เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]  (อ่าน 307751 ครั้ง)

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #840 เมื่อ06-02-2019 22:03:14 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ทำไมไม่ซื้อหวยนะ

ทายถูกด้วยว่าโป๊ะแตกเสริฟตอนวันงานประเพณีวิ่งขึ้นเขา  อิอิ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #841 เมื่อ06-02-2019 23:01:14 »

โป๊ะแตกหมอใหญ่ๆ

ออฟไลน์ away3g

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-1
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #842 เมื่อ07-02-2019 00:29:47 »

 :haun4: :haun4:ชอบมากครับ สนุกสุดๆ มาต่อไวๆนะครับ

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #843 เมื่อ07-02-2019 00:48:14 »

คีรี ลูกอ้อนมีเท่าไร ใช้เต็มที่นะลูก

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #844 เมื่อ07-02-2019 01:34:51 »

 :mew5:

 :3123: :pig4: :3123:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #845 เมื่อ07-02-2019 02:26:20 »

สงสารน้อง //อย่าร้องนะน้องคีรี

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #846 เมื่อ07-02-2019 02:39:12 »

RIPเด็กดอย

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #847 เมื่อ07-02-2019 07:08:32 »

งานเข้าาาาาาา :hao3:

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #848 เมื่อ07-02-2019 09:18:28 »

พี่เต้ต้องโกรธนะ
อย่าใจอ่อนกะเด็กดอยง่ายๆ
ไม่อยากบอกความจริงดีนัก
แต่พี่เต้ จะทนลูกอ้อนเด็กดอยไหวมั้ยน้า
อ้อนเก่งงงงงงงง  :hao3:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #849 เมื่อ07-02-2019 09:50:05 »

หมอเต้คะ ถ้าหายงงแล้ว กรณุณาเล่นตัวสักนิดนะคะ
เล่นนิดเดียวพอ เพราะดูท่าแล้ว หมอวินจะจัดเต็มแทนแน่ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
« ตอบ #849 เมื่อ: 07-02-2019 09:50:05 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #850 เมื่อ07-02-2019 12:11:22 »

หวังว่าหมอจะฟังเหตุผลน้า  :hao5:

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #851 เมื่อ07-02-2019 15:33:41 »

ไหนๆก็โป๊ะแตกแล้วเคลียร์์์์ให้ชัดเจนไปเลยนะคีรี สู้ๆ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #852 เมื่อ07-02-2019 17:02:50 »

โป๊ะแตกของจริง ทีนี้ก็บอกหมอเต้ไปให้หมดเลย ไม่ต้องปิดบังอะไรแล้ว

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #853 เมื่อ07-02-2019 20:45:56 »

 :a5:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #854 เมื่อ07-02-2019 22:58:16 »

โป๊ะแตกหม้อเบ้อเร่อ ทีนี้จะง้อยังไงนี่ คีรีนะคีรี

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #855 เมื่อ09-02-2019 21:50:11 »

งานนี้มีคุยกันยาวแน่

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #856 เมื่อ10-02-2019 03:34:13 »

อยากอ่านตอนต่อไปแล้ววว มาทุกวันเลยได้มั้ยค้าาา ปล จุดพลุฉลองโป๊ะแตก นีคือฉลองให้เด็กดอยนะคะ จะได้จีบถนัดๆซะที ไม่ต้องปิดบังกันละ ปล่ำพี่เต้แบบสบายใจ  :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ tomnub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #857 เมื่อ10-02-2019 13:17:42 »

หมอเต้ต้องจัดไม้ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน

ออฟไลน์ FrozenSnow2019

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #858 เมื่อ10-02-2019 17:54:22 »

เด็กดอยต้องส่งสัญญาณ SOS ถึงแก้งค์พี่พิงค์ให้มาช่วยด่วนๆเลย

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #859 เมื่อ10-02-2019 19:56:53 »

แตกแบบละเอียดเลย สงสารคีรี งานช้างเข้าแล้ว :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
« ตอบ #859 เมื่อ: 10-02-2019 19:56:53 »





ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #860 เมื่อ10-02-2019 20:07:50 »

โป๊ะแตกแบบ grand opening สุดๆ เลือดหัวไม่ออกไม่รู้จิว่าไงแล้น

ออฟไลน์ Rhythm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #861 เมื่อ10-02-2019 23:41:52 »

ถ้าบอกความจริงไปก่อนหน้านี้ หมอเต้คงไม่โกรธเท่าไรหรอก เพราะก็พอจะสงสัยความแปลกหลายๆ อย่าง ในตัวคีรีอยู่แล้ว แต่ถึงจะโป๊ะแตกยังไง ก็ยังคิดว่าพี่เต้แพ้ทางคีรีอยู่มาก ไม่น่าจะโกรธนาน ก็เด็กมันขี้อ้อนขนาดนี้อ่ะนะ :hao3:

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4
Re: เดือนอิงดอย Chapter 19 : โป๊ะแตก [060219]
«ตอบ #862 เมื่อ12-02-2019 17:52:11 »



Chapter 20 : ความรักของเพื่อน part 1/2


บนถนนคอนกรีตที่ชันและคดเคี้ยว สองข้างทางมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น อากาศร้อน แต่บรรยากาศตลอดเส้นทางจากมหาวิทยาลัยไปยังพระธาตุดอยสุเทพครื้นเครง คลาคล่ำไปด้วยนักศึกษาทั้งที่ยังเรียนอยู่และจบไปแล้ว มีเสียงรุ่นพี่ให้กำลังใจน้องๆ ปีหนึ่งดังแว่วมาเป็นระยะ

เด็กหนุ่มซึ่งตามมาสมทบเพื่อนๆ รุ่นพี่และรุ่นน้องหลังจากเดินขบวนเปิดงานเสร็จเดินก้มหน้านิ่งๆ ตั้งแต่ตอนที่พบกับเตชิต สติสตังก็เหมือนจะหลุดลอยไป เขาไม่นึกเลยว่าความจริงจะถูกเปิดเผยออกมาในสถานการณ์แบบนี้ เร็วเสียจนเกินกว่าจะตั้งตัวทัน

ดูจากสีหน้าของหมอเต้แล้ว ก็คงทั้งงงและตกใจระคนกัน อีกฝ่ายถึงกับเอ่ยปากว่าไม่รู้จักคนอย่างเขา ก็คงจะโกรธมากพอตัวเลยทีเดียว 

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปเลย เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นก็ยังไม่ได้ปรึกษาใคร

คีรียกมือขึ้นกุมอก ซึ่งภายในเจ็บเสียจนหายใจได้ลำบาก การที่ได้ใกล้ชิดและหลงรักใครสักคนอยู่ข้างเดียวทำให้หัวใจเจ็บปวดได้ถึงขนาดนี้ เขาเข้าใจความรู้สึกของมินนี่แล้ว


“พี่คีรีคะ”


เสียงเรียกดึงเจ้าของชื่อให้ตื่นจากภวังค์ เมื่อหันไปมองก็สบตากับรุ่นน้องปีหนึ่งหลายๆ คนที่เดินอยู่ใกล้ๆ กัน

“ดีจังได้เดินขึ้นดอยพร้อมพี่คีรีด้วย”

“ใช่ๆ นึกว่าพี่จะไม่มาเดินกับพวกเราซะแล้ว”

“ทำไมล่ะ” เด็กหนุ่มรุ่นพี่ถามกลับไป

“ก็ได้ยินว่าปีที่แล้วพี่ไม่ได้มาค่ะ แล้วปีนี้พี่ก็ไปเดินขบวนมหาลัยด้วย” คนตอบยิ้มกว้าง “วันนี้พี่คีรีหล่อสุดๆ ไปเลยน้า”

“ขอบใจ”

“เดี๋ยวถึงโค้งวัดใจแล้วพี่คีรีมาวิ่งพร้อมกับพวกเรานะคะ”

เด็กหนุ่มรุ่นพี่ยิ้มบาง “โอเค” เขาเงยหน้าขึ้นมองไปข้างหน้า ยุ้ยกับเจนี่เดินจูงมือรุ่นน้อง พวกเธอเหงื่อไหลโซมกาย ทว่าก็ยังยิ้มได้ พอมองผ่านรุ่นน้องปีหนึ่งไปอีกฝั่งก็เห็นฟลุคกับปิ๊กเดินคุยกับรุ่นน้องอยู่เช่นกัน ไม่รู้ว่าไอ้พวกนี้เอาพลังมาจากไหนนัก เดินมากันตั้งแต่มหาวิทยาลัยแท้ๆ ทั้งที่ตอนที่พวกเขาไปซ้อมวิ่งกัน วิ่งนิดเดียวก็เหนื่อยหอบ แถมยังบ่นกันไปตลอดทาง

เมื่อหันมองไปเบื้องหลัง เพื่อนพ้องและน้องๆ เดินรวมกันมาเป็นกลุ่มใหญ่ แต่ละคนหอบแฮก เหงื่อออกจนเสื้อเปียกชุ่ม ทว่าทุกคนก็มีแววตาที่มุ่งมั่น ใบหน้าฉาบไว้ด้วยรอยยิ้ม

สองขาก้าวต่อไปเรื่อยๆ สักพักก็มองเห็นจุดชมวิวของดอยสุเทพอยู่ไม่ไกลออกไป ที่นั่นเป็นที่ที่เขาเคยมาด้วยกันกับทันตแพทย์หนุ่ม เขามองย้อนกลับไปทางด้านหลังอีกครั้ง บนถนนเส้นนี้ อีกฝ่ายเคยวิ่งตามเขาลงมา ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องปรับความเข้าใจกับเขาก็ได้

คีรียกข้อมือขึ้นมองดูสร้อยข้อมือที่เขาใส่ติดตัวไว้อยู่ตลอด

หมอเต้ไม่จำเป็นต้องให้เขา แม้จะทำท่ารำคาญ แต่ก็ยอมให้เขาเข้าไปใกล้ชิดได้ หลายครั้งที่หมอเต้ดุเขา แต่ก็มีหลายครั้งที่ใจดีกับเขามากเช่นกัน

ช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นความทรงจำที่ดีมากเหลือเกิน บางครั้งก็ทำให้หัวใจเต็มตื้น บางครั้งก็ทำให้พองโตเต้นแรง และบางครั้งก็ทำให้เจ็บปวด มาถึงตอนนี้ตัวเขาก็มั่นใจว่าหลงรักอีกฝ่ายสุดใจ มากเกินกว่าจะปล่อยมือไปได้



ที่โค้งขุนกัณฑ์ เสียงบูมคณะดังก้องเพื่อเรียกกำลังใจในโค้งสุดท้าย พวกรุ่นพี่รุ่นน้องตั้งแถว กอดคอกันขณะที่วิ่งขึ้นโค้งสูงชัน พอผ่านไปได้แขนขาก็เหมือนจะหมดแรง บางคนทิ้งตัวลงนั่งบนพื้น บางคนก็ค้อมตัวหอบหนักๆ ทว่าทุกคนก็ยังหัวเราะกันได้

คีรีถอยไปยืนรวมกับเพื่อนๆ ในกลุ่มในระหว่างที่ยืนมองพวกรุ่นน้องกอดคอกันขึ้นบันไดนาคไปทีละแถว

จะว่าไปก็ดีเหมือนกันที่ได้มาเดินขึ้นดอยแบบนี้ เขาจะได้มีเวลาสะสมความกล้าไปเผชิญหน้ากับหมอเต้ เผชิญหน้ากับความจริง เพราะถึงอย่างไรก็ย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว

เขากับหมอเต้ ไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว


“คีรี”


เจ้าของชื่อหันไปทางเสียงเรียก เขายังไม่ทันพูดอะไร เพื่อนสาวทั้งสองคนก็ขยับเข้ามาประกบ พร้อมกับส่งกระดาษทิชชูให้

“คีรี นายน้ำตาไหลอยู่นะ รู้ตัวรึเปล่า”

เด็กหนุ่มชะงักพร้อมกับยกมือขึ้นสัมผัสแก้มที่เปียกชื้นของตัวเอง ก่อนจะลดมือลงมองดูอย่างงงๆ

“มีอะไรเหรอ”

“ไม่...มี” เสียงของเขาแหบพร่า นัยน์ตาพร่ามัวไปด้วยม่านน้ำตา

เจนี่หันไปสะกิดเรียกเพื่อนอีกสองคน “ปิ๊ก ฟลุค มานี่ก่อน” แล้วพวกเขาก็พาคีรีเดินไปหาที่หลบพูดคุยกัน

คีรีทรุดตัวลงนั่งชันเข่าบนพื้น หลังพิงกำแพงโดยมีเพื่อนๆ นั่งลงด้วยกัน เขาซบใบหน้าลงบนหัวเข่าตัวเอง พอรู้ตัวว่าร้องไห้ น้ำตาก็ไหลพรั่งพรูออกมาไม่หยุด

ปิ๊กวางมือลงบนหัวไหล่ที่สั่นเล็กน้อยแล้วบีบเบาๆ “เกิดอะไรขึ้นวะ”

“หมอเต้... เขารู้แล้ว”

“เฮ้ย รู้ได้ยังไง!”

“กูเจอหมอเต้ ก่อนเดินขบวนเปิดงาน เขามากับคุณตากู”

ทั้งสี่หันมองหน้ากัน “แล้ว...เขาว่าไง”

คีรีเงยหน้าพร้อมยกแขนขึ้นปาดน้ำตา จากนั้นก็ส่ายหน้าไปมา “เขาแทบไม่ได้พูดอะไรเลย บอกแค่ว่าไม่รู้จักกู แต่กูรู้...ว่าเขาโกรธกูมาก”

ฟลุคกับปิ๊กขยับเข้าไปสวมกอด “ใจเย็นก่อนเว้ย ความจริงก็คือความจริง ยังไงหมอเต้ก็ต้องรู้อยู่วันยังค่ำนะมึง”

“ยังไม่ได้ทำใจไว้เลยว่ะ” เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “กูรักเขา รักมาก... ยังไม่พร้อมจะเสียเขาไป”

“คีรี” พอเห็นน้ำตาของเพื่อน ยุ้ยกับเจนี่ก็พาลจะร้องไห้ตาม เพราะปกติเพื่อนของพวกเธอเป็นคนเข้มแข็ง ตั้งแต่รู้จักกันมาก็ไม่เคยเห็นจะสะทกสะท้านเรื่องไหน หน้าด้านหน้าทนจะตายชัก แต่ตอนนี้เขากำลังร้องไห้ต่อหน้าพวกเธอ “รีบไปหาหมอเต้เถอะ ไปอธิบายทุกอย่างให้เขาฟังนะ อย่างน้อยเขาจะได้รู้เหตุผลของนายไง”

คีรีหลุบตาลงต่ำ นิ่งอึ้งไปสักพักก่อนจะพูดขึ้น “ถ้าเขาไม่ยอมฟัง ถ้าเขาไม่ให้เข้าใกล้อีกล่ะ เขารู้ความจริงแล้วนะ เราไม่ใช่เด็กชาวเขาซื่อๆ อายุสิบแปดที่เขาเอ็นดูอีกแล้ว”

“นี่มึงโกหกอายุไปด้วยเหรอวะ! มึงนึกว่าหมอเขาชอบแดกเด็กเรอะ!” ฟลุคโพล่งออกมาอย่างลืมตัว

“นั่นไม่ใช่ประเด็นมั้ยมึง!” ปิ๊กไม่ดุเปล่า แต่ยกขาเตะคนพูดไปด้วย ก่อนจะหันไปทางคีรีแล้วยกมือขึ้นตบไหล่อีกฝ่ายเพื่อเรียกสติ “เฮ้ย มึงอย่าเพิ่งป๊อดดิวะ รักเขา ก็ต้องสู้ทุกวิถีทางดิ๊! ถ้ามึงถอยตอนนี้ ก็มีแต่จะเสียเขาไปนะเว้ย! เพราะงั้นมึงถอยไม่ได้!”

ฟลุคพยักหน้าหงึกๆ “ถูกของไอ้ปิ๊กนะ ยังไงตอนนี้มึงก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ดับเครื่องชนแม่งเลย! มึงต้องสู้ มาถึงขนาดนี้แล้วมึงต้องทำให้หมอเต้เข้าใจมึง ให้เขาเห็นความพยายาม ความตั้งใจและความรักของมึงให้ได้!”

“พวกเราจะช่วยนายอีกแรงนะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่นายทุ่มเทไปจะต้องไม่สูญเปล่า ไปเถอะ ไปหาหมอเต้ด้วยกัน ไปกันทั้งหมดนี่ล่ะ ถ้าหมอเต้ไม่ฟัง พวกเราจะช่วยรุมอธิบาย จะพูดจนกว่าเขาจะเข้าใจเลย”

นั่นสินะ ทุกคนพูดถูก ในเมื่อเขายกให้หมอเต้ไปทั้งใจแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องสู้ต่อ ถ้าถอยก็มีแต่จะทำให้อีกฝ่ายหลุดมือไปเท่านั้น

คีรีพอยิ้มออกมาได้เล็กน้อย “ขอบใจที่เตือนสติเรา เฮ้ย!” ก่อนจะถูกสองสาวฉุดให้ลุกขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว

ยุ้ยและเจนี่ฮึดสู้ยิ่งกว่าเพื่อนของพวกเธอไปอีก “ไปเว้ย! ขึ้นรถแดงกัน!” จากนั้นสองสาวก็เดินไปหยุดยืนอยู่ตรงทางเท้าริมถนน สองมือเท้าสะเอวพร้อมกับชะโงกหน้าออกไปมอง

“รถแด๊งงง! ทีพอจะใช้งานทำไมเกิดขาดตอนขึ้นมาวะเนี่ย!” ยุ้ยตะโกนเสียงดังอย่างเกรี้ยวกราด ตามด้วยเจนี่

“รถแดงโว้ยยย!”

ขณะเดียวกันก็มีรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์วิ่งผ่านมาพอดี ทว่าจู่ๆ ก็หยุดกึกตรงหน้าสองสาว แล้วคนที่นั่งซ้อนข้างหลังมาก็ถอดหมวกกันน็อกออกพร้อมกับแจกรอยยิ้มการค้าซึ่งเป็นยี่ห้อเฉพาะตัวของเขา

“หวัดดีครับสาวๆ”

“ว้าย! หมอวิน!” ยุ้ยและเจนี่ร้องลั่นด้วยเสียงสองแล้วยกมือขึ้นทาบอก ความเกรี้ยวกราดเมื่อครู่มลายหายไปสิ้น

“มาขึ้นดอยกับเขาเหมือนกันเหรอ มาไกลขนาดนี้จะหลงทางกลับคณะไม่ถูกอีกรึเปล่าเนี่ย” ก่อนทันตแพทย์หนุ่มจะชะงักเมื่อมองผ่านสองสาวไปทางด้านหลัง แล้วประสานสายตากับเด็กหนุ่มหน้าตาคุ้นเคยเข้าอย่างจัง “เฮ้ย! คุณมาทำอะไรที่นี่วะ!” และที่ข้างๆ กันก็เป็นสองหนุ่มที่เขาเคยพบหน้ามาก่อน

คีรีกับเด็กพวกนี้เป็นแก๊งเดียวกันอย่างที่คิดไว้จริงๆ ด้วย!

เด็กหนุ่มเบิกตากว้าง “หมอวิน!”    

รวินท์จ้องมองเสื้อที่คีรีสวมอยู่ มันเป็นเสื้อที่มีตัวอักษรย่อของคณะเขียนไว้ มีผ้าคาดเขียนชื่อคณะพาดอยู่บนลำคอ เด็กหนุ่มอีกสองคนและพวกเด็กสาวต่างก็ใส่เสื้อและมีผ้าคาดเหมือนกันเปี๊ยบ

ทันตแพทย์หนุ่มก้าวลงจากมอเตอร์ไซค์พลางบอกคนที่ขี่มาด้วยกันให้รออยู่ที่รถ จากนั้นก็เดินอาดๆ เข้าไปหาคีรี เขาคว้าคอเสื้อคนอ่อนวัยกว่าไว้แล้วจ้องเข้าไปในดวงตาชื้นน้ำตรงหน้า “เสื้อนี่มันอะไรกันวะ! คุณเป็นใคร! ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่!”

“หมอวิน!” สองหนุ่มกับอีกสองสาวถลาเข้าไปห้าม “ใจเย็นก่อนครับ/ค่ะ!”

คีรียกมือบอกเพื่อนว่าให้ถอยออกไปก่อน “เสื้อนี่เป็นของผมเอง ชื่อจริงของผมคือนคินทร์ ภูมิพัฒน์ธนากุล ส่วนคีรีคือชื่อเล่น ตอนนี้ผมเรียนอยู่บริหารปีสองครับ” ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ “ผมไม่ใช่เด็กชาวเขาทำงานโรงแรมอย่างที่หมอวินกับคุณเตชิตเข้าใจ ขอโทษที่ไม่ได้พูดความจริงแต่แรกครับ”

รวินท์คิ้วกระตุก เส้นเลือดบนหน้าผากเต้นตุบๆ โมโหจนมือที่ขยุ้มคอเสื้อเด็กหนุ่มสั่นเกร็ง เขาตะคอกอีกฝ่ายเสียงดังลั่น “คุณนี่มันโคตรเลว!”

คีรีค้อมศีรษะลง “ผมขอโทษจริงๆ ครับ คุณจะต่อว่าผมยังไงก็ได้ จะชกหน้าผมก็ยังได้ ผมยอมรับผิดทุกอย่าง”

“คุณทำแบบนี้ทำไม! เพื่ออะไรวะ!”

“ผมรักคุณเตชิตครับ” เสียงที่ตอบกลับไปแหบพร่า แต่ก็ถ่ายทอดความรู้สึกในใจของเด็กหนุ่มออกมาได้อย่างชัดเจน

“รักประสาบ้าอะไร! พูดพล่อยๆ น่ะสิ! สิ่งที่คุณทำลงไปนี่มันหลอกลวงกันชัดๆ!”

“ผมจำเป็น”

“จำเป็นแบบไหนวะ ถึงต้องสร้างเรื่องหลอกกันขนาดนี้!”

คีรีนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะเคลื่อนสายตาไปสบกับทันตแพทย์หนุ่ม สองมือกำแน่นจนเกร็งไปทั้งแขน เขาตอบกลับไปเสียงดังไม่แพ้กัน “ถ้าผมไม่ทำแบบนี้! แล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ ถึงจะเข้าไปอยู่ในสายตาคุณเตชิตได้! คุณเองก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ ว่าทำไม!”

รวินท์ชะงักกึก

“ตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณเตชิตไม่สนใจใคร ไม่เปิดโอกาสให้ใคร ไม่เคยมองใครทั้งนั้น ในหัวใจไม่มีที่ว่างให้ใครอื่น ก็เพราะอะไรล่ะครับ!” น้ำเสียงของคีรีฉายชัดถึงความเจ็บปวด แววตาของเขาสั่นไหว น้ำตารื้นขึ้นมาเอ่อคลอ “ผมรักคุณเตชิต ผมถึงได้ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับคนที่ผมรัก ให้เขาหันมามองผมบ้างสักนิด ผมเองก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันผิด แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ”

ทันตแพทย์หนุ่มค่อยๆ ปล่อยคอเสื้ออีกฝ่ายออก ที่ใจอ่อนลงก็เพราะเข้าใจความรู้สึกของคนอ่อนวัยกว่าดี แล้วก็รู้จักเพื่อนตัวเองดีมากด้วย เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆ

“หมอวิน?”

“เช็ดหน้าเช็ดตาสักหน่อยเหอะ” พอเห็นว่าคีรียกแขนขึ้นเช็ดหน้าแล้วก็หันไปถามเพื่อนๆ ของเด็กหนุ่ม “นี่กำลังจะลงไปข้างล่างกันใช่มั้ย”

ทั้งสี่คนพยักหน้าหงึกๆ “กำลังรอรถแดงค่ะ/ครับ”

“พวกน้องๆ วิดวะเขาเดินลงกันแล้ว ผมก็เลยจะกลับไปรอพวกเขาที่มหาลัย ถ้างั้นเดี๋ยวผมลงไปพร้อมพวกคุณละกัน” รวินท์หันไปสบตาคีรีอีกครั้ง “คุณกับผม... เรายังมีเรื่องต้องคุยกันต่อ”

“ครับ” คีรีตอบรับอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องหยุดคิด จากนั้นก็ชี้ไปยังคนที่นั่งรออยู่บนบิ๊กไบค์ “แล้ว... คนนั้นล่ะครับ”

ทันตแพทย์หนุ่มสาวเท้าอาดๆ ไปยังมอเตอร์ไซค์คันที่ว่านั้น “หมีๆ ส่งผมตรงนี้แหละ เดี๋ยวผมจะนั่งรถแดงลงไปกับพวกเขานะ ขอบใจมาก”

คนที่นั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์ใส่เสื้อชอปสีน้ำเงิน มีผ้าคาดสีน้ำเงินของนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ชั้นปีที่สอง พอได้ยินที่รวินท์พูดเขาก็รีบถอดหมวกกันน็อกออก “เฮ้ย! ไม่ดีมั้งพี่! เดี๋ยวพี่พิงค์ด่าผมอะ!”

“จะด่าอะไร เดี๋ยวก็เจอกันที่คณะไง”

“งั้นพี่หมอเอามอไซค์ไปดีกว่า ให้ผมไปเดินลงกับน้องๆ ดีกว่าครับ”

“เอ้า! ผมขี่เป็นซะที่ไหนล่ะ!”

“ให้ผมขี่ให้ก็ได้ครับ” คีรีรีบเสนอตัว

รวินท์หันขวับ “คุณขี่มอไซค์เป็นด้วยเหรอ ขี่มานานรึยังวะเนี่ย”

“ก็สองสามปีละครับ”

ทันตแพทย์หนุ่มลังเล ไม่อยากไว้ใจสักเท่าไหร่ แต่ก็จำใจ “...เอางั้นก็ได้”

หมียิ้มกว้าง “ขอบใจนะ งั้นผมฝากพี่หมอด้วย ส่งกลับคณะให้ปลอดภัยนะคุณนะ ไม่งั้นลุงรหัสผมเอาตาย”

“ครับ ไม่ต้องห่วง” คีรีพยักหน้า จากนั้นก็หันไปบอกกับเพื่อนๆ “เราจะไปกับหมอวินก่อน เดี๋ยวเจอกันข้างล่างนะ”

“แน่ใจนะเว้ยคีรี” ฟลุคถามอย่างห่วงๆ คือไปกับหมอวินตามลำพังน่ะ ไม่น่าห่วงเท่าไหร่ แต่เด็กวิศวะบอดี้การ์ดหมอวินทั้งหลายที่อีกฝ่ายเหมือนจะเรียกตัวมาได้ทุกเมื่อน่ะ โคตรน่ากลัว

“ผมคนเดียวจะทำอะไรเพื่อนคุณได้วะ! ผมควรเป็นห่วงตัวเองมากกว่ามะ!” รวินท์พูดเสียงดุ เขารับหมวกกันน็อกจากรุ่นน้องของภูพิงค์มาส่งต่อให้เด็กหนุ่ม “เอ้า ไปกันเถอะ”

พอคีรีนั่งประจำที่บนมอเตอร์ไซค์เรียบร้อย ทันตแพทย์หนุ่มก็ก้าวตามขึ้นไปนั่งซ้อนท้าย จากนั้นก็รีบตะปบเอวคนตรงหน้าไว้ทันที เกาะแน่นชนิดที่ว่าถ้าเขาร่วงหงายหลังเมื่อไหร่คนข้างหน้าก็ต้องร่วงไปด้วยกัน

เด็กหนุ่มหันกลับไปทางด้านหลัง “ถ้ากลัวร่วงจะกอดผมไว้ก็ได้นะครับ”

“ไม่เว้ย ผมไม่ได้กลัวร่วง ผมกลัวคุณสลัดผมลงกลางทางมากกว่า” ...ยิ่งเป็นศัตรูหัวใจอยู่ด้วย รวินท์บ่นในใจ

“โห ใครจะกล้าล่ะครับ” คีรีหัวเราะเบาๆ ขณะขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปช้าๆ “หมอวินนี่น่ารักจังเลยนะครับ”

“ผมรู้ตัวดีเว้ย คุณชมไปผมก็ไม่ดีใจหรอกนะ”

“ไม่ใช่อย่างนั้น แต่... ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆ ก็หลงรักคุณ”

“หมายความว่ายังไง”

“ก็...ถึงคุณจะโกรธผม แต่ก็ยอมคุยกับผม ยอมไว้ใจผม ขอบคุณมากนะครับ”

พูดซะเขารู้สึกผิดเลย รวินท์ทอดถอนใจ



คีรีขี่มอเตอร์ไซค์เก่งกว่าที่ทันตแพทย์หนุ่มคิดไว้เสียอีก ใช้เวลาไม่นานก็ลงมาถึงตีนดอย เขาจึงสะกิดบอกให้เด็กหนุ่มแวะไปที่ร้านกาแฟก่อน “คุยกันที่นี่น่าจะสะดวกกว่า”

ภายในร้าน สองหนุ่มเลือกที่จะนั่งหันหน้าเข้าหากัน ผลัดกันถอนหายใจเฮือกๆ พลางจิบน้ำในแก้วไปเรื่อยๆ จนเกือบหมดแก้วนั่นล่ะ บทสนทนาถึงเริ่มขึ้นอีกครั้งได้

“ไอ้เต้รู้แล้วรึยัง”

“เจอกันเมื่อเช้าครับ”

“มันว่าไงล่ะ”

คีรีทำหน้าเจื่อน “บอกว่าไม่รู้จักคนอย่างผมครับ ดูท่าจะโกรธเอามากๆ”

รวินท์ขมวดคิ้ว เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความส่งออกไป เสร็จแล้วก็ตั้งใจจะโทรหาเตชิต แต่คิดไปคิดมาก็เปลี่ยนใจจึงเก็บโทรศัพท์กลับเข้ากระเป๋ากางเกงไป จากนั้นก็ยกมือขึ้นกุมศีรษะ

เอาไงดีวะ? เขาควรจะทำอย่างไรดี? ใจหนึ่งคิดว่าเขาควรจะโมโห ต่อว่าด่าทอไอ้เด็กนี่ให้หน้าแห้งหูชา แต่อีกใจ เขาก็เข้าใจการกระทำของอีกฝ่ายนะ คิดไปคิดมาก็ดูรันทด น่าเห็นใจฉิบหาย

“คุณเตชิตบอกว่าเจอผมครั้งแรกที่เชียงรายใช่มั้ยครับ” เด็กหนุ่มพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ

“อือ ใช่”

“แต่ที่จริง ผมน่ะ เคยเจอคุณเตชิตมาก่อนหลายครั้งแล้ว ครั้งแรกที่คลินิก คุณลุงนัดผมให้ไปเอาของที่นั่น”

“คลินิก? คุณลุง?”

“คุณหมอภาคภูมิเป็นคุณลุงของผมเองครับ”

“อ้อ...” รวินท์พยักหน้าหงึกๆ

“หลังจากนั้นผมก็ตามคุณลุงไปที่ลำพูน ได้เจอคุณเตชิตที่โรงบาลลำพูนอีกครั้ง วันต่อมาผมก็เลยขอคุณลุงให้คุณเตชิตมาทำฟันให้ผม อีกวันผมก็หอบเอาช่อดอกไม้ไปให้ แต่ไม่ว่าจะพยายามเข้าไปหาสักเท่าไหร่ คุณเตชิตก็ไม่หันมาสนใจผมเลย ไม่คิดจะจำหน้าผมเลยด้วยซ้ำ แล้วตอนมีประชุมทันตแพทย์ที่เชียงราย ผมก็เสนอหน้าไปหาลุงภูมิทุกวัน ป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้น แต่ก็มีค่าเท่าเดิม คุณเตชิตมองผ่านผมไปเหมือนผมเป็นอากาศธาตุเท่านั้น”

“เพราะงั้นถึงต้องปลอมตัวเป็นชาวเขาเพื่อให้ไอ้เต้สนใจงั้นสินะ”

“ผมไม่ได้ปลอมตัวนะ ก็คุณเตชิตเข้าใจผิดไปเองก่อน” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นเถียง แล้วพูดต่อเสียงอ่อย “ผมเลยปล่อยเลยตามเลย เพราะคุณลุงเคยเล่าให้ฟังว่าคุณเตชิตเซนส์สิถีพกับชาวเขามาก”

“ก็จริงน่ะนะ ในเมื่อพวกชาวเขาเคยช่วยเหลือมันให้ผ่านสถานการณ์เฉียดตายมาได้ มันจะเซนส์สิถีพก็ไม่แปลก”

“ถ้าผมไม่ทำเนียนเป็นชาวเขา คุณเตชิตก็จะไม่เปิดโอกาสให้ผมได้เข้าหา”

“คุณเลยใช้ความใจดีของมันให้เป็นประโยชน์งั้นสิ”

คีรีพยักหน้ายอมรับ “ครับ”

“คุณรู้ใช่มั้ยว่าการโกหกมันแสดงถึงความไม่จริงใจ ไม่ว่ายังไงก็จะต้องถูกโกรธแน่”

“รู้ครับ แต่ผมก็เลือกที่จะเสี่ยง ต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้ผมก็ยังเลือกที่จะทำ เพราะอย่างน้อยผมก็ยังมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับคุณเตชิต ได้มีตัวตนในสายตาของเขา ถึงมันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นช่วงเวลามีความหมายกับผมมาก” เด็กหนุ่มหลุบตาลงมองมือที่ประสานกันไว้แน่น กลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก “ผมก็พอรู้ตัวอยู่แล้วว่าสักวันต้องอกหัก ผมพยายามทำใจ บอกตัวเองว่าให้เก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่มีความสุขเอาไว้ให้มากที่สุด ไว้เป็นความทรงจำดีๆ ก็พอ”

“เฮ้อ...” รวินท์ถอนหายใจพร้อมกับยกมือขึ้นคลึงขมับ ฟังไปฟังมาความรู้สึกทั้งสงสารและเห็นใจก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น แล้วที่กลุ้มใจอยู่แบบนี้ ก็เพราะรู้ว่าไอ้เพื่อนรักก็มีใจให้ไอ้เด็กนี่น่ะสิ ขนาดรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองโดนหลอกยังไม่คิดจะทำอะไรด้วยซ้ำ

ว่าแต่ไอ้เพื่อนเวรนั่น ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้แฮะ

“หมอวินครับ ผมรักคุณเตชิตจริงๆ นะครับ ยิ่งได้อยู่ใกล้ชิดกันก็ยิ่งหลงรัก รักมากขึ้นทุกวินาที”

เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับเด็กหนุ่มแล้วยกแขนขึ้นเท้าคางบนโต๊ะ เขาเชื่อคำพูดของคีรีนะ ในเมื่อเด็กนี่ลงทุนซะขนาดนี้ ก็คงทั้งรักทั้งบ้าน่ะแหละ ก็เหมาะกับไอ้เต้ดี บ้ากับบ้ามาเจอกัน

“คำพูดพวกนั้น คุณควรไปบอกไอ้เต้มันมากกว่ามะ”

“ผมไม่รู้ว่าคุณเตชิตจะยังฟังคำพูดของผมมั้ย” คนอ่อนวัยกว่าพูดเสียงเศร้า

“แล้วคิดจะทำไงต่อไปล่ะ”

“ผมตั้งใจจะไปสารภาพความจริงทั้งหมด จะอธิบายให้คุณเตชิตเข้าใจครับ ที่จริงเย็นวันนี้ คุณตานัดผม ลุงภูมิ คุณเตชิตแล้วก็พี่แซนดี้ไปกินข้าวด้วยกันด้วย”

รวินท์หยุดคิด ก่อนหน้าเตชิตก็ส่งข้อความมาบอกเขาอยู่เหมือนกันว่าจะไปกินข้าวกับหมอภูมิแล้วก็แขกของหมอภูมิ “อ้อ ถ้างั้นคุณตาของคุณก็คือแขกคนสำคัญของหมอภูมิสินะ”

“คุณตาอยากเห็นผมถือป้ายเปิดงานรับน้องขึ้นดอยมาก ท่านได้รับเชิญมาเป็นแขกวีไอพีในงานด้วย ตอนแรกผมก็ไม่นึกว่าคุณเตชิตจะมาดูเปิดงานหรอกครับ เพราะคิดว่าจะขึ้นไปดูพวกวิดวะก่อนแล้ว”

“ที่จริงก็ขึ้นไปแต่เช้าพร้อมวิดวะนั่นล่ะ แต่เพราะหมอภูมิมาขอให้ลงมาช่วยต้อนรับแขกของหมอภูมิหน่อยน่ะสิ” รวินท์พ่นลมหายใจออกมาหนักๆ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าการโป๊ะแตกของคีรีครั้งนี้เรียกว่าความซวยของไอ้เต้มั้ย แต่เวลามันทำอะไรแทนเขา เป็นอันต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทุกทีสิน่า!

“คุณเตชิตคงจะโกรธผมมาก...”

“ก็น่าโกรธอยู่มั้ยล่ะ โดนหลอกซะขนาดนั้น” รวินท์ขมวดคิ้วครุ่นคิด “แต่คนเราก็ทำอะไรบ้าๆ ลงไปเพราะความรักได้ล่ะนะ” เขามั่นใจว่าเตชิตก็เข้าใจดี ตัวเพื่อนเขาเองก็เคยมีประสบการณ์มาแล้ว

ทันตแพทย์หนุ่มจ้องมองคนที่นั่งคอตกตรงหน้า พลางเอื้อมมือไปเขกศีรษะเบาๆ “แล้วไงล่ะ ถ้าไอ้เต้โกรธมาก คุณจะถอยรึไง”

คีรีส่ายหน้าทันที พร้อมกับตอบอย่างหนักแน่น “ไม่ครับ มาถึงขนาดนี้แล้ว ผมไม่ถอยแน่ๆ”

“ดีแล้ว ไม่ถอยก็เดินหน้าต่อ ยังไงตอนนี้คุณก็อยู่ในสายตาไอ้เต้มันแล้วนี่ ก็ให้มันได้รู้จัก ได้เห็นตัวตนจริงๆ ของคุณบ้างสิ แสดงให้มันเห็นว่าคุณรักมันมากแค่ไหน” รวินท์ยิ้มบาง “ไอ้เต้กับผมต่างก็มีประสบการณ์การเริ่มต้นใหม่มาหลายครั้ง ผมคิดว่ามันเข้าใจนะ และถ้ามันมีใจให้คุณบ้าง มันก็คงจะให้โอกาสคุณ แต่ต่อจากนี้ไป คุณควรจะแสดงความจริงใจของคุณให้มันเห็น พิสูจน์ตัวเองไปจนกว่าจะได้รับคำตอบรักจากมัน”

คีรีประสานสายตากับทันตแพทย์หนุ่ม เขายิ้มรับพร้อมกับพยักหน้าหงึกๆ “ครับ ผมจะพยายามให้ถึงที่สุด ผมสัญญาต่อหน้าคุณตรงนี้เลย ผมจะสู้ จะอธิบายให้คุณเตชิตเข้าใจ และผมจะทำให้คุณเตชิตรับรู้ถึงความรักของผมให้ได้”

“เออ พูดแล้วก็รักษาสัญญาด้วย”

“แน่นอนครับ” เด็กหนุ่มโน้มตัวเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน “ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณเตชิตถึงรักคุณมาก”

“ผมเองก็รักมันมากเหมือนกัน” รวินท์ตอบกลับไปทันที

คนอ่อนวัยกว่าชะงักไปชั่วครู่ แล้วเอื้อมมือไปกุมมือทันตแพทย์หนุ่ม “หมอวินครับ คุณกับคุณเตชิตน่ะ...”

เสียงประตูร้านเปิดออก ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าของใครบางคนซึ่งเดินตรงมายังโต๊ะที่ทันตแพทย์หนุ่มนั่งอยู่

“พี่วิน”

รวินท์ชักมือออกก่อนจะหันไปยิ้มรับคนที่ยืนหอบแฮกๆ อยู่ข้างตน “เหนื่อยมั้ย ขอบใจที่แวะมา”

“พี่มาทำอะไรที่นี่น่ะ ไหนตอนแรกว่าจะไปรอที่คณะไงครับ” คนพูดหันไปมองแรงใส่เด็กหนุ่มรุ่นน้องที่นั่งอยู่กับคนรักของตนแบบสองต่อสองแถมยังจับไม้จับมืออีก แต่พอเห็นหน้าก็เลิกคิ้วขึ้นพลางชี้ไปยังอีกฝ่าย “อ้าว เฮ้ย คุณ... คีรีใช่มั้ย!”

“ครับ” เจ้าของชื่อลุกขึ้นพรวด เขาประสานสายตากับภูพิงค์ ต่างคนต่างจ้องกันเขม็ง จากนั้นก็ยกมือไหว้พร้อมสารภาพออกไปอย่างรวดเร็ว “พี่ภูพิงค์ครับ คนที่พี่ฝากปิ๊กกับฟลุคมาบอก คือผมเอง ขอโทษที่ตอนนั้นทำให้วุ่นวายครับ”

“เออ! ผมก็ว่าอยู่! แล้วมายุ่งอะไรกับพี่วินวะ!”

ทันตแพทย์หนุ่มหันมองทั้งสองคนที่กำลังจ้องตากันอยู่ไปมา “อ้าว รู้จักกันแล้วเหรอ”

ภูพิงค์ขมวดคิ้วทำหน้ายุ่ง “ก็... นิดนึงอะพี่ เคยเจอกันตอนผมไปหาอีแซนดี้น่ะ”

“แล้วฝากบอกอะไรกันวะ ทำไมไม่เคยเล่าให้ผมฟังเลยอะ ผมถามอะไรก็เอาแต่เลี่ยง นี่คุณไม่ได้นอกใจผมใช่มั้ยวะเนี่ย”

“เฮ้ย ไม่มีทางเลยพี่!” จากนั้นเด็กหนุ่มก็ก้มลงกระซิบถาม “แล้วพี่วินล่ะ รู้จักกับเขาได้ไงวะ มานั่งกันสองต่อสองแบบนี้ ปล่อยให้เขาจับมือด้วย ไม่ได้นอกใจผมใช่มะ!”

“เปล่าเว้ย เอาไว้เดี๋ยวเล่าให้ฟังน่ะ”

คีรีเลิกคิ้วขึ้น หันไปสบสายตาทันตแพทย์หนุ่มที รุ่นพี่อีกที “เดี๋ยวนะครับ หมาย... หมายความว่า...”

รวินท์จับมือคนรักของตนพร้อมกับพลิกข้อมือให้เห็นแหวนคู่ที่พวกเขาสวมอยู่ชัดๆ “เอ้า เห็นชัดพอรึยัง”

เด็กหนุ่มรุ่นน้องอ้าปากค้าง “....”

“ก็อย่างที่เห็นนี่แหละ สบายใจได้แล้วนะ” รวินท์ลุกขึ้นยืนทั้งยังกุมมือของภูพิงค์ไว้ “แล้วจะกลับคณะยังไง จะให้ไปส่งมั้ย”

“เดี๋ยว... เดี๋ยวผมให้เพื่อนมารับก็ได้ครับ”

“โอเค งั้นผมไปล่ะนะ”

เด็กหนุ่มรีบยกมือไหว้ “ขอบคุณมากนะครับ หมอวิน พี่ภูพิงค์”

“อือๆ พยายามเข้าละกัน ผมจะไม่ยุ่งเรื่องนี้ แต่จะคอยดูความจริงใจและจริงจังของคุณนะ”

คีรีพยักหน้ารับ “ครับ!”


*TBC – part 2/2*


ตอนนี้เด็กดอยน่าสงสารจังเลยน้า~ แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ยังไม่โดนพี่หมอวินเตะตกเขานะ 555555 พี่หมอรับฟังเหตุผลด้วย น่าร้ากกกจะตายไป เด็กดอยเก็บคะแนนได้ไปหลายเลย

วันนี้ขอลงแค่ครึ่งแรกก่อนนะคะ สารภาพกงๆ ว่า edit ไม่ทัน พิมพ์ตอนง่วงๆ แก้เยอะมั่ก แงงง~ นั่งแก้มาตั้งกะเมื่อคืนจนถึงตอนนี้ยังไม่เสร็จเลยเนี่ย ไม่ไหวแร้วไปหาข้าวกินก่อน ฮรือ~

ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากค่า อีกครึ่งจะรีบเอามาลงต่อให้นะคะ จุ๊บๆ


ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คีรีสู้ๆ  :pig4: :ling1:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
คีรีสู้ๆๆๆเอาใจช่วย ผ่านมันไปให้ได้ :ped149: :ped149: :ped149:

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
สงสารจังเลยยยยยยยย เจ้าเด็กดอยย โอ๋เอ๋น้าาา
ถ้าหมอเต้ไม่ฟังก็จับทุ่มเลย

คีรี : ทุ่ม???

ทุ่มลงเตียง

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เด็กดอยสู้เขาลูก หมอเต้นี่ที่ทำตัวเหมือนยอมให้หลอก ฮีก็มีใจให้แหล่ะนะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ ryokame

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โถ โถ โถ มาให้กำลังใจเด็กโป๊ะแตก สู้ๆนะลูก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด