ขอบคุณทุกท่านที่ยังไม่ลืมกัน
คดีรักภาคสองขอเวลาหน่อยนะ อยากพิถีพิถันกับมันซักหน่อย รู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันกระโดดๆ ยังไงไม่รู้
ตอนนี้ขอคั่นด้วยเรื่อง รักวุ่นๆ ของสถานปนิกหนุ่ม (แทนรักด้วยใจ)---ชื่อเรื่องชื่ออะไรยังไม่ได้ตั้งเลยด้วยซ้ำ
ประกวดตั้งชื่อเรื่องซะดีไหมเนี่ย
(อันนี้สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านนะครับ ใครที่เคยอ่านแล้วก็เงียบๆ ไว้นะ ขออ่อยเหยื่อรายใหม่ให้มาเป็นแฟนคลับซะหน่อย ) ขอบคุณครับ
แทน -บทที่ 1
บทที่ 1
อังคาร 14 มกราคม - 10:39 น.
แทน ธนานุวัฒน์มองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังพลางถอนหายใจช้าๆ ยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม แล้วหันซ้ายหันขวามองหาหญิงสาวที่เพิ่งเอาน้ำแก้วที่สามมาให้เขา ชายหนุ่มอยากจะถามว่าเมื่อไหร่จะได้เข้าพบคุณภูวนัย...ประธานบริษัท...ผู้ว่าจ้างให้เขาตกแต่งห้องชุดสุดหรูชั้นบนสุดของคอนโดริมทะเล
...คอยมาเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว ไม่มีวี่แววว่าจะได้เข้าพบคุณภูวนัยประธานบริษัทเสียที...เสียเวลาจริงๆ...
เขาเบื่อที่จะต้องมาพบผู้บริหารระดับสูงที่มีตารางเวลายุ่ง
…คิดว่าคนอื่นเขาไม่มีธุระเหมือนตัวเองหรือไงนะ... ชายหนุ่มบ่นในใจ
แทนจำใจทำงานนี้ เพราะบุริณทร์เจ้านายขอร้องแกมบังคับให้รับงานต่อจากอินทิราที่ลางานยาวไปแต่งงานและฮันนี่มูน เขากำลังจะไปทำงานที่กระบี่เพื่อออกแบบสปาหรูหราแห่งใหม่ The Sea of Life Spa ที่ลงทุนจำนวนมหาศาล แต่บุริณทร์ขอร้องให้ทำงานตกแต่งห้องพักคอนโดริมทะเลที่ปราณบุรีให้เสร็จเสียก่อน เจ้านายให้เหตุผลว่างานสปารอได้...
ภูวนัย...เจ้าของห้องชุดสุดหรูชั้นบนสุดของคอนโดสร้างใหม่ที่นัดแล้วนัดอีกจนเขาเริ่มเบื่อ
…งานนี้จะเริ่มต้นยังยากลำบาก กว่าจะเสร็จคงทำเอาเหนื่อย... ชายหนุ่มกลัวว่าโครงการสปาที่กระบี่จะรอไม่ได้...บุริณทร์อาจจะหักหลัง มอบหมายให้คนอื่น
เขาอยากไปทำงานที่กระบี่ ทะเลใสๆ หาดทรายสวยๆ ทำงานเสร็จ กระโดดลงทะเลได้เลย
แทนตั้งใจว่าจะเช่าห้องพักที่ใกล้ชาดหาดที่สุด ซื้อจักรยานซักคัน ปั่นไปทำงาน หยุดเสาร์อาทิตย์จะนอนอาบแดดให้ตัวดำ...
สถาปนิกหนุ่มยืดคอขึ้นเพื่อมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกสีชาเข้มบานใหญ่ที่ตกแต่งเป็นผนังห้องข้างประตูห้องทำงานของประธานบริษัท...เขาเห็นใบหน้าของชายหนุ่มตาตี่ คิ้วเข้ม จมูงโด่ง ปากเรียวได้รูป ผิวขาวสะอาด ขาวเนียนจนเขาไม่ชอบ
ทุกครั้งที่ไปทะเล เขาจะนอนอาบแดดโดยหวังว่าจะได้ผิวสีแทนเข้ม แต่ไม่ว่าจะทาซันแทนหรืออาบแดดอย่างไร เขาก็ได้ผิวสีแทนอยู่ไม่กี่อาทิตย์ ท้ายที่สุดก็กลับมาขาวเหมือนเดิม
“คุณแทนค่ะ เชิญค่ะ” เสียงหญิงสาวเลขานุการท่านประธานบริษัทเรียก
ชายหนุ่มสะดุ้ง เพราะมัวแต่มองตัวเองในกระจก เขารีบลุกขึ้น หญิงสาวผายมือไปที่ทางเดิน แล้วออกเดินนำหน้า
“เชิญทางนี้ค่ะ”
“เอ่อ...คุณครับ นั่นไม่ใช่ห้องคุณภูวนัยหรือครับ” เขาชี้ไปที่ประตูห้องที่เขานั่งรออยู่ด้านหน้ามานานกว่าครึ่งชั่วโมง
“ต้องขอโทษด้วยค่ะ คุณภูวนัยติดธุระด่วน เลยขอให้พบกับคุณกฤษณะแทน”
“แล้วคุณกฤษณะรู้เรื่อง...เอ่อ ตัดสินใจแทนคุณภูวนัยได้เลยหรือครับ” แทนผิดหวัง...เขาอยากพบเจ้าของห้องชุด คุยกันให้ละเอียดถึงเรื่องความต้องการของลูกค้าเพื่อที่จะทำงานได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องมานั่งแก้งานซ้ำแล้วซ้ำอีก
“คุณกฤษณะเป็นเพื่อนสนิทคุณภูวนัยค่ะ”
แทนถอนหายใจ ... เอาว่ะ...อย่างน้อยงานจะได้เริ่มเสียที ขออย่างเดียวอย่าต้องให้รอต่ออีกครึ่งชั่วโมงเลย…
กฤษณะ...เพื่อนสนิทของภูวนัยเป็นรองประธาน...แทนยืนหน้ามุ่ยเมื่อเลขาหนุ่มของคุณกฤษณะบอกว่าให้รอสักครู่
...รออีกแล้ว...รอ...รอ...รอ...
ชายหนุ่มขอตัวไปห้องน้ำเพราะดื่มน้ำเข้าไปหลายแก้วขณะนั่งรอคุณภูวนัย
แทนเดินเซ็งๆ ไปตามทางเดิน...บริษัทนี้กว้างขวางมาก เดินไปไหนก็มีแต่กระจก...เขาแวะยืนมองตัวเองหน้ากระจกสีเข้มจึงเห็นว่าตัวเองขมวดคิ้วหน้ายับยู่ยี่
ชายหนุ่มเคยอ่านหนังสือมาว่าการขมวดคิ้วนานๆ จะทำให้เกิดรอยตีนกา จึงยกมือขึ้นคลึงหน้าผากเบาๆ เริ่มจากกลางหว่างคิ้ว ไล่ไปจนถึงหางตา เขายิงฟัน เลิกคิ้ว อ้าปากบริหารกราม ขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้าเพื่อผ่อนคลายความตึงของกล้ามเนื้อ
แวบหนึ่งเขาเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านด้านหลัง ยิ้มขันๆ
..........
แทนกำลังเอื้อมมือจะผลักเปิดประตูห้องน้ำ แต่จังหวะเดียวกันห้องน้ำถูกดึงเปิดออก ชายหนุ่มหน้าตาดีอายุต้นสามสิบสวมเสื้อเชิ๊ตสีขาว ผูกเน็คไทหลวมๆ เดินออกมา...ตัวสูงใหญ่มาก
“กระจกในห้องน้ำน่าจะชัดกว่านะครับ” เขาอมยิ้มขันๆ แล้วรีบเดินไป...แทนมองตามงงๆ
...
เมื่อกลับมาถึงหน้าห้องรองประธาน เลขานุการหนุ่มหน้าตี๋ที่แต่งตัวเนี๊ยบรีบบอกว่คุณกฤษณะรออยู่แล้ว แทนแอบถอนหายใจโล่งอกที่จะได้พบลูกค้าหรือตัวแทนลูกค้าเสียที
เลขานุการปล่อยให้แทนเดินเข้าไปในห้องคนเดียว ห้องทำงานกว้างใหญ่มาก กระจกใสเกือบรอบห้อง ม่านรูดเปิดให้แสงสาดส่องเข้ามาจนห้องสว่างจ้า
ท่านรองประธานนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำตัวใหญ่ กำลังก้มหน้าเซ็นเอกสาร เมื่อรับรู้ว่ามีคนเดินเข้ามายืนตรงหน้าเขาจึงเงยหน้าขึ้น
...เขานั่นเอง...ที่หน้าห้องน้ำ...
เขาก็ดูแปลกใจบ้างที่เห็นว่าแทนคือคนๆ เดียวกันที่เพิ่งเจอเมื่อสักครู่
...อมยิ้มมุมปากอีกแล้ว...จะขำอะไรนักหนา… แทนอดนึกหมั่นใส้ในใจไม่ได้
ท่านรองประธานบริษัทยังดูหนุ่มมาก...ท่าทางเป็นเพลย์บอยไม่ใช่เล่น...นัยน์ตาวิบวับ
“เชิญนั่งครับ คุณเอ่อ...แทน...แทนเฉยๆ หรือครับ”
“ใช่ครับ...แทนคำเดียวครับ”
“ผมต้องขอโทษคุณแทนด้วย คุณภูวนัยมีธุระด่วนต้องรีบไป หวังว่าคุณแทนคงเข้าใจ” ท่านรองประธานพูดเป็นงานเป็นงาน ขัดกับแววตาที่ดูพราวระยับ...เขามองดูชายหนุ่มตรงหน้า ท่าทางเป็นคนสนุกสนานร่าเริง...คนที่เก่งที่สุดของบริษัท ตามที่ภูวนัยเสนอให้บริษัท iStyle ส่งมา
‘ยังดูเด็กมากๆ ดูยังไงก็ไม่เกิน 25 ปี เหมือนเพิ่งเรียนจบใหม่’ เขาสงสัยว่าหากภูวนัยรู้เรื่องเข้าคงฉุนน่าดู...รายนั้นยิ่งเจ้าอารมณ์อยู่ด้วย
“ไม่เป็นไรครับ ผมหวังว่าคุณกฤษณะคงตัดสินใจแทนคุณภูวนัยได้ทุกอย่าง และให้รายละเอียดทั้งหมดผมได้”
“เรียกผมว่ากฤษณ์เฉยๆ ก็ได้ครับ ปรกติผมใช้ชื่อกฤษณ์คำเดียวเหมือนกัน” กฤษณะนัยย์ตาพราวระยับ
‘ล้อเลียนเหรอ...’ แทนภพนึกในใจ ‘ท่าทางขี้หลีไม่ใช่เล่น...แต่เอาเถอะ เพื่อให้งานเสร็จๆ เราจะไม่ใส่ใจ’
“ผมทำแทนคุณภูวนัยได้เกือบทั้งหมดครับ แต่อาจคงต้องคุยกับคุณภูวนัยบ้าง อย่างน้อยก็จะได้แน่ใจว่าทุกอย่างโอเค”
...ถ้ายังจะต้องคุยกับภูวนัยอยู่อีก แล้วทำไมต้องมาเสียเวลานั่งคุยกับเพื่อนสนิทของเขาด้วยนะ...
แทนไม่มีทางเลือก เขาต้องการเริ่มงานให้เร็วที่สุด...
ชายหนุ่มทั้งสองเริ่มคุยรายละเอียดเรื่องการตกแต่ง...กฤษณะแปลกใจกับความคล่องแคล่วของชายหนุ่มตรงหน้า หน้าตาท่าทางยังเด็ก แต่เก่งกาจไม่ใช่ย่อย เวลาอธิบายเรื่องงานพูดจาฉะฉาน มั่นใจในตัวเอง เสียงทุ้มๆ บรรยายเป็นฉากๆ ไม่ติดขัด ปากแดงระเรื่อขยับไปมา ฟันขาวสะอาด ลักยิ้มแก้มซ้าย ทำให้กฤษณะมองอย่างเพลินตา จนบางครั้งลืมฟังสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังพูด
แทนนึกภาพห้องชุดขนาดพื้นที่ 680 ตารางเมตร กว้างมาก ชั้นบนสุดของคอนโด มีสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาด 15 เมตร มีจากุซซี่ มีห้องอบซาวน่า ห้องออกกำลังกาย โฮมเธียเตอร์ ห้องรับแขกกว้างติดกระจกรอบเห็นวิวทะเลแบบพาโนรามา มีบาร์เหล้า แต่มีห้องนอนเพียงสองห้อง!
“เอ่อคุณกฤษณะแต่ใจว่ามีห้องนอนแค่สองห้องนะครับ” แทนแปลกใจ เพนท์เฮาส์สุดหรู มีห้องนอนเพียงสองห้อง
“ใช่ครับ ห้องพักตากอากาศ เอาไว้มาพักผ่อนส่วนตัวสุดสัปดาห์ ตอนแรกกะจะให้มีห้องนอนห้องเดียว แต่ผมติง ก็เลยเผื่ออีกหนึ่งห้อง ไว้รับแขก ซึ่งก็หมายถึงผมที่อาจจะไปพักด้วยบ้างเป็นบางครั้ง”
...680 ตารางเมตร ห้องนอนใหญ่หนึ่งห้อง เล็กอีกหนึ่งห้อง ที่เหลือเป็นห้องอะไรก็ไม่รู้...ไร้สาระ...เอาเถอะน่า...เงินของเขา คนรวย...จะสร้างแบบไหนทิ้งไว้ก็ได้ ปีหนึ่งคงมานอนแค่คืนเดียวแล้วก็กลับกรุงเทพฯ...
“อาทิย์หน้าเริ่มงานได้เลยครับ” กฤษณะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ใบหน้าระบายยิ้มอ่อนๆ แต่แทนเห็นความเหนื่อยล้าในดวงตาคู่นั้น...ผู้บริหาร ก็คงทำงานหนักจนแทบจะหาเวลาพักผ่อนไม่ได้
“แต่ผมอยากขอเข้าไปดูสถานที่พรุ่งนี้เลยครับ”
แทนไม่อยากรอ ที่จริงเขาอยากไปดูวันนี้เลยด้วยซ้ำ
“เร็วขนาดนั้นเลยหรือ วิศวกรเขาบอกว่ายังไม่เสร็จดี”
“ไม่เป็นไรครับ ถึงไม่เสร็จก็ใกล้เสร็จเต็มที่ ผมไปเร่งงานให้ก็ได้”
“ถ้างั้นคุณแทนมาเจอผมพรุ่งนี้ตอนสิบเอ็ดโมง จะได้แวะทานอาหารเที่ยงที่นครปฐม” กฤษณะโน้มตัวมาข้างหน้า มือวางบนโต๊ะ เปิดดูสมุดบันทึก
“หมายความว่ายังไงครับ” ชายหนุ่มงง
“ผมจะพาไป”
“ผมไปเองก็ได้ครับ ขอกุญแจกับแผนที่ แค่นี้ก็พอแล้ว”
“ผมอยากไปดูพอดี ถือโอกาสไปด้วยกันเสียเลย” กฤษณะยิ้ม เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพทสั่งงานเลขานุการว่าเขาจะไปปราณบุรีพรุ่งนี้ ให้เคลียร์นัดหมายให้ด้วย แล้วหันหน้ามามองสถาปนิกหนุ่มหน้าตี๋
“คุณแทน เอ่อ...มีนามบัตรไม๊ครับ”
แทนยื่นนามบัตรให้ พร้อมรับนามบัตรกฤษณะ
...กฤษณะ เดชาวุฒิไกร...นามสกุลใหญ่ไม่ใช่เล่น...แทนนึกในใจ...
ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณและอำลา แล้วยกมือขึ้นสวัสดีท่านรองประธาน จากนั้นลุกขึ้นเดินก้าวเท้ายาวๆ ไปที่ประตูห้อง ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมองตามหลังตลอดเวลา นัยน์ตาพราวระยับ
...น่ารัก...กฤษณะชมอยู่ในใจ ก้มลงมองนามบัตรชายหนุ่มหน้าใส ไม่นึกว่าสถาปนิกที่รับผิดชอบคอนโดของภูวนัยเพื่อนรักจะหน้าตาท่าทางถูกใจเขาขนาดนี้
อะไรบางอย่างในตัวของชายหนุ่มทำให้เขาสนใจ
...ขอให้ใช่ด้วยเถอะ...กฤษณะคิดว่าเขามองไม่ผิด...
-------
แทนเดินออกมาหยุดยืนอยู่ลานหน้าตึก ไอร้อนนอกอาคารกระทบใบหน้า แดดร้อนจนแสบผิว ชายหนุ่มยืนนิ่งชั่วครู่ นึกถึงหาดสวยทะเลใสของกระบี่เพื่อสร้างกำลังใจ
แทนชอบแสงแดดจ้าและความร้อน แต่ไม่ใช่กรุงเทพฯ เขาหลงไหลทะเลจนอยากจะย้ายตัวเองไปทำงานอยู่จังหวัดชายทะเลเป็นการถาวรเพียงแต่ว่าตอนนี้ชีวิตยังไม่พร้อม
...เอาเถอะ...ยังไม่ได้ไปกระบี่ แค่ปราณบุรีก็ยังดี...ขออย่างเดียว อย่าแก้แล้วแก้อีก เหมือนสร้างบ้านของคุณสุรชัยที่นครนายกเลย เข็ดจนตาย ไม่เอาอีกแล้ว...
บางทีชายหนุ่มก็อ่อนใจ สร้างบ้านให้คนรวยนี่เหนื่อยจริงๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่ข้อดีก็คือ มีโอกาสได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์เต็มที่ ได้ลองอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ และที่สำคัญ ‘เงินดี’
...เก็บเงินได้เยอะๆ เขาจะไปตะเวนเที่ยวชายหาดสวยๆ รอบโลก เริ่มจากมัลดีฟส์ แล้วไปเซเชลส์ แล้วก็ฮาวาย...ไม่ใช่สิ...ฮาวายไม่ไป เคยไปหลายครั้งแล้วตอนเรียนอยู่ที่อเมริกา...ไปเฟรนช์ โพลินีเชียก่อน ต่อด้วยมอริเชียส แล้วกลับมาหาเงินใหม่ รอบต่อไปก็ชายทะเลแถบเมดิเตอร์เรเนี่ยน เริ่มจากมอนาโค แล้วตะลุยทุกเกาะของกรีซ...
สถาปนิกหนุ่มฝันหวานไปไกล...หารู้ไม่ว่า...งานที่ปราณบุรีกำลังจะทำให้ความฝันของเขาเกือบเป็นหมัน...
***********