...ระบบอุปถัมภ์...ตอนพิเศษ คริสต์มาส...=> หน้าที่ 48 (24/12/2021)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...ระบบอุปถัมภ์...ตอนพิเศษ คริสต์มาส...=> หน้าที่ 48 (24/12/2021)  (อ่าน 323202 ครั้ง)

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #30 เมื่อ21-12-2018 17:34:38 »

เข้ามาติดตามคุณบัวครับ

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #31 เมื่อ21-12-2018 19:36:47 »

คุณปลัดหนุ่มและญาติผู้พี่ดูจะมีความหลังหรือเรื่องลับลมคมในกันบางอย่าง ซึ่งน่าติดตามมาก แต่จุดสนใจของเราคือชื่อเรื่อง "ระบบอุปถัมภ์" อื้อหือ เรียกความสนใจอย่างมากทีเดียว รู้สึกว่ากำลังจะได้อ่านเรื่องที่พล็อตเรื่องมีการขับเคี่ยวกันของฝ่ายบ้านเมืองกับฝ่ายผู้ร้ายแน่ๆ นึกถึงฉากพื้นที่ปลอดกฏหมายและคนฆ่ากันเป็นเรื่องธรรมดา หูย...รออ่านเลยนะคะเนี่ย

ขอบคุณคุณบัวสำหรับนิยายเรื่องยาวเรื่องใหม่เลยค่ะ ^____^

ออฟไลน์ JanTi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #32 เมื่อ21-12-2018 20:59:38 »

เย้ดีใจในที่สุดคุณบัวก็เปิดเรื่องใหม่แล้ว รอติดตามตอนต่อไปค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ popuri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #33 เมื่อ22-12-2018 06:24:41 »

รอติดตามเลยค่า เปิดเรื่องมาก็น่าสนใจแล้ว คุณปลัดไปโดนอะไรมากันแน่เนี่ย

ออฟไลน์ HappyYaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #34 เมื่อ22-12-2018 08:50:47 »

มารอติดตามค่ะ

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #35 เมื่อ22-12-2018 12:56:17 »

 :hao3: โผล่ขึ้นมาก็เป็นตัวป่วนเลยน้า

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #36 เมื่อ22-12-2018 17:48:26 »

มีเรื่องใหม่มาให้ติดตามแล้ว ตัวละครแสบเหมือนเดิม

ออฟไลน์ Cyclopbee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #37 เมื่อ22-12-2018 19:39:45 »

ตามออนแอร์เรื่่องใหม่ของคุณนักเขียนสุดโปรดดด

ออฟไลน์ MimoreQ

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #38 เมื่อ22-12-2018 21:05:23 »

น่าติดตามมากเลยค่า ใครเป็นเมะน้าาาาา น่าจะทิศ ชอบบบบบ

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #39 เมื่อ23-12-2018 09:32:23 »

 :mc4: สำหรับเรื่องใหม่ 
 :L2: :pig4: คุณบัว
 ต่อไปคือ วันพฤหัส วันนี้ที่รอคอย :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
« ตอบ #39 เมื่อ: 23-12-2018 09:32:23 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #40 เมื่อ23-12-2018 10:07:12 »

สัมผัสได้ถึงความฮอต :o8:

ออฟไลน์ Arayajanm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #41 เมื่อ23-12-2018 10:10:51 »

 :hao7:  พฤหัส ที่รอคอยยย ..... ตั้งตารอเลยค่ะ :hao5:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #42 เมื่อ23-12-2018 15:02:39 »

โอ้ จะมาแนวไหนนะ

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #43 เมื่อ24-12-2018 06:53:35 »

 :mc4: :mc4:ต้อนรับเรื่องใหม่ค่ะ

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 967
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #44 เมื่อ24-12-2018 10:27:43 »

ชอบความกวนของนายเอก

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #45 เมื่อ24-12-2018 10:49:19 »

เย้ๆ คุณบัวมาแล้วววว

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #46 เมื่อ26-12-2018 05:21:31 »

เรื่องชื่อเรื่องเห็นด้วยกับคห.นี้เลยค่ะ น่าติดตามค่ะ

อ่านๆ ตอนแรกเหมือนๆ จะมีผี 555 หวังว่าคงไม่ม่ามากหรอก(มั้ง)

แต่จากชื่อเรื่องเรากลัวเจ็บหนักจังค่ะ (ฮา)

คุณปลัดหนุ่มและญาติผู้พี่ดูจะมีความหลังหรือเรื่องลับลมคมในกันบางอย่าง ซึ่งน่าติดตามมาก แต่จุดสนใจของเราคือชื่อเรื่อง "ระบบอุปถัมภ์" อื้อหือ เรียกความสนใจอย่างมากทีเดียว รู้สึกว่ากำลังจะได้อ่านเรื่องที่พล็อตเรื่องมีการขับเคี่ยวกันของฝ่ายบ้านเมืองกับฝ่ายผู้ร้ายแน่ๆ นึกถึงฉากพื้นที่ปลอดกฏหมายและคนฆ่ากันเป็นเรื่องธรรมดา หูย...รออ่านเลยนะคะเนี่ย

ขอบคุณคุณบัวสำหรับนิยายเรื่องยาวเรื่องใหม่เลยค่ะ ^____^

ออฟไลน์ Rubyrain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #47 เมื่อ26-12-2018 09:12:21 »

ดีใจๆ เรื่องใหม่มาแล้ววว
คุณจิณนี่คงจะดื้อพอดูนะคะ ถึงไปได้แผลมา
ติดตามๆๆ

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #48 เมื่อ26-12-2018 10:34:02 »

คุณปลัดทำตัวอย่างกับไปเป็นตำรวจแน่ะ

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #49 เมื่อ26-12-2018 12:02:10 »

นายเอกท่าจะพยศน่าดู

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
« ตอบ #49 เมื่อ: 26-12-2018 12:02:10 »





ออฟไลน์ Ta_ii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #50 เมื่อ26-12-2018 20:51:48 »

เปิดมาก็ชอบแล้ว  :mc4:
แต่ไม่้คิดไปเองรึป่าว รู้สึกสำนวนการเขียนคุณบัวเปลี่ยนไป เหมือนอ่านนิยายแปลนิดๆ คือชอบ คือดีค่ะ ติดตามแน่นอน

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...บทนำ (20/12/2018)
«ตอบ #51 เมื่อ26-12-2018 21:10:18 »

 :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
...ระบบอุปถัมภ์...ตอนที่ 1 (27/12/2018)
«ตอบ #52 เมื่อ27-12-2018 20:36:37 »

ระบบอุปถัมภ์
By: Dezair
……………………..
ตอนที่ 1   


   จิณณะไม่ได้กลับเข้าไปในงานเลี้ยงอีก พอออกจากห้องน้ำ ก็พบว่าบิดาของเขาตามออกมาจากห้องจัดเลี้ยงแล้ว และดูเหมือนจรรยาจะเล่าเรื่องที่ลูกชายคนโตตัวดีได้แผลมาด้วย ทว่าพอเขาโบกมือว่าไม่เป็นอะไรมาก คนเป็นพ่อก็ไม่ซักไซ้นัก นอกเสียจากสั่งให้กลับบ้านโดยไม่ต้องร่ำลาคุณย่าเจ้าของงาน


อันที่จริงการที่เขาตั้งใจจะไม่มาแต่แรกก็เห็นจะเป็นเรื่องสมควรแล้ว แต่...มันจำเป็น


ชายหนุ่มลืมตามองเพดานในห้องนอน แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาให้ความสว่างจนมองเห็นเพดานฉลุลายหรูหรา


...รสนิยมของคุณย่า...


ทั้งๆที่บ้านหลังนี้บิดาสร้างขึ้นใหม่ แต่ก็สร้างในอาณาเขตเดียวกับคฤหาสน์หลังใหญ่ของคุณกอบกุล


ทุกอย่างในตระกูลวงศ์กีรติล้วนอยู่ในปกครองของคุณกอบกุลเสมอ ไม่สิ มีหนึ่งอย่างที่นอกลู่นอกทาง ก็หลานที่ชื่อจิณณะนี่อย่างไรล่ะ


แถมยังนอกลู่นอกทางจนเกือบเอาชีวิตไปทิ้งอีกต่างหาก


พอคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืน เขาก็ถอนหายใจอีกเฮือก ทว่ามันไม่ได้ทำให้โล่งอกขึ้นเลย เสียงฝีเท้า เสียงปืน เสียงเอะอะเอ็ดตะโร เสียงสุดท้ายของคนที่ไปด้วยกันกับเขายังคงดังอยู่ในสมอง


‘แยกกันปลัด!’


เขาไม่รู้ว่าหลังจากนั้น เกิดอะไรขึ้นอีก ไม่มีใครติดต่อมา แม้แต่ ‘พี่สุก’ เจ้าของเสียงสุดท้ายที่เขาได้ยินก่อนจะมีเสียงปืนดังไล่หลัง


เขาได้แต่กลั้นหายใจ แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรคิดถึงกรณีที่เลวร้ายที่สุด อย่างน้อยวันนี้ต้องลุกจากเตียงแล้วกลับไปทำงาน ทำทุกอย่างให้เป็นปกติเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น และเมื่อคืนเขาก็แค่ตีรถเข้ากรุงเทพเพื่อมาร่วมงานเลี้ยงของคนในครอบครัวเท่านั้น


ชายหนุ่มลุกจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำ หากจะบอกว่าห้องน้ำในโรงแรมเมื่อคืนหรูหรา ห้องน้ำในห้องนอนส่วนตัวของเขาก็ไม่ได้แตกต่างกันเสียเท่าไร แต่ถึงอย่างนั้น จิณณะก็ไม่ใช่คนหยิบหย่ง เขาเป็นคนง่ายๆ อยู่ที่ไหนก็ได้ สมัยเรียนเคยออกค่ายไปนอนกลางดินกินกลางทรายก็ทำมาแล้ว นามสกุลวงศ์กีรติที่มาจากคุณย่ากอบกุล ไม่ได้ลดทอนความเป็นตัวตนของเขาเลย


ติดดิน กินง่ายอยู่ง่าย สมบุกสมบัน


คุณย่าเรียกสิ่งเหล่านั้นของเขาว่า ‘ขบถ’


จิณณะออกจากห้องนอนอีกครั้งเมื่อแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ได้แก่เสื้อเชิ้ตรีดเรียบกริบกับกางเกงที่สุภาพที่สุดในตู้เพราะต้องแวะเข้าไปโผล่หน้าที่ที่ว่าการ


ชายหนุ่มก้าวเท้าลงบันไดที่มีราวเป็นสีทองอร่ามสะท้อนแสงไฟจากแชนเดอเลีย ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ระยิบระยับและสะอาดสะอ้าน เขาเดินเลี้ยวเข้าห้องอาหารเพื่อหาอะไรรองท้องก่อนจะขับรถออกจากกรุงเทพกลับไปต่างจังหวัดเพื่อทำงาน ทว่าทันทีที่โผล่หน้าเข้าไป โกศลและจรรยาก็เงยหน้าขึ้นมองเขาทันที


“อ้าว พ่อยังไม่ไปทำงานหรือ” เขาทัก ก่อนจะเลิกคิ้วเล็กน้อย เมื่อพบว่านอกจากบิดาจะยังไม่เข้าบริษัทแล้ว ทั้งๆที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร แต่กลับไม่มีอาหารเช้าวางอยู่ตรงหน้า


เหมือนไม่ได้นั่งอยู่ที่นี่เพื่อทานข้าว แต่นั่งอยู่ที่นี่เพื่อรอพบ...เขา...


“พ่อรอคุยกับแก”


“คุยอะไรครับ หรือเรื่องที่ผมไปงานคุณย่าทั้งๆที่บอกว่าจะไม่ไป โธ่พ่อ ผมกะเซอร์ไพรส์ไง” จิณณะไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอะไรเลย ถึงเขาจะเป็นหลานนอกคอก แต่ก็นับว่าเป็นหลาน


“ไม่ใช่เรื่องนั้น”


“แล้วเรื่องไหน” จิณณะย้อนถาม


“เมื่อคืนมีคนตาย”


ปลัดหนุ่มกะพริบตาปริบๆ


“แล้วยังไง ทุกๆวันก็มีคนตายนี่ครับ”


“คนที่ตายเป็นคนในอำเภอที่แกทำงานอยู่ พ่อจำได้ว่าเขารู้จักกับแกด้วย”


บุตรชายคนโตของโกศลนิ่งงัน ดวงตาเบิกค้างในขณะที่ริมฝีปากสั่นน้อยๆ ลมหายใจขาดห้วงจนแทบไม่รู้สึกถึงอากาศที่ไหลเข้าปอด


เมื่อคืนมีคนตาย


คนที่ตายเป็นคนในอำเภอ


เป็นคนที่บิดาจำได้ว่ารู้จักกับเขา


“พ่อ...หมายถึงใคร” จิณณะไม่อยากคิดว่าคนที่โกศลพูดถึงคือใคร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทำให้เขาคิดออกเพียงคนเดียว


คนเดียวที่เขาคิดว่า...อาจจะไม่รอด


โกศลลุกขึ้นเดินมาหาแล้วส่งโทรศัพท์มือถือให้ดู ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอทำเอาข้าราชการหนุ่มแทบล้มทั้งยืน


พี่สุก!


เจ้าของเสียงสุดท้ายที่บอกว่า ‘แยกกันปลัด’


จิณณะแยกไปขึ้นรถของตนเอง ส่วน ‘ทองสุก’ เขาไม่รู้ว่าแยกไปทางไหน แต่เขารอด ส่วนทองสุก...ตาย


“เมื่อคืนแกได้แผล เครื่องแบบขาด ไหนจะเรื่องที่อยู่ๆแกก็กลับมากรุงเทพ มางานคุณย่าทั้งๆที่บอกว่าจะไม่มา จิณ แกบอกพ่อซิ ทั้งหมดมันเกี่ยวกับเรื่องที่มีคนตายใช่ไหม” โกศลถาม ทั้งเป็นห่วง ทั้งกังวล จิณณะเลือกเส้นทางของตนเองด้วยการรับราชการในต่างจังหวัด ถึงแม้เขาจะไม่ขัดขวางอย่างที่คุณกอบกุลทำ แต่เขาก็ไม่ต้องการให้บุตรชายเอาชีวิตไปเสี่ยง


“จิณ!” เสียงของบิดาเข้มงวดขึ้นกว่าเดิม จิณณะทรุดตัวลงกับเก้าอี้ เท้าศอกลงกับโต๊ะกุมขมับกับเรื่องราวที่บานปลายใหญ่โตจนมีคนตาย


“ผม...เมื่อคืน...พี่สุกชวนผมไปทานข้าวที่บ้านแก แล้วจู่ๆ...จู่ๆก็มีรถมาจอดหน้าบ้าน แล้วเสียงปืนก็ดัง ผมกับพี่สุกแยกกันหนี ผมไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไร...” จิณณะพูดได้เท่านั้น แม้จะมีเรื่องที่เขารู้มากกว่านั้นก็ตาม


ทองสุกเป็น ‘สาย’


โกศลถอนหายใจอย่างหนักอก กวาดตามองไปรอบห้องอาหารที่ระยิบระยับ แต่ความระยิบระยับเหล่านั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลย


“จะลาออก หรือจะทำเรื่องย้าย” ทางออกที่ดีคืออะไร โกศลไม่รู้ แต่ที่รู้คือเขาเห็นด้วยกับคุณกอบกุลที่จะให้จิณณะกลับกรุงเทพ


“พ่อ!” ทว่าคนเป็นลูกที่บิดายอมตามใจเสมอถึงกับร้องลั่น


“มีคนตายนะพ่อ! แล้วผมก็อยู่ใน...”


“แล้วต้องให้แกตายอีกคนรึไง!”


เป็นครั้งแรกที่จิณณะเถียงบิดาไม่ออก อับจนคำพูดได้แต่เม้มปาก


ใครบ้างไม่รักชีวิต ใครบ้างไม่กลัวตาย ยิ่งความตายเคยเกือบมาเยือนแต่ฉิวเฉียดอย่างเมื่อคืน ก็ยิ่งกลัว


“พ่อไม่เคยห้ามแก แกอยากทำอะไรพ่อไม่เคยว่า แต่รักษาชีวิตได้ไหม จิณ” คนเป็นลูกได้แต่กุมขมับ ทั้งๆที่กลัวตาย ทั้งๆที่รักชีวิตตัวเองไม่แพ้ใคร แต่...ไม่กล้ารับปาก ไม่กล้ารับปากบิดาว่าจะรักษาชีวิต เพราะรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้น กำลังพาภัยบางอย่างมาถึงตัว


ภายในห้องอาหารเหลือเพียงความเงียบ ลูกชายได้แต่นั่งกุมขมับ ส่วนคนเป็นพ่อและแม่ได้แต่รอคำสัญญา ที่ไม่รู้ว่าจะได้ฟังหรือไม่


ทว่าก่อนจะมีใครได้พูดอะไร คนรับใช้ก็เข้ามารายงาน


“คุณกอบมาค่ะ”


ผู้มาเยือนแต่เช้าทำเอาจิณณะเงยหน้าขึ้นทันควัน โกศลและจรรยาก็พลอยมองหน้ากันอย่างสงสัย อึดใจเดียวเจ้าของอาณาจักรวงศ์กีรติก็เดินเข้ามาในห้องอาหาร หญิงชราผู้เพิ่งฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่ 72 ไปเมื่อวานนี้ อยู่ในชุดผ้าไหมเนื้อดี เครื่องประดับราคาแพงบนตัวของหล่อนไม่ต่างจากตู้เซฟเดินได้


“ยังไม่กลับต่างจังหวัดไปอีกรึ”


ทันทีที่เห็นหลานชายนอกคอก คุณกอบกุลก็ตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง แม้เมื่อครู่นี้บทสนทนาระหว่างพ่อแม่ลูกจะตึงเครียด แต่เรื่องแบบนั้นไม่ควรรู้ถึงหูคนอื่น แม้คนอื่นที่ว่าจะเป็นต้นตระกูลของตนเองก็ตาม


หลานชายจอมขบถเกลี่ยสีหน้าเป็นกระลิ้มกระเหลี่ย ยกยิ้มเล็กน้อยพลางมองตอบผู้เป็นย่า


“ใกล้แล้วครับ แต่รอเจอคุณย่าก่อน เมื่อวานผมได้แฮปปี้เบิร์ธเดย์คุณย่าแป๊บเดียวเอง”


คุณกอบกุลทำเสียงหึในคอ แม้จะรู้แก่ใจว่าหลานคนนี้ก็เป็นหลานในสายเลือดอย่างหลานคนอื่นๆ แต่ไม่รู้อะไรที่ทำให้หล่อนจ้องจับผิดเขามากกว่าจะเอ็นดู


อาจจะเพราะนิสัยไม่เอาถ่านเรื่องดีๆที่หล่อนมอบให้ แต่ไปเอาถ่านกับเรื่องอื่นที่หล่อนไม่เห็นว่าจะมีค่าสักกี่มากน้อย อย่างเช่นการไม่ทำงานในบริษัท แต่กระเสือกกระสนไปรับราชการ


“ฉันก็อยากเจอแกอยู่เหมือนกัน” หญิงชราตอบเรียบ ก่อนจะเดินอ้อมไปยังหัวโต๊ะ โกศลผู้เป็นบุตรชายช่วยเลื่อนเก้าอี้ให้มารดานั่ง แล้วพอนั่ง หล่อนก็แผ่รังสีความเจ้ากี้เจ้าการมาที่หลานชายทันที


“ปีนี้แกอายุเท่าไร” จิณณะกะพริบตาปริบๆ เหลือบมองบิดามารดาที่ยืนอยู่ไม่ไกล ทั้งโกศลและจรรยาก็มองมาที่เขาอย่างงุนงงเช่นกันที่จู่ๆ คุณกอบกุลให้ความสนใจอายุของหลานชายที่หล่อนแทบไม่เคยแยแส


“27 ครับ”


“ตอนฉันอายุเท่าแก ฉันมีลูกแล้ว”


“แล้ว?”


“เมื่อไรแกจะแต่งงาน”


 ข้าราชการหนุ่มถึงกับเหวอ กะพริบตาเรียกสติอยู่หลายที ก่อนจะโบกมือพลางหัวเราะอย่างไม่จริงจัง


“ยังไม่คิดเรื่องนั้นหรอกครับ”


“ดี! ถ้าอย่างนั้นฉันจะคิดให้แกเอง ฉันจะให้แกแต่งงานกับลูกสาวคนรู้จัก!”


“เฮ้ย!” จิณณะถึงกับร้องลั่น ในขณะที่โกศลและจรรยาถึงกับสะดุ้งโหยง


 “ในเมื่อแกบอกว่าแกไม่คิด! ฉันก็จะคิดให้! ดีกว่าปล่อยแกคิดเองแล้วออกมาทุเรศทุรังเหมือน...ตอนนี้!” วิถีชีวิตแบบใดก็ตามที่ไม่เป็นไปตามครรลองของคุณกอบกุล ล้วนดูทุเรศทุรังทั้งนั้น


“คุณย่าจะบังคับผมแบบนี้ไม่ได้!”


“ฉันเคยบังคับแกไม่ได้! แต่คราวนี้ฉันจะบังคับแกให้ได้!” ยิ่งการปรากฏตัวพร้อมชุดสีกากีในงานเลี้ยงเมื่อคืน คุณกอบกุลก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองละเลยหลานคนนี้มามากพอแล้ว ถึงเวลาที่หล่อนจะทำให้เขากลับเข้ามาอยู่ในโอวาทของหล่อนเสียที!


“ผมไม่ยอม!!”


หญิงชรากระตุกยิ้มด้วยสีหน้าจองหอง


“แกคิดว่าฉันรู้จัก ‘ใคร’ ในกระทรวงมหาดไทยบ้าง”


ไม่ต้องชี้แจงก็รู้ ว่าคำว่า ‘ใคร’ ของหล่อนย่อมไม่ใช่ระดับไก่กา คุณกอบกุลไม่ใช่คนแก่ปลดเกษียณที่อยู่บ้านเฉยๆ หล่อนคือผู้หญิงที่สู้บุกเบิกธุรกิจจากติดลบจนวันนี้ร่ำรวยมหาศาล ความร่ำรวยนั้นไม่ใช่แค่ตัวเงิน แต่หล่อนมีทุกอย่างที่สนับสนุนการกระทำที่แม้จะไร้เหตุผลที่สุดให้กลายเป็นเรื่องที่ควรทำที่สุดยังได้


“ให้บีบปลัดอำเภอลูกกระจ๊อกอย่างแกออกสักคน ง่ายจะตาย” คุณกอบกุลย้ำด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง ระหว่างหล่อนกับจิณณะนั้นเรียกได้ว่ากระดูกคนละเบอร์


คนเป็นหลานได้แต่กัดฟันกรอด เรื่องอันตรายเมื่อคืนกับเรื่องร้ายในเช้าวันนี้ ไม่รู้เรื่องไหนคือหายนะในชีวิตกันแน่ แต่ที่แน่ๆคือมันมาพร้อมกันทีเดียว!


เมื่อเห็นว่าหลานชายผู้มักจะเถียงคำไม่ตกฟากเกิดอาการเถียงไม่ออกขึ้นมา คุณกอบกุลก็ยกยิ้มกระหยิ่ม ก่อนจะหันไปทางบุตรชายและสะใภ้


“วันพรุ่งนี้ครอบครัวผู้หญิงจะมาทานข้าวที่บ้าน แกสองคนก็ไปด้วยนะ จะได้เจอหน้าว่าที่ลูกสะใภ้ ส่วน...แก จิณ ฉันให้แกเลือกว่าจะเจอว่าที่ภรรยาเมื่อไร จะเจอพรุ่งนี้เลยก็ได้ ฉันตามใจแก” หญิงชราลุกจากเก้าอี้ อำนาจและบารมีของหล่อนแผ่ซ่านไปทั่วทั้งห้อง


“ฉันตื่นเต้นจริงๆ ที่จะได้หลานสะใภ้แล้ว” เป็นคำเยาะเย้ยสุดท้ายที่หล่อนทิ้งเอาไว้ให้หลานชายดูต่างหน้า


พอพ้นหลังคุณกอบกุล จิณณะก็หันมาทางบิดาทันที


“พ่อเห็นรึยังว่าผมกลับมาอยู่ที่นี่ไม่ได้”


“แต่พ่อก็ปล่อยให้แกเอาชีวิตไปทิ้งที่นั่นไม่ได้เหมือนกัน”


คำพูดของโกศลไม่ต่างอะไรกับกำแพงหนารอบด้านในชีวิต ปลัดหนุ่มทิ้งหลังลงพิงพนักอย่างอึดอัดและสับสน จรรยาได้แต่มองสามีและลูกชายด้วยความอับจนเช่นกัน

..................................

   พิทักษ์จอดรถที่หน้าคฤหาสน์ตระหง่านเบื้องหน้า ตอนที่ลงจากรถก็ไม่ลืมหิ้วถุงปาท่องโก๋ร้านโปรดของมารดาเลี้ยงลงจากรถด้วย


   “คุณทิศ มาแต่เช้าเชียวค่ะ” ลำดวนผู้เป็นแม่บ้านก้าวเท้าออกมาต้อนรับพร้อมรอยยิ้ม


หล่อนเป็นทั้งแม่บ้านและคนที่ดูแลเขามาแต่เล็ก จนกระทั่งเขาเรียนจบและย้ายออกไปซื้อบ้านย่านชานเมืองเพื่อให้ใกล้กับธุรกิจสนามกอล์ฟของเขา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแวะมาที่นี่แทบทุกวัน บางวันมาเช้า บางวันมาเที่ยง บางวันมาเย็น เพราะรู้ดีว่าบ้านหลังนี้เงียบลงไปเยอะทีเดียวนับตั้งแต่เขาและน้องชายต่างไม่ได้ทำงานในกรุงเทพ 


อย่างวันนี้เขามาแต่เช้า เพราะแม่เลี้ยงบ่นอยากทานปาท่องโก๋เจ้าอร่อย ชายหนุ่มจึงแวะไปซื้อมาให้


   “แม่ภาฝากซื้อปาท่องโก๋น่ะครับ”


แม่บ้านร่างอวบยิ้มจนตาหยี


   “ถึงว่าคุณภาไม่ให้ตั้งโต๊ะสักที มาค่ะ เดี๋ยวป้าเอาไปใส่จานจัดขึ้นโต๊ะให้นะคะ”


   “ขอบคุณครับ แม่ภาอยู่ที่ห้องทานข้าวใช่ไหม” 


รอยยิ้มและการพยักหน้ารับของลำดวนเป็นคำตอบ ชายหนุ่มร่างสูงก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน แล้วเดินเลี้ยวเข้าห้องรับประทานอาหารเป็นอย่างแรก หญิงร่างผอมนั่งอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหารเพียงลำพัง ตรงหน้าหล่อนมีถ้วยเปล่าวางอยู่ในขณะที่สายตาดูจะจดจ้องอยู่กับโทรทัศน์ที่กำลังเปิดข่าวภาคเช้า แต่พอเสียงฝีเท้าดังเข้ามาในห้อง สายตาของหล่อนก็เบี่ยงมาที่ต้นเสียง


   “ทิศ...” หล่อนทักพลางยิ้มแย้มให้คนเพิ่งมาถึง


   “ป้าลำดวนบอกว่าแม่ภารอปาท่องโก๋ของผม” 


จิดาภาหรือที่ชายหนุ่มผู้เป็นลูกเลี้ยงเรียกติดปากว่า ‘แม่ภา’ ยิ้มน้อยๆ หล่อนแต่งงานกับบิดาของพิทักษ์ตอนที่เขายังเด็ก แน่นอนว่าช่วงแรกๆเป็นความขมขื่นของแม่เลี้ยงและลูกเลี้ยง แต่เพราะจิดาภานั้นเรียบง่ายและจริงใจ ท้ายที่สุดพิทักษ์จึงยินยอมมีมารดาคนที่สองในชีวิต


   “พ่อไปทำงานแล้วหรือ” ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็คทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ว่างข้างๆ คนรับใช้จึงยกถ้วยมาวางตรงหน้า


   “พ่อไปหาลุงเทียม...” 


ชื่อของลุงแท้ๆ ทำเอาพิทักษ์เลิกคิ้ว ทว่าก็รอจนคนรับใช้ตักโจ๊กใส่ถ้วยของพวกเขาแล้ว และลำดวนนำปาท่องโก๋มาวางตรงหน้า ก่อนจะให้ทุกคนออกจากห้องไปก่อน ชายหนุ่มจึงได้หันมาทางมารดาอีกครั้ง


   “ลุงเทียมเป็นอะไรหรือครับ”


   “นี่ทิศไม่รู้หรือ เมื่อคืนมีคนตาย วันนี้ออกข่าวเช้าทุกสำนักเลย”


   “เกี่ยวกับลุงเทียม?...”


   “ก็ไม่เชิง แต่ก็อยู่ในพื้นที่...” 


พิทักษ์นิ่งไปเล็กน้อย ลุงของเขาเป็นผู้กว้างขวางในจังหวัดหนึ่งใกล้กรุงเทพ ทั้งเรื่องขาว เรื่องเทา หรือแม้แต่เรื่องดำล้วนอยู่ในสายตา แต่จะเอื้อมมือลงไปยุ่งมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นกับสถานการณ์ 


   จิดาภาถอนหายใจเบา


   “เห็นพ่อว่าลุงเทียมโกรธมาก คราวนี้เล่นกันแรงถึงขั้นยิงถล่มบ้าน นี่แม่ยังไม่ได้โทร.หาป้ายา ลูกชายป้ายาก็รับราชการในพื้นที่นั้นล่ะ” 


คำว่า ‘ลูกชายป้ายารับราชการ’ ทำเอาพิทักษ์นึกถึงชายหนุ่มในชุดราชการเมื่อคืนขึ้นมาทันที


   “เมื่อคืนทิศก็น่าจะเห็น ลูกชายป้ายาที่มางานวันเกิดคุณกอบกุลไง ที่ใส่ชุดราชการมาน่ะ”  จิดาภาอธิบายเพิ่ม


ถึงหล่อนและจรรยาจะไปมาหาสู่กันตามประสาพี่น้อง แต่ลูกชายของพี่สาวกับลูกเลี้ยงของหล่อนก็ไม่ได้โตมาด้วยกันตามประสาลูกพี่ลูกน้อง เคยเล่นเคยรู้จักกันตอนเด็กๆก็จริง แต่เมื่อต่างเติบโต ต่างก็แยกย้ายกันไปคนละทาง ไม่ได้เจอกันนับสิบปีแล้ว


   “อ้อ...ครับ” ชายหนุ่มไม่ได้แจงว่านอกจากเขาจะเห็นลูกชายของป้ายาผู้รับราชการแล้ว เขายังมีโอกาสได้ทำแผลให้ด้วย


   “ตอนเด็กๆ แม่เคยพาทิศกับทิวไปเล่นที่บ้านคุณกอบกุลไง ยังจำได้รึเปล่า” จิดาภาทวนความหลังพลางยิ้ม พิทักษ์เพียงแค่ยิ้มจางตอบ ความทรงจำในวัยเยาว์นั้นลางเลือนเต็มทน แต่ที่ยังแจ่มชัดคือ ‘จิณณะ’ เป็นคนแปลกแยกจากหลานคนอื่นๆของคุณกอบกุล ชนิดที่ถ้าทุกคนพร้อมใจกันเล่นเกมส์ในบ้าน เจ้าตัวจะออกไปโลดโผนข้างนอก ต่อให้ไปเพียงลำพังก็จะไปอย่างมุ่งมั่น


   “ตอนนี้เขารับราชการใช่ไหมครับ”


   “ใช่ เป็นปลัดอำเภอ”


   “ผมนึกว่าเขาจะเข้าไปช่วยงานในบริษัทของคุณกอบกุลเสียอีก”


จิดาภาหัวเราะเบาๆยามคิดถึงหลานชายหัวแข็งอย่างจิณณะ


   “เจ้าตัวยอมที่ไหนล่ะ ป้ายากับลุงโกก็ตามใจลูกชายนะ แต่คุณกอบกุลไม่ปลื้มเท่าไร”


พิทักษ์เห็นด้วยกับคำว่าคุณกอบกุลไม่ปลื้ม มีอย่างที่ไหนไปร่วมงานเลี้ยงในชุดราชการแบบนั้น ทั้งๆที่คนอื่นใส่สูทกันเต็มยศ คนหน้าใหญ่อย่างคุณกอบกุลคงรู้สึกเหมือนถูกหลานชายหักหน้าเอากลางงาน


   พอพูดถึงหลานชายแล้ว จิดาภาก็ถอนหายใจอีกเฮือกด้วยความเป็นห่วง


   “แต่ไม่รู้จะยังยอมตามใจอยู่ไหม เรื่องยิงถล่มจนมีคนตายคราวนี้ก็ดันเกิดในอำเภอที่จิณเป็นปลัดด้วย”


คำพูดของมารดาเลี้ยงทำเอาพิทักษ์ชะงัก จู่ๆเขาก็นึกถึงรอยขาดที่เครื่องแบบและรอยแผลบนแขนซ้ายที่เขาเป็นคนทำความสะอาดใส่ยาให้จิณณะเมื่อคืน


   ตอนเขาถามว่าเกิดจากอะไร ชายหนุ่มดูออกว่าอีกฝ่ายปิดบังอะไรบางอย่าง


   ...อาจจะเกี่ยวกับเรื่องนี้ หรืออาจจะไม่...


   “เขาเป็นข้าราชการ คงไม่น่าเป็นเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกมั้งครับ” พิทักษ์ปลอบ จิดาภายิ้มรับ


   “ทิศก็โทร.หาลุงเทียมหน่อยนะ เผื่อแกอยากให้ช่วยอะไร”


   “ครับ แม่ภา” ชายหนุ่มรับคำ ทว่าในใจของเขากลับวางใจลุงเทียมผู้กว้างขวาง มากกว่าข้าราชการอย่างจิณณะเสียอีก


..................................

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
...ระบบอุปถัมภ์...ตอนที่ 1 (27/12/2018)
«ตอบ #53 เมื่อ27-12-2018 20:37:20 »




แม้จะรู้ว่าเสี่ยง แต่จิณณะก็จำต้องกลับไปร่วมงานศพของทองสุกในคืนนั้น 


อันที่จริง ทองสุกไม่ใช่คนใหญ่คนโตในจังหวัด เป็นแค่ชาวบ้านที่ทำงานให้กับหน่วยงานรัฐในอำเภอเล็กๆ แต่เรื่องถูกบุกยิงถล่มบ้านจนเสียชีวิตกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ลงข่าวทุกสำนักทั่วประเทศ ผู้หลักผู้ใหญ่ในสายราชการจึงพากันมาร่วมงาน ไม่เว้นแม้แต่ คุณเทียม ผู้กว้างขวางของจังหวัดที่ว่ากันว่าโกรธจัดกับเรื่องที่เกิดขึ้น


จิณณะก้าวเท้าไปในศาลาที่สว่างไสว เขายกมือรับไหว้หญิงร่างท้วมหน้าตาโศกเศร้าผู้เป็นภรรยาของทองสุก ชมพู่ตาแดงก่ำตอนพบหน้าเขา


“ผมเสียใจด้วย” เขาพูดได้เท่านั้น รู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างจุกอยู่ที่คอ พูดไม่ออกแม้แต่จะบอกว่าเขาเป็นคนอยู่กับทองสุกคนสุดท้ายในคืนเกิดเหตุ


“ถ้าเขาไปเยี่ยมแม่กับหนู เขาก็ไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้”


เมื่อคืน ภรรยาของทองสุกไปเยี่ยมมารดาที่อยู่อีกอำเภอหนึ่ง หล่อนไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุอีกคนคือจิณณะที่นอกจากแผลที่แขนซึ่งอยู่ใต้เสื้อเชิ้ตแขนยาวแล้ว ก็ยังปกติสุขดีผิดกับทองสุกที่นอนอยู่ในโลง


“เขาบอกหนูว่ามีเรื่องต้องทำ ปลัดรู้ไหมว่าอะไร”


จิณณะรู้สึกตีบตันไปทั้งคอ หากจะมีเรื่องที่ทองสุกต้องทำและปฏิเสธที่จะไปเยี่ยมมารดาของภรรยาก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ชวนเขาไปทานข้าวที่บ้าน นอกนั้นก็ไม่มีอะไรผิดปกติ


“ไม่รู้...” เขาตอบเบา เรื่องที่คุยตอนทานข้าวกับทองสุก บางเรื่องเป็นเรื่องลับก็จริง แต่ไม่มีเรื่องไหนเร่งด่วนขนาดที่จะต้องชวนเขาไปทานข้าวเมื่อวานนี้ หนำซ้ำยังเป็นวันที่ภรรยาชวนไปเยี่ยมมารดาที่อีกอำเภอด้วย


“เขาไม่น่าจะต้องมาตายแบบนี้” ภรรยาของทองสุกคร่ำครวญ น้ำตาไหลเป็นสายจนญาติพาไปนั่งพัก จิณณะถือโอกาสปลีกตัวไปไหว้ผู้ใหญ่ ทั้งหัวหน้าในสายงานของเขาและเจ้าภาพวันนี้อย่าง คุณเทียม


คุณเทียม เป็นชายร่างใหญ่กำยำ แม้อายุหกสิบปีแล้ว แต่ก็ยังแข็งแรงทะมัดทะแมง ที่สำคัญคือยังคงแผ่อำนาจและบารมีอย่างที่เคยเป็นมาตลอดสามสิบปีในเส้นทางการเมืองทั้งระดับประเทศและท้องถิ่น หลังจากลามือจากวงการระดับประเทศ คุณเทียมกลับมาจังหวัดบ้านเกิด คลุกคลีกับการเมืองท้องถิ่น ว่ากันว่าภาครัฐเกรงใจ ภาคท้องถิ่นก็กริ่นเกรง จะทำอะไรสักอย่างในจังหวัดนี้ ล้วนต้องผ่านการพยักหน้าของคุณเทียมทั้งนั้น


ทว่าไม่ใช่เหตุการณ์นี้


“นั่งสิปลัด เพิ่งมาจากกรุงเทพหรือ”


แม้จะอยู่ที่นี่แต่ก็หูตากว้างไกลรับรู้เรื่องในแวดวงธุรกิจ หรืออาจจะเพราะจิณณะทำให้เรื่องงานเลี้ยงเมื่อคืนโด่งดังก็ไม่รู้ 


“ครับ...” จิณณะตอบพร้อมรอยยิ้มจาง ก่อนจะก้มลงมองเสื้อเชิ้ตและกางเกงสแล็กดำของตัวเอง


“เลยลืมเครื่องแบบไว้ที่บ้าน...”


อันที่จริงต้องเรียกว่าจงใจลืม เพราะเครื่องแบบขาด เขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าเมื่อคืนมีอีกคนที่รอดตายจากเหตุการณ์ยิงถล่มบ้านของทองสุก จนกว่าเขาจะสืบได้ว่าเกิดอะไรขึ้น


ปัง!!


เสียงปืนดังก้องไปทั้งวัด เสียงหวีดร้องตกใจดังอื้ออึงพร้อมกับการก้มตัวหลบของคนทั้งศาลา เสียงก้องเพียงนัดเดียวแต่เหมือนระเบิดทำลายล้างสูงที่ดึงจิณณะกลับไปเรื่องเมื่อคืน


เมื่อคืนที่เขาอยู่ในเหตุการณ์ เมื่อคืนที่เสียงปืนดังไปทั่วไม่รู้กี่นัด เมื่อคืนที่เขารอด...แต่ทองสุกตาย 


เหงื่อเม็ดเป้งผุดพรายเต็มหน้าผาก หัวใจเต้นถี่รัว ดวงตาตื่นตระหนกของปลัดหนุ่มเหลือบไปมองรูปหน้าโลงศพราวกับเหตุการณ์เฉียดตายกำลังเกิดซ้ำ


“ปลัด เป็นอะไรรึเปล่า” เสียงเรียกปลุกสติทำเอาจิณณะต้องกะพริบตาถี่ๆ เขาเงยหน้ามองคนเรียก คุณเทียมมีลูกน้อง 3-4 คนยืนประกบแล้ว พอกวาดสายตาไปทั่วศาลาก็พบว่าทุกคนอยู่ในอาการอกสั่นขวัญแขวน เสียงอื้ออึงถามหาคนเจ็บ แต่ไม่มีใครเป็นอะไร


“ก...เกิดอะไรขึ้น...” เขาถามเสียงแผ่ว รู้สึกเหมือนเหงื่อกาฬแตกเต็มหลังในเวลาแค่ไม่กี่นาที 


“มีคนเข้ามายิงปืนในวัด”


จิณณะกลืนน้ำลายเหนียวหนืด


“จ...จับได้ไหมครับ...”


“จับไม่ได้ มันขับมอเตอร์ไซค์ไม่สวมป้าย” คุณเทียมที่ได้รับรายงานจากลูกน้องซึ่งยืนรักษาความปลอดภัยอยู่รอบๆศาลาเป็นคนอธิบาย 


“ปลัดเป็นยังไงบ้าง ทำไมหน้าซีดอย่างนั้น”


“ป...เปล่าครับ ผม...ไม่ค่อยถูกโรคกับเสียงดังๆเท่าไร” จิณณะอ้าง ต้องกลืนน้ำลายหลายอึกเพื่อรวบรวมสติและขจัดภาพที่เกิดขึ้นเมื่อคืน


คุณเทียมหันไปทางนายอำเภอที่ยืนอยู่ด้วยกัน หน้าตาของชายผู้กว้างขวางในจังหวัดดูโกรธเคืองราวกับเกิดเรื่องกับคนในครอบครัวของตนเอง 


“คนตายไปแล้ว มันยังไม่หยุดแบบนี้ ไม่ได้เกรงใจกันเลยนะ นายอำเภอ”


“ผมจะรีบให้ตำรวจตามตัวมาให้ได้” นายอำเภอรับคำอย่างขันแข็ง แต่ดูเหมือนคุณเทียมจะไม่หยุดแค่นั้น เกิดเรื่องอุกอาจในจังหวัดจนเป็นข่าวโด่งดังไปทั้งประเทศก็ว่าแย่แล้ว นี่ยังตามมาขู่กันถึงในงานศพ


“มันคงคิดจะขู่ครอบครัวคนตาย ผมจะให้ลูกน้องช่วยดูแลเมียกับแม่ยายนายทองสุกด้วย แล้วจะคุยกับผู้กำกับเอง ต้องจับคนทำให้ได้!”


จิณณะรู้สึกเหมือนอากาศที่หายใจเข้าไปกลายเป็นเหล็กหนักอึ้งทับปอด เขาไม่คิดว่าเสียงปืนเมื่อครู่นี้จงใจขู่ครอบครัวของทองสุก แต่พวกนั้นรู้ว่าเมื่อคืนนี้มีคนอื่นอยู่ในเหตุการณ์ และเป็นคนที่รอดตาย


ทั้งๆที่อากาศวันนี้ร้อนอบอ้าว แต่ปลัดหนุ่มกลับเย็นสะท้านไปทั้งสันหลัง


ไม่ใช่แค่เก็บทองสุก แต่พวกมันต้องการเก็บเขาด้วย


ความกลัววิ่งพล่านไปทั้งร่าง


หลังสวดศพของทองสุกในคืนนั้น จิณณะขับรถกลับเข้ากรุงเทพทันที!

..................................

สัปดาห์นี้ของพิทักษ์ค่อนข้างว่าง เขาจึงแวะมาหาบิดามารดาในตอนเช้าเป็นวันที่สองติดกัน ตอนที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องอาหาร บิดาและมารดาเลี้ยงของเขากำลังรับประทานอาหารกันอยู่โดยเปิดโทรทัศน์ดูข่าวภาคเช้าไปด้วย ช่วงนี้ไม่มีข่าวไหนได้รับความสนใจมากไปกว่าข่าวยิงถล่มบ้านชาวบ้านคนหนึ่งจนเสียชีวิตอีกแล้ว


ร่างสูงก้าวเท้าเข้ามาที่โต๊ะอาหาร ยกมือไหว้บิดาและมารดาเลี้ยง สายตาเหลือบไปเห็นข่าวบนโทรทัศน์แล้วก็พลันนึกถึงลุงของเขา


“ลุงเทียมว่ายังไงบ้าง พ่อ”


เรื่องที่เกิดขึ้นจนโด่งดังไปทั่วประเทศ แม้จะไม่เกี่ยวกับลุงของเขาสักนิด แต่ใครๆก็รู้ว่า คุณเทียมคือผู้กว้างขวางในจังหวัด แม้จะไม่มีตำแหน่งทั้งในการเมืองท้องถิ่นและในแวดวงราชการ แต่นักข่าวกลับบุกไปปักหลักรอทำข่าวที่หน้าบ้านของคุณเทียมยิ่งกว่าไปทำข่าวที่บ้านผู้เสียชีวิตเสียอีก


“โกรธอย่างกับยักษ์ เมื่อวานมีคนไปก่อกวนในงานศพด้วย” ทศพรตอบ เพียงเท่านั้นจิดาภาก็ถึงกับหันมามอง


“ก่อกวนในงานศพด้วยหรือ?!”


“ใช่ เห็นว่าขับมอเตอร์ไซค์มายิงปืนขู่แล้วรีบหนีไป”


“ตายจริง” จิดาภายกมือแตะอกอย่างตกใจ พลันคิดถึงหลานชายที่รับราชการในจังหวัดที่เกิดเหตุเช่นกัน


“แล้วหลานของภาว่ายังไงบ้าง” ทศพรหันมาถามภรรยา เขาพอจะรู้จักกับครอบครัวของจรรยาและโกศลอยู่บ้าง เพราะตอนที่จิณณะไปเป็นปลัดที่นั่นใหม่ๆ สองสามีภรรยามาฝากฝังจิณณะกับเขา ให้ช่วยฝากคุณเทียมเป็นหูเป็นตาให้ด้วย


“พี่ยาไม่ได้พูดอะไร แต่ก็น่าห่วง จิณเป็นปลัดที่อำเภอนี้ด้วย” จิดาภามีแววเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะวางช้อนลงกับถ้วยข้าวต้ม


“ภาจะลองโทร.ไปถามพี่ยาดู” จากนั้นจึงรีบลุกจากโต๊ะเพื่อไปโทรศัพท์ เมื่อพ้นหลังจิดาภาแล้ว ชายหนุ่มผู้เป็นลูกจึงเอ่ยปากถาม


“พ่อว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับหลานแม่ภารึเปล่า” ทศพรเลิกคิ้วเล็กน้อย


“แกคิดว่าเกี่ยวหรือ”


พิทักษ์นึกถึงแผลที่แขนของปลัดหนุ่มคนนั้น แต่ก็เลือกที่จะเงียบ


“ก็เห็นแม่ภาว่าอยู่ในอำเภอนั้นพอดี” ทศพรโคลงศีรษะ


“พ่อก็ไม่รู้ แต่...พี่เทียมบอกว่าคนตายเป็นสาย”


เกิดเป็นความเงียบลอยเคว้งอยู่ในห้องอาหารจนกระทั่งจิดาภากลับเข้ามาอีกครั้ง สีหน้าของหล่อนดูจะเพิ่มความกังวลมากกว่าเมื่อครู่มากนัก


“มีอะไรหรือภา...” ทศพรถาม


“สงสัยจะเป็นปีชงของจิณ พี่ยาบอกว่าวันนี้คุณกอบกุลจะพาผู้หญิงมาให้พี่ยากับพี่โกดูตัว”


“หือ ดูตัว? ดูตัวให้ใคร”


“จะดูให้ใครล่ะคะ ก็ดูให้ตาจิณน่ะสิ”


“แล้วเขายอมกันหรือ”


“เกิดเรื่องแบบนี้ พี่โกก็เลยไม่ขัดแม่เขาแล้วน่ะสิ สงสารตาจิณ พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกจริงๆ...” จิดาภาได้แต่ครวญ

...............................

ทว่าคนพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกที่ถูกพูดถึงนั้น เพิ่งตื่นลงมาจากห้องนอนในตอนเกือบเที่ยง จิณณะก้าวเท้าลงจากบันไดทีละขั้นด้วยความรู้สึกเหมือนถูกถ่วงด้วยลูกตุ้มหนักสัก 100 กิโล เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ชีวิตชีวาของเขาหายไปเพียงเวลาไม่กี่วันนับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น


ชั่วชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะต้องมาพบเจอเรื่องแบบนี้เลย


ความกลัวตายยังคงแทรกซึมอยู่ทุกอณู ใจกลัวจะออกไปทำงานแล้วไม่ได้กลับมาอีก แต่อีกใจก็รู้ว่าจะหลบอยู่แต่ในบ้านไม่ได้


เขาควรจะทำยังไงดี ทองสุกตายไปแล้วหนึ่งคน และเขาอาจจะเป็นรายต่อไป แต่จะยอมตายทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแบบนี้ แล้วเขาจะไปพบหน้ายมบาลได้อย่างไรกัน


“จิณ” เสียงเรียกดังขึ้น ทำเอาปลัดหนุ่มที่ยังไปไม่ถึงที่ทำงานต้องหันมอง จรรยาเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น หน้าตาของหล่อนทั้งอัดอั้นและเต็มไปด้วยความกังวล


“มาคุยกับแม่”


จิณณะที่ไม่มีแม้แต่น้ำสักแก้วรองท้อง จำต้องเดินตามมารดาเข้าไปในห้องนั่งเล่น บิดาของเขานั่งรออยู่ก่อนแล้ว จรรยาปิดประตูทันทีที่เขาเข้าไป


   “เมื่อคืนมีคนเข้าไปยิงขู่ในงานศพใช่ไหม”


คำถามแรกของจรรยานั้นตรงเผง หนำซ้ำยังตรงกับความจริงด้วย


   “แม่...รู้ได้ยังไง”


   “น้าภาโทร.มาบอก” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจเบาอย่างนึกขุ่น จิดาภาเป็นห่วงเขา เขาก็รู้อยู่หรอก แต่เรื่องแบบนี้มันน่าเอามาเล่าให้แม่ของเขาฟังเสียที่ไหน


   “จิณ งานต่อไปอาจจะเป็นงานของแกนะ!” จิณณะได้แต่เม้มปาก


   “แล้วแม่จะให้ผมทำยังไง ลาออก แต่งงานตามใจคุณย่าหรือ”


   “แล้วจิณมีวิธีแก้ปัญหาที่จะรักษาชีวิตของตัวเองไว้ไหม?!” จรรยาย้อนถาม หน้าตาเคร่งเครียดไม่ได้ต่างไปจากลูกชายเลย หล่อนทรุดตัวลงนั่งกุมขมับบนโซฟา


   “ผู้หญิงที่คุณย่าหาให้ ทางบ้านเขาช่วยเรื่องย้ายกลับมาที่นี่ได้...”


เดิมทีหล่อนไม่เห็นด้วยกับการที่คุณกอบกุลจะบังคับจิณณะแต่งงาน แต่เวลานี้อันตรายเกิดขึ้นรอบตัวจิณณะไม่เว้นวัน หายนะในชีวิตกำลังพรากลูกชายคนโตไปจากหล่อน ทางเลือกของจรรยาในเวลานี้จึงเบนไปทางเดียวกับคุณกอบกุล


   ให้จิณณะแต่งงาน ให้จิณณะกลับมาอยู่กรุงเทพฯ ทำยังไงก็ได้ให้ห่างไกลจากอันตรายให้มากที่สุด


   “แม่จะให้คนอื่นมาคุ้มกะลาหัวผมหรือ” บุตรชายคนโตถามแทรก


   “ใช่! เพราะพ่อกับแม่คุ้มกะลาหัวแกไม่ได้ไงจิณ! แกไม่เข้าใจหรือว่าที่ที่แกอยู่ พ่อกับแม่เอื้อมไม่ถึง! สิ่งเดียวที่แม่ทำได้ตอนนี้คือหาใครก็ได้ที่จะทำให้แกปลอดภัยและไม่ตายก่อนแม่!” ความหวาดหวั่นในใจของจรรยาเวลานี้ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่ากลัวว่าจะได้จัดงานศพให้ลูกของตัวเอง


   จิณณะได้แต่กรอกตามองเพดาน ทว่าลายฉลุสวยงามพวกนั้นไม่ได้ทำให้จิตใจของเขาสงบลงเลย ทั้งๆที่ไม่ใช่ลูกที่ดีที่ตามใจบิดามารดามาแต่ไหนแต่ไร แต่เขาก็ไม่เคยทำให้บุพการีเป็นกังวลขนาดนี้เช่นกัน ชายหนุ่มเดินเข้าไปทรุดตัวนั่งยองลงตรงหน้ามารดา มือใหญ่กอบกุมมือของจรรยาเอาไว้ แล้วลูบแผ่วเบา


   ดวงตาจับจ้องมือเหี่ยวย่นบอบบางในมือของเขา ก่อนจะเหลือบขึ้นสบตากับมารดา


   “ผมขอโทษที่ทำให้แม่เป็นห่วง”


   “แต่ถ้าผมจะให้ใครมาคุ้มกะลาหัวผม ผมขอหาเอง”


   “จิณ...แกจะไม่กลับมากรุงเทพฯจริงๆใช่ไหม”


ดวงตาของบุตรชายนั้นเต็มไปด้วยประกายหลากหลาย ทั้งอัดอั้น ทั้งกังวล ทั้งเจ็บปวด แต่ถึงอย่างนั้นก็มีความมุ่งมั่นในสิ่งที่คิดจะทำ


   จิณณะเป็นเช่นนี้เสมอ ลูกชายคนโตของหล่อนผู้ยึดมั่นในความคิดและการกระทำของตนเอง


   “คืนนั้นผมอยู่กับพี่สุก ผมรอด เขาตาย และตอนนี้ผมกำลังถูกหมายหัว ผมหนีไปตลอดไม่ได้ วันหนึ่งต้องมีคนรู้ว่าอีกคนที่รอดคือผม ก่อนที่จะมีคนรู้ ผมต้องรู้ให้ได้ว่าใครทำเรื่องนี้ แล้วทำไปทำไม ผมหนีไม่ได้”


เสียงถอนหายใจยาวเหยียดดังมาจากบิดาที่นั่งเงียบ จิณณะหันไปมองโกศล ดวงตาของบิดาที่มองมานั้นทั้งเจ็บปวดแต่ก็เข้มแข็ง


   “ถ้าแกคิดจะกลับไปที่นั่น ก็ต้องให้คนที่นั่นช่วยดูแล”


   “พ่อหมายถึงใคร”


   “คุณเทียม” 


ปลัดหนุ่มทำหน้าปั้นยาก เขารับราชการ ในขณะที่คุณเทียมเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น การที่จู่ๆเข้าไปพินอบพิเทาผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่ดีของข้าราชการอย่างเขาเลย


   “ทำแบบนั้นยิ่งดูมีพิรุธ ผมเคยเข้าหาคุณเทียมที่ไหน”


สามพ่อแม่ลูกคิดหนัก ทว่าไม่ทันหาวิธีอื่น เสียงโทรศัพท์ของโกศลก็ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดูพบว่าคนโทร.มาคือเบอร์จากบ้านใหญ่ซึ่งเป็นคฤหาสน์ด้านหน้าสุดของรั้วอาณาเขตตระกูลวงศ์กีรติ ผู้อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์หลังนั้นมีเพียงคุณกอบกุล


   “แม่โทร.มา” โกศลขยับตัวเล็กน้อย พยายามขจัดความกังวลที่ลอยคว้างออกไปก่อนจะรับสาย


   ‘คุณกอบให้โทร.มาแจ้งว่าแขกมาแล้วค่ะ’ เสียงของเลขาฯส่วนตัวของคุณกอบกุลดังขึ้น ทำเอาโกศลต้องหันมองนาฬิกา วันนี้มารดาของเขานัดครอบครัวของคนรู้จักมารับประทานอาหาร โดยมีหัวข้อสำคัญในการพูดคุยคือเรื่อง ‘จิณณะ’


   “จะไปเดี๋ยวนี้” เขารับปากก่อนจะวางสาย แล้วหันมาทางภรรยาที่ยังสีหน้าไม่สู้ดี


   “มากันแล้ว”


ไม่ต้องระบุเจาะจงว่าใครที่มา ทั้งจิณณะและจรรยาก็รู้ดี สตรีเพียงคนเดียวในห้องได้แต่พยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า กังวลเรื่องความเป็นความตายของลูกชายแล้ว ยังมีเรื่องที่ลูกชายถูกบังคับให้แต่งงานอีก


   จิณณะได้แต่เม้มปาก มองสภาพไร้เรี่ยวแรงของมารดาแล้วยิ่งใจโหวง จรรยาไม่เคยขัดเขา หากไม่มีเรื่องอันตรายเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาเชื่อว่ามารดาจะเป็นคนที่ยืนข้างเขาเพื่อต่อต้านความคิดของคุณย่า


ทว่า...คราวนี้มันมีเรื่องเป็นตายของเขาเข้ามาเกี่ยวข้อง...


   ...ต้องมีคนคุ้มกะลาหัว ต้องมีคนช่วยเหลือ...


   สำหรับจรรยาแล้ว จะเป็นใครก็ได้ที่จะช่วยให้ลูกอย่างเขารอดตายและมีชีวิตไปจนกว่าหล่อนจะตายก่อน แต่การแต่งงานกับคนที่คุณกอบกุลจัดสรรให้ไม่ใช่การรับประกันว่าเขาจะมีชีวิตไปได้อีกกี่วัน กี่เดือน กี่ปี


   คุณเทียมต่างหากที่มีบารมีเพียงพอที่จะให้เขาซุกตัว ในขณะที่เขายังคงอยู่ในพื้นที่เพื่อตามหาความจริงว่าเรื่องคืนนั้นเกิดจากอะไร


   แต่จะทำยังไงให้เขาใช้บารมีของคุณเทียมได้


   พลันนั้น ภาพชายหนุ่มในชุดสูทดำสนิทที่เขาพบในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณย่าก็ปรากฏขึ้นในหัว


   ชายที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเล่นด้วยเมื่อนานมาแล้ว และตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเรียกว่าพี่หรือคุณดี หนำซ้ำยังเคยตั้งใจว่าจะไม่กลับไปเจอกันอีก


แต่...ถ้าเพื่อให้มีชีวิตรอด...


...เพื่อที่จะไม่ต้องแต่งงานตามความเอาแต่ใจของคุณกอบกุล...


และ...เพื่อตามหาความจริงของเรื่องคืนนั้น...


   “แม่...”


   “คุณเทียมเป็นพี่ชายของสามีน้าภาใช่ไหม” จรรยาหันมามอง ไม่เข้าใจว่าบุตรชายจะถามไปทำไม


   “ใช่ ทำไมหรือ...”


   “แล้วลูกเลี้ยงน้าภาที่ชื่อทิศน่ะ...โสดรึเปล่า”


   จรรยาและโกศล มองหน้ากันอย่างงุนงง


   “ผมเคยได้ยินน้าภาพูดว่าโสด”


ทั้งๆที่ไม่ใช่คนใส่ใจคนอื่น แต่เขาจำได้ว่าจิดาภาเคยเล่าอย่างเอ็นดูว่า ‘สามสิบแล้ว แต่ยังโสด’


   “จิณคิดจะทำอะไร” จรรยาถามบุตรชายอย่างงุนงง


   “ผมจะไปขอน้าภา ให้ลูกชายเขามาเป็นแฟนผม”


   สองสามีภรรยาเบิกตาโต ทว่าจิณณะผู้ตัดสินใจชั่ววูบกลับดูขึงขังและมุ่งมั่นกับการตัดสินใจครั้งนี้ของตนเอง เขาหันมามองบุพการีแล้วย้ำหนักแน่น


   “คราวนี้ผมก็มีข้ออ้างไม่แต่งงานกับคนที่คุณย่าหาให้ แล้วผมก็จะได้ใช้บารมีของคุณเทียมด้วย”


   “แต่...แต่...แต่จิณเป็นผู้ชาย...” จรรยาอ้าปากพะงาบๆ ส่วนโกศลนั้นพูดไม่ออกไปแล้ว แต่จิณณะกลับยักไหล่


   “ผมไม่ได้เป็นแฟนจริงนี่ ก็แค่ทำให้คนรู้กันว่าผมเป็นคนของหลานคุณเทียม”


   “แต่...แต่...แต่ภาไม่มีทางยอม...”


ถึงแม้จะเป็นพี่น้องคลานตามกันมา และจิณณะจะเป็นหลานแท้ๆของจิดาภา แต่จรรยาเชื่อว่าน้องสาวของหล่อนไม่มีทางยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับลูกเลี้ยงที่เลี้ยงมาเองกับมือ


   “เพราะฉะนั้น เย็นนี้พ่อกับแม่ถึงต้องไปหาน้าภากับผมไง”


โกศลยิ่งกว่าตาเหลือก ส่วนจรรยาได้แต่อ้าปากค้าง ทว่าคนเป็นลูกกลับมีกองไฟประหลาดลุกโชนในดวงตา


เขาไม่รู้ว่าวิธีนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุดไหม และไม่รู้ว่าจะเป็นทางออกไปสู่อะไร แต่ถ้ามันสามารถคุ้มกะลาหัวเขาได้ไปจนกว่าจะรู้ความจริง และไม่ต้องแต่งงานกับคนที่คุณกอบกุลหาให้ เขาก็คิดว่ามันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในเวลานี้


   เว้นก็แต่...จิดาภาจะยอมให้ลูกเลี้ยงเป็นแฟนกับหลานชายรึเปล่านี่สิ?


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)


บอกแล้วว่าเรื่องยาวจริงๆค่ะ ฮ่าฮ่า ตอนนี้ยาวมาก เอาเป็นว่าค่อยๆอ่านละกันนะคะ


มีคนจับได้ด้วยล่ะ ว่าสามเรื่องของบัว ‘วาระซ่อนเร้น’ ‘ผลประโยชน์ทับซ้อน’ และ ‘ระบบอุปถัมภ์’ เป็นคำที่พบบ่อยๆในสายการเมืองการปกครอง แต่ถ้าถามว่าเกี่ยวกับการบ้านการเมืองอะไรขนาดนั้นมั้ย คำตอบคือ สองเรื่องนั้นยังไม่เกี่ยว เรื่องนี้จะเกี่ยวได้ไง ฮ่าฮ่า


เนื่องจากตอนนี้ จะเป็นตอนสุดท้ายของปีนี้ (ไม่มีตอนพิเศษอื่นๆแล้ว)


บัวขอขอบคุณคนอ่าน คนติดตาม และทุกๆกำลังใจตลอดปีที่ผ่านมานะคะ ปีนี้บัวเหนื่อยมากๆ หลายๆครั้งรู้สึกว่าตัวเองดิ่งและหมดแรง แต่พอได้กลับมาพิมพ์นิยาย ได้กลับมาอ่านคอมเม้นท์ทั้งเก่าทั้งใหม่จากงานที่บัวเคยลงเอาไว้ ทุกๆคอมเม้นท์ช่วยดึงบัวกลับมาจริงๆค่ะ บัวเคยพูดเสมอว่าแค่แวะมาอ่านงาน ก็ดีใจมากแล้ว คอมเม้นท์หรือไม่เอาตามที่สะดวก วันนี้บัวยังยืนยันคำเดิมว่าแค่แวะมาอ่าน ก็ดีใจมากแล้ว จะคอมเม้นท์หรือไม่ก็เอาตามที่สะดวก แต่ถ้าสะดวกคอมเม้นท์ บัวอ่านทั้งหมด และทั้งหมดนั้นเป็นกำลังใจที่บัวใช้ฮีลตัวเองเวลาฉุกเฉิน (ปีนี้ฉุกเฉินแทบทุกเดือนเลยค่ะ ฮ่าฮ่า) ขอบคุณนะคะ


ปีหน้าที่จะถึง บัวขอฝากทั้งเรื่องใหม่ เรื่องเก่า ตัวละครต่างๆที่เขาก็วนๆมาเจอกันนี่ล่ะค่ะ ฮ่าฮ่า


สวัสดีปีใหม่ 2562 นะคะ


ขอบคุณพื้นที่บอร์ดตลอดปีที่ผ่านมาด้วยค่ะ


เจอกันวันพฤหัสหน้า (พี่ทิศใจดีกับปลัดหน่อยนะคะ ฮ่าฮ่า)


ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...ตอนที่ 1 (27/12/2018)
«ตอบ #54 เมื่อ27-12-2018 21:47:20 »

นรกจะแตกไหมคะ 55555555 ใครยื่นอะไรให้ไม่เอา ต้องเอาอันที่ตัวเองเลือกเองและพอใจเท่านั้น สัปดนก็ไม่เกี่ยง ดื้อมาก!!! พี่ทิศก็เริ่มได้กลิ่นตุๆแล้วใช่ไหมคะ ช่วยอ่อนโยนด้วยค่ะ 5555555

ออฟไลน์ Ta_ii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...ตอนที่ 1 (27/12/2018)
«ตอบ #55 เมื่อ27-12-2018 21:48:36 »

แค่ตอนแรกก็เข้มข้นแล้ว :katai2-1:

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...ตอนที่ 1 (27/12/2018)
«ตอบ #56 เมื่อ27-12-2018 21:53:17 »

ปลัดน่าร้ากกกกกก  คุณทิศรู้หรือยังว่าจะโดนปลัดเล่นแผลงใส่

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...ตอนที่ 1 (27/12/2018)
«ตอบ #57 เมื่อ27-12-2018 21:56:18 »

ติดตามค่า

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...ตอนที่ 1 (27/12/2018)
«ตอบ #58 เมื่อ27-12-2018 21:59:50 »

 :mc4: :mc4: :mc4: เป็นกำลังใจให้คุณปลัดค่ะจะไปขอผู้ชายมาเป็นแฟน

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: ...ระบบอุปถัมภ์...ตอนที่ 1 (27/12/2018)
«ตอบ #59 เมื่อ27-12-2018 22:24:51 »

ติดตามค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด