- Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)  (อ่าน 81419 ครั้ง)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: - Affection - ตอนพิเศษ พี่พล (3/3) P.3 (28-Nov-18)
«ตอบ #90 เมื่อ12-12-2018 21:24:05 »

สนุกมาก มีความเรียล
มีความไม่เข้าใจพี่พล รักแบบน้องแต่นอนกับเขาไปหลายครั้งนี่นะ
ชอบหมอบุญ

ออฟไลน์ PromQueen29

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
- Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #91 เมื่อ21-12-2018 19:42:23 »

ตอนพิเศษ My loveliest friend





‘ครบสิบปีแล้ว’ ผมคิดแบบนั้น

สิบปีที่มีนายเป็นคนรัก ผมครุ่นคิดว่าสิบปีที่ผ่านมามีสิ่งใดคงเดิมและสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ด้วยความสัตย์จริงผมยังมองเห็นนายเป็นเพียงนายที่เจอกันวันแรกในเมืองเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย สิบปีก่อนหน้านั้นผมสัญญากับนายว่าวันใดวันหนึ่งเราจะกลับไปที่ออสเตรเลีย ผมจะประกอบอาชีพแพทย์ แต่งงานกับนาย และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น แต่สิบปีให้หลังผมยังทำตามสัญญาไม่ได้

สิบปีนี้ค่อนข้างหนักหนา ในระยะเวลานั้นแม่ของผมป่วยและเป็นผมที่ต้องคอยดูแลอย่างสม่ำเสมอ วันที่ผมบอกนายว่าการได้ไปใช้ชีวิตตามที่วาดฝันอาจเลือนลางลง ผมไม่ปฏิเสธว่าเราทะเลาะกัน เป็นเพราะผมเองที่ผิดสัญญา เป็นผมเองที่พยายามไม่มากพอ เป็นผมเองที่วาดความฝันและขีดเขียนความฝันให้นายมีความหวัง ผมกระทำสิ่งใดไม่ได้นอกจากยอมรับความผิดหวังทั้งของตัวเองและคนรัก

สิบปีเป็นช่วงที่ผมทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างเรา ทั้งความรัก ความใคร่ หรือแม้แต่การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันภายในห้องชุดแห่งนี้ ผมยังรักเขาอยู่หรือเปล่า ผมยังอยากร่วมหลับนอนกับเขาอีกไหม ผมยังอยากดูแลในยามที่เขาเจ็บป่วย ผมยังจับมือของเขาและออกไปท่องโลกกว้างด้วยอีกไหม หลังจากทะเลาะกันครั้งนั้น ผมเพียงแต่ถามนายว่าเรายังรักกันอยู่หรือเปล่า

สิบปี… นายบอกว่าสิบปีที่เขาซื่อสัตย์ต่อผมมันยังไม่สามารถพิสูจน์ความรักที่มีให้ได้อีกเหรอ ใบหน้าของเขาสลดเศร้าและบอกต่อผมว่าเขาขอโทษที่เอาความผิดหวังของตัวเองให้ผมแบกรับมันไว้เพียงลำพัง เขาบอกต่อผมว่าควรแบ่งรับความผิดหวังนั้นมาที่เขาเสียบ้าง กลายเป็นว่าเราเข้าใจกันดีในเรื่องของการย้ายถิ่นฐาน เราเข้าใจกันดีไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนผมก็ยังเป็นผม นายก็ยังเป็นนาย เป็นเราที่รักกันเช่นเดิม

ผมโอบกอด รั้งใบหน้าของนายเข้ามาจูบที่สันกราม ลูบไล้ผิวกายชื้นเหงื่อในอ้อมแขนนี้ด้วยความหลงใหล นายประกบปากจูบผมอีกครั้งขณะยกสะโพกขึ้นทำให้ท่อนเนื้อของผมหลุดออกจากช่องทางด้านหลัง ผมยิ้มกริ่มเมื่อได้ยินเขาต่อว่าต่อขานถึงความฉ่ำแฉะในนั้น นายก็เป็นเสียแบบนี้ในเวลาเขินอาย น่าแปลกเหลือเกินที่แม้ว่าเราจะร่วมรักกันมาหลายครั้งแต่ทุกครั้งหัวใจของผมยังเต้นแรงสูบฉีดด้วยความตื่นเต้น นายมองผม มันเป็นสายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก และนี่เป็นเซ็กส์ครั้งสุดท้ายในคืนสิ้นปี

ช่วงเช้าวันนี้เริ่มต้นเข้าสู่ปีที่สิบเอ็ดของการคบหากันฉันท์คนรัก ผมเริ่มครุ่นคิดอีกครั้งว่าทำไมเรายังรักกันอยู่แบบนี้ นายทำงานในสายงานเดิม ออกกองต่างจังหวัด ตื่นแต่เช้า กลับบ้านไม่เป็นเวลา แต่เปลี่ยนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้กำกับแล้ว ผมครุ่นคิดอีกครั้งว่าทำไม่เรายังไม่เลิกหลงรักกันอีก ทั้งที่ผมทำงานหนักเหนื่อย รับงานคลินิกนอกเวลา และรวมถึงงานด้านวิชาการอีก

เรายังอยู่ห้องเดิมในเช้าวันปีใหม่ ผมกับนายไม่ค่อยมีของขวัญหรือรางวัลใดเป็นพิเศษสำหรับเทศกาลต่างๆ ส่วนตัวผมเองเคยคิดไว้ว่าจะซื้อของสักชิ้นให้นายเพื่อมอบให้ในวันเวลาพิเศษต่างๆ แต่ผมกลับลืมเสียสนิทเมื่อถึงวันเวลาจริง กลายเป็นว่าเราไม่เคยมีสิ่งใดแทนใจ ไม่มีเครื่องประดับ ไม่มีดอกไม้ช่อใหญ่โผล่ไปเซอร์ไพรซ์ใครทั้งนั้น แต่แล้วเราก็ยังอยู่ด้วยกัน ผ่านสิ้นปี เริ่มต้นปีใหม่ ผ่านสิ้นปีอีกครั้ง และเริ่มต้นปีใหม่อีกครั้งไปเรื่อยๆ

นายลืมตาตื่นแล้วในเช้าวันนี้ก่อนจะหลับตาลงด้วยความงัวเงีย ผมเอื้อมมือไปลูบที่หางตาซึ่งเริ่มมีรอยขีดปรากฏขึ้น ในวันที่สังขารเริ่มโรยรา ผมครุ่นคิดว่าทำไมเรายังไม่เบื่อหน่ายกับการเฝ้ามองใบหน้าของใครสักคนในยามเช้าแบบนี้ นายลืมตาอีกครั้งไม่ได้ส่งยิ้มหวานประโลมโลก ไม่ได้กล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เขาเพียงแต่จับมือของผมและแนบใบหน้าเข้าหา ก่อนจะจูบลงบนฝ่ามือ ผมครุ่นคิดว่าทำไมนายยังไม่เบื่อทำแบบนี้ เขาตื่นเต็มตาแล้ว ไม่ได้บอกสวัสดีปีใหม่หรือมีเซอร์ไพรซ์อะไรรออยู่ ผมครุ่นคิดว่าทำไมผมยังตื่นเต้นที่ได้ลืมตามาเจอเขาอีกในเช้าปีใหม่นี้

นายขยับตัวเข้ามาจูบที่กลุ่มผม เนิ่นนานจนแทบลืมหายใจ เขาโถมทับตัวลงมาไม่เบาแรงก่อนเราจะก่ายกอดกันอยู่บนเตียงพักใหญ่พร้อมกับเสียงหยอกล้อปนเสียงหัวเราะในช่วงเช้า นายเลิกสูบบุหรี่แล้วด้วยเหตุผลที่แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองสักเท่าไหร่ ผมไม่อยากทำลายความตั้งใจของเขาด้วยการบอกว่าปอดของเขาถูกทำลายไปแล้วและไม่สามารถฟื้นฟูในส่วนนั้นได้ดีสักเท่าไหร่ ส่วนตัวผมเองยังคงเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้ รู้ทั้งรู้ว่ามีผลเสียอย่างไรแต่เลิกเด็ดขาดแบบนายยังทำไม่ได้เสียที

“บุญหัวเหม็น”

นายบอกแบบนั้นแต่ยังคงดึงศีรษะของผมไว้และฟัดหอมไม่หยุด ผมหัวเราะก่อนจะคว้าตัวของเขาเข้ามาให้นอนแนบหน้าอก กดจมูกลงบนศีรษะของเขาบ้าง “นาย สิบปีแล้วนะ”

“อืม” นายรับคำ ท่าทีดูเมินเฉยเหมือนทุกทีแต่ผมรู้ว่าเขากำลังเขินอาย ยิ่งนิ่งเท่าไหร่ก็ยิ่งอายมากเท่านั้นแหละ

“เมื่อไหร่จะมีลูกให้เราหละ”

ผมตั้งใจจะให้มันเป็นมุกตลกเรียกรอยยิ้มขำขันจากนาย แต่เขากลับนิ่งเฉยซึ่งส่วนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเขาเขินหรือรู้สึกอย่างไร “บุญอยากมีลูกเหรอ”

ตายห่า นี่ผมทำให้นายเข้าโหมดจริงจังไปเสียแล้ว

“เราขอโทษนะที่มีให้ไม่ได้”

“เราล้อเล่น เราไม่ชอบเด็กซะหน่อย”

นายยังคงเงียบ แต่ไม่ได้ผละตัวออกไป “แม่เราเคยถามนะว่าไม่อยากมีลูกเหรอ”

“แล้วตอบไปว่าไง”

“บุญท้องให้ไม่ได้”

จากนั้นนายก็ระเบิดเสียงหัวเราะ ผมยิ้มกว้างขณะมองเขาลุกเดินไปทำกิจวัตรเช่นเดิม

ผมยังเอ้อระเหยอยู่บนเตียง มองนายเดินข้ามห้องไปมาพักหนึ่ง ก่อนเขาจะหายไปนานสองนานพร้อมกับกลิ่นอาหารเริ่มลอยมา ผมคว้าแว่นสายตากรอบสีดำขึ้นมาใส่ เดินไปล้างหน้าทำกิจวัตรเดิมก่อนจะออกไปช่วยเขาทำอาหารบ้าง นายทำอาหารให้ผมกินอยู่บ่อยครั้งเพราะผมไม่ชอบกินข้าวข้างนอก จะว่าอ้อนนายก็คงใช่ แต่เวลาเห็นเขาทำเหมือนสะดิ้งรำคาญก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นทำอาหารง่ายๆให้ก็ถือว่าเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง

“บุญฝากคนโจ๊กหน่อย” เขาบอกก่อนจะรีบคว้าโทรศัพท์มือถือมารับสาย ได้ยินเขาเริ่มพูดจาหยาบคายก็รู้แล้วว่าคงจะเป็นเหล่าชาวแก๊งส์ที่โทรมา ผมดีใจกับนายที่ยังคบหากับเพื่อนสมัยเรียนอย่างแนบแน่นขนาดนี้ ส่วนเพื่อนของผมมีบ้างที่ยังคุยกันอยู่และมีบ้างที่หายไปจากสารบบ แต่โดยรวมผมแทบไม่สนใจเลยเพราะงานที่ทำอยู่ก็คือเพื่อนสนิทของผมนั่นเอง

นายวางสายแล้วมารับช้อนไม้ขนาดใหญ่ที่ใช้คนโจ๊กจากผมไปทำต่อ

“ใครโทรมา”

“ไอ้นุ่น มันจะนัดไปเจอเย็นนี้” เขาตอบด้วยสีหน้าชื่นมื่น และผมคิดว่าเขาช่างน่ารักเหลือเกิน “มันบอกว่านัดกันครบทุกคนเลยนะ ถ้าเราไม่ไปหมาแน่นอน”

“เออ ก็จริง แล้วนัดกันกี่โมง”

“ห้าโมง ไอ้หนึ่งต้องรีบกลับเพราะฝากลูกไว้กับย่า มันอยู่ได้ถึงทุ่มนึง”

“เหนื่อยเหมือนกันนะเลี้ยงเด็ก”

นายไม่ได้ตอบรับอะไรเพราะวุ่นวายกับโจ๊กที่เดือดพร้อมเสิร์ฟตรงหน้านี้ เขาตอกไข่ลงไป คนไข่ผสมให้เข้ากันจนโจ๊กกลายเป็นสีไข่แดง ไม่มีผักโรย ไม่ใส่พริกไทยเพิ่ม และนี่คือวิธีการกินโจ๊กกึ่งสำเร็จรูปของพวกเรา เรียบง่ายไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม นายยกถ้วยโจ๊กมาวางไว้บนโต๊ะก่อนจะเปิดตู้เย็นหยิบน้ำผลไม้ออกมาเทใส่แก้วให้

“นาย” ผมเรียกแล้วจับมือของเขาไว้ “ทำไมนายน่ารักขนาดนี้อะ”

เขาเงียบ มองผมด้วยสีหน้านิ่งๆก่อนจะดึงมือออก “บ้าไรวะ” แม้ว่าจะพูดอย่างนั้นแต่ใบหน้าของเขากลับเผยยิ้มนิดๆ

ผมเท้าคางมองนายกินโจ๊ก อาหารตรงหน้านี้ไม่ได้วิเศษหรืออร่อยอะไรนักหนา แต่การได้กินโจ๊กง่ายๆแบบนี้กับนายทำให้ผมรู้สึกอิ่มเอมอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้เหมือนกันว่าทางวิทยาศาสตร์มีทฤษฎีอะไรหรือเปล่า

“ทำไมไม่กินหละ” เขาถามแล้วหยิบช้อนโจ๊กของผมมาคนๆ เป่าๆให้หายร้อน “หรือว่ารอบนี้มันไม่อร่อย” นายพึมพำแล้วลองชิมโจ๊กจากในถ้วยของผม ทั้งๆที่มันก็เป็นโจ๊กกึ่งสำเร็จรูปซองเดียวกันกับของนาย

ผมหัวเราะแล้วจับแก้มของเขา สิบปีที่ผ่านมาไม่มีสักครั้งที่เขาจะมั่นใจฝีมือทำอาหารของตัวเอง “มันก็รสโจ๊กกึ่งสำเร็จรูปเหมือนเดิมนั่นแหละ อร่อยผงชูรสอะ”

เขาทำหน้าไม่ถูก ก่อนจะทำเป็นหน้าเฉยๆแล้วเบี่ยงหน้าหลบมือของผม “เลิกบีบแก้มได้แล้ว หน้าเหี่ยว”

“นาย”

“อืม”

“รู้ป้ะเนี่ยว่ารัก”

“เออ รู้” คำตอบของเขาสั้นห้วนเหมือนทุกที “ก็รักเหมือนกันแหละ”

ผมเลิกบีบแก้มของเขาก่อนจะกินโจ๊กแบบง่ายๆพร้อมกับรอยยิ้มในเช้าอันสงบสุข



ตกตอนเย็นผมโดนลากไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนของนาย จากตอนแรกตั้งใจว่าจะนอนพักผ่อนดูโทรทัศน์อยู่ในห้อง กลับกลายเป็นความสงบสุขถูกผันเปลี่ยนด้วยเสียงเพลงในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านสาทร ผมไม่นึกอยากสังสรรค์สักเท่าไหร่ แม้ว่าจะสนิทกับกลุ่มเพื่อนของนายประมาณหนึ่งแต่เขาก็ไม่ใช่เพื่อนของผมเสียทีเดียว ตกพลบค่ำนายยังติดลมทอดเฟรนช์ฟรายอยู่กับนุ่น ก่อนจะมานั่งกินอาหารตัวติดอยู่กับเพื่อนและไม่ได้สนใจผมมากนัก ผมเองก็ติดคุยอยู่กับเฟริสท์ในเรื่องสัพเพเหะระทั่วไป น่าประหลาดใจอยู่เหมือนกันที่กลุ่มเพื่อนของนายสามารถนัดรวมตัวกันได้ครบแก๊งส์ขนาดนี้ ผมถือว่าเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติเพราะมันยากเหลือเกินกับการนัดเพื่อนสมัยเรียน

นายดื่มเครื่องดื่มมึนเมาเยอะจนสังเกตเห็นได้จากการพูดเสียงดังขึ้น ดูท่าแล้วเป็นตัวผมเองที่ต้องหยุดดื่มเพราะไม่เช่นนั้นคงขับรถกลับห้องตัวเองไม่ได้ นายสั่งเบียร์เพิ่มแต่เป็นเบียร์ท้องถิ่นราคาถูก มาถึงตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าเขาเมาเละแน่นอน

“อินายไปตายอดตายอยากมาจากไหน ทำเหมือนไม่เคยกินเบียร์”

“เออ ไม่รู้เหมือนกันแฮะ” ผมตอบเฟริสท์ที่กระซิบอยู่ด้านข้าง แต่ถึงจะคุยเสียงดังนายก็คงไม่ได้ยินอยู่ดี

“บุญห้ามนายดื่มเหรอ”

“ไม่เคยห้ามนะ บางทีก็ซื้อมากินด้วยกันในห้อง”

“อะไรของมันวะ” เธอพึมพำก่อนจะหันไปสนใจอย่างอื่นแทน

หนึ่งกลับไปก่อนใครเพื่อนเพราะเป็นห่วงลูก ส่วนชาวแก๊งส์ที่เหลือยังคงสังสรรค์กันต่อและส่งเสียงดังเช่นเดิม เราแลกเปลี่ยนเรื่องราวในชีวิตการทำงานที่ผ่านมา ผมเล่าเรื่องที่โรงพยาบาลให้ฟังเมื่อถูกถาม เท้าความตั้งแต่ว่าทำไมผมถึงไม่ต้องไปใช้ทุนฝึกงานที่ต่างจังหวัด คนเรียนหมอวันๆทำอะไรบ้าง ไม่มีเวลาจริงเหรอ หรือแม้แต่เรื่องเร้นลับในโรงพยาบาล ชาวแก๊งส์ตั้งใจฟังจนผมเกร็งนิดหน่อยตอนเล่าว่าเจอสิ่งเร้นลับในโรงพยาบาลตอนมืดค่ำ โดยเฉพาะบอมที่ดูเหมือนจะกลัวเรื่องผีมากที่สุด เขาทำท่าขนลุกจนเฟริสท์ต้องล้อเลียน ผมหัวเราะ จากตอนแรกที่ขี้เกียจมาก็เริ่มคลายอารมณ์และพลอยสนุกไปด้วย

นายเริ่มเมาจริงจังในตอนช่วงสามทุ่มเกือบสี่ทุ่ม นับว่าเป็นการเมาที่รวดเร็วจนน่าตกใจ ขณะเดียวกันนั้นชาวแก๊งส์เห็นโอกาสในการแกล้งเพื่อน เริ่มต้นด้วยบอมที่สะกิดเฟริสท์ให้เอาโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปตอนนายทำหน้าตาน่าเกลียด ผมหัวเราะด้วยความรู้สึกผ่อนคลายไปกับชาวแก๊งส์ ถึงแม้ว่าจะเติบโตกันมาเข้าสู่วัยทำงานแต่พวกชาวแก๊งส์ก็ยังทำตัวเป็นเด็กๆเมื่อรวมกลุ่มกัน นายกลายเป็นตัวตลกของเพื่อน ถูกสั่งให้พูดหรือทำอะไรก็ทำไปหมด นานๆทีเห็นนายทำตัวบ้าบอแบบนี้ก็ตลกดี อดไม่ได้ที่จะอัดวิดิโอไว้ดู ตอนที่นายโดนนุ่นยุให้ดื่มน้ำผสมมั่วซั่ว เอาค็อกเทลผสมเบียร์ผสมชานมผสมเก๊กฮวย นายก็บ้ายุ เขาดื่มน้ำแก้วนั้นจนหมดเหยือก ชูแก้วราวกับเป็นถ้วยรางวัล

เราหมดแรงเพราะหัวเราะกันเป็นบ้าเป็นหลัง แล้วอยู่ๆก็เริ่มเข้าสู่โหมดคุยเรื่องสุขภาพ เฟริสท์บ่นว่าช่วงหลังมานี้ปวดบั้นเอวบ่อยครั้งผมจึงแนะนำให้เขาไปหาหมอเพื่อตรวจอย่างละเอียด เพราะไม่เชี่ยวชาญทางด้านนี้ ผมเล่าต่อถึงเรื่องความเจ็บความป่วยที่เห็นมามากมายเหลือเกินที่โรงพยาบาลจนชาวแก๊งส์เริ่มปลดปลง และถกปัญหาด้านสุขภาพกันยกใหญ่ แม้แต่การที่ผมสายตาสั้นจนต้องใส่แว่นยังถูกหยิบยกเอามาเป็นประเด็นที่ชวนหดหู่เลยด้วยซ้ำ

“บุญสายตาสั้นเยอะป้ะ ทำไมไม่ทำเลซิควะ” บอมถามแล้วจ้องหน้าผมราวกับว่าการใส่แว่นเป็นเรื่องแปลกประหลาด

“ยังไม่สั้นเยอะขนาดนั้นอะเลยยังไม่อยากทำเลซิค”

“พอถอดแว่นแล้วเบลอไปหมดเลยป้ะ”

“ไม่ได้เบลออะไรมาก แต่ก็มองไม่ชัดนะถ้าไม่ได้ใส่ ต้องเพ่งเวลาอ่านหนังสือ”

“แล้วถ้าแก่กว่านี้สายตามันจะยาวขึ้น ถ้าเกิดเป็นสายตาสั้นแบบนี้มันจะกลับมาเป็นสายตาปกติไหม”

“ไม่นะ แต่มันจะทั้งสั้นทั้งยาว”

นุ่นถึงกับถอนหายใจยาวและบอกว่า “สังขารไม่เที่ยงหนอ”

“เออ กูเพิ่งเลิกกับแฟนไปอาทิตย์ที่แล้ว ลืมอัพเดทพวกมึงเลย”

นุ่นทำหน้าตกใจก่อนจะโอบกอดเพื่อนสาวเป็นการปลอบประโลม “อย่าเศร้านะมึง”

“มึงเห็นกูเศร้าไหมหละ” เฟริสท์กล่าวแล้วตักอาหารตรงหน้ากิน “กูผิดเองแหละ นอกใจเขาแต่พอจะจริงจังกับคนที่คุยอยู่ก็เสือกโดนทิ้ง กูไม่เศร้านะเอาจริงๆ”

“โถ อิหญิงแกร่ง ถึงมึงจะเศร้ากูก็ไม่ปลอบหรอก” บอมตะโกนก่อนจะปาผักใส่หน้าเพื่อนอย่างคึกคะนอง

“อิบอม มึงเล่นสกปรกอิเวร”

จากนั้นขณะที่ชาวแก๊งส์กำลังเล่นหยอกเย้ากันไปมา นายที่นั่งเงียบมาตลอดอยู่ๆก็ผุดลุกขึ้นปิดปากแล้ววิ่งหายไป

“เอาแล้วไง บุญทำเพื่อนเราท้องแล้ว”

ผมหัวเราะให้กับประโยคหยอกล้อของเฟริสท์ก่อนจะลุกขึ้นตามนายไป เขาน่าจะไปอ้วกแตกอยู่ในห้องน้ำ อย่างว่าแหละวันนี้นายดื่มหนักจริงๆ ผมตามนายเข้ามาในห้องน้ำ เห็นเขาโก่งคออ้วกอยู่ในห้องส้วมห้องแรก อดหัวเราะไม่ได้กับสภาพอุบาดตรงหน้านี้ ผมรู้ว่านายเป็นพวกคออ่อนแต่บ้ายุดื่มไม่รู้ขีดจำกัดของตัวเอง ผมส่งขวดน้ำให้เขากลั้วคอก่อนจะใช้กระดาษทิชชู่ในห้องน้ำเช็ดหน้าเช็ดตาให้ นายอาเจียนซ้ำสอง และครั้งที่สามนี้คงทำให้เขาสร่างเมาขึ้นบ้าง

“จะกลับเลยไหม” ผมถามพลางเช็ดปากให้เขา คิดว่ายังไงคืนนี้ก็จะต้องลากนายเข้าห้องน้ำและทำความสะอาดร่างกายให้ เพราะตอนนี้กลิ่นอ้วกของเขาเหม็นมากจริงๆ

นายพยักหน้ารับก่อนจะก้มหน้าบ้วนปากที่อ่างล้างมือ ส่วนผมเดินไปกดชักโครกและเช็ดคราบที่เลอะเทอะให้ ทำไมนายของผมเละเทะได้ขนาดนี้นะ คิดแล้วก็ได้แต่หัวเราะกับตัวเอง

ผมพานายที่เริ่มเดินเอียงนิดๆกลับมาที่โต๊ะ แต่ไม่ใช่เพื่อให้เขานั่งสังสรรค์กับเพื่อนต่อหรอก ผมพามาร่ำลาเพื่อขอตัวกลับก่อน เพื่อนๆของนายไม่ได้รั้งตัวไว้ พวกเขาหัวเราะกันลั่นในตอนที่เห็นว่านายปวกเปียกคอพับคออ่อนเพราะเมาเบียร์ ผมประคองนายพามายังที่จอดรถ ทุลักทุเลพอสมควรกว่าจะยัดนายเข้าไปในรถได้ แม้ว่าเขาจะยังพอพูดรู้เรื่องแต่อีกหนึ่งระดับเขาก็จะพูดไม่รู้เรื่องแล้ว

นายหลับมาตลอดทาง พอปลุกก็ตื่นขึ้นมาทำหน้างงงวย

“ถึงห้องแล้ว”

“อุ้ม”

“ห้ะ?”

“อุ้มเราสิ”

คราวนี้เป็นผมเองที่เริ่มงงงวยแทน นายไม่เคยบอกให้ผมอุ้มเลยสักครั้งแต่นี่อาจเป็นเพราะว่าเขาคงจะยังมึนเมาแหละมั้ง ผมคิดไปแบบนั้น
“ต้องให้พูดซ้ำหรือไง” เขาเริ่มใช้น้ำเสียงแปลกๆ ก่อนจะเดินออกมาจากรถ ยืนพิงรอให้ผมอุ้มตามที่พูดเมื่อครู่นี้

“ถามจริง จะให้เราอุ้มเหรอ”

“บุญแม่งบื้อหรืออะไรวะ บอกให้อุ้มก็อุ้มเราสิ”

ผมอ้าปากค้างยืนอยู่ที่ฝั่งคนขับ แต่ดูท่าทางแล้วผมคงจะต้องอุ้มเขาขึ้นห้องแหละมั้ง หลังจากล็อกประตูรถเสร็จสรรพผมจึงเดินมาทางที่นายยืนอยู่ก่อนจะย่อตัวลงให้เขาขี่หลัง

“บอกให้อุ้มไง ไม่ใช่ขี่หลัง ไม่เข้าใจเหรอวะ”

ผมอ้าปากค้างรอบสอง นี่คนรักของผมเป็นอะไรขึ้นมาเนี่ย ผมยืดตัวขึ้นมองใบหน้าแดงๆก่อนจะยอมอุ้มเขาในท่าเจ้าหญิง ตัวก็ไม่ใช่เบา แถมยังเหม็นอ้วกอีก กว่าจะขึ้นมาบนห้องได้แขนผมนี่แทบจะหลุดออกจากกันแล้ว ผมวางนายไว้บนเตียงนอน เดินไปเตรียมอุปกรณ์เช็ดตัวอย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสร่างเมามากกว่าที่เป็นอยู่ ผมถอดเสื้อผ้าของเขาก่อนจะลงมือเช็ดตัวให้ เขามองผมตลอดการกระทำ อีกทั้งยังสั่งให้เช็ดตรงไหน หรือเบาส่วนใด นึกอยู่ในใจว่าถ้ายังมีสติมากพอจะมาสั่งกันแบบนี้ก็ควรลุกไปอาบน้ำเสียเลย

“ลุกไปอาบน้ำไหม จะได้สะอาดหน่อย”

“บุญว่าเราไม่สะอาดเหรอ” น้ำเสียงของเขาเข้มขึ้น จะว่าโมโหก็ไม่ใช่ ดูเหมือนเป็นการวางท่าราวกับผู้มีอำนาจ “เราบอกให้บุญทำอะไรบุญก็ต้องทำ เข้าใจไหม”

“เออๆ” ผมตอบรับก่อนจะจับแขนของเขามาเช็ด แต่แล้วนายกลับชักแขนหนีและจ้องมาที่ผม “อะไรวะ”

“ทำไมพูดไม่เพราะ เอออะไร นี่บุญคิดว่าพูดอยู่กับใคร”

“จะใครหละ ก็ขี้เมาไง”

สิ้นคำหมอนใบหนึ่งก็ถูกปาใส่หน้าเข้าเต็มเบ้า ผมอยู่ในอาการตกตะลึง แต่เพราะคิดว่านายกำลังเมาจึงไม่ถือสาอะไร

“ไม่ต้องเช็ดแล้ว เราจะไปอาบน้ำ ไปเปิดน้ำอุ่นสิต้องให้บอกอีกเหรอ”

“อะไรของนายวะ” ผมพึมพำ แต่แล้วก็ถูกปาหมอนใส่อีกผมจึงเดินหนีไปทางห้องน้ำเพื่อเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นให้ทั้งที่ปกตินายก็ทำของเขาเอง เจ้าคนขี้เมาของผมเดินมาในสภาพเปลือยเปล่า พอมาถึงก็ยื่นมือมาขอฝักบัวทั้งที่ตัวเองก็เอื้อมถึง ผมคิดว่าเขาคงยังเมามากอยู่จึงช่วยหยิบให้

“ออกไปสิ”

“อาบไหวแน่นะ จะไม่ล้มหัวฟาดใช่ป้ะ” ผมกวนอารมณ์ก่อนจะถูกนายฉีดน้ำใส่เข้ามาทั้งที่ยังใส่เสื้อผ้าอยู่ อันนี้ผมผิดเองที่ไปกวนอารมณ์คนเมาแต่ก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มรำคาญนาย “เล่นอะไรวะเนี่ย รอบนี้นายซักเสื้อผ้าให้เราด้วย”

“บุญใช้เราซักผ้าเหรอ คิดว่าพูดอยู่กับใคร ห้ะ”

“พูดอยู่กับผีมั้ง ไอ้ขี้เมา” ผมตอบแล้วเริ่มถอดเสื้อผ้าที่เปียกออก บิดเสื้อผ้าคิดไว้ว่าจะเดินออกไปตากที่ข้างนอกให้แห้ง “แม่ง เข็มขัดเปียกเลยหวะ ถ้ามันพังขึ้นมานะ...” ท้ายประโยคผมยกมือชี้หน้าเขาเป็นเชิงคาดโทษ แต่แล้วนายก็ฉีดน้ำฝักบัวจนเปียกปอนตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมวางเสื้อผ้าที่เปียกไว้บนพื้นและคว้าฝักบัวมาฉีดนายคืนบ้าง “นี่ถ้าไม่ติดว่าเมานะ จะด่าให้”

นายยกมือขึ้นป้องน้ำก่อนจะเอื้อมมือไปปิดฝักบัว “ไม่ได้เมา เราไม่เคยเมา”

ผมนี่อยากกรอกตากลับสักสามล้านรอบ คนเมาก็มักพูดแบบนี้เสมอแหละ “เออ ไอ้บ้า ไม่เมาก็ไม่เ-...” ยังไม่ทันพูดจบใบหน้าของผมก็หันไปข้างหนึ่ง เมื่อครู่นี้ผมคิดว่าผมถูกนายตบหน้านะ ถึงจะไม่แรงจนรู้สึกชาอะไรแต่ก็หน้าหันเลยทีเดียว

“บุญว่าใครบ้า ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้”

“อะไรอีกหละ พอได้แล้วนะ เมามากแล้ว” ผมส่ายหน้าอย่างเอือมระอาก่อนจะหันตัวไปหยิบผ้าขนหนูแห้งมาเช็ดตัวให้เขา อย่างน้อยได้น้ำราดตัวไปก็ยังดีถึงจะไม่ได้ฟอกสบู่ก็เถอะ “มานี่ จะเช็ดตัวให้”

“อย่ามาสั่งเรานะ”

“เออ ไม่ได้สั่ง” สิ้นคำผมถูกนายตบปากอีกครั้ง และครั้งนี้มันแรงขึ้นจนทำให้แว่นสายตาเลื่อนออกจากดั้งเล็กน้อย ฟันกับริมฝีปากกระทบกัน เลือดออกนิดหน่อยและแสบพอประมาณ แต่ก็ยังไม่เท่ากับความมึนงงที่ถูกกระทำแบบนี้ จากตอนแรกที่พยายามคิดว่านายกำลังเมา มาตอนนี้ความโมโหกำลังตีตื้นขึ้นมาอยู่บ้าง “ตบหน้าเราทำไมเนี่ย”

“เราบอกว่าให้พูดเพราะๆไง”

“แล้วทำไมต้องพูดเพราะด้วย เคยพูดยังไงก็พูดเหมือนเดิม”

“ยังไม่รู้สถานะตัวเองอีกเหรอบุญ ต้องให้บอกหรือไงว่าควรพูดจายังไงกับเรา”

“หา? อะไรของนายวะ” ผมงงสุดขีดแต่งงได้ไม่นานก็ถูกนายตบปากอีกรอบ คราวนี้ผมจับมือของเขาไว้ บีบแน่นจนเขานิ่วหน้า “เจ็บนะเว่ย เลิกตบได้แล้ว เดี๋ยวก็ต่อยคืนหรอก”

“คนอย่างบุญกล้าต่อยเราด้วยเหรอ ทีกับพี่พลไม่เห็นจะกล้าเลย”

คิ้วของผมขมวดด้วยความสงสัย พยายามนึกหวนอดีต จำเค้าลางได้ว่าเคยจะมีเรื่องกับพี่พลอยู่ครั้งหนึ่งแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะไม่เห็นว่ามันจะคุ้มค่าตรงไหน “นี่พูดอะไรเนี่ย”

“ก็เรื่องตอนนั้นไง ทำไมไม่ต่อยพี่พลไปหละ ทำไมปล่อยให้พี่เขาพูดถึงเราแบบนั้น”

เอาหละ ถึงผมจะเข้าใจว่านายพูดถึงเรื่องอะไรแต่นายเมามากแล้วจริงๆ ผมไม่ได้ตอบรับอะไรนอกจากพยายามเช็ดตัวให้เขา ก่อนจะใช้ผ้าขนหนูเช็ดแว่นตัวเองที่เปียกน้ำแล้วสวมกลับเข้าไปใหม่

“บุญแม่งขี้ขลาด”

“เยอะไปแล้วนาย พอได้แล้วนะ”

“ทำไม เราพูดความจริง บุญไม่กล้าต่อยใครหรอก”

ผมมองหน้าเขา เห็นก็รู้ว่าเมาแต่ก็อดโมโหไม่ได้เหมือนกัน กระนั้นก็ไม่อยากให้เราทะเลาะกันเพราะว่านายเมา

“เห็นป้ะ แค่นี้บุญยังไม่เถียงเลยอะ อ่อนหวะ”

“นาย พอได้แล้ว” ผมเริ่มขึ้นเสียงบ้าง เมื่อเช็ดตัวให้เขาเสร็จแล้วก็ก้มตัวลงเก็บผ้าที่เปียกจะเอาไปตากให้แห้ง

“รู้งี้ตอนนั้นเราไปกับพี่พลก็ดี บุญแม่งกาก”

“มากไปแล้วนะนาย”

“แล้วไงอะ จะทำอะไรเราเหรอ” นายยื่นหน้ายื่นตาเหมือนท้าทาย “ว่าไง กล้าต่อยเราป้ะ”

“อย่าท้า”

“ไม่ได้ท้า แต่รออยู่เนี่ย”

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ พยายามทำให้ใจเย็นลง รู้ทั้งรู้ว่านายกำลังเมาแต่มันโคตรโมโห ไหนจะยังพูดชื่อพี่พลให้รำคาญใจเล่นอีก

“อ้าว จะไปไหนหละ ไม่กล้าอะดิ” เขาเดินตามผมออกมาพร้อมกับคำท้าทาย “ทำไมบุญขี้ขลาดจังวะ”

ผมทำทีเป็นไม่สนใจและก้าวขาไปเรื่อยๆ

“เนี่ย ถ้าเป็นพี่พล...”

เสื้อผ้าที่เปียกถูกกองทิ้งไว้บนพื้น ก่อนผมจะประชิดจับตัวนายไว้ ดันร่างเขาลงบนเตียง “ถ้าเป็นพี่พลจะยังไง”




ออฟไลน์ PromQueen29

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
- Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #92 เมื่อ21-12-2018 19:43:32 »

“ก็ไม่แล้วไง แค่จะบอกว่าพี่พลเก่งกว่า”

“เก่งกว่ายังไง”

คราวนี้นายเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนคิดหาคำตอบไม่ทัน จะว่าตลกก็ใช่แต่ติดตรงที่ตอนนี้ผมหงุดหงิดมากกว่า

“ตอบ”

“ก็เก่งกว่าอะ”

“เรื่องอะไรหละ”

นายยิ้ม แต่เป็นยิ้มเยาะเย้ยและผมรู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไร น้ำยั่วน้ำโหตอนนี้ขึ้นสมองไปหมดแล้ว การพูดชื่อพี่พลเป็นเรื่องที่น่ารำคาญที่สุดในชีวิตของผม พี่พลเป็นเหมือนเสี้ยนหนามอะไรบางอย่างที่ทิ่มแทงใจได้ตลอดเวลา “อยากให้พูดจริงเหรอ”

“พูดออกมา”

“เรื่องอย่างว่าไง”

เท่านั้นแหละ ความอดทนของผมจบสิ้นลง อีกทั้งความใจเย็นและสติที่มีก็หายไป ผมจับแขนนายทั้งสองข้างตรึงไว้บนที่นอน รุกไล่เขาด้วยจูบ นายเบี่ยงหน้าออกพยายามต่อต้านในช่วงแรกก่อนจะยอมให้ผมแลกลิ้นด้วย พักใหญ่กว่าผมจะผละจูบออกมา มองใบหน้าแดงระเรื่อของนาย ริมฝีปากแดงช้ำนิดหน่อยเพราะริมฝีปากของเรากระทบกันแรง แต่กระนั้นดวงตาของเขายังคงท้าทาย

“แล้วไงอะ จะทำแค่นี้เหรอ ถ้าเป็นพี่พลคงได้เราไปนานแล้ว”

“ได้ จะเอาแบบนั้นใช่ป้ะ”

“ไม่รู้ แล้วบุญทำได้เหรอ ไอ้นี่ยังไม่แข็งเลยอะแล้วจะเอาเรายังไง”

ผมยกยิ้ม ปล่อยมือที่จับแขน เปลี่ยนมาดึงรั้งศีรษะของเขาเข้ามาที่กลางลำตัว “ปากดี งั้นทำให้แข็งหน่อย” สิ้นคำผมจับไอ้นั่นที่ยังไม่แข็งตัวยัดเข้าปากของนายเต็มคำ โดยปกติแล้วผมไม่ชอบให้นายใช้ปากให้ การที่เราร่วมรักกันมันก็ถือเป็นความเสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศสัมพันธ์อยู่แล้ว ผมจึงพยายามลดความเสี่ยง อย่างน้อยก็พยายามแล้วถึงแม้ว่าความพยายามนั้นจะไม่ค่อยสำเร็จสักเท่าไหร่

นายดูพะอืดพะอมที่อยู่ๆก็ถูกท่อนเนื้อเหี่ยวๆยัดเข้าปาก ผมบีบกรามของเขาส่วนอีกมือคอยดันท้ายทอยไม่ให้หนีห่างออกไป ดวงตาของเขาคลอด้วยน้ำตาซึ่งเป็นกลไกตามธรรมชาติไม่ใช่การร้องไห้แต่อย่างใด นายคงอึดอัดพอสมควร เขาเริ่มต่อต้านเมื่อท่อนเนื้อของผมขยับขยายตัว แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อผมรั้งหน้าออกนายก็ยังคงทำปากเก่ง

“ไม่รู้ว่าเราห่วยหรือของบุญห่วยอะ ไม่เห็นแข็งสักที”

ผมจับท่อนเนื้อยัดปากของเขาอีก รู้แหละว่านายกำลังยั่วโมโหและบังเอิญว่าผมจะไม่อดทน ไม่นานนักท่อนเนื้อของผมก็ตั้งชันและแข็งขืนอยู่ในปากของนาย เขาพยายามผละหน้าออกเพราะขนาดสัดส่วนของผมคงทำให้เขาไม่สามารถรับทั้งหมดไว้ในปากได้ แต่เพราะนายปากดีผมจึงกดศีรษะของเขาและดันสะโพกไปข้างหน้า น้ำลายของเขาชโลมชุ่มจากการปิดปากไม่สนิท เสียงของนายดังครางเครืออยู่ในลำคอด้วยความอึดอัด

“แข็งหรือยัง” ผมถามแล้วดึงศีรษะของเขาขึ้น

“นี่แข็งแล้วเหรอ นึกว่าอมปีโป้อยู่อะ”

ปากก็พูดไปแบบนั้น แต่ดวงตายังคลอด้วยน้ำใสๆจากความยาวที่เข้าลึกจนทำให้เขาพะอืดพะอม ความโมโหกำลังครอบงำ ผมจับเขานอนหงาย นายเริ่มหวาดระแวงและฝืนแรงผมแต่สุดท้ายก็สู้ไม่ได้

“บุญจะทำอะไร”

“อย่าถามในเรื่องที่รู้เลยน่า” ผมท้าทายคืนบ้างพลางใช้มือข้างหนึ่งกอบกุมส่วนหน้าของเขาไว้ “แข็งแล้วนี่”

“ถ้าไปจับมันก็ต้องแข็งอยู่แล้วป้ะ”

“ไม่ใช่ว่ามีอารมณ์เพราะอมของเราเหรอ ตอนอมของพี่พลเป็นยังไงอะ มีอารมณ์แบบนี้ป้ะ”

“เราไม่เคยทำ” นายเถียงกลับ เราจ้องตากันครู่หนึ่งก่อนนายจะยิ้มมุมปาก “บุญพูดมากอะ เมื่อไหร่จะใส่เข้ามาหละหรือว่าเหี่ยวไปแล้ว”

ทั้งที่พูดท้าทาย แต่แววตากลับหวั่นไหวอีกทั้งพยายามบิดข้อมือหนี ผมจับแขนเขาตรึงไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ก่อนจะเอื้อมหยิบเจลหล่อลื่น เปิดใช้งานอย่างรีบร้อน ชโลมบนท่อนเนื้อของตัวเองและป้ายไปที่ช่องทางด้านหลัง หากเป็นปกติผมจะเล้าโลมจนกว่านายจะฉ่ำแฉะ แต่เมื่อถูกท้าทายเข้ามาก โมหะครอบงำ พอกันทีผมไม่รออะไรทั้งนั้น ผมจับไอ้นั่นที่แข็งตัวเต็มที่จรดไปที่ช่องทางด้านหลังของเขา ค่อยๆสอดแทรกเข้าไปด้วยสติที่ยังพอมีอยู่ ไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บหรือรู้สึกเหมือนถูกข่มขืนอะไร มือที่จับแขนนายตรึงไว้กับที่นอนผ่อนแรงลงเปลี่ยนมาประสานนิ้วมือกับคนรัก ผมมองใบหน้าของนาย คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน ใบหน้าแดงระเรื่อ ได้ยินเสียงครางเครือในลำคอแบบที่ไม่ใช่ความเจ็บปวดใดๆ

“เหี่ยวป้ะ เราว่าไม่เหี่ยวนะ” ผมกระซิบติดชิดใบหูของนาย เขาย่นคอลงนิดหน่อยคงเพราะจั๊กกะจี้ ผมไม่ได้ขยับตัวเพราะรั้งรอให้ภายในของเขาได้รับสัมผัสแนบแน่นนี้ นายบีบมือผมแน่น หอบหายใจแรงขึ้น เรียวขาสองข้างอ้าออกกว้างก่อนจะออกคำสั่งให้ผมขยับสะโพก

“ขยับสักทีสิ เบื่อจะแย่แล้ว” ริมฝีปากสีสดตามธรรมชาติเผยออ้าเมื่อผมดันสะโพกไปข้างหน้าเข้าเต็มแรง ทุกส่วนสัดอยู่ในร่างกายของเขา มันคงอวบและยาวมากพอที่จะทำให้เขาร้องไม่ออก เสียงของนายกระเส่าเร้าอารมณ์ เขาทำให้ความอดทนที่มีหมดสิ้น ผมสอดใส่อย่างหนักหน่วง ดันกายเข้าก่อนจะลงแรงในตอนท้าย ร่างของนายเคลื่อนไหวบนที่นอน สองมือของเราประสานจับกันแนบแน่น ดวงตาของเขาไม่หวั่นไหวแล้ว อีกทั้งยังจ้องมองตากันขณะที่ส่วนล่างสอดประสานอย่างออกรส

“ได้แค่นี้เหรอบุญ ไม่รู้สึกอะไรเลยอะ”

ผมตกหลุมไปกับคำท้าทายของนาย ท่อนล่างบดเบียดเข้าหาจนสุดแล้วขยับออกก่อนจะสอดใส่กลับเข้าไปใหม่ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในจังหวะหนักแน่นยิ่งขึ้น นายหลับตาลงเมื่อช่องทางเร้นลับถูกกระทำรุนแรง ปากที่เคยท้าทายเม้มเข้าหากัน ผมรู้ว่าเขาคงจุกเสียดอยู่ภายใน เพราะนอกจากจะไม่ได้ช่วยให้มันคลายตัวก่อน ผมยังไม่ยั้งเรี่ยวแรงในการโหมกระหน่ำลงไปสักนิด ช่องทางด้านหลังยังคงรองรับของผม บีบแน่น รัดรึงถึงอกถึงใจ ก่อนสุดท้ายเขาจะร้องครางออกมาเต็มเสียง ผมยิ้มแล้วจูบปิดเสียงครางนั่น เสียงของนายฟังอู้อี้สองมือเคลื่อนมาโอบกอดผมไว้ ลมหายใจของเราปะทะกันก่อนผมจะจับร่างนายคว่ำลง จับแขนสองข้างของเขาไพล่หลังแล้วกดใบหน้าแนบที่นอนด้วยมือข้างหนึ่ง

นายร้องครางลั่นยามไอ้นั่นของผมเสียดแทรกเข้าไปอย่างรุนแรง บั้นท้ายของเขาถูกย่ำยีอย่างที่ผมไม่เคยกระทำมาก่อน ไม่เคยกระทำแต่ไม่ใช่ว่าไม่เคยคิด ผมอยากทำแบบนี้มานานแล้วอยากรุนแรงกับนาย อยากทำให้เขาร่ำร้องอ้อนวอนให้ผมช่วยทะนุถนอมเขาสักหน่อย นายดูอ่อนแรงลงไป จากที่เคยต่อต้านกลายเป็นว่าเขามีอารมณ์ร่วมยิ่งขึ้น แต่กระนั้นเขายังคงปากดีเช่นเคย ผมไม่รู้ว่านายเมาหรือเพราะอะไรแต่เขาช่างสรรหาถ้อยคำมาท้าทายผมเสียเหลือเกิน

“ห่วยแตกหวะ” เขาพูดเช่นนั้นก่อนจะหลุดเสียงร้องด้วยความตกใจเมื่อผมดึงศีรษะของเขาขึ้นมา

“ไหนลองทำให้ดูหน่อยคนเก่ง” ผมเปลี่ยนมานั่ง ดึงร่างของนายเข้ามาให้เผชิญหน้ากัน เขายิ้มมุมปากก่อนจะบดเบียดบั้นท้ายเข้ามา แต่เป็นไปด้วยความเชื่องช้า “เร็วๆหน่อย” ผมกดสะโพกของเขาให้รับท่อนเนื้อเข้าไปจนสุด นายกอดผมแน่น ไอ้ท่าทางที่วางอำนาจก่อนหน้านี้ดูอ่อนกำลังลง นายเริ่มขยับสะโพก เขาก้มหน้าลงหมายจะจูบแต่ผมกลับดึงศีรษะของเขาไว้กระชากออก เผยลำคอซึ่งเห็นลูกกระเดือกชัดเจน “ก็ไม่เท่าไหร่นี่”

“บุญนั่นแหละห่วยแตก” เขาพยายามเถียงและกดสะโพกหนักหน่วงขึ้น “หมดแรงแล้วใช่ป้ะถึงต้องให้เรามาทำเอง”

นายเอนตัวไปด้านหลัง ขาสองข้างอ้าออกกว้างเผยสัดส่วนน่ารักที่ส่ายไปตามแรงขยับ ผมมองท่อนเนื้อของตัวเองที่ผลุบหายเข้าไปก่อนมันจะโผล่ออกมาทักทายอย่างเป็นจังหวะ “ปากดีให้ตลอดนะ” ผมผลักให้เขานอนหงายพร้อมๆกับทาบทับคร่อมเขาไว้ ท่อนเนื้อยังฝังอยู่ภายใน นายเบือนหน้าหนีเมื่อถูกผมโถมทับแรงกายเข้าไป รุนแรง หนักหน่วง เน้นย้ำจนเกิดเสียงหยาบโลน ผมแทบเรียกมันว่าเป็นการทารุณหากไม่นับว่าการกระทำนี้สร้างความสุขให้คู่นอนด้วยเช่นกัน

“บุญ ทำแรงๆอีก” น้ำเสียงของเขาสั่นเครือเพราะร่างกายกำลังโยกไหวจากการถูกชำเราที่เบื้องหลังอย่างรุนแรง นายเกาะแขนผมหากแต่ผมสะบัดแขนของเขาออกและจับมันตรึงไว้บนเตียง ทำราวกับว่ากำลังขืนใจเขา แต่มันไม่ใช่เลย มันเป็นเพียงการแสดงบทบาทที่ทำให้ผมดูเหนือกว่าเขา “ทำเบาแบบนี้เมื่อไหร่จะเสร็จวะ” นายจ้องตาขณะพูดประโยคนั้น

ผมบีบลำคอของนาย คงออกแรงมากพอจนทำให้เขาตกใจ สองมือผวาจับตามแขนของผม หากแต่เบื้องล่างยังยินยอมให้กระทำชำเราด้วยการอ้าออกกว้าง เปิดเผยทุกอย่างให้ผมได้ทำตามใจชอบ เรามองตากัน นายแสดงความท้ายทายด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาพูดถึงชื่อพี่พล หูของผมอื้ออึงไปหมด รู้เพียงแค่ว่าอยากทำให้เขาหยุดพูดจึงใช้มือบีบที่คาง โหมแรงที่สะโพกจนน่ากลัวว่านายจะได้รับบาดเจ็บ

ผมมองนายที่ดูอึดอัดกับการถูกลิดรอนกำลัง แต่เป็นเขาเองไม่ใช่เหรอที่ยินยอมให้ผมรุนแรงได้ถึงขนาดนี้ เนื้อตัวของเขามีรอยแดงเต็มไปหมดจากการถูกบีบจับไม่เบาแรง ทว่าท่อนเนื้อของผมยิ่งปวดหนึบ พึงพอใจที่เห็นนายอยู่ในกำมือ เขาดูทรมานมากขึ้น ผมรอฟังถ้อยคำร้องขอจากนาย ถ้อยคำที่บอกให้ผมหยุดรุนแรงกับร่างกายของเขา แต่นายไม่พูด เขาจ้องตาผมและพูดในสิ่งที่ทำให้ผมโมโหยิ่งกว่าเดิม ผมโถมแรงลงไปไม่ยั้ง เครื่องนอนร่วงหล่นไปหมด อีกทั้งผ้าปูที่นอนก็เริ่มยับย่นไปตามแรงกายของเราสองคน

บทรักครั้งนี้ดำเนินมาถึงปลายทาง ผมถอนกายออกมารั้งใบหน้าของนายให้รองรับน้ำเชื้อขณะที่มือรูดรั้งเพื่อให้ถึงฟากฝั่ง นายหลับตาแน่นพยายามเบือนหน้าหนีแต่เขาหนีผมไม่พ้น ผมไม่สนใจว่านายจะเสร็จสิ้นอารมณ์หมายด้วยกันหรือเปล่า ผมพรูลมหายใจเมื่อเห็นว่าน้ำขาวขุ่นเปรอะเปื้อนอยู่บนหน้าของนาย มันไหลย้อยลงมาเลอะบนริมฝีปากของเขาก่อนจะหยดลงที่คาง เราเงียบกันไปพักหนึ่ง มองดูนายที่กำลังปาดเช็ดน้ำกามออกจากหน้า ดวงตาของเขาดูหยาดเยิ้มด้วยอารมณ์คุกรุ่น ผมคิดว่าเขาอาจจะไม่ถึงปลายทาง ทว่าเมื่อมองท่อนล่างกลับเห็นน้ำขาวขุ่นของนายไหลทะลักเลอะเทอะอยู่บนหน้าท้อง แม้ว่าจะเคยรุนแรงกันมาบ้างแต่นี่เป็นบทรักครั้งแรกที่ผมปล่อยกายปล่อยใจอย่างที่ต้องการมาตลอด บางที… ผมคิดว่าบางทีอาจเป็นนายที่ต้องสัมผัสแบบนี้เช่นกัน

เราหลับกันทั้งแบบนั้น เปลือยเปล่าภายใต้ผ้านวมผืนใหญ่ คืนนั้นผมคิดว่าโชคดีเท่าไหร่แล้วที่เราสองคนลาพักร้อนต่อหลังจากวันหยุดนักขัตฤกษ์



ผมตื่นขึ้นมาในเช้าวันที่สองของการเริ่มต้นศักราชใหม่ นายไม่อยู่บนเตียงแล้วแต่ผมได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากด้านนอก พอลุกขึ้นมาก็เห็นสภาพห้องเละเทะมากกว่าที่คิด โคมไฟหล่นอยู่บนพื้น ขวดน้ำสองขวดกลิ้งไปไกลถึงประตูระเบียงห้อง เตียงยับย่นถูกดึงทึ้งจนคิดว่าน่าจะต้องปูใหม่อีกครั้ง เสื้อผ้าเปียกๆยังกองอยู่บนพื้นที่เดิม ผมล้มตัวลงไปนอนอีก เป็นครั้งแรกที่หมดแรงจะเก็บกวาดห้องตัวเองให้กลับมาสะอาด พักหนึ่งได้ยินเสียงฝีเท้ามาหยุดอยู่ด้านข้าง มืออุ่นๆแตะลงที่หน้าผากก่อนจะผละออกไป ผมปรือตามองตามอีกฝ่าย แต่ท่าทางของนายดูแปลกๆไปนิดหน่อยเหมือนลงน้ำหนักไม่เต็ม ซึ่งส่วนนี้ผมไม่ได้ฉุกคิดอะไรมากไปกว่าการครุ่นคิดว่าเขาจะทำอะไรต่อไปเมื่อเห็นว่าผมยังไม่ตื่นนอน เขาเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูผืนหนึ่ง ผ้าผืนนั้นเช็ดใบหน้าของผมอย่างแผ่วเบาราวกับว่าหากเช็ดแรงอีกนิดหนึ่งก็เกรงว่าผมจะตื่น มือของเขาอุ่นจัด ผมรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างจึงลืมตาตื่นขึ้น

“ทำไมตัวอุ่นขนาดนี้หละ” ผมจับมือของเขาแล้วผุดลุกขึ้นนั่งโดยไม่ลืมคว้าแว่นสายตาขึ้นมาสวมใส่

นายไม่ได้ตอบอะไรนอกจากเดินไปยังกองเสื้อผ้าเน่าๆที่สุมไว้จากเมื่อคืน ผมลุกขึ้นไปจับแขนของเขาทั้งๆที่ตัวเองยังเปลือยเปล่า ส่วนนายอยู่ในชุดนอนยืดย้วย “อาหารเสร็จแล้วนะ”

“เดี๋ยวเราเก็บไปซักเอง” ผมดึงเสื้อผ้าเหล่านั้นมากองไว้ที่เดิม ในช่วงที่ผิวของเราสัมผัสกันจึงรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่แตกต่าง ผมใช้หลังมือแตะหน้าผากก่อนจะทำทีเป็นสะดุ้งตกใจเหมือนในละครไทย “อุ๊ย! คุณบุรินทร์ตัวร้อนอย่างกับไฟแหนะ”

นายทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะค่อยๆเผยยิ้มในที่สุด “ทุเรศ ไอ้กฤตติน” ผมพิจารณาดูจากท่าทางและน้ำเสียงอู้อี้แล้วเขาป่วยแน่นอน แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรนายก็ตัดบทด้วยการบอกให้ไปกินอาหารมื้อเช้าด้วยกัน

ผมคว้ากางเกงนอนมาใส่ก่อนจะจูงมือของเขาเดินออกมาจากห้องนอน โจ๊กง่ายๆเหมือนเดิมรออยู่บนโต๊ะอาหารแล้ว นายรินน้ำผลไม้ให้เช่นเดิมก่อนจะนั่งลงที่ประจำ แต่คราวนี้ผมหยิบถ้วยโจ๊กมาคนให้ เป่ามันให้หายร้อนก่อนจะป้อนให้นาย เขาทำท่าจะไม่กินเพราะผมป้อนโจ๊กให้ นายก็เป็นเสียแบบนี้ สิบปีที่ผ่านมาเขาเป็นคนอย่างไรก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย เขินอายในเรื่องไหนก็ยังอายในเรื่องนั้นเช่นเดิม เขาดูแลตัวเองได้ผมตระหนักในเรื่องนั้นดีแต่ผมอยากดูแลเขาบ้าง อยากเอาใจ อยากทำให้นายทุกอย่าง

“เรากินเองได้” นายว่าแบบนั้นแล้วเบือนหน้าหนีช้อน

“อย่าสะดิ้งให้มากนักเลย กินเดี๋ยวนี้”

“บุญเป็นบ้าเหรอวะ จะมาป้อนโจ๊กเราทำไม”

ผมแสร้งถอนหายใจ มองหน้าเขานิ่งๆ แค่นั้นนายก็รู้ตัวแล้วว่าผมจริงจัง เขายอมกินโจ๊กจากการปรนนิบัติของผมจนได้

“ทำไมบุญชอบว่าเราสะดิ้งวะ เราเหมือนสาวเหรอ”

“เหมือนสาวบ้าอะไร ตัวหนักยิ่งกว่าลูกช้างอีก”

นายเหมือนจะพูดอะไรออกมาแล้วก็เงียบลงไป

“รู้ไหมว่าเมื่อคืนทำอะไรบ้าง”

เขาพยักหน้าก่อนจะกินโจ๊กไปเรื่อยๆ คราวนี้ผมยอมปล่อยช้อนให้เขาได้กินเองเพื่อที่จะได้ตักกินในส่วนของตัวเองบ้าง

“เมาเหรอ”

นายส่ายหน้าแล้วกลืนโจ๊กลงคอหมดปากจึงค่อยพูดตอบ “เราไม่ได้เมาขนาดนั้น หลังๆก็สร่างแล้ว”

ผมส่งเสียงรับมองดูเขากินอาหารเช้าไปเรื่อยเปื่อย “เวลานายเมาก็งี่เง่าเหมือนกันนะ”

ถึงแม้ว่าจะคบหากันมานานแต่นี่เป็นครั้งแรกที่นายเมาแล้วงี่เง่าทั้งที่ปกติเป็นพวกเมาแล้วง่วงนอน ในช่วงกินโจ๊กนั้นเราไม่ได้พูดคุยอะไรกันเป็นพิเศษ พอกินเสร็จผมเดินไปหยิบหาจัดยาให้นาย คาดว่าที่นายป่วยอาจเป็นเพราะการเข้านอนโดยไม่ได้สวมเสื้อผ้า อากาศจากเครื่องปรับอากาศก็เย็นพอสมควรเลยทีเดียวด้วย แต่ขณะที่กำลังรื้อค้นกล่องยาผมได้ยินเสียงร้องโอดโอยจากนาย เสียงของเขาไม่ได้ดังมากเพียงแต่ภายในห้องของเราเงียบสนิทจึงได้ยินเสียงร้องของเขาชัดเจน ผมเห็นนายยืนเท้ามืออยู่ตรงโต๊ะอาหาร สีหน้าไม่สู้ดีนักหรือว่าเขาจะป่วยมากกว่าที่ผมคิด

“เป็นอะไร”

นายเงียบไม่ยอมตอบ แต่สีหน้าดูซีดลงกว่าเดิม

“นาย อย่าให้ถามซ้ำ”

เขายอมสบตาด้วยก่อนจะหลุบตาลง “เราเจ็บ”

เพียงเท่านั้นผมก็เข้าใจได้ทั้งหมดว่าอาการแปลกๆของนายมีสาเหตุมาจากอะไร กลายเป็นผมที่เริ่มหน้าซีดลงบ้างเมื่อทบทวนว่าตัวเองได้กระทำรุนแรงถึงขั้นไหนจนทำให้นายเจ็บตัว ความต้องการของผมไม่สอดคล้องกับขีดจำกัดของร่างกายของนายเลย เมื่อนึกขึ้นได้ผมก็ช้อนร่างของนายขึ้นในท่าเจ้าหญิง เขาร้องประท้วงด้วยความตกใจแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนักเพราะผมชอบหยอกล้อเขาแบบนี้เป็นปกติ ผมวางเขาลงบนที่นอนซึ่งยังคงยับยู่ยี่ มือคว้าจับที่ขอบกางเกงหมายจะตรวจดูบาดแผล แต่นายกลับฝืนแรงมือไว้

“บุญไม่ต้องดู เรามีวิธีดูแลตัวเอง ถ้ายังเจ็บอยู่เราจะไปหาหมอ” เขาละล่ำละลักบอก

ผมจ้องหน้าเขา พิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยินยอมทำตามที่นายต้องการ “เราขอโทษ”

“ไม่ต้องขอโทษ” นายรีบพูดสวนแทรกขึ้นมา ใบหน้าดูร้อนรนขึ้น “เราสิต้องขอโทษ เราพูดเรื่องพี่พลกับบุญอีกแล้ว”

ผมแทบไม่อยากเชื่อว่าการพูดชื่อพี่พลตอนนี้จะไม่ได้มีผลอะไรมากมายนัก อาจเป็นเพราะว่าก่อนหน้านั้นได้ปลดปล่อยพลังบางอย่างจนทำให้นายเจ็บตัว สิบปีที่ผ่านมาการร่วมรักของเราไม่เคยทำให้นายบาดเจ็บจนเขาทนไม่ไหวแบบนี้ ขณะที่คิดว่าจะทำอย่างไรต่อดีนายก็จับมือของผมเข้ามาแนบใบหน้า

“เราแค่อยากให้บุญทำอย่างที่บุญชอบ”

“โถ่ นาย เราชอบแต่นายเจ็บตัวแบบนี้เราไม่ชอบหรอก”

นายมองหน้าผม สายตาดูล่วงรู้ความรู้สึกแท้จริง และผมไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าชอบลักษณะการร่วมสัมพันธ์แบบเมื่อคืน “เมื่อคืนนี้ไม่ชอบเหรอ” นายคลึงนิ้วบนฝ่ามือ แม้ว่าสีหน้าจะซีดเซียวแต่เขายังคงยิ้ม

“ชอบ ชอบมากด้วย”

“เราก็ชอบ แต่บ่อยๆคงไม่ไหว จะตาย บุญแรงเยอะมาก”

“ก็มายั่วโมโหทำไมหละ”

เขาหัวเราะนิดหน่อย แล้วค่อยๆพิงหัวเตียง “ได้อารมณ์ดีเหมือนกันนะ”

“ไอ้บ้า” ผมบีบปากของเขาด้วยความหมั่นเขี้ยว จากนั้นก็ลุกไปจัดยามาให้ใหม่

นายรับยาไปกินอย่างว่าง่ายก่อนจะอ้อมแอ้มบอกให้ผมไปหยิบยาเหน็บจากในลิ้นชักส่วนตัวของเขา

“นี่มียาเหน็บด้วยเหรอ ทำไมไม่เคยรู้เลยวะ”

“เออ ไม่ได้สำคัญอะไรหรอก”

“ไม่สำคัญบ้าอะไร เรารู้หนะว่ายาเหน็บมันช่วยอะไร” ผมกล่าวพลางถลกกางเกงของเขาออก กระนั้นนายก็ยังทำท่าจะปัดมือไม่ให้ถอดกางเกง “จะอายอะไรอีกวะ”

“มันแปลกๆโว้ย”

ผมไม่ได้ตอบอะไรนอกจากสวมวิญญาณหมอ ค่อยๆสอดยาเข้าไปในช่องทางด้านหลังที่บอบช้ำ เมื่อเห็นชัดๆแบบนี้ผมเห็นความบวมที่เกิดจากการเสียดสีอย่างรุนแรง นายคงจะเจ็บเขานิ่วหน้าลง กลั้นหายใจในตอนที่ผมสอดยาเข้าไปก่อนจะกลับมาหายใจปกติ

“กินยาลดน้ำมูกไปก่อนแล้วนอนพัก เดี๋ยวเราออกไปซื้อยาแก้อักเสบให้” เมื่อพูดเสร็จก็วางแผนว่าจะออกไปซื้อยา ซื้อของใช้เข้าห้องนิดหน่อยทั้งที่ตั้งใจว่าจะชวนนายออกไปด้วยกัน ทว่าเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ผมคิดว่านายควรงดขยับตัว แต่แล้วนายจับมือของผมไว้ มองด้วยสายตาที่ทำให้ผมต้องหยุดและนั่งบนเตียงเพื่อรอรับฟัง “จะเอาอะไรครับ” ผมถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เห็นดวงตาใสๆก็นึกเอ็นดู

“บุญอยู่กับเราก่อนนะ”

“ไม่ได้ ต้องกินยาแก้อักเสบ ข้างในมันเป็นแผลแล้ว”

“อยู่จนกว่าเราจะหลับอีกรอบก็ได้”

ตายห่า โดนอ้อนแบบนี้ผมจะไปไหนรอด ผมทำตามคำขอ ลูบศีรษะทำราวกับว่าเขาเป็นเด็กน้อย “นาย”

“อืม”

“เรื่องแต่งงานเราไม่เคยลืมนะ เรายังยืนยันเหมือนเดิม นายรอเราก่อนนะ”

“รอไม่ไหวแล้ว อยากแต่งงานกับบุญตอนนี้เลย” เขายิ้มทั้งที่ดวงตาปรอยปรือก่อนที่มือของเขาซึ่งจับมือของผมอยู่จะกระชับบีบแน่นกว่าเดิม “อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆก็ได้นะบุญ”

“แต่เราจะผิดสัญญานะ”

“เราให้ผิดสัญญา ขอแค่อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปนานๆ” น้ำเสียงอู้อี้ของเขาฟังดูง่วงงุนหนักมากขึ้นคงเพราะยาออกฤทธิ์ นายเคลิ้มง่วงเต็มที่แล้ว แต่มือที่จับอยู่ยังไม่ยอมปล่อยแม้แต่น้อยนิด เพียงไม่นานจากนั้นเขาก็หลับไป

ผมจูบที่ขมับของเขาอย่างแสนรักและหยุดมองพิจารณาใบหน้าที่เริ่มเห็นเค้าลางตามวัย ส่วนตัวผมเองนายเคยบอกว่าผมมีรอยลึกตรงหัวคิ้ว ส่วนเขามีรอยที่หางตาค่อนข้างชัด ด้วยความซื่อตรงผมไม่เห็นถึงความแตกต่างนั่นเลย นายยังคงเป็นนาย ผมก็ยังเป็นผม ไม่ว่าเขาจะหัวเราะ ไม่ว่าเขาจะทำตัวขี้เกียจจนน่าโมโห หรือแม้แต่ยามตื่น ยามนอน มันอาจเป็นสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งผมไม่อยากนึกคิด ผมรู้เพียงแค่ว่าผมหลงใหลทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นตัวของเขา

ช่วงสายของวันนั้นผมคิดว่าผมตกหลุมรักคนรักของผมอีกครั้ง รักเหมือนเดิม รักครั้งแล้วครั้งเล่ากับคนเดิม คนที่ชื่อนาย






**********************************************




 :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-12-2018 20:42:35 โดย PromQueen29 »

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #93 เมื่อ21-12-2018 20:12:59 »

หมอบุญเผ็ชชชชชมากกกก
สิบปีต่อมา แต่บุญยังรักหลงรักคนเดิมซ้ำๆ อ่านแล้วดีต่อใจมากจริงๆ ค่ะ
ตัว นายเองก็เช่นกัน ก็คงตกรักหมอบุญซ้ำๆ เหมือนกันใช่มั้ย

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #94 เมื่อ21-12-2018 20:37:03 »

เช่นกันเราก็ตกหลุมรักหมอบุญซ้ำๆ ชายในฝันที่เราอยากแต่งงานด้วยยยยย  :hao5:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #95 เมื่อ21-12-2018 20:56:49 »

เผ็ดมากกกกกทั้งคู่แล้วเราก็หลงรักทั้งคู่มากกกก

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #96 เมื่อ22-12-2018 01:08:54 »

นายอ้อนหมอบุญให้อุ้มคือน่ารักมากกกก ขี้ยั่วด้วย

ออฟไลน์ juthamart

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #97 เมื่อ22-12-2018 10:47:07 »

นายน่ารักกก อยากได้หมอบุญเป็นของตัวเองจังเลยค่ะะะ

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #98 เมื่อ22-12-2018 11:10:45 »

น้องนายเมาแล้วยั่ว(โมโห)​เก่งงงงงงง
แง​ หมอบุญดุจังอ่ะ​ ผ่านมาสิบปียังดุเหมือนเดิม
รอเล่มนะค้าา​ รอทุกเรื่องของคุณ​pq  :mew1:

ออฟไลน์ rcbpdr

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #99 เมื่อ23-12-2018 23:45:39 »

อยากจะร้องไห้ให้กับตอนนี้ สุดมาก อ่านด้วยความอิ่มเอมใจ
เป็นความรักที่ถูกคน ถูกเวลาจริงๆ
อ่านไปก็ยิ้มไป คือรู้สึกได้ว่าความรักที่พอดีกับใจมันเป็นยังไง
ความรักของสองคนนี้คือความรักในแบบที่เราตามหาเลยยย
พูดไม่ถูกเลยค่ะ แต่โดนใจมากจริงๆ55555555
เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้ทำให้วันที่แย่ๆของเราดีขึ้นมาเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
« ตอบ #99 เมื่อ: 23-12-2018 23:45:39 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ megatef4

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #100 เมื่อ25-12-2018 00:35:46 »

ก็ยังยืนยันว่าเราต้องการผู้ชายแบบหมอบุญค่ะ 555 เนี้ย รักที่เราตามหาเป็นแบบนี้ รักที่เข้าใจกัน ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #101 เมื่อ26-12-2018 02:34:10 »

 o13

ออฟไลน์ pamhicc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #102 เมื่อ03-01-2019 23:42:31 »

นายยั่วเก่งมากลูก พี่พลก็ยังตามหลอกหลอนแม้จะผ่านมาสิบปี 55555555
ขอบคุณมากค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ anonymous

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #103 เมื่อ05-01-2019 16:39:00 »

พึ่งมีโอกาสได้เข้ามาอ่านค่ะ เลยอ่านรวดเดียวจนจบเลยค่ะ

เราชอบเรื่องนี้มาก ทั้งบรรยากาศ ภาษา ทั้งนาย , บุญ   

มันหน่วง แต่ไม่มาก ทั้งหวาน ทั้งหวาม   ขอบคุณนักเขียนสำหรับนิยายเรื่องดีๆ แบบนี้ค่ะ ^^

ออฟไลน์ junlifelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #104 เมื่อ06-01-2019 03:53:18 »

บุญยังคงดีเหมือนเดิม นายก็ยังน่ารัก ฮืออออ
แต่ก็ไม่อยากให้นายพูดถึงพี่พลอีกอะ คนฟังมันเจ็บนะ 

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษที่น่ารักๆนะคะ 10 ปีผ่านไปเค้ายังคงรักกัน ก้าวไปด้วยกัน  :katai2-1:

ออฟไลน์ mickeyz.min

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #105 เมื่อ06-01-2019 09:25:04 »

เราว่าพี่พลก็ไม่ได้แย่นะ  :mew4:

ออฟไลน์ Banarot

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #106 เมื่อ06-01-2019 21:05:55 »

สนุกมากๆๆ

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #107 เมื่อ08-01-2019 21:12:19 »

ไม่รู้ว่าเราเป็นคนที่ชอบความจัดเจน ชอบคุณธรรมมากเกินไปรึป่าวนะ อ่านแล้วรู้สึกมันขัดใจไปหมด มันสนุกนะ ภาษาก็ดีมาก แต่การกระทำของตัวละครแม่งโคตรน่าขัดใจ 5555555 แต่สุดท้ายตัวพระนายก็รักกันอยู่ดี เข้าใจในกันและกันก็พอ

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #108 เมื่อ14-01-2019 23:13:43 »

สารภาพว่าแอบไปดูสปอยด์มาก่อน 5555555555
ช่วงแรกพี่พลมาแรงมากจิง เป็นคนแรกอะ แต่ก็ไม่สุดท้ายเสมอไปเนอะ นี่ยังเชื่อตลอดนะ ว่าคนที่ใช่ต้องมาในเวลาที่ใช่ด้วย พี่พลมาในช่วงที่เรียกว่าปั๊ปปี้เลิฟ เป็นสิ่งสวยงามหมด ชอบคนแรก ครั้งแรกในหลายๆอย่าง เทคแคร์ดีด้วย แต่พอความรู้สึกที่ให้ไปไม่เท่ากับสิ่งที่ได้รับกลับมาก็....นั่นแหละ ตอนจบของเรื่องนี่แบบ เอ้าโมเม้นพระเอกชั้นล่ะ.... 5555555555555555555
เป็นการเขียนสไตล์ใหม่มากๆ เหมือนช่วงตอนพี่พลเป็นเรื่องราวดีๆในอดีตจริงๆ ส่วนตอนพิเศษเป็นของคนปัจจุบันและอนาคต  o13 บุญกายเริ่มจากการเป็นเพื่อนความหวานอาจจะไม่มาก แต่ความสัมพันธ์ ความผูกพันนี่แน่นหนาอะ มีความเชื่อใจกันด้วย ไม่หวือหวาแต่มั่นคง แต่ตอนอิพี่พลมาวอแวนี่ก็แบบ โอยยยยยย กลับมาทำไม๊  :z3: แต่ก็ทำให้รู้ว่าเค้ารักกันมากขนาดไหนเนอะ ขอบคุณนิยายดีๆอีกเรื่องค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ kaireaw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #109 เมื่อ17-01-2019 12:08:59 »

ตอนแรกก็แอบคิดว่าพี่พลนี่มันยังไง คิดว่าอาจจะพระเอก แต่รู้สึกบุญจะเข้ามามีส่วนในชีวิตนายตลอด เลยแอบเชียร์
แต่ไม่ชอบคนแบบพี่พลเลย คืออะไรวะ มาแบบมีอะไรกับเค้าแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แบบแค่อยากได้งี้เหรอ แต่ชอบแบบน้อง โกรธ
ส่วนบุญตอนพิเศษคือแบบแซ่บมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
« ตอบ #109 เมื่อ: 17-01-2019 12:08:59 »





ออฟไลน์ janehsih

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #110 เมื่อ22-01-2019 12:31:49 »

หมอบุญแซ่บมากๆๆๆๆ

ออฟไลน์ naezapril

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #111 เมื่อ05-02-2019 09:58:31 »

หมอออออ​
ขอบคุณครับสนุกมาก

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #112 เมื่อ01-04-2019 17:08:16 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #113 เมื่อ01-04-2019 22:08:21 »

ตามมาจากรีวิวคุณหมีคุกค่ะ เมื่ออ่านแล้วก็พบว่าหมอบุญคือแรร์ไอเทม!!!! :hao7:

หวีดมากกกกกก คือหมอบุญดีงามมากกกกกก  :hao5:

ขอแบบหมอบุญ หนึ่งที่ กลับบ้านค่าาาาา :-[


ออฟไลน์ Iiccungmi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #114 เมื่อ03-04-2019 00:15:12 »

ความรักก่อตัวที่นี่ ดำเนินที่นี่ และหวังว่าจะโอบล้อมความรักของบุญและนายให้อบอุ่นเหมือนอากาศวันนี้ตลอดไป ใจเต้นมากๆค่ะตอนคำชวนแต่งงานที่เรียบง่าย แงๆ เป็นกำลังใจให้ความรักขอบทั้งคู่นะคะ

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 407
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #115 เมื่อ05-04-2019 23:29:25 »

 :haun4: หมอบุญนี่มันนักบาปในคราบนักบุญชัดๆ 555555 แซ่บลืมมากกกกกกกกกกก ปริ่มมากดีใจเหมือนเลี้ยงความรักสองคนมากับมือเลยสิบปีมันนานมากเลยน้าาาขอให้นานๆแบบนี้ไปเรื่อยๆน้าาา

ออฟไลน์ pradoza

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
    • twitter
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #116 เมื่อ08-04-2019 09:02:18 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ JanTi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #117 เมื่อ10-04-2019 20:34:10 »

หมอบุญนี่หมาป่าห่มหนังแกะชัดๆ :hao6:

ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #118 เมื่อ12-04-2019 12:19:58 »

พึ่งมีโอกาสได้อ่านเราชอบมากเลย
การดำเนินเรื่อง ภาษา ตัวละคร รักทุกอย่างเลย
อยากได้ผช.แบบหมอบุญในชีวิตจริงบ้างค่ะ อิจฉานายมาก555555555 ปล.เราไปสอยหนังสือมาด้วยแหละ ขอบคุณนักเขียนสำหรับเรื่องราวดีๆที่เขียนมาให้อ่านนะคะ

ออฟไลน์ Luxfern

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: - Affection - ตอนพิเศษ My loveliest friend P.4 (21-Dec-18)
«ตอบ #119 เมื่อ14-04-2019 18:11:06 »

ขอบคุณค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด