『 แฟนเด็ก 』 l ╯#สามหกสิบแปด╰ lll ตอน 24 ญี่ปุ่นอีกครั้ง [31/03/20] p.8
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 『 แฟนเด็ก 』 l ╯#สามหกสิบแปด╰ lll ตอน 24 ญี่ปุ่นอีกครั้ง [31/03/20] p.8  (อ่าน 58718 ครั้ง)

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 292
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :z1: ต้องเตรียมเงินไว้ประกันลุงมั้ยเนี่ย5555

ออฟไลน์ kokkak

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :L1:u น่ารักกก

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
ตอนที่ : 7



เช้านี้ผมสามารถตื่นได้โดยไม่พึ่งนาฬิกาปลุก
หยิบมือถือมาดูก็ค้นพบว่าสิบโมงกว่าแล้ว


วันนี้วันเสาร์และตามตารางไม่มีได้มีประชุมหรือคุยงานที่ไหนทำให้วันนี้ได้เป็นวันหยุดที่สามารถเรียกว่าวันหยุดได้อย่างเต็มปากที่มีไม่ค่อยจะบ่อยนัก ผมขึ้นบิดตัวไล่ความเมื่อยขบจากการนอนบนโซฟา ถึงแม้จะเป็นโซฟาเกรดดีแต่ด้วยขนาดที่มีไว้สำหรับนั่งจึงส่งผลให้มีอาการปวดตามตัว เป็นเพราะโซฟานั่นแหละ ไม่เกี่ยวกับอายุไขข้ออะไรนั่นหรอก


พอบิดไขข้อเสร็จผมก็ลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาแปรงฟันก่อนจะออกมายืนจ้องประตูห้องนอน ป่านนี้ไอ้เด็กเนคงนอนซุกผ้าห่มสีขาวของเขาจนเหมือนลูกแมว จินตนาการไม่สำคัญเท่าภาพจริง ผมค่อยๆ เดินไปแง้มประตูห้องนอน ซึ่งระหว่างที่ทำก็คิดขึ้นมาว่าจะแอบทำไมวะ นี่ห้องของเราแท้ๆ


ผมค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไปในห้องนอนตัวเอง กฎภาพที่ตรงข้ามกับจินตนาการ ลูกแมวซุกที่ไหน เตียงเละขนาดนี้คงเป็นลูกหมาซนมากกว่า

เนนอนแหกแข้งแหกขา หมอนกระเด็นตกอยู่ข้างเตียง พุงขาวที่มีรอยช้ำเขียวขนาดใหญ่ถูกเปิดขึ้นขึ้นโชว์เนื่องเสื้อนั้นถลกขึ้นเปิดไปจนถึงหน้าอก หน้าดื้อเอียงซุกกับผ้าห่มจนแก้มกองเป็นก้อน ปากชุ่มน้ำลายเคี้ยวแจ๊บๆ

อะไรคือความเด็กขนาดนี้วะ
มันก็ดูเครียดเรื่องตัวเองดูไม่ค่อยแมน แต่ก็ไม่อยากพูดว่าขนาดตอนนอนยังไม่เท่เลย

ดันดูน่ารัก...
ได้หรอวะ

ผมค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไปให้ใกล้ร่างของเนมากขึ้น

“เน”
“...” ไม่ขยับแม้แต่นิด
“เน เช้าแล้ว”
“...” แม้แต่ตาก็ไม่มีขยับ ผมเดินเอามือไปแตะเหม่งขาวๆ ของมันก็ค้นพบว่ามีไข้อ่อนๆ คงจะต้องให้กินข้าวกินยา
“ไอ้เน เช้าแล้ว”
“อื้อ ขออีกห้านาทีนะแม่” พูดจบก็ตวัดขาหมุนตัวไปอีกทาง โชว์ก้นกลมๆ ใต้กางเกงขาสั้น ผมลูบหน้าลูบตาเรียกสติ
“เน สิบโมงแล้ว”
“อีกห้านาทีน้า”
“ไอ้เน”
“สองนาทีก็ได้”
“ตื่น”
“แม่ค้าบบบ”
“เด็กเวร”
“หื้อ...” เนขมวดคิ้วก่อนจะค่อยๆ ปรือตาขึ้น มันเมาขี้ตาอยู่สองสามวิก่อนจะลืมตาโพร่ง
“อะไร”
“ตกใจหมดเลย คิดว่าเสียงพ่อ” เนรีบลุกขึ้นนั่ง หัวยุ่งเป็นรังนก คราบน้ำลายย้อนจากแก้มขึ้นไปถึงคิ้ว แขนเล็กที่เลยออกมาจากแขนเสื้อกว้างยกขึ้นเกาหัวตัวเองแกร่กๆ
“สิบโมงแล้ว”
“เน ยังง่วงอยู่เลยอ่ะ”
“ลุกไปกินข้าวก่อน ต้องกินยา” เนยื่นปากไม่พอใจแต่ก็ยอมลุกออกจากเตียง ขาสั้นๆ เดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนขาตันๆ ที่เดินตามน้องมาจนถึงหน้าห้องน้ำเนี่ย...

เออ
กูเดินตามน้องไปมาทำไมวะ
 
ผมนวดขมับตัวเองสองสามทีก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายเป็นเข้าครัว ผมมักทานอาหารเช้าเป็นกาแฟร้อนกับไข่ดาวไส้กรอกแค่พอๆ รองท้องไม่ให้หิวเวลารถติดช่วงเช้า แต่อาหารเช้าสำหรับวัยมัธยมนี่มันกินอะไรกันวะ ตอนผมอยู่มัธยมก็ไม่ค่อยได้กินข้าวเช้าด้วยสิ

ไข่ลวกโอวัลตินนี่เด็กชอบไหม 
หรือโทรไปสั่งข้าวต้มหมูดี


“ลุง บ้านลุงมีโกโก้ครันช์กับนมไหมอ่ะ”


หวยออกเป็นซีเรียลกับนม
อืม ข้าวเช้าผมสมัยประถมเลยแหละ ทำไมถึงคิดไม่ได้นะ


“ไม่มี”
“ปกติลุงกินไรอ่ะ กินด้วย”
“ไข่ดาวกับไส้กรอก”
“ขอไส้กรอกปลาหมึกนะ”
“มีแต่ไส้กรอกหมู”
“ไม่ๆ ไส้กรอกหมูแต่หนวดปลาหมึกอ่ะ” สปีชี่ส์ไหนวะ จะหมูก็หมู ปลาหมึกก็ปลาหมึกสิ
“คืออะไร”
“เนี่ย เดี๋ยวเนทำให้ดู” เนทำท่าจะยื่นมือมาหยิบมีดจากมือผม ผมเลยดึงมือหนี ไอ้เด็กนี่ดูไม่เหมาะกับการจับมีดอย่างแรง
“เห้ย ทำไร”
“เอามีดมาเดี๋ยวเนหั่นให้ดู”
“ไม่ต้องเลย อยากมีแผลเพิ่มรึไง”
“แค่หั่นไส้กรอก!!!” เนกำหมัดต่อยพุงผมเบาๆ พร้อมกับแบมือขอมีด ผมตัดปัญหาด้วยการเดินไปหยิบมีดปลอกผลไม้อันเล็กๆ มาให้ อย่างน้อยก็ลดความเสี่ยงลง แถมยังอยู่เหมาะกับขนาดมือมันด้วย เนยิ้มแฉ่งรับมีดไปหั่นครึ่งไส้กรอกก่อนจะทิ่ม

ย้ำ

ทิ่ม!!!!

ทิ่มเข้ากลางไส้กรอกแล้วลากยาวลงมาก่อนจะหยิบไอ้ไส้กรอกสี่ขาขึ้นมาโชว์ด้วยหน้าตาเหมือนหมาที่คาบบอลมาให้เจ้าของสำเร็จ ระหว่างนั้นผมก็แอบปัดมีดปลอกผลไม้ลงซิงค์ ไอ้เด็กเวรนี่ใช้มีดทิ่มของเป็นส้อมเลย อันตราย

“นี่งายยยย ไส้กรอกปลาหมึก”
“มันปลาหมึกตรงไหน”
“เนี่ย พอลุงทอดใช่ป่ะ ตรงนี้มันจะม้วนเป็นหนวด”
“สุดท้ายมันก็แค่ไส้กรอก”
“แต่มันน่ารัก มันจะทำให้ไส้กรอกอร่อยขึ้น แม่ผมบอกมา”

อ๋อ
มุกโดนแม่หลอกให้กินข้าวนี่เอง
แถมเจ้าตัวยังไม่รู้ตัว เอามาหลอกคนอื่นต่ออีก ผมถอนหายใจยาวเหยียดให้กับความเด็กของมัน สุดท้ายก็ยอมหั่นไส้กรอกธรรมดาให้กลายเป็นไส้กรอกปลาหมึก ยุ่งยากเพิ่มไปอีก กว่าจะทอดให้หนวดงอกับดาวไข่ให้ไข่ดาวไม่สุกก็กินเวลาทำข้าวเช้าไปเกือบชั่วโมง ทั้งๆ ที่ปกติผมทำแค่สิบนาที สมกับเป็นไอ้ตัววุ่นวายจริงๆ

“ลุงทอดหางน้องไม่ค่อยงอเลยอ่ะ ซอสมะเขือเทศก็ไม่มี กินไส้กรอกเปล่าๆ ไม่มีรสชาติ ความลุงอ่ะ ลุ๊งลุง ดูออกว่าแก่ไม่มีมีสีสันเลย” บ่นงุบบ่นงิบไปมา หน้างอเพราะแค่ไม่มีซอสให้ปลาหมึกตัวเอง
“บ่นเยอะจริง อยากปากแตกเพิ่มหรอ”
“โหดอ่ะ”
“กินเข้าไป จะได้กินยา แล้วเดี๋ยวฉันจะได้พาไปส่งบ้าน”
“...” ปากที่ยิ้มกวนหุบลงทันที เนก้มหน้าลงมองปลาหมึกแล้วจิ้มกินเงียบๆ เสียงจ้อเล็กๆ เงียบลงทันทีเหมือนมีใครไปกดปิดเสียง เหลือทิ้งไว้แต่เสียงจิ้มไส้กรอกปลาหมึก

ดี
เงียบสงบเหมือนทุกเช้าปกติของผม

ก็ดีแล้ว

เงียบแบบนี้แหละดีแล้ว

ดีแล้วแหละ


“ทำไมเงียบ”

ดีที่ไหนหละ!!!
อึดอัดจะตายอยู่แล้ว แล้วแค่เด็กมันเงียบไปสิบวิทำไมผมต้องร้อนใจทำอะไรไม่ถูกด้วยวะ

“ก็... ยังไม่อยากกลับบ้านเลย”
“...”
“แผลผมยังไม่หายเลยนะ”
“...” ที่งี้มาเงยหน้ามอง หยุดทำตาแป๋วเดี๋ยวนี้นะ
“หนึ่งเดือน” นิ้วชี้ป้อมๆ ยกขึ้นมาพร้อมกับทำหน้าจริงจัง
“หนึ่งเดือนอะไร พอเลย ฉันได้โดนแนนแจ้งข้อหาลักพาตัวพอดี” ดีไม่ดีพ่วงข้อหาอื่นมาอีกจะซวยกว่าเดิม
“นะลุงนะ เนี่ย เดี๋ยวเนทำความสะอาดให้ทุกวัน ล้างจ้าน ทอดไส้กรอกปลาหมึกให้ทุกเช้า แล้ว แล้ว...”
“เน”
“ซักผ้าก็ได้!!! เนซักผ้าให้เลย!!!”
“เน”
“ทำไรอีกดีอ่ะ นวดไหล่ไหมลุง หรือให้เนเหยียบหลัง ถอนผมหงอกก็ได้นะ”
“ไอ้เน”
“... ครับ”
“ทำไมถึงไม่อยากกลับบ้านนัก”

ผมพอจะรู้จักแนนบ้างจากการที่มานอนเล่นที่บ้านกับสีน้ำบ่อยแต่ก็ไม่เคยคุยเรื่องที่บ้านนักและผมก็ไม่ได้สนใจขนาดจะถามสีน้ำ แต่ทุกครั้งที่เจอแนนเองก็ดูเป็นเด็กปกติที่ถูกเลี้ยงมาอย่างดี ทั้งเรื่องเรียนคำพูดคำจามารยาทรวมไปถึงนิสัยไม่มีพิษมีภัยดูได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างอบอุ่น แต่ตั้งแต่ได้เจอไอ้เด็กเนมาไม่กี่ครั้ง ทุกครั้งผมสัมผัสได้ถึงแต่ความเด็กมีปัญหา จนเหมือนไม่ได้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน

ไม่รู้ว่าบ้านมีปัญหาหรือเจ้าตัวนั่นแหละที่มีปัญหาเอง

“เน...”
“...”
“ลุงไม่เข้าใจหรอก”
“...”
“สุดท้ายปัญหาของเนก็คือปัญหาแบบเด็กๆ ลุงไม่เข้าใจหรอก” เนกัดปากบนตัวเองแล้วก้มหน้าจิ้มไส้กรอกปลาหมึกไปมา
“เธอเป็นฉันรึไงถึงมาคิดแทนว่าฉันจะไม่เข้าใจ เห็นหน้าแบบนี้แต่ฉันเคยอายุสิบแปดนะ”
“พี่สีน้ำเรียนเก่ง ลุงก็เรียนเก่ง”
“...”
“เพราะงั้นลุงไม่เข้าใจหรอก”
“อืม ก็คงงั้น”
“...”

แล้วพอผมตอบไป ไอ้ปากที่กัดอยู่ก็เบะออกเบาๆ
อะไรวะพอตอบไม่เข้าใจให้ตามที่บอกก็เบะปาก เด็กนี่มันเข้าใจยากแบบนี้ทุกคนรึเปล่าวะ

“แต่...”
“...”
“สีน้ำวาดรูปเก่งมากเลยนะ ส่วนฉันวาดหมาคนยังบอกว่าวาดปลาโลมาเลย”
“...”
“มันคงมีสักอย่างแหละ ที่เธอทำได้ดีนอกเหนือจากเรียน”

ผมก้มหน้ากินไส้กรอกต่อเหมือนไม่ได้เจาะจงพูดอะไร เนนิ่งไปพักใหญ่ก่อนที่จะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองผม

“ไม่มีหรอก” ปากเล็กขยับเถียง
“มีสิ”
“เอ๊า ก็ผมบอกไม่มี”
“อย่างน้อยก็ทำไส้กรอกปลาหมึกเก่งนี่ไง” ผมจิ้มไส้กรอกปลาหมึกขึ้นชู
“แต่ แต่ แค่ไส้กรอกปลาหมึกใครก็ทำได้ป่ะลุง แค่ไส้กรอกปลาหมึก”
“ฉันทำไม่ได้”
“...”
“หนึ่งเดือนใช่ไหม”
“...เอ๊ะ”
“นอนโซฟา ล้างจานแล้วต้องตื่นมาทำอาหารเช้า เข้าใจไหม”
“เอ๊ะ... ลุง ลุงงงงงงงง ให้เนอยู่ต่อหรอออออ เย้” เนทุบโต๊ะด้วยความดีใจ ยิ้มจนตากลายเป็นสระอิ อะไรวะ ไอ้หน้าเศร้าเหมือนหมาอดอาหารเม็ดเมื่อกี้เป็นแค่การแสดงหรอ
“ไม่ต้องรีบดีใจ ฉันอนุญาตไม่ได้หมายความว่าบ้านเธอให้”
“กำ เศร้าเลย” มันหดหน้ากลับไปจิ้มปลาหมึกต่อ “... แต่แค่ลุงให้ก็ดีใจแล้ว ถ้าขอไม่ได้เดี๋ยวเนค่อยหนีออกจากบ้านมา”
“เดี๋ยว” ผมรีบห้ามทันทีทันใด “หยุดคิดเรื่องหนีเลย ฉันไม่อยากมีเรื่องกับบ้านเธอข้อหาลักพาตัวลูกชายนะ”
“ถ้าลุงไม่อยากมีเรื่องก็ขอให้ได้ดิ ไม่งั้นผมจะมานั่งหน้าคอนโดลุงทุกวันให้ชาวบ้านลือเลยว่าลุงแอบมีลูกแล้ว”

เห้ย เดี๋ยว
ทำไมมันกลายเป็นผมตกเป็นเหยื่อไปได้วะ
ไอ้หน้าดื้อก็ไม่ได้เกรงกลัว มันเคี้ยวไส้กรอกปลาหมึกตุ้ยๆ จนแก้มพองเป็นหนูแฮมเตอร์ มืออีกข้างก็เอื้อมไปหยิบแก้วน้ำส้มขึ้นกระดก

“นี่ขู่หรอ เด็กเวร”
“แง่งงงงงง ฟ่อออออออออ” เด็กเนแยกเขี้ยวขู่ผมเหมือนหมาก่อนจะหัวเราะเอิ๊กอ๊าก เปลี่ยนอารมณ์ในทุกๆ นาที ผมถอนหายใจยาวเหยียด
“แต่ยังไงก็ต้องกลับไปเอาของที่บ้านอยู่ดี”
“เดี๋ยวเนให้แฟนพี่แนนเอามาให้วันจันทร์”
“ไม่คิดจะกลับบ้านไปหยิบเองหรือไง”
“ไม่อ่ะ เนไม่ได้มีของอะไรเยอะอยู่แล้ว ชุดนักเรียนเดี๋ยวซักเอาก็ได้” ดูไม่อยากกลับบ้านเอาเสียเหลือเกิน เนจิ้มไส้กรอกปลาหมึกชิ้นสุดท้ายเข้าปากก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป ปล่อยให้ผมนั่งเคว้งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวคนเดียว


อย่าว่าแต่ล้างจาน
จานยังไม่เก็บเลยไอ้เด็กเวร


ผมเกาหัวแกร่กๆ ให้กับความอะไรวะสำหรับเช้าวันนี้ รีบจิ้มไส้กรอกปลาหมึกชิ้นสุดท้ายเข้าปาก รวบจานของตัวเองและของเนไปล้าง ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องนั่งเล่นเพื่อทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาพร้อมกับคว้ามือถือที่เสียบชาร์จทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืนขึ้นมาถือ 


ผมทำบ้าอะไรอยู่วะเนี่ย....


[ฮัลโหลค่ะพี่ไม้]
“อ่า แนน”
[พี่ไม้จะมาส่งเนวันนี้ใช่ไหมอ่ะ จำทางมาบ้านแนนได้ไหม พี่มาส่งสีน้ำบ่อย]
“จำได้สิ ลาดพร้าวใช่ไหม รถติดทุกครั้งเลย” ผมหัวเราะ ก่อนจะเหลือบตาดูที่ประตูห้องนอนที่ตอนนี้ถูกแง้มเล็กน้อย หัวทุยเล็กๆ โผล่เอาหูมาแอบฟัง
[ถ้ามาไม่ถูกให้แนนส่งโลไปก็ได้นะคะ]
“จริงๆ อาจจะแปลกหน่อยนะ แต่พี่จะโทรมาถามว่าถ้าให้เนอยู่กับพี่สักหนึ่งเดือน... ได้ไหม”

ผมนวดขมับตัวเองกับการใช้คำถามที่ดูแปลก ถามคำถามทางธุรกิจที่ยากกว่านี้มาตั้งเยอะยังไม่ต้องเรียบเรียงคำพูดขนาดนี้เลย แนนเงียบไปพักใหญ่นั่นยิ่งทำให้ผมใจเสีย

[ห๊ะ... พี่ไม้พูดว่าอะไรนะ จะให้เนไปอยู่ด้วยหนึ่งเดือน]
“ใช่ ประมาณนั้นแหละ”
[ไม่ได้หรอกค่ะ] เสียงแนนตะโกนออกมาลั่น ขนาดที่ผมไม่ได้เปิดลำโพงยังได้ยินออกมา ผมเหลือบตามองที่ประตูห้องนอน เจ้าของหน้าดื้อเบะปากก่อนจะปิดประตูห้องไปเหมือนรู้คำตอบอยู่แล้ว
“เอ่อ..”
[พี่ไม้ไม่รู้หรอกว่าเนมันเด็กแค่ไหน ตัววุ่นวายของบ้าน อาทิตย์ก่อนเพิ่งเอาเครื่องสำอางแนนไปแต่งให้หมาข้างบ้าน แถมทำอะไรไม่เป็นสักอย่างยกเว้นสร้างปัญหานี่ไม่รวมโดดเรียน ไม่ส่งงาน สอบตก ติดร. พอดุก็ยิ่งไม่ฟัง เผลอๆ ไปสร้างความวุ่นวายให้พี่อีก นี่แนนกับแม่ปวดหัวกับเนมากแล้วพี่ไม้จะไหวได้ยังไง ไม่ได้หรอกค่ะ ตั้งหนึ่งเดือน แนนเกรงใจด้วยค่ะพี่]  วีรกรรมเยอะเชียว ก็ไม่ผิดคาดนักหรอก
“คือ... พี่ไม่รู้ปัญหาอะไรหรอกนะ แต่เมื่อวานลองติววิชาอังกฤษให้เนก็ดูหัวไวดี” ผมแอบกรอกตาขึ้นบนเพดาน ติวอังกฤษบ้าอะไร มัวแต่ปวดหัวกับการพาไปทำแผล ข้ออ้างห่วยแตกสุดๆ ผู้ใหญ่รุ่นผมจะขอให้เด็กมัธยมอยู่เพื่อติวหนังสือ โคตรจะไม่สมเหตุสมผลแต่ผมก็พูดออกไปแล้ว
[เนเนี่ยนะคะ? ] เสียงแนนดูแปลกใจมาก
“อีกอย่าง...”
[...?]
“เนไม่ได้ดื้อกับพี่ขนาดที่แนนพูดเลยนะ”

และผมพูดตามความจริงที่ผมเจอ
จริงอยู่ที่เนมักแสดงความดื้อผ่านหน้ากับปากเชิดๆ แต่พอเวลาดุเข้าให้หน่อยก็หงอ และดูเป็นเด็กขี้น้อยใจถ้าไม่อธิบายก็จะไม่ฟัง ว่าไงดีมันดื้อแต่มันไม่ได้แสบไปในทางอันตราย แต่ความหัวอ่อนของมันต่างหากที่อันตราย

แนนเงียบไปสักพักใหญ่จนผมต้องฮัลโหลเรียกเพื่อยืนยันว่าอีกฝ่ายไม่ได้สายหลุดไปแล้ว

[....นั่นสินะคะ]
“หืม?”
[เด็กผู้ชายเนี่ย ให้ผู้ชายสอนคงเข้าใจได้มากกว่าผู้หญิงจริงๆ แหละ] แนนพึมพำกับตัวเองเสียงแผ่ว
“...”
[งั้น... ฝากด้วยแล้วกันนะคะ ถ้าเกินรับมือเมื่อไหร่ส่งคืนได้ตลอดเลย]
“อ่า งั้นส่งโลทิ้งไว้หน่อยแล้วกัน” ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ
[ว้า นี่สงสัยจะได้คืนไวกว่ากำหนด] แนนเองก็หัวเราะกลับมา ผมคุยแก้เก้อต่ออยู่สองสามประโยคแนนก็ขอตัววางสายไปก่อนเพื่อจะได้ไปจัดกระเป๋าให้น้องชายตัวแสบ

ไม่ยากอย่างที่คิด

ผมเดินไปเคาะประตูห้องนอนตัวเอง รูปประโยคแปลกๆ ไหมนะ เดินไปเคาะประตูห้องนอนตัวเอง ทั้งๆ ที่เป็นห้องนอนตัวเองแท้ๆ แต่ต้องมาเคาะก่อน ผมหมุนลูกบิดเปิดเข้าไปเผื่อพบกับกองผ้าห่มสีขาวขนาดใหญ่ที่มีกลุ่มผมสีดำโผลมาเล็กน้อยพอให้รู้ว่ามามนุษย์ซ่อนตัวอยู่ในนั้น

“เน”
“...”
“ไม่ต้องแกล้งหลับ” พอผมรู้ทัน หน้าดื้อก็มุดออกมาจากโปง
“พี่แนนว่าไงอ่ะ”
“ไม่ใช่ว่ารู้อยู่แล้วหรอถึงได้ปิดประตูห้องหนี”
“...”
“แอบฟัง ฉันเห็น”
“มั่ว ลุงไม่มีหลักฐาน” เถียงเก่งที่หนึ่งจริงๆ 
“ลุกไปอาบน้ำแต่งตัว”
“...” ยังนิ่งอีก นี่คือต่อต้านอยู่หรอ
“เน”
“... ลุงใจร้ายอ่ะ”
“ฉันใจร้ายหรอ” ผมยกคิ้วขึ้น
“ลุงน่าจะตื๊อพี่แนนหน่อย อ้อนนิดหน่อยพี่แนนอาจจะยอมก็ได้” ก้อนดื้อเบะปากหงึ
“ผู้ชายอายุสามสิบกว่าอ้อนไม่ได้ดูน่ารักหรอก” แค่คิดตัวเองเบะปากหงึเหมือนเด็กตรงหน้าก็อยากถีบตัวเองตกตึกแล้ว
“ฮือ ลุงอ่ะ”
“...”
“คอยดู เนจะปล่อยข่าวว่าลุงมีลูกแล้ว!!! เนเอง!!!”

เออ ดี ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนกำลังอยู่กับเด็กอายุเท่าลูกมากขึ้นไปอีก
เนโวยวายลั่นห้องพร้อมกับพึมพำคำนวณอายุว่าผมควรทำผู้หญิงท้องตอนอายุเท่าไหร่ถึงมีลูกอายุเท่าตัวเอง ยกนิ้วขึ้นมานับอยู่สองสามที ก่อนจะเริ่มงง เพราะไม่แน่ใจว่าผมอายุเท่าไหร่ สามสิบต้นหรือสามสิบปลาย แต่เอาเป็นว่าเราจะไม่เอาเรื่องอายุมาเป็นประเด็น

“เน ลุกไปแต่งตัว”
“ไม่ไป!!!  เนจะเกาะติดกับเตียงลุงเป็นจิ้งจกเลย!!!”
“เน”
“ไม่ไป ไม่ไป ไม่ไปปปปปปปปป”
“ลุกไปแต่งตัว จะได้ไปซื้อซอสมะเขือเทศที่ห้าง”
“ไม่ปะ... ห๊ะ”
“อยากกินไส้กรอกปลาหมึกจิ้มซอสนักไม่ใช่หรอ วันต่อไปจะได้ไม่ต้องมาบ่นว่าฉันเหมือนลุงจืดชืด” เนประเมิณผลในหัวอยู่เกือบนาที พอประมวณผลเสร็จไอ้ตาแป๋วนั่นก็เบิกโพลง
“พี่แนนให้หรอ!!!!!”
“ลุงไปแต่งตัวภายในสิบห้านาที ไม่งั้นปลายทางจากห้างจะเป็นบ้านแทน” พอผมพูดจบไอ้ก้อนดื้อก็รีบลุกขึ้นยืนพรวดพราดก่อนจะสะดุดชายผ้าล้มปุ้กลงไปกับเตียง เนงัดหน้าขึ้นโวยวายเสียงหลงด้วยความกลัวไม่ทันสิบห้านาที แขนเล็กรีบๆ ดึงผ้าห่มออกจากขาแล้ววิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำไป

ผมมองแผ่นหลังเล็กที่หายเข้าประตูห้องน้ำไปก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว เสื้อยืดตัวเองกับกางเกงนักเรียนชายที่ซักแล้วไปยืนถือรอหน้าห้องน้ำ ตาก็เหลือบมองนาฬิกาข้างเตียง ผ่านไปแค่สามนาที เสียงโวยวายที่ผมคาดการณ์ไว้ก็ดังขึ้น



“ลุงงงง เนลืมผ้าเช็ดตัวววววว”



ที่บอกว่ามีลูกเพิ่มมาเนี่ย
ก็ไม่ได้หนีไปจากความจริงสักเท่าไหร่เลย


“อาบใหม่เดี๋ยวนี้เน เพิ่งผ่านไปสามนาที ให้อาบ ไม่ใช่แค่เดินผ่านน้ำ”




.. つづく
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-06-2019 19:49:30 โดย Oiimaps »

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ลุงโดนเด็กตก คุกๆๆๆๆนะลุง

ออฟไลน์ junlifelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮือออ ตลก นี่คิดว่าน้องคงน้อยใจที่บ้านอะ แต่น้องดูเด็กจริงๆ เด็กแบบเด็กมากกกก คุณลุงไหนๆก็ดูแลแล้วก็ช่วยสอนน้องให้โตขึ้นๆ ด้วยนะคะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
ลุง ถ้าเน อาบน้ำไม่สะอาด ลุงต้องอาบน้ำให้นะ
 :katai2-1:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
แผนน้องเน ล้ำหน้ากว่าลุงเยอะ

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ลุงได้ลูกไปเลี้ยงชัดๆ5555555

เจ้าตัวดิ้อรุกคืบลุงเนียนๆ เด้กมันร้ายยย  :z1:

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไอ้เจ้าเด็กกกกกกทำไมน่ารักจังฮะน้องเน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ anonymous

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แอบน่าสงสารลุงจังเลยค่ะ หัวใจจะรับมือกับเน ไหวไม๊เนี่ย ... :-[ :-[

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2

ตอนที่ 8
 
 
 
 
     ห้องทำงานของผมเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มีผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกบานใหญ่ไว้มองวิวทิวทัศน์ พ่อผมเคยบอกว่ามันแก้เครียดได้ดี ถึงบางช่วงของวันจะต้องปิดม่านหนีแดดก็ตาม การตกแต่งของห้องเรียบง่ายมีเพียงสิ่งที่จำเป็นต่อการทำงาน
 
และบางครั้งก็มีบ้างที่จะมีของไม่จำเป็น
 
อย่างเช่น...
 
“ไอ้กันหลานกูเนี่ยนะ”

มนุษย์ที่ชื่อไอ้เก่งเป็นต้น
 
“ใช่” ไอ้เก่งมองหน้าผมด้วยความงงสุดชีวิต
“มึงจะอยากเจอหลานกูไปเพื่ออะไรวะ”
“...”
 “ไอ้สัด ไอ้ไม้ อย่าบอกนะว่ามึง...”
“...”
“มึงจะ...”
“...”
“มึงจะให้ทุนหลานกูด้วยความรักและเอ็นดูหลังจากที่มึงประทับใจที่มีกูเป็นเพื่อน!!!“
“ก็คิดอยู่ว่ามึงจะต้องพูดอะไรแปลกๆ แต่ไม่คิดว่าจะยาวขนาดนี้” ผมมองหน้าของไอ้เก่งที่เลิ่กลั่กไปมา “... แต่เอาเป็นว่าไม่ใช่”
“ไม่ใช่ที่จะให้ทุนหลานกูด้วยความรักและเอ็นดูหลังจากที่มึงประทับใจที่มีกูเป็นเพื่อน?”
“ไม่ใช่เรื่องของมึง”
“กี๊ด มึงตบมุก”
“...” บุญแค่ไหนไม่ตบมึงด้วย
ผมไม่ได้พูดอะไรออกไป เพียงแต่ด่ามันทางสายตาแทน ไอ้เก่งปรบไม้ปรบมือยินดีกับตัวเองอยู่สองสามวิถึงค่อยหันกลับมาเข้าประเด็น

“แต่เดี๋ยว เรื่องใช้ห้องน้ำมึงนี่จริงจังขนาดจะเรียกมาด่าเลยหรอวะ ปล่อยหลานกูไปเถ้อ” จริงๆ ไอ้ประเด็นห้องน้ำนั่นแทบไม่อยู่ในสมองผมเลยด้วยซ้ำ แต่พอมันพูดขึ้นมาถึงค่อยนึกได้ว่ามันก็ดูเป็นข้ออ้างที่เป็นเหตุเป็นผลดีเหมือนกัน
“เพราะมึงสปอยล์หลานมึงแบบนี้ไง ถึงได้เกเร”
“ถึงร้ายก็หลานนะเกเรยังไงก็หลานนะ”
“...”
“โจอี้บอยร้องไห้แล้วนะไม้”
“...”
“สัด ใจร้าย แค่มุกก็ตบให้ไม่ได้ เออๆ เดี๋ยวเลิกเรียนกูจะลากมันมาให้ เลิกนั่งหน้าบูดได้แล้ว ช่วงนี้เห็นมีแต่คนซุบซิบกันว่ามึงดูอารมณ์ดี เสือกดีกับคนอื่นแต่ร้ายกับกูหรอ กูเพื่อนนะ!!! “
“กูอารมณ์ดีหรอ” ผมขมวดคิ้วให้กับข่าวใหม่ที่ไม่เคยได้ยิน
 
            เก่งเป็นบุคคลที่ตรงข้ามกับผมมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย มันเป็นคนเข้าสังคมเก่งแทบจะมีเพื่อนอยู่ในทุกคณะ ต่างจากผมที่จะเฮฮาตามอารมณ์ เข้าสังคมได้บ้างแต่ก็ไม่ได้สนิทไปทั่ว ยิ่งพอเข้าวัยทำงานสังคมที่ไม่ได้เกี่ยวกับธุรกิจยิ่งแคบจนแทบจะไม่มี ต่างจากไอ้เก่งที่ยังล้อกับแม่บ้านเล่นได้เหมือนเป็นญาติสนิท และด้วยความสนิทไปทั่วของมันนั่นแหละ มันจึงเป็นแหล่วข่าวที่ดีมากๆ สำหรับผม ใครนินทาอะไรเข้าหูผมหมดแม้จะไม่ได้อยากฟังก็ตาม

“เออสิ แม่บ้านห้องน้ำชั้นสามบอกว่ามึงผิวปากลงไปซื้อกาแฟ อารมณ์ดีเหมือนมีเมีย”
“หรือกาแฟแค่อร่อย”
“หรือมีเมีย”
“หรือแค่กูอารมณ์ดี”
“หรือมึงมีเมียยยยยย”
“...” ผมยกมือขึ้นนวดขมับ
 
 
ถ้ามันรู้อายุคนที่มันกล่าวหาว่าเป็นเมียผมเท่าหลานมัน
มันคงไม่ยืนทำหน้าจิ้กจอกเจ้าเล่ห์แบบนี้ใส่ผมแน่ๆ 
 
“หูย มึงร้ายว่ะสัด มีสาวไม่บอกกู” ไอ้เก่งกระแทกตัวลงกับเก้าอี้ ยกนิ้วขึ้นชี้หน้าผม
“กูไม่ได้มีสาว”
“แหนะะะะ หรือมึงเก็บเด็กเลี้ยงไว้ ได้วัยมึงเลย เสี่ยเลี้ยงเด็กเนี่ย”
“...”

นิ่งไว้ก่อน เสือกถูก เดาเก่ง แต่เสี่ยเลี้ยงเด็กอะไรวะ ไม่ได้เลี้ยง เขาเรียกให้ที่พักอาศัย เกิดอยากจะทวงความยุติธรรมให้เสี่ยทั่วโลกขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“อ้าวเงียบว่ะสัด มึงซุกเด็กจริงหรอไอ้ไม้”
“...”
“ออ มอ กอ”
“...”
“หระ หระ หรือที่มึงเรียกหลานกูมาก็เพราะว่า!!!!”
“...”
“มึงจะให้ทุนหลานกูด้วยความรักและเอ็นดูหลังจากที่มึงประทับใจที่มีกูเป็นพะ-”
“หมดหน้าที่มึงแล้ว ออกไปแล้วอย่าลืมตามหลานมึงมาหลังเลิกเรียนด้วย” ผมถอนหายใจแล้วเอนตัวลงกับเก้าอี้ ไอ้เก่งส่งเสียงล้อผมอยู่สองสามประโยคก่อนจะยอมถอยทัพออกจากห้องไป
 
ป่านนี้ไอ้เด็กดื้อจะทำอะไรอยู่ในโรงเรียนนะ
 
นับจากวันที่เนมาอยู่ห้องนี่เพิ่งผ่านไปได้แค่สองวันและแน่นอนกว่าการเรียกตัวหลานไอ้เก่งมาเพราะผมจำเป็นที่จะต้องรู้ข้อมูลบางอย่าง
 
 
ข้อมูลที่ยังไม่ถึงเวลาที่จะถามเนในตอนนี้
 

แต่มันก็สำคัญมากพอที่ผมควรจะรู้ก่อนที่จะใช้ชีวิตร่วมกับเนไปอีกหนึ่งเดือน
 
 
.
.
.
.
 
 
 
 
 
 “คุณลุงงงงงง ผมขอโทษจริงๆ นะครับบบ คือไม่ได้ตั้งใจจะแอบเข้าไปใช้ห้องน้ำของลุงเลยครับ” ผมกระพริบตามองเด็กมัธยมปลายตรงหน้าด้วยสายตาแบบเดียวกับที่มองอาของมัน
 
อืม...
ความกวนตีนมันถ่ายทอดทางพันธุกรรมรึเปล่าวะ
 
“ใครลุงของนาย”
“ครับ? ลุงของผม อ๋อ ลุงแท้หรอๆ หรอครับ”
“...”
“ลุงผมชื่อลุงกร แต่ลุงกรทำงานอยู่ชลบุรีกับป้าดามีลูกชื่อองุ่นมั้ง ไม่แน่ใจอ่ะ ผมไม่ค่อยสนิทกับลุงเท่าไหร่หรอก เจอกันครั้งสุดท้ายงานบวชแฟนน้ากิ่ง”
“...” มาเป็นผังครอบครัวตะกูลแบล็กในแฮร์รี่ พูดจาเหมือนผมเป็นคนในครอบครัวถึงจะเข้าใจเนื้อเรื่องไปกับมัน
 
ไม่รู้ตั้งใจกวนตีนไหม
แต่เอาเป็นว่าวันนี้ผมอยากจะเตะคนครั้งที่สองของวัน

ครั้งแรกคนที่เป็นอา ครั้งสองคนที่เป็นหลาน ปวดหัว
 
“แต่ถามถึงลุงกรทำไมอ่ะ”
“ฉันหมายถึงใครเป็นลุงของนาย เรียกฉันอายุเท่าอานาย”
“อ้าว ก็ไอ้เนบอก...”
“เกี่ยวอะไรกับเน” ผมขมวดคิ้วจ้องหน้าเด็กตรงหน้า
“ฮือออ อย่าจ้องผมงั้น กลัวแล้วคร้าบ อาไม้ก็อาไม้” เด็กตรงหน้ายกมือขึ้นพนมพรางส่งเสียงฮือ ผมยกมือขึ้นลูบหน้าลูบตาเรียกสติก่อนจะกลับเข้าประเด็น
“เอาหละ วันนี้ฉันเรียกมาเตือนก็จริง แต่ก็มีคำถามด้วย”
“เอ๋?”
“สนิทกับเนมานานหรือยัง”
“ไอ้เน? อ๋อ ก็นานแล้วนะครับ ตั้งแต่ม.1 ก็หกปีแล้วนะ นานแหละ“
“เล่าอะไรเกี่ยวกับเนที่นายรู้ให้ฉันฟังหน่อย”
“ทำไมผมต้องเล่าเรื่องเพื่อนผมให้ลุงฟังด้วยอ่ะ”
“เอาเป็นฉันไล่ไอ้เก่งออกแทนเล่าเรื่องก็ได้นะ ง่ายกว่าเยอะ” ผมยกยิ้มเป็นมิตรแต่เด็กตรงหน้าถึงกับกรี๊ดในคอพร้อมกับหดขาขึ้นกอด
“ละ เล่าแล้วครับ คือ เอ่อ เริ่มไงอ่ะ มันเป็นผู้ชายที่น่ารักอ่ะ ในโรงเรียนมันนี่ฮอตมากเลย แต่ประเด็นคือโรงเรียนผมมันชายล้วนไง มันชอบโดนพวกรุ่นพี่ไม่ก็รุ่นเพื่อนแกล้ง เอ่อ แกล้งแบบไม่ใช่แกล้งแบบผู้ชายอ่ะ ผมพูดไม่ถูก แกล้งแบบบีบก้นพยายามจับนมเงี้ย ด้วยความที่มันไม่ใช่พวกโดนบีบแล้วหันไปต่อยอ่ะ มันโวยวายก็เลยยิ่งน่าแกล้ง พวกผมก็ช่วยกันได้ส่วนหนึ่งนะแต่มันก็ช่วยไม่ได้ตลอดอ่ะ”
“...”

เรื่องลวนลามที่เนเคยระบายออกมาเมื่อตอนนั้นสินะ
พอจะรู้มาบ้าง ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ก็ไม่ใช่เรื่องดี

“แต่มันก็เป็นเด็กดีนะถ้าเทียบกับผม มันพยายามทำตัวไม่ดีแต่เวลาทำก็กลัวว่ามันไม่ดี ผมพูดงงไหมอ่ะ”
“ไม่งง พูดต่อ” ข้อนี้ก็พอจะรู้อยู่แล้วแม้จะรู้จักในเวลาสั้นๆ
“อ้อ แล้วก็เนมันมีปัญหากับที่บ้าน”
“...” พอถึงตรงนี้ผมก็ขมวดคิ้วเบาๆ
“ผมไม่ค่อยรู้รายละเอียดมากนะ มันก็ไม่ค่อยเล่าเรื่องที่บ้านมัน แต่ก็รู้มาบ้างว่ามันมีปัญหากับพ่อ” ถึงตรงนี้ผมก็สะดุดนิดหนึ่ง
 
ถ้าจำไม่ผิด
 
เนไม่เคยพูดถึงพ่อออกมาเลย ขนาดตอนผมไปปลุกก็ยังนึกถึงแม่ขึ้นมาก่อน สิ่งที่หลานไอ้เก่งเล่าทำให้ผมพาลไปนึกถึงบทสนทนาระหว่างกับแนนเมื่อวันก่อน
 


 
[....นั่นสินะคะ]
“หืม?”
[เด็กผู้ชายเนี่ย ให้ผู้ชายสอนคงเข้าใจได้มากกว่าผู้หญิงจริงๆ แหละ]
 





... ไม่คิดเลยว่ามันจะมีความหมายอะไรซ่อนอยู่ในคำพูดเบาๆ นั่น


 
“แล้วไงต่อ”
“แล้วก็... อ้อ ไอ้เนมันรักพี่สาวมันมากเลย โคตรเกรงโคตรกลัว จะขู่อะไรมันเอาพี่สาวมาขู่มันยอมหมดทุกอย่าง แต่อย่าว่างั้นงี้นะ เนมันรักพี่สาวมันมากแต่บางครั้งผมก็รู้สึกว่ามันเกลียดพี่สาวตัวเอง บอกไม่ถูกอ่ะ”
“...”
“แล้วก็-“
 
ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 
“ลุงงงงงงงงงงงงงง อย่าทำร้ายร่างกายเพื่อนเนนนนนนนนนนนน” ยังไม่ทันฟังหลานไอ้เก่งเล่าต่อ เสียงโวยวายก็ดังมาจากหน้าห้อง ก็ยังดีที่มีมารยาทเคาะห้องแต่ดันส่งเสียงโวยวายลั่นตึก ไอ้เด็กเวร
“... เน”
“ลุงงงงงงง เนเปิดเข้าไปได้ไหมอ่ะะะะะะะ” ผมกุมขมับ ตะโกนถามขนาดนี้ ไอ้เด็กบ้า
“ให้ผมเล่าต่อไหมอ่ะ หรือลุงจะถามมันเองเลย”
“แค่นี้พอแล้ว แล้วไม่ต้องบอกเนด้วยว่าฉันถาม”
“เคครับ”
“แล้วอีกอย่าง”
“...”
 
ผมตบโต๊ะตรงหน้าก่อนจะก้มหน้าลงจ้องตากับหลานไอ้เก่ง
 
“อย่าเรียกลุง”
 

สิ้นคำขู่ผมก็มีอีกเสียงดังแทรกขึ้น
 
“ลุงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”
 

ไม่ทันขาดคำ...
ไอ้เด็กเวรนี่...
 
“เน...”
“ลุงทำไรไอ้กันอ่ะ แค่ห้องน้ำไม่เห็นต้องหวงเลย ทีลุงปวดขี้แวะเข้าห้องน้ำปั๊มเจ้าของปั๊มก็ไม่เรียกไปด่าป่ะ” เออ เอาเข้าไป แล้วหลานไอ้เก่งจากที่นั่งหน้าซีดกลัวผมตอนนี้มันวิ่งไปหลบหลังไอ้เนแล้ว
“ฉันไม่ได้ทำอะไร”
“เชื่อได้ป่ะเนี่ย”
“เน” ผมเรียกสั้นๆ ปากยื่นๆ นั่นก็หุบลง
“เชื่อแล้วเชื่อแล้ว อย่ามองดุดิ” มีขยับปากบ่นงุบงิบในลำคอต่อก่อนจะหันหลังไปหาเพื่อน “แล้วมึงอ่ะกัน รีบออกมาไม่บอกกูเลยนะ ปล่อยกูยืนรออยู่หน้าโรงเรียนตั้งนาน”
“โถไอ้เวร สภาพกูดูเหมือนคนเต็มใจมาเรอะ”
“แล้วคุยไรกันอ่ะ ไม่ไปเปิดประตูให้กูด้วย”
“ถามลุง...” มันชี้นิ้วมาที่ผมแต่พอเห็นมองก็รีบหุบนิ้วกลับไปก่อนจะอ้อมแอ้มแก้คำพูด “กูหมายถึงถามอาไม้ของมึง นู่น”
“ลุง” เนหันหน้ามาถามผมผ่านสายตา
“เห้อ ไม่มีอะไร ฉันแค่เตือนเรื่องโดดเรียนเฉยๆ ใช่ไหมกัน” หลานไอ้เก่งมองหน้าผมก่อนจะรีบพยักหน้ารัวๆ
“จริงหรอ ทำไมเนรู้สึกมันมากกว่านั้น”
“นี่เรียบร้อยแล้วใช่ไหม เดี๋ยวจะได้ไปหาอะไรกิน” ผมเปลี่ยนเรื่องและก็ทำสำเร็จ เพราะแค่พูดถึงเรื่องอาหาร เนก็ย้ายระบบความคิดไปเป็นเรื่องเมนูอาหารแทนทันที ผมสบตากับกันเพียงไม่กี่วิ เจ้าตัวก็เป็นงานรีบไหว้ผมก่อนจะขอตัววิ่งออกไปทันที ส่วนเนที่ตอนแรกสงสัยนักหนาก็แค่หันไปบ้ายบายเพื่อนแล้วกลับมาเสนอเมนูกับผมต่อ
“เอ็มเคไหมอ่ะเอ็มเค อยากกินเป็ด”
“วันนี้มีการบ้านไหม”
“มีคณิตกับเคมี แต่หรือกินชาบูชิดีลุงว่า อยากกินอะไรต้มๆ อ่ะ”
“สอบสปีคกิ้งอังกฤษเป็นไง”
“อาจารย์บอกเวรี่กู้ด เนตกลงเอ็มเค เอ็มเคแล้วกันจบๆ “ คิดเอง ตกลงเอง จบเอง โคตรจะเน
 
ส่วนผมก็โคตรจะลุงแก่ๆ ที่เสือกยิ้มให้กับท่าทางเด๋อๆ ของเด็กตรงหน้า
... เหนื่อยใจกับตัวเองพอๆ กับเหนื่อยใจกับเนเลย ให้ตายเถอะ
 
ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการเก็บเอกสารและของที่จำเป็นเข้ากระเป๋า ส่วนเนที่นั่งแกว่งขาเล่นโทรศัพท์รอก็ดูจะพร้อมอยู่แล้ว จากที่ทำงานผมไปห้างชื่อดังแม้จะไม่ได้ไกลกันมากแต่ด้วยความเป็นเวลาเลิกงานก็ทำให้ต้องใช้เวลาบนถนนอยู่เกือบชั่วโมงบวกกับวนหาที่จอดรถอีก หน้าของเด็กแสบถึงยู่ยี่คิ้วแทบติดกัน
 
“กรุงเทพชีวิตดีๆ ที่ลงตัวมาก ลงตัวสุดๆ หิวจะตาย” เนบ่นพร้อมกับเดินนำผมเข้าห้าง
“เสื้อหลุดจากกางเกงหมดแล้ว”
“เลิกเรียนแล้วไม่เป็นไรหรอกกก”
“ใส่ดีๆ ” ยู่หน้าเป็นคำตอบแต่ก็ยอมยกมือจกชายเสื้อนักเรียนที่หลุดลุ่ยของตัวเองเข้ากางเกง ถึงจะสั่งให้อีกคนเก็บเสื้อดีๆ แต่ผมดันเป็นฝ่ายยกมือขึ้นปลดกระดุมเม็ดบนพร้อมกับพับแขนเสื้อเชิร์ตขึ้น
“เอ็มเคนะลุง”
“อืม เดินนำไปเลย”
 
เนฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเดินนำทางไปที่ร้าน พอไปถึงก็ยกมือขึ้นชูสองนิ้วว่ามาสองคน พนักงานสาวยิ้มต้อนรับก่อนจะพาเดินนำไปที่โต๊ะ ทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติจนกระทั่งเมื่อผมสอดตัวลงนั่งแล้วเงยหน้ามองเนที่นั่งฝั่งตรงข้าม
 
แขนเล็กนั่นค้นของในกระเป๋าก่อนจะเอาของในมือออกมากางพร้อมกับยกขึ้นสวม
 
เน...
 
ใส่หมวกคลุมอาบน้ำ....
 
“เน...”
“หือ?”
“ใส่หมวกทำไม” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ไอ้เด็กบ้าตรงหน้าผมใส่หมวกคลุมอาบน้ำรูปเป็ดเหลืองกลางเอ็มเค
“ก็เนเพิ่งสระผมเมื่อวาน เดี๋ยวหัวเหม็น พี่แนนทำทุกครั้งที่ไปกินปิ้งย่างเลย” ตอบหน้าตาเฉยพร้อมกับเปิดเมนูอ่านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมหันไปสบตากับพนักงานสาวที่ส่งยิ้มเบาๆ ตอบกลับมาเหมือนไม่แปลกใจ
 
ทำไมไม่แปลกใจ เด็กสมัยนี้ทำแบบนี้กันเยอะหรอ มันแปลกมากนะสำหรับผม
หัวเหม็นก็สระสิ โอเค ผู้หญิงยังเข้าใจเพราะผมยาว แต่เนเนี่ยผมทรงผู้ชายปกติไม่กี่นาทีก็แห้งแล้วยังต้องขี้เกียจสระอีกหรอวะ 
 
คำถามมีเป็นสิบในหัวแต่เลือกไม่ถามแล้วพยายามเข้าใจกับสิ่งที่เด็กตรงหน้าทำ
... มันคงจะเป็นช่องว่างระหว่างวัยที่ผมเข้าไม่ถึง
 
 
เนเป็นเด็กกินเก่งมากตามภาษาเด็กผู้ชาย แต่หุ่นก็ยังดูเก้งก้างจนไม่รู้ว่าสารอาหารมันละลายไปอยู่ที่ไหน แล้วดูท่าทางจะชอบกินเป็ดจริงๆ เพราะพอพนักงานมาเสิร์พตากลมก็เบิกกว้างร้องหูหาทันที
 
“ลุงเชื่อป่ะ เนชอบกินหนังเป็ดมาก” เนพูดพร้อมกับเคี้ยวเป็ดเต็มปาก
“อืมเชื่อ” มีเหตุผลอะไรต้องไม่เชื่อ ลอกหนังเข้าปากตัวเองเกือบทุกชิ้น
“แต่ปกติไปกินกับที่บ้าน แม่ชอบแกะหนังให้พี่แนน ทั้งที่เนก็ชอบกินอ่ะ พอแย่งพี่แนนก็โวยวาย เนก็โดนดุ เซ็ง” ปากบ่นไปก็เคี้ยวตุ้ยๆ ไป ดวงตากลมฉายแววน้อยใจเล็กน้อยแต่สักพักก็กลับมาสดใสกับของที่มาเสิร์พต่อ
“ตอนที่สีน้ำเกิดฉันเนี่ยหมาหัวเน่าเลย อยากกินอะไรก็ต้องให้น้องก่อน” ผมยิ้มให้กับอดีต หมาหัวเน่าขนาดที่สีน้ำทำฟิกเกอร์จูเร็นเจอร์ของสะสมลูกรักของผมหักแม่ก็ยังเข้าข้างน้องว่าน้องยังเด็ก ตอนนั้นหนะโกรธมากนะครับ เสียใจมาก แต่พอโตมานึกย้อนไปก็ตลกดี
“เนก็เป็นน้อง ทำไมเนไม่เห็นได้อะไรบ้าง”
“ได้สิ ได้หมูนุ่ม” ผมคีบหมูนุ่มที่เพิ่งลวกเสร็จใส่จานเด็กตรงหน้า เนยิ้มออกมาเบาๆ ก่อนจะคีบหมูเข้าปาก
“ลุงรักพี่สีน้ำไหมอ่ะ”
“รักสิ น้องสาวทั้งคนนะ เห็นงี้ฉันเป็นพี่ชายที่หวงน้องมากนะ”
“สมควรหวงอ่ะ พี่สีน้ำสวย”
 
ผมหัวเราะเบาๆ มักจะมีคนมาบอกเสมอว่าผมหวงน้องสาวเพราะสีน้ำเป็นคนสวย แต่จริงๆ แล้วไม่ว่าสีน้ำจะสวยหรือไม่สวยผมก็หวงหมดนั่นแหละ ก็ช่วยแม่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ใครจะมายุ่งก็ไม่ชอบทั้งนั้นแหละ
 
“ทำไมถามถึงครอบครัว คิดถึงบ้านขึ้นมาแล้วรึไง”
“เปล่านะ”
“อยู่เดือนนึงเดี๋ยวเธอก็คิดถึงเอง”
“ลุงออกมาอยู่คนเดียวก็คิดถึงครอบครัวหรอ” เนขมวดคิ้ว มือที่คีบเป็ดหยุดชะงัก ตากลมเงยขึ้นจากของกินมาจ้องหน้าผม
“คิดถึงสิ ถึงฉันจะดูอายุในสายตาเธอแต่ยังไงบ้านเป็นคอมฟอร์ตโซนสำหรับฉันอยู่ดี”
 
หลายคนเคยบอกผมว่าเรายิ่งอายุเยอะขึ้นเรายิ่งห่างกับครอบครัว ทั้งหมดนั่นใช้ไม่ได้สำหรับผม ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ถ้ามีเวลาว่าง วันหยุดเสาร์อาทิตย์ไม่ติดงานผมก็ขับรถกลับไปอยู่ที่บ้านแทนคอนโดเสมอ
ในวันที่เหนื่อยมาทั้งวันคงไม่มีอะไรดีไปกว่ากลับบ้านไปกินข้าวฝีมือแม่ ฟังพ่อเล่าเรื่องธุรกิจแม้จะเล่าซ้ำมาหลายสิบครั้งและคอยเป็นผู้ฟังที่ดีให้น้องสาวมาระบายเรื่องผู้ชายที่ฟังแล้วก็ได้แต่ปวดใจ จากน้องสาวใสๆ ในวันนั้นสู่สาวน้อยที่เปลี่ยนแฟนเก่งเป็นว่าเล่น... แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังหวงน้องอยู่ดี
 
“บ้านเป็นคอมฟอร์ตโซนสำหรับลุงหรอ”
“ใช่”
“บ้านก็เป็นคอมฟอร์ตโซนสำหรับเนนะ”
“...”
“แต่ถ้าหมายถึงครอบครัวอ่ะ ไม่ใช่”
“หมายความว่าไง” ผมขมวดคิ้วกับคำตอบของเด็กตรงหน้า
“ง่ะ ก็ห้องนอนเนอ่ะเป็นคอมฟอร์ตโซนของเน อยู่แล้วสบายใจมาก บางวันเนไม่อยากจะออกจากห้องนอนเลย”
“...”
“แต่ถ้าหมายถึงครอบครัวอ่ะ”
“...”
“พวกเขาไม่ได้รวมอยู่ในนั้น”
 

เนพูดปกติเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญอะไรมากนัก ผมนิ่งไปเล็กน้อยกับคำตอบ แต่ก็เลือกที่จะไม่ถามอะไรกลับไป เพียงแค่คีบหนังเป็ดที่เหลืออยู่ใส่จานของเด็กตรงหน้า
 


 
เหมือนเด็กมีปัญหาตรงหน้า


จะมีปัญหาที่ใหญ่กว่าที่ผมคิด...


.. つづく

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
เด็กมีปัญหา หา หา หา ห๊าาาา

เนี่ยทุกคนแกล้งกวนประสาทลุงงงงงงงงงงงงง

ลั่นขำ! จังหวะนรกของลุง55555555555555555555 ชอบบบบบบบบบบบบบ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-07-2019 23:24:28 โดย Ac118 »

ออฟไลน์ อิ๊อ๊ะชะเอิงเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เอาใจช่วยลุงให้ช่วยน้องเนให้ได้นะ

ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เป็นกำลังใจให้คุณลุงรับมือน้องเนไหวว เป็นกำลังใจให้คุณคนเขียนด้วยน้าาาา จะได้มีแรงฮึ้บมาอัพ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เลี้ยงเด็กเหนื่อยหน่อยนะลุง ท่าทางจะมีอีกหลายเรื่องเลย

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 490
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขำ ๆ แล้วตัดมาดราม่าเฉย :hao5: พี่สาวก็ดูรักเนนะ สาเหตุมาจากพ่อแม่แน่ ๆ

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
เหมือนชีวิตน้องเนจะมีปม งั้นได้แฟนอย่างลุงก็เหมาะสมแล้ว เป็นผู้ใหญ่ดูแลได้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ tipppppp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องเน หนูรูกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
ตอนที่ 9


 
 
กิจวัตรประจำวัน
หรือสิ่งที่เราทำทุกวันจนเคยชิน
 
 
ก่อนหน้านี้กิจวัตรประจำวันชีวิตผมค่อนข้างจะจำเจ แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนจนอยากจะเปลี่ยนมัน กลับกันผมดันแฮปปี้กับความจำเจเรียบง่ายจนไอ้เก่งล้อว่าใช้ชีวิตลุงมาตลอด
 
ผมแค่ชอบตื่นมากินข้าวเช้า จิบกาแฟนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ไปวิ่งออกกำลังกาย กลับมาเคลียร์งานเล็กน้อย หาอะไรง่ายๆ กิน ดูซีรี่ส์หรือหนังคลายเครียด รดน้ำต้นแคคตัสตรงระเบียง กินอาหารเย็น เคลียร์งานต่อเล็กน้อยแล้วก็เข้านอน
 

โอเค
ฟังดูน่าเบื่อจริงๆ แต่ผมรู้สึกโอเคกับมันมากนะ สงบดี

 
กิจวัตรประจำวันออกผมหมุนไปเรื่อยๆ มีเปลี่ยนบ้างหากเดือนไหนมีงานรัดตัวก็จะตัดกิจกรรมคลายเครียดอย่างดูหนังฟังเพลงออก ช่วงไหนที่ว่างหน่อยก็ ไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อนฝูงแต่ก็ไม่ได้จัดเต็มเมามายมากนัก เอาแค่พอให้สนุกหายเครียดไปช่วงเวลาหนึ่ง หรือมีบ้างที่จะออกไปเดทกับผู้หญิงวัยเดียวกันหรือในแวดวงเดียวกันแต่สุดท้ายมันก็เป็นเพียงเดทระยะสั้นๆ เพราะความน่าเบื่อของผม ซึ่งโดยรวมแล้วมันค่อนข้างจะเป็นเส้นตรง และเป็นเส้นตรงแบบนี้มาได้ตั้งแต่ผมอายุขึ้นเลขสาม

 
จะเรียกปลงก็แย่ไป เรียกว่าผมเริ่มปรับตัวกับวัยแล้วกัน

 
“ลุง ดูโคนันเป็นเพื่อนเนหน่อยดิ ตอนนี้แม่งโคตรหลอน” ผมเงยหน้าจากจอคอมพิวเตอร์เมื่อโดนเรียก เนอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งสีดำกับกางเกงนอนขาสามส่วน
 
ก้อนเน
หนึ่งในสิ่งที่เข้ามาป่วนกิจวัตรประจำวันของผม
 
“เสื้อ...” เหมือนนั่นจะเป็นเสื้อผม ไซซ์ขนาดนั้นไม่มีทางเป็นเสื้อเนแน่ๆ
“ลุงๆ เอางานมาทำห้องนั่งเล่นเถอะ”
“เดี๋ยวตามไป”
“เดี๋ยวพลอสรอ”
“อืม”
 
ถ้ากลัวแล้วดูทำไม...
แล้วโคนันที่เป็นการ์ตูนมันจะหลอนอะไรขนาดนั้น
 
ผมถอนหายใจ ยกมือขึ้นนวดขมับสองสามทีก่อนจะพับแมคบุ๊คลง ไม่ได้หยิบออกไปทำต่อ เพราะรู้ดีว่าการทำงานในพื้นที่ที่มีเนนั่งอยู่ใกล้ๆ มันไม่เคยจะได้งานเลยจริงๆ สักที เนนั่งขัดสมาธิอยู่หน้าทีวี จุกแอปเปิ้ลนั่นเด้งไปมาตามจังหวะส่ายหัว เห็นเหม่งแล้วอยากดีดให้โวยวายเลย
 

“ลุงนั่งๆ “ ตบเก้าอี้เหมือนเรียกหมา
“การบ้านทำแล้วหรอ”
“ทำแล้ว” ดี ถือว่าพัฒนาไปในทางที่ดี “เพื่อนเพิ่งส่งมาให้ลอก”
“...” เวร
“ลุงนั่งเร็ว”
“ไปหยิบการบ้านมา”
“...” เนหันมาทำหน้างง
“เร็ว” ถึงจะงงแต่ก็ยอมเดินเข้าห้องไปหยิบกระเป๋านักเรียนมาแต่โดยดี ไอ้หัวจุกหยิบสมุดการบ้านที่ปกเป็นชื่อโรงเรียนตัวเองออกมาให้ผมดู
 

... วิชาภาษาอังกฤษ
ผมเปิดดูผ่านๆ ตั้งแต่หน้าแรก ผมสังเกตมาหลายรอบแล้วว่าลายมือเนค่อนข้างจะน่ารักเหมือนผู้หญิง ว่าไงดี เป็นหัวๆ หยักๆ เหมือนถั่วงอก แล้ววาดรูปอะไรเล่นตามขอบสมุดเลอะเทอะเต็มไปหมด

 
“ง่ายขนาดนี้ยังต้องลอกอีกหรอ”
“เทนส์มันวุ่นวาย เนจำไม่ได้ แต่ยังไงก็ไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอังกฤษอยู่ดี อีกอย่างเพื่อนเนที่เทพอิ้งยังบอกเลยว่าคุยกับฝรั่ง ฝรั่งไม่สนแกรมม่าหรอก”
“จริงอยู่นะที่อยู่กับฝรั่งแกรมม่าไม่ต้องเป๊ะ แต่มันต้องใช้สอบและควรรู้ไว้บ้างติดหัว”
“โหย เนไม่ชอบภาษาอังกฤษ เนโง่ เนเจอฝรั่ง เนวิ่งเลยนะลุง วิ่งแบบนารูโตะเลย ส่วนไอ้กันวิ่งแบบพี่ตูน” อะไรคือวิ่งแบบนารูโตะ ผมใช้สมุดตีหัวเนเบาๆ
“เลิกคิดว่าตัวเองโง่”
“เอ้า เนโง่จริงๆ คอนเฟิร์มจากคนรอบตัวเลยนะ”
“แต่ฉันไม่คิด”
“...” 
“ไม่โง่แต่แค่ไม่เข้าใจ ตามมานี่” ผมเดินกลับเข้าห้องนอนตัวเองซึ่งเนก็เดินถือสมุดตัวเองเดินตามผมมาอย่างงงๆ  ผมเปิดคอมขึ้นเสิร์ชหาแบบฝึกภาษาอังกฤษแบบที่มีตัวอย่างออกมาสิบกว่าหน้า หยิบคลิปหนีบกระดานผมโต๊ะมาหนีบให้เรียบร้อยแล้วก็ส่งให้ไอ้ก้อนจุกแอปเปิ้ลที่นั่งหน้ามึนอยู่บนเตียง
 

“อะไรอ่ะ โฉนดที่ดินหรอ”
“แบบฝึก”
“โห่...” หน้าดูเซ็งขึ้นมาทันที
“ไปลองทำ มันมีตัวอย่างอธิบายก่อนแบบฝึกทุกข้อแต่ถ้างงก็ถามได้ ลองก่อนแล้วค่อยบอกว่าทำไม่ได้” หน้าดื้อเบะอย่างเบื่อหน่ายทันทีที่ผมพูดจบ “ไม่เบะด้วย” ผมดีดเหม่งใส่ไปหนึ่งป้าป
“ลุงงงงงงงงงง เนไม่อยากทำ ปล่อยเนโง่เถอะ”
“อยากไปเที่ยวไหนไหม”
“...”
“ถ้าทำเสร็จจะพาไปวันเสาร์หน้า” พอผมพูดจบ ก้อนเบะก็กลายร่างเป็นโมจิยิ้มแป้น
“จริงป่ะเนี่ย ไม่หลอกเนนะ”
“ไม่หลอก”
“ไปไหนก็ได้เลยหรอ”
“ไปเสาร์อาทิตย์ ที่ไหนก็ได้” เนคิดอยู่สักพักก็ยื่นมือออกมารับแบบฝึกหัดไปพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง   
“ลุงนั่งทำงานในห้องนะ เนจะได้ถามง่ายๆ” แล้วเจ้าตัวก็กลิ้งนอนราบกับเตียงเตรียมเริ่มทำแบบฝึก
“ไม่ๆ ลงมานั่งทำที่โต๊ะทำงานดีๆ ฉันทำบนเตียงเอง”
“ทำไมอ่ะ เนชอบนอนทำ”
“ถึงได้นอนน้ำลายยืดคาสมุดอยู่บนเตียงบ่อยๆ ไง ไปนั่งดีๆ ” ผมตบหัวเล็กเบาๆ ซึ่งเนก็บ่นงุบบ่นงิบแต่ก็ยอมลุกไปนั่งทำที่โต๊ะทำงาน เนชอบอ้างว่านอนทำการบ้านแล้วหัวแล่น แต่แท้จริงก็ฝันแล่น นอนปุ๊ปหลับปั๊ป เท้าไปทางหมอนส่วนหัวแทบตกเตียง เห็นสภาพแล้วผมก็ได้แต่ถอนหายใจ


ผมเปิดคอมนั่งทำงานต่อแต่ก็มักจะหลุดโฟกัสไปที่ก้อนจุกที่โต๊ะทำงานอยู่ตลอด แบบฝึกหัดง่ายๆ แต่ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงแล้วก็ยังเสร็จไม่ถึงครึ่ง เนทำท่าเหมือนจะยอมแพ้หันมาเบะปากใส่ผม พอผมเงยหน้าขึ้นมองก็หันกลับไปลองทำใหม่ ขยี้หัวตัวเองจนฟู หยิบมือถือมาเสิร์ชคำ เกือบจะถอดใจแต่ก็หันไปขีดนู่นขีดนี่ มีเสียงสบถหยาบคายมาสลับกับอ๋อเข้าใจแล้วดังมาเป็นพักๆ
 


จากสองทุ่มตอนนี้ก็เที่ยงคืนแล้ว...


 
นับว่าเป็นครั้งแรกที่เนไม่สติหลุดกลางคันแล้วหนีไปเล่นนู่นเล่นนี่แบบที่เป็นปกติเวลาทำการบ้าน ผมคิดว่าเนเป็นพวกสมาธิสั้น จดจ่อกับอะไรนานๆ ไม่ได้ค่อยได้ แต่สงสัยจะเพลินจดจ่อได้นานขนาดนี้ ถึงจะอยากทำต่อแต่ก็ดึกเกินไปจะให้ทำต่อ กลัวพรุ่งนี้ไม่ยอมตื่นด้วย ผมพับจอคอมตัวเองแล้วเดินเข้าไปแตะไหล่เล็ก
 

“เที่ยงคืนแล้ว”
“อีกห้าข้อเอง ขอเวลาเนหน่อย”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่ตื่นนะ”
“อืออ เดี๋ยวเนหลุด”
“โอเคๆ “ คิ้วเนขมวดแน่นเป็นปม ไม่ยอมหันมาคุย ผมแอบยิ้มเบาๆ แต่ก็รีบหุบก่อนรอยย่นข้างปากจะขึ้น ช่วงนี้เหมือนตีนกาก็เริ่มๆ จะเยอะขึ้นแล้ว เนหันไปโฟกัสกับแบบฝึกอยู่สักพักก็หันมายิ้มแฉ่ง
“เสร็จแล้วววววววววววววว สุดยอดดดดด เหมือนฉลาดขึ้นสองเปอร์เซ็น” ไม่กล้าถามเลยว่าจากกี่เปอร์เซ็นต์
“ค่อยตรวจพรุ่งนี้แล้วกัน”
“ได้ไง เนอุตส่าห์ตั้งใจทำ ตรวจเลยๆๆ”
“ตรวจพรุ่งนี้ก็คือพรุ่งนี้ เที่ยงคืนกว่าแล้ว ไปนอน”
“เห้ย จริงดิ เนอดดูโคนันเฉยเลยอ่ะ” เบะอีกรอบแต่ก็ฉีกยิ้มต่อ “แต่ไม่เป็นไร เพื่อฝรั่งเศส”
“อะไรฝรั่งเศส”
“ก็ลุงบอกจะพาไปเที่ยว”

 
โอ้โห...
คิ้วกระตุกเลย
 

“ไปได้แค่เสาร์อาทิตย์ แล้วเล่นยุโรปเลยนะ แผนสูงนัก” ดีดเหม่งไปเลยอีกรอบ เนหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเหมือนตั้งใจกวนประสาทผมอยู่แล้ว
“ล้อเล่นนน เนอยากไปทะเล”
“ตรวจเสร็จแล้วค่อยว่ากัน”
“เย้!!!... แต่ ตรวจเลยได้ไหมอ่ะ เนกลัวนอนไม่หลับเพราะลุ้นอ่ะ”
“ไปนอนไอ้ดื้อ” พอดุเข้าก็เบะปากหงึอีกรอบ แต่พอหลุดโฟกัสแล้วระลึกได้ว่าเลยเวลานอนมาสักพักแล้วเนก็เริ่มตาปรือขึ้นมาทันที มือเล็กยกขึ้นขยี้ตาไปมา
“อือ นอนก็ได้ ง่วงขึ้นมาเลย” ขาเล็กเดินงงๆ กลับห้อง ไม่ลืมหันมากำชับกับผมว่าอย่าลืมตรวจแบบฝึกให้เสร็จก่อนเลิกเรียนพรุ่งนี้ เสียงปิดประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากของผม
 
 
 
.
.
.
 
 

กิจวัตรในยามเช้าของผมเปลี่ยนไปตั้งแต่เนเข้ามาอยู่ จากที่ลุกขึ้นธุระส่วนตัว กินข้าวเช้าพอประมาณแล้วก็ออกจากห้องไปทำงานถูกเปลี่ยนเป็นตื่นก่อนเวลาเพื่อทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยแล้วค่อยเดินไปปลุกไอ้ก้อนขี้เซา ไม่ใช่ว่าเนไม่ตั้งนาฬิกาปลุกนะครับ มันตั้งในมือถือ แต่ก็กดเลื่อนทุกครั้ง
 

“เน หกโมงแล้ว”
“ขออีกห้านาที”
“เน เจ็ดโมงแล้ว”
“ขออีกห้านาที”
“เน แปดโมงแล้ว”
“ห๊ะ!!!”
 

เด้งดึ๋งจากที่นอนแล้ววิ่งหน้าตั้งเข้าห้องน้ำไปทันที ผมหัวเราะขำพลางมองนาฬิกาที่โชว์เวลาหกโมงครึ่ง ต้องบอกว่าสายแล้วถึงจะยอมลุกออกจากเตียง พอภารกิจปลุกตัวขี้เกียจเสร็จเรียบร้อยผมก็เดินมาปิ้งขนมปัง ชงกาแฟ ชงโอวัลติน ผ่านไปสิบนาทีก็ได้ยินเสียงปึ้กปั้งจากการปิดประตูห้องน้ำ เสียงวิ่งตึ้กตั้กกลับห้อง และห้านาทีต่อมาก็ปรากฏภาพเด็กนักเรียนชายที่ติดกระดุมผิดเม็ดและซิปไม่ได้รูด หัวทุยยังเปียกอยู่นิดๆ ส่วนหน้า
 
 
บู้บี้สุดๆ
 


“ลุงหลอกเน!!!“ โอ้... เสียงหงุดหงิดเชียว
“เปล่า ฉันดูเวลาผิด”
“ได้ไง!!! ดูยังไงจากเลขหกเป็นเลขแปด!!!ได้ไง!!!”
“มันคล้ายๆ กันนะ”
“หลอกเด็ก!!เดี๋ยวเนเขียนให้ดูเลยป่ะ เลขหกคล้ายเก้าแต่ไม่ใกล้แปด”
“ฟรอสตี้หรือโกโก้ครั้นช์”
“โกโก้ครั้นช์ เอ๊ะ ผสมดีกว่า” ลืมไปแล้วว่าเคยหงุดหงิด เนเดินมาเทซีเรียลใส่ถ้วยพร้อมกับหยิบไมโลร้อนไปจิบ เสียงก๊องแก๊งของช้อนกระทบถ้วยทำให้ผมอมยิ้มออกมา
“จริงสิ เดี๋ยวฉันจะเอาแบบฝึกไปตรวจที่บริษัท แล้วเดี๋ยวบอกคะแนนตอนเลิกเรียนนะ”
“เมื่อวานเนมั่นใจนะ ตอนนี้เริ่มไม่ค่อนแล้ว ขออ่านทำใหม่ได้ไหม”
“ไม่ได้”
“แง” ยู่หน้ายู่ตาพร้อมกับพยายามดีดโกโก้ครั้นช์ใส่ผม ปกติแล้วผมจะชอบดูข่าวในตอนเช้าแต่พอเนมาอยู่ที่ห้องข่าวยามเช้าก็กลายเป็นการ์ตูนเนทเวิร์ค เหมือนจะไร้สาระ แต่พอดูก็เพลินดีเหมือนกัน เวลาที่จะต้องออกจากห้องบางทีผมก็แอบอยากรู้เรื่องต่อ
 

ผมจอดรถที่บริษัทและปล่อยให้เนเดินไปโรงเรียนเอง ใบหน้าดื้อดูจะง่วงกว่าปกติ คงเป็นเพราะเมื่อวานนอนดึก แล้วผมเดาได้เลยว่าวันนี้ต้องมีเด็กแอบหลับในคาบแน่ๆ แต่เอาเถอะ ต่อให้นอนไม่ดึกก็แอบนอนในคาบอยู่ตลอด ผมเดินเข้าห้องทำงานพร้อมกับหยิบหนังสือที่เพิ่งซื้อมาเมื่อไม่กี่วันก่อน
 
 

‘คู่มือเลี้ยงหมาสำหรับมือใหม่’

 
เห็นผ่านตาตอนพาเนไปกินข้าวครั้งที่แล้ว แล้วก็เผลอซื้อติดมือมาโดยไม่รู้เหตุผล แต่พอได้ลองอ่านแล้วเอามาใช้ก็ค้นพบว่า
 

ได้ผลแฮะ...
ทำไมหนะหรอ...

 
ข้อ1. ใช้ของรางวัลในการฝึก
 



“อยากไปเที่ยวไหนไหม”
“...”
“ถ้าทำเสร็จจะพาไปวันเสาร์หน้า”
 


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการฝึกหมาได้ผลกับฝึกเน ในหนังสือบอกว่าให้ใช้ของรางวัลเป็นจำพวกขนมหมาชิ้นเล็กๆ หรือการพาไปเดินเล่น ซึ่งเอาขนมมาล่อให้การทำแบบฝึกน่าจะน้อยเกินไปผมเลยเลือกพาไปเดินเล่นแทน ได้ผลมาก ลูกหมายอมทำตามแต่โดยดี แถมหน้าเนที่ตาใสฉีกยิ้มกว้างยังดูเหมือนรูปหมาดีใจในหนังสือเป๊ะๆ อีกต่างหาก
 
อืม...
เริ่มซื้อลูกอมหรือชอคโกแลตเข้าบ้านไว้ให้เป็นรางวัลก็น่าจะดี รางวัลสำหรับล้างจานหรือซักเสื้อผ้าอะไรแบบนี้ บันทึกลงโน้ตไว้เลยดีกว่า เดี๋ยวลืม
 


ข้อ2. หากสุนัขเมินหรือหงุดหงิดให้ใช้อาการหรือขนมในการทำให้ใจเย็น

 
“หลอกเด็ก!!เดี๋ยวเนเขียนให้ดูเลยป่ะ เลขหกคล้ายเก้าแต่ไม่ใกล้แปด”
“ฟรอสตี้หรือโกโก้ครั้นช์”
“โกโก้ครั้นช์ เอ๊ะ ผสมดีกว่า”
 

 
ได้ผล เนโฟกัสกับการเลือกซีเรียล น้ำส้มหรือน้ำสัปปะรด โอวัลตินร้อนหรือเย็น แทนการหงุดหงิดได้อย่างรวดเร็ว บอกตรงๆ ว่าผมทึ่งมาก นี่เนกับหมาใกล้กันขนาดนี้เลยหรอ การเลี้ยงเด็กดูเหมือนจะง่ายขึ้นมานิดหนึ่ง ผมยิ้มให้กับปกหนังสือรูปหมาแล้วหยิบแบบฝึกของเนขึ้นมาตรวจ
 
ไหนดูซิว่าได้ผลยังไง
 
.
.
.
 
 


เวลาเลิกเรียนของเด็กมัธยมมาถึง ใช้เวลาเพียงสิบห้านาทีหลังออดโรงเรียนดัง เสียงลิฟต์ก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงวิ่งตึงตัง ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย สงสัยต้องเปิดหาวิธีสอนไม่ให้หมาวิ่งเล่นในบ้านไว้บ้างแล้ว
 
“ลุงงงงงง” หน้าใสโผล่มาพร้อมกับเหงื่อเต็มตัว
“วิ่งทำไม”
“เอ้าออกมาวิ่ง วิ่งนะวิ่งนะแฮมทาโรววว”
“...”
“ไหนๆๆ ผลๆๆๆ” เนวิ่งเข้ามาเกาะโต๊ะผมพร้อมกับโยกตัวไปมา เหมือนลูกหมาที่รอให้โยนบอลอะไรประมาณนั้น เหมือนจนเกือบคิดว่าจะมีหางหรือหูงอกออกมาจากตัวน้อง
“นั่งรอดีๆ” เนเดินไปนั่งลงเก้าอี้อย่างโดยดี
“ครับ” เวรเอ๊ย ผมหยุดคิดว่าเหมือนลูกหมาไม่ได้เลย
“ยื่นมือมา”
“ครับ” น้องยื่นมือขาวๆ ออกมาหน้าผม ได้แต่ระเบิดหัวเราะในใจแต่ก็ดึงหน้าขรึมไว้ ผมยื่นกระดาษที่ถูกตรวจด้วยปากกาสีแดงคืนไปให้เจ้าตัว ซึ่งเนก็รีบเอาไปเปิดดู แล้วก็ใช้นิ้วนับคะแนน เนื่องจากผมไม่ได้เขียนคะแนนรวมลงไป
 

สักพักตากลมก็เงยขึ้นมา
 

“เห้ยยยย เกือบเต็ม!!!!!”
“ห่างจากคะแนนเต็มไปยี่สิบคะแนนไม่เรียกเกือบนะ...”
“มากกว่าที่เนคิดไว้เยอะเลย จริงๆ เนพยายามอ่านตัวอย่างทุกข้อเลยนะว่าตกลงมันต้องใส่อะไร แต่ก็งงบ้าง แต่เห้ยย ดีใจอ่ะะะะ” เนกระโดดไปมา ยิ้มจนตาหยี
“แค่ได้ลองพยายามก็ดีแล้ว”
“ลุงงง ไปทะเลนะไปทะเลลล”
“ได้”
“จริงป่ะเนี่ย โอ๊ยดีใจอ่ะ ผมไม่ได้ไปทะเลมาหลายปีมากกกกกกกกกก อยากเล่นทรายแล้ว” ผมยิ้มเอ็นดู ถึงจะติดใจนิดหน่อยที่จริงๆ แล้ว สีน้ำไปเที่ยวทะเลกับแนนค่อนข้างบ่อย ยิ่งช่วงเห่อผิวแทนแทบจะไปทุกวันหยุด ถ่ายรูปจากรีสอร์ทหรูในชุดบีกินนี่ลงโซเชี่ยลจนแม่ให้ผมไปปรามอยู่ช่วงหนึ่ง แต่เนกลับไม่ได้ไปหลายปี
 

ผมเดินเข้าไปหาเนที่กำลังกระโดดโลดเต้นดีใจ พร้อมกับวางมือบนกลุ่มผมฟูแล้วลูบมันเบาๆ เนเงยหน้าขึ้นสบตาผมส่วนผมก็ยิ้มตอบ
 

“เก่งมาก”

“...”
“พยายามได้ดีมาก”

 
ในหนังสือบอกว่าให้พูดว่า Good boy แต่ผมเลือกใช้ภาษาไทยแทน เนกระพริบตาปริบๆ ก่อนที่แก้มใสจะขึ้นสีแดงระเรื่อ จากแก้มลามไปหู ปากเล็กพะงาบไปมาเหมือนหาคำจะพูดไม่เจอ สุดท้ายก็ตัดสินใจยกมือขึ้นผลักผม
“ไม่คุยกับลุงแล้ว!!!!” เนตะโกนลั่นห้องก่อนจะวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
 


ผมกระพริบตามองขาเล็กที่จ้ำวิ่งออกไป
อะไรกัน...
เก่งมากไม่เวิร์คงั้นหรอ ต้องใช้กู๊ดบอยสินะ
 
 


--- つづく
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2019 22:46:01 โดย Oiimaps »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ OrangeryLemon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0

งือ น่ารักมาก นี่มันเปิดโลกเราเลยนะ คู่มือเลี้ยงหมาเนี่ยนะ น่ารักจริงๆ

ออฟไลน์ Pa'veaw

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-1
งื้อออออ

น่ารักอะน่าร๊ากกกกกกก

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ยู้กหมาเขินลุงเหรอออออ

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
โอ้ยยย ลุงใช้คู่มือเลี้ยงหมา มาฝึกน้องงงงงงงงงง ลุงคิดได้ไง แล้วดันเวิร์ค 5555555555555555555555
ลูกหมาน้อยเขินลุง เผ่นแน่บไปเลยจ้าา

ออฟไลน์ certenta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักมากก มาลงบ่อยๆ น้องเนเริ่มหวั่นไหวกะลุงแล้ว  o18

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 :mew4:ลุงเลี้ยงเนเหมือนหมาได้ไงงงงงง แต่ดันได้ผลเนนะเน เริ่มพลงเจ้าของแล้วใช่มะละ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด