นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -  (อ่าน 840167 ครั้ง)

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
เข้ามาให้กำลังใจคุณ katawoot ด้วยคนนะครับ
ตามมาจากบอร์ดปาล์มเรยนะค้าบ :L2:

ออฟไลน์ ben~ya

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
ใจร้ายน๊อ

อ้างจาก: katawoot
ป.ล. ถ้าคุณขึ้นนั่งรถแฟน แล้วเห็นผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืนที่ไม่คุ้นตาตกอยู่ในรถ จะทำยังไงครับ?

เป็นคนใจเย็นนะ ก็จะถามเค้าดีๆว่า เอ๊ะผ้าผืนนี้ของใคร? แต่ถ้า.....ตอบไม่ถูกใจ ก็เอาผ้าผืนนั้นละนะ
ยัดใส่ปากมันซะเลย

หุหุ เค้ารักหรอกถึงหวงไงละจ๊ะ :m13:

ออฟไลน์ K2KARN

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3084
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +393/-6
ป.ล. ถ้าคุณขึ้นนั่งรถแฟน แล้วเห็นผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืนที่ไม่คุ้นตาตกอยู่ในรถ จะทำยังไงครับ?



ก็จะจิกตาใส่แล้วถามว่า


"ของใคร?"


แล้วคอยดูปฏิกิริยากันต่อไป
5555555555555555 *


ถ้ามันทำหน้านิ่งก่อนทำหน้างงๆ ก็แล้วไป แต่ถ้าลุกลี้ลุกลนเมื่อไหร่ เจอกัน !
ฮ่าฮ่า ,,



แต่เอ ,, กรณีนี้ไม่ค่อยถามใคร
แต่เจอกับตัวเองบ่อยนะเนี่ย  :o8:


ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกก  :laugh:



ขอบคุณนะคะคุณ katawoot ;')

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน (รวมถึงคนที่ดุๆ ด้วยนะ) เอาบทที่ 10 มาให้อ่านก่อนกลับบ้านครับ เย็นนี้คืนนี้ก็ขอให้สนุกกับฮัลโลวีนนะครับ ขอให้โดนผีหลอกกันทั่วหน้า ส่วนผมจะไปหาหลอกผี

บทที่ 10

คนหน้าหล่อยิ้มสวยลงจาก ส.น. กลับไปแล้ว ธงรบยืนมองจนลับตา แกว่งพวงกุญแจรถของอธิคมเพื่อนรักพลางคิดคำนึง
“มิน่า ไอ้คมเป็นเอามาก” ธงรบรำพึง
เมื่อได้เห็นอนุภาพใกล้ๆ เขาเองยังชอบ 'แต่จะมาชอบคนๆ เดียวกัน เพื่อนรักคงเอาตายแน่'
ธงรบถอนหายใจเซ็งๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารายงานเพื่อนรัก แต่โทรศัพท์ปิดเครื่อง เขากดอีกเบอร์ซึ่งเป็นเบอร์ฉุกเฉินที่เปิดทิ้งไว้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
“ว่าไงไอ้เสือ” อธิคมรับทันที
“หล่อ น่ารัก ยิ้มสวยจนแทบละลายหัวใจ” ธงรบแกล้งเพ้อ
“ไอ้บ้า เป็นอะไรว่ะ อย่ามาเล่นแผลงๆ กับข้านะโว้ย ขนลุก จะอ๊วก” อธิคมเสียงเข้ม
“เปล่า ไม่ใช่แก ถ้าข้าชมแกอย่างนั้น ข้าก็ขนลุกเหมือนกันว่ะ ข้าชมคุณนุต่างหาก มิน่า แกถึงได้ทิ้งเพื่อนอย่างข้าให้ท่องราตรีคนเดียว มีของดีไม่แบ่งกันบ้างเลยนะเอ็ง”
“คุณนุ แกไปเจอคุณนุเมื่อไหร่ ที่ไหน เจอได้ยังไง” อธิคมรีบถามเสียงเข้ม
“เฮ้ย ถามทีละคำถามซิวะ...เขามาหาเอ็งที่ ส.น.” ธงรบแกล้งทิ้งจังหว่ะ นึกภาพใบหน้าเพื่อนรักคงยิ้มดีใจ ก่อนจะทำลายรอยยิ้มนั้น “แต่เขาเอารถแกมาคืน บอกว่าไม่อยากใช้ ไม่ต้องการความหวังดีจากแก เขาโกรธแกจนควันออกหูเลยนะโว้ย” ธงรบจงใจเติมสีสันยั่วอธิคม
“ไอ้โกหก” อธิคมรู้ว่าเพื่อนแกล้งพูด แต่เขาก็พอจะนึกถึงหน้าตาท่างทางของอนุภาพเวลาอารมณ์เสียได้--คิ้วขมวดเล็กน้อย ปากอิ่มแดงระเรื่อเม้มนิดๆ ตาเศร้าหรี่ลงช้าๆ แบบเอาเรื่อง
“ยิ้มสวยเป็นบ้า ข้าชอบว่ะ ชอบเอามากๆ คืนก่อนข้าเห็นที่ผับ จำได้ไหม คืนที่แกบังคับให้ข้าดื่มเหล้ากับแกที่บ้านเพราะเอาแต่ดูโฆษณาทีวี หลังจากแกเฉดหัวข้าออกมา ข้าไป Route 79 เจอคุณนุกับเพื่อนๆ กำลังสังสรรค์กันอยู่ ข้าแอบมองเป็นนานสองนาน...ยิ้มสวยชิบ...อยู่คนละฟากห้องยังรู้สึกเหมือนแสงแฟลชวูบวาบ แสบตาไปหมด” ธงรบพร่ำ “รักแรกพบจริงๆ ขอข้าเถอะ ข้าจะลองจีบ” ธงรบขอดื้อๆ
อธิคมฉุนกึก “อย่านะ ห้ามแกยุ่งเกี่ยวคุณนุเด็ดขาด”
“อ้าวทำไม แกจะหวงไว้ทำไม”
“ข้าเจอคุณนุก่อน คุณนุเป็นของข้า” อธิคมประกาศ
“ของเอ็งก็เหมือนของข้า แกลืมไปแล้วหรือ” ธงรบทวง
“คนนี้ไม่ใช่”
 “จ้าพ่อคุณ แต่ว่าแกเบื่อแล้วก็ส่งต่อให้ข้าก็ได้นะโว้ย...ยอม”
“หุบปากเลยไอ้ธง อย่าฝัน” อธิคมเสียงแข็ง
ธงรบยังประท้วง “อ้าวเพื่อน ลืมเสียแล้วหรือ ใครผ่านมือข้าก็ผ่านมือแก...ใครผ่านมือแกก็ต้องผ่านมือข้า”
“นั่นมันอดีตโว้ย ปัจจุบันมันไม่เหมือนเดิม อนาคตยิ่งไม่เหมือนเดิม ขอบอกคำเดียวนะไอ้เสาธง ห้ามข้องแวะคุณนุ ไม่งั้นเอ็งตาย” อธิคมขู่
อธิคมไม่คิดว่าธงรบจะเอาจริง แต่อีกใจหนึ่งเขาก็ไม่มั่นใจ หากอนุภาพทำให้ธงรบเปลี่ยนไปเหมือนที่เขาเปลี่ยนเล่า เขามิต้องเจอคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกันหรือ เป็นเพื่อนรักก็จริง แต่ถ้าต้องขึ้นสังเวียนกับเพื่อนคู่หู เขาก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น...อธิคมคิดว่าเห็นจะเอาไว้ไม่ได้เสียแล้ว
แม้จะคิดว่าธงรบอาจไม่คิดจริงจัง หวังเพียงจะได้แล้วทิ้งอย่างที่ผ่านๆ มา แต่อธิคมก็วางใจไม่ได้
เขาเองยังไม่ ‘ได้’ เสียที ธงรบจะมีน้ำยาอะไรเกินหน้าเกินตาเขา ทุกครั้งเขาชนะธงรบเรื่องแบบนี้เสมอ
แต่ธงรบมีลูกตื้อหนักกว่า นี่ผ่านไปเกือบเดือนเขามัดใจอนุภาพยังไม่ได้เลย...ผิดวิสัย...เพราะว่าในอดีตที่ผ่านมาทุกคนไม่เคยรอดมือเขาได้เกินสองวันสองคืนที่สามารถ ‘ปิดคดี’ ได้เสมอ

อธิคมนึกไว้ไม่ผิดที่อนุภาพไม่ยอมใช้รถ เมื่อเช้าชายหนุ่มเลิกเถียงเรื่องรถกับเขาเพราะคงตัดความรำคาญ แต่เขาไม่นึกว่าอนุภาพจะรีบเอารถมาคืนที่ ส.น. ภายในตอนบ่าย นายตำรวจคิดไว้ว่าถ้าอนุภาพไม่ยอมใช้รถก็คงจะจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถของคอนโดรอให้เขาแวะไปรับเองตอนกลับบ้าน
...หรือว่าอนุภาพจะโทรมาแล้วพบว่าเขาปิดโทรศัพท์ โกรธเรื่องนั้นหรือเปล่า... อธิคมร้อนใจ อดกังวลไม่ได้...ที่ธงรบจงใจตีใข่ใส่สีสันก็ต้องอิงจากพื้นฐานความจริงอยู่บ้าง
ชายหนุ่มร้อนใจจนไม่อาจรอได้ เขาพักเรื่องงาน เดินออกมาที่ระเบียงแล้วโทรศัพท์ถึงอนุภาพ แต่ไม่มีใครรับสาย เขาโทรสามครั้งก็ยังไม่รับสาย ‘สงสัยงานยุ่ง’ เขาปลอบตัวเอง
ผู้กองอธิคมเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อคุยเรื่องงานต่อกับพันตำรวจโทธนาวุฒิเพื่อนสมัยเรียนตำรวจรุ่นเดียวกัน แต่ธนาวุฒเลื่อนยศ ‘พรวดพราด’ เกินหน้าเกินตาคนอื่น ธงรบเคยประชดว่า ‘พ่อมันใหญ่’
 
ทั้งสามเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายจนเข้าเรียนนายร้อยตำรวจ...‘สามทหารเสือ’ คือฉายาของสามหนุ่ม ธงรบเคยบ่นว่าเป็นตำรวจเพื่อนรักกันสามคนทำไมต้องเรียกว่าสามทหารเสือ อธิคมตอบว่า "มันเป็นสำนวน เข้าใจไม๊ไอ้โง่"
เมื่อเรียนจบ ธนาวุฒิแยกย้ายไปเรียนต่อต่างประเทศและกลับมาทำงานที่สำนักงานสอบสวนกลาง ความเก่งบวกกับ ‘พ่อใหญ่’ ทำให้เขาก้าวหน้าในการงานเกินคนอื่น
บุคลิกและนิสัยของธนาวุฒิต่างจากอธิคมและธงรบ เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาเคร่งขรึมเยือกเย็น พูดน้อยต่อยหนัก  เก็บอารมณ์ อ่านใจยาก
ธงรบเคยล้อธนาวุฒว่าเป็น ‘เจ้าชายน้ำแข็ง’ ที่ไม่เคยจีบใคร ทุกครั้งที่สองหนุ่มไปสนุกสนานกับการ ‘จับผู้ร้าย’ ธนาวุฒิจะปลีกตัวออกไป...และแทบทุกครั้งที่ไปเที่ยวกลางคืนธนาวุฒิจะคอยเป็นคนไปแบกสองหนุ่มกลับเพราะเมาจนหาทางกลับบ้านไม่เจอ...
อธิคมคุยกับสารวัตรใหญ่ตรงหน้าเกี่ยวกับคดีที่กำลังสืบสวนอยู่อย่างคร่ำเคร่ง ธนาวุฒิรู้จักผู้ใหญ่ในพื้นที่หลายคนที่สามารถช่วยงานสืบสวน อธิคมรู้สึกมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมว่าจะปิดคดีที่เขากำลังทำอยู่ได้ในเร็ววันเพราะความช่วยเหลือจากเพื่อนคนเก่ง...อธิคมยอมรับว่าฝีมือของธนาวุฒินั้นเหนือกว่าเขา...แต่ชายหนุ่มไม่เคยนึกเลยว่าในอนาคต...เพื่อนรักคนนี้จะทำให้ชีวิตรักของเขาวุ่นวายแทบตั้งตัวไม่ติด
-----------

อนุภาพหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ปรากฏว่ามีข้อความเตือนว่า “ไม่ได้รับสาย” ร่วมสิบครั้ง
‘รู้สึกเสียบ้างว่าโทรติดต่อไม่ได้เป็นยังไง’ ชายหนุ่มนึกในใจ ‘โทรแล้วติดแต่ไม่รับสายและไม่โทรกลับนี่สิ สะใจกว่าโทรไปแล้วปิดเครื่องตั้งเยอะ เพราะการปิดเครื่องมีหลายเหตุผล เช่นแบตเตอรี่หมด อับสัญญาณ หรือตำรวจอย่างอธิคมอาจติดราชการยุ่งทำให้เปิดเครื่องไม่ได้’
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น อนุภาพสะดุ้ง สมบัติหันมามองนัยน์ตามีคำถาม ท้ายที่สุดก็โพล่งออกมา
“นุ ปล่อยให้ดังอยู่ได้ ทำไมไม่รับสาย” อนุภาพนั่งอยู่ข้างโต๊ะของสมบัติ กำลังมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เปิดตัวอย่าง storyboard ของโฆษณาพาโนวิวให้ดู
“ไม่อยากรับ” อนุภาพพูดเซ็งๆ หยิบภาพคู่ของพรีเซนเตอร์โฆษณาขึ้นมาดู
เสียงโทรศัพท์ยังดัง สมบัติเอื้อมือไปหยิบพลางพูดว่า “งั้นปิดเสียง มันจี๊ดประสาทเจ๊ นี่ทำไมยูไม่เปลี่ยนริงโทนเดิ้ลๆ ใช้ริงโทนธรรมดาอยู่ได้ เชยแหลก”
อนุภาพไม่สนใจเพราะเขาไม่ได้บันทึกเบอร์โทรของอธิคมในเครื่องจึงไม่ต้องห่วงสมบัติจะรู้ว่าเป็นโทรศัพท์ของใคร ชายหนุมจำเบอร์โทรศัพท์ของผู้กองเจ้าเล่ห์ได้ตั้งแต่ครั้งแรก ตัวเลขจำง่าย ตัวคนก็จำง่าย ใครจะลืมได้ลง
“อยู่ฮะ เดี๋ยวสักครู่นะฮะ” บั๊ดเสียงหวาน ยื่นโทรศัพท์ให้ ยิ้มทะเล้น
อนุภาพกำลังอยู่ในห้วงคำนึง...รับโทรศัพท์มาแนบหูอย่างเนือยๆ เสียงในสายทำให้เขาตื่นจากภวังค์
“คุณไม่ยอมรับโทรศัพท์ผมเลย งานยุ่งมากเลยหรือครับ” ปลายสายแกล้งเฉไฉ ทั้งที่เขาอยากจะถามว่า ...โกรธอะไรผมหรือครับ...
“ก็ยุ่ง...ยุ่งมากด้วย” อนุภาพเสียงเรียบ
“โถ น่าสงสาร มีอะไรให้ผมช่วยได้บ้างครับ” อธิคมทำเสียงห่วงใย
“ขอบคุณครับ แต่ไม่เป็นไร”
“คุณไม่โทรหาผมบ้างเลย ผมกลับมากรุงเทพแล้ว เย็นนี้ผมรับคุณไปทานข้าวเย็นนะครับ มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย” อธิคมอยากขอโทษ และตั้งใจว่าจะตอบตกลงรับแสดงโฆษณาให้
“ผมโทรไปหาผู้กองแล้ว...แต่ผู้กองปิดเครื่อง”
“เหรอครับ โทษที บางครั้งผมต้องปิดมือถือเวลาประชุมเรื่องคดี แต่พอเลิกประชุมเสร็จ ผมก็เปิดตลอด คุณโทรเพราะคิดถึงหรือครับ...” อธิคมโมเมเข้าข้างตัวเอง
...เจ้าเล่ห์นัก ยังมาตีหน้าทำเสียงอ่อนเสียงหวานอยู่ได้...อนุภาพนึกฉุน
“ผมโทรไปสองครั้ง ติดต่อไม่ได้ก็ไม่ได้โทรอีก แค่จะบอกว่าเอารถไปคืนแล้วที่ ส.น. ฝากกุญแจไว้กับเพื่อนสนิทของผู้กอง” อนุภาพรีบแทรก เน้นเสียง ก่อนที่อธิคมจะพูดอะไรยืดยาวอย่างที่เขากำลังคิดว่าผู้กองหนุ่มจะพูด
อธิคมยังเซ้าซี้จะมารับเขาไปทานข้าวเย็น แต่อนุภาพบ่ายเบี่ยง “ผมไม่ว่าง เย็นนี้ผมมีนัดทานข้าวกับลูกค้า”

อธิคมวางสายไปแล้ว น้ำเสียงผิดหวัง อนุภาพไม่ได้โวยวายใส่เขาเรื่องรถ ความเป็นจริงแล้วชายหนุ่มไม่ได้โกรธอะไรมากมาย เพียงแต่นึกฉุนที่โดนคนเจ้าเล่ห์หลอก...เสียรู้ เจ็บใจจริงๆ
ชายหนุ่มอาจจะยิ่งเจ็บใจมากกว่าเดิมหากรู้ว่าสมบัติเดินเลี่ยงออกไปเงียบๆ เพื่อโทรคุยกับผู้กองหนุ่มลับหลัง
“เขาคงโกรธผมมาก” ผู้กองอธิคมตัดพ้อ หลังจากที่ทราบจากสมบัติว่าอนุภาพไปที่อู่และกลับมาโวยวายว่าโดนหลอกเรื่องซ่อมรถ “คุณนุไม่เห็นพูดอะไรสักคำเกี่ยวกับเรื่องซ่อมรถ”
“นุเขาเป็นอย่างงี้ล่ะผู้กอง ถ้าโกรธจะเงียบและไม่พูดถึงเรื่องที่ทำให้โกรธ บางทีเขานั่งเงียบได้เป็นวันๆ ไม่พูดอะไรสักคำ แต่ผู้กองไม่ต้องห่วง บั๊ดจะช่วยพูดให้ นุกับบั๊ดเปิดอกคุยกันได้ทุกเรื่อง ผู้กองก็เปิดอกผู้กองคุยกับบั๊ดได้เหมือนกัน” สมบัติไม่วายล้อเล่น
“แต่ว่าผู้กองต้องใช้เวลาหน่อยนะ ถ้าทางนุโกรธไม่เบา เขาเฮิร์ทที่โดนหลอก” สมบัติวางหมากตัวแรก
“ผมไม่ได้หลอกนะครับ ผมเพียงแต่...” อธิคมอ้ำอึ้ง ร้อนตัว
“เขาบอกว่าผู้กองสั่งไม่ให้อู่ทำรถให้เขา นุเขาไปที่อู่มา ฉะพนักงานที่อู่จนลนลานไปตามๆ กัน เวลาโกรธ อนุภาพเขาดับเครื่องชนทุกที ใครหน้าไหนไม่เคยกลัว คุณตฤณเจ้านายใหญ่ก็เถอะ ยังแหยงๆ อนุภาพเล๊ย” สมบัติสาธยาย ตีไข่ใส่สีสันเพิ่มเข้าไปบ้าง
อธิคมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แม้อนุภาพจะมีบุคลิกนิ่งๆ ค่อนข้างเย็นชา แต่ก็ดูเจ้าอารมณ์เอาเรื่องเหมือนกัน เขาพอนึกภาพออกว่าเวลา ‘เอาเรื่อง’ นั้นก็น่าจะร้ายพอสมควร เขาเองก็เคยเจอฤทธิ์อ่อนๆ ของชายหนุ่มมาแล้ว แต่แบบดับเครื่องชนนั้นยังไม่เคยเจอ ผู้กองหนุ่มบอกตัวเองว่า ถึงอนุภาพจะดับเครื่องชนเขาก็คงรับไหว เพียงแต่ยังไม่อยากได้ประสบการณ์อย่างนั้นในตอนนี้ ในตอนที่หัวใจเขากำลังเริ่มเป็นสีชมพู
“น่าผู้กอง บั๊ดจะเป็นกาวใจให้ น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน บั๊ดเป่าหูนุทุกวัน หัวใจอ่อนๆ ก็ยังทำด้วยเลือดเนื้อนาผู้กองนา” สมบัติปลอบเพื่อหวังผล “แต่ระหว่างนี้ ผู้กองอย่าก่อคดีใหม่ขึ้นมาซ้ำซ้อนอีกล่ะ นุกำลังเครียดเรื่องงานอยู่ด้วย โฆษณารถกระบะยังไม่ไฟนอลเสียที เว้นแต่ว่าผู้กอง...” สมบัติทิ้งเสียง
“ที่ผมอยากคุยกับคุณนุก็เพราะเรื่องนี้ แต่เย็นนี้คุณนุไม่ว่างต้องไปทานข้าวกับลูกค้า เขาจงใจหลบหน้าผม” อธิคมเสียงอ่อน
“โอ๊ย นุไม่เคยไปทานข้าวเย็นกับลูกค้าหรอก เขาส่งพี่ไม่ก็ส่งอาทิตย์ไปแทน”
“ผมก็ว่าอย่างนั้น”
“ผู้กองก็เป็นคนใจร้อนไม่ใช่หรือ” สมบัติหมายถึง...ผู้กองก็ไวไฟเหมือนกันนี่... “จะรอให้ถึงเย็นทำไม๊”
สมบัติใช้ความสามารถในการโน้วน้าวใจชายมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ยิงนกทีเดียวได้ตั้งหลายตัว...หนึ่งได้นายแบบโฆษณา สองช่วยให้คนสมหวังนั้นเป็นสุขทางใจดีออก สามได้นั่งดูผู้ชายหล่อเซ็กซี่อย่างผู้กองอธิคม มือไม่ได้แตะก็ขอสูดดมกลิ่นกายหนุ่มหล่อก็พอ...ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของสมบัติ
--------------

ก่อนเที่ยง อธิคมบุกมาพบอนุภาพที่บริษัท ชายหนุ่มจอดรถฝั่งตรงข้าม นั่งคอยดู ‘ขบวนไปทานข้าวกลางวัน’ ก็ยังไม่เห็น จึงเดินข้ามถนนมายังลานจอดรถเล็กๆ หน้าอาคารบริษัทแอ๊คโค่ แอดเวอร์ไทซิ่ง
เขาเดินผ่านรถที่จอดเรียงรายอยู่ อดหันไปมองหา “เบ็นซ์ดำ” ไม่ได้ เมื่อไม่พบเขาจึงเดินก้าวเท้ายาวๆ ขึ้นไปบนบริษัท แจ้งพนักงานต้อนรับสาวสวยที่เคาท์เตอร์ถึงความประสงค์
อาริษาเงอะงะ เธอทำงานที่บริษัทนี้พบเจอคนรูปหล่อหลายคน--คุณตฤณหล่อดุเคร่งขรึม...เธอไม่ค่อยกล้ามองเท่าไรนัก อาทิตย์หล่อแบบตี๋ทันสมัยสดใสร่าเริง อธิปหล่อเซอร์ๆ คุณนุหล่อเย็นๆ นิ่งๆ โต้งหล่อทะลึ่งตึงตัง นายแบบที่เคยเดินเข้าออกบริษัทหล่อเนี๊ยบๆ สะอาดสะอ้านสำอาง แต่ตำรวจหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าหล่อเซ็กซี่...เข้มสะท้านใจ ยิ่งสวมเครื่องแบบสีกากีรัดติ้วติดดาวบนบ่ายิ่งเพิ่มดีกรีความเร้าใจกว่าหนุ่มคนอื่นๆ
“คุณนุพักเที่ยงค่ะ ผู้หมวด...เอ่อ...” อาริษานับดาวบนบ่า “อุ๊ย...ผู้กอง เอ่อ...นัดไว้หรือเปล่าค่ะ เดี๋ยวษาจะโทรตามให้ก็ได้ค่ะ” อาริษาตะกุกตะกัก
“เปล่าครับ” ชายหนุ่มตอบ ก้มลงมองป้ายชื่อบนเคาท์เตอร์ “คุณอาริษาไม่ต้องลำบากครับ” เขายิ้ม โปรยเสน่ห์
“ถ้าไม่ได้นัดไว้ก็พบตัวยากครับ” เสียงเข้มดังขึ้นข้างๆ อธิคมหันไปมอง ชายหนุ่มหน้าตี๋รูปร่างสูงเพรียวยืนทำหน้าเคร่ง ผมทรงรากไทร ใบหน้าขาวสะอาด ตาเรียวยาว คิ้วคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ปากเรียวแดงระเรื่อเป็นธรรมชาติ หุ่นมีกล้ามเนื้อพอดีๆ ‘แบบที่ธงรบชอบ’ ดูเผินๆ เหมือนดาราวัยรุ่นยอดนิยม
อธิคมมองชายหนุ่มตรงหน้าใกล้ๆ เต็มตา    ‘ตี๋เบ็นซ์ดำ’ คนนี้นี่เองที่ไปส่งอนุภาพและเดินตามหลังต้อยๆ เหมือนแมวหวงเจ้าของในขบวนพักเที่ยงที่เขาเคยล้ออนุภาพ...ท่าทางหวงอนุภาพน่าดู...
“ผมเป็นผู้ช่วยคุณอนุภาพ คุณฝากชื่อกับเบอร์โทรไว้ ผมจะเรียนให้คุณอนุภาพทราบ”
“ไม่เป็นไร” อธิคมตอบเสียงเข้มพอกัน แล้วเขาก็หันไปขอบคุณอาริษาพร้อมยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ หวังผลในอนาคตที่อาจต้องอาศัยความช่วยเหลือ ก่อนหันไปพยักหน้าให้ตี๋หนุ่มหน้าหวานที่พยายามทำหน้าดุ เขาคาดคะเนว่าคงอายุไม่เกิน 24-25 ปี

อธิคมฉุน...ขวางดีนัก...เดี๋ยวก็ยุให้ธงรบจีบเสียเลย อธิคมคิดเล่นๆ เดินไปตามฟุตบาธตรงไปยังร้านค้าที่เขาเคยเห็น ‘ขบวนพักเที่ยง’ เดินไปทานอาหารกลางวัน ตาสอดส่ายหาร้านอาหารที่พนักงานออฟฟิสกำลังนั่งทานอยู่
นายตำรวจหนุ่มผ่านร้านอาหารเล็กๆ ตกแต่งร้านสวยงามในโทนสีฟ้าอ่อน หน้าร้านเป็นกระจกใสบานใหญ่ กระถางดอกไม้หลากสีสวยงามตั้งเรียงรายใกล้ประตูทางเข้า ในร้านไม่มีลูกค้ามากนัก อนุภาพนั่งทานข้าวอยู่กับสมบัติ ไม่มีหญิงสาวห้าวๆ อีกคนกับชายหนุ่มมาดเซอร์ๆ อยู่ด้วย และแน่นอน...ไม่มี ‘แมวน้อยหวงเจ้านาย’ คอยเกะกะ เพราะเมื่อครู่ยังยืนทำหน้าดุใส่เขาในออฟฟิส
ทางโล่ง เขาเปิดปะตูเดินเข้าไปในร้าน

อนุภาพชะงัก เลิกคิ้วขึ้นอย่างนึกไม่ถึงว่าจะเห็นอธิคมยืนอยู่ตรงหน้าเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นนายตำรวจหนุ่มในชุดเครื่องแบบสีกากีเต็มยศ ชุดที่รัดติ้วยิ่งเน้นรูปร่างของเขาให้เด่นชัด
 ทุกครั้งที่พบกันตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุคราวนั้น เขาเห็นผู้กองอธิคมในชุดครึ่งท่อนกางเกงสีกากี เสื้อยืดสีขาวขลิบรอบคอและแขนสีแดงเลือดหมู...สอดชายเสื้อเข้าในกางเกงบ้าง ไม่ก็ทิ้งชายเสื้อสบายๆ วันนี้อธิคมดูคมเข้มยิ่งขึ้นในชุดตำรวจ สวมหมวกสีเข้มหลุบต่ำลงปิดหน้าผากไว้ครึ่งหนึ่ง เห็นคิ้วเข้มและดวงตาคมกริบอยู่รำไร
อธิคมทักทาย แล้วถือวิสาสะนั่งร่วมโต๊ะโดยไม่รอให้รับเชิญ สมบัติตาค้างอ้าปากหวอ มือที่ตักอาหารค้างเติ่ง
“สวัสดีครับคุณนุ พี่บั๊ด...ทานข้าวอร่อยไหมครับ” อธิคมยิ้มบางๆ แต่นัยน์ตาที่มองอนุภาพระยิบระยับ
“อร่อยฮะ...เดี๋ยวขอเช็ดน้ำลายหกก่อน” สมบัติวางช้อนแล้วเอื้อมมือจะหยิบกระดาษเช็ดปาก แต่อนุภาพยื่นรอไว้ให้แล้วหนึ่งแผ่น ตายังจับอยูที่ใบหน้าของอธิคม
“ผู้กองมีธุระอะไรหรือครับ” ชายหนุ่มถามเสียงเย็น
“ผู้กองหล่อจัง” สมบัติแทรก “หล่อร้ายกาจ ยิ่งใส่เครื่องแบบยิ่งเท่ห์ นี่ถ้าโฆษณาออนแอร์ต้องดังระเบิด กลายเป็นขวัญใจทั้งสาวทั้งหนุ่มทั่วประเทศ ต้องมีคนตามจีบผู้กองกันเป็นแสนเป็นล้านคน...” ประโยคหลังหันมามองอนุภาพ
“พี่บั๊ด ผู้กองยังไม่ตกลงแสดงซักหน่อย” อนุภาพปราม
“ธุระผมคือ...ขอมาทานข้าวด้วยคนนะครับ” เขายิ้ม ถอดหมวก
“เรากำลังจะอิ่มพอดี” อนุภาพรีบพูด
“แต่พี่จะกินของหวานต่อ” สมบัติขวาง
“พอดีผ่านมาแถวนี้แล้วหิวข้าวเหรอครับ” อนุภาพอดประชดไม่ได้
“ครับผม” อธิคมเออออ “พอดีโชคดีจริงๆ ที่มองเข้ามาแล้วเห็นคุณนุกับพี่บั๊ด” เขาเรียกสมบัติอย่างคุ้นเคย
“พอดีจริงๆ เลยนะ” อนุภาพหันไปมองสมบัติ ด้วยคิดว่าต้องเป็นสมบัติแน่ๆ ที่เป็นตัวการ
...ไปคุ้นเคยกันตอนไหน เจอกันครั้งเดียวแค่ตอนมาส่งวันนั้น...ตอนที่เขากะเวลาออกจากบ้านผิดพลาด...
อนุภาพหารู้ไม่ว่าคนเจ้าเล่ห์ทั้งสองมีการ ‘คุย’ กันนอกรอบมาแล้ว
“ที่จริงธุระผมก็คือ มาขอโทษคุณนุเรื่องรถ จะรอถึงเย็นคุณนุก็บอกว่าไม่ว่าง ในเมื่อทานข้าวเย็นไม่ได้ ก็ทานกลางวันแทนก็แล้วกัน” อธิคมทำเสียงนุ่ม
“พี่อิ่มแล้ว พี่กลับออฟฟิสก่อนนะ” สมบัติขอตัว
“พี่บั๊ดจะกินของหวานต่อไม่ใช่หรือ” อนุภาพเตือน จับแขนเพื่อนรุ่นพี่เอาไว้ ตายังจ้องนายตำรวจหนุ่ม “ช่างเถอะครับ เรื่องแล้วก็แล้วไป ผมจะจำไว้เป็นบทเรียน” อนุภาพพูดเสียงเรียบ
“แบบนี้ผู้กองต้องถูกลงโทษ” สมบัติแทรก “ต้องทำงานไถ่โทษ”
อนุภาพรู้ว่าสมบัติจะพูดอะไรจึงรีบแทรก “พี่บั๊ด ไม่ต้องหรอก ผู้กองไม่ได้ทำอะไรผิด ผู้กองยังใจดีช่วยซ่อมรถให้ทั้งที่รถไม่มีประกัน” อนุภาพไม่รู้ตัวว่ากำลังงอน--อธิคมมองว่าน่าเอ็นดูนัก
“จะลงโทษผมก็ยอมครับ” อธิคมแกล้งทำหน้าเศร้าแต่นัยน์ตาพราวระยับ
“นุ เส้นตายเช้าวันจันทร์แล้วนะ ยังหาตัวแสดงไม่ได้เลย มีมิสเตอร์เพอร์เฟ็คอยู่ตรงหน้า ตาเธอยังหามีแววไม่” สมบัติโน้วน้าว “ลองดูก่อน ถ้าลูกค้าไม่ชอบก็ไม่ต้องเอา แล้วค่อยคิดหาวิธี ผิดนักก็ไปตะเวนรับสมัครตามโรงพักซะเลย ที่ทำเอง พี่ชอบ” สมบัติพูดจริงจังแต่อดไม่ได้ที่จะทิ้งท้ายตลกตามนิสัย
“คุณนุคงไม่อยากให้ผมเข้ามายุ่มย่ามเรื่องงาน” อธิคมแกล้งทำหน้าผิดหวัง เสียงเนือยๆ
น่าหมั่นใส้ พอๆ กับพี่บั๊ดเลย คู่นี้เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย อนุภาพยอมแพ้
ถ้าเข้ากันได้ดีนัก...จะให้พี่บั๊ดรับบทบาทไปเต็ม ตัวเขาจะปลีกตัวออกมาทำโฆษณาพาโนวิวที่ต้องใช้นายแบบนักธุรกิจกับสาวสวยที่เป็นคู่รักเตรียมตัวซื้อคอนโดหรูหราโรแมนติก
 “ว่าแต่ผู้กองเถอะ ตัดสินใจแล้วหรือฮะ”
 อธิคมพยักหน้า “ขอแค่คุณนุเอ่ยปาก ผมก็ยอม” อธิคมทำตายิ้มใส่อนุภาพ
ชายหนุ่มอ้ำอึ้ง สมบัติมองทั้งสองซ้ายทีขวาทีจึงเอาศอกกระทุ้งอนุภาพเบาๆ
ชายหนุ่มพยักหน้า สมบัติยิ้มลิงโลดอย่างดีใจ อธิคมอมยิ้มนิดๆ หันไปเรียกบริกรสั่งอาหาร
สมบัตินัดให้นายตำรวจหนุ่มมาทดสอบหน้ากล้องที่สตูดิโอ
“บ่ายโมงวันเสาร์นะฮะผู้กอง สตูดิโออยู่ไกลหน่อยแถวปิ่นเกล้า เดี๋ยวบั๊ดจะเขียนแผนที่ให้” สมบัติทำท่านึกได้ “อ้อ บ้านอยู่ใกล้กันนี่ ผู้กองไปรับนุแล้วไปพร้อมกัน นุเขารู้ทาง”
“บอกให้ผู้กองไปรับผมแต่แรกเลยก็ได้พี่บั๊ด ไม่ต้องมาเล่นมุข” อนุภาพฉุน
“เปล่ามุขนะ เพิ่งนึกออกจริงจริ๊ง” สมบัติหัวเราะชอบใจ ส่วนผู้กองหนุ่มเอาแต่อมยิ้ม ไม่พูดอะไรสักคำ
“แต่ที่จริงอย่างผู้กองนี่ ไม่ต้องเทสท์หน้ากล้องก็ได้ เพราะหล่อร้ายกาจสุดๆ ยิ่งใสเครื่องแบบยิ่งซุปเปอร์หล่อระทึกใจ แต่ว่ายังไงก็ต้องทำพอร์ทโฟลิโอส่งให้ลูกค้าฮะ” สมบัติหลงไหลได้ปลื้มนายตำรวจหนุ่มในเครื่องแบบอย่างฉุดไม่อยู่
ทั้งสองไม่รู้เหตุการณ์ในอนาคตว่าคนที่หล่อร้ายกาจจนแทบไม่ต้องเทสท์หน้ากล้องจะสร้างความปวดหัวให้ไม่น้อยเวลาอยู่หน้ากล้อง
ผู้กองอธิคมยังมีความเจ้าเล่ห์ที่ยังไม่ได้ปล่อยออกมาอยู่อีกเยอะ!
************************

โทษทีที่็เป็นมนุษย์เจ้าปัญหา ใครเคยมีแฟนขึ้นรถ แล้วมือบอนไปเปิดเก๊ะ แล้วเห็นกล่องถุงยางอนามัยดูเร็กซ์ที่ยังไ่ม่ได้แกะเปิดอยู่ในกล่องบ้างหรือเปล่า ถ้าเป็นคุณ จะทำยังไง?

ออฟไลน์ K2KARN

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3084
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +393/-6
^


จิ้มคุณ katawoot


โทษทีที่็เป็นมนุษย์เจ้าปัญหา ใครเคยมีแฟนขึ้นรถ แล้วมือบอนไปเปิดเก๊ะ แล้วเห็นกล่องถุงยางอนามัยดูเร็กซ์ที่ยังไ่ม่ได้แกะเปิดอยู่ในกล่องบ้างหรือเปล่า ถ้าเป็นคุณ จะทำยังไง?



ก็ต้องดูว่าแฟนทำหน้ายังไง ?
แต่ส่วนมากเท่าที่เคยเจอเพื่อนเล่าสู่กันฟัง ท่านบอกมาว่า ให้ดูว่าเค้าจำทำยังไงต่อ
ส่วนมากจะเห็นอยู่ในเก๊ะ ,, ไม่ได้หยิบออกมาแล้วก็ปิดเก๊ะนั่งเงียบไป


แต่มีสองสามรายที่หยิบออกมา แล้วถามว่านี่อะไร ?
อันเพื่อนของเรามันก็ตอบไปว่า ถุงยางไง ไม่เคยเห็นเราะ ? (เออ เพื่อนกรูว์)
แล้วก็จบประเด็นกันไป



ส่วนกรณีที่สามคือ เมิงเอาไปใช้กับใครที่ไหนอย่างไร ?
กรณีนี้แรง ต้องเคลียร์กันยาวพอสมควร


กรณีที่สี่คือ ถามนิ่งๆว่า นี่มันถุงยางนี่ เอามาทำอะไร ?
อ๊ะ ! เข้าทาง จบ เผด็จศึก 5555555555555555 *







ประการฉะนี้แล  :laugh:



ขอบคุณนะคะคุณ katawoot ;')

ออฟไลน์ ben~ya

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
แปะ คนแต่ง คนขยัน
โทษทีที่็เป็นมนุษย์เจ้าปัญหา ใครเคยมีแฟนขึ้นรถ แล้วมือบอนไปเปิดเก๊ะ แล้วเห็นกล่องถุงยางอนามัยดูเร็กซ์ที่ยังไ่ม่ได้แกะเปิดอยู่ในกล่องบ้างหรือเปล่า ถ้าเป็นคุณ จะทำยังไง?

ยังไม่แกะก็แล้วไป แต่ว่า..(อีกแหละ) แกะเมื่อไร ?  ....!(เว้นไว้ในฐานที่เข้าใจ) o18 หึ หึ หึ

three

  • บุคคลทั่วไป
เฉยๆครับแต่ตั้งคำถามในใจอ่ะช่างเหอะยังดีมันยังรู้ตัวว่าต้องป้องกัน :m23:
ขอบคุณมากๆนะครับที่มาต่อ :L2:

The Living River Ping

  • บุคคลทั่วไป
โถโถ ตี๋เบนซ์ดำ น่าสงสารจริงๆ กระซิกกระซิก

อ้างจาก: katawoot
โทษทีที่็เป็นมนุษย์เจ้าปัญหา ใครเคยมีแฟนขึ้นรถ แล้วมือบอนไปเปิดเก๊ะ แล้วเห็นกล่องถุงยางอนามัยดูเร็กซ์ที่ยังไ่ม่ได้แกะเปิดอยู่ในกล่องบ้างหรือ เปล่า ถ้าเป็นคุณ จะทำยังไง?

ของมันอยู่ผิดที่แบบนี้ ก็คงได้แต่บอกให้พารถ + รีบแกะถุงยางกล่องนั้น แล้วไปใช้กับคนอื่นได้เลย อย่าได้แคร์ :bye2:

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1
โทษทีที่็เป็นมนุษย์เจ้าปัญหา ใครเคยมีแฟนขึ้นรถ แล้วมือบอนไปเปิดเก๊ะ แล้วเห็นกล่องถุงยางอนามัยดูเร็กซ์ที่ยังไ่ม่ได้แกะเปิดอยู่ในกล่องบ้างหรือเปล่า ถ้าเป็นคุณ จะทำยังไง?

"ขอยืมหน่อยนะ พอดีที่เก็บไว้ในกระเป๋าตังค์ไม่เหลือแล้ว"


จบ!!

chatnaha

  • บุคคลทั่วไป
อุ๊ย อันนี้ยังไม่เคยลองเลย

คืนนี้ใช้กันนะ

จบ
 :t2: :t2: :t2: :t2: :t2:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






FOAM

  • บุคคลทั่วไป

โทษทีที่็เป็นมนุษย์เจ้าปัญหา ใครเคยมีแฟนขึ้นรถ แล้วมือบอนไปเปิดเก๊ะ แล้วเห็นกล่องถุงยางอนามัยดูเร็กซ์ที่ยังไ่ม่ได้แกะเปิดอยู่ในกล่องบ้างหรือเปล่า ถ้าเป็นคุณ จะทำยังไง?

จะซื้อไว้ใช้กะผัวใหม่รึไง  แสรดดดดดดดดดด


-----------------------------------------------

พี่บั๊ตนี่เป็นแม่สื่อขั้นเทพพพพพพพพพ

มีแวววว่าอาทิตจะไม่เหงงาแฮะ

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
ก็ซื้อมาใช้กับตัวเองนั่นแหละ นี่คือคำตอบค๊าบ.......

อ่านตอนนี้แล้วกลัวตาตำรวจอีกคนจัง อีตาไท ธนาวุฒอ่ะ

จะมาสร้างความร้าวฉานหรือป่าวเนี่ย

เอิ๊กกกก.......

Siri_nan

  • บุคคลทั่วไป
ตอบคำถามเคอะ

- ทำใจเคอะ แล้วแอบเอาเข็มมาเจาะถุงยางมัน :o

ชิส์ สวยไม่ใส่จีเคอะ :laugh:

nanao

  • บุคคลทั่วไป
ได้ลุ้นผู้กองธงรบกะอาทิตย์อีกคู่ไหมเนี่ยครับ  :laugh:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
อ่านไปยิ้มไป กับความเจ้าเล่ห์ ของผู้กอง

สงสารก็แต่ นุ ไม่รู้เลยว่า โดนพี่บัติ หักหลัง ( แต่หวังดี )

สงสารอีกคน นายดวงตะวัน คงทำใจยากกับการร่วมงานกับ อธิคม

มารอตอนต่อไป ดีกว่า ขอบคุณครับ ที่ขยันลงให้ทุกวัน

ปล. ถ้าเจอเหตุการณ์นี้ คงเปิดที้งไว้สักครู่ แล้วมองหน้า โดยไม่ถามอะไร

      คอยดูปฎิกิริยาว่า จะทำท่ายังไง แล้วค่อยว่ากันอีกที

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
 :m29:

มีหลายกรณีแท้เว้ย ตัดสินใจไม่ถูกดิ ขอคิด2วันนะ :oni1:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
เราก็จะตอบว่า

เปลี่ยนใหม่เถอะ ยี่ห้อนี้เราไม่ชอบ  :laugh: :laugh:

พี่บั้ดน่ารักจัง

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
อ้างจาก: katawoot
โทษทีที่็เป็นมนุษย์เจ้าปัญหา ใครเคยมีแฟนขึ้นรถ แล้วมือบอนไปเปิดเก๊ะ แล้วเห็นกล่องถุงยางอนามัยดูเร็กซ์ที่ยังไ่ม่ได้แกะเปิดอยู่ในกล่องบ้างหรือ เปล่า ถ้าเป็นคุณ จะทำยังไง?

ของมันอยู่ผิดที่แบบนี้ ก็คงได้แต่บอกให้พารถ + รีบแกะถุงยางกล่องนั้น แล้วไปใช้กับคนอื่นได้เลย อย่าได้แคร์ :bye2:

โห ที่รัก
ใจเด็ดมาก

 :t2:


DEVIL nures

  • บุคคลทั่วไป
 :m12: กามเทพบั๊ด :m1:

 :m12: อย่างนี้นุคงหนี้ไม่พ้นผู้กองแหงๆ :m4:

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าเจออย่างนั้น


ผมก็จะถามว่า


ซื้อจากเซเว่นหรือป่าว



แล้วขนมจีบซาลาเปาละอยู่ไหน



กรูหิววววววววววววว


อิอิ



 :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
 :m23:  ขอบคุณครับ   ส่วนคำตอบก็เฉยๆ แล้วปิดไว้อย่างเดิมครับ

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 11

ร้อยตำรวจเอกอธิคมออกเวรตอนเที่ยงตรง เขาแวะมารับอนุภาพที่คอนโดเวลาเที่ยงสิบห้านาที ชายหนุ่มยืนรออยู่แล้ว เที่ยงวันเสาร์อากาศร้อนอบอ้าว การจราจรถบนถนนคับคั่ง แต่ชายหนุ่มที่กำลังทำหน้าที่ขับรถดูร่าเริงเป็นพิเศษ
 “คุณว่าผมหล่อร้ายกาจอย่างพี่บั๊ดชมหรือเปล่าครับ” อธิคมโพล่งขึ้นมา
อนุภาพอึ้งไม่รู้จะตอบอย่างไร ความจริงผู้กองอธิคมนั้นหล่อมากอย่างที่ใครๆ ชม แต่อยู่เฉยๆ เขาถามโพล่งขึ้นมาแบบนี้ ชายหนุ่มจึงสงสัยว่าจะมาไม้ไหน เลยได้แต่พยักหน้าช้าๆ
“ผมก็ว่าอย่างนั้น” ตำรวจหลงตัวเองเออออ “แต่หล่อๆ อย่างนี้ไม่ยักกะมีแฟน” เขาเสริมลอยๆ
อนุภาพไม่ยอมพูด เอาแต่นั่งนิ่ง มองออกไปนอกรถ ราวกับว่าสนใจร้านรวงข้างถนนมากยิ่งนัก อธิคมผิวปากเป็นเพลงเบาๆ เป็นระยะ สลับกับการชวนคุย อนุภาพตอบรับบ้างสั้นๆ จนนายตำรวจหนุ่มล้อเลียนว่า "คุณนุนี่สงสัยตอนเป็นเด็กหัดพูดช้ากว่าเด็กทั่วไป"
"คงงั้นมั๊งครับ" อนุภาพยอมรับ หันหน้าไปมองผู้กองอธิคมที่กำลังทำตาวิบวับ "ผู้กองก็คงพูดเป็นคำตั้งแต่ยังไม่เริ่มหัดเดิน"
อธิคมหัวเราะเสียงดัง ชอบใจที่อนุภาพพูดกระทบกระเทียบ "ผมเป็นคนชอบคุย เป็นคนมีไมตรีจิต เป็นมิตรกับคนอื่น"
...คงเป็นมิตรกับใครไปทั่ว มิน่า หูตาถึงได้แพรวพราวนัก หรือไม่ก็หัดยั่วเย้าคนอื่นตั้งแต่เรียนอยู่อนุบาล...อนุภาพค่อนขอดในใจ ทำทีไม่สนใจสิ่งที่อธิคมพูด แล้วเอื้อมมือไปเปิดเพลงฟัง แต่ก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงเพลงร๊อคดังลั่นขึ้นมา
"โอ๊ะ เบาๆ ตกใจหมดเลย" อธิคมยิ้มกว้าง เอื้อมมือมาหรี่เสียงให้เบาลง "คุณนุนี่มือบอนเหมือนกันนะ"
อนุภาพขมวดคิ้ว ทำหน้าง้ำ อดฉุนไม่ได้ที่โดนว่าตรงๆ "ใครจะไปรู้ว่าคุณฟังเพลงดังขนาดนี้ ก่อนปิดเครื่องเสียงทำไมไม่หรี่ให้มันเบาลงก่อน"
"อืม จริงสินะ ผมลืมไป มันไม่มีใครมาคอยเตือนนี่ครับ ไปไหนมาไหนคนเดียวตลอด นี่ถ้ามีคนนั่งด้วย ก็จะได้ช่วยควบคุมพฤติกรรมการฟังเพลง" อธิคมอธิบายเสียงเรียบ ตีหน้าซื่อ
...น่าหมั่นใส้...อยากเอานิ้วจิ้มตาให้ทะลุจังเลย...อนุภาพนึก ปรายตามองผู้ชายหน้าเป็น...แล้วก็นั่งเงียบต่อ ตัดสินใจไม่พูดต่อปากต่อคำ เพราะรู้ว่าอธิคมคงไม่ยอมหยุด
เพลงร๊อคดุเดือดของวงโอเอซิสบรรเลงไปได้สามเพลงอธิคมก็เปลี่ยนเป็นฟังจากสถานีวิทยุ นายตำรวจหนุ่มกดเปลี่ยนสถานีไปเรื่อยๆ แทบจะทุกครึ่งนาที จนอนุภาพทนไม่ไหว
"ผู้กองครับ ฟังซักสถานีได้ไม๊"
"มันไม่มีที่ไหนเปิดเพลงเพราะๆ นะสิครับ" อธิคมแก้ตัว "ไม่เห็นเปิดเพลงรักกันเลย มีแต่ดีเจพูดเรื่อยเปื่อยอยู่ได้"
อนุภาพไม่ตอบโต้...นึกขึ้นได้ว่าไม่น่าเลย...คราวนี้อธิคมต้องหาเรื่องจีบเขาอีกแล้ว...
"อยากเปิดเพลงรักหวานๆ ให้คุณนุฟัง จะได้สบายใจ" น้ำเสียงของนายตำรวจหนุ่มฟังร่าเริ่งยิ่งนัก ราวกับมีความสุขมากที่ได้ยั่วเย้าคนหน้านิ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ "ถ้าไม่งั้น ผมจะร้องให้ฟัง"
"ฟังโอเอซิสก็ได้ครับ" อนุภาพตัดบท...
"ไม่อยากฟังเพลงรักเลยเหรอ" อธิคมเสียงออดอ้อน
"อยากฟัง แต่เพลงรักที่เพราะจริงๆ หายากครับ เท่าที่ได้ยิน เห็นมีแต่เพลงรักพร่ำเพรื่อที่เอาแต่ร้องๆ กันจนเอียน" แม้คิดว่าจะไม่อยากตอบโต้ แต่ในที่สุดอนุภาพก็อดไม่ได้
"โอ้โห เจ้าคารมแฮ่ะ" อธิคมไม่สะดุ้งสะเทือน ยังทำหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเปิดไฟเลี้ยวและหมุนพวงมาลัยเลี้ยวขวา พร้อมกับพึมพำเบาๆ จนอนุภาพแทบไม่ได้ยิน "ไว้จะร้องให้ฟัง...ข้างๆ หู"
อนุภาพได้ยินไม่ถนัด แต่พอจับใจความได้ ใจหนึ่งอยากจะตอบกลับ แต่อีกใจหนึ่งกลับห้ามไว้ได้...เพราะรู้ว่าหากต่อปากต่อคำต่อก็คงไม่มีทางจบ...นิ่งเอาไว้ดีกว่า...เดี๋ยวอธิคมก็หยุดกวนเอง...

ทั้งสองใช้เวลาร่วมหนึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงสตูดิโอ ผู้กองหนุ่มจอดรถในซอยเล็กๆ และเริ่มบ่นว่าหิว อนุภาพชวนให้ทานอาหารที่ร้านอาหารห้องแถวข้างถนนเพราะไม่ต้องการเสียเวลา
“คุณนุนี่ทานง่ายจังเลย อะไรก็ทานได้ แบบนี้เลี้ยงไม่ลำบาก”
อนุภาพยังคงรักษาภาพลักษณ์ ‘เจ้าชายน้ำแข็ง’ ไว้อย่างเหนียวแน่นเวลาอยู่ต่อหน้าอธิคม แม้บางครั้งจะออกอาการอารมณ์เสียอยู่บ้างเมื่อนายตำรวจหนุ่มยั่วเย้าจนเขาทนไม่ไหว
บุคลิกนิ่งๆ ของอนุภาพไม่ได้ทำให้อธิคมรู้สึกประหม่าในการหาเรื่องคุย ผู้กองหนุ่มรู้สึกสดชื่นที่ได้อยู่ใกล้ๆ ทำตัวสนิทสนมเหมือนเป็นคู่รัก ออกจากบ้านด้วยกัน นั่งรถไปทำงานด้วยกัน ทานข้าวกลางวันด้วยกัน
"คุณนุทานนิดเดียว อยู่ได้เหรอครับ"
"ผมกินเพื่ออยู่ ไม่ได้อยู่เพื่อกิน"
คนที่โดนกระทบกระเทียบว่าอยู่เพื่อกินชะงัก ผลักจานข้าวจานที่สองออกไปข้างๆ แกล้งทำตาค้อนกลายๆ ใส่คนหน้านิ่ง แล้วหันไปยังแม่ค้า สั่งเพิ่มอีกหนึ่งจาน ก่อนจะหันหน้ากลับมายิ้มยิงฟันให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้า
"ผมตัวใหญ่ ต้องทานเยอะๆ เดี๋ยวไม่มีแรงถ่ายแบบ" อธิคมพูดหน้าตาเฉย "ว่าแต่ว่า ไอ้เรื่องเทสท์หน้ากล้องนี่ ต้องทำด้วยเหรอครับ ถ้าเทสท์แล้วไม่ผ่าน ผมก็ไม่ต้องแสดงใช่ไม๊"
"ผ่านสิครับ" อนุภาพหรี่ตา "ผู้กองคิดอะไรอยู่"
"เปล๊า" อธิคมยักไหล่ "เผื่อช่างภาพบอกว่าผมไม่หล่อพอ ก็แค่นั้น"
"ผ่านอยู่แล้วครับ ใครจะมาหล่อเท่าผู้กอง" อนุภาพพูดล้อเลียน แต่ใบหน้าเคร่งขรึม เอาเรื่อง ราวกับจะขู่คนตัวใหญ่ตรงหน้าว่า "ห้ามลีลาเด็ดขาด"
"ผู้กองตั้งใจหน่อยนะ จะได้เสร็จเร็วๆ ยังไงๆ ผู้กองก็ได้แสดงแน่ ตกลงกันแล้วนะครับ เลิกกลางคันไม่ได้ มันเสียหาย"
"รักแล้วเลิกได้ไง" อธิคมพึมพำ
อนุภาพได้ยินไม่ถนัด เพราะมอเตอร์ไซด์รับจ้างเพิ่งวิ่งผ่านไป ได้ยินแต่สามพยางค์สุดท้าย จึงถามอธิคมว่า "อะไรนะครับ ผู้กองเลิกไม่ได้นะ เลิกไม่ได้เด็ดขาด มาจนถึงขั้นนี้แล้ว"
"ใจเย็นๆ ครับ" อธิคมยกมือขึ้นปราม ทำท่าเหมือนอนุภาพกำลังจะวิตกจริตทั้งๆ ที่ชายหนุ่มพูดเสียงเข้มขึ้นเพียงนิดเดียว "ผมไม่เลิกหรอกครับ ถูกใจแล้ว...เอ๊ย...ตัดสินใจแล้ว รับรองว่าไม่เลิก"
อนุภาพถอนหายใจเบาๆ หันหน้าไปมองคนเดินผ่านไปมานอกร้าน ปล่อยให้อธิคมรับประทานอาหารจานที่สามต่อ
...ท่าทางหิวมาก...ทานข้าวเยอะอย่างนี้ทุกวันหรือเปล่านี่...ใครได้ไปเป็นแฟนคงเลี้ยงไม่ไหว...อนุภาพลอบมองนายแบบจำเป็นที่กำลังเคี้ยวอาหารตุ้ยๆ
"ของหวานต่อไม๊ครับ" ในที่สุดอนุภาพก็อดไม่ได้...
"ผมเป็นคนหวานอยู่แล้ว ไม่ต้องก็ได้ครับ" อธิคมตอบยิ้มๆ
"ว่าแล้วเชียว" อนุภาพเอ่ยเบา
อีกฝ่ายยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม...เข้าใจที่อนุภาพพูด แต่ก็แกล้งถามกลับ "ว่าแล้วเชียวอะไร ว่าผมหวานน่ากินแล้วเชียวหรือว่า..."
"ว่าแล้วเชียวว่าผู้กองก็คงพูดแบบนี้ ไม่ต้องมาทำหน้าเป็น"
"รู้แล้วจะพูดทำไมเล่า" อธิคมยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม แล้วยกมือลูบท้อง "เรียบร้อย ทีนี้ลุยได้เลยครับ ถึงไหนถึงกัน ท้องอิ่มแล้ว จะเอาผมไปต้มยำทำแกงที่ไหนก็ตามใจ"
อนุภาพไม่ตอบ ลุกขึ้นยืน เดินออกจากร้านค้าทันที ทิ้งให้อธิคมโวยวายตามหลัง "อ้าวคุณนุ กินแล้วชักดาบหรือ"
นายตำรวจหนุ่มส่ายหน้ายิ้มๆ พอใจที่เห็นคนที่เขาชอบทำท่าทางฮึดฮัด หันไปถามราคาอาหาร แม่ค้าสาวใหญ่รีบเดินเข้ามาใกล้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะนานๆ ถึงจะเห็นตำรวจหนุ่มรูปหล่ออารมณ์ดี
"ฟรีได้ไหมนี่แม่ค้า"
"ถ้ามากินทุกวันก็ฟรีได้ค่ะ" แม่ค้าหัวเราะคิกคัก ก่อนบอกราคา อธิคมควักเงินให้ บอกว่าห้าบาทไม่ต้องทอน ถือว่าเป็นทิปที่ยิ้มหวานได้ใจ ก่อนจะรีบเดินตามหลังอนุภาพที่หยุดยืนรออยู่ห่างออกไป
"ขายขนมจีบไปทั่ว" อนุภาพบ่นเบาๆ จงใจให้อธิคมได้ยิน แล้วรีบเดินหนีเข้าไปในประตูเล็กๆ ข้างอาคารพาณิชย์ ปล่อยให้อธิคมเดิมอมยิ้มตามหลังมา พูดกับตัวเองว่า "ก็คนที่ผมอยากจีบ ไม่ยอมให้จีบนี่น๊า"

เมื่อเดินเข้าในสตูดิโอ หนุ่มๆ สาวๆ หลายคนฮือฮาเมื่อเห็นนักแสดงกิตติมศักดิ์ที่ใช้เวลาในการควานหาตัวเป็นเวลานาน
อธิคมในชุดเครื่องแบบเต็มยศเป็นจุดสนใจของทุกคน ช่างภาพแอบกระซิบล้ออนุภาพว่า ‘หล่อร้ายกาจ ขนาดผมเป็นผู้ชายยังอดมองไม่ได้’
ทุกคนเรียนรู้ศัพท์ใหม่จากสมบัติจนอธิคมหัวเราะชอบใจ “ผมว่าคุณนุก็หล่อน่ารักร้ายกาจเหมือนกัน”
อนุภาพไม่รู้ว่าตัวเองหน้าแดง ชายหนุ่มเดินหนีไปนั่งอยู่มุมห้องมองอธิคมที่ยืนอยู่หน้ากล้อง สไตลิสท์จัดท่าทางให้นายแบบโพสท่าถ่ายรูปอย่างสนิทสนมจนเกินงาม สมบัติทำตาเขม่น ส่วนช่างแต่งหน้าทำตาค้อนอิจฉาสไตลิสท์ที่ได้แตะเนื้อต้องตัวผู้กองหนุ่ม
อธิคมดูเก้งก้างไม่รู้จะวางท่าอย่างไร ผู้ชายคนนี้ดูลื่นไหล เป็นธรรมชาติ มีเสน่ห์ดึงดูดใจ แต่เมื่ออยู่หน้ากล้อง มีไฟสปอตไลท์ส่อง มีคนยืนจ้องมองพร้อมออกคำสั่งให้ขยับแขนขยับขาเอียงหน้าเอียงคอ เขากลับกลายเป็นคนละคน ผู้กองหนุ่มดูตื่นกล้อง ตัวแข็งทื่อ
อนุภาพเผลอยิ้มขันๆ…
อธิคมหันมามองเห็นพอดีจึงขมวดคิ้วไม่พอใจ “ผู้กองอย่าขมวดคิ้วสิครับ” ช่างภาพสั่ง อนุภาพเบือนหน้าไปทางอื่น หุบยิ้มเพราะถูกจับได้
‘เขาคงมองไม่เห็น แสงไฟจ้าส่องตาขนาดนั้น’ ชายหนุ่มคิด กลัวว่าผู้กองหนุ่มจะจดจำเอามาเป็นประเด็นยั่วเย้าเขาอีก
การถ่ายภาพเสร็จสิ้นเกือบเย็น ทีมงานทั้งหมดแยกย้ายกันกลับ อนุภาพกับสมบัติและพจนีย์เตรียมตัวไปงานวันเกิดของเอนก copy writer ของบริษัท

วันเสาร์เสร็จสิ้นลงอีกวัน อธิคมกลับบ้านพักผ่อนอย่างเหนื่อยล้า เขาไม่นึกว่าเป็นนายแบบจำเป็นจะเหนื่อยถึงเพียงนี้ แค่ยืนเอียงไปเอียงมาหน้ากล้องที่ไฟส่องสว่างจ้าจนแสบตาเขาก็รู้ว่าเหนื่อยล้ากว่าไปวิ่งจับผู้ร้าย
…ถ้าไม่ใช่เพื่ออนุภาพ...เขาไม่มีวันจะทำอะไรแบบนี้เด็ดขาด
-----------------------

เช้าวันจันทร์ สมบัติ อาทิตย์ และพจนีย์ไปนำเสนอรายละเอียดครั้งสุดท้ายให้บริษัทรถพิจารณาก่อนจะเริ่มถ่ายทำจริง พจนีย์บอกว่า “ตื่นเต้นจริงๆ ขอให้ลูกค้า approve ทีเถอะ สาธู๊...”
อนุภาพไม่หนักใจเพราะรู้ว่าคงไม่มีใครปฏิเสธนายแบบอย่างอธิคมได้ แม้ท้ายที่สุดของการถ่ายภาพในสตูดิโอคืนนั้นนายแบบยังดูแข็งทื่ออยู่ดี...แต่ความหล่อร้ายกาจของเขาไม่มีใครที่จะปฏิเสธได้
ชายหนุ่มคาดไม่ผิด...ทั้งสามกลับบริษัทพร้อมกับข่าวดี
“กลับมาเร็วจัง” อนุภาพถามพจนีย์
“งานฉลุยพี่นุ” พจนีย์ยิ้มแป้น “ลูกค้าไม่ท้วงอะไรซักคำ”
“พอยื่นพอร์ทของผู้กองให้ ดูปุ๊บ พยักหน้าปั๊บ เจอนายแบบหล่อร้ายกาจเข้า อึ้งทึ่งเสียวไปเลย” สมบัติเสริม ยิ้มกว้างจนปากเกือบถึงใบหู
อาทิตย์หน้าขรึม นิ่งเงียบ แล้วแยกตัวเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน ก้มหน้าไม่สนใจใคร
อนุภาพกับสมบัติมองตาม แล้วหันหน้ามาสบตากัน
“อาทิตย์เขาช๊อคเล็กๆ เมื่อเปิดพอร์ทโฟลิโอดูตอนนั่งรอคุณอัสนัย” สมบัติเสียงเรียบ “แล้วก็อยู่ในอาการถูกผีอำจนกลับมาถึงบริษัทนี่ล่ะ...น่าสงสาร”
“พี่เป็นคนเลือกผู้กองเอ็งนะ พี่ต้องโทษตัวเอง”
“อ้าว นี่พี่ช่วยทำให้งานเสร็จนะ เห็นไหมลูกค้าเปิดแฟ้มดูปุ๊บยื่นกลับปั๊บ ไม่เมนท์อะไรซักคำ...รู้ไม๊ รองเอ็มดีที่นี่ยังหนุ่มอยู่เลยนะ หน้าตาก็ดีใช่ย่อย คุณอัสนัยนี่ล่ะที่คอมเมนท์นายแบบมาตลอด เจอผู้กองของจริงเข้าไป...พูดไม่ออก เราเริ่มถ่ายทำได้เลยปลายๆ อาทิตย์ ทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว”
“อาทิตย์คงฉุนน่าดูที่เราไม่ได้ถามความเห็นเขาก่อน”
“จะว่าไป ถ้ายูไม่ไปขับรถชนกับผู้กอง มันก็ไม่มาถึงขั้นนี้หรอก” สมบัติพาล
“เจ็สมบัติ ผู้กองขับรถชนท้ายรถผม” อนุภาพแก้ให้ถูก “ไม่ใช่ขับรถชนกับผู้กองอธิคม แล้วที่เขามายุ่มย่ามนี่ก็เขาเองนะ...แล้วก็มีเจ๊ทำตัวเป็นเจ๊ดัน”
“เออๆ ใครชนใครก็ช่างเถอะ ที่แน่ๆ ได้นายแบบออกมาหล่อเร้าใจก็พอแล้ว”
“ท่าทางงานนี้ไม่ค่อยหมูนะเจ๊ สุดหล่อของพี่แข็งทื่อเป็นผีดิบเวลาอยู่หน้ากล้อง” อนุภาพดันทุรัง
“เหอะน่า มาถึงขั้นนี้แล้ว ลงเรือลำเดียวกันแล้วฉันไม่ปล่อยเธอจมน้ำตายคนเดียวหรอก”
สมบัติสะบัดก้นเดินออกไปจากห้องทำงาน
อนุภาพถอนหายใจ งานโฆษณาชิ้นนี้ต้องทำงานกับอธิคม--นายแบบผู้มีแววว่าจะสร้างความหนักใจให้ไม่น้อย นี่ยังไม่นับรวมถึงปัญหาที่อาทิตย์เขม่นกับอธิคม
“ผู้ช่วยส่วนตัวคุณเขาไม่เป็นมิตรกับผมเลย จ้องจะบีบคอผมให้ได้” อธิคมทำหน้าตาย บ่นให้เขาฟังเมื่อขับรถไปสตูดิโอถ่ายรูป “เขาหวงคุณเหมือนแมวหวงเจ้า...”
“พอแล้วครับ ไม่ต้องเปรียบ” อนุภาพปรามคนช่างเปรียบที่กำลังหัวเราะในลำคอเบาๆ
------------------

หลังเที่ยง อธิคมโทรมาแจ้งว่ารถทำเสร็จแล้ว แต่ก่อนที่จะวกเข้าเรื่องรถ ผู้กองเจ้าคารมก็ชวนอนุภาพคุยเรื่องอื่นสารพัด จนอนุภาพต้องเร่งให้พูดเสร็จเร็วๆ
“ผมไปเร่งกับช่างด้วยตัวเองเลยนะ เขากลัวคุณบุกไปฆ่าถึงอู่ เลยเสร็จเร็วทันใจ” ผู้กองหนุ่มรายงาน
“จริงหรือครับ นึกว่าได้รับคำสั่งจากเบื้องบนให้ดำเนินการต่อไปได้” อนุภาพประชด
“แหม คุณนุก็...มันเป็นเรื่องความผิดพลาดทางเทคนิคบางประการ” อธิคมเสียงอ่อย “แต่ทางอู่เขาก็รับผิดชอบรีบซ่อมให้แล้ว คุณนุอย่าถือสาหาความเลยนะครับ”
“ดีครับที่เขารับผิดชอบ ใครทำผิดต้องรับผิดชอบ” อนุภาพลงเสียงเน้นหนัก จงใจกระทบอธิคม
“จริงครับ ใครทำผิดต้องรับผิดชอบ” อธิคมทิ้งเสียงก่อนเพิ่มเติม “รับผิดชอบด้วยชีวิต”
อนุภาพส่ายหน้ากับความขี้เล่นของผู้กองหนุ่ม
“เย็นนี้ผมพาไปรับรถ” เขาเสนอตัว แต่ชายหนุ่มรีบปฏิเสธ
“ไม่เป็นไรครับ ผมเคยไปอู่ด้วยตัวเองแล้วตอนที่ไปค้นหาความจริง คราวนี้ผมไปรับรถคนเดียวได้”
“เถอะน่าคุณนุ” นายตำรวจหนุ่มทำไม่รู้ไม่ชี้ว่าโดนประชด “ทำยังกับเราไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกัน นี่คุณไปรับรถต้องจ่ายเงินอู่ด้วยนา ไม่จ่ายเงินเขาไม่ให้คุณเอารถออกนา” อธิคมให้เหตุผล
“ผมมีเงินจ่าย แล้วจะเอาบิลไปเก็บที่ผู้กอง” อนุภาพต่อล้อต่อเถียง
“ผมจะไปราชการอีกหลายวัน อีกนานกว่าคุณจะได้เงินคืนนะครับ” เขาลื่นไหลไปตามน้ำดื้อๆ
อนุภาพรู้ว่าตัวเองต่อรองไปก็คงไม่ชนะ อธิคมต้องพาเขาไปที่อู่จนได้ ชายหนุ่มยอมแพ้และนัดเจอกับอธิคมที่หน้าปากซอยตอนบ่ายสามโมงครึ่งโดยบอกว่าไม่ต้องมารับที่หน้าบริษัท
“คุณกลัวใครเห็นเราหรือครับ” อธิคมทำเสียงนุ่ม
“เปล่าหรอก...ผมบอกว่าหน้าปากซอยก็หน้าปากซอยเถอะ ไม่ต้องต่อรองซักครั้งจะได้ไม๊”
“บ่ายสามโมงครึ่งไม่ได้ครับ ต้องเป็นสี่โมงครึ่ง ผมไม่อยากเบียดบังเวลาราชการ” เขาบอกเฉย
อนุภาพถอนหายใจ ขี้เกียจต่อปากต่อคำ ใจหนึ่งก็คิดว่าเขาแกล้งแต่อีกใจก็คิดว่าอาจจะจริงก็ได้ เขาเป็นตำรวจ...รับราชการ เขาอาจมีงานต้องสะสางจริงๆ
---------------------

อธิคมขับรถใช้ความเร็วพอสมควร ถนนค่อนข้างโล่ง อนุภาพบอกว่าไม่ต้องขับรถเร็วมากก็ได้เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย
“ผมขอโทษที่ออกช้า วันนี้แว่บก่อนเวลาไม่ได้จริงๆ” นั่นคือสาเหตุที่เขารับรถเร็วเพราะต้องการชดเชยเวลา “ผมรู้ คุณอยากได้รถเร็วๆ เรื่องจะได้จบๆ ลงเสียที” เขากล่าวเสียงเรียบ
อนุภาพนึกในใจ ‘ประชดเป็นด้วย’ ชายหนุ่มเผลอคิดว่าผู้กองหนุ่มอาจรู้สึกน้อยใจที่เขาเร่งรัดเรื่องรถให้จบลงเร็วๆ ‘จะได้ไม่ต้องเกี่ยวข้องกันอีก’
เขาถามตัวเองว่าไม่ต้องการเกี่ยวข้องกันอีกแล้วจริงๆ หรือ ความรู้สึกลึกๆ ของเขาเริ่มรู้สึกชินกับการที่ผู้ชายตัวโตๆ คนนี้เข้ามาข้องแวะ มายั่วเย้า มากวนอารมณ์ อนุภาพแย้งในใจว่า ที่จริงยังต้องเกี่ยวข้องกันเพราะอธิคมได้กลายมาเป็นนักแสดงจำเป็นเสียแล้ว

เสียงโทรศัพท์ของอธิคมดังขึ้น เขาหยิบมารับแต่โทรศัพท์ยังดัง เขาวางโทรศัพท์เครื่องนั้นลงแล้วควานหาอีกเครื่อง อนุภาพหยิบโทรศัพท์ที่ซุกอยู่ข้างๆ เกียร์รถส่งให้
“ขอบคุณครับ” เขายิ้มหวาน ก่อนเปลี่ยนเป็นสีหน้าเคร่งขรึมเมื่อได้ยินเสียงคนในสาย
“ว่าไงนะ...” อธิคมถามเสียงเข้ม “จริงหรือ...อยู่บนทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์...ได้เลย..เตรียมสกัดเอาไว้นะ..ผมจะไล่ให้ย้อนลงอุโมงค์แยกเกษตร..บอกจ่ายุทธสกัดอย่าให้ผ่านอุโมงค์ได้..” อธิคมโทรศัพท์เสียงเครียด
นายตำรวจหนุ่มเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว แลนด์โรเวอร์ทะยานไปข้างหน้าเหมือนธนูพุ่งจากแล่ง อนุภาพเองก็เป็นคนขับรถเร็ว แต่คราวนี้เขารู้สึกว่าอธิคมกำลังเหยียบคันเร่งส่งกำลังให้รถแล่นเกือบจะถึงความเร็ว180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใบหน้าเข้มนิ่งเงียบเคร่งขรึม ผิดจากภาพที่เจนตาเป็นคนละคน
“คุณนุครับ ขอโทษนะครับ มีเรื่องฉุกเฉิน”
เสียงวิทยุในรถตำรวจดัง รายงานลักษณะของรถผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดที่กำลังหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์วิทยุประสานงานว่าผู้กองอธิคมกำลังขับรถตาม ให้ทุกหน่วยเตรียมพร้อม ผู้กองจะไล่ให้ลงอุโมงค์แยกเกษตรศาสตร์
อนุภาพเกร็งตัว ขยับสายเข็มขัดนิรภัยให้กระชับ...นิ่งเงียบ ชายหนุ่มสงสัยว่าถ้าเขาโวยวายขึ้นมาให้ไปรับรถที่อู่ให้ทัน ผู้กองอธิคมจะทำอย่างไร แต่ชายหนุ่มรู้ดีว่าอะไรควรไม่ควร เขาภาวนาในใจว่าขออย่าให้ต้องควักปืนออกมายิงกันเปรี้ยงปร้างเหมือนในหนังเลย...แต่ถ้าถึงขั้นนั้น เขาก็คงมุดตัวลงตรงช่องว่างหน้าเบาะนี่ล่ะ จะว่าขี้ขลาดก็ยอม แม้ตัวเองจะเป็นนักกีฬายิงปืนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย คุ้นเคยกับปืนเป็นอย่างดี แต่ในชีวิตจริงไม่เคยเจออะไรอย่างนี้นี่นา…

อธิคมตามทันรถเก๋งสปอร์ตแต่งซิ่งสีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนข้างหน้า ซึ่งตอนนี้รู้สึกตัวแล้วว่ารถแลนด์โรเวอร์กำลังติดตามมาอย่างกระชั้นชิด จึงเร่งความเร็วปาดไปปาดมาบนทางด่วนยามชั่วโมงเร่งด่วน อธิคมตามจี้ท้ายไม่ยอมลดละ ฝีมือขับรถของเขาเยี่ยมยอด ถึงรถจะมีแรงเหวี่ยงจากการเปลี่ยนเลนกระทันหัน แต่อนุภาพรู้สึกถึงความมั่นคง เสียงเบรคดังลั่นแสบแก้วหู...เสียงแตรรถคันอื่นๆ ดังสนั่น
อธิคมหยิบวิทยุมาสั่งการ
“ทุกหน่วยรับทราบ ตอนนี้ลงทางด่วนแล้ว กำลังไล่ให้เข้าเกษตร-นวมินทร์ ให้ดักที่อุโมงค์แยกเกษตร ทราบแล้วเปลี่ยน” เสียงวิทยุประสานงานดังไม่ได้สรรพ อนุภาพหูอื้อ เริ่มวิงเวียน เพราะรถส่ายไปสายมาตลอดเวลา...ถ้าให้ขับเองคงไม่เวียนหัวขนาดนี้…
รถฝ่าไฟแดงหลายแยกมุ่งตรงแยกเกษตรศาสตร์ รถสปอร์ตที่กำลังหนีการจับกุมคงเริ่มรู้สึกตัวว่าถูกบีบให้ตรงไปเพื่อลงอุโมงค์พยายามจะเลี้ยวเข้าซอยด้านข้างเพื่อหนีการไล่ล่า รถตำรวจจอดซุ่มอยู่หัวมุมทางแยกเข้าขวางเปิดไซเรนดังลั่น อธิคมพยายามแซงรถสปอร์ตขึ้นด้านซ้ายเพื่อตีคู่ขวางไม่ให้เปลี่ยนเลนได้
ใกล้ทางลงอุโมงค์เข้าไปทุกขณะ รถเก๋งเร่งความเร็วสุดพุ่งทะยานให้พ้นแลนด์โรเวอร์ แล้วปาดหน้าเพื่อเปลี่ยนเลนซึ่งเป็นจังหวะพอดีกับรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อขับล้ำเลนเข้ามาจึงเกิดการเบียดกระแทกกันก่อนที่รถสปอร์ตจะเสียหลักชนแผงปูนกั้นถนนตรงทางลงอุโมงค์ เสียงชนโครมดังสนั่นพร้อมกับเสียงเบรกกรีดร้องจนแสบแก้วหู เสียงแตรรถดังระเบ็งเซ็งแซ่ อนุภาพยกมือดันแผงคอนโซลหน้ารถเตรียมตัวรับสถานการณ์เพราะรู้ว่าอธิคมต้องห้ามล้อฉุกเฉิน รถแลนด์โรเวอร์คันใหญ่เบรกจนตัวเอียงล้อครูดไปกับพื้นถนน ด้านท้ายรถชนกรวยยางแบ่งช่องจราจรจนกระเด็นไปคนละทิศละทาง
รถจอดสนิท อธิคมดึงเบรกมือ เปิดประตูรถวิ่งตรงไปยังรถที่ชนกันข้างหน้า รถกระบะถูกเบียดกระแทกตั้งแต่ช่วงกลางรถจนถึงกระบะหลังด้านขวาพังเป็นแถบ โชคดีที่คนขับไม่ได้รับบาดเจ็บ รถเก๋งสปอร์ตหมุนคว้างกระแทกกับแผงปูนกั้นถนนลาดลงอุโมงค์แล้วหยุดนิ่ง ตำรวจหลายนายวิ่งกรูเข้าใกล้ โบกไม้โบกมือสั่งรถที่อยู่รอบๆ ให้หลบไป พร้อมส่งสัญญาณให้ประชาชนที่อยู่ในรถใกล้ๆ ก้มตัวลง เหตุการณ์ชุลมุนก่อนมีเสียงปืนดังขึ้นสามสี่นัด เสียงคนกรีดร้องด้วยความกลัว ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซด์ทิ้งรถวิ่งหนีตายไปคนละทิศละทาง อนุภาพก้มหน้าหลบซุกกับคอนโซลรถโดยสัญชาตญาณ ชั่วอึดใจเขาเงยหน้าขึ้นเห็นอธิคมยกเท้ากระทืบกระจกด้านข้างของเก๋งสปอร์ตปืนจ่ออยู่ชิดศรีษะคนขับ ตำรวจคนอื่นๆ กรูเข้ามาประชิดรถเปิดประตูลากชายวัยรุ่นสองคนออกมากดแนบกับพื้นถนน
อนุภาพนั่งตัวแข็งอยู่ในรถ ไม่นึกว่าตัวเองจะมานั่งอยู่ในสถานการณ์เหมือนในฉากภาพยนต์ หัวใจเขาเต้นรัวด้วยความระทึกใจ แม้มองไม่เห็นภาพชัดเจนเมื่อได้ยินเสียงปืนเพราะก้มหน้ามุดโดยสัญชาติญาณ วูบหนึ่ง เขานึกถึงอธิคม ‘เขาใส่เครื่องแบบธรรมดาไม่ได้ใส่เสื้อกันกระสุนอย่างพวกตำรวจมือปราบนอกเครื่องแบบใส่กัน ถ้าเกิดถูกยิง เขาก็...’
อนุภาพอดฉุนไมได้กับความบ้าระห่ำของอธิคม...เขาไม่กลัวตายหรืออย่างไรนะ...ชายหนุ่มนั่งคอยหน้าเคร่ง...ถ้าเป็นอะไรไปคนที่รักที่ห่วงเขาจะทำอย่างไร…
เสียงตะโกนโหวกเหวกเริ่มซาลง รถที่ติดขัดอยู่เริ่มขยับ ตำรวจลากตัวผู้ต้องหาขึ้นรถตำรวจเปิดไซเรนลั่นก่อนลับหายลงอุโมงค์ลอดทางแยก

จังหวะเต้นของหัวใจของอนุภาพเริ่มกลับมาเป็นปรกติ ไม่นาน อธิคมก็เดินกลับมาที่รถ หน้าตายิ้มระรื่นเช่นเคย
“คุณนุครับ เสร็จเรื่องแล้ว ไปกันเถอะ” เสียงนุ่มๆ ของอธิคมปลุกให้อนุภาพตื่นจากภวังค์ เขายืนอยู่ข้างรถฝั่งคนขับตรงประตูที่เปิดกว้างทิ้งไว้
อนุภาพมัวแต่ตกใจจนลืมเอื้อมมือไปปิด ใบหน้าอธิคมกลับมาเป็นเหมือนเดิม ระบายยิ้มกรุ้มกริ่มตามแบบฉบับ”
“กลัวจนนั่งตัวแข็งเลยหรือครับ เปิดประตูอ้าทิ้งไว้อย่างนี้ เผื่อผู้ร้ายมันวิ่งหนีเข้ามา ขับรถพาคุณหนีไป ผมจะทำยังไง” เขาล้อ ก้าวขึ้นนั่งบนรถ และขยับรถออกจากการกีดขวางทางจราจร
“ผู้กองก็ตามไปช่วยผมกลับสิ” อนุภาพกระแทกเสียง ยังคงนั่งหน้านิ่งเฉย ใจเริ่มกลับมาเต้นเป็นจังหวะปรกติแล้ว กร้ามเนื้อเกร็งเริ่มคลายตัว...ถ้าเป็นอย่างที่อธิคมล้อ ผู้ร้ายวิ่งเข้ามาเอาปืนจ่อบังคับให้เป็นตัวประกัน เขาคงตกใจแทบช้อค ยิ่งคิดยิ่งฉุนผู้กองอธิคม…
“ผู้กองเปิดประตูทิ้งไว้เอง ไม่รู้จักปิด” ชายหนุ่มพาล
“ผมรีบวิ่งไปจับผู้ร้ายนะครับ เสี้ยววินาทีเดียวไม่มีเวลาปิดหรอก” อธิคมทำตาโต
“เสี้ยววินาทีผู้กองทำให้ผมแทบจะหยุดกลั้นหายใจ คราวหลังจะไล่ล่าผู้ร้ายยิงต่อสู้กันก็ปล่อยผมให้ลงจากรถก่อนนะ”
“อ้าว ถ้าผมปล่อยให้คุณนุกระโดดลงจากรถตอนไล่จับผู้ร้าย คุณก็บาดเจ็บสิครับ” อธิคมแกล้งล้อ
อนุภาพถอนหายใจกับคารมก่อกวนของผู้กองคนเก่ง
“ผมขอโทษครับ ผมจำเป็นจริงๆ อย่าโกรธนะ” อธิคมหันหน้ามาทำหน้าอ้อนวอน รู้สึกผิด
‘จริงหรือแกล้งทำ’ อนุภาพนึกในใจ
“ถ้าโจรจี้เอาตัวคุณไป ผมจะตามไปลากคอมันกลับมาเข้าตะราง...ใครเอาคุณไป ผมจะตามไปเอากลับมา ผมไม่ให้ใครพรากคุณไปจากผมหรอก” อธิคมทำหน้าขึงขัง
“พูดเป็นนิยาย” อนุภาพยิ้มเยาะๆ
“ก็ลองดูสิ” ผู้กองอธิคมยังทำหน้าจริงจัง อนุภาพรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว ชายหนุ่มจึงหุบปากเงียบหันหน้าไปมองนอกรถ ด้วยเกรงว่าผู้กองมือปราบจะพูดอะไร ‘ไม่เข้าหู’ ให้ได้ยินอีก
****************
 ป.ล. โพสนี้ไม่มีคำถามครับ กลัวคนอ่านเบื่อผม...เอว่าแต่ว่าเบื่อคนเขียนหรือยังนี่  :m23:

ขอบคุณสำหรับคำชมและความคิดเห็นนะครับ ขอคำติบ้างหน่อยก็ดี จะได้เอามาปรับปรุงครับผม  :man1:

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
 :L2:

จอมที่ไว้รีบไปอ่านก่อน

โฮหล่อได้โล้เลยเว้ยพระเอกตู :m10:

“ถ้าโจรจี้เอาตัวคุณไป ผมจะตามไปลากคอมันกลับมาเข้าตะราง...ใครเอาคุณไป ผมจะตามไปเอากลับมา ผมไม่ให้ใครพรากคุณไปจากผมหรอก”

 :m3:หวานสลบอีกต่างหาก  :jul3:ไม่รักพี่น้องก็ไม่รู้จะรักใครแล้ว :m25:

จริงป่ะคุณนุ อิอิ :loveu:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-11-2008 12:53:31 โดย ไต๋ »

benxine

  • บุคคลทั่วไป

bank_book

  • บุคคลทั่วไป
นุก มาก เลย คับ น่า ติด ตาม ทุก ตอน ไง ก็ จะ ติด ตาม ต่อ ไป อะ นะครับ  :mc4:  :bye2:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป
มาอีกไวๆนะครั บเพิ่งมาอ่านวันี้ สนุกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

^ - ^A s A v I n * o *

  • บุคคลทั่วไป
สนุกดีครับ

มาต่อไวๆอีกนะ

ปกติ ไม่ค่อยชอบอ่านนิยายที่พระเอกเจ้าชู้เท่าไร(เดวจะเหมือนอารายคุ้นๆกระทบตัวเอง) แต่เรื่องนี้ก้อสนุกดีครับ หวังว่า จะจบด้วยดี ไม่เสียน้ำตานะคร

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ไม่เบื่อเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ขยันลงซะขนาดนี้

ไอ้ถุงยางในรถเนี่ยเรื่องปกติน่ะ แต่ควรให้เก็บในกล่องที่กันร้อนได้ไม่งั้นจะเสื่อมคุณภาพ อิอิ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด