END #สระของพยัญชนะ :: วันพิเศษ - กระทงออนไลน์ ป๊อกกี้ฟอร์ยู [12-11-19]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: END #สระของพยัญชนะ :: วันพิเศษ - กระทงออนไลน์ ป๊อกกี้ฟอร์ยู [12-11-19]  (อ่าน 37338 ครั้ง)

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 ไหน อยู่ตรงไหน ไอ้เส้นที่ว่านะ จะตัดมันให้เอง :pigangry2:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
 ตอนนี้ให้สถานะที่มากกว่าเพื่อนไปแล้ว แล้วเมื่อไหร่จะให้สถานะแฟนสักที

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
น้ำทะเลอย่างหวานนนนนนนน
เลิฟๆๆๆๆๆ
 :mew1:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
หวานกันได้ทุกที่ทุกเวลา

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ทะเลหวานไปเลยจ้า
ทะเล ทายา ทะเล้น บอกรัก
เหลือตกลงคบกันเป็นแฟน

ซื่อตรงกันดีค่ะ สระกับชนะ
ความชัดเจนก็มีมาก แต่ยังไม่ลงตัวอะเนาะ

ทีมเพื่อนคือเชียร์ให้เปิดตัวกันมาก
แต่ก็แอบอึ้งกันแปบที่สระโวย
ตอนแรกนึกว่าจะก่อดราม่า
ดีที่เพื่อนเข้าใจ และยังตั้งหน้าแซ็วต่อไป 5555

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3

Thirteen

(ธ.) : ธนบัตร (ธนาคารส่วนตัว)

 

[พยัญชนะ]


ผมมองไอ้ตัวดีที่นอนหลับอุตุยังไม่ตื่น แสงอาทิตย์เริ่มสาดส่องเข้ามาในห้องพักของเราแล้ว ลืมความคิดที่จะตื่นขึ้นมาดูแสงแรกที่ขอบทะเลได้เลย เมื่อวานเป็นวันที่หนักหนาสำหรับพวกเรา ถึงการปลูกต้นไม่จะไม่ได้ยากอะไร แต่อากาศที่ร้อนแล้วไหนจะการเดินทางที่ต้องนั่งอยู่บนรถแคบๆ เป็นชั่วโมง ไม่เหนื่อยเมื่อยล้าก็ไม่ใช่คนแล้วครับ

เกลี่ยเส้นผมที่ตกลงมาปรกหน้าผากมนออกอย่างเบามือ สระขยับตัวเล็กน้อยเมื่อโดนรบกวน แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็นอนนิ่งเหมือนเดิม ผมได้แต่หัวเราะให้กับคนขี้เซา อีกสักพักค่อยปลุกแล้วกัน ระหว่างนี้ผมควรออกไปซื้ออาหารมาให้ไอ้ดื้อของผมกินรองท้องตอนตื่น แล้วค่อยออกไปร้านอาหารข้างนอกอีกที

ขยับลงจากเตียงอย่างเชื่องช้าเพราะกลัวจะทำให้สระสะดุ้งตื่น ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็คว้ากระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ก้าวออกจากห้องพัก น่าแปลกที่ดันเจอไอ้เจ็มยืนอยู่หน้าประตูทางออกจากบังกะโล

“ตื่นเช้าจังวะ”

“ปกติกูก็ตื่นเช้าอยู่แล้ว”

“ไอ้พีกับไอ้ยู?” ผมเลิกคิ้วถาม

มันไหวไหล่ “ยังหลับอยู่ แล้วนี่มึงจะออกไปข้างนอกใช่ป่ะ?”

“เออ ว่าจะซื้อของกินนิดหน่อยมาให้สระอะ”

“กูไปด้วย อยากแดกกาแฟ”

“ไปดิ”

สองข้างทางริมชายหาดมีร้านอาหารมากมาย ผมเล็งเฉพาะที่เป็นร้านรถเข็นอาหาร ได้หมูปิ๊ง ก๋วยเตี๋ยว กับขนมสารพัดอย่างมาเต็มสองมือ ก่อนปิดท้ายด้วยกาแฟสามแก้ว ชาเขียวอีกหนึ่ง แล้วก็แดงโซดาสำหรับสระของผม :)

“มึงกับไอ้หระนี่ยังไงวะ” เจ็มถามขึ้น

ผมเลิกคิ้ว “หมายถึงอะไร?”

“ก็เรื่องของมึงสองคนเนี่ย ตกลงเป็นอะไรกัน”

“...เพื่อนไง” ผมตอบ ระบายยิ้มบาง

เพื่อนนั่นแหละคือนิยามความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่

“ไม่ใช่ ‘มากกว่าเพื่อน’ หรอกเหรอวะ?”

ผมหลุดหัวเราะ “ก็ยังเป็นเพื่อนอยู่ไม่ใช่รึไง แค่มีคำว่ามากกว่าเติมเข้าไป”

“กูล่ะปวดหัวกับมึง นี่กวนตีนกูอยู่หรือพูดจริงครับเพื่อน”

“พูดจริง” ผมดูดกาแฟหนึ่งอึกก่อนจะพูดต่อ “ในเมื่อมันไม่มีคำนิยามที่ชัดเจน คำว่ามากกว่าเพื่อนก็ชัดเจนพอแล้วเว้ย เป็นเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน ก็มากกว่าเพื่อนไง”

“ครับๆ เรื่องของพวกมึงเลยครับ นิยามความสัมพันธ์ที่เข้าใจกันได้แค่สองคน กูไม่เสือกแล้วครับ ปวดหัว”

“มึงไม่ควรเสือกตั้งแต่แรกแล้วเปล่า”

“อ้าวไอ้นี่”

“ฮ่าๆๆๆ”

ไอ้เจ็มถอนหายใจ กระแทกไหล่ผมเบาๆ ทีหนึ่งแล้วมันก็พูดขึ้นอีก “ว่าก็ว่าเถอะ มึงไม่อึดอัดบ้างเหรอกับสิ่งที่เป็นอยู่ แล้วถ้าเกิดผลลัพธ์สุดท้ายมันออกมาว่าไม่ มึงจะเข้าหน้ากันติดมั้ยวะ กูอยากจะรู้”

ผมคิดตาม และใช่ว่าเรื่องนี้ผมจะไม่เคยคิดมาก่อน ผมคิดมาเป็นร้อยครั้งแล้วด้วยซ้ำ นับตั้งแต่ที่เริ่มชอบสระนั่นแหละ แต่สุดท้ายแค่ได้เห็นหน้ามันความคิดเหล่านี้ก็ปลิวหายไปแทบจะในทันที

ผมชอบเขาไปแล้ว ไม่สามารถดึงความรู้สึกกลับมาได้แล้วด้วย ดังนั้นผมก็มีแต่เดินหน้าต่อไปเท่านั้น ทำเท่าที่จะทำได้ ให้เขาได้รู้ว่าผมคิดยังไงกับเขา และถ้าสุดท้ายแล้วมันต้องผิดหวัง ผมพร้อมจะยอมรับและยอมถอยออกมา

อืม...แต่เท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ผมยังมองไม่เห็นความผิดหวังเลยนะ เห็นแต่คำว่าความหวังที่กำลังจะเป็นจริงมากกว่า หึ : )

“กูเตรียมตัวมาดีเจ็ม ไม่ว่ามันจะออกมาเป็นยังไง กูคิดหาวิธีให้ตัวเองและสระเอาไว้แล้ว ต่อให้กูต้องอกหัก แต่ระหว่างเราจะเหลือความทรงจำดีๆ เอาไว้จนหยดสุดท้าย มึงไม่ต้องห่วง”

ไอ้เจ็มทำหน้ายู่ยี่ มันโบกมือไปมาตรงหน้าตัวเอง “กูอยากจะอ้วกกับคำพูดพระเอ๊กพระเอกของมึง แหวะ”

“กวนตีน”

ผมยกเท้าขึ้นจะเตะมัน แต่ไอ้เจ็มก็รีบขยับหนี เราเลยวิ่งไล่กันขำๆ ไปตลอดทางจนมาถึงที่พัก เปิดประตูเข้าไปก็เจอไอ้พีกับไอ้ยูเดินออกมาจากห้องนอนพอดี พวกมันเห็นผมกับไอ้เจ็มก็พากันเอ่ยทักทั้งที่หน้ายังง่วงๆ งงๆ

“ไปไหนกันมาวะ”

ผมชูของในมือ “ซื้อของกิน”

“มีกาแฟของมึงด้วยไอ้พี ของไอ้ยูเป็นชาเขียว” ไอ้เจ็มว่าพลางวางของในมือตัวเองลงกับโต๊ะตัวเล็กที่อยู่ริมหน้าต่าง ไอ้สองตัวที่เพิ่งตื่นพอเห็นอาหารก็วิ่งรี่เข้าไปหาเหมือนลูกหมากำลังหิวข้าวไม่มีผิด หยิบเอาน้ำไปดื่มแล้วรื้อๆ ถุงของกินที่ไอ้เจ็มซื้อมาด้วย

ผมเอาบางถุงที่อยู่ในมือตัวเองไปวางเพิ่มให้พวกมัน ก่อนจะหิ้วที่เหลือไปทางห้องนอนของผมกับสระ

“ในมือมึงนั่น...อย่าบอกนะว่าของไอ้สระหมดเลย?” ไอ้พีเอ่ยถามทั้งที่ปากยังเคี้ยวปาท่องโก๋อยู่

ผมโคลงศีรษะแล้วยิ้มให้มัน “ของกูสองคน”

“แล้วนั่นจะเอาไปประเคนให้ยันเตียงนอนเลยเรอะ มันยังไม่ตื่นอีกหรือไง นี่เก้าโมงครึ่งแล้วนา” ไอ้ยูพูดขึ้นบ้าง

“ถ้าถึงขั้นนำไปเสิร์ฟบนเตียงนี่พวกกูต้องคิดแล้วมั้ย ว่าเมื่อคืนพวกมึงทำอะไรกันจนไอ้สระไม่มีแรงจะลุกอะ” คราวนี้เป็นไอ้เจ็มเสริมโรงบ้าง

ไอ้พวกเหี้ยนี่นะ คิดแต่ละอย่าง ผมได้แต่ส่ายหน้าให้พวกมันกก่อนจะตอบคำถามคลายความสาระแน “กูแค่จะหิ้วเข้าไปด้วยเพราะกลัวพวกมึงแดกของโปรดของสระหมดต่างหาก”

“โหยยย” พวกมันพากันโห่ใส่ ผมเลิกสนใจแล้วพาตัวเองหนีจากคำแซวเข้าห้องนอนทันที

สระยังไม่ตื่น ไอ้ดื้อของผมยังนอนหลับอยู่ในท่าเดิมเด๊ะ ผมเห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า นอนได้นอนดี แอร์เย็นสินะถึงได้ไม่ยอมตื่นเลยเนี่ย เฮ้อ ไอ้ขี้เซาเอ๊ย

“สระ ตื่นเถอะ”

ผมเขย่าตัวอีกฝ่ายเบาๆ สระมีปฏิกิริยาทันที “อือ...”

“อือแล้วก็ลุกเร็ว สายแล้วนะ ไม่หิวเหรอ”

“...หิว” มันตอบ เสียงอู้อี้จนเกือบฟังไม่เข้าใจ ผมต้องใช้เวลาประมวลผลสิ่งที่ได้ยินอยู่หนึ่งนาทีเต็มถึงจะพอเดาออกว่าสระพูดอะไร

ทิ้งตัวลงนั่งยังขอบเตียง เอื้อมมือไปหยิกแก้มน่ารักเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยว

“หิวก็ตื่นสิครับ กูไปซื้อของกินมาให้เพียบเลยเนี่ย ไม่อยากกินเหรอ?”

คราวนี้สระเริ่มขยับตัวมากขึ้นแล้ว เขาปรือตามองผม ไถแก้มกับหมอนไปมา ท่าทางน่ารักเสียจนผมอยากจะก้มหน้าลงไปงับแก้มเขาสักที แม่งเอ๊ย ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้ด้วยวะ ตอนปกติก็น่ารักอยู่หรอก แต่ตอนเพิ่งตื่นเนี่ยจะน่ารักมากเป็นพิเศษ

น่ารักจนอยากจะกลืนลงท้อง จะกินให้เป็นของผมแค่คนเดียว

“อย่าทำแบบนี้สระ” ผมหลุดปากพูดสิ่งที่คิดออกไป รู้ตัวอีกทีก็ห้ามปากตัวเองไม่ทันซะแล้ว

สระเลิกคิ้ว เอียงหน้ามองสบตาผมให้ชัดๆ ยกมือขึ้นมาจับข้อมือของผมที่ยังไม่ผละห่างจากแก้มของเขา แล้วเจ้าตัวก็ทำให้ผมหัวสมองว่างเปล่าไปเลยเมื่อเขาแนบฝ่ามือของผมกับแก้มของเขาเอง เปลี่ยนจากถูหมอนมาเป็นถูมือผม...

เหมือนแมวที่กำลังคลอเคลียเจ้าของ

ผมมองเขาไม่ละสายตา รู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ในแผ่นอกกำลังเต้นรัวแรง ความน่ารักของคนที่เราชอบมีพลังทำลายล้างสูง...ใช่ ผมแน่ใจในเรื่องนี้เลย เพราะผมกำลังพิสูจน์มันอยู่นี่ไง ต่อให้คนตรงหน้าจะหล่อแค่ไหน แต่ผมก็มองเห็นแค่ความน่ารักของเขาเท่านั้นจริงๆ

“ทำแบบนี้อะเหรอ?” น้ำเสียงนุ่มๆ ที่ตอนนี้แหบพร่าเล็กน้อยเพราะความที่ยังไม่ตื่นดี มีอานุภาพรุนแรงพอๆ กับการกระทำของเขาไม่มีผิดเพี้ยน

ผมโน้มหน้าลงไปใกล้อีกฝ่าย มองเห็นเงาของผมสะท้อนอยู่ในดวงตาของสระชัดเจน ลมหายใจของเราเป่ารดกันและกันแผ่วเบา...จนเหมือนสัมผัสไม่ได้

“ใช่” ไอ้ดื้อเม้มปากเมื่อได้ยินผมตอบ มันหลุบตาหนีสายตาของผม แต่ผมก็เลื่อนปลายนิ้วที่แนบแก้มขาวอยู่ไปเกลี่ยหางตาอีกฝ่ายแทน “มองตากูดิครับคนเก่ง”

มันยอมทำตาม ผมรู้สึกได้เลยว่าสระกำลังประหม่า ไงล่ะพ่อคนเก่ง พอผมเอาจริงเข้าหน่อยก็ไปไม่เป็นเลยล่ะสิ หึๆ เห็นอย่างนี้แล้วผมชักไม่อยากจะทำแค่แกล้งแล้วแฮะ

อยาก...ทำมากกว่านี้

“สระ กูทำได้ป่ะ”

“ทำ...อะไร”

ผมยิ้ม “จูบมึง”

มันชะงัก แล้วแก้มของมันก็แดงเรื่อขึ้นมาในทันที ผมอดใจไม่ไหวเกลี่ยเล่นจนไอ้ดื้อยิ่งหน้าแดง เหนือสิ่งอื่นใดคือผมกำลังจะตายเพราะการรอคอยคำตอบ หัวใจของผมเต้นเป็นจังหวะหนักหน่วง มันดังก้องอยู่ในหูของผม เหมือนมันพร้อมที่จะเต้นจนกว่าผมจะช็อกตายแล้วหยุดแรงสั่นไหวของมันไปเองในที่สุดอย่างไรอย่างนั้น

ผมเฝ้ารอ ไม่กี่วินาทีแต่เหมือนยาวนานไม่สิ้นสุด แล้วคำตอบที่ผมอยากได้ยินก็หลุดรอดออกมาจากริมฝีปากที่ผมอยากจะสัมผัสมานาน

“กูอนุญาต”

ผมเผลอกลั้นหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง คำว่า ‘กูอนุญาต’ ดังขึ้นซ้ำๆ อยู่ในหัว รู้ตัวอีกที...ปากของผมก็แนบสนิทกับปากของสระไปแล้ว

สัมผัสนุ่มนิ่มแต่แห้งผากคือสิ่งแรกที่ผมรู้สึกได้ เขาเพิ่งตื่นนอนนี่นา ปากไม่แห้งสิแปลก...ความคิดนั้นทำให้ผมยิ้มเล็กน้อยทั้งที่ปากของเราสองคนยังแนบสนิทติดกัน ผมนิ่งรอ...ให้แน่ใจว่าไอ้ดื้อไม่ได้รังเกียจกับสิ่งนี้ แต่ใครจะไปคิดว่าการรอของผมจะเกิดเรื่องเหนือความคาดหมายขึ้น!

เป็นสระที่ขยับก่อน เขาเอียงหน้าเล็กน้อยเพื่อให้เราได้แนบชิดกันมากขึ้น ริมฝีปากแดงๆ นั่นบดเบียดปากของผมอย่างใจเย็น กระตุ้นให้ผมต้องเคลื่อนไหวบ้าง

ดูดดึงเรียวปากล่างของอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนทำใจกล้าแตะปลายลิ้นเลียไล้ริมฝีปากที่แห้งผากของไอ้ดื้อจนชุ่มฉ่ำ แล้วสระก็จู่โจมผมอีกครั้งด้วยการอ้าปากออก ยื่นปลายลิ้นของตัวเองมาแตะกับปลายลิ้นของผม ชักนำให้ผมแทรกเข้าหาความอุ่นนุ่มในโพรงปากเขา

เราต่างฝ่ายต่างสัมผัสลุกไล่กันไปมาด้วยจูบที่ไม่คาดคิดว่าจะเลยเถิดมาได้ถึงขนาดนี้ ผมไล่สำรวจไปทั่วทุกซอกมุม หยอกเย้าเรียวลิ้นของเขาเล่น เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ตอนนี้ท่าทางของเรากลายเป็นการบดเบียดเสียดสีร่างกายเข้าหากันมากกว่าเดิม

สระโอบลำคอของผมด้วยสองแขน ปลายนิ้วมือลูบไล้หลังคอและเส้นผมของผมไปด้วยในระหว่างที่เรากำลังจูบกันไม่หยุดหย่อน ส่วนผมก็คร่อมทับเขาไปครึ่งตัว มือหนึ่งกอบกุมแก้มนุ่มเอาไว้ อีกมือเลื่อนลงไปลูบที่ปลายคางและต้นคอขาว สัมผัสผิวเนียนนุ่มด้วยความเพลิดเพลิน

“แฮ่ก...”

ผมถอนจูบออกในเวลาต่อมา เราต่างฝ่ายต่างหอบหายใจแผ่วเบา...เป็นจูบที่ยาวนานในความรู้สึก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่อยากหยุด ผมคิดว่าผมยังไม่พอ...ผมต้องการอีก

เป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวฉิบหาย แต่ให้ทำยังไงได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรอมาตลอดเลยนี่นา

หลุบสายตามองเรียวปากอิ่มที่เวลานี้เจ่อบวมและเปียกลื่นเล็กน้อยจากน้ำลายของเราทั้งสองคน ปลายนิ้วเกลี่ยไล้ ส่งสายตาโหยหาและอยากทำอีกออกไปโดยไม่รู้ตัว และนั่นทำให้สระหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง

“สายตามึงหื่นมากไอ้นะ”

“เชื่อเถอะว่าในหัวกูหื่นกามยิ่งกว่าที่แสดงออกให้มึงเห็นซะอีก”

คนฟังเบิกตาโต “อะ...ไอ้เหี้ย”

“นี่” ผมหัวเราะเสียงเบาในลำคอ เลื่อนสายตาขึ้นไปสบกับดวงตาไอ้ดื้ออีกครั้ง “อีกครั้งได้มั้ย”

สระเม้มปากแน่น จากนั้นมันก็กระชากคอเสื้อของผมลงไปอย่างแรงจนปากของเราสองคนจุ๊บกันหนึ่งที ก่อนมันจะเอ่ยคำอนุญาตที่ทำให้ผมโน้มลงตักตวงความหอมหวานอีกครั้ง และอีกครั้ง

...อีกหลายครั้งจนปากเราแทบเปื่อยกันเลยทีเดียว : )

 

“นี่มึงซื้ออะไรมาบ้างเนี่ย เยอะจังวะ”

“ของชอบของมึงทั้งนั้นแหละ”

“ก็เยอะไปป่ะ กูกินหมดก็ไม่ใช่คนแล้ว”

“หิวโซขนาดนี้ กินหมดแน่นอน” ผมบอกกับไอ้ดื้อ หลังจากที่มันเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วทรุดลงนั่งตรงขอบเตียง “หรือถ้าไม่หมดก็เอาไปให้พวกข้างนอกมันช่วยแดก”

“พวกมันกินอะไรกันยังอะ?”

“กินแล้ว” ผมหยิบเอาน้ำแดงโซดาส่งให้สระ มันรับไปดูดอึกใหญ่ก่อนเอ่ยปากถาม

“ว่าแต่ทั้งหมดเท่าไหร่วะ เดี๋ยวกูช่วยหาร”

“ไม่ต้อง” ผมรีบห้าม “กูเลี้ยงเอง”

“เอาอีกแล้วนะไอ้คนรวย เอะอะเลี้ยงๆ”

“ว่าที่แฟนคนเดียวกูเลี้ยงได้”

สระหน้าเหวอเมื่อเจอผมฮุคใส่แบบไม่ทันตั้งตัว มันเหลอหลาเลี่ยงที่จะสบตาผมก่อนจะบ่นอุบ “หมั่นไส้ว่ะ ขนาดนี้เอาเงินสดมาให้กูถือเลยดิ ทั้งกระเป๋ามึงอะ”

“ก็ได้นะ” ผมตอบ ลุกไปหยิบกระเป๋าเงินก่อนจะหยิบธนบัตรทั้งหมดที่มีอยู่ในนั้นมายื่นให้เจ้าตัว “กูเป็นคนกลัวเมียครับ ถ้าเมียอยากควบคุมเงินเองกูก็พร้อมยกให้เลย”

“เมียพ่องงง” สระด่า มันปัดมือที่ถือเงินอยู่ออก ก่อนจะหันไปคว้าหมอนมาปาใส่ผม แต่ผมหลบทัน หึๆ

“ว่าที่เมียก็ได้เอ้า”

“ไอ้ฉิบหาย หยุดพูดเลย!”

“ฮ่าๆๆๆ” ผมหัวเราะให้กับหน้าแดงๆ ของไอ้ดื้อ แล้วก่อนที่มันจะเขินจนหาเรื่องไล่เตะผม ผมก็เปลี่ยนไปถามเรื่องอื่น “ตกลงจะกินในห้องหรือออกไปกินข้างนอก”

“ไปข้างนอกดีกว่า กินในห้องแม่งอย่างกับลูกคุณหนูที่ตื่นสายแล้วต้องให้คนเอาข้าวมาประเคนยันเตียงเลยอะ ไม่ดีๆ กูรับไม่ได้ หน่อมแน้มเกินไป”

“งั้นออกไปกันเถอะ ไม่รู้พวกแม่งทำอะไรกันอยู่”

สระช่วยผมหิ้วถุงของกินเดินออกจากห้อง “ตกลงไม่ให้กูช่วยค่าของพวกนี้จริงดิ?”

“เออ ไม่ต้องหรอก”

“เพราะมึงรวยถูกมะ อยากเป็นป๋ากู”

“อ่าฮะ เรียกกูว่าป๋านะเร็ว” ผมหันไปเย้าแหย่มัน เลยโดนไอ้ดื้อเตะก้นหนึ่งที เล่นเอาเซเลยครับ แหม่ ไม่ออมแรงเลยเว้ยคนเรา

“ไม่มีทาง”

“ฮะๆๆ” ผมอดไม่ไหวต้องหัวเราะอีกแล้ว เวลาแหย่คนที่ชอบให้หงุดหงิดได้นี่มันก็สนุกไปอีกแบบนะ เพราะแบบนี้สินะถึงมีคติที่ว่า ‘ผู้ชายมักแกล้งคนที่ชอบ’

“หัวเราะๆ เดี๋ยวกูถีบหน้าคะมำเลย” สระทำท่าจะยกเท้าขึ้นถีบจริงๆ แต่ก็ไม่ได้ทำ

ผมยิ้มกว้างให้เขา ก่อนจะเอ่ยออกไปว่า “เรื่องเงินน่ะกูพูดจริงนะ”

“อะไร?”

“ก็ที่ว่าถ้ามึงอยากกุมเงินกูไว้ทั้งหมดกูก็จะยอมให้มึงทำ”

“...”

“กูอยากเป็นธนาคารส่วนตัวของมึง : )”


______________________
สายเปย์ที่พร้อมเทเงินให้เธอ 555 เขียนมาจะครึ่งเรื่อง ในที่สุดพวกนางก็ได้ดูดปากกันสักที เฮ้อ ลูกชายฉันโตเป็นหนุ่มแล้ว //ผิด! 555555555555

สงกรานต์แล้วนะคะ ใครเดินทางไปเที่ยวที่ไหนก็ระมัดระวังกันน้าา ขอให้เที่ยวอย่างปลอดภัยและสนุกสนานค่า ส่วนเราไม่ได้ออกไปไหน เลิกเล่นสงกรานต์มาจะสิบปีแล้ว ไม่อยากออกไปเปียกน้ำ เป็นหมาที่กลัวน้ำมากๆ ค่ะ //ผิดโว้ย! 5555

เอาเป็นว่ากลางวันไปเที่ยว กลางคืนก็กลับมาอ่านนิยายเราเนอะ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เราจะเขียนสเปวันสงกรานต์ของสระกับพยัญชนะให้ค่ะ น่าจะได้อัปในวันใดวันหนึ่งของช่วงเทศกาลนี่แหละ มีแผนจะเขียนสเปหลายเรื่อง เลยคิดว่าอัปเรื่องละวันเลยดีกว่า แฮ่ แล้วพบกันครับผม สุขสันต์วันปีใหม่ไทยนะคะ //ส่งจูบ



ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อิจฉาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา อยากได้บางอ่ะ ธนาคารส่วนตัวเนี่ย  :hao3:

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3


วันพิเศษ

สงกรานต์สาดใจ


 

ปีนี้สระก็ยังกลับบ้านเหมือนเดิม และ...มีเพื่อนตามกลับบ้านไปด้วยโขยงใหญ่เหมือนเดิมเช่นกัน

สงกรานต์เป็นช่วงเวลาไม่กี่วันที่สระชอบมาก เมื่อปีที่แล้วพวกเพื่อนๆ ของเขาขอตามเขากลับบ้านที่ต่างจังหวัดด้วย แน่นอนว่าเขาบอกพวกมันแล้วด้วยนะว่าบ้านของเขาไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ไม่ได้อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัด ก็แค่ตำบลเล็กๆ ธรรมดา ไอ้พีก็เลยถามออกมาแค่อย่างเดียว...

‘บ้านมึงมีคลองชลฯ ให้เล่นน้ำได้บ้างป่ะล่ะ?’

พอสระตอบว่ามี พวกมันก็พร้อมใจกันยิ้มร่าแล้วบอกว่าจะไปบ้านเขา แล้วหลังจากไปถึงน่ะเหรอ? นอกจากพ่อแม่จะต้อนรับพวกมันดีมากๆๆ แล้ว วันที่ออกไปเล่นน้ำสงกรานต์ด้วยกันพวกมันยังสนุกกันมากด้วย ยิ่งตอนที่พามันไปโดดน้ำคลองนะ เหมือนสระกำลังเด็กๆ เล่นน้ำไม่มีผิด

อ่า ปีนี้เองก็คงไม่ต่างกันมั้ง

“ไม่ลืมอะไรกันใช่ป่ะวะ” สระถาม หลังจากไอ้ยูโยนกระเป๋าใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าของใช้ของมันใส่ท้ายรถแล้ว ขณะที่ไอ้พีวิ่งออกมาจากบ้านพร้อมกระเช้าผลไม้ในมือ

“อันนี้เป็นผลไม้จากสวนของบ้านปู่กูเอง เมื่อวันก่อนปู่เอามาให้ กูเลยขอแบ่งไปฝากพ่อแม่มึง”

“โห ขอบใจมากเว้ย”

พยัญชนะที่กอดอกยืนพิงประตูรถรออยู่ เมื่อเห็นว่าทุกคนเรียบร้อยแล้วจึงเอ่ยถามขึ้นบ้าง “ไปเลยมั้ย?”

“ตกลงไม่มีใครลืมอะไรนะ?” สระถามย้ำ

“ไม่ลืม” ไอ้เจ็มเป็นตอบแทนทุกคน “ขึ้นรถเลย”

“โอเค”

คราวนี้พวกเขาทั้งห้าไม่ได้นั่งรถตู้เหมือนคราวก่อน เพราะลุงไอ้ยูให้ยืมฟอร์จูนเนอร์มาใช้ ถือเป็นโชคดีล่ะนะ แต่ก็อาจจะลำบากคนที่ทำหน้าที่สารถีหน่อย เพราะเดินทางกว่าจะถึงบ้างของเขาก็ใช้เวลาสามชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ แล้ววันนี้ต้องรถติดมากแน่ๆ อีกต่างหากเพราะคนแห่กันกลับต่างจังหวัด ได้อยู่บนรถกันครึ่งค่อนวันแน่

“สักครึ่งทางแวะปั้มพักหน่อยก็ได้ไอ้นะ แล้วหลังจากนั้นเดี๋ยวกูขับแทน” ไอ้ยูบอก

พยัญชนะพยักหน้ารับว่าเข้าใจ ก่อนจะเคลื่อนเกียร์แล้วพารถคันโตออกสู่ท้องถนนมุ่งหน้าถนนขาออกทันที

“ปีนี้ไปเล่นน้ำคลองอีกได้ป่ะวะไอ้หระ?” เจ็มถามหลังจากรถวิ่งออกมาได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว

สระไหวไหล่ “ทำไมจะไม่ได้ล่ะวะ”

“ก็เห็นข่าวว่าปีนี้น้ำแล้ง”

“ก็แล้งอะแหละ แต่คลองไม่ได้แห้งขอดขนาดนั้น ยังไงชลประทานก็ต้องปล่อยน้ำมาให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวแล้วใช้ ไม่งั้นต้นข้าวตายหมดก็ฉิบหายดิ”

“แล้วมีแพลนไปเที่ยวไหนอีกป่ะ?” ไอ้พีถาม ปากก็เคี้ยวขนมไปด้วย

สระแกะถึงขนมปังมินิบันไส้กรอกออก ก่อนจะหยิบชิ้นหนึ่งไปจ่อปากคนขับรถ...พยัญชนะเหลือบมองคนป้อนแล้วอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะงับมันเข้าปาก

“ก็เหมือนปีที่แล้วแหละว่ะ ไปเล่นที่ตัวอำเภอ เล่นคลองแถวบ้านกู แล้วก็ไปงานวัดที่เขาจัด”

“ปีนี้กูจะปาลูกโป่งให้ได้ตุ๊กตา” ไอ้เจ็มทำท่าหมายมาด เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เพราะเมื่อปีที่แล้วมันหมดเงินไปหลายร้อยแต่ก็ปาไม่ได้สักที ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาห้ามไว้ มันคงเสียอีกหลายร้อย

เบื่อพวกคนรวยใช้เงินแก้ปัญหาโคตร

สระแอบกลอกตาเมื่อนึกเรื่องเมื่อปีที่แล้วขึ้นมาได้ เขาเปิดขวดน้ำก่อนหย่อนหลอดแล้วเอาไปจ่อปากพยัญชนะเมื่ออีกฝ่ายเคี้ยวขนมหมดปากแล้ว

“ขอบคุณครับ” คนขับส่งยิ้มมาให้ ไหนจะน้ำเสียงอ่อนโยนนุ่มนวลนั่นอีก เล่นเอาคนป้อนทำหน้าไม่ถูกไปชั่วขณะเลยทีเดียว

“กินเข้าไปเงียบๆ ดิ”

“เขินเหรอ?”

“ก็เหี้ยละ”

พยัญชนะลอบขำเบาๆ ก่อนจะต้องขำออกเสียงดังขึ้นกว่าเดิมเมื่อพวกเพื่อนที่นั่งข้างหลังล้อเลียนและทำเสียงโห่ใส่ จนคนโดนแซวต้องหันไปโวยวาย และเกือบจะปีนข้ามเบาะไปตบเกรียนพวกแม่งแล้ว แต่พยัญชนะห้ามเอาไว้ได้ทัน

 

เกือบห้าชั่วโมงคือระยะเวลาในการเดินทางของพวกเขา รถติดนั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ก็มีช่วงที่แวะพักครึ่งทางเพื่อหาอะไรกินและเปลี่ยนคนขับ พอมาถึงบ้านสระ ทุกคนก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีเหมือนเดิมเป๊ะ ห้องนอนถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้พร้อมแล้วเรียบร้อย สระนอนกับพยัญชนะ ส่วนอีกสามหน่อนอนห้องพักแขก

แต่จะเรียกห้องพักแขกก็ไม่ถูกนักหรอก เรียกว่ามันเคยเป็นห้องนอนของตากับยายเขาจะดีกว่า แต่ท่านทั้งสองย้ายไปอยู่กับญาติที่อีกจังหวัดนานแล้ว ห้องมันก็เลยว่างเอาไว้ใช้ให้แขกมานอนพักได้พอดี

“มากันเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนกันก่อนนะลูก พรุ่งนี้ค่อยออกไปเล่นน้ำกัน” แม่พูดขึ้น หลังจากกอดสระจนเต็มอิ่ม...ไม่สิ ต้องบอกว่าสระกอดแม่จนเต็มอิ่มต่างหาก

พ่อของเขาเองก็ยิ้มกว้าง ลูบหัวเขาอย่างเอ็นดู “เราทำกับข้าวไว้ให้แล้ว ถ้าหายเหนื่อยเมื่อไหร่ก็ลงมากินกันได้นะลูก ไม่ต้องเกรงใจ”

“ขอบคุณครับพ่อ แม่” เพื่อนๆ พากันยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง ก่อนพวกมันจะขออนุญาตพาตัวเองเดินขึ้นชั้นสองไป เหลือแค่สระกับพยัญชนะที่ยังอยู่

“เราก็ไปพักเถอะสระ เดี๋ยวพ่อกับแม่ไปช่วยงานบวชที่วัดแล้วเย็นๆ จะกลับ”

“หือ? มีงานบวชช่วงสงกรานต์ด้วยเหรอครับ”

“อื้ม ลูกชายอาสำลีเขาน่ะ”

“ผมอยากไปด้วยนะ แต่เมื่อยตัวมากเลย”

“ไม่ต้องหรอกๆ ไปนอนไป หน้าตางัวเงียเตรียมงอแงขนาดนี้ ใครจะให้ไปล่ะไอ้ดื้อ” พ่อบอกพลางขยี้เส้นผมของสระเล่น

สระมองส่งพ่อกับแม่ออกไปจากบ้าน หลังจากนั้นจึงลากแขนเพื่อนสนิทเดินขึ้นชั้นสองไปยังห้องนอนตัวเองบ้างเช่นกัน เข้ามาถึงเจ้าตัวก็โยนกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กลงข้างเตียง แล้วทิ้งตัวลงนอนแผ่

“โอย เมื่อยมากกก มึงเมื่อยป่ะไอ้นะ”

“นิดหน่อย” คนโดนถามวางกระเป๋าของตัวเองไว้ที่เก้าอี้ของโต๊ะเขียนหนังสือ ก่อนจะเดินมาทรุดลงนั่งข้างตัวไอ้ดื้อของเขาแล้วเกลี่ยเส้นผมที่ตกลงมาปรกใบหน้าน่ารักให้พ้นทาง “ง่วงก็นอนนะ”

“ไม่อยากนอน”

“อ้าว ทำ...”

“ไม่อยากนอนคนเดียว”

“...”

สระคว้ามือหนาของเพื่อนมาแนบแก้ม ส่งสายตาเป็นประกายระยิบระยับให้ แล้วเอ่ยออกมาอีกประโยคหนึ่ง หากแต่เป็นประโยคที่ทำให้คนฟังตะลึงงันกันไปเลยทีเดียว

“มานอนด้วยกันนะ”

แล้วมีหรือที่พยัญชนะที่ปฏิเสธ เขาก้มลงฟัดแก้มไอ้ดื้ออย่างอดใจไม่ไหว ทั้งหอมทั้งจุ๊บจนหนำใจชนิดสระซุกหน้าหนีเพราะจั๊กจี้และส่งเสียงโวยวายยกใหญ่เลยด้วย ก่อนชายหนุ่มจะล้มตัวลงนอนข้างคนดื้อของเขา พาดแขนบนเอวอีกฝ่ายเอาไว้หลวมๆ

“อย่าเชิญชวนแบบนี้อีกนะ”

“ทำไม?” สระขยับตัวเปลี่ยนเป็นนอนตะแคงแล้วเลิกคิ้วถาม ก่อนคำตอบที่ได้จะทำให้เขาหน้าแดงเถือก

“เพราะมันอาจจะไม่จบแค่นอนเฉยๆ น่ะสิ”

 

วันต่อมาพวกเขาก็พากันออกจากบ้านไปทำบุญตักบาตรและสรงน้ำพระที่วัดตั้งแต่เช้า แยกกับพ่อแม่ของสระเพื่อไปหาอะไรกิน จากนั้นจึงตกลงปลงใจกันว่าจะไปเล่นน้ำที่คลองชลฯ ก่อน ส่วนในตัวเมืองค่อยไปเล่นพรุ่งนี้

คลองสายเล็กที่แตกแขนงมาจากคลองใหญ่มีคนเล่นอยู่จำนวนไม่น้อย แต่ก็ยังพอมีที่ว่างให้ห้าหนุ่มได้ลงไปผสมโรงเล่นด้วย แน่นอนว่าความหน้าตาดีของสองหนุ่มแฮนด์ซั่มบอยอย่างสระกับพยัญชนะย่อมเรียกสายตาสาวๆ ที่มาเล่นน้ำด้วยเหมือนกันได้ไม่ยาก

“น้ำอุ่นจังวะ” ไอ้พีพูดขึ้นหลังจากหย่อนตัวลงน้ำไปเป็นคนแรก

“มึงดูแดดด้วย ร้อนออกขนาดนี้น้ำคลองไม่อุ่นได้ไง” ไอ้ยูชี้มือไปที่ดวงอาทิตย์ที่เห็นอยู่ไกลๆ ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงกว่าแล้ว และแดดก็ร้อนแรงมากด้วย ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่แคร์ ในเมื่ออยากเล่นน้ำนักก็ต้องทนให้ได้แหละนะ

“มันอุ่นขนาดไหนวะ ร้อนเลยป่ะ แบบ...ร้อนแรงเท่ากูไหมอะ?” ไอ้เจ็มพูดขึ้นบ้าง และนั่นเรียกเสียงโห่จากพวกเขาได้เป็นอย่างดี ไอ้เชี่ยยย กล้าพูดมาได้

“ถุ้ย! ร้อนแรงมากมั้งงง”

“ก็นิดหนึ่งป่ะวะ”

“อยากรู้ว่าร้อนแค่ไหนเดี๋ยวกูช่วยให้มึงลงไปพิสูจน์ได้ไวขึ้น” พูดจบไอ้ยูก็...ถีบไอ้เจ็มลงน้ำดังตูมใหญ่ เล่นเอาคนอื่นๆ ที่เล่นอยู่ใกล้ๆ พากันหลับตาปี๋เมื่อน้ำสาดไปโดน

“แค่ก! ไอ้เหี้ยเจ็ม!”

สระมองเพื่อนสามคนที่ผลัดกันสาดน้ำใส่หน้ากันไปมา เขาทรุดลงนั่งข้างคลองก่อนจะค่อยๆ หย่อนตัวเองลงไป โดยมีพยัญชนะช่วยพยุงทั้งที่ไม่จำเป็นเลยสักนิด ถึงอย่างนั้นคนดื้อก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นห่วง เลยไม่ได้ว่าอะไร หนำซ้ำยังลอบยิ้มเพราะรู้สึกดีสุดๆ ไปเลยอีกด้วย

“ลงมาดิ มึงคงไม่ได้มาเพื่อนั่งมองพวกกูเล่นหรอกใช่ป่ะ?” สระถามหลังจากเขาทิ้งตัวลงไปในน้ำแล้ว น้ำไม่ลึกนักแต่ก็สูงระดับไหล่เขาพอดี

พยัญชนะแค่ยิ้ม ก่อนเจ้าตัวจะทำเท่ด้วยการถอดเสื้อยืดลายดอกคูลๆ ออกแล้ววางไว้ข้างคลอง จากนั้นจึงกระโดดลงมา และแน่นอนว่าน้ำสาดโดนหน้าคนดื้อเข้าเต็มๆ

“ไอ้ห่า ต้องทำเท่ก่อนลงน้ำเหรอ!? ถอดเสื้อด้วยไอ้ฉิบหาย อยากโชว์ว่างั้น” สระด่า

คนถูกด่าเสยเส้นผมที่เปียกโชกขึ้นแล้วส่งยิ้มหล่อให้คนตัวเล็กกว่าพลางว่า “ใช่ อยากโชว์ให้มึงเห็นอะ”

เจ้าบ้านถึงกับแค่นหัวเราะ แต่สองแก้มก็แดงขึ้นมาเพราะความเขิน โดนไอ้เวรนี่เต๊าะออกจะบ่อย แต่ให้ตายยังไงก็ไม่เคยชิน ไอ้นะแม่ง...ขนาดนี้แล้วยังไม่เลิกจีบเขาอีก

“เล่นน้ำไปเลยไอ้สัด”

สระวักน้ำสาดหน้าไอ้เพื่อนบ้ารัวๆ จนพยัญชนะต้องเบี่ยงหน้าหลบแล้วสาดกลับ พวกเขาเล่นกันห้าคนก่อนจะเริ่มกระจายออกไปเล่นกับคนที่มาก่อน เพื่อนของเขาไม่ได้รู้จักมักจี่กับคนอื่นๆ หรอก แต่ก็ทักทายกันด้วยความมีอัธยาศัยดี ส่วนสระน่ะพอจะรู้จักคนที่มาเล่นน้ำอยู่บ้าง ก็นะ...บรรดาเพื่อนบ้านและคนในหมู่บ้านของเขาทั้งนั้นนี่นา

เล่นกันอยู่พักใหญ่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

จู่ๆ ก็มีสาวน้อยน่ารักเล่นน้ำอีท่าไหนไม่รู้ดันถอยมาชนสระเข้าซะได้ แล้วมันคงจะไม่เป็นไรถ้าไม่ใช่เพราะขาของคุณเธอขัดเข้ากับขาของเขาใต้น้ำ ทำให้ชายหนุ่มลื่นพรืดล้มหน้าคะมำลงน้ำไปอย่างรวดเร็ว!

จังหวะที่หน้าจุ่มน้ำแบบไม่ทันตั้งตัวทำให้สระเผลอกลืนน้ำและสำลักน้ำเข้าไป เจ้าตัวทะลึ่งพรวดขึ้นมาเพราะได้แรงดึงจากคนที่หัวอยู่เหนือน้ำอย่างพยัญชนะช่วยอีกแรง พอกลับมาสู่อากาศบริสุทธิ์ได้ คนดื้อก็สำลักน้ำไอโขลกๆ ไม่หยุด หน้าเหน้องี้แดงก่ำ

“เป็นไงบ้างสระ” พยัญชนะเอ่ยถาม มือก็ปาดไล้หยดน้ำออกจากใบหน้าน่ารักไปด้วย อีกมือก็ประคองต้นคอของสระเอาไว้

“แค่ก กูไม่...แค่กๆ เป็นไร”

“แสบจมูกมั้ย? สำลักน้ำเข้าไปขนาดนี้ยังบอกว่าไม่เป็นไรอีกเหรอ”

“นิดหน่อย...แค่ก น่า กูโอเคๆ”

พยัญชนะขมวดคิ้วแน่น ปลายนิ้วลูบแก้มใสเบาๆ “ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อยเลยไอ้ดื้อ”

“ไม่ใช่ความผิดกูสักหน่อยที่สำลักน้ำเนี่ย”

คนฟังถอนหายใจแผ่วเบา โน้มหน้าลงจุ๊บปลายจมูกของไอ้ดื้อหนึ่งทีก่อนจะถาม “หายแสบยังครับ?”

“หะ...หายแล้ว”

“แน่ใจนะ?”

“แน่...แน่ใจ”

สระถึงกับหน้าร้อนวาบ ปกติไอ้นะก็ชอบอ่อนโยนกับเขาอยู่บ่อยๆ อยู่แล้ว เรียกว่าแทบจะตลอดเวลาเลยดีกว่า แต่ครั้งนี้น่ะมันออกจะเกินไปหน่อยนะ มันลืมไปหรือเปล่าว่าตอนนี้เราอยู่กันกลางคลองชลประทาน มีคนมากมายกำลังเล่นน้ำและบางส่วนอาจจะกำลังมองเราอยู่ด้วยซ้ำ

อ๊าก ไอ้เหี้ยนะ มึงทำอะไรเนี่ยยย

“ถอยไปเลยนะ คนมองหมดแล้วมั้งไอ้เวรรร”

“ช่างดิ กูเป็นห่วงมึงนี่หว่า”

“แค่สะดุดขาใครไม่รู้แล้วลื่นล้มลงไปนิดหน่อยเอง”

“เอ่อ...” เสียงของผู้หญิงเอ่ยแทรกขึ้นมาหลังจากที่สระพูดจบ เรียกความสนใจของทั้งสระและพยัญชนะให้หันไปมองได้ หลังจากทั้งคู่ตกอยู่ในภวังค์ที่มีแค่กันและกันมานานสองนาน

“ครับ?” ไอ้นะเลิกคิ้วถามสั้นๆ

เด็กสาวที่น่าจะอายุแค่สิบห้าสิบหกยิ้มแหย เธอยกมือโบกเบาๆ แล้วบอกว่า “เมื่อกี้เป็นหนูเองที่เซมาชนพี่”

“อ่อ เอ่อ...” สระถึงกับไปไม่เป็น ไม่รู้จะพูดอะไร จะด่าก็ไม่ใช่เรื่องเพราะน้องมันคงไม่ได้ตั้งใจ

“หนูขอโทษนะคะ ขอโทษจริงๆ” เด็กสาวคนเดิมยกมือไหว้ปล่กๆ จนสุดท้ายสระก็ต้องโบกมือให้เป็นพัลวัน

“ไม่เป็นไรน้อง ไม่เป็นไร”

“ขอบคุณนะคะ” เธอยังมีสีหน้ารู้สึกผิด เอ่ยขอโทษอีกสองสามคำก็รีบแยกตัวหนีห่างออกไปทันที แถมก่อนไปยังดูกลัวๆ ในอะไรสักอย่าง เล่นเอาสระงงไปเลย

จนกระทั่งเขาหันมาเห็นสีหน้าไอ้นะนั่นแหละ

“ไอ้นะ~ อย่าทำหน้าโหดแบบนั้นดิ”

“กูเปล่า”

“แต่มึงกำลังทำ สายตามึงดุมากด้วย”

“กู...” พยัญชนะคลายสีหน้าเคร่งขรึมลง “กูเป็นห่วงมึงนี่หว่า ถ้าเมื่อกี้มึงจมน้ำไปจะทำไง”

“แค่สะดุดขาน้องแล้วลื่นเว้ยลื่นนน”

“นั่นแหละ เล่นเอากูใจหายใจคว่ำหมด”

“น้องมันก็ขอโทษแล้ว มึงก็อย่าโกรธไปเลยน่า” สระพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ แล้วมีหรือที่พยัญชนะจะปฏิเสธได้ แค่เห็นหน้าคาออดอ้อนของไอ้ดื้อเขาก็แพ้ราบคาบแล้ว

“เฮ้อ โอเค แต่กูว่าเลิกเล่นเหอะ”

“เอางั้นก็ได้ หิวแล้วเหมือนกัน” สระยอมตามใจคนตัวโตกว่า เขารู้ว่ามันห่วงเขามากจริงๆ และนั่นทำให้เขาใจพองโตสุดๆ อีกอย่างคือเขาไม่อยากให้มันกังวลอีกว่าเขาจะเผลอเอาหน้าจุ่มน้ำสำลักเหมือนจะตายอีกรอบด้วยแหละนะ ก็เลยยอมตามใจมันหน่อยแล้วกัน

“พวกมึงกูสองคนขึ้นก่อนนะ” ไอ้นะหันไปบอกเพื่อนทั้งสาม

ไอ้พียิ้มล้อเลียน “แหม่ นึกว่าจะลืมพวกกูซะแล้ว และเผื่อพวกมึงไม่รู้นะ ฉากจุ๊บจมูกเมื่อกี้คนมองกันครึ่งคลองอะเพื่อน หึๆ ทำอะไรไม่เกรงใจเล้ย!”

สระหน้าร้อนวาบ รีบตะกายขึ้นฝั่งอย่างรวดเร็ว...ไอ้ฉิบหาย เขาไม่กล้ามองหน้าใครเลยโว้ยยย

ได้ยินเสียงหัวเราะของไอ้นะแว่วมา พอมันหยิบเสื้อมาใส่เรียบร้อยเขาก็หันไปต่อยไหล่มันหนึ่งทีแล้วจ้ำเท้าเดินนำมาโดยไม่คิดจะมองคนรอบข้าง ไม่เอาหรอก เดี๋ยวเจอสายตาที่มองมาแล้วจะบ้าเอา

หมายถึงเขาเนี่ยจะบ้าเอา เขินจะบ้าอะ ฮึ่ย!

“สระ”

“อะไร!?”

หันกลับไปมองคนที่เป็นมากกว่าเพื่อนด้วยความงุ่นง่านใจ แต่พอได้เห็นรอยยิ้มหวานๆ ของมันเขากลับรู้สึกว่าในอกมันอุ่นฟูไปหมด ลืมความเขินอายและความเคืองขุ่นเล็กๆ ก่อนหน้านี้ไปจนหมด

“สวัสดีปีใหม่ไทยนะไอ้ดื้อ”

ในท้ายที่สุดสระก็ยิ้มตาม เอื้อมมือไปจับมือไอ้นะแล้วจูงให้มันเดินเคียงข้างกัน ก่อนจะตอบกลับไปว่า...

“อื้อ สุขสันต์วันสงกรานต์ : )”



____________________________

กว่าจะเข็นตอนพิเศษออกมาได้ 555 หวานเบาๆ นะคะ หวานน้อยๆ พอประมาณ เพราะความหวานที่แท้จริงอยู่ในตอนหลัก แฮ่ สวัสดีปีใหม่ไทยน้าทุกคนน แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ //ส่งจูบ


ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
หวานกันได้ทุกเทศกาลและทุกสถานที่เลยนะคะ
เบื่อ!!!!!!! พวกมีฟามรัก

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตะลึงกันไปทั้งงาน  o22

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3

Fourteen

(น.) : นม (น่ารัก)

 

[สระ]


หลังกลับจากทะเลได้สองวันผมก็ป่วย ป่วยได้ยังไงยังไม่รู้เลย จู่ๆ ก็ครั่นเนื้อครั่นตัวแล้วก็ปวดหัวนิดๆ ตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นเพราะอากาศร้อนทำพิษเหมือนอย่างทุกครั้ง เหงื่อผมก็ออกง่ายแถมยังออกมากเป็นเรื่องปกติ วันแรกก็เลยไม่ได้ใส่ใจนัก จนกระทั่งวันที่สอง...ผมวูบตอนเดินลงจากตึกเรียน นั่นล่ะที่ทำให้ผมรู้ว่ามันไม่ปกติแล้ว

จังหวะกำลังจะก้าวลงบัน สายตาของผมพร่ามัวไปชั่วขณะ แล้วก็รู้สึกว่าร่างทั้งร่างเซไปด้านหน้า ในใจคิดแล้วว่าฉิบหายเถอะ แค่วูบก็เสียเชิงชายมากพอแล้ว นี่ยังจะตกบันไดให้อับอายขายขี้หน้าอีกเหรอ

แต่แล้วโชคดีก็ยังคงอยู่เคียงข้างผม ไม่สิ...ต้องบอกว่าเพราะผมยังมีไอ้นะอยู่ข้างๆ ต่างหาก มันที่ไม่เคยละสายตาจากผมเลยทันเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นแล้วรับร่างผมเอาไว้ได้ทัน

ผมได้ยินเสียงโวยวายกับเสียงกรี๊ด น่าจะเป็นของเพื่อนร่วมเซคที่เดินออกมาด้วยกันนี่แหละ รู้ตัวอีกทีผมก็อยู่บนหลังไอ้นะแล้ว มันกำลังแบกผมก้าวลงจากตึกเรียน

“...ไม่หนักเหรอ” ผมถามมันเสียงเบา แต่เพราะปากของผมอยู่ข้างๆ หูมันพอดี มันก็เลยได้ยินชัดเจนเต็มสองหูอย่างไม่ต้องสงสัย

ไอ้นะเหลือบหางตามามองกันนิดหน่อยแล้วหันกลับไปมองทางเหมือนเดิม “นิดหน่อย”

“ไม่นิดมั้ง กูตัวเล็กกว่ามึงนิดเดียวเองป่ะ”

“ต่อปากต่อคำกับกูได้เนี่ยหายหน้ามืดแล้วเหรอ?” มันถามกลับ

ผมขมวดคิ้ว “ใครหน้ามืด กูแค่...”

“ถ้าเถียงไม่ออกก็อย่าเถียงเลยครับคุณสรัลภัทร”

ผมเบะปากก่อนจะซบแก้มกับต้นคอของอีกฝ่ายโดยไม่พูดอะไรอีก ปิดตาลงเพราะรู้สึกว่าอะไรๆ ที่มองอยู่มันเบลอๆ เห็นไม่ชัด และมันทำให้ผมปวดขมับเอามากๆ จนกระทั่งไอ้นะพาผมมาถึงห้องพยาบาล พูดกับเจ้าหน้าที่ไม่ถึงสองนาทีก็ได้เข้าไปด้านใน

คนตัวสูงเอี้ยวหน้ามาถาม “ลงยืนไหวหรือเปล่าสระ?”

“ได้” ผมหย่อนตัวลงยืนที่พื้น ขณะที่ไอ้นะรีบหันมาพยุงตัวผมเอาไว้กันไม่ให้ล้ม แล้วพาผมนอนลงบนเตียงพักของห้องพยาบาล ซึ่งผมก็ทำตามแต่โดยดีไม่คิดอิดออด พลังร่างกายผมถดถอยมากครับ ทั้งร้อน ทั้งปวดหัว ตอนนี้ผมอยากนอนมากเลย

พยัญชนะหลบทางให้พี่เจ้าหน้าที่ห้องพยาบาลเข้ามาดูอาการผม ผมได้แต่นอนหลับตา รู้สึกได้ถึงมือที่แตะบนหน้าผากกับอะไรอีกหลายอย่าง จนกระทั่งได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่บอกว่าผมไม่สบาย มีไข้นิดๆ เดี๋ยวให้ยาไปกิน ส่วนตอนนี้จะนอนไปก่อนก็ได้แล้วค่อยตื่นขึ้นกลับหอพัก

ตลอดเวลาที่ไอ้นะคุยกับเจ้าหน้าที่ผมยังคงหลับตาตลอดเวลา จนเมื่อเพื่อนสนิทลูบแก้มผม นั่นล่ะผมถึงได้ลืมตาขึ้นมองเขา

“นอนนี่ก่อนหรือกลับไปนอนห้อง?”

“...ห้อง”

“ไหวเหรอวะ”

“ไหว ถ้ามึงช่วยพยุง”

“ให้กูอุ้มมึงกลับยังได้เลย”

“เกินไป กูผู้ชายมั้ย” ผมแหวใส่มันเสียงเบา ไม่มีแรงตะโกนครับ ได้แค่นี้ ฮื่อ

“ไม่เกี่ยวกับเพศป่ะวะ กูทำได้ทุกอย่างแหละถ้าเป็นมึงอะ ไม่เคยได้ยินเหรอ...” ไอ้นะแย้ง มันเขี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าผมออกให้ก่อนจะว่าต่อ “กับคนที่เราชอบอะ ทำให้ได้ทุกอย่างแหละ”

โอเค ตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าที่หน้ามันร้อนๆ เนี่ยเพราะเป็นไข้หรือเพราะเขินมัน ไอ้ฉิบหาย เวลานี้ก็ยังจะเต๊าะกูเนอะ ให้กูได้พักบ้างเถอะเพื่อน

ผมไม่พูดอะไร ทำเพียงลุกขึ้นยืนแล้วรับเอาถุงยาที่พี่เจ้าหน้าที่ห้องพยาบาลนำมาให้ ก่อนจะมุ่งหน้ากลับหอโดยมีไอ้นะประกบไม่ห่าง มันกลัวผมจะล้มหน้าคว่ำลงไปกองกับพื้นอีกน่ะสิ ถ้าผมยอมให้อุ้มมันคงทำไปแล้วแน่ๆ

เพราะหออยู่ไม่ไกลมหา’ลัย ทนเดินกลางแดดยามเย็นสิบนาทีเราทั้งคู่ก็กลับมาถึงห้อง

ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรอีก พาสารร่างเหนื่อยอ่อนไปทิ้งตัวลงบนเตียงทันที รองเท้าอะไรก็ไม่มีแรงจะถอด ผมง่วงและปวดหัวมากจริงๆ นะครับ ไม่ไหวแล้ว ต้องนอน

เพื่อนร่วมห้องไม่ได้พูดอะไร มันแค่เดินเข้ามาถอดรองเท้าให้แล้วจับผมนอนหงายดีๆ จากนั้นก็ปลดเข็มขัดนักศึกษาออกให้ ปกติผมก็แทบไม่ได้ใส่หรอก เพราะอาจารย์ในสาขาไม่เคร่งเรื่องนี้เท่าไหร่ พวกท่านขอแค่วันที่ต้องนำเสนองานให้แต่งตัวให้เรียบร้อย และวันนี้ก็คือวันที่มีนำเสนองานพอดี

ไอ้นะปลดกระดุมกางเกงผมต่อ เล่นเอาผมคว้ามือมันแทบไม่ทัน “ทำไร”

“จะถอดกางเกงให้ไง มึงจะได้นอนสบายๆ”

“เหรอ นึกว่าจะลวนลามกู”

คนฟังหลุดหัวเราะ ส่ายหน้าขำขณะมือกลับไปทำหน้าที่ดังเดิมเมื่อผมปล่อยมือมันให้เป็นอิสระแล้ว

“กูไม่ใช้ช่วงเวลาที่มึงกำลังอ่อนแอทำอะไรแบบนั้นหรอก”

“กูไม่ได้อ่อนแอ แค่ป่ว...”

“ถ้าจะลวนลามมึงอะ ทำตอนมึงมีแรงเยอะๆ ดีกว่า” ผมยังพูดไม่ทันจบไอ้เพื่อนหน้าหล่อก็เอ่ยแทรก แถมคำพูดของมันยังทำให้ผมสงสัยอีกต่างหาก

“ทำไมวะ?”

อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน มือที่กำลังรั้งขอบกางเกงนักศึกษาให้ร่นลงเกือบถึงสะโพกแล้วก็หยุดไปด้วยเช่นกัน จากนั้น...คำพูดของมันก็ทำให้ผมเขินหน้าร้อนเป็นรอบที่สองของวัน!

“มึงจะได้ทำอะไรๆ ด้วยกันกับกูได้แบบจัดเต็มไง”

แล้วผมจะไปตอบอะไรได้นอกจาก...

“ทำเหี้ยไรล่ะ มึงนี่แม่ง ทะลึ่งว่ะ”

ไอ้นะหัวเราะ มันกลับไปให้ความสนใจกับการถอดกางเกงผมออกอีกครั้ง จนในที่สุดท่อนล่างของผมก็เหลือแค่กางเกงบ็อกเซอร์ขาบานๆ ตัวบางๆ สีเขียวเข้ม พอถอดกางเกงผมเสร็จมันก็เลื่อนขึ้นมาปลดกระดุมเสื้อ ตลอดเวลานั้นผมมองมันไม่ละสายตา และมันก็รู้ด้วยว่าผมมอง เพราะมันอมยิ้มไม่เลิก ก่อนสุดท้ายจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมอีกครั้ง แล้วทำปากจู๋ส่งจุ๊บให้

ผมหลุดหัวเราะทันที “ฮ่าๆๆๆ ไอ้นะ~”

คนโดนเรียกหัวเราะตาม พอดีกับที่ปลดกระดุมเม็ดสุดท้ายของเสื้อนักศึกษาเสร็จเรียบร้อย “ลุกหน่อย จะถอดเสื้อออกให้ มึงจะนอนสบายๆ”

ผมทำตามทั้งที่ยังไม่เลิกหัวเราะ เวลาคนหล่อๆ อย่างมันทำอะไรแบบเมื่อกี้ก็ดูน่ารักดีแฮะ

พอเสื้อปลิวออกไปผมก็รู้สึกสบายตัวขึ้น...ไอ้นะลุกเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ กลับออกมาอีกทีพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กที่ผ่านการชุบน้ำมาจนเปียกหมาดแล้ว มันอ้อมไปนั่งด้านหลังผม ใช้ผ้าเช็ดเหงื่ออันแสนเหนอะเหนียวออกให้ผม ไล่ไปตามบ่าและแขน รอบคอแล้วค่อยขยับมานั่งด้านหน้าอีกครั้ง เช็ดไปตามแผ่นอกและหน้าท้องของผม

ผมรู้สึกสบายตัวขึ้นมากกว่าเดิมเข้าไปอีก แต่จะดีกว่านี้ถ้า... “เปิดแอร์ได้ไหมอะ”

“ได้ แต่คงเปิดไม่แรงเหมือนทุกทีนะ ไม่อยากให้มึงหนาวจนไข้ขึ้นยิ่งกว่าเดิม”

“อืม ไงก็ได้”

มันลุกไปกดเปิดแอร์และปรับเบอร์ที่เบากว่าปกติให้ จากนั้นก็เดินหายไปในห้องน้ำอีกครั้ง สงสัยจะไปชุบน้ำผ้ามาใหม่ล่ะมั้ง ผมก็เลยทิ้งตัวลงนอนแผ่หลา หัวยังคงปวดตุบๆ แต่ก็พอทนไหว ตาที่พร่าเบลอก็กลับมามองอะไรๆ ได้เด่นชัดมากขึ้น เป็นสัญญาณว่าผมหายหน้ามืดแล้ว

“มีโจ๊กซองอยู่ เดี๋ยวต้มให้กิน จะได้กินยาแล้วนอนพักผ่อน”

“อือ” ผมตอบรับ หลับตาลงด้วยความอ่อนเพลีย สัมผัสได้ถึงมือหนาที่ทาบลงมาบนหน้าผาก ก่อนตามด้วยผ้าผืนขนหนูที่พับจนสามารถวางซับไข้ได้

“นอนไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูปลุก”

ไม่ได้ตอบรับเพราะสมองเริ่มไม่รับรู้อะไรแล้ว ผมทิ้งทุกความนึกคิดออกไปจากหัว ไม่นานก็หลับไป

 

ตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะแรงเขย่าที่ไหล่ ปรือตามองอย่างอยากลำบาก หัวที่ปวดก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะปวดเข้าไปอีก

“ตื่นมากินโจ๊กหน่อยสระ”

“...อือ” ผมตอบรับ เคลื่อนร่างกายตามแรงพยุงของเพื่อนสนิทเพื่อลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็รับเอาถ้วยโจ๊กมากิน ผมเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองหิวก็ตอนที่ได้กลิ่นมันเนี่ยแหละ ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้กินข้าวเย็น “นี่กี่โมงแล้ว”

“มึงหลับไปสิบห้านาทีได้ ตอนนี้ทุ่มกว่าแล้ว”

“เหรอ”

ไอ้นะยื่นนิ้วมาเกลี่ยที่ปลายหางตาของผม สีหน้ามันดูกังวล “ตามึงโคตรฉ่ำ แดงนิดๆ ด้วย เพราะเป็นไข้แน่ๆ”

“อือ” ผมตอบแค่นั้น ปล่อยให้มันลูบหางตาโดยไม่พูดอะไรอีก ทำแค่กินโจ๊กจนหมดถ้วย พอเห็นว่าผมกินจนหมดไอ้นะก็ยิ้มกว้าง กุลีกุจอเอายามาให้กินตามหลัง

หลังผมกลืนยาเข้าไปจนหมดทุกเม็ดมันก็เอ่ยถาม “อยากได้อะไรอีกไหม?”

“อยากเช็ดตัวอีก รู้สึกว่ามันร้อนๆ ไปทั้งตัวเลยว่ะ”

ได้ยินแบบนั้นอีกฝ่ายก็แตะๆ ตามลำตัวของผมเล็กน้อยแล้วลุกหายไปเอาผ้าอีกผืนมาเช็ดตัวให้ เพราะผืนแรกที่แนบกับหน้าผากของผมตอนนี้หล่นอยู่ข้างหมอนนู่น

“มา เดี๋ยวเช็ดให้”

“เดี๋ยวกูเช็ดเองก็ได้...”

คนตัวสูงกว่าชักมือหนีมือผมที่กำลังจะยื่นไปคว้าผ้ามาเช็ดอีก แถมมันยังมองมาด้วยสายตาดุๆ อีกต่างหาก “ไม่ต้องเลย เดี๋ยวนะทำให้ สระนั่งนิ่งๆ ก็พอ”

อ่า จู่ๆ ก็ใช้คำแทนตัวแบบที่นานๆ ครั้งเราจะใช้กัน เล่นเอาผมไปไม่เป็นเลยไอ้ฉิบหาย ปกติมันก็ทำตัวน่ารักกับผมอยู่ตลอด หมายถึง...นิสัยมันน่ารักอะ คอยดูแลเอาใจใส่ผม แต่พอบวกรวมคำพูดเพราะๆ นุ่มๆ นี่เข้าไปก็ทำให้ผมเถียงไม่ออกเข้าไปใหญ่น่ะสิ

ผมปล่อยให้มันทำตามใจ จนมันเลื่อนผ้ามาเช็ดแผ่นอกผม ผมก็รู้สึกว่าสายตามันแปลกๆ ละ เดี๋ยววว

“มองกูแบบนั้นแดกกูเข้าไปเลยมั้ยล่ะ” ผมถาม คือไงดี...สายตามันดูกรุ้มกริ่มเจ้าเล่ห์อะ เหมือนกำลังคิดอะไรในใจแล้วก็หลุดยิ้มออกมา

พยัญชนะเลิกคิ้ว “ก็อยากแดกอยู่ รอมึงอนุญาต”

“ตลกแล้วครับคุณ”

“หึ แต่จะว่าไปนมมึงน่ารักดีนะ”

ผมก้มมองหัวนมตัวเองเมื่อโดนมันทัก ก่อนจะยิ้มพราย “แน่นอน สีชมพูเหมือนนมของมาริโอ้ เมาเร่อเลยใช่ป่ะล่ะ ตอนกูไปเกณฑ์ทหาร หัวนมกูต้องเป็นที่จารึกในสายตาสาวๆ ในโลกโซเชียลแน่นอน”

“หลงตัวเองเกินไปไหมสระ ฮะๆ”

“เอ๊า ก็คนมันมีดีให้หลงนี่หว่า”

“อือ จริง” ไอ้นะพยักหน้ารับ “กูยังหลงมึงเลย”

“...”

“คนอะไรน่ารักฉิบหาย”

ผมหน้าร้อนเป็นรอบที่สามของวันแล้วครับ!

“หุบปากไปเลยไอ้เหี้ย ขยันหยอดกูจั๊ง”

“เขินใช่ป่ะล่ะ หึ”

ผมถอนหายใจใส่หน้ามัน “เออ ไม่เขินก็ไม่ใช่คนแล้ว”

“มึงเขินกูแปลว่ามึงคิดไม่ซื่อกับกู”

“ทุกอย่างมันก็ชัดเจนตั้งแต่กูยอมให้มึงจูบแล้วป่ะนะ”

ไอ้นะไม่โต้ตอบอะไรกลับมาอีก มันแค่ยิ้ม...ยิ้มกว้างมากๆ แล้วพอเช็ดตัวให้ผมเสร็จ มันก็หยิบเอาเสื้อนอนในตู้เสื้อผ้ามายื่นให้ผม

“ใส่ซะ ถึงแอร์จะเบาแต่มึงก็ไม่ควรนอนถอดเสื้อ”

“ครับพ่อ เข้าใจแล้วคร้าบบ”

“หึ ไอ้ดื้อเอ๊ย”

ผมยิ้มนิดๆ ก่อนจะสวมเสื้อมจนเรียบร้อยก็ทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง พยัญชนะเอาผ้ามาโปะหน้าผากให้ผมเหมือนเดิม จัดผ้าห่มให้ผมจนมิดถึงคอ

“เดี๋ยวกูจะลงไปซื้อเจลลดไข้ให้มึง มึงอยากได้อะไรไหม”

ตอนแรกผมส่ายหน้า แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่ามีอีกอย่างที่จู่ๆ ก็อยากกินขึ้นมา “มีๆ”

“เอาอะไรล่ะ แต่ถ้าเป็นน้ำเย็นๆ นี่ไม่ให้กินนะ งดจนกว่ามึงจะหายป่วยเลย”

“เอานมจืดกล่องหนึ่ง”

“นม?” มันทวนถามเหมือนไม่แน่ใจ เพราะปกติผมไม่ค่อยกินนมเท่าไหร่ แต่วันนี้ผมเกิดอยากขึ้นมานี่นา ต้องโทษมันนั่นล่ะที่พูดเรื่องนม...แม้จะหมายถึงหัวนมของผมต่างหากก็เถอะ

“ก็มึงอยากพูดเรื่องนมทำไม กูเลยอยากกินขึ้นมาเลยเนี่ย”

“อ๋อ ฮ่าๆๆๆ โอเค เดี๋ยวกูซื้อมาให้ เอาอะไรอีกมั้ย?”

คราวนี้ผมส่ายหน้าของจริง “ไม่แล้ว มึงเองก็อย่าลืมซื้อข้าวกินนะเว้ย มัวแต่ดูแลกู ไม่หิวข้าวรึไงวะ”

“นิดหน่อย งั้นกูไปละ มึงก็นอนได้แล้ว”

“อือ” ผมตอบรับพลางปิดเปลือกตาลง แต่แล้วก็ต้องลืมขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อไอ้เพื่อนเวรมันพูดขึ้นาอีกครั้ง

“ที่จริงหัวนมของมึงก็น่ารักจริงๆ นั่นแหละสระ”

“...อะไรของมึงอีกกก”

คนโดนถามยิ้มหยอกล้อใส่ผม แล้วทิ้งดาเมจสุดท้ายไว้ก่อนออกจากห้องไปว่า...

“แต่สำหรับกูมึงน่ารักไปทั้งตัวเลยว่ะ”

“..!”

“อยากฟัดแล้วเนี่ย”

ไอ้สัดนะะะะะ

ผมยกมือปิดหน้าตัวเองที่ร้อนผ่าวเพราะเขินไม่ใช่เพราะไข้เป็นรอบที่สี่...ใช่มั้ย? ใช่แหละ น่าจะเป็นรอบที่สี่ของวันแล้ว ฮื่อ ชักจะเอาใหญ่แล้วนะไอ้เพื่อนเหี้ย คิดไม่ซื่อกับกูไปหมดทุกอย่างเลยไอ้ห่าเอ๊ย!

“อย่าหวังว่าจะได้ฟัดกูง่ายๆ เลยไอ้เห็บหมา ว้อย!”


________________________
อยากกินนมจังงง : P

เอ๊ะ? หมายถึงนมอันไหนนะ? 55555 เจอกันตอนหน้าค่ะ ถ้าเราอัปถี่อย่าว่ากันนะ พอดีช่วงนี้กลับมาขยันและมีไฟแล้ว จะแต่งรัวๆ เก็บไว้ก่อนไฟมอด แฮ่




ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มีนายพยาบาลแบบนี้ ป่วยไปทั้งเดือนเลยแล้วกัน  :hao3:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3

Fifteen

(บ.) : บั้นท้าย (บีบ)

 

[พยัญชนะ]


กลางดึกสระไข้ขึ้นอีกรอบ ผมที่เป็นห่วงมันจนนอนหลับๆ ตื่นๆ พอเห็นอีกฝ่ายกระสับกระส่ายก็เลยเช็ดตัวให้มันเป็นรอบที่สาม ไม่ลืมแปะเจลลดไข้ที่ลงไปซื้อเมื่อหัวค่ำให้ใหม่ด้วย

“สระ สระครับ” ผมลองเรียกคนไม่สบาย อีกฝ่ายหอบหายใจเล็กน้อย ดวงตาฉ่ำปรือขึ้นมองกัน ผมเลยลองถามเพื่อเช็กว่าเขารับรู้สิ่งที่ผมพูดหรือเปล่า “ปวดหัวมั้ย?”

“อือ”

“งั้นกินยาแก้ปวดอีกรอบนะ ผ่านมาจะเจ็ดชั่วโมงแล้ว น่าจะกินได้แล้วล่ะ”

ผมพยุงคนป่วยขึ้นเล็กน้อยเพื่อป้อนยา สระกินมันแต่โดยดี เป็นโชคดีจริงๆ ที่อีกฝ่ายไม่ใช่คนดื้อในเรื่องนี้ แต่ถึงจะกินเข้าไปแล้วเจ้าตัวก็ยังสำลักน้ำจนไอออกมา น้ำบางส่วนเปียกริมฝีปากกับปลายคางจนผมต้องรีบวางแก้วน้ำแล้วเช็ดให้ด้วยปลายนิ้วตัวเอง

“โอเคขึ้นมั้ย แสบจมูกหรือเปล่าครับ?”

สระส่ายหน้าแทนคำตอบ หน้าซีดๆ ของเขาทำให้ผมยิ่งกังวล ถ้าพรุ่งนี้เขายังไม่ดีขึ้นผมคงต้องพาไปหาหมอแล้วล่ะ ต่อให้ไม่อยากไปผมก็จะบังคับอุ้มพาเขาไปให้ได้เลย

“นอนต่อนะ จะได้หายไวๆ” เขายอมขยับตัวลงนอนเหมือนเดิม แต่มือบางกลับกำชายเสื้อผมเอาไว้ไม่ปล่อย “จะเอาอะไรเหรอ?”

“...นอนด้วยกัน”

ได้ยินน้ำเสียงแหบพร่าบอกมาแบบนั้นผมก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ สอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วโอบคนป่วยเอาไว้หลวมๆ ขนาดเปิดแอร์แบบนี้สระก็ยังเหงื่อออกจนเปียกไปหมดทั้งตัว ตอนแรกตั้งใจว่าจะปิดแอร์ แต่เห็นทีคงปิดไม่ได้แล้ว ไม่งั้นเขาได้นอนไม่หลับเพราะอากาศร้อนแน่ๆ

ไอ้ดื้อซุกหน้ากับซอกคอของผม ลมหายใจร้อนๆ เพราะฤทธิ์ไข้เป่ารดไหปลาร้าผมแต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร สระยังกำชายเสื้อผมเอาไว้ไม่ปล่อย ผมก็เลยต้องแกะมือเขาออกมากุมเอาไว้แทน แล้วกล่อมเขาให้หลับ...พอป่วยแบบนี้แล้วดูสงบเสงี่ยมมากเลยแฮะ ติดจะอ้อนกว่าปกติด้วย

“นอนนะคนเก่ง เดี๋ยวก็หายแล้ว”

จุ๊บหน้าผากไปอีกหนึ่งทีแล้วลูบแผ่นหลังกล่อมไปด้วยจนกระทั่งสระหลับ ผมจึงเบาใจหลับลงบ้าง อ่า คืนนี้ยาวนานเหลือเกิน ผมหวังว่าพรุ่งนี้ไอ้ดื้อจะหายไวๆ นะ

 

อาการหวัดของสระยังไม่หายสนิท แต่ก็ดีขึ้นมาก เขาไม่มีไข้แล้ว ถึงอย่างนั้นก็ยังมีปวดหัวบ้างนิดหน่อย แล้วก็น้ำมูกไหล เจ็บคอ กับไอบ้างเป็นบางที หน้าตาไอ้ดื้อตอนนี้ซีดเซียวสุดๆ หมดสภาพหนุ่มน้อยน่ารักของเพจแฮนด์ซั่มบอยไปเลยล่ะ แต่เจ้าตัวก็ดูเหมือนจะไม่แยแสภาพลักษณ์ตัวเองเท่าไหร่ เพราะมันยังคงฝืนไปเรียนโดยใส่แมสก์ปิดปากไป

“ให้นอนพักก็ไม่เชื่อ ฝืนมาเรียนทำไมก็ไม่รู้ เดี๋ยวกูลาอาจารย์ให้ทำไมไม่ฟังกันบ้าง”

“อย่าบ่นน่า กูไม่อยากขาดเรียนนี่หว่า จะสอบมิดเทอมแล้วนะเว้ย”

“กูเลกเชอร์ให้ก็ได้ไง”

“เลกเชอร์มึงน่ะกูเอาแน่ แต่กูก็อยากมาฟังอาจารย์สอนด้วย” มันเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ ก่อนจบลงที่การเอียงหัวมาโขกไหล่ผมสองสามทีแล้วทำตาวิ้งๆ ใส่อย่างออดอ้อน “น่า กูไม่ได้เป็นหนักเหมือนเมื่อวานแล้วไง”

“แล้วถ้าเกิดมึงไข้ขึ้นขึ้นมาอีกรอบทำไงอะ?”

“ก็ให้มึงพากลับห้อง”

ได้ยินคำตอบแบบนั้นผมก็ถึงกับต้องถอนหายใจ ดื้อจริงๆ เลย

เรามาถึงห้องเรียน อย่างน้อยวันนี่ก็มีเรียนแค่ตอนบ่าย เมื่อเช้าไอ้ดื้อตื่นขึ้นมาตอนเกือบๆ แปดโมง ผมก็เลยดูอาการแล้วให้กินข้าวกินยา จากนั้นมันก็นอนไปอีกพักใหญ่ ตื่นอีกทีเกือบเที่ยง พอเห็นว่ามีเวลามันเลยลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวมาเรียน และเชื่อเถอะผมพยายามห้ามมันตั้งแต่อยู่ที่ห้องแล้วแต่มันก็ไม่ยอมนั่นแหละ ไม่งั้นมันคงมามายืนเถียงกับผมอยู่แบบนี้

“ไงไอ้หมา หายดีแล้วเหรอวะถึงมาเรียน” ไอ้พีร้องทัก มันหยิบเอากระเป๋าออกจากที่โต๊ะเรียนตัวหนึ่งเพื่อให้สระได้วางของตัวเองลงไปแทน

“เมื่อวานมึงดูแย่มาก กูนึกว่าจะมาเรียนวันนี้ไม่ไหวแล้วซะอีก” ไอ้เจ็มเอ่ยขึ้นเป็นคนถัดมา ก่อนจะยื่นแก้วน้ำอัดลมให้สระ แต่ผมมือไวคว้ามาได้ก่อน

“บ้าเปล่าสัดเจ็ม มันเจ็บคอแดกน้ำเย็นได้ที่ไหน”

“เออว่ะ ลืม โทษทีเว้ย”

“อ่ะนี่น้ำเปล่า ไม่เย็น กูซื้อมาเผื่อไว้” ไอ้ยูยื่นขวดน้ำให้แทน สระก็เลยรับมาเปิดดื่ม ปากมันก็ยิ้มขำผมที่จ้องไอ้เจ็มตาดุไม่เลิก จนคนโดนจ้องต้องยกมือไหว้

“ขอโทษจริงๆ ครับพ่อทูนหัวของไอ้หระ ผมไม่ได้ตั้งใจครับผมมม”

“ลองมึงตั้งใจดิ กูจะกระทืบมึงตรงนี้” ผมแกล้งบอกเสียงนิ่ง เอาเข้าจริงก็รู้ว่ามันลืมตัวนั่นล่ะ แต่ขอขู่ไว้ก่อน ครั้งหน้าเกิดสระไม่สบายอีกแล้วผมไม่ได้อยู่ดูแล พวกมันจะได้ไม่เอาน้ำเย็นๆ หรืออะไรที่คนเป็นหวัดไม่ควรกินมาให้กินอีก

“โหย จะฆ่ากันเลยเหรอวะ ไอ้หระ ผัวมึงจะฆ่ากูแล้วเนี่ย!”

“ไม่เป็นไรนะ เพราะถ้ากูเผลอรับมากินกูก็คงโดนเหมือนกัน”

“หราา กูว่าไม่ใช่มั้งงง ไอ้นะน่ะเหรอจะกล้าทำร้ายมึง ดูแลมึงดีออกขนาดนี้ แค่มดกัดมึงกูว่ามันคงวิ่งถือไฟแช็กไปจุดไฟเผารังมดอะ ประคมประหงมมึงฉิบหาย อย่างกับพ่อหวงลูก” ไอ้พีแซว

“อย่างกับผัวหวงเมียมากกว่า” ไอ้ยูเสริม

“พวกมึงก็เว่อร์ไอ้สัด” สระด่าอย่างไม่จริงจังนัก ส่วนผมก็ลอบอมยิ้มคนเดียว เพราะ...

“มันไม่เถียงด้วยว่ะ สงสัยยอมรับแล้วว่าเป็นผัวเมียกัน” ไอ้เจ็มพูดขึ้นเบาๆ แต่เบาแบบที่เรียกว่าได้ยินกันทั้งกลุ่ม และนั่นทำให้ผมหลุดยิ้มกว้างก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาจนได้

สระกลอกตาใส่ มันถอนหายใจแล้วเอ่ยออกมาแค่สองประโยค แต่กลับเป็นสองประโยคที่ทำให้ผมใจเต้นแรงไปทั้งบ่าย

“เออ อีกหน่อยเดี๋ยวกูกับมันก็ได้กัน พวกมึงอยากเรียกอะไรก็เชิญ”

ทุกคนอึ้ง...แต่เชื่อเถอะไม่มีใครอึ้งเท่าไอ้พยัญชนะคนนี้อีกแล้วครับ

สระแม่ง

“ปากจะฉีกถึงรูตูดแล้วครับเพื่อน” ไอ้พีหันมาแซวผมแทน เลยทำให้ผมได้รู้ตัวว่ากำลังยิ้มกว้างมากแค่ไหน หัวใจผมก็เต้นรัวแรงมากด้วย ส่วนคนที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้น่ะเหรอ?

เหมือนเพิ่งจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกมา เพราะแก้มมันแดงเรื่อขึ้นเฉยเลย หลบตาผมไม่กล้าหันมามองแม้แต่หางตาอะครับ หึๆ

พวกเพื่อนสามตัวยังคงหยอกล้อเราทั้งคู่อยู่อีกหลายนาที แล้วสุดท้ายเมื่อเห็นว่าทั้งผมทั้งสระไม่มีใครพูดอะไรสักคำ ไอ้ยูก็เลยเปลี่ยนเรื่องไปถามคนป่วย

“แล้วนี่ตกลงหายดีแล้วเหรอวะมึงอะ?”

สระไหวไหล่ “ยังหรอก แต่ก็ดีขึ้นแล้ว”

“พวกมึง” เสียงของเพื่อนผู้หญิงที่นั่งอยู่ไม่ไกลตะโกนมาทางกลุ่มเรา เป็นไอ้เกรซขาใหญ่ประจำสาขาเราเองนี่แหละ ไม่ใช่ใครอื่น

“ไรวะ?”

“พี่ปีสามกับปีสี่ชวนไปแดกเหล้า ไปป่ะ?”

“ที่ไหน?” ไอ้พีตะโกนถามกลับไป แต่ดูจากสีหน้ามันแล้ว ต่อให้ไปยันเชียงใหม่มันก็คงไป ไม่ได้ดื่มมาสักพักใหญ่แล้วนี่นะ หน้ามันนี่ออกหมดแล้วว่าอยากไปโคตรๆ

“ถัดไปสี่ซอย”

“ใครเลี้ยง”

“พวกพี่ๆ เขาเหมาร้านแล้วรวมตังค์กันเลี้ยงอะ เอาไง ไปไม่ไป?”

“ต้องไปดิวะ!!!” ไอ้สามหน่อพูดขึ้นมาพร้อมกัน ท่าทางระริกระรี้อยากไปมากถึงมากที่สุด มันหันมาจ้องผมกับสระเขม็ง แล้วไอ้ยูก็โพล่งขึ้นว่า “มึงสองคนก็ต้องไปด้วย”

ผมส่ายหน้าทันที “ไม่”

“เอ๊า ทำไมวะ?” ไอ้เกรซที่ได้ยินคำตอบผมถึงกับลุกเดินมาหา “นานๆ ทีจะโชคดีแบบนี้นะเว้ย”

“สระไม่สบาย และมันยังไม่หายดี กูไม่ยอมให้มันไปนั่งแดกเหล้าแน่ๆ”

“อ๋อออ แฟนไม่สบายนี่เองงง” เสียงของคนทั้งห้องดังขึ้นพร้อมกัน เล่นเอาผมกับสระเหวอ เดี๋ยวนะ นี่พวกมึงตั้งใจฟังกูพูดกันขนาดนี้เลยเรอะ?

สระถึงกับหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม “แฟนพ่อง!”

“แต่จะว่าไปหน้ามึงก็ยังซีดๆ อยู่นี่นะ” ไอ้เกรซบอก มือมันก็ยื่นไปพลิกหน้าสระซ้ายทีขวาที มองทั้งๆ ที่แมสก์ยังปิดหน้าสระไปครึ่งหนึ่งนั่นแหละ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมองออกว่าสีหน้าคนป่วยซีดเซียวขนาดไหน

“กูไปได้” สระบอก

ผมหันขวับไปมองหน้าเขาเขม็งทันที “สระ”

“พ่อมึงคงให้ไปหรอกไอ้หระ ดูหน้าด้วย โกรธแล้วมั้งน่ะ” ไอ้เกรซว่า

สระยิ้มหน้าเป็นให้ผม มันเอื้อมมาเขย่าแขนเสื้อผมแล้วเริ่มใช้กลยุทธออดอ้อนในแบบที่ผมต้องยอมแพ้ “น่า กูแค่ไปด้วยเฉยๆ กินแค่น้ำอัดลมก็ได้เอ้า นานๆ ทีสาขาเราจะได้ไปสังสรรค์กันทุกชั้นปีนะเว้ย แถมยังฟรีอีก ต่อให้เป็นแค่น้ำเปล่ากับกับแกล้มกูก็อยากไปกินอะ”

“มึงนี่น้า” ผมถอนใจ ก่อนจะยอมพยักหน้าอนุญาต “ก็ได้ แต่ให้กินแค่น้ำเปล่าหรือน้ำอัดลมที่ไม่เย็น แล้วก็ต้องกินข้าวกินยาด้วย”

“แน่นอนครับผม! สัญญาเลย”

“พ่อทูนหัวอนุญาตแล้วเว้ย! เฮสิครับพวกเรา!” ไอ้ยูตะโกนบอกคนทั้งห้อง แล้วพวกแม่งก็บ้าจี้เฮออกมาพร้อมกัน ทำเอาสระหัวเราะร่า ส่วนผมก็ได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอาพวกมัน

“งั้นเย็นนี้เจอกันหกโมงครึ่งที่ซอยสี่นะ มีอยู่ร้านเดียวพวกมึงคงรู้ว่าร้านไหน ถ้าหลงก็แดกหญ้าเถอะ” เกรซบอกพลางเดินกลับไปที่โต๊ะของมัน เล่นเอาเพื่อนหลายคนโห่ร้องขึ้นมาอย่างขบขัน แล้วทุกอย่างก็เงียบลงเมื่ออาจารย์เข้าคลาส

 

หลังเลิกเรียนผมพาสระกลับหอเพื่อกินข้าวกินยา แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนออกไปร้านเหล้า พอหกโมงเราก็ออกจากหอและตัดสินใจว่าจะเดินไป หอเราอยู่ซอยหนึ่ง ดังนั้นซอยสี่จึงอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ อากาศร้อนนิดหน่อย แต่เพราะไม่มีแดดแล้วเลยยังพอทน ไปถึงร้านเหงื่อออกก็เป่าพัดลมเอา ร้านเหล้าร้านนั้นพัดลมตัวใหญ่ เย็นดี

เดินกันมาเรื่อยๆ ในที่สุดก็ถึงร้านเอาตอนเกือบๆ หกโมงครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นคนที่มาก็แทบจะเต็มร้านแล้ว ผมเห็นรุ่นพี่คุ้นหน้าคุ้นตาหลายคน เราเลยเดินเข้าไปทักทายยกมือไหว้ ได้รับคำทักทายตอบกลับมา จนกระทั่งมองเห็นกลุ่มเพื่อนของตัวเอง พวกมันนั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง

“เลือกที่นั่งได้ดีว่ะ” สระบอก มันนั่งลงริมหน้าต่าง แน่นอนผมนั่งข้างมันแต่เป็นริมทางเดิน

ไอ้เจ็มยักคิ้วหลิ่วตา “แน่นอนดิคร้าบบ”

“พวกรุ่นพี่มากันหมดยัง?”

“หมดแล้วมั้ง ไม่รู้ดิ สาขารุ่นพี่ไม่ใช่น้อยๆ บางคนก็ยังจำไม่ได้เลย” ไอ้พีตอบ

ผมพยักหน้าเห็นด้วย สักพักรุ่นน้องปีหนึ่งก็ทยอยกันมา โห สงสัยนัดมาพร้อมกันสินะ ไม่เหมือนปีอื่นๆ ที่มากันเป็นกลุ่มใครกลุ่มมัน...ผมรินน้ำอัดลมใส่แก้วให้สระ และด้วยความเห็นใจบวกกับถามมันมาก่อนหน้านี้ว่ายังเจ็บคอไหม พออีกฝ่ายบอกว่าไม่แล้ว ผมก็เลยใจดีหย่อนน้ำแข็งใส่ลงไปให้หนึ่งก้อน

สระหันมายิ้มกว้างให้ผมทันที แล้วยิ้มมันก็น่ารักซะจนทำเอาผมใจสั่น เวรเอ๊ย ชอบทำตัวน่ารัก นับวันยิ่งน่ารักมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ไหนจะปากที่ยิ้มไม่หุบนั่นอีก ทำเอาผมอยากจะโผเข้าไปจูบหนักๆ สักที

มีคนทยอยมาเรื่อยๆ แล้วนั่น...โห พวกน้องปีหนึ่งมันมาพร้อมกันหมดเลยแฮะ คงนัดกันก่อนมาล่ะมั้ง เพราะบางคนก็รู้จักร้าน แต่บางคนคงไม่ เด็กใหม่ก็ต้องเกาะกลุ่มกันมาแบบนี้แหละ

กว่าปาร์ตี้จะเริ่มจริงๆ ก็สองทุ่ม ตัวแทนรุ่นพี่ปีสามกับปีสี่ที่เป็นเจ้ามือในวันนี้ขอยืมไมค์ของทางร้านมาพูดคุยกับทุกคน ก็นะ นานๆ ทีจะเกิดงานเลี้ยงสังสรรค์แบบนี้ขึ้นในเอกวิชาของเรา มีไม่บ่อยจริงๆ นะครับ เพราะตอนพวกผมอยู่ปีหนึ่งไม่เคยมีหรอก นี่เป็นครั้งแรก ฮ่าๆ

พี่รหัสของผมเป็นผู้หญิง เธอเดินมาทักทายเมื่องานเริ่มอย่างเป็นทางการได้สักพักหนึ่งแล้ว

“ไงไอ้น้อง ไม่ค่อยได้คุยกันเลยเนอะ”

“ก็พี่แนนไม่ว่างนี่ครับ ผมเห็นนะว่างานยุ่งตลอดเลย”

“งี้แหละ คนต้องหาเงินส่งตัวเองเรียนนี่นา ฮะๆ” ผมยิ้มให้พี่เขาเล็กน้อย พี่รหัสของผมสวยนะ แต่ออกจะห้าวๆ ถึงงั้นเห็นแบบนี้น่ะขยันมาก เรียนก็เก่งแล้วยังทำงานพาร์ทไทม์ตลอด ไม่ค่อยจะว่างหรอก ผมเห็นแบบนั้นก็เลยไม่เคยไปรบกวนอะไรเขา “ไหนๆ แล้วลุกมากับพี่หน่อยดิ แฟนพี่อยากเจอ คราวก่อนที่ช่วยแนะนำร้านซ่อมรองเท้าดีๆ ให้ แฟนพี่มันชมใหญ่ว่าแกแนะนำดี”

“อ้าว พี่พาแฟนมาด้วยเหรอ” ผมถาม ก่อนจะรีบเอื้อมมือไปจับข้อมือสระเอาไว้ ไม่ให้เจ้าตัวแอบคีบน้ำแข็งหย่อนใส่แก้วน้ำอัดลมเพิ่ม “หยุดเลยสระ แค่ก้อนเดียวเท่านั้น”

“แต่มันไม่เย็นพออะ”

“ยังไงก็ไม่ได้ อยากเป็นไข้อีกหรือไง”

“ไม่เป็นแล้วน่า นะๆ ขออีกก้อนน้า~” เขาทำเสียงอ้อน ยู่จมูกใส่ผมอีกต่างหาก สายตางี้วอนขอเหมือนลูกหมากำลังอ้อนเจ้าของ ให้ตายเถอะว้อย

“ก็ได้ แต่ห้ามมากกว่านั้นแล้วนะ”

“รับทราบครับผม!” มันตอบรับ ผมก็เลยปล่อยมือออกก่อนจะหันมาสนใจพี่แนนอีกครั้ง

“ขอโทษนะพี่ เมื่อกี้พี่ว่าอะไรนะครับ?”

พี่แนนไม่ตอบในทันที เธอมองผมสลับกับสระก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ “ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว?”

“ยังครับ” ผมตอบ ยิ้มน้อยๆ เหลือบมองสระ ก็เห็นอีกฝ่ายเสหลบตาไปมองอย่างอื่น หึ

“เหมือนแฟนกันเลยนะเนี่ย เออ พี่จะบอกว่าไปทักทายแฟนพี่หน่อย พอดีต้องไปธุระกันต่อพี่เลยพาเขามาด้วยน่ะ พี่มาแป๊บเดียว อยู่ไม่นานหรอกเดี๋ยวก็กลับแล้ว”

“โอเคครับ” ผมตอบรับ ก่อนจะหันไปบอกสระ “เดี๋ยวนะมา อย่าแอบใส่น้ำแข็งเพิ่งล่ะ”

“รู้แล้วล่ะน่า รีบไปได้แล้วไป”

“ครับ รอก่อนนะ อย่างอแง” พูดจบผมก็ลุกออกจากโต๊ะมาเลย ถึงงั้นหูก็ยังได้ยินเสียงโห่แซวของเพื่อนคนอื่นๆ และเสียงสระบ่นอุบ

“งอแงเหี้ยไรล่ะไอ้ห่า”

ผมได้แต่ส่ายหน้าขำกับตัวเอง พอตามพี่แนนมาถึงโต๊ะที่อยู่ห่างออกมาจากโต๊ะของผมไม่ไกล ผมก็ยกมือไหว้พวกรุ่นพี่มที่นั่งกันอยู่เต็ม เอ่ยทักทายคนที่พอจะรู้จักหน้ากันเพราะเจอบ่อย แล้วจึงไหว้แฟนพี่แนนอีกครั้ง

“เออ พี่ขอบใจเรื่องร้านซ่อมรองเท้ามากนะเว้ยน้อง ช่างโคตรดี ทำงานเนี้ยบมาก”

“ไม่เป็นไรครับพี่ เรื่องเล็กน้อยเอง”

“ชนแก้วหน่อยๆ”

ผมที่ถือแก้วเบียร์มาด้วยเลยต้องยื่นออกไปชนอย่างช่วยไม่ได้ ดื่มพอให้ดูเป็นคนมีมารยาท แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเซมาชนผม เล่นเอาผมเกือบทำแก้วเบียร์หก ดีที่ประคองไว้ได้ทัน

“โอ๊ะ ขอโทษด้วยน้อง”

ผมหันไปมองคนพูด อ่า เหมือนจะเป็นรุ่นพี่ปีสี่สักคนหนึ่งที่ผมไม่รู้ชื่อ แต่เคยเห็นหน้าเธอบ้างบางครั้ง

“ไม่เป็นไรครับ” ผมบอก

พี่ผู้หญิงที่ดูท่าว่าจะเริ่มเมานิดๆ หรี่ตามองผม ก่อนเจ้าตัวจะยิ้มร่า “อ๋อ น้องที่เป็นเด็กปีสองที่ดังๆ คนนั้นนี่เอง”

“เอ่อ ครับ”

“หูย ตัวจริงหล่อนะเนี่ย หล่อกว่าในรูปที่พี่เห็นจากเพจแฮนด์ซั่มบอยอีกอะ”

“ขอบคุณครับ” ผมตอบไปตามมารยาท ก่อนจะต้องนิ่งค้างเมื่อจู่ๆ พี่เขาก็ขยับเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอม ไหนจะมือเรียวบางที่เลื่อนมาโอบเอวของผมอย่างไม่บอกกล่าว

และผมจะไม่อะไรเลยถ้าไม่ใช่เพราะเธอเลื่อนลงไปลูบบั้นท้ายของผมอย่างรวดเร็ว ก่อนตามด้วยบีบก้นผมเต็มแรง ทำเอาคนทั้งโต๊ะมองตาค้าง และผม...ตกใจจนได้ตาเบิกตาโต

เชี่ย กูโดนผู้หญิงจับก้น!


______________
พระเอกโดนจับก้นแบบไม่ให้ทันได้ตั้งตัว สงสารเขานะคะ โดนลวนลาม ถ้าเปลี่ยนคนจับเป็นสระ พยัญชนะคงไม่ช็อกขนาดนี้ 55555


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ทำเป็นโวยวาย เด๋วรอบหน้าจะเปลี่ยนจากบั้นท้ายเป็นกลางเป้ากุงเกง จะได้เลิกโวยวายเสียที จบนะ น้องนะ  :hao3:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
สระเห็นมั้ยนะ

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3

Sixteen

(ป.) : ปาก (ป้อน)

 

[สระ]


“ไข่กูร่วง!”

ไอ้เจ็มร้องขึ้นมาเมื่อผมทำแก้วน้ำอัดลมหลุดมือหล่นโครมลงบนโต๊ะ จนน้ำแข็งที่เพิ่งคีบใส่ลงไปกระเด็นเกลื่อน โชคดีที่ไม่มีน้ำสักหยด และเป็นแก้วพลาสติกเลยไม่แตก แต่เหมือนว่าจะมีน้ำแข็งก้อนหนึ่งปลิวไปกระแทกหน้าไอ้เจ็มมันด้วย

ผมก็อยากจะขอโทษอยู่หรอกนะ แต่ตอนนี้สายตาของผมมองไม่เห็นอะไรแล้วนอกจากพยัญชนะที่ยืนนิ่งอยู่ตรงโต๊ะเหล้าของพวกรุ่นพี่ และที่ก้นข้างหนึ่งของมันมีมือของผู้หญิงคนหนึ่งบีบขยำอยู่

เชี่ย...

ผมเบิ่งตามองภาพตรงหน้า ผ่านไปเป็นนาทีแล้วไอ้นะก็ยังปล่อยให้พี่เขาลูบก้นไม่เลิก ไอ้ควายยย ทำไมไม่ขยับหนีวะ! ยืนให้เขาลวนลามอยู่ได้ หรือที่จริงแล้วมึงชอบ ไอ้เวรเอ๊ยยย

ผมเผลอกำหมัดทุบโต๊ะอย่างหัวเสีย ไม่รู้ทำไมแต่ผมรู้สึกโกรธมาก อาจเป็นเพราะผมไม่ชอบใจ หรือจะเรียกว่า ‘หวง’ ก็ได้เอ้า! มาถึงขนาดนี้แล้วไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องปิดบังความรู้สึกหรือหลอกตัวเอง ทุกอย่างมันชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ และมากกว่าครั้งไหนก็หลังจากที่เราจูบกัน

ผมไม่รู้หรอกว่าอะไรทำให้ผมคิดกับไอ้นะเหมือนอย่างที่มันคิดต่อผม อาจจะเป็นความเอาใจใส่ ความจริงใจ ความอ่อนโยน หรือตัวตนของมัน...ทุกอย่างเหล่านั้นที่ผมได้สัมผัส มันทำให้ผมเสพติด และถ้าถามว่าผมขาดมันได้ไหม?

ผมบอกได้ทันทีเลยว่า...ไม่!

“อะ สระ มึง...ใจเย็นๆ เว้ย” ไอ้พีรีบร้องห้ามเมื่อเห็นว่าผมจะทุบโต๊ะอีกรอบแล้ว

ไอ้ยูเองก็รีบเข้ามารั้งข้อมือผมไว้ “ไม่มีไรหรอกน่า คงแหย่กันเล่นอะแหละ”

“แหย่พ่องดิไอ้สัด!” ผมแหวใส่เสียงห้วน เล่นเอาพวกมันหน้าแห้งกันไปเป็นแถบๆ

“ดูดีๆ ดิ มันขยับตัวหนีไม่ได้เพราะเขากอดมันอยู่ไงมึง เขากอดมันไม่ให้ถอยหนีอะ” ไอ้เจ็มที่น่าจะเก็บไข่ของมันแล้วเรียบร้อยช่วยกล่อมผมอีกแรง “แล้วคนนั้นเขาก็เป็นผู้หญิงด้วย ทำรุนแรงคงไม่ดีป่ะ จะให้มันผลักออกก็ยังไงอยู่”

“เออ เป็นมึงจะกล้าผลักมั้ยไอ้หระ คิดสิคิ...”

“ผลัก!” ผมโพล่งขึ้น หันไปมองพวกมันตาขวาง “จะแถมถีบให้ด้วย แม่ง!”

เพื่อนทั้งสามคนพากันกลืนน้ำลายเอื๊อกเมื่อเห็นผมโหมดไฟลุกท่วมหัวในจินตนาการ ไอ้พีถึงกับขยับเข้าไปเบียดตัวนั่งชิดกับไอ้ยู ทั้งที่ผมน่ะนั่งฝั่งตรงข้ามและเอื้อมไปไม่ถึงตัวพวกมันด้วยซ้ำ แต่พวกมันกลับทำท่าทางเหมือนจะโดนผมแดกหัวงั้นแหละ

เฮอะ คนที่กูจะแดกหัวคือไอ้นะต่างหาก ดูมันนะ จนตอนนี้มันก็ยังสลัดผู้หญิงคนนั้นออกไปไม่ได้สักที แล้วยัยนั่นมันเป็นใครวะ ทำไมกล้ามาลวนลามผู้ชายถึงกลางร้านเหล้า หน้าไม่อายยย

ไอ้เจ็มที่นั่งหัวโต๊ะถึงกับเอียงตัวหนีหน่อยๆ ก่อนจะพูดขึ้นเสียงอ่อยตามมาอีกว่า “หึงจนขนาดนี้ ยังบอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกันอีกเหรอวะ”

“ก็ยังไม่ได้เป็นไง!” ผมโพล่งขึ้นอีก และคราวนี้พวกมันสะดุ้ง ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงหลุดหัวเราะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ครับ ตอนที่ผมกำลังโกรธ “แต่เป็นมากกว่าเพื่อนอะ พวกมึงเข้าใจมั้ย!? กูมีสิทธิ์หวงมันนะเว้ย!”

“โห ปกติเก็บอาการฉิบหาย แต่พอมีคนเข้ามายุ่งกับไอ้นะหน่อยละหัวร้อนขึ้นมาทันที” ไอ้ยูพูดขึ้น

ไอ้พี่พยักหน้าเห็นด้วย “ถ้าไม่มีคนเข้ามายุ่งกับไอ้นะ มึงคงไม่ออกอาการไปจนตายเลยมั้งเนี่ย”

“ไม่ถึงขนาดนั้นไอ้พวกเหี้ย!” และผมเถียง

ด้วยความโมโห ผมยื่นมือไปคว้าแก้วเหล้าของใครสักคนบนโต๊ะที่แหละ มากระดกดื่มรวดเดียวหมดแบบไม่ให้ใครได้ทันตั้งตัว กว่าพวกแม่งจะร้องห้ามผมก็วางแก้วกระแทกลงกับโต๊ะแล้ว

“ไอ้หระะะ ไอ้เช็ดโด้! มึงไม่สบาย แดกเหล้าไม่ได้ไม่ใช่หรือไงวะ!” ไอ้เจ็มถึงกับเหวอ

“ช่างแม่ง กูจะแดก”

แล้วผมก็แย่งแก้วเหล้าจากมือมันมาดื่มอีกแก้ว ดื่มเอาๆ จนพวกมันร้องห้ามไม่หยุด มีเข้ามายื้อมือผมไว้ด้วย แต่พอผมทำท่าจะสาดใส่หน้าพวกแม่งก็หนีกันไปหมด สุดท้ายก็คงขี้เกียจจะห้ามแหละ เลยมองผมแบบปลงๆ แล้วชงเหล้าให้ผมดื่มแทน

เออ เพื่อนที่ดีต้องทำแบบนี้

ดื่มไปไม่รู้กี่แก้ว รู้ตัวอีกทีก็เหมือนหัวมันจะหมุนๆ อะไรวะ ผมว่าผมก็คอแข็งในระดับหนึ่งนะ แค่เหล้าไม่กี่แก้วไม่น่าจะทำให้เมาได้ไวขนาดนี้ดิ

ระหว่างนั่งนิ่งจ้องมองถังน้ำแข็งเพื่อตั้งสติ คนที่หายไปเกือบครึ่งชั่วโมงก็เดินกลับมาทรุดนั่งลงข้างกันเหมือนเดิม ตอนแรกมันก็ยังไม่พูดอะไรหรอก แต่พอเห็นสภาพเอียงไปเอนมาของผม มันก็คว้าไหล่ผมหมับแล้วมุ่นคิ้วอย่างไม่พอใจ

“สระ แอบกินเหล้าเหรอวะ!”

“อะไร!” ผมขึ้รนเสียงใส่มัน พยายามจะปัดมือมันออกแต่เจ้าตัวก็ไม่ยอม มีแต่จะจับไหล่ผมแน่นขึ้น

พยัญชนะหันไปถามพวกที่เหลือ “ทำไมปล่อยมันกินเหล้าวะ กูบอกแล้วไงมันยังไม่หายดี”

“ก็มันดื้ออะไอ้เหี้ย โมโหก็แย่งเหล้าพวกกูไปแดกซะงั้น ห้ามยังไงก็ห้ามไม่อยู่ แก้วแรกๆ ก็ยังผสมโซดาอยู่หรอก แต่หลังๆ แม่งล่อเพียวๆ คนเดียวเลยเกือบขวด” ผมได้ยินเสียงไอ้พีบอก

“โมโห? มันโมโหอะไร?”

โมโหมึงไงที่ปล่อยให้ผู้หญิงจับก้น ไอ้สัด!

“โมโหมึงอะแหละ”

“กู?” ไอ้นะทำหน้างง “กูทำไม กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย”

“เออ มึงไม่ได้ทำ แต่...เอาเป็นว่ามึงสองคนเคลียร์กันเองเถอะว่ะ” ไอ้ยูตัดบทพลางถอนหายใจ “พามันกลับไปก่อนที่มันจะกินจนหมดร้านด้วย”

เว่อร์ไปแล้วไอ้ฉิบหาย แดกเหล้าหมดร้านกูก็ไม่ใช่คนแล้ว

ดูเหมือนพยัญชนะจะเห็นด้วย เพราะมันคว้าเอาโทรศัพท์ทั้งของผมและของมันยัดใส่กระเป๋ากางเกงตัวเอง จากนั้นมันก็พยุงผมขึ้น

“กลับห้องกันเถอะสระ มึงเมามากแล้ว”

ผมไม่พูดอะไรสักคำ ไม่หือ ไม่อือ ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ ไม่อยากคุยด้วย!

ก็ผมโกรธอะ โกรธมาก ฮึ่ย!

ผมเดินตามแรงพยุงของคนตัวโตกว่า ถึงจะดูเหมือนเมาแต่ผมก็ยังมองเห็นทางชัดเจน ไม่ได้มองเห็นอะไรๆ เป็นสองร่างสามร่าง มีสติรับรู้ทุกอย่าง และยังไม่เดินเซจนหมดสภาพด้วย

“เดินกลับคงไม่ไหว เดี๋ยวนะเรียกแท็กซี่แล้วกัน”

ผมแค่พยักหน้า ไม่ปริปากพูดอะไรสักคำอีกเหมือนเดิม ไอ้นะมีสีหน้าสงสัย ก่อนเปลี่ยนเป็นกังวลแต่มันก็ไม่ได้ถามอะไร ซึ่งดีแล้ว ผมไม่พร้อมจะฟังอะไรที่ไม่เข้าหู

รู้นะว่าผมแม่งโคตรปากแข็ง กับอีแค่ความรู้สึกตัวเองผมยังไม่กล้าจะพูดมันออกไป แต่ให้ทำไงได้วะ ผมยังไม่พร้อมนี่หว่า คนนอกอาจจะบอกว่าก็แค่พูดมันออกไป ไม่เห็นยากตรงไหน...ความเป็นจริงมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นไง ไม่ได้เป็นเจ้าของความรู้สึก ไม่ใช่คนที่ต้องเผชิญหน้ากับมัน คนนอกพวกนั้นก็พูดได้ดิว่ามันง่าย

อย่าเอาความคิดของตัวเองมาเป็นบรรทัดฐานตัดสินคนอื่นกันนักเลย

หลังจากโบกแท็กซี่ไปสามคัน ในที่สุดก็มีคันที่รับเราไปส่ง พอไปไกลๆ แม่งก็ไม่อยากจะไป พอไปใกล้ๆ ก็ยังไม่อยากจะไปอีก แท็กซี่เหี้ยไรวะเรื่องมากฉิบหาย

ตลอดทางไร้เสียงพูดคุย ผมไม่พูด มันก็ไม่(กล้า)พูด บรรยากาศอึมครึมและน่าอึดอัดจนแม้แต่พี่คนขับแท็กซี่ยังต้องเหลือบมองและไม่กล้าแม้แต่จะกดเปิดเพลง...ผมรู้ได้ไงอะเหรอ? เห็นพี่เขายื่นมือไปจะกดไง แต่พอเหลือบมองกระจกหลังแล้วเห็นหน้าบึ้งๆ ของผมกับหน้าหงอยๆ ของไอ้นะก็เลยชักมือกลับ

นับเป็นแท็กซี่ที่ดี ผมจะจดเลขทะเบียนของเขาเอาไว้แล้วเอาไปทวีตบอกว่าแท็กซี่คันนี้ดีแค่ไหน

เอาล่ะ ผมว่าผมเริ่มจะเพ้อเจ้อแล้ว

มาถึงหน้าหอผมก็ก้าวลงจากรถทันที ปล่อยให้พยัญชนะจ่ายค่ารถแล้วตามมาทีหลัง ผมรู้ตัวด้วยว่าแม่งโคตรจะงี่เง่าเลยที่ผมโกรธมันแบบนี้ ทั้งที่ความจริงก็ไม่ใช่ความผิดของมันร้อยเปอร์เซ็นต์ มันเองก็คงไม่อยากโดนจับก้นหรอก แต่ก็นั่นแหละ ผมไม่ชอบใจตรงที่มันไม่หาทางถอยออกมาอะ ยืนให้เขาลวนลามได้อีกตั้งนานสองนาน แม่ง!

พยายามเปิดประตูห้องแบบทุลักทุเล ถึงจะเดินตรงแต่เสือกไขกุญแจไม่ตรงรูลูกบิดประตูสักที จนคนที่เดินตามมาทีหลังต้องรั้งมือผมออกแล้วแย่งกุญแจไปเปิดให้

ผมสบตามันแค่เสี้ยววิแล้วมองเมิน เดินเข้าห้องถอดรองเท้าอะไรเรียบร้อยก็พาตัวเองไปทิ้งตัวลงบนเตียงทันที ที่จริงผมรู้สึกว่ามันร้อนไปทั้งตัวมาสักพักแล้วแต่ไม่ได้ใส่ใจ พอกลับมานั่นล่ะถึงได้เริ่มทนไม่ไหว เหงื่อนี่ไหลโชก ผมว่าผมต้องเปิดแอร์แล้วว่ะ

กำลังดันตัวลุกขึ้นก็ได้ยินเสียงดังติ๊ดๆ พอหันไปมองก็พบว่าไอ้นะเพิ่งเปิดแอร์ให้ มันหันมายิ้มให้ผม แต่ก็อีกนั่นล่ะ ผมเมินมันเป็นครั้งที่สอง ฟุบหน้าฝังลงบนหมอนอีกครั้งอย่างไม่ใส่ใจใครหรืออะไรอื่นอีก

ขอผมนอนก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที

หลับตาลงหวังไหลไปสู้ห้วงนิทรา แต่เพื่อนร่วมห้องกลับไม่ยอม...มันทิ้งตัวลงนั่งข้างตัวผมแล้วพยายามดึงผมให้นอนหงาย ปากก็พล่ามไปด้วย

“ลุกขึ้นมาก่อนสระ ต้องไปอาบน้ำ ตัวมึงเหม็นเหล้ามาก”

ผมเบะปาก ยื้อตัวไม่ยอมขยับ ไอ้นะก็เลยงัดแรงมากกว่าเดิมมาใช้ จนมันสามารถบังคับให้ผมนอนหงายได้สำเร็จ ผมก็เลยทะลึ่งตัวพรวดลุกขึ้นนั่ง ไอ้นะเบี่ยงหลบแทบไม่ทัน และถ้ามันไม่หลบหัวผมคงโขกกับคางมันไปแล้ว ถึงงั้นผมก็ยังทันได้กลิ่นอื่นที่ติดอยู่บนตัวมัน

มาบอกว่าผมเหม็นกลิ่นเหล้า ตัวมันเองนอกจากกลิ่นเหล้ากับกลิ่นบุหรี่ ก็มีกลิ่นน้ำหอมติดมาด้วยเหมือนกัน เฮอะ และผมรู้ด้วยว่าไม่ใช่น้ำหอมมัน เพราะมันไม่เคยใช้น้ำหอมเลยสักครั้งเถอะ!

ต้องเป็นน้ำหอมของผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ

โว้ยยย ไม่ชอบ! ไม่พอใจฉิบหายเลยยย

ผมพาตัวเองเดินเข้าห้องน้ำ ปิดประตูปังแล้วยืนสงบสติอารมณ์อยู่พักใหญ่ ก่อนจะเร่งอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน นุ่งแค่ผ้าขนหนูพันเอวก้าวออกมาแล้วตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าโดยไม่คิดจะมองไอ้นะ

รับรู้ได้ถึงสายตาของมันที่มองตามตลอด กระทั่งผมแต่งตัวเสร็จแล้วเดินกลับไปนอนอีกครั้ง อีกฝ่ายก็รั้งผมเอาไว้เป็นรอบที่สอง หรืออาจจะมากกว่านั้น

“ก่อนนอนดื่มน้ำให้สร่างเมาหน่อยดีกว่านะ”

ผมมองหน้ามัน สลับกับขวดน้ำเปล่าในมือมัน และเงียบ “...”

“ดื่มเข้าไปเลยสระ นะบอกอย่าดื่มก็ยังดื่ม ดูสิตัวรุมๆ อีกแล้ว ไข้กลับหรือเปล่าก็ไม่รู้” มันบ่น ผมถอนหายใจ ปัดมือมันออกแล้วทิ้งตัวลงนอน “สระ”

ไม่รับรู้ ไม่คุยด้วย ไม่มีอารมณ์โว้ย!

“ถ้าสระไม่ดื่มเอง นะจะป้อนให้แล้วนะ”

“...”

“...ดื้อจริงๆ เลย”

ก็รู้ว่ากูดื้อแล้วยังจะบังคับ ไอ้ควาย ปล่อยกูอยู่เงียบๆ ไม่ได้ไง๊

ผมคิด แต่แล้วก็ต้องนิ่งงันเมื่อพยัญชนะกระโจนขึ้นมาคร่อมทับร่างของผมทั้งร่าง อาศัยช่วงเวลาที่ผมไม่ทันตั้งตัวคว้าคอผมให้ยกสูงขึ้นด้วยมือเดียว ก่อนอีกมือมันจะกระดกน้ำดื่มเข้าปากตัวเอง

“มึงจะทำอะ...อื้อ!”

พอผมเปิดปากพูด ก็ดันได้พูดไม่จบเพราะไอ้นะมันปิดปากผมด้วยปากของมัน...หยาดน้ำเปล่าในปากของมันไหลเข้ามาในปากของผม เล่นเอาผมตะลึงตาเบิกโต และได้แต่ตัวแข็งค้างเมื่อไอ้เพื่อนเหี้ยมันหันไปอมน้ำมาป้อนผมด้วยปากอีกรอบ อีกรอบ และอีกรอบ

กระทั่งผมได้สติ ก็เผลอสำลักเล็กน้อยจนหยดน้ำไหลซึมออกมานอกปาก หยดไปตามปลายคางจนถึงอกเสื้อ

“แค่ก!”

“บอกแล้วไงว่าจะป้อน” พยัญชนะบอกเสียงเข้ม สีหน้ามันเองก็เข้มขรึมขึ้นเหมือนกัน

ผมปาดเช็ดปากตัวเอง ไออีกสองสามทีแล้วผลักอกมันจนมันหงายลงไปนั่งทับขาของผม “ทำอะไรของมึงเนี่ย! คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกนิยายเหรอสัด”

“เออ กูคิด”

“น้ำเน่าไปแล้ว...”

“คิดว่าเป็นพระเอกของมึงอะ”

ไอ้!

“ใช่เวลามาหยอดกูเหรอไอ้หน้าเหี้ย!”

ไอ้นะยิ้มบาง “เผื่อมึงหายโกรธกู”

“กูไม่ได้โกรธ!” ปากผมพูดออกไปแล้ว สวนทางกับความเป็นจริงมาก หน้าโง่

“ไม่เชื่อหรอก หน้ามึงออกมาตลอดตั้งแต่ที่ร้านเหล้ายันมาถึงหอเนี่ย โกรธอะไรกูทำไมไม่พูดว่ะ มึงไม่เคยโกรธกูถึงขนาดไม่คุยด้วยแบบนี้อะ กูทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะง้อมึงยังไงนะเว้ย”

“ก็ไม่ต้องง้อสิวะ!”

“ไม่ได้หรอก คนที่กูชอบงอนกูทั้งที กูต้องง้อให้หายดิ”

“หุบปากไปเลย!”

ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตอนนี้กำลังโกรธหรือเขิน ไอ้ฟัค! ไม่เคยจะโกรธคนตรงหน้าได้นานเลยจริงๆ นั่นแหละ แม่ง

“ตกลงจะบอกได้ยังว่าโกรธอะไร”

ผมกลอกตาใส่มัน “ไม่มีอะไร”

“ไม่บอกใช่ป่ะ” ไอ้นะเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ผมอีกครั้ง “งั้นกูจะง้างปากมึงอีก”

แล้วจากนั้นมันก็จู่โจมจูบผม บดเบียดริมฝีปากลงมาอย่างรวดเร็วจนผมไหวยวบทิ้งตัวลงนอนหัวหนุนหมอน และไอ้ห่านี่ก็ตามติดมาไม่ห่าง โอ๊ยยย อย่ามาหาเรื่องจูบกูไปหน่อยเลยไอ้เวรรร

ผมผลักมันออกอีกครั้ง “ตลกแล้วสัด ต่อให้จูบกูจนปากเปื้อยกูก็ไม่บอกมึงหรอก!”

“งั้นกูจะจูบมึงให้ปากเปื่อย”

“ไอ้ควายนะะะ กูบอกก็ได้โว้ยยย” ผมรีบแย้งเมื่อมันตั้งท่าจะก้มลงมาจูบผมอีกแล้ว ก่อนจะโพล่งทุกอย่างออกไปรัวเร็วก่อนจะโดนปิดปากอีกครั้ง “มึงโดนผู้หญิงจับก้นอะ กูไม่ชอบ!”

ไอ้นะนิ่งไปบ้างแล้วคราวนี้ มันเลิกคิ้ว “โกรธกูเรื่องนี้?”

“เออ มึงปล่อยให้เขาจับได้ไงวะ หรือที่จริงชอบ”

“ชอบก็บ้าแล้วป่ะสระ กูไม่ทันตั้งตัวเว้ย แล้วพี่เขาก็ไม่ยอมปล่อยให้กูถอยหนีเลย ล็อกกูแน่นแล้วยังบีบก้นกูไม่เลิก พวกพี่ๆ คนอื่นก็มัวแต่อึ้งบ้างขำบ้าง กว่าจะมาช่วยกู ก้นกูแม่งโดนบีบจนช้ำหมดแล้วมั้ง”

“เฮอะ”

“สรุปโกธกูเรื่องนี้จริงดิ?”

“เออ!” ผมกระแทกเสียงใส่หน้ามัน

“ทำไมโกรธวะ ไม่เห็นมีอะไรต้องโกรธเลย แค่โดนบีบก้น”

“แค่เหรอ!?” ผมโวยวายใส่มัน “แค่พ่อมึงอะ โดนลวนลามเลยนะเว้ย!”

“แต่คนโดนก็กูป่ะวะ ไม่ใช่มึง”

“ก็กูไม่ชอบไงควาย บอกไปแล้วนี่!”

“ทำไมไม่ชอบ?”

“เห็นคนอื่นมาลวนลามคนของเรา ใครบ้างไม่หวง”

กึก

ฉิบหาย เมื่อกี้ผมพูดอะไรออกไปวะ!?

ผมเม้มปากแน่น ขณะที่ไอ้นะยิ้ม...กว้างมากกก

แล้วมันก็ทิ้งประโยคหนึ่งที่ทำให้ผมต้องพลิกตัวแล้วเอาหน้าซุกหมอนหนีอาย

“ดีใจจังที่กูกลายเป็นคนของมึงแล้ว : )”

“...”

“แถมมึงยังหวงกูด้วย”

...ทีหลังกูจะไม่พูดอะไรแบบนี้ออกไปอีกแล้ว!


______________________

จะดึงดราม่าแต่ทำไม่ได้ 55555 เป็นนิยายที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากพระนายจีบกันไปวันๆ ค่ะ แง ช่วงนี้เขียนลื่นมาก เพราะมันไม่มีปมซับซ้อนอะไรเลยจริงๆ นะ เลยแบบไหลพรืดๆ 555 เจอกันตอนหน้าค่าา


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
จับน้องนะแก้ผ้า และทำการลบรอยโดยด่วน โดยการจับแช่น้ำร้อนฆ่าเชื้อ และราดLกฮ.ซ้ำอีกที  :hao3:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

หึงแรง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3

Seventeen

(ผ.) : ผ้าเช็ดหน้า (ผู้หญิง)

 

[พยัญชนะ]


‘เห็นคนอื่นมาลวนลามคนของเรา ใครบ้างไม่หวง’

เมื่อคืนไอ้ดื้อโคตรน่ารักเลย เชื่อมั้ยว่าคำพูดของมันยังวนเวียนอยู่ในหัวของผมไม่หยุด และทำให้ผมปลื้มใจยิ้มหน้าบานได้ทั้งวัน จนเพื่อนคนอื่นๆ พากันงุนงง ไอ้พียังถึงกับทักว่าผมไปเล่นยามา

ก็อาจจะใช่ เพราะสระโคตรเหมือนยาเสพติดสำหรับผมเลย

ไม่อยากหยุดเสพด้วย : )

ส่วนสระน่ะเหรอ? นอกจากหลบตาผมอยู่เรื่อยๆ ก็คงจะเป็น... “เลิกยิ้มเหมือนเป็นบ้าสักทีได้ป่ะไอ้นะ”

“กูห้ามปากตัวเองได้ที่ไหนล่ะ” ผมบอกมัน พยายามจ้องเข้าไปในดวงตาของคนตัวเล็กกว่า แต่อีกฝ่ายก็แสร้งหลุบตามองพื้น “มึงมาห้ามเองดิ”

“...”

“เนี่ย ห้ามด้วยปากของมึงเลย”

“เชี่ยยย”

“เอาว่ะ คุณพยัญชนะรุกแรงมากครับผม”

“คุณสรัลภัทรเขินจนตายแน่นอนด้วยเหมือนกันครับ!”

“พวกมึงนี่ก็ชงเก่งกันนักนะ!” สระหันไปขึงตาใส่

“เมื่อวานนี่เห็นโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ถ้ามึงเป็นลมพายุ คนทั้งร้านเหล้าคงปลิวหายไปหมดแล้ว” ไอ้ยูว่า

ผมยิ้มขำ ตาเป็นประกายโดยไม่ต้องมีใครบอก เพราะนอกจากจะฟังดูตลกแล้ว ยังทำให้ผมใจฟูด้วยเหมือนกัน แปลว่าเมื่อวานก่อนผมกลับไปที่โต๊ะมันต้องออกอาการมากกว่าที่ผมเห็นแน่เลย

“เมื่อวานทำไมวะ?” ผมถาม

สระหันมามองตาโต พอไอ้เจ็มอ้าปากจะพูด มันก็กระโจนไปปิดปาก พอไอ้ยูเกริ่นขึ้นมานิดหน่อย มันก็พุ่งเข้าไปตบปาก สุดท้ายคนโดนห้ามทั้งสองคนก็จับยึดแขนมันคนละข้าง แล้วพยักหน้าบอกไอ้พีให้เป็นคนเล่า

“เรื่องมันเป็นอย่างนี้ไอ้นะ”

“ไอ้เชี่ยพี หุบปากกก” สระร้องโวยวาย แต่คนโดนห้ามก็ไม่สนใจ ยังเล่าต่อไปเรื่อยๆ

“ตอนมึงโดนจับตูด ไอ้หระถึงกับทำแก้วน้ำหลุดมือ พอเห็นมึงยืนนิ่งไม่ยอมหนี มันก็ทุบโต๊ะปังๆ สายตาเนี่ยโคตรเกรี้ยวกราด โวยวายไม่หยุดเลย แล้วก็คว้าเอาเหล้าพวกกูไปแดกซะหมด พวกกูงี้ห้ามจนห้ามไม่ไหว เลยปล่อยแม่งให้แดกไปเลยจ้า เพียวๆ ก็แดกไป จนมึงมาอะถึงได้คีพลุคนิ่ง ทำเป็นเย็นชา”

“เย็นชาพ่อง!” สระด่า พยายามสะบัดตัวให้หลุดจากการถูกจับกุม

“อะไรก็ไม่เด็ดเท่าตอนพวกกูแซวว่าหึงออกขนาดนี้แต่ปากบอกไม่ได้เป็นแฟนกัน รู้มะ นอกจากมันจะไม่ปฏิเสธแล้ว มันยังบอกอีกว่า...”

“ไอ้พี ไอ้ชาติชั่วอย่าพูดดด!!!” สระหน้าแดงก่ำ ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเขาหน้าแดงเพราะออกแรงยื้อตัวไปมากับไอ้ยูไอ้เจ็ม หรือแดงเพราะนึกถึงบทสนทนาน่าอายที่พูดกันเมื่อวานตอนผมไม่อยู่กันแน่

ไอ้พียิ้มร้าย “ก็ยังไม่ได้เป็นไง! แต่เป็นมากกว่าเพื่อนอะ พวกมึงเข้าใจมั้ย!? กูมีสิทธิ์หวงมันนะเว้ย!”

ตึกตัก

หัวใจผมเต้นแรงมาก ดังก้องไปมาอยู่ในหูของผมไม่หยุดเลยว่ะ

“เนี่ย มันบอกแบบนี้ กูสาบานได้ว่าไม่ได้โกหก หรือพูดเสริมเติมแต่งใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าไม่เชื่อให้ไอ้เจ็มเอาโทรศัพท์ออกมาเปิดให้มึงดูได้เลย พอดีมันอัดคลิปวิดีโอเล่นแล้วตอนมึงโดนจับก้นมันไม่ได้ปิด เลยบันทึกเสียงพูดคุยของพวกกูเอาไว้หมดเลย”

ผมกะพริบตาปริบ ขณะที่สระตะลึงค้างตัวแข็งทื่อไปแล้ว

“ไหนเอามาดูดิ!” ผมยื่นมือไปทางไอ้เจ็ม ตื่นเต้นสุดๆ ที่จะได้ยินเองกับหู แม้จะเป็นแค่เสียงอัดจากวิดีโอก็เถอะ

เจ็มจำต้องปล่อยแขนสระออกเพื่อหยิบโทรศัพท์ให้ผม แต่พอเหลือไอ้ยูที่รั้งคนตัวเล็กของผมเอาไว้ มันก็แทบจะเอาไม่อยู่เพราะสระออกแรงสะบัดมากขึ้นกว่าเดิม หวังจะแย่งโทรศัพท์ไอ้เจ็มไป

“มึงถ่ายเอาไว้ตอนไหนทำไมกูไม่รู้วะไอ้เจ็ม! ไอ้เลววว”

“กูถ่ายวงดนตรีที่เล่นอยู่บนเวทีต่างหาก พอมึงทำแก้วหล่นก็เลยลืมปิดคลิป มันอัดได้โดยบังเอิญเว้ย” ไอ้เจ็มเอียงตัวหลบสระที่โผเข้าหา ผมก็เลยอาศัยจังหวะนั้นเอื้อมไปหยิบมือถือในมือมันมาเอง แล้วกดเข้าค้นหาคลิปที่ว่าในคลังวิดีโออย่างรวดเร็ว ซึ่งหาได้ไม่ยากเลยเพราะมันเป็นคลิปล่าสุด

ผมกดเปิด แล้วทุกเสียงพูดคุยในนั้นก็ดังเข้ากระทบโสตประสาทของผม มันคุยกันไม่เยอะ แต่สิ่งที่มันคุยกันทำให้ผม...ยิ้มหน้าบานยิ่งกว่าเดิม และถึงคลิปจะจบไปแล้ว แต่ผมก็กดฟังวนซ้ำอีกหลายรอบ สุดท้ายก็เงยหน้าขึ้นมองไอ้ดื้อของผมที่เลิกพยายามจะห้ามจะด่าแล้ว มันแค่ทำหน้าบึ้ง มองพวกไอ้พีตาขวาง และไม่กล้ามองสบตาผมเหมือนเดิม

ไอ้ดื้อกำลังเขิน โอย อย่าทำหน้าแบบนั้นดิวะ มันน่ารักมากเกินไป กูรับไม่ไหวเว้ย!

“สระครับ” ผมเรียกเขาเสียงอ่อน คนถูกเรียกเหลือบมองนิดๆ ผมก็เลยเอ่ยต่อ “หวงได้ครับ นะไม่ว่า”

“!!!”

“หวงอีกเยอะๆ เลยยิ่งดี นะชอบ :)

 

หลังเลิกเรียนตอนสองโมงครึ่ง (เพราะอาจารย์ต้องรีบไปทำธุระเลยปล่อยเร็วกว่าเวลาปกติน่ะครับ) ผมก็พาสระแยกตัวออกมาจากพวกเพื่อนๆ ที่เหลือ ด้วยเหตุผลข้อเดียวเลยคือผมอยากอยู่กับมันแค่สองคน ตั้งแต่เมื่อกลางวันที่เขาโดนแฉว่าเมื่อคืนพูดอะไรเอาไว้บ้าง เขาก็ไม่ยอมมองหน้าผมตรงๆ สักที ผมไม่เคยเห็นสระเขินขนาดนี้มาก่อนเลย

“หิวมั้ยสระ”

“อือ”

“อยากกินอะไร?”

“...อะไรก็ได้”

ผมเลิกคิ้ว “งั้นกลับหอเลยแล้วกัน”

“เอ๊า คือยังไง หมายถึงซื้ออะไรไปกินที่ห้องเหรอวะ?” เขาสบตาผมโดยบังเอิญ ก่อนจะรีบหลุบตาหนีอีกครั้ง เชื่อเขาเลย เขินอะไรกันนักเนี่ย คนเก่งของผมหายไปไหนแล้ว ทำไมเหลือแต่คนขี้เขิน ฮะๆ

“ไม่ซื้อ ที่ห้องมีของกินอยู่แล้ว” ผมตอบ

สระมุ่นคิ้ว “แต่กูจำได้ว่าไม่มีไม่ใช่เหรอวะ เมื่อเช้ากูเปิดตู้เย็นดูไม่เห็นมีอะไรเลย”

“กูไง”

“ห๊ะ?”

“ก็มึงบอกกินอะไรก็ได้” ผมยิ้มกว้าง “กูเลยจะให้กลับไปกินกูไง”

สระเงียบไปพักหนึ่งเหมือนยังประมวลผลไม่ได้ แต่พอเขาตั้งสติได้เขาก็หันมาต่อยไหล่ผมเต็มแรง เจ็บนะแต่ผมกลับมีความสุขมากกว่าที่ได้เห็นสีหน้ายุ่งๆ เหยิงๆ ของสระ เวลาได้แกล้งคนที่ชอบแล้วเห็นปฏิกิริยาน่ารักๆ ของเขานี่แม่งเป็นอะไรที่ทำให้ใจฟูโคตรๆ เลยว่ะ

“กูจะกินข้าวยำไก่แซ่บร้านซอยสอง!” พูดจบเจ้าตัวก็เดินนำลิ่วๆ ไปเลย ทิ้งให้ผมวิ่งตามแทบไม่ทัน เดี๋ยวนี้เขินแล้วเกรี้ยวกราดกว่าปกติด้วยรึเปล่าเนี่ย ฮะๆ

ผมเดินตามสระจนทัน แล้วเราก็เดินข้างกันไปเรื่อยๆ ผ่านซอยหอเพื่อไปยังซอยสอง ผมชอบนะ...การได้เดินไปด้วยกันไม่ว่าจะที่แห่งไหน และผมหวังเหลือเกินว่าผมจะได้ทำอย่างนี้จนกว่าเราทั้งคู่จะแหลกสลาย

ตั้งใจพาไอ้ดื้อไปกินข้าวยำอย่างที่มันลั่นปากบอกเมื่อกี้นั่นล่ะ แต่ระหว่างทางก็ดันมีคนโผล่มาขัดจังหวะจนได้

“พี่คะ พี่”

เสียงเรียกตามมาด้วยแรงสะกิดจากด้านหลัง ทำให้ผมต้องหยุดฝีเท้าแล้วหันไปมอง

“ครับ?” คนที่เรียกผมคือผู้หญิงคนหนึ่ง เธอสวมชุดนักศึกษา และดูจากท่าทางแล้วคงเป็นปีหนึ่งไม่ผิดแน่ “มีอะไรเหรอครับน้อง?”

“พี่คือพยัญชนะ ปีสองวิศวะฯ ที่ลงเพจแฮนด์ซั่มบอยอยู่บ่อยๆ ใช่ไหมคะ?”

ผมพยักหน้ารับ “ครับ เอ่อ ทำไมเหรอ?”

“คือหนู...” สายน้อยตรงหน้ามีท่าทีตื่นเต้นปนไปกับเขินอาย เธอยิ้มกว้างให้ผม ก่อนจะยื่นของบางอย่างมาให้ “หนูชอบพี่ค่ะ!”

“..!” ผมชะงัก คือก็มีบ้างที่เจอคนมาบอกชอบ แต่ส่วนใหญ่จะแอดเพื่อนในเฟซแล้วทักมาบอกทางแชตมากกว่า ประเภทโผล่หน้ามาหาเนี่ยนานๆ จะเจอสักที “เอ่อ...”

“หนูมีของมาให้พี่ด้วย พี่ยังไม่ต้องตอบหนูก็ได้ แต่หนูก็...” เธอยื่นกล่องเล็กๆ ใบหนึ่งมาให้ผม “คืออย่างน้อยเราลองคุยๆ กันก่อนก็ได้น่ะค่ะ ถ้าพี่สนใจก็ช่วยแอดไลน์หนูมาด้วยนะคะ ไปแล้วค่ะ!”

แล้วเธอก็หันหลังวิ่งกลับไป ทิ้งให้ผมยืนงง อ้าปากตะโกนเรียกแต่น้องเขาก็ไม่หันกลับมา ทั้งที่ผมกะจะบอกว่าผมคงไม่สามารถตอบรับคำขอของเธอได้...ก็ผมน่ะมีคนที่ชอบอยู่แล้วนี่หว่า ทุกคนก็น่าจะรู้นี่ใช่มั้ย? ยิ่งคนที่เห็นเพจแฮนด์ซัมบอยกับสื่อโซเชียลต่างๆ ของผมที่มักลงรูปเกี่ยวกับสระประจำ ก็น่าจะรู้ไหมอะว่าผมชอบใคร มันออกจะชัดเจนขนาดนั้น

ผมมองกล่องเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือที่ได้มา กำลังคิดอยู่ว่าจะเปิดดีไหมแต่แล้วก็มีมือหนึ่งคว้าไปมัน และคงไม่ใช่ใครอื่นหรอกนอกจากสระน่ะ

“อะไรวะ กูเปิดนะ” มันบอก

ผมตั้งใจจะห้าม แต่ไม่ทันแล้ว สระเปิดฝากล่องของขวัญแบบสำเร็จออก ก่อนจะหยิบของในนั้นขึ้นมาดู ของที่ทำให้ทั้งผมทั้งมันพากันนิ่งค้าง

“ผ้าเช็ดหน้า?” ผมถามอย่างไม่แน่ใจ

สระกะพริบตาปริบ “ปักชื่อด้วย โห นี่เราอยู่ในยุค...ยุคไหนนะที่ผู้หญิงมักให้ผ้าเช็ดหน้าผู้ชายที่ชอบอะ?”

“มันมีด้วยเหรอยุคสมัยที่มึงว่าเนี่ย” ผมมุ่นคิ้วนิดๆ ขณะที่สระส่งกล่องเปล่ามาให้ผมถือ แล้วจัดการคลี่ผืนผ้าสีขาวสะอาดออกเพื่อมองชื่อที่ปักเอาไว้ชัดๆ

“พลอย...โอ้โห ปักชื่อตัวเองเหรอเนี่ย กูนึกว่าปักชื่อมึงซะอีก” สระเลิกคิ้ว สีหน้ามันดูเหวอปนไปกับไม่อยากจะเชื่อ “มันแบบว่า...ว้าว”

“อืม กูก็ว้าว นี่คนแรกเลยนะที่มาจีบกันแบบนี้”

“หือ? มีคนจีบมึงเยอะเหรอวะ เออ แต่ก็ไม่แปลกหรอก ก็มึงหล่อออกขนาดนี้”

ผมยิ้มกว้าง “ชมกันแบบนี้กูดีใจจนตายขึ้นมาจะทำไงวะ”

“อย่าเยอะไอ้สัด คนชมมึงหล่อเยอะแยะป่ะครับ คนชมกูหล่อก็เยอะเหมือนกัน” สระต่อยไหล่ผมเบาๆ

“แต่ใครชมก็ไม่เหมือนมึงชมนี่หว่า”

“เฮอะ เลิกเต๊าะกูได้ละ แล้วเอาไงกับนี่อะ” ไอ้ดื้อชูของในมือแกว่งไปมา ผมเลยเปิดกล่องของขวัญออกแล้วยื่นไปตรงหน้ามัน

“ใส่กลับมา ไว้กูเจอน้องเขากูจะได้คืน”

“ไม่เอาไว้ใช้เหรอวะ?”

“ไม่” ผมส่ายหน้า “ถ้ารับมาก็เท่ากับกูรับคำขอของเขาไหมล่ะ ไม่เอาหรอก กูไม่อยากให้ความหวังใครแบบนั้น แล้วกูก็จะบอกเขาให้ชัดๆ ด้วยว่ากูน่ะ”

“ว่า...?”

ผมขยี้เส้นผมอีกฝ่าย “มีคนที่ชอบจนตัดใจไม่ได้อยู่คนหนึ่งแล้ว”

สระไม่ตอบอะไร เขารีบพับผ้าเช็ดหน้าลวกๆ แล้วยัดกลับลงกล่องก่อนจะเดินนำผมไปร้านข้าวอีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ทันเห็นว่าใบหูของเขาแดงขึ้นมาอีกแล้ว อ่า วันนี้ผมทำเขาหน้าแดงไปกี่รอบแล้วล่ะเนี่ย : )

เดินตามเขาจนทันผมก็คว้าคอเขามากอดแน่นทันที สระโวยวายพยายามดิ้นออกแต่มีหรือที่ผมจะยอมปล่อย จนเรามาถึงร้านข้าวยำ ได้โต๊ะนั่งก็สั่งกันไปคนละเมนู หลังจากนั้นผมก็ลุกไปเอาน้ำดื่มที่จุดบริการตัวเอง เลือกเอาน้ำอัดลมมาอีกขวดเผื่อไอ้ดื้ออยากกิน

สระยิ้มกริ่มเมื่อเห็นของในมือผม “รู้ใจว่ะ”

“แน่นอน นี่ใครครับ?”

“ใครอะ?” มันแกล้งถามกลับ และนั่นเข้าทางผม

“คนที่ชอบมึงที่สุดไง”

“มึงแม่งงง” สระเกือบทำแก้วน้ำที่ยกขึ้นดื่มหลุดมือ ดีที่ผมช่วยจับเอาไว้ได้ทัน “กูบอกแล้วไงว่าให้เลิกหยอดมุกใส่กูได้แล้ว ขนลุกเว้ย”

“อ้าว ไม่ได้เขินหรอกเหรอ”

“ก็ด้วย เพราะงั้นถ้ามึงเห็นใจกูนะ พักบ้างไอ้ฉิบหาย”

“พักไม่ได้หรอก”

“ทำไม!?” มันขึงตาใส่ หยิบหลอดออกจากแก้วน้ำแล้วสะบัดๆ หยดน้ำที่ค้างหลอดอยู่ใส่หน้าผม

“เวลาเราชอบใครเราพักจากการชอบเขาได้ที่ไหนล่ะ”

“ฮื่อ ไอ้นะ~ กูบอกให้พอไง!”

“ฮ่าๆๆๆ”


______________________
มีคนมาจีบพยัญชนะว่ะพวกคุณ เนี่ย อยากข้ามไปอัปตอนที่ 20 มากเลย //ยิ้มร้าย

พรุ่งนี้อาจจะไม่ได้อัปนะคะ ขอดูอีกทีนะ ปกติวันอาทิตย์เราจะยุ่งมาก ไม่มีเวลาจะจับโน้ตบุ๊คเลย แง แต่ก็อยากทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ เขียนให้ได้วันละสองตอนก่อนจะหมดไฟกลับไปขี้เกียจหรือตันอีก แฮ่ เอาใจช่วยผมด้วยฮะ



ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
งั้นเราจะรออ่านอีกทีตอน21ละกัน 555555555555

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นี่แค่เขินแบบเบาะ ๆ นะ  o18

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เอ็นดูสระ โดนพยัญชนะหยอดจนหลุมลึกแล้ว

ตลกตอนโมโห ของขึ้น ลืมตัว และชัดเจนไปอีกจ้าสระ
พยัญชนะได้กำไรมาก บอกเลย ถึงจะไม่ได้ยินเอง
ถึงจะมาแค่คลิป ก็พาฟิน พาฝันได้จ้า

ทีมเพื่อนชงเก่งกันมาก ทั้งอยากแกล้ง ทั้งอยากเชียร์

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
Eighteen

(ฝ.) : ฝน (ฝืนยิ้ม)


[สระ]


ผมรู้สึกว่านับตั้งแต่วันที่มีน้องพลอยอะไรนั่นมาสารภาพรักกับไอ้นะ ก็เริ่มมีอีกหลายคนโผล่มาบอกรักบ้างล่ะ ให้ของบ้างล่ะ เข้ามาตามจีบบ้างล่ะ เยอะขึ้นมากๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตอนแรกก็งงกันตาแตกว่าอะไรทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ จนกระทั่งไปเจอโพสต์ของเพจดังประจำมอเราเข้า...ก็เพจแฮนด์ซั่มบอยนั่นล่ะ

มันเป็นโพสต์ที่แอบถ่ายผมกับไอ้นะยืนข้างกัน โดยที่ตรงหน้าของไอ้นะคือน้องผู้หญิงปีหนึ่งที่ชื่อพลอยคนนั้น กับกล่องของขวัญที่ไอ้นะรับมาจากมือของเธอ เนื้อหาของโพสต์ก็เป็น...

 

เหยี่ยวข่าวของเราส่งรูปนี้มาให้เมื่อวานค่ะคุณขา มีสาวน้อยใจกล้าโผล่ไปสารภาพรักพ่อหนุ่มพยัญชนะสุดหล่อแห่งวิศวะซะได้ แถมยังไปให้ของขวัญแทนใจต่อหน้าต่อตาคู่จิ้นที่น่าลุ้นว่าจะกลายเป็นคู่จริงของเขาอีก แหมๆ ช่างกล้านะยะหล่อน งานนี้น้องสระจะว่ายังไงเจ๊ล่ะอยากรู้จริงๆ ไม่งอนคุณ(ว่าที่)แฟนข้อหาเนื้อหอมเกินไปไปแล้วเหรอจ๊ะ คริๆ

 

โพสต์นี้เกิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อน และก็อย่างที่ผมบอกไปว่าหลังจากวันนั้นก็มีคนใจกล้าอีกมากโผล่มาจีบไอ้นะมันเพียบ! ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย (ที่แน่นอนว่าไม่ใช่ชายแท้) และไอ้นะก็ทำได้แค่ยิ้มให้พลางบอกปฏิเสธ ไม่รับของอะไรจากใครทั้งนั้น

“แต่มึงรับผ้าเช็ดหน้าของน้องพลอยมานะเว้ย” ไอ้เจ็มเลิกคิ้วถาม “แล้วของของคนอื่นก็ดันไม่รับ ทั้งที่บางอย่างน่าจะรับไว้ เอามาให้เพื่อนฝูงก็ได้ ช็อกโกแลตกล่องนั้นของน้องผู้ชายนุ่มนิ่มๆ คนนั้นอะ น่ากินชะมัด”

ผมที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ ถึงกับหลุดหัวเราะ “เห็นแกของฟรีนี่เองนะมึงอะ”

“กูไม่อยากรับไว้ เพราะเดี๋ยวเขาจะหาว่ากูให้ความหวัง”

“แล้วน้องพลอยอะไรนั่นมึงไม่กลัวเป็นการให้ความหวังบ้างเหรอ” ไอ้พีถามขึ้นอีกคน ขนาดเล่นเกมอยู่มันยังมีหูไว้คอยฟังพวกผมคุยกัน แยกประสาทสัมผัสเก่งจังไอ้เหี้ย

“กูจะเอาไปคืนเขา”

“แล้วรออะไร ทำไมไม่รีบไปคืน” ไอ้ยูถามบ้าง นิ้วก็รัวหน้าจอจนอีกนิดผมว่านิ้วมันต้องล็อกแน่ๆ

“กูไม่รู้ว่าน้องเขาอยู่ที่ไหนอะดิ เรียนคณะอะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้ถามไว้”

“ง่ายจะตาย มึงก็ประกาศตามหาไง”

ผมเลิกคิ้ว หันไปสบตาเพื่อนรักแล้วยักคิ้วให้ เออ ง่ายจะตายอย่างที่ไอ้เจ็มมันบอก ทำไมไอ้นะถึงคิดไม่ได้ ไม่สิ...ผมเองก็คิดไม่ได้เหมือนกัน ฮะๆ

“ก็จริงของมึง กูลืมนึกไปเลย” ไอ้นะถอนหายใจ มันแบมือมาทางผม “ขอโทรศัพท์หน่อยสระ”

ผมควานหาในเป้ตัวเอง ตอนแรกหยิบออกมาเป็นเครื่องของผมก็เลยวางไว้บนโต๊ะ ล้วงไปควานหาอีกรอบก็จับได้ของไอ้นะสักที ของผมก็ไม่ได้เยอะ แต่ของมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วปนกันมั่วเลยหายากหน่อย มันมีทั้งกระเป๋าตังค์ของผมกับไอ้นะ มีสายหูฟัง สายชาร์ตแบตกับพาวเวอร์แบงก์ แล้วไหนจะปากกา เศษเหรียญ

“นี่มึงใช้กระเป๋าเดียวกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะครับเพื่อน” ไอ้ยูแซว มันเงยหน้าขึ้นมาได้สักที สงสัยจะเล่นเกมจบแล้ว

ผมมุ่นคิ้ว “แล้วมันทำไม แปลกเหรอวะ?”

“ไม่แปลกจ้า แฟนกันก็ทำแบบนี้เป็นเรื่องธรรมด๊า” ไอ้พีทำเสียงสูง หลิ่วตามองล้อๆ และผมก็ขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงกับพวกแม่ง เลยทำแค่ถอนหายใจใส่เท่านั้น เลยโดนพวกมันล้ออีกยกใหญ่

ผมเลิกสนใจพวกมันแล้วหันไปมองไอ้นะกดโทรศัพท์ยิกๆ สักพักก็มีโนติเด้งขึ้นมาบนหน้าจอสมาร์ตโฟนของผม เป็นแจ้งเตือนจากไอจีและเฟซบุ๊คเด้งขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ยกัน แน่นอนมันจะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจากของไอ้นะ เพราะมันเป็นคนเดียวที่ผมตั้งแจ้งเตือนเอาไว้

กดเข้าไปในเฟซก่อน เนื้อหาของโพสต์ก็เป็นการประกาศตามหาน้องผู้หญิงที่ชื่อพลอย มันบอกว่าพี่อยากพบเพื่อคืนของที่ให้มา ถ้ายังไงติดต่อมาทางแชตด้วยนะครับ บลาๆ เออ โจ่งแจ้งอย่างนี้เลยเนอะ ไม่กลัวเขาเสียความรู้สึกหน่อยเหรอวะไอ้นี่

กดเข้าไอจีก็เจอภาพแคปจากหน้าจอมือถือ เป็นโน้ตโทรศัพท์ที่มีเนื้อหาเหมือนกับที่มันโพสต์ในเฟซไม่มีผิดเพี้ยน ผมว่าหลังจากนี้ต้องกลายเป็นประเด็นดังแน่ๆ เพจแฮนด์ซั่มบอยไม่พลาดต้องแชร์เอาไปลงชัวร์ๆ

“โพสต์ตรงฉิบหาย ไม่กลัวน้องมันเสียใจหน่อยเหรอไอ้คุณนะ” ไอ้พีเอ่ยขึ้น มันคงเห็นโพสต์แล้ว และใช่...มันคิดเหมือนผมเด๊ะๆ เลย

ไอ้นะระบายยิ้มบาง หันมาสบตาผม ดวงตาของมันสื่อความหมายบางอย่าง...เป็นบางอย่างที่ผมเข้าใจดี แต่มันคงกลัวผมไม่เข้าใจล่ะมั้ง ถึงได้เอ่ยออกมาเพื่อตอกย้ำอีกครั้ง

“ก็ต้องตรงๆ แบบนี้แหละ”

“...”

“ดีกว่าทำให้คนที่กูชอบเขาไม่สบายใจ”

ผมก้มหน้า อมยิ้มกับตัวเอง เดี๋ยวนี้เวลาได้ฟังอะไรแบบนี้แล้วผมอดไม่ได้ต้องยิ้มอยู่ร่ำไป มันก็ยังเขินๆ อยู่แหละ แค่ว่าผมไม่ได้โวยวายกลบเกลื่อนเหมือนทุกที แล้วมีอย่างที่ไหนไม่อยากให้คนที่ตัวเองชอบไม่สบายใจ เขามีแต่ไม่อยากให้คนที่ชอบเราหรือแฟนเราไม่สบายใจไม่ใช่รึไง ไอ้บ้าเอ๊ย

“อยากยิ้มกว้างๆ ก็ยิ้มเถอะจ้าน้องหระ ผัวหยอดขนาดนี้อนุญาตให้ยิ้มจนแก้มแตกได้ ไม่ว่ากันจ้า”

“ผัวพ่อง!” แต่อันนี้ผมต้องเถียงครับ ไอ้เชี่ยพีแม่งกวนตีนกูตลอดดด

“อ้าว เขินแล้วปากร้ายอีกละนะคนเรา”

ไม่คุยด้วยแล้วแม่ง ไอ้สัดดด

ผมลุกขึ้นแล้วบอกแค่สั้นๆ “จะไปร้านน้ำ”

“เดี๋ยวกูไปด้วย” ไอ้นะทำท่าจะลุกขึ้นตาม แต่ผมจับบ่ามันกดให้นั่งตามเดิม

“มึงอะนั่งอยู่นี่แหละไม่ต้องตามไป กูไปคนเดียวได้” ตบแก้มมันเบาๆ สองทีเป็นเชิงหยอกเย้าก่อนจะว่าต่อ “ให้กูได้พักหายใจหายคอบ้าง อยู่กับมึงแล้วเขินวันละเป็นสิบๆ รอบ”

“...”

“กูเหนื่อยจะเขินแล้วเว้ย”

“อะโห้ยยย วู้วๆๆ”

พวกเพื่อนเหี้ยพากันโห่แซว ส่วนไอ้นะน่ะเหรอครับ? นั่งอึ้งก่อนจะยิ้มหน้าบานอีกแล้ว แถมแก้มมันยังแดงนิดๆ ด้วย เฮ้ย! นี่ผมทำให้มันเขินได้ด้วยเหรอวะเนี่ย

ผมยิ้มกว้างอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ เลยยิ่งทำให้ไอ้นะมันหน้าแดงหนักกว่าเดิมเข้าไปอีก โว้ยยย อยากถ่ายรูปเก็บไว้ว่ะ...แล้วมือก็ไวเท่าความคิด ผมหยิบโทรศัพท์มาเปิดโหมดกล้องถ่ายรูป จ่อหน้าไอ้นะในระยะประชิดแล้วกดถ่ายรัวๆ แบบไม่ให้มันได้ตั้งตัว แต่พอมันตั้งตัวได้แล้วทำท่าจะคว้าเอาของในมือผมไป ผมก็รีบโยกแขนหลบแล้วคว้ากระเป๋าตังค์วิ่งลิ่วหนีมาทันที

ได้ยินเสียงไอ้นะตะโกนตามหลัง

“ลบรูปเดี๋ยวนี้เลยนะสระ!!!”

“ไม่!” ผมตะโกนตอบกลับไปก่อนจะหัวเราะตามหลัง ไอ้นะทำท่าจะวิ่งตามนั่นทำให้ผมรีบออกตัววิ่งหนี รู้หรอกน่ะว่ามันไม่ตามมาจริงๆ แต่ก็อดจะเล่นไปกับมันเหมือนเด็กๆ เล่นวิ่งไล่จับไม่ได้ ฮะๆ

ร้านน้ำที่ผมมาซื้ออยู่ตรงกลางระหว่างสองคณะ คือวิศวะของผมกับบริหารเพื่อนบ้านข้างเคียง คนซื้อก่อนหน้าผมไม่เยอะเท่าไหร่ เลยต่อคิวไม่นาน...ผมสั่งแตงโมปั่นหนึ่งแก้วของตัวเองกับไอ้นะ อากาศร้อนแบบนี้ต้องการอะไรที่มันกินแล้วให้ความสดชื่นครับ ก็หวังว่าแตงโมจะช่วยผมได้ จากนั้นผมก็สั่งโกโก้ปั่นอีกแก้วให้พวกเพื่อนอีกสามคนมันแบ่งกันแดก

ระหว่างรอผมก็กดโทรศัพท์เลื่อนดูรูปไอ้นะที่เพิ่งถ่ายไปเมื่อกี้ หน้าแดงนิดๆ ของมันทำให้ผมต้องหลุดยิ้มออกมาจนได้ ไงล่ะมึง ชอบทำกูเขินดีนัก เห็นมันเขินบ้างแล้วผมชอบใจจังเลยว่ะ หึๆ

กดเลือกรูปหนึ่งที่คิดว่าดูดีที่สุดออกมาอัปเดตลงไอจีตัวเอง เขียนแคปชั่นเล่นคำว่า ‘you are sh(y)ine’ จากนั้นก็ทำการกดอัปโดยไม่ลืมแท็กคนในรูปด้วย สมน้ำหน้า ชอบทำให้กูอายนัก ถึงทีกูทำมึงอายบ้างแล้ว

ผมเงยหน้ากะจะมองว่าป้าแม่ค้าคนสวยทำของผมเสร็จหรือยัง แต่หูเจ้ากรรมก็ดันไปได้ยินอะไรบางอย่างเข้า และเป็นอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมเผลอกลั้นหายใจตลอดการฟังเลยด้วย

“มึงเห็นที่พี่ชนะโพสต์ตัสยังพลอย”

พลอย...พลอย?

“เห็นแล้ว”

“แล้วมึงทักแชตพี่เขาไปยัง”

“ยังเลย กูไม่อยากทักอะ ไม่อยากได้ของคืน”

“อะไรของมึงพลอยยย ทำไมมึงไม่คิดบ้างว่าถ้านัดเจอกัน มึงจะได้คุยกับพี่เขาต่อหน้าต่อตาอีกรอบนึงเลยนะเว้ย โอกาสแบบนี้น่ะมีง่ายก็จริง แต่ใช่ว่าจะมีบ่อยที่พี่เขานัดเจอเอง มึงต้องฉวยโอกาสไว้ดิวะ”

“แล้วมึงก็รุกใส่เลย เนี่ย โอกาสดีอย่างที่ฝ้ายมันว่า กูเห็นด้วย”

มีเสียงผู้หญิงคุยกันทั้งสิ้นสามเสียงด้วยกัน และผมพอจะเดาออกว่าสองในสามเป็นเพื่อนของน้องที่ชื่อพลอยอะไรนั่น แถมเสียงมันยังดังมาจากข้างหลังผมอีกต่างหาก ดังนั้นเดาว่าพวกเธอต้องอยู่ไม่ไกลจากผม รอต่อคิวซื้อน้ำอยู่เหมือนกันแน่ๆ

เวรเอ๊ย แล้วทำไมผมถึงต้องมาได้ยินพวกน้องมันคุยกันด้วยวะ ถ้าเลือกได้ผมก็ไม่อยากได้ยินอะไรแบบนี้หรอกนะครับคุณครับ มันออกจะให้ความรู้สึกประหลาดไปหน่อยไหมล่ะถ้าคิดว่าคนที่กำลังถูกพูดถึงคือเพื่อนของเรา เพื่อนที่เราคิดไม่ซื่อด้วยอีกต่างหาก

กระอักกระอ่วนเป็นบ้า

“มึงไม่คิดบ้างเหรอว่าบางทีพี่เขาอาจจะมีแฟนจริงๆ ก็ได้” นี่น่าจะเสียงน้องพลอย ผมพอจะจำได้เลาๆ

“ไม่คิด เพราะไม่มีทางหรอกว่ะที่พี่ชนะจะคบกับไอ้พี่สระอะไรนั่นอะ”

ผมนิ่งงัน เดี๋ยวนะ? ทำไมสองมาตรฐานจังวะ กับไอ้นะเรียกพี่ กับผมเรียกไอ้พี่...ได้เหรอวะ?

“ทำไมคิดงั้น กูว่าเค้าดูแลกันดีเกินเพื่อน มีความเป็นไปได้มากเลยนะเว้ยว่าพี่เขาจะชอบกัน”

“ก็แล้วยังไง เป็นแฟนกันจริงคงออกมาประกาศแล้วไหมอะ อีกอย่างหล่อขนาดนั้นจะเป็นเกย์ได้เหรอวะ กูไม่เชื่อหรอก กูว่าที่เห็นโมเมนต์ต่างๆ นานาอะ สร้างกระแสมากกว่า”

“ก็ไม่แน่อีกนั่นแหละ มึงอย่ามั่นใจนักเลย คนหล่อเป็นเกย์มีเยอะแยะไป”

“ถ้ามึงคิดว่าพี่เขาเป็นเกย์ แล้วมึงไปสารภาพรักกับเขาทำไมวะพลอย”

“กูคิดว่าอย่างน้อยขอให้ได้บอกอะมึง แค่อยากบอกแค่นั้นเองว่ากูชอบเขา”

“โลกสวยตลอดดด”

“แต่เอาเข้าจริงกูก็หวังนะว่าพี่เขาจะไม่ได้เป็นเกย์หรือมีแฟนแล้ว ถ้าเป็นงั้นจริงกูจะเดินหน้าจีบเต็มตัวเลย”

“หรือถ้ามีก็แย่งมาเลย” เสียงของน้องที่น่าจะชื่อฝ้ายเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ดูท่าจะเป็นพวกใจร้อน โผงผาง แล้วก็...พวกยุแยงเก่งล่ะมั้ง เหอๆ “ไม่ก็เปลี่ยนเกย์ให้กลับมาเป็นผู้ชาย”

“มึงจะบ้าเหรอ ทำไม่ได้หรอก มันน่าเกลียดเกินไป”

“กูถือคติอยากได้ต้องแย่งชิงว่ะ”

“มึงถึงได้โดนดักตบตอนมัธยมบ่อยๆ เพราะนิสัยเลวๆ ของมึงนี่ไง ตัวเองทำแล้วยังมาสอนคนอื่นทำอีก บ้าป่ะฝ้าย อันนี้กูไม่เห็นด้วยนะ”

“มึงก็โลกสวยอีกคนนุ้ย” ไอ้น้องฝ่ายถอนหายใจเสียงดังจนแม้แต่ผมยังได้ยินอะคิดดู “แต่พูดก็พูดเถอะ ถ้าพี่มันเป็นเกย์จริงๆ กูว่ามึงตัดใจเหอะ พวกผิดเพศ ขนลุกว่ะ”

“ฝ้าย มึงอย่าเหยียดเพศดิ โลกไปถึงไหนต่อไหนแล้วป่ะ”

“ก็ไม่ได้เหยียด แต่ถ้ามึงจะไปชอบเกย์ กูว่ามึงเลิกชอบดีกว่า ก็เห็นๆ อยู่ว่ามึงต้องเสียใจแน่”

“แต่กูว่าพี่ชนะไม่ได้เป็นเกย์อะ” น้องพลอยแย้ง เงียบไปนานจนผมนึกว่าคล้อยตามเพื่อนไปแล้ว

“งั้นก็จีบ ระหว่างมึงกับเพื่อนที่ชื่อสระอะไรนั่นของเขา กูว่ามึงน่ารักกว่าตั้งเยอะ ยังไงผู้หญิงก็ดีกว่าผู้ชาย”

“อีกแล้วนะ มึงเลิกแบ่งแยกเพศจะได้...”

“ไอ้หนุ่มได้แล้วลูก”

ผมสะดุ้งเล็กน้อย เพราะมัวแต่จดจ่อกับการสนทนาของน้องๆ สามคนนั้น รู้ตัวอีกทีเครื่องดื่มที่สั่งไปสองแก้วก็ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว...ผมยื่นมือไปรับ จ่ายเงินและยิ้มให้ป้าคนขายหลังจากได้รับเงินทอน หมุนตัวเตรียมเดินกลับคณะ แต่ก็ดันบังเอิญไปสบตาน้องพลอยคนนั้นเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

ผมไม่ได้มองน้องนานมากนัก แต่ก็ทันเห็นสีหน้าตกตะลึงของพวกเธอ ก็นะ...คงไม่คิดว่าคนที่ตัวเองนินทาจะยืนฟังมาตั้งแต่ต้น และผมก็ไม่ได้ใจดีถึงขนาดที่จะยิ้มให้หลังจากได้ยินคำพูดของพวกเธอด้วย

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมทำสีหน้ายังไงออกไป แต่แวบหนึ่งผมเห็นน้องฝ่ายถึงกับกลืนน้ำลายหน้าซีดเผือด

เดินถือแก้วน้ำกลับไปที่ใต้ตึกคณะ ลมพัดแรงจนผมต้องหยีตาเมื่อฝุ่นฟุ้งขึ้นมา จะว่าไปฟ้าก็ครึ้มมาตั้งแต่ยังไม่เที่ยง ก็คิดอยู่หรอกว่าฝนอาจจะตก และดูเหมือนมันกำลังจะตกในไม่ช้านี้แล้วด้วย เพราะเมฆเทาๆ ลอยปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าเลยตอนนี้

อ่า ผมมัวแต่สนใจอย่างอื่นจนลืมสังเกตรอบตัวด้วยเหรอเนี่ย

เงยหน้ามองฟ้า หยุดยืนอยู่หน้าคณะแล้วในหัวก็หวนคิดถึงสิ่งที่ได้ยิน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ทุกถ้อยคำที่ได้ฟังมันทำให้ผมรู้สึกแย่...แย่มากๆ เลย

‘ไม่คิด เพราะไม่มีทางหรอกว่ะที่พี่ชนะจะคบกับไอ้พี่สระอะไรนั่นอะ’

‘ไม่ก็เปลี่ยนเกย์ให้กลับมาเป็นผู้ชาย’

‘ถ้าพี่มันเป็นเกย์จริงๆ กูว่ามึงตัดใจเหอะ พวกผิดเพศ ขนลุกว่ะ’

‘ระหว่างมึงกับเพื่อนที่ชื่อสระอะไรนั่นของเขา กูว่ามึงน่ารักกว่าตั้งเยอะ ยังไงผู้หญิงก็ดีกว่าผู้ชาย’

แปะ...แปะ แปะ แปะ

ฝนตกแล้ว แต่ผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม ก้มหน้าลงเล็กน้อยเมื่อคำพูดพวกนั้นยังวนเวียนไม่เลิกอยู่ในความคิด จนกระทั่งห่าฝนกระหน่ำลงมาอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครทันได้ตั้งตัว หลายคนถึงกับวิ่งเข้าไปหลบในตึกกันแทบไม่ทัน

“สระ!”

น้ำเสียงอันคุ้นหูดังฝ่าสายฝนมากระทบโสตประสาท ผมหันไปตามเสียงนั้น เห็นพยัญชนะมองมา ก่อนมันจะขอยืมร่มของเพื่อนร่วมคณะคนหนึ่งที่เดินผ่านมันพอดี แล้วกางวิ่งมาหาผม

“ทำไมมายืนตากฝนอยู่ตรงนี้ มึงเพิ่งหายป่วยนะ!”

“...” ผมไม่ตอบ แค่มองมันแล้วยกยิ้มบาง ความรู้สึกของผมมันหม่นมัวเหมือนสายฝนยามนี้ไม่มีผิด และผมยังหาสาเหตุที่แท้จริงของมันไม่ได้ว่าทำไมผมถึงได้รู้สึกแย่มากมายถึงขนาดนี้ ผมรู้แต่ว่ารอยยิ้มของผมมันฝืนสิ้นดี

ฝืนยิ้มเพราะไม่อยากให้คนที่ผมชอบไม่สบายใจ



_______________

สระเป็นอะไรอะ โอ๋ๆ นะลูกนะ //ลูบหัว

เดินทางมาเกินครึ่งเรื่องแล้วนะคะ แง เมื่อไหร่จะจบฟะ อยากให้เขาได้กันแล้ว! 55555 เมื่อวันก่อนไปดูเอนด์เกมมาค่ะ หน่วงไปทั้งวัน จนวันนี้เราก็ยังมูฟออนจากหนังไม่ได้ สมองว่างเปล่าทีไรน้ำตาซึมทุกที แล้วยัยสระของแม่ก็ดันมาดราม่ากับตัวเองอีก โถลูก มากอดคอกันร้องไห้กับแม่นะลูกนะ //หอมหัวน้อง

ไปละค่ะ ชักจะเพ้อเจ้อ 555 แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าฮับผม



ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เด็กแก นังนะ ทำให้ใจน้องสระอ่อนแอ รีบ ๆ จัดการเข้านะ  :katai1:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
สระต้องมั่นใจในตัวนะ มั่นใจในความรักของนะด้วย

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
สระต้องเชื่อมั่นในตัวของชนะนะ

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3

Nineteen

(พ.) : พัดลม (พ่อทูนหัว)

 

[พยัญชนะ]


“ถอดเสื้อช็อปออกก่อนสระ”

ผมบอกกับไอ้ดื้อเมื่อเราเข้ามาในห้องพักแล้ว มันทำตามแต่โดยดี ถอดช็อปออกเสร็จก็ถอดเสื้อยืดตัวในออกตาม ถึงจะโดนฝนไปแค่แป๊บเดียว แต่ตัวของมันก็เปียกโชกไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะหัวเนี่ย ผมลีบไปกับกรอบหน้าเล็กๆ ของมันหมดแล้ว

“กูไปอาบน้ำก่อนนะ” สระเอ่ยบอกพลางยิ้มน้อยๆ

ผมพยักหน้าให้ ดึงเอาเสื้อจากมือมันมา “เดี๋ยวกูเอาไปซักเอง กางเกงด้วย ถอดออกมาเลย”

“อืม”

สระถอดให้ตามที่ขอ เล่นเอาผมเบือนสายตาไปมองทางอื่นแทบไม่ทัน ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน เห็นมันเปลือยแบบที่มีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวพันเอวมาหลายหน แต่ถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากมองนานๆ นักหรอกครับ กลัวตัวเองห้ามใจไม่อยู่เผลอพุ่งตัวเข้าไปสัมผัสมันเกินเลยกว่าที่ควรจะเป็น เฮ้อ

“สระผมด้วยล่ะ หัวเปียกขนาดนั้น เดี๋ยวเป็นไข้ขึ้นมาอีกกูจะตีก้นทำโทษมึง”

คนโดนคาดโทษหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ โยนกางเกงยีนใส่หน้าผมก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป...ผมมองตามหลังอีกฝ่าย และผมมั่นใจว่าไม่ได้รู้สึกไปเองแน่นอน สระมีท่าทีแปลกไปตั้งแต่กลับมาจากซื้อน้ำ ประหลาดตั้งแต่มันยืนตากฝนแล้วด้วย

ผมน่ะคิดว่ามันผิดสังเกตมากๆ แต่พวกไอ้พีกลับไม่ทันมองออก มันบ่นเรื่องน้ำที่สระซื้อมาว่าละลายแถมยังมีน้ำฝนปนด้วยไม่หยุด จนถ้าผมไม่ได้มัวเป็นห่วงไอ้ดื้อที่เปียกปอนไปหมดทั้งตัว ผมคงได้ตบกะโหลกพวกแม่งไปคนละทีแล้ว สระอุตส่าห์ซื้อมาให้แดกแล้วยังจะบ่นกันอีก

ว่าแต่สระไปเจออะไรมาหรือเปล่านะ เดี๋ยวไว้ต้องเค้นถามมันหน่อยแล้ว

ระหว่างรอมันอาบน้ำผมก็ถอดเสื้อผ้าตัวเองออกบ้าง ถึงผมจะมีร่มแต่บางส่วนของร่างกายก็เปียกอยู่บ้างเหมือนกัน ก็นะ...ร่มที่ยืมเพื่อนในคณะมามันเล็กนิดเดียวเอง ผู้ชายสองคนเบียดกันยังไงก็ต้องมีเปียกบ้าง

ถอดเสร็จผมก็โยนเสื้อผ้าใส่รวมกันในตะกร้าแล้วยกทั้งหมดลงไปซักทีเดียวเลยที่เครื่องซักผ้าใต้หอ ดีหน่อยที่ผมมีชุดคลุมอาบน้ำแบบที่ในโรงแรมหรูๆ มักจะมีให้ลูกค้า พี่สาวผมซื้อให้ ไม่รู้เธอไปซื้อมาจากที่ไหนแต่ผมก็ชอบมันมาก เพราะมันทำให้ผมไม่ต้องเป็นไอ้โป๊เปลือยตอนเอาผ้าลงไปซักนี่ล่ะ

เสร็จจากหย่อนผ้าลงเครื่องอะไรเรียบร้อยผมก็กลับขึ้นห้องมา คว้าโทรศัพท์กดเล่นดูยูทูปรอไอ้ดื้ออาบน้ำให้เสร็จ แต่แล้วก็มีแชตหนึ่งเด้งขึ้นมา เป็นคนที่ผมไม่รู้จัก ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะผมรับเพื่อนแทบทุกคนที่แอดมา จะยกเว้นก็แต่พวกขายของกับพวกที่ไม่น่าไว้ใจ

ตอนแรกผมไม่คิดจะกดเข้าไปอ่าน เพราะหลังๆ มีคนทักมาจีบเยอะมากกว่าปกติจนผมเลือกที่จะไม่คุยกับใครเลยดีกว่า พวกเพื่อนๆ ก็เหมือนจะรู้มันเลยทักมาทางไลน์เวลามีธุระอะไรเกี่ยวกับเรื่องเรียน...

หนูพลอยเองนะคะ

มือที่กำลังจะปัดแจ้งเตือนทิ้งชะงัก พลอยงั้นเหรอ? หรือจะเป็นน้องพลอยคนนั้น

ผมกดเข้าไปอ่านข้อความ เปิดรูปโปรไฟล์ดูก็พบว่าเป็นน้องพลอยที่ให้ผ้าเช็ดหน้าผมมาจริงๆ ด้วย สงสัยน้องมันจะเห็นที่ผมโพสต์ตามหาแล้ว ดีเหมือนกัน ผมจะได้นัดเจอเพื่อเอาของไปคืน

ครับ ทักมาก็ดีแล้ว พี่จะเอาผ้าเช็ดหน้าไปคืนน่ะครับ

รอไม่นานน้องพลอยก็ตอบกลับมา

ไม่ต้องคืนหรอกค่ะพี่ หนูอยากให้พี่รับไว้

ไม่ได้หรอกครับ พี่ไม่รับของใครทั้งนั้น เพราะงั้นของน้องพี่ก็เลยอยากคืน คนอื่นจะได้ไม่คิดว่าพี่ลำเอียง

แต่หนูอยากให้พี่จริงๆ นะคะ หนูชอบพี่

ผมถอนหายใจ ดูจะขี้ตื๊อเหมือนกันแฮะ แต่ยังไงผมก็ต้องคืนให้ได้อะ ถ้าคนอื่นเห็นว่าผมคืนของน้องไปแล้ว จะได้ไม่มีใครเอาอะไรมาให้ผมอีก อย่างที่บอกว่าผมไม่อยากให้สระไม่สบายใจ และวิธีที่จะทำให้มันสบายใจก็คือการชัดเจนว่าผมจะไม่คิดไปชอบใครนอกจากมัน

รับคืนไปเถอะ พี่มีคนที่ชอบแล้ว

ฝั่งนั้นขึ้นว่าอ่านแล้วแต่เงียบไปเลย ไม่มีแม้แต่ขึ้นว่ากำลังพิมพ์ ผมก็เลยได้แต่รอ จนผ่านไปหลายนาทีอยู่กว่าที่น้องจะตอบกลับมาได้สักที

หนูถามได้ไหมว่าใครคือคนที่พี่ชอบเหรอคะ

คนที่ใครๆ ก็รู้กันดีนั่นล่ะครับน้อง

ผมตัดสินใจตอบไปตามตรง ผมไม่สนหรอกนะว่าใครจะมองผมเป็นเกย์หรือว่าอะไร ผมคิดว่าเรื่องของเพศมันไม่มีการแบ่งแยกอะไรทั้งนั้น มันก็แค่เราชอบคนคนหนึ่ง คนที่ไม่ว่าเขาจะเป็นเพศไหน แต่สิ่งที่เราชอบก็คือตัวตนของเขาไม่ใช่เพศสภาพที่เขาเป็น

ผมชอบสระเพราะสระเป็นตัวเอง เป็นคนในแบบที่รู้ตัวอีกทีผมก็ละสายตาไปจากมันไม่ได้แล้ว ถ้าการที่ผมชอบมันจะทำให้ผมโดนหาว่าเป็นเกย์ผมก็ไม่สนใจหรอก เกย์ก็ไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อยนี่ คนที่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นหรือทำตัวไม่ดีต่างหากที่ผิด

พี่ชนะเป็นเกย์เหรอคะ...

ถ้าการชอบเขาหมายความว่าพี่เป็นเกย์ ก็ใช่ครับ ตามนั้น

อ่า แย่จัง หนูอกหักซะแล้วสินะคะ

ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆ ที่มีให้นะครับ แต่ก็ต้องขอโทษด้วยที่พี่ตอบรับน้องไม่ได้

ไม่เป็นไรเลยค่ะพี่ หนูเข้าใจ

งั้นก็ช่วยรับผ้าเช็ดหน้าของน้องคืนไปด้วยได้ไหมครับ

มันขึ้นว่าอ่านอยู่และกำลังพิมพ์ แต่เหมือนจะพิมพ์นานมากเพราะผมรอมานาทีกว่าแล้วยังไม่เห็นน้องกดส่งข้อความมาสักที อ่า ให้ตายเถอะ หรือน้องมันจะปฏิเสธไม่รับคืนอีก

ผมกำลังจะพิมพ์ย้ำไปว่าผมต้องการคืนของให้และไม่อยากรับไว้จริงๆ ก็พอดีกับที่สระอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมา ผมมองตามไอ้ดื้อไปโดยไม่ได้พูดอะไร ส่วนเจ้าตัวก็เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดนอนออกมาใส่

มันพยักพเยิดหน้าให้พลางว่า “ไปอาบต่อจากกูเลยดิ”

“แป๊บหนึ่ง คุยกับน้องพลอยอยู่”

ผมก้มหน้าลงมองจออีกครั้งเมื่อน้องมันส่งข้อความตอบกลับมาแล้ว

ก็ได้ค่ะ พี่ชนะว่างเมื่อไหร่คะ เดี๋ยวพลอยไปเอาที่คณะพี่ก็ได้

ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่ไปหาน้องเอง ว่าแต่น้องเรียนคณะไหนครับ

บริหารค่ะ ข้างๆ คณะพี่นี่เองค่ะ

โอเคครับ งั้นเวลาเป็นพรุ่งนี้เที่ยงได้มั้ย เจอกันที่ร้านน้ำป้าหวาน

ได้ค่ะพี่ พรุ่งนี้เที่ยงหนูว่าง

ครับ ไว้เจอกัน

ผมยิ้มหน้าบานเมื่อพบว่าน้องมันยอมเข้าใจเจตนาของผม แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าสระกำลังทำหน้าแหย หน้าเหมือนคนกำลังจะร้องไห้...หรือเปล่าวะ?

“เป็นอะไร...”

“ไปอาบน้ำได้แล้วมึงอะ มึงก็เปียกเหมือนกันไม่ใช่เหรอวะ?”

“อืม” ผมตอบรับ จ้องมองไอ้ดื้อเพื่อเช็กให้แน่ใจว่ามันไม่ได้เป็นอะไร แต่เมื่อมันยังแสดงออกอย่างปกติผมก็เลยยอมโยนโทรศัพท์ทิ้งไว้บนเตียงแล้วลุกไปอาบน้ำบ้าง ก่อนเข้าห้องน้ำไม่ลืมบอกคนดื้อด้วยว่า “เช็ดผมด้วยนะสระ”

“คร้าบพ่อ” ไอ้ดื้อตอบรับเสียงยานคาง ผมก็เลยหยิกจมูกมันไปเบาๆ ทีหนึ่งแล้วก้าวเข้าห้องน้ำหนีมาก่อนมันจะได้โวยวายแล้วต่อยไหล่ผมสองสามตุ๊บ

ผมอาบน้ำไวที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อจะได้รีบออกไปเช็ดผมให้สระ ถ้าให้ผมเดามันต้องแต่งตัวเสร็จแล้วนั่งเล่นโทรศัพท์แน่ๆ ดื้อจะตายเรื่องเช็ดผมให้แห้งเนี่ย แต่ไหนแต่ไรผมต้องคอยเช็ดให้มันตลอดนี่นะ

ครึ่งชั่วโมงต่อมาผมก้าวออกจากห้องน้ำ มองหาไอ้ดื้อก็เห็นมันยืนคุยโทรศัพท์อยู่กับใครก็ไม่รู้ตรงระเบียงห้อง ประตูแง้มเปิดไว้เล็กน้อยพอให้ผมได้ยินบทสนทนาของมันกับใครสักคนที่ว่านั่น

“กูไม่ได้กังวลเรื่องนั้นเลยเกรซ ไม่ได้กลัวคนมองไม่ดีด้วย...ก็นั่นล่ะกูถึงได้โทรไปปรึกษามึงไง ก็ไม่ใช่อีกแหละเกรซ กูจะต้องมาเสียใจแค่เพราะผู้หญิงคนหนึ่งน่ารักกว่ากูเหรอ ไม่ใช่เรื่องป่ะ?”

สระถอนหายใจใส่คนปลายสาย แล้วมันก็เงียบไปอีกหลายนาทีเหมือนกำลังตั้งใจฟังฝั่งนั้นพูด ว่าแต่อะไรทำให้ไอ้ดื้อต้องโทรไปหาไอ้เกรซวะ ทำไมไม่ปรึกษาผม ผมอยู่ตรงนี้กับมันแทบจะตลอดเวลาไหมอะ

“เกรซมึงอย่าอินเกิน เออ กูว่ากูรู้แต่กูก็อยากได้คำยืนยันจากใครสักคน แล้วถ้ากู...มึงคิดงั้นเหรอ” จู่ๆ สระก็เงียบไปอีก ก่อนมันจะจบการสนทนาอย่างรวดเร็ดเมื่อเหลือบมาเห็นผมยืนมองอยู่ไม่ไกล “โอเค เข้าใจแล้ว ขอบใจมึงมากเกรซ กูวางก่อนนะ บาย”

ผมกับสระสบตากันโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะเป็นผมเองอีกเหมือนเคยที่กวักมือเรียกมันให้เดินกลับเข้ามา “ถึงฝนจะหยุดตกแล้วแต่อากาศก็เย็นนะสระ เดี๋ยวมึงก็ไม่สบายอีกหรอก แล้วก็มานั่งนี่ด้วย กูจะเช็ดผมให้”

“เอ่อ กูลืมอะ”

“ไม่ต้องมาลืมเลยไอ้ดื้อ ขี้เกียจก็บอก” ผมกดอีกฝ่ายนั่งลงบนเตียง แล้วเดินไปหยิบพัดลมขึ้นมาวางข้างๆ มัน กดปุ่มเปิดเพื่อให้ลมเย็นช่วยพัดเส้นผมอีกแรง จะได้แห้งเร็วมากขึ้น จากนั้นก็คว้าเอาผ้าขนหนูผืนเล็กที่มันพาดบ่าเอาไว้มาเช็ดหัวเปียกๆ ให้มันไปด้วย

สระนั่งนิ่งยอมให้ผมทำให้ ปากมันก็ถามไปด้วย “แล้วไมมึงไม่แต่งตัวก่อนวะ”

“กูอยากแน่ใจว่าหัวมึงจะแห้งก่อนเปิดแอร์”

“คร้าบๆ ขอโทษด้วยคร้าบที่ไม่ยอมเช็ดผม”

“กูไม่อยากให้มึงป่วยอีกหรอกนะสระ” ผมบอกมัน รั้งแก้มมันขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง ให้เราได้สบตากันอีกครั้ง “กูเป็นห่วงมึงมาก มึงก็น่าจะรู้”

สระยิ้มบาง “กูรู้ กูเองก็เป็นห่วงมึงมากเหมือนกันเหอะ”

“งั้นก็อย่าดื้อให้มันมากแล้วฟังกันบ้าง”

“มึงนี่บ่นเป็นพ่อกูเลยนะไอ้ห่า”

ผมกระตุกยิ้ม กลับไปเช็ดผมให้อีกฝ่ายต่อหลังจากมองตากันจนพอใจแล้ว “ที่ทำให้อยู่ตอนนี้ก็คาดหวังว่าจะได้เป็นพ่อมึงอยู่นะ”

“...”

“พ่อทูนหัวอะ”

สระพ่นลมหายใจแรงหลังจากผมพูดจบ มันบ่นอุบอิบ แต่ผมเห็นนะว่าหูมันแดงเรื่อขึ้นมา และผมจะคิดเข้าข้างตัวเองว่ามันเขินผม หึ : )

“มุกเดิมๆ ไม่เบื่อบ้างรึไง”

“ไม่เบื่อหรอก” ผมตอบ “เหมือนที่ชอบมึงอะ”

“...”

“กูไม่เคยเบื่อที่จะชอบมึงเลยรู้ป่ะ”

คราวนี้คนฟังถึงกับตัวแข็งทื่อ ก่อนมันจะกำหมัดต่อยหน้าท้องผมเบาๆ สองสามที เขินแล้วเถียงไม่ออกก็ใช้กำลังตลอด คนอะไรวะน่ารักไปหมดทุกการกระทำขนาดนี้ เมื่อไหร่ผมจะได้ฟัดมันแบบที่ผมไม่ต้องกังวลกับสถานะที่ยังค้ำคออยู่ตอนนี้

“พูดมากไอ้สัด ไปแต่งตัวไป กูเช็ดต่อเอง”

ผมหัวเราะให้กับการแก้อาการขัดเขินของอีกฝ่าย ก่อนตัดสินใจรั้งใบหน้าน่ารักให้เงยขึ้นมามองกันอีกครั้ง ก่อนจะร้องขอในสิ่งที่ทำให้คนฟังหน้าแดงอีกรอบ

“ขอหอมแก้มทีได้ป่ะ”

สระอ้าปากพะงาบๆ เหมือนจะตกใจที่ผมขออะไรแบบไม่ทันได้ตั้งแต่ แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็พยักหน้าให้ ผมก็เลยยิ้มกว้าง โน้มลงไปฟัดแก้มขาวทั้งสองข้างสลับไปมาหลายรอบจนอีกฝ่ายดิ้นขลุกขลัก

“ไอ้เหี้ยนะ~ หอมเยอะเกินไปแล้วไอ้ฟัก!”

“ก็ไม่ได้บอกนี่ว่าขอหอมกี่ที”

“พอแล้วไอ้เวร ไปแต่งตัว!”

ผมหัวเราะส่งท้ายแล้วยอมปล่อยอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ เดินไปแต่งตัวแต่ปากก็เอ่ยถามถึงสิ่งที่ยังคาใจ เหลือบมองปฏิกิริยาคนโดนถามไปด้วยว่ามันจะเลิ่กลั่กใส่เพราะไม่อยากตอบหรือเปล่า

“คุยอะไรกับเกรซวะ”

สระชะงักอย่างที่ผมคิด ก่อนมันจะไหวไหล่ “เรื่องทั่วไปอะ”

“เหรอ ถึงกับต้องปรึกษามัน กูว่าไม่ทั่วไปแล้วมั้ง”

“...”

“ทำไมมีอะไรไม่ปรึกษากูอะ กูอยู่กับมึงตลอดเวลาหรือเปล่าวะสระ” ผมหันไปพูดกับอีกฝ่ายตรงๆ จะหาว่าผมงี่เง่าก็ได้แต่ผมก็แอบน้อยใจนะที่มันไม่เห็นผมมาเป็นอันดับในเวลาที่มันมีปัญหาน่ะ

“คือกู...” สระเม้มปาก ดูหน้ามันก็รู้ว่าลังเลที่จะพูด “คือวันนี้กูไปเจอน้อง...”

ติ๊ง

เสียงแชตเด้งแจ้งเตือนดังขึ้นขัดจังหวะเราทั้งคู่ และผมคงจะปล่อยผ่านถ้าไม่ใช่เพราะมันคือแชตของผมและคนที่ทักมาคือน้องพลอย อะไรอีกล่ะวะ อย่าบอกนะว่าเปลี่ยนใจอีกแล้ว

ผมคว้าสมาร์ตโฟนมากดอ่านข้อความ แต่พอน้องเขาส่งแชตมาเพื่อบอกแค่ว่าขอเลื่อนเป็นห้าโมงเย็นได้ไหมเพราะเที่ยงไม่ว่างแล้ว ผมก็เลยตอบกลับไปว่าได้แล้วจบกัน เฮ้อ นึกว่าจะต้องหาทางตื๊อให้น้องมันยอมรับของคืนไปซะอีก

หันมาอีกทีเพราะคิดจะคุยกับสระให้รู้เรื่อง แต่ผมก็เห็นอีกฝ่ายทำหน้างอใส่จนอะไรที่จะหลุดออกไปจากปากถึงกับชะงักค้างอยู่กลางลำคอ อะ...อะไรวะ เหมือนสระไม่พอใจอะไรผมเลยแฮะ รึเปล่า?

“สระ...”

“กูนอนแล้วนะ ฝันดี”

“อ้าวเฮ้ย เดี๋ยวก่อนดิสระ!”

ผมขยับเข้าไปหาอีกฝ่าย แต่ไอ้ดื้อก็ทิ้งตัวลงนอนหันหลังให้ผม เป็นสัญญาณว่าไม่อยากคุยและจะนอนจริงๆ และแม้ว่าผมจะอยากเคลียร์ให้รู้เรื่องมากแค่ไหน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่สระแสดงอาการว่าไม่พอใจและไม่อยากจะคุย ผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอให้เขาใจเย็นลง

นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย?


_____________________

พ่อทูนหัวงงเลย ทำไมลูกรักงอนกันได้ 55555 สำหรับตอนที่แล้ว ดีใจที่มีคนอินไปด้วยกันกับเรานะคะ ตอนเขียนก็ด่าฝ้ายไปเยอะ เขียนเองด่าเองนี่ล่ะ 555 บนสังคมมีคนแบบนี้อยู่จริงเนอะ เราก็เคยเจอๆ มาบ้าง ตอนแรกก็โมโห แต่ตอนหลังปลงไปแล้วเพราะจะเปลี่ยนทัศนคติคนในบางเรื่องนั้นยากเกินไป ส่วนตอนหน้าเป็นตอนที่เราอยากเขียนมาก เขียนไปเขินไป ฮื่อ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะคะ ขอคนละเมนต์ได้มั้ย แค่คำว่าน่ารักกกกกกกก ก็ได้ แง T_T



 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด