ภูรักฟ้า Special 3 กลับมาได้ไหม...กลับมาหากัน(แทนความคิดถึง)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภูรักฟ้า Special 3 กลับมาได้ไหม...กลับมาหากัน(แทนความคิดถึง)  (อ่าน 27938 ครั้ง)

ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ภูรักฟ้า ตอนที่ 35 คืนข้ามปี
«ตอบ #60 เมื่อ22-12-2018 21:08:36 »

ตอนที่ 35 คืนข้ามปี

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของปี  ภูดิศกับขอบฟ้าไปรับคุณปู่ที่บ้าน
พาไปทำบุญส่งท้ายปีกันที่วัด  ซึ่งไม่ไกลจากบ้านท่านนัก
นมพร้อมเตรียมอาหารใส่ปิ่นโต  ทั้งคาวหวาน  ดอกไม้ธูปเทียนพร้อมสรรพ
คุณปู่มีสีหน้ายิ้มแย้มดีใจที่หลานชายตั้งแต่ประกาศว่าคบหากับขอบฟ้า
ก็ยังคงให้ความใส่ใจดูแลท่านเรื่อยมาไม่ปล่อยให้เหงา

“คุณทวดขา  หนูรินช่วยจูงค่ะ  คนเยอะเดี๋ยวหลง”  หนูน้อยมีน้ำใจช่วยดูแล

“เราเองน่ะแหละยัยหนู  อย่าเดินไปไหนให้พ่อภูจูงดีกว่านะ”
 คุณทวดพูด ขอบฟ้าจึงมาคอยอยู่ข้างๆ ท่านแทน

“คุณปู่ครับ มาถวายข้าวพระพุทธกันก่อนครับ”
ขอบฟ้านำสำรับมาตั้ง แล้วจุดธูปเทียนส่งให้ท่าน

“ยัยหนูมาใกล้ๆ พ่อค่ะ ไหว้พระกัน”

ภูดิศพาลูกกราบพระ หลังจากเสร็จจากทำบุญที่วัด  ก็พาคุณปู่ไปทานมื้อเช้าที่ร้าน
ไม่ห่างจากวัดมากนัก  ทุกคนพลอยมีสีหน้าอิ่มบุญไปตามๆ กัน


“อ้าวพีท  พี่เมศ  มารอคุณปู่เหรอ  พาท่านไปทำบุญที่วัดมาน่ะ”  ขอบฟ้าเอ่ยทัก

“อ่อ  ตะกี้ป้าจันทร์บอกแล้ว  จึงคิดว่าไม่น่าจะนานเดี๋ยวก็คงกลับมา” พี่เมศตอบ

“สวัสดีครับคุณปู่  พอดีคุณป๊ากับคุณม๊าให้ผมนำของมาสวัสดีปีใหม่คุณปู่ น่ะครับ”

“อืม  ฝากขอบใจพ่อแม่นายด้วยนะ  พีท”
 คุณปู่จำชื่อพีทได้แล้ว รู้ว่าที่บ้านทำธุรกิจร้านทอง

“อยู่ทานมื้อเที่ยงด้วยกันก่อนนะทุกคนเลย” คุณปู่ชวน

“ได้ครับ  งั้นฟ้าเข้าไปช่วยในครัวดีกว่า” ขอบฟ้าแยกตัวออกไป

“พ่อภู  พาหนูรินไปดูปลาคราฟหน่อยสิคะ” แล้วพ่อลูกก็จูงมือกันไป

“พี่เมศมาช่วยพีทเลือกหน่อยสิครับว่าคืนนี้เราจะไปเคาน์ดาวน์ที่ไหนกันดี
เดี๋ยวจะได้ชวนคู่พี่ภูและพี่น้ำด้วย ไปที่ไม่ไกลมากนักเนอะ”
พีททำตาอ้อนใส่พี่เมศ  ตั้งแต่คบกันเป็นแฟนมาก็หลายเดือน
 พี่เมศยังไม่เคยทำอะไรให้พีทรู้สึกว่าพี่เมศจะรักเขาเลย
 มีแต่เขาที่รักพี่เมศมากขึ้นทุกวัน

“คืนแบบนี้  คู่รักเขาก็อยากอยู่กันเป็นส่วนตัวทั้งนั้น  จะมีใครเขาไปกับเรากันล่ะ
 เคาน์ดาวน์ที่ห้องเราก็ได้นะพีท ไม่ต้องไปเบียดผู้คนด้วย” พี่เมศออกความเห็น

“จริงด้วยสิ  งั้นพีทไปห้องพี่นะ  ขอซื้อเครื่องดื่มเข้าไปด้วย
 เมาก็นอนนั่นเลย ไม่ลำบากใครด้วย เยี่ยม! ไปเลย”
พีทสรุปดวงตามีประกายวิบวับ ซึ่งภูเมศไม่ทันได้เห็น

“พี่ภูกับฟ้า ไปเคาน์ดาวน์ที่ไหนกันล่ะคืนนี้” พีทเอ่ยถามเพื่อน

“คงที่บ้านน่ะพีท ไม่อยากไปเบียดคน อึดอัด” ขอบฟ้าตอบ

“บ้านพี่ภู  สินะฟ้าเพื่อนรัก  ฮิ้ววว” พีทโห่แซว

“แสนรู้เนาะ  แกคงห้องพี่เมศล่ะสิ” ขอบฟ้ายักคิ้วใส่เพื่อน

แน่นอนครับ  ก็ต้องห้องคนรักสิครับ  จูบกันดูดดื่มข้ามปีไปเลย  แกลองดูนะ
รับรองพี่ภูรัก  พี่ภูหลงยันปีหน้าเลย  ถ้าพี่เมศให้จูบพีทแบบที่ใฝ่ฝันนะฟ้าเอ๊ย!
โงหัวไม่ขึ้นแน่  แค่นี้ก็ทั้งรักทั้งหลงไม่รู้จะทำไงแล้ว”
พีทเพ้อตาลอย โดยไม่รู้ว่าคนหล่อของเขามายืนฟังอยู่ตั้งนานแล้ว

“ทานข้างเที่ยงกันค่ะ  อาหารพร้อมแล้ว” ป้าจันทร์เดินมาตาม

“คุณทวดขา  หนูรินเห็นลูกปลาคราฟด้วยค่ะ”

“เอ้า! จริงเหรอ  เดี๋ยวทวดต้องหาคนไปแยกออกไว้ต่างหาก
 เดี๋ยวโดนป่าใหญ่กินเสียหมด”

“ปลาใหญ่กินปลาเล็กหรือคะ” หนูรินถาม

“ใช่ๆ กินเกลี้ยงไม่มีเหลือ”

“น่าสงสารจังค่ะ” หนูรินทำหน้าเศร้า

“ไม่เป็นไร ยัยหนู แยกออกจากกัน จะได้ไม่ถูกกินไง”
คุณทวดอธิบายให้หนูน้อยฟัง  แล้วทุกคนก็ลงมือทานมื้อเที่ยงกันไป
คุยกันไป ส่วนใหญ่เป็นคุณทวดกับหนูรินที่คุยกัน จนอิ่มจึงแยกไปนั่งคุยกัน
ต่อที่ห้องนั่งเล่น จนยัยหนูเริ่มง่วงเพราะหนังท้องตึง ภูดิศจึงขอกลับก่อน
พี่เมศและพีทจึงลากลับบ้าง


ค่ำคืนอันยาวนานกว่าจะข้ามปี  ช่างยาวนานในความคิดของภูเมศเพราะหลังจาก
ที่พีทพาเขามาส่งที่ห้อง จนตอนนี้ 5 ทุ่มครึ่งไปแล้ว  ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของพีท
คงเบื่อกับคนที่ไม่มีความโรแมนติก ไม่เคยบอกรัก ทั้งที่พีทพูดออกบ่อย
ไม่มีความคาดหวังอะไรให้  คบกับเขาก็เหมือนคบกับก้อนหิน
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้น้ำตาก็ไหลลงมาเป็นทาง  เขาถูกเบื่อแล้ว
ตอนนี้ก็ถูกทิ้งแล้วด้วย แล้วภูเมศก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนหมอนเปียกปอน
ไปด้วยน้ำตา  มันคงสายเกินไปแล้วที่เพิ่งรู้ใจตัวเองว่าเขารักพีท
อบอุ่นเสมอเมื่อได้อยู่ใกล้  และชอบที่ถูกตอแย  พอรู้สึกว่าต่อไปจะไม่มีอีกแล้ว
หัวใจมันเจ็บ  มันปวด  กลับมาอยู่ด้วยกันตรงนี้จะได้ไหม…ได้โปรด



พีทกระวนกระวายตั้งแต่หัวค่ำ  เขาไปที่ร้านป๊า  สั่งทำของที่ระลึกไว้ให้พี่เมศ
เพื่อให้เป็นสิ่งแทนใจในปีแรกที่เขาทั้งสองจะได้ข้ามปีไปด้วยกัน  แต่จนแล้วจนรอด
ของที่สั่งก็หาคนที่เก็บไม่เจอ  โยนกันไปมา  จนสุดท้ายกว่าจะหาข้อสรุปได้ว่าใคร
เอาไปและอยู่ที่ไหน  เขาก็แทบระเบิดอารมณ์ใส่หลายๆ คน คุณม๊านั่นเองเอาไป
เพราะเพื่อนขอยืมไปทำแบบ  กว่าจะไปตามหาเพื่อนคุณม๊าเจอ  กว่าจะได้มายืนอยู่
หน้าห้องพี่เมศ  ป่านนี้คงหลับไปแล้ว

พีทรูดคีย์การ์ดเข้าไป  ด้านในเปิดไฟสว่าง  อีกสิบนาทีจะเข้าวันใหม่
 พีทรีบเดินเข้าไปในห้องนอน ไฟดวงเล็กเปิดไว้บนเตียงมีร่างที่คุ้นเคย
นอนตะแคงหันหลังให้ ได้ยินเสียงสะอื้น  เสียงสูดหายใจที่ติดๆ ขัดๆ
 ร้องไห้จนหายใจไม่ออกอีกแล้ว  ร่างสูงเข้าไปคว้าตัวมากอดไว้แน่น
 กดปลายจมูกที่เรือนผม  ดึงให้หันหน้ามา

“ไม่รักพี่แล้วใช่ไหมพีท  หมดรักแล้ว  เบื่อกันแล้ว  ใช่หรือเปล่า”
พี่เมศถามออกมาเสียงแหบโหย

“พีทรักพี่เมศนะ  รักมากครับ  คนดีของพีท ไม่ร้องแล้วนะ
 ดูสิหายใจไม่ออกอีกแล้ว  เรามานับถอยหลังกัน  จะเข้าวันใหม่แล้ว  เริ่มนะครับ”
พอพีทพูดจบกำลังจะนับ  พี่เมศก็พุ่งตัวประกบจูบที่ริมฝีปากของเขา
 ขบกัดตั้งแต่ริมฝีปากล่าง  แทรกลิ้นอุ่นในโพรงปากดูดดึงความหวาน
 ลิ้นพัวพันกันไม่หยุด  จนพลุสว่างเต็มท้องฟ้าจากบานหน้าต่าง  พี่เมศดื่มด่ำ
จมอยู่ในรสจูบที่ยาวนานแล้วก็ถอนปากออก  ไล่ขบกัดซอกคอของเขามือไม้
ซุกซนล้วงเข้าไปคลึงแผ่นอกของเขาขยำหน้าท้องของเขา  แล้วป่ายมือลงล่าง
ล้วงมือเข้าไปทักทายเจ้าน้องชายสุดรักของเขา  ที่ผงกหัวทักทาย  พีทกำข้อมือพี่เมศให้หยุด

“พี่เมศครับ แฮปปี้นิวเยียร์นะครับ พีทรักพี่เมศนะ”

“แฮปปี้นิวเยียร์พีท  พี่ก็รักพีทนะครับ” แล้วพี่เมศก็ผลักเขาลงบนเตียง
 แล้วก็ทั้งปาก จมูก ลิ้นของพี่เมศก็ปรนเปรอจนพีทเบลอ  ล่องลอย
 เสียวซ่าน  พีเมศไม่เคยเป็นแบบนี้  แค่ได้กอดหอมเท่านั้น จูบก็นานๆ ครั้งถึงจะยอม
 ทำเอาเขาแทบขาดใจเลยตอนนี้  ทั้งตื่นเต้น  ตื่นตัวกับสัมผัสที่จู่โจมนี้

“พี่รักพีท  ให้พี่เป็นของพีทนะ” จบคำที่พี่เมศพูด พีทเคลื่อนตัวไปทาบทับ
สองร่างที่เปล่าเปลือยแนบชิดไม่มีช่องว่างระหว่างกันและไม่มีส่วนไหนของ
พี่เมศที่ไม่ถูกพีทสัมผัส  จนพี่เมศหลังไม่ได้ติดพื้นเลยด้วยซ้ำ  แล้วทั้งสองก็
รวมร่างเป็นหนึ่งเดียวกัน

พีทบอกรักพี่เมศด้วยบทรักที่เร่าร้อน  รุนแรง  บทแล้ว
บทเล่าจนพี่เมศหลับไปกับอกของเขาในบทรักสุดท้ายนั่นแหละ  พีทจึงได้เริ่ม
ปิดเปลือกตาลงอย่างอิ่มเอม  และหลับตามกันไปพร้อมรอยยิ้มจางๆ ที่เคลือบบนใบหน้าหล่อคม

“รักน้องฟ้านะครับ” กว่าพี่ภูจะยอมปล่อยให้คนตัวเล็กได้นอนก็ปาเข้าไปตีสาม
ทั้งสองข้ามปีมาด้วยกันเพราะจูบที่พีทบอกนั่นแหละ  ทำเอาพี่ภูบอกรักจนขอบฟ้า
แทบขาดใจ  พี่ภูอ้างว่าปีนี้เรายังรักกันไม่กี่ครั้งเลย ดูพูดเข้า
“ฟ้าก็รักพี่ภูนะครับ” แล้วทั้งสองก็หลับตามกันไปอีกคู่


“น้ำครับ  เช็ดตัวหน่อยนะ  จะได้นอนสบายขึ้น  อยู่นิ่งๆ นะ”
เบนซินเช็ดตัวและควานนิ้วเข้าไปเอาสิ่งที่คั่งค้างออกให้
“อ่ะ  อา  เบน  น้ำง่วงแล้วนะ” คนง่วงประท้วง
“รู้ครับ  นอนนะครับ” เบนซินจูบที่หน้าผาก  แล้วก็กกกอดกัน
พากันหลับใหลไปในค่ำคืนของปีใหม่อีกปี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2018 21:11:42 โดย เส้นขอบฟ้า »

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
Re: ภูรักฟ้า ตอนที่ 35 คืนข้ามปี
«ตอบ #61 เมื่อ22-12-2018 22:44:33 »

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ตอนที่ 36 รักแท้มีจริงหรือ?

ช่วงนี้งานออกแบบจัดสวนของขอบฟ้ามีเข้ามามาก  จากการบอกกันปากต่อปากของเพื่อนสู่เพื่อน
จนขอบฟ้ารับแทบไม่หวาดไม่ไหว  ต้องออกต่างจังหวัดไปดูหน้างานลูกค้าที่ว่าจ้าง  ทำให้เขากับพี่ภู
แทบจะไม่ได้เจอหน้ากันด้วยซ้ำ  เวลาเขาโทรไปพี่ภูก็ติดคุยงานกับลูกค้า  เวลาพี่ภูโทรกลับมาก็เป็น
เขาที่ไม่ว่างเช่นกัน  กับน้องวินวินเองขอบฟ้าแทบไม่เจอหน้ามาจะเป็นเดือนแล้วเหมือนกัน
และวันนี้เป็นวันแรกที่เขาว่างเนื่องจากลูกค้ายกเลิกนัด  เพราะมีเหตุฉุกเฉิน เขาจึงคิดจะไป
ทำเซอร์ไพรส์พี่ภูที่บ้าน  ไปให้หายคิดถึงเสียหน่อยแล้วกัน


เท้าที่ก้าวไปยังห้องนั่งเล่นมีอันต้องชะงักอยู่กับที่  เมื่อจู่ๆ ก็มีเจ้าก้อนขน
สีขาวปุกปุยวิ่งผ่านหน้าไป
`เอ๊ะ! ที่นี่ ไม่เลี้ยงสุนัขนี่  ก็พี่ภูแพ้ขนสัตว์`
หนูรินให้เขาช่วยพูดกับพี่ภูเรื่องอยากมีสัตว์เลี้ยงแต่ก็ไม่สำเร็จ
แล้วสิ่งมีชีวิตที่มีขนยาวนั่นของใครกัน
\
“ไอเทม  มาหาแม่ค่ะลูก  ไปซนที่ไหนมา  ไม่สนใจแม่เลยนะ
กระโดดหาหนูรินแล้ว  ภูขา  ดูสิ  ลูกไม่สนใจแพทเลย  ไม่ยอมนะคะ”

“อาแพทขา  ไอเทมรักหนูรินมากกว่าอาแพทแล้ว  คริคริ”
 เสียงหนูรินพูดโต้ตอบกับคนชื่อแพท

”แพทครับ  นั่งห่างผมหน่อยก็ได้  กอดอะไรกันนักหนาล่ะ  อึดอัดนะ  ผมจะตรวจงาน
เดี๋ยวไม่เสร็จกันพอดี  ไม่อยากจะนอนดึกอีกแล้ว  ดึกมาหลายคืนแล้วด้วย”
เสียงพี่ภู  ทำเอาคนฟังยืนตัวแข็ง

“อย่าเล่นตัวนักเลยภู  ยิ่งกว่ากอดก็ทำมาแล้ว”  ยิ่งฟัง ขอบฟ้ายิ่งรู้สึกแย่

“แพท  ผมจะทำงาน”  เสียงพี่ภูแข็งขึ้น  แล้วเสียงในห้องก็เงียบลง
แต่ที่ดังขึ้นยิ่งกว่าเสียงอะไรในตอนนี้มันคือเสียงหัวใจของขอบฟ้าเอง
ขาก้าวไม่ออก  เหงื่อผุดซึมลงมาจนชื้นที่ตีนผม  มือเท้าก็ชื้นเหงื่อไปหมด
ไม่รู้ว่าจะเดินเข้าไปหรือถอยออกมาจากตรงนั้นดี  แล้วเสียงที่ได้ยินก็ทำให้ตัดสินใจได้ในทันที

“แพทครับ  ง่วงก็ไปนอนได้แล้วไป  ผมไม่อุ้มนะวันนี้”
 จบประโยคที่พี่ภูพูด  ขอบฟ้าก้าวถอยหลังสองก้าว  แล้ววิ่งออกไปทันที

“อ้าว  คุณฟ้าครับ จะกลับแล้วเหรอฮะ”
เสียงนัทเรียกจากด้านหลัง  ขอบฟ้าไม่หยุดทักด้วยซ้ำวิ่งไปถึงรถกระชากประตู
รถแล้วขับออกไปทันที  โดยไม่หันกลับมามองข้างหลังอีกเลย  สองมือกำพวงมาลัยแน่น
น้ำตานองหน้า  เขากลายเป็นส่วนเกินของคนบ้านนี้ไปแล้ว  แค่ช่วงไม่ถึงเดือนที่ห่างกัน
ลืมกันไปแล้วหรือไง  ไหนบอกว่ารักกันแล้วที่ได้ยินมันคืออะไร  สะอื้นจนตัวโยน
แล้วม่านน้ำตาก็มาบดบังทำให้เขามองเส้นทางข้างหน้าไม่ชัด  คงต้องจอดรถก่อน
ขืนไปทั้งสภาพแบบนี้คงไม่ดีแน่  แต่จังหวะที่จะเลี้ยวจอดเข้าข้างทางก็ไม่ทันแล้ว
เมื่อเห็นแสงจ้าที่ตรงหน้า  มีแรงเหวี่ยงมหาศาล  แล้วสติรับรู้ทั้งหมดก็ดับวูบลง

“พ่อครับ  แม่ครับ  ใจเย็นๆ ครับ  รอหมอก่อน  น้องไม่เป็นอะไร 
อย่าเพิ่งตีโพยตีพายขวัญเสียไปก่อนเลย  ถ้าฟ้าออกมาเจอว่าทุกคนอยู่ในสภาพนี้กัน
จะไม่แย่กันไปกว่านี้เหรอครับ”  น่านน้ำพูดปลอบใจพ่อกับแม่

“น้องฟ้าไปหาผมที่บ้าน  แต่ผมยังไม่ได้เจอหน้าเลย  นัทบอกว่าเห็นวิ่งออกไป
แล้วก็ขับรถออกไปเร็วมาก   จุดที่เกิดเหตุก็ห่างจากบ้านผมไม่ไกล
ทางคู่กรณีบอกว่าเห็นรถของฟ้าส่ายไปมา   เขาบีบแตรเตือนแต่น้องฟ้าก็หักรถเข้าหาเขา
จนเกิดการชนประสานงาผมขับตามออกมาก็ไม่ทันแล้วครับ  มันเกิดอะไรขึ้น
ผมไม่รู้เลยจริงๆ ครับ” ภูดิศเล่าไปทั้งน้ำตา  เขาไม่รู้จริงๆ ว่ามันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง
ในเมื่อไม่เจอหน้ากันเกือบเดือน  มาหายังไม่ทันได้เจอหน้าก็ผลุนผลันออกไปอย่างนี้
พอนัทวิ่งมาบอก  เขาจึงรีบขับตามออกไป  แล้วพบว่าข้างหน้าจราจรติดขัดเพราะเกิด
อุบัติเหตุ  นานเกินยี่สิบนาที  จึงเดินลงไปดู  ระยะห่างรถสิบกว่าคันข้างหน้าไม่ใช่อุปสรรค
เขาไปถึงสิ่งที่เห็นกลับทำให้ตัวเย็นวาบ  รถน้องฟ้าส่วนหน้าพังยับ  คนเจ็บถูกช่วยออกมา
ร่างโชกไปด้วยเลือด  เขาจึงวิ่งเข้าไปพยายามจะเข้าไปกอดเรียกร่างไร้สติตรงหน้า

“ผมเป็นญาติกับคนเจ็บ  ขอผมดูน้องหน่อย  น้องฟ้าฟื้นสิ  อย่าเป็นอะไรนะ”

“คุณครับ  ช่วยหลีกทางด้วย  เราต้องส่งคนเจ็บไปโรงพยาบาลโดยด่วน
อย่าขวางการทำงานครับ” ภูดิศเข่าอ่อนลงตรงนั้น

“ผมขอติดรถไปด้วยคนครับ” แล้วภูดิศก็กระโดดขึ้นรถของหน่วยกู้ชีพที่พยายาม
ใช้เครื่องช่วยหายใจ  เขาได้แต่มองคนรัก  ไม่สามารถทำอะไรได้เลย  จนเมื่อถึงโรงพยาบาล
เขาจึงได้โทรหานมพร้อมให้คนใช้กุญแจสำรองไปเอารถกลับ  และโทรหาน่านน้ำแจ้งเหตุที่เกิด
แล้วนั่งรอด้วยใจที่แทบแตกสลาย  การรอคอยครั้งนี้เป็นการรอคอยที่ทรมานอย่างแสนสาหัส
เลยในชีวิตของเขา  หวังแค่ให้ร่างที่ไร้สตินั้นฟื้นคืนมา  และเจ็บปวดให้น้อยที่สุด
เขาหวังให้น้องฟ้าของเขาปลอดภัยกลับออกมา  หากแลกกันได้เขาขอเป็นคนที่นอนอยู่ในนั้นแทน


“พี่ภูครับ  เข้มแข็งนะครับ  ฟ้าจะต้องไม่เป็นอะไร  ฟ้าจะต้องกลับมา
เรามาช่วยกันภาวนาให้ฟ้าปลอดภัยกันเถอะครับ”
น่านน้ำดูจะเข้มแข็งกว่าใครเพื่อน  ในสถานการณ์เช่นนี้  ภูดิศใช้หลังมือซับน้ำตา
แล้วหลับตาลงขอให้ปาฏิหาริย์มีจริง  ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้คนรักของเขารอดปลอดภัย

“น้ำ  น้องเป็นยังไงบ้าง  ยังไม่ออกมาเลยเหรอ” 
เบนซินมาถึง  น่านน้ำที่เห็นว่าเข้มแข็งแต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย  เขาโผเข้ากอดคนรักแน่น
ร้องไห้สะอึกสะอื้นน้ำตาที่เก็บกักมานานไหลบ่าลงมาอย่างหนัก  เบนซินกอดปลอบลูบหลังไหล่
พาไปนั่งไม่ห่างจากที่ภูดิศอยู่นัก

“ไม่ร้องครับ  คนเก่ง  อดทนมาได้ตั้งนาน  เห็นหน้าเบน  งอแงเป็นเด็กไปเลย
 เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่จะพลอยเป็นไปด้วยนะ  เข้มแข็งไว้ครับ  ฟ้าต้องปลอดภัยแน่นอน”
 เบนซินปลอบคนรัก

“เอ๊ะ!  นั่นหมอ!  ออกมาแล้ว  ไปดูกัน  พี่ภูไปครับ”
น่านน้ำหันมาฉุดแขนภูดิศให้ตามไปด้วย

“คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ  แต่ยังไม่ฟื้นคงสักสองหรือสามวัน
เพราะสมองได้รับการกระทบกระเทือนมีเลือดคลั่ง  อาจารย์หมอเก่งๆทั้งนั้น
วางใจได้ครับ” ทุกคนได้ฟัง  สีหน้าโล่งอกกันไปเปราะหนึ่ง
แต่ต้องมาลุ้นในตอนฟื้นอีกทีว่าจะมีอะไรผิดปกติหรือไม่



ขอบฟ้าลืมตา  เห็นเพดานสีขาว  ม่านหน้าต่าง  เตียงคนไข้
เขาเป็นอะไรทำไมถึงมานอนอยู่ที่นี่ขยับมือ
เท้าได้ปกติ  กลอกตา  ยกมือสัมผัสหน้า  ผมไม่มี

“พ่อครับ  แม่ครับ  พี่น้ำ  ขอน้ำดื่มหน่อยครับ”

“น้องฟ้า  ฟื้นแล้วเหรอครับ  คนดี  แป๊บนึงนะ  พี่เรียกหมอก่อนนะ”
ขอบฟ้ามองหน้าผู้ชายหน้าตาดีที่รีบกดเรียกหมอ  แล้วรู้จักเขาได้ยังไง
ทำไมเรียกเขาว่า`น้องฟ้า`

“ขอน้ำสักหน่อยครับ” ขอฟ้าเอ่ยปากขอน้ำดื่มอีก

“รอหมอก่อนนะครับ  ไม่รู้ว่าหมอจะให้ดื่มได้หรือยัง”

“แล้วพ่อ  แม่  พี่น้ำ  ไปไหนกันหมดครับ  แล้วผมเป็นอะไร  ทำไมมาอยู่ที่นี่
แล้วคุณเป็นใครครับ?” ขอบฟ้าพูดจบก็หันมองคนที่กุมมือของเขาไว้แน่น

“น้องฟ้า  เอ่อ!  ไม่ได้ล้อเล่นใช่มั๊ย  พี่ภู  น้องฟ้าจำไม่ได้เหรอครับ  พี่ภูไงล่ะ”
ภูดิศถามออกไปปากคอสั่น  ทำไม  เกิดเรื่องตลกอะไรกันนี่  แล้วทั้งพยาบาลและแพทย์
ก็เข้ามาด้านใน  เขาต้องถอยออกมาอยู่นอกห้อ ง แล้วน่านน้ำก็มาถึง

“พี่ภูทำไม  เป็นอะไร  ทำไมหน้าซีดๆ ฟ้าเป็นอะไรครับ”
 น่านน้ำถาม หน้าตาตื่นไปด้วย

“น้องฟ้าฟื้นแล้ว  หมอตรวจอยู่  แต่น้องฟ้าจำพี่ไม่ได้” ภูดิศพูด น้ำเสียงเศร้าๆ

“คุณหมอก็บอกไว้แล้วนี่ครับ  ว่าจะเป็นประมาณนี้  พวกเราก็ทราบนี่ครับพี่ภู
ดีเลยที่ฟื้น  เดี๋ยวน้ำขอโทรบอกพ่อกับแม่ก่อนนะครับ”
แล้วน่านน้ำก็ต่อสายแจ้งข่าวดีนี้ให้ทุกคนที่รอฟังทราบเรื่อง  แล้วหมอก็เรียกให้ญาติเข้าไปพบ

“ความทรงจำหายไปช่วงสามหรือสี่ปีที่แล้ว  คนไข้จะลืมไปหมด
ซึ่งต้องใช้เวลาฟื้นความจำกันสักระยะหนึ่ง  นะครับ”
คุณหมอบอกให้ญาติฟัง  ภูดิศเข่าแทบทรุด  รีบเอ่ยถามออกไปทันที

“แล้วจะกลับมาจำได้ทั้งหมดเหมือนเดิมหรือเปล่าครับ  แล้วต้องรอนานแค่ไหนครับ
 คุณหมอ” ภูดิศใจหายเมื่อได้ฟัง  ถามกลับเสียงเบาหวิว

“ก็อยู่ที่สมองของคนไข้ด้วย  อาจจะไม่กี่เดือนก็จำได้  หรือเป็นปีหรือไม่ก็จำไม่ได้เลยน่ะครับ”
เมื่อคุณหมอพูดจบ  พี่ภูหน้าเจื่อนลงไปอีก  จนน่านน้ำต้องจับมือพี่ภูมาบีบให้กำลังใจ
น้องจำเขาได้  จำได้หมด  และฟ้ายังคิดว่าตัวเองเรียนอยู่เลยด้วยซ้ำไป

“ค่อยๆ ช่วยกันฟื้นความจำนะครับ  พี่ภู  ฟ้ารักพี่ภูมาก  ไม่ยากที่ฟ้าจะกลับไปจำอะไรได้
หรือไม่พี่ภูก็สร้างความทรงจำใหม่ให้ฟ้าได้นี่ครับ  อย่ากังวลไปเลย  กว่าพี่ภูกับฟ้าจะมีวันนี้
ร่วมกันไม่ใช่ง่ายๆ อย่ายอมแพ้สิครับ”
น่านน้ำพูดให้กำลังใจคนตัวโตที่ไหล่ลู่ลงอย่างท้อแท้สิ้นหวังเสียเหลือเกิน
ความรักของเขาที่มีให้  มันจะต้องไม่สูญเปล่าแบบนี้

“ขอบคุณนะน้ำ  พี่จะไม่ยอมแพ้  พี่จะไม่ยอมปล่อยมือจากน้องฟ้าเด็ดขาด
เขาเป็นของพี่ เรารักกัน” พี่ภูพูดแววตากลับมามีประกายมุ่งมั่นอย่างเดิมแล้ว

“พี่น้ำครับ  ฟ้าอยากเข้าห้องน้ำ  อยากดื่มน้ำด้วย  หมอบอกว่าดื่มได้แต่ให้ค่อยๆ
 จิบเอา” ขอบฟ้าหันมาหาพี่ชาย

“พี่พาไปนะ  มาครับ  ไปห้องน้ำกัน”
 แล้วภูดิศก็อุ้มคนตัวเล็กขึ้น เจ้าตัวสะดุ้งทำหน้าดุใส่คนตัวโต

“พี่น้ำ  ฟ้าไม่ให้คนนี้พาไป” ขอบฟ้าหันไปหาพี่ชายจะให้ช่วย

“ไม่ดื้อสิครับ  เรียกพี่ว่าพี่ภูนะ  แล้วก็ไม่ดื้อนะคนดี”
น้ำเสียงที่ผู้ชายคนนี้ใช้กับเขาทำไมฟังดูนุ่มนวล  อบอุ่นจัง  พี่ภูเหรอ  แล้วเป็นใครกันนะ

“อ่ะ  นั่งลงครับ  เสร็จแล้วพี่จะพาออกไปนะ” คนตัวโตพามานั่งที่ชักโครก

“หันไปสิ  จะมองทำไมกันเล่า”
คนตัวเล็กแหวเข้าให้  ภูดิศจึงหันหลังให้  เขาเห็นมาจนถึงไหนต่อไหนแล้วยังจะมาหวงไม่ให้มองอีก

`ท่าทางขู่อย่างกับแมวเวลาพองขน  ก็น่ารักดีเหมือนกัน  ไม่เป็นไรเริ่มจีบใหม่ก็ได้
แล้วเราก็จะกลับมารักกันเหมือนเดิมอยู่ดี` ภูดิศคิด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-12-2018 13:28:15 โดย เส้นขอบฟ้า »

ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ภูรักฟ้า ตอนที่ 37 เพราะรัก
«ตอบ #63 เมื่อ27-12-2018 16:44:18 »

ตอนที่ 37 เพราะรัก

“พี่น้ำเล่าเหตุการณ์สำคัญๆ ที่ฟ้าลืมให้หน่อยสิครับ  ฟ้าอยากจำได้
แล้วผู้ชายคนนั้นด้วย  เอ่อ!...ฟ้ากับเขา…รักกันจริงเหรอ  เราเป็นผู้ชายนะครับ
แล้วคุณแม่ไม่อกแตกเหรอครับ  แล้วนี่ทุกคนรู้กันหมดเลยเหรอ   แล้วฟ้าชอบ
เขาจริงๆ เหรอเปล่า  ฟ้าไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ”
ขอบฟ้าถามพี่ชายออกไปจนคนฟังได้แต่ส่ายหน้า
จะให้เขาเล่าหมดภายในวันเดียวได้ยังไงกัน  เรื่องตั้งเยอะตั้งแยะ
ไม่เป็นไร  เขาเรียกตัวช่วยมาแล้วเจ้าเพื่อนซี้สองคนที่พอรู้ข่าว
แทบจะบินกันมาเดี๋ยวนั้นเลย

“ใจเย็นๆ ค่อยๆ ถาม  อย่ารีบ  เรื่องมันเยอะเดี๋ยวจำกันไม่หมดต้องมาเล่าซ้ำไปซ้ำมาอีก”
พี่น้ำพูด  แล้วประตูห้องก็เปิด ไอ้เพื่อนตัวแสบสองคนก็เข้ามา

“วันนี้ไม่ไปเรียนเหรอ  โดดเรียนมาอีกแล้วหรือไง” ขอบฟ้าเอ่ยทักเพื่อนก่อน

“เรียนอะไรกันอีกล่ะ  ทำงานแล้ว  ไอ้พีทสิ เรียนโทอยู่  จบปีนี้แหละ”
ซีเกมส์ตอบเพื่อนที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้

“คุยกันไปนะ  พี่ขอตัวไปทำงานก่อน  ฝากฟ้าด้วยนะซี
พีท  เดี๋ยวเย็นๆ พี่ไปรับเด็กๆจากโรงเรียน  แล้วจะมาเปลี่ยนให้
พี่ภูก็คงจะมาเอาตอนเย็นละมั้ง  แล้วเจอกันนะ” พี่น้ำแยกตัวออกไปทำงาน

“พี่น้ำไปแล้ว  เอ้า!  เล่ามาให้หมด  ขอเรื่องคนชื่อภูก่อนนะ  ด่วน!!”
แล้วก็เป็นพีทที่เล่าเรื่องราวตั้งแต่ว่าเจอกันได้ยังไง  คบกันเมื่อไหร่
ไม่เว้นทั้งวีรกรรมใหญ่ๆ ที่พากันฝ่าด่านทั้งคุณปู่ของพี่ภู  คุณหญิงแม่
แล้วยังเรื่องยัยผู้หญิงที่ชื่อญาดา  ขอบฟ้าฟังไปขอดมยาไปด้วย
เรื่องมากมายขนาดนี้  ทั้งเรื่องลึกๆ คนที่แวดล้อมตัวพี่ภู `พี่ภูเป็นพี่ตัวโต`
แล้วเราก็รักกันมาก  เมื่อฟังจบสมองก็ยังคงว่างเปล่าเหมือนเดิม

“ซี  พีท  ฟ้ารักพี่ภูจริงๆ เหรอ  แล้วพี่ภูล่ะรักฟ้ามั๊ย  เราเป็นผู้ชายกันนะ
แล้วพี่น้ำก็มีแฟนเป็นผู้ชายด้วยเหรอ  พีทก็อีกคนแถมรักกับพี่ชายพี่ภูด้วย
งงไปหมดแล้วเนี่ย” ขอบฟ้าย้อนถามเพื่อน  สีหน้ากังวลสงสัยเอามากๆ

“ค่อยเรียนรู้ไปทีละเรื่องดีกว่านะฟ้า  แล้วทุกอย่างมันจะกลับมาเป็นเหมือน
ที่มันเคยเป็น  แค่เปิดใจของตัวเอง  อย่าปิดกั้นตัวเอง  พี่ภูน่ะเขาน่าสงสาร
มากเลยนะฟ้า  เหมือนพี่เขาต้องมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่กับฟ้าทั้งหมด
ก็ฟ้าไม่หลงเหลือความทรงจำไว้ให้เลย  ลืมคนทั้งคนที่รักตัวเองแล้วฟ้าเอง
ก็รักเขามากๆ ได้จนหมดแบบนี้  เห้อ! สงสาร”
พีทพูดพร้อมกับตบที่หลังมือของเพื่อนเบาๆ และถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“แต่ฟ้าก็รักพี่ตัวโตของฟ้าอยู่นะ  ถ้าพี่ภูเป็นพี่ตัวโตฟ้าก็คงต้องใช้เวลา
มันคงไม่ยากที่ฟ้าจะรักพี่ภูได้อีกครั้ง” ขอบฟ้ามองเพดานขาวๆ แล้วเงียบไป

“พี่น้ำเล่าว่า  พี่ภูถึงกับร้องไห้แทบเป็นแทบตายตอนที่นั่งรอฟ้าหน้าห้องฉุกเฉิน
กว่าหมอจะออกมา  พี่ภูเหมือนคนหัวใจสลายเลยนะฟ้า”
ซีเกมส์เล่าเหมือนกับว่าอยู่ในเหตุการณ์เสียเอง

“ขนาดนั้นเลยเหรอซี  พูดเป็นเล่นไป  ทำไมฟ้าถึงจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้เลยล่ะ
ถ้ารักกันมันต้องมีหลงเหลือให้รู้สึกบ้างสิ  นี่ว่างเปล่าเอามากๆ เลยนะ
หรือว่าฟ้าจะไม่เคยรักพี่ภู  เป็นไปได้ไหมซี”
ขอบฟ้าหน้านิ่วคิ้วขมวด  แล้วก็ปวดหัวขึ้นมาอีกแล้ว  จึงยกมือขึ้นกุมขมับ

“ฟ้า  ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งนึก  อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลยตอนนี้  ยิ่งไปเร่งมัน
อาการเราจะยิ่งแย่นะ  ทำใจให้สบายๆ แล้วทุกอย่างก็จะดีเอง”  พีทบอกเพื่อน

“ใช่ๆ ตอนนี้สิ่งที่ฟ้าต้องทำคือ  ทำใจให้สบาย  เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในทุกๆ วัน
อะไรที่ยังนึกไม่ออกก็ปล่อยไปก่อน  ฟ้าต้องทำร่างกายให้แข็งแรงขึ้นมาก่อน
จะได้กลับไปอยู่บ้านได้ไวๆ ไงล่ะ  บ้านตัวเล็กของฟ้าไง  แล้วก็เจ้าถ้วยฟู
แมวตัวโปรดของฟ้าน่ะมันรอเจ้านายมันกลับอยู่นะ”
เกมส์ปลอบโดยเข้าไปจับมือขอบฟ้าบีบเบาๆ

“ขอบคุณมากที่มานะ  และยังเล่าอะไรต่างๆ ให้ฟังเยอะแยะ  ฟ้าขอพักสายตา
และสมองสักพักนะ  อย่าเพิ่งกลับกันล่ะ  อยู่ด้วยกันก่อน”
ซีเกมส์กับพีทพากันพยักหน้า  แล้วเดินไปนั่งที่โซฟามองเพื่อนรัก
ที่นอนหลับตาไปแล้ว  คงจะหลับไปจริงๆ แล้วนั่นแหละ


พอตอนกลางวันพีทและซีเกมส์ตั้งใจว่าจะพากันออกไปหาอาหารกินกัน
แล้วค่อยมาอยู่เป็นเพื่อนขอบฟ้า  แต่จังหวะที่จะเปิดประตูออกไป
ก็มีหนุ่มหน้าตี๋สวนเข้ามาที่ห้องก่อน  ถือเสบียงมามากมายในมือ

“สวัสดีครับ  คุณซีกับคุณพีทหรือเปล่าครับ  พอดีผมเป็นเลขาของคุณภูดิศครับ
บอสให้ผมเอาเสบียงมาส่งครับ  แล้วเย็นๆ จะเข้ามาเยี่ยมคุณฟ้า
ขอผมวางของก่อนนะ” แล้วหนุ่มตี๋ก็เดินไปที่โต๊ะและวางของทั้งหมดที่ถือมาลงบนโต๊ะ

“ครับสวัสดี  เอ่อ!  พี่ภูรู้ได้ยังไงว่าเราสองคนมาล่ะ”
พีทและซีเกมส์หันมาถามกันเอง

“เห็นบอสบอกว่าคุยกับพี่ชายคุณฟ้าน่ะครับ  แล้วนี่คุณฟ้ายังหลับเหรอครับ
จะได้กลับไปรายงานบอสถูก”

“ครับ  หลับไปนานเลย  เดี๋ยวคงตื่นจะได้ให้ทานกลางวันเลยด้วย
ฝากขอบคุณพี่ภูด้วยนะครับ  แล้วก็คุณเลขาด้วยที่อุตส่าห์เป็นธุระ
หาอาหารกลางวันมาให้” ซีเกมส์พูด  แล้วส่งยิ้มให้

“ไม่เป็นไรครับ  ยินดีทำให้ครับ” แล้วณนนท์ก็ยิ้มจนตาจะปิดเช่นกัน

“ถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อนนะ  ฝากบอกคุณฟ้าด้วยว่าผมณนนท์มาเยี่ยมครับ
และขอให้หายไวๆ กลับมาจำทุกคนได้เร็วๆ ยิ่งดี  โดยเฉพาะคนหล่อมากอย่างผม”
ณนนท์พูดสีหน้าทะเล้นแบบฉบับหนุ่มอารมณ์ดี

“ได้เลยครับ  เดี๋ยวผมจะบอกฟ้าให้”
พีทรับคำฝาก แล้วณนนท์ก็เดินกลับออกไป

“อ้าว!  ฟ้าตื่นแล้วเหรอ  นอนยิ้มอยู่ได้คงได้ยินที่หนุ่มตี๋เลขาพี่ภูพูดละซี
ท่าทางเขาจะเป็นคนอารมณ์ดีตลอดเลยนะนั่น”
ซีเกมส์ทักขึ้นเมื่อเห็นขอบฟ้าตื่นมานอนยิ้ม

“อืม… ขำๆ น่ะ  คนอะไรช่างหลงตัวเองดี  แต่ฟ้าไม่รู้จักเขานี่จะลืมตามาทักได้ไงล่ะ”
ขอบฟ้าบอกเพื่อนรักทั้งสอง

“มาๆ เดี๋ยวซี  จัดอาหารใส่จานให้นะ  ไหนดูสิพี่ภูซื้ออะไรมาบ้าง  โอ้โห!
นี่มันของโปรดแกทั้งนั้นเลยนะเว่ยฟ้า  ทั้งยำรวมมิตรทะเล  ปลาทับทิมลุยสวน
แล้วก็ต้มยำอีก  โหๆ กะจะขุนให้อ้วนเป็นหมูหรือไงกัน  อิจฉาคนมีผัวที่ตามใจสุด
จังเลยว่ะ” ซีเกมส์แกะอาหารไปพูดสาธยายเมนูอาหารไปด้วย
แต่ประโยคท้ายๆนี่แขวะเพื่อนไปเต็มๆ

“ซี  ฟ้าไม่เห็นจะจำได้ว่าไปเป็นเมียพี่ภูตอนไหน  พูดจาเลอะเทอะแล้วแกน่ะ”
ขอบฟ้าหน้าบูดหันมาค้อนเพื่อน

“หรือแกจะเปลี่ยนตำแหน่งไปเป็นผัวพี่ภูล่ะฟ้า  ฮ่าฮ่า”
พีทแซวเพื่อน ทำเอาขอบฟ้าอายหน้าแดงกับวาจาของพีท

“ตกลงแกสองคนจะให้กินไหมข้าวน่ะ  หิวแล้วนะเว่ย”
ขอบฟ้าแกล้งทำเป็นโมโหหิว

“ฟ้าเพื่อนรัก  เปลี่ยนเรื่องจนได้สินะ  ซีเร่งมือหน่อยฟ้ามันหิว  เดี๋ยวมันจะกินหัวพวกเราเอา”
พีทพูดแล้วยักคิ้วล้อเลียน  แล้วทั้งสามหนุ่มก็พากันกินข้าวกลางวันไปด้วยคุยเล่นกันไปด้วยไม่หยุดปาก

“อาหารเขาอร่อยดีเนอะ  รสชาติเหมือนเคยได้กินมาก่อนยังไงไม่รู้”
ขอบฟ้ารู้สึกคุ้นๆ ลิ้น

“พี่ภูคงให้เลขาเขาไปซื้อมาจากร้านประจำของแกสองคนก็เป็นได้นะฟ้า  เนาะซี”
พีทคาดเดาตามรูปการณ์

“อืม…น่าจะใช่แหละ” ซีเกมส์สรุป


ตลอดทั้งช่วงบ่ายทั้งสามก็มีเรื่องเม้าได้ไม่หยุดเหมือนกัน  คนไข้ก็ไม่ยอมนอนอีกเลย
บอกแต่ว่าไม่ง่วงๆ แล้วก็มองแต่ประตู  เหมือนรอคอยใครอยู่อย่างนั้นแหละ

“ฟ้าแกจะชะเง้อมองทำไมนักประตูน่ะ  รอใครวะ  พี่ภูหรือเปล่า”
พีทถามออกไปตรงๆ ขอบฟ้าส่ายหน้า

“ไม่รู้สิ  เหมือนจะรอ…แต่ไม่รู้ว่ารอใคร…บอกไม่ถูกว่ะพีท”
ขอบฟ้างึมงำตอบเพื่อนไป

“อ้าว!  พี่ภู  มาแล้วนั่นน่ะ  หืม…พี่เมศก็มาด้วย  มาพร้อมกันเลยเหรอฮะ
ไม่เห็นบอกพีทเลยว่าจะมา”
แล้วพีทก็เดินเร็วรี่ไปหาพี่คนหล่อตัวขาวๆ ที่มาพร้อมกับพี่ภู
ขอบฟ้ารู้สึกเป็นสุขอย่างบอกไม่ถูกที่เห็นหน้าพี่ภู 
นี่สินะที่รอมาตลอดบ่าย เป็นพี่ภูนี่เอง

“เป็นยังไงบ้างครับ  น้องฟ้า  ยังปวดหัวอีกมั๊ย  มีไข้หรือเปล่า
ไหนพี่ดูหน่อยสิครับ” แล้วพี่ภูก็โน้มหน้าผากของเรามาชนกันเบาๆ
ปลายจมูกแตะสัมผัสกันพอดิบพอดี  ขอบฟ้ารู้สึกอุ่นวาบไปถึงหัวใจ
ทำไมการกระทำของผู้ชายคนนี้ถึงได้อ่อนโยนและทำให้เต็มตื้นในอกอย่างนี้

“ไม่มีไข้แล้วครับ  อ้าว!  ร้องไห้ทำไมกันครับ”
พี่ภูเกลี่ยเช็ดน้ำตาให้  ขอบฟ้าก็ตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงน้ำตาไหล

“เอ่อ…ฟ้าไม่เป็นไร…ไม่รู้สิ…น้ำตามันไหลเองครับ”
ขอบฟ้าตอบพี่ภูไป
“ตัวเล็ก  เป็นอะไรต้องรีบบอกพี่นะครับ  เจ็บหรือว่าปวดหัวก็บอกนะ  พี่จะได้เรียกหมอ”

“ครับ  ไม่ได้เจ็บอะไรจริงๆ ครับ  พี่ภูพาฟ้าไปห้องน้ำหน่อยสิครับ”
ขอบฟ้าบอกคนตัวโต

“พี่อุ้มนะ ฮึ๊บ…” แล้วพี่ภูก็ช้อนมือเข้าใต้ขาอุ้มเขาขึ้นทำอย่างกับว่าเขาตัวเบา
อย่างนั้นแหละ  แล้วก็ให้เขานั่งลงที่ชักโครก  แล้วพี่ภูก็ยืนหันหลังให้
แผ่นหลังและบ่ากว้าง
`ผู้ชายคนนี้คือพี่ตัวโต  พี่ตัวโตของตัวเล็ก  คนที่อยู่ในความทรงจำ
คนที่เฝ้ารอมานานแสนนาน  มาอยู่ตรงหน้าแล้ว  คนเดียวที่อยู่ในหัวใจเสมอมา`
ขอบฟ้าจ้องมองแล้วน้ำตาก็ไหลลงมาเป็นทางที่ร่องแก้ม  สะอื้นออกมา
จนพี่ภูหันขวับกลับมามอง

“เป็นอะไรไปครับ  งอแงอีกแล้ว  ไหนเสร็จหรือยังครับ” ขอบฟ้าพยักหน้า
พี่ภูจึงกดชักโครกแล้วพาเขาออกมาจากห้องน้ำแล้ววางลงที่เตียงอย่างเดิม

“อ้าว! ภู  ไปดุอะไรน้องเนี่ย  ร้องไห้ใหญ่เลย  เป็นอะไรครับ”
ภูเมศเดินเข้าไปหาคนตัวเล็ก

“เอ่อ…ผมไม่ได้ทำอะไรน้อง  ฮอร์โมนคงเปลี่ยนมั้งครับ
ไม่มีอะไรหรอก  เนาะ” แล้วพี่ภูก็ยกมือมาลูบแขนและตบที่หลังมือเบาๆ
อ่อนโยนได้อีกคนอะไร  จะทำอะไรก็ดูเป็นธรรมชาติไปเสียหมด

“ถ้าเจ้าภูมันรังแกบอกพี่นะ  พี่จะจัดการให้ครับ” พี่ตัวขาวที่มากับพี่ภูพูดขึ้น

“พี่เมศครับ  ให้เขาสองคนเคลียร์กันเองเลยครับ  พี่เมศน่ะมาเคลียร์กับพีทก่อน
ตกลงว่าไงครับ  จะเดินทางคืนนี้จริงเหรอ  รอพีทอีกวันไม่ได้เหรอฮะ
ค่อยไปพร้อมกันนะครับ” แล้วพี่เมศก็โดนพีทลากไปคุยอีกมุม
ซีเกมส์ก็นั่งกินผลไม้เยี่ยมไข้  เคี้ยวตุ้ยๆ อีกมือก็กดแชทโทรศัพท์ไม่หยุด
พี่ภูนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง  ฉวยมือของเขาไปกุมไว้แล้วก็ก้มลงมาจูบที่หลังมือเขาอีก
ช่างดูละมุนละไมเหลือเกิน
`พี่ภู…พี่ตัวโต คนที่ฟ้ารักเหรอ  ใช่จริงๆ สินะ`

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
Re: ภูรักฟ้า ตอนที่ 37 เพราะรัก
«ตอบ #64 เมื่อ27-12-2018 20:09:36 »

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ภูรักฟ้า ตอนที่ 38 รักเป็นเหตุ
«ตอบ #65 เมื่อ28-12-2018 12:41:04 »

ตอนที่ 38 เพราะรักเป็นเหตุ
ตกเย็นน่านน้ำติดธุระด่วนจึงให้เบนซินไปรับเด็กๆ แล้วจึงโทรบอกภูดิศว่าหนูรินก็อยู่ที่บ้านใหญ่
กับวินวินด้วยโดยให้แอนกับเก่งช่วยกันเลี้ยงน้อง  เขากับเบนซินขอไปเคลียร์ธุระก่อน

`พี่ภูช่วยเฝ้าฟ้าไปก่อน  น้ำทำธุระเสร็จจะไปเปลี่ยนให้นะครับ`

`น้ำกับเบน  ไม่ต้องรีบก็ได้พี่อยู่เป็นเพื่อนน้องฟ้าได้  เนี่ยซีเกมส์กับพีทก็ยังอยู่
 อืม…แล้วเจอกันนะน้ำ` ภูดิศวางสายลง

“พี่น้ำโทรมาว่าไงเหรอฮะ  ไหนบอกว่าจะพาหลานมาหาฟ้าไงล่ะ”
ขอบฟ้าหน้างอ  เมื่อไม่ได้ดั่งใจ  เขาคิดว่ายังไงเย็นนี้จะต้องได้เจอน้องวินวิน
อยากจะเห็นว่าหลานโตขนาดไหนได้ยินคุณพ่อกับคุณแม่บอกว่าเรียนอนุบาลแล้วด้วย

“วันนี้น้ำติดธุระ  ก็เลยพาลูกไปส่งบ้านแล้วล่ะ  พรุ่งนี้ค่อยเจอกันนะกับหลานน่ะ”
พี่ภูพูดยิ้มๆ มองคนเอาแต่ใจ

“ฟ้าก็ตั้งหน้าตั้งตารอไปเถอะ  ดูสิ!  รอเก้อเลย”
พูดจบก็หน้าง้ำ  จมูกเชิดรั้นขึ้นไปอีก  ภูดิศมองแล้วก็กลั้นขำ

“พรุ่งนี้ได้เจอแน่ๆ ขี้คร้านจะเบื่อไปเลยสิไม่ว่า”
ภูดิศแกล้งกระเซ้าคนแสนงอน

“พูดพิลึกไปได้พี่ภู  ฟ้าจะเบื่อได้ไงหลานตัวเองแถมเลี้ยงมาเองกับมือ
ด้วยนะจะบอกให้  พี่ภูน่ะไม่รู้อะไร” ขอบฟ้าคุยอวดคนตัวโตที่มองมายิ้มๆ

“พี่ภูครับพวกเราขอกลับกันก่อนนะ  พรุ่งนี้จะมาอยู่เป็นเพื่อนอีกวันนะฟ้า
พักผ่อนเยอะๆ นะแก  หายเร็วๆ นะเว่ย!  สงสารใครบางคนจะเฉาตาย
เสียก่อน  คริคริ” ซีเกมส์พูด  แล้วก็หันไปแซวพี่ภูในตอนท้ายประโยค

“อะไรกันครับ  รุ่นนี้แล้วไม่มีเฉาแค่ปราบเด็กดื้อง่ายนิดเดียวเอง
ลองดื้อสิ! โดนดีแน่!”
พี่ภูพูดแล้วก็ยักคิ้วให้ซีเกมส์และพีทแล้วยังหันหน้าไปทำท่าหมั่นเขี้ยวใส่คนบนเตียงอีก

“แค่เบาะๆ พอนะครับพี่ภู  อย่าหนักมือนักล่ะเดี๋ยวเพื่อนผมจะช้ำ  ฮ่าฮ่า”
พีทแซวกลับไปอีกคน  แล้วฉวยมือพี่เมศจูงกันออกไปนอกห้องเพราะ
เห็นเพื่อนมองมาตาเขียวปั๊ดแล้ว

“อาหารเย็นมาแล้วครับ  ทานเลยเนอะจะได้ทานยา” ขอบฟ้าพยักหน้า

“จะทานเองหรือให้พี่ป้อนครับ  ข้าวต้มกุ้งด้วยนะเนี่ย” พี่ภูยกชามมาตรงหน้า

“ฟ้าทานเองได้  พี่ภูล่ะทานด้วยกันไหมครับ” ขอบฟ้าหันมาชวนคนตัวโต

“ไม่ครับ  ตัวเล็กทานเถอะ  เยอะๆ เลยนะ  จะได้อ้วนๆ ดูสิผอมลงไปเยอะมาก”
ขอบฟ้ามองหน้าคนพูด  รู้สึกตื้อขึ้นมาอีกแล้ว  ทำไมชอบแต่จะน้ำตาไหลกันนะช่วงนี้

“ปวดหัวเหรอครับ  พี่ไปบอกหมอให้ไหม”
พี่ภูถามอย่างร้อนใจ  เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าดูจะเงียบงัน
ไม่ค่อยมีปฏิกิริยาอะไรตอบสนองเท่าที่ควร

“เปล่าครับพี่ภู  ฟ้าไม่ได้ปวดหัวครับ”
ขอบฟ้าตอบเสียงอ่อน  เมื่อเห็นความร้อนใจของอีกคนเข้า

“แล้วทำไมขี้แยจังล่ะครับ  มีอะไรต้องบอกพี่นะรู้ไหม
อย่าเก็บไว้คนเดียว” พี่ภูพูดอย่างเอื้ออาทรแล้วเช็ดน้ำตาให้
ขอบฟ้าจึงพยักหน้ารับคำและลงมือทานข้าวไปจนเกือบหมดนั่นแหละ

“ฟ้าอิ่มแล้วครับพี่ภู” ส่งชามคืนให้และดื่มน้ำไปหน่อยนึง

“เก่งจังครับน้องฟ้า  ทานได้ตั้งเยอะ  อีกสักพักค่อยทานยานะ”
พี่ภูเก็บชามไปวางที่โต๊ะให้  คนป่วยนั่งดูทีวีไป  แอบชำเลืองมองคนตัวสูง
ที่นั่งไม่ห่างกัน  แล้วสักพักก็ทานยา  ดูทีวีไปรู้สึกหนังตาหนักๆแต่ฝืนไว้ไม่ให้หลับ

“พี่เช็ดตัวให้นะตัวเล็กตาปรอยแล้ว  จะได้นอนสบายขึ้น  รอพี่แป๊บนึงนะครับ”
แล้วพี่ภูก็หาผ้าชุบน้ำมาเช็ดให้ตั้งแต่หน้าลงมาตามแขนขา  แล้วก็จับเปลี่ยนชุดใหม่
ตอนนี้ขอบฟ้าง่วงจัดแล้วจนตาแทบจะลืมไม่ขึ้น

“นอนเลยครับ  พี่จะนั่งเป็นเพื่อน  ถ้าน้ำมาพี่ค่อยกลับครับ
หลับตานะครับ  เด็กดี”  แล้วขอบฟ้าก็ปิดเปลือกตาลง และหลับไปในที่สุด
ภูดิศนั่งเฝ้าจนกระทั่งน่านน้ำมาเปลี่ยนเขาจึงกลับไปรับหนูรินที่บ้านใหญ่ของน่านน้ำ


ตอนสายของวันนี้แก๊งเพื่อนรักก็มาอยู่เป็นเพื่อนจริงๆ อย่างที่บอกไว้เมื่อวาน
คุยกันไปประมาณชั่วโมงได้ขอบฟ้าก็ขอตัวนอน  เพราะง่วงมากแล้ว
จึงปิดเปลือกตาลง  แต่หูยังได้ยินบทสนทนาของสองหนุ่มเพื่อนเกลอ

“พีท  พี่ภูน่าสงสารมากๆ เลยนะเว่ย  จากที่พี่น้ำเล่าให้ฟัง
พี่ภูบอกกับพี่น้ำว่าต่อให้พี่เขาต้องจีบฟ้าไปอย่างนี้อีกสักกี่สิบปีเขาก็จะทำ
ก็ได้แต่หวังว่าอย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย  ว่าไหมพีท”
เสียงของซีเกมส์ที่พูดคุยกับพีท  เขาได้ยินอย่างชัดเจน

“ฟ้ามันก็น่าสงสารแหละ  มันไม่มีทางเลิกรักพี่ภู  มันเคยบอกไว้
จำได้ไหมที่มันร้องไห้จะเป็นจะตายครั้งที่คุณหญิงแม่ให้มันเลิกกับพี่ภูน่ะ
เพราะท่านอายผู้คนจะติฉินนินทา  อายถ้าหากใครจะว่าท่านมีลูกเป็นเกย์
แล้วฟ้ามันยอมไหม…ก็เปล่า” เสียงพีทพูดขึ้นมาอีก

“อืม…พี่ภูกับฟ้าต้องพิสูจน์กันเอาเองแล้วละว่ารักแท้มีอยู่จริงหรือเปล่า…เฮ้อ”
ซีเกมส์พูดไปทอดถอนใจไปด้วยถ้อยคำของเพื่อนที่จบลงทำให้ขอบฟ้าน้ำตาไหลริน

`พี่ภูรักฟ้า จริงๆ อย่างนั้นเหรอ แล้วทำไมพี่ภูนอกใจฟ้า พี่ภูมีผู้หญิงคนอื่น`
ขอบฟ้าตื่นนอนขึ้นมาเช้านี้ความทรงจำเก่าๆ ที่เขาสองคนเคยมีร่วมกัน
ทั้งทุกข์และสุข  มากมายอย่างที่เพื่อนเล่าให้ฟัง  และเหตุการณ์สุดท้ายที่เขายังจำไม่ลืม

`จะต้องรักไปเจ็บไปอย่างนั้นหรือไงกัน  ฟ้ารักพี่ภู…แล้วพี่ภูล่ะ…ยังรักฟ้าอยู่ไหม?`
ก้อนสะอื้นวิ่งขึ้นมาจนรู้สึกจุกอยู่ที่อก  อยู่ๆ ขอบฟ้าก็รู้สึกว่ามีฝ่ามืออุ่นมาลูบไล้แผ่วเบา
แถมเช็ดน้ำตาให้ด้วย  ลมหายใจอุ่นที่รินรดใบหน้า  และริมฝีปากอุ่นที่แตะแต้มบางเบา
ที่หน้าผาก  กลิ่นกายแบบนี้  สัมผัสแบบนี้…ฟ้าจะลืมไปได้ยังไงกัน  ยิ่งรู้สึกยิ่งห้ามน้ำตา
ไว้ไม่ได้  ขอบฟ้าถูกรวบกอดจากอ้อมแขนอุ่นที่โหยหา  อ้อมกอดพี่ภู…

`อยากหยุดเวลานี้เอาไว้…หยุดไว้ตรงนี้…ตรงที่มีเพียงเรา…แค่สองคน
…ไม่มีมือที่สาม…ไม่มีใครมาคั่นกลางความรัก…ระหว่างเราสองคน`

“คนดีของพี่  ร้องไห้ทำไมครับ  พี่อยู่ตรงนี้แล้วไม่ต้องกลัวนะ”
ริมฝีปากของเขาถูกริมฝีปากอุ่นๆ สัมผัสแผ่วเบานุ่มนวลและแสนจะอ่อนโยน
นักหนาในความรู้สึก  ไม่อยากลืมตาเพื่อที่จะเจอว่าตนกำลังฝันไป

“ฝันร้ายเหรอที่รัก  ลืมตาเถอะนะ”
ขอบฟ้าเปิดเปลือกตาขึ้นมองผู้ชายที่รักที่สุดตรงหน้าถึงจะพร่าเลือนไปด้วยม่านน้ำตา
ที่บดบังอยู่ก็ตาม  ยังได้เห็นคนที่รัก

“เอ่อ…พี่ภู มานานแล้วเหรอครับ  แล้วเพื่อนๆ ฟ้าไปไหนกันหมด”
ยกหลังมือปาดน้ำตา  แล้วเสไปมองหาเพื่อนๆ

“พี่เพิ่งมาครับ  มาอยู่เป็นเพื่อนไงไม่ดีเหรอ  พี่ให้ซีกับพีทกลับไปก่อนแล้วล่ะ”
น้ำเสียงทุ้มนุ่มไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย

“เดี๋ยวหนูรินกับน้องวินวินก็จะมาเยี่ยมอาฟ้ากันแล้วนะ
จำหนูรินลูกเราได้ไหมครับ” พี่ภูโมเมอีกแล้ว  ลูกตัวเองคนเดียวเหอะ

“เอ่อ…ฟ้ามีลูกด้วยเหรอครับ”
 ถามออกไปอย่างนั้นเอง  จะดูสิว่าพี่ภูจะมาไม้ไหนอีก

“ใช่ๆ หนูรินลูกของเราไงล่ะ  หึหึ”
 น้ำเสียงเจ้าเล่ห์มากเลย  แล้วตลอดบ่ายนั้นขอบฟ้าก็นอนหลับ
โดยมีพี่ภูมานั่งกุมมืออยู่ข้างเตียง  ตกเย็นประตูห้องก็เปิดออก
แล้วเด็กๆ ก็เดินรี่เข้ามาหา  หนูรินยิ้มแป้น  น้องวินวินกลับหน้าเศร้าๆ

“อาฟ้า  หายหรือยังครับ  วินวินไม่เจออาฟ้าตั้งน้านนานเลย
อาฟ้ามาอยู่ที่นี่เองเหรอ” น้องวินวินถามขึ้นเมื่อเดินมาถึงเตียงอาฟ้า

“อาฟ้า  ไม่สบายก็ต้องมานอนให้คุณหมอรักษาไงครับ
คนเก่ง  อีกแป๊บก็จะหายแล้วละ” ขอบฟ้าบอกกันหลานชายตัวจ้อย

“สวัสดีค่ะอาฟ้า  ผมอาฟ้าสั้นจังเลยไม่เหมือนอาฟ้าตอนผมยาวๆ
สวยๆ เลยนะคะ” หนูรินทักขึ้นบ้างเมื่อเห้นอาฟ้าของเธอเปลี่ยนไป

“เดี๋ยวอาฟ้าหายป่วยค่อยไว้ผมยาวอีก  ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
ผมเก่าของอาฟ้าก็เก็บไปบริจาคให้ผู้ป่วยมะเร็งได้นะลูก”
พ่อภูตอบแทนอาฟ้า

“ว้าว!  ดีจังเลย  เดี๋ยวหนูรินจะไว้ยาวๆ แล้วทำแบบอาฟ้าบ้าง
ย่าพร้อมเคยบอกว่า  คนอื่นจะได้มีผมสวยๆ เหมือนเรา” หนูรินพูดเจื้อยแจ้ว

“เมื่อไหร่อาฟ้าจะได้กลับบ้านล่ะครับ  วินวินคิดถึง”
 หนูน้อยถามอาฟ้าเสียงเหงาๆ

“อีกสองสามวันครับลูก  คุณหมอบอกไว้อย่างนั้น”
 พี่น้ำเดินมาพอดีจึงตอบคำถามลูกชาย

“คุณพ่อบอกว่าถ้าอาฟ้าหายจะรับไปอยู่ด้วยกันที่บ้านหนูรินค่ะ”
ขอบฟ้าทำตาโต  หันมองหน้าพี่ชายอย่างขอคำอธิบาย

“ใช่แล้วครับ  อาฟ้าต้องมีคนดูแล  บ้านหนูรินมีนมพร้อมกับป้าแก้ว
ที่ทำอาหารอร่อย  แล้วยังมีส้มกับนัทช่วยดูแลอาฟ้าได้ด้วย  ถ้าอาฟ้า
กลับไปอยู่ที่บ้านตัวเองก็จะมีแค่พี่แอนคนเดียว  เดี๋ยวอาฟ้าจะเหงา
นอนร้องไห้ไม่มีคนเห็นนะ  วินวินอยากให้อาฟ้างอแงเหรอครับ
ตอนที่วินวินไปเรียนน่ะลูก”
พี่น้ำตอบทีเดียวให้ทั้งคนโตและเด็กเข้าใจ  พี่ภูยืนยิ้มแฉ่งอยูไม่ห่างจากเตียงนัก

“อู้  อู้…ไม่นะฮะ  วินวินให้อาฟ้าไปอยู่ที่บ้านอาภูก็ได้ 
แล้วพ่อน้ำก็ต้องพาวินวินไปหาอาฟ้า  แล้ววินวินก็จะได้เล่นกับหนูรินด้วย
ก็ดีนะฮะ” หนูน้อยสมองไวพูดออกมาเป็นฉากๆ
ขอบฟ้ามองหน้าทุกคนที่ดูจะเห็นดีเห็นงามไปในทิศทางเดียวกันหมด
แล้วเขาแค่เพียงเสียงเดียวจะทำอะไรได้


สุดท้ายขอบฟ้าก็ต้องถูกระเห็จออกมาอยู่บ้านพี่ภูจนได้
เมื่อรถจอดเขายังไม่ทันเปิดประตูรถเสียด้วยซ้ำ  ก็มีคนวิ่งมาเปิดให้เสียก่อน
เจ้านัทน่ะเองยิ้มแป้นโชว์ฟันขาว

“นั่งรอก่อนครับคุณฟ้า  อย่าเพิ่งลงนะฮ ะ รอคุณภูแป๊บนึงนะฮะ”
นัทร้องห้ามทันทีที่เห็นเขาทำท่าจะลงจากรถก่อนที่พี่ภูจะเดินมาถึงตัว

“มาครับ  ฮึ๊บ…ตัวเบาจังเลย  ไม่เจอกันแค่เดือนเดียวเอง
พี่ไม่ยอมให้น้องฟ้าไปทำงานแบบนั้นอีกแล้วนะ  ไม่คิดห่วงสุขภาพ
ตัวเองบ้างเลย  ดูสิ!  ได้กินบ้างหรือเปล่าเนี่ย  มีแต่กระดูกแล้ว”
อุ้มไปบ่นไปไม่หยุดปากแล้วพาเดินดุ่มๆ เข้าไปในบ้านและตรงไปที่ห้องนั่งเล่น
วางคนในอ้อมแขนลงบนโซฟานุ่ม

“พี่ภู  ฟ้าเดินเองได้  อุ้มทำไมกันนักเล่า”
ขอบฟ้าบ่นอุบอิบ  พลันเหลือบไปเห็นผู้หญิงต่างชาติผอมบาง
ผมสีบรอนซ์  เข็นวีลแชร์เข้ามาหา  ทิ้งระยะห่างพอควร

“ภูขา  นี่เหรอค่ะ  แฟนภูน่ะ  น่าตาน่ารักจังเลย…เอ่อ…แพทริเซียค่ะ
เรียกแพทก็ได้นะ  เป็นเพื่อนรักกับภู  พวกเราสองคนโตมาด้วยกันที่
เมืองนอกน่ะค่ะ”
เธอพูดไทยได้ดี  สำเนียงก็ไม่ผิดเพี้ยนเลยสักนิด  ใบหน้าแย้มยิ้มอย่างเป็นมิตร

“สวัสดีครับ…ผมฟ้าครับ”  ขอบฟ้าทักตอบเธอไปแบบสั้นๆ

“แพทน่ะ  จะอยู่ที่นี่อีกสักอาทิตย์ก็คงกลับแล้ว  พอดีว่าสามีของเธอมาดูงานที่นี่
แล้วก็เอาแพทมาฝากไว้ครับ  เธอยังเดินไม่ค่อยได้  เจออุบัติเหตุมาเหมือนกัน”
ขอบฟ้ามองอึ้งๆ เดินไม่ได้ก็เลยต้องอุ้มงั้นเหรอ  แล้วไอ้ที่เขาได้ยินมาล่ะ
และยังเก็บไปคิดเองต่างๆ นานาอีก

“อ้าว!  นั่นไมเคิล  มาพอดีเลย  แพท!  สามีเธอกลับมาแล้วไม่ต้องเล่นใหญ่มากนักนะ
มันยิ่งขี้หึง  เดี๋ยวมันเล่นงานผมตายกันพอดี  แฟนผมจะเป็นหม้ายเอานะ
คราวก่อนที่แกล้งมากอดแล้วส่งคลิปไปให้มันดู  เป็นไงล่ะ  เสียงานเสียการ
รีบถ่อมาเฝ้าเมีย  ผมไม่ถูกมันฆ่าตายก็บุญเหลือเกินแล้วล่ะ”
พี่ภูปรามๆ เพื่อนไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะเล่นใหญ่อีก

`คราวที่แล้วแกล้งกัน  แค่เล่นๆกันเท่านั้นเหรอ  หึ้ยยย`
 แล้วชายชาวต่างชาติก็เดินเข้ามาที่ภรรยาของเขา
 แล้วก็กอดจูบกันเอาดื้อๆ ตรงนั้นเลย

`เอ้าจริงดิ!  ลูกเด็กเล็กแดงก็มีนะ  เราก็นั่งหัวโด่อยู่นี่ทั้งคน`
 แล้วสามีก็เป็นฝ่ายผละออกหันมาค้อมศีรษะให้
 เมื่อภรรยากระซิบบอกอะไรสักอย่างกับเขา

“แฟนภู…น่ารัก”
เขาพูดไทยสำเนียงฝรั่ง  แต่ก็พอจะฟังรู้ว่าพูดอะไร
ทำเอาขอบฟ้าหน้าแดง  เพิ่งจะรู้ว่าทำตัวเองก็วันนี้เอง
`โมโห…หึง…ไม่ดูตาม้าตาเรือเอาเสียเลย  สามีเขาก็ยืนหัวโด่อยู่นี่ทั้งคน
 ฟ้านะฟ้า  เกือบได้ตายฟรี`

“คุณๆคะ  อาหารเย็นพร้อมแล้วค่ะ”
ป้าแก้วมาตามให้ไปทานมื้อค่ำด้วยกัน


อาหารรสชาติถูกปากอีกตามเคย  พี่ภูเอาอกเอาใจไม่ห่าง
หนูรินเคี้ยวตุ้ยๆ และคุยจ้อไม่หยุดเช่นเคย  มีเรื่องมาเล่ามากมาย
จากที่เขาไม่ได้มาบ้านนี้เกือบเดือน  หนูน้อยเล่าถึงเจ้าสุนัขพันธุ์ขน
ที่สองสามีภรรยาต่างชาติเป็นเจ้าของนั้นไม่ได้หยุด

จนมื้อค่ำผ่านไป  ต่างพากันไปนั่งดูทีวีและคุยเล่นกันที่ห้องนั่งเล่นอีกพักใหญ่ๆ
ต่อจากนั้นคู่รักต่างชาติก็ขอตัวไปพัก  โดยคุณแพทถูกสามีของเธออุ้มพาไปที่
ห้องนอนแขก  แล้วพี่ภูก็ตรงเข้ามาอุ้มเขาพาขึ้นข้างบนบ้างอีกคู่หนึ่ง

“พี่ภู  ฟ้าเดินเองได้ไม่ต้องอุ้มแล้วครับ  ถ้าขืนอุ้มกันตลอดแบบนี้ฟ้าอาจจะ
เดินเองไม่ได้เอานะ”  ขอบฟ้าทุบอกพี่ภูรัวๆ คนตัวสูงสนใจเสียเมื่อไหร่กัน

“พ่อภูขา  พี่ส้มพาหนูรินเข้านอนได้ค่ะวันนี้  อาฟ้ายังป่วยอยู่ 
พ่อภูดูแลอาฟ้าดีๆ นะคะ” หนูน้อยหันมาโบกมือแล้วขอบฟ้าก็ทุบอกพี่ภูไปอีกที

“เห็นไหมล่ะพี่ภู  หนูรินยังคิดว่าฟ้าป่วยไม่หายอยู่เลยเนี่ย”
ขอบฟ้าหน้าหงิกใส่อกคนอุ้ม

“หึหึ  ก็ยังป่วยนี่ครับ  รึว่าไม่จริง  น้องฟ้าจำพี่ได้แล้วเหรอ
แล้วรักพี่หรือยังครับ  หืม?”
ขอบฟ้าซุกหน้ากับอกกว้าง  ไม่ตอบคำถามที่คนตัวสูงก้มลงมาถาม
จะบอกไปได้ยังไงว่าจำได้หมดทุกอย่างทุกเรื่องแล้ว  ไม่เว้นแม้แต่เรื่องที่เข้าใจผิด
และกล่าวหาพี่ภูไปแล้วด้วย  ขืนบอกไปก็ต้องถูกจับลงโทษสิ  ใครจะพูดล่ะ
แล้วก็ถูกจับอาบน้ำให้เสร็จสรรพในเวลาต่อมา  ชีวิตช่างดีอะไรอย่างนี้นะ
สิ่งเดียวที่ได้สิทธิ์ทำด้วยตัวเองคือการหายใจ พี่ภูทำจนเขาจะกลายเป็นคนพิการไปแล้วจริงๆ

ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ภูรักฟ้า ตอนที่ 39 แค่รัก
«ตอบ #66 เมื่อ28-12-2018 13:02:03 »

ตอนที่ 39 แค่รัก

“ตอนนี้พี่เป็นคนแปลกหน้าสำหรับน้องฟ้าไปแล้ว  หากต่อไปยังไม่รู้สึกอะไรกับพี่
ทำยังไงก็ยังไม่รัก  อยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข  ต้องฝืน…ต้องทน บอกพี่นะครับ
…พี่จะคืนอิสระให้  แล้วปล่อยน้องฟ้าไปตามทางที่ต้องการ  แต่ให้น้องฟ้ารู้ไว้อย่าง
หนึ่งว่า  เมื่อก่อนรักยังไง  ตอนนี้พี่ก็จะยังคงรักไม่เปลี่ยน  ฝันดีนะ  ตัวเล็กของพี่”
พี่ภูพูดจบก็กดจูบที่หน้าผาก  เลื่อนลงที่เปลือกตาทั้งสองข้าง  ใช้ฟันงับเบาๆ ที่ปลายจมูก
และเอาริมฝีปากมาแตะเพียงเบาๆ ที่ริมฝีปากของเขา  แล้วรีบผละห่างออกไป
คลี่ผ้ามาห่มให้จนถึงคอ  หันไปเปิดโคมไฟดวงเล็กให้พร้อมกับลุกไปกดปิดไฟกลางห้อง
จากนั้นกลับมาล้มตัวลงนอนข้างๆกัน

`นี่พี่ภูหันหลังให้…กล้าหันหลังให้กันอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนอย่างนั้นเหรอ`

“พี่ภูครับ…กอดหน่อย…ฟ้าจะนอนแล้ว”
เป็นคำพูดสุดท้ายที่ชอบพูดอ้อนทุกครั้งที่มาค้างบ้านนี้
ภูดิศหันมาคว้าคนตัวเล็กไปกอดไว้แนบอก  แล้วลูบหลังให้
ทำซ้ำๆอยู่อย่างนั้น จนรู้สึกว่าคนในอ้อมอกหลับไปแล้วจึงปิดเปลือกตาลง
แล้วจึงข่มตาหลับตามไปด้วยอีกคน


ขอบฟ้ามาอยู่บ้านพี่ภูได้ครบเดือนแล้ว  เขาแข็งแรงขึ้นมาก  ทานอาหารได้มากพอควร
วันๆ ที่พ่อกับลูกไม่อยู่บ้านเขาก็หาหนังสือมาอ่านบ้าง  ช่วยงานนมพร้อมและป้าแก้วบ้าง
ต้องอ้างว่าเหงานมพร้อมจึงใจอ่อนยอมให้ช่วยงานในครัวได้บ้างนิดหน่อย
บ่ายนี้เขาจึงว่างอีกแล้ว

“เห่ย!  ซี  นาวากับนทีก็มา  หูย…คิดถึงๆ ไม่เจอกันนานมาก
งานเป็นยังไงบ้าง  แล้วพีทล่ะไม่มาเหรอ?”

“ทีละคำถามเถอะเพื่อน  พีทมันมีเรียน  ส่วนไอ้สองคนนี้มันขึ้นมาสัมมนา
เสร็จงานก็พากันมาเยี่ยมแก  เป็นไงดูดีขึ้นมากเลยนะ  แล้วความจำแกล่ะจำได้ยัง?”
ซีเกมส์ถามเพื่อน  ขอบฟ้าอ้ำอึ้ง  ยังคิดไม่ตกว่าจะบอกหรือไม่บอกเพื่อนดี

“ซี  อย่าไปเซ้าซี้มันเลย  เดี๋ยวก็ดีขึ้นเองแหละน่า  แล้วตกลงที่มีผัวเนี่ยจะไม่บอก
เราสองคนเลยหรือไงวะฟ้า  ตั้งนานไม่คิดจะบอกต้องให้เรามารู้เอาเองสินะ”
นาวาหนุ่มน้อยแต่ร่างกำยำซึ่งก็ไม่ต่างจากนทีสักเท่าไหร่  ยิ่งไปทำงานทางใต้
ด้วยแล้วทั้งดำทั้งตัวใหญ่  ดูทะมึนเหมือนมีภูเขาลูกใหญ่มาบดบังเมื่อสองคนมายืนคู่กัน

“วา  อย่าไปต่อว่ามันเลย  ฟ้ามันมีผัว…แล้วมันน่าเอามาอวดตรงไหนกันล่ะ
 มีเมียสิค่อยน่าอวดซะกว่า  เนาะ”
นทีพูดขึ้นอีกคนโดยหันไปพยักพะเยิดให้ซีเกมส์เป็นลูกคู่ให้

“นี่  เงียบไปเลยทั้งสองคน  ฟ้ามันลืมผัวมันไปแล้วด้วยซ้ำ
จำได้เสียที่ไหนกันล่ะตอนนี้  ที่คบๆ กันมาฟันฝ่ามาตั้งเท่าไหร่
ต่อเท่าไหร่…มันจำไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว  ดีไม่ดีนะพรุ่งนี้มัน
อาจจะลุกขึ้นมาหาเมีย  ใครๆ ก็ว่ามันไม่ได้  แล้วคนที่รู้ว่ามันมีผัวก็จะลืมๆ
กันไปเอง…จริงมั๊ยฟ้า  อย่าไปเครียดเลย  อ้าว!  เห๊ย!  พูดอะไรผิดไปวะ!
ร้องไห้ทำไม  นี่มึงสองตัวใครไปทำอะไรมันหรือเปล่า  บอกมาไอ้วา ไอ้ที”
ซีเกมส์เอาแต่พูดไม่หยุด  จนไม่ได้มองดูว่าคำพูดของตนไปจี้โดนใจคนฟัง
อย่างจัง  จนสะเทือนไปทั้งหัวใจ

“เปล่านะ/กูเปล่า”
สองหนุ่มร่างยักษ์  ตอบออกมาพร้อมๆ กัน  ซีเกมส์รวบตัวเพื่อนตัวเล็กมากอด

“เป็นไรไป  พี่ภูไม่รักไม่สนใจ  หรือบังคับข่มเหงอะไรก็บอกพวกเรา
จะได้หาทางช่วยไง  หรือไม่อยากอยู่ที่นี่ก็บอก  ไปไหมล่ะเดี๋ยวซีจะพากลับบ้าน
ไปๆ พวกแกไปช่วยขนของให้ฟ้ามันหน่อย  มันคงไม่มีจิตใจจะเก็บอะไรแล้ว
ห้องอยู่ไหนบอกมา  เดี๋ยวขึ้นไปเก็บของให้”
ยิ่งซีเกมส์พูดเป็นตุเป็นตะอย่างนั้น  ขอบฟ้าก็ยิ่งร้องไห้สะอึกสะอื้นเข้าไปใหญ่
จนซีเกมส์สรุปว่าที่เขาพูดๆ มาทั้งหมดมันตรงใจเพื่อน  รู้ใจกันจนตื้นตันขนาดนี้

“ซี  วา  ที  ฟ้าไม่ไปไหนทั้งนั้น…ฟ้าจะอยู่ที่นี่…ฮือฮือฮือออออออ”
 แล้วเพื่อนตัวเล็กก็ร้องไห้โฮจนพอใจนั่นแหละ  จึงได้เปิดปากเล่าให้แก๊งเพื่อนรัก
ฟังทั้งหมด   ตั้งแต่เรื่องที่เข้าใจพี่ภูผิดไปมากมาย  ทำเอาสามสหายอ้าปากผะงาบๆ
พูดไม่ออกบอกไม่ถูกกันไปตามๆกัน  แล้วซีเกมส์ก็ตบหน้าขาตัวเองเสียงดังฉาดใหญ่

“ทำฤทธิ์ทำเดชไว้ซะมากมายเลยนะฟ้า  จะง้อผัว…จะบอกผัวก็ไม่กล้า…ไอ้ผัวก็ไม่รู้ว่า
เมียน่ะหายแล้ว  แล้วยังไม่ยอมแตะเนื้อต้องตัวกันอีก  ปล่อยให้เมียนอนเฉามาเป็นเดือนๆ
พี่ภูนะพี่ภู เหอะๆ”
ซีเกมส์สรุปออกมาเสร็จสรรพทำเอาเพื่อนตัวเล็กอายหน้าแดง

“ซี…ฟ้าไม่ได้คิดถึงแต่เรื่องอย่างว่าซะหน่อย…บ้าไปแล้ว”
ขอบฟ้างึมงำออกมาไม่เต็มเสียงนัก

“เอาดีๆ เลยนะฟ้า  ในเมื่อไม่กล้าบอก  ก็เอางี้แล้วกัน
คืนนี้แกจัดให้พี่ภูไปสักเซตนึง  พรุ่งนี้รับรองทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม
ซีเอาหัวเป็นประกันเลย…เชื่อดิ!!!”
ซีเกมส์แนะนำอย่างกับเป็นผู้ชำนาญการซะอย่างนั้น

“ซี!  ฟ้าบอกว่าไม่ใช่เรื่องนั้นไงเล่า”
 ขอบฟ้าหันไปแหวใส่เพื่อนที่แนะนำเสียน่าอาย  ใครจะกล้าทำกันล่ะ

“ฟ้า  มันเป็นวิธีเดียวที่ลูกผู้ชายด้วยกันเท่านั้น  ถึงจะเข้าใจดี…ทำเถอะนะเชื่อเรา”
นาวาพูด  ซีเกมส์กับนทีก็พากันพยักหน้าหงึกหงักจนหัวสั่นหัวคลอน
กว่าเพื่อนๆ จะกลับกันก็นานพอดู  จนทานอาหารว่างกันแล้วนั่นแหละจึงกลับไปกันได้


ภูดิศส่งลูกเข้านอนเรียบร้อยก็มาส่งคนตัวเล็กเข้านอนบ้าง
หลายคืนมานี้เขาต้องฝืนอดทนไม่ล่วงเกินคนรักทั้งที่เขานั้นทั้งรักและคิดถึงมากมาย
กลิ่นกายที่ได้แนบชิดกันทั้งคืนยันสว่างอีก  เขากลัวจะห้ามใจตัวเองไม่ไหว
คืนนี้จึงตั้งใจจะไปนอนห้องลูกสาว  เขาจึงรื้อหาผ้าห่มสำรองจากตู้ออกมาวางไว้บนที่นอนก่อน

“จะไปไหนครับ  พี่ภู”
ขอบฟ้าถาม และบุ้ยใบ้ไปทางกองผ้าห่มสำรอง

“พี่จะไป  เอ่อ…นอนห้องลูกครับ…พี่กลัวน้องฟ้าจะอึดอัดที่ต้องนอนร่วมเตียง
กับคนแปลกหน้าทุกคืน…อย่างนี้”
ภูดิศตอบคำถามคนรักด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นคงนัก

“ฟ้าไม่อึดอัดอะไรนี่ครับพี่ภู  มานอนเถอะ  อีกอย่างลูกก็หลับไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
แล้วขอบฟ้าก็ตบลงบนที่นอนข้างๆ ตัว  ซึ่งเป็นที่ประจำของคนตัวโต  ภูดิศทำท่าลังเล

“พี่ภูครับมานอน  ไม่งั้นฟ้าโกรธ…แล้วพรุ่งนี้ฟ้าก็จะกลับไปนอนบ้านนู้น”
พูดไปแค่นั้นพี่ภูแทบกระโดดขึ้นมานอนบนเตียง  แล้วยังจะเอาผ้าห่มสำรอง
มาห่มอีก  แถมยังจะนอนหันหลังให้กันด้วย

“พี่ภู  ฟ้าจะนอนแล้วนะ  มากอดหน่อยครับ”
ไม่ยอมกล่อมนอนด้วยเหอะ  ชักจะไม่ชอบใจแล้วสิ  ขอบฟ้านึกเคือง

“พี่กลัวเราจะอึดอัด  นอนไปแบบนั้นแหละครับ  ฝันดีนะ…ตัวเล็ก”
 พี่ภูพูดทั้งๆ ที่ยังหันหลังให้กันอยู่

“พี่ภูทุกทีทำแบบไหน  ทำไมวันนี้ไม่ทำครับ”
ขอบฟ้าทำเสียงเขียวใส่คนตัวโตแล้วอย่างเริ่มระงับไม่อยู่

“ก็  เอ่อ!  พี่กลัวจะห้ามใจไม่ไหว  รังแกน้องฟ้า  พี่ต้องข่มใจทั้งกลิ่นกาย
…ทั้งสัมผัสที่แนบชิด  เอ่อ…คือ…พี่ก็ผู้ชายธรรมดาคนนึง
คือว่า…พี่จะคลั่งให้ได้เลย…รู้ไหม?” พี่ภูหันกลับมาพูดจนหมดเปลือก
เป็นเอามากขนาดนั้นเลยหรือไงกันนะ ขอบฟ้าขมวดคิ้วมุ่น

“ไม่ได้ห้ามพี่ภูไม่ให้แตะต้องฟ้า…นี่ครับ”
ขอบฟ้าพูดจบ  ก็ถูกพี่ภูรวมตัวไปกอดจูบ  ลูบคลำ  เบาบ้างหนักบ้างตามแต่
อารมณ์คนตัวโตจะพาไป  จนขอบฟ้าเตลิดไปตามอารมณ์ที่คนตัวโตชักนำมาให้
ทั้งสุขและเสียว  คละเคล้ากันไป  พี่ภูพาไปท่องโลกกว้างที่เวิ้งว้างเหมือนจะหา
ฝั่งไม่เจอ  เขาต้องเกาะเกี่ยวโอบรัดคนตัวโตเป็นที่ยึดเหนี่ยวจนสุดท้ายสะท้าน
เยือกถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวของกันและกันอย่างที่คุ้นเคย  ครั้งแล้วครั้งเล่าที่พี่ภู
ตักตวงจากเขาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย  ไม่รู้ไปเอาพลังมาจากไหนนัก

“พี่ภูครับ…ฟ้าจะตายแล้วเนี่ย  ง่วงมากๆ แล้วด้วยนะ”  คนตัวเล็กโอดครวญ

“คนดี…สุดท้ายแล้วจริงๆ นะครับ  อีกนิดนึงนะ…รักนะ” พี่ภูเสียงพร่าอยู่ข้างๆหู

“ตัวเล็กก็รักพี่ตัวโตนะ” พูดเสียงอู้อี้
แค่นี้ที่ภูดิศต้องการ  เขาได้ยินคำรักแล้ว  น้องฟ้ารักเขาแล้ว  เขาไม่ได้หูฝาด
น้องฟ้าคนเดิมของเขากลับมาแล้ว  เพราะทุกครั้งที่บทรักจบลง  น้องฟ้าจะพูดคำนี้กับเขาเสมอ

“คนดีของพี่…หายแล้วสินะ…จำพี่ได้แล้วใช่ไหมครับ
งั้นเรามาทบทวนบทรักกันอีกสักบทมั๊ย”
แล้วพี่ภูก็โดนคนตัวเล็กฟาดไปบนแผ่นอกเปลือยเสียงดังเพียะ

“ไม่แล้วครับ  ฟ้าง่วงมากๆ” คนตัวเล็กย้ำ

“มีความสุขที่สุดเลยครับ  อย่าเป็นอะไรไปอีกนะ  คนดี  `ภูรักฟ้า`…นะครับ”


รักแท้รอเราอยู่  มันมีอยู่จริง  เขาทั้งสองได้พิสูจน์มันแล้ว
ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร  แค่เขายังจับมือเดินไปด้วยกัน
ไม่ปล่อยใครไว้ระหว่างทาง  พากันไปจนถึงปลายทาง  อ้อมกอดที่มีให้แก่กัน
นั้นจะอุ่นไอในกันและกันเสมอ  กอดแค่พอให้รู้สึกว่ารัก  แต่อย่ากอดเบาไปจนไม่รู้สึกอะไร
หรือกอดแน่นไปจนต่างฝ่ายต่างอึดอัด 
แต่ถ้ากอดด้วยรักแล้ว…อานุภาพของรักจะพาเราไป…just love


**********************************
มีตอนพิเศษให้ 2 ตอนนะคะ ขอบคุณที่ติดตาม









ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ภูรักฟ้า ตอนพิเศษ 1
«ตอบ #67 เมื่อ02-01-2019 18:20:41 »

Special 1 Valentine’s day

ช่วงสัปดาห์นี้พี่เมศงานยุ่งและเดินทางไปดูไซต์งานที่ต่างจังหวัดตลอด
และพีทเองก็ติดสอบ  ทำให้เขาและพี่เมศพูดคุยกันน้อยลงในระหว่างวัน
แต่ก่อนจะเข้านอนจะเป็นพีทที่โทรถามไถ่พี่เมศทุกครั้งว่าเสร็จงานหรือยัง
จะกลับไปนอนตอนไหน  มีหงุดหงิดที่คนรักยังคงอยู่หน้างานไม่ได้เข้าที่พัก
แต่เพราะติดสอบทำให้ตามไปดูแลไม่ได้  พีทตั้งใจจะเดินทางไปหาทันที
ที่สอบเสร็จ…แค่พรุ่งนี้เท่านั้น


“ฮัลโหล…พีท  พรุ่งนี้เย็นว่างไหม  ฟ้าจะไปที่ร้านคุณป๊า”

“วันอื่นได้ไหม  พรุ่งนี้บ่ายๆ พีทจะไปหาพี่เมศที่ภูเก็ต”

“ได้ไงล่ะ  วันอื่นก็ไม่ทันน่ะสิ  พีทลืมอะไรไปรึป่าว  มะรืนวันอะไร?”

“ฉิบหาย! แล้วฟ้า  ดีนะ! ที่แกโทรมาหา  ตายๆ มัวแต่ยุ่งเรื่องสอบ  ลืมไปได้ยังไง”

“ชวนไอ้ซีไปเป็นเพื่อนเลย  มันก็คงอยากดูอะไรไปให้พี่หมอละมั้ง”

“เออๆ แล้วก็อย่าเซอร์ไพรส์พี่เมศจนช็อคล่ะ  แค่พอดีก็พอนะ”

“แค่พอดี...หรือจะดีพอ  สำหรับพี่เมศ  หึหึ”

“พูดไรวะ  ไม่เห็นจะเข้าใจเลยพีท”

“น้องฟ้าไม่รู้หรอกครับ  ต้องผู้ชายอย่างเราๆ ผมและพี่ภูเท่านั้น  ฮ่ะฮ่าฮ่า”
พูดจบพีทก็รีบตัดสายเพื่อนรักไป  ดีนะที่ฟ้าโทรมาไม่อย่างนั้น  เขาต้องพลาด
โอกาสดีๆ ของเขากับพี่เมศเป็นแน่  แล้วก็ลอบยิ้มร้าย


พีทไปรอพี่เมศที่โรงแรมตามที่นัดหมายกันไว้  พี่เมศฝากคีย์การ์ดไว้ให้เขาแล้ว
พีทมาถึงก่อนที่พี่เมศจะเลิกงานเขาจึงล้มตัวลงนอนที่เตียงนุ่มเพราะเพลียจากการ
เดินทางและการสอบจึงเผลอหลับไป  สะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงคนเอะอะที่หน้าห้อง
นี่ก็ค่ำมากแล้วใครกันมาเสียงดังแถวนี้  ตั้งใจฟังก็จำได้ว่าเป็นเสียงพี่เมศ
จึงวิ่งพรวดลงจากเตียงไปที่ประตูแล้วเปิดออก  ภาพที่เห็นทำเอาเลือดขึ้นหน้า
มีไอ้ฝรั่งตัวโตมันกำลังฉุดกระชากพี่เมศของเขาอยู่

“ปล่อย!!! คนรักของผมเดี๋ยวนี้!!!”
พีทตะคอกไปเสียงดัง  พี่เมศสะบัดแขนหลุดแล้ววิ่งมาหลบอยู่ที่หลังของเขา
เนื้อตัวสั่นเทา  ผู้ชายคนนั้นมองมาที่พีทอย่างไม่พอใจ  แล้วก็จ้ำอ้าวๆจากไป

“พี่เมศ  ทำไมไม่เรียกพีท  แล้วเป็นยังไงถึงโดนไอ้โรคจิตนั่นตามมาล่ะครับ”
พีทรวบตัวคนรักมากอดแล้วลูบหลังปลอบขวัญ

“มันอยู่ในลิฟต์  แล้วก็พยายามจะลากพี่ให้ไปกับมัน  พี่กลัวน่ะพีท”
พี่เมศละล่ำละลักตอบ  สีหน้ายังไม่สู้ดีนัก

“ถ้าผมเจอมันอีก  ผมไม่ไว้มันแน่  นึกจะฉุดจะลากใครไปไหนก็ทำตามอำเภอใจ
 พี่เมศไปกับผม  เราไปแจ้งทางโรงแรมกัน  ปล่อยให้มีคนแบบนี้มาพักได้ยังไง
 แล้วความปลอดภัยของแขกล่ะ  อยู่ที่ไหนกัน”
พีทพูดอย่างกรุ่นโกรธหน้าแดงไปหมด

“อย่าเลยพีท  พี่ไม่เป็นไรแล้วครับ  ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต”
ภูเมศพยายามดึงอารมณ์คนรักให้กลับมาเป็นปกติ

“แต่เราก็ต้องปกป้องเสรีภาพของตัวเรานะครับพี่  ไปแจ้งทางโรงแรม
หน่อยเถอะ…นะครับ” พีทน้ำเสียงอ่อนลง  แล้วก็พยามยามชักชวนให้พี่เมศไปกับเขา

“ก็ได้ๆ จริงๆ พี่ก็ไม่ได้เป็นไรแล้วนะเนี่ย”
พี่เมศบ่นอุบอิบ แต่สุดท้ายก็เดินตามพีท


ผู้จัดการโรงแรมเข้ามาขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
เมื่อเปิดกล้องตรวจสอบไปพร้อมๆกัน  ทำให้พีทได้เห็นตอนที่มันเอามือมาจับก้น
พี่เมศและพยายามดึงตัวพี่เมศของเขาไปกอดแต่พี่เมศดิ้นขัดขืนอยู่ภายในลิฟต์
และเมื่อลิฟต์เปิดออกพี่เมศก็พุ่งตัวออกมาทันที  พีทดูแล้วยิ่งเดือดดาลกว่าเดิม
เข้าไปอีก  ภูเมศก็ปลอบให้พีทคลายความหัวร้อนลง

“พีทครับ…ใจเย็นๆนะ พี่ไม่เป็นไรแล้ว…อย่าโมโหไปเลย…นะครับ”
พี่เมศพูดเสียงแทบเป็นกระซิบ  ทำเอาพีทเย็นลงไปมากเพราะเจอลูกอ้อนของคนตัวขาว


ทางโรงแรมตรวจสอบจนทราบว่าลูกค้ารายนี้คือใคร  จึงรีบดำเนินการให้
ออกไปจากโรงแรมในทันทีเพื่อความปลอดภัยของคนอื่นๆ ด้วย
ภูเมศขอไม่ให้เรื่องถึงตำรวจ

“พี่เมศครับ  ทำไมไม่เล่นงานมันหนักๆ ไปเลยล่ะ
มันเลวมากนะที่มาลวนลามพี่เมศของผม”
พีทพูดไปหน้างอไปด้วย
`คนหวงของอีกคนแล้วสิ`
 ภูเมศจึงดึงมากอดและหอม  ลูบหลังจนพีทคลายความหงุดหงิดลง

“ที่รัก…ไปอาบน้ำกันครับ  แล้วเราก็ไป…ดินเนอร์กันนะ”
พีทพูดแล้วก็รวบตัวพี่เมศพาเดินไปเข้าห้องน้ำ
กว่าจะอาบน้ำเสร็จผ่านไปเป็นชั่วโมง  กว่าภูเมศจะได้ออกจากห้องน้ำ
พีทก็ทำให้เขาเนื้อตัวแดงเถือกไปหมด

“พี่หนาว…จะไปใส่เสื้อผ้าครับ  จะหื่นไปไหนเนี่ยพีท…หืม”

“ก็เราไม่เจอกันตั้งนาน  พีทคิดถึง  นี่ก็ยังไม่หายเลย…นะครับ”
พีทพูดทำตาอ้อนใส่อีก

“พอเลย! จะกินไหมมื้อค่ำน่ะ” พี่เมศทำเสียงดุ
“กินสิครับ…แต่…ตอนนี้ขอกินพี่เมศอีก…สักรอบได้มั้ย”
พี่เมศถลึงตาใส่  แล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า  พีทก็ยังตามมากอดมานัวเนียอีกรอบ

“พีท…เอ่อ…พี่หิวข้าวครับ ไม่ได้กินมื้อกลางวันครับ…วันนี้”
แค่นั้นพีทก็รีบหยิบชุดส่งให้  ดูแล้วไม่ทันใจก็จับพี่เมศมาใส่ให้เองเลย
ติดตะขอกางเกงให้ด้วยแล้วตัวเองก็หันไปรื้อกระเป๋าหยิบเอาเสื้อผ้ามา
แต่งแบบง่ายๆ หวีผมเป็นอันเสร็จ

“ไปกัน…ทำไมพี่เมศถึงดื้อล่ะครับ  ทานบ้างไม่ทานบ้างแบบนี้ไปลาออกเลยไป
ไม่ต้องทำแล้วงาน ดูสิเนี่ย! ผอมจนจะเดินไม่ไหวแล้ว”
พีทเดินนำไปแล้วเปิดประตูยังหันมาบ่นคนที่เดินตามหลังอีก

“ก็แค่วันนี้วันเดียวเองน่า…วันอื่นๆพี่ก็กินไง  อย่าบ่นพี่นักเลย”
พีทจึงยอมเงียบแล้วจูงมือพากันเดินไปที่ส่วนของภัตตาคารในโรงแรม


พีทสั่งอาหารที่ไม่เผ็ดหลายเมนูให้คนรักทาน  พอทานเสร็จก็มีเมนูของหวาน
ที่ขึ้นชื่อมาเสิร์ฟ  พีทกับพี่เมศมองหน้ากัน  จนพนักงานต้องบอกว่าเป็นของ
ทางโรงแรมจัดให้…ถือเป็นคำขอโทษจากทางโรงแรม  แล้วสองหนุ่มก็อิ่ม
จนแทบเดินกลับกันไม่ไหว

“พี่เมศครับ  เราออกไปเดินเล่นรับลมที่ชายหาดกันหน่อยไหม”
ภูเมศพยักหน้า  คิดว่าเดินย่อยหน่อยก็คงดี  ทั้งสองเดินเคียงคู่กันไป
ลมทะเลพัดมาต้องผิวกายพร้อมกับหอมกลิ่นไอทะเลทำเอาภูเมศรู้สึกผ่อนคลาย

“พี่เมศครับ  งานพี่หมดหรือยัง  เราจะกลับกรุงเทพฯ เมื่อไหร่กันดี”
 พีทถามคนรักที่เดินอยู่ข้างๆ พี่เมศน่ารักขึ้นทุกวัน  กล้าที่จะเปิดเผย
มากขึ้น  เวลาเดินด้วยกันหากพีทจะจับมือหรือโอบเอว  เจ้าตัวก็ไม่เคยห้าม
เหมือนตอนนี้ที่เอนศีรษะมาซบที่ไหล่ของเขาพี่เมศก็ยังทำอย่างกลมกลืน

“ทำพรุ่งนี้อีกครึ่งวันก็กลับได้แล้วละ  พีทอยากกลับแล้วเหรอ”
พี่เมศหยุดเดินหันมามองหน้า  ความสว่างจากแสงไฟพอให้มองเห็นใบหน้า
คนถาม  ตาปรอยๆ คงง่วงและเพลียจากงาน

“ไม่ครับ…พีทอยากอยู่กับพี่เมศ  อยากให้พี่ได้พักบ้าง  เห็นเหนื่อยมาทั้งอาทิตย์แล้ว
กลับที่พักกันเลยนะ  ตาปรอยแล้วรู้ตัวไหม…หืม”
พีทกุมมือพาคนตัวบางเดินกลับที่พัก  พอไปถึงห้องได้พี่เมศทำท่าจะล้ม
ตัวลงนอนตั้งแต่เดินผ่านโซฟาแล้ว

“พี่เมศครับ  เข้าไปนอนในห้องดีกว่า  มาครับ…คนดี  พีทหาชุดให้นะ
แต่ไม่ล้างตัวหน่อยเหรอ  ลมทะเลไม่เหนียวตัวรึไงครับ”
พี่เมศส่ายหน้า  เดินขาปัดเข้าห้องไปก่อนแล้ว  พีทมองตามร่างโปร่งไปยิ้มๆ
ใครว่าคุณชายจะเรื่องมากกัน  ถ้าลองได้เหนื่อยขนาดนี้  พีทจึงหาผ้าขนหนู
ผืนเล็กไปชุบน้ำแล้วตามไปเช็ดตัวเปลี่ยนชุดให้  เจ้าตัวป่ายมือไม่ยอมในตอนแรก
แต่สุดท้ายก็ให้ความร่วมมืออยู่ดี

“พี่เมศ  ไม่แปรงฟัน  ระวังฟันผุนะครับ” พีทกระซิบบอก

“ขอนอนแป๊บนึง  ตอนดึกลุกไปห้องน้ำแล้วจะแปรงนะ”
แล้วพี่เมศก็ดึงพีทให้ลงไปนอนข้างๆ ด้วยกัน  แล้วพี่เมศก็เข้ามากอด
เอาหน้าขึ้นมาซบที่อกอย่างกับลูกแมวขี้อ้อนเสียจริง

“ฝันดีนะครับ…คนดีพีท”  พีทกดจูบที่เรือนผมนุ่ม
แล้วจึงหลับตาตั้งใจว่าค่อยตื่นอีกทีกลางดึกแล้วกัน  ต่างพากันหลับใหล
จนกระทั่งสว่างไม่มีใครได้ตื่นเลยสักคนในตอนดึกอย่างที่คาดไว้


สองหนุ่มพากันลงไปหามื้อเช้าทานในแบบเบาๆ ภูเมศออกไปทำงานในตอนสาย
ก่อนไปยังบอกกับพีทว่าจะกลับมาก่อนมื้อเที่ยง  พีทจึงมีเวลาว่างหลายชั่วโมง
เขาโทรสั่งดอกไม้ที่จะให้พี่เมศคืนวาเลนไทน์นี้  นัดแนะเวลาที่จะให้ทางร้านมา
ส่ง…เหลือแค่รอเวลาให้พี่เมศกลับมาเท่านั้น  พีทนอนดูทีวีจนเผลอหลับยาวจน
ภูเมศกลับเข้ามา  ภูเมศซื้ออาหารกลางวันกลับเข้ามาด้วย   พีทจึงไปจัดใส่จาน
แล้วนั่งทานกันที่โต๊ะกลมซึ่งถูกแยกออกอย่างเป็นสัดส่วนอีกมุมหนึ่งของห้องพัก

“พี่เมศครับ…เราพักที่นี่อีกสักคืนเนอะ  พรุ่งนี้ค่อยกลับนะ”
พีทชวนพี่เมศค้างต่ออีกคืนอย่างคาดหวัง

“อือ…ก็ได้นะ  ถ้าพีทไม่มีธุระที่ไหนต่ออีก”
ภูเมศเห็นดีไปกับพีทด้วย  เพราะถือเป็นการพักผ่อนไปด้วยในตัว

“ไม่มีครับ…ธุระของพีทก็คือพี่ไง  พี่อยู่ไหน…พีทก็อยู่นั่นแหละ”
พีทพูดพร้อมกับส่งสายตาหวานเชื่อมไปให้คนตรงหน้าที่ชะงักมือ
ที่กำลังส่งอาหารเข้าปาก  แก้มขึ้นสีระเรื่อจนพีทมองเพลิน

“อื้อหือ…มีปากหวานด้วยนะเรา  จะให้หลงไปถึงไหนกัน”
 พี่เมศพูดยิ้มๆ แต่หน้าออกจะขัดเขินเมื่อพูดออกมา

“ฮ่ะฮ่ะฮ่า” พีทหัวเราะชอบใจ  ที่เห็นคนตรงหน้าพูดเองแล้วก็เขินเสียเอง

“บ่ายนี้อยากไปไหนมั้ยครับ” พี่เมศส่ายหน้า

“งั้นเย็นนี้  เราไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนกันเนอะ  เลือกร้านหรูๆหน่อย”
พี่เมศก็ยังส่ายหน้าอีก

“ถ้างั้นสั่งขึ้นมาทานบนนี้แล้วกัน”
พีทหมดทางเลือกจึงเสนอเป็นทางออกสุดท้าย  พี่เมศกลับพยักหน้ารับ
แล้วหลังมื้อเที่ยงทั้งสองก็พากันนอนดูทีวี  พีทมองคนข้างๆ เห็นหลับไปอีกแล้ว
พีทจึงดึงตัวพี่เมศมากอดแล้วพากันหลับจนถึงมื้อค่ำ 


พีทโทรลงไปสั่งอาหารอิตาเลี่ยนขึ้นมารับประทาน  เขาอยากสั่งไวน์มาดื่ม
เนื่องในโอกาสดีๆ ในคืนพิเศษอย่างนี้  แต่ติดที่พี่เมศแพ้แอลกอฮอล์จึงต้อง
ตัดออกไป   หลังอาหารค่ำพี่เมศก็นั่งดูทีวีเฉย  เจ้าตัวทำงานจนลืมไปหรือ
ไงกันนะว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของคู่รัก  แต่จากที่ดูทีท่าตั้งแต่บ่ายมาแล้ว
เหมือนพี่เมศไม่น่าจะจำได้ด้วยซ้ำ  น่าน้อยใจอยู่เหมือนกัน  แต่พีทยังจำคำที่
พี่เมศเคยพูดไว้ว่าไม่ศรัทธาในรัก

`แล้วที่บอกว่ารักกันล่ะ…พี่เมศจะยังจำได้ไหม`
 จากวันนั้นเขาก็ไม่เคยได้ยินพี่เมศพูดอีกเลย 

“พี่เมศครับ  ไปอาบน้ำเถอะ  จะหลับอีกแล้วนะ  เดี๋ยวพีทเตรียมเสื้อผ้าไว้
ให้หรือจะให้อาบให้ดีล่ะ…เอ…แต่ต้องมีรางวัลให้พีทด้วยนะ”
พี่เมศตาโตขึ้นมาทันที  แล้วก็กระเด้งตัวรีบคว้าผ้าเช็ดตัวที่ปลายเตียง
ผลุบหายเข้าห้องน้ำไป  พีทหัวเราะและตะโกนไล่หลัง

“พีทไปช่วยถูไหมครับจะได้สะอาดทั้งนอกและใน ฮ่าฮ่า”
หัวเราะขำในความขี้อายของพี่เมศ  ไม่นานก็มีข้อความจากโทรศัพท์เข้ามา
ว่าของที่สั่งมาถึงแล้ว  พีทมองไปที่ห้องน้ำคิดว่าพี่เมศคงยังไม่ออกมาตอนนี้
จึงไปเปิดประตูรับของ  จ่ายเงินเสร็จแล้วก็รีบเอาไปซ่อนไว้ที่ด้านนอกของระเบียง
พี่เมศออกมาจากห้องน้ำพีทก็เข้าไปอาบต่อ  ไม่นานเขาก็เดินเช็ดผมออกมา
แล้วนั่งลงปลายเตียง

“ไดร์ในห้องน้ำก็มีทำไมไม่เป่าผมก่อนล่ะ”
พูดแล้วก็เดินมาฉวยผ้าจากมืออีกคนไปเช็ดให้จนแห้ง  ตัวหอมๆ
มายืนใกล้ๆแบบนี้  พีทจึงรวบตัวพี่เมศให้นั่งลงบนตัก  แล้วก็ฝังปลายจมูก
ซุกไซ้หน้าอกและซอกคอคนตัวหอม  ทั้งที่ตัวเองมีแค่ผ้าขนหนูพันช่วงล่างมาเท่านั้น

“หอมจังครับ  มานอนกัน”
พีทจับคนบนตักนอนลง  มือก็ลูบไล้สัมผัสเค้นคลึง  ปากและจมูกก็ไม่อยู่เฉย
จนคนโดนจู่โจมตัวอ่อน  ปากแนบปากกระชับชิดไร้ช่องว่าง  พีทแทรกปลายลิ้น
เข้าไปทักทาย  ชิมความหอมหวานตรงหน้าอย่างหลงใหล  แล้วถอนปากออก
อย่างนึกเสียดาย  แต่ความสนุกน่าหฤหรรษ์ยังรอเขาอยู่  แล้วโดยไม่รอช้า
พีทเริ่มปลดกระดุมเสื้อนอนคนตัวขาวทีละเม็ดโดยที่ปากก็ไล่ตามแนวกระดุมลงมา
พี่เมศสยิวกายห่อไหล่แล้วเป็นคนดึงให้เขาขึ้นมาหนุนหมอน
จมูกและปากร้อนๆ ของพี่เมศเริ่มโลมเลียซุกไซ้แอ่งชีพจรลำคอของเขา
ต่ำลงเรื่อยๆ นิ้วเรียวก็ลูบไล้ไปทั่วสรรพางค์กาย  ตลัดปลายลิ้นเย้าหยอก
กับยอดอกของเขา  แล้วดูดกลืนขบเม้มจนพีทเผลอหลุดเสียงคราง

“อื้ม…อือออ พี่…เมศ” ลมหายใจสะดุดเมื่อพี่เมศขบกัดเบาๆ ด้วยฟัน
ดูดดุนสลับกันไปมาจนพีทเสียววาบทั่วทั้งช่องท้อง  พี่เมศยังลากจูบต่ำ
ลงตามลอนกล้ามเรื่อยลงมาที่หน้าท้องแบนราบ  ปลายลิ้นก็ไล้เลียที่
ร่องบุ๋มของสะดือ  ผ้าขนหนูของพีทหลุดไปตอนไหนเขาไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ
มารู้ตัวอีกทีเมื่อความเป็นชายของเขามันดันดีดตัวตั้งตรงอวดพลัง
พี่เมศส่งมือไปลูบไล้ทักทาย  และบีบเบาๆ ช้อนสายตาขึ้นมามองหน้า
ตอนนี้เองพีททำเพียงกลั้นหายใจ…คาดหวังและรอคอย
แล้วริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อนั่นก็แตะลงบนส่วนยอด
ทำเอาพีทสะดุ้งลมหายใจติดขัดไปหนึ่งจังหวะ  รู้สึกอุ่นร้อนวาบ
เสียวแปลบไปตามกระดูกสันหลัง  สะโพกกระตุก  เมื่อพี่เมศกลืนกิน
ส่วนปลายเข้าไปในโพรงปากที่ร้อนผะผ่าวภายใน  พีทเสียวแทบกลั้นไม่อยู่

“อืออ…พี่เมศ…อ่ะ อ่าห์” หลุดครางแผ่ว
ส่วนที่แข็งขืนยังคงถูกดูดกลืนลึกเข้าไป  และครูดโดนฟันบ้าง
จากการอ่อนประสบการณ์ของพี่เมศ  แต่ก็สร้างความตื่นเต้นให้พีท
ได้มากเลยทีเดียว  เขาสั่นสะท้าน  เสียวซ่าน  มัวเมาจนเกินจะทน
กล้ามท้องเกร็งเป็นระรอกเมื่อขีดสุดความอดทนจะกลั้นไหวมาถึง
พี่เมศกลืนกินเขาทุกหยาดหยด  แล้วพีทก็ลุกขึ้นมาให้รางวัลกับคนเก่ง
จนพี่เมศเสียวซ่านถึงขีดสุดใช้ฟันขบกัดที่ลาดไหล่เขาแล้วยังจิกเล็บที่
แผ่นหลังเขาอีก  ยิ่งกระตุ้นให้พีทฮึกเหิมและตักตวงจากเรือนกายพี่เมศ
อย่างบ้าคลั่ง  จนเราถึงสวรรค์พร้อมๆ กัน

“รักพีทนะครับ…คนดี” พี่เมศพูดเสียงอ่อน

“รักพี่เมศเหมือนกัน  Happy valentine’s day นะครับ”
พีทกดจูบที่ริมฝีปากบาง  แล้วซบอยู่อย่างนั้น  ก่อนจะถอดถอนตัวตนออก
ลุกไปที่ระเบียง  หยิบช่อกุหลาบสีแดงเข้มช่อใหญ่อุ้มไว้ในอ้อมแขนทั้งที่
เปลือยเปล่าอย่างนั้น  ส่งช่อกุหลาบให้พี่เมศที่มองมาตาหวานฉ่ำ
ยิ้มแก้มแทบปริ  ลุกมารับช่อกุหลาบพร้อมกับชะโงกมาหอมแก้มคนให้

“ขอบคุณครับ…ที่รัก”
นี่สินะ วิธีให้ของขวัญวาเลนไทน์ที่คู่รักที่เป็นผู้ใหญ่กว่าให้กัน
แค่นึกถึงเรื่องเมื่อครู่ที่พี่เมศทำให้เขาอย่างไม่เคยทำมาก่อน
พีทก็ซู่ซ่าขึ้นมาอีก  จึงเข้าไปนัวเนียกอดหอม  พี่เมศก็ช่างน่ารัก
ตามใจเสียจริง  แล้วบทรักวาเลนไทน์ก็ดำเนินต่อไปเป็นที่น่าจดจำไปอีกปีสำหรับเขาสองคน

ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ภูรักฟ้า ตอนพิเศษ 2
«ตอบ #68 เมื่อ02-01-2019 18:50:10 »

Special 2 Anniversary

เมื่อคืนกว่าขอบฟ้าจะหลับลงได้ก็เล่นเอาครึ่งค่อนคืนผ่านไปแล้ว
เมื่อเขาต้องกลับมานอนบ้านของตัวเอง  เพราะพี่ภูและลูกไปทานข้าวบ้านคุณปู่
โดยไม่พาเขาไปด้วย  แล้วก็ไม่ให้เหตุผลอะไรกับเขาเลยด้วยซ้ำ  และยังบอกอีก
ว่าให้เขากลับไปนอนบ้านตัวเองได้  โดยพี่ภูและลูกจะค้างบ้านคุณปู่
เขาขับรถกลับบ้านด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ  ทำไมถึงได้รู้สึกว่าตัวเอง
เป็นส่วนเกินของสองพ่อลูกนั่นไปแล้ว  ยิ่งเมื่อกลับมาถึงบ้านก็ไม่พบ
ใครอีก  คุณพ่อกับคุณแม่ไปงานเลี้ยง  ส่วนพี่น้ำพาน้องวินวินไปค้างกับพี่เบน
กลายเป็นว่าเขาต้องอยู่กับเจ้าถ้วยฟูที่มาคลอเคลียไม่ห่าง
นี่ละมั้งสัตว์เลี้ยงถ้าได้ลองรักเจ้าของแล้วก็จะไม่ไปไหน  ขอบฟ้าพรูลมหายใจ
ออกมา  เขาก็ไม่ได้จะเปรียบตัวเองกับเจ้าถ้วยฟูเสียหน่อย  แต่อารมณ์น้อยใจ
ก็พาลให้คิดฟุ้งซ่านไปหมด

“คุณฟ้าขา  เป็นอะไรไปคะ  หน้าตาดูไม่ค่อยดีเลยค่ะ
อยากได้อะไรหรือเปล่าคะ?”
แอนมาทำความสะอาดบ้านให้แต่เช้า  ถามขึ้นเมื่อเจอหน้ากัน

“ไม่ได้เป็นอะไร  แค่นอนน้อยไปหน่อยน่ะ  แอนมีอะไรก็ไปทำเถอะ
ไม่ต้องห่วง  ถ้าต้องการอะไร  จะเรียกนะ”
แอนพยักหน้าแล้วไปจัดการงานของตนต่อ  แต่ก็มีแอบมองเจ้านาย
อย่างห่วงใยอยู่ไม่น้อย  ขอบฟ้าทรุดตัวลงนั่งที่โซฟา  สายป่านนี้แล้ว
พี่ภูก็ไม่มีทีท่าว่าจะโทรมาถามไถ่กันสักนิด

ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจแล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น  ทำเอาดวงตาไหววูบอย่างมีความหวังแต่พอ
ดูชื่อคนโทรเข้ามาแล้วก็หน้าเศร้าลงไปอีก

“ว่าไงซี  มีอะไร  โทรมาแต่เช้า  อย่าชวนไปไหนเลยนะวันนี้
ไม่อยากไป  ขออยู่บ้านนิ่งๆ สักวัน”
ขอบฟ้าพูดดักคอเพื่อนไปก่อน  น้ำเสียงเนือยๆ อย่างที่คนฟังปลายสายต้องรู้สึกบ้างละ

“ได้ไงกันล่ะฟ้า  มีเรื่องน่ะสิ  อาป้อมที่ดูแลคุณย่าน่ะ  โทรมาบอกว่าคุณย่าไม่สบาย
แถมอาป้อมก็ติดธุระสำคัญมากๆ ด้วยที่ต้องไปจัดการเลยโทรมาขอร้องให้ซีไปอยู่
เป็นเพื่อนคุณย่าคืนนี้น่ะ  ซีรบกวนฟ้าหน่อยเถอะนะ  ไปเป็นเพื่อนกันหน่อย
อ้พีทมันก็ติดพี่เมศอย่างกับอะไรดี  ห่างกายหน่อยไม่ได้เลย  นี่เห็นฟ้าคนเดียว
นะที่พอจะช่วยซีได้ นะๆ เพื่อนรัก ไปเป็นเพื่อนกันหน่อย”
ซีเกมส์พูดเสียยืดยาวชักแม่น้ำมาก็ทำโดยไม่เหลือจังหวะให้ขอบฟ้าปฏิเสธได้เลย

“ก็ได้ๆ อยู่บ้านเหงาๆ ไม่มีอะไรทำด้วยสิ  แต่คืนเดียวแน่นะ  ฟ้าจะได้เตรียมชุดไปแค่นั้น”

“ใช่ๆ คืนนี้คืนเดียวนั่นแหละฟ้า  ขอบคุณฟ้ามากๆเลยนะ นางฟ้าชัดๆ”
ซีเกมส์เยินยอเพื่อนจนเกินจริง

“น้อยๆหน่อยซี  แล้วเราจะไปกันตอนกี่โมงล่ะ”
ขอบฟ้าถามเวลาที่จะออกเดินทางกัน

“จัดกระเป๋าเสร็จก็จะไปรับเลยแหละ  เตรียมตัวไว้แล้วกันนะฟ้า”
 พอวางสายแล้วขอบฟ้าก็รีบไปจัดเตรียมเสื้อผ้าลงกระเป๋า


ซีเกมส์มารับขอบฟ้าราวๆหนึ่งชั่วโมงผ่านไป  แล้วทั้งสองก็พากันออกเดินทาง
ไปบ้านคุณย่าที่อยู่แถบทะเลภาคตะวันออก   สองหนุ่มคุยกันมาตลอดทาง
ขอบฟ้าหายเศร้าไปได้เยอะที่มีเพื่อนคุยเล่น  ไม่อย่างนั้นเขาคงฟุ้งซ่านเป็นแน่
นี่ขนาดว่าตนออกมาจากกรุงเทพฯ แล้วก็ยังไม่มีเสียงโทรศัพท์ดังสักสายเลย

`ไม่สนใจ  ไม่ห่วงกันเลยหรือไง  เบื่อกันแล้วใช่ไหม`
แล้วขอบฟ้าก็เผลอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูบ่อยๆ ซีเกมส์สังเกตเห็นแต่ไม่ได้ถาม
อะไรออกไป  เพราะรู้ว่าถ้าเพื่อนไม่อยากบอก  ต่อให้ง้างปากก็ไม่พูดอยู่ดี


เมื่อรถแล่นเข้าไปจอดในบริเวณบ้าน  รอบบ้านมีต้นไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่น
ด้านหลังบ้านเป็นชายหาดขาวสะอาด  สามารถลงเล่นน้ำได้  ขอบฟ้าเคยมากับ
แก๊งเพื่อนซี้ก็หลายครั้งจนจำได้  เขาเคยพูดกับซีเกมส์ว่าหากมีเวลาอยากจะมาอีกบ่อยๆด้วยซ้ำไป

“บ้านเงียบจังเลยนะซี  คุณย่าไปไหนแล้วล่ะ”
ขอบฟ้าหันมาถามเพื่อน เมื่อสังเกตเห็นบ้านเงียบๆ

“เดี๋ยวไปดูก่อนนะ  ฟ้ารอตรงนี้แป๊บนึงนะ”
แล้วซีเกมส์ก็วิ่งเข้าไปในห้องด้านใน  สักพักก็เดินกลับออกมา

“อาป้อมไม่รอแล้วล่ะ  ซีโทรถามเมื่อกี้นี้บอกว่าคุณย่าดีขึ้นมาก
ก็เลยพาไปด้วยแล้ว  มาเก้อเลยพวกเรา  งั้นคืนนี้ค้างที่นี่สักคืน
แล้วกันนะฟ้า  เพราะไหนๆเราก็มาถึงแล้วน่ะ”
ขอบฟ้าพยักหน้าเห็นด้วยเพราะรู้สึกเพลียๆ

“ก็ดีเหมือนกันคิดว่ามาพักผ่อนไปด้วยเลยในตัว  ซีจะทำอะไรก่อนไหม
ฟ้าขอนอนสักงีบนะ  เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ  เดี๋ยวเที่ยงๆ ค่อยตื่น
แล้วไปหาอาหารอร่อยกินกันนะ”

“อื้ม…ตามสบายเลยฟ้า  นอนพักสักหน่อยก็ดีนะ  หน้าตาอิดโรยนะฟ้าน่ะ”
ซีเกมส์พูดจบ  ขอบฟ้าจึงเดินเข้าไปที่ห้องพักแขก

ขอบฟ้าก้าวพ้นประตูเข้าไปเท่านั้น  เขาก็ตกตะลึงหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
น้ำตาเอ่อท้น  ไหลรินออกมาอย่างกับทำนบพังก็ไม่ปาน

“สุขสันต์วันครบรอบของเรานะครับ…คนดี
ขอบคุณ…ที่เกิดมาเพื่อกันและกัน  รักตัวเล็กนะ”
พี่ภูคุกเข่าลง ยื่นแหวนในมือให้


ขอบฟ้ามองผู้ชายคนนี้ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานกี่ปี  เมื่อเราได้พบกันและรักกัน
มากอย่างนี้  ไม่มีสักครั้งที่จะนึกเสียใจที่เลือกพี่ภู  จึงส่งมือให้พี่ภูทั้งน้ำตา
พี่ภูบรรจงสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายให้อย่างพอเหมาะพอดีแล้วจรดริมฝีปาก
อย่างนุ่มนวลบนนิ้วเรียวยาว  อย่างแสดงความเป็นเจ้าของทั้งตัวและหัวใจ
แล้วคนตัวโตก็ยื่นอีกวงมาให้พร้อมส่งมือตัวเองให้น้อง  ขอบฟ้ารับแหวนคู่ดีไซน์เก๋
วงที่พี่ภูสวมให้เขานั้นมีเพชรเรียงกันในแนวขวาง 3 เม็ดแต่ของพี่ภูไม่มีเพชรสักเม็ด
เรียบแต่ดูหรูไม่เบาเหมือนกัน  ขอบฟ้าสวมให้คนตัวโตเสร็จก้มลงจรดริมฝีปากที่
หน้าผากพี่ภูที่แหงนมองอยู่พอดี  แล้วพี่ภูก็ลุกขึ้นแนบปากลงบนริมฝีปากของเขา
ในทันทีทันใด  อย่างเรียกร้องทวงสิทธิ์  ขอบฟ้าจูบตอบเป็นการจูบกันที่มาราธอนมาก
พอจะหายใจไม่ทันพี่ภูก็ปล่อยให้ได้โกยอากาศก่อน  แล้วก็ทำซ้ำๆ จนเขาคิดว่าปากคง
จะบวมเจ่อไปหมดแล้วตอนนี้

“เย็นนี้มีงานเลี้ยงที่โรงแรมไม่ไกลจากที่นี่  แต่เราขอจัดตรงริมหาดหน้าโรงแรม
นะตัวเล็ก  ที่พี่ต้องบอกเพราะไม่อยากเก็บเซอร์ไพรส์ไว้อีก  จนมีคนบางคนนอน
ไม่หลับ  แล้วก็ร้องไห้หาว่าพี่ไม่รัก”
พูดจบก็รวบตัวคนตัวเล็กเข้ามากอดมาหอมจนพอใจ

“ดีกันแล้วนะ  ไปนอนพักก่อนไป  เห็นบอกกับซีว่าจะมานอนนี่ครับ”
 พี่ภูพูดแล้วโยกหัวคนรักไปมา

“ฟ้าไม่ง่วงแล้ว  พี่ภูใจร้ายมากเลยรู้ตัวไหม  ทำฟ้าน้อยใจ
แล้วก็เสียใจมากๆ มาทั้งคืน”  พูดแล้วน้ำตาก็คลอๆที่หน่วยตาอีก

“พี่มาเตรียมงานทางนี้ให้ไงครับ  ไม่เสียใจแล้วสิ
ไม่ง่วงก็ไปที่โรงแรมกันนะ  ทุกคนมารออยู่แล้ว
จะได้ไปแต่งตัวด้วยครับ  มีแต่ญาติๆ ของเราทั้งนั้นแหละงานนี้”
ขอบฟ้าถูกพี่ภูจูงมือออกมา  ซีเกมส์นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
ขอบฟ้าเห็นหน้าเพื่อนก็อดไม่ได้ที่จะต่อว่าทันที

“ซี  ทำไมใจร้ายนักไปแช่งคุณย่าว่าป่วยได้ไง  แล้วก็ยังช่วยพี่ภูวางแผน
ปิดบังฟ้าอีก หึ้ยยย” เจ้าตัวทำหน้าง้ำใส่เพื่อนอย่างงอนๆ

“ก็พี่ภูสิขอร้อง  ซีน่ะจำใจทำเลยนะฟ้า  แล้วก็คุณย่าน่ะป่วยจริงๆ
อาป้อมพาไปที่บ้านนู้นแล้ว  ถ้าหายดีถึงจะพากลับมาอยู่ที่บ้านนี้
อีกอย่างซีเห็นนะว่าฟ้านั่งเฝ้าโทรศัพท์มาตลอดทาง  แล้วก็ทำหน้า
เหมือนหมาโดนทิ้งอีก  อดสงสารไม่ได้  ตอนแวะปั๊มซีจึงแอบโทรหา
พี่ภูให้ไงล่ะ  พี่เขาถึงมาดักรอที่บ้านนี่  ผัวมาง้อหน่อยทำหน้าบานไปไหม
แต่ปากน่ะออกจะเจ่อๆไป รึเปล่าฟ้า  โดนอะไรกระแทกมาล่ะ คริคริ”
ซีเกมส์แซวเพื่อน  และหัวเราะชอบใจที่เพื่อนรักหมดหนทางจะโต้กลับ
เห็นทำได้เพียงยกมือแตะที่ปากตัวเองเท่านั้น

“วันนี้ครบรอบหนึ่งปีที่เราคบกัน  ก็เลยถือเป็นวันดีๆ สังสรรค์กันในหมู่ญาติ
และเพื่อนสนิท  เพื่อเก็บเป็นความทรงจำดีๆ อีกเรื่องในชีวิตเรานะครับ
อย่าโกรธซีเลยเนอะ…เด็กดี”  แล้วพี่ภูก็หอมแก้มเขาโชว์ซีเกมส์อีกจนได้

“อะแฮ่มๆ ซียังอยู่นะพี่ภู  อดใจไว้คืนนี้เถอะ  ฟ้ามันจะถวายตัวให้แบบสุดๆ
ไม่มีเกี่ยงงอน  เชื่อซีสิ”  พูดจบซีเกมส์ก็รีบหนีเพราะขอบฟ้าวิ่งไล่ตีไปจนถึง
หน้าบ้านที่มีรถของซีเกมส์จอดอยู่

“ไปรถซีนะ  เพราะพี่ให้อาทมาส่งน่ะ ไปกันครับตัวเล็ก”
 แล้วทั้งสามก็พากันขึ้นรถ โดยซีเกมส์เป็นคนขับ


เมื่อไปถึงที่โรงแรม  เป็นอย่างที่พี่ภูบอกไว้  ทุกคนมารอกันที่นี่จริงๆ
ทั้งคุณพ่อคุณแม่  ครอบครัวพี่น้ำ  ทั้งพีทและพี่เมศ  คุณปู่ก็มารวมทั้ง
นมอุ่นและนมพร้อม  สรุปมากันครบทุกคนสำหรับคนสำคัญในชีวิตของ
เราสองคน  เพื่อนตัวแสบอย่างนาวากับนทียังไม่มีพลาดเลยด้วย
แล้วยังริสากับณนนท์เลขาพี่ภูจะไม่มาได้ยังไงกัน  อาหารมื้อนี้ผ่านไปด้วย
เสียงหัวเราะ  แล้วพี่หมอก็ตามมาสมทบอีกคน  และที่น่าแปลกใจเด็กๆ
ที่ร้านกาแฟก็มากันครบทีมเลยเช่นกัน

“พี่ฟ้าอย่ามาทำหน้าดุใส่พวกเราสิคะ  ที่ปิดร้านมากันน่ะ
นู้นเลยพี่ภูค่ะ  พี่เค้าสั่ง  แฟนเจ้านายสั่งเราก็ต้องเชื่อฟังกันนิดๆ
หน่อยๆ จริงไหมเกล้า! นินจา  ข้าวตัง”
ทั้งสามคนต่างพากันพยักหน้ารับเป็นลูกคู่ให้อิง

“พี่ไม่ได้โกรธที่ปิดร้านมากัน  แต่โกรธที่ไม่มีใครเปิดปากบอก
เลยสักคน  ปิดกันเสียเงียบเชียบเชียว”  ขอบฟ้าหน้ามุ่ย
อิงรีบจะเข้ามาบีบนวดประจบ  ถูกพี่ภูใช้มือกั้นไว้
คนขี้หวงก็เป็นเสียอย่างนี้แหละ  ขอบฟ้าขำท่าทางพี่ภูจึงลืมงอนน้องๆ


งานเลี้ยงฉลองของทั้งคู่ก็เริ่มขึ้น  บริเวณหน้าหาดนั่นเอง
เป็นไปด้วยความสนุกสนาน  ความรักของคนในครอบครัว
และมิตรภาพของผองเพื่อน  และมันจะเป็นที่จดจำของทั้งคู่
ไปอีกนานแสนนาน  ตราบที่ทั้งคู่ยังหายใจ  รักที่ไม่มีเส้นแบ่งกั้น
ไม่มีชาย  ไม่มีหญิง  มีแต่ใจที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว…เพียงแค่รักกัน

**************************************************
ขอบคุณจากใจ...ที่ติดตามและอยู่ด้วยกัน...จนถึงวันนี้
รักคนอ่านทุกคน ... เส้นขอบฟ้า :)

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
Re: ภูรักฟ้า ตอนพิเศษ 2 >>> จบ
«ตอบ #69 เมื่อ02-01-2019 22:44:31 »

 :mew1: :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ภูรักฟ้า ตอนพิเศษ 2 >>> จบ
« ตอบ #69 เมื่อ: 02-01-2019 22:44:31 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เส้นขอบฟ้า

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Special 3.1 กลับมาได้ไหม

เดือนนี้ทั้งเดือนขอบฟ้าคุยกับพี่ภูนับคำได้  ไม่ใช่ว่าตัวเขายุ่งหรืออะไร
แต่เป็นพี่ภูที่เดินทางออกต่างจังหวัดเป็นว่าเล่น  ขนาดว่ามีคนขับรถให้
เองส่วนตัวแล้ว  ยังเอางานไปนั่งทำบนรถถ้าไม่เพราะพี่สมพงษ์คนขับรถ
ส่วนตัวพี่ภูเล่าให้ฟังก็ไม่รู้เลย  รู้ทั้งรู้ก็ไม่วายกดโทรหาอยู่ดี 
รอปลายสายตั้งนานก็ไม่มีวี่แววจะรับสาย

`พี่ภู  รับสายหน่อยเถอะ  ฟ้าเป็นห่วง  อยากได้ยินเสียง`
ขอบฟ้านั่งเศร้าเมื่อการติดต่อแค่ช่องเดียวนี้ไม่เป็นผลสำเร็จ

 “พี่ฟ้าเป็นอะไรไปค ะ หน้าเครียดเลย”
อิงเดินเข้ามาหาที่โต๊ะทำงาน

“พี่ภูน่ะสิ  ไม่รับสาย  รู้ว่างานยุ่งแต่เฮ้อ!...”
ขอบฟ้าถอนหายใจ  พูดทิ้งค้างไว้แค่นั้น
อิงมองเจ้านายรูปหล่อที่นั่งหน้ามุ่ยแล้วจึงพูดปลอบ

“พี่ภูคงกำลังเคลียร์งานให้เสร็จเร็วๆ จะได้มีเวลาให้พี่ฟ้าไงล่ะคะ
อย่าน้อยใจไปเลย  พี่ฟ้าเหงาก็ชวนเพื่อนๆ ไปหาของอร่อยทานกันสิคะ”
อิงพูดจบ  ขอบฟ้าก็ได้แต่ส่ายหน้า

“ซีเกมส์ก็ยุ่งเรื่องโรงงานแปรรูปเหล็กของพ่อมันจากที่เคยว่างเที่ยวเล่น
ถูกเรียกไปทำงานแล้วล่ะ   ส่วนพีทยิ่งแล้วใหญ่ตามเฝ้าพี่เมศไม่ห่าง
พี่น้ำกับพี่เบนล่องเรือออกอ่าวไทยไปแล้วมั้งป่านนี้”
พี่ฟ้าพูดแล้วทำหน้าเหงายิ่งกว่าเดิมอีก  อิงมองแล้วก็นึกเห็นใจ

เสียงเพลงรอสายจังหวะสนุกๆ ของพี่ฟ้าก็ดังขึ้น  เจ้าของเครื่องกระเด้งตัว
คว้าหมับเหมือนกลัวใครจะแย่งหรือกลัวสายจะตัดไปก่อนอย่างนั้น

“ฮัลโหลครับ  ภูดิศใช่ครับ  เป็นคนรักของผมเอง  ว่าไงนะครับ
ที่ไหน  แล้วพี่เค้าเป็นยังไงบ้าง  ห๊ะ!”
พี่ฟ้าหน้าซีดเผือดปล่อยมือถือล่วงจากมือ
อาการที่นิ่งงันทำเอาอิงรีบเข้าไปจับประคองตัวกลัวว่าจะตกจากเก้าอี้

“พี่ฟ้าใจเย็นๆนะคะ  ทำใจดีๆ  เกล้าๆ เข้ามานี่สิ!  พี่ฟ้าเป็นลม
ไปหายาดมยาหม่องหรือผ้าชุบน้ำเย็นมาเร็วๆ เข้า

”อิงตกใจตะโกนเรียกเกล้าเสียงหลง  พลางคลายหัวเข็มขัดและตะขอกางเกงให้
เพื่อให้ขอบฟ้าได้หายใจสะดวกขึ้น  นินจาได้ยินเสียงโหวกเหวกจึงวิ่งเข้ามาดู
เห็นอย่างนั้นจึงคว้าพัดที่อยู่ใกล้มือมาโบกให้อีกแรง

“พี่อิงครับ  พี่ฟ้าเป็นลมได้ยังไง  เมื่อตะกี้ยังดีๆ อยู่เลย
และออกจะแข็งแรงกว่าข้าวตังมันอีก”
นินจาละล่ำละลักถาม  และมองดูใบหน้าที่ซีดเซียวขาวซีดอย่างกับกระดาษของพี่ฟ้า

“ไม่รู้สิ  เห็นคุยโทรศัพท์อยู่ดีๆ ก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ

”อิงรับยาหม่องจากเกล้ามาให้พี่ฟ้าสูดดม  และรับผ้าขนหนูผืนเล็กที่ชุบน้ำมาแล้ว
จากเกล้าที่ยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับเช็ดไปที่ใบหน้าและลำคอ  ทำวนไปหลายต่อหลายครั้ง
จนพี่ฟ้าเริ่มรู้สึกตัว  และโบกมือให้น้องๆ ไปทำงานกันต่อ

“พี่ดีขึ้นแล้ว” ขอบฟ้าพูดแต่สีหน้ายังไม่ดีอย่างที่ปากพูดเลย
อิงสังเกตเห็นว่ายังคงมีอาการมือไม้สั่น  เสียงที่พูดก็สั่นเครือ

“มีอะไรเหรอคะพี่ฟ้า  ดีขึ้นจริงเหรอ  ให้อิงอยู่เป็นเพื่อนดีกว่านะคะ”
อิงอาสา  เมื่อเห็นว่าขอบฟ้ายังอยู่ในอาการที่ไม่สู้ดีนัก

“พี่…ภู…รถชน โทรหา…อาท….ให้ที”
พี่ฟ้าพูดน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น  อิงพยายามที่จะจับใจความ
จึงรีบหยิบโทรศัพท์ของพี่ฟ้าที่ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมาและต่อสายหาคนชื่ออาท
ทันทีตามที่พี่ฟ้าบอก  มือไม้พลอยสั่นไปด้วยกับข่าวร้ายที่ได้ยิน

(ครับคุณฟ้า) คนปลายสายรับ

“นี่อิงนะคะ  พี่ฟ้าให้โทรมา  คุณอาทมาพบพี่ฟ้าที่ร้านด่วนเลยได้มั้ยคะ”
อิงกรอกเสียงลงไปอย่างร้อนรนปลายสายรับคำและกดตัดสายไป

“พี่ฟ้ารอสักครู่นะคะ  คุณอาทกำลังมา”
พี่ฟ้าพยักหน้า  น้ำตาคลอ  อิงมองด้วยความสงสาร
ขณะนั้นมีลูกค้าเดินเข้าร้านกลุ่มใหญ่  อิงจึงขอตัวไปดูแลลูกค้าก่อน


ขอบฟ้านั่งรออย่างกระวนกระวายใจ  รู้สึกวิงเวียนขึ้นมาอีก
ใจสั่นและเหงื่อออกที่มือและเท้าจนชื้นไปหมด  ข่าวร้ายที่ได้ยิน
ทำเอาสมองตื้อร่างกายอย่างกับเป็นอัมพาต  หัวใจบีบรัดจนรู้สึก
จุกแน่นเหมือนจะหายใจไม่ออก  ไม่นานอาทก็เดินเข้ามาหาอย่างรีบเร่ง
ขอบฟ้าจึงเล่าเรื่องราวให้อาทฟังและเขาทั้งสองรีบรุดออกไปจากร้าน
อิงมองตามจนร่างของสองหนุ่มลับตาไป  เธอได้แต่หวังว่าพี่ภูจะปลอดภัย


“คุณฟ้าไหวมั้ยครับ  ทำใจดีๆ ไว้นะครับ  ไม่นานเราก็จะถึงแล้ว
คุณภูถึงมือหมอแล้วด้วย  อย่าเพิ่งวิตกไปเลย”
อาทได้แต่พูดปลอบใจคนตัวเล็กที่เอาแต่นั่งเหม่อลอย
น้ำตาคลอๆ มาตลอดทาง  ไม่มีการตอบรับใดๆ จนกระทั่งถึงโรงพยาบาล
อาทหาที่จอดรถแล้วรีบพาคุณฟ้าไปที่ห้องฉุกเฉินในทันที
สอบถามกับเจ้าหน้าที่แล้วคนเจ็บยังคงไม่ออกมา
คุณฟ้ายังนั่งนิ่งอย่างกับหุ่นยนต์ที่ไร้ซึ่งชีวิต  อาทเห็นอย่างนั้นนึกเป็นห่วง
จึงต่อสายหาเจ้านายของเขาทันที

“ฮัลโหล  นายเบนมีเรื่องด่วนครับ  รถคุณภูเกิดอุบัติเหตุตอนนี้ยังไม่ทราบอาการเลยครับ
ยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน  คุณฟ้าอาการดูแย่เอามากๆ นายเบนช่วยบอกคุณน้ำให้ทีหรือจะหา
ใครมาอยู่เป็นเพื่อนก็ดีนะครับ  คุณฟ้าเอาแต่นั่งนิ่ง ไม่พูดไม่จาอะไรกับใครเลย
ไม่ร้องไห้  ไม่โวยวาย  มันผิดปกติไปนะครับ”

(เออๆ  แกก็อย่าไปไหนแล้วกัน  อยู่ที่นั่นก่อน  เดี๋ยวให้น้ำโทรหาใครไปอยู่เป็นเพื่อนแล้วกัน
นายรอก่อนนะ  มีอะไรรีบโทรมา)  นายเบนกำชับไม่ให้ไปไหน

“ครับนายเบน  ด่วนหน่อยแล้วกันครับ  ถ้าคุณฟ้าร้องไห้ยังจะดีกว่านั่งนิ่ง
เป็นหุ่นแบบนี้  ผมใจไม่ดีเลย”

(เออๆ  จะรีบเดี๋ยวนี้แหละ  อย่าไปไหนล่ะ)  แล้วปลายสายก็ตัดไป
อาทมองไปที่หุ่นยนต์หน้าเหมือนคุณฟ้าแล้วเครียด  จนอยากจะออกไป
อัดบุหรี่สักสามสี่มวนให้สมองมันเบลอๆ ไปเลย  เครียดแทนแล้วตอนนี้
อาทได้แต่สังเกตการณ์อยู่ไม่ห่าง  อยากที่จะให้ใครก็ได้เข้ามาก่อนที่หมอจะออกมาแจ้งผล


เวลาผ่านไปนานแต่ก็ยังไม่มีวี่แววของหมอหรือใครที่พอจะให้ข้อมูล
เกี่ยวกับอุบัติเหตุในครั้งนี้ได้เลยสักคน  แล้วก็มีสายโทรเข้าที่เครื่องของคุณฟ้า
เจ้าตัวไม่สนใจที่จะรับ  จนสายตัดไปก็หลายครั้ง  อาทคิดว่าคงเป็นพี่ชายหรือไม่
ก็เพื่อนๆ ที่โทรเข้ามา  จนกระทั่งมีหนุ่มตัวเล็กวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาคุณฟ้า

“ฟ้าเป็นไง  อย่าเครียดนักเลย  ถ้าพี่ภูมาเห็นฟ้าเป็นแบบนี้คงไม่ดีแน่ๆ
อย่านิ่งแบบนี้สิ!  พูดกับซีก็ได้  ฟ้าฟังอยู่มั้ย”
ซีเกมส์เข้าไปกอดคนที่นั่งเฉย  แววตาเหม่อลอย  เห็นว่าเพื่อนไม่รับรู้จึงเขย่าตัวแรงๆ
และเรียกเสียงดังจนขอบฟ้าสะดุ้งหันมองเพื่อน  น้ำตาที่คลออยู่ก่อนแล้วไหลลงมา
เป็นทางและสะอึกสะอื้นจนตัวโยน  ร้องจนพอใจและดวงตาคู่สวยบวมช้ำ

“ฟ้าเข้มแข็งนะ  พี่ภูจะต้องไม่เป็นไร  พี่ภูจะต้องอยู่กับฟ้าไปอีกนานจนแก่น่ะแหละ
แกอย่าเพิ่งมางอแงมากนักจะได้มั้ย  นี่ถ้าพี่ภูออกมา  ซีจะโดนบ่นเอานะที่ไม่ดูแลฟ้าให้เค้า
ปล่อยให้ร้องไห้โยเยจนตาบวมเป่งแบบนี้  ขี้แงว่ะ  เดี๋ยวไอ้พีทมันมาแกจะโดนมันโบกหัวเอาด้วย
เห่ยขี้มูกไหลว่ะ  อย่ามาเช็ดเสื้อชั้นนะ”
ซีเกมส์แกล้งว่าเพื่อน  และทำเป็นโวยวายไปอย่างนั้น  เขาก็ห่วงพี่ภูไม่แพ้เพื่อนเหมือนกัน
ป่านนี้แล้วยังไม่ออกมาเลย  คงอาการหนักไม่ใช่เล่น  แต่ก็ต้องพูดปลอบใจเพื่อนไปก่อน


ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกและมีหมอเดินออกมาท่านหนึ่ง
ขอบฟ้าถลาเข้าไปจนถึงตัวหมอก่อนใครเพื่อน
“คนไข้ชื่อคุณสมพงษ์  ปลอดภัยแล้วนะครับ  แต่อีกคนได้รับบาดเจ็บสาหัส
คุณหมอกำลังเร่งทำการผ่าตัดอยู่ครับ”
เมื่อคุณหมอพูดจบ  ขอบฟ้าเข่าอ่อนลงทันทีแต่ได้อาทที่ยืนติดกันคว้าตัว
ไว้ได้ทันก่อนที่จะทรุดลงไปกองกับพื้น

“คุณฟ้าใจเย็นๆ นะครับ  หมอเก่งคุณภูต้องปลอดภัย  ไปนั่งรอตรงนั้นก่อนเถอะ”
อาทประคองขอบฟ้าไปนั่งรอที่เดิม  โดยมีซีเกมส์หนีบแขนไว้ไม่ปล่อยเหมือนกัน

“ซี  พี่ภูเจ็บหนัก  ฟ้ากลัว…ฮึกฮือ  ถ้าพี่ภูเป็นอะไรไปฟ้าจะอยู่ยังไง  ฮือฮือ”
ขอบฟ้าพูดไปสะอื้นไห้ไม่หยุด  จนซีเกมส์ไม่รู้จะปลอบเพื่อนยังไงแล้ว
ได้แต่มองหน้ากันกับอาท  และกอดเพื่อนไว้ลูบหัวและลูบหลังไปมา
ไม่นานพีทกับพี่เมศก็มาถึง

“ซี  พี่ภูเป็นไงบ้างวะ  หมอออกมารึยัง  พี่เมศก็ร้องไห้มาตลอดทางเหมือนกันเนี่ย
ขับแทบจะเหยียบคนตายอยู่แล้วด้วย  แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์เลย หื้ม…”
พีทมาถึงก็พูดไม่หยุด  จนซีเกมส์ต้องชี้มือลงที่คนในอ้อมแขนที่ร้องไห้
จนตาจะปิดแล้ว  พีทมองเพื่อนแล้วก็เงียบเสียงลง

“หมอผ่าตัดช่วยชีวิตอยู่  คนขับน่ะเพิ่งจะปลอดภัย  เหลือแต่พี่ภูที่รอผลอยู่”
ซีเกมส์ตอ บ และมองพี่เมศที่ยืนน้ำตาคลอไม่ห่างจากพีท  เขาก็เห็นใจทั้งเพื่อน
และพี่เมศเพราะคนสำคัญในครอบครัวนี่นะที่เจ็บปางตาย  แล้วต้องมานั่งรอลุ้นผล
กันแบบนี้  ซีเกมส์มองข้ามไหล่พีทและพี่เมศเห็นลุงหมอเดินหน้าเครียดเข้ามาอีกคน
จึงกระซิบบอกเพื่อนให้รู้  ขอบฟ้าหันมองลุงหมอแล้วลุกขึ้นยืน
พลอยทำให้คนอื่นๆหันมองตามและไหว้ทักทายท่าน

“หนูฟ้าใจเย็นไว้นะ  ลุงถามเพื่อนแล้ว  เคสนี้ยากหน่อยแต่มันจะผ่านไปได้
 นี่ก็ใกล้เวลาจะออกมากันแล้วล่ะ”
ลุงหมอพูดเหมือนเป็นเรื่องที่ปกติที่พบเห็นบ่อยจนชินไปแล้ว

“ลุงหมอ  ภูมันเป็นอะไรมากเลยเหรอครับ” พี่เมศถามผู้เป็นลุง

“มีม้ามแตกกับตับแตก  แล้วก็ซี่โครงทิ่มปอดด้วย  ที่หนักๆ ก็ประมาณนี้แหละ”
ลุงหมอพูดเหมือนกับเป็นการเล่าเรื่องของลมฟ้าอากาศซะอย่างนั้น
แต่เด็กหนุ่มทั้งหลายที่ได้ฟังพากันหน้าซีดเผือด  อ้าปากไปตามๆ กัน

“แล้วเจ้าภูจะปลอดภัยใช่มั้ยครับ”
พี่เมศถามคำถามที่ขอบฟ้าเองก็ต้องการรู้มากที่สุดด้วย

“อืม…” ลุงหมอพยักหน้า
แค่นั้นทุกคนก็พรูลมหายใจอย่างโล่งอก  แต่ขอบฟ้าก็ยังไม่ปักใจเชื่ออย่างที่ได้ยิน
นอกจากว่าเขาได้เห็นพี่ภูกับตาเสียกก่อน  เป็นมากขนาดนั้นจะทนความเจ็บปวด
ได้จริงๆ นะหรือ  เคสหนักมากจนผ่านไปไม่ต่ำกว่าสี่ชั่วโมงแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะจบ
ขอบฟ้ารู้สึกปวดหนึบในอก

`พี่ภูอย่าเป็นไรไปนะ  กลับมาหาฟ้า  อย่าให้ฟ้ารอนานกว่านี้เลย
…มันเจ็บรู้บ้างไหม…พี่ภูกลับมาหาฟ้าเถอะ`
ขอบฟ้ายังคงนั่งนิ่ง…เฝ้ารอ อย่างมีความหวังต่อไป



Special 3.2 กลับมาหากัน

เมื่อประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกอีกครั้ง  ทีมแพทย์เดินออกมาด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า
ลุงหมอเดินไปหาเพื่อนหมอด้วยกันที่มีคนหนึ่งยกมือตบที่ไหล่ของลุงหมอสองครั้งและพูดว่า

“ยินดีด้วย  คนไข้ปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแล้ว”
แค่นั้นเองที่ทุกคนรอคอย  ขอบฟ้ายิ้มทั้งน้ำตาคว้าตัวซีเกมส์มากอดไว้แน่น
การรอคอยใครสักคนให้ผ่านเส้นความเป็นความตายนั้นมันช่างทรมานจนเหมือน
หัวใจที่ถูกบีบอัดแน่นจนแทบแหลกสลายลงได้ทุกเสี้ยววินาทีเลยก็ว่าได้…มันได้สิ้นสุดลงแล้ว

“พี่ภูปลอดภัย  กลับมาหาฟ้าแล้วนะซี”
ซีเกมส์พยักหน้าและตบหลังเพื่อนไปเบาๆ

“อืม…ดีใจกับแกที่สุดเลยนะเว่ยฟ้า”
ขอบฟ้าเช็ดน้ำตากับไหล่ของเพื่อนรัก

“เห่ย!  ฟ้า  อย่าเอาขี้มูกไปถูกับไหล่ซีมันเยอะแยะขนาดนั้น
เดี๋ยวมันต้องไปหาพี่หมอของมันอีกนะเว่ย”
พีทแซวเพื่อนเมื่อบรรยากาศเครียดๆ เริ่มคลายลง  และคนที่พูดถึงก็เดินเข้ามาพอดี

“ซี  ภูมันปลอดภัยแล้วใช่มั้ย”
หมอคีรีถามซีเกมส์ทันทีที่เดินเข้ามาถึง  คนตั้งมากมายเจาะจงถามอยู่กับคนที่ยืนกอดกันอยู่
จนพีทต้องเหลือบตามองบนอย่างหมั่นไส้

“ครับพี่หมอ  ลุ้นจนปวดหัวไปหมดแล้ว  พี่หมอต้องพาไปหาของอร่อยทานแล้วล่ะ”
ซีเกมส์หาข้ออ้างจะกินขึ้นมาทันที

“เอาสิ  เขายังไม่ให้เยี่ยมหรอกวันนี้  ไปหาอะไรกินกันหมดนี่แหละ
แล้วค่อยมาใหม่พรุ่งนี้” หมอคีรีเอ่ยชวนทุกคนพร้อมกับดูเวลาที่ข้อมือ

“ไปสิ  ยังไม่มีใครได้กินอะไรกันเลย”
พี่เมศพูดและพากันไหว้ลาลุงหมอ  อาทขอตัวกลับ
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์คลี่คลายแล้ว  และดูคุณฟ้าจะหายกังวลไปได้เปราะหนึ่งแล้ว
อีกอย่างก็มีเพื่อนๆมาคอยเป็นกำลังใจให้แล้วด้วย
“ขอบคุณมากนะอาท  ที่พามาแล้วก็อยู่เป็นเพื่อน”
ขอบฟ้าบอกกับอาทที่ผงกหัวและยิ้มรับ  เขาลาทุกคน  แล้วผละออกไปก่อน
และบรรดาหนุ่มๆทั้งหมดก็พากันเดินออกจากจุดนั้นไปหาของอร่อยกินแก้เครียด


ขอบฟ้าที่เปลี่ยนชุดปลอดเชื้อ  นั่งรอเวลา  แอบไปเดินเมียงๆ มองๆ แม้จะรู้ว่ายังไงก็
ไม่ได้เห็นพี่ภูอยู่ดีก็อดที่จะชะเง้อหาไม่ได้  พยาบาลเดินผ่านมาเห็นเธอจึงอมยิ้ม
ขอบฟ้าแก้เก้อโดยการแจกยิ้มกลับไปให้และเกาท้ายทอย


เมื่อถึงเวลาให้เข้าเยี่ยม  ขอบฟ้ารีบถลาไปที่ประตูจ้ำอ้าวๆ เข้าไป
ภายในห้องภาพคนป่วยที่นอนนิ่งบนเตียง  มีมอนิเตอร์วัดสัญญาณชีพ
เครื่องช่วยหายใจ  ทั้งสายไฟระโยงระยาง  สายยาง  ท่อต่างๆ
ที่ต่อเข้าเส้นเลือดใหญ่  ทั้งท่อระบายของเสีย  สายน้ำเกลือ

เห็นดังนั้นขอบฟ้าก็น้ำตาไหลอย่างกลั้นไม่อยู่
เมื่อได้มาเห็นคนที่แข็งแรงดีทุกอย่างต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ความสงสารท่วมท้นมาจับขั้วหัวใจ  ขอบฟ้าเลื่อนมือไปสัมผัสลูบไล้
ใบหน้าของคนรักแนบแก้มและจูบที่หน้าผาก

“พี่ภูครับ  เจ็บมากใช่มั้ย  ฟ้าอยู่ตรงนี้แล้ว  พี่ภูต้องเข้มแข็งและอดทน
สู้กับความเจ็บปวดนี้ให้ได้  แล้วกลับมาหาฟ้านะครับ  ฟ้าไม่ให้พี่ภูไปไหน
พี่ภูต้องอยู่กับฟ้าอยู่กับลูก  ห้ามอ่อนแอ  ห้ามยอมแพ้เด็ดขาดนะครับ
ห้ามทิ้งฟ้ากับลูก  พี่ภูบอกว่ารักฟ้า…เรารักกัน  ฟ้าขอเห็นแก่ตัวที่จะไม่มีวัน
ปล่อยพี่ภูไปไหน  พี่ต้องอยู่กับฟ้าอยู่ด้วยกันจนแก่  ห้ามเบื่อและทิ้งฟ้าไปก่อน
ฟ้าจะรอพี่ภูอยู่ตรงนี้นะครับ  รอพี่ภูกลับมา…กลับมาบอกให้ฟังอีกครั้ง
…ว่าพี่ภูรักฟ้า…กลับมานะพี่ภูคนดี  อย่าทิ้งฟ้าให้เหงา  ไหนพี่ภูบอกจะไม่ทำ
ให้ฟ้าต้องร้องไห้ไง”

ขอบฟ้าฟุบหน้ากับฝ่ามือตัวเองและกุมมือพี่ภูไว้น้ำตาของตนก็ไหล
ลงเปียกปอนที่หลังมือพี่ภู  สะอื้นไห้อย่างสุดแสนที่จะหักห้ามได้
จนมีมือมาตบๆที่ไหล่  จึงเงยหน้ามอง  เป็นซีเกมส์ที่มายืนอยู่ใกล้ๆ

“ฟ้าเข้มแข็งนะ  พี่ภูจะหายและกลับมาหาฟ้าในเร็ววัน”
ซีเกมส์ปลอบและกดจมูกที่เรือนผมของเพื่อน

“ซีแกดูสิ  พี่ภูเจ็บมากแน่ๆ  ฟ้าสงสารพี่ภู  ฟ้าก็เจ็บ…เจ็บไม่ต่างจากพี่ภู
อยากแบ่งความเจ็บมาไว้สักครึ่งนึง  ให้เราเจ็บเท่าๆกันหรือให้ฟ้าทั้งหมดก็ได้
ดีกว่าพี่ภูต้องมาเป็นคนเดียวแบบนี้  ฮึกฮือ”

ขอบฟ้าพูดไปร้องไห้ไปเหมือนเด็กที่กำลังเสียขวัญ  ซีเกมส์น้ำตาไหล
เมื่อไม่รู้จะพูดปลอบเพื่อนยังไงแล้ว  จนพยาบาลมาเตือนบอกหมดเวลา
เยี่ยมซึ่งเป็นช่วงไม่กี่นาทีเท่านั้นที่เขาได้เห็นหน้าพี่ภู

“พี่ภูหายเร็วๆ นะ ฟ้ารออยู่  ฟ้ารักพี่ภูนะครับ”
ขอบฟ้าจูบลาพี่ภูไปทั่วใบหน้าและริมฝีปากที่แห้งระคายนั้น  แล้วก็ถูกซีเกมส์พาออกไปหน้าห้อง

“ฟ้าแกจะกลับเลยมั้ย  ไปหาอะไรกินกันก่อน” ขอบฟ้าส่ายหน้าให้เพื่อน

“ฟ้ากินไม่ลง  แล้วฟ้าก็ไม่กลับด้วย  ฟ้าจะรอเข้าเยี่ยมพี่ภูในรอบบ่ายอีกที”

“ฟ้าต้องดูแลตัวเอง  ทำตัวให้แข็งแรง  ถ้าแกจิตตกแบบนี้  แกจะทำให้พี่ภูหายช้านะ
พี่ภูต้องรับรู้แน่ๆตอนที่แกเข้าไปหาน่ะ  พี่ภูต้องรู้สึกแย่ที่แกเป็นแบบนี้นะเว่ย
แกต้องพูดให้กำลังใจพี่ภู  และให้กำลังใจตัวเองด้วย  อย่าอ่อนแอ…เข้มแข็งนะฟ้า”
ซีเกมส์เตือนสติเพื่อน

“อื้ม…ขอบใจนะซี  ฟ้าจะเข้มแข็ง  พี่ภูจะได้หาย…กลับมาหาฟ้า
ไปหาข้าวแถวนี้กินก็ได้นะ  เดี๋ยวฟ้าค่อยมาใหม่” ขอบฟ้ารวบรวมแรงฮึดขึ้นมา

“ดีมากฟ้า  ตอนบ่ายพี่หมอก็จะมาเยี่ยมพี่ภูเหมือนกัน
งั้นซีอยู่เป็นเพื่อนฟ้าเลยก็ได้”
ขอบฟ้าพยักหน้า  แล้วทั้งสองก็พากันเดินไปร้านค้าที่อยู่ข้างๆ โรงพยาบาล



ภูดิศรู้สึกตัว  อาการเจ็บปวดและแน่นที่หน้าอกมันคืออะไร
หนังตาก็หนักอึ้ง  เหมือนว่าเขาได้หลับแล้วฝันไป…ได้ยินเสียงน้องฟ้า…

`น้องฟ้ากำลังเศร้า  เจ็บปวด  โหยหา  ต่อว่าต่อขานว่าเขาปล่อยให้รอ
พูดเหมือนเขาจะทิ้งไปอย่างนั้น  พี่ตัวโตรักตัวเล็ก  รักมากที่สุดจะเลิกรัก
แล้วปล่อยให้รอทำไมกัน  จะทิ้งไปไหนได้…ก็รักมากขนาดนี้`

`ในฝันน้องฟ้ายังร้องไห้งอแงอีกด้วย  ทำไมกัน  พี่เนี่ยนะที่จะไม่รักน้องฟ้า`

 ภูดิศขยับตัวแต่มันหนักอึ้งเหมือนมีใครเอาหินมาถ่วงร่างไว้

`เจ็บ…ปวดเหลือเกิน  ใครก็ได้ช่วยที  ทำไมมืด  เราเป็นอะไรไป`
 ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินอยู่ในห้อง  มือที่ลูบไล้ใบหน้า

`ใครกันนะสัมผัสได้อ่อนโยน  น้องฟ้าใช่มั้ย  น้องฟ้ามาหาพี่เหรอ
 ฝ่ามืออุ่นๆ ที่จับกันไว้นี่อีก  น้องฟ้าของพี่ใช่มั้ย`

“พี่ภูฟ้ามาหาพี่แล้วนะ  พี่ภูตื่นเถอะนอนนานเกินไปแล้วนะครับ
พี่หมอกับซีก็มาด้วยนะ  พี่ภูอยากตื่นรึยัง  อย่าขี้เซานักเลย ตื่นเถอะพี่ภู”
ภูดิศได้ยินเสียงอ่อนทุ้มที่มักจะอ้อนเวลาอยากให้เขาทำอะไรให้

`น้องฟ้าจริงๆ ด้วย  มาหาพี่แล้วสินะ  พี่อยากตื่น  อยากมองหน้า
 แต่พี่ลืมตาไม่ขึ้น  ใครแกล้งพี่รึป่าว  ใครพาพี่มาซ่อนในห้องมืดนี่กัน
พี่อยากออกไปหานะครับคนดี…อย่าเพิ่งไปไหนนะ…รอพี่นะน้องฟ้า`

“ภูแกจะขี้เซาไปถึงไหนวะ  ไม่ตื่นมาดูแลของรักของหวงแกรึไง
เดี๋ยวก็โดนหมาคาบไปนะเว่ย  ถ้าไม่รีบตื่น”
เสียงไอ้หมอบ้า  มันมากวนประสาทอะไรกันแถวนี้  หมาที่ไหนจะกล้ามาคาบวะ
ถ้าเห็นจะเตะให้กระจายเลย  ภูดิศนึกมันเขี้ยว  นึกหวงของขึ้นมาทันที

“พี่ภู  ฟ้ามันขี้แย  บอกอะไรก็ไม่ฟัง  มันดื้อเอามากๆ  พี่ภูรีบตื่นมาจัดการเด็กดื้อ
ของพี่ภูเลย  ก่อนที่ซีจะตีมันตายซะก่อน”

`ฟ้าไม่ดื้อ  อย่าตีกันนะ  พี่จะตื่นไปดูเดี๋ยวนี้แหละ`
ภูดิศรวบรวมแรงที่มีฝืนลืมตา  ขยับแขนขา  แม้จะต้องเจ็บร้าวมากก็ตาม


“พี่ภูคนดี  อย่าไปเชื่อซีมันนะ  ฟ้าไม่ดื้อพี่ภูก็รู้เนอะ
พอพี่ภูนอนนานๆ แบบนี้ก็มีแต่คนหาว่าฟ้าดื้อกันทั้งนั้น
งั้นพี่ภูก็ต้องรีบตื่นแล้วล่ะ  ตื่นมาให้ฟ้าดื้อกับพี่…แค่คนเดียว…
แล้วฟ้าจะไม่ดื้อกับใครอีก…นะครับ  รีบตื่นแล้วกลับมาหาฟ้า  ฟ้ารออยู่”
จูบอีกแล้ว  นี่ตัวเล็กจะอ่อยพี่ใช่มั้ ย พี่ตื่นก็ได้ครับ

“อ๊ะ!  พี่หมอ  ซี  พี่ภูขยับนิ้ว  เนี่ยฟ้ารู้สึกได้”
ขอบฟ้าตื่นเต้น  ยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อฝ่ามืออุ่นที่กุมกันขยับตอบรับสัมผัส
แล้วพยาบาลก็เข้ามาเช็กสัญญาณชีพให้  พอเห็นหมอคีรียืนอยู่ด้วยก็ค้อมศีรษะให้
และทำหน้าที่ของเธอต่อไป  ทั้งสามถอยออกมาเมื่อแพทย์เข้าไปที่เตียง
และพูดคุยกับหมอคีรี  สักพักหมอคีรีก็เดินออกไป


“ไม่ตายแล้วละ  น้องฟ้ามีเวลาดื้อกับมันไปอีกหลายสิบปีเลยแหละ  หึหึ”
พี่หมอบอกยิ้มๆ แล้วยังหัวเราะในลำคออีกด้วย

“ขี้หวงไม่ใช่เล่นเลยพี่ภู  พอพี่หมอบอกว่าหมาจะมาคาบฟ้า
แล้วซีฟ้องว่าฟ้าดื้อ  พี่ภูรีบตื่นเลย  ร้ายจริงๆเลยพี่ภูเนี่ย”
ซีเกมส์คิดเหมือนกับที่พี่หมอคิด

“บ้าน่าซี  พี่ภูแค่เบื่อจะนอน…แค่นั้นเอง”
ขอบฟ้าพูดเสียงอ่อน  แล้วก็เขินพี่หมอที่ยิ้มล้อๆ มาให้

“ฟ้าต้องเฝ้าไข้แล้วละ  เดี๋ยวถ้าไม่มีอะไรน่าห่วงเขาจะย้ายไปห้องพักฟื้น
ทีนี้ก็มีเรื่องให้ฟ้าต้องดูแลเจ้าภูมันเยอะเลย  เราจะทำไหวเหรอ
ให้ใครมาช่วยน่าจะดีนะ  น้ำต้องงดก่อนจนกว่าหมอจะอนุญาต
เดี๋ยวมีพยาบาลมาให้คำแนะนำอีกทีคอยฟังแล้วกัน”

“ฟ้าทำได้พี่หมอ  อาจจะต้องให้เด็กที่บ้านมาอยู่ช่วยอีกคนตอนที่ฟ้าพักนะ  สลับกัน”

“ช่วงนี้ต้องให้นอนศีรษะสูงหน่อย  พลิกตะแคงตัวระวังลิ้นไปอุดกั้นทางเดินหายใจ
ฝึกให้ภูมันหายใจเข้าออกลึกๆ ยาวๆ  ถ้าไอต้องใช้หมอนกดที่หน้าท้องเบาๆ
จะช่วยลดแรงสะเทือน  เพราะจะทำให้ปวดแผล  ระวังอย่าให้พวกสายพวกนี้
พับงอหรือเลื่อนหลุดนะฟ้า  นี่พี่หมอบอกคร่าวๆ ไว้ก่อน
อ้อ…อีกเป็นวันแหน่ะที่จะให้ลุกนั่งได้นะ  ไหวเหรอเรานี่แค่พื้นๆ นะ
ถ้ากลับไปบ้านยังมีอะไรอีกเยอะที่เป็นข้อห้ามน่ะ  ฟ้าต้องดูแลเจ้าภูจนเบื่อหน้า
ไปเลยสองสามเดือนนู้นแหละมันถึงจะกลับมาเป็นปกติดี  นี่พี่หมอไม่ได้ขู่นะ”
หมอคีรีแจกแจงรายละเอียดที่ต้องเฝ้าไข้คนป่วยให้ฟัง  ขอบฟ้ารับฟังอย่างตั้งใจ

“พี่หมอไม่รู้อะไร  ฟ้าน่ะต่อให้ต้องเฝ้าไปตลอดชีวิตมันก็ทำได้
เห็นตัวเล็กๆ เนี่ย  มันกลัวซะที่ไหน”
 ซีเกมส์พูดเพราะรู้จักเพื่อนตัวเองดี  ลองได้รักแล้ว  มันรักยันรูขุมขนและกระดูกนู้นแหละ

“ฟ้าทำได้ครับ”
ขอบฟ้ายิ้มรับ  และไปนั่งที่หน้าห้องรอการเคลื่อนย้ายพี่ภูไปอีกห้องหนึ่ง



ภูดิศลืมตาเห็นเพดานสีขาว  ได้กลิ่นยา  เสาน้ำเกลือและอาการเจ็บที่หน้าอก
ลงมาช่วงท้อง  ขยับตัวมากไม่ได้ปวดแปล๊บ  ศีรษะทุยที่ฟุบอยู่ข้างๆ กัน
มือที่ถูกกุมไว้มีลมหายใจอุ่นๆ เป่ารดเบาๆ  เขานอนอยู่ที่โรงพยาบาล
และนี่คือเตียงคนไข้  น้องฟ้าที่ฟุบหลับอยู่ข้างๆ 

วันก่อนเขาไปดูการก่อสร้างรีสอร์ตแห่งใหม่ที่วังน้ำเขียว  ตลอดเดือนที่ผ่านมา
เขาโหมงานจนระบบร่างกายรวน  แทบไม่ได้กิน  ไม่ได้นอน  ทำให้ฝืนร่างกาย
ไม่ไหวหลับไปตลอดทาง   แล้วเกิดอะไรขึ้น  น้องฟ้าขยับตัวแล้วนั่งตัวตรงชูมือ
ขึ้นบิดตัวไล่ความเมื่อยขบ  ผมที่ยาวจนประบ่าก็กระจายไม่เป็นทรงนัก

`นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เห็นความเป็นธรรมชาติแบบนี้
 นานแค่ไหนที่ไม่ได้เข้านอนแล้วตื่นมาพบหน้ากัน
นานแค่ไหนที่ไออุ่นจางหายไป`

เขาหลับตาลงเมื่อคนตัวเล็กลุกจากเก้าอี้ข้างเตียง
แล้วมือนุ่มๆ ก็มาสัมผัสที่แก้มสองข้าง  ลมหายใจรินรด
ที่ใบหน้าของเขา  และหน้าผากที่แตะกัน

“ขี้เซา  เมื่อไหร่จะตื่น  ฟ้ารอนานแล้วนะ  หนูรินคิดถึงพ่อภูมากๆ
แล้วด้วย  ถ้าตื่นมาเร็วๆ จะได้กลับบ้านกันไง  บอกว่ารักฟ้าไม่ใช่เหรอ
ฟ้าจะไม่เชื่อแล้ว  ถ้าพี่ภูไม่ตื่นมาบอกให้ได้ยินอีก…ฟ้าจะไม่เชื่อ”
น้องฟ้าพูดไปก็ยังไม่ละใบหน้าออกไปจากกัน
ภูดิศจึงงับปากที่ช่างว่าไปที  แล้วลืมตา


“ภูรักฟ้า  รักมาก  ไม่เคยเปลี่ยน”
เสียงแหบแห้งที่เอ่ยออกไป  ทำเอาคนตัวเล็กผละตัวออกไป
มองมาอย่างไม่เชื่อ  สายตา  แล้วก็มีน้ำตาไหลลงมาที่ร่องแก้ม
ก่อนที่เจ้าตัวจะโน้มใบหน้าลงมาจูบที่หน้าผากและที่ริมฝีปากของเขา
ความเนียนนุ่มที่สัมผัสไออุ่นที่ได้รับและน้ำตาจากความดีใจ  ทำเอาเต็มตื้นในอก

“พี่ภู  กลับมาหาฟ้าแล้ว  อย่าเป็นอะไรอี ก ฟ้าอยู่ไม่ได้…หากไม่มีพี่”
พูดไปก็เกลือกกลิ้งใบหน้ากับแก้มของเขา  ภูดิศอยากดึงเข้ามากอด
และปลอบขวัญแต่ทำได้เพียงยกมืออีกข้างขึ้นมาลูบหลังให้เท่านั้น

“ขอโทษนะตัวเล็ก  ที่พี่ปล่อยให้เหงาและทำให้เราเป็นห่วงตลอด
พี่จะไม่ทำแบบนั้นอีก  ขอโทษนะครับ…คนดี”
ภูดิศพร่ำขอโทษคนตัวเล็ก  ที่ผละออกและจับมือเขาไปกุมไว้แนบอก

“ไม่มีโทษใดที่จะยกให้  เพราะฟ้าไม่เคยโกรธพี่สักครั้ง
แค่ได้รักและดูแลไปอย่างนี้  อย่าหนีหาย  อย่าจากไป
หากมีบ้างในบางครั้งที่เราห่างกัน  แต่สุดท้ายพี่ตัวโตก็ยังใจดี
ไม่ทิ้งให้น้องต้องรอนาน   ตัวเล็กรักพี่ตัวโตนะ…ขอบคุณ…ที่กลับมาหากัน”

************************************
Happy valentine’s day

พาความรักของพี่ภูและน้องฟ้า มาส่งให้

สำหรับทุกดวงใจที่มีรัก  <3

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

ออฟไลน์ Musashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-13

“ยากหน่อยนะคุณภูดิศ  ที่จะปฏิเสธคนอย่างญาดาได้ง่ายๆ ไอ้ที่หลบๆ เลี่ยงๆ
บ่ายเบี่ยงไม่ไปพบหน้ากันมาตลอด  มันเพราะแบบนี้นี่เอง   มานั่งพลอดรัก ออดอ้อนกัน
จะไม่วิปริตผิดเพศไปหน่อยรึไง  ช่างน่าไม่อายทั้งสองคน  โดยเฉพาะแก!!
กล้ามาแย่งคนที่เขามีคู่อยู่แล้ว!  ฉันจะฟ้องคุณปู่ให้เล่นงานแก!  คอยดูเถอะ!!!”
หญิงสาวที่ภูดิศพบในผับคืนที่เจอขอบฟ้านั่นเอง ภูดิศจำความเปรี้ยวจี๊ดของการแต่งกาย
และท่าท่างเธอได้  นี่เหรอญาดาผู้หญิงที่คุณปู่หาไว้ให้เขา  ปากคอช่างเราะร้ายเหลือเกิน
หันไปมองคนตัวเล็กที่นั่งหน้าซีดก็ทำให้อารมณ์พลุ่งพล่าน

“เธอเป็นใคร  เราไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ  ไม่หน้าด้านไร้ยางอายเสียกว่ารึไงที่มายืนป่าวประกาศ
แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผม  และไอ้การด่าทอคนอื่นเสียๆ หายๆ แบบนี้ช่างไร้สกุลเสียกว่า
แล้วคิดว่าตัวเองมีดียังไงผมถึงจะเลือกคุณ  ไม่ทราบ  ไม่ดูตัวเองเอาซะเลย  ทุเรศที่สุด”
ภูดิศลุกขึ้นตอบโต้หล่อนอย่างดุเดือดกลับไป  และใช้สายตามองผู้หญิงตรงหน้าอย่างเหยียดหยาม
เขาพอจะรู้ว่าหล่อนเป็นใครก็ตอนที่มาประกาศปาวๆ นี่แหละ  นี่นะเหรอว่าที่ภรรยาเขา
เขารู้สึกรังเกียจ และขยะแขยงเจ้าหล่อนเป็นที่สุด

“คุณภู!!!  อย่ามาหยาบคายกับญาดานะ  เห็นไอ้เกย์หน้าอ่อนนี่ดีกว่างั้นเหรอ
อย่าคิดว่าแกจะชนะฉันได้นะ  ไม่มีทาง!  แล้วเราจะได้เห็นดีกัน  คุณด้วยภูดิศ”
ญาดายังพาลชี้หน้าด่าขอบฟ้าที่นั่งหน้าซีดอยู่กับที่  แล้วเจ้าหล่อนก็กระทืบเท้าเดินตึงตังออกไป
ไม่สนใจว่าใครจะมองเธอยังไง

 
แล้วแกล่ะนังญาดา หมดปัญหาผัวแล้วเหรอถึงมาจับผู้ชายที่รักผู้ชาย ชั้นกล้าพูดว่าแกอยากได้เงินเค้าใช่ป่ะอีชะนี

ออฟไลน์ sugarcane_aoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด