『 แฟนเด็ก 』 l ╯#สามหกสิบแปด╰ lll ตอน 24 ญี่ปุ่นอีกครั้ง [31/03/20] p.8
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 『 แฟนเด็ก 』 l ╯#สามหกสิบแปด╰ lll ตอน 24 ญี่ปุ่นอีกครั้ง [31/03/20] p.8  (อ่าน 58691 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
วัยอยากรู้อยากลองอ่ะเนอะลุง ยั่วตาใสเลย 555555555555555

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ไอ้ตัวดื้อยั่วตาใส เสียตัวให้ลุงสมใจแล้ววววว  :z1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2020 14:50:16 โดย Ac118 »

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Happy birthday dear ก้อนดื้อ ในที่สุดก็สมหวัง :mew4:

ออฟไลน์ nizxx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านไปปิดตาไป อยากรู้เ้วยแต่เหมือนคนดูต้นทาง อยากตียัยเน ยั่วมากกกกกก อ่านไปกรี๊ดไป จัดให้เด็กมันรู้ไปค่ะพี่ไม้ ว่าลุกจากเตียงไม่ขึ้นเป็นยังไง

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 :jul1:เนอ่ะนะเนอ่ะแรดไปนะลูก แต่ถามว่าชอบมั้ย คงไม่มีใครชอบเท่าลุงของเค้าหรอกเนอะ

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
สามหกสิบแปด 24







สนามบินนั้นเคยเป็นสิ่งที่ทำให้ผมหงุดหงิด

แต่วันนี้สนามบินกลับเป็นสถานที่ที่ทำให้ผมรู้สึกอารมณ์ดี

ก็คงจะเป็นเพราะ ‘คน’ ข้างๆ ในสนามบินมากกว่า



“ลุงงงงงง เนหาพาสปอร์ตไม่เจอ” เนจับกระเป๋ากางเกงตัวเองก่อนจะเบะปากออกมา

“อยู่กับพี่ เราลืมไว้บนโต๊ะที่ร้านอาหาร”

“อ๋าาาาาาาาา จริงด้วยยยยย เนเกือบวิ่งกลับไปหาที่ห้องน้ำแล้ว รอบที่แล้วไปญี่ปุ่นเนลืมพาสปอร์ตไว้ในห้องน้ำ” ถึงตรงนี้ผมก็ชะงักตัวเล็กน้อย พานนึกภาพกลับไปเมื่อประมาณปีที่แล้ว





‘พี่แนน! พี่แบงค์! เนหาพาสปอร์ตไม่เจอออออออ’

‘เนว่าเนลืมไว้ในห้องน้ำชาย!!!’





อ้อ...

เด็กเด๋อคนที่ซอรี่ผมตอนนั้นคือเนเองสินะ

ผมอมยิ้มให้กับภาพจำที่แว่บขึ้นมาในหัว และแน่นอนว่าก้อนดื้อตรงหน้าผมไม่ได้แม้แต่จะสนใจ เจ้าตัวเอาแต่ค้นหาข้อมูลเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวมาตั้งแต่เมื่อวาน

ทริปนี้ตอนแรกนั้นเป็นความตั้งใจว่าจะเป็นทริปฉลองเข้ามหาลัยของเน แต่ด้วยความวุ่นวายของการเข้าหอและสถานการณ์ทางการเมืองทำให้บริษัทผมเจอปัญหาค่อนข้างหนักทำให้ตอนปีหนึ่งผมไม่มีเวลาที่เหมาะสมพอจะพาเนไปเที่ยวทำให้มันถูกเลื่อนมาจนตอนนี้ที่เนกำลังจะจบปีสอง แต่ถึงอย่างนั้นก้อนดื้อก็ไม่ได้งอแงอะไรมากครับ เพราะตอนปีหนึ่งผมทดแทนด้วยพานั่งเครื่องไปภูเก็ตสองวันเนเองก็แฮปปี้ดี

แต่แน่นอนว่าญี่ปุ่นก็คงแฮปปี้กว่า



“นี่นะลุง เนอยากกินอูนิมาก”

“เอาสิ”

“ลุง เนอยากไปตลาดปลา เนเรียนคำพูดสำหรับต่อราคามาแล้ว นี่เนลงทุนถามเพื่อนเอกยุ่นมาเลยนะ” ดูความคึกของเด็ก เนตอนนี้อยู่ในชุดฮู้ดสีขาวกับกางเกงสีดำใส่แว่นทรงกลมเลนส์บาง เนเริ่มจะสายตาเอียงเมื่อตอนเริ่มเข้าปีสองทำให้น้องเริ่มใส่แว่นสลับคอนแทคเลนส์ ซึ่งเนเป็นคนเลือกกรอบแว่นเองมันถึงออกมาเป็นทรงเหมือนแว่นแฮร์รี่พอตเตอร์แบบนั้น

“มันไกลจากที่พักไหม”

“ไม่นะ เนจองแอร์บีเอ็นบีที่มันติดใต้ดิน เนอ่านมานั่งไปแค่ไม่กี่สถานีเอง”

“โหลดแอพสถานีรถไฟมาหรือยัง ที่พามแนะนำมาน่ะ”

“โหลดแล้ววววว เอ้อลุง พ็อกเกตไวไฟเนเป็นคนพกนะ”

“นั่งดีๆ ” ผมดุเมื่อเนยกขาขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเบาะ เจ้าตัวยู่หน้ายู่ตาแต่ก็รีบเอาขาลง ตอนนี้เรากำลังรอขึ้นเครื่องอยู่ในเกตที่สนามบินสุวรรณภูมิครับ แน่นอนว่าทริปนี้ผมจ่ายไม่อั้นเลือกบินชั้นธุรกิจ ถึงจะโดนเพื่อนแซวแต่ก็ไม่ได้สนใจ

อะไรที่ทำให้เด็กดื้อยิ้มได้ผมก็ถือว่ามันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

“ลุง พอไปถึงเราต้องเอาของไปเก็บห้องก่อนนะ วันนี้ที่แรกที่เราจะไปคือวัดที่ลุงอยากไป”

“วัดอาซากุสะ”

“ถวกต้มนะครับลูกเพี๊ยะะะ ว่าแต่ทำไมลุงต้องอยากไปมากขนาดนั้นด้วยอ่ะ”

“เดี๋ยวก็รู้”

“อย่าพูดเหมือนจะเซอไพรส์อะไรได้มะลุง นั่นวัดนะ”

“หึ”

“ถ้าซื้อวัดให้บอกเลยว่าไม่เอา”

“พี่จะซื้อวัดทำไม”

“ก็พี่เก่งบอกว่าคราวที่แล้วไป พี่เก่งอยากได้วัดญี่ปุ่นมาเปิดแฟนไชส์ที่ไทย ไม่แน่ป่ะ”

“อย่าไปคุยกับมันมาก มันเพ้อเจ้อ”

“ลุงว่าเพื่อนอ่ะ”

...ผมว่ามันได้มากกว่านี้อีก

แต่เห็นแก่ที่มันจะเป็นคนรับช่วงดูแลบริษัทให้ในช่วงที่ผมไปญี่ปุ่นกับเน เลยจะไม่ด่ามันเพิ่มก็ได้

เรานั่งรอกันจนใกล้จะห้าทุ่มก็ถึงเวลาบอร์ดดิ้ง ขาไปผมและเนไม่ได้มีกระเป๋าอะไรมากนักเพราะโหลดลงใต้เครื่องไปหมด ส่วนบนตัวเนก็เห็นจะมีแค่กระเป๋ากล้องซึ่งเป็นของขวัญที่ผมซื้อให้ตอนวันเกิดน้องปีที่แล้ว เนชอบถ่ายรูปผมเลยซื้อกล้อง leica ให้ตัวหนึ่ง แน่นอนครับว่าโดนล้อว่าป๋าไปยาวๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกนั่นแหละ ที่ผมลงทุนเพราะเนดูเหมือนจะสนุกกับการถ่ายรูป น้องเปิดเพจกับไอจีไว้ลงรูปที่ตัวเองถ่าย คนมาฟอลตั้งหลายหมื่น ก็ถือว่าเป็นของขวัญที่ซื้อให้แล้วน้องได้ใช้งานจริง ล่าสุดเหมือนตอนนี้เนจะเริ่มเล่นกล้องฟิล์มผมก็เตรียมเล็งๆ จะซื้อให้อยู่อีกเหมือนกัน

ที่นั่งของเราเป็นแบบชั้นธุรกิจที่ที่นั่งติดกันแต่สามารถยกที่กั้นตรงกลางขึ้นลงได้ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก เนตื่อนเต้นอยู่กับการเลือกหนังดู ส่วนผมก็พักสายตาไปยาวๆ ตลอดการเดินทาง

และแล้วในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงญี่ปุ่น



“บรื๋ออออออออออ ไหนลุงว่าไม่หนาวววววววว”

“กำลังดีนะ สิบแปดองศา”

“กำลังดี ดีที่ว่านี่มาจากเดธเปล่า หนาวอ่ะ”

“หึ” ผมหัวเราะในลำคอ ไม่ใช่เพราะเนกำลังทำตัวเด็กแต่เป็นเพราะเนเล่นมุกภาษาอังกฤษ ย้อนกลับไปเจอกันแรกๆ แอนตี้ภาษาอังกฤษน่าดู

“บรื๋อๆ อยู่ในตึกยังหนาวเลย รีบไปที่พักกันลุง”

“เอากระเป๋าก่อน”

“หนาวววววววว” เนกระโดดหยองแหยงไปมาก่อนจะมายืนเบียดผม พอกระเป๋าออกมาจากสายพานผมก็หยิบของผมแล้วก็ของเนออกมา เป้าหมายแรกของเราคือเข้าที่พักเอากระเป๋าไปเก็บ ตอนนี้เพิ่งจะประมาณเจ็ดโมงกว่าเอง ดีที่ที่พักผมอนุญาตให้เชคอินก่อนเวลาได้ ผมตั้งใจจะขึ้นแท็กซี่แต่เนงอแงจะขึ้นรถไฟฟ้า

ครับ...

คนตามใจเด็กอย่างผมก็ต้องลากกระเป๋าขึ้นรถไฟฟ้าไปอย่างไร้ข้อโต้เถียง

ผมไม่ได้ตามใจแค่เรื่องขึ้นรถไฟฟ้าหรอกครับ จริงๆ ที่พักก็ด้วย เพราะตอนแรกผมตั้งใจจะบุ๊คโรงแรมหรูแต่เนไม่เอา เนบอกอยากบุ๊คแอร์บีเอ็นบี ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกครับว่าอะไรคือแอร์บีเอ็นบี เคยได้ยินผ่านๆ ตอนประชุมแต่ไอ้ลงรายละเอียดเนี่ยไม่เคย เนเลยมานั่งเปิดแอปอธิบายสุดท้ายน้องก็เลือกเองจองเองเสร็จสรรพผมมีหน้าที่แค่ใส่รายละเอียดบัตรเครดิต

ที่พักที่เนเลือกเป็นห้องในตึกแถว ตัวตึกเป็นตึกธรรมดาไม่คิดว่าเปิดประตูมาจะได้ห้องที่ดูตั้งใจตกแต่งขนาดนี้ ตัวห้องมีการแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจนว่าเป็นครัว ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำกับห้องอาบน้ำแยกกันแล้วก็มีห้องนอนใหญ่หนึ่งห้องที่มาพร้อมกับระเบียงขนาดเล็ก เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ในห้องจะเป็นไม้และเน้นสีหลักของห้องเป็นสีขาวดูสะอาดตา สะอาดตาอยู่ได้แค่ห้านาทีแรกเท่านั้นแหละครับ พอเนเริ่มเปิดกระเป๋าน้องก็รื้อเสื้อผ้าออกมากองเต็มพื้นที่ก็สะอาดน้อยลงทันที

“ลุง เนหิววววว”

“กินแถวนี้ไหม”

“ก็ได้ ไปเดินชิวๆ แล้วหาร้านที่น่ากินกัน”

“ใส่เสื้อไปอีกชั้นไหม”

“ไม่เอา เดี๋ยวเนดูอ้วน”

“เดี๋ยวก็บ่นหนาวอีก”

“ก็บ่นไปงั้น มีลุงให้ซุกนี่”



เฮ้อ...

จะกี่ปีผ่านไป ไอ้เรื่องชอบพูดจาให้ใจคนแก่ (กว่า) เหลวก็ยังไม่เปลี่ยน แถมดูจะหนักขึ้นทุกวัน



“เอาผ้าพันคอไปไหม”

“ไม่เอา บดบังหน้าเนหมด มาญี่ปุ่นทั้งทีจะให้ผ้าพันคอมากันซีนได้ไง” ผมถอนหายใจก่อนจะเป็นฝ่ายหยิบผ้าพันคออันเล็กมาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ท เผื่อไว้ครับ เพราะเดี๋ยวเด็กดื้อได้งอแงแน่นอน

“ไปล้างหน้าล้างตาไป”

“ลุงนอนรอก็ได้นะ เนว่าจะแต่งหน้านิดหนึ่ง ห้านาที”

“พี่ชงกาแฟรอ”

“ชงโอวัลตินให้เนด้วย” พูดจบก็หยิบกระเป๋าเครื่องสำอางเข้าห้องน้ำไป



เนแต่งหน้า ใช่ครับ เหมือนจะเริ่มแต่งตั้งแต่ปีหนึ่งช่วงเทอมสอง แม้จะใช้คำว่าแต่งหน้าแต่น้องก็ไม่ได้แต่งแบบจัดเต็มขนาดเลเวลผู้หญิงแต่งกันหรอกนะครับ มีแค่พวกกันแดด ทาแก้มกับทาปากสีชมพูอ่อนๆ ซึ่งถึงจะเป็นเมคอัพบางๆ แต่ความจริงแล้วผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ สำหรับเนหน้าเปลือยโชว์ผิวเด็กๆ นั่นดีที่สุดแล้ว

แต่ก็นะ... ห้ามไม่ได้หรอกครับ เป็นความสุขความมั่นใจของเขา ผมก็ได้แต่ขัดใจอยู่เงียบๆ

ใช้เวลาครู่หนึ่งเนก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับเดินตรงมาหยุดหน้าผม ใบหน้าดื้อตอนนี้ถูกตกแต่งเพิ่มสีเข้าไป ทั้งแก้มแล้วก็ปากเล็กมันวาวนั่น



“เนน่ารักยัง”

“พี่ชอบแบบไม่แต่งมากกว่า”

“ลุงตอบไม่ตรงคำถาม”

“...”

“เนน่ารักยัง”

“น่ารัก” ผมมือขึ้นนวดคางเล็กของคนตรงหน้า “แต่งก็น่ารัก ไม่แต่งก็น่ารัก”

“หูยยยยยยยยยย โรแมนติกนะเนี่ย”

“...”

“ลุงก็เหมือนกัน”

“เหมือนกันอะไร”

“แก่ก็รัก ไม่แก่... ไม่ทันแล้ว”

“เน” จากนวดคางผมเปลี่ยนแรงเป็นบีบเบาๆ แทนทันที ขอให้ได้กวนตีนจริงๆ ไอ้เด็กดื้อ

“อื้อออ ล้อเล่นนนนนน ไม่แก่ไม่ทันแล้วแต่เนก็ร้ากกกก”

“ไอ้ดื้อ”

“ไทป์ผัวชรากำลังมา ลุงไม่ต้องกลัว”

“เน ย้ำอายุอีกรอบไม่ต้องเที่ยวแล้วนะ อยู่แต่บนเตียงเนี่ยแหละ เดี๋ยวพี่ย้ำอายุพี่ให้ดูเอง” ผมคว้าเนเข้ามากอดพร้อมกับวางมือไว้บนสะโพกนิ่มที่ผมสัมผัสมาหลายครั้ง พอผมพูดจบเนก็หน้าตื่นทันทีทันใด

“ลุงงง ไม่เล่นๆ ไม่พูดแล้วๆ ไม่เอานะ เนอยากเที่ยว” ผมไม่สนใจไอ้คำทักท้วงนั่นแล้วก้มลงจูบปากนิ่ม แค่สัมผัสเบาๆ แต่อาจจะเพราะเมื่อกี้ขู่ไปเนเลยขัดขืนพยายามดิ้นตัวออก

“เน...”

“ลุงไม่เอาาาาาาา”

“จูบเฉยๆ ”

“ไม่เอา เดี๋ยวเนเคลิ้ม”

“เราก็อย่าเคลิ้มสิ”

“จูบทีไรเนเคลิ้มตลอด ไม่เอานะ ไว้หลังเที่ยวนะลุง”


ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2


เฮ้อ...

มีที่ไหนมาห้ามกันด้วยเหตุผลว่าเดี๋ยวตัวเองเคลิ้ม ผมปล่อยเนออกจากอ้อมกอด เท่านั้นไอ้ตัวแสบก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที



“ลุงอ่ะ เนต้องเติมลิปเลย!!!”



ให้ตายเถอะ

สุดท้ายผมก็อดใจไม่ไหวเดินเข้าห้องน้ำไปรังแกลิปสติกของก้อนดื้ออีกรอบ คราวนี้ได้รับแรงทุบมาเต็มๆ ที่ข้างหูจนต้องยอมถอยทัพออกมา ยิ่งโตยิ่งมือหนักแหะ ต้องระวังไว้บ้างแล้ว

ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ออกจากห้องไปหาอะไรกิน แน่นอนครับว่าก้อนดื้องอนแก้มพองไม่พูดไม่จาหลังจากที่ผมเข้าไปทำให้เจ้าตัวต้องทาลิปใหม่ถึงสองรอบ แต่ถึงจะงอนแค่ไหนก็ไม่ยอมเดินทิ้งระยะกับผม เนี่ยนะ ความน่ารักของเน แล้วผมจะห้ามใจยังไงให้ไหว

“กินราเม็งไหม”

“...”

“เน อยากกินอะไร ร้านนี้ไหม”

“...”

“ไม่ตอบพี่หรอ”

“...”

“ไม่อยากคุยกับพี่แล้วหรอ”

“...”

“โอเค งั้นพี่ไม่พูด”

“เน งอน” เนดึงแขนเสื้อผมไว้ก่อนจะยู่ปาก

“ขอโทษ”

“อื้อ หายโกรธก็ได้ กินซูชิๆ เนอยากกินซูชิ” หายงอนก็เริ่มหิวทันที เนคว้าแขนผมไปควงก่อนจะลากเดินไปเดินมา คนที่เดินไปเดินมาไม่ได้สนใจอะไรหรอกครับ เขาคงคิดว่าพ่อพาลูกมาเที่ยว ผมโดนทักบ่อยจนเริ่มจะชินแล้ว ผมไม่ได้หน้าแก่อะไรหรอกนะครับ แต่เนน่ะดูเด็กมากๆ อายุยี่สิบย่างยี่สิบเอ็ดแล้วแต่เวลาไปไหนก็มักจะโดนทักเป็นเด็กมัธยมต้นอยู่เสมอ

เนี่ยมันน่าหงุดหงิดไหมครับ

เนโดนทักเป็นเด็กมัธยม แต่ผมน่ะเป็นทั้งพ่อ ทั้งลุง ทั้งครู เป็นมาหมดแล้วยกเว้นแฟน

หงุดหงิดในใจไปก็เท่านั้น ผมกลับมาสนใจอาหารที่เนสั่งมาเต็มโต๊ะ ปล่อยให้เนสั่งนั่นแหละครับ ถูกปากบ้างไม่ถูกปากบ้างก็เป็นสีสันของการมาเที่ยวต่างประเทศ และโดยเฉพาะกับประเทศไม่ค่อยภาษาอังกฤษอธิบายอย่างญี่ปุ่น การสั่งอาหารยิ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ท้าทายเลยครับ

“ไอ้เนื้อๆ นี่โคตรเด็ดเลยลุง ลุงว่าอะไรอ่ะ”

“วากิวมั้ง”

“ถ้าเป็นงั้นก็ดี เป็นเนื้อม้าขึ้นมาเนร้องไห้แน่ สงสารม้า ไม่ร้องโฮๆ นะ ร้องฮี้ๆ ”

“หึ”

“ลุงๆๆ ปลาแซลม่อนกับซาบะดีมากกกกก ละลายในปากไม่คาวเลยย”

“ชอบก็กินเยอะๆ ”

“เนอ้วนแล้ว”

“ไม่อ้วน”

“ลุงสปอยล์เนอ่ะ เนน้ำหนักขึ้นมาห้าโลนะ”

“อ้วนขึ้นกับอ้วนมันไม่เหมือนกัน เราแค่อ้วนขึ้นแต่ไม่ได้อ้วน”

“พุงยุ้ยจะตาย”

“น่ารัก” ผมหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ ช่วงนี้เนมีเนื้อหนังมากขึ้น จับตรงไหนก็นุ่มมือไปหมด ผมน่ะชอบมาก แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่

“ไอ้กันถ่ายรูปเนมา กลมเป็นก้อนเลย”

“หึ สมชื่อก้อนดื้อไง”

“เนจะลดความอ้วนแล้ว” ผมฟังยิ้มๆ คำพูดนี้มาทุกเดือนครับ เดี๋ยวก็บอกจะลดน้ำหนักแล้ว เดี๋ยวจะไม่กินนู่นนี่แล้ว เดี๋ยวไม่กี่ชั่วโมงก็ลืม อยู่ที่คอนโดมีฟิตเนสยังไม่เคยไปใช้เกินครึ่งชั่วโมงเลย

ใช้เวลากับการกินอยู่ประมาณชั่วโมงกว่าเราก็ออกเดินทางต่อ โดยการเดินทางหลักในทริปนี้ผมจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้า บอกตรงๆ ว่าผมไม่ถนัดกับอะไรแบบนี้เลย อยากจะยอมแพ้ตั้งแต่เห็นจำนวนสายต่างๆ ที่พันกันยุ่งเหยิงพอๆ กับสายไฟฟ้าที่ไทย ผมเลยปล่อยให้หน้าที่คนพาหลงเป็นของเน

“นี่นะลุง เราต้องขึ้นสายยามาโน้ตไปอุเอโนะแล้วก็ต่อสายกินซ่าไปสถานีอาซากุสะ”

“พี่เห็นคนญี่ปุ่นอ่านยามาโนเตะ”

“note มันก็ต้องโน้ตดิ”

“ยามาโน้ตมันไม่แปลกๆ หรอ”

“ลุงอย่าเถียงเน นี่เนนะ” เนจอมมั่วอะหรอ ผมไม่ได้เถียงสู้อะไรไป ซึ่งเจ้าตัวก็กอดอกทำหน้าชนะ พาแตะบัตรเดินเข้าไปตามทางที่เสิร์ชมา

แม้ผมจะคิดว่าหลงแน่ๆ แต่เนก็สามารถพามาได้ถูก ขณะนี้ผมก็มาหยุดอยู่ตรงทางเดินเข้าไปวัดอาซากุสะ ด้วยความที่วันนี้เป็นวันเสาร์คนเลยแน่นเป็นพิเศษ ข้างทางเดินก่อนเข้าถึงตัววัดเต็มไปด้วยร้านขายของฝาก เนงี้ตาลุกวาวแวะร้านนู้นร้านนี้ไปเรื่อยแต่ก็ยังไม่ได้ซื้อของอะไรติดมือมา กะว่าเดี๋ยวค่อยซื้อทีเดียวขากลับ

พอเดินถึงประตูทางเข้าวัดที่มีโคมยักษ์อันใหญ่ผมก็พาเนเดินไปล้างมือด้วยกระบอกไม้ไผ่กับปัดควันที่เคยทำเมื่อคราวที่แล้ว

“เขาปัดควันเพื่อไรอ่ะลุง”

“จำได้ลางๆ ว่าเหมือนปัดความโชคดีเข้าตัว”

“เวอร์มาก มะเร็งปอดมากกว่า” พูดจบเจ้าตัวก็สะบัดตัวเดินยกกล้องไปถ่ายนู่นถ่ายนี่ ผมเดินตามเนถ่ายรูปอยู่สักพักก็จูงน้องเดินมาตรงที่ขายเครื่องราง

“ลุงตั้งใจมาวัดนี้เพราะเครื่องรางหรอ”

“อืม”

“โห สายมูหรอเนี่ยลุง” สายมูอะไรของมัน ผมพาน้องเดินมาข้างๆ ที่ไม่ใช่ส่วนที่มีคนออซื้อของ มันเป็นโซนว่างๆ ที่มีแต่ตัวอักษรญี่ปุ่นเขียนไว้

“เน เราเอาเครื่องรางสีชมพูมาไหม”

“อื้อ เนคล้องกับกระเป๋ากล้องไว้”

“ถอดมา”

“ถอดทำไม”

“เอามาคืน”

“คืนใคร”

“คืนวัด”

“ไม่คืน”



ตามคาด...

เนเป็นคนหวงของมากครับ ชิ้นไหนที่เป็นของตัวเองแล้วรักมากๆ จะไม่ยอมให้ใครยุ่งแม้แต่นิดเดียว



“พี่อ่านมา เขาบอกเครื่องรางปกติมันมีอายุแค่ปีเดียว เราควรเอามาคืนแล้วก็เช่าอันใหม่ไป” ผมอธิบายไปแต่เนก็คงยังขมวดคิ้ว

“แต่อันนี้มันสำคัญกับเน เนซื้อมาตอนมาญี่ปุ่นครั้งแรก จิ้มเองเลยด้วย!!!” หึ มั่วจริงๆ จิ้มเองที่ไหนกัน ไอ้ที่ตัวเองจิ้มน่ะมันเครื่องรางคลอดลูกโดยปลอดภัยที่อยู่กับผมต่างหาก

“ที่เรามีคือเครื่องรางความรัก”

“แล้วไง”

“พี่รักเราจะตายอยู่แล้วยังจะต้องพกไว้ทำไมอีก”

“...”

“ส่วนอันของพี่ก็คืนไปด้วย”

“แต่...”

“ของพี่เครื่องรางคลอดลูกโดยปลอดภัย” พูดเองก็ขำเอง ฟังดูตลกแต่ผมก็พกมันติดตัวมาตลอดตั้งแต่ตอนที่เจอวันนั้น

“ลุงจะคืนด้วยหรอ”

“อืม เพราะพี่คงไม่มีลูกแล้ว”

“ลุง...”

“ถ้าเรามีให้ไม่ได้ พี่ก็ไม่อยากมีลูก” เนเม้มปากแน่น ตากลมเริ่มคลอด้วยน้ำตา

“ถะ ถ้าวันหนึ่งลุงอยากมีล่ะ ถ้าลุงเปลี่ยนใจล่ะ”

“ถ้าเราถามพี่”

“...”

“มันไม่มีวันนั้น” พอผมพูดจบ น้ำตาก้อนโตก็ไหลลงกับแก้มเนียน เนะเบะปากร้องไห้แบบไม่มีเสียง ก่อนที่มือเล็กจะเลื่อนไปปลดเครื่องรางตัวเองที่สายกระเป๋ากล้องออกมายื่นให้ผม

“งั้นเนคืนด้วย”

“...”

“เพราะเนก็ไม่มีวันรักใครนอกจากลุงแล้วเหมือนกัน”



ผมคว้าร่างของเนเข้ามากอดพร้อมกับประทับจูบลงบนหัวฟูหอมกลิ่นแชมพูนั่นด้วยความรักหมดหัวใจ ผมรักเน รักแบบที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำไมถึงรักขนาดนี้ อยากกอด อยากดูแล อยากทำให้มีแต่รอยยิ้มในทุกวัน ทุกวันนี้ทุกครั้งที่อยู่กับเนผมรู้สึกมีความสุขอยู่ตลอด เราอาจจะทะเลาะกันบ้างด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่น้องเองก็พยายามปรับตัวเข้าหาผมเยอะมากๆ



การได้มองเนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

ก็เริ่มเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผมอยากตื่นมาในทุกเช้า



ผมไม่รู้ว่าการที่เรารักใครสักคนจะต้องรู้สึกขนาดไหนถึงจะเหมาะสม

แต่สำหรับผม

เนคือคนที่เหมาะสมที่สุดที่ผมจะใช้คำว่ารักในรูปแบบคู่ชีวิตได้



“ลุง ฮึก เนซึ้งนะ แต่เราอย่ากอดกันในวัดเลย เนว่าบาป” เนตีอกผมเบาๆ ให้ปล่อย ผมก็ปล่อยแต่โดยดี

“ป่ะ คืนแล้วเราก็ไปซื้ออันใหม่ คราวนี้พี่ซื้ออันสุขภาพดีกว่า”

“งั้นเนเอาเรื่องสอบผ่าน” ว่าแล้วผมก็พาน้องไปจิ้มเลือกเครื่องรางอันใหม่มาห้อยแทนอันเดิม ถึงจะเสียดายสองอันเก่า แต่ไม่เป็นไรหรอก ผมพร้อมที่จะพาเนมาซื้ออันใหม่ทุกปี ผมไม่ใช่คนเชื่อในเรื่องอะไรแบบนี้ ผมเองก็นับถือศาสนาคริสต์ แต่ก็เพียงแค่คิดเล่นๆ



ถ้าเครื่องรางความรักของผมที่อยู่กับเนคงพาเราให้มาเจอกัน

เครื่องรางคลอดลูกโดยปลอดภัยของเนที่อยู่กับผมก็คงพาผมให้ได้มาเจอเด็กเป็นของตัวเอง



ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงทั้งสองอันเก่าคงได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว ที่ผมตัดสินใจเอาคืนที่วัดเพราะคิดว่าเวลาพักผ่อนของทั้งคู่แล้วเช่นกัน

หลังจากเสร็จภารกิจที่วัดอาซากุสะ ผมก็ปล่อยให้เนพาเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ที่น้องอยากไป แต่ที่สุดท้ายนั้นเป็นที่ที่ผมเลือกแล้วก็ต้องมาให้ได้





ร้านคราฟต์เบียร์มาร์เก็ตที่โคเอ็นจิ

การตกแต่งร้านยังคงเป็นเหมือนเดิมกับคราวแรกที่มา แม้ตอนนี้ความชอบเรื่องคราฟต์เบียร์ผมจะหายไปแล้วแต่ความรู้สึกอยากมาก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่นิดเดียว เนเดินเข้าร้านไปนั่งพร้อมกับคิ้วขมวด



“ลุง เนว่าเนเคยมาร้านนี้”

“หรอ”

“ใช่ ใช่แน่ๆ ใช่ๆ เนเคยมาคราวที่แล้ว เฮ้ยยยย บังเอิญไปป่ะเนี่ยยยย”

“หึ” เนยกกล้องขึ้นมาถ่ายบรรยากาศร้าน สักพักพนักงานก็มารับออเดอร์ คราวที่แล้วผมให้ไอ้ยามะพีสาขาจีนแดงเป็นคนสั่งเลยจำไม่ได้ดื่มอะไร คราวนี้ผมเลยให้เนสั่งให้แทน เนก็จิ้มนู่นจิ้มนี่ไปตามภาษาก่อนจะหันกลับมาถ่ายรูปผม

“ลุงยิ้มหน่อยยยย”

“...” ผมกระตุกยิ้มมุมปากพอเป็นพิธี เนกำลังจะถ่ายต่อแต่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยพนักงานที่นำเบียร์มาเสิร์พ เนรับมาจิบเล็กน้อยก่อนจะยิ้มด้วยความอารมณ์ดี

“ตลกอ่ะ ลุงพามาร้านที่เนเคยมาเฉยเลย”

“เน”

“หืม”

“อยากฟังเรื่องตลกกว่านี้ไหม”

“ลุงจะเล่าเรื่องตลกหรอ”

“อืม”

“เห้ยยย อารมณ์ไหนอ่ะ ฟังๆ ไหนเล่ามา” ผมยกยิ้มส่งให้เน

“เมื่อประมาณสองปีที่แล้วพี่มากินเบียร์ที่ร้านนี้กับเก่ง”

“...”

“แล้วโต๊ะที่เรานั่งอยู่ก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ใส่ฮู้ดชุดครุยเมาหลับอยู่”

“เอ๊ะ...”

“ว่าจะไม่สนใจหรอกนะ แต่เด็กบ้านั่นเมาจนมีใครมายุ่งก็เออออตามเขาไปหมด เห็นแล้วอดห่วงไม่ได้ก็เลยมานั่งคุยด้วย”

“...” เนเม้มปากพร้อมกับจ้องผมด้วยสายตาตกใจ

“เห็นว่าอกหักอยู่ก็เลยให้เครื่องรางความรักที่น้องสาวฝากซื้อจากวัดอาซากุสะไป แต่เด็กบ้าก็คือเด็กบ้า มีการให้เครื่องรางคลอดลูกโดยปลอดภัยที่จิ้มมามั่วๆ มาแลก”

“...”

“แถมเด็กบ้าคนนั้นยังขโมยจูบพี่ไปอีก”

“ฮะ? เนเนี่ยนะ”

“ตอนแรกก็คิดว่าไม่เป็นไรหรอกก็แค่จูบเด็กจบใหม่”

“...”

“แต่ไม่คิดเลยว่าจะไปเจออีกทีที่ไทยดันกลายเป็นเด็กมัธยมแถมยังเป็นน้องชายของเพื่อนน้องสาวอีก” พอถึงตรงนี้เนก็เริ่มเบะปากร้องไห้อีกครั้ง

“...ฮึก ลุง”

“ว่าจะไม่สนแล้ว แต่เหมือนตอนแรกที่เจอ ว่าจะไม่สนแต่รู้ตัวอีกทีก็สนไปแล้ว เด็กบ้านั่นดื้อมากๆ ยิ่งรู้จักก็ยิ่งดื้อ ดื้อจนอยากดูแล ไม่อยากให้ร้องไห้ อยากให้ยิ้ม ยิ้มเหมือนครั้งแรกที่เจอกัน เออ ถึงตอนนั้นจะเมาก็เถอะนะ”

“ลุง เน...”

“จริงๆ มันก็ควรให้บรรยากาศพาไปกว่านี้ แต่พอดีพี่กลัวเราเมาแล้วจำไม่ได้เลยต้องรีบพูดไว้ก่อน” เนน่ะเมาง่ายมากๆ ครับ โดยเฉพาะเบียร์นี่ตัวดีเลย ไม่กี่แก้วก็ไปแล้ว

“ลุง...” ผมยิ้มให้เนก่อนจะเอื้อมมือลงไปหยิบกล่องในกระเป๋าเสื้อโค้ทออกมาเปิดพร้อมกับยื่นไปตรงหน้าเน

“มันควรจะต้องขอแต่งงานแต่พี่รู้ว่าเร็วไป ไม่รู้จะพูดอะไรดี งัั้นเอาเป็นคำง่ายๆ แล้วกัน”

“...”

“พี่รักเนนะ”



เนน้ำตาล่วงพร้อมกับสะอื้นจนตัวโยน น้องลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินอ้อมมานั่งลงบนตักผม แขนเล็กวาดขึ้นกอดรอบคอผมฝังใบหน้าดื้อลงมากับไหล่



“ฮึก ลุงบ้า บ้าๆๆ ทำไม ทำไมไม่บอกเนให้เร็วกว่านี้ ฮึก ทำไมผ่านไปสองปีถึงเพิ่งมาบอกว่าเคยเจอกันก่อน บ้าไปแล้วหรอ เนจะโกรธลุงแล้วนะ” หน้าดื้อผละออกมาดุผม

“พี่เป็นลุงบ้าหรอเข้ากับเด็กบ้าพอดีเลย”

“ไม่ตลก!!!”

“ดื้อ ยังไม่รับแหวนพี่เลย ใจเสียนะเนี่ย”

“ฮึก ถ้าลุงบอกเนก่อน เนจะไม่มีทางคืนเครื่องรางอันนั้นเลย ลุงแย่มาก แย่มากๆ ฮึก เนจะโกรธ เนจะโกรธแล้วจริงๆ ”

“โกรธได้ แต่รับรักพี่ก่อน”

“รับสิ เนก็รักลุงจะตายอยู่แล้ว เนอ่ะนะเน เป็นเนที่ดีไม่ได้เลยถ้าไม่มีลุง เนรักลุงมาก มากกว่าที่ลุงคิด แต่เนก็ไม่รู้จะแสดงยังไงให้ลุงรู้ ฮึก เนพร้อมจะทำทุกอย่าง จะเปลี่ยนทุกอย่าง ฮึก ลุงเป็นสาเหตุที่เนอยากมีชีวิต อยากเป็นเนที่ดีกว่านี้ ลุงเป็นโลกของเน เป็นทุกอย่าง ต่อให้ลุงแก่กว่านี้ ฮึก เดินไม่ได้หรือจะป่วยแค่ไหน เนก็จะอยู่ข้างลุง อยากให้ลุงมั่นใจ”

“...”

“บนโลกนี้ไม่มีใครรักลุงได้เท่าเนแล้วจริงๆ นะ”



กลับกลายเป็นผมที่มีน้ำตาหล่นลงกับแก้มกับคำบอกรักของเด็กตรงหน้า

แม้บรรยากาศรอบตัวจะเต็มไปด้วยผู้คนและเสียงดนตรี แต่ผมก็เห็นแล้วก็ได้ยินแค่เสียงของเน เราต่างก็มองหน้าแล้วยิ้มให้กัน ไม่มีคำพูดใดแต่รับรู้ได้ด้วยหัวใจ



“เฮ้อ บรรยากาศมันเริ่มพาไปเนี่ย ขอเปลี่ยนใจ จะเร็วไปไหมถ้าพี่จะพูดว่าแต่งงานกันนะ”

“เร็วไป เนเพิ่งจะยี่สิบเอ็ด”

“ว้า...”

“แต่ก็แต่งนะ”

“...”

“สวมแหวนสิ นิ้วเนเย็นหมดแล้ว” เนยื่นมาให้ผมซึ่งผมก็รับมือเล็กๆ นั่นมาจับก่อนจะถอดแหวนจากกล่องมาสวมให้ แน่นอนว่าผมแอบวัดขนาดนิ้วน้องมาแล้วทำให้แหวนเกลี้ยงสีเงินสวมเข้าพอดีกับนิ้วนางข้างซ้ายของเน

“ดูแลดีๆ นะเน วงนี้ห้าแสนนะ ห้ามทำหายเหมือนจิลปกติของเราเด็ดขาด” ผมดักไว้ก่อนเลย เพราะเนชอบทำเครื่องประดับหาย ทั้งแหวน ทั้งตุ้มหู ซื้อมาทีไรหายตลอด

“หึ้ยยยย ทำไมลุงลงทุนขนาดนั้นอ่ะ”

“หายไม่ซื้อให้ใหม่นะ รอแหวนแต่งทีเดียว”

“อ้าว แล้วอันนี้แหวนอะไร”

“แหวนหมั้น”

“งั้นหายได้ แต่แหวนแต่งงานห้ามหายหรอ”

“เน”

“รู้แล้ววว ไม่ทำหายครับ จะดูแลอย่างดีด้วยการ... ไม่เอาออกมาใส่เลย” ฟังแล้วคิ้วกระตุก ผมโอบน้องให้นั่งบนตักดีๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงดุอีกรอบ

“เน”

“อ้าวดุทำไมอีกอ่ะ ลุงก็รู้ว่าถ้าเนเอาออกมาใส่มันจะหายอ่ะ เนไม่กล้าเอาออกมาใส่หรอก ห้าแสนนะไม่ใช่ห้าสิบ” เสียงเล็กโวยวายลั่น

“เฮ้อ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปดูสร้อยคอ ใส่กับสร้อยคอแทนน่าจะโอกาสหายน้อยกว่า”

“เนไม่มีตังค์ซื้อแหวนกลับให้ลุงเป็นแสนๆ หรอกนะ”

“ก็ไม่ได้คาดหวังตั้งแต่แรก”

“เนมีให้แต่ตัวเนเนี่ยแหละ”

“เรานี่ลากเข้าเรื่องอะไรแบบนี้เก่งจริงๆ เลยนะ” ผมขมวดคิ้วดุ

“เขาว่ากันว่ามีแฟนแก่ต้องมัดใจด้วยลีลานี่”

“เลิกอ่านพันทิปได้แล้ว”

“ลุงรู้ได้ไงอ่ะ!!! ลุงก็อ่านใช่ไหม!!!” เพ้อเจ้อ เปิดกระทู้ทิ้งไว้อยู่ทุกวัน ไม่รู้ก็บ้าแล้ว

“ลงจากตักได้แล้ว”

“เนอ้วนอ่ะดิ”

“ไม่อ้วน กำลังน่ารัก แต่เราก็ไม่ได้เบาๆ ขาพี่ชาหมดแล้ว”

“ยังอยากนั่งตักอยู่เลย”

“ทำไม”

“อยากอ้อนลุง”

“ไม่ต้องนั่งตักเราก็อ้อนอยู่ตลอด”

“วู้ววววว ลุงอ่ะ”



ผมคลายอ้อมกอดให้เนลงจากตัก ก่อนจะเริ่มดื่มเบียร์ปกติ ส่วนเนก็กลับไปนั่งลูบแหวนที่นิ้วตัวเองไปมา ผมปล่อยให้บรรยากาศรอบตัวเป็นไปตามปกติ ไม่ได้หวานหวือหวา เหมือนวันธรรมดาที่เกิดขึ้นปกติเวลาไปหาอะไรกินสองคนที่ไทย

เพราะทุกวันที่เราอยู่ด้วยกันมันคือวันพิเศษ...

ผมจิบเบียร์เข้าปากพรางมองเนที่นั่งลูบแหวนอยู่ฝั่งตรงข้าม

รักต่างวัยของเรามักตกเป็นประเด็นหลักสำหรับคนอื่นอยู่เสมอแต่ผมก็ไม่เคยคิดเอามาใส่ใจ สิ่งเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกแย่ที่วัยของผมมากกว่าเนค่อนข้างเยอะนั่นก็คือเวลาที่ผมจะได้ใช้อยู่กับเนนั่นอาจจะน้อยกว่าคู่อื่น ทั้งๆ ที่อยากจะดูแลไปจนน้องแก่ อยากยืนใช้ไม้เท้าไปด้วยกัน เพราะระยะเวลาที่ไม่เท่าคู่อื่นนั้นทำให้ผมตะหนักได้ว่าผมจะต้องใช้เวลาทุกวันกับเนให้มีค่าให้ได้มากที่สุด ให้ทุกวันของเรามีแต่รอยยิ้ม

จากเด็กในชุดครุยวันนั้นสู่แฟนกันในวันนี้

ผมอมยิ้มให้กับโชคชะตาที่พาให้เรามาเจอกัน

สมัยก่อนผมเคยคิดว่าให้ตายอย่างไรก็ไม่มีทางที่จะมีแฟนที่อายุน้อยกว่ามากๆ อย่างแน่นอน แต่บางครั้งความรักก็ไม่ได้เข้ามาในรูปแบบที่เราสามารถสั่งหรือคาดหวังให้ได้ดั่งใจ



และในตอนนี้ผมก็สามารถพูดได้อย่างมั่นใจ



การมีแฟนเด็กเนี่ย



... ดีที่สุดแล้วครับ





- END - 




เขียนนิยายจบทีไร ใจหายตลอดเลยนะเนี่ย เรื่องที่สามแล้วก็ยังไม่ชิน

จบค่ะ จบแล้ว

เรื่องราวของหนึ่งลุงกับหนึ่งเด็กในนิยายอาจจะจบลงแต่แปมก็หวังว่าในสักโลกหนึ่งเขายังใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข

เติมเต็มกันและกันแบบตลอดไปจนแก่ (หมายถึงเน เพราะลุงแก่อยู่แล้ว)





สำหรับนิยายเรื่องนี้ เป็นทั้งความกดดัน ทั้งความสำเร็จ ทุกตัวอักษรยังคงถูกเขียนขึ้นด้วยความรักของเรา

เราร้องไห้กับเรื่องนี้หลายครั้งมากเพราะเป็นเรื่องที่มีปมเยอะที่สุดเท่าที่เคยเขียนแล้วก็กลัว ไม่มั่นใจ เขียนๆ ลบๆ

เราต้องทำการบ้านเรื่องปัญหาครอบครัวเยอะมากๆ ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยมีปัญหาครอบครัว

มีพี่น้องที่ไปกันคนละทางจนแม่เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากมีคนแบบลุงในชีวิตอยู่ดี





เรื่องนี้ก็ถูกเขียนขึ้นในช่วงที่ตารางชีวิตแน่น มีภาวะหลายอย่างที่กลัวจะเขียนไม่จบ แต่ก็จบแล้วค่ะ แอ่แฮ่

เราตั้งใจให้โทนเรื่องของสามหกสิบแปดมีความน้ำส้มผสมกาแฟ ทั้งเปรี้ยว ทั้งหวาน ทั้งขม ทั้งกลมกล่อม ซึ่งก็ (คิดเอาเองว่า) มันก็ออกมาตามที่คิด



สามารถติดตามความน่ารักๆ ในตอนพิเศษได้ในแบบรูปเล่มกับอีบุ๊คต่อได้นะคะ

ยังไงก็ฝากน้องเนกับพี่ไม้ #สามหกสิบแปด ไว้ในช่องว่างในใจสำหรับการอ่านของทุกคนต่อจากนี้ด้วยนะคะ



แล้วเจอกันในนิยายเรื่องต่อไปนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ขอบคุณคนแต่งค่ะเป็นเรื่องที่สนุกและได้อารมณ์หลากหลายในการอ่าน ทั้งอมยิ้ม ซาบซึ้งและสะเทือนอารมณ์ รอติดตามเรื่องต่อไปค่า :mew1:

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ยิ้มทั้งน้ำตาตามเน รักต่างวัยที่เติมเต็มกันและกัน ลุงทั้งรักทั้งทุ่มสุดตัว เพื่อเด็กดื้อของลุง เพราะลุงคือโลกทั้งใบของเน ฮืออ ดีต่อใจ จนใจฟูมากกก

ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องราวดีๆที่น่าประทับใจ สนุกมากๆค่ะ ขอบคุณที่พาน้องเน เจ้าก้อนดื้อ น่ารัก น่ามันเข้ว และพี่ไม้ ลุงสายเปย์ สุดเท่!มาให้เราได้รู้จักและรัก ❤  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2020 16:11:36 โดย Ac118 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 :pig4
จบแล้วไม่อยากให้จบเลย รักเนรักลุง :3123:

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
สนุกมากๆค่ะ ตอนทะเลาะกับพ่อคือร้องไห้เลย สงสาร

ขอบคุณนักเขียนด้วยนะคะ จะรอติดตามเรื่องต่อไปค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2020 23:23:45 โดย chaoyui »

ออฟไลน์ fahdekkom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น้องเนน่ารักมาก อิจฉาเนมากจริงๆนะ

ออฟไลน์ gibari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นเรื่องที่ดีมากกกก เลยค่ะ อุ่นในหัวใจจังเลย
ตอนช่วงปมปัญหาครอบครัวถูกถ่ายทอดออกมาคือทำเอาร้องไห้จนจมูกแน่นไปหมดเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุก ๆ แบบนี้มากเลยนะคะ

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ nuum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
หนุก หนุก ครับ



            :call:

ออฟไลน์ Freezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
นองเน โคตรน่ารักเลยครับ   ชอบมากๆ
ส่งนบุงไม้ ก็คือแบบผู้ใหญ่ที่ดีมีเหตุผล รักทั้งคู่เลยครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด