แผนที่ 2
แผนต่อไปอาจารย์กานต์บอกให้ผมทำตัวให้น่ารักขึ้น ขี้อ้อนมากขึ้น ซึ่งไดจิบอกว่าน่าจะยาก ซึ่งผมไม่ชอบให้คนดูถูก โดยเฉพาะคนแบบไดจิด้วยแล้ว
“กลับมาแล้ว น้องพี่” พี่ปูทักทาย ผมยิ้มกว้างพร้อมกับไหว้พี่ปูที่ไม่ได้เจอกันเกือบสองอาทิตย์
วันนี้ผมได้กลับเข้ามาทำงานเนื่องจากทางพี่จุ๋มได้ตรวจสอบใบเสร็จไปยังต้นทางแล้วพบว่าเงินถูกจ่ายและรับไปตามจำนวนจริง ส่วนใบเสร็จที่เขียนเกินจริงไม่รู้ว่ามาจากไหน ที่มันกินเวลานานเพราะพี่จุ๋มอยากทำทุกอย่างให้มันเป็นไปตามระเบียบการตรวจสอบของบริษัท เพื่อไม่ให้มีคนมาแย้งอะไรได้อีก
“คุณธนากรครับ ผมกินข้าวที่ให้มาแล้วนะครับ” ผมเริ่มต้นแผนตั้งแต่ตอนเช้าของวัน คนที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องทำงานดูตกใจที่ผมทักทายก่อนแต่พอได้สติก็ยิ้มให้
“แล้วอยากได้อะไรเพิ่มไหม เดี๋ยวผมสั่งเพิ่มให้”
“กาแฟได้ไหมครับ”
เขาส่ายหน้า
“อย่าเลย เอาเป็นน้ำผลไม้แทนนะ บนโต๊ะมีชาแล้ว คาเฟอีนมันเยอะ” ผมมองรอยยิ้มที่คล้ายเดิม ผมรู้กันย์เป็นคนใจดี เพียงแต่ว่าเมื่อก่อนเขาไม่เคยใจดีกับผมแบบนี้
เรื่องระหว่างเราที่ผมจำได้ดีเลยคือตอนที่เราทะเลาะกัน เซ็กส์ และคำด่าทอเสียดสี เขาในตอนนี้เลยดูเหมือนเป็นใครสักคนที่ผมไม่ได้คุ้นเคย
“เดี๋ยวผมโทรสั่งให้ สักพักคงมีคนมาส่ง ผมต้องออกไปหาลูกค้าแล้ว”
“ครับ”
ผมพยักหน้ารับ คุณธนากรยื่นมือมาแตะที่ไหล่ผมเบาๆ ก่อนจะเดินออกไป
“อะไรวะ หายไปแค่แป๊ปเดียว” พี่ปูหันมาแซว ก่อนจะมองไปที่หน้าห้องที่มีโต๊ะของคุณออยอยู่ พี่ปูมองผมสลับกับหัวหน้าคนสวย ก่อนจะร้องอ๋อ
“ทำดีกันต์ ทำต่อไป”
“เป็นไงบ้าง” ไดจิถามพร้อมกับมองผมเหมือนผมเป็นตัวประหลาด ผมขำก่อนจะพยักหน้ารับ
“ก็ดีครับ”
“แฟนฉันอยากมาเจอเธอจะตายแล้ววันๆพูดแต่เรื่องแผน เหมือนพวกเด็กกำลังเล่นเกมส์”
ผมหัวเราะ นึกถึงหน้าอาจารย์กานต์ออกเลย ไดจิขมวดคิ้วเหมือนกำลังสงสัยอะไรสักอย่าง ก่อนจะแกล้งถาม
“ไหน เธออ้อนยังไง บอกหน่อย”
ผมทำหน้าเซ็งกับแผนเด็กประถมของตัวเอง ที่น่าจะทำเพื่อความสะใจมากกว่าความสมเหตุสมผล
“เหมือนในละครเลยไดจิ ผมว่ามันไร้สาระนะ”
“ชีวิตคนเราก็ไร้สาระแบบนี้แหละ” เขายักไหล่พร้อมกับหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะมองหน้าผม
“อ้อนเขามากๆ ระวังตัวเองไว้นะ”
ผมส่ายหน้าเพื่อบอกว่าไม่มีทาง
“ฉันว่าเธอไม่รอด ถ่านไฟแก่มันแรง”
“ถ่านไฟเก่าครับ”
“นั่นแหละ”
“ทำไมยังไม่กลับอีก” คนที่กลับมาถึงออฟฟิศในตอนสองทุ่มถาม ผมกำลังนั่งทำงานอยู่
“รอคุณธนากรอยู่ครับ” ผมตอบตามจริงเพราะรู้ว่าวันพุธเขาจะเข้ามาออฟฟิศตอนดึก แล้วจะไปดินเนอร์กับคุณออยหรือไม่ก็เพื่อนเขา เขามองหน้าผมท่าทางเหมือนสงสัยเต็มที
“รอผมทำไม”
“อยากให้คุณไปส่ง”
หลานท่านประธานขมวดคิ้วแน่นก่อนจะก้มลงมาหาผมที่นั่งอยู่พลางเหลือบมองคุณออยที่ยังรอเขาอยู่หน้าห้อง
“ตัวแสบ” เขาว่าพร้อมกับแตะเบาๆที่แก้มผมก่อนจะคลี่ยิ้มจนเห็นฟันเรียงสวย
“งั้นรอแป๊ปนะ”
ผมพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย
อาจารย์กานต์บอกว่าผมต้องเข้าหาคุณธนากรให้มากกว่านี้ เพื่อดูว่าคุณออยเขารู้สึกยังไงกับคุณธนากร และเพื่อให้รู้ว่าที่คุณออยเขาไม่ชอบผมเป็นเพราะคุณธนากรหรือเปล่า ผมกำลังคิดว่าเรื่องมันเหมือนละครหลังข่าวเข้าไปทุกที แต่ก็ตลกดีที่แผนของแฟนไดจิท่าจะเป็นไปได้ด้วยดี
คืนนี้ผมได้มีโอกาสมาร่วมโต๊ะกับเพื่อนๆของคุณธนากรเป็นครั้งแรก ทุกคนล้วนเป็นคนที่ผมไม่รู้จัก เรานั่งอยู่ในร้านอาหารราคาแพงหูฉี่ ผมเหลือบดูเมนูแล้วแอบถอนใจ นี่มันราคาเท่ากับเงินเดือนเกือบครึ่งของผมเลยทีเดียว และก็พาลทำให้ผมนึกถึงเมื่อก่อน
วันที่ผมได้กินข้าวในร้านอาหารญี่ปุ่นราคาแพงกับเขา ผมจำภาพเขากับแฟนเขาตอนนั้นได้แม่น นั่นเป็นอีกสาเหตุที่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆเขาถึงได้กลับมาบอกว่าเขารอผมอยู่
“กันต์ นี่ทอม โอมแล้วก็แทนเป็นเพื่อนผม ส่วนนี่กันต์” เสียงแนะนำตัวของเขาดึงผมออกจากอดีต ผมยกมือไหว้ทุกคนทั้งๆที่ดูแล้วน่าจะอายุเท่าๆกัน พวกเขายิ้มรับก่อนจะทักทาย
“คนนี้เหรอที่ทำโปรเจ็คคอนโดริมน้ำ”
“ใช่”
“แล้วออยไปไหนวะ” ดูแล้วพวกเขาน่าจะเป็นเพื่อนกับคุณออยด้วย
“เดี๋ยวมา เห็นบอกแวะไปธุระก่อน”
“แล้วเรื่องฉ้อโกงในบริษัทมึงหาตัวคนผิดได้ยังวะ”
“ยังเลย ให้ตำรวจช่วยอยู่” เขาบอกเพื่อนแต่หันมามองผม
“ถ้าเป็นกูไล่คนๆเดียวออกก็จบ ไม่เห็นต้องสืบเลย”
“แล้วถ้าเขาไม่ได้ผิดล่ะวะ” เพื่อนอีกคนถาม
“ก็ดีกว่ามาเสียเวลาตรวจสอบว่ะ ถ้ามันเกิดขึ้นอีกก็ค่อยว่ากัน”
“มึงนี่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ”
ผมที่กำลังคิดว่าที่นี่ไม่เหมาะกับผมได้แต่นั่งเงียบฟังพวกเขาคุยกันโดยไม่พูดอะไรออกไป
“ถูกปากไหม” เขาหันมาถาม
ผมมองอาหารฝรั่งข้างหน้าตัวเองก่อนจะมองหน้าเขา ผมที่ถูกหวีเซ็ทปัดไปข้างหลังทำให้เห็นโครงหน้าเขาชัดเจน ผมที่ดื่มไวน์แก้วแรกหมดไปแล้วยิ้มให้เขาบ้าง
“กินได้ครับ”
กันย์ชะงักไปเล็กน้อย เขาหันไปตักอาหารบางอย่างมาวางที่จานผม ก่อนจะบอกว่ามันอร่อย ผมมองหน้าเพื่อนของเขาที่มองมาทางนี้แบบซ่อนความหมาย
“อยากได้อะไรเพิ่มไหมกันต์” เขาหันมาถามผม ผมที่สงสัยมาตั้งนานว่าแฟนของคุณชายแบบเขาจะรู้สึกยังไงที่ถูกปฏิบัติดีด้วยขนาดนี้ก็ได้รู้วันนี้เอง
ถ้าเขาอยากเอาใจ...ผมก็จะเอาแต่ใจ
“ไวน์ได้ไหมครับ”
“ไม่อยากให้เมาเลย” เขาว่า แต่ก็สั่งไวน์ขวดแพงแบบที่ผมไม่มีปัญญาจ่ายมาให้ เพื่อนเขาคุยกันว่ารสของไวน์ที่บ่มช่วงปีนี้มีรสเฝื่อนเกินไป แต่ผมที่ไม่มีเทสต์เรื่องแบบนี้แค่ดื่มให้ตัวเองกล้ามากขึ้น ผมชอบดื่มเบียร์แต่กับไวน์นี่เป็นครั้งแรกของผม ผมไม่รู้มาก่อนว่าแค่สามแก้วก็ทำให้มึนได้มากขนาดนี้
“ก็ดื้อ” เขาว่าก่อนจะดึงขวดไวน์สีเข้มออกจากมือผม
“เมาแล้วๆ” เพื่อนเขาแซว ผมกะว่าจะขอแก้วคืนเหลือบไปเห็นผู้หญิงคุ้นตาที่เดินมาจากหน้าร้านที่จัดโซนเอาท์ดอร์ไว้สำหรับดินเนอร์ คุณออยมองหาโต๊ะนี้ปราดเดียวก็สบตากับผม เธอดูตกใจมากทีเดียว
ในตอนที่เธอสาวเท้าเข้ามา ผมเบียดตัวเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่ข้างๆก่อนจะซบลงไปบนไหล่เขา เพื่อนเขาแซวอย่างสนุกปาก ผมคิดว่ากันย์น่าจะขยับตัวออกแต่ก็เปล่า
….เขาปล่อยให้ผมเล่นสนุกได้ตามใจ….
“ไปไหนมาออย” เพื่อนๆถามเขาคนมาใหม่
“ไปทำธุระมา”
“กินอะไรหรือยัง สั่งเลย”
ผมที่ตาแทบจะปิดแล้วพยายามฟังที่พวกเขาคุยกัน พร้อมกับมองผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน ถ้าผมไม่ได้เมาจนเกินไป ผมว่าเธอกำลังไม่พอใจเอามากๆ
“ตอนแรกก็คิดว่ามึงกับออยกิ๊กกัน วันนี้พาเด็กมาเปิดตัวเฉย”
“เออ กูก็ว่าอย่างนั้น” คนที่ชื่อแทนว่า
“ไปโดนเด็กตกได้ไงวะ ทำงานด้วยกันเหรอวะ”
“ก็ ประมาณนั้น” กันย์ว่ายิ้มๆ
ผมนั่งฟังพวกเขาคุยกันไปเรื่อย ส่วนมากมักจะเป็นเรื่องเก่าๆที่ต่างประเทศที่พวกเขารู้จักกัน ทำให้ผมพอรู้ว่าเพื่อนกลุ่มนี้ของพวกเขามาจากไหน และก็ทำให้รู้ด้วยว่าคุณออยนั้นเป็นแฟนเก่าของกันย์ในช่วงระยะเวลาสั้นๆหลังจากที่เขาเลิกกับน้องลูกหมี ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าข้อมูลนี้มันเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายของผมกันแน่
“ช่วงนี้ออยจะยังไม่ป้อนงานให้นะคะ พูดตรงๆเลยคือออยยังไม่เชื่อใจคุณค่ะ”
วันนี้ผมโดนเรียกมาพบในห้องเย็นที่หลายๆคนเรียกกัน ซึ่งคนเรียกก็เป็นคุณออยตามคาดของอาจารย์กานต์
“เข้าใจครับ” ผมตอบรับ
“คุณกันย์ก็บอกออยมาเหมือนกันว่าอย่าให้งานคุณในช่วงนี้”
“หมายถึงคุณธนากรเหรอครับ?” ผมแกล้งถาม
“อ๋อ ไม่รู้เหรอคะว่าแต่ก่อนคุณธนากรชื่อกันย์”
“ไม่ทราบครับ” ผมโกหก
“ที่คุณทำอยู่ไม่ดีเลยนะคะ เรื่องโกงไม่ใช่เรื่องเล็ก”
“พี่จุ๋มยืนยันแล้วครับว่าผมไม่ได้โกง” ผมพอเดาออกว่าจะถูกเรียกมาคุยเรื่องอะไร เพราะวันนั้นเธอดูไม่พอใจผมมากทีเดียว
“ออยเห็นหลักฐานจากคุณมิ้นแล้วค่ะ”
“มันเป็นของปลอมครับ”
“แต่นั่นลายเซนคุณ”
“ลายเซนผม แต่ไม่ใช่ลายมือผมครับ”
คุณออยจ้องหน้าผม ก่อนจะบอก
“ยากที่จะเชื่อนะคะ ที่กลับมาได้เพราะเส้นคุณกันย์ใช่ไหมคะ”
“ไม่น่าจะใช่ครับ ผมกลับมาได้เพราะผมไม่ผิด” ผมยืนยัน หัวหน้าคนสวยเก็บสีหน้าไม่อยู่ เธอเยาะยิ้ม
“ออยอยากจะเตือนไว้ก่อนว่าอย่าสำคัญตัวผิด แบบคุณไม่นานเขาก็เบื่อ”
“เป็นไงบ้างครับพี่กันต์”
วันนี้ผมมาหาหมออีกครั้ง หลังจากที่โดนไข้หวัดเล่นงานไปเกือบทั้งอาทิตย์ ตอนแรกก็เหมือนจะหายดี แต่สองสามวันมานี้กลับไอไม่หยุด
“หวัดหายแล้วครับ แต่ไอแทน”
“ไหนอ้าปากหน่อย ขอเจดู” คุณหมอจับที่ปลายคางผมก่อนจะใช้ไปฉายส่อง เขากวาดตามอง ก่อนจะก้มลงไปจดบางอย่างในกระดาษ
“คออักเสบครับ เดี๋ยวเจให้ยาแก้อักเสบไป กินให้หมดทั้งสองแผงนะครับ”
“ครับ” ผมตอบรับคุณหมอ หมอดูยุ่งนิดหน่อยกับงานของตัวเองแต่ไม่ทันไรก็เงยหน้าขึ้นมาถามผม
“ให้เจไปส่งไหมครับ ถึงเวลาเลิกพอดีเลย”
“พี่เกรงใจ” ผมตอบตามจริง
“ไม่เป็นไรจริงๆครับ”
ไม่รู้ว่าเพราะผมปฏิเสธไม่เป็นหรือเปล่า ถึงได้มานั่งอยู่บนรถของคุณหมอหนุ่มที่บอกว่าคอนโดผมเป็นทางผ่านของเขาพอดี เราคุยกันเรื่อยเปื่อยไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถติด อากาศช่วงนี้ที่ฝุ่นเยอะกว่าปกติ จะกระทั่งเจถามเรื่องที่ผมเลี่ยงที่จะพูดขึ้นมา
“พี่กันต์ เรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหมครับ”
“อ่า...คือพี่”
“ผมหมายถึงเพื่อนที่แปลว่าเพื่อนจริงๆ” ผมมองเสี้ยวหน้าคนที่หันมายิ้มให้ด้วยความจริงใจ ผมที่ตอนแรกค่อนข้างระแวงกับการเข้าหาของน้องรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก
“ครับ ทำไมจะไม่ได้”
“รู้สึกแปลกๆใช่ไหมครับ”
“ก็ ครับ” ตอบตอบตามจริง จะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงไม่ใช่ แต่เขาโตขึ้นแล้ว ผมเองก็เหมือนกัน
“หลังจากตอนนั้นผมก็หาพี่ในแอปไม่เจอ”
“พี่เลิกเล่นครับ”
“ผมก็เลิกเล่นเหมือนกัน ตอนนั้นยังเด็กมากจริงๆ ดีที่ตอนนั้นเป็นพี่กันต์ ดีที่ไม่ติดโรคหรือติดยาจากคนอื่น” คุณหมอว่าหน้าแดงแต่ก็กลั้วขำไปด้วย
“ดีแล้วที่ผ่านมันมาได้” ผมเห็นด้วยนะ ดีแค่ไหนแล้วที่เราโตมาได้ถึงขนาดนี้
น้องเจส่งผมที่ถนนข้างหน้าคอนโด ผมเห็นว่าเขาหิวข้าวเลยชวนมานั่งกินข้าวร้านประจำที่ผมชอบใต้ตึกที่ผมอยู่ เราคุยกันสัพเพเหระ
จนกระทั่งรู้ว่าน้องหมอเจก็ชอบดูซีย์รีส์สืบสวนเรื่องเดียวกัน เราเลยสนุกกับการเล่าเรื่องที่ดูไปแล้วซ้ำไปซ้ำมาอย่างถูกคอ จนกระทั่งผมลืมเวลาว่านัดกับใครบางคนไว้ จนกระทั่งเขาเดินมายืนอยู่ตรงหน้า
“นัดผมไว้กี่โมง”
วันนี้กันย์ว่าจะมาคุยกับผมเรื่องที่เขาพอรู้เบาะแสเรื่องการโกงแล้ว ผมที่ยังตกใจอยู่มองกันย์ที่กำลังจ้องคุณหมอนิ่ง หมอเจที่เริ่มทำตัวไม่ถูกหันมาหาผม
“คือผมลืมนัด ขอโทษครับ”
“ลืมนัดผมเพราะมาอยู่กับอีกคน?”
ผมมองเจที่ดูงงกับสถานการณ์ตรงหน้านี้
“น้องเจกลับก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวพี่โทรไป” ผมว่าพร้อมกับยิ้มให้คุณหมอ รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่คนอย่างผมทำให้คุณชายกันย์โกรธได้แบบนี้ มันอาจะเป็นชัยชนะแบบเด็กๆอย่างที่ไดจิบอก แต่มันก็สนุกดี
ผมหันกลับมามองหน้าเขา ใบหน้าที่หลังๆมักจะยิ้มแย้มกลับบึ้งตึง เขาถอนหายใจ ก่อนที่จะโน้มตัวลงมาบอกให้ชัด
“คุณจะทำอะไรผมไม่เคยว่านะกันต์ แต่อย่าทำให้หึง ผมขอแค่อย่างเดียว”
ผมเบือนหน้าออกและก้าวถอยหลังเมื่อปลายจมูกของเขาปัดผ่านแก้มเบาๆ ทั้งๆที่ตรงนี้เป็นร้านอาหารแท้ๆ
หนึ่งรายละเอียดในตัวของกันย์ที่ผมเผลอลืมไปคือ...เขาน่ากลัว…