...ระบบอุปถัมภ์...ตอนพิเศษ คริสต์มาส...=> หน้าที่ 48 (24/12/2021)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...ระบบอุปถัมภ์...ตอนพิเศษ คริสต์มาส...=> หน้าที่ 48 (24/12/2021)  (อ่าน 305276 ครั้ง)

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
 o13. คุณย่าาาาาาแจ่มว๊าวววววมากเลยค้า

ออฟไลน์ febusapollo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
แงงง สนุกมาก ชอบมากเลยค่ะ อ่านรวดเดียวถึงตอนล่าสุดเลย ปวดตายาวๆ
ตอนแรกเปิดมาเราแอบกลัว บรรยากาศ horror มาก แล้วนั่งอ่านกลางคืนพอดี :katai1:
แต่ชอบมาก ทอปปิคเป็นเรื่องการเมืองที่น่ากลัว แต่คุณบัวแต่งออกมาได้ไม่หนักเกินไป
สนุกดีค่ะ จะรอติดตามจนจบเลย คาแรกเตอร์จิณณะดีมาก แสบๆใสๆแต่เวลาโกรธก็น่ากลัวจริง
ส่วนพี่ทิศก็ดี นิ่งๆแต่ใจไม่นิ่ง เข้มแข็งและพยายามทำให้ดีที่สุดมาตลอด
ฉากกุ๊กกิ๊กก็น่ารักเขินๆ ฉากดราม่าเราว่าไม่หนักก็พอจุกๆรับได้อยู่
เราชอบแนวคิดเรื่องความสงบของคนสองคนมากด้วย อย่างดีพเลย

ตอนหน้าขอให้ได้กันนะคะ 555555555555555555 :hao7: :hao7:
เป็นกำลังใจให้นะคะ :mew1:

ออฟไลน์ pasallatel

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
 :-[
รอนะคะ อ่านรวดเดียวจบเลย อ่านจนปวดตาเลยค่ะ น่ารักนะคู่นี้

ออฟไลน์ Blue

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
มาเฝ้ารอเขาคุยปรับความเข้าใจกัน  :ped149:

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
 :L2: :L2: :L2:
เข้ามารอจร้า
 :z2:
 :z2:
 :z2:

ออฟไลน์ nrbtst1997

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มารอ​  :z13: :z13:

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
ระบบอุปถัมภ์
By: Dezair
…………………..
ตอนที่ 18   


ไม่แน่ใจว่าเป็นกลยุทธ์หรือพิทักษ์ใจเย็นมาก ถึงขนาดที่ขับรถจากโรงแรมใจกลางเมืองหลวงออกมายังบ้านพักของตนซึ่งอยู่นอกชานเมืองกรุงเทพฯ แต่ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไร พอรถจอดสนิท เจ้าของบ้านก็พรวดพราดเดินมาเปิดประตูฉุดร่างคนที่เขาพามาให้เข้าบ้านแล้วโยนลงนั่งบนโซฟา


โยนไม่แรง หนำซ้ำจิณณะก็ผู้ชายวัยฉกรรจ์คนหนึ่ง ความเจ็บจากแรงกระแทกแค่วูบเดียวแล้วก็หายไปไม่ทันได้ร้องสักแอะ แต่เจ้าตัวรวบแขนรวบขาของตนนั่งชิดมุมหนึ่งเหมือนกำลังจะถูกเชือดอย่างไรอย่างนั้น


พิทักษ์มองคนที่นั่งก้มหน้าห่อตัวซุกมุมโซฟาแล้วก็นึกขัน อารมณ์ฉุนตอนแรกก็มีหรอก แถมมีเยอะเสียด้วย แต่เพราะใช้เวลาและสมาธิกับการขับรถโดยที่คนที่เขาพามาไม่มีเสียงร้องอะไรสักแอะ ก็เลยพอจะคลายอารมณ์หงุดหงิดในใจลงได้ ตอนนี้ยิ่งมาเห็นตัวแสบนั่งซุกอยู่มุมโซฟา ก็เลยกลายเป็นนึกเอ็นดูแทนเข้าไปอีก


เจ้าของบ้านทิ้งตัวลงนั่งโซฟาร่วมกัน แน่นอนว่าทำเอาคนที่ซุกมุมหนึ่งถึงกับสะดุ้งเฮือก แล้วขยับชิดโซฟาหนักกว่าเดิม แถมคราวนี้ก้มหน้าจนคางชิดอกด้วย


... ไม่มองก็ไม่มอง ถ้าถูกรวบรัดอะไร ก็อย่าหาว่าใจร้ายแล้วกัน…


“ม...มีอะไรก็พูดมาสิ” เดิมทีเป็นคนถึงไหนถึงกัน พูดจาเสียงดังฟังชัด กล้ามองหน้าคนทั้งโลก ทว่าจิณณะในเวลานี้กลับพูดจาเบาหวิวแถมติดอ่าง เอาแต่ซุกหน้ากับอกตัวเอง ตาตกมองพื้นอีกต่างหาก


“ทำไมถึงหายไป”


“ก็...ผ...ผมบอกแล้วไงว่าหมดประโยชน์...”


“ใครหมด?”


“ก็...ค...คุณ...” น้ำเสียงแผ่วพร่าเพราะเป็นเพียงข้ออ้างที่ใจไม่ได้คิดอย่างนั้นตั้งแต่แรก


พิทักษ์น่ะหรือไม่มีประโยชน์ หากไม่มีประโยชน์จริง ตอนที่เดินจากมา ทำไมถึงเหมือนตายทั้งเป็นราวกับทิ้งหัวใจไปแล้ว


เพราะพิทักษ์มีประโยชน์มากต่างหาก มีมากเสียจน...จะดึงให้เข้ามาอยู่ในวงจรอันตรายแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว


“อ้อ พี่หมดประโยชน์ จิณก็เลยเขี่ยพี่ทิ้ง?”


“ช...ใช่”


“หรือเป็นเพราะคิดว่าการเดินไปจากพี่จะเป็นประโยชน์ต่อพี่?”


จิณณะนิ่งงัน ได้แต่ก้มหน้าซุกอกหนักกว่าเดิม เขาเม้มปากแน่นโต้เถียงไม่ออก เดิมทีพิทักษ์ก็ชอบรู้อกรู้ใจเขาอยู่แล้ว มาวันนี้หากจะอ่านใจเขาออกอีกสักครั้งก็ไม่แปลก


แขนของจิณณะถูกดึงแรงๆ แต่เจ้าของแขนกลับไม่กล้าหันมองเลยสักนิด เพราะรู้ว่านั่นคือการพยายามของอีกฝ่ายที่ต้องการให้หันไปมองกัน


“มองพี่”


“พี่บอกให้มอง” ไม่พูดอย่างเดียว แต่มืออีกข้างจับใบหน้าของจิณณะให้หันมาสบตา แล้วพอเขาเห็นความชุ่มชื้นคลอหน่วยและความเจ็บปวดแสนสาหัสที่อยู่ในดวงตาคู่นั้น พิทักษ์ก็ถึงกับใจหาย


เขาไม่ควรต้อนเลย ไม่ควรทำให้จิณณะที่เจ็บสาหัสอยู่แล้วต้องดำดิ่งลงไปกับความปวดร้าวนั่นอีก


เราเดินด้วยกันมาไกล วันหนึ่งจิณณะยอมแยกจากไปต่างคนต่างก็เจ็บปวด มาวันนี้ถ้าเราจะกลับเข้ามาร่วมเส้นทางเดียวกันอีกครั้ง ก็มีแต่ต้องปล่อยวางเรื่องที่ผ่านมาแล้วเริ่มต้นใหม่เท่านั้น


“พี่ขอโทษ”


“ค...ความผิดของผม...” จิณณะครางเบา ก้มหน้าหนีสายตาของอีกฝ่ายด้วยความกระดากในใจ


“มันไม่ใช่ความผิดของจิณ พี่เคยพูดแล้วว่าอะไรก็ตามที่พี่ทำ พี่ยอมรับผลของมันทุกอย่าง รวมถึงเรื่องเช้าวันนั้นด้วย”


เช้าที่สดใส เช้าที่แดดร้อนจัด เช้าที่ดูเหมือนทุกๆเช้าที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน แต่ในความเหมือนมีความแตกต่าง เช้าวันนั้น...พิทักษ์ถูกยิง


ภาพของชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเบาะข้างคนขับมีเลือดสดสีแดงไหลชุ่มเปียกเสื้อ ภาพของชายหนุ่มที่หายใจรวยรินก่อนจะหมดสติเมื่อมาถึงโรงพยาบาล ภาพในวันนั้นเล่นซ้ำอยู่ในสมองของจิณณะทุกวันๆ คนถูกยิงวันนี้ร่างกายหายเป็นปกติแล้ว แต่คนที่อยู่ในเหตุการณ์และตระหนักอยู่เสมอว่าตนเองเป็นต้นเหตุ กลับไม่เคยลบภาพวันนั้นให้หายไปจากความทรงจำได้เลย


จิตใจของจิณณะบอบช้ำกว่าร่างกายของพิทักษ์เสียอีก


“แต่พวกมันตั้งใจจะยิงผม...”


“พี่เองก็ตั้งใจปกป้องจิณเหมือนกัน”


จิณณะเงยหน้ามองคนพูดทันควัน พิทักษ์สบตายกมือขึ้นลูบข้างแก้มอย่างนุ่มนวลราวกับปลอบโยน


“แล้ววันนี้พี่ก็หายดีแล้ว” ทว่าต่อให้จะเพียรพยายามบอกเพียงใด จิณณะก็ยังคงติดอยู่กับห้วงเหตุการณ์ในวันนั้น ดวงตาของเขายามมองพิทักษ์ราวกับไม่ได้มองในวันนี้ แต่ย้อนกลับไปยังเช้าวันที่เกิดเรื่อง


“ต...แต่วันนั้น...วันนั้นมีแต่เลือด...” เลือดของพิทักษ์เต็มไปหมด แดงฉานและคาวฉุน สีหน้าของพิทักษ์ก็ขาวซีดและเจ็บปวด ลมหายใจรวยริน ราวกับขาข้างหนึ่งข้ามไปอยู่ในอีกโลกแล้ว


“ว...วันนั้นมีแต่เลือด...” ภาพของพิทักษ์ที่อยู่ในความทรงจำของจิณณะสร้างความเจ็บปวดให้เขาทุกวันทุกคืน เมื่อไรก็ตามที่คิดถึงความทรงจำดีๆไว้หล่อเลี้ยงหัวใจ ภาพที่จะผุดขึ้นมาเป็นอย่างสุดท้ายคือภาพของพิทักษ์ที่ถูกยิง จากความทรงจำที่สวยงามของการมีคนอยู่เคียงข้างกลายเป็นความทรงจำเลวร้ายที่ตนเองเป็นต้นเหตุของการบาดเจ็บของคนที่มีค่าคนนั้น


พิทักษ์มองคนตรงหน้าที่กำลังดำดิ่งสู่ความเจ็บปวดของความทรงจำแล้วหัวใจก็ยิ่งโหวงเหวง จิณณะที่คนรอบข้างเห็นอาจดูเหมือนปกติทุกอย่าง แต่ใครจะรู้บ้างว่าคนที่เหมือนเข้มแข็งกลับยังคงจมอยู่กับเหตุการณ์ในวันนั้นราวกับอยู่ในเขาวงกต


เขาวงกตที่พิทักษ์ครึ่งเป็นครึ่งตาย เขาวงกตที่จิณณะเป็นต้นเหตุของความเสียหาย เขาวงกตนั้น...ถ้าหากจิณณะออกมาเองไม่ได้ คนที่จะช่วยให้ออกมาก็คงมีแต่พิทักษ์เท่านั้น


เจ้าของบ้านไม่พูดอะไร แต่ลงมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตนเองทีละเม็ด เม็ดแรกจิณณะยังไม่รู้ตัว แต่พอเม็ดที่สอง และสาม เจ้าตัวก็เริ่มกะพริบตาปริบๆ ผละออกห่างหน้าตาตื่นๆ


“ท...ทำอะไร”


“จะให้จิณดู”


“ด...ดูอะไร”


“ดูว่าพี่หายดีแล้ว”


จิณณะเบิกตาโพลงในวินาทีนั้น เขาผงะหงายหลังกำลังจะร้องขอไม่อยากดูไม่อยากเห็น แต่อีกฝ่ายปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตนเองจนหมดแล้วตวัดสาบเสื้อออกเผยลาดไหล่กว้าง แผ่นอกและหน้าท้องแข็งแรงด้วยกล้ามเนื้อ ทว่าอะไรก็ไม่ดึงสายตาของจิณณะเท่ากับรอยกระสุนที่ไหล่ขวา


ดวงตาที่เบิกโตกลายเป็นหลับปี๋ สองมือยื่นออกไปดันเจ้าของรอยแผลให้ออกห่าง...ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้


“ผ...ผมไม่ดู! ผมไม่อยากดู!”


“ต้องดู ถ้าจิณไม่ดูจะรู้หรือว่าพี่หายแล้ว!”


“ไม่!...ไม่เอา!...ผ…ผมขอ...ผมไม่อยากดูอีกแล้ว ผมไม่อยากดู...” แม้จะเห็นแค่พริบตาเดียว แต่รอยแผลนั้นกลับดึงเขาย้อนกลับไปหาความทรงจำอันเลวร้ายในเช้าวันเกิดเหตุนั่นอีกแล้ว


พิทักษ์มองคนตรงหน้าด้วยความสงสาร จิณณะเวลานี้หมดสภาพอดีตปลัดอำเภอผู้สนุกสนานและสดใส ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยรอยยิ้มกระหยิ่มอย่างคนเจ้าแผนการกลับกลายเป็นสีหน้าซีดเผือดไม่มีแม้แต่สีเลือด ดวงตาที่เคยระยิบระยับเต็มไปด้วยประกายในการใช้ชีวิต กลายเป็นการเบิกโตและเห็นภาพเพียงภาพเดียว


ภาพที่พิทักษ์ถูกยิง


“ผมไม่อยากดูแล้ว ผมไม่อยากคิดถึงอีกแล้ว ผมกลัว...” เสียงของจิณณะสั่นจนกลายเป็นเครือ แต่ละวันที่ผ่านพ้นมา ไม่มีวันไหนเลยที่ไม่นึกถึงเรื่องวันนั้น แต่ละคืนที่หลับตาลง ได้แต่กังวลว่าจะฝันเห็นหรือไม่


เหตุการณ์จริงเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่เกิดวนเวียนในความทรงจำของเขาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้ง และทุกครั้ง...มันยังชัดเสมอ


เลือดของพิทักษ์ สีหน้าเจ็บปวดของพิทักษ์ ลมหายใจรวยรินของพิทักษ์ ทั้งหมดนั่น...เป็นเพราะเขา


“จิณ...เรื่องมันจบแล้ว” เสียงทุ้มดังเบาราวกับกระซิบ อ้อมแขนที่โอบกอดบอกให้รู้ว่าพิทักษ์ในความทรงจำที่ครึ่งเป็นครึ่งตาย ในความเป็นจริงยังมีชีวิตอยู่ตรงนี้


“มองพี่...” เสียงของพิทักษ์ราวกับเวทมนตร์ดึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีออกมาจากภวังค์ที่แสนดำมืดจากเหตุการณ์เช้าวันจันทร์วันนั้น คนที่ถูกยิงในวันนั้น วันนี้...ยังคงนั่งอยู่ตรงหน้าจิณณะ ไม่มีคราบเลือด ไม่มีการหายใจแผ่ว ทุกอย่างของพิทักษ์หายกลับมาเป็นปกติแล้ว แต่คนที่ไม่ปกติคือจิณณะเอง


“พี่ยังอยู่ เห็นไหม พี่ไม่เป็นอะไร”


“แต่...” จิณณะพูดไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็ดึงมือของเขาไปหา ทีแรกคนถูกจับมือยังไม่เข้าใจ แต่พอพิทักษ์ดึงมือของเขาไปยังไหล่ข้างขวา จิณณะก็รีบรั้งมือของตนไว้สุดแรง


“ไม่..ไม่...” ไหล่ขวาของพิทักษ์เป็นของร้อนสำหรับเขา โดยเฉพาะตำแหน่งที่ถูกยิง แค่ร่องรอยแผลเป็น จิณณะยังไม่กล้าดู แต่อีกฝ่ายกลับใจแข็งจะให้เขาสัมผัสด้วยซ้ำ


“มันหายแล้วจิณ”


“ม...ไม่...” มือถูกบังคับให้แตะลงบนรอยแผลเป็น จิณณะสะดุ้งโหยงได้แต่ข่มตา แต่เพียงแค่นั้นก็เหมือนเขาถูกดึงกลับเข้าไปในความทรงจำที่แสนเลวร้าย วันที่เลือดของพิทักษ์พุ่งทะลักออกมาจากตำแหน่งนี้


“วันนั้นจิณช่วยพี่ห้ามเลือด...” พิทักษ์พูดต่อด้วยน้ำเสียงทุ้มเรียบ ราวกับกำลังเล่านิทาน ทว่าคนฟังนั้นตัวหดลีบเหมือนต้องการซุกตัวอยู่ใต้กำแพงแกร่งที่ภายในยังคงเต็มไปด้วยเรื่องราวในวันเกิดเหตุ


ของเหลวสีแดงสดที่มีกลิ่นคาว เหนอะหนะเปรอะเลอะเต็มสองมือ สติที่เหลืออยู่น้อยนิดในวันนั้นบอกเพียงแค่ว่าให้ช่วยห้ามเลือด สลับกับเรียกพิทักษ์ให้ตอบสนอง พร่ำบอกว่าให้อยู่กับเขา ทั้งหมดกลายเป็นความทรงจำที่กัดกินหัวใจจนเกิดเป็นความหวาดกลัว


“วันนี้มันหายแล้ว เห็นไหม ไม่มีเลือดอีกแล้ว”


“ต...แต่วันนั้น...วันนั้น...”


“พี่ไม่เจ็บแล้ว” จิณณะชะงัก ดวงตาเบิกโพลงทั้งๆที่น้ำตายังล้นเอ่อ ราวกับคำพูดของพิทักษ์ปลดล็อกเหตุการณ์ในวันนั้นกลับขึ้นมาอีก จิณณะที่ช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย ทำได้เพียงเรียกซ้ำๆถามซ้ำๆ


‘พี่ทิศ เจ็บรึเปล่า?’


‘พี่ทิศ ยังอยู่กับผมไหม?!’


‘พี่ทิศ อดทนไว้!‘


‘พี่ทิศ ถึงโรงพยาบาลแล้ว!’


‘พี่ทิศ พูดกับผม!’


‘พี่ทิศอย่าหลับ พี่ทิศ! ตื่นสิ! พี่ต้องตื่น!!’


กี่ประโยคที่ถามซ้ำๆ แต่ตอนนั้นพิทักษ์ไม่มีเรี่ยวแรงจะตอบอะไรแล้ว ทำได้เพียงยิ้มจางๆด้วยใบหน้าซีดขาว ก่อนจะหมดสติไป โดยไม่ทันได้ตอบคำถามใดๆของจิณณะเลยสักคำเดียว


ทว่า...วันนี้ หนึ่งในคำตอบที่อยากฟัง กลับมาดังที่ข้างหูแล้ว


“พี่ยังอยู่กับจิณตรงนี้ เห็นไหม พี่ยังอยู่” พิทักษ์ที่นั่งอยู่ตรงหน้า มาพร้อมคำตอบที่อยากได้ยินที่สุด


ม่านน้ำตาทำให้มองภาพตรงหน้าพร่าเลือน แต่ถึงอย่างนั้นไม่ต้องเห็นก็รับรู้ รู้...ว่าพิทักษ์ยังมีชีวิตและลมหายใจ ไม่ใช่เพียงแค่ร่างที่หายใจรวยรินและทำได้เพียงยิ้มจางด้วยดวงตาหรี่ปรือแทบไม่มีสติคนนั้น


พิทักษ์กลับมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว


น้ำตาของจิณณะทะลักทะลาย พร้อมกับเสียงร้องโฮราวกับกำแพงที่สร้างมาห่อหุ้มความบอบช้ำในใจถูกทลาย ความรู้สึกที่เก็บกักเอาไว้มานานแสนนานพรั่งพรูออกมาราวกับทำนบแตก น้ำตาคราวนี้ผสมปนเปด้วยความกดดัน เจ็บปวด และสบายใจ จนไม่รู้ว่าจะยิ้มออกมาทั้งน้ำตาหรือจะร้องไห้ให้หนักกว่าเดิมดี แต่เมื่อพิทักษ์ยังนั่งอยู่ตรงหน้า และยังส่งยิ้มมาให้พร้อมกับลูบศีรษะของเขา น้ำตาก็ยิ่งไหลหนักกว่าเดิม สีหน้าเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวเบะจนคนเห็นยังหัวเราะ


“ฮือ...หัวเราะผมทำไม...ฮือ...” จิณณะเวลานี้หมดมาดอดีตข้าราชการจอมยียวน หมดลุคหลานชายนักธุรกิจ หมดแม้กระทั่งออร่าความไฮโซ ตรงหน้าของพิทักษ์ในเวลานี้มีแค่ชายหนุ่มที่ร้องไห้เสียงดัง น้ำหูน้ำตาไหลเลอะไปทั้งหน้า หนำซ้ำยังเหวี่ยงซ้ายขวาอีกต่างหาก


“ผมกลัวแค่ไหน พี่รู้รึเปล่า”


“รู้ ก็เลยบังจิณเอาไว้ไง”


“ผมหมายถึงกลัวพี่ตาย! ฮือ...”


“แต่พี่ยังไม่ตาย แล้วที่พี่ไม่ตาย ส่วนหนึ่งก็เพราะจิณด้วย วันนั้นจิณห้ามเลือดให้พี่ จิณตะโกนโหวกเหวกให้คนตามรถพยาบาล บอกแม้กระทั่งเบอร์โทรฉุกเฉิน เพราะจิณ...วันนี้พี่ถึงยังนั่งอยู่ตรงนี้” ทั้งๆที่น้ำตายังไหล แต่จิณณะกลับไม่มีเสียงสะอื้นเลยสักนิด เขาเองก็ไม่รู้ตัวว่าวันนั้นตนเองทำอะไรลงไปบ้าง สติน้อยนิดบอกให้หยุดเลือดพิทักษ์ บอกให้ร้องขอความช่วยเหลือเพราะหาโทรศัพท์ของตนเองไม่เจอ เบอร์โทร.ฉุกเฉินที่เคยพูดเล่นกับเพื่อนกลับเป็นเบอร์ช่วยชีวิตคนสำคัญ


สติน้อยนิดที่มีในวันนั้น กลับทำให้พิทักษ์รอดจริงๆหรือ


“แต่...แต่พี่ถูกยิงเพราะผม...ฮือ...”


“พี่ถูกยิงเพราะพี่ตั้งใจปกป้องคนของพี่ ไม่ใช่ถูกยิงเพราะใคร”


“ฮือ...แต่...แต่ผมไม่ได้มีค่าขนาดนั้น...”


“มีสิ จิณมีค่าสำหรับพี่”


จิณณะได้แต่มองคนตรงหน้าผ่านความพร่ามัวของน้ำตาที่มาอีกระลอก


“เลิกรู้สึกผิดกับเรื่องวันนั้นได้แล้ว พี่หายดีแล้ว จิณเองก็ควรวางมันลงได้แล้วเหมือนกัน”


สองมือของพิทักษ์จับไหล่ของคนตรงหน้าราวกับบอกเป็นความนัยว่าให้ปล่อยวางเรื่องราวเหล่านี้เสียที


“เลิกรู้สึกผิดเรื่องของพี่ แล้วก็ปล่อยให้เรื่องของไพศาลเป็นเรื่องของกฎหมาย ปล่อยมันไปนะจิณ อย่าถลำไปกับมันอีกเลย”


จิณณะพูดไม่ออก ปล่อยให้น้ำตาแห่งความเหนื่อยล้าไหลเอ่อ พิทักษ์คงรับรู้ว่าเขาถลำลึกลงไปกับการวิ่งเต้นเรื่องของไพศาลมากแค่ไหน ยิ่งวิ่งมากเท่าไร ก็ยิ่งผูกพันเป็นห่วงโซ่ของความช่วยเหลืออุปถัมภ์ไม่จบสิ้น ยิ่งขอความช่วยเหลือมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องตอบแทนให้สมน้ำสมเนื้อ วันนี้อาจยังไม่ถึงเวลาที่ต้องตอบแทนความช่วยเหลือเหล่านั้น แต่หากวันหนึ่งข้างหน้าถูกเรียกร้องเร่งรัดให้ทำอะไรบางอย่างเพื่อทดแทนบุญคุณที่ทบต้นทบดอกจากวันนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะต้อง ‘จ่าย’ อะไรอีกสักเท่าไร


“พอได้แล้ว จิณ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามทางตามเวลาของมัน ไม่ต้องไปทำอะไรอีกแล้ว”


จิณณะได้แต่พยักหน้ารับทั้งน้ำตา ยอมปล่อยให้เรื่องของไพศาลกลับเข้าสู่กระบวนการและครรลองของมัน


ภายในบ้านของพิทักษ์ยังมีคงมีเสียงสะอื้นอยู่อีกพักใหญ่ แต่สุดท้ายเมื่อผ่านไปค่อนคืน บ้านทั้งหลังก็กลับมาสงบเงียบอีกครั้ง


ทว่าครั้งนี้ มันไม่ใช่ความเงียบที่น่าเศร้าและเต็มไปด้วยความเหงาอีกแล้ว


คืนนี้...ห้องนอนของเจ้าของบ้านได้ต้อนรับแขกเพิ่มอีกหนึ่งคน และเป็นอีกหนึ่ง...ที่เติมเต็มชีวิตของพิทักษ์อีกครั้ง


……………………


ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย จิดาภารู้เห็นความรู้สึกของลูกเลี้ยงตั้งแต่แรก แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำเป็นปิดหูปิดตา ทว่าวันนี้ที่ทุกอย่างปรากฏแก่สายตา พิทักษ์ออกจากงานไปอย่างรีบร้อน เพราะคุณกอบกุลพูดคุยกับเขา ดูก็รู้ว่าเขาจะออกไปพบใคร


พิทักษ์เลือกแล้ว เหมือนที่คราวนั้นเขาก็เลือกที่จะใช้ชีวิตของตนเองปกป้องชีวิตของจิณณะ แม้จะห่วงใยชายหนุ่มที่หล่อนเลี้ยงดูมาแต่เล็ก แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาย่อมมีทางเลือกเป็นของตนเอง และเขามีสิทธิ์ที่จะเลือกในสิ่งที่เขาต้องการ


“ทิศกลับไปแล้วหรือ” เสียงทุ้มของสามีดังขึ้นเบาๆ ทำเอาจิดาภาที่นั่งอยู่เพียงลำพังต้องหันมอง


งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ยังคงครึกครื้นด้วยผู้หลักผู้ใหญ่และคนรู้จักมักจี่ในแวดวงธุรกิจ จิดาภาเองก็ออกสังคมกับสามีบ่อยๆ แต่การออกสังคมคราวนี้ไม่จูงใจให้หล่อนเข้ากลุ่มเสวนากับใครคนไหนเลย การปลีกตัวของภรรยาทำให้ทศพรต้องออกตามหา จึงมาพบหล่อนนั่งเพียงลำพังอยู่ที่มุมเครื่องดื่ม


“ค่ะ...” หล่อนได้แต่รับเสียงแผ่ว สองจิตสองใจไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องนี้กับสามีดีหรือไม่


“ภาเป็นอะไรรึเปล่า กลับกันไหม”


“ไม่ได้เป็นอะไร...” จิดาภาพูดแล้วเม้มปาก


ใจหนึ่งของจิดาภาในฐานะน้าสาวของจิณณะย่อมดีใจที่มีใครสักคนมอบกระทั่งชีวิตเพื่อหลานชายของตนเอง


ใจหนึ่งของจิดาภาในฐานะแม่เลี้ยงของพิทักษ์ก็ดีใจเช่นกันที่คนที่ลูกเลี้ยงเลือกเป็นคนที่หล่อนเองก็รับรู้ว่าเขาทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อพิทักษ์ไม่น้อย


แต่...อีกเสี้ยวใจ ก็อดเป็นกังวลไม่ได้ ไหนจะเรื่องความปลอดภัยของพิทักษ์ ไหนจะเรื่องที่พวกเขาต่างเป็นชาย


สังคมสมัยนี้ คู่รักเพศเดียวกันมีออกเกร่อ แต่ความเกร่อไม่ได้หมายถึงการยอมรับอย่างปิติยินดี จิดาภาเองก็เช่นกัน หากเลือกได้ หล่อนย่อมอยากให้พิทักษ์และจิณณะต่างมีครอบครัวลูกเมียพร้อมหน้า แล้วให้พวกเขาเป็นเพียงญาติที่เกี่ยวดองกันห่างๆเท่านั้น


แต่หล่อนเลือกไม่ได้ เรื่องคราวนี้คนเลือกคือพิทักษ์และจิณณะ


“คุณทศ...ทิศออกไปกับจิณ...” ในฐานะที่เป็นภรรยาของทศพร เป็นแม่เลี้ยงของพิทักษ์ และเป็นน้าสาวของจิณณะ จิดาภารู้สึกเหมือนตนเองเป็นสะพานให้พิทักษ์และจิณณะเข้ามาข้องเกี่ยวกัน หากไม่มีหล่อนเป็นคนกลาง สองคนนั้นอาจจะไม่แม้แต่จะรู้จักกันด้วยซ้ำ และสุดท้ายแล้วลูกของทศพรก็อาจจะไม่ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อหลานชายของหล่อน และป่านนี้อาจจะแต่งงานมีครอบครัวที่แสนอบอุ่น มีหลานให้ทศพรอุ้มชู


ชายวัยปลายมองภรรยาพลางยิ้มน้อย ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งเคียงข้าง นับตั้งแต่เกิดเรื่อง จิดาภาทั้งโกรธทั้งเสียใจ หล่อนถือว่าตนเองมีส่วนผิดที่ทำให้พิทักษ์ต้องเจ็บตัว หล่อนกล่าวโทษจิณณะที่หลอกลวงให้พิทักษ์ไปเป็นโล่กำบัง หล่อนโทษตัวเองที่ทำให้ทั้งสองคนรู้จักกัน ทั้งๆที่ไม่ว่าจะพิทักษ์หรือทศพร ต่างไม่มีใครโทษหล่อนเลย


“แล้วยังไง” คำถามที่ย้อนกลับมาทำเอาจิดาภาเม้มปาก ไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องใดก่อนดี ระหว่างคนที่พิทักษ์ออกไปด้วยคือคนที่ทำให้พิทักษ์เจ็บตัว คนที่พิทักษ์ออกไปด้วยเป็นผู้ชายเหมือนกับพิทักษ์ และที่สำคัญคนที่พิทักษ์ออกไปด้วย เป็นหลานชายของหล่อนเอง 


ทศพรเห็นภรรยาพูดไม่ออก จึงเอนหลังพิงเก้าอี้ ทอดสายตามองงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ที่ยังคงอุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยนักธุรกิจ นักการเมืองและข้าราชการมากหน้าหลายตา ผู้คนเหล่านี้ล้วนพบหน้าค่าตากันอยู่เนืองๆ พูดคุยกันด้วยเรื่องผลประโยชน์และธุรกิจเป็นสำคัญ มีบุญคุณเกื้อหนุนกันอย่างแน่นหนา ความสัมพันธ์เหล่านี้แน่นแฟ้นทั้งในแง่ของการรวมตัวเป็นกลุ่มก้อน และผ่านทางการแต่งงานของลูกหลานเกี่ยวดอง


ทั้งพิทักษ์และทิวากร ล้วนเคยถูกทาบทามให้นับวงศาคณาญาติกับตระกูลสายธุรกิจ แน่นอนว่าคนน้องอย่างทิวากรที่มุ่งมั่นเรียนสายวิชาชีพย่อมสามารถปฏิเสธได้อย่างลอยตัว แต่พิทักษ์ที่อยู่ในแวดวงนี้ ก็ชวนให้ทศพรหวั่นใจว่าลูกชายอาจถูกอำนาจและผลประโยชน์ชักนำให้สร้างครอบครัวโดยอาศัยความก้าวหน้าของธุรกิจเป็นสำคัญ


แน่นอนว่านั่นไม่ใช่เรื่องที่คนเป็นพ่ออย่างเขาต้องการเลย หากต้องเห็นครอบครัวของลูกก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาบนพื้นฐานของผลประโยชน์ที่เป็นตัวเงินและมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่าคุณค่าของจิตใจ


แต่...เมื่อเกิดเรื่องขึ้น พิทักษ์ได้รับบาดเจ็บ คนเป็นพ่อที่ไม่ตีโพยตีพายไม่ได้หมายความว่าไม่ทุกข์ร้อน แต่สิ่งที่รับรู้จากคำให้การของมือปืนที่ถูกจับและคำบอกเล่าเหตุการณ์จากพิทักษ์เอง กลับทำให้ทศพรเบาใจเรื่องหนึ่ง


พิทักษ์มีคนที่เขารัก...สิ่งที่เขาให้ค่าและความสำคัญไม่ใช่ผลประโยชน์ทางธุรกิจ แต่เป็นความรู้สึกของหัวใจ


“ภาเลี้ยงทิศมาแต่เล็ก ภาคิดว่าอะไรเป็นเหตุผลให้ทิศยอมเอาตัวเองบังจิณเอาไว้หรือ?” คำถามของทศพรทำเอาจิดาภานิ่งงัน


คำรับสารภาพของมือปืนที่ถูกจับและคำบอกเล่าของพิทักษ์ คือคนถูกยิงไม่ได้ถูกลูกหลง แม้ว่ามือปืนจะเข้าใจผิดว่าคนที่นั่งเบาะข้างคนขับคือจิณณะ แต่วินาทีสุดท้ายก่อนเหนี่ยวไก พบว่าคนที่ตนเองล็อกเป้าดันไม่ใช่คนที่หมายหัวมาแต่แรก ปากกระบอกปืนจึงเบี่ยงไปที่คนขับ แต่เป็นฝ่ายพิทักษ์เองที่ขยับตัวบังเอาไว้ แค่วินาทีเดียว ความไขว้เขว่ของมือปืนก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนคือการปกป้องของพิทักษ์ กระสุนนัดนั้นจึงไม่ถูกอวัยวะสำคัญของพิทักษ์ และไม่ถูกคนสำคัญของเขา


“ทิศไม่ได้ถูกลูกหลงนะภา แต่เรื่องที่เกิดขึ้น เขาตั้งใจ เขาต้องการปกป้องคนสำคัญของเขา อย่าดูถูกความตั้งใจของเขาด้วยการบอกว่าเขาถูกลูกหลงเลย” 


“จิณเองก็เหมือนกัน ภาเป็นน้าของจิณ ภาคิดว่าหลานของภาแค้นไพศาลเพราะอะไรมากกว่ากัน ระหว่างตัวเองถูกหมายหัว หรือทิศถูกยิง”


จิดาภาได้แต่เม้มปาก เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ว่าหล่อนไม่รู้ จิณณะทุ่มหมดหน้าตักเพื่อให้ไพศาลได้รับโทษ จริงอยู่ว่าหากไม่จัดการขั้นเด็ดขาด ไพศาลก็คงตามราวีไม่จบสิ้น แต่...เรื่องถูกราวีหลังจากนี้ก็เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าคือจิณณะเจ็บแค้นกับการที่พิทักษ์ถูกยิงปางตาย


“จิณตั้งใจจัดการไพศาลเพื่อทิศ เรื่องนี้เราก็อย่าดูถูกความตั้งใจของเขา”


“ต...แต่พวกเขาเป็นชาย...”


ทศพรหัวเราะเบาๆ


“ยังจะหัวเราะอีกหรือคะ คนอื่นๆจะพูดถึงทิศกับจิณแบบแย่ๆ พวกเขาจะมองสองคนนั่นเป็นเรื่องประหลาด...”


“อย่าว่าแต่คนอื่นเลย พี่ก็มองว่าประหลาด” จิดาภากำลังจะพูดว่า เห็นไหมล่ะ ขนาดพ่อแท้ๆยังคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างลูกชายและชายหนุ่มอีกคนเป็นเรื่องประหลาดเลย ทว่าทิศพรกลับพูดขึ้นมาเสียก่อน


“...ต้องเป็นความรู้สึกที่ประหลาดมากๆ เพราะทิศยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อจิณ ส่วนจิณก็ยอมทุ่มทั้งชีวิตเพื่อจัดการคดีให้ทิศ คนเราต้องรู้สึกต่อกันมากขนาดไหน ถึงทำเพื่อกันและกันขนาดนี้ พี่เป็นพ่อของทิศ พี่ยังคิดไม่ถึงเลยว่าลูกตัวเองจะรู้สึกกับใครสักคนได้มากขนาดนี้ ภาเป็นน้าของจิณ ภาคิดไหมว่าจิณจะทำเพื่อใครสักคนได้มากขนาดนี้”


น้าสาวของจิณณะนิ่งงันอีกหน แล้วก็ได้แต่ยอมรับว่าหล่อนเองก็คาดไม่ถึงเช่นกันที่หลานชายทำขนาดนี้


เรื่องของพวกเขานั้นประหลาด ความรู้สึกของพวกเขาก็ยิ่งแปลกประหลาด


มันแรงกล้า แข็งแกร่ง อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกมากล้น


ทศพรจับมือภรรยาแล้วบีบเบาๆ


“พวกเขาทำเพื่อกันและกันมากพอแล้วนะภา เราปล่อยให้พวกเขาได้มีความสุขสักทีดีไหม”


จิดาภาใจหาย ทั้งๆที่ยังเจ็บปวดกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกเลี้ยง และไม่ต้องการเห็นภาพอย่างนั้นซ้ำสอง พิทักษ์จะมีชีวิตที่สงบสุขหากเขากลับไปใช้ชีวิตอย่างเดิม แต่ชีวิตอย่างเดิมที่ไม่มีจิณณะ จะสงบจริงไหมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆคือเขาจะไม่มีความสุข


ถึงเวลาให้พิทักษ์และจิณณะมีความสุขสักที


หล่อนถอนหายใจยาวราวปล่อยวาง เป็นสัญญานบอกให้รู้ว่ายินยอมเปิดทางให้เส้นทางของพิทักษ์และจิณณะเวียนมาบรรจบกันได้เสียที


ทศพรยิ้ม บีบมือเบาๆ


“แต่ภาแน่ใจนะ ว่าทิศออกไปกับจิณ”


“แน่ใจสิคะ เห็นจิณออกไปก่อน แล้วคุณกอบมาคุยกับทิศ แป็บนึงทิศก็ออกไปอีกคน คุณทศถามทำไมหรือ”


“จะได้สบายใจว่าทิศออกไปกับจิณ เพราะถ้าออกไปกับคนอื่น คุณกอบคงไม่เอาครอบครัวเราไว้” เขาเปรยพลางมองไปยังคุณกอบกุลที่กำลังอยู่ในวงสนทนากับกลุ่มทุน แม้จะเป็นสตรีชราร่างเล็ก แต่อำนาจและบารมีของหล่อนไม่น้อยหน้าใครทั้งสิ้น


เพื่อธุรกิจ หล่อนขับเคี่ยวไม่เกรงใคร


เพื่อครอบครัว หล่อนกล้าชนไม่สนหน้าไหน


คุณเทียมเคยย้ำกับเขา ว่าถ้าพิทักษ์ไปไหนไม่รอดต้องผูกสัมพันธ์กับวงศ์กีรติเพราะถลำลึกไปกับความรู้สึกที่มีต่อจิณณะแล้ว ก็ให้ทำเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คืออย่าให้พิทักษ์สร้างความเจ็บปวดใดๆให้จิณณะเป็นพอ เพราะงูพิษที่ชื่อกอบกุลพร้อมจะแผ่แม่เบี้ยเพื่อคนในตระกูลวงศ์กีรติเสมอ!

………………….
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-05-2019 19:31:37 โดย Dezair »

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8

 กลางวันและกลางคืนเป็นวัฎจักรของโลก เหมือนที่ชีวิตคนมีทั้งช่วงเวลาที่ดำมืดและสว่างไสว


ตอนนี้อาจเป็นช่วงกลางคืนของชีวิต แต่อนาคต แสงสว่างของเช้าวันใหม่จะมายืน และอนาคตของอนาคตก็ย่อมต้องมีกลางคืนวนเวียนกลับเข้ามา จากนั้นก็เป็นกลางวันอีกครั้ง ราวกับมีกลางคืนก็เพื่อให้รู้เห็นความแตกต่างของกลางวัน ชีวิตมีช่วงเวลาตกต่ำก็เพื่อให้เห็นค่าเมื่อขึ้นสู่ที่สูง ชีวิตของจิณณะก็เช่นกัน


ก่อนหน้านี้ชีวิตของเขาราวกับตกอยู่ในห้วงดึกดื่น มองไปทางไหนก็ดำมืดมีแต่ความแค้นอาฆาตทุกลมหายใจเข้าออก แต่แล้วแสงสว่างของเช้าวันใหม่ก็สาดส่องเข้ามาในชีวิต แน่นอนว่าในภายภาคหน้าก็ย่อมต้องวนเวียนไปสู่ห้วงกลางคืนอีกครั้ง แต่เวลานั้นเป็นเรื่องของอนาคต ที่สำคัญไปกว่านั้น ต่อให้อนาคตจะดำมืด แต่ก็ยังมีอนาคตของอนาคตที่มีแสงสว่างรออยู่เช่นกัน


เปลือกตาของชายหนุ่มเปิดขึ้นช้าๆ มองเพดานห้องอยู่พักหนึ่งเพื่อครุ่นคิดถึงความคุ้นเคย ใช่...เขาเคยเห็นเพดานแบบนี้ ไม่ใช่เพดานฉลุลายวิจิตรหรูหราแบบคฤหาสน์วงกีรติ ไม่ใช่เพดานฝ้าเก่าๆของบ้านพักราชการที่เคยอาศัย แต่ถึงอย่างนั้นก็เคยเห็นเพดานแบบนี้


...บ้านพี่ทิศ...


จู่ๆ สมองของคนเพิ่งตื่นก็ทำงานขึ้นมากะทันหัน ทำเอาดวงตาที่หรี่ปรืออย่างง่วงงุนถึงกับเบิกโตแล้วลุกพรวดขึ้นนั่งทันควัน


...บ้านพี่ทิศ?!!...


จิณณะเอี้ยวตัวมองซ้ายขวาอย่างตะลึงตะลาน เขาพบว่าตนเองอยู่บนเตียงกลางห้องนอน ห้องนอนห้องนี้ไม่ใช่ห้องเดิมที่เขาเคยมาอาศัย เพราะห้องนั้นเล็กกว่านี้ และเครื่องเรือนไม่ใช่แบบนี้ ที่สำคัญ ห้องนอนเดิมที่เขาเคยพักไม่มีเตียงกว้างแบบนี้


พอคิดถึงเตียง ดวงตาของชายหนุ่มก็มองตกลงพื้นที่ว่างข้างกาย...ซึ่ง...ยับเล็กน้อย


...เมื่อคืน...พี่ทิศนอนตรงนี้หรือ?...


...นอนข้างกันอย่างนั้นหรือ?...


พอคิดย้อนกลับไปเมื่อคืน หลานชายนอกคอกของคุณกอบกุลก็ทำหน้าปั้นยากขึ้นมาทันที นอกจากเรื่องที่เรียบเรียงไม่ถูกว่าทำไมถึงขึ้นมานอนเตียงเดียวกับพิทักษ์ได้แล้ว ยังนึกไปถึงเรื่องที่นั่งร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรต่อหน้าพิทักษ์อีก


หมดกัน...ความมาดแมนที่สะสมมา


“ตื่นแล้วหรือ ว่าจะขึ้นมาปลุกพอดี” เสียงดังมาจากหน้าประตู ทำเอาคนที่กำลังขยี้หัวตัวเองให้กับความน่าอับอายที่เกิดขึ้นเมื่อคืนต้องเงยหน้ามอง สภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง และหน้าตาของคนเพิ่งตื่นนั้นดูอย่างไรก็น่าขำ จนพิทักษ์ยังอดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้


“ห...หัวเราะอะไร” คนถูกหัวเราะย้อนถามหน้าตาหงุดหงิดหัวใจเล็กๆ รู้แก่ใจว่าสภาพตนเองในเวลานี้ลองว่าถ้าคนเนี้ยบทุกกระเบียดอย่างคุณกอบกุลมาเห็น เขาคงถูกด่าจนลืมชื่อตัวเองแน่


“หัวเราะแฟนตัวเองต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ ตื่นแล้วก็ไปล้างหน้าแปรงฟัน”


“ห...หะ...”


“ไปล้างหน้าแปรงฟัน”


“ม...เมื่อกี้พี่เรียกผมว่าอะไรนะ”


“แฟน”


“ฟ...แฟน?...”


พิทักษ์เลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าผิดตรงไหน แต่จิณณะที่เพิ่งตื่น นอกจากสมองจะคิดตามไม่ทันแล้ว คำพูดของพิทักษ์ยังชวนให้ตะลึงค้างอีกต่างหาก


“ไปล้างหน้า จะได้ลงไปกินข้าว ทุกอย่างอยู่ในห้องน้ำ แปรงสีฟันอันเก่าของจิณมันนานมากแล้ว พี่เลยเอาอันใหม่มาให้ แต่ที่เหลือนอกจากนั้น ยังอยู่”


...ยังอยู่...ทั้งๆที่จิณณะไม่ได้กลับมาที่นี่อีก...


ทั้งๆที่ไม่เคยติดต่อกลับมาเลยสักครั้ง แต่ข้าวของเครื่องใช้แทบทั้งหมด พิทักษ์ยังเก็บไว้ และวันนี้เขาย้ายทุกอย่างจากห้องนอนเล็กมาไว้ที่ห้องนี้หมดแล้ว


จะไม่มีวันปล่อยให้จิณณะเดินหายไปจากชีวิตอีกเป็นครั้งที่สอง


จิณณะพูดไม่ออก ได้แต่กลืนน้ำลายหนืดๆลงคอ รู้สึกเหมือนตนเองทอดทิ้งที่นี่ไป แต่แล้ววันนี้ที่วกกลับมา ก็พบว่าคนที่นี่ยังรอคอย พิทักษ์ต้องอยู่กับความเจ็บปวดจากการรอมานานแค่ไหนแล้ว พิทักษ์อยู่ได้อย่างไรกับความไม่รู้ว่าเขาหายไปทำไม และจะกลับมาอีกไหม...ในขณะที่...ข้าวของของเขายังอยู่ที่นี่เหมือนเดิม


ใจคนรอ ทรมานไม่ต่างจากคนที่เดินจากไปเลย


ฝ่ามืออุ่นวางลงบนศีรษะของจิณณะแล้วลูบเบาๆ ยิ่งทำเอาหยาดน้ำที่คลอหน่วยกลิ้งหล่นลงจากดวงตา


“ผมขอโทษ...พี่ทิศ ผมขอโทษ...” คนที่เลือกเดินจากไปอย่างจิณณะเองก็ไม่มีวันไหนเลยที่จะไม่ทรมาน หากพิทักษ์ต้องรอคอยอยู่กับข้าวของเครื่องใช้ของเขาที่ยังหลงเหลือที่นี่ ตัวเขาเองก็ต้องทนทุกข์อยู่กับความทรงจำที่กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ความทรงจำที่สวยงามแล้วปิดฉากสุดท้ายด้วยเลือดและลมหายใจรวยรินของพิทักษ์


ใครทรมานกว่ากัน ไม่อาจวัดได้ แต่ต่างคนต่างทรมานไม่ต่างกันเลย


“ไม่ต้องขอโทษแล้ว แล้วก็เลิกร้องไห้ได้แล้ว จิณณะคนนี้ขี้แยไม่เหมือนจิณณะคนเดิมเลย” พิทักษ์โยกศีรษะคนบนเตียงไปมา เขาก้มลงยิ้มจางให้กับชายหนุ่มที่แม้แต่คุณเทียมหรือมิตรก็ยังออกปากว่าใจเด็ดไม่ต่างจากคุณกอบกุล แต่ผู้ชายใจเด็ดที่ลุงของเขาพูดถึงคงหนีหายไปไหนสักที่ เพราะผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าพิทักษ์ในเวลานี้คือชายหนุ่มที่ก่อนนอนก็ร้องไห้ ตื่นมาก็ร้องไห้


พอถูกทักว่าขี้แย ผู้ชายอายุใกล้สามสิบที่มีศักดิ์ศรีค้ำคอเลยต้องรีบยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตา


“ไม่ต้องขอโทษพี่อีกแล้ว เข้าใจไหม”


“แต่ผมทิ้งพี่ไป...”


“แล้วจิณจะทิ้งพี่อีกไหม”


“ไม่แล้ว”


“ถ้าอย่างนั้นก็เลิกพูดเรื่องเก่า จากนี้ไปจิณห้ามทิ้งพี่อีก ถ้ามีปัญหาอะไร ให้บอกพี่ ห้ามทำคนเดียว”


“ครับ...”


“ไปล้างหน้า จะได้กินข้าว ดูสิ เหลือแต่กระดูก กอดไปมีหวังหักคามือ” ประโยคหลังนั้นเหมือนพิทักษ์บ่นกับตัวเอง แต่ดันเข้าหูคนบนเตียงพอดี จากที่เมื่อครู่ร้องไห้ด้วยความเสียใจที่เป็นฝ่ายทิ้งพิทักษ์ไป เวลานี้จิณณะเลิกเสียใจชั่วคราว เพราะคำพูดสองแง่สามง่ามของคนตรงหน้าชวนให้ตาเหลือก


“ก...กอด?”


“ใช่”


“หักคามือ?”


“แน่นอน พี่กอดแรง” หน้าตาซีดขาวของคนเพิ่งตื่นกลายเป็นแดงวาบขึ้นมาเหมือนเปิดไฟ แถมตายิ่งเหลือกหนักกว่าเดิมเสียอีก


“...แต่จิณไม่ต้องห่วง พี่รับปากกับคุณกอบแล้ว หลานชายของแกคนนี้ จากนี้ไป...พี่จะรับผิดชอบเอง”


จิณณะหงายหลังผึ่งลงไปกับเตียง หากจะมีใครสักคนที่ถูกรับผิดชอบแล้วเป็นลมตาค้าง ก็คงเป็นผู้ชายที่ชื่อ จิณณะ วงศ์กีรติคนนี้นี่แหละ


…………………….


เรื่องของพิทักษ์และจิณณะนับว่าลงเอยด้วยดี แม้จะมีคำครหาลอยตามลมมาถึงหูคุณกอบกุลอยู่บ้างว่าหลานชายไม่ใช่ผู้ชาย แต่คนที่ฝังตัวอยู่ในระบบเศรษฐกิจที่มีทุน ผลประโยชน์และอำนาจวนเวียน ถูกนินทาว่าร้ายทั้งเรื่องจริงและไม่จริงมาร้อยแปดพันเรื่อง ย่อมไม่ใส่ใจ ทำเพียงแค่ยกยิ้มกระหยิ่มแล้วเปรยยอกย้อนกลับไปราวกับจะเปิดหูเปิดตาคนพูด


“ไม่ใช่ผู้ชายแล้วยังเป็นคนไหม ถ้ายังเป็นคนก็แสดงว่าเลือดเนื้อเชื้อไขของฉันยังไม่กลายพันธุ์”


คำครหาเรื่องจิณณะรักชอบผู้ชายเลยหยุดแต่เพียงเท่านั้น แต่กลายเป็นมีคำนินทาหญิงชรามาแทนที่


‘ที่คุณกอบยอมให้หลานชายอยู่กินกับผู้ชาย ก็เพราะผู้ชายคนนั้นเป็นหลานคุณเทียมน่ะสิ!’


แน่นอนว่าคนหูตากว้างขวางอย่างคุณกอบกุลก็ย่อมได้ยินคำนินทาเช่นนี้ แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้น อายุหล่อนปูนนี้แล้ว คำนินทาที่ร้ายแรงกว่านี้ ก็ล้วนผ่านหูผ่านตามาหมด กับแค่เรื่องพรรค์นี้ นอกจากจะไม่ใส่ใจ ยังยิ้มจางรับคำอย่างหน้าชื่นตาบาน


เพราะหากพิทักษ์เป็นชายหนุ่มชาวบ้าน ไม่มีเส้นสายบารมีของผู้เป็นลุงหรือแม้แต่บิดา คุณกอบกุลยอมรับว่าหล่อนคงให้คุณค่าเขาแค่ครึ่งหนึ่งของที่ให้ในเวลานี้


ในสายตาของหล่อน คนเพศใดก็ยังคงเป็นคน แต่คนที่มีผลประโยชน์เอื้อต่อกันนี่สิ จึงจะนับว่าเป็นคนที่คู่ควร


ยิ่งเวลานี้ คุณเทียมกลับมาเป็นผู้มีอิทธิพลเพียงคนเดียวในจังหวัด และกลายเป็นหัวเรือใหญ่เปิดกิจการบ่อนการพนันในพื้นที่ โดยอาศัยกลุ่มทุนที่ออกหน้าโดยท่านเสรี ส่วนไพศาล เวลานี้ใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำในฐานะนักโทษฝากขัง ต่อให้คดียังไปไม่ถึงศาลฎีกา แต่กว่าเขาจะกลับออกมาสูดลมหายใจนอกลูกกรง เวลานั้นอำนาจบารมีใดๆก็มลายหายไปหมดแล้ว


การที่คุณเทียมขึ้นเป็นใหญ่ในจังหวัด เป็นผลพลอยได้ที่คุณกอบกุลบันดาลให้ แต่สิ่งที่หล่อนต้องการจากเขาคือเส้นสายของเขาที่ยังคงแวดล้อมอยู่ในวงการการเมือง แน่นอนว่าเมื่อพิทักษ์กลายร่างมาเป็นหลานเขยหรือหลานสะใภ้ก็ตามแต่ ธุรกิจของวงศ์กีรติก็ย่อมได้ประโยชน์ไปด้วย


แล้วอย่างนี้จะไม่เรียกว่าพิทักษ์คู่ควรกับจิณณะได้อย่างไรกัน


อย่างไรก็ตาม การที่พิทักษ์และจิณณะคู่ควรกันในสายตาของคนใฝ่ประโยชน์ส่วนตนอย่างคุณกอบกุล ก็ยังนับเป็นข้อดีที่ทำให้ชีวิตคู่ของพวกเขากลับมาสงบสุขอย่างที่ไม่คาดฝัน


ทว่า...วันหนึ่ง เรื่องไม่คาดฝันซ้ำสองก็มาถึงหูของพิทักษ์


ไพศาลฆ่าตัวตายในคุก ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะนัดอ่านคำพิพากษา


“จิณ” ประตูห้องทำงานของจิณณะถูกผลักเข้ามาอย่างเร่งรีบ ทำเอาชายหนุ่มสองคนในห้องที่กำลังคุยเรื่องตารางงานในวันนี้ต้องหันมอง


หนึ่งคนคือเจ้าของห้องอย่างจิณณะ ส่วนอีกคนคือเลขานุการหนุ่มอย่างดนัย ซึ่งเดิมทีเป็นคนอารักขาความปลอดภัยที่คุณเทียมส่งมาดูแลจิณณะในช่วงวิ่งเต้นเรื่องคดีของไพศาล ไปๆมาๆ เมื่อคดีเข้ารูปเข้ารอย เขาก็รับทำงานเอกสารและเป็นเลขานุการให้จิณณะต่อ ซึ่ง...เป็นเรื่องที่รู้กันระหว่างดนัย พิทักษ์ และคุณเทียมว่างานเลขานุการนี้เป็นเพียงการบังหน้าเท่านั้น หน้าที่ดูแลความปลอดภัยจิณณะอย่างไรก็ยังเป็นหน้าที่หลัก


“พี่ทิศ...” เจ้าของห้องกะพริบตาปริบๆ ที่จู่ๆคนรักก็มาปรากฏตัวที่กรุงเทพฯ อย่างเร่งด่วน แถมยังพรวดพราดเข้ามาในห้องทำงานอีกต่างหาก


ดนัยเองก็พลอยเลิกคิ้วไปด้วย แต่ความสัมพันธ์ของพิทักษ์และจิณณะไม่ใช่เรื่องปิดบัง แม้จะแปลกใจที่เห็นอีกฝ่ายมาที่นี่ในเวลาทำงาน แต่ก็ไม่มีอะไรต้องสงสัยมากนัก


“ถ้าอย่างนั้น ผมจะลองติดต่อทางนั้นดู แล้วจะมาแจ้งคุณจิณอีกครั้ง” เขาถอยฉาก ก่อนจะหมุนตัวออกจากห้อง บานประตูปิดลง พิทักษ์กำลังจะอ้าปากพูด แต่เสียงโทรศัพท์ของเจ้าของห้องทำงานดังขึ้นเสียก่อน


“แป๊บนะพี่” แล้วเจ้าตัวก็กดรับสาย


“เรียบร้อยแล้วหรือ โอเค...เดี๋ยวผมโอนให้เลย จะให้พิเศษด้วย งานเร็ว งานไว งานเนี๊ยบ” จิณณะพูดพลางหัวเราะสดใส แล้วตัดสายภายในเวลาไม่กี่นาทีหลังจากคุย จากนั้นจึงจัดการธุรกรรมทางการเงินต่ออีกเล็กน้อย แล้วจึงเงยหน้ามองคนมาเยือนที่ยังยืนอยู่กับที่


“โทษทีพี่ ผมสั่งขนมให้แม่น่ะ อยากกินวันนี้เลยต้องสั่งด่วน แล้วพี่มีอะไรรึเปล่า อยู่ดีๆก็มาหาผมถึงนี่”


“จิณรู้ข่าวรึยัง”


“ข่าวอะไร”


“ไพศาลฆ่าตัวตาย”


จิณณะแทบลืมหายใจไปชั่วขณะ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ


“พี่ว่าไงนะ?! ไพศาลตาย?! มันตายได้ยังไง...ก็...ก็มัน...”


“ผูกคอตาย...ในคุก”


เกิดเป็นความเงียบภายในห้อง จิณณะนิ่งงัน คนอย่างไพศาล กลัวตายถึงขนาดอ้อนวอนขอให้เขาไม่เอาเรื่อง หุบปากไม่กล้าซัดทอดขบวนการค้ามนุษย์ ทั้งๆที่อาจทำให้ถูกกันมาเป็นพยานและโทษที่ได้รับอาจถูกลดทอนลง


คนกลัวตายอย่างนั้น...กลับฆ่าตัวตาย


“ผูกคอตายหรือ...” การผูกคอตายนั้นมีหลายรูปแบบ แต่หากแยกออกเป็นประเภทใหญ่ๆก็คือ ผูกคอตายเอง กับมีคนอื่นผูกคอให้ตาย


แล้วไพศาล...เป็นการผูกคอแบบไหน


ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานเงยหน้าขึ้นมองคนรัก


“พี่...คิดว่ามันฆ่าตัวตายจริงไหม”


คำตอบของพิทักษ์คือส่ายหน้า ยิ่งทำให้น้ำลายในปากในคอของจิณณะหนืดเหนียว


“แล้วพี่คิดว่าใคร...”


นอกจากจิณณะที่มีคดีความกับไพศาลอยู่ ยังมีขบวนการค้ามนุษย์ที่อาจต้องการปิดปาก และ...มีคุณกอบกุลผู้ซึ่งเจ้าคิดเจ้าแค้นและพร้อมทำทุกอย่างเพื่อคนในตระกูลวงศ์กีรติ นอกจากนั้นก็มีคุณเทียมที่อาจจะอยากแก้แค้นให้พิทักษ์ที่ถูกยิง


ชายหนุ่มสองคนมองหน้ากัน ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนี้ ต่างคนต่างเป็นห่วงว่าอาจเกี่ยวข้องกับวงศาคณาญาติ คุณกอบกุลมีทั้งเงินทองและเครือข่าย คุณเทียมเองก็มีทั้งอำนาจและเส้นสาย หากไม่ใช่การปิดปาก ก็คงเป็นไปเพื่อการแก้แค้น


ชีวิตของไพศาลสูญสิ้น ไม่ว่าจะด้วยการตัดสินใจของตนเอง หรือการตัดสินใจของผู้อื่น แต่ก็ไม่อาจมีโอกาสกลับมาวนเวียนอยู่รอบตัวจิณณะและพิทักษ์อีกแล้ว ไม่ดีต่อการจากไป แต่จิณณะกลับทอดถอนลมหายใจแล้วเอนหลังพิงพนัก พลางหัวเราะเบาอย่างไร้อารมณ์ขัน


“ผม...คงใจหยาบมากเลย อยู่ดีๆ พอคิดว่าไพศาลตาย ผมกลับเบาใจ...” ทั้งๆที่พูดคำว่าเบาใจ แต่สีหน้าของเขากลับไม่มีวี่แววจะสบายใจเลย อาจจะเบาใจว่าชีวิตนี้รอดพ้นจากการตามราวีของไพศาลแน่แล้ว แต่ก็ไม่อาจวางใจว่าการตายของไพศาลในครั้งนี้จะนำพาเรื่องใดมาสู่คนใกล้ชิดหรือไม่


ฝ่ามืออุ่นวางลงบนศีรษะของจิณณะ สีหน้าของพิทักษ์ไม่ได้แตกต่าง ต่างคนต่างหนักใจและเป็นกังวล เวลานี้ ทั้งคุณเทียมและคุณกอบกุลล้วนมีบารมีและเงินทอง แต่หากวันหนึ่งหมดสิ้นอำนาจวาสนา คนที่เป็นปรปักษ์คงขุดคุ้ยเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นหนึ่งในร้อยเรื่องพันเรื่องเพื่อโจมตี แม้ว่าทั้งสองอาจจะพัวพันหรือไม่ก็ตาม


“อาจจะไม่ใช่คนของเราก็ได้ ไพศาลมีทั้งคนเกลียด มีทั้งเรื่องค้ามนุษย์ อาจเป็นการปิดปาก...”


แม้จะให้กำลังใจแต่พิทักษ์ก็ไม่อาจรับประกัน จริงอยู่ว่าการที่ไพศาลก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลของจังหวัด ย่อมไม่ได้เดินผ่านแต่สวนดอกไม้ เขาก้าวข้ามศพใครมาบ้าง คนแค้นเคืองย่อมมี ไหนจะเรื่องที่เกี่ยวพันกับเครือข่ายค้ามนุษย์อีก เรื่องปิดปากก็มีเหตุผล แต่ความแค้นส่วนตัวที่คุณกอบกุลและคุณเทียมมีต่อไพศาลก็มองข้ามไม่ได้เช่นกัน...


แต่ในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้ว ไพศาลถูกระบุว่าฆ่าตัวตาย ก็ย่อมต้องเป็นการฆ่าตัวตายต่อไป จนกว่า...วันใดวันหนึ่ง ความจริงจะปรากฏ หรือ...อาจจะไม่มีวันนั้นเลย ก็เป็นได้


“ถือซะว่า...เขาพ้นกรรมในชีวิตนี้ไปแล้ว...”


จิณณะได้แต่รับคำ ทั้งๆที่อาฆาตแค้นไพศาลทุกลมหายใจเข้าออก วันนั้นเขาหมายมาดอยากให้ไพศาลได้รับโทษถึงชีวิต ให้สาสมกับที่พิทักษ์รับเคราะห์ปางตาย แต่วันนี้พอไพศาลหมดลมไปแล้วจริงๆ มันกลับอื้ออึงจนพูดไม่ออก ได้แต่ทอดถอนหายใจราวกับปลงตก


ชีวิตคนเราก็เท่านี้ ดิ้นรนขึ้นที่สูง วันหนึ่งพลาดพลั้งตกต่ำ บางคนดิ้นรนต่อเพื่อให้ชีวิตกลับสู่ที่สูงอีกครั้ง แต่สำหรับบางคน...การตกต่ำครั้งนั้นอาจเป็นวาระสุดท้ายของชีวิต


ข่าวการตายของไพศาลไม่เพียงมาถึงหูพิทักษ์และจิณณะ แต่ก่อนที่ข่าวจะออกสู่สาธารณชน เรื่องนี้ไปถึงคฤหาสน์วงศ์กีรติและบ้านพักของคุณเทียมก่อนแล้ว


ฟากหญิงชราผู้ถูกขนานนามว่างูพิษรับฟังข่าวคราวจากเลขานุการอย่างสงบแม้จะเป็นเรื่องความตายก็ตาม สีหน้าของหล่อนไม่แปรเปลี่ยน ทว่ามุมปากมีรอยยกเล็กน้อย ในขณะที่ฝั่งคุณเทียม มีโทรศัพท์จากใครบางคนส่งข่าวในเรือนจำมาถึงหู ก็ทำเพียงรับฟังอย่างเงียบๆ แล้วเอนหลังพิงพนักอย่างผ่อนคลาย


ไม่มีความอาลัยใดๆในดวงตาของสองชรา


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสที่ 23 ค่ะ)

บางที เรามักจะพบว่าข่าวลือที่เกี่ยวกับเรื่องเดียวกัน แต่ลือกันมาคนละอย่าง ล้วนน่าเชื่อไปหมดทุกอย่างเลย ฮ่าฮ่า เรื่องของไพศาลก็เลยตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ

ส่วนตอนที่แล้วก็เป็นไปตามคาดว่าคุณย่าจะต้องได้มงและดอกไม้ แต่ก็อย่างที่บอกไว้ในตอนนี้ คุณย่าแกมีเป้าหมายสำคัญอยู่ 2 อย่าง 1.ลูกหลานของแก 2.ผลประโยชน์ของแก จริงๆแล้วแกก็เป็นคนชิลๆดีนะคะ อยากได้อยู่ไม่กี่อย่างเอง ฮ่าฮ่า

   เนื่องจากบัวมีสอบไฟนอล ก็เลยจะของดลง 2 สัปดาห์ (อ่านหนังสือไม่ทันนั่นเอง T.T) แต่นี่ก็เคลียร์ปมไปจนหมดแล้วนะ ไม่ค้างเท่าไรแล้วใช่มั้ยคะ ฮ่าฮ่า เอาเป็นว่าหลังสอบก็เตรียมผ้าเช็ดหน้าซับเลือดกันสักรอบนะ พี่ทิศจะกลับมาเป็นพระเอกเต็มตัวจริงๆแล้วค่ะ

   ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และกำลังใจ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ

   เจอกันวันที่ 23 ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-05-2019 19:35:12 โดย Dezair »

ออฟไลน์ nrbtst1997

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ยังไม่ได้อ่านเลยเม้นก่อน​ วันนี้กดรีเฟรช​หลายรอบมากในที่สุดก็มา​ อิอิ :z1: :katai5: :3123: :mew4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
บอกเลยว่าอันนี้ยิ่งกว่าผลประโยชน์ทับซ้อน
เรียกว่าอำนาจทับซ้อนแล้วกัน
55555555555555555
แอบน้ำตาไหลตามจิณเลย
จิณหนักหนามาก ๆ ต้องสะกดใจตัวเองไว้  :hao5:
ที่ผ่านมาคงกลัวมากสินะ โอ๋นะ /ลูบหัว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-05-2019 22:42:34 โดย Qix9y_ »

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
คุณย่าคือนางเอกตัวจริงของเรื่องนี้

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
ขอให้สอบผ่านนะคะ สู้สู้ค่ะ

รออีก 2 สัปดาห์ ต้องลงแดงก่อนแน่เลยค่ะ   :katai2-1:

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
จินไม่ได้สั่งขนมแน่ๆ อาจเป็นการจ่ายค่าเชือกของไพศาล 555

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ในที่สุดก็เข้าใจกันซักทีนะ อยากเห็นฉากหวานๆอีกอ่ะ
อดใจรอวันที่23 ไม่ไหวแล้วค่ะ :hao7:

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
 
 สามตอนก่อนหน้า  คือ :hao5: :hao5: :hao5:
 วันนี้เมื่อจิณณะเป็นนางเอกเจ้าน้ำตา  :katai2-1: คือ น้องจิณ น่ารักน่าเอ็นดู :กอด1:
  :L2: ส่งกำลังใจให้คุณบัวในการสอบ ขอให้ได้คะแนนเยอะๆ เกรดดีดีนะคะ :L2:
 
 
 
 

ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เข้าใจกันแล้ว

ออฟไลน์ kingkongkaew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
จากปลัดจิณจอมกวน มาเป็นจิณคนโหด ตอนนี้เหมือนกลายเป็นหนูจิณขี้แยของพี่ทิศไปแล้ว  น่ารักมาก รอดูตอนหน้าพี่ทิศกลับมาเป็นพระเอกเต็มตัวแล้ว  :impress2:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
รอดูมาดพระเอกที่แท้ทรูเลยค่ะ

ที่ยังเทียวไปเทียวมาไม่ทำอะไรน้องซักที
นี่ว่าพี่ทิศกะขุนน้องให้เต็มไม้เต็มมือก่อน ด้วยเกรงว่านุ้งจิณจะหักคามือ
คือแบบ...พี่ดุนะ เกรงน้องจะไม่ไหว คิกค้ากกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ taku_kimu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ลงโทษจิณแรงๆ เลยพี่ทิศ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ขอให้ทำข้อสอบผ่านฉลุยไม่ติดขัดนะคะ
ไปตุนผ้ามาซับเลือดรอค่าา

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ชอบวิธีเคลียร์ปมของจิณมากค่ะ อินมาก กลัวมาดเหมือนกัน
สรุปไพศาลนี่ยังไง กลัวแล้ว คุณย่าาาาาาา

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
นางเอกของเราร้องไห้น้ำตาท่วมจอเลย
ทำไมมันช่างอ่อนแอเหลือเกินนนนน ฮือ ฮือ ฮือ !
 o18  o18  o18
* yodrak เพิ่งรู้ว่าพี่ทิศชอบกอดแรง แล้วดุด้วยมั้ย อยากรู้ คริๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ง่วงนอน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอพระเอกมาทำหน้าที่ค่ะ  :hao6:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ดีใจที่น้องหายเศร้าแล้ว  :sad4:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
นี้ร้องไห้ตามจิณทั้งตอนเลย ฮืออออ :o12:

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
นิวจิณณะเลยนะเนี่ย

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ตอนนี้จิณถอดร่างอวตาร กลายเป็นเด็กน้อยเรียบร้อย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด