นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -  (อ่าน 844390 ครั้ง)

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ K2KARN

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3084
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +393/-6
คุณนุไม่หลงกลไม่รู้จะว่ายังไง ฮ่าฮ่า  :laugh:
ให้มันรู้ไปเลย ผู้กองอธิคม


ขอบคุณค่ะ ;')

Kipper

  • บุคคลทั่วไป
 :oni2:ผู้กองอธิคม  เท่ห์โคตร ๆ แถมยังฉลาดล้ำเลิศ      o13 คุณ Katawoot สุดยอด

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 13

อาริษาหยิบโบรชัวร์วางบนเคาท์เตอร์อย่างกระแทกกระทั้น เช้าวันนี้เธอลืมโทรศัพท์มือถือไว้ที่บ้าน มอเตอร์ไซด์รับจ้างที่นั่งเข้าซอยมาทำงานก็พูดจาแทะโลมจนน่ารำคาญ แถมไม่มีเงินทอนอีก
“รีเซฟชั่นบริษัทนี้หงุดหงิดตั้งแต่เช้าเลยนะ อย่าทำหน้างอนักสิ เดี๋ยวลูกค้าไม่กล้าเข้า” โต้ง ชายหนุ่มร่างผอมสูงยั่วเย้าหญิงสาว
“อย่ามายั่วแต่เช้านะนายไก่โต้ง” อาริษาค้อน กระแทกตัวนั่งลง โต้งจีบเธอทีเล่นทีจริงมาตั้งแต่เธอเข้ามาทำงานใหม่ๆ
หญิงสาวเปิดหน้าเว็บไซท์ตรวจดูข่าวซุบซิบดาราเพื่อนำไปเป็นข้อมูลสนทนากับเพื่อนๆ ตอนทานอาหารกลางวัน จากนั้นเปิดดูรูปดาราวัยรุ่นรูปหล่อซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้ผ่อนคลายจากความเครียดได้เป็นอย่างดี อาริษากำลังจ้องหน้าจออย่างเพลิดเพลิน พลันมีเสียงทักทายหน้าเคาท์เตอร์
“สวัสดีครับคุณอาริษา” หญิงสาวสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียง ชายหนุ่มหน้าใสอายุต้นยี่สิบยืนยิ้มกว้างอยู่ตรงหน้า ใส่เครื่องแบบตำรวจสีกากีเข้ม ยื่นซองสีชมพูมาให้ หญิงสาวอดมองดูดาวบนบ่าไม่ได้... หนึ่งดาว...ตำรวจจบใหม่
“นายผมฝากให้คุณอนุภาพครับ”
“เอ่อค่ะ...” หญิงสาวเอียงอาย อาริษาเอียงอายทุกครั้งที่พบชายหนุ่มหน้าตาดี
“ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ” ทั้งสองกล่าวขอบคุณพร้อมกัน อาริษาหลุบตาลงมองซองจดหมาย แล้วช้อนตามองตำรวจหนุ่มตรงหน้า ร้อยตำรวจตรีชัชชัยยิ้มอวดลักยิ้มแล้วยกมือขึ้นตะเบ๊ะ กล่าวอำลา
“คุณทราบชื่อดิฉันได้ยังไงคะ” หญิงสาวรวบรวมความกล้า ถามก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินจากไป
“นายผมบอกครับ...ว่าให้เอาซองมาฝากคุณคนสวยๆ ที่เคาท์เตอร์รีเซฟชั่นชื่ออาริษา ผมมองๆ ดู ไม่เห็นมีใครสวยเท่าคุณซักคน ก็เลยแน่ใจว่าใช่คุณแน่” ชัชชัยหยอดคำชมก่อนยิ้มหวานให้แล้วเดินจากไป
อาริษายิ้มกว้างก้มหน้ามองซองสีชมพูในมือ เช้าวันทำงานที่เริ่มต้นแย่ๆ กลับแปรเปลี่ยนเป็นเช้าที่มีชีวิตชีวา แต่หญิงสาวต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อเสียงชายหนุ่มคนเดิมถาม “อ้อ ลืมไป ผมขอเบอร์โทรบริษัทด้วยได้ไหมครับ จะให้เจ้านายโทรมาติดตามว่าได้รับซองหรือยัง” ชัชนัยดำเนินการแผนสองด้วยการขอเบอร์โทรศัพท์
“เอ่อ...ค่ะๆ เบอร์ 083-943...อุ๊ย ไม่ใช่ค่ะ เอ่อ...02-252-5656” หญิงสาวอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีที่เกือบเผลอบอกเบอร์มือถือตัวเอง

อาริษาเดินตัวลอยเอาซองจดหมายมาให้อนุภาพที่ห้องทำงาน ชายหนุ่มมองหญิงสาวอย่างแปลกใจกับอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“การ์ดแต่งงานเหรอคุณษา” อนุภาพเย้า
“เปล่าค่ะ...แต่ก็ใกล้ๆ แล้ว” อาริษาเดินตัวลอยกลับออกไป
อนุภาพเปิดซองสีชมพูหวานแหววก็พบวาเป็นกุญแจรถของเขานั่นเอง พร้อมกับการ์ดเล็กๆ เขียนข้อความว่า “รถจอดอยู่หน้าบริษัทครับ...รถจบแต่คนไม่จบนะครับ/yours fathfully”
การ์ดไม่ได้ลงชื่อ แต่ชายหนุ่มทราบดีว่าเป็นใคร อุตส่าห์เขียนลงท้ายเป็นภาษาอังกฤษก็ยังสะกดผิด เขาเผลอยิ้ม อดนึกไม่ได้ว่าอธิคมจงใจบอก ‘ความนัย’ ผ่านมา...yours--ผมเป็นของคุณ...faithfully--จริงๆ นะครับ...

อนุภาพตรวจดูความเรียบร้อยของพาวเวอร์พ้อยท์งานโฆษณาพาโนวิวเพื่อเตรียมไปนำเสนอลูกค้า โฆษณาชิ้นนี้เป็นผลงานฝีมือของเขาล้วนๆ เขามุ่งมั่นว่าการนำเสนอลูกค้าครั้งแรกจะต้องได้รับความประทับใจสูงสุดจนลูกค้าแทบไม่ต้องให้แก้ไขเพิ่มเติม
ชายหนุ่มคว้ากุญแจรถ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คและแฟ้มเอกสาร เดินออกจากห้องทำงานเพื่อไปพบลูกค้ารายใหญ่ที่ตฤณบอกว่า “ค่าจ้างเยอะพอควร”
รถของเขาจอดอยู่ช่องจอดรถขวาสุดใกล้ทางเดินชิดกับน้ำพุ ทำสีใหม่เอี่ยมขัดมันวาววับ อนุภาพยืนมองชั่วครู่ อดนึกถึงคู่กรณีไม่ได้---ผ่านไปเดือนกว่า...เขาได้รถคืนมาเสียที ผ่านไปเดือนกว่าที่ผู้ชายตัวโตคนหนึ่งคอยวนเวียนอยู่ในชีวิตเขาไม่ขาด ผ่านไปเดือนกว่า...การซ่อมรถจบสิ้นแต่ ‘คนไม่จบ’ ดังที่คู่กรณีประกาศเอาไว้ เดือนกว่ากับงานซ่อมที่ช่างใหญ่บอกว่า “แค่อาทิตย์เดียวก็เสร็จ”
ชายหนุ่มเปิดประตูรถ กลิ่นน้ำหอมปรับอากาศส่งกลิ่นกรุ่น ภายในได้รับการทำความสะอาดเอี่ยมอ่อง ข้างเบาะคนขับมีกุหลาบสีแดงหนึ่งดอกวางอยู่ ไม่มีการ์ดเขียนข้อความติดมาด้วย อนุภาพรู้ทันทีว่าใครเป็นเจ้าของ เขาหยิบกุหลาบขึ้นมา ลงจากรถเดินไปที่ถังขยะใกล้ๆ แต่ก็เปลี่ยนใจเดินกลับมาที่รถแล้วเปิดช่องเก็บของหน้ารถ วางดอกกุหลาบใส่เข้าไป
อนุภาพไม่รู้ว่าทั้งหมดอยู่ภายในสายตาของ ‘พนักงานส่งรถกิตติมศักดิ์’ น้องชายของธงรบที่โทรศัพท์กลับไปรายงานเพื่อนพี่ชาย
-----------------------------------

อธิคมยิ้มแฉ่งทั้งวันจนธงรบสงสัย วันนี้เพื่อนซี้อารมณ์ดีเป็นพิเศษจนอดแหย่ไม่ได้
“ยิ้มปากจะถึงใบหูแล้วนะไอ้คม”
“คนมีความสุขนี่หว่า คุณนุเขาเริ่มชอบข้าแล้ว ใครที่จะมาขโมยปลาย่างถอยไปไกลๆ”
ชายหนุ่มเล่าให้เพื่อนฟังว่าขอให้น้องชายธงรบที่เป็นตำรวจ ส.น. ใกล้ๆ อู่ ไปรับรถแล้วนำไปส่งให้อนุภาพที่บริษัท แล้ววางดอกไม้สีแดงไว้บนเบาะ
“คุณนุเขาไม่ทิ้ง เขาเก็บเอาไว้”
“แกนะแก เอาน้องข้าไปยุ่งด้วย”
“ข้าต้องหาพยานปากเอก เผื่อแกจะมาเกาะแกะคุณนุ มาทำบาปเป็นชู้กับแฟนเพื่อน” อธิคมยักคิ้ว
“คุณนุไปเป็นแฟนเอ็งตั้งแต่เมื่อไหร่” ธงรบเอียงหน้าท้าทาย “เท่าที่ข้ารู้ เอ็งก็ยังจีบเขาไม่ติด”
“เอ็งจะไปรู้อะไร” อธิคมข่มเพื่อน ทั้งที่รู้ว่าสิ่งที่ธงรบพูดนั้นเป็นความจริง---อนุภาพยังเย็นชากับเขา!
“เย็นวันศุกร์ข้าต้องไปถ่ายหนังโฆษณากับคุณนุ ข้าจะลองใจเขา จะใช้ไม้ตาย”
“ฮ้า ไม้ตาย ชวนเขาขึ้นเตียงนี่นะ ท่าทางนิ่งๆ อย่างคุณนุคงยอมแกหรอก” ธงรบดูแคลน
“ไอ้บ้า ไม่รู้อะไรอย่าเดา”
เป็นที่รู้กันระหว่างสองหนุ่มว่าไม้ตายคือ ‘ชวนขึ้นเตียง’ อธิคมยอมรับว่าเขาไม่ค่อยมั่นใจว่าเมื่อไหร่จะได้ใช้ไม้ตายที่ว่านี้เสียที ชายหนุ่มข่มเพื่อนคู่หูของเขาเพื่อแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอนุภาพนั้นกำลังคืบหน้า ส่วนมารผจญอย่างธงรบนั้นให้หลบไป...อย่างน้อยก็เป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม
-------------------------------

รถแท๊กซี่จอดหน้า NeoBangkok Studio ร้อยตำรวจเอกอธิคมในชุดเครื่องแบบสีกากีก้าวลงจากรถ เย็นนี้เขาต้องมาซ้อมถ่ายทำก่อนไปเจอการถ่ายทำจริงที่กาญจนบุรี เขาต้องเรียนรู้การวางท่าทาง เรียนรู้มุมกล้อง ฝึกการแสดงเบื้องต้นว่าจะแสดงเป็นตำรวจอย่างไร
ชายหนุ่มก้าวเท้ายาวๆ ขึ้นบันไดพลางหัวเราะในลำคอ ‘เวรกรรม เป็นตำรวจอยู่แล้วกลับต้องมาฝึกแสดงเป็นตำรวจ จะยากขนาดไหนเชียว’

นายตำรวจหนุ่มคนเก่งคิดผิด การแสดงไม่ง่ายอย่างที่คิด เขารู้สึกว่าตัวเองเงอะงะไม่รู้จะหันหน้าหันตัวอย่างไร มือไม้ก็เก้งก้าง บทพูดก็จำไม่ได้ ซ้ำยังต้องพูดประโยคเดิมๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า แสงไฟก็แสบตา ร้อนก็ร้อนจนแสบหน้าไปหมด
“ผู้กองลองนึกว่าไม่มีกล้องอยู่ตรงหน้านะครับ พูดเหมือนพูดกับคนจริงๆ” ภาคภูมิผู้กำกับร่างท้วมแนะนำ
‘พูดได้ไงวะ ก็ยืนอยู่หน้าแสงไฟแล้วยืนพูดอยู่กับกล้องอยู่แท้ๆ’ ชายหนุ่มเริ่มปวดขา ตาพร่า เขาหันไปมองหาอนุภาพ
 “ผู้กองมองกล้องสิครับ” ผู้กำกับส่งเสียงเตือนทันที
‘ว่ะ มองไปทางไหนก็ไม่ได้’ อธิคมเริ่มหงุดหงิด เขาเห็นอนุภาพยืนกอดอกหน้านิ่งอยู่ข้างๆ ผู้กำกับ ส่วนสมบัตินั่งกดโทรศัพท์เล่นไม่สนใจใคร พจนีย์จ้องเขาไม่วางตา อาทิตย์ยืนหน้าเคร่งปากเม้ม
“ผู้กองอย่าขมวดคิ้วสิครับ แค่ทำหน้าจริงจังก็พอ” ผู้กำกับสั่ง เสียงพจนีย์บอกให้ช่างแต่งหน้าซับเหงื่อ ฮันนี่ช่างแต่งหน้าหนุ่มมาดหวานยิ้มกว้างรีบเดินเข้ามาประชิดตัวอธิคมใช้กระดาษเช็ดหน้าซับหน้าผาก สันสมูก และแก้มของเขาอย่างพิถีพิถัน
“พอแล้วยัยฮันนี่ ให้ซับหน้านะ ไม่ใช่ให้เช็ดตัว” เสียงสมบัติดัง ฮันนี่หยุดซับ เดินกระฟัดกระเฟียดกลับไปนั่งข้างๆ สมบัติที่หันมาถลึงตาใส่

เวลาผ่านไปจนอธิคมรู้สึกเหมือนว่ายาวนานเป็นสิบชั่วโมง ชายหนุ่มเริ่มแสบตาจนทนไม่ไหว เขามองมายังอนุภาพด้วยสายตาเว้าวอนขอความเห็นใจเหมือนจะบอกว่า ‘เห็นใจผมเถอะ ผมจะไม่ไหวแล้ว’
อนุภาพกระซิบภาคภูมิ แล้วผู้กำกับจึงบอกให้พักได้
นายตำรวจดาราจำเป็นทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างหมดแรง มือปลดกระดุมเครื่องแบบจนเห็นแผ่นอกแน่นใต้เสื้อกล้ามบางสีขาว เหงื่อเปียกชุ่มทั้งที่เปิดแอร์เย็น อนุภาพยื่นขวดน้ำเย็นให้พร้อมหลอดกาแฟ
อธิคมเปิดขวดแล้วยกขึ้นจะกรอกน้ำเข้าปาก อนุภาพรีบปราม
“อย่านะครับผู้กอง ใช้หลอดดูด เดี๋ยวต้องแต่งหน้าใหม่”
อธิคมชะงักรับหลอดน้ำดื่มจากอนุภาพงอนๆ
อนุภาพเบือนหน้าไปข้างๆ อมยิ้ม ‘ผู้ชายตัวโตห้าวๆ อย่างอธิคมกระฟัดกระเฟียดก็เป็น’
“หน้าหล่อๆ อย่างผมต้องแต่งด้วยหรือ” เขาเสียงเข้ม
“อยู่หน้ากล้องต้องแต่งทุกคนครับเพราะไม่งั้นจะดูซีด ต่อให้หล่อร้ายกาจแค่ไหนก็ต้องแต่ง” อนุภาพอธิบายเสียงเรียบ
“คุณนุ ผมจะไม่ไหวอยู่แล้วนะ” อธิคมโอดครวญ
“ทีวิ่งไล่จับผู้ร้ายละเก่งนัก แค่นี้ก็บ่นแล้วหรือครับ”
“มันคนละอย่างกันนี่นา งานนี้มันทรมานกันชัดๆ ผมจะขาดใจตายอยู่แล้ว”
“อดทนอีกนิดก็เสร็จ ผู้กองก็อย่าพูดทื่อๆ เหมือนท่องหนังสือสิ แล้วอย่าฝืน ทำตัวเป็นธรรมชาติ” อนุภาพนึกได้จึงรีบเสริม “แต่ธรรมชาติตามบทนะครับ ไม่ใช่ธรรมชาติแบบเจ้าเล่ห์หน้าตาเจ้าชู้”
ผู้กองหนุ่มชะงัก คายหลอดที่กำลังดูดน้ำดื่ม
“นั่นไม่ใช่ธรรมชาติของผมสักหน่อย ธรรมชาติผมเป็นคนจริงใจ รักจริง” เขาทำหน้าจริงจัง
...เอาอีกแล้ว เล่นบทเจ้าชู้อีกแล้ว...อนุภาพรู้สึกเริ่มอึดอัดจึงลุกขึ้นเดินไปที่หลังกล้อง ส่งสัญญาณให้ถ่ายทำต่อ
อธิคมลุกขึ้นอย่างเนือยๆ เดินตามมา ตาจับจ้องอยู่ที่ชายหนุ่ม “พักต่ออีกนิดไม่ได้หรือครับคุณนุ”
“ถ้าพูดเล่นได้แล้ว ก็แสดงว่าพร้อมถ่ายทำได้แล้ว” อนุภาพให้เหตุผล
“ผมหิวมากแล้วนา...” ผู้กองหนุ่มยังอุทธรณ์
“งั้นผู้กองต้องตั้งใจ จะได้เสร็จเร็วๆ” ชายหนุ่มปลอบ “เอาเถอะ เสร็จงานผมจะเลี้ยงข้าวต้มรอบดึก” อนุภาพเอาของกินเข้ามาล่อ
ร้อยตำรวจเอกอธิคมยังหรี่ตามองอนุภาพอย่างคาดคั้นขณะที่เดินเข้าไปหน้าฉากกลางแสงไฟจ้า

อาทิตย์ยืนอยู่มุมห้องจับตามองอนุภาพกับอธิคม เขาถอนหายใจ รู้สึกอารมณ์คุกรุ่น ทำไมเขาจะมองไม่ออกว่าผู้กองอธิคมจีบอนุภาพ แม้ชายหนุ่มไม่มีท่าทีตอบรับ แต่การทำท่าทางเฉยๆ ไม่รังเกียจก็ทำให้อาทิตย์ร้อนรุ่มได้พอสมควร
เขารู้ดีว่าอธิคมดูเหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา บุคลิกลักษณะ แถมยังเจ้าคารมคมคายกว่า เขาเคยนึกตำหนิตัวเองว่า...เพราะเขาอายุน้อยกว่าอนุภาพมาก ยังเป็นเด็ก อนุภาพเลยไม่มอง แต่ความจริงใจ ความห่วงใย ความภักดีของเขา จะเอาชนะใจอนุภาพไม่ได้เลยหรือ
...ผู้ชายท่าทางเจ้าชู้อย่างผู้กองอธิคมมีอะไรดี...

เมื่อผู้กำกับสั่งคัท เสร็จงาน อธิคมรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก...อย่างน้อยก็แค่คืนนี้ เขาเริ่มจะคิดว่าถ่ายทำจริงคงจะยิ่งกว่านี้อีกหลายเท่า
ขณะนี้เป็นเวลาค่อนข้างดึก ทุกคนกำลังแยกย้ายกันกลับ อธิคมเรียกร้องคำสัญญาเลี้ยงข้าวต้มรอบดึกเพราะเขาเหนื่อยและหิว
“ไม่นึกว่าแสดงหนังจะเหนื่อยขนาดนี้”
“ให้ผมเลี้ยงผู้กองดีกว่าครับ พี่นุคงต้องรีบกลับบ้านเพราะพรุ่งนี้ต้องมาประชุมกับคุณตฤณแต่เช้า” อาทิตย์ขัด ยกตฤณและการประชุมสำคัญเช้าตรู่มาอ้าง
…ไม่ว่าจะมีอะไร คนบริษัทนี้ก็ชอยยกเอาตฤณขึ้นมาอ้าง ตฤณเป็นยันต์กันผีหรือยังไง...อธิคมฉุนอยู่ในใจ
“คุณอาทิตย์อย่าลำบากเลยครับ ผมกับคุณนุกลับบ้านทางเดียวกันอยู่แล้ว...แวะทานข้าวตรงปากซอยก่อนเข้าบ้านเราก็ได้ใช่ไหมครับ” ประโยคหลัง อธิคมหันไปหาอนุภาพจงใจเน้นเสียง
ชายหนุ่มอึดอัด สองหนุ่มตรงหน้าเริ่มมีท่าทีเขม่นกัน หันไปมองสมบัติก็ทำไม่รู้ไม่ชี้
“ไปยัยพจน์ บ้านเราอยู่ไกล” สมบัติเร่งพจนีย์
“อ้าว หนูนึกว่าอาทิตย์จะไปส่ง” พจนีย์ทำหน้าหรอหรา
“ผู้กองกับพี่นุต่างคนต่างกลับไม่ใช่หรือครับ พี่นุเอารถมา...” อาทิตย์ไม่ยอม
“พอดีผมไม่ได้เอารถมา...จะอาศัยรถคุณนุกลับบ้านได้ไหมครับ” อธิคมมองหน้าอาทิตย์แล้วหันหน้ามาขอคำตอบอนุภาพ
อนุภาพมองสมบัติ ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เพื่อนรุ่นพี่ทำท่าทางถอนใจ
“น่าอาทิตย์ ไปกินข้าวกับพี่กับยัยพจน์ พี่หิวแล้ว ไปส่งพี่ด้วย” สมบัติเข้ามาช่วย “บ้านเขาอยู่ซอยเดียวกัน เขาก็ต้องไปด้วยกัน...แยกกันเลยนะนุ ดึกแล้ว ยัยพจน์เข้าบ้านลำบาก เดี๋ยวผู้ชายทำมิดีมีร้ายมันตอนเดินเข้าบ้าน” สมบัติล้อ
“ขอให้จริงเถอะเจ๊ หนูจะไม่บ่นเลย มากันซักสองสามคนก็ได้” พจนีย์ก๋ากั่นเช่นเคย
สมบัติดึงแขนอาทิตย์ ชายหนุ่มมองอนุภาพอย่างตัดพ้อแต่ก็เดินตามสมบัติไปอย่างหงอยๆ
“ดูเขาหวงคุณจังเลยนะครับ” อธิคมกระซิบ
อนุภาพทำหน้านิ่งแล้วหันไปโบกมือลาภาคภูมิกับอธิปก่อนจะเดินออกจากสตูดิโอเงียบๆ

อธิคมเดินตามอนุภาพ ฮัมเพลงเบาๆ อย่างอารมณ์ดีผิดกับตอนที่อยู่หน้ากล้องแทบเป็นคนละคน
“มีความสุขมากหรือครับที่ได้ทะเลาะกับอาทิตย์” อนุภาพถามเรียบๆ ปรายตาไปมองคนอารมณ์ดี
“ผมเปล่านะ ลูกน้องคุณเขม่นผมก่อน” เขาแก้ตัว
“ทะเลาะกันเหมือนแย่งของเล่น...” อนุภาพชะงัก รีบหยุดพูด ลืมตัวว่ากำลังเปิดช่องให้คนช่างล้อ
“ผมไม่เคยเห็นคุณเป็นของเล่น” อธิคมทำตาโต ยิ้มกริ่ม
อนุภาพถอนหายใจแล้วรีบสาวเท้าตรงรี่ไปที่รถ จนผู้กองหนุ่มต้องวิ่งเหยาะๆ ตาม
“หิวข้าวมากหรือครับ" เขายังตามมาล้อก่อนเปิดประตูรถขึ้นนั่งข้างคนขับ
“ผู้กองไม่ได้เอารถมาจริงหรือ” อนุภาพถาม ยังไม่สตาร์ทเครื่อง
“จริงสิครับ ผมจะไปโกหกคุณทำไม รถผมเสีย ตอนนี้คุณก็มีรถใช้แล้ว ถึงตาคุณขับให้ผมนั่ง”
“เมื่อวานยังดีๆ อยู่เลย ขับไล่โจรบ้าระห่ำขนาดนั้นมาเสียได้ยังไง”
“นั่นสิ ผมก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกัน” อธิคมเอนคอพิงพนักเบาะ ทำตาสงสัย อนุภาพไม่เชื่อ ชายหนุ่มคิดว่าผู้กองเจ้าเล่ห์จงใจไม่เอารถมาเพราะจะได้ให้เขาขับรถไปส่งที่บ้าน

ชายหนุ่มทั้งสองแวะทานข้าวต้มข้างทางใกล้ปากซอยสุขุมวิท 49 อธิคมทานอาหารไม่มาก แต่ทานอย่างช้าๆ
“ทานมากกลัวคุณเสียเงินเยอะ...เลี้ยงผมทั้งที”
...จงใจถ่วงเวลาอีกแล้วหรือ...อนุภาพนึกในใจ เขี่ยข้าวต้มเล่น
“ยังได้กลิ่นกุหลาบหอมๆ ในรถอยู่เลยนะครับ” อธิคมโพล่งขึ้นมา หันไปมองรถที่จอดอยู่ข้างถนน ก่อนหันมายิ้มมุมปากกับอนุภาพ “คุณนุยังเก็บกุหลาบไว้ในรถหรือครับ”
“เปล่า ผมทิ้งไปแล้ว” อนุภาพตอบเสียงเรียบ ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
“ทิ้งไปจริงๆ หรือครับ” ผู้กองหนุ่มถามย้ำ
“จริงครับ ทิ้งไปแล้ว ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม”
“เหรอครับ...” อธิคมยิ้ม หยุดเซ้าซี้ ...จากประสบการณ์สอบปากคำผู้ต้องหา เขามองออกว่าใครพูดจริงหรือโกหก เวลาคนโกหก กล้ามเนื้อบนใบหน้าจะขยับแตกต่างจากคนพูดความจริง
“ผมนึกว่าคุณเก็บดอกไม้ผมไว้ เผื่อว่า...” ชายหนุ่มเดายิ้มๆ แล้วหยุดเซ้าซี้

ระหว่างทางกลับบ้าน อธิคมนั่งเงียบมาตลอด หยิบโน่นจับนี่ในรถของอนุภาพมาดูเหมือนเด็กซนๆ ครั้งหนึ่งเขาเอื้อมมือไปที่ช่องเก็บของหน้ารถเหมือนจะเปิดออก อนุภาพหลุบตาลงมองตามมือแข็งแรงอย่างระแวง อธิคมหันหน้ามามอง เลิกคิ้ว อมยิ้ม...เขารู้แล้วว่าอนุภาพเก็บดอกกุหลาบไว้ที่ไหน
“คุณนุปล่อยผมลงตรงหน้าคอนโดคุณก็ได้ครับ เดี๋ยวผมเดินไปเองก็ได้” อธิคมตีหน้าซื่อ ขัดกับสายตาอ้อนวอนเหมือนจะพูดว่า ‘ไปส่งผมให้ถึงที่นะครับ’
อนุภาพจอดรถหน้าคอนโดสูงราวยี่สิบชั้นที่แวดล้อมด้วยต้นไม้ร่มรื่น The Granade คอนโดสวยหรูราคาแพง
ยามหน้าประตูขอแลกบัตร ตรวจท้องรถหาระเบิด และเปิดท้ายรถเพื่อตรวจสอบเหมือนคอนโดหรูหราทั่วไปที่การรักษาความปลอดภัยเข้มงวด
“เหมือนขับรถเข้าสถานทูตก็ไม่ปาน” อนุภาพประชด “ตำรวจเงินเดือนน้อยแต่อยู่คอนโดหรูหรา”
“ผมรูปหล่อพ่อรวยครับ” อธิคมยิ้ม ยังไม่ยอมลงจากรถ “คอแห้งไหมครับ ขึ้นไปดื่มน้ำที่ห้องผมซักหน่อยไหมครับ”
อนุภาพคิดในใจ ‘ออกลายแล้วไหมล่ะ คิดล่ะสิว่าจะเล่นบทเดิมๆ อย่างที่ตัวเองอาจเคยเล่นกับคนอื่น’
“ขอบคุณครับ แต่ผมมักติดขวดน้ำดื่มไว้ในรถ” ชายหนุ่มก้มลงมองขวดน้ำที่วางอยู่ในช่องข้างๆ เบรคมือ”
อธิคมยังยิ้ม “คุณนุครับ รถผมเสีย พรุ่งนี้เช้าคุณช่วยแวะเข้ามารับให้ผมติดรถไปทำงานด้วยนะครับ แวะเข้าไปส่งผมที่ ส.น. เดี๋ยวเดียว ยังไงก็ทางผ่าน” ผู้กองหนุ่มออดอ้อน เปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉย
“ผมว่าให้เจ้าของบีเอ็มมารับดีกว่าครับ อีกอย่างผมไม่ได้ขับรถชนท้ายคุณ และไม่ได้เจ้าเล่ห์ยืดยื้อเวลาซ่อมรถ ผมก็ไม่ต้องรับผิดชอบรับส่ง” อนุภาพประชด
“รถบีเอ็มนั่นของธงรบครับ” อธิคมยิ้มกว้าง...อนุภาพหึงหรือ
“งั้นผู้กองก็ออกไปทำงานเอง เดินออกไปนิดเดียวก็เรียกแท๊กซี่ได้แล้ว”
“โอ๊ย ใจร้าย” อธิคมอิดออด ทำท่าจะไม่ยอมลงจากรถ
อนุภาพแกล้งหาวบอกให้รู้ว่าเขาง่วงนอนเต็มที่ ผู้กองเจ้าเล่ห์จึงยอมลงจากรถ ยกมือขึ้นทำท่าบ๊ายบายเหมือนฝรั่ง นิ้วกระดุกกระดิก แต่แขนซ้ายยังค้ำของประตูรถเอาไว้ไม่ยอมปิด
“หึงผมหรือ ผมกับธงรบเป็นเพื่อนซี้กันนะ”
อนุภาพโน้มตัวมาจะคว้าประตูฝั่งผู้โดยสารดึงปิด อธิคมจึงยอมถอยปิดประตูรถให้
---------------------------------------------------------------------

คืนนี้อธิคมเปิดห้องชุดเข้ามาพบความสงบเพราะเพื่อนตัวดีไม่ได้แอบเข้ามาเสวยสุขและคอยกวนประสาท ชายหนุมอาบน้ำอย่างรวดเร็วแล้วออกมายืนรับลมที่ระเบียง เขาพักห้องชั้นเกือบบนสุดของตึก ห้องนอนของนายตำรวจหนุ่มอยู่ด้านข้าง...ฝั่งทิศตะวันออกที่หันหน้าไปปากซอย
อธิคมยืนมองแสงไฟระยิบระยับยามค่ำคืนของกรุงเทพฯ และคิดถึงอนุภาพที่อยู่ถัดไปไม่ไกล..บนคอนโดของตึกใดตึกหนึ่งที่เขากำลังมองอยู่

...ยิ่งมองยิ่งคิดถึง...เขาไม่อยากฝืนทนความต้องการของตนอีกแล้วจึงตัดสินใจยกหูโทรศัพท์หมุนเบอร์บ้านของอนุภาพ ชายหนุ่มยังไม่นอน เสียงยังดูสดชื่น
“คุณแกล้งง่วงนี่นา เสียงไม่เห็นจะดูง่วงนอนเลย” อธิคมต่อว่า
“ผู้กองได้เบอร์บ้านผมมาได้ยังไง... อ้อ ลืมไป เป็นตำรวจนี่นา ไม่เกินความสามารถตำรวจไทยคนเก่งใช่ไหมครับ”
ผู้กองคนเก่งหัวเราะเบาๆ ไม่นำพาต่อคำพูดของอีกฝ่ายที่ถามเองตอบเอง
“คุณนุทำไมยังไม่นอนอีกครับ...ผมไม่ง่วงเลย นอนไม่หลับ” อธิคมทำเสียงนุ่ม
“ไหนบอกว่าเหนื่อยแทบตายไง แสดงว่าผู้กองแกล้งพูดปั่นป่วนการถ่ายทำ”
“เปล่านะครับ เหนื่อยนะเหนื่อยจริง แต่ง่วงไม่ง่วงนี่คนละเรื่อง ผมอยากได้ยินเสียงคุณนุก่อนนอน” อธิคมไม่รีรอ เริ่มรุกจีบ...รอไม่ไหวแล้ว...
“ตอนนี้ได้ยินเสียงแล้วก็แสดงว่าไปนอนได้แล้ว” อนุภาพสรุป ชายหนุ่มพยามยามทำเสียงเรียบ ตามองออกไปนอกหน้าต่างเห็นแสงแดงๆ พาดอยู่บนท้องฟ้ามืดมิด
“สรุปแล้ว ทำไมคุณนุยังไม่นอนอีกครับ คุณก็อยากได้ยินเสียงผมก่อนนอนเหมือนกันใช่ไหม”
อนุภาพส่ายหน้า บทผู้กองอธิคมจะตรงไปตรงมาเขาก็พูดอะไรออกมาตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
“ผมกำลังดูแสงอะไรไม่รู้อยู่บนท้องฟ้า” อนุภาพมองออกไปนอกหน้าต่างๆ
นอกจากแสงที่เห็นพาดอยู่ปลายเส้นขอบฟ้าและความมืดมิดของราตรีกาล ชายหนุ่มเห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของอีกฝ่ายลอยเด่นอยู่ในห้วงคิดคำนึง
อธิคมบอกว่าเป็นแสงจากไอพ่นของจรวด เขาเองก็กำลังมองอยู่ ผู้กองหนุ่มบอกว่าแสงจากไอพ่นของจรวดเป็นลำยาวพาดคู่กันไปบนท้องฟ้า เหมือนเขาที่กำลังเคียงข้างอนุภาพไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางของชีวิต แต่เขาก็ไม่อยากเป็นเส้นขนานตลอดไป อยากให้แสงมารวมกันแล้วเป็นหนึ่งเดียว อนุภาพบอกว่าพูดอะไรไม่รู้เรื่อง อธิคมถามว่า “ไม่เข้าใจที่ผมพูดจริงหรือ” ชายหนุ่มอ้ำอึ้งและตัดบทขอตัวไปนอน
นายตำรวจหนุ่มยังเหม่อมองออกไปบนท้องฟ้า
...คุณนุ...คุณหนีผมไม่พ้นหรอก ผมจะตามจับคุณใส่กุญแจมือ และปิดคดีให้ได้ในเร็ววัน...อธิคมคิด
ปิดคดีของเขาไม่ได้มีความหมายแบบเดิมที่เคยเป็นที่เข้าใจกันดีระหว่างเขากับธงรบ...ปิดคดีของเขาในครั้งนี้มีความหมายลึกซึ้งกว่า จริงจังกว่า
แต่นายตำรวจหนุ่มหารู้ไม่ว่า...กว่าจะปิดคดีรักนี้ได้เลือดตาเขาก็แทบกระเด็น
**************

เหงาจัง

 :m15:

MRpongrapee

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ben~ya

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
ช่างทำหนอ ผู้กอง ใช้วิธีส่งดอกไม้ให้ประจำละซิ
ปล. คนแต่งเหงาเหรอ งั้น  :กอด1:

ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4
เพิ่งเม้งแตกกับตำรวจมา
นึกขึ้นได้ว่า...เห็นมีเรื่องเกี่ยวกับตำรวจก็เลยเข้ามาอ่าน

แหม...ทำไม๊คุณตำรวจที่คุยด้วย
ไม่น่ารักอย่างตาผู้กองอธิคมเล้ย...ให้ตาย
 :jul3:

bank_book

  • บุคคลทั่วไป
โห้ โห้ คุณ นุ นี้ ใจ แข็ง จิง จิง เลย    o2  o2

แล้ว อย่าง นี้ คุณ ผู้ กอง จะ ทำ ไง ละ นิ อิอิ   :oni2:   :oni2:




upzyte

  • บุคคลทั่วไป
นุใจแข็งจังเลยอ่ะ  สงสารผู้กองที่สุดเลย


pipechan

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0







katawoot

  • บุคคลทั่วไป
สงสารตำรวจเถอะครับ บางทีเขาก็มีความน่ารักซ่อนอยู่ภายใต้ความห้าวๆ เถื่อนๆ นะ เพียงแต่ยังไม่ได้ขุดออกมา เอ่อ ในกรณีนี้สถานการณ์มันไม่อำนวย ก๊อ เลย ไ่ม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่
ถ้าทะเลาะกับตำรวจก็ใจเย็นๆ นึกถึงผู้กองอธิคมกับผมก็แล้วกัน 555  :m4:
เพิ่งเม้งแตกกับตำรวจมา
นึกขึ้นได้ว่า...เห็นมีเรื่องเกี่ยวกับตำรวจก็เลยเข้ามาอ่าน

แหม...ทำไม๊คุณตำรวจที่คุยด้วย
ไม่น่ารักอย่างตาผู้กองอธิคมเล้ย...ให้ตาย
 :jul3:


ป.ล. ยังเหงาอยู่อ่ะ

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
อยากบอกคุณนุว่า..........เล่นตัวให้มาก ๆ น่ะ
ไอ้พวกเจ้าชู้ต้องเอาให้กระอัก :laugh:

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
55555 คู่นี้ท่าทางจะอีกนานนนนนนน  คู่แข่งทั้งเยอะ ทั้งไม่ธรรมดาทั้งน่านนนนน

เชียร์กันต่อไป

chatnaha

  • บุคคลทั่วไป

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป
อิอิ เพื่อนผมก็เป้นตำรวจ แต่ไม่ยักกะมีเสน่ห์เหมือนผู้กองเลย อิอิอิ

ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4
สงสารตำรวจเถอะครับ บางทีเขาก็มีความน่ารักซ่อนอยู่ภายใต้ความห้าวๆ เถื่อนๆ นะ เพียงแต่ยังไม่ได้ขุดออกมา เอ่อ ในกรณีนี้สถานการณ์มันไม่อำนวย ก๊อ เลย ไ่ม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่
ถ้าทะเลาะกับตำรวจก็ใจเย็นๆ นึกถึงผู้กองอธิคมกับผมก็แล้วกัน 555  :m4:

:oni2:ไม่ซีเรียสค่า

เพราะมีโอกาสได้คุยกับตำรวจเฉลี่ยเดือนละหน สองหน
มุมน่ารักๆ ที่เคยเจอก็ต้องคุณลุงตำรวจคนนึง
แหม...แกใจดีน่าดู
บอกว่านัดสถานที่มา
เดี๋ยวแกจะเอาตัวสำเนาบันทึกประจำวันที่ขอไว้มาให้

คุณลุง "หนูมาถูกมั้ยเล่า หน้า สน มีป้าย...น่ะ"
หนู (?) "ไม่เป็นไรค่า เดี๋ยวหนูส่งซองเปล่าติดแสตมป์ไปให้ คุณตำรวจช่วยเอาสำเนาใส่ซองส่งหาหนูก็พอ"
คุณลุง "หนูอยู่แถวไหนล่ะ ถ้าใกล้ๆ สน เดี๋ยวเอาไปให้ก็ได้"
หนู (?) "หนูอยู่อโศกค่า จากป่าตองขึ้นมาก็ไกลพอดู คุณตำรวจส่งเป็น จอมอ ให้หนูดีกว่าเนอะ"
คุณลุง "อโศก ?"
หนู (?) "แม่นแล้ว หนูอยู่บางกอก คุณตำรวจอยู่ภูเก็ต ส่งอีเอ็มเอสดีกว่าเย้อออออ"
คุณลุง ":jul3:"

กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

แล้วก็พากันขำไปอีกร่วมห้านาที :laugh:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5

ออฟไลน์ kaporzung

  • magKapleVE
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • Get vivid impressions and unforgettable emotions

DEVIL nures

  • บุคคลทั่วไป
 :m12: เหอๆในที่สุดก็ยอมรับสารภาพว่ารักจริงหวังแต่ง

          ค่อยน่ารักขึ้นหน่อยนะผู้กอง
     
         แต่แหมๆหมู่นี้ชักจะหยอดเยอะนะเจ้าคะ

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
อย่าพึ่งใจอ่อน กับการหวานเสน่ห์ ของผู้กองนะครับ คุณนุ

ทรมานให้สาสมก่อน กับความเจ้าเลห์ แล้วสุดท้าย จับใส่กุญแจมือ

เข้าคุก ( หัวใจ ) ตลอดชีวิต แต่หนทางอีกยาวไกล

เพราะอ่านสปอย เอาไว้ว่าคู่แข่งมีมากมายมหาศาล ไหนจะเพื่อนตำรวจ

ไหนจะที่ทำงาน ไหนจะคนรอบข้าง  รู้ทั้งรู้ว่าเป็นพระเอก แต่ยังไม่อยากให้สมหวัง 55.....

ขอบคุณนะครับ สำหรับเรื่องสนุก ๆ เป็นกำลังใจให้ครับ +1 ให้เลย  :bye2:

jobisuka

  • บุคคลทั่วไป

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
โธ่ ใจร้าย  :m29:

อยากบอกคุณนุว่า..........เล่นตัวให้มาก ๆ น่ะ
ไอ้พวกเจ้าชู้ต้องเอาให้กระอัก :laugh:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
^
^
^
ผู้กองจะได้รู้ไงค้าว่ารักแท้มันไม่ได้มา ง่าย ง่าย ฮี่ๆๆ  :t2:

pipechan

  • บุคคลทั่วไป

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
คู่คมกะนุ น่าจาโอแระ

ลุ้นคู่อาทิตย์กะธงรบดีกว่า

รอตอนต่อไปครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด