โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย (End)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: โทษทีครับพี่ ผมไม่ได้ง่าย (End)  (อ่าน 14405 ครั้ง)

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พี่พฤกษ์จะทำอะไรน้องงง

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
รุ่นพี่รุ่นน้องหยอกล้อกัน  :hao7:

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
EP18 “ผมขอสั่งให้พี่พฤกษ์…”

“หึหึ อยากแซวพี่ดีนัก” มันแสยะยิ้มก่อนจะโน้มตัวลงมา
ห่า มึงจะทำอะไรกู
แล้วไอ้พี่พฤกษ์ก็จั๊กจี้เอวผม ผมดิ้นและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ปล่อย5555555 ไอ้บ้า555555”
“อยากซ่าก็ต้องเจอแบบนี้แหละ”
“55555 ปล่อยนะเว้ย พะ พอแล้ว55555”
มันไม่สนใจคำขอ เล่นอยู่นานกว่าจะลุกออกไปจากตัวผม
“ห่า ไอ้พี่พฤกษ์”
มันหันมาตีหน้าเข้มใส่ผมอีกเมื่อได้ยินคำด่า
“เดี๋ยวก็โดนอีกทีหรอก”
ผมทำท่าไม่เดือดร้อนอยู่บนเตียง
“ไปอาบน้ำด้วยนะ ไม่ให้นอนสภาพนี้นะเว้ย”
พอไอ้พี่พฤกษ์พูดงี้ผมก็เล่นเลยสิ
“เพชรง่วงแล้วอะ นอนนะ ฝันดีครับพี่”
“นอนไม่ได้ ไปอาบน้ำก่อน”
ผมหลับตา ทำเสียงครางเพื่อความสมจริง
“ขอนอนนะคร้าบ ง่วงแล้วง่ะ”
“ไม่เอาาาา”
ไอ้พี่พฤกษ์ร้องเสียงดัง ผมนึกขัน
“เพชร ไปอาบน้ำ”
มันฉุดแขนผมให้ลุกขึ้น
“โห่ ไรว้า...ทีวันนั้นพี่เมาเป็นหมา น้ำไม่อาบ เพชรยังให้นอนเลย”
ผมแกล้งบ่น เห็นรอยยิ้มเขินจากเจ้าของเตียงก่อนจะยอมลุกขึ้นแล้วออกไปอาบน้ำบ้าง

สรุปว่าวันรุ่งขึ้นไอ้พี่พฤกษ์ปลุกผมตอนเจ็ดโมง(เมื่อคืนก็บังคับให้นอนตั้งแต่เที่ยงคืน) พอผมงัวเงียไม่ยอมขยับ มันก็ลากขาและดึงตัวให้ลุกจากเตียงจนได้
“เป็นอะไรฮะเรา หน้าบูดเชียว” ไอ้เรื่องกวนตีนเนี่ยที่หนึ่งเลยนะเฮีย ก็รู้ว่าบูดเพราะมึงนั่นแหละ
“ยังจะถามอีกอ่อ”
“555555 ก็เพชรเรียนเก้าโมงนิ ไม่ปลุกแล้วจะไปทันมั้ยล่ะ”
“เพชรเคยเข้าทันที่ไหน เรียนเก้าโมง อย่างเร็วเพชรถึงม.ก็สิบโมงละ”
“ไม่ได้ละ...ต่อไปนี้วันไหนเราเรียนเช้า พี่ต้องไปรับที่คอนโดทุกวันล่ะมั้ง”
“ไม่ต้องเลย จะมาทำไม”
“เอ้า ไม่งั้นเราก็สายสิ”
“ยุ่ง พี่เป็นพ่อเพชรรึไง”
“ไอ้เด็กนี่”
“พฤกษ์มึงคุยกับใครวะ”
ผมละสายตาจากหน้ากวนตีนๆของไอ้พี่พฤกษ์ไปหาคนที่กำลังตรงเข้ามาที่โต๊ะอาหาร
“อ้าวพี่ชล นี่เพชร น้องที่คณะ เมื่อคืนมันมานอนกับพฤกษ์”
“หวัดดีครับพี่” ผมยกมือไหว้
“หวัดดีครับ” พี่ชลยิ้มให้ หน้าเหมือนไอ้พี่พฤกษ์ชะมัด “สนิทกับไอ้พฤกษ์อ่อ พลาดละน้อง”
“พี่ชลลล” ไอ้ตัวป่วนลากเสียงยาว ผมหัวเราะ
“เมื่อกี้ทะเลาะอะไรกันวะ เสียงดังไปถึงหลังบ้าน”
“ไอ้นี่มันดื้อพี่ ปลุกไปเรียนแล้วงอแง ต้องจัดการ”
พี่ชลหัวเราะ
“ทำเป็นว่าน้อง บางวันมึงก็ตื่นไปเรียนเช้าไม่ทันไอ้พฤกษ์”
แค่นั้นไอ้พี่พฤกษ์ก็ไปไม่เป็น ผมส่งยิ้มกวนเบื้องล่างให้มัน
หลังจากนั้นพี่ชลก็ถามเรื่องเรียนกับผมนิดหน่อย ก่อนจะรีบกินอาหารเช้าจนเสร็จแล้วขอตัวออกไปทำงาน
“พี่อยากให้เราไปเรียนให้ทันจริงๆนะ รู้มั้ย”
“อือ” ผมพึมพำ น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยนั่นมึงไปหัดมาจากไหนวะพี่
มันขับรถออกมาส่งผม วันนี้รถไม่ติดเลย ถึงม.ก่อนเวลาเข้าเรียนหลายนาที
“แล้วพี่จะไปไหน เรียนบ่ายนิ”
“ไปห้องสมุด”
“ห้องสมุด พี่เนี่ยนะ” ผมแกล้งทำท่าประหลาดใจ
“เออ พี่ไปห้องสมุดไม่ได้รึไง” มันหรี่ตาจ้องผม
“ไม่อยากเชื่อ คนอย่างพี่ไม่น่าไปที่ดีๆแบบนั้นอะ” ผมกวนต่อ “โอ๊ย” โดนโบกหัวเลยกู
“ทำแผนการตลาด งานเยอะโคตร”
“งั้นเพชรไปละ”
“เดี๋ยว”
“อะไรอีก”
“ทำท่ารำคาญพี่อีกละ เดี๋ยวเดินไปส่งที่ห้อง...พี่กลัวเราโดด”
“โห่ ไม่โดดหรอกน่า เดี๋ยวไปเอง”
“ไม่”
ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ให้ผมเปิดประตูรถ แถมยังจับข้อมือผมแล้วพาเดินไปด้วย
“ไม่ต้องลากเพชรไปแบบนี้ก็ได้” ผมบ่นหน้ามุ่ย
“ไม่ได้ครับ” มันส่งยิ้มให้อย่างน่าถีบ
เออ แกล้งกูได้ทั้งวันมึงอะ
“ถึงห้องละ จะเข้าไปเรียนด้วยเลยมั้ย”
“ก็ได้นะ จะได้ดูว่าเราตั้งใจเรียนรึเปล่า”
“ไม่ต้องเลยมึง” ผมเผลอหลุดคำว่ามึงไปด้วย
“นี่ พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ เดี๋ยวโดนทำโทษ”
“ทำโทษบ้าไร...แล้วมืออะปล่อยได้ละ จะเข้าห้อง”
เมื่อยังไม่ยอมปล่อย ผมพยายามแกะมือมันออก แต่ดูเหมือนจะถูกรัดแน่นขึ้น
“ตกลงจะให้เพชรเรียนมั้ย”
“เรียนสิครับ...ตั้งใจเรียนล่ะ” ไม่พูดเปล่า ไอ้พี่พฤกษ์ยกมืออีกข้างขึ้นมาลูบหัวผม
“ยุ่งชิบ” ผมเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องเรียนทันทีที่มันคลายมือ ได้ยินเสียงพึมพำอย่างอารมณ์ดีตามหลังมาอีกว่า
“ไอ้ตัวแสบ”

เย็นวันศุกร์มาถึงเร็วเสียจนคนที่ไม่สนใจโลกอย่างผมยังตกใจ ไม่ได้ตื่นเต้นกับทริปรับน้องอะไรหรอกนะครับ แค่คิดได้ว่าใช้ชีวิตอยู่ที่มหาวิทยาลัยมาครบหนึ่งเดือนแล้วก็เท่านั้น
ผมเอาเสื้อผ้าและรองเท้านิสิตกลับไปเก็บที่คอนโดก่อนแล้วค่อยออกมาที่ม.อีกครั้ง ขี้เกียจแบกไปด้วยครับ กรุ๊ป4ของผมไปรับน้องกันที่พัทยา เดินทางด้วยรถบัสคันใหญ่ทั้งขาไปและกลับ พวกที่พัก อาหารการกิน กิจกรรม แน่นอนว่ารุ่นพี่เป็นคนจัดการทุกอย่าง
“ของมึงน้อยจังวะไอ้เพชร” ไอ้เจมส์ทักทันทีที่เห็นผมเดินมาที่กรุ๊ปตอนทุ่มตรงพร้อมกระเป๋าเป้ใบเดียว
“ไป2คืนนะเว้ย กูไม่ได้ไปอยู่ทั้งเดือนแบบมึง”
“สัส”
ไอ้นิวหัวเราะที่ผมแซะไอ้เจมส์ ก็มันจัดของมาอย่างกับจะไปอยู่นานน่ะครับ
“น้องๆคะ ยกสัมภาระไปขึ้นรถได้เลย อีก15นาทีรถจะออกแล้วค่า” พี่แนทประกาศ ผมกับไอ้นิวช่วยกันถือของไอ้เจมส์ไปด้วย
พอไปถึงที่รถ ก็เจอแก๊งไอ้พี่พฤกษ์ยืนอยู่
“เออ นี่ไง มึงไปนั่งกะน้องมันดิ” พี่ริวพูดแล้วพยักเพยิดมาทางกลุ่มพวกผม
“มีไรอ่อพี่” ไอ้เจมส์ถาม
“พี่จะนั่งกับไอ้เกี้ยง ไอ้พฤกษ์เป็นเศษ เลยจะฝากให้มันไปนั่งกับพวกน้อง เห็นมี3คนเหมือนกัน”
“ได้ดิพี่ งั้นไอ้นิวมานั่งกับกู ให้เชี่ยเพชรนั่งกับพี่พฤกษ์ไป”
“เห้ย” ผมร้อง เห็นไอ้พี่พฤกษ์กำลังกระหยิ่มยิ้มย่อง “ทำไมกูวะ”
“ก็เราสนิทกันนี่คร้าบ” ไอ้พี่พฤกษ์เดินเข้ามาล็อค เอ้ย โอบคอผมโดยอัตโนมัติ
“ใครสนิทกับพี่วะ” ผมหันไปถามมันทันที
“เออๆ ตามนี้ ฝากไอ้พฤกษ์ด้วยนะน้อง อย่าให้เพื่อนพี่เหงา” พี่ริวแม่งพูดจบแล้วก็ดึงพี่เกี้ยงขึ้นรถไป ส่วนไอ้เจมส์กับไอ้นิวยิ้มยิงฟันใส่ผม ก่อนจะตามพี่เกี้ยงขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
“สัส จำไว้นะพวกมึง”
ไอ้พี่พฤกษ์หัวเราะ
“ขำไร”
“งอนเพื่อนอ่อ”
“เออ รำคาญพี่ด้วย”
“รำคาญได้ไง งั้น...พี่จะตัวติดเราตลอดทั้งทริปเลย ดีมะ” มันพูดพร้อมฉีกยิ้ม
“งั้นเพชรกลับบ้านละ”
“จะไปไหนล่ะคร้าบ ไม่อยากเจอพี่ขนาดนั้นเลยรึไง” เสียงอ้อนๆแบบนั้นมึงเก็บไว้ใช้กับหญิงเถอะพี่
ผมไม่ตอบ แต่ขยับตัวออกจากวงแขนมันแล้วปีนขึ้นรถไป
“เพชรรอพี่ด้วยดิคร้าบ ไปหาที่นั่งกัน”
ดูมึงมีความสุขมากเนอะไอ้พี่พฤกษ์
“นี่ไงไอ้พฤกษ์ กูจองให้ละ” พี่เกี้ยงเรียก ชี้ที่นั่งด้านหน้าถัดจากแถวที่พี่แกกับพี่ริวนั่งอยู่
“เออ ขอบใจมึง...น้องเพชรจะนั่งติดหน้าต่างมั้ยครับ”
“อือ” ผมตอบ
“แหม่ พูดกับเพื่อนนี่ไม่เหมือนพูดกับน้องเพชรเลยนะสัส” พี่ริวแซว
“เสือก” ไอ้พี่พฤกษ์ด่า
ผมขยับเข้าไปนั่งที่นั่งติดหน้าต่าง ก่อนมันจะเข้ามานั่งข้างๆพร้อมด้วยยิ้มเหี้ยมน่าถีบ
ผมหันไปมองรอบๆ เห็นว่ามีแต่ปีหนึ่งด้วยกันกับรุ่นพี่ปีสามเท่านั้น
“เค้าให้ปีเพชรนั่งกับปีพี่อ่อ”
“ครับ แล้วปีสองก็ไปนั่งกับปีสี่อีกคัน เพราะต้องคุยเรื่องกิจกรรมที่จะจัดให้พวกน้อง เป็นธรรมเนียม...ถามงี้อยากนั่งกับพี่ทุกปีอะดิ”
“อยากกับผีดิ” ผมหันหน้าหนีไอ้พี่พฤกษ์แล้วมองออกไปนอกรถ
“เดี๋ยวจะโดน” มันพูดกลั้วหัวเราะ
แล้วพี่ปีสามที่ผมไม่รู้จักชื่อก็เดินขึ้นมาเป็นmcประจำรถ พี่แกเดินถือโทรโข่งไปหาทุกคนและให้แนะนำตัว
“แนะนำตัวอีกละ เฮ้อ” ผมพึมพำ
“พี่ว่าเพชรไม่ต้องหรอก ทั้งคันรู้จักเราแน่นอน”
“เออดิพี่”
“แต่เราก็ยังไม่รู้จักพี่ปีสามทุกคนใช่มั้ยล่ะ”
“ใครจะไปจำได้หมด”
“งั้นก็ตั้งใจฟังสิครับ”
พอมาถึงคิวผมกับไอ้พี่พฤกษ์ พี่พิธีกรก็ขยี้เราสองคนทันที
“อ้าว แล้วทำไมตรงนี้เป็นปีสามกับน้องปีหนึ่งล่ะ ฮั่นแน่ สองคนนี้เป็นอะไรกันรึเปล่าน้า”
แล้วเสียงแซวก็ดังลั่นขึ้นมาทั้งคัน
“ยังไงวะพฤกษ์ บอกรักน้องที่กรุ๊ปนี่ไม่ได้เล่นใช่มั้ย”
“สาด ไม่ใช่เว้ย” ไอ้พี่พฤกษ์ตอบปัด แต่หน้าเริ่มเป็นสีแดงแล้ว ห่า มึงจะเขินเพื่อ
“อะๆ ไม่แกล้งละ น้องเพชรคิ้วขมวดเชียว แหะๆ พี่ล้อเล่นนะคะ...มา แนะนำตัวๆ”
“ชื่อพฤกษ์ครับ marketing ปีสาม” หลังไอ้พี่พฤกษ์พูดก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดและโห่ร้องขึ้น
“ชื่อเพชร ปีหนึ่ง finance ครับ” ผมเองก็ได้รับเสียงเชียร์กรี๊ดกร๊าดเช่นกัน
“โอเค ขอให้เดินทางอย่างมีความสุขนะคะบ่าวสาว เอ้ย ม่ายช่ายย”

รถออกไปได้สักพัก ไอ้พี่พฤกษ์ก็หยิบถุงขนมขึ้นมา
“กินขนมกันมั้ยครับ”
ผมพยักหน้า กำลังเอื้อมมือไปจะหยิบเลย์รสโนริสาหร่ายถุงใหญ่ที่ไอ้พี่พฤกษ์แกะเป็นห่อแรก แต่มันก็ขยับถุงหนีมือ
ผมจิ๊ปาก มันหัวเราะเบาๆ
“แน่ะ อยากกินอ่อ”
ผมไม่ตอบ หันหน้าไปทางหน้าต่างอีกครั้ง
“55555 โอ๋ๆ น้องเพชร...นี่ครับ พี่ให้ทั้งถุงเลย”
“ไม่กินละ”
“กินเถอะน่า นะๆ”
ผมหันกลับมาแล้วคว้าถุงเลย์ทั้งห่อไปครองคนเดียว อยากซื้อรสที่กูชอบมานัก จะแดกทั้งห่อคนเดียวเลยคอยดู ง่ำ
“แหม่ ไม่แบ่งพี่เลยนะ” มันพูดยิ้มๆ และผมก็ไม่คิดจะส่งถุงกลับไปให้เจ้าของได้กินด้วย เสือกกวนตีนผมก่อน
แต่พอผมยัดไปได้แค่ครึ่งห่อก็อิ่ม เลยยื่นให้ไอ้พี่พฤกษ์
“อะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่แบ่ง”
“โห่ย อิ่มก็บอกมาเหอะ อย่ามาฟอร์ม5555”
“จะกินไม่กิน”
“กินคร้าบ” มันรับขนมไปจากมือ
สัส รู้ทันกูทุกอย่างนะมึงอะ
ผมกินข้าวเย็นมาค่อนข้างเยอะแล้วยังยัดเลย์เข้าไปอีกครึ่งซอง อิ่มครับ แถมได้แอร์เย็นๆ ที่นั่งสบายๆ ตาก็เริ่มปิด
แล้วก็หลับไปตอนไหนไม่รู้

“เพชร ถึงแล้วนะ…”
ผมสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาตอนสามทุ่มครึ่ง รถบัสกำลังเลี้ยวเข้ามาส่งสมาชิกกรุ๊ป4ที่ที่พัก เห็นไอ้คนปลุกก็นั่งยิ้มแฉ่งอยู่ข้างๆ
“ง่วงเหรอ สงสัยวันนี้ไม่ได้หลับในห้องเรียนล่ะสิ” นั่น เหน็บกูอีก
“ยุ่ง” ผมอ้าปากหาว “หายง่วงแล้ว อยู่ได้ยันสว่าง”
“ปากดี ให้มันจริง”
“แล้วเพชรจะนอนกี่โมงมันเกี่ยวอะไรกับพี่วะ” ผมด่า
“อ้าว ไอ้เด็กนี่”
“555555”
ผมหัวเราะแล้วลุกขึ้นเดินลงจากรถไปเอาสัมภาระที่ชั้นล่าง
“คืนนี้โดนแน่” ไอ้พี่พฤกษ์ตามลงมาอย่างรวดเร็ว นี่มันไม่ได้หายตัวมาใช่มั้ย ไวจนน่ากลัว
“กลัวจัง พี่จะทำอะไรเพชรอ่อ” ผมทำเสียงล้อเลียน
“หึหึ เดี๋ยวก็รู้”
มันขยี้หัวผมก่อนจะลากกระเป๋าตัวเองแล้วเดินออกไป
มีแผนชั่วอะไรกับผมอีกล่ะไอ้พี่พฤกษ์
แน่นอนว่าผมนอนห้องเดียวกับไอ้เจมส์ ไอ้นิว เมื่อเก็บข้าวของเข้าห้องพักแล้ว พี่ๆก็เรียกให้ปีหนึ่งทุกคนมารวมกันที่ห้องจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ (ซึ่งก็คือห้องรับรองของที่พัก) พร้อมกับพกสมุดล่ารายชื่อมาด้วย
“กูแอบไปถามพวกรุ่นพี่มา กิจกรรมคืนนี้มีแค่ส่งสมุดล่ารายชื่อกับเฉลยบัดดี้ หลังจากนั้นใครจะทำอะไรก็ทำ” ไอ้เจมส์บอก
“แล้วพรุ่งนี้อะ” ไอ้นิวถาม
“รู้แค่ว่ารับน้องทั้งวันเช้ายันเย็น แต่ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง”
“มึงไม่รู้ได้ไงวะเจมส์ กาก” ผมด่า
“กูไม่ใช่พี่ปีสองนะเว้ย จะได้รู้ว่ามีกิจกรรมอะไรบ้าง ทีมึงยังไม่รู้ห่าอะไรเลย” มันโวยวาย
“อ้าว กูเห็นมึงขี้เสือก นึกว่าจะรู้”
ไอ้เจมส์ตบหัวผม ไอ้นิวหัวเราะ
ปีหนึ่งต้องส่งสมุดล่ารายชื่อก่อนถึงจะผ่านเข้าไปข้างในห้องกิจกรรมได้ มีรุ่นพี่ปีสองสองคนคอยตรวจจำนวนลายเซ็นที่ประตูหน้า ปรากฏว่าทุกคนได้ลายเซ็นครบหมดครับ เลยไม่มีใครถูกทำโทษ
ผมก็ต้องขอบคุณไอ้เจมส์มันล่ะนะ ที่ช่วยลากผมไปล่าลายเซ็นด้วยบ่อยๆ บางทีก็เอาสมุดผมไปให้รุ่นพี่ที่ใจดีเขียนเลย ไม่ต้องทำ mission
ขอบคุณไอ้พี่พฤกษ์หน่อยๆที่ทำให้ผมได้รายชื่อปีสามเกือบทั้งหมดในคราวเดียว ถึงจะต้องเต้นอุบาทว์ๆต่อหน้าคนเป็นร้อยก็เถอะ- -
และแล้วเวลาเฉลยบัดดี้ที่ผมรอคอยก็มาถึง ไอ้พี่พฤกษ์ไม่รู้แน่นอนว่าเป็นผม เพราะงั้นจะสั่งลงโทษมันให้สาสมเลย
หึหึ ผมคิดไว้แล้วว่าจะให้เฮียแกทำอะไร
ปีหนึ่งถูกเรียกออกไปหน้าเวทีทีละคน พี่ๆนับ1ถึง3เพื่อให้โอกาสรุ่นพี่ที่คิดว่าตัวเองเป็นบัดดี้น้องแสดงตัว
“คนต่อไป น้องต่อค่า…”
ไอ้ต่อออกไปหน้าเวที ยิ้มกริ่ม คงคิดว่าพี่บัดดี้มันต้องไม่รู้แน่ๆ
แต่ยังไม่ทันเริ่มนับ พี่เอ๋ยก็ยืนขึ้น
“พี่เองค่ะ น้องต่อเป็นบัดดี้พี่ใช่มั้ย”
ไอ้ต่ออ้าปากหวอก่อนจะโวยวายว่าพี่เอ๋ยรู้ได้ไง ทุกคนโห่ใส่และหัวเราะเยาะมัน เพราะไอ้นี่เสือกสั่งแกล้งพี่เอ๋ยคนสวยไว้เยอะ
“งี้เอ๋ยก็จะได้สั่งลงโทษน้องต่อนะคะ...เอ๋ยให้ต่อทำอะไรดีคะ” พี่แนทที่รับบท mc ทุกงานถาม
“อืมม...น้องต่อเห็นกล้วยตรงนู้นมั้ยคะ” พี่เอ๋ยชี้ไปที่โต๊ะรวมอุปกรณ์สั่งลงโทษที่พวกพี่ปีสองเตรียมมาโดยเฉพาะ ทุกคนหันไปมองตาม เห็นกล้วยหวีใหญ่2หวีถูกร้อยติดกันด้วยเชือกฟาง “ห้อยคอไว้จนกว่าจะกลับถึงกรุงเทพวันอาทิตย์นะคะ”
จบคำพูดพี่เอ๋ยก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดและปรบมือดังไปทั่วห้องกิจกรรม ไอ้ต่อครวญครางก่อนจะเดินไปหยิบกล้วย2หวีมาสวมไว้ที่คอ
“ต่อไป น้องเพชรสุดหล่อค่าาาา”
ผมเห็นรอยยิ้มแปลกๆของไอ้เจมส์กับไอ้นิวก่อนจะเดินออกไปหน้าเวที
“น้องเพชรคิดว่าพี่บัดดี้รู้มั้ยคะว่าได้น้อง” พี่แนทถาม
“คิดว่าไม่ครับ” ผมอมยิ้ม
“ดูมั่นใจมากเลยน้องรหัสพี่ ดีค่ะดี เอ้า ถ้างั้น พี่คนไหนคิดว่าตัวเองเป็นบัดดี้ของน้องเพชร แสดงตัวเลยค่ะ...หนึ่ง...สอง...สาม…”
ไม่มีใครแสดงตัวออกมา ผมยิ้มกว้าง
“เก่งมากค่าาาน้องเพชร งั้นเฉลยพร้อมสั่งลงโทษพี่บัดดี้ของตัวเองได้เลยค่ะ”
“ผมขอสั่งให้พี่พ…”
“พี่ขอสั่งให้เพชรทำตามที่พี่จะสั่งทุกอย่าง ตลอด3วันนี้ที่ทริปครับ”
ผมตกใจแทบสิ้นสติ ก็ไอ้พี่พฤกษ์มันพูดแทรกเสียงผมที่พูดผ่านไมโครโฟนออกมาอย่างน่าประทับใจ
เชี่ยยยย แม่งรู้ได้ไงวะ
ทุกคนในห้องกิจกรรมอ้าปากค้าง เหมือนไอ้ต่อเมื่อกี้
“...ว่าไงคะน้องเพชร พี่พฤกษ์เป็นบัดดี้น้องรึเปล่าคะ” เสียงพี่แนทเรียกสติผมกลับมาอีกครั้ง
“อะ เอ่อ…”
ผมเห็นมันยิ้มปากจะฉีกถึงหู
“ใช่ครับ”
ผมเกลียดไอ้พี่พฤกษ์ เกลียดสัสๆ เกลียดที่สุดในโลก
โว้ยยยย

TBC

เอ้า จะแกล้งเขา กลับโดนเขาเอาคืนซะงั้น น่าสงสารจริงๆเพชร555 ว่าแต่พี่พฤกษ์รู้ได้ไงเนี่ย

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ LoveAlone

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ตอนที่19 “แข่งกับพี่ ให้ปิดตายังได้เลย”
พี่พฤกษ์

“น้องเพชรคร้าบบบ”
ผมรีบเรียกบัดดี้ของผมไว้ เพราะทันทีที่การเฉลยบัดดี้จบ น้องก็ตั้งท่าจะออกไปจากห้องกิจกรรมทันที
หึหึ จะเดินหนีกันรึไง
ผมรู้ว่าน้องได้ยินแต่ทำเป็นไม่สนใจ
“น้องเพชร”
ผมเรียกดังขึ้นพร้อมทั้งเร่งฝีเท้าตาม และเมื่อน้องยังไม่ยอมหยุด ผมก็จับข้อมือไว้ซะเลย
“อะไรอีกอะ”
น้องหันมาตีหน้าซื่อใส่
“ลืมแล้วอ่อ เราต้องทำตามคำสั่งพี่ตลอดทริปนะ”
“เออ รู้แล้ว...มีอะไรกับเพชรอีกมั้ยครับ”
น้องคงกำลังหงุดหงิดที่ผมเป็นฝ่ายได้สั่งลงโทษแน่ๆ
“ไปกับพี่”
“ไปไหน”
“มาเหอะ ไม่ต้องถาม” จะบอกเลยก็ได้ แต่ผมอยากกวนตีน
“ไม่ไป”
“นี่เป็นคำสั่งบัดดี้นะครับ”
น้องจิ๊ปาก คิ้วขมวด แก้มป่อง สีหน้าตอนนี้กำลังหงุดหงิดน่าแหย่ที่สุด
“ก็ได้...ปล่อยมือเพชรซะทีดิ”
ผมปล่อยมือแล้วโอบไหล่น้องพาเดินไปที่ชายหาดแทน
“พี่รู้ได้ไงว่าเป็นเพชร”
ทิ้งฟอร์มแล้วถามจนได้นะ อยากรู้ล่ะสิ
“เดาไม่เห็นยาก”
“ยังไง”
“ไม่บอกได้ปะ”
“บอกมาเลย”
“ไม่บอก”
“บอกมาาา” น้องลากเสียงยาวเซ้าซี้ “รู้นานแล้วด้วยใช่มั้ย”
“รู้ตั้งแต่วันแรกละ” ผมยิ้มกว้าง
“เชี่ย...พี่เห็นเพชรเอาคำสั่งไปหย่อนกล่องอ่อ หรือมีคนไปบอก”
“พี่ว่าเราก็ไม่ได้บอกใครว่าจับได้พี่นิ เจมส์กับนิวยังรู้ทีหลังพี่ด้วยซ้ำ”
“ไอ้สองตัวนั่นก็รู้อ่อ” น้องโวยวายขึ้นมาทันที “ไอ้เพื่อนชั่ว”
“เรามันไม่เนียนเอง จะโทษใคร” ผมดีดเหม่งน้อง
“โอ๊ย...ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง บอกมา รู้ได้ไง”
“อะๆ บอกก็ได้ พี่เห็นลายมือเราในกระดาษก็รู้แล้ว”
น้องอ้าปากน้อยๆ ก่อนจะกลับมาเก๊กหน้าขรึมแบบที่ชอบทำเวลาอยู่กับผมตลอด
“รู้แล้วทำไมยังทำตามคำสั่งเพชรอะ”
“ก็เดี๋ยวไม่เนียน รอมาเอาคืนตอนนี้ไงครับ”
ผมยิ้มแฉ่ง ตรงกันข้าม น้องกำลังเซ็งสุดๆ
“แล้วพี่โกงปะวะ สั่งแบบนี้ได้ด้วยอ่อ”
“หือ ที่ให้ทำตามคำสั่งพี่ทั้งทริปอะนะ”
“เออดิ”
“โกงตรงไหน มันก็เป็นคำสั่งเหมือนคนอื่นนะครับ”
“นี่มันเบ๊ชัดๆ”
“55555555”
ผมชอบเวลาที่น้องไม่สบอารมณ์ชะมัด โคตรน่ารัก
“แล้วจะให้ทำอะไรอีกก็รีบๆบอกมา”
“ใจเย็นดิ เดี๋ยวพี่สั่งแน่ ไม่ต้องห่วง”
ผมพาน้องมาไกลจากห้องกิจกรรมและผู้คนในกรุ๊ปพอสมควร ปีหนึ่งที่รุ่นพี่จับได้ กับรุ่นพี่ที่ไม่รู้ว่าน้องคนไหนเป็นบัดดี้กำลังรับบทลงโทษกันอยู่
ผมปล่อยมือจากไหล่น้องแล้วนั่งลงบนทรายนุ่ม น้องทรุดนั่งตามข้างๆ ลมเย็นพัดมารอบบริเวณ
ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากโอบน้องไว้แล้วนั่งลงด้วยกัน
จริงๆแล้วผมมีคำสั่งอยู่อย่างนึง แต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำมั้ย
“ให้เพชรมานั่งเป็นเพื่อนอะดิ” น้องยิ้ม รู้ความต้องการของผมในที่สุด
“เออ”
“เหงาอ่อ...ไม่แปลกใจอะ นิสัยงี้ไม่มีใครคบหรอก”
“เดี๋ยวเถอะ”
“55555555...จะชวนมาดูทะเลเป็นเพื่อนก็บอกดิ ไม่เห็นต้องเก๊ก”
“ถ้าไม่สั่งแล้วจะมารึไง”
“ไม่มาอะ”
“นั่นไง” ผมขยี้หัวน้อง “กวนตีน”
“อย่าดิ ผมเสียทรงหมด”
“ดึกแล้วจะหล่อให้ใครดูคร้าบบ”
น้องละสายตาจากผมแล้วมองออกไปทางทะเล
แต่ตอนนี้สายตาของผมไม่ได้จับจ้องอยู่ที่ทะเลเลยสักนิด
เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างในตัวน้องที่ดึงดูดผมมาได้สักเดือนแล้ว จนตอนนี้ผมไม่สับสนแล้วว่าความรู้สึกที่ผมมีวันนี้มันเรียกว่าอะไร ไม่สนใจแล้วด้วยว่าน้องไม่ใช่ผู้หญิง
เพราะผมชอบน้องไปแล้ว
“พี่พฤกษ์”
“ครับ”
“ชอบทะเลอ่อ”
“ก็ชอบนะ ทำไมเหรอ”
“เห็นชวนเพชรมานั่งดูนี่ไง”
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เอื้อมมือไปลูบผมน้องเล่น
ไม่ต้องทะเลก็ได้ ผมแค่อยากอยู่กับน้องสองคนก็เท่านั้น
“อย่าเล่นหัวผู้ใหญ่ดิ”
“ไหน ใครผู้ใหญ่ เห็นแต่เด็กอมมือเนี่ย”
“ถ้าเพชรเป็นเด็กอมมือ พี่ก็เด็กปัญญาอ่อนอะ”
เฮ้อ ด่าซะเสียบรรยากาศโรแมนติกเลย
“พูดงี้เดี๋ยวสั่งให้ลุกนั่งสักร้อยครั้งดีมั้ง”
“สั่งดิ เพชรยังไม่ลืมคดีเก่าหรอกนะ”
“แหะๆ” ผมนึกถึงเรื่องว้ากปลอมแล้วก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที เมื่อกี้พูดคำว่าลุกนั่งก็ไม่ทันคิด ไอ้พฤกษ์เอ๊ย “ขอโทษคร้าบบบ”
“พูดแล้วขึ้นว่ะ” ชิบหาย น้องดูเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาแล้ว
“เรื่องนั้นเราเคลียร์กันแล้วไม่ใช่เหรอ พี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะคร้าบ” ผมบอกเสียงอ่อย
“แล้วไงอะ เพชรยังไม่ลืม”
“พี่ขอโทษ อย่าโกรธเลยนะ นะครับ” ผมพึ่งรู้สึกตัวว่าน้องขยับเข้ามาใกล้อย่างเอาเรื่อง
“55555555 ไอ้พี่พฤกษ์ตัวหดเลยว่ะ”
“เอ่อ...อ้าว นี่ไม่ได้โกรธจริงๆอ่อ”
“55555 เรื่องมันนานแล้วน่า เพชรแค่แกล้งพี่เฉยๆ...เนี่ยอ่อรุ่นพี่ กลัวตัวสั่นเลย”
“ไอ้ตัวแสบ”
“โอ๊ย”
ผมล็อคคอน้องแล้วกดหัวลงแนบกับอกผม
“ปล่อยย หายใจไม่ออก แค่กๆ…”
“ใครกลัวใคร ไหนพูดใหม่ดิ๊”
“ก็พี่กลัวเพชรไง โอ๊ย เอ้ย ไม่ๆ เพชรกลัวพี่พฤกษ์แล้วคร้าบบ” หึ มันต้องยังงี้สิ อีกนิดผมจะทำมากกว่าล็อคคอแล้วนะ “ยอมแล้ว แค่กๆ”
น้องมองค้อนผมตาเขียวหลังถูกปล่อย
เราสองคนคุยกันต่ออีกสักพักจนอากาศเย็นลงเรื่อยๆแล้วเปลี่ยนเป็นหนาว และน้องจะได้ไปอยู่กับเพื่อนๆด้วย ผมจึงชวนน้องกลับ
“กลับกันเถอะ หนาวแล้วเดี๋ยวไม่สบาย”
“อือ”
ผมอยากจะเลื่อนเวลาให้ช้าลงอีกหรือไม่ก็หยุดเวลาเอาไว้ที่ตรงนี้ ผมไม่ต้องการจากน้องไปเลย
“แล้วเราจะไปไหนต่อ กลับห้องเลยปะ”
“งั้นมั้ง คงไปกินเหล้ากับไอ้เจมส์ไอ้นิวต่อ”
“อย่ากินเยอะนะครับ”
“ยุ่ง บอกตัวเองเหอะเรื่องเมาอะ”
“5555555555” วันนั้นพี่แกล้งเมาโว้ย ขยี้อยู่นั่น “ไม่รู้อะ พี่สั่งเราห้ามดื่มเยอะ ห้ามเมาเละเทะ”
“เออๆ” น้องทำท่ารำคาญ
“ถ้าพรุ่งนี้พี่รู้ว่าไม่ทำตาม จะโดนหนักนะครับ” คาดโทษไว้เลย ผมไม่อยากให้น้องเมาจริงๆนะ
“ครับพ่ออออ” ทำเสียงล้อเลียนกลับมาอีกแน่ะ
“งั้นพี่ไปละ...ฝันดีนะครับ” ผมพูดประโยคสุดท้ายออกไปอย่างเคอะเขิน
หวังนิดๆว่าน้องจะบอกผมแบบนั้นบ้าง แต่คำพูดที่ได้กลับมาคือ
“ฝันดีผีรอบเตียงครับพี่”
เดี๋ยวก็โดนผีผ้าห่มหรอกน้อง

ผมเจอน้องอีกครั้งตอนแปดโมงเช้าของวันรุ่งขึ้น หน้าน้องทั้งเซ็งทั้งง่วงที่ถูกปลุกขึ้นมาทำกิจกรรม ผมยักคิ้วทักทาย แต่น้องเห็นแล้วมองไปทางอื่นทันที
ไอ้เด็กบ้า
ปีสองกำลังบอกปีหนึ่งคร่าวๆว่าวันนี้จะต้องทำอะไรบ้าง ผมเห็นตารางเวลาทุกอย่างแล้ว เพราะปีสองมาปรึกษาผม ซึ่งเป็นผู้นำชั้นปีสาม
การรับน้องของกรุ๊ป4ในวันที่2นี้เน้นเกมฐาน ช่วงเช้าจะให้จับเป็นกลุ่มตามสายรหัส เพื่อความสนิทสนมที่มากขึ้น ช่วงบ่ายจะให้ปีหนึ่งกลับมารวมตัวกันกับเพื่อน
ผมล่ะอิจฉาพี่โก้ มาย กับแนทจริงๆที่ได้น้องเพชรไปเป็นสายรหัส
ส่วนปีหนึ่งสายผมน่ะเหรอ อย่าไปพูดถึงมันเลยดีกว่า
ที่ไม่ชอบน้องรหัสตัวเองไม่เกี่ยวกับที่ไม่ได้น้องเพชรนะครับ แต่เป็นเพราะน้องสายมันปากไม่ค่อยมีหูรูด ไม่รู้กาลเทศะต่างหาก
หลังจากให้ทุกคนในกรุ๊ปแบ่งกันตามสายแล้ว(ยกเว้นปีสองที่เป็นคนจัดกิจกรรม) ผมตีเนียนเข้าไปคุยกับพี่โก้ทันที
“หวัดดีครับพี่โก้”
“อ้าวพฤกษ์ เป็นไงมั่ง ไม่เจอนานแน่ะ”
“ก็พี่ไม่มาที่กรุ๊ปมั่งเลย ผมไปทุกวัน”
“โทษทีว่ะ ยุ่งตั้งแต่เปิดเทอมจนตอนนี้ยังยุ่งอยู่เลย…”
ผมเห็นน้องมองผมแวบหนึ่งก่อนจะหันไปคุยกับมาย
เมินกันอีกแน่ะ
“แล้วนี่เจอเพชรรึยัง ไม่เห็นทักทายน้องรหัสพี่เลย” คุยกับพี่โก้สักพัก แกก็พยักเพยิดไปทางคนที่ผมอยากคุยด้วยอยู่พอดี
“หวัดดีครับ” ผมทำเป็นทักน้องเหมือนคนรู้จักกันได้ไม่นาน
“หวัดดีครับ พี่ชื่อไรครับเนี่ย”
ไอ้เด็กผี ไอ้บ้า โว้ย
“55555555”
พี่โก้กับมายประสานเสียงกันหัวเราะเยาะผมทันที
“ป่านนี้น้องยังจำชื่อแกไม่ได้อีกอ่อ” มายว่า
“ถ้าจะไม่น่าจำจริงๆ” พี่โก้เสริม
ผมทำหน้ายักษ์หน้ามารใส่ แต่น้องยักคิ้วตอบ มันน่านัก
“เดี๋ยวไม่ลืมแน่ว่าพี่ชื่ออะไร” ขู่ซะเลย
“พี่โก้พี่มายดูสิครับ พี่เค้ามาขู่ผม” ไม่ต้องมาแอ๊บแบ๊วเลย ทีอยู่กับพี่ไม่เคยทำแบบนี้อะ
“โอ๋ๆ ใครแกล้งน้องพี่”
“เดี๋ยวพี่จัดการให้”
มายกับพี่โก้เล่นตามน้ำ ทำท่าปกป้องน้องเพชรเต็มที่
“ไม่ได้ม้างง มีคนต้องทำตามที่ผมสั่งไปถึงพรุ่งนี้แน่ะ”
น้องหน้าหงิกขึ้นมาทันที
หึ ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครใหญ่
หลังจากนั้นผมกลับเข้าไปรวมกับสายรหัสเพื่อเล่นเกมฐาน แล้วโชคก็เข้าข้างผมเมื่อถึงฐานที่6 เพราะสายผมได้เล่นแข่งกับสายน้องเพชร
เสร็จแน่ไอ้น้อง
ฐานนี้คือเกมตักลูกปิงปองครับ แต่ไม่ได้ตักง่ายๆหรอกนะ ต้องเอาช้อนชาไปตักลูกปิงปองที่ปีสองเอาไปโยนไว้ในทะเล สายไหนเก็บลูกปิงปองได้เยอะกว่าก็ชนะ
สายผมเก็บลูกปิงปองสีส้ม สายน้องเก็บสีขาว
“จะไหวเร้อ” ผมเดินเข้าไปพูดข้างๆน้อง มันยกยิ้มมุมปากขึ้นก่อนจะหันมาตอบว่า
“แข่งกับพี่ ให้ปิดตายังได้เลย”
ผมหัวเราะ
“จะคุยก็ให้ชนะพี่จริงๆก่อน”
“พี่แพ้แน่”
“จ้าาา พ่อคนเก่ง”
“สองคนนั่นจะจู๋จี๋กันอีกนานมั้ยน่ะ มาเร็ว” พี่โก้เรียกพวกเรายิ้มๆ
เมื่อเสียงนกหวีดดัง ผมกับน้องเพชรวิ่งลงน้ำไปก่อนใครเพื่อน ลงมือใช้ช้อนตักลูกปิงปองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เราสองคนเล่นกันเต็มที่ ได้รับเสียงเชียร์ดังลั่นจากแก๊งปีสองที่อยู่ประจำฐาน แถมฐานข้างๆก็ยังหันมาดู
“น้องเพชรสู้ๆ” มายที่หมดความพยายามในการตักลูกปิงปองไปแล้วร้องตะโกนพร้อมกระโดดเหยงๆเชียร์
“เชี่ย ไอ้เพชรแม่งจริงจังสาด” พี่ปีสี่สายผมที่กำลังเล่นอยู่เหมือนกันยังอดหันมาดูน้องไม่ได้
“ไอ้พฤกษ์สายมึงก็พอกะน้องกูอะ” พี่โก้หันไปด่ากลั้วหัวเราะ เพราะผมเองก็ไม่ยอม
ไม่นานก่อนจะรู้ตัว เวลาหมดลง ผมเห็นลูกปิงปองสีส้มในกะละมังดูมีจำนวนมากกว่าสีขาวนิดหน่อย
ผมหันไปยิ้มยิงฟันให้เพชร ซึ่งกำลังหอบน้อยๆ สีหน้าหงุดหงิด
“ทีมสีส้มชนะสีขาวค่าาา...อะ สีขาวยืนเรียงเป็นหน้ากระดาน เตรียมรับบทลงโทษเลย”
ผมรับกระป๋องใส่สีจากปีสองแล้วตรงไปยืนหน้าน้องทันที
“อย่าเยอะนะไอ้พี่พฤกษ์”
“ลั่น555555555555”
“ลั่นพ่อมึงอะพี่” เดี๋ยวตบด้วยปาก
แล้วผมก็จุ่มมือลงไปในสีก่อนจะค่อยๆไล้นิ้วป้ายลงบนแก้มกับหน้าผากน้องอย่างบรรจง
“มาร์คๆ ถ่ายรูปให้พี่หน่อย” ผมร้องเรียกช่างภาพปีสองให้หันมาถ่ายรูป
“เชี่ย ไม่เอา” น้องพยายามหันหลังหนีกล้อง แต่ผมรั้งเอวน้องไว้แล้วพลิกตัวให้หันกลับมาทางกล้อง
“มองกล้องสิครับ” ผมบอก
“ไม่โว้ย”
“นี่บัดดี้สั่ง”
น้องเงยหน้าขึ้นอย่างเสียไม่ได้ ผมหัวเราะ
“ยิ้มด้วยคร้าบบบ”
“ไม่ต้องทำเสียงหวานเลยมึง”
ถึงปากจะพูดยังงั้น น้องเพชรก็ยิ้มหวานให้กล้องเหมือนผม จะเต็มใจหรือทำเพราะเป็นคำสั่งบัดดี้ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าโคตรตะมุตะมิเลย
“วีดวิ้วววว”
“กอดกันด้วยอะ”
“สวีทเว่ออออ”
เสียงจากทั้งสายผม สายน้อง และพี่ฐานลอยมา น้องหุบยิ้มทันที
มาร์คมันถ่ายตอนน้องยิ้มทันมั้ยเนี่ย
ก่อนจะแยกย้ายกันไปฐานต่อไป ผมบอกน้อง
“ตอนบ่ายเราโดนหนักกว่านี้แน่ เตรียมตัวไว้”
“ไอ้โรคจิต” โดนด่าเลยกู
เออ ยอมรับก็ได้ว่าโรคจิต(เฉพาะกับน้องนะ)

“แหมๆ ติดเด็กซะลืมเพื่อนไปเลยนะมึง”
“เชี่ยริว มึงจะเสียงดังหาพ่อง” ผมด่าไอ้ริวทันควัน แม่งไม่หยุดแถมยังหัวเราะอีก
“เอ้า กูพูดผิดตรงไหน”
“พูดเหมือนมึงไม่เคยทิ้งเพื่อนไปหาหญิงยังงั้นแหละสัส” ไอ้เกี้ยงเดินถือจานข้าวเที่ยงมาวางที่โต๊ะเป็นคนสุดท้าย
“จริงไอ้เกี้ยง” ผมรีบสนับสนุน
“มึงก็ด้วยเชี่ยเกี้ยง อย่าด่ากูคนเดียว”
“น้อยกว่ามึงแน่ๆอะ...ว่าแต่มึงเหอะพฤกษ์ จะบอกน้องมันตอนไหน”
“เออ ยังไงวะ”
ไอ้ริวกับไอ้เกี้ยงจ้องผม ถามถึงสิ่งที่ปรึกษาพวกมันไว้เมื่อสองวันก่อน
“กู...กูไม่แน่ใจว่ะ”
“ไม่แน่ใจเชี่ยไรวะ แล้วมึงจะบอกมันเมื่อไร”
“...” ผมนิ่ง พึ่งจะมาลังเลกับความคิดบ้าๆของตัวเองเอาตอนนี้
“กูคิดเหมือนไอ้ริว มึงบอกน้องไปเลยเว้ย”
ถ้าคำสั่งบัดดี้ของผมใช้กับเรื่องที่จะทำได้ก็คงดี

TBC

พี่พฤกษ์รุกใหญ่เลยนา ว่าแต่เฮียจะทำอะไรกับบัดดี้ ต้องติดตามตอนต่อไปนะครับ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เมื่อไหร่จะบอกน้องนะ

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
มัวแต่ตอดเดี่ยวก็แห้วเด้อ  :katai3:

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
EP20 “ผูกข้อมือให้เพชรหน่อย”

ไอ้เจมส์กับไอ้นิวนั่งหัวเราะเยาะผมมาได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว
“สัส พวกมึงมีความสุขบนความทุกข์ของเพื่อนอ่อวะ”
“ทุกข์ไรวะ เมื่อกี้กูเห็นมึงยังยิ้มให้กล้องอยู่เลย”
“กูโดนบังคับโว้ย”
สายรหัสผมเล่นเกมฐานแพ้สายไอ้พี่พฤกษ์ ผมเลยโดนสีทาหน้าเป็นบทลงโทษ บวกด้วยคำสั่งบัดดี้ที่ห้ามล้างหน้าจนกว่าจะถึงห้าโมงเย็น ทำให้ต้องอยู่ในสภาพน่าเกลียดแบบนี้ไปเรื่อยๆ
คนในกรุ๊ปที่เห็นผมก็หัวเราะใส่ไม่ต่างจากไอ้เพื่อนชั่วสองตัวนี่
“แล้วพวกมึงรู้ใช่มั้ยว่ากูเป็นบัดดี้พี่มัน”
“โด่ รู้ดิ” ไอ้นิวตอบ
“ใครไม่รู้ก็บ้าแล้วไอ้เพชร ชัดเจนขนาดนั้น” ไอ้เจมส์พูดจบแล้วก็กลับไปขำก๊ากต่อ
“ไม่บอกกูสักคำ จำไว้นะสัส”
“โอ๋ อย่าโกรธกันสิครับเพื่อนนนน” ไอ้เจมส์ที่นั่งข้างๆขยับเข้ามากอดผม ผมพยายามผลักมันออก
“เพราะไอ้เจมส์เลย กูจะบอกมึงตั้งแต่แรกแล้ว มันอะห้ามกูไว้” มึงกลายร่างเป็นปลาไหลไปตั้งแต่เมื่อไรวะไอ้นิว
“อ้าวเชี่ยนิว เอาตัวรอดเฉย” ไอ้เจมส์ว่า
“ไม่ต้องเลย กูงอนมึงทั้งคู่อะ”
“น้องเพชรอยากกินอะไรครับ เดี๋ยวมื้อนี้ป๋าเจมส์เลี้ยงเอง”
“เลี้ยงห่าไร นี่พี่ๆเลี้ยง ฟรีอยู่แล้ว”
ยังจะมีหน้ามาขำอีกแน่ะ
ผมเบิร์ดกะโหลกไอ้เจมส์กับไอ้นิวเสร็จก็หันไปเจอไอ้พี่พฤกษ์ที่กำลังเดินไปตักอาหารเพิ่มพอดี
พี่แกหัวเราะพร้อมเรียกพี่ริวกับพี่เกี้ยงให้หันมาดูผมด้วย
ผมหันหน้าหนีทันที
สาดดดดด

ความร้ายกาจของไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้มีแค่นั้น เพราะนอกจากมันจะใช้คำสั่งบัดดี้บังคับให้ผมทิ้งสีไว้บนหน้าถึงเย็นแล้ว กิจกรรมในช่วงบ่ายมันก็ยังตามมาแกล้งผมอยู่ตลอด
ผมโดนทั้งแป้ง ทั้งน้ำ ทั้งโคลน ทุกอย่างคูณสองจากที่เพื่อนปีหนึ่งด้วยกันโดน เพราะไอ้พี่พฤกษ์- -
กูกลับมาเกลียดมึงเหมือนตอนเจอกันครั้งแรกได้ปะวะ ไม่อยากสนิทด้วยแล้ว
“น้องเพชรคร้าบบบ มาหาพี่สิ” มันควักมือเรียกผมหลังกิจกรรมสิ้นสุดลง
“ไม่ไปเว้ย” ทุกคนรอบบริเวณนั้นหัวเราะกับคำตอบผม
“โถ่ งอนพี่เหรอครับ มานี่มา” มันตรงเข้ามาจับมือผมแล้วลากเดินไป
“ไม่ไป พี่จะพาเพชรไปไหน” ผมร้อง พยายามแงะมือมันออก
“เดี๋ยวพี่อาบน้ำสระผมให้นะ” มันหันมายิ้มให้
“ไม่เอาโว้ย อาบเองได้”
“555555555 อย่าดื้อดิ” มึงหัวเราะสะใจได้น่าเกลียดมากไอ้พี่พฤกษ์
มันลากผมผ่านฝูงชนกรุ๊ป4ไปเรื่อยๆ เหี้ย น่าอายชิบ
“ไม่เอาาา”
“สะดีดสะดิ้ง” สัส
“สะดีดสะดิ้งพ่อง”
“เดี๋ยวจับตีปากซะเลย มานี่…”
มันหยุดเดินเมื่อถึงจุดที่ให้แขกของที่พักล้างตัวหลังขึ้นมาจากทะเล
“เพชรล้างเองได้น่า”
“ยืนนิ่งๆ”
มันเปิดฝักบัว ผมขยับหนีน้ำ
“บอกให้ยืนนิ่งๆไงครับ”
“ยืนนิ่งก็เปียกทั้งตัวดิ จะให้ใส่เสื้อผ้าอาบน้ำรึไง”
“ก็ถอดดิ”
“ถอดบ้านมึงอะ”
“น้องเพชร คำพูดคำจาครับ” โว้ย
“ถอดบ้านพี่ดิ สระผมอย่างเดียว”
มันยิ้มกว้าง
“จริงๆอยากให้พี่สระผมให้ก็บอก ทำเป็นเล่นตัว”
ไอ้พี่พฤกษ์ขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะเริ่มสระผมให้ ผมยื่นแต่หัวออกไปให้โดนน้ำ
ปรากฏว่ามือมันนุ่มกว่าที่ผมคิด
“สกปรกชิบ”
“ที่สกปรกก็เพราะพี่นั่นแหละ”
“5555555”
“หยุดหัวเราะเลย เดี๋ยวน้ำลายลงหัว”
มันล้างน้ำเปล่าชำระคราบก่อน แล้วค่อยชโลมแชมพูให้ จบด้วยล้างน้ำเปล่าอีกที นี่เคยเป็นช่างทำผมรึไงวะ
“หัวโล่งขึ้นมั้ย”
“โคตรๆ”
“แล้วจะอาบน้ำเลยมั้ย เดี๋ยวพี่อาบให้”
“ไม่ต้อง เพชรอาบเองโว้ย”
“หึหึ”
กลัว ไม่ต้องมาอาบน้ำให้กูเลยนะ
ก่อนผมจะเดินกลับไปที่ห้องพักตัวเอง ไอ้พี่พฤกษ์ก็เรียกอีก
“แล้วพี่อะ”
“อะไร”
“พี่สระให้แล้ว เพชรไม่สระให้พี่บ้างอ่อ”
“สระเองดิ มือไม่มีรึไง”
“ไอ้เด็กบ้า”

ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้มาเกาะแกะหรือวุ่นวายอะไรอีกหลังจากสระผมให้ รุ่นพี่ปล่อยให้ปีหนึ่งไปพักผ่อนตามอัธยาศัยครับ
"มึงล้างหน้าได้แล้วหรอวะไอ้เพชร" ไอ้เจมส์ถามปนขำ ผมกลับห้องมาอาบน้ำ กำลังจะงีบ เพราะวันนี้โดนปลุกมาทำกิจกรรมแต่เช้า แต่ไอ้เพื่อนรักมาถึงก็ถามกวนตีนซะนี่
"มึงจะให้กูทิ้งสีไว้ข้ามคืนรึไง"
"ก็ดีนะ ดูดีกว่าเวลาปกติอีก"
ผมเหวี่ยงหมอนใส่หน้าไอ้เจมส์ มันหลบไม่ทันเลยรับไปเต็มๆ สมน้ำหน้า
"ไอ้สาด"
"สม กูยิ่งง่วงๆอยู่...ไอ้นิวอะ" ถามถึงเพราะเห็นไอ้เจมส์กลับมาคนเดียวครับ
"กูเห็นมันคุยกับพี่ชายมึงอยู่"
"พี่ชายกู?" ผมย้อนถาม
"ก็พี่พฤกษ์ไง"
"ห่า พี่ชายกูที่ไหน"
"พี่เค้าดูรักมึงจริงๆนะ"
"รักหรือเกลียดกูกันแน่...ว่าแต่คุยอะไรวะ วางแผนแกล้งกูอีกมั้ยเนี่ย"
"แน่ๆ55555"
ไอ้เจมส์เดินเข้าไปอาบน้ำได้ไม่ถึงสองนาที ไอ้นิวก็กลับห้องมา ผมจะได้นอนมั้ยวะวันนี้
"ไอ้เพชร พี่พฤกษ์เค้าฝากของมาให้มึงอะ"
"ไรวะ"
"คำสั่งบัดดี้มั้ง" ผมเงยหน้าเห็นไอ้นิวชูกระดาษที่พับไว้เรียบร้อยคล้ายจดหมาย
"มึงอ่านเลย เฮียแกสั่งให้กูทำไร" ผมนี่ตาตื่นเลย
"มึงอ่านเองดิ พี่เค้าบอกว่าอย่าเปิดจนกว่าจะถึงมือน้องเพชร"
"โหไอ้นิว มึงเชื่อฟังพี่มันขนาดนั้นเลยรึไง" ท่าจะเป็นเอามากนะเพื่อน
"กูไม่อยากเสือกโว้ย อะ เอาไป" พูดจบแล้วมันก็โยนกระดาษใส่ตัวผม แล้วตั้งท่าจะเดินเข้าห้องน้ำ
"เชี่ยเจมส์อาบอยู่"
"อ่าวเหรอ งั้นกูไปอาบห้องไอ้ต่อก่อน เลอะตัวไม่ไหวแล้วว่ะ"
ผมเปิดกระดาษออกอ่านแล้วก็งงอยู่เดี๋ยวหนึ่ง
'หลังบายศรี มาหาพี่ที่ทะเลหน่อยนะ ตรงที่เดียวกับเมื่อวานเลย'
อะไรวะเนี่ย
ผมรู้สึกเหมือนหลับไปได้สามวินาทีแล้วก็โดนไอ้เจมส์กับไอ้นิวปลุกมาเดินเข้าห้องประชุม รอกิจกรรมช่วงค่ำต่อครับ
พอปีหนึ่งเข้ามาครบทุกคน พี่ๆก็ปิดไฟในห้อง ก่อนจะฉายวิดีโอที่รวมภาพกิจกรรมรับน้องตั้งแต่ก่อนเปิดเทอม อื้อหือ
"เห้ย" ผมร้องเสียงดังแทรกเสียงหัวเราะของคนในห้อง เมื่อรูปที่ผมโดนไอ้พี่พฤกษ์ปะแป้งและทาลิปสติกสีแดงเหมือนผีจีนในวันแรกของการรับน้องปรากฏขึ้น
ไอ้ตัวต้นเรื่องหันมาหัวเราะเยาะผม
สัส
เรานั่งดูแล้วก็หัวเราะรูปเพื่อนที่อยู่ในวิดีโอไปเรื่อยๆ มีผมกับไอ้พี่พฤกษ์โผล่มาอีกสองสามรูป เฮ้อ นี่กะไม่ให้กูมีภาพพจน์ดีๆในกรุ๊ปเลยอ่อวะ
"น้องๆครับ เป็นไงบ้าง ชอบวิดีโอที่พี่ๆตัดต่อมั้ย" ไอ้พี่พฤกษ์เดินจับไมค์ออกมาข้างหน้าหลังวิดีโอจบ มีเสียงตอบว่าชอบหลายเสียงจากปีหนึ่ง
ผมหันมองรอบห้องก็เห็นแต่รอยยิ้มสดใสทั้งจากน้องๆและพี่ๆ
ผมเองก็กำลังยิ้ม
"พี่ขอเป็นตัวแทนของรุ่นพี่ทุกคน พูดอะไรหน่อยนะครับ...พี่ดีใจที่น้องๆมาเข้าร่วมกิจกรรม ขอบคุณที่สละเวลามา แล้วก็เปิดใจให้พวกพี่ๆนะครับ"
ไอ้พี่พฤกษ์พูดต่อไปด้วยสีหน้าที่กำลังมีความสุขมาก
"แล้วพี่ก็ต้องขอโทษน้องด้วย ถ้ามีอะไรที่พวกเราทำให้น้องไม่พอใจ หรือผิดพลาด...พี่อยากให้น้องทุกคนมีเพื่อน มีความสุขกับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย มันยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมากนอกเหนือจากเรื่องเรียนนะครับ"
"หล่อเลยสาด แย่งซีนเหี้ยๆ" ผมแอบได้ยินพี่ริวกระซิบ(นั่นเรียกว่ากระซิบเหรอน่ะ) กับพี่เกี้ยง แล้วพยักเพยิดไปทางไอ้พี่พฤกษ์ เรียกเสียงหัวเราะครืนจากคนในห้อง
"พี่เองเคยสงสัย เคยตั้งคำถามเหมือนกันว่า เราจะเข้ากิจกรรมรับน้องไปทำไม พี่คิดว่า เวลาเดือนกว่าๆที่ผ่านมานี้ คงพอจะให้คำตอบได้บ้าง...
พี่มีเพื่อนเพิ่มขึ้น รู้จักคนเยอะขึ้น มีปัญหาอะไรก็มีรุ่นพี่คอยช่วยเหลือ ดูแล พี่มีอีกสังคมเล็กๆนอกจากเพื่อนในห้องเรียนหรือชมรม นี่แหละครับจุดประสงค์ที่มีกรุ๊ป"
แถลงการณ์ของไอ้พี่พฤกษ์ได้รับเสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดกร๊าดลั่นห้อง สายตามันมองตรงมาที่ผม
ผมเข้าใจในตอนนั้นเองว่าหลายสิ่งที่มันพูด มันกำลังสื่อถึงผมอยู่ด้วย
"พี่ขอทำหน้าที่สุดท้าย ในฐานะผู้นำรุ่น ส่งน้องเข้าพิธีบายศรี...พวกเรากรุ๊ป4 ขอต้องรับน้องๆทุกคนอีกครั้งครับ"
ปีหนึ่งถูกจัดแถวให้เดินออกไปห้องประชุมอีกห้องที่อยู่ด้านข้าง ภายในมีการจุดเทียนไว้เต็ม พี่ๆทั้งปีสองสามสี่และบัณฑิตนั่งเรียงแถวกันไป ข้างตัวมีด้ายสีขาววางอยู่
พิธีบายศรีมาถึงแล้วสินะ
อยู่ๆผมก็รู้สึกใจหายวาบขึ้นมา ตลอดเวลาที่ผมเอาแต่โดดกิจกรรม ทั้งๆที่ยังไม่รู้ ไม่ลองก่อนเลยว่ามันเป็นยังไง แต่วันนี้ผมกลับไม่อยากให้กิจกรรมนี้สิ้นสุดลงเลย
ผมยอมรับว่าส่วนสำคัญมาจากไอ้พี่พฤกษ์
ผมเปิดใจมากขึ้นก็เพราะมัน
เพราะงั้นคนแรกที่ผมมองหาและจะให้ผูกข้อมือก็คงไม่ใช่ใครที่ไหน
ไอ้พี่พฤกษ์ที่พึ่งเดินข้ามห้องมา ยังไม่ทันนั่งลงที่ของตัวเองดี ฉีกยิ้มกว้างจนปากจะถึงหู เมื่อมันเห็นผมตรงเข้าไปหา
"อะไรเหรอครับน้องเพชร"
อ้าว กวนตีนกูเฉย นี่มาดีนะ ยังทำเป็นไม่รู้อีก
"เดินมางี้ให้ซักผ้าให้มั้ง...ก็ผูกข้อมือดิ" ทีแรกกูก็ไม่เขินอะนะ
"ลั่น555555555"
"ผูกข้อมือให้เพชรหน่อย"
"ขอร้องพี่อีกรอบได้มั้ยครับ ชอบเวลาเราพูดดีๆจัง"
เท่านั้นแหละ ผมเบือนหน้าหนี เตรียมลุกขึ้นไปหารุ่นพี่คนอื่นเลย
"เดี๋ยวดิคร้าบบบ" มันฉุดแขนผมให้กลับมานั่งลง แล้วหยิบด้ายสีฟ้าออกจากกระเป๋าเสื้อ
ผมตกใจนิดหน่อย ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้จะใช้ด้ายสีขาว
"เดี๋ยวพี่ผูกข้อมือให้นะ..."
มันยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่น ก่อนจะเอาด้ายสีฟ้าอังไฟน้อยๆจากเทียนแล้วไล้ข้อมือผม
"เมื่อกี้ที่พูด ส่วนใหญ่พี่อยากบอกเรานะ...ขอบคุณที่เปลี่ยนความคิด ขอบคุณที่น้องเข้ามาเรียนที่นี่ ขอบคุณที่เปิดใจให้กรุ๊ปนะ พี่ดีใจที่ได้รู้จักเรานะครับ"
อื้อหือ ทำผมไปไม่เป็นเลย มาโหมดนี้
"พี่ขอโทษเราอีกครั้งนะ ถ้าแกล้งเพชรเยอะไป พี่แค่...รู้สึกถูกชะตาเราน่ะ" ถึงตอนนี้ไอ้พี่พฤกษ์มันก้มมองพื้นห้อง ก่อนจะผูกด้ายใส่ข้อมือผม
"ขอบคุณพี่พฤกษ์เหมือนกันนะ" ผมบอกพร้อมยิ้มกว้าง
แต่ไอ้พี่พฤกษ์ดูจะยิ้มกว้างกว่าผมอีกนะ เพราะคำพูดขอบคุณแน่ๆ
มันยกมือข้างที่ไม่ได้กำลังจับข้อมือ ลูบหัวผมเบาๆ
"ได้โน้ตจากนิวยัง เสร็จบายศรีอย่าลืมไปหาพี่นะ"
"อือ" ผมตอบก่อนจะลุกขึ้น ไปให้รุ่นพี่คนอื่นผูกข้อมือต่อ
หลังจากนั้น ด้ายสีฟ้าโดดเด่นอยู่บนข้อมือผมท่ามกลางด้ายสีขาวทั้งหมด

“มีไรเนี่ย”
ผมสะกิดไหล่ไอ้พี่พฤกษ์เมื่อไปถึง พี่แกกำลังยืนเอาเท้าเขี่ยทรายเล่นอยู่ พอเห็นผมก็สะดุ้ง
“ทำไมมาเร็วจัง”
“อ้าว ก็พี่บอกว่าบายศรีเสร็จแล้วให้มาหาไง”
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มแป้น ยื่นมือออกมายีหัวผม
“แล้วมีอะไร ต้องมาคุยที่นี่เลยอ่อ”
ผมขมวดคิ้ว นึกสงสัยว่ามีเรื่องสำคัญอะไรถึงต้องมาเจอกันที่ชายหาดเท่านั้น
“คือ...พี่มีเรื่องจะบอก”
“เรื่องไรอะ”
“เอ่อ…”
ผมจ้องตาไอ้พี่พฤกษ์ แต่มันหลบตาผม
“จะสั่งไรเพชรอีกอะ”
“เห้ย ไม่ใช่”
ตอนนี้ไอ้พี่พฤกษ์กำลังตะกุกตะกัก ทั้งดูวิตกกังวลอย่างชัดเจน เกิดอะไรขึ้นวะ
“นั่งคุยกันก่อนมั้ยพี่” ผมยิ้ม ไม่เคยเห็นเฮียแกเป็นแบบนี้มาก่อน
“คือพี่…”
ผมรอให้ไอ้พี่พฤกษ์พูดออกมาเอง คงจะเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ
สองสามนาทีหลังจากนั้น ไอ้พี่พฤกษ์ยอมเงยหน้าขึ้นมามองผมตรงๆจนได้ ยกมือทั้งสองข้างวางบนไหล่ผม
ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจหนักหน่วงของพี่มัน
“พี่...พี่ชอบเพชร”
...
“เห้ย พี่เล่นไรเนี่ย”
ผมพูดกลั้วหัวเราะ แต่ไอ้พี่พฤกษ์ดูจะไม่ตลกด้วย มันไม่มีทีท่าว่ากำลังล้อเล่นอยู่เลย
“พี่พูดจริงๆนะ ไม่ได้เล่น”
ผมอึ้ง
“พี่ชอบเพชร”
ไอ้พี่พฤกษ์ย้ำอีกครั้ง ผมเหมือนได้ยินประโยคล่าสุดนั่นดังซ้ำไปมาอยู่ในหัว
รู้ตัวอีกครั้งผมก็ผลักอกมันออก ตัวมันแค่เซไปนิดๆเท่านั้น
“พี่เป็นบ้ารึไง...เพชรเป็นผู้ชาย”
แววตามันวูบลง
“พี่รู้...แต่พี่ชอบเรา...พี่โกหกความรู้สึกตัวเองไม่ได้”
ตอนนี้ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
“พี่แค่คิดว่ามันถึงเวลาแล้ว”
ภาพเหตุการณ์ต่างๆตั้งแต่ที่ผมรู้จักไอ้พี่พฤกษ์ปรากฏขึ้นพร้อมกัน ที่มันเข้าหาผม ชอบแกล้งผม คอยอาสาไปส่งผม ทำดีกับผม เพราะว่ามันคิดกับผมแบบนี้งั้นเหรอ
ไม่อยากเชื่อเลย
“ที่พี่เข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิตเพชรก็เพราะแบบนี้สินะ”
“ใช่ พี่อยากอยู่กับเรา”
ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมถึงโกรธ และก็รู้สึกเหมือนความเชื่อใจถูกทำลายลงด้วย ยิ่งมองสบตาไอ้พี่พฤกษ์ในตอนนี้แล้ว
“นานรึยัง”
“หมายถึงอะไรครับ”
“พี่ชอบเพชรตั้งแต่เมื่อไร”
“สักพักนึงแล้ว”
ดูเหมือนว่ามันต้องการจะพูดอะไรต่อแต่ก็ไม่พูดออกมา
“พี่ทำแบบนี้ทำไม”
“...”
“เพชรนึกว่าพี่แค่อยากแกล้ง แค่อยากเป็นเพื่อน...เราเป็นแค่พี่น้องกันไม่ใช่รึไง”
ผมใส่ไม่ยั้ง และเห็นว่าหน้าพี่พฤกษ์กระตุกตรงคำว่าพี่น้อง
“พี่ต้องการอะไร...มาบอกเพชรทำไม”
“...”
“จะให้เพชรบอกว่ารู้สึกแบบเดียวกับพี่งั้นอ่อ”
“พี่ไม่ได้บังคับเพชรนะ...แต่พี่ผิดเหรอที่บอกความรู้สึกกับเราตรงๆ”
ผมผงะไป
“ถ้าเราไม่ได้คิด…”
“พะ...เพชรไม่ได้ชอบพี่”
เราสองคนยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ไอ้พี่พฤกษ์มองผมอย่างเสียใจสุดซึ้ง
ผมอยากจะก้าวเท้าออกไปแล้วหันหลังให้ชายหาด แต่เท้าไม่สามารถขยับได้
“ไม่เป็นไรครับ...ถือว่าพี่ไม่ได้พูดไปก็แล้วกัน…”
กลายเป็นว่าพี่พฤกษ์เป็นฝ่ายไปก่อน ผมทันเห็นสีหน้าผิดหวัง ซึ่งไม่ต้องการเห็นเลยสักนิด

เมื่อคืนผมไม่ได้ไปดวดเหล้ากับไอ้เจมส์ไอ้นิวหรือไปเจอใครทั้งสิ้น แต่กลับห้องพักทันทีหลังเรื่องที่ชายหาด พอไอ้นิวแบกไอ้เจมส์ที่เมาเละเทะไม่รู้ตัวมาที่ห้องตอนตีสี่ ผมทำทีเป็นว่าหลับไปแล้ว
สภาพผมเช้านี้ก็ไม่ต่างจากไอ้เจมส์เท่าไรหรอก
“เมื่อคืนมึงหายไปไหนวะไอ้เพชร ไม่มาแดกเหล้ากับกู” ไอ้นิวเริ่มบทสนทนาที่โต๊ะอาหาร
“กูเพลียๆว่ะ อยากนอนเร็ว”
“ทิ้งกูให้ดูแลไอ้เจมส์อยู่คนเดียว มึงโคตรพลาด ไม่เห็นไอ้เจมส์…”
“พอเลยสาด”
ผมกับไอ้นิวหัวเราะ ไอ้เจมส์ที่ยังไม่หายแฮ้งค์ เอ่ยเสียงห้ามไอ้นิวอย่างอ่อนแรง
ตอนนั้นเอง ผมรู้สึกเหมือนถูกใครมองอยู่ พอหันไปก็เห็นว่าเป็นไอ้พี่พฤกษ์
แต่มันก็หันหน้าหนีไปทางอื่นทันที
ต่อไปนี้ผมกับมันคงจะกลับไปไม่รู้จักกันเหมือนเดิมสินะ
ในเมื่อมันต้องการเป็นมากกว่าพี่ชายน้องชาย แล้วผมให้ไม่ได้ ความสัมพันธ์ของเราก็ต้องยุติลงเท่านี้
หลังอาหาร ทุกคนถ่ายรูปเล่นกันก่อนขึ้นรถกลับบ้าน ผมที่ไม่ค่อยอยู่ในอารมณ์จะถ่ายรูปสักเท่าไร ต้องฝืนยิ้ม
ผมรู้ว่าสาเหตุมาจากเรื่องไอ้พี่พฤกษ์
ผมแอบสังเกตก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังฝืนยิ้มอยู่ด้วยเหมือนกัน
น่าแปลกที่ผมเองก็รู้สึกไม่ดีด้วย ทำไมนะ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย ทำไมต้องแคร์ไอ้พี่พฤกษ์ด้วย

11โมงแล้วเมื่อทุกคนขนสัมภาระไปขึ้นรถบัส เตรียมเดินทางกลับกรุงเทพ ที่รถคันของปีหนึ่งและปีสาม ไอ้เจมส์กับไอ้นิวรีบขึ้นไปนั่งด้วยกัน ทิ้งให้ผมนั่งคนเดียว
“สัส แล้วกูจะนั่งกะใคร”
“ก็พี่พฤกษ์ไง” ไอ้เจมส์ตอบหน้าทะเล้น
ไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
“ไอ้ห่า”
ผมเดินไปนั่งแถวข้างหลังพวกไอ้เจมส์ ไอ้พี่พฤกษ์มันคงจะมานั่งกับผมหรอก
แล้วก็จริงอย่างที่ผมคิด เพราะมีแค่พี่ริวกับพี่เกี้ยงที่เดินขึ้นรถมาเท่านั้น
“อ้าว พี่พฤกษ์ไปไหนล่ะครับ” ไอ้เจมส์ถามพี่ริว
“มันไปนั่งคันปีสองกับปีสี่น่ะ เห็นบอกว่าจะคุยเรื่องงานรับน้อง” แค่ผมเห็นท่าทางพี่ริวก็รู้แล้วว่าโกหก เพราะมันจงใจหลบตาผม
กิจกรรมจบแล้ว มีอะไรต้องคุยอีก
ผมแปลกใจตัวเองอีกครั้งที่หงุดหงิด
ไอ้พี่พฤกษ์หลบหน้าผมก็ถูกแล้วนี่ ถ้าเป็นผมไปบอกชอบใครแล้วเขาไม่ชอบ จะให้กล้าสู้หน้าต่อได้ไง
รถบัสแล่นออกจากบริเวณของที่พักในที่สุด นอกหน้าต่าง ผมเห็นฟ้าโปร่ง วันนี้ลมเย็นสบาย อากาศดีตรงกันข้ามกับความรู้สึกของผมโดยสิ้นเชิง
ราวกับว่าความสุขจากกิจกรรมรับน้องและช่วงเวลาบายศรีที่ผมได้รับจากไอ้พี่พฤกษ์ได้ระเหยหายไปหมดแล้ว
ผมก้มลงมองข้อมือตัวเอง ด้ายสีฟ้าเส้นเดียวยังคงโดดเด่นกว่าด้ายสีขาวอีกหลายสิบอัน
ใจหนึ่งผมก็อยากจะแกะมันออกจากมือแล้วโยนทิ้งไป แต่อีกใจก็รู้ดีว่าทำไม่ลง เลยได้แต่ปล่อยให้มันพันรอบข้อมืออยู่แบบนี้
ผมสับสน

TBC

แงงงง สงสารพี่พฤกษ์

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

คนมันไม่รู้ใจตัวเองก็เงี้ยะแหละ

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เพชรเองก็เป็นเด็กที่อีโก้สูงนะ

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
EP21 "พี่ยอมทำร้ายตัวเอง แลกกับการที่เรากลับมาเป็นน้องพี่ครับ"

หลังกลับมาจากรับน้องนอกสถานที่ ผมรู้สึกเซ็งมาก แต่ละวันผ่านไปโดยที่ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำอะไรไปบ้าง
ที่น่าหงุดหงิดก็คือ ผมรู้สาเหตุดีว่าผมเป็นแบบนี้เพราะอะไร แต่ก็ไม่ยอมคิดที่จะแก้ปัญหา
ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้พูดกับผมอีกเลยตั้งแต่นั้น จริงๆคือไม่มองหน้าผมเลยต่างหาก ไม่ใช่การหลบหน้า เพราะเจอกันจังๆที่มหา'ลัยอีกสามครั้ง แต่มันทำเป็นไม่เห็น ทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุ
และผมเองก็ไม่ได้เข้าไปคุยกับมันเหมือนกัน
ผมเคยคิดว่าแบบนี้แหละถูกแล้ว แต่ตอนนี้ไม่คิดอย่างนั้นเลย
ผมเป็นคน มีหัวใจ มีความรู้สึก ไอ้พี่พฤกษ์ไม่คิดเลยรึไงว่าถึงผมไม่ได้รักมันแบบนั้น แต่อย่างน้อยผมก็รักมันแบบพี่ชายคนหนึ่ง
และไม่ต้องการให้ไอ้พี่พฤกษ์ทำประหนึ่งว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ผมเซ็งขนาดที่ว่าบรรดาหญิงที่คุยอยู่ทั้งโทรทั้งไลน์มาชวนให้ไปหา ก็ไม่มีอารมณ์จะไป
มึงมีอิทธิพลกับกูขนาดนี้เลยเหรอวะ
พักเที่ยงวันศุกร์ ผมตัดสินใจเล่าทุกเรื่องให้ไอ้เจมส์กับไอ้นิวฟัง
"อะไรนะ"
ไอ้เจมส์ร้องเสียงดัง ตาโต อ้าปากค้าง ส่วนไอ้นิวก็มีสีหน้าอึ้งไป เมื่อบอกว่าไอ้พี่พฤกษ์บอกชอบผมที่ทริป
"จริงหรอวะ"
"จริงดิ กูจะโกหกมึงทำไม"
"งั้น...ที่พี่เค้ามายุ่งกับมึงบ่อยๆก็เพราะงี้เหรอ" ไอ้นิวตั้งข้อสังเกต
"เออ"
"เชี่ย...แล้วพอมึงปฏิเสธไป พี่พฤกษ์ทำไงวะ" ไอ้เจมส์ถามต่ออย่างรวดเร็ว
"พี่มันก็ไม่พูดกับกูอีก เจอหน้ากันยังไม่มองเลย" ผมกระแทกเสียงระบายอารมณ์
ไอ้เจมส์กับไอ้นิวเงียบไป แต่ยังจ้องหน้าผมอย่างเป็นห่วง พวกมันคงเห็นอาการของผมมาหลายวันแล้ว
"แล้วมึงจะทำไงต่อ" ไอ้เจมส์ว่า
"ไม่รู้ว่ะ...กูจะทำอะไรได้ เค้าไม่ยุ่งกับกูนิ" ยิ่งพูดออกมา เหมือนผมจะยิ่งขึ้นได้อีกเรื่อยๆ
"ก็จริง ถ้าสมมติมึงทะเลาะเรื่องหญิงหรือไม่ชอบขี้หน้ากัน เข้าไปเคลียร์ตรงๆก็จบ แต่นี่..." ผมก็คิดอย่างไอ้เจมส์พูด ผมไม่ได้คิดแบบเดียวกับไอ้พี่พฤกษ์ แถมทำลายความสัมพันธ์ดีๆของเราในคืนนั้นไปแล้วด้วย จะให้เคลียร์ยังไง
"มึงกับพี่พฤกษ์ซี้กัน คงนานหน่อยแหละกว่าจะหายอึดอัดแบบนี้" ไอ้นิวขยับเข้ามากอดคอผม
"เออ"
นั่งคุยกันต่อสักพัก ไอ้เจมส์ก็ชวนไปกินเหล้าคืนนี้ครับ ผมตอบรับทันที เพราะไม่อยากจมอยู่แต่กับเรื่องนี้อย่างเดียวแล้ว

"คืนนี้กูต้องกลับถึงบ้านห้าทุ่มตรงนะเว้ย ไม่งั้นแม่กูเอาตาย" ไอ้เจมส์ประกาศกร้าวตั้งแต่วินาทีที่มันเดินเข้ามาในผับ ผมกับไอ้นิวมาถึงก่อนมันไม่นานนี้เองครับ
"ห่า ถ้ามึงอยู่ได้แค่สองสามชั่วโมง กลับไปแดกนมที่บ้านไป"
พูดจบปุ๊บ หัวผมก็โดนมือไอ้เจมส์ฟาดดังป้าบ ก่อนที่ไอ้นิวจะเริ่มหัวเราะซะอีก
"ไม่ต้องประชดเลยสัส มึงก็รู้ว่าแม่กูเป็นไง"
"เดี๋ยวกูสั่งนมให้มึงแก้วนึง" คราวนี้ผมโยกหัวหลบฝ่ามือไอ้เจมส์ได้ทัน
เหล้าสองกรมถูกนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะ วันนี้เราสั่งแบรนด์นำเข้าทั้งนั้นเลยครับ เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง
เพราะชีวิตผมช่วงนี้แม่งโคตรเซ็งเลย
ผมกระดกเหล้าเข้าปากทันทีไม่รีรอ แอลกอฮอลล์ฝาดๆเนี่ยแหละที่ทำให้หัวโล่งดีนัก
"คืนนี้มึงหิ้วสักคนกลับคอนโดดิเพชร" ไอ้นิวบอกพร้อมกอดคอผม
"อยากอยู่ แต่จะมีใครเต็มใจให้กูหิ้วมั้ยวะ"
"ถุย ไม่ต้องทำมาถ่อมตัวเลยไอ้หล่อ หน้าอย่างมึงต้องถามว่าจะมีใครไม่อยากให้หิ้วกลับมั่ง" ไอ้เจมส์โวยวายแทรกผมขึ้นมาทันที
"มึงก็หาสักคนดิวะ"
"เอาไปให้แม่กูด่าเหรอ" ผมกับไอ้นิวหัวเราะกับคำตอบของไอ้เจมส์
ผมคุยเรื่องหญิงไปงั้นแหละครับ ไม่มีอารมณ์จะนัดเจอหรือทำอะไรใครทั้งนั้นแหละ
ตอนนี้นึกถึงแต่เรื่องไอ้พี่พฤกษ์อยู่คนเดียว
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
อย่างที่ทุกคนรู้ดี ผ่านไปยังไม่ถึงชั่วโมง ไอ้เจมส์ก็เริ่มเมา พูดไม่รู้เรื่อง เฮ้อ
"มึงไหวปะวะ" ผมแหย่
"หวายยย"
"ไหวไร มึงเมาแล้ว" ไอ้นิวเสริม
"เมาเหี้ยราย กูไม่ได้มาววว" ว่าแล้วมันก็หยิบแก้วขึ้นกระดกต่อ
"กูว่าสี่ทุ่มครึ่งออกจากที่นี่ ทำให้มันสร่างแล้วไปส่งบ้าน" ไอ้นิวหันมากระซิบกับผม
"เออ ไม่งั้นเชี่ยเจมส์โดนแม่มันฆ่าแน่"
เซ็ง ยังไม่ทันเมาก็ต้องกลับก่อนซะแล้วครับ แต่ทำไงได้ เพื่อนผมทั้งคน
ผมดื่มไป โยกไป ในหัวไม่มีเรื่องไม่สบายใจอะไรเหลือให้คิด
จนกระทั่งสายตาไปหยุดอยู่ที่ผู้ชายคนหนึ่งตรงเคาน์เตอร์บาร์
ผมจำไอ้พี่พฤกษ์ได้ทันทีถึงจะหันหลัง มันนั่งอยู่คนเดียว ข้างตัวมีเหล้าขวดใหญ่3ขวด ถูกเปิดไปแล้ว2ขวด หลังคอจนถึงหูมันเป็นสีแดงเข้ม
"ไอ้เพชร มองไรอยู่วะ" ไอ้นิวถาม สะกิดผมยิกๆ
"ปะ เปล่า มึงว่าไง"
"หญิงโต๊ะนู้นดูเหมือนอยากจอยกับโต๊ะเราว่ะ" ผมหันกลับมาเห็นไอ้นิวแล้วก็หัวเราะ หน้าแม่งหื่นเสียจนน่ากลัว
"มึงบุกดิ ลากมาให้ครบทุกคนเลย"
"หนายวะ...พากูไปหาหญิงด้วยดิไอ้นิว...อยู่หนายยยย"
"มึงอะนั่งอยู่เฉยๆเหอะ หญิงเห็นสภาพมึงตอนนี้หนีหมดพอดี" ผมปรามพร้อมดึงไอ้เจมส์ให้มันนั่งอยู่กับที่ ขณะที่ไอ้นิวเดินเข้าไปหาเป้าหมายแล้ว
แต่ผมก็อดไม่กลับไปมองที่เคาน์เตอร์บาร์ไม่ได้
และภาพที่เห็นก็ทำให้ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้
ไอ้พี่พฤกษ์โดนผู้ชายคนหนึ่งกระชากคอเสื้อแล้วผลักลงไปกองกับพื้น มีผู้ชายอีกสองคนยืนขนาบข้าง ท่าทางเหมือนกำลังจะรุมกระทืบ
ผมออกวิ่งไปขวางไว้ทันที
"เห้ย มึงเป็นใคร"
"พวกมึงจะทำอะไร" ผมถามกลับอย่างไม่เกรงกลัว
"อย่าเสือก เดี๋ยวมึงจะโดนไปด้วย"
"ไม่เสือกไม่ได้ว่ะ นี่พี่กู"
ไอ้นิววิ่งเข้ามาประกบผมอีกคน แต่ก่อนจะมีใครได้ลงไม้ลงมือกัน การ์ดและพนักงานในผับประมาณห้าหกคนกรูกันเข้ามาตรงเคาน์เตอร์บาร์ ห้ามศึกพวกผมเอาไว้
"อย่ามีเรื่องมีราวกันเลยนะครับ ขอร้องล่ะ"
พวกมันสามคนจ้องผมกับไอ้พี่พฤกษ์ก่อนจะเดินออกไปจากร้าน
"นี่มันอะไรวะ ทำไมพวกนั้นจะกระทืบพี่พฤกษ์" ไอ้นิวถาม
"มันเมาแล้วเดินไปชนไอ้พวกนั้น" ผมตอบ โกรธจนควันออกหู
แต่ไม่ได้โกรธแค่ไอ้สามตัวนั่น โกรธไอ้คนที่กองอยู่กับพื้นตอนนี้ด้วย

ผมพยุงไอ้พี่พฤกษ์ไปเรียกแท็กซี่หน้าผับ ฝากฝังไอ้เจมส์ให้ไอ้นิวดูแลอีกครั้ง โทษทีว่ะนิว คืนนี้มึงคงอดฟาดหญิงอีก
แต่ผมปล่อยไอ้พี่พฤกษ์ไปไม่ได้จริงๆ
"พี่พฤกษ์" ผมเขย่าแขนมัน มันหันมามองหน้าผมแวบหนึ่งก่อนจะหันหนีไปอย่างรวดเร็ว ชั่วขณะสั้นๆนั้นผมเห็นว่าแววตาไอ้พี่พฤกษ์เปลี่ยนจากเลื่อนลอยเป็นวูบไหว
มันสร่างเมาแล้ว รู้แล้วว่าเป็นผม
"พี่พฤกษ์ หันมา" ผมสั่ง
ไอ้พี่พฤกษ์ยังไม่ยอมขยับ ผมจึงกระชากตัวมันให้หันมาหา
"หูหนวกรึไง" ผมไม่รู้เลยว่าทำไมอารมณ์โกรธถึงพุ่งออกมาเยอะขนาดนี้
มันสบตาผม แต่ก็ยังไม่พูดอะไรอยู่ดี
"พี่ไม่รักตัวเองรึไงวะ ทำไมปล่อยตัวเองงี้"
"..."
"เป็นไรวะ ถามแล้วไม่ตอบ"
"อืม พี่ผิดเองแหละ"
ผมงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ตรงนั้น นี่มันตอบผมได้แค่นี้เหรอ
"มึงแม่งบ้า" กลายเป็นผมเองที่หันออกไปทางหน้าต่างรถแท็กซี่ ไม่อยากมองหน้ามันแล้ว

เวลาบนท้องถนนผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ เพราะภาพที่ผมเห็นในหัวมีแต่ภาพไอ้พี่พฤกษ์กำลังจะโดนกระทืบอยู่เมื่อกี้
"พี่ไม่เข้าใจ" อยู่ๆมันก็พูดขึ้นมา
"ไม่เข้าใจอะไร"
"เรา...มาช่วยพี่ทำไม"
"ถามอะไรวะ"
ผมหันไปตะคอกใส่หน้าไอ้พี่พฤกษ์ เกลียดชังสายตาเศร้าของมันที่จ้องกลับมา
"คิดว่าเพชรเห็นแล้วจะปล่อยให้พวกมันกระทืบพี่รึไง"
"ก็เพชรไม่อยากยุ่งกับพี่แล้วไม่ใช่เหรอ"
ผมชะงัก
"ดูถูกกันเกินไปละ"
ไอ้พี่พฤกษ์คงคิดว่าผมจะไม่เข้าไปช่วยมันเพราะเราสองคนเลิกยุ่งกันไปแล้วสินะ
"พี่ขอโทษ"
"เลิกขอโทษซะทีเหอะ" ผมตัดบทอย่างรำคาญ ชอบขอโทษทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด
ไอ้พี่พฤกษ์เอนหัวลงกับเบาะรถ ถอนหายใจเบาๆ ท่าทางดูอิดโรย
"เดี๋ยวคืนนี้พี่นอนห้องเพชรละกัน อย่ากลับบ้านสภาพนี้เลย"
มันอึ้งไป
"เอ่อ...ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราลงแล้วให้พี่แท็กซี่วนกลับไปส่งบ้านพี่ต่อเลย"
"ไม่ กลับกับเพชร อย่าเรื่องมากดิวะ"
ผมเดือดขึ้นมาอีก มันจะหนีผมไปถึงไหนนะ
"ใครกันแน่ที่ไม่อยากยุ่งอะ" ผมพึมพำ
เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอีก จนลงจากแท็กซี่แล้วขึ้นมาถึงห้องผม
ไอ้พี่พฤกษ์ไปทรุดตัวลงบนโซฟา ปิดตาลง บ่งบอกว่าเหนื่อยกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้
จริงๆแล้วมันอาจจะเหนื่อยใจเพราะต้องมานอนคอนโดผมก็ได้
"อะ น้ำ" ผมยื่นขวดน้ำเปล่าให้
"ขอบคุณครับ"
มันรับจากมือผมไปดื่มหลายอึก
"พี่จะอาบน้ำเลยมั้ย"
"แล้วแต่เราเลยครับ"
ทั้งกิริยา น้ำเสียง ทุกอย่างดูห่างเหิน ดูไม่ใช่ปกติที่มันทำกับผม
ในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว
"พี่เป็นไรวะ เจอผมแล้วมันอึดอัดใจมากปะ"
มันค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วหันมามองหน้าผม
"พี่ไม่ได้..."
"ไม่ได้อะไร" ผมตะคอก "จะบอกว่าทำตัวปกติงั้นดิ"
"..."
"รังเกียจเพชรใช่ปะ"
"พี่ไม่เคยคิดแบบนั้น"
"หรอวะ แต่ดูที่พี่ทำดิ"
"เราก็รู้ว่าพี่รู้สึกยังไง...แล้วพี่จะรังเกียจเราได้ไง"
"เหอะ รู้สึกดี...แต่เมินใส่ ตีตัวออกห่างเนี่ยนะ"
ผมตะเบ็งเสียงดัง ในขณะที่ไอ้พี่พฤกษ์ตอบกลับมาด้วยเสียงเบาแต่หนักแน่น
"สิ่งที่มึงทำกับพูดมันย้อนแย้งกันว่ะ"
"ถ้างั้นเพชรจะให้พี่ทำไงครับ...เราไม่ได้ชอบพี่ จะให้พี่กลับไปคุยกับเราแล้วลืมเรื่องที่ทะเลวันนั้นน่ะเหรอ"
ผมเสียหลัก ประโยคล่าสุดของมันคือความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
ผมเบือนหน้าหนี กลายเป็นไอ้พี่พฤกษ์หันมาจ้องผมแทน
ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าไม่ได้ต้องการให้มันไปจากชีวิตของผมแบบนี้
"พี่ไปอาบน้ำเหอะ" ว่าแล้วผมก็หันหลัง เดินกลับเข้าห้องนอนตัวเอง

เสียงน้ำในห้องน้ำเงียบไปนานแล้ว แต่ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้เดินเข้ามาในห้องนอน ผมจึงเปิดประตูออกไปดู
มันนอนเอามือก่ายหน้าผากอยู่บนโซฟา
"ทำไมพี่ไม่เข้าไปในห้อง"
"อือ...เดี๋ยวพี่นอนตรงนี้ก็ได้ครับ"
ผมกัดฟัน นี่จะประชดกันไปถึงไหน
"ไปนอนในห้อง"
ผมดึงแขนมันขึ้นสุดแรง เจ้าตัวส่งสายตามองแปลกๆ แต่ก็ยอมลุกขึ้นตามแรงฉุด
ผมลากมันมานอนบนเตียง
หลังผมอาบน้ำเสร็จ ไอ้พี่พฤกษ์ก็หลับไปแล้ว นอนตะแคงข้างหันหลังให้ผม
ไม่รู้ว่ามันหลับไปแล้วจริงๆ หรือแค่หลับตาเพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นหน้าผม
น่าแปลก คนสองคนที่ไม่น่าจะได้คุยกันแล้ว วันนี้กลับมานอนบนเตียงเดียวกัน
น่าแปลก ผมเองที่เคยคิดว่าจะเลิกยุ่ง แต่กลายเป็นว่าเข้าไปช่วยพี่มันแล้วก็พามาที่ห้อง
น่าแปลก ที่ผมไม่ได้เกลียดไอ้พี่พฤกษ์ ความรู้สึกตอนนี้ห่างไกลจากคำว่าเกลียดนัก
ผมเป็นอะไร
ล้มตัวลงนอนบนเตียงมาได้สักพัก ผมพึ่งรู้สึกตัวว่ากำลังจ้องมองแผ่นหลังไอ้พี่พฤกษ์อยู่
ในตอนที่บอกตัวเองให้เลิกฟุ้งซ่าน ไอ้พี่พฤกษ์ก็พูดขึ้นมาเบาๆ
"เพชรจะด่าพี่อีกก็ได้ แต่พี่ขอโทษอีกครั้ง"
ผมพ่นลมหายใจแรง ยังไงก็ไม่ชอบฟังคำขอโทษจากคนที่ไม่ได้ผิด แต่ครั้งนี้ไม่ได้เหวี่ยงใส่แล้ว
"เรื่องอะไร"
"เรื่องที่ทำตัวเองให้น่าสมเพช เมาจนช่วยเหลือตัวเองก็ไม่ได้"
"ยะ อย่าพูดแบบนั้น...พี่ไม่ได้น่าสมเพช"
"จริงเหรอครับ"
ไอ้พี่พฤกษ์ค่อยๆขยับตัวกลับมาหาผม
"แล้วเรื่องที่ทะเลคืนนั้นล่ะ พี่ไม่น่าสมเพชเลยเหรอ"
ผมรู้สึกว่าตัวเองใจอ่อนลงทุกทีที่เห็นแววตาเจือความรู้สึกมากมายของไอ้พี่พฤกษ์ ทั้งน้ำเสียงมันที่พูดประโยคเมื่อกี้ก็ฟังดูตัดพ้อ
"พี่ไม่รู้ว่ารู้สึกกับเพชรมากขนาดนี้ได้ไง...อกหักมากี่ครั้ง ไม่เคยเจ็บเท่านี้เลยรู้มั้ย"
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้มเศร้า
ใจผมโคตรอึดอัด
"พี่ไม่อยากหลบหน้าเราเลย ไม่อยากเดินหนี แต่พี่แค่ทำใจไม่ได้ เพราะพี่ไม่ได้คิดกับเพชรเหมือนเดิมแล้ว"
ผมเหมือนกลับไปฟังพี่มันสารภาพรักอีกครั้ง
"ไม่ว่าจะมองยังไง พี่มันก็น่าสมเพช...พี่อยากคุย อยากเจอหน้า อยากใช้เวลาอยู่กับเพชรตลอด...พี่แค่อยากบอกว่า พี่ชอบเราจริงๆนะครับ ถึงเราจะเกลียดพี่ไปแล้วก็ตาม"
"เพชรไม่ได้เกลียดพี่" ผมแทรกขึ้นทันที
"ไม่ต้องรีบตอบก็ได้...ไม่ต้องพูดให้พี่สบายใจหรอก"
"เพชรไม่ได้พูดปลอบ พี่คิดไปเองทั้งนั้น"
"ถ้างั้น...บอกพี่ได้มั้ยครับ พี่ควรทำตัวยังไง"
"หมายความว่าอะไร"
ไอ้พี่พฤกษ์กำลังคิดแบบเดียวกับผมอยู่รึเปล่านะ
"พี่...ไม่อยากเลิกยุ่งกับเรา...อย่างน้อยเรากลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมได้มั้ยครับ"
ผมอึ้ง นั่นคือสิ่งที่ใจผมต้องการที่สุด
"พะ พี่พฤกษ์"
ผมเชื่อแล้วว่าไอ้พี่พฤกษ์รู้สึกกับผมมากจริงๆ ถ้าถึงกับขอร้องกันแบบนี้
แต่มันไม่รู้สึกเจ็บเลยรึไง จะกลับมาทำตัวปกติ ทั้งๆที่รู้ว่าผมไม่ได้คิดอะไร
"พี่โอเคเหรอ...ถ้าจะกลับมาทำเหมือนเดิมกับเพชร"
"พี่จะพยายามครับ"
"พี่ไม่เหนื่อยที่ต้องมาทำดีกับเพชร ทั้งที่..." ผมพูดต่อไปไม่ได้
"พี่ยอมทำร้ายตัวเอง แลกกับการที่เรากลับมาเป็นน้องพี่ครับ"
อื้อหือ
"ถ้าพี่บอกว่าโอเค...เพชรก็โอเค"
ไอ้พี่พฤกษ์ยิ้ม แต่ผมเห็นว่าแววตามันไม่ได้ยิ้มไปด้วยเลยสักนิด
ผมไม่รู้ว่าตัดสินใจถูกหรือผิด
แต่ก็อยากได้พี่ชายคนนี้กลับมาเหมือนเดิม
ผมแม่งโคตรเห็นแก่ตัวเลย

11โมงกว่าแล้วเมื่อผมตื่นขึ้นในวันถัดมา เตียงอีกฝั่งว่าง ไอ้พี่พฤกษ์คงจะออกไปแล้ว
วันนี้ผมมีเรียนแค่คาบเช้า ไปตอนนี้ก็คงไม่ทัน ผมเลยmessageไปหาไอ้เจมส์กับไอ้นิวว่าไม่ไปเรียนแล้ว
จะว่าไป เมื่อคืนผมทิ้งให้ไอ้นิวจัดการเรื่องไอ้เจมส์คนเดียวนี่หว่า
ลืมไปเลย มัวแต่ห่วงเรื่องไอ้พี่พฤกษ์
ผมพิมพ์ถามพวกมันต่อ ไอ้เจมส์ตอบทันทีว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ไอ้นิวไปส่งมันทันเวลา แถมแม่มันจับไม่ได้ด้วยว่าไปเมามา
เชี่ย ทำได้ไงวะ
'แล้วพี่พฤกษ์ล่ะ เป็นไงมั่ง'
นั่นน่ะสิ ถ้าร่างกายมันคงไม่เป็นไรแล้ว แต่ใจเนี่ยสิ
ผมก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าทำไมไอ้พี่พฤกษ์ถึงตัดสินใจที่จะทำแบบนั้น ทั้งยังสงสัยตัวเองด้วยว่าทำไมถึงยอมให้พี่มันทำ
ผมยอมรับว่ารู้สึกดีกับไอ้พี่พฤกษ์ แต่ก็ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะคิดไปไกลกว่านั้น
หรือเพราะผมไม่อยากจะตัดความสัมพันธ์กับไอ้พี่พฤกษ์จริงๆ แม้จะเป็นในรูปของพี่น้อง
ผมเปิดประตูออกจากห้องนอนก็เจอเจ้าตัวนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา
"พี่พฤกษ์"
"อ้าว ตื่นแล้วเหรอครับ" มันหันมายิ้มให้ผม
"เพชรนึกว่าพี่ออกไปแล้ว"
"ยังครับ เพชรหิวมั้ย"
"ก็...นิดหน่อย"
"งั้นกินข้าวกัน พี่หิวมากเลย"
"พี่ยังไม่ได้กินอะไรใช่มั้ย ตื่นกี่โมงเนี่ย"
"แปดโมงกว่าๆ"
"แล้วทำไมไม่ไปหาอะไรกิน"
"รอกินพร้อมเราไง"
"จะรอเพชรทำไม คราวหลังไม่ต้องรอ"
ผมงงกับท่าทางมันหน่อยๆ เพราะกลับมาเป็นปกติทุกอย่าง ไม่เหมือนเมื่อคืนและหลายๆวันก่อนที่เมินผม
"เดี๋ยวเพชรอาบน้ำแปบนึง แล้วลงไปหาอะไรกินกัน"
"พี่ลงไปซื้อมาแล้วแหละ"
มันตรงไปหยิบถุงโจ๊กสองถุงออกมาอุ่น นอกจากนั้นก็มีน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋อีกด้วย
"ร้านใต้คอนโดใช่ปะ"
"ครับ"
"ร้านนี้อร่อย"
ผมนั่งลง ปล่อยให้เฮียแกจัดการกับอาหาร
"จริงๆพี่อยากปลุกเราไปเรียนนะ แต่คิดว่าเราคงอยากพัก...เรื่องยุ่งๆเมื่อคืน เอ่อ...ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยพี่ไว้นะครับ"
"อือ" ผมตอบรับสั้นๆ อยากพูดว่าอย่าคิดว่าผมจะไม่ช่วย แต่ก็กลืนคำพูดนั้นลงไป
"อร่อยจริงๆด้วยแฮะ"
"ตอนเพชรย้ายมาอยู่ใหม่ๆ กินร้านนี่เกือบทุกวันแหละ...ว่าแต่พี่ไม่มีเรียนรึไง"
"มีแค่คาบเช้าเหมือนกัน ไปก็ไม่ทันแล้ว"
"งั้นวันนี้พี่จะทำอะไร"
"เอ่อ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จก็คงกลับบ้านแหละครับ"
"เห้ย พี่ไม่ต้องรีบกลับ...จะอยู่ทั้งวันเลยก็ได้"
ทำไมตอนนี้บรรยากาศระหว่างผมกับไอ้พี่พฤกษ์มันดูอึดอัด กระอักกระอ่วนจังนะ
ไอ้พี่พฤกษ์กินหมดอย่างรวดเร็ว
"เมื่อคืน...พี่ไม่ได้เจ็บตรงไหนใช่มั้ย"
"ไม่ครับ ไม่เป็นอะไรเลย เพราะเราเลยนะที่มาช่วย"
ผมไม่ได้ตอบอะไร รู้สึกแปลกหน่อยๆที่โดนไอ้พี่พฤกษ์จ้องแล้วก็พูดแบบนั้นด้วย
ตอนนั้นเองโทรศัพท์พี่แกมีสายเข้ามา
"ฮัลโหลครับ...อยู่คอนโดน้องเพชร...เมื่อคืนเมาเละเลยว่ะพี่ ไม่กล้ากลับบ้าน พ่อกับแม่ล่ะ...อ้อ..."
ไอ้พี่พฤกษ์คงไม่ได้บอกคนที่บ้านว่าไม่กลับ
"พี่ชลโทรมาน่ะ ดีนะช่วยโกหกให้"
"อ่อ"
มันยังคงพูดไปจ้องหน้าผมไปอยู่ ผมไม่กล้าสบตามันก็เลยก้มลงมองแต่ชามโจ๊ก
นี่ผมเขินไอ้พี่พฤกษ์เหรอวะ
"เพชร"
"ครับ"
"เรา...ไม่ได้ติดขัดอะไรใช่มั้ย"
"อะไรเหรอ"
"เรื่องที่พี่บอกเมื่อคืน"
หมายถึงที่ไอ้พี่พฤกษ์จะกลับมาเป็นพี่น้องกับผมเหมือนเดิมสินะ
"มะ ไม่ครับ"
ผมเงยหน้าขึ้นนิดนึงเพื่อมองปฏิกิริยาของไอ้พี่พฤกษ์ แล้วก็เห็นรอยยิ้มแบบเมื่อคืน
ยิ้มแบบที่ตาไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย มองแวบเดียวก็รู้

TBC

อื้อหือ แบบนี้เจ็บยิ่งกว่าอีก ทำไมเพชรใจร้ายขนาดนี้
#ทีมพี่พฤกษ์ คุณผู้อ่านละครับ ทีมใคร

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
EP22 "เพชรกำลังเข้าใจผิด ผิดมากๆเลยด้วย"

หลังจากเรื่องวุ่นๆที่ผับคืนนั้น ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้หลบหน้าหรือทำตัวห่างเหินตามที่พูดไว้จริงๆ มันกลับมาส่งผมที่คอนโดหลังเลิกเรียนแทบทุกวัน หลายครั้งก็กินมื้อเย็นด้วยกัน
ไม่รู้ว่าไอ้พี่พฤกษ์ตัดใจจากผมได้หรือไม่ เพราะเราสองคนยังเจอกันตลอด แต่ตัวผมเองยืนยันว่าผมยังอยากคบกับพี่มันแบบนี้ต่อไป
ผมเห็นแก่ตัวไปรึเปล่านะ
"เพชร"
วันนี้มันก็มารอผมหน้าห้องเรียนคาบบ่าย ผมบอกลาไอ้เจมส์กับไอ้นิวและเดินออกไปกับไอ้พี่พฤกษ์
"กลับกับพี่มั้ยครับ"
ผมกำลังจะบอกมันอยู่พอดีว่าวันนี้มีนัด
"เอ่อ วันนี้เพชรมีธุระ..." ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่บอกไอ้พี่พฤกษ์ไปตรงๆว่าจะไปทำอะไร
"อ่อ...งั้นไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวแยกกันตรงนี้ก็ได้"
ผมแปลกใจที่มันไม่ถามต่อว่าไปทำอะไร หรือเสนอว่าจะไปส่ง ตามปกติที่เคยทำ
"ไว้เจอกันครับ"
พี่แกส่งยิ้มให้ผมก่อนจะเดินแยกตัวไปที่ลานจอดรถของมหา'ลัยคนเดียว

"ฟ้า"
"อ้าว เพชร ให้ฟ้ารอตั้งนานแน่ะ งอนแล้ว"
ฟ้าคือเพื่อนสมัยมัธยมของไอ้นิวที่มาเรียนมหา'ลัยเดียวกัน แต่อยู่คนละคณะครับ ไอ้นิวดีลให้เสร็จสรรพ ให้ไลน์ไอดีผมไป บอกว่าฟ้าสนใจเพราะเห็นผมกับมันในรูปบนโซเชียลบ่อยๆ
"เพชรพึ่งเลิกเรียนคร้าบบ อย่างอนเลยนะ"
"ก็ได้ แต่ต้องเลี้ยงขนมฟ้านะ"
"ฟ้าอยากกินอะไรครับ"
"อยากกินเยลลี่ร้านนู้นอะ"
"เอาดิ ไปกัน"
เดทของผมเริ่มต้นง่ายๆแบบนี้แหละ ไอ้นิวเริ่มอยู่กับผมจนรู้แล้วว่าผมชอบแบบไหน จัดมาให้เต็มๆ ตัวเล็กๆ ขาวๆ หมวยๆ แต่นมบึ้ม ถ้าผมได้ฟ้าแล้ว จะพามันไปเลี้ยงเหล้าแน่ๆ
"เพชรสนิทกับนิวหรอ"
"อือ ตัวติดกับมันทั้งวัน ตอนอยู่โรงเรียนมันเป็นไงอะ"
"โห นิวอะฮ็อตจะตาย มีคนมาจีบเยอะแยะ...ไม่เหมือนฟ้า ไม่มีใครมาจีบเลย" ว่าแล้วก็ส่งสายตามีเลศนัยให้ผมด้วย ผมรู้นะว่าเธอหมายความว่าไง นี่มันทอดสะพานให้ชัดๆ
"อย่างฟ้าเนี่ยนะไม่มีใครมาจีบ ไม่จริงมั้ง"
"จริงงง ฟ้าไม่น่ารักเท่าไรอะ ใครจะมาชอบ"
"เพชรว่าฟ้าน่ารักมากเลยนะ ใครไม่ชอบก็ช่างเค้าสิ" ผมพูดประโยคนั้นพร้อมมองฟ้าเหมือนจะกลืนกินไปทั้งตัว แน่นอนว่าสาวเจ้าถึงกับเขินตัวงอ
"เพชรพูดงี้กับผู้หญิงทุกคนใช่มั้ย ฟ้าว่าใช่แน่ๆเลย"
"ไม่นะ คนไหนน่ารักเพชรถึงจะบอกว่าน่ารัก"
ผมละสายตาจากรูปร่างของฟ้าไม่ได้เลยครับ คือมันเอ็กซ์มาก ในหัวผมจินตนาการไปถึงว่าตัวเองกำลังมีอะไรกับเธอแล้วด้วยซ้ำ
"เพชรกินเยลลี่ด้วยกันมั้ย"
"ครับ"
ฟ้าทำท่าจะป้อนเยลลี่ให้ผม ผมเลยขยับตัวเอาปากเข้าไปรับ จังหวะนั้นผมมองต่ำลงไปในชุดนักศึกษาของฟ้าจนเห็นร่องอก
ผู้หญิงเปิดทางให้เราขนาดนี้แล้ว รออะไรอยู่ล่ะครับ
"หลังกินข้าว ฟ้าไปไหนต่อรึเปล่า"
"ไม่นะ ฟ้าว่าง ไม่รีบกลับ"
ผมแทบจะกระโดดโลดเต้น
"งั้นไปคอนโดเพชรมั้ย มีหนังเก่าๆหลายเรื่องที่ฟ้าเคยบอกเพชรว่าอยากดูอะ"
ฟ้าหน้าแดงซ่าน เธอคงรู้จุดประสงค์ของผมแล้ว ผู้ชายชวนผู้หญิงไปที่ห้องกันสองคน ถ้าแค่ดูหนังคงเป็นไปไม่ได้
ที่ผมกล้าชวนฟ้าเร็วขนาดนี้ เพราะคิดว่าเธอต้องไม่ปฏิเสธผมแน่ๆ
"อะ อือ"
ผมยิ้ม โอบไหล่เธอแล้วตรงไปร้านอาหารที่โทรจองไว้เมื่อหลายชั่วโมงก่อน

ใจผมไม่อยากกินข้าวเย็นแล้วครับ แต่ก็อดทนจนจบมื้อ แถมต้องรอฟ้าถ่ายรูปเล่นในร้านอาหารอีก กว่าจะได้ออกจากร้านก็ปาเข้าไปทุ่มกว่าแล้วครับ
"ฟ้าอยากไปไหนอีกมั้ย"
"ไม่อะ เพชรล่ะ"
"งั้นไปห้องเพชรกันเลยมั้ย"
"อือ"
ฟ้าหน้าแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง ในหัวเธอคงคิดเรื่องเดียวกับผมอยู่แน่ๆ
ผมพาฟ้าลงมาชั้นล่างของห้างเพื่อจะไปเรียกแท็กซี่ที่ด้านหน้าถนน แต่ยังไม่ทันถึงก็เจอไอ้พี่พฤกษ์
สีหน้ามันทั้งอึ้งทั้งหม่น สายตามองมาที่มือผมซึ่งวางอยู่บนไหล่ฟ้า
"พะ พี่พฤกษ์"
ผมเองก็ตกใจเหมือนกัน
"ครับ เอ่อ...พี่ขอตัวก่อนนะ"
ไอ้พี่พฤกษ์เดินผ่านผมกับฟ้าไป ในมือมันถือถุงใส่ของเต็มไปหมด คงจะซื้อของเข้าบ้านแน่ๆ
"ใครเหรอเพชร"
"อะ เอ่อ รุ่นพี่ที่คณะน่ะ"
"อ่อ"
ฟ้าดูจะไม่ทันสังเกตอาการของผม
ผมรู้สึกไม่ดีขึ้นมาอย่างประหลาดที่เห็นแววตาเจ็บปวดนั่น ผมคิดว่าการที่ผมอยู่กับฟ้าตรงนี้มันทำให้ไอ้พี่พฤกษ์เสียใจ
ผมยืนนิ่ง ไม่ขยับ
ฟ้าจับมือผมข้างหนึ่งแล้วออกเดินต่อ แต่ผมกำลังจมอยู่กับไอ้พี่พฤกษ์
"ฟ้า..."
"หืม"
ฟ้าหยุดแล้วหันมามองหน้าผม
"คือ...เพชรขอโทษนะ วันนี้เพชรคงไปกับฟ้าไม่ได้แล้ว"
"ทำไมอะ"
สาวเจ้าโวยวายขึ้นมาทันที
"เพชร...เพชรมีเรื่องที่ต้องเคลียร์ด่วนเลย"
"เรื่องอะไร สำคัญกว่าฟ้าอีกเหรอ"
ผมผงะไปนิดนึง แม้กำลังคิดเรื่องไอ้พี่พฤกษ์อยู่เต็มสมอง แต่ก็เกิดคำถามเกี่ยวกับผู้หญิงตรงหน้าด้วย นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะเนี่ย
"เพชรขอโทษจริงๆนะ ไว้คราวหน้าเรานัดกันใหม่นะ...นะครับ"
"ไม่ ถ้าเพชรไม่พาฟ้าไปคอนโดคืนนี้ เราก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก"
อ้าวเห้ย
"ฟ้า เพชรขอโทษ งั้น...พรุ่งนี้นะครับ" ผมรีบพูดอย่างร้อนรน อยากวิ่งไปหาไอ้พี่พฤกษ์แล้ว
"ไม่ ยังไงก็ต้องวันนี้"
"ฟ้าา"
ผมไม่เคยเจอผู้หญิงที่งี่เง่าใส่ตั้งแต่เดทแรกแบบนี้มาก่อนเลย
"ไม่รู้แหละ เพชรต้องเลือกระหว่างฟ้ากับธุระของเพชร"
ผมมองหน้าไม่สบอารมณ์ของเธอ ในที่สุดก็ตัดสินใจเลือกไอ้พี่พฤกษ์
"เพชรขอโทษจริงๆนะฟ้า"
ผมแกะมือฟ้าออกก่อนจะหันหลังออกวิ่งไปทางที่ไอ้พี่พฤกษ์พึ่งเดินไป
"เพชร จะไปไหน กลับมาเดี๋ยวนี้นะ"
ได้ยินเสียงฟ้าตะโกนตามมา ไว้ค่อยเคลียร์ครับ ตอนนี้ผมอยากคุยกับไอ้พี่พฤกษ์มากที่สุด
วิ่งมาจนสุดทางของห้างแล้วก็ยังไม่เจอ หรือไอ้พี่พฤกษ์จะออกไปแล้ว
ผมกดโทรศัพท์หาทันที
(ฮัลโหลครับ)
"พี่อยู่ไหน"
(ลานจอดรถครับ เพชรมีอะไรรึเปล่า) น้ำเสียงไอ้พี่พฤกษ์ฟังดูประหลาดใจ ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก มันยังไม่ออกจากห้างไป
"อยู่ชั้นไหน โซนไร"
(ชั้น4 C16)
"อย่าพึ่งออกไปนะ รอเพชรก่อน"
ผมออกวิ่งต่อ
รถ volvo สีเงินหาไม่ยากเลย เพราะมันเด่นที่สุดแล้วในชั้นจอดรถ ณ ขณะนั้น ไอ้พี่พฤกษ์ยืนอยู่ข้างรถ กำโทรศัพท์ไว้ในมือ กำลังรอและมองหาผมอยู่เหมือนกัน
"พี่พฤกษ์"
"เพชรมีเรื่องด่วนอะไรรึเปล่า"
"คือ..."
ผมคิดไม่ออกเหมือนกันว่าทำไมถึงตัดสินใจทิ้งฟ้าที่คุยด้วยมาตลอดสองอาทิตย์แล้วมาหาไอ้พี่พฤกษ์ได้อย่างง่ายดาย
มันมองผมอย่างสงสัยใคร่รู้ แววเจ็บปวดเมื่อครู่ก็ยังไม่หายไปด้วย
"ไปส่งเพชรหน่อยดิ"
นั่นคือคำเดียวที่ผมนึกได้
"แล้ว...น้องผู้หญิงคนนั้นล่ะ"
"เค้ากลับไปแล้ว ช่างเหอะ" ผมตอบเลี่ยงๆ "พี่ไปส่งเพชรได้มั้ย"
"เอ่อ...ครับ"
เฮ้อ ค่อยยังชั่ว
"เมื่อกี้เห็นพี่ถือของเต็มเลย ซื้อของเข้าบ้านเหรอ"
ผมเริ่มชวนคุย เพราะรู้สึกว่าบรรยากาศเงียบจนน่าอึดอัด
"ครับ"
ไอ้พี่พฤกษ์ตอบโดยไม่มองหน้าผม เริ่มหมุนพวงมาลัย วนรถจากที่จอดลงมาชั้นล่าง
"แล้ววันนี้พี่ไม่ต้องทำแผนอ่อ"
"วันนี้ไม่ครับ นัดอีกครั้งพรุ่งนี้"
ไหงตอบสั้นจังวะ
ไอ้พี่พฤกษ์กำลังแข่งแผนการตลาดครับ รวมทีมกับเพื่อน ช่วงนี้ก็จะนัดทำงานกันบ่อยๆ ผมพึ่งมารู้เมื่อสองสามวันก่อนว่าหลังจากมันขับมาส่งผมที่คอนโดแล้วก็วกกลับไปที่คณะเพื่อคุยงานต่อ ทำเอาผมอึ้งไปเลย
ไอ้พี่พฤกษ์รักผมมากจริงๆ
ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้มันรู้สึกดีขึ้น ผมอยากได้เวลาคุยกับพี่มันนานๆ
"ทำไมเราถึงมากลับบ้านกับพี่ล่ะ"
ไอ้พี่พฤกษ์ถามขึ้นเบาๆ
"เอ่อ เพชร...เพชรอยากกลับกับพี่อะ...ไม่ได้กลับด้วยแล้วมันรู้สึกแปลกๆ"
เอาจริงๆผมก็ไม่รู้เหตุผลหรอก
ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ตอบอะไร แถมท่าทางก็นิ่งเสียจนผมเดาไม่ได้เลยว่ามันกำลังคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่
โทรศัพท์ผมยังคงสั่นอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องหงายหน้าจอขึ้นมาดูก็รู้เลยว่าเป็นฟ้าแน่ๆ ผมตัดสินใจปิดเครื่องทันที
"ไม่รับโทรศัพท์เหรอครับ"
"ไม่อะ...แวะกินข้าวก่อนได้มั้ย เพชรหิว"
"เอ่อ..."
อย่าปฏิเสธผมนะ
"ขอโทษครับ วันนี้พี่นัดที่บ้านไว้แล้ว ไม่ได้กินข้าวกับที่บ้านหลายวันเพราะแข่งแผนน่ะ"
"อ้อ..."
ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยวะ
ในที่สุดเราก็มาถึงคอนโด แต่ผมยังไม่อยากลงจากรถไปเลย
"เพชร"
ผมหันจากหน้าต่างไปหาไอ้พี่พฤกษ์ มันกำลังมองผมพอดี
"พี่ถามจริงๆนะ ทำไมถึงกลับมาหาพี่"
ผมกลืนน้ำลาย จะตอบยังไงดีล่ะ
"เรากำลังทำให้พี่สับสน รู้มั้ยครับ"
น้ำเสียงกึ่งตัดพ้อกึ่งต่อว่านั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่ลงไปอีก
"ก็...ก็ไหนบอกว่าจะทำอย่างที่เคยทำกับเพชรเหมือนเดิมไง..." ผมเฉไฉ
"เพชร พี่ไม่รู้ว่าเราคิดอะไรกันแน่ แต่ทำแบบนี้...มันเหมือนให้ความหวัง"
ผมชะงัก จริง จริงที่สุดเลย
"ถะ ถ้าพี่ไม่สะดวกมาส่ง ก็บอกตรงๆ เพชรกลับเองก็ได้"
ขอเผ่นก่อน วันนี้แม่งสู้ไม่ไหวจริงๆว่ะ ผมคว้ากระเป๋าขึ้นแล้วเตรียมลง แต่ไอ้พี่พฤกษ์ก็กดล็อคประตูไว้อย่างรวดเร็วและจับข้อมือผมไว้แน่น
"ปล่อย"
"ตอบพี่มาก่อน"
"บอกให้ปล่อย"
"พี่ขอร้อง"
คำว่าขอร้องทำเอาผมหยุด
"ว่าไงครับ" มันกระตุ้น
"เพชร...เพชรไม่รู้"
ผมสบตาไอ้พี่พฤกษ์กลับ
"เพชรจะไม่รู้ได้ไง ถ้าเพชรไม่รู้เหตุผลว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่มีใครที่รู้แล้ว"
"ถ้าพี่ไม่อยากมาส่งผม...ไม่อยากยุ่งกับผมแล้ว บอกตรงๆเลยก็ได้นะ"
"เพชรกำลังเข้าใจผิด ผิดมากๆเลยด้วย"
ผมขมวดคิ้ว
"ถ้างั้นพี่ก็อธิบายมา ถามแบบนี้จะให้เพชรคิดว่าไง"
"พี่เคยบอกแล้วว่าพี่อยากทำทุกอย่างที่ดีที่สุดให้เรา เพราะว่าพี่รักเรา แม้ว่าเราจะไม่ได้รักพี่เลย..."
ขนาดผมฟังยังเจ็บ แล้วไอ้พี่พฤกษ์ที่เป็นคนรู้สึกทั้งหมดจะขนาดไหน
"พี่ยืนยันว่ายังอยากดูแลเราเหมือนเดิม...แต่พี่ถามก็เพราะเพชรทำเหมือนแคร์พี่ ทำเหมือนเพชรห่วงความรู้สึกพี่ เรื่องน้องผู้หญิงคนนั้น..."
ทำไมผมจะไม่แคร์มัน ทำไมจะไม่ห่วงความรู้สึกมันล่ะ ผมเองก็รู้สึกนะ
ผมไม่เถียง ไม่โต้ตอบใดๆ เพราะไม่มีอะไรมาแย้ง
"คราวนี้เพชรต้องบอกพี่บ้าง"
ผมเงียบไปนาน แต่ก็ทนสายตาที่ไอ้พี่พฤกษ์จ้องมาไม่ไหว
"เออ เพชรไม่อยากให้พี่นอยด์...พอใจยัง"
ไอ้พี่พฤกษ์จ้องผมอีกสักพักก่อนจะคลายมือ ผมรีบเปิดประตูลงมาทันที
ใช่ ไอ้พี่พฤกษ์พูดถูกทุกอย่าง ผมไม่รู้ความรู้สึกตัวเอง แล้วจะมีใครในโลกนี้รู้
ผมต้องกลับไปทบทวนทุกอย่างแล้ว

ฟ้ายังคงโทรมาเรื่อยๆไม่หยุดหย่อนจนเลยเที่ยงคืนไปแล้วนั่นแหละ แต่ผมไม่ได้รับสักสาย และคิดไว้แล้วว่าหลังจากนี้ก็จะไม่รับอีก
เช้าวันต่อมาผมออกมามหา'ลัยตามปกติ ในหัวคิดแต่เรื่องไอ้พี่พฤกษ์จนตื้อไปหมด
"เห้ยพวกมึง เย็นนี้ไปอ่านหนังสือกัน อาทิตย์หน้าเริ่มสอบวิชาแรกแล้วนะเว้ย" ไอ้นิวเปิดประเด็นขึ้นมา เอาซะคนขี้เกียจอย่างผมสะดุ้ง
"เออ เอาดิ ที่ไหนดีวะ" ไอ้เจมส์เออออ
"มีร้านกาแฟที่นึง ข้ามสะพานลอยจากหน้าคณะเราแล้วเดินเข้าซอยต่ออีกหน่อยก็ถึงละ"
"เออๆ ไปปะไอ้เพชร"
"ไปดิ กูกะให้มึงสองคนติวหนักๆเลย ไม่รู้จะเอาเหี้ยอะไรไปสอบ"
ไอ้นิวหัวเราะกับคำตอบผม ส่วนไอ้เจมส์ส่ายหัวอย่างเอือมระอา มันชินแล้วล่ะที่ผมไม่ค่อยได้เรียน แต่มาฟิตตอนใกล้สอบเอาอย่างเดียว
ผมไลน์ไปบอกไอ้พี่พฤกษ์ว่าเย็นนี้ไม่ต้องไปส่ง
สี่โมงเย็น พวกผมออกจากห้องเรียนแล้วตรงไปยังร้านกาแฟที่ไอ้นิวบอก มีนิสิตมานั่งกันจนเกือบเต็มร้านแล้ว
"คนเยอะจังวะ" ผมพึมพำ
"ก็มันช่วงสอบแล้วนี่หว่า โง่นะมึงเนี่ย" ไอ้เจมส์ว่า ผมเลยโบกหัวมันไปหนึ่งที
เมื่อได้ที่นั่งสำหรับสามคนแล้ว ไอ้เจมส์กับไอ้นิวก็เริ่มหยิบหนังสือโจทย์แคลคูลัสขึ้นมาทำทันที ผมที่กำลังจะหยิบมือถือขึ้นมาไถ ถึงกับต้องเปลี่ยนไปจับหนังสือแทน
"มึงเริ่มอ่านยังวะเพชร" ไอ้เจมส์ถาม
"ยัง"
"มึงรีบเลย บทหลังๆยากสัส ต้องใช้เวลา" ไอ้นิวบอก และเพิ่มความกดดันขึ้นไปอีกด้วยการเปิดไปที่หน้าท้ายๆของหนังสือ แสดงว่าโจทย์ข้างหน้ามันทำครบแล้วสินะ
หันไปมองไอ้เจมส์อีกตัว นี่ก็พอกัน อ่านไปครึ่งเล่มแล้ว
เอาวะ เหลืออีกแค่อาทิตย์เดียว ผมต้องเริ่มบ้างแล้ว
อ่านไปได้ยังไม่ถึงสิบหน้า เสียงโทรศัพท์ก็ดัง
ฟ้า
เฮ้อ ปิดเครื่องหนีอีกซะดีมั้ง
ผมยื่นโทรศัพท์ใส่หน้าไอ้นิวให้ดู
"ทำไมมึงไม่รับวะ"
"เมื่อวานมีปัญหานิดหน่อย"
"เออ กูลืมถามเลย มึงกับฟ้าเป็นไงมั่ง"
"กู...กูเทเค้า"
"ไอ้สัส หล่อเลือกได้ชิบหาย" ไอ้เจมส์แทรก
ผมไม่กล้าเล่าให้ไอ้สองคนนี้ฟังว่าทิ้งฟ้าแล้วไปหาไอ้พี่พฤกษ์ครับ
"ทำไมวะ เพื่อนกูไม่โออ่อ" ไอ้นิวเลิกสนใจหนังสือแล้วหันมาหาผม
"ทำนองนั้น"
ฟ้ายังคงโทรเข้ามาติดๆกันอีกหลายครั้ง
"กูว่ามึงรับดีกว่า เคลียร์ให้จบไปเลย ไม่งั้นเค้าโทรหามึงทั้งวันแน่" ไอ้เจมส์เงยหน้าจากหนังสือขึ้นมาบอก
"เออๆ" จริงของมันครับ
ผมหงายหน้าโทรศัพท์ขึ้นมา แต่ว่าคราวนี้ไม่ใช่ฟ้าโทรมาครับ เป็นพี่ริวแทน
"ฮัลโหลพี่"
(เพชร อยู่ไหน)
"ผมอ่านหนังสืออยู่แถวมหา'ลัยเนี่ย พี่มีไร"
(ฟังพี่ดีๆนะ ไอ้พฤกษ์รถชน ตอนนี้มันอยู่โรงพยาบาล)
ผมช็อค
(เพชร เพชร)
"คะ ครับพี่"
(เพชรจะมาหามันมั้ย)
"ปะ ไปดิพี่...อยู่โรงพยาบาลไหน..."

ผมบอกไอ้เจมส์กับไอ้นิวก่อนออกจากร้านกาแฟอย่างรวดเร็ว โชคดีที่เรียกแท็กซี่ได้ทันทีเลยเมื่อเดินไปถึงหน้าถนนและโรงพยาบาลที่ไอ้พี่พฤกษ์อยู่ก็ไม่ได้ไกลจากมหา'ลัยเท่าไรด้วย
แสดงว่าอุบัติเหตุคงเกิดไม่นานนัก
ผมยังไม่ได้ถามอะไรจากพี่ริวมาก รู้แค่ว่าตอนนี้ผมต้องไปหาไอ้พี่พฤกษ์ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม
ห้ามเป็นอะไรไปนะเว้ย
มาถึงผมก็วิ่งสุดแรงไปที่แผนกฉุกเฉิน เห็นพี่ริว พี่เกี้ยง เพื่อนผู้ชายและผู้หญิงอีกหลายคนในแก๊งไอ้พี่พฤกษ์ ทั้งกลุ่มเพื่อนที่เรียนด้วยกัน เพื่อนในกรุ๊ป และเพื่อนทีมแผนการตลาด
ผมตรงเข้าไปหาพี่ริวเป็นคนแรก
"พี่ริว พี่พฤกษ์เป็นไงบ้าง" ผมถามไปหอบไป เพื่อนไอ้พี่พฤกษ์หลายคนหันมามอง
"อ้าวเพชร...ไม่รู้เลยว่ะ พี่มาถึงคนแรก เจอพยาบาลก็บอกให้รอหน้าห้องก่อน หมอกำลังตรวจอยู่"
ผมหน้าเสีย ทรุดนั่งลงกับเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุด
"มันจะไม่เป็นไรเว้ยน้อง มันอยู่ในมือหมอแล้ว" พี่ริวพูดปลอบ แต่สีหน้าก็ดูไม่ได้มั่นใจนัก
พี่เกี้ยงเดินมาสมทบอีกคน แกนั่งลงข้างผมก่อนจะเอื้อมมือมาโอบไหล่ผมแล้วบีบเบาๆ
ผมรู้ดีว่าพี่ทั้งสองคนพยายามจะทำให้ผมสบายใจ แต่ผมไม่รู้สึกแบบนั้นเลย
มีเสียงพูดคุยกันหึ่งๆในกลุ่มเพื่อนไอ้พี่พฤกษ์
"มันจะเป็นไงมั่งวะ"
"รถชนที่ไหนวะ"
ความรู้สึกของผมในตอนนี้ปนเปกันไปหมด ใจนึงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่อีกใจก็กลัว ไม่อยากได้ยินอะไรเลย
"นั่นไง พี่ไอ้พฤกษ์มาแล้ว" ใครสักคนพูดขึ้น
ทุกคนหน้าห้องฉุกเฉินมองตาม พี่ชลวิ่งหน้าตื่นเข้ามา และตรงเข้ามาถามอาการน้องชายทันที
"พฤกษ์เป็นไงบ้าง..."
พอพี่ชลคุยกับเพื่อนไอ้พี่พฤกษ์เสร็จ ก็มานั่งลงข้างพี่เกี้ยง ผม พี่เกี้ยง พี่ริวยกมือไหว้แก
"หวัดดีครับ" พี่ชลรับไหว้ แต่ไม่ได้ยิ้มตอบ "พ่อกับแม่พี่กำลังมา"
ช่วงเวลารอหลังจากนั้นทรมานมาก พวกเราไม่รู้เลยว่าไอ้พี่พฤกษ์เป็นอย่างไรบ้าง จนพ่อกับแม่พี่มันมาถึง หมอก็ยังไม่ออกมาจากห้องฉุกเฉิน
ผมเห็นแม่ไอ้พี่พฤกษ์ร้องไห้สะอื้นอยู่บนบ่าพ่อ พี่ชลที่ย้ายไปนั่งด้านข้าง จับมือแม่กุมไว้
ผมตัดสินใจเลิกชะเง้อไปที่ประตู แล้วซุกหน้าลงกับฝ่ามือแทน

TBC

ฮือ ทำไมพี่พฤกษ์ซวยขนาดนี้

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ง่า...อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ writerbeer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
EP23 "อย่าดื้อดิ"

ในที่สุดหมอและทีมรักษาทั้งหมดก็เปิดประตูออกมา
พี่ชลกับพ่อแม่กรูกันเข้าไปถามหมอ
ผมเองก็นั่งไม่ติด ใจเต้นแรงลุ้นคำตอบ
"คนไข้ปลอดภัยแล้วนะครับ แต่ซี่โครงกับแขนหัก คาดว่าน่าจะโดนกระแทกแรงพอสมควร ยังไงคิดว่าต้องพักอยู่ที่โรงพยาบาลสักหนึ่งอาทิตย์นะครับ หมอไม่อยากให้ขยับร่างกายมากเท่าไร"
ผมและทุกๆคนถอนหายใจโล่งอก โชคดีที่ไอ้พี่พฤกษ์ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง
"เห็นมั้ย...บอกแล้วว่ามันต้องไม่เป็นอะไร" พี่ริวยิ้มกว้าง กอดคอผมกับพี่เกี้ยง
"แหม่ ตอนกูมาถึงไม่เห็นจะมั่นใจงี้เลย" พี่เกี้ยงกัด สีหน้าดีขึ้นจากเมื่อครู่ด้วยเหมือนกัน
หมอบอกอีกว่าจะให้เยี่ยมคนไข้ได้เมื่อย้ายออกจากห้องฉุกเฉินแล้ว
พี่ๆบางคนทยอยกันกลับและจะมาเยี่ยมใหม่ในวันถัดไป ตอนนั้นเองที่ผมนึกอะไรขึ้นมาได้
ผมตรงเข้าไปหาพี่ชลกับพ่อแม่
"เอ่อ สวัสดีครับ"
พ่อแม่ไอ้พี่พฤกษ์รับไหว้ผมแล้วส่งยิ้มให้ ส่วนพี่ชลหันมาตบไหล่ผม
"พ่อครับแม่ครับ นี่เพชร รุ่นน้องไอ้พฤกษ์ที่มหา'ลัย"
"หวัดดีลูก"
"คือ...ผม...จะว่าอะไรมั้ยครับ...ถ้าผมขออยู่เฝ้าพี่พฤกษ์"
ทั้งสามคนมองผมอย่างสงสัย
"เอ่อ...จริงๆพี่ก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรหรอกนะ แต่เพชรจะไม่ลำบากเหรอ ทีแรกพี่คิดว่าจะจ้างพยาบาลพิเศษมาช่วยดูแลอยู่แล้วน่ะ" พี่ชลบอก
"ไม่ต้องจ้างก็ได้ครับ ผม ผมอยากช่วยดูแลพี่พฤกษ์...ทุกวันจนกว่าจะออกจากโรงพยาบาลเลยครับ"
เงียบกันไปนานมาก
"อืม ถ้าเพชรสะดวก ก็ได้นะ...พ่อกับแม่ว่าไงครับ"
พ่อแม่ไอ้พี่พฤกษ์พยักหน้าและส่งยิ้มให้ผม แต่คงนึกประหลาดใจมากแน่ๆที่ใครก็ไม่รู้เสนอตัวมาเฝ้าไข้ลูกชายให้
"ขอบคุณครับ" ผมยิ้มกว้าง
"โอเค ขอบใจเพชรมากนะ" พี่ชลตบไหล่ผมเบาๆ "แต่พี่ถามนิดนึงดิ ทำไมเพชรถึงอาสาจะมาเฝ้าเจ้าพฤกษ์มันล่ะ"
ผมตะกุกตะกักขึ้นมาอีกครั้ง
"เอ่อ คือ...พี่พฤกษ์ช่วยผมหลายเรื่องเลยน่ะครับ...ถ้ามีอะไรที่พอจะช่วยได้ ผมก็อยากช่วยครับ"
จริงๆแล้วผมมีแต่ทำให้ไอ้พี่พฤกษ์เสียใจ และโอกาสที่ผมจะได้ทำดีตอบแทนมันก็มาถึงแล้วด้วย
พี่ชลกับพ่อแม่ตามหมอไปจัดการเรื่องย้ายไอ้พี่พฤกษ์ไปพักห้องพิเศษ ส่วนผมแยกตัวออกมานั่งรอกับพี่ริว พี่เกี้ยง
พี่สองคนมองหน้าผมแปลกๆ
"มีอะไรรึเปล่าพี่" ผมถามตรงๆ
"เพชรกำลังจะทำอะไร" พี่ริวมีสีหน้าเคร่งขรึมกว่าปกติ แสดงว่าเข้าโหมดซีเรียสไปแล้วเรียบร้อย
"พี่หมายถึงเรื่องอะไร"
"ก็ที่เพชรไปขอเฝ้าไอ้พฤกษ์ ทำไมถึงทำแบบนั้น"
"ผม...ผมอยากช่วยพี่พฤกษ์" ผมพูดได้แค่นั้น สายตาพี่ริวดูเหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง
"แค่นั้นจริงๆเหรอ"
"ครับ"
"พี่ไม่รู้นะ...ที่ทริปน้องบอกไม่ชอบไอ้พฤกษ์ แต่กลับมาที่มหา'ลัย น้องให้มันไปส่งที่บ้านทุกวัน วันนี้ก็จะมาเฝ้ามันอีก สรุปน้องคิดยังไงกับมันกันแน่"
พี่ริวเริ่มโกรธ ผมเห็นพี่เกี้ยงจับแขนพี่ริวเหมือนปรามไว้
"ไอ้พฤกษ์มันจะรักใครชอบใคร พี่ไม่เคยเสือก แต่ครั้งนี้มันเป็นเพชร พี่ว่าเราคุยกันได้ เตือนกันได้...พี่แค่ไม่อยากให้เพื่อนต้องเสียใจซ้ำซาก ถ้าเพชรไม่ได้รู้สึกอะไรกับมัน"
สมองผมว่างเปล่า ไม่มีอะไรจะโต้ตอบพี่ริวสักอย่าง
"ที่พี่โทรหาเมื่อกี้เพราะคิดว่าอย่างน้อยเพชรก็คงเป็นห่วงมันบ้าง แต่ไม่คิดว่าจะมาเฝ้ามันแบบนี้...เพชรกำลังปั่นหัวไอ้พฤกษ์อยู่นะ"
พี่ริวพูดจบก็เดินออกไป
"เอ่อ พี่ก็อยากให้เพชรกลับไปคิดดูให้ดีๆนะ ไม่ใช่เพื่อไอ้พฤกษ์คนเดียว เพื่อตัวเพชรเองด้วย..."
พี่เกี้ยงว่า ก่อนจะเดินตามพี่ริวไป

หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ผมย้อนกลับไปเก็บเสื้อผ้าที่คอนโดเตรียมมาเฝ้าไอ้พี่พฤกษ์ พอพี่ชลโทรหาว่าให้ขึ้นมาที่ห้องพักผู้ป่วยได้ ผมจึงเข้าไป
พอเข้าไปแล้วก็เห็นรอยยิ้มของพ่อแม่ไอ้พี่พฤกษ์เป็นสิ่งแรก
"พวกพี่กำลังจะกลับแล้ว ยังไงฝากไอ้พฤกษ์มันด้วยนะ"
"ครับผม"
"ขอบคุณน้องเพชรมากเลยนะจ๊ะ"
"พ่อรบกวนด้วยนะ"
แล้วพี่ชลก็ขยับตัวออกจากหัวเตียง ทำให้ผมเห็นหน้าไอ้พี่พฤกษ์
"พี่ไปก่อนนะ"
"หวัดดีครับ"
ผมยกมือไหว้ครอบครัวไอ้พี่พฤกษ์อีกครั้ง มองตามหลังทุกคนเดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วย ก่อนจะหันกลับมาหาไอ้พี่พฤกษ์
มันฟื้นแล้ว กำลังจ้องผมอยู่เหมือนกัน
"พี่พฤกษ์" ผมเรียกเบาๆ
"เอ่อ ครับ"
"พี่เป็นไงบ้าง"
มันเงียบไปประเดี๋ยวหนึ่งก่อนตอบ
"ไม่เป็นอะไรมากครับ ไม่ต้องเป็นห่วง"
ผมไม่ชอบคำตอบนั่นเลย
"หมอบอกว่าพี่ซี่โครงหัก แขนหัก ต้องนอนโรงพยาบาลอย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์"
"เอ่อ แต่พี่รู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นอะไรมากจริงๆนะ"
"จะไม่เป็นอะไรมากได้ไง"
ผมเดินเข้าไปที่ข้างเตียง มองสำรวจตัวไอ้พี่พฤกษ์ ถ้าดูจากภายนอกก็ไม่เห็นบาดแผลหรือร่องรอยบาดเจ็บใดๆ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอวัยวะภายในนี่สิที่น่ากลัวกว่า
"หมอบอกว่าไม่อยากให้พี่ขยับตัว"
"ครับ เมื่อกี้หมอเข้ามาคุยกับพี่เหมือนกัน แต่พี่คิดว่าพี่ชิวมากเลยนะ"
ผมถอนหายใจ รู้แล้วว่ามันพูดเพื่อไม่ให้ผมเป็นห่วง
"อย่าหลอกเพชรเลย เพชรรู้ว่าพี่เจ็บมาก"
ไอ้พี่พฤกษ์เงียบ และผมเข้าใจว่ามันเชื่อผมที่บอกให้ไม่โกหก
"โอ๊ย..." มันร้อง จากการที่กำลังจะชันตัวขึ้นนั่ง ผมรีบขยับไปประคองตัว ดันให้ร่างมันนองลงราบไปกับเตียงตามเดิม
"เห็นมั้ย ขยับนิดเดียวยังเจ็บเลย...ถ้าจะลุกไปเข้าห้องน้ำหรือจะเอาอะไรก็บอกเพชร"
ไอ้พี่พฤกษ์มองผมตาปริบๆ
"พี่ชลบอกว่าเพชรขออยู่เฝ้าพี่ที่นี่"
"ครับ"
"ช่วงนี้เราใกล้จะสอบแล้วด้วย ไปอ่านหนังสือเตรียมสอบดีกว่า อย่ามาอยู่เฝ้าพี่เลยนะครับ"
ผมหงุดหงิด แต่ไม่อยากพูดไม่ดีกับไอ้พี่พฤกษ์ในสภาพแบบนี้
"ไม่ครับ ยังไงเพชรก็จะมาเฝ้าพี่"
มันไม่ตอบอะไร แค่มองด้วยแววตาที่เหมือนกำลังอ่านใจผมอยู่
"เรื่องอุบัติเหตุ พี่เล่าให้เพชรฟังได้มั้ย" ผมลากเก้าอี้มานั่งลงข้างเตียง
"ครับ หลังเลิกคลาสเช้าพี่ขับออกมาทำธุระที่สยาม เอ่อ เห็นเราบอกว่าไม่ต้องไปรับ พี่เลยขับกลับคณะอีกทีตอนเกือบห้าโมง"
"กลับมาคุยแผน marketing ใช่มั้ย"
"ครับ พี่คิดว่าถ้ามาทางถนนใหญ่ตอนนั้นรถคงติด เลยมาทางลัดแทน ปรากฏว่าเจอรถกระบะที่ขับสวนมาชนอย่างจังเลย"
ผมนึกภาพตามแล้วก็เสียวแทน
"พี่หักหลบลงข้างทางได้ครึ่งคัน ทีแรกนึกว่าจะไม่ชน แต่ก็โดนอยู่ดี...กระแทกแรงด้วย"
"แล้วคนขับกระบะล่ะ"
"พอชนพี่แล้วเค้าก็หนีไปเลย"
"เหี้ยเอ๊ย" ผมสบถ
"ไม่ต้องห่วง พี่ชลติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดแถวนั้น พี่บอกลักษณะรถไปแล้ว ถึงตอนนั้นจะไม่เห็นเลขทะเบียนก็เถอะ"
ผมพยักหน้า นึกโกรธคนขับรถกระบะคันนั้นขึ้นมาทันควัน
"ว่าแต่มีคนรู้ได้ไงว่าพี่โดนรถชน"
"พี่ไม่ได้สลบไปนะ แค่ลุกออกจากรถเองไม่ไหว พี่โทรหาพี่ชล แล้วมันก็คงโทรหาเพื่อนพี่ต่อ"
"อ่อ" ผมนึกถึงตอนที่พี่ริวแจ้งข่าว คิดได้แค่ว่าต้องรีบมาหาไอ้พี่พฤกษ์ให้เร็วที่สุด และถ้ามันเกิดเป็นอะไรไปมากกว่านี้ ผมจะทำยังไง
"เราล่ะ รู้เรื่องพี่ได้ยังไง" ไอ้พี่พฤกษ์ถามผมบ้าง
"พี่ริวโทรบอก"
"เอ่อ แล้ววันนี้เราจะอยู่เฝ้าพี่ทั้งคืนเลยเหรอ"
"อือ"
ไอ้พี่พฤกษ์หันหน้าหนีผมไปอีกทาง
"เพชรรู้นะว่าพี่คิดอะไรอยู่"
ผมไม่ได้โกรธ แต่เป็นอารมณ์น้อยใจมากกว่าที่รู้ว่าไอ้พี่พฤกษ์ไม่ต้องการให้ผมมาเฝ้าไข้
"เพชรมาเฝ้าพี่ก็เพราะว่าเพชรอยากมา ไม่ได้มีใครบังคับ หรือเพราะสงสาร หรืออะไรทั้งนั้น"
มันยังคงไม่มองมาที่ผม
"เพชร...เพชรก็เป็นห่วงพี่นะ"
เงียบอยู่นาน จนไอ้พี่พฤกษ์หันมาอีกครั้ง
"ขอบคุณนะครับ" มันยิ้มบางๆ

ผมพึ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังไม่ได้กินข้าวเย็นก็ตอนสามทุ่ม เลยแวบออกมาซื้อโจ๊กที่ขายอยู่หน้าโรงพยาบาล
เมื่อกี้ไอ้เจมส์กับไอ้นิวพึ่งโทรมาถามผมเรื่องไอ้พี่พฤกษ์ครับ กะว่าจะมาเยี่ยมพรุ่งนี้ และพอบอกไปว่าผมมาอยู่เฝ้า พวกมันก็พูดเหมือนพี่ริวกับพี่เกี้ยงเปี๊ยบ
'มึงอะนะไปเฝ้าพี่พฤกษ์...ถ้ามึงไม่ได้คิดอะไรด้วย กูว่าถอยห่างออกมาเหอะ สงสารพี่เค้าว่ะ'
ผมถอยออกมาไม่ได้หรอก ด้วยเหตุผลอะไรก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
ผมแวะซื้อผลไม้ ขนม และนม กะจะให้ไอ้พี่พฤกษ์ไว้กินตลอดช่วงที่อยู่โรงพยาบาลนี่แหละ
แต่พอกลับไปที่ห้องพิเศษของไอ้พี่พฤกษ์ ผมมองเห็นจากช่องหน้าต่างเล็กๆตรงประตูว่ามันกำลังพยายามจะดันตัวเองแล้วลุกขึ้นจากเตียง และเนื่องจากแขนขวาหัก ทำให้มันพยายามใช้แขนซ้ายข้างเดียวทรงตัว
ผมผลักประตูแล้ววิ่งตรงไปหามันทันที
"พี่ทำอะไร"
มันสะดุ้งและหยุดนิ่งอยู่กับที่
"เอ่อ...พี่จะไปเข้าห้องน้ำน่ะครับ"
"แล้วทำไมไม่เรียกพยาบาล ถ้าล้มไปจะทำยังไง พี่ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าหมอไม่ให้ขยับตัวเยอะถ้าไม่จำเป็น"
"ครับ พี่เห็นว่าแค่ลุกไปเข้าห้องน้ำใกล้ๆเอง เลยไม่อยากเรียกให้ใครลำบาก"
"พี่ไม่ห่วงตัวเองบ้างรึไง" ผมตะโกน และอะไรบางอย่างก็เตือนสติให้เย็นลง "คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ"
"ขอโทษครับ..."
ผมวางของที่ซื้อมาทั้งหมดลงก่อนจะค่อยๆประคองไอ้พี่พฤกษ์ให้ลุกขึ้นจากเตียง โอบตัวมันเบาๆแล้วพาเดินไปที่ห้องน้ำ พี่มันครางเพราะเจ็บจากการขยับตัว
"ดะ เดี๋ยวเพชรรอพี่หน้าห้องน้ำก็ได้ครับ" มันพูด หน้าแดงนิดหน่อย
"พี่เขินไร ผู้ชายเหมือนกัน" ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ผมก็ยืนรอมันหน้าห้องน้ำอยู่ดี
เมื่อเฮียแกเสร็จธุระ ผมก็ประคองกลับไปนอนบนเตียงตามเดิม
"ขนาดมีเพชรช่วยประคองแล้วพี่ยังร้องเจ็บอยู่เลย เพราะงั้นอย่าดื้อ เข้าใจปะ" ผมอดไม่ได้ที่จะดุมันอีก
"คร้าบ" มันตอบเสียงอ่อย
"แล้วเพชรซื้อของกินมาให้พี่เต็มเลย กินอะไรมั้ย"
"ไม่ค่อยหิวอะ ยังอิ่มข้าวเย็นที่หมอมาเสิร์ฟอยู่เลย"
"อย่าดื้อดิ" ผมดุซ้ำ "พี่อะต้องกินเยอะๆ เลือกอย่างนึง"
"เอ่อ งั้นนมก็ได้"
ผมเทนมจืดให้ไอ้พี่พฤกษ์สองแก้วเต็มๆ
"โห สองแก้วเลยอ่อ แก้วเดียวได้มั้ยครับ พี่กินไม่หมดหรอก" มันถามเสียงเบา
"ก่อนนอนพี่ต้องกินให้หมดทั้งสองแก้ว" ผมตัดบท
ผมจัดการเก็บของกินอย่างอื่นใส่ตู้เย็น ก่อนจะถอดชุดนิสิตออกจนเหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว
"พะ เพชรทำอะไร"
ไอ้พี่พฤกษ์หน้าเป็นสีแดงอีกแล้ว มันกำลังจ้องตัวผม
"จะอาบน้ำ..."
แต่ผมก็หลบตาไอ้พี่พฤกษ์เองทีหลัง เพราะมันไม่ยอมหยุดมอง คว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำไป
ไอ้ห่า ลามก
ระหว่างอาบน้ำ ผมสงสัยขึ้นมาว่าทำไมผมไม่โกรธที่มันมองแบบนั้น ทำไมไม่ได้รังเกียจ
แต่รู้สึกเหมือนว่าจะเขินมันหน่อยๆด้วยซ้ำ
ออกมาเลยสวมเสื้อยืดเพิ่มจากกางเกงอีกตัวนึง เกรงใจหมอกับพยาบาลที่จะเข้ามาดูอาการไอ้พี่พฤกษ์ตอนดึกๆ ไม่งั้นเหลือชิ้นเดียวไปแล้ว
"พี่พฤกษ์กินนมไปถึงไหนแล้วครับ"
ผมถามพร้อมหันไปมอง มันใช้แขนข้างที่ไม่ได้หักชูแก้วเปล่าให้เห็นหนึ่งแก้ว
"ดีมาก"
"ที่จริง...รถชนนี่ก็มีเรื่องดีอยู่เหมือนกันนะ" มันเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
"ดียังไง"
"ก็...เพชรมาดูแลพี่ไง"
ผมหลบสายตามัน
"ถ้าพี่ไม่โดนรถชน...พี่คงไม่มีโอกาสได้อยู่กับเพชรแบบนี้" ไอ้พี่พฤกษ์พูดเสียงเศร้า
"พี่จะบ้ารึไง...ถ้าอยากให้มาหา...บอกดีๆก็ได้ ไม่ต้องรอให้เกิดเรื่องแบบนี้หรอก"
ผมพูดจากใจจริง แต่พูดโดยที่ยังคงไม่มองหน้าไอ้พี่พฤกษ์
ทั้งผมทั้งไอ้พี่พฤกษ์ต่างก็นิ่งไปนาน จนเวลาเลยมาถึงสี่ทุ่มแล้วนั่นแหละ
"พี่นอนได้แล้วนะ"
"หือ นี่สี่ทุ่มเองนะ"
"พี่ต้องพักผ่อนเยอะๆ อย่าดื้อดิ"
"..."
"กินนมให้หมดด้วย"
มันยกแก้วนมที่เหลืออยู่อีกครึ่งขึ้นดื่มจนหมด มองตามผมที่เก็บแก้วไปล้างทำความสะอาด
"ขอบคุณมากนะครับที่มาอยู่ช่วยพี่"
ไอ้พี่พฤกษ์ส่งยิ้มน้อยๆให้ ผมพยักหน้าเป็นการตอบรับ

ผมสะลึมสะลือตื่นขึ้นเพราะถูกสะกิดเบาๆที่ไหล่ พอเห็นว่าเป็นพี่ชลเลยรีบลุกจากโซฟา
"วะ...หวัดดีครับพี่" ผมกลั้นหาว
"เหนื่อยมั้ยเรา พี่ขอโทษนะ" พี่ชลขยี้หัวผมเบาๆ
"มะ ไม่เป็นไรครับ"
จริงๆคือผมเพลียมาก เพราะพึ่งจะล้มตัวลงนอนเมื่อสองชั่วโมงก่อน ไอ้พี่พฤกษ์หลับไปตั้งแต่สี่ทุ่มกว่าก็จริงครับ แต่ผมไม่กล้าหลับ กลัวว่ามันจะลุกมาเข้าห้องน้ำหรือทำอะไรด้วยตัวคนเดียวอีก จนตีห้า ร่างกายผมก็ทนง่วงไม่ไหว
"พี่คุยกับพฤกษ์เมื่อวาน มันบอกว่าเพชรกำลังจะสอบมิดเทอม พี่เลยคิดว่าจะรบกวนเราแค่คืนเดียว หลังจากนี้คงจะจ้างพยาบาลพิเศษ"
"แต่ผมไม่เป็นไรจริงๆนะครับ ผมเต็มใจช่วย" ผมรีบพูด
"อย่าเลย ไม่ใช่ว่าที่บ้านพี่ไม่อยากรับน้ำใจเรานะ แต่เป็นห่วงเราเรื่องสอบด้วย...เอางี้ เพชรก็มาเยี่ยมไอ้พฤกษ์มันได้ทุกวันแหละ แต่ไม่ต้องถึงกับอยู่เฝ้าข้ามคืนหรอก โอเคมั้ย"
ถ้าพี่ชลพูดขนาดนี้ ผมคงไม่กล้าปฏิเสธแกอีกรอบ
"เอ่อ...ก็ได้ครับ"
"ยังไงก็ขอบใจมากนะ ว่าแต่เมื่อคืนพฤกษ์เป็นไงบ้าง"
"ก็หลับตั้งแต่สี่ทุ่มน่ะครับ นอนยาวจนถึงตีห้าเลย แต่หลังจากนั้น..."
"เพชรหลับใช่ปะ" พี่ชลยิ้มแซว
"ขอโทษครับ"
"เห้ย ไม่เป็นไรน่า ถ้าเป็นพี่คงหลับไปพร้อมกับมันแล้วด้วยซ้ำ...เดี๋ยวนะ งั้นแสดงว่าเพชรอยู่ดูมันแทบทั้งคืนเลยดิ"
"ครับ"
"กลับไปพักผ่อนเลย...แล้ววันนี้มีเรียนรึเปล่า"
"มีครับ แต่แค่ช่วงบ่าย"
"ดีเลย งั้นกลับไปนอนพักก่อนไปเรียนสักเดี๋ยวนะ"
"ครับผม"
ผมมองไปที่ไอ้พี่พฤกษ์ มันกำลังหลับสบายอยู่เลย
"ไม่ต้องเป็นห่วงมันนะ พี่ติดต่อคุณพยาบาลไว้ละ อีกเดี๋ยวพี่ต้องไปออฟฟิศ"
"ครับ เอ่อ ผมซื้อของกินตุนไว้เต็มตู้เย็นเลย พี่ชลลองดูนะครับ"
"ขอบคุณครับ"
ผมอาบน้ำและใส่ชุดนิสิตกลับคอนโด
เย็นวันนั้นผมกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งพร้อมไอ้เจมส์กับไอ้นิว ก่อนจะเข้าเยี่ยมไอ้พี่พฤกษ์ได้ก็ต้องรอทีมแข่งแผนการตลาดของมันที่มากันล้นห้องเยี่ยมก่อน
ไอ้พี่พฤกษ์นี่ฮ็อตจริงๆ
"หวัดดีคร้าบบบบ" ไอ้เจมส์ส่งเสียงก่อนใครเพื่อน
"อ้าว หวัดดีครับ มากันครบแก๊งเลย"
"พี่เป็นไงมั่งครับ" ไอ้เจมส์สัมภาษณ์ต่อทันที
"ดีขึ้นจากเมื่อวานเยอะเลยครับ"
"จริงอ่อ" ผมถามแทรก
"จริงดิ เพราะเพชรมาดูแลพี่นั่นแหละ"
ไอ้เจมส์กับไอ้นิวมองหน้ากันอย่างมีความหมาย
"เว่อ"
ไอ้พี่พฤกษ์อมยิ้ม
"แล้วตอนนี้ตามตัวคนขับรถกระบะได้รึยังครับ" ไอ้นิวถามบ้าง
"เรื่องนี้พี่ชายพี่จัดการให้อยู่ ไม่รู้เป็นไงบ้าง"
"พี่พฤกษ์" ผมเรียก
"ครับ"
"ไหนพยาบาลพิเศษที่พี่ชลจ้างมาอะ"
"คุณพยาบาลเค้าพึ่งออกไปตอนเพื่อนพี่มาเยี่ยม เดี๋ยวพอพวกเราออกไป เค้าก็กลับมาแหละ"
"เวลาพี่จะลุกไปไหน เค้าอยู่ช่วยพี่ใช่มั้ย"
"อยู่ครับ" มันยิ้ม
"ดี แล้วพี่ก็ต้องให้เค้าช่วย เข้าใจมั้ย"
"เข้าใจคร้าบบ" ไอ้พี่พฤกษ์พูดเสียงค่อย
"อะ อะไรมึง" ผมพูดใส่ไอ้เจมส์กับไอ้นิว เพราะมันสองคนจ้องผมอย่างสงสัย
"เห้ย เดี๋ยวกูออกไปซื้อหนมก่อนนะ หิวว่ะ ไอ้นิวไปกับกูหน่อย"
นั่น ไอ้สองตัวนี่กำลังจะทิ้งให้ผมอยู่กับไอ้พี่พฤกษ์
"เออๆ ไปดิ" ไอ้นิวเออออแล้วก็พากันออกไปกับไอ้เจมส์สองคน
ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียงผู้ป่วย
"เอาจริงๆพี่พฤกษ์"
"เอาจริงเรื่องไร"
"อาการอะ ดีขึ้นแล้วจริงอ่อ"
"ดีขึ้นจริง ไม่เชื่อเราลองถามหมอดูก็ได้"
"แต่ก็ต้องนอนโรงพยาบาลหนึ่งอาทิตย์เต็มๆใช่มั้ย"
"ครับ"
"แข่งแผนล่ะ"
"หลักๆเสร็จแล้ว เหลือแต่เก็บรายละเอียดของ presentation นิดหน่อย โชคดีที่มาโดนรถชนวีคใกล้ส่งนะเนี่ย"
"โชคดีอะไรล่ะ"
"เออ จริงด้วย"
"แล้วสอบอะ"
"ของพี่เริ่มสอบวิชาแรกอีกสองสัปดาห์ ชิว" ห่า อิจฉา ของกูอีกไม่กี่วันแล้ว บทแรกยังไม่อ่านจบ "เพชรเหอะ อ่านหนังสือไปถึงไหนแล้ว"
"สบาย อีกนิดก็จบละ"
"หึหึ เสียงสูงเชียวนะ"
รู้ทันอีก ไม่เคยโกหกไอ้พี่พฤกษ์ได้เลย
"เนี่ย เดี๋ยวเยี่ยมพี่เสร็จก็กลับไปอ่านซะนะครับ"
"เออน่า"
"อย่าดื้อดิ เทอมแรกเก็บเกรดง่ายสุดแล้ว พยายามเข้านะ"
"อือ เห้ย ลอกคำพูดอ่อ" ผมพึ่งรู้ตัวว่าโดนย้อน มันหัวเราะชอบใจ "พี่อะแหละอย่าดื้อ จะได้หายไวๆ"
"เพชรก็ด้วย อย่าดื้อ"
"งั้น...เพชรกลับก่อนนะ"
"ครับ เอ่อ ถ้าว่างๆแวะมาหาพี่อีกนะครับ"
"คร้าบ" ผมลากเสียงเลียนแบบ เจ้าตัวนอนยิ้มกริ่มอยู่บนเตียง
ปรากฏว่าไอ้เพื่อนชั่วสองตัวมันไม่ได้ไปซื้อขนมอะไรหรอกครับ แต่มันยืนแอบฟังอยู่หน้าห้อง ผมเพ่นกบาลพวกมันไปก่อนจะเดินออกมาด้วยกัน
พวกผมสวนกับพี่เกี้ยงและพี่ริวที่มาเยี่ยมไอ้พี่พฤกษ์ต่อ พวกแกคุยกับไอ้เจมส์ไอ้นิว แต่ไม่ได้พูดอะไรกับผม คงยังไม่นึกอยากคุยกับผมหลังเรื่องเมื่อวานเท่าไร
อย่างน้อยวันนี้ผมก็รู้สึกว่าไอ้พี่พฤกษ์เริ่มกลับมาพูดคุยและทำตัวกับผมเหมือนเดิมล่ะนะ
แต่เรื่องที่ผมไม่แน่ใจก็คือความรู้สึกตัวเองนั่นแหละ

TBC

เพชรมาเฝ้าไข้แบบนี้ คิดอะไรกับพี่พฤกษ์ปะเนี่ย

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ถ้าเราเป็นเพื่อนพี่พฤกษ์เราก็ไม่อยากจะคุยกับเพชรนะ บอกว่าไม่ชอบแต่มาทำดีแบบนี้ สงสารพี่พฤกษ์

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด