บทที่ 32
อธิคมทำจมูกฟุดฟิด ตายังหลับอยู่ แต่ประสาทสัมผัสหูและจมูกทำงานก่อน...เสียงก๊อกแก๊ก กลิ่นหอมฉุย...เขารู้ว่าใครซักคนกำลังทำอาหาร...อาหารเช้า...ใครซักคนที่ว่านั้นต้องเป็นอนุภาพแน่ๆ...อนุภาพกำลังทำอาหารเช้าให้เขาทาน
นายตำรวจหนุ่มลืมตาขึ้นมา เขาต้องการการยืนยันว่าคิดถูกต้อง ชายหนุ่มค่อยๆ ยกหัวขึ้นมาจากเบาะโซฟานุ่มๆ โผล่ขึ้นมาจนพ้นพนักพิง มองไปยังต้นทางของเสียงและกลิ่นนั้น อนุภาพยืนอยู่หน้าเตากำลังปรุงอาหาร ใบหน้าเรียบนิ่งแบบที่เห็นชินตา...
เขารักผู้ชายคนนี้เหลือเกิน...เสน่ห์บางอย่างในตัวอนุภาพมัดใจเขาเสียอยู่หมัด...เสน่ห์ที่เขาบอกไม่ได้ว่าคืออะไร...รู้แต่ว่าตอนนี้ทุกลมหายใจเข้าออกของเขามีแต่ชายหนุ่มหน้าคมคนนี้
สัญชาตญานของอนุภาพคงบอกว่ามีใครจ้อง ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมา เห็นอธิคมกำลังทำตาหวานมองอยู่
อนุภาพยังทำหน้าเรียบนิ่งเช่นเคย ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าลงทำอาหารเช้ามื้อพิเศษต่อ...มื้อแรกและมื้อเดียวที่จะทำบริการคนเมา
“หอมจัง” อธิคมทำท่าสูดดม
“ผู้กองรีบไปล้างหน้าล้างตาสิครับ จะได้มาทานข้าวมื้อพิเศษ”
‘มื้อพิเศษหรือ...คุณนุทำอาหารมื้อพิเศษให้เรา...ดีจัง’ นายตำรวจหนุ่มยิ้มบางๆ ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง...สร่างเมาใหม่ๆ สมองยังไม่ค่อยแล่น ลืมไปว่าอนุภาพเรียกเขาว่า ‘ผู้กอง’...ลืมไปว่าเคยตั้งสมมุติฐานว่า ‘ผู้กอง’ เรียกเมื่อเกิดอาการฉุน ‘สารวัตร’ เมื่ออยู่ในอารมณ์ธรรมดา และ ‘คุณตำรวจ’ เมื่อกำลังโกรธ...ลืมไปว่าสายตาคู่นั้นบีบให้เขาคายคำตอบออกมาได้อย่างง่ายๆ ...ลืมไปชั่วครู่ว่า...อนุภาพ...มีอานุภาพต่อเขามากนัก
“ผมหิวแล้ว ขอทานเลยได้ไม๊ครับ ปรกติไม่ล้างหน้าแปรงฟันผมก็ทานอาหารเช้าเลย”
อนุภาพเงยหน้าขึ้น ส่งสายตาเรียบนิ่งเหมือนจะถามว่า ‘มีปัญหาอะไร’
สติของอธิคมเริ่มกลับมา...สำนึกส่วนลึกเริ่มทรยศตัวเอง
“ครับ ครับ...แต่ผมไม่มีแปรงสีฟัน”
“เตรียมไว้ให้แล้วครับ ห้องน้ำอยู่ทางโน้น” อนุภาพยังใบหน้านิ่งเรียบ บุ้ยปากบอกทางไปห้องน้ำแขก
“ใช้แปรงสีฟันอันเดียวกันเหรอ” อธิคมเดินโซเซไป ไม่วายมีคำถาม “ล้างหน้าแปรงฟันอย่างเดียวก็พอนะ”
อนุภาพส่ายหน้ากับนายตำรวจจอมกวน...อดยิ้มไม่ได้...อธิคมจะเป็นอย่างนี้ทุกวันหรือไม่หากต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน...
---‘ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน...เราคิดไปถึงขนาดนั้นแล้วหรือ’ อนุภาพชะงัก แปลกใจกับความคิดใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นในหัว
อนุภาพนึกถึงคืนนั้นที่อธิคมบอกรัก เขาเอาแต่ยืนนิ่งเงียบ...ไม้ตายของเขา...ใช้ได้ผลทุกครั้ง...เมื่อไม่แน่ใจ คิดอะไรไม่ออก...นิ่งเงียบเข้าไว้...รอดตัวไปได้...เขาเรียกว่าเป็นการถอยตั้งหลักแบบไม่ต้องขยับตัว
------
อาทิตย์ล้างสบู่ออกจากตัว ลูบไล้เรือนกายของตน อดนึกถึงเมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ได้ แม้ความจำจะไม่คมชัดเพราะสติถูกครอบคลุมด้วยความเมา แต่เขาก็พอจำได้ถึงความหฤหรรษ์ที่ได้รับ...ในใจนึกตำหนิตัวเองที่ปล่อยให้อะไรๆ เกิดขึ้น เขาโทษเหล้า...เขาโทษธงรบที่ฉวยโอกาส...เขาโทษความเหงา...ความผิดหวัง...ความเสียใจ...แต่ลึกๆ เขาอยากจะโทษตัวเองนักที่สับสนจนควบคุมตัวเองไม่ได้
หากอนุภาพรู้เขาจะทำอย่างไร...ชายหนุ่มจะรู้สึกอย่างไร...ชั่วข้ามคืน เขาก็นอกใจ...
นอกใจหรือ...ไม่ใช่สิ...เขาไม่ได้นอกใจ...เขาเมา...แล้วอีกอย่าง...เขากับอนุภาพก็ไม่เคยเป็นอะไรกัน...และคงไม่มีวันได้เป็น...จะเรียกว่านอกใจได้อย่างไร...
ที่สำคัญเขากับธงรบเป็น ‘ฝ่ายเดียวกัน’ ....เขาต้องคู่กับฝ่ายตรงข้าม...
จริงหรือ...ใครกำหนด...หากเขาไม่ได้ใช้ชีวิตกับอนุภาพ...แล้วใคร...คุณตฤณหรือ...คุณตฤณก็เป็นขั้วเดียวกัน...อธิปก็เป็นเพื่อน เป็นผู้ชายแท้ๆ...แล้วใครต่อใครที่เคยจีบเขาก็ดูเหมือนว่าจะเป็นฝ่ายเดียวกับเขาทั้งนั้น
....ทำไมเขาไม่เคยได้ในสิ่งที่เขาต้องการเลย....แค่เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น...แค่คนเดียว...อนุภาพ...พี่นุ...
-----------
“เรียบร้อยแล้วครับ ผมทานข้าวได้หรือยัง” อธิคมเดินยิ้มยังฟันเข้ามาใกล้
นายตำรวจหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้สตูลข้างโต๊ะทำครัว มองหาโต๊ะทานอาหารแต่ไม่พบ จึงพูดขึ้นว่า “คุณนุครับ คุณนุไม่มีโต๊ะกินข้าวเหรอ”
อนุภาพพยักหน้า ทุกครั้งเขานั่งทานอาหารที่โต๊ะทำครัวตัวใหญ่
“อืมมม เอาไว้ผมจะซื้อให้ซักตัว”
“...”
“ว่าแต่ว่าเก้าอี้ตัวนี้ นั่งสบายดีนะครับ” อธิคมหาเรื่องคุย เพราะพ่อครัวเอาแต่นิ่ง ตักข้าวต้มกุ้งชามใหญ่กลิ่นหอมฉุยยื่นให้เขา ส่วนของตัวเองเป็นถ้วยเล็กกว่า
“อาทิตย์ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด” อนุภาพแกล้ง
ใบหน้ายิ้มๆ ของอธิคมหุบลงทันควัน ขยับตัวลุกขึ้นเหมือนถูกไฟร้อนๆ นาบ
อนุภาพยิ้มๆ ตักข้าวต้มเข้าปาก
“ใจร้าย กะจะแกล้งผมให้ทานข้าวไม่ลง” อธิคมทำหน้างอน
“จริงๆ ไม่ได้พูดเล่น...โซฟานั่นน่ะพี่บั๊ดกับพจนีย์ซื้อให้ ถ้วยที่กินอยู่นี่อธิปซื้อเป็นของขวัญวันเกิด เอนกให้โต๊ะวางโทรศัพท์ โจ้ซื้อหม้อเทฟลอน อาริษาซื้อชุดช้อนซ่อม พี่ภูมิบริจาคตู้หนังสือเพราะเห็นผมมีหนังสือเยอะเกินไปแล้วเขาไม่ได้ใช้เลย ส่วนตู้เย็น...คุณตฤณ” อนุภาพพูดยาว...อดลงท้ายด้วยการแกล้งไม่ได้
“หา...ตู้เย็นนี่นะ...ใจป้ำแฮะ” ตู้เย็นใหญ่มาก อธิคมไม่คิดว่าใครจะซื้อตู้เย็นให้กันเป็นของขวัญ
อนุภาพสนิทกับเพื่อนมาก ดูมีความสุขกับการได้อยู่ท่ามกลางเพื่อนๆ แต่เขาอยากให้ชายหนุ่มมีความสุขกับการได้อยู่ใกล้ๆ เขามากกว่า...เมื่อมีแฟน...เพื่อนก็ต้องมาทีหลัง
...แฟนหรือ...อนุภาพยังไม่ตอบรับเขาเลย...เขาบอกรักไปแล้ว...ที่นี่...ตรงนี้ที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่...บนเก้าอี้ที่อาทิตย์ซื้อให้อนุภาพ...แม้เสียความรู้สึกไปบ้างแต่ก็พอรับได้ที่มารู้เอาตอนหลัง...หรือบางทีอนุภาพอาจแกล้งล้อเล่นเขาก็ได้
“แล้วคุณนุ ซื้ออะไรเองมั่ง”
“ซื้อคอนโดนี่ กับรถไง...รถที่สารวัตรชนท้าย”
“โธ่...คุณนุ...เรื่องที่แล้วก็เลิกแล้วต่อกันเถอะนะ” อธิคมทำหน้าอ้อนวอนรู้สึกผิด แต่นัยน์ตาวิบวับ "ใจร้าย ว่ากันอยู่ได้ไม่ยอมเลิก"
อนุภาพไม่ตอบ ตักข้าวต้มเข้าปาก สลับกับการมองอธิคมที่กำลังอร่อยกับการทานอาหาร
“เมื่อคืนผู้กองเมามาก จนหมดสภาพ...” อนุภาพเริ่มเมื่อเห็นว่าทานข้าวไปบ้างแล้ว
หลังจากล้างหน้าล้างตาจนสดชื่น สติของอธิคมเริ่มกลับมาเป็นปรกติ จำได้แล้วว่าเคยมี ‘ประเด็นเก่าเรื่องเรียกยศ’
“ทานข้าวต้มให้หมดก่อนสิครับ กำลังอร่อย”
“อร่อยหรือครับ...งั้นผู้กองทานอีกชามนะ เอาให้อิ่มๆ เพราะอาจไม่ได้ทานอีก” อนุภาพยังหน้าเรียบนิ่ง ไม่แสดงอารมณ์ แต่ตำรวจหนุ่มที่กลายมาเป็นจำเลยเริ่มอึดอัด
“ไอ้ธงไม่น่าหวังร้ายเลย ทำให้คุณนุลำบาก ให้คนอื่นไปส่งผมก็ได้ ที่จริงมันนั่นล่ะควรไปส่งผม”
“ร้อยตำรวจเอกธงรบเขามีภารกิจสำคัญต้องไปทำ”
...ภารกิจสำคัญของธงรบ...ภารกิจของธงรบจะมีอะไรถ้าไม่ใช่....อาทิตย์...
อธิคมอึดอัดซ้ำสอง กลัวว่าตัวเองจะคายความลับโดยไม่ได้ตั้งใจ...ถ้าอนุภาพรู้ว่าเขาเป็นคนมอบหมายภารกิจให้ธงรบ เขาก็คงโดนไม่ใช่น้อย...
“ภารกิจอะไรของมัน ภารกิจของไอ้เสาธงจะมีอะไรถ้าไม่ใช่... “ อธิคมนึกได้ หยุดคำพูดไว้ทัน ”ถึงงั้นก็เหอะ ให้คนอื่นไปส่งผมก็ได้”
“ให้ผมจินตนาการนะ ทุกคนคงเมาฟุบกันหมด ผู้กองธงรบก็ท่าทางไม่แพ้กัน แต่ยังพอเดินได้ พูดรู้เรื่องบ้าง อย่างนี้จะไปทำภารกิจอะไรได้ ไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไหร่”
อนุภาพแกล้งทำหน้าไตร่ตรอง...ทำไมจะไม่รู้ว่าธงรบจงใจตามเขาไปรับอธิคม...สองคนก็เจ้าเล่ห์ไม่แพ้กัน...เพื่อนสนิทกันนี่นา...พิมพ์เดียวกัน...ต่างจากธนาวุฒิ...สามทหารเสือ...แต่ก็นั่นล่ะ...เขายังไม่รู้จักธนาวุฒิเท่าใดนัก...แต่เท่าที่อธิคมเล่าให้ฟังและได้พบสองครั้ง ธนาวุฒิไม่น่าจะพิมพ์เดียวกันกับสองคนนี้
“โธ่คุณนุ นานๆ ครั้งครับ ผมไม่ได้เลื่อนยศทุกเดือนนะ ตั้งหลายปีกว่าจะขยับไปอีกกระติ๊ดนึง คราวหน้าเป็นพันตำรวจโท ผมสัญญาว่าจะไม่เหมาแอ๋ขนาดนี้ จะชวนคุณไปนั่งเฝ้า ควบคุมความประพฤติ”
“แล้วสารวัตรธนาวุฒิเขาไม่พากลับบ้านหรือครับ รองผู้กำกับไม่น่าจะเมา”
‘ไม่เอานะ...ไม่เอาธนาวุฒิ...ธนาวุฒิมาเกี่ยวอะไรด้วย’...สัญญาณอันตรายดังขึ้นในหัวของอธิคม ภาพของธนาวุฒิดีงาม...เขากลัวอนุภาพจะชื่มชม...แม้จะยอมรับว่าพ่อเพื่อนคนเก่งสุดแสนจะสมบูรณ์แบบ...แต่เขาหึง...
“รายนั้นกลับไปตั้งแต่หกทุ่ม...คนดีมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วไม่อยู่เมากับเพื่อนหรอก” อธิคมยักไหล่ ความคิดส่วนลึกขับดันให้เขาโกหกชายหนุ่มเพื่อ ‘ขจัด’ ธนาวุฒิให้พ้นทาง พยายามไม่ให้ภาพของธนาวุฒิเข้ามาในหัวของอนุภาพ...ที่จริงธนาวุฒิไม่เคยเมา และเขาก็ใส่ใคล้เพื่อตีกันคุณรองผู้กำกับให้ชายหนุ่มคิดว่าสารวัตรใหญ่มีแฟนแล้ว...
แต่วินาทีนั้นเขาตระหนักว่าตัวเองพลาด...คิดผิดไปถนัด
“อ๋อ...สารวัตรธนาวุฒิมีแฟนแล้ว...มิน่า...” ชายหนุ่มพยักหน้า ทำท่าเข้าใจ
“คุณนุครับ ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ผมก็มีแฟนแล้ว แต่ผมเผลอดื่มเยอะไปหน่อย เหล้ามันแรง”
“คุณมีแฟนแล้วเหรอ ไม่ยักรู้” คนที่ไม่ยอมรับว่าเป็นแฟน ลุกเดินไปเปิดตู้เย็น
อธิคมร้อนตัว...นึกฉุนความคิดตัวเองที่ทรยศเจ้าของ
...บ้าจริง...นี่ถ้าเขาเป็นผู้ต้องหาคงถูกจับเข้าคุกไปแล้ว...อนุภาพน่าจะเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนได้ดีกว่าใครเพื่อน...ไม่ก็เป็นทนาย หรือผู้พิพากษา...
แต่สารวัตรหนุ่มอดครึ้มอกครึ้มใจไม่ได้...ดูเหมือนอนุภาพจะยอมรับกลายๆ ว่าเป็นแฟนเขา...
“คุณนุครับ อย่าโกรธเลยน่า ผมไม่เมาให้คุณต้องออกไปแบกตัวกลับบ้านอย่างนั้นอีกหรอก จะไม่ดื่มเหล้าจนเมาหมดสภาพแบบนั้นอีกแล้ว”
“ดื่มก็ดื่มไปสิครับ...เรื่องปรกติ ตำรวจรวมกลุ่มกันก็ดื่มหนักกันอยู่แล้ว” ชายหนุ่มเดินกลับมาที่โต๊ะ วางแก้วน้ำส้มและนมสดให้....
“กาแฟยังไม่ได้ซื้อเลยครับ...” อนุภาพจ้องตาอธิคมนิ่ง ใบหน้าเรียบเช่นเคย “แต่ผมไม่ออกไปรับสารวัตรอีกแล้ว...ไม่ว่าจะกลับมาบ้านนี้หรือไปไว้บ้านไหน”
อธิคมยิ้มแหยๆ ...เอาซะแล้วไหมล่ะ...
“เดี๋ยวผมไปซื้อกาแฟให้นะ...”
อนุภาพยิ้มบางๆ เอื้อมมือมาแตะหลังมือสารวัตรหนุ่ม...”ไม่ต้องครับ...ทานข้าวต้มให้หมดเถอะ”
อนุภาพนั่งมองอธิคมทานข้าว นึกถึงเมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อคืนเขาไปถึงหน้าผับตะวันแดงก็พบว่าอธิคมนอนพาดอยู่บนม้านั่งหน้าผับ มียามนังพัดวีไล่ยุ่งให้อย่างเอื้ออารีย์...ชายหนุ่มไม่แปลกใจเพราะท่าทางเป็นขาประจำ...เขาตบแก้มนายตำรวจหนุ่มเบาๆ เพื่อเรียกสติ...คนเมางัวเงียลุกขึ้นมามองตาปรือถามว่า “ครายอ่ะ...คุณนุหรือ...คิดถึงจัง”
อนุภาพลังเลว่าจะไปส่งอธิคมที่คอนโดเขาดีหรือไม่...นึกถึงจะต้องผ่านด่านยามหน้าประตูทางเข้า...อาจจะต้องเจอยามหน้าประตูอาคารอีกชั้น...เผลอๆ อาจต้องเจอพนักงานต้อนรับก่อนผ่านไปถึงลิฟท์ เขาจึงตัดสินใจพามาที่พักของตัวเอง...อย่างน้อยมีพี่สิงห์ รปภ. ที่กลายมาเป็นลูกน้องคนสนิทของอธิคมไปเสียแล้วช่วยแบก ช่วยพยุง ช่วยลากคนตัวใหญ่ขึ้นมาจนถึงห้อง
เขาทั้งฉุนทั้งอาย...สิงห์อมยิ้มเมื่อเขากล่าวขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ
‘ร้อยตำรวจเอกอธิคม...อย่าให้ต้องมารบรากับความเจ้าชู้และความเจ้าสำราญของคุณเลย...ภารกิจนี้ผมรับไม่ได้...’
--------
อาทิตย์เดินออกมาจากห้องน้ำ เนื้อตัวขาวสะอาด ผิวแน่นเนียนเช็ดแห้งแล้วตั้งแต่อยู่ในห้องน้ำ ตุ่มเล็กๆ สองตุ่มบนอกกว้างแดงระเรื่อ จนธงรบอยากกระโจนเข้าใส่ ไล้ลิ้นโลมเลียอีกครั้ง
อาทิตย์ยังหน้าบึ้ง ไม่พูดไม่จา นึกฉุนที่ธงรบยังนั่งหมิ่นๆ อยู่บนขอบเตียงไม่ไปไหน...
“คุณอาทิตย์ครับ อย่าโกรธกันเลย จะว่าไปผมก็เสียหายด้วยเหมือนกันนะ” ธงรบอดล้อตี๋หนุ่มหน้าเคร่งไม่ได้...หน้าตาน่ารักแต่ทำท่าดุ...กลัวตายล่ะ
“คุณเสียหายอะไร ผมเสียอีก อุตส่าห์ดูแลตัวเอง แล้วต้องมาโดนอย่างนี้”
ธงรบยิ้ม เรียบเรียงประโยคให้ชายหนุ่มใหม่ในใจ ‘อุตส่าห์รักนวลสงวนตัว ต้องมาเสียหนุ่ม เกือบโดนฟัน’
อาทิตย์ชะงัก เห็นชุดเครื่องแบบของธงรบกองอยู่บนเก้าอี้ เหลือบตาไปมองบนโต๊ะ เห็นซองปืนวางอยู่...ภาพถ่ายหมู่ชายหนุ่มหลายคนในเครื่องแบบสีกากีในกรอบตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน
....ธงรบเป็นตำรวจ!...เขาถูกตำรวจข่มขืน....เขาเสียตัวให้ตำรวจ...ไม่ใช่สิ...เขาเผลอมีอะไรกับตำรวจ...
เขาเมาแล้วมีอะไรกับผู้ทักษ์สันติราษฎร์... แต่เรียกว่าผู้ข่มเหงสันติราษฎร์น่าจะถูกกว่า
เขาไม่ชอบตำรวจ...แต่เขาถูกตำรวจทำมิดีมิร้ายตอนเมา!
...ทำไมมีแต่ตำรวจเข้ามาทำให้เสียเรื่อง...
ธงรบทำให้เขาอดคิดถึงสารวัตรอธิคมไม่ได้ สองคนนี้ดูเหมือนกันมาก แม้หน้าตาไม่เหมือนแต่ก็หล่อร้ายกาจ ตัวสูงใหญ่ บุคลิกลักษณะเจ้าชู้เหมือนกัน....
ขออย่าให้ธงรบรู้จักกับอธิคมเลย...ไม่เช่นนั้น เรื่องนี้อาจเข้าถึงหูอนุภาพ...เขาไม่ไว้ใจคนหน้าเป็นปากเก่งที่นั่งยิ้มๆ อยู่ใกล้ๆ นี้เป็นอย่างยิ่ง
“รถผมอยู่ไหนครับ” อาทิตย์แต่งตัวเสร็จ เสื้อยับยู่ยี่ กระดุมขาดหลายเม็ด ชายหนุ่มตะขิดตะขวางใจที่ธงรบเอาแต่มองเขาแต่งตัว จะบอกให้ออกไปจากห้องก็ดูกระไรอยู่ เดี๋ยวจะหาว่าอายเหมือนผู้หญิง หรือ ‘ฝ่ายรับ’
เขาใส่กางเกงทั้งที่ยังนุ่งผ้าขนหนู หันหน้าเข้าผนังเพราะกลัวว่าธงรบจะเห็นของดี หารู้ไม่ว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ตำรวจเจ้าชู้สำรวจบั้นทายจนหนำใจ
“เข็มขัดผมอยู่ไหน” อาทิตย์ถามธงรบ ไม่มองหน้า
“อืมมม อยู่ไหนนะ ขอผมหาก่อน เมื่อคืนนี้กระชากออกมาแล้วก็โยนไปทางไหนว้า...”
อาทิตย์เริ่มจะทนไม่ไหวที่ธงรบแกล้งพูดกวนอารมณ์...เขาหันซ้ายหันขวาหาเข็มขัดตัวเองก็พบว่าตกอยู่ข้างเตียงใกล้ๆ กับกางเกงในสีดำ...ของนายตำรวจ...
ชายหนุ่มก้มลงไปหยิบ...ลืมไปว่าธงรบยังนั่งอยู่ขอบเตียง ส่วนหลังของเขาจึงลอยเด่นใกล้ๆ ใบหน้ากรุ้มกริ่มของผู้กองนักรัก
...โดนเชยชมด้วยสายตาอีกแล้วสิอาทิตย์...
“รถยังอยู่หน้าผับครับ ไม่ต้องห่วง ยามเขาดูแลให้อย่างดี เมื่อคืนจอดทิ้งก้นไว้ เอ๊ย ทิ้งกันไว้หลายคัน”
รถของอธิคมกับรถของธนิณทร์ก็คงยังจอดอยู่ที่นั่น...ธนิณทร์เพื่อนรักป่านนี้คงเสร็จสาวเปรี้ยวชุดแดงไปแล้ว...
“ผับอยู่ที่ไหนนะครับ”
“วิภาวดี เดี๋ยวผมพาไปเอา”
“ไม่ต้อง...ผมไปเองได้” อาทิตย์จำทางไม่ค่อยได้ เมื่อคืนเขาขับรถตะเวนเรื่อยเปื่อยไปรอบๆ กรุงเทพฯ ผ่านหน้าผับจึงแวะเข้าไปอย่างเซ็งๆ เขาจะโทรไปถามเพื่อน...ต้องมีสักคนที่รู้
“งั้นทานข้าวก่อนก็แล้วกันนะครับ มาเถอะ จะเย็นหมดแล้ว” ธงรบลุกขึ้น ขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ
อาทิตย์ขยับตัวออกห่างเดินไปที่ประตู เขาเริ่มตระหนักว่าธงรบตัวสูงใหญ่และหนามากกว่าเขาเยอะ น่าจะสูงพอๆ กับสารวัตรอธิคม...ลึกๆ ในใจ ชายหนุ่มอดนึกไม่ได้ว่า ถึงแม้เขาไม่เมาแล้วธงรบข่มขืนล่ะ เขาจะเสร็จไหม...หากถูกข่มขู่ ถูกปืนจี้ ถูกจับมัด เขาจะทำอย่างไร...พวกตำรวจทำอะไรน่ากลัวกันทั้งนั้น
อาทิตย์ปฏิเสธ แล้วรีบเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น มองหารองเท้าก็พบว่าข้างหนึ่งตกอยู่ใกล้ๆ ประตู ส่วนอีกข้างอยู่ใกล้โซฟาติดผนังห้อง
ห้องพักของธงรบกว้างพอสมควร...แต่รก...ห้องตำรวจชายโสด...จะเอาอะไรมากไปกว่านี้
ชายหนุ่มมองหาถุงเท้าไม่เจอ เลยคิดว่าจะคว้าถุงเท้าของธงรบสักคู่ที่วางอยู่ข้างประตูใส่ไปก่อน
“ผมอุตส่าห์ออกไปซื้อมาให้ทาน...อย่าให้เสียน้ำใจสิครับ...เถอะน่าคุณอาทิตย์ อย่าโกรธกันนักเลย เราเมากันทั้งสองคน เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ ผมชอบคุณมากมันก็เลยห้ามใจไม่ไหว ถ้าคุณไม่น่ารักถูกใจขนาดนี้ถึงเมาผมก็ไม่ทำอะไรคุณหรอก...คุณเองก็ใช่ว่าจะขัดขืนผมนี่น่า...แสดงว่าคุณก็คงจะ...”
“เมื่อคืนผมเมา” อาทิตย์เสียงเข้ม เน้นทุกพยางค์ นึกอยากจะถลันเข้าไปกระชากคอเสื้อนายตำรวจแล้วต่อยซักหมัด แต่ไม่กล้าเพราะตัวโตกว่า ดีไม่ดีจะโดน....
‘บ้าจริง...ทำไมถึงซวยอย่างนี้’
“ผมเมา...แต่เห็นคว้าเอาๆ” ธงรบพึมพำเบาๆ ให้ได้ยินเฉพาะตัวเอง แต่คนหูดีที่กำลังใส่ถุงเท้าได้ยิน
‘เขาหมายความว่าอะไร คว้าเอาๆ ...คว้าอะไร’ อาทิตย์สงสัย
‘ถึงจะชอบกันมากเขาก็ไม่ทำกันยังงี้หรอก เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงวันดี ก็มีอะไรกันแล้ว’ เขาเองเฝ้าแอบรักอนุภาพมาเป็นปีๆ ยังไม่มีอะไรกันเลย ถูกเนื้อต้องตัวกันแทบก็แทบจะไม่...
...เขากับอนุภาพ...พี่นุของเขา...แล้วทำไมจะมีอะไรกัน...จะมีได้อย่างไร...อนุภาพไม่ได้รักเขานี่...แล้วก็คงไม่มีโอกาสแล้วล่ะ...ไม่มีโอกาสสำหรับเขาแล้ว
อาทิตย์เจ็บปวดยิ่งนัก...คิ้วขมวด...ปากเม้มตรง...ตาเริ่มแดง...น้อยใจในความรักของตัวเอง...ทำไมอนุภาพไม่รักเขาเลย...
ธงรบยืนมองอยู่ เห็นใบหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนแปลงไปก็แปลกใจ
‘อะไรกัน แค่เสียตัวนิดหน่อยเมื่อคืน ทำเหมือนสาวน้อยเสียพรหมจรรย์ไปได้’
ผู้กองเจ้าสำราญอดสงสารไม่ได้ ใจหนึ่งก็ถูกใจที่ได้สอบสวนโจรหนุ่มมือใหม่...น่าเอ็นดูเป็นที่สุด เป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งจนหาตัวตนไม่เจออย่างบรรดาดารา นักร้อง หรือนายแบบที่เขาพบมา แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกผิดที่ทำไม่ดีกับอาทิตย์ซึ่งท่าทางหวงเนื้อหวงตัวมาก
“คุณอาทิตย์ อย่าโกรธผมเลยนะ ผมขอโทษก็ได้ ผมผิดที่ฉวยโอกาสตอนเมา แต่ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ คุณก็รู้...ขอให้ผมแก้ตัวหน่อยนะครับ ผมไม่ได้แย่มากอย่างที่คุณคิดหรอก อย่าเกลียดกันเลย” ธงรบทำเสียงจริงจัง
อาทิตย์ลังเล...ธงรบอาจจะไม่ได้แย่นัก เขาต้องยอมรับว่าเหล้าเป็นสิ่งไม่ดี ทำให้ขาดสติยั้งคิด เขาเองก็เมาด้วย ธงรบก็ยอมรับแล้ว
...แต่ว่าเขารับไม่ได้...สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นความผิดพลาดที่มาจากฤทธิ์ของสุรา...เขารับความจริงข้อนี้ไม่ได้
...แต่อาทิตย์ไม่เข้าใจอย่างแท้จริงถึงความรู้สึกเบื้องลึกของมนุษย์...อารมณ์ปรารถนาที่เกิดขึ้นกับปุถุชน...ความต้องการที่เราเองบางครั้งก็แทบไม่เข้าใจและควบคุมมันไม่ได้
“ช่างเถอะ ผมจะถือว่าเรื่องเมื่อคืนไม่เคยเกิดขึ้น เราก็คงไม่ได้พบกันอีก ไม่นานผู้กองกับผมก็คงลืม” ชายหนุ่มพูดเสียงเข้ม แล้วเปิดประตูเดินออกไป...หารู้สึกตัวไม่ว่าเรียกยศของธงรบได้ถูกต้องชัดเจน
ธงรบมองตาม...ระคนผิดหวังระคนครึ้มใจ...ผิดหวังที่ชายหนุ่มไม่ยอมอยู่ต่อทานข้าวสักนิด ครึ้มใจกับความน่ารักของตี๋หล่อและรสชาติเมื่อคืน...
‘...ฝันไปเถอะอาทิตย์ รู้จักร้อยตำรวจเอกธงรบน้อยไปเสียแล้ว ถ้าผู้กองธงรบจะชักธงขึ้นรบแล้วล่ะก็ หนีผมไปไหนไม่พ้นหรอก...’
อธิคมก็อธิคมเถอะ ลูกตื้อผิดกับธงรบนัก
************
รูปข้างบนคืออธิคมในความคิดของผมครับ ส่วนอนุภาพคือรูปที่เป็นหน้าสีแดงๆ อิอิ
เดนนิส โอนีลนี่หล่อจริงๆ ให้ตายสิ เสียอย่างเดียว...