END #สระของพยัญชนะ :: วันพิเศษ - กระทงออนไลน์ ป๊อกกี้ฟอร์ยู [12-11-19]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: END #สระของพยัญชนะ :: วันพิเศษ - กระทงออนไลน์ ป๊อกกี้ฟอร์ยู [12-11-19]  (อ่าน 37350 ครั้ง)

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3

Twenty-six

(ว.) : วงแหวน (วางแผน)

 

[สระ]


“ตกลงมึงจะไม่บอกพวกกูจริงดิ?”

ไอ้เจ็มพูดขึ้นในระหว่างที่เราทั้งหมดนั่งหล่อปล่อยออร่าวิ้งวับอยู่หน้าลานคณะ กำลังปั่นการบ้านที่ต้องส่งในวันพรุ่งนี้ยิกๆ เพราะทำมาสามวันแล้วแต่ไม่เสร็จสักที งานเยอะมากกก ใกล้มิดเทอมแล้วแท้ๆ แต่อาจารย์ก็ขยันสั่งงานยากตลอด ผมอยากตายเหลือเกินนน

โอดครวญไปก็เท่านั้น สุดท้ายพวกเราก็ต้องเร่งมือเคลียร์งานทั้งหมดให้ทันส่งก่อนสอบกลางภาคอยู่ดี ก็ถ้าไม่อยากได้เอฟมากินล่ะก็นะ เฮ้อ นี่แหละครับชีวิตนักศึกษา ตอนสอบติดได้เข้ามาเรียน หลังเรียนจบก็เหนื่อยตายพอดี

ล้อเล่นนะครับ อย่าไปฟ้องอาจารย์ผมนะ แหะ

“อะไร?” ผมถามกลับทั้งที่ตายังมองเนื้อหาในหนังสือเรียนไม่ละไปไหน

“ก็รูปที่มึงอัปลงไอจีเมื่อหลายวันก่อนนั่นไง”

“นี่มึงยังคาใจเรื่องนี้ไม่จบอีกเหรอวะ” คราวนี้ผมจำต้องเงยหน้าขึ้น มุ่นคิ้วเล็กน้อยให้กับความขี้เสือกของเพื่อน แล้วพอไอ้เจ็มพูดขึ้นมา คนที่เหลือก็พากันหยุดมือจากสิ่งที่ทำเพื่อมาฝอยเรื่องนี้ในทันทีราวกับนัดกันไว้

ไอ้พีควงปากกาเล่นไปด้วยตอนเอ่ยสนับสนุนไอ้เจ็ม “ไม่ได้มีแต่พวกกูนะที่สงสัย แฟนคลับมึงสองคนก็สงสัย เขายังหาความหมายกันอยู่เลยว่าไอ้เปลือกลูกอมนั่นมันคืออะไร”

“ก็แค่เปลือกลูกอม ส่วนลูกอมมันละลายหมดแล้ว กูก็เลยโพสต์ลงขำๆ เองปะ?”

“แต่แคปชั่นมึงมันกำกวมมากไอ้หระ” คราวนี้เป็นไอยูเอ่ยแย้ง

โอ๊ยยย อะไรของพวกมึงวะเนี่ย แคปชั่นมันก็แค่ ‘อย่าท้า ผมกล้ากว่าที่คุณคิด’ เองเปล่าวะ! คือยังไง กูต้องมานั่งชี้แจงอะไรแบบนี้ให้พวกมึงฟังแบบรายวันแล้วเหรอออ

“เรื่องของกู เสือกเก่งกันจริงๆ ไม่ต้องยุ่งสักเรื่องจะได้ไหมเนี่ย!”

“อ้าว ก็คนมันอยากรู้นี่หว่า กว่ามึงสองคนจะคบกันได้พวกกูก็ลุ้นก็ชงกันจนเหนื่อย เวลาคบกันแล้วพวกกูก็อยากจะรู้ความเป็นไป เกิดวันหนึ่งเลิกกันขึ้นมา...”

“ปากเหรอที่พูดออกมาน่ะ ไอ้เหี้ยพี”

ว่ะ ไอ้นะที่เงียบอยู่นานโพล่งขัดขึ้นมา ตามันงี้เขียวปั๊ดเลย หึ สมน้ำหน้าไอ้เหี้ยพี ปากไม่มีหูรูดจริงๆ อะแหละ เรื่องอะไรมาแช่งผมกับไอ้นะว่าอาจจะเลิกกัน เดี๋ยวต่อยคว่ำ

ถึงกูรักมันทีหลัง รักมันช้าไปหน่อย แต่กูก็รักมันมากนะเว้ย ไม่เลิกง่ายๆ แน่!

เป็นไง นอกจากผมจะหล่อแล้วยังรักแฟนมากอีกด้วย ครบเครื่องจริงๆ

“พวกมึงอย่าเปลี่ยนเรื่อง ลูกอมเกี่ยวอะไรกับแคปชั่น จงอธิบาย” ไอ้ยูดึงกลับเข้าประเด็นเดิม

ผมขยี้หัว “โว้ยยย อยากรู้อะไรนักหนา ไม่เสือกสักเรื่องจะตายมั้ย!?”

“ตาย!!!”

เอ๊าไอ้เวร ดันหันมาตอบพร้อมกันสามคนเลยด้วยนะ

“ช่างมันเถอะน่าสระ ปล่อยให้พวกมัน...”

“เออ กูบอกก็ได้” ผมเอ่ยแทรกไอ้นะที่คิดจะบอกปัดไม่ยอมตอบคำถาม ก็ผมเบื่ออะ ถามแม่งทุกวัน เรื่องก็ผ่านมาเป็นหลายวันแล้วยังไม่เลิกสงสัย ฮ่วย! “ลูกอมมันละลาย มึงเห็นในรูปมั้ยว่าเปลือกมันเหนียวๆ อะ”

“ครับ เห็นครับ” ไอ้ยูเป็นฝ่ายตอบรับ ขณะที่คนอื่นๆ พยักหน้าตาม

“กูก็บ่นว่ากินไม่ได้ เสียดาย”

“แค่ลูกอมซื้อใหม่ก็ได้ปะ”

“ตกลงจะฟังกูมั้ยครับ?” ผมแทบจะแยกเขี้ยวใส่ไอ้พีที่ขัดจังหวะ ไอ้เจ็มเลยตบหัวมันไปทีหนึ่ง แถมคำด่าด้วย

“ตั้งใจฟังสิไอ้ควาย!”

ถอนหายใจให้กับเพื่อนบ้าๆ ของตัวเองเสร็จผมก็เล่าต่อ หางตาเหลือบไปมองไอ้นะที่ทำหน้าเหมือนไม่อยากให้ผมเล่าแต่ก็ไม่ห้าม จนทำให้ผมต้องหลุดยิ้ม

“เออ แล้วทีนี้ไอ้นะมันก็เลยเอาน้ำลูกอมที่มันละลายมาป้ายปากตัวเอง แล้วบอกให้กูกินจากปากมันแทน”

“เชี่ย...”

“โอ้มายก็อด”

“มันคงคิดว่ากูไม่กล้า แต่พอดีกูกล้าครับเพื่อนๆ เลยบอกว่าอย่าท้าไง :)

“เชร้ดโด้ว เดี๋ยวนี้มึงแน่มากไอ้หระ”

“คนขี้เขินแห่งปากแรตหายไปไหน”

“กูคือสระคนใหม่ หล่อเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไม่เขินเก่งแล้วครับผม” ตบอกตัวเองปุกๆ ยักคิ้วหลิ่วตาให้รู้ว่าคนมันแน่จริง เลยโดนพวกมันโห่ใส่

“อ้าว ทำไมไอ้นะหน้าแดง...เฮ้ย!” ไอ้ยูถึงกับเบิกตาโต “อย่าบอกนะว่ามึงเขิน!”

“ว้ายๆๆ คราวนี้เป็นไอ้นะเขินเว้ย”

พวกมันหันไปเล่นงานไอ้นะแทน ส่วนผมนั่งหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง บอกแล้วไงว่าสระคนเดิมน่ะเปลี่ยนไปแล้ว!

ผมแอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายหน้าแดงๆ ของไอ้นะ แล้วอัปลงไอจีพร้อมแคปชั่นไม่สั้นไม่ยาว...

พบคนเขินหนึ่งอัตรา : )

 

ไม่ต้องเดาให้ยากเลยว่าหลังจากผมโพสต์รูปไอ้นะลงไปแล้วเกิดอะไรขึ้น...ใช่ครับ กล่องคอมเมนต์แทบแตก มีแต่คนเข้ามากรี๊ด มาถามว่าพยัญชนะเขินอะไร สระทำให้นะเขินเหรอ แล้วก็บลาๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ออกไปทางจิ้นผมกับไอ้นะนั่นล่ะ นี่ขนาดใบ้เป็นนัยยะด้วยการใส่แคปชั่นว่า BF แล้วนะ แต่ก็ยังมีคนไม่แน่ใจอยู่ดีว่าเราคบกันจริงหรือแค่เซอร์วิส

ก็ดี ผมก็ขี้เกียจโดนพวกเหยียดเพศด่าในสื่อโซเชียลเหมือนกัน ต้องยอมรับว่าสังคมที่เราอยู่ทุกวันนี้เป็นสังคมของการตัดสินคนอื่นแค่เพียงภายนอก ไม่ได้รู้อะไรก็ด่าไว้ก่อน หรือมองว่าการคบเพศเดียวกันเป็นเรื่องผิดปกตินั่นก็อีก ใครมันปลูกฝังความคิดว่าต้องมีแต่ผู้ชายกับผู้หญิงเท่านั้นที่รักกันได้ ผมล่ะอยากจะรู้นัก

“เคยคิดจะประกาศออกไปไหมวะว่าเราเป็นแฟนกันจริง” ผมถามคนที่กำลังเก็บของกินเข้าตู้เย็น ก่อนแวะเข้าหอดันนึกขึ้นได้ว่าไม่มีอาหารหรือขนมอะไรเหลือสักอย่าง ไอ้นะเลยชวนผมแวะซื้อที่เซเว่น

คนที่กำลังวุ่นวายกับถุงหลายใบหยุดมือแล้วหันมาสบตากัน “ทำไมถามขึ้นมา”

“กูก็อยากรู้ไงว่ามึงอยากบอกให้ใครรู้ไหม หรือคิดจะคบกันไปแบบนี้โดยไม่ต้องสนใจว่าใครจะเชื่อไม่เชื่อเรื่องที่เราเป็นแฟนกัน”

“มึงอยากประกาศไหมล่ะ?” แทนที่มันจะตอบผม มันกลับย้อนถามอีกครั้ง

ผมเม้มปาก หันกลับมานอนมองเพดานห้อง ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้ผมไม่เคยคิด ผมคิดอยู่หลายครั้งแต่ไม่ได้พูดออกมาก็เท่านั้น ไม่รู้สิ เพราะถ้าถามความคิดเห็นผมล่ะก็...

“กูคิดว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็ดีอยู่ คนอื่นจะคิดยังไงก็ช่าง แค่มึงกับกู และเพื่อนๆ ครอบครัว แค่พวกเขารู้ว่าเราเป็นอะไรกันมันก็มากพอแล้วอะ”

“เหรอ”

“แต่อีกใจกูก็อยากบอกคนอื่น” ผมพลิกตัวนอนตะแคงหาไอ้นะอีกครั้ง ส่งยิ้มกว้างจนตาหยีให้คุณแฟนของผม “อยากบอกให้รู้ว่ามึงมีกูเป็นเจ้าของแล้ว”

ผมว่าเดี๋ยวนี้ผมพัฒนาขึ้นเยอะเลยแฮะ เอาแบบเจาะจงก็ตั้งแต่ที่คบกับไอ้นะ อาการขี้เขินของผมก็ลดน้อยลง เป็นฝ่ายหยอดให้ไอ้นะเขินเก่งแทนผมซะแทน ฮ่าๆๆ

“มึงมันชักจะน่ารักมากขึ้นทุกๆ วัน”

“ไม่ต้องบอกก็รู้ มึงชมกูในใจทุกวันไหมล่ะ”

“รู้ได้ไง กูชมในใจนะ มึงอ่านใจกูได้เหรอ”

“เออ สีหน้ามึงเวลามองกูน่ะบอกหมดแล้ว เหมือนมีเขียนไว้บนหน้าเลยเถอะ”

ไอ้นะไม่พูดอะไรอีก มันแค่ยิ้มกว้างงง แล้วก็รีบจับของที่เหลือยัดๆ ใส่ตู้เย็น ก่อนจะกระโจนเข้าใส่ผมที่นอนอยู่บนเตียง แล้วหลังจากนั้นผมก็ได้แต่หัวเราะเพราะโดนมันฟัดหอมแก้มจนจั๊กจี้ไปหมด ไอ้บ้าเอ๊ย ฮ่าๆๆๆ

“พอ ฮ่าๆ พอแล้วไอ้นะ~”

“แฟนใครวะ น่ามันเขี้ยวจริงเว้ย!”

“มึงยังไม่ตอบกูเลย”

“อืม” ไอ้นะทิ้งตัวลงนอนข้างๆ แต่ยังพาดแขนกอดเอวผมไว้เหมือนเดิม “เหตุผลกูก็เหมือนมึงนั่นล่ะครับไอ้ดื้อ”

“ว่ะ สมแล้วที่เราเป็นแฟนกัน ใจตรงกันด้วย”

“ฮะๆ เนี่ย แล้วจะไม่ให้กูบอกว่ามึงน่ารักได้ยังไง” คุณพยัญชนะถอนหายใจอย่างเป็นสุข ผมเลยหมุนตัวหันหน้าเข้าหามันแล้วยกขาตัวเองก่ายขาอีกฝ่าย จับมือมันมาเล่นนิ้ว

“รักมึงนะ”

คนฟังกะพริบตาปริบ “นึกไงพูดออกมาเนี่ย เดี๋ยวนี้เห็นกูเขินง่ายก็เอาใหญ่เลยนะ”

“ก็อยากบอก” ผมแลบลิ้นใส่มัน เลยโดนหยิกจมูก

“กูมีอะไรให้มึงด้วย” มันพูดขึ้นมา ผุดลุกเอี้ยวตัวไปทางหัวเตียงฝั่งตัวเอง ไม่นานก็กลับมาพร้อมกล่องของขวัญใบเล็กกว่าฝ่ามือนิดหน่อย “วางแผนไว้หลายวันแล้วว่าจะให้มึงแต่ยังไม่มีโอกาสดีๆ สักที”

“ถึงขั้นวางแผนเลยเหรอ” ผมแซว “แล้วตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีแล้ว?”

“กูไม่รู้ว่าโอกาสดีๆ มันต้องเป็นยังไง แต่ใจบอกว่าตอนนี้แหละเหมาะ กูก็เลยเลือกเวลานี้”

ได้ฟังแบบนั้นผมก็ลุกขึ้นนั่ง ก้มมองของในมืออีกฝ่าย “มันคืออะไร ของขวัญครบรอบที่คบกันเหรอ? แต่นี่ยังไม่ถึงปีนะ จะว่านับเป็นเดือนกูว่าก็เว่อร์ไปเน้อ ฮะๆ”

“ไม่มีของครบรอบรายเดือนแบบนั้นหรอกน่า ยุ่งยากตายห่า มึงก็คิดแบบนั้นใช่ไหมล่ะ”

“รู้ใจที่สุด แฟนใครวะ”

“แฟนสระไงครับ”

ใจผมเต้นรัวขึ้นมาซะงั้นพอได้ยินคำพูดหวานหูแสนอบอุ่นของอีกฝ่าย ชอบจังเลยเวลาเราพูดคำว่าแฟนกันออกมา ผมว่ามันเป็นคำที่ดีต่อใจเราทั้งคู่ ได้ยินเท่าไหร่ก็มาน่าเบื่อ

“ตกลงของในกล่องคืออะไร”

“คือ...”

ผมเฝ้ารออีกฝ่ายเปิดกล่อง กระทั่งมันถูกเปิดออกผมก็ไม่พบอะไรนอกจากเศษกระดาษสีขาวถูกฉีกเป็นเส้นฝอยๆ แต่ผมรู้ว่าใต้นั้นต้องมีอะไรบางอย่างอยู่แน่ๆ และผมก็คิดไม่ผิด เพราะ...

“แหวน”

ไอ้นะยิ้ม “ใช่ กูเตรียมไว้มาเป็นเดือนแล้ว อยากให้มึงใส่ อยากจับจองเป็นเจ้าของมึงเหมือนที่คนเป็นแฟนกันเขาจะทำ...แลกแหวนกันใส่ เป็นการบอกให้คนอื่นได้รู้ว่ามึงมีเจ้าของแล้ว”

“แต่กูไม่มีแหวนมาแลก”

“ไม่จำเป็นหรอก กูให้มึงคนเดียวก็ได้ สิ่งสำคัญคือกูอยากให้มึง ไม่ได้อยากได้อะไรตอบกลับจากมึง เพราะแค่ความรู้สึกของกูที่มึงรับไปและให้ความรู้สึกของมึงตอบกลับมา มันก็มาเกินพอแล้วว่ะ”

ผมก้มหน้า ไม่รู้สิ...หัวใจมันเต้นแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนจะกระดอนออกมาจากอก ผมรู้สึกมีความสุขจนแทบกระอั่กออกมา ทั้งดีใจและคิดว่าตัวเองโชคดีฉิบหายที่ได้มาเจอกับไอ้นะ จะมีใครรักผมได้มากเท่านี้อีกไหมในโลกใบกว้างใหญ่แห่งนี้

ผมมือสั่นในตอนที่ไอ้นะจับมือผมไปสวมแหวนให้ แน่นอนว่าต้องเป็นนิ้วนางข้างซ้าย

“ตอนนี้ถือว่ากูหมั้นมึงไว้ก่อนก็ได้ ไว้ตอนแต่งค่อยซื้อใหม่”

“คิดถึงขั้นแต่งงานเลยเหรอวะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองมัน กะพริบตาปริบแต่แก้มรู้สึกร้อนผ่าวไปหมด ให้เชี่ย มันกำลังโยนคืนตำแหน่งขี้เขินกลับมาให้ผมเหรอออ

“คิดถึงขั้นว่าจะใช้ชีวิตกับมึงไปจนแก่ตายเลยด้วยซ้ำ”

“ไอ้นะ~~”

“ไม่ต้องมีพิธีเหมือนที่ชายหญิงเขามีก็ได้ แค่ให้รู้ว่าเราหมั้นกัน และในอนาคตก็จะแต่งงานกัน อ้อ อาจจะมีเพื่อนๆ กับคนในครอบครัวของเรา จัดเป็นงานปาร์ตี้เล็กๆ บรรยากาศอบอุ่น แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว”

ผมเม้มปาก โผเข้ากอดอีกฝ่าย ซบหน้าลงกับต้นคอของมัน เอ่ยกระซิบคำพูดเพียงสั้นๆ ก่อนจะได้รับอ้อมกอดแน่นๆ ตอบกลับมา แบบที่ทำให้ผมต้องเผยอยิ้มกว้าง

“ไว้ถึงวันแต่งเมื่อไหร่ มึงต้องให้กูช่วยออกค่าแหวนแต่งงานนะ : )”




___________________________
หายไปนานอีกแล้วเนอะ แหะ จะพยายามกลับมาต่อไวๆ ค่ะ เพราะนี่ก็ใกล้จบแล้วแหละ เหลืออีก 5 ตอนเองจ้า อิอิ เขียนตอนนี้แล้วแฮปปี้มาก เหมือนเจ้าสระกับคุณนะช่วยฮีลใจเรา เขียนเรื่องนี้แล้วมีความสุขมากเลยค่ะ ไม่กดดันเหมือนเรื่องก่อนๆ ที่แล้วมา ไม่ต้องกังวลว่ามันจะออกมาดีพอไหม และหวังว่าเรื่องราวน่ารักๆ ของทั้งคู่จะทำให้ทุกคนยิ้มได้เหมือนเรานะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ จุ๊บๆ




ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
หวานขึ้นทุกวัน สระเห็นนะเขินก็แกล้งใหญ่เลยนะ o18

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หนูสระ ลุคใหม่ไม่เขินแล้ว ให้หนูนะเขินแทน เลิศจ้า  o13

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เขินมากเลย :-[

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
Twenty-seven

(ส.) : สุนัข (สัญญา)


[พยัญชนะ]


เป็นวันหยุดในแบบที่ผมค่อนข้างงุนงง เช้าวันเสาร์ตื่นก่อนเวลาเพราะโดนสระปลุก เจ้าตัวบอกว่าอยากไปเที่ยวบ้านเพื่อน เห็นว่าเป็นเพื่อนสมัยมัธยม อีกฝ่ายเพิ่งซิ่วมาเรียนอยู่มหา’ลัยไม่ไกลจากที่เราอยู่เท่าไหร่ ไม่ได้เจอกันนานแถมตอนนี้ก็ว่างตรงกันแล้วด้วย ก็เลยได้โอกาสนัดเจอกันสักที

เป็นการออกจากหอแบบกะทันหัน แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาหรอก ดีซะอีกที่อย่างน้อยสระก็ยังชวนผมไปด้วย แต่ผมก็อดจะกังวลไม่ได้ว่าอาจจะทำให้บรรยากาศระหว่างสระกับเพื่อนกร่อย ก็ผมเป็นคนนอกนี่นา ไม่เคยเจอเพื่อนเก่าของเขามาก่อนเลยสักครั้ง มันต้องกระอักกระอ่วนมากแน่ๆ

“มึงว่าเพื่อนมึงซิ่วมาจากที่ไหนนะ?”

“ภาคเหนือ”

“อ้าว แล้วมีบ้านอยู่ที่กรุงเทพเหรอ?”

“อื้อ จริงๆ มันเป็นคนกรุงเทพนี่แหละ แต่ตอนมัธยมไปอยู่บ้านยายก็เลยได้รู้จักกัน พอสอบติดมหา’ลัยดันไปไกลยันเหนือ กูก็เลยไม่ได้เจอกับมันมาเป็นปีๆ แล้ว”

“สนิทกันมากเหรอวะ?”

“ซี้ที่สุดเลยแหละ” สระตอบ แต่พอเห็นผมเงียบมันก็หันมาหลิ่วตาทำเสียงงุ้งงิ้งใส่ “ฮันแน่ คิดอะไรอยู่”

ผมเลิกคิ้ว “อะไร?”

“หึงกูอยู่ปะเนี่ย นั่นเพื่อนนะครับเพื่อน อย่าหึงดิ”

อ่า ที่จริงผมไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิด แต่พอสระพูดออกมาผมก็เลยอยากจะแกล้งเขาขึ้นมาทันทีเลย

“ใครบอกกูหึงมึง”

“อ้าว”

“ไม่ได้หึงเลยครับคุณแฟน”

“เออออ อย่าให้รู้ว่าหึงแล้วกันนน”

ผมหลุดขำ “ไม่ใช่กูไม่หึงมึงหรอกนะ ถ้ามีใครมายุ่งกับมึงกูก็หวงของกูทั้งนั้นแหละ แต่นี่เพื่อนมึงนี่นา กูจะหึงทำไมล่ะ แบบนั้นงี่เง่าจะตายไป”

“ก็เห็นมีเยอะแยะไปที่แฟนหึงเพื่อนของแฟนอะ”

“มันก็แล้วแต่คู่แล้วแต่คนไงสระ อย่างกูกับมึงเราเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน กูรู้จักมึงดี มึงเองก็น่าจะรู้จักกูดี เรารู้นิสัยกันและกันดีมากพอที่จะรู้ว่าการหึงเพื่อนเป็นอะไรที่ไม่เข้าท่า แต่ถ้ามึงไปนัวเนียดูดปากกับเพื่อน แบบนั้นกูค่อยหึงค่อยหวง”

สระเบิกตาโต “ใครจะไปดูดปากกับเพื่อนวะ! แค่คิดก็ขนลุกแล้ว!”

“ฮ่าๆๆๆ”

ผมหัวเราะ ก่อนจะรีบโบกเรียกแท็กซี่ที่วิ่งผ่านมาพอดี เข้าไปนั่งและบอกจุดหมายปลายทางเรียบร้อยก็หันมาก่อกวนไอ้ดื้อเล่น ก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าจิ้มแก้มขาว จี้เอว แล้วก็วอแวให้มันรำคาญ สุดท้ายมันก็เลยโบกหัวผมเต็มแรง

“สมควรโดนแล้วไอ้สัด”

“โหย กูเป็นแฟนมึงนะ ทำร้ายกันขนาดนี้เลย? ใช้ความรุนแรงว่ะ”

“ทำไมจ๊ะ เป็นแฟนกันแล้วต้องอ่อนโยนขึ้นงี้เหรอออ”

“ไม่อะ เป็นมึงในแบบที่เคยเป็นน่ะดีแล้ว” ผมรีบส่ายหน้า เป็นฝ่ายเอียงหัวซบไหล่ไอ้ดื้อ ตามองตรงไปที่หน้ารถ แอบเห็นพี่คนขับแท็กซี่เหลือบมองเราสองคนผ่านทางกระจกมองหลังด้วย อะ...นั่นเขากำลังยิ้มอยู่หรือเปล่าวะ? “เพราะเป็นมึงกูถึงได้รัก”

ผมว่าผมไม่ได้ตาฝาด เพราะหลังจากผมพูดจบพี่แท็กซี่ทำหน้าอึ้งแดกในทันทีทันใดเลย อ่า ถ้าเขาเป็นพวกเกลียดเกย์ขึ้นมา เขาจะไล่เราสองคนลงจากรถหรือเปล่าวะ?

คิดฟุ้งซ่านจนลืมสนใจปฎิกิริยาของสระ มารู้ตัวอีกทีก็เป็นตอนที่ผมสัมผัสได้ถึงริมฝีปากนุ่มนิ่มจุ๊บลงมาที่ข้างขมับ อะ...สระจุ๊บหัวผม!

เงยหน้าขึ้นมองคุณแฟนสุดที่รัก เจ้าตัวยิ้มจนตาหยีมาให้ เอ่ยกระซิบเสียงเบาที่ข้างหู...

“เพราะมึงเป็นแบบนี้กูถึงได้รักมึงตอบไง”

 

เชื่อมั้ย ผ่านมาเป็นชั่วโมง รถยังติดอยู่บนถนนไม่ถึงที่หมายสักที แต่ผมกลับไม่รู้สึกหงุดหงิด ตรงกันข้ามกลับยิ้มหน้าบานไม่หุบ ยิ้มจนปวดแก้มสุดๆ เลยตอนนี้

ใครใช้ให้แฟนผมน่ารักล่ะครับ เริ่มจะเหนื่อยใจกับความน่ารักของมันว่ะ สักวันผมต้องหัวใจวายตายแน่เลยถ้าสระยังขยันตัวทำให้ผมรักผมหลงจนโงหัวไม่ขึ้นแบบนี้

“เลิกยิ้มได้แล้วโว้ยยย” ไอ้ดื้อโวยวาเมื่อหันมาเห็นว่าผมไม่เลิกยิ้มสักที

“มึงหยุดน่ารักเมื่อไหร่กูถึงจะหยุดยิ้ม”

“กูหล่อครับ”

“ไม่ มึงน่ารัก” ผมจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง ยืนยันคำเดิม “น่ารักโคตรๆ”

“ไอ้นะ~”

คุณแฟนโอดครวญใส่ สองแก้มแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองพี่แท็กซี่ให้ผมต้องแอบชำเลืองตาม อ่า พี่เค้ามองพวกเราอีกแล้ว แต่เขายิ้มนะ ยิ้มกว้างไม่ต่างจากผมเลย ผมจะปักใจเชื่อแล้วนะว่าพี่เค้ามองเราสองคนน่ารัก ไม่งั้นเขาจะยิ้มทำไมล่ะจริงมั้ย?

“เมื่อไหร่จะถึงวะเนี่ย” สระบ่น

“หลุดตรงนี้ไปก็โล่งแล้วน้อง อดทนอีกนิด” พี่คนขับแท็กซี่บอก

“อ่า ครับ”

ผมกลั้นขำ ใครจะไปคิดว่าบ่นกับตัวเองเสียงเบาแล้วแต่ยังมีคนได้ยิน ไอ้ผมนั่งข้างๆ มันได้ยินคงไม่แปลกเท่าไหร่ แต่พี่คนขับนั่งห่างออกไปดันได้ยินด้วย เออ แต่รถมันก็มีพื้นที่แค่นี้น่ะนะ ได้ยินคงไม่แปลกหรอก

รออยู่สิบนาทีเห็นจะได้ พอหลุดจากตรงที่พี่แท็กซี่บอก ถนนก็โล่งขึ้นเยอะจริงๆ ไม่ถึงห้านาทีเราก็มาถึงบ้านเพื่อนของสระ จุดหมายปลายทางในวันนี้ของเรา

จ่ายเงินค่ารถเรียบร้อยผมก็ก้าวเท้าเดินตามสระไปกดกริ่งหน้ารั้วเหล็กดัดสีน้ำเงินขอบทอง รอเพียงไม่นานก็มีผู้ชายตัวสูงพอๆ กับสระวิ่งออกมาจากบ้าน เปิดประตูได้ทั้งสองก็โผเข้ากอดกัน ตบไหล่ดังปึกปัก ดูดีใจมากจริงๆ ที่ได้เจอกัน

“ไงมึง สบายดีใช่ปะวะ”

“นอกจากเป็นหวัดเมื่อเดือนก่อนกูก็ไม่ได้เป็นอะไรอีกนะ ถือว่าสบายดีแหละว่ะ”

“กวนตีนตลอดด ตอบแค่สบายหรือไม่สบายก็จบแล้วมั้ย”

สระหัวเราะร่า ผละออกจากอ้อมกอดของเพื่อนได้ก็หันมามองผมแล้วดึงแขนเสื้อยิกๆ เพื่อให้ผมขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น “นี่พยัญชนะ...”

“แฟนมึงหล่อกว่าในรูปที่กูเคยเห็นอีกว่ะ เฮ้ย! อย่างกับเดือนมหา’ลัย”

ผมชะงักปากที่กำลังจะเอ่ยทักทายอีกฝ่าย เปลี่ยนเป็นทำหน้าไม่ถูกแทน โดนชมไม่ทันตั้งตัว ใครบ้างจะไปทำตัวถูกล่ะครับ แต่เขาเรียกผมว่าแฟนของสระ หมายความว่าเขารู้แล้วน่ะสิว่าเราคบกัน อ่า แต่ก็คงไม่แปลกหรอกมั้ง สองคนนี้เป็นเพื่อนกัน สระคงจะเล่าอะไรให้ฟังบ้างแหละน่า

“มึงทำแฟนกูตกใจไอ้เหี้ยปอนด์”

“อ้าวเหรอ ขอโทษๆ” เพื่อนสระที่ผมเพิ่งจะรู้ว่าชื่อปอนด์หันมาโบกมือยิ้มทักทายผม “หวัดดีนาย เราปอนด์ เพื่อนสนิทไอ้สระตั้งแต่ม.ต้น”

“เอ่อ สวัสดีครับ เรียกผมว่านะก็ได้ครับ”

“เข้ามาในบ้านกันก่อน อากาศร้อน เดี๋ยวคุณสระเขาเป็นลม ดูดิยืนแค่แป๊บเดียวเหงื่ออาบเลย” ปอนด์นำทางเราเข้าไปในบ้านพลางพูดไปถึงเรื่องในอดีตระหว่างเขากับสระ “จำได้ปะว่าตอนมอสี่มึงเคยเป็นลมตอนเตะบอล เล่นเพื่อนทั้งห้องตกใจกันหมด แถมพวกกูยังต้องหิ้วปีกแบกมึงไปห้องพยาบาล หนักก็หนัก เฮ้อ”

“ใช่เรื่องที่ควรมาพูดไหมเนี่ย!”

ผมเลิกคิ้วเมื่อได้ฟัง ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยแฮะ ก็รู้ว่าสระเป็นพวกขี้ร้อน แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นร้อนจนเป็นลม

“เรื่องจริงนี่หว่า แล้วก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มึงไปต่อแถวรอซื้อน้ำ มึงร้อนมากแต่คิวก็ยาวจัด มีก็เลยหงุดหงิดงุ่นง่าน พอดีมีคนมาแทรกคิวข้างหน้าเพราะรู้จักกัน มึงก็เลยโวยวายเม้งแตกกลางโรงอาหาร...”

“หึ...” ผมหลุดหัวเราะ พอนึกภาพไอ้ดื้อแหกปากด่ากลางที่สาธารณะก็กลั้นไม่ไหวจริงๆ “ฮ่าๆๆๆ”

“ไอ้นะ! ขำพ่อง!”

“หึๆๆ”

“กูบอกให้หยุดไงงง” สระถลาเข้ามากระชากคอเสื้อผม ไม่ได้รุนแรงอะไรมากแต่ก็ทำให้ผมที่ไม่ทันตั้งตัวเซเล็กน้อย “ถ้าไม่หยุดกูจะปิดปากมึง เอาให้หัวเราะไม่ออกเลย”

ผมเลิกคิ้ว “ทำไง? จะจูบปิดปากกูเหรอ?”

“อย่าท้านะครับผมเคยบอกไปแล้ว คุณพยัญชนะอยากโดนจูบก็บอกม๊า บอกมาเลย”

“ถ้าบอกว่าใช่จะจูบกู?”

“เออ จูบด้วยเท้าอะ”

“โห ทำแฟนได้ลงคอเหรอ”

สระยักคิ้ว ก่อนจะส่ายหน้าแล้วหลุดยิ้มขำตามผม “ทำไมลงหรอกน่า กูรักมึงจะตาย”

“..!”

“จะกล้าทำร้ายมึงได้ไง”

ให้แมวดิ้นตายเถอะ เดี๋ยวนี้ขยันหยอดผมกลับ คิดจะแก้แค้นที่ผมเคยเต๊าะมันบ่อยๆ หรือยังไงวะเฮ้ย!

“อะแฮ่มๆ”

เสียงกระแอมไอทำให้เราทั้งคู่สะดุ้งโหยง ผละออกห่างจากกันอย่างรวดเร็ว สระทำหน้าไม่ถูกไปเลยเมื่อหันไปเจอสายตาล้อเลียนขอปอนด์ ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มแหย ลืมตัวไปเลยว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่หอ พอได้หยอกเล่นกับสระแล้วผมก็มักจะไม่สนใจรอบข้าง

ก็ความสนใจทั้งหมดของผมมันอยู่ที่เขานี่นา

“ไม่อยากจะขัดจังหวะเท่าไหร่ แต่ก็ต้องขัดเพราะอิจฉาครับ อยากมีแฟนบ้าง”

“มึงเรื่องมากเอง เปลี่ยนแฟนละหลายคน เคยรักคนที่คบบ้างปะวะไอ้สัด”

“เอ๊า กูก็รักก็ชอบนะเว้ย แต่ไม่มากพอให้คบกันไปยาวๆ นี่หว่า” ปอนด์ไหวไหล่พลางเชื้อเชิญให้นั่งเมื่อเราเข้ามาถึงในบ้าน “พูดไปมึงก็ไม่เข้าใจหรอก เพราะตอนนี้มึงมีแฟนแล้ว ชีวิตอินเลิฟเกินกว่าจะมาเข้าใจความคิดคนโสด”

“ปากดีจัดดด เดี๋ยวต่อยปากแตก”

“ชอบใช้กำลังเหมือนเดิม เออ กูลืมบอกไปเลยว่าเอาไอ้วินนี่มาด้วยนะ”

สระทำหน้างงไปแป๊บหนึ่ง ส่วนผมไม่รู้หรอกว่าวินนี่คืออะไร แต่พอเจ้าตัวนึกขึ้นได้ก็เบิกตาโต “เฮ้ยยย ไหนๆๆ มันอยู่ไหน กูโคตรคิดถึงมันเลย!”

“นอนอยู่ในห้องกูอะ”

“หะ? จะเที่ยงแล้วแต่หมามึงยังนอนอยู่อีกเนี่ยนะ!?”

โอเค ผมรู้ละ...วินนี่คือหมานี่เอง

“เออ หมากูขี้เซา ไปหามันปะละ ไปกับแฟนมึงอะ เดี๋ยวกูไปตั้งสำรับกับข้าวก่อน พวกมึงยังไม่ได้กินอะไรมาใช่ไหมล่ะ?”

“ยังๆ ฝากด้วยมึง อยากไปช่วยนะแต่กูคิดถึงวินนี่”ฃ

“เออ ไปเหอะไม่ต้องช่วยหรอก” ปอนด์โบกมือส่งๆ แล้วหันมายิ้มให้ผม “ไปกับไอ้สระมันได้เลย เดี๋ยวเราไปเรียกถ้าอาหารเสร็จหมดแล้ว”

“อ่า ครับ”

ผมเดินตามหลังไอ้ดื้อต้อยๆ มาจนถึงห้องนอนด้านในสุด ดูท่าเจ้าของห้องอย่างปอนด์จะชอบที่ที่แสงน้อย เพราะห้องเขามีหน้าต่างแค่บานเดียวแถมยังปิดม่านสีขาวผืนบางเอาไว้ ถึงอย่างนั้นแสงก็ยังสว่างมากพอให้มองเห็นทุกอย่างในห้อง และนั่น...บนเตียงนอนมีเจ้าหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้สีขาวน้ำตาลนอนหลับปุ๋ยอยู่ ห่มผ้าให้เสร็จสรรพเลยด้วยเพราะแอร์ค่อนข้างเย็นไม่หยอก

เป็นหมาที่โคตรโชคดี เจ้าของดูท่าจะรักมันมาก ให้นอนบนเตียงแล้วยังเปิดแอร์ให้อีกต่างหาก

“วินนี่!”

สระตะโกนเรียกเจ้าหมาจนมันสะดุ้งตื่น ผงกหัวขึ้นมองด้วยความตกใจ หน้ามันโคตรตลกจนทำเอาผมหลุดขำอีกจนได้ ก่อนมันจะตาเหลือกมากขึ้นเมื่อไอ้ดื้อกระโจนไปทับแล้วกอดฟัดมันยกใหญ่

“สระ มันตกใจนะเว้ย”

“น่า เดี๋ยวมันก็จำกูได้” นอกจากไอ้ดื้อจะไม่เลิกฟัดหมาแล้ว ยังกอดรัดมันแน่นกว่าเดิม แต่เพียงพักเดียวเจ้าวินนี่ก็ดมๆ กลิ่นสระ ก่อนมันจะสะบัดตัวลุกขึ้นยืนแล้วกระดิกหางยิกๆ เลียหน้าสระเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าจำได้แล้วว่านี่คือใคร

“ไม่ได้เจอกันตั้งนานไม่ใช่เหรอ ทำไมมันจำมึงได้อะ?”

“วินนี่มันเป็นหมาแสนรู้ ฉลาดเป็นกรด แล้วสมัยก่อนกูก็ไปเล่นกับมันบ่อยตอนมันยังอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดของไอ้ปอนด์อะ เลยซี้กัน” ไอ้ดื้ออธิบายพลางล้มตัวลงปล่อยให้วินนี่นอนทับหน้าท้อง

ผมพยักหน้าหงึกหงึก “ส่วนมึงก็แสนรู้เหมือนวินนี่นี่เอง”

“เดี๋ยวๆ ไม่ใช่ละ”

“ฮ่าๆๆๆ” ผมล้มตัวลงนอนข้างๆ สระ ยื่นมือไปลูบขนนุ่มๆ ของเจ้าหมา เป็นหมาที่เชื่องดีแฮะ ไม่ตื่นคนแปลกหน้า แต่แบบนี้ก็ไม่ค่อยดีหรอก เกิดมีโจรเข้าบ้านคงได้วิ่งไปเล่นกับโจรแทนเห่าไล่ “จะว่าไปถ้าเรียนจบมึงย้ายไปอยู่กับกูนะ แล้วเรามาเลี้ยงหมาด้วยกันสักตัว”

“มึงหมายถึงถ้ากูหางานทำในกรุงเทพอะเหรอ?”

ผมชะงัก “อ่า กูไม่เคยถามมึงเลยนี่หว่าว่าหลังเรียนจบมึงจะทำงานที่ไหน แล้ว...จะยังอยากอยู่กับกูหรือเปล่า”

“ถ้ากูอยากอยู่กับมึง แล้วเราจะอยู่กันยังไง เช่าหอเหมือนเดิมเหรอ?”

“ไม่ กูกะว่าถ้าใกล้บ้านกูก็จะชวนมึงกลับไปอยู่บ้านกู” ผมเงยหน้ามองเพดานพลางครุ่นคิดถึงอนาคตข้างหน้าไปด้วย “แม่กับพี่เต็มใจให้มึงไปอยู่ด้วยมากๆ แต่ถ้าที่ทำงานอยู่ไกลกูก็จะเช่าบ้านสักหลังอยู่กับมึง อย่างน้อยก็ต้องเป็นบ้านที่เลี้ยงหมาแมวได้”

“...เหรอ”

“แต่ถ้ามึงไม่อยากอยู่กับกู...”

“ใครบอกไอ้ห่า กูอยากอยู่กับมึงตลอดเวลาเลยเหอะ” สระแย้ง เขาขยับยุกยิกเป็นเหตุให้ผมต้องหันกลับมาหาเขา แล้วเราก็ได้สบตากันพอดี “มีบ้านด้วยกัน เลี้ยงหมาแมวด้วยกัน อีกหน่อยก็ออกรถมาขับด้วยกัน มึงได้คิดถึงตรงนี้บ้างปะล่ะ?”

ผมยิ้ม “คิดดิ คิดตั้งแต่ที่มึงตอบรับเป็นแฟนกูแล้ว”

“ดี งั้นสัญญานะว่าเราจะสร้างครอบครัวของเราด้วยกัน”

“...” ผมนิ่งอึ้ง คำว่า สร้างครอบครัว แม่งโคตรทัชใจผมเลยว่ะ

“กูจริงจังขนาดนี้ มึงห้ามทิ้งกูแล้วนะเว้ย ตกลงตามนี้นะ สัญญามั้ย?”

ผมยิ้มกว้างกว่าเก่า ขยับไปสวมกอดอีกฝ่ายแน่นๆ โดยไม่สนว่าเจ้าวินนี่จะโดนรบกวนหรือไม่ ก่อนจะตอบรับด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมั่นคงว่า...

“สัญญา”




__________________________________

ใช้เวลาสามวันกว่าจะปั่นตอนนี้จบ แง ช่วงนี้ทำอะไรก็ช้าไปหมด เบื่อตัวเองงงง


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-06-2019 18:09:09 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
คู่นี้หยอกกันแรงนิ  :hao3:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
สร้างครอบครัวด้วยกัน โอ้ยยยยย :-[

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ชอบตอนนี้จังเลย
เค้ากำลังวางแผนสร้างครอบครัวกัน

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3

Twenty-eight

(ห.) : เหล้า (หลงใหล)

 

[สระ]


“แล้วมึงมาอยู่คนเดียวแบบนี้ไม่เหงาเหรอวะ?”

ผมถามไอ้ปอนด์ หลังจากทั้งวันที่เราหมดเวลาไปกับการเล่นเกมด้วยกัน หลังจากที่ไม่ได้แข่งกันเองมานาน ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะนั่งคุยไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบกันแบบจริงๆ จังๆ ได้สักที

ไอ้ปอนด์บอกว่ามันซิ่วกลับมาเรียนกรุงเทพฯ เพราะคณะที่มันลงไม่คลิกกับตัวมันเท่าไหร่ จากเด็กรัฐศาสตร์ของมหา’ลัยทางเหนือ เลยกลายมาเป็นเด็กนิเทศฯ ของมหา’ลัยในกรุงเทพฯ แทน คนละสายกันเลยไอ้ห่าเอ๊ย

“ทำไงได้ล่ะวะ แม่ก็ดันย้ายไปเป็นครูที่อีสานปีนี้พอดี แต่กูโตแล้วแม่เลยไม่ห่วงอะไรเท่าไหร่ บอกแค่ว่าอย่าเข้าร้านเหล้าบ่อยนัก”

“แม่มึงรู้อะดิว่ามึงมันสายน้ำเมา แดกเหล้าเก่งงง” ผมแซว เลยโดนมันแย่งแก้วในมือไป

“ไม่ต้องแดกละ กวนตีน”

“เอ๊าเฮ้ย! ไม่ได้ดิวะ เหล้ากู!”

แย่งแก้วเหล้ากันไปมาแบบไม่จริงจังนัก สุดท้ายไอ้เพื่อนเก่าก็ยอมคืนให้ผม แถมยังรินเหล้าเพิ่มให้อีกต่างหาก...หลังชนแก้วกันไปหนึ่งกิ๊ง ไอ้ปอนด์ก็เปิดปากเล่าเรื่องราวชีวิตของมันต่อ

“ตอนเรียนที่นู่นก็ดีนะมึง รถไม่ติดเหมือนที่นี่ อาหารก็แปลกใหม่ เพื่อนก็อู้กำเมืองกันเยอะอยู่ แต่ก็มีพวกเด็กจากภาคอื่นไปเรียนด้วยเหมือนกัน นี่นะ กูมีเพื่อนมาจากใต้ด้วย เวลามันแหลงใต้กูโคตรชอบไปนั่งฟัง สำเนียงแม่งอย่างเท่”

“เออๆ กูก็เคยเจอเพื่อนในสาขาเป็นคนใต้ ชอบเหมือนกัน เป็นภาษาที่มีเสน่ห์มาก”

“แต่ภาษาเหนือกับอีสานก็มีเสน่ห์นะมึง ตอนเพื่อนอีสานพูดรัวๆ กับแม่มันกูก็ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง ฮะๆ” ไอ้ปอนด์ยิ้มชอบใจ ก่อนจะหันไปชวนไอ้นะคุยบ้าง เพราะวันนี้แฟนผมแทบไม่พูดอะไรเท่าไหร่ ไม่เชิงว่าอึดอัดหรอกผมดูออก แต่เหมือนมันจะไม่อยากขัดจังหวะการรำลึกความหลังของผมกับเพื่อนมากกว่า “แล้วนะล่ะ เป็นคนกรุงเทพอยู่แล้วใช่ปะ?”

“อ๋อ ใช่ ตั้งแต่เกิดก็อยู่ที่กรุงเทพไม่เคยย้ายไปอยู่ที่อื่นหรอก”

“เจอรถติดตั้งแต่เด็กไม่เบื่อบ้างเหรอ?”

แฟนผมพยักหน้ารับ “เบื่อดิ ตอนอายุได้แปดเดือนยังเคยบ่นกับแม่เลยว่าทำไมไม่พากูไปเกิดที่ต่างจังหวัด ออกจากโรง’บาลกว่าจะนั่งรถถึงบ้าน นอนในอ้อมแขนแม่จนเมื่อยตัวไปหมด”

“ไอ้เหี้ย แปดเดือนคิดได้ขนาดนั้นเลยนะ”

แล้วเราสามคนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกันดังลั่นบ้าน ได้ตบมุกกันพอขำขันก็ดูเหมือนแฟนกับเพื่อนเก่าของผมจะผ่อนคลายกันมากขึ้น หลังจากนั้นเลยชนแก้วกันโครมๆ แล้วในที่สุดก็ถึงจุดที่ดื่มต่อไม่ไหว

ช่ายยย เมาครับ ไอ้นะกับไอ้ปอนด์เมาแล้วแหละ

“กูว่าถึงเวลาต้องกลับแล้วแหละว่ะ”

“หือ?” ไอ้ปอนด์ผงกหัวขึ้นจากโต๊ะ เหลือบมองนาฬิกาที่ข้างผนังด้วยตาลอยๆ ถามดีกว่าว่าแม่งมองออกไหมเข็มสั้นเข็มยาวชี้เลขไหน เมาขนาดนี้ “รีบกลับ...ไปหนายวะ เพิ่งเที่ยงเอง”

“เที่ยงคืนเถอะไอ้สัด”

“หราวะ อึก” ไอ้เพื่อนเก่านั่งหน้ามึน ก่อนจะชี้ส่งๆ ไปทั่ว “นอนบ้านกูกะด้ายย มีห้องว่างน่า”

ผมนิ่งคิด ก่อนจะพยักหน้าจำยอมเพราะดูท่าจะให้หิ้วไอ้นะขึ้นแท็กซี่มันค่อนข้างจะลำบากเกินไป ไม่ได้คิดว่าจะมาเมาหยำเปกันด้วยนี่สิ

“ห้องไหนนอนได้บ้างวะ”

“ข้างบนๆ ห้อง...ที่มีสติกเกอร์บาร์บี้ติดอยู่”

“บาร์บี้?” ผมได้ยินผิดหรือเปล่าวะน่ะ

“เออออ บาร์บี้งายยย ห้องลูกพี่น้องพี่กู แต่มันย้ายออกไปตั้ง อึก แต่หลายปีก่อนแล้ว”

“ลูกพี่ลูกน้องไหมล่ะ ลิ้นพันแล้วไอ้เชี่ยปอนด์ มึงก็ไปนอนได้แล้วไป”

“เออๆ เจอกานพรุ่งเน้นะ”

ผมมองส่งไอ้เพื่อนเก่าเดินเกาะราวบันไดขึ้นไปห้องนอนของมัน ลุ้นอยู่ทุกย่างก้าวว่ามันจะลื่นขั้นบันไดแล้วไหลลงมากองด้านล่างหรือเปล่า แต่พอเห็นมันขึ้นไปจนได้ยินเสียงปิดประตูห้อง ผมก็เลยเบาใจแล้วหันมาให้ความสนใจคุณแฟนของผมต่อ

“นะ คืนนี้ค้างที่นี่แล้วกัน”

“หือ อือ” พยัญชนะปรือตามอง ผงกหัวยึกยักแล้วยอมขยับตัวตามแรงพยุงของผม

“ค่อยๆ ก้าวนะมึง บันไดๆ”

กว่าจะพาคนมาขึ้นมาถึงชั้นบนก็เล่นเอาเหนื่อยจนหอบ ถึงผมจะตัวเล็กกว่ามันนิดหน่อยแต่เรื่องน้ำหนักมันเยอะกว่าผมเป็นสิบโลเห็นจะได้ ผมมีแรงลากมันขึ้นมาทั้งที่ตัวเองก็ดื่มไปตั้งเยอะเนี่ยโคตรนับถือตัวเองแล้วครับ

“ห้องบาร์บี้ๆ” พึมพำพลางมองหาห้องที่ว่าไปด้วย ก่อนจะมาเจอเอาสุดทางเดิน อ่า สติกเกอร์รูปยัยผู้หญิงผมทองหน้าตาน่ารักแปะหราอยู่กลางประตูเลยแฮะ เชื่อแล้วว่าชอบมาก

“อืมมม”

“นะอย่าลากเท้าดิวะ เดินดีๆ ก่อนน เตียงอยู่ไม่ไกลแล้วโว้ย!”

คนเมาดูจะให้ความร่วมมือมากขึ้น ผมค่อยโล่งใจหน่อยว่าแฟนผมไม่ได้เมาจนไร้สติอะไรมากมายขนาดนั้น พอมาถึงเตียงเลยทิ้งตัวใหญ่ๆ ของมันลงไปโดยไม่สนว่ามันจะเจ็บไหม เพราะตอนนี้ผมหนักมาก จะตายแล้วครับ แอร๊ก!

ตุบ!

“เหวอออ” ผมร้องลั่นเมื่อจู่ๆ ก็ถูงวงแขนแกร่งลากลงไปนอนด้วย หลับตาปี๋ตอนที่ใบหน้ากระทบเข้ากับแผ่นอกอีกฝ่าย “โอ๊ยยย เจ็บนะเว้ยไอ้นะ~”

“กอดกัน”

“กอดอะไรวะ เหนียวตัวเว้ย”

โวยวายไปก็เท่านั้นเพราะไอ้คนเมาไม่ยอมปล่อยผมให้เป็นอิสระ มีแต่จะกอดแน่นขึ้นแล้วยังถูแก้มที่มีตอหนวดบางๆ ไปตามข้างแก้มและลำคอของผมอีกต่างหาก เจ็บนิดๆ แต่ออกไปทางจั๊กจี้มากกว่า แต่ถ้ามันยังไม่เลิกเป่าลมหายใจร้อนๆ ใส่ใบหูผมล่ะก็ จากแค่จั๊กจี้จะกลายเป็นรู้สึกอย่างอื่นแทน

“หอม”

ผมมุ่นคิ้ว “หอมอะไรของมึงครับแฟน ตัวมีแต่กลิ่นเหงื่อกับกลิ่นเหล้า”

“หอมกลิ่นตัวมึง” มันตอบเสียงพร่าอยู่ข้างหู แถมยังจุ๊บลงมาอีกต่างหาก เล่นเอาผมย่นคอหนีแทบไม่ทัน ขนลุกอะ! จะกอดจะหอมไม่ว่าแต่อย่าทำตรงจุดที่มันอ่อนไหวง่ายดิวะ “ทำได้ปะ”

กึก

นิ่งครับ อึ้ง ตะลึง ตัวแข็งค้างไปแล้วตอนนี้!

มะ เมื่อกี้มันบอกว่าขอทำเหรอวะ? ใช่...ใช่ไหมวะ ผมไม่ได้หูฝาด?

“มึง...ว่าไรนะ?” เพื่อความแน่ใจขอถามอีกครั้งก่อนครับ

ไอ้นะพลิกผมลงไปนอนด้านล่าง ดวงตามันปรือปรอยฉ่ำน้ำ ดูมีสติพอๆ กับไม่มี แต่มันก็ยังพูดออกมาชัดถ้อยชัดคำ “อยากแดกมึงแล้วอะ ขอแดกวันนี้เลยได้มั้ย”

“อะ...” หน้าร้อนวาบขึ้นมาซะเฉยๆ หลังจากที่ได้ยินชัดแล้วเต็มสองหู

“ให้กูทำได้ไหมสระ”

มากระซิบถามน้ำเสียงออดอ้อนแบบนี้ แล้วผมมีเหตุผลอะไรจะไปปฏิเสธมันได้อะครับ ฮื่อ “ก็ทำดิ ไม่...ไม่ได้ห้ามซะหน่อย กูเคยบอกแล้วนี่”

“งั้นกูไม่เกรงใจแล้วนะ”

ไม่เกรงใจจริงๆ ครับ เพราะหลังจากนั้นมันโน้มหน้าลงมาจูบปากผมอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่จูบนุ่มนวลเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันร้อนแรงและดูดดื่มกว่าเดิมมาก ปลายลิ้นที่แทรกเข้ามาในปากทำให้ผมใจสั่น มือไม้ไม่รู้จะไปไว้ตรงไหนเลยได้แต่กอดคอมันเอาไว้หลวมๆ

“อืม”

ฝ่ามือร้อนสอดไล้ผิวกายใต้เสื้อของผม สะกิดเขี่ยเม็ดกลางอกเหมือนหยอกเล่น แต่การกระทำของเขากลับทำให้ผมสะท้านไปทั้งร่าง อารมณ์วูบไหวจุดติดขึ้นมาได้อย่างง่ายดายเหมือนกองไฟที่ได้เชื้อเพลิงเป็นน้ำมันชั้นดี

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เราจูบกัน ลูบไล้กันไปมา กระทั่งในที่สุดทั้งร่างของเราก็ไร้เสื้อผ้าชิ้นใดปกปิด แสงสว่างในห้องยิ่งทำให้ผมได้เห็นทุกอย่างของไอ้นะ ทั้งร่างกายแข็งแรง ไลน์กล้ามเนื้อสวย ผิวสัมผัสที่มือผมลากผ่านให้ความรู้สึกดี เหมือนที่ไอ้นะเองก็กำลังทำให้ผมรู้สึกวูบไหวไปทั้งตัวเพราะมือร้อนๆ ของมัน

ตัวตนของเราเสียดสีกันไปมา กระตุ้นเร้าจนความแข็งขืนลุกชัน ความกระสันอยากเข้าจู่โจมจนหัวใจสั่นรัวอยู่ในอก ปากเราจูบกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมชอบจูบของไอ้นะ มันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่แม้ไม่พูดออกมา แต่ผมก็รับรู้ได้ว่าเรารักกันมากแค่ไหน

“อึก นะ...ไอ้นะ”

“อือ” คนถูกเรียกครางแผ่วในลำคอเป็นการตอบรับ ปากก็พรมจูบไปทั่วแผ่นอกของผม มือเลื่อนไปกอบกุมความต้องการของเราที่ผงาดกล้า รวบเอาไว้และเสียดสีกันไปมา

ผมหอบหายใจ กระสันจนแทบบ้า ปัดมือหนาออกไปแล้วพลิกตัวขึ้นคร่อมคุณแฟนแทน ไอ้นะยังไม่สร่างเมาเท่าไหร่...ผมคิดว่านะ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีสติมากพอจะจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของผมด้วยดวงตาที่เป็นประกายตื่นเร้า

ผมขยิบตาให้อีกฝ่าย ได้รับเสียงหัวเราะตอบกลับมา ก่อนลมหายใจไอ้นะจะสะดุดเมื่อผมเคลื่อนตัวลงต่ำ จนข้างแก้มแนบอยู่กับแก่นกายของมัน

“สะ...สระ อย่าได้คิดที่จะ...อึก!”

ผมเลิกคิ้ว อยากถามว่าอีกฝ่ายคิดจะพูดอะไร แต่ปากผมดันไม่ว่างซะแล้วนี่สิ :)

ปลายลิ้นแตะไล้ไปตามความยาว ก่อนรับทั้งหมดเข้าปากอย่างทุลักทุเล ผมไม่เคยออรัลให้ใครมาก่อน แน่สิ นี่น่ะแฟนผู้ชายคนแรกของผมนะเว้ย ถ้าเผลอกัดเข้าไปไอ้นะจะสูญพันธุ์ไหมวะ

“อ่า ระวังฟัน” ไอ้นะครางเสียงแผ่วในลำคอ มือหนาวางลงบนหัวผม แทรกปลายนิ้วเข้ามาในเส้นผม ลูบสลับขยุ้มเบาๆ ตามแรงอารมณ์ที่ได้รับ “เด็กดี อย่างนั้นแหละ”

ผมชะงัก...เด็กดีเนี่ยนะ?

เป็นคำที่อาจจะหลุดออกมาจากปากคุณแฟนของผมโดยไม่รู้ตัวล่ะมั้ง แต่น่าแปลกที่มันทำให้ผมยิ่งรู้สึกดีมากขึ้นไปอีก ความร้อนรุ่มกลางกายปวดร้าวไปหมด แต่ผมรู้ว่าคืนนี้เราจะไม่จบกันแค่ใช้มือหรือปาก

“หยุดก่อน สระ กูจะ...แฮ่ก จะเสร็จ”

ผมยอมปล่อยให้ท่อนเนื้อร้อนผ่าวได้เป็นอิสระ ยอมทิ้งตัวลงนอนแทนที่อีกฝ่ายตามการชักนำ ไอ้นะจูบหนักๆ ที่ริมฝีปากผมก่อนจะผละหายไปข้างเตียง คว้าหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าตังค์ที่เหน็บเอาไว้ในกระเป๋ากางเกง แล้วเพียงไม่นานผมก็ได้รู้ว่ามันเอาอะไรออกมา

เจลหล่อลื่นแบบซองกับถุงยางอนามัย

หน้าผมร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกันนั้นหัวใจพลันเต้นรัวแรงจนแทบคลั่ง นี่ผมกับไอ้นะกำลังจะ...กันจริงๆ เหรอวะ? อยากจะบ้าตาย ตื่นเต้นก็ตื่นเต้น แต่ก็กลัวด้วยเหมือนกัน ถึงงั้นผมก็ไม่หยุดหรอก มาถึงขั้นนี้แล้วนี่หว่า

พยัญชนะบีบเจลก่อนป้ายลงมาที่ช่องทางด้านหลังของผม เคล้าคลึงปากทางอย่างใจเย็นและอ่อนโยน สายตาของมันจับจ้องมองผมตลอดเวลาเพื่อดูว่าผมพร้อมจะรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือไม่ และผมก็ทำเพียงแค่มองมันตอบ เม้มปากหอบหายใจ เผลอเกร็งตัวสลับกับผ่อนคลาย

กระทั่งไอ้นะเห็นว่าผมใจเย็นลงแล้ว มันถึงค่อยๆ สอดแทรกปลายนิ้วเข้ามาด้านในอย่างเชื่องช้าใจเย็น แต่แม้ว่ามันจะอ่อนโยนมากแค่ไหน ผมก็ยังรู้สึกเจ็บเสียดปนอึดอัดแปลกๆ อยู่ดี

“ไหวหรือเปล่าสระ”

ผมหอบอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะพยักหน้าตอบรับ “อือ ไหว”

หนึ่งนิ้วกลายเป็นสองและสามไล่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆ จากที่เสียดๆ ก็กลายเป็นรู้สึกวูบวาบอย่างน่าประหลาด กระทั่งปลายนิ้วแข็งแรงสะกิดเข้ากับจุดหนึ่งด้านใน ทำให้ผมเผลอหลุดเสียงร้องอกมาแบบไม่ได้ตั้งใจ...

“อ๊า!” เราทั้งคู่ต่างพากันชะงัก ไอ้นะขยี้ที่จุดเดิมซ้ำและทำให้ผมบิดเร้าอย่างห้ามไม่ได้ “พอ อย่าจี้ดิ...วะ!”

“รู้สึกดีก็บอก”

“เออ!” ผมตอบรับ หน้าร้อนผ่าวอีกครั้ง “มัวแต่พูดมาก รีบๆ ทำเข้าดิ”

“ถ้ารีบก็ไม่สนุกสิ”

ไอ้นะก้มลงมาจูบผมอีกครั้งในตอนที่ถอนนิ้วออก ขาผมถูกรั้งให้อ้าออกกว้างกว่าเดิมเพื่อรอรับบางอย่างซึ่งใหญ่กว่า  ไอ้นะยุกยิกอยู่กับการสวมใส่ถุงยาง กระทั่งเสร็จสิ้น ความร้อนผ่าวก็แตะที่ปากทางของผม ตัวตนแข็งขึงดุนดันเข้ามาทีละนิด แต่ทำให้ดวงตาผมพร่าเบลอไปชั่วขณะ

บรรยายความรู้สึกตอนนี้ไม่ออกเลยอะ มันจุกมาก ฮื่อ

“ไหวไหมสระ” ไอ้นะถามอีกครั้ง แช่กายเอาไว้แค่เพียงส่วนหัว มันไม่กล้าดันตัวเข้ามาให้ลึกไปมากกว่านี้เพราะกลัวผมเจ็บ และนั่นทำให้ผมโคตรจะรักมันเลย “อย่าโกหก พูดออกมาตรงๆ เลย”

ผมส่ายหน้า “นิดหน่อย แต่กูทนไหว”

“แน่ใจนะครับ?”

“อื้อ เข้ามา...อึก เถอะ ขยับสิ เร็วเข้า”

ผมเร่งเร้า และแฟนผมก็ดีใจหาย ยอมผลักดันตัวตนเข้ามาลึกขึ้นจนสุดกาย ความใหญ่โตของมันสอดลึกเข้ามาก่อนถอยห่าง ขยับเข้าออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจังหวะเนิบช้าจะกลายเป็นรัวแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นเสียงหยาบโลนของเนื้อกระทบเนื้อที่สอดประสานไปกับเสียงครางสั่นพร่าแหบต่ำของสองเรา

ความรู้สึกดีโบยบินไปทั่วร่างของผม เสียวซ่านไปทั้งสรรพางกาย แม้เริ่มแรกจะอึดอัดชวนให้ไม่อยากไปต่อ แต่ในเวลาต่อมามันก็ช่างดีเหลือเกิน...ดีจนผมแทบบ้าตาย

ไอ้นะก็ยังเป็นไอ้นะ มันอ่อนโยนกับผมเสมอแม้ในตอนที่เอวสอบกระแทกกระทั้นเข้ามาเร็วแรง บดขยี้ความกระสันของผมจนได้แต่นอนหอบหายใจ หยัดสะโพกขึ้นตอบรับแรงกระทำอย่างห้ามตัวเองไม่ได้

“ดี ดีมากเลย” มันพูด โน้มลงมาจูบซับไปทั่วใบหน้าผม

ผมกอดเกี่ยวร่างกายอีกฝ่ายเอาไว้ จูบตอบกลับไปและกระซิบถ้อยคำที่วนเวียนในหัวอยู่ตลอดเวลาที่เราเป็นหนึ่งเดียวกัน “รักมึง รักมึงไอ้นะ กูรักมึง”

ผมปลดปล่อยความต้องการออกมาจนเอ่อล้อเลอะเทอะ เผลอบีบรัดความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายแน่น ได้ยินเสียงกัดฟันหอบครางของไอ้นะอยู่ข้างหู ก่อนจะรู้สึกได้ถึงความอุ่นบางอย่างที่แผ่ซ่านอยู่ในตัว

เหงื่อซึมไปทั่วผิวกายเราสองคน เสียงกระซิบแผ่วพร่าดังขึ้นที่ข้างหู...

“มึงทำให้กูหลงใหลมึงไม่หยุดเลยสระ”

ผมเลิกคิ้ว เม้มปากยามเมื่ออีกฝ่ายถอนกายออกไป ก่อนเตรียมรับบทรักครั้งใหม่ เพราะไอ้นะรูดรั้งแก่นกายของตัวเองอีกครั้ง หวังปลุกเร้ามันให้กลับมาตื่นตัว...แค่นี้ผมก็รู้แล้วว่าครั้งเดียวมันไม่พอ

ไม่เหลือแล้วคนเมาที่ผมลากขึ้นมานอน มีแต่คนที่คิดจะมอบความรักให้ผมไม่รู้จบในค่ำคืนนี้

“กูก็หลงใหลมึงมากเหมือนกันแหละไอ้นะ”




_________________________________

ไม่หวือหวาเท่าไหร่ แต่อยากให้เห็นว่าเขารักกันแบบอบอุ่นอ่อนโยนนะคะ แฮ่ ใกล้จบแล้วสิ ใจหายเหมือนกันน้า อีกสามตอนจะพยายามเข็นมาให้ได้อ่านไวๆ ค่ะ แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ //ส่งจุ๊บ



ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หวานไม่สนว่าเป็นห้องใครเลยนะ ระวังเพื่อน ๆ ได้ยินนะ  :hao6:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ดีนะที่ปอนด์เมา ไม่งั้นคงโครมครามน่าดู 5555

เค้าหวานกันมาก หวานกันไม่เกรงใจใครเลยจ้า
แถมมีจับจองเป็นคู่ครองกันแล้วด้วย
ครอบครัวนี้ไม่ไกลเกินฝันแน่นอนแล้ว

ตลกทีมเพื่อน จะเผือกก็ต้องให้สุดเนาะ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
อ่านได้เรื่อยๆ ชิลๆ เขินด้วยตลอดเวลา

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ติดตามค่า ชอบมากๆเลยยยยย น่ารัก แงงงงงงงงงง

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
Twenty-nine

(อ.) : อ่างน้ำ (อาบน้ำ)


[พยัญชนะ]


ความรู้สึกหนักอึ้งแผ่ไปทั่วศีรษะของผม ปวดหัวตุบๆ ขนาดนี้คงหนีไม่พ้นแฮงก์เหล้าแน่นอน เมื่อวานผมดื่มไปเยอะมาก คงเพราะว่าอยู่ในบ้านไม่ใช่ร้านเหล้าผมก็เลยดื่มแบบไม่ยั้ง เมาหนักกว่าสระอีกเถอะ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็แทบสร่างเมาเป็นปลิดทิ้งเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากถูกลากมานอน

อ่า เมื่อคืนผมโคตรจะมีความสุขเลยครับ ในที่สุดเราสองคนก็ลึกซึ่งกันยิ่งกว่าเดิม

ผมอยากกอดอีกฝ่ายมาตลอด มีใครบ้างไม่อยากกลายเป็นหนึ่งเดียวกับคนที่ตัวเองรัก มันคือหนึ่งในความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์นะครับ และผมก็แค่มีความต้องการนั้น...กับคนที่ผมรัก

เป็นสระคนเดียวเท่านั้นที่ผมอยากจะมอบความรักให้อย่างมากมายกับเขา

แรงขยับเขยื้อนด้านข้างบ่งบอกว่าผมกำลังกอดไอ้ดื้อเอาไว้หลวมๆ ผิวเนื้อเปลือยเปล่าของเราสองคนแนบชิดกัน ผมรู้สึกเหมือนมองเห็นแสงวิบวับส่องประกายอยู่รอบตัวเราทั้งคู่

บางทีมันอาจจะเป็นแสงแห่งความสุขที่ผมแผ่ออกมาล่ะมั้ง ฮะๆ

ผงกหัวมองใบหน้าคนหลับที่ซุกอยู่ข้างไหล่ สระยังคงหลับตาพริ้มไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ผมก็เลยทิ้งหัวลงนอนมองเพดาน รอเวลาให้ความปวดหนึบบรรเทาลง ขณะเดียวกันก็ทบทวนไปด้วยว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน

จริงสิ เราอยู่บ้านของปอนด์ เพื่อนเก่าของสระ แล้วเมื่อคืนที่เราทำกัน...เวรล่ะ! ปอนด์จะได้ยินไหมวะเนี่ย!

มาทำอะไรๆ กันในบ้านคนอื่น ผมว่ามันไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ ให้ตาย จะว่าไปครั้งแรกที่เราเกินเลยกันก็เป็นที่บ้านไอ้พีนี่หว่า โชคดีที่ตอนนั้นพวกมันก็เมาอย่างหมาเลยไม่รับรู้อะไร แต่วันนี้นี่สิ เจ้าของบ้านจะรู้ไหมวะ เอาเข้าจริงผมก็ไม่ได้อายนักหรอก แต่เกรงใจเจ้าของบ้าน นั่นล่ะคือเหตุผลหลัก

อ้อ กลัวสระจะอายด้วย ก็นี่น่ะบ้านเพื่อนสนิทมันเลยนะเว้ย

“ดื้อครับ ดื้อ”

“อืม อะไรรร” สระงัวเงียเอ่ยถาม น้ำเสียงงุ้งงิ้งอยู่ในลำคอ แถมยังซุกหน้าเข้าหาผมมากขึ้นกว่าเดิมราวกับไม่อยากถูกรบกวน ท่าทางน่ารักจนผมทนไม่ไหวรั้งอีกฝ่ายมากอดแน่นขึ้นแล้วหอมแก้มเจ้าตัวรัวๆ “อื้อ!”

ผมหัวเราะแผ่วเบาในลำคอ เชยคางไอ้ดื้อขึ้นเพื่อจูบที่ปากแดงๆ นั่น สระก็ดีใจหาย ตายังหลับอยู่แต่ก็เปิดปากรับจูบที่ผมมอบให้โดยไม่คิดปฏิเสธ แถมยังเกี่ยวปลายลิ้นหยอกล้อผมด้วยต่างหาก

น่ารักฉิบหายเลยไอ้สัดเอ๊ย

ผมถอนจูบออกมาก่อนจะกระซิบบอกอีกฝ่ายเสียงพร่าสั่น “อย่าน่ารักให้มากนักสระ เดี๋ยวกูอดใจไม่ไหวฟัดมึงอีกรอบแล้วจะเจ็บยิ่งกว่าเดิมนะ”

“นะ...” สระปรือตาขึ้นมามองผมแบบคนที่ยังไม่พร้อมตื่น เรียกชื่อผมด้วยเสียงแหบแห้ง กอดวงแขนอีกฝ่ายจะกอดตอบผมแน่นไม่ต่างกัน “เมื่อคืนไม่เห็นเจ็บตรงไหนเลย”

ผมนิ่งงัน ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ยินอีกฝ่ายพูดอะไรแบบนี้ สงสัยสระคนขี้เขินจะหายไปแล้วจริงๆ เหลือแต่สระที่กล้าพูดทุกอย่างในใจออกมา

“มากไปแล้วดื้อ อยากให้กูกระอักความสุขจนตายเหรอ”

คนโดนถามหัวเราะ เรียวขาของอีกฝ่ายสอดเกี่ยวกับขาของผม เสียดสีกันไปมาจนบางอย่างที่นิ่งสงบมาตั้งแต่แรกถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง และดูท่าจะไม่ใช่แค่ผมที่ถูกกระตุ้น แม้แต่คนเริ่มเองก็มีอาการไม่ต่างกัน

“สระ” ผมปรามเขาแต่ก็ทำเสียงเข้มได้ไม่เต็มที่นัก เพราะจู่ๆ มืออีกฝ่ายที่ตอนแรกวางอยู่บนเอวผมกลับเลื่อนมาลูบหน้าท้องผมแทน “อย่าคิดที่จะ...”

ผมไม่ทันจบก็ต้องเปลี่ยนเป็นสูดหายใจเข้าลึกเมื่อมือนุ่มแตะต้องตัวตนของผม พอเห็นสระยักคิ้วหลิ่วตามาให้ก็มันเขี้ยวจนต้องจูบเขาหนักๆ อีกทีแล้วเลื่อนมือไปบีบก้นอีกฝ่ายเป็นการเอาคืน

...แล้วเราก็เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการฟัดกันอีกรอบบนเตียง

 

“น้ำเย็นไปมั้ยสระ?” ผมถาม หลังจากไอ้ดื้อหย่อนขาลงไปในอ่างอาบน้ำแล้วขาหนึ่ง พอเจ้าตัวส่ายหน้าผมก็เลยปิดก๊อกน้ำอุ่นก่อนจะบอกให้สระนั่งลงไป แต่เขาก็ทำท่าอิดออด สีหน้าเหยเกจนผมต้องเอ่ยถามอีกครั้ง “เป็นไรวะ?”

สระยิ้มแหย “เจ็บอะ”

“เจ็บเหรอ...” ผมทวนถาม ก่อนจะเข้าใจในเวลาต่อมา “อ้าว ไหนบอกไม่เจ็บ”

“มันก็ไม่ได้เจ็บมากอะ แบบ...มันเสียดๆ อะ”

“ไหวปะเนี่ย ถ้านั่งไม่ได้ก็อาบน้ำแต่งตัวเลยดีกว่ามั้ยวะ”

“ไม่เอา อยากแช่น้ำ” สระส่ายหน้าหวือ ก่อนจะพยายามฝืนนั่งลง ผมที่เห็นท่าทียึกยักของอีกฝ่ายก็เลยเข้าไปช่วยพยุงจนในที่สุดเขาก็นั่งลงไปได้ แม้จะมีร้องซี๊ดเวลาเจ็บขึ้นมาบ้างก็ตาม

“นั่งดีๆ อยู่เฉยๆ ก็ได้ เดี๋ยวกูอาบให้”

“ไม่เข้ามานั่งด้วยกันเหรอ?” ไอ้ดื้อแกล้งถามหยอก ผมก็เลยบีบจมูกมันไปทีหนึ่ง

“อ่างอาบน้ำเล็กแค่นี้ กูลงไปนั่งกับมึงคงได้เบียดกันตาย”

“โด่ ก็นึกว่าอยากจะทำแบบไหนฟิค”

“ฟิค?” เป็นอีกครั้งที่ผมทวนถาม “ฟิคไรวะ?”

สระยิ้มร่า “ก็ฟิคที่พวกสาววายจับเราสองคนไปเขียนเป็นนิยายไง มึงไม่เคยอ่านอะดิ”

“มึงอ่าน!?”

“ก็มีบ้าง อยากรู้ว่าจินตนาการสาวๆ เค้าเป็นยังไง” สระเปิดปากเล่าว่าเจออะไรบ้างในฟิคคู่จิ้นที่เคยอ่าน “อย่างฉากอาบน้ำนอนแช่อ่างด้วยกันนี่ก็มี กูนึกขึ้นมาได้พอดีก็เลยถามมึงไง ฮ่าๆ”

“งั้นมีฉากไหนบ้างที่ตรงกับความจริงของเรา”

“ก็มีเยอะอยู่นะ อย่างฉากนั่งแท็กซี่ไปเที่ยวด้วยกัน หรือฉากกินข้าวแล้วป้อนให้อีกคนกินด้วย แม้แต่ฉากเอ็นซียังใกล้เคียงเลย”

“เอ็นซี?” เป็นอีกครั้งที่ผมต้องถาม เพราะไม่ค่อยเข้าใจที่สระพูด

“เอ็นซีก็คือฉากเอากันอะ” ผมหยุดมือที่กำลังลูบฟองสบู่ไปตามแขนไอ้ดื้อทันที เบิกตากว้างมองคนพูดเพื่อจะถามว่าจริงดิ? สระที่เห็นสีหน้าของผมก็หลุดหัวเราะดังลั่น แล้วพยักหน้ายืนยันรัวๆ ว่าไม่ได้พูดเล่น “คนเขียนแม่งโคตรมีจินตนาการ อย่างฉากมึงใช้มือให้กูนี่ก็มีในฟิค ฉากตอนสวมถุงยางของมึงก็มี”

“โอ้โห กูพูดไม่ออกเลยนะเนี่ย”

“ใช่ปะ ตอนอ่านครั้งแรกๆ กูก็ช็อกเหมือนกัน แต่ตอนนี้ชินละ ก็ขำปนน่ารักดี เวลาเจออะไรที่มันใกล้เคียงกับความจริงก็เขินเหมือนกัน ฮ่าๆๆ”

ผมหลิ่วตามองแฟนตัวเอง “งั้นเดี๋ยวกูต้องไปอ่านบ้างละ เผื่อเจอฉากไหนน่ารักจะได้เอามาทำกับมึง : )”

“ไอ้นะ~~ แค่ที่เป็นอยู่ตอนนี้หัวใจกูก็ทำงานหนักแล้วเว้ย ถ้ามึงไปศึกษาจากฟิคพวกนั้นเพิ่มกูได้หัวใจวายตายแน่ๆ บางฉากนี่หวานเลี่ยนจนกูยังคิดเลยว่ามันน่าอายแต่ก็น่าขนลุก”

“ฮ่าๆๆๆ”

ถึงจะไม่ได้ตอบอะไรไป แต่ผมก็คิดในใจแล้วล่ะว่ายังไงก็คงต้องไปหาฟิคเหล่านั้นอ่านบ้างซะแล้ว ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีอะไรแบบนี้ด้วย ปกติผมก็ไม่ได้อ่านนิยายอะไรอยู่แล้ว ถ้าอ่านก็อ่านแต่พวกไลท์โนเวลมากกว่า อยากรู้เหมือนกันว่าแฟนคลับมองเราสองคนในฟิลเตอร์ไหน

แต่ฉากเอ็นซีนี่น่าสนใจที่สุดเลยว่ะ เผื่อผมจะเก็บจินตนาการของสาววายมาใช้กับสระได้บ้าง : )

“อ๊ะ” เสียงร้องของไอ้ดื้อทำให้ผมที่กำลังคิดเพลินๆ ถึงกับนิ่งไป เมื่อได้สติอีกครั้งก็พบว่าตอนนี้มือของผมกำลังปัดผ่านยอดอกของอีกฝ่าย และนั่นคือที่มาที่ทำให้สระร้อง

ผมกะพริบตาปริบ ปัดมือลูบเม็ดเล็กนั่นอีกครั้งและทำให้สระสะดุ้งเบาๆ แถมเขายังโวยวายใส่ผมอีกต่างหาก “อย่าทำแบบนี้ดิวะ แม่งเหมือนในฟิคเลย”

“ที่กูอาบน้ำให้มึงอะนะ?” ผมเลิกคิ้ว ปัดมือถูไปตามซอกคอและแผ่นอกที่โผล่พ้นเหนือน้ำขึ้นมา

สระร้องหงุงหงิงในลำคอ “หมายถึงลูบหัวนมกูเนี่ย! แม่งเหมือนในฟิคเลย”

“จริงดิ? งั้นยิ่งต้องถู”

“ว้าก! ไอ้นะหยุด!”

แล้วผมก็หมดเวลาไปหลายนาทีกับการแกล้งไอ้ดื้อให้ดิ้นปั่นป่วนอยู่ในอ่างอาบน้ำ...จะว่าไปอาบน้ำให้แฟนเนี่ยก็มีอะไรสนุกๆ ให้ทำเยอะเลยแฮะ หึ : )

 

ตอนที่เจ้าของบ้านมาเคาะประตูเรียก ผมกับสระก็จัดการเก็บกวาดห้องจนเรียบร้อย และอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดเดิมเสร็จพอดี กวาดตามองรอบสุดท้ายว่าไม่ได้ลืมถุงยางใช้แล้วไว้แม้แต่ชิ้นเดียว พอเห็นว่าทุกอย่างสะอาดเอี่ยมไม่เหลือร่องรอย ผมก็หิ้วปากถุงขยะสีดำที่ไม่ต้องถามก็น่าจะรู้ว่าในถุงมีอะไรบ้างออกไปด้วย

“ไง แฮงก์กันปะ?”

“นิดหน่อยว่ะ แต่กูว่าคนที่น่าจะเป็นหนักคือมึงกับไอ้นะ”

ปอนด์หันมามองผมพลางเลิกคิ้ว “เอาน้ำขิงหน่อยมั้ย? หรือยาแก้แฮงก์?”

“ยาดีกว่า”

เราทั้งหมดเดินมาถึงห้องครัว ผมรับยากับแก้วน้ำจากปอนด์มากิน ขณะที่สระเปิดตู้เย็นรื้อหาอะไรกินเป็นมื้อเที่ยง อ่าฮะ ควรเรียกว่ามื้อเที่ยงเพราะนี่เที่ยงวันแล้ว และผมเชื่อว่าทุกคนต้องหิวมากแน่ๆ

“ไม่มีอะไรกินเลยว่ะ”

“อยากกินไรอะ ออกไปกินด้วยกันเลยดิ” ปอนด์บอก ก่อนจะทำหน้านึกขึ้นได้ “เดี๋ยวก่อน พวกมึงมีเรียนกันปะเนี่ย!?”

ผมชะงัก ส่วยสระเบิกตากว้าง แล้วตะโกนขึ้นมาว่า “คลาสบ่ายสอง!”

“เวรละ” ผมวางแก้วน้ำลงในซิงก์ล้างจาน อยากจะล้างให้อยู่หรอกนะแต่กลัวกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ทัน วันนี้ภาคปฏิบัติด้วย โอย ซวยแล้ววว “โทษทีนะปอนด์ เราคงต้องรีบไปแล้ว”

“ไม่เป็นไรเว้ย งั้นก็โชคดีนะพวกมึง ขอให้ไปทัน ครั้งหน้าค่อยนัดไปกินข้าวด้วยกันใหม่”

“เคมึง บาย” สระโบกมือลาเพื่อนเก่าก่อนจะคว้าแขนผมวิ่งออกจากบ้านโดยไม่ลืมคว้าเอากระเป๋าเป้ที่สะพายติดตัวมากลับไปด้วย แล้วพอเจอแท็กซี่เราก็โบกเรียกทันที บอกจุดหมายปลายทางเรียบร้อยก็ไม่ลืมกำชับ “ด่วนๆ เลยครับพี่ ตรงไหนรถไม่ติดพี่เหยียบได้เต็มเหนี่ยวเท่าที่กฎหมายกำหนดเลย”

ได้สมใจเพราะพี่แท็กซี่เหยียบเก้าสิบกิโลเมตรเมื่อพบว่าถนนโล่งมากพอให้ซิ่งแหลก แต่ตรงไหนติดพี่เขาก็ชะลอและไปแบบเอื่อยๆ กระทั่งในที่สุดเราก็มาถึงหอพักเอาตอนบ่ายโมงครึ่ง

จ่ายเงินเสร็จก็วิ่งอย่างไวขึ้นห้องเพื่อเปลี่ยนชุด คว้าช็อปมาใส่ปิดท้ายเรียบร้อยก็พากันวิ่งออกจากห้องอีกรอบ จะบ่ายสองแล้วครับ ถึงหอพักจะไม่ไกลมหา’ลัยเท่าไหร่ แต่ถ้าคิดจะเดินไปก็ต้องรีบอยู่ดี ใช้เวลาอย่างต่ำสิบนาที และตอนนี้เหลือไม่ถึงสิบห้านาทีแล้ว

“นะเร็ววว”

“รู้แล้วๆ ว่าแต่มึงล่กๆ ขนาดนี้ ไม่เจ็บแล้วเหรอวะ?”

“เจ็บไร?” สระทำหน้างง ผมก็เลยหลุบตามองสะโพกอีกฝ่าย

“ข้างหลังที่กูเพิ่งทำให้มึงเจ็บไปไง ไหนบอกว่ามันเสียดๆ ไม่ใช่เหรอ?”

สระหน้าแดงวาบขึ้นมาทันที “ไอ้นะ! ใช่เรื่องที่ต้องถามเหรอวะ!?”

แล้วก็โดนหมัดมันซัดตุบเข้าที่แขนไปหลายที...หลังจากนั้นเราก็พากันวิ่งไปที่คณะ ตั้งแต่มาถึงหอพักยันมาถึงห้องเรียนนี่เร่งๆๆ จนไม่ได้พักหายใจเลยเหอะ

“โอย ถึงสักที” สระหอบหายใจขณะเปิดประตูเข้าไปในห้องเรียน กวาดตามองหาแก๊งเพื่อนของเราเจอก็เดินเข้าไปหาพวกมันทันที แต่พอนั่งได้ยังไม่ทันหายเหนื่อย หัวหน้าเซคก็ลุกขึ้นเพื่อประกาศว่าอาจารย์จะเข้าช้าชั่วโมงหนึ่ง ทำเอาทั้งผมทั้งสระนิ่งอึ้ง แล้วคุณแฟนของผมก็โวยวายหน้าหงิก “ไอ้เหี้ยยย แล้วกูรีบเพื่ออะไรวะ โอ๊ยยย!!!”

“ใจเย็นไอ้หระ เย๊น!” ไอ้ยูที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ถึงกับเข้ามาห้ามไม่ให้สระขยุ้มหัวตัวเอง แต่ทุกอย่างเป็นอันต้องชะงักเมื่อมีเสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้น

เป็นไอ้พีที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายอะไรสักอย่าง ก่อนก้มลงไปกดยิกๆ แล้วจากนั้นถึงจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มเผล่ให้เราทุกคน “ช็อตเด็ดเลยนะเนี่ย ส่งให้แอดมินเพจแฮนด์ซั่มบอยไปละ”

“ช็อตเด็ดไรวะ” ไอ้เจ็มถามพลางชะโงกหน้าไปมองจอสมาร์ตโฟนไอ้พี ก่อนมันจะหันมามองสระตาโต...ต้องบอกว่ามันมองคอสระมากกว่า

“มองอะไรวะ?” สระถาม พลางก้มมองตัวเอง ทำให้เราที่เหลือต้องมองตาม แล้วพอผมได้เห็นว่ามีอะไรอยู่ตรงคอของผม ปากผมก็เม้มเข้าหากันทันที

เวรละ

พอเห็นไม่มีใครตอบ สระก็เลยหยิบโทรศัพท์ไอ้พีมาดูเอง และเพราะผมนั่งอยู่ข้างๆ เลยได้เห็นไปด้วยว่าบนหน้าจอปรากฎช่องแชตของเพจแฮนด์ซั่มบอย ข้อความสุดท้ายคือคำว่า ‘กรี๊ดดดดดด’ ยาวเหยียดของแอดมิน แต่เหนือขึ้นไปเป็นรูปที่เพิ่งถ่ายเมื่อครู่ และเมื่อไอ้ดื้อกดเข้าไปดู เจ้าตัวก็อ้าปากค้างหน้าแดงเถือกอย่างรวดเร็ว

เพราะมันเป็นรูปที่ถ่ายให้เห็นใบหน้าไล่ลงมาจนเกือบถึงไหปลาร้า แต่ที่เด่นชัดที่สุดในภาพก็คือรอยจ้ำสีแดงช้ำสองสามรอยบนคอขาวของอีกฝ่าย...ที่ผมเป็นคนทำเอาไว้

โอย ผมต้องโดนคุณแฟนต่อยเอาอีกแน่ๆ เลยว่ะครับ


__________________________________________

คิดว่าแอดมินเพจจะเอารูปโพสต์ลงหน้าเพจไหมคะ? 555



ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
หลักฐานเด็ด o18 สาววายฟินไปดิ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3

Thirty

(ฮ.) : ฮัก (แฮปปี้)

 

[สระ]


ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อพบว่าแอดมินเพจแฮนด์ซั่มบอยยอมทำตามที่ผมขอ โพสต์ล่าสุดที่เจ้าตัวอัปเดตบนหน้าเพจมีแค่ข้อความแต่ไม่มีรูป

 

เจ๊ได้รูปเด็ดมาค่ะทุกคน แต่เพราะว่าน้องสระขอไว้ เจ๊ก็เลยไม่เอามาโพสต์ เสียดายจังอยากให้แฟนคลับคู่ #สระของพยัญชนะ ได้เห็นมากๆๆๆ แต่ก็นั่นแหละค่า เพื่อเคารพความเป็นส่วนตัวของน้องๆ เนอะ ถึงอย่างนั้นข่าวดีก็คือแม้รูปจะไม่ได้เอามาให้ทุกคนได้ชม กระนั้นเจ๊ก็ทดแทนให้ลูกเพจด้วยการขอให้น้องทั้งสองมาไลฟ์เพจด้วยกัน คืนนี้สองทุ่มรอชมกันได้เลยค่า! ที่เพจนี้แหละตัวเอง อิอิ

 

ช่ายครับ เพราะผมเอาเฟซตัวเองทักแอดมินไปเพื่อขอไม่ให้เขาเอารูปคอแดงๆ ของผมไปลงเพจ ซึ่งที่จริงผมไม่จำเป็นต้องขอร้องก็ได้เพราะเขาไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว มันเป็นรูปส่วนตัวของผมอะ คือยังไงดี...มันเป็นรูปเบื้องลึกเบื้องหลัง ส่วนตัวมากๆๆๆ ถ้าผมไม่อนุญาตเขาก็ไม่ควรเอาไปโพสต์อยู่แล้ว ถึงอย่างนั้นผมก็ยังป้องกันไว้ก่อนด้วยการทักไปหาแอดมินนั่นแหละ

เรื่องบางเรื่องก็ควรให้มันเป็นเรื่องของคนสองคนนี่ครับ ป่าวประกาศออกไปไม่ได้ประโยชน์อะไร แถมยังจะโดนพวกเหยียดเพศหาเรื่องด่าเอาอีกต่างหาก ถึงผมจะไม่แคร์สายตาตนนอก แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้เรื่องของตัวเองกลายเป็นประเด็นสังคมนะครับ เหตุผลง่ายๆ เลยก็คือ...

มัน น่า รำ คาญ มากกกกกกกกกก

ต้องมาโดนคนมองเวลาเดินไปไหนมาไหน ได้ยินเสียงซุบซิบนินทา หรือโซเชียลถูกคนถล่มข้อความมาหาไม่ว่าจะด่าหรือให้กำลังใจ เป็นพวกคุณไม่รำคาญกันเหรอ?

จะว่าไปสองทุ่มคืนนี้ผมควรไลฟ์อะไรอะ หมายถึงจะคุยอะไรดี ตอบคำถามลูกเพจแฮนด์ซั่มบอยงี้เหรอวะ เอ้อ อะไรก็ได้ ทำหมดอะ จะได้ไม่ต้องโดนโพสต์รูปน่าอายนั่น ผมบอกไปหรือยังว่าไอ้พีโดนผมต่อยซะแขนช้ำ เสือกเอารูปไม่ควรไปส่งให้คนอื่น ไม่กระทืบก็ดีแค่ไหนแล้วเถอะ

ส่วนไอ้นะน่ะเหรอ?

“สระ โกโก้ปั่นมาแล้ว”

“ป้อนหน่อย” ผมบอกกับแฟนผมเพราะหลังอ่านเพจจบก็กดเข้าเล่นเกมทันที ตอนนี้ผมต้องโฟกัสกับตัวเกมครับ ละสายตาไม่ได้

ไม่นานก็มีหลอดมาจ่อปาก ผมดูดโกโก้แสนอร่อยกิน มือก็กดยิกๆๆ บนหน้าจอไปด้วย อ้อ ผมยังไม่ได้บอกว่ากับกรณีที่ไอ้นะดันทำรอยไว้บนคอผมน่ะ ผมไม่ได้ว่าอะไรมันเท่าไหร่หรอก ก็แค่บ่นว่าทีหลังทำในที่ลับหน่อยก็ดี ผมขี้เกียจมาระวังหาเสื้อใส่ปิดหรือโดนแอบถ่ายแบบที่ไอ้เชี่ยพีทำอีก

คิดว่าผมจะต่อยมันเหรอ? ไม่หรอก นี่แฟนผมนะครับคุณ ใครจะไปทำร้ายแฟนตัวเองได้ลง เอ้อ

อะไรนะ? ที่ผมเคยต่อยไหล่ไอ้นะอยู่หลายหนนั่นน่ะนะ? โธ่ อันนั้นไม่ได้จริงจังนี่ครับ ก็ต่อยไปงั้นเอง

“อยากกินอะไรอีกมั้ย กว่าจะไลฟ์ก็เหลือตั้งเกือบชั่วโมง”

“หนม” ผมตอบทั้งที่ตายังไม่ละจากหน้าจอโทรศัพท์ “เอาหนมมาไว้กินตอนไลฟ์ได้ปะวะ?”

“ได้ดิ ไม่เห็นเป็นไรเลย”

“ไม่น่าเกลียดเหรอ?” ผมหันมาถามเพราะเกมจบที่ผมชนะพอดี

ไอ้นะยิ้ม “ไม่หรอก ก่อนจะพูดก็เคี้ยวให้หมดก่อนไง จะได้ไม่ดูไร้มารยาท”

“โอเค”

“งั้นไปเซเว่นกันเถอะ ซื้อขนม”

หลังจากนั้นเราสองคนก็ช่วยกันขนขนมมาเป็นถุงใหญ่ มีทั้งแบบคบเขี้ยวและขนมปัง ได้แซนวิชแฮมชีสมากินด้วยอีกสองห่อ อร่อยแหละคืนนี้ กินข้าวไปเมื่อสองชั่วโมงก่อนแต่ผมก็หิวแล้วอะ ช่วงนี้กินจุไปปะวะ ฮะๆ

ตอนที่กลับมาถึงห้องได้ไม่นาน แอดมินเพจแฮนด์ซั่มบอยก็ทักมาหาพอดีเพื่อบอกให้เตรียมตัวไลฟ์ ผมกับไอ้นะเลือกที่จะนั่งข้างเตียง เบื้องหน้าเราเป็นโต๊ะญี่ปุ่นที่บนนั้นเต็มไปด้วยห่อขนม ผมกัดแซนวิชกินหนึ่งคำในขณะที่ไอ้นะกดเริ่มต้นการไลฟ์สด

“สวัสดีครับทุกคน” แฟนผมเอ่ยทักทาย ส่วนผมเคี้ยวของในปากอยู่เลยทำได้แค่โบกมือให้กล้อง แถมยิ้งตาหยีไปด้วย คอมเมนต์แรกๆ โผล่มาก็ชมผมใหญ่เลยว่าน่ารักจัง เคี้ยวแก้มตุ่ยเหมือนแฮมสเตอร์เลย อะไรวะ ผมแค่กินขนมเองมั้ย

ยอดคนดูเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากร้อยเป็นพัน เชี่ย เยอะว่ะ ไม่คิดว่าจะถึงหลักพันนะเอาจริง ถึงลูกเพจนี้จะเป็นหลักหมื่นเกือบแสน แต่เขาไม่ได้ชอบผมกับไอ้นะกันหมดทั้งเพจซะหน่อยนี่จริงมั้ย? แค่ไม่กี่ร้อยผมก็ทึ่งแล้วที่มีคนชอบ แต่หลักพันนี่แบบ...โอ้โหอะครับ

จากพันเป็นสามพัน ห้าพัน โว้วๆๆ “มาจากไหนกันเยอะแยะเนี่ย หลายพันคนเลย”

“มาเพราะรักสระไง” ไอ้นะอ่านคอมเมนต์หนึ่ง ก่อนมันจะทำหน้านิ่ง “รักไม่ได้ครับ ผมรักได้คนเดียว”

ผมตาโต ก่อนจะหลุดหัวเราะ “อะไรของคุณเนี่ย คุณพยัญชนะ ฮ่าๆๆๆ”

เราตกลงกันว่าจะเรียกกันด้วยคำว่าผมกับคุณ นิดนึงน่า ไลฟ์กับคนเยอะแยะ อาจจะมีเด็กๆ อยู่ด้วย ต้องสุภาพหน่อยครับ

 

เจอคนหวงแฟนแหละ

ตายแล้ววว ชนะหวงสระด้วยยย

กรี๊ดดด พี่นะหวงแฟน!


 

คอมเมนต์หวีดมาอีกหลายบรรทัดเลยครับ ฮะๆ

ผมเช็ดมือที่เปื้อนแซนวิชด้วยทิชชู ก่อนจะเริ่มต้นพูดคุย “มาครับ วันนี้เราให้ทุกคนถามคำถามอะไรก็ได้ ถ้าเราตอบได้เราจะตอบให้”

“มีคนถามมาแล้วหนึ่งคน” คุณแฟนอ่านเมนต์คำถามอันแรกที่ไหลผ่านตามาพอดี “เป็นแฟนกันจริงๆ ใช่มั้ย? อ่า คำถามนี้ผมขอไม่ตอบนะครับ ให้ทุกคนคิดกันเอาเองเนอะ : )”

ร้ายยย ผมกลั้นขำกับคำตอบของแฟนผม ก่อนจะเป็นคนอ่านคำถามต่อไปที่ไหลเข้ามาในสายตาพอดี “รูปเด็ดที่แอดมินพูดถึงคืออะไร? อ่า ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็แค่รูปไอ้นะกำลังจะกินมะม่วงแต่ดันทำหลุดจากปาก หน้าตามันตอนนั้นนะโคตรตลกเลยครับ”

“เฮ้ย!” แฟนผมถึงกับหน้าเหวอ ทำท่าจะแย้งด้วยแต่ผมก็หันไปเลิกคิ้วยิ้มยียวน เจ้าตัวก็เลยแค่ถอนหายใจแล้วบ่นแค่ว่า...

“ไอ้ดื้อเอ๊ย”

 อ่า ใครใช้ให้มึงมาทำหน้ารักกูฉิบหายตอนกำลังไลฟ์สดอยู่วะ

ผมเลิ่กลั่ก รีบกลับมามองกล้องและเมินเฉยต่อคอมเมนต์กรีดร้องต่างๆ ก่อนจะมองหาคำถามต่อไป

“อะ เรียนหนักไหมช่วงนี้? โหยย หนักมากก งานเพียบเลย...เหนื่อยไหม? เหนื่อยคร้าบบ แต่พอได้คุยกับทุกคนผมก็หายเหนื่อยเลยแหละ นี่! เป็นไง ผมพูดขนาดนี้หลงผมกันมากขึ้นหรือยัง ฮ่าๆๆๆ”

“กูจะอ้วก” ไอ้นะอ่านคอมเมนต์หนึ่งขึ้นมา และมันผ่านตาผมพอดี “คุณยู อิจฉาก็บอกครับ”

ใช่ คนเมนต์คือไอ้ยูเอง แถมพอมันโผล่มา ไอ้พีกับไอ้เจ็มก็โผล่มาด้วย

 

เหม็นคนหลงตัวเองครับ

เบื่อพวกน่ารักแต่ชอบคิดว่าตัวเองหล่อครับ


 

“กูหล่อ!” ผมรีบเถียง ก่อนจะโดนไอ้นะขยี้หัว

“ไหนบอกจะไม่พูดคำหยาบไงสระ”

“ก็ไอ้พีมันว่าสระอะ!” ผมฟ้อง แทบลืมไปแล้วครับว่ากำลังไลฟ์ “ดูมันดินะ~ โง่แน่ๆ ไม่รู้ตัวเองน่ารักมากกว่าหล่อ ไอ้นี่ ไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนจะพุ่งไปตบหัวหลุดตอนนี้เลย!”



โหดจังเลยน้องสระ

พี่สระใจเย็นๆ นะคะ แง

กรี๊ด สระแทนตัวเองด้วยชื่อ น่ารักมากกกก

หนูน่ารักน่ะถูกแล้วลูก ส่วนหล่อยกให้พยัญชนะไปเถอะ


 

ฮื่อ ทำไมใครๆ ก็เห็นด้วยกับไอ้พีวะ ผมหล่อดิโว้ยยย!!!

ไอ้นะเห็นผมหน้ามุ่ยก็รีบลูบหัวปลอบ “เอาน่า ยังไงสระก็หล่อสำหรับนะแล้วกัน”

“อันนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วปะ?” ผมตอบ เมินเฉยคอมเมนต์หวีดร้องอีกครั้ง ก่อนจะมองหาคำถามใหม่ “ช่วงนี้อยากไปเที่ยวที่ไหน? อืมมม ผมอยากไปเที่ยวตลาดน้ำครับ อยุธยาก็ดีนะ ได้ไปไหว้พระด้วย”

“ไหว้พระไหว้ที่ไหนก็ได้เปล่า วัดเยอะแยะ”

“เอ๊า มันไม่เหมือนกันอะนะ ไปไหว้ที่จังหวัดอื่นมันก็เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศอย่างหนึ่งไง”

“อยากไปอยุธยาเพราะอยากกินก๋วยเตี๋ยวเรือก็บอก” แฟนผมทำหน้ารู้ทัน “จำได้ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนบ่นอยากกิน”

“จำได้ด้วย ทำไมน่ารักจังว้า” ผมชม เลยโดนไอ้นะเขกหัวเบาๆ หนึ่งที

“งั้นไปกันไหมล่ะ? วันหยุดคราวหน้านั่งรถไฟไปกัน”

“รถไฟเหรอ เฮ้ย น่าสน แต่กว่าจะไปถึง...” ผมนับวันเวลา ก่อนจะนึกขึ้นได้ “วันหยุดครั้งหน้านี่หมายถึงวันหยุดที่อาจารย์ยกคลาสด้วยใช่ปะวะ!?”

“ใช่ ไปค้างคืนก็ได้ หยุดยาวติดกันสี่วันเลยไม่ใช่เหรอ?”

“งั้นต้องรีบจองที่พักแล้ว” ผมบอกพลางยิ้มกว้าง ก้มอ่านคอมเมนต์อีกครั้ง “ไปเดตกันด้วยอะ แอร๊ยยย ใช่คร้าบบ ไปเดต : )”

ไอ้นะหัวเราะเมื่อได้ยินผมตอบกลับไปแบบนั้น ก่อนมันจะอ่านเมนต์บ้าง แล้วก็เจอเมนต์ไอ้พวกเพื่อนตัวป่วนงอแงขอไปเที่ยวอยุธยาด้วย แต่ผมแกล้งเมินไม่สนใจ เปลี่ยนไปอ่านเมนต์ของลูกเพจคนอื่นๆ แทน

เราตอบคำถามไปอีกหลายคำถาม ในเรื่องทั่วไปก็ตอบตามปกติ แต่ในเรื่องของความสัมพันธ์ของเรา ส่วนใหญ่ผมก็กับไอ้นะก็เลือกเฉพาะคำถามที่ตอบได้และไม่เปิดเผยความจริงจนเกินไป ไงดีล่ะ...คือผมก็ไม่ได้คิดจะปิดบัง แต่ก็ไม่อยากเปิดเผยตรงๆ เอาเป็นว่าให้คนไปคิดกันเอาเองเหมือนเดิมแหละดีแล้ว

จนมาถึงคำถามหนึ่งที่ผมต้องหันไปขอความเห็นจากคุณแฟน

อะไรในตอนนี้ที่ถ้าได้ทำแล้วจะรู้สึกแฮปปี้สุดๆ ว่าไงครับคุณนะ อะไรที่ทำให้คุณมีความสุขในตอนนี้”

แฟนผมไม่ได้ตอบทันที เขาโน้มหน้าลงมาใกล้ผมเพื่อมองอะไรบางอย่าง “อยู่นิ่งๆ ก่อนสระ มีเศษขนตาติดข้างแก้ม”

“เหรอ?” ผมเลิกคิ้ว ยอมอยู่นิ่งตามที่เขาบอก...ไอ้นะใช้ปลายนิ้วเขี่ยข้างแก้มของผมอย่างตั้งใจ กระทั่งเศษขนตาที่มันบอกหลุดออก แถมหลุดติดนิ้วมันมาพอดี มันก็เลยชูให้ผมดู ก่อนจะหันไปชูให้กล้อง

“ขนตาอย่างยาวเลยครับ”

 

กรี๊ดดดด โมเมนต์ที่รอคอย

โอยยย หนูจะเป็นลม ทำไมพวกพี่มุ้งมิ้งกันจัง

เขาเขี่ยขนตาให้กันด้วยแม่ ฮือออ ชีวิตชิปเปอร์นิพพานแล้ว


 

อะ...อะไรกันวะ แค่เขี่ยขนตาแค่นี้สาววายเขาดีใจกันขนาดนี้เลยเหรอ ผมล่ะเป็นงง

“คำถามเมื่อกี้ว่าไงนะ?” ไอ้นะหันมาถามผมใหม่

“อ๋อ ถามว่าอะไรที่ทำตอนนี้แล้วจะแฮปปี้สุดๆ” ผมบอก ก่อนจะตอบของตัวเองก่อน “สำหรับผมคือการได้กินขนมครับ เนี่ย ซื้อขนมมาเยอะแยะ เอาเข้าจริงก็มัวแต่คุยกับทุกคนเพลินจนลืมกินเลย”

ไม่ว่าเปล่าแต่ยังหยิบห่อขนมต่างๆ มาชูให้ดูด้วยว่าเยอะแค่ไหน ส่วนไอ้นะก็คว้าถุงหนึ่งมาแกะแล้วยื่นให้ผม แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้รับมากิน จู่ๆ ไอ้นะก็เบี่ยงมือหลบแล้วคว้าตัวผมเข้าไปกอดแน่น

แล้วคำตอบของคำถามเมื่อกี้ก็ดังตามมาให้ผม...รวมถึงคนในไลฟ์ได้ยิน

“ได้ฮักสระแบบนี้ไงครับ ที่ทำให้ผมแฮปปี้ : )”

ไอ้เหี้ยยย แบบนี้ก็ได้เหรอออ




____________________________________

ตอนหน้าบทส่งท้ายแล้วนะคะ แง ต้องคิดถึงไอ้ดื้อกับคุณแฟนของเขามากแน่ๆ เลย หวังว่าทุกคนจะสนุกกับในทุกๆ ตอนที่ผ่านมานะคะ หลังจบเรื่องนี้เราจะอัป #อาณาเขตทัพฟ้า ต่อทันที และถ้าใครตามทวิตเตอร์หรือเพจของเราก็อาจจะรู้มาบ้างแล้วว่าเราจะอัปเรื่องไหนอีกบ้าง ยังไงก็ฝากติดตามเรื่องใหม่ของเราด้วยนะคะ //ส่งจูบ



ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นิสัยนะเนี่ย มันฮักกี้ชัด ๆ  o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3

Infinity

พยัญชนะ : พัสดุ (เพียงคุณ)

 

[พยัญชนะ]


ผมเหลือบมองสระที่เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ หลังจากถูกผมปลุกเพื่อเตรียมตัวไปเรียนในคลาสเช้าตอนเก้าโมงครึ่ง พอเสียงประตูห้องน้ำปิดลงผมก็หยิบของในกระเป๋าเป้ออกมาเช็กความเรียบร้อยอีกครั้ง อ่า เหลือผูกเชือกกับเหน็บดอกไม้อีกนิดหน่อยก็เสร็จแล้ว ไว้ผมค่อยทำตอนบ่ายนี้แล้วกัน ตอนบ่ายสระต้องไปหาอาจารย์ที่ปรึกษา ผมคิดว่าน่าจะมีเวลามากพอให้ทำสิ่งนี้จนเสร็จก่อนเขาจะกลับมา

แอบตื่นเต้นเหมือนกันแฮะพอคิดจะทำเซอร์ไพรส์ให้ไอ้ดื้อ แต่ก็กลัวมันจับได้เนี่ยแหละ

ผมเก็บของในมือกลับไปตามเดิม หยิบสมุดหนังสือที่ต้องเรียนในเช้านี้ยัดใส่กระเป๋าเป้ของสระ หยิบช็อปออกมาแขวนรออีกฝ่าย พอสระออกมาเขาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหยิบเอง

สระเป็นคนอาบน้ำไม่นาน เข้าไปแค่ยี่สิบนาทีก็ออกมาแล้ว พอเห็นผมเตรียมเสื้อช็อปไว้ให้ก็ส่งยิ้มน่ารักมาให้ผมทันที หน้าตาที่ง่วงงุนก่อนหน้านี้สดชื่นขึ้นเยอะ เฮ้อ ไอ้ดื้อเอ๊ย เช้ามาก็ทำตัวน่ารักเลยเหรอวะ เหนื่อยจะหลงรักแล้วนะเนี่ย

“กินอะไรวะเช้านี้?” เขาถาม

“ตามใจมึงดิ อยากกินอะไรอะ”

“กูอยากตามใจมึงบ้างอะไอ้นะ มึงนั่นแหละอยากกินอะไร”

ผมยิ้มกว้าง เอ็นดูความน่ารักของมันขึ้นไปอีกเป็นกอง “กูกินอะไรก็ได้เลยไม่รู้จะเลือกอะไร”

“เลือกมาสักร้านครับคุณแฟน วันนี้ผมยกหน้าที่เลือกร้านอาหารทั้งสามมื้อให้คุณ”

“เอางั้นเหรอ?”

“เออดิ ปกติมึงเอาแต่ตามใจกูอะ นานๆ ทีจะเลือกร้านเอง” สระพูดไปก็แต่งตัวไปด้วย “เป็นแฟนกันก็ต้องแชร์ทุกความชอบด้วยกันดิว้า มึงจะมาตามใจให้กูเลือกคนเดียวได้ไงล่ะ ทำให้กูเคยตัวว่ามึงกินได้หมดทุกอย่าง เกิดวันหนึ่งกูพามึงเข้าร้านที่มึงไม่ชอบ หรือกินอะไรที่มึงไม่ชอบ แล้วเดี๋ยวมันก็จะเกิดปัญหาตามมาอีก”

“...”

“มึงอาจจะคิดว่าไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้ แต่กูคิดนะเว้ยว่ามันคือการไม่นึกถึงใจแฟน กูไม่อยากเป็นคนแบบนั้น คนที่เอาแต่คิดไปเองว่ามึงโอเคกับทุกสิ่ง ถ้าเกิดวันหนึ่งมึงไม่พอใจแล้วระเบิดอารมณ์ออกมา เราก็จะต้องมาทะเลาะกัน มารู้สึกแย่ๆ ใส่กัน จนอาจจะเลิกกันก็ได้”

ผมเลิกคิ้ว “มันแย่ขนาดนั้นเลย?”

“เออดิ กูไม่อยากเลิกกับมึงนะเว้ย อยากคบกับมึงไปจนกว่าจะแก่ตายอะ”

ได้ยินแบบนั้นหัวใจของผมก็พลันเต้นแรงจนแทบกระดอนออกมาจากอก ไม่บ่อยที่สระจะพูดอะไรแบบนี้กับผม อาจไม่หวานเลี่ยน ไม่เต๊าะจนเสี่ยวเหมือนที่ผมทำกับเขา แต่ทุกอย่างที่เขาพูดออกมามันทัชใจผมมากๆ มันทำให้ผมรู้สึกดีฉิบหายที่ได้รักเขา

คนน่ารัก ยังไงก็ยังเป็นคนน่ารัก ไม่ได้น่ารักในแง่หน้าตา แต่เป็นนิสัย...สระน่ารักในสายตาของผมเสมอ ตั้งแต่วินาทีแรกที่เราได้รู้จักกัน จนถึงวินาทีนี้ที่ผมรักเขาในทุกลมหายใจ

คนอื่นมีระยะเวลาในการรักใครสักคนจนมั่นใจว่าเขาคือทั้งหมดของชีวิตเรานานแค่ไหนผมไม่รู้หรอกครับ อาจจะปี สามปี ห้าปี หรือสิบปี แต่สำหรับผมถึงจะได้รู้จักและตกหลุมรักสระแค่ปีกว่าๆ แต่ผมก็แน่ใจแล้วว่าผมรักคนไม่ผิด

และอยากขอบคุณทุกสิ่งที่ทำให้สระรักผมตอบ : )

ผมขยับเข้าไปหาเขา เจ้าตัวมองหน้าผมเล็กน้อยก่อนจะอมยิ้มแล้วเป็นฝ่ายสวมกอดผมก่อน แน่นอนว่าผมต้องกอดตอบเขา กระซิบบอกเขาด้วยความรักทั้งหมดที่มี

“กูก็อยากอยู่กับมึงไปจนตายเหมือนกัน”

 

หลังมื้อกลางวันหมดลง สระก็ปลีกตัวไปหาอาจารย์ที่ปรึกษา ผมนั่งรออีกฝ่ายในร้านกาแฟไม่ไกลจากคณะมากนัก ส่วนพวกไอ้พียกแก๊งกันไปร้านเกมแล้วครับ พอเริ่มกลับมามีเวลาว่างก็ต้องหาอะไรผ่อนคลายกันหน่อย ก่อนจะต้องกลับมาโหมงานอีกรอบ

ผมหยิบเอาของที่ยังทำไม่เสร็จออกมา กล่องสี่เหลี่ยมขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลเรียบร้อย หน้าห่อวาดรูปแจกันเปล่าๆ เอาไว้ ก่อนจะหยิบเอาเชือกเส้นเล็กสีคล้ายกันออกมาผูกตัวห่อเหมือนผูกกล่องพัสดุ และปิดท้ายด้วยการเหน็บดอกไม้ที่แวะซื้อหลังแยกกับสระตรงหน้าห่อ ใช้เชือกที่ผูกช่วยทับไม่ให้มันหล่น และทำให้มันเหมือนดอกไม้กำลังอยู่ในแจกันที่ผมวาดเอาไว้

ถ้าสระได้เห็นเขาจะชอบมากไหมนะ ผมอยากเห็นปฏิกิริยาของเขาแล้วสิ ฮะๆ

นั่งดื่มกาแฟรออยู่พักใหญ่ จนเกือบจะบ่ายสองโมงนั่นล่ะกว่าที่สระจะมา เจ้าตัวเดินเหงื่อท่วมมาที่โต๊ะหลังจากระหว่างทางแวะไปสั่งเครื่องดื่มไว้แล้ว ใบหน้าขาวใสแสดงออกมาว่าร้อนและเหนื่อยล้าสุดๆ แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเดินตากแดดมาที่นี่มากกว่าเหนื่อยเรื่องงานล่ะนะ

“หิวมั้ย?”

“นิดหน่อย กูสั่งเค้กไปด้วยเมื่อกี้” สระตอบ “สั่งเค้กช็อกฯ มาเผื่อมึงด้วยนะ แต่ถ้ามึงไม่กินก็เก็บกลับหอได้ เอาไว้ค่อยกินทีหลัง”

“ขอบคุณครับ”

ผมยิ้มให้เขา นอกจากผมที่รู้ใจมัน เอาเข้าจริงมันเองก็รู้ใจผมเช่นกัน...มันอาจจะไม่ได้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับผม แต่อย่างน้อยสระก็ใส่ใจและพยายามถามผมว่าอยากได้อะไร ชอบอะไรไม่ชอบอะไร เขาพยายามทำหน้าที่แฟนที่ดีต่อผม เหมือนที่ผมเองก็พยายามเป็นคนที่ดีสำหรับเขา

“แล้วนั่นอะไรวะ?” สระเหลือบมองของที่ผมวางไว้กลางโต๊ะ

ผมยังคงยิ้ม เลื่อนห่อพัสดุนั้นไปตรงหน้าเขา “ของมึง”

“ของกู?”

“อือหึ” ผมพยักหน้ารับ “กูทำมาให้มึง”

สระตาเป็นประกาย เขาหยิบไปพลิกดู แอบดมดอกไม้ที่เหน็บเอาไว้ด้วย ดูจากสีหน้าแล้วเขาดูตื่นเต้นมากกว่าที่ผมคาดเดาเอาไว้

“แกะเลยนะ?”

“อืม” ผมมองอีกฝ่ายวางของในมือลงกับโต๊ะตามเดิม แล้วหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปไว้ก่อน จากนั้นเขาก็ค่อยๆ บรรจงแกะทุกอย่างอย่างตั้งใจและเบามือ แม้แต่กระดาษสีน้ำตาลที่ห่อหุ้มตัวกล่องเอาไว้ยังไม่ยอมฉีกทิ้งเลยแฮะ ฮะๆ

“เบาว่ะ มีอะไรในนี้กันแน่”

“เดี๋ยวก็รู้เอง”

สระเขย่ากล่องในมือเบาๆ เขามองผมอย่างลุ้นๆ ในตอนที่เปิดฝากล่องด้านบนออก ไอ้ดื้อมุ่นคิ้วเล็กน้อย หยิบปลายเชือกเส้นบางที่โผล่พ้นออกมาจากกล่องขึ้น ก่อนจะดึงของข้างในออกมาอย่างช้าๆ

ริบบิ้นหลากสีที่ถูกนำมาผูกติดกันไว้ไหลออกมาจากภายในกล่องเรื่อยๆ ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด ความยาวของมันทำให้สระต้องวางริบบิ้นเหล่านั้นลงกับโต๊ะ ผมรีบขยับเอาเค้กกับน้ำที่พนักงานนำมาเสิร์ฟก่อนหน้าที่ไอ้ดื้อจะเริ่มแกะพัสดุออกห่าง

กระทั่งริบบิ้นหมด และสิ่งสุดท้ายที่หลุดออกมาจากในกล่องกก็คือ...สร้อยคอสองเส้น

มันไม่ใช่สร้อยที่มีราคาแพงหรือสวยงามอะไร เป็นสร้อยที่ผมใช้บางอย่างของเราสองคนทำมันขึ้นมา จี้ที่ห้อยอยู่กับสายสร้อยเงินคือ ‘เกียร์’ ซึ่งเป็นของสำคัญสำหรับเด็กวิศวะ เกียร์ที่ผมกับสระไม่เคยสวมติดตัวแต่เก็บเอาไว้ในที่ที่จะไม่เผลอทำมันหาย

“แอบหยิบไปทำสร้อยตอนไหนวะเนี่ย” สระถาม มันพลิกดูจี้ทั้งสองอัน

ผมหยิบมันมาจากมืออีกฝ่าย ดึงเอาเกียร์ที่เป็นของผมออกแล้วลุกขึ้นไปยืนด้านหลังเขา สวมสร้อยให้เขาอย่างเบามือ ก่อนจะโดนแย่งเกียร์อีกอันไปแล้วสระก็บังคับให้ผมนั่งลงเพื่อใส่ให้ผมด้วยเช่นกัน

จากที่นั่งตรงข้ามกันก็กลายเป็นผมย้ายมานั่งข้างสระ หยิบเอาเครื่องดื่มกับเค้กที่เขาสั่งมาให้เขากิน เรายังไม่ได้พูดอะไรกันอีกหลังจากใส่สร้อยให้กันเสร็จ แต่มือของสระก็ยังจับเกียร์ที่คอเอาไว้ไม่ปล่อย และดูจะมีความสุขมากจนมันแสดงออกมาทางสีหน้า แววตา และรอยยิ้มน้อยๆ นั่นตลอดเวลา

ผมเท้าคางเอียงคอมองอีกฝ่ายตลอดเวลาเช่นกัน ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกรักที่มอบให้เขาออกมาเป็นคำพูดยังไง เคยไหมล่ะครับที่รักใครสักคนมากๆ จนพูดไม่ถูก ผมกำลังเป็นแบบนั้นเลย : )

“ถ้าเป็นเด็กคณะอื่นก็คงได้เกียร์ไปเฉยๆ” ไอ้ดื้อพูดขึ้น  เอียงหน้ามามองผมเช่นกัน “แต่เราเป็นเด็กวิศวะเหมือนกัน ก็เลยถือว่าเป็นการแลกเกียร์กันใช่ปะ?”

ผมหัวเราะ อดใจไม่ไหวยื่นนิ้วไปเขี่ยจมูกอีกฝ่ายเล่น “ใช่ ตามนั้นแหละ”

“คราวก่อนก็ให้แหวน คราวนี้ยังแอบทำสร้อยร้อยเกียร์มาให้อีก”

“กูอยากทำให้ ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า” ผมพยิบเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วเปิดกล้องถ่ายรูป “นั่งนิ่งๆ นะ มุมนี้แสงสวย จะถ่ายเกียร์ที่คอมึงหน่อย”

“ฮันแน่ จะอวดลงไอจีว่างั้น?”

“อือหึ” ผมตอบก่อนจะกดถ่ายรัวๆ หลายมุม จากนั้นก็เลือกมาแค่สองรูปอัปลงไอจี...รูปแรกคือรูปสระยิ้มให้กล้องอย่างน่ารัก จะว่าไปก็ชักหวงแล้วนะเนี่ย แฟนผมยิ้มน่าเอ็นดูมากเลยอะ เฮ้อ อีกรูปเป็นรูปที่ถ่ายโคลสอัพเข้าไปให้เห็นเลขรุ่นและเลขศูนย์เก้าสามซึ่งเป็นรหัสนักศึกษาของผมที่อยู่บนเกียร์ ใส่แคปชั่นเรียบร้อยก็กดโพสต์ทันที

แจ้งเตือนโทรศัพท์ของไอ้ดื้อดังขึ้น อีกฝ่ายรีบหยิบมากดดูก่อนจะยิ้มกว้าง

 

พยัญชนะ สักขพิพิฒน์ รหัส 093

 

เห็นแบบนั้นสระก็สั่งให้ผมนั่งนิ่งแล้วถ่ายรูปผมด้วยเช่นกัน สักพักแจ้งเตือนของผมก็เด้งขึ้นมาให้ผมต้องกดเข้าไปดู รูปที่ไอ้ดื้อลงมีด้วยกันทั้งหมดสามรูป เป็นรูปกล่องของขวัญก่อนหน้านี้ที่เขาถ่ายไว้ อีกรูปเป็นรูปผมยิ้มให้คนหลังกล้อง และรูปสุดท้ายคือรูปโคลสอัพเกียร์บนคอผมเช่นกัน

แคปชั่นของอีกฝ่ายไปในทางเดียวกันกับผมเป๊ะ…

 

สรัลภัทร วิวัฒนาวงศ์ รหัส 102

 

“เฮ้อ รักพยัญชนะจัง” สระถอนหายใจก่อนจะโพล่งออกมาซะดื้อๆ จนเล่นเอาผมไปไม่เป็น พอเห็นผมเหวอไอ้ตัวดีก็หัวเราะร่า ผมเลยหยิกจมูกมันไปเบาๆ ก่อนจะตอบกลับไปว่า...

“รักสระเหมือนกัน : )”



____________________________

ตอนจบแล้วนะคะ ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ 5 พ.ย. 61 ถึงวันนี้ 17 มิ.ย. 62 นานมากๆ เลย แง แต่ในที่สุดเรื่องนี้ก็เดินทางมาถึงตอนจบค่ะ และเป็นนิยายเรื่องแรกของปีนี้ที่เราเขียนจบด้วย ดีใจมาก แต่ก็คงเหมือนทุกครั้งที่เราเล่าเรื่องราวหนึ่งๆ จบไป ต้องคิดถึงมากแน่ๆ เลย แง

ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ หวังว่าเรื่องราวของสระและพยัญชนะจะสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนได้บ้าง เราเขียนเพื่อฮีลตัวเองจากความรู้สึกแย่ๆ และถ้ามันทำให้คนที่กำลังรู้สึกแย่ยิ้มได้เวลาอ่าน เราจะดีใจมากเลยค่ะ : )

ต้องบอกลากันแล้ว แต่ยังเจอกันได้ใหม่ในเรื่องอื่นๆ นะคะ รักทุกคนนะ ขอบคุณมากจริงๆ ที่อยู่ด้วยกันมาตลอดเกือบเจ็ดเดือน หวังว่าทุกคนจะคิดถึงไอ้ดื้อกับคุณแฟนของเขานะคะ จุ๊บๆ





ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
หวานจนตาลุกในไฟหมดแล้วจ้าาาาาาา
รอตอนพิเศษนะคะ
หวานกันให้เบาหวานขึ้นไปเล๊ย

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ขอบคุณที่แต่งสระของพยัญชนะมาให้อ่านนะคะ เพิ่งมาอ่าน ฮีลเรามากๆเลย อิ่มเอมไปหมดดด
เหมือนสระและพยัญชนะเป็นส่วนหนึ่งของเราไปแล้ว เหมือนอยู่ในเหตุการณ์กับเค้าเลย
คุณคนเขียนสุดยอดไปเลยค่ะ ถ่ายทอดน้องๆออกมาได้น่ารักมากๆๆๆ เราหลงจะแย่แล้ว แงงงง
จากนี้ไปต้องคิดถึงน้องมากๆแน่ๆเลย เป็นกำลังใจให้ในผลงานต่อไปนะคะ ติดตามค้าบบบบ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
น่ารักจังเลยทั้งสระและพยัญชนะ อ่านแล้วมีความสุขขอบคุณคนเขียนค่ะ :pig4: :กอด1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
อ่านแล้วอมยิ้มไปตลอดที้งเรื่องเลย
ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
น่ารักน่าชังหลงสุดตอนสระแทนตัวว่าสระนี่แหล่ะ มันน่าฟัดมากๆๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด