็ตาม

เพลิงนั่งกินข้าวเงียบๆ ระหว่างที่ลุงซอยางกับเมียแกกำลังคุยกับชาวบ้านคนอื่นๆ อย่างออกรสออกชาติ

“ดีนะว่าผู้ช่วยกับคนของแกไปช่วยทัน ไม่อย่างนั้นตาหลานบ้านท้ายไม่รอดแน่”

ลุงซอยางหันมาพยักพเยิดกับเขานั่นทำให้ชาวบ้านคนอื่นๆ หันมายิ้มให้เพลิงเสียกว้าง เท่านั้นไม่พอใครต่อใครต่างตักสำรับอาการมาใส่จานเขาเต็มไปหมดจนเพลิงต้องบอกให้หยุดมือ

“แคนม้งน่ะผู้ช่วย”

ลุงซอยางหันมากระซิบข้างหูเมื่อเห็นเพลิงนิ่งฟังเสียงดนตรีที่นักดนตรีประจำหมู่บ้านกำลังทำการแสดงรอบกองไฟ ลุงแกเล่าก่อนหน้านี้ว่าการแสดงดนตรีพื้นบ้านนั้นจะกระทำในโอกาสสำคัญต่างๆ รวมถึงการเฉลิมฉลองให้แขกผู้มาเยือน

ระหว่างนั้นเขาสังเกตว่าหนุ่มในหมู่บ้านต่างลุกเดินเอาดอกไม้ในมือไปในอีกฝ่าย แน่นอนว่าท่าทางแบบนั้นทำให้คนเมืองที่ลอบมองอยู่มุ่นหัวคิ้วอย่างสงสัย

“ดอกไม้แสงดาวจ้ะคุณ”

ซูเนียนบอกเขา

“คืออะไรหรือครับ”

“ก็เวลาที่นักดนตรีเป่าเพลงทำนองรักขึ้นมาในช่วงเวลาที่เฉลิงฉลองนี่เป็นโอกาสให้หนุ่มสาวที่พึงใจใครสามารถเอาดอกไม้ที่ตัวเองเก็บมาไปให้กับอีกฝ่าย”

“...”

“โดยฝ่ายชายจะใช้ดอกไม้สีแดง”

รเณศหันไปเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งยื่นดอกไม้สีแดงให้กับเด็กสาว

“ส่วนฝ่ายหญิงหากพึงใจชายคนนั้นให้มอบดอกไม้สีขาวกลับคืนไป”

รเณศเผลอยิ้มออกมา

“แล้วทำไมถึงเรียกดอกไม้นั่นว่าแสงดาวล่ะครับ”

“อ๋อ”

แม่ลูกอ่อนยิ้มน้อย

“หากหนุ่มสาวคู่ไหนแลกดอกไม้กันแล้วเป็นอันเข้าใจกันว่า หลังจบงานทั้งคู่จะไปพบกับที่สะพานแสงดาว”

คนเมืองทำหน้าสนใจ

“มันเป็นแค่สะพานไม้เล็กๆ จ้ะคุณอยู่ทางไปน้ำตกท้ายหมู่บ้านโน่น”

“ทำไมถึงต้องไปที่นั่นครับ”

“เพราะหมู่บ้านเรามีความเชื่อว่าคู่รักหรือคนรักของเราเปรียบได้กับสะพานแสงดาวเป็นทางเชื่อมหรือคู่ชีวิตที่จะนำพาความสุขไปจนนิรันดร์”

“โรแมนติกจัง”

“พอจบงานนี้คุณเดินไปดูสิจ้ะ หนุ่มๆ สาวๆ เขาจะยืนมองดาวกันที่สะพานนั่น”

แน่นอนว่ารเณศจะไม่พลาดที่จะไปดู!

สีหน้าตื่นเต้นของคนเมืองนั่นไม่หลุดรอดไปจากการสังเกตของคนตัวโตที่ลอบมองอยู่เงียบๆ แต่ถึงอย่างนั้นไม่นานเจ้าตัวก็รู้ตัวอยู่ดีว่าถูกแอบมอง รเณศทำหน้าไม่ถูกตอนที่เหลือบไปสบเข้ากับแววตาคู่กล้านั่น วูบหนึ่งเขารู้สึกว่าใบหน้าตัวเองร้อนวูบวาบขึ้นมา

แม้จะมองเสี้ยวหน้าของเพลิงไม่ชัดเพราะอยู่ในความมืดซึ่งต้องอาศัยแสงไฟจากกองเพลิง แต่เขาก็แน่ใจว่าเพลิงยิ้มให้เขาโดยที่มือข้างหนึ่งถือดอกไม้สีแดง

.

.

ดึกดื่นแล้วตอนที่รเณศเดินลัดเลาะไปยังจุดหมายนัดพบของหนุ่มสาว ในความมืดที่ต้องอาศัยตะเกียงในมือนั่นเขาเห็นเงาตะคุ่มของหนุ่มสาวหลายสิบคู่ยืนอิงแอบซบกันแล้วเงยหน้าเหม่อมองไปยังท้องฟ้าอันกว้างไกล

แสงดาวสว่างไสวที่หาได้ยากยิ่งในเมืองหลวงกลับละลานตาที่เบื้องหน้าเขา คนเมืองล้วงมือเข้าไปในกางเกงแล้วคลึงดอกไม้สีแดงซึ่งเก็บมาจากข้างทางด้วยจิตใจอันเหม่อลอยจึงไม่รู้ว่ามีใครบางคนเดินมาหยุดยืนเคียงข้างกัน

“คุณเจอสะพานแสงดาวของตัวเองรึยัง”

เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูนั่นทำเอาเขาสะดุ้งโหยง แม้ไม่ได้หันไปมองแต่รเณศก็รับรู้ได้ว่าความบออุ่นที่แผ่มาจากด้านหลังนั่นเป็นของใคร

“ผมเจอแล้ว”

“...”

“สะพานแสงดาว”

รเณศยืนนิ่งตอนที่มีบางอย่างสอดเข้ามาวางไว้บนฝ่ามือ

‘ดอกไม้สีแดง’ อยู่ในมือเขา

ดอกไม้จากเพลิง

รเณศกลั้นยิ้มเต็มกำลังก่อนจะล้วงเอาดอกไม้ที่กระเป๋ากางเกงตัวเองวางที่ฝ่ามืออีกฝ่าย แล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยใบหน้าแดงซ่าน เพลิงยิ้มน้อยๆ ก้มมองดอกไม้ในมือแล้วแหงนหน้ามองท้องฟ้า ไม่ต่างจากรเณศที่ยืนกำดอกไม้ของเพลิงแล้วเงยหน้าสบตากับดวงดาว

‘เจอกันแล้วนะสะพานแสงดาว’

รเณศพึมพำ


☘☘☘☘


ง่อออ สะพานแสงดาว คิกคิก
หวีดในทวิตติดแท็ค #ป่าห่มรัก ด้วยน้า
*เครดิตเพลงชีวิตวนศาสตร์ เพลงประจำคณะวนศาสตร์*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-05-2019 21:03:41 โดย [Karnsaii] »

ออฟไลน์ พลอย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
วี้ดด มาต่อแล้ว โรแมนติกมายเลยพี่เพลิงน้องรเนศ อยากให้เขาหวานกันไปทุกตอนยันจบไม่อยากให้ถึงตอนรู้ความหลังของกันและกันเลย พาร์ทนั้นต้องดราม่าแน่ๆ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
น่ารักจนใจละลายเลยค่ะ
สะพานแสงดาวช่างโรเมนติกนัก

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เขินแทนเลยอ่ะ   :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
อ๋อย


มดกัด

หวานกว่านี้

ก็เบาหวานขึ้นตาแล้วล่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Aimlovelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มันละมุนมากเลยเนอะ เขินจังงง

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เอ๋...ดอกไม้ของรเนศเป็นสีแดงหรือสีขาวหล่ะ  อิอิ

ออฟไลน์ Plakhem

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :hao5: รออยู่นะ  :mew6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ละมุนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ fun_la_ong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อบอุ่นกว่าดวงอาทิตย์อีกค่ะพี่เพลิง❤️

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อ่านวนสองรอบหยุดยิ้มไม่ได้เลย บ้าจริง

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ฉากนี้คือดีมาก โรแมนติกสุด ๆ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
จีบกันแบบนี้ก็แย่น่ะสิ  :heaven

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ป่านี้น่าจะมดเยอะเน๊อะ  เพราะน่าจะมีคนหว่านน้ำตาลไว้แถวๆ สะพานดาว.  :-[

ออฟไลน์ CanonInD

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :o8: เขิลลลลลลลลลลลลลล อยากได้ดอกไม้แดงจากผู้ช่วยบ้างอ่ะ

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
หวานมากกก เจอรักจริงสักทีนะรเณศ

ออฟไลน์ TheSpaceOfM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ชอบตอนเพลิงกับรเณศอยู่ด้วยกันและเค้าจีบ(?)กันน่ารักดีค่ะ ชอบซีนหวานๆที่พูดออกมาตรงแต่แฝงความซึน ชอบที่เพลิงกับรเณศได้พูดคุยกันตรงๆ แลกเปลี่ยนความคิด และ ความต้องการของแต่ละคนออกมา มันเหมือนเป็นการเรียนรู้กันและกัน ทำให้ทั้งคู่ยิ่งเข้าใจและเห็นอกเห็นใจกันมากยิ่งขึ้น ถ้ามันจะกลายเป็นความรักระหว่างคน2คนคงเป็นความรักที่ดีและมีความเข้าใจกันให้กันอย่างมาก รอติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณสำหรับผลงานที่ดีค่ะ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด