Let her go
Well you only need the light when it’s burning low
Only miss the sun when it starts to snow
Only know you love her when you let her go
คนเรา ถ้าไม่เสียไปก็ไม่เห็นค่าสิ่งที่ตัวเองเคยมี สำหรับผม ความตายก็เหมือนคอมพิวเตอร์ที่ดับลง ความทรงจำทุกอย่างที่บันทึกไว้จะคงอยู่ที่เดิมแต่เอามาใช้ไม่ได้อีกแล้ว
“ภัทร”
“เป็นอะไร” ภัทรเดินมาลูบที่แก้มผม หน้าตาเขาดูตระหนกระคนแปลกใจที่เห็นผมร้องไห้
“แม่โทรมาบอกว่ายายเสียแล้ว”
“ยายมึง?”
ผมพยักหน้าก่อนจะถูกดึงเข้าไปกอด
“ไม่เป็นไรๆ”
ผมไม่ได้ร้องไห้จะเป็นจะตายแบบที่คิด ค่ำวันนั้นผมเก็บเสื้อผ้าลงในเป้เก่าๆใบเดิมแล้วขึ้นรถทัวร์ขึ้นทางเหนือของไทย ผมนอนไม่หลับเอาแต่คิดว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ตอนเด็กๆเพราะพ่อแม่ผมไม่ค่อยมีเวลา ผมเลยโตมากับยายเหมือนเด็กต่างจังหวัดทั่วไป ผมสนิทกับยายมาก ก่อนจากมาผมสัญญาว่าจะรีบเรียนให้จบ พอมีเงินแล้วจะพายายนั่งเครื่องบินไปเที่ยวที่ไหนสักที่
ในขณะที่ผมเดินไปข้างหน้าและหลงทาง คนที่อยู่ข้างหลังกลับไม่เหลือเวลาแล้ว ผมมองทอดออกไปในวิวที่มืดสนิทยามกลางคืนแล้วปาดน้ำตาตัวเองลวกๆ
“กินอะไรหน่อยไหม”
ผมส่ายหน้าก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือคนข้างๆไว้แน่น ภัทรที่ดูเหมือนไม่รู้ต้องพูดอะไรในตอนนี้นั่งเงียบพร้อมกับลูบที่หลังมือผมเบาๆ
ผมมาถึงบ้านในตอนเกือบตีสาม ไม่รู้ที่อื่นเป็นแบบที่ผมอยู่หรือเปล่า แต่ตีสามทุกคนที่พอจะรู้จักมารวมกันอยู่ที่บ้านผม พวกเขาช่วยกันทำของสำหรับพิธีงานศพพรุ่งนี้เช้า ผมไม่มีเวลาให้เศร้ามากนักเมื่อต้องช่วยงานหลายๆอย่าง ยายของผมท่านอายุ 89 แล้ว แม่บอกว่าช่วงหลังท่านกินอะไรไม่ค่อยได้ เคยพาไปหาหมอหมอก็บอกเป็นโรคชรา หลายๆคนเห็นหน้าผมต่างก็ยิ้มให้แล้วก็ปลอบผมด้วยประโยคคล้ายๆกันว่าท่านไปสบายแล้ว ไปแบบไม่เจ็บปวดอะไร
พอรุ่งเช้าก็เริ่มด้วยการทำบุญ ให้นิมนต์พระมาสวด เลี้ยงแขก อาจจะเพราะบ้านผมไม่มีเงินมากนัก ทั้งไม่มีญาติที่ไหน บ่ายวันนั้นแม่ก็ตัดสินใจให้เผาเลย ผมที่วิ่งวุ่นช่วยพ่อกับแม่ทั้งวันยืนนิ่งอยู่หน้าเมรุในยามบ่ายคล้อย
...ชีวิตช่างผ่านไปเร็ว เป็นสิ่งที่ผมคิดได้ในตอนนั้น...
“กูเคยสัญญาว่าจะพายายไปเที่ยว กูสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน แล้วที่ผ่านมากูทำอะไรอยู่เหรอภัทร”
ก่อนจะไปเรียนที่กรุงเทพผมคุยกับยายเยอะแยะ ว่าเราจะทำนั้นนี่ด้วยกัน พอนึกย้อนไป ปีที่ผ่านมาผมช่างเหลวไหลจริงๆ ผมลืมเรื่องที่สัญญาไปเกือบหมด ลืมไปด้วยว่าถ้ายายรู้ว่าผมทำตัวแบบนั้น ยายจะเสียใจแค่ไหน
“กูเคยมีพี่ชายอีกคน เสียไปตอนกูอยู่ม.ต้น” ภัทรเริ่มเล่าอะไรสักอย่างก่อนจะดึงมือผมออกจากบริเวณนั้นแล้วเดินตามชาวบ้านที่ทยอยเดินออกจากวัด
“เราเป็นลูกคนกลางทั้งคู่ สนิทกันอยู่สองคนเพราะที่บ้านกูเขาโอ๋พี่ชายใหญ่กับน้องสาวคนเล็ก”
ผมบีบมือใหญ่ไว้แน่น
“ก็เล่นกันสองคน นอนด้วยกัน อยู่ด้วยกันจนม.ต้น มันก็โดนรถชนตายเพราะไปซื้อของขวัญวันเกิดให้กู” ภัทรยิ้มให้ผมแต่ผมกลับร้องไห้หนักกว่าเดิม
“ทุกคนล้วนต้องจากไปนะกันต์ ไม่จากเป็นก็จากตาย”
“นอนนี่กันก่อนนะลูก พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวแม่ไปส่งในเมือง ค่อยกลับกัน” แม่บอกผมด้วยสายตาเหนื่อยล้า เรานั่งนับซองเงินกับจัดการเรื่องเงินจากกองทุนคนแก่จนดึก แม้ยายจะเสียไปแล้วแต่กลับทิ้งเงินไว้ให้ผมก้อนหนึ่งพร้อมกับสร้อยพระอันเล็กๆ
“ยายบอกให้กันต์นะลูก เอาไว้เรียนสูงๆเอาไว้แต่งเมีย” แม่ขำทั้งน้ำตา ผมรับเช็คมาไว้ในมือก่อนจะมองหน้าพ่อ
“พ่อแม่เอาเก็บไว้เถอะ”
พ่อกับแม่ยืนยันว่าไม่มีทางรับไว้เพราะกลัวยายเข้าฝันมาด่า ผมเลยพับมันใส่กระเป๋าตังค์ไว้
“ตอนเด็กๆอย่างกับผู้หญิง” ภัทรว่าพลางชี้ไปที่กรอบรูปของผมที่วางไว้ในห้อง
“คนสวยไง” ผมล้อ เพราะมันชอบเรียกผมแบบนี้
“ขอโทษนะ วันนี้ไม่ได้สนใจเลย” ผมบอกภัทร จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตอนที่กำลังยุ่งๆอยู่ภัทรไปอยู่ที่ไหน กินข้าวยังไง คุณหนูแบบเขาอยู่ได้หรือเปล่า
“ไม่เป็นไร ไปช่วยพ่อมึงล้างจานหลังบ้านทั้งวัน แต่ของกินเพียบ” เขาบอกพร้อมกับชูมือแดงๆให้ดู ผมเดินไปหยิบโลชั่นที่วางไว้แถวโต๊ะในห้องมาทาให้
“ขอโทษนะคุณหนู” ผมว่าแต่อีกคนกลับเบ้หน้า
“กูก็ไม่ได้ปัญญาอ่อนขนาดนั้นนะ” ภัทรว่าพร้อมกับหรี่ตามองผม ชวนให้นึกถึงวันแรกๆที่เจอกัน แม่งกวนตีนอย่างกับอะไรดี
“ไม่ปัญญาอ่อนแต่ตอนแรกแกล้งกูจังเลย”
ภัทรหันหน้าหนีพร้อมกับใบหูที่ขึ้นเป็นสีแดง
“เออ ล้อกูเข้าไป”
แพทเป็นอีกคนที่ชอบล้อว่าภัทรเป็นพวกแกล้งคนที่ชอบ ซึ่งผมเห็นด้วยแกล้งแรงมากด้วย
“เดี๋ยวกูกลับบ้านก่อนนะ พรุ่งนี้มีเรียนเช้า” ภัทรบอกผมเมื่อแวะมาส่งผมที่หออย่างเคย ผมมองหน้าเขา ผมรู้ว่าเขาไม่ได้กลับบ้านสองวันแล้ว แต่ผมไม่อยากให้เขาไป ทั้งๆที่แต่ก่อนผมต้องไล่ให้เขากลับทุกวัน
“แล้วเดี๋ยวตอนบ่ายรอที่ม. หยุดเรียนมาสองวันแล้ว”
“อืม” ผมตอบรับพร้อมกับพยักหน้า
“อย่าทำหน้าแบบนี้” ภัทรว่าพร้อมกับลูบหัวผมเบาๆ แล้วเดินออกจากห้องไป
ถ้ารักของผมกับเขาคนนั้นเป็นรักที่ไม่สมหวังและไม่มีทางเป็นไปได้ รักของผมกับภัทรน่าจะเป็นรักคนละแบบ เมื่อก่อนผมถามตัวเองอยู่บ่อยๆว่ารักภัทรเพราะอะไร ผมแค่อยากจะเก็บเขาไว้ข้างตัวเพราะเหงาหรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมไม่กังขากับความคิดของตัวเองแล้ว ผมก็แค่รัก ไม่ว่าจะรักที่เขาดี หรือรักที่เขาอยู่ข้างๆกัน แต่มันก็พอแล้วและดีเหลือเกินที่เขาก็รักผมเหมือนกัน
ผมรู้ว่าบางทีภัทรก็ไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกันว่าผมรู้สึกยังไง แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ภัทรไม่เคยคาดคั้น ไม่เคยถามผมสักครั้งว่าเราเป็นอะไรกัน แต่ตอนนี้เป็นผมเองที่กลัวว่าเขาจะเบื่อผมไปเสียก่อน เป็นผมเองที่กลัวว่าจะทำให้เขาเสียใจ และไม่ได้ทำอะไรให้เขาเลย
ภัทรกลับไปแล้ว ผมกดโทรศัพท์หาพ่อกับแม่ สัญญากับตัวเองใหม่ว่าผมจะรักพ่อกับแม่ให้มากๆ และผมจะรักตัวเองและรักภัทรให้มากๆด้วย
“เป็นไงบ้าง”
วันนี้ผมมีนัดกับไดจิคนเหงามากินปิ้งย่างที่ร้านเดิม
“โอเคแล้วครับ ยายคงไปสบายแล้วจริงๆ”
ยายไปแล้ว...แต่ตะกอนความคิดถึงยังลอยคว้างอยู่ในใจผม
ผมกับไดจิคุยกันเกือบทุกเรื่อง เราเหมือนเพื่อนสนิทต่างวัยไปแล้วตอนนี้
“อืม วันนี้อนุญาตให้กินเบียร์” นี่อาจจะเป็นการปลอบแบบผู้ใหญ่ ผมมองแก้วเบียร์พร้อมกับกลืนน้ำลาย
“ดื่มไม่ได้ครับ เดี๋ยวภัทรว่า” แต่ก็ต้องปฏิเสธ
“อ๋อ” ไดจิยิ้มล้อๆ
“แล้วแฟนเธอไปไหน” เขาถามเมื่อเห็นว่าภัทรยังไม่มา
“เห็นแวะเอาบัตรจอดรถไปสแตมป์ครับ เดี๋ยวมา”
“ออร่าความรักนี่มันดีจริงๆ” คนโตกว่าว่าพลางหยิบมือถือขึ้นมากดเรื่อยเปื่อย
“คุณยังเล่นไอ้แอปนั้นอยู่เหรอครับ”
“เล่นสิ ยังไม่มีแฟนเหมือนเธอนี่” ไดจิว่าแกมประชด ซึ่งมันตลกดี
“ผมมีคนหนึ่งน่าสนใจ”
“ปัดมาๆ” เขายื่นมือถือให้ ผมจำได้ว่าอาจารย์กานต์เคยบอกว่าเลิกเล่นแล้ว แถมไอ้แอปนี้มันค้นหาคนที่ต้องการไม่ได้ ในระหว่างที่กำลังคิดว่าจะให้ไลน์ไปดีไหม ผมลองค้นใน Match User แล้วเจอว่ามีคนที่ผมกำลังหาอยู่
“Match แล้วนะไดจิ แต่คุณไม่คุย” ผมบอกพร้อมกับไล่ดู Match User เป็นร้อยของไดจิ แต่ไม่คุยก็เท่านั้น
“ทักเลยๆ” คนต่างชาติที่นับวันเหมือนคนไทยเข้าทุกวันเร่งผม
“เพื่อนเธอเหรอ น่ารักเหมือนเธอไหม”
“น่ารักกว่าผมเยอะครับ” ผมบอกแล้วกดสติกเกอร์ทักทายไปหาอีกคน ได้แต่หวังว่าไอ้แอปนี้คงจะมีอะไรดีๆอยู่บ้าง
TBC.
____________________
Theme track : Passenger - Let Her Go
https://youtu.be/dT4A3rttrs8คู่ของไดจิเป็นสิ่งที่ไม่มีในพล็อตค่ะ แต่เห็นคอมเมนต์นึงพูดถึง
คู่นี้อาจจะทำให้นิยายเรื่องนี้น่ารักขึ้นมากๆ ขอบคุณไอเดียมากๆนะคะ
ขอบคุณสำหรับทุกฟีดแบ็คด้วยนะคะ อ่านแล้วใจฟูมากๆ
แม้ตอนนี้ทีมกันย์ใหญ่จะหมายหัวเราอยู่ก็ตาม 55555555
กอดดดดด