นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -  (อ่าน 844191 ครั้ง)

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
มานั่งรอด้วยคนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3

nuttykung

  • บุคคลทั่วไป
สรุปว่าทวงกันทั้งบอร์ดอ่ะพี่นาย

 :laugh: :laugh:

ว่าแต่อย่าลืมนะ

สัญญาสองข้อระหว่างอาทิตย์กับธงรบอ่ะ

ยังรออ่านอยู่นะคับ

อิอิอิ

ausmabank

  • บุคคลทั่วไป
 :m25:โอ้ย อ่านทันแล้วครับ

ดีใจมากเลยครับ 10 วันเต็มๆ อ่านทันจนได้


มีอะไรจาพูดเยอะมาก


แต่ไม่พูดได้ไหม


มีอะไรให้คิดเยอะมากแต่ไม่คิดได้ไหม กลัว เหมือน คุน นุ


อยากบอกว่า


ไม่รู้จาบอก อะไร

แค่อยากบอกว่าอ่านทันจนได้


เหมือนจาดีใจแต่ก็ผิดหัวงเนอะ ต้องมานั่งรอ คโพส โพสต่อนี่ย


แต่ก็อะ รอก็ด  เดี๋ยวคนโพสจาน้อย ยิ่ง เห็นบอกว่า แก่อยู่เอ้ยไม่ใช่ มีอายุเฉยๆ



เด็กน่ารักอย่างผมก็เป็นกำลังใจ ให้ คนโพสต่อไปละกาน


ยัง ไงผมก็รัก อธิคม ธงรบ คนเดียว

เอ้ 2คนนี่หว่า


รักคนโพส หรือเปล่า :เฮ้อ:

ออฟไลน์ K2KARN

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3084
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +393/-6

เปลี่ยนมาตามอ่านที่นี่บ้าง  :L2:

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
 :really2:  กลับมาติดตามแล้วนะครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
อรุณสวัสดิ์ครับ
สุดสัปดาห์ก็พักผ่อน ปลอดอินเตอร์เน็ตแล้วก็เช้าวันจันทร์ก็มาเจอกันอีก คิดถึงผู้อ่านใจแทบขาด ทั้งผู้อ่านที่เป็นห่วงอธิคม ผู้อ่านที่รุมยำคุณนุ ผู้อ่านที่อยากกระทืบอาวุธ และผู้อ่านที่อยากปลอบอาวุธด้วยนะครับ
ตอนนี้ผมเริ่มกลับไปฟิตร่างกายที่ยิมแล้ว ก็เลยเจียดเวลาไปวิ่งและยกน้ำหนัก จะได้หุ่นดีกล้ามสวย แต่แค่สองครั้งแรกก็มีเรื่องกับคนเขาไปทั่ว เช้านี้ก็เล่นเอายามของห้างอยากจะดักตีหัวตอนออกจากยิมล่ะ แทนทีีจะได้ยกน้ำหนัก กลับจะได้ต่อยมวยแทน
อีกเดือนครึ่งเท่านั้นล่ะ ใครจะมาหาว่าผมอวบอั๋นไม่ได้แล้ว จะหุ่นดีให้ดู 555 (ถ้าไม่ต่อยกับ รปภ ห้างเซ็นทรัลก่อนนะ)

บททีั่่ 28 ครับ (บทนี้จักกะจี้หน่อยนะ ใครคิดว่าน่าเกลียดและรับไม่ไ้ด้ก็ขอโทษด้วยนะครับ พยายามเล่าแบบใช้ศิลปะทางภาษาที่สุดแล้วเมื่อไม่ให้อุจาด)

28
กลับจากโรงพยาบาล สารวัตรธงรบและอาทิตย์ตรงไปยังโรงแรมเล็กๆ ข้างตลาด โรงแรมแห่งเดียวในอำเภอสองของจังหวัดแพร่
อาทิตย์ยืนมองโรงแรมอยู่ครู่หนึ่ง โรงแรม "ใจสดชื่นโฮเต็ล" เป็นตึกปูนสีเทาหม่นสูง 6 ชั้น ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ที่ได้รับการดัดแปลงเป็นโรงแรม ป้ายสีน้ำเงินกรอบทองบอกชื่อโรงแรมติดอยู่เหนือประตูทางเข้าที่เป็นไม้แผ่นใหญ่ทาสีน้ำตาลซีด ธงรบปลอบอาทิตย์ว่าให้อดทนพักสักคืนสองคืน หลังจากนั้นเขาจะหาที่พักดีกว่านี้หากต้องอยู่นาน สารวัตรคนใหม่ทราบดีว่าอาทิตย์ไม่คุ้นเคยกับต่างจังหวัด โดยเฉพาะเมื่อต้องพักที่โรงแรมเล็กๆ ในอำเภอที่เงียบสงบ
ธงรบแปลกใจ อาทิตย์ไม่ได้บ่นอย่างที่เขากลัว ตอนแรกเขากังวลว่าอาทิตย์จะพักโรงแรมเก่าๆ ไม่ได้ ถึงตอนนี้เขาจึงเห็นว่า 'ตี๋เข้ม' ของเขาไม่ได้เป็นคนเรื่องมาก
อาทิตย์กับเขานั่งทานอาหารรถเข็นริมทางแบบง่ายๆ แวะซื้อของใช้จิปาถะจากร้านขายของชำหน้าตลาด แล้วกลับห้องพัก ชายหนุ่มทำกิจวัตรส่วนตัวเงียบๆ ตอบคำถามเขาบ้างสั้นๆ จนถึงตอนเข้านอนก็ถึงเวลาถกเถียงกันเช่นเคย...
"อาทิตย์ อย่าดิ้นสิ ยุกยิกอยู่ได้ ขยับไปขยับมาแบบนี้ ก้นมาโดนปืนใหญ่ เดี๋ยวก็ตั้งลำ ไม่ได้นอนกันพอดี" ธงรบแกล้งปรามเสียงกระเส่า เพราะอาทิตย์ดิ้นขลุกขลักไม่ยอมอยู่นิ่ง
"ผู้กองก็ขยับถอยไปสิ"
"ถอยไปได้ยังไงที่รัก จะตกเตียงอยู่แล้ว เตียงเล็กนิดเดียว"
"แล้วขึ้นมานอนทำไม รู้ว่าตัวเองตัวใหญ่ ทำไมไม่นอนพื้น" อาทิตย์เริ่มเหนื่อยหน่ายที่จะต่อล้อต่อเถียงกับธงรบเช่นคืนอื่นๆ ก่อนนอน
"โอ้โห พูดยังงี้ก็สวยสิ ไล่กันเลยเหรอที่รัก พี่เป็นคนจ่ายค่าห้องนะจ๊ะจะบอกให้" แทนที่จะขยับออกห่าง ธงรบกลับเบียดชิดเข้าหาตี๋หนุ่มของเขามากกว่าเดิม
อาทิตย์ยังขยับอยู่ไม่ยอมหยุด...ที่นอนนุ่มเกินไปทำให้เขานอนไม่สบาย ชายหนุ่มคุ้นเคยแต่ที่นอนราคาแพงที่บ้าน เตียงโรงแรมเล็กๆ ในอำเภอห่างไกลความเจริญเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัว
"งั้นผมเป็นคนจ่ายก็ได้ แค่ไม่กี่ร้อย" แม้จะเบื่อหน่ายแต่อาทิตย์ก็อดตอบไม่ได้...บางครั้งเขาก็เริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับการที่ต้องเถียงกันก่อนนอนเช่นนี้ แต่ใจหนึ่งก็ยังรู้สึกโล่งใจที่ไม่ต้องนอนด้วยกันทุกคืน เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะอดทนได้มากพอที่จะไม่ผลักผู้พิทักษ์สันติราษฏร์เจ้าปัญหาให้ตกเตียงได้หรือเปล่า
"เอาเถอะน่า พรุ่งนี้ค่อยไปหาโรงแรมใหม่ในตัวจังหวัดนะ เอาเตียงคู่ซะเลย จะได้แยกกันนอน..."
"ถึงเตียงคู่ ผู้กองก็ยังดันทุรังมานอนกับผมอยู่ดี" อาทิตย์พูดเสียงสะบัด
"รู้แล้วยังจะมาบ่น ก็คนมันรักนี่นา ห้ามได้ไง" ธงรบเริ่มมืออยู่ไม่สุข ป่ายมือไปมา ยุกยิกอยู่กับส่วนล่างของอาทิตย์ ชายหนุ่มเอื้อมมือลงมาปัดป้อง
"ฮื่อ...หน่อยน่า...นะ" ธงรบอ้อน
"อย่าทำ เอามือออก คนยิ่งนอนไม่หลับอยู่ด้วย"
"ถ้านอนไม่หลับก็มาออกแรงกันซักหน่อย พอให้เหนื่อยๆ จะได้หลับสบาย" ธงรบสอดมือเข้าไปในกางเกงของตี๋เข้มแล้วบีบคลึงเนื้อแน่นๆ เต็มไม้เต็มมือ
"ไม่เอา" อาทิตย์เสียงอู้อี้ มือจับข้อมือนายตำรวจหนุ่มดึงออก แต่อีกฝ่ายที่แข็งแรงกว่าขัดขืน
"ฮื่อ...อย่าขัดใจสิ" ปากกระซิบตรงใบหู แล้วขบเม้มเบาๆ เบียดอกแกร่งเช้าชิดด้านหลังแน่นของอาทิตย์จนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน
"อาทิตย์จ๋า ขอพี่เถอะนะ ไม่ได้ทำอะไรกันมาตั้งหลายวัน ผู้กองธงรบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว"
ธงรบยอมเรียกตัวเองว่าผู้กองทั้งที่ตัวเองรู้สึกภูมิใจนักหนาที่เพิ่งได้เลื่อนยศ เพราะรู้ว่าอาทิตย์ไม่ค่อยชอบเรียกยศใหม่ของเขา
สารวัตรคนใหม่เป่าลมเบาๆ ใส่หูของตี๋หนุ่ม ลิ้นเริ่มตวัดไล้ไปตามใบหูนุ่มๆ เนียนสะอาดของคนที่กำลังเริ่มตัวสั่นเพราะความซาบซ่าน
"ไม่ให้..."
"ให้หน่อยเถอะ...จะไม่ไหวอยู่แล้ว อดทนมาจะครบห้าวันอยู่แล้วนะ" สารวัตรคนใหม่ตื้อ...มือป่ายไปป่ายมาราวหนวดปลาหมึก
"ถ้าอยากจะมีอะไรกัน คืนนี้ผมต้องทำ" อาทิตย์ยื่นคำขาดเสียงเบา เริ่มจะขาดห้วง...ร่างกายเริ่มตอบสนอง หน้าขาร้อนผะผ่าวจนแทบจะระเบิด
"ได้ไง ผลัดกันสิ พี่จำได้ว่าล่าสุดเป็นทีของอาทิตย์ คราวนี้ควรเป็นทีของพี่บ้าง พักหลังๆ อาทิตย์ชักจะเอาเปรียบพี่มากไปแล้วนะครับ" ธงรบครวญ
"ผู้กองจดเอาไว้หรือ ถึงจำได้"
"ก็พี่นับอยู่" สารวัตรคนใหม่เสียงแข็ง
"ตามใจ ผลัดกันก็ผลัดกัน แต่ผลัดกันคืนนี้เลยนะ"
อาทิตย์เริ่มจะทนไม่ไหวเหมือนกัน ทั้งที่เขารู้ว่าตัวเองกับธงรบนั้นมีความสัมพันธ์กันแปลกๆ แต่ทุกครั้งที่โดนนายตำรวจหนุ่มเล้าโลม เขาก็กลายเป็นกองไฟที่โดนน้ำมันสาดใส่ให้กระพือลุกโหมทุกครั้ง ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะฝืนเอาไว้ได้ ธงรบมีพลังอำนาจบางอย่างที่จุดประกายความปรารถนาทางกายให้เขากระโจนเข้าสู่ห้วงหฤหรรษ์ได้ไม่จบสิ้น
"ว้า เอ้างี้เลยเหรอ ผลัดกันแบบแข่งกีฬาทีมเหย้าทีมเยือนไม่ได้หรือไง" ธงรบยังต่อรอง
"ผู้กอง จะทำหรือไม่ทำ ถ้ายังต่อรองอยู่ ผมจะลงไปนอนพื้นแล้วนะ"
อาทิตย์หันขวับกลับมา จ้องหน้าธงรบที่นอนตะแคงขมวดคิ้วทำหน้ามุ่ยอยู่ ก่อนที่จะบดปากเข้ากับนายตำรวจช่างพูด มือขย้ำหน้าอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา บีบเค้นอย่างเมามัน
เสียงธงรบครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่าน สองแขนโอบรัดตัวอาทิตย์เอาไว้แน่น ขาแข็งแรงสอดแทรกเข้ามาระหว่างขาของชายหนุ่ม ก่อนจะเกี่ยวกระหวัดรัดกันแน่น
อาทิตย์พลิกตัวขึ้นด้านบน ต้องการควบคุมเกมตามใจตนเอง ขบเม้มใบหูของธงรบว บดตัวเบียดลงกับกายแข็งแกร่งกำยำของนายตำรวจหนุ่มที่แอ่นดันขึ้นมาต้าน
ธงรบลดมือสองข้างลงสอดเข้าไปในกางเกงนอนของตี๋หนุ่มแล้วดึงลงไปจนสุด ก่อนยกเท้าขึ้นมาช่วยเกี่ยวดันให้หลุดพ้นไป ท่อนแกร่งของชายหนุ่มบดหน้าท้องเปลือยเปล่าของเขาซึ่งตอนนี้กางเกงหลุดหายไปแล้วตั้งแต่ถูกพลิกตัวลงข้างล่าง
"อาทิตย์...พี่ก่อนนะ..." เสียงธงรบขาดห้วง
"ไม่เอา...ผมก่อน" อาทิตย์ลากลิ้นลงตามลำคอของธงรบ ต่ำลงเรื่อยจนถึงหน้าอก เบาๆ อีกฝ่ายรู้ใจจึงรีบยกมือขึ้นเหนือศรีษะ ปล่อยให้ชายหนุ่มถอดเสื้อผ้ายืดแขนยาวออกจากตัว แล้วก้มหน้าลงดูดเม้มติ่งเล็กๆ ที่แข็งเป็นไต ขบกัดสลับด้วยการตวัดลิ้นดุนดันไม่ยอมหยุด
ร่างกายแกร่งของสองหนุ่มบดเบียดถ่ายเทความร้อนให้แก่กันจนแทบจะหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน เสียงหายใจหอบกระเส่าหนักหน่วง ครวญครางเพราะรสเสน่หา เหงื่อยกรายแตกพลั่กเพราะความเร่าร้อนทั้งที่อากาศรอบตัวหนาวเย็น
อาทิตย์ละจากแผ่นอกกว้างกำยำของธงรบ เลื่อนหน้าต่ำลงไปจนถึงส่วนสำคัญที่ทำให้ธงรบต้องร้องครางออกมาเสียงดังเมื่อริมฝีปากเรียวของตี๋หนุ่มเข้าครอบครอง อุ้งมือแข็งแรงสองข้างของสารวัตรหนุ่มกดศรีษะของชายหนุ่มสลับกับบดขยี้ แล้วประครองให้ขยับเป็นจังหวะ กายสะท้านบิดแอ่นไปมาจนเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่นแกร่งแน่นขยับตามจังหวะบิดกาย
ใบหน้าของอาทิตย์ถอนขึ้น ส่ายหัวหนีการควบคุมของสองมือของธงรบ...อาทิตย์มีจุดหมายอื่นที่เขาต้องการ...ความปรารถนาของเขาเริ่มล้นทะลัก สองมือของชายหนุ่มเอื้อมไปดันขาสองข้างของธงรบให้กว้างขึ้น...เพิ่มแรงอีกนิด...แล้วสิ่งที่เขาต้องการอยากสัมผัสก็รออยู่เบื้องหน้าให้ตักตวงอย่างเต็มอิ่ม
ธงรบไม่ขัดขืน ได้แต่แหงนหน้าสูดปากรับการปรนนิบัติจากเรียวปากของหนุ่มหน้าตี๋ที่เขารักหมดหัวใจ
อาทิตย์เตรียมทางสำหรับความต้องการสุดท้ายของเขาจนพอใจ แล้วจากนั้นก็ถึงเวลาที่เขาจะตักตวงความสุขสุดท้ายที่ตอนนี้เป็นทีของเขา...สองตาประสานกัน ถ่ายทอดความรู้สึก สื่อสารว่าถึงเวลาแล้ว...
"อาทิตย์"
"ผู้กองธงรบ"
อาทิตย์ขยับตัวขึ้น พร้อมแล้วสำหรับบทบาทที่เขาเลือกก่อน สองมือดันขาแกร่งของสารวัตรธงรบกางออก หลับตาพริ้ม เตรียมพร้อมที่จะรู้สึกถึงความอบอุ่นที่เขาโหยหา
เสียงร้อง "อื้อ" ดังขึ้นเบาๆประสานกันเมื่อแรกเริ่ม อาทิตย์นิ่งอยู่ชั่วครู่ก่อนขยับช้าๆ แล้วเร่งจังหวะขึ้นพร้อมเสียงของทั้งสองที่ดังขึ้นเรื่อยๆ กายร้อนผ่าวของสองหนุ่มบดเบียดเสียดสีกันจนเร่าร้อนประหนึ่งลูกสูบรถยนต์ที่กำลังเร่งเครื่องทะยานสู่จุดหมาย ลีลาท่าทางขยับพลิกแพลงเปลี่ยนไปตามสภาพถนน ที่เป็นเนินชันต้องเร่งลูกสูบแรงและเร็วขึ้นเพื่อปีนป่าย บางช่วงเนิบนาบเพราะทางเรียบ หากบางครั้งขรุขระต้องกระเด้งกระดอนจนรถเขย่าขย่มไปมาแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ จวบจบเมื่อลงเนิน จึงกระโจนทะยานอย่างบ้าคลั่ง ลูกสูบเร่งกระแทกกระทั้นเพื่อเร่งความเร็วให้พุ่งทะลุมาตรวัด เมื่อใกล้ถึงจุดหมาย การเสียดสีกันที่แรงและเร็วมาเป็นเวลานานตลอดระยะทางก็ทำให้ความร้อนถึงขีดสุดจนลูกสูบไม่อาจทานทนได้ ทำงานกระแทกกระทั้นเป็นครั้งสุดท้ายจนรถกระโจนถึงปลายทางก็หมดสภาพแตกระเบิดออกมาจนไม่อาจควบคุมได้
ท้ายที่สุดรถด่วนคันนั้นก็สงบนิ่ง ผู้ขับถอนหายใจลึกๆ อย่างหมดแรง...แต่อีกคนที่ร่วมทางมาด้วยกันกลับไม่ยอมหยุด พลิกตัวลุกขึ้นมารับหน้าที่ทำภารกิจต่อ...
ผลัดกันขับ...
"ผู้กอง...เบาๆ นะ" คนขับคนแรกอ้อนวอน
"ครับผม"
คนขับคนใหม่ให้สัญญา เพราะอีกฝ่ายรู้ดีว่าสารถีคนนี้ขับรถดุเดือดจนเขาหวาดหวั่น ชายหนุ่มหลับตา กัดฟัน...รอการเดินทางสู่จุดหมายคล้ายๆ กันที่จะกำลังจะเริ่มต้น...การเดินทางที่ค่อนข้างยาวนานกว่าครั้งแรก ซ้ำยังมีเนินสูงชัน ขรุขระ ลาดเอียงมากกว่าเกือบสองเท่า รถคันใหญ่ติดเครื่องเบาๆ นายตำรวจหนุ่มผู้กลายมาเป็นคนขับรถดันคันเกียร์ไปข้างหน้า แม้คันเกียร์จะฝืดไปบ้าง แต่เมื่อเพิ่มแรงดันเพียงนิด รถก็พร้อม... ธงรบเริ่มขยับรถคันใหม่เคลื่อนตัวพร้อมเสียงร้องของเพื่อนร่วมทาง
"อู๊ว...ผู้กอง...เบาๆ" อาทิตย์หอบหายใจเสียงดัง ตาเรียวเล็กเบิกกว้าง ส่ายหัวไปมา
"เบาแล้วครับ...อย่างเกร็งสิ"
แม้อาทิตย์จะคุ้นเคยกับธงรบ แต่ทุกครั้งที่เริ่มต้น เขารู้สึกเหมือนร่างกายถูกจับฉีกกระชากออกแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ
เมื่อเข้าที่เข้าทาง คนขับเริ่มเร่งความเร็วช้าๆ พาชายหนุ่มที่กอดกระชับเขาแน่นราวกลัวจะตกจากรถทะยานขึ้นเนินสูงชันเป็นจังหวะ ช้าบ้างเร็วบ้าง จนอดส่งเสียงร้องไม่ได้...สองเสียงดังระงมแข่งกันเนิ่นนานตลอดระยะทางยาวไกล...
...ค่ำคืนนี้...ลูกสูบเครื่องยนต์ต้องทำงานหนัก...กว่าจะได้พักผ่อน...

อาทิตย์เปิดหน้าต่างห้องพัก ยื่นหน้าออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า นานแล้วที่เขาไม่มีโอกาสมาสัมผัสกับธรรมชาติของต่างจังหวัดเช่นนี้ แม้โรงแรมจะอยู่ใจกลางเมือง แต่อำเภอสอง...อำเภอเล็กๆ ทางตอนเหนือของจังหวัดแพร่ก็ยังคงความเป็นเมืองเล็กๆ อันสงบเงียบ ชายหนุ่มก้มลงมองถนนเบื้องล่าง รถเข็นขายอาหารสี่ห้าคันจอดอยู่ข้างถนน ถัดไปทางด้านซ้ายประมาณร้อยกว่าเมตรเป็นตลาดยามเช้า ผู้คนเดินกันขวักไขว่ จับจ่ายซื้อของและทักทายกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ลมเย็นยามเช้าของหน้าหนาวนั้นสดชื่นมากจนอาทิตย์แทบจะลืมเครื่องปรับอากาศในกรุงเทพฯ
ชายหนุ่มชื่นชมกับบรรยากาศยามเช้าอยู่ชั่วครู่แล้วจึงเดินกลับไปที่เตียง หยุดยืนมองสารวัตรธงรบที่กำลังนอนหลับสบายบนเตียงเล็กๆ อาทิตย์ก้มลงดึงผ้าห่มขึ้นคลุมถึงต้นคอของนายตำรวจหนุ่มเพราะเกรงว่าเขาจะหนาว ธงรบถอดเสื้อผ้านอนเช่นทุกครั้ง แม้เขาจะเคยบอกให้สวมเสื้อผ้านอนแต่สารวัตรคนใหม่ก็ไม่ยอมเชื่อฟัง
ใบหน้าของธงรบยามหลับไหลช่างน่าดูนัก ใบหน้าคมเข้มที่ยิ้มแย้มอยู่เป็นนิจตอนนี้หลับสนิท หากยังดูเหมือนกับกำลังยิ้มพราวอยู่ ปากอิ่มเต็มที่เคยเอื้อนเอ่ยคำหวานให้เขาตอนนี้เผยอเล็กน้อย ปากอิ่มเต็มที่จูบเขาอย่างเร่าร้อนเมื่อคืน...ปากที่พร่ำบอกว่ารักเขามาก...รักอย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อน...
เขารู้ว่าธงรบเป็นคนเจ้าชู้ แม้ช่วงเริ่มคบกันนายตำรวจก็ยังเจ้าชู้อยู่ แต่เขาก็สังเกตุว่าธงรบค่อนข้างเปลี่ยนไป...ดูจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม ความเจ้าชู้ก็ลดน้อยลง...
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับธงรบเป็นความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างแปลก...แตกต่างจากความรักที่เขาเคยวาดภาพเอาไว้...ภาพฝันแห่งรักที่เขาเคยวาดไว้มีอนุภาพอยู่กลางภาพ...เด่นชัด...ยิ้มสดใส...ดวงตาเป็นประกาย...ดวงตาที่ทำให้โลกทั้งโลกของเขาสว่างสดใส...แม้เวลาที่ผ่านมาเขาได้ทำใจยอมรับความเป็นจริงแล้วว่าความหวังของเขานั้นได้มอดดับลงไปแล้ว...ตั้งแต่ที่อนุภาพตกลงปลงใจไปกับสารวัตรอธิคม...แต่ทุกครั้งที่เขานึกถึงอนุภาพ...โลกของเขาก็สดชื่นขึ้นทันใด...ทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มของอนุภาพ...ทุกอย่างดูสว่างไสว...ผสมกับ “เงา” ของคนที่เขารักที่ไม่เคยจางไปจากหัวใจ...
เขาไม่เคยคิดว่าจะยึดถือเอาความรักระหว่างเขากับธงรบเป็นความมั่นคงในชีวิต อาทิตย์บอกตัวเองว่าเขาเพียงคบกับธงรบเพราะต้องการใครสักคนในชีวิต...บางช่วง...บางเวลาเท่านั้น นายตำรวจจะไปทำอะไรกับใครก็ได้ เขาไม่เคยกำหนดกฎเกณฑ์ว่าธงรบจะต้องมีเขาเพียงคนเดียว อาทิตย์บอกตัวเองว่าระหว่างเขาทั้งสองนั้น...เป็นความสัมพันธ์แบบเปิด...เมื่อแรกเริ่มสารวัตรธงรบมาจีบเขานั้น นายตำรวจหนุ่มก็ยังออก “จับผู้ต้องหา” ตามเคย บางทีหายไปเกือบเดือน แล้วก็กลับมาจีบเขาเป็นช่วงๆ วนไปเวียนมาจนท้ายที่สุดก็รุกหนัก จนถึงคืนนั้น...คืนที่เขา “ยอม” เป็นของธงรบ “อย่างเป็นทางการ”

อาทิตย์ยังจำได้...เช้าวันนั้น...บนเตียงนอนในห้องรกๆ ของนายตำรวจหนุ่ม...เขานอนซบไหล่ผู้กองธงรบ...มือเขี่ยหน้าอกเล่น...บนเตียงที่ครั้งหนึ่งผู้กองเจ้าเล่ห์เคยพาเขามานอนด้วยเมื่อครั้งเมาไม่ได้สติและเขาก็โกรธเสียหนักหนาว่าธงรบฉวยโอกาสกับเขาตอนเมา...
คืนนั้นเขาก็เมา...แต่ไม่ได้เมาจนขาดสติ...คืนนั้นเขาตัดสินใจว่าจะลองคบกับผู้กองธงรบ...ตัดสินใจว่าเขาต้องตัดใจจากอนุภาพให้ได้...
“อาทิตย์...” เสียงธงรบดังขึ้นเบาๆ
“หือ” อาทิตย์ตอบรับ มือยังเขี่ยติ่งเล็กๆ บนหน้าอกเต็มไปด้วยมัดกล้ามของนายตำรวจ
“เสียวจัง” ธงรบพูดยิ้มๆ
“งั้นผมเลิกก็ได้”
“พูดเล่นครับ ไม่ต้องเลิกนะ ทำแบบนี้ดีแล้ว” ธงรบเอื้อมมือมาจับมือของอาทิตย์ กดเอาไว้แนบกับอก
“อาทิตย์...”
“ผู้กองจะพูดอะไรก็พูดสิ เรียกชื่อผมอยู่ได้” อาทิตย์กล่าว แล้วไล้นิ้วบนหน้าอกแกร่งของธงรบเบาๆ
“ก็แค่อยากจะบอกว่า ตอนนี้อาทิตย์เป็นของผมแล้ว...อย่างเป็นทางการแล้วนะ อย่ามาหาว่าฉวยโอกาสตอนเมานะครับ”
“แล้วไง” อาทิตย์ถามเสียงเรียบ
“ก็หมายความว่าเราเป็นแฟนกัน”
“แค่นอนกันครั้งเดียว ต้องตกลงปลงใจเลยหรือ ผมไม่ใช่ผู้หญิงที่พอเสียตัวให้ใครแล้วก็จะต้องจงรักภักดีกับผู้ชายคนนั้นไปตลอดชีวิต”
ธงรบหัวเราะเบาๆ กระชัดอ้อมแขนที่กอดอาทิตย์ “สองครับ อย่าลืมครั้งแรกที่เรามีอะไรกันสิ”
“ครั้งนั้นไม่นับ ผู้กองฉวยโอกาส และผมก็ไม่รู้สึกตัว”
“ผมว่ารู้สึกนะ จะเตือนความจำให้ อาทิตย์เป็นคนกระชากเสื้อผมจนขาด และพลิกตัวผมลงข้างล่างด้วย” ธงรบทักท้วงก่อนจะร้องเสียงดัง “โอ๊ย”
อาทิตย์ขย้ำหน้าอกผู้กองหนุ่มแน่นกว่าเดิม จนธงรบตัวงอ ใบหน้าเหยเก “อาทิตย์...เจ็บนะ”
ตี๋หนุ่มปล่อยมือแล้วพลิกตัวขึ้นคร่อมนายตำรวจหนุ่มเอาไว้ ร่างเปลือยทั้งสองต้องแสงแดดที่ส่องเข้ามาในห้อง...ผิวขาวเนียนสะอาดของอาทิตย์ทำให้ธงรบอดยกมือขึ้นลูบไล้ไม่ได้
“งั้นเราต้องมาคุยกันซักหน่อย” อาทิตย์ยิ้มบางๆ “ผู้กองอย่าคิดนะว่าผมจะยอมเป็นของผู้กองคนเดียว”
“อ้าว...พูดงี้ได้ไงล่ะจ๊ะ” ธงรบทำหน้าไม่สบอารมณ์ “แล้วอาทิตย์จะไปเป็นของใครอีก อย่าบอกนะว่าจะเป็นของคุณตฤณด้วย…โอ๊ย”
“บ้าน่าผู้กอง” อาทิตย์ขย้ำหน้าอกนายตำรวจหนุ่ม “ผมไม่ได้เป็นคนสำส่อนขนาดนั้น”
“แล้วนี่ว่าผมสำส่อนเหรอ” ธงรบยิ้มมุมปาก
“ผมไม่ได้พูด...ผมหมายความว่า ที่ไม่ยอมเป็นของผู้กองคนเดียวนี่ หมายความว่า ผู้กองก็ต้องยอมเป็นของผมด้วย ถึงจะยุติธรรม”
“ตายห่...” ธงรบอ้าปากค้าง “อาทิตย์หมายความว่าไงจ๊ะ”
“อย่ามาทำเป็นไม่เข้าใจ” อาทิตย์คลายมือบนหน้าอกของธงรบ เปลี่ยนเป็นลูบไล้เบาๆ “ผู้กองก็รู้...ผมยอมผู้กองนี่ ไม่ได้ยอมง่ายๆ นะ ผมคิดอยู่ตั้งนาน และที่สำคัญ ผู้กองเป็นคนแรกของผม และผมก็ต้องการเป็นคนแรกของผู้กองด้วย” อาทิตย์มองหน้าธงรบนิ่ง “หรือว่าไม่ใช่”
“โธ่อาทิตย์” ธงรบคราง “ผมรักษาตัวมาเป็นอย่างดีตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่ม แม้แต่มือใครก็ไม่เคยได้มาแตะก้นเลย จะให้...”
“ว่าไงครับ ถ้าไม่ตกลงก็ไม่เป็นไรนะ ถือว่าเมื่อคืนนี้ก็เป็นคืนของคนรักสนุกสองคนมาเจอกัน ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป” อาทิตย์อมยิ้ม
“เอ่อ...เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่ เรื่องสำคัญของชีวิต ขอผู้กองใตร่ตรองดีๆ ก่อนได้ไหมครับ” ธงรบหน้ามุ่ย ไม่นึกว่าอาทิตย์จะมาไม้นี้
“ครับ ตามใจ คิดนานเท่าไหร่ก็ได้ ผมไม่ว่า” อาทิตย์กล่าว แล้วเอนตัวลงนอนทาบทับนายตำรวจหนุ่ม ซุกหน้าลงบนซอกคอของร้อยตำรวจเอกธงรบ “ผู้กองจะทำใจนานแค่ไหนก็แล้วแต่ผู้กอง ระหว่างนี้ก็ถือว่าเราแค่เป็นคนรู้จักกัน ผู้กองจะไปทำอะไรกับใครก็ได้ ผมก็จะทำอะไรอย่างที่ผมต้องการ เรื่องเป็นฟงเป็นแฟนอะไรที่ผู้กองว่าเมื่อกี้นั่นน่ะ ผมก็ถือว่าผู้กองก็แค่พูดเล่นๆ คะนองปากแบบที่คนเจ้าชู้ชอบพูดกัน” อาทิตย์เผยอปากจูบใบหูของผู้กองหนุ่ม ก่อนพูดต่อว่า “ผู้กองครับ ผมไม่ใช่คนเจ้าชู้ ถ้าผู้กองยังไม่มั่นใจว่าอยากจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ก็ไม่ต้องมาขอเป็นแฟนกับผมนะ”
ธงรบไม่ตอบ...ในใจเขากำลังครุ่นคิดว่าจะเอายังไงต่อไปกับอาทิตย์ดี...เขาอยากมีเวลาคิดสักหน่อย...จริงอยู่ ตั้งแต่เริ่มจีบอาทิตย์เขาก็ยังสนุกกับคนอื่นๆ อยู่บ้าง แต่เขาก็ยอมรับว่าน้อยลงกว่าเดิมมาก...อาทิตย์เริ่มรุกล้ำเข้ามาในจิตคำนึงเขามากกว่าเดิม...กลืนเข้ามาทีละน้อยๆ แม้ไม่รู้ว่าตอนนี้ตี๋หนุ่มคนนี้ครอบครองพื้นที่ในใจเขามากเท่าไหร่แล้ว...แต่ธงรบก็รู้ว่ามากพอสมควร...มากพอจนเขารู้สึกว่าไม่อยากสูญเสียหนุ่มน้อยคนนี้ไป...
....
อาทิตย์ล้างหน้าแปรงฟัน อยากจะอาบน้ำแต่รู้สึกว่าหนาวเกินไป...น้ำอุ่นของโรงแรมเล็กๆ แห่งนี้ก็ไม่อุ่นจัดพอที่จะทำให้เขาตัดสินใจอาบน้ำตอนเช้าได้...ฝักบัวเล็กๆ น้ำไหลเอื่อยๆ มีความอุ่นเพียงน้อยนิด...ดูจะโหดร้ายเกินไปสักหน่อยสำหรับอากาศหนาวเย็นเช่นนี้
ชายหนุ่มชาวกรุงคว้าเสื้อเสว็ตเตอร์สีน้ำตาลเข้มขึ้นมาสวม...อดนึกถึงคนที่ซื้อให้ไม่ได้...อนุภาพซื้อมาฝากเขาจากนิวซีแลนด์เป็นของขวัญวันที่เขารับปริญญา...ตอนที่เขาเข้ามาทำงานใหม่ๆ...วันนั้นอนุภาพ สมบัติ พจนีย์ อธิป และโต้ง ยืนถ่ายรูปกับเขาที่หน้ามหาวิทยาลัย...นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสอ้อมแขนของพี่นุ...ภาพหมู่ที่ถ่ายร่วมกัน...อนุภาพยืนชิดเขาแล้วยื่นมือมาโอบเขาไว้...วันนั้นเองเขามั่นใจว่าแอบรักชายหนุ่มเข้าไปเต็มหัวใจ...
อาทิตย์เดินมองวิถีชีวิตคนเมืองไปจนถึงหน้าตลาด เสียงแม่ค้าร้องเรียกลูกค้าให้ซื้อของ...เสียงภาษาถิ่นคุยกันฟังดูเพราะเหลือเกิน...เขาเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง...บางคนยิ้มให้เขา คงมองออกว่าเขาเป็นคนต่างถิ่น...หรือบางทีอาจคิดว่าเขาเป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น...
ขณะที่กำลังเดินชมตลาดอย่างเพลิดเพลิน พลันสายตาก็มองไปเห็นชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งกำลังซื้อผลไม้อยู่ไม่ไกล...ชายหนุ่มต่างถิ่น แต่งตัวดี สวมกางเกงยีนส์ เสื้อแจ๊กเก็ตสีดำ พันผ้าพันคอสีม่วงเข้ม รูปร่างสูงโปร่ง...ผิวขาวสะอาด ใบหน้ายิ้มแย้ม เห็นจมูกโด่งจากเสี้ยวหน้าด้านข้าง...หน้าตาคล้ายคนที่เขารู้จักมาก...
คล้ายสารวัตรอธิคม!...
...ใคร...ผู้ชายคนนี้คือใคร...ทำใมหน้าตาคล้ายอธิคมมากเหลือเกิน...
เหมือนกับรู้ว่ามีใครจ้องมองอยู่ ชายหนุ่มคนนั้นหันมาด้านข้างแล้วยิ้มให้อาทิตย์ พร้อมก้มหัวลงเล็กน้อยเป็นการทักทาย ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหา
“สวัสดีครับ คุณอาทิตย์ใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มคนนั้นทัก
อาทิตย์ทำหน้างง สงสัยว่าผู้ชายคนนี้รู้จักเขาได้อย่างไร “ใช่ครับ คุณเอ่อ...”
“ผมคชานนท์ครับ” ชายหนุ่มยิ้มกว้างก่อนพูดต่อว่า “น้องชายสารวัตรอธิคม”
“น้องชาย...” อาทิตย์พึมพำ เข้าใจแล้วว่าทำไมจึงหน้าตาเหมือนกันนัก “แล้วรู้ได้ยังไงว่าผมเป็นใคร”
คชานนท์หัวเราะเบาๆ “ผมเสี่ยงทักครับ คิดว่าต้องใช่คุณแน่ เพราะรู้ว่าพี่ธงรบมาเยี่ยมพี่คม แล้วพี่ชายผมก็เคยพูดถึงคุณอาทิตย์ พอเห็นแล้วก็คิดว่าไม่ผิด เพราะดูท่าทางเป็นคนกรุงเทพ หน้าตาเหมือนที่พี่คมเคยเล่าให้ฟัง”
“อ๋อ” อาทิตย์พยักหน้า...สงสัยในใจว่าอธิคมจะพูดถึงเขาอย่างไรให้น้องชายฟัง “หวังว่าสารวัตรคงพูดแต่เรื่องดีๆ”
สองหนุ่มหัวเราะ คชานนท์หน้าตาอ่อนมากจนอาทิตย์ไม่กล้าเดาอายุ...หน้าตาเหมือนอธิคม แต่บุคลิกลักษณะต่างกันราวคนละคน อธิคมดูใจร้อน...เจ้าอารมณ์ เจ้าชู้ กรุ้มกริ่ม เจ้าเล่ห์ รื่นไหล รอบจัด แต่น้องชายดูสุภาพ อ่อนโยน ใจเย็น และยิ้มง่าย “ถ้าจะบอกว่าพูดแต่เรื่องดีก็จะหาว่าเป็นการโกหก แต่เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เรื่องดีครับ แต่ก็มีครั้งสองครั้งที่บ่นๆ แต่ว่าไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีหรอกครับ เขาแค่บ่นว่าหึงคุณอาทิตย์บ้าง”
อาทิตย์ตีสีหน้าไม่ค่อยถูก น้องชายของอธิคมดูนุ่มนวล แต่พูดตรงไปตรงมามากจนเขาคาดไม่ถึง
“แล้วนี่เพิ่งมาถึงหรือครับ ไปเยี่ยมสารวัตรหรือยัง”
“ยังครับ เพิ่งมาถึงเมื่อครู่นี้เอง คนขับรถแนะนำให้แวะซื้ออะไรที่ตลาดเช้า นี่ก็กะว่าจะไปโรงพยาบาลเลย คุณอาทิตย์คงไปเยี่ยมพี่คมแล้ว ผมต้องขอขอบคุณมากนะครับที่เสียเวลามาเยี่ยมพี่ชายผม” คชานนท์พูดเสียงเรียบ มองตาอาทิตย์นิ่ง...หน้าตาจริงจัง
“ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้มากครับ ได้แต่มาเยี่ยมเฉยๆ”
“แค่นี้ก็ดีมากแล้วครับ ส่วนเรื่องจัดการอะไรๆ ให้พี่ธงรบกับสารวัตรใหญ่ทำดีกว่า รายนั้นเขาถนัด”
อาทิตย์ขมวดคิ้ว เพราะไม่รู้จัก “สารวัตรใหญ”
คชานนท์คงรู้สึกตัวว่าอาทิตย์อาจไม่รู้จักอาวุธ จึงรีบพูดขึ้นว่า “สารวัตรอาวุธครับ สามทหารเสือ พี่ธง พี่คม แล้วก็พี่วุธ เขาซี้กันมาตั้งแต่เรียนนายร้อย”
“อ๋อ สารวัตรอาวุธ ผู้กองธงรบเคยเล่าให้ฟัง” อาทิตย์ยิ้มกว้าง...เขาเคยได้ยินแต่ชื่อ ไม่เคยเจอตัว
อาวุธ...ผู้ชายที่ได้อนุภาพไปครอบครอง...ผู้ชายที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของอนุภาพหลังจากที่เลิกกับอธิคม...ผู้ชายที่อนุภาพเลือกหลังจากย้ายจากกรุงเทพฯ หนีมาอยู่ที่แพร่...ผู้ชายที่อนุภาพเลือก...แทนที่จะเป็นเขา...
คชานนท์ขอตัวไปเยี่ยมพี่ชายที่โรงพยาบาล ชายหนุ่มยิ้มกว้างให้อาทิตย์...แล้วเดินไปพร้อมกับคนขับรถที่เดินเข้ามารับของที่อยู่ในมือ คชานนท์เดินช้าๆ ต่างจากสารวัตรอธิคมที่ก้าวเท้ายาวๆ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือทั้งสองเอียงคอเล็กน้อยเวลาเดิน หลังตรง เดินตรง เป็นจังหวะ...
สองคนนี้มีอะไรบางอย่างที่คล้ายกันมาก หากก็มีอะไรที่ต่างกันมากเหมือนกัน...เป็นการผสมผสานที่แปลกประหลาด...เหมือนเขากำลังเห็นอธิคมยืนอยู่ตรงหน้า...ในขณะเดียวกันก็ดูเหมือนไม่ใช่...
น้องชายของอธิคม...ถ้าจะพูดไปเขาเห็นว่าดูดีกว่านายตำรวจหนุ่มมากนัก...ดูไม่เจ้าชู้...ไม่เจ้าเล่ห์...ไม่เจ้าอารมณ์...ดูจริงใจและจริงจัง...มั่นคง...เพียงแค่คุยกันไม่นานเขาก็รู้สึกว่าคชานนท์เป็นคนที่หนักแน่น...เป็นผู้ใหญ่...ดูเหมือนจะเป็นผู้ใหญ่กว่าพี่ชายด้วยซ้ำ...หากจะบอกว่าคชานนท์เป็นพี่และอธิคมเป็นน้อง เขาก็จะเชื่อ...เพียงแต่ใบหน้าคชานนท์ดูอ่อนเยาว์มากกว่านัก...
อาทิตย์อดคิดไม่ได้...หากอธิคมไม่ฟื้นล่ะ...หากอธิคมอาการหนักมากกว่าที่เห็น...อนุภาพจะทำอย่างไร...ใครจะดูแลพี่นุ...
...เขาอยากดูและพี่นุ...แต่อะไรๆ ที่ได้เกิดขึ้นมาแล้วคงทำให้ถอยเวลากลับไปไม่ได้...และถึงแม้จะมีอำนาจวิเศษหมุนนาฬิกาให้ย้อนกลับไป...อำนาจของเขาก็คงไม่มากพอที่จะเปลี่ยนใจของอนุภาพได้...
...ทำอย่างไรก็ไม่มีทาง...ไม่มีทางเลยจริงๆ...
...หากอะไรมันแย่ที่สุดแล้ว...คงเป็นอาวุธที่จะปลอบโยนอนุภาพ...แต่ขณะนี้...เขากลับมองเห็นตัวแทนของอธิคม...ใครคนหนึ่งที่มีเงาของอธิคมทาบทับอยู่...
...หากอะไรมันเป็นไปอย่างที่เราไม่อยากให้เป็น...เขาก็อยากให้อนุภาพมีความสุข...
...หากโชคชะตาจะเล่นตลกกับชีวิตของคน...ก็ขอให้พี่นุมีความสุขเถิด...เขาคงทนไม่ได้ที่เห็นคนที่เขารักต้องทุกข์ทรมานที่ต้องสูญเสียคนรัก...
...แต่ตอนนี้...เขาใจชื้นขึ้น..
...เพียงแค่ได้เห็นคชานนท์...
************* end of chapter 28*****

nuttykung

  • บุคคลทั่วไป
 :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:

จิ้มก้นพี่นาย

เอาให้ทะลุเลย

555+

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
ไม่รอพี่เลยอ่ะ   :z13:  น้องแทนละกัน 555

nuttykung

  • บุคคลทั่วไป
โหยยย

โดนพี่โน๊อาจิ้มแต่เช้าเลย

+1ให้ละกันข้อหาตื่นเช้า  อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18

คิดถึง....สารรวัตรหายไปตั้งหลายวัน  ที่แท้คุณนายหนีไปหาฟิตร่างกายนี่เอง

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
 :z13: น้องฟาง

วันนี้ไปเชียงใหม่ กะน้องฟาง แต่เช้า เสร็จแล้วก็ลงมาแพร่ กะพี่นายต่อ

ปล1. งง งง นะ ทำไมอาทิตย์ต้องใจชื้นอ่ะ
ปล2. เด็กน้อย บังอาจมาจิ้มให้พี่ เด่วเถอะ ไอ้ที่ว่าจะมาอาทิตย์นี้อ่ะ พี่จะจิ้มไม่ยั้งเลย)

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
นึกว่ากำลังอ่านนิยายแข่งรถอยู่นะนี่ กร๊ากกก :laugh:

ผมว่าคชานนท์เหมาะที่จะเป็นภรรยา มากกว่าสามีนะ งืมๆ :m28:

แต่ทางที่ดี คุณนุอย่ามีสามีเพิ่มจะดีกว่านะ

ออฟไลน์ Fujitaga

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ที่สุดแล้วกฏเหล็กของอาทิตย์ก็เฉลยมาแล้วข้อนึงแนะเนี่ย...

อาทิตย์อย่าคิดงั้นดิ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับอธิคม ผมไม่อยากให้อธิคมเป็นเพียงแค่เงานะ
ถึงคชานนท์เป็นน้องชายของอธิคมก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ อธิคม นะ
ไม่มีใครแทนที่ใครหรอก อาทิตย์

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ไม่เอาตัวแทนสารวัตรอธิคม ต้องเป็นสารวัตรเท่านั้นน่ะค้าบบบบบบบบบบบบบบบ  :z3:

ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
อย่าบอกนะ ว่าอาทิตย์จะมาหลงคชานนท์แทน

เด๊วสารวัตรธงรบก็หึงโหดหรอก

 :z2: :z2: :z2:

mecon

  • บุคคลทั่วไป
 :mc4: :mc4: :mc4:  สารวัตรธงรบ มีสามีเป็นของตัวเองแล้ว  :mc4: :mc4: :mc4:
 :mc4: :mc4: :mc4: พ่อตะวันน้อยเปิดซิงภรรยา อุกรี๊ดดดดดดดดดด   :mc4: :mc4: :mc4:

ไม่แปลกเลยว่าทำไมไอ้เงื่อนไขที่ตกลงกับพ่อตะวันน้อย ท่านสารวัตรถึงพูดให้เพื่อนรักฟังไม่ได้
ก็มันออกจะ ย๊ากกกกกกกกกกกก พ่อตะวันน้อยโค่นเสาธงซะราบคาบ
 เอาน่าท่านสารวัตร (ตบบ่า ปุปุ) ยอมใัห้คนที่เราสุดแสนจะรักขนาดนี้ยอมพลีกาย
นิดหน่อยจะเป็นอะไรไป   :oo1: :oo1: มันไม่เสียเชิงค.เป็นขุนศึกหรอก หึหึ
เอิ่ม.... แต่อาทิตย์เนี่ยโคดปราบเซียน เจ๋งจริงๆ o13 o13


ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
เอ่อ...ผมจิ้นฉากนึงขึ้นมาในหัวนะ :m21:
ประมาณว่า....
เด็กเก่ามาเจ๊าะแจะกะตาเสาธง
อาทิตย์มาเห็นเหตุการณ์แล้วปี๊ดดดดนิดนึง
เลยเดินเข้าไปหาทั้ง 2 คน แล้วพูดว่า "นี่คุณ!! มายุ่งอะไรกับเมียผม!!"

แค่คิดก็ขำกร๊ากกกแล้ว   :laugh:
แต่อาทิตย์คงไม่ทำแบบนั้นหรอกเน๊าะ

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
^

^

^

^

มันจะเป็นอะไรที่  :jul3: มากๆ เลย  ก๊ากๆๆ


แล้ว คชานนท์ น้องชายสารวัตรสุดหล่อผู้นี้ เขาจะมาเกี่ยวข้อง ข้องเกี่ยว กับใครหว่า

ตี๋หล่อรึป่าว หึหึ สนุกแน่  :z1:

สารวัตรจะฟิ้นตอนไหนง่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






va_yu

  • บุคคลทั่วไป
เอ่อ...ผมจิ้นฉากนึงขึ้นมาในหัวนะ :m21:
ประมาณว่า....
เด็กเก่ามาเจ๊าะแจะกะตาเสาธง
อาทิตย์มาเห็นเหตุการณ์แล้วปี๊ดดดดนิดนึง
เลยเดินเข้าไปหาทั้ง 2 คน แล้วพูดว่า "นี่คุณ!! มายุ่งอะไรกับเมียผม!!"

แค่คิดก็ขำกร๊ากกกแล้ว   :laugh:
แต่อาทิตย์คงไม่ทำแบบนั้นหรอกเน๊าะ


แค่คิดตาม ก็กด+1ให้ไปเลยค่ะ  o13

ausmabank

  • บุคคลทั่วไป
ธงรบ โดน เปิดซฺงไปแล้ว เวงกำ


ตี๋เข็มชั่งเก่งกาจมากมาย :z1:


เสียสูนแน่เลยนั่น  :jul1: เดินเอียงๆๆๆ


อธิคมรู้ ธงรบ ไม่จาเอาน่าไปไว้ที่ไหน  :m20:โดนเสียบ :oo1:  :laugh:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
ถึงว่า ว่าทำไมคนแต่งกลัวคนอ่าน อ่านตอนนี้แล้วจั๊กกะจี้หัวใจ
แอร๊ยยยยย.... :a5: แล้วสยิวกิ้วจริงๆด้วย 
โธ่ๆๆ นึกภาพสารวัตรเสาธงเป็นรับไป ขนแขนแสตนอัพไป  :z3:

ออฟไลน์ l3iZal2l2e

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-0
ขอหัวเราะก่อนนนนนนนนนนน
 :jul3:
 :jul3:
 :jul3:
สารวัตรธงรบมีปั๋วววววววววววววววววววววว
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
สะใจไงไม่รู้  5 5 555 55 5+

ป.ล. ไม่เอานะ ... ไม่ให้คชานนท์เป็นพระเอกนะ ๆๆ ๆ

ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3
อยากอ่านคุณนุ มากกว่า นะ (ตอนนี้อ่ะ)

ให้ดีกันได้แล้ว เหอะ พี่นาย :monkeysad:

ออฟไลน์ thanagorn

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1

Black Angel

  • บุคคลทั่วไป

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ

ขอบคุณครับ เห็น ken ทีไรให้แต่กำลังใจ คราวนี้ขอเปลี่ยนเป็น ตัว ได้ไหมอ่ะ  :z1:

29
คชานนท์ก้าวเท้ายาวๆ ขึ้นบันไดไปยังชั้นสามของโรงพยาบาลอำเภอสอง จังหวัดแพร่ ห้องไอซียูของโรงพยาบาลอยู่สุดทางเดินชั้นสามทางทิศตะวันออกของตึก ด้านหน้าเป็นกระจกใส มีมู่ลีสีเทาอ่อนบังตาอยู่ ชายหนุ่มกดกริ่งเรียกเจ้าหน้าที่ ไม่นานพยาบาลสาวอายุราวยี่สิบต้นๆ เดินมาต้อนรับ เขาแจ้งขอเข้าเยี่ยมพันตำรวจตรีอธิคม พร้อมส่งรอยยิ้มให้ พยาบาลสาวก้มหน้าเอียงอายเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูให้เขา
น้องชายนายตำรวจมือปราบไม่แปลกใจสักนิดที่เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ข้างเตียงคนป่วย ใบหน้าเศร้าๆ กำลังมองพี่ชายของเขา มือซ้ายของชายหนุ่มลูบไล้มือของคนตัวโตที่นอนหลับไม่ได้สติ
อนุภาพหันหน้ามามองเมื่อรู้สึกตัวว่ามีใครคนหนึ่งมายืนอยู่ใกล้ๆ ชายหนุ่มเลิกคิ้ว อย่างสงสัยเล็กน้อย แต่ทันใดก็ยิ้มให้บางๆ
“คุณคชานนท์”
“สวัสดีครับคุณนุ” คชานนท์ยิ้มกว้าง “ในที่สุดผมก็เจอคุณนุเสียที ได้ยินแต่ชื่อ”
“เช่นกันครับ” อนุภาพตอบ แล้วหันไปมองอธิคม พลางนึกในใจว่าพี่น้องสองคนนี้หน้าตาคล้ายกันมาก หากคชานนท์ดูร่างบางและผิวขาวกว่าอย่างเห็นได้ชัด
 “สารวัตรยังหลับอยู่ครับ ยังไม่ตื่นเลย”
“นอนมาราธอนจริงๆ เลยนะครับ” คชานนท์ก้มลงมองอธิคม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้างให้อนุภาพอีกครั้ง “คุณนุ...เอ่อผมขออนุญาติเรียกสั้นๆ เหมือนพี่คมนะครับ” อนุภาพพยักหน้า แล้วรอฟังคชานนท์พูดต่อ “คุณนุ รู้ได้ยังไงว่าเป็นผม”
“หน้าตาเหมือนกันมาก เห็นแวบเดียวก็ดูออก”
“จริงสินะ” คชานนท์พยักหน้า “แต่ว่าผมหรือพี่คมหล่อกว่ากันล่ะครับ”
อนุภาพอมยิ้ม อดนึกไม่ได้ว่า หน้าตาเหมือนกันแล้วก็ยังเจ้าคารมเหมือนกันอีก เพียงแต่ว่านัยน์ตาของคชานนท์ไม่แพรวพราวเหมือนพี่ชาย “คงต้องบอกว่าสารวัตรหล่อกว่าครับ” ชายหนุ่มก้มลงมองคนที่หลงตัวเอง คนที่พูดอยู่เสมอว่าตัวเองหล่อร้ายกาจ คนที่พร่ำบอกเขาว่า “มีแฟนหล่อก็ต้องทำใจนะคุณนุนะ”
“ผมก็ว่างั้นล่ะ” คชานนท์เดินอ้อมไปอีกฟากหนึ่งของเตียง เงยหน้าขึ้นมองระดับของน้ำเกลืออย่างพิจารณาแล้วก้มลงกระซิบข้างหูพี่ชาย
“พี่คม...ได้ยินรึเปล่า น้องชายพี่มาเยี่ยมนะ อีกหน่อยคุณพ่อก็จะตามมา”
อนุภาพจับตามองกิริยานุ่มนวลอ่อนโยนของคชานนท์แล้วอดนึกถึงความอ่อนโยนที่ได้รับจากอธิคมไม่ได้ การปรากฏตัวของคชานนท์ค่อนข้างแตกต่างไปจากที่เขาเคยนึกภาพเอาไว้ อธิคมเคยเล่าถึงน้องชายให้ฟังทำนองว่าคชานนท์เป็นนักธุริกจหลักทรัพย์ วันๆ เอาแต่ทำงานในออฟฟิส คิดคำนวณตัวเลขจนไม่มีเวลาหาแฟน ชอบทำตัวเป็นพ่อคนที่สองของเขา บุคลิกลักษณะก็แตกต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง
“คชานนท์เป็นลูกพ่อ ทำอะไรได้อย่างที่พ่อต้องการ ผมนะลูกผ่าเหล่า” อธิคมเล่าเรื่องครอบครับให้เข้าฟังด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ไม่แสดงท่าทีน้อยอกน้อยใจ “แต่มีอย่างที่ผมเหนือกว่าคชานนท์”
“อะไรเหรอครับ” อนุภาพเลิกคิ้ว ก่อนจะรีบพูด “อ้อ รู้แล้ว ไม่ต้องบอก...ความเจ้าชู้ไช่ไหม”
“โธ่ คุณนุ” อธิคมทำหน้ามุ่ย แล้วตามด้วยคำพูดเดิมๆ ที่เขาชอบว่าอนุภาพประจำเมื่อถูกขัดใจ “ใจร้าย”
อนุภาพนึกภาพของคชานนท์เป็นผู้ชายที่ค่อนข้างเคร่งขรึมเหมือนนักธุรกิจทั่วๆ ไป แต่ภาพที่เห็นกลับไม่เป็นเช่นนั้น ช่ายหนุ่มดูร่าเริง ผ่อนคลายๆ ท่าทางสบายๆ เหมือนกับมาเยี่ยมใครซักคนที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ต้องนอนโรงพยาบาลธรรมดา
ที่สำคัญ  “เงา” ของอธิคมสะท้อนอยู่ในตัวของน้องชายอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการพูด รอยยิ้ม ลักษณะท่าทาง ต่างกันอย่างเดียวที่คชานนท์ไม่มี “รัศมี” ของคนเจ้าชู้
...คนเจ้าชู้...บอกได้เลยหรือว่าใครเป็นคนเจ้าชู้...อนุภาพถามตัวเอง
เสียงของสมบัติดังขึ้นในหัว ครั้งหนึ่งเพื่อนรุ่นพี่เคยพูดว่า “คนเจ้าชู้นี่มีประกายแห่งเสน่ห์ฉายออกมา หูตาเขาจะแพรวพราว ยูจะรู้สึกได้เลย ลองนึกดูซิว่าใครเจ้าชู้บ้าง เอาคนที่เราเห็นๆ กันอยู่นี่ แล้วยูลองเปรียบเทียบดูว่าคนเหล่านี้เหมือนกันหรือเปล่า”
“ผู้กองธงรบ” อนุภาพตอบ สมบัติหัวเราะอย่างชอบใจพร้อมยกนิ้วให้
“นั่นอันดับหนึ่ง ตัวพ่อเลยล่ะ ขั้นเทพ จ่าฝูง”
“สารวัตรอธิคม อธิป โต้ง พี่วิทย์” อนุภาพเอียงหน้านึกแล้วโพร่งออกมา “แบ้งค์นิตินัย”
“นั่นเขาไม่เรียกเจ้าชู้ เขาเรียกแรด” สบบัติแทรก แล้วทำท่าประกอบ
อนุภาพหัวเราะจนแทบน้ำตาไหลกับบทสรุปของสมบัติ ส่วนในใจคิดต่อไปถึงอีกคนหนึ่งที่เข้ามาในชีวิตของเขากับอธิคม “กษิดิษฐ์...”
...ทั้งหมดที่เอ่ยชื่อมา มีอะไรบางอย่างที่เหมือนกัน...นั่นคือนัยน์ตาที่แพรวพราวและรอยยิ้มที่ต่างไปจากคนอื่นๆ รอยยิ้มของคนเจ้าชู้นั้น “พูด” ได้พอๆ กับดวงตา สื่ออะไรต่อมิอะไรที่สลับซับซ้อนมากนัก รอยยิ้มเชิญชวน รอยยิ้มที่ทำให้คนหลงไหล รอยยิ้มที่พร้อมที่จะสานสัมพันธ์กับใครต่อใครก็ได้หากถูกใจ
เสียงทุ้มๆ ของคชานนท์ดึงความคิดที่ล่องลอยของอนุภาพให้กลับมา
คชานนท์มองใบหน้าพี่ชายนิ่ง พึมพำเบาๆ “เสื้อร้ายกลายเป็นแมวเหมียวเสียแล้ว แมวเหมียวที่บาดเจ็บ รอวันตื่น”
ชายหนุ่มหันไปมองอนุภาพที่ยืนมองพี่ชายเขาอยู่ใกล้ๆ แล้วเอ่ยขึ้นว่า “คุณนุครับ พี่คมเขาแกร่ง ไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอก อีกไม่กี่วันก็ฟื้นขึ้นมากวนใจได้แล้ว”
“ผมก็รอให้ตื่นมากวนอยู่ครับ” อนุภาพยิ้มบางๆ ขอบคุณคชานนท์ที่ช่วยปลอบ “แต่นี่ก็หลับตลอด ถามพยาบาลก็บอกว่ายังไม่ฟื้นเลยตั้งแต่ย้ายออกมาจากห้องไอซียู”
“ผมว่าไม่เกินเย็นนี้ก็ฟื้นแล้วครับ”
อนุภาพหันหน้ามามองคชานนท์ เลิกคิ้วเล็กน้อยเหมือนเป็นคำถามว่า ‘รู้ได้อย่างไร’
“ผมเคยมีแฟนเป็นหมอ เขาเล่าให้ฟังว่า...” คชานนท์ยิ้มกว้างอีก แล้วพูดต่อว่า “คนไข้นี่น่ะ บางทีเขาก็ตื่นแล้ว เพียงแต่ว่าสลึมสลือ แล้วเหนื่อยเกินกว่าจะโต้ตอบกับใคร อีกอย่าง ตอนที่เขาตื่นก็อาจเป็นช่วงที่เราไม่ได้อยู่ด้วย ก็เลยคิดแต่ว่าทำไมไม่รู้สึกตัวเสียที ผมว่าถ้าเขย่าตัวตอนนี้ก็อาจจะตื่นขึ้นมาเตะผมได้เลยล่ะ”
อนุภาพอดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้กับอารมณ์ขันของคชานนท์ แรกที่เคยคิดว่าพี่น้องสองคนนี้ต่างกันมากนักก็อาจจะต้องคิดใหม่ คชานนท์มีอะไรที่คล้ายพี่ชายมากพอสมควร พอๆ กับที่มีอะไรแตกต่างกัน
“เขาเคยทำหรือครับ”
คชานนท์พยักหน้า “บ่อยจะตายไปครับ ตอนเป็นเด็กผมโดนประจำ ตอนเรียนมัธยมก็ด้วย พี่ธงรบต้องคอยเข้ามาช่วย ผมยังเคยตะโกนว่าเค้าว่าเป็นอันธพาล ใช้แต่กำลัง ไม่พอใจอะไรก็เอาแต่แรงเข้าสู้ ดูซิ เป็นไงล่ะ คราวนี้นอนอยู่บนเตียง เพราะชอบใช้แรงบ้าระห่ำ พ่อกับแม่ก็เคยปราม พี่คมก็ดันทุรังจะเป็นตำรวจให้ได้” คชานนท์พูดเรื่อยๆ ใบหน้ายิ้มๆ ดูไม่กังวลเท่าใดนัก
อนุภาพรู้ว่าคชานน์พยายามคุยปลอบใจเขา ผู้ชายคนนี้มีวิธีทำให้คนอื่นผ่อนคลายได้ต่างจากคนอื่นๆ ดูน่าจะเป็นนักการทูตมากกว่าจะเป็นนักธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์
“แล้วนี่สารวัตรใหญ่มาด้วยไหมครับ”
อนุภาพเลิกคิ้ว ไม่แน่ใจว่าคชานนท์หมายถึงอาวุธหรือเปล่า
“เอ่อ...สารวัตรอาวุธน่ะครับ” คชานนท์ยิ้มกว้าง ยิ้มที่ถอดพิมม์มาจากอธิคม ต่างกันที่ดวงตาไม่พราวระยับเหมือนที่กำลังนอนหลับไหล
“มาครับ อยู่ที่ตึกข้างหน้า กำลังคุยกับเจ้าหน้าที่เรื่องจองห้องพัก” อนุภาพหันมองอธิคม “บอกว่าเตรียมไว้รอให้สารวัตรย้ายออกจากไอซียู”
“พี่วุธเพอร์เฟ็คเช่นเคย” คชานนท์พูดยิ้มๆ “คุณนุรู้ใช่ไหมครับ พี่คมกับพี่ธงชอบเรียกสารวัตรอาวุธว่า มิสเตอร์เพอร์เฟ็ค”
อนุภาพพยักหน้า แม้แต่อาวุธก็เคยเล่าให้เขาฟังว่าเพื่อนสองคนรวมหัวกันนินทาเขาลับหลังเพราะ “อิจฉา” เขาที่ได้ตำแหน่งเร็วเกินหน้า และพ่อใหญ่เพราะเป็นถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
“ตัวเองเอาแต่เที่ยว เวลาเมาผมต้องออกไปเก็บตัวจากผับ ลากขึ้นรถไปส่งบ้าน แถมยังต้องถอดเสื้อผ้าให้ด้วย” อาวุธเคยเล่าให้อนุภาพฟังถึงเรื่องสมัยเรียนจบนายร้อยตำรวจใหม่ๆ ก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาและไปทำงานคดีพิเศษที่ต่างประเทศกว่าสามปี
อนุภาพนึกถึงคำบอกเล่าของอีกสองหนุ่มที่พูดถึงมิสเตอร์เพอร์เฟ็ค “คุณนุอย่าไปเชื่ออาวุธมากนักนะ เวลาแบกผมมาจากผับ บางทีมันทิ้งให้ผมกับธงรบนอนระเนระนาดบนพื้น ไม่ก็โซฟา เนื้อตัวก็ไม่เช็ดให้” อธิคมบ่น
“ถ้าเป็นผม จะทิ้งให้นอนอยู่ในรถ” อนุภาพตอบเสียงเข้ม จนอีกฝ่ายหนึ่งทำหน้ามุ่ยแล้วบ่นว่า “ใจร้าย” เช่นเคย
“บางทีก็ลากผมไปกองอยู่หน้าห้องน้ำ” ธงรบเสริม อนุภาพก็เลยแก้ต่างให้ว่า สงสัยเพราะธงรบอาเจียนจนสกปรก ถ้าเป็นเขา จะลากไปทิ้งไว้ในอ่างอาบน้ำในห้องน้ำ แล้วเปิดน้ำแช่ครีมอาบน้ำเอาไว้ทั้งคืน
“ใจร้าย” ผู้กองธงรบเลียนแบบอธิคม...บ่นอุบ...จนอีกฝ่ายถลึงตาเข้าใส่บอกว่า “ห้ามมาพูดกับคุณนุแบบนี้เด็ดขาดนะไอ้เสาธง”
“อ้าวทำไมวะ แกยังพูดได้” ธงรบโวยวาย
“ก็ข้าเป็นแฟน แต่เอ็งเป็นคนแปลกหน้า” อธิคมขึ้นเสียง
“คนแปลกหน้าหรือ เดี๋ยวพ่อก็ทำความคุ้นเคยกับคุณนุซะหรอก จะได้เป็นคนใกล้ชิด”
“ไอ้...”
หลังจากนั้นสองหนุ่มก็ทะเลาะกันลั่น จนอนุภาพอดหัวเราะไม่ได้

อนุภาพตื่นจากภวังค์เมื่อคชานนท์เอ่ยขอตัวออกไปข้างนอกเพื่อรับโทรศัพท์ ชายหนุ่มพูดเบาๆ ว่า “คุณพ่อโทรมาครับ” ก่อนจะรีบเดินออกไปยังประตูห้อง
“คุณพ่อโทรมานะครับ สารวัตร” อนุภาพเอื้อมมือไปแตะแก้มสากๆ ของอธิคม หนวดเคราที่ไม่ได้โกนมาหลายวันเริ่มครึ้ม ทำให้ใบหน้าคมเข้มนั้นคมเข้มมากกว่าเดิม “เดี๋ยวคุณพ่อคุณก็จะมาเยี่ยม พี่บั้ดก็จะมา พจนีย์ อธิป แล้วก็อีกหลายๆ คนก็จะมาเยี่ยม สารวัตรรีบตื่นมารับแขกนะ” ชายหนุ่มยิ้มบางๆ แต่น้ำตาเริ่มจะเอ่อล้นขอบตา...
คชานนท์ออกไปคุยโทรศัพท์ไม่ถึงห้านาทีก็เดินกลับเข้ามา ยิ้มอบอุ่นให้อนุภาพ "คุณพ่อจะมาเยี่ยมพรุ่งนี้เย็นๆ ครับ ตอนนี้อยู่ที่อิตาลี่ กำลังจะประชุมเรื่องงาน ตอนแรกคุณพ่อจะยกเลิกแล้วรีบกลับ ผมก็เลยบอกว่าไม่ต้องห่วงเพราะมีคนดูแลอยู่แล้วหลายคน"
"ที่จริงมีสารวัตรอาวุธคนเดียวก็พอแล้ว" อนุภาพนึกถึงคนที่ดูแลเรื่องต่างๆ ทั้งหมด
"ก็อาจใช่ครับ พี่วุธเป็นแบบนี้ตั้งแต่เรียนนายร้อยตำรวจแล้วล่ะ ดูแลทุกคนเป็นอย่างดี" คชานนท์ยิ้ม "แต่ผมว่าพี่คมต้องการคนๆ เดียว"
อนุภาพเงียบๆ รู้ว่าคชานนท์หมายถึงใคร เริ่มเห็นแง่มุมของสองพี่น้องที่เหมือนกัน นั่นคือ นักเจรจาต่อรองชั้นยอด
"คุณคชานนท์ก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ตอนนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม" ชายหนุ่มพูดเสียงเบา
"งั้นหรือครับ" คชานนท์มองหน้าอนุภาพนิ่ง "คุณนุกล้าพูดได้เต็มปากหรือ...ว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปมากขนาดนั้นจนหันกลับมาไม่ได้เลยหรือครับ หรือว่ามันสายเกินไปแล้ว"
อนุภาพถอนหายใจ สายตาทอดมองร่างที่นอนอยู่ตรงหน้านิ่ง พยายามคิด ใตร่ตรอง ตัดสินใจ แต่ในหัวยังสับสน วุ่นวาย หมุนไปมาไม่ยอมหยุดเหมือนลูกข่างที่ถูกปั่นอย่างรวดเร็ว
"...จนคุณนุให้อภัยพี่คมไม่ได้" คชานนท์ทิ้งเสียงเบา
ก่อนที่อนุภาพจะทันได้ตอบอะไร ทั้งสองก็ถูกขัดจังหวะเมื่อพยาบาลเดินเข้ามาใกล้แล้วพูดว่า "ได้เวลาเช็ดตัวคนไข้แล้วค่ะ"
พยาบาลวัยกลางคนยิ้มอย่างอารมณ์ดี อนุภาพและคชานนท์ก้มหัวให้แล้วก้าวออกมาจากเตียงของนายตำรวจหนุ่ม แล้วทั้งสองก็เดินออกมาจากห้องไอซียูไปหยุดยืนอยู่ที่ระเบียงไม่ไกลจากประตูห้อง
อากาศยามเช้าเย็นสะท้าน หน้าหนาวของจังหวัดทางภาคเหนือปีนี้หนาวยาวนานกว่าทุกปี แม้ถึงกลางเดือนมีนาคมแต่ก็ยังหนาวเย็นอยู่ไม่น้อย
อนุภาพกอดอกกระชับแขนแน่นเข้าเพื่อให้ตัวเองรู้สึกถึงความอบอุ่นของอ้อมแขน...แม้จะเป็นอ้อมแขนของตัวเอง...
สุดสายตาของทั้งสองเป็นผืนป่ากว้างไกล ทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงามยิ่งนัก โรงพยาบาลอำเภอสองของจังหวัดแพร่ตั้งอยู่ใกล้เชิงเขา ภูมิประเทศสวยงาม หากอนุภาพไม่รู้สึกอยากจะชื่นชมทัศนียภาพนั้นในเวลานี้ สิ่งเดียวที่เขานึกถึงคืออยากให้อธิคมรู้สึกตัวเร็วๆ
อธิคม...คนที่เคยพร่ำบอกว่ารักเขาทุกวัน ไม่เคยเบื่อที่จะพูด และเขาก็ไม่เคยเบื่อที่จะฟัง จนกระทั่งวันนั้น วันแตกหัก วันที่เขาเห็นภาพบาดตาบาดใจในห้องโรงแรม...บนเตียง...บนเตียงที่เขากับอธิคมนอนด้วยกัน วันที่เขาตัดสินใจเด็ดขาดที่จากนายตำรวจหนุ่มมา
...แม้เวลาจะผ่านไปหลายเดือน แต่เขาก็รู้อยู่เต็มหัวใจว่าตัวเองยังอยากจะได้ยินคำบอกรักจากสารวัตรอธิคมอยู่
แต่เขาก็ต้องตัดสินใจ...เลือกทางเดินใหม่ให้กับตัวเอง...ก้าวต่อไปในชีวิตแทนที่จะหยุดยืนประจัญหน้ากับปัญหาและความกังวลต่างๆ ดยบอกกับตัวเองว่า "ไม่ไหวแล้ว ไม่เอาแล้ว พอทีเถอะ"
อนุภาพกับคชานนท์ยืนอยู่เคียงข้างกัน ต่างคนต่างเงียบ ปล่อยให้ใจล่องลอย คิดถึงอะไรต่างๆ ที่ผ่านมาโดยมีนายตำรวจหนุ่มมือปราบที่นอนสงบอยู่บนเตียงคนไข้เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องราว
ชายหนุ่มทั้งสองต่างยืนนิ่งครู่ใหญ่ จนได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาใกล้ คชานนท์รู้สึกตัวก่อนจึงหันไปมอง พอเห็นว่าเป็นใครจึงยกมือขึ้นไหว้
"มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่นนท์" อาวุธทักทาย
"เมื่อเช้านี้ครับ" คชานนท์ตอบยิ้มๆ มือสองข้างล้วงกระเป๋า "พอมาถึงก็เห็นว่าพี่วุธจัดการทุกอย่างเสียเรียบร้อย"
"ยังไม่เรียบร้อยเสียทีเดียว แล้วต่อไปอาจต้องให้นนท์จัดการเพราะพี่ต้องไปทำคดีต่อ" อาวุธพูดแล้วหันไปหาอนุภาพ "คุณนุครับ ได้ห้องพักเดี่ยวพิเศษแล้วนะครับ ต้องใช้กำลังภายในนิดหน่อย ที่นี่มีห้องคนไข้เดี่ยวอยู่ไม่กี่ห้อง"
คชานนท์หันมามองอนุภาพเช่นกัน "พี่วุธซะอย่าง ทุกสิ่งสะดวกสบายไร้กังวล"
"นายก็เหมือนกัน ฝีมือการจัดการก็ใช่ย่อย"
คชานนท์หัวเราะเบาๆ แล้วตอบว่า "ยังไงก็ไม่สู้พี่หรอก พี่คมโชคดีที่ได้เพื่อนอย่างพี่คอยดูแล"
อาวุธชะงักไปชั่วครู่ มือเผลอยกขึ้นลูบริมฝีปากที่โดนอธิคมต่อยจนได้เลือด ในใจก็นึกสงสัยอยู่ว่าอธิคมคงไม่คิดอย่างที่คชานนท์พูด
"แล้วโชคดีที่มีน้องชายอย่างนนท์เหมือนกัน" อาวุธยิ้ม สายตาจับอยู่ที่ใบหน้าเรียบนิ่งของอนุภาพที่ยืนฟังสองหนุ่มชมกันและกัน
"คมโชคดีจริงๆ ที่มีแต่คนคอยดูแลเค้า" อาวุธพูดเสียงเบากับอนุภาพ หากดูราวกับว่ารำพันกับตัวเอง
คชานนท์มองอาวุธด้วยสายตาครุ่นคิด ก่อนจะตัดบทขึ้นว่า "มัวแต่มาชมกัน คุณนุคงเอียนแล้ว พี่วุธทานข้าวหรือยังครับ ผมชักจะหิว เราไปทานข้าวกันเถอะ"

สามหนุ่มเดินเคียงกันไปยังร้านอาหารหน้าโรงพยายาบาล อาวุธดูโดดเด่นอยู่ตรงกลางเพราะตัวสูงใหญ่กว่าอีกสองคนที่เดินขนาบข้าง ชายหนุ่มทั้งสามเป็นจุดสนใจของผู้คนรอบข้างเพราะดูแตกต่างจากคนท้องถิ่น ใบหน้าหน้าคมเข้มหล่อเหลาเป็นจุดสนใจทำให้บรรดาแม่ค้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพราะในอำเภอเล็กๆ เช่นนี้ไม่บ่อยครั้งที่จะมีหนุ่มหน้าตาดีถึงสามคนเดินมาพร้อมกัน
ทั้งสามเข้าไปนั่งในร้านอาหารเล็กๆ หน้าโรงพยาบาล เจ้าของร้านรีบเข้ามาต้อนรับ ส่งรอยยิ้มเป็นมิตรให้ พร้อมแนะนำอาหารอร่อยของร้าน แต่ชายหนุ่มทั้งสาต่างคนต่างสั่งกับข้าวจานเดียวง่ายๆ คชานนท์ของอนุญาตดื่มเบียร์ ส่วนอาวุธดื่มน้ำอัดลม มีเพียงอนุภาพที่ดื่มน้ำเปล่าไม่แช่เย็น
"หนาวขนาดนี้ยังดื่มของเย็น" อนุภาพพูดยิ้มๆ
"ผมดื่มเบียร์เพื่อเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายครับ" คชานนท์ตอบยิ้มๆ
อนุภาพยิ้มตอบ มองใบหน้าที่ระบายยิ้มแทบตลอดเวลาของคชานนท์แล้วนึกถึงอธิคม
"แล้วนี่นนท์ได้ที่พักหรือยัง" อาวุธถามแล้วยกน้ำอัดลมขึ้นดื่ม
"ยังครับ คิดว่าจะไปหาโรงแรมพัก" คชานนท์ตอบเสียงเรียบ เอื้อมมือไปหยิบหลอดกาแฟมาเสียบลงในกระป๋องเบียร์ของตัวเอง
อนุภาพมองตามมือเรียวขาวสะอาดของชายหนุ่ม รู้สึกแปลกใจที่เห็นวิธีดื่มเบียร์ของคชานนท์
"ที่นี่มีโรงแรมเล็กๆ ที่เดียว อยู่หน้าตลาดสด"
"อ้อ นั่นโรงแรมหรือครับ เมื่อเช้าผมแวะไปซื้อผลไม้ มีตึกเก่าๆอยู่ตรงข้าม ไม่นึกว่าจะเป็นโรงแรม นึกว่าแค่อาคารพาณิชย์ธรรมดา" คชานนท์แปลกใจ
"ธงรบก็พักที่นั่น" อาวุธพูดต่อ สลับกับหันหน้ามายิ้มให้อนุภาพที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ
"คุณคชานนท์พักที่บ้านผมก็ได้นี่ครับ แม้จะหลังเล็กแต่ก็พอมีที่" อนุภาพแทรกขึ้น
"ผมไม่อยากรบกวนคุณนุเลยครับ กลัวคุณนุกับพี่วุธไม่สะดวก แล้วเอ่อ...เลิกเรียกชื่อเต็มผมเถอะ เรียกผมว่านนท์ดีกว่า เรียกซะเต็มยศ ผมรู้สึกเขินๆ"
"พี่ไม่ได้พักที่บ้านคุณนุ" อาวุธพูดขึ้น "พี่พักโรงแรมเดียวกับธงรบนั่นล่ะ"
"อ้าวหรือครับ ผมนึกว่า..."
"เคยแวะไป คุณนุอนุเคราะห์ที่ให้หลับนอนตอนที่พี่แวะมาที่แพร่"
คชานนท์กำลังก้มหน้ามองกระป๋องเบียร์ของตัวเองอยู่พอดี จึงซ่อนสีหน้าแปลกใจเอาไว้ได้
...แวะมาที่แพร่...หมายความว่ายังไง? สารวัตรอาวุธแวะมาที่แพร่แล้วไปพักที่บ้านคุณนุ พูดเหมือนกับว่าแวะมาหาเป็นเรื่องปกติ ตายล่ะ ชักจะไปกันใหญ่ นี่ไม่รู้ว่าสองคนเป็นอะไรกันถึงขั้นไหนแล้ว เห็นทีจะช้าไม่ได้ แบบนี้พี่ชายเขามีทางแพ้...
...แต่หากมีอะไรกัน ทำไมคุณนุยังดูอาลัยอาวรณ์พี่คมนัก มองตาก็รู้ว่ารักพี่ชายเขามาก...
...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?...
"ผมนึกว่าพี่วุธอยู่ที่นี่" คชานนท์ทำหน้าแปลกใจ
"เปล่า ก็แค่แวะมาเยี่ยม เลยได้ช่วยคุณนุจัดการเรื่องการสร้างบ้าน แล้วพอดีคมถูกยิง ก็เลยอยู่ดูแลต่อ พี่อยู่ที่เชียงใหม่ มาทำคดีที่ลำปาง ตอนนี้อาจต้องตามพยานไปถึงเชียงราย ไม่ก็อุตรดิษต์  ส่วนเรื่องผู้ร้ายที่ปะทะกับทีมของอธิคม พี่จะประสานขอเข้าไปช่วยในฐานะเจ้าหน้าที่พิเศษของหน่วยสืบสวนกลาง"
"คุณพ่อพี่วุธใหญ่ครับ คุณนุ รับรองว่าต้องลากตัวคนที่ยิงพี่คมเข้าคุกได้แน่" คชานนท์หันไปอวดกับอนุภาพ
"ตายไปแล้ว คงโดนอธิคมกวาดซะเรียบ แต่มีตัวใหญ่หนีไปได้ พี่คิดว่าพวกนี้ลิงค์กับคดีฟอกเงินที่พี่กำลังทำอยู่"
"จัดการเลยครับพี่วุธ เอาให้หนัก แต่ว่าระวังตัวด้วยนะครับ" คชานนท์พูดเสียงนุ่ม
"ขอบใจ แต่พี่น่ะฝ่ายสืบสวน ไม่ใช่ปราบปราม และอีกอย่าง ไม่ระห่ำเหมือนอธิคมหรอก" อาวุธตอบคชานนท์แต่หันไปมองอนุภาพที่นั่งนิ่งไม่พูดจา "แต่ถ้าพี่ถูกยิง สงสัยนักว่าใครจะคอยดูแล"
"สารวัตร อย่าพูดแบบนี้สิครับ" อนุภาพรีบท้วง
"จริงด้วย พูดแบบนี้ ลางไม่ดี" คชานนท์เห็นด้วย
อาวุธหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า "ว่าแต่ว่า ใครจะอยู่เฝ้าสารวัตรอธิคมตอนออกจากห้องไอซียูล่ะ พี่ว่าไม่ใช่งานหมูๆ นะ"
"ผมเฝ้าก็ได้ครับ แต่คงอยู่นานนักไม่ได้ ต้องกลับไปดูงานที่กรุงเทพฯ ด้วย ตอนนี้ตลาดเงินกำลังผันผวนหนัก แต่พอจัดการเรื่องงานได้ผมก็กลับมาอีก ขึ้นๆ ลงๆ แพร่กับกรุงเทพฯ ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร โชคดีที่มีสนามบิน" คชานนท์พูดแล้วปรายตามองไปยังอนุภาพ ตั้งใจบอกความนัยว่า คนที่จะดูแลอธิคมก็คืออนุภาพนั่นล่ะ อย่างน้อยอนุภาพก็อาศัยอยู่ที่แพร่
อนุภาพยังไม่พูดอะไร รอฟังสองหนุ่มคุยกันต่อ อาวุธหัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า "เคยเฝ้าอยู่พักนึงตอนที่เป็นตำรวจใหม่ๆ จำได้ไหม แทบจะขอให้พยาบาลผูกเชือกพี่ชายนนท์ไว้กับเตียง"
คชานนท์หัวเราะเสียงดังเมื่อนึกถึงอดีตของพี่ชาย หันไปมองอนุภาพเห็นชายหนุ่มเลิกคิ้วสงสัยเพราะไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน คชานนท์จึงเล่าให้ฟังว่า อธิคมขับรถไล่ตามผู้ร้ายจนชนวินาศสันตะโร ตัวเองก็บาดเจ็บไม่น้อย แต่ยังลุกขึ้นวิ่งไล่กระทืบโจรจนหมอบราบคาบ ท้ายที่สุดต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะผู้กำกับบังคับ ไม่เช่นนั้นจะถูกพักงานเพราะขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา
"พี่คมโวยวายจนพยาบาลเกือบจับฉีดยานอนหลับ ปากก็บอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไรมาก ทั้งที่ข้อมือซ้น กล้ามเนื้อขาฉีก ไหล่หลุด แผลที่ขมับก็เลือดไหลอาบหน้า" คชานนท์อธิบาย อนุภาพนึกตาม มองเห็นภาพนายตำรวจเจ้าปัญหาในความคิดได้อย่างชัดเจน เพราะภาพของอธิคมอย่างที่น้องชายเล่านั้นจินตนาการได้ไม่ยาก
"อธิคมไม่ชอบโรงพยาบาลเอามากๆ" อาวุธสรุป
"พี่คมเขากลัวเข็มฉีดยาเป็นที่สุด" คชานนท์เสริม กลั้นหัวเราะ ประกายตาขันๆ "ตัวยังกะยักษ์  ทำเก่ง แต่พอหมอจะฉีดยาก็เข่าอ่อน อิดออดท่านั้นท่านี้ ต้องต่อรองแทบจะต้องเอาขนมมาล่อเหมือนเด็กๆ เลยทีเดียว"
อนุภาพอมยิ้ม รู้ความลับของอธิคมอีกข้อหนึ่ง ในใจนึกถึงตอนที่นายตำรวจผู้เก่งกาจได้รับบาดเจ็บอาทิตย์ก่อนจะลักพาตัวเขาไปบ้านริมทะเล อธิคมทำเป็นอวดเก่งว่าเจ็บแค่นั้นไม่ต้องถึงกับนอนโรงพยาบาล และโรงพยาบาลนั้นเป็นที่ของคนใจเสาะ ถ้าไม่หนักหนาไม่จำเป็นต้องไปหาหมอ แต่เป็นอธิคมเองที่ชอบบังคับให้เขาไปหาหมอเมื่อไม่สบายเป็นไข้หวัดเล็กน้อย ซ้ำยังชอบล้อเขาว่ากลัวถูกฉีดยา
พนักงานร้านนำอาหารมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะแต่ยังไม่ทันจะได้ทาน อาวุธรีบขอตัวออกไปนอกร้านเพราะเห็นตำรวจที่รู้จักกัน
คชานนท์กับอนุภาพต่างทานอาหารกันช้าๆ สลับกับการคุยกันเรื่องอดีตบางแง่มุมของอธิคม น้องชายของนายตำรวจดูมีความสุขที่ได้เล่าถึงเรื่องอธิคมไม่ถูกกับหมอ ชายหนุ่มเล่าย้อนไปกระทั่งครั้งที่อธิคมเรียนมัธยม วีรกรรมแต่ละอย่างที่เล่ามาล้วนสะท้อนให้เห็นตัวตนในปัจจุบันของนายตำรวจหนุ่มทั้งสิ้น
อนุภาพนั่งฟังเงียบๆ ตักอาหารเข้าปากช้าๆ หูฟังเสียงของคชานนท์ แต่ใจล่องลอยไปถึงอดีตที่ผ่านมา
อดีตของเขาและอธิคมมีเวลาที่ดีร่วมกันตั้งแต่เริ่มต้น มีแง่งอนกันบ้างแต่ก็ไม่นาน แม้จะมีเรื่องของนิตินัย เรื่องของกษิดิษฐ์และคนเก่าคนอื่นๆ เขาก็คิดว่าตัวเองอดทนได้ จนกระทั่งคืนนั้นที่กระบี่ คืนที่เขาเห็นอธิคมเปลือยกายกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับใครคนหนึ่งบนเตียงในห้องนอน แต่ครั้นได้ฟังคำอธิบายแล้วเขาก็ยอมรับว่าเป็นความเข้าใจผิด แม้ใจส่วนหนึ่งก็ยังระแวงอยู่บ้าง และความหนักแน่นที่มีอยู่เริ่มคลอนแคลน
...แต่สิ่งที่แทรกซึมเข้ามาทีละน้อยกลับไม่ใช่เรื่องปัญหาของอธิคมกับเด็กเก่าๆ ปัญหากลับคือเรื่องของเขาเอง ปัญหาที่เขาต้องแก้ และอีกไม่กี่วัน เขาจะ "แก้" มันให้เสร็จ ขอเพียงแต่รอให้อธิคมฟื้นขึ้นมาก่อน ปัญหาจะได้จบไปเสียที...
******** end of chapter 29 *********
Revised 03/5/09

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
อรุณสวัสดิ์ (หมายถึง สวัสดีตอนเช้าครับ) ขอบคุณที่จิ้มผมนะครับ พลุนไปหมดแล่ะ เจ็บแต่ก็สุขเวลาโดน  :z13:

บทที่ 30

อาวุธเดินกลับเข้ามาในร้านอาหาร ใบหน้าดูเคร่งขรึมจนอนุภาพเอ่ยถาม
"มีอะไรหรือเปล่าครับสารวัตร"
นายตำรวจหนุ่มถอนหายใจเบาแล้วตอบว่า "ผมอาจจะต้องไปเชียงรายวันนี้บ่ายๆ ครับ เพื่อนที่เป็นตำรวจเขาได้เบาะแสที่เป็นประโยชน์ต่อคดี บอกว่าจะนัดให้สายของเขาไปเจอผมที่เชียงราย"
อาวุธนั่งลงบนเก้าอี้ หยิบน้ำอัดลมกระป๋องขึ้นมาดื่ม คชานนท์ยื่นกระดาษทิชชู่ให้นายตำรวจหนุ่มเพราะสังเกตเห็นรอยเปื้อนที่ข้อมือ แล้วเลื่อนจานอาหารของอาวุธให้ พร้อมกับหยิบช้อนซ่อมส่งตามไป นายตำรวจเอ่ยขอบคุณเบาๆ แล้วพูดต่อว่า "สายบอกว่าผู้ต้องสงสัยไปโผล่ที่แม่สาย คาดว่าเอาหลักฐานชิ้นสำคัญไปให้ใครที่นั่น ถ้าผมได้หลักฐานชิ้นนี้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี...พี่ห่วงแต่..." ประโยคหลังหันมามองอนุภาพ
"พี่วุธ ผมอยู่ทั้งคน ไม่ต้องห่วงหรอกครับ คุณนุก็อยู่ พี่ธง แล้วก็เอ่อ..."
"อาทิตย์" อนุภาพเสริม "แล้วก็พี่บั้ดกับพจนีย์ก็กำลังจะมาจากกรุงเทพฯ สารวัตรไปทำคดีให้เรียบร้อยเถอะครับ"
"พ่อก็คงมาถึงคืนนี้" คชานนท์พูดต่อแล้วหันไปมองอนุภาพ "คุณนุครับ ขอให้พ่อพักที่บ้านด้วยซักคืนนะครับ ผมอยากให้คุณพ่อพัก แก่แล้ว สงสัยต้องมีอาการเจ็ทแล็กแน่ๆ"
"ได้สิครับ" อนุภาพตอบ
"ผมว่าพ่ออยู่ไม่นานหรอก เพราะคงต้องไปนิวซีแลนด์ต่อ งานพ่อตอนนี้กำลังรุ่ง" คชานนท์แทรก
"กำลังรุ่งเลยหรือ" อาวุธล้อเลียนคชานนท์ที่อีกฝ่ายใช้ศัพท์ไม่เหมาะกับพ่อตัวเอง
"ใช่ครับ ตั้งแต่พ่อไปทำธุรกิจโรงแรมแล้วทิ้งธรุกิจหลักทรัพย์ให้ผมนี่ พ่อสบายใจกว่าเดิมเยอะ คนที่ปวดหัวคือผม เงินพ่อ เงินพี่คม อยู่กับผมหมด แล้วตลาดหุ้นนี่ก็มีแต่เรื่องวุ่นๆ บางทีผมก็อยากมาอยู่ต่างจังหวัดๆ เงียบๆ สบายๆ เหมือนคุณนุบ้าง"
อนุภาพไม่ตอบอะไร หากแต่ยิ้มบางๆ เช่นเดียวกันกับอาวุธ เพื่อนพี่ชายของคชานนท์วางช้อนแล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มก่อนจะพูดว่า "อยู่ได้หรือ คนเคยอยู่เมืองใหญ่ตั้งแต่เกิดจนโต แล้วแฟนนนท์อีก คงไม่ยอมให้หนีมาหรอก"
"เลิกกันแล้ว" คชานนท์ยักไหล่ ท่าทางไม่ค่อยใส่ใจอะไรมากนั้น "ผมมาหาเอาใหม่แถวนี้ดีกว่า"
ทั้งสามหัวเราะ เพราะประโยคหลังคชานนท์ทำเป็นพูดเล่น อาวุธหันมามองอนุภาพด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า "คุณนุครับ ถ้าคดีนี้เสร็จ ผมอาจต้องเข้ากรุงเทพฯ สักพัก เคลียร์งานที่กองสืบสวนกลาง แล้วก็จะกลับมาช่วย ถ้าต้องการ"
อาวุธรู้ว่าอีกไม่นานอธิคมก็จะฟื้น ตื่นขึ้นมาเป็นปัญหาที่เขาต้องขบคิดอีกครั้ง อนุภาพที่อยู่ใกล้ๆ ก็คงจะต้องดูแล แล้วทั้งสองก็อาจจะคุยกันเรื่องความสัมพันธ์อีกครั้ง ตอนนี้เขาคงต้องอยู่ห่างอนุภาพ และโอกาสที่กำลังไปได้ดีก็คงสะดุด
เขารู้ว่าอนุภาพยังมีใจกับอธิคมอยู่ และเพื่อนของเขาก็คงไม่ยอมแพ้ อธิคมลงทุนไปมาก อุตส่าห์ย้ายตัวเองตามมาถึงแพร่ คงไม่อยากกลับไปมือเปล่า เขาเองก็ไม่อยากกลับไปมือเปล่าเหมือนกัน แต่คนๆ เดียว จะฉีกแบ่งออกเป็นสองร่างสำหรับคนสองคนได้อย่างไรกัน ไม่เขาก็อธิคม คนใดคนหนึ่งคงต้องกลับกรุงเทพฯ คนเดียว
...ใครล่ะ...
...ใครจะได้อนุภาพไป...
อนุภาพพยักหน้าไม่พูดอะไร แล้วก็ก้มหน้าลง ทานอาหารต่อช้าๆ ไม่ได้สังเกตว่าคชานนท์ลอบมองอยู่...
คชานนท์เห็นว่าอาวุธแสดงออกชัดเจนว่าชอบอนุภาพ บางทีอาจจะถึงขั้นรัก ในขณะที่อนุภาพก็ยังสงวนท่าทีอยู่พอสมควร ซึ่งแสดงว่าทั้งสองยังไม่ได้ตกลงปลงใจเป็นแฟนกันอย่างจริงจัง
...แบบนี้พี่คมก็มีโอกาส...
คชานนท์อดดีใจไม่ได้ ตั้งใจว่าจะรีบบอกพี่ชายทันทีที่รู้สึกตัว หลังจากนั้นเขาก็จะค่อยๆ กันอาวุธให้ห่างอนุภาพด้วยวิธีการที่แยบยลจนคนฉลาดๆ อย่างอาวุธไม่รู้สึกตัว
...งานนี้หินพอสมควร...อาวุธเป็นคนเก่งและ "ลึก" กว่าใครๆ ที่เขาเคยพบมา ไม่เช่นนั้นคงไม่เป็นหนึ่งในหน่วยเฉพาะกิจระดับ "มันสมอง" ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นแน่แท้ แต่เขาได้สัญญากับพี่ชายเอาไว้แล้วว่าจะช่วยกันอาวุธออกไป จึงต้องพยายามอย่างสุดกำลัง
...แบบนี้ต้องจับคู่พี่วุธกับใครซักคน ตลอดชีวิตเขาจัดการอะไรต่ออะไรให้ใครๆ มาตลอด เพื่อนเขาหลายคนก็สมหวังเพราะความช่วยเหลือของเขามาแล้ว คราวนี้ลองจัดการ "รักสามเส้า" ของอธิคมกับอนุภาพและอาวุธดูซะบ้าง เผื่อได้ประกาศนีบัตรพ่อสื่อยอดเยี่ยมแห่งปี...
คชานนท์คิดในใจก่อนจะจัดการกับอาหารจานเด็ดของเขาจนเกลี้ยง...

เวลาผ่านไปช้าๆ คชานนท์นั่งคุยเรื่อยเปื่อยกับอนุภาพที่ระเบียงหน้าห้องไอซียู ธงรบกับอาทิตย์มาถึงโรงพยาบาลเอาเกือบเที่ยง ชายหนุ่มหน้าตี๋บ่นว่าธงรบตื่นสาย กว่าจะได้ออกจากโรงแรมก็สิบเอ็ดโมงครึ่ง และใช้เวลาสิบกว่านาทีกว่าจะมาถึงโรงพยาบาลทั้งๆ ที่อยู่ไม่ไกล
"เลี้ยวผิดเลี้ยวถูก ผมบอกก็ไม่เชื่อ เมืองเล็กๆ ยังหลงทางอีก" ชายหนุ่มหน้าใสบ่นให้นายตำรวจหนุ่มที่นั่งทำหน้ากรุ้มกริ่มอยู่ใกล้ๆ
"มันง่วงนี่นา นอนไม่เต็มอิ่ม ไม่ครบสิบสองชั่วโมงเลยเบลอๆ อีกอย่างพี่ก็ใช้แรงเสียจนหมดพลัง นี่นอนเติมพลังยังไม่ได้เต็มที่ด้วยซ้ำ" ธงรบแก้ตัว ส่วนอาทิตย์กรอกตาไปมาแล้วถอนหายใจเบาๆ ทำให้อนุภาพอดขันไม่ได้ เพราะรู้ว่าเป็นอาการคล้ายๆ กับเขาที่ทำกับอธิคมเมื่อครั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ
ชายหนุ่มมองอาทิตย์ด้วยสายตายิ้มๆ เขาเห็นอาทิตย์แสดงอาการหงุดหงิดใส่ธงรบหลายครั้งแล้ว อะไรบางอย่างทำให้อนุภาพคิดว่าธงรบทำให้อาทิตย์เปลี่ยนไป...เป็นผู้ใหญ่ขึ้น และพูดมากขึ้น จากแต่ก่อนที่มักแต่จะเอาแต่ยิ้มๆ ในขณะที่อาทิตย์ก็ทำให้ธงรบเปลี่ยนไปเช่นกัน อย่างน้อยก็ดูเจ้าชู้ หูตาแพรวพราวน้อยลง แต่ปากคอยังจัดจ้านเช่นเดิม
"พี่นุครับ เที่ยงนี้ไปทานข้าวที่ร้านสามฤดูกันนะครับ มีคนบอกว่าอาหารอร่อยมาก มาถึงอำเภอสองแล้วทุกคนต้องไปทาน ไม่งั้นเรียกว่าไม่ได้มาถึงที่" อาทิตย์ชวน
"ไปรู้มาจากไหนจ๊ะ" ธงรบแทรก
"คนแถวๆ ตลาดบอก ตอนเช้าที่ผมตื่นมารอผู้กองนอนเติมพลัง ผมออกไปเดินเล่นและคุยกับคนแถวนั้น ได้รู้อะไรดีๆ มาเยอะแยะ"
"ประชดจริงแฮะ" ธงรบพูดเบาๆ
อนุภาพยิ้ม คิดสรุปในใจว่า จริงด้วย...อาทิตย์เปลี่ยนไปเยอะจริงๆ หัดพูดประชดเป็นแล้ว...
"ไม่ได้ประชด แค่เล่าให้ฟัง" อาทิตย์เสียงเข้ม "นะครับ พี่นุ ไปทานให้อร่อย นี่ทานข้าวหน้าโรงพยาบาลมาหลายมื้อแล้ว"
"แต่สารวัตร" อนุภาพพูดเสียงเบา หันไปมองห้องไอซียูที่อยู่สุดโถงทางเดิน
"คุณนุไปเถอะ ผมจะอยู่ดูพี่คมเอง ถ้าลืมตาแล้วจะรีบโทรไปบอก แต่ผมว่าคงหลับอยู่ล่ะ พยาบาลบอกว่าให้ยาหนัก คงเอาแต่นอนไม่ยอมตื่น"
"เหมือนผู้กองธงรบ เอาแต่นอนไม่ยอมตื่น ทั้งๆ ที่ไม่ได้บาดเจ็บอะไร" อาทิตย์กระทบกระเทียบ
"แหม พอได้ที ว่าเอาๆ" ธงรบทำหน้ามุ่ย แต่นัยน์ตาพราวระยับ
"นี่สองวันแล้วนะครับ ทำไมยังไม่ฟื้นซะที" อนุภาพรำพึง ใบหน้ายังกังวล
"แล้วคุณนุจะเสียใจถ้าไอ้คมมันฟื้นขึ้นมา ผมว่าให้มันหลับต่ออีกซักพัก ให้สบายหูอีกหน่อย พอมันตื่นขึ้นมารับรองว่าคุณนุไม่ได้อยู่สบายแน่ๆ" ธงรบแนะนำ
"ผู้กอง" อาทิตย์ปรามเสียงเฉียบ ขมวดคิ้วมองหน้านายตำรวจหนุ่มอย่างไม่พอใจ "พี่นุกำลังกังวลใจอยู่ ยังมาพูดให้หนักใจ"
"อ้าว จริงนี่นา พี่เคยเฝ้าไข้มัน ไม่ถึงวัน พี่อยากเอาหมอนกดหน้าให้มันหมดลมหายใจ"
"ถ้างั้นผู้กองก็เฝ้าสารวัตรอธิคม พวกเราที่เหลือจะไปทานข้าวกลางวันกัน" อาทิตย์สรุป
"โอ๊ะๆ ไม่ได้ๆ ให้มันนอนพะงาบๆ อยู่ในไอซียู พยาบาลเขาเฝ้าดูอยู่แล้ว ไม่ต้องเฝ้ากันหรอก ไปกันทั้งหมดนี่ล่ะ แล้วเมื่อไหร่จะเรียกพี่ว่าสารวัตรซะที อุตส่าห์ได้เลื่อนยศ ทีอธิคม อาทิตย์กลับเรียกว่าสารวัตรได้" เพื่อนผู้แสนดีของสารวัตรอธิคมทักท้วงแล้วลุกขึ้นยืน เพราะกลัวว่าจะไม่ได้ไป "ผมเป็นคนขับรถเอง"
"ผมขับเองดีกว่า ผู้กองรู้เส้นทางหรือ เดี๋ยวก็หลงอีก แทนที่จะได้ทานอาหารกลางวัน อาจได้ทานเป็นอาหารเย็น" อาทิตย์บ่น "พี่นุครับ ไปเถอะครับ คุณคชานนท์ ผมว่าไปด้วยกันดีกว่าครับ"
"อ้าว ว่าเข้าไป" ธงรบบ่น ส่วนคชานนท์ตอบว่า "ตามสบายครับ ผมรออยู่ที่นี่ดีกว่า อย่างน้อยมีใครซักคน เผื่อมีอะไร พี่วุธก็ไม่อยู่ ไปธุระที่สถานีตำรวจ แล้วก็อาจเลยไปเชียงราย"
"หิวข้าวแล้วอาทิตย์ เร็วเข้า" ธงรบเดินล่วงหน้าไปก่อน แต่ก็ยังหันหน้ามาคุยกับคชานนท์ "ถ้าไอ้คมมันฟื้นแล้วโวยวาย บอกพยาบาลให้เอาเข็มแทง ฉีดยาสลบให้นอนต่อเลยนะนนท์"
"สารวัตร/ผู้กอง" เสียงอนุภาพกับอาทิตย์ดังขึ้นพร้อมกัน
"ล้อเล่นน่า ไปกันเถอะ ผมหิวแล้ว" ธงรบไม่สนใจเสียงปราม "ดุกันจริงๆ เลย" เสียงห้าวๆ ลอยตามมา ก่อนจะหยุดยืนรอทั้งสองหนุ่มที่เชิงบันได หันหน้ามาทำตาท้าทายทั้งสองที่เดินตามช้าๆ
คชานนท์หัวเราะอย่างเห็นขัน เพราะรู้จักธงรบดีตั้งแต่สมัยเขาเรียนมัธยม นายตำรวจหนุ่มคอยดูแลเขาให้รอดพ้นมือและเท้าของพี่ชายมาหลายครั้ง ภายใต้บุคลิกห่ามๆ ของธงรบนั้นมีความอ่อนโยนและความห่วงใยคนอื่นซ่อนอยู่ ต้อง "ขุด" ออกมาให้ได้ถึงจะเจอ
หลายครั้งที่ธงรบต้องเป็นกรรมการและปกป้องเขาเวลาที่อธิคมฉุนเฉียวเมื่อเขาขัดใจ คชานนท์นึกถึงความหลังแล้วอดยิ้มไม่ได้ จะว่าไป เขาเองก็ใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่ เรื่องกวนประสาทพี่ชายเขาถนัดนักเชียว เวลาอธิคมโกรธ พี่ชายเขามักจะพูดว่า "ไอ้น้องบังเกิดเกล้านี่มันกวนอารมณ์ เห็นไหมธงรบ"
ส่วนธงรบก็จะแก้ต่างให้ว่า "เออน่า นี่มันน้อง มันยังเด็กกว่าเราเยอะ แกจะฮึดฮัดไปทำไม...นนท์ ขอโทษพี่เขาซะ แล้วลดบทบาทของการเป็นพ่อลงมาเสียบ้าง"
"ก็พ่อให้ผมดูแลพี่คม ผมก็แค่..." คชานนท์เอ่ยปากจะอธิบาย แต่ต้องรีบหุบปากเมื่อเห็นพี่ชายทำท่าจะกระโจนเข้าใส่ เค้นเสียงออกมาตามไรฟัน ทำตาวาว "ไอ้นนท์"
คชานนท์รู้ดีว่าเขาเป็น "ไอ้ตัวร้าย" ของพี่ชาย คำพูดคำจาที่เป็นผู้ใหญ่เกินอายุทำให้อธิคมควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้หลายต่อหลายครั้ง จนเขาถูกดุอยู่เสมอว่าเป็น "น้องบังเกิดเกล้า" บ้าง เป็น "พ่อคนที่สอง" บ้าง แล้วแต่ว่าพี่ชายจะอยู่ในอารมณ์ไหน

หลังจากที่สามหนุ่มเดินลงบันไดไป คชานนท์นั่งอยู่ที่ระเบียงชั่วครู่จึงเดินกลับไปที่ห้องไอซียู ยืนมองพี่ชายผ่านกระจกหน้าห้องด้วยแววตาคิดคำนึง
พยาบาลกำลังเปลี่ยนน้ำเกลือขวดใหม่ หญิงสาวตรวจเข็มน้ำเกลือที่แทงอยู่บนแขนซ้ายของพี่ชายเขาแล้วเปลี่ยนพลาสเตอร์เสียใหม่ อธิคมยังนอนนิ่งเฉย ไม่รู้สึกตัว พยาบาลอีกคนที่อายุมากกว่าเดินเข้ามาใกล้ๆ หัวเตียงคนไข้แล้วดึงท่อที่สอดอยู่ในปากออก
คชานนท์ยืนมองพยาบาลทั้งสองจนเสร็จภารกิจ ในใจนึกว่าหมอคงจะมาตรวจอาการอธิคมแล้วเมื่อตอนที่เขากับอนุภาพและอาวุธออกไปทานอาหาร ขณะนี้สารวัตรมือปราบนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง หายใจเบาๆ ท่อยางและอุปกรณ์อื่นๆ ได้รับการถอดออกไป คงเหลือไว้เพียงสายน้ำเกลือและยาที่ห้อยอยู่บนเสาสแตนเลสข้างเตียง
คชานนท์ยิ้มบางๆ รู้สึกใจชื้นขึ้นมาที่เห็นพัฒนาการของพี่ชาย ด้วยรู้ว่าอีกไม่นานอธิคมก็คงจะฟื้น...ฟื้นขึ้นมาเพื่อทวงคนรักของตัวเองกลับคืน อย่างที่เขาเคยตกลงกับพี่ชายก่อนจะที่อธิคมจะย้ายตัวเองมาประจำที่สถานีตำรวจจังหวัดแพร่
หรือบางทีอธิคมอาจรู้สึกตัวแล้ว เพียงแต่คนไข้เอาแต่นอนเพราะอ่อนเพลียและเจ็บแผล อีกทั้งฤทธิ์ยาหลายขนานที่ทำให้ร่างกายเอาแต่นอนพักผ่อน คชานนท์อยากลองปลุกพี่ชาย แต่ใจหนึ่งก็อยากให้นอนหลับพักผ่อนให้มากที่สุด
คชานนท์เดินกลับมานั่งที่ระเบียง มองไปรอบๆ ก่อนจะหันมาทางซ้ายมือเมื่อได้ยินเสียงรองเท้ากระทบพื้น พยาบาลสาวคนที่เพิ่งเช็ดตัวให้พี่ชายเขาเดินผ่านมา สบตาเขาแวบหนึ่งแล้วทำสีหน้างุนงง คชานนท์ยิ้มให้บางๆ พยาบาลสาวยิ้มตอบแล้วเดินผ่านไป ชายหนุ่มคิดว่าเธอคงแปลกใจที่เห็นคนหน้าตาคล้ายกับคนไข้ที่นอนอยู่ในห้อง แต่บางทีพยาบาลคงเข้าใจว่าเขาต้องเป็นน้องชาย เพราะหน้าตาเขากับอธิคมนั้นคล้ายกันพอสมควร ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือเขาผิวขาว ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ตัวเล็กและบางกว่า คิ้วเฉียงขึ้นด้านบน ริมฝีปากบางกว่าพี่ชายที่ผิวเข้ม ตัวหนา หน้าคมเข้มกว่า และมีไรหนวดเขียวครึ้ม

คชานนท์ยังจำได้เมื่อมาส่งพี่ชายที่หน้าคอนโดวันที่อธิคมย้ายออกจากกรุงเทพฯ มาอยู่ที่แพร่ ขณะที่กำลังช่วยยกของขึ้นรถ เขาถามย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าอธิคมเลิกเจ้าชู้หรือยัง
"แกคิดว่าไง" อธิคมไม่ตอบ แต่ถามย้อน
"ผมจะไปรู้เหรอ ถ้ารู้ก็ไม่มายืนถามให้เสี่ยงต่อการถูกเตะอยู่ตรงนี้หรอก" คชานนท์ยักไหล่
"เลิกแล้ว เลิกหมดแล้วตั้งแต่เริ่มจีบคุณนุ"
"เออ แล้วทำไมคุณนุเขาทิ้งพี่ได้ล่ะนี่" คชานนท์ทำหน้างง ซึ่งพี่ชายไม่ค่อยจะเชื่อเท่าใดนัก "ผมว่าพี่ยังไม่เลิกล่ะมั๊ง"
"ไอ้นนท์" อธิคมขยับแขน ทำเอาน้องชายขยับตัวก้าวถอยหลัง
"พี่คม อย่านะ ผมโตแล้วนะพี่" คชานนท์เสียงหลง ทั้งที่รู้ว่าอธิคมเลิกรุนแรงกับเขาแล้ว แต่ก็อดหวั่นไม่ได้
 "มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน"
"เรื่องอะไร เรื่องนิตินัย หรือกษิดิษฐ์ หรือศรุต หรือเอ่อ...คนที่กระบี่"
อธิคมยืดตัวขึ้น เอียงหน้ามองน้องชายคนเก่ง
...ที่คิดไว้ไม่ผิด...ที่บอกว่าคชานนท์ไม่รู้อะไรนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ น้องชายคนนี้ของเขาฉลาดจะตาย รู้ไปเสียทุกเรื่อง เหมือนอาวุธเป็นที่สุด ถ้าไม่เห็นหน้าตากันแล้วบอกว่าคชานนท์เป็นน้องชายอาวุธดูน่าจะเหมาะกว่า สองคนนี้มีอะไรเหมือนกันจนเป็นพี่ชายกับน้องชายได้เลยทีเดียว
"ทั้งหมดนั่นล่ะ พอใจหรือยัง" อธิคมตอบเสียงสะบัด หลังจากนั้นจึงเล่าเรื่องที่เริ่มเป็นปัญหาระหว่างเขากับอนุภาพ จุดเริ่มต้นมาจากศรุต นักวิเคราะห์ตลาดหุ้น แต่จุดเริ่มที่สำคัญนั้นเกิดจากแบ้งค์ นิตินัย นักร้องชื่อดังของประเทศ เรื่องมาเข้มข้นที่กษิดิษฐ์ เจ้าของบริษัทนำเข้ารถยนต์ และมาแตกหักที่ชายหนุ่มผู้ร่าเริงคนหนึ่งที่เขาพบที่กระบี่...คนที่ทำให้ทุกอย่างพังลง...คนที่แม้แต่ชื่อเขาก็ไม่รู้จัก
...แทนที่จะเป็นอดีตคนเก่าๆ ของเขาทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอนุภาพ กลับเป็นชายหนุ่มแปลกหน้าที่ไม่เคยพบมาก่อนเลยในชีวิต
คชานนท์คิดเรื่องของพี่ชายจนเพลิน ลมโชยมาเย็นๆ อากาศสดชื่น บรรยากาศดีจนเขาอยากจะงีบหลับ
ขณะที่กำลังเริ่มตาปรือ พยาบาลคนเดิมเดินผ่านมาอีกครั้งและยิ้มให้เขา คชานนท์ยิ้มตอบ ครั้งหญิงสาวเดินผ่านไป จึงหลับตาลงเพื่องีบหลับเอาแรง

อาหารมื้อเที่ยงของร้านอาหาร "ครัวสามฤดู" อร่อยสมกับที่อาทิตย์รับประกัน ชายหนุ่มบอกว่าคุณโกศลเจ้าของร้านขายทองที่อยู่ใกล้กับโรงแรมที่เขาพักคุยนักหนาว่าอาหารอร่อยมาก ธงรบถามอาทิตย์ว่าไปรู้จักกับเจ้าของร้านทองได้อย่างไร ชายหนุ่มไม่ยอมตอบ บอกแต่เพียว่า แค่เช้าวันเดียวเขารู้จักคนแล้วตั้งสามสี่คน
"คนน่ารัก ใครก็อยากรู้จัก แต่อย่าลืมตัวเองนะว่า มีเจ้าของแล้ว ห้ามไปทำให้ใครคนอื่นมาชอบ" ธงรบทำตาเจ้าชู้ใส่ชายหนุ่มหน้าตี๋ผู้ทำเป็นหูทวนลม แต่อีกคนหนึ่งซึบซับเอาคำพูดทุกคำของสารวัตรคนใหม่ผู้ที่เอาแต่พูดตลอดการเดินทางจากโรงพยาบาลมาถึงร้านอาหาร
อนุภาพนั่งคู่กับอาทิตย์ ส่วนธงรบนั้นนั่งคนเดียวตรงข้ามสองหนุ่ม แต่กว่าจะตกลงเรื่องที่นั่งกันได้ก็โดนอาทิตย์ดุไปหลายครั้งเพราะสารวัตรเจ้าปัญหาต้องการนั่งคู่กับอาทิตย์ ในขณะที่ตี๋เข้มก็ให้เหตุผลว่าธงรบตัวใหญ่ นั่งเบียด ทำให้ทานข้าวไม่ถนัด ธงรบแย้งว่าอนุภาพถนัดมือซ้าย ไม่เบียดกันหรืออย่างไร
"พี่นุตัวเล็กกว่า ไม่กินพื้นที่" อาทิตย์อดต่อปากต่อคำไม่ได้
"ยังกะตัวเองตัวเล็กนักนี่ อวบซะ" ธงรบเบ้ปาก
"ยังไงผมก็ไม่ตัวใหญ่เป็นโคถึก" อาทิตย์เบ้ปากเหมือนกัน
"โอ้โห เล่นแรง ว่าพี่เป็นควายเลยหรือ ไม่ได้ตัวใหญ่ถึงจะเบียดกินที่เวลานั่งกินข้าวนะอาทิตย์" ธงรบทำหน้ามุ่ย
"ผมไม่ได้ว่าผู้กองเป็นควาย" อาทิตย์แย้ง "โคมันใช่ควายที่ไหนกันเล่า" ประโยคหลังพึมพำเบาๆ อยู่คนเดียวอย่างอ่อนใจ
"ก็พูดอยู่เมื่อกี้ว่าพี่ตัวใหญ่เป็นโคถึก คุณนุก็ได้ยิน" ประโยคหลังธงรบหันมาหากรรมการ
อนุภาพยิ้ม ไม่ตอบอะไร และไม่แก้ความเข้าใจผิดของธงรบ ปล่อยให้ทั้งสองเถียงกันต่อเพราะชักจะเพลินในการฟังคู่รักคู่ใหม่ปะทะคารมกัน
"ทีอยู่บนเตียงไม่เห็นบ่นว่าเบียด"
"ผู้กอง อย่ามาพูดอะไรประเจิดประเจ้อนะ" อาทิตย์ปรามเสียงห้วน
"ครับ ได้ครับ งั้นเอาไว้คุยกันในที่ลับตา สองต่อสอง" ธงรบยักไหล่ ไม่มีท่าทีจะเกรงกลัว
อนุภาพหันมองสองคนที่กำลังต่อปากต่อคำกันด้วยสีหน้าขันๆ ด้วยสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในความสัมพันธ์ของคู่นี้ที่เกิดขึ้นช้าๆ ใจนึกย้อนไปถึงเมื่อครั้งที่อธิคมจีบเขาใหม่ๆ
พันตำรวจตรีอธิคมเป็นคนช่างยั่วเย้า จนบางทีเขาแทบจะหมดความอดทน อยากผลักอธิคมให้ล้มลงกับพื้นหรือหล่นจากเก้าอี้ อธิคมบอกว่ามีความสุขที่ได้คลอเคลียอยู่ใกล้ๆ เขา แต่บางครั้งอนุภาพก็ต้องการสมาธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาหอบงานมาทำที่บ้าน หลายครั้งขณะที่เขากำลังทำงาน อธิคมจะนุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียวเข้ามา "กวน" จนต้องดุ
...อธิคม...ภาพอดีตทุกภาพของเขากับอธิคมช่างคมชัดนัก เพียงแค่หลับตาหรือปล่อยใจให้นึกถึง เหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ก็เด่นชัดราวกับฉายภาพยนต์ลงบนจอ
...รวมถึงจินตนาการของภาพที่ร่างธนาภพลอยละลิ่วลงกระแทกกับพื้น และภาพที่อดีตคนรักของเขานอนคว่ำอยู่แค่มือเอื้อมถึง
...ภาพที่เฝ้าหลอกหลอนเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
...สาเหตุที่เขาเพิ่งค้นพบเมื่อมาถึงแพร่ ว่าที่จริงแล้ว นี่คือเหตุผลที่บอกกับสมบัติว่าเขาไม่กล้าสู้หน้าอธิคม...
...แต่ตอนนี้ เขาต้องสู้ เขาต้องทำให้ทุกอย่างชัดเจน และเขาต้องเอาชนะความอ่อนแอให้ได้
...มีวิธีเดียวที่จะเอาชนะความอ่อนแอ วิธีที่เขาทำอยู่เสมอ หากจะเอาชนะความกลัว เขาต้องเข้าไปยังที่ที่ทำให้เขากลัวที่สุด ถ้าเขาเอาชนะความกลัวนั้นได้ เขาก็จะกลายมาเป็นคนเข้มแข็ง
ถ้ากลัวจมน้ำตาย เขาต้องกระโดดลงกระแสน้ำเชี่ยวกราก แล้วตะกุยตะกายเข้าหาฝั่งเพื่อเอาชีวิตรอด ถ้ารอด จากนั้นเขาก็จะไม่กลัวจำน้ำอีกเลย...

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด