STEP by STEP ทีละก้าว - {END}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: STEP by STEP ทีละก้าว - {END}  (อ่าน 83292 ครั้ง)

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
เราก็ลุ้นกันเหงือกแห้งแล้วเนี่ย  :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
โอ้ยยยยยย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :m7: ไม่เชื่อ ๆ ตามไปดูให้เห็นกับตาตัวเองก่อน ถึงจะเชื่อ

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เขาจูบกันแย๊วววววววววววว :hao7: :hao6:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เกือบจะได้จูบกันแล้ว
สายป่านแก้ตัวใหม่เลยนะคืนนี้น่ะ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เลิ่กลั่กกันทั้งคู่ 55555555
ปลอดภัยก้ดีแล้ว ใจหายหม้ด  :hao5:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ค่อยชัดเจนขึ้นมาหน่อยนึง โทษสายป่านแหล่ะจะจีบทั้งทีก็ลีลาเยอะ โดนเข้าใจผิดไปก็สมควรยุ่

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อยากอ่านพาร์ทป่านนนน

ออฟไลน์ MewSN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +234/-4
ก้าวที่สิบเจ็ด
ศัตรูที่ไม่ยอมจำนน


โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน...




                  ตั้งแต่งานศพแม่ของมามี่เสร็จสิ้น ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้ว…
                  แม้ช่วงแรกๆมามี่จะดูเศร้าไปบ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ทำให้เธอเข้มแข็งขึ้น โดยเธอบอกกับพวกเราว่า เวลาไม่ได้ช่วยให้ลืมเรื่องของใครบางคนไปหรอก และเธอไม่มีวันจะลืมเรื่องของแม่อย่างแน่นอน เพียงแต่เวลามีมากพอให้เราได้คิดทบทวนกับตัวเอง และเมื่อเราติดสินใจได้ เราก็จะก้าวไปต่อข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ
                  ซึ่งเธอก็ได้พิสูจน์ให้พวกเราเห็นแล้วตามคำพูดของเธอ
   
                  “มึ๊งงงงง ผู้ชายอีค่อนกลุ่มนั้นมองมาทางเราว่ะ” มามี่พยักเพยิดหน้าไปทางโต๊ะมุมขวาสุดที่ติดกับประตูทางออกของโรงอาหารคณะมนุษยศาสตร์ ซึ่งมีน้องๆปีหนึ่งคณะเศรษฐศาสตร์กลุ่มใหญ่กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ ที่เขาพอจะเดาได้ว่าเป็นปีหนึ่ง เพราะทั้งหมดห้อยป้ายชื่อของตัวเองไว้ที่คอ
   
                  น่าแปลกที่ในมหา’ลัยเขา ระบบรับน้องอย่างการห้อยป้ายยังคงถูกรักษาไว้และปฏิบัติกันสืบต่อมา
                  ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีอย่างหนึ่ง…
   
                  “น้องชื่อมีน งื้อ ไอ้เจ้าบ้า ไอ้เจ้ามีน ไอ้เจ้าความรัก”
   
                  เพราะมันทำให้แก๊งนางฟ้าหาวาร์ปน้องเขาได้ง่ายขึ้นไงล่ะ
   
                  เฮ้อออออ
   
                  เอาเถอะ จะไปว่าเหล่านางฟ้าที่กำลังตื่นเต้นกับผู้ชายหน้าตาดีช่วงนี้ไม่ได้หรอก เพราะงานใหญ่ที่สุดของมหา’ลัยใกล้เข้ามาแล้ว นั่นก็คือ การจัดเวทีประกวดดาวเดือน ซึ่งปีนี้พรรคนักศึกษาที่ครองเสียงข้างมาก และสามารถตั้งสภาขึ้นมาได้ประกาศนโยบายใหม่เกี่ยวกับเรื่องการเฟ้นหาดาวเดือนที่แต่เดิมเป็นการหาคนสวยคนหล่อ เปลี่ยนเป็นนโยบายสายฟ้าแลบอย่างการเปลี่ยนคำเรียกจากดาวเดือนสู่ตัวแทนทูตกิจกรรม และแน่นอนว่ามันไม่ได้เพียงเปลี่ยนคำเรียกไปแค่นั้นอย่างแน่นอน โดยหน้าที่ของทูตกิจกรรมคือการเป็นแบบอย่าง ตัวแทนของทางมหา’ลัย ในทุกๆงานที่สร้างคุณประโยชน์และชื่อเสียงของมหา’ลัยจะมีทูตกิจกรรมเป็นผู้นำ
   
                  สรุปง่ายๆก็คือ ดาวและเดือนที่ได้ตำแหน่งไป จะต้องเป็นทูตกิจกรรมที่มีงานมากมายก่ายกองรออยู่ตรงหน้า
                  เรื่องนี้ไม่รู้ใครโชคร้ายใครโชคดีกันเลยทีเดียวเชียว
   
                  “เย็นนี้มีคัดตัวดาวเดือนของคณะนะจ๊ะ เจอกันห้าโมงครึ่ง อย่าลืมกันนะคะ”
   
                  มามี่เก็บของ แล้วยกจานข้าวเปล่าเตรียมจะเอาไปเก็บ เราทั้งหมดต้องแยกย้ายกันตรงนี้เพราะว่าจากนี้ไปทุกคนลงเรียนกันคนละตัว
                  ส่วนการคัดเลือกดาวเดือนคณะที่พูดถึงจะจัดขึ้นเย็นนี้ โดยให้แต่ละสาขาในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ส่งน้องปีหนึ่งเข้ามา และสโมสรนักศึกษาของคณะซึ่งก็คือฝ่ายการแสดงได้แก่เหล่านางฟ้ากับทีมงานอีกส่วนหนึ่งจะเป็นคนเลือกนั่นเอง
                  ส่วนเขาที่เป็นฝ่ายประสานงานก็ต้องเข้าไปดูแลด้วยเช่นกัน
   
                  ตึ๊ง
   
                  เสียงแชทแจ้งเตือนทำให้เขาต้องยกไอโฟนขึ้นมาเปิดดู
   
                  สายป่าน 291
                  เย็นนี้ไปมั้ย คัดเลือกดาวเดือนคณะ
                  
                  จริงสิ ไอ้สายป่านที่เป็นเดือนปีสองเองก็ต้องไปดูน้องด้วยเหมือนกัน
   
                  ไป ห้าโมงครึ่งนะ
   
                  สายป่าน 291
                  เค เจอกันคณะนะ อย่าพึ่งกินข้าวเย็น ไปกินด้วยกัน
   
                  ได้เลย

   
                  แล้วมันก็เงียบไป สงสัยคงเริ่มเรียนแล้วมั้ง เห็นมันบอกอาจารย์เซคนั้นโหด ห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดในขณะที่แกสอน
   
                  “ฮั่นแน่ โอ๊ย มามี่ กูอยากมีแฟนบ้างจังเลย”
   
                  ลลิตาหันไปซบไหล่มามี่ หลังจากที่แซวเขาไปหนึ่งดอก
   
                  “ไม่ใช่แฟนสักหน่อย เพื่อนกัน” เขาตอบเขินๆ
                  “เหรอออออออออ แชทกันเช้าถึงเย็นถึง นี่ยังไม่รวมไปรับไปส่งหอ ให้ยายว่าไง๊”
   
                  วินดี้เท้าสะเอวชี้หน้าเขา
   
                  “ตกลงเป็นอะไรกันคะ พูดให้มันชัดเจนตรงนี้เลยได้มั้ย”
   
                  อุมาพรคาดคั้นเอาคำตอบ
   
                  “ไม่รู้แล้ว”
   
                  ก็มันจริงนี่
                  ก็เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เราเป็นอะไรกัน รู้เพียงว่า…
                  คุยแชทกันทุกวันเช้าเย็น จะเรียกว่าบ่อยก็ได้ แต่คุยทีไม่กี่นาที
                  ไปรับไปส่งทุกเย็น เพราะทางเดียวกันนี่ มันช่วยไม่ได้ มันชวนทีไร ใจอ่อนยอมขึ้นรถไปกับมันทุกที
                  ถ้าไม่นับตอนเที่ยงที่วิชาเรียนไม่ตรงกัน ก็กินข้าวเช้าข้าวเย็นด้วยกัน
                  รู้แค่นี้แหละ
                  ใครรู้ช่วยตอบที ว่าเราเป็นอะไรกัน !!!

   




                  หลังจากโดนแซวจนเขินไปหลายรอบ เขาก็ได้โอกาสแยกตัวออกมาจากแก๊งนางฟ้า เพื่อรักษาความเห่อแดงของใบหน้า ที่ถูกกลั่นแกล้งจนทำให้เขินไปก็หลายรอบจากเหล่านางฟ้าเจ้าเล่ห์
                  คาบบ่ายเขาอาจารย์งดเซค ช่วงนี้งดเซคบ่อยเพราะอาจารย์เซคเขาต้องไปรับปริญญาเอกที่มหา’ลัยต่างจังหวัด จึงทำให้คลาสว่างไปเต็มๆหนึ่งอาทิตย์ แต่ประเด็นคือ กลังจากวิชานี้เขามีตัวเรียนต่อ เลยจะกลับหอไปนอนหลับมันก็ยังไงอยู่ เพราะกลัวลับเพลินไม่ตื่นมาเรียนอีกตัวนี่สิ ปัญหาใหญ่เลยนะ เพราะมีเช็คชื่อทุกคาบเลย
                  เอาเป็นว่าสุดท้ายก็ต้องลงเอยที่หอสมุดอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ
                  เขาไม่ได้เป็นหนอนหนังสือ แต่จุดประสงค์ที่มาที่นี่เพราะแอร์มันเย็นมาก เข้าใจกันนะทุกคน
                  เขาเดินไล่หาห้องว่างไปเรื่อยๆ ตาก็กวาดมองนั่นนี่ไปตามประสา จนไปสะดุดเข้ากับใครบางคนที่นั่งอยู่โต๊ะมุมขวาสุดของชั้นสอง
   
                  นินิว…
   
                  เขากำลังจะเบือนหนีไปทางอื่น โดยภาวนาให้เธอไม่เห็นเขา แต่คงสายไปเสียแล้วกระมัง
   
                  “มด มดใช่มั้ย”
   
                  เธอเรียกเขาเอาไว้ กลายเป็นว่าเขาต้องเดินเข้าไปทักทายเธออย่างช่วยไม่ได้สินะ ตามมารยาทที่มี
   
                  “สวัสดี” เขาไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆนะ
                  “มาอ่านหนังสือเหรอ” เธอยิ้มให้เขา แต่ไม่รู้ทำไม เขาไม่สามารถมองหน้าเธอเต็มๆได้จริง คงเพราะความรู้สึกบางอย่างที่เธอเองก็แผ่ออกมาเช่นกัน หลังจากวันที่เขาโผเข้าไปกอดไอ้สายป่านที่โรงพยาบาล
                  “นั่งคุยกันก่อนสิ”
                  “อ่า”
   
                  เป็นอีกครั้งที่เขาจำเป็นต้องนั่งลงอย่างช่วยไม่ได้
   
                  “ช่วงนี้คงกำลังยุ่งๆสินะ”
                  “ประมาณนั้น”
   
                  ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว เขาไม่ได้มีความสนิทสนมหรือรู้จักกับนินิวเป็นการส่วนตัว เรารู้จักกันก็แค่ความสัมพันธ์ระหว่างทีมงานกับผู้เข้าประกวดดาวมหา’ลัยเท่านั้น น้อยครั้งจนนับได้ที่เขาเคยคุยกับเธอ แม้ว่าเธอจะเป็นแฟนไอ้สายป่าน แต่อย่าลืมว่า ปีหนึ่งเขาไม่ได้สนิทอะไรกับไอ้สายป่านขนาดนั้น
   
                  “แค่ก แค่ก”
   
                  โอ๊ย แต่อาการไอของเขามันไม่น่าจะมาเวลานี้เลย เมื่อเช้ากินยาแก้ไอกันไว้แล้วนะ หึ เขาคงจะบ้ามากที่คิดว่ากินยาแล้วมันจะไม่ไอ
                  และเขาคิดว่าเขากำลังจะไม่สบาย…
   
                  “สายป่านเองก็คงยุ่งเหมือนกันเนอะ”
   
                  ประโยคของเธอทำให้เขาชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วจึงปรับท่าทีได้
   
                  “เอ่อ ไม่รู้สิ”
   
                  เธอต้องการอะไรกันแน่ การถามแบบนี้นั่นแปลว่าเธอกำลังจะบอกเป็นนัยว่าช่วงนี้เขากับสายป่านตัวติดกัน
                  และเขาน่าจะรู้ทุกเรื่องของไอ้สายป่านเป็นอย่างดี!
   
                  “น่าแปลกจัง ที่มดไม่รู้”
   
                  มาแบบนี้ แล้วจะให้เขาตอบว่าไงดีครับทุกคน ความเงียบเท่านั้นที่ครองโลกแล้วกัน
                  นินิววางหนังสือเล่มบางที่เธอถืออยู่ก่อนหน้าลงบนโต๊ะ นัยน์ตาของเขาสะท้อนภาพปกของหนังสือ…
   
                  RIVAL
                  …ที่แปลว่าศัตรู
   
                  “เป็นหนังสือที่ดีนะ อ่านจบหลายรอบแล้วเพราะเล่มมันบางน่ะ”
   
                  เธอเอาข้อศอกตั้งบนพื้นโต๊ะแล้วประสานมือไว้ประมาณคาง เผยอยิ้มน้อยๆ แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้เขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ
   
                  “ตอนแรกก็นึกว่า ถ้ากลับมาแล้วจะเจอกับคู่แข่งที่น่ากลัวกว่านี้”
                  “…”
                  “บอกตรงๆเลยนะ ว่านินิวไม่คิดเลยว่าสายป่านจะชอบ เอ่อ แบบนี้”
                  “…”
                  “นินิวฝากสายป่านเอาไว้ให้คนอื่นนานเกินไปแล้ว”
                  “…”
                  “ถึงเวลาขอคืนได้แล้วล่ะ”
   
                  เธอยิ้ม…
                  ไม่ใช่รอยยิ้มที่ทำให้เสียวสันหลังอีกต่อไป
                  แต่เป็นรอยยิ้มที่สวยงามหากแต่บิดเบี้ยวและเป็นรอยยิ้มที่แสนร้ายกาจในความคิดของเขา
   
                  “มดล่ะ จะว่ายังไง”
   
                  เขาจ้องตาเธอตรงๆ มือที่ประสานไว้ตักประสานกันแน่นยิ่งกว่าเดิม

   





                  ‘มึง สายป่านโดนหักอก’
   
                  ฟ้าเปิดประเด็นกลางวงกลุ่มโปรเจกต์เบสเลิร์นนิ่งของอาจารย์ประจำเมเจอร์ ซึ่งก็มีแค่มายด์ จิ๊บ และเขาที่อยู่กลุ่มเดียวกัน
                  ในขณะที่งานต้องส่งวันพรุ่งนี้แล้ว แต่ทุกคนก็พร้อมใจกันวางทุกอย่างลง แล้วล้อมวงเข้ามาฟังฟ้าเล่า
                  ให้มันได้อย่างนี้สิกลุ่มเขา มองเห็นอนาคตกับคะแนนที่หายไปริบหรี่แล้ว
                  แต่ถ้าเป็นเรื่องของมัน เขาก็อยากรู้ไปทุกอย่างนั่นแหละ
   
                  ‘นินิวจะไปเรียนต่อ เลยบอกเลิกสายป่านสายฟ้าแลบ มึงงงงงง คือแบบ คนสวยอ่ะเนอะ ทำไมกูไม่สวยขนาดบอกเลิกผู้ชายเลเวลอย่างสายป่านได้บ้างวะ’
   
                  ฟ้าเล่าไปบ่นไป อิจฉาและตัดพ้อตัวเองต่อโลกใบนี้ที่มันไม่ยุติธรรม แต่เขาไม่ได้สนใจในเรื่องนั้น
                  ป่านนี้มันจะร้องไห้อยู่หรือเปล่านะ
                  ผู้ชายก็ผู้ชายเถอะ…
   
                  ‘เดี๋ยวเรามานะทุกคน’
   
                  ขอโทษด้วยนะทุกคน ที่เราเห็นผู้ชายอย่างไอ้สายป่าน มันสำคัญกว่างานตรงหน้า
                  ขอโทษจริงๆ…
                  เขาเหมือนสตอร์กเกอร์ เวลานี้เขาช่างดูเหมือนสตอร์กเกอร์ฝึกหัดที่สุดแล้ว
                  เขาแอบตามมันมาเซเว่น !!!
                  เพราะคิดว่าจะต้องตามหามันให้เจอ เขาเลยย้อนกลับไปที่คณะสถาปัตย์ แต่ระยะทางกลับสั้นกว่านั้นเมื่อเขาดันเจอมันได้ง่ายๆที่เซเว่นหลังคณะ
                  มันกำลังยืนพิจารณานมเปรี้ยวขวดใหญ่ระหว่างรสผลไม้รวม กับรสส้ม
                  จากที่เขามองบริบทบวกด้วยเดาเอาส่วนหนึ่ง
                  แล้วโทรศัพท์ของมันก็ดังขึ้น
   
                  ‘เลิกโทรมาซักทีไอ้เวร กูไม่เป็นอะไรแล้วเว้ย นี่เป็นแม่หรือเป็นเพื่อนครับ’
                  ‘เออๆ พรุ่งนี้ข่าวหน้าหนึ่งแน่นอน สายป่านโดดน้ำตาย’
                  ‘ครับๆ ไม่คิดสั้นเว้ย กูใครครับ ไม่มีแล้วก็หาใหม่ได้’
                  ‘กูหล่อ พอใจยัง’
                  ‘Kครับ’
   
                  แล้วมันก็วางสายไป
                  โดยที่คนปลายสายน่ะ ไม่มีวันได้รับรู้หรอก ว่าสีหน้าตอนแกล้งพูดชิลๆ เล่นๆ ขำๆ ของมันจะเศร้าสร้อยได้ขนาดนี้
                  คนเพิ่งเลิกกับแฟน จะเชื่อคำพูดว่าเขายังโอเคได้ยังไงกัน
                  มันตัดสินใจเลือกรสผลไม้รวม แล้วทิ้งรสส้มเอาไว้
                  เขาเบี่ยงตัวหลบไปอีกล็อคหนึ่งตอนมันเดินไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์
                  อ่า…
                  ต้องโทษความจำของตัวเองที่มันโคตรจะจำเรื่องของสายป่านได้เป็นอย่างดี
   
                  ชื่อเล่น สายป่าน
                  รหัสนักศึกษา 600710291
                  อาหารที่ชอบ นมเปรี้ยวรสส้ม
               
                  เดี๋ยวนะ นี่มันเครื่องดื่มไอ้เวร
                  ยังไงก็แล้วแต่ เขาจ่ายเงินค่านมเปรี้ยวรสส้มขวดใหญ่ไปเสียแล้ว

   




                  เวลานั้นมีแค่ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขาแอบชอบมันอยู่ นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมฟ้าจึงต้องถูกเขาลากไปส่งที่คณะสถาปัตย์ตอนเกือบสี่ทุ่มเช่นนี้
                  ขอโทษนะฟ้า เขาไม่กล้าไปคนเดียวจริงๆนี่
   
                  ‘นั่นไง กลุ่มสายป่าน’
   
                  ฟ้ากระซิบบอกแล้วชี้มือไปยังโต๊ะฝั่งขวา เวลานี้เป็นช่วงท้ายเทอมที่นักศึกษาปีหนึ่ง ไม่สิ ที่นักศึกษาทุกชั้นปีของคณะสถาปัตย์จะมารวมตัวกันปั่นงานที่ใต้ตึกสี่ของคณะ ซึ่งถือเป็นแหล่งรวมตัวที่มีความสะดวกสบายเพราะมีอุปกรณ์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ปลั๊กไฟ โต๊ะนั่ง หรือแม้แต่ของกินอย่างร้านขนมเค้กในคณะที่เปิดจนถึงเที่ยงคืน
   
                  ‘ไม่มีสายป่าน’ เขากวาดตาหามันแล้วจริงๆนะ
                  ‘เอาไงดี’ ฟ้าถามเขา
   
                  ดีเสียอีกฟ้า
                  นี่ยิ่งกว่าคำว่าดี
                  เพราะพอเขาก้าวเท้ามาถึงตึกสี่ ความป๊อดมันก็กลับมาเหนือกว่าความกล้าอีกครั้ง
                  อยู่ๆจะเดินเข้าไปหามันแล้วบอกว่าเอานมเปรี้ยวมาให้งั้นเหรอ
                  คนอย่างมดไม่มีจะเคยทำ
                  ฝากเพื่อนมันไว้นี่แหละดีที่สุดแล้ว…
                  หวังว่าข้อความที่เขาเขียนติดแปะไว้กับโพสต์อิสเล็กๆข้างขวดนมเปรี้ยวจะพอช่วยทำให้มันคลายเศร้าได้บ้าง
   
   
                  อย่าพยายามเปลี่ยนความเป็นตัวมึง เพียงเพราะอยากจะลืมใครบางคน
                  มึงกับนมเปรี้ยวรสส้ม…
                  มันโคตรคูลเลย

   
                  “เราไม่มีสิทธิ์จะไปว่าใคร หรือหวงใครได้หรอกนินิว”
                  “…”
                  “เพราะเรากับสายป่าน ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
                  “…”
         
                  เขาลุกขึ้นยืน เพราะคงไม่มีเหตุผลให้นั่งอยู่อีกต่อไปแล้ว
                  และไม่มั่นใจว่า ถ้าขืนอยู่นานกว่านี้ เขาคงได้ชกผู้หญิงเป็นครั้งแรกแน่ๆ
   
                  “แต่เราโคตรมั่นใจเลยว่า…”
                  “…”
                  “ยังไงมันก็ไม่กลับไปหานินิวแล้ว”
   
                  ขอโทษที่ต้องบอกว่า…
                  ผู้หญิงอย่างนินิว ช่างน่าสมเพชเหลือเกิน
   



   

                  “มาจ้าน้องๆ มาลงชื่อเป็นผัวพี่มามี่ได้ตลอดเวลา ชื่อละสองพัน ได้ค่ากินขนมอีกหลายเดือน”
   
                  เวลานี้คงจะเป็นเวลาที่เหล่านางฟ้าจะสนุกสนานที่สุด ดีใจที่สุด และแรดที่สุดแล้ว เพราะมันคือ ช่วงเวลาแห่งการคัดเลือกดาวเดือนของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เพื่อค้นหาผู้ที่เหมาะสมกับคำว่าตัวแทนทูตกิจกรรมที่จะไปคว้าตำแหน่งดาวเดือนของมหา’ลัย ซึ่งปีนี้คึกคักเป็นพิเศษเพราะเหล่านางฟ้าการันตีว่า
                  เด็กๆปีนี้ แซ่บลืม!!!
                  สังเกตได้จาก…
   
                  “งื้อ ไอ้บ้า ไอ้คนพกกระบอกข้าวหลาม”
   
                  วาจาเอ่ยแซวอย่างฉะฉานของวินดี้ จนทำให้น้องๆเดือนแต่ละสาขาที่มาลงชื่อต้องยกมือกุมเป้าด้วยความขยาดไปตามๆกัน
                  ว่าไปนั่น น้องๆเขาก็แค่หัวเราะแล้วก็จอยนั่นจอยนี่กับแก๊งนางฟ้าไปตามประสา ที่เรียกว่าเด็กสมัยนี้น่ะ…
                  มันอยู่เป็นเว้ย
                  ไม่ต้องถามหาแบบอย่างจากใครที่ไหน ก็เดือนปีสองคณะเราทำให้เห็นเป็นแบบอย่างไปแล้ว
   
                  “สวัสดีครับเจ๊ๆ สวยวันสวยคืนเลยนะครับ”
   
                  หึ ไม่รู้ว่าคำหวานๆของไอ้สายป่านมันเชื่อได้กี่เปอร์เซ็นต์
   
                  “พ่อปากหวาน พ่อบุญทุ่มของเหล่าเจ๊ๆ”
   
                  แล้วที่สำคัญ วันนี้ไม่ได้มีแค่แก๊นางฟ้าเพียงเท่านั้น เจ๊ๆปีแก่ต่างให้การต้อนรับกับเทศกาลคัดเลือกดาวเดือนของคณะเป็นอย่างดีโดยการสละงานและเวลามาร่วมแซว เอ๊ย เฟ้นหาตัวแทนทูตกิจกรรมในวันนี้ และไม่ใช่แค่เจ๊ๆปีในมอที่มากันเยอะแยะมันรวมถึงเจ๊ๆปีแก่ๆที่จบไปแล้วด้วย งานนี้เท่ากับน้องผู้ชายเตรียมเก็บเป้า เอ๊ย เก็บคะแนนให้ดีๆล่ะ ใครเข้าตา เจอแม่ๆดันแน่นอน
                  ตัวอย่างบุคคลที่ถูกดันโดยเหล่าแม่ๆแก๊งนางฟ้าก็คือไอ้สายป่านที่ไปไกลเกินกว่าคำว่าเดือนคณะ
                  ทุกวันนี้คนรู้จักมันมากก็เพราะด้วยบารมีของนางฟ้าหลายๆรุ่น และด้วยตัวมันเองที่มีความนอบน้อมถ่อมตน อะไรยอมได้ก็ยอม แต่ก็ไม่ใช่ปล่อยจนเลยเถิด
                  จำได้เมื่อปีที่แล้ว มันเคยมีเรื่องกับเจ๊นางฟ้าปีแก่สักคนนี่แหละ คือไปกินเหล้าด้วยกันแล้วเจ๊แกจ้องจะลวนลามมันอย่างเดียวเลย เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต แต่มันก็ไม่ได้ดับนะ เพราะมันไม่ผิด เจ๊แกผิดจริง ความจริงเขาโคตรชอบการแก้ไขปัญหาของมันมากๆเลย มันสามารถควบคุมอารมณ์ได้โดยไม่ได้ใช้กำลังปกป้องตัวเองอย่างที่ผู้ชายมักทำกับกะเทยทั่วไป
                  เรื่องนี้เลยจบลงที่เจ๊ๆหลายชั้นปีต้องมาขอขมามัน แต่เหตุการณ์ในวันนั้นไม่ได้ทำให้ความน่ารักของมันลดลงเลย กลับกันยิ่งทำให้เหล่าเจ๊ๆอยากจะสนับสนุนมันมากขึ้น
                  เขาไม่รู้เลยว่า นอกจากไอ้สายป่านแล้ว จะมีใครที่สามารถเข้ากันได้ดีกับแก๊งนางฟ้าสถาปัตย์อีกมั้ย
                  คือระบบนี้มันเหมือนน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า แก๊งนางฟ้าดูแลการจัดกิจกรรมดาวเดือนของคณะมานานแล้วตั้งแต่จำความได้ กิจกรรมพวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแก๊งนางฟ้าทำทั้งสิ้น พูดกันตรงๆว่ากะเทยกับแฟชั่นมันเป็นของคู่กัน ไม่ใช่แฟชั่นแบบไฮแฟชั่นนะ แต่เป็นความแปลกใหม่ ไอเดียที่สร้างสรรค์ ซึ่งเขาก็ยังไม่เห็นเลยว่าจะมีใครทำหน้าที่นี้ได้ดีไปกว่าพวกนางฟ้าเลย
                  ที่ว่าเหมือนการพึ่งพากันก็คือ กะเทยหลายคนในแก๊งนางฟ้าที่จบไป พวกเจ๊ๆเหล่านั้นมักจะไปเปิดร้านเสื้อฟ้าเป็นของตัวเอง ซึ่งแน่นอนเลยว่า งบประมาณในส่วนของฝ่ายคอสตูมเองก็จะหมดไปเช่นเดียวกัน
                  กะเทยอยู่รอดได้เพราะผู้ชายฉันท์ใด ผู้ชายก็อยู่รอดได้ด้วยกะเทยฉันท์นั้น
                  เป็นคำกล่าวของเจ๊ปีแก่คนหนึ่งในแก๊งนางฟ้าที่มามี่เคยยืดอกพูดบอกอย่างภาคภูมิใจ
   
                  “ไง”
                  “ไม่ไง”
   
                  ไม่ได้กวนตีนเขา ก็ไม่ใช่ไอ้สายป่านแล้ว นี่ก็เห็นว่าเป็นมารยาทหรอกนะ เลยทักทายมึงอ่ะ ไอ้เหี้ย
   
                  “มาเช็ดเหงื่อกูดิ๊”
                  “เรื่องอะไร”
                  “กูตำแหน่งใหญ่นะครับ ถ้าเดือนปีสองเป็นลมไปใครจะรับผิดชอบ”
   
                  เขาต้องยอมมันใช่มั้ย
                  คำตอบคือใช่ เพราะขืนฝาฝืนคำสั่งของมามี่ที่ว่า…
                  ท่องไว้ผู้ชายสำคัญกว่าเสมอ
                  เขาคงโดนแก๊งนางฟ้าเชือดแน่ๆวันนี้ ขอโทษที เขาก็ผู้ชายเถอะ ทำไมรู้สึกความสำคัญมันต่างกันราวไส้เดือนกับพญานาคแบบนี้วะ
                  ลำเอียงงงงงงง
   
                  “ครับบบบบ คุณชาย”
   
                  เขาหยิบทิชชูในกระเป๋าออกมายื่นให้มัน
   
                  “ซับให้ด้วยดิ”
                  “เดี๋ยวๆ เกินไปครับ มีมือมีเท้า”
   
                  เขาประท้วง เพราะตัวเองยังไม่หมดหน้าที่ ยังต้องถือเครื่องมือวิทยุสื่อสานประสานงานฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ไปทั่วอยู่
   
                  “น้ำใจน่ะมีมั้ย คนเรา”
   
                  เอ้า คนเรา…
   
                  “ถ้าเขาไม่เต็มใจ เดี๋ยวนินิวเช็ดให้ก็ได้นะสายป่าน”
   
                  เขาชะงัก รีบยัดทิชชูใส่มือไอ้สายป่าน
   
                  “นินิว”
                  “…”
                  “มาได้ไง”
                  “สายป่านนี่ถามแปลกๆ นินิวก็เป็นตัวแทนจากสโมฯกลางมาดูบรรยากาศการคัดเลือกดาวเดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ไงคะ”
   
                  นินิวน่ะเหรอเป็นทีมงานสโมฯกลาง เท่ากับว่าการเตรียมงานต่อจากนี้ของเขาจะต้องพบเจอกับเธอบ่อยๆน่ะสิ
                  โอเค แค่คิดก็เห็นนรกอยู่เบื้องหน้าแล้ว
   
                  “กูไปทำงานแล้ว เดี๋ยวเจ๊ๆด่าเอา”
   
                  เขาบอกมัน ก่อนจะเดินหนีออกมา
   
                  ปึก!
   
                  “ว้าย มด เป็นอะไรมั้ยเนี่ย”
   
                  เขาเดินไปชนเข้ากับวินดี้ที่กำลังยืนเช็ครายชื่อจากป้ายประกาศ ชนน่ะไม่แรง แต่ด้วยสภาพร่างกายเขาตั้งแต่เมื่อเช้าที่เหมือนจะเริ่มมีไข้ทำให้ทรงตัวไม่อยู่ กระเด็นไปไกลจนวินดี้ตกใจ
                  อ่า ปวดหัวตัวร้อน นี่มันอาการไข้รุมๆแล้วสินะ
                  ก็กินยากันไว้แล้วนี่นา
   
                  “มดๆ ฝ่ายทีมงานสโมฯกลางอยากพบน่ะ”
   
                  โอเค เขาพยักหน้าตอบรับแล้วเดินตามเพื่อนที่มาเรียกไป
                  นินิว เดินหนีออกมายังไม่ถึงสิบนาที ต้องกลับมาเจออีกแล้ว
   
                  “คือทีมงานอยากได้เก้าอี้สามตัว สำหรับนั่งสังเกตการณ์บรรยากาศรอบคัดเลือกของคณะ แล้วก็อาหารว่างสามที่ ช่วยหน่อยนะมด เพราะเราต้องทำให้เขาประทับใจ ไม่งั้นบนเวทีน้องๆอยู่ลำบากแน่ๆ”
            
                  เพื่อนอีกคนเมื่อเห็นว่าเขาเดินเข้ามาแล้วก็ตรงมากระซิบบอกจุดประสงค์ทันที
                  เขาพยักหน้าเข้าใจ
                  พลางเช็คใบบัญชีรายชื่อฝ่ายประสานงาน แต่ทุกคนกลับมีหน้าที่อยู่แล้ว คงต้องเป็นเขาสินะที่ต้องไปซื้อของว่าง เพราะทางสโมฯกลางไม่ได้แจ้งมาว่าจะส่งทีมงานมาสังเกตการณ์ และเป็นความสะเพร่าของเขาด้วยแหละที่ไม่สำรองอาหารว่างไว้ เลยจำต้องออกไปซื้อมาเพิ่ม
                  อ่า แถมกุญแจรถก็เอาให้คนในฝ่ายไปแล้ว
                  เท่ากับว่าเขาต้องเดินไปเซเว่นหลังมอสินะ
                  เอาไงเอากัน
                  พอเดินออกมาหน้าประตูคณะ ไอโฟนก็สั่นครืดคราดอยู่ในกระเป๋ากางเกง
   
                  “ว่าไง โอเค ได้ ได้”
   
                  เป็นทีมประสานงานที่โทรมาสั่งของกินเพิ่ม
                  เขาไล่อ่านบัญชีลิสต์รายชื่ออาหารที่จดไว้ในกระดาษโน้ต
                  อ่า ทำไมแสงแดดยามเย็นมันถึงดูแรงกล้าได้ขนาดนี้นะ
                  แล้วเขาเป็นอะไรเนี่ย เหมือนตัวเองเดินเซไปมาเลย
                  หรือพื้นมันเอียง
                  เกิดแผ่นดินไหวเหรอ
   
                  “มดดดดดดด”
   
                  เสียงใครบางคนตะโกนลั่น ก่อนที่สติของเขาจะดับวูบลง



*TBC.....................................................

ฮืออออออ ผ่านเรื่องร้ายก็มาเจอเรื่องร้ายอีก
แบบนี้เขาเรียก พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกนะมด

เอาใจช่วยมดได้ในตอนต่อไปจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-05-2019 19:50:27 โดย MewSN »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อ่อยอีนู๋มด

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เอ้านินิวนี่กลับมาทำไม สถานะยังไม่ชัดเจนเลย น่าจะชัดเจนเพราะได้นินิวมากระตุ้นซะละม้าง เป็นแฟนกันไปเหอะ มดรอมานานอล้ว

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เหมือนจะก้าวหน้า แต่ทำไมเหมือนจะถอยหลัง

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
มีใครสนใจร่วมทริปไปตบนินิวด้วยไหม :katai1: :katai1:

สายป่านไปดูแลมดมดเร็วววววววว

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นี่สำหรับนังนิ่ว ให้แบบเต็ม ๆ  :z6:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
นินัว ดังคนไม่ดร นังคนใจร้าย

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
การกระทำน่ะชัดแล้ว แต่ยังไม่กล้าพูด สถานะมันไม่ชัดเลย

ร้องไห้แปบบบบบ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ป่วยเลยลูก
แต่นินิวนี่แบบนะ  :m16:

ออฟไลน์ MewSN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +234/-4
ก้าวที่สิบแปด
ระยะทาง


โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน...




                  การเป็นคนป่วยนี่มันไม่ดีเอาเสียเลย…
                  เพราะมันทำให้คนอื่นเป็นห่วง เขาไม่ชอบเลยจริงๆ สีหน้าเป็นห่วงเป็นใย กลัวว่าเราจะเป็นอะไรไปของอีกฝ่าย ทั้งอยากจะด่าเรา ทั้งอยากจะว่าเรา แต่ที่ทำได้ก็แค่กุมมือเขาไว้แน่นแล้วตัวเองก็ผล็อยหลับไป
                  สายป่านคงเหนื่อยมากๆ ถึงขนาดฟุบหลับกับเตียงเขาไปเลย…
   
                  “อ๊ะ มด ตื่นแล้วเหรอ กินน้ำมั้ย”
   
                  มามี่ที่สังเกตเห็นเขาลืมตาก่อนใครเพื่อนรีบกุลีกุจอยกแก้วน้ำที่วางบนโต๊ะมาจ่อปากเขา
                  เขาดื่มมันอึกใหญ่เพราะกระหายน้ำจริงๆ
   
                  “สายป่านๆ”
                  “ชู่วววว”
   
                  วินดี้ตั้งใจจะปลุกร่างสูงที่นอนฟุบกับเตียงคนป่วยให้ตื่น แต่เขาปรามไว้เสียก่อน
   
                  “ให้หลับต่อเถอะ แล้วนี่เกิดอะไรขึ้น”
   
                  นั่นสิ เขามานอนบนเตียงในโรงพยาบาลได้ยังไง แล้วสายระโยงระยางของน้ำเกลือนี่มันอะไรกัน นี่เขาเป็นหนักถึงขนาดต้องให้น้ำเกลือเลยเหรอ จำได้ว่าก่อนหน้านี้เขายังถือลิสต์รายชื่อของว่างที่ต้องไปซื้อมารับรองทีมสโมฯกลางอยู่เลย
   
                  “ก็มดน่ะสิ อยู่ๆก็ล้มลงหน้าประตูคณะ นี่ดีนะที่วินดี้มันกำลังจะออกคณะไปซื้ออุปกรณ์พอดี”
   
                  เขาเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้แล้ว แสดงว่าเสียงตะโกนเรียกชื่อเขาที่ได้ยินเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะวูบก็คือเสียงของวินดี้สินะ
   
                  “แล้วสายป่านมาอยู่ที่นี่ได้ไง” เป็นคำถามของเขาที่ถามทุกคน
                  “ตอนที่มดหุนหันออกจากห้องคัดเลือกไปอ่ะ สายป่านก็เดินตามไปด้วย”
   
                  ก็คือตอนที่เขาต้องรีบออกไปซื้อของว่างมาเพิ่มนั่นเอง
   
                  “แปลว่าวินดี้พาเรามาโรงพยาบาลเหรอ”
   
                  วินดี้ส่ายหัวพรืด
   
                  “ไม่ใช่ นี่กำลังจะออกไปซื้ออุปกรณ์ แต่สายป่านอุ้มมดที่หมดสติมาพอดี เลยรีบพากันออกรถไปส่งมดที่โรงพยาบาล”
   
                  งั้นเสียงที่เขาได้ยินก็ไม่ใช่เสียงของวินดี้ แต่เป็นเสียงของไอ้สายป่านที่ตามเขามา
                  มึงนี่มัน…
                  ตัวเองเหนื่อยแล้วยังจะมาช่วยคนอื่นได้ทันอีกนะ
                  จะทำให้หลงรักไปถึงไหน จะให้คนแอบรักอย่างเขา รักมันอีกไปเรื่อยๆจนไม่สามารถละจากมันได้เลยเหรอ แบบนี้มันไม่ยุติธรรมนี่
   
                  “อื้อ”
   
                  คนที่ถูกนินทาเริ่มขยับตัว ขยี้ตาสองสามที แล้วสักพักมันก็ลืมตาตื่นขึ้นมาจนได้ เหมือนมันรู้ว่ากำลังโดนเผาเลยต้องรีบตื่นมาเพื่อปกป้องตัวเอง
   
                  “มึง”
   
                  มันลุกขึ้นชี้หน้าเขา เป็นใครก็เหวอสิครับ ตื่นแล้วเด้งตัวลุกขึ้นมาชี้หน้างี้
   
                  “อะ อะไร วะ”
   
                  เขาถามมันตะกุกตะกัก ในขณะที่มือมันยังชี้หน้าเขาอยู่ เฮ้ย นี่มันเหมือนฉากในหนังอาฆาตแค้นยังไงๆอยู่นะ
                  หรือมันโกรธเขาที่ต้องให้อุ้มมาส่งโรงพยาบาล ตัวเขาเล็ก มันก็น่าจะไม่หนักนี่
                  มือมันเลื่อนเข้าใกล้อย่างรวดเร็ว
                  เดี๋ยวนะ นี่มันยุคไหนแล้ว เอะอะจะต่อยระบายอารมณ์เหรอ แต่ถามก่อนว่าอารมณ์ไหนวะ
   
                  หมับ!
   
                  อึ้ง
                  อึ้งไปตามๆกัน
                  เมื่อมือหนาวางแบะลงมาที่หัวเขาอย่างนุ่มนวล
   
                  “อย่าทำให้เป็นห่วงอีกจะได้มั้ย”
   
                  มันว่าเสียงทุ้ม แผ่วเบา หากแต่อ่อนโยน
                  ส่วนมือที่วางบนหัวก็ขยับลูบผมเขาอย่างนุ่มนวล แต่พวกเราทั้งคู่คงจะลืมไปแล้วว่า
   
                  “อะแฮ่ม ดิฉันนั่งหัวหงอกหัวขาวอยู่ตรงนี้เคยจะเห็นบ้างมั้ยคะ”
   
                  มามี่เอ่ยทีเล่นทีจริง จนโดนวินดี้ตบไหล่ไปหนึ่งที
   
                  “มึงอายุเท่าพวกมันอิดอก”
                  “อ้าวเหรอ แต่เดี๋ยวนะ มึงกำลังจะหาว่ากูหน้าแก่ใช่มั้ย อิเวง บัดซบอิวินดี้ เพื่อนเลว”
   
                  เกิดมวยขนาดย่อมขึ้นในห้องระหว่างมามี่ฝ่ายแดง และวินดี้ฝ่ายน้ำเงิน ที่ใครจะชนะนั้นไม่สำคัญ หากแต่มันเรียกเสียงหัวเราะครื้นเครงให้กับคนทั้งห้องเป็นอย่างดี
                  เขากับไอ้สายป่านลอบมองหน้ากัน
                  ขอบคุณนะ… สายป่าน 291
                  ที่ทำให้ระยะทางไกลแสนไกลดูหดสั้นลงภายในไม่กี่เดือน

   


                  คืนนั้น ไอ้สายป่านอัพสเตตัสเฟซบุ๊กเป็นครั้งแรกในรอบเดือน…
                  และเขาโคตรดีใจที่มันอัพเกี่ยวกับเขาเป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน
               
                  คนนี้ให้ป่วยไม่ได้ครับ คนมีหน้าที่ ’สำคัญ’
   
                  ถึงแม้มันจะไม่มีหลักฐานใดบ่งบอกว่าสเตตัสของมันพูดถึงตัวเขา แต่เขาก็เชื่อมั่นตามแบบฉบับของคนชอบเข้าข้างตัวเองไปเสียแล้ว



                  

   

                  “ค่ะ ตอนนี้นะคะเป็นเวลาสิบแปดนาฬิกาโดยประมาณ เราอยู่ที่ไหนกันคะคุณมามี่”
   
                  กล้องในมือเขาแพลนไปหามามี่ที่ถูกวินดี้โยนคำถามให้ตอบอย่างไม่ทันตั้งตัว เพราะเธอกำลังเติมแป้งบนใบหน้าอีกชั้นอยู่
   
                  “สวัสดีค่า ท่านผู้ชมที่รับชมอยู่ทางหอ ขณะนี้เราอยู่ในงานเฟรชเมนไนท์ 2019 นะคะ หรือก็คือการประกวดดาวเดือนอย่างที่ทุกท่านทราบ”
   
                  มามี่ไม่ละทิ้งความเป็นมืออาชีพ เพราะทันทีที่กล้องของเขาแพลนไปหา เธอก็สวมบทพิธีกรสาวมากด้วยความสามารถ และพกพาความมั่นใจมาเต็มร้อย
                  แม้ว่าแป้งจะยังคงเป็นหย่อมๆบนใบหน้าของเธอก็ตามที…
   
                  “ในงานค่ำคืนนี้ทุกท่านจะได้พบกับเหล่าเฟรชเมนปีหนึ่งนะคะ ที่เรียกว่าเฟรชสมชื่อเลยทีเดียว แต่ละคนนี่นะคะ อื้อหือ…”
                  “เดี๋ยวนะคะคุณมามี่ อื้อหือนี่ยังไงคะ” วินดี้รับมุกอย่างรู้งาน
   
                  วันนี้เหล่านางฟ้าทุกคนจัดหนักจัดเต็ม ด้วยการครอบวิกและแต่งหญิงสวยงามด้วยชุดราตรีที่มีสปอนเซอร์อย่างเจ๊ๆปีแก่ที่จบไปให้ยืม งานนี้เรียกได้ว่ายกระดับเหล่านางฟ้าเดินดินให้ติดปีกได้บินอีกครั้งกันเลย
                  และเขา ขอแนะนำตัว มด ผู้ไม่ยอมแต่งหญิงเด็ดขาดแม้จะถูกบังคับขืนใจ จนในที่สุดเหล่านางฟ้าต้องยอมจำนน และมอบหน้าที่ช่างกล้องกิตติมศักดิ์ให้เขาอย่างจำใจ
   
                  “ใหญ่”
                  “ว้ายยยย อะไรใหญ่คะ”
                  “เล่นใหญ่ไงคะคุณ แหม คิดลึกคิดมาก ไม่บอกก็รู้ว่าคุณก็คิดเหมือนดิฉัน”
   
                  เข้าเรื่องใต้สะดือจนได้
                  ถ้างานมันจะสื่อไปทางลามก ก็คงต้องโทษสภากลางของมหา’ลัยที่มอบหมายหน้าที่สำคัญอย่างพิธีกรไลฟ์งานดาวเดือนในปีนี้ให้กับมามี่และวินดี้
   
                  “รอช้าอยู่ทำไม เราเข้าไปที่งานกันเลยมั้ยคะ ดิฉันอยากจะเจอน้องๆเฟรชเมนแล้วล่ะค่ะคุณ”
   
                  นั่นสินะ เพราะมัวแต่มาเวิ่นเว้อแต่งตัวกันหน้างาน เลยทำให้ล่าช้า อีกอย่างเขาลืมไปเสียสนิทว่ากำหนดการณ์มันจะเริ่มตอนหกโมงครึ่ง
   
                  “ตามมาเลยค่า เราจะพาทุกท่านไปเปิดโลกอันแสนสวยงามของเวทีเฟรชเมนปีนี้ที่มาในธีมอวกาศค่า”
   
                  เป็นการเปิดตัวเวทีดาวเดือนได้สวยงามมาก ก่อนที่เขาจะแพลนกล้องตามเหล่านางฟ้าเข้าไปในงาน
                  งานดาวเดือนในปีนี้จัดในธีมอวกาศ เป็นธีมที่ค่อนข้างเกิดการถกเถียงกันหนักหน่วงมาก ระหว่างพรรคฝ่ายค้านที่บอกว่ามันดูจำเจและล้าสมัย ในขณะที่สโมกลางกลับเห็นว่าทางมหา’ลัยยังไม่เคยจัดงานในธีมนี้มาก่อน สุดท้ายแน่นอนว่าพรรคที่ครองเสียงข้างมากจึงชนะไป
                  นี่แหละประชาธิปไตยในแบบที่เรารู้จักกันทุกวันนี้
   
                  “ว้ายยยย กะเทยยยย”
   
                  มามี่ตะโกนเรียกกรีนในชุดราตรียาวลากพื้น ไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปญาติดีกันตอนไหน แต่ที่แน่ๆ ลงสตอรี่ไอจีอัพรูปไปกินน้ำปั่นกรีนด้วยกันจ้า
                  วันนี้กรีนได้รับเกียรติถูกเชิญให้มาเป็นพิธีกรบนเวทีประกวดดาวเดือนคู่กับเวลที่แน่นอนว่าย่อมต้องติดสอยห้อยตามมาเป็นปกติอยู่แล้ว
   
                  “มดดดดด” แต่กรีนกลับมาทักทายตากล้องอย่างเขาเสียนี่
                  “อ่ะ ยังไงคะคุณกรีน” มามี่เท้าสะเอวแล้ว จะให้พูดว่า ยังไงคะ อิดอก มันก็จะดูไม่สุภาพไปเพราะกำลังไลฟ์อยู่
                  “แหม ดิฉันก็แกล้งทักคนอื่นไปงั้นแหละค่ะ สวัสดีนะคะคุณมามี่ วันนี้ชุดดูสวยแรงและแพงมากค่า”
                  “หืมมม คิดว่าเอาผู้หญิงมาเป็นพิธีกรถูกป่ะ” มามี่รับมุกแล้วถามต่อ
                  “แน่นอนสิคะ วันนี้เราสวยยิ่งกว่าดาวเสียอีก อุ๊ย ว่าไปนั่น”
   
                  ในไลฟ์เฟซบุ๊กเพจสโมกลางเกิดปรากฏการณ์รัวไอค่อนหัวเราะขึ้นมาเต็มหน้าจอเลย
   
                  “วี๊ด พวกดิฉันไม่ได้มาแสดงตลกนะคะ พวกบ้า” มามี่กรีดร้อง
   
                  พวกบ้าเป็นคำด่าที่น่ารักมาก เมื่อมันออกมาจากปากแก๊งนางฟ้าที่ทุกคนติดภาพลักษณ์สนุกสนานและไม่คิดอะไรมากมาย กลับกันยิ่งรัวไอค่อนหัวเราะมามากมาย
   
                  “ตั้งสติก่อนค่ะคุณมามี่”
   
                  วินดี้ลูบไหล่เปลือยเปล่าที่โผล่พ้นชุดราตรีสีฟ้าของมามี่เพื่อปลอบโยน
   
                  “เรากลับมากันที่ในงานก่อนนะคะ แหม พาออกทะเลไปซะไกลเลย” เป็นวินดี้ที่ดึงทุกคนกลับเข้ามาในหัวข้อเรื่องเฟรชเมนไนท์อีกครั้ง
                  “ใช่เลยค่ะ อ๊ะ มีคอมเม้นต์นี้บอกว่า อยากให้เราไปดึงดาวเดือนสักคนมาร่วมสัมภาษณ์จัง ว้ายยยย คุณเปิดช่องทางให้ดิฉันได้เต๊าะผู้ชายเหรอคะ ได้เลยค่ะ ขอบคุณคุณศศิพรนะคะ ที่คอมเมนต์ชี้โพรงให้กระรอก”
   
                  มามี่หูตาแพรวพราวขึ้นมาทันที
   
                  “ใครดีคะคุณวินดี้ คุณกรีน”
                  “พบเป้าหมายแล้วค่ะคุณ” วินดี้พยักเพยิดหน้าไปทางเป้าหมาย ให้ทุกคนหันไปดู
   
                  ลลิตาที่กำลังพาขบวนดาวเดือนปีหนึ่งเข้ามาในงาน
   
                  “คุณลลิตา!!!”
   
                  มามี่ตรงดิ่งเข้าไปหาลลิตาทันที
                  ที่จริงจะพูดให้ถูกคือ ตรงดิ่งเข้าไปหากลุ่มผู้ชายทันที
   
                  “จะพาน้องไปห้องรับรองแล้ว”
   
                  ลลิตากระซิบบอก แต่ทว่าไม่อาจหยุดพิธีกรไลฟ์และพิธีกรบนเวทีทั้งสี่คนที่อยู่ในช่วงตกมันได้ อุมาพรที่เดินตามมาข้างหลังจึงทำได้เพียงกุมขมับ ส่วนลิลลี่ที่มาสมทบเป็นคนสุดท้ายก็ยกมือยอมแพ้ปล่อยเลยตามเลย
                  งานนี้กำหนดการณ์เลื่อนคงต้องโทษพิธีกร
   
                  “เราขอสัมภาษณ์น้องๆแป๊บนึงได้มั้ยคะคุณลลิตา”
   
                  มามี่กัดฟันพูดเป็นการบังคับลลิตาที่ทำอะไรไม่ได้จนต้องถอยหลบฉากมายืนหลังเขา แล้วยกมือขึ้นสองข้างเพื่อบอกเป็นนัยว่ายอมแพ้ ปากก็ขมุบขมิบสาปแช่งวินดี้ไป
   
                  “สวัสดีค่า น้องๆดาวเดือนที่น่ารัก เห็นมมั้ยคะคุณ ว่าเขาเฟรชสมชื่อจริงๆอย่างดิฉันว่า”
   
                  โดยมีเพียงแก๊งคุณพิธีกรที่ฟอร์มทีมกันขึ้นมาหน้างานอย่างลวกๆเมื่อกี้เท่านั้น ที่รู้ความหมายจริงๆของคำว่า ‘เฟรช’ ที่มามี่หมายถึง
   
                  “กรี๊ดดดด นี่เด็กคณะดิฉันค่ะคุณ น้องปิงปอง”
   
                  มามี่ดึงปิงปองออกมานอกแถว แล้วขยิบตาให้น้องหนึ่งที น้องก็รู้งานยิ้มทักทายกล้อง เท่ากับว่าแม่อย่างเธอสอนมาดี ตลอดหลายวันที่ผ่านมาแก๊งนางฟ้าเข้าไปเทรนด์ปิงปองอย่างเข้มงวด เพื่อที่ปีนี้พวกเธอจะได้เห็นรางวัลอันทรงเกียรตินั่นคือการที่น้องๆ ไม่ว่าจะเป็นเดือนอย่างปิปอง หรือดาวอย่างม่าเหมี่ยวที่ได้ไปจนสุดเส้นทางแห่งทูตกิจกรรม มันคือเส้นทางที่หลายๆคนใฝ่ฝัน และการได้มาเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย
                  แต่ถ้ามีแม่ดัน ก็ว่าไปอย่าง ไม่ใช่ดันแบบโกงๆนะ แต่มันต้องใช้เส้นสายของตัวเองให้เป็นประโยชน์หน่อย
                  อย่างเช่นตอนนี้ที่ดึงน้องออกมาพบปะผู้คนในเฟซบุ๊ก ไม่ใช่แค่คนที่อยู่ที่หอเท่านั้นที่กำลังดูไลฟ์อยู่ แต่คนในงานที่นั่งแกร่วรองานเริ่มก็กำลังดูอยู่เช่นกัน
                  มันเป็นกลยุทธ์ที่คณะอื่นคาดไม่ถึงเลยล่ะ ยกตัวอย่างเช่นกรีนที่หลงน้องปิงปองจนหน้ามืดตามัว ลืมน้องเดือนบริหารคณะตัวเองไปเสียสิ้น
   
                  “น้องน่ารักเนอะคุณมามี่” คำชมของเวล
                  “แน่นอนค่ะคุณ ดิฉันภูมิใจนำเสนอของดีสถาปัตย์ค่า” วินดี้เติมไฟไม่ให้แผ่ว
                  “ให้น้องแนะนำตัวกับกล้องก่อนดีกว่า” มามี่ว่า
                  “สวัสดีครับพี่มด”
   
                  แต่ก่อนน้องจะแนะนำตัว น้องแสดงถึงความนอบน้อมด้วยการไม่ลืมจะทักทายเขาที่เป็นตากล้อง เพราะพิธีกรทั้งสี่ รวมทั้งลลิตา อุมาพร และลิลลี่น้องทักทายไปแล้ว
                  เอ้อ มารยาทดี อยู่เป็น มันเหมือนใครน้า
   
                  “สวัสดีครับ ชื่อปิงปองครับ เป็นผู้เข้าประกวดดาวเดือนปี 2019 ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคร้าบ”
   
                  เท่านั้นล่ะ ปรากฏการณ์รัวหัวใจก็มาจ้า
                  เหตุการณ์แบบนี้มันคุ้นๆชะมัด เหมือนเคยเกิดขึ้นเมื่อตอนเขาอยู่ปีหนึ่ง ไอ้หูตาแพรวพราวเล่นกล้อง รู้งานอย่างกับอะไรดีของปิงปองเนี่ย
                  ใครสักคนก็เคยทำเอาไว้ และทำมาตรฐานไว้สูงเสียด้วยซ้ำไป
   
                  “สวัสดีครับพี่ๆ สวัสดีครับเจ๊ๆ”
   
                  นั่นไง พูดถึงในใจไม่ทันไรมันก็มาให้เห็นหน้าเลยอ่ะ
                  แต่วันนี้มันโคตรดูดีกว่าทุกวัน เหตุเพราะคงโดนเจ๊ๆจับเมคอัพมาอย่างดี ยัดเสื้อสูท แต่งทรงผม ผลที่ออกมาก็คือคนหันมองมันทั้งงาน แย่งซีนดาวเดือนสุดๆ แต่ที่ไม่น่าอภัยให้คือแย่งซีนดาวเดือนมหา’ลัยไปด้วยนี่สิ
                  ตอนนี้ทั้งงานมีแต่เสียงกระซิบกระซาบคำว่าสายป่านเต็มไปหมด จนมันจะไม่ใช่เสียงกระซิบแล้วเพราะได้ยินมาถึงหูพวกเราที่ยืนอยู่กับไอ้สายป่านเลยนะ
                  คนอยู่เป็นยังไง มันก้อยู่เป็นวันยังค่ำเนาะ มันเลือกเดินเข้ามาทักทายพิธีกรทั้งสี่ที่กำลังทำหน้าที่จอยผู้ชาย(?)อยู่อย่างคนเคารพนอบน้อม
                  แล้วไม่ลืมยักคิ้วกวนตีนให้เขาที่ถือกล้องถ่ายอยู่
                  หึ พ่อจะแพลนกล้องไปหาเลยดีมั้ย เอาให้คนทั้งมอได้รู้
                  อยากให้คนทั้งมอเห็นความกวนตีนนี้ ใครก็ได้ช่วยลืมตาตื่นขึ้นมาทีเถอะ อย่าหลงในภาพลักษณ์ชุดสูทสีขาวที่มันสวมใส่แล้วดูเหมือนเทวดานั่น เพราะมันคือเทวดาในร่างของซาตานขี้กวนตีนครับ
                  แต่เอาจริงๆ กลัวคนจะยิ่งหลงเสน่ห์ความกวนตีนของมันเข้าไปอีกน่ะสิ เฮ้อออออออ
   
                  “วี๊ดดดด พ่อสายป่าน ไหว้พระเถอะพ่อ” มามี่ก็เล่นกับมันไปตามน้ำ มีผู้ชายหล่อๆมาหาทั้งที ค้านจะไม่เล่นด้วยก็ไม่ใช่มามี่ละ
                  “น่ารักแบบนี้ มีคู่หรือยังจ๊ะพ่อ” กรีนเข้าร่วมวงแซว
                  “ไม่ได้ คนนี้ติดจองจ้า” วินดี้รีบออกตัว
   
                  เดี๋ยววววว แล้วทุกคนจะพร้อมใจกันหันมาหาตากล้องทำไม เขาไม่เกี่ยวนะ ฮือออออออ
                  ประเด็นคือไอ้เหี้ยสายป่านก็หันมาด้วยนี่สิ
                  จนคนดูในไลฟ์ต่างเม้นถามว่า ใครๆ แพลนกล้องไปหาหน่อยได้มั้ย เขายืนอยู่ข้างๆใช่มั้ย บลาๆๆๆ
   
                  “ก็ว่าไปนั่น คุณณณ ที่บอกว่ามีคู่น่ะ หมายถึงดาวคณะดิฉันต่างหากที่เป็นคู่ควงเดินบนเวทีวันนี้ แหม คนดูก็คิดไปไกลนะคะ”
   
                  โล่งอกที่มามี่แก้ให้จนควบคุมสถานการณ์ร้อนระอุในแชทได้
                  แต่เขาคงวางใจเร็วเกินไปหน่อย…
                  ว่ากันว่า พลังแห่งโลกโซเชียล ไร้เทียมทาน




   

                  “ยืนเอ๋ออยู่ได้ครับคุณ มาช่วยใส่เสื้อทางนี้หน่อย”
   
                  ไอ้สายป่านโผล่หัวออกมาจากราวผ้าม่าน ที่กั้นร่างเปลือยเปล่าของมันไว้สู่สายตาประชาชนภายในห้องแต่งตัวรวม ที่ขณะนี้ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการแปลงโฉมเด็กคณะของตัวเองอยู่ เพราะในอีกไม่ช้า เวทีแห่งการประกวดดาวเดือนก็จะเริ่มขึ้น หลังจากเขาอ่านลำดับการมาคร่าวๆแล้ว พอสรุปได้ว่าไอ้สายป่านมีคิวขึ้นไปบนเวทีรอบแรกสุด แล้วก็ปิดท้ายตอนถ่ายรูปรวม
                  แต่ใครบางคนก็ได้สวมชุดอลังแบบเว่อร์ไปหน่อยนะเขาว่า ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าไอ้สายป่านน่ะมันถูกจับตามองมาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว ดังนั้นเจ๊ๆเลยลงความเห็นว่า อะไรที่เป็นการโปรโมทคณะ ซึ่งในทีนี้รวมถึงไอ้สายป่านที่ถูกติ๊ต่างว่าเป็นสัญลักษณ์ของคณะไปแล้ว เมื่อพูดถึงคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผู้คนก็ต้องนึกถึงสายป่าน
                  ที่แม่งโคตรดูดีกว่าเดือนมหา’ลัยปีไหนๆ
                  เขาว่ามาอย่างนั้น
                  เฮ้ย เขาไม่ได้อวยจริงๆนะ คิดถึงสมัยปีหนึ่งตอนนั้น เรียกได้ว่ามันคือยุคของสายป่านอ่ะ ไปทางไหนก็มีแต่คนมาขอถ่ายรูป ตระเวนไปงานนั่นงานนี่ อีเว้นท์เยอะจนไม่ได้พักผ่อน จนป่วยอยู่ช่วงหนึ่ง เจ๊ๆในคณะเลยไปพูดคุยกับสโมกลางว่าขอวันว่างให้น้องพักบ้าง แต่ก็ไม่ได้ผลอะไร จนมีครั้งสุดท้ายคือการโต้เถียงกันใหญ่โตมากเรื่องที่ไอ้สายป่านป่วยจนซมไปอาทิตย์หนึ่ง จากนั้นเจ๊ๆเลยบอกว่าขอเอาน้องของพวกเธอมาดูแลเอง
                  เป็นอะไรที่ซึ้งใจมาก ยังไงความห่วงใยของรุ่นพี่ก็ย่อมมาก่อนงานเสมออ่ะ ถึงแม้ว่าเจ๊ๆจะอยากให้คณะมีหน้ามีตามากมาย แต่มันไม่คุ้นกันหรอกเมื่อความใจดีของไอ้สายป่านมันถูกแลกมาด้วยการเสียสุขภาพ
                  แล้วหลังจากนั้นผู้ที่รับช่วงต่อดูแลดาวเดือนก็เป็นเหล่าแก๊งนางฟ้ารุ่นของเขา อันได้แก่ มามี่ วินดี้ ลลิตา อุมาพรและลิลลี่ ซึ่งพวกนี้ให้เหตุผลที่ไม่เคยเอาไอ้สายป่านมาใช้เลยว่า เป็นผู้ควรแก่การเคารพบูชา เป็นสามีแห่งคณะไปแล้ว
                  จ้า…
                  และตอนนี้สามีแห่งคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ก็กำลังกวักมือเรียกเขาหยอยๆ
                  วุ้ย เข้าไปช่วยก็ได้วะ เห็นแล้วสงสาร
   
                  “ไหนมาดูดิ๊ อ๊ากกกกก ไอ้บ้า”
   
                  ถ้าไม่ติดว่าในห้องไม่ได้มีแค่เขาสองคนนี่เขาตะโกนลั่นไปแล้ว ดีที่ดึงสติไว้ได้ทันนะ
                  ไอ้เหี้ยนี่ สวมแค่บอกเซอร์ตัวเดียวได้ไง
                  ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย แต่เขาก็ชอบมันอยู่นะ
                  แต่มันไม่รู้นี่…
                  พูดเองสะอึกเองจ้า
   
                  “เป็นไร ทำมาอาย”
   
                  อายสิ ไอ้ควาย
   
                  “ถอยไปๆ แม่ง ขอให้มีคนแอบถ่ายไปขายในทวิตเตอร์”
                  “พูดแบบนี้มึงเคยทำใช่ป่ะ”
                  “พ่อง”
   
                  คุยกับมันแล้วประสาทจะเสียครับ
   
                  “ไหน อะไร มันจะใส่ยากแค่ไหนเชียว”
                  “นี่อ่ะ”
   
                  เขามองกางเกงที่มันถือขึ้นมาแกว่งไปมาตรงหน้า
   
                  “มันรัดเป้าอ่ะ ตัวมันเล็กไป”
   
                  ฮ่วยยยยยยยยยย
                  แล้วให้กูทำไง๊
   
                  “สายป่าน อยู่ข้างในมั้ย”
   
                  เสียงของนินิวตะโกนถามเข้ามา ไอ้สายป่านเลยชะโงกหน้าไปตอบ
   
                  “กำลังแต่งตัวอยู่ มีไรอ่ะ”
                  “งานจะเริ่มแล้วนะ ให้นินิวแต่งให้มั้ย”
   
                  เดี๋ยววววววว ผู้หญิงจะแต่งตัวให้ผู้ชาย แต่คิดไปคิดมา สองคนนี้เคยเป็นแฟนกัน คงรู้กันไปถึงไส้ถึงพุงแล้วมั้ง
                  เปล่า ไม่ได้หึงเว้ย
                  แค่หวงงงงงงง
   
                  “อ๊ะ”
   
                  เขาจงใจแกล้งดึงผ้าม่านออกอีกนิดให้นินิวเห็น เป็นไปตามคาด ตาของเธอเบิกกว้างแทบถลนออกมา
   
                  “มด เข้าไปในนั้นได้ไง”
                  “เราให้มดมาช่วยแต่งตัวเองแหละ”
   
                  ทำไมเขาดูเหมือนตัวร้ายจังวะ แต่ก็สะใจที่ได้เห็นนินิวดิ้นทุรนทุราย ความจริงเขายังจำเรื่องที่เธอแกล้งสั่งของว่างเพิ่ม แล้วให้เขาไปซื้อจนวูบไปได้อยู่นะ และเขาก็ไม่ใช่นายเอกใสๆฉบับนิยายวายทั่วไปเสียด้วยสิ
                  หรือนิยายวายเดี๋ยวนี้มันก็ไม่ใสแล้ววะ
                  เอาเถอะ มีช่องทางทำให้ใครบางคนคลั่งตายได้นิดหน่อยเขาก็ไม่เลือกวิธีหรอก
                  จริงๆแล้วเขาก็พูดไปงั้น ความจริงก็คือความจริง และความจริงที่ว่าเขายังเป็นมดขี้ป๊อดคนเดิมมันก็ยังอยู่
   
                  “งานจะเริ่มแล้วไม่ใช่เหรอ งั้นเรารีบแต่งตัวก่อนนะ”
   
                  สายป่านตัดจบบทสทนาด้วยการดึงม่านมาปิดคั่น
   
                  “หึ ทำดี” มันเปรยขึ้น
                  “อะ อะไร ม่านมันเลื่อนเอง” เขาที่รู้สึกเหมือนมีชนักติดหลังเอ่ยแก้ตัวตะกุกตะกัก
   
                  อะไรเล่า เมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจให้นินิวเห็นเสียหน่อย อย่างที่บอก เขาก็แกล้งพูดบอกว่าเขาจะแก้แค้นไปงั้น ความจริงเรื่องจริงก็คือม่านมันเลื่อนของมันเอง
                  ไอ้ที่ว่าจงใจแกล้งดึงผ้าม่านน่ะ เขาโกหกคนอ่านทั้งหมดแหละ
                  เฮ้อ ใครจะกล้าขนาดนั้นล่ะ
                  แค่ยืนนิ่งๆแบบไม่ให้สั่นตอนเผชิญหน้ากับสายตาจิกกัดของนินิวก็เกือบหัวใจวายตายแล้วครับ
   
                  “แต่งตัวได้ยัง” มันอ้าแขนออกกว้าง
                  “…”
                  “แต่งตัวอย่างเดียวนะ”
                  “…”
                  “ห้ามแอบลวนลาม”
   
                  แล้วมึง มากระซิบข้างหูให้กูเขินทำไม

   
                  “มึง นิ่งๆก่อนนะ”
   
                  เขาเอื้อมมือไปผูกเนคไทของมันให้แน่นขึ้น สงสัยคงรีบไปจัดส่วนอื่นเลยไม่ได้เช็คความเรียบร้อยของเนคไท เอาล่ะ เข้าที่เข้าทางแล้ว
   
                  “อ๊ะ”
   

มี ต่อ นะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-06-2019 20:18:39 โดย MewSN »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MewSN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +234/-4
ต่อ ตรง นี้ จ้า


                  มือหนาที่ไม่เคยอยู่นิ่งเลื่อนลงไปโอบเอวเขาไว้ และแทนที่เขาจะได้ขืนตัวออกมาหลังผูกไทเสร็จ กลับต้องถูกรั้งเข้าไปใกล้และติดอยู่ในพันธนาการของมันเสียอย่างนั้น
                  มึงทำบ้าอะไรเนี่ย
                  นี่มันไม่ดีต่อหัวใจเขาเลยจริงๆ
                  เพราะเราอยู่ใกล้กันเกินไป ใกล้เกินไปและกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงดังโครมครามนี้
                  เสียงเต้นของหัวใจที่อกข้างซ้าย…
   
                  ตึกตัก ตึกตัก
   
                  “ปล่อย”
   
                  เวลานี้เขามีแรงพอจะเปล่งออกมาได้เพียงคำเดียวเท่านั้นล่ะ
                  แต่คนขี้แกล้งกลับยกยิ้มร้าย แล้วกระชับวงแขนของมันให้เล็กลง เท่ากับว่ามันโอบรัดเขาแน่นขึ้นเรื่อยๆ แล้วเราก็อยู่ติดกันมากขึ้นเรื่อยๆ
                  ให้ตายสิ แบบนี้มันไม่ดี ไม่ดีเลยจริงๆ
                  สถานการณ์ล่อแหลมนี้มันอะไรกัน
                  ถ้าจะแกล้งกัน อย่าเล่นแบบนี้ได้มั้ย เพราะหัวใจมันไม่มีภูมิต้านทานจริงๆ
   
                  “มึงอยากให้กูปล่อย จริงๆเหรอ”
   
                  มันจ้องลึกเข้ามาในดวงตาเขา ทั้งขี้เล่นและออดอ้อนจนเขาอ่อนระทวย
                  เขาจะต่อต้านมันได้ยังไง
                  เขาไม่มีทางผลักไสมันออกไปได้เลย
                  ยิ่งมองกลับยิ่งถูกดึงดูดให้เข้าหา เสน่ห์ของมึงมันร้ายจริงๆ
                  เขาเริ่มหายใจติดขัด ถ้าขืนมันยังโอบเขาไว้แบบนี้เกรงว่าตัวเองจะเป็นลมตายคาอกไอ้สายป่าน โอ๊ย ทำไมเขาดูสาวแตกขนาดนี้วะ กอดกับผู้ชายหน่อยทำเป็นเข่าอ่อน ไอ้มด ไอ้กาก
   
                  “แต่ปล่อยก่อนก็ได้”
   
                  เอ้า ง่ายๆงี้เลยเหรอ
                  แต่ก่อนมันจะปล่อย มันยื่นปากมาใกล้หูของเขาแล้วกระซิบว่า
   
                  “อดเปรี้ยวไว้กินหวาน”
   
                  เดี๋ยววววววววว
                  กินหวาน กินอะไรของมึงงงงงงง
   
                  “ไอ้…”
                  “ดูกูจากตรงนี้ด้วยนะ”
                  “…”
                  “มองกูบนเวทีด้วยนะ”
                  “…”
                  “เพราะกูก็จะมองมาหามึงเหมือนกัน”
   
                  เขาที่อ้าปากจะพ่นคำด่าต้องอ้าปากค้างในสิ่งที่ได้ยิน จนเมื่อได้สติตัวต้นเหตุที่ทำให้อกข้างซ้ายมันเต้นรัวแรงก็ไปจากตรงนี้แล้ว
                  เขายกมือขึ้นกุมหัวใจตัวเอง
                  วันนี้มันทำงานหนักจริงๆ

   





                  “ลำดับต่อไป ขอเชิญทุกท่านพบกับเหล่าดาวเดือนปีที่แล้วที่จะมากล่าวอำลาตำแหน่งของตัวเอง และส่งมอบตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ ให้กับน้องๆรุ่นต่อไปค่ะ”
   
                  เสียงปรบมือดังเกรียวกราว
                  มันเริ่มจากเดือนมหา’ลัยปีของเขา ที่ขึ้นมากล่าวขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาที่ทำให้ได้เพิ่มประสบการณ์ชีวิต กิจกรรมมากมายหล่อหลอมความเป็นตัวตนจากนักเรียนมัธยมปลายสู่รั้วมหา’ลัยอันกว้างใหญ่ โอกาสมากมายรอคอยเราอยู่ แล้วเดือนยังบอกอีกว่า จงอย่าหยุด จงชาเล้นจ์กับตัวเองเสมอ ซึ่งเรียกเสียงกรี๊ด เสียงปรบมือมากมาย ต่อจากนั้นก็เป็นดาวมหา’ลัย และผู้เข้าประกวดดาวเดือนมหา’ลัยทั้งหมดในปีของเขา
                  เวลามันผ่านไปเร็วนะ จากเมื่อวันวานเขายังเป็นปึหนึ่ง ยังยืนอยู่เบื้องล่างเวที เฝ้ามองดวงดาวจากที่มืดๆตรงนี้ และวันนี้เขากลับมาอีกครั้ง
                  กลับมาเฝ้ามองดวงดาวของเขาที่ส่องประกายยิ่งกว่าดาวดวงใดบนเวที
                  เมื่อสายป่านก้าวออกมา ทุกเสียงก็เงียบลง
   
                  “สวัสดีครับ สวัสดีทุกๆคน”
                  “…”
                  “ผม นายสิทธิกร พิเชษสงคราม ผู้เข้าประกวดดาวเดือนปี 2018”
                  “…”
                  “ความรู้สึกของผมตอนนี้เหมือนคำว่าปีหนึ่งมันเพิ่งเกิดขึ้นกับเราได้ไม่นาน เหมือนผมเพิ่งมายืนตรงนี้เป็นครั้งแรก ผมยอมรับเลยครับว่ากำลังสั่น แต่ไม่ใช่สั่นเพราะความไม่กล้า แต่เป็นอาการตื่นเต้น”
                  “…”
                  “ผมเป็นตัวแทนทูตกิจกรรมของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผมมีคนรู้จักมากมาย ผมเคยชินกับการถูกจ้องมองจากผู้คนรอบข้าง ทั้งเสียงชื่นชม และเสียงนินทา”
                  “…”
                  “บ่อยครั้งผมรู้สึกท้อ บ่อยครั้งผมมีความกล้า ทุกๆอย่างมันมักปะปนกันไปไม่มีใครสมบูรณ์แบบในโลกกว้างใหญ่”
                  “…”
                  “แต่ไม่ว่าจะเป็นการเสริมแรงแบบไหน ไม่ว่าบวกหรือลบ ผมก็ยังยืนยันคำเดิมเหมือนที่เคยพูดไว้เมื่อปีที่แล้ว”
                  “…”
                  “ผมเต็มใจที่จะทำมัน และจะทำมันออกมาให้ดีที่สุดครับ”
                  “…”
                  “ขอบคุณทุกประสบการณ์มากมายที่ทำให้ผมเป็นสายป่านอย่างที่เป็นในวันนี้”
                  “…”
                  “ขอบคุณจริงๆครับ”
   
                  เมื่อจบคำพูด เสียงปรบมือก็ดังกระหึ่มทั่วฮอล
                  และมันไม่ได้แค่ยืนยันคำสัญญาเดิมที่ว่า มันจะทำให้เต็มที่ที่สุดเพียงเท่านั้น
                  แต่มันยังยืนยันคำสัญญาที่ให้ไว้กับเขาก่อนขึ้นไปบนเวที
                  เพราะกูก็จะมองมาหามึงเหมือนกัน
                  ขอบคุณนะสายป่าน ขอบคุณจริงๆ
                  ทำไมถึงรู้สึกว่าคนดูเหมือนกลายเป็นมดตัวเล็กๆที่กั้นระหว่างเขากับไอ้สายป่าน
                  และแน่นอนว่าระยะทางที่มดลอดผ่านได้ มันต้องแคบมากๆถูกมั้ยล่ะ…





*TBC...................................................

เราเดินทางกันมายาวนาน และทีละก้าวเหลืออีกสามตอนก็จะจบแล้วนะคะ
ขอบคุณทุกๆคนที่ร่วมเดินทางกับนิยายเรื่องนี้กับมิวอีกครั้งนะคะ
รักและเคารพ
MewSN

ออฟไลน์ CHOIGYK_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แงงงงงงงงงงง เขินแทนน่ารักไปหม๊ดดดดด

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เริ่มชัดขึ้นแล้วนะ

แต่อยากรู้ว่าสายป่านเริ่มปิ๊งมดตอนไหน

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
หยอดเก่งมากนายสายป่าน
เนียนตล๊อด

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แล้วนังนิ่วในไต จะหายไปตอนไหนหว่า ตอนหน้าได้ป่ะ  :m5:

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ก้าวไปเรื่อยๆ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ MewSN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +234/-4
ก้าวที่สิบเก้า
คำสารภาพ


โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน...




                  โฟร์แองจี้
                  งานดาวเดือนมอเสร็จแล้วก็กรุณาให้ความสำคัญกับงานละครเวทีมอด้วยนะค้า ทั้งมึงทั้งสายป่าน อิสัด!!!
                  เช้าวันหนึ่งขณะเดินมาเรียนตัวคณะเขาได้รับข้อความที่ส่งมาทางไลน์ซึ่งไม่ใช่ของใครที่ไหน เจ้าตำแหน่งเพื่อนรักตลอดกาลของเขา โฟร์ ศึกษาศาสตร์นั่นเองที่ตามจิกตามกัดให้เขากับสายป่านที่อู้มาเกือบสองวันแล้วหลังงานประกวดดาวเดือนจบสิ้นลงให้ไปซ้อมละครเสียที เพราะก่อนหน้านี้โฟร์ได้มีเมตตาให้เขากับสายป่านหยุดพักเพื่อไปทำหน้าที่ตามภาระของตนในงานประกวดดาวเดือนมอที่พึ่งจบลงไปสองวันที่แล้ว
                  แต่จนแล้วจนรอดเขากับสายป่านก็ยังไม่โผล่หัวไปซ้อมละครเลยจนมันต้องแชทจิกมาตามไลน์
                  
                  จ้า จ้า
                  จ้า จ้าแล้วไม่มาสักทีนะคะ กูจะตามไปทุบหลัง ตามผัวมึงมาด้วย

                  
                  เดี๋ยวๆ เพื่อนกันครับ
                  ทำไมทุกคน(ในกลุ่มเขา)ต้องคิดว่าเขากับสายป่านไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว
                  ทั้งๆที่เราก็ยังเป็นแค่…เพื่อนกันอยู่ดี
                  เขาอาจจะมีเขินๆบ้างกับคำแซว แต่จริงๆแล้วตัวเขาเองรู้ดีในใจเสมอ ว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นแบบไหน
                  เพียงแต่วันนี้ ก้าวของเขาที่จะก้าวไปหามันไม่ได้เริ่มจากเลขศูนย์แล้ว
                  มันค่อยๆขยับทีละนิด ทีละนิด
                  เขาค่อยๆก้าวไปหามัน ทีละก้าว ทีละก้าว
                  แต่อย่าตั้งคำถามว่าเขาจะไปถึงจุดหมายหรือไม่…
                  เพราะหากเริ่มนับไปทีละก้าว เขาไม่รู้ว่าเท้าขวาหรือซ้ายของตัวเองที่จะไปถึงจุดหมายก่อน
                  แต่นั่นสำคัญด้วยเหรอ ?
                  หากว่าก้าวสุดท้ายของเขาจะไม่ได้ยืนอยู่เบื้องหน้ามัน

                  ยิ่งเราใกล้ชิดกันมากขึ้น ความกลัวก็ยิ่งคุกคามเข้ามาเป็นเงาตามตัว
                  กลัวว่าใจเราจะไม่ตรงกัน…
                  กลัวว่าจะเป็นเขาที่คิดไปเอง…
                  กลัวมันไปทั้งหมดนั่นแหละ กับเรื่องของไอ้สายป่าน เขามันโคตรขี้ขลาดจริงๆ
   
                  “มด”
   
                  เขาละจากหน้าจอโทรศัพท์ เงยหน้าขึ้นมองบุคคลที่เรียกชื่อเขา มายด์นั่นเอง เรานัดเจอกันตรงใต้ตึกสี่เพราะว่าวิชาอีกตัวที่เขาเรียนเทอมนี้เขาลงตัวเดียวกับมายด์
   
                  “มานานยัง” มายด์ถาม
                  “สักพัก มึงกินข้าวยัง” เขาถามมายด์กลับ เธอส่ายหัวบอกว่ายังไม่ได้กิน
                  “ไม่กินแล้วมึง”
                  “ข้าวเช้าสำคัญนะ” เขาท้วง
                  “จ้า พ่อคนรักสุขภาพ”
                  “…”
                  “อีกครึ่งชั่วโมงเลย นั่งรอขึ้นห้องละกัน”
   
                  มายด์ทรุดตัวลงนั่งข้างๆเขา
   
                  “ช่วงนี้เป็นไงบ้าง ไม่เจอมึงนานเลย เหมือนไม่ได้อยู่มอเดียวกัน”
   
                  นั่นสิ เขาเห็นด้วยกับคำพูดมายด์ที่ว่า เราเหมือนอยู่กันคนละมอ เพราะอาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ เขาแทบไม่ได้เจอเพื่อนคนอื่นๆเลย ไม่ว่าจะเป็น ฟ้าหรือจิ๊บ พูดให้ถูกคือ ตั้งแต่งานศพแม่ของมามี่จบลง เขาก็ยังไม่ได้เจอพวกมันเลย
   
                  “ก็สบายดี แล้วมึงล่ะ”
   
                  ก่อนจะพบว่าคำถามของเขาไม่น่าถามออกไปเลยจริงๆ เพราะใบหน้าที่ฝืนแกล้งสดใสมาตลอดของมายด์อับเฉาลงทันที
                  เกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของเขากัน
   
                  “ไม่สบายเลยว่ะมด”
                  “…”
                  “กูพึ่งเลิกกับแฟนมา”
   
                  !!!
   
                  “มายด์…”
   
                  เขาลูบไหล่ของเธอแผ่วเบา
   
                  “อยากกอดกูมั้ย”
                  “ฮือออออออออออ”
   
                  มายด์ปล่อยโฮออกมาแล้วโผเข้ากอดเขาแน่น ซบหน้ากับอกเขาแล้วร้องไห้อย่างไม่อายฟ้าดิน ร่างของเธอสั่นสะท้านตามการสะอื้นไห้ เขาทำได้เพียงลูบหลังเพื่อนรักเพื่อปลอบประโลม แต่เขารู้ดีว่ามันไม่สามารถช่วยคลายความเศร้าได้
   
                  “กู ฮึก จับได้ว่ามันมีแฟนใหม่ มันคบซ้อน อึก กับกูมาสองอาทิตย์แล้ว”
                  “…”
                  “กูเสียใจมาก ฮึก”
                  “ไม่เป็นไรนะมายด์ มายด์ยังมีเรา”
   
                  ไม่รู้ว่าน้ำเสียงอ่อนโยนของเขาจะส่งไปถึงมายด์หรือเปล่า เพราะเวลาที่คนเราเศร้า ความเสียใจมันเกาะกุมหัวใจหมดสิ้น
   
                  “กู ผิด ใช่ มั้ย ฮึก ที่ รัก มัน มาก ไป”
   
                  ไม่ผิดหรอกมายด์ มันไม่มีใครผิด
                  ความรักต่างหากที่ผิด
                  ผิดที่ทำให้เรารักใครบางคนจนหมดใจ และไม่เผื่อไว้เวลาจากลา
                  เขากอดปลอบมายด์แล้วเหม่อมองไปไกล…
                  หรือมันควรจะถึงเวลา ที่เขาจะดึงความกล้าออกมาเสียที
                  สุดท้ายยังไงก็ตาม…
                  ไม่เสียใจก็สมหวัง
                  ผลลัพธ์มีเพียงสองข้อเท่านั้น
                  เขาไม่อยากปล่อยให้มันคาราคาซังอีกต่อไปแล้ว
   
                  “ไม่เป็นไรนะมายด์ เวลาจะช่วยรักษาเราเอง”
   
                  ในขณะที่ปลอบมายด์ เขาก็ปลอบตัวเองให้เผื่อใจไว้
                  เพราะเขาก็ยังไม่แน่ใจเลยว่า เวลาจะเยียวยาทุกสิ่งได้จริงๆ
   
                  





                  “มดดดดดดด วันนี้มีเลี้ยงนะจ๊ะ งานควันหลงจ้า”
   
                  มามี่เปิดบทสนทนาทันทีที่เธอเขวี้ยงกระเป๋าลงบนพื้นห้องกิจกรรมคณะอย่างไม่ไยดี
   
                  “ควันหลงงานไร” ลลิตาเงยหน้าจากจอโทรศัพท์ขึ้นมาถาม
                  “เลี้ยงดาวเดือนมึง งานนี้ไปจอยผู้กันค่า”
                  “กูบวกหนึ่งค่ะ ออกรถ”
   
                  ออกรถของวินดี้ก็คือประมาณว่าเตรียมตัวออกรถไปงานได้เลย แปลว่าเธอจะไปงานแน่นอนนั่นเอง
   
                  “งานนี้ไม่พลาดจ้า” ลิลลี่
                  “บวกบวกบวก” อุมาพร
   
                  สรุปว่าทุกคนไป แล้วเขาล่ะ…
   
                  “มดว่าไงดี” ลิลลี่ถามเขา
                  “ไม่ๆ มึง อย่างลูกมดๆของเราต้องแบบนี้…” วินดี้หันไปแท็กทีมกับลลิตาแล้วเริ่มแสดงบทบาทสมมติ
                  “สายป่าน วันนี้มีนัดกินเลี้ยงควันหลงงานดาวเดือน มดไปได้มั้ยครับ” วินดี้ที่เล่นเป็นตัวเขาจีบปากจีบคอพูด
                  “ไม่ได้ครับ กูหวง” ลลิตาต่อบทเป็นสายป่านได้อย่างดีเยี่ยม
   
                  เหอะ ดีกับผีน่ะสิ
                  เขากับไอ้สายป่านไม่มีวันพูดอะไรแบบนี้แน่ๆอ่ะ
   
                  “มดอยากไป นะครับ นะครับ” วินดี้ยังเล่นต่ออีกนะ ฮึ่ยยยยย
                  “ถ้าอยากไปก็ต้องมีของมาแลก”
                  “…”
                  “คืนนี้จุดจุดจุดกันทั้งคืนนะครับ”
                  “พ่องงงงงง”
   
                  เขาตะโกนด่าพวกแม่งสุดเสียง เล่นอะไรทำเขาเขินหน้าแดงหมดแล้ว ถึงแม้มันจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ตาม
   
                  “อะไร มีคนเขินเพราะจินตนาการว่ะมึง” วินดี้ว่า
                  “เขิน เท่ากับ เคยทำ”
   
                  ตรรกะอะไรของมามี่วะ ไม่คุยกับพวกนี้แล้ว
   
                  “สรุปเราไปนะ”
   
                  เขาบอกทุกคน
   
                  “ต้องขอพ่อ…ทูนหัวก่อนมั้ย”
   
                  ยังไม่เลิกเล่นอีก
   
                  “ไม่ต้องขอแล้วค่ะ พ่อมาโน่นแล้ว”
   
                  มามี่ชี้ให้ทุกคนดู ไอ้สายป่านเดินหน้ายุ่งตั้งแต่หน้าประตูเข้ามาหาพวกเรา
   
                  “เป็นไรคะ สามีแห่งชาติ” วินดี้ถาม
                  “หงุดหงิดนิดหน่อย” มันตอบแบบขอไปที ก่อนจะเขวี้ยงกระเป๋าท่าเดียวกับมามี่ และไม่ไยดีมันอีกต่อไป
                  “เรื่องอะไร” เขาถามเพราะตัวเองก็อยากรู้เหมือนกัน
   
                  ทีนี้ล่ะ เรียกเสียงแซว เสียงโห่มาเต็ม โอ๊ยยยย แค่ถามคำถามทั่วไปเอง
   
                  “จารย์แม่งปล่อยเลท แล้วยังมาด่าปิดท้ายอีก”
                  “เพราะพวกมึงไม่ฟังแก”
   
                  ฉึก
         
                  เรียกสายตาจิกกัดจากไอ้สายป่านมาเลยทีเดียว แง๊ แค่จะแกล้งเล่นๆเอง สงสัยอารมณ์ไม่ดีจริงๆครับ
   
                  “ไปซื้อน้ำกัน”
   
                  เฮ้ยยยยย
                  จู่ๆมันก็ผุดลุกขึ้น แล้วดึงคอเสื้อเขาให้ลุกตาม ไอ้เราจะไม่ลุกก็ยังไงอยู่ กลายเป็นว่าตอนนี้ถูกมันเอามือพาดคอไปแล้ว มีทางเดียวคือต้องไปส่งมันซื้อน้ำสินะ
   
                  “ยืมตัวแป๊บนะคร้าบ”
   
                  มึ๊งงงงง ทีงี้มาอารมณ์ดีเชียวนะ แกล้งเขานี่มันสนุกนักใช่มั้ยยยยยย
   
                  “เอาไปเลยจ้า ให้ยืมกี่วันก็ได้เลยจ้า ไม่ต้องเอามาคืนยิ่งดีจ้า”
   
                  แก๊งนางฟ้า พูดแบบนี้ได้ไง เขาก็เสียใจเป็นนะเว้ย แต่เขินมากกว่า อิอิ
   
                  “คอเสื้อกูย้วยหมดแล้ว”
   
                  เขาบอกมัน ที่จริงถ้ามึงยังทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ใบหน้าเขาเองก็จะยิ่งเห่อแดงเรื่อยๆเช่นกัน
                  ใกล้เกินไปแล้ว ไอ้บ้า!
   
                  “สายป่าน คืนนี้ไปงานเลี้ยงมั้ยคะ” มามี่ถามสายป่าน พร้อมขยิบตาให้เขาหนึ่งที เดี๋ยว เธอจะเล่นอะไรของเธอ
                  “ไม่ครับ มีงาน”
                  “แต่คนแถวนี้ไปนะคะ” คนแถวนี้ที่มามี่พูดถึง มันก็รู้ว่าหมายถึงเขาเองเพราะหันมาจ้องหน้าทันทีเลย
   
                  มึงอย่านะ อย่าเชียว…
   
                  “งั้นไปก็ได้ครับ”
                  “เย้!!!”
   
                  ท่ามกลางเสียงเฮฮาของเหล่านางฟ้า มันคือความหายนะของเขาชัดๆ
   
                  “มดครับ…”
                  “…”
                  “งั้นคืนนี้ติดรถสายป่านไปนะครับ”
   
                  ไอ้เหี้ยยยยยย
                  อย่าเล่นแบบนี้ได้มั้ย
   
                  “ฮ่าๆๆๆๆๆ”
   
                  เอาสิ มีความสุขบนความเขินของคนอื่น จะขี้แกล้งให้หัวใจวายตายไปถึงไหนวะ
                  แต่เหนือสิ่งอื่นใด…
   
                  “กรี๊ดดดดด สายป่านไปงานแล้วโว้ย”
   
                  ท่ามกลางความดีใจของเหล่านางฟ้า
                  ท่ามกลางเสียงหัวเราะ และความยินดี
                  มีบางอย่างก่อเกิดขึ้น…
                  มันเป็นสิ่งที่ทุกคนเรียกว่า ลางสังหรณ์
                  ไม่รู้ทำไม ตาขวาของเขาถึงประตุกถี่รัวแบบนี้
   
                  “แต่ตอนนี้ กูหิวน้ำครับมด มดจะไปส่งพี่สายป่านมั้ยครับ”
   
                  มันว่าก่อนจะหิ้วคอเขาขึ้น เรียกว่าหิ้วคอจริงๆนะ
   
                  “แล้วกูมีทางเลือกมั้ย”
                  “ไม่มีครับ ตั้งแต่คุณคือคุณมด คุณก็หมดทางเลือกไปโดยปริยายแล้วครับ”
   
                  ฟวยยยยยยย




   

                  เขาติดรถมากับมันจนได้…
   
                  “แหม ว่าแล้วววววว มาด้วยกันชัวร์”
   
                  เลยถูกเหล่านางฟ้าที่รออยู่หน้าร้านเอ่ยแซวไปหนึ่งดอก และยังไม่รู้เลยว่าตลอดทั้งงานเขาจะถูกแซวอะไรไปอีก เพราะวันนี้เขากับไอ้สายป่านดันใจตรงกันใส่เสื้อเฟรชชี่มหา’ลัยมาเหมือนกันอีก
   
                  “เอ๊ะ เสื้อคู่เปล้าว้า” มามี่ที่สังเกตเห็นเป้นคนแรกเริ่มโจมตี ที่จริงเขาได้มีการใส่เสื้อแขนยาวแฟชั่นปกปิดทับอีกตัวหนึ่ง แต่เธอก็ดันตาดีเห็นเสื้อข้างในเข้าจนได้
                  “บังเอิญน่ะ” เขาแก้ประโยคเข้าใจผิด แต่กลายเป็นว่าทุกคนมองด้วยสายตาล้อๆซะงั้น
   
                  ไม่คุยด้วยแล้ว พวกขี้แกล้งเอ๊ย
   
                  “เข้าข้างในกันค่า ไปกินไปดื่มให้ฉ่ำปอด บวกจอยผู้แบบยั่วๆ”
   
                  นี่สินะ จุดประสงค์ของการมางานนี้เพราะประโยคหลังที่ลลิตาบอกนี่เอง
                  วันนี้ทางสโมสรนักศึกษากลางปิดร้านหมูจุ่มชื่อดังแถวหลังมอฉลองงานควันหลงวันประกวดดาวเดือนที่ผ่านมา เป็นการเลี้ยงฉลองขอบคุณทุกฝ่ายที่เข้ามาช่วยงานสโมสรกลางอย่างเต็มใจ และถือเป็นการพบปะสังสรรค์และอำลากันของทีมงานชุดนี้ด้วย ซึ่งในปีถัดไปอาจจะเปลี่ยนหรืออยู่ดังเดิม เป็นเรื่องไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับผลเลือกตั้งของนักศึกษาที่จะเลือกพวกเขาหรือไม่
                  พูดแล้วก็ใจหาย ตอนนี้ระยะเวลาปีสองก็ได้เดินทางมาเกือบครึ่งเทอมแล้ว
   
                  “โอ๊ย ผู้ชายเต็มไปหมด พวกมึง วันนี้แยกโต๊ะกันนะคะ กูจะแอ๊บไปนั่งกับผู้ชาย”
   
                  วินดี้บอกจุดประสงค์แล้วเดินนวยนาดอย่างนางพญาเข้าไปในร้าน
                  พวกเราทั้งหมดตามเธอเข้าไป
   
                  “สายป่าน มาด้วยเหรอ”
   
                  มาแล้วจ้า
                  นินิว ทีมสโมกลางก็มาจ้า
   
                  “อ่า มดชวนมาน่ะ”
   
                  หืมมมม
                  ไอ้สายป่านทำไมโยนขี้มาทางนี้ได้วะ เรียกสายตาจิกกัดอย่างรุนแรงจากนินิวมาทางเขา
   
                  “งั้นเหรอ…”
                  “…”
                  “ไปนั่งโต๊ะนู้นกัน”
   
                  เธอถือวิสาสาะเบียดเข้ามายืนข้างสายป่าน แล้วควงแขนของมันจะพาลากไป แต่ไอ้สายป่านขืนตัวไว้
   
                  “มด กินโต๊ะไหน”
                  “ฮะ”
                  “ถามว่านั่งไหน”
   
                  นี่แปลว่ามันปฏิเสธนินิวทางอ้อมหรือเปล่านะ การที่ถามเขาว่านั่งโต๊ะไหนเนี่ย
   
                  “โต๊ะนั้นมั้ย ว่างอยู่”
   
                  ซึ่งเขาก็รีบชี้ไปทางโต๊ะมุมขวาของร้านทันที
   
                  “แต่มันไกลอาหารนะคะสายป่าน”
   
                  นินิวเอ่ยท้วง
   
                  “หล่อน สายป่านเขาจะนั่งไหนก็เรื่องของเขาสิยะ” จนวินดี้ต้องพูดขึ้น
                  “เอ๊ะ แล้วคุณพี่กะเทยยุ่งอะไรด้วยเหรอคะ” นินิวจีบปากจีบคอพูดขึ้น
                  “นิว!”
   
                  สายป่านปรามนินิว เพราะเธอใช้คำว่ากะเทยซึ่งอาจเป็นคำธรรมดาที่ไม่คิดอะไรหากแต่เป็นนินิวพูด เธอจึงจงใจใช้คำนี้เพื่อเหยียดวินดี้ในน้ำเสียง และไม่ใช่แค่สายป่าน คนอื่นๆยังรู้สึกได้เลย
   
                  “มด ไปนั่งโต๊ะที่มึงว่ากัน”
   
                  เขาพยักหน้า สายป่านแกะมือของนินิวออก แล้วเดินตามมา
   
                  “ขอโทษแทนนินิวด้วยนะวินดี้ เธอคงไม่ได้ตั้งใจ”
                  “แล้วมันกงการอะไรของสายป่านที่จะต้องมาขอโทษแทนด้วยเนี่ย แต่ไม่เป็นไร เจ๊ไม่ถือค่า”
   
                  สักพักวินดี้ก็เล่นตลกคลายเครียดไป เลยทำให้ประเด็นเหยียดเมื่อกี้เป็นเรื่องขำขันเสีย
                  แต่ทุกคนก็รู้ดีว่า จะไม่มีทางลืมมันลง
   
                  “อย่ากินเหล้าเยอะนะ”
   
                  เขากระซิบบอกไอ้สายป่าน ที่เอียงหูลงมาฟังเพราะทางร้านเริ่มเปิดเพลงคลอแล้ว
   
                  “เป็นห่วงเหรอ”
                  “ปะ เปล่าซะหน่อย กะ กูแค่กลัวไม่มีคนขับรถ”
   
                  อันที่จริงเขาเป็นห่วงมันน่ะถูกแล้ว มึงนี่แสนรู้จริงๆเลย
   
                  “ยากอะไร ก็นอนข้างถนนด้วยกันเลย”
   
                  ชีวิตกูต้องมาลำบากอะไรแบบนี้กับมึงด้วยเหรอ สงสารตัวเองจัง แต่ก็คิดไว้ว่าถ้ามันเมาแล้วนอนข้างถนนจริงๆ ยังไงเขาก็ทิ้งมันให้นอนคนเดียวไม่ลงหรอก
   
                  “ฝันไปเหอะ”
                  “หึ”
   
                  มันครางแล้วจ้องมองตาเขา
   
                  “ถ้าตื่นมาแล้วเจอมึงนอนข้างๆล่ะน่าดู”
   
                  เหมือนมันรู้… ว่ายังไงเขาก็ต้องนอนข้างถนนกับมันอยู่ดี
   
                  “เออ อย่าดื่มเยอะแล้วกัน”
                  “ก็ดูกันไป”
   
                  เหอะ
                  ก็ดูกันไป…
                  ดูกันไปสักพัก
   
                  “สายป่าน ชนนนน” วินดี้มาชนแก้วกับมันเป็นคนแรก ทั้งที่อาหารยังไม่ตกถึงท้อง ล่อเบียร์กันแล้วเหรอ เขาแทบยกมือกุมขมับ
                  “ชนนนนน” มามี่มาเป็นรายที่สอง
                  “ชนจ้า” ลลิตาเป็นคนที่สาม
                  “ชนนนนนน” วินดี้เวียนกลับมาชนกับมันอีกครั้งหลังจากไปเติมมาใหม่ โอ๊ย เหนื่อยใจ
                  “ชนนนน” ลิลลี่
                  “ชนค่า” อุมาพร
   
                  เอาเป็นว่าตอนนี้ไอ้สายป่านไม่รู้กินไปกี่แก้วแล้ว เอาเถอะ แค่มึงยังคอแข็งอยู่ตอนนี้ก็พอ
                  สงสัยเขาคงจะได้ขับรถของมันพามันกลับห้องแน่ๆคืนนี้
                  เพราะดูแล้วไม่น่ารอด…

   





                  “สายป่าน เมายัง”
   
                  เขากระซิบถามมันข้างหู มันหันหน้ามามองเขาแล้วสะบัดหัวไปมาก่อนจะตอบว่า “ไม่มาวววว”
   
                  “เมาแล้วเนี่ย ยังบอกไม่เมาอีก เฮ้อ”
   
                  ช่วยไม่ได้ จนเขาต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ สรุปแล้วคืนนี้เขาได้ขับรถแน่ๆไม่ต้องถามหาสติคนเมาอย่างไอ้สายป่าน เพราะตอนนี้แทบไม่เหลือ
                  แค่ตอบคำถาม ฟังรู้เรื่องก็ดีแค่ไหนแล้ว
   
                  “พอแล้วมั้ง”
   
                  เขาบอกมัน แต่ร่างสูงกลับสายหัวพรืด ก่อนจะผุดลุกขึ้นแล้วบอกว่า “ เข้าห้องน้ำแป๊บ”
                  แล้วมันก็เดินโงนเงนไปทางห้องน้ำ เขาช่างใจว่าจะตามมันไปดีมั้ย แต่คิดไปคิดมาตัวเองก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม
   
                  “มด เมื่อไหร่จะรุกสักทีค้า”
   
                  นี่ก็อีกราย เมาแล้วเรื้อนไม่หยุด วินดี้ปัดป่ายมือไปมาจนเขาต้องจับไว้ เพราะไม่งั้นปัดโดนขวดเหล้าบนโต๊ะหล่นลงแตกแน่ๆ
   
                  “ช่ายยยย ไม่รุกสักทีระวังหมาคาบไปแดกนะจ๊ะ” มามี่ก็กรึ่มๆไม่แพ้กัน
   
                  ไม่ใช่แค่มามี่ หรือวินดี้ เหล่านางฟ้าทั้งก๊กนั่นแหละ เมากันหมดแล้ววววว
                  ระหว่างที่เขาจับไม้จับมือเหล่านางฟ้าไม่ให้ดิ้นไปมา แล้วทำของตก นินิวก็ถือแก้วเหล้าเดินผ่านโต๊ะเขาไปอย่างเร่งรีบ
   
                  “มดดดดดด รุกเลยคืนนี้ เผด็จศึกสายป่านโลดดดดด”
   
                  วินดี้จะตะโกนให้คนอื่นได้ยินหมดหรือไง แต่โชคดีที่มีเสียงเพลงของร้านดังกลบเอาไว้
                  แต่ก่อนที่เขาจะได้เอามือปิดปากเธอ เสียงกรี๊ดที่ดังจากในห้องน้ำก็เรียกความสนใจของทุกคนให้หันไป รวมถึงตัวเขาด้วย
                  เพลงถูกปิดลง ตามด้วยการเคลื่อนที่ของฝูงชนไปที่ห้องน้ำ
                  เขาตามไปติดๆ
                  ค่อยๆแหวกไทยมุงทั้งหลายเข้าไปดูสถานการณ์
   


                  !!!
   


                  “สายป่าน อย่านะคะ จะทำอะไรนินิว”
   
                  ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้เขาก้าวขาไม่ออกอีกต่อไป
                  ภาพที่ไอ้สายป่านกำลังกอดจูบนินิวอยู่ ทำให้หัวใจเขาแตกออกเป็นเสี่ยงๆได้อย่างง่ายดาย
   
                  “สงสัยคงเมาน่ะค่ะ เดี๋ยวนินิวคงต้องพาไปเคลียร์อีกที”
   
                  เธอพยายามเบี่ยงคอหลบใบหน้าของสายป่านที่พุ่งจู่โจมซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างเมามัน
                  นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย
                  หรือเพราะถ่านไฟเก่ามันปะทุ
   
                  “ไปๆ ทุกคนแยกย้าย”
   
                  เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน และมันไม่ผิดอะไรเพราะนินิวกับสายป่านเคยเป็นแฟนกันมาก่อน การที่ไอ้สายป่านจะเกิดอารมณ์กับนินิวตอนเมามายเช่นนี้
                  คงไม่น่าแปลกอะไร
                  เขารู้สึกร้อนที่ขอบตา ก่อนที่น้ำตาจะไหล เขาต้องพาหัวใจอันเปราะบางของตัวเองออกไปจากจุดนี้ก่อน
                  เพราะเขาทนเห็นภาพบาดตาบาดใจแบบนี้ไม่ได้หรอก
                  ก้าวไปสักทีสิ ไอ้ขาบ้าๆนี่
   
                  กึก!
                  มีแก้วเปล่ากลิ้งมาชนที่เท้าของเขา
   
                  เขาก้มลงหยิบมันขึ้นมาอย่างยากลำบาก เนื่องจากคนอื่นๆกำลังทยอยเดินออกจากห้อง เลยไม่มีใครสังเกตเห็นแก้วใบนี้ที่กลิ้งไปตรงพื้นห้องน้ำ
                  เขาจำได้ว่านินิวถือมันอยู่ตอนที่เดินผ่านโต๊ะเขาไป
                  และสิ่งที่เฉลยข้อข้องใจทั้งหมดของเขา ก็ดังขึ้นมาเป็นประโยคคำพูดของใครบางคน
                  ที่อ่อนแรงเต็มที
   
                  “มด กูไม่ไหวแล้ว”
   


                  !!!
   


                  มันเรียกชื่อเขา
                  ไอ้สายป่านเรียกชื่อเขาในขณะที่ตัวเองกำลังซุกไซร้ซอกคอคนอื่นอยู่
                  แล้วมันใช่เวลาที่เขาควรดีใจใช่มั้ย เพราะเท่ากับว่ามันกำลังคิดว่ามันกอดเขาอยู่
                  ฝูงชนที่จะทยอยออกไปหยุดชะงัก
                  นินิวเริ่มหน้าเสีย
   
                  “เธอ…”
   
                  เขาเดินเข้าไปหานินิว และเผชิญหน้าอย่างมาดมั่น
   
                  “วางยาสายป่าน”
   
                  ฮือฮา
   
                  “แกเอาอะไรมาพูด แกใส่ร้ายฉัน มันใส่ร้ายนินิวค่ะทุกคน”
   
                  เขาไม่โต้ตอบ แต่ออกแรงดึงร่างสูงที่กอดนินิวอยู่ให้เซมาทางเขา
   
                  “มด อึก…”
                  “เราจะพาสายป่านกลับห้อง ไว้ค่อยเคลียร์เรื่องนี้กันวันพรุ่งนี้”
   
                  เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงอีกต่อไป รีบพยุงไอ้สายป่านออกมาจากห้องน้ำ
   
                  “เกิดอะไรขึ้นมด”
   
                  วินดี้ที่สร่างเมาผุดลุกขึ้นมาจากโต๊ะ
   
                  “ไว้บอกทีหลัง เรากลับก่อนนะ ฝากนางฟ้าคนอื่นๆด้วย”
   
                  วินดี้แม้จะยังงงๆแต่ก็พยักหน้าตอบตกลง
   
   





                  ซ่า ซ่า
                  ทันทีที่มาถึงห้อง เขาพาไอ้สายป่านเข้าห้องน้ำ เปิดฝักบัว เอาน้ำรดตัวมันให้สดชื่น ให้สร่างเมา และคลายความร้อนรุ่มลง แต่ไม่ว่าจะทำยังไง มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลย
                  ถึงจะน่าอาย แต่ไอ้ตรงเป้ากางเกงที่ดึงดันขึ้นมาก็บอกเขาได้เป็นอย่างดีว่า อารมณ์ของมันยังค้างอยู่ และที่สำคัญ จะไม่ให้เขาเขินหน้าแดงได้ยังไง ในเมื่อมันครางชื่อเขาตลอดเวลาอยู่แบบนี้
                  ตกลงแล้ว มึงคิดกับกูยังไงกันแน่ ไอ้สายป่าน
   
                  “มด อึก กูไม่ไหวแล้ว มด มด”
   
                  โอ๊ยยยยยย เขาจะทนฟังได้อีกนานแค่ไหนกัน
   
                  “มด ยอมกูเถอะนะ”
   

                  พรึ่บบบบ
   

                  “เฮ้ยยยย”
   
                  เขาที่ไม่ทันตั้งตัวเพราะถือฝักบัวรดน้ำมันอยู่ เลยถูกดึงให้ลงไปที่อ่างน้ำกับมัน
                  กลายเป็นว่าตอนนี้เขากำลังนั่งตักมันอยู่
                  และแน่นอนว่า เขารู้สึกได้อย่างดีเลยล่ะ อะไรแข็งๆที่ทิ่มอยู่ตรงก้น
                  โอ๊ยยยย กระดากปากชะมัดเลย
   
                  “ไอ้สายป่าน อย่า!”
   
                  มันจู่โจมให้เขาอ่อนระทวยด้วยการซุกไซร้ใบหน้าหล่อเหลากับวอกคอขาวของเขาลากลิ้นร้อนไปมาอยู่ตรงหัวไหล่ให้เขาสะดุ้งเป็นพักๆ
                  ไอ้บ้า กับเรื่องแบบนี้มึงจะเก่งเกินไปแล้วนะ
   
                  “เป็นของกูเถอะ…”
                  “…”
                  “กูทนไม่ไหวแล้ว”
   
                  น้ำเสียงนั้นนุ่ม เสียงมันทุ้มจนพาเขาเคลิ้ม
                  และสิ่งที่ทำให้เขาไม่สามารถต้านทานมันได้อีกต่อไปคือประโยคสุดท้ายที่มันพูด ก่อนเขาจะปล่อยให้อารมณ์ทั้งหมดนำพาไป
   
                  “กูรักมึงนะ





*TBC.......................................................

งื้อออออ อีกสองตอนแล้วนะคะ กับนิยายเรื่องนี้
รักและผูกพันธืกับตัวละครหลัก ไม่ว่าจะเป็นพระนาย หรือแก๊งนางฟ้า
และกลุ่มเพื่อนสนิทมดๆที่โผล่มาทักทายบ้างเป็นบางครั้ง
และขอบคุณคนอ่านทุกๆคนมากนะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-06-2019 19:09:08 โดย MewSN »

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
กรี๊ดดดดด ตอนหน้าจะมีไหมน้า :haun4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด