#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 21
คิดถึงเกินไป
บรรยากาศในรถอัดแน่นไปด้วยความกระอักกระอ่วนตั้งแต่ออกจากอยุธยามาจนถึงกรุงเทพฯ เริ่มจากตื่นนอนไปจนถึงกินมื้อเช้า เขากับไอ้แจ็คคุยกันแทบนับประโยคได้ซึ่งนั่นก็คือ
‘หิวว่ะ’
‘ใครอาบน้ำก่อน?’
‘อากาศดีเนอะ’
ผิดปกติไปหมดไม่ต้องถามหาความเป็นธรรมชาติ นึกหงุดหงิดตัวเองที่ทำไมทำตัวเป็นไก่อ่อนขนาดนี้วะ เท็นเคยฟันผู้หญิงมาแล้วนับไม่ถ้วน เขารู้วิธีรับมือไม่ว่าใครจะมาไม้ไหน แต่สำหรับไอ้แจ็คไม่ใช่ ทั้งที่คิดว่ารู้จักมันดีและคงง่ายที่จะจัดการ แต่เอาเข้าจริงมันผิดแผนไปหมด
ต่างฝ่ายต่างเงอะงะงุ่นง่าน เหมือนเด็กอ่อนต่อโลกที่พยายามหาความสุขให้ตัวเองด้วยมือ เวรเอ๊ย... จนถึงตอนนี้เขายังจำสีหน้าและเสียงหอบกระเส่าของไอ้แจ็คได้อยู่เลย มันเหมือนเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อนอย่างไรอย่างนั้น ไม่ว่าจะกลิ่นหอมอ่อน ๆ ประจำตัวของมัน และเสียงทุ้มต่ำที่ชอบฟังนักหนาไม่ว่าจะเป็นตอนพูดหรือตอนร้องเพลง
ไงต่อล่ะวะทีนี้ พอถึงบ้านมันแล้วก็แยกย้ายกันไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นน่ะเหรอ เขาไม่ยอมนะโว้ย ถ้าพูดแบบเอาแต่ใจเมื่อคืนเขากับไอ้แจ็คก็แทบได้กันแล้ว จะมาตีหน้ามึนไม่ได้ บอกคำเดียวว่าถ้ามันหันหลังเดินพ้นประตูบ้านเข้าไปเมื่อไหร่ ไอ้เท็นคนนี้จะตะโกนเข้าไปว่า ‘ลูกชายแม่เป็นของเท็นแล้ว!!!’
“โทรบอกแม่บ้านเรื่องข้าวเช้าลูกหรือยัง?”
นั่น... มันใช้คำว่า ‘ลูก’ อีกแล้ว
“ใครจะพลาด ลูกกูสำคัญกว่ากางเกงในอีก”
“แล้วได้ใส่มาไหม?”
“แจ็ค มึงนี่นะ?” เขาถอนหายใจหนัก ๆ พลางหันไปมองคาดโทษคนขับที่กลอกตามองล่อกแล่กหลังจากทำให้บรรยากาศอึดอัดไปยิ่งกว่าเดิมเพราะมุกปัญญานิ่มนั่น
“...ก็ตอนออกจากห้องน้ำกูยังเห็นมันม้วนอยู่ปลายเตียง”
“กูใส่มาแล้ว จะดูไหมล่ะ?”
“ไม่ดีกว่า กลัวเป็นข่าวหน้าหนึ่ง” ไอ้คนหน้าตายหันมาทำหน้าหลอนใบกระท่อมใส่เขา ก่อนจะกลับไปมองถนนอีกครั้ง “ตายเพราะหันไปดูกางเกงในน่าคงได้อายยมบาล -- โอ๊ย!”
แจ็คละมือจากพวงมาลัยมากุมศีรษะตนเองหลังจากถูกโบกจนหน้าแทบคว่ำ
“อะไรเล่าเอ้อ... แค่ชวนคุย”
“เรื่องกางเกงในน่ะนะ? ที่กูกับมึงตกอยู่ในสภาพแบบนี้ไม่ใช่เพราะเมื่อคืนถอดมันออกเหรอวะ?” อายก็อาย แต่ก็อดตอกกลับไม่ได้ แทนที่จะพยายามทำตัวให้เป็นปกติแต่ดันขุดมาให้นึกถึงเรื่องเมื่อคืนเสียอย่างนั้น
“ถอดก็ถอดพร้อมกันแต่ทำเหมือนกูผิดคนเดียว” นั่น ยังจะกล้ายอกย้อน
“ก็ถ้ามึงไม่อมน้ำลายตั้งแต่เช้ากูจะเป็นแบบนี้ไหมล่ะ พอชวนคุยก็เงอะงะหันไปทำอย่างอื่น”
ใช่ ความผิดไอ้แจ็คคนเดียวเลย เขาอุตส่าห์ตั้งหลักตั้งแต่ตอนตื่นนอนแล้วว่าจะพยายามทำเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ ทุกอย่างชิลล์ สบาย ๆ แบบว่าสามารถนอนแผ่ปล่อยไอ้แจ็คใช้มือให้ทั้งวันทั้งคืนก็ยังได้ แต่มันน่ะทำเสียหมด ทำตัวประหลาด เงียบ ไม่พูดไม่จา
“ก็ต้องอมไว้บ้างสิ เมื่อคืนโดนมึงแดกหมดจนคอแหบคอแห้ง”
“ผีเข้ามึงแล้วล่ะแจ็ค กูว่ามึงต้องการน้ำมนต์พระ” เท็นขมวดคิ้ว เอามืออังหน้าผากคนข้างตัวที่ดูเหมือนว่าจะพยายามกลั้นยิ้มแต่ก็กักไว้ไม่มิด “ร้อยวันพันปีเคยเล่นแบบนี้กับใครเขาด้วยเหรอ ถ้าน้ำท่วมบางใหญ่อีกคราวนี้ก็ให้รู้ไว้เลยว่าต้นเหตุมาจากประโยคเมื่อกี้”
“มึงก็แค่ไม่เคยเห็น” ไอ้แจ็คแถหน้าตาย เขาจะยอมเชื่อให้ก็ได้ถ้าไม่เคยรู้จักมันมาก่อน
“ตอนนี้มึงกำลังหลอนเพราะทำตัวไม่ถูกมากกว่า” พูดจบก็ต้องชะงักเพราะไอ้คนหน้านิ่งวางมือลงบนศีรษะเขา
“มันใช่ที่กูทำตัวไม่ถูกและมึงก็คงเหมือนกัน แต่เรื่องคำพูดคำจาเหมือนผีเข้าน่ะกูขอแก้ตัวหน่อย” ไอ้แจ็คโคลงศีรษะเขาเบา ๆ เหมือนที่เคยเล่นกับพี่ซัน ก่อนจะหันมาสบตากับเขาอีกครั้งในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ยังต้องสนใจเส้นทางบนถนน
“แก้ยังไง ไหนว่ามา” อยากรู้เหมือนกันว่าคนอย่างมันจะมาไม้ไหน
“ที่เมื่อก่อนทุกคนไม่เคยเห็นกูเป็นแบบนี้”
ถ้าพูดให้พอใจได้เขาจะยอมกลืนความอายจากเมื่อคืนไปให้หมดเลยเอ้า!
“ก็เพราะกูเลือกแสดงออกแค่กับคนที่รู้สึกดีด้วย”
“อีกละ”
“ถ้าเป็นในเกมมึงต้องพิมพ์ GGWP ให้กูแล้วนะ”
“เชี่ยแม่ง” เท็นกัดฟันมองคนข้างตัวอย่างมันเขี้ยว มันใช่เวลามาพูดจาน่ารักแบบนี้ไหมวะเนี่ย จริงอยู่ที่อยากได้คำตอบแบบน่าพอใจ แต่อันนี้มันเกินความคาดหมายเกินไป ไอ้แจ็คกล้าดียังไงมาทำให้เขาสำลักความสุขวันละร้อย ๆ รอบ
“พูดอะไรบ้างก็ได้” แจ็คกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอเพราะเขินคำพูดตัวเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเคยพูดเอาอกเอาใจใครเป็นที่ไหน ถ้าไม่นับกรณีประจบประแจงบอสไอ้เท็นก็คงเป็นคนแรกเลย
“กูพูดมาตลอดทางแล้วมึงยังอยากได้ยินเสียงกูอยู่อีกหรือไง?”
“อืม อยากให้พูดทั้งวันเลย” แจ็คอมยิ้ม หันไปมองอีกคนเป็นระยะกับบรรยากาศซึ่งเหมือนว่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ
“คนบ้าไรจะพูดทั้งวัน”
“คนเหี้ยชื่อเท็น”
“ทำให้ดีใจแล้วก็ตบหัวกูด้วยการด่าเหรอ ไอ้หน้าหมา” อาจเป็นเพราะสัญชาตญาณหรืออะไรก็ตามที่ทำให้เท็นรู้สึกว่าแก้มไอ้แจ็คมันน่าดึง น่ากัด น่าขย้ำ เขาถึงเอื้อมมือไปดึงเบา ๆ ก่อนมันจะเอนศีรษะตามแรงดึงอย่างเอาอกเอาใจ
“อย่าเล่นมุกแบบนี้กับใครอีกนะ แพรวก็ไม่ได้”
“มีร่างกฎแล้วเหรอ งั้นกูห้ามมึงบ้างดีไหม?”
“เอาดิ แวะบีทูเอสซื้อไวท์บอร์ดใหญ่ ๆ มาคนละอัน” เท็นรู้ตัวว่ากำลังเสียฟอร์ม เสียจนแทบไม่เหลืออะไรให้เก๊กอีกแล้ว แต่จะให้ทำไงได้... นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกว่าเป็นตัวเองกระทั่งได้กลับมาอยู่ในชีวิตมันอีกครั้ง
เป็นคนเอาแต่ใจแบบที่ไอ้แจ็คน่าจะรับไหว เพราะคราวนี้ทุกอย่างที่ทำให้งี่เง่าได้ก็มีแค่เรื่องของมันทั้งนั้น...
*
“สวัสดีค่ะบอส”
“วันนี้มาก่อนเวลาเลยนะครับบอส พร้อมสุดอะไรสุด”
“ผมรีบมาเชือดคนงานไม่คืบหน้าในห้องประชุมน่ะ คุณคือหนึ่งในนั้นหรือเปล่าล่ะสุกิจ?”
“โธ่... ไม่เอาไม่โหดสิครับ วันนี้เพิ่งวันจันทร์เอง”
พนักงานในโถงกว้างต่างหัวเราะคิกคักกับมุกตอนใกล้ รวมถึงแจ็คที่ชำเลืองมองเจ้านายอยู่ห่าง ๆ เขารู้สึกดีทุกครั้งที่มีการประชุมงาน เพราะมันเป็นสัญญาณว่าเกมใหม่ที่กำลังพัฒนาต้องเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนยิ่งขึ้น
“เที่ยงนี้กินข้าวไหนครับแจ็ค?”
“อย่าบอกว่าบอสทิ้งอาหารในโรงแรมมาเพื่อหากินอะไรแถวนี้?” แจ็คหรี่ตามองเจ้านายที่เท้าแขนกับคอกกั้นโต๊ะอย่างอารมณ์ดี วันนี้ไปโดนตัวไหนมา เขาอยากถามอย่างนี้
“เชร์ชวนผมไปเที่ยวเกาะล้าน แถมบอกว่าจะออกค่าใช้จ่ายเองโดยที่ผมไม่ต้องออกเลยสักบาทเดียว”
“เหมือนบอสกำลังขิงยังไงก็ไม่รู้สิครับ” แล้วดูสีหน้าปริ่มสุขล้นใจนั่น เกาะล้านที่ว่านี่มีสอง-สามพันก็ไปได้แล้วเปล่าวะ คนทำทริปประหยัดในพันดริ๊ฟท์ออกจะเยอะ
“เรียกว่าเล่าเรื่องความน่ารักของแฟนให้ฟังคงรื่นหูกว่า” แจ็คลูบหน้าตัวเองพลางเท้าคางมองจับผิดเจ้านายที่ยังคงยืนอยู่ตรงนี้หลังจากขิงเสร็จแล้ว “ไม่ซึ้งสินะครับ ไม่ว่ากัน คนไม่มีแฟนคงเข้าใจยากอยู่แล้ว”
“บอสน่าจะมีตารางแยกเตียงนอนกับไอ้แหลมสักอาทิตย์ละสองวัน รู้ไหมว่าเดี๋ยวนี้นิสัยเหมือนกันจนอดคิดไม่ได้ว่าบอสกินน้องผมไปแล้วหรือเปล่า?”
“น้องคุณต่างหากที่กินผม”
“เวลาผมพูดเรื่องนึงอย่าพยายามดึงไปอีกเรื่องนึงสิครับบอส ผมหมายถึงกินตัวไม่ได้หมายถึงกินแบบนั้น แล้วก็เลิกทำหน้าอีโรติกได้แล้ว”
“หน้าแบบไหนที่เรียกว่าหน้าอีโรติก?” บอสแกล้งตีหน้าซื่อฉายแววตาสงสัย
“แบบที่เป็นอยู่นี่แหละครับ” แจ็คถอนหายใจหน่าย ๆ บางทีบอสก็ดูเป็นเจ้านายลุคน่าเกรงขาม แต่บางครั้งก็เหมือนเด็กขี้อวด ซึ่งคนเราจะอวดสิ่งใดบนโลกก็ได้แต่ต้องไม่ใช่เรื่องไอ้เชี่ยแหลมเปล่าวะ?
“แล้วเท็นเคยทำหน้าแบบนี้หรือเปล่า?”
‘แจ็ค... เร็วหน่อย... จะเสร็จแล้ว...!’
เหี้ย ทั้งภาพทั้งเสียงมาเต็ม
“ทำไมต้องไอ้เท็นครับ?”
คนถูกถามไหวไหล่แสร้งไร้เดียงสาอีกครั้ง เขาจะโดนบอสกวนส้นตีนทั้งที่ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงจริง ๆ เหรอวะ
“ไปชงกาแฟดื่มกันไหม?” คนเป็นเจ้านายหันไปมองรอบตัวจนเขารู้ว่าตอนนี้กำลังตกเป็นที่สนใจจากเพื่อนร่วมงาน แม้ว่าบทสนทนานั้นจะยังไม่มีอะไร แต่การที่บอสมายืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตรงนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องดีนัก ใคร ๆ ยิ่งเพ่งเล็งอยู่ว่าเขาเป็นเด็กเส้น
“น้ำตาลสิบก้อนเลยเป็นไง ความรักของบอสมันหวานหอมซะขนาดนี้” กันต์พอใจกับเสียงบ่นพึมพำของลูกจ้างที่สุดท้ายก็ยอมลุกมาตามคำเชิญของเขา
*
“ไปเที่ยวอยุธยามาสนุกไหม?”
“ไอ้แหลมมันรายงานบอสแม้กระทั่งเรื่องนี้เหรอครับ?” แจ็คละสายตาจากเครื่องบดกาแฟแล้วหันไปทางเจ้านายที่กอดอกกึ่งนั่งกึ่งยืนอยู่ตรงเคาท์เตอร์
“สำหรับเด็กคนนั้นเรียกว่านินทาน่าจะดีกว่าครับ”
“พูดมากที่หนึ่ง” ไอ้แหลมรู้โลกรู้ที่แท้
“ต่อให้คุณไม่ได้ลงรูปใส่ชุดไทยเหมือนเท็น แต่รูปก๋วยเตี๋ยวที่คุณลงในไอจีมันก็อยู่อยุธยานี่นะ...” บอสอมยิ้มเหมือนมองเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง
“จะปั่นผมอีกแล้ว?”
“เปล่า” กันต์รับแก้วกาแฟมาถือไว้พลางมองท่าทีลูกจ้าง “เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็มีอินเทอร์เน็ต ผมกดไลก์รูปคุณเสร็จมือก็ดันลั่นไปกดอ่านคอมเมนท์ ถึงได้รู้ว่าแฟนคลับคุณกำลังคิดอะไรกัน”
“ก็แค่แซวเล่น ๆ น่ะครับ ตามประสาสาววาย”
“จริงเหรอแจ็ค?” เจ้าของชื่อกำลังถูกขยี้ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องลนลานทำตัวไม่ถูกอีกต่อไปแล้ว ครั้งแรกที่ถูกบอสปั่นหัวในตอนนั้นแจ็คยังไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่
“มันก็แล้วแต่ว่าคนอื่นอยากมองผมกับไอ้เท็นแบบไหน”
“ว้าว” กันต์มองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่อยากเชื่อว่ามันจะหลุดออกมาจากปากอีกฝ่าย “ผมชอบคำตอบคุณ”
“ผมไม่ห้ามถ้าบอสจะคิดแบบนั้น คนอื่น ๆ ก็เหมือนกัน ทุกคนมีอิสระในการคิด”
“แม้แต่คนที่ยัดเยียดให้คุณสองคนเป็นมากกว่าเพื่อนน่ะเหรอ รู้ไหมว่าล่าสุดมีคนเขียนฟิคชั่นคู่คุณกับเท็นแล้วนะ แต่เรื่องนี้แพรวเป็นคนขยาย”
แจ็คยกกาแฟขึ้นดื่มพร้อมคิดตามสิ่งที่อีกฝ่ายพูดถึง ต่อให้เขากับไอ้เท็นจะไม่ใช่เซเล็บดาราดัง แต่ที่เป็นอยู่ก็คงเรียกว่าบุคคลสาธารณะได้ ความเป็นส่วนตัวลดหายไปแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด
“ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมถูกแฟนคลับจับจิ้นหรอกครับบอส ก่อนหน้านี้แค่ผมป้อนข้าวไอ้ธีร์เพราะมันไม่ยอมละมือจากเมาส์กับคีย์บอร์ดคนก็เอาไปเขียนฟิคอยู่พักนึง ตอนผมซักผ้าให้ไอ้แหลมก็ยังถูกเคลมว่าเป็นผัวมันเลย”
“เด็กสมัยนี้ใช้ไม่ได้จริง ๆ ผัวเผออะไรกันเลอะเทอะไปใหญ่” บอสกอดอกขมวดคิ้ว อยู่ดี ๆ ก็อิน
“ล่าสุดแพรวถ่ายรูปผมตอนใส่หมวกกันน็อกให้ไอ้โซ่ก็กลายเป็นฟิคยอดฮิตอยู่พักนึง”
“ทำไมพวกเขาดูสลับไปคนนั้นคนนี้กันง่าย ๆ?”
“บอสต้องคุยกับน้องสาวผม รายนั้นน่าจะอธิบายได้ดีกว่า”
บทสนทนาเงียบหายเมื่อมีพนักงานเดินเข้ามากดน้ำดื่มก่อนจะออกไปภายในนาทีถัดมา กันต์ไม่ได้พูดเรื่องความสัมพันธ์ที่ดูออกอย่างง่ายดายไปตรง ๆ อาจเป็นเพราะวันนี้เขาพอใจกับท่าทีของแจ็คแล้ว มันไม่เหมือนกับตอนนั้นที่ยังดูสับสน ไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น
“ผมชอบที่ทุกวันนี้คุณสดใสขึ้น”
“เหรอครับ ว่าแต่นิยามคำว่าสดใสของบอสเป็นยังไง?”
“ความแตกต่าง” ชายวัยกลางคนว่าพร้อมรอยยิ้ม “เมื่อก่อนคุณก็มีความสุข แต่ตอนนี้คุณมีความสุขมากกว่า”
“บอสพูดเหมือนสังเกตผมอยู่ตลอดเวลาทั้งที่เข้าออฟฟิศแค่อาทิตย์ละสองครั้ง” แจ็คพูดกลั้วหัวเราะ
“งั้นผมจะเรียกคนที่นั่งทำงานข้างคุณทุกวันมาถาม” บอสเดินออกไปหยุดอยู่ตรงหน้าทางเข้าพร้อมตะโกนเรียก ก่อนรุ่นพี่ที่ทำงานร่วมกันจะตรงมาที่นี่
“อะไรเหรอครับบอส?”
“คุณว่าแจ็คแตกต่างไปจากเดิมไหม?”
“แตกต่างเหรอครับ?” รุ่นพี่ขมวดคิ้วพลางเพ่งมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า “น่าจะทรงผมมันไหมครับบอส ก่อนหน้านี้ไว้ยาว ตอนนี้ตัดสั้นอย่างหล่อ”
“แค่นี้แหละที่ผมอยากได้ยิน กลับไปทำงานได้แล้วครับ”
“แค่นี้?”
“ครับ” บอสยิ้มพร้อมโบกมือลา ก่อนรุ่นพี่จะเดินออกไปอย่างงง ๆ “เห็นไหมว่าคนที่นั่งข้างคุณทุกวันยังสังเกตได้แค่ทรงผมที่เปลี่ยนไป”
“เรียกเขามาแค่นี้?” แจ็คเลิกคิ้วมองเจ้านาย ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับอย่างภูมิใจ ไอ้อาการไม่ยอมแพ้คนนี่มันเลิกกันไม่ได้จริง ๆ สินะ ตั้งแต่ตอนขอซื้อรองเท้าเก่า ๆ ของเขาต่อหน้าไอ้แหลมแล้ว
“แค่อยากให้รู้ว่าผมจริงใจ”
“ซาบซึ้งแล้ว ผมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมจริง ๆ ก็ได้”
“ผมบอกว่าแตกต่าง ไม่ได้บอกว่าเปลี่ยนแปลง” บอสยกกาแฟร้อนขึ้นจิบ “คุณก็ยังเป็นคุณ ไม่ได้เปลี่ยนไป แต่เท็นแค่เข้ามาทำให้คุณได้เห็นตัวเองอีกแบบหนึ่ง”
“...”
“ไม่รู้สิแจ็ค ผมรู้สึกว่าความสุขมันแบ่งเป็นพาร์ท ความสุขที่ได้มาจากเกมก็เป็นความสุขในรูปแบบหนึ่ง ความสุขจากการได้กินของอร่อย ความสุขจากการได้ไปเที่ยว หรือความสุขที่มาจากการมีใครสักคนก็เหมือนกัน”
“ว่ากันตามตรง บอสดูออกหรือแค่พยายามปั่นหัวผม”
“ผมเป็นใครครับ?”
บอสสบตากับเขาราวกับอยากให้คาดเดาคำตอบนี้ กันต์กวินทร์คือผู้บริหารทั้งโรงแรมชื่อดังและบริษัทเกมที่เกือบจะเจ๊งแต่ก็ฟื้นตัวกลับมาได้อีกครั้ง กันต์กวินทร์เป็นคนฉลาด และที่สำคัญเป็นคนที่รู้ตัวว่าชอบผู้ชายมานานกว่าเขา
“ตอนแรกผมแค่หาเรื่องแหย่คุณเล่น แต่พอเห็นคุณปล่อยออร่ามีความสุขออกมาเรื่อย ๆ ผมก็ได้แต่คิดว่านั่นใช่คุณจริง ๆ เหรอ?” เป็นเพราะฟังเรื่องคนในทีมจากปากเชร์มานานเขาจึงซึมซับเรื่องราวเหล่านั้น บวกกับเห็นเองด้วยตา การมองความแตกต่างของแจ็คจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้กันต์รู้สึกดี
“ยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้”
“ผมไม่มีแผนจะเล่าให้ใครฟังซะด้วยสิ” กันต์รู้ว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับแจ็ค หลัก ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องรู้สึกดีกับผู้ชายด้วยกัน แต่มันยังมีเรื่องธีร์ที่ยังต้องสะสางซึ่งไม่รู้ว่าวันนั้นจะมาถึงหรือไม่
“ผมออกอาการชัดขนาดนั้นเลยเหรอ ไอ้ธีร์จะดูออกหรือเปล่าครับ?”
“เรื่องนั้นผมคงบอกไม่ได้ แต่ถ้าเขารู้เมื่อไหร่ ผมก็อยากให้คุณอธิบายให้เขาเข้าใจด้วยความจริงใจทั้งหมดที่คุณมี”
“...”
“คุณรักธีร์ ธีร์ก็รักคุณ ผมคิดอยู่เสมอว่าถ้าเราเข้าใจกันมากพอ ปัญหาไหนก็คงจบได้ด้วยดี ต่อให้ระหว่างนั้นจะมีตึง ๆ ไม่คุยกันบ้าง แต่ถ้าเราสำคัญสำหรับเขาจริง ๆ ยังไงเขาก็จะกลับมา”
“ไม่รู้สิ ผมเข้าใจเหตุผลของมันทั้งสองคนที่ไม่อยากกลับมาเป็นเพื่อนกันอีก แต่การที่ผมเทียวไปหาไอ้เท็นสลับกับไอ้ธีร์แบบนี้มันก็อึดอัดเหมือนกัน”
ไอ้เท็นก็รู้สึกไม่ดีเพราะคิดว่าแย่งเขามาจากไอ้ธีร์ ส่วนไอ้ธีร์ก็นอยด์เงียบเพราะรู้สึกเหมือนถูกแย่งเพื่อน จริงอยู่ที่ทุกคนโตจนอายุจะสามสิบแล้ว แต่เรื่องละเอียดอ่อนเหล่านี้อายุหรืออะไรก็ช่วยแก้ไขไม่ได้เลย
“ตอนนี้คุณคงมีเรื่องให้คิดเต็มไปหมด แต่ไม่เป็นไรนะแจ็ค” กันต์วางมือลงบนบ่ารุ่นน้องคนสนิทที่มีสถานะเป็นลูกจ้าง “อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดเถอะ แต่ระหว่างนั้นอย่าจมอยู่กับความไม่สบายใจเลย ช่วงเวลาที่ยังมีความสุขได้ก็กอบโกยมันให้พอ”
“พูดน่ะมันง่าย”
“ก็เหมือนคุณตอนที่ผมมีทีท่าว่าจะจีบเชร์ไม่ติดนั่นแหละ”
“เหมือนถูกเอาคืนยังไงก็ไม่รู้สิ” แจ็คพรูลมหายใจออกพลางเสยผมขึ้น แม้จะอึดอัดกับเรื่องไอ้ธีร์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการได้บอกเล่าความในใจบวกกับได้รับคำปลอบจากบอสนั้นมันทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเป็นเท่าตัว
“ดีใจที่คุณยอมพูด”
“มันไม่ใช่ผมเลย ผมควรจะเงียบมากกว่าจะกระวนกระวายแบบนี้”
“คนเราไม่ได้มีด้านเดียวสักหน่อย อย่างเชร์ตอนอยู่กับพวกคุณก็เป็นอีกแบบนึง ตอนอยู่กับผมก็เป็นอีกแบบนึง ผมก็มีมุมที่มีแค่แม่ที่เคยเห็นเหมือนกัน”
“กับบางเรื่อง เราก็เล่าให้เพื่อนฟังไม่ได้ใช่ไหมครับบอส?”
“ครับ คุณพูดถูก” ชายวัยกลางคนตอบอย่างเข้าใจ สำหรับบางคนอาจจะเล่าทุกเรื่องได้ แต่สำหรับบางคนก็อาจจะพูดไม่ได้เลยเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกี่ยวกับเพื่อนคนนั้นโดยตรง
กันต์ยังคงยิ้มขณะมองสีหน้าอีกฝ่ายที่ยังคงแฝงไปด้วยความกังวลอยู่เล็กน้อย ถ้ามองในมุมของคนรู้จัก แจ็คก็เป็นคนดีเกินกว่าที่เขาจะเพิกเฉยไม่สนใจได้ ผู้ชายละเอียดอ่อนที่มักจะใส่ใจคนรอบข้างไม่ว่าจะเรื่องอะไร คนที่นึกถึงคนอื่นอยู่เสมอก็ควรมีความสุขบ้าง
“ถ้าผมพังเมื่อไหร่...”
“ผมจะถือแก้วกาแฟรอฟังคุณอยู่ตรงนี้”
“...”
“แต่คุณคงไม่พังอีกหรอก เพราะคุณเคยพังไปแล้ว” กันต์ยิ้มอย่างเข้าใจ “แต่ถ้าวันไหนคุณพังอีก ผมก็เชื่อว่าคุณจะประกอบมันใหม่ได้”
“ยอม วันนี้บอสหล่อจริง ๆ” แจ็คยิ้มขำ และคนถูกชมก็ทำท่ายืดอกภูมิใจกับเรื่องซึ่งมีเพียงเขาและอีกฝ่ายที่รู้กันแค่สองคน
“แจ็ค เพื่อนมาหาอีกแล้ว!!!”
“...”
“...”
ทั้งคู่สบตากันหลังจากได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านนอก กันต์ขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าซึ่งมีท่าทีเลิ่กลั่กก่อนจะรีบออกไปหา ‘เพื่อน’ ที่ลงทุนมาถึงบริษัท
“บอกว่าถ้าถึงแล้วให้โทรมาไง”
“พอดีพี่ในทีมมึงบอกให้เข้ามาพร้อมกันได้ กูกลัวน้ำแข็งในชานมละลายก็เลยไม่ได้โทรขอมึงก่อน ทำไมวะ มึงจะโดนด่าเหรอ?” เท็นรีบแก้ตัวเพราะกลัวโดนดุ ก็รู้ว่าที่นี่เป็นที่ทำงาน แต่เขาก็เคยมาแล้วหลายครั้ง อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ถือวิสาสะเข้ามาเองด้วย
“แล้วนี่เอาอะไรมาแจกชาวบ้านอีก?” แจ็คมองคนตรงหน้าอย่างอ่อนใจ พอเป็นเรื่องนัดกินข้าวหรือนัดไปทำอะไรไอ้เท็นมันไม่เคยจะสาย มีแต่จะมาก่อนเวลาแถมมีอะไรติดไม้ติดมือมาให้คนอื่นอีกต่างหาก
“ซื้อมาฝากพี่ในทีมมึงไง ให้ไปแล้วส่วนนึงแต่พี่เอ๋ไม่อยู่เลยเหลือสองแก้ว”
“งั้นผมขอแก้วนึง” ทั้งคู่หันไปมองชายชุดสูทที่เข้ามาแทรกกลางพร้อมคว้าแก้วชานมไปเตรียมเจาะ แต่เท็นก็รีบคว้าเอาไว้ได้ทัน
“แก้วนี้ไม่ได้ครับพี่กันต์ หวานน้อยเอ็กซ์ตร้าไข่มุกของไอ้แจ็ค”
“...?”
“...”
เหมือนเวลาหยุดนิ่ง เท็นยิ้มเจื่อนพลางดึงหลอดจากมือเจ้านายเพื่อน ก่อนจะเจาะแก้วใหม่แล้วยัดใส่มือให้อย่างรู้งาน ก็รู้ว่ามันแค่ชานมไข่มุกที่ออกไปซื้อใหม่ก็ได้ แต่แก้วนี้ของไอ้แจ็คใครก็ห้ามมาแย่งไป โอเคนะ?
“ยังไงไอ้แจ็คยังไง ชีวิตนี้จะไม่พาสาวมาอวดกันเลยใช่ไหม โว๊ะ” เสียงรุ่นพี่แซวดังมาจากด้านข้าง แจ็คจึงทำมือปัด ๆ ขอให้เลิกพูดจาเลอะเทอะเสียที
“ก็มันบอกว่าถ้ามีเมื่อไหร่เดี๋ยวจะพามาโชว์ตัว นี่ก็รออยู่เด้อ”
“หรือว่าที่พามาบ่อย ๆ นี่?!”
“ไม่ใช่แค่เพื่อน?!”
“ไม่มีงานทำกันหรือไงหื้ม?” กันต์หยุดสงครามก่อนที่จะมีใครยิงปืนใหญ่ เขาไม่อยากให้แจ็คต้องอึดอัดเพราะเพื่อนร่วมงานแม้ว่าสิ่งที่พูดมาจะเป็นความจริง แต่พอหันไปข้างตัวก็พบว่า ‘สองเพื่อนสนิท’ ได้ปล่อยความผิดปกติออกมาอย่างชัดเจนโดยการใส่ใจกันและกันจนเกินเหตุ
“เออ กูเจาะเองได้”
“ยุ่งไร เดี๋ยวกูทำเอง กูเป็นคนซื้อมา”
“งั้นแดกแทนกูเลยไหม เคี้ยว ๆ แล้วกลืนลงไปให้หมดเลยนะ”
“ได้” เท็นงับหลอดแล้วดูดชานมอึกใหญ่พร้อมเคี้ยวโชว์ พอคนท้าเห็นว่าของอร่อยถูกเพื่อนชิงตัดหน้าชิมคำแรกไปจึงบีบกรามอีกฝ่ายจนปากจู๋
“เฮ้อออออออออออ หมั่นไส้จริง ๆ” เท็นขยับไปยืนข้างเพื่อนสนิทเมื่ออยู่ ๆ พี่กันต์ก็บ่นอุบอิบก่อนจะงับหลอดชานมแล้วเดินเข้าไปในห้องทำงานโดยทิ้งเขาไว้กับความสงสัยว่าหมั่นไส้นั่นคือหมั่นไส้อะไร
“เจ้านายมึงเป็นไรวะ?” เท็นดูดชานมอีกครั้งก่อนจะเกือบสำลักเพราะถูกเพื่อนแย่งแก้วไป
“ไม่รู้ น่าจะเป็นเรื่องต้องกินข้าวเที่ยงคนเดียว แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญแล้ว ก่อนอื่นจ่ายเงินกูมาห้าบาทค่าดูดชานม”
“เอ้า เงินกูซื้อไหมอะครับพี่” ดูมัน ยังมีหน้ามาแบมืออีก ขอบคุณสักคำก็ไม่มี
“เงินคุณแล้วไงอะครับ ผมจะเอา”
“อ้าว ร้องจังเลยอะ อยากได้นักก็เอาไป กระเป๋าเงินผมงอกเงินออกมาได้เองอยู่แล้ว” เท็นล้วงกระเป๋าเงินออกมาฝาดลงฝ่ามือไอ้ขี้งก
“เอ็กซ์ตร้าไข่มุกจริงเหรอวะ ทำไมได้นิดเดียว” แจ็คยกแก้วชานมขึ้นระดับศีรษะพลางก้มมองก้นแก้ว
“มันไม่นิดหรอก ตะกี้ผมดูดเยอะไปหน่อยว่ะ” ทั้งคู่เดินออกมาจากบริษัท ก่อนเท็นจะหยุดฝีเท้าบนขั้นบันไดเมื่ออยู่ ๆ ไอ้แจ็คก็หยุดเดินพร้อมรอยยิ้มแบบที่เขาไม่เข้าใจ
“แล้วดูดความคิดถึงผมไปด้วยเปล่าวะ ใจวูบวาบเลย”
“โห่ ไอ้ส้นตี๊น” เท็นมองไอ้คนพยายามหยอด เดี๋ยวสักพักมันจะเขินตัวเองเพราะเล่นมุกกะโหลกกะลาอะไรแบบนี้
เท็นคว้าข้อมืออีกคนให้เดินลงมาด้วยกันพร้อมแก้วชานมหวานน้อยที่คงเลี่ยนตายได้ถ้าดื่มเข้าไปตอนนี้ ก็แล้วอย่างไร สตรีมเกมอีกทีก็ตอนสองทุ่ม เล่นเกมไปก็แล้ว แต่เหมือนว่าเขาเอาแต่ใจจดใจจ่ออยู่กับเวลาเที่ยงวันเพื่อที่จะได้ออกมากินข้าวกับไอ้แจ็ค
“เท็น”
“เออ”
ทั้งที่ไม่กี่นาทีก่อนยังคงกังวลกับเรื่องที่คิดไม่ตก แต่พอได้เห็นหน้าไอ้เท็นใกล้ ๆ แบบนี้ก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี แค่มันมาหาที่นี่ แสดงออกว่าการได้อยู่กับเขานั้นมันดีเสียยิ่งกว่าอะไร... วันนี้ก็กลายเป็นวันดี ๆ อีกวันแล้ว
“เปล่า แค่คิดถึงเฉย ๆ”
(จบครึ่งแรก)ยังไม่ได้เทเรื่องนี้จ้า พอดีว่าเดือนที่แล้วกลับต่างจังหวัดด้วย แล้วพอกลับมาก็วุ่นวายหลายอย่างเพราะทำเรื่องย้ายที่อยู่ เพิ่งย้ายเสร็จเมื่อวานก่อน แต่กว่าจะเก็บของ จัดของให้เข้าที่ก็ลามมาหลายวันเรย ขอโทษที่ให้รอเด้อจ้า ครึ่งหลังจะรีบมาต่อไว ๆ นะคะ แต่อาทิตย์นี้กับอาทิตย์หน้าเราก็อาจจะยังยุ่ง ๆ อยู่เพราะติดธุระติดกันหลายวัน + กับต้องแพ็คน้องโซ่+บักแหลมรอบรีปริ๊นท์ส่งด้วย แต่เอาเป็นว่าจะพยายามไม่หายนานแร้ว
ส่วนเรื่องเปิดพรีเล่ม ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ เรายังไม่อยากรีบพรีตอนที่ยังไม่รู้จำนวนหน้า บวกกับช่วงนี้ยังยุ่ง ๆ เลยยังจัดการอะไรได้ไม่ดี เพราะงั้นรอก่อนเด้อออออออออออ นั่งอยู่ในโอ่งเย้นเย้นนนนนนนนนนน