ภูรักฟ้า Special 3 กลับมาได้ไหม...กลับมาหากัน(แทนความคิดถึง)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภูรักฟ้า Special 3 กลับมาได้ไหม...กลับมาหากัน(แทนความคิดถึง)  (อ่าน 28235 ครั้ง)

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ติดตามจ้า  สนุกค่ะ

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
รออออออ :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ตอนที่ 21 พี่เมศแพ้แอลกอฮอล์

พีทกับซีเกมส์นัดเพื่อนอีกสองคนไปเจอกันที่ผับประจำของพวกเขา
ขอบฟ้าไม่อยากเป็นจุดสนใจอีกในช่วงนี้จึงปฏิเสธนัด  ซีเกมส์สนุกหลุดโลก
ไปกับเพื่อนร่างยักษ์ที่มาสมทบเพราะเจ้าตัวชอบเสียงเพลงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ยิ่งมาเจอจังหวะที่เร้าใจยิ่งห้ามเท้าไม่อยู่  พีทได้แต่นั่งดื่มไปเงียบๆ
หนุ่มๆ ดื่มกันพลางออกไปโยกย้ายกันไป  ยิ่งดึกยิ่งเมามันเพราะแอลกอฮอล์
ในเลือดที่พลุ่งพล่าน  พีทแค่กรึ่มๆ เท่านั้น  พลันสายตาก็สะดุดที่หนุ่มหล่อ
ตัวขาวที่หน้าแดงตัวแดงเดินแบบรีบๆ เร่งๆ จนชนคนนั้นคนนี้ไปตลอดทาง
พีทจำได้ว่าเป็นภูเมศ  แม้จะรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าแต่พีทก็ไม่รู้ว่าตัวเองถลาเข้า
ไปถึงตัวภูเมศได้ยังไง

“อะไรของคุณเนี่ย  ผมจะเข้าห้องน้ำ” ภูเมศผลักเด็กหนุ่มออก

“พี่เมศ  ผมไปส่ง  อย่าดื้อ!” พีทถลึงตาใส่คนตัวแดงเถือกที่ไม่ยอมง่ายๆ

“เอ๊ะ!!  ปล่อยดิวะ!  จับอยู่ได้  ไม่รู้จักกันนะเว่ย!!”
พี่เมศพยายามผละตัวออก  และโวยวายเสียงดัง

"ไม่รู้จักก็ไม่รู้จัก  เดินไปครับ  เสร็จแล้วก็รีบออกมา  อย่าหลับในนั้นก็แล้วกัน”
พีทดันคนผอมบางให้เข้าไปพร้อมปิดประตูให้ด้วย  เพื่อปิดฉากทะเลาะ
แล้วยืนเฝ้าไม่ห่าง  นานพอที่น่าจะเสร็จธุระ  แต่ทำไมไม่ออกมา  จึงดันประตูเปิด
ชะโงกหน้าเข้าไปมองภายใน

“พี่เมศ  ทำไมนานล่ะ  เห่ย!!  เป็นอะไร  คันเหรอ  เห่ย!  รู้ตัวมั๊ยว่าเนี่ยอาการแพ้แอลกอฮอล์
ดื่มไปเยอะรึเปล่า  ทำไมดื้อ!!”
พีทบ่นพร้อมเข้าไปลูบหลังและตามแขนที่เจ้าตัวพยายามเกาจนแทบถลอก
เสื้อหลุดรุ่ยไปแล้วเพราะพยายามจะถอดมันออกให้เกาได้สะดวกขึ้น

“คันน่ะ  พีทช่วยพี่ทีสิ”
นั่นไงพีทรู้แล้วว่าเจ้าตัวแค่แกล้งทำเป็นไม่รู้จัก  และก็ไม่ได้เมาด้วย

“พี่เมศ  หายใจออกมั๊ยแน่นหน้าอกหรือเปล่า  อย่าเกาเลยถลอกหมดแล้ว
หาหมอนะ ผมพาไป  ใส่เสื้อดีๆ ก่อนมาผมช่วย  อืม…เสร็จแล้ว  ออกไปกันก่อนเถอะ”
พีทพูดเป็นชุดอย่างร้อนรน  แล้วจับสำรวจเสื้อผ้าดูว่าเรียบร้อยแล้วจึงพยุงพี่เมศพาเดินออกมาเรื่อยๆ

“ดื่มไปนิดเดียวเอง  ไม่หาหมอนะ  พี่ไหว  ช่วยไปส่งที่คอนโดหน่อยแล้วกัน
มียาประจำกินอยู่” พี่เมศพูดยาวสุดก็ตอนไม่อยากหาหมอ รึเปล่านะ พีทคิด

“งั้นไป  ขอผมบอกเพื่อนก่อน  เอารถมาใช่ไหมครับ”

“อืม  เอามา  ไปสิ  พี่คันมาก  ออกไปเคลียร์บิลก่อนด้วย”

“ไม่เป็นไรคิดรวมโต๊ะผม  ไว้พี่ค่อยเลี้ยงผมคืน” ภูเมศพยักหน้ารับ

“ซี  พี่เมศเขาแพ้แอลกอฮอล์  พีทขับรถไปส่งก่อนนะ
ไม่กลับเข้ามาแล้วนะ  ช่วยคิดเงินรวมของโต๊ะพี่เมศด้วยบอกเด็กไว้แล้ว
ค่อยเคลียร์กันนะซี  ฝากบอกไอ้สองคนนั้นด้วย”
พีทพูดแล้วรีบๆ ร้อนๆ ออกไป  ซีเกมส์จับใจความได้แค่พี่เมศแพ้แอลกอฮอล์

`เออ!  แล้วมันไปสนิทกับเขาตอนไหนวะ`  คนตัวเล็กแทบจะหายเมา



ภูเมศบอกทางไปคอนโดให้พีทแล้วก็นั่งหลับตามาตลอดทาง
จนรถเข้าจอดเรียบร้อย  พีทจึงปลุก
“พี่เมศถึงคอนโดพี่แล้ว  เป็นไงบ้าง  ผมไปส่งที่ห้องนะ”
พีทมาเปิดประตูให้  แล้วพาพี่เมศไปที่ลิฟต์  พี่เมศกดเลือกชั้นแล้วก็กุมขมับ
หน้านิ่วคิ้วขมวด  ถึงหน้าห้องรีบรูดคีย์การ์ด  แล้วถลาไปที่ห้องๆ หนึ่งคาดว่า
คงเป็นห้องนอน  สักพักก็ออกมาพร้อมกับยาในมือเดินไปเปิดตู้เย็น
เทน้ำมา 1 แก้วแล้วกรอกยาลงคอดื่มน้ำตามอึกใหญ่

“ขอบคุณนะพีท  เอารถพี่กลับไปก่อน  ค่อยเอามาคืนพี่ยังไม่รีบใช้
 ขอนอนก่อนปวดหัวมาก” พี่เมศพูดรวบรัดหน้านิ่วๆ
พีทจึงปราดเข้าไปเอาหลังมืออังตามหน้าผากและลำคอ

“อ้าว!  มีไข้นี่พี่  ไปนอนพักก่อน  เช็ดตัวสักหน่อยแล้วกันนะครับ”
พีทพูดแล้วพาคนป่วยเข้าไปห้องนอนจับให้นอนบนหมอน
ถอดถุงเท้าให้  รีบไปเปิดตู้เสื้อผ้ารื้อได้ผ้าขนหนูผืนเหมาะมือ
จึงเอาไปชุบน้ำในห้องน้ำ   แล้วรีบกลับมาเช็ดตามใบหน้า  ลำคอ
แขน จะเช็ดที่ขาแต่ติดที่กางเกงเป็นขายาว

“พี่เมศ  ทานยาแก้ปวดไปด้วยหรือเปล่าเมื่อตะกี้”
คนป่วยพยักหน้างึมงำว่ากินแล้ว

“ถอดเสื้อหน่อยนะ  กางเกงเปลี่ยนเป็นขาสั้นนะพี่  ผมจะเช็ดตัวให้
 … ไข้จะได้ลดและจะได้นอนสบายตัวขึ้น”
คนป่วยไม่ตอบ  พีทรีบจัดการให้อย่างรวดเร็วโดยหาเสื้อผ้าแบบใส่สบาย
มาไว้ข้างๆ ตัว  แล้วจึงจับพี่เมศถอดเสื้อกางเกงเหลือแต่ชั้นในสีขาวตัวจิ๋ว
ชะงักไปที่เห็นว่าพี่เมศตัวผอมบางมากแล้วก็แดงเถือกไปทั้งตัว


พีทเช็ดตัวให้อย่างเบามือ  อ่อนโยน  และอย่างไม่เคยทำให้ใครมาก่อน
พี่เมศห่อตัวห่อไหล่หนีผ้าที่ตามเช็ด  คงหนาวและรำคาญ
พีทเอาผ้าไปขยำน้ำแล้วบีบพอไม่ให้มีน้ำหยดเช็ดให้อีกรอบ
เสร็จแล้วจึงใส่เสื้อผ้าให้คนป่วย  แล้วดึงผ้าห่มมาห่มให้

“ขอบคุณนะฮะ…แม่” พี่เมศงึมงำมาอีก
คงนึกว่าเขาเป็นคุณแม่ไปแล้ว  พีทปิดไฟกลาง  แล้วจึงเปิดโคมไฟที่ข้างเตียงให้แทน
หยิบกุญแจรถเหลือบมองนาฬิกาอีก 15 นาที จะตี 3
จึงเดินไปที่ประตูห้องกำลังจะเปิดออกไป

“แม่ฮะ…เมศหนาว…แม่อย่าทิ้งเมศไป…เมศเหงา”
พีทหันไปมองคนป่วยที่ละเมอ  ยกมือไขว่คว้าในอากาศ
จึงเดินไปยืนข้างเตียง  นั่งลงจับมือที่ไขว่คว้าในอากาศมากุมไว้
คนป่วยจึงสงบลง  ผ่อนลมหายใจยาว  พีทยังงงกับตัวเองไม่หาย
ที่เอาตัวเข้าไปพัวพันและดูแลทำอะไรต่างๆนานาให้กับคนที่รู้สึก
ไม่ถูกชะตาในครั้งแรก  นี่ก็ใกล้สว่างแล้วจึงตัดสินใจขึ้นไปนอนข้างๆ ด้วยเลย

`คงจะไม่ว่ากันนะ  พักสักเดี๋ยวค่อยกลับบ้านแล้วกัน`
 พีททำอย่างที่คิด  ปิดเปลือกตาและหลับตามไปในที่สุด
มาสะดุ้งเพราะเสียงละเมอร้องไห้ดังขึ้นมาทำลายความเงียบไปเสียหมด

“เลือด  อย่าทิ้งเมศ  แม่ฮะ  อย่าตาย!  อย่าทิ้งเมศ  รักเมศก็อย่าทิ้งเมศ”
พี่เมศละเมอพูดซ้ำๆ ร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กเล็กๆ ที่เสียขวัญอย่างหนัก
 ทจึงดึงตัวเข้ามากอดไว้แนบอก  พลางลูบหลังให้เบาๆ ไปมา
เสียงสะอื้นค่อยๆ เบาลงแต่ยังมีน้ำตาไหลจนเขารู้สึกชื้นที่อกเสื้อ

“เจอเรื่องเลวร้ายขนาดไหนนะ  ถึงเป็นได้ขนาดนี้” พีทพึมพำ
นึกเห็นใจ  ลูบหลังให้พี่เมศจนหลับไปด้วยกันอีกครั้ง


พีทรู้สึกตัวตื่นเอาตอนที่มีแสงสว่างลอดชายผ้าม่านเข้ามาเพียงรำไร
พีทลืมตาพบคนตัวบางตรงหน้าวาดแขนโอบรัดลำตัวเขาไม่ยอมปล่อย
แถมปลายจมูกยังมาซุกซบบนไหล่เขา  กลิ่นหอมอ่อนจากผิวกาย
และเรือนผมที่อยู่ใกล้โชยเข้าจมูกทำให้เผลอมอง  ใจสั่นไหว
ใช่เขาใจสั่นเพราะความแนบชิดนี้  พีทหลับตาภาวนาให้พี่เมศรู้สึกตัวตื่นเสียที
เขาจะทนไม่ไหวจับปล้ำตามสัญชาตญาณดิบ…ของผู้ชายที่ตื่นตัวในตอนเช้า
เพราะกลิ่นกายนี่อีก  มันปลุกเร้าเขา  พีทเหงื่อแตก  ประสบการณ์ทางเพศกับผู้ชาย
พีทก็เคยลองมาบ้างแล้ว  ไม่แปลกถ้าเขาจะรู้สึกกับคนข้างๆ นี้

“พี่เมศครับ…ตื่นเถอะครับ”
พี่เมศกลับซุกไซ้จมูกมาที่ซอกคอของเขาหนักขึ้น

“อืม…จะนอน  อย่ากวนครับ”
คนตัวขาวหลับหูหลับตาพูดเสียงอู้อี้  แต่ปากบางก็ยังเคล้าเคลียที่ซอกคอเขา

“พี่เมศครับ…ถ้าไม่ตื่น  ผมจะไม่ปล่อยพี่แล้วนะ”
พีทพูดเสียงสั่นคลอนไปตามอารมณ์  วูบวาบไปหมดทั้งหน้าท้อง
จนพี่เมศป่ายมือมาโดนเจ้ามังกรที่มันไม่รักดีอยากอวดโฉม
แล้วคนตัวหอมก็ผวาเฮือกแล้วผุดลุก  เสียจังหวะไปเกือบหงายหลังตกเตียง
แต่พีทคว้าไว้ได้จนพี่เมศต้องนั่งแหมะลงกับเตียงอีก

“เฮ่ย!  พีท  เมื่อคืนไม่ได้กลับไปเหรอ  ก็ให้ยืมรถไปแล้วนี่”
ขมวดคิ้วสงสัยอย่างหนัก  แล้วตะกี้เขาก็เหมือนกับลอยๆ อยู่ในฝันยังไงยังงั้น

“นี่จำอะไรไม่ได้เลยหรือไง  คุณภูเมศ  ก็คุณน่ะทั้งตัวร้อนทั้งละเมอ  ร้องไห้
งอแงอย่างกับเด็ก  แล้วเช้านี้ก็ยังจะมาลวนลามผมอีก  ถามจริง
คิดว่าไอ้ผมน่ะเป็นแบบขาวๆ นมตู้มๆ รึไง  กอดรัดลูบไล้เอาซะผมเคลิ้มไปด้วยเลย
บอกให้หยุดก็ไม่หยุด   ถามจริงคิดอะไรกับผมป่ะ?
พีทพูดเป็นต่อยหอย  ไม่เปิดโอกาสให้คนตัวขาวได้พูด  เจ้าตัวก็ได้แต่ชี้ไม้ชี้มือให้พีทหยุดพูด

“โว๊ะ!  ไอ้เด็กเปรต  ใครเขาจะทำอย่างนั้นกัน  อย่ามาพูดจามั่วๆ นะ
ตื่นแล้วก็กลับไปเลย  เดี๋ยวโทรเรียกแท็กซี่ให้”
พี่เมศเถียงสู้ไม่ได้ก็เลยไล่ส่งเสียอย่างงั้น

“ทำคุณบูชาโทษ  โปรดสัตว์ได้บาปจริงๆ เลย  ไอ้พีท
รู้หยั่งงี้จับปล้ำซะให้สิ้นเรื่องสิ้นราว  รึไม่ก็ปล่อยให้ร้องไห้
คร่ำครวญหาแม่ไปทั้งคืนนั่นแหละ”
พีทพูดจบก็ลุกจะไปเข้าห้องน้ำ  เตรียมตัวกลับบ้านก็เจ้าของห้องไล่แล้ว
แต่ยังไม่ทันได้ทำอย่างที่คิด

“เห้ย!  พี่เมศ  ผมขอโทษ  ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดอะไรให้พี่เสียใจขนาดนี้”
พีทเห็นคนตัวขาวร้องไห้น้ำตานองหน้า  กลั้นสะอื้นกลั้นเสียงซะตัวสั่นเทิ้ม
ทำอะไรไม่ถูกจึงดึงเข้ามากอดปลอบ  เห็นสะอึกสะอื้นแล้วพาให้ใจสั่นไหว
อดสงสารเสียไม่ได้

`ไม่น่าเลยปากนะปาก  ต้องไปหาหมอผ่าหมาออกจากปากเสียแล้วไอ้พีทนะไอ้พีท`
พีทได้แต่พร่ำก่นด่าตัวเองอยู่เพียงในใจ

“ฮือฮือฮือ  ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังเลย”
พี่เมศพูดไปถอนสะอื้นไปบนลาดไหล่เขา  น้ำตาไหลเสียจนช่วงบ่าเขาชื้นไปหมด
พีทลูบแผ่นหลังของคนงอแงเบาๆ สักพักก็ดันตัวพี่เมศออก

“พี่เมศครับ  พีทขอโทษนะ  ไม่ได้จะใจร้ายขนาดนั้น  เลิกร้องนะครับ
ดูสิ!  ตาบวมช้ำจากเมื่อคืนยังไม่หายเลยเอ้า!  จะทุบจะตีก็ได้
ถ้าพี่เมศจะหายโกรธ  นะครับ  ไม่ร้องแล้วนะ  ไปล้างหน้าล้างตา
เดี่ยวหามื้อเช้าทานกันนะครับ”
พีทเกลี่ยเช็ดน้ำตาให้คนตัวขาว  แล้วก็จับจูงไปห้องน้ำ
อ่อนโยนก็เป็นเขางงกับตัวเองเป็นไบโพล่าร์เสียละมั้งทั้งสองคน

“เอ่อ  พี่จัดการตัวเองก่อน  แล้วจะออกมาสั่งมื้อเช้าให้  เอาขึ้นมาทานกันบนนี้แล้วกัน
ไม่อยากออกไปข้างนอกในสภาพแบบนี้” พี่เมศพูดแล้วหลบตา เลี่ยงเข้าห้องน้ำไป



เมื่อพี่เมศหายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว  พีทก็ทรุดตัวนั่งลงที่ปลายเตียง
ทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้
มีอะไรมากมายที่มันรบกวนจิตใจ  เขาเห็นน้ำตาคนมาก็มาก
แต่กับพี่เมศทำไมถึงทำให้เขาไปไม่เป็น  ทำอะไรไม่ถูกอย่างนี้
บอกตามตรงหากแลกกับการที่เขาจะต้องโดนวีน  โดนไล่
แล้วพี่เมศจะไม่ต้องร้องไห้เขาก็ยอม

`เป็นอะไรไปวะกู…เจอน้ำตาผู้หญิงมาก็เยอะ  แต่ดันมาแพ้น้ำตาของผู้ชาย
แถมยังรู้สึกดีที่ได้กอดเขาอีก  แล้วก็กลิ่นหอมๆ จากผิวกายนั่นด้วย  โว๊ย!! 
ไอ้พีท  มึงเป็นอะไรไปวะ` พีทรำพึงรำพันอยู่คนเดียวอย่างกับคนบ้า
แล้วประตูห้องน้ำก็เปิดออก

“พีท  ช่วยหยิบผ้าเช็ดตัวให้ทีในตู้บานทางขวาสุดนะ  พี่ลืมเอาเข้ามา”
พี่เมศร้องขอผ้าเช็ดตัว  แล้วก็แง้มๆ บานประตูไว้  ยื่นมือออกมาเมื่อพีทเดินมาทำทีจะส่งให้

“พีทไม่เล่นนะ  สุดเอื้อมแล้วเนี้ย  เร็วๆ พี่หนาว”
พีทแกล้งส่งผ้าให้พี่เมศหยิบไม่ถึง  เห็นตัวขาวๆ แวบนึง
พาลให้อยากจะเห็นให้มากกว่านี้  ก็เมื่อคืนเห็นแต่ตัวแดงๆ แค่นั้น

“เอ้าๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้  ผมจะอาบต่อนะ  ขอยืมเสื้อผ้าใส่สักชุดนะครับ  ไม่ได้อาบตั้งแต่เมื่อคืน”

“อืม…หาเอาละกัน  น่าจะพอใส่ได้บ้าง”
เจ้าของห้องออกปากอนุญาตมาจากในห้องน้ำ

*******************************
TBC.
 ขอบคุณ ที่ติดตามกันนะคะ :)






ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ติดตามจ้า

ออฟไลน์ Cyclopbee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ตอนที่ 22 ขอผมดูแลพี่เอง

“อยากไปไหนไหมครับ  พีทพาไปได้นะวันนี้  แต่พรุ่งนี้มีเรียนเช้าครับ”
พีทบอกเจ้าของห้องที่นั่งทานข้าวต้มหมูไปเงียบๆ  พี่เมศสั่งอาหารขึ้นมาสำหรับเขาด้วย

“ว่าจะไปซื้อของใช้น่ะ  แล้วนี่เรายังเรียนอยู่เหรอ”

“เรียนโทอยู่ฮะ” พีทพูดไปตักข้าวกะเพราทะเลไข่ดาวใส่ปากไปด้วย

“จะให้ไปเดินเป็นเพื่อนด้วยไหมครับ  ซื้อของน่ะ” พี่เมศส่ายหน้า

“งั้นเดี๋ยวผมกลับก่อนนะครับ  มีอะไรโทรหาได้  ผมเมมเบอร์ไว้ให้แล้ว
แล้วก็ไม่ออกไปดื่มคนเดียวแล้วนะครับ  ถ้าอยากดื่มผมจะมาอยู่เป็นเพื่อน
ไม่ดื้อนะครับ” พีทเข้าไปกุมมือคนหน้าหล่อตัวขาว  คิ้วสวยได้รูปเลิกขึ้นสูงมองคนขันอาสา

“แจกเบอร์ทำไม  ไม่ได้อยากได้  แล้วพี่ก็ไม่ใช่เด็ก  จะมาว่าดื้ออะไรกันล่ะ
พูดไปเรื่อยเปื่อย” กลับมาแล้วคุณชายภูเมศ  ไว้ตัวไว้ท่าเสียดูเยอะ

“ก็เผื่อพี่จะเหงา  อยากมีเพื่อนไปไหนมาไหนด้วย  ผมก็มาให้ได้ 
เอาไปเถอะน่า ถนนหนทางก็ยังไม่คุ้นชิน  พาไปได้ทั่วน่ะแหละแค่โทรกริ๊งเดียว”
เจ้าชายหน้านิ่งไม่พูดอะไรต่ออีก  แต่พีททันเห็นแววตาไหววูบขึ้นมาเล็กน้อย
แล้วก็เบือนหน้าไปตักข้าวเข้าปากเคี้ยว

“พี่เมศ  พีทกลับจริงๆ แล้วนะครับ  เหงาก็โทรหาได้นะ
ถ้าอยากไปไหนก็บอก  ยินดีรับใช้…ไปก่อนนะฮะ  อย่าแอบร้องไห้…คิดถึงผมล่ะ บาย”
พีททำหน้าทะเล้นยั่วคนตัวขาวให้โกรธเล่น  แล้วก็ผลุบตัวหนีออกประตูไป
ไม่วายชะโงกหน้าเข้ามาอีกครั้งก่อนจะงับประตูปิดไปจริงๆ


ไปแล้วสินะผู้ชายแปลกหน้า  ที่ได้แนบชิดซุกซบให้ไออุ่น  กลิ่นกายของพีทยังติดตรึง
อยู่ในโสตประสาท  อ้อมกอดอุ่นที่กำซ่านไปถึงหัวใจ  ทำไมเขาจะไม่รู้ตัว
แค่นาทีนั้นเขารู้สึกอ้างว้าง  เหงา  อยากมีใครให้ได้กกกอด  ให้กายไม่อ้างว้าง
ที่ตกใจแทบจะตกเตียงก็เพราะไปถูกเจ้ามังกรยักษ์เข้า
เขาไม่เคยมีประสบการณ์ทางเพศกับผู้ชายมาก่อนก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา
และไม่คิดว่าพีทจะไวต่อสัมผัสขนาดนั้นด้วย

`เป็นนายก็ได้นะพีทที่จะให้ไออุ่นที่ถวิลหา`
สัมผัสในตอนที่สติครึ่งๆ กลางๆ มันอบอุ่น  ปลอดภัย  และไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยว

`เป็นนายทีเถอะนะ  คนที่รอคอยและไขว่คว้ามาครึ่งชีวิต…ที่จะไม่ทิ้งขว้าง
…ปล่อยให้ต้องเดียวดาย  ไม่ทิ้งให้เผชิญชีวิตในโลกกว้างโดยลำพัง…แบบนี้`
 ภูเมศซบใบหน้ากับหลังมือปล่อยให้น้ำใสๆ ไหลรินลงบนหลังมือ สะอื้นไห้จนตัวโยน

`เหงาเสียมากมายอะไรอย่างนี้กันนะ  ก็อยู่ตัวคนเดียวมาได้ตลอดนี่นา`


เสียงออดดังขึ้น  ภูเมศผุดลุกขึ้นฉับพลัน  แล้วส่องมองที่ช่องตาแมวเห็นคนแปลกหน้า
ที่เพิ่งออกไปเมื่อสักครู่  ใจสั่งให้มือรีบเปิดล็อคประตูออกไปในทันที

“ขอโทษค๊าบบบ...ผมลืมของ เอ่อ! เป็นอะไรไปครับ พี่เมศ”
พีทเห็นคนที่มาเปิดประตูให้ขนตายังเปียกและมีคราบน้ำตาที่ยังไม่แห้งดีจึงดึงเข้ามากอดเชยคางมน

`น้ำตาคลออีกแล้ว  เห็นอย่างนี้แล้วใครจะทิ้งไปได้ลงคอ`
 พีทจึงจับประคองแก้มใช้นิ้วเกลี่ยๆ เช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบาและนุ่มนวล

“ไม่ร้องนะครับ  เหงาเหรอ  พีทมาอยู่เป็นเพื่อนแล้วนะ  บังเอิญว่าลืมกระเป๋าสตางค์
จึงกลับขึ้นมา  แล้วก็เห็นใครบางคนกำลังขี้แย  ดูสิ!  ตาช้ำขึ้นมาอีกแล้ว”
พีทยิ่งปลอบคนตรงหน้ายิ่งร้องมากขึ้น แจึงลูบหลังแล้วโยกตัวไปมา
พาไปนั่งลงที่โซฟาในห้องนั่งเล่นแล้วดึงให้มานั่งข้างๆ กัน

“ถ้าพี่เมศ  เอ่อ…ไม่ได้มีใคร  พีท…จะขอดูแลพี่เองนะ………… แนะนำตัวหน่อยแล้วกัน
พีรพัฒน์  กุลดิษฐ์สกุล  อายุ  24  ปี  เรียนยังไม่จบ  บ้านเปิดธุรกิจร้านทองหลายสาขา
ไม่เสเพลมากเท่าไหร่  รักจริงนะ  เอ่อ…พี่เมศรับไว้พิจารณาหน่อยไหมครับ
เค้าว่ากันว่ากินเด็กจะเป็นอมตะนะครับ  เชื่อพีทเถอะ”
พอพีทพูดจบ  พี่เมศก็ซัดเพียะที่แขนกับการบรรยายสรรพคุณตัวเองจนดูจะเกินจริงไปหน่อยด้วยซ้ำ

“พี่เป็นผู้ชายนะพีท  ลืมไปหรือเปล่า  แล้วก็นิสัยไม่ดีเอาเสียเลย  งี่เง่า…ขี้โมโห…เอาแต่ใจ
…ขี้อิจฉา…แล้วก็หวงของ  สรุปไม่มีอะไรดีเลยล่ะคนแบบนี้  ยังจะอยากได้อีกไหม
 เออ!  ไม่ศรัทธาในความรักด้วย  เพราะพ่อที่แม่รักมากยังทิ้งไปแต่งงานกับแม่ของภู
พี่กับแม่ต้องอยู่ในมุมที่ห้ามเปิดเผยให้สังคมรู้…อยู่อย่างไม่มีตัวตน 
แม่ที่บอกรักพี่…สุดท้าย…ยังฆ่าตัวตายทิ้งพี่ไว้คนเดียว  แบบนี้พี่ยังจะกล้าไปแสวงหา
ความรักจากใครได้อีก  พี่ยังจะน่าคบด้วยอีกเหรอพีท”
พูดจบสีหน้าก็หม่นหมองลง นัยน์ตาไหวระริก

`คนอะไรทั้งเนื้อทั้งตัว….บอกมาได้ว่าไม่มีอะไรดีเลย` พีทคิดตาม

“พีทจะเป็นคนตัดสินเองว่าพี่เมศมีดีหรือเปล่า  เป็นคนไม่ค่อยเชื่ออะไรง่ายๆ…ด้วยสิครับ
ชอบพิสูจน์ด้วยตัวเองมากกว่า  เรามาคบกัน….ดูนะ  หากไม่คลิกกันก็ค่อยว่ากันอีกที
ส่วนเรื่องจะต้องเป็นชายคู่กับหญิงเท่านั้น  อันนี้ส่วนตัวว่าไม่ใช่ปัจจัยสำคัญอะไร
ชายคู่หญิงอยู่กันไม่รอดก็มีให้เห็นเยอะแยะไป  อย่าไปสนเลยครับ
ดังนั้นมาคบกับพีทแล้วพี่เมศจะรู้ว่าที่พี่เป็นคนขี้อิจฉา  พี่เองที่จะถูกคนอื่นอิจฉาเอานะ
และที่ว่าไม่ศรัทธาในรักก็ลองมาเป็นคนถูกรักดูบ้าง…..ดีมั๊ย”
พีทพูดแบบทีเล่นทีจริง แต่สีหน้าจริงจังเสียกว่าคำพูดที่บอกออกไป

“ถ้ากล้าพอ…..ก็มาคบ  พี่ถือว่าเตือนแล้ว…..อย่าหาว่าพี่ไม่บอกทีหลังไม่ได้แล้วนะ”
พี่เมศพูด แววตาท้าทาย

“ตกลงแล้วนะครับ  เราเป็นแฟนกันแล้ว  ต่อไปไม่ต้องเหงาคนเดียวอีก
มีคนมาแชร์ทั้งทุกข์  สุข  เศร้า  เหงา ไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วนะ”
พีทคว้ามือคนข้างๆ มากุมไว้  ภูเมศมองหน้าคนพูดน้ำตาก็รื้นขึ้นมาอีก

 “ไม่ร้องแล้วนะครับ  พีทอยู่กับพี่ตรงนี้แล้ว  เราค่อยมาทำความรู้จักกัน
เรียนรู้กัน…ไม่ยากนะ  พีทจะทำให้ใครอีกหลายๆ คนอิจฉาพี่เลยคอยดู”
พีทปลอบคนตัวบางจนหยุดสะอื้น  ภูเมศมองพีทนิ่งคิด

`คงไม่มีอะไรยากไปกว่านี้อีกแล้ว ลองเปิดใจดูหน่อยแล้วกัน…..ดีกว่าอยู่โดยไม่มีใคร`




ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ตอนที่ 23 พี่น้ำเป็นห่วงลูก

“ฟ้า ช่วงนี้พี่อยากให้ฟ้าช่วยระวังน้องวินวินจะได้ไหม  ตอนนี้พี่รู้สึกเหมือนถูกคนสะกดรอย
มาสักพักแล้ว  พี่เป็นห่วงวินวิน  อย่าให้ใครเข้าใกล้หลาน นะฟ้า…พี่…พี่กลัว!”
พี่น้ำพูดด้วยสีหน้าหวาดหวั่นแบบปิดไม่มิด  น้ำเสียงก็สั่นเครือ  ขอบฟ้าตกใจ
เพราะพี่น้ำที่เคยสุขุมเยือกเย็น ดูไม่ค่อยจะมีสติสักเท่าไรนักในตอนนี้

“พี่น้ำใจเย็นๆ ก่อนครับ  อย่าบอกนะว่าพี่มีความลับที่ไม่ได้ให้พวกเรารู้
ถ้าเป็นอย่างนั้นฟ้าว่าเราต้องคุยกันแล้ว  หากพี่ไม่พูด  ไม่บอกอะไร
เราจะช่วยพี่น้ำได้ยังไง  แล้วอะไรที่พี่กำลังกลัวอยู่ตอนนี้ก็ไม่รู้
แล้วต้องให้ระวังกันแบบไหน?” ขอบฟ้าถามออกไปตรงๆ สีหน้าก็กังวลตามไปด้วย

“หากฟ้ารักพี่…รักหลาน  ฟ้าต้องไม่ให้ใครเข้าใกล้วินวิน  แค่นี้…ที่พี่ต้องการให้ฟ้าช่วย
อย่าบีบบังคับให้พี่พูดอะไรเลย” พี่น้ำพูดพร้อมกับดวงตาที่แดงก่ำ
ไหวระริกอย่างพยายามข่มอารมณ์  ขอบฟ้าเข้าไปโอบไหล่พี่ชายที่นั่งหน้าเครียด
หัวคิ้วขมวดจนแทนจะชนกัน

“ไม่พร้อมเล่าก็ไม่ต้องเล่า  หากพี่ต้องการใครสักคน…ขอให้เป็นฟ้า
นะครับพี่น้ำ  ฟ้ารอฟังอยู่นะ” น่านน้ำพยักหน้าให้น้อง

“พ่อน้ำครับ…อาฟ้า…คุยไรกัน  วินวินหิวแล้วฮะ” เจ้าเด็กตัวอ้วนกลมวิ่งมาขอขนมกิน

“อาฟ้าเอาเค้กมาจากร้านด้วยนะ  นั่งรอแป๊บ  เดี๋ยวอาไปจัดมาให้นะครับ”

“วินวิน  มานั่งใกล้ๆ พ่อสิครับ  เดี๋ยวพ่อป้อนเองลูก” น่านน้ำตบโซฟาเรียกลูกให้ไปนั่งข้างๆ

“วินวินรักพ่อน้ำ” น่านน้ำได้ฟังจึงดึงลูกเข้ามากอดหอม

ขอบฟ้าถือจานเค้กแล้ววางลงใกล้ๆ มือน่านน้ำ  แล้วนั่งลงตรงข้ามกันมอง
สองพ่อลูกกอดกันกลม  แล้วก็ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง  อะไรนะที่พี่น้ำกลัว
และยังเป็นความลับที่เก็บเงียบไม่บอกใครอีก

“พี่น้ำครับ  ฟ้าจะไปสวนผึ้งกับครอบครัวพี่ภูวันศุกร์นี้  ขอเอาหลานไปด้วยได้ไหมครับ”
น่านน้ำลังเล  แต่แล้วก็พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต

“ดูแลหลานให้ดีก็แล้วกัน  อย่าให้คลาดสายตาล่ะฟ้า”
น่านน้ำกำชับน้อง  สีหน้ายังไม่คลายความกังวลอยู่ดี

“พี่น้ำอย่าห่วงเลย  ฟ้าไม่ทิ้งหลานอยู่แล้วล่ะ  ฟ้าก็รักวินวินนะครับ
เลี้ยงจนจะเป็นพ่อลูกกันอยู่แล้วเนี่ย พี่น้ำเลิกเครียดได้แล้ว”
ขอบฟ้ารับปากอย่างแข็งขัน

“เออ  เรื่องของเรากับพี่ภูไปถึงไหนแล้ว  ได้คุยกับคุณแม่บ้างหรือยัง”
น่านน้ำถามถึงความบาดหมางของแม่และน้อง  พร้อมกับตักเค้กเป็นคำเล็กๆ
ป้อนลูกชายไปด้วย

“ยังไม่เจอคุณแม่เลยครับ  ท่านเกลียดฟ้าไปแล้วนี่ครับ  ก็ฟ้าดื้อ  ทำท่านผิดหวัง”
ขอบฟ้าตาแดงๆ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรก็อดสะเทือนใจอีกไม่ได้

“จะให้คุณแม่ยอมรับเรื่องฟ้ากับพี่ภูแบบปุ๊บปั๊บมันก็ไม่ใช่ท่านสิฟ้า
 ยิ่งท่านคาดหวังกับฟ้าไว้เยอะท่านยิ่งต้องใช้เวลามากเท่านั้น
 ฟ้าต้องอดทนรอนะ” พี่น้ำพูดปลอบใจเพราะรู้ใจคุณแม่เป็นอย่างดี

“ฟ้าก็หวังให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกันครับพี่น้ำ  ฟ้าไปจัดกระเป๋าก่อนดีกว่า”
แล้วคนตัวเล็กก็ปลีกตัวออกไป

`ไม่มีอะไรที่จะได้มาง่ายๆหรอกน้องรัก  บางครั้งเราต้องยอมเสียอะไรไปบ้าง
เพื่อแลกกับบางสิ่งกลับมา` น่านน้ำมองย้อนกลับมาที่ตัวเองกับเรื่องบางเรื่อง
ที่เขาหวาดระแวงอยู่ในขณะนี้


“ไม่เจอกันนาน  เลยนะครับ  คุณ…น่านน้ำ  ยังจำกันได้ไหม” น่านน้ำสะดุ้งตื่น
เหงื่อกาฬแตก  นี่เขาฝันไปหรือ  แล้วก็หน้าเผือดซีดลง  เขายังคงอยู่กับฝันที่
ตามมาหลอกหลอนหลายวันแล้ว  แค่เพียงได้เจอกับคนเพียงคนเดียวเท่านั้น
ทำชีวิตที่สุขสงบมาหลายปีต้องสั่นคลอนและมีเค้าลางความยุ่งยากจะมาเยือน
ชายหนุ่มถอนหายใจ  แล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน  ก่อนไปทำงานคงต้อง
แวะดูความพร้อมให้ลูกชายอีกทีก็วันนี้ลูกจะไปเที่ยวกับอาฟ้าแล้ว

“ฟ้า  วันนี้เดินทางแล้วนี่  ของหลานเตรียมไปครบหรือยังล่ะ”
ขอบฟ้าเดินเข้าไปหาน้อง

“ครบแล้วครับพี่น้ำ  ฟ้าเตรียมไปเกินความจำเป็นเสียด้วยซ้ำ
ถึงที่พักแล้วฟ้าจะโทรบอกนะครับ”

“เออ!  ดูหลานดีๆ ด้วยล่ะ” น่านน้ำย้ำเตือนอีกรอบ

“สบายใจ  หายห่วงได้เลยครับ  มดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม
จะหนีบไว้กับเอวเลย” ขอบฟ้าทำหน้าทะเล้นใส่พี่ชาย

พี่น้ำก็ยังมีสีหน้ากังวลไม่หายอยู่ดี  เขาก็ไม่รู้จะทำอะไรได้มากไปกว่านี้แล้ว
เพราะเรื่องลึกตื้นหนาบางอะไรเขาก็ไม่รู้เอาเสียเลย
หากพี่น้ำไม่เปิดปากพูดออกมาแล้วละก็  เขาจะช่วยอะไรได้  สักพักคุณพ่อ
และคุณแม่ก็ลงมาที่โต๊ะอาหาร  คุณหญิงศศิก็ยังมีสีหน้าเรียบตึงใส่ลูกชายคนเล็กไม่หาย

“คุณพ่อคุณแม่ครับ  วันนี้น้องวินวินจะไปเที่ยวสวนผึ้งกับฟ้านะครับ
กลับวันอาทิตย์ตอนค่ำครับ” ขอบฟ้ารายงานให้ท่านทั้งสองทราบว่าหลานจะไม่อยู่

“ไปยังไงล่ะฟ้า  วันนี้หลานไม่ไปเรียนเหรอไง” คุณพ่อถาม

“วันนี้ให้เรียนครึ่งวัน  เดี๋ยวตอนบ่ายๆ ฟ้าจะไปรับกลับ
เอ่อ…ไปกับครอบครัวพี่ภูครับ คุณพ่อ” ขอบฟ้าพูดไม่ค่อยเต็มเสียงนัก
เพราะเหลือบไปเห็นคุณแม่หน้าตึงคอตั้งมากกว่าเดิมเมื่อพูดออกไป

“อย่าไปก่อเรื่องงามหน้ากันมาอีกล่ะ  ลดๆ ลงบ้างไอ้ความกล้าบ้าบิ่นเกินงามน่ะ!!!”
คุณแม่กระแทกเสียงพูดออกมาเปรยๆ อย่างไม่เจาะจงว่าพูดกับเขาเสียอย่างนั้น

“ครับคุณแม่  ฟ้าจะระวัง” ขอบฟ้าอ้อมแอ้มตอบออกไป

“ย่ะ  จะคอยดู” แล้วท่านก็สะบัดทั้งหน้าและเสียงใส่

“ทานข้าวกันเถอะคุณหญิง  เดี๋ยวผมส่งคุณที่สมาคมแล้วจะรีบไปพบลูกค้าต่อ”
คุณพ่อรีบห้ามทัพ  ขอบฟ้าหน้าสลดหันมอง  พี่น้ำก็ส่ายหน้าเป็นเชิงไม่ให้ต่อปากต่อคำกับคุณแม่

“วินวิน  จะคิดถึงคุณพ่อ  คุณปู่  คุณย่า  ด้วยครับ  เดี๋ยววินวินจะเอาอัลปาก้ามาฝากนะครับ”

“เอามาไม่ได้ครับลูก  เขามีไว้ให้เด็กๆ ดู ถ้าเอามาเพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็จะไม่ได้ดู
นะครับลูก” พี่น้ำบอกลูกขำๆ กับความคิดอย่างเด็กๆ

“แล้วคุณพ่อก็ไม่ได้ดูน่ะสิ  เสียดายจัง” หนูน้อยอยากให้คุณพ่อได้ดูด้วย

“วินวินก็ให้อาฟ้าถ่ายรูปอัลปาก้ามาเยอะๆ เลยสิครับ  คุณพ่อก็จะได้เห็นไงล่ะ  ดีมั๊ยเอ่ย?”

“เย้ๆ อาฟ้าถ่ายรูปมาเยอะๆ เลยนะครับ”
เด็กน้อยดีใจชูไม้ชูมือ  น่านน้ำก็ลูบหัวลูกป้อยๆ อย่างเอ็นดู


ขอบฟ้าส่งวินวินเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปดูร้านกาแฟต่ออีก
ส่วนงานจัดแต่งสวนพี่ดอนดูแลให้อยู่แล้ว  ข้าวของที่จำเป็นต้องใช้ภูดิศได้ส่งคน
จากไซน์งานของเขา 2-3 คน มาช่วยตลอดทั้งวันในวันก่อน  เพื่อให้งานของขอบฟ้า
ไม่สะดุดจนเกิดความเสียหายเมื่อเจ้าตัวไม่อยู่

“พี่ฟ้า  ไม่มาหลายวันเลยค่ะ  อิงทำบัญชีไว้ให้แล้วนะ  พี่ฟ้าตรวจดูได้เลยค่ะ”
สาวตุ้ยนุ้ยหน้าสวยเข้ามารับหน้า

“เอ่อ...ก็ยุ่งๆ ช่วงนี้  เตรียมซื้อของให้พี่ดอนใช้ในงาน  แล้วทางนี้ล่ะ
 สินค้ามาส่งตรงตามที่นัดหรือเปล่า  รายไหนงอแงรีบบอกนะอิง”

“ทางนี้เรียบร้อยดีค่ะพี่ฟ้า  มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น  แล้วก็ถามหาเจ้าของร้านกันตลอดเลย
ด้วยค่ะ  ก็พี่ฟ้าดังใหญ่แล้วนี่คะ  ใครๆ ก็อยากเห็นตัวจริง  อุ๊บ!  แหะแหะ”
อิงพูดๆ จนเบรกไม่อยู่หลุดพูดเรื่องที่ขอบฟ้ากำลังติดอยู่ในกระแสโซเชียลตอนนี้

“อืม…คุณแม่ก็ยังโกรธพี่ไม่หาย  เข้าหน้าไม่ติดอยู่เลยตอนนี้”
ขอบฟ้าบอกแววตายังเศร้า ๆที่ถูกถามถึงเรื่องนี้

“พวกเราเป็นห่วงพี่ฟ้ากันนะคะ  เพราะทราบว่าคุณหญิงแม่ท่านต้องแรงมากแน่ๆ”

“ขอบคุณที่เข้าใจพี่นะ  อิง”
ขอบฟ้ายิ้มให้อิง  อย่างน้อยเด็กๆ ในปกครองก็ยังเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น

“ขอดูบัญชีร้านก่อน  บ่ายๆ พี่ต้องไปรับน้องวินวิน  จะไปพักผ่อนกันน่ะ
มีอะไรอิงโทรหาพี่ได้ตลอดเลยนะ”
อิงยิ้มรีบกุลีกุจอไปหยิบงานมาให้ขอบฟ้าตรวจ  ในระหว่างที่เขาไล่ดูบัญชี
ที่ตลอดสัปดาห์ไม่ได้เข้ามานั้น  ก็มีสองหนุ่มมาเมียงๆ มองๆ ไม่ห่างนัก

“อ้าว!  นินจา  เกล้า  เป็นไงครับ  มีอะไรกับพี่  เข้ามาก่อนสิ”
ขอบฟ้ากวักมือเรียกให้ทั้งสองเข้ามา

“เป็นห่วงพี่ฟ้ากับพี่ภูครับ  ข่าวมันดัง  เสียขนาดนั้น  เนอะเกล้า”
นินจาพูดพยักพเยิดให้เกล้า

“อ่อ…ครับ  ก็รักแท้กลัวจะแพ้แม่ยาย  จริงๆ น่ะพี่”
เกล้าพูด  ขอบฟ้าตาโตที่ได้ฟังคารม  แล้วก็ขำๆ เสียมากกว่า

“ก็ต้องให้เวลา  คุณหญิงแม่น่ะนะ  ปุบปับจะยอมรับง่ายๆ ได้ไงกัน”
ขอบฟ้าบอกน้องๆ ไปตามที่ได้ฟังพี่น้ำบอกมาเมื่อเช้า

“พี่ฟ้ากับพี่ภูก็ต้องหนักแน่นนะครับ  สู้ๆ  พวกผมเป็นกำลังใจให้”
นินจาเป็นกองสนับสนุน

“ขอบคุณนะ  ไปรับลูกค้าเลย  เข้ามากันแล้วนั่น”
แล้วสองหนุ่มก็ผละออกไปรับลูกค้าที่กำลังเดินเข้ามากลุ่มใหญ่
ขอบฟ้าก็ก้มหน้าก้มตาตรวจเอกสารต่อไปเงียบๆ


ภูดิศเคลียร์งานเสร็จ  เขารีบไปหาขอบฟ้าที่บ้านเพราะขอบฟ้ารับเด็กๆ มาจากโรงเรียน
รออยู่ก่อนแล้ว  เก่งรีบช่วยยกกระเป๋าเดินทางและของเล่นที่เด็กๆ เลือกจะเอาไปเล่นด้วยกัน
ไปใส่รถของภูดิศ  น้องวินวินอยู่ในชุดหล่อพร้อมเดินทาง  ส่วนหนูรินต้องไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด
ที่บ้านเพราะภูดิศต้องเปลี่ยนรถเป็นอีกคัน  เพราะไหนจะต้องรับนัทกับส้มไปช่วยเลี้ยงน้อง
แล้วยังข้าวของที่รออยู่อีกเพียบ

“เป็นไงครับ  เด็กๆ ตื่นเต้นกันใหญ่เลย  อาฟ้าเสร็จรึยัง  เหนื่อยไหมครับ  ตัวเล็ก?”
พี่ภูเข้ามารับเด็กๆ ให้ขึ้นรถแล้วกับดึงคนตัวเล็กมาหอมหัวอย่างที่ชอบทำ

“ไม่เท่าไหร่ครับ  พี่ภูสิครับต้องทำงาน  รีบๆ ร้อนๆ มารับอีก  ฟ้าขับกลับไปให้ที่บ้านดีกว่า
พี่ภูจะได้นั่งพักไปด้วย  นะครับ…นะ” พี่ภูพยักหน้าส่งกุญแจให้คนตัวเล็ก
แล้วสลับหน้าที่กันขับ  ภูดิศขึ้นรถได้ก็นั่งหลับตาพักสายตา
สักครู่ก็ลืมตามองคนขับ  ยิ้มอย่างมีความสุข

“พี่ภู  มองหน้าฟ้าทำไม  หลับตาไปเลยครับ” ขอบฟ้าหันมาดุ

“พี่มีความสุขนี่ครับ  ที่เราจะได้ไปพักผ่อนด้วยกันอย่างนี้"
ภูดิศพูดพร้อมกับส่งสายตารักใคร่มาให้

“ครับ  ฟ้าก็มีความสุขเหมือนกัน” คนตัวเล็กส่งยิ้มให้คนตัวโต
เด็กๆ เล่นของเล่นที่เอาติดมือมาด้วยที่เบาะหลังและคุยกันไปตลอดทาง

“ถึงแล้วครับ  พี่ภูไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะจะได้สดชื่น
เดี๋ยวฟ้าดูของใส่รถเองครับ  นั่นส้มมารับหนูรินไปอาบน้ำเตรียมตัวแล้ว
ไปเลยครับพี่ภู” ฟ้าดุนหลังพี่ภูให้ขึ้นบ้านไป

“ฝากหน่อยนะตัวเล็ก  เดี๋ยวให้นัทเอากุญแจรถอีกคันมาให้”
คนตัวโตเดินเข้าบ้านไป

“น้องวินวินเข้าไปเล่นของเล่นรอหนูรินก่อน  มาพี่นัทพาไปครับ
คุณฟ้าครับ  เดี๋ยวผมมานะจะเข้าไปเอากระเป๋าคุณภูกับหนูริน
นี่กุญแจรถครับ” นัทส่งกุญแจรถอีกคันให้แล้วมารับน้องวินวิน
ไปที่ห้องนั่งเล่น  ขอบฟ้าไปถอยรถอีกคันมาจอด


นมพร้อมเดินมาจะช่วยหยิบจับย้ายกระเป๋าให้  ขอบฟ้าห้ามไว้
“นมครับ  ฟ้าทำเองไม่หนักครับ  แค่นี้เอง”
ขอบฟ้าย้ายกระเป๋าไปใส่รถอีกคันบ้างแล้ว  แล้วนัทก็วิ่งมาทันช่วยย้ายที่เหลือไปให้
แล้วก็เอาใบอื่นๆ มาจัดเรียงให้ด้วยเลย  ทุกคนมารวมกันพร้อมจะออกเดินทางกันแล้ว

“นัทกับส้มอย่ามัวแต่เที่ยวเล่นกันเพลินนะ  ช่วยดูแลคุณๆ และคุณหนูอย่าได้ห่างล่ะ
ถ้ากลับมารู้ทีหลังว่าเหลวไหลจะฟาดให้”
นมพร้อมยังอดห่วงไม่ได้กำชับสองคนอีกรอบ  ทั้งนัทและส้มต่างพยักหน้ากันหงึกหงัก
หัวแทบหลุด  และพากันเข้าไปประจบบีบนวดให้นมพร้อม

“ไม่ต้องห่วงนะครับนม  ผมไม่อยู่ก็อย่าไปยกอะไรหนักๆ หรือแอบทำ
อะไรไม่บอกนะครับ พักผ่อนด้วยนะครับ”
ภูดิศเข้าไปกอดนมพร้อม  ทุกคนไหว้ลานมพร้อมกับป้าแก้ว
แล้วพากันขึ้นรถขับออกไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดราชบุรี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ตอนที่ 24 เที่ยวสวนผึ้ง

ภูดิศพาทุกคนเข้าที่พักก็ค่ำมากแล้วเพราะมัวพาเด็กๆ  แวะทานอาหารกันและซื้อขนมขบเคี้ยว
ของทานเล่นไปสำรองให้ในที่พักด้วย  บ้านที่ณนนท์ติดต่อให้เป็นบ้านเดี่ยวกว้างขวาง
มีห้องนอน 3 ห้อง  ห้องนั่งเล่น ห้องครัวพร้อมอุปกรณ์  แล้วยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัว 
เตาปิ้งย่างก็มีให้พร้อมสามารถสั่งเข้ามาทำได้เลย  มีห้องคาราโอเกะอีกด้วย
เด็กๆ อยากลงว่ายน้ำ  ภูดิศบอกว่าค่ำเกินไปแล้ววันนี้  เด็กๆ จึงรื้อของเล่นมานั่งเล่นกัน
ผู้ใหญ่ก็เปิดทีวีดูไปพลางๆ รอส่งเด็กน้อยเข้านอน เด็กๆ ขอนอนด้วยกันที่ห้องนอนใหญ่
ที่มีเตียงนอนของทั้งเด็กหญิงชายรวมอยู่ด้วย  ซึ่งกลายเป็นภูดิศต้องนอนกับขอบฟ้า
ไปโดยปริยายเพราะวินวินไม่ยอมให้อาฟ้าแยกไปอีกห้อง  ส่วนส้มที่ต้องนอนกับนัท
ก็เลยได้ห้องนอนของขอบฟ้าไปแทน  เด็กๆ ถูกพี่เลี้ยงจับแยกไปอาบน้ำ
ขอบฟ้ากับภูดิศจึงเตรียมจะอาบบ้าง

“พี่ภูอาบก่อนเลย  ฟ้าจะต้องสระผมไม่สบายหัวเลยครับตอนนี้”

“มาอาบพร้อมพี่  เดี๋ยวพี่จะช่วยสระให้”
ภูดิศชวนอาบน้ำด้วยกัน คนตัวเล็กหน้าแดงไปก่อนแล้ว

“ไม่ดีกว่าครับ  พี่ภูไปก่อนเลย”
ส่งผ้าขนหนูให้รีบดันคนตัวโตเข้าห้องน้ำไป  มีเสียงหัวเราะตามมาให้ได้ยิน
ขอบฟ้าค้อนตามหลังไป


ครู่ใหญ่ๆ ผ่านไปเด็กน้อยในชุดนอนลายการ์ตูนก็วิ่งแข่งกันดุกดิกเข้ามา
กลิ่นแป้งเด็กหอมฟุ้งมาแต่ไกล  แล้วก็วิ่งมาโถมตัวใส่อาฟ้า
พาให้ต่างล้มกลิ้งบนเตียงนอนกว้าง
“โอ๊ยๆ  เด็กๆ  ระวังครับ  อาฟ้ายังไม่ได้อาบน้ำ  ยังตัวเหม็นอยู่เลย
ขอไปอาบน้ำก่อนนะ  นู้น!  พ่อภูมาแล้ว ไปจัดการเลยไปๆ”
ขอบฟ้าบุ้ยหน้าไปทางพี่ภูที่มีผ้าขนหนูห่อมาแต่ช่วงล่าง
`คนชอบโชว์`  ทำหน้าตื่นๆ ที่บรรดาลูกหมูเตรียมจู่โจมตามที่อาฟ้าบอก
ขอบฟ้าใช้จังหวะนี้ผลุบหายเข้าห้องน้ำไป

“อ้าวๆ อาฟ้าหนีไปแล้ว  พ่อภูจะโป๊อยู่แล้วครับ  ขอใส่เสื้อผ้าก่อน
ไปขึ้นเตียงตัวเองรอเลย  เดี๋ยวเล่านิทานก่อนนอนให้ฟังครับ”
ตัวกลมๆ พอได้ยินว่าจะได้ฟังนิทานก็พากันปีนป่ายไปรอที่เตียงกันแล้ว
โดยหนูรินไม่ลืมหยิบหนังสือนิทานออกมากองตรงหน้า

“น้องฟ้ามานั่งนี่ครับ  พี่ช่วยเช็ดผมให้นะ  ไม่เป่าไดร์ล่ะ”
ภูดิศถาม  ขอบฟ้าส่ายหน้า
“ไม่ครับ  ผมจะกรอบเสียเปล่าๆ ใช้บ่อยๆ”
พูดแล้วก็ส่งผ้าให้พี่ภูช่วยเช็ด  แล้วก็นั่งลงเปิดๆ ดูหนังสือนิทานที่หนูริน
เอามาด้วย 4 – 5 เล่ม จากการคาดคะเน  หนูรินกับวินวินก็สุมหัวกันโดยเจ้าของ
หนังสือก็ชี้บอกเล่าตามที่ตนพอรู้มาบ้างให้วินวินฟังในระหว่างรอผู้ใหญ่สองคน

“ผมนุ่มแล้วก็หอมจัง  ครับ”
พี่ภูพูดแล้วก็จรดจมูกกับผมของเขา  ขอบฟ้าก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ไปเสียอย่างนั้น

“แล้วตัวจะหอมด้วยหรือเปล่านะ  อาบน้ำแล้วนี่  ต้องพิสูจน์ดูแล้วละครับ”
พี่ภูโน้มตัวมากระซิบ  ขอบฟ้าอยู่เฉยไม่ได้แล้ว  หันขวับแล้วก็ขึงตาใส่พี่ภูเป็นการปราม

“ผมฟ้าแห้งแล้ว   พี่ภูไปอ่านนิทานให้เด็กๆฟังเลย” ผลักคนตัวโตออกไปเบาๆ

“ก็ได้ๆ  ผลัดกันนะ  พี่เริ่มก่อนแล้วกัน”
ขอบฟ้ายิ้มๆ ไม่ต้องถึงเขาหรอก  ดูก็รู้นิทานไม่ทันจบก็จะพากันหลับเสียก่อน
ตาปรอยๆกันแล้ว  เดินทางกันมาตั้งหลายชั่วโมงขนาดนั้น  วินวินก็หาวแล้วหาวอีก
ขอบฟ้านอนฟังพี่ภูอ่านจนเผลอหลับไปด้วย  มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนถูกอุ้มไปที่เตียงนอน
ส่วนเด็กๆก็ห่มผ้ากันเรียบร้อยไปแล้วด้วย
“หูย...น่าอายชะมัด  ฟ้าแค่พักสายตาเองนะครับ”
คนตัวเล็กพูดจบพร้อมปิดปากหาว  พี่ภูไปปิดไฟดวงใหญ่เปิดแต่ไฟดวงเล็กที่ข้างเตียง
นอนเด็กๆ แล้วกลับมาหย่อนตัวลงนั่งทำเอาที่นอนยวบ

“หลับแล้วเหรอครับตัวเล็ก  มาให้พี่ส่งเข้านอนก่อนนะ”
ในความมืดพี่ภูโน้มใบหน้าลงมาใช้ริมฝีปากพรมจูบที่หน้าผากและลงมาที่จมูก
ไต่ลงที่แก้มทั้งสองข้างแล้วเริ่มซุกซบปลายจมูกปากที่ซอกคอขาว 
หอมกรุ่นกลิ่นแป้งเด็ก  แล้วประกบปากทาบทับกับริมฝีปากบาง
ขอบฟ้าเปิดปากจะประท้วงก็ถูกริมฝีปากหนาแทะเล็มขบกัดริมฝีปากล่าง
แล้วแทรกปลายลิ้นเข้าไปสำรวจในโพรงปากอุ่น  ไล้ปลายลิ้นไปตามแนวฟัน
ที่เรียงสวยแล้วเกี่ยวกระหวัดรัดรึงเรียวลิ้น  ขอบฟ้าเผลอตัวจูบตอบแลกลิ้น
กับพี่ภูเสียงดังจ๊วบจ๊าบ  พี่ภูเริ่มเลื้อยมือเข้าไปสัมผัสตุ่มไตบีบเค้นคลึงสลับไป
มาสองข้าง  ขอบฟ้าหายใจหอบกระชั้นขนอ่อนลุกชันไปทั่วตัวพยายามไล่คว้ามือ
พี่ภูให้หยุด  พี่ภูลูบไล้ต่ำลงมาที่หน้าท้องแบนราบ  เนื้อนุ่ม ๆที่ได้สัมผัสแตะต้อง
ทำเอาภูดิศอารมณ์หวามไหวจนกระเจิดกระเจิง ภูดิศปล่อยกลีบปากบางให้เป็นอิสระ  หายใจแรง

“หอมไปทั้งตัวเลยครับ  ตัวเล็กของพี่” พี่ภูเสียงกระเส่าอยู่ข้างๆ ใบหู
อย่างอดใจไม่ไหวงับใบหูเล็กและชอนไชสำรวจภายใน  ขอบฟ้าเสียวซ่านเกร็งตัว
เบี่ยงหนีแต่จมูกปากพี่ภูยังตามมาแล้วลิ้นร้อนนั่นอีกยังลากมายังแอ่งชีพจร
ลมหายใจอุ่นเป่ารดซอกคอพาให้วูบวาบ  เอื้อมมือไปโอบรอบลำคอพี่ภู
อย่างเผลอไผล  พี่ภูปลดกระดุมเสื้อนอนแล้วก็พรมจูบไปทั่วแผ่นอกลิ้นสาก
ก็ลากสัมผัสที่ตุ่มไตที่ชูชัน  ขอบฟ้าแอ่นอกอย่างเสียวซ่าน หลุดคราง
“อือ  อืม  พี่ภู พอเถอะ  นะๆ  ฟ้าจะขาดใจ” คนตัวเล็กบิดกายเร่า
ร้องขอให้หยุดความวาบหวามนี้เสียที

“อีกนิดนะครับ  คนดี  พี่รักฟ้านะ” พี่ภูไม่ยอมง่ายๆ ยังคงลากเลียต่ำลงมา
ที่หน้าท้องแล้วขบกัดหนักเบาสลับกันไป  หยุดที่ร่องสะดือและลงลิ้นสำราจ
ขอบฟ้าขยุ้มผมพี่ภูอย่างลืมตัว
“ไม่ครับ  พอเถอะ” ขอบฟ้าพยายามบิดตัวหนี  บีบหัวไหล่ประท้วง 
คนตัวโตต้องกลับไปจูบปากบางปลอบประโลม  จนคนตัวเล็กคลายอาการเขม็งเกร็งลงแล้ว

“ไม่แล้วครับ  พี่ไม่ทำแล้วก็ได้  ไม่กลัวนะ  เอาไว้ให้ฟ้าพร้อม  พี่รอได้ครับ”
พี่ภูพูดแล้วลูบหลังไหล่ไปมาปลอบโยนให้คนตัวเล็กผ่อนคลายและสุดท้าย
ความง่วงก็พาให้หลับไป  ภูดิศจึงลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการเจ้าน้องชายที่
มันซุกซนไม่ยอมนอน กว่าจะกล่อมให้สงบลงได้เล่นเอาเพลีย
ภูดิศกลับมาล้มตัวลงนอนแล้วคว้าคนตัวเล็กมากอดไว้แนบอกแล้วไม่นานก็หลับตามไปอีกคน


ภูดิศพาเด็กๆออกจากที่พักในตอนสายหลังจากทานมื้อเช้ากันแล้ว
กิจกรรมวันนี้ก็มีพาเด็กๆ ไปที่ฟาร์มแกะ ให้ได้สัมผัสทุ่งหญ้าและเนินเขา
แถมยังได้ใกล้ชิดกับแกะนับร้อยๆ ตัว

“อาฟ้า  วินวินจะป้อนนมน้องแกะ  หนูรินมาๆ  ป้อนนมกัน”
เด็กๆ ป้อนนมให้แกะเป็นภาพที่น่ารักมาก

“หนูริน  วินวิน  อุ้มน้อยแกะ  ถ่ายรูปได้นะ  ไม่กัดครับ  มาอาฟ้าช่วย”
แล้วขอบฟ้าก็ได้ภาพน่ารักที่เด็กๆ อุ้มแกะน้อยแบบกล้าๆ กลัวๆกัน


ภูดิศพานั่งขบวนรถไฟเล็กที่แสนจะเพลิดเพลิน  ขอบฟ้าถ่ายรูปเด็กๆ
ไว้มากมายตามแต่มุมสวยๆ ที่พบเจอเพื่อเก็บไปเป็นไอเดียในงานด้วย
แล้วยังได้นั่งชิลด์ดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟกับขนมปังโฮมเมดเบเกอรี่แสนอร่อย
ทริปนี้สนุกสนานเพลิดเพลินไปด้วยกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่


ก่อนบ่ายภูดิศพาไปตลาดน้ำที่มีศูนย์การค้าอลังการหรูหรา  โรแมนติก
มีลานน้ำพุ  ก่อนที่จะจับจ่ายซื้อหาสินค้าและผลิตภัณฑ์  ขอบฟ้าขอให้พา
เด็กๆ ทานกลางวันกันก่อนค่อยหาดูของฝาก  มื้อกลางวันผ่านไป
เด็กๆ ได้ของเล่นติดไม้ติดมือกันไปคนละหลายชิ้น  ได้ของกันไปตามสมควร
ขอบฟ้าชวนภูดิศกลับเพราะอยากให้เด็กๆ ได้นอนกลางวัน
และช่วงเย็นตั้งใจจะพาลงเล่นน้ำที่สระตามที่เด็กๆ ขอไว้เมื่อวาน
ภูดิศตามใจเพราะเห็นเด็กๆ เริ่มล้ากันแล้วด้วย


ขอบฟ้าโทรรายงานน่านน้ำตลอดว่าลูกทำอะไร  อยู่ที่ไหน  อย่างไร
แม้ตอนนอนกลางวันก็ถ่ายรูปส่งให้ดู เพราะสงสารพี่ชายที่ไม่เป็นอันทำงาน
ตื่นนอนก็พากันเล่นน้ำจนค่ำ  มีอาหารเย็นมาส่งถึงที่พัก  ชีวิตแสนจะมีความสุข
ผ่อนคลายจากการงาน  จวบจนพากันเข้านอน  ทั้งสองนอนกอดกันจนเช้า
เป็นชีวิตที่ขอบฟ้าและภูดิศใฝ่หา
 

“นัท  ส้มเก็บของน้องไปหมดแน่นะ  ไม่ย้อนกลับมาแล้วนะ  เราจะยิงยาว
เที่ยวไปเรื่อยๆ แล้วกลับบ้านกันเลย เอ้า!  ไม่ลืมอะไร  ก็เดินทางกันครับ”
พี่ภูออกจากที่พักแต่เช้า  ไปหาอาหารเช้ากันข้างหน้า  เสร็จจากมื้อเช้าก็เป็นทริปที่เด็กๆเฝ้ารอคอย

“ฟาร์มอัลปาก้า  ถึงแล้วครับเด็กๆ  ตามอาฟ้ามาเลยครับ”

“หูย  น่ารัก  อาฟ้าถ่ายรูปเยอะๆ ให้พ่อวิน ดูๆ” น้องวินวินตื่นเต้น

“หนูรินมาป้อนแครอทกันลูก  วินวินมาครับ”
 พี่ภูเรียกเด็กๆให้ไปป้อนอาหารอัลปาก้า  เด็กๆ ได้ป้อนอาหารได้สัมผัสตัว
ซึ่งตอนแรกก็กล้าๆ กลัวๆ กันไป  สักพักก็คุ้นเคย 

“มันต้องนอนห้องแอร์ด้วยนะ  ดีนะที่พวกเราไม่ได้มาหน้าร้อนไม่งั้นไม่ได้เห็น
ขนที่ฟูสวยๆ นี่หรอก  จะถูกตัดสั้นเหลือไว้ตรงใบหน้าและหัวเท่านั้น
นี่ฟ้าถามเค้ามานะ พี่ภู”  ขอบฟ้าเล่าให้คนตัวโตฟังจึงถูกจับโยกหัวไปมา

“ไปดูสัตว์อื่นกันมีเป็นสิบๆ อย่าง  จับได้  สัมผัสได้  เค้ามีแต่สัตว์ที่เป็นมิตรกับคนนะ
ที่นี่น่ะ  ข้อมูลฟ้าแน่นเชื่อเถอะ  ทำการบ้านมาก่อนแล้ว”
พี่ภูยกยิ้มให้กับความน่ารักข้างๆ

“ไปๆ เด็กๆตามอาฟ้าไปกัน  อาฟ้าเก่งที่หนึ่ง  ใครอยากรู้อะไรถามอาฟ้าได้เลย”
ภูดิศยกความดีความชอบให้คนตัวเล็กทันที

ใช้เวลากันไปพอสมควร  ที่ช้าเพราะคนทำการบ้านมาดีพาทุกคนไปหลงวน
กันอยู่ที่เขาวงกตเสียพักใหญ่  และก็จบลงสำหรับทริปท่องเที่ยว
ภูดิศส่งทุกคนกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ  เด็กๆ ติดใจขอให้อาฟ้าพาไปเที่ยวอีก
ภูดิศจึงบอกว่าถ้าว่างจะชวนอาฟ้าไปเป็นไกด์นำเที่ยวอีกแน่นอน






ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ตอนที่ 25 พี่น้องเคลียร์กัน

“พี่ภูครับ  สัปดาห์หน้า  ฟ้าจะให้ทีมของน้าดอนเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านสวนพี่ภูแล้วนะครับ
 งานลูกค้าเหลืออีกนิดหน่อยจะส่งมอบกันแล้วครับ” ขอบฟ้าพูดขึ้น  เมื่อเจอหน้ากัน

“ได้สิ  ต้องการอะไรเพิ่มเติมน้องฟ้าจัดการไปได้เลย  บ้านของเราในอนาคตนะครับตัวเล็ก”
พี่ภูรวบรัดเป็นเรื่องเดียวกันจนได้สิน่า  คนตัวเล็กทำปากยื่นใส่

“ไม่ตรงตามแบบห้ามโวยแล้วกัน  ถ้าฟ้าจะทำตามใจตัวเองน่ะ”

“จัดไปครับ  ที่รัก” ภูดิศหยอก แล้วส่งคนตัวเล็กที่ร้านกาแฟเหมือนเช่นทุกเช้า
แล้วจึงขอตัวไปทำงาน  วันนี้มีงานด่วนจึงไม่ได้อยู่ดื่มกาแฟเหมือนเช่นทุกครั้ง

ขอบฟ้าก้าวเท้าเข้าไปในร้าน  หยุดชะงักไปนิดหน่อย  เมื่อพบใครบางคนมาเป็นลูกค้าในร้าน

“อ้าว!  พีท  มาไง?  เอ่อ!  พี่เมศก็…มาด้วย  สวัสดีครับ”

“อือ  ผ่านมาแถวนี้พอดีจึงพาพี่เมศมารู้จักร้านของฟ้าด้วยเลย
พี่เค้ายังไม่ค่อยจะคุ้นถนนหนทางที่นี่สักเท่าไหร่น่ะ”
พีทร่ายให้ฟังด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้ม

“อ่อ  งั้นตามสบายเลยพีท  พี่เมศด้วยครับ  มีอะไรก็เรียกแล้วกัน”
ขอบฟ้าสงสัยเสียเหลือเกินที่เพื่อนสนิทไปเป็นสารถีให้พี่เมศ
สองคนนี้ไปรู้จักกันเป็นการส่วนตัวตั้งแต่เมื่อไหร่  ถ้าสบโอกาสจะซักฟอก
ให้หมดเปลือกเลยคอยดูเถอะ  ริอ่านมีลับลมคมใน

“พี่เมศครับ  รับขนมหน่อยไหม  หรือเป็นอาหารจานเดียว
จานด่วน  ร้านนี้เขาก็มีนะครับ  เอารองท้องไว้หน่อยก็ดี
มื้อเช้าสำคัญนะ  ไม่ดื้อกับพีท  สิครับ”
นั่นไงขอบฟ้าว่าแล้วว่าต้องมีอะไร  ได้ยินเต็มสองหูเลย
แค่มาหยิบของที่ชั้นใกล้ๆ นี่เอง  ไม่ได้จะแอบฟังเลยด้วย

“พีท  พี่ไม่หิวจริงๆ ครับ  มันยังเช้าอยู่มากๆ  ทานไม่ลงหรอก
ขอแค่กาแฟถ้วยเดียวก่อนนะ” พี่เมศตอบเสียงอ่อน

“เช้านี้พีทมีเรียน ก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี  เนี้ยเดี๋ยวพีทดูที่ไม่เผ็ดให้นะครับ
ถ้าไม่ดื้อทานเสร็จจะส่งกลับไปนอนเลย   เสร็จงานที่ร้านป๊ากับม๊าตอนค่ำๆ
จะไปนอนเป็นเพื่อนเลยเอ้า!”
แล้วของที่อยู่ในอุ้งมือบางก็ลื่นหลุด ตกแตก เพล้ง!
ขอบฟ้ากลายเป็นจุดสนใจของคนในร้านไปทันที
เจ้าตัวรีบเดินขาขวิดกลับไปนั่งรื้อหาบัญชีที่ตรวจแล้วมาตรวจซ้ำ
อีกรอบอย่างเงอะงะ  พีทนะพีทไปสอยเจ้าชายลงจากหอคอยงาช้างจนได้สิน่า
ท้ายสุดขอบฟ้าก็แอบเห็นเพื่อนรักสั่งอาหารให้พี่เมศไปถ้วยหนึ่งคงเป็นซุปผักโขม
แล้วคนหล่อตัวขาวก็ก้มหน้าก้มตาทานโดยมีหนุ่มร่างหนาผิวเข้มนั่งมองไม่วางตา
แถมมุมปากยังคลี่ยิ้มไม่หุบ

“ไม่ต้องทำหน้าหมางงเลยฟ้า  พีทรู้ว่าฟ้าได้ยิน  ก็อย่างที่เห็น
ไม่รู้จะต้องเริ่มเล่าจากตรงไหนก่อน  เอาเป็นว่าคนนี้แฟนครับเพื่อนรัก
เห่ย!  ฟ้า!  อ้าปากค้างไปเลย  ไว้ว่างๆ กินเหล้ากันจะบอกให้หมดเลย
ไม่มีหมกเม็ด  ไอ้ฟ้า!  กลับก่อนนะ”  พีทตบไหล่เพื่อนที่นั่งตัวแข็งค้าง
อ้าปาก  พอขอบฟ้าหายจากอาการอึ้งสติกลับมาครบ  พีทก็เดินออกประตูไปกับพี่เมศแล้ว 


ก่อนเลิกงานคุณปู่โทรหาภูดิศให้เข้าไปที่บ้านใหญ่  เขาจึงฝากให้ขอบฟ้ารับหนูริน
กลับบ้านไปด้วย  หากคุยธุระเรียบร้อยแล้วจะเข้าไปรับลูก  เมื่อจอดรถหน้าคฤหาสน์
ก็เห็นรถคันหรูสีขาวจอดอยู่ก่อนแล้ว  นี่ปู่ตั้งใจนัดเขาสองคนให้มาเจอกันสินะ
เลี่ยงไม่ได้แล้วด้วย  เป็นไงเป็นกันแล้วงานนี้  แล้วร่างสูงก็เดินไปยังทางเดินที่ทอดยาว
ไปยังห้องรับแขกของบ้าน  ได้ยินเสียงคุณปู่ที่แผดดังออกมาจากห้อง  หยุดเท้าอย่างอัตโนมัติ

“ภูเมศ  แกจะรื้นฟื้นขึ้นมาอีกทำไมกัน  เรื่องมันก็นานเน  ที่แกโตมาเป็นผู้เป็นคนได้
จนป่านนี้ไม่ใช่เพราะตาแก่อย่างฉันที่เก็บแกมาเลี้ยงหรือไง  ถ้าแม่แกดีจริง
รักแกจริงอย่างที่ปากพูดนักพูดหนาก็คงไม่ยิงตัวตายหนีแกไปอย่างนั้น
แกไม่ต้องมาโทษว่าเป็นเพราะฉันบีบเค้นให้แม่แกต้องตาย  ให้พ่อแก
ต้องแต่งกับแม่เจ้าภู  แกจะให้ฉันผิดให้ได้เลยใช่ไหม  แล้วแกล่ะที่บอกว่ารักน้อง
ลับหลังแกทำอะไรมัน  ทำไมฉันจะไม่รู้  เหอะ!  แก  แม่แก  แล้วก็ตาแก่อย่างฉันนี่
มันก็ไม่ต่างกันนักหรอก”
ภูดิศได้ยินชัดทุกถ้อยคำที่หลุดมาจากปากของคุณปู่

“ผมต้องอยู่กับฝันร้ายที่แม่ทิ้งไว้  แม่มาตายต่อหน้าต่อตาผม  แม่ที่บอกรักผมยังทิ้งผมไป
แล้วปู่จะให้ผมเชื่อใจใครได้อีก  ปู่จะไม่ให้ผมผิดหวัง  แค้นเคืองเจ้าน้องชาย
ที่มันเกิดมาได้ทุกอย่าง  มีทุกอย่าง  แล้วก็ไม่ต้องใช้ชีวิตที่ปิดบังซ่อนเร้น
เหมือนอย่างกับผมและแม่  ผมกับแม่ต้องอยู่ในเงามืดที่เปิดเผยตัวตนไม่ได้
ไม่อาจบอกใครว่าผมเป็นลูกพ่อ  เป็นหลานของปู่ เ ราสองคนแม่ลูกต้องรอเศษเงิน
ที่พ่อหยิบยื่นให้  ผมต้องทนฟังเสียงร้องไห้คร่ำครวญอย่างเจ็บช้ำของแม่ไปกี่คืนกี่วัน
ปู่เคยรู้บ้างไหม  มีใครเคยรู้บ้าง  ผมเนี่ย!  ใจผม!  มันก็เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าแม่เลย
ปู่ไม่มีส่วนผิดเลยอย่างนั้นใช่ไหม  แล้วที่พ่อบอกกับแม่ว่าปู่บังคับ  พ่อก็คงหลอกผมอีก
อย่างงั้นเหรอ  ถ้างั้นคนที่เลวที่สุด มันก็คือผม  ที่ทำเลวกับน้องชายเพียงคนเดียว
ปู่คิดว่าผมไม่มีหัวใจ  ไม่เสียใจเลยหรือไง  ผมต้องอยู่กับความรู้สึกผิดที่มันเกาะกิน
จนกระทั่งเดี๋ยวนี้  ตอนนี้!  ผมที่ไม่ได้ต้องการกลับมาที่นี่  แล้วปู่อีกไม่ใช่เหรอที่เรียก
ให้ผมกลับมา จะให้กลับมาทำไม?  ให้ผมต้องมารู้เห็นสายตาเกลียดชัง  หวาดระแวง
ที่น้องมีให้กับผมทุกครั้งที่เข้าใกล้มัน  ผมมันเป็นตัวอะไรไปแล้วปู่บอกผมได้ไหม
บอกไว้ก่อนเลยตรงนี้ผมจะไม่ยอมทำอะไรตามใจปู่เด็ดขาด!  ไม่ต้องหาผู้หญิงมาให้ผม
อย่าให้ผมต้องเป็นอย่างพ่อหรือใครอีกเลย  เก็บความหวังดีของปู่ไว้เถอะ
ตอนนี้ผมชอบผู้ชายไปแล้ว  ปู่จะเกลียดชังผมเพิ่มอีกคนผมก็ไม่ว่าเพราะชีวิตที่เหลือ
มันเป็นของผมเพียงคนเดียวเท่านั้น  และผมได้เลือกทางเดินไว้แล้ว”
เสียงพี่เมศที่ดังไม่ต่างกับปู่เช่นกัน  น้ำเสียงที่ภูดิศฟังยังรู้ว่าแฝงไปด้วยความเจ็บปวด
ระคนกัน  เป็นมานานแค่ไหนกัน  ซึ่งเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยสักเรื่อง
ไม่ว่าจะเรื่องพ่อที่ต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับแม่ของเขา
หรือเรื่องของแม่พี่เมศเองที่ยิงตัวตาย  แล้วยังความเจ็บช้ำที่เคยทำไว้กับเขาอีก
ได้ฟังพลันรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งหัวใจและขาที่จะก้าวเดินก็อ่อนล้าไปด้วย

“เออ!  ให้มันได้อย่างนี้   ให้มันหมดสิ้นตระกูลไปที่พวกแก!  เป็นกันไปให้หมดจะเกย์จะตุ๊ด
พวกแกนี่มันไม่ต่างกันเลยไม่ว่าจะพี่หรือน้อง  แกออกไป!!!  อย่าอยู่ให้ฉันทุเรศลูกตาไปมากกว่านี้
ถ้าเจอไอ้ภู  บอกมันให้กลับไป!  ไม่ต้องเข้ามาให้ชั้นเห็นหน้า  ไอ้พวกผิดเพศ  ไอ้หลานไม่รักดี”
ปู่ไล่ตะเพิดภูเมศและพาลมาถึงภูดิศ  ที่ยืนนิ่งโดยไม่ได้ขยับเขยื้อนตัวไปไหน
แล้วก็มีเสียงฝีเท้าเดินออกประตูมา

“อ้าว!  เออ!!  ภู  มาแล้วเหรอ  ได้ยินแล้วสินะ  จะเข้าไปหรือกลับก็เลือกเอาแล้วกัน”
ภูเมศก้าวออกมาเจอเข้ากับน้องชายที่ยืนอยู่  คงมาถึงนานแล้วและคงได้ยินหมดแล้ว
เหมือนกันจากสีหน้าที่ดูไม่ค่อยดีนัก  เขาจึงบอกออกไปตามที่ปู่ว่าประชดออกมา

“อืม  ปู่กำลังเดือดขนาดนี้  ผมกลับเลยก็ดี  ไม่อยากต้องมาโดนอีกซ้ำสอง
เราไปคุยกันหน่อยไหม? พี่เมศ!”
ภูดิศหันไปชวนภูเมศที่ตายังแดงก่ำจากเหตุปะทะอารมณ์เมื่อครู่

“เอาสิ  ถ้ามันไม่ฝืนใจแกจนเกินไป  ก็นำไป”
ภูเมศบอกออกไปแล้วรอให้ภูดิศนำไปที่รถ  แล้วก็ขับตามกันไปเรื่อยๆ
จนมาหยุดที่ร้านอาหารไม่ห่างจากบ้านปู่มากนัก


ภูดิศเลือกโต๊ะที่อยู่มุมในสุด  เพราะยังหัวค่ำอยู่มากคนจึงยังไม่พลุกพล่าน

“สั่งอาหารมาทานกันก่อน  เอาเครื่องดื่มอะไรไหม” ภูดิศเอ่ยถามพี่ชาย

“ภูสั่งเถอะ  ขอแค่อาหารไม่เผ็ดนักให้พี่สักสองอย่าง
 แล้วก็น้ำเปล่าละกัน ”คนพี่พูดเสียงเนือยๆ ล้าๆ


เมื่ออาหารมาเสิร์ฟสองหนุ่มก็ลงมือทานกันไปอย่างเงียบๆ
เหมือนกับเป็นการประเมินภาวะทางอารณ์ของกันและกันไปในตัว

“ขอโทษนะพี่เมศ  ผมไม่เคยรู้เรื่องของพ่อพวกเรา  และแม่พี่มาก่อนเลย”
ภูดิศกล่าวขอโทษอย่างรู้สึกผิด

“จะมาขอโทษทำไม  แกไม่ได้ทำอะไรผิด  อีกอย่างมันก็ไม่แปลกที่จะไม่มีใครรู้
ก็คุณปู่สั่งห้ามเด็ดขาดขนาดนั้น  ใครเผลอพูดหรือเล่าออกมาก็ตกงาน
แล้วใครมันจะพูดล่ะ  จริงไหม” ภูเมศพูดอย่างเอือมระอาใจสุดๆ
แล้วก็มีสายโทรเข้า  พี่เมศยกมือเป็นเชิงขอคุยโทรศัพท์ก่อน
และดูเหมือนคนในสายจะมาที่นี่เพราะพี่เมศบอกร้านที่เรานั่งทานกันอยู่
ให้อีกฝ่ายตามมาสมทบ  ภูดิศเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นเมื่อพี่เมศวางสายแล้ว

“ถ้าไม่สะดวกคุย  ไว้วันอื่นก็ได้ค่อยนัดกันใหม่” พี่เมศส่ายหน้าให้เขา

“อ่อ  ไม่เป็นไร  ไม่มีอะไรเป็นความลับ  คุยได้”

“เรื่องในอดีตระหว่างเรา  ก็ให้มันจบๆ ไปแล้วกัน
ผมไม่อยากจะเก็บมาเคียดแค้นอีก  ยังไงเราก็ต้องทำงานร่วมกัน”
ภูดิศเอ่ยปากออกมาก่อน  เขายอมสงบศึกระหว่างสายเลือด

“อืม  พี่ก็ขอโทษที่ทำไม่ดีไว้กับแก  แต่บอกตามตรงนะภู
พี่ไม่เคยเกลียดแก  ถึงพ่อแม่พวกเราจะเคยทำอะไรยังไงกันไว้
แต่ไหนๆ ท่านก็จากเราไปกันหมดแล้ว  อยู่กับปัจจุบันก็น่าจะพอแล้วล่ะ
ว่าไหม” พี่เมศพูดอย่างปลงๆ สีหน้าดูผ่อนคลายไปมากกว่าเดิม

“ครับ  งั้นเราทานข้าวกันต่อเถอะ” ภูดิศมีสีหน้าราบเรียบไม่บึ้งตึงอย่างแต่ก่อน
ซึ่งภูเมศถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีระหว่างเขาทั้งสอง  สักพักพีทก็ตามมาถึงร้าน
แล้วเดินมาที่โต๊ะที่สองหนุ่มนั่งกันอยู่ก่อน

“อ้าว!  พีท  มาๆ กินข้าวกัน  สั่งอาหารเพิ่มหน่อยครับน้อง”
ภูดิศเรียกให้พีทนั่ง  ถึงจะสงสัยที่เพื่อนสนิทของคนรักจะตามมากินข้าวกับพี่ชายก็เถอะ
แล้วก็เรียกพนักงานให้พีทสั่งอาหารเพิ่ม

“รบกวนทานด้วยคนครับพี่ภู  พี่เมศมันเผ็ดนะจานนั้นน่ะ  ผมสั่งไม่เผ็ดมาเพิ่มให้แล้ว”
ภูดิศชะงักช้อนที่กำลังจะส่งอาหารเข้าปากขมวดคิ้วมุ่น
รู้ใจกันเสียด้วยไม่ธรรมดาแล้วละ  กลับไปต้องถามน้องฟ้าว่ารู้ไหม
เพื่อนพัฒนาความสัมพันธ์กับพี่เมศไปขนาดไหนแล้ว

“ผมมาขัดจังหวะการคุยหรือเปล่าครับพี่ภู” พีทหันไปถามภูดิศ

“ไม่หรอก  คุยกันจบแล้วละ” พี่ภูตอบหน้านิ่งๆ

“วันนี้มีเรียนทั้งวัน  ข้าวก็กินแบบรีบๆ ร้อนๆ ต้องไปช่วยงานป๊าอีกกว่าจะได้ออกมา
จะไปรับพี่เมศออกมาทานข้าวเย็นด้วยกัน  พอรู้ว่าอยู่นี่ก็เลยตามมา  หิวชะมัดเลย”
พีทเล่าไปเรื่อยถึงเหตุผลที่มาถึงนี่  รูปประโยคก็เหมือนจะธรรมดา
ถ้าไม่สะดุดที่ต้องออกจากบ้านเพื่อมารับอีกคนทานข้าว
พีทเป็นคนนั้นของพี่เมศหรือเปล่านะที่บอกกับปู่ว่าได้เลือกแล้วที่จะมีชีวิตในแบบนี้
น่าแปลกที่เขาสองคนพี่น้องชีวิตดันมาเป็นเหมือนๆ กัน
เขาก็เป็นชายแท้มาตลอดถ้าไม่เพราะรักก็คงไม่เปลี่ยนตัวเองไปเป็นแบบทุกวันนี้
แล้วพี่เมศล่ะเปลี่ยนไปเพราะอะไรกัน  ภูดิศทานอาหารไปเรื่อยๆ ไม่ได้สนใจสองคน
ตรงหน้าที่ออกอาการใส่ใจกันพอเกินควรอีกเลย

“เอ่อ!  อิ่มแล้วล่ะ  ไปก่อนนะพี่เมศ  พีท  ค่าอาหารผมเคลียร์เองต้องรีบไปรับหนูริน
ที่บ้านน้องฟ้าน่ะ  ฝากไว้ตั้งแต่เลิกเรียนแล้ว  ป่านนี้จะเป็นไงกันบ้างก็ไม่รู้”
ภูดิศขอตัวไปรับลูก  ปล่อยให้พี่เมศกับพีทนั่งทานกันต่อไปสองคน

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ตอนที่ 26 พี่น้ำเครียด ใครกัน?

“ตาน้ำ  บ้านเรากลายเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กไปแล้วหรือไง”
คุณหญิงศศิพูดเหน็บแนมที่เห็นหนูรินนั่งทานมื้อเย็นร่วมด้วยโดยมีขอบฟ้าดูแลอยู่ไม่ห่าง

“คุณแม่ครับ  ทานอาหารเถอะนะครับ  เด็กไม่มีความผิดอะไรอย่าไปรังเกียจรังงอนเลย”
น่านน้ำรู้ว่าที่ท่านพูดก็แค่ยังโกรธน้องชายไม่หายก็เท่านั้น
ดูเจ้าน้องชายก็ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมสบตาคุณแม่เลย

“พี่น้ำครับ  เสียงรถเหมือนพี่ภูจะมารับลูกแล้ว  เดี๋ยวฟ้าไปบอกให้พี่ภูรอก่อน
 หนูรินยังทานไม่อิ่มเลยครับ”

“เดี๋ยวพี่ดูหนูรินให้เอง  ไปเถอะ”
น่านน้ำออกปากจะดูแลให้เด็กน้อยทานอาหารให้เสร็จ

“ตาน้ำนี่ก็ไม่ได้อย่างใจแม่เลยจริงๆ”
คุณหญิงแม่ค้อนขวับๆ ใส่ทั้งลูกชายคนเล็กที่รีบรี่ไปรับหน้าภูดิศ
กับลูกชายคนโตที่เห็นดีเห็นงามไปกับน้อง

“เอาน่าคุณหญิง  เลิกงอนลูกมันทีเถอะ  ฟ้ามันรอดจากความตายเมื่อตอนเด็กมาได้
ชีวิตที่เหลือของมันก็ให้มันใช้ของมันไป   บ้านเราจะได้กลับมาสงบสุขอย่างเดิมเสียที
ผมขอละ” คุณพ่อพูดอย่างสมเหตุสมผลมาก 
จากที่ท่านเป็นผู้ฟังมาตลอดสำหรับเรื่องของน้องกับพี่ภู
ทำให้คุณแม่เงียบและฟังคงจะฉุกคิดได้บ้าง  ตอนน้องยังเด็กป่วยเข้าออกโรงพยาบาล
เป็นว่าเล่น  ท่านเป็นเดือดเป็นร้อนมากมายขนาดไหน  ทำไมเขาจะไม่รู้ถึงตอนนั้นเขา
จะยังเป็นเด็กมากก็เถอะ

“อดขวางหูขวางตาไม่ได้น่ะคุณ  คาดหวังเอาไว้มากก็ผิดหวังมาก”
 น่านน้ำสังเกตท่าทีคุณแม่ดูอ่อนลง

“คุณย่าไม่รักอาฟ้าเหรอ  หน้าบึ้งใส่อาฟ้า”
หนูน้อยเห็นคุณย่าไม่ยิ้ม  ไม่คุยกับอาฟ้าเลย

“ย่ารักอาฟ้าเหมือนเดิม  แต่ตอนนี้อาฟ้าดื้อไง  ย่าก็เลยต้องลงโทษ
 วินวินก็อย่าดื้อเหมือนอาฟ้านะลูก”  คุณย่าบอกกับหลานชาย

“อ๋อ  อาฟ้าดื้อนี่เอง  คุณย่าถึงไม่รัก” หนูรินพูดขึ้นบ้าง

“วินวินจะบอกอาฟ้าไม่ให้ดื้อ  คุณย่าจะได้รักๆ ไง เนาะหนูริน”
วินวินหันไปพยักพะเยิดกับเพื่อน

“หนูรินก็จะช่วยพูด  คุณย่าจะได้ยิ้มๆ ใจดี”
คุณหญิงส่ายหน้า  พลาดไปแล้วที่โกรธขอบฟ้า  หลานๆ ยอมเสียที่ไหน
ติดอาฟ้าอย่างกับอะไรดี  น่านน้ำรอบยิ้มกับกามเทพตัวน้อยทั้งสอง
ที่จะเป็นสื่อกลางให้แม่ลูกคืนดีกันละมั้ง



ขอบฟ้าพาภูดิศและหนูรินเข้าไปที่บ้านของเขา  หลังหนูน้อยทานมื้อเย็นเรียบร้อย
วินวินวิ่งตามมาเล่นด้วย  ตอนนี้หนูรินกับถ้วยฟูเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันแล้ว
เจ้าถ้วยฟูยอมให้อุ้มแล้วก็เคล้าเคลียกันไม่ห่าง  มีอยู่ครั้งหนึ่งหนูรินวิ่งหน้าตาตื่น
มาหาขอบฟ้า  บอกว่าถ้วยฟูแย่แล้วให้รีบไปช่วย  พอไปถึงพบว่าเจ้าแมวตัวดื้อ
เข้าไปแอบอยู่ในซอกตู้แล้วติดแหง็กออกมาไม่ได้ดิ้นรนร้องไม่หยุด
จนขอบฟ้าต้องหาคนมาช่วยขยับตู้ออก  เพื่อช่วยเจ้าตัวแสบออกมา

“พ่อภูขา  หนูรินอยากให้อาฟ้าไปนอนบ้านเราคืนนี้  ได้ไหมคะ”
หนูน้อยอ้อนพ่อแต่มองอาฟ้าตาละห้อยเลย  คนพ่อได้ยินลูกพูดหูผึ่งทันที

“อาฟ้าไปไม่ได้หรอกครับ  ไว้หนูรินเอาเสื้อผ้ามาค้างบ้านอาฟ้าจะดีกว่านะ”

“ให้คุณพ่อมาค้างด้วยได้ไหมคะ  ลูกไม่อยู่พ่อก็ต้องคิดถึงลูกมากแน่ๆ นะคะอาฟ้า”
 แล้วอาฟ้าก็งานเข้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูก  จนภูดิศต้องยื่นมือเข้าช่วย

“เตียงอาฟ้านอน 3 คนไม่ได้นะลูก  เดี่ยวพ่อพาอาฟ้าไปนอนบ้านเรา
แล้วก็ขังให้อยู่กับเราที่บ้านเลย  ดีไหมลูก”
หน้าพี่ภูเจ้าเล่ห์มาก  คนลูกก็พยักหน้าหงึกหงักยิ้มแก้มแทบแตก

“พ่อกับลูก  อย่ามาเจ้าแผนการครับ  กลับบ้านกันได้แล้ว  พรุ่งนี้ต้องไปเรียนแต่เช้า
 วินวินไปกันอาฟ้าครับจะส่งหาพ่อน้ำ  จะได้ให้พี่เก่งพาอาบน้ำเตรียมเข้านอน”

“วินวินก็จะไปอยู่บ้านอาภูด้วยนะ  ตามอาฟ้าไป” หนูน้อยขอตามไปด้วย

“ได้สิครับ  พรุ่งนี้ตอนเย็นนะ  ไปค้างบ้านอาภูกันเนาะ”
พี่ภูสรุป  ทำเอาขอบฟ้าอ้าปากจะปฏิเสธก็ถูกดุนหลังให้เดินนำออกมาข้างนอกเสียก่อน

“พรุ่งนี้พี่มารับตอนเช้า  เย็นไปทานข้าวบ้านพี่นอนนู้นเลยนะ  พี่คิดถึง”
 พี่ภูกระซิบข้างหูในตอนท้ายให้ได้ยินกันสองคน

“พี่ภู  คุณแม่คงไม่ชอบใจ  ยิ่งเกลียดๆฟ้าอยู่นะครับ”  หน้าเศร้าอีกแล้วตัวเล็กของเขา

“คุณย่าบอกว่ารักอาฟ้านะคะ  แต่อาฟ้าดื้อ  จึงถูกคุณย่าลงโทษ  อาฟ้าก็อย่าดื้อสิคะ”
หนูรินบอกอย่างที่ได้ยินมา  ขอบฟ้าอายที่ถูกมองว่าดื้อไปเสียแล้ว

“ก็คุณพ่อหนูริน  ชวนอาฟ้าดื้อกับคุณย่าไงล่ะ”
 ขอบฟ้าโยนให้คนตัวโตที่มีส่วนผิดอยู่ด้วยเหมือนกัน

“คุณย่าไม่โกรธอาฟ้านานหรอกครับ  เดี๋ยวพ่อจะช่วยพูดกับคุณย่าไม่ให้ลงโทษอาฟ้านะ”
ภูดิศบอกทำให้หนูน้อยยิ้มดีใจ  ส่วนขอบฟ้ามองหน้าคนตัวโตแล้วส่ายหน้าทำอะไรคิดอะไร
ดูช่างง่ายดายไปเสียหมด  หากมันง่ายขนาดนั้นเรื่องจะคาราคาซังจนถึงตอนนี้หรือไง
คนตัวเล็กคิด

“พรุ่งนี้เจอกันครับ  ไม่เครียดนะ  วินวินจะหลับคาบ่าแล้วครับ  พี่ไปก่อนนะตัวเล็ก”
แล้วพี่ภูก็ขยี้ผมเขาก่อนไปขึ้นรถแล้วขับออกไป


ขอบฟ้าอุ้มวินวินมาจะส่งให้พี่น้ำ  เท้าก้าวพ้นทางเดินจนจะถึงหน้าห้องพี่น้ำแล้ว
แต่เสียงพี่น้ำที่ดังรอดมาให้ได้ยินทำให้เท้าสะดุดหยุดเพียงแค่นั้น

“อย่ามายุ่งกับผมอีก  ในเมื่อคุณเลือกที่จะทิ้งผมไปแล้ว  จะกลับมาอีกทำไม
ผมอยู่ได้มาตั้งนานโดยไม่มีคุณ  อย่ากลับมาอีกเลย  เบน!!! ผมบอกให้หยุดพูดไง
อย่ามายุ่งหรือแตะต้องลูกเด็ดขาด  ใช่เขาเป็นลูกผม  คุณไม่มีสิทธิ์  เขาเป็นลูกผม
เบน!  ไอ้คลิปบ้าบอนั่นไม่ต้องเอามาขู่ผม  โธ่เว๊ย!!”
เสียงพี่น้ำที่ไต่มาถึงขีดสุด  ทำให้ขอบฟ้าต้องถอยหลังออกมาจากตรงนั้น
ตัวชาวูบ  พี่น้ำกำลังเจอกับเรื่องอะไร?  คนที่ชื่อเบนคือใคร?
แล้วเกี่ยวอะไรกับวินวิน  ทำไมเรื่องมันดูซับซ้อนชอบกล
ทางที่ดีคืนนี้ให้วินวินนอนที่บ้านเขาจะดีกว่า  ดูอารมณ์พี่น้ำตอนนี้
ต้องปล่อยให้อยู่กับตัวเองไปก่อน  แล้วขอบฟ้าก็อุ้มหลานเดินกลับไปที่ห้องในทันที

“นอนกับอาฟ้านะครับ  อาฟ้าเปลี่ยนใจแล้ว  ไปอาบน้ำก่อนนะครับ”

จับหลานอาบน้ำเสร็จหาชุดนอนยังพอมีเหลืออีกหนึ่งชุด  แล้วมือเรียวก็ลูบหลังให้
น้องวินวินไปมาสักพักหลานรักก็หลับปุ๋ยไปแล้ว  เจ้าตัวจึงไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน
เหมือนกัน  แต่ข่มตาหลับเท่าไหร่ก็หลับไม่ลง  ครุ่นคิดแต่เรื่องที่ได้ยินมา
จนกว่าจะหลับเล่นเอาเวลาผ่านไปเข้าวันใหม่แล้ว


เก่งมาพาน้องวินวินไปอาบน้ำแต่งตัวไปเรียน  ขอบฟ้านั่งรอทานมื้อเช้าพร้อมคนอื่นๆ
คุณพ่อคุณแม่ก็มากันพร้อมแล้วอาหารขึ้นโต๊ะเรียบร้อย  แต่ยังขาดพี่น้ำที่ไม่เห็นจะลงมา
จนทานกันเสร็จพี่น้ำก็เดินงัวเงียลงมาสีหน้าดูย่ำแย่  ใต้ขอบตามีรอยค้ำอดนอนมากี่คืนแล้วนะ
น้องชายรอบมองพี่ชายที่หย่อนกายลงนั่ง

“แนน  ฉันขอเป็นกาแฟเข้มๆสักถ้วยแล้วกัน”  พี่น้ำพูดกับเด็กรับใช้

“พี่น้ำไม่ทานอะไรรองท้องไปหน่อยเหรอครับ  สายๆ งานเยอะเดี๋ยวก็พลาดมื้อเช้าจนได้
ทานหน่อยนะ  เดี๋ยวฟ้าตักข้าวต้มให้  สัก 2 - 3 คำก็ยังดี”
ขอบฟ้าเป็นห่วงพี่ชายที่หน้าตาอิดโรยเต็มที  พี่น้ำพยักหน้าแบบฝืนๆ
ขอบฟ้าส่งถ้วยข้าวต้มให้  น่านน้ำรับไปคนอยู่นานอย่างใจลอย
จนมาสะดุ้งต้องตักเข้าปากเมื่อลูกเรียก

คุณพ่อไม่สบาย หายแล้วเหรอครับ  เมื่อคืนวินวินก็เลยนอนกับอาฟ้า”
น่านน้ำมองหน้าน้องชายแล้วยิ้มเนือยๆ ให้ลูกชาย

“ดีขึ้นแล้วครับ  ทานข้าวเสร็จแล้วเหรอลูก”  น่านน้ำสังเกตถ้วยข้าวของลูกที่ว่างเปล่า

“ครับ  วินวินทานหมด  เก่งๆ คุณพ่อทานให้หมดนะ”  ใครทานหมดจะเก่งอาฟ้าบอกไว้
 ทำเอาน่านน้ำต้องตักข้าวใส่ปากไปอีกคำที่เห็นลูกน้อยนั่งจ้อง

“ตาน้ำ  ไม่สบายก็พักๆ บ้าง  งานขยายตลาดก็เริ่มจะลงตัวแล้ว  มีอะไรด่วนๆ
 ก็ส่งๆ มาพ่อช่วยเอง” คุณพ่อบอกเพราะเห็นหน้าลูกชายคนโตดูไม่ค่อยดี

“นั่นสิคุณ  หมู่นี้ดูหน้าตาเราไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นะ  ไม่ไหวก็พักบ้างเงินทองมากมาย
ใช้กันไม่หมดแล้ว  ห่วงสุขภาพเถอะ” คุณแม่สนับสนุนอีกเสียงหนึ่ง

“ไม่เป็นไรครับคุณพ่อคุณแม่พ้นช่วงนี้ไปแล้วก็จะมีเวลามากขึ้น  ผมยังไหวครับ”
แล้วก็มองๆ มาที่ขอบฟ้าเหมือนมีอะไรจะพูดแล้วก็นิ่งเงียบไป








ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ภูรักฟ้า ตอนที่ 27 พ่อตัวจริง
«ตอบ #46 เมื่อ18-12-2018 13:34:06 »

ตอนที่ 27 พ่อตัวจริง

“ตั้งใจเรียนนะครับลูก  เป็นเด็กดีนะ” น่านน้ำเดินมาส่งวินวินขึ้นรถ

“พี่น้ำ  เย็นนี้ฟ้ากับหลานไปค้างบ้านพี่ภูนะครับ  พี่น้ำมีเรื่องไม่สบายใจ
อะไรก็รีบๆ เคลียร์นะครับ  อยากเห็นพี่น้ำกลับมาสดใสเหมือนที่เป็น
ฟ้าเป็นห่วงพี่น้ำนะ” ขอบฟ้าส่งยิ้มให้พี่ชาย

“ขอบใจมากนะฟ้า  ดูแลหลานดีๆด้วยแล้วกัน" น่านน้ำโบกมือให้น้องกับลูกชาย
จนรถเคลื่อนพ้นประตูบ้านไป  แล้วจึงเข้าไปหยิบกระเป๋าทำงาน  แล้วกลับมาขึ้นรถขับออกมา


เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอนเอาเลยหลังจากวางสายจาก  ผู้ชายเลวที่คุกคามชีวิตเขาอยู่ในตอนนี้
เขารู้ว่าโดนติดตามโดยคนชุดดำแทบทุกที่จนเหมือนเงาตามตัว  ตอนนี้ก็มีรถสีดำติดฟิล์มมืด
ขับตามมาติดๆ น่านน้ำรู้ว่าจะต้องเผชิญกันเสียทีให้มันจบๆ ไปโดยเร็วอย่างที่น้องชายบอกไว้
จึงจอดรถเข้าข้างทางแล้วลงไปยืนที่ข้างรถ  แล้วรถคันหลังก็จอดต่อท้าย  ชายชุดดำหน้าเข้ม
แต่งกายสะอาดสะอ้านดูดีลงมาและเดินมาตรงที่เขายืน

“สวัสดีครับคุณน่านน้ำ  นายให้เชิญคุณไปที่รถครับ” ชายชุดดำพูดเสียงสุภาพ
“นำไปสิ  อ่อ!  ขับรถนี่ตามมาด้วยล่ะ” แล้วน่านน้ำก็ส่งกุญแจให้ชายชุดดำไป
แล้วก้าวยาวๆ ไปที่รถที่เปิดประตูรออยู่เขาขึ้นไปนั่งเบาะหลังที่มีชายหนุ่มผิวสองสี
หน้าตาคมคายบอกเชื้อสายไปทางคนฝั่งทะเลทางใต้

“มีอะไรก็ว่ามา  ต้องไปทำมาหากิน” น่านน้ำเปิดปากพูดขึ้นก่อน

“น่านน้ำ  ไม่พบกันนานทักเพื่อนเก่าแบบนี้เหรอครับ  เราไปหาที่สงบๆ
เป็นส่วนตัวคุยกันหน่อย  ผมรับรองสวัสดิภาพครับ  ผมคนจริง  น้ำก็รู้”
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่แต่งกายดูดีหน้าตาคมคาย  คิ้วเข้ม  จมูกโด่ง
ตาโตคมอย่างกับตาเหยี่ยว  ผิวคล้ำแต่ดูละเอียดเนียน  พูดพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก
รอยยิ้มที่น่านน้ำเคยหลงใหลเมื่อนานมาแล้ว

“คุยมันตรงนี้แหละ  ผมไม่ไปกับคุณ” น่านน้ำชักสีหน้าตึง  ตาดุขึ้นมาทันที
 แต่คนตรงหน้าก็ยังมองว่าเจ้าตัวดูน่ารัก  น่ามองอย่างกับแมวที่พองขนขู่

“น้ำครับ  เรื่องของเรา  เอ่อ! เรื่องที่จะคุยมันต้องใช้เวลาพอสมควร
ผมไม่รังแกคุณหรอกน่า  นอกเสียจากว่าคุณจะ…”
หนุ่มหน้าคมเลิกคิ้วมองมาอย่างยั่วยุอารมณ์

“อย่าพูดจาพล่อยๆ เสียเวลา  จะไปคุยที่ไหนก็พาไป” น่านน้ำเสียงเขียวใส่คนตรงหน้า
ที่ยังยิ้มยั่ว  น่านน้ำรู้ว่าถูกยั่วยุเพราะไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนเขาก็เป็นรองคนผิวเข้มนี่อยู่ดี
คนขับถูกสั่งให้ออกรถไปยังที่แห่งหนึ่งทันที  รถแล่นอย่างเร็วออกนอกเมือง
ไม่นานก็หยุดรถที่บ้านพักตากอากาศหลังใหญ่  ที่แวดล้อมไปด้วยสวนสวยที่จัดแต่งอย่าง
ประณีตบรรจงมีลานน้ำพุ  และบ่อปลาคราฟสีส้มบ้าง สีขาวบ้างที่พากันแหวกว่ายอย่างอิสระเสรี
น่านน้ำมองเพลิน  มาสะดุ้งเมื่อเดินเข้ามาด้านในตัวบ้าน  เหล่าผู้ติดตามไม่มีมาให้เห็นอีกเมื่อเสิร์ฟน้ำทิ้งไว้ให้

“ดื่มน้ำส้มสักหน่อยนะ  เปรี้ยวหน่อยๆ แบบที่น้ำชอบ”
พูดเอาใจคนตัวขาวที่หน้างอง้ำมึนตึงอย่างไม่สบอารมณ์
เจ้าตัวปรายตามอง  และไม่คิดจะแตะต้องเลยสักนิด

“น้ำครับ  เรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้ว  ไม่คิดจะยกโทษให้ผมสักครั้งเลยเหรอ
ถ้าย้อนกลับไปได้ผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจ…และจะไม่ทิ้งคุณไป
อภัยให้ผมเถอะนะครับ”
ตาคมสั่นไหว พูดเสียงออกจะสั่นไปตามอารมณ์ที่เหมือนถูกบีบเค้น

“สิ่งที่คุณทำมันอภัยให้กันได้ง่ายๆ งั้นหรือ  กับเรื่องเลวๆ ที่คุณทำไว้กับทรายและลูก
คุณยังกล้าขอให้ผมอภัยงั้นเหรอ  เบนซิน” น่านน้ำขึ้นเสียงอย่างเหลืออดเช่นกัน

“น้ำเชื่อผมเถอะ  เรื่องคืนนั้นเป็นเพราะผมเมา  ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเกิด
ผมมองเห็นทรายเป็นคุณ  เธอวางยาผม  เธอตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น
มันเป็นแผนของเธอ  เธอต้องการที่จะจับผม  ทำให้คุณเข้าใจผมผิด
เธอแอบรักผม  ผมผิดมากหรือไง  ผมรักคุณนะน้ำ  ทรายเองเธอก็รู้ทั้งรู้ เธอยัง…”
ชายหนุ่มคิ้วเข้ม  ย้อนรำลึกถึงเรื่องในอดีตที่มันเกาะกินทั้งเขาและคนที่เขารัก
มานานเขาไม่คิดจะกักเก็บมันไว้อีกต่อไป  ต้องให้คนตรงหน้ารับรู้ให้สิ้น

“หยุดพูดเดี๋ยวนี้!!  ผมบอกให้หยุดพูดจาว่าร้ายทรายเสียที 
ถึงยังไงเธอก็ตายไปแล้ว แล้วก็เป็นแม่ของลูกผม”
คนตัวขาวสีหน้าร้อนรนและระทมทุกข์กับถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังจากปากคนเคยรัก

“น้ำ  วินวินไม่มีทางที่จะใช่ลูกของคุณ  ถึงผมจะไม่เคยรู้
หรือไม่เคยดูดำดูดีเขามาก่อน  แต่วินวินก็เป็นลูกผม  ผมตรวจสอบแล้ว
ผลตรวจดีเอ็นเอผมก็มี  ผมแค่ต้องการรับผิดชอบทั้งลูกและคุณ
ผมขอโอกาส  ให้โอกาสพ่อเลวๆ คนนี้สักครั้ง  และผมที่เคยทิ้งคุณไป
ถ้าไม่เพราะคุณบีบบังคับผมให้ต้องรับผิดชอบทราย  ผมคงไม่คิดโง่ๆ
ที่หนีไปแบบนั้น  ผมมันขี้ขลาดเกินไป  ถ้าผมลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง
ผมคงไม่เสียคุณไป  ได้โปรดยกโทษให้ผม”

“เบน  หยุด!!!  พอที   คุณกลับมาอีกทำไม  ออกจากชีวิตเราพ่อลูกไปเสียเถอะ
ผมขอเป็นครั้งสุดท้าย  ให้ชีวิตที่เหลือของผมได้ใช้กับลูกเถอะ  วินวินเป็นชีวิตของผม
ไปแล้ว  อย่าพรากเขาไปจากผม  คุณทำลายมันไปหมดแล้วทั้งความรัก
ความเชื่อใจ  ผมขอร้องละ” น่านน้ำร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหนักปานจะขาดใจ
กำแพงหนาที่เขาก่อมันปิดกั้นตัวเองมานานเหลือเกิน
ความเจ็บปวดที่มันฝังลึกสู่ตรงกลางจิตใจที่เขาไม่เคยให้ใครได้ล่วงรู้
เขาเจ็บปวดทรมานที่สุดแล้วตอนนี้  กำแพงมันเริ่มกร่อนเพราะคนตรงหน้า
เพราะผู้ชายที่เขารักมากจนไม่คิดรักใครอีกคนนี้กลับมา

“น้ำ  ความผิดที่ผมได้เคยทำผิด  ผมขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียวแล้วกัน
จะไม่ให้ผมพูดก็ได้ว่าเพราะใครทำ  อย่าได้ทรมานผมอีกเลยน้ำ
ผมรักคุณนะ  ที่มาไม่ได้จะพรากลูกไปจากคุณ  ลูกเป็นของคุณ
แต่คุณเป็นของผม  เด็กชายธนดลเขาคือลูกของนายธนกฤต
น้ำก็รู้ว่ามันเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้
เรามาช่วยกันเลี้ยงเขาให้เติบโตและเป็นคนดีด้วยกันเถอะนะ ผมขอร้อง”

“พอเถอะ  เบนซินกับน้ำ  ไม่มีวันที่จะเข้ากันได้  ไม่มีวัน  คุณได้ยินไหม”
น่านน้ำพูดเสียงแหบโหย

“ทางเดียวที่เราจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ก็ลูกไงครับน้ำ
ลูกทำให้เราแยกกันไม่ได้  น้ำรักลูก  ผมไม่ได้เลี้ยงเค้าแต่เค้าก็เลือดเนื้อของผม
ครึ่งหนึ่งผมรักเค้าได้อาจจะไม่มากเท่าที่คุณรัก  แค่คุณให้โอกาสผม”
พูดจบเบนซินก็ทรุดตัวลงไปคุกเข่าต่อหน้าน่านน้ำแล้วรวบเอวของน่านน้ำไว้แน่น
อ้อมกอดที่โหยหามาแสนนาน  กอดที่รอให้คนตรงหน้าอภัย
น่านน้ำยืนตัวแข็งอยู่กับที่  ผู้ชายคนนี้ไม่เคยต้องคุกเข่าให้ใคร  เขารู้

“ลุกขึ้นเถอะ  อย่าบีบคั้นผมตอนนี้เลย”
น่านน้ำพูดทั้งน้ำตาที่อาบแก้ม เสียงสั่นๆ

“น้ำ  รับปากผมสิครับ  ว่าจะยกโทษให้ผม  อภัยให้ผม
เราจะช่วยกันเลี้ยงลูกนะครับ คนดี” น้ำตาลูกผู้ชายเอ่อท้น
เบนซินผู้ชายที่ไม่เคยเสียน้ำตาให้กับใครมาก่อน  แต่เขาต้องมาหลั่งน้ำตา
ให้กับคนตรงหน้า  เขาแพ้แล้วทุกทางแพ้ให้กับคนตัวเล็กคนนี้

“เบน  อย่าทำแบบนี้  ศักดิ์ศรีของคุณไปไหนหมด
จะมาเสียน้ำตาและคุกเข่าให้ใครแบบนี้ง่ายๆ ได้ยังไง  ลุกขึ้นเถอะ”
น่านน้ำประคองเบนซินให้ลุกขึ้นแล้วเผลอเช็ดน้ำตาให้  ตัวเองก็น้ำตานองหน้าเช่นกัน

“ผมยอมแล้ว  ยอมคุณทุกอย่าง  แค่อย่าผลักไสผมไปจากคุณ
อย่าดูหมิ่นค่าความรักที่ผมมี  ผมอาจจะเคยทำผิดซึ่งมันจะด้วยเหตุใดก็ตาม
ขอให้รู้ไว้นั่นไม่ใช่ว่าผมไม่ได้รักคุณ”
เบนซินลุกขึ้นแล้วรวบกอดน่านน้ำไว้กับอก  กอดให้แน่นพอ  ให้รู้สึกว่ารัก
แต่เขาจะไม่กอดแน่นจนคนถูกกอดต้องเจ็บอีกเป็นแน่
น่านน้ำกอดตอบ  กำแพงน้ำแข็งมันได้ถูกความร้อนจากเบนซินหลอมละลายแล้วในตอนนี้
เขาหมดสิ้นแล้วทิฐิ  เขายอมแพ้แล้วจริงๆ

“เรามาเริ่มกันใหม่นะครับ  ครั้งนี้ผมจะไม่ยอมให้อะไรมาพรากความรักของเราได้อีก”
เบนซินพูดพร้อมกับแนบริมฝีปากประทับจูบแผ่วเบาที่หน้าผาก  เปลือกตาทั้งสองข้าง
แล้วก็แนบลงที่ริมฝีปากบางเฉียบนุ่มตรงหน้าที่เคยคุ้นและรู้ว่าหวานมากแค่ไหน
จูบที่ดูดดื่มเรียกร้องไม่มีทีท่าจะจบลง  จนคนตัวขาวขืนตัวแล้วนั่นแหละเบนซินจึงหยุด

“เบน  พอเถอะ  น้ำต้องไปทำงานแล้ว”

“ผมไปส่งนะ  รถก็จอดไว้ที่นี่  เลิกงานผมไปรับนะครับ  แล้วเราไปดินเนอร์กัน
ผมรู้ว่าลูกไม่อยู่ไปค้างบ้านแฟนของน้องฟ้า  น้ำไม่รีบกลับหรอก  จริงไหมครับ”
หน้าตาคนพูดมีประกายความหวังเรืองรอง  ต่างจากสักครู่ที่มันสิ้นหวังเสียเหลือเกิน

“พวกสโตกเกอร์  ตามติดชีวิตคนอื่นยิ่งกว่าเงาตามตัว
น้ำไม่แจ้งตำรวจก็ดีขนาดไหนแล้ว  รู้ไปเสียทุกสิ่งทุกอย่าง”
น่านน้ำพูดเหน็บแนม  ปากบางๆ ที่บวมเจ่อจากโดนรุกดูน่าทำให้ช้ำเสียอีกที
เบนซินมองกลีบปากนี้ไม่วางตา

“น้ำเป็นของผม  ตามดูแลต่างหากล่ะ  ลูกน้องผมรู้กันทุกคน
ว่ามีหน้าที่อารักขาอย่างเดียว  ห้ามทำให้เกิดรอย
นอกเสียจากรอยนั้นเกิดขึ้นจากผม  จริงๆ นะไอ้คลิปอะไรนั่นไม่มีจริงหรอก
ใครจะถ่ายไว้ล่ะ  ถ้าหลุดไปคนก็เห็นน้ำของผมทั้งเมืองสิครับ
หวงครับ ไว้ดูแค่คนเดียว”
น่านน้ำขึงตาใส่  ก็ไม่ใช่เอาคลิปมาขู่เหรอ  เขาถึงได้ไม่เป็นอันกินอันนอนแบบนี้
ต้องร้อนรนจนต้องมาตกเป็นเบี้ยล่างให้กับคนคนนี้อีกครั้งแล้ว

“ไปส่งน้ำเถอะเบน  สายมากแล้ว  เดี๋ยวคุณพ่อไม่เจอจะเป็นห่วง
แล้วก็ขอให้เรื่องของเราค่อยเป็นค่อยไปก่อนนะ
คุณแม่ยังเครียดเรื่องฟ้ากับพี่ภูไม่หายเลย  อย่าเพิ่มเรื่องของเราให้ท่านตอนนี้เลยนะ”

“ผมไม่รับปากจะดีกว่า  แต่คุณหญิงแม่ท่านก็มีหลานแล้วท่านไม่เครียด
กับน้ำมากหรอก  เชื่อผมเถอะ”

“น้ำก็ต้องกลัวไว้ก่อนสิ”
ท่านจะอกแตกไหมนะลูกชายสองคนไม่มีใครหาสะใภ้เข้าบ้านให้ท่านได้เลย น่านน้ำนึกหวั่นใจ






ออฟไลน์ M_M

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ภูรักฟ้า ตอนที่ 26 - 27 มาแล้ว!!!!!!!!
«ตอบ #47 เมื่อ18-12-2018 20:04:33 »

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
Re: ภูรักฟ้า ตอนที่ 26 - 27 มาแล้ว!!!!!!!!
«ตอบ #48 เมื่อ18-12-2018 22:06:09 »

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ตอนที่ 28 ค้างบ้านพี่ภู

เย็นนี้บ้านของภูดิศเป็นที่ครึกครื้นเพราะมีเพื่อนของขอบฟ้ามารวมตัวกันที่นี่
หมอคีรีและพี่เมศก็มา  นมพร้อมกับป้าแก้วยิ้มแก้มปริที่เห็นพี่น้องพูดคุยกันมากขึ้น
เด็กๆ ก็พลอยวิ่งเล่นกันเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวสนุกสนานไปด้วย  ทั้งนี้ทั้งนั้นนมพร้อม
มองว่าเป็นพราะหนูฟ้าที่ทำให้คุณหนูตัวโตที่นางเลี้ยงมาเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้


ขอบฟ้าเข้าไปช่วยงานในครัวเหมือนเคยโดยมีคนตัวโตแวะเวียนไปช่วยหยิบ
โน่นส่งนี่ให้ไม่หยุด  นมพร้อมเห็นแล้วก็อดที่จะเอื้อเอ็นดูทั้งสองเสียไม่ได้
คนนี้สินะที่นางเฝ้าคอยอยากจะเห็น  ให้มายืนเคียงข้างคุณหนูตัวโตของนาง
เป็นหนูฟ้าก็เหมาะสมกันดีแล้ว  มองไปที่คุณภูเมศเห็นมีหนุ่มน้อยหน้าตาคมเข้ม
คอยดูแลเอาอกเอาใจไม่ห่าง  คุณท่านบ้านใหญ่ระแคะระคายบ้างหรือยังก็ไม่รู้
น่ากลัวจะเป็นเรื่องอีกแน่ๆ

“ตาเนียนวิ่งทะเล่อทะล่ามาทำไม  มีอะไร  ทำยังกับโดนไฟรนก้นมาอย่างนั้นแหละ”
ป้าแก้วร้องทักลุงเนียนที่มาอยู่แนวรั้วหน้าบ้านแทนการทำสวน  เพราะวันนี้มีแขกมากันหนาตา

“นมพร้อม  เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ  คุณท่าน…คุณท่านบ้านใหญ่มาครับ”
ลุงเนียนกระหืดกระหอบเข้ามา  เล่าไปหอบหายใจจนตัวโยนไปด้วย

“อ้าว! แม่แก้วมาดูเตานี่  เฝ้าฟืนไฟไว้ดีๆ ทำๆ ไปก่อนเลยนะไม่ต้องรอ
เดี๋ยวฉันไปรับหน้าท่านก่อน  คุณหนูขา  คุณเมศขา  คุณปู่ท่านมาค่ะ
ไปอยู่ไหนกันหมด  ใครไปตามคุณหนูให้ฉันที”
นมพร้อมตะลีตะลานออกไป  เป็นที่โกลาหลไปตามๆ  กันที่คุณท่านบ้านใหญ่
มาเยือนร้อยวันพันปีท่านไม่เคยเยี่ยมกรายเข้ามา

“แม่พร้อมที่นี่มีงานอะไรกัน  รถจอดเต็มไปหมด  เสียงเด็กก็เล่นกันเจี๊ยวจ๊าวซะจริงๆ”
 คุณท่านเสียงมาก่อนตัว  นมพร้อมรีบไปรับหน้า

“สวัสดีค่ะคุณท่าน  พอดีวันนี้เพื่อนคุณภูกับคุณเมศมาทานข้าวกันน่ะค่ะ
ก็เลยคึกคักไปสักหน่อย” นมพร้อมตอบไม่เต็มเสียงนัก

“อ้าว ! เหรอ!  ไอ้สองคนก็อยู่กันด้วยเหรอ  เออ!  แปลกจริงๆ”
คุณท่านพูด  พร้อมสอดส่ายสายตามองหาเจ้าหลานชายตัวแสบสองคน

“สวัสดีครับ  คุณปู่  สบายดีแล้วนี่ครับ  แขนถอดเฝือกแล้วด้วย”
ขอบฟ้าเห็นคุณปู่จึงรีบออกมาต้อนรับอีกแรง

“หนูฟ้า  ปู่หายดีแล้ว  เดินเหินไปไหนมาไหนคล่องตัว  เลยออกจากบ้านมาดูความเป็นไป
ของพวกตัวโตๆ มันสักหน่อยน่ะ”  คุณท่านพูด สีหน้าดูผ่อนคลาย
เหมือนๆ จะสบายอารมณ์ด้วยซ้ำถ้านมพร้อมดูไม่ผิด  และออกจะเอ็นดูหนูฟ้าอีกคนด้วยสิ

“คุณทวด  สวัสดีค่ะ  หนูรินคิดถึงจัง”  เด็กหญิงวิ่งมาเกาะแขนท่าน
คุณปู่ก็ลูบหัวท่าทีดูอ่อนลงไปมากกว่าคราวแรกที่ขอบฟ้าพาไปเจอท่านมา
หรือว่าวันนี้จะมีแต่เรื่องดีๆ ขอบฟ้าคิดหวังในใจ

“คิดถึงก็ให้เจ้าภู มันพาไปหาสิ”  คุณปู่พูดเป็นเชิงอนุญาต

“ค่ะ  อยากเห็นปลาคราฟด้วย  เดี๋ยวให้พ่อภูพาไป” หนูรินยิ้มยิงฟันขาว

“คุณปู่อยู่ทานมื้อเย็นก่อนค่อยกลับนะครับ  เดี๋ยวฟ้าไปดูในครัวช่วยป้าแก้วสักครู่นะ
แล้วจะตามไปคุยด้วย” ขอบฟ้าปลีกตัวไปช่วยงานในครัวต่อ

“คุณท่านไปที่ห้องรับแขกก่อนสิคะ  เดี๋ยวอิฉันจะนำไปเอง”
นมพร้อมรีบพาท่านไปหาที่นั่ง  พอดีภูดิศกับภูเมศตามมาสมทบ
หมอคีรีก็มาช่วยดึงความสนใจอีกคน  ต่างชวนคุณปู่พูดคุยไม่หยุดปาก
ท่านพลอยได้หัวเราะกับมุกขำๆที่หมอคีรีนำมาแบ่งปัน
ส่วนพีทและซีเกมส์ก็ช่วยกันจัดโต๊ะอาหารและดูแลเด็กๆ ไปด้วย

“อาหารพร้อมแล้วค่ะ  ไปที่ห้องรับประทานอาหารกันเถอะค่ะ”
 นมพร้อมเชื้อเชิญให้ไปรวมกันที่โต๊ะ

“มาทานพร้อมๆ กันเลยสิแม่พร้อม” คุณปู่ชวนนมพร้อม
แต่ก็ยากอยู่สักหน่อย  เพราะแกมักจะอ้างว่าต้องดูแลจัดการในครัวอีกตามเคย

“คุณท่านทานกันไปเถอะค่ะ  อิฉันต้องไปดูเด็กๆ ในครัวว่าเก็บงำอะไรกันดีมั๊ย
แล้วก็ยังไม่หิวด้วยค่ะ” พูดจบ นมพร้อมก็เดินลิ่วๆ เข้าครัวไปตามเคย
 

ขอบฟ้านั่งใกล้คุณปู่กับน้องวินวิน  คุณปู่สีหน้าดูมีความสุขมากขึ้น
ทานอาหารไปได้เรื่อยๆ เด็กๆ ตักทานกันเอง ลุงเมศกับพ่อภูผลัดกัน
ดูแลหนูรินด้วย  พีทก็มีแอบบริการพี่เมศบ้างตอนคุณปู่เผลอ
เพราะพีทกลัวพี่เมศจะถูกเพ่งเล็งเพราะขอบฟ้าเคยเล่าให้ฟังถึงกิตติศัพท์ท่าน
แต่สายตาคนอาบน้ำร้อนมาก่อนก็ไม่เคยพลาด  เมื่อดูท่าทีหลานชายคนโต
ที่ยอมให้เด็กหนุ่มเข้าใกล้ตัวมากในบางจังหวะ  คนนี้สินะเจ้าเมศคนของแก
ท่านทำไม่รู้ไม่เห็นไปตามเกม

“คุณทวดขา  ทานปลาไหมค่ะ  หนูรินแบ่งให้”
เด็กหญิงพยายามส่งปลาในจานที่พ่อภูแกะให้จะเอาให้คุณทวด

“กินเถอะ  ทวดมีแล้ว  อาฟ้าแกะมาให้เยอะแยะ  เอาอีกไหมล่ะ เอาของทวดไป”
เด็กหญิงตาวาวพยักหน้า  คุณปู่ก็ตักมาให้ 1 ชิ้นใหญ่ๆ ภูดิศกับขอบฟ้ามองหน้ากันพลางยิ้ม
นี่ก็เป็นอีกช่วงเวลาดีๆ ที่น่าจดจำ  ความน่ารักใสซื่อของเด็กๆ มักจะกร่อนใจที่ว่าหินๆ
ได้เหมือนกันละนะ  ทั้งสองคิดเหมือนๆ กัน


พอมื้ออาหารผ่านไปคุณปู่ก็นั่งพักสักครู่ก็ขอตัวกลับคนแรก
ทุกคนพากันมาส่งคุณปู่ที่รถที่มีคนขับมาจอดเทียบรอท่าไว้แล้ว
ภูดิศพยุงท่านไป  ภูเมศก็ปราดไปเปิดประตูให้นั่ง  แล้วรถก็เคลื่อนออกไป
สองพี่น้องถอนใจออกมาเฮือกใหญ่


ทุกคนพากันนั่งล้อมวงคุยกันที่ห้องนั่งเล่น  หมอคีรีก็ยังเป็นจุดขายที่ดี
ชวนคุยไม่หยุดปาก  จนต้องร้องขอน้ำดื่มมาบรรเทาอาการคอแห้งอยู่บ่อยครั้ง
พีทดูจะแย่งซีนไปจากคู่ของภูดิศ  เพราะคอยเอาอกเอาใจภูเมศไม่ห่าง
จนภูเมศเสียอีกที่มีอาการขัดเขินให้ได้เห็นที่เป็นจุดเด่น

“พีท  อย่ารุ่มร่ามใส่พี่เมศมากนัก  พี่เขารำคาญแล้ว  พี่เมศให้ซีช่วยตบกระโหลกให้ไหมครับ
ซีจัดให้ได้นะ” ซีเกมส์อดหมั่นไส้พีทไม่ได้ที่ทำออกหน้าออกตา

“ซี  อย่าอิจฉาเพื่อนสิครับ  พี่หมอยังว่างอยู่อีกคนนะ  ซีก็ไปจีบพี่หมอเลยไป”
พีทว่าเพื่อน  แต่ดันโยนไปให้พี่หมอซึ่งไร้คู่เหมือนกัน  ซีเกมส์ทำตาโตน่ารัก
ยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้พี่หมอ

“พี่หมอโสดจริงป่ะ  งั้นพรุ่งนี้เราไปเดทกันนะครับ”
ซีเกมส์ส่งสายตาปิ๊งๆ ให้พี่หมอ  หมอหนุ่มยิ้มเก้อเป็นครั้งแรกที่ถูกแซว

“พี่หมอจะจิตๆ หน่อยนะครับ  น้องซีจะกล้าไปด้วยเหรอครับ”
 แล้ววงสนทนาก็เฮรับกันไปกับคำพูดพี่หมอที่แก้ลำกลับมา

“อ้าวกลับกันเด็กๆ จะได้นอน ไปฟ้า ทางผ่านบ้านเดี๋ยวไปส่งให้”
ซีเกมส์ชวนเพื่อนกลับ  ขอบฟ้ายิ้มอายก็วันนี้เขาไม่กลับ  จะใจดีเกินไปไหมเพื่อนรัก

“ไม่เป็นไรซี  เดี๋ยวพี่ภูไปส่ง”
ขอบฟ้าตอบเพื่อนรักออกไปไม่เต้มเสียงนัก

“ไม่เป็นไรเลยฟ้า  ห่างจากบ้านพี่ภูตั้งหลายกิโล  พี่ภูยังต้องส่งหนูรินเข้านอน
มาน่าซีไปส่งเอง  ไม่ต้องเกรงใจไป”  ซีเกมส์ยังไม่เลิกตื้อจะไปส่งให้ได้

“ซี  วันนี้ฟ้าไม่กลับครับ  ค้างกับพี่ที่นี่”  พี่ภูพูดยิ้มๆ คนตัวเล็กอายสายตาหลายๆ คู่
ที่มองมาอย่างล้อๆ และหน้าเจ้เล่ห์สุดก็ซีเกมส์นั่นแหละ  จึงรีบไปยืนหลบหลังคนตัวโต 

“ก็เพราะว่ารู้ไงล่ะ  ถึงได้อยากไปส่ง  น้องวินวินบอกตั้งแต่ก่อนค่ำแล้ว  ฮ่าฮ่า”
 ขอบฟ้าหลงกลเพื่อนจนได้

“ไอ้ซี มันแกล้งฟ้า  พี่ภูดูมัน”  ขอบฟ้าโผล่แค่ลูกตาให้เพื่อนเห็น
 เรียกเสียงหัวเราะกันครืน  แล้วต่างก็แยกย้ายกันกลับไปจนหมด


ทั้งสองพาเด็กๆ อาบน้ำจะพาเข้านอน  เด็กๆ นอนห้องเดียวกัน
ภูดิศทำหน้าที่อ่านนิทานเหมือนเคยจนจบ  เรื่องต่อไปสองหนูน้อยขอให้
อาฟ้าอ่านบ้าง  ขอบฟ้าอ่านไปได้ครึ่งเรื่องเด็กๆ ก็พากันหลับปุ๋ยไปเสียแล้ว
ขอบฟ้าจึงต่อโทรศัพท์หาพี่ชายในทันที  อย่างนึกเป็นห่วงจากสีหน้าที่เห็น
เมื่อเช้าซึ่งไม่ดีเอาเสียเลย

“พี่น้ำ  ทานข้าวบ้างนะครับ  วินวินหลับแล้ว  ไม่ต้องเป็นห่วงนะ
 เอ่อ! ครับ  พี่น้ำอยู่ไหนครับเนี้ย  นั่นเสียงใคร  เป็นอะไรหรือเปล่า
ไม่เป็นไรแน่นะครับ  พี่น้ำปลอดภัยจริงๆ ใช่ไหม  อืม...แล้วเจอกัน”
ในระหว่างที่คุยโทรศัพท์มีเสียงพูดแทรกเข้ามา
`น้ำครับ  อาบน้ำกัน  ผสมน้ำอุ่นให้แล้ว  อ้าว! คุยโทรศัพท์เหรอ`
แล้วพี่น้ำก็บอกว่าไม่มีอะไร  ไม่ต้องห่ว ง ใครกันนะชวนพี่น้ำของเขาอาบน้ำ
ความลับเยอะจริงพี่ชาย  ขอบฟ้าหน้านิ่วคิ้วขมวดจนภูดิศเดินมารวบตัว
พาไปที่ห้องนอน  จับให้นั่งลงที่เตียง

“เป็นอะไรครับหน้าเครียด  คุยกับน้ำมาเหรอ”
ภูดิศถาม  ขอบฟ้าก็พยักหน้า  แล้วเล่าเรื่องของพี่น้ำเท่าที่รู้ให้ภูดิศฟังทั้งหมด
คนตัวโตมีสีหน้ายุ่งยากใจแต่ก็กลบเกลื่อนทันควัน  ลูบหัวคนตัวเล็กให้คลายกังวล

“อย่าเครียดเลย  กลับบ้านคราวนี้  น้ำอาจจะยอมเล่าอะไรๆ
ให้น้องฟ้าฟังทั้งหมดก็ได้นะครับ” พี่ภูดึงเข้ามากอด
พรมจูบที่หน้าผาก  ใช้ริมฝีปากขบเม้มที่ปลายจมูกและไล้ลงมาแผ่วๆบางเบาที่ปาก
ไล่งับริมฝีปากเมื่อขอบฟ้าหลบเลี่ยง  ปลายจมูกและปากจึงฝังลงมาที่ซอกคอตรง
แอ่งชีพจร  ลมหายใจอุ่นที่รินรดมาทำให้ขนลุก

“พี่ภูขี้แกล้ง  ไปอาบน้ำเลยครับ  เหม็นเหงื่อ  ไปเลยไป”
ขอบฟ้าดันพี่ภูออก  แล้วแกล้งใช้มือบีบที่จมูกทำเป็นว่าทนกลิ่นกันไม่ได้
ทำเอาพี่ภูขาดความมั่นใจไปหน่อยหนึ่ง

“ไปก็ได้  พี่กลับมา  เราน่ะโดนแน่  ว่าพี่ดีนัก”
แล้วพี่ภูก็คว้าผ้าเช็ดตัว  ก่อนไปยังชี้นิ้วมาคาดโทษกันอีก
คนตัวโตหายไปพักนึงก็กลับมา  ขอบฟ้ารีบแทรกตัวเข้าไปอาบต่อในทันที

“เห่ย  น้องฟ้า  รีบอะไรกันเนี่ย  เดี๋ยวเหอะ  หึหึ” พี่ภูดันประตูห้องน้ำ
แต่ว่าล็อคจึงหัวเราะไล่หันให้ได้ยิน  ขอบฟ้ารีบอาบน้ำเพราะรู้สึกเพลียๆ
ง่วงๆ  ชอบกล  แต่งตัวเสร็จก็แทรกตัวเข้าไปที่ผ้าห่มที่พี่ภูห่มอยู่ก่อนแล้ว

“ฟ้าง่วงแล้ว  มากอดๆกัน  ฝันดีนะครับ  พี่ตัวโต” แล้วก็กดจูบที่หน้าผากพี่ภู

“มาๆ พี่กล่อมนอน”  แล้วคนตัวโตก็กล่อมคนตัวเล็ก
ก่อนจะห้ามใจไม่ไหว พี่ภูก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปเสียก่อน
`พี่ภูรอหน่อยนะ  อย่าโกรธฟ้าเลย  ก็ที่ดูมามันน่ากลัวนี่นา  ไว้ให้ฟ้าพร้อมก่อนนะ`
นึกเห็นใจคนตัวโต  รู้ว่าถึงจะเลี่ยง  จะบ่ายเบี่ยงยังไง  สุดท้ายเขาก็ต้องยอมพี่ภูอยู่ดี
แต่ขอเวลาทำใจอีกสักหน่อย  นอนรอคนตัวโตที่ไม่มีทีท่าว่าจะออกจากห้องน้ำ
 จนเขาเผลอหลับไปก่อน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ตอนที่ 29 บ้านนี้มีลูกเขย

ภาพข่าวซุบซิบในวงสังคมไฮโซ มีการพาดพิงถึงสองพี่น้องตระกูลดัง
ที่ว่าคนน้องคบหากับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงทายาทตระกูลเก่าแก่
คนพี่ของทั้งสองตระกูลก็แอบคบกับหนุ่มนิรนาม
ข่าวนี้ทำเอาเช้าที่สดใสกลายเป็นเช้าที่ออกจะร้อนแรงขึ้นมาทันทีทันใด

“อะไรของพวกแกพี่น้องนักหนา  จะให้สงบอกสงบใจเป็นไม่มี
มีแต่เรื่องให้คนขุดคุ้ย  จิกกัดกันไปวันๆ ฉันอยากจะบ้าตายวันละสามสี่เวลา
ปวดหัวจริงๆ” คุณหญิงศศิกุมขมับแต่เช้า  ไม่ทันไรแนนก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามา

“มีแขกมาขอพบคุณท่านทั้งสองค่ะ  แจ้งชื่อว่าคุณธนกฤต  ทำธุรกิจเรือสำราญค่ะ”
แนนรายการจบ  น่านน้ำลุกพรวดไปหน้าบ้านก่อนใครเพื่อน

“อ้าว!  พี่น้ำเดี๋ยว!  อะไรของเขากันนะ”  ขอบฟ้างึมงำไม่หยุด
รีบเดินออกไปที่หน้าบ้าน  มีรถหรูสีดำเงาจอดอยู่  แล้วก็เห็นพี่น้ำเข้าไปดันผู้ชาย
ที่อยู่ในชุดแต่งกายเรียบร้อยดูดี  เห็นหน้าไม่ค่อยชัดเพราะอยู่ห่างพอควร
จึงเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น  พอเห็นหน้าชัดๆ หล่อไม่ใช่เล่น  ผิวเข้มกว่าพี่ภูแต่หน้าคมคายสุดๆ

“เบน!  มาทำไม  น้ำบอกแล้วไงไม่ให้รีบร้อนกับเรื่องของเรา  ไม่ให้วู่วาม!
เบนก็รับปากน้ำแล้วทำไมยังมาอีก  คุณแม่ท่านเครียดๆ เรื่องของฟ้า
แล้วยังมีข่าวซุบซิบของเช้านี้อีก  จะให้น้ำทำยังไง กลับไปก่อนเถอะนะ”
เสียงพี่น้ำที่พูดทั้งร้อนรนและวิตกกังวลพอๆ กัน  คนนี้หรือที่ชื่อ  เบน
ที่ว่าเคยทิ้งพี่น้ำไป  พี่น้ำคบกับผู้ชายแล้วพี่ทรายล่ะ  ยังไงกันนะ

“น้ำครับ  ผมจริงใจกับคุณ  อย่าห่วงกังวลไปเลย  ความจริงก็คือความจริง
ผมรักน้ำนะครับ  คนดี  อย่ากลัวไปนักเลย” 
พี่คนหน้าเข้ม  ตาคม  พูดอย่างตัดสินใจมาเด็ดขาดแล้ว
ดูมุ่งมั่นดี  ขอบฟ้าจึงเดินเข้าไปหาทั้งสองคน

“เอ่อ!...พี่น้ำ…พาแฟนพี่เข้าไปคุยข้างในก่อนเถอะครับ
มีอะไรก็ค่อยๆ พูดกัน  เห่ย! …แล้วนั่น!!! พี่ภูมายังไง
เราไม่ได้นัดกันนะครับ”
ขอบฟ้างงกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญทั้งสองเป็นอย่างมาก

“พี่มีเรื่องจะคุยกับคุณหญิงแม่  ให้พี่คุยเถอะนะครับ  พี่แค่จะมาแสดงความจริงใจ
ไม่ชอบที่มีข่าวซุบซิบให้ปวดหัว  เปิดเผยกันไปเสียให้สิ้นเรื่อง
ไปกันครับ อ้าว! ตามมาสิคุณ”
พี่ภูหันไปชวนแขกอีกคนพากันเดินเข้าไปด้านในเสียดื้อๆ
ทำให้เราพี่น้องได้แต่เดินตามหลังไปติดๆ

“สวัสดีครับ  คุณลุง…คุณป้า ผมธนกฤต  ดิลกทองนุกูลครับ
ที่มาวันนี้อยากมาทำความรู้จักกันครับ  ผมเป็นคนรักของน่านน้ำ
เราสองคน…รักกัน  อยากจะมาแสดงความจริงใจด้วย
ว่าเราไม่ได้ลักลอบคบหากัน”
ผู้ชายคนนี้พูดจาฉะฉานตรงไปตรงมาดี  ขอบฟ้าประเมินดูคนรักของพี่ชาย

“ผมก็รักน้องฟ้าครับ  คุณพ่อ  คุณแม่  อย่ากีดกันพวกเราเลยนะครับ
จะให้เปิดเผยอย่างไรผมก็ยอม  จะให้หมั้นให้แต่งกัน  ผมก็ทำให้ได้นะครับ”
พี่ภูวอนขอ  และแสดงสปิริตว่าจริงใจเช่นกัน  ทำเอาเราพี่น้องต่างมองหน้ากัน
กับผู้ชายตัวใหญ่สองคนที่ดูเอาจริงเอาจังเสียเหลือเกิน

“นี่พวกคุณ  จะอะไรกับไอ้สองคนพี่น้องนี้กันนักกันหนา
มันมีอะไรที่ทำให้พวกคุณพากันมองข้ามของสวยๆ  งามๆ
มาชอบมันกัน  งงไปหมดแล้วฉัน  บทจะหาเขยก็หากันมาถึงสอง
 เอ้า!  ว่ามาตาน้ำ!  แม่จะเป็นลมแล้วเนี่ย”
คุณหญิงหน้านิ่วคิ้วขมวดสองมือบีบนวดขมับไปมา  โคลงศีรษะไปด้วย

“เบนซินกับน้ำ  เราคบกันตั้งแต่สมัยเรียน  เพิ่งจะห่างๆ  กันไปเมื่อ 4 ปีกว่าๆ
ได้ครับ  น้ำ…รักเบนครับแม่”  พี่น้ำพูดเสียงหนักแน่นจริงจังไม่แพ้แฟนหนุ่ม
ตรงหน้าที่หน้าชื่นขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน

“พวกแกสองพี่น้องอยากจะเป็นขี้ปากชาวบ้าน  อยากจะทำอะไรก็ทำกันไป
ฉันมันตัวคนเดียว  หัวเดียวหรือจะสู้พวกแกได้!  ที่รวมหัวกัน 
ถ้าแกคิดว่าแกจะทนกระแสวิพากษ์วิจารณ์  เสียงดูถูก!  ดูแคลน!
ทั้งสายตาของพวกเหยียดหยาม!  เหยียดเพศ!  แกรับกันได้ไหมล่ะ
ถ้าพวกแกรับได้ไม่แคร์ไม่ใส่ใจ  แกก็คบกันไป”
เช้านี้คุณแม่ดูเนือยๆ ไม่ยินดียินร้ายสักเท่าไหร่  ทั้งที่ก่อนหน้านี้เรื่องของฟ้า
ท่านต่อต้านจนน้องชายต้องร้องไห้ตาบวมไปหลายวัน
น่านน้ำลอบมองสภาวะทางอารมณ์ของคุณหญิงแม่ไปพลางๆ
แอบพอใจไม่น้อยที่ไม่ถูกต่อต้านอย่างคู่น้องชาย

“ชีวิตเป็นของพวกแก  น้ำ…ฟ้า  ถ้าว่าเลือกแล้ว  ก็ต้องพากันเดินไปข้างหน้า
ดูแลกันให้ดีไม่ใช่นิดหน่อยก็ลงไม้ลงมือกัน  หึง  หวง  ฆ่าแกงกัน
จะเป็นอะไรก็เป็น  ขอแค่อย่าทำใครเดือดร้อนก็พอ”
คุณพ่อพูดเสียงเรียบๆ ในแบบของท่าน  สองพี่น้องกราบขอบคุณที่อย่างน้อย
พอวันนี้มาถึงจริงๆ ท่านทั้งสองก็ไม่พยายามที่จะต่อต้านทั้งสองอีกแล้ว
สองหนุ่มที่อาจหาญเข้าถ้ำเสือก็หน้าชื่นกันไปตามๆ กัน  ที่ไม่ถูกท่านทั้งสอง
ไล่ตะเพิดออกจากบ้านตั้งแต่เห็นหน้าพวกเขา


คุณหญิงศศิคิดว่า  อย่างน้อยๆ สองหนุ่มที่กล้าเข้ามาต่อกรก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่
ทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ  เรียกได้ว่าเงินต่อเงิน
ท่านไม่ต้องถูกสูบเลือดสูบเนื้อก็เป็นอันพอแล้ว

“ดีนะที่ตาน้ำมีทายาทให้ไว้คนนึงแล้ว  ไม่งั้นก็สูญสิ้นกันพอดีวงศ์ตระกูล
จริงไหมคุณ?” คุณแม่พูดขึ้นแล้วพยักพเยิดให้คุณพ่อเป็นลูกคู่
น่านน้ำสะดุ้งแบบมีชนักติดหลัง  รวมถึงขอบฟ้าด้วยที่ทำท่าน
ไม่ได้หลาน  เจ้าตัวหน้าสลดไปเล็กน้อย

“แล้วก็ไม่ต้องพากันสร้างข่าว  สร้างกระแส  ทำจ๊ะจ๋าออกสื่อกันนักล่ะ!
ฉันไม่อยากดังไปกับพวกแกสักเท่าไหร่หรอกนะ
ที่ได้ลูกเขยแทนลูกสะใภ้น่ะ”  คุณแม่สำทับมาอีกรอบ
ทำเอาลูกชายสองคนสะดุ้งอีก  ท่านรู้ได้ไงว่าสองคนนั้นมาเป็นเขย
ตายๆ กันชีวิตคนหล่อพังหมด  ขอบฟ้าคนหล่อหน้าเหรอหรา

“ผมจะรักและดูแลน่านน้ำและลูกให้ดีครับคุณแม่  คุณพ่อ”
ว่าที่เขยคนโตพูดขึ้น  คุณหญิงหันขวับมาค้อน  แต่คุณพ่อแค่พยักหน้ารับ

“ส่วนน้องฟ้า  คือชีวิต… คือรักแรก… รักเดียว  ที่ผมตามหามาสิบกว่าปี
ผมจะดูแลให้ดีที่สุดเช่นกันครับ”
พี่ภูพูดขึ้นทำเอาขอบฟ้าซึ้งใจสุดๆ ตามไปด้วย  คุณหญิงแม่ก็ยังหน้าตึงๆ
ใส่ภูดิศไม่หายอยู่ดี  ท่ามากอย่างเคยภูดิศคิด

“บ้านช่องก็มีอยู่ที่นี่  อย่าลืมกันเสียล่ะ  ถ้าทิ้งบ้านทิ้งช่องกันบ่อยๆ
ฉันจะบอกขายมันทอดตลาด”  แล้วคุณแม่ก็จิกมาอีก
ขอบฟ้าที่เพิ่งไปค้างบ้านพี่ภูมาก็สะดุ้ง  พี่น้ำเอื้อมมือจับมือน้องมาบีบ
พี่น้ำก็ไม่ได้นอนบ้านเหมือนกัน

“ไปๆ จะไปไหนทำอะไรก็ไปกันไป” คุณพ่อออกปากให้แยกย้าย
วันนี้เป็นเช้าวันหยุดอีกวันซึ่งไม่ต้องไปทำงาน


“ฟ้า วันนี้วินวินจะอยู่กับพี่ทั้งวัน  เราจะพาลูกไปข้างนอกกันน่ะ”
 ขอบฟ้าพยักหน้า  รับรู้ว่าวันนี้ฟรีสไตล์สำหรับเขาอีกวันแล้ว

“น้องฟ้าไปช่วยพี่เลือกของจัดสวนต่อไหมครับ
 หรือว่าวันนี้จะพักครับ” พี่ภูถาม ขอบฟ้าคิดก่อน แล้วจึงพูด

“ไปเลือกของครึ่งวัน  ไปดูร้านกาแฟต่ออีกครึ่งวันน่าจะดี”
คนตัวโตหน้ามุ่ยเขาอยากอยู่ด้วยกันกับขอบฟ้าทั้งวันนั่นแหละ
แต่เจ้าตัวทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เสียได้

“คืนนี้ไปค้างกับพี่นะครับ  คิดถึง  อยากนอนกอดมากๆ เลย”
 พี่ภูอ้อนอีกแล้ว  ตาวาวๆนี่  ไว้ใจไม่ค่อยได้

“คืนก่อนเพิ่งไปมา  คุณแม่ก็เพิ่งจิกๆ มาเนี้ยพี่ภู  คิดถึงอะไรกันบ่อยๆ ครับ”
ขอบฟ้าติงคนตัวโตไป
“ก็เรายังไม่ได้เข้าหอกันเลยนะครับ  เดี๋ยวพี่จะแพ้คู่พี่เมศกับคู่น้ำเขานะ
มีลูกไม่ทันใช้กันพอดี”
“พี่ภูบ้า  พูดจาน่าเกลียด  ใครจะไปยอมพี่กันล่ะ”
ขอบฟ้าอ้อมแอ้มพูดไม่เต็มเสียงนัก


สุดท้ายวันนี้ทั้งวันคนตัวโตก็ตามเหมือนเป็นเงาตามตัว
ไปทางไหนหันมาก็เจอ  ร้านก็ไม่ได้เข้าไปดู
แถมยังต้องไปขลุกอยู่ด้วยกันทั้งวัน  พอเย็นก็ไม่ปล่อยกลับอ้างไปสารพัดสารพัน

“อาฟ้าขา มาอยู่กับหนูรินกับพ่อภูเถอะนะคะ”
เด็กน้อยอ้อนไม่รู้ว่าถูกคุณพ่อยัดสินบนหรือเปล่า
อาจจะเมนูอร่อยหรือของเล่นที่อยากได้  เจ้าแผนการอยู่แล้วรายนั้น

“มาได้เป็นบางวันนะคะ  คุณปู่  คุณย่า  บ้านนู้นไม่มีเพื่อน
 ถ้าอาฟ้ามาอยู่นี่  ท่านต้องคิดถึงลูกมากๆ แน่เลย”
ขอบฟ้าใช้คำที่หนูรินเคยใช้ เด็กน้อยตาโต

“จริงด้วยค่ะ  ต้องไปบอกพ่อภูว่ามาได้เป็นบางวัน”
 นั่นไงตัวพ่อนี่เองวางแผน  ขอบฟ้าตาลุก

“แล้วต้องบอกพ่อภูด้วยว่าถ้าพ่อภูดื้อ  อาฟ้าจะไม่มาค้าง
1 เดือน ดีไหมคะ” หนูน้อยทำหน้าสงสัย

“นานมากแน่เลยใช่ไหม 1 เดือน” เด็กหญิงพึมพำงึมงำ

“ไปอาบน้ำ  แล้วอาฟ้าจะอ่านนิทานให้ฟังนะคะ”
หนูน้อยรีบวิ่งตุบตับไปหาพี่เลี้ยง

“พี่ภูไม่ต้องแอบเลย  รู้นะ  ฟังอยู่  ดื้อจริงๆ เลย”
พี่ภูเดินมาแล้วคว้าตัวคนตัวบางล้มไปบนเตียงด้วยกัน
จับฟัดแก้มซ้ายขวาก็ปล่อยตัว

“เก่งจริงๆ เลยคนนี้  มาๆ ให้รางวัลอีกสองฟอด”
แล้วก็จับไปฟัดแก้มอีก  ตอดเล็กตอดน้อยก็เอาคนเจ้าเล่ห์

“พี่ภู  ฟ้าจะถามหลายวันแล้ว  ก็ลืมๆทุกที  อยากรู้ว่าเข้าลิฟต์ยังมีอาการ
อึดอัดแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกอีกไหมครับ” พี่ภูขมวดคิ้วพลางคิดตาม แล้วจึงเอ่ย

“ไม่แล้วนะครับ  คงเป็นเพราะพี่คิดว่าเดี๋ยวก็จะได้ออกมา 
อีกอย่างรู้ว่าน้องฟ้าเป็นห่วงพี่  ถ้าเลี่ยงได้พี่ก็เลี่ยงน่ะครับ”

“เก่งขึ้นเยอะเลยครับ  มาฟ้าให้รางวัล”
ขอบฟ้าจูบหน้าผากพี่ภูไปทีนึง

ภูดิศได้ยินฝีเท้าเดินใกล้เข้ามาจึงหันไปมอง
เห็นเป็นหนูรินเยี่ยมหน้าเข้ามามองเขาสองคน
ชายหนุ่มจึงดีดตัวลุกขึ้น  แล้วจับจูงคนตัวเล็กพากันเดินเข้าไปหาลูกสาว
ทำหน้าที่คุณพ่อที่ดีก่อนแล้วกัน  ส่งลูกเข้านอนเหมือนทุกที
ลูกหลับเมื่อไหร่นั่นแหละถึงจะเป็นคิวส่งคนรักเข้านอนบ้าง
แม้จะรู้ว่าต้องผ่านช่วงเวลายากลำบากเหมือนทุกครั้งที่ต้องอดทนอดกลั้น
ไม่ให้จับคนรักปล้ำไปเสียก่อน  แต่ก็เป็นความสุขที่ภูดิศใฝ่ฝันที่จะได้เข้านอนพร้อมกัน
และตื่นนอนมาในตอนเช้าโดยมีคนตัวเล็กนี้อยู่ข้างกายกันไปอย่างนี้
แค่เพียงนึกรอยยิ้มละไมก็ผุดขึ้นบนใบหน้าคุณพ่อลูกหนึ่งแล้ว





ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ตอนที่ 30 ครอบครัวน่านน้ำ

เบนซินพาน่านน้ำกับวินวินมาที่บ้านพักตากอากาศที่เขาซื้อไว้เกือบปีแล้ว
เพราะการที่ต้องวนเวียนเฝ้าติดตามใครบางคนที่อยู่กันคนละซีกของประเทศ
เขาอยู่ใต้  อีกคนอยู่กรุงเทพฯ  จึงต้องซื้อไว้เป็นกรรมสิทธิ์
และตั้งใจว่าจะโอนให้ลูกในอนาคตอันใกล้นี้

“บ้านพ่อเบนมีปลาคราฟตัวใหญ่มากๆ มาดูๆ เยอะแยะ!
 เต็มไปหมดเลย!” หนูน้อยตื่นเต้นดีใจตามประสา

“แล้ววินวินชอบที่นี่หรือเปล่า ครับลูก”
เบนซินถามออกไป เด็กน้อยทำตาโตพยักหน้ารัวๆ

“ชอบมากๆ เลยครับ  พ่อน้ำก็ชอบปลาคราฟเหมือนวินวินเลยนะ”
หนูน้อยรู้เพราะพ่อน้ำมักจะชวนไปให้อาหารปลาออกบ่อยที่พ่อว่าง

“พ่อน้ำเค้าชอบมาตั้งนานแล้วล่ะ  ตั้งแต่พ่อน้ำเพิ่งรู้จักกับพ่อเบน
นู้น! พ่อเบนถึงเลี้ยงไว้ให้ไงครับ”

“พ่อเบนใจดี  เลี้ยงปลาไว้ให้พ่อน้ำด้วย” หนูน้อยยิ้ม  มองหน้าคนใจดี
 เบนซินจึงยีหัวลูกที่เป็นลอนฟูไปกว่าเดิมอีก  แล้วน่านน้ำก็เดินออกมาจากในครัว

“สองพ่อลูกหิวกันหรือยัง  สปาเก็ตตี้ทะเลเสร็จแล้วนะครับ  ทานเลยไหมกำลังร้อน”

“ไปทานกันครับลูก  พ่อน้ำทำอร่อยที่หนึ่งเลยนะ”
เบนซินชมคนตัวขาวที่นานมาแล้วเคยทำให้เขากิน

“หากมีเวลาก็พอทำให้ทานกันได้  ไปกันเถอะอย่าช้า”
แล้วสามคนพ่อลูกก็นั่งทานอาหารค่ำด้วยกัน
ตบท้ายด้วยเค้กที่เอามาจากร้านของขอบฟ้า

“หร่อยสุดๆ ไปแล้ว  พ่อน้ำทำให้กินอีกนะฮะ”
 หนูน้อยชม  และร้องอยากทานอีก

“ได้สิ! ไว้พ่อน้ำว่างจะทำให้ทานอีกนะครับ”  เด็กน้อยยิ้ม ปากยังเปื้อนเค้กอยู่
 เบนซินจึงคว้าทิชชูมาเช็ดปากให้ลูก

หลังจากนั้นก็ย้ายไปนั่งกันที่ห้องนั่งเล่น  ซึ่งมีชุดโซฟาอย่างนุ่มและทีวีจอใหญ่
เบนซินเปิดแผ่นการ์ตูนที่เพิ่งไปเลือกซื้อกับน่านน้ำให้ลูกดู
หนูน้อยสนอกสนใจเป็นพิเศษเพราะเป็นการ์ตูนเรื่องยาวที่เจ้าตัวโปรดปราน
เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  ดูไปไม่ทันจบเรื่องก็คอพับคออ่อน
“เบนลูกจะหลับแล้ว  ไปส่งน้ำกับลูกที่บ้านก่อนเถอะ”  เบนซินส่ายหน้า

“พรุ่งนี้วันหยุด  ลูกไม่ต้องไปเรียน  ค้างที่นี่เถอะนะ  เบนเตรียมห้องนอนให้ลูกแล้ว
 ข้าวของก็ให้ลูกน้องไปซื้อหามาไว้  ครบทุกอย่าง  ขาดแค่คนที่จะมาอยู่แค่นั้นเอง
 ค้างเถอะนะ…เบนคิดถึงทั้งน้ำและลูก…นะครับ  พรุ่งนี้น้ำก็หยุดงานด้วย”
คนหน้าคมอ้อนคนตัวบางตรงหน้า

“เบน  คุณแม่จะขายบ้านทอดตลาดเอานะ  ทั้งลูกและหลานพากันไปค้าง
ที่อื่นกันหมดแบบนี้” น่านน้ำบอกเหตุผลที่ต้องกลับไปนอนบ้านให้คนรักฟัง

“น้ำครับ  บ้านเราก็มี  ถ้าคุณแม่ขายบ้านก็ดีสิ…เข้าทางเลยละ
 เราก็จะได้อยู่ด้วยกันบ้านนี้เลยไง  ลูกก็ชอบมากด้วย”
 เบนซินพูดหน้าระรื่นจนน่านน้ำอยากจะบิดให้เนื้อเขียว

“ก็ได้ๆ ห้ามทำอะไรรุ่มร่ามให้ลูกเห็นด้วยนะ  บอกไว้ก่อน
เบนอุ้มลูกไปที่ห้องสิ  เดี๋ยวน้ำเช็ดตัวให้ลูกก่อน  จะได้นอนสบายขึ้น
ซักแห้งไปก่อนแล้วกันนะ  หลับสบายแบบนี้  ปลุกไปอาบน้ำมีงอแงแน่ๆ”
แล้วเบนซินก็จัดการลูกตามที่น่านน้ำบอก  และพาไปนอนลงบนเตียงเด็กที่เพิ่งสั่งซื้อเข้ามา

“น้ำนอนห้องโน้นนะครับ  มีประตูเชื่อมเปิดถึงกัน  เราก็ไม่ต้องปิดหรอก
รอให้ลูกคุ้นชินก่อนค่อยปิดละกัน” เบนซินบอกคนตัวเล็กให้รู้

“เบนไปอาบน้ำก่อนเลย  เดี๋ยวน้ำเช็ดตัวให้ลูกก่อน”
เบนซินจึงเลี่ยงไปอย่างว่าง่า ย น่านน้ำมองตามแผ่นหลังกว้างของคนตัวสูง
ที่เคยหันหลังให้กันในวันวาน  และไม่คิดว่าจะมีวันนี้อีกครั้งที่ได้มาอยู่ด้วยกัน
ไม่ว่าเวลาเปลี่ยนไปนานแค่ไหน  ใจเขาไม่เคยหมดรักผู้ชายคนนี้เลยสักที
แม้จะเคยทำให้เจ็บช้ำมากมายจนสุดจะทน ก็ยังรักไม่เปลี่ยน

“น้ำครับ  ไปอาบน้ำได้แล้ว  มาแอบหลับกับลูกนี่เอง  มาเบนอุ้มนะ”
แล้วเบนซินก็อุ้มน่านน้ำลอยวืดขึ้นจากเตียงลูก ก็เบนซินตัวก็ทั้งหนาและใหญ่
ส่วนเขาจึงดูตัวเล็กไปถนัดตา กลัวตกจึงโอบแขนไปที่คอคนอุ้ม  กลิ่นกายที่คุ้นเคย
คางแหลมๆ ที่มีไรหนวดขึ้นเขียว
มองเพลินจนถูกวางลงบนเตียงนอนกว้างที่ขาวสะอาดน่านอนนี้
แล้วก็ถูกปากจมูกซุกซนซอกซอนตามลำคอไล่ลงมาที่อก
เสื้อเชิ้ตถูกเลิกขึ้นและหลุดร่วงไปกองที่ไหล่แล้ว

“อ่ะ! เบน  ไหนบอกจะไม่รังแกน้ำไง  แล้วก็บอกจะให้น้ำพร้อมก่อนไงล่ะ”
น่านน้ำร้องประท้วงที่ถูกปากกับจมูกรุกราน
“นิดนึงนะครับ…ตัวหอม อย่าต่อต้านเบนเลยนะ…คนดี”
แล้วเสื้อก็หลุดออกไปจากตัว  น่านน้ำถูกตะโบมจูบหนักเบาสลับกันไปทั้งเนื้อทั้งตัว
จนอ่อนปวกเปียกในอ้อมอก แล้วเบนซินก็หยุดตัวเองลง

“ไปอาบน้ำได้แล้วครับ  หรือจะให้เบนต่อให้จบดีนะ”  เบนซินพูดจบ น่านน้ำผวาเฮือก
ดีดตัวลงจากเตียงคว้าผ้าขนหนูที่วางไว้ให้ หนีเข้าห้องน้ำไป

“หึหึ  อย่าช้านักนะ” เบนซินหัวเราะไล่หลังไป  น่านน้ำปิดประตูได้ก็ยืนหอบ
เอนหลังพิงบานประตู  มองไปที่กระจกเห็นคนตัวแดงหน้าแดง ยืนมองอยู่
รีบก้าวเท้าไปใต้ฝักบัว  เปิดน้ำรดหัว  ให้หัวเย็นลง  และให้ความร้อนรุ่มบรรเทาลง
เขารู้ว่าเรื่องแบบนี้หนีกันไม่พ้นยิ่งของมันเคยๆ กันมาก่อน  แต่มันติดที่เขาร้างรามานาน
แล้วนี่สิ  เอาน่ะ! ใจเย็นๆ แล้วก็อาบน้ำสระผมไปจนเสร็จ  เดินเช็ดผมออกไปจากห้องน้ำ
โดยสวมเสื้อคลุมอาบน้ำและ  รัดสายผูกเอวเสียคอดกิ่ว

“มาเบนเช็ดผมให้นะ  จะได้นอนกัน  มีไดร์เป่านะ  รอแป๊บ”
แล้วเบนซินก็ต่อปลั๊ก  น่านน้ำนั่งให้คนตัวสูงเป่าผมให้จนแห้ง
แล้วเบนก็เก็บอุปกรณ์  เดินไปปิดไฟดวงกลาง  เปิดโคมเล็กแทน
แล้วกลับมาดันให้คนตัวเล็กนอนลง

“เบน  น้ำไปใส่ชุดนอนก่อน  เดี๋ยวมา”
น่านน้ำขยับจะลุกไปแต่โดนดันตัวให้ลงกับที่นอน

“ใส่ทำไมครับ  เดี๋ยวก็ต้องถอดแล้ว  น้ำอย่าใจร้ายนักเลยนะ  เบนคิดถึง”
แล้วน่านน้ำก็โดนจู่โจมทั้งด้านบนด้านล่างเมื่อเสื้อคลุมหลุดออกจากตัว
น่านน้ำหลังแทบไม่ติดที่นอน  เพราะความเสียวซ่าน  และอุ่นซ่านจากลิ้นร้อน
ที่ครอบครองขบเม้มไม่มีพื้นที่ว่างตรงไหนที่เบนซินจะไม่สำรวจตรวจตรา

“หอม…หวานไปทั้งตัวเลยครับ…ที่รัก เป็นของเบนนะครับ…คนดี”
แล้วชั้นเชิงของเสือร้ายก็ตะปบเหยื่อกินไม่เหลือซาก

“อ่ะ…อ่า… เบน  น้ำเสียว อ่ะ… ตรงนั้น  แรงอีก อ่าห์”
คนตัวโตกระแทกกระทั้น  หนักบ้างเบาบ้าง  ตามแต่คนใต้ร่างจะร้องขอ
น้ำของเขาร้อนแรงไม่เคยเปลี่ยน  เบนซินจูบปิดปากบาง
ดูดดุนเล้าโลมเรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันไม่มีใครยอมใคร

“น้ำ  อ่าห์ อืมมม… ช่างดีอะไรอย่างนี้ น่ารักมากเลยนะ…คนดี”
 แล้วคนด้านบนก็เร่งจังหวะเมื่อแผ่นหลังถูกคนตัวเล็กลากเล็บขูดเป็นแนวยาว
และฝังรอยไว้จนแสบ  ยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้เขามากขึ้นไปอีกทวีคูณ

“เบน…แรงอีก  อ่ะ  น้ำไม่ไหว เบน อาห์”
ทั้งสองร่างกระตุกเกร็งในเวลาไล่เลี่ยกัน  เบนจูบซับเหงื่อที่ผุดขึ้นข้างขมับให้คนใต้ร่าง
ประกบจูบอ้อยอิ่งและแสนหวาน  ก่อนจะทอดตัวนอนลง  โดยไม่ลืมที่จะดึงคนตัวเล็ก
ให้มานอนซบที่อกทั้งที่ร่างกายเปล่าเปลือยด้วยกันทั้งคู่

“รักน้ำ…นะครับ  ขอบคุณที่ให้ความสุข  และยอมเป็นของกันและกัน…อีกครั้ง”
เสียงของเบนที่กระซิบพูดอยู่ที่เหนือศีรษะนุ่มทุ้มจนคนฟังใจจะละลาย

“รักเบน…เหมือนกัน  อย่าทิ้งน้ำอีกนะ”
น่านน้ำพูดขึ้น  อย่างคนที่มีปม ที่เคยถูกทิ้งมาก่อน

“น้ำกับลูก…คือชีวิตของเบนครับ”
แล้วก็ตระกองกอดกันและหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน



“เบนซิน! อยู่ไหน  งานการไม่กลับไปทำ  มัวมาทำอะไรอยู่ที่นี่  โทรศัพท์ก็ไม่รับ
 อาท! นายแกไปไหน ไปตามมา  ฉันเรียกเสียงดังขนาดนี้  มันยังไม่โผล่หัวมาอีก”
อาทมือขวาของเบนซิน  ตะลีตะลานออกมารับหน้านายใหญ่แทบไม่ทัน

“นายใหญ่!!! นั่งรอที่ห้องนั่งเล่นสักครู่นะครับ  เดี๋ยวผมไปตามนายเบนก่อน
คงนอนอยู่ด้านบน” แล้วอาทก็วิ่งขึ้นไปเคาะห้องนาย
สักพักเบนซินก็เดินหัวยุ่งมาเปิดประตู  เสื้อก็ไม่สวม  ตามตัวมีแต่รอยข่วน
`โธ่นายไปขืนใจคุณน้ำเสียได้`

“มีอะไร  อาท  ยังเช้ามืดอยู่เลย  มาเรียกทำไม  นี่ถ้าทำลูกฉันตื่น
แกตายแน่!!!”  เบนซินชี้หน้าลูกน้องคนสนิท
`ถ้านายไม่ตื่นสิ! ไม่นายก็ไอ้อาทนี่แหละที่จะตาย! เสียงนายใหญ่ดังอย่างกับฟ้าผ่าขนาดนั้น`

“นายใหญ่มาครับ  อยู่ที่ห้องนั่งเล่น” ชายหนุ่มเบิ่งตาโต
แล้วก็รีบผละลงไปข้างล่างในทันที  ไม่หันมามองไอ้อาทเสียหน่อยเลย
`อูยยย  หลังหรือนั่น  รอยเล็บลากยาว  คงแสบน่า ดู ถ้าไม่ได้ข่มเหงคุณน้ำ
 ก็คงเจอความร้อนแรงมาแน่ๆ` อาทมองแผ่นหลังและคิดตามภาพที่เห็น

“ยังไง  ไอ้ตัวดี  มากบดานอยู่นี่เอง  งานการไม่กลับไปทำ
งานหมั้นจัดไว้ให้ก็หนี  แกจะเอายังไง  จะฉีกหน้าฉันไปถึงไหน
 งานแล้วที่แกทำพังและล้มไม่เป็นท่า  แล้วเมื่อไหร่ฉันจะมีหลานอุ้มกับเขาสักที
แกนี่มันไม่ได้เรื่อง  ให้หาเองก็ไม่หา  หาให้ก็ไม่เอา  แกว่ามาเลย  จะเอายังไงห๊ะ!!
 ไอ้เบน!!!”  พ่อโมโห ด่าลูกชายปาวๆ
ไม่มีลดระดับเสียง ยิ่งลูกชายไม่พูดเขายิ่งเดือด

“พ่อครับ…เบาเสียงหน่อยครับ  ยังไม่สว่างเลย  ทำเสียงดังไปได้
ผมก็ลงมาหาแล้ว…นี่ไงครับ” เบนซินเสียงอ่อน

“ทำไม!  ทำไมฉันต้องฟังแกด้วยห๊ะ!  ไอ้เบน!”
พ่อเสียงดังกว่าเดิมอีก จนเบนซินต้องพูดออกมา

“พ่อ  ผมบอกว่าอย่าเสียงดังไงล่ะ  เดี๋ยวลูกผมตื่นกันพอดี…โธ่ๆ”

“ห๊ะ!!! ไอ้เบน! ไหนๆ หลานฉัน  แกอย่ามาพูดจาพล่อยๆ ฉันไม่เชื่อแก!”
พ่อยังไม่มีทีท่าจะเบาเสียงลงเลย

“พ่อเบน… ทำไมเสียงดัง… วินวิน…นอน ไม่ หลับ”
แล้วหนูน้อยก็เดินสะลึมสะลือลงบันไดมา  เบนซินเห็นอย่างนั้นวิ่งพรวดเดียว
ไปถึงตัวลูก  ก่อนที่เจ้าตัวจะง่วงขี้ตาก้าวพลาดตกบันไดมาเสียก่อน
แล้วก็อุ้มหนูน้อยขึ้นมาซบที่บ่า  ลูบหลังให้เบาๆ พาเดินลงบันไดมา
หนูน้อยก็หลับคาบ่าไปอีกรอบ

“นี่  แกๆ มีลูกโตขนาดนี้แล้วจริงๆ  เหรอ  ไอ้ๆ  เบน
ไม่ใช่ไปอุปโลกน์เอาลูกใครมานะ”
ชายสูงอายุพูดละล่ำละลักพูดแถมตะกุกตะกักด้วยเสียงเบาแทบกระซิบ
กลัวเด็กที่เจ้าลูกตัวดีอุ้มอยู่จะตื่นขึ้นมาอีก

“อะไรเล่าพ่อ  ก็ใช่ไงนี่น่ะลูกผม  แล้วนี่พ่อก็เพิ่งทำน้องวินวินตื่นด้วย
ถ้ายังไม่เบาเสียงนะ  มีหวังเมียผมได้ตื่นอีกคน” เบนซินบ่นอุบอิบ

“นี่ๆ แกๆ พูดเรื่องจริงเหรอ  ที่แกบ่ายเบี่ยงหนีการดูตัว
หนีการหมั้นหมายเพราะมีลูกมีเมียแอบซ่อนอย่างงั้นเหรอวะ”
พ่อกระซิบกระซาบถาม  ดูตลกทั้งนายใหญ่ทั้งลูกชาย
อาทได้แต่แอบสังเกตการณ์ห่างๆ

“ผมไม่ได้แอบ…ไม่ได้ซ่อน  แต่ตามง้อเขา  กว่าจะได้คืนดีกัน
เลือดตาแทบกระเด็นพ่อรู้บ้างไหม”

“เออๆ  เอาหลานฉันนอนลงดีๆ เลย  ขอดูหน้าสักหน่อยสิ”
คนจะได้เป็นปู่เก็บอาการไม่อยู่

“พ่อ  ดูเฉยๆนะ  ห้ามทำตื่นอีกล่ะ” เบนซินกำชับพ่ออีกที

“โอยๆ นี่ๆ ฉันมีหลานโตขนาดนี้แล้วเหรอวะ เบน
หน้าตาไม่ผิดไปจากแกเลยจริงๆ ดูๆ ผมนี่มันของเอ็งเลยนะไอ้เบน
ช่างน่ารักจริงๆ แต่ขาวมากๆ ไม่เหมือนแกเลยว่ะ…หลานปู่”
ปู่นั่งลูบคลำหลานไม่ห่าง  หน้าตาเปี่ยมไปด้วยความสุขเป็นล้นพ้น

“ถ้าง้องอนกันสำเร็จแล้ว  ก็พากันกลับบ้านกลับช่องเราสิวะ”

“มันไม่ง่ายอย่างงั้นสิพ่อ” 
แล้วเบนซินก็เล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบให้ผู้เป็นพ่อฟัง
สีหน้าของท่านมีหลากหลายอารมณ์เอามากๆทั้งแดงสลับมาขาวซีดไปเรื่อย
จนสุดท้ายก็นั่งเงียบไป  คนเป็นพ่อไม่รู้มาก่อนเลยว่าไอ้การทีมองว่าลูกชาย
ไม่เอาไหน  เรื่องที่ท่านหาคู่ให้เพราะว่ามันมีคนรักอยู่ก่อนแล้ว  และที่สำคัญมันไม่ได้ชอบผู้หญิง

“พ่อ… อย่าบังคับผมเลย…นะครับ  ถ้าไม่เพราะน้ำที่ผมรัก
ผมจะตามหาจนได้น้ำคืนมา  แล้วได้ลูกด้วยอีกคนเหรอครับ…นะพ่อนะ
ไหนๆ ก็มีหลานสมใจพ่อแล้ว  ก็อย่าห้ามผมเลย
นี่แม่ยายผมก็รังเกียจผมไปแล้วคนนึง  พ่อยังจะเป็นอีกคนหรือไงกัน”
เบนซินใช้ไม้ตายลูกอ้อน ให้พ่อเห็นใจ

“เออๆ ตามแต่แกแล้วกัน  ฉันไม่ห้ามก็ได้  แต่ก็ให้ฉันได้ทำใจกันก่อนสิวะ
 แกน่ะเล่นหาสะใภ้เป็นชายให้ฉัน  แล้วนี่เมื่อไหร่หลานฉันจะตื่นสักทีวะ”
ปู่นั่งมองหลานไม่วางตา
“ก็สายๆหน่อยสิพ่อ  วันนี้วันหยุด  ลูกไม่ต้องรีบตื่นไปโรงเรียน”
แล้วปู่ก็พยักหน้านั่งมองหน้าหลานชายที่มีอย่างไม่ทันคาดคิดมาก่อนแบบนี้
เบนซินค่อยเบาใจที่พ่อไม่กดดันเขาอีก  ความสุขของเขาที่ห่างหายไป
คงได้คืนกลับมาเสียทีก็คราวนี้แล้ว








ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ภูรักฟ้า ตอนที่ 31 เรื่องดีๆ
«ตอบ #54 เมื่อ20-12-2018 13:36:48 »

ตอนที่ 31 เรื่องดีๆ

น่านน้ำตื่นมารู้สึกไม่ค่อยสบายตัวสักเท่าไหร่  ก็ผลจากการรับศึกหนักเมื่อคืนน่ะเอง
กลางดึกกลางดื่นก็ไม่เว้น  ไอ้คนบ้ากามนั่น  เล่นเอาปวดเนื้อปวดตัวไปหมด
ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ลงมาด้านล่างได้ยินเสียงเล่นของลูก

“ตื่นแล้วเหรอน้ำ  มารู้จักพ่อของเบนก่อนสิ”
เบนซินเข้ามาจูงน่านน้ำให้เดินเข้าไปยืนตรงหน้าชายสูงวัย
ผิวเข้ม  แต่งตัวดูดี  หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับเบนซินเอามากๆ

“นี่ครับพ่อ  น่านน้ำคนรักของผม  ที่เล่าให้พ่อฟังน่ะ”

“สวัสดีครับ  คุณพ่อ  มานานแล้วเหรอครับ”

“มาก่อนรุ่งสางน่ะ  หน้าตาน่าเอ็นดู  นึกยังไงมาชอบไอ้เถื่อนนี่ได้ล่ะ”

“พ่อครับ  ถามอะไรแบบนั้นล่ะ  ผมนี่แหละที่ไปตามจีบตามตื้อเขาตั้งแต่สมัยเรียน
 กว่าเขาจะใจอ่อนยอมคบกับผมได้  ผมกับน้ำต้องฝ่าฟันอุปสรรคกันมามากมายซะเหลือเกิน”

“พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร  แค่ถามไปงั้นเอง  ไปๆ หาข้าวกินกัน
ไปร้านใกล้ๆ นี่ก็ได้  ขืนช้าละก็หลานฉันหิวตายพอดี”

“คุณปู่ครับ  ไม่เล่นกับวินวินแล้วเหรอ”  เด็กน้อยวิ่งมาเขย่าแขนปู่

“เราไปหาข้าวเช้าทานกันก่อน  นะครับ  ค่อยมาเล่นนะ  เบนไปแต่งตัว
หาเสื้อใส่สิ  จะไปแบบนี้หรือไง  น่าเกลียด” 
น่านน้ำพูดกับลูกแล้วก็หันไปทำตาเขียวใส่เบนซิน
ก็เพราะตามเนื้อตัวมีแต่รอยเล็บที่เขาจิกลากเป็นทางยาว
ยังจะกล้าออกมาโชว์  จะให้เขาขายหน้าหรือไง  เบนซินก้มมองตัวเองแล้วก็รีบวิ่งขึ้นห้องไป
พ่อมองตามลูกชายที่ดูว่านอนสอนง่ายเสียเหลือเกิน  เสือสิ้นลายแล้วละมั้ง


คุณปู่ดูจะติดหลานแจ  คอยตักนู้นนี่ให้วินวินไม่หยุด  หนูน้อยก็กินไปเล่นของเล่น
ที่คว้าติดมือไปด้วยบนโต๊ะอาหาร  น่านน้ำมองอย่างไม่ค่อยถูกใจนัก
นึกอยากจะดุลูกแต่เบนซินมองออกจึงขอไว้ก่อน

“เล็กๆ น้อยๆ น่ะครับน้ำ  ค่อยๆ สอนกันนะ  ดูแกกับคุณพ่อสิ
เข้ากันได้ดีขนาดนี้ผมก็พลอยมีความสุขไปด้วย”
น่านน้ำพยักหน้าอย่างจำยอม

“แล้วเบนจะพาคุณพ่อไปที่บ้านน้ำจริงๆ เหรอ
ถ้าท่านคุยกันไม่เข้าใจจะทำยังไงกัน  แม่ของน้ำก็ออกจะแรงๆ อยู่นะ”

“พาไปให้รู้จักกัน  พ่อบอกอยากคุยด้วย  แล้วก็จะพูดเรื่องหลาน
ท่านไม่ได้จะมาแยกออกไป  แต่ท่านอยากจะได้ใกล้ชิดดูแลบ้างตามสมควร
ในตอนที่ท่านลงมาที่นี่น่ะ น้ำเข้าใจท่านนะครับ  อย่าขัดความสุขคนแก่เลยเนาะ”
“ก็ลองดูแล้วกัน  ถ้าเบนคิดว่าไม่น่าห่วงอะไร  ก็ตามนั้น” เบนซินยิ้มดีใจที่คนรักเข้าใจ

“อะไรกันคุณ  อยู่ๆ เดินเข้ามาบอกว่าวินวินเป็นหลานของคุณ
มันจะไม่มั่ว ไม่มักง่ายไปหน่อยหรือไง  นี่เจ้าวินวินน่ะมันหลานฉัน
ลูกตาน้ำกับยัยทราย  ถึงสองคนยังไม่ทันได้ตบแต่งกันก็คลอดลูกมาซะก่อน
เราก็ตั้งใจจะแต่งให้  นี่อะไรมาบอกว่าเป็นลูกนายเบนนั่น
น้ำๆ มาพูดให้แม่เข้าใจทีมันยังไงกัน” 

คุณหญิงศศินั่งไม่ติดแล้วลุกขึ้นเดินวนไปวนมา  ต่างกับคุณสรภพสามีที่นั่งฟังนิ่งๆ
และขอบฟ้าก็มองจ้องพี่ชายตาเขม็งเลย  น่านน้ำขยับตัวอย่างอึดอัด
เบนซินก็คว้ามือมาบีบให้กำลังใจ

“ก็ตามที่คุณพ่อของเบนบอกน่ะครับ  คือเรื่องจริง  น้องวินวินเป็นลูกของเบนกับทราย
เบนเค้าสืบรู้มาพักหนึ่งแล้ว  และมีผลตรวจดีเอ็นเอด้วย  น้ำเอ่อ!
ขอโทษที่ปกปิดความจริงในเรื่องนี้  น้ำรักลูกครับ
จนตอนนี้ก็ยังคิดว่าวินวินเป็นลูกของน้ำ  คุณพ่อคุณแม่อภัยให้น้ำด้วยเถอะ
ที่ทำอะไรโดยไม่ได้บอกให้ทราบ  คุณพ่อของเบนท่านแค่เพียงต้องการใกล้ชิด
ดูแลวินวินบ้าง  ในตอนที่ท่านลงมาหาที่กรุงเทพฯ ก็เท่านั้นเอง”

“พี่น้ำ  ฟ้ายังไงก็รักหลานไม่เปลี่ยน  ดีเสียอีกที่น้องวินวินจะมีคนมารักแกเพิ่ม
 นะครับ  คุณพ่อ  คุณแม่  ถือว่าเป็นเรื่องดีอีกเรื่องนึง  อย่าโกรธพี่น้ำเลยนะ”

“พ่อไม่ได้โกรธอะไรแกนะน้ำ  ถ้าจะโกรธก็ตรงที่ทำอะไรไม่บอกผู้ใหญ่เลยก็แค่นั้น
ยังไงวินวินก็เป็นหลานพ่ออยู่ดี  ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมอยู่แล้ว
จริงไหมคุณหญิง  ก็เห็นกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกแล้วนี่”

“เออ! ต่อไปนะแกสองคนพี่น้อง  แอบไปทำอะไรลับหลังแล้วให้ฉันกับพ่อแกมารู้ที่หลัง
จะไม่มีการอภัยให้อีกเด็ดขาด! คอยดู!”

“โธ่  แม่ครับ  น้ำกับฟ้าไม่กล้าแล้วละครับ  ต่อไปเราจะบอกคุณแม่ให้ทราบ
ทุกเรื่องเลยเอ้า! นะฟ้า”

“ครับคุณแม่  ฟ้าไม่กล้าแล้ว  เดี๋ยวฟ้าไปบอกนมอุ่นกับป้าวาดเตรียมตั้งโต๊ะ
 ทานมื้อเที่ยงกันดีกว่า  ถือว่าทานข้าวร่วมกันสักมื้อ  เป็นการกระชับมิตรนะครับคุณพ่อพี่เบน”

“อ้าว  เอ่อ  ได้ๆ ถ้าไม่เป็นการรบกวนทางคุณสรภพและคุณหญิงจนเกินไป”

“ก็ดีเหมือนกัน  กินกันไปคุยกันไปแล้วกันนะคุณสมมาตร”
คุณพ่อบอกกับพ่อพี่เบนแล้วยิ้มให้กัน  อย่างที่ขอบฟ้าบอกว่านี่แหละเรื่องดีๆ
อีกเรื่อง  แล้วคนตัวเล็กก็เดินออกไปดูแลเรื่องมื้อเที่ยง


ในระหว่างที่รับประทานอาหารกลางวันกันอยู่นั้น  แอนก็เดินเข้ามากระซิบกับน่านน้ำ
เจ้าตัวนั่งหน้าซีดเผือด  แล้วลุกขึ้นพรวด  จนเบนซินที่นั่งติดกันพลอยตกใจไปด้วย
จากสีหน้าของน้ำที่แสดงออกมาทำให้คุณพ่อถามน่านน้ำขึ้นก่อนคนอื่นๆ จะทันอ้าปากเสียอีก

“มีอะไรน้ำ  เป็นอะไร  ทำไมต้องกระซิบกระซาบกันด้วย  ว่าไงแอน  พูดมาสิ”

“เอ่อ  คือว่า  มีผู้หญิงคนหนึ่งมาขอพบคุณน้ำ  เธอบอกว่าเป็นแม่ของคุณทรายน่ะค่ะ
แต่แอนยังไม่ได้ให้เธอเข้ามาน ะ รออยู่ด้านนอก  นู้นค่ะ”

“อะไรกันอีก วันนี้  จะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ฉันอีก  แอนไปเชิญเธอเข้ามาไป
ให้รอที่ห้องรับแขกนะ  เดี๋ยวพวกเราทานกลางวันเสร็จจะออกไป
หาน้ำหาท่าให้เขาด้วย  แล้วมากันกี่คนล่ะแอน”
“เอ่อ  เธอมากับลูกสาวน่ะค่ะ  เห็นบอกแบบนั้น”
 คุณหญิงพยักหน้า แล้วโบกมือให้แอนออกไป

“คุณพ่อคุณแม่ครับ  ทรายเคยเล่าให้ฟัง  ว่าแม่ของเธอแต่งงานใหม่แล้วก็มีลูกอีกคน
แล้วทิ้งเธอไป  เธอโตมากับป้าที่เลี้ยงมาน่ะครับ  แล้วก็ไม่เคยได้ติดต่อกันอีกเลย
จนทรายบอกว่าจำหน้าแม่ไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ  น้ำกลัวว่าแม่ของเธอมาในครั้งนี้จะนำ
ความยุ่งยากมาให้เราครับ”

“ดี  รู้ข้อมูลแบบนี้  จะได้จัดการง่ายขึ้น  ไม่ต้องกลัวตาน้ำ
ใครที่เข้ามาหาเราแบบไม่ปกติ  เราก็ให้กลับไปแบบเดิมนั่นแหละ
ดูท่าทีไปก่อน  แล้วก็ทำใจสงบกันไว้  กินข้าวกันไป  เดี๋ยวเรื่องนี้แม่จัดการเอง”
คุณหญิงศศิสีหน้าหมายมาด  นี่ไงคุณหญิงแม่ตัวจริง  ขอบฟ้านั่งทานอาหารอย่างใจ
ตุ๊มๆ ต่อมๆ  เกรงจะได้เห็นฉากปะทะในอีกไม่กี่นาทีนี้
 

“สวัสดีค่ะ  คุณปู่คุณย่าของน้องวินวิน  ดิฉันอมรรัตน์แม่ยัยทราย
จะมาเยี่ยมหลานชายเสียหน่อย  นั่นสินะคะหลานวินวิน
หน้าตาน่ารักน่าชังดีแท้ มาหายายค่ะลูก”  หญิงร่างท้วม  แต่งกายเรียบๆ
แต่แต่งหน้าจัด  ลุกขึ้นแนะนำตัวเสร็จก็อ้าแขนให้วินวิน
เด็กชายรีบวิ่งไปแอบด้านหลังของพ่อน้ำทันที

“ใจเย็นๆ ก่อนค่ะคุณ  เด็กๆ น่ะเขาไม่คุ้นเคยกับใครง่ายๆ หรอกนะ
คุณน่าจะรู้  นั่งคุยกันก่อนสิ เชิญนั่งทุกคนนั่นแหละ ที่นี่ไม่มีความลับอะไรต่อกัน”
พูดเสร็จคุณหญิงแม่ก็นั่งลง  ทำให้ทุกคนทำตามอย่างว่าง่าย

“ที่ดิฉันมาก็พาน้าดาว  มาให้รู้จักกับหลานด้วย  แกพูดอะไรบ้างสิ ยัยดาว”

“ค่ะ  เนตรดาวค่ะ  เป็นน้าของน้องวินวิน”  น้าสาวแนะนำตัวเอง

“ที่มากันวันนี้ก็อยากมาทำความคุ้นเคย  หลานได้อยู่สุขสบายดี
ก็ดีใจค่ะ  จะขอไปมาหาสู่หลานจะได้ไหมคะ จะอนุญาตไหม”
มนุษย์ยายจีบปากจีบคอพูด

“จะมาก็มาได้นะ  ไม่ห้ามกันค่ะ” คุณหญิงแม่บอก

“โอ๊ะ! ดีเลย วันนี้เพิ่งมาจากทางเหนือยังไม่มีที่พัก
 ขอเราสองคนพักด้วยจะได้มั๊ยคะ”
ร่างท้วมพูดขึ้น คุณหญิงแม่ สีหน้าตึง เริ่มเหยียดยิ้ม

“คงอนุญาตไม่ได้จริงๆ ที่นี่ไม่มีห้องพักแขก  ถ้าจะพักจริงก็ต้องขอยืมห้องคนใช้
แล้วไล่เจ้าของห้องไปนอนกองกัน  เอายังไงดี  พ่อเบนช่วยแม่คิดหน่อยสิ”
คุณหญิงแม่หันมาขอความคิดเห็นกับเบนซินเพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกของเขา
โดยตรง ชายหนุ่มสะดุ้ง

“คุณแม่  ทำอย่างนั้นได้ยังไงล่ะครับ  ผมเป็นเขยยังไม่มีสิทธิ์เข้าออกบ้านนี้
อย่างอำเภอใจเลยนะครับ  ต้องไปหาห้องที่อื่นนอน  แล้วเห็นน้ำเล่าให้ฟังว่าวันดีคืนดี
ไม่ตุ๊กแกก็งูมาขอนอนด้วยนี่ครับที่เนี่ย คุณแม่จัดการช่องที่พวกมันชอบเข้าได้แล้วเหรอ”
เบนซินใช้สมองอันชาญฉลาดพูดออกไป

“นั่นสิ  เจ้าแอนก็ไม่เตือน  ดูสิคืนนี้ต้องมาคอยระวังทั้งงูทั้งตะขาบอีกแล้วสิ”
คุณหญิงแม่รับสานงานต่อ
“คุณแม่  ฟ้าตามช่างแล้วเขาบอกว่าต้องหาทางแก้กันไปก่อน
อีกเดือนน่ะถึงจะว่างเข้ามาดูให้”  ขอบฟ้าช่วยพูดอีกแรง

“คุณหญิงแล้วค่าน้ำ  ค่าไฟ  ค่าแรงคนใช้  เดือนที่แล้วมีจ่ายให้เขากันหรือยัง
ผมไม่มีนะเดือนนี้  เศรษฐกิจก็แย่ลงทุกวันของก็ขายไม่ได้  นี่คุณสมมาตรก็จะมายึดบ้านเรา
แล้วเนี่ย  โอยๆ  ผมชักจะปวดหัวหมู่นี้มีแต่เรื่อง  คุณหญิงจัดการไปก่อนนะ  ผมขึ้นไปสวดมนต์ก่อน”
พ่อทิ้งงานยักษ์ไว้ให้  แล้วรีบผละออกไปก่อนเพื่อน

“คุณค่ะ  อย่าเพิ่งไป  อยู่ก่อน  น้ำแกจัดการไปก่อนได้มั๊ย  ถ้าไม่มีที่พักจริงๆ
ก็ให้นอนกับเจ้าแอนไปก่อน  คุณสมมาตรเราขออยู่อีกสักสองอาทิตย์เถอะนะ
ยังหาบ้านเช่าไม่ได้เลย  รถนั่นที่จอดๆ อยู่เขาก็จะมายึดคืนหมดแล้ว
เห็นใจกันหน่อยเถอะนะ  เดี๋ยวดิฉันไปหาหยิบยืมเพื่อนฝูงเก่าๆ ก่อน
เผื่อจะเอามาพอประทั่งชีวิตกันไป  เครื่องเพชรที่ใส่กันอยู่นี่ก็ปลอมๆ
ทั้งนั้น  ยกให้ใครจะเอา  เห็นใจเถอะนะคุณ”  คุณหญิงแม่โยนให้พ่อพี่เบนช่วย

“ผมเป็นพ่อค้าจะให้มาเห็นใจลูกหนี้เสียทุกคน  ก็ไม่ไหวนะคุณหญิง”
 พ่อพี่เบนพูดทำสีหน้าขึงขัง

“เอ่อ  คุณหญิงจัดการธุระกันไปเถอะนะ  ดิฉันขอกลับก่อนล่ะ
ยัยดาวเร็วแม่มีเรื่องด่วนต้องไปทำ”

“เดี๋ยวสิคุณยาย  ถ้าหาที่พักได้เป็นหลักเป็นแหล่งแล้ว
ก็ช่วยรับหลานไปเลี้ยงแทนหน่อยก็ดีนะ  จะถือเป็นพระคุณอย่างมากเลย
ตาน้ำขอเบอร์แม่ยายแกไว้สิ  เผื่อต้องพึ่งพากัน”  คุณหญิงแม่รีบจัดการขึ้นสุด

“โอ๊ะๆ  ไม่มีหรอกค่ะ  ถูกมือดีมันล้วงไปพร้อมกับกระเป๋าเงิน
นี่ของยัยดาวก็เอาไปขายเพื่อเอาเงินมาหมุนน่ะค่ะ” คุณยายออกตัว

“ไปก่อนนะคะ  รีบๆ ยัยดาว” 
`ขืนอยู่นะแก ไ ม่แคล้วถูกหยิบยืมเงิน คิดว่าจะได้พึ่งพากันเสียหน่อย บ้านช่องออกจะหลังโหญ่โต`
 หันมาบอกลา  แล้วลากลูกสาวออกไป  แล้วบ่นกับลูกสาวไปตลอด  แต่ขอบฟ้าก็ทันได้ยิน 

“แม่ครับ  ทนายโทรมา  เขาว่าถ้าแม่ยังบ่ายเบี่ยง  เขาจะฟ้องล้มละลายแล้วนะครับ”
 ขอบฟ้าแกล้งตะโกนเรียกแม่เสียงดัง  ทำเอาสองแม่ลูกชะงักเท้าอีก
แล้วรีบเปิดแน่บอย่างเร็ว  พอแขกสองคนออกไป  คุณพ่อก็เดินเข้ามา 
ทุกคนพากันนั่งลงอย่างอ่อนแรง

“สุดยอดเลยนะ  ละครฉากใหญ่  เล่นเอาสูบพลังไปเกือบหมด
 หิวขึ้นมาทันที  แอนๆ ไปหาของว่างมาเสิร์ฟทีเร็วๆ” แล้วคุณแม่ก็นวดขมับ

“ขอบคุณในไหวพริบเอาตัวรอดของทุกคน  แต่คุณคะ  ไม่ห่วงเชื่อเสียงกันเลยนะคะ”
 คุณหญิงแม่พูดขึ้นแล้วก็หันไปค้อนคุณพ่อ

“ฟ้าบอกแล้วว่า  นี่แหละเรื่องดีๆ ของครอบครัวเรา  ครอบครัวใหญ่และแข็งแกร่ง คริคริ”
ขอบฟ้าหัวเราะชอบใจ  คุณหญิงแม่หันขวับมาค้อนอีกคน
แต่ก็แย้มยิ้มมุมปา ก นั่นสิเรื่องดีๆ อย่างที่ลูกพูด

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
คุณหญิงแม่สุดยอด o13

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ภูรักฟ้า ตอนที่ 32 ถูกลักพาตัว
«ตอบ #56 เมื่อ20-12-2018 19:27:30 »

ตอนที่ 32 ถูกลักพาตัว

ขอบฟ้าเข้ามาดูร้านวันนี้  เพราะภูดิศมีนัดกับลูกค้าทั้งวัน
ทำให้เสาร์นี้เขาได้ทำงานเต็มที่โดยไม่มีคนมาป้วนเปี้ยนพาออกนอกลู่นอกทาง
วันนี้ลูกค้าในร้านมากพอควร  ลูกสมุนต่างเดินกันขาแทบขวิด
 

“พี่ฟ้าเข้าร้าน  ดูสิครับเนี่ย  ลูกค้าก็เลยแน่นร้าน  จนผมขาจะเป็นตะคริวแล้วเนี้ย”
นินจาบ่น  เกล้าเดินมาได้ยินจึงตบหัวไปที

“นี่แน่ะ!  บ่นดีนัก  พี่ฟ้าก็ช่วยแล้วไง  มีลูกค้าเยอะๆ สิดี…
โบนัสครึ่งปีก็ดีตามไปด้วย” เกล้าพูดยิ้มๆ

“พูดได้ดี  เกล้า  เดี๋ยวพี่ชงนมให้ดื่ม” พี่อิงพูด เกล้ายิ้มหน้าบาน

“ขอบคุณครับพี่อิงคนสวย  แถมใจดีอีกต่างหาก”

“เออๆ ของมันแน่อยู่แล้วน้อง” อิงพูด แล้วยิ้มหน้าบาน

“พี่ฟ้า  อิงมีเรื่องจะบอกค่ะ  พี่เข้ามาใกล้ๆ หน่อย  ขยับมาอีกค่ะ
ทำตามที่อิงบอกนะอย่าทำให้มีพิรุธ  ฟังจบก่อนแล้วค่อยหันไปมองนะคะ
คือเรื่องมีอยู่ว่า  มีผู้ชายสองคนท่าทางไม่น่าไว้ใจ  เขาจะมานั่งอยู่ที่โต๊ะตรงมุม
ในสุดด้านขวาทุกวัน  สั่งกาแฟมาดื่มแล้วก็เอาแต่จ้องๆ ไปตรงทางเข้าร้าน
เหมือนมองหาใครน่ะค่ะ  ตอนนี้ก็ยังนั่งอยู่  อิงเห็นเขาจ้องพี่ฟ้าทุกก้าวที่พี่ฟ้าเดิน
ลองหันไปดูว่าพี่ฟ้ารู้จักหรือเปล่า  อิงว่ามันแปลกๆ นะคะ”
อิงพูดจนจบ ขอบฟ้าเอ่ยขอบคุณแล้วทำทีเป็นว่าคุยกับอิงเสร็จแล้ว
แล้วจึงหันไปช่วยน้องๆ เก็บโต๊ะ  มองผ่านๆ ไม่ทำให้สองคนนั้นสงสัย
แล้วก็เป็นจริงอย่างที่อิงบอก  มีชายร่างยักษ์สองคน  คนนึงมีหนวด
อีกคนหัวเถิกไปกว่าครึ่งหัว  สวมเสื้อยืดสีดำมีแจ็คเก็ตยีนส์สวมทับทั้งสองคน

“อิง หยิบกล้องที่โต๊ะให้พี่ที  พี่จะจัดร้านใหม่  ออกแบบใหม่หมด
ให้เป็นของกำนัลลูกค้าเสียหน่อย”

“ได้เลยค่ะ  รอแป๊บ” แล้วอิงก็รีบถลาไปหยิบกล้อง

“ได้แล้วค่ะ  พี่ฟ้า  ให้อิงถ่ายเก็บไว้ให้มั๊ยคะ  อิงถ่ายรับรองเด็ด  สวยทุกภาพ”

“ได้สิ  อย่าพลาดแม้แต่ชอตเดียวนะ  พี่จะได้วางเค้าโครงได้”
 แล้วอิงก็จัดการถ่ายตามที่พี่ฟ้าบอก  ติดรูปลูกค้าไปเสียทุกโต๊ะ
โดยเฉพาะโต๊ะในสุดมีหลายรูป  แบบรัวๆ เลยทีเดียว  ขอบฟ้ายิ้มเหยียด
 เล่นกับใครไม่เล่น  แล้วเจ้าตัวก็ส่งรูปของผู้ต้องสงสัยไปให้พี่เขยที่บอกว่าช่วยได้ทุกเรื่อง

“พี่เบน  น้องที่ร้านบอกว่ามาทุกวันฮะ  ที่สงสัยเพราะท่าทางแบบนั้น
 จะเป็นคอกาแฟไปได้ยังไง  ดื่มไม่หมดแก้วด้วยครับ  ขอด่วนหน่อยนะฮะ
 ขอบคุณครับพี่เบน” ขอบฟ้าวางสาย  หันมองไปที่โต๊ะ  สองคนนั้นไม่อยู่แล้ว

“พี่ฟ้า …นินจาบอกว่า  ถ้วยกาแฟที่ไปเก็บรอบนี้  ไม่ดื่มเลยค่ะ” อิงเดินเข้ามารายงาน

“รอพี่เบน  อีกไม่นานก็น่าจะรู้  ว่าเป็นใคร  ต้องการอะไรกันแน่”
ขอบฟ้าบอกอิงไป สีหน้าเป็นกังวลขึ้นเรื่อยๆ

“พี่ฟ้าไปไหนมาไหนช่วงนี้ก็ระวังๆ หน่อยนะคะ 
รอพี่ภูมารับจะเป็นการดีกว่านะคะ” อิงเตือนด้วยความเป็นห่วง

“พี่ภูติดคุยงานทั้งวันน่ะ  วันนี้พี่ว่าคงยังไม่มีอะไรหรอกมั้ง”
 แล้วโทรศัพท์ของขอบฟ้าก็ดังขึ้น  เป็นน่านน้ำที่โทรเข้ามา
“ฟ้าอย่าเพิ่งออกมาจากร้านนะ  ให้ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมงก่อน
 เบนส่งลูกน้องไปหาแล้ว  อาทน่ะ  รู้จักไหม”

“อ่อ…ครับ  เคยเห็นที่มาส่งวินวินวันก่อน ได้ๆ ครับ
 เดี๋ยวฟ้าจะรออาท” ขอบฟ้ารับคำพี่ชาย



สามสิบนาทีผ่านไป  อาทก็เข้ามาในร้าน  สั่งกาแฟแล้วก็ไปนั่งรอ
เขียนอะไรยุกยิกฝากข้าวตังให้ถือมาให้เขา  แล้วเจ้าตัวก็นั่งดื่มกาแฟ
อย่างใจเย็น  ขอบฟ้าเปิดอ่านข้อความด้านใน

`คุณฟ้า  ทำเป็นไม่เห็น  ไม่รู้จักผมนะ นายบอกว่าถ้าคุณฟ้าออกจากร้าน
แล้วให้ขับรถไปนอกเมืองเลย  อย่าเพิ่งกลับเข้าบ้าน  ผมจะตามไปห่างๆ
ไม่ต้องกลัว  ไว้ใจพวกผมได้` ขอบฟ้าลุกขึ้นหิ้วกระเป๋า เดินไปที่รถ
ขับออกไปนอกเมืองตามที่อาทบอก



ขอบฟ้ามองกระจกหลังตลอด  เขาเริ่มรู้สึกว่าถูกตาม
แต่เขาแน่ใจว่าไม่ใช่รถของอาทอย่างแน่นอน
ขอบฟ้าใช้ความเร็วรถอย่างสม่ำเสมอทั้งที่ใจร้อนเป็นไฟ
กลัวจนมือเท้าเย็น  แต่ต้องทำเป็นว่าไม่เป็นไร  แล้วรถคันหลังก็เร่งความเร็ว
ขนาบขึ้นมาตีคู่  พวกมันลดกระจกลง  เล็งปืนมาที่เขาบังคับให้จอดเข้าข้างทาง
เขาภาวนาให้มีคนตามมาช่วยทันทีเถอะก่อนที่เขาจะเสียท่าพวกมัน


เมื่อจอดรถประตูข้างคนขับก็ถูกกระชากออกอย่างแรง
และเขาก็ถูกชายร่างยักษ์หน้าหนวดคว้าเข้าที่ข้อมือกระชากให้ลงจากลง
เขาแทบปลิวตามแรงของมัน

“ไปกับเราแต่โดยดี  จะได้ไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ เร็ว!”
ไอ้หน้าหนวดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขู่ตะคอก

“จะพาไปไหน  ไม่ไป  ปล่อยดิวะ” ขอบฟ้าดิ้น ทั้งเตะและถีบ
แต่ก็ถูกปลายกระบอกปืนกดเข้าที่เอว  จนต้องหยุดดิ้น  ทำให้เขาถูกจับยัด
ใส่ในรถกระบะสีขาวโดยง่ายโดยมีเจ้าคนหัวเหม่งนั่นเป็นคนขับ มันเอาผ้าปิดตา
อุดปาก  มัดมือและเท้า ขอบฟ้าดิ้นรนอีกไม่ได้หมดสิ้นอิสรภาพ

รถแล่นไปด้วยความเร็วสูง  มันสองคนไม่พูดอะไรกันเลยตลอดทาง
จนรถหยุดนิ่งเขาถูกจับพาดบ่า  หัวห้อยลง  มันเดินแทบเป็นวิ่งอย่างร้อนรน  แล้วก็มีเสียงพูดขึ้น

“เห่ย! เร็วหน่อยดิวะ  คุณเขารออยู่”
แล้วมันก็โยนเขาลงบนฟูก  ขอบฟ้าตะเกียกตะกายจะลุกแต่มือถูกมัดไพล่หลัง
จึงได้แค่นอนงออย่างกับกุ้ง  มีเสียงรองเท้าส้นสูงเดินเข้ามาในห้อง  ใกล้มากๆ
เพราะเขาได้กลิ่นน้ำหอมฉุนแบบผู้หญิงที่ใช้กัน

“ปลดผ้าที่ตากับปากมันออกสิ”
เสียงนี้ไม่ผิดแน่  ขอบฟ้าจำได้  เมื่อผ้าที่ตาหลุดไป  และปากเป็นอิสระ

“ญาดา!! เธอทำอย่างนี้ทำไม  ต้องการอะไร?”
ขอบฟ้าถามออกไป  พยายามรวบรวมความกล้า  ทำเป็นไม่สะทกสะท้าน

“แกถามว่าต้องการอะไรอย่างนั้นเหรอ  น้องฟ้าของพี่ภู  เฮอะ!
ไม่เพราะแกทำตัวร่าน  ยั่วยวนจนภูดิศหลงใหลหรือไง  แกจึงต้องมาเจอชั้น
อยากรู้นักว่าภูจะยังต้องการแกอีกมั๊ย  เกย์ที่มั่วไม่เลือกอย่างแก  จัดการมัน!!!
ไม่ต้องถึงกับตายนะ  แล้วฉันจะกลับมาดูผลงาน  ตั้งกล้องหรือยัง
เอาให้เห็นทุกซอกทุกมุม  จนรูขุมขนได้ยิ่งดี  ฮ่าฮ่าฮ่า”
แล้วหล่อนก็เดินแสยะยิ้มออกไป  อย่างสะใจ  และสีหน้าก็เปี่ยมสุขเสียเต็มประดา

“ญาดา!!  กลับมา!  อย่านะ!!!  อย่าทำแบบนี้  พี่ภูไม่มีทางยอมแกแน่ๆ
ยัยแม่มด!  ปล่อยดิวะ!!!  ไม่!!!!” ขอบฟ้าตะโกนจนเสียงแหบเสียงแห้ง
ยัยผู้หญิงเลวนั่น!  ก็ไม่คิดจะหันกลับมามอง  ความหวาดกลัวและความหนาวเหน็บ
เกาะกินจนถึงขั้วหัวใจแล้ว  เขาคงหมดหนทางที่จะรอดพ้นจากเงื้อมมือพวกเลวนี้เป็นแน่
ได้แต่น้ำตาไหลนองหน้าและมองไปรอบๆ คาดว่าที่นี่น่าจะเป็นบ้านร้างที่ไหนสักแห่ง
เพราะสภาพที่ทรุดโทรม  แทบไม่ได้ถูกใช้งาน  ไอ้ผู้ชายร่างสูงใหญ่ท่าทางกักขฬะ
มองมาที่เขาตาเป็นประกายและย่างสามขุมเข้ามา...แล้วกดร่างของเขาตึงไว้กับที่นอน
ในมือข้างหนึ่งของมันมีเข็มฉีดยามาด้วย  แล้วมันก็กดเข็มลงมาที่ต้นแขนของเขา

กลัวสุดขีดมันเป็นอย่างนี้เอง  ปากคอสั่นตาเหลือกลาน
เขาจะแย่แล้วยังไม่มีใครเข้ามาช่วยเขาอีก ไหนอาทบอกช่วยได้ไง
ให้เชื่อใจแล้วดูสิ พวกมันฉีดยาอะไรเข้าร่างเขากัน

“ไอ้เลว!  ไอ้ชั่ว!  แกฉีดยาอะไรให้ชั้น  ปล่อยนะโว๊ย!!!”  ขอบฟ้าตะโกนด่า

“เรียกผัวในอนาคตให้มันไพเราะหูหน่อย  แค่จะเล่นอะไรๆ สนุกๆ
กันนิดหน่อย…ก็แค่นั้นเอง  รอแป๊บนะทูนหัว  แม่งขาวว่ะ!
กูไม่อยากจะรอแล้ว  ลงมือได้เลยมั๊ยวะ?”
ไอ้หนวดหันไปถามเพื่อนมันที่ยืนไม่ห่างออกไป

“มันจะสนุกอะไรกันล่ะตอนนี้  มึงใจเย็นแล้วรออีกไม่เกิน 15 นาที
มึงกับกูได้สนุกกันแน่ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า เอิ๊ก”
เสียงหัวเราะที่ได้ยินมันบาดหูจนรู้สึกสะอิดสะเอียนเสียนัก
ขอบฟ้ารู้สึกว่าร่างกายเริ่มเกิดปฏิกิริยาแล้ว  เพราะไอ้ยานรกนั่น
เขารู้สึกร้อนวูบวาบตามเนื้อตัวโดยเฉพาะส่วนกลางลำตัว

“ไอ้ทุเรศ!  ไอ้เลว!  ปล่อยกู  ช่วยด้วย!!!  ใครก็ได้ช่วยที”
 ขอบฟ้าตะโกนลั่นให้คนช่วย  เขาหายใจหอบถี่กระชั้น
 ใช่เขาต้องการ  แต่ต้องไม่ใช่กับไอ้พวกนรกนี่  เขายอมตายเสียดีกว่า

“อื้อออ… ไอ้เลว  ปล่อยกู  อ่ะ  ปล่อยสิวะ!!!”
ขอบฟ้าข่มอารมณ์ที่ร้อนรุ่ม  ยิ่งฝืนเขายิ่งทรมาน  ไอ้เลวมันย่างก้าวเข้ามา
ปลดผ้าที่มัดมือเขาออก  และที่ข้อเท้าด้วย  เขาเป็นอิสระแต่…เขาไม่สามารถ
ที่จะขยับเขยื้อนหนีมันไปได้  ร่างกายถูกมันตรึงไว้กับฟูกที่มีแต่กลิ่นสาป
มันเริ่มปลดกระดุมเสื้อเขาออกอย่างช้าๆ ขอบฟ้าน้ำตาไหล
รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้
แล้วเสื้อเชิ้ตที่เขาสวมอยู่ก็ถูกถอดออก  ตามด้วยกางเกง

“ไม่!  อย่านะ !โว๊ย!  พี่ภูฮือ…ช่วยฟ้าด้วย  ช่วยด้วย!  ฟ้ากลัว  พี่ภู…ฮือฮือฮือ”
ขอบฟ้าส่ายหน้าหลับตาปี๋  ทั้งกลัว  สะอิดสะเอียน  จมูกปากลิ้นของมันไล่เลีย
ลงมาที่ซอกคอ  เนินอก  มันทั้งจูบ  ดูด  ทำรอยไว้เต็มไปหมด  มันลากลิ้นและปาก
ไล่ขบต่ำลงที่ท้อง  ขอบฟ้าขยะแขยงแทบจะอ้วก  แต่ร่างกาย…กับต้องการ
เขาอยากผลักไสแต่มือก็ไม่มีแรงที่จะยกขึ้น ได้แต่นอนแน่นิ่ง…ปล่อยให้น้ำตาไหล
เขาคงหมดหนทางที่จะรอดแล้วคราวนี้  มันก้มต่ำลงเรื่อยๆ แล้ว
แต่เหมือนมันจะถูกกระชากออกอย่างแรง  ขอบฟ้าลืมตาขึ้นมอง
ยิ่งเห็นคนที่มาช่วยน้ำตายิ่งไหลสุดจะกลั้นแล้ว


“พี่ภู!  ช่วยฟ้าด้วย!  ช่วยที!  พี่ภู!  ฮือฮือฮือ”
ขอบฟ้าเห็นพี่ภูกับอาทพุ่งตัวมาที่ไอ้สองคนทั้งเตะต่อยซ้ำๆ ที่ใบหน้า
อย่างไม่ยั้งและอาทก็ใช้สันปืนฟาดไปที่ท้ายทอยไอ้หนวด  จนมันร่วง
ลงไปกองกับพื้น  พี่ภูก็ตามเข้าไปทั้งเตะและกระทืบมันซ้ำๆ อีกหลายที
อีกคนก็หมอบแล้วเหมือนกันเพราะโดนทั้งมือเท้าของอาท

“ตัวใหญ่ซะเปล่า  ปลายแถวจริงๆ คุณภูไปดูคุณฟ้าเถอะ
ที่เหลือเดี๋ยวผมกับลูกน้องเก็บกวาดเองครับ”
แล้วพี่ภูก็กระทืบมันซ้ำอีกสองที  แล้วรีบผละมารวบตัวเขาไว้
ในอ้อมกอด  ดวงตาพี่ภูคลอไปด้วยน้ำตาเช่นกัน


“น้องฟ้าครับ  คนดี…พี่มาช่วยแล้วนะ  ไม่เป็นไรแล้วครับ…
มาพี่พากลับบ้านเรากันนะ” พี่ภูพูดแล้วก็จูบไปทั่วดวงหน้าของเขา
เช็ดน้ำตาให้  แล้วพี่ภูก็ดึงกางเกงขึ้นให้พร้อมทั้งสวมเสื้อให้ด้วย
ติดกระดุมให้มือไม้สั่นไปหมด  กัดฟันจนกรามขึ้นเป็นสัน  แล้วก็อุ้มเขาขึ้น
ขอบฟ้าป่ายมือไปลูบไล้ที่แผงอกพี่ภู  ได้กลิ่นกายที่คุ้นเคย
และเพราะยาที่ถูกฉีดเข้าร่างกาย  ทำให้ควบคุมตัวเองไม่ได้
พี่ภูรีบพาเดินออกมาที่รถซึ่งจอดอยู่ด้านหน้า

“พี่ภูครับ  ฟ้าไม่ไหวแล้วครับ  ฟ้าต้องการ…มันฉีดยาให้ฟ้า
 พี่ภู…ช่วยฟ้าที…แต่ฟ้าสกปรกไปแล้ว…ฮือฮือ สกปรก”
ขอบฟ้ากัดปากข่มความกระสันที่ก่อตัวขึ้นและร้องไห้ออกมาอีก
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เพิ่งถูกกระทำไป

“ไม่ร้องไห้นะครับ  ฟ้าของพี่ไม่สกปรกนะ…พี่อยากฆ่าพวกมันนัก
ที่มันกล้ามาแตะต้องน้องฟ้าของพี่  ไม่เป็นไรนะครับ”
พี่ภูพูดไปเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันไป  จนถูกวางบนเบาะคาดเข้มขัดให้
ขอบฟ้านั่งกอดอกแน่น  กัดปากตัวเองแน่นจนปากสั่น

“น้องฟ้า  อดทนหน่อยนะครับ  พี่จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ”
แล้วพี่ภูก็แล่นรถออกไปด้วยความเร็วสูง  ได้ยินเสียงพี่ภูสบถไม่หยุดตลอดทาง


แล้วก็เลี้ยวรถเข้าโรงแรมที่พักข้างทาง  พี่ภูขอเปิดห้อง
ได้กุญแจมาก็รีบมาอุ้มเขาลงจากรถ  เปิดห้องเข้าไปวางเขาลงบนเตียง
แล้วก็ผละเข้าห้องน้ำได้ยินเสียงเปิดน้ำทิ้งไว้

พี่ภูกลับมาถอดเสื้อผ้าเขาออกจนหมด
อุ้มไปยืนในอ่างแล้วพี่ภูก็ถอดเสื้อผ้าตามลงมานั่งซ้อนหลังเขาและกอดเขาไว้
ได้แช่น้ำความเร่าร้อนบรรเทาลงนิดหน่อย  แต่ขอบฟ้ารู้ว่าไม่มีทางที่มันจะหายได้
จึงเบี่ยงหน้าไปหาพี่ภูจูบปิดปากพี่ภู  และแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปาก
สำรวจจนทั่วแล้วถอนปากออก

“พี่ภู  ช่วยฟ้าหน่อย  ช่วยลบรอยที่ไอ้เลวนั่นมันทำไว้ที
 ฟ้าขยะแขยง  ฟ้าเกลียดตัวเอง  ฮือฮือฮือ”
 แล้วขอบฟ้าก็ร้องไห้น้ำตานองหน้า  เขาไม่สะอาดสำหรับพี่ภูอีกแล้ว
 เขาไม่คู่ควรอีกต่อไป คิดแบบนั้นก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม






ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ภูรักฟ้า ตอนที่ 33 ลบรอย
«ตอบ #57 เมื่อ20-12-2018 19:56:42 »

ตอนที่ 33 ลบรอย

ภูดิศสงสารขอบฟ้าเป็นที่สุด  เขาอยากฆ่าไอ้นรกนั่นที่มันบังอาจมาแตะต้อง
ของรักของหวงของเขา  เขาซึ่งเฝ้าทะนุถนอมน้องฟ้าของเขามาเป็นอย่างดี
มันมีสิทธิ์อะไรมาแตะแม้ปลายเล็บ  ภูดิศเห็นน้ำตายิ่งรวดร้าวในอก
กอดตระกองคนตัวเล็กที่ผอมบางแนบไว้กับอก  พรมจูบไปทั่วดวงหน้าซอกคอ

เขาไม่อยากที่จะฉวยโอกาสที่น้องฟ้าของเขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่เป็นปกตินัก
จึงเอื้อมมือไปกอบกุมส่วนกลางกายของน้อ ง เพื่อปลดปล่อยความทรมานให้น้อง
ภายใต้สายน้ำเขาปรนเปรอจู่โจมทั้งด้านบนด้านล่าง  จนน้องฟ้าตัวอ่อนระทวย
และเกร็งเขม็งในบางจังหวะแล้วก็ปลดปล่อยออกมา  แต่ไม่นานก็กลับมามีอาการดังเดิมอีก

“พี่ภูเราขึ้นจากน้ำเถอะนะ…ฟ้าหนาว”
ภูดิศจึงต้องอุ้มขึ้นจากน้ำคว้าผ้าเช็ดตัวมาเช็ดตัวให้แบบลวกๆ
รวมทั้งเขาเองด้วย  แล้วพาไปที่เตียง  เห็นผิวที่ถูกทำรอยไว้แล้วอารมณ์กรุ่นโกรธ
ก็กลับมา  ป่านนี้อาทจะจัดการแม่ญาดาให้เขาเรียบร้อยดีไหมนะ  อยากเห็นผลงานจริงๆ
ผู้หญิงเลวที่กล้ามาล้วงคองูเห่าแบบเขา  บังเอิญที่เขานัดพบลูกค้าในที่เดียวกันกับหล่อน
และไปได้ยินหล่อนสั่งงานลูกน้อง  ชื่อเหยื่อที่หลุดออกมาจากปากของหล่อนทำให้เขาต้อง
บึ่งรถตามไปจนช่วยน้องฟ้าออกมาได้ทันท่วงที

“พี่ภู  ไม่รักฟ้าแล้วเหรอครับ  ฟ้าสกปรกไปแล้ว  ฟ้าไม่คู่ควรกับพี่แล้วใช่ไหมฮะ
ที่พี่ไม่แตะต้องฟ้าเพราะพี่รังเกียจไอ้รอยพวกนี้ใช่ไหม”
พูดแล้วขอบฟ้าก็ลากเล็บบนผิวเนื้อตัวเองจนเลือดซิบ
ภูดิศตกใจคว้ามือไว้แล้วดึงเข้ามากอดจูบซุกไซ้ขบกัดไปตามรอยนั้น
 พื่อลบรอย  อย่างที่คนตรงหน้าต้องการ

“น้องฟ้าของพี่  ไม่สกปรกสักนิด  ยังหอมหวานเหมือนเดิม
พี่แค่ไม่อยากเอาเปรียบ  หรือฉวยโอกาสตอนนี้  หากเพราะพี่คิดเยอะไป
ห่วงมากเกินไป  ทำให้เราต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้  งั้นพี่จะลบรอยให้เองนะครับ
หลังจากนี้  อะไรจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว  น้องฟ้าต้องยอมรับผลของมัน
พี่รักฟ้านะครับ  คนดี...เป็นของพี่นะ”

พี่ภูก็ตะโบมจูบแทะเล็ม  ทั้งกัดและดูด  ทิ้งรอยไว้บนผิวขาวๆ  ไม่มีตรงไหน
ที่จะรอดพ้นริมฝีปากหนาและลิ้นร้อนๆ นั้นไปได้  ขอบฟ้าเหมือนล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ
ครั้งแล้วครั้งเล่า  ขอบฟ้าสะโพกและแผ่นหลังไม่ได้แตะสัมผัสที่นอนเลยด้วยซ้ำ
พี่ภูพาไปรู้จักกับความสุข  เสียวซ่านที่ไม่เคยพานพบมาก่อน  ความเร่าร้อน 
ร้อนแรงของพี่ภูแทบทำเขาขาดใจ  ในความเจ็บปวดมันมีความสุขซ่านปะปนอยู่

“น้องฟ้าเป็นของพี่แล้วนะ  คนดี  ภูรักฟ้า...นะครับ”
แล้วพี่ภูก็ซบบนซอกคอเขา  อยู่นิ่งๆ ในท่านี้ทั้งที่ยังไม่ถอดถอนกายออกจากกัน

“พี่ภู  ฟ้า  เอ่อ  อึดอัด  ครับ”  ขอบฟ้าตอบอายๆ กับท่านอนนี้

“อยู่นิ่งๆ อีกแป๊บนะ…คนดี  ถ้าน้องฟ้าขยับนะ  พี่ไม่รับรองว่า…เอ่อ…จะได้นอนนะครับ…คืนนี้”

“พี่ภูบ้า  ก็อยู่ในท่านี้  มันน่าอาย  นี่ครับ”
 ขอบฟ้าพูดพร้อมกับหลบตา  มองไปทางอื่ น พี่ภูจูบที่ซอกคอ  แล้วค่อยๆ ถอนตัวออก
 ความวูบโหวงเข้ามาแทนแล้วความอุ่นร้อนก็หายไป  พี่ภูลุกเดินโทงเทง 
เห็นก้นเปลือยบิดไปมา  เข้าห้องน้ำไปหน้าตาเฉย  คนบ้าชอบโชว์
ขอบฟ้าหลับตาลง  ทุกอย่างต่อจากนี้  มันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วจริงๆ
`ภูรักฟ้า` คำสั้นๆ แต่มันฝังแน่นลงกลางหว่างใจไปเสียแล้ว  ขอบฟ้าเผลอตัวอมยิ้ม
ถอนหายใจยาวความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียทำให้หลับไปในที่สุด


ภูดิศออกมาจากห้องน้ำเอาผ้ามาเช็ดเนื้อตัวให้และทำความสะอาดเฉพาะที่ให้
เพราะกลัวคนตัวเล็กจะไม่สบายตัว  จับพลิกคว่ำพลิกหงายไม่มีรู้สึกตัว  หลับลึกเสียจริง

“ฮัลโหล  น้ำ  พี่ภูเองนะ  น้องฟ้าปลอดภัยแล้ว  ไม่ต้องห่วงนะ  แต่ก็แย่หน่อยโดนพวกมัน
จับฉีดยาปลุกไปน่ะ  อืม… ตอนนี้หลับไปแล้ว  เดี๋ยวให้ตื่นก่อนนะ  จะให้โทรกลับไปหา
พี่พาไปนอนบ้านพี่เลยแล้วกันคืนนี้  แค่นี้นะน้ำ”
ภูดิศใช้โทรศัพท์ของขอบฟ้าโทรไปบอกข่าวกับน่านน้ำ  เสร็จแล้วจึงโทรไปหานมพร้อม
บอกกว่ามีเรื่องนิดหน่อยอาจจะกลับดึกมากๆ ยังไงก็ให้ส้มพาหนูรินเข้านอนก่อนเลย


ภูดิศล้มตัวลงนอนกอดคนตัวเล็กแนบอก  แล้วหลับตามกันไปในไม่ช้า
มาตื่นเอาตอนห้าทุ่ม  เพราะคนที่นอนข้างๆ กันตัวร้อนมีไข้  จึงไปเอาผ้ามาชุบน้ำเช็ดตัวให้
เช็ดอยู่หลายรอบจนไข้ลด  แล้วจึงไปบอกคืนห้อง  พาคนตัวเล็กกลับไปที่บ้านของเขา
เพราะที่นี่ไม่มียาลดไข้  เดี๋ยวไข้กลับมาอีกจะยุ่งเสียเปล่าๆ เมื่อถึงบ้าน  เขาก็อุ้มคนตัวเล็ก
ขึ้นไปบนห้องนอน  ตัวยังรุมๆ จึงเช็ดตัวให้อีกรอบ

“พี่ภู! ตื่นหน่อยครับ  พาไปห้องน้ำหน่อยครับ พี่ภู!”
ภูดิศได้ยินเสียงเรียกดังมาจากคนข้างๆ สะดุ้งลุกขึ้นมานั่ง
โน้มตัวเอาหน้าผากไปแนบกับหน้าผากของคนตัวเล็กเพื่อวัดไข้

“อืม… ไข้ไม่มีแล้วนี่ครับ”
พูดเสร็จก็ทำท่าจะล้มตัวลงนอนต่อ แต่ขอบฟ้าก็คว้าแขนไว้ก่อน

“พี่ภู  ฟ้าปวดฉี่  พาไปหน่อย  เดินไม่ไหว”
 ภูดิศหายง่วงเพราะเสียงเขียวๆ ที่ไม่ค่อยสบอารมณ์ดังขึ้น

“อ้าว! เหรอครับ  ไม่มีไข้แล้วนี่  ทำไมเดินไม่ไหวล่ะ”
ภูดิศถามออกไปอย่างสงสัย

“พี่ภู  ต้องให้ฟ้าบอกมั๊ย  ว่าทำไม ก็ตัวเองน่ะ ทำเค้า วุ๊ย!”
อารมณ์ขุ่นเสียแล้ว  ภูดิศนึกขึ้นได้  ตายๆ โดนงอนเลย
คนมันง่วงขี้ตานี่ก็เลยลืมตัว

“โอ๋ๆ คนดี  ไม่งอนนะ  พี่พาไป  มาอุ้มๆ ฮึ๊บ  ตัวเบาอย่างกับนุ่นเลย…น๊า”
ภูดิศทำเสียงเล็กเสียงน้อย  จนขอบฟ้าหมั่นไส้  ทุบอกไปดังอึ้ก!

“เขินแรงนะครับ  ตัวแค่เนี้ย  อ่ะ  ถึงแล้ว  เสร็จแล้วบอกนะ”
 แล้วพี่ภูก็ส่งเขาให้นั่งที่ชักโครก

“พี่ภู  หันไปก่อนสิ  ฟ้าฉี่ไม่ออก  ยืนมองอยู่ได้”
 พี่ภูยกมือเกาต้นคอแบบเขินๆ เก้อๆ

“อ่อ  ครับ อายอะไรเล่า  พี่เห็นมาหมดแล้วล่ะครับ”  ภูดิศต่อปากต่อคำ

“โว๊ะ! พี่ภู  ขืนพูดอีก  จะโดนดี  หันไปเลยนะ”
แล้วภูดิศก็ต้องยืนหันหลังให้  เสื้อก็ไม่ใส่ ขอบฟ้ามองแผ่นหลังที่ลายพร้อย
เพราะโดนแมวอย่างเขาลับเล็บมานั่นเอง  แถมเห็นที่บ่ามีรอยฟันกัดจนออกม่วงหน่อยๆ
แล้วเจ้าตัวคนทำก็อายหน้าแดง  ไม่คิดว่าตัวเองจะร้อนแรงขนาดนั้น
ทิ้งรอยไว้บนตัวคนตัวใหญ่เสียมากมายไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่เลยด้วยสิ

“อาท  จัดการญาดายังไง  ผมอยากเห็นผลงานครับ”
ภูดิศถามเบนซินเมื่อเจอหน้ากันในตอนสายเพราะน่านน้ำจะมาเยี่ยมน้อง
ที่บ้านพี่ภู เพราะรู้ว่าน้องมีไข้

“ก็ไม่อะไรมากแค่เบาะๆ  ทำมายังไงก็ทำกลับแบบนั้น  อ๊ะๆ
ไม่ใช่อาทนะที่ลงสนามเป็นคู่ซ้อมให้หล่อน  ลูกน้องอาทมันน่ะ
ก็สามสี่คนได้  ก็เจ้าอาทบอกว่า  ไปเจอเข็มฉีดยาอีกอันมียาอยู่ด้วยเต็มหลอด
คงเตรียมจะเพิ่มยาอีกล่ะมั้ง  ญาดาก็เลยต้องถูกจับฉีดเสียเอง  พอยาออกฤทธิ์
เจ้าหล่อนก็ร้องขอเอง  ยานั่นอาทบอกตัวแรงเลยล่ะ  เจ้าอาทมันก็ไม่ได้อยู่รอผล
แล้วลูกน้องมันก็ส่งเป็นคลิปกลับมาให้  แม่นั่นคงเข็ดไปจนตายไม่กล้ามายุ่งกับพี่ภูแล้วก็ฟ้าอีกแน่ๆ”

เบนซินเล่าให้ภูดิศฟังถึงเรื่องราวทั้งหมด  ชายหนุ่มเหยียดยิ้มหยัน
ก็สมควรแล้วที่สะเออะมายุ่งกับของรักของหวงของเขา

“แล้วไปไหนเสียล่ะ  ฟ้าน่ะ  ยังไม่เจอหน้ากันเลย  พี่ภูเล่นหนักไปหรือเปล่าครับ
ไข้ขึ้นเลยน่ะ  ครั้งแรกหรือเปล่าเนี้ย  ฮ่าฮ่าฮ่า” เบนซินถามออกไปตรงๆ

“จุ๊  จุ๊  เบาสิเบน! ไม่เท่าไหร่หรอก  ก็พี่ไม่รู้วิธีก็เลยจับไปแช่ในอ่างอาบเสียนาน
จนตัวเกือบเปื่อย  ถ้าไม่ร้องว่าหนาว  คงจะให้แช่ทั้งคืนแล้วล่ะ”
ภูดิศเล่าให้เบนฟังเป็นฉากๆ

“โว๊ะ!  พี่ภู  ทำไมไม่ถามล่ะ  ทำอย่างนั้นไม่ใช่ว่าจะช่วยได้เสมอไป
 ไม่หายง่ายๆ หรอก  โธ่ๆ ไปบวชดีมั๊ยพี่ภู  ผมไปส่งที่วัดให้”
 เบนซินพูดสบประมาท  หยามเชิงชายกันชัดๆ

“พี่ยังเล่าไม่จบ  พอแช่น้ำไม่ได้ผล  ก็เลยต้องจัดให้ไปหลายยก  ถึงไข้ขึ้นไง
 เก็ตมั๊ยเบน ฮะฮ่าฮ่าฮ่า” หัวเราะทีหลังดังกว่าเป็นอย่างนี้เอง  เบนซินเข้าใจแล้ว

“แล้วก็ไม่พูดให้หมด  ผมว่าพี่น้องคู่นั้นป่านนี้คงจะคุยกันบ้างล่ะน่า
เรื่องแบบนี้น้ำเค้ามีประสบการณ์มาก่อน  หึหึ”
เบนซินยังไม่วายคุยข่ม  ภูดิศนึกหมั่นไส้ก็คราวนี้

“ครับ พ่อคลาสโนว่า  พี่ไม่เทียบชั้นด้วยแล้ว”
 แล้วภูดิศก็โคลงศีรษะไปมา


“เป็นยังไงบ้างฟ้า  ปวดหัว  ตัวร้อน  ดีขึ้นหรือยัง  ตัวยังรุมๆ นะ
มาพี่เช็ดตัวให้” พูดจบพี่น้ำก็คว้าผ้าขนหนูที่วางอยู่ข้างๆ
ไปชุบน้ำมาเช็ดตัวให้น้อง  เวลาน้องป่วยเขาก็ทำให้ทุกที
หรือเวลาเขาไม่สบายก็ได้ฟ้านี่แหละดูแลทำให้ไม่ห่าง
แล้วก็ปลดกระดุมเสื้อออก ตาเบิ่งกว้าง

“ฟ้า  ทำไมรอยมันมากมายขนาดนี้  ไอ้เลวนั่นเหรอ  ระยำจริงๆ
น่าจะให้มันกินลูกปืนนะพี่ว่า  ไม่น่าปล่อยให้มันรอดออกมาสร้างความเดือดร้อน
ให้ใครต่อใครได้อีก  ไอ้ชั่วเอ๊ย!!!  เบนๆ มานี่หน่อย”
พี่น้ำโมโหหน้าดำหน้าแดงที่มีคนมาทำน้องชายสุดที่รักของเขาได้
ขอบฟ้าหน้าเจื่อน  แล้วจึงต้องยอมเปิดปากพูดกับพี่ชาย

“เอ่อ  พี่น้ำเบาหน่อยครับ  คือว่า…รอยนี่  พี่ภู  เอ่อ  เป็นคนลบรอยให้ฟ้าน่ะ
ฟ้าขอร้องให้พี่ภูทำเอง  คือ…แบบว่า  ถ้าพี่ภูไม่ทำ  ฟ้าก็อดขยะแขยงตัวเองไม่ได้
แล้วก็ใช้เล็บตัวเองขูดรอยนั่นออก  ลากซะเป็นทางยาว  ไม่ต้องบอกพี่เบนนะ
ฟ้าอายน่ะ…ครับ”  ขอบฟ้าพูดแล้วก็เหนียมอายเสียงเบาในตอนท้าย
บิดมือบิดไม้แทบจะเป็นเลขแปด

“พี่ไม่รู้นี่ โถๆ หลงด่าพี่ภูไปเสียเยอะแยะ โหๆ ฮอตไม่เบานะแฟนฟ้า 
ไม่ต่างจากไอ้หื่นของพี่เลย  อุ๊บ! เออๆ นั่นแหละ  ทำเอาน้องพี่ลายเป็น
ตุ๊กแกอย่างนี้  ยัยญาดาเนี่ยมันช่างร้ายกาจนะ  มาทำให้น้องของพี่เสียซิงให้พี่ภูจนได้”
พี่น้ำเผลอหลุดเรื่องของตัวเองออกมาขณะที่เล่า

“พี่เบนก็ฮอต  อย่างนั้นเหรอ  คริคริ”  ขอบฟ้าแกล้งพี่คืนบ้าง  จนโดนหยิกเนื้อไปที

“ตัวแสบ!  ใครเขาเอาเรื่องแบบนี้มาพูดกัน  เดี๋ยวจะโดน!
แล้วเราน่ะข่วนพี่ภูลายไปทั้งหลังรึเปล่าล่ะ”

“พี่น้ำ  ฟ้าไม่คุยด้วยแล้ว  ใครจะเป็นเหมือนพี่กัน  หึ้ย!”
น่านน้ำยกมือขึ้นยีหัวน้อง  ก็เรามันเป็นพี่น้องกัน ไม่ต่างกันหรอกน่ะ  น่านน้ำคิด


ตอนบ่ายพีทกับซีเกมส์เข้ามาหาเพื่อน  เพราะไม่ได้เจอกันนานพอควร
และก็เป็นไปตามคาดที่พีทต้องลากพี่เมศมาด้วย  ขอบฟ้าแนะนำเบนซินให้เพื่อนๆ
รู้จักว่าเป็นพี่เขย  ทำเอาน่านน้ำยิ้มเขิน  แล้วเพื่อนๆ
ก็ต้องมารับรู้อีกจนได้ว่าขอบฟ้าไปเจอเรื่องอะไรมา

“ไอ้ฟ้า  ถ้าซีกับพีทไม่มาจะได้รู้มั๊ย  ว่าตัวน่ะไปโดนอะไรมา
โกรธจริงๆ นะเว่ย  เป็นอะไรไม่เคยบอก  ต้องให้มารู้เอง  โกรธมากๆ ด้วย
โกรธๆ” ซีเกมส์บ่นเพื่อนเป็นชุด

“เรื่องมันเพิ่งเกิด  แล้วฟ้าก็ไม่สบายด้วย  จะไปบอกอะไรใครได้
นี่พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ให้ท่านรู้นะ  กลัวจะพากันเป็นห่วง  อย่าโกรธเลยนะ
เพื่อนรัก! ถ้าฟ้าหายจะพาไปหาของอร่อยๆ กินนะ”
ขอบฟ้าเอาของกินมาล่อเพื่อนให้หายงอน

“ฟ้า  ซีไม่ได้จะเห็นแก่กินนะ  แต่เมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน
จะได้ล้างท้องรอ  คริคริ” พูดเรื่องของกินหายโกรธเลย
นี่ไงถึงเป็นเพื่อนรักกันได้  น่านน้ำมองน้องกับเพื่อนอย่างนึกขำ

“ฟ้าแล้วทำไมตัวลายขนาดนี้  อย่าบอกนะว่าหนีไม่ทันพวกมัน
โดนมันโทรมมา  แล้วพี่ภูล่ะ  ไม่ฆ่ามันทิ้งรึไง  ไอ้คนทำน่ะ
แค่พวกเรากอดนิดกอดหน่อยยังหวงขนาดนั้น”
พีทถามเมื่อเห็นเพื่อนตัวลายอย่างกับตุ๊กแก

“เอ่อ…พี่ภูไปช่วยมาได้ทัน  จบเถอะ  ฟ้าไม่อยากพูดถึง”
ขอบฟ้าพยายามตัดบท

“ได้ไงกันฟ้า  ไอ้เลวนั่น  มันทำถึงขนาดนี้เลยนะ  น้องฟ้าของพี่ภู
ไม่เหลือดีแล้วเหรอ”  ขอบฟ้าทำหน้าปุเลี่ยนๆ
เมื่อได้ยินเพื่อนรักด่าคนทำรอย  จะให้พูดได้ยังไงกันล่ะ

“พีท  พอเถอะ  ฟ้าคงไม่อยากให้พูดถึงน่ะ  คงยังรู้สึกแย่กับเหตุการณ์
ที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ” พี่เมศปรามพีทไม่ให้ถามถึงอีก

“พีท   อย่าไปด่าคนทำนักเลย  เดี๋ยวเขาจะปวดท้องเอา  ที่ถูกด่าทั้งๆ
ที่ยืนอยู่แถวๆ นี้ด้วยน่ะ” พี่น้ำพูดยิ้มๆ

“ห๋า! พี่น้ำ  มันกล้ามายืนแถวนี้เลยเหรอครับ  พีทจะกระทืบมันซะเดี๋ยวนี้เลย
แก้แค้นให้เพื่อน  ไหนครับ มันอยู่ไหน” พีทหันรีหันขวาง  มองไปรอบๆ
ก็ไม่เห็นคนแปลกหน้าสักคน
“พีทครับ  รอยนั่น  พี่ทำเองน่ะ  พี่แค่ลบรอยให้ฟ้า  จบนะครับน้องๆ
ไม่สงสัยกันแล้วนะ”
แล้วขอบฟ้าก็ต้องเอาหน้ามุดหมอนหนีอายสายตาของคนทั้งห้อง




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2018 20:36:16 โดย เส้นขอบฟ้า »

ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 ตอนที่ 34  วันเกิดคุณปู่

ลุงหมอเรียกภูเมศกับภูดิศเข้ามาคุยเรื่องจะจัดงานครบรอบวันเกิดอายุครบ 72 ปีให้คุณปู่
อยากให้ช่วยกันจัดให้ท่านสักครั้ง  ทั้งนี้ภูดิศเสนอให้มีการทำบุญเลี้ยงพระในช่วงเช้า
ส่วนช่วงเย็นให้เป็นงานเลี้ยงในหมู่ลูกหลานและแขกคนสนิทซึ่งตามแต่คุณลุงจะเชิญ
ลุงหมอเห็นดีด้วย  ให้ภูดิศดำเนินการเรื่องนิมนต์พระ  ส่วนเรื่องอาหารให้เป็นนมพร้อมนำทีม
ส่วนภูเมศดูแลในเรื่องตกแต่งสถานที่  ซึ่งจะจัดกันที่ลานกว้างหน้าคฤหาสน์ของคุณปู่

“น้องฟ้า  เชิญคุณพ่อ  คุณแม่  แล้วก็น้ำกับเบนให้พี่ด้วยนะ  สองบ้านจะได้ทำความคุ้นเคยกัน”

“พี่ภูเชิญเองไม่ดีเหรอครับคุณแม่กับคุณพ่อน่ะ  ฟ้ายังหวั่นๆ อยู่”
 ยิ้มโชว์ฟันสวย ให้พี่ภูออกหน้าไป

“ก็ได้ๆ พี่จะบอกท่านวันมะรืนนี้แล้วกัน”
 แล้วพี่ภูก็โน้มหน้ามาจูบเรือนผม  ดีนะที่เขาสระผมเมื่อเช้าแล้ว

“ซี  ขอไปด้วยนะพี่ภู  พีทมันเป็นแฟนพี่เมศแล้ว  มันก็เลยลอยหน้าลอยตาเข้าไปในงานได้”
ซีเกมส์พูดแบบงอนๆ

“ไปได้ดิซีน่ะ  พี่หมอเค้าก็ต้องชวนซีไปอยู่แล้ว  แฟนกันไม่ใช่?”
ซีเกมส์ถลึงตาใส่เพื่อน

“บ้าแล้ว  พี่หมอไม่เห็นไปเดทเลย  วันก่อนน่ะ”
 ซีเกมส์พูดขำๆ ก็เขาไม่ได้ชอบพี่หมอเสียหน่อย

“ต้องได้ไปอยู่แล้วครับ  ซีน่ะเพื่อนรักแฟนพี่นี่”  พี่ภูสรุป  ซีเกมส์ยิ้มแป้น

“น้องฟ้าไปดูคุณปู่ที  พระจะมาแล้วครับ”
พี่ภูวิ่งวุ่นแต่เช้ามืดทั้งหาคนไปจ่ายตลาด  ช่วยงานครัว  หารถไปรับพระ
ขอบฟ้าก็มาช่วยตั้งแต่เช้ามืดเหมือนกัน  เด็กๆ ให้นัทรับไปดูแล  งานครัวนมพร้อมนำทีม
มีป้าแก้ว  ป้าจันทร์  ป้าอร  ส่วนลูกมือได้ส้มกับแอนมาช่วย

“พี่ภู  พระมาแล้ว  คุณปู่ก็พร้อมแล้วครับ”
ขอบฟ้าบอกพี่ภู  จึงมีลุงหมอ  พี่เมศและผองเพื่อนมาช่วยรับพระกันครบทีม
คุณพ่อคุณแม่ของขอบฟ้าก็มาทันพระด้วยเหมือนกัน  ท่านทั้งสองสีหน้ามีความสุขมาก
ขึ้นที่ได้มาทำความรู้จักกัน  ได้ทำบุญร่วมกัน
 

หลังจากพิธีสงฆ์เสร็จสิ้น  ส่งพระกลับวัดเป็นที่เรียบร้อยก็ร่วมรับประทานอาหารกันโต๊ะใหญ่
ซึ่งคุณปู่เองก็มีสีหน้ายิ้มแย้มที่ได้รู้จักคุณป๊ากับคุณม๊าของพีทเพิ่มอีกสองคน
ซึ่งท่านมาทันได้ร่วมรับประทานอาหารพอดี  สุดท้ายผู้ใหญ่ก็พูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติต่อกัน
ได้รู้ว่าลูกหลานคบหากัน  จะในรูปแบบไหนก็แล้วแต่ ขอให้พวกเขามีความสุขก็พอ

“ฉันน่ะหาผู้หญิงให้พวกมัน  จนฉันเส้นเลือดในสมองจะแตกตาย  ถึงมาคิดได้
วัยนี้กันแล้วพรุ่งนี้จะได้ตื่นลืมตาหรือเปล่ายังไม่รู้  สู้ได้เห็นพวกมันมีความสุขในวันนี้ที่ยังเห็นๆ
กันก็พอแล้วล่ะนะ” คุณปู่เล่าให้ทุกคนฟังต่างก็พยักพเยิดเห็นด้วย

“ดิฉันสิคะ  เจ้าตัวแสบคนน้องคาดหวังกับมันเยอะ  ก็ปวดใจไปหลายวันเหมือนกัน
พอจะเริ่มทำใจได้  ไอ้ตัวพี่ก็พาแฟนผู้ชายโผล่มาอีก  แทนที่บ้านดิฉันจะได้สะใภ้กับได้ลูกเขยแทน
สมองแทบแตกเหมือนกัน  ดีนะฉุกคิดได้ว่าชีวิตที่มันผ่านความเป็นความตายเหลือมาจนป่านนี้
ก็ให้มันใช้ๆ ของมันกันไป” คุณหญิงศศิเล่าเสียยืดยาว 

“นี่เจ้าพีทก็บอกว่ามาชอบพอกับหลานชายคนโตท่าน  เราก็เลี้ยงมันได้แต่ตัวจริงๆ
ล่ะนะเด็กสมัยนี้  ก็ต้องทำใจยอมรับกันไป” คุณป๊าของพีทเล่าบ้าง

“พ่อเบนครับ  วินวินจะเอาไก่ทอดอีกครับ”
วินวินอ้อนพ่อเบน  หนูน้อยรู้แต่ว่าพ่อเบนรักพ่อน้ำแล้วก็รักวินวินด้วย  เราเป็นครอบครัวเดียวกัน

“นี่ครับน้องวินวิน  เคี้ยวให้ละเอียดก่อนแล้วค่อยกลืนนะ  จะได้ไม่ปวดท้อง”  เด็กน้อยผงกหัวหงึกๆ

“พี่เมศ  จานนี้ไม่เผ็ดมากเท่าไหร่ลองทานดูครับ”  พีทดูแลพี่เมศไม่ห่างเช่นกัน

“น้องฟ้าเอายำเพิ่มมั๊ยครับ”  ขอบฟ้าส่ายหน้ายิ้มๆ
มองไปรอบๆ ทุกคนล้วนสีหน้ามีความสุข  เขาก็พลอยอิ่มใจไปด้วย
ไม่เว้นแม้แต่ซีเกมส์ที่ตอนนี้ได้พี่หมอเทคแคร์ไม่ห่าง
หากเพื่อนรักตัวเล็กจะมีใครมาดูแลเขาก็ยินดีด้วย

“ตัวเล็ก ไม่สบายหรือเปล่าทำไมทานน้อยจัง  หรือว่าเหนื่อยครับ”
 พี่ภูใช้หลังมือมาอังที่หน้าผาก ตัวก็ไม่ได้ร้อน เจ้าตัวส่ายหน้า

“ฟ้าไม่ค่อยหิวน่ะครับ  แอบฉกของว่างไปหลายชิ้นก็เลยตื้อๆ ครับ”  คนตัวเล็กสารภาพ

“งั้นเดี๋ยวหลังมื้อเที่ยงเราไปพักผ่อนกันก่อนก็ดีนะ  ตื่นกันเสียเช้ามืดเลยนี่”

“ก็ดีฮะ  พักสักชั่วโมงก็ได้  ที่นี่มีห้องพักแขกหรือเปล่าครับ”

“มีสิ ป้าจันทร์จัดไว้หลายห้องเลย  ให้เพื่อนๆ ไปพักได้สบายๆ ครับ เดี๋ยวพี่พาไปนะ”
ขอบฟ้ายิ้มตาหยี  หนังท้องก็ตึงๆ หนังตาก็เริ่มหย่อนๆ แล้ว


พอทานกันอิ่ม  นั่งคุยเล่นกันสักพักผู้ใหญ่ก็กลับไปจนหมด
พี่น้ำ  พี่เบนและน้องวินวินจะไปที่อื่นต่อ  พีทกับพี่เมศไปห้องพักแขกแล้ว
คุณปู่ขอเข้าไปเอนหลัง  ที่เหลือจึงย้ายกันไปที่ห้องนั่งเล่น  ขอบฟ้าย่องไป
จะช่วยนมพร้อมเก็บล้างในครัว  โดนดุนดันออกมาไม่ให้เข้าไปใกล้เสียนี่
จึงต้องไปนั่งเป็นเพื่อนพี่ภูเล่นกับลูกแทน  พี่หมอก็หามุกมาคุยไม่ได้หยุด
สักพักหนูรินหาวนอนพี่ภูจึงชวนให้พาลูกไปนอน  เหลือพี่หมอกับซีเกมส์ที่
คุยเล่นกันสองคนไม่ยอมเข้าห้องที่ยังมีเหลือ

“พี่ภู  บ้านใหญ่โตโอ่อ่า  ห้องหับก็เยอะแยะ  ทำไมถึงสะอาดสะอ้านได้ขนาดนี้เลยล่ะ”

“คุณปู่น่ะ  ท่านใส่ใจ  เจ้าระเบียบแต่ไหนแต่ไร  คนเก่าแก่ที่นี่จึงรู้ใจ
 พากันทำให้ท่านด้วยใจทั้งนั้น”

“ดีจัง เตียงนี่ก็สะอาดน่านอนด้วย”

พูดเสร็จตัวเล็กก็ล้มตัวลงนอน  พ่อลูกจึงนอนกอดกันหลับไปก่อนแล้ว
ไม่นึกฝันว่าจะมีวันนี้ที่ได้มานอนมองหน้าคนตัวโตแบบนี้
พี่ภูที่มีแต่คนหมายปองอยากได้เป็นคู่ชีวิต  พี่ภูที่คนอื่นๆ ต่างพูดว่าเป็นผู้ชายที่เข้าถึงยาก
พี่ภูคนจิตใจดีที่ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ยังเป็นพี่ตัวโตที่อยู่ในหัวใจคนตัวเล็กเสมอ

“ตัวเล็ก รัก พี่ตัวโตนะครับ” ขอบฟ้าเอื้อมมือไปกอดสองพ่อลูกแล้วหลับตามกันไป


มื้อค่ำวันนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความรั ก มิตรภาพ  ความเข้าอกเข้าใจกัน
คุณปู่จอมเผด็จการ  เจ้ายศเจ้าอย่าง  หน้าตาเรียบตึงไม่มีอีกแล้ว  เหลือแต่คนแก่ใจดี
มีเมตตา  หน้าตายิ้มแย้ม  คุณทวดที่หนูรินคุยด้วยมากที่สุดในตอนนี้และคุณปู่ที่หลานๆ
ให้ความเอาใจใส่ดูแล


หลังมื้ออาหารหมอคีรีหายไปสักพักก็กลับมาพร้อมกับเค้กวันเกิดก้อนโต
เขาสั่งทางร้านให้นำมาส่ง  หนูรินกระโดดดีใจที่จะได้ทานเค้กยักษ์
ทุกคนร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้คุณปู่  ท่านถึงกับมีน้ำตาซึมตื้นตันใจที่หลานๆใส่ใจ
เมื่อท่านเป่าเค้กก็ตัดแจกให้รับประทานกันอย่างถ้วนหน้า

ลุงหมอมาทันได้อวยพรคุณปู่ด้วย  แล้วก็มีของขวัญวันเกิดมามอบให้ท่าน
พอท่านเปิดออกดูคนอื่นๆ ก็พาเฮโลกันทั้งงานมันคือแพ็คเกจท่องเที่ยว
ต่างประเทศยกแก๊งที่ลุงหมอตั้งใจให้เป็นทริปท่องเที่ยวกับครอบครัวจริงๆ

“ทุกคนครับ  กลับไปก็รีบเคลียร์งานให้พร้อมนะครับ
งานเที่ยวฟรีกินฟรีแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยนะ  อย่าเล่นตัวกันนะครับ
หรือต้องแถมเงินติดกระเป๋าให้ก็บอก” 
พี่ภูกล่าวยิ้มๆ คนฟังพากันส่ายหน้าแล้วโห่ไล่  เป็นที่ครื้นเครง

“ปู่ขอบใจทุกๆ คนเลยที่มาวันนี้  เหนื่อยกันมาทั้งวันจะพักที่นี่คืนนี้ก็ได้นะ
ห้องหับมีออกถมถืดไป  หรือใครจะกลับก็เดินทางกันดีๆ ล่ะ”

สรุปทุกคนก็พร้อมใจกันกลับ  ทีมแม่ครัวคุณปู่จะให้รถที่บ้านไปส่งให้

“พี่เอาลูกนอนก่อน  น้องฟ้าไปอาบน้ำไป  จะได้นอนยาวๆ เลย”
ขอบฟ้าสะลึมสะลือเดินตุปัดตุเป๋ตามคนตัวสูงขึ้นห้องไป
รื้อตู้เสื้อผ้าหาชุดนอนมาเตรียมไว้ทั้งของตนและของพี่ภู
แล้วก็อาบน้ำแทบเป็นวิ่งผ่านน้ำกันเลย  เหนื่อยมาทั้งวันขอนอนก่อนนะ
แล้วไม่นานก็หลับไป  ภูดิศกลับมาจากส่งลูกเข้านอนก็รีบอาบน้ำ
ก่อนหลับก็ลากคนตัวเล็กมากอดแนบอก

ฟ้าเริ่มสางมีแสงรำไร  ภูดิศตื่นลืมตาเป็นอีกเช้าที่ได้ตื่นแล้วมีคนตัวเล็กซุกซบอยู่แนบอกอย่างนี้
แค่นี้ก็เพียงพอแล้วจริงๆ ชีวิต  เขาก้มลงหอมหัวคนในอ้อมกอดอีกแล้ว  เขาเสพติดกลิ่นคนตัวเล็ก
นี่ไปแล้ว  แค่ได้ดมก็มีความสุขผ่อนคลายแล้ว  มีเสียงงึมงำของคนหลับดังมาให้ได้ยิน

“ตัวเล็ก... รักพี่ตัวโตนะ”

“พี่ตัวโต... ก็รัก...ตัวเล็กครับ”




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2018 20:52:47 โดย เส้นขอบฟ้า »

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด