โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย (End)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย (End)  (อ่าน 14372 ครั้ง)

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อิเพชร  แกอย่ามาให้ความหวังกับพี่พฤกษ์สิ  น่าสงสารพี่แกออก

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
EP24 "เท่านี้พี่ก็พอใจแล้ว"

ถึงแม้ไอ้พี่พฤกษ์จะบอกให้ผมมาเยี่ยมบ้างถ้าว่าง แต่ผมมาหามันทุกวัน บางวันที่มีเรียนแค่ครึ่งเช้าหรือบ่าย ผมก็จะมาช่วงครึ่งที่ไม่มีเรียน และเอาเวลาว่างที่เหลือ(อยู่น้อยนิด)ทั้งหมดไปกับการอ่านหนังสือเตรียมสอบมิดเทอม
รู้ตัวอีกที ไอ้พี่พฤกษ์ก็ออกจากโรงพยาบาลแล้วครับ จากที่ฟังเจ้าตัวกับพี่ชลบอก เห็นว่าซี่โครงเป็นปกติดีแล้ว ส่วนแขนยังต้องใส่เฝือกอ่อนอีกสัก4-5วัน และงดการขยับแขนที่ไม่จำเป็นทุกอย่างจนกว่าจะถอดเฝือก
'ขอโทษนะครับ ช่วงนี้พี่ขับรถไม่ได้ เดี๋ยวหายดีแล้วพี่จะกลับมาส่งเพชรเหมือนเดิมนะ' ไอ้พี่พฤกษ์บอกผมอย่างอ่อนโยน
ผมตื่นตอนเที่ยงพอดิบพอดีในวันเสาร์ คืนก่อนอยู่อ่านหนังสือกับไอ้เจมส์ไอ้นิวที่ร้านกาแฟจนถึงตีสอง ผมอะเลิกอ่านตั้งแต่เที่ยงคืนแล้ว แต่อยู่นั่งเล่นเกมมือถือรอพวกมันสองคนอ่านจบ เย็นวันนี้ก็นัดกินข้าวแล้วอ่านกันต่ออีก
ควานหามือถือบนโต๊ะข้างเตียงอย่างงัวเงียแล้วเจอว่ามี missed call จากไอ้พี่พฤกษ์ครับ
ผมกดโทรไปหามันทันที
(พึ่งตื่นใช่ปะเนี่ย) มันทักทายด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
"เออดิ พี่มีไร"
(วันนี้อยู่คอนโดใช่มั้ยครับ)
"อืม แต่เดี๋ยวเย็นจะออกไปเจอไอ้เจมส์ไอ้นิว"
(เอ่อ พี่ไปหาตอนนี้ได้มั้ยครับ)
"พี่จะมาทำไรอะ"
(ก็...)
"..."
(จะติวสอบให้อะ)
ขนาดไม่เห็นหน้า ผมยังสัมผัสได้จากเสียงว่าไอ้พี่พฤกษ์กำลังเขินหน่อยๆ
"อือ มาดิ"
ดีครับ ผมมีอะไรหลายอย่างอยากถามพี่มันด้วย
"เห้ย ว่าแต่พี่จะมายังไง"
(ไม่ต้องห่วง พี่ชลไปส่ง)
"อ่อ"
(เดี๋ยวเจอกันครับ)
ไอ้พี่พฤกษ์มาถึงในอีกหนึ่งชั่วโมงถัดมา
"หวัดดีครับพี่" ผมทักทายสองพี่น้อง
"โห คอนโดเพชรกว้างจัง แต่งสวยด้วย...อยู่คนเดียวเหรอ" พี่ชลที่พึ่งมาคอนโดผมครั้งแรกเอ่ยชม
"ครับ อยากแวะมาตอนไหนก็มาได้เลยนะครับ"
"คนรบกวนน่าจะเป็นน้องพี่มากกว่า...งั้นพี่กลับละ พฤกษ์เสร็จแล้วโทรมาหาพี่ละกันนะ"
"อย่าลืมซื้อของให้แม่ล่ะ"
"เออ"
ผมเดินไปส่งพี่ชลที่หน้าลิฟต์ กลับมาก็เห็นไอ้พี่พฤกษ์นั่งอยู่บนโซฟารอแล้ว
"แขนพี่เป็นไงบ้าง"
"ตอนนี้ดีขึ้นเยอะจริงๆแล้วครับ ไม่รู้สึกปวดแล้ว" แน่ะ มีขยับแขนใต้เฝือกโชว์ด้วย "เพชรกินข้าวรึยัง"
"กินแล้ว พี่อะ"
"เรียบร้อย...มาเริ่มอ่านหนังสือกันมั้ย"
"ของีบแปบนึงดิ ง่วงอีกแล้วอะ" ผมลงไปนั่งข้างๆไอ้พี่พฤกษ์
"ไม่ต้องเลย ไม่ทันเริ่มก็ขี้เกียจละ" มันพูดพร้อมดีดหน้าผากผม
"โอ๊ย ก็ง่วงอะ"
"ไม่ให้นอน อ่านเลย"
ผมหน้าบูด หยิบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับแคลคูลัสมากองบนโต๊ะข้างโซฟา อีกสองวันเตรียมโดนเชือด
"เราอ่านถึงไหนแล้ว"
"จบดิป กำลังขึ้นอินทิเกรต"
"ก็ไม่ช้านิ มา ลุยอินทิเกรตเลย..."
วิธีการอ่านหนังสือของผมกับไอ้พี่พฤกษ์คนละเรื่องกันเลยครับ ไม่ต้องถามนะว่าวิธีใครมีประสิทธิภาพมากกว่า มันให้เริ่มตั้งแต่หลักการก่อน พอเข้าใจหลักการแล้วก็ให้ท่องสูตร จำจนแม่นแล้วจึงทำโจทย์ ทำโจทย์จบหนึ่งข้อดูเฉลยทันที ถ้าผิดจะได้รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และจะได้ไม่ผิดแบบเดียวกันกับโจทย์ข้ออื่นอีก
ไอ้พี่พฤกษ์ผ่านวิชานี้มาสองปีแต่ยังจำแคลคูลัสได้มากกว่าผมที่กำลังเรียนอยู่ทั้งเทอม โลกแม่งไม่ยุติธรรม
ผมวางปากกาและหนังสือลงทันทีที่อ่านมาเกินสามชั่วโมงแล้ว
"เป็นไง พี่สอนรู้เรื่องมั้ย"
"สอนดีกว่าจารย์เพชรอีก"
มันหัวเราะ
"พี่ว่าเราอะไม่ตั้งใจฟังในคลาส ไม่ใช่จารย์เค้าสอนไม่ดีหรอก"
"หลอกด่าปะเนี่ย"
"ด่าตรงๆเลย ก็เรามันขี้เกียจนิ" ไอ้พี่พฤกษ์ว่าจบก็หัวเราะ ผมหน้าบึ้ง "แล้วเริ่มอ่านวิชาอื่นบ้างรึยัง"
"ยัง แคลฯตัวเดียวก็จะอ่านไม่ทันแล้วเนี่ย"
"วันจันทร์สอบแคลเสร็จก็รีบอ่านวิชาอื่นต่อเลยนะ intro to finance เนื้อหาเยอะ ระวังจะไม่ทัน"
"ทำไมรู้จักวิชาของ finance" ผมถาม
"ภาคพี่ก็ต้องเรียนคอร์สนี้เป็นตัวพื้นฐาน จำได้ว่าอ่านเยอะอยู่...แบ่งเวลาดีๆนะเราอะ"
"คร้าบบบบ" ผมลากเสียงล้อเลียนมัน
ผมลุกขึ้นไปหยิบน้ำเปล่ามาดื่ม เอามาเผื่อไอ้พี่พฤกษ์ด้วย
"ขอบคุณครับ"
"พี่พฤกษ์"
"หือ"
"ถามไรหน่อยดิ"
เหมือนไอ้พี่พฤกษ์รู้ว่าผมกำลังจะถามเรื่องสำคัญ เพราะมันดูตั้งใจฟังขึ้นมา
"เอ่อ...พี่ชลเค้ารู้เรื่องที่พี่ชอบเพชรมั้ย"
ไอ้พี่พฤกษ์ชะงักไปเล็กน้อย คงนึกสงสัยว่าผมถามเรื่องนี้ทำไม
"ไม่รู้"
"พี่ไม่ได้บอกอ่อ"
"อืม ไม่ได้บอก"
"แล้วมีใครรู้บ้าง"
"แค่ไอ้ริว ไอ้เกี้ยง กับเรานั่นแหละ"
ผมประหลาดใจนิดหน่อยที่มีคนรู้น้อย ไม่ได้คิดว่าไอ้พี่พฤกษ์จะเอาไปโพนทะนากับคนอื่นนะครับ แค่คิดว่าคนรู้จักพี่แกเยอะ อาจรู้เพราะมันก็ไม่มีทีท่าจะปกปิดเรื่องจีบผม เพียงแต่ไม่พูดเท่านั้นเอง
แต่ก็ดีที่พี่ชลไม่รู้ครับ ไม่งั้นเค้าคงเกลียดผมอีกคนแน่ๆ และถ้าพี่ชลไม่รู้ ผมคิดว่าพ่อแม่ไอ้พี่พฤกษ์ก็คงไม่รู้เหมือนกัน
"ทำไมถึงถามล่ะ"
"แค่อยากรู้น่ะ เอ่อ...แล้วพี่...ทำใจได้แล้วอ่อ"
คราวนี้ไอ้พี่พฤกษ์ถึงกับมองหน้าผมตรงๆ เหมือนจะค้นให้ได้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่
ผมอยากรู้ว่าที่พี่มันมาใช้เวลาอยู่กับผม มันทำใจกลับไปเป็นแค่พี่น้องได้จริงๆแล้วหรือ
"ถ้าหมายถึงทำใจเรื่องชอบเรา พี่ทำไม่ได้หรอกครับ แล้วก็ไม่เคยคิดจะทำด้วย..."
ผมอึ้ง
"พี่ไม่อยากพยายามเลิกชอบเรา เพราะใจพี่ก็รู้ดีว่ามันทำไม่ได้ ยิ่งวิ่งหนีก็ยิ่งเจ็บ สู้ให้พี่มาเจอเราทุกวันยังเจ็บน้อยกว่า..."
จริงเหรอ เจ็บน้อยกว่าจริงๆเหรอ
ผมรู้สึกว่างเปล่า
"เพชรคิดว่าแปลกสินะ ใช่ พี่อาจไม่ได้คิดเหมือนคนอื่น...แต่พี่ดีใจที่อย่างน้อยเราก็ไม่ได้รังเกียจพี่ แล้วก็ให้มาคุยมาหาได้เหมือนกับพี่น้องกันปกติ"
ผมจุกจนพูดไม่ออก ผมทำร้ายใจไอ้พี่พฤกษ์มาโดยตลอด
"รู้มั้ย พี่ไม่เคยเข้าใจคำว่ารักจริงๆเลยนะ"
มันยังพูดต่อไปอย่างจริงจังโดยจ้องตาผม
"พี่ไม่เคยคิดเลยว่าความรักแบบไม่หวังครอบครอง ไม่หวังรักตอบแทนมันจะมีจริง...จนมันเกิดกับพี่เอง ทีแรกพี่ก็มีความหวังขึ้นมานิดๆนะ ที่เรายอมให้พี่มาส่งที่คอนโดหลังเลิกเรียน ที่เราไปเฝ้าพี่...แต่พี่รู้แล้วว่าเราคิดกับพี่เหมือนพี่ชายคนนึง...พี่เห็นแค่เรามีความสุข ได้ดูแลเรา เท่านี้พี่ก็พอใจแล้ว"
ผมอยากขอโทษมัน
"พี่พฤกษ์...เพชร...ขอโทษ"
"ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ เพชรไม่ได้ผิด"
"ผิด...เพชรมันเห็นแก่ตัว..."
"อย่าโทษตัวเองเลย ถ้าจะมีใครที่เห็นแก่ตัวก็พี่เนี่ยแหละ...พี่เข้ามาวุ่นวายกับเราเอง"
ในแววตาไอ้พี่พฤกษ์บอกความรู้สึกหลายอย่าง ทั้งรัก เศร้า ทรมาน แต่ทุกความรู้สึกที่เจือปนกันอยู่นั้น ผมสัมผัสได้ว่ามันคือความจริง ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้โกหกผมสักคำเดียว
"เพชร"
ผมไม่ได้ขานรับ แต่นิ่งรอฟังสิ่งที่พี่มันจะพูดต่อไป
ไอ้พี่พฤกษ์ค่อยๆขยับตัวเข้ามากอดผม
"รังเกียจพี่มั้ยครับ"
"ไม่"
"เมื่อไรที่เราต้องการพี่ เรียกพี่ได้เสมอ...แต่ถ้าไม่อยากให้พี่มายุ่งด้วยแล้ว บอกได้เลยนะ..."
ตอนนี้ผมคิดว่าผมเข้าใจความเจ็บปวดของไอ้พี่พฤกษ์แล้วจริงๆ
ผมยกแขนขึ้นกอดตอบ ไม่มีความรู้สึกรังเกียจเลย กลับเป็นความรู้สึกดีด้วยซ้ำ
"พี่ขออยู่แบบนี้สักพักได้ไหม"
"อือ"
"ขอบคุณนะครับ"
ผมรู้สึกได้ว่าไอ้พี่พฤกษ์กำลังยิ้ม
เวลาผ่านไปเท่าไรไม่รู้ จนมันคลายกอดผม
ช่วงเวลานี้ทำให้ผมนึกอะไรขึ้นมาได้
"ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย" ผมเริ่มพูด
"..."
"เจอกันคราวหน้า...เพชรจะทำให้มันชัดเจน จะไม่ให้พี่เจ็บไปมากกว่านี้อีก..."
"...ครับ"

สองอาทิตย์ผ่านไปรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ การสอบมิดเทอมครั้งแรกของผมสิ้นสุดลง อาจจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนัก แต่อย่างน้อยมันก็ผ่านไปแล้ว
ถ้าผมไม่มีไอ้เจมส์กับไอ้นิวคงจะแย่กว่านี้อีก
วันนี้ผมกับพวกมันชวนกันมาฉลองสอบเสร็จที่ร้านเหล้าเจ้าประจำ แน่นอนว่านัดพวกไอ้พี่พฤกษ์มาด้วย
วันนี้ผมจะทำตามสัญญาที่ให้ไอ้พี่พฤกษ์ไว้ ผมตัดสินใจได้แล้ว
"เชี่ยยย โต๊ะนั้นแม่งรวมนางฟ้าชัดๆ" ไอ้เจมส์กระซิบ ชี้มือไปที่โต๊ะผู้หญิงล้วนสี่คนทางด้านขวา
"จริงด้วยว่ะ" ไอ้นิวหันไปดูตาม
"เข้าไปชนเลยดิวะ" ผมยุ
"ชนเลยอ่อเห้ย" หน้าเพื่อนผมตอนนี้แม่งโคตรโรคจิต
"กูหมายถึงชนแก้วไอ้สัส ไปๆ" ผมเติมเหล้าใส่แก้วให้ไอ้เจมส์แล้วดันหลังมันให้เดินไปที่โต๊ะนั้น
เวลามันเริ่มมึนๆเนี่ย บอกให้ทำอะไรก็ทำ
ผมกับไอ้นิวไม่ได้เดินไปด้วย ยืนดูและหัวเราะอยู่ที่โต๊ะครับ
"ไง"
พี่ริวทัก แกเดินมาพร้อมกับพี่เกี้ยง แต่ไม่เห็นเงาของคนที่ผมอยากคุยด้วยมากที่สุด
"ไอ้พฤกษ์กำลังมา" พี่เกี้ยงตอบ จะว่าไป ตั้งแต่ที่โรงพยาบาลคราวนั้น ผมยังไม่ได้คุยกับพี่เกี้ยงพี่ริวเลย
และที่วันนี้นัดสองคนนี้มาด้วยก็เพราะผมมีเรื่องอยากเคลียร์ครับ
"เดี๋ยวกูไปหาไอ้เจมส์ก่อนนะเว้ย" ไอ้นิวรู้งาน ให้ผมได้คุยกับพี่ทั้งสองคน
"เออ" ผมตบไหล่มัน
"เป็นไงมั่ง" พี่ริวถาม
"ก็ดีพี่"
"ดีจริงอะ" พี่ริวยิ้มน้อยๆ
"ดีดิ"
"เออ...แล้วนัดพวกพี่มาเจอเนี่ย เรื่องไอ้พฤกษ์ใช่มั้ย"
พี่ริวเข้าประเด็นเลย ส่วนพี่เกี้ยงไม่ได้พูดอะไร เอาแต่สำรวจท่าทีผม
"ผมอยากขอโทษพี่อะ...เรื่องพี่พฤกษ์ ผมผิดเอง"
เงียบไปพักหนึ่ง พี่ริวเข้ามากอดคอผม
"เออ พี่ก็ขอโทษมึงด้วยว่ะ วันนั้นพี่ก็ใจร้อนไปหน่อย"
"ขอโทษจริงๆนะพี่ พี่เกี้ยงด้วย"
"คร้าบ"
พี่เกี้ยงตบไหล่ผม
"ผมตัดสินใจแล้ว วันนี้ผมจะคุยกับพี่พฤกษ์ให้รู้เรื่อง...ผมจะไม่ทำร้ายพี่พฤกษ์อีกแล้ว"
"ดีแล้ว...พี่เชื่อว่าแบบนี้ดีกับมันมากกว่าเพชรปล่อยให้ค้างคาอยู่แบบนี้นะ" พี่เกี้ยงว่า
"นั่นไง มันมาละ" พี่ริวควักมือเรียกไอ้พี่พฤกษ์ที่กำลังมองหาโต๊ะพวกเราอยู่
"โทษทีว่ะ รถโคตรติดเลย"
ไอ้พี่พฤกษ์สบตาผม เราแทบไม่ได้คุยกันเลยตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
"วันนี้กูไม่แดกเยอะนะเว้ย" ไอ้พี่พฤกษ์รับแก้วที่พี่ริวชงให้
"อ้อ" พี่ริวมองมาทางผม เข้าใจว่าไอ้พี่พฤกษ์คงอยากไปส่งผมขากลับ
แต่ผมไม่อยากรอที่จะคุยแล้ว
"พี่พฤกษ์"
"ครับ"
"เพชรขอคุยด้วยหน่อยดิ"
มันพยักหน้า และเดินตามผมออกมานอกร้าน พี่ริวกับพี่เกี้ยงมองตามหลังเราทั้งคู่
ผมเดินนำมาหลังร้าน ที่ซึ่งไม่มีใครอยู่ตอนนี้
"เราเป็นไงบ้าง ทำสอบโอเคมั้ยครับ" ไอ้พี่พฤกษ์เริ่มบทสนทนาทันที
"ไม่ดี แต่ก็ไม่แย่ พี่อะ"
"ของพี่หรอ สบาย" ไอ้พี่พฤกษ์ยักไหล่
"แหม่...แล้วเรื่องอุบัติเหตุ หายดีแล้วใช่มั้ย"
"ครับ"
ผมพอทราบจากพี่ชลบ้างว่าไอ้พี่พฤกษ์กลับมาปกติดีทุกอย่างแล้ว แต่ก็อยากถามกับเจ้าตัวให้แน่ใจ
"เอ่อ..."
ผมหยุดรอให้พี่มันพูดก่อน
"ที่เรียกพี่มา จะคุยเรื่องวันนั้นใช่มั้ย"
ผมพยักหน้า
"เราไม่ต้องลำบากใจนะ ถ้าจะบอกให้พี่ไป...หรืออย่างน้อย...ถ้ายังอยากให้พี่อยู่แบบนี้...บอกมาเลยครับ"
สายตาไอ้พี่พฤกษ์สื่ออะไรออกมามากมาย ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ พี่มันทำใจไว้แล้วกับคำตอบของผม
ช่วงเวลาที่เราไม่ได้เจอกัน ไอ้พี่พฤกษ์มีทั้งเรื่องที่โรงพยาบาล เรื่องสอบ เรื่องแข่งแผนการตลาด ส่วนผมยุ่งอยู่กับหนังสือเพราะไม่เคยแตะเลยทั้งเทอม แต่ก็ได้มีเวลาทบทวนความรู้สึกตัวเองอยู่บ้าง
ผมไม่รู้เหตุผลว่าทำไมถึงไม่ผลักไสไอ้พี่พฤกษ์ แต่กลับยอมรับมันเข้ามาอย่างเต็มใจ
ผมไม่รู้ว่าทำไมความโกรธที่ทะเลคืนนั้นถึงได้ระเหยหายไปหมดแล้วในวันนี้
ผมไม่เคยเข้าใจว่าตัวเองก็แค่ตกใจที่ถูกมันบอกรัก ไม่ใช่รังเกียจหรือไม่รู้สึก
ผมไม่เคยรู้ตัวเองว่าไอ้พี่พฤกษ์ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมทีละนิดๆ จนกลายเป็นส่วนสำคัญ
ผมโกรธที่มันเคยทำตัวห่างเหิน และพยายามจะหายไปจากผม
ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเร่งรีบไปหาไอ้พี่พฤกษ์ ตอนที่รู้ว่ามันเกิดอุบัติเหตุ
ผมไม่รู้แน่ชัดว่าตัวเองเริ่มคิดถึงแต่พี่มันเมื่อไร และบอกเลิกคุยกับคนอื่นทั้งหมดไปแล้วได้ยังไง
ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกต่อไอ้พี่พฤกษ์มันไม่ใช่ฉันท์พี่น้องแล้ว โดยไม่สนใจข้อจำกัดเรื่องที่เราต่างก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่
และผมอยากมีมันอยู่ ไม่ใช่ในแบบที่มันเป็นฝ่ายวิ่งตามอย่างเดียว ไม่ใช่ในแบบที่มันเป็นฝ่ายดูแลผม
ผมอยากดูแลมันบ้าง
"ตอนนี้พี่ยังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่มั้ย"
"ครับ..."
"ถ้าสมมติเพชรไม่ปฏิเสธพี่ที่ทริป...พี่จะทำไงต่อ"
ไอ้พี่พฤกษ์เงียบไปเดี๋ยวหนึ่ง
"เอ่อ...พี่ก็คงดูแลเราเหมือนเดิมนั่นแหละ"
"จริงอ่อ"
"ครับ อย่างที่เราให้โอกาสพี่ทำ แม้ว่าจะปฏิเสธไง" ตัดพ้ออีกละ
"ถ้าเพชรขออะไร พี่จะทำให้ทุกอย่างเลยใช่มั้ย"
"ครับ พี่จะทำให้ทุกอย่าง"
"งั้น..." ผมหน้าแดง "เพชรขอให้พี่ไม่ไปไหน...แล้วก็..."
"..."
"จีบเพชรได้มั้ย"
ตอนนี้ผมรู้แล้วและมั่นใจด้วยว่าตัวเองพร้อมเปิดใจรับไอ้พี่พฤกษ์

TBC

ง่อววว เพชรพูดงี้หมายความว่าไงอะ #กองเชียร์พี่พฤกษ์

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

แหม่...อ่านช่วงแรก ๆ ของตอน  นึกว่าจะผลักไสไล่ส่ง

พอมาช่วงหลังของตอน  อ้าว  รู้ใจตัวเองแล้วซะงั้น  อิอิ

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รู้ใจตัวเองสักทีนะ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
สงสารพี่พฤกษ์มานาน จะได้เห็นรอยยิ้มพี่มันบ้างละ พยายามจีบเข้านะพี่ ถึงเวลาเอาคืนก็ทบต้นทบดอกไปเลย  :hao6:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
ดีใจกับพี่พฤกษ์

 :L2: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
EP25 "จะยกบ้านให้ทั้งหลังเลย"

"งั้น..." ผมหน้าแดง "เพชรขอให้พี่ไม่ไปไหน...แล้วก็..."
"..."
"จีบเพชรได้มั้ย"
ประโยคนั้นตามมาด้วยความเงียบยาวนาน ผมกับไอ้พี่พฤกษ์จ้องกันไปมา จนผมรอไม่ไหว
"พี่พฤกษ์"
"คะ ครับ"
"ยังอยู่กับเพชรมั้ย"
"ยะ อยู่ครับ"
ไปบอกให้เค้ามาจีบ พูดออกไปได้ไงวะ โคตรสาวเลย
"จริงเหรอครับ"
"อะ อือ"
เราต่างตะกุกตะกักกันทั้งคู่ แม่ง เกิดมาไม่เคยเขินขนาดนี้มาก่อน
"เราพูดจริงใช่มั้ยครับ"
"เออ ถามอีกครั้งเพชรจะเปลี่ยนใจละนะ" ผมเหวี่ยงกลบเกลื่อนความเขิน
ผมไม่ได้เห็นไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มกว้างมานานก็ตอนนี้แหละ ตาเป็นประกาย มันดูมีความสุขมากกว่าครั้งไหนๆที่เคยเห็น
แต่มองหน้าพี่มันได้แวบเดียวต้องหันไปทางอื่นทันที ก็มันเขินนี่ครับ
ไอ้พี่พฤกษ์หัวเราะเบาๆ ดูจะชอบใจที่ผมทำอะไรไม่ถูก
"น้องเพชร"
"อือ"
"ยังอยู่กับพี่มั้ย...หันมามองหน้ากันหน่อยสิ" ห่า ลอกคำพูดผมมาย้อนอีก
"ไม่"
"ไม่สบายรึเปล่าครับ หน้าแดงเชียว"
"ไอ้พี่พฤกษ์" ผมหันไปหามันจนได้
"โอ๋ๆ ไม่แกล้งละๆ..." มันหัวเราะ พลางจับไหล่ผมแล้วบีบเบาๆ
"งั้นไปข้างในนะ" ผมหันหลังเตรียมเดินกลับเข้าไปในร้าน คนมันอายโว้ย
"ครับๆ" มีความสุขใหญ่เลยนะพ่อคุณ "จะไม่หันมามองหน้ากันหน่อยอ่อ"
"อยากโดนต่อยปะ"
"55555555 ไม่เอาคร้าบ" ไอ้พี่พฤกษ์เดินตามผมมา "ยังไงก็ขอบคุณนะครับ"

"ไปเล่นเกมกันมั้ยพวกมึง" ไอ้นิวเอ่ยชวนหลังคาบบ่ายวันจันทร์จบลง
"เอาดิ วันนี้กูว่างพอดี มึงไปปะเพชร" ไอ้เจมส์หันมาถามผม
"เอ่อ..." ผมดันมีนัดแล้วน่ะสิ
"มึงจะเทเพื่อนอ่อ"
"อะ เออ...มึงเลยไอ้นิว ชวนปุบปับ ไม่บอกล่วงหน้า"
"อ่าว กูผิดอีก"
"โด่ ไรว้า...ว่าแต่มึงจะไปไหน" ไอ้เจมส์หันมามองผมอย่างรู้ทัน
"กูมีธุระ"
"หราาา" ประสานเสียงกันเลยทีเดียวเพื่อนผม
"ธุระนี่ใช่พี่พฤกษ์ปะวะ โอ๊ย..." ผมตบไปกลางกบาลไอ้เจมส์เต็มๆเลยครับ
"ใช่แน่ๆ" ไอ้นิวยิ้มมุมปาก
"เออ แล้วไงวะ" ผมโวยวาย
"แหม่ๆ เดทอ่อจ๊ะ" ตอนนี้ผมเกลียดเสียงไอ้เจมส์ชิบหาย "อะๆ ปล่อยมันไปเถอะไอ้นิว อย่าไปขัดขวางความรักมันเลย"
"ยังโว้ย"
"ฮั่นแน่" ประสานเสียงอีกละ
"อะไร"
"มึงบอกว่ายัง แสดงว่ามีโอกาส" ไอ้เจมส์แซว
"ไม่ใช่แค่มีโอกาส ไอ้เพชรมมันยอมให้พี่เค้าจีบขนาดนั้น กูว่าได้ชัวร์" ไอ้นิวว่า
"เพ้อเจ้อพวกมึงอะ ไปดีกว่า..."
ผมเก็บของทุกอย่างใส่กระเป๋าก่อนจะเดินหนีไอ้เจมส์กับไอ้นิวออกมา
วันนี้ไอ้พี่พฤกษ์ชวนผมไปกินข้าวที่บ้านครับ จะเรียกว่าเดทกันก็คงไม่ใช่
แล้วทำไมผมต้องเขินด้วยล่ะ แค่นึกว่าจะไปกินข้าวกับบ้านพี่มันเฉยๆ
ผมเดินมาถึงหน้ารถ volvo สีเงินที่ลานจอดรถของมหา'ลัยแล้วแต่ไม่เห็นไอ้พี่พฤกษ์ สงสัยคลาสยังไม่เลิก
จะว่าไป เรื่องผมกับไอ้พี่พฤกษ์ก็มีแค่ไอ้เจมส์ ไอ้นิว พี่ริว พี่เกี้ยงที่รู้เท่านั้น และพอสี่คนนี้รู้ว่าคำตอบของผมคืออะไรก็ช็อคไปพอๆกับไอ้พี่พฤกษ์นั่นแหละ
ขนาดตัวผมเองยังช็อคเลย
กว่าผมจะตัดสินใจได้ก็นาน
ผมมองข้ามเรื่องเพศและไม่สนใจเลยสักนิดว่าคนอื่นจะคิดยังไง
แค่ความรู้สึกอย่างเดียวก็ตอบได้แล้ว ผมรู้สึกดีกับไอ้พี่พฤกษ์ และในเมื่อมันไม่ได้ทำร้ายใคร ผมก็เปิดใจให้พี่มันสิครับ
"เพชร" ไอ้พี่พฤกษ์มาถึงจนได้ ยิ้มแป้นเมื่อเห็นว่าผมรออยู่
แกล้งมันซะหน่อยดีกว่า
"ทำไมสาย" ผมพูดเสียงเรียบ หน้าตาย
รอยยิ้มพี่มันเปลี่ยนเป็นเจื่อนทันที ก๊าก
"ขอโทษครับ อาจารย์ปล่อยเลทอะ นี่พี่รีบวิ่งมาเลย"
ชายเสื้อนิสิตหลุดออกมาจากกางเกง เห็นได้ชัดว่าพี่มันวิ่งมาจริงๆครับ
"แล้วทำไมพี่ไม่ไลน์บอกก่อน นี่มารอตั้งนานแล้วนะ"
"ขะ ขอโทษจริงๆครับ พี่ไม่รู้ว่าอาจารย์เราจะปล่อยเร็ว" มันตรงเข้ามาหา ผมถอยหนี
"รู้มั้ยว่าเพชรยืนตรงนี้มาครึ่งชั่วโมงละ" ความจริงคือยังไม่ถึงห้านาทีเลย ก๊าก
"พี่ขอโทษ" ไอ้พี่พฤกษ์หน้าจ๋อยจริงครับ
ผมหัวเราะพรืด
"โห่พี่ เพชรล้อเล่น55555555555"
"หะ...เห้ย แกล้งพี่อีกแล้วอ่อ" แล้วมันก็ตรงเข้ามาล็อคคอผมครับ
"โอ๊ย ปล่อยนะ เจ็บ..."
"ตัวแสบเอ๊ย"

"ป้าหวานหวัดดีคร้าบบบ"
ผมลงจากรถไอ้พี่พฤกษ์ปุ๊บ ก็วิ่งมาทักทายป้าแม่บ้านอย่างสนิทสนมทันที ถึงจะเคยมาที่นี่แค่ครั้งเดียวก็เถอะ
"อ้าว...น้องเพชร สวัสดีค่ะ"
"ป้าจำผมได้ด้วยอ่อ"
"แหม จำได้สิคะ น้องเพชรต่างหากจำป้าได้ด้วยเหรอ"
"จำได้สิคร้าบ ป้าหวานทำอาหารอร่อยขนาดนี้"
"โอ๊ย พูดดี เดี๋ยวเย็นนี้ป้าจัดเต็มให้อีก"
"อะแฮ่มๆ"
ผมหันไปมองคนกระแอมเสียงตาขวาง
"ป้าหวานอย่าไปหลงเชื่อนะครับ ไอ้นี่มันมาหลอกกินฟรี"
"อย่าไปสนใจเสียงนกเสียงกาเลยครับป้า เข้าบ้านกันดีกว่า"
"อ้าวเห้ย"
ผมจูงมือป้าหวานเข้าบ้านอย่างถือวิสาสะ ก่อนป้าแกจะขอตัวไปเตรียมสำรับในครัว
"นี่ ใครอนุญาตให้เข้าบ้านอะ" ไอ้พี่พฤกษ์มายืนยิ้มกริ่มอยู่ข้างๆผม จะว่าไปมันเป็นคนเคลื่อนไหวเร็วจนน่ากลัวเลยครับ ขาผมกับขามันก็ไม่ได้ยาวต่างกันมาก ขนาดผมเดินเข้าบ้านก่อนมันเดี๋ยวหนึ่งแล้ว มันยังเดินตามมาทัน
"ต้องขอด้วยอ่อ" ผมกวนตีนกลับ
"ขอดิ เจ้าของบ้านยังไม่พูดเลยนะ"
"ไหนเจ้าของบ้าน"
"ก็ยืนหล่ออยู่ข้างๆเนี่ย" พูดพร้อมยักคิ้ว น่าต่อยให้คิ้วแตก
"นี่หรอเจ้าของบ้าน นึกว่าโจรมายกเค้า"
"ไอ้เด็กบ้า"
ผมด่าเสร็จก็เตรียมจะออกวิ่งหลบเงื้อมมือไอ้พี่พฤกษ์ แต่ไม่ทันครับ มันล็อคเอวผมได้ก่อน
"ปล่อยนะเว้ย" ผมแหกปาก
"ไม่ปล่อย" ยิ้มด้วยแน่ะ โรคจิตชิบ
"ปล่อยยย"
"ม่าย"
"ปล่อยเลย"
"ไม่ เจ้าของบ้านยังไม่อนุญาตให้ไปไหนนะ"
"เรียกตัวเองว่าเป็นเจ้าของบ้านอยู่นั่นแหละ ถ้าเชิญแขกมาแล้วทำงี้ เพชรกลับละ"
ผมดิ้น แกล้งงอแงให้มันปล่อย
"โอ๋ อย่ากลับเลยน้า พี่แกล้งเล่นนะครับ" นั่น เสียงหวานเชียว สู้ด้วยแรงไม่ได้ก็ต้องวิธีนี้แหละ
ว่าแต่วิธีผมเนี่ย สะดีดสะดิ้งเหมือนผู้หญิงเค้าทำกันเลยแฮะ
"งั้นก็ปล่อยดิ"
"อะๆ ปล่อยก็ได้"
ผมกับคุณเจ้าของบ้านตรงไปนั่งที่โซฟาตัวยาวที่ห้องรับแขก รอทานอาหารพร้อมกับพ่อแม่และพี่ชล
"ถ้าคราวหลังอยากเข้าบ้านดีๆเลยก็มีวิธีนะ" ยัง ยังไม่จบเรื่องนี้อีก
"อะไร"
"ก็..." ไอ้พี่พฤกษ์ขยับหน้าเข้ามาใกล้และลดเสียงลงเป็นกระซิบ "มาเป็นแฟนเจ้าของบ้านไง จะได้ยกบ้านให้ทั้งหลังเลย"
อ้วกกกกก จีบกันแบบนี้
"ถุย ไม่เอา"
"ใจร้าย" ห่า ทำเสียงแอ๊บแบ๊วอีกแน่ะ
"หิวๆๆๆๆๆ"
เสียงพี่ชลมาถึงพร้อมๆกับที่ผมได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาในบ้าน ผมมองไปทางประตูหน้าก็เห็นแกเดินหอบของมาเต็มไม้เต็มมือเลยครับ
"กูคิดว่าพ่อกับแม่จะกลับมาแล้วนะเนี่ย...หวัดดีเพชร" พี่ชลพูดกับน้องชายก่อนจะหันมารับไหว้ผม
"นั่นดิ แล้วพี่ถืออะไรมาเยอะแยะวะ"
"งานดิวะถามได้ ลูกค้าแม่งเรื่องมากชิบหาย สั่งแก้แล้วแก้อีก" พี่ชลหน้ามุ่ย แกทำงานด้าน organizer น่ะครับ รับจัดงานนู่นนี่นั่นมากมาย แถมทำในบริษัทชื่อดังด้วยนะ ได้ยินว่าจบงานนึงรับทรัพย์อื้อเลย "ตามสบายเลยนะเพชร เดี๋ยวพี่เอาของไปเก็บก่อน..."
"ทำไมเวลาเจอพี่ไม่ไหว้เหมือนตอนพี่ชลอะ" คุณเจ้าของบ้านหันมาหาเรื่องทันที
"ก็ความน่านับถือมันไม่เท่ากันไง โอ๊ย" เจ็บนะเว้ย เขกหัวมาได้
"หมายความว่าพี่ไม่น่านับถือรึไง"
"ยังจะถาม"
"น้องครับ seniorityอะรู้จักมั้ย" มันเก๊กเสียงเข้ม ตีหน้าขรึม ทำอย่างกับว่าเราอยู่ในช่วงเวลารับน้อง
"มาเล่นบทพี่โหดอะไร เพชรไม่เชื่อหรอก"
ไอ้พี่พฤกษ์ทำหน้าบูด
"ว้า พอหมดกิจกรรม รุ่นน้องก็หมดความเคารพรุ่นพี่ซะละ"
"ไม่ใช่ไม่เคารพ แต่มันไม่เนียนเว้ย" ผมพูดกลั้วหัวเราะ
"ถามจริง ตอนรับน้องเราไม่เชื่อเลยอ่อ"
"ไม่อะ...พี่ลองคิดดูนะ มีเหตุผลอะไรที่อยู่ๆรุ่นพี่เรียกรุ่นน้องไปด่า ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด"
"พี่ไม่ได้ด่านะ"
"หราาา"
"เออ เค้าเรียกว่าเข้มงวดกว่าปกติ"
"ก็นั่นแหละ ไม่ใช่ทุกคน แต่ก็ส่วนใหญ่อะที่ดูออก ว่าพวกพี่แกล้งทำ"
"อืมม แล้วเราคิดว่ามีวิธีไหนที่จะฝึกระเบียบ ฝึกความสามัคคี สอนให้น้องใหม่รู้จักเพลงเชียร์ เพลงสำคัญๆของคณะ และได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากร่วมกับเพื่อนๆได้ดีกว่าวิธีนี้ล่ะ"
"เอ่อ...ไม่รู้อะ แต่เพชรว่ามันต้องมีวิธีที่ดีกว่า"
"แล้ววิธีอะไรล่ะครับ"
"ก็บอกว่าไม่รู้ไงฟะ- -"
"เห็นมะ เพราะงั้นพวกพี่ก็เลยต้องทำตามประเพณีเดิมไปก่อน ถ้าตอนที่เพชรขึ้นมาเป็นรุ่นพี่แล้วคิดวิธีที่ดีกว่าได้ ก็ลองพิจารณาเปลี่ยนดูนะครับ"
เป็นงานเป็นการ เป็นเหตุเป็นผลจริงๆนะไอ้พี่พฤกษ์
"อือ"
"เอาจริงๆ พี่ก็ไม่อยากจัดกิจกรรมที่มันเครียดๆให้พวกเราหรอกนะ เห็นมั้ยว่าว้ากปลอมมีวันเดียวเอง ที่เหลือเป็นกิจกรรมสนุกๆที่กรุ๊ปแทน"
"เออ ดีแล้ว ขืนว้ากทุกวันน้องไม่ไหวกันพอดี"
"จริงครับ อันนี้พี่เห็นด้วย" มันยิ้มแล้วลูบหัวผม "หิวรึยังเรา"
"นิดๆ" ผมยอมรับตรงๆ
"งั้นกินอะไรรองท้องก่อนมั้ย ไม่รู้ว่าพ่อแม่พี่จะกลับมาถึงกี่โมง"
"ไม่เป็นไร ยังไหวอยู่"
"ครับผม"
ตอนนั้นเอง เสียงรถแล่นเข้ามาอีกคัน
"พ่อแม่หวัดดีครับ" ผมกับไอ้พี่พฤกษ์ลุกไปสวัสดีพ่อกับแม่ ทั้งสองคนหันมายิ้มแป้นให้ผม
"หวัดดีลูก...เป็นไงบ้างน้องเพชร สบายดีมั้ยจ๊ะ"
"สบายดีครับ"
"โทษที ให้รอตั้งนานแน่ะ วันนี้รถติดมาก...เดี๋ยวไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารได้เลยนะ พ่อขออีกห้านาที"

"ทานละนะครับ"
พี่ชลเริ่มลงมือตักกับข้าวเป็นคนแรกเมื่อทุกคนมาพร้อมหน้ากัน พ่อกับแม่หัวเราะ
"ไปหิวมาจากไหนเนี่ยแก" พ่อถาม
"โห่พ่อ วันนี้ชลกินข้าวไปมื้อเดียวแล้วก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย แก้งานให้ลูกค้าทั้งวัน"
"เหนื่อยก็มาทำที่บริษัทเรามั้ยล่ะ"
"ขอชลเก็บประสบการณ์อีกเดี๋ยวนะพ่อ เดี๋ยวจะกลับมาบริหารบริษัทเราแบบจัดเต็มเลย"
"ถ้าแม่ให้เงินเดือนแกมากกว่าที่แกได้อยู่สองเท่าล่ะ มาทำเลยมั้ย" แม่พูดบ้าง
"เดี๋ยวผมโทรลาออกแปบ" ทุกคนหัวเราะ
"ระวังนา มัวแต่ทำ organize เดี๋ยวพฤกษ์มันจบแล้วจะมาบริหารก่อนแก" พ่อหันมาหาไอ้พี่พฤกษ์
"พฤกษ์ยังไม่แน่ใจเลยครับ อาจจะทำข้างนอกก่อน แล้วกลับมาทำที่บริษัทเราทีหลัง" ไอ้พี่พฤกษ์ตอบ
"เห็นมั้ยครับ ชลสร้างแนวทางให้น้องเดินตาม"
"ใครเดินตามพี่ พฤกษ์เลือกเองต่างหาก"
"หราา มึงเลียนแบบกูตั้งแต่เลือกคณะแล้วโว้ย"
"โด่ พฤกษ์ชอบmarketingตั้งนานแล้ว"
"เถียงกันไม่อายแขกเลยนะพวกแก ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้" แม่ปรามแต่ก็ขำไปด้วย
"ก็มันจริงนี่ครับ พฤกษ์มันเลียนแบบชล"
"เหตุการณ์ปกตินะลูก อย่าไปสนใจ" พ่อหันมาบอกผมยิ้มๆ
แสดงว่าพี่ชลก็จบ marketing เหมือนไอ้พี่พฤกษ์สินะ
ผมพึ่งสังเกตเห็นว่าสองพี่น้องเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อกันทั้งคู่ และเข้าใจแล้วว่ามันดูอบอุ่นและสนิทสนมกับคนในครอบครัวดี หรือที่ไอ้พี่พฤกษ์บอกให้ผมแทนตัวเองว่าเพชรก็เพราะเหตุผลนี้กันนะ
"น้องเพชรล่ะจ๊ะ เรียนmarketingด้วยรึเปล่า" แม่หันมาถามผมแล้ว ทุกคนมองมาที่ผม
"financeครับ"
"อ๋อ ทีแรกแม่เข้าใจว่าเรียนmarketingเหมือนเจ้าสองคนนี้"
"แล้วคิดไว้รึยังว่าจบไปจะทำอะไร" พ่อถามบ้าง
"ยังไม่ได้คิดจริงจังเลยครับ แต่ผมสนใจเรื่องหุ้น เรื่องลงทุนไรงี้ครับ เลยตัดสินใจเรียนสาขานี้" ผมตอบเหมือนที่เคยตอบไอ้พี่พฤกษ์
"ดีแล้ว พ่อว่าfinanceตอนนี้กำลังบูม"
"แล้วที่บ้านน้องเพชรทำอะไรเหรอจ๊ะ" แม่กลับมาถามต่อ
ไอ้พี่พฤกษ์ดูสนใจหัวข้อนี้ขึ้นมา ผมยังไม่เคยเล่าเรื่องครอบครัวตัวเองให้มันฟังเลยนี่นะ
เพราะผมไม่อยากจะนึกถึงมัน
"เอ่อ พ่อผมเป็นวิศวกร ส่วนแม่...ทำมูลนิธิครับ"
"โอ้โห ดีจังเลยนะ...ว่าแต่มูลนิธิด้านไหนหรอจ๊ะ"
ถ้าไม่ใช่ผู้ใหญ่ถามล่ะก็ ผมไม่อยากพูดถึงพ่อแม่ตัวเองเลย
"ช่วยเหลือ...เด็กกำพร้าน่ะครับ"
"ว้าว" พ่อกับแม่ไอ้พี่พฤกษ์ร้องเบาๆ สีหน้าดูประทับใจ
ใช่ครับ ใครๆรู้ก็ประทับใจทั้งนั้น แต่ผมไม่ประทับใจสักนิด
"บ้านเราอยู่แถวไหนล่ะ"
"ผมอยู่คอนโดแถวมหา'ลัยครับ"
"แล้วพ่อกับแม่พักที่ไหน"
"อยู่แถวหนองแขมครับ"
"พ่อกับแม่นี่สัมภาษณ์อย่างกับน้องเค้าทำความผิดมาแน่ะ ดูสิ ไม่กล้าตักอาหารเลย" พี่ชลแซวทั้งพ่อแม่ทั้งผม
"เอ้า กินสิลูก ไม่ต้องเกรงใจ" พ่อรีบบอก
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มกว้าง ตักกับข้าวให้ผม
"พฤกษ์ตักให้น้องอีกเยอะๆเลยลูก" แม่บอก
"อยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย" มันถาม
"ได้หมด"
กับข้าววันนี้มีหลายอย่างครับ ปูผัดผงกะหรี่ ฉู่ฉี่ปลา แกงจืดเต้าหู้หมูสาหร่าย น้ำพริกกะปิ ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผมก็ชอบทุกอย่างตามที่ตอบไอ้พี่พฤกษ์เลยนะ
เพราะงั้นมันเลยตักทุกอย่างใส่จานผม
"พอแล้วพี่ เดี๋ยวกินไม่หมด"
"แหม่ ทำเป็นอาย ครั้งที่แล้วกินแทบไม่เหลือ"
ทุกคนหัวเราะ ผมมองตาเขียวใส่คนแซว
"คืนนี้เพชรนอนที่นี่รึเปล่า" พี่ชลถาม
"ไม่ได้นอนครับ เดี๋ยวทานเสร็จก็กลับเลยครับ"
"นอนบ้านพี่ดีกว่านะ นี่สองทุ่มแล้ว กว่าจะกลับถึงคอนโดเราก็คงดึก"
"ใช่ลูก นอนที่นี่เถอะ แล้วพรุ่งนี้ก็ไปเรียนพร้อมเจ้าพฤกษ์มันเลย" แม่เสริม
"เอ่อ..."
ผมมองไอ้พี่พฤกษ์ มันยิ้มอย่างมีเลศนัย
"ครับ"

"ยังอิ่มอยู่เลยอะ" ผมบอกไอ้พี่พฤกษ์ ตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงคืนแล้วครับ ผมพึ่งอาบน้ำออกมา ส่วนคุณเจ้าของบ้านเค้าก็นอนเล่นมือถืออยู่บนเตียง
"พี่ก็อิ่ม" มันละสายตาจากโทรศัพท์มาหาผม และจ้องร่างกายผมไม่วางตา
"มองไร" เนื่องจากมีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวห่อหุ้มท่อนล่าง จะไม่อายเลยครับถ้าคนที่มองอยู่ไม่ใช่คนที่คิดอะไรกับผม
"มองแขกไง ไม่ได้อ่อ" กูหวั่นสายตามึงจริงๆนะไอ้พี่พฤกษ์
คุณเจ้าของบ้านหัวเราะเบาๆ
ปกติอยู่คอนโดก็ใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียว แต่คืนนี้ต้องนอนกับไอ้พี่พฤกษ์ เลยเพิ่มเสื้อยืดอีกตัวเพื่อความปลอดภัยครับ
เสื้อผ้าที่ผมใส่อยู่ทั้งชุดก็ของไอ้พี่พฤกษ์นี่แหละครับ
"มาๆ นอนๆ" พูดพร้อมทำท่าตบเตียงตรงที่ว่างข้างๆ บรึ๋ย สยิว
"ท่าพี่แม่งหื่นชิบหาย เลิกทำเหอะ"
"ลั่น5555555555"
"ยังจะมีหน้ามาขำอีก"
ผมปิดไฟปีนขึ้นไปนอน ไอ้พี่พฤกษ์หัวเราะนิดหน่อย แต่ก็ตะแคงข้างหันหลังให้ผม
เออ ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
ผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมงได้ ผมยังตื่นเต็มตาอยู่ แล้วก็มีแขนมาพาดบนเอว
เชี่ย ไอ้พี่พฤกษ์
ผมดึงแขนมันออก แต่มันเอากลับมาพาดใหม่ ผมดึงออกอีกครั้ง มันก็เอากลับมาพาดอีก แถมกระชับวงแขนให้ผมเข้าไปใกล้ตัวมันมากขึ้นด้วย
แสดงว่ามึงไม่ได้หลับละ
เพราะงั้นผมเลยยกขาถีบเต็มๆเข้าที่หน้าท้องไอ้พี่พฤกษ์ เกิดเสียงโครมเมื่อตัวมันกระเด็นไปเกือบตกเตียง
"โอยยยยยย...เราถีบพี่ทำไมเนี่ย"
"แกล้งหลับอ่อ ไม่เนียน"
"พี่เจ็บนะครับ" ไม่ต้องทำหน้าน่าสงสารเลย มึงแม่งไว้ใจไม่ได้
"ถ้ากอดอีก พี่โดนหนักกว่าเมื่อกี้แน่"
"ทำกับเจ้าของบ้านงี้ได้ไง"
"ก็เจ้าของบ้านแม่งวิตถาร"
"แขกตีนหนักชะมัด อูยย"
"นอนๆ" ผมหัวเราะ
"ขอกอดหน่อยก็ไม่ได้"
"ลองอีกทีมั้ยล่ะ"
"ลองกอด" ไม่เข็ด
"ลองถีบ"
"ไม่กอดก็ได้คร้าบบบ" ไอ้พี่พฤกษ์ทำหน้ามุ่ย

TBC

บอกแล้วว่าเพชรมันไม่ง่าย555 #กองเชียร์พี่พฤกษ์

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
55 นุ้งเพชร รุนแรงกับพี่

 :L2: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รุนแรงแบบนี้ลูกหัวปีท้ายปีแน่ๆ5555

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
EP26 "ให้จับแปบนึง..."
พี่พฤกษ์

"มาซะเช้าเลยนะ"
เพชรบ่นพลางหาว แต่ผมยืนยิ้มกว้าง เวลาน้องหงุดหงิดทีไรอดยิ้มไม่ได้เลยครับ
"เช้าอะไร นี่แปดโมงแล้วนะ"
"แปดโมงบ้านพี่เรียกบ่ายรึไง" นั่น ผมโดนเลยหนึ่งดอก
"เรียกสายเว้ย"
"ตกลงคันพี่นี่มีแค่เราสองคนใช่ปะ"
"ครับ...ชอบคำว่าเราสองคนจัง"
"เลี่ยน"
ผมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"แล้วอีกคันออกรึยังเนี่ย"
"ออกแล้วนะ พี่โทรคุยกับไอ้ริวเมื่อกี้"
ทริปเขาใหญ่วันนี้ผมเป็นคนจัดการทุกอย่างครับ ทั้งเตรียมรถ จองที่พัก หาร้านอาหาร คนที่ไปก็มีผม เพชร ไอ้ริว ไอ้เกี้ยง เจมส์ นิว รวมเป็นชายฉกรรจ์หกคน ค้างหนึ่งคืน ชิวๆ ถือว่าสูดอากาศครับ
เราแบ่งกันไปด้วยรถสองคัน แน่นอนว่าผมขอความร่วมมือ(แกมบังคับ)ให้สี่คนที่เหลือไปคันไอ้ริว และขอน้องมากับผม
หึหึ
"เรามีแค่กระเป๋าใบเดียวเหรอ"
ผมถามเพราะเห็นว่าน้องสะพาย kanken อยู่ใบเดียว
"ไปคืนเดียวเอง เอาไรไปเยอะแยะ"
ผมนำน้องไปยังรถที่จอดไว้ใต้คอนโด ไม่ชักช้าให้เสียเวลาครับ วันหยุดแบบนี้ยิ่งออกเดินทางช้ารถยิ่งติด
"งี้พี่ตื่นตั้งแต่กี่โมงเนี่ย ต้องมาแวะรับเพชรอีก"
"หกโมงนิดๆครับ"
"โห เพชรตื่นหกโมงล่าสุดก็ตอนประถมฯอะ"
ผมยีหัวน้องเล่นอย่างเอ็นดู
พอขึ้นรถปุ๊บ เพชรก็มีทีท่าเหมือนจะนอนต่อทันที
"จะนอนเหรอ คุยเป็นเพื่อนพี่ก่อนดิ"
"ไม่อะ ง่วง"
นี่แหละครับเพชร ตรงไปตรงมา สั้นๆได้ใจความ ถึงบางครั้งจะดูโหดไปหน่อยก็เถอะ
ผมชวนไปงั้นแหละครับ เจ้าตัวตาจะปิดเต็มที ให้พักผ่อนเยอะๆดีกว่า
"ใจร้ายง่ะ"
"อย่าทำเสียงแบ๊วดิ แก่ละนะ"
"แก่กว่าเราสองปีเอง" ผมพูดกลั้วหัวเราะ
"ไม่ๆ หมายถึงหน้า555555" ก้มหลบฝ่ามือผมทันอีกแน่ะ
"ถามจริง"
"เรื่อง?"
"หน้าพี่แก่อ่อ"
"ไม่หรอก" ตอบได้ดี
"แต่เราอะดูแก่55555555"
"ไอ้พี่พฤกษ์"
ขอกวนตีนกลับบ้างนะ
"แวะซื้ออะไรกินก่อนมั้ย อีกประมาณสามชั่วโมงเลยนา"
"ไม่หิวอะ"
ตอนนี้เพชรนั่งยืดตัวขึ้น ตาจ้องมองไปบนถนนข้างหน้า
"แล้วไม่นอนเหรอครับ"
"เอ้า" น้องหันมาหาผม คิ้วขมวด "ก็พี่ให้อยู่เป็นเพื่อนไม่ใช่อ่อ"
น่ารักกกกกก ละลายแล้วผม
"นอนก็ได้นะครับ เดี๋ยวเพลียแล้วจะเที่ยวไม่สนุก"
"พี่ขับได้ใช่ปะ"
"สบายมากครับ เรานอนเถอะ"
จบประโยคผมยังไม่ทันถึงนาที น้องก็หลับคอพับคออ่อนไป ถึงช่วงติดไฟแดง ผมอดใจไม่ไหวต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บภาพประทับใจไว้ครับ
หึหึ พลาดแล้วที่รัก
เมื่อขับมาได้สักครึ่งทาง ผมตัดสินใจแวะปั๊ม
"เพชร...เพชรครับ"
ผมเขย่าหน้าขาน้องเบาๆ
"อือออ"
"แวะปั๊มแปบนึงครับ"
"ถึงแล้วอ่อ..."
"ยังครับ แวะปั๊มก่อน"
เพชรตรงรี่ไปที่7-11ก่อนผมจะดับเครื่องซะอีก ไหนบอกไม่หิว- -
"อะ ซื้อมาให้"
น้องยื่นกาแฟกระป๋องให้ผมทันทีที่ตามเข้าไป
ผมยิ้มแก้มปริ
"ขอบคุณนะครับ...โอ๊ย"
"มือปลาหมึก"
ผมรับกาแฟโดยไปจับมือน้อง เลยโดนตีมือเข้าให้
ของแบบนี้รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลองครับ5555

"วันนี้มึงขับช้ากว่ากูได้ไงวะ" ไอ้ริวทักทันทีที่รถเข้ามาจอดในบ้านพักเสร็จเรียบร้อย "เพราะคนนั่งมาด้วยใช่มั้ยล่ะ"
"กวนตีน" ผมว่ายิ้มๆ
"ไอ้เพชรรรรรร" เจมส์วิ่งมากระโดดกอดเพชร จริงๆแล้วน้องมันเป็นคนตลกมากเลยนะครับ5555
"ไม่ต้องรักกูขนาดนั้นก็ได้" เพชรทำหน้าเบื่อหน่าย
"ไรวะ กูคิดถึงมึงนะ"
"กูจะอ้วก"
"ไหนกูขอกอดด้วยดิ" นิวตามมาสมทบอีกคน
"พอเลยมึง แค่เชี่ยนี่ก็อึดอัดจะแย่"
ผมเองก็อยากขอกอดกับเค้าบ้าง แต่กลัวโดนถีบ- -
"แล้วไอ้เกี้ยงอะ" ผมหันไปถามไอ้ริว
"มันคุยกับเจ้าของบ้านพักอยู่"
เห็นว่าบ้านของคุณเจ้าของก็อยู่ติดๆกันกับบ้านพักพวกเรานี่แหละครับ
"กูนอนห้องไหนวะ"
"ชั้นสอง ห้องขวามือจากบันได"
"ห้องผมล่ะพี่" เพชรถามบ้าง
หึหึ
"ก็ห้องเดียวกับไอ้พฤกษ์น่ะแหละ" ไอ้ริวยิ้มมุมปาก
"เห้ย ไม่เอา" น้องโวยวายขึ้นมา ดูหวาดผวาที่ต้องนอนกับผมยังไงไม่รู้
"ทำไม ไม่อยากนอนกับเพื่อนพี่อ่อ"
"ผมจะไปนอนกับเพื่อน"
"นอนห้องละสองคนเว้ย กูนอนกับไอ้นิวแล้ว" เจมส์บอก
"แล้วพี่ก็นอนกับพี่เกี้ยง"
"อะไรวะ..." น้องถือกระเป๋าเดินขึ้นห้องไปเลย สงสัยเขิน555
"ฮั่นแน่" เจมส์ส่งเสียงแซว
"รีบตามเมียมึงไปดิ" ไอ้ริวกระซิบกับผม
"ยังโว้ย"
ผมตามน้องขึ้นมาอย่างว่องไว พอเห็นว่าในห้องมีเตียงใหญ่อยู่เตียงเดียว ผมยิ้มกริ่มเลย
"ทำไมหน้าบึ้งแบบนั้นครับ"
"ถามทำไม กวนตีนอ่อ"
"เค้าไม่รู้เรื่องจริงๆ" ใส่เสียงแอ๊บแบ๊วลงไปด้วย เผื่อน้องจะเห็นใจ
"ไม่ต้องเลย"
"ไม่อยากนอนกับพี่เหรอคร้าบบ"
"เออดิ"
ผมแกล้งทำท่าสลด
"ก็พี่ชอบมากอดเพชรอะ"
"พี่ชอบละเมอน่ะ"
"ละเมอบ้าไร เพชรรู้นะว่าพี่แกล้ง"
อ้าว รู้ได้ไงวะ
"แหะๆ" เกาหัวแกรกๆ ไปไม่ถูกเลยผม
"ถ้าคราวนี้มากอดอีก จะถีบให้ตกเตียง"
"โถ่ ถ้าเราถีบบ่อยๆแล้วพี่ช้ำในขึ้นมาจะทำไง"
"ก็ตายไง"
"แล้วเพชรไม่เสียใจอ่อ"
"ไม่เสียใจโว้ย"
น้องหยิบเสื้อผ้าออกมาจัดวาง
"กลัวพี่อ่อ" ผมเนียนเข้าไปนั่งใกล้ๆ
"ยังมีหน้ามาถามอีก"
"ไหนบอกซิกลัวอะไร"
"กลัวพี่ข่มขืนไง" น้องพูดหน้าตาย
"ลั่น5555555555555...โอ๊ย" ผมโดนถีบอีกแล้ว รอบนี้ลงไปกองกับพื้นจริงๆ
"สม"
"ใครต้องกลัวใครกันแน่เนี่ย โอยยย"
น้องหัวเราะสะใจ
"ไปกินข้าวกัน หิว"
"มาช่วยพี่หน่อย ลุกไม่ไหว" ไหนลองอ้อน
"ลุกเองดิ"
น้องเดินหนีไปแล้วครับ มันน่านัก

"ใครอยากกินอะไรสั่งเต็มที่เลยนะ มื้อนี้ไอ้พฤกษ์เลี้ยง" ไอ้เกี้ยงประกาศเมื่อทุกคนมาถึงร้านอาหาร
"เห้ย กูพูดตอนไหนวะ"
"ตอนนี้ไงเพื่อน อะ มึงเลี้ยง"
"เดี๋ยวไอ้ริว กูยังไม่ตกลงเลย"
"โห่พี่" เจมส์พูดขึ้น "ไม่ป๋าเลย"
"อ้าว"
"มากับรุ่นพี่ทั้งที รุ่นพี่ก็ต้องเลี้ยงสิคร้าบ" ไอ้เด็กนี่มันร้ายจริงๆครับ
ไอ้ริว ไอ้เกี้ยง นิวหัวเราะ
ผมหันไปสบตาเพชร น้องฉีกยิ้มชั่วร้ายใส่
"งั้นมื้อนี้ไอ้พฤกษ์ เคนะ"
"ดีล"
"ไม่โว้ย" ผมโบกหัวไอ้ริวกับไอ้เกี้ยงด้วยมือคนละข้าง "รับผิดชอบร่วมกับกูเลย"
"พี่พฤกษ์เลี้ยงหน่อยดิ"
ผมอึ้ง น้องเอื้อมมือมาเขย่าแขนผม เป็นครั้งแรกที่น้องอ้อนเลยนะเนี่ย
"นะคร้าบ"
เสียงหวานแบบนั้น โคตรชอบเลยครับ
"เอ่อ พี่เลี้ยงก็ได้"
หลังคำตอบรับของผมตามมาด้วยเสียงประท้วงโวยวายจากไอ้ริวกับไอ้เกี้ยง และเสียงเฮจากเจมส์กับนิว
"สาด ทีไอ้เพชรขอล่ะยอม"
"เออ สองมาตรฐานว่ะ"
"ไม่ต้องเลี้ยงหรอกน่า แชร์กันเนี่ยแหละ เพชรล้อเล่น" เพชรบอก ยักคิ้วหลิ่วตาใส่อีก เดี๋ยวจะโดนดี
ทำให้พี่เสียหลักได้ไง
สั่งไปเดี๋ยวเดียวอาหารก็มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะครับ ผมตักให้เพชรเป็นคนแรกเลย
"เอ่อ...ขอบคุณครับ"
ผมถองไอ้ริว ห่า มองผมกับน้องอยู่ได้
แต่ไอ้เกี้ยงกับน้องอีกสองคนก็มองอยู่เหมือนกัน
บางครั้งเพชรก็ดูออกง่ายมาก โดยเฉพาะเวลาที่ไม่พอใจ อารมณ์จะสื่อออกมาผ่านสีหน้าให้เห็นชัดเจนเลยครับ แต่บางครั้งก็อ่านยากมาก ผมพยายามที่จะค้นหาความรู้สึกนึกคิดของน้องอยู่ อย่างเช่นตอนนี้ ผมไม่รู้เลยว่าน้องกำลังคิดอะไรในหัว
"พี่ไม่กินรึไง"
จู่ๆน้องก็เงยหน้าขึ้นมาถามผมบ้าง
"พี่เค้ามองมึงจนอิ่มแทนข้าวละ"
"ฮิ้วววว"
เจมส์แซว ตามด้วยเสียงรับของไอ้ริว
ไอ้พวกบ้า
ทีนี้น้องเลยกลับไปก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียวครับ

พวกเราไปสวนสัตว์ Khaoyai exotic zoo กันต่อหลังอาหารเที่ยง ดูน่ารักขัดกับการที่ผู้ชายหกคนมาเที่ยวใช่ไหมครับ555
จริงๆผมไม่มีที่ไหนที่ชอบเป็นพิเศษหรอก ใครชวนไปไหนก็ไปได้หมดแหละ
แต่ที่เลือกมาสวนสัตว์เนี่ย เพราะมีคนเค้า request มาน่ะ

'พี่พฤกษ์'
'คร้าบ'
'เขาใหญ่อะ แพลนจะทำไรบ้าง'
'ตอนนี้พี่ดูไว้มีแค่ที่พักกับร้านอาหารแฮะ' ผมตอบกลั้วหัวเราะ
'อ่อ'
'เราอยากทำไรล่ะ'
'เอ่อ'
ยังไม่รู้หรอกว่าเพชรอยากทำอะไร แต่ท่าทางแบบนั้นดูเหมือนเจ้าตัวกำลังเขินนิดๆ
'ไหนบอกพี่ดิ'
'ห้ามหัวเราะนะเว้ย'
'คร้าบ บอกมาเถอะ'
'เพชรอยากไปสวนสัตว์อะ'
ผมอึ้ง
'ตลกอะดิ'
'หืม ไม่ตลก...แต่ทำไมเราถึงอยากไปล่ะ'
'เพชรชอบดูสัตว์ มันน่ารักดี'
ผมยิ้ม ไม่รู้มาก่อนเลยว่าน้องชอบอะไรแบบนี้
'ได้ครับ งั้นหลังมือเที่ยงวันแรกเราไปกันเลย'
'เย่'
'งี้เราไปสวนสัตว์บ่อยปะ'
'เด็กๆอะบ่อย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ไปนานแล้ว...พี่รู้มั้ย เพชรอะอยากเลี้ยงหมาสักตัว'
'ก็เลี้ยงดิ'
'อยู่คอนโดมันเลี้ยงไม่ได้ดิ'
'ไม่ๆ พี่หมายถึงที่บ้านเรา'
'เอ่อ...เพชรไม่ค่อยได้กลับบ้านน่ะ'
'อ้อ...จะว่าไป พี่ก็อยากเลี้ยงนะ'
'เลี้ยงดิ เพชรจะได้แวะไปเล่นกับมัน'
'ไม่ใช่หมา'
'แล้วอยากเลี้ยงไร'
'อยากเลี้ยงเราไง จะดูแลอย่างดีเลย'
จบประโยคนั้น น้องทำท่าโก่งคออาเจียนใส่ผมTT

"อะไรดลใจให้มึงมาสวนสัตว์วะไอ้พฤกษ์" ไอ้ริวถามถึงแม้รถทั้งสองคันจะเข้ามาจอดอยู่ในพื้นที่ของสวนสัตว์แล้วก็ตาม
ผมหันไปมองหน้าเพชร น้องขึงตาใส่
รู้ทันทีว่าห้ามบอก
"มีคนเค้าอยากมา"
เท่านั้นแหละ ทุกคนหัวเราะลั่นเลย
"มึงเนี่ยนะเพชร" เจมส์ร้อง
"แบ๊วสาดดด" นิวว่า
"เออ กูอยากมา มีปัญหาไรมะ"
ผมยิ้มขำที่เห็นน้องโวยวาย ไอ้ผมก็นิสัยไม่ค่อยจะดี ขี้แกล้ง
หลังจ่ายเงินค่าเข้าเรียบร้อย เพชรเค้าก็คว้ากล้องขึ้นมาสะพายแล้วออกเดินไปโดยไม่รอใคร
"น้องมันงอนมึงปะวะ" ไอ้เกี้ยงสะกิด
"หน้าบูดเชียว ทำไงดีวะ"
"ไปง้อดิ รอไรวะ"
"เออๆ"
เหมือนเจ้าตัวจะรู้เลยว่าเป็นผมที่เดินเข้าไปใกล้
"มาทำไม"
"น้องเพชรคร้าบบบ"
"..."
"งอนปะเนี่ย"
"ไม่ได้งอน"
ผมกลั้นขำ ขนาดไม่ได้งอน ให้เด็กอนุบาลมาฟังยังรู้เลยว่าน้ำเสียงกำลังไม่พอใจ
"เสียงแข็งขนาดนั้นไม่งอนได้ไง"
"อย่ามาเกะกะ จะถ่ายรูป"
"คุยกันก่อนดิ"
ผมเอาตัวไปยืนขวางกรงลิงที่น้องมาถึงเป็นที่แรก ดูซิ ระหว่างลิงกับไอ้พฤกษ์ น้องจะเลือกอะไร
"ไม่คุย"
"จะคุย มีไรปะ" ผมยักคิ้วกวน
"งั้นก็ยืนคุยกับลิงไป"
ผมรีบคว้าแขนน้องที่กำลังจะเดินหนีไปทันที
"โอเคๆ พี่ขอโทษ"
ไม่เล่นแล้วครับ รู้สึกว่าครั้งนี้น้องโกรธจริงๆ
"ขอโทษเรื่องอะไร"
"ก็ที่บอกคนอื่นว่าเราอยากมาสวนสัตว์ไงคร้าบ"
"รู้ตัวด้วยอ่อ"
อื้อหือ ประชดประชัน
"รู้ดิ เห็นหน้าเราก็รู้แล้วว่าโกรธ...งั้นต่อไปนี้พี่จะไม่ทำอีก โอเคมั้ยครับ"
"ตลอดอะ"
"อะไรตลอด?"
"ชอบสัญญาแต่ไม่รู้ว่าจะทำได้รึเปล่า"
"โถ่ พี่ไม่เคยผิดสัญญากับเราเลยนะ"
"เออๆ พูดมาก"
"เดี๋ยว"
"จะจับมือเดินทั้งวันเลยรึไง ปล่อยได้แล้ว"
"ยังไม่เคลียร์เลย สรุปหายโกรธพี่ยัง"
"ยัง"
"อ้าว"
"ถ้าทำอีก โดนถีบขาคู่แน่"
นั่น
"ส่งซิกให้แล้วยังจะบอกอีก"
"ไม่บอกแล้วคร้าบ พี่ไม่รู้ว่าเพชรจะอายขนาดนั้นนิ"
"จริงๆไม่ได้อายหรอก แค่หงุดหงิดที่พี่ชอบแกล้ง...ไม่ได้ดั่งใจ"
พูดพร้อมส่งสายตาคาดโทษมาให้ด้วย น่ากลัวหน่อยๆแฮะ
"ก็ได้ งั้นจะแกล้งนิดๆหน่อยๆพอ เคนะ"
"ถุย นิดๆหน่อยๆ"
"55555555555"
ผมยอมปล่อยมือน้อง(ส่วนหนึ่งก็เพราะกลัวด้วย- -) และเดินตามไปเงียบๆ
เพชรชอบสัตว์จริงๆครับ แวะดูเป็นเวลานานและถ่ายรูปแทบจะทุกชนิด ที่อยู่นานมากก็เห็นจะเป็นสิงโตเนี่ยแหละ
ดูเหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นเยอะเลยแฮะ
"ชอบสิงโตเหรอ"
"อือ"
"เพราะไรอะ"
"เด็กๆชอบดู lion king มั้ง" น้องหัวเราะ
"อ้อ" ผมยิ้ม
"มันเท่นะ...ไม่รู้ดิ ดูน่าเกรงขาม”
"จริง...เอากลับไปเลี้ยงสักตัวมั้ย"
"เอาได้เอาไปแล้ว"
ผมยื่นหน้าเข้าไปดูรูปในกล้อง
"ถ่ายสวยเลยนะเนี่ย"
"แน่นอน" น้องตอบพร้อมยักคิ้ว
"ไม่เห็นถ่ายรูปพี่มั่งเลย" ได้จังหวะจีบแล้วครับ ขอสักหน่อย
"ไม่เอาอะ ถ่ายรูปฮิปโปยังดีกว่าเลย"
"น้องเพชร" ผมเรียกเสียงอ่อย
"5555555 อะ มาๆ เดี๋ยวถ่ายให้"
"ไม่เอารูปเดี่ยว"
"จะถ่ายกับสัตว์ใช่มั้ย เอาตัวไร"
"จะถ่ายกับเพชรอะ"
น้องส่ายหัว
"นะคร้าบ รูปนึง"
"เพชรไม่อยากถ่ายด้วยอะ"
"เด็กบ้า"
ทำหน้าทะเล้นอีก น่าตีจริงๆ
"งั้นเซลฟี่นะ"
"ครับผม"
น้องปรับเป็นเลนส์ให้หันมาทางพวกเราเพื่อถ่ายเซลฟี่ก่อนจะเอนตัวมาใกล้ๆผม
ทุกรูปผมยิ้มกว้างจนปากแทบจะถึงหูให้กล้อง
"เดี๋ยวส่งให้นะ"
"ส่งเลยดิ อยากได้อะ"
"รอไม่เป็นรึไง"
"นะคร้าบบบ"
"เรื่องมากจังวะ"
ถึงอย่างนั้น น้องก็ส่งรูปมาให้ผมทาง bluetooth เลยทันที แล้วแบบนี้จะไม่ให้รักได้ไงล่ะครับ
"พี่ลงรูปนี้นะ"
ผมเลือกรูปที่น้องยิ้มกว้างที่สุด
"แล้วแต่พี่ดิ"
รูปอย่างกับแฟนเปิดตัวกันแน่ะ
"ดูอะไรต่ออีกมั้ยครับ"
"เหลือยีราฟ"
น้องนำผมไปที่โซนของยีราฟ แล้วตรงไปซื้อแครอทก่อน มียีราฟถึง7ตัว เมื่อพวกมันเห็นอาหาร ทุกตัวก็กรูกันเข้ามาหา
น้องแจกแครอทจนหมด แต่ยังเหลืออีก2ตัวที่ไม่ได้กิน
"พี่พฤกษ์ซื้อแครอทให้อีกชุดดิ"
น้องยื่นแบงค์ร้อยมาให้
"ใช้พี่อ่อ"
"เออ จะทำไม่ทำ"
"ทำคร้าบบบ"
ผมไม่ได้รับเงินจากมือเพชร แต่เอาเงินตัวเองจ่ายซื้อ
"เดี๋ยวพี่ช่วยออก"
น้องส่งแครอทให้ยีราฟอีก2ตัวที่เหลือแล้วใช้มือลูบหน้ามันเบาๆอย่างไม่รังเกียจ
"แบ่งกันกินนะนาย"
มีพูดกับยีราฟด้วย ผมเห็นแล้วยิ้มตามเลย
เพชรดูอ่อนโยนและมีความสุขเวลาที่ได้อยู่กับสัตว์จริงๆ

"หายไปดูสัตว์หรือไปสวีทกันวะ นานชิบ" ไอ้ริวส่งเสียงมาเป็นคนแรกเมื่อผมกับเพชรเดินกลับไปที่บริเวณทางเข้าอีกครั้ง สี่คนที่เหลือดูท่าจะมานั่งรออยู่ที่นี่นานแล้ว
"ดูสัตว์ดิวะ พวกมึงไม่ได้ดูมั่งเลยรึไง"
"เดินดูนิดหน่อยก็เมื่อยละ เลยมานั่งรอ" ไอ้เกี้ยงว่า
"มึงสองคนก็ด้วยอ่อวะ" น้องหันไปถามเพื่อนบ้าง
"ขอดูรูปหน่อยดิ" นิวบอกและรับกล้องมาจากมือเพชร
"เราหิวน้ำมั้ยครับ" ผมหันไปหาเพชร
"ไม่อะ"
"งั้นไปเป็นเพื่อนพี่หน่อย"
ผมจับมือน้องอย่างถือวิสาสะแล้วดึงให้เดินไปร้านน้ำข้างๆประตูทางเข้าด้วย
"ชอบหลอกจับมืออยู่เรื่อย" น้องบ่นอุบ พยายามสะบัดให้หลุดแต่ก็สู้แรงผมไม่ได้หรอกครับ อิอิ
"ไม่ได้หลอก จับตรงๆเลยเนี่ย"
"โรคจิตเอ๊ย"
"สะดีดสะดิ้งนะเรา"
"บ้านพี่ดิ"
ผมซื้อชาเขียวกลิ่นมะลิที่ตัวเองชอบให้น้องด้วย
"เคยกินมั้ย"
"ไม่เคย"
"ลองดู อันนี้หอมมาก ไม่ค่อยหวานด้วย"
หึหึ ไหนบอกไม่หิวน้ำ เปิดขวดแล้วกระดกไปเกือบครึ่ง
"อร่อยอะดิ"
"ก็พอได้"
"ลั่น55555555555"
เรื่องฟอร์มจัดเนี่ยต้องยกให้คุณเค้าเลยครับ อร่อยก็บอกว่าอร่อย ไม่เห็นต้องเก๊กเลย
"ขำไร บ้าปะ"
"ขำคนฟอร์มจัดอะ"
น้องทำหน้ายักษ์หน้ามารใส่
ผมกับน้องเดินกลับไปถึงจุดที่คนอื่นนั่งพักอยู่ ทุกคนส่งยิ้มมีเลศนัยมาให้
"อะไรวะ"
"ไหนมึงบอกไปดูรูปสัตว์ไงวะ แล้วนี่อะไร" ไอ้ริวหันหน้าจอโทรศัพท์ให้ดูรูปผมกับน้องที่ผมพึ่งลง facebook ไป
"รูปคู่ก็มา" เจมส์โชว์รูปในกล้องอีกคน
"งานนี้เรามากันหกคนไม่ใช่อ่อวะ ไหงลงรูปแค่สองคน"
"อย่ายุ่งดิ เรื่องของคนสองคนเว้ย โอ๊ย..." ผมโอบไหล่น้องก่อนจะโดนศอกกระทุ้งเข้ามาเต็มๆ
"เดี๋ยวโดนหนักกว่านี้" น้องขู่
"เจ็บ ไม่เอาแล้วคร้าบบ"

"รีบเมาอ่อ"
ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่ม ผมเดินมานั่งลงข้างๆเพชรที่สระว่ายน้ำหน้าบ้านพัก น้องกำลังนั่งดื่มเบียร์ เอาเท้าจุ่มน้ำอยู่
"คอแข็งกว่าพี่อะ กินทั้งคืนก็ไม่เมา"
"เดี๋ยวจะคอยดู" ผมยิ้มกริ่ม
"พี่อะอย่าเมาแบบคืนนั้นอีกละกัน นอนกับเพชรด้วย ขี้เกียจดูแล"
"ไม่เมาหรอกน่า พี่คอแข็งแล้ว"
"โม้ชิบ"
ไม่รู้ทำไม แต่ผมรู้สึกอยากบอกเรื่องที่เคยแกล้งเมา
"เอ่อ เพชร..."
"หือ"
"พี่มีอะไรจะบอก"
"เกริ่นมาแบบนี้ เรื่องไม่ดีชัวร์" รู้อีก
"ก็นิดหน่อย"
"เรื่องไร"
"คือ..."
เห็นสายตาคมของน้องจ้องกลับมาแล้วชักหวั่นใจ ไม่กล้าเล่าต่อเลย
จะโดนต่อยไหมวะ
"วันนั้นอะ...พี่แกล้งเมา"
ผมพูดจบก็รีบก้มหน้าลงทันที
เงียบอยู่นาน จนในที่สุดทนไม่ไหวต้องเงยหน้าขึ้น
แล้วน้องก็บิดหูผม
"อ๊ากกกกกกกก" ผมร้องลั่น มือหนักๆของเพชรบิดเต็มแรง
"พี่โกหกอ่อ"
"โอ๊ยยยย มันเจ็บนะครับ"
"แสดงว่าพี่ตั้งใจแกล้งเพชร"
"ไม่ได้แกล้ง โอ๊ยย...หูจะขาดแล้ว ปล่อยพี่เถอะ"
"ไม่ได้แกล้งแล้วคิดจะทำอะไร"
"พี่แค่อยากนอนกับเราเฉยๆ อ๊ากกกก"
"มึงแม่งโรคจิต คิดจะทำอะไรกูตั้งแต่ตอนนั้นแล้วใช่มั้ย" ขึ้นมึงขึ้นกูแล้ว หูผมขาดแน่ๆ
"ม่ายย พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น"
"ไม่คิด แต่นอนกอดกูทั้งคืนเนี่ยนะ"
"แค่กอดเองคร้- อูยยยย ปละๆ ปล่อยหูพี่เถอะ"
น้องหยุดบิด แต่ออร่าความอาฆาตยังแผ่ออกมาเต็มเปี่ยม
"จะ เจ็บบบ" ผมครางเสียงอ่อย
"ไอ้พฤกษ์เป็นไรวะ"
ไอ้เกี้ยงวิ่งหน้าตั้งจากข้างในบ้านออกมา
"ไม่มีอะไรคร้าบ" น้องตอบ และหันมาปิดปากผมด้วยสายตา
"ตกใจหมด ได้ยินเสียงร้องลั่นบ้านนึกว่ามีเรื่องอะไร"
ฮึก มึงไม่เห็นหูกูรึไงไอ้เกี้ยง คงแดงก่ำ โดนบิดหูแทบขาดแล้วยังบอกเพื่อนตัวเองไม่ได้TT
"คนอื่นล่ะ" ผมถาม
"เจมส์กับนิวออกไปซื้อกับแกล้ม ส่วนไอ้ห่าริวยังไม่ตื่นเลย อีกเดี๋ยวกูจะไปปลุกมันละ...เดี๋ยวสองคนนั่นกลับมาเข้าไปตั้งวงในบ้านกัน"
"เออ"
ไอ้เกี้ยงเดินกลับเข้าไป
"หึ ทำไมไม่บอกพี่เกี้ยงไปอะว่าโดนอะไร"
"ก็เราไม่ให้บอกนิ"
"รู้ด้วยอ่อ ทีตอนอยู่สวนสัตว์ปากมอมเชียว"
"ไม่กล้าทำแล้ววว"
"ก็ดี ไม่งั้นจะเอาให้หูขาด"
"ว่าแต่ตอนนั้นพี่ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยจริงๆนา"
"เออ...มีอะไรที่ยังไม่ได้บอกเพชรอีกมั้ย"
"ไม่มีหรอก...แต่ถ้าสมมติมี จะไม่บิดหูแล้วใช่มั้ย"
"ไม่แน่"
จึ๋ย
"ถามจริง"
"ไม่มีคร้าบ"
"ถ้ารู้ทีหลังนะ สนุกแน่"
หลังจากนั้นผมเลยหุบปากเงียบ นั่งนิ่งๆแทน
"555555555"
"เราขำอะไร"
"ขำพี่นั่นแหละ นั่งเป็นหมาหงอยเลย"
"..." ยังไม่กล้าพูดอะไรครับ
"ไหนมาดู" น้องขยับเข้ามาชิดตัว "โห หูยังแดงแจ๋เลย เจ็บอยู่ใช่ปะ"
"อือ" ความจริงคือเริ่มหายเจ็บแล้ว แต่ขออ้อนซะหน่อย
แอบมองหน้าน้องแวบนึง ดูเหมือนจะสงสารเราแฮะ
"อะ"
เพชรกุมมือผม
"ให้จับแปบนึง โทษฐานที่เพชรทำแรงไป"
ใจผมเต้นแรง มือที่อยากจับมาตลอด วันนี้ได้สมใจ แบบนี้ยอมโดนบิดหูอีกรอบก็คุ้ม
อืมม รู้สึกดีชะมัด
ผมสบตาน้อง แต่เจ้าตัวหันไปมองน้ำในสระซะแล้ว
เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ เราทั้งคู่ยังนั่งอยู่ตรงนั้น มือผมกับน้องยังกุมกัน
และผมเองก็ยังละสายตาจากคนข้างๆไปไม่ได้เลยสักวินาทีเดียว

TBC

ง่อววว มีพาไปเที่ยวสวนสัตว์ มีลงรูปคู่ มีจับมือ สวีทททท

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
ตามใจน้องมากอะ บอกเลย
 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
คู่รักสายโหด

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
EP27 "มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย”

"นี่มึงยังไม่ได้คบกับพี่พฤกษ์อ่อวะ"
"มึงจะแหกปากให้คนทั้งคณะได้ยินรึไงเชี่ยเจมส์"
ผมนั่งให้ไอ้เจมส์ซักไซ้ที่โรงอาหารมาได้พักใหญ่แล้ว มันดูตกอกตกใจมากเมื่อรู้ว่าผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับพี่พฤกษ์
"มึงโกหก กูไม่เชื่อหรอก"
"กูจะโกหกมึงเพื่อ"
"ไม่อยากให้ใครรู้ไง คบกันเงียบๆ"
"ถ้าจะปิดบังมึงอะนะ กูคงไม่บอกตั้งแต่เรื่องที่ยอมให้ไอ้พี่พฤกษ์จีบหรอก"
สีหน้าไอ้เจมส์ยังคงไม่เชื่อคำพูดผมอยู่ดี
"ทำไมมึงคิดงั้น"
"ก็ช่วงนี้มึงกับพี่เค้าตัวติดกันจะตาย หลังเลิกเรียนเค้ามารอรับมึงทุกวัน เสาร์อาทิตย์ยังนัดกันออกไปไหนๆ ลงรูปคู่บ่อยกว่าคนเป็นแฟนกันบางคู่ซะอีก"
"เว่อร์"
ที่ไอ้เจมส์พูดไม่ได้เว่อร์หรอกครับ แต่เป็นความจริงเลยต่างหาก หลังกลับมาจากเขาใหญ่ ผมกับไอ้พี่พฤกษ์อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา
"หราาา...เฮ้อ ตอนนี้มีแต่กูที่เหงาอยู่คนเดียวเลยสาด"
"สม" ผมหัวเราะ
"ไอ้สัส"
อย่างวันนี้ไอ้นิวมันไปเดทครับ หญิงคณะทันตแพทย์ซะด้วยนะ รอติดตามอยู่ครับว่ามันจะได้ฟันหมอไหม
"มึงก็คุยอยู่หลายคนไม่ใช่รึไงวะ เลือกๆนัดๆแล้วสานสัมพันธ์ต่อดิ"
"เนี่ยเลือกอยู่ เลยเครียด"
"แหม่ หล่อเลือกได้ตายห่า"
"ขอบคุณสำหรับคำชมครับ"
เย็นนี้ไอ้พี่พฤกษ์ชวนผมไปนอนที่บ้านครับ เฮียแกบอกว่าไม่มีคนอยู่บ้าน พี่ชลไป event ที่ต่างจังหวัด ส่วนพ่อกับแม่ไปดูงานที่ญี่ปุ่น
แม่งคิดจะทำมิดีมิร้ายกับกูเปล่าวะ
ขืนบอกไอ้เจมส์ มันได้ถามมากขึ้นอีกแน่
"แล้วนี่มึงรอพี่เค้าอยู่รึไง"
"เออดิ"
"เนี่ย จะไม่ให้กูสงสัยได้ไงว่าคบกันแล้ว"
"เอาเป็นว่ากูกับไอ้พี่พฤกษ์ยังไม่ได้คบกัน เคปะ" ผมตัดบท
"เออๆ มองหน้ามึงก็รู้แล้วว่าพูดจริง...ถามอีกอย่างดิ"
"ไร"
"ได้กันยัง"
ป้าบ
"อูยยย เจ็บนะเว้ย ตบมาได้"
"มึงถามมาได้ไอ้สัส"
"แล้วได้กันรึยังอะ"
"ยังโว้ย"
"ฮั่นแน่ ยังแสดงว่าเดี๋ยวต้องมี"
"พ่อมึงเหอะ"
"น้องเพชร"
คนถูกพูดถึงมาพอดี หันหลังไปตามเสียงเรียกก็เห็นพี่มันมายืนยิ้มหวานอยู่
"กูไปละ"
"หวัดดีครับพี่พฤกษ์...ขอให้เสร็จพี่แกไวๆ" ประโยคหลังไอ้เจมส์หันมากระซิบกับผม
"เดี๋ยวกูถีบล้ม"
ผมสะพายกระเป๋าก่อนจะออกเดินไปที่ลานจอดรถพร้อมไอ้พี่พฤกษ์
"ไม่ได้เอาของมานอนอ่อ"
"เอามาทำไม ใช้ของพี่ไง"
"คร้าบ"
มันโอบไหล่ผม
"เนียนอีก"
มันไม่ตอบ แต่อมยิ้ม
"คะแนนมิดเทอมออกมั่งยัง"
"ออกแล้วตัวนึง"
"ดีปะ"
"มีนพอดี"
"เห้ย ได้มีนก็โอเคแล้ว" มันลูบหัวผม
"ไอ้เจมส์กับไอ้นิวเกือบท็อปทั้งคู่"
"เราก็เอาอย่างเพื่อนมั่งสิ"
"ผมไม่เก่งเท่าพวกมันนี่หว่า"
"ถ้าพยายามก็ทำได้ เดี๋ยวพี่ติวเพิ่มให้เอามั้ย"
"ไม่เอาอะ เรียนในห้องก็เบื่อจะแย่แล้ว"
"ขี้เกียจตัวเป็นขน"
"ยุ่งไรด้วยอะ"
"เดี๋ยวเหอะ"
ผมกวนตีนใส่ เลยโดนดีดเหม่งเข้าให้
"นี่ให้เพชรนอนด้วยกี่คืน"
"เพชรจะนอนทุกคืนเลยก็ได้นะครับ"
กูรู้นะว่ามึงคิดอะไรอยู่
"เอาดีๆ"
"55555 พี่ชลกลับพรุ่งนี้แล้ว"
"เออ"
"แต่อยากให้เรามานอนกับพี่ทุกคืนจริงๆนะ"
"หื่นชิบหาย ไม่เอา"
ยังจะหัวเราะอีกแน่ะ

หลังซัดกับข้าวฝีมือป้าหวานไปเต็มท้อง ผมก็ขึ้นมาห้องไอ้พี่พฤกษ์
"พี่อาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวออกมาเล่นด้วย"
"พี่นอนในห้องน้ำไปก็ได้ เดี๋ยวเพชรนอนเตียงให้"
"ถุย"
ผมหัวเราะ
พอเจ้าของห้องออกไปแล้ว ผมก็เริ่มหยิบของนู่นนี่ในห้องมาดู เด็กวัยกำลังซนแถมอยากรู้อยากเห็นอะเนอะ(เสือก) ถึงจะเคยรื้อเคยเห็นไปบ้างแล้วก็เถอะ
แล้วผมก็อึ้งกิมกี่ เมื่อดันเจอสิ่งที่ไม่เคยเห็นในห้องพี่มันมาก่อน
แผ่นหนังโป๊ญี่ปุ่น3เรื่องวางซ้อนกันอยู่ตรงชั้นวางทีวี ข้างๆเครื่องเล่นดีวีดีเลย
ผมยิ้ม
ไอ้ห่าพี่พฤกษ์มันร้าย
แผ่นหนัง3เรื่องนั้นเป็นหนังโป๊ชายหญิงธรรมดาครับ แผ่นแรกนางเอกเป็นเมท แผ่นที่สองนางเอกเป็นเกอิชา ส่วนแผ่นสุดท้ายนางเอกเป็นนักเรียนหญิง มีนักเรียนชายอีกเกือบสิบคนยืนล้อม ทุกแผ่นเป็น hd ครับ
แหม่ แค่ปกก็น่าใส่ลงไปในเครื่องเล่นดีวีดีแล้วเปิดทีวีดูมันซะตอนนี้เลย
ดูทรงแล้วเหมือนมันพึ่งดูเมื่อคืนด้วยซ้ำ ไอ้คนหื่น2018เอ๊ย
"รอนานมั้ยคร้าบ...เห้ย"
ไอ้พี่พฤกษ์กลับมาหน้าตื่น เมื่อเห็นว่าผมถือแผ่นหนังมันอยู่ในมือ
"น้องเพชรทำอะไร"
"ดูหนังแบบนี้ด้วยอ่อเรา" ผมยิ้มเยาะ
"เรารื้อของพี่อ่อ เอาเก็บที่เลยนะ"
"รื้อที่ไหน เพชรเห็นมันวางอยู่เฉยๆเลยเหอะ"
ไอ้พี่พฤกษ์หน้าเริ่มเป็นสีแดง
"ชอบแบบญี่ปุ่นๆอ่อ"
"หยุดแซวเลย"
มันหันหน้าหนีผม เดินไปใส่เสื้อผ้า
"ไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าคนฮ็อตที่สุดของคณะก็ดูหนังโป๊เหมือนกัน" ผมยังแหย่ต่อไป
"ไอ้เด็กบ้า"
"อายเหรอคร้าบบบบ"
"เราไม่เคยดูรึไง"
"ไม่เคยหรอกคร้าบ ถ้าดูนะแม่ตีตายเลย"
"โม้"
ผมหัวเราะ ไม่เคยเห็นไอ้พี่พฤกษ์อายขนาดนี้มาก่อน
"ระวังเถอะ แซวมากๆจะโดนดี"
"กลัวจังเลย จะโดนอะไรน้า"
"โดนแบบในหนังอะ" มันหันมายิ้มมุมปากใส่ผม
ผมนี่สะดุ้งเลย
"ไอ้สัส อย่าแม้แต่จะคิดนะมึง"
"ปากแบบนี้เดี๋ยวก็จัดให้ครางยิ่งกว่านางเอกหนังซะเลย"
"พะ พ่อมึงดิพี่"
ผมรีบวิ่งไปคว้าผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้า ออกไปจากห้องทันที ได้ยินเสียงหัวเราะจากไอ้คนบ้ากามตามหลังมาดังลั่น
คืนนี้กูจะรอดไหมวะ

"อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอครับ"
ผมกลับมาไอ้พี่พฤกษ์ก็นั่งเอาหลังพิงหัวเตียงสบายใจอยู่ ไม่เหลือวี่แววความอายที่ผมพบแผ่นหนังโป๊เมื่อครู่เลย
"ดูหนังกันมั้ยครับ"
ผมหันไปที่ทีวีก็ต้องตกใจ ไอ้พี่พฤกษ์มันเปิดหนังโป๊อยู่
"เหี้ย"
มันคือเรื่องนักเรียนหญิงที่ผมพึ่งเห็นแผ่น
นางเอกกำลังโดนอยู่พอดีเลยครับ ร้องครางลั่น นักเรียนชายหลายคนแย่งกันสัมผัสร่างกายเธอ
แล้วน้องชายผมก็แข็งขึ้นโดยอัตโนมัติ
แย่แล้ว
"มานั่งดูด้วยกันนะ"
"ยะ อย่าเข้ามา"
ผมกระเถิบตัวหนีจากเตียง แต่ตายังจ้องที่ทีวีไม่กะพริบ
ไอ้พี่พฤกษ์มาถึงตัวผมแล้วฉุดแขนให้นั่งลงที่ปลายเตียง
"อย่านะเว้ย"
"ดูหนังเฉยๆเอง"
ภาพในทีวีกำลังดุเดือด นางเอกเปลี่ยนขึ้นมาขย่มให้นักเรียนชายคนหนึ่งแล้วครับ
แม่งเอ๊ย
ผมไม่รู้เลยว่านั่งนิ่งดูจนจบตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีน้องชายก็แข็งดุนกางเกงบอลจนเห็นชัด
“มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย”
“ชะ ช่วยไร”
ผมสะดุ้งอีกหน ไอ้พี่พฤกษ์ขยับตัวผมให้เข้ามานั่งอยู่หว่างขามันก่อนจะกระซิบเสียงนุ่ม
“น้องเพชรครับ”
เสียงหื่นซะจนผมสยิว ผมหันไปมองหน้ามันก็เห็นตาเยิ้มและรอยยิ้มชั่วร้ายตอบกลับมา
“อะไรเนี่ย”
ถึงปากจะพูดอย่างนั้น แต่ผมก็ไม่ได้ลุกหนีไปไหน
“ให้พี่ช่วยนะ”
ผมกลืนน้ำลาย ไม่กล้ามองหน้ามันเลยหันหนีไปอีกทาง แม่ง ผมกำลังจะเสียให้มันแล้วใช่มั้ย
ไอ้พี่พฤกษ์จับมือผมไว้ข้างหนึ่ง อีกมือก็ล้วงเข้าไปในเสื้อยืดผม
เชี่ย
หน้าท้องผมหดเกร็งเมื่อมือนั้นลากไปมา เบาๆช้าๆ อืมมม
“พี่พฤกษ์” ผมเรียก ตั้งใจเรียกสติมันกลับมา
“คร้าบ” มันตอบรับเสียงหวาน แต่มือเลื่อนขึ้นไปถึงหน้าอกแล้ว
มันลูบตรงกลางระหว่างบริเวณหน้าอกแล้วไล่นิ้วไปถึงหัวนม
“ไอ้พี่พฤกษ์” ผมเรียกเสียงดังขึ้น
นอกจากจะไม่สนใจเสียงปรามแล้ว มันยังขยับหน้าเข้ามาคลอเคลียซอกคอผม
“อะ ไอ้พี่พฤกษ์”
ผมจับแขนมันข้างที่กำลังเล่นกับหัวนม
“ทำไม”
มันเงี่ยนจนเอาอะไรมาหยุดก็ไม่อยู่แล้ว
“เราไม่อยากเหรอครับ”
ผมจะบอกว่าไม่ก็ตอบได้ไม่เต็มปาก
“นะครับ”
กูไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายโว้ย กูเคยแต่กับผู้หญิง กูยังไม่พร้อมมม
ตาไอ้พี่พฤกษ์เป็นประกาย ดูท่าทางมันคงไม่ปล่อยผมไปไหนแน่คืนนี้
“มึง”
“อะไรอีก”
ผมหลบตาเพราะไม่มีคำตอบใดๆจะให้ ไอ้พี่พฤกษ์กดรีโมทปิดทีวีแล้วกลับมาจู่โจมอีกครั้ง
มันแหย่ลิ้นเข้าไปในรูหู มือข้างหนึ่งยังคงเขี่ยหัวนมผม
“อืออ”
เชี่ย ผมคราง นี่มันทำผมได้ขนาดนี้เลยหรอวะ
“ชอบมั้ยครับ”
“ชะ...ไม่”
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มกริ่มที่เห็นผมระทวย
“ไม่ชอบจริงอ่อ”
“ไม่ชอบเว้ย”
“ทำไมเสียงสั่นล่ะครับ”
“ก็มึงทำไรกูอะไอ้พี่พฤกษ์”
มันหัวเราะเบาๆแล้วจูบไซร้แก้มผม อืออ
ผมดิ้น เมื่อไอ้พี่พฤกษ์เห็นแบบนั้นเลยผละออก
“รังเกียจพี่อ่อ”
“ไม่ใช่”
“งั้นทำไม”
“...”
“พี่อยากทำให้เพชรจริงๆนะครับ”
“ทะ ทำอะไร” ผมตกใจ
“หึหึ...เด็กน้อยเอ๊ย”
“เดี๋ย…”
ครั้งนี้ไอ้พี่พฤกษ์ยกมือขึ้นมาประคองหน้าผมไว้ไม่ให้หนี
ถ้ามันเลยเถิดไปมากกว่าจูบแก้มล่ะ
อารมณ์ผมกำลังเตลิด
มือผมที่ควรจะผลักตัวไอ้พี่พฤกษ์ออกกลับวางนิ่งอยู่บนเตียง
“ไหนบอกไม่อยาก”
“สัส งั้นออกไปเลย”
ผมทำท่าจะผลักมันออก แต่มันกอดผมไว้
“โอ๋ พี่ล้อเล่นนะครับ...มาต่อกันนะ”
“เห้ย”
ไอ้พี่พฤกษ์เลื่อนมือลงมาที่ชายเสื้อผม หมายจะถอดออก ผมรีบจับมือนั่นไว้แน่น
“ถอดนะครับ”
“ไม่”
“ทำไมดื้อกับพี่จัง” ฟังเสียงมันดูหงุดหงิดหน่อยๆแฮะ
“ไงก็ไม่ถอด”
“ก็ได้...งั้นถอดแต่กางเกงก็พอ”
“เหี้ย นั่นยิ่งไม่ถอดเลย”
“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ”
“ยะ อย่าเชียวนะมึง” ผมสั่งเสียงสั่น
“หึหึ งั้นดูซิว่าจะทนไม่ถอดได้มั้ย…”
“พี่จะท...อ๊ะ”
ไอ้พี่พฤกษ์คว้าหมับเข้าที่เป้าผมแล้วบีบเบาๆ
“ปล่อยนะ”
“สู้มือพี่เชียวนะ” มันบอกกลั้วหัวเราะ
ผมหน้าแดง น้องชายผมตื่นตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ มันจับที่ลำแล้วรูดขึ้นลงจากด้านนอกกางเกง
“ยะ อย่านะ”
“ปากห้ามพี่ทำนั่นนี่ แต่ร่างกายเรามันตรงกันข้ามเลยนะ” ไม่ต้องมาทำเสียงแบบนั้นเลย แค่นี้กูก็อายจนไม่รู้จะมุดหัวไว้ที่ไหนแล้ว
มันเอานิ้วกดหัวน้องชายผมระหว่างที่รูดลำไปด้วย ผมคราง
“ซี้ดด...อ่าาา”
มีน้ำซึมออกมาที่ปลายหัว
แม่งเอ๊ย
ผมหยุดขยับตัวต่อต้านไอ้พี่พฤกษ์ไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ มันเลิกเสื้อผมขึ้นไปกองอยู่ที่คอ ยกแขนข้างหนึ่งไปพาดคอมันแล้วโน้มลงมาลงลิ้นที่หัวนมผม เลียสลับกับดูดจนหัวนมแข็งเป็นไต
“อืออ”
ไอ้พี่พฤกษ์เงยหัวขึ้นมา
“พี่ชักให้นะ”
ผมไม่ได้ตอบ แต่ไม่ปฏิเสธ เพราะโดนมันเล้าโลมจนอยากปล่อยน้ำแล้ว
ห่า รับผิดชอบที่ทำกูเงี่ยนด้วย
มึงแม่งโคตรเลว เอาหนังโป๊มาเปิดยั่วกู
“ไม่ตอบ ให้พี่ทำมั้ยครับ”
“ยะ ยังจะถาม…”
มันยิ้มกว้างกับคำตอบ ขยับตัวผมให้เอนไปแนบกับตัวมันก่อนจะดึงกางเกงบอลกับกางเกงในผมออกไปกองที่เข่า
น้องชายผมผงกหัวหงึกๆเมื่อเป็นอิสระ ไอ้พี่พฤกษ์รูดไล่ตั้งแต่โคนยันปลาย
มันเป็นผู้ชายคนแรกเลยนะที่ได้สัมผัสไอ้นั่นของผมอะ
ตอนนี้ผมโดนเล่นหนักทุกช่องทาง มือซ้ายไอ้พี่พฤกษ์กำลังชักให้ผม มือขวาก็ไม่พ้นวางอยู่ตรงบริเวณหัวนม แถมแก้มก็ถูกมันจูบไล้อยู่
โคตรเสียว
“อ่าาาา”
ผมร้องครางอย่างหน้าไม่อาย เอนหัววางบนไหล่ไอ้พี่พฤกษ์และหลับตาพริ้มรับการเล้าโลม มันเริ่มชักเร็วขึ้น
“อ่าา...น้องเพชร”
ไอ้ห่า ผมได้ยินมันครางชื่อผม แถมตอนนั้นก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรแข็งๆมาดุนแถวๆก้นด้วย
มึงจะทำอะไรกูวะ
ผมไม่ได้สนใจน้องชายไอ้พี่พฤกษ์อีก เพราะตัวเองกำลังเสียวแทบขาดใจ ดูเหมือนใกล้จะถึงเส้นชัยในอีกไม่ช้า
“พะ พี่พฤกษ์ อือออ” เย้ย แล้วกูไปเรียกชื่อมันทำม้าย
“อ่าา เรียกพี่อีกได้มั้ยครับ” โรคจิตเอ๊ย
ตัวผมกระตุกก่อนที่น้ำกามจะพุ่งออกมาหลายระลอก เปื้อนมือไอ้พี่พฤกษ์เต็มไปหมด ผมหอบหายใจถี่
“พี่...พฤกษ์…”
“เพชร ช่วยหน่อย” มันบอกเสียงซ่าน
“อะ อะไร”
“แบบที่พี่ทำให้เรา”
ผมหันหลังไปมอง สีหน้ามันอ้อนวอนสุดๆ โชคดีที่ตอนนี้มันขอผมแค่ชักว่าวให้เท่านั้น
แล้วไอ้พี่พฤกษ์ก็จับมือผมไปกำรอบน้องชายมัน

TBC

อื้อหือ พี่พฤกษ์โคตรร้าย พลิกเกมได้เร่าร้อนอะไรขนาดนี้555

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :o8:มีการล่อลวง

ทำหน้าหงอยๆน้องก็ติดกับแล้ว

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ตอนแรก ๆ ก็แค่ซอฟต์ ๆ ภายนอกเนอะ

รอแบบจัดหนักจัดเต็มอยู่นาจา

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
EP28 "อย่ามายุ่ง"

แล้วไอ้พี่พฤกษ์ก็จับมือผมไปกำรอบน้องชายมัน
"ช่วยพี่หน่อยนะครับ"
ผมนิ่ง เกิดมาไม่เคยจับน้องชายใครนอกจากของตัวเอง ท่าทางมันอยากมาก เพราะแข็งโป๊กเลยครับ
"เพชร"
มันอ้อนวอนเสียงอ่อย แถมกระซิบเบาๆข้างหูด้วย ห่า กูสยิวมั้ยล่ะ
ในเมื่อผมยังไม่ยอมทำอะไร มันเลยจับมือผมให้รูดลำขึ้นลง
"เห้ย" ผมร้อง
"ถ้าช้า พี่จะไม่แค่ชักนะ"
ไอ้สัส กลัวแล้ว
ผมเริ่มทำให้ไอ้พี่พฤกษ์ หันตัวเข้าหามันแล้วสาวให้ช้าๆ
"อ่าาาาา"
มันส่งเสียงครางอย่างพอใจ น้ำใสๆซึมออกมาที่ปลายหัวเต็มมือผม
เงยหน้าจากน้องชายมันก็เห็นไอ้พี่พฤกษ์กำลังมองผมอย่างภูมิใจ
"มะ มองไร"
"พี่อยาก..."
"หยุดเลย" ผมรีบปรามเสียงดัง มันหัวเราะในลำคอ
ไม่อยากจะมองหน้ามันตอนนี้เลย ตาเยิ้ม รอยยิ้มชั่ว โรคจิตชิบหาย
แต่ถ้าไม่มองหน้า ก็ต้องก้มลงมองน้องชายมัน ไม่ใช่รังเกียจนะ แต่ผมเขิน ใครจะไปจ้องไอ้นั่นล่ะ แค่ชักให้ก็จะไม่ไหวแล้ว
"อ่าาา เพชร"
อย่าครางชื่อกูบ่อย เดี๋ยวกูเสียวขึ้นมาอีกรอบ
มันฝังหน้าลงซอกคอผมและไล้ริมฝีปากผ่านผิวหนัง อื้อหือ
ท่านี้แม่งโคตรได้
"ยะ อย่า"
"อย่าปฏิเสธเลยน่า อึก...พี่รู้ว่าเราชอบ"
"ไอ้ห่า"
มันขยับเข้ามากอดและยังคงไซร้คอผมไม่หยุด ส่วนมือผมก็ชักให้มันอย่างดุเดือด
"โอววว...อ่าาา"
เหี้ย อย่ามีใครมาได้ยินเสียงครางไอ้พี่พฤกษ์ตอนนี้เลยนะ
แต่ฟังแล้วผมเสือกเสียวตามไปด้วยสิ น่าอายชิบ
ไม่นานน้องชายมันก็ปล่อยน้ำออกมาทะลักล้นมือผม(กูเชื่อแล้วว่ามึงอยากจริงๆ)
"พะ เพชร...สะ สุดยอดเลย..." ไอ้พี่พฤกษ์หอบหายใจ
"ทะลึ่ง"
"จะไปไหนคร้าบ"
ผมกำลังจะลุกออกจากตัวมัน ก็ถูกดึงแขนซะก่อน
"ล้างตัวดิ พี่จะนอนทั้งสภาพนี้รึไง"
"ล้างให้พี่ด้วย"
"พ่อมึง ล้างเองดิวะ"

ผมตื่นขึ้นมาเกือบสิบเอ็ดโมงในวันรุ่งขึ้น เห็นไอ้พี่พฤกษ์นั่งกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ตรงปลายเตียง
"หลับสบายมั้ยครับเมื่อคืน"
ผมจิ๊ปาก ฟังเสียงมันก็รู้จุดประสงค์ของคำถามดีว่าไม่ได้หมายถึงช่วงเวลานอน
"พี่นะหลับสบายยยยยมากเลย"
"อยากหลับไปตลอดชีวิตมั้ยล่ะ"
"อูยย ไม่เอาหรอกครับ...ถ้าพี่หลับไปตลอดชีวิตเราจะเสียใจเอานา"
"เสียใจทำไม"
"ก็...ไม่มีคนทำให้แบบเมื่อคืนไง"
"ไอ้สัส หยุดพูดเลยนะ"
ผมปาหมอนใส่มัน มันหัวเราะ
"โอ๋ๆ ไม่แกล้งละๆ"
"อย่าเข้ามา"
ไอ้พี่พฤกษ์ปรี่เข้ามาหาผม แต่ผมรีบดันตัวมันออกห่าง
ก็น้องชายผมมันเคารพธงชาติอยู่น่ะสิ
ดีนะขายังอยู่ใต้ผ้าห่ม
"หรือว่า..." มันอมยิ้ม "มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ยครับ"
"ไม่ต้องเลย ไอ้บ้ากามเอ๊ย"
ใจเย็นไว้ลูกพ่อ ถ้ามึงยังแข็งงี้มีหวังโดนไอ้พี่พฤกษ์หลอกรีดน้ำอีกรอบแน่
"ไม่อยากให้ช่วยจริงๆเหรอ...สนุกนา"
"ถ้าพี่พูดอีกทีเพชรกระทืบจนกว่าสลบเลยนะ"
"ไม่เอาแล้วคร้าบบบบ"
ผมพึ่งสังเกตว่ามันอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ดูเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก
"พี่จะไปไหน"
"ไปกับเราอะ"
"หือ ไปไหน"
"จะชวนเราไปเดินเล่นน่ะ"
"ไม่ไป" ผมกวนตีน
"ทำไม"
"ก็ไม่ไปอะ จบนะ"
"มีนัดกับคนอื่น?"
"ไม่มี แต่ไม่อยากไปกับพี่"
"ได้" ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มเหี้ยม ลงมานั่งข้างๆผม "ไม่ออกไปข้างนอก งั้นก็นอนดูหนังกับพี่"
"เหี้ย ไม่เอา"
"เลือก จะออกไปเดินเล่นหรือจะอยู่ในห้องพี่"
"ไม่ทั้งสองอย่าง"
"งั้นมีช้อยส์ที่สามให้"
"อะไร"
"ไปม่านรูด"
"ไอ้โรคจิต"
เงี่ยนข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว ผมเริ่มกลัวมันจริงๆแล้วนะ
"งั้นก็เลือก" มันโอบไหล่ผม
"ไปเดินเล่น"
"ก็แค่นั้น" มันยิ้มกว้าง
"ชิ"

ไอ้พี่พฤกษ์พาผมมาที่สวนลุมพินี บ่ายวันนี้แดดไม่แรงเลย แถมลมเย็นสบายด้วยครับ ยากมากที่จะเจอสภาพอากาศดีๆในเวลาแบบนี้
"เบื่อห้าง เบื่อสยามละ มานั่งเล่นสวนสาธารณะดีมั้ยครับ"
"ถามไม พี่พามาแล้วนิ"
มันหัวเราะ
"ก็จริงเนอะ แล้วเราชอบมั้ยล่ะ"
"ชอบดิ"
"ชอบพี่หรือที่นี่"
"สวนลุมฯ"
"ไม่ชอบพี่อ่อ" มันยิ้ม
"ไม่อะ"
"สักนิดก็ไม่เลยอ่อ"
"หยอดเก่งงงงง"
"ไม่ตอบแสดงว่าชอบอยู่"
"กลับบ้านละ"
"อย่าพึ่งไปไหนสิคร้าบบบ" มันกอดเอวผมไว้
"ปล่อย"
"ไม่ปล่อย"
"จะปล่อยไม่ปล่อย"
"ทำไมอะ มากกว่าเอวพี่ยังจับมาแล้วเลย โอ๊ย..."
ผมศอกเข้าที่ท้องมันเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้
"โอยยย เจ็บ"
ผมเดินไปนั่งที่ริมแม่น้ำ ไอ้พี่พฤกษ์ตามมานั่งลงข้างๆทันที
"มันเจ็บนะครับ"
"ไอ้หื่นเอ๊ย ไปหื่นไกลๆไป"
"555555555555"
หัวเราะเหมือนโรคจิตเชียว
ตอนนั้นเอง โทรศัพท์ผมดังขึ้น
แม่
"ไม่รับเหรอครับ" ไอ้พี่พฤกษ์เรียก คงเห็นว่าผมจ้องจอมือถืออยู่เฉยๆ
"...เดี๋ยวมานะ"
ผมลุกขึ้นแล้วเดินออกไปคุยแถวต้นไม้ที่ไกลจากริมแม่น้ำ
"ฮัลโหล"
(เพชร อยู่ที่ไหนลูก)
"ทำไม"
(มะ แม่ว่าเราไม่ได้กลับบ้านมานานแล้วนะลูก)
"เราคุยกันแล้วนี่ครับ ว่าเพชรจะไม่กลับไปที่นั่นอีก...ถ้าแม่มีจะพูดแค่นี้ เพชรวางนะครั..."
(เดี๋ยวลูก)
"..."
(คือ...พ่อเราป่วย แถมตอนนี้ความดันขึ้นสูงมาก หยุดอยู่บ้านมา3วันแล้ว)
ใจผมหล่นวูบ
"มะ แม่อย่ามาโกหกเลย...เพชรไม่เชื่อ"
(จริงๆนะลูก แม่อยากให้เรามาดูพ่อเค้าซะหน่อย...เดี๋ยวเดียวก็ยังดี)
"อย่าใช้วิธีนี้เพื่อให้เพชรกลับบ้านเลยครับ แค่นี้นะครับ"
ผมไม่รู้เลยว่าพ่อป่วยแบบที่แม่บอกจริงๆหรือไม่ แต่ผมไม่ต้องการจะกลับไปบ้านหลังนั้นจริงๆ
"หายไปคุยตั้งนานแน่ะ" ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มกริ่ม ยังนั่งอยู่ตรงที่เดิม
"อือ"
"พี่อยากเจอแม่เราบ้างจัง"
"เอ่อ...บ้านเพชรไกลน่ะ"
"แค่หนองแขมเอง ไม่เห็นไกลขนาดนั้น"
"ยะ อย่าเลย"
"ทำไมล่ะ เพชรจะไม่พาพี่ไปให้ที่บ้านรู้จักเลยอ่อ" มันกระเง้ากระงอด
"แม่เค้าไม่ค่อยว่างหรอก...ขนาดเพชรยังไม่ค่อยได้กลับบ้านเลย"
"อ่าวเหรอ..."
อะไรบางอย่างบนหน้าผมคงบอกให้ไอ้พี่พฤกษ์หยุดตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว
ในหัวตอนนี้กำลังสับสน ผมควรกลับไปที่บ้านไหมนะ
"เรา...ไม่สบายใจอะไรรึเปล่าครับ"
"ปะ เปล่า...เพชรโอเค"
"บอกพี่ได้นะ"
ผมส่ายหัว
เราเงียบกันนาน ผมมองออกไปกลางแม่น้ำที่ตัดผ่านสวนสาธารณะ แต่ดูเหมือนมองออกไปในความว่างเปล่าแทน เพราะไม่รับรู้ภาพธรรมชาติด้านหน้าเลย
ส่วนไอ้พี่พฤกษ์ยังจ้องผมอยู่
"น้องเพชร"
"..."
"พี่รู้นะว่าตอนนี้เรากำลังมีเรื่องไม่สบายใจ อย่าปิดบังพี่เลย..."
"เปล่า"
"บอกพี่มาเถอะ"
ผมไม่อยากเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังทั้งสิ้น
"พี่จะเซ้าซี้ทำไม บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร"
"พี่ไม่อยากให้เราเก็บเรื่องเครียดไว้กับตัวคนเดียว...พี่จะได้ช่วยไงครับ"
ผมหันกลับมามองไอ้พี่พฤกษ์ แววตามันดูทั้งอ่อนโยน ทั้งอ้อนวอน ทั้งเป็นห่วง ทั้งน้อยใจ ต้องการที่จะค้นความจริง
มันคงรู้ได้ทันทีว่าผมไม่ปกติหลังวางสายจากแม่
"พะ พี่ช่วยไม่ได้หรอกเรื่องนี้"
"เรื่องอะไรล่ะครับ เพชรยังไม่เล่าให้ฟังเลย แล้วพี่จะรู้ได้ไงว่าช่วยไม่ได้"
"ก็บอกว่าช่วยไม่ได้ พูดไม่รู้เรื่องรึไง"
ผมเริ่มหงุดหงิด เรื่องนี้ไอ้พี่พฤกษ์ไม่มีทางเข้าใจหรอกถ้ามันไม่ใช่ผม
"พี่เป็นห่วงเรานะครับ"
ยิ่งมันต้องการที่จะรู้แค่ไหน ผมยิ่งกดดันมากขึ้นเท่านั้น
"เพชร"
"อย่ามายุ่ง"
ผมตวาด ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินหนีออกมาจากสวน ไม่กล้าหันกลับไปมองหน้าไอ้พี่พฤกษ์อีก

สองชั่วโมงต่อมา ผมมายืนอยู่หน้าสถานที่ที่เคยเรียกว่าบ้าน โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าพาตัวเองมาถึงที่นี่ได้อย่างไร
สิ่งของทุกอย่างหน้าบ้านยังอยู่ในตำแหน่งเดิม เหมือนเมื่อหลายเดือนก่อนที่ผมจะจากไป กระถางต้นไม้หลายสิบใบและบัวรดน้ำของพ่อ โต๊ะกลมตัวเล็กที่พ่อมักจะใช้นั่งอ่านหนังสือพิมพ์หรือดื่มกาแฟ โซนอุปกรณ์และข้าวของซึ่งรับบริจาคมาไว้สำหรับแจกเด็กๆในมูลนิธิของแม่
ประตูเปิดอยู่ ผมจึงเดินเข้าไปโดยไม่ส่งเสียงเรียก
"เพชร"
แม่ลุกขึ้นจากโซฟาหน้าทีวีและปรี่เข้ามาจับมือผมไว้แน่น
"กลับมาแล้วเหรอลูก แม่คิดถึงเพชรมากรู้มั้ย"
แม่พยายามจะเข้ามากอด แต่ผมดันตัวออกห่างและดึงมือแม่ออก
"พ่ออยู่ไหน"
"เอ่อ...คือ พ่อเค้านอนอยู่ข้างบนน่ะ"
"แม่พาพ่อไปหาหมอรึยัง"
"ไปมาแล้ว หมอบอกว่าความดันขึ้นสูง...สะ สูงกว่าครั้งก่อนๆอีก...พึ่งมาถึงเหนื่อยๆ อยากกินอะไรมั้ยลูก เดี๋ยวแม่ทำให้กิน"
"ไม่ครับ"
ผมเดินไปนั่งลงที่โซฟาแทน
แม่เดินมาหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างผมแล้วหายเข้าไปในครัว
อะไรบางอย่างทำให้ผมแอบเดินตามหลังไปเงียบๆ และหยุดอยู่หลังกำแพงห้องครัว
แม่พูดด้วยเสียงเบาเกือบกระซิบ แต่ผมได้ยินทุกคำชัดเจน
"คุณคะ เพชรกลับมาบ้านแล้ว...อย่าพึ่งเดินเข้ามาในบ้านนะคะ ฉันบอกลูกว่าคุณนอนป่วยอยู่บนห้อง...เดี๋ยวฉันจะคุยกับลูกไว้ ไม่ให้ขึ้นไปข้างบนค่ะ...แล้วคุณก็เข้ามาทางข้างหลัง ค่อยๆแอบขึ้นห้องไป..."
ผมมือสั่น นี่พ่อกับแม่โกหกผมจริงๆสินะ
"...ค่ะ แค่นี้นะคะ"
"แม่ครับ"
แม่สะดุ้ง หันมาหาผมด้วยสีหน้าตื่นตกใจ
"เพชร"
"เพชรขึ้นไปหาพ่อก่อนนะ"
ผมปั้นหน้ายิ้มเสแสร้ง
"ยะ อย่าพึ่งไปเลยลูก พ่อเค้าพึ่งหลับไปไม่นาน...รออีกสักเดี๋ยวนะ"
"เหรอครับ...งั้นเพชรไปรอหน้าบ้านก่อนก็ได้"
"เอ่อ เพชรไม่อยากกินอะไรเลยเหรอ แม่อยากทำให้กินนะ" แม่เดินตามผมออกมาที่ห้องนั่งเล่น มือไม้พันกันยุ่งเหยิง เห็นได้ชัดว่าทำตัวไม่ถูก
"ไม่เลยครับ ว่าแต่มูลนิธิแม่ยังอยู่ดีมั้ย"
"ดะ ดีสิจ๊ะ เหมือนเดิมเลย"
"แหม ดีจังครับ...แม่ไม่ลองรับเด็กสักคนมาเลี้ยงที่บ้านล่ะ"
ไม่มีเสียงตอบ นาทีถัดมาแม่น้ำตาคลอ
"ทะ ทำไมเพชรพูดแบบนี้ลูก"
"แล้วแม่โกหกทำไมว่าพ่อป่วย" ผมกลับมาใช้น้ำเสียงปกติ ละทิ้งท่าทีสบายอกสบายใจ
"มะ แม่ขอโทษลูก แม่กับพ่อแค่อยากให้เพชรกลับมาบ้า..."
"กลับมาให้คนที่บ้านทำแบบนี้เหรอครับ...นี่พ่อกับแม่จะโกหกเพชรกี่เรื่องกัน ชีวิตเพชรยังโดนโกหกไม่พออีกใช่มั้ย"
ผมตะโกนสุดเสียง ตอนนั้นเองที่พ่อวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
"เพชร อย่าว่าแม่เลยลูก พ่อเป็นคนบอกแม่เองให้โกหกว่าพ่อป่วย"
"ไม่ต้องออกรับแทนหรอกครับ เพราะทั้งพ่อกับแม่ก็ชอบโกหกมาตั้งแต่เพชรเด็กๆอยู่แล้วนี่ครับ"
"ฟังก่อนลูก"
แม่ร้องไห้และทรุดลงไปกองกับพื้น พ่อวิ่งเข้ามาประคอง
"เพชรไม่ฟังอะไรทั้งนั้น...คิดแล้วว่าพ่อต้องไม่ได้ป่วย ตะ ต่อไปนี้เพชรจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว"
ผมวิ่งออกไปจากบ้าน ไม่เหลียวกลับมาตามเสียงเรียกของพ่อแม่อีก
ขณะที่กำลังวิ่งอยู่นั้น น้ำตาผมเองก็ไหลออกมาด้วยเช่นกัน

ผมเลิกร้องไห้แล้ว แต่ไม่อาจลบภาพเหตุการณ์เมื่อบ่ายได้เลย แล้วผมก็ไม่ได้นึกถึงแต่พ่อกับแม่ด้วย
ผมคิดถึงไอ้พี่พฤกษ์
มันไม่ติดต่อหาผมเลยตั้งแต่ตอนนั้น
ผมรู้สึกรังเกียจตัวเองที่ใจอยากให้มันตามมาหาผม

TBC

พ่อกับแม่โกหกอะไรเพชรกันนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

รับเด็กมาเลี้ยง?


เพชรไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ใช่ป่ะ 


เลยโกรธหาว่าพ่อแม่โกหก

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เพชรเหมือนเด็กมีปัญหาอ่าาา   เรื่องบางเรื่องมันก็ต้องทำความเข้าใจเน้อ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ LoveAlone

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เรื่องที่บ้านนี่มันยังไง แต่ก็ไม่น่าไปลงกับพี่มันอย่างงั้นนะ เพชรนิสัยไม่ดีอ่ะ

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
EP29 "พ่อกับแม่โกหกเพชรทำไม"

ตั้งแต่จำความได้ ไม่มีวันไหนเลยที่ผมไม่ดื้อกับพ่อแม่ ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมถูกสปอยล์ หรือเพราะเป็นลูกคนเดียวของบ้านกันแน่
หรือมันอาจเป็นนิสัยแย่ๆของผมเองก็ได้
พ่อผมเป็นวิศวกร ดูแลลูกน้องในฝ่ายอีกหลายสิบคน ผมมักจะตามพ่อไปที่บริษัทแล้วเดินดูไลน์ผลิตตั้งแต่ต้นจนจบปลายทางเสมอ โดยสัญญากับพ่อว่าจะไม่ซุกซน จะไม่หยิบจับอะไร และการเดินชมจะอยู่ในการดูแลของพ่อหรือลูกน้องพ่อเท่านั้น
แต่โตขึ้นมา ผมกลับไม่ได้สนใจงานด้านวิศวกรรมเลยสักนิด
ส่วนแม่ผมทำมูลนิธิช่วยเหลือเด็กกำพร้า มีผู้ช่วยและอาสาสมัครในมูลนิธิรวมกันประมาณเกือบร้อยชีวิต จากจำนวนทีมงานคงไม่ต้องบอกว่าจำนวนเด็กๆเยอะกว่าขนาดไหน
มูลนิธินี้แม่ก่อตั้งขึ้นเองครับ ด้วยเงินทุนที่แม่สะสมมาตอนทำงานอยู่บริษัทก่อนผมเกิดเสียอีก แต่ตอนนี้มูลนิธิขยายตัวขึ้นมาก ได้รับเงินทุนสนับสนุนและสิ่งของบริจาคมากมาย แม่เองได้ออกงานสังคม รายการโทรทัศน์และวิทยุอยู่บ่อยๆ
ในทางตรงกันข้าม ผมไม่ชอบไปมูลนิธิของแม่เลย ผมไม่ชอบคนที่นั่น เด็กๆรุ่นราวคราวเดียวกันมักจะมองผมแปลกๆ หรือผมรู้สึกไปเองก็ไม่รู้ว่าทุกคนทำตัวแปลกๆกับผม
'น่าอิจฉาเด็กคนนั้นเนอะ แล้วดูเด็กคนอื่นๆที่นี่สิ'
ผมเคยได้ยินเจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูดถึงผม และยังจำประโยคนั้นได้แม่นจนถึงทุกวันนี้
ผมเข้าใจดีว่าประโยคนั้นหมายถึงอะไร
เพราะในชีวิตผมไม่เคยรู้สึกขาดเลย แม้พ่อกับแม่จะทำงานหนักขนาดไหน รับผิดชอบสูงแค่ไหน แต่ไม่เคยบกพร่องเรื่องเวลาที่ให้ลูก ทั้งสองดูแลผมเป็นอย่างดี
และผมก็ไม่เคยไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการสักครั้ง แค่เอ่ยปากบอก สิ่งใดๆก็ตามจะมาวางอยู่ตรงหน้าในไม่ช้า
ผมคิดว่าตรงนี้แหละที่ทำให้ผมกลายเป็นคนเอาแต่ใจและอารมณ์ร้อน
ผมสอบเข้าโรงเรียนประถมศึกษาที่ดีที่สุดของประเทศไม่ได้ แต่ผมก็ได้เข้าเรียน ผมสอบเข้าโรงเรียนมัธยมศึกษาที่ดีที่สุดของประเทศไม่ได้ แต่ผมก็ได้เข้าเรียนเช่นกัน
ด้วยการที่พ่อแม่บริจาคเงินจำนวนมหาศาลให้โรงเรียน
ผมจึงถูกตราหน้าว่าเป็น 'เด็กฝาก' มาตลอด
'กูจะบอกมึงให้นะไอ้เด็กฝาก ถ้าพ่อแม่มึงไม่รวย มึงไม่มีทางเข้ามาเรียนที่นี่ได้หรอก'
ผมจัดการอัดไอ้คนพูดประโยคนี้จนช้ำในต้องเข้าโรงพยาบาล
ถามว่าผมรอดจากโทษพักการเรียนหนึ่งเทอมมาได้อย่างไร
ก็เพราะเงินของพ่อกับแม่อีกนั่นแหละ
จะว่าไปแม่งโคตรน่าสมเพชร เพราะมันก็จริงอย่างที่นักเรียนคนนั้นพูดกับผม
'จริงๆแล้วโทษของวชิระคือพักการเรียนหนึ่งเทอมเลยนะครับคุณพ่อคุณแม่ แต่ทางโรงเรียนเห็นว่านี่เป็นความผิดครั้งแรก เลยตัดสินว่าเหลือแค่ทำทัณฑ์บนเอาไว้ก็พอ'
คำพูดผู้อำนวยการฟังดูดีใช่ไหมครับ แต่คุณครูอีกหลายคนมีสีหน้าไม่ค่อยพอใจหรือแอบส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วย
เรื่องชกต่อยของผมไม่ได้มีแค่ตอนเข้าม.1มาใหม่ๆหรอกครับ แต่มันมีมาเรื่อยๆ ก็ด้วยนิสัยเลือดร้อน ไม่ชอบขี้หน้าคนง่ายๆ และหน้าตาผมที่ทำให้คนเห็นหมั่นไส้ได้ง่ายๆ นำพามาซึ่งการทะเลาะวิวาทเสมอ
แล้วผมก็รอดจากเรื่องพวกนี้ไปได้ทุกครั้ง
ผมเคยสอบตก4วิชาและถูกประเมินไม่ให้เกรดอีก2วิชาในเทอมเดียว ซึ่งหากเป็นนักเรียนคนอื่นควรเก็บกระเป๋าแล้วเดินออกไปจากโรงเรียนได้แล้ว แต่ผมก็ได้เลื่อนขึ้นไปเรียนชั้นถัดไปกับเพื่อนๆเหมือนไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น
ชิวิตในโรงเรียนของผมน่าทุเรศใช่ไหมล่ะ
ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างที่ตัวเองก็ยังไม่แน่ใจ ผมตั้งใจว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลดีๆให้เป็นของขวัญพ่อกับแม่ ให้ภูมิใจอย่างที่พวกเขาไม่เคยได้รับจากผมเลย
ผมรู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่คนโง่หรือไม่มีหัวสมอง แค่ขี้เกียจก็เท่านั้น เพราะงั้นผมจึงทบทวนบทเรียนมากขึ้น ไปเรียนพิเศษวิชาที่จะใช้สอบเข้าคณะทางด้านบริหารธุรกิจ เปลี่ยนแปลงตัวเองในด้านการเรียนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ในที่สุด ผลการสอบตรงก็ประกาศออกมา
ผม print out รายชื่อนักเรียนที่สอบผ่านเข้าไปในมหาวิทยาลัยพร้อมกำใส่มือกลับบ้าน เพื่อจะบอกข่าวดีที่สุดในชีวิตให้พ่อแม่ทราบ
สองทุ่มกว่าแล้วที่ผมย่องเข้าบ้านเงียบๆ เห็นพ่อกับแม่กำลังคุยกันอยู่ที่โซฟาตัวยาว
"วันนี้ลูกบอกรึเปล่าว่าจะไปไหน"
"เปล่านี่"
"งั้นฉันจะโทรหาลูกแล้ว นี่มันมืดแล้วนะ"
"อีกสักเดี๋ยวดีกว่า ปกติถ้าลูกไม่เรียนพิเศษ กลับถึงบ้านก็เกือบทุ่มแล้วนะคุณ"
"ก็นี่สองทุ่มแล้วนะคะ"
"เอาน่า อีกสักเดี๋ยว ให้เค้าไปผ่อนคลายกับเพื่อนๆหรือทำอะไรตามใจชอบบ้างเถอะ...ช่วงสอบ เค้าก็อ่านหนังสือเต็มที่"
"ก็จริงนะ ฉันอยากรู้ผลสอบเร็วๆแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะประกาศสักที"
แน่นอนว่าผมไม่ได้บอกเรื่องวันประกาศผลสอบหรอกครับ รอจะเซอร์ไพร้ส์วันนี้
"ผมภูมิใจมากเลยนะคุณ เพชรเคยเป็นเด็กเกเร แต่ตอนนี้เค้าเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเยอะเลย"
"นั่นสิคะ ถ้าเค้าสอบเข้าเรียน finance ได้ อนาคตจะต้องดีมากแน่ๆ"
ผมกำลังจะก้าวเท้าพ้นธรณีประตู แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของพ่อ
"ไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อแม่เค้าอยู่ที่ไหนเนอะ ถ้ารู้ว่าลูกชายเป็นเด็กน่ารักขนาดนี้คงภูมิใจเหมือนพวกเรา"
นี่มัน...หมายความว่าอะไร
"ฉันคิดไม่ผิดเลยที่เลือกเค้ามาอยู่กับเรา...คุณจำวันที่เราเจอเค้าครั้งแรกได้มั้ย"
"ได้สิ แค่คุณเห็นเค้าก็หลงรัก รีบบอกเจ้าหน้าที่ขอมาเลี้ยงทันที"
"คุณก็ชมว่าน่ารักน่าชัง มาแย่งฉันอุ้มเหมือนกันแหละน่า"
ผมถูกเลือก ถูกพามาอยู่ที่นี่งั้นเหรอ
"ก็จริงนะ...ผมว่าใครเห็นเค้าก็ต้องอยากรับไปเป็นลูกทั้งนั้นล่ะ...จะว่าไป..."
"อะไรเหรอคุณ"
"เราควรบอกความจริงลูกรึยังนะ"
"ไม่ได้นะคะ" แม่ส่งเสียงห้ามทันที
"ทำไมล่ะ"
"เค้ากำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย กำลังอยู่ในช่วงที่สำคัญมาก...ฉันกลัวว่าลูกจะรับไม่ได้"
"แต่ลูกโตแล้วนะคุณ"
"ไม่ได้ ลูกรู้ตอนนี้ไม่ได้แน่ๆ"
"งั้นคุณจะบอกเค้าเมื่อไร"
"ฉัน...ไม่รู้"
"แต่เราจะปิดบังเรื่องนี้ไปตลอดก็ไม่ได้นะ"
"มะ ไม่ต้องกังวลว่าเพชรจะรับไม่ได้หรอกครับ"
ผมทนฟังต่อไปไม่ไหว ตัดสินใจเดินเข้าไปยืนกลางบ้าน
"เพชร"
ไม่มีความตกใจไหนมากเท่าของพ่อกับแม่ผมในตอนนี้ ไม่สิ เค้าไม่ใช่พ่อกับแม่แท้ๆด้วยซ้ำ
"พะ เพชรกลับมาตั้งแต่เมื่อไรลูก" พ่อตะกุกตะกักถาม
ผมตอบช้าๆ
"ตั้งแต่ที่พ่อพูดว่าเลือกเพชรมาอยู่ที่นี่นั่นแหละ"
"คะ คือ มันไม่ใช่แบบที่เพชรกำลังเข้าใจนะลูก" แม่รีบบอก
"หรอครับ" ความโกรธพุ่งขึ้นมาจนล้น ขนาดนี้แล้วแม่ยังจะโกหกปิดบังผมอีกงั้นเหรอ "แล้วมันเป็นแบบไหนล่ะครับ"
ไม่มีคำตอบจากแม่
"พ่อ...ผิดเองแหละลูก...อย่าไปโทษแม่เค้าเลย"
"เพชรไม่ได้โทษแม่คนเดียวนี่ครับ...เพชรคิดว่าพ่อกับแม่ก็โกหกด้วยกันทั้งคู่"
ความเงียบปกคลุมไปทั่วห้อง ผมจ้องเข้าไปในตาของพ่อกับแม่ ต้องการที่จะรู้ความจริงทุกอย่าง และเห็นความเสียใจอย่างแสนสาหัสสะท้อนกลับมา
น้ำตาแม่ไหล
"จะมีใครพอบอกเรื่องจริงผมได้มั้ยครับ"
ไหนๆก็รู้แล้วว่าสองคนตรงหน้าไม่ใช่คนที่ให้กำเนิดผม ผมก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
แม่เอามือปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น พ่อเข้าไปประคองแม่ให้นั่งลงที่โซฟาก่อนจะค่อยๆเรียบเรียงเรื่องราว
"พ่อกับแม่...ไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆของลูก...พะ พวกเรามีลูกไม่ได้"
ผมเปิดปากถามคำถามต่อไปอย่างลำบาก
"ถ้างั้น...พ่อกับแม่ไปรับเพชรมาจากไหน..."
"จากมูลนิธิ..."
แบบนี้สินะ
"ระ รู้มั้ยว่าใครเป็นพ่อแม่เพชร"
แม่สะอื้นหนักขึ้นไปอีก พ่อเป็นคนตอบ
"เราไม่รู้เลยลูก"
แสดงว่าผมก็เป็นเด็กที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้งสินะ
แต่โชคดีกว่าเด็กคนอื่นๆตรงที่มีคนรับมาเลี้ยง
ทำไมผมไม่เคยสงสัยพฤติกรรมของคนที่มูลนิธิเลยนะ
ทำไมไม่เคยเอะใจว่าหน้าตาผมไม่มีส่วนไหนที่ได้มาจากพ่อกับแม่
"พ่อกับแม่โกหกเพชรทำไม"
ไม่มีคำตอบ แต่ผมเองก็ไม่ได้อยากรู้สักเท่าไรหรอก
'น่าอิจฉาเด็กคนนั้นเนอะ แล้วดูเด็กคนอื่นๆที่นี่สิ'
และถึงตอนนี้ผมเข้าใจความหมายจริงๆของประโยคนี้แล้ว
ผมเข้าห้องนอนทันที ไม่กินข้าว ไม่ตอบเสียงเรียกของพ่อแม่ ไม่ได้เอากระดาษผลสอบให้พวกเขาดู แต่ขยำทิ้งแล้วปาลงถังขยะไป
เพราะมันไม่มีความหมายใดๆอีกแล้ว
ความตื่นเต้นดีใจและภูมิใจในตัวเองหายไปเกลี้ยง
ผมหมกตัวอยู่แต่ในห้องจนถึงวันถัดมา คิดใคร่ครวญทุกอย่างเพื่อตัดสินใจว่าจะเอายังไงกับชีวิต และก็พบทางออก
ผมบอกพ่อกับแม่เรื่องผลสอบตรงพร้อมๆกับเรื่องที่จะขอไปอยู่คอนโดใจกลางเมืองแถวมหาวิทยาลัย
แน่นอนว่าเห็นความดีใจของพ่อแม่ได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น
"ทำไมล่ะลูก"
"เพชรว่ามันสะดวกกว่า มหา'ลัยคงจะเรียนหนักขึ้น กิจกรรมก็เยอะ ถ้าต้องเดินทางไปกลับทุกวัน เสียเวลาชีวิตครับ"
ระยะทางจากบ้านผมไปรถไฟฟ้าห่างกันแค่ไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น และมหาวิทยาลัยเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวก็ถึง
ผมรู้ทันทีว่าพ่อกับแม่เข้าใจถึงเหตุผลจริงๆที่ผมขอไปอยู่คอนโดคนเดียว
และรู้ด้วยว่าพวกเขาเสียใจมาก
แต่ควรจะรู้ด้วยว่าผมเองก็เสียใจมากเหมือนกัน
เทอมสุดท้ายของมัธยมฯผ่านไปโดยที่ความสัมพันธ์ของผมกับครอบครัวอุปการะไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย
ผมไม่พูดไม่จา ไม่อยู่ติดบ้าน ถึงกลับมาบ้านก็หนีเข้าห้องตัวเอง
และเห็นแม่ร้องไห้โดยมีพ่อนั่งปลอบอยู่บ่อยครั้ง
วันที่ผมย้ายของไปอยู่คอนโด ผมเรียกรถแท็กซี่2คันมาขนย้าย ร่ำลาพ่อกับแม่ด้วยประโยคสั้นๆเพียงประโยคเดียว
"เพชรไปนะครับ"
ไม่มีคำสัญญาว่าจะกลับมา
ชีวิตผมต้องเจอเรื่องโกหกหลอกหลวงอีกกี่ครั้งกัน

"อ้าวเพชร"
พี่ชลเป็นคนมารับหน้าบ้าน พลางยกมือไหว้ตอบผม
"มาหาไอ้พฤกษ์เหรอ"
"ครับ"
คนที่ผมอยากเจอมากที่สุดตอนนี้ก็คือไอ้พี่พฤกษ์
"เข้ามาก่อนดิ"
พี่ชลดึงแขนผมแล้วพาไปนั่งที่โซฟา
"พี่ถามไรหน่อย"
ผมพยักหน้า ไม่รู้ทำไมเวลามีคนเปิดประโยคมาแบบนี้ ผมถึงรู้สึกว่ามันจะต้องตอบยากแน่ๆ
"ทะเลาะกับไอ้พฤกษ์มาใช่ปะ"
"เอ่อ...ครับ"
"พี่รู้แล้วนะ เรื่องที่มันชอบเราอะ"
ผมนิ่งอึ้ง พี่ชลรู้ได้ยังไง
"พี่ถามมันเองแหละ เห็นว่ามันกับเราตัวติดกันตลอด จริงๆก็ดูไม่ยากเลยนะ..."
ผมเลียริมฝีปากอย่างนึกกังวล
"พี่ไม่ได้จะกีดกันอะไรนะ ไม่สนด้วยว่ามันจะรักใคร เพศไหน สนแค่ว่าชีวิตน้องพี่มันยังมีความสุขดีอยู่รึเปล่าแค่นั้น"
พี่ชลยิ้มให้อย่างอ่อนโยน จับไหล่ผมเบาๆ
"เดี๋ยวคุยกับไอ้พฤกษ์มันแล้วกัน พี่เรียกให้ลงมาละ...มันโกรธอยู่ แล้วก็ง้อยากหน่อยนะ เพราะมันไม่ค่อยจะโกรธอะไรใครเท่าไร แต่ก็เพราะมันแคร์เราจริงๆ"
เดี๋ยวเดียวไอ้พี่พฤกษ์ก็ลงมา สีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรนัก และพอเห็นผม ก็ยิ่งดูหนักขึ้นไปอีก
"มาๆ"
พี่ชลเดินไปลากมันมานั่งข้างๆผม
"พะ พี่พฤกษ์"
ผมเรียกเสียงค่อย
"เดี๋ยวพี่จะออกไปข้างนอกแปบนึงนะ"
พี่ชลยิ้มให้กำลังใจผมอีกครั้งก่อนเดินออกไป
"พี่พฤกษ์"
"ครับ"
มันตอบกลับเสียงแข็ง
"คือ...เพชรขอโทษ"
ผมเข้าเรื่องทันที
"ขอโทษเรื่องอะไร"
"ที่สวนลุมฯ...เพชรพูดไม่ดี..."
"ไม่ต้องขอโทษ เพชรไม่อยากให้พี่ยุ่งเรื่องของเพชรไม่ใช่รึไง"
"ขอโทษครับ"
"พี่ผิดเองแหละที่เข้าไปวุ่นวายกับชีวิตเราอะ"
"มะ ไม่ใช่"
"ถ้างั้น" ไอ้พี่พฤกษ์ลุกขึ้นยืน "เรามาทำไม ในเมื่อไม่อยากให้พี่ยุ่ง"
"ฟังเพชรก่อน"
ผมกอดเอวพี่มันไว้แน่น มันดูตกใจ
ผมเองก็ตกใจตัวเองเหมือนกัน เกิดมาไม่เคยง้อใครขนาดนี้ แต่รีบรั้งไว้เพราะกลัวมันเดินหนีไป
"เพชร...จะเล่าให้พี่ฟังทุกอย่าง"
"ไม่ต้องแล้วล่ะครับ"
"พี่พฤกษ์ เพชรขอโทษ"
มันมองผม อะไรบางอย่างในตาไอ้พี่พฤกษ์บ่งบอกว่ากำลังใจอ่อน
"เพชรไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้เลย ไอ้เจมส์ก็ไม่รู้...แต่เพชรมีเหตุผล แล้วก็จะบอกพี่ เพราะเพชรแคร์พี่"
ไอ้พี่พฤกษ์นิ่งเงียบ
"เพชรไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อแม่...เพชรถูกทิ้งแล้วพ่อกับแม่เก็บมาเลี้ยง"

TBC

เพชรมีปมแบบนี้นี่เอง เป็นกำลังใจให้ทั้งเพชรทั้งพี่พฤกษ์ต่อไปด้วยนะ #พฤกษ์เพชร

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ถึงจะถูกเก็บมาเลี้ยง  แต่เขาก็รักราวกับลูกในไส้

ทำไมไม่คิดบ้างในประเด็นนี้  แล้วถามหน่อยเหอะ 

ไอ้สิ่งที่แกทำอยู่เนี่ย  เขาไม่ได้เรียกว่า โกหกคนอื่นอยู่หรือไง?

รมเสีย

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
EP30 "เพชรชอบพี่"

"เพชรไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อแม่...เพชรถูกทิ้งแล้วเค้าเก็บมาเลี้ยง"

สีหน้าไอ้พี่พฤกษ์เปลี่ยนจากโกรธขึ้งเป็นตกใจหลังได้ยินประโยคนั้น

"วันนี้แม่โกหกว่าพ่อป่วย...ให้เพชรกลับบ้าน"

มันยืนนิ่ง ก้มลงมองผม ผมเองก็ยังกอดเอวมันไว้แน่น

"เพชรไม่อยากไปที่บ้านอีกแล้ว"

น้ำตาผมไหลอีก พี่พฤกษ์ยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ เป็นเวลานานกว่ามันจะพูดขึ้นอีกครั้ง

"เพชร...ฟังพี่นะ"

ผมพยักหน้า สบสายตากับคนที่แคร์มากที่สุดในตอนนี้

"การที่เด็กคนนึงจะโตขึ้นมาได้ เราคิดว่าใครสำคัญที่สุดในชีวิตเขา"

"พ่อแม่"

"กลับกัน ถ้าขาดพ่อแม่ เด็กจะโตขึ้นมาเป็นไง"

"มะ ไม่รู้…แต่ชีวิตก็คงลำบากกว่าคนที่มีพ่อแม่" ผมสูดจมูก

"ใช่...ถ้างั้นเราคิดว่าตัวเองอยู่กลุ่มไหนครับ"

ผมกัดริมฝีปากแทนคำตอบ และไอ้พี่พฤกษ์คงรู้ทันทีว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่

"ในใจเราคงตอบพี่ว่ากลุ่มที่ขาดพ่อแม่ แต่ผิดนะ" ผมมองมันอย่างไม่เข้าใจ "เพชรไม่ได้ขาดเลย เพชรมีทั้งพ่อและแม่ครบถ้วน...ถ้าถามพี่นะ มันไม่สำคัญเลยว่าท่านจะเป็นคนให้กำเนิดเรารึเปล่า ที่สำคัญกว่าคือสิ่งที่ท่านทำให้เพชร เลี้ยงดูอย่างดีจนอยู่มาถึงตอนนี้ รักเหมือนกับเป็นลูกแท้ๆของตัวเอง" ผมนิ่ง ไม่มีอะไรจะโต้แย้งไอ้พี่พฤกษ์ ได้แต่นึกสงสัยว่าทำไมไม่เคยคิดอะไรแบบนี้ได้เลย

"เพชรยังโชคดี มีเด็กอีกหลายคนที่ไม่มีแม้กระทั่งคนเลี้ยงดู พวกเขาโตขึ้นมาด้วยตัวเอง คิดดูสิว่าลำบากกว่าเราขนาดไหน"

แววตาไอ้พี่พฤกษ์บ่งบอกถึงความอ่อนโยนแต่ก็จริงจังอย่างเห็นได้ชัดด้วย

"พี่อาจจะไม่รู้จักหรือเข้าใจพวกท่านเท่ากับเพชร แต่พี่แน่ใจว่าทุกอย่างที่ท่านทำก็เพื่อเรา ท่านรักเรา แม้จะต้องโกหกหรือปิดบังความจริง"

ผมเริ่มคิดทบทวนตามคำพูดไอ้พี่พฤกษ์ และเมื่อเห็นแบบนั้น มันจึงพูดต่อ

"พี่รู้ว่ามันยาก แต่เราจะทำร้ายคนที่รักเราแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะแค่เขาไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆยังงั้นเหรอ"

"พะ เพชร..."

มันนั่งลง มือข้างหนึ่งจับมือผม มืออีกข้างโอบผมเข้าไปแนบกับบ่า

"เพชรลองกลับไปคิดดูนะ พี่ทำได้แค่แนะนำ แต่สุดท้ายแล้วเราเป็นคนตัดสินใจเอง"

ผมอ้อยอิ่งอยู่ที่บ้านไอ้พี่พฤกษ์จนฟ้าเริ่มมืด แน่นอนว่ามันรู้ว่าผมคิดอะไร

"ไม่กลับคอนโดรึไง จะทุ่มนึงแล้วนะ" ผมหน้าเสีย เจ้าของบ้านพูดส่งแขกถึงขนาดนี้

"พี่พฤกษ์ เพชรขอโทษ...หายโกรธเพชรนะครับ"

ผมรู้สึกผิดจริงๆ แล้วก็ต้องการให้พี่มันยกโทษให้ ไม่เอาอีกแล้วกับท่าทีเย็นชาไม่สนใจกันแบบนั้น

"ก็เห็นเราบอกว่าไม่อยากยุ่งกับพี่"

"พี่พฤกษ์" ผมเรียกเสียงอ่อย

"ครับ" มันตอบห้วน

"เพชรอยากให้พี่ยุ่ง ไม่อยากให้พี่ไปไหน"

พึ่งรู้ว่าไอ้พี่พฤกษ์โกรธก็คือโกรธจริงๆ ที่แกปลอบผม สอนผมเมื่อกี้ก็แค่เรื่องที่บ้าน แต่ที่ผมอาละวาดเมื่อบ่ายมันคนละเรื่องกัน

"เข้าใจรึยังว่าพี่รู้สึกแย่แค่ไหนตอนที่เราไม่อยากให้พี่ยุ่ง พอพี่ไม่อยากยุ่งกับเราบ้าง"

"เข้าใจแล้ว" ผมตอบเสียงเบา

"งั้นอย่าทำอีก มีอะไรก็เล่าให้พี่ฟัง รู้มั้ยครับ"

"ครับ...คืนนี้เพชรขอนอนกับพี่นะ"

"หืม ทุกทีบ่ายเบี่ยง ทำไมวันนี้จะมานอนด้วย"

"นะคร้าบบ"

"อืม"

เกือบเที่ยงคืนแล้ว ทั้งผมทั้งไอ้พี่พฤกษ์อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย ผมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ

"พี่พฤกษ์...ยังโกรธอยู่อ่อ"

"เปล่า ไม่ได้โกรธแล้วล่ะ...มานี่"

มันดึงผมมากอด

"พี่รักเรานะครับ"

"คะ ครับ"

"นอนกันมั้ย"

"อือ"

มันลุกไปปิดไฟ แทรกตัวเข้าไปในผ้าห่ม ผมทำตาม

"พี่อยากให้เราโตขึ้น อยากให้เรามีความสุข...ให้พี่อยู่กับเรานะครับ"

ผมขยับมือเข้าไปกุมมือไอ้พี่พฤกษ์

"วันนี้ขี้อ้อนเป็นพิเศษนะ" มันว่า ผมมองมัน รู้สึกดีแบบบอกไม่ถูก เห็นรอยยิ้มบางๆตอบกลับมาและรู้ว่ามันก็กำลังรู้สึกแบบเดียวกับผมเช่นกัน

 

หลังจากวันที่เกิดเรื่องและผมไปง้อไอ้พี่พฤกษ์ที่บ้าน ผมคิดไว้อยู่เรื่องหนึ่ง คือคิดหาวันที่จะกลับไปหาพ่อกับแม่ผม และแน่นอนว่าจะพาไอ้พี่พฤกษ์ไปด้วย

กิจกรรมหลังเลิกเรียนของนิสิตม.ผมมีอยู่ไม่กี่อย่างหรอกครับ ไม่ไปเดินเล่นห้างฯ ก็อยู่ที่ร้านเหล้า โดยเฉพาะเย็นวันศุกร์ด้วยแล้ว นิสิตหลายคนเลือกที่จะไปฉลองวันหยุดสุดสัปดาห์กับเพื่อนที่ร้านเหล้า

“พรุ่งนี้เรียนเสร็จอยากทำอะไรมั้ยครับ” ไอ้พี่พฤกษ์ถามผมในคืนก่อนหน้า

“ไม่รู้ดิ…พี่อยากทำอะไรเป็นพิเศษมั้ย”

“อืมม…ทำอะไรก็ได้ แค่อยู่กับเพชรก็พอ” จับได้ชัดเจนว่าท้ายประโยคของมันกำลังหยอด

สุดท้ายเราก็ตกลงกันว่าไอ้พี่พฤกษ์จะมาเล่นที่คอนโดผม ทำอะไรง่ายๆกินกันที่คอนโด แล้วก็อาจจะหาหนังใน Netflix ดูกันสักเรื่อง เพราะงั้นผมที่เลิกเรียนก่อนในวันศุกร์ จึงมานั่งรอที่ม้าหินแถวๆตึกที่มันเรียนครับ

“น้องเพชร”

ไอ้พี่พฤกษ์เอ่ยเสียงเรียก ยิ้มกว้างเมื่อผมหันไปหา มันเดินมาพร้อมกับพี่ริว พี่เกี้ยง ไอ้พี่สองคนนี้ก็พอๆกับไอ้เจมส์ ไอ้นิวเลย เห็นผมกับไอ้พี่พฤกษ์ทีไรแซวตลอด

“ฮั่นแน่ ใครมารอมึงถึงตึกเรียนเลยวะพฤกษ์”

“เสือกละไอ้ริว”

“แหมๆๆ เจอแฟนแล้วลืมเพื่อนเลยนะสาดด” ไอ้พี่ริวกวนประสาทต่อ ไอ้พี่พฤกษ์ก็รีบหันไปทางเพื่อนมัน คงจะกำลังส่งกระแสจิตกันว่า ‘อย่าพึ่งพูดว่าผมเป็นแฟน’

“ไรพี่ริว” ผมทำเสียงเข้ม

“อะๆ ยังไม่ใช่แฟนก็ได้ว้า แต่กูว่าอีกไม่นานหรอก ไม่ใช่แฟนวันนี้ พรุ่งนี้อาจจะเป็นแล้วก็ได้…เออ ว่าแต่ กูถามอะไรพวกมึงหน่อยดิ”

“ไอ้ริว กูรู้มึงจะถามอะไร” พี่เกี้ยงพูดพลางขำ

“ไอ้ห่าเกี้ยง มึงจะรู้ดีไปหน่อยละ…ไหนถ้ามึงรู้จริง ถามมันสองคนแทนกูดิ”

“ได้กันยัง” พี่เกี้ยงหันมามองผม

“พ่อมึงเหอะริว สาดด” ไอ้พี่พฤกษ์แหวเพื่อนทันที และแม่งเสือกหน้าเป็นสีแดงขึ้นมา

“เออ รู้ใจกูจริงๆ…เอ้า ว่าไงล่ะพวกมึง ได้กันรึยัง”

“ยังจะถามอีก” ผมกัด

“เออ ห่า มึงนี่นะ” พี่พฤกษ์สนับสนุน

“พี่นี่อยู่กับไอ้เจมส์ได้เลย แม่งถามอยู่นั่น” ผมเผลอหลุดปากว่าเพื่อนผมก็ถามเรื่องนี้เหมือนกัน

“เห็นมั้ย ใครๆเขาก็อยากรู้กันทั้งนั้นอะ สรุปเป็นผัวเมียกันยังครับ”

“ไม่ใช่โว้ย/ยังโว้ย” ผมและไอ้พี่พฤกษ์ตอบ

“หึหึ โกหก”

“โกหกไร กูพูดจริงเว้ย” ไอ้พี่พฤกษ์ยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่ ผมเดาว่ามันกำลังนึกถึงเรื่องที่เรา เอ่อ ทำอะไรกันคืนนั้นแน่ๆ

ชิบหาย พอผมคิดตาม ก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเหมือนกันด้วยแฮะ

“กูก็ไม่เชื่ออะ หน้าแดงทั้งคู่เลย” ไอ้พี่เกี้ยงหัวเราะ

“พอๆ แซวน้องมันพอแล้วพวกมึง…ปะ เพชร ไปกันดีกว่า อย่าไปสนใจพวกแม่งเลย” ไอ้พี่พฤกษ์ฉุดผมลุกขึ้นยืนแล้วพาเดินออกไปที่ลานจอดรถ หนีจากเพื่อนมันสองคน

“ได้กันแล้วแน่ๆ พวกมึงอะ กูไม่เชื่อหรอก”

ไอ้ห่าพี่ริวยังตะโกนตามหลังมาอีกแน่ะ คนเขามองกันทั้งคณะแล้วเห็นม้าย

“เวลาเพื่อนพี่แซว เขินปะ” ไอ้พี่พฤกษ์ถามขึ้นเมื่อเรามาอยู่ด้วยกันในรถแล้ว

“ไม่อะ เพชรก็โดนไอ้เจมส์ ไอ้นิวแซวประจำ”

“5555 ดีแล้ว อย่าไปถือสาพวกมันนะ โดยเฉพาะไอ้ริว พูดมากทั้งวัน”

“เพชรไม่คิดอะไรหรอกน่า พี่ต่างหาก หน้าแดงก่อนเขาอีก”

ไอ้พี่พฤกษ์เกาหัวแก้เขิน

“ว่าแต่…” สักพักมันก็หันมายิ้มอย่างมีเลศนัย ผมรู้ทันทีว่ามันกำลังจะกวนตีน พออยู่กันสองคนนี่ไม่เห็นอายเหมือนตอนอยู่กับเพื่อนเลย มีแต่หื่นใส่ผมอะ

“ไรพี่”

“เมื่อไรเราจะทำแบบที่ไอ้ริวบอกอะ…โอ๊ย” ท้ายประโยค ผมต่อยแขนมัน

“ทะลึ่ง”

“พี่รู้นะว่าเราก็คิด”

“คิดไร ใครจะหื่นเหมือนพี่ บ้าเปล่า”

“อย่ามาหลอกกันเลย เมื่อกี้เราก็หน้าแดงเหอะ พี่เห็น” มันยิ่มกรุ้มกริ่ม

“อากาศมันร้อนต่างหาก”

“หรา”

ผมเปลี่ยน mp3 ในรถไอ้พี่พฤกษ์เป็นเพลงโปรด

“ว่าแต่เย็นนี้พี่อยากกินอะไรครับ” ถามไปงั้น ผมคิดไว้แล้วว่าจะกินอะไรที่คอนโด

ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มแป้น ละสายตาจากถนนมามองผมครู่หนึ่ง

“ยิ้มไร”

“ยิ้มไม่ได้รึไง” มันตอบกวนๆ

“เหมือนคนโรคจิต”

“โห่ย เซ็ง…จะโรแมนติกกับเขาบ้าง โดนหาว่าเป็นคนโรคจิตซะงั้นอะ”

ผมหัวเราะ

“ไหนๆ จะโรแมนติกยังไง”

ผมสบตาไอ้พี่พฤกษ์ จริงๆแล้วมันเป็นตัวบอกทุกอย่างได้เลยว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่ ผมเคยเห็นสายตาที่เศร้าสร้อยแม้ว่าริมฝีปากมันกำลังยิ้ม เคยเห็นสายตาที่อ่อนไหวแม้กระทั่งมันกำลังขึงขังหรือไม่พอใจ และตอนนี้แววตาของมันบ่งบอกว่ากำลังมีความสุขมาก

ผมเองก็มีความสุขมากที่ได้อยู่กับมัน

“เพชรรู้มั้ยว่าตัวเองน่ารัก”

“หือ ยังไง”

“ก็เราทำตัวน่ารัก เป็นเด็กดี ไม่ดื้อกับพี่ไงครับ”

“หึหึ นี่เพชรไม่ดื้อแล้วอ่อ”

“น้อยลงมาก ตั้งแต่ที่เราเจอกันวันแรก”

ผมเขินก็เลยเงียบ หันหน้าไปยังถนน ไม่กล้ามองหน้าไอ้พี่พฤกษ์ ตั้งแต่ที่คุยกับมัน ไม่รู้เป็นอะไร เขินพร่ำเพรื่อตลอด ไม่คิดเลยว่าชีวิตผมจะมีวันมาเขินผู้ชายด้วยกันแบบนี้

“เขินเหรอครับ” นั่น และไม่ใช่ว่าผมรู้ทันความคิดมันฝ่ายเดียว มันเองก็อ่านผมออกอย่างง่ายดายไม่ต่างกัน

“เปล่าซะหน่อย”

“ขี้เก๊ก”

“ไม่ได้เก๊ก”

“ฟอร์ม”

“ไม่ได้ฟอร์ม”

“หึหึ”

เมื่อมาถึงห้อง ไอ้พี่พฤกษ์ก็ตั้งท่าจะทำครัวทันที

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเพชรทำให้ พี่ไปนั่งเล่นรอเลย”

มันขยี้หัวผมก่อนจะเดินออกจากโซนครัวไปนั่งดูทีวี

มันขับรถมาเหนื่อยแล้ว ไม่ต้องมาเหนื่อยทำอาหารให้ผมกินอีกหรอก

อีกอย่าง ผมอยากเป็นฝ่ายดูแลมันบ้าง

ผมเองทำอาหารพอใช้ได้ ตั้งแต่ที่มาอยู่คอนโดคนเดียวได้ฝึกทำกินเอง จะให้กินข้างนอกทุกมื้อก็เบื่อแย่ครับ วันนี้ผมว่าจะทำแกงกะหรี่เนื้อให้ไอ้พี่พฤกษ์กินครับ เห็นมันบ่นเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าอยากกิน เมื่อวานเลยแอบไปซื้อวัตถุดิบมาเตรียมไว้

“เราจะทำอะไรให้พี่กินน้า” มันส่งเสียงมาจาก living room “ตื่นเต้นจัง”

“เว่อร์น่า”

“จะอร่อยมั้ยน้า”

“อย่าคาดหวังสูงนะ เพชรทำงูๆปลาๆ”

“งูๆปลาๆได้ไง พี่กินทั้งทีนะครับ” มันแกล้งทำเสียงเข้ม

“จะกินไม่กิน”

“กินคร้าบ”

คนรอกินเดินเข้ามาป่วนในครัวจนได้ พอเห็นว่าผมหั่นเนื้ออยู่ แล้วก็เห็นน้ำแกงกะหรี่ที่ต้มอยู่ในหม้อ มันฝรั่ง หัวหอมวางรอไว้ทำต่อ ไอ้พี่พฤกษ์ก็ยิ้มกว้างหน้าบาน

“น่ารักจัง ทำแกงกะหรี่ให้พี่กินเหรอ”

“แกงจืด” ผมกวนตีน

“กลิ่นหอมฉุยเลย”

“พี่ก็เกินไป”

“ชมจริงๆนะ”

มันเดินเข้ามาซ้อนหลัง วางคางลงบนไหล่ผม มือทั้งสองข้างแตะเอวผม

“ไหนดูหน่อย”

“ระวังนะ เพชรหั่นเนื้ออยู่”

ผมหันไปสบตากับมัน หน้าเราห่างกันไม่กี่นิ้ว ใจผมเต้นแรงแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“พี่พฤกษ์มากวนเพชรงี้เมื่อไรจะเสร็จ ไปนั่งรอเลยไป” ผมโวย

“คร้าบ…” มันลากเสียงอย่างอารมณ์ดี ยอมปล่อยผม

 

“หือ อร่อยอะ” ไอ้พี่พฤกษ์ตาโต ตักแกงกะหรี่เข้าปากอีกหลายคำหลังจากนั้น

“เว่อร์” ผมยิ้มกริ่ม ปากก็ว่ามัน แต่ใจนี่พองโต หึ ฝีมือผมอร่อยแน่นอนอยู่แล้ว

“ไม่ได้เว่อร์ อร่อยจริงๆ…ทำหลายครั้งแล้วใช่ปะ”

“สองสามครั้งเอง”

“เรานี่ก็ทำอาหารเก่งนะเนี่ย” มันยิ้มแก้มตุ่ย “แล้วทำอะไรเป็นอีกบ้าง”

“ได้หมดอะ อาหารไทยก็ได้ ฝรั่งก็ได้ เกาหลีก็เคยทำ แต่ทำขนมไม่เป็นนะ” ผมได้ทีโม้ซะเลย แต่ที่พูดไป ก็เคยทำมาหมดแล้วจริงๆครับ

“ขอตัวอย่างซิ”

“ผัดกะเพรา ก๋วยเตี๋ยวก็เคยทำกินเอง สปาเก็ตตี้ สเต็ก ซุปกิมจิ…อีกเยอะอะ”

“หูยย ไว้พี่ต้องมาฝากท้องที่คอนโดเราบ่อยๆแล้วแหละ”

“แน่ะ ไม่ต้องมาเลย รู้นะว่าจะมาทำไม” ก็หน้าไอ้พี่พฤกษ์อะดิ หื่นชิบ แค่มองก็รู้แล้วว่ามันคิดอกุศลอะไรอยู่

“5555555555555 พี่มาแค่กินข้าวจริงจริ๊ง”

ไม่เกินสิบห้านาที แกงกะหรี่เนื้อหนึ่งหม้อก็หมดเกลี้ยงด้วยชายฉกรรจ์ผู้หิวโหยสองนาย

“เดี๋ยวพี่ล้างจานให้นะ” ไอ้พี่พฤกษ์รวบจาน ลุกขึ้นจะเดินไปห้องครัว

“เห้ย ไม่ต้อง เดี๋ยวเพชรจัดการเอง พี่นั่งดูทีวีไปเหอะ”

“ม่ายอาว เราทำอาหารให้พี่กินแล้ว หน้าที่พี่ต้องล้าง เรานั่นแหละไปนั่งพัก”

“ไม่ต้องน่า เพชรล้างแปบเดียว”

“เดี๋ยวพี่ล้างให้ครับ”

“อะๆ งั้นก็ไปล้างด้วยกันเนี่ยแหละ”

ผมกับมันช่วยกันล้างจาน มีสองสามหนที่มือเราสองคนสัมผัสกันโดยบังเอิญ ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มไม่หุบ ในขณะที่ผมไม่กล้าสบตามันเลย

 

สามทุ่มกว่าแล้ว ผมกับไอ้พี่พฤกษ์อาบน้ำพร้อมนอนเรียบร้อย ปกติผมจะใส่แค่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวสบายๆ แต่นี่ไอ้พี่พฤกษ์อยู่ด้วย เขินครับ (เขินรอบที่ล้าน) เลยใส่เสื้อยืดอีกตัว

ส่วนแขกก็เหมือนกัน ใส่เสื้อยืดและกางเกงบ๊อกเซอร์ของผม แต่เลือกตัวที่ใหญ่ๆให้หน่อย เพราะมันตัวหนากว่าผมนิดนึง นี่ถ้าอยู่บ้านมันเองคงหนีไม่พ้นชุดนอนแบบเสื้อกับกางเกงเป็นลายเดียวกัน แค่ผมนึกถึงก็ขำพรืด

“ขำราย”

“เปล่า…ใส่ชุดเพชรได้ใช่มั้ยครับ”

“ได้ แต่ถ้าให้สบายกว่านี้ ไม่ต้องใส่อะไรนอนเลยก็ได้นะ” มันว่าพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“พ่อพี่ดิ”

“น้องเพชร” มันดุ

ไอ้พี่พฤกษ์นั่งอยู่ปลายเตียง มองผมที่กำลังใช้ไดร์เป่าผมอยู่

“มองไร”

“ก็เรามันน่ามองอะ”

ผมส่ายหัว หวั่นสายตาหื่นกามของมันขึ้นมานิดๆแฮะ

“เดี๋ยวดูหนังกันมั้ยพี่”

“ได้คร้าบ”

พอเป่าผมเสร็จ ไอ้พี่พฤกษ์ก็ฉุดแขนผมลงมานั่งข้างมัน

“พี่มีอะไรจะบอก”

“หืม” ผมเห็นสีหน้าที่ดูเคร่งขรึมผิดปกติมองมา

“คือ พี่ว่ามันก็นานแล้วนะ…ที่เราคุยๆกัน”

มันกุมมือผม ตั้งแต่เมื่อไรกันนะที่ผมยอมให้มันจับมือแบบนี้

“พี่อยากรู้ว่า…เพชรรู้สึกอะไรกับพี่บ้างมั้ย”

เงียบไปนาน ผมคิดถึงความรู้สึกตัวเองและเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนอยู่ ไอ้พี่พฤกษ์ก็ใจจดใจจ่อรอคำตอบ

ผมเป็นคนชัดเจนกับความรู้สึกตัวเองนะ ถ้าชอบก็คือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ และอยากที่จะแสดงออกหรือทำอะไรได้ตามความรู้สึกจริงๆของตัวเอง

และก็จริงอย่างที่ไอ้พี่พฤกษ์ว่า จนถึงตอนนี้มันก็นานพอที่จะพิสูจน์ได้แล้วว่าผมรู้สึกดีกับมันมากแค่ไหน และอยากมีมันอยู่ด้วยกันไปตลอด บางคนอาจจะมองว่าสามสี่เดือนเป็นเวลาที่น้อยไปสำหรับการทำความรู้จักกัน หรือบางคนอาจจะมองว่าไม่ต้องดูกันนานถึงสามสี่เดือนแล้วค่อยตัดสินใจคบกัน ซึ่งผมไม่เห็นว่ามันจำเป็นจะต้องไปใส่ใจเรื่องพวกนั้นทำไม ถ้าใจบอกว่าใช่ก็คือใช่สิ เวลาไม่ใช่สิ่งที่สลักสำคัญอะไรเลย

“เพชรชอบพี่”

ผมบอกคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง กุมมือมันให้แน่นขึ้น

คนรับสารหน้าเป็นสีแดงหน่อยๆ

ผมมองสำรวจไอ้พี่พฤกษ์ ใครจะไปนึกว่าอยู่ๆผมก็มาลงเอยกับผู้ชายด้วยกัน แล้วก็เป็นผู้ชายในฝันของใครหลายคนด้วย ขาวตี๋ หน้าคม สูงชะลูด กล้ามแน่น พิมพ์นิยมสุดๆ

“งั้น…เรามาคบกันมั้ยครับ”

ไอ้พี่พฤกษ์พูดจบก็จ้องเข้ามาใกล้ขึ้นอีก บรรยากาศรอบข้างเงียบเสียจนได้ยินเสียงหัวใจมันเต้นเร็วถี่

ของผมเองก็เต้นตึกตักเหมือนกัน

“ครับ”

คำตอบรับของผมทำเราทั้งคู่เสียอาการ มันยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น ผมเขินจนต้องหันหน้าหนีไปอีกทาง

แต่มือเราทั้งคู่ยังประคองจับกันอยู่

หลายนาทีผ่านไป เรายังนั่งกันอยู่อย่างนั้น

“ขอบคุณนะครับที่ตอบตกลงพี่”

“อือ เพชรก็ขอบคุณพี่พฤกษ์นะครับ” ในชีวิตผมพูดดีกับใครแทบนับครั้งได้เลย ทำดีมาก็น้อยกว่าไม่ดี แต่ผมอยากตอบแทนสิ่งดีๆที่มันมอบให้ผม “เพชรไม่ใช่คนดีอะไร เกเร เป็นเด็กมีปัญหาด้วยซ้ำ…แต่พี่ก็ยังเลือกเพชร”

ไอ้พี่พฤกษ์ลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน

“พี่ก็ไม่ใช่คนดีอะไรหรอก”

“แต่เพชรสัญญานะ ว่าจะปรับปรุงตัวเองให้เป็นคนดีขึ้น”

“ครับ…พี่รักเพชรนะ”

สิ้นคำนั้น ไอ้พี่พฤกษ์ขยับเข้ามาจนเห็นทุกอย่างบนใบหน้าได้ชัดเจน มันค่อยๆประกบปากเข้ากับปากผม และจูบอย่างนุ่มนวล

ผมจูบตอบ วางมือลงบนอกไอ้พี่พฤกษ์ มันเองก็วางมือโอบเอวผมไว้หลวมๆ

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2020 10:40:24 โดย writerbeer »

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
EP31 "พี่พฤกษ์รักเพชรนะครับ"
พี่พฤกษ์

เราจูบกันเนิ่นนาน ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไรแล้ว มันเป็นความรู้สึกดีที่สุดที่ผมเคยรู้สึก ริมฝีปากบางสีแดงของเพชรช่างเย้ายวนเสียจนผมไม่ต้องการที่จะผละออกเลย
"อืมมม...พะ...พี่พฤกษ์" น้องเป็นฝ่ายขยับออก หน้าขึ้นสีแดงเพราะเขิน ผมเองก็ไม่ต่างกันหรอก
แต่มันดันมีอย่างอื่นมานอกเหนือจากความเขินด้วยน่ะสิ
"ครับ" ผมรับคำ เลียริมฝีปากอย่างกระหาย ยังไม่พอใจกับจูบเมื่อครู่
"ไอ้บ้า ไอ้ลามก"
"หืม"
เพชรมองที่เป้ากางเกงผมเร็วๆแล้วหันหน้าหนีไปทางอื่น น้องชายผมมันตื่นเต็มที่และดันกางเกงจนนูนเด่นเห็นได้ชัด
เพชรจะขยับตัวหนีแต่ไม่สำเร็จเพราะผมกอดตัวน้องเอาไว้แน่น
"พี่จะทำอะไร" น้องเริ่มโวยวาย
"เพชร...พร้อมมั้ยครับ"
"พร้อมไรเล่า ไอ้บ้า"
ผมปิดปากน้องด้วยจูบที่สอง ครั้งนี้หนักหน่วงรุนแรง ไม่นุ่มนวลเหมือนเมื่อครู่ อารมณ์มาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ น้องเองไม่ได้ขัดขืนแต่จูบตอบผม
มือที่กอดเพชรเริ่มเลื้อยไปตามลำตัว ทั้งลูบไล้และบีบคลึงเบาๆเป็นการกระตุ้น เดี๋ยวเดียวก็เห็นว่าน้องเองก็มีอารมณ์ตามผมมาเหมือนกัน
"พร้อมแล้วนี่ครับ" ผมแซว น้องต่อยแขนผม
"เพราะพี่อะ"
"ครั้งนี้พี่ขอนะครับ"
น้องไม่ตอบอะไรแถมยังเบือนหน้าหนีอีกครั้ง ผมจับตัวน้องเอนลงบนเตียงเบาๆแล้วขึ้นคร่อมทับ
"พะ...พี่พฤกษ์"
"คร้าบ" หรือว่าน้องยังกลัวอยู่นะ
"จะ...จะทำแล้วจริงๆเหรอ"
"เพชรอยากให้พี่ทำรึยังครับ"
น้องเงียบไป ผมมองสบตาคนที่ผมรักที่สุด เอื้อมมือลงไปลูบหัวน้องเบาๆ
"ถ้าเพชรยังไม่..." ผมเริ่มลังเล
"เพชรกลัวเจ็บ"
"โอ๋..." ผมจูบหน้าผากน้องอย่างอ่อนโยน "เจ็บแหละครับ แต่พี่สัญญาว่าจะค่อยๆทำนะ"
เพชรพยักหน้าช้าๆ ผมดีใจจนเนื้อเต้น ถอดเสื้อออกที่หัวแล้วลงซุกไซร้ซอกคอน้องทันที
"อะ อ้าา..." เพชรร้องครางกระสันเมื่อผมลากริมฝีปากผ่านคอ ลามเลียขึ้นไปถึงแก้มและหู หอมฟัดแก้มเนียนของน้องและควานลิ้นแหย่รูหู
น้องดิ้นพล่าน ตัวสั่น ขยับขาสีขาผมด้วยความเสียว
"พี่พฤกษ์...เพชรเสียว...อืออ" เสียงน้องยิ่งทำให้อารมณ์ผมพลุ่งพล่าน คืนนี้ผมไม่มีวันปล่อยน้องหนีไปไหนแน่
ผมถกเสื้อน้องขึ้นแล้วถอดออกเหวี่ยงไปบนพื้น
พระเจ้า เรือนร่างน้องโคตรเซ็กส์ โคตรดึงดูดอะไรขนาดนี้ ถึงผมจะเคยเห็นน้องเปลือยท่อนบนมาแล้วก็เถอะ แต่วันนี้มันดูน่าหลงใหลมากกว่าครั้งที่แล้วอีก ไม่อยากจะเชื่อว่าภาพที่เห็นตรงหน้ามันคือเรื่องจริง
"ไอ้หื่นเอ๊ย" น้องว่า มองตามสายตาผมและมือที่ไล้เวียนไปตามลำตัวน้องอย่างพึงพอใจ
"เราก็หื่น ไม่ใช่พี่คนเดียวหรอก ดูสิ" ผมยิ้ม จ้องส่วนกลางลำตัวของเพชรที่กำลังแข็งแน่นเห็นเป็นลำชัดเจน
"ไอ้พี่พฤกษ์" น้องร้องลั่นเมื่อผมเอามือบีบเบาๆ
"อย่าหวงเลยน่า พี่เคยจับแล้วนะ ลืมแล้วเหรอ"
ผมก้มตัวลงเล่นกับหัวนมสีชมพูบนอกแน่นเปลือยเปล่าของน้อง ตวัดลิ้นเลียวนและฉกรัวๆสลับกับดูดอย่างหื่นกระหาย น้องเด้งตัวรับปากผมด้วยความเสียว
เล่นกับอกอยู่นาน ผมเลื่อนปากลงมาที่หน้าท้องเป็นลอนเกือบจะเป็นซิกแพ็คของเพชร ทั้งใช้มือลูบและใช้ปากจูบไซร้
ทันใดนั้นผมก็ดึงกางเกงน้องออก
ตอนนี้เพชรเปลือยทั้งตัวให้เห็น ผมยิ้มกว้าง ถูกใจกับร่างกายที่สวยงามของคนรักเป็นที่สุด คว้าหมับเข้าที่เพชรน้อยแล้วสาวลากๆช้าๆ
"พะ...พี่พฤกษ์ครับ"
เพชรพูดเสียงเครือ ผมขยับตัวขึ้นมาจูบกับน้องอีก คราวนี้น้องจูบผมอย่างดูดดื่ม ยกแขนขึ้นโอบรอบคอผม
"พะ...เพชร...พี่จะไม่ไหวแล้วครับ..." ผมดึงกางเกงตัวเองออกบ้าง ไม่เหลือเสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆห่อหุ้มร่างเราสองคนอีกต่อไป
ผมรีบพุ่งไปหยิบถุงยางอนามัยกับเจลหล่อลื่นที่เตรียมไว้ในลิ้นชักมา จัดการตัวเองจนมาถึงน้อง
"นี่พี่เตรียมไว้เหรอ"
"ครับ...ต้องใช้ไอ้นี่นะ เพชรจะเจ็บน้อยลงนะครับ"
ผมใช้เจลกับช่องทางรักของเพชร น้องดูกังวลจนสังเกตได้
"จะ...เจ็บ" น้องร้องเมื่อผมเพิ่มจำนวนนิ้ว
"ทนนิดเดียวนะครับคนดี"
ผมจุ๊บหน้าผากแล้วลงไปซุกไซร้ตัวน้องอีกเพื่อผ่อนคลายความเจ็บ จนผมคิดว่าได้ที่แล้ว
"พี่เข้าไปนะครับ"
ผมถอดนิ้วออกแล้วสอดใส่ท่อนเนื้อแข็งร้อนเข้าไปแทน ไม่ทันไรเพชรก็ร้องดังลั่น
"อ๊าา...เพชรเจ็บ...พี่พฤกษ์"
"พี่ขอโทษนะครับ...เพชรทนอีกนิดเดียวนะ เดี๋ยวจะหายเจ็บแล้วนะ"
ผมสาบานเลยว่าผมค่อยๆทำอย่างเบาแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้คนที่ผมรักรู้สึกทรมานน้อยที่สุด ผมขยับช้าๆอย่างใจเย็น หักห้ามความรู้สึกที่อยากจะโหมกระหน่ำใส่ตัวน้องเอาไว้
"อ๊าา...พี่พฤกษ์" เพชรหน้าเป็นสีแดงก่ำ กัดปาก แสดงความเจ็บปวด แต่ผมกลับมองว่ามันเซ็กซี่ยั่วยวนที่สุด
"เชื่อใจพี่นะครับ"
ผมเข้าไปได้จนสุดทาง โน้มตัวลงไปโลมเลียยอดอกสวยอีกครั้งและขยับสะโพกช้าๆแต่หนักแน่น และเข้าสุดออกสุด
"อ๊ะๆๆ...อ๊า...อือ..." ผมโคตรชอบฟังเสียงนั่นเลย
"อืมมม...อ่าาา..."
ผมยกขาน้องขึ้นสูงมาพาดบ่า มือคลึงเขี่ยเค้นหัวนมน้องและเริ่มซอยถี่ขึ้น
"พะ พี่พฤกษ์ อ่าา"
"เพชร...อืมม..."
ผมเพิ่มความรุนแรงและความเร็วไปเรื่อยๆจนตัวน้องลอยขึ้นจากเตียง ทำไปสักพักก็อดใจไม่ไหวต้องดึงตัวเพชรขึ้นมาจูบอีก
เราจูบกันนัวเนีย ผมสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวลิ้นเพชรมาแลกน้ำลายกัน เพชรให้ความร่วมมือผมเต็มที่และดูเหมือนจะหายเจ็บแล้ว ความเสียวซ่านแผ่คลุมไปทั่วเราทั้งคู่
จูบเสร็จผมก็ไม่เสียเวลาลงไปดูดเลียหน้าอกน้องต่อ ข้างที่ไม่ได้อยู่ในปากผมก็โดนมือผมบีบคลึงเล่น ท่อนล่างก็ไม่หยุดขยับเลยแม้แต่วินาทีเดียว
เพชรครางดังลั่นห้อง ไม่รู้ห้องข้างๆน้องจะได้ยินกิจกรรมของเรามั้ย
ผมวางน้องลงบนเตียงแล้วเริ่มชักรูดให้น้องบ้าง พร้อมๆกับที่ซอยอย่างต่อเนื่อง
"สะ...เสียว..."
"พี่...ก็เสียว...ครับ...อ้าา..."
ไม่นานนักเพชรก็ปลดปล่อยออกมาเต็มมือผม ผมเสียวมากจนช่วงท้ายขยับรัวเร็วจนน้องตัวสั่นหัวคลอน เสียงเนื้อกระทบกันดังก้อง และแล้วผมก็รีบถอนออกในจังหวะสุดท้าย ดึงถุงยางและปล่อยออกมาเต็มหน้าท้องน้อง
เราสองคนหอบตัวโยน อกขยับถี่เร็วเพื่อเอาอ๊อกซิเจนเข้าไป มันสุดยอดมากๆครับ ภาพเพชรขยับตัวใต้ผมและร้องครวญครางยังปรากฏชัดในหัว
"พะ...พี่รักเพชรนะครับ"
"เพชรก็รัก...พี่พฤกษ์" น้องยิ้มบางๆให้ ผมก้มลงไปคลอเคลียน้องอีกครั้ง
เพชรเปลี่ยนสถานะเป็นทั้งแฟนและเมียผมในคืนเดียวกันเลย

หลังจากนั้น เราก็อยู่ด้วยกันแทบทุกวันเลยครับ ไม่ผมมานอนคอนโดน้อง น้องก็ไปนอนบ้านผม สิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งคือพ่อแม่และพี่ชายผมไม่ว่าอะไรเรื่องนี้สักคำ ซ้ำยังเอ็นดูเพชรมากๆเลยด้วยครับ
"ขอบคุณนะครับ...ที่ไม่รังเกียจผม" เพชรบอกทุกคนในครอบครัวผมที่โต๊ะอาหาร ในวันที่ผมตัดสินใจเล่าความสัมพันธ์ของเราให้ที่บ้านรับรู้
"อย่าคิดอย่างนั้นนะลูก พวกเราไม่รังเกียจเลยจ้ะ...แม่ไม่สนใจเลยว่าพฤกษ์จะมีแฟนเป็นใคร ขอแค่คนนั้นรักลูกชายแม่จริงๆ"
"ต่อไปก็ดูแลกันและกันนะลูก...เวลาทะเลาะกันก็ใจเย็นๆ นึกถึงสิ่งดีๆที่เราทำร่วมกันมา" พ่อผมบอก ยิ้มอย่างใจดีให้เพชร
"พี่ดีใจนะที่เป็นเพชร...ขอบใจที่รักน้องพี่นะ"
พี่ชลพูดบ้าง ขยับมายีหัวเพชรเล่นอย่างมันเขี้ยว
น้องหันมายิ้มกว้างน่ารักให้ผม
เหลือเพียงแค่ครอบครัวเพชรเท่านั้น ผมแอบหวั่นใจนิดๆว่าพวกท่านจะยอมรับผมมั้ย
แต่เพชรเป็นคนที่จิตใจเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวมาก วันหนึ่งน้องก็บอกผมว่าจะกลับไปหาพ่อแม่เขาและพาผมไปเปิดตัวด้วย ท่าทางดูไม่เกรงกลัวหรือวิตกกังวลอะไรสักนิด
"เพชรว่ามันถึงเวลาแล้ว...เพชรอยากขอโทษพ่อกับแม่...แล้วเพชรก็จะพาพี่พฤกษ์ไปด้วย"
เช้าวันเสาร์ที่เงียบสงบ ผมขับvolvoสีเงินคู่ใจมาจอดที่หน้าบ้านเพชร น้องบอกว่าอยู่กันแค่สามคน แต่บ้านใหญ่พอๆกับบ้านผมเลย สวนหน้าบ้านมีหญ้าสีเขียวชอุ่ม กระถางต้นไม้สวยหลายกระถาง มีโรงเก็บของเล็กๆอยู่ข้างที่จอดรถซึ่งมีรถจอดอยู่สามคัน
น้องบอกว่าพ่อกับแม่ซื้อรถให้ แต่ตอนนั้นโกรธพวกท่านมากเลยไม่ยอมใช้รถ
น้องชะงักนิดนึงเมื่อเห็นพ่อเดินอยู่แถวบริเวณประตูหน้าบ้าน
ผมแตะหลังเพชรเบาๆเป็นการให้กำลังใจ น้องหันมาพยักหน้า
"เอ่อ...พ่อครับ"
พ่อน้องหันมามองด้วยสีหน้าตกใจมาก ก่อนจะพุ่งเข้ามาหาลูกชาย
"เพชรลูก...พ่อคิดถึงลูกมาก"
พ่อโผเข้ากอดน้องแน่น น้องเองก็รับกอดพ่ออย่างอบอุ่น วางหน้าซบบ่าพ่อ
"เพชรกลับมาเหรอคะคุณ"
ด้วยเสียงของพ่อ ทำให้แม่น้องเดินออกมาจากในบ้าน พอเห็นพ่อลูกยืนกอดกัน แม่ก็เข้ามากอดด้วยอีกคน มือลูบทั่วหน้าตาและตัวน้อง
"เพชรกลับมาแล้วเหรอลูก...แม่ขอโทษที่โกหกวันนั้น" แม่น้องน้ำตาไหลอาบแก้ม
"พ่อขอโทษด้วยลูก"
"มะ...ไม่เป็นไรครับ...เรา...เข้าบ้านกันก่อนเถอะครับ"
ผมยกมือไหว้สวัสดีพ่อกับแม่น้อง พวกท่านหันมารับไหว้และยิ้มอย่างอบอุ่นให้
"ผมพฤกษ์ครับ เป็นรุ่นพี่เพชรที่มหาลัยน่ะครับ" ผมแนะนำตัว
"พ่อครับ แม่ครับ นี่พี่พฤกษ์...แฟนเพชรเอง"
ผมตกใจมากที่น้องบอกพ่อกับแม่ทันที ท่านทั้งสองเองก็ดูอึ้งไปเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเรื่องนี้ต่อ ทำเอาผมทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
ถึงแม่ไม่รู้ว่าน้องจะกลับมาบ้าน แต่ก็มีอาหารวางอยู่เต็มโต๊ะ ไม่เหมือนอยู่กันแค่สองคนเลย
"ขอโทษนะครับที่ไม่ได้บอกก่อนว่าจะมา" น้องว่า
"ไม่เป็นไรลูก...โชคดีที่วันนี้แม่ทำของโปรดเพชรพอดีเลยนะ" พ่อบอก
"ใช่ มีเยอะเลยลูก...พฤกษ์ทายสิว่าเพชรเค้าชอบกินอะไร"
บนโต๊ะมีผัดผัก แกงส้มชะอมไข่ ปลาช่อนทอด และยำถั่วพลู น้องมองมายิ้มๆ ในขณะที่ผมลังเลตอบ
"อืมม...ปลาช่อนทอดใช่มั้ยครับ"
"สมเป็นแฟนเพชรจริงๆ เก่งมากจ้ะ" แม่เอ่ยชม
ผมเดาเอาจากที่น้องชอบกินของทอดแล้วก็ชอบกินปลาน่ะครับ นี่ถ้าตอบผิดก็เตรียมมุดลงใต้โต๊ะอาหารได้เลย
"เอ่อ พ่อครับ แม่ครับ"
พ่อกับแม่น้องนิ่งฟังสิ่งที่ลูกชายจะพูด
"ก่อนกินข้าว เพชรอยากขอโทษ...ขอโทษทุกเรื่องเลยนะครับ...ที่เพชรเคยเป็นเด็กเกเร ทำตัวไม่ดี พูดจาไม่ดี...โกรธแล้วก็ไม่ยอมพูดด้วย...ขอโทษโดยเฉพาะวันที่เพชรรู้ความจริง..."
พ่อกับแม่น้องน้ำตารื้นขึ้นมา น้องเองก็เริ่มตัวสั่น ผมเอื้อมมือไปกุมมือน้องอยู่ใต้โต๊ะ
"เพชรรู้สึกผิดมากๆ...เพชรรู้ว่าสิ่งที่ทำมันแย่...แต่เพชรอยากขอโอกาสแก้ตัวได้มั้ยครับ...เพชรขอเป็นลูกของพ่อกับแม่ได้มั้ยครับ..."
สิ้นคำนั้น พ่อกับแม่ก็ลุกมากอดน้อง สามพ่อแม่ลูกกอดกันร้องไห้อีกครั้ง แต่น้ำตาที่ไหลออกมาจากครอบครัวนี้เป็นน้ำตาแห่งความสุขและการเริ่มต้นครั้งใหม่
ผมชื่นชมหัวใจและความคิดดีของเพชร วันนี้น้องโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกก้าวแล้ว

"ต่อไปนี้เพชรจะกลับมาหาพ่อกับแม่บ่อยๆ พี่พฤกษ์มากับเพชรนะ" น้องเอ่ยชวนเมื่อเรากลับขึ้นมาอยู่บนรถ กำลังเดินทางกลับคอนโดครับ
"ได้ครับ" ผมลูบหัวน้องอย่างรักใคร่
"ขอบคุณนะครับ" เพชรยิ้มหวานให้ น้องจะรู้ตัวมั้ยนะว่าตัวเองเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน ทั้งใจเย็นลง ห่วงใยใส่ใจคนอื่นมากขึ้น พูดจาก็น่ารักขึ้น ตอนนี้ผมหลงน้องจะแย่แล้ว
"พี่พฤกษ์รักเพชรนะครับ"
ความรู้สึกของผมเพิ่มมากขึ้นทุกวันๆ จากความชอบพัฒนามาเป็นความรัก และจากความรักพัฒนามาเป็นความรักที่จะไม่มีอะไรมาทำลายมันลงได้
ผมดูออกว่าน้องกำลังเขิน
"เพชรล่ะ รักพี่มั้ยครับ"
ผมรู้ว่าน้องก็รักผม แต่ถามเพราะอยากอ้อนแฟนนั่นแหละ
น้องอมยิ้ม แกล้งทำเป็นไม่ตอบ
"เพชรครับ"
"ครับ"
"รักพี่มั้ย"
น้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกม ฮึ่ม กวนนักใช่มั้ย
"ถ้าไม่ตอบว่ารักพี่...ถึงห้องแล้วไม่ได้นอนทั้งคืนนะ"
น้องสะดุ้งก่อนรีบพูด
"พี่รู้ว่าเพชรก็รักนี่...เพชรรักพี่พฤกษ์คร้าบ"

TBC

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
EP32 (The End) "โทษทีครับ กว่าพี่จะได้คนนี้มาเป็นแฟนไม่ง่าย...ใครหน้าไหนก็ห้ามจีบครับ"

หนึ่งปีในรั้วมหาวิทยาลัยผ่านไปค่อนข้างเร็ว แม้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมากมายและชีวิตผมเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วอยู่ดี
ที่บอกว่าชีวิตผมเปลี่ยนไปน่ะ หมายถึงเปลี่ยนไปในทางที่ดีนะ และดีมากๆเลยด้วย
เรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งเลยก็คือ ผมได้มีโอกาสปรับความเข้าใจกับพ่อแม่บุญธรรมของผม ผมกับไอ้พี่พฤกษ์ไปเยี่ยมพวกท่านทุกเดือน และไม่เสียใจแล้วถึงแม้ผมจะไม่มีโอกาสได้รู้จักพ่อแม่ที่แท้จริงเลยก็ตาม
ในเมื่อผมมีพ่อแม่บุญธรรมที่รักผมเหมือนเป็นลูกแท้ๆของพวกท่าน
อีกเรื่องหนึ่งก็คือตัวไอ้พี่พฤกษ์เองนั่นแหละ
ผมที่เคยมีความสุขกับการอยู่คนเดียว ไม่มีความสัมพันธ์แบบผูกมัดกับใคร พอมามีแฟนเป็นตัวเป็นตน กลับรู้สึกว่ามันมีความสุขมากกว่าที่เคยเสียอีก
ตอนก่อนคบกัน หลังคบกันใหม่ๆ จนมาถึงตอนนี้ ไอ้พี่พฤกษ์ก็ยังเป็นคนเดิมที่สม่ำเสมอตลอดมา เราดูแลกันและกันทุกวัน และแน่นอนว่าตอนนี้ความรู้สึกของผมมันเลยจากคำว่าชอบไปไกลมากแล้ว
"เพชรครับ...กี่โมงแล้วอ่า" ไอ้พี่พฤกษ์ลืมตาตื่นขึ้นมาก็หาวฟอดใหญ่
"จะเก้าโมงแล้วครับ...เดี๋ยวนี้ตื่นสายกว่าเพชรอีก เมื่อก่อนทำมาเป็นว่าเพชรขี้เซา" ผมผลักแขนพี่มันเล่น เจ้าตัวยิ้มหวานก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด
"ก็ใครล่ะ ชอบทำให้พี่เพลียบ่อยๆจนตื่นสาย"
"ไม่ต้องมาโทษเพชรเลย พี่หื่นของพี่คนเดียว"
"คนเดียวอะไรครับ แล้วเมื่อคืนใครครางลั่นห้องอะ โอ๊ยย..."
ผมบิดหูไอ้พี่พฤกษ์ หึ พี่มันน่ะโคตรหื่นเลย ทำเกือบทุกวัน บางวันก็สองสามรอบ นี่ถ้าผมไม่แข็งแรงสงสัยคงได้นอนซมแน่ๆ
"ไอ้หื่น"
"ก็เรามันน่ารักเองนี่ครับ" พี่มันบีบจมูกผมอย่างมันเขี้ยว
"แน่ะ"
"แหะๆ"
"มันทิ่มขาเพชรอะ"
"อะไรทิ่มเหรอครับ พี่ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย" มันยิ้มกริ่มก่อนจะขยับขึ้นมาอยู่เหนือตัวผม
"อีกแล้วเหรอพี่พฤกษ์...เมื่อคืนยังไม่อิ่มเหรอ" ผมถาม หน้าแดงจัด
"เมื่อคืนอิ่ม...แต่ตอนนี้พี่หิวอีกแล้วอะดิ อืมมม..."
"อือออ..."
พี่มันกดจูบผมอย่างรวดเร็วก่อนจะสอดแทรกแก่นกายเข้ามา เดี๋ยวนี้นอนเปลือยไม่ใส่เสื้อผ้าด้วยกันทั้งคู่แล้วครับ อาศัยผ้าห่มคลุมร่างอย่างเดียว ยิ่งทำให้เวลาจะมีอะไรกันก็ง่ายเลย
แล้วผมก็เสร็จไอ้พี่พฤกษ์แต่เช้าจนได้
"พี่พฤกษ์ไปอาบน้ำ"
"เดี๋ยวดิ ขอนอนกอดเมียก่อน"
"ม่าย เหนียวตัวแล้ว"
"เหนียวอะไรครับ ทีเมื่อกี้เหนียวกว่านี้ไม่เห็นบ่นเลย"
"ไอ้พี่พฤกษ์"
"5555555555"
ไอ้พี่พฤกษ์รัดผมแน่นอย่างกับงูเหลือมแถมยังเอาหน้ามาคลอเคลียผมไม่หยุดหย่อน
"อือออ พอแล้วพี่พฤกษ์ จั๊กจี้"
"ก็พี่รักอะ"
"เพชรก็รักพี่ ไม่เห็นต้องมานัวเนียแบบนี้เลย"
"เรารักพี่น้อยกว่าที่พี่รักเราไง" ไอ้พี่พฤกษ์ทำหน้าน้อยใจปนอ้อนหน่อยๆ
"ใครบอกว่าเพชรรักน้อยกว่า"
"ถ้ารักมากกว่าก็ต้องหอมพี่ดิ"
ผมยิ้มก่อนจะพลิกตัวขึ้นมาอยู่บนตัวไอ้พี่พฤกษ์ หอมฟอดใหญ่ที่แก้ม แล้วก็จูบปากอย่างดูดดื่ม เฮียเค้าดูจะพอใจมาก กอดผมแล้วลูบไปทั่วตัว
"อืมมม น้องเพชรครับ"
"อือออ พี่พฤกษ์"
"พี่ชักอยากขึ้นมาอีกแล้วดิ"
"เห้ย ไม่เอาาา" ผมร้องเสียงหลง
"น่านะ แปบเดียวนะครับคนดี..."
"อืออ...อ๊าา...พี่พฤกษ์"
ไอ้พี่พฤกษ์คนหื่นกามจับตัวผมให้อยู่ตรงกลางลำตัวมันแล้วจัดการบรรเลงเพลงรอบสองต่อ

เกือบเที่ยงแล้ว เราสองคนออกมาที่คณะ แน่นอนว่าไอ้พี่พฤกษ์เป็นคนขับรถvolvoสีเงินและผมก็เป็นตุ๊กตาหน้ารถเช่นเคย มาถึงก็ตรงดิ่งไปที่โรงอาหารทันที
"ไอ้เพชรมึงดูเหนื่อยๆนะ โดนไรมาเปล่าวะ" ดูไอ้เชี่ยเจมส์มันทักผมสิครับ น่าถีบมั้ย
"ไอ้สัส แดกข้าวไปมึงอะ"
"ไรว้า ถามแค่นี้ก็บอกไม่ได้"
ทั้งไอ้เจมส์ ไอ้นิว พี่ริว พี่เกี้ยงหัวเราะชอบใจใหญ่ วันนี้ทั้งกลุ่มผมและกลุ่มไอ้พี่พฤกษ์มานั่งกินข้าวเที่ยงด้วยกันเลยครับ เพราะว่ามีเรียนแค่ตอนบ่ายแถมเรียนตึกเดียวกันด้วย
"มึงก็เบาๆกะน้องมันหน่อยดิวะพฤกษ์" พี่ริวร่วมแซวด้วยอีกคน
"ไม่ต้องเสือกเลยสาด" ไอ้พี่พฤกษ์หันไปด่าเพื่อน
ตั้งแต่คบกันมา ผมกับไอ้พี่พฤกษ์โดนสี่คนนี้ล้อจนชิน อ้อ แล้วก็ไม่ได้มีแค่สี่คนนี้ที่รู้แล้วนะครับ
ตอนนี้รู้กันทั้งมหาวิทยาลัยแล้วมั้ง
ก็ไอ้พี่พฤกษ์น่ะสิ หลังจากที่ทั้งบ้านผมบ้านมันรู้เรื่องเราสองคนแล้ว มันก็รีบประกาศกร้าวใน social เลยว่าเราคบกัน ด้วยเหตุผลสองข้อ หนึ่งคือจะได้ไม่มีคนเข้ามาหาผม สองคือมันอยากอวดจะแย่แล้วว่ามีแฟนเป็นผม- -
แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเฮียแกหรอกนะ
"ไปซื้อข้าวกัน"
"ครับ"
สี่คนเค้ากินข้าวกันจะหมดจานแล้ว ส่วนผมและไอ้พี่พฤกษ์ที่พึ่งมาถึงจึงเดินไปสั่งอาหารตามสั่งมากิน
เมื่อวานเป็นวันเปิดเทอมครับ แต่ผมกับไอ้พี่พฤกษ์ยังไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมรับน้องที่กรุ๊ปเลย
วันจับสายรหัส เราสองคนก็ไปเที่ยวอังกฤษกันอยู่ เมื่อวานตอนเย็นก็ไปกินข้าวกับพี่ชลและพ่อแม่นอกบ้าน เย็นนี้ต้องไปหาน้องรหัสและดูการรับน้องซะหน่อยแล้ว
ก่อนเข้าห้องเรียน ไอ้พี่พฤกษ์ก็ลูบหัวผมพร้อมสั่งเสีย
"ตั้งใจเรียนนะครับที่รัก"
"รู้แล้วน่า"
"ฮิ้วววววว" พี่ริวร้องตะโกนลั่น
"เรียกที่รักด้วยว่ะ" พี่เกี้ยงว่า
"ตั้งใจเรียนนะครับนิว" ไอ้เจมส์ทำเป็นหันไปลูบหัวไอ้นิวแล้วพูดเลียนแบบไอ้พี่พฤกษ์
"เดี๋ยวนิวจะตั้งใจที่สุดเลยครับพี่เจมส์" ไอ้นิวก็เล่นด้วย
"เดี๋ยวกูถีบขาคู่เลยไอ้ห่า" ผมดันหลังเพื่อนสองคนให้เดินไปข้างหน้าก่อนจะหันไปพูดกับไอ้พี่พฤกษ์อีกที
"เย็นนี้เจอกันที่กรุ๊ปเลยครับ"
"คร้าบบบ" แฟนผมยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินตามพี่ริวพี่เกี้ยงแยกไปขึ้นลิฟต์อีกฝั่ง

ผมมาถึงกรุ๊ปก่อน ซื้อโกโก้เย็นของโปรดของเฮียมันติดมือมาด้วย เพื่อนๆปี2เข้ามาทักทายผมกันยกใหญ่ เนื่องจากพึ่งมาปรากฏตัวที่กรุ๊ปวันแรกของปีการศึกษานี้ครับ
"ไอ้เพชรมึงผอมลงเปล่าวะ"
"แก ฉันเห็นรูปเซ็ตที่แกไปลอนดอนมา โคตรน่าไปเลยอ่า อยากไปมั่ง ลงอีกดิๆ"
"เมื่อวานมึงไปไหนมาสาด"
"น้องเพชร แล้วไอ้พฤกษ์อะ"
ผมค่อยๆตอบทีละคำถาม ยังตอบไม่หมดก็พอดีแฟนตัวเองมายืนโอบไหล่อยู่ข้างๆ
"พี่ซื้อน้ำมาให้เราด้วยครับ" ไอ้พี่พฤกษ์ยื่นแก้วโกโก้เย็นร้านเดียวกับที่ผมซื้อเมื่อกี้มาตรงหน้า
"เพชรก็ซื้อให้พี่เหมือนกัน" ผมหยิบแก้วโกโก้ส่งให้ไอ้พี่พฤกษ์บ้าง มันยิ้มแฉ่งก่อนจะรับน้ำไปดูด
"เฮ้อ เบื่อผัวเมียคู่นี้จังเลยเว้ย" พี่ริวว่า แล้วก็หัวทิ่มจากฝ่ามือแฟนผม
เรารอจนน้องปี1เริ่มเดินมานั่งในกรุ๊ปเพิ่มขึ้นๆ ผมหันไปถามไอ้เจมส์กับไอ้นิว
"คนไหนน้องรหัสกูวะ"
"นู่น งานพรีเมี่ยมชิบหาย" ไอ้เจมส์ตอบ ออกหน้าออกตาซะไม่มี
"เพชรไปหาน้องรหัสก่อนนะครับ" ผมบอกไอ้พี่พฤกษ์ก่อนจะหยิบชุดเครื่องเขียนที่ซื้อเตรียมไว้ให้น้องรหัสแล้วออกมาจากกระเป๋า
"เดี๋ยวพี่เอาของไปให้น้องรหัสมั่งเลยดีกว่า" ไอ้พี่พฤกษ์หันไปถามพี่เกี้ยงเหมือนกันว่าใครคือน้องรหัส
ผมเดินอ้อมกลุ่มเด็กปี1ไปหาน้องเฟิร์น นิสิตหญิงที่โคตรสวยอย่างเพื่อนผมว่า
"น้องเฟิร์น"
"คะ"
"พี่เพชร ปี2นะครับ พี่เป็นพี่รหัสเราอะ"
"อ้อ พี่เองเหรอคะ หนูชื่อเฟิร์นนะคะ อยู่ account ค่ะ"
"ครับ พี่ซื้อของมาให้นะ นี่ครับ" ผมส่งชุดเครื่องเขียนให้
"โห...ขอบคุณนะคะ พี่น่ารักจังเลย" น้องเฟิร์นยิ้มหวานน่ารักให้ผม พลันสายตาก็หันไปเห็นเพื่อนที่นั่งข้างๆน้องเฟิร์นส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มให้ผม
"พี่เพชรโคตรหล่อเลยอะ หนูตามพี่ในเพจ cute boy ตั้งแต่สอบเข้าได้แล้ว...หนูชื่อมิ้นนะคะ"
"ครับผม หวัดดีครับ"
น้องมิ้นมองมาด้วยสายตาที่รู้ทันทีว่าอ่อย
เพราะงั้นผมเลยตัดสินใจกลับไปยืนรวมกลุ่มกับเพื่อนดีกว่า
"งั้นเดี๋ยวไว้คุยกันนะครับ น้องเฟิร์นทำกิจกรรมกรุ๊ปก่อน"
หลังจากผมเดินผละออกไป สายตาเด็กผู้หญิงปี1ก็มองตามมา บางคนซุบซิบกันเห็นได้ชัด
ตอนนี้ไอ้พี่พฤกษ์กำลังดูดโกโก้เย็นด้วยสีหน้าบึ้งตึงหน่อยๆ
ผมยังไม่ได้บอกใช่มั้ยครับว่าเฮียแกทั้งหึงทั้งหวงหนักมาก
"พี่พฤกษ์คร้าบ ทำไมทำหน้าแบบนั้น"
"หึ เสน่ห์แรงตลอดนะเรา...ดูดิ มองเพชรกันเป็นแถวเลย"
"อย่าไปสนใจเลยคร้าบ"
"ไม่สนได้ไง มีแต่คนจ้องแฟนพี่"
"บางทีเพชรเดินกับพี่พฤกษ์ คนมองพี่เต็มเลย...เอาน่า อย่าไปสนใจเลยครับ"
"ก็พี่หึงอะ" ไอ้พี่พฤกษ์บีบจมูกผม
กิจกรรมรับน้องดำเนินไปอย่างราบรื่นครับ ผมไปช่วยพวกเพื่อนปี2ทำนู่นนี่นั่นบ้าง วันนี้เล่นเกมจำชื่อกันครับ นึกย้อนไปถึงตัวเองเมื่อปีที่แล้วเลย จำใครแทบไม่ได้
เกือบหกโมงเย็นแล้วที่mcประกาศเลิกกิจกรรม น้องเฟิร์น น้องมิ้นและน้องปีหนึ่งผู้หญิงอีกสองสามคนพุ่งตรงมาที่ผม
"เอาแล้ว ไอ้เพชรซวยแน่" ไอ้นิวตบไหล่ผม
"โชคดีเว้ยเพื่อน" ไอ้เจมส์ไม่ได้หมายความตามที่พูดสักนิด
"พี่เพชร ถ่ายรูปกันค่ะ"
"อ่า ได้ครับ"
น้องเฟิร์นขยับมายืนข้างผมพร้อมชูสองนิ้วสู้ตาย
แต่พี่ใกล้ตายแล้วครับ
"พี่เพชรขา มิ้นกับเพื่อนขอถ่ายกับพี่ด้วยได้มั้ยคะ ชอบพี่มากๆเลยค่ะ นะคะ"
"เอ่อ คือ..." ผมมองหาแฟนตัวโตของผม แต่เฮียแกไม่ได้ยืนดูดน้ำและจ้องมาที่ผมแล้วอะ
"ทุกคนครับ ฟังทางนี้หน่อยครับ"
ผมหันไปอย่างตกใจ ตอนนี้ไอ้พี่พฤกษ์จับไมค์พูดอยู่หน้ากรุ๊ปครับ
"พี่ชื่อพฤกษ์ อยู่ปี4นะครับ ยินดีที่ได้รู้จักน้องๆทุกคน"
แต่ทำไมเสียงแข็งฟังดูเหมือนไม่ค่อยรู้สึกยินดีเลยล่ะคร้าบ
"น้องเพชร ปี2 finance รบกวนออกมาข้างหน้าด้วยครับ"
ชิบหายแล้วกู
"น้องเพชรครับ"
คืนนี้ผมโดนหนักแน่
"มาแล้วครับ"
"คนไหนคือน้องรหัสปี1ของน้องเพชรครับ" ไอ้พี่พฤกษ์ถามเสียงเข้ม
"น้องเฟิร์นครับ"
"มีแค่คนเดียวใช่มั้ยครับ"
"ชะ ใช่ครับ"
ตอนนี้พวกเด็กปีหนึ่งมองผมกับไอ้พี่พฤกษ์สลับกันไปมาอย่างงุนงงสงสัย ส่วนพวกปี2ขึ้นไปจนถึงปี4ต่างยืนยิ้มอย่างมีความสุขให้กับชะตากรรมของผม
เพราะทุกคนรู้ว่าไอ้พี่พฤกษ์กำลังหึง
"แล้วทำไมต้องไปยืนถ่ายรูปกับน้องอีกสี่คนที่เหลือด้วย"
"เอ่อ"
"พี่หึงรู้มั้ยครับ"
สิ้นคำนั้น เด็กปี1ทั้งกรุ๊ปก็ส่งเสียงร้องโห่แซวและกรี๊ดกร๊าดกันลั่นบริเวณกรุ๊ป
"ทุกคนครับ น้องเพชรเป็นแฟนพี่" ไอ้พี่พฤกษ์ขยับเข้ามาโอบตัวผม "โทษทีครับ กว่าพี่จะได้คนนี้มาเป็นแฟนไม่ง่าย...ใครหน้าไหนก็ห้ามจีบครับ"
ผมหน้าเป็นสีแดงด้วยความเขิน หันไปมองแฟนตัวเองแล้วก็เห็นรอยยิ้มเหี้ยมมองกลับมา
แต่ถึงจะขี้หึงขี้หวงยังไง ผมก็รักไอ้พี่พฤกษ์ที่สุดเลยครับ

End

ในที่สุดพี่พฤกษ์กับน้องเพชรก็ลงเอยกันด้วยดี แม้ว่าจะไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไรในตอนแรก แถมเคยทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นจะไม่ยุ่งกันอีก
ผมดีใจที่เพชรโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และเป็นคนที่ดีมากขึ้นเมื่อมาอยู่กับพี่พฤกษ์ แต่ดีใจมากกว่าที่พี่พฤกษ์สมหวังในความรักครั้งนี้ครับ กว่าจะได้น้องมาเป็นแฟนนี่ไม่ง่ายอย่างที่เฮียแกบอกไว้เลยจริงๆ
ขอบคุณสำหรับทุกการอ่านเลยครับ และผมยินดีมากที่ได้เขียนเรื่องราวความรักอีกครั้ง ยังไงฝากติดตามนิยายเรื่องต่อไปของผมด้วยครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด