บทที่ 27
Beautiful sunset
“นนท์ๆ”
เสียงเพื่อนสาวห้าวดังมาแต่ไกลจนชานนท์ต้องรีบหันไปหาต้นเสียง ส่วนคนที่ยืนอยู่ข้างเขาเสมออย่างวรุฒกลับทำหน้านิ่งเฉยและพยายามรั้งให้ชานนท์สนใจเขามากกว่าเสียงหญิงสาวที่กำลังวิ่งมาอย่างหืดหอบ
“นี่!! แกไม่คิดจะหยุดให้ฉันสักหน่อยหรือไง?” หญิงสาวกล่าวตำหนิทันทีพร้อมหายใจหอบถี่ และส่งสายตาค้อนไปที่วรุฒทันทีที่ยืดตัวตรงได้
“เดี๋ยวเข้าเรียนสาย!” วรุฒพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ พูดแทรกชานนท์ที่กำลังอ้าปากตอบ
“เวลาคำพูดนี้มันออกมาจากปากนายนี่มันดูตลกๆ ยังไงไม่รู้นะ พ่อคนแทบไม่เคยตั้งใจเรียน” เมย์แซะอีกฝ่าย
“จะว่าไปก็จริงนะ อีกสิบห้านาทีก็ต้องเข้าเรียนคาบถัดไปแล้วนะ แล้วเมย์ไม่รีบเข้าเรียนหรือไง?” ชานนท์กล่าวสนับสนุนแฟนตัวเอง
“แหมๆๆ พอดีกันก็เข้าข้างกันเลยนะ ไอ้เราก็อุตส่าห์ช่วยเตรียมที่ ควรจะเกรงใจเราบ้างนะ” เมย์แบะปากใส่
“ช่วย?” ชานนท์ทวนคำด้วยความสงสัย
“ก็ช่วยเรื่องพี่เต๋าไง!! ก็เพราะเรื่องนี้แหละ ก็เลยจะถามหาพี่เอกกับนาย!” เมย์กลับเข้าสู่โหมดเม้าส์มอย
“พี่เต๋า?” ชานนท์หันหน้าไปหาวรุฒเหมือนจะหาคำตอบ
“เธอนี่มัน....... เก็บความลับไม่เป็นใช่ไหม?” วรุฒคิ้วขมวดใส่เมย์ “นี่ไง! ถึงไม่อยากให้เธอเจอกับนนท์บ่อย เพราะคิดว่าสักวันเธอต้องหลุดปาก!!”
“อะไร!?! นี่เธอยังไม่เล่าให้นนท์ฟังทั้งหมดเหรอ?”
เมย์ทำหน้าแปลกใจ
“เธอคิดว่าเรื่องแบบนี้ เพื่อนเธอฟังและจะสบายใจไหมล่ะ?” วรุฒสวนกลับ
“เออว่ะ!” เมย์ยกมือขึ้นปิดปากทาบหัว
“เฮ้อ!!!” วรุฒถอนหายใจเกาหัว
“อะไรยังไง เล่ามาให้หมดเลยนะ!!” ชานนท์มีความสงสัยและขยั้นขยอให้เล่าให้หมดทันที
“เอ่อ......” เมย์รู้สึกแย่กับอาการปากพล่อยของตนเอง
“เฮ้อ....... เอางี้เดี๋ยวเราเล่าให้ฟังเอง!” วรุฒผ่อนลมหายใจออกมาอย่างแรง พลางส่ายหน้าไปทางสาวห้าวที่ตอนนี้ทำท่าจับต้นชนปลายไม่ถูก
“เอาจริงๆ ยัยเนี่ยก็แค่ไปสืบว่า ไอ้เรื่องทั้งหมดเนี่ยเป็นฝีมือไอ้เต๋าจริงๆ ใช่ไหม เพราะเราเองก็ยังไม่มีหลักฐาน 100% จนกระทั้งยัยเนี่ย ไปเห็นไอ้เต๋าเข้าไปในโรงแรมเดียวกับที่ซาร่าพักอยู่ และดูเหมือนจะไปมีปากเสียงกันที่ห้องอาหารของโรงแรมด้วย คราวนี้เรื่องมันก็ชัดเจนเลย!!” วรุฒใช้นิ้วชี้ไปที่ยัยเมย์จนเกือบสัมผัสศรีษะอีกฝ่ายทุกครั้งที่พูดถึงเมย์
“มีปากเสียง?” ชานนท์ทวนคำ
“นั่นไง!! สงสัยเหมือนเราเลย เราก็เลยปลอมตัวเข้าไปนั่งใกล้ๆ ใกล้พอจะได้ยินเสียงพวกเขาคุยกัน!” ยัยเมย์แทรกขึ้นมา
“แล้วได้ความว่า?” วรุฒถามสวนทันที
“เอ่อ....ฮ่าฮ่า..., แบบ... กลัวจะใกล้ไปเลยได้ยินแค่นิดหน่อย.... รู้แต่ว่าเต๋าโวยเรื่องที่ยัยฝรั่งนั่นทำอะไรเกินไปเท่านั้นแหละ!!”เมย์พูดไปหลบสายตาไป
“เอาเหอะ! แต่ก็รู้ว่า ไอ้เต๋ามันก็ยังเกรงใจพ่อเราอยู่บ้าง! เรื่องที่พ่ออุตส่าห์ปิดไว้ มันคงไม่กล้าเปิดเผยหรอก มันคงคิดว่าคุมยังซาร่าอยู่ แต่มันคิดผิด ผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่เรายังไม่รู้เลย!” วรุฒพูดต่อทันที
“แต่เท่านี้ก็ชัดเลยว่า สองคนนั้นร่วมมือกัน!” เมย์ตบหน้าขาตัวเองเสียงดัง จนต้องเอามือลูบจุดที่ตีไปมา
“คราวนี้ เมย์พูดถูก ดังนั้นเราก็เลยไปขอความช่วยเหลือคนที่ทำให้ไอ้เต๋าเสียเชิง และก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี!!” ดวงตาวรุฒเหมือนฉายแวววูบวาบ
“มีคนแบบนั้น?” ชานนท์ที่พอจะได้ยินวีรกรรมต่างๆ ของเต๋า จากวรุฒบ่อยๆ ก็นึกถึงคนแบบนั้นไม่ออก
“คนที่พูดกี่ทีๆ ก็ไม่น่าเชื่อ คนดีแบบนั้นถึงเวลาจะร้ายก็น่ากลัวอยู่นะ” เมย์เหมือนพูดกับตัวเอง
“คนที่มีสิ่งที่ยึดเหนี่ยวน่ะ น่ากลัวทุกคนนั่นแหละ นั่นแปลว่าเขาจะทำอะไรเพื่อสิ่งๆนั่นได้โดยไม่ลังเล” วรุฒพูดถึงตรงนี้ก็มองมาที่ชานนท์ แน่นอนว่าวรุฒก็หมายถึงตัวเขาเองด้วยนั่นแหละ
“อย่าบอกนะว่า....” ชานนท์มีภาพคนๆหนึ่งในหัวแต่ยังไม่แน่ใจว่าจะใช่หรือไม่
“ใช่! พี่เอกนั่นแหละ!!” เมย์ทำนิ้วชี้ไปที่ชานนท์ ประมาณว่า ‘ถูกต้องแล้วคร้าบบบ’
“หา!!!” ชานนท์ร้องเสียงหลง
คงต้องย้อนไปก่อนเหตุการณ์ในวันนั้น วรุฒรู้ว่าแผนการของเขาจะไม่สำเร็จเด็ดขาด หากยังมีไอ้ตัวจอมวางแผนอย่างเต๋า ลอยนวลคอยขัดขวางเขา เพราะเต๋าเองก็เป็นที่กว้างขวางในมหาวิทยาลัยมากกว่าวรุฒเสียอีก ขยับแค่นิดหน่อยอีกฝ่ายก็รู้ความเคลื่อนไหวแล้ว และวรุฒบังเอิญไปสืบเรื่องในวันที่ชานนท์ไปพบรุ่นพี่ในตำนานคนนั้น แล้วก็พบว่า เรื่องทั้งหมดจะไม่ได้ลงเอยแบบนี้หากไม่ใช่เพราะเอกที่ตลบหลังไอ้เต๋าจนเสียเชิง เป็นเหตุให้วรุฒยอมลดอีโก้ของตัวเองไปคุยกับเอกก่อน ถึงขั้นก้มหัวขอร้องให้เอกช่วยเหลือในแผนการครั้งนี้
สุดท้ายเอกก็ยอมรับปากช่วย และพยายามตามไปจับตาเต๋าทุกย่างก้าวจนเต๋ารู้สึกอึดอัด และขยับตัวไปทำอะไรตามแผนได้ลำบาก นั่นทำให้ซาร่าติดกับยอมตกลงไปร่วมรายการปลอมๆนั่นโดยพละการ กว่าที่เต๋าจะรู้ตัวว่าซาร่าติดกับของวรุฒ เขาก็โดนพี่เอกมอมยาไปเสียเรียบร้อยแล้ว
วรุฒบอกกับเอกว่าให้ทำยังไงก็ได้ให้เต๋าไม่มาวุ่นวายระหว่างดำเนินแผนการนี้ ทำให้ยุ่งวุ่นวายเข้าไว้ เอกก็เลยจัดให้เต๋าวุ่นวายอยู่กับเขาอย่างหนัก อยู่หลายชั่วโมงจนแผนการสำเร็จลุล่วง
“จะว่าไป.....ก็ไม่เห็นพี่เอกเลยนะ หลังจากเหตุการณ์วันนั้น” ชานนท์พูดพึมพำขึ้นมาระหว่างเดินไปห้องเรียน
“ความรู้สึกช้าจริงนะ ผ่านไปตั้งหลายวันแล้ว อย่างว่าก็โลกนี้มีแค่สองเราอ่ะเนอะ” เมย์แซวขึ้นมา
“เมย์!” ชานนท์ค้อนใส่เพื่อนสาวห้าวของเขา ในขณะที่วรุฒเดินยิ้มกริ่มไม่พูดอะไร
“นายก็ด้วย ทำเราทั้งเจ็บทั้งเพลีย เรายังไม่ได้ต่อว่าเลยนะ!!!”
ชานนท์หันไปจัดการคนยิ้มกริ่มแบบได้ใจ
“ว้าย!! อะไรนะ?” เมย์ทำท่าล้อเลียน
“พอได้แล้ว!! ไปเรียนได้แล้ว!!” ชานนท์ดุแก้เขิน
“นายไม่อยากรู้เรื่องพี่เอกเหรอ?” เมย์ลั่นให้ชานนท์สงสัย
“หือ??? จริงสิ!! พี่เอกหายไปไหน? หรือว่าเกิดอะไรขึ้น?!?” ชานนท์หันมาหาแฟนและเพื่อนของเขาด้วยสีหน้าตกใจ
“ตอนแรกก็แอบคิดแบบนั้น... แต่เท่าที่ไปสืบมา พี่เอกก็มีไปเข้าเรียนเกือบทุกคาบเป็นปกตินะ แต่ที่ไม่มาปรากฎตัวให้เราเห็นเลยเนี่ย...... ไม่แน่ใจเท่าไหร่? เออ!! รุฒ! แล้วเรื่องนั่นล่ะ!!” เมย์พูดไปทำท่าคิดไป
“อ้อ! ไอ้เต๋า ก็เป็นอย่างที่เธอว่า มีคนเห็นมันไปป้วนเปี้ยนแถวหอพักเรา แต่แปลก! เราไม่เคยเห็นมันนะ!!” วรุฒตอบกลับเสียงเรียบ
“เฮ้ย! จริงน่ะ เราก็ไม่เคยเห็น!” ชานนท์ตอบเห็นด้วย
“นั่นไง!! เข้าเค้าแล้ว!!” เมย์เสียงดังขึ้นมา ซึ่งตอนนี้เดินมาถึงหน้าห้องเรียนแล้ว ทำให้ชานนท์มองเลิ่กลั่กไปหมด กลัวโดนผู้ใหญ่ตำหนิ พร้อมยกนิ้วชี้ขึ้นคาดปากตัวเองหันไปทางเมย์ในเชิงตำหนิ ส่วยยัยเมย์ทำแค่แลบลิ้นใส่อีกฝ่าย
“ไม่เอาน่า ไอ้ทฤษฎีของเธอมันไม่น่าเป็นไปได้หรอกน่า!!” วรุฒแย้ง
“ทฤษฎีอะไรเหรอ?” ชานนท์เดินไปนั่งที่โต๊ะแถวหน้าสุด จึงทำให้ยัยเมย์ที่กำลังเล่าเรื่องนี้จนสนุกปาก เลยต้องเดินตามไปนั่งข้างๆเพื่อจะได้เล่าต่อ
“ก็แบบ.... สองคน น่าจะแอบคบกันไง แบบศัตรูที่รักอะไรแบบเนี้ย!!” เมย์ทำหน้ามีความสุขจนมีรอยยิ้มแปลกๆให้เห็น
“เพ้อเจ้อ!!” วรุฒพูดขึ้นลอยๆ ในขณะที่เดินไปนั่งข้างชานนท์อีกฝั่งหนึ่ง
“พนันกันไหมล่ะ นายต้องเชื่อในสัญชาตญาณสาววายอย่างฉันนี่!! เรื่องนี้มันต้องจบแบบนี้!!” เมย์มีท่าทางมั่นใจมากกับประโยคนี้ ซึ่งก็ทำให้ชานนท์คิดตาม แต่เขาก็นึกภาพเวลาสองคนนั่นอยู่ด้วยกันแบบคู่รักไม่ออก ผู้ชายที่ดูแข็งแรงกำยำทั้งคู่เนี่ยนะ!
“จะว่าไป.... เราเองก็ยังไม่นึกเลยว่าจะได้แฟนเป็นผู้ชายด้วยกันแบบนี้..... มันคงไม่แปลกมั้ง” ชานนท์พูดลอยๆออกมา ทำให้คนตัวสูงที่นั่งข้างๆ อมยิ้มขึ้นมา
“เอาป่าวรุฒ!!” เมย์ยังคงไม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะพนันกับวรุฒ
“ไม่เอาหรอก ฉันไม่อยากได้อะไรจากเธอเสียหน่อย!! จะชนะหรือแพ้ ก็ไม่เห็นน่าสนใจ!!” วรุฒเอนหลังไปพิงพนักและทำท่าเบื่อกับยัยผู้หญิงห้าวจอมจุ้นจ้าน
“เอางี้!! หากนายแพ้ นายต้องพาฉันกับชานนท์ไปเที่ยวทะเล เอาแบบหรูๆ เลยนะ แต่นายชนะ ฉันจะช่วยให้ไอ้พี่พัฒน์จีบยัยมายด์ติดแบบเป็นทางการ และจะช่วยให้พี่พัฒน์มาหมั้นหมายกับยัยมายด์แทนนายเลย โอเคไหม? ยัยมายด์จะได้ตัดใจจากนายเสียที เป็นไง win-win ใช่ไหม?” มายด์ลุกขึ้นท้าทาย ภายใต้สายตาตกใจของชานนท์ เรื่องบางเรื่องที่ชานนท์ไม่ควรจะรู้ ก็ได้รู้จากเพื่อนปากมากคนนี้จนได้
“ยัยบ้าเอ้ย!! ยัยปากไม่มีหูรูด!!” วรุฒต่อว่าเมย์ทันที เมย์ที่เพิ่งจะรู้ตัวว่าได้พูดเรื่องที่ไม่ควรพูดก็ได้แต่สำนึกและตบปากตัวเองดังเพี้ยะ
“เธอว่าอะไรนะ?” ชานนท์ถามย้ำ
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่จะข่วยให้วรุฒเป็นอิสระไง แบบหาคนมาหมั่นหมายแทนนายรุฒไง” เมย์แก้ตัวจนลิ้นพันกัน
“ไม่ใช่.... ประโยคสุดท้าย!!” ชานนท์พูดโดยที่หน้าไม่มองเมย์
“ก็ win-win ไง!!” เมย์พยายามแถ
“ไม่ใช่!! ทำไม.... ทำไมไม่เคยมีใครบอกเราเลย!!” ใบหน้าชานนท์แสดงออกถึงความสับสนชัดเจน
“นนท์ ฟังนะ เราก็แค่เดาเอา ว่าน่าจะใช่ แต่เราก็ไม่เคยคิดเกินเลยกับมายด์เกินกว่าน้องสาวเลยนะ” วรุฒอธิบาย
“แต่ถึงอย่างนั้น มายด์ก็เพื่อนเรานะ แล้วอย่างนี้เราจะมองหน้ามายด์ติดได้ยังไง หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด มายด์ก็คอยช่วยพวกเรามาตลอด” ชานนท์เริ่มลนลาน กำลังเข้าสู่โหมดคิดมากอีกแล้ว
“แต่มายด์น่ะรู้ตัวดีว่า เป็นไปไม่ได้ และรู้ตัวว่าจะวางตัวยังไง เธอไม่เคยโกรธหรือเกลียดนายเลยนะ ในสถานะปัจจุบันของนายเนี่ย เธอออกจะชอบนายมากนะ” เมย์พูดแก้ทันที
“แต่.......” ชานนท์คิดคำพูดต่อไปไม่ออก มันจุกอยู่ที่อก อึดอัดไปหมด
“นักศึกษา! ทำความเคารพ!” ประธานเอกกล่าวเสียงดังทันทีที่เห็นอาจารย์เดินเข้ามา ทำให้บทสนทนาจบลงแค่นั้น
แต่ชานนท์ก็แทบไม่มีสมาธิเรียนในคาบนั้นเลย ในหัววนเวียนคิดถึงหน้าและความรู้สึกของมายด์วนไปมา
...............................