『 แฟนเด็ก 』 l ╯#สามหกสิบแปด╰ lll ตอน 24 ญี่ปุ่นอีกครั้ง [31/03/20] p.8
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 『 แฟนเด็ก 』 l ╯#สามหกสิบแปด╰ lll ตอน 24 ญี่ปุ่นอีกครั้ง [31/03/20] p.8  (อ่าน 58876 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
น้องเนคนเก่ง สู้ๆลูก
ก้อนดื้อของลุง ต้องทำได้ จะไม่ปล่อยให้ลุงรอนาน เพราะลุงแก่แล้ววว 55555

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ขอบคุณน่ะ

 :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
สามหกสิบแปด 21


เขาว่ากันว่าหากเราอยากให้เวลาผ่านไปไว
ต้องไม่กาปฎิทิน เพราะนั่นจะทำให้เราคอยเร่งอยากจะกาวันต่อไปทำให้เวลาเหมือนเดินทางช้าลงกว่าที่มันเป็น ผมลองไม่ทำอยู่แค่หนึ่งอาทิตย์แรกแต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวยกปากกาขึ้นมาปฏิทินบนโต๊ะทำงานทิ้งไปทีละวันอยู่ดี

ถ้านับจากวันสุดท้ายที่จูบกัน
ผมห่างกับเนมาได้เดือนกว่าแล้ว

เป็นการห่างที่ไม่ได้เจอหน้าและไม่ได้ติดต่อหากัน ไม่มีแอบเจอนอกรอบแม้แต่วันเดียว มีบ้างที่เนจะเหนื่อยแล้วไลน์มาบ่นแต่ผมก็แค่กดอ่านไม่ได้ไลน์ตอบไปเพราะกลัวว่าถ้าพ่อเนมารู้ทีหลังอาจจะกลายเป็นปัญหาได้ เนเองก็รู้ถึงได้พิมพ์ระบายพิมพ์บ่นแล้วก็ตบท้ายด้วยคำว่าแต่เนก็โอเค ห้ามตอบนะ เดี๋ยวผิดกฏพ่อ
 ...เนใจแข็งกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ
 ตอนแรกคิดว่าก้อนดื้อนั่นคงงอแงแล้วก็แอบปีนรั้วมาหาที่ออฟฟิสแน่นอน ไม่มีทางที่จะห่างกันเด็ดขาด ที่ไหนได้ มีแต่ผมเองเนี่ยแหละที่คอยไปแอบส่งขนมส่งน้ำให้เด็กก่อนเข้าเรียนอยู่ทุกเช้าให้รู้ว่าต่อให้ไม่ได้คุย ไม่ได้เจอ ไม่ได้สื่อสารกันก็ผมก็คงเป็นกำลังใจให้อยู่ตลอด

 ‘ ห้ามติดต่อกันจนกว่าเนจะสอบติด ’

พ่อของเนยื่นคำขาดไว้ที่บ้านวันนั้น เป็นข้อเสนอเดียวที่ยื่นมา ในหัวผมรันข้อต่อรองมากมายเพื่อเจรจาแต่พอเงยหน้าขึ้นเจอสีหน้าของคนเป็นพ่อที่มองลูกชายตัวเองด้วยแววตาเสียใจผ่านหน้ากากนิ่งขรึมนั่น ผมก็ได้แต่กลืนข้อต่อรองมากมายลงคอและยอมรับมันอย่างไร้ข้อโต้เถียง

ข้อเสนอของพ่อเนไม่ใช่ข้อบังคับเด็ดขาดอะไร ไม่ได้ซับซ้อนขนาดที่เนคิดแม้แต่นิดเดียว เนที่ยังมองทุกอย่างด้วยมุมของเด็กที่ค่อนข้างเอาแต่ใจยังค่อนข้างแคบนักถ้าเทียบกับผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมาเยอะกว่า แท้จริงแล้วที่มาของข้อเสนอนั่นมันก็เป็นแค่เพียงสิ่งง่ายๆ

พ่อของเนยังรับไม่ได้
...และเขาขอเวลาทำใจมากกว่านี้

แต่ถ้าพูดออกไปตรงๆ เนคงระเบิดลงอีกรอบ คนเป็นพ่อคงไม่อยากฟังลูกตัวเองพูดว่าอยากตายหรือไม่อยากเกิดมาซ้ำสองหรอก ต้องยอมรับว่าในอีกความหมายหนึ่งคือเขายอมให้มากที่สุดที่เขาจะทำได้แล้วสำหรับลูกชายคนเดียวของเขา หากทุกอย่างผ่านไปได้ตามกำหนดเวลานั่นหมายความว่าเขาจะยอมรับความรักที่ไม่ถูกต้องในครั้งนี้ แต่ถ้าเนไม่สามารถทนได้แล้วหมดรักผมไปในระยะเวลานี้ พ่อของเนคงได้แอบเปิดเหล้าฉลองแน่นอน

“ป่านนี้จะทำอะไรอยู่นะ”
“ให้กูเดาไหม น่าจะกำลังคิดว่าลุงแม่งจะทำงานทำการไหมน้า หรือว่าจะนั่งหงอยเป็นหมาซึมอยู่ในห้องทำงาน”

เฮ้อ...
บนโลกมีเครื่องกรองฝุ่น pm 2.5 เมื่อไหร่จะมีเครื่องกรองเพื่อนน่ารำคาญออกจากชีวิตบ้าง เสี่ยวมี่มีแพลนจะทำไหมนะ

“...”
“แหนนนนน เงียบแบบนี้ แอบด่ากูในใจแน่นอน ดูออก”
“...”
“ยังเงียบอยู่ รับบทพระเอกเย็นชา มึงคิดว่าตัวเองเป็นกงยูหรอเพื่อน”
“เก่ง”
“จ๊ะ”
“รู้ใช่ไหมว่ากูเซ็นไล่มึงออกง่ายนิดเดียว” ไอ้เก่งที่ควรจะสลดกลับยิ้มแฉ่งจนตาตี่ของมันปิดเป็นสระอิ ยิ้มอะไรของมันวะ จะไล่ออกนี่รู้ความหมายไหม
“รู้โว้ย แต่มึงไม่ไล่กูหรอก”
“โอเค กูบอกเลขาให้ทำเอกสารแป-”
“เพราะกูมีรูปน้องเนมาขายยยยยย ไล่กูลงหรอจ๊ะะะะะะะะ” มือผมที่กำลังจะหยิบมือถือภายในถึงกับชะงักกึ้กเมื่อได้ยินชื่อเนหลุดออกมา
“...”
“มีชะงักว่ะ โอโห้ เพื่อนกูมันหลงเด็กหัวปักจริงๆ “ ผมหันกลับมามองหน้ามันนิ่งๆ
“แฮ่ม... ไหนรูป”
“กูอุตส่าห์ให้หลานถ่ายมาให้เลยนะ เห็นใจ มึงแม่งโหมงานหนักไม่รู้จักพัก ระวังจะวูบนะสัด ที่วูบนอกเหนือจากมึงก็พนักงานด้วย อยู่ดีๆ บอสแม่งก็เนี้ยบเชคนู่นเชคนี่ขึ้นมา แผนกกูวุ่นไปหมดแล้ว” ใช่ครับ เพื่อเป็นการดึงความสนใจ ช่วงนี้ผมเลยทำงานหนักกว่าเดิม ทั้งประชุมโครงการหลายโครงการ บางครั้งก็ออกไปคุยงานแทนพ่อ วันไหนหยุดก็เลือกจะมาออฟฟิสเพื่อเชคเอกสาร เชคข้อร้องเรียนของลูกค้า ทำนู่นนี่จนเริ่มมีเสียงบ่นของพนักงานมาให้ได้ยินว่าช่วงนี้หลายแผนกหัวหมุนกันไปหมดแล้ว

ก็พอว่างทีไรมันก็อดใจโหวงไม่ได้
เหมือนชีวิตขาดสีสัน ขาดสิ่งน่ารัก คิดถึงไอ้หัวหอมแชมพูนั่นจะแย่แล้ว

“เอารูปมาดู”
“สัญญาก่อนว่าจะเลิกจู้จี้กับแผนกกู ไอ้ไม้ ไอ้เหี้ย หน้ากูจากยามะพีจะเป็นยาไหมพี่แล้ว”
“เออ เอารูปเนมาดู”
“โวะ มันหลงเด็กจริงโว้ย” ไอ้เก่งส่ายหัวก่อนจะโยนมือถือตัวเองมาให้ผม ในมือถือของมันเป็นรูปก้อนดื้อที่ผมคิดถึงกำลังก้มอ่านหนังสือด้วยใบหน้าเคร่งเครียด คิ้วเข้มผูกขมวดเป็นผมแน่น ช่วงนี้คงเป็นช่วงที่สนามสอบมาติดกันรัวๆ การที่เนจะเครียดเป็นพิเศษนั่นไม่แปลกแต่สิ่งที่แปลกไปในรูปทำให้ผมขมวดคิ้ว

เนใส่แว่น?

“แว่นสายตาหรือแฟชั่น” ผมเงยหน้าขึ้นถามไอ้เก่ง
“หน้ากูดูเหมือนผู้เชี่ยวชาญทางด้านดูแว่นเรอะ กูจะไปรู้ได้ไง”
“ถามหลานมึงมา”
“สั่งเก่ง”
“ใช่”
“กูไม่ได้ถึงชื่อกูนะ กูหมายถึงมึงอ่ะสั่งชาวบ้านเก่ง”
“นั่นสิ กูว่างไปตรวจความเรียบร้อยแผนกมึงพรุ่งนี้พอดี”
“กูถามให้เดี๋ยวนี้เลยค้าบพ่อออ” มันรีบฉกโทรศัพท์ตัวเองกลับไปพิมพ์ ผ่านไปไม่กี่วิก็เงยหน้าขึ้น “ไอ้กันบอกแว่นแฟชั่น เด็กมึงใส่ไว้เป็นเครื่องราง”
“เครื่องราง? “
“เออ เด็กมึงบอกว่าถ้าใส่แว่นแล้วจะฉลาดขึ้น”
“หึ” โคตรจะเน อะไรแบบนี้เนี่ยขยันคิดจริงๆ
“โอ้ เด็กมึงบอกด้วยว่าใส่แล้วจะได้ดูใส่แว่นคู่กับมึง” ผมได้แต่ยกยิ้มเอ็นดู ไอ้แว่นทรงกลมนั่นไม่เห็นจะเข้าคู่กับแว่นสายตาของผมเลยสักนิด แต่ถ้าถามว่าเข้ากับเนไหมคงต้องตอบว่าเข้ามาก แก้มกลมๆ กับแว่นอันใหญ่ๆ

เฮ้อ โคตรแย่
ผมทำตัวเหมือนพ่อกำลังเห่อลูกเลย

“อ๊ะ หลานกูส่งมาอีกรูป” ผมรีบคว้ามือถือในมือมันดู ปรากฏเป็นตึกของผมที่ถูกซูมจนภาพแตกไม่ใช่ภาพเนแต่อย่างใด
“ตึก?”
“โต๊ะมั้ง”
“...”
“เออ เด็กมึงซูมมา”
“...”
“อ่อ มีไลน์มาต่อด้วย” ผมกดปิดรูปเพื่ออ่านข้อความ ทั้งๆ ที่ไลน์เป็นไลน์ของกันหลานเก่ง แต่ประโยคที่พิมพ์มานั้นทำให้ผมรู้เลยว่าคนที่พิมพ์นั้นเป็นใคร

‘ห้ามโกง ก้อนลุุง’   


หึ...
โดนจับได้เสียแล้ว

“เกินเรื่องมาก ยิ้มหวานเหมือนเป็นสาวคอนแวนเปียคู่ ไม้... มึงเป็นลุงอายุสามหก เผื่อมึงลืม”
“หุบปากไป”
“โอ้โห กับเด็กยิ้มจนแก้มแตก กับเพื่อนหุบปาก”
“ส่งรูปมาให้ด้วย”
“ใช้งานเหมือนกูเป็นพนักงานเลยเนาะ”
“แล้วมึงเป็นอะไร”
“... เป็นพนักงานจ้ะ ส่งเดี๋ยวนี้เลยครับคุณบอส” ผมเมินความกวนตีนของเก่งแล้วกลับมาก้มลงมองรูปที่มันเพิ่งส่งมา ไอ้เด็กแว่นหน้าดื้ัอ
“โอ๊ะ เด็กมึงส่งข้อความมาอีกแล้ว” ไอ้เก่งยื่นจอมาให้ผมอ่าน ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปอ่าน

‘อย่าโกง ก้อนลุง ส่งรูปตัวเองกลับมาด้วย’

หึ...
ต่างคนต่างโกง ผมถอยหัวออกมาเพื่อคิดว่าจะโพสรูปอะไรส่งกลับไปดี นั่งเซ็นเอกสารให้ดูเหมือนทำงานดีไหม ไม่สิ  เครียดเกินไปหน่อย เอาเป็นเท้าคางหล่อๆ ดีกว่า เอ๊ะ มันจะดูตั้งใจไปไหมวะ หรือเอาเป็นปลดเนคไทด์เซ็กซี่ๆ ดี

แชะ...

“เห้ย” ผมหันไปถลึงตาใส่เสียงถ่ายรูปนั่นทันที
“มึงอย่าเยอะ รูปน้องมันก็แอบถ่าย มึงจะมาคิดท่าโพสทำห่าอะไร”
“มึงส่งมาให้กูดูก่อน”
“ส่งไปแล้ว” ไอ้เก่งหันโทรศัพท์มาให้ผมดู มันเป็นรูปผมขมวดคิ้วมือซ้ายเท้าคางตัวเองมือขวาดึงเนคไทด์ เหมือนจะดูดีแต่ไม่มีอะไรไปด้วยกันเลย “น้องมึงถล่มเลขห้ามาเต็มเลย โอ๊ะ หลานกูบอกว่าติวเตอร์จะสอนแล้วไว้ค่อยคุยทีหลัง”
ผมโบกมือเป็นสัญญาณว่าช่างมัน ไม่ได้กะจะคุยอะไรยืดยาวตั้งแต่แรก แค่พอให้ได้เห็นหน้านิดๆ หน่อยๆ ก็พอใจแล้ว พอหมดประโยชน์ผมก็เปลี่ยนจากโบกมือเป็นสัญญาณว่าช่างมันเป็นสัญญาณไล่มันออกจากห้องแทน แน่นอนไอ้เก่งไม่ยอมออกง่ายๆ มันกางแขนกางขากอดเก้าอี้จะไม่ยอมลุกไปไหนเหมือนเลียนแบบใครแถวๆ นี้มา สุดท้ายเลยต้องยอมสัญญากับมันว่าจะลดเรื่องทำงานเกินเวลาลงมันถึงยอมถอนทัพออกไป

ผมถอนหายใจยาวเหยียด
เฮ้อ...
เมื่อไหร่จะสอบติดสักที คิดถึงจนจะบ้าตายแล้วนะ

.
.
.


เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าโดยเฉพาะผมผู้ซึ่งเปิดเวปไซต์แอดมิชชั่นของเนดูอัพเดทข่าวสารอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่สอบ ยื่นคะแนนเลือกอันดับ เวลาคลานไปอย่างช้าๆ แต่ผ่านมาจนเข้าเดือนพฤษภา
ระยะทางสามเดือนกว่าเกือบสี่เดือนนี่ไม่ง่ายเลย
ถ้าพูดกันตรงๆ แล้ว ก็ต้องบอกว่าเป็นระยะห่างที่ผมค่อนข้างจะตกใจ ผมห่างกับเนช่วงหลังปีใหม่มาไม่กี่อาทิตย์  จำได้ว่าไอ้เก่งมาบ่นๆ อยู่ว่าน้องโฟกัสกับการเตรียมสอบที่เรียกว่าแกทแพท ตอนแรกก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก ในระหว่างที่เปิดเวปเพื่อที่จะทำความเข้าใจก็ดันมีสนามสอบใหม่อย่างโอเนท เก้าวิชาสามัญเข้ามาให้ต้องหาข้อมูลเพิ่ม
เด็กสมัยนี้ดูเหมือนจะเจอสนามสอบค่อนข้างซับซ้อนแล้วก็หลายขั้นตอน สมัยผมสอบเข้ามหาลัยตอนนั้นยังใช้คำว่าเอ็นทรานส์อยู่เลย ไม่ใช่แอตมิชชั่นเหมือนสมัยนี้ ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดผมใช้เกรดกับคะแนนสอบของระบบ เป็นครั้งแรกที่ต้องลงเรียนพิเศษเพราะกลัวไปสอบไม่ทันเนื่องจากการสอบเกิดขึ้นระหว่างเทอม จะว่าไปแล้วตอนนั้นถึงครอบครัวจะไม่ได้กดดันอะไรแต่ผมก็รู้สึกเครียดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน สำหรับสมัยนี้ที่การแข่งขันสูงขึ้นก็คงจะต้องเครียดกว่าสมัยผมอยู่แล้ว
ผมทำความเข้าใจอยู่พักใหญ่ถึงรู้ว่า นอกจากสนามสอบที่มีหลายสนามแล้วนั้น ยังซับซ้อนยิ่งกว่าด้วยการมีการยื่นมหาลัยทั้งหมดห้ารอบ แบบยื่นพอร์ต โควตา รับตรง แอตมิชชั่นแล้วก็รับตรงอีกรอบ
ครับ แล้วปัญหามันก็อยู่ตรงนี้
ผมไม่รู้ว่าเนจะยื่นรอบไหน...
เป้าหมายการรอของผมคือรอเนสอบติดมหาลัย แต่ถ้าเนยื่นไอ้รับตรงรอบสุดท้ายนั่นเท่ากับว่าผมต้องรอไปอย่างต่ำเลยก็ห้าเดือน ถึงอย่างนั้นผมเดาจากภาพรวมแล้วเนน่าจะตรงไปที่รอบแอตมิชชั่นมากกว่า  เลยปักธงรอไว้ในใจแค่พอประกาศผลรอบแอตซึ่งก็ปลายเดือนมิถุนา รอต่อไปอีกเดือนกว่าไม่ต่างจากรอบรับตรงสุดท้ายเท่าไหร่
...อย่างน้อยก็ต้นเดือนวะ
ผมถอนหายใจยาวเหยียด ถึงวันนี้จะเป็นวันหยุดแต่ผมก็ยังคงแบกร่างตัวเองมาเข้าออฟฟิสเชคเอกสารนู่นนี่ เป็นอีกวันที่ผมทำงานล่วงเวลาโดยไม่จำเป็น แค่ไม่อยากกลับห้องไปคิดถึงบรรยากาศห้องที่เคยมีก้อนดื้อนอนกลิ้งแต่ตอนนี้เหลือแต่ความจืดชืดของผู้ชายวัยกลางคนแสนจะน่าเบื่อ
 ป่านนี้ไอ้ก้อนดื้อคงใช้ชีวิตปิดเทอม นอนตีพุงตุ๊บๆ รอยื่นคะแนนอยู่บ้าน ถ้าเป็นเปิดเทอมปกติผมก็จะได้รูปแอบถ่ายเล็กๆ น้อยๆ จากหลานไอ้เก่งบ้าง พอปิดเทอมแบบนี้ก็ได้แต่นั่งเฉาคาห้องทำงาน

เออ ตอนพ่อเนบอกเรื่องข้อตกลงก็ใจดีสู้เสือเพราะคิดว่าน้องจะแหกกฏมาเจอกันแต่ที่ไหนได้ เฮ้อ
พอมาห่างจริงๆ ใจแม่งฟีบเป็นลูกเกดเลย
ป่านนี้จะแอบไปปิ๊งสาวที่ไหนไหมนะ จูบเป็นแล้วด้วย เจอกันอีกทีจากลูกแมวจะกลายเป็นเสือร้ายไปแล้วหรือเปล่า เฮ้อ คิดถึงหัวฟูกับกลิ่นแชมพูหอมๆ ชะมัด ผมลองใช้ตามน้องก็รู้สึกไม่ชินกลิ่นจนต้องเปลี่ยนกลับไปใช้ฟอร์เมนตามเดิม

ก๊อกๆ

หืม?
ผมเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องทำงานแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้ว วันนี้เป็นวันหยุด ไม่น่าจะมีพนักงานเข้ามาทำงานที่บริษัท ถ้ามีก็เป็นแผนกที่ไม่น่าจะต้องติดต่อกับผมโดยตรง

ก๊อกๆ

“ใครครับ”

ไร้เสียงตอบกลับ
ถ้าไม่ใช่พนักงานก็คงจะเหลืออย่างเดียว

...ผี?
แต่กลางวันแสกๆ เนี่ยนะ บ่ายสามครึ่ง? ผีทำงานได้แล้วหรอ?...

พอจะได้ยินเรื่องแบบนี้มาบ้างจากไอ้เก่ง ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอด้วยตัวเอง แย่หน่อยที่ผมนับถือศาสนาคริสต์ ถ้าเป็นผีไทยขึ้นมาก็หมดปัญญาจะเจรจาด้วย ยังไม่ทันจะเปิดมือถือไล่หาบทสวด ประตูห้องทำงานผมก็เปิดออกพร้อมกับร่างของเด็กผู้ชายแก้มกลมหัวฟูใส่เสื้อสกรีนลายไอเลิฟหัวหินยืนยิ้มแป้นอยู่

 “ลุงงงง เนสอบติดแล้วววววววววววววว”

ยังไม่ทันได้ประมวลผลอะไรเนก็วิ่งพรวดเข้ามากระโดดขึ้นโต๊ะทำงานทำเอาเอกสารกับข้าวของหลายอย่างตกลงพื้นไปหมด ผมปลายตามองเอกสารที่นั่งกุมขมับจัดการอยู่เป็นอาทิตย์แต่สุดท้ายก็หันกลับมาสนใจหัวฟูในอ้อมกอดก่อน
“ติด... เอ๊ะ เราติดรับตรงรอบแรกหรอ” ผมกระชับตัวดื้อในอ้อมกอดแล้วพยายามดึงน้องลงจากโต๊ะอย่างทุกลักทุเล กลัวพวกคลิปหนีบกระดาษจะบาดขาเอา
“รู้ได้ไงอ่ะว่ามีหลายรอบ”
“...”
“รับแค่ไม่กี่คน ตอนยื่นไม่คิดว่าจะติดด้วยซ้ำอ่ะลุง แต่ติดเฉย!!! เนี่ยๆ เนอ่ะนะเน เพิ่งสอบสัมภาษณ์เสร็จพ่อก็ขับพามาส่งที่นี่เลย!!!”
“เราผ่านสัมภาษณ์แล้วด้วยหรอ”
“ไม่รู้ แต่รุ่นพี่บอกสัมภาษณ์ปกติผ่านหมด เนถามอาจารย์ในห้องสัมว่าตกลงคือเนผ่านไหม อาจารย์ก็บอกผ่านชัวร์ เวลคัมๆ เนสัมเป็นภาษาอังกฤษนะลุง ตื่นเต้นมากกกกกกก แต่พยายามทำใจเย็นสู้กระต่าย” ... เขามีแต่สู้เสือ แต่เห็นว่ากำลังตื่นเต้นเลยยังไม่ขัดก็ได้ “ไม่รู้อ่ะแต่เนว่าเนผ่านเนเลยบอกพ่อว่าเนผ่านแล้วถ้าพ่อไม่พามาหาลุง เนจะไปสละสิทธิ์วันพรุ่งนี้ วู้วววววว” แสบเหมือนเดิม ผมมองก้อนดื้อในอ้อมกอดด้วยความคิดถึง อยากกระชับกอดให้แน่นขึ้นแต่ก็กลัวน้องอึดอัด
“เก่งจัง”
“อื้อ”
“เก่งมากๆ”
“ฮึก...”
“คนเก่งของพี่”
“ฮึก ลุง ลุง เนคิดถึงลุงมากกกกกก คิดถึงจนเหนื่อย คิดถึงจนอยากหนีออกจากบ้าน คิดถึงจนคิดว่าทำไม่ได้หรอก ไม่มีลุงก็ทำไม่ได้หรอก ฮึก” ใจเหลวไปอีกครั้ง ให้มันได้แบบนี้
“แต่ก็ทำได้นี่”
“อื้อ!! เหนื่อยมากด้วย!!! เรียนพิเศษเนตามไม่ค่อยทันพอกลับมาอ่านที่จดบางจุดมันก็งงอ่ะ ดีนะที่รุ่นพี่มาช่วยติวให้ที่โรงเรียนติวยันดึกเกือบทุกวัน วันไหนไม่มีติวเนก็กลับมาทำแต่ข้อสอบเก่าวนไปวนมา เนอ่ะนะเน ติวแค่ไทยกับอิ้งจะยื่นรอบรับตรง เสี่ยงมากเลยลุง เพราะวิชาอื่นคะแนนมันกลางๆ คณิตเนเลวร้ายมาก สอบแพทหนึ่งเนได้ไม่ถึงยี่สิบด้วยซ้ำดีที่ไม่ต้องใช้ ดีอีกอย่างคือเกรดที่โรงเรียนเน เนว่าเขาแอบปล่อยนิดหนึ่งอ่ะ แต่มันก็เพิ่มคะแนนให้เนอยู่แหละ ว่าไม่ได้ ก็นะ ทำได้... แต่ไม่เอาแล้ว อยู่ด้วยตัวเองได้ ทำได้ แต่อยากมีลุงด้วยมากกว่า” บ่นเสร็จเนก็เงยหน้าขึ้นยิ้มจนตาปิด แก้มใสนั่นชื้นไปด้วยน้ำตา ผมก้มลงหอมเหม่งล่อตาล่อใจนั่นไปหนึ่งที
“คิดถึง” เป็นคำพูดที่ไม่ได้พูดเล่นๆ แม้มันจะสั้นแต่ก็แทนความรู้สึกตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาได้ในคำเดียว

คิดถึง...
แค่รู้ว่าได้กอดอยู่ก็อุ่นไปทั้งใจแล้ว...

“ลุงแอบมีสาวป่ะ สารภาพมาตอนนี้แล้วเนจะลดโทษให้กึ่งหนึ่ง”
“หึ มีสายไม่ใช่หรอ”
“โห่ ก็สายเป็นเพื่อนลุงทั้งคู่อ่ะ พี่เก่งกับพี่พามอาจจะช่วยกันก็ได้ป่ะ”
“อ้อ ตกลงสายคือเก่งกับพามหรอ”
“เห้ยยยยย โป๊ะแตกเฉยยยยยย” ไว้ค่อยคิดบัญชีทีหลัง ผมยิ้มให้กับหน้าดื้อในอ้อมกอด 
“เอาเวลาที่ไหนไปหา”
“เยอะ พี่เก่งบอกลุงว่างมาก ป่วนพนักงานแผนกพี่เก่งจนหัวหมุน”
“เรียกมันพี่แต่เรียกพี่ลุงเนี่ยนะ”
“ลุงก็คือลุงไง”
“...” คำอธิบายโลกไหนเนี่ย ฟังแล้วไม่ได้ไขอะไรให้กระจ่างเลย
“เนี่ย พี่เก่งยังบอกด้วยว่าลุงมีลูกค้าสาวเยอะ”
“อ้อ มันบอกหรอ”
“ลุง!!!!” เนขมวดคิ้วฟาดไหล่ผมดังปั้ก ตัวเป็นลูกแมว ทำขู่หางพอง คิดว่าตัวเองน่ากลัวมากเลยมั้ง
“มันได้บอกไหมผู้หญิงคนไหนก็ไม่น่ารักเท่าเรา”
“เปล่า พี่เก่งบอกนมตู้มทุกคน”
“...”
“พี่เก่งบอกอีกว่ามีลูกค้าผู้ชายตี๋ขาวน่ารักมาเยอะเหมือนกัน ลุงก็ทำตาเยิ้มใส่เขา” ผมได้แต่ขมวดคิ้ว ตายงตาเยิ้มอะไรของมัน
“แล้วมันได้บอกไหมว่ามันกำลังจะโดนไล่ออก”
“ไม่ได้บอกอ่ะ”
“อืม งั้นพี่บอกตอนนี้เลย” เดี๋ยวค่อยไลน์ไปบอกเจ้าตัว ผมส่ายหัวสลัดความไร้สาระออกแล้วกลับมาโฟกัสเน “เพ้อเจ้อ พี่ดูเหมือนคนเจ้าชู้นักหรอ”
“หึ ดูเหมือนลุงแก่ๆ ”
“...” ไอ้เด็กเวรนี่
“ล้อเล่นน่า แต่เรื่องจริงคือเนไม่มีใครเลยนะ ถามไอ้กันได้เลยนะลุง เนอ่ะนะเน เนอ่ะไปเรียนพิเศษที่สยามมีสาวมาขอไลน์เนยังไม่ให้เลย”
“...”
“เนคิดได้แล้วว่าเนไม่ได้อยากดูแลใคร เหนื่อยอ่ะ เนอยากมีคนดูแล แล้วคนที่ดูแลเนได้ดีที่สุดก็คือลุง อยู่กับลุงเนสบายใจ สบายตัว สบายพุง แต่ไม่ต้องห่วงถ้าวันหนึ่งลุงแก่มากเดี๋ยวเนจะเป็นฝ่ายดูแลลุงกลับเอง”
“...”
“นี่ เนสอบติดแล้วนะลุง เนจะค่อยๆ โตขึ้น จนวันหนึ่งเรื่องอายุห่างกันจะได้เลิกวุ่นวายสักที เบื่อ” ผมก้มกดจมูกลงบนกลุ่มผมหอมแชมพูผลไม้นั่นไปหนึ่งที 
“พี่คิดถึงเรา...”
“ลุง”
“หืม?”
“เดี๋ยวลุงขับพาเนไปส่งบ้านด้วยนะ”
“ได้ ว่าแต่พ่อเราล่ะ”
“พ่อกลับไปแล้ว มาส่งแล้วก็กลับบ้าน”
“อ้อ”

ค่อยโล่งไปอีก แสดงว่าพ่อเนพอจะยอมรับได้แล้ว ถึงอนุญาตให้เนมาอยู่กับผม ส่วนทางพ่อกับแม่ผมท่านก็ไม่ได้พูดอะไรมาก มีกล่าวตักเตือนเรื่องวัยตามที่คาดไว้ แต่สุดท้ายท่านก็บอกแค่ถ้าไม่ได้ผิดกฎหมายและเป็นการยินยอมทั้งคู่ ท่านก็ไม่ขัดข้องอะไร ขอแค่ทำทุกอย่างให้มันถูกต้องก็พอ

“เออลุง คณะเนอ่ะ ตอนปีหนึ่งต้องไปเรียนที่นครนายก บังคับอยู่หอในด้วย”
“นครนายกเลยหรอ”
 “อื้อ แล้วปีสองถึงปีสี่ค่อยกลับมาเรียนกรุงเทพ”
“...” ผมขมวดคิ้วกับข้อมูลใหม่ทันที
... เท่ากับว่าเราก็ต้องห่างกันอีกปีหนึ่งงั้นสิ
“แต่เนวางแผนไว้แล้วว่าเสาร์อาทิตย์เนจะกลับมาอยู่กับลุง  เพราะงั้นลุงต้องไปรับเนทุกวันศุกร์นะ เสาร์อาทิตย์จะเป็นลุงเนส์เดย์ เออๆ เนอยู่หอชายล้วน ลุงต้องหึงมากแน่เลย ไม่ต้องหึงนะเดี๋ยวไอ้กันก็ตามเนมา มันยื่นวิศวะรอบนี้ไม่ติดมันจะไปยื่นอีกรอบ มันบอกว่าเนติดเพราะปฏิหาริย์ ไม่เถียง เนก็ว่างั้น ติดได้ไงไม่รู้ งงมาก” พูดเองเออเองอะไรเสร็จศัพท์แล้วก็มายิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนตัวเองรอบรู้วางแผนไว้ดีมาก เห็นแล้วหมั่นเขี้ยวจนต้องก้มลงงับแก้มนุ่ม
“คิดถึง”
“ลุงอย่าเพิ่งวุ่นวายกับแก้มเน ฟังก่อนๆ พ่อบอกให้เนจัดการเรื่องชุดนิสิตเอง ลุงต้องพาเนไปซื้อที่ม.ด้วยนะ”
“ได้”
“แล้วก็วันนี้พาไปกินชาบูด้วย เนอยากกินมาหลายวันแล้วววว”
“ได้”
“อ่ะ มองอยู่ได้ จะจูบก็จูบ”     

ผมกระตุกยิ้มให้กับความน่ารักของเนก่อนจะก้มลงหอมแก้มนิ่มแบบที่จมูกจมเข้าไปในแก้ม รู้สึกเหมือนช่องว่างถูกเติมเต็ม พอได้กอดกันแบบนี้ก็รู้สึกถูกเติมเต็มจนเหมือนหลายเดือนที่ผ่านมากินเวลาแค่วันเดียว 

ให้ตายเถอะ
ผมรักเนมากกว่าที่ตัวเองคิดเยอะเลย




ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :hao3: ได้เจอกันแล้วววว

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ได้เจอกันแล้ววว สงสารลุงต้องทำงานหน้ามืดตามัว ทีนี้นอกจากลุคพ่อก็คือลุคเสี่ย พาเด็กไปซื้อชุดนักศึกษาแล้ว 555555555555555555

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: ดีใจอ่าาาาา

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ดีใจจังในที่สุดก็ยิ้มกันได้แล้ว ความอดทนไม่สูญเปล่าเลย พ่อคงเริ่มรับได้แล้วละนะ
เนอ่ะนะเนอ่ะน่ารักที่สุดในโลก :กอด1:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ดีใจกับก้อนดื้อ&ก้อนลุง :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
แหมเจ้าก้อนดื้อ "จะจูบก็จูบ"  :hao3:

ออฟไลน์ อิ๊อ๊ะชะเอิงเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
หมั่นไส้คนแก่

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ตัวดื้อทำสำเร็จแล้ว ได้เจอลุงแล้ววว เก่งมากกก โอ้ยยเล่นเอา ก้อนลุง เเทบขาดใจเพราะความคิดถึง เอ่ะอ่ะ หอมมมมหัว  :man1:

ต้องพาเด็กไปกินชาบู ซื้อชุดนักศึกษา เป็นทุกอย่างให้เนแล้วว ทั้งแด๊ดดี้ทั้งเสี่ยทั้ง ลุง(ที่แปลว่าแฟน)

/เนี่ย เนอ่ะนะเน ยอมให้ลุงเปย์เนคนเดียวเลย ลุงภูมิใจไหม :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2020 15:31:41 โดย Ac118 »

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง

ผมยืนขมวดคิ้วอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสดใสของเด็กมหาลัย กลิ่นอายของเด็กเพิ่งเข้ามหาลัยยังมีความสดใสจากการสอบติดกันอยู่ จริงๆ ผมก็เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาแล้ว เพียงแค่มันผ่านมานานจนแทบจะจำไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ ไอ้ที่จำได้มีแต่ช่วงเวลาอ่านหนังสือจนเป็นบ้าอะไรแบบนั้นมากกว่า

วันนี้ผมรับหน้าที่แทนบ้านเนในการพาเนมาเข้าหอในที่นครนายก ได้ยินว่าแม่เนบอกให้เอาไปแค่ของที่จำเป็น ซึ่งไอ้ตัวแสบก็ขนมาแค่ที่จำเป็นจริงๆ



ติดที่ว่าเหมือนจะเป็นทุกอย่างที่อยู่ในห้องจำเป็นสำหรับเนหมดเลย



“เน พี่ว่าเราเอาเสื้อผ้ามาเยอะเกินไป”

“ก็หมดตู้อ่ะ”

“...”

... นี่รู้ใช่ไหมว่ามาอยู่แค่ปีเดียวไม่ใช่ทั้งชีวิตเนี่ย

แต่ดูจากกระเป๋าเสื้อผ้าหกใบก็ค่อนข้างชัดเจนว่าไม่รู้

“แต่ถ้าเนรู้ว่าเขาห้ามคนนอกขึ้นหอ เนจะไม่ขนมาขนาดนี้เลยอ่ะ เซ็ง ลุงช่วยยกขึ้นไม่ได้ ขี้เกียจขึ้นลงบันได เนอยู่ตั้งชั้นห้าอ่ะ ลุงขนสามใบนี้กลับไปไว้ห้องนะ เนท้อแล้ว”

“แล้วเราเอาเตารีดมาทำไม”

“ไว้รีดเสื้อนิสิตไงงง”

“รีดเป็นหรอ”

“...”

“...”

“ลืมคิด งั้นไม่เอาดีกว่า ลุงเอากลับไปไว้บ้านให้ด้วย” ผมกรอกตาบนด้วยความเหนื่อยใจ

“เรานี่นะ”

“ห้ามบ่น ห้ามบ่นนน”

“แล้วเจอเมทหรือยัง” ไม่อยากจะพูดถึงแต่ก็คงต้องถามหน่อยครับ ใครที่มันจะมานอนร่วมห้องกับเด็กผมเป็นระยะเวลาหนึ่งปีเต็ม

“เจอแล้วว เป็นเด็กพละสองคน การตลาดแล้วก็วิศวะ”

“เป็นไง”

“ก็ดีอ่ะ แต่เด็กวิศวะโคตรหล่อเลยลุง”

“...” คิ้วกระตุกเลย

“หึงป่ะะะ”

“...” ผมขมวดคิ้วมองไอ้ก้อนดื้อที่อมยิ้มจนแก้มยก เก่งจริงๆ ถ้ามีรางวัลสิ่งที่ทำให้ผมคิดมากได้มากที่สุดต่อวัน เนคงได้ถ้วยไปครองแน่นอน

“หึงแน่เลย หึงอ่ะดิลุง”

“อืม”

“...”

“พี่หึง”

“...”

“มากด้วย”



ปุ้ง!

เสียงที่ว่าคือเสียงหน้าของเนระเบิด แดงไปยันหู เนเป็นเด็กเขินง่าย ไม่รู้ว่าพูดยังไงดีครับ คือเนเนี่ยกล้าที่แกล้งผมอยู่บ่อยๆ แต่พอเล่นกลับทีไรก็เป็นฝ่ายเขินเองแบบนี้อยู่เสมอ



“ละ ลุง!!!”

“อ้าว โวยวายทำไม”

“เนไม่คุยกับลุงแล้ว!!!”

“หึ” ผมหัวเราะเบาๆ เตรียมจะยกมือขึ้นโยกหัวฟูนั่นแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงเรียกขึ้นขัด

“เห้ย นาย ใช่เนป่ะ” ผมหันหลังไปหาต้นเสียงก็พบว่าเป็นเด็กผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งอยู่ในชุดลำลองเหมือนเด็กปกติทั่วไป ถ้าจะดูแปลกสุดในตัวก็คงจะเป็นกล้องไลก้าตัวท็อปกับรองเท้าสนีกเกอร์ราคาเกือบหกหลักแบบเดียวกับที่สีน้ำมี

“ใช่ๆ เราเน”

“หน้าเหมือนในรูปเป๊ะเลย กูเอิร์ธนะ”

“เอิร์ธ... เอิร์ธไหนวะ”

“ซักซี้ด”

“...”

“ล้อเล่น”

“...”

“กูเอิร์ธ ภัทวรี”

“...”

“ไม่เก็ทอีก ลืมว่ามึงสายเกาหลี กูเอิร์ธในไลน์เอกอ่ะ”

“อ่อ ไอ้ตัวที่เล่นมุกเหี้ยๆ หน่อยป่ะ”

“สัด ก็ตบมุกเหี้ยๆ ของมึงอ่ะ”

“อะแฮ่ม...”



ผมกระแอมขัดจังหวะเล็กน้อย เข้าขากันได้ดีจริง เหี้ยเต็มหน้าไปหมดแล้ว ผมปรายตามองเนเล็กน้อยเป็นคำถาม มองจากมุมเนคงประมาณว่าคนคนนี้คือใคร แต่ถ้าเอาตามความในใจผมแล้วก็คงจะเป็น



ไอ้เด็กเวรนี่ใคร



“เอ่อ พ่อเน สวัสดีครับ ผมเอิร์ธครับ เพื่อนร่วมเอกไอ้เน” คิ้วผมกระตุกยิกๆ ให้กับตำแหน่งพ่อเน โดนกี่ครั้งก็ไม่เคยจะชิน



แต่บอกเลยนะครับ จากการมองตั้งแต่หัวจรดเท้าเพียงครั้งเดียว

ผีเห็นผีครับ ผมรู้หรอกว่าไอ้เด็กเวรนี่แอบปิ๊งเนแน่นอน



“อะ ไอ้เอิร์ธ นี่ลุ... ไม่สิ นี่พี่ไม้”

“อ๋อ พี่ชา-”

“แฟนกู”



โอ้....

ผมยกคิ้วเล็กน้อยเป็นความแปลกใจ ก่อนหน้านี้ก็แอบตั้งคำถามไว้เหมือนกันว่าถ้าเจอคำถามว่าผมเป็นใครเนจะตอบเพื่อนว่ายังไง จริงๆ ตอบว่าพี่กับหรือญาติผมก็ไม่ติดอะไรหรอกครับ เข้าใจว่าตามวัยมันก็มีบ้างแหละที่ไม่ได้อยากให้คนรู้



“เอ้ย...” แน่นอนว่าไอ้เด็กเอิร์ธนั่นถึงกับหน้าเหวอ “กูได้ยินผิดแน่ๆ หรือมึงหลอก”

“เออ มึงได้ยินไม่ผิด นี่พี่ไม้ แฟนกู”

“อ่ะ เอ่อ”

“โทษว่ะ กูทำมึงอึดอัดป่ะเนี่ย”

“ไม่ๆ กูแค่ตกใจ มึงเคยบอกว่ามีแฟนเป็นผู้ชาย กูก็ไม่คิดว่า... เอ่อ เมื่อกี้ที่ทักโทษทีนะครับ” ไอ้เด็กเอิร์ธหันมาก้มหัวให้ผม “... พอดีคิดว่าพ่อจริงๆ” มันกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วก็หันไปคุยกับเนต่อ



อ้อ

นี่เด็กมันเปิดสงครามกับผมหรอ?



“เนี่ย เดี๋ยวพวกไอ้ดิมมันชวนไปพลาซ่า”

“พวกมึงไปเลย กูไปกินข้าวกับลุ... พี่ไม้ก่อน”

“ไปกินด้วยกันก็ได้นะ กินร้านโจ๊กจั๊บ พี่เขาแนะนำมาว่าต้องไปโดน”

“ไม่เป็นไรมึง”

“เค ไงมึงตามมานะ”

“ได้ๆ เจอกัน”

“เค งั้นกูไปละ สวัสดีครับพ่อเน เอ้ย พี่ไม้” ผมพยักหน้ารับไหว้แต่ในใจอยากจะยกเท้าถีบเด็กให้กระเด็น เห็นอยู่ชัดๆ ว่าตั้งใจกวนตีน

ให้มันได้แบบนี้สิ ในหนึ่งปีนี่นอกเหนือผมจะต้องคอยเป็นห่วงเนมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองครั้งแรกแล้วยังต้องมากังวลเรื่องเด็กจะโดนจีบไม่รู้ตัวอีกด้วยหรอ เด็กวิศวะหล่อที่ว่ายังไม่ทันจบมีไอ้เด็กเวรเอิร์ธเข้ามาต่ออีก ความดันจะขึ้นมันก็งานนี้แหละ



“ลุง ไปกินข้าวโรงอาหารกัน”

“...”

“เง้อ ไมหน้าดุอ่ะ เป็นไร โกรธที่ไอ้เอิร์ธเรียกพ่อหรอ โอ๋ๆ นะลุง” เนยกมือขึ้นบีบแก้มผมเหมือนต้องการช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น พอเห็นเนเริ่มอ้อนผมก็ได้แต่ถอนหายใจยาว

“เน”

“ครับ”

“เด็กคนนั้น...”

“หืม?”

“เด็กคนเมื่อกี้”

“อ่อ ไอ้เอิร์ธ ทำไมอ่ะ”

“มันชอบเรา”

“เอ้ย ลุง มั่วแล้ว เพื่อนกันน” เนตาโตทันที ว่าแล้วว่าอย่างเนดูอะไรไม่ออกหรอก

“...”

“เนี่ย คุยไลน์กลุ่มกันทุกวันไม่มีเลยนะที่มันจีบ มันกวนตีนเฉยๆ เนี่ยดูดิ ส่งหน้าตัวเองมาให้เนทุกวันไม่กวนตีนแล้วเรียกไร”

“เรียกจีบไง”



ส่งรูปมาให้ทุกวันขนาดนี้

ถ้าไม่ใช่จีบก็เหลือแค่สวัสดีวันจันทร์ แต่ขนาดนั้นก็ยังไม่รู้ตัวได้ยังไงเนี่ย



“...” เนถึงกับนิ่งไปเลย ไม่รู้ว่าควรจะสงสารเด็กเอิร์ธนั่นหรือสงสารเนดี เขาส่งรูปตัวเองมาให้ตลอดทุกวันยังไม่รู้ตัว

“ช่างเถอะ ไปกินข้าวกัน”

“หึ่ยยยยยยย เขินอ่ะลุงงง เนโดนจีบด้วย”

“เน...” ผมเปรยตาดุ แฟนหัวโด่อยู่นี่ ลืมไปหรือเปล่า

“แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ไอ้เอิร์ธเทียบลุงไม่ได้หรอก”

“...” อืม พูดดี ค่อยยิ้มได้หน่อย

“ต้องไอ้เอิร์ธสองคนอ่ะถึงเทียบได้ เทียบอายุลุงหนึ่งคนอ่ะ”



ป้าป!!!

ฟาดเหม่งใสไปหนึ่งป้าป ข้อหาเปรียบเทียบอายุ ก้อนดื้อแทนที่จะสำนึกกลับหัวเราะเอิ๊กอ๊ากลั่น



“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จพี่จะกลับเลยนะ”

“อื้อ รีบกลับ ไม่อยากให้ลุงขับมืดๆ ” เนเดินมาจับแขนเสื้อผมแล้วเขย่าเบาๆ หน้าดื้อแนบแก้มลงกับแขนเสื้อผม เหงื่อจากหน้าใสนั่นทำเอาแขนเสื้อผมเปียกเป็นดวง

“อ้อนอะไร”

“ยังไม่ทันแยกกัน เนก็คิดถึงลุงแล้ว”

“อ้อน”

“ก็อ้อน แล้วจะทำไม”

“อย่าอ้อน” ผมลูบหัวฟูนั่นพร้อมกับก้มตัวลงจูบเหม่งใส



อย่าอ้อน

เพราะไม่งั้นการขับรถกลับกรุงเทพจะยากขึ้นเป็นเท่าตัว แค่คิดถึงห้องนอนที่ไม่มีเสียงเล็กๆ ผมก็รู้สึกเคว้งในใจแล้ว ไหนจะเนที่กำลังจะเจอสังคมใหม่ๆ ที่มีแต่วัยตัวเองอีก

...ให้ตายยังไงอดกังวลไม่ได้หรอก

นึกดีใจที่หลานไอ้เก่งก็สอบเข้าที่นี่เหมือนกัน เพียงแต่อยู่คนละคณะ เหมือนกว่าหลานไอ้เก่งจะเลือกสอบเข้าบริหาร ถึงจะอยู่คนละคณะแต่อย่างน้อยๆ ผมก็มั่นใจว่าเนอยู่ที่นี่ก็ยังมีคนคอยดูแลแทนผมอยู่ หลานไอ้เก่งดูเหมือนจะงี่เง่าเหมือนอาตัวเองแต่ก็ดูรักแล้วก็ห่วงเนไม่ต่างไปจากผมเท่าไหร่นัก



“เนไม่อยู่ตั้งใจทำงานนะลุง”

“เราก็ตั้งใจเรียน”

“คับพ้ม” เนยกมือขึ้นตะเบ๊ะ



จากนั้นน้องก็พาผมไปกินข้าวในโรงอาหารพัดลม กับข้าวอร่อยดี เดาได้เลยว่าเด็กดื้อตรงหน้าต้องตัวยุ้ยขึ้นมากในหนึ่งปีที่นี่แน่ๆ พอกินข้าวเสร็จก็ได้เวลาที่ผมต้องขับรถออกมา เนไม่ได้อ้อนอะไรมากเท่าที่ผมคาดไว้ คงเพราะเนเองก็ตื่นเต้นกับชีวิตที่จะได้อยู่ด้วยตัวเองครั้งแรกอยู่เหมือนกัน



ถึงแม้เราจะวางแผนไว้ว่าจะให้ผมมารับน้องกลับกรุงเทพทุกอาทิตย์

แต่ในช่วงสองเดือนแรกก็ไม่สามารถทำได้



เนติดกิจกรรมที่มหาลัยเยอะมากๆ ทั้งรับน้อง ปรับตัวกับเมท ทั้งงานเฟรชชี่อะไรสักอย่าง เห็นเล่าว่าต้องห้อยป้ายชื่อที่โทรมาบ่นยับว่าขี้เกียจใส่อย่างนู้นอย่างนี้ วิชาเรียนที่เปิดมาน้องก็งอแง เริ่มจากต้องเรียนแกรมม่าค่อนข้างเยอะ ผมใช้วิธีสอนเนจากการดูหนังกับฟังเพื่อนฝรั่งทำให้เนไม่แม่นแกรมม่าเท่าไหร่ ส่วนใหญ่น้องใช้เซนส์ ไหนจะเริ่มเรียนภาษาที่สามที่น้องเลือกลงภาษาญี่ปุ่นไปอีก แค่นี้เนก็งอแงว่าต้องติวที่หอสมุดต่อตลอด

ถึงเนจะกลับมานอนกรุงเทพไม่ได้แต่บางครั้งก็เป็นผมเองที่ขับรถไปหา แค่ไปหาอะไรกิน พาขับรถไปห้างใกล้ๆ เจอหน้ากันแค่สองสามชั่วโมงก็พอใจ



จนในที่สุดกำลังจะหมดเดือนสองเนก็โทรมาบอกให้ผมมารับ

สองเดือนกว่าที่นครนายก

เป็นเหมือนระยะสั้นๆ แต่ก็พอจะสังเกตได้ว่าเนผิวคล้ำขึ้นแถมยังดูอุดมสมบูรณ์ขึ้นนิดหนึ่ง คิดได้แต่พูดไม่ได้ครับ เดี๋ยวเอาไปเครียดว่าตัวเองอ้วนขึ้นอีก



“ลุง ง่วงมากกก”

“นอนสิ”

“ลุงเนเซ็ง เนเบื่ออาจารย์แมนโซเว่อร์ๆ จำคนที่เนบ่นให้ฟังได้ป่ะ” เนพองแก้มพร้อมกับกระแทกตัวนั่งบนเบาะ ผมหัวเราะพรางหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าที่เนจะเอากลับไปส่งซักขึ้นรถให้

“กินอะไรรึยัง” ที่ถามออกไปเพราะวันนี้เป็นศุกร์ครับ ไม่รู้ว่าไอ้ตัวยุ้ยนี่จะหาอะไรกินหลังเลิกเรียนหรือยัง

“ยังงง ไปกินที่ห้อง”

“โอเค” ผมปิดประตูเบาะหลังที่เต็มไปด้วยของเน ก่อนจะเดินกลับไปประจำที่นั่งรถขับ พอสอดตัวเข้าไปได้เนก็เอนหัวมาซบไหล่ผม

“ลุง เนเหนื่อยมากกก คือบางกิจกรรมเนก็ไม่อินอ่ะ เข้าใจอารมณ์เนไหม”

“อืม” ผมเคลื่อนรถด้วยความลำบากเล็กน้อยเพราะเนยังเอนตัวทิ้งน้ำหนักที่ไหล่อยู่

“แต่เพื่อนดีมากเลยอ่ะ เมทก็ดี นี่ชวนกันไปพลาซ่าทุกวัน เนกินดึกทู้กวันนน”

“ดีแล้ว”

“เออลุง เนมีพี่รหัสแล้วนะคือพี่ริกกี้ เหมือนพี่เขาจะเป็นนะ แต่แบบโคตรหล่อ”

“หล่ออีกแล้ว” ถอนหายใจเหนื่อยเลยครับ คุยกันทีไรต้องมีชมคนนั้นหล่อคนนี้หล่อให้ฟังตลอด

“รุ่นเนเป็นรุ่นฟ้าประทาน รุ่นพี่บอกก่อนหน้านี้คณะมุนษย์อุดมด้วยตุ๊ดและผู้หญิงที่เหมือนกะเทย ขาดแคลนทรัพยากรผู้ชายมาก เพิ่งจะมาเยอะปีเน”

“ขนาดนั้นเลย”

“ลุงรู้ป่ะ มีพี่วิศวะคนหนึ่งตัวเล็กกว่าเนอีก แบบเล็กมากกก สูงประมาณร้อยหกสิบเองมั้ง แล้วเพื่อนพี่เขาอ่ะ...” ว่าแล้วเจ้าตัวก็เริ่มเล่าเรื่องส่วนผมก็รับหน้าที่ขับรถแล้วก็ฟังไปเรื่อยๆ ระยะทางจากมหาลัยเนกลับมาที่กรุงเทพประมาณสองชั่วโมง ซึ่งแน่นอนครับว่าเด็กผู้ซึ่งได้เผชิญโลกใหม่ก็คึกอย่างเล่าเรื่องนู่นนี่อยู่แค่ครึ่งชั่วโมงแรกที่เหลือหลับสนิทน้ำลายยืด

.... เข้ามหาลัยแล้วก็ยังเด็กเหมือนวันแรกที่เจอ

ผมอมยิ้มให้กับภาพตรงก่อนจะหันกลับมาโฟกัสกับถนนต่อ



ในที่สุดก็กลับมาถึงห้องหลังจากการขับรถอันแสนยาวนาน เนเหมือนตั้งโปรแกรมปลุกไว้ครับ พอรถจอดก็จะตื่นโดยอัตโนมัติ

“ลุงงง สั่งข้าวผัดปูกับต้มยำกุ้งร้านอบอร่อยกัน เนอยากกิน”

“พี่สั่งมาล่วงหน้าแล้ว เดี๋ยวแวะเอาที่ล็อบบี้ด้วย”

“เห้ยยยยย ลุงรู้ใจอ่ะ”

“หึ” บ่นอยากกินลงเฟสบุ๊คอยู่ทุกวันยังเรียกรู้ใจได้อีกหรอ...

“อาหารเช้าพรุ่งนี้เอาเป็นไส้กรอกปลาหมึกนะลุง”

“ได้”

“รักลุงอ่ะะะะ” เนวิ่งดุ๊กๆ เข้าลิฟต์ไปส่วนผมก็ได้แต่หอบข้าวหอบของของเนเดินตามเข้าไป ตามใจไม่มีใครเกินก็ผมเนี่ยแหละ ถามว่ารู้ตัวไหมว่าสปอยล์น้อง บอกได้เต็มปากเต็มคำเลยนะครับว่า

รู้...

แต่มันห้ามได้ที่ไหนล่ะ

“วู้ววววววววว เตียงนุ่มที่รัก แม่กลับมาแล้วลู้กกกกกกกก” พอเปิดประตูห้องได้ เนก็ถอดรองเท้าวิ่งเข้าห้องนอนไปอย่างรวดเร็ว เห็นชอบบ่นเตียงที่หอแข็ง นอนสบายไม่เท่าเตียงที่ห้อง ใช้น้ำเสียงอ้อนจนผมเกือบสั่งฟูกนอนส่งไปให้ใช้ เนี่ยนะ ความอันตรายของการมีแฟนเด็ก

ผมปล่อยให้เนกลิ้งเล่นบนเตียงก่อนจะลงไปรับอาหารเพื่อเอามาเทใส่จาน รอเนอาบน้ำ อีกหนึ่งสิ่งที่เนชอบบ่นคือที่หอไม่มีน้ำอุ่น แล้วเด็กติดน้ำอุ่นอย่างเนก็แสนจะไม่อยากอาบน้ำ ห้องน้ำก็เป็นห้องน้ำใช้รวมไม่มีห้องน้ำส่วนตัว กลับมาคราวนี้เลยขออาบน้ำอุ่นให้ชื่นใจ

และแล้วก็ได้เวลากินข้าว เป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกอยากยิ้มในใจให้กว้างๆ ช่วงเดือนที่ผ่านมาต้องนั่งกินข้าวคนเดียวด้วยความเงียบมีเพียงเสียงทีวีที่ดังคลอให้ไม่รู้สึกเหงามากนัก แต่พอเป็นห้องที่มีเนอยู่แล้วมันก็จะมีแต่เสียงพูดเจื้อยแจ้วบ่นนู่นบ่นนี่ เสียงเคี้ยวข้าวที่ผมเตือนให้เคี้ยวเบาๆ มาตลอด

คิดถึง...

“ลุง กินข้าวสิ มามองเนทำไม”

“เคี้ยวข้าวดัง”

“เคี้ยวข้าวก็ต้องดังสิ ถ้าเนเคี้ยวลมถึงจะไม่ดัง”

“...”

“พ่ามๆๆๆ”

หึ...

หัวเราะออกไปไม่ใช่เพราะมุกโง่ๆ นั่นหรอก แต่เป็นเพราะที่เจ้าตัวเล่นเองขำเองนั่นต่างหาก

“เออลุง เดี๋ยวเนขอกินวิสกี้กับลุงได้ไหม”

“หืม?”

“เนี่ย รุ่นพี่ชอบชวนเนออกไปกินเหล้า คือเนก็อยากลองอ่ะ แต่เนก็กลัว เนไม่เคยเมา” ผมยกคิ้ว ไม่เคยเมาที่ไหน เจอกันครั้งแรกนั่นก็เมาไม่รู้เรื่องอยู่ที่ญี่ปุ่นนั่นไง

“อายุยังเข้าร้านเหล้าไม่ได้นะเราน่ะ”

“แต่เพื่อนเนก็ไปกันหมดอ่ะลุง มันร้านเหล้าต่างจังหวัดไม่ค่อยเคร่งมั้ง แถมอยู่หลังม. ด้วย” ผมขมวดคิ้วขัดใจ แต่จะว่าไปสมัยมหาลัยผมก็เริ่มดื่มตั้งแต่ปีหนึ่งเหมือนกัน

“วิสกี้เราไม่ชอบหรอก เดี๋ยวกินข้าวเสร็จลงไปซื้อพวกไวน์คูลเลอร์ผลไม้มาลอง”

“ทำไมอ่ะ ลุงกินวิสกี้บ่อยนี่ เนอาจจะชอบก็ได้”

“...” ไม่อยากจะพูดเลยว่าเด็กๆ ไม่กินกันหรอกวิสกี้ มีแต่พวกวัยผมเนี่ยแหละ แต่ก็กลัวพูดออกไปแล้วเดี๋ยวเด็กมันล้อเรื่องวัยอีกเลยเงียบไว้ดีกว่า

“แต่ก็ได้ อะไรก็ได้หมดแหละ”

“เวลาจะออกไปดื่มกินข้าวให้อิ่มๆ ก่อนนะเน ถ้าดื่มท้องว่างจะเมาไว”

“เกี่ยวด้วยหรอ”

“เกี่ยวสิ”

“งั้นก็ได้ รีบกินเร็วลุง เนอยากลองแล้ววว” ก้อนดื้อรีบจ้วงข้าวเข้าปากอย่างรีบร้อน ผมได้แต่ยกยิ้มเอ็นดู เนจัดการกินข้าวหมดภายในสิบนาทีก่อนที่จะวิ่งหางตีพื้นป้าปๆ เหมือนหมามาเร่งผมต่อ เห็นแบบนั้นแล้วผมเลยต้องรีบอิ่มเพื่อที่จะพาลงไปเซเว่น

เนหยิบขวดเครื่องดื่มหลายรสชาติลงในตะกร้า ผมมองเนที่ดูจะตื่นเต้นเรื่องรสชาติ ทั้งเบอร์รี่ ทั้งน้ำผึ้งมะนาว พีช กรีนแอปเปิ้ล ไอ้รสที่พูดออกมาทั้งหมดนั่นสำหรับผมไม่ไหวหรอกครับ หวานเกิน แต่ก็คงจะถูกใจวัยเด็กๆ นั่นแหละ

เนหยิบกับแกล้มเป็นถั่วกับทาโร่ ส่วนผมหยิบน้ำผึ้งมะนาวกับน้ำส้มออกมา คิดว่าพรุ่งนี้น่าจะมีคนอยากจิบอะไรหวานๆ เปรี้ยวๆ แก้แฮ้งค์เป็นแน่ จ่ายเงินเสร็จเนก็แสนจะอารมณ์เดินเขย่งก้าวกระโดด เหมือนเมาตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

พอถึงห้องผมก็เดินเข้าครัวไปเทพวกกับแกล้มใส่จานมาวางบนโต๊ะหน้าโซฟา ส่วนเนก็เอาเครื่องดื่มนับสิบขวดแช่ตู้เย็น ทั้งไวน์คูลเลอร์ วอดก้า สปาร์คกลิ้งดูแต่แค่รสชาติว่าอันไหนน่าจะอร่อยก็หยิบมาหมด น้องลังเลกับการเลือกรสแรกที่จะกินอยู่หลายนาทีก่อนจะที่ตัดสินใจให้รสพีชชนะ พอเลือกได้ก็วิ่งหางกระดิกมาให้ผมเปิดให้ เนรับไปกระดกพรวดเข้าปากก่อนผละออกมา



“ฮ่าาาาาาาาาาาาา อร่อยยยยย”

“ค่อยๆ กิน”

“หวานอ่ะลุง อร่อยยยยย”

“ไปนั่งกินดีๆ”

“ลุงเปิดอันนี้ให้ด้วย” เนหยิบสเมอร์นอฟขวดสีเขียวขึ้นมาหนีบแล้วก็เดินไปตรงหน้าทีวี ผมถอนหายใจ ดูท่าทางคืนนี้ได้ดูแลคนเมาแน่นอน

“เน ค่อยๆ ดื่ม อย่าดื่มทีเดียวเยอะๆ ”

“คร้าบบบบบบบ”



แล้วก็กระดกเข้าปากพรวดๆ

มันรับคำอะไรของมันเนี่ย ไอ้เด็กดื้อนี่!!



เนเลือกที่จะเปิดหนังรักดูพรางจิบแอลกอฮอลล์เข้าปาก ผ่านไปครึ่งเรื่องผมยังคงอยู่กับวิสกี้น้ำแข็งก้อนเดียวแก้วเดิม จิบไปก็ดูไอ้ตัวดื้อข้างๆ ไป เนนั้นดื่มขวดแรกกับขวดสองหมดแล้ว ตอนนี้กำลังต่อขวดที่สาม และวิธีกินก็แสนจะอันตราย เนกระดกพรวดๆ แล้วก็อ้าปากพ่นฮ่าออกมาเหมือนมันสดชื่นสุดชีวิต

“ลุงงงงงงง อร่อยยยยยยย”

“อืม”

“อย่าอืมใส่เนนะ”

“ครับ...”

“เด็กดีๆ” เนหันหน้ามายิ้มแป้นใส่ผม แล้วเด็กสิบแปดมาเรียกลุงอย่างผมว่าเด็กดีเนี่ยนะ



อันนี้คือเมาแล้วใช่ไหม...



“เมาแล้วหรือยัง”

“ฮื่อ ไม่เมาๆ เนโอเคๆ อร่อยดี เนชอบ ตอนแรกคิดว่าจะขมๆ แต่แบบอร่อย อร่อยยย” พูดจบก็พิงหัวมากับไหล่ผม ถูหัวอ้อนเหมือนลูกแมว

“เวลาไปกินกับคนอื่น ไม่เอาแบบนี้นะเน”

“อื้อออ”

“อื้อคืออะไร”

“คืออาการเวลาหูมันวิ้งๆ”

“...”

“อ่อ อันนั้นหูอื้อออออออ”

“...”

“ลุงงงงงง สนุกอ่ะ มันหัวหมุนๆ ฟิ้วๆๆๆ” เนเหวี่ยงหัวไปมาแล้วก็ปักมาที่ไหล่ผม เมาเป็นลูกหมาเลย แต่ก็ยังดีที่เมากับผม

“พอแล้ว” ผมยื่นมือไปหวังจะหยิบขวดออกจากมือน้องแต่เนก็รีบดึงขวดกลับเข้าไปกอด

“ของเน!!!”

“...”

“จะเอาของเนไปได้ไง นิสัยไม่ดี ลุงอ่ะนะลุง อยากได้ของเนอ่ะนะเน ก็ต้องเอาของลุงอ่ะนะลุงมาแลกของเนอ่ะนะเนอ่ะ”



พูดอะไรของมันเนี่ย...

ปกติก็พูดจาไม่ค่อยจะรู้เรื่องอยู่แล้ว พอเมาแล้วหนักกว่าดิมอีกหรอ



“เน...”

“ขอเนชิมวิสกัสของลุงหน่อยยยย”

“วิสกี้...” เกือบร้องเหมียวแล้วไง

“ขอชิมหน่อยน้าาาา ลุงไม่แบ่งเลย เนน้อยใจ” เอาเข้าไป

“มันไม่อร่อยหรอก”

“ขอเนได้ไหม เนอยากชิม นะครับ นะครับบบบบ” เออ ให้มันได้แบบนี้ ผมถอนหายใจแล้วก็ยกแก้วตัวเองยื่นให้น้อง แน่นอนว่าเด็กที่อ้อนสำเร็จยิ้มแป้นจนตาปิดรีบดึงแก้ววิสกี้เพียวกับน้ำแข็งก้อนเดียวของผมไปกระดกทีเดียวหมด ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมากจนห้ามไม่ทัน

“เห้ย เน...”

“อึ่ก... ขมมมมมมมมม”

“เน พอเลยเรา” ผมดึงแก้วตัวเองออกไปวางบนโต๊ะ เนตอนนี้หน้าแดงหลับตาปี๋หัวก็ส่ายไปส่ายมา ไอ้น่ารักมันก็น่ารักอยู่หรอก แต่เชื่อเถอะครับ ประสบการณ์การใช้ชีวิตมาหลายปี คนเมาแล้วน่ารักมันมีแค่ช่วงแรกๆ เท่านั้นแหละ พอเดี๋ยวอ้วกกับโวยวายจะน่าตีมากกว่า

“ของลุงไม่อร่อยนี่นาาาาาา”

“เน เมาแล้ว”

“รสชาติคนแก่ง่ะ”

“... เขาเรียกว่ารสชาติชีวิต” มาคนกงคนแก่อะไร เหล้ามันหวานเพราะชีวิตขมต่างหาก ผมรีบแก้ต่างทันที

แก่เก่ออะไรไม่แก่

“ลุงกินของเน ของเนอร่อย”

“เน”

“อ้ามมมมมม” เนตะกายตัวปีนมานั่งบนตักผม ยกขวดวอดก้าของตัวเองขึ้นกระดกก่อนจะประกบจูบลงมา ของเหลวหวานเหมือนแอปเปิ้ลสังเคราะห์นั่นไหลเข้าปากผมแต่บางส่วนก็ไหล่ออกนอกปากล่วงหล่นไปตามขอบกราม มือของผมยกขึ้นกอดเอวบางบนตักไว้ด้วยความกลัวน้องเอนหลังตก ส่วนใบหน้าก็วุ่นวายอยู่กับการโดนโจรปล้นจูบพยายามกัดแล้วก็ใช้ลิ้นบุกรุกแบบไม่มีทิศทาง

“เน... อื้อ” ผมเอนหัวหลบเนเลยเปลี่ยนเป้าหมายเป็นไปตามเลียตามคางกับหูผม อยากจะถอนหายใจให้หมดปอด เมาแล้วเป็นแบบนี้แล้วใครมันจะไปอยากปล่อยให้ไปเที่ยวกับเพื่อนเนี่ย ผมปราดสายตามองขวดในมือน้อง กะจะดึงไปวางพื้นเพราะกลัวหกใส่โซฟา แต่พอมือผมสัมผัสขวดเนก็เงยหน้าขึ้นมาจากคอผมทันที

“ของเน!!!”

“เดี๋ยวมันหก”

“ไม่หก ลุงอย่ายุ่งกับของเน”

“ไอ้ดื้อ เมาแล้ว พอแล้ว”

“ไม่เมาาาาาาา”

“เน...” ผมเรียกชื่อน้องเสียงอ่อย ไม่ให้อ่อยได้ไงครับ ตอนนี้น้องนั่งอยู่บนตักผมแถมยังเมาไม่มีสติ สุ่มเสี่ยงสุดๆ

“ขวดนี้ของเนนนน ถ้าจะเอาขอเนก่อนนน”

“พี่ขอ”

“ไม่ห้ายยยยยยยยยยยย”

“เน ไม่ดื้อนะ”

“ของเน ของเนคนเดียว” พูดจบเนก็ยกขวดขึ้นเหนือหัว



ยกทำไม

ยกอะไร

เดี๋ยว เนคงไม่...



“เห้ย เน”



ซ่าาาาาาาาาาาาา

วินาทีที่ผมกำลังจะห้ามเนก็จัดการหมุนขวดจนของเหลวซ่านั่นไหล่ลงรดลงบนหัวเนและยังเปียกมาถึงผม ไม่ต้องคิดถึงโซฟาว่ามันก็คงจะต้องชุ่มตามไปด้วยอย่างแน่นอน



“ของเนนนนน”

“เน มันเลอะเทอะไปหมดแล้ว ไม่เล่นแล้วดื้อ ลุกครับ” ผมตีต้นขาน้องเบาๆ

“ของเนหมดเลย ขวดนี้ก็ของเน” เนชูขวดขึ้นแล้วก็ปล่อยมือทำเอาผมอุทานลั่น กลัวตกแล้วแตก ดีที่ขวดตกลงบนโซฟา ผมขมวดคิ้วเตรียมหันมาดุคนเมาแต่แล้วก็ต้องเงียบเมื่อเจอหน้าดื้อนั่นจ้องมาที่ผมนิ่งๆ อารมณ์ไหนอีกล่ะเนี่ย

“เน”

“ลุง...”

“...”

“ลุงก็เป็นของเน”

“...”

“ไม่ให้หายไปไหน ต้องเป็นของเนเท่านั้น” ตากลมเริ่มมีน้ำตามาเอ่อ

“ไม่หาย” ผมรีบยกมือขึ้นประคองแก้มนุ่มนั่น “พี่ไม่หายไปไหน อยู่กับเรา”

“ลุงห้ามหาย”

“...”

“เนอยู่ไม่ได้จริงๆ นะ” เสียงอ้อนๆ มาพร้อมกับการทิ้งตัวลงกอด จมูกเล็กบี้อยู่กับแผ่นอกผม

“ไม่หาย ไม่ร้องนะ”

“วันนี้เนอยากเมา”

“หืม”

“อยากเสียตัวแล้ว”



ฮะ! !!!!!

ผมสำลักน้ำลายดังแค่ก

สะ สะ สงสัยฟังผิด น้องพูดว่าอยากเสียน้ำตาแล้ว ใช่สิ ใช่แน่ๆ



“เน”

“อยากเสียตัวแล้วลุงงงงงง เนอ่ะนะเน เนหาความรู้มาพร้อมแล้ว เอาเลยไหม เนสมยอม”



พระเจ้า...

อยากจะเดินกลับไปหยิบวิสกี้ในชั้นมากรอกปากตัวเอง



“เน ที่เราเมาจริงไหมเนี่ย”

“ก็เมานะ เนมึน หัวเนหมุนปิ้วๆ แต่เนอ่ะพูดจริงนะ เนช่วยตัวเองไม่เก่ง แต่เพื่อนตุ๊ดบอกว่าให้เนอ้อนผัว เพื่อนบอกฟินแน่นอน เนอ่ะนะ ก็เลยวางแผนมอมตัวเองงงงง แต่ แต่ แต่ ยังมีสตินะ เดี๋ยวไม่รู้ว่าตัวเองฟิน”

โอย แต่ละคำ...

ผมอยากจะยกมือขึ้นนวบขมับตัวเองซ้ำๆ เนไม่เคยทำให้ผมผิดหวังในเรื่องพูดอะไรไม่คาดคิด แต่ในกรณีนี้ดูจะเกินกว่าที่คาดไว้ไปเยอะ



“เน...”

“ตอนแรกเนว่าไม่เมา ตะ แต่เหล้าลุงอ่ะ ฮืออออ เนว่าเนไม่ไหว” เนพลิกตัวเป็นนั่งตักแต่หันหลังให้ผม หลังชุ่มน้ำนั่นทิ้งน้ำหนักแนบมากับแผ่นอกผม

“เน เรานี่มันจริงๆ เลย พี่ไม่รู้นะว่าเพื่อนเราพูดอะไร แต่พี่บอกว่าไม่ทำก่อนยี่สิบก็คือไม่ทำ” ผมยกมือขึ้นลูบเสยผมที่ปรกหน้าน้องขึ้น กลัวผมชื้นแอลกอฮอลล์จะทำหน้าน้องสิวขึ้น เนกลิ้งหัวไปมาบนอกผมพร้อมกับยู่หน้ายู่ตา

“ฮึก เนยั่วสุดๆ แล้วนะลุง”

“เก่งนัก ไอ้เรื่องอะไรแบบนี้”

“เนดูคลิปมาเยอะเลย”

“หมกมุ่น”

“ก็วัยเนมะ” ไอ้ดื้อเถียงกลับทันควัน

“เฮ้อ ต้นเดือนหน้าเราก็สิบเก้าแล้วน่ะ”

“ฮื่อ เด็กสิบแปดก็มีอารมณ์ทางเพศเป็นนะลุง!!!”



โอ๊ย คำพูดคำจา

ผมขมวดคิ้วรอบที่สิบของวัน เข้ามหาลัยไปไม่เท่าไหร่ ทำไมเด็กผมดูกร้านโลกขึ้นเยอะขนาดนี้เนี่ย เดี๋ยวคงต้องมีได้เจอตัวกลุ่มเพื่อนบางแล้ว สอนอะไรเด็กผมไปบ้างวะเนี่ย แล้วไอ้ตัวนี้ก็ยิ่งยุขึ้นง่ายอยู่ด้วย



“เน พี่ปวดหัวกับเรา”

“ลุง”

“...”

“เนมีอารมณ์อ่ะ”



ถ้าบนโลกเรามีนวัตกรรมที่สามารถวัดระยะการถอนหายใจได้

รวมกันแล้ววันนี้ผมน่าจะถอนได้ระยะความยาวประมาณสามกิโล

ผมถอนหายใจแต่ก็ประทับจูบลงบนแก้มใส มือก็ขยับสอดเข้าไปใต้กางเกงขาสั้นตัวเก่ง เนที่ดูเตรียมตัวมาอย่างดียกมือขึ้นจับแขนผมไว้เหมือนจะห้าม



แต่ก็ไม่...

จับไว้เฉยๆ



“ไม่เกินเลยนะเน รอยี่สิบ”

“อื้อ”

“ไอ้ดื้อ”

“อ๊ะ ลุง”

“พี่รักเรานะ ก้อนดื้อ” ผมกระซิบบอกรักข้างหูคนบนตักที่ตอนนี้ได้แต่ครางอือหน้าแดงหูแดง ผมและเนเราต่างก็เลอะเทอะไปด้วยความเหนียวและเสียงเฉอะแฉะ



เช้าวันต่อมา

โซฟาผ้าตัวนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยโซฟาหนัง



ถ้าถามว่าทำไมล่ะก็

น่าจะเพราะว่าเขาว่ากันว่าบางสิ่งเวลาที่มันมีครั้งแรกก็มักจะมีครั้งต่อๆ ไปตามมา เพราะฉนั้น เพื่อป้องกันการเลอะในครั้งต่อไป ใช้วัสดุที่ทำความสะอาดง่ายขึ้นมาหน่อยดีกว่าแล้วกัน



หึ...

If you know what I mean



ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
นังน้องงงง เด็กขี้ยั่วว

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ก้อนดื้น ขี้ยั่ว เห็นใจ ก้อนลุง

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
เจ้าก้อนดื้อ ขี้ยั่วววว เด็กมันร้ายยยอ่ะลุ๊ง
แห่มมม เตรียมพร้อมเปลี่ยนโซฟามันซะเลย :laugh:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ก้อนดื้อเอ้ยย หมันเขี้ยว ดีนะลุงยังห้ามใจกับเขาได้ อยากตียัยเด็กเหลือเกิน 5555555

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :m20: :m20: :m20:
สงสารคนแก่จัง
 :o8: :o8: :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 o22  เนหนูลูก ทำไมนี้อิแม่อยากจะตีเหลือเกิน ขาลุงเข้าคุกไปข้างแล้วเนี่ยะ

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
สามหกสิบแปด 23





[Nay]





วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง



วันเกิดครบรอบอายุยี่สิบขวบของผม!!!!



ยูฮู้วววววววว จุดพลุปุ้งปั้งเดี๋ยวนี้!!!



บอกได้คำเดียวว่า



‘วันนี้ที่รอคอย’



ผมคิดว่าทุกคนจะต้องมีเป้าหมายกันทุกปีใหม่ใช่ไหมล่ะครับ เช่นปีหน้าจะลดความอ้วน ปีหน้าจะงดเหล้าอะไรอย่างนี้ สำหรับผมเป้าหมายในปีนี้นั่นก็คือ



ปีนี้จะเสียตัว!!!!

... ทำไมฟังดูติดเรท แต่เดี๋ยวก่อนครับ มันมีที่มานะ!!!

เรื่องของเรื่องก็คือ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าลุง แฟนของผมเนี่ย โคตรจะลุง ลุงแบบลุงลุ๊งลุง ถึงจะมีบ้างที่แอบแต๊ะอั๋งจับนู่นจับนี่ช่วยผมปลดปล่อยก็เคยแล้ว ผมแต่บอกเลยว่าพอเกินเส้นไปนิดหนึ่งลุงจะยกปางห้ามลามกขึ้นมาตามด้วยคำที่ฟังจนเบื่อ คือเข้าใจไหมครับว่าผมเป็นวัยรุ่นอ่ะ ตอนช่วงแรกๆ ก็กลัวอยู่หรอก พอหาข้อมูลเยอะขึ้นเรื่อยๆ มันก็แอบอยากจะลองดู แต่ทุกอย่างก็ติดอยู่แค่คำคำเดียว



จนกว่าจะอายุยี่สิบ



บอกเลยนะครับ เพราะไอ้คำที่ว่าเนี่ยแหละ ทำให้ผมเริ่มหาข้อมูลตั้งแต่อายุสิบแปด อยากรู้อยากลองมาหลายปีขนาดไหน อ่อยแบบทุ่มหน้าตัก ลุงก็แสนจะใจแข็ง ถึงจะมีช่วยบ้างนิดหน่อยแต่พอผมจะปล่อยให้บรรยากาศพาไป ลุงก็จะเบรคจนหน้าทิ่มทุกรอบ

แต่!!!

จะแข็งสักแค่ไหน ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่ผมอายุยี่สิบ ไอ้คำว่าจนกว่าจะอายุยี่สิบจะถูกปัดตกตั้งแต่วันนี้ต้นไป อิยะฮ่าๆๆๆๆๆๆ



“ไอ้หนูเน หน้ามึงดูโรคจิตนะ กูกลัว” เสียงไอ้กันดังขึ้นเรียกสติผมออกจากแผนการชั่วร้าย ขณะนี้ผมมานอนกลิ้งรออยู่คอนโดดไอ้กัน รอลุงเลิกงานครับ

“กันมึ้งงงงงงง”

“อะไร”

“ในที่สุดกูก็ยี่สิบสักที”

“เออ ซื้อเหล้าได้แล้ว”

“กูจะได้เสียตัวแล้วมึง”



พร่วดดดดดดดดดดดดดดด!!!

อี๋...

พ่นโค้กมาได้ มึงคิดว่าตัวเองเป็นเมอร์ไลออนเรอะ



“ไอ้น้องเน!!!!!”

“อะไร”

“ไอ้เหี้ย โอ๊ย ไอ้เวร ไอ้เด็กเวร มึงพูดอะไรออกมา”

“กูบอกกูจะได้เสียตัวแล้ว”

“โอ้พ่อแก้วแม่แก้ว”

“พ่อมึงชื่อเกียรติไม่ใช่แก้ว ส่วนแม่มึงชื่อกุ้ง”

“ช่างแม่กูก่อน เดี๋ยวมึงเลยเดี๋ยว ไอ้ตัวดี!!! จะเสียตัวแล้วอะไรของเมิงงงงงงงงง” ไอ้กันเขย่าตัวผมไปมา

“มึงก็รู้ว่าลุงรอกูอายุยี่สิบถึงจะยอมปู้ยี่ปู้ยำกู”

“ไอ้สัด จับหน่อยกูจะล้ม”

“มึงนั่งอยู่” ล้มอะไรของมัน ละครมาก ผมกระดกคิ้วงงให้กับความบทตัวประกอบเพื่อนขี้เวอร์ของมัน

“กูล้มไปแล้วในความคิด ไอ้เหี้ยยยยยย ไม่ได้โว้ยยยยยย มึงจะบ้าเรอะ นี่มึงรู้ไหมเนี่ยว่าพูดอะไรออกมา”

“รู้สิ”

“กูจะฟ้องตำรวจ”

“กูจะบอกตำรวจว่ายกฟ้อง กูสมยอม”

“โอ้มายก็อด” ไอ้กันถึงกับยกมือขึ้นนวดขมับ ท่าประจำของลุงเลยครับ เดี๋ยวนี้เอะอะอะไรก็นวดขมับ แต่ลุงแก่แล้วพอจะเข้าใจ ส่วนไอ้กันก็แก่ครับ แก่แดด อาเก่งด่ามันประจำ

“มึงว่ากูควรตั้งตัวรอลุงยังไงดีวะ”

“กูลีฟแชตนี้แล้ว เลิกคุยกับกู”

“ขอแก้นะ มึงต้องใช้เลฟแชต แล้วก็... มึงงงงงงงงงง ช่วยกูคิดหน่อย วันนี้วันเกิดกูนะ”

“มึงจะให้กูช่วยคิดอะไรวะ”

“กูจะควรเตรียมตัวยังไงดีอ่ะ”

“กูเลฟแชต เชิญมึงหมกมุ่นต่อไป กูไปทำมาม่าดีกว่า” แล้วไอ้กันก็โยนคอมลงเตียงสะบัดตูดออกจากห้องนอนตัวเองไป ไรฟะ แล้งน้ำใจ ผมได้แต่กอดหมอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงมัน



อยากทำให้วันนี้มันออกมาดีที่สุด

แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ตื่นเต้นรอจนมือเย็นไปหมดแล้ว



ตอนนี้พี่ไม้เข้าบริษัทไปประชุมงานเรื่องที่กำลังจะเปิดรีสอร์ตสาขาใหม่ที่ภูเก็ต โดยที่พี่สีน้ำจะเข้ามาช่วยทำเรื่องอินทีเรีย ผมเลยถูกหิ้วมาทิ้งไว้ห้องไอ้กัน รอเวลาลุงประชุมเสร็จ แสนจะเซ็ง แต่ก็ยังดีกว่าเข้าไปนั่งเบื่อรอในออฟฟิสลุง พูดแล้วก็ยกมือถือขึ้นมาเสิร์ชหาไอเดียดีกว่า

ว่าแต่จะเสิร์ชว่าอะไรดีนะ

อืม...

ผมกะจะค้นหาคำว่าวิธีรับมือเสียตัวคืนแรก แต่พอพิมพ์ไปแค่วิธีช่องเสิร์ชก็รันตัวเลือกมาให้ ตาผมไปสะดุดกับคำแนะนำที่ว่า



‘วิธีมัดใจสามี’



เอ ก็ยังไม่ถึงสามีอ่ะ แต่แวะดูหน่อยก็ได้ เผื่อจะมีคำแนะนำดีๆ

พอกดเสิร์ชไปนั้น นอกเหนือจากคำแนะนำแล้วยังมีเป็นคลิปให้ผมดู อู้วหู้ว ผมไล่เปิดดูทีจะเวปอ่านไปอ่านมา ไอ้เรื่องลีลาผมไม่มีอะไรจะไปมัดใจลุงได้เลย ทำไม่เป็น แต่สิ่งที่ผมน่าจะทำได้



คอสตูม!!!

ว่าแล้วก็กระโดดลงจากเตียงไปวิ่งไปหาไอ้กันที่ยืนต้มมาม่าอยู่ในครัว



“ไอ้กันนน”

“อะไรมึง เสียงดัง”

“พากูไปแพลตตินั่มหน่อย” ไอ้กันถึงกับขมวดคิ้วงง

“หืม? ไปซื้ออะไรวะ”

“เออน่า พากูไปหน่อย” คอนโดไอ้กันตั้งอยู่แถวๆ แพลตตินั่มพอดี แต่เดินไปก็ร้อนเกินครับ อ้อนให้มันขับรถพาไปดีกว่า

“เออๆ ขอแดกมาม่าให้หมดก่อน”

“เย้ะะะะะะ”



ไอ้กันใช้เวลาในการเขมือบมาม่าหมูสับเพียงสิบห้านาทีก็เกลี้ยงถ้วยแถมยังเรอออกมาดังลั่นห้อง ทุเรศที่สุด จากนั้นมันก็ใช้เวลาในการหากุญแจรถบีเอ็มตัวเองอีกยี่สิบนาทีที่ไหนได้เผลอใส่ไว้ในถุงเซเว่น ไอ้เวรนี่ทำเหมือนรถคันละยี่สิบ

ระยะเวลาการขับรถมาแพลตตินั่งจริงๆ แค่ประมาณสิบนาทีครับ แต่ด้วยความรถติดนรกมันเลยกลายเป็นครึ่งชั่วโมง สุดแสนจะเซ็ง พอหาที่จอดได้ผมก็รีบเดินตรงไปหาร้านที่ทำการเสิร์ชมาทันที ส่วนไอ้กันถึงจะหน้าเซ็งแต่ก็ยอมเดินตามมาแต่โดยดี จนในที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่หน้าร้าน



ชุดนอนไม่ได้นอน





“มึงหยุดความคิดเลยไอ้หนูเน”

“อ้าว”

“ไอ้เวรรรรรรรรร นี่มึงให้กูขับรถพามึงมาซื้อชุดชั้นในผู้หญิงหรอ โอ๊ย กูเจ็บแผลผ่าคลอด อยากเอามึงกลับเข้ามดลูก”

“มดลูกบ้านมึงสิ มึงมีแต่ลูกหมากไอ้เวร แล้วกูไม่ได้มาซื้อชุดชั้นในด้วย”

“แล้วมึงหยุดหน้าร้านนี้ทำไม” มันยกมือขึ้นชี้ราวกางเกงในและบราลูกไม้ด้วยความเลิ่กลั่ก

“ที่กูอยากได้มันอยู่ในร้าน มึงแม่งขี้บ่นว่ะ รอกูอยู่หน้าร้านเนี่ยแหละ”

“อะ ไอ้เน- “ไอ้กันยังไม่ทันได้รั้งผม ผมก็เปิดประตูเข้ามาในร้าน ด้านนอกจะเป็นโซนชุดชั้นในครับ แต่ที่ผมต้องการจะซื้อน่ะไม่ใช่พวกนั้นหรอก ใจผมไม่กล้าพอ แต่ที่ผมต้องการน่ะคือ



ชุดนักเรียนญี่ปุ่นต่างหาก

ก็ในเวปบอกว่าสามีชอบมาก พอใส่ชุดนักเรียนญี่ปุ่นทีไรกระชุ่มกระชวยไปทั้งคืน!!!



“สวัสดีค่า หาชุดไหนถามได้นะคะ”

“อยากได้ชุดนักเรียนญี่ปุ่นธรรมดาครับ ไม่ต้องหวิวมาก”

“แบบคอสเพลย์ธรรมดาหมดทุกไซซ์เลยค่ะ ตอนนี้เหลือแต่แบบสั้น”

“สั้นประมาณไหนครับ”

“เหนือเข่ามานิดหน่อยค่า” อืม... เหนือเข่าก็น่าจะกำลังดีแหละ

“งั้นผมเอาชุดหนึ่งครับ”

“ห้าร้อยเก้าสิบเก้า พี่คิดน้องห้าร้อยห้าสิบก็พอ”

“ขอบคุณครับ”

“สนใจชุดอื่นไปด้วยไหมคะ ถ้าชอบให้แฟนใส่แบบนี้ ชุดพยาบาล ชุดเมทก็มีนะ”

“มะ ไม่เป็นไรครับ” ผมงี้ยิ้มแห้งเลย ลองคิดสภาพให้ลุงใส่ชุดพวกนี้ ก็รู้สึกอุจาตตา กล้ามแขนคงปลิ้นไปหมด

“อ่ะพี่แถมแพนตี้ไปตัวหนึ่ง ขอให้วันนี้จัดแฟนฟ้าเหลืองเลยนะคะ ฮริ้ววววว” ฟะ ฟ้าเหลือง? ผมยิ้มแห้งอีกรอบก่อนจะรีบจ่ายตังค์แล้วเดินออกมาจากร้าน แน่นอนว่าไอ้คุณพ่อของผมงี้กอดอกหน้าหงิก

“ซื้อเสร็จแล้วใช่ไหม”

“มึงงง ขับพากูไปส่งห้องเลยได้ป่ะ กูอยากเซอไพรส์ลุงตอนลุงกลับถึงห้องทีเดียวเลย”

“ไอ้เหี้ยยยย กูเจ็บแผลคลอดดดด ลูกกูใจแตกกกกกก”

“มึงอย่าโวยวาย”

“ฮืออออออออ ไอ้น้องเนที่แสนจะใสซื่อของกู” ไอ้กันเล่นบทดราม่าแม่มโนแต่สุดท้ายก็ยอมขับรถพาผมมาส่งที่ห้องอยู่ดี ดีที่คอนโดลุงก็ไม่ได้อยู่ไกลมากนักเลยขับมาถึงอย่างรวดเร็ว พอจอดรถไอ้กันก็หันมาทำหน้าจริงจังใส่ผม



“ไอ้เนมึง”

“ไร”

“ปะ ป้องกันด้วยนะโว้ย”

“กูพร้อมมาก มีครบทั้งถุงทั้งเจล มึงไม่ต้องห่วง” ไอ้กันถึงกับนวดขมับให้กับคำตอบผม

“มึงลงไปเลย ลูกเวร”

“แต๊งกิ้วที่มาส่ง”

“เดี๋ยวมึง”

“หืม?”

“แฮปปี้เบิร์ธเดย์” พูดเบาๆ แถมยังเกาคอแบบเขินๆ อีกต่างหาก ความพระเอกละครของไอ้กัน ทำเป็นปากแข็งไปงั้น ผมยิ้มจนแก้มแทบแตกให้กับมุมน่ารักของไอ้กัน

“ขอบคุณนะ”

“ลงไปได้แล้ว ไม่ต้องมายิ้ม แล้วรักนวลสงวนตัวด้วย ไอ้แรด”

“ครับพ่อ”

“ชิ่วๆ “มันโบกมือไล่ผมเป็นการส่งท้ายก่อนจะขับรถออกไป ผมยืนโบกมือบ๊ายบายจนกระทั่งรถไอ้กันวนออกไปจากตัวตึกผมถึงค่อยเดินเข้าล็อบบี้ พอกดรหัสเข้าห้องมาได้ผมก็รีบตรงดิ่งเข้าไปในห้องนอง หยิบของที่เพิ่งซื้อมาออกจากถุงพอคลี่ออกก็ถึงกับช็อค



โอ้

มาย

ก็อด



สั้นกว่าเข่าที่ว่าก็ไม่คิดว่าจะสั้นกว่าขนาดนี้

ระยะชายกระโปรงนักเรียนผมเลยต้นขาไปนิดเดียวเองงงงงง เป็นเครียดดดดดด มันจะแรดเกินไปไหมวะเนี่ยยยยยยยยย ผมถอดกางเกงตัวเองลงแล้วลองสวมดู โอ้โห ปิดต้นขามานิดหนึ่งแถมยังโคตรจะคับแบบที่รูดซิบได้แต่ติดตะขอไม่ได้ ผมหยิบเสื้อที่ขยำเป็นกองออกมาคลี่



โอ้

มาย

ก็อด

เสื้อนักเรียนก็ยังจะเสือกเป็นเสื้อนักเรียนแบบสั้นด้วยหรอออออออ



ผมถอดยืดออกจากหัวแล้วลองเอาเสื้อนักเรียนมาใส่ เรียกได้เอวลอยแบบสาวสยามยังต้องอาย เสื้อไซซ์หมาที่แท้จริง นอกเหนือจากเสื้อกับกระโปรงที่โคตรจะสั้นแบบประหยัดผ้าลดโลกร้อนแล้วในเซทก็ยังมีแถมถุงน่องกับเนคไทด์มาด้วย ผมลองประกอบร่างตัวเองสร็จแล้วก็ได้แต่ยืนอึ้ง



คือแบบ

โป๊มากกกกกกกกกก โป๊มากๆ โป๊สุดๆ โป๊โคตรๆ โป๊แบบไอ้กันเจ็บแผลคลอดแน่นอน ไม่คิดไม่ฝันว่าได้มีวันนี้ วันที่จะได้มาใส่ชุดนอนไม่ได้นอนแสนโป๊ ยังไม่ทันได้โชว์ลุงผมก็ชิงเขินจนน้ำตาคลอ ผมลองบิดตัวดู หมุนแค่เพียงเล็กน้อยกระโปรงก็เปิดเห็นขากางเกงบ็อกเซอร์แล้ว



เอ๊อะ พูดถึงกางเกง

เหมือนว่าพี่เขาจะแถมแพนตี้มาด้วยนี่นา

ผมรีบคว้าถุงหยิบของชิ้นสุดท้ายขึ้นมากาง ทันทีที่ผมเห็นของในมือ ในใจก็ได้แต่อุทานลั่น คือมันแบบ...





โอ้

มาย

ก็อด...











.

.

.




















ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2




[seemai]





วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

จากเนที่เคยเป็นเด็กมัธยมกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินก็เข้าสู่วัยมหาลัยปีสอง ถึงจะผ่านไปสองปีแต่ที่เหมือนเดิมคือความดื้อ เนอาจจะดูดื้อกับคนอื่นน้อยลงแต่ความดื้อกับผมนั้นยังคงเท่าเดิม

ตั้งแต่ย้ายกลับมากรุงเทพ ข้อดีหลักๆ เลยคือผมมีเวลาได้อยู่กับเนมากขึ้น ถึงจะไม่ได้ตัวติดกันอะไรขนาดนั้นเพราะผมเองก็มีงานบริษัทต้องทำส่วนเนก็อยู่ในช่วงติดเพื่อนที่มหาลัย แต่ก็ยังดีที่เนยังคงตัวติดกับหลานของเก่งอยู่เสมอให้ผมพอได้หายห่วงว่ายังคงมีคนคอยดูแลเนให้อยู่ตลอด

ถึงจะต่างคนต่างมีโลกในวัยของตัวเองแต่สุดท้ายก่อนจะจบวันเราก็จะกลับมานอนบนเตียงด้วยกัน ครับนั่นคือข้อดี ส่วนข้อเสียนั้นก็เหมือนเป็นซับเซทของข้อดีอีกที เนื่องจากไอ้ที่เราได้กลับมานอนบนเตียงเดียวกันนั้นมันเริ่มไม่ค่อยปลอดภัยขึ้นไปทุกที



เพราะว่า...

เนพยายามยั่ว

ถามว่ายั่วขึ้นไหมก็บอกตรงๆ ว่ายั่วขึ้นอยู่แล้ว มีตัวนิ่มๆ ขาวๆ มาคอยวอแว



แต่มันได้ที่ไหนกันล่ะ!!!

บทตาแก่หื่นกามมันควรเป็นบทของผมหรือเปล่าวะ!!!



บอกก่อนเลยครับว่าการยั่วของเนเนี่ย มันเริ่มมาจากการซื้อน้ำยาหล่อลื่นมาตั้งไว้ข้างเตียง พอผมเอาไปเก็บที่อื่นก็กวนประสาทด้วยการซื้อมาหลายๆ อันตั้งไว้ทั้งในครัว ห้องน้ำ หน้าทีวี พอผมเก็บไปไว้อื่นจนหมดก็มายืนยู่หน้ายู่ตาตะโกนลั่นห้องว่า



“แต่เนพร้อมแล้ว!!!”



ได้ยินแบบนั้น ผมก็พร้อม





... พร้อมโดนพ่อเนยิง



หลังจากที่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวเน พ่อของเนก็เรียกผมไปคุย ว่าถ้าขอได้ เรื่องอะไรแบบนี้ก็ขอให้น้องยี่สิบก่อนได้ไหม ซึ่งผมก็ดันตกลงรับปากไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความที่ว่าเนเองก็ดูไม่ได้อะไรกับเรื่องนี้อยู่แล้วตั้งแต่ต้น

ใครจะไปรู้ว่าเลเวลยั่วตาใสของเนมันจะอัปเกรดขึ้นไวขนาดนี้แค่เพียงเข้ามหาลัย บอกเลยว่าตั้งแต่นั้นผมต้องเผชิญหน้ากับการยั่วแบบเด็กๆ ของเนนับครั้งไม่ถ้วน เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมนั่งสมาธิตามวิถีชาวพุทธทั้งๆ ที่ตัวเองนับถือคริสต์ รอดพ้นจากกระสุนปืนพ่อน้องมาได้ครบปี



จนในที่สุดวันนี้ก็มาถึง



วันเกิดครบรอบอายุยี่สิบปีของเน

เดาจากความหมกมุ่นของเนแล้ว วันนี้น้องมันต้องตั้งเป้ามาให้ผมเผด็จศึกแน่นอน แต่จะมาไม้ไหนเนี่ยแหละคือความน่ากลัว



“ไอ้ไม้”

“...”

“หลานกูโทรมาบอกว่าเอาเด็กมึงกลับไปส่งห้องแล้วนะ ไม่ต้องไปรับที่ห้องมันแล้ว”

“อ้าว” แปลกใจเล็กน้อย เพราะเนเป็นคนขอไปรอห้องหลานเก่งเองตอนแรก จู่ๆ ทำไมตัดสินใจกลับก่อน แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก สงสัยจะแค่งอแงอยากกลับห้องตามปกติ

ผมโกยเอกสารที่ต้องเอาไปตรวจเข้ากระเป๋าถึงแม้จะรู้ว่าพวกมันคงไม่ได้ออกมาจากกระเป๋าจนกว่าจะเช้าวันพรุ่งนี้ เนื่องจากวันนี้ผมจะใช้เวลาทั้งวันให้กับเจ้าของวันเกิดที่ป่านนี้คงมุดผ้าห่มนอนกรนอยู่ที่ห้อง แน่นอนว่าขากลับผมก็ไม่ลืมที่จะแวะซื้อเค้กไอติม ซื้ออาหารเย็นจากร้านโปรดเน ส่วนของขวัญผมซื้อเตรียมไว้นานแล้วเป็นไอแพดรุ่นล่าสุด เห็นบ่นอยากได้มาสักพักแล้ว หวังว่าเจ้าก้อนดื้อจะไม่ได้ซื้อมาเป็นของขวัญให้ตัวเองไปเสียก่อน

ใช้เวลาไม่นานผมก็ขับรถมาถึงคอนโด นึกรู้สึกขอบคุณที่วันนี้รถไม่ติดไม่งั้นเค้กไอติมของผมอาจจะกลายสภาพเป็นเค้กของเหลวอะไรสักอย่างแทน

ผมเดินผิวปากอย่างใจเย็นขึ้นมาบนห้อง เมื่อเปิดประตูเข้าห้องมาก็พบว่าเครื่องปรับอากาศและไฟถูกเปิดไว้ แต่ไร้ซึ่งเงาของก้อนวุ่นวาย

ไม่แปลก สงสัยนอนอยู่ในห้อง

ผมวางความสงสัยทิ้งไว้ก่อนจะตรงเอาเค้กไปแช่ตู้เย็น ตู้เริ่มเต็มอีกแล้ว เด็กแถวนี้หาของมาแช่เก่งมาก ทั้งเยลลี่เอย น้ำเอย ล่าสุดเอาสกินแคร์มาแช่ด้วยแล้วสุดท้ายก่อนนอนก็ขี้เกียจเดินออกมาเปิดตู้อยู่ดี ผมเปิดช่องฟรีซพร้อมกับค่อยๆ สอดกล่องเค้กเข้าไปวาง



“ลุง...” เสียงดื้อดังมาจากด้านหลัง ผมค่อยๆ หันตัวกลับไปเตรียมแซวว่าหน้าต้องง่วงตาปิดแน่นอน แต่ปรากฏว่า



เห้ย...



เรียกได้ว่าตกใจจนหาคำอุทานไม่เจอ ผมถลึงตาจนตาแทบหลุดให้กับภาพตรงหน้า เนยืนแก้มแดงอยู่ในชุดนักเรียนญี่ปุ่น และไม่ใช่ชุดนักเรียนญี่ปุ่นธรรมดาแต่เป็นชุดนักเรียนญี่ปุ่นที่สั้นมากๆ วับๆ แวมๆ จนใจผมหล่นทุกการขยับตัว



“นะ เน...”



โอ้โห ถึงพอจะเดาได้ว่าเนต้องมีแผนการณ์อะไรสักอย่าง

แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้!!!



“ลุง...”

“หยุดอยู่ตรงนั้น” ผมรีบยกมือขึ้นชี้ เรียกสติตัวเอง

กลับมาก่อนไอ้ไม้ เรามันผู้ชายอายุสามสิบกว่า เราต้องมีสติ เราอย่าหลงกลเด็ก!!!

“ลุงชอบไหม”

“...” เราต้องมีสติ!!! เราต้องมีสติ!!!

“ลุงงง”

“เน...” ผมเรียกชื่อน้องด้วยความอ่อนใจ

“เนน่ารักไหม”



กุมขมับ...

แอร์ก็เปิดแต่เหงื่อตกเต็มหน้า



“นี่... ไอเดียใคร”

“ไอเดียเนเอง บอกเลยว่าคิดเอง หาชุดเอง ใส่เองด้วย” ผมปิดประตูตู้เย็นเพื่อมองก้อนดื้อตรงหน้าให้เต็มตา ชุดนักเรียนญี่ปุ่นที่ตัวเสื้อครอปเหลืออยู่แค่เหนือเอว กระโปรงนักเรียนสีน้ำเงินที่สั้นจุ๊ดอยู่ตรงต้นขา ถุงเท้าสีดำเลยเข่า



สั้นแบบนี้มันไม่ใช่ชุดคอสเพลย์แล้วนะ

มันชุดนอนไม่ได้นอนมากกว่าแล้ว โอ๊ย ปวดหัว



“ให้ตาย...” คิดอะไรไม่ถูกไปหมด เกินกว่าที่คิดจนตั้งตัวไม่ทัน ผมถอนหายใจยาวเหยียดพร้อมกับเดินไปวางมือบนหัวฟู “กินข้าวก่อน”

“เห้ยยยยยยยย ลุง!! เนใส่ขนาดนี้แล้วลุงยังจะใจแข็งอีกหรอ”

“น่ารักแล้ว แต่อาหารเย็น...”

“ไม่กินแล้ว!!!”

“เน”

“ลุง.... หรือจริงๆ ลุงนกเขาไม่ขัน”

“เพ้อเจ้อ”

“หรือเนเอ็กซ์ไม่พอ”



ให้ตายเถอะ อยากจะกุมขมับตัวเองรอบที่ร้อยของวัน ผมดึงแขนเนออกจากครัวไปที่ห้องนั่งเล่น กะจะปล่อยให้เด็กน้อยนั่งฟุ้งซ่านรออยู่ในห้องนั่งเล่น ส่วนผมจะได้เข้าไปเทอาหารใส่จาน แต่ทันทีที่ถึงโซฟา เนก็สะบัดแขนออกพร้อมกับผลักผมนั่งลงบนโซฟาแล้วนั่งแทรกลงมาตรงหว่างขาผม



ท่าอันตรายแบบที่ได้ยินเสียงไซเรนรถตำรวจดังในห้วงความคิด

ได้แต่ยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองที่กำลังใจเต้นกับอะไรแบบนี้จนแทบจะเป็นบ้า



“เน...”

“ลุงรู้ไหม เนเขินจะตายอยู่แล้วนะที่ใส่ชุดแบบนี้อ่ะ” มือเล็กคว้ามือผมไปจับพร้อมกับพิงตัวลงมากับอกผม

“รู้สิ แก้มแดงไปยันหูแล้ว”

“เน เซอไพรส์ลุงไหม”

“วันเกิดเราต้องเป็นพี่ที่เซอไพรส์ไม่ใช่หรือไง”

“ลุงเซอไพรส์ไม่เก่งนี่”



ก็จริง...

สิ่งที่ยืนยันได้นั้นอีกก็คือวันนี้ผมก็ไม่ได้เตรียมเซอไพรส์อะไรด้วยนอกจากเค้กไอติมและของขวัญ



“ไปซื้อชุดมาตอนไหน” ผมวางคางลงบนไหล่น้อง แอบสูดดมกลิ่นแชมพูหอมๆ เข้าปอด

“ก่อนกลับห้อง ให้ไอ้กันพาไป”

“กันยอมด้วยหรอ”

“บ่นหูชาเลย” ผมหัวเราะ พอจะนึกภาพออก

“ลุง...”

“หืม”

“ไม่ต้องกินข้าวหรอก”

“...”

“กินเนแทน”



ปวดหัว...

ใจมันเหลวจนไม่รู้จะเหลวยังไงแล้วเนี่ย

ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำ แต่มันแค่ยังตั้งตัวไม่ทัน นอกเหนือจากห่างหายมานานแล้วก็ปกติเวลาที่ผมทำอะไรแบบนี้มันมักจะเป็นมู้ดโรแมนติกปกติก่อนที่จะเกิดขึ้น ไอ้ที่โดนยั่วใส่ชุดนักเรียนสั้นๆ เนี่ย ไม่เคยมาก่อนในชีวิต พอเห็นผมไม่ได้โต้ตอบอะไรเนก็จับมือผมยัดเข้าไปในเสื้อตัวเอง



“ลุงงง”

“โอเคๆ ใจเย็นๆ”

“ไม่เย็นแล้ว เนรอมากี่ปี” ดูคำพูดคำจาเข้า

“ให้ตายเถอะเน แก่แดด”

“ยี่สิบแล้วนะ ลุงว่าเนคำนั้นไม่ได้แล้ว!!!” เถียงลั่นพร้อมกับยู่หน้ายู่ตา

“ยี่สิบก็ยังเด็กกว่าพี่หลายปีอยู่ดี”

“นี่ลุง พ้นคุกแล้วนะ” เนยกมือขึ้นรั้งคอผมแนบไหล่แล้วเอียงแก้มมาถู

“ไม่ได้กลัวคุก”

“เหงื่อตกอยู่ทุกรอบที่ยั่ว เอาอะไรมาพูด”

“...”

“ลุง”

“...” ไม่มีแรงแม้แต่จะตอบรับ

“ไปห้องนอนกัน” เนขยับตัวยุกยิกแล้วก็หันตัวมากอดผมไว้



เฮ้อ...

ผมถอนหายใจยาวแต่ก็ตัดสินใจอุ้มก้อนดื้อขึ้น ตัวหนักขึ้นเยอะจากสองปีที่แล้ว แต่ก็ยังพออุ้มไหว น้ำหนักอาจจะเพิ่มแต่ผมว่าเนน่าจะสูงเท่าเดิม ยังคงเท่าอกผมไม่เปลี่ยนแปลง เด็กขี้ยั่วในอ้อมกอดผมตวัดแขนโอบรอคอผมแน่นไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่เสียงหัวใจนี่เต้นแรงจนผมแอบยิ้ม

เนเป็นแบบนี้อยู่ตลอด เหมือนจะกล้าแต่จริงๆ ก็เขิน

เปิดประตูห้องอย่างทุลักทุเลแล้วผมก็โยนก้อนดื้อลงบนเตียงดังปุ้ก ปอยผมและชายเสื้อนักเรียนนั่นแผ่ไปบนเตียง เปิดเผยหน้าท้องขาว ชายกระโปรงที่แสนจะสั้นนั่นเลิกขึ้นเล็กน้อย สิ่งที่อยู่ใต้กระโปรงนั่นทำให้ผมขมวดคิ้ว



“เน...”

“หะ หืม”

“ใส่อะไรไว้ใต้กระโปรง” พูดจบใจผมก็เต้นดังจนได้ยินเสียงตุ้บๆ ที่หู

“อือ... ซะ เซอไพรส์”



มือเล็กสั่นระเริกเอื้อมไปเริกกระโปรงตัวเองขึ้นโชว์กางเกงผ้าลูกไม้สีขาวที่มีโบว์สีชมพูตกแต่ง มันบางเสียจนเห็นอะไรต่อมิอะไรไปหมด เนหน้าแดงเป็นปื้น ส่วนผมเองก็รู้ตัวว่าตอนนี้หน้าตัวเองก็ต้องแดงมากเช่นกัน เก็บทุกเม็ดไม่มีให้ได้พักหายใจเลย มันจะตายเอานะแบบนี้



“เน...”

“ลุง จูบหน่อย” ก้อนโมจิสตอเบอร์รี่ยืนแขนมาเหมือนเร่งให้ผมกอด เนี่ยนะดูมัน น้ำท่าก็ยังไม่อาบยังไม่ทันได้เตรียมอะไรเลย ผมกะว่าครั้งแรกอยากให้มันโรแมนติกกว่านี้แท้ๆ

“เรานี่มัน... นี่น้ำยังไม่อาบเลย”

“เนอาบแล้ว”

“...”

“เอาแชมพูใช้แทนสบู่เลยด้วย เพราะรู้ว่าลุงชอบดม ฮี่ๆ”

“...” เถียงไม่ออกเพราะชอบจริงๆ ถึงเนจะเปลี่ยนแชมพูบ่อยแต่สุดท้ายกลิ่นมันก็จะออกไปทางดอกไม้กับผลไม้เหมือนเดิม เป็นกลิ่นพอดมแล้วผมรู้สึกผ่อนคลาย

“ลุง เจลอยู่ตรงหัวเตียงนะ” เนยกนิ้วขึ้นชี้ไปที่หัวเตียง ผมมองตามนิ้วน้องไปก็พบขวดเจลประมาณสี่ขวดตั้งอยู่

“เตรียมตัวมาดีจริงๆ ”

“ลุงอาจจะเชี่ยวแต่เนไม่เคยนี่ เขาบอกต้องใช้เยอะๆ ไม่งั้นเจ็บ”

“หมกมุ่น”

“ก็เนวัยรุ่นป่ะ วัยอยากรู้อยากลอง” เนชันตัวขึ้นนั่งขัดสมาธิ ผมกระดกคิ้วงงเล็กน้อยว่าลุกขึ้นมาทำไม เนเม้มปากก่อนจะพูดออกมาเบาๆ “ผ้าลูกไม้มันจั๊กจี๋อ่ะ”

“ก็ถอดออก”

“เห้ย ลุงลามกอ่ะ”

“...”

“ลุงค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปหน่อยสิ โรแมนติกอ่ะ แบบในหนัง”

...หึ

ในหนังมันมีไหมล่ะที่นางเอกลงทุนใส่ชุดขนาดนี้ ผมส่ายหัวแล้วก้มลงจูบปิดปากเด็กดื้อ เนที่ไม่ได้ตั้งตัวถึงสะดุ้งตัวโยนยกมือขึ้นจิกบ่าผมแน่น ผมหยอกล้อกับเกลียวลิ้นเล็กพร้อมกับค่อยๆ ดันให้น้องนอนราบไปกับเตียงตามเดิม เสียงครางอื้อดึงที่ดังข้างหูกระตุ้นผมได้เป็นอย่างดี

น่ารัก...

น่ารักไปทั้งตัว

ผมไล่ขบเม้มต่อไปตามลำคอสวยส่วนมือก็สอดเข้าใต้เสื้อตัวบางที่ใส่ก็เหมือนไม่ใส่นั่น คอยขยับมือบีบเคล้นไปตามผิวนุ่มนิ่ม

“ละ ลุง”

“หืม...”

“เสียงลมหายใจลุงมันหอบอ่ะ”

“อืม”

“ดูเหมือนพวกลุงหื่นกามเลย”



ชะ... คิ้วกระตุก



ผมชันตัวขึ้นนั่ง ผละมือข้างซ้ายจากผิวลื่นมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตพลางจ้องไปที่ใบหน้าดื้อนั่น เนไม่ได้มองหน้าผมแต่โฟกัสไปที่ลอนหน้าท้องของผมพร้อมกับกลืนน้ำลาย ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเนชอบมาวุ่นวายกับหน้าท้องผม

ด้วยความที่เนไม่ชอบออกกำลังกาย มวยก็เทตั้งแต่คอร์สแรกเพราะทนความเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไม่ไหว ผมผู้ซึ่งเหมาคอร์สไว้แล้วห้าคอร์สเลยพอจะหาเวลาว่างไปใช้บริการแทน อาจจะไม่ได้ไปซ้อมมวยเตะกระสอบทรายอะไรแต่แค่แวะไปเล่นฟิตเนสซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจการที่พามกับที่บ้านตัดสินใจเปิดเพิ่ม ถึงแม้จะจบท้ายด้วยการดื่มต่อแต่ก็ถือว่าผมเป็นคนหนึ่งที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่แปลกที่กล้ามเนื้อจะยังฟิต

... ยิ่งมีแฟนเป็นเนยิ่งต้องฟิตร่างกาย

เนอาจจะไม่รู้ตัวแต่ว่าตัวเองน่ารักแค่ไหนแต่ผมสามารถบอกได้เลยว่าทุกที่ที่ไปกับเนมักจะเจอสายตาของผู้ชายและผู้หญิงที่สนใจเนอยู่เสมอ ซึ่งมันก็น่าหงุดหงิด ถึงจะไม่ได้แสดงออกอะไรออกไปแต่ผมกล้าพูดว่าผมหวงเนมาก



“ละ ลุง โป๊มาก โอ๊ย โป๊มากๆ”

“แค่ถอดเสื้อ”

“ไอ้ที่ดุนกางเกงอยู่ล่ะ!!!!”

“แปลกตรงไหน เราใส่ชุดขนาดนี้ให้พี่ไม่รู้สึกอะไรหรือไง”

“แต่ แต่”

“ที่ไอ้ที่ตั้งอยู่ใต้กระโปรงเราพี่ยังไม่พูดเลย” นักเรียนหญิงที่ไหนกันถึงมีอะไรนูนจากใต้กระโปรงแบบนั้นได้ ด้วยความที่กางเกงในลูกไม้ที่น้องใส่มันบางด้วยนั่นแหละครับมันเลยยิ่งนูนชัดเจน พอโดนผมทักเนก็หน้าแดงหูแดงรีบเอามือมาปิดไว้

“ลุงพูดจาลามกแบบนี้กับสาวเวลาอยู่บนเตียงเหมือนกันรึเปล่า”

“เราจะหาเรื่องพี่ทำไม”

“ก็ไม่รู้นี่”

“พูดเองแล้วก็หึงเอง”

“ก็จะหึงนี่ ลุงเคยมีอะไรกับสาวแต่เนยังไม่เคย เนพูดไม่ได้หรอ”

“ตอนนั้นพี่จะเป็นยังไงไม่รู้แต่ตอนนี้พี่อยู่กับเราเพราะงั้นอย่าพูดถึงคนอื่น” ผมสะบัดเสื้อเชิ้ตออกจากตัวแล้วปรายตามองร่างของเน ไม่อยากจะคิดให้ตัวเองดูโรคจิตเลย แต่กางเกงลูกไม้กับกระโปรงสั้นๆ นี่มันดีต่อใจจริงๆ ปวดตึงไปหมด

“อะ อื้อ”

“ตอนนี้พี่ก็มีแต่เรา” ผมคว้าข้อเท้าน้องขึ้นมาแนบแก้มพร้อมกับจ้องตาใสนั่น “...จากนี้พี่ก็มีแต่เรา”

เนเขินจนน้ำตาคลอ ส่วนผมก็ได้แต่เอ็นดูจนต้องกดริมฝีปากจุ๊บลงบนข้อเท้าเล็กนั่นไปหนึ่งที พอยกขาขึ้นแบบนี้ก็กลายเป็นเห็นอะไรต่อมิอะไรชัดไปหมด

“ลุง ลุง... เนเขิน อย่ามอง”

“ใส่มาให้พี่มองไม่ใช่รึไง”

“ตะ ตอนนั้นไม่ได้คิด ตอนนี้คิดแล้ว ไม่เอาแล้ว” งอแงแล้วครับ เนเบะปากแงพยายามดึงขาตัวเองกลับ แต่ผมที่รอเวลาที่มาเนิ่นนานไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆ หรอก ผมกัดเบาๆ ลงบนน่องขาวแล้วดันตัวเข้าไปใกล้น้องให้มากขึ้น

“ไม่”

“ฮื้อออ ลุงงง”

“พี่ไม่ปล่อยเราไปไหนแล้ว”

สิ้นประโยคผมก็ก้มลงจูบปากดื้อนั่น ขบเม้มอย่างจาบจ้วง เสียงลมหายใจสอดประสานไปกับเสียงเฉอะแฉะแสนลามกดึงบรรยากาศให้ดูอุ่นร้อนขึ้น ผมปล่อยขาเล็กในมือออกก่อนจะเปลี่ยนมาบีบเคล้นตามสะโพกนุ่ม เนมีเนื้อมีหนังเพิ่มจากสมัยมัธยมขึ้นมาก เต็มไม้เต็มมือแบบนี้ค่อยรู้สึกดีกว่าตอนตัวแห้งๆ นั่นหน่อย

“ฮึก...” เนพยายามเม้มปากกลั้นเสียงครางในลำคอตัวเองผมเลยผละตัวออกมาใช้มือช่วยให้น้องเขินมากกว่าเดิมด้วยการใช้นิ้วชี้เกี่ยวกางเกงในลูกไม้ตัวบางออกจากเรียวขาก่อนจะสอดตัวกลับเข้าไปอยู่ตรงกลาง

“ละ ลุง เน เน” เนยกมือขึ้นมาดึงคอผมลงไปกอด ท่านี้จมูกผมเลยปักเข้าคอน้องไปเต็มๆ

“อย่ารัดคอเน”

“เนเขินมากๆ ทำไงดี เนเขิน”

“เรื่องธรรมชาติ”

“ฮึก เนเขิน ไม่เอา ไม่มอง ไม่เอาแล้ว” เสียงดื้องอแงสุดๆ ผมหัวเราะให้กับความน่าเอ็นดูนั่น ในเมื่อเขินผมมองเลยจำใจยอมให้น้องล็อคคอไว้อย่างนั้นแต่ก็ขมับขมเม้มไปตามพื้นที่ใกล้เคียงอย่างลำคอแล้วก็แผ่นอกขาว ส่วนมือผมก็ไม่อยู่นิ่งเริ่มขยับลูบไล้อีกรอบ

แน่นอนว่าพอนิ้วมือผมสัมผัสโดนจุดอ่อนไหวเนก็ครางฮือออกมาพร้อมกับพยายามเบี่ยงตัวหลบ ผมใช้มือไล้สัมผัสอย่างแผ่วเบาปลุกอารมณ์ให้น้องค่อยๆ เคลิ้มแล้วก็จมไปกับความรู้สึกก่อนจะค่อยๆ เร่งจังหวะ เพียงไม่นานมือที่จิกอยู่บนหัวผมก็เริ่มออกแรงทุบ

“ฮึก รู้สึก รู้สึกกว่ามือตัวเองอีก”

“หึ” เด็กดื้อพูดตรงอีกแล้ว

“มะ.. ไม่ไหว ปล่อย เนจะ เนจะ”

“ปล่อยเลย”

“ลุง...”

“เด็กดีของพี่”

“ฮื้ออออออ”



ก้อนดื้อสะดุ้งเฮือก นิ้วจิกเนื้อคอผมอย่างแรงจนคิดว่าน่าจะได้เลือด ขาเล็กตวัดเกี่ยวรัดเอวผม ร่างทั้งร่างสั่นไปทั้งตัวก่อนจะปล่อยตัวเองตกลงบนเตียง ทั้งหมดนั่นเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงนาที นับว่าค่อนข้างเร็ว



อา...

ความวัยรุ่นสินะ...

ผมหันไปหอมแก้มชื้นเหงื่อนั่นด้วยเอ็นดูก่อนจะหยัดตัวขึ้นนั่ง เนอ้าปากหอบหายใจ เสื้อนักเรียนตัวสั้นเริกขึ้นไปกองอยู่บนคอเปิดเนื้อช่วงอกกับท้องขาวออกมาให้เห็นจนเต็มตา มือสองข้างปล่อบวางไว้ข้างตัวอย่างหมดแรง ขาเรียวที่ตวัดเกี่ยวผมไว้อ้าออกอย่างเผลอตัว



ทุกอย่างที่เนกำลังเป็น

ต้องบอกตามตรงว่าทำเอาผมปวดหนึบไปหมด



“กระโปรงเลอะไปหมดแล้ว”

“ฮึก...”

“พี่ถอดนะ” ผมเอื้อมมือเตรียมปลดตะขอออกแต่เนก็เอื้อมมือมารั้งไว้

“มะ ไม่เอา ไม่ถอด อย่าถอด”

“เน”

“ไม่ถอดดดด” เสียงเริ่มกลับมางอแงอีกครั้ง ไม่รู้จะใส่ไว้ทำไม สั้นจนปิดอะไรไม่ใช่จะได้ แต่พอเห็นก้อนดื้อเริ่มงอแงผมเลยจำเป็นต้องปล่อยมันไว้แบบนั้น ผมออกจากเตียงเพื่อถอดกางเกงสแลคที่ใส่อยู่ออก เนื่องจากมันค่อนข้างรัดรูปทำให้ขยับตัวลำบาก ระหว่างที่ถอดตาผมก็เหลือบมองไอ้ก้อนฟูๆ บนเตียงไปด้วย สายตาซุกซนนั่นจ้องมาที่ผมด้วยความตื่นเต้น ผมเดินไปที่หัวเตียงคว้าเจลสุ่มๆ มาหนึ่งหลอดก่อนจะเปิดลิ้นชักหยิบกระปุกวาสลีนกับกล่องถุงยางออกมา

“ลุง เนอยากใส่”

“หืม?”

“ขออันหนึ่ง” งงนิดหน่อยแต่ก็แกะกล่องโยนไปให้ซองหนึ่ง เนรับไปถือก่อนจะตวัดตัวหันหลังใส่ผม พอเห็นอย่างนั้นแล้วก็ได้แต่หัวเราะในลำคอ



... เนไม่เคยใส่

ให้ตายเถอะ เนทำให้ทุกอย่างมันดูบาปมากขึ้นจริงๆ



ด้วยความมือใหม่เนหันหลังขยับแขนยุกยิกอย่างทุลักทุเล ปล่อยตัวจนผมไปนั่งซ้อนด้านหลังก็ยังไม่รู้ตัว ผมเหลือบตามองก็เห็นว่าคิ้วเล็กนั่นขมวดเป็นปม

“ช่วยไหม”

“อ๊ะ ลุง” ระหว่างที่น้องกำลังเคลิ้มไปกับสัมผัสที่ผมให้ อีกมือที่ว่างของผมก็ค่อยๆ ไล้ไปเกลี่ยวนแถวก้นนุ่ม ลูบวนอยู่สักพักจึงค่อยๆ แทรกสัมผัสเข้าไป ตอนนั้นเองที่เนถลึงตาขึ้นสบตาผม

“ละ ลุง ลุง!!! นิ้วลุง!!!”

“เจ็บไหม” นึกขำเล็กน้อย คิดว่าไม่รู้รึไงว่านิ้วใคร โวยวายลั่นเชียว

“อือ มันแปลกๆ ไม่รู้ เนไม่เคยมีอะไรเข้าไป”

“อย่าเกร็ง”

“ในกระทู้ก็บอกแบบนี้ แต่มีอะไรเข้าไปในก้นนะ ไม่ให้เกร็งได้ยังไง อ๊ะ... ลุงเพิ่มนิ้วหรอ!!!!” เสียงเล็กเจื้อยแจ้วของเนทำให้ผมกระตุกยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูจนเหนื่อยใจ แต่ก็แอบขัดใจเล็กน้อยตรงที่กระโปรงบางส่วนบดบังทัศนียภาพที่ผมควรจะเห็น

“เน ถอดกระโปรงก่อนได้ไหม ผ้ามันลื่น”

“ลุง... ถอดให้” พูดสั้นๆ เป็นประโยคคำสั่งที่ผมยอมทำให้แต่โดยดี ผมปลดตะขอกระโปรงและรูดซิปลงเล็กน้อย แค่นั้นกระโปรงผ้าบางก็ไถลลงไปตามเรียวขาขาว เนค่อยๆ ขยับขาขึ้นสลัดกระโปรงออก



ซึ่งเป็นการขยับที่เปิดให้เห็นทุกอย่างจนผมหายใจสะดุด

ตอนนั้นเองที่เนก้มหน้าลงมองช่วงล่างของผมก่อนจะรีบเงยหน้าตื่นๆ ขึ้นมา



“ลุง!!!”

“หืม”

“มะ มะ มันใหญ่ไปไหม”

“หึ ชินกับมันไว้ เด็กดี”

“ฮึก เน เน เนจะทำเอง” ผมยกคิ้วเล็กน้อยกับคำนั่น ไม่ได้กะจะตกลงแต่เนก็ส่งสายตากึ่งบังคับมา

“เน...”

“ลุงช่วยจับหน่อย”

เนค่อยๆ ทิ้งตัวลงมาจนร่างกายของเราสัมผัสกัน เนเม้มปากมองหน้าผม ส่วนผมก็จ้องหน้าเนไว้ไม่ห่าง ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้น้องเริ่มเกมเองในครั้งแรกอยู่แล้ว ถ้าน้องไม่ไหวผมก็จะรีบเปลี่ยนตำแหน่งให้ทันที

ไม่นานนักเนก็ค่อยๆ กดแรงลงมาจนผมสัมผัสได้ถึงการแทรกตัวเข้าไป มันรัดตึงจนผมเองเป็นฝ่ายรั้งสะโพกน้องไว้ไม่ให้กดลงมา มือเล็กของเนที่วางอยู่บนบ่าผมออกแรงจิกแน่น

“ฮึก แน่น แน่นไปหมด”

“ไหวไหม...” ผมเอ่ยถามทั้งๆ ที่ตัวเองก็รู้สึกแทบจะระเบิด ความอุ่นนุ่มที่โอบรัดนั่นเหมือนเป็นด่านวัดความอดทนชั้นดี

“แน่นมาก ฮึก เนจุก” คำพูดคำจามันน่าตีจริงๆ ผมอยากจะฟาดก้นนุ่มให้ขึ้นรอยแต่ก็ทำได้แต่ช่วยพยุง สุดท้ายน้องก็คอพับคออ่อนไม่ไหว น้ำตาไหลเป็นเม็ดผมเลยเปลี่ยนจับเปลี่ยนท่ากลับเข้าสู่ท่าเบสิค จากหน้ายู่ยี่ที่เหมือนอดทนกับความแปลกใหม่ก็เริ่มเปลี่ยนไปตามแรงอารมณ์ ดวงตาใสหรี่มองผม แขนเรียวเล็กปัดไปปัดมาพยายามจะจับหน้าผม

“เรียกพี่... พี่ไม้” ผมยกมือขึ้นเสยผมพร้อมกับกดตามองหน้าดื้อนั่นกลับ

“ว่าไง เด็กดี”

“พี่ไม้ อา เบาหน่อย เบาหน่อยครับ เนไม่ไหว อ๊ะ ฮึก” ขาเล็กยกขึ้นถีบอกผมเบาๆ ผมเลยจับเท้าเล็กขึ้นมาแนบแก้มด้วยความเอ็นดู ทีแบบนี้ล่ะอ้อนเรียกพี่ เข้าใจอ้อนแต่ดันอ้อนผิดที่ผิดทางไปหน่อย เพราะบนเตียงแบบนี้ยิ่งอ้อนผมยิ่งรู้สึกคึก อยากจะฟัดเด็กตรงหน้าให้จมเตียง



ผมมองใบหน้าของเนไปพร้อมกับความรู้สึกอุ่นซ่านในอก

รัก...

รักไปหมดทั้งตัว



ผมทอดสายตามองเด็กของผมด้วยความรู้สึกรักจนหมดหัวใจ มันอบอุ่นซ่านไปทั่วอก ใช้เวลาเพียงไปนานเนก็เหยียดตัวขึ้นจนพุงนุ่มแบนราบก่อนจะทิ้งน้ำหนักตกลงกลับไปบนเตียงยับยู่ยี่ ปากเล็กอ้าสูดลมหายใจจนอกกระเพื่อม เห็นแล้วเอ็นดูจนต้องฉกจมูกลงไปหอมแก้ม



“ได้เนแล้ว รักเนมากๆ นะ ห้ามไปรักใครมากกว่าเนนะ”

“ต่อให้ไม่ได้ พี่ก็รักเรามากที่สุดอยู่แล้ว” ผมจูบปากนิ่มนั่นไปเบาๆ เนคลี่ยิ้มออกจนแก้มยกกับคำตอบผม

“รักเนมาก คราวหน้าเนขอได้ลุงได้ไหม”

“...”

เอ๊ะ...

“วัยอยากรู้อยากลอ- โอ๊ะ ลุง อื้อ” ผมเริ่มขยับตัวทันทีที่ได้ยินประโยคไม่ค่อยน่าฟัง คิดจะสลับตำแหน่งงั้นหรอไอ้เด็กดื้อนี่ ชั่วโมงบินเพิ่งออกได้ไม่ถึงห้านาทีก็เริ่มแสบแล้ว สงสัยผมคงต้องปวดหัวต่อไปอีกนาน



ผมถอนหายใจแทนความเหนื่อยล่วงหน้า

แต่ถามว่าจะปล่อยเนไปไหนไหม

คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียว



ไม่มีทาง...

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ mister

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • https://www.facebook.com/JJSonkFanclub

ออฟไลน์ topson168168

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
    • เว็บไซต์รีวิวหนังใหม่ หนังดัง

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนรู้ว่าเนติดแล้วคือร้องไห้เลย หลังจากรู้คะแนนโอเน็ตตัวเองแล้วอ่อนไหวมาก เจ้าเนเก่งมากๆๆ เป็นดาวยั่วไปแล้ว สงสารกระเป๋าตังลุงแล้ว เปย์เด็กเก่งมาก ตามใจทุกอย่างเลย o13

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :m20: :m20: :m20:

แสบจริงๆ น้องเน

 :pighaun: :pighaun: :pighaun:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด