พระลอตามไก่ ตอนจบ วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พระลอตามไก่ ตอนจบ วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๒  (อ่าน 57110 ครั้ง)

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ wutwit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
โอ้ยยย น่าสงสารลูกเจี้ยบที่สุดเลย

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
สงสารลูกเจี๊ยบ  :hao5:

ออฟไลน์ oiw08

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
  :sad4:  :sad4:
สงสารน้องเจี๊ยบ

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
พระลอตามไก่

ตอนที่ ๓๓


T
B





            จิรนันท์เดินเข้ามาในห้องของลูกเจี๊ยบ เด็กน้อยนั่งกอดเข่าซุกหน้ากับเข่าของตัวเองอยู่มุมห้องจุดที่เป็นช่องว่างข้างตู้เสื้อผ้า ขาเรียวขาวของลูกปรากฏรอยหวายและเลือดที่ซึมออกมาได้แห้งกรังลงไปแล้ว



หากแต่ลูกน้อยของหล่อนยังคนไม่หยุดสะอึกสะอื้น



ถามว่าผิดหวังมั้ยกับสิ่งที่ลูกกับพระลอทำ



แน่นอนจิรนันท์ย่อมผิดหวังเป็นธรรมดา



ถามว่าโกรธมั้ย จิรนันท์ก็ตอบเลยว่าไม่



เพราะขนาดหล่อนเองที่เป็นแม่ก็ยังเคยทำตัวออกนอกลู่นอกทางจนเกิดเจ้าเจี๊ยบน้อยมาหนึ่งคนตอนอายุ 14 เลย นับประสาอะไรกับเจ้าน้องน้อยของหล่อนที่กำลังอยู่ในช่วงอยากรู้อยากลอง



แต่จิรนันท์ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจที่มีลูกเขย



หล่อนพร่ำอบรมให้ลูกรู้สติอยู่เสมอเพราะไม่อยากให้ไปพลาดพลั้งทำสาวที่ไหนท้องแต่กลับกลายเป็นว่าลูกชายของหล่อนกลับมีคนรักเป็นผู้ชายมิหนำซ้ำคนๆนั้นคือพระลอคนที่แดนดินรู้สึกมาเสมอว่าได้แย่งหล่อนมาจากพระลอ



แม้แดนดินจะไม่เคยเอ่ยปากหากแต่หล่อนที่อยู่กับสามีมาตลอดรับรู้ความในใจนั้นดี



หล่อนเสียใจที่พระลอไม่เข้าตามตรอกออกตามประตูไม่ทำอะไรๆให้มันถูกต้อง ความสัมพันธ์ของพระลอและลูกเจี๊ยบนั้นออกจะข้ามขั้นไปไกลโขจนกู่กลับมาไม่ได้



เห็นเจ้าน้องน้อยร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ให้คนเป็นแม่ทอดถอนใจ หญิงสาวมาหยุดยืนตรงหน้าลูก เจ้าเจี๊ยบน้อยเงยหน้าขึ้นมองยิ่งเห็นแม่ก็ยิ่งร้องไห้สะอึกสะอื้นมากกว่าเดิม สองมือค่อยๆประสานกันก่อนจะก้มลงกราบแทบเท้าของแม่ริมฝีปากที่เคยเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วพร่ำพูดแต่คำว่าหนูขอโทษอย่างคนที่รู้สึกผิดจริงๆ จิ๊บเห็นลูกอยู่ในสภาพนี้ได้แต่สงสาร



หัวอกของคนเป็นแม่นั้นอ่อนกว่าพ่อนักด้วยเฝ้าถนอมเลี้ยงดูมาตั้งแต่ลูกอยู่ในครรภ์จนเติบใหญ่ หล่อนจะทำอะไรได้นอกจากย่อกายลงแล้วดึงลูกให้ลุกขึ้นเดินมานั่งลงบนเตียงมือเรียวที่เคยป้อนข้าวป้อนนมลูบลงบนเรียวขาของลูกแผ่วเบา



            “เจ็บมากมั้ย?”หล่อนเริ่มใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดทำความสะอาดแผลให้ลูกด้วยความเบามือ



ตั้งแต่เล็กจนโตหลายครั้งที่ลูกไปเล่นซนจนได้แผลกลับมาก็มีแต่หล่อนนี่แหละที่คอยประคบประหงมทำแผลไปปลอบไป



            “เจ็บจ้า แต่หนูเจ็บไม่เท่ากับใจของพ่อกับแม่ที่ผิดหวังในตัวหนูหรอกหนูรู้ดี”



            “รู้แล้วทำไมยังทำ”



            “เพราะหนูกับอาลอรักกันจ้า”ลูกเจี๊ยบตอบตามซื่อ จิ๊บชะงักมือที่แต้มยาสมานแผลให้ลูก คำว่ารักของลูกสะกิดใจหล่อนนัก ลูกเจี๊ยบจะมั่นใจได้ยังไงว่าความรู้สึกที่มีต่อลลิตภัทรนั้นคือความรักจริงๆ



            “ระหว่างรักกับหลงน่ะ บางทีความรู้สึกมันก็แยกกันไม่ออกหรอกนะเจี๊ยบ”



            “แม่กำลังจะบอกว่าระหว่างหนูกับอาลอมันคือความลุ่มหลงเหรอจ๊ะ”



            “แม่ไม่ได้จะหมายความอย่างนั้นไม่ได้จะดูถูกความรักของลูก แต่แม่เคยผ่านช่วงวัยเท่าลูกมาแล้ว ตอนแม่กับพ่อรักกันน่ะมันมีทั้งความรักและความหลง เรารักกันและต้องการจะอยู่ด้วยกันจนทำผิดขนบธรรมเนียมประเพณี ลูกเองยังเด็กอาจจะแยกความรู้สึกนั้นไม่ออก”จิ๊บแปะผ้าก๊อซเป็นอันดับสุดท้ายก่อนจะฉวยเอาอุปกรณ์ทำแผลแล้วลุกขึ้นยืน



            “แม่จ๋า..เจี๊ยบรักอาลอ รักมากจริงๆ ถึงเจี๊ยบจะยังเด็กในสายตาของพ่อกับแม่แต่เจี๊ยบก็รู้ใจตัวเองดีว่ามันไม่ใช่ความหลงแน่ๆ”จิรนันท์มองลูกชายที่ตอบด้วยน้ำเสียงมั่นคง สรรพนามแทนตัวจากที่เคยแทนว่าน้องหรือหนูก็กลายเป็นเรียกชื่อตัวเองบ่งบอกว่าลูกของหล่อนกำลังจริงจังในคำพูด



            “แต่สิ่งที่ลูกกับอาลอทำมันผิด ลอเองก็เหมือนกันเป็นผู้ใหญ่แทนที่จะยับยั้งชั่งใจแต่กลับพากันไปเลยเถิด”



            “เรื่องนี้อาลอไม่ผิดเลยแม่ เจี๊ยบเป็นคนเริ่มเอง เจี๊ยบรักอาลอ แม่ให้เจี๊ยบกับอาลอคบกันเถอะนะจ๊ะ”ลูกเจี๊ยบน้อยถลามาจับแขนแม่เอ่ยคำเว้าวอนอย่างน่าสงสาร แม้โบราณจะบอกว่าน้ำเชี่ยวอาเอาเรือไปขวางหากแต่คนที่มีสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจครั้งนี้กลับไม่ใช่หล่อน



            “เรื่องนี้แม่แล้วแต่พ่อ”ลูกเจี๊ยบทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง



ถ้าเรื่องนี้แล้วแต่พ่อเจี๊ยบก็มองไม่เห็นทางที่เราจะไปต่อได้เลยจ่ะอาลอจ๋า...

 

            รุ่งเช้าลูกเจี๊ยบตื่นตั้งแต่เช้ามืดดังเดิม เด็กน้อยเข้ามาช่วยแม่ทำกับข้าวเช่นทุกวัน แผลขาขารู้สึกตึงๆแต่ลูกเจี๊ยบก็ไม่ได้ใส่ใจนัก บรรยากาศที่เคยอบอุ่นบัดนี้มีแต่ความเงียบจนเหมือนถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งนับพันตัน แม่ที่เคยพูดคุยก็เงียบขรึมลง

มันเป็นเพราะเจี๊ยบคนเดียว เจี๊ยบรู้ดี เรื่องราวมันยังสดใหม่เกินกว่าที่ทุกคนจะทำตัวเหมือนเช่นเคยได้ เมื่อเตรียมอาหารเสร็จจิ๊บก็ตักข้าวใส่ขันเพื่อเตรียมไว้ให้หลวงตาจวบเช่นทุกวัน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยลูกเจี๊ยบก็เตรียมจะหยิบสำรับขันใส่บาตรไปท่าท่าน้ำหากแต่แดนดินเดินตึงๆออกมาจากห้องแล้วแย่งออกจากมือลูก



            “พ่อจ๋า?”ลูกเจี๊ยบร้องท้วงเมื่อของในมือถูกแย่งไป



            “ต่อไปนี้ไม่ต้องไปตักบาตรหลวงตาอีก เดี๋ยวพ่อจะบอกหลวงตาว่าไม่ต้องพายเรือมาแล้ว อย่าคิดว่าจะใช้โอกาสนี้ไปเจอหน้าไอ้ลอได้อีก”แดนดินพูดจบก็หมุนตัวลงจากเรือนไป และกำนันหนุ่มทำตามที่พูดจริงๆ เขาบอกกับหลวงตาว่าที่บ้านมีเรื่องนิดหน่อยอีกทั้งหลวงตาก็ชรามากแล้วจึงขอให้เลิกพายเรือมาบิณฑบาตทุกเช้าเขาจะเป็นคนนำปิ่นโตไปถวายที่วัดเอง ซึ่งหลวงตาจวบก็เข้าใจแดนดินเดินกลับขึ้นมาบนเรือนแล้วร่วมวงกินข้าวกับลูกๆแก้วเจ้าจอมที่เคยออดอ้อนฉอเลาะผู้เป็นพ่อพอเห็นแดนดินหน้าตึงก็ไม่กล้าเข้าใกล้ แรงหวายเมื่อวานยังตราตรึงเข้าใจในหัวใจแม้ว่าแม่จะช่วยทายาให้แล้วจอมก็ยังเจ็บอยู่เลย แม่จ๋าถามจอมว่าจอมเข้าไปรับไม้แทนพี่ทำไม จอมก็ตอบได้แค่ว่าจอมไม่รู้ ขามันไปเอง

จอมแค่อยากปกป้องพี่เจี๊ยบ



            “กินข้าวกันเร็วๆเดี๋ยวพ่อจะไปส่งที่โรงเรียน”แดนดินเอ่ยเสียงเรียบ หลังจากทานข้าวเสร็จจิ๊บก็ให้ลูกๆไปเตรียมกระเป๋าเพื่อไปโรงเรียน ลูกเจี๊ยบคว้ากระเป๋าเป้ของตัวเองขึ้นสะพายพร้อมกับอุปกรณ์การเรียนอื่นๆที่ต้องใช้วันนี้ เด็กน้อยออกมายืนรอรถหน้าบ้านเช่นทุกวัน หกโมงครึ่งรถก็มาจอดที่หน้าบ้านแต่ยังไม่ทันที่ลูกเจี๊ยบจะก้าวขึ้นรถแดนดินก็มาดึงลูกไว้แล้วเดินมาเคาะกระจกด้านคนขับ ชายวัยกลางคนเจ้าของรถเลื่อนกระจกลงทันที



            “ลุง ต่อไปนี้ไม่ต้องมารับเจี๊ยบแล้วนะผมจะไปส่งลูกเอง อันนี้เงินค่ารถของเดือนนี้ผมให้เต็มจำนวนเลย”แดนดินยื่นเงินค่ารถของเดือนนี้ให้กับลุงเจ้าของรถ ชายวัยกลางคนพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ รถแล่นออกไปทิ้งไว้เพียงฝุ่นคละคลุ้ง เด็กน้อยเม้มปากแน่น



พ่อกับลังทำทุกวิถีทางที่จะกันไม่ให้เจี๊ยบกับอาลอได้พบกัน เด็กน้อยกลั้นอารมณ์ที่คุกรุ่นเข้าไปในอกทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเดินตามพ่อไปขึ้นรถที่พ่อจะใช้ไปส่งตนที่โรงเรียน



แดนดินใช้เวลาไม่นานก็มาส่งจันทร์เจ้าขากับแก้วเจ้าจอมที่โรงเรียนเด็กทั้งสองสวัสดีพ่อก่อนลงจากรถไปอย่างเรียบร้อย ลูกเจี๊ยบยิ้มให้น้องทั้งสองหลังจากนั้นบนรถก็เงียบกริบต่างคนต่างไม่พูดจากัน แดนดินก็เงียบใส่ลูกส่วนลูกเจี๊ยบเองก็ยังสู้หน้าพ่อไม่ได้เด็กน้อยทำเพียงหันออกไปมองวิวข้างนอกดวงตาคู่สวยเหม่อลอยบางคราก็มีน้ำตาคลอหน่วยแต่เจ้าตัวก็กระพริบไล่มันออกไปอย่างรวดเร็ว เจ็ดโมงครึ่งรถก็มาจอดที่หน้าโรงเรียนลูกเจี๊ยบปลดเข็มขัดนิรภัยออกอย่างโล่งอก



            “สี่โมงเย็นรอพ่อที่หน้าโรงเรียน พ่อจะมารับ”



            “ครับ”ลูกเจี๊ยบรับคำอย่างว่าง่าย



            “แล้วอย่าคิดว่าจะไปเถลไถลที่ไหนได้นะเจี๊ยบ อย่าทำให้พ่อผิดหวังซ้ำซาก”ลูกเจี๊ยบไม่ได้ตอบกลับอะไรพ่อ ตอนนี้ใจของเด็กน้อยมันตื้อไปหมดทำได้เพียงยกมือไหว้ลาพ่อเงียบๆ ศตายุเดินเข้าโรงเรียนด้วยท่าทางเหม่อลอย



ป่านนี้อาลอจะเป็นยังไงนะ จะโดนปู่ลิตกับย่าโฉมดุด่าหรือเปล่า



จะนอนร้องไห้ทั้งคืนเหมือนหนูมั้ย



แผลที่ปากของอาลอจะเจ็บมากหรือเปล่า



ความรักของเราจะต้องถึงทางตันจริงๆเหรอจ๊ะ



ถ้าเป็นอย่างนั้นหนูคงต้องขาดใจตายแน่ๆเลยจ้าอาลอจ๋า



หนูคิดถึงอาลอจังเลยจ้า

 

 

 

            ลลิตภัทรนั่งกอดเข่าอยู่ตรงเสาเรือน แดนดินถูกลูกเมียลากกลับไปแล้วโดยที่คนเป็นพ่อฉุดกระชากลากถูดวงใจดวงน้อยๆของเขากลับไปด้วย

 

ลูกเจี๊ยบร้องไห้จนตัวโยน เขาก้าวจะไปดึงหลานไว้หากแต่พระลักษณ์ดึงเขาไว้ก่อนที่จะทันได้ทำตามใจ

 

            “มึงจะทำอะไร ปล่อยเขาไป”

 

            “แต่...”ลลิตภัทรจำต้องเงียบหุบปากที่กำลังจะเถียงอย่างดื้อรั้นลงเมื่อเห็นสายตาเอาจริงของพี่คนรอง แรงยื้อที่แขนถูกผ่อนลงก่อนไหล่กว้างที่เคยผึ่งผายจะห่อลง

 

ลลิตภัทรกลับไปเป็นเด็กชายวัยสิบสี่ปีอีกครั้ง แม้จะอยากเอาแต่ใจตัวเองมากแค่ไหนแต่ในส่วนลึกลลิตภัทรก็ยังมีความเกรงพี่ๆอยู่

 

            “เรามีเรื่องต้องคุยกันไอ้ลอ”พระลักษณ์ปล่อยมือน้องก่อนเดินไปนั่งลงใกล้แม่ที่มีนิดาคอยบีบนวดให้อยู่ เกิดความเงียบอย่างน่าอึดอัด

 

ไม่นานชลิตรวมทั้งพระรามก็กลับเข้าบ้านเพราะนิดาโทรไปตาม ทุกคนมองจำเลยของบ้านด้วยสายตาทั้งเป็นห่วงและผิดหวัง

 

หัวอกคนเป็นพ่อก็อยากให้ลูกมีความสุขสมหวังในความรัก

 

แต่ไม่ได้เตรียมใจสำหรับมารับรู้ว่าลูกของตัวเองไปมีอะไรกับเด็กผู้ชาย แม้ตอนแรกที่ทราบเรื่องอยากจะกระทืบเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแค่ไหนหากแต่ลลิตภัทรในวันนี้กลับดูน่าสงสารจนความครุกรุ่นที่มีจางหายลงเหลือเพียงความผิดหวังและหนักใจ

 

            “ตั้งแต่เมื่อไหร่วะไอ้ลอ?”ในที่สุดพระลักษณ์ก็เป็นฝ่ายเอ่ยถามหลังจากปล่อยให้แต่ละคนได้ใช้เวลาจมอยู่กับตัวเองมาซักพัก เรื่องนี้จะปล่อยให้ผ่านเลยไปไม่ได้ด้วยเพราะเป็นคนรู้จักมักคุ้นและเจ้าเจี๊ยบเองก็เป็นหลานรักเหมือนหลานแท้ๆเห็นมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก

 

เขาเดาไม่ออกถึงความสัมพันธ์ที่เกินเลยของทั้งคู่เลยซักนิด เท่าที่เขาเห็นจริงอยู่ว่าลลิตภัทรเอ็นดูเจ้าเจี๊ยบแต่เขาก็มองว่าลลิตภัทรรักหลานเพราะว่าหลานมันนิสัยดีไม่คิดเลยว่าน้องชายจะทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัด

 

            “เจี๊ยบมันยังเด็กอยู่เลยนะไอ้ลอ อีกอย่างนั่นน่ะลูกแฟนเก่าของมึงพ่อกับแม่รวมทั้งพวกกูก็รักเหมือนลูกเหมือนหลาน มึงเองก็โตเป็นควายแล้วยังไม่รู้จักแยกแยะอีกเหรอวะ กูถามจริงๆมึงทำไปเพราะเห็นเจี๊ยบเป็นตัวแทนจิ๊บหรือเปล่า?”

 

            “ไม่ใช่!!”ลลิตภัทรโพล่งออกมาทันทีที่พี่ชายพูดประโยคนั้น

 

เขาเหนื่อยที่จะต้องอธิบายเรื่องนี้เหลือเกิน

 

            “เจี๊ยบก็คือเจี๊ยบ เจี๊ยบไม่ใช่ตัวแทนของใครผมรักเจี๊ยบเพราะเจี๊ยบเป็นเด็กดีนิสัยน่ารักผมไม่ได้เอาเขามาเป็นตัวแทนของจิ๊บ”

 

            “แต่มึงเป็นแฟนเก่าจิ๊บมันควรแล้วเหรอที่ไปมีอะไรกับลูกเขา”

 

            “แล้วความรักมันห้ามกันได้เหรอ ผมไม่ได้คิดหรอกว่าจะเป็นลูกใครรักก็คือรัก”

 

            “มึงทำตัวเป็นเด็กว่ะไอ้ลอ”

 

            “ผมแค่รักเจี๊ยบแล้วมันผิดตรงไหน”

 

            “ผิดตรงที่ความรักของมึงมันไม่ได้มีแค่มึงไง มันมีหน้าพ่อหน้าแม่ มึงจะให้เขามาถอนหงอกให้เขาสิ้นเคารพพ่อแม่เหรอไอ้ลอ แล้วอีกอย่างมึงเป็นผู้ชาย เจี๊ยบก็ผู้ชายรู้ไปถึงไหนคงได้เอาปี๊บคลุมหัวเดินพ่อแม่จะเอาหน้าไปไว้ไหน”

 

            “ลักษณ์เอ้ย พอเถอะ เลิกว่าน้องซักที”ย่าโฉมที่หายจากการเป็นลมแล้วโบกมือใส่ลูกชายคนกลาง ดวงตาร่วงโรยของหญิงชราทอดมองร่างห่อเหี่ยวของลูกชายคนเล็กแล้วให้นึกเวทนา

 

พระลอนั้นรูปงามกว่าใครในบรรดาพี่น้องทั้งสามคน

 

ตั้งแต่เกิดมาหล่อนก็คอยประคบประหงมด้วยเพราะเป็นลูกหลง ถ้าจะถามหาคนผิดหล่อนเองก็มีส่วนเพราะรักและตามใจทูนหัวทูนเกล้าให้กับลูกคนเล็กไปเสียหมดสิ้น

 

ใครๆก็รู้ว่าลลิตภัทรนั้นเอาแต่ใจตัวเองพอดู

 

อยากได้อะไรก็ต้องได้ นิสัยนี้จึงติดตัวจนอายุเลยเลขสามไปแล้วแม้จะเบาบางลงเพราะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแต่ก็ใช่ว่าจะหายไปไหน

 

ลลิตภัทรแค่กดมันไว้ด้วยบุคลิกสุภาพอ่อนโยน

 

            “บอกแม่ได้มั้ยว่ากับหลานน่ะจริงจังแค่ไหน”ย่าโฉมเอ่ยถามลูกชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

            “ถ้าคิดว่าจะเล่นๆก็ตัดใจกันเสียตั้งแต่ตอนนี้ เจี๊ยบยังเด็กในอนาคตยังเจอใครได้อีกมาก อย่าเอาหลานมาเป็นของเล่น”

 

            “ผมจริงจังครับแม่”ลลิตภัทรตอบกลับอย่างไม่ลังเล น้ำเสียงที่เคยนุ่มทุ้มชวนฟังบัดนี้ขึงขัง สายตาคมที่มักจะทอประกายวาวระยิบราวคนขี้เล่นบัดนี้แข็งกร้าวจริงจัง

 

            “จริงจังแบบไหน?”คราวนี้พระรามเป็นคนเอ่ยถาม ลลิตภัทรสบตาทุกคนในครอบครัวก่อนจะเอ่ยประโยคที่หนักแน่นและชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยพูดออกมาในชีวิต

 

            “จริงจังแบบอยากใช้ชีวิตบั้นปลายกับเจี๊ยบ อยากมีเจี๊ยบเป็นคนในครอบครัวของเราเหมือนพี่ขวัญกับพี่นิดา”

 

            “แล้วทำไมไม่บอกกันก่อนจะได้ช่วยกันคิด ตอนนี้มันเกิดเรื่องขึ้นมาแล้วเอ็งจะแก้ไขปัญหายังไง?”ชลิตถามคนเป็นลูกด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ

 

            “ผมอยากบอกับทุกคนว่าผมรักเจี๊ยบแต่หลานขอไว้ เขาอยากให้ปิดเป็นความลับจนกว่าจะเรียนจบ”

 

            แล้วมึงก็ตามใจหลานเนี่ยนะ ถึงว่าตัวติดกันเป็นตังเม ถามว่าไปชอบลูกสาวบ้านไหนก็ไม่บอกที่แท้ไปชอบลูกบ้านฟากขะนู้นให้เขาบุกมากระทืบ งามหน้ามั้ย”

 

            “เอ้...พ่อลักษณ์นี่ก็แม่บอกให้พอ เลิกว่าน้องเสียทีเถอะ ไม่ใช่เวลาที่จะมาดุด่ากัน ข้าวสารมันกลายเป็นข้าวสุกไปแล้วตอนนี้คือต้องหาวิธีแก้ไข เอาอย่างนี้มั้ยลอ ให้พ่อกับแม่ไปช่วยพูดให้”ย่าโฉมหันมาหาลูกชายพลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน

 

หัวอกคนเป็นแม่ มีใครที่ไหนจะไม่อยากให้ลูกมีความสุข

 

ลลิตภัทรเป็นคนรักใครรักจริงข้อนี้ทุกคนในบ้านทราบดี ดังนั้นการที่ลลิตภัทรบอกว่าอยากมีชีวิตบั้นปลายอยู่ร่วมกับศตายุ นั่นแปลว่าลูกชายของหล่อนนั้นรักลูกเจี๊ยบด้วยใจจริงดังนั้นหน้าที่ของคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็คือช่วยส่งเสริมให้ลูกได้ในสิ่งที่หวัง

 

ยังดีที่คนที่ลูกชายรักคือลูกเจี๊ยบที่รับประกันถึงนิสัยที่ดีได้แม้จะตะขิดตะขวงใจเพราะเป็นเด็กผู้ชายแต่ถ้านั่นคือคนรักของลูกชาย หล่อนก็ยอม

 

ลลิตภัทรคลานมาหาพ่อกับแม่ก่อนจะพนมมือก้มลงกราบคนทั้งคู่ ชายหนุ่มกราบลงบนตักของแม่อย่างนุ่มนวล เมื่อยืดกายขึ้นมาดวงตาที่เคยระยิบระยับกลับนิ่งสนิทมั่นคงและจริงจัง

 

            “ผมจะไปคุยกับไอ้...พี่แดนกับจิ๊บเอง ผมจะไปขอดูแลลูกเจี๊ยบด้วยตัวเองครับ”

 

 

 

            ลลิตภัทรนอนไม่หลับ...ชายหนุ่มพลิกกายกระสับกระส่ายไปมาก่อนจะยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก ความกลุ้มอัดแน่นอยู่เต็มหัวใจ

 

ห่วงลูกเจี๊ยบเหลือเกิน เขาเห็นรอยแผลเป็นแนวยาวที่ขาขาวๆของหลานก็รู้ได้ในทันที่ว่าแดนดินตีน้องน้อยของเขาเข้าให้แล้ว

 

เจ็บมากใช่มั้ยคะคนดี

 

อาขอโทษ ขอโทษที่ทำให้หนูต้องถูกตี

 

ขอโทษที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้หนูต้องร้องไห้

 

ปวดหัวใจยิ่งนัก ชายหนุ่มพยายามโทรหาลูกเจี๊ยบแม้จะรู้ดีว่าแดนดินคงยึดเครื่องมือสื่อสารของลูกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตาม เสียงเข็มนาฬิกาเดินไปอย่างเป็นจังหวะสม่ำเสมอไม่ชวนให้ง่วงเลยซักนิด

 

ลลิตภัทรแทบจะนับทุกวินาทีจนกระทั่งเสียงไก่ขันในตอนเช้ารุ่ง เสียงพระตีระฆังดังมาจากท้ายคุ้งน้ำเป็นเวลาตีสี่ ทุกชีวิตดำเนินไปตามปกติของวันหากแต่ลลิตภัทรยังคงนอนนิ่ง

 

หลังจากปล่อยลมหายใจทิ้งไปค่อนคืนเมื่อพระอาทิตย์ทอแสงลอดผ่านหน้าต่างที่ผู้ใหญ่บ้านหนุ่มเปิดทิ้งไว้ชายหนุ่มก็ตัดสินใจลุกขึ้นอาบน้ำแปรงฟัน

 

ลูกเจี๊ยบต้องออกมาตักบาตรตอนเช้า นั่นเป็นโอกาสที่เขาจะได้เจอหน้าหลานเป็นระยะเวลาสั้นๆ ลลิตภัทรสวมเสื้อยืดขาวและกางเกงเลแบบลวกๆก่อนจะเดินตึงตังออกจากห้องตรงดิ่งไปที่ศาลาริมน้ำ แอบซุ่มรอตรงพุ่มมะลิลาพุ่มใหญ่ที่เคยร่วมเก็บกับเจ้าน้องน้อย รออย่างมีความหวัง แต่ทว่า ร่างหนาเหมือนหมีควายที่เดินถือถาดใส่ขันข้าวและปิ่นโตที่เดินท่อมๆมาที่ศาลาริมน้ำนั้นไม่ใช่คนที่เขาอยากเจอ ลลิตภัทรพยายามชะเง้อมองหาลูกเจี๊ยบแต่กลับไม่พบแม้แต่เงาของหลานกลับได้ยินประโยคสนทนาสั้นๆที่ว่าต่อไปนี้ที่บ้านจะเอาภัตราหารไปถวายที่วัดเอง

 

แดนดินปิดกั้นการได้พบเจอของเขากับเจี๊ยบอย่างสมบูรณ์เมื่อในตอนสายหลังจากกลับจากส่งลูกเจี๊ยบในเมือง ลูกจ้างชาย 4-5 คนก็ขนเอาไม้และสังกะสีแผ่นใหญ่หลายสิบแผ่นมากั้นตั้งแต่หน้าบ้านยั้นท้ายบ้านรวมทั้งปิดศาลาริมน้ำของบ้านฝั่งตนด้วย

 

พระลอได้แต่กำหมัดเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธที่สุมอก

 

เป็นไงเป็นกัน

 

ไม่เข้าถ้ำเสือก็ไม่ได้ลูกเสือ

 

ลลิตภัทรจะบุกไปชิงลูกเสือของเขาด้วยตัวเอง!!!

.................................

ไป!!! ไปเอาเมียเราคืนมา!!!

 


ออฟไลน์ oiw08

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ขอให้แดนดินเห็นใจอาลอกับน้องเจี๊ยบด้วยเถิด :m15:
สงสารน้องเจี๊ยบ  :hao5:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
แดนดินคือคนที่แก่ตัวที่สุดในเรื่องนี้ เป็นคนที่นิสัยไม่ดีที้สุด ไปแย่งแฟนพระลอมา แล้วก็ด่าเค้า แล้วก็ตั้งแง่กับเค้าต่างๆนาๆ นี่ก็ยังมากีดกันความรักของลูกอีก คือต้องมีความคิดแบบไหนกันอะ เกลียดมันจริงๆ :z6:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :เฮ้อ:
เกลียดแดนดิน เหมือนกัน

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ไปตามน้องเจี๊ยบกลับมาให้ได้นะพระลอ!!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
พระลอตามไก่

ตอนที่ ๓๔


   แผนการบุกถ้ำเสือของลลิตภัทรเป็นอันต้องพับไปก่อนเมื่อผู้ช่วยมาแจ้งว่าต้องจัดการเกี่ยวกับงบประมาณของหมู่บ้านเพื่อส่งให้หลวง รวมทั้งต้องประชุมผู้ใหญ่บ้านในตอนเย็น แม้ใจจะโลดแล่นไปบ้านฟากขะนู้นวันละร้อยหนแต่ลลิตภัทรก็ต้องทำงานของตัวเองก่อน
ทำงานไปด้วยใจที่เจ็บเจียนจะขาดรอนๆ

   “ปากไปโดนอะไรมาน่ะผู้ใหญ่”ชาวบ้านตาดีเอ่ยทักยามผู้ใหญ่บ้านออกไปเซ็นรับรองให้เด็กที่มาขอลายเซ็นใบขอรับทุนจังหวัด ลลิตภัทรไม่ได้ตอบทำเพียงยิ้มจางๆแล้วตัดบท

   “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอกลับไปทำงบของหมู่บ้านก่อนนะครับ จะได้เบิกจ่ายอะไรให้มันเสร็จ”ผู้ใหญ่บ้านที่มักมีรอยยิ้มพิมพ์ใจอยู่เสมอบัดนี้ไม่มีแววใจดีหรือขี้เล่นให้เด็กสาวและแม่ของเธอได้โยกโย้ดังนั้นทั้งสองจึงลากลับไป ลลิตภัทรกลับเข้าไปคีย์ข้อมูลลูกบ้านในห้องโดยบอกแม่ไว้ว่าห้ามให้ใครรบกวน ยามนั่งบนเก้าอี้ที่เคยมีเจ้าตัวน้อยคลอเคลียไม่ห่างในหัวอกก็ให้สะอื้น
ป่านนี้เจ้าลูกเจี๊ยบตัวน้อยจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ จะร้องไห้จนตาบวมเป็นนกกระปูดแบบเขาหรือเปล่าหนอ

   ทางด้านลูกเจี๊ยบเมื่อลงจากรถที่พ่อขับมาส่งด้วยบรรยากาศอึดอัดตลอดทางก็เดินเข้าโรงเรียน ไหล่บางห่อและตกอย่างน่าสงสาร วุ้นที่มองเห็นรีบเดินมาหาเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

   “เจี๊ยบเป็นอะไรทำไมตาบวมแบบนี้ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าเราพาไปห้องพยาบาลมั้ย”ลูกเจี๊ยบน้อยสูดน้ำมูกฟึดใหญ่จ้องตาของวุ้นถ่ายทอดความเศร้าผ่านดวงตาจนวุ้นรู้สึกได้

   “มีอะไรอยากเล่าให้เราฟังมั้ย?”

   วุ้นได้แต่ลูบหลังปลอบใจเพื่อนรักยามที่ลูกเจี๊ยบกลั้นสะอื้นจนตัวโยน ลูกเจี๊ยบที่เป็นคนร่าเริงเสมอบัดนี้กลับเศร้าสร้อยเสียจนน่าสงสาร

อายุก็เพิ่งจะแค่นี้แต่กลับต้องพบเจอปัญหาที่หนักหนาเสียเหลือเกิน

ตัววุ้นเองก็ยังเป็นเด็กเกิดมาดูโลกพอๆกับลูกเจี๊ยบ วุ้นไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะต้องพูดปลอบยังไงเพื่อนถึงจะรู้สึกดีขึ้น

   “ไม่ต้องร้องนะเจี๊ยบ เราเชื่อว่าถ้าอาลอรักเจี๊ยบจริง เขาจะแก้ไขปัญหานี้ได้”

   “เราคิดถึงอาลอ เราเป็นห่วงอาลอ”

   “ตอนนี้เจี๊ยบทำอะไรไม่ได้หรอก พ่อของเจี๊ยบยังโกรธมากถ้าเกิดดื้อดึงหรือทำอะไรลงไปคนที่ลำบากจะเป็นเจี๊ยบกับอาลอ เราแนะนำให้เจี๊ยบอยู่นิ่งๆไปก่อนจะดีกว่า ความแตกก็ดีเหมือนกันนะเจี๊ยบ”วุ้นพูดพลางส่งยิ้มให้กับลูกเจี๊ยบที่ทำหน้าไม่เจ้าใจ

   “ถ้าอาลอกับเจี๊ยบผ่านปัญหานี้ไปได้จะได้ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆไง บอกกับใครต่อใครได้ว่าอาลอกับเจี๊ยบเป็นแฟนกัน ไม่ดีเหรอ?”

   “แล้วถ้าอาลอกับเราผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้ล่ะ?”ลูกเจี๊ยบถามกลับหน้าเสีย

   “ยังไงเราก็มั่นใจว่าได้ เจี๊ยบอย่าเพิ่งคิดไปในทางร้ายๆสิ เชื่อมั่นในตัวอาลอหน่อย ระหว่างนี้ถ้ามีอะไรที่เราช่วยได้เราก็จะช่วย”

ทางด้านพระลอหลังจากวุ่นกับการทำเอกสารและรายชื่อลูกบ้านมาทั้งวันในที่สุดก็มีเวลาได้พักในตอนพลบค่ำ ชายหนุ่มลุกเดินออกจากห้องในตอนที่แม่กับพี่สะใภ้กำลังจัดเตรียมสำรับมื้อเย็น

   “อ้าวลอ จะไปไหนลูก แม่ทำกับข้าวเสร็จแล้ว หรือหรือยังเมื่อกลางวันก็ไม่ได้กินข้าว”

   “ไปศาลาแป๊บหนึ่งครับ”ลลิตภัทรตอบเสียงเบา ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาเปล่งประกายบัดนี้เศร้าหมอง ย่าโฉมวางสาบบัวต้มกะทิลงพลางถอนใจ

   “ไปก็ไม่เห็นหลานหรอกลูกเอ้ย พ่อเขาให้คนมาปิดเสียขนาดนั้น”

   “ผมรู้ครับแม่ว่าไม่เห็น แต่ผมคิดถึงหลานจริงๆ”ลลิตภัทรกระพริบตาไล่หยาดน้ำที่วาบขึ้นมาที่ขอบตา ส่งยิ้มเนือยๆให้ผู้เป็นแม่ ยิ่งเห็นกะทิต้มสายบัวก็ให้คิดถึงเจ้าตัวน้อยที่เคยว่ายแหวกลำคลองชี้ชวนกันเก็บสายบัวมาให้กับแม่ของเขา คิดถึงตอนแอบหอมแก้มผ่องโดยใช้กอบัวเป็นที่พลอดรัก

ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวเขาล้วนมาความทรงจำร่วมกับเจ้าลูกเจี๊ยบไปเสียทุกอย่าง

ในหัวอกเจ็บเสียดเจียนจะขาดใจตาย

   “ถ้าอยากไปก็ไปเถอะลูกแล้วรีบกลับมากินข้าวเดี๋ยวจะเย็นเสียหมด”ผู้เป็นแม่ร้องบอกอย่างเข้าใจ

ไม่เห็นหน้าเห็นหลังคาก็ยังดี

หล่อนไม่รู้หรอกว่าลลิตภัทรจะจัดการเรื่องนี้ยังไง  หล่อนรู้แต่ว่าหล่อนเชื่อในสิ่งที่ลูกชายพูด

พระลอรักลูกเจี๊ยบ รักมากเหมือนตอนที่รักจิ๊บ อาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำเพราะคราวที่อกหักจากจิ๊บพระลอเอาแต่จะหนีท่าเดียว

แต่กับลูกเจี๊ยบแล้วพระลอตั้งท่าจะสู้เพื่อชิงเอาความรักที่ถูกพรากไปจากคนๆเดิมอีกครั้ง เมื่อคิดถึงตรงนี้ย่าโฉมก็ให้นึกเคืองแดนดินนัก  ไม่รู้ชาติก่อนพระลอของหล่อนไปพรากของรักอะไรของแดนดินมาชาตินี้ถึงตามมาพรากของรักของลลิตภัทรไปถึงสองครั้งสองคราถึงแม้คราหลังจะเป็นลูกของแดนดินก็เถอะ

   ลลิตภัทรถอนหายใจพรืดใหญ่ เขาเกลียดแนวรั้วสังกะสีที่ทอดยาวไปยั้นสุดแนวต้นไผ่ท้ายนาของแดนดินมันปิดกั้นไม่ให้เขาสอดส่ายสายตาหาเจ้าตัวน้อยได้ ภาพลูกเจี๊ยบน้อยนั่งทำการบ้านในศาลา ภาพลูกเจี๊ยบน้อยใช้หนังสติ๊กยิงมะม่วงดิบกับแก้วเจ้าจอมไหลกลับเข้ามาในความทรงจำอีกครั้ง

ศาลาริมน้ำก็ยังคงเดิม มะม่วงต้นใหญ่ที่แตกกิ่งก้านก็ยังอยู่ที่เดิม กอบัวสายที่ออกดอกสล้างเต็มมลำคลองก็ยังเป็นกอเดิม กิ่งไผ่ลั่นเอียดอาดตามแรงลมก็ยังเป็นกอเดิม

ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือเจ้าน้องน้อยยาใจของเขาถูกขังอยู่บนหอคอย แม้แต่หน้าก็ยังไม่ได้พบ เจ็บปวดใจจนแทบกระอักออกมาเป็นเลือดเหมือนหนังกำลังภายในของจีน

ภาพลูกเจี๊ยบตัวขาวถอดเสื้อโยนกับพื้นแล้วนั่งอวดเรือนร่างต่อสายตานับสิบคู่ในตอนนั้นวกกลับมาให้ได้ยิ้มเอ็นดู

น่ารัก

ไม่ว่าจะคำพูดคำจาหรือกริยาท่าทางทั้งแสนซน อ่อนหวาน ช่างออดอ้อนฉอเลาะทั้งหมดทั้งมวลที่เป็นลูกเจี๊ยบนั้นน่ารักเหลือเกิน

ความรักของเขากับลูกเจี๊ยบควรจะราบรื่นไปจนกว่าจะถึงวันที่ลูกเจี๊ยบเรียนจบและบรรลุนิติภาวะได้แล้วแท้ๆถ้าไม่มีมารมาขวาง

ใช่สิ...

ลลิตภัทรลืมไปเสียสนิทเลยว่าต้นเหตุที่ทำให้ความรักของเขาพบเจอกับอุปสรรคครั้งนี้เป็นใคร

ต้นเหตุที่ทำให้ผิวผ่องของเจ้าตัวน้อยต้องเป็นรอยจากคมหวายนั้นคงกำลังทำตัวเฉิดฉายอยู่ที่กรุงเทพ

อริตาควรได้รับบทเรียนจากการกระทำครั้งนี้

เขา...จะไม่มีทางปล่อยผู้หญิงสกปรกคนนั้นให้ลอยตัวเหนือปัญหาทั้งปวงเด็ดขาด

อริตาต้องได้รับบทเรียนจากการกระทำครั้งนี้!!


   ลูกเจี๊ยบน้อยนั่งกอดเข่าอยู่ข้างเตียงโดยไม่ได้ออกไปกินข้าวเย็นเหมือนเช่นเคย ร่างบางสะอื้นน้อยๆ

ศตายุกำลังผิดหวัง...

เด็กน้อยหวังลึกๆในใจว่าหลังจากวันนั้นอาลอจะบุกมาหาที่บ้าน มาแสดงความรักที่มีต่อลูกเจี๊ยบว่ามีมากเพียงใด

หากแต่สามวันล่วงผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเงียบ

หรืออาลอจะไม่ได้รักน้อยจริงดังคำที่เคยเอื้อนเอ่ยหวานหูยามเราสองแนบชิด

ใจดวงน้อยปวดยอกราวกับถูกกรีดด้วยมีดแหลมคม ดวงตากลมที่เคยทอประกายสดใสหม่นแสง ขอบตาบวมช้ำเพราะร้องไห้จนหลับทุกค่ำคืน  ประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมเสียงฝีเท้าหนักๆที่ไม่ต้องเงยหน้ามองก้รู้ว่าเป็นใคร

แดนดินมองสภาพลูกชายคนโตแล้วได้แต่ถอนใจหนัก ลูกเจี๊ยบไม่เคยเศร้าขนาดนี้

เขาเข้าใจดีว่าอารมณ์รักของวัยรุ่นนั้นมันยิ่งใหญ่

เขาไม่เคยคิดห้ามลูกเลยหากลูกจะมีแฟน

จะเป็นเพศไหนเขาก็รับได้เพราะจากการเลี้ยงดูของจิ๊บลูกเจี๊ยบจะเบี่ยงเบนเขาก็ไม่ว่า

   “ทำไมต้องเป็นไอ้ลอล่ะลูกเอ้ย”ลูบหัวลูกอย่างอ่อนใจ ลูกเจี๊ยบสะอื้นจนตัวโยนไม่ได้ตอบคำถามของผู้เป็นพ่อ

   “หักใจจากมันเถอะ แค่นี้ก็รู้แล้วว่ามันไม่ได้รักลูกจริง ไอ้ลอมันขี้ขลาดเกินจะมาดูแลชีวิตลูกได้ ที่มันเข้าหาลูกก็เพราะมันหวังจะแก้แค้นพ่อ น้องยังเด็กไม่ทันเล่ห์ไอ้คนชั่วนั่นหรอก”

   “แต่...”ลูกเจี๊ยบน้อยช้อนตาขึ้นมองพ่อ คำพูดที่ลลิตภัทรเคยบอกไหลเข้ามาในกล่องความทรงจำ

   “อาลอบอกว่าอาลอรักหนู”แดนดินถอนหายใน ดวงตาวาวขึ้นน้ำเสียงที่พูดกับลูกก็เข้มขึ้น

   “แล้วไหนล่ะไอ้คนที่มันบอกว่ารักน้อง ทำไมสามวันแล้วมันไม่โผล่หัวมาซักครั้งเลยล่ะ คนขี้ขลาดแบบนี้น่ะเหรอที่น้องจะฝากชีวิตไว้กับมัน ลืมมันซะแล้วที่ผ่านมาพ่อจะยกโทษให้”แดนดินเดินลงส้นเท้าแล้วกระชากประตูห้องของลูกปิดจนเรือนสะเทือน กำนันหนุ่มเดินหัวเสียผ่านจิรนันท์และลูกๆกลับเข้าห้องนอน จิ๊บส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ

สงสารทั้งลูกเห็นใจทั้งสามี และไม่เข้าใจลลิตภัทรที่ไม่ข้ามมาหามาพูดคุยกันให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียที

ปัญหาทุกอย่างถูกทิ้งไว้ให้คาราคาซัง

สงสารแต่เจ้าเจี๊ยบที่นอนร้องไห้ยนตัวโยนทุกคืน ทำเวรทำกรรมใดไว้หนอลูกน้อยของหล่อนถึงต้องตกอยู่ในสภาพนี้

หล่อนเกลียดสิ่งศักดิ์สิทธิ์นัก

   “แม่จ๋า เสียงพี่เจี๊ยบร้องไห้อีกแล้ว”แก้วเจ้าจอมสะกิดแม่พลางร้องบอกเบาๆ เด็กชายวัยสิบขวบมองประตูห้องของพี่คนโตด้วยดวงตาแสดงความเป็นห่วงชัดเจน

   “หนูอยากไปหาอาลอ อยากไปบอกอาลอให้มาปลอบพี่เจี๊ยบ”แก้วเจ้าจอมก็พูดไปตามประสาซื่อของเด็กที่ยังไม่รู้ถึงปัญหาที่ทุกคนเผชิญอยู่

   “ไปไม่ได้หรอกลูก พ่อกับอาลอเขาโกรธกันอยู่เจ้าจอมก็เห็น ถ้าอาลอเขาอยากมา เขาคงมาไปนานแล้ว เรื่องนี้เจ้าจอมอย่าเข้ามายุ่งเลยนะให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ไป อาลอกับพี่เจี๊ยบทำเรื่องไม่สมควรเขาต้องแก้ไขปัญหากันเอง ดึกแล้วเจ้าจอมไปนอนเถอะพรุ่งนี้จะไปเรียนสาย”หล่อนดึงชายเสื้อของลูกลงหลังจากทายาให้เสร็จแล้ว แก้วเจ้าจอมยอมลุกขึ้นเดินเข้าห้องนอนอย่างว่าง่าย

จิรนันท์นั่งฟังลูกร้องไห้ด้วยใจที่เจ็บปวด

ถ้าพระลอรักลูกเจี๊ยบจริงก็ช่วยทำอะไรให้ชัดเจนทีเถอะ

หล่อนจะไม่ขัดเลยซักคำ...




   อริตาเดินเฉิดฉายอย่างมั่นใจเข้ามาในร้านอาหารด้วยใบหน้าฉาบรอยยิ้ม


สุดท้ายพระลอก็ต้องมาหาหล่อน อริตาไม่สนใจหรอกว่าคำพูดวันนั้นจะทำร้ายใครยังไงบ้าง หล่อนรู้แค่ว่าวันนี้หล่อนชนะ ลลิตภัทรเป็นฝ่ายโทรหาและนัดพบหล่อนเองโดยไม่มีเด็กนั่นมาอยู่ด้วยให้ขวางหูขวางตา


   “รอนานมั้ยคะลอ ขอโทษทีพอดีรถติด”หญิงสาวก้มลงจูบแก้มชายหนุ่มก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

   “นึกยังไงเข้ากรุงเทพมาหาแอนได้ล่ะคะ”หล่อนยังคงทำหน้าใสซื่อราวกับไม่รู้ไม่เห็นกับอะไรที่ทำลงไปทั้งสิ้น ลลิตภัทรกระตุกยิ้มก่อนจะทำสายตาแพรวพราวใส่อย่างที่เคยทำใส่ผู้หญิงคนอื่นๆ

   “คิดถึงมั้งครับ ไม่ได้เจอกันนาน”

   “จำได้ว่าคราวก่อนคุณไล่แอน”หล่อนแสร้งคนน้ำแข็งในแก้วพลางยกมือขึ้นจับปอยผมที่ระลงมาเกะกะทัดหู ลลิตภัทรส่งยิ้มกริ่มจนใจสั่นให้ก่อนจะเอื้อมตัวไปทัดผมที่เก็บไม่หมดให้หล่อน

   “จำเมื่อก่อนได้มั้ยคะ ลอชอบทัดผมให้แอนเสมอตอนที่เรา...”หล่อนแสร้งทิ้งจังหวะแล้วยิ้มอย่างสื่อความหมาย ปลายเท้าเขี่ยขาของลิตภัทรที่อยู่ใต้โต๊ะอย่างยั่วยวน

   “ผมว่าเราสั่งอาหารกันเถอะครับ ดูท่าแอนคงจะหิว...”ลลิตภัทรตวัดสายตามองอริตาตั้งแต่หน้าจนถึงหน้าอก เน้นคำว่าหิวด้วยเสียงที่หนักกว่าคำอื่น อริตายิ้มพรายเต็มดวงหน้า

หล่อนชอบลลิตภัทรที่ดูทันกันกับหล่อนไปเสียทุกอย่าง เห็นทีคืนนี้อาจจะมีเรื่องราวดีๆให้ได้ทำสนุกๆกันสองคน


   “เสร็จจากนี่เราไปรำลึกความหลังกันที่คอนโดคุณมั้ยคะ?”อริตายกผ้าขึ้นมาซับปากเมื่อมื้ออาหารแสนอร่อยจบลง ลลิตภัทรเหลือบตาขึ้นมามองหน้าหล่อนก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ชายหนุ่มเล่นกับผ้าเช็ดปากบนโต๊ะก่อนจะเปิดปากพูด


   “ผมไม่มีคอนโดแล้วล่ะครับ”อริตาขมวดคิ้วให้กับคำตอบของลลิตภัทรทันที

   “หมายความว่าไงคะ ลอขายคอนโดไปแล้วหรือคะ?”

   “เปล่าครับผมไม่ได้ขาย แต่ผมเซ็นยกให้ลูกเจี๊ยบไปแล้ว”อริตาขมวดคิ้วฉับอย่างไม่เข้าใจ

   “หมายความว่ายังไงคะที่ว่าคุณยกคอนโดให้เด็กนั่น?”

   “ก็หมายความตามที่พูดครับ ตอนนี้คอนโดของผมเป็นของลูกเจี๊ยบแล้ว ผมยกให้ลูกเจี๊ยบหลังจากกลับจากดูคอนเสิร์ตคราวนั้น เงินฝากในบัญชีของผมก็โอนให้ลูกเจี๊ยบไปหมดแล้วเหมือนกัน ถ้าไม่ทำอย่างนั้นป่านนี้ผมคงติดคุกข้อหาพรากผู้เยาว์ไปแล้ว ส่วนรถของผม ผมกำลังจะขาย หลังจากวันนี้ผมก็จะมีแต่ตัว”อริตากลอกตาไปมาอย่างไม่อยากเชื่อ

ลลิตภัทรจะบ้าไปแล้วหรือไงที่อยู่ๆยกสมบัติทั้งหมดที่ตัวเองมีให้กับเด็กคนนั้น

   “คุณจะเหลือแต่ตัวได้ยังไงคะในเมื่อบ้านคุณมีทั้งที่นากับตลาด”

   “ทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของพ่อแม่ของผมนี่ครับแอน เพราะแอนไปบอกกับกำนันแดนดินเรื่องผมกับเจี๊ยบกำนันไปโวยวายที่บ้านพ่อของผมโกรธมากเลยตัดผมออกจากกองมรดกบอกว่าสมบัติทั้งหมดถ้าพ่อตายก็จะยกให้พี่ๆทั้งสองคนแบ่งกัน ผมยอมเสียทรัพย์สินส่วนตัวทุกอย่างเพื่อชดใช้ให้กับกำนันเพราะผมไม่อยากติดคุก ตอนนี้ผมย้ายออกมานอนที่โรงสีแล้ว ทั้งร้อนทั้งคับแคบลำบากมากเลยครับ ผมอายุ 33 แล้วก็อยากจะเริ่มต้นสร้างครอบครัวกับใครซักคนที่พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับผม”ลลิตภัทรคว้ามือของอริตาไปกุมไว้ ส่งสายตาสื่อความหมายมาให้

   “และผมมองไม่เห็นใครที่รักและจริงใจกับผมเท่าคุณอีกแล้ว คุณเต็มใจจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านนอกห่างไกลความเจริญทำไร่ทำนาหาปูหาปลากับผมมั้ยครับแอน”อริตาต้องตาของลลิตภัทรเพื่อค้นหาความจริงและผู้ใหญ่บ้านหนุ่มไม่ได้หลบตาหล่อน ใจของหญิงสาวหล่นวูบ

จะให้หล่อนไปทำนาหาปูหาปลาอยู่แบบไม่มีอะไรแบบคนบ้านนอกน่ะเหรอ ขอบอกกันตรงนี้เลยว่าหล่อนไม่เอาด้วยหรอก

   “หรือแอนอยากให้ผมย้ายมาอยู่กรุงเทพครับ ผมย้ายมาได้นะ แต่คุณอาจจะต้องลำบากเลี้ยงผมหน่อยเพราะตอนนี้ผมขายหุ้นให้พวกไอ้เอ็มไปหมดแล้วจะไปสมัครงานใหม่ก็คงไม่มีใครรับแล้ว เงินเดือนของแอนตั้งหลายหมื่นใช้แบบประหยัดๆหน่อยน่าจะอยู่ไหว”อริตาที่นั่งเงียบอยู่ดึงมือออกจากการเกาะกุมของลลิตภัทรทันที

   “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันคะลอ แอนไม่ตลกด้วยหรอกนะคะ”

   “มันไม่ใช่เรื่องบ้า ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับผมก็เป็นเพราะแอน ตอนนี้ผมไม่มีพันธะอะไรแล้วทรัพย์สมบัติก็ไม่มี ผมพร้อมจะมาใช้ชีวิตกับแอนได้ทุกเมื่อแอนไม่ดีใจหรอกเหรอครับ?”

   “แอนนึกได้ว่าแอนมีนัดกับเพื่อน ยังไงแอนขอตัวกลับก่อนนะคะ”อริตาผุดลุกขึ้นยืนตัดบทอย่างไร้เยื่อใย

ใครจะโง่ไปกัดก้อนเกลือกินกับลลิตภัทรล่ะ

ถึงจะหล่อแต่ถังแตกหล่อนก็ขอบาย อริตารักความสุขสบาย อริตารักเงินทอง หน้าตานั้นเป็นผลพลอยได้ หญิงสาวหมุนตัวเตรียมหันหลังกลับหากแต่ลลิตภัทรร้องเรียกเสียก่อน

   “เดี๋ยวสิครับแอน”หญิงสาวหันมามองอย่างไม่ชอบใจ

คิดจะรั้งหล่อนไว้เหรอ

จ้างให้หล่อนก็ไม่กลับมาแลคนจนๆอย่างลลิตภัทรอีกแล้วล่ะ

สาวๆสวยๆอย่างหล่อนยังหาผู้ชายที่เพียบพร้อมได้อีกมากมาย

หากแต่ประโยคที่ลลิตภัทรพูดออกมาทำเอาอริตาแทบจะกรี๊ดใส่

   “จ่ายค่าอาหารด้วยครับ หารครึ่งกันก็ได้ แพงขนาดนี้ผมไม่มีเงินจ่ายหรอก”

ลลิตภัทร

ไอ้คนทุเรศ!!

หญิงสาวเปิดกระเป๋าหยิบแบงค์พันขึ้นมาวางลงบนโต๊ะสองใบก่อนจะจ้องหน้าชายหนุ่ม

   “หลังจากนี้ไม่ต้องนัดแอนออกมาแล้วนะคะ แล้วก็แอนไม่ได้รักคุณถ้าที่ผ่านมาแอนทำให้คุณคิดไปเองแอนก็ขอโทษด้วย ไม่จำเป็นไม่ต้องโทรหรือติดต่อแอนอีกนะคะ”

   “ใจร้ายจังครับ ไม่เห็นนุ่มนวลอ่อนหวานเหมือนเมื่อก่อนเลย เพราะตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรแล้วใช่มั้ยครับคุณถึงจะรีบผลักผมออกจากชีวิต ผมก็นึกอยู่แล้วว่าผู้หญิงอย่างคุณเงินเป็นใหญ่ ถ้าคุณไม่เอาเรื่องของผมกับเจี๊ยบไปพูดตอนนี้ผมก็ไม่ต้องมาลำบากอย่างนี้ จะไม่รับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำไว้หน่อยเหรอครับ”ชายหนุ่มเอื้อมมือหยิบเงินบนโต๊ะมาเคาะเล่น อริตามองท่าทางนั้นอย่างนึกรังเกียจ

แค่ค่าอาหารสองพันกว่าบาทยังไม่มีปัญญาจ่ายเลยแล้วยังจะมาทำตัวติดหรู

กระจอกที่สุด

   “ก็นี่ไงคะลอ ฉันยอมออกจากชีวิตคุณให้อย่างง่ายๆแล้วไงคะ ต่อไปนี้จะไปรักจะไปชอบจะไปมั่วกับเด็กนั่นยังไงก็แล้วแต่คุณ เสียเวลามามากแล้วแอนขอตัวก่อนนะคะ หวังว่าเราคงไม่ต้องเจอกันอีก หรือต่อให้เจอก็ไม่ต้องมาทักนะคะ”

อริตาไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงลลิตภัทรที่นั่งแค่นยิ้มอยู่เพียงลำพัง ชายหนุ่มยกไวน์ขึ้นมาดื่มทิ้งท้ายก่อนจะเรียกพนักงานมาเก็บเงิน

   “นี่เป็นค่าอาหารนะครับ ส่วนสองพันนี้เป็นทิป”ลลิตภัทรหยิบเงินค่าอาหารวางลงบนถาดแล้ววางเงินสองพันของอริตาให้กับพนักงานเป็นทิป ชายหนุ่มมุ่งหน้ากลับบ้านหลังจากจัดการอริตาให้ออกไปจากชีวิตของเขาได้แล้ว

แม้ใจจริงอยากจะด่าหรือทำรุนแรงกับหญิงสาว

แต่ลลิตภัทรเป็นสุภาพบุรุษพอ

ผู้หญิงหิวเงินรักสบายอย่างอริตาไม่มีทางรักใครจริง ถ้าไม่มีเงินอริตาก็ละความสนใจจากเขา หล่อนยังมีเหยื่อรายใหม่ไว้ให้สูบเลือดสูบเนื้ออีกมากมาย

แม้จะอยากกระชากคอมาต่อยให้ปากแตกโทษฐานที่ทำให้ลูกเจี๊ยบของเขาต้องโดนตี

แต่ลลิตภัทรก็ข่มใจ

เขาจะไม่ยอมมีประวัติเสื่อมเสียให้ลูกเจี๊ยบต้องอายว่ามีคนรักเป็นพวกใช้ความรุนแรงเด็ดขาด

หลังจากนี้เขาจะเดินหน้ารุกเพื่อชิงเจ้าเจี๊ยบน้อยให้มาอยู่ในอ้อมอกให้ได้

แดนดินจะต้องยกลูกให้เขาด้วยความเต็มใจ เพราะเขาจะวางเดิมพันทุกอย่างที่มีให้กับเกมส์รักครั้งนี้

รออาหน่อยนะคะหนูจ๋า อากำลังกลับไปหาลูกเจี๊ยบ

ไปหาดวงใจของอา....


.......................................

ติดแท็กเป็นกำลังใจให้คนเขียนได้นะคะ

#พระลอตามไก่

ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ทำไมอาลอไม่ไปหาน้องก่อนอ่ะ!!! ป้าแอนไม่เห็นต้องให้ค่าเบอร์นั้นเลย น้องร้องไห้รออาลอจนตาบวมแล้วนะ!

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Chobreadyaoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สงสารอาลอ สงสารลูกเจี๊ยบ ถ้าอาลอไปบุกแม่จิ๊บต้องเป็นแบ็คให้นะ

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อาลอไปง้อน้องเจี๊ยบเร็วววๆๆๆ

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
ตอนที่ ๓๕


T
B



                ลลิตภัทรนั่งมองบรรดาเด็กนักเรียนเดินออกมาจากโรงเรียนอย่างใจเย็น เขาเห็นเจ้าน้องน้อยถูกพ่อมารับตั้งแต่เลิกเรียนแล้ว ลูกเจี๊ยบของเขามีสีหน้าเศร้าหมองจนน่าสงสาร หากเป็นเวลาปกติเขาคงจะไปดึงมากอดให้จมอกแล้วปลอบให้คลายเศร้า

 

แต่ในตอนนี้ ลลิตภัทรจะทำอะไรผลีผลามไม่ได้เด็กขาด

 

แดนดินนั้นหัวรั้นและอารมณ์ร้าย ยิ่งมีประเด็นกับเขาด้วยแล้วแดนดินยิ่งเพิ่มเลเวลความดุร้ายเพิ่มขึ้นมาอีก ถ้าเปรียบเป็นหมาตอนนี้แดนดินคือพันธุ์ผสมระหว่างล็อตไวเวอร์ผสมบางแก้ว เอาแต่แยกเขี้ยวทั้งวัน ไม่รู้ว่าจิ๊บนั้นเลี้ยงผัวด้วยน้ำผึ้งรึไงถึงได้ดุแท้



ได้แต่ภาวนาว่าแก่ตัวไปเจ้าเจี๊ยบน้อยจะไม่ดุร้ายเหมือนพ่อ ไม่งั้นลลิตภัทรคงตายคาเท้าลูกเจี๊ยบแน่ๆ

 

ปัญหาของเขากับลูกเจี๊ยบน้องต้องค่อยเป็นค่อยไปทุกอย่างต้องใจเย็นแม้ในอกของเขาจะร้อนราวกับมีไฟแผดเผาอยู่ก็ตาม ชายหนุ่มหยิบหมากฝรั่งขึ้นมาเคี้ยวเป็นแผ่นที่ห้า เคาะปลายนิ้วเรียวกับพวงมาลัยรถแก้เบื่อ

 

เกือบห้าโมงเย็นคนที่เขารอคอยก็เดินออกมาจากรั้วโรงเรียนและกำลังเดินมาทางนี้ เมื่อเป้าหมายใกล้เข้ามาลลิตภัทรก็ไม่รอช้า ชายหนุ่มเปิดประตูรถลงไปดักหน้าเด็กคนนั้นทันที

 

               " วุ้นใช่มั้ยครับ นี่อาลอเองนะครับรบกวนไปกับอาหน่อย”วิชยุตม์จ้องหน้าลลิตภัทรก่อนจะพยักหน้ารับ เพราะลูกเจี๊ยบเคยเปิดรูปอาลอให้ดูเด็กหนุ่มจึงจำได้ ร่างเล็กก้าวขึ้นรถที่ลลิตภัทรเปิดประตูให้อย่างสุภาพ เด็กหนุ่มลอบมองเสี้ยวหน้าของคนที่ตั้งใจขับรถแล้วนึกชมไม่ได้จากรูปที่ลูกเจี๊ยบเปิดให้ดูว่าหล่อแล้วพอมาเจอตัวจริงรูปถ่ายพวกนั้นเทียบกับลลิตภัทรตัวเป็นๆไม่ได้เลยซักนิด

 

                “วุ้นต้องรีบกลับบ้านหรือเปล่าครับ?”วิชยุตม์สะดุ้งเมื่ออยู่ๆลลิตภัทรก็หันมาถาม เด็กน้อยรีบส่ายหน้าก่อนจะนึกได้ว่าเป็นกริยาที่ไม่สมควร

 

                “ไม่รีบครับ”

 

                “พอดีอามีเรื่องอยากคุยด้วย วุ้นเป็นเพื่อนสนิทของเจี๊ยบน่าจะรู้แล้วใช่มั้ยครับ?”

 

                “ครับ เจี๊ยบเล่าให้ผมฟังแล้วครับ”ลลิตภัทรพยักหน้าเบาๆ

 

                “เดี๋ยวกินข้าวกันก่อนเนอะค่อยคุยกัน”ชายหนุ่มหักพวงมาลัยเข้ามายังห้างใหญ่ก่อนจะเดินนำเข้าไปในห้าง

 

                “วุ้นอยากกินอะไรมั้ยครับ?”



                “อะไรก็ได้ครับ”เด็กหนุ่มไม่ค่อยรู้หรอกว่าร้านอะไรน่ากิน กับเด็กฐานะแบบเขาปกติหนูสุดก็ไก่ทอดเจ้าดังมื้ออื่นๆก็อาหารข้างทางปกติธรรมดา ลลิตภัทรจึงเดินนำเพื่อนของคนรักเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น

 

                “วุ้นทานปลาดิบได้มั้ยครับ?”

 

                “เอ่อ...ผมไม่ค่อยถนัดน่ะครับ”เด็กหนุ่มตอบด้วยท่าทางไม่มั่นใจนัก

 

                “งั้นสั่งมาลองนะครับเผื่อชอบ วุ้นสั่งที่อยากทานมาเลยครับไม่ต้องเกรงใจ”ลลิตภัทรมองเด็กตรงหน้าด้วยดวงตาของคนใจดี มองก็พอจะรู้ว่าฐานะของวุ้นนั้นไม่ได้ดีมาก การจะได้ทานอาหารอร่อยราคาค่อนข้างแพงจึงเป็นโอกาสพิเศษจริงๆ ลลิตภัทรรอให้อาหารมาเสิร์ฟจนครบชายหนุ่มบอกให้วิชยุตม์กินก่อนเดี๋ยวค่อยคุย แม้ในใจจะอยากรู้เรื่องเจ้าเจี๊ยบจนแทบทะลุออกนอกอกยังไงแต่เขาจะไม่ผลีผลาม

 

ทุกอย่างต้องใจเย็นและรอเวลาแดนดืนเป็นคนหัวรั้นแค่ไหนลลิตภัทรรู้จักดี



วิชยุตม์ยกมือไหว้ขอบคุณยามลลิตภัทรคีบปลาดิบมาใส่จานให้เด็กน้อยมองอย่างชั่งใจก่อนจะทำตามที่ลลิตภัทรสอนว่าต้องกินยังไง กลั้นอกกลั้นใจเอาเข้าปากเคี้ยวแม้มันจะลื่นๆลิ้นแต่ใจของวิชยุตม์ดันไปนึกถึงว่าตนเองกินของดิบอยู่จึงเกือบอ้วกออกมา ลลิตภัทรรีบหยิบกระดาษทิชชู่ส่งให้



             "ทานไม่ได้ก็ไม่ต้องฝืนนะ"ลลิตภัทรเลื่อนจานอาหารอย่างอื่นให้โดยเอาปลาดิบมาไว้ด้านหน้าของตนเองแทน



           "ไม่ต้องคิดมาก ไม่ใช่ใครทุกคนจะกินปลาดิบเป็น อย่างลูกเจี๊ยบนะรายนั้นหัดตั้งนานกว่าจะกินได้"ลลิตภัทรเล่าถึงคนรักด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม วุ้นมองแววตาของคนแก่กว่าแล้วก็พลอยยิ้มตามไม่ได้



อาลอรักลูกเจี๊ยบมากจริงๆ การมีคนรักที่จดจำรายละเอียดทุกอย่างของเราได้นั้นถือเป็นความโชคดีอย่างหนึ่ง



หากวิชยุตม์มีคนรักก็อยากให้เหมือนกับอาลอเพราะไม่ว่าจะทำหรือพูดอะไรก็มักจะมีชื่อของลูกเจี๊ยบออกจากปากเสมอ



เขาอยากช่วย อยากสนับสนุนความรักของลูกเจี๊ยบ



แม้แรงกายแรงใจของเด็กอย่างเขาจะน้อยแต่การที่พระลอเลือกที่จะมาหาเขานั้นก็แสดงว่าตัวเองยังมีประโยชน์กับคนอื่นอยู่บ้าง

 

                “อาลอมีอะไรจะให้ผมช่วยเหรอครับ”วุ้นเอ่ยปากหลังจากทานไปได้ซักระยะ จะเรียกว่าเขากินอยู่ฝ่ายเดียวก็เป็นได้เพราะลลิตภัทรเอาแต่นั่งเหม่อเขี่ยอาหารในจานไปมาพลอยทำให้เขาเกร็งไปด้วย

 

                “เจี๊ยบป็นยังไงบ้าง แผลที่ขาหายหรือยัง?”เขาเอ่ยคำถามที่ค้างคาในใจมาร่วมสัปดาห์ วิชยุตม์ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างไม่ปิดบัง

 

                “แผลตกสะเก็ดแล้วล่ะครับเจี๊ยบทายาทุกวันย่าจะไม่มีแผลเป็น แต่เจี๊ยบเศร้าทุกวันเลย ทำไมอาลอไม่ไปคุยกับพ่อแม่เจี๊ยบให้เป็นเรื่องเป้นราวล่ะครับ”วิชยุตม์เอ่ยปากถามอย่างตรงไปตรงมา อันที่จริงคนเด็กกว่าก็แอบเคืองที่ลลิตภัทรหายหน้าหายตาไม่ยอมไปคุยกับพ่อแม่เจี๊ยบให้เรียบร้อย ลลิตภัทรตวัดสายตามองหน้าเด็กตรงหน้าจนวิชยุตม์รู้ตัวว่าตัวเองเผลอทำกริยาไม่ดีใส่คนเป้นผู้ใหญ่ไป

 

                “ขอโทษครับ”

 

                “อาอยากไปหาลูกเจี๊ยบ แต่วุ้นคิดตามอานะ ตอนนี้กำนันกำลังโกรธเพราะเรื่องมันยังสดใหม่  พ่อของลูกเจี๊ยบภายนอกดูเป็นคนใจดีก็จริงแต่เวลาโมโหน่ะเขาไม่สนหน้าอิฐหน้าพรหมอะไรทั้งนั้น รอยหวายที่ขาเจี๊ยบนั่นก็เป็นข้อพิสูจน์ได้ อาถึงไม่กล้าผลีผลามไป อันที่จริงอาเคยคิดว่าจะบุกไปบ้านเจี๊ยบโชคดีที่งานทางอบต.เร่งมาทำให้อามีเวลาทบทวนและคิดว่าอาควรทำยังไงต่อไป  ถ้าไปหาเลยแล้วผลที่ออกมามันแย่กว่าเดิมอย่างกำนันแดนดินน่ะโทรกริ๊งเดียวเขาก็แยกน้องเจี๊ยบให้ห่างจากอาโดยที่อาคงหาเจี๊ยบไม่เจอ ดังนั้นสิ่งที่อาทำได้ในตอนนี้คือเคลียร์ตัวเอง”

 

                “เคลียร์ตัวเอง?”วิชยุตม์ทวนคำอย่างไม่เข้าใจ”

 

                “ใช่ อาต้องเคลียร์ตัวเองว่าตอนนี้ ณ เวลานี้ อามีแค่เจี๊ยบคนเดียวและต่อจากนี้ไปจะไม่มีใครมาชี้หน้าด่าได้ว่าเจี๊ยบแย่งอามาจากใคร ทั้งที่อาไม่จำเป็นต้องไปจัดการอะไรพวกนั้นเลยแต่เพื่อเจี๊ยบอายอมทิ้งศักดิ์ศรียอมให้คนที่ทำลายเราดูถูก ที่อาทำไปทั้งหมดก็เพื่อเจี๊ยบ เพราะฉะนั้นอาอยากขอความช่วยเหลือจากวุ้น”

 

                “อาลอจะให้ผมช่วยอะไรครับ ถ้ามันทำให้เจี๊ยบหายเศร้าผมก็จะช่วย”

 

                “อาอยากเจอเจี๊ยบ...”

 

 

                “หลังจากได้ฟังวุ้นเล่าเหตุการณ์เมื่อวานใจของลูกเจียบก็สั่นโครมครามอย่างตื่นเต้น

 

อาลอไม่ได้เมินเฉยต่อปัญหาแต่กลับพยายามแก้ปัญหานั้นด้วยตัวคนเดียว แม้ใจของลูกเจี๊ยบก่อนหน้านี้จะเศร้าสลดแต่เมื่อได้รู้ความจริงแบบคร่าวๆอารมณ์โกรธและแง่งอนก็ปลิวหายราวกับลลิตภัทรหอบเอาลมเย็นมาช่วยปัดเป่า

 

                “อาลออยากเจอเจี๊ยบ”ลูกเจี๊ยบหลุดยิ้มดีใจออกมพลันก็หุบยิ้มทันทีเหมือนต้นไมยราพที่ถูกลูบผ่าน ความดีใจแปรเปลี่ยนเป็นความเสียใจและเสียดาย

 

                “จะเจอได้ยังไงล่ะถ้าอาลอหาเจี๊ยบที่บ้านพ่อได้เอาปืนมาไล่ยิงแน่ๆ เรายังไม่อยากให้อาลอตาย”ลูกเจี๊ยบบอกตามซื่อ ถึงแม้พ่อจะไม่ได้พูดอะไรถึงเรื่องนี้อีกแต่ลูกเจี๊ยบรู้ดีว่าพ่อนะไม่มีทางยอมอภัยให้กับความผิดจากการทำตัวเหลวไหลของลูกเจี๊ยบง่ายๆแน่

 

เมื่อใดที่มีอะไรไปสะกิดใจแดนดินก็พร้อมจะระเบิดอีกรอบ อย่างเช่นเมื่อวันก่อนที่เจ้าจอมเอารถบังคับที่ลลิตภัทรให้มาเล่นพอแดนดินรู้ว่าของเล่นชิ้นนั้นเป็นของใครรถบังคับก็แปลงร่างเป็นเครื่องบินลอยละลิ่วลงไปกองที่ใต้ถุนบ้าน แก้วเจ้าจอมร้องไห้จ้าด้วยเพราะเป็นของเล่นชิ้นโปรดสุดหวงแสนรักจนป่านนี้ก็ยังไม่ยอมคุยกับพ่อเลยด้วยซ้ำ

 

               
                “ทำตามที่เราบอกก็พอ”

 

 

                แดนดินหรี่ตามองหาลูกชายยามเมื่อคาบสุดท้ายสิ้นสุดลง บรรดาเด็กนักเรียนต่างพากันทยอยเดินออกมานอกรั้วโรงเรียน ไม่นานลูกเจี๊ยบก็สะพายเป้ใบใหญ่ออกมา แต่วันนี้แปลกตรงมีเพื่อนของเจี๊ยบที่ตัวเล็กกว่าลูกชายของเขาเดินตามออกมาด้วย แดนดินลดกระจกลงเมื่อลูกเดินมาถึงรถ

 

                “พ่อจ๋านี่วุ้นเพื่อนน้องที่น้องเคยเล่าให้ฟังจ้า”เจี๊ยบแนะนำเพื่อนให้พ่อรู้จัก แดนดินส่งยิ้มใจดีให้กับเพื่อนของลูกเจี๊ยบแล้วรับไหว้วุ้นที่ยกมือไหว้เขาอย่างเรียบร้อย

 

                “สวัสดีครับพ่อ”

 

                “ไหว้พระเถอะลูก วันนี้ทำไมมาพร้อมลูกเจี๊ยบได้ล่ะทุกวันพ่อเห็นเจี๊ยบออกมาคนเดียว”

 

                “พอดีวันนี้วุ้นไม่มีทำเวรกับช่วยอาจารย์น่ะครับเลยออกมาด้วยได้ วุ้นจะมาขออนุญาตพ่อให้เจี๊ยบมาทำรายงานกับวุ้นพรุ่งนี้ด้วยน่ะครับ”วุ้นบอกจุดประสงค์ที่เดินออกมาพร้อมลูกเจี๊ยบให้กับแดนดิน กำนันหนุ่มขมวดคิ้วทันที

 

                “รายงานอะไร?”

 

                “เคมีครับอาจารย์ให้จับกลุ่มกันทำวุ้นทำกับเจี๊ยบแล้วมันเยอะมากก็เลยมาขออนุญาตพ่อก่อน”

 

                “วุ้นไปทำที่บ้านพ่อไม่ดีกว่าเหรอ พ่อไม่ค่อยอยากให้น้องห่างบ้านเลย”

 

                “คือมันต้องหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตน่ะจ้าพ่อ บ้านเราไม่ได้ติดเน็ต”ลูกเจี๊ยบรีบบอกกับพ่อ เด็กสองคนลอบมองแดนดินที่ทำท่าใช้ความคิดก่อนจะพยักหน้า

 

                “ก็ได้ แล้วต้องมากี่โมงพ่อจะได้มาส่ง”

 

                “ซัก 9 โมงพ่อสะดวกมั้ยครับ พอดีเนื้อหาที่ต้องหาข้อมูลมันเยอะถ้ามาสายกลัวว่าจะเสร็จไม่ทัน”

 

                “ได้ เดี๋ยวพ่อพาเจี๊ยบมาส่ง ว่าแต่เจี๊ยบรู้จักบ้านเพื่อนแล้วใช่มั้ย”แดนดินหันไปถามลูก ลูกเจี๊ยบรีบพยักหน้ารับ

 

                “รู้จักแล้วจ้า พ่อมาส่งเจี๊ยบที่โลตัสก็ได้จ้าเราต้องซื้อหนังสือเพิ่ม”

 

                “งั้นก็ได้ ให้พ่อไปส่งที่บ้านมั้ยวุ้น?”

 

                “ไม่เป็นไรครับเดี๋ยววุ้นต้องไปรับน้องที่โรงเรียนก่อน งั้นสวัสดีตรงนี้นะครับ”วุ้นยกมือไหว้แดนดินก่อนจะโบกมือบ๊ายบายลูกเจี๊ยบ เจ้าเจี๊ยบน้อยยิ้มหวานให้กับเพื่อนก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถเข้าไปนั่งประจำที่ วันนี้ลูกเจี๊ยบอารมณ์ดีเพราะพรุ่งนี้จะได้เจออาลอแล้ว

 

                “ทำไมวันนี้ดูอารมณ์ดี”แดนดินที่สังเกตลูกอยู่ถึงกับเอ่ยปากถามเพราะตลอด 8 วันที่ผ่านมาลูกเจี๊ยบพูดแทบจะนับคำได้ข้าวปลาก็แทบจะไม่ยอมออกมากินเวลาเผลอก็แอบนั่งเช็ดน้ำตาป้อยๆแต่วันนี้เจ้าเจี๊ยบน้อยของเขากลับมีรอยยิ้มแต้มที่ริมฝีปาก

 

                “วันนี้คะแนนสอบย่อยของน้องได้ดีน่ะจ้าน้องเลยอารมณ์ดี”ลูกเจี๊ยบปดผู้เป็นพ่อก่อนจะดึงหน้าตัวเองให้กลับไปเรียบขรึมเช่นหลายวันที่ผ่านมา แดนดินถอนหายใจเฮือกใหญ่

 

เขาเองก็ใช่ว่าจะไม่สงสารลูกยิ่งลูกมึนตึงใส่หัวใจคนเป็นพ่อเหมือนถูกเหยียบ

 

แต่เขาจะทำยังไงได้

 

นี่น่ะยอดดวงใจของเขาทั้งคน

 

                “ที่พ่อทำไปทั้งหมดก็ขอให้รู้ไว้นะเจี๊ยบว่าพ่อรักหนู”ลูกเจี๊ยบน้อยเม้มปากกลั้นน้ำตาที่พาลจะไหล รู้สึกตัวเองเป็นลูกที่แย่ขึ้นมาเสียอย่างนั้น

 

เจี๊ยบรู้ว่าพ่อรักเจี๊ยบ แต่เจี๊ยบก็โตพอจะรับผิดชอบชีวิตของตัวเองได้แล้วนะจ๊ะพ่อจ๋า

 

เจี๊ยบก็รักพ่อ รักแม่ รักน้อง รักโรงเรียน รักปลา รักซากุระ

 

และที่สำคัญ

 

เจี๊ยบก็รักอาลอมากเช่นกัน

 

เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะฝ่าฝืนความรักความหวังดีของพ่อในวันพรุ่งนี้

 

เจี๊ยบจะไม่เสียใจ

 

ไม่เสียใจเลยซักนิด...





 

 

                ลูกเจี๊ยบพยายามเก็บอาการมาตลอดตั้งแต่เย็น พอถึงตอนเช้าก็ออกมาช่วยแม่ทำกับข้าวกับปลาเหมือนเช่นทุกวัน จิ๊บมองลูกที่ใจลอยอยู่บ่อยครั้งแล้วก็ให้หนักใจเพราะคิดว่าลูกยังคงเศร้ากับเรื่องที่ถูกกีดกันไม่ให้พบกับพระลออีก แต่เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะมาตามใจกันได้ ตัวอย่างก็มีให้เห็นจากตัวเอง แทนที่จะได้ร่ำเรียนสูงๆสุดท้ายก็จบแค่มัธยมต้น

 

                “เจี๊ยบ ถ้าไม่สบายก็ไม่ต้องช่วยแม่หรอก ไปเตรียมตัวเถอะกินข้าวเสร็จพ่อเขาจะได้ไปส่งเลย”หล่อนฉวยทัพพีที่ลูกถือมาไว้ในมือก่อนจะช้อนฟองในต้มจืดออก

 

                “น้องไม่ได้เป็นไรจ้าแม่ แค่คิดอะไรเพลินนิดหน่อย”

 

                “คิดถึงลอเหรอ”ลูกเจี๊ยบน้อยชะงักเมื่อแม่เอ่ยปากถามออกมา ใบหน้านวลขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่ารัก

 

                “อยู่กับแม่คุยได้”จิ๊บหันมาลูบแก้มของลูกเบาๆ

 

                “คิดถึงจ้า”

 

                “พ่อกับแม่รักเจี๊ยบนะ ที่พ่อทำไปก็เพราะรักมากหวงมาก หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่น่ะห่วงอนาคตลูกที่สุด วันนี้ที่พ่อเขาตีน้อง เขาก็รู้สึกผิด แต่จะให้ย้อนเวลากลับไปพ่อก็ตีน้องอยู่ดีเพราะพ่อเขาอยากให้น้องรู้ว่าสิ่งที่น้องกับลอทำลงไปเหมือนมีดที่กรีดใจพ่อแม่ ความรักไม่ใช่เรื่องผิด แต่ที่เกินเลยกันไปมันก็ไม่ถูกไม่ควร ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่พูดน้องจะปิดพ่อแม่อีกถึงเมื่อไหร่?”จิ๊บไม่ได้ใช้น้ำเสียงจริงจังกับลูก หล่อนเพียงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบหากแต่ทุกคำตรงเข้าไปถึงแก่นในหัวใจลูก ลูกเจี๊ยบมีสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด

 

                “อันที่จริง...”เด็กน้อยเม้มปากคล้ายกำลังใช้ความคิดกับสิ่งที่ตัวเองจะพูด

 

                “อันที่จริงอาลออยากจะบอกพ่อกับแม่ว่าเราคบกัน แต่เป็นน้องเองที่ห้ามไว้”

 

                “เขาบังคับน้องหรือเปล่า...”ลูกเจี๊ยบน้อยส่ายหน้า ศตายุรู้ว่าแม่หมายถึงเรื่องไหน

 

                “หนูเป็นคนให้อาลอเองจ้า  หลายครั้งที่มันเกือบจะเกินเลยอาลอห้ามตัวเองไว้เสมอ อาลอบอกว่าน้องยังเด็ก อาลอสอนแต่สิ่งดีๆให้น้องทั้งเรื่องเรียนเรื่องเพื่อนเรื่องที่พ่องานยุ่งจนไม่มีเวลาให้เรา  แม่จ๋า ที่ผ่านมาแม่ก็เห็นว่าอาลอเขาดีกับเราแค่ไหน  เป็นหนูเองที่เสนอตัวให้อาลอเพราะหนูหึงป้าแอน อาลอปฏิเสธหนูแล้วแต่หนูยืนยันที่อยากจะเป็นของอาลอเอง หนูรักอาลอและหนูจะไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป”

 

                “น้องยังเด็กแต่ลอน่ะเป็นผู้ใหญ่แล้ว...”

 

                เรื่องความรักกับอารมณ์แบบนี้มันแยกเด็กแยกผู้ใหญ่ด้วยเหรอจ๊ะแม่ หนูอยากให้พ่อกับแม่ให้โอกาสอาลอ...”

 

                “เรื่องนั้นเจี๊ยบอย่ามาพูดให้อาลอเลย  เจี๊ยบรู้มั้ยตอนพ่อกับแม่เกินเลยกัน พ่อของเจี๊ยบเดินเข้ามาขอขมาตากับยายด้วยตัวเอง พิสูจน์ตัวเองว่าเขาจะสามารถดูแลปกป้องแม่และลูกที่อยู่ในท้องได้ และเขาก็ทำได้ดีเสมอมา แล้วอาลอล่ะตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน เราเลิกพูดเรื่องนี้เถอะเดี๋ยวพ่อกลับจากนาก็กินข้าวแล้วไปทำรายงานกับเพื่อนได้เลยแม่ใส่เงินไว้ให้น้องในกระเป๋าแล้วถ้าไม่พอน้องก็กดเอานะลูก”จิ๊บหันไปให้ความสำคัญกับต้มจืดในหม้อต่อ

 

หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จแดนดินก็ขับรถมาส่งลูกที่หน้าห้าง เขาต้องรีบกลับไปจัดการเรื่องงบหมู่บ้านที่ อบต.ชายหนุ่มดึงมือลูกไว้ก่อนสำทับ

 

                “พ่อจะมารับตอนห้าโมงเย็นนะ อย่าเถลไถล”

 

                “ครับ”ศตายุรับคำก่อนจะยกมือไหว้ผู้เป็นพ่อ แดนดินมองลูกที่เดินจากไปอย่างปวดใจ

 

ไร้เสียงจ๊ะจ๋ามานานกี่วันแล้วหนอ

 

ความสัมพันธ์พ่อลูกจะต้องมึนตึงแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ เขาก็เหมือนพ่อแม่มือใหม่ทั่วๆไปที่เรียนรู้การเป็นพ่อแม่จากการเจริญเติบโตของลูกน้อย

 

ตอนนี้ลูกเจี๊ยบกำลังอยู่ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ  เขาไม่อยากให้ลูกออกนอกกรอบที่กำหนดไว้

 

แต่มันก็ยากเหลือเกิน การมีลูกน่ะง่ายแต่การเลี้ยงเขาให้โตมาอย่างมีคุณภาพนั้นยากยิ่งนัก

 

เพราะขนาดเขาเลี้ยงดูลูกอบรมสั่งสอนอย่างดีเด็กที่เคยเชื่อฟังมาตลอดอย่างเจี๊ยบยังทำเรื่องออกนอกลู่นอกทางได้นั่นแปลว่าเขาล้มเหลว

 

เขาแค่อยากให้ลูกก้าวเดินไปอย่างช้าๆและมั่นคงมีการศึกษาที่ดี

 

ไม่ใช่ว่าวัยรุ่นทุกคนที่หลงมัวเมาในเรื่องเพศจะได้ดีทุกคน

 

ลูกกำลังต่อต้านสิ่งที่เขาทำแดนดินรู้ดี แต่ทั้งหมดที่ทำลงไปนั้นล้วนแล้วแต่เพื่อลูก เพื่อลูกน้อยของเขาทั้งนั้น

 

 

                วุ่นชะเง้อมองเพื่อนตัวสูงที่โดดเด่นท่ามกลางผู้คน ร่างบางกวักมือเรียกให้ศตายุที่กวาดตามองหาเห็น เด็กหนุ่มก้าวยาวๆเพียงไม่กี่ก้าวก็มาหยุดที่หน้าร้านไก่ทอด

 

                “วุ้นกินข้าวมาหรือยัง?”วุ้นไม่ได้ตอบแต่กลับดึงมือเจี๊ยบให้ตามตนเข้าไปในโซนซุปเปอร์มาร์เก็ตหลังจากเดินลัดเลาะไม่นานสายตาของลูกเจี๊ยบก็สะดุดกับร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงโซนขายโทรศัพท์ ดวงตากลมกระพริบไล่หยาดน้ำตาเร็ว วุ้นปล่อยให้ศตายุเดินเข้าไปหาลลิตภัทรด้วยตัวเอง

 

ชายหนุ่มหันมาเมื่อรู้สึกได้ว่ามีคนยืนมองอยู่ข้างหลัง

 

หัวใจที่คล้ายว่าเต้นช้าลงเกือบสิบวันที่ผ่านมาพลันเต้นรัว ลลิตภัทรหันกลับไปมองด้านหลังก็พบว่าเจ้าตัวน้อยยืนจ้องเขาอยู่ไม่ได้วางตา

 

ต่างคนต่างจ้องกันโดยไม่มีคำพูดใดใด

 

เพราะมีคนเข้ามาจับจ่ายใช้สอยมากเขาเราสองคนอยู่ใกล้กันแค่นี้แต่ทำอะไรไม่ได้เลยซักนิด ลลิตภัทรดึงมือหลานมากุมไว้ก่อนจะจูงเดินกลับมาหาวุ้น

 

                “วุ้นกลับบ้านไปก่อนนะครับเดี๋ยวสี่โมงอาจะเอาเจี๊ยบมาส่งที่นี่”ลลิตภัทรหยิบกระเป๋าเงินออกมาดึงธนบัตรออกมาจำนวนหนึ่งโดยไม่ได้สนใจจำนวนแล้วยื่นให้วุ้น วิชยุตม์มองเงินจำนวนนั้นก่อนจะดันกลับไป

 

                “ไม่ต้องให้อะไรผมหรอกครับผมแค่อยากให้อาลอกับเจี๊ยบเจอกัน”

 

                “รับไว้เถอะ อาอยากให้ ผู้ใหญ่ให้ไม่ควรปฏิเสธรู้มั้ย กระเป๋าเป้ของวุ้นเก่าจนสายจะขาดแล้วเอาไปซื้อใบใหม่นะ วันก่อนที่อาไปส่งที่บ้านน้องๆของวุ้นอยากได้หนังสือนิทานกับของเล่นไม่ใช่เหรอ ถือว่าเป็นของขวัญจากอาก็แล้วกัน”วิชยุตม์มองหน้าคู่รักต่างวัยแล้วได้แต่ถอนหายใจ ลูกเจี๊ยบเพื่อนรักทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้อยู่รอมร่อแถมมือของทั้งสองที่จับกันแน่นนั้นถ้าขืนเขามัวแต่ปฏิเสธคนทั้งคู่ก็คงต้องเสียเวลาอยุ่ตรงนี้ไม่ได้ไปพูดคุยกันเสียที วิชยุตม์จึงยกมือไหว้ขอบคุณ ลลิตภัทรกล่าวลาเด็กหนุ่มก่อนจะจูงลูกเจี๊ยบออกไปขึ้นรถที่จอดไว้หลังห้าง  ลูกเจี๊ยบน้อยนั่งนิ่ง ส่วนเขาเองก็อยากจะมีพื้นที่ส่วนตัวเพื่อพูดคุยดังนั้นเขาจึงไม่ได้ชวนหลานคุยทำเพียงขับรถไปตามตรอกซอกซอยเรื่อยๆ

 

ถนนหนทางที่คุ้นตาทำให้ลูกเจี๊ยบรู้ว่าอาลอจะพาตนไปที่ไหน

 

                “บ้านในเมืองของลลิตภัทรกับพี่ๆที่ลูกเจี๊ยบเคยมาแล้วถูกใช้เป็นสถานที่เพื่อพูดคุย ลลิตภัทรเดินไปปิดประตูรั้วด้วยตนเองหลังจากเอารถเข้ามาจอดเรียบร้อยแล้ว ลูกเจี๊ยบเดินตามลลิตภัทรเข้ามาในบ้าน ทันทีที่ประตูปิดกำปั้นเล็กก็ทุบลงบนอกคนเป็นอาทันที

 

                “ปไหนมา!! อาลอหายไปไหนมา!!ฮืออออออ”ลลิตภัทรกัดฟันยอมให้หลานทุบจนพอใจ ก่อนจะรวบร่างบอบบางในไว้ในอ้อมกอด

 

ตัวของลูกเจี๊ยบสั่นเหมือนลูกนกที่เปียกฝน เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นนั้นก็น่าสงสาร

 

 

                “หนูกลัวแทบแย่ กลัวว่าอาลอจะทิ้งหนู”ร่างบางตัดพ้ออู้อี้กับแผงอกที่ลลิตภัทรกอดตนไว้ สูดกลิ่นหอมจางๆจากกายอาลออย่างโหยหา ลำแขนยกขึ้นมาโอบกอดเอวสอบไว้อย่างแสนรัก

 

                “อาจะทิ้งหัวใจของอาไปได้ยังไงล่ะคะ”

 

                “แต่อาหายไปอาลอไม่มาหาหนู หนูรออาลอทุกวัน ฮึก...พ่อไม่ให้เจี๊ยบออกนอกบ้านเลย โทรศัพท์ก็โดนยึด ศาลาริมน้ำก็ถูกปิด หนูไม่รู้ว่าอาลอจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง หนูห่วงไปหมด หนูกลัวด้วยแล้วหนูก็รอให้อาลอไปหาหนูที่บ้านแต่อาลอก็ไม่มา”ศตายุปล่อยโฮหลังพูดจบจนลลิตภัทรต้องลูบหลังปลอบ

 

เขาไม่ว่าหลานที่หลานเอ่ยตัดพ้อ ชายหนุ่มลูบผมนุ่มแผ่วเบา

 

                “อาอยากไปหาหนูใจจะขาด อยากรู้ว่าหนูเป็นยังไง แต่อากลัวว่าถ้าไปตอนนั้นพ่อกำลังโกรธด้วยนิสัยของเขาแล้วเขาไม่ยอมให้เราพบกันแน่ พาลจะโกรธหนักกว่าเดิม อาเลยไปกรุงเทพไปเคลียร์กับอาแอน ตอนนี้เขาจะไม่กลับมายุ่งกับเราแล้วนะลูกเจี๊ยบดีใจมั้ย?”

 

                “หนูเกลียดอาแอน “เด็กน้อยคุดหน้ากับอกแกร่ง

 

เด็กไม่ดี ลูกเจี๊ยบรู้ว่าตอนนี้ตนเองเป็นเด็กไม่ดี แต่เขาเกลียดอริตาที่มาทำให้เรื่องทุกอย่างมันวุ่นวายไปหมด ลลิตภัทรหัวเราะให้กับคำพูดอู้อี้นั้นก่อนจะขยับตัวดันร่างบางของหลานให้ห่างตัวเพื่อสำรวจเจ้าตัวน้อย

 

                “ซูบไปนะคะ กินข้าวบ้างมั้ย?”ลูบแก้มเจ้าตัวน้อยแผ่วเบาราวกับกลัวว่าลูกเจี๊ยบที่แสนเปราะบางจะแตกสลาย ศตายุเอียงแก้มรับสัมผัสอุ่นจากผ่ามือของลลิตภัทร

 

                “หนูกินไม่ลงเป็นห่วงอาลอ”

 

                “วันนี้กลับบ้านไปหนูต้องกินข้าวเยอะๆรู้มั้ยคะ อย่าปล่อยให้ตัวเองอด”

 

                “อาลอก็ซูบลงเหมือนกันนี่จ๊ะ อาลอก็ต้องกินข้าวให้เยอะๆเหมือนกันนะจ๊ะ”ลูกเจี๊ยบลูบแก้มของอาลอที่ตอบลงไปอย่างเห็นได้ชัดน้ำตาเม็ดใสกลิ้งหล่นจากตา ลลิตภัทรยิ้มให้กับหลานก่อนจะโน้มตัวไปกดจูบริมฝีปากนุ่มที่เคยเคล้าคลอไม่ขาด

 

รสจูบหวานจับใจไร้อารมณ์ที่แสดงถึงราคะ หากแต่เป็นจูบที่แสดงความคิดถึงและโหยหา

 

                “หนูรออานะคะ พรุ่งนี้อาจะไปหาที่บ้าน อาจะไปจัดการเรื่องของเราให้จบเสียที”

 

                แต่พ่อ...”ลูกเจี๊ยบพูดถึงพ่อด้วยความหวั่นใจ ลลิตภัทรใช้ปลายนิ้วคลึงริมฝีปากนุ่มนั้นไว้ ดวงตาคมฉายความมั่นใจไว้เต็มเปี่ยม

 

                “หนูไม่ต้องห่วงนะคะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอาเอง เชื่อแค่อานะคะ”

 

                “จ้า  หนูจะเชื่อแค่อาลอ แค่อาลอคนเดียว”



................................


ตอนหน้าบุกถ้ำเสือกันค่ะ


ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
น้องวุ้นน่ารักที่สุดเล้ยย.

อยากได้ลูกเจี๊ยบต้องบุกถ้ำเสือนะคะอาลอ :pig4:

ออฟไลน์ แก้มกลม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สงสัยงานนี้ผู้ใหญ่ลอจะโดนว่าที่พ่อตายิงแน่ๆ
แต่เอาเถอะ พิสูจน์รักแท้ก็ต้องโดนสักแผลหล่ะนะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ชอบคำว่าจ้าของลูกเจี้ยบจริงๆ 55555 มันน่ารักดีอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
นี่เป็นแดนดินจะโกรธให้มากกว่าเดิม มีอย่างที่ไหนแอบมาเจอลูกเขาทั้งที่ยังไม่เคลียร์อ่ะ ก็คือควรเอาพานมาขอขมาที่บ้านไม่ใช่แอบนัดเจอสิ่!!

ออฟไลน์ oiw08

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
น้องวุ้นน่ารักที่ซู๊ดดดดด
หวังว่าอาลอจะบุกถ้ำเสือได้สำเร็จนะ.

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
พระลอตามไก่

ตอนจบ

   อยู่ไม่สุข...ลูกเจี๊ยบน้อยกำลังอยู่ไม่สุข ดวงตากลมคอยแต่จะมองไปทางถนนหน้าบ้าน จากปกติที่เอาแต่เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่ในห้องเด็กน้อยก็หอบเอาการบ้านและหนังสือเรียนออกมานั่งอ่านที่นอกชาน แดนดินเห็นลูกออกมาใช้ชีวิตอยู่นอกห้องนอนบ้างก็ใจชื้นขึ้นมาบ้าง ลูกเจี๊ยบยอมคุยกับเขามากกว่าเดิมหลังจากทำรายงานเสร็จเมื่อวานโดยที่คนเป็นพ่อไม่ได้สังเกตขอบตาบวมที่ผ่านการร้องไห้มาเพราะตลอดระยะเวลาเกือบสิบวันลูกชายของเขาแอบร้องไห้ในห้องนอนจึงกลายเป็นภาพชินตาไปเสียแล้ว

   “เจี๊ยบกินฟักทองแกงบวดก่อนลูก”จิ๊บที่ยกหม้อฟักทองแกงบวดมาวางกลางบ้านร้องเรียกลูกชายที่นั่งทำการบ้านโดยการหันหน้าออกด้านนอก ลูกเจี๊ยบลุกไปอย่างอิดออดรับชามแกงบวดที่แม่ตักให้มานั่งกินอย่างเงียบๆ

   “เป็นอะไรลูกดูลุกลี้ลุกลน”จิ๊บอดถามไม่ได้เมื่อเจ้าเจี๊ยบน้อยมีท่าทางผิดปกติ ลูกเจี๊ยบที่กำลังใช้ช้อนเขี่ยไข่ไปมารีบเก็บอาการทำท่าทางปกติทันที

   “เปล่าจ้าแม่ ไม่มีอะไร”

   “ไม่มีอะไรก็กินไปกำลังร้อนๆแม่ใส่ไข่แบบที่เจี๊ยบชอบด้วย”หล่อนว่าพลางยื่นชามให้เจ้าจอม หลังจากนั่งรอจนสายก็ยังไม่มีวี่แววของพระลอหนังสือก็อ่านเสร็จหมดแล้วจึงเก็บของเข้าไปอยู่ในห้องนอนตามเดิม

ออกจะโมโหนิดหน่อยที่อาลอทิ้งเวลาให้เนิ่นนานจนเสียงพระตีระฆังตอนเพลไปแล้วอาลอก็ยังไม่มา ลูกเจี๊ยบทิ้งตัวลงนอนอย่างหงุดหงิด

   “ไหนบอกว่าจะรีบมาไง อาลอโกหก!!”เตะหมอนข้างจนปลิวพอดีกับที่แก้วเจ้าจอมเปิดประตูห้องเข้ามาพอดี

   “โอ้ย!! พี่เจี๊ยบ”เด็กน้อยกุมหน้าป้อยๆเพราะถูกหมอนข้างปลิวมาอัดเต็มหน้า ลูกเจี๊ยบผุดลุกไปดูน้องทันที

   “เจ็บมั้ยเจ้าจอม พี่เจี๊ยบขอโทษพี่เจี๊ยบไม่ได้ตั้งใจเตะใส่นะ”

   “หายแล้ว แม่ให้มาตามไปกินข้าว”ลูกเจี๊ยบตั้งท่าจะบอกว่าไม่กินคำพูดของลลิตภัทรก็แวบเข้ามาในหัว เด็กน้อยจึงพยักหน้ารับแล้วเดินตามน้องเล็กออกไป จิ๊บกับเจ้าขาจัดสำรับกับข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว แดนดินนั่งดูทีวีอยู่ใกล้ๆ กับข้าวมื้อเที่ยงไม่ได้มีอะไรแปลกไปจากมื้อเช้าจิ๊บตำน้ำพริกกะปิกินแกล้มกับผักสดและผักต้มเพิ่มกับเจียวไข่ให้ลูกอีกอย่างก็เป็นอันเสร็จ ห้าคนพ่อแม่ลูกล้อมวงกินข้าวโดยมีเจ้าจอมคอยพูดนู่นพูดนี่กับคนทั้งบ้านไม่ได้หยุด บางครั้งก็หันไปเถียงกับจันทร์เจ้าขาจนโดนคนพี่หยิกเข้าให้ก็มี แดนดินแกะปลาทูวางใส่จานให้ลูกๆโดยเฉพาะลูกเจี๊ยบที่เขาคอยตักนู่นตักนี่ให้ลูกไม่หยุด ลูกเจี๊ยบใจเหลวเป็นน้ำกับการกระทำของพ่อที่คล้ายจะง้อลูก เด็กน้อยตักไข่เจียววางใส่จานให้พ่อก่อนจะยิ้มหวานให้ไปหนึ่งที

   “พ่อกินเยอะๆนะจ๊ะ ไม่ต้องแกะปลาให้น้องแล้วน้องพอแล้ว”แดนดินมองหน้าลูกก่อนจะฉีกยิ้มกว้างตักไข่เจียวที่ลูกตักให้เข้าปากคำโต

อร่อย...ไข่เจียวที่ลูกตักให้อร่อยที่สุดในโลกเลย

บรรยากาศในบ้านที่อึมครึมมาครบสิบวันดีขึ้นทันตา จิ๊บยิ้มให้กับการกระทำเล็กๆน้อยๆของสองพ่อลูก แดนดินรักลูกมากดังนั้นการที่ลูกโกรธเคืองใส่ใจคนเป็นพ่อเจ็บแสนเจ็บ วันแรกๆที่มีเรื่องกำนันหนุ่มถึงขั้นนอนไม่หลับร้องไห้สะอึกสะอื้นใส่คนเป็นภรรยาจนจิ๊บต้องคอยปลอบใจ ส่วนเจ้าลูกน้อยก็เอาแต่ร้องไห้ แม้ว่าหล่อนเหนื่อยแสนเหนื่อยที่ต้องปลอบทั้งลูกทั้งผัวแต่ก็ไม่ได้ปริปากบ่นหล่อนอยากให้สองพ่อลูกได้ใช้เวลาในการทบทวนว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปนั้นถูกต้องหรือเปล่า มื้อกลางวันจบลงด้วยความเรียบง่าย ลูกๆต่างแยกย้ายกันไปทำงานอดิเรกของตัวเองแก้วเจ้าจอมหอบเอาของเล่นเข้าไปเล่นในห้องของลูกเจี๊ยบ ส่วนจันทร์เจ้าขานั่งทำดอกไม้จากผ้าใยบัวอย่านอกชานบ่ายสองเสียงหมาหน้าบ้านเห่าจันทร์เจ้าขามองออกไปก็พบว่ามีรถยนต์คุ้นตาเข้ามาจอด เด็กสาววางมือจากงานแล้วหันไปมองหน้าแม่กับพ่อ

   “ใครมาน่ะเจ้าขา?”แดนดินถามลูก จันทร์เจ้าขากลืนน้ำลายดังเอื๊อกใหญ่

   “อาลอมาจ้า...”เพียงได้ยินชื่อของลลิตภัทรแดนดินก็ลุกพรวดเดินลงส้นตึงๆไปคว้าเอาปืนลูกซองที่แขวนอยู่มาบรรจุกระสุนทันที จิ๊บรีบไปฉุดแขนสามีไว้ เสียงปิดประตูรถยิ่งทำให้แดนดินอยากจะกระโจนไปเป่าหัวพระลอให้สมองไหลกับพอดีที่ลูกเจี๊ยบเปิดประตูห้องออกมาหน้าตาตื่น

อาลอมาแล้วใช่มั้ยพ่อกำนันจ๋าถึงมีท่าทางแบบนี้ลูกเจี๊ยบน้อยแทบจะวิ่งไปหาถ้าไม่ติดเสียงดังดุจฟ้าผ่าของพ่อห้ามไว้

   “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ ถ้าน้องวิ่งไปหามันพ่อจะยิงมันให้ตายเลย”แดนดินวาดปืนไปทางลูกจนลูกเจี๊ยบต้องหยุดอยู่กับที่ สายตาของพ่อเอาจริงจนเจี๊ยบไม่กล้าที่จะดื้อใส่ แก้วเจ้าจอมจับมือพี่แน่นด้วยความกลัว แดนดินเดินลงส้นโครมๆพร้อมขึ้นนกปืนไปด้วย

   “มึงกล้าดีมากนะไอ้ลอที่มาเหยียบบ้านกู...อ่ะ...”ปืนในมือจ่อลงตรงหน้าผากคนที่ก้าวขึ้นเรือนมาพอดีแดนดินถึงกับชะงักที่ไม่ใช่หน้าผากของพระลอหากแต่

   “อะไรกันละโยม โกรธเคืองกันขนาดต้องใช้ปืนผาหน้าไม้เลยเหรอ”พระประจวบยืนนิ่งบนบันไดขั้นสุดท้ายโดยที่ลลิตภัทรเดินตามหลังมากลั้นขำสุดพลังยามเห็นแดนดินทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ปืนลูกซองแฝดค่อยๆลดระดับลงก่อนที่กำนันหนุ่มจะยกมือไหว้พระพ่อตาอย่างนอบน้อม

   “นิมนต์หลวงพ่อขึ้นบ้านก่อนครับ”แดนดินหลบทางให้พระประจวบเดินขึ้นบ้านในขณะที่ลลิตภัทรที่ถือธูปเทียนแพก็ตามขึ้นมาติดๆ

   ใครให้มึงขึ้นบ้านกูไอ้ลอ”แดนดินร้องขัดทันทีทำท่าจะยกปืนขึ้นขู่อีก

   “ขอบิณฑบาตเถอะนะกำนัน”หลวงตาจวบหันมาพูดด้วยน้ำเสียงปราณี จิ๊บรีบเอาเบาะมาวางให้หลวงพ่อนั่ง ลูกเจี๊ยบมองตากับลลิตภัทรส่งยิ้มให้กันบางๆก่อนจะผละเข้าไปเตรียมน้ำให้หลวงตาและลลิตภัทร เจ้าจอมรีบวิ่งไปลากพัดลมตัวใหญ่มาเปิดให้หลวงตาอย่างรู้งาน

   “เจ้าขากับเจ้าจอมเข้าห้องไปก่อนลูก”จิ๊บไล่ลูกเล็กสองคนให้กลับเข้าห้อง แม้ว่าอยากจะอยู่ฟังเพียงใดแต่เด็กทั้งสองก็ทำตามแต่โดยดี แม้จะกลับเข้าไปอยู่ในห้องแต่ต่างก็เอาหูแนบประตูฟังบทสนทนาด้านนอกอย่างอยากรู้

   “หลวงตาจ๋า น้ำจ้า”เจี๊ยบวางโอวันตินร้อนและน้ำเย็นให้กับหลวงตา ส่วนลลิตภัทรเป็นขันน้ำเย็นลอยดอกมะลิหอมชื่นใจ แม้จะไม่มีคำพูดแต่ทั้งสองคนก็รู้ว่าต่างดีใจขนาดไหนที่วันนี้ลลิตภัทรรักษาสัญญาตามที่พูดจริงๆ

   “หลวงพ่อมาได้ยังไงครับ”

   “ผู้ใหญ่เขาไปหา บอกมีเรื่องให้ช่วย เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้หลวงพ่อฟังแล้ว”

   “ผมว่าเรื่องนี้หลวงพ่ออย่าเข้ามาข้องเกี่ยวจะดีกว่าครับ ยังไงซะเจี๊ยบก็เป็นหลานแท้ๆของหลวงพ่อ”แดนดินตัดบทอย่างไม่ใยดี

   “ตอนนั้น...วันที่กำนันมาหาหลวงพ่อที่บ้าน หลวงพ่อจำได้เราก็นั่งคุยกันที่ตรงนี้”หลวงพ่อเอ่ยถึงความหลังที่แดนดินกับจิ๊บรู้ดีว่าคือวันไหน

   “กำนันมาขอรับผิดชอบจิ๊บ สารภาพผิดกับสิ่งที่ทำลงไปและสัญญาว่าจะรักและดูแลลูกสาวของหลวงพ่อเป็นอย่างดี ตอนนั้นน่ะอาตมาโกรธแสนโกรธที่กำนันทำให้ลูกสาวของอาตมาท้องทั้งๆที่อายุเพิ่งจะ 14 วันนี้ผู้ใหญ่ก็ไปหาหลวงพ่อสารภาพกับสิ่งที่ทำไป รู้มั้ยว่าทำไมหลวงพ่อถึงยอมมาทั้งๆที่มันไม่ใช่กิจของสงฆ์”หลวงตาจวบจ้องหน้ากำนันหนุ่มนิ่งก่อนจะคลี่ยิ้มใจดีให้กับลูกเขย

   “เพราะตอนที่ผู้ใหญ่พูดน่ะ ดวงตาของเขาไม่ต่างจากกำนันในวันนั้นเลย ทั้งจริงใจและหนักแน่น”

   “แต่หลวงพ่อครับเจี๊ยบเป็นเด็กผู้ชาย”

   “โลกมันไปยั้นไหนแล้วกำนัน  ถามลูกแล้วหรือยังว่ารักเขามั้ย ถ้าต้องถูกจับแยกกันจะเป็นยังไง ตอนที่เขาคบกันการเรียนเจี๊ยบตกมั้ยหรือทำพฤติกรรมไม่ดีกับพ่อแม่”

   “แต่ไอ้ลอมันเคยรักจิ๊บมาก่อน”แดนดินยังคงเถียง

   “ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับจิ๊บมานานแล้วพี่”คราวนี้ลลิตภัทรเป็นคนพูดออกมาหลังจากนิ่งฟังมานาน

   “ตอนนี้มึงอยากได้ลูกกูมึงก็พูดได้สิ ถ้ามึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับจิ๊บทำไมมึงไม่กลับมาที่นี่เลยเกือบยี่สิบปี”

   “ก็เพราะผมอายไง กลัวคนจะพูดถึงเรื่องเก่าๆขึ้นมาอีก ตอนนั้นเราต่างคนต่างก็ยังเด็กจิ๊บเป็นรักครั้งแรกของผมถ้ามันจะฝังใจบ้างมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ผมเพิ่งจะ 14-15 ยังจัดการกับความรู้สึกของตัวเองไม่เป็นผมถึงไป แต่ตอนนี้ระหว่างผมกับจิ๊บเราคือเพื่อนกันเพื่อนที่ถูกเลี้ยงมาพร้อมกัน ถ้าพี่ยังแคลงใจเรื่องนี้ผมสาบานเลยว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับจิ๊บแล้วนอกการความเป็นเพื่อนสนิท แต่กับเจี๊ยบ ด้วยวัยของผมผมโตแล้วผมรู้ว่านี่คือรัก รักที่เกิดจากความรู้สึกจริงๆ รักที่อยากจะดูแล อยากปกป้อง อยากเห็นเจี๊ยบเติบโตไปในทางที่ดี ที่ผ่านมาผมอาจจะกวนตีนพี่ไปบ้างนั่นเป็นเพราะว่าเราต่างก็สร้างกำแพงขึ้นมาเราไม่เคยเปิดอกพูดถึงเรื่องนี้กันอย่างจริงจังซักครั้ง ทั้งผมกับพี่เราต่างวิ่งหนีปัญหาข้อนี้ ผมเองก็ปฏิเสธไมตรีจากพี่ในวันแรกที่กลับมานั่นทำให้ผมรู้สึกผิดมาตลอด แต่พี่ดิน ผมขอ ขอโอกาสให้ผมได้ปรับปรุงตัว ขอโอกาสให้ผมได้ดูแลลูกเจี๊ยบได้มั้ยพี่ ผมสัญญาว่าผมจะรักเขาไม่ให้น้อยไปกว่าพี่ จะดูแลเขาให้ดีมากเท่าที่พี่เคยดูแลหลาน”

   “กูไม่ให้ เจี๊ยบเป็นลูกกู กูเลี้ยงกูรักกูถนอมของกูมากูไม่ยอมยกลูกกูให้มึงหรอก ตอนนี้ยังใหม่มึงก็พูดได้ว่ามึงรัก เดี๋ยวอีกหน่อยลูกกูโตเต็มที่ไม่จิ้มลิ้มน่ารักโตแบบเด็กผู้ชายที่โตเป็นหนุ่มใหญ่มึงก็จะเบื่อจะทิ้งลูกกู ถึงวันนั้นใครจะรับประกันได้บ้างว่าลูกกูจะไม่เสียใจจะไม่เสียตัวฟรีๆ ตั้งแต่วันแรกที่กูรู้ว่ากูมีเขา กูเฝ้าทะนุถนอมกล่อมเกลี้ย นั่นเพราะเขาเป็นยอดดวงใจของกู ถ้ามึงชอบลูกกูเพราะลูกกูน่ารักมึงกลับไปเถอะไอ้ลอ  ที่ผ่านมากูจะถือว่าให้ทานหมามันกิน”

   “ไม่ ผมมาวันนี้ไม่ได้มาเพื่อกลับไปมือเปล่า ผมมาเพื่อมาขอขมาพี่กับจิ๊บและมาเพื่อขอเจี๊ยบ ต่อให้อนาคตเจี๊ยบจะโตเป็นหนุ่ม จะล่ำจะแข็งแรงจะตัวใหญ่กว่าผม ผมก็ยังยืนยันว่าผมจะรักเจี๊ยบ ต่อให้หลานสูง 190 เจี๊ยบก็ยังจะเป็นเจ้าน้องน้อยสำหรับผมตลอดไป ผมรักลูกของพี่จริงๆนะพี่ดิน”ลลิตภัทรยกมือไหว้ร้องขอด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน แดนดินมองตาของอดีตเพื่อนรุ่นน้องที่เคยสนิทแล้วให้หงุดหงิด

   “ถ้ามึงรักลูกกูจริง มึงกล้ากราบตีนกูกับจิ๊บขอให้กูสองคนยกลูกให้มึงมั้ยล่ะ”แดนดินลุกขึ้นยืนแล้วยื่นเท้าไปตรงหน้าพระลอทันที

   “พี่ดิน มันจะไปกันใหญ่แล้ว จิ๊บไม่เอาด้วยหรอกนะ”จิ๊บร้องเอ็ดสามีอย่างไม่ชอบใจแต่ลลิตภัทรกลับคุกเข้าแล้วก้มลงกราบเท้าของแดนดินทันที เจี๊ยบที่นั่งมองอยู่น้ำตาไหลพรากเด็กน้อยขยับมานั่งข้างลลิตภัทรแล้วก้มลงกราบเคียงข้างกับคนรัก ไหล่บางสั่นไหวด้วยแรงสะอื้นอย่างน่าสงสาร

   “ผมกราบขอโทษพี่กับจิ๊บในฐานะที่เป็นพ่อแม่ของลูกเจี๊ยบ กราบขอโทษที่ผมเคยล่วงเกิน กราบขอโทษที่ผมไม่หักห้ามใจทำให้หลานต้องแปดเปื้อน ผมกราบขอขมาขอให้พี่อโหสิกรรมให้ผม และผมกราบขอร้องขอให้พี่ยกเจี๊ยบให้ผม ผมสัญญาว่าผมจะรักและดูแลเจี๊ยบให้ดีที่สุด พี่ดินพี่ยกหลานให้ผมเถอะนะครับ”พระลอยกพานธูปเทียนแพยื่นให้กับแดนดินที่ยืนกัดฟันกรอด กำนันหนุ่มมองเจ้าตัวน้อยที่นั่งน้ำตาร่วงเผลาะก่อนจะยื่นมือไปลูบผมลูก

   “รักเขามากมั้ยลูก?”น้ำเสียงทอดอ่อนเอ่ยถามเจ้าตัวน้อย ลูกเจี๊ยบพยักหน้าในทันที

   “รัก...รักจ้า รักมากๆเลย”

   “รักมันเท่าพ่อกับแม่มั้ย?”คราวนี้เจ้าเจี๊ยบน้อยส่ายหัวทันที

   “ไม่จ้าน้องไม่มีวันรักใครมากกว่าพ่อกับแม่อยู่แล้ว”แดนดินยิ้มให้กับคำตอบของลูก

   “เด็กดี...ถ้าวันไหนมันทำลูกเจ็บช้ำน้ำใจ...พ่อจะยึดเจ้าคืน เข้าใจมั้ย?”ลูกเจี๊ยบนิ่งฟังและนั่งคิดตามคำพูดของพ่อเหมือนกับที่พระลอกำลังตีความในประโยคของแดนดิน

   “ยังไม่รีบกราบขอบคุณพ่ออีกล่ะเจี๊ยบ พ่อยอมยกหนูให้อาลอแล้วไงลูก”เป็นหลวงตาที่เอ่ยเตือนหลานชาย ความปิติยินดีแล่นวาบไปทั่วร่างเมื่อตีความตามคำพูดของแดนดินได้ ลูกเจี๊ยบและลลิตภัทรหันมามองหน้ากันยิ้มให้กันอย่างดีใจ แดนดินรับพานดอกไม้ธูปเทียนอย่างเสียไม่ได้ ลลิตภัทรและลูกเจี๊ยบก้มลงกราบเท้าพ่อกับแม่อีกครั้งโดยที่จิ๊บพยายามร้องห้ามเพราะอย่างไรเสียตนก็อ่อนเดือนกว่าพระลอ

   “ลออย่ากราบเรา”

   “ไม่เป็นไร เรากราบจิ๊บเพราะจิ๊บคือแม่ของลูกเจี๊ยบ ขอบคุณมากพี่ดิน ขอบคุณที่ให้โอกาสผมได้ดูแลเจี๊ยบ”

   “มึงไม่ต้องมาทำหน้าดีใจไป กูไม่ได้ยกลูกให้มึง กูแค่อนุญาตให้มึงคบกับลูกกูเพราะกูสงสารที่ลูกกูร้องไห้ทุกวันข้าวปลาไม่กินกูอยากได้ลูกเจี๊ยบตัวน้อยของกูคืนมา คนที่จะทำให้ลูกกูกลับมาร่าเริงได้อีกครั้งก็คงมีแค่มึง แต่ไอ้ลอ มึงจำใส่หัวมึงเอาไว้ วันไหนมึงทำลูกกูเสียใจร้องไห้กูจะยึดลูกกูคืนต่อให้มึงกราบจนกระดานบ้านกูสึกกูก็จะไม่มีทางยกลูกให้มึงอีกแล้ว มึงมันเจ้าเล่ห์นักไอ้หน้าหมาเขาทางตรงไม่ได้ก็ไปรบกวนพระสงฆ์องค์เจ้าไอ้นรก”แดนดินด่ากับความเจ้าเล่ห์ของพระลอที่ไปนิมนต์หลวงตาจวบมา

   “ส่วนที่มึงบอกว่ามึงจะรับผิดชอบลูกกูมึงเอาอะไรมารับประกัน?”แดนดินนั่งลงกับพื้นเรือนตามเดิมเอ่ยปากถาม

   “มึงได้ลูกกูไปแล้ว ลูกกูมีแต่เสียกับเสีย”

   “คอนโดผมที่กรุงเทพผมจะยกให้เจี๊ยบ  ตอนที่ผมชอบเจี๊ยบผมก็เปิดบัญชีไว้ให้หลานแล้ว เงินในบัญชีของผมๆก็จะยกให้เจี๊ยบเหมือนกัน ค่าเล่าเรียนค่าใช้จ่ายของเจี๊ยบผมจะเป็นคนจ่ายเอง”

   “ลูกกูกูจ่ายเองได้”

   “แต่ผมอยากดูแลเจี๊ยบ แบ่งเบาภาระของพี่ ต่อให้เจี๊ยบอยากเรียนจนจบปริญญาเอกผมก็จะส่งเสียให้เรียนเอง เจี๊ยบอยากเรียนอะไรผมก็จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ ผมไปดูโรงเรียนสอนพิเศษให้เจี๊ยบมาแล้วเพราะเจี๊ยบอยากเรียนหมอลำพังตัวผมเองคงติวให้หลานทุกวิชาไม่ได้”

   “ก็ดีนะพี่ดิน ไหนๆเขารักกันเราห้ามไม่ได้แล้วก็ให้เขาส่งเสริมกันไปในทางที่ดีเถอะ”

   “แต่..”

   “เอาตามนี้แหละ เราตกลงนะลอ จากนี้ฝากน้องด้วย น้องดื้อน้องไม่เชื่อฟัง ลอก็ช่วยดุน้องบ้างอย่าตามใจจนเสียเด็ก”จิ๊บตัดบทสามีก่อนจะหันมาพูดกับพระลอ

   “ได้เราจะดูแลหลานให้ดีที่สุด ขอบคุณมากที่ให้โอกาสเรา”พระลอคว้ามือลูกเจี๊ยบมาจับอย่างแสนรัก

เพี๊ยะ!!

แดนดินที่คิ้วกระตุกฟาดฝ่ามือลงบนหลังมือของลลิตภัทรอย่างแรงจนผู้ใหญ่บ้านหนุ่มนิ่วหน้า

   “อย่ามาจับเนื้อต้องตัวลูกกูให้กูเห็นนะ”คนหวงลูกตวาดแว้ด

   “แล้วก็ห้ามทำประเจิดประเจ้อใส่ลูกกู ห้ามจูบห้ามหอมห้ามทำอะไรลูกกูจนกว่าจะเรียนจบเด็ดขาด ถ้าทำไม่ได้กลับบ้านมึงไปเลย!!”

   “โห...”ลลิตภัทรร้องท้วงก่อนจะหุบปากฉับยามแดนดินถลึงตาใส่

   “เอาแต่พอควรเถอะพี่คนรักกันชอบกันมันก็ต้องมีบ้าง”เป็นจีบอีกนั่นแหละที่เข้าข้างลูกกับพระลอ พระลอรีบยิ้มหวานประจบจิ๊บในฐานะว่าที่แม่ยายดีเด่น

   “ยังไมทันไรเลยจิ๊บก็ให้ท้ายมันกับลูก พี่มันไม่สำคัญเป็นหมาหัวเน่าแล้วนี๊”กำนันตัดพ้อด้วยน้ำเสียงสะบัดก่อนจะกราบหลวงตาจวบแล้วเดินตึงตังเข้าห้องปิดประตูดังโครมใหญ่ จิ๊บหันมายิ้มแห้งให้กับหลวงพ่อ

   “งอนน่ะจ้าหลวงพ่อ เดี๋ยวง้อก็หาย”

   “หมดเรื่องแล้วหลวงพ่อกลับวัดดีกว่า หลวงพ่อขยับตัวหยิบย่ามแต่ต้องหยุดเมื่อลูกเจี๊ยบน้อยคลานเข้ามากราบตัก

   “น้องกราบขอบคุณหลวงตานะจ๊ะที่มาช่วยพูดให้”น้ำเสียงงุ้งงิ้งเอ่ยเบาๆในขณะที่แนบแก้มกับตักผู้เป็นตา

   “ตาสงสารเจ้า จากนี้ไปก็ทำตัวดีๆอย่าดื้อกับพ่อแม่นะลูกนะ”

   “น้องไม่ได้ดื้อซักหน่อย”

   “น้องไม่ดื้อแต่ก็ไม่เชื่อฟังไง เรื่องถึงเป็นแบบนี้ ต้องยอมรับด้วยว่าตัวเองก็ผิด”หลวงตาเขกลงบนหัวเจ้าหลานรักเบาๆพลางสอน

   “พ่อแม่เขารักเขาหวังดีกับเจ้า ตั้งแต่เกิดมาคนที่รักเจ้ามากกว่าใครคือพ่อพูดกับเขาดีๆอย่าเจ้าแง่แสนงอนใส่เขา กำนันน่ะใจอ่อนจะตาย รู้หลักหน่อยอ้อนหน่อยง้อหน่อยเดี๋ยวเขาก็หาย จากนี้ไปเจ้าสองคนก็รักกันให้ดีๆล่ะอย่าทำให้หลวงตาที่ต้องแจ้นมาจากวัดผิดหวัง”ทั้งลิตภัทรและศตายุต่างรับคำหลวงตา  ลูกเจี๊ยบเดินมาส่งหลวงตากับอาลอที่รถดวงตากลมจ้องมองลลิตภัทรไม่วางตาต่างส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข

   “เดี๋ยวตอนเย็นอามารับไปกินข้าวที่บ้านะคะ ย่าโฉมคิดถึง”

   “หนูต้องบอกพ่อก่อนจ้า”

   “แล้วอาจะมารับนะคะ”ลลิตภัทรว่าแค่นั้นก่อนจะขับรถออกไปลูกเจี๊ยบน้อยกลั้นยิ้มอย่างมีความสุข เมฆหมอกครึ้มดำที่ปกคลุมบ้านมาหลายวันพลันกระจายหายเหลือเพียงแสงจากดวงอาทิตย์ที่ส่อสว่าง มองรถของอาลอที่ลับโค้งไปด้วยความตื้นตัน ดีใจที่เรื่องทุกอย่างผ่านไปอย่างง่ายดาย ง่ายกว่าที่คิดจนตั้งตัวแทบไม่ทัน

เป็นเพราะความรัก...

เพราะพ่อรักลูกเจี๊ยบมากนั่นเองถ้าการรักอาลอคือความสุขของลูกเจี๊ยบพ่อกำนันจึงยอม ลูกเจี๊ยบน้อยเดินกลับขึ้นไปบนเรือนจุดหมายคือห้องนอนของพ่อกับแม่

ก็ต้องง้อเขาหน่อยล่ะ งอนเป็นกอลิล่าหงอยขนาดนั้น



ต่อข้างล่างนะคะ

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2


   ลลิตภัทรปั่นจักรยานมาบ้านของลูกเจี๊ยบในตอนเย็น ชายหนุ่มเดินขึ้นบ้านของแดนดินด้วยท่าทางสบายๆแต่เจ้าของบ้านกลับทำหน้าหงิกอย่างกับม้าหมากรุก

   “มาทำไมอีก มึงคิดว่าการที่กูยอมให้มึงคบกับลูกกูแล้วจะเข้านอกออกในยังไงก็ได้งั้นเหรอไอ้ลอ”

   “แม่ให้มาพาเจี๊ยบไปกินข้าวที่บ้าน”

   “บ้านกูข้าวมีกินทำไมต้องให้ลูกกูไปกินข้าวที่บ้านมึงด้วย”กำนันแดนดินยังรวนไม่เลิกจิ๊บได้แต่ส่ายหน้าด้วยความหน่ายใจ

   “เจี๊ยบอาลอมารับแล้วลูก”หล่อนไม่สนใจผู้เป็นสามีร้องเรียกลูกชายที่ยังอยู่ในห้อง เสียงตึงๆน่าจะเป็นเพราะเจ้าตัวน้อยวิ่งมาเปิดประตูทำให้แดนดินยิ่งเหม็นขี้หน้าว่าที่ลูกเขย แถมเมียรักก็ไม่เข้าข้างกันซักนิด ทำไมใครๆก็เข้าข้างไอ้หน้าขาวนี่หมดนะไม่เข้าใจ

   “น้องจะไม่อยู่กินข้าวกับพ่อจริงๆเหรอ?”ในเมื่อเมียไม่เข้าข้างก็หันไปออดอ้อนลูกทันทีลูกเจี๊ยบมีท่าทีลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด

   “ให้หลานไปกับผมเถอะพี่ แม่แกบ่นคิดถึง แกบอกแกเลี้ยงของแกมาตั้งแต่เล็กปกติต้องข้ามไปหากันประจำนี่แกก็ชะเง้อคอยมองทุกวัน”แดนดินทำท่าฟึดฟัดอย่างน่าถีบให้ตกใต้ถุนเรือน

   “ห้ามกลับเกินสองทุ่มพ่อจะนั่งรอน้องตรงนี้ ถ้าเกินคราวหลังจะไม่ให้ไปอีก”

   “คุยกับแม่เสร็จผมจะพามาส่งไม่ต้องห่วงนะพี่”

   “กูห่วงก็เพราะลูกกูไปกับมึงนี่แหละไอ้สันขวาน”แดนดินตอกกลับทันทีแต่นั่นกลับทำให้ลลิตภัทรหัวเราะก๊ากขึ้นมาทันที ชายหนุ่มพาหลานซ้อนจักรยานปั่นกลับมาที่บ้าน ลูกเจี๊ยบยืนเก้ๆกังๆไม่กล้าเข้าไปหาย่าโฉมในครัวเหมือนเช่นทุกครั้ง

   “ทำไมไม่เข้าไปล่ะคะ?”ลลิตภัทรเอ่ยถามอย่างแปลกใจ ลูกเจี๊ยบละล้าละลังอึกอักอย่าน่าสงสาร

   คือหนู...หนู...”

   “หนูไม่กล้าเข้าไปหาย่าเค้าเหรอคะ?”ลูกเจี๊ยบพยักหน้ารับ

   “หนูกลัว”

   “ไม่มีอะไรต้องกลัวเลย ย่ายังรักหนูเหมือนเดิม นี่บ่นอาทุกวันที่ทำให้หนูไม่ได้ข้ามมาหา ไปเถอะค่ะไปช่วยย่าเขาทำกับข้าวป่านนี้ใกล้เสร็จแล้วมั้ง เป็นสะใภ้บ้านนี้ต้องทำกับข้าวเก่งรู้มั้ยคะ”

   “มาสะเพิ้งสะใภ้อะไรกันล่ะจ๊ะ ยังไม่ได้อยู่ด้วยกันซักหน่อย”

   “แล้วอยากย้ายมาอยู่กับอามั้ยล่ะคะ?”

   “พ่อได้ตีตาย ค่อยๆคบกันไปก่อนเถอะจ้ารอหนูเรียนจบดูแลรับผิดชอบตัวเองได้ตามแผนเดิมของเราดีกว่านะจ๊ะ”

   “อาก็ไม่ได้จะเร่งรัดอะไรหนูหรอกค่ะก็ลองถามดูแต่ถ้าได้ก็ดี ไปเถอะค่ะเข้าไปข้างในกันป่านนี้แม่บ่นแล้วว่าอาทำไมมาช้า”ลลิตภัทรดันหลานให้เดินเข้าไปในครัว ทันทีที่ลูกเจี๊ยบปรากฏตัวย่าโฉมก็ทักเสียงดังลั่นพลางโผหาเจ้าตัวน้อยด้วยความคิดถึง

   “ลูกเจี๊ยบของย่า ย่าคิดถึงจริงๆ”

ลูกเจี๊ยบกำลังประหม่า ด้วยสถานะที่เปลี่ยนไป ลลิตภัทรเองก็รู้สึกได้ว่าเจ้าตัวน้อยไม่เป็นธรรมชาติเหมือนเดิม ชายหนุ่มเพียรตักอาหารใส่จานให้หลานเจ้าตัวน้อยก็เอาแต่สงบปากสงบคำ

   “หนู...”เอ่ยเรียกหลานเบาๆ เจ้าแก้มกลมหันมามองพลางเม้มปาก

   “มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยหนูทำตัวปกติเถอะค่ะ”

   “เป็นอะไรลูก กลัวย่าไปแล้วหรือไง?”ย่าโฉมเองก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงใจดีเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน

มีเพียงลูกเจี๊ยบที่กังวลอยู่คนเดียว ด้วยสถานะที่ถูกเปิดเผยลูกเจี๊ยบไม่รู้ว่าสมาชิกในครอบครัวของลลิตภัทรจะยังให้การต้อนรับตนเหมือนเดิมมั้ย พระรามกับพระลักษณ์เงยหน้ามองหลานด้วยดวงตานิ่งๆนั่นยิ่งทำให้ลูกเจี๊ยบประหม่า

   “พี่มองหลานจนหลานมันกลัวแล้ว”พระลอกระแอมบอกพี่ๆที่นั่งจ้องหน้าหลานตาไม่กระพริบ

   “เจี๊ยบ”พระลักษณ์เอ่ยเรียกหลานด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

   “จ...จ๋าลุงลักษณ์”

   “หนีไปตอนนี้ยังทันนะ ไปมีอนาคตดีๆกับคนดีๆเถอะ”พระลักษณ์บอกหลานด้วยน้ำเสียงจริงจังจนพระรามที่นั่งฟังอยู่หัวเราะพรืดในขณะที่ลลิตภัทรอ้าปากด่าพี่ชายทันที

   “พี่ลักษณ์พี่พูดแบบนี้ได้ไงวะถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่จะถีบให้ตกเรือนเลยมายุให้ผัวเมียเขาตีกัน”พระรามกับพระลักษณ์ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันทีเมื่อน้องคนเล็กออกฤทธิ์

   “ขี้ตู่ว่ะคนเรามาเรียกหลานว่าเมียแต่งก็ยังไม่ได้แต่งเนอะเจี๊ยบเนอะ”ท้ายประโยคหันไปพยักเพยิดกับเจ้าตัวน้อยจนลูกเจี๊ยบที่หน้าแดงไปยั้นลำคอยิ่งอายม้วนต้วน บรรยากาศในวงข้าวดีขึ้นทันตา ลูกเจี๊ยบหลุดหัวเราะออกมาจนได้เมื่อลลิตภัทรเอ่ยแซวไม่ยอมหยุด ย่าโฉมกับปู่ชลิตก็พลอยขำไปกับพวกเด็กๆ

   “เข้ามาหาย่าสิเจี๊ยบเอ้ย ลอด้วยมาหาพ่อกับแม่””ย่าโฉมเรียกลูกเจี๊ยบให้เข้ามาหาตน ลลิตภัทรกับลูกเจี๊ยบค่อยๆคลานเข้าหาผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งเก้าอี้อยู่ตรงชานบ้าน ปู่ชลิตหยิบฝ้ายผูกข้อมือขึ้นมาก่อนจะผูกให้กับลูกเจี๊ยบ

   “อยู่เย็นเป็นสุขอายุมั่นขวัญยืนนะลูกนะ ปู่ดีใจที่อย่างน้อยคู่ของไอ้ลอก็เป็นเด็กดีอย่างเจี๊ยบเลี้ยงกันมาเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก”เจี๊ยบกราบลงบนตักของปู่ชลิตใบหน้าจิ้มลิ้มยิ้มให้กับผู้อาวุโสของบ้านจนปู่ชลิตอดที่จะยิ้มตามไม่ได้ ย่าโฉมผูกข้อมือให้หลานเป็นคนต่อไป

   “ยังเล็กนัก คบกันรักกันก็ใช้เหตุผลให้มากๆ ลอต้องเข้าใจหลานถ้าหลานงอแงดูแลกันและกันให้ดีๆ เจี๊ยบเองก็อย่าเจ้าแง่แสนงอนอายุต่างกันมากยิ่งต้องถนอมน้ำใจกันรู้มั้ยลูก รอให้หนูโตย่าจะเปลี่ยนจากฝ้ายผูกแขนเป็นสร้อยข้อมือให้นะ”

   ไม่ต้องหรอกจ้าย่า แค่ปู่ย่ากับลุงๆยอมรับหนู หนูก็ดีใจแล้วจ้า”เจ้าตัวน้อยตอบกลับด้วยความจริงใจ

ลูกเจี๊ยบไม่ได้ต้องการทองหยองของมีค่าเพราะลูกเจี๊ยบได้ของมีค่าที่สุดของครอบครัวนี้มาแล้วคือลลิตภัทรและความรักที่ทุกคนมีให้

   “สะใภ้บ้านนี้ได้กันทุกคน”ย่าโฉมว่าพลางทำตาระยิบระยับใส่อย่างหยอกล้อเรียกเลือดฝาดให้มาประดับดวงหน้าของลูกเจี๊ยบอีกหน ลูกเจี๊ยบกอดย่าโฉมพลางหอมแก้มเหี่ยวย่นที่คุ้นเคยอย่างแสนรัก

   “จะสองทุ่มแล้วเดี๋ยวผมพาหลานกลับบ้านก่อนนะครับ"ลลิตภัทรขยับตัวลุกขึ้นเห็นเจ้าตัวน้อยทำตาแดงๆคล้ายกำลังกลั้นน้ำตาก็ให้นึกเอ็นดู เพิ่งทุ่มครึ่งอันที่จริงให้นั่งเล่นที่บ้านเขาก่อนก็ได้แต่ลลิตภัทรอยากมีเวลาส่วนตัวอยู่กับหลานก่อนไปส่งบ้านจึงดึงหลานออกมาก่อน

   “เดินกลับกันนะคะ”เขาบอกหลานเสียงแผ่ว ลมเย็นพัดเอากลิ่นต้นข้าวมาให้ได้ดมจนชื่นใจ สองคนเดินเคียงกันอย่างเชื่องช้าตามทางเดินอาศัยเพียงแสงจันทร์จากข้างขึ้นส่องสว่างนำทาง

   “เจี๊ยบคะ”ลลิตภัทรดึงมือหลานเมื่อเดินผ่านโค้งบ้านจนถึงสามแยกที่จะเลี้ยวเข้าบ้านหลาน

   “จ๋า...”เจ้าตัวน้อยรับคำเสียงแผ่วเมื่อถูกดึงเข้าไปหาอ้อมกอดอุ่นที่คุ้นเคย

   “ดีใจมั้ยคะ?”เจ้าลูกเจี๊ยบน้อยพยักหน้ากับไหล่ของอาลอ จะเรียกว่ากอดจมอกก็ไม่ได้เพราะเจ้าน้องน้อยนั้นเตี้ยกว่าเขาไม่ถึงสิบเซ็น

   “ดีใจจ้า”

   “ต่อไปนี้อาดูแลหนูได้เต็มที่แล้วนะคะ”

   “หนูโตแล้วดูแลตัวเองได้ โตไปเรียนจบหนูก็ดูแลพ่อแม่น้องๆปู่กับย่าโฉมรวมทั้งอาลอได้ด้วยเหมือนกัน”เจ้าตัวดีพูดอย่างอวดๆจนลลิตภัทรหัวเราะเบาๆในลำคำ

   “เอาเป็นว่าเราจะดูแลซึ่งกันและกันใช่มั้ยคะ แล้วหลังจากนี้บอกใครต่อใครได้ยังว่าเราเป็นแฟนกัน”

   “เราจำเป็นต้องป่าวประกาศบอกคนอื่นด้วยเหรอจ๊ะ?”เจ้าลูกเจี๊ยบยืดตัวเต็มความสูงเอ่ยถามอย่างสงสัย

   “คนอื่นจะได้รู้ไงว่าเรารักกัน”

   สำหรับหนูเรารักกันเงียบๆก็ได้นี่จ๊ะ รู้กันเฉพาะแค่คนในครอบครัวไม่ดีกว่าเหรอ?”

   “หนูอายเหรอคะที่จะบอกใครว่าเรารักกัน”ลลิตภัทรเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ขรึมลง ลูกเจี๊ยบคว้ามือของคนเป็นอามากุมไว้ใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงที่หลังมืออาลอเบาๆอย่างง้องอน

   “หนูไม่ได้อายหรอกจ้า เพียงแต่ว่าหนูไม่เห็นความสำคัญที่จะต้องเที่ยวบอกใครต่อใครว่าเราเป็นอะไรกัน ปล่อยให้การกระทำและความสัมพันธ์เป็นตัวพูดให้ชาวบ้านรู้ด้วยตัวเองดีกว่าจ้า อาลอกับพ่อยังต้องทำงานให้หมู่บ้านหนูไม่เห็นประโยชน์ของการที่เอาเรื่องส่วนตัวของเราไปให้คนพูดกันเลยซักนิด แค่เรารู้ว่าเรารักกันที่บ้านของเราเห็นชอบก็พอแล้ว”

   “หนูไม่กลัวชาวบ้านเอาลูกสาวมาเสนอให้เป็นเมียอาลอหรอกเหรอจ๊ะ วันก่อนก็มีมาคนหนึ่งเอาส้มโอมาให้ลูกเบ้อเริ่มเลย”

   “ส้มโอหรือนมจ๊ะ?”ลูกเจี๊ยบแกล้งพูดถามไปเร็วๆ

   “นมจ้า...ว๊าย!!! ส้มโอสิจ๊ะลลิตภัทรรีบแก้คำพูดของตัวเองเมื่อเจ้าตัวน้อยหยิกหมับเข้าที่หน้าท้องจนสะดุ้ง

   “มีหนูแล้วห้ามไปมองนมคนอื่นนะจ๊ะไม่งั้นหนูเอาตาย”

   “อยากให้เอาจะแย่แล้วจ้า”

   “อาลอพูดอะไรนะจ๊ะหนูฟังไม่ถนัด”

   “อาพูดว่าไม่กล้าหรอกจ้าอาชอบนมตุ่ยๆไม่ต้องตู้มมากอันที่จริงคือชอบแค่นมของหนู”

   “ทำเป็นปากดีไปอีกไม่กี่ปีอาจจะเบื่อหนู”

   “อีกร้อยปีก็ไม่มีทางเบื่อค่ะ อาเป็นคนรักเดียวใจเดียว”

   “ให้มันจริงนะจ๊ะ ไม่ใช่ว่าพอน้องโตตัวใหญ่ล่ำบึ้กแบบพ่อกำนันก็จะทิ้งหนู”

   “อาไม่มีวันยอมให้หนูร่างควายเท่าพ่อหนูหรอกจ้า”

   “อาลอจ๊ะร่างควายที่พูดถึงนั่นก็พ่อน้องนะ”

   “อาหมายถึงรูปร่างบึกบึนสมชายชาตรีน่ะค่ะ แต่ถึงหนูจะรูปร่างเหมือนกอลิล่าขอแค่เป้นหนูยังไงอาก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจ เจี๊ยบเชื่อมั่นในตัวอานะคะ อะไรที่อาพูดออกไปแล้วอาจะไม่มีวันคืนคำ” ลลิตภัทรดึงหลานเข้ามากอดอีกรอบโยกตัวเจ้าตัวน้อยไปมาเหมือนกำลังเล่นกับเด็ก

   “รวมถึงคอนโดที่บอกจะให้น้องด้วยใช่มั้ยจ๊ะ”ลูกเจี๊ยบกระซิบถามกลั้วหัวเราะ

   “แน่นอนจ้าอาพร้อมโอนให้หนูทุกเมื่ออยากต่อเติมอะไรเพิ่มบอกอาได้เลยนะคะ"

   “อยากได้อ่างที่มันใหญ่ๆจ้า”เจ้าลูกเจี๊ยบน้อยหัวเราะคิกก่อนจะดันตัวเองหนีจากกรงเล็บเสื้อโคร่งของลลิตภัทร

   “ร้ายนักนะเรารู้ว่าอาทำอะไรไม่ได้ก็มาพูดแบบนี้ ฉุดเข้าเถียงนาข้างทางดีมั้ย”แกล้งพูดขณะวิ่งตามไปรวบเอวเล็กของหลานไว้ได้ทันพลางกดจมูกฝังลงแก้มนุ่มสูดกลิ่นหอมจากแป้งเด็กที่ลูกเจี๊ยบใช้จนเต็มปอด

   “อารักหนูนะคะ รักมากๆ”

   “ฮื่อ...หนูรู้แล้ว อาลอบอกรักหนูทั้งวันแล้วอ่ะ”

   “อาบอกแล้วหนูล่ะคะบอกอาหรือยัง?”

   “หนูก็บอกไปบ่อยแล้วนี่นา”

   “อยากฟังอีกรอบได้มั้ยคะ”

   “......”เจ้าตัวน้อยเม้มปากแน่นเมื่ออ้อมแขนรัดร่างตัวเองแน่นขึ้น

   “......?.....”ลลิตภัทรใช้ความเงียบในการกดดันลูกเจี๊ยบที่ถ้ามีแสงไฟตอนนี้ก็คงเห็นแก้มใสแดงปลั่งเป็นลูกพีชแน่ๆ

   “ฮื่อ....รักจ้า น้องรักอาลอมากๆ”พูดจบก็ก้มหน้างุดแต่ลลิตภัทรกลับยิ้มกว้าง ต้นขาวในนาไหววูบยามลมเย็นพัดมาอีกครา แสงจันทร์สาดแสงนวลผ่องยวนตายิ่งอาบไว้ให้ผิวของเจ้าลูกเจี๊ยบน้อยในอ้อมแขนสวยยวนตา ลลิตภัทรดึงให้หลานหันหน้าเข้ามาหาก่อนจะประกบริมฝีปากแตะผะแผ่วกับปากหลาน ลูกเจี๊ยบกลั้นยิ้มจนแก้มป่องก่อนจะหลับตาลงรับรอยจูบที่ประกบลงมาแนบสนิทถ่ายทอดความรักซึ่งกันและกันโดยมีต้นข้าวและแสงจันทร์เป็นพยาน

ลลิตภัทรอยากจะขอบคุณอะไรก็ตามที่ดลบันดาลให้เขาไม่ได้ลงเอยกับจิ๊บและอยากขอบคุณอะไรก็ตามที่ส่งลูกเจี๊ยบลงมาเกิดเพื่อมาครองคู่กับเขา

ในวรรณคดีพระเพื่อนพระแพงปล่อยไก่ฟ้าจำแลงเพื่อมาหลอกล่อให้พระลอตามไปเพื่อพบสองนางดรุณี แต่ในชีวิตจริงแดนดินกลับทำให้เขาพบเจ้าลูกเจี๊ยบตัวน้อยที่แสนไร้เดียงสาและน่ารัก

เขาสัญญาว่าเขาจะฟูมฟักเจ้าเจี๊ยบน้อยให้กลายเป็นไก่ฟ้าแสนงามให้เป็นที่รักของใครหลายๆคนที่เกี่ยวข้องในชีวิต ดูแลด้วยความรักของเขาตลอดไปตราบลมหายใจจะสิ้น...



จบบริบูรณ์



..............................

จบแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและมาเม้นท์นะคะ

ฝากเรื่องอื่นๆให้ติดตามด้วยนะ

บ๊ายบาย

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ จะติดตามต่อไปแน่นอน

น้อลลเจี๊ยบน่ารักมากลูก ติดคำว่าว่าจ้าของน้องไปแล้วค่ะ แต่คิดตามอาลอที่บอกว่าถ้าน้องสูง190เราว่าไม่ดีมั้งคะอาลอ

ดีใจกับอาลอด้วยนะคะได้มีครอบครัวกับเขาสักที

 :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 407
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
แยากเห็นตอนหนูเจี๊ยบโตแล้วจังเลย โธ่คงทำให้คนแก่หึงได้น่าดู

ออฟไลน์ oiw08

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ดีใจกับอาลอและหนูเจี๊ยบด้วยนะจ๊ะ
ในที่สุดก็พ่อกำนันก็ใจอ่อนสักที
ขอบคุณคนแต่งนะคะ เป็นเรื่องที่สนุกมากค่ะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ขอบคุณคนแต่งมากค่ะ เรื่องนี้สนุกมากน้องเจี๊ยบน่ารักน่าเอ็นดูมาก :pig4:

ออฟไลน์ praewypn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้องลูกเจี๊ยบกับอาลอน่ารักมากๆเลยค่า  :o8: :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด