ตัวสำรอง - บทที่ 23 ขอบใจนายมาก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ตัวสำรอง - บทที่ 23 ขอบใจนายมาก  (อ่าน 10330 ครั้ง)

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
อ๊ากกก!!ตรูรอไม่ไหวแล้ววววว เหี้ยยยโคตรลุ้น!!! อย่าว่าแต่คมสันเถอะที่จะรอแข่งใจจดใจจ่อ นี้ก็ลุ้นเชียร์แบบตาตั้งแล้ว นั่งไม่ติด อยากวาร์ปไปเกาะขอบสนามในนิยาย มีความอินเว่อร์อะ จริงๆ 5555 //กลับมาเริ่มแข่งขันกันอีกครั้งแล้วนะ คมสัน vs มะลิ รอวันนี้มา10ตอน ถึงจะเป็นการพบกันแบบซ้อมแข่งก็เถอะ แต่ก็ดีใจ แค่นี้ก็เล่นลุ้นเอาซะหัวใจจะวายอยู่แล้ว ถ้าแข่งจริงจะขนาดไหนวะตรู 5555555 //ขอบอกเลยว่าเป็นนิยายที่แปลกใหม่สำหรับเรา ไม่เคยอ่านวายแนวแข่งวิ่งกรีฑา อ่านถึงตอน 11รวดเดียว เอาจริงเรายังมองไม่เห็นโมเม้นท์วายเลย ตอนแรกที่อ่านก็ตามหาโมเม้นท์นะ แต่พออ่านมาเรื่อยๆ จุดสนใจดันไม่ใช่ความวายแต่เป็นการเชียร์ความพยายามของมะลิ ตอนนี้พระเอกจะเป็นใครนี่ก็เอาเถอะ ไม่ได้สนใจเท่าไร (อันที่จริงคือยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ 5555555) แต่ก็แอบคิดอยู่ว่ามันจะเข้าวายตอนไหนว่ะ ใครจะรักใครตอนไหนไรงี้ 55555 แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการเอาใจช่วยมะลิ อยากรู้มะลิจะไปได้ถึงไหน นั่นหมายถึง เรื่องนี้ทำให้เรากดบุ๊คมาร์คไปเรียบร้อยแล้ว 555 เพราะมันน่าติดตามมากไงละ หึหึ! ^^  สมาชิกชมรม 3 คนกับ 1 ครูฝึกจะไปได้ไกลแค่ไหน แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ!! 555555  //ชอบทุกตัวละครเลย แต่ละคนมีเหตุผลและความเป็นไปในเรื่องราวได้สมเหตุสมผล ทั้งยังบรรยายได้ดี เห็นภาพชัดเจน HD ฉากวิ่ง ฉากอยู่ในสนาม บรรยายเหมือนเราอยู่ข้างสนามเลย สำนวนภาษาดีมาก และเท่าที่อ่าน คำผิดโคตรน้อย เอาจริงเรายังไม่เห็นผิดนะ หรือป่าว?? ไม่แน่ใจ!!อาจจะสนุกมาก อ่านลื่นเลยไม่ได้สนใจ 55555 รู้แต่ว่าผิดน้อยมากอะ ทั้งที่การบรรยายให้ความรู้สึกลึกๆ ดึงอินเนอร์เราออกมาแบบนี้มันยาก แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของไรท์ เอ่อ ไม่ได้พูดเกินไปนะ แต่รู้สึกแบบนี้จริงๆ ^^ //อ่านแล้วอินตามมากรู้สึกตื่นเต้นอยู่ตลอด ว่ามะลิจะเจออะไรบ้าง จะเป็นยังไงกัน อุปสรรคของมะลิก็เริ่มตั้งแต่ตั้งชมรมแล้ว หนทางอีกยาวไกล จะเข้าสู่วายยังไง จะแข่งขันถึงตอนไหน สิ้นสุดเมื่อไหร่ ผลจะเป็นยังไง แต่ที่รู้ๆคือความพยายามของมะลิชนะใจเราไปแล้ว พับผ่า!! ห่านจิก!! เม้นท์ยาวไปไหม เกรงใจไรท์วะ พอก่อน 5555 แต่แบบ เหี้ยเถอะค่ะ ชอบมากกกกกกก สนุกกกก ถูกใจ โคตรลุ้นอ่ะ รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้วค่ะ สู้ๆนะไรท์ ฮึบๆ รออ่านอยู่้เด้อ ถ้าหากว่าเธอนั่นแต่งเก่งอย่างนี้ 55555555  รอแบบใจจดจ่อเลย ดีใจนะที่ได้อ่านนิยายแล้วรอจดจ่อแบบนี้ นานๆเจอที 55555  ลุ้นเหี้ยๆ (ขอหยาบ5555) รอรอรอ 1,500 ระยะเท่าเดิม ความรู้สึกจะเหมือนเดิมไหมตอนวิ่ง คมสัน vs มะลิ vs ใจกล้า vs เสมอ

(ตัวสำรอง - ตอนเห็นชื่อเรื่องก็นึกว่าแนวกิ๊ก ชู้ เมียน้อยไรงี้ คิดไปโน้นเลย 5555555 พอเข้ามาอ่าน อ๋ออออออออ เออดีแล้วที่ไม่เป็นอย่างที่คิด 555555)

รีวิวไม่เก่งแต่ถ้าชอบจริงคือเม้นท์ยาว ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-10-2018 02:12:03 โดย blove »

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
อ่านเรื่องนี้ให้ฟิลเหมือน อ.อดาจิริ มิซึรุ เขียนมากเลย มีความพยายาม ความฝัน พลังของวัยรุ่น
ความรักคือเรื่องรองที่ซัพพอร์ตเนื้อหาหลัก เป็นแค่ความรู้สึกให้ชวนจิ้น แต่อาจไม่เร่าร้อนเหมือนนิยายวายทั่วๆ ไป
มีคนติดตามอ่านแน่ แต่อาจไม่หวือหวา เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……



ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น เหมือนดู จุงโคชิกะ  วนเทปมาดูกัน

ตอนดูจุงนะ เอาใจเชียร์ จนอยากเล่นวอลเลย์เก่งๆ

อ่านน้องมะลิเนี่ย. ก้อทำให้มีใจจะไปฝึกวิ่งนะ

แต่เอาแบบ jogging ไม่ถึงกับวิ่งแข่งอ่ะ เดี๋ยวหายใจไม่ทัน 555

อ่ะนะ. กว่าจะสำเร็จได้ พากเพียรและพยายามอย่างหนัก

เขียนต่อไป สู้เขา @InDefinition


 :a2: :a9: :a14: :a3: :a11: :a1:


 :ped149: :ped149: :ped149: :ped149: :ped149: :ped149: :yeb:


…………


ออฟไลน์ InDefinition

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
บทที่ 12 - ตัดสิน



นักกีฬารอบ 1,500เมตร มารวมตัวเมื่อเสียงผู้คุมข้างสนามเรียกเตรียมความพร้อม คมสันที่เฝ้าคอยการแข่งนี้อย่างใจจดใจจ่อ ก้าวออกมาพร้อมความตื่นเต้นที่ไม่เคยเกิดขึ้นตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา สาเหตุนั้นอาจเป็นเพราะคนตรงหน้านี้ก็ได้ ที่ทำให้เขารู้สึกเช่นนี้ คนตัวเล็กที่ตามหลังไม่เคยห่าง เป็นยิ่งกว่าเงาติดตาม ทุกครั้งที่ออกวิ่งไปพร้อมกัน จะเป็นเขาเองที่ต้องเหนื่อยอ่อน พอหันกลับไปมองครั้งใด ใบหน้าแห่งความมุ่งมั่นจากคนตัวเล็กก็ยังแจ่มชัด มันอยู่ตรงนั้น จ้องจะคว้าชัยไปจากเขาตลอดเวลา --- นั่นแหละมะลิที่คมสันรู้จัก



“ไม่ออมมือให้หรอกนะมะลิ”



“อืม... ทางนี้ก็เหมือนกัน”



บทสนทนาสั้นๆ สิ้นสุดลง เมื่อผู้คุมสนามให้นักกีฬาทุกคนเข้าไปประจำลู่วิ่งของตัวเอง ก่อนเสียงสัญญาณออกตัวจะดังขึ้น พร้อมกันนั้นนักกีฬาทุกคนในสนามก็พุ่งออกไปอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ ด้วยการแข่งระยะนี้ไม่ได้เฟ้นหาผู้ที่เร็วที่สุดในสนาม หากแต่เป็นการทดสอบความอดทนของนักวิ่งบนลู่ ว่าใครจะเป็นคนสุดท้ายที่รักษาแรงกายและแรงใจเพื่อพาตนเข้าสู่เส้นชัยเป็นคนแรก ระยะทางเกือบสี่รอบสนามนั้นสาหัสไม่ใช่น้อยสำหรับการแบกความคาดหวังของตนเพื่อเป็นผู้ชนะ เป็นการวิ่งที่จะพิสูจน์ความสามารถของนักกีฬาเลยก็ว่าได้ เพราะบททดสอบต่อจากนี้ไม่ใช่เพียงการออมแรงเพื่อหวังคว้าชัยในช่วงท้าย แต่การปะทะฝีเท้าระหว่างผู้วิ่งบนลู่สนามตลอดสี่รอบสนามก็เป็นส่วนสำคัญ การโหมกำลังใส่คู่ต่อสู้นั่นไม่ใช่เรื่องดีที่ควรกระทำ ทว่า การปล่อยให้คู่แข่งวิ่งเลยไปจนทิ้งช่วงห่างเกินจะก้าวตามในท้ายเกมก็ไม่เป็นความคิดที่ดีเช่นกัน



บททดสอบที่ผู้แข่งขันต้องเลือกช่วงจังหวะในการขึ้นนำหรือไล่ตามให้แก่ตนเอง เพราะการแข่งนี้กำลังมองหานักกีฬาที่ฉลาดซึ่งสามารถจัดสรรและแบ่งช่วงจังหวะการก้าวที่ดีพอจะส่งตัวเองไปยังเส้นชัย



กฤษมองดูนักกีฬาของตนอย่างเป็นห่วง แม้จะฝึกซ้อมเพื่อการแข่งครั้งนี้มาโดยตลอด แต่ความอ่อนล้าซึ่งสะสมมาตั้งแต่เช้าจะส่งผลกระทบกับพวกเขาหรือไม่ คงไม่อาจคาดเดาได้ ทำได้เพียงภาวนาให้ผ่านพ้นไปด้วยดี หน้าที่ของผู้ฝึกสอนจะจบลงเมื่อส่งนักกีฬาลงสู่สนาม บนลานประลองมีเพียงผู้ท้าชิงที่จะฝ่าฟันอุปสรรคด่านสุดท้ายของตนนั่นคือกำลังและจิตใจที่เข้มแข็งของพวกเขา เริ่มจากเอาชนะตัวเองก่อนที่จะไปประหัตประหารคู่แข่ง กฤษที่อยู่ข้างสนามคงทำได้เพียงส่งแรงใจไปให้ ‘พยายามเข้าทุกคน อย่างพึ่งหมดแรงไปล่ะ’



เป็นผู้ชมคนหนึ่งซึ่งร้องตะโกนจากภายใน



สนามที่ร้อนระอุ นักกีฬาทุกคนเบี่ยงตัวเข้าสู่ลู่วิ่งด้านใน เรียงรายกันเป็นแถวยาว สร้างแนวตามจังหวะของตน หากใครคนใดคนหนึ่งซึ่งอยากท้าทายสนามและแรงกายที่ถูกแดดแผดเผาก็อาจก้าวขึ้นไปเพื่อออกตัวนำคู่แข่งที่เหลือ แต่นั่นเป็นความคิดที่ดีแล้วหรือ คงเป็นวิธีที่ฉลาดหากเขาคนนั้นคว้าชัยไปครอง หรืออาจเป็นเพียงความบ้าบิ่นและโง่เขลาของคนๆ หนึ่งที่ต้องแพ้พ่ายต่อกำลังของตนในท้ายที่สุด บทสรุปจะบอกแก่พวกเขาว่าการกล้าเสี่ยงให้ผลเป็นอย่างไร



เสมอที่อยู่กลางแถวค่อยๆ ถอยร่นลงไปทีละเล็กทีละน้อย กำลังกายของเขาลดลงทุกขณะ การวิ่งระยะกลางเช่นนี้ไม่ใช่ทางถนัดเลย เขาไม่อาจห้ำหั่นด้วยแรงกายเหมือนดั่งการวิ่งระยะสั้น การค่อยๆ ถนอมแรงเอาไว้เพื่อใช้ให้ครบตลอดรอบการแข่งจึงเป็นทางออกเดียวของเขา แม้นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยก็ตาม --- เขาตกไปอยู่หางแถว ‘อดทนไว้ขาคู่นี้ ขอแค่ครบสี่รอบก็ยังดี’ คำวิงวอนที่ส่งให้ร่างของตนอดทนจนจบเกมนี้



ส่วนคมสันยังยึดครองตำแหน่งบริเวณหัวแถวเอาไว้ได้ตามที่ธนัฐคาดการณ์ ถึงไม่ทิ้งห่างคู่แข่งต่างโรงเรียนได้อย่างขาดลอย ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องตำหนิในระยะนี้ เพราะอย่างที่ว่ามา สนามนี้ไม่ต้องการคนที่เร็วที่สุด อีกทั้งคู่แข่งที่ตามหลังนักกีฬาตัวเต็ง ก็ยังเป็นผู้คว้าชัยไปในรายการที่ผ่านมา การถนอมแรงและรักษาระดับได้อย่างมั่นคง จึงเป็นทางเลือกที่ฉลาดของคมสัน สมกับเป็นหมายเลขหนึ่งในการวิ่งระยะนี้ ที่แม้แต่รุ่นพี่หลายคนยังเทียบไม่ติด ความสามารถนี้เองทำให้เขากลายเป็นผู้นำของชั้นปีอย่างไม่ต้องสงสัย



‘ไม่เห็นเด็กที่ชื่อมะลิจะโดดเด่นอะไรเลย ดูอย่างตอนนี้ท่าจะหมดแรงไปเสียแล้ว’ ธนัฐหันไปวิเคราะห์คู่แข่งที่ยังแสดงความสามารถได้ต่ำกว่ามาตราของนักวิ่งในชั้นปีที่ลงสนามร่วมด้วย ตั้งแต่การแข่งที่ผ่านมาก็ยังไม่โดดเด่นหรือแสดงให้เห็นว่ามีดีอย่างที่คมสันเคยว่าไว้



มะลิยังก้าวต่อไปอย่างมั่นคง รักษาความเร็วของตนไว้ ขณะนี้อยู่ตรงกลางแถวซึ่งทั้งหัวท้ายมีนักกีฬาตัวสูงปิดล้อม แต่นั่นไม่สร้างความหวาดหวั่นให้เขาแม้แต่น้อย สองรอบสนามผ่านไปโดยยังคุมจังหวะของตนเอาไว้ได้ แม้เหนื่อยอ่อนแต่ก็ยังก้าวต่อเรื่อยๆ กระทั่งเข้าสู่รอบที่สาม คู่แข่งบางคนเริ่มทนความอ่อนล้าที่เข้าเล่นงานไม่ไหว ลดความเร็วลงจนบางรายตกไปอยู่ท้ายแถว มะลิไม่ได้สนใจคนเหล่านั้น แถมยังเพิ่มความเร็วเข้าไปเพื่อสลัดให้พ้นกลุ่มกลาง เขาค่อยๆ ไต่ระดับความเร็วของตนขึ้นไปทีละขั้น ซึ่งเพียงพอต่อการสลับตำแหน่ง แม้ยังไม่ขึ้นเป็นกลุ่มนำ ทว่า ก็หลุดจากกลุ่มตามที่รั้งเขาอยู่ขณะนี้ไปได้ พื้นที่โล่งซึ่งเปิดกว้างจากการเปลี่ยนตำแหน่ง ช่วยทำให้จังหวะการวิ่งผ่อนคลายยิ่งขึ้น มะลิอยู่หลังกลุ่มนำที่ประกอบด้วยคมสันและใจกล้าเพียงไม่กี่ช่วงตัว



ธนัฐซึ่งง่วนอยู่กับสถิติของนักกีฬาจากรอบที่แล้ว ทั้งยังบันทึกผลนักกีฬาของตนในรอบนี้ เพื่อนำไปปรับปรุงการฝึก เงยหน้าขึ้นพร้อมกวาดตามองการแข่งขันซึ่งดำเนินอยู่เพียงครู่ ก่อนก้มลงไปจัดการเอกสารต่อตามปกติ



ทว่า มีบางอย่างที่ไม่ปกติ อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปคลายสงสัยนั้น ภาพการแข่งในสนามซึ่งนักกีฬาขอเขายังเป็นผู้นำอยู่ ‘ก็ปกติ’ ส่วนที่ตามหลังอยู่ คือนักกีฬาคู่แข่ง อดีตเหรียญเงินระดับจังหวัด ‘ก็ยังปกติ แล้วอะไรที่กำลังกวนใจอยู่...’



ก่อนความคิดนั้นจะคลี่คลาย นักกีฬากลุ่มผู้นำก็วิ่งผ่านหน้าเขาไป พร้อมกับภาพของเด็กชายร่างเล็ก ที่ดูอ่อนแอที่สุดเมื่อลงสู่สนาม ซึ่งสู้กับคนตัวโตทั้งหลาย ภาพของเด็กคนนั้นที่ฉีกตัวจากลู่วิ่งหนึ่งสู่เส้นทางว่างโล่งในลู่ที่สอง ก่อนจะเร่งฝีเท้าคู่นั้นอย่างฉับพลัน เปลี่ยนตำแหน่งจากอันดับที่หกสู่อันดับห้า  สี่  สาม และค่อยๆ เข้าประชิดคู่แข่งจากโรงเรียนเดียวกัน ใจกล้าซึ่งเป็นอันดับสองรองจากคมสันถูกประกบ



‘เดี๋ยวก็หมดแรงกลางคันหรอก’ อารามตกตะลึงเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นความเห็นใจทันทีเมื่อเห็นเด็กชายมะลิกำลังเร่งรีบอย่างผิดสังเกต เพิ่งจะเข้ารอบที่สาม เร่งความเร็วขนาดนั้นอีกไม่นานก็จะค่อยๆ ตกอันดับลงไป ใช่ต้องถอยร่นลงไป ใช่สิ มันต้องเป็นแบบนั้นไม่ใช่หรือ ก็โหมแรงเสียจนเกินตัวเกินขนาด เป็นใครก็ต้องหมดแรงบ้างล่ะ แถมคู่แข่งคนอื่น ๆ ก็เริ่มเร่งฝีเท้าตามด้วย กลายเป็นว่าไม่ใช่แค่คนตัวเล็กที่เพิ่มความเร็วขึ้น คนอื่นยังโหนกระแสไปพร้อมกัน ลำพังแค่จะเปลี่ยนอันดับที่ว่ายากแล้ว เจอแบบนี้เข้าไปคงต้องผลาญกำลังตัวเองไม่ใช่น้อย ใช่ เด็กคนนั้นต้องหมดแรงเพราะทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นลงไป มันต้องเป็นแบบนั้นสิ... ‘แล้วทำไมยังวิ่งอยู่ได้อีกตั้งครึ่งรอบ แถมขึ้นมาอยู่ข้างหลังคมสันแบบนั้นได้ยังไง บ้าไปแล้ว’ ธนัฐวางแฟ้มเอกสารลงไปบนเก้าอี้ตัวยาว เพื่อกลับมาไขข้อข้องใจของตนในการแข่งนี้ ที่มีเรื่องไม่ปกติเกิดขึ้น



คมสันรักษาระดับของตนโดยไม่เร่งความเร็ว เขาคิดว่าแค่นี้คงเพียงพอสำหรับเส้นชัยเพียงไม่กี่อึดใจข้างหน้า แม้จะมีคู่แข่งต่างโรงเรียนตามหลังอยู่สองสามก้าวก็ตาม แต่เขายังพอมีแรงเหลือเฟือไว้ต่อกรกับเรื่องไม่คาดฝัน



จนเข้าสู่ช่วงปลายของรอบที่สาม ขาคู่ยาวยังคงก้าวออกไปอย่างมั่นคง ไม่รีบเร่ง ไม่ผ่อนแรง รักษาความเร็วมาตรฐานเอาไว้อย่างมั่นเหมาะ เพียงแต่... เสียงฝีเท้าถี่รัวที่ใกล้เข้ามา มันต่างไปจากเดิม ไม่ใช่ของคนที่ตามหลังมาตลอดอย่างแน่นอน ‘แปลกไป’ คู่แข่งที่ประกบหลังทั้งสามรอบสนาม คนที่ตามประกบเขามาไม่ได้มีจังหวะแบบนี้ ‘เกิดอะไรขึ้น จะสู้งั้นหรือ’ คิดได้ดังนั้นเขาจึงค่อยๆ เร่งฝีเท้าของตนขึ้นอย่างท้าทาย และทิ้งห่างไปทีละก้าวทีละก้าว



‘ไม่’ เสียงฝีเท้าแปลก ๆ นั่น ยังตามหลังอยู่ไม่ห่าง ตามมาติด ๆ เลยล่ะ เขาเร่งความเร็วขึ้นอีกครั้ง โหมแรงหนักขึ้น คิดว่าสลัดให้หลุดไปเสียดีกว่า เพราะเสียงนั้นไม่น่าไว้ใจเอาเลย และคาดว่าครั้งนี้คงหนีพ้นจากความพะว้าพะวังซึ่งตามหลังมา



แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น ‘ใคร’ คู่แข่งยังไม่ยอมแพ้ คนข้างหลังกำลังเข้าประชิดอย่างท้าทาย ตลอดครึ่งสนามในรอบสุดท้ายนี้ ใครสักคนซึ่งตามติดเขามาไม่ห่าง ไม่ว่าจะพยายามเร่งฝีเท้าสักเท่าไหร่ ‘มะลิ’ วูบหนึ่งพาให้คมสันคิดไปถึงเพื่อนสนิท คนที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อออกตัว คน ๆ นั้นต้องเป็น...



“มะลิ” เมื่อหันกลับไปภาพของนักกีฬาที่เร่งฝีเท้าขึ้นมาประชิด ภาพของเด็กชายตัวเล็กที่แสนคุ้นเคยคนนั้น ใกล้เสียใจน่าหวาดหวั่น แม้อยากทิ้งห่างออกไปเท่าไหร่ก็ตาม เพื่อนคนนั้นก็ไม่เคยปล่อยให้ใครนำหน้าได้เกินหนึ่งช่วงตัว นั่นแหละมะลิที่เขารู้จัก



เป็นอีกครั้งที่ธนัฐแทบนั่งไม่ติด เพราะสิ่งที่ไม่คาดคิดปรากฏตรงหน้าเขาอย่างจัง นักกีฬาของตนกำลังถูกไล่จี้โดยเด็กคนนั้น จากกลางแถวสู่การเป็นสองผู้นำ เบียดเพื่อนจากโรงเรียนเดียวกันลงไปอยู่อันดับสาม ไม่คิดจะผ่อนแรงเลยสักนิด ไม่คิดจะกักเก็บ ภาพที่เขาเห็นคือนักกีฬาที่กำลังเทแรงกายทั้งหมดที่มีเพื่อเข้าสู่เส้นชัย ไม่ใช่แค่นั้น คมสันซึ่งนำหน้าอยู่ก็กำลังเร่งฝีเท้าจนเกินระดับ อดเป็นห่วงไม่ได้เพราะคนที่ไล่หลังมาบีบบังคับให้นักกีฬาของตนฝืนใช้แรงเกินตัว



‘นี่ยังไม่หลุดอีกหรือ’ คนสันรู้ตัวดีว่าที่ทำอยู่ตอนนี้ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายและเรี่ยวแรงของตนเลย แต่ก็หยุดไม่ได้ เขาจะผ่อนแรงเพื่อรักษาสภาพให้คงที่แบบที่นักกีฬาปกติจะใช้เป็นทางเลือกในสถานการณ์เช่นนั้นไม่ได้ นั่นเพราะมะลิ เป็นมะลิที่คนนอกไม่รู้จัก คน ๆ นี้ไม่อาจใช้ตรรกะแบบทั่วไปได้ ไม่เช่นนั้นคนข้างหลังต้องขึ้นนำแทนเขาเป็นแน่ แถมจะฉกเส้นชัยไปจากเขาอย่างไร้ปราณี ความกดดันที่เข้าครอบงำบรรยากาศในสนามกำลังกดทับคมสัน เรี่ยวแรงกำลังหดหายไปจากการเร่งฝีเท้าเกินจำเป็น แต่จะโทษเขาก็ไม่ได้ เมื่อความจำเป็นนั้นต้องถูกเอามาใช้ตอนนี้เสียแล้ว ไม่เช่นนั้น...



ขณะที่คมสันใคร่ครวญถึงการใช้กำลังเกินขีดจำกัดของตน คนตัวเล็กก็ขึ้นมาเทียบเคียงในลู่วิ่งถัดไปเสียแล้ว ไม่เพียงแต่คมสันที่ตกใจกับเหตุการณ์นี้ กระทั่งนักกีฬาและผู้ฝึกสอนข้างสนามก็ต่างตะลึงงันไปกับภาพที่เห็น นักวิ่งที่ไม่ได้ลงแข่ง ผู้ชมรอบทิศ ที่หันมาให้ความสนใจกับการแข่งขันตรงหน้า ทั้งที่ก่อนนั้นกำลังง่วนอยู่กับการคลายกล้ามเนื้อ หรือพูดคุยหยอกล้อกับเพื่อนข้างกาย บ้างก็เตรียมพร้อมสำหรับฝึกซ้อมหลังจบรายการกระชับมิตร



แต่บัดนี้ พวกเขาเหล่านั้นกำลังลุกขึ้นยืนอย่างเต็มความสูง วิ่งออกมาจนติดขอบสนาม หรือนิ่งงันกับภาพที่เห็น จ้องมองการแข่งขันในรอบสุดท้ายอย่างไม่กะพริบตา



ร่างของเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งความสูงไม่อาจเทียบเคียงได้กับนักกีฬาคนอื่นในสนาม เด็กตัวเล็กคนนั้นกำลังขนาบข้างและเคียงคู่มากับนักวิ่งอันดับหนึ่งของรุ่น หรือแม้แต่ของจังหวัด คนที่ไม่มีใครนึกฝันว่าจะก้าวขึ้นมาสู่กลุ่มผู้นำได้ กำลังขับเคี่ยวกันในช่วงสุดท้ายของการแข่ง



ทุกคนต่างเชื่ออย่างมั่นเหมาะว่าคมสันจะได้รับชัยชนะไปอย่างขาดลอย หรืออย่างน้อยก็คิดว่าคมสันจะสามารถขึ้นนำเดี่ยวอย่างไร้คู่แข่งในช่วงท้ายเช่นนี้ ภาพของเพื่อนคนเก่งในวันที่คว้าชัยจากรุ่นพี่ปีโตยังติดตรึงใจพวกเขาอยู่ไม่จืดจาง คมสันเป็นหนึ่งในคู่แข่งที่หลายคนอยากก้าวข้าม แต่อีกทางหนึ่งเขาก็เป็นแรงผลักดันที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนในรุ่นเดียวกัน



กฤษที่จับตามองลูกศิษย์ตัวน้อยของเขาตั้งแต่ช่วงต้นจนถึงบัดนี้ ภาพทรงจำที่เขาเคยได้รับมาจากการวิ่งของมะลิในวันนั้นกำลังซ้อนทับกับการแข่งขันนี้ เพียงแต่ดุเดือดกว่ากันมาก ชนิดที่ไม่ว่าใครจะคว้าชัยไปครอง ก็คงสร้างสถิติใหม่ให้แก่ตนเองในการวิ่งระยะนี้ไปอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ในขณะนี้มันเกินระดับปกติของนักวิ่งรุ่นเดียวกันไปเสียแล้ว หรืออาจจะสร้างสถิติสนามขึ้นมาเลยก็คงไม่แปลก



เหลือเพียงร้อยเมตรสุดท้ายที่รอคอยทั้งคู่อยู่ คมสันก้าวยาวเพื่อหวังจะขึ้นนำอย่างเหนือกว่า ส่วนขาคู่เล็กนั้นกลับถี่รัวเพื่อเทียบเคียงคนข้างกาย ไม่มีใครที่จะเก็บหอมรอมริบเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่น้อยนิดเอาไว้ในวินาทีชี้ขาดเช่นนี้อีกแล้ว ทั้งคู่ต่างโหมทั้งหมดที่มีไปยังเท้าทั้งสองข้างอย่างสุดความสามารถ



คมสันก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง เขาไม่เคยฝืนร่างกายถึงเพียงนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเร่งฝีเท้าเท่าไหร่ก็ไม่พอให้ข้ามพ้นคนตัวเล็กไปได้ ความเหนื่อยล้าซึ่งสะสมมาตลอดนับตั้งแต่รอบแรก ความร้อนระอุจากภายในคล้ายจะระเบิดออกมา สายตากำลังพร่ามัว สมองที่ประมวลผลภาพตรงหน้าค่อยๆ พร่าเลือนลงทุกขณะ เหลือไว้เพียงสัญชาตญาณที่คอยชี้นำพวกเขาอยู่ในขณะนี้



มะลิก็ไม่ต่างกัน แม้พยายามก้าวขึ้นไปให้พ้นขาคู่ยาว แต่ก็ไม่สำเร็จเสียที ฝีเท้าของเขาเร่งเร็วรัวจนถึงขีดจำกัด ร่างกายที่ล้ามาจากการแข่งทั้งสองรายการค่อย ๆ แสดงผล จนตอนนี้เขาแทบไม่รู้สึกตัวว่ากำลังวิ่งหรือกำลังหยุดนิ่ง เพียงแต่ภาพเส้นชัยตรงหน้านั้นใกล้เข้ามาทุกที ใกล้เข้ามา ใกล้เข้า ใกล้เข้า จนกระทั่งวินาทีสุดท้ายที่เขาพุ่งผ่านไป



ภาพของเด็กหนุ่มทั้งสองผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเบียดแซงตั้งแต่เข้าสู่รอบสุดท้าย ประกบติดประชิดตัวจนยากจะคาดเดาผล ทุกลมหายใจในสนามหยุดนิ่งลงเมื่อเข้าสู่เสี้ยววินาทีนั้น ขาทั้งสองคู่ก้าวผ่านเส้นสีขาวเหยียดตรงบนพื้นสนาม จุดสิ้นสุดของการแข่งขัน และเป็นเส้นชัยของผู้ชนะ --- ทั้งคู่ขับเคี่ยวกันมาจนกระทั่งก้าวพ้นเส้นชัย ที่แทบจะพร้อมเพรียง



เสี้ยววินาทีนั้น คมสันก้าวผ่านไปเป็นคนแรก ตามมาด้วยขาคู่เล็กของมะลิในเสี้ยววินาทีต่อมา ผลการแข่งขันครั้งนี้สร้างสถิติใหม่ให้แก่สนามแห่งนี้ การแข่งขันระยะ 1,500 เมตร ถูกทำลายสถิติสนามโดยคมสัน



กฤษเข้าไปรับร่างเล็กซึ่งกำลังพุ่งลงพื้นสนามด้วยความเร็ว เขารับลูกศิษย์ของตนไว้ได้ทันท่วงที จ้องมองใบหน้าของเด็กน้อยที่มักจะทำอะไรเกินตัวทุกครั้งที่ลงสนาม ‘ผมมีเรื่องอยากจะปรึกษาครับ --- ผมอยากเก็บแรงในรอบ 800 เมตรไว้ได้ไหมครับ ผม... ผมอยากชนะในรอบต่อไป ผมรู้ตัวว่าถึงจะเก็บแรงก็อาจจะไม่ชนะ แต่...’ ‘ตามใจเธอ ครูอนุญาต’



เขามองสถิติที่ถูกประกาศบนจอใหญ่ฝั่งตรงข้าม สถิติสนามถูกทำลายลงด้วยนักกีฬาทีมเหย้า แต่นั้นไม่ได้ดึงดูดเขาเท่าลำดับถัดมา ‘ห่างกันแค่ครึ่งวิ’ ก่อนหันกลับมามองใบหน้าอ่อนล้าของคนในอ้อมแขน



ไม่ใช่แค่กฤษที่รับรู้ถึงความสามารถของมะลิ ธนัฐก็กำลังจ้องมองจอใหญ่อย่างไม่ละสายตาเช่นกัน ‘แข่งสามรายการติด ไม่ชนะสักรายการ แต่กลับทำเวลาห่างจากอันดับหนึ่งของรุ่นเพียงแค่เสี้ยววินาที เป็นคนยังไงกันแน่... นี่น่ะหรือเด็กที่คมสันบอกว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว’



มีคนเคยกล่าวไว้ว่า การแข่งขันกีฬา ตัดสินแพ้ชนะตั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่ง หมายความว่า นักกีฬาคนไหนหรือทีมใดเตรียมความพร้อมได้มากกว่าคู่แข่ง ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง จนบางที เพียงความพร้อมก็อาจนับว่าเป็นชัยชนะตั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่ง การพลิกเกมในสนามไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยนัก ฉะนั้น สิ่งสำคัญของการแข่งขันคือการเตรียมตัว ซึ่งครั้งนี้ทีมของกฤษยังเตรียมมาไม่เพียงพอ ต้องสะสมทุนของนักกีฬาจากการฝึกซ้อมให้มากยิ่งขึ้น



ส่วนธนัฐนั้น แม้ทีมของตนจะเรียกได้ว่าเพียบพร้อมที่สุดในบรรดาชมรมกรีฑาจากทุกโรงเรียนในจังหวัด หรืออาจกินความไปถึงระดับประเทศ แต่ผลที่ปรากฏบนหน้าจอก็บอกชัดแล้วว่า นั่นยังไม่พอสำหรับต่อกรสัตว์ประหลาด ซึ่งหลบซ้อนอยู่ทุกหลืบมุม และพร้อมออกมาประกาศศักดาให้กับทีมใหญ่อย่างเขาทุกเมื่อ ยังไงก็ต้องเตรียมรับมือไว้ ไม่เช่นนั้นก็คงจะเป็นอย่างวันนี้ ที่มีสัตว์ประหลาดตัวเล็กซึ่งเกือบทำลายนักกีฬาคนสำคัญของเขาไป






#อ่านตอนพิเศษได้ที่
(1) www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b9247b5e3ef4900101120e2
(2) https://www.readawrite.com/a/befadb43ba9c2c20826468f72f3ed7b2
(3) http://www.tunwalai.com/story/251592/ตัวสำรอง

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-11-2018 19:54:19 โดย InDefinition »

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เป็นตอนที่อ่านเหนื่อยมากเพราะลุ้นไปด้วย 555
ขาดกันแค่ครึ่งวิเอง  :ling1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
สนุกมากกกกกก อยากอ่านต่อยาวๆเลย   o13 o13

ออฟไลน์ reborn23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
 :serius2: แค่ครึ่งวิ  แล้ว มะลิ จะทำไงต่อไป   :hao5:
เป็นเรื่องที่ชวนให้ติดตามกับทุกตัวละคร  มันจะเหมือนที่เราคิดไหม ลุ้นมากมาย หานิยายวายแนวกีฬาแบบนี้ยาก ที่ยากกว่านักเขียน ที่เขียนบรรยายอารมณ์ ความรู้สึก ออกมาได้ลื่นไหลอ่านแล้วมันมีความรู้สึกร่วมด้วยทั้งความตื่นเต้น ยินดี  ความเบื่อ และชวนให้ลุ้นว่าจะเป็นอย่างไงต่อไป รอติดตามอ่านทุกช่องทาง  :hao3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-10-2018 19:20:53 โดย reborn23 »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
สนุกมาก
ชอบมะลิ

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
อ่านไปลุ้นไป เหมือนตัวเองเกาะอยู่ข้างสนาม สนุกมากๆๆ ครับ มาต่อไวๆๆน๊าาาา

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
อ่านแล้วลุ้นมาก แต่ชื่อเรื่องว่า ตัวสำรอง
มะลิจะมีวันสมหวังไหม หรือต้องย้ายไปวิ่งอย่างอื่นแทน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
เฮอออออ!! พูววว์~~~ลุ้นนจนลืมหายใจ แข่งจบหายใจโล่งเลย 55555 โว้ยยยยแค่ครึ่งวิอะครึ่งวิ โห้ยยย แอบเสียดายเล็กน้อย แต่ถึงจะอย่างนั้น คิดว่าผลเป็นที่น่าพอใจ ออกมาแบบนี้ อย่างว่าแข่งมาแล้วสามรอบ ตัดกำลังไป แล้วก็ด้วยความที่วิ่งแบบลู่อย่างดี เราฝึกวิ่งตามที่มี อาจจะยังไม่คล่องบ้าง ไม่เป็นไรนะมะลิ แพ้แค่ครึ่งวิเท่านี้ก็ประกาศให้ใครๆรู้แล้วว่า อย่ามาประมาทคนอย่างข้า 55555 แจ้งเกิดได้เลยทีเดียว จากนี้ ฝั่งนั้นคงซ้อมหนักกันแล้วหละถ้าจะมีคู่แข่งที่ดูแค่ตัวไม่ได้ แต่ข้างในใจนั้นใหญ่กว่าอะไร กลับไปพักให้ดีขึ้นแล้วเริ่มซ้อมใหม่นะ ซ้อมแข่งครั้งนี้เราเองก็ได้รู้ตัวเองด้วย บกพร่องตกไหน ต้องเพิ่มสถิติยังไง ถือว่าเป็นบทเรียนรอการแข่งครั้งต่อไป เอาใจช่วยทุกคน อย่างน้อยก็ทำให้รู้กันและกันแล้วว่าใครอยู่โรงเรียนไหน ชวนมาซ้อมด้วยกันสิคมสัน กล้าปะละ 5555555 สนุกกกกก ลุ้นนนนสุด รอติดตามตอนต่อไปเลยค่ะ

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
 :mew4:ชอบๆๆๆๆๆไ  ติดตามๆๆๆๆๆๆ รอๆๆๆตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ Mynun

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
สนุกกก ได้โปรดดด มาต่ออีกกกก  :z13:

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
มารอ   รอออออ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
สนุกมากๆ ครับ เขียนได้ดีจริงๆ ไม่เคยอ่านนิยายหรือแม้แต่การ์ตูนที่เกี่ยวกับกีฬาวิ่งมาก่อน ทีแรกคิดว่าคงจะน่าเบื่อด้วยซ้ำ เพราะแค่วิ่งๆ มันไม่น่าจะเจียนอะไรได้มากมาย แต่พออ่านแล้วกลับตื่นเต้นน่าติดตามมากๆ อารมณ์วัยรุ่นที่ทุ่มเทเพื่อความฝันมาเต็ม ขนาดยังไม่มีความรักมาเกี่ยวข้องยังสนุกขนาดนี้ ติดตามต่อกันไปยาวๆ ครับ

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
วันนี้ ก้มารอนะ :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ InDefinition

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
​บทที่ 13 - พักผ่อน​



ทิวทัศน์สองข้างทางพลิ้วไหวผ่านหน้าไปอย่างไร้ความหมาย มะลิจ้องมองไปอย่างเลื่อนลอย มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ เครื่องปรับอากาศ และลมหายใจเท่านั้นที่เคลื่อนไหวอยู่ภายใน --- ความเร็วของรถหรือดวงอาทิตย์กันแน่ ที่จะเคลื่อนผ่านไปสู่จุดหมายก่อนกัน อัสดงปลายขอบฟ้ากับถนนทอดยาวจึงเป็นลู่วิ่งแห่งชีวิตที่จะพิสูจน์คำตอบของข้อสงสัยนั้น กระนั้นก็ตาม แพ้ชนะคงอาจไม่สำคัญต่อใครในรถคันนี้เลย เพราะความพ่ายแพ้ที่พึ่งได้รับมาต่างหากที่ยังแจ่มชัดอยู่ในภาพคิด



อย่างน้อยมะลิก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นหนึ่งในคนซึ่งถูกภาพจำฉายผ่านม่านตาที่กำลังทอดมองไปยังทิวทัศน์มืดหม่น



กฤษปล่อยพวกเขาพักผ่อนโดยพยายามไม่ให้เสียงใดเข้ารบกวนห้วงนิทราจากความอ่อนล้า แม้เพียงเสียงเพลงซึ่งเคยขับกล่อมตลอดขามา ยังถูกสงวนไว้ ให้เสียงเครื่องยนต์อยู่เป็นเพื่อนตลอดทางขากลับ



“ไม่นอนเหรอมะลิ วิ่งตั้งขนาดนั้นครูนึกว่าจะสลบไปแล้วเสียอีก” เสียงของกฤษดังขึ้น เรียกความสนใจจากเด็กชายผู้ตกอยู่ในภวังค์ให้หันกลับมาสนใจรอบข้างอีกครั้ง



“นอนจนพอแล้วครับ” เป็นความจริงที่คนถามรู้อยู่แก่ใจ เพราะตั้งแต่จบรายการสุดท้าย มะลิก็หลับยาวนับชั่วโมง เป็นหน้าที่ของกฤษซึ่งต้องคลายกล้ามเนื้อให้นักกีฬาที่ยังไม่รู้สึกตัว จำต้องลาธนัฐอย่างไม่มีพิธีรีตองก่อนพากันกลับ



“นั่นสินะ” เมื่อไม่มีคำถามใดจากฝั่งอาจารย์ที่ปรึกษา มะลิก็กลับมาสนใจทิวทัศน์เหล่านั้นอีกครั้ง ซึ่งแท้จริงแล้วอาจเรียกว่าสนใจได้ไม่เต็มปากนัก เพราะสิ่งที่วนเวียนอยู่และรบกวนจิตใจเขาอยู่ขณะนี้ ไม่พ้นการแข่งที่เพิ่งผ่านไป ความรู้สึกซึ่งยากจะจัดการนี้คืออะไรกันแน่มะลิก็ไม่อาจทราบ จะเรียกว่าเสียใจก็คงไม่ใช่ น้อยใจหรือ ก็เปล่า ‘เจ็บใจ’ นี่ต่างหากที่เขากำลังรู้สึก



สุดท้ายมะลิก็ไม่สามารถเอาชนะได้แม้แต่รายการเดียว ถึงรอบสุดท้ายจะเรียกเสียงชื่นชมจากอาจารย์กฤษและเพื่อนร่วมทีมของตนได้ แต่เขากลับไม่รู้สึกยินดีกับความรู้สึกนั้น เพราะผลที่ออกมาก็คือเขาแพ้ หากนั่นเป็นการแข่งขันจริง คงไม่ต่างอะไรกับทุกครั้งที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งอย่างคมสัน เขาไม่เคยเอาชนะได้เลย









ทิวทัศน์สองข้างทางเริ่มมืดลงทีละนิด พร้อมกับเวลาที่ล่วงเลยยามสนธยา ภาพเบื้องหน้าพลันมืดสนิท มีเพียงแสงจากดวงไฟส่องสว่างหน้ารถที่คอยนำทาง ระยะทางยาวนานเสียจนเด็กสองคนซึ่งเลือกจะพักผ่อนตลอดทางที่ผ่านมาลุกขึ้นสอดส่องแวดล้อมตรงหน้าเพื่อให้รู้ความเป็นไป --- การเดินทางยังไม่สิ้นสุด เงามืดเลื่อนผ่านไปตามรายทาง เสียงเพลง เสียงพูดคุย และเสียงใดๆ ก็กลับมา ทำลายความสงบภายในห้องโดยสารลงสิ้น



“ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่มะลิ” ใจกล้าถามออกมาเมื่อเห็นคนตัวเล็กซึ่งดูมีสติที่สุดในบรรดาสมาชิกทั้งสาม



“ไม่ได้นอนเลยต่างหาก แค่ในสนามก็มากพอแล้วล่ะ”



“ฮาฮาฮา ก็ว่างั้น เล่นทุ่มสุดตัวเสียขนาดนั้น เป็นใครก็สลบทั้งนั้นแหละ”



“แล้วใจกล้าล่ะเป็นไงบ้าง” มะลิถามไถ่เพื่อนร่วมทีมกลับ เพราะตั้งแต่เสร็จการแข่งขันก็สลบไป ไม่ได้ร่ำลาหรือขอบคุณใครเลย รู้ตัวอีกทีก็อยู่บนรถคันนี้แล้ว



“สบายมาก เจอแบบนี้ค่อนข้างบ่อยเลยชินไปแล้วล่ะ ว่าแต่นายนี่ไม่ใช่เล่นๆ นะ เป็นเพื่อนกับนักวิ่งระดับจังหวัดไม่พอ ยังไปวิ่งเบียดเขาจนบีบให้ฝ่ายนั้นทำลายสถิติสนาม”



“ไม่หรอก ยังไงก็แพ้” นั่นคือความจริงที่มะลิต้องทำใจยอมมันให้ได้



“บ้าหรือเปล่าวิ่งตั้งสามรอบ ได้แค่นั้นไม่ต่างอะไรกับชนะหรอก อย่าคิดมาก”ใจกล้าตอบกลับเร็วพลันเมื่อเห็นหน้าสลดของคนตัวเล็ก จึงรีบแก้สถานการณ์ แต่ก็ดูจะไม่เป็นผลเท่าไหร่



“อย่างน้อยนายก็วิ่งนำพวกฉันไปได้อย่างขาดลอย แค่คิดก็อยากไปซ้อมเสียตอนนี้เลย แพ้ให้นายที่ตัวเท่านี้เนี่ย ฮาฮาฮา” ประโยคที่พึ่งเอ่ยไป เขาไม่ได้พยายามปลอบใจหรือให้กำลังใจอีกฝ่ายแต่อย่างใด เพราะคิดว่าทำไปก็คงไม่เป็นผล เพียงแค่พูดไปตามความรู้สึกและความจริงใจ



“หิวข้าวจัง” เป็นเสมอที่ร้องออกมาอย่างโอดครวญ ขัดบทสนทนาของทั้งคู่ ก็ตั้งแต่รายการสุดท้ายจบลง สิ่งที่ตกถึงท้องก็มีแค่เกลือแร่และน้ำเปล่า ข้าวสักเม็ดก็ยังไม่ได้แตะ



“อืม...นั่นสิ งั้นแวะร้านแถวนี้ก่อนไหม ดึกขนาดนี้ที่บ้านพวกเธอคงทานข้าวกันไปแล้วล่ะ”กฤษนั่งเงียบมาครู่ใหญ่ เมื่อเห็นสภาพของลูกศิษย์แต่ละคน จึงอดไม่ได้ที่จะออกปากชวน กอปรกับสภาพของตัวเขาเองก็ไม่ต่างกัน



“ครับ” สามเสียงร้องออกมาอย่างพร้อมเพรียง จนอดยิ้มให้กับมุมนี้ของทั้งสามไม่ได้ เขาสอดส่องมองหาร้านอาหารข้างหน้าอย่างไม่เร่งรีบ ค่อยๆ ชะลอความเร็ว ก่อนหยุดลงหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งกลางย่านชุมชนเล็กๆ แวะเติมพลังให้แก่ร่างกายและถือเป็นการเลี้ยงฉลองให้กับลูกศิษย์ของเขาไปในตัว



รางวัลของความพยายามที่แสดงให้เขาเห็น เมื่อคิดถึงความสำเร็จซึ่งได้รับในวันนี้ อดไม่ได้ที่จะคิดกลับไปถึงวันที่มีเด็กตัวเล็กคนหนึ่งเข้ามาถามไถ่ถึงชมรมกีฬาซึ่งไม่เหมาะกับเจ้าตัวที่สุด เด็กคนนั้นอยากก่อตั้งชมรม ในครั้งนั้นเขาไม่แม้จะคิดเลยว่า เจ้าตัวจะสามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้ จุดที่ยืนอยู่เทียบเคียงนักกีฬาระดับจังหวัด และการที่เด็กตัวเล็กคนหนึ่งจะสามารถชักจูงผู้คนรอบกายให้หันกลับมาสนใจตัวเอง พาเพื่อนพ้องให้ก้าวข้ามอุปสรรคไปด้วยกัน ถึงจะดูเหลือเชื่อ แต่ก็เป็นเรื่องที่ประจักษ์ชัดอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ชมรมกรีฑาที่มีสมาชิกเพียงสามคนนี้ จะเป็นอย่างไรต่อ ลำพังเขาคงไม่อาจคาดเดาได้



เมื่ออาหารมื้อดึกจบลง ทั้งสี่ก็กลับเข้ามาภายรถอีกครั้ง มุ่งหน้าสู่ภูมิลำเนาของพวกตน ระยะทางร่นลงเรื่อยๆ ภาพอันคุ้นเคยของชุมชนปรากฏให้เห็นทีละนิด ก่อนจอดเทียบลงหน้าบ้านหลังโตของใจกล้า บ้านอีกหลังของครอบครัวใหญ่ ที่ส่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมาฝากไว้กับตายาย ใจกล้ากล่าวขอบคุณและอำลาเป็นคนแรก ตามด้วยบ้านหลังไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่กลับน่าอยู่ของมะลิ ที่คุณแม่ออกมารับกับตัว พร้อมขอโทษขอโพย และขอบคุณเป็นการใหญ่สำหรับภาระในครั้งนี้



“ขอบคุณครับอาจารย์” เสียงนั้นจบลงพร้อมกับภาระของเขา บ้านหลังสุดท้ายที่เขาต้องมาส่งเป็นบ้านขนาดกลางของเสมอ ก่อนรถจะเคลื่อนตัวมุ่งสู่บ้านพักอาจารย์หลังเล็กอันคุ้นเคย สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งพักพิงของเขามาระยะเวลาหนึ่ง หากนับรวมๆ แล้วก็คงใกล้จะครบปีที่มาประจำการ









หลังสอบบรรจุได้ ก็เลือกโรงเรียนห่างไกลเป็นที่เริ่มต้นชีวิตราชการ ถึงไม่สะดวกกายแต่กลับสุขใจ ไม่ต้องพบเจอกับความวุ่นวายในเมืองใหญ่ เขาหลีกหนีมันมาหลบเลี่ยงความคาดหวังที่เขาไม่ประสงค์ และหนีจากคำครหาต่างๆ จากญาติสนิทมิตรสหาย มิตรเทียมที่พร้อมพุ่งทำลายได้ทุกเมื่อ เขาเหนื่อยที่ต้องเข้มแข็งในยามที่อ่อนแอ



“ช่างเถอะ จะไปคิดถึงทำไม” กล่าวกับตัวเอง ไม่ใช่เสียงในความคิด แต่เป็นเสียงพูดซึ่งย้ำเตือนตัวเองให้เลิกสนใจเรื่องไม่เป็นเรื่องเสียที



กฤษกลับมาจากกลุ่มก้อนความคิดเมื่อครู่ สู่ความเป็นจริงตรงหน้า ขณะนี้งานสำคัญที่สุดซึ่งเขาต้องสะสางเป็นอันดับแรกคือ การวิเคราะห์ผลการแข่งขันในวันนี้ วิเคราะห์นักกีฬาแต่ละคนว่ามีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร แม้จะเคยทำไว้ตอนซ้อมแข่งที่สนามหญ้าของโรงเรียน แต่ผลที่ได้จากการแข่งจริงย่อมสำคัญกว่า เพราะมีปัจจัยอื่นซึ่งไม่อาจคาดเดาได้ในการฝึกซ้อมเพิ่มเติมเข้ามาในการแข่งนี้ ทั้งสนาม คู่แข่ง ความกดดันจากภายนอก และที่สำคัญคือแรงกดจากภายใน กำลังใจของนักกีฬาย่อมส่งผลต่อการวิ่ง คู่แข่งอาจสร้างผลกระทบให้กับตัวเราได้ แต่ไม่มากพอเท่าตัวเราเองที่ข่มความกล้าเอาไว้ ไม่แสดงออกมา จนพาให้หมดแรงจะฝ่าฟัน เป็นตัวตนของตนเองที่กลับมาทำร้าย ‘ตัวเอง’



ภาพของอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมเล็กๆ กำลังง่วนอยู่กับกองเอกสารและชุดตัวเลขนับร้อย หากใครมาพบเข้าคงคิดไปเองว่าอาจารย์คณิตศาสตร์ท่านนี้กำลังตั้งใจเตรียมการสอนอย่างมุ่งมั่น แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ แม้ว่าความมุ่งมั่นนี้เป็นของจริงแท้แน่นอน เพียงแต่งานที่กำลังจัดการอยู่กลับทำเพื่อชมรมเล็กๆ ชมรมหนึ่งที่มีสมาชิกไม่ถึงห้าคน ชมรมที่พึ่งก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาอย่างชมรมกรีฑา แม้เวลาจะล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่ เขาก็ยังไม่หยุดความมุ่งมั่นนี้ แสงไฟจากบ้านพักหลังเล็กยังคงส่องสว่างต่อไปอีกครู่ใหญ่



เช้าวันอาทิตย์ที่ท้องฟ้าเป็นใจให้ผู้คนออกมาโลดโผนอย่างไม่ต้องหวั่นเกรงว่าจะเปียกปอน เช้านี้ซึ่งเหมาะแก่การทำกิจกรรมอย่างยิ่ง แต่เท้าคู่เล็กกลับถูกห้ามปรามไว้อย่างรู้ทันว่าจะถูกใช้งาน จึงต้องสั่งห้ามไม่ให้ออกวิ่งในวันหยุดเช่นนี้ กระนั้นการให้พักผ่อนอยู่แต่ในบ้านก็ดูจะไม่ถูกใจคนตัวเล็กสักเท่าไหร่ อย่างน้อยขอได้ออกมาสูดอากาศเช้าให้ชุ่มปอดสักนิดก็ยังดี ไม่เช่นนั้นร่างกายนี้คงไม่สามารถสงบลงได้ มะลิยืนมองภูเขาลูกโตตรงหน้า ฟังเสียงนกกาบนกิ่งไม้ ปล่อยให้สายลมพัดผ่านร่างไปอย่างผ่อนคลาย ก่อนเสียงฝีเท้ามากกว่าหนึ่งคู่จะแว่วมาจากที่ไกล และใกล้เข้ามาทุกที เขาคลายความสงสัยนั้นโดยการหันกลับไปยังต้นตอของเสียง คำตอบที่ได้ทำให้มะลิยิ้มออกมาอย่างเปี่ยมสุข



“มาด้วยเหรอ” มะลิร้องถามเพื่อนร่วมชมรมทั้งสองอย่างยิ้มแย้ม



“ให้อยู่แต่ในห้องทั้งวันคงไม่ไหวหรอก” ใจกล้าเป็นคนตอบคำถามนั้น คนร่างสูงดูสดชื่นและเรี่ยวแรงกลับมาอย่างครบถ้วน เช่นเดียวกับเสมอซึ่งเดินมาข้างกัน



“อยากวิ่งเหรอมะลิ” คำถามจากเสมอถูกส่งมายังเขา ซึ่งคำตอบข้อนี้คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะคาดเดา เพราะเป็นคำตอบของทุกคนที่นี่



“แล้วนายล่ะ” เขาไม่ได้ตอบคำถามนั้น แต่โต้คำออกไปยังคู่สนทนาตรงหน้าที่ยิ้มรับก่อนตอบกลับมา



“ถึงไม่ใช่พวกบ้าวิ่งอย่างพวกนาย แต่พอเห็นสนามแล้วใจมันก็อยากวิ่งเหมือนกัน”



“ฮาฮาฮา” เสียงหัวเราะจากทั้งสามดังก้องไปทั่วบริเวณ



ดังพอที่จะส่งไปถึงผู้มาใหม่ที่เข้ามาใกล้วงสนทนาขนาดย่อมนี้ ค่อยๆ ก้าวย่างอย่างเงียบเชียบไม่ให้ทั้งสามรู้สึกตัว ก่อนจะเปล่งเสียงอันเคร่งขรึมออกมา แกล้งเด็กสามคนอย่างตั้งใจ



“ครูสั่งว่าไง” นั่นคือเสียงที่มาทำลายวงล้อมให้แตกกระเจิงอย่างไม่ทันตั้งตัว



“แหะๆ ขอโทษครับอาจารย์”



“ไม่ต้องมาแหะๆ เลย ย้ำนักย้ำหนาว่าการพักผ่อนนั้นสำคัญ แต่ยังออกมากันทุกคนอีก” กฤษบ่นออกไปอย่างไม่จริงจังนัก เขารู้ดีถึงความต้องการของลูกศิษย์ เพียงแต่กำลังทำหน้าที่ของอาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งต้องห้ามปรามออกไปตามรูปการณ์



“มันอดไม่ไหวจริงๆ ครับ ให้อยู่แต่ในบ้าน แค่วันเดียวก็แทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว” ยังเป็นเสมอที่ออกหน้าแทน และอีกสองคนที่แสดงอาการเห็นพ้อง



“ขออีกสักหน่อยนะครับอาจารย์ แค่เดินเล่นก็ยังดี”



“ใช่ครับ” เสียงแรกนั้นเป็นมะลิที่ออกตัวต่อรอง ก่อนใจกล้าจะช่วยสมทบ



“ครูเข้าใจ แต่ยังไงก็ไม่ได้” เสียงเข้มซึ่งถูกดัดขึ้นของกฤษ ออกจะดูใจร้ายไปเสียหน่อยแต่เขาไม่มีทางเลือก นั่นก็เพื่อตัวของเด็กๆ เอง



“ครึ่งชั่วโมงได้ไหมครับ” มะลิยังยังไม่เลิกล้มที่จะต่อรอง



“ครูให้เวลาอีกครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นทุกคนต้องกลับไปพักผ่อน ไม่งั้นพรุ่งนี้งดซ้อม”



“ครับ”







แม้ไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่สามารถหาเหตุผลใดมาคัดค้านได้ ทั้งสามจึงต้องยอมจำนนอย่างจนใจ ตอบกลับไปอย่างพร้อมเพียง เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงที่มีอยู่พวกเขาใช้ไปกับการเดินไปรอบๆ สนาม คล้ายกับกำลังซึมซับบรรยากาศให้มาทดแทนความต้องการภายใน ก่อนแยกย้ายกันกลับหลังหมดเวลา



กฤษมองดูเด็กทั้งสามอย่างเห็นใจและเข้าใจในความรู้สึกอยากวิ่งที่พลุ่งพล่านอยู่นั้น แต่นั่นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเวลานี้ เขามองลูกศิษย์ของตนที่ค่อยๆ ลับหายไปจากเนินหญ้า ก่อนถึงคราวที่เขาจะต้องกลับไปยังบ้านพักของตนตามเดิม แม้ลึกๆ แล้วอยากออกวิ่งไปกลางสนามนั้นไม่แพ้กับพวกเด็กๆ ตั้งแต่เห็นลูกศิษย์ในลู่วิ่งที่ทุ่มกำลังกายอย่างสุดกำลัง มันค่อยๆ จุดไฟที่มอดดับไปของเขาขึ้นมาอีกครั้ง



“ชักมีไฟขึ้นมาแล้วสิ”



ท้องฟ้าสีครามยังคงสดใสอย่างนั้นเรื่อยไปจนจวบเย็น แสงแดดอ่อนส่องกระทบผืนดิน ผืนหญ้า และอากาศที่เย็นสบาย สายลมค่อยๆ พัดผ่าน บรรยากาศนั่นช่างเหมาะแก่การทำกิจกรรมอย่างที่สุด ทว่า สนามกว้างกลับเปล่าร้างผู้คน ปล่อยให้สายลมกระทบแมกไม้อย่างลำพังจนจบวัน




#อ่านตอนพิเศษได้ที่
(1) www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b9247b5e3ef4900101120e2
(2) https://www.readawrite.com/a/befadb43ba9c2c20826468f72f3ed7b2
(3) http://www.tunwalai.com/story/251592/ตัวสำรอง

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-11-2018 19:53:35 โดย InDefinition »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :fire: ไฟต้องมา

สู้ๆ

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โค้ชสู้ๆ  :fire:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lovenut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :hao5: :hao5: :hao5:
สู้ๆ

ออฟไลน์ yanggi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
 :katai1:อ่านแล้วลุ้นตาม ยิ่งตอนบรรยายการวิ่งยิ่งกลั้นหายใจตาม นึกว่าอยู่กำลังนั่งติดขอบสนามอยู่!!!  ใช้ภาษาดีมากอ่านเข้าใจ มองเห็นภาพ  อ่านผ่านๆคือไม่เจอคำผิดเลย..เนื้อเรื่องชวนติดตามมากค่ะ ว่าแต่ มันจะมีเรื่องความรักไหมเนี่ย???

ออฟไลน์ phrase

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อย่าพึ่งหมดกำลังใจแต่งนะคะ พึ่งเข้ามาอ่าน ชอบมากเลยที่ไม่ได้เน้นความรักหรือฉาก NC เป็นหลัก นาน ๆ ทีจะเจอนิยายที่พูดถึงเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตของตัวละครบ้าง ภาษาคุณคนเขียนสวยมาก ชอบการบรรยายการแข่งการซ้อมความรู้สึกของนักกีฬาแต่ละคนทำให้เห็นภาพชัดมากจนคอยลุ้นตัวโก่งตลอดเวลาที่อ่านเลย จะรอถึงวันที่มะลิเอาชนะคมสันให้ได้นะคะ

ออฟไลน์ InDefinition

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
แจ้งข่าว!!! ตอนพิเศษ

เนื่องจากบทคั่นเนื้อหาที่เป็นตอนพิเศษ ซึ่งเป็นเรื่องราวของอาจารย์กฤษ
ในตอนต่างๆ ขณะนี้ได้ลงเนื้อหาแล้ว --- อาจใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าเนื้อหาส่วนนี้จะจบ
หรือก็คือมีหลายตอน ขณะนี้เป็นตอนพิเศษที่ 02 ที่ได้ลงไว้ในช่องทางต่างๆ ด้านล่าง
เพื่อให้ผู้อ่านที่ชื่นชอบเรื่องราวการแข่งขันของนักวิ่งทั้งหลายได้สนับสนุนผู้เขียน โดย

ลงไว้หลายที่ทั้ง
ธัญวลัย http://www.tunwalai.com/story/251592/ตัวสำรอง?page=1
readAwrite https://www.readawrite.com/a/befadb43ba9c2c20826468f72f3ed7b2
Jamplay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b9247b5e3ef4900101120e2
ซึ่งเว็บไซต์เหล่านี้จะมีตอนพิเศษที่เปิดให้ทุกคนร่วมสนับสนุนนักเขียน

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2

ออฟไลน์ lovenut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตามไปอ่านอาจารย์กฤษโลด!!!

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อ่านแล้วซักอยากออกไปวิ่่งที่สนามแฮะไฟมา :fire:

สนุกค่ะคนแต่งอย่าเพิ่งหมดไฟนะเราจะวิ่งไปกับมะลิและพ้องเพื่อง สู้ๆ

ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
อ่านแล้วอินมากๆ ครับ ภาษาดี บรรยายความรู้สึกตัวละครและบรรยากาศการแข่งขันได้เห็นภาพดีมากครับ

ออฟไลน์ InDefinition

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
บทที่ 14 - รายการใหญ่ประจำโรงเรียน


กลางเดือนธันวาคม โรงเรียนเล็กๆ ในตัวอำเภอห่างไกล กำลังจัดงานกีฬาประจำปีอย่างยิ่งใหญ่ไม่แพ้โรงเรียนใด แบ่งทัพกองเชียร์และทัพนักกีฬาออกเป็นคณะสีต่างๆ ซึ่งขณะนี้เหล่านักกีฬาจำเป็นทุกคนต่างสวมเสื้อหลากสีเพื่อมาชิงชัยในวันสำคัญเช่นนี้


อากาศหนาวและเย็นจัดในช่วงเช้าไม่เป็นอุปสรรคต่อการขับเคี่ยวของแต่ละคณะสี นักกีฬาผู้ไร้เสื้อหนาปกคลุม ไม่ต่างอะไรกับกองเชียร์ที่สวมเสื้อสีเดียวกัน ทุกคนทุ่มเทให้กับงานใหญ่ประจำปี งานส่งท้ายปีที่จะได้อยู่กันพร้อมหน้าทั้งโรงเรียน วันหยุดเพียงหนึ่งเดียวที่จะได้ใช้ไปเพื่อเป้าหมายเดียวกัน


พิธีการในช่วงแรกเป็นการเปิดงานของผู้อำนวยการ ซึ่งนานทีปีหนจะได้มาพบนักเรียนของตน พร้อมกันนั้นก็มีตัวแทนจากชมรมฟุตบอลที่สร้างชื่อให้แก่โรงเรียน ออกมาเป็นผู้เชิญคบเพลิงจากประธานพิธี นำไปวิ่งรอบสนาม ก่อนส่งต่อไฟกีฬานั้นไว้แก่นักกีฬาและกองเชียร์ทุกท่านทุกคนในที่นี้


เสียงเพลงประจำโรงเรียนปลุกเร้าแรงใจแรงกายให้ฮึกเหิม กราวกีฬาบรรเลงเพลงขึ้น เป็นสัญญาณแห่งการเริ่มต้น --- ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายไปตามหน้าที่ของตน เริ่มจากคณะสีต่างๆ ซึ่งกระจายตัวอยู่โดยรอบ เปิดประลองเสียงร้องซึ่งดังก้องไปทั่วสนามด้วยเพลงประจำสี ส่วนนักกีฬาที่เฟ้นหามาได้จากหลากชั้นปี ก็เตรียมความพร้อมเพื่อออกไปวาดฝีไม่ลายมือของตน


“การแข่งขันกรีฑาประเภทลู่รายการแรก เป็นการวิ่งระยะไกล ชายเดี่ยว 3,000เมตร” เสียงใสของพิธีกรเด็กประกาศขึ้น


นักวิ่งหลายรายการรวมตัวอยู่ที่กองอำนวยการข้างสนาม หนึ่งในนั้นมีนักกีฬาตัวเล็กจากชมรมกรีฑา รอคอยการแข่งขันของตนใต้ร่มเงาของผืนผ้าใบที่ไม่ครอบคลุมสักเท่าไหร่ แดดเช้ากลางฤดูหนาวค่อยๆ ร้อนระอุขึ้น ขับเหงื่อและบั่นทอนแรงกายของนักกีฬาอย่างไร้จำเป็น


เป็นอีกครั้งที่คนตัวเล็กจะได้ลงสนามอย่างเป็นทางการ แม้ในมุมหนึ่งจะเป็นเพียงการแข่งขนาดเล็กร่วมกับเพื่อนในโรงเรียน แต่ใครจะไปรู้ว่าอาจมีเพชรเม็ดงามซึ่งไม่ยอมเปิดเผยตัวในชมรมกีฬาใด ถูกส่งลงมาประชันฝีเท้ากันในรายการแข่งนี้


“ทุกสีเข้าประจำลู่วิ่งได้” กรรมการประกาศลั่น ก่อนนักกีฬาจำเป็นในเสื้อหลากสีสันจะเข้ามาประจำ ลู่วิ่งของตน


เส้นสีขาวจากผงชอล์กถูกโรยเป็นทางให้เห็นเป็นแนวเส้นสนาม จำลองความสมจริงของลู่วิ่งยางในสนามใหญ่ แม้พื้นดิน ผืนหญ้า เบื้องล้างจะไม่ให้ความรู้สึกว่าคล้ายกันเสียทีเดียว แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับการแข่งนี้ เพราะทุกคนในโรงเรียนต่างผ่านกิจกรรม กีฬา และนันทนาการจากสนามแห่งนี้ทั้งนั้น


มะลิที่อยู่ในรายการแรก ขณะนี้รั้งท้ายอยู่ในลู่วิ่งชั้นในสุด ซึ่งนักกีฬาทุกคนใช้เป็นแนวรักษาระดับและระยะของตน เพิ่งเข้าสู่รอบที่สามมาได้ไม่นาน จึงไม่มีนักวิ่งคนใดหุนหันพลันแล่น ก้าวออกไปประชันกันในขณะนี้


แน่นอนว่า คณะสีต่างลุ้นให้นักกีฬาของตนคว้าชัยไปครอง แต่จะมีสักกี่คนที่รู้และลุ้นให้คนตัวเล็กด้านหลังช่วงชิงเหรียญทองในรายการนี้ไปได้ แน่อยู่แล้วว่าแทบไม่มีเลย หากพวกเขาไม่เห็นและรับรู้ด้วยตาตัวเอง


ฝ่ายนักวิ่งในสนามที่นำหน้ามะลิอยู่ เป็นส่วนน้อยของที่นี่ เพราะแทบไม่รับรู้ถึงการคุกคามจากนักวิ่งร่างเล็กเลย ซึ่งฝ่ายที่เห็นภาพกันชัดเจนน่าจะเป็นกองเชียร์ข้างสนาม และผู้คุมซึ่งให้ความสนใจการแข่งอยู่ในตอนนี้เสียมากกว่า


กว่านักกีฬาคนอื่นจะรู้ตัวว่าพลาดพลั้งให้แก่คนตัวเล็ก ก็ตอนท้ายเกมที่มะลิก้าวออกไปยังลู่วิ่งชั้นนอก เพื่อไต่ระดับขึ้นนำไปทีละคน โดยเริ่มจากท้ายแถวที่ตนอยู่ ค่อยๆ เบียดแซงอีกฝ่ายจนขึ้นนำและไปอยู่ที่หัวแถว ด้วยนักกีฬาคนอื่นๆ ที่นำอยู่ทีแรก เริ่มหมดแรงในช่วงท้ายของเกมที่ลากยาว กอปรด้วยความเหนื่อยล้าซึ่งสะสมมาตลอดรอบการแข่ง จนร่นถอยไปเอง


กิจกรรมยังดำเนินต่อไป นักกีฬาที่เหนื่อยอ่อนกลับมานั่งพักที่คณะสีของตน ส่วนกองเชียร์ซึ่งเหนื่อยล้าก็หยุดพักเสียงลงชั่วขณะ ก่อนทั้งคู่จะกลับไปทำหน้าที่ตามเดิม เพราะการแข่งขันในวันนี้ยังไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ ช่วงเช้าจะมีการแข่งกรีฑาประเภทลู่ที่พิธีกรจะประกาศให้ทราบทุกรายการ ส่วนประเภทลานนั้นจะดำเนินการแข่งขันโดยไม่มีการบอกกล่าวแต่อย่างใด ทุกคณะสีต้องไปควบคุมและจัดการนักกีฬาของตนให้อยู่บริเวณสนาม เพื่อพร้อมสำหรับการแข่งทุกเมื่อ


ใจกล้ารับบทหนักในการแข่งหลายรายการตั้งแต่ช่วงเช้า แม้สามารถกวาดชัยชนะแทบทุกรายการที่เขาลงแข่ง แต่ก็หลีกหนีความเหนื่อยล้าและอ่อนแรงจากการเผาผลาญพลังงานไปไม่พ้น ต้องกลับมานอนพักเอาแรงจนกระทั่งการแข่งขันภาคบ่ายเริ่มขึ้น เป็นการแข่งขันวิ่งผลัดรายการต่างๆ ทั้งชาย หญิง และประเภทผสม ซึ่งเขามีส่วนร่วมในครั้งนี้เช่นกัน แต่สามารถเอาชนะได้บางรายการ เพราะต้องแข่งร่วมกับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยฝึกซ้อมด้วยกันอีกสามคน จึงไม่ค่อยเข้าขากันได้เท่าที่ควร บ่อยครั้งไม้จึงหลุดมือจนแพ้พ่ายไปในที่สุด แต่เขาไม่ได้ใส่ใจกับผลการแข่งขันที่ตนไม่ได้ทำเพียงลำพังสักเท่าไหร่ แม้จะเหนื่อยอ่อน แต่สีหน้าที่แสดงออกมายังเรียบเฉย ปล่อยคนอื่นๆ ฉงนไปว่านายคนนี้ เป็นคนหรือเครื่องจักรกันแน่


ส่วนเสมอก็แทบไม่ต่างกัน ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ จึงถูกใส่ชื่อในรายการแข่งขันทั้งภาคเช้าและภาคบ่ายจนร่างกายของเขาเหนื่อยอ่อน ไม่มีแม้แรงจะลุกออกไปรับเหรียญรางวัล หรือแสดงความยินดีกับเพื่อร่วมคณะสีคนใด ลำพังแค่มีแรงพอจะช่วยวิ่งผลัดในช่วงบ่ายให้ครบทุกรายการที่ลงชื่อเอาไว้ ก็มากเกินพอแล้ว งานกีฬาในวันนี้เผาผลาญพลังชีวิตของเขามากยิ่งกว่าการฝึกซ้อมในตอนเย็นของทุกวันเสียอีก


ด้วยตัวเองดันพลั้งปากไปว่าอยู่ชมรมกรีฑา จนสร้างภาพให้เพื่อนร่วมคณะสี วาดฝันไปว่าต้องเก่งและมีฝีเท้าดีประหนึ่งนักวิ่งลมกรดที่เอาชนะได้ทุกรายการ แน่ล่ะว่ามันไม่มีทางเป็นอย่างนั้นได้ โดยเฉพาะรายการที่ต้องเจอกับคู่แข่งอย่างใจกล้า ซึ่งลงประชันกันหลายรายการ เขาต้องยอมยกเหรียญรางวัลไปให้เพื่อนของตนอย่างไม่มีข้อกังขา


กระนั้นก็ตาม ก็มีอีกหลายรายการเช่นกันที่ไม่ต้องเจอใจกล้า ซึ่งเสมอก็กวาดเหรียญรางวัลมาให้เพื่อนร่วมคณะสีได้ชื่นใจ และหวังไว้กับเขาทั้งภาคเช้าภาคบ่าย จนเหลือสภาพอย่างที่เห็น หรือหากไม่เห็นภาพ ก็คงต้องบอกคำเดียวว่า เสมอในตอนนี้แทบไม่เหลือสภาพเลย


แดดในช่วงบ่ายไม่ได้ไยดีต่อผู้ปฏิบัติงานแม้แต่น้อย กฤษยังต้องยืนตากลมร้อนและไอระอุจากดวงอาทิตย์อีกร่วมชั่วโมง หน้าที่ซึ่งรับปากอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง กลับมาทำร้ายเขาอย่างไม่รู้ตัว ใครจะไปคาดคิดว่าแค่คุมสนามจะเหนื่อยถึงเพียงนี้ นี่ขนาดได้รับความร่วมมือจากนักศึกษาวิชาทหารส่วนหนึ่ง หากไม่ได้แรงจากนักเรียนกลุ่มนี้แล้วล่ะก็ คงไม่อาจพาร่างหนักอึ้งนี้กลับไปยังบ้านพักของตนได้แน่


บรรยากาศสนุกสนานค่อยๆ เจือจางลงไป จนสุดท้ายงานแข่งขันเล็กๆ แห่งนี้ก็สิ้นสุดลง พร้อมกับการประกาศผลชนะเลิศในรายการต่างๆ ทั้งกรีฑาและกองเชียร์ ถ้วยรางวัลอย่างง่ายถูกส่งมอบแก่นักเรียน เสียงโห่ร้องกลับมายังสนามแห่งนี้เป็นพักๆ ก่อนการถ่ายรูปและคำกล่าวปิดงานจากผู้อำนวยการจะดังขึ้นและจางหายไป เป็นสัญญาณว่าวันที่คล้ายจะยาวนานที่สุด ได้สิ้นสุดลงแล้ว


มีเพียงมะลิที่ไม่ถูกใช้อย่างหนักจากมหกรรมกีฬาในครั้งนี้ เพราะลงแข่งเพียงรายการเดียว ต่างจากเพื่อนอีกสองคนที่เหลือ ที่กลับไปถึงเตียงของตนก็ล้มลงนอนตั้งแต่หัวค่ำ เช่นเดียวกับที่ปรึกษาชมรม ซึ่งเมื่อยล้าจนต้องปฏิเสธคำชวนของเหล่าคณาจารย์ ที่ชักชวนเขาไปร่วมงานจัดเลี้ยงสังสรรค์เล็กๆ


“เหนื่อยหน่อยนะครับอาจารย์” มะลิซึ่งกำลังเดินกลับพร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นและร่วมคณะสี กล่าวกับกฤษเมื่อเห็นสภาพของอาจารย์ที่ปรึกษาของตน

“ขอบใจ เธอก็กลับไปพักผ่อน ไว้เจอกันพรุ่งนี้”

“ครับ”






- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory




#อ่านตอนพิเศษได้ที่
(1) www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b9247b5e3ef4900101120e2
(2) https://www.readawrite.com/a/befadb43ba9c2c20826468f72f3ed7b2
(3) http://www.tunwalai.com/story/251592/ตัวสำรอง

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-11-2018 19:52:46 โดย InDefinition »

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……

งงงงงง.…………

มีตอนนี้เพื่อ………


 :hao4:  :hao4:  :hao4:  :hao4:  :hao4:  :hao4:  :hao4:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด