Eight
(ซ.) : ซิกาเร็ต (แซว)
[สระ]ระหว่างทางเต็มไปด้วยความเงียบ ผมคิดว่าไอ้นะอาจจะอยากถามว่าที่ผมพูดนั่นมันหมายความว่ายังไง แต่จนถึงตอนนี้มันก็ไม่ปริปากพูดอะไรออกมาเลยสักคำ ซึ่งผมก็พอจะเข้าใจได้อีกนั่นล่ะว่ามันคงกลัว เพราะผมเองก็กลัวคำถามของมันเหมือนกัน
ที่จริงแล้วมีความกลัวมากมายฝังอยู่ในใจของเราทุกคน อย่างผมก็คงเป็น...ความกลัวที่จะยอมรับว่าระหว่างผมกับไอ้นะมันมีอะไรมากกว่าแค่เป็นเพื่อนกันมาสักพักแล้ว สักพักแบบว่านานมากๆ
“มึงจะเงียบอีกนานป่ะไอ้นะ?”
“หือ?” คนถูกถามหันมาเลิกคิ้วงงๆ ใส่ผม เห็นแบบนั้นผมก็เลยถอนหายใจใส่แล้วโบกหัวมันไปที
“คิดอะไรอยู่ พูดออกมาดิ”
ไอ้นะนิ่งไปเล็กน้อย แต่สุดท้ายมันก็ส่ายหน้า “กูไม่ถามดีกว่า”
“เอ๊า นี่กูเปิดโอกาสให้มึงถามได้เลยนะ จะไม่ถามจริงดิ?!”
“อือ”
“ทำไมอะ” จากที่ควรจะกระอักกระอ่วน กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ผมมีแต่ความสงสัย ความองความอายอะไรหายหมด ตอนนี้เหลือแต่ความอยากรู้เท่านั้น “เต๊าะกูมาตั้งนาน พอกูเอาจริงเข้าหน่อยดันป๊อดเหรอมึง”
ไอ้นะชะงักอีกรอบ มันเบิกตากว้าง สีหน้าดูเลิกลั่ก แววตามันเหมือนอยากจะถามว่าผมรู้ด้วยเหรอ
เฮ้อ กูก็ไม่ได้ซื่อบื้อจนถึงขั้นโง่ซะหน่อย โดนจีบขนาดนั้นไม่รู้ก็บ้าแล้วป่ะ
“กู...กูยืนยันคำเดิม”
“ไม่ถาม?”
“...อือ”
“ตามใจ โอกาสแบบนี้กูไม่มีให้บ่อยๆ นะเว้ย ครั้งหน้าไม่รู้จะมีอีกเมื่อไหร่ เกิดมึงอยากถามขึ้นมาแต่กูไม่อยากตอบก็ไม่รู้ด้วยนะ” ผมหยั่งเชิง แต่ไอ้นะก็ยังเงียบเหมือนเดิม
“...”
ผมลอบถอนหายใจ “งั้นรีบเดินเลย กูหิวแล้ว อยากกินลูกชิ้นปิ้ง”
พูดจบก็จับมือไอ้หล่อแล้วดึงให้มันเร่งเท้า จนก้าวผ่านประตูวัดมาแล้วนั่นล่ะกว่าที่อีกฝ่ายจะพูดออกมาได้
“ไม่หรอก”
“หะ? อะไรคือไม่หรอก?”
ไอ้นะหันมาฉีกยิ้มกว้างให้ผม “โอกาสไม่ได้มีน้อยหรอก ยังมีอีกเยอะเลยแหละ ตราบใดที่กูไม่เลิกเต๊าะมึงอะ”
“หราาา” ผมเบะปากใส่คนมั่นหน้ามั่นกระโปก ยื่นปากใส่มันแล้วทำตาล้อเลียน เลยโดนไอ้นะดึงปากเล่น “โอ๊ยๆๆ เจ็บนะเว้ย”
“แค่นี้เจ็บ นี่ถ้ากูกัดปากมึงขึ้นมามึงไม่เจ็บกว่าเหรอ”
“!!!”
กัดปาก!?
ผมหน้าเหวอ อ้าปากค้างมองอีกฝ่ายตาโต รู้สึกว่าแก้มมันร้อนผ่าวขึ้นมาอีกแล้ว ไอ้เชี่ยยย มึงจะไม่หยุดหยอดมุกขายขนมจีบกูจริงๆ ใช่ป่ะไอ้เพื่อนชั่ววว
“มึงแม่ง”
พูดได้แค่นั้นแล้วผมก็เดินไวๆ หนีมันมา สบถด่ามันไปด้วยตลอดทาง ไอ้นะ ไอ้สันขวาน รู้ว่ากูรู้แล้วแต่ก็ยังไม่เลิกสักทีไอ้มุกจีบที่โคตรจะเสี่ยว แต่แม่งเสือกเรียกหัวใจกูให้เต้นผิดจังหวะได้ตลอด จงใจแกล้งกูใช่ป่ะไอ้เห็บหมา แล้วนั่นน่ะ...ถ้ามึงถามออกมาก็จบแล้ว กูจะได้ตอบๆ ไปว่าคิดเหมือนกันอะ
คิดเหมือนที่ใส่แคปชั่นใต้รูปในไอจีเมื่อกี้นั่นแหละ!
“สระ~ จะไปไหนเนี่ย” เสียงไอ้นะดังไล่หลังมาไม่ไกล “มึงเดินผ่านร้านลูกชิ้นปิ้งมาแล้วนะ อยากกินไม่ใช่เหรอ”
ผมชะงัก หมุนตัวกลับไปหาไอ้นะ ถลึงตาใส่มันแล้วจ้ำเท้าย้อนกลับไปทางเดิม “ไหนร้าน”
“ตรงนู้น” ไอ้หล่อยิ้มล้อเลียน ดึงมือผมไปจับอีกรอบแล้วจูงเดินไปที่ร้านขายลูกชิ้น ผมก็อยากจะต่อยมันสักทีที่ทำหน้าตากวนส้นตีนดีแท้ แต่พอเห็นลูกชิ้นที่อยากกินเรื่องนั้นก็กระเด็นหายออกไปจากสมองทันที
“น่ากินไปหมดเลยอะ”
“เอากี่ไม้”
ปากถามแต่มือไอ้นะหยิบไม้ลูกชิ้นรัวๆ ไปวางใส่จานที่แม่ค้ามีไว้ให้เป็นสิบไม้ และทั้งหมดนั่นเป็นลูกชิ้นในแบบที่ผมชอบทั้งสิ้น...ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นเนื้อ ไส้กรอกไก่ เนี่ย แล้วแม่งมันก็จำได้หมดว่าผมชอบกินอะไร เฮ้อ กูจะหาคนแบบมึงได้จากที่ไหนอีกวะเนี่ยไอ้คุณพยัญชนะ
“พอแล้ววว” ผมบอกมันหลังจากมันหยิบไปทั้งสิ้นสิบห้าไม้ถ้วน “กะไม่ให้กูกินอย่างอื่นเลยเหรอวะ”
“มึงกินไม่หมดเดี๋ยวกูช่วยกินเอง”
“แต่มึงไม่กินเนื้อไม่ใช่เหรอ?”
“ก็ให้มึงกินลูกชิ้นเนื้อให้หมด มีแค่สี่ไม้เอง”
ผมไหวไหล่เป็นการตอบรับ สอดส่ายสายตามองหาของกินอย่างอื่น บริเวณลานวัดเต็มไปด้วยร้านรวงมากมาย แบ่งเป็นโซนๆ ชัดเจนมาก อย่างตรงที่ผมยืนอยู่นี่ก็เป็นโซนอาหาร มีทั้งร้านซื้อกลับและร้านนั่งกิน โอ๊ะ นั่นร้านขนมจีน ตรงนั้นหอยทอด อูย น่ากินอะ กลิ่นงี้โชยมาเลย หอมสัด ตรงนู้นก็ร้านน้ำแข็งไส เช็ดดด ไม่ได้กินมานานเท่าไหร่แล้ววะเนี่ย ถึงบิงซูจะอร่อย แต่ออริจินัลของความเป็นไทคือน้ำแข็งก้อนที่ไสกับเครื่องไสไม้เว้ย
“นะๆ ไปกินหอยทอดกัน” กระตุกเสื้อมันยิกๆ แล้วชี้ไปทางร้านหอยทอดที่ว่า ก่อนสายตาจะเลื่อนไปเจอร้านก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ฉิบหายยย นั่นก็ของโปรดผม “โอย จะกินไรดีวะเนี่ย เตี๋ยวก็อยากกิน หอยทอด ขนมจีน”
“ก็ไปกินให้หมดทุกอย่างเลยเป็นไง”
“กินหมดนั่นกูจุกตายกันพอดี เดี๋ยวไม่ได้กินน้ำแข็งไส อะ..เฮ้ย! นั่นสายไหมนี่หว่า แล้วตรงโน้นก็ขนมถ้วย ฮือ ไอ้นะ กูอยากกินทุกอย่างเลยว่ะ ทำไงดีวะ”
“ก็ไปกินมันทุกอย่าง กินไม่ไหวก็ซื้อกลับบ้าน เดี๋ยวดึกๆ มึงหิวก็ค่อยหยิบมากิน”
“เออ เป็นความคิดที่ดี” ผมหันมายิ้มร่าให้เพื่อนสนิท ยื่นมือไปหยิกแก้มมันเล่นเบาๆ “เก่งจังเลยน้องนะ”
“กูไม่ใช่หมา”
“นี่ก็ไม่ได้เอ็นดูเหมือนหมาซะหน่อย”
“เอ็นดูกูอย่างเดียวเหรอ?” มันถาม
ผมหรี่ตามองมันอย่างรู้ทัน “จะชวนกูดูเอ็นมึงด้วยล่ะสิ มุกเก่า กูรู้ทันโว้ย!”
“ฮ่าๆๆๆ ว้า โดนจับได้อีกละ”
ผมยู่หน้าใส่มัน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจูงข้อมือมันให้เดินไปที่ร้านหอยทอด “คนกำลังไม่เยอะ รีบไปก่อนต้องต่อคิวนาน เรากินด้วยกันแทนได้ป่ะไอ้นะ แบบสั่งจานเดียวแล้วช่วยกันกินอะ กูจะได้มีพื้นที่ว่างในท้องไปกินอย่างอื่นได้อีก”
“ไงก็ได้ กูตามใจมึง”
“ตามใจกูมากๆ ระวังกูเคยตัวนะเว้ย” ผมพูดไปเรื่อยเปื่อยในระหว่างที่สายตามองสำรวจร้านต่างๆ ไปด้วย อันไหนน่ากินไว้ต้องแวะมาซื้อกลับบ้านบ้างละ
“มันเป็นแผนของกูมึงไม่รู้เหรอ”
“แผนอะไร?” ผมหันไปถามมัน มุ่นคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
ไอ้นะยิ้มน้อยๆ ยักคิ้วใส่ผมก่อนจะตอบ “แผนทำให้มึงเคยตัวแค่กับกูเท่านั้น ทำให้มึงติดกูจนขาดกูไม่ได้”
“...” ผมหันหน้ากลับ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เรามาถึงร้านหอยทอดพอดี กลิ่นอันหอมหวนชวนน้ำลายสอทำให้ผมเผลอกลืนน้ำลาย แต่ถึงอย่างนั้นสมองก็ยังคิดคำพูดออกมาโต้ตอบไอ้นะกลับไปว่า “แค่ที่เป็นอยู่ตอนนี้กูก็คิดว่ากูขาดมึงไม่ได้แล้วไอ้ห่า”
“อร่อยว่ะ อร่อยเหี้ยๆ เลย” ผมพูดทั้งที่ในปากยังเต็มไปด้วยเส้นขนมจีน
หลังจากที่เราซัดหอยทอดกันไปคนละจาน (มันน่ากินมากจนผมตัดสินใจว่าเราควรจะแยกกันสั่งดีกว่า) ตอนนี้เราก็มานั่งที่ร้านขนมจีนด้วยกัน และคราวนี้ผมก็เลือกที่จะสั่งแยกจานเหมือนเดิม ยังไม่อิ่มครับ สามารถกินคนเดียวได้สบาย แต่ถ้าเริ่มอิ่มเมื่อไหร่ค่อยกินจานเดียวกันกับไอ้นะ แหะๆ
“ตกลงมันอร่อยหรือมันเหี้ย”
ผมมองคนพูดตาขวาง “เหี้ยเป็นคำสร้อยไอ้สัด ไม่เคยได้ยินเหรอ อย่างมึงก็หล่อเหี้ยๆ เงี้ย หมายความว่าหล่อมาก หล่อจนบรรยายออกมาไม่ถูกว่าหล่อขนาดไหน”
“นี่มึงเพิ่งชมกูไปใช่ป่ะวะ” ไอ้นะทำตาโต
ผมกลอกตาใส่มัน “คือก็รู้ๆ กันอยู่หรือเปล่าว่ามึงหล่อ กูก็หล่อเหมือนกันด้วย เราสองคนอะสมกับเป็นเพื่อนกัน คนหล่ออยู่กับคนหล่อ ไม่มีอะไรเพอร์เฟ็กต์ไปมากกว่านี้อีกแล้ว”
คราวนี้ไอ้นะหลุดหัวเราะจนเกือบสำลักเส้นขนมจีน มันรีบกลืนลงคอแล้วดื่มน้ำตาม “ต้องเรียกว่าเราสองคนน่ะนะ เหมาะกับการเป็น...”
“เป็นอะไร?” ลีลาอีกแล้วไอ้เห็บหมา มาลากเสียงยงเสียงยาวทำหน้าตากรุ้มกริ่ม คิดจะหยอดมุกอะไรใส่กูอีกล่ะ
ไอ้นะทำตาหวานใส่ผม “เป็นคู่แท้ของกันและกัน”
“...”
ผมพ่นลมหายใจแรง หยิบแตงกวาดองในจานตัวเองยัดใส่ปากคนพูด เน่ามาก คู่ทงคู่แท้เชี่ยไรล่ะ มึงคิดว่ามึงเป็นโกโบริ ส่วนกูเป็นอังศุมาลินเหรอ เจอกันที่ดาวลูกไก่น้าา ถุ้ย!
จีบผมด้วยมุกเห่ยๆ ได้ (หรือจะเรียกว่ากวนตีนผมมากกว่า?) ไอ้นะก็หัวเราะมีความสุขแล้วจัดการขนมจีนน้ำยาป่าของมันจนหมดจาน ผมกินเสร็จทีหลังมันเล็กน้อย เรานั่งอืดด้วยกันอีกสิบนาทีเห็นจะได้ ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นควักตังค์เตรียมจ่ายแม่ค้า แต่...
“ไม่ต้อง เดี๋ยวกูจ่ายเอง”
“จะเลี้ยงกูอีกแล้วเหรอวะ ตั้งแต่มาถึงนี่กูไม่ได้ออกเงินจ่ายอะไรเองเลยนา”
“กูบอกแล้วไงกูเลี้ยงมึงได้ ให้เลี้ยงตลอดชีวิตยังไหว”
“เหรอออ งั้นถ้าเราแต่งงานกันเมื่อไหร่กูจะนอนอยู่บ้านแล้วปล่อยให้มึงเลี้ยง” ผมกระตุกยิ้มหน้าเป็นให้มันแล้วเดินนำไปที่หน้าร้าน แต่เมื่อไม่เห็นมันเดินมาสักทีก็หันไปกวักมือเรียก “เอ๊า ยืนงงอะไรครับคุณพยัญชนะ มาจ่ายเงินสิครับพ่อสายเปย์ แล้วจะได้พาผมไปเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวน้ำตกต่อ”
ไอ้นะเดินมาตามที่ผมเรียก แต่ถ้าผมไม่ได้มองผิดไป...ผมสังเกตเห็นว่านัยน์ตาสีเข้มของมันวูบไหวเป็นประกาย ริมฝีปากก็ฉีกยิ้มกว้าง แต่สองแก้มของมันมีริ้วแดงนิดๆ ติดอยู่ อ่า...อย่าบอกนะว่าเขินกับสิ่งที่ผมพูด?
จะว่าไปผมบอกกับมันว่า ‘ถ้าเราแต่งงานกัน’ นี่หว่า อย่าบอกนะว่ามันคิดจริงจังแล้วเก็บเอาไปเขินน่ะ!
ไอ้ฉิบหายยย ตอนพูดผมไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้ผมเริ่มจะเขินเหมือนกันแล้วนะโว้ย!
ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรแก้ต่างให้ความน่าอายของตัวเอง ไอ้นะก็คว้ามือผมไปจับอีกครั้ง เหมือนหลายๆ ครั้งก่อนหน้านี้ที่มันคอยจูงมือผมเดินไปไหนมาไหนนั่นล่ะ...ดวงตาของเราสบกัน ท่ามกลางผู้คนมากมายที่มาเที่ยวงานวัด ท่ามกลางเสียงดังของเพลงงานวัดที่ห่างไกลออกไปไม่ออก
“มึงบอกเองนะว่าเราจะแต่งงานกัน”
ผมอ้าปากพะงาบๆ หน้าร้อนวาบหัวใจเต้นรัวแรงแทบเด้งออกมานอกอก ยิ่งเมื่อไอ้นะมันรั้งมือผมขึ้นมาแล้วกดจูบที่ข้อนิ้ว ผมก็แทบจะสติแตก ตะโกนอัดหน้าใส่มันไปอย่างลืมตัว
“แต่งบ้าอะไรเล่า!”
ฮื่อ ไอ้เหี้ยยย พอรู้ว่ากูคิดเหมือนกันก็ขยันหยอดหนักกว่าเดินอีกนะ ว้อยยย
หลังจากผมวิ่งหนีตายมาถึงร้านก๋วยเตี๋ยว ทันทีที่ได้กลิ่นน้ำซุปกระดูกหมูหอมๆ ผมก็ลืมความเขินอายก่อนหน้านี้ไปเกือบสิ้น รีบสั่งเมนูที่ต้องการ และไม่ลืมสั่งให้ไอ้นะด้วยเพราะรู้ว่าถ้าเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำตกมันจะกินอยู่เส้นเดียวคือเส้นเล็ก...กินเหมือนผม
นั่งได้ที่ก็รอเวลาก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟ ไอ้นะที่ตามมาทีหลังนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามโดยไม่คิดจะถามว่าผมสั่งอะไรให้มันหรือเปล่า เพราะมันรู้ดีว่าถ้าผมมาถึงก่อนผมก็จะสั่งเผื่อมันเสมอ เราสองคนน่ะรู้จักกันดีซะจนดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งได้รู้จักกันแค่ปีกว่าเกือบสองปีเลยเนอะ
ผมคิดว่าผมโชคดีมากเลยมที่ได้มาเจอคนอย่างมัน...จริงๆ นะ นอกจากครอบครัวก็มีมันนี่ล่ะที่ใส่ใจผมในทุกๆ เรื่อง และผม...ก็ใส่ใจมันในทุกๆ เรื่องเหมือนกัน
“เล็กน้ำตกหมูสดหนึ่ง หมูตุ๋นหนึ่งได้แล้วคร้าบ”
เด็กผู้ชายที่น่าจะเป็นลูกเจ้าของร้านนำก๋วยเตี๋ยวที่ผมสั่งมาวางลงบนโต๊ะ ก่อนจะหายไปแป๊บหนึ่งแล้วก็มีแก้วน้ำแข็งสองแก้วมาวางลงตามหลัง...ผมหยิบเหยือกน้ำมารินน้ำใส่แก้ว ขณะที่ไอ้นะดึงเอาชามเส้นเล็กหมูสดไปปรุง ส่วนของผมหมูตุ๋นครับ ปรุงด้วยการใส่น้ำตาลนิดนึง น้ำส้มอีกหน่อย แล้วก็พริกป่นน้อยๆ น้ำปลาไม่ต้องเพราะเมื่อกี้ชิมไปมันเค็มกำลังพอดีแล้ว
ผมมองไอ้นะคีบเส้นเข้าปากตามด้วยซดน้ำซุป ลุ้นเต็มที่ว่ามันจะอร่อยหรือเปล่า อีกฝ่ายเหลือบขึ้นมาสบตาผม มันเคี้ยวอยู่ครึ่งนาทีแล้วถึงเอ่ยตอบคำถามที่ผมถามออกไปทางสายตาเมื่อกี้
“อร่อย”
“Good job!” ผมปรบมือแปะๆ แล้วกินของตัวเองบ้าง สำหรับผมมันอร่อยแล้ว แต่ไม่รู้ไอ้นะมันจะอร่อยด้วยหรือเปล่าไง เลยต้องคอยลุ้นว่ามันจะชอบเหมือนกันไหม
เรากินไปได้สักพัก จู่ๆ ก็มีมือตะปบลงมาบนไหล่ไอ้นะ ตามด้วยเสียงร้องทักอย่างร่าเริง
“นะ!”
“อ้าวเฮ้ย ไอ้กร” ไอ้นะหันไปมองคนทักก่อนจะทักตอบอย่างร่าเริงไม่ต่างกัน “เป็นไงบ้างวะมึง นั่งก่อนๆ มึงมากับใครเนี่ย”
“กูมากับพวกไอ้มิว ไอ้ไท พอดีอาจารย์เอกกูไปสัมมนาทั้งอาทิตย์ หยุดยาวกูก็เลยบินกลับมาเยี่ยมบ้าน ถือโอกาสนัดเจอเพื่อนเก่าด้วย ว่าแต่มึงเถอะ ทักไปก็ไม่เห็นตอบ จะชวนให้มาเจอกันนี่แหละ ดีนะที่ได้มาเจอกันที่นี่”
“อ้าว มึงทักกูมาเหรอ ทางไหนวะ?”
“ไลน์กลุ่มของพวกเราไง”
“เหรอวะ กูไม่เห็นมันแจ้งเตือนเลย”
“มึงไม่เข้าไปอ่านมากกว่า ชอบดองไลน์ไงไอ้ควาย” เพื่อนไอ้นะ ที่เมื่อกี้ได้ยินแว่วๆ ว่าชื่อกรบ่น ผลักหัวไอ้นะไปทีหนึ่งด้วย ผมงี้แทบจะยกมือขึ้นปรบ ไอ้นะมันชอบดองไลน์จริงๆ ครับ คนอื่นบ่นมันบ่อยๆ แต่กับผมมันก็ไม่เคยดองนะ อ่านตลอด
ก็งี้แหละ ผมเป็นคนสำคัญของมันนี่นา
ผมลอบสังเกตเพื่อนเก่าไอ้นะ ดูท่าทางจะเป็นเพื่อนสมัยมัธยมแหละ กรหน้าตาออกไปทางตี๋จีน ผิวขาวตาเรียวเล็ก ยิ้มทีมีลักยิ้มโผล่มาข้างแก้มขวา ตัวสูงน่าจะพอๆ กับผมได้ แล้วแม่งโคตรเจ๋งตรงที่ทำผมสีออกไปทางน้ำตาลส้มอะ เด่นเหี้ยๆ เลยครับ
“ไหนว่ามากับไอ้มิวไอ้ไท ไม่เห็นพวกมัน...อ้าว พูดถึงก็มาพอดี ตายยากสัด”
“ใครตายยากไอ้วะไอ้หล่อ” ผู้ชายตัวผอมสูงที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่เลิกคิ้ว อีกฝ่ายสวมแว่นกรอบน้ำเงิน หน้าตาดูเป็นเด็กเรียนมากๆ เขามากับผู้ชายอีกคนที่หน้าตาหล่อสูสีกับไอ้นะเลย ทำผมสีเทาด้วย เช็ดโด้ อย่างหล่อ
“มึงสองคนไง กูเพิ่งถามหาแม่งโผล่มาอย่างไว”
“กูเป็นผี มึงจุดธูปเรียกกูเลยมา”
“ไม่มีธูปไอ้สัด ไม่ได้เรียก”
“เล่นส้นตีนไรกันครับ มานี่ นั่งลงแล้วทักทายเพื่อนไอ้นะมันหน่อยดิ นั่งมองตาแป๋วนานแล้ว”
“เอ่อ” ผมถึงกับทำตัวไม่ถูกเมื่อเพื่อนทั้งสามคนของไอ้นะหันมามองที่ผมเป็นตาเดียว ดีนะผมเคี้ยวลูกชิ้นกลืนลงท้องไปแล้ว ไม่งั้นคงมีสำลัก “หวัดดี เราชื่อสระ แล้วก็คุยกันตามสบายเลย”
“สระ?” ผู้ชายคนที่หน้าหล่อๆ ทวนถามชื่อผม ก่อนจะหันไปหลิ่วตามองไอ้นะ
คนถูกมองทำหน้าซื่อ “อะไรมึงไอ้ไท”
อ่อ คนนี้ชื่อไท งั้นคนใส่แว่นคงชื่อมิว
“สระที่เป็นคู่จิ้นของมึงในเพจแฮนด์ซั่มบอยป่ะ!?” คราวนี้คนชื่อมิวตาโตเอ่ยถามเสียงเกือบดังลั่นร้านก๋วยเตี๋ยว ว่าแต่จะมานั่งคุยกันไม่สั่งอะไรหน่อยเหรอวะน่ะ
“อือหึ” ไอ้นะตอบ เพื่อนมันสามคนเลยพากันผิวปาก
แล้วกรก็โพล่งขึ้นมาว่า “งั้นคนนี้ก็คงไม่ใช่แค่เพื่อนแล้ว”
ผมหน้าร้อนวาบ ยิ่งเมื่อสายตาสามคู่มองมาเหมือนจะล้อๆ ผมก็เหมือนจะทำอะไรไม่ถูก เลยชี้นิ้วไปที่หน้าร้านแล้วเอ่ยบอก “ไม่สั่งก๋วยเตี๋ยวหน่อยเหรอ”
ไทมองตานิ้วผม พอเห็นแม่ค้าเมียงๆ มองๆ มาเหมือนจะถามว่าจะสั่งอะไรไหม เขาก็เลยลุกขึ้นไปสั่งเมนูที่ต้องการ ดูเหมือนจะสั่งเผื่อเพื่อนอีกสองคนด้วย ขณะที่มิวหยิบเอาบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วยื่นให้ไอ้นะ
“สูบป่ะ?”
ยังไม่ทันที่ไอ้นะจะตอบหรือยื่นมือไปรับ ผมก็มือไวไปก่อนสมอง รีบเอื้อมไปรั้งแขนไอ้นะเอาไว้หมับ! เขม่นตามองเพื่อนรักที่ไม่ได้รักแค่เพื่อนนิ่ง
ไอ้นะดูเหมือนจะเข้าใจที่ผมต้องการจะสื่อ มันดึงมือผมไปกุมไว้หลวมๆ ดวงตาของมันทอประกายอ่อนโยนจนน่าขนลุก แต่ก็ทำให้ผมใจหวิวได้ในคราวเดียวกัน ริมฝีปากมันจึดยิ้มอ่อน ลูบปลายนิ้วกับหลังมือผมเบาๆ พลางว่า...
“ไม่หรอกน่า กูเลิกสูบไปนานแล้ว”
“...” ผมกำลังจะถอนหายใจโล่งอก แต่ก็ต้องเผลอกลั้นหายใจแทนเมื่อมันเอ่ยขึ้นอีกประโยค
“กูเลิกสูบเพราะมึงขออะแหละ”
ใจเต้นรัวเหมือนปืนกลเวลาถูกเหนี่ยวไก เหมือนแผ่นดินจะไหว หรือผมกำลังเขินจนใกล้จะเป็นลมวะ
...รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงโห่แซวของเพื่อนไอ้นะ
“ทำได้ทุกอย่างที่เธอขอว่ะ วู้ววว”
“รักจริงต้องตามใจแฟนเว้ย”
“โหยๆๆ อิจฉาคร้าบบบ”
ห่าเอ๊ย อยากมุดชามก๋วยเตี๋ยวแล้วหายตัวไป!
__________
มาแล้ววว หายไปเพราะติดซีรี่ส์ค่ะ ด้วยความที่เห็นคนหวีด Skam ฝรั่งเศสเยอะมาก เลยทนไม่ไหวไปกดขอเข้ากลุ่มเพื่อดูบ้าง มีคนแนะนำว่าให้ดูต้นฉบับก่อน ซึ่งเป็นของนอร์เวย์ ถ้าอยากดูคู่วายก็ให้ไปดูซีซั่นสามเลย เราก็แบบอยากดูตั้งแต่ซีซั่นแรก ดูไปนิดๆ ก็สนุกดีนะคะ แต่เริ่มทนไม่ไหวแล้วล่ะ ว่าจะไปดูซีซั่นสามก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมาดูซีซั่นที่เหลือ จากนั้นก็จะโดดไปดูของฝรั่งเศสบ้างแล้ว พระเอกหล่อดีจัง แอร๊ 55555
พูดเรื่องอื่นซะยืดยาว ก่อนจะยาวไปมากกว่านี้ก็อยากจะบอกว่า...น้องสระไม่ได้ซื่อบื้อน้าา ก็คิดเหมือนกันนั่นแหละ แต่ต่างฝ่ายต่างไม่พูดออกมาตรงๆ ไง รักนะ แสดงออก หยอดเก่ง แต่ไม่บอกตรงๆ ว่าชอบอะเนอะ หึๆ แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ แต่คงไม่ใช่พรุ่งนี้ พรุ่งนี้จะหนีไปเที่ยวชะอำ อิอิ บับบายยย