From yesterday
From yesterday, it's coming
From yesterday, the fear
From yesterday, it calls him
ถ้าย้อนเวลาไปได้ ผมเลือกที่จะไม่รู้จักกับเขาคนนั้น
แต่คงน่าเสียดายที่มันจะทำให้ผมไม่ได้รู้จักกับคนข้างกายตอนนี้ด้วย
“กระเป๋าตังค์พังแล้ว เอาใหม่ไหม”
ใครว่าความต่างของฐานะไม่มีผลกับการคบกัน ในขณะที่ผมหวงเงินไว้เผื่ออนาคต ภัทรแม่งกลับใช้เงินเหมือนหว่านทิ้ง ผมมองกระเป๋าตังค์ตัวเองที่เป็นรอยขาดนิดเดียวตรงมุมก่อนจะบอกปัด
“มันยังใช้ได้” ยังพูดไม่ทันจะจบคนถามก็ชูถุงกระดาษลายสวยขึ้นมา
“ตาโตเลยคนสวย” ภัทรยิ้มท่าทางดูสนุก ผมมองกระเป๋าตังค์ใบยาวสวยแบรนด์ดังในมือเขา แบรนด์ที่แต่ก่อนผมได้แต่มองแล้วตัดพ้อ แต่ตอนนี้ผมกลับมองหน้าคนให้ด้วยความไม่พอใจ
“หลายอย่างแล้วนะภัทร ซื้อมาทำไมวะ กระเป๋าตังค์กูยังใช้ได้”
“โหงวเฮ้งเป็นเรื่องสำคัญ กระเป๋ามึงขาด มึงจะเก็บเงินไม่อยู่”
“มึงสิเก็บเงินไม่อยู่” ผมว่า แต่ไอ้ตี๋ก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด
“ไหน ลองถือๆ” เขาว่าพลางยัดเข้ามาในมือผม
“กูว่าแล้ว สีนี้ต้องเหมาะกับมึง เจคมันช่วยเลือก”
“ไอ้ภัทร!”
“กูก็แค่อยากให้ มึงจะทำไม” ภัทรากรคือมนุษย์หน้ามึนที่สุดที่ผมเคยรู้จัก
“มึงยังหาเงินเองไม่ได้นะภัทร” ผมว่าก่อนจะวางคืนเขาไป
“เงินกู แม่ให้แล้วก็คือเงินกู”
“แต่ไม่ใช่ของกูไง” ผมบอกแล้วหยิกต้นแขนของเขา ภัทรปัดมือผมทิ้ง
“บังคับไม่ได้สักอย่าง ขัดใจฉิบหาย ขอเตะที” ภัทรบอกก่อนจะเดินมาล็อกคอผมไว้แล้วแอบเตะขาผมเหมือนเวลาที่เขาหมั่นไส้ผม
“เดี๋ยวกูฟาดกลับ” ผมว่า แต่ครั้งนี้บิดสีข้างเขาไปแทน ภัทรร้องโอดโอยไปด้วยหัวเราะไปด้วย แต่อยู่ดีๆก็หันมามองหน้าผมจริงจัง
“เป็นแฟนกันไหม”
ผมขมวดคิ้วมองคนที่ตัวติดกันมาเกือบสองปีแล้วแต่เพิ่งมาขอ ปกติแล้วที่ทำอยู่ก็ไม่รู้ต่างจากแฟนตรงไหน
“กูจะได้ให้อะไรแล้วไม่ต้องหาข้ออ้าง” ภัทรว่า ปกติแล้วภัทรมักจะให้ของผมเนื่องในวันเกิดบ้าง วันพิเศษบ้าง ซึ่งวันพิเศษล่าสุดคือวันฮัลโลวีน ผมโคตรยอมใจเขาเลย ภัทรบ่นเรื่องที่ให้ของแล้วผมไม่อยากได้อยู่บ่อย ทั้งชอบบ่นเรื่องที่อยากให้ผมย้ายออกไปอยู่ที่ดีๆแต่ผมก็ไม่ยอม
“คบกับภัทรนะกันต์”
ผมมองเสี้ยวหน้าของไอ้ตี๋ที่เมื่อก่อนเคยเกลียดขี้หน้า แต่ตอนนี้ไม่มีเหตุผลอะไรให้ปฏิเสธคนๆนี้เลย ผมยิ้มกว้าง ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบแก้มเขาเบาๆ
“อืม” ภัทรคลี่ยิ้มกว้างก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา
“พูดชัดๆกูจะถ่ายวิดีโอเก็บไว้”
ผมหัวเราะร่วนกับความจริงจังของเขา
แต่เดิมผมกับภัทรไม่ได้อยู่ด้วยกัน นานๆทีภัทรถึงค้างด้วยเพราะเขาเองก็มีบ้านให้กลับ ผมรู้ว่าเขาอ้างว่าค้างกับเจคบ้าง ทำงานดึกบ้างเพื่อมาอยู่กับผม มันทำให้บางทีผมก็คิดเหมือนกันว่าผมไม่รู้จักโลกของภัทรเลย
เขาเห็นแทบจะทุกมุมของชีวิตผม ต่างจากผมที่ไม่เคยเห็นโลกใบโตของเขาเลย ถึงผมไม่เคยเรียกร้องอะไรแต่ผมก็น้อยใจ น้อยใจที่ตัวเองให้อะไรกับเขาไม่ได้เลย แม้แต่จะกินข้าวร้านเดียวกับเขายังทำไม่ได้
ตอนที่เขาขอคบผมถึงค่อนข้างดีใจ เพราะอย่างน้อยการมีสถานะมันจะทำให้ผมสบายใจขึ้น อย่างน้อยผมก็ห่วงเขาได้เต็มที่สักที จะได้บ่นเรื่องใช้เงินด้วย ขับรถเร็วด้วย
“ขอบคุณนะ” ไอ้ตี๋ว่า ผมดึงเขามากอดแล้วตบหลังหนักๆ เอาคืนที่เขาเตะขาผมไปหลายที
“ขอบคุณเหมือนกัน” ผมว่าพลางมองเสี้ยวหน้าที่ยิ้มกว้างของเขา
ตอนนี้ภัทรเรียนปีสี่แล้ว ในขณะที่ผมอยู่ปีสามเทอมสอง ชีวิตก็ยังเหมือนเดิมแต่ทำงานน้อยลงเพราะเรียนหนักขึ้น โดยรวมก็ราบรื่นดี เรื่องที่แม่ป่วยก็อยู่ในเกณฑ์ดี ยังต้องกินยาแต่ก็อาการทรงตัวแล้ว ชีวิตผมราบเรียบจนเผลอประมาทไปว่ามันเคยยุ่งเหยิงแค่ไหน เกือบลืมไปแล้วว่าควรจะตั้งรับกับชีวิตยุ่งๆยังไง
From a count to one
He’ll decide when he’s done with the innocent
On his face is a map of the world
ช่วงนี้ผมฝันถึงเรื่องอดีตบ่อยๆ ทั้งเรื่องที่ไม่มีเพื่อนตั้งแต่เด็ก รวมไปถึงเรื่องเมื่อสองถึงสามปีที่แล้ว ผมคิดว่าตัวเองคงเครียดกับรายงานมากกว่า ผมยืนมองมือถือตัวเองมาห้านาทีแล้ว เมื่อคนที่ขอคบวันก่อนติดต่อไม่ได้ ภัทรบอกผมว่าจะกลับบ้านหลังจากมาส่งผม ตอนนี้มันน่าจะได้เวลาที่เขาควรจะถึงบ้านแล้ว เพราะภัทรขับรถเร็ว ลางสังหรณ์แปลกๆทำผมกลัวและกระวนกระวายพอสมควร
“แพท เจอภัทรบ้างไหม” ผมยกหูหาแพทแทนเผื่อแพทจะติดต่อเขาได้บ้าง เสียงเพลงที่ลอดเข้ามาในหูทำให้ผมรู้ว่าแพทคงไม่สะดวกที่จะคุยเท่าไหร่
“อ๋อ เราอยู่งานวันเกิดพี่ชายกันย์ กันย์ก็กลับมาด้วย ภัทรอยู่ในงานเมื่อกี้”
“อยู่ที่ไหนนะ” ผมถามย้ำอีกที เพราะว่าเสียงดังมากผมถึงได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง จริงๆแล้วผมได้ยิน แต่ผมกำลังบอกตัวเองว่าผมคงหูฝาด
“เดี๋ยวเราไปบอกภัทรให้นะว่ากันต์โทรมา” เหมือนแพทกำลังรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ภัทรบอกลืมมือถือไว้ในรถ เดี๋ยวกลับแล้ว”
เมื่อกี้ถ้าผมฟังไม่ผิด ผมได้ยินว่าภัทรอยู่ที่บ้านกันย์...ผมลืมไปได้ยังไงนะว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกัน
From yesterday, it’s coming
From yesterday, the fear
ผมนั่งมองมือถืออีกครั้ง มือผมสั่น
ตัวผมชาด้วยความกลัว แต่ผมไม่รู้ว่าตัวเองกลัวอะไร
“เหมือนหนีเมียเที่ยวว่ะ ขับรถกลับมาเสียวท้ายทอยพิกล” คนที่กลับมาถึงห้องผมว่าพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ดูฝืนเหลือเกิน
“เดี๋ยวมึงจะโดนจริงๆ” ผมว่าทั้งพยายามทำตัวให้ปกติ ทั้งๆที่ตอนนี้ภัทรดูไม่เหมือนเดิม มันทำให้ผมทำตัวไม่ถูกตามไปด้วย ตอนนี้อย่างน้อยผมก็อยากให้เขากวนผมเหมือนเดิมก็ได้ เตะผมเหมือนเดิมก็ได้
“แล้วนี่ขับรถเร็วอีกแล้วใช่ไหม” ผมถามเพราะภัทรขับรถเร็วมาก
“เปล่า”
“ภัทร” ผมมองหน้าเขา มุมปากที่หยักขึ้นวันนี้เหยียดตึง
“ดุจังวะ จากบ้านไอ้กันย์กับที่นี่แค่ยี่สิบนาทีเอง” ภัทรบอกพร้อมกับมองหน้าผม ผมไม่รู้ควรจะพูดอะไรดีเงียบปากลง
เรื่องของผมกับเขาคนนั้นจบไปนานแล้ว มันไม่เหลืออะไรให้พูดถึง แต่ตะกอนความสัมพันธ์ของเราเหมือนยังไม่สิ้นสุดเสียที เมื่อที่ผ่านๆมาผมยังได้ยินแพทกับเจคพูดถึงเขาบ่อยๆ ในขณะที่ผมรู้ความเคลื่อนไหวของเขาเกือบทุกอย่าง เขาเองกลับไม่ได้รู้อะไรเลย ผมว่ามันขี้โกงนะ ผมก็อยากตัดเขาให้ขาดเหมือนกัน
“กินข้าวมายัง” ผมถามคนที่กำลังทำหน้าเหมือนเขาเสียใจเหลือเกิน
“กินแล้ว” ภัทรบอก
“แล้วมาทำไม ไหนบอกจะกลับบ้านเลย” ตอนแรกที่ผมโทรหา กะว่าจะถามภัทรเรื่องรายงาน กับเช็คว่าคนขับรถเร็วถึงบ้านหรือยัง ถ้าย้อนเวลาได้ ผมคงจะไม่โทรไปกวน ปล่อยให้ภัทรได้กลับมายิ้มแบบเดิมดีกว่า
“แพทบอกว่า เผลอบอกมึงเรื่องที่ไอ้กันย์กลับมา” ภัทรบอกพร้อมกับเดินไปหยิบชุดของเขาที่มีในตู้ เพื่อบอกเป็นนัยว่าวันนี้เขาจะนอนที่นี่
“อืม” ผมตอบรับ
เราไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้จริงจัง ผมที่มุ่งแต่จะเดินหน้าโดยไม่กลบหลุมข้างหลังลืมคิดไปว่าแล้วภัทรล่ะ...เขาจะรู้สึกยังไงนะ
“กูสนิทกับพี่ชายมัน เลยไปให้เขาเห็นหน้า วันนี้วันเกิดเขา กันย์มันกลับมาฮอลิเดย์พอดี”
“อืม” ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกอะไรหรอก ผมออกจะตกใจที่รู้ว่าเขามาแล้ว เขากำลังยืนอยู่ใกล้ผมไม่เกินสิบกิโลเมตรด้วยซ้ำ แต่มันจบไปแล้วจริงๆ
“กูไปเพื่อบอกมันด้วยว่ากูคบกับใครอยู่”
ผมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่ออยากทำให้ตัวเองใจเย็นขึ้น
“ภัทร มันจบไปแล้ว” ผมแตะที่แขนเขาเบาๆ
“กูรู้ว่ามันจบไปแล้ว แต่กูกลัวกันต์”
“เพราะแบบนี้ใช่ไหมเลยขอกูคบ”
“อืม”
“กูดูไว้ใจไม่ได้เลยเหรอ” ผมถามพร้อมกับแค่นยิ้ม มองกลับไปแล้วมีหลายอย่างที่ผมเสียใจว่าไม่น่าทำมันเลย ผมอาจจะดูง่ายในสายตาภัทร อาจจะดูเหลวไหลและหลงกันย์หัวปักหัวปำในตอนนั้น
...ผมเสียใจ...
แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็ทำให้ผมได้เจอกับภัทร ผมบอกตัวเองแบบนั้น
“ภัทร” ผมเรียกเขาอีกครั้ง ภัทรมักจะปากเสีย ขี้แกล้ง แต่ไม่มีสักครั้งที่เขาจะทำให้ผมเสียใจ
“นาฬิกาอันนั้น มึงยังใส่ติดมืออยู่เลย กูรู้นะว่าของใคร” ภัทรว่าพร้อมกับเบือนหน้าหนี ตาของเขาแดงก่ำ
“ทีกับของที่กูซื้อให้ มึงกลับไม่อยากได้ด้วยซ้ำ”
“…”
tbc.
_________________________________________________
เราเขียนเองแต่เราตอบไม่ได้เหมือนกันค่ะ ว่าถ้าไม่มีกันย์
ภัทรจะเดินเข้ามาหากันต์หรือเปล่า หรือมองอยู่แบบนั้น
//ตีตัวเอง
น้องตี๋ขี้น้อยใจจัง