ตอนที่ ๓๕
T
B
ลลิตภัทรนั่งมองบรรดาเด็กนักเรียนเดินออกมาจากโรงเรียนอย่างใจเย็น เขาเห็นเจ้าน้องน้อยถูกพ่อมารับตั้งแต่เลิกเรียนแล้ว ลูกเจี๊ยบของเขามีสีหน้าเศร้าหมองจนน่าสงสาร หากเป็นเวลาปกติเขาคงจะไปดึงมากอดให้จมอกแล้วปลอบให้คลายเศร้า
แต่ในตอนนี้ ลลิตภัทรจะทำอะไรผลีผลามไม่ได้เด็กขาด
แดนดินนั้นหัวรั้นและอารมณ์ร้าย ยิ่งมีประเด็นกับเขาด้วยแล้วแดนดินยิ่งเพิ่มเลเวลความดุร้ายเพิ่มขึ้นมาอีก ถ้าเปรียบเป็นหมาตอนนี้แดนดินคือพันธุ์ผสมระหว่างล็อตไวเวอร์ผสมบางแก้ว เอาแต่แยกเขี้ยวทั้งวัน ไม่รู้ว่าจิ๊บนั้นเลี้ยงผัวด้วยน้ำผึ้งรึไงถึงได้ดุแท้
ได้แต่ภาวนาว่าแก่ตัวไปเจ้าเจี๊ยบน้อยจะไม่ดุร้ายเหมือนพ่อ ไม่งั้นลลิตภัทรคงตายคาเท้าลูกเจี๊ยบแน่ๆ
ปัญหาของเขากับลูกเจี๊ยบน้องต้องค่อยเป็นค่อยไปทุกอย่างต้องใจเย็นแม้ในอกของเขาจะร้อนราวกับมีไฟแผดเผาอยู่ก็ตาม ชายหนุ่มหยิบหมากฝรั่งขึ้นมาเคี้ยวเป็นแผ่นที่ห้า เคาะปลายนิ้วเรียวกับพวงมาลัยรถแก้เบื่อ
เกือบห้าโมงเย็นคนที่เขารอคอยก็เดินออกมาจากรั้วโรงเรียนและกำลังเดินมาทางนี้ เมื่อเป้าหมายใกล้เข้ามาลลิตภัทรก็ไม่รอช้า ชายหนุ่มเปิดประตูรถลงไปดักหน้าเด็กคนนั้นทันที
" วุ้นใช่มั้ยครับ นี่อาลอเองนะครับรบกวนไปกับอาหน่อย”วิชยุตม์จ้องหน้าลลิตภัทรก่อนจะพยักหน้ารับ เพราะลูกเจี๊ยบเคยเปิดรูปอาลอให้ดูเด็กหนุ่มจึงจำได้ ร่างเล็กก้าวขึ้นรถที่ลลิตภัทรเปิดประตูให้อย่างสุภาพ เด็กหนุ่มลอบมองเสี้ยวหน้าของคนที่ตั้งใจขับรถแล้วนึกชมไม่ได้จากรูปที่ลูกเจี๊ยบเปิดให้ดูว่าหล่อแล้วพอมาเจอตัวจริงรูปถ่ายพวกนั้นเทียบกับลลิตภัทรตัวเป็นๆไม่ได้เลยซักนิด
“วุ้นต้องรีบกลับบ้านหรือเปล่าครับ?”วิชยุตม์สะดุ้งเมื่ออยู่ๆลลิตภัทรก็หันมาถาม เด็กน้อยรีบส่ายหน้าก่อนจะนึกได้ว่าเป็นกริยาที่ไม่สมควร
“ไม่รีบครับ”
“พอดีอามีเรื่องอยากคุยด้วย วุ้นเป็นเพื่อนสนิทของเจี๊ยบน่าจะรู้แล้วใช่มั้ยครับ?”
“ครับ เจี๊ยบเล่าให้ผมฟังแล้วครับ”ลลิตภัทรพยักหน้าเบาๆ
“เดี๋ยวกินข้าวกันก่อนเนอะค่อยคุยกัน”ชายหนุ่มหักพวงมาลัยเข้ามายังห้างใหญ่ก่อนจะเดินนำเข้าไปในห้าง
“วุ้นอยากกินอะไรมั้ยครับ?”
“อะไรก็ได้ครับ”เด็กหนุ่มไม่ค่อยรู้หรอกว่าร้านอะไรน่ากิน กับเด็กฐานะแบบเขาปกติหนูสุดก็ไก่ทอดเจ้าดังมื้ออื่นๆก็อาหารข้างทางปกติธรรมดา ลลิตภัทรจึงเดินนำเพื่อนของคนรักเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น
“วุ้นทานปลาดิบได้มั้ยครับ?”
“เอ่อ...ผมไม่ค่อยถนัดน่ะครับ”เด็กหนุ่มตอบด้วยท่าทางไม่มั่นใจนัก
“งั้นสั่งมาลองนะครับเผื่อชอบ วุ้นสั่งที่อยากทานมาเลยครับไม่ต้องเกรงใจ”ลลิตภัทรมองเด็กตรงหน้าด้วยดวงตาของคนใจดี มองก็พอจะรู้ว่าฐานะของวุ้นนั้นไม่ได้ดีมาก การจะได้ทานอาหารอร่อยราคาค่อนข้างแพงจึงเป็นโอกาสพิเศษจริงๆ ลลิตภัทรรอให้อาหารมาเสิร์ฟจนครบชายหนุ่มบอกให้วิชยุตม์กินก่อนเดี๋ยวค่อยคุย แม้ในใจจะอยากรู้เรื่องเจ้าเจี๊ยบจนแทบทะลุออกนอกอกยังไงแต่เขาจะไม่ผลีผลาม
ทุกอย่างต้องใจเย็นและรอเวลาแดนดืนเป็นคนหัวรั้นแค่ไหนลลิตภัทรรู้จักดี
วิชยุตม์ยกมือไหว้ขอบคุณยามลลิตภัทรคีบปลาดิบมาใส่จานให้เด็กน้อยมองอย่างชั่งใจก่อนจะทำตามที่ลลิตภัทรสอนว่าต้องกินยังไง กลั้นอกกลั้นใจเอาเข้าปากเคี้ยวแม้มันจะลื่นๆลิ้นแต่ใจของวิชยุตม์ดันไปนึกถึงว่าตนเองกินของดิบอยู่จึงเกือบอ้วกออกมา ลลิตภัทรรีบหยิบกระดาษทิชชู่ส่งให้
"ทานไม่ได้ก็ไม่ต้องฝืนนะ"ลลิตภัทรเลื่อนจานอาหารอย่างอื่นให้โดยเอาปลาดิบมาไว้ด้านหน้าของตนเองแทน
"ไม่ต้องคิดมาก ไม่ใช่ใครทุกคนจะกินปลาดิบเป็น อย่างลูกเจี๊ยบนะรายนั้นหัดตั้งนานกว่าจะกินได้"ลลิตภัทรเล่าถึงคนรักด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม วุ้นมองแววตาของคนแก่กว่าแล้วก็พลอยยิ้มตามไม่ได้
อาลอรักลูกเจี๊ยบมากจริงๆ การมีคนรักที่จดจำรายละเอียดทุกอย่างของเราได้นั้นถือเป็นความโชคดีอย่างหนึ่ง
หากวิชยุตม์มีคนรักก็อยากให้เหมือนกับอาลอเพราะไม่ว่าจะทำหรือพูดอะไรก็มักจะมีชื่อของลูกเจี๊ยบออกจากปากเสมอ
เขาอยากช่วย อยากสนับสนุนความรักของลูกเจี๊ยบ
แม้แรงกายแรงใจของเด็กอย่างเขาจะน้อยแต่การที่พระลอเลือกที่จะมาหาเขานั้นก็แสดงว่าตัวเองยังมีประโยชน์กับคนอื่นอยู่บ้าง
“อาลอมีอะไรจะให้ผมช่วยเหรอครับ”วุ้นเอ่ยปากหลังจากทานไปได้ซักระยะ จะเรียกว่าเขากินอยู่ฝ่ายเดียวก็เป็นได้เพราะลลิตภัทรเอาแต่นั่งเหม่อเขี่ยอาหารในจานไปมาพลอยทำให้เขาเกร็งไปด้วย
“เจี๊ยบป็นยังไงบ้าง แผลที่ขาหายหรือยัง?”เขาเอ่ยคำถามที่ค้างคาในใจมาร่วมสัปดาห์ วิชยุตม์ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างไม่ปิดบัง
“แผลตกสะเก็ดแล้วล่ะครับเจี๊ยบทายาทุกวันย่าจะไม่มีแผลเป็น แต่เจี๊ยบเศร้าทุกวันเลย ทำไมอาลอไม่ไปคุยกับพ่อแม่เจี๊ยบให้เป็นเรื่องเป้นราวล่ะครับ”วิชยุตม์เอ่ยปากถามอย่างตรงไปตรงมา อันที่จริงคนเด็กกว่าก็แอบเคืองที่ลลิตภัทรหายหน้าหายตาไม่ยอมไปคุยกับพ่อแม่เจี๊ยบให้เรียบร้อย ลลิตภัทรตวัดสายตามองหน้าเด็กตรงหน้าจนวิชยุตม์รู้ตัวว่าตัวเองเผลอทำกริยาไม่ดีใส่คนเป้นผู้ใหญ่ไป
“ขอโทษครับ”
“อาอยากไปหาลูกเจี๊ยบ แต่วุ้นคิดตามอานะ ตอนนี้กำนันกำลังโกรธเพราะเรื่องมันยังสดใหม่ พ่อของลูกเจี๊ยบภายนอกดูเป็นคนใจดีก็จริงแต่เวลาโมโหน่ะเขาไม่สนหน้าอิฐหน้าพรหมอะไรทั้งนั้น รอยหวายที่ขาเจี๊ยบนั่นก็เป็นข้อพิสูจน์ได้ อาถึงไม่กล้าผลีผลามไป อันที่จริงอาเคยคิดว่าจะบุกไปบ้านเจี๊ยบโชคดีที่งานทางอบต.เร่งมาทำให้อามีเวลาทบทวนและคิดว่าอาควรทำยังไงต่อไป ถ้าไปหาเลยแล้วผลที่ออกมามันแย่กว่าเดิมอย่างกำนันแดนดินน่ะโทรกริ๊งเดียวเขาก็แยกน้องเจี๊ยบให้ห่างจากอาโดยที่อาคงหาเจี๊ยบไม่เจอ ดังนั้นสิ่งที่อาทำได้ในตอนนี้คือเคลียร์ตัวเอง”
“เคลียร์ตัวเอง?”วิชยุตม์ทวนคำอย่างไม่เข้าใจ”
“ใช่ อาต้องเคลียร์ตัวเองว่าตอนนี้ ณ เวลานี้ อามีแค่เจี๊ยบคนเดียวและต่อจากนี้ไปจะไม่มีใครมาชี้หน้าด่าได้ว่าเจี๊ยบแย่งอามาจากใคร ทั้งที่อาไม่จำเป็นต้องไปจัดการอะไรพวกนั้นเลยแต่เพื่อเจี๊ยบอายอมทิ้งศักดิ์ศรียอมให้คนที่ทำลายเราดูถูก ที่อาทำไปทั้งหมดก็เพื่อเจี๊ยบ เพราะฉะนั้นอาอยากขอความช่วยเหลือจากวุ้น”
“อาลอจะให้ผมช่วยอะไรครับ ถ้ามันทำให้เจี๊ยบหายเศร้าผมก็จะช่วย”
“อาอยากเจอเจี๊ยบ...”
“หลังจากได้ฟังวุ้นเล่าเหตุการณ์เมื่อวานใจของลูกเจียบก็สั่นโครมครามอย่างตื่นเต้น
อาลอไม่ได้เมินเฉยต่อปัญหาแต่กลับพยายามแก้ปัญหานั้นด้วยตัวคนเดียว แม้ใจของลูกเจี๊ยบก่อนหน้านี้จะเศร้าสลดแต่เมื่อได้รู้ความจริงแบบคร่าวๆอารมณ์โกรธและแง่งอนก็ปลิวหายราวกับลลิตภัทรหอบเอาลมเย็นมาช่วยปัดเป่า
“อาลออยากเจอเจี๊ยบ”ลูกเจี๊ยบหลุดยิ้มดีใจออกมพลันก็หุบยิ้มทันทีเหมือนต้นไมยราพที่ถูกลูบผ่าน ความดีใจแปรเปลี่ยนเป็นความเสียใจและเสียดาย
“จะเจอได้ยังไงล่ะถ้าอาลอหาเจี๊ยบที่บ้านพ่อได้เอาปืนมาไล่ยิงแน่ๆ เรายังไม่อยากให้อาลอตาย”ลูกเจี๊ยบบอกตามซื่อ ถึงแม้พ่อจะไม่ได้พูดอะไรถึงเรื่องนี้อีกแต่ลูกเจี๊ยบรู้ดีว่าพ่อนะไม่มีทางยอมอภัยให้กับความผิดจากการทำตัวเหลวไหลของลูกเจี๊ยบง่ายๆแน่
เมื่อใดที่มีอะไรไปสะกิดใจแดนดินก็พร้อมจะระเบิดอีกรอบ อย่างเช่นเมื่อวันก่อนที่เจ้าจอมเอารถบังคับที่ลลิตภัทรให้มาเล่นพอแดนดินรู้ว่าของเล่นชิ้นนั้นเป็นของใครรถบังคับก็แปลงร่างเป็นเครื่องบินลอยละลิ่วลงไปกองที่ใต้ถุนบ้าน แก้วเจ้าจอมร้องไห้จ้าด้วยเพราะเป็นของเล่นชิ้นโปรดสุดหวงแสนรักจนป่านนี้ก็ยังไม่ยอมคุยกับพ่อเลยด้วยซ้ำ
“ทำตามที่เราบอกก็พอ”
แดนดินหรี่ตามองหาลูกชายยามเมื่อคาบสุดท้ายสิ้นสุดลง บรรดาเด็กนักเรียนต่างพากันทยอยเดินออกมานอกรั้วโรงเรียน ไม่นานลูกเจี๊ยบก็สะพายเป้ใบใหญ่ออกมา แต่วันนี้แปลกตรงมีเพื่อนของเจี๊ยบที่ตัวเล็กกว่าลูกชายของเขาเดินตามออกมาด้วย แดนดินลดกระจกลงเมื่อลูกเดินมาถึงรถ
“พ่อจ๋านี่วุ้นเพื่อนน้องที่น้องเคยเล่าให้ฟังจ้า”เจี๊ยบแนะนำเพื่อนให้พ่อรู้จัก แดนดินส่งยิ้มใจดีให้กับเพื่อนของลูกเจี๊ยบแล้วรับไหว้วุ้นที่ยกมือไหว้เขาอย่างเรียบร้อย
“สวัสดีครับพ่อ”
“ไหว้พระเถอะลูก วันนี้ทำไมมาพร้อมลูกเจี๊ยบได้ล่ะทุกวันพ่อเห็นเจี๊ยบออกมาคนเดียว”
“พอดีวันนี้วุ้นไม่มีทำเวรกับช่วยอาจารย์น่ะครับเลยออกมาด้วยได้ วุ้นจะมาขออนุญาตพ่อให้เจี๊ยบมาทำรายงานกับวุ้นพรุ่งนี้ด้วยน่ะครับ”วุ้นบอกจุดประสงค์ที่เดินออกมาพร้อมลูกเจี๊ยบให้กับแดนดิน กำนันหนุ่มขมวดคิ้วทันที
“รายงานอะไร?”
“เคมีครับอาจารย์ให้จับกลุ่มกันทำวุ้นทำกับเจี๊ยบแล้วมันเยอะมากก็เลยมาขออนุญาตพ่อก่อน”
“วุ้นไปทำที่บ้านพ่อไม่ดีกว่าเหรอ พ่อไม่ค่อยอยากให้น้องห่างบ้านเลย”
“คือมันต้องหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตน่ะจ้าพ่อ บ้านเราไม่ได้ติดเน็ต”ลูกเจี๊ยบรีบบอกกับพ่อ เด็กสองคนลอบมองแดนดินที่ทำท่าใช้ความคิดก่อนจะพยักหน้า
“ก็ได้ แล้วต้องมากี่โมงพ่อจะได้มาส่ง”
“ซัก 9 โมงพ่อสะดวกมั้ยครับ พอดีเนื้อหาที่ต้องหาข้อมูลมันเยอะถ้ามาสายกลัวว่าจะเสร็จไม่ทัน”
“ได้ เดี๋ยวพ่อพาเจี๊ยบมาส่ง ว่าแต่เจี๊ยบรู้จักบ้านเพื่อนแล้วใช่มั้ย”แดนดินหันไปถามลูก ลูกเจี๊ยบรีบพยักหน้ารับ
“รู้จักแล้วจ้า พ่อมาส่งเจี๊ยบที่โลตัสก็ได้จ้าเราต้องซื้อหนังสือเพิ่ม”
“งั้นก็ได้ ให้พ่อไปส่งที่บ้านมั้ยวุ้น?”
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยววุ้นต้องไปรับน้องที่โรงเรียนก่อน งั้นสวัสดีตรงนี้นะครับ”วุ้นยกมือไหว้แดนดินก่อนจะโบกมือบ๊ายบายลูกเจี๊ยบ เจ้าเจี๊ยบน้อยยิ้มหวานให้กับเพื่อนก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถเข้าไปนั่งประจำที่ วันนี้ลูกเจี๊ยบอารมณ์ดีเพราะพรุ่งนี้จะได้เจออาลอแล้ว
“ทำไมวันนี้ดูอารมณ์ดี”แดนดินที่สังเกตลูกอยู่ถึงกับเอ่ยปากถามเพราะตลอด 8 วันที่ผ่านมาลูกเจี๊ยบพูดแทบจะนับคำได้ข้าวปลาก็แทบจะไม่ยอมออกมากินเวลาเผลอก็แอบนั่งเช็ดน้ำตาป้อยๆแต่วันนี้เจ้าเจี๊ยบน้อยของเขากลับมีรอยยิ้มแต้มที่ริมฝีปาก
“วันนี้คะแนนสอบย่อยของน้องได้ดีน่ะจ้าน้องเลยอารมณ์ดี”ลูกเจี๊ยบปดผู้เป็นพ่อก่อนจะดึงหน้าตัวเองให้กลับไปเรียบขรึมเช่นหลายวันที่ผ่านมา แดนดินถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขาเองก็ใช่ว่าจะไม่สงสารลูกยิ่งลูกมึนตึงใส่หัวใจคนเป็นพ่อเหมือนถูกเหยียบ
แต่เขาจะทำยังไงได้
นี่น่ะยอดดวงใจของเขาทั้งคน
“ที่พ่อทำไปทั้งหมดก็ขอให้รู้ไว้นะเจี๊ยบว่าพ่อรักหนู”ลูกเจี๊ยบน้อยเม้มปากกลั้นน้ำตาที่พาลจะไหล รู้สึกตัวเองเป็นลูกที่แย่ขึ้นมาเสียอย่างนั้น
เจี๊ยบรู้ว่าพ่อรักเจี๊ยบ แต่เจี๊ยบก็โตพอจะรับผิดชอบชีวิตของตัวเองได้แล้วนะจ๊ะพ่อจ๋า
เจี๊ยบก็รักพ่อ รักแม่ รักน้อง รักโรงเรียน รักปลา รักซากุระ
และที่สำคัญ
เจี๊ยบก็รักอาลอมากเช่นกัน
เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะฝ่าฝืนความรักความหวังดีของพ่อในวันพรุ่งนี้
เจี๊ยบจะไม่เสียใจ
ไม่เสียใจเลยซักนิด...
ลูกเจี๊ยบพยายามเก็บอาการมาตลอดตั้งแต่เย็น พอถึงตอนเช้าก็ออกมาช่วยแม่ทำกับข้าวกับปลาเหมือนเช่นทุกวัน จิ๊บมองลูกที่ใจลอยอยู่บ่อยครั้งแล้วก็ให้หนักใจเพราะคิดว่าลูกยังคงเศร้ากับเรื่องที่ถูกกีดกันไม่ให้พบกับพระลออีก แต่เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะมาตามใจกันได้ ตัวอย่างก็มีให้เห็นจากตัวเอง แทนที่จะได้ร่ำเรียนสูงๆสุดท้ายก็จบแค่มัธยมต้น
“เจี๊ยบ ถ้าไม่สบายก็ไม่ต้องช่วยแม่หรอก ไปเตรียมตัวเถอะกินข้าวเสร็จพ่อเขาจะได้ไปส่งเลย”หล่อนฉวยทัพพีที่ลูกถือมาไว้ในมือก่อนจะช้อนฟองในต้มจืดออก
“น้องไม่ได้เป็นไรจ้าแม่ แค่คิดอะไรเพลินนิดหน่อย”
“คิดถึงลอเหรอ”ลูกเจี๊ยบน้อยชะงักเมื่อแม่เอ่ยปากถามออกมา ใบหน้านวลขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่ารัก
“อยู่กับแม่คุยได้”จิ๊บหันมาลูบแก้มของลูกเบาๆ
“คิดถึงจ้า”
“พ่อกับแม่รักเจี๊ยบนะ ที่พ่อทำไปก็เพราะรักมากหวงมาก หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่น่ะห่วงอนาคตลูกที่สุด วันนี้ที่พ่อเขาตีน้อง เขาก็รู้สึกผิด แต่จะให้ย้อนเวลากลับไปพ่อก็ตีน้องอยู่ดีเพราะพ่อเขาอยากให้น้องรู้ว่าสิ่งที่น้องกับลอทำลงไปเหมือนมีดที่กรีดใจพ่อแม่ ความรักไม่ใช่เรื่องผิด แต่ที่เกินเลยกันไปมันก็ไม่ถูกไม่ควร ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่พูดน้องจะปิดพ่อแม่อีกถึงเมื่อไหร่?”จิ๊บไม่ได้ใช้น้ำเสียงจริงจังกับลูก หล่อนเพียงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบหากแต่ทุกคำตรงเข้าไปถึงแก่นในหัวใจลูก ลูกเจี๊ยบมีสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
“อันที่จริง...”เด็กน้อยเม้มปากคล้ายกำลังใช้ความคิดกับสิ่งที่ตัวเองจะพูด
“อันที่จริงอาลออยากจะบอกพ่อกับแม่ว่าเราคบกัน แต่เป็นน้องเองที่ห้ามไว้”
“เขาบังคับน้องหรือเปล่า...”ลูกเจี๊ยบน้อยส่ายหน้า ศตายุรู้ว่าแม่หมายถึงเรื่องไหน
“หนูเป็นคนให้อาลอเองจ้า หลายครั้งที่มันเกือบจะเกินเลยอาลอห้ามตัวเองไว้เสมอ อาลอบอกว่าน้องยังเด็ก อาลอสอนแต่สิ่งดีๆให้น้องทั้งเรื่องเรียนเรื่องเพื่อนเรื่องที่พ่องานยุ่งจนไม่มีเวลาให้เรา แม่จ๋า ที่ผ่านมาแม่ก็เห็นว่าอาลอเขาดีกับเราแค่ไหน เป็นหนูเองที่เสนอตัวให้อาลอเพราะหนูหึงป้าแอน อาลอปฏิเสธหนูแล้วแต่หนูยืนยันที่อยากจะเป็นของอาลอเอง หนูรักอาลอและหนูจะไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป”
“น้องยังเด็กแต่ลอน่ะเป็นผู้ใหญ่แล้ว...”
เรื่องความรักกับอารมณ์แบบนี้มันแยกเด็กแยกผู้ใหญ่ด้วยเหรอจ๊ะแม่ หนูอยากให้พ่อกับแม่ให้โอกาสอาลอ...”
“เรื่องนั้นเจี๊ยบอย่ามาพูดให้อาลอเลย เจี๊ยบรู้มั้ยตอนพ่อกับแม่เกินเลยกัน พ่อของเจี๊ยบเดินเข้ามาขอขมาตากับยายด้วยตัวเอง พิสูจน์ตัวเองว่าเขาจะสามารถดูแลปกป้องแม่และลูกที่อยู่ในท้องได้ และเขาก็ทำได้ดีเสมอมา แล้วอาลอล่ะตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน เราเลิกพูดเรื่องนี้เถอะเดี๋ยวพ่อกลับจากนาก็กินข้าวแล้วไปทำรายงานกับเพื่อนได้เลยแม่ใส่เงินไว้ให้น้องในกระเป๋าแล้วถ้าไม่พอน้องก็กดเอานะลูก”จิ๊บหันไปให้ความสำคัญกับต้มจืดในหม้อต่อ
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จแดนดินก็ขับรถมาส่งลูกที่หน้าห้าง เขาต้องรีบกลับไปจัดการเรื่องงบหมู่บ้านที่ อบต.ชายหนุ่มดึงมือลูกไว้ก่อนสำทับ
“พ่อจะมารับตอนห้าโมงเย็นนะ อย่าเถลไถล”
“ครับ”ศตายุรับคำก่อนจะยกมือไหว้ผู้เป็นพ่อ แดนดินมองลูกที่เดินจากไปอย่างปวดใจ
ไร้เสียงจ๊ะจ๋ามานานกี่วันแล้วหนอ
ความสัมพันธ์พ่อลูกจะต้องมึนตึงแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ เขาก็เหมือนพ่อแม่มือใหม่ทั่วๆไปที่เรียนรู้การเป็นพ่อแม่จากการเจริญเติบโตของลูกน้อย
ตอนนี้ลูกเจี๊ยบกำลังอยู่ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ เขาไม่อยากให้ลูกออกนอกกรอบที่กำหนดไว้
แต่มันก็ยากเหลือเกิน การมีลูกน่ะง่ายแต่การเลี้ยงเขาให้โตมาอย่างมีคุณภาพนั้นยากยิ่งนัก
เพราะขนาดเขาเลี้ยงดูลูกอบรมสั่งสอนอย่างดีเด็กที่เคยเชื่อฟังมาตลอดอย่างเจี๊ยบยังทำเรื่องออกนอกลู่นอกทางได้นั่นแปลว่าเขาล้มเหลว
เขาแค่อยากให้ลูกก้าวเดินไปอย่างช้าๆและมั่นคงมีการศึกษาที่ดี
ไม่ใช่ว่าวัยรุ่นทุกคนที่หลงมัวเมาในเรื่องเพศจะได้ดีทุกคน
ลูกกำลังต่อต้านสิ่งที่เขาทำแดนดินรู้ดี แต่ทั้งหมดที่ทำลงไปนั้นล้วนแล้วแต่เพื่อลูก เพื่อลูกน้อยของเขาทั้งนั้น
วุ่นชะเง้อมองเพื่อนตัวสูงที่โดดเด่นท่ามกลางผู้คน ร่างบางกวักมือเรียกให้ศตายุที่กวาดตามองหาเห็น เด็กหนุ่มก้าวยาวๆเพียงไม่กี่ก้าวก็มาหยุดที่หน้าร้านไก่ทอด
“วุ้นกินข้าวมาหรือยัง?”วุ้นไม่ได้ตอบแต่กลับดึงมือเจี๊ยบให้ตามตนเข้าไปในโซนซุปเปอร์มาร์เก็ตหลังจากเดินลัดเลาะไม่นานสายตาของลูกเจี๊ยบก็สะดุดกับร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงโซนขายโทรศัพท์ ดวงตากลมกระพริบไล่หยาดน้ำตาเร็ว วุ้นปล่อยให้ศตายุเดินเข้าไปหาลลิตภัทรด้วยตัวเอง
ชายหนุ่มหันมาเมื่อรู้สึกได้ว่ามีคนยืนมองอยู่ข้างหลัง
หัวใจที่คล้ายว่าเต้นช้าลงเกือบสิบวันที่ผ่านมาพลันเต้นรัว ลลิตภัทรหันกลับไปมองด้านหลังก็พบว่าเจ้าตัวน้อยยืนจ้องเขาอยู่ไม่ได้วางตา
ต่างคนต่างจ้องกันโดยไม่มีคำพูดใดใด
เพราะมีคนเข้ามาจับจ่ายใช้สอยมากเขาเราสองคนอยู่ใกล้กันแค่นี้แต่ทำอะไรไม่ได้เลยซักนิด ลลิตภัทรดึงมือหลานมากุมไว้ก่อนจะจูงเดินกลับมาหาวุ้น
“วุ้นกลับบ้านไปก่อนนะครับเดี๋ยวสี่โมงอาจะเอาเจี๊ยบมาส่งที่นี่”ลลิตภัทรหยิบกระเป๋าเงินออกมาดึงธนบัตรออกมาจำนวนหนึ่งโดยไม่ได้สนใจจำนวนแล้วยื่นให้วุ้น วิชยุตม์มองเงินจำนวนนั้นก่อนจะดันกลับไป
“ไม่ต้องให้อะไรผมหรอกครับผมแค่อยากให้อาลอกับเจี๊ยบเจอกัน”
“รับไว้เถอะ อาอยากให้ ผู้ใหญ่ให้ไม่ควรปฏิเสธรู้มั้ย กระเป๋าเป้ของวุ้นเก่าจนสายจะขาดแล้วเอาไปซื้อใบใหม่นะ วันก่อนที่อาไปส่งที่บ้านน้องๆของวุ้นอยากได้หนังสือนิทานกับของเล่นไม่ใช่เหรอ ถือว่าเป็นของขวัญจากอาก็แล้วกัน”วิชยุตม์มองหน้าคู่รักต่างวัยแล้วได้แต่ถอนหายใจ ลูกเจี๊ยบเพื่อนรักทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้อยู่รอมร่อแถมมือของทั้งสองที่จับกันแน่นนั้นถ้าขืนเขามัวแต่ปฏิเสธคนทั้งคู่ก็คงต้องเสียเวลาอยุ่ตรงนี้ไม่ได้ไปพูดคุยกันเสียที วิชยุตม์จึงยกมือไหว้ขอบคุณ ลลิตภัทรกล่าวลาเด็กหนุ่มก่อนจะจูงลูกเจี๊ยบออกไปขึ้นรถที่จอดไว้หลังห้าง ลูกเจี๊ยบน้อยนั่งนิ่ง ส่วนเขาเองก็อยากจะมีพื้นที่ส่วนตัวเพื่อพูดคุยดังนั้นเขาจึงไม่ได้ชวนหลานคุยทำเพียงขับรถไปตามตรอกซอกซอยเรื่อยๆ
ถนนหนทางที่คุ้นตาทำให้ลูกเจี๊ยบรู้ว่าอาลอจะพาตนไปที่ไหน
“บ้านในเมืองของลลิตภัทรกับพี่ๆที่ลูกเจี๊ยบเคยมาแล้วถูกใช้เป็นสถานที่เพื่อพูดคุย ลลิตภัทรเดินไปปิดประตูรั้วด้วยตนเองหลังจากเอารถเข้ามาจอดเรียบร้อยแล้ว ลูกเจี๊ยบเดินตามลลิตภัทรเข้ามาในบ้าน ทันทีที่ประตูปิดกำปั้นเล็กก็ทุบลงบนอกคนเป็นอาทันที
“ปไหนมา!! อาลอหายไปไหนมา!!ฮืออออออ”ลลิตภัทรกัดฟันยอมให้หลานทุบจนพอใจ ก่อนจะรวบร่างบอบบางในไว้ในอ้อมกอด
ตัวของลูกเจี๊ยบสั่นเหมือนลูกนกที่เปียกฝน เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นนั้นก็น่าสงสาร
“หนูกลัวแทบแย่ กลัวว่าอาลอจะทิ้งหนู”ร่างบางตัดพ้ออู้อี้กับแผงอกที่ลลิตภัทรกอดตนไว้ สูดกลิ่นหอมจางๆจากกายอาลออย่างโหยหา ลำแขนยกขึ้นมาโอบกอดเอวสอบไว้อย่างแสนรัก
“อาจะทิ้งหัวใจของอาไปได้ยังไงล่ะคะ”
“แต่อาหายไปอาลอไม่มาหาหนู หนูรออาลอทุกวัน ฮึก...พ่อไม่ให้เจี๊ยบออกนอกบ้านเลย โทรศัพท์ก็โดนยึด ศาลาริมน้ำก็ถูกปิด หนูไม่รู้ว่าอาลอจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง หนูห่วงไปหมด หนูกลัวด้วยแล้วหนูก็รอให้อาลอไปหาหนูที่บ้านแต่อาลอก็ไม่มา”ศตายุปล่อยโฮหลังพูดจบจนลลิตภัทรต้องลูบหลังปลอบ
เขาไม่ว่าหลานที่หลานเอ่ยตัดพ้อ ชายหนุ่มลูบผมนุ่มแผ่วเบา
“อาอยากไปหาหนูใจจะขาด อยากรู้ว่าหนูเป็นยังไง แต่อากลัวว่าถ้าไปตอนนั้นพ่อกำลังโกรธด้วยนิสัยของเขาแล้วเขาไม่ยอมให้เราพบกันแน่ พาลจะโกรธหนักกว่าเดิม อาเลยไปกรุงเทพไปเคลียร์กับอาแอน ตอนนี้เขาจะไม่กลับมายุ่งกับเราแล้วนะลูกเจี๊ยบดีใจมั้ย?”
“หนูเกลียดอาแอน “เด็กน้อยคุดหน้ากับอกแกร่ง
เด็กไม่ดี ลูกเจี๊ยบรู้ว่าตอนนี้ตนเองเป็นเด็กไม่ดี แต่เขาเกลียดอริตาที่มาทำให้เรื่องทุกอย่างมันวุ่นวายไปหมด ลลิตภัทรหัวเราะให้กับคำพูดอู้อี้นั้นก่อนจะขยับตัวดันร่างบางของหลานให้ห่างตัวเพื่อสำรวจเจ้าตัวน้อย
“ซูบไปนะคะ กินข้าวบ้างมั้ย?”ลูบแก้มเจ้าตัวน้อยแผ่วเบาราวกับกลัวว่าลูกเจี๊ยบที่แสนเปราะบางจะแตกสลาย ศตายุเอียงแก้มรับสัมผัสอุ่นจากผ่ามือของลลิตภัทร
“หนูกินไม่ลงเป็นห่วงอาลอ”
“วันนี้กลับบ้านไปหนูต้องกินข้าวเยอะๆรู้มั้ยคะ อย่าปล่อยให้ตัวเองอด”
“อาลอก็ซูบลงเหมือนกันนี่จ๊ะ อาลอก็ต้องกินข้าวให้เยอะๆเหมือนกันนะจ๊ะ”ลูกเจี๊ยบลูบแก้มของอาลอที่ตอบลงไปอย่างเห็นได้ชัดน้ำตาเม็ดใสกลิ้งหล่นจากตา ลลิตภัทรยิ้มให้กับหลานก่อนจะโน้มตัวไปกดจูบริมฝีปากนุ่มที่เคยเคล้าคลอไม่ขาด
รสจูบหวานจับใจไร้อารมณ์ที่แสดงถึงราคะ หากแต่เป็นจูบที่แสดงความคิดถึงและโหยหา
“หนูรออานะคะ พรุ่งนี้อาจะไปหาที่บ้าน อาจะไปจัดการเรื่องของเราให้จบเสียที”
แต่พ่อ...”ลูกเจี๊ยบพูดถึงพ่อด้วยความหวั่นใจ ลลิตภัทรใช้ปลายนิ้วคลึงริมฝีปากนุ่มนั้นไว้ ดวงตาคมฉายความมั่นใจไว้เต็มเปี่ยม
“หนูไม่ต้องห่วงนะคะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอาเอง เชื่อแค่อานะคะ”
“จ้า หนูจะเชื่อแค่อาลอ แค่อาลอคนเดียว”
................................
ตอนหน้าบุกถ้ำเสือกันค่ะ