พระลอตามไก่
ตอนที่ ๒๖
“เป็นอะไรพี่ดินนอนดิ้นอยู่ได้”จิ๊บเอ็ดสามีเมื่อแดนดินเอาแต่พลิกตัวไปมาบ้างก็ผุดลุกผุดนั่ง หญิงสาวกลัวว่าแรงดิ้นของแดนดินจะทำให้จันทร์เจ้าขาที่หลับไปตั้งแต่ยังไม่สี่ทุ่มด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางนานกว่าสิบชั่วโมงตื่น แดนดินถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ไม่รู้สิ ใจมันไม่ค่อยดีเลย เหมือนสังหรณ์ใจแปลกๆ”ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็ห้าทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว ปกติถ้าไม่ได้ทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับเมียรักหัวถึงหมอนเขาก็หลับเป็นตายแล้ว
“แปลกที่หรือเปล่าพี่ กินนมหรือกินน้ำมั้ยเดี๋ยวจิ๊บไปเทให้”จิ๊บทำท่าจะลุกไปเทนมในตู้เย็นให้สามีตามที่พูดจริงๆแต่แดนดินจับข้อมือไว้
“ไม่ต้องหรอกจ้าพี่คงแปลกที่น่ะพี่แค่รู้สึกเป็นห่วงเจี๊ยบกับเจ้าจอมเฉยๆ เดี๋ยวโทรหาลูกซักหน่อยดีกว่า”แดนดินทำท่าจะกดโทรศัพท์หาลูกเจี๊ยบหากแต่จิ๊บห้ามไว้
“มันดึกแล้วน่าพี่ดิน เกรงใจลอเค้าอีกอย่างป่านนี้เจ้าเจี๊ยบคงหลับแล้วล่ะไว้พรุ่งนี้ค่อยโทรหาลูกก็ได้”
“ยังงั้นก็ได้ ถ้างั้น จิ๊บนอนเถอะเดี๋ยวพี่ออกไปสูดอากาศข้างนอกแป๊บหนึ่งเดี๋ยวก็คงง่วง”แดนดินตวัดผ้าห่มออกแล้วขยับคลุมลูกและภรรยาให้ดีก่อนจะเดินออกไปมองแสงสียามค่ำคืนของเชียงใหม่เพื่อให้ใจผ่อนคลายขึ้น ราวๆครึ่งชั่วโมงแดนดินถึงได้กลับเข้าไปนอน พรุ่งนี้เขาต้องพาลูกเมียไปร่วมงานแต่งงานลูกสาวของญาติแต่เช้าถ้าขอบตาคล้ำไปปะเดี๋ยวเขาจะคิดว่าซอมบี้บุกไปกินสมองบ่าวสาวเสียเปล่าๆ
ลลิตภัทรไล้ปลายนิ้วบนแก้มเนียนของศตายุอย่างเบามือ เด็กน้อยนอนหลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดของเขา ริมฝีปากที่ชอบพูดเจื้อยแจ้วบวมเล็กน้อยแต่ยิ่งขับให้ดวงหน้าดูละมุนขึ้น ผิวสีน้ำผึ้งอ่อนๆนั้นก็ช่างเรียบเนียนลื่นมือ บทรักเร่าร้อนยังตรึงจิตตรึงใจ เสียงหวานหูยังดังแว่วอยู่ในหัว ทุกอากัปกริยาฝังลึกอยู่มิรู้คลาย ลลิตภัทรกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น
เมื่อก่อนเขาคิดว่าการมีเซ็กส์กับใครนั้นไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร เป็นการปลดปล่อยอารมณ์ใคร่ของวัยเจริญพันธุ์ เมื่อเสร็จกิจก็แยกย้ายกันไป ไร้ซึ่งความรู้สึกรักใคร่ผูกพันใดใดทั้งสิ้น หากแต่เมื่อใครคนนั้นคือศตายุ ความรู้สึกที่มีในใจกลับไม่เหมือนที่ผ่านเลยซักนิด
แน่นอนความรักที่มีต่อตัวเด็กคนนี้เขามีจนล้นใจแต่หลังจากได้ครอบครองเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอย่างเต็มตัวแล้ว ความหวงแหน ห่วงใย ใส่ใจและปรารถนาจะทำทุกอย่างให้ศตายุมีความสุขที่สุดก็ตีรื้นขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ
รักจนอยากจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีที่สุดให้
รักจนอยากจะมอบแต่ความสุขให้
หากมีใครมาตั้งคำถามกับลลิตภัทรในตอนนี้ว่าสำหรับเขาแล้วศตายุคืออะไร ลลิตภัทรก็มีคำตอบไว้ในใจแล้วว่า
เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขา เป็นคนรัก เป็นเจ้าชีวิต เป็นเจ้าของหัวใจ เป็นคู่ชีวิตที่ถ้าเขาต้องพรากจากเด็กคนนี้เขาก็คงไม่เหลือใจไว้เพื่อรักใครอีกต่อไปแล้ว
ไอร้อนจางๆผะผ่าวจากผิวกายน่าจะเป็นไข้จากกิจกรรมต่อเนื่องจากเมื่อคืน ลลิตภัทรจำใจต้องลุกจากที่นอนละจากกายนุ่มนิ่มนั้นเพื่อไปเตรียมอาหารเช้าให้หลานกินชายหนุ่มกดจูบลงบนแก้มนิ่มเบาๆก่อนจะผละไป เปิดตู้เย็นดูว่าของสดมีอะไรบ้างโชคดีที่แม่บ้านซื้อของสดติดตู้เย็นให้นิดหน่อยตามที่เขาโทรมาบอก ไม่นานข้าวต้มหมูร้อนๆก็เสร็จ ชายหนุ่มโรยต้นหอมคึ่นช่ายตบท้ายเป็นอันเสร็จ เดินกลับเข้าไปดูศตายุในห้องนอนก็พบว่าเด็กน้อยนอนคู้ตัวหน้ายู่คิ้วขมวดอยู่บนเตียง
“เจ็บเหรอคะ?”ทรุดตัวลงนิ่งริมเตียง ศตายุขยับตัวมานอนหนุนตักเขาราวกับลูกแมวตัวฟูๆที่กำลังอ้อน
“เจ็บจ้า อาลอ น้องเจ็บ ปวดเอวด้วย”น้ำเสียงออดอ้อนอู้อี้ดังขึ้นเมื่อเด็กน้อยซุกหน้ากับหน้าท้องของเขา อันที่จริงมันก็ไม่ได้เจ็บจนลุกไม่ขึ้นหรอก มันก็มีแปล๊บๆบ้างศตายุก็แค่อยากอ้อนอาลอเฉยๆ พระลอหัวเราะเบาๆให้กับความออดอ้อนนั้น พอจะไม่สบายทีไรสรรพนามแทนตัวจากหนูก็กลายเป็นน้องอีกแล้ว
“ลุกขึ้นนั่งสิคะ เดี๋ยวอานวดหลังให้”ชายหนุ่มบอกกับหลานด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟัง ศตายุเองก็ไม่มีท่าทางแสนซนแบบเมื่อคืนอีกต่อไปลุกขึ้นนั่งอย่างว่าง่ายหันหลังให้คนเป็นอาก่อนจะร้องครางออกมาเบาๆอย่างพึงพอใจยามก้านนิ้วเรียวพรมลงบนบั้นเอวด้วยน้ำหนักพอดีไม่เบาและไม่หนักไป
“เจ็บมากมั้ยคะ?”น้ำเสียงแสนเป็นห่วงเป็นใยพาให้ใจของเด็กน้อยชุ่มชื่นราวกับต้นไม้ที่ได้น้ำฝน เด็กน้อยส่ายหน้าพลางเอนกายพิงอกอุ่นของอาลอที่ยังคงนวดร่างกายตรงนู้นนิดตรงนี้หน่อยของตัวเองอยู่
“มันไม่ได้เจ็บจนลุกไม่ขึ้นหรอกจ้า”
“อาขอโทษนะคะที่ล่วงเกินหนู จริงๆอาน่าจะรอให้หนูโตก่อน”ลลิตภัทรกอดเอวหลานไว้หลวมๆพลางโยกกายไปมาราวกับปลอบขวัญเด็กน้อย ศตายุแหงนหน้าขึ้นไปส่งยิ้มหวานให้คนที่เป็นทั้งอาและเจ้าของตนเองอย่างสมบูรณ์ก่อนจะขยับขึ้นไปนั่งบนตักของอาลอ สองแขนคล้องคอไว้หลวมๆแล้วกดจูบลงบนแก้มของอาหนุ่มฟอดใหญ่
“อาลอไม่ต้องคิดมากนะจ๊ะ หนูเต็มใจเป็นของอาลอเอง สติครบถ้วนทุกอย่าง หนูรักอาลอ เพราะฉะนั้นหนูไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปเลยซักนิด เด็กกว่าแล้วไงเด็กกว่าก็ไม่ได้แปลว่าหนูจะรักอาลอน้อยไปกว่าใครซักหน่อยนี่จ๊ะ กลัวแต่ใจอาลอเท่านั้นแหละ ได้หนูแล้วซักวันก็คงเบื่อแล้วก็ทิ้งหนู”ปลายน้ำเสียงสลดลงเมื่อนึกตามคำพูดตัวเอง ลลิตภัทรเชยคางหลานขึ้นมาให้มองสบตากับตน
“ไม่มีทางค่ะ อาจะไม่มีทางทิ้งหนู อารักหนูจริงๆนะคะ รักมากๆรักแบบที่ชาตินี้คงรักใครไม่ได้อีก รักจนอยากกลับไปขอหนูกับพ่อแม่หนูให้เราได้อยู่ด้วยกันอย่างถูกต้องเลย”
“พ่อกำนันได้ฆ่าอาลอตายคาบ้านน่ะสิจ๊ะ อย่าเพิ่งบอกใครเลยเรื่องของเรา เราคบกันไปเรื่อยๆแบบนี้ไปก่อนดีกว่านะจ๊ะ เอาจริงๆหนูก็กลัวพ่อกับแม่ผิดหวังในตัวหนูอยู่เหมือนกัน แห่ะๆ”เด็กน้อยส่งยิ้มแห้ง ตอนทำก็ไม่รู้สึกกลัวอะไรพอทำเสร็จความผิดชอบชั่วดีก็ตีรวนกันให้ยุ่งในหัว ลลิตภัทรเห็นดังนั้นจึงไม่อยากเซ้าซี้หลาน
“งั้นไปกินข้าวนะคะ อาทำข้าวต้มไว้ให้จะได้กิยาแล้วนอนพัก สายๆคงดีขึ้นเดี๋ยวอาพาไปซื้อของเตรียมไปเที่ยวทะเลพรุ่งนี้”
“หือ? ไปทะเลเหรอจ๊ะ?”
“ใช่ค่ะ อาอยากอยู่กับหนูลำพังสองคนแบบไม่มีใครมายุ่งกับเราเหลือเวลาอีกสองวันไปเที่ยวทะเลใกล้ๆกันดีกว่าเนอะ”
“ก็ได้จ้า”เมื่อหลานตอบตกลงลลิตภัทรก็ฟัดแก้มหลานไปอีกหลายฟอดอิดออดแลกจูบกันอยู่หลายนาทีถึงได้พากันมากินข้าวจัดยาแก้ไข้ให้หลานกินแล้วก็นอนคลอเคลียกันบนเตียงจนกระทั่งเคลิ้มหลับกันไปทั้งคู่ในตอนเกือบเที่ยง
เป็นชีวิตที่ลลิตภัทรเคยวาดฝันไว้จริงๆ
จนกระทั่ง....
เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น...
ลลิตภัทรงัวเงียเดินไปที่ประตูโดยทิ้งให้ศตายุนอนหลับอยู่บนเตียงดังเดิมเพราะคิดว่าป้าแม่บ้านคงมาทำความสะอาดห้องเหมือนทุกครั้ง ลลิตภัทรเดินหัวหัวฟูเดินไปเปิดประตูด้วยความเคยชินแต่พอประตูปลดล็อกปุ๊บแรงโถมใส่อย่างมหาศาลก็ปะทะจนชายหนุ่มเซไปด้านหลังทันที ร่างนุ่นมนิ่มบอบบางแต่นมโตของอริตาบดเบียดกายของลลิตภัทรอย่างถือวิสาสะ
“เซอร์ไพรส์!!”เสียงหวานตะโกนออกมาดังลั่นก่อนจะดันกายของชายหนุ่มจนถอยกรูดลงไปนอนแหมะอยู่บนโซฟากลางห้อง ลลิตภัทรพยายามดันใบหน้าของหญิงสาวออกทำปากขมุบขมิบร้องห้ามเพราะกลัวลูกเจี๊ยบน้อยจะตื่นขึ้นมาเห็นท่าทางล่อแหลมนี้
“อื้อ ลอคะ ลอจะดันหน้าแอนทำไมคะแอนเจ็บนะ”หญิงสาวร้องโอดแต่ก็ไม่ยอมละความพยายามที่จะปล้นจูบชายหนุ่ม ขยับกายคร่อมบนตัวของชายหนุ่มราวแม่เสือสาวที่พร้อมขย้ำเหยื่อ กระโปรงสั้นร่นจนเห็นกางเกงในจีสตริงที่ใส่มาเพื่อยั่วยวนโดยเฉพาะ เมื่อชายหนุ่มยังไม่ยอมหยุดที่จะผลักหล่อนออกหญิงสาวที่มากเล่ห์เพทุบายก็คว้าหมับเข้าที่แกนกายของลลิตภัทรพลางขยำจนชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกรีบตะปบมือของอริตาทันทีเปิดช่องให้สาวสวยปล้ำจูบได้อย่างง่ายดายปิดบนกลายเป็นเปิดล่าง พอปิดล่างบนก็ถูกจู่โจม ชายหนุ่มล่ะปวดกบาลนัก เมื่อตั้งสติได้ก็ออกแรงพลิกร่างหญิงสาวลงเบื้องล่างเพื่อป้องกันตนเอง อริตารีบคล้องคอชายหนุ่มไว้ทันที
ไม่มีอะไรที่หล่อนอยากได้แล้วจะยอมปล่อยให้หลุดมือเด็ดขาด
ลลิตภัทรนั้นทั้งหล่อ ทั้งรวย การศึกษาดี แม้จะเป็นเศรษฐีบ้านนอกก็ตามทีเถอะ แต่ทรัพย์สมบัติที่ชายหนุ่มมีน่ะอยู่ได้สบายไปทั้งปีทั้งชาติ
“ลอคะ แอนคิดถึงลอมากๆ มากๆๆๆๆ”หญิงสาวเอ่ยเอื้อนถ้อยคำฉอเลาะพยายามดึงหน้าชายหนุ่มมาจูบจนลิปสติกเประไปทั้งหน้าแดงเถือกไปหมด
“แอน อย่าทำแบบนี้”ชายหนุ่มยื้อยุดกับอริตาจนเหนื่อยหอบ เมื่อคืนเขาเพิ่งออกแรงอย่างหนักหน่วงไปตอนนี้ยังต้องมาสู้รบปรบมือกับชะนีแรงกูปรีย์แบบอริตาอีก บอกตรงๆ ลอเหนื่อย ชายหนุ่มพยายามขืนตัวเองไว้ด้วยการยันแขนกับพื้นโซฟาไว้ แต่เพราะอริตาไม่ยอมผ่อนแรงที่จะดึงเขาเลยซักนิดในที่สุดชายหนุ่มก็พลาดมือลื่นจนทำให้ร่างทั้งร่างหล่นไปนอนทับหญิงสาวเต็มๆ
“ทำอะไรกันน่ะ!!!”น้ำเสียงที่เคยใสเอ่ยคำหวานจ๊ะจ๋ารื่นหูบัดนี้แข็งยิ่งกว่าก้อนหินที่เขวี้ยงหัวหมาข้างทางเสียอีก เมื่อหันกลับไปมองก็พบศตายุยืนจับประตูห้องด้วยตาเขียวปั๊ดจ้องราวกับจะจิกให้ทะลุถึงกระดูก
ลลิตภัทรรู้สึกหนาวยะเยือกตั้งแต่หนังหัวยั้นหนังหุ้มไข่เลยทีเดียว
ชายหนุ่มกระเสือกกระสนออกจากอ้อมกอดที่เหนียวราวตีนตุ๊กแกจนกระทั่งหลุดออกมายืนกุมเป้าสำนึกผิดแม้ตัวเองจะไม่ได้ทำอะไรผิดเลยก็ตามทีเถอะ อริตาลุกขึ้นมานั่งจ้องหน้าเด็กน้อยที่ทำหน้าบึ้งตึงอย่างไม่สะทกสะท้าน หญิงสาวแสร้งจัดเสื้อผ้าที่ยับยู่หมิ่นเหม่เกือบอนาจารของหล่อนด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อน
"โทษทีนะจ๊ะน้อง พอดีอาแอนลืมไปว่าตอนนี้หนูมาอาศัยลอเค้าอยู่เลยทำอะไรๆด้วยความเคยชิน หนูคงไม่ถือใช่มั้ยจ๊ะ ปกติอาแอนมาหาลอก็ทำแบบนี้กันทุกรอบ"ลลิตภัทรตาเหลือกหันไปมองหญิงสาวที่เคลื่อนตัวด้วยความเร็วแสงมาเกาะแขนเขาอีกรอบ
"เหรอจ๊ะ ถ้างั้นจะต่อก็ได้นะ แต่ขอโทษด้วย ห้องนอนหนูไม่อนุญาตเพราะหนูนอนอยู่"เด็กน้อยพูดจบกระกระแทกประตูปิดด้วยเสียงอันดังจนบานกบแทบพัง ถ้าตึกไม่แข็งแรงลลิตภัทรมั่นใจเลยว่าป่านนี้ร้าวยั้นฐานรากแน่ๆ
ชิบหายแล้ว
ชิบหายแน่นอน พระลอคอนเฟิร์ม!!!
ลลิตภัทรถึงกับถอนหายใจเฮือกกับสถานการณ์แสนฉุกเฉินนี้ อริตาทำตาจิกตามหลังประตูห้องที่ถูกปิดอย่างสนั่นหวั่นไหวนั้น
“เด็กอาร๊าย มารยาททรามจริง”หล่อนกล่าวคำค่อนขอดออกมาทันที่ที่ประตูบานนั้นปิดสนิท พระลอหันขวับกลับมาจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง
อริตามีสิทธิ์อะไรมาว่าลูกเจี๊ยบของเขา
“ไม่รู้พ่อแม่อบรมสั่งสอนมายังไงถึงมาทำกริยาแบบนี้กับผู้หลักผู้ใหญ่ แถมยังมาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของคุณออกนอกหน้านอกตาแบบนี้อีก เป็นลูกเป็นหลานรึก็เปล่าเกี่ยวพันทางสายเลือดก็ไม่ใช่แอนไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงต้องตามใจเด็กนั่นนัก”อริตาพูดอย่างใส่อารมณ์โดยไม่ได้สังเกตเลยซักนิดว่าบัดนี้ลลิตภัทรหน้าแดงจนแทบจะกลายเป็นเขียวด้วยความโกรธเกรี้ยวเสียแล้ว
คิดว่าตัวเองเป็นใครอ่ะ?
ขนาดเขาที่รักลูกเจี๊ยบปานดวงใจยังไม่เค๊ยไม่เคยดุด่าหรือเอ็ดโดยไม่มีเหตุผลเลยซักครั้ง สองหมัดกำแน่นด้วยความกริ้ว
บังอาจว่าเมียสุดที่รักของเขาลลิตภัทรก็ไม่จำเป็นต้องสนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดใดทั้งสิ้นแล้ว
ด่าเขาเขาทนได้ แต่มาด่าเมียสุดที่รักพระลอไม่ทนบอกไว้เลย โดยปกติเขาก็ไม่ใช่คนที่มีความสุภาพอะไรนักหรอก เขาแค่อยู่เป็นและรู้จักกาละเทศะ จริงๆแล้วลลิตภัทรเป็นคนโมโหร้ายแถมปากคอเลาะร้ายอยู่พอประมาณ เขาแค่รู้ว่าคำพูดแบบไหนควรใช้กับใคร เวลาอยู่กับเพื่อนที่สนิทสัตว์สารพัดชนิดหรือแม้แต่ให้กล้วยเพื่อนเขาก็ด่าอยู่บ่อยๆ ที่ผ่านมาเขาสุภาพกับอริตามาโดยตลอดเพราะให้เกียรติว่าหญิงสาวนั้นเป็นผู้หญิง แต่มาวันนี้อริตากลับไร้มารยาทเอ่ยบริภาษคนรักของเขาลามไปว่าถึงบุพการีของศตายุที่ไม่ได้ออกมาตอบโต้หรือร่วมบทสนทนาไม่สามารถปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองได้เลยซักนิดมันทำให้เขาโกรธมาก
“ลอคะ”
“ออกไป”อริตาชะงักกึกกับน้ำเสียงกดต่ำของลลิตภัทรที่พูดแทรกขึ้นมาก่อนที่หล่อนจะทันได้พูดจนจบประโยค
“ห๊ะ?”หญิงสาวทำน้ำเสียงอึกอักในลำคออย่างคนที่ทำตัวไม่ถูก ปกติลลิตภัทรเป็นคนสุภาพกับผู้หญิงมากๆไม่เคยมีซักครั้งที่จะทำให้ต้องระคายเคืองใจ นอกจากเซ็กส์ดุแล้วลลิตภัทรก็ไม่มีอะไรให้ดุอีกเลย แต่วันนี้ชายหนุ่มกลับไล่หล่อน
“ลอล้อแอนเล่นหรือเปล่าคะ?”หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเก้อๆ
ลลิตภัทรไม่ได้ล้อเล่น หล่อนรู้ดี ใบหน้าที่ดำไปครึ่งหน้าราวกับถูกราหูอมนั้นยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้ลลิตภัทรกำลังโกรธ
“ต่อไปอย่ามายุ่งกับผมอีก อย่ามาหาผมอีก แล้วอีกอย่างที่ผมอยากให้คุณรู้ไว้เลยว่าเจี๊ยบมีสิทธิ์หวงผม หวงทุกอย่างที่เป็นของผมในขณะที่คุณไม่มี”
“ทำไมล่ะก็แค่เด็กข้างบ้านทำไมคุณจะต้องไปให้ความสำคัญกับมันด้วย เด็กนั่นสำคัญมากกว่าแอนที่เป็นแฟนคุณด้วยเหรอคะ?”หญิงสาวเชิดหน้าเถียงด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ลลิตภัทรทำเสียงเหอะในลำคอก่อนจะกอดอกและทิ้งสะโพกพิงเค้าท์เตอร์ตรงบาร์มองตรงมาที่อริตาด้วยสายตาเหมือนพ่อค้าที่กำลังประเมินราคาสินค้าตรงหน้า
“ถ้าคุณเป็นแฟนผม งั้นคนอื่นๆที่เคยนอนกับผมก็เป็นแฟนผมหมดแหละครับแอน คุณไม่ได้ต่างกับคนพวกนั้นเลยผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เราต่างใช้เซ็กส์แลกกันก็เท่านั้นจบก้คือจบและตอนนี้ผมก็ไม่คิดต่อกับคุณแล้ว”
“เอ๊ะ ลอคะ ทำไมต้องพูดแบบนี้กับแอนด้วยคะ ถ้าแอนไม่ต่างกับคนพวกนั้นคุณจะควงแอนไปไหนมาไหนด้วยเหรอคะ ใครๆก็รู้กันทั้งนั้นว่าเราคบกัน”หญิงสาวเริ่มลุกขึ้นยืนเถียงเขาด้วยความโมโห ลลิตภัทรถอนหายใจเฮือกกับความเข้าใจอะไรยากของอริตาชายหนุ่มกรอกตามองบนโดยไม่สนมารยาทใดใดทั้งสิ้น ในเมื่ออริตาเลือกที่จะตื้อเขาก็คงต้องพูดตรงๆออกไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราวตัดความสันพันธ์กันไป
ถ้ามีคนถามว่าระหว่างคู่ขาเก่าอย่างอริตากับคนรักอย่างศตายุเขาจะเลือกใคร ลลิตภัทรก็จะถามกลับไปว่าทำไมต้องเลือกเพราะภายในใจของลลิตภัทรตอนนี้ทั้งสี่ห้องหัวใจวางไว้แทบเท้าเจ้าแก้วตาที่งอนตุ๊บป่องๆในห้องไปจนสิ้นแล้ว
“ที่ผมไม่ตัดความสัมพันธ์กับคุณก็เพราะเห็นว่าเราเป็นเพื่อนร่วมงานกันมาก่อน อีกอย่างตอนนั้นผมไม่ได้มีใครเพราะฉะนั้นการถนอมน้ำใจกันไว้ก็เป็นเรื่องดีเรายังคบหากันได้โดยไม่ต้องมีเซ็กส์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่คุณกลับคิดมากไปกว่านั้น ผมจะบอกคุณให้ชัดๆอีกครั้งทั้งที่ตอนนั้นผมว่าผมเคยพูดไปแล้วว่าผมมีแฟนแล้ว”ลลิตภัทรหยุดพูดครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงอันดังมากขึ้นกว่าเดิมราวกับจะให้คนที่อยู่ในห้องรับรู้ไปพร้อมกับอริตาด้วย
“แล้วผมก็รักแฟนของผมมาก มากชนิดว่าชาตินี้ถ้าขาดเขาผมก็คงขาดใจตาย เพราะฉะนั้นกรุณาอย่ามาที่นี่อีก แล้วก็เลิกคิดไปเองได้แล้วว่าคุณกับผมคบกัน อีกอย่างคราวหลังอย่าเรียกน้องเจี๊ยบว่ามันและอย่าพูดว่าพ่อแม่เขาไม่อบรมสั่งสอนเจี๊ยบมีสิทธิ์ในตัวผมทุกอย่าง เพราะแฟนของผมก็คือเด็กคนนั้น”
“อะ...อะไรนะคะลอ...คุณกับเด็กนั่น...”
ศตายุไม่รู้หรอกว่าภายนอกบรรยากาศจะคุกรุ่นเพียงใด แต่ว่าตอนนี้ใบหน้าของเด็กน้อยฉายชัดถึงความสุขกับคำพูดที่อาลอเอ่ยกับอริตาเสียเหลือเกิน รอยยิ้มกว้างชนิดที่ว่าพยายามกลั้นแล้วแต่ก็ไม่เป็นผลระบายเต็มดวงหน้า
เด็กน้อยได้ยินทุกคำที่คนทั้งคู่เอ่ยคุยกัน
อาลอไม่เคยแข็งกร้าวอย่างนั้นใส่ตนเลยแม้กระทั่งตอนที่ดุเขาอาลอก็ใช้น้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟังแต่กับอริตานั้นน้ำเสียงสะบัดและกระด้างจัดจนเด็กน้อยนึกกลัว
หลังจากประโยคนั้นของลลิตภัทรเกิดความเงียบจนศตายุต้องเอาหูแนบประตูเพื่อฟังว่าด้านนอกพูดอะไรกันอีกมั้ย
“ทุเรศ...ลอคะ คุณอายุตั้งสามสิบกว่าแล้วนะคะ แล้วเด็กนั่นเพิ่งจะ 16-17 เองแท้ๆ คุณ...อี้ ทุเรศ”อริตาเบะปากอย่างขยะแขยง แม้ว่าหล่อนจะเคยได้ยินมาบ้างว่าลลิตภัทรเคยนอนกับผู้ชายแต่หล่อนก็หลอกตัวเองว่ามันไม่จริง
กล้าพูดมาได้ยังไงว่าเป็นแฟนกับเด็กบ้านนอกคอกนานั่น
เด็กที่ไม่มีอะไรสู้หล่อนได้ซักอย่าง หญิงสาวตวัดสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจใส่ลลิตภัทรก้มลงหยิบกระเป๋าสะพายแล้วเดินกระแทกออกไปเลยแบบไม่พูดไม่จาอะไรอีก
หล่อนไม่เคยรู้สึกเสียหน้าขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต ตั้งแต่โตเป็นสาวมาผู้ชายทุกคนที่เข้ามาหาหล่อนไม่เคยมีใครทิ้งหล่อนหรือเอ่ยปฏิเสธเลยซักคน
ลลิตภัทรกล้าดียังไงมาฉีกหน้าหล่อนด้วยการออกปากไล่แล้วคว้าเด็กกะโหลกกะลาแบบนั้นมาเดินควง
ทุเรศที่สุด
ลลิตภัทรกล้าฉีกหน้าหล่อนอย่างนี้ได้ยังไงกัน
“คอยดูนะ ฉันไม่จบง่ายๆแน่พระลอ”หญิงสาวหันไปพูดกับบานประตูที่ถูกเจ้าของห้องดึงเข้าไปปิดอย่างอาฆาต
เมื่อจัดการกับอริตาได้แล้วลลิตภัทรก็แทบจะหมดแรง ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งออกพลางขยับเสื้อให้เข้าที่เข้าทาง
ป่านนี้เด็กน้อยของเขาคงงอนตุ๊บป่องรอให้เขาเข้าไปง้ออยู่แน่ๆ อริตานะอริตา จะมาสร้างความร้าวฉานให้สถาบันครอบครัวของเขาทำไมเพิ่งได้อิ๊อ๊ะกันไปเมื่อคืนแท้ๆสงสัยคราวนี้คงอดยาว รวบรวมความกล้าอยู่หลายนาทีก่อนจะเดินไปเคาะประตูห้องอย่างเกรงอกเกรงใจคนด้านใน
“หนูขา...อาขอเข้าไปได้มั้ยคะ?”ลองหยั่งเชิงถามด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน หากแต่ในห้องกลับเงียบเสียเหลือเกิน
ไม่ด่ากลับไม่ร้องห้ามแปลว่าอนุญาตสินะคะ
“งั้นอาเข้าไปแล้วนะคะ”ชายหนุ่มกลั้นใจบิดลูกบิดประตูเข้าไป เมื่อประตูเปิดก็รีบยกแขนขึ้นมาบังหน้าหลับตาปี๋เผื่อเด็กน้อยในห้องจะเขวี้ยงอะไรมาใส่หัว กลั้นอกกลั้นใจอยู่สามวินาทีก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ขยิบตาขึ้นมองศตายุนอนตะแคงหันหลังให้กับเขาโดยไม่หันมามองเลยซักนิด ลอบกลืนน้ำลายหน่อยๆเมื่อชายเสื้อของหลานเปิดจนเห็นเอวคอดๆที่เมื่อคืนเขาทั้งลูบทั้งคลำทั้งขยำไปเสียหลายต่อหลายหน
เมื่อหลานไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ซ้ำยังไม่หันมามองชายหนุ่มก็ทำใจดีสู้เสือค่อยๆก้าวทีละก้าวอย่างระมัดระวังแล้วไปนั่งที่ปลายเตียงด้วยความสงบเสงี่ยม
“หนูจ๋า....”ใช้ปลายนิ้วสะกิดหน้าเท้าคนหลานเบาๆ ศตายุสะดุ้งโหยงชักเท้าจะหนีสัมผัสนั้นแต่ลลิตภัทรไวกว่าจับยึดไว้มั่นพลางก้มหน้าลงไปจรดปลายจมูกกับหลังเท้าเนียนนั้นอย่างแสนรัก
“อย่าโกรธอาเลยนะคะ เขามาเองอาไม่ได้เชิญซักหน่อย”พูดจบก็กดจูบลงบนเท้าน้อยๆ((คือถ้าใจเราคิดว่ามันตะมุตะมิแม้จะเป็นเบอร์ 43 ลลิตภัทรก็จะมองว่าเป็นเท้าน้อยๆ))อย่างสเน่หา
“แล้วยอมให้เขากอดยอมให้เขาหอมยอมให้เขาเอานมถูอกทำไมจ๊ะ ชอบเหรอ?”
“โถ้........ใครชอบ ไม่มี๊ อาไม่ได้ชอบซักหน๊อยยยยยย”รีบปฏิเสธเสียงหลงเพราะกลัวว่าคนเด็กกว่าจะโกรธเอาอีกรอบ
“อามีหนูทั้งคนถึงนมจะแบนไม่เด้งสู้มือแต่ก็สู้ปากแค่นี้อาก็พอใจแล้ว”
“อย่ามาทะลึ่ง”เด็กน้อยชักเท้าหนีเมื่อลลิตภัทรส่งปลายลิ้นออกมาโลมเลียจนรู้สึกวูบๆที่ช่องท้อง
อาลอนี่นะ เผลอไม่ได้เลย ตอดนิดตอดหน่อยตลอด เด็กน้อยหลุดขำเมื่อเห็นสีหน้าจ๋อยๆเหมือนหมาหงอยของอาลอ ชายหนุ่มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะก็นึกรู้ทันทีว่าตอนนี้ลูกเจี๊ยบหาได้โกรธขึ้งบึ้งตึงแบบตอนแรกแล้วความกระลิ้มกระเหลี่ยก็กลับมาในทันที
“จะต้องทำยังไงคะหนูถึงจะหายโกรธหายงอนอาค่าเทอมพอมั้ยคะหนู ค่าขนมพอกินหรือเปล่าคะ อยากกินไอติมมั้ยเดี๋ยวอาเลี้ยงหนูเอง"
"ไม่เอา ไม่คุยกับคนแก่ พ่อบอกอาลอไม่น่าไว้ใจน้องเจี๊ยบต้องเชื่อพ่อ อย่ามาทำตัวป๋า อามีเงินเยอะนักหรือไง”แกล้งค่อนขอดคนที่ทำตัวรวยเสียเต็มประดาด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก ลลิตภัทรล้มตัวลงนอนกอดร่างนุ่มนิ่มนั้นไว้ก่อนจะหอมแก้มฟอดใหญ่เอ่ยตอบอย่างภูมิใจ
"มีเป็นล้าน เลี้ยงหนูได้ทั้งชาติ"
"หัว?เด็กน้อยแกล้งถามทำให้ได้ค้อนปะหลักปะเหลือกจากคนแก่กว่า
"เงินสิหนู โถ้ววววววววว”แกล้งทิ้งท้ายประโยคด้วยเสียงสูงปรี๊ดก่อนจะอาศัยจังหวะที่ศตายุนอนหัวเราะคิกคักพลิกขึ้นคร่อมร่างบางทันที ตรึงสองมือของหลานไว้เหนือหัวพลางส่งยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างหมายมั่นปั้นมือเต็มที่
“อ๊ะ...อาลอ จะทำอะไรจ๊ะ?”เอ่ยถามอย่างตกใจเมื่อลลิตภัทรเผลอแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากราวชายหื่นที่กำลังจะทำมิดีมิร้ายเด็กน้อย
“อาก็จะง้อเจี๊ยบไงคะ”
“ง้อแล้วทำไมต้องคร่อมด้วย หนูอึดอัด”
“หนูอึดอัดไม่นานหรอกค่ะ ซักพักเดี๋ยวจะรู้สึกดีแล้วก็รู้สึกโล่งจนตัวเบาเลย เชื่ออานะคะ ไม่สบายหายหรือยังคะ เดี๋ยวอาจะฉีดยาให้หนูดีมั้ยเอ่ย?”พูดจบก็โน้มหน้าเข้าหา ศตายุรีบดันหน้าอกอาลอไว้หลังจากดิ้นจนมือหลุดจากการกอบกุม
"ฉ...ฉีดยาอะไรกันล่ะจ๊ะ ไม่เอาหรอกน้องไม่ชอบเข็มฉีดยา"เด็กน้อยส่ายหน้าดิกปฏิเสธ ลลิตภัทรหัวเราะเบาๆกับท่าทางน่ารักน่าชังนั้น
"ไม่ต้องกลัวนะคะเข็มของอาลอใหญ่ก็จริงแต่หนูน่าจะชอบ เมื่อคืนก็โดนไปตั้งสองสามเข็ม รับรองอาจะตั้งใจฉีดจนหนูร้องระงมเลยล่ะ" ศตายุดีดดิ้นพอเป็นพิธีสุดท้ายก็โอนอ่อน
หลังจากนั้นอีกราวๆ 20 นาที ก็โล่งตามที่อาลอบอกจริงๆด้วย
ทั้งโล่งทั้งเหนื่อยเลยล่ะจ้า
อาลอไม่โกหกเลยจริงๆในเรื่องนี้
โล่งจนเพลียและหลับแทบจะทันทีที่ขึ้นรถเดินทางไปทะเลเลยล่ะจ้า
นี่เจี๊ยบเหนื่อยหรืออาลอวางยากันนะ
อืม..น่าจะวางยามากกว่าเหนื่อยเนอะ ก็อาลอเล่นฉีดยาเข็มใหญ่ให้เจี๊ยบไปตั้งหลายเข็ม สงสัยเจี๊ยบจะไม่ป่วยไปเลยตลอดปีแน่ๆ
...............................
ฉีดยา ฉีดยาจับเธอฉีดยา ไม่ต้องมาดิ้นนะ อย่าดินนะ จะฉีดยา แอร๊วววววววววววว
ถ้าเป็นป้าแอนนมปลอมคงแทบแทรกแผ่นดินหนี
คุณเขาหวงเมียปกป้องเมียนะคะ ด่าเขาๆทนได้แต่ห้ามมาแตะเมียที่เคารพรักเด็ดขาด
จรัม!!!