ควันหลงในเดือนหนาว || บทที่ 19 - ของขวัญวันเกิด [10.01.2019] หน้า 3
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ควันหลงในเดือนหนาว || บทที่ 19 - ของขวัญวันเกิด [10.01.2019] หน้า 3  (อ่าน 33632 ครั้ง)

ออฟไลน์ Dearbliss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

บทที่ 15
ทำไมต้องเป็นมัน




“พรุ่งนี้จะไปเที่ยวกับมันงั้นเหรอ...งั้นคืนนี้นอนให้กูเอาจนถึงพรุ่งนี้เช้าเลยคงจะดีกว่า”

ไอติมเบิกตาโตด้วยความตกใจหลังจากที่ได้ยินคำพูดนั้นออกมาจากปากควัน ไม่ทันได้หายตกใจ ร่างทั้งร่างก็ลอยหวือตามแรงกระชากของคนตัวโตกว่าอย่างรวดเร็ว ควันพาไอติมเดินออกมาที่ลานจอดรถ กดรีโมตปลดล็อครถคันหรูก่อนจะยัดคนตัวเล็กเข้าไปในรถแล้วขับออกมาทันที

“ควัน...มึงใจเย็น ๆ ก็ได้”

ไอติมพูดเสียงแผ่ว เขาไม่รู้เลยว่าต้องจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้ายังไง ควันในตอนนี้เหมือนไม่ใช่คนที่ไอติมรู้จัก ร่างสูงนั้นมีแต่ความเงียบที่แสนกดดันส่งผ่านออกมาจนสัมผัสได้เท่านั้น

เข็มไมล์เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนไอติมต้องจับเบลท์เอาไว้จนแน่น และในตอนนั้นเองเสียงโทรศัพท์ของควันก็ดังขึ้นในความเงียบ ไอติมจึงพอหายใจได้คล่องเมื่อควันผ่อนความเร็วลงแล้วคว้าโทรศัพท์ไปรับเสียงเรียบ

“มีอะไร”

“เออ เช็คบิลเลย กูกับไอติมออกมาแล้ว เดี๋ยวโอนคืนให้”

สิ้นคำนั้นควันก็กดตัดสายแล้วโยนโทรศัพท์เครื่องแพงมาที่ตักไอติม คนตัวเล็กได้แต่ถือมันไว้และมองทางที่ไม่คุ้นเคยอย่างระแวง และลองอ้าปากถามควันอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

“มึงจะพากูไปไหน บอกกูได้มั้ย”

ไอติมถามอีกครั้งเมื่อควันยังคงเงียบใส่เขา ทางที่เห็นอยู่ตรงหน้ามันเหมือนออกนอกเมืองมากขึ้นเรื่อย ๆ ไอติมยอมรับว่าตอนนี้เขากำลังกลัวจับใจ หวังว่าควันคงจะไม่จับเขาไปฆ่าทิ้งไว้ท้ายป่าหรอกนะ

“นั่งอยู่เงียบ ๆ ไปเถอะ”

เสียงที่ตอบกลับมาทำให้ไอติมได้แต่นั่งก้มหน้าเงียบ ๆ ตามคำสั่ง จนกระทั่งเมื่อรถคันหรูจอดลงที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ไอติมเงยหน้าขึ้นมองบ้านตรงหน้า ซึ่งปิดไฟเสียมืดราวกับไม่มีคนอยู่

ควันลงจากรถไปเปิดประตูรั้ว ก่อนจะขึ้นรถมาขับเข้าไปจอดในโรงรถ ไอติมได้แต่นั่งนิ่ง ๆ ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว มองคนตัวสูงดับเครื่องยนต์แล้วลงจากรถไป ไอติมจึงมองตามคนที่เดินออกไปแล้ว ส่วนควันที่ไม่เห็นคนตัวเล็กเดินตามออกมาจึงหันกลับไปหาคนที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ก่อนจะเลิกคิ้วถามเสียงนิ่ง ๆ

“จะนั่งอยู่ตรงนั้นอีกนานมั้ย”

“ให้ลงไปด้วยเหรอ”

“เออสิ ลงมา”

เสียงทุ้มพูดเสียงไม่ดังนัก แต่แค่นั้นก็ทำให้ไอติมรีบเก็บของแล้วลงมาจากรถอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เมื่อเดินตามมาแล้ว ดวงตากลมก็อดที่จะเหลือบมองบ้านหลังใหญ่นี่อย่างช่วยไม่ได้ บ้านทั้งหลังนั้นตกแต่งอย่างเรียบง่าย ตามผนังนั้นมีรูปภาพของคนในครอบครัวเรียงรายกันอยู่…

“โอ๊ย!”

เผลอร้องออกมาเสียงหลง เมื่อมัวแต่สำรวจรูปภาพในวัยเด็กของควันแล้วชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างเต็ม ๆ ไอติมเซถอยหลังแล้วกุมจมูกตัวเองไว้ แต่ข้อมือขาวก็ถูกยึดจับเอาไว้จนแน่น

“กูจะถามแค่คำถามเดียว”

“ถามอะไร” ไอติมถามอย่างระแวง ไม่กล้าแม้แต่จะสะบัดมือออกเหมือนอย่างเคย

“มึงรักมันมากงั้นเหรอ”

“...”

คำถามที่ไอติมไม่อยากได้ยินมันกลับมาอีกครั้ง ไอติมเสตาหลบคนตัวสูงที่จ้องรอเอาคำตอบ เกิดความเงียบขึ้นนานนับนาที และสุดท้ายไอติมก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ

“กูอยากกลับไปพักแล้วว่ะ พากูกลับได้มั้ย”

“เหอะ...แน่ใจเหรอว่ามึงจะกลับไปพัก ไม่ใช่ว่าจะกลับไปเก็บกระเป๋าไปเที่ยวกับมันงั้นเหรอ”

เสียงทุ้มขึ้นเสียงดังด้วยความแดกดันอีกครั้ง แค่คิดขึ้นมาว่าไอติมกับไอ้พี่กรนั้นจะไปเที่ยวด้วยกันแค่สองคน เขาก็ไม่ยอม มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่

“มึงรู้ได้ไงว่ากูจะไปกับใคร กูไม่ได้จะไป - “

“ไม่ต้องมาโกหกกู ที่มึงคุยกับไอ้พี่นั้นกูได้ยินทุกอย่าง”

หลังจากที่ไอติมลุกออกจากโต๊ะไปไม่กี่นาที ควันก็เดินตามออกมาเพราะรู้สึกว่าอยากจะเข้าห้องน้ำเช่นกัน แต่เมื่อเดินไปได้ไม่กี่ก้าว สายตาก็สะดุดกับคนคุ้นเคยซึ่งยืนคุยอยู่กับใครสักคนที่เขามองเห็นไม่ค่อยชัด ควันจึงเดินเข้าไปใกล้ขึ้นอีกจนได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคน และเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนคุยกับไอติมคือรุ่นพี่ที่ชื่อกร มันทำให้ควันเริ่มฉุกคิดจากแชทของไอติมที่เขาได้เห็นชื่อ MY DRAGON..มังกร...กร

ไม่ผิดแน่ เมื่อประโยคที่เขาได้ยินคือคำชวนของกรที่บอกให้ไอติมเตรียมตัวไปเที่ยวด้วยกันในวันพรุ่งนี้ ควันได้แต่แค่นยิ้มในความมืดเพียงคนเดียว ยิ้มสมเพชให้กับความโง่เง่าของตัวเองที่คิดว่าตลอดมาไอติมก็มีเพียงเขา เหมือนที่เขาก็ซื่อสัตย์กับคำสัญญาของพวกเขามาโดยตลอด

“แล้วกูจะไปเที่ยวกับพี่กรมันผิดมากงั้นเหรอ”

ไอติมถามเสียงแผ่วเบา เหนื่อยจะต่อกรกับควันในตอนนี้เหลือเกิน ไม่ว่าจะพูดอะไรไปคนตรงหน้าก็ไม่คิดจะฟังกันเลย

“มึงอย่าลืมสิว่าเขาก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว การที่มึงไม่บริสุทธิ์ใจอย่างนี้มันก็ไม่ได้ต่างจากการที่มึงเป็นชู้หรอก”

“ชู้...งั้นเหรอ”

ไอติมก้มหน้าจนชิดอก จู่ ๆ ก็อยากร้องไห้ออกมากับความจริงที่ควันพึ่งตอกย้ำให้เขาได้รู้อีกครั้ง ตลกดีที่คนที่รู้จักกับพี่กรมานาน แต่เป็นได้เพียงแค่ชู้...บางทีมันคงไม่ใช่ชู้หรอก เพราะพี่กรไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลย มีแค่เขาที่คิดเลยเถิดไปเพียงคนเดียว

“ร้องไห้ทำไม อยากจะสำออยก็ไปทำต่อหน้ามันสิ ร้องตรงนี้มันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรหรอก”

“กูไม่ได้ร้องสักหน่อย” ปากบอกแบบนั้น แต่มือขาวกลับปัดน้ำตาที่ตกจากหางตาอย่างรวดเร็ว ท่าทางเหมือนเด็กโดนจับได้ว่าทำผิดแบบนั้นไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังค่อย ๆ ละลายอารมณ์โมโหของคนตรงหน้าไปได้ในพริบตา

“เฮ้อ...มานี่มา”

จากที่ทำใจแข็งได้นาน สุดท้ายก็ใจอ่อนยวบทันทีที่เห็นคนตัวเล็กทำหน้าจ๋อยหางลู่หูตกอย่างน่าสงสาร ควันจูงมือไอติมมาถึงห้องน้ำ แล้วเปิดก๊อกน้ำล้างหน้าคนที่ยืนนิ่ง ๆ ให้เขาเช็ดหน้าเช็ดตาให้ ควันมองคนที่ตาแดง สะอึกสะอื้นเงียบ ๆ แล้วก็รู้สึกผิดขึ้นมา นี่เขาว่ามันแรงเกินไปรึเปล่านะ

“เลิกร้องได้แล้ว”

“ไม่ได้ร้องสักหน่อย”

“เบื่อคนปากแข็งจริง ๆ”

คนปากแข็งยังไงก็ปากแข็งอยู่วันยังค่ำ ควันขี้เกียจเถียงต่อเลยจูงมือให้ไอติมเดินตามออกมาจากห้องน้ำจนถึงห้องครัว เปิดตู้เย็นหาอะไรให้ไอติมได้กินรองท้องเสียบ้าง เพราะก่อนจะไปผับไอติมก็ไม่ได้กินอะไรสักอย่าง โชคดีที่เปิดตู้เย็นไปแล้วเจอขวดนมพาสเจอร์ไรซ์ซึ่งยังไม่หมดอายุตั้งไว้อยู่ ควันจึงเทนมใส่แก้วก่อนยื่นให้คนที่อยู่ตรงหน้า

“กินซะ ไม่มีอะไรตกท้องนอกจากเบียร์เลย เดี๋ยวจะปวดท้องเอา”

“ขอบคุณนะ”

ไอติมรับนมรสจืดมาดื่มตามคำแนะนำของควัน คนตัวเล็กดื่มนมเงียบ ๆ จนหมดแก้ว ก่อนจะวางแก้วเปล่าลงบนโต๊ะ พอเงยหน้ามองคนตัวสูงอีกครั้งก็ต้องสะดุ้งเมื่อควันใช้มือปาดรอบริมฝีปากของเขาเบา ๆ ไอติมเผลอถอยหลังอย่างตกใจ สุดท้ายควันก็คว้าเอวไว้ได้ทัน ร่างทั้งร่างของไอติมจึงตกอยู่อ้อมกอดของควันอีกครั้ง

“กอดหน่อยไม่ได้รึไง”

“ถ้าจะหาเรื่องทะเลาะก็ไม่ต้องพูดเถอะ” ไอติมพูดอย่างหน่ายใจ เพราะน้ำเสียงของควันนั้นตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย เขาอุตส่าห์ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ไม่คิดว่าจนถึงตอนนี้ควันก็ยังกัดกันไม่ปล่อยเสียที

“รักกูไม่ได้รึไง ทำไมต้องเป็นไอ้นั้นด้วย”

“...”

“มันมีดีอะไรวะ กูสู้มันไม่ได้ตรงไหน มึงบอกกูมาสิ”

เสียงทุ้มยังคงถามไม่หยุด ไอติมได้แต่นิ่งในอ้อมกอดควันอยู่อย่างนั้น เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องตอบคำถามของควันยังไง พี่กรอยู่ในใจของเขามานานเกินไป...นานจนไอติมไม่รู้ว่าจะมีใครมาแทนที่พี่กรได้รึเปล่า

“พอเถอะควัน กูเหนื่อยแล้ว”

“ตอบคำถามกูมาก่อนสิ ทำไมวะ ทำไมต้องเป็นมัน”

“ถ้างั้นกูขอถามมึงกลับหน่อยว่าทำไมต้องเป็นกู ทั้ง ๆ ที่มึงก็มีผู้หญิงสวย ๆ เยอะแยะ”

“กูจะชอบมึง มันต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ”


“คำตอบของกูก็เหมือนมึงนั้นแหละควัน”

ไอติมดันร่างสูงออกห่างจากร่างของตัวเอง แต่สุดท้ายก็ถูกดึงกลับไปในอ้อมกอดอีกครั้ง ริมฝีปากได้รูปฉกฉวยกลีบปากสีชมพูระเรื่ออย่างห้ามใจไม่อยู่ ไอติมที่ไม่ทันตั้งตัวจึงได้แต่เลยตามเลยตามที่ควันนำทาง คนตัวเล็กถูกดันจนติดกับเค้าน์เตอร์ครัว หลับตาลงรับจูบของคนเอาแต่ใจอย่างช่วยไม่ได้...เขาไม่ปฏิเสธหรอกว่าก็รู้สึกดีที่เป็นอย่างนี้ ไอติมรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและควันมันเกินเลยคำว่าเพื่อนไปมากแล้ว ครั้นจะให้กลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเพียงเพราะคำสารภาพความในใจของควันมันก็อดจะรู้สึกใจหายไม่ได้

“กูรักมึง”

เสียงกระซิบข้างหูราวกับจะย้ำเตือนไอติมอยู่ตลอดเวลาทำให้มือขาวดันอกแกร่งออกเบา ๆ แต่นั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ร่างเล็กยังคงอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวสูง ก่อนจะถูกช้อนตัวขึ้นทั้ง ๆ ที่ยังคงโดนมัวเมาด้วยรสจูบอยู่อย่างนั้น

ควันล่อหลอกคนในอ้อมกอดด้วยรสจูบที่เขามั่นใจว่าไอติมก็ชอบมัน ก่อนจะพาไอติมขึ้นไปยังห้องนอนของเขาได้สำเร็จ จากนั้นจึงวางไอติมลงบนเตียงนุ่มที่เขาไม่ได้กลับมานอนที่บ้านตั้งแต่ย้ายออกไปอยู่คอนโดกับหมอก คนตัวเล็กสะดุ้งลืมตาขึ้นเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน แต่ควันก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย ร่างสูงคร่อมกายของเพื่อนสนิทเอาไว้ก่อนจะตะโบมจูบทั่วใบหน้าขาวอีกครั้ง

“คะ...ควัน...พอได้แล้ว”

เสียงนั้นพยายามห้ามควันที่กำลังเริ่มเล้าโลม แต่ควันก็ไม่ละความพยายาม ร่างสูงไม่สนใจเสียงพร้อมใบหน้าตื่น ๆ ของไอติม ก่อนจะสอดมือเข้าไปในสาบเสื้อ และนั้นทำให้ไอติมเริ่มดิ้นขึ้นมา

“ควัน ไม่เอา กูจะกลับแล้ว”

“รังเกียจกูมากนักรึไง” ควันถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ จนไอติมต้องรีบแก้ความเข้าใจผิดอย่างลนลาน

“ไม่ใช่อย่างนั้น แต่...”

“แต่อะไร”

“...” ไอติมไม่กล้าบอกเหตุผลที่ควันก็รู้ดีอยู่แล้วว่ามันคืออะไร ใช่ พรุ่งนี้เขาจะไปเที่ยวทะเลกับพี่กร และไอติมต้องหาทางกลับให้ได้ ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เขารอคอยมานานมันก็จะเท่ากับศูนย์

“ถ้าตอบไม่ได้ ก็ไม่ต้องตอบ” ควันปิดหนทางนั้นทันทีด้วยการรุกจูบอีกครั้ง ร่างของไอติมถูกกดจนจมลงไปกับเตียง เขาไม่สามารถร้องค้านได้เลยเพราะริมฝีปากยังคงถูกประกบอยู่อย่างนั้น ส่วนร่างกายในตอนนี้นั้นก็ถูกมือใหญ่ดึงกางเกงยีนส์ตัวโปรดไปกองอยู่ที่เข่าเรียบร้อย

“อึก...อื้อ!”

ไอติมเบิกตาโตเมื่อควันจ่อแกนกายมาที่ปากของเขา ไอติมอยากจะปฏิเสธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้จึงต้องอ้าปากรับความใหญ่โตนั้นทั้งลำ ส่วนร่างสูงที่นั่งคร่อมกายเล็กเอาไว้ก็ยกสะโพกขึ้นเป็นจังหวะ ความอุ่นร้อนที่ห่อหุ้มรอบแกนกายนั้นทำให้เขาเริ่มอยู่ไม่สุข มือใหญ่รีบหยิบซองสีเงินข้างหัวเตียงแล้วฉีกมันก่อนจะดึงแกนกายของตัวเองออกจากโพรงปาก น้ำลายใสช่ำวาวไปทั้งแกนกายและมุมปากของไอติม

ควันละสายตาจากภาพตรงหน้าแล้วรีบสวมกระเปาะนั้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด ก่อนจะหันมาจัดการกับคนที่นอนหอบหายใจตรงหน้าจนไอติมก็เปลือยกายไม่ต่างกัน ควันจึงยกขาขาวทั้งสองข้างขึ้นมาแนบเอว ก่อนจะดันแกนกายจ่อไปที่ช่องทางด้านหลังที่คุ้นเคย

“เสร็จแล้วก็ปล่อยกูกลับได้ใช่มั้ย” ไอติมถามเสียงแผ่วอย่างมีความหวัง

“ได้สิ แล้วกูจะพามึงไปส่งที่คอนโด”

ควันตอบอย่างนั้น ร่างสูงยิ้มละไมให้กับเหยื่อตัวน้อย ก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบไอติมอีกครั้ง พร้อมกับแกนกายใหญ่โตที่สอดเข้าไปในร่างเล็กได้สำเร็จ

ไอติมตัวแดงเถือกไปทั้งตัว แม้ว่ามันจะไม่เจ็บเหมือนครั้งแรกระหว่างเขาและควัน แต่ทุกครั้งที่ควันเข้ามาอยู่ในร่างกายของเขามันก็ยังรู้สึกไม่ชินอยู่ดี แต่เพียงแค่ไม่นาน ความเจ็บมันก็จางหายและแทนที่ด้วยความรู้สึกอีกแบบแทน

เสียงลมหายใจของคนทั้งสองดังประสานกันอยู่ในความเงียบ ควันที่แช่ตัวอยู่ในร่างเล็กมาได้สักพักก็เริ่มต้นไสกายช้า ๆ พร้อมกับเสียงครางของคนใต้ร่างที่ดังเบา ๆ เมื่อควันเผลอแตะเข้ากับจุดกระสันในร่างกาย ไม่รอช้าควันก็เพิ่มจังหวะรักให้เร็วขึ้นอีกเพราะอยากได้ยินเสียงครางหวาน ๆ ที่เขาชอบมันหนักหนา

“อ๊า...อึก...คะ...ควัน...”

“หืม?”

“ตรงนั้น”

“ชอบเหรอ”

“อ่ะ!”

ควันถามยิ้ม ๆ เพราะเขามั่นใจว่ารู้จักร่างกายไอติมดีกว่าเจ้าตัวเสียอีก ควันรู้ว่าไอติมชอบที่ให้เขาจับโดนจุดกระสันของเจ้าตัว จนร่างเล็กทั้งร่างแดงราวกับลูกตำลึงอย่างนั้น

ไม่ปล่อยให้ไอติมได้พัก ร่างสูงก็เริ่มเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น สะโพกหนาไสเข้าออกตามจังหวะอารมณ์ของพวกเขาทั้งสอง จนในที่สุดเมื่อถึงฝั่งฝันกันทั้งคู่ หยาดน้ำขาวขุ่นของร่างเล็กก็ฉีดออกมาเลอะหน้าท้องขึ้นลอนสวย ส่วนควันก็ปลดปล่อยในกระเปาะอันเดิมก่อนจะถอนแกนกายออกแล้วรูดถุงยางโยนทิ้งลงในถังขยะ

“เสร็จแล้วใช่มั้ย”

เสียงของไอติมถามปนหอบ ดวงตากลมปรือขึ้นมองคนที่สวมกอดเขาไว้ ร่างกายของพวกเขาทั้งสองนั้นยังคงร้อน เหงื่อกาฬซึมผ่านผิวหนัง แต่กระนั้นควันก็ยังคงกอดเขาเอาไว้

“รีบมากเลยเหรอ” ควันถามคนในอ้อมกอดที่พยายามจะหาทางกลับทั้ง ๆ ที่จะดวงตาจะปิดอยู่แล้ว

“อืม” เสียงตอบกลับนั้นทำเอาควันได้แต่กดยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะเปิดที่ลิ้นชักหัวเตียงแล้วหยิบซองสีเงินอันใหม่ออกมา

“จะทำอะไรอีก” ไอติมถามอย่างระแวงกับท่าทางนั้น ก่อนที่ใบหน้าหล่อจะกดยิ้มเจ้าเล่ห์และกระซิบข้างใบหูขาวช้า ๆ

“ก็จะทำมึงไปจนเช้าไง กูอยากเสร็จตอนไหนเดี๋ยวกูจะพามึงไปส่งเอง อย่าพึ่งหลับก่อนล่ะ”

สิ้นคำนั้นควันก็เปลี่ยนมาคร่อมกายเล็กอีกครั้ง สวมถุงยางได้สำเร็จก็เริ่มบทรักครั้งใหม่ซึ่งไอติมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมเป็นที่รองรับอารมณ์ของควันจนกว่าเจ้าตัวจะพอใจ และหวังว่าควันจะทำตามที่เจ้าตัวสัญญาจริง ๆ

.

.

“แค่นี้ก็หลับแล้วเหรอ”

ควันพึมพำ เมื่อเขาเสร็จไปสามรอบ และกำลังจะเริ่มรอบใหม่อีกครั้งแต่ไอติมกลับแน่นิ่งไปแล้ว ควันจึงไปปล่อยให้ไอติมได้พักผ่อน โดยที่ไม่ลืมที่จะหยิบผ้าห่มมาคลุมร่างขาวเอาไว้ ก่อนจะเริ่มเก็บกวาดซากต่าง ๆ บนพื้นที่เขาทำรกไว้จนเรียบร้อย ร่างสูงก้มเก็บเอาเสื้อผ้าไอติมที่เขาถอดมันโยนทิ้งไว้ที่พื้นขึ้นมา เห็นว่ากระเป๋ากางเกงมันหนักจึงเปิดดูและพบโทรศัพท์มือถือของไอติมนอนแอ้งแม้งอยู่

ควันเหลือบตามองไอติมที่ยังคงนอนหลับก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วดึงนิ้วมือไอติมมาปลดล็อคโทรศัพท์ ก่อนจะเข้าไปอ่านข้อความในแชทของไอติมเงียบ ๆ

MY DRAGON : พรุ่งนี้พี่จะไปรับที่คอนโดเจ็ดโมงเช้านะ

MY DRAGON : พี่คิดทริปไว้แล้วว่าเราควรจะไปที่ไหนบ้าง ไอติมว่าดีมั้ย *แนบลิ้งค์*

ควันไม่ได้ตอบคำถามนั้นแทนไอติม เขาเลือกที่จะออกมาจากห้องแชทนั้น แล้วเลื่อนดูแชทอื่นซึ่งก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ควันจึงลองกดเข้าไปดูในรูปภาพที่ไอติมถ่ายไว้ เมื่อเข้ามาดูในอัลบั้มรูปภาพ ควันก็เผลอยิ้มออกมาเพียงคนเดียว ในนั้นมีแต่รูปเซลฟี่ของไอติมเต็มไปหมด มีแต่รูปน่ารัก ๆ ทั้งนั้น ควันจึงแอบส่งเข้าไปในโทรศัพท์ของเขาเสียหลายรูป แล้วก็ไล่ดูรูปเก่า ๆ ในโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสะดุดอยู่ที่ภาพเกือบท้ายสุด

มันเป็นภาพของไอติมที่อยู่ในชุดนักเรียนมัธยมปลายกับไอ้พี่กร ซึ่งถ้าให้เดา รูปนี้คงจะถ่ายสมัยที่พี่กรมันอยู่ปี 1 เพราะเขาเห็นว่าพี่กรมันใส่ป้ายชื่อซึ่งปีหนึ่งจะใส่ป้ายชื่อตัวเองเป็นธรรมเนียมทุกปี...ถ้าอย่างนั้น สองคนนี้ก็รู้จักกันมานานแล้วอย่างนั้นเหรอ...

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงสู้มันไม่ได้...

ควันเผลอแค่นยิ้มอย่างเจ็บใจ แพ้ก็เพราะมาทีหลัง มันแฟร์ตรงไหนกัน...ดวงตาคมมองรูปภาพนั้นอีกครั้ง ในรูปนั้นยิ้มของไอติมดูสว่างไสวเสียเหลือเกิน เขาชอบรอยยิ้มของไอติม ยิ้มที่เหมือนมีความสุขจากทั้งตาและปาก เขารักมัน และชั่ววูบนั้นเขาก็อยากจะเป็นเจ้าของรอยยิ้มนั้นเพียงคนเดียว





ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

และแล้ว...ควันก็เอาไอติมไปส่งที่คอนโด  แต่เป็นเวลาหลังจากเจ็ดโมงเช้าไปแล้ว  อิอิ

ออฟไลน์ Dearbliss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
บทที่ 16
ผิดแผน


ร่างเล็กบนที่นอนคิงไซส์ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาที่กำลังห่อหุ้มเขาเอาไว้ทั้งตัว ข้างกายของเขานั้นเย็นเฉียบ ไร้วี่แววของคนที่ลากเขามาอยู่ที่นี่ด้วยกันทั้งคืน

อา...นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วนะ

ไอติมดึงผ้าห่มที่คลุมกายเอาไว้ออกจนมันร่นมากองที่เอว ดวงตากลมกระพริบตามองห้องมืดที่มีแสงสลัว ๆ ลอดผ่านออกมาจากผ้าม่าน แอร์ในห้องเปิดอุณหภูมิต่ำเสียจนไอติมต้องลูบแขนตัวเอง แล้วหยีตามองหาโทรศัพท์ของตัวเองเพื่อดูเวลา

“หายไปไหนกัน”

พึมพำเพียงคนเดียวเมื่อหาโทรศัพท์ของตนเองไม่เจอ แล้วลุกเดินออกจากเตียงเพื่อไปเปิดผ้าม่านดู ตอนนี้น่าจะไม่เช้าเท่าไรล่ะมั้ง ถ้าเขาขอให้ควันไปส่งที่คอนโดตอนนี้ก็อาจจะทัน...

คิดได้ดังนั้น ไอติมก็เปิดผ้าม่านเพื่อให้แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในห้อง และเมื่อเห็นเต็มตาว่าพระอาทิตย์ด้านนอกอยู่ตรงหัวพอดี ไอติมถึงกับตื่นเต็มตาแล้วรีบมองหานาฬิกาในห้องเพื่อดูว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว แต่ก็ไม่มีนาฬิกาสักเรือน คนตัวเล็กจึงรีบหยิบชุดคลุมอาบน้ำของควันที่วางอยู่ที่เก้าอี้ขึ้นมาสวมลวก ๆ แล้วรีบออกจากห้องนอนของควันเพื่อลงมาชั้นล่าง

“ควัน! อยู่ไหน พากูกลับเดี๋ยวนี้เลยนะ”

ไอติมตะโกนเรียกเพื่อนสนิทเจ้าปัญหา ทั้งบ้านนั้นเงียบกริบเหมือนมีเขาอยู่แค่คนเดียว ไอติมจึงรีบสับเท้าไปที่ผนังซึ่งมีรูปของครอบครัวติดเรียงรายเต็มผนัง และข้าง ๆ กันนั้นมีนาฬิกาบอกเวลาอยู่ เมื่อเห็นเข็มสั้นชี้ที่เลขสิบสองในเวลานี้ ไอติมก็อยากจะร้องไห้ออกมาให้ได้

หมดกัน ทริปในฝันที่จะได้ไปเที่ยวกับพี่กรแค่สองคน

ไอติมหันไปมองรอบ ๆ ตัวอีกครั้ง ตอนนี้เหมือนว่าจะมีเขาอยู่ในบ้านเพียงคนเดียว แล้วควันหายไปไหน เสื้อผ้าของเขาและโทรศัพท์ก็หายไปเช่นกัน

คิดได้ดังนั้น ไอติมจึงรีบวิ่งไปที่ห้องนอนของควันอีกครั้ง เดินหาเสื้อผ้าของตัวเองจนหมดทุกมุมห้องแต่หายังไงก็หาไม่เจอ ร่างเล็กเดินวนไปวนมาอยู่อย่างนั้น แล้ววิ่งลงมาที่ชั้นล่างอีกครั้งและเห็นกระเป๋าของตัวเองวางอยู่ที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ก็รีบหยิบมาดู ซึ่งไอติมก็เจอทุกอย่างยกเว้นโทรศัพท์ของตัวเอง

“มันจะหายไปได้ยังไง”

“หาอะไรอยู่”

“เฮ้ย!”

ไอติมถึงกับร้องเสียงหลง เมื่อจู่ ๆ ก็มีเสียงมากระซิบอยู่ข้างหู แต่พอหันไปก็เห็นว่าเป็นควันที่อยู่ในชุดสบาย ๆ กับทรงผมที่ไม่ได้เซ็ตอย่างทุกวันที่เคยเจอมา

ก็แปลกตาดี...

“เลิกตกใจได้ยัง แล้วหาอะไรอยู่” ควันถามอีกครั้ง ดวงตาคมมองไอติมที่มือยังค้างเติ่งอยู่ในกระเป๋าของตัวเองอยู่

“โทรศัพท์...มึงเห็นโทรศัพท์กูรึเปล่า”

“ไม่ได้อยู่กับมึงเหรอ” ควันถามย้อนกลับ ไอติมถึงกับขมวดคิ้วก่อนจะส่ายหัวช้า ๆ

“ไม่มี หาเท่าไรก็หาไม่เจอ มึงไม่ได้เอาไปซ่อนใช่มั้ย” ไอติมถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่ควันเพียงแค่ยักไหล่ก่อนจะดึงแขนคนที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำให้เดินตามไปที่ห้องนอนของตนอีกครั้ง

“เดี๋ยวกูไปถามป้าแก้วให้ โทรศัพท์อาจจะหลงติดไปกับเสื้อผ้ามึงที่กูให้ป้าแกซักให้ มึงไปอาบน้ำรอก่อนไป”

ควันพูดพลางดันหลังไอติมให้เดินเข้าไปในห้องน้ำให้ได้ ไอติมจึงต้องยอมเข้าไปอาบน้ำในที่สุด คล้อยหลังจากที่ไอติมเข้าไปอาบน้ำแล้วควันก็เผลอถอนหายใจออกมาอย่างลืมตัว แล้วรีบเดินไปที่ห้องนอนของหมอกซึ่งเขาล็อกห้องไว้เสียแน่นหนา เมื่อเปิดเข้าไปแล้วก็เห็นโทรศัพท์เครื่องหนึ่งที่วางอยู่กลางเตียงนอน

ควันคว้ามันขึ้นมาดูอีกครั้ง...สิบมิสคอล ข้อความทั้งทางไลน์ ทางแชทเฟสบุ๊ค หรือแม้แต่ข้อความทางอินสตราแกรม...

ล้วนแล้วมาจากคน ๆ เดียว

ควันกดปิดเครื่องแล้วเดินถือมันออกมาจากห้องนอนของหมอก พอเดินกลับไปในห้องนอนของตัวเองก็พบไอติมที่อาบน้ำเสร็จแล้วนั่งอยู่ปลายเตียงในชุดคลุมอาบน้ำตัวเดิม

“อ่ะ กูไปหาให้แล้ว ป้าแก้วเกือบเอาโทรศัพท์มึงไปซักแล้ว” ควันยื่นโทรศัพท์คืนให้ไอติมที่รับไปแล้วกดปลดล็อคโทรศัพท์แต่หน้าจอก็ยังดับอยู่เหมือนเดิม

“แบตน่าจะหมดนะ” ควันบอกไอติมที่มุ่นคิ้วอยู่กับโทรศัพท์ของตัวเอง ไอติมเลยวางโทรศัพท์ไว้ข้างกายก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูง

“เดี๋ยวค่อยชาร์จก็ได้ ตอนนี้ขอแต่งตัวก่อน...พอจะมีเสื้อผ้าให้ใส่บ้างมั้ย”

“ดูในตู้สิ”

ควันชี้ไปที่ตู้เสื้อผ้าของตัวเอง แล้วนั่งมองแผ่นหลังที่เล็กกว่าเขาเกือบครึ่งค้นหาเสื้อผ้าที่ตัวเองพอจะใส่ได้ เห็นไอติมพยายามหากางเกงขายาวมาทาบกับตัว กางเกงก็ลากพื้นเสียหมด สุดท้ายก็ได้กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดตัวเก่าของเขาที่มันเล็กพอดีตัวไอติมอย่างเหมาะเจาะ

ส่วนด้านไอติมที่รีบแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย ก็เอาโทรศัพท์ไปชาร์จกับพาวเวอร์แบงค์ของตัวเองก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าโทรศัพท์ตัวเองไม่ได้แบตหมดอย่างที่ควันว่า และพอเห็นว่าข้อความและสายเรียกเข้ามากมายที่ปรากฏสู่สายตา ไอติมก็ต้องตกใจ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าตัวเองพลาดการไปเที่ยวกับพี่กรในครั้งนี้ แต่ไอติมก็พยายามรีบจัดการตัวเองให้เร็วที่สุดแล้วเพื่อที่จะให้ควันไปส่งที่คอนโด

มือขาวรีบกดโทรหากรเพื่อจะขอโทษที่ไม่ได้ไปตามนัด แต่ยังไม่ทันได้โทรออก โทรศัพท์ก็ถูกดึงออกไปจากมือต่อหน้าต่อตา ไอติมเบิกตากว้าง เอื้อมมือจะคว้าโทรศัพท์ตัวเองแต่ควันกลับยกโทรศัพท์ขึ้นเหนือหัวเสียอย่างนั้น

“เอาโทรศัพท์กูคืนมานะควัน”

“จะโทรหามันทำไม นี่ก็บ่ายโมงแล้ว มันคงไม่ไปเที่ยวกับมึงแล้วเหอะ”

“ก็เพราะมึงนั้นแหละ ไหนบอกว่าจะไปส่งกูไง”

“ช่วยไม่ได้ มึงอยากนอนตื่นสายเอง”

“ก็แล้วเพราะใครล่ะ” ไอติมหน้าบึ้ง พยายามเขย่งเท้าเพื่อหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกจากมือควัน แต่พยายามเขย่งเท่าไรก็แตะได้สูงสุดแค่ข้อมือของควันเท่านั้น และเพราะใกล้กันขนาดนี้มันจึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่คนเจ้าเล่ห์จะตวัดแขนรวบเอวเล็กเข้ามาแนบกาย

“ควัน กูจริงจังนะ เอาโทรศัพท์คืนมา”

“ไม่คืน ถ้ามึงจะโทรหามัน กูก็จะถือไว้อย่างนี้นี่แหละ”

ยิ่งเห็นสีหน้ายียวนของคนตัวสูงกว่า ไอติมยิ่งรู้สึกอยากข่วนหน้าร้าย ๆ นั้นเสียจริง ฟึดฟัดอยู่ไม่นานสุดท้ายไอติมก็ยอมเออออไปกับข้อตกลงของควัน เพราะเขารู้ดีว่าพยศไปมันก็เปล่าประโยชน์

“ไม่โทรก็ได้ เอาโทรศัพท์ของกูคืนมาเถอะ”

ไอติมแบมือขอโทรศัพท์คืน แต่ควันกลับอมยิ้มแล้วยัดโทรศัพท์ของไอติมใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองเสียอย่างนั้น

“เฮ้ย! ควันมึงอย่าแกล้งกูอย่างนี้สิวะ”

“ไม่ได้แกล้ง แต่กูหิว อยากกินข้าวแล้ว” พูดพลางจูงมือให้ไอติมเดินตามมาที่ห้องอาหารซึ่งมีอาหารไทยไม่กี่อย่างจัดวางเอาไว้อย่างสวยงาม

“กูอยากกลับแล้ว เมื่อไรจะพากูไปส่งที่คอนโด”

“กินข้าวกับกูก่อน เดี๋ยวจะพาไป”

“ไม่ได้โกหกกูนะ” ไอติมถามอย่างไม่แน่ใจ

“แล้วกูจะโกหกมึงทำไมวะ นั่งลงแล้วกินข้าวได้แล้ว”

ควันดึงแขนไอติมให้นั่งลงที่เก้าอี้ สุดท้ายก็ต้องยอมตามใจควันอีกครั้ง และก็ได้แต่หวังว่าครั้งนี้ควันคงไม่หลอกกันอีกแล้ว...ส่วนเรื่องพี่กร...ยังไงตอนนี้เขาก็พลาดทริปที่รอคอยไปแล้ว เอาไว้ไปขอโทษทีหลังก็คงไม่สายหรอก



*




ควันทำตามที่บอกจริง ๆ คราวนี้คนเจ้าเล่ห์ไม่ได้หลอกกันอีก แต่กว่าจะกลับมาถึงที่คอนโดก็ปาไปเกือบสี่โมงเย็นแล้ว เมื่อรถคันหรูขับมาจอดที่ลานจอดรถของคอนโด ไอติมก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เปิดประตูลงจากรถด้วยความคิดที่ว่ารอดพ้นจากควันได้เสียที แต่สุดท้ายไอติมก็ต้องผิดหวังกับความคิดของตัวเอง

“จะตามมาทำไม”

ไอติมหันกลับไปถามคนที่กดรีโมตล็อกรถ แล้วเดินตามเขาเข้ามาถึงในคอนโดเงียบ ๆ

“รังเกียจนักรึไง” ควันถามย้อนกลับด้วยน้ำเสียงยียวนยิ่งกว่าเก่า ไอติมที่ทำอะไรไม่ได้จึงหันหน้ากลับแล้วเดินไปตามทางเดินโดยไม่มีบทสนทนาระหว่างกันอีก

เมื่อเข้ามาถึงห้องของไอติมแล้ว เจ้าของห้องก็ทำราวกับอีกคนไม่มีตัวตน ร่างเล็กโยนกระเป๋าของตัวเองทิ้งไว้ที่โซฟาเสร็จก็พาร่างพัง ๆ ของตัวเองเข้าห้องนอน กดล็อคห้องอย่างรวดเร็วจนควันตามไปไม่ทัน แล้วล้มตัวลงนอนเงียบ ๆ ไม่สนใจเสียงเคาะประตูห้องนอนจากคนที่กำลังเรียกร้องความสนใจอยู่ในตอนนี้

“ไอติม...มึงง่วงแล้วเหรอวะ พึ่งตื่นเองไม่ใช่เหรอ”

“...”

“งั้นกูจะไม่กวน มึงนอนพักไปเถอะ ตื่นมาแล้วเดี๋ยวจะพาไปกินอะไรอร่อย ๆ”

“...”

“กูไม่กวนแล้ว ฝันดีแล้วกัน”

เสียงนั้นเงียบไปแล้ว ไอติมได้แต่ถอนหายใจแล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้น กดพิมพ์ข้อความลงไปในนั้นเสร็จก็หลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความคิดที่กำลังตกตะกอนช้า ๆ เพียงคนเดียว...

I-TIM
: ผมขอโทษนะครับพี่กร ที่ผิดนัดในวันนี้ ขอโทษจริง ๆ ครับ

เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนหัวค่ำ ทั้งห้องนั้นมืดสนิทไอติมจึงเปิดไฟหัวเตียงแล้วขยี้ตาสามที เดินเตาะแตะออกจากห้องนอนของตัวเองอย่างเคยชิน เมื่อออกมาก็พบว่าทั้งห้องนั้นเงียบสนิท แต่ตรงโต๊ะทานข้าวนั้นกลับปรากฏร่างของเพื่อนสนิทที่เขายังโกรธมันไม่หาย ฟุบตัวนอนอยู่บนชีทเรียนที่กำลังจะสอบในอาทิตย์หน้า

พอนอนหลับอย่างนี้ก็ดูไม่มีพิษภัยหรอก อย่าให้ตื่นขึ้นมาก็แล้วกัน เหนื่อยจะรับมือ...

ไอติมได้แต่คิด กำลังจะเดินไปเปิดน้ำมาดื่ม แต่แล้วข้อมือของเขาก็ถูกจับไว้ได้เสียก่อน ดวงตากลมมองคนที่ลืมตาขึ้นมา รับรู้ได้ถึงแรกกระตุกข้อมือเบา ๆ ไอติมจึงยอมนั่งลงด้านข้างคนเอาแต่ใจตัวเอง

“ตื่นแล้วเหรอ”

“อืม”

“หิวข้าวยัง”

“นิดหน่อย”

“งั้นเราไปหาอะไรกินกันดีมั้ย”

ควันเอ่ยปากชวน ทำท่าจะลุกแต่ไอติมก็ดึงมือเอาไว้เสียก่อน ร่างสูงจึงยอมนั่งที่เดิม ดวงตาคมมองใบหน้าที่มีความกังวลเล็ก ๆ ฉายฉัดอยู่ในนั้น ควันจึงยอมปล่อยมือให้ไอติมได้เป็นอิสระ

“มึงอยากจะพูดอะไรกับกูงั้นเหรอ”

“...”

ไม่มีเสียงตอบกลับ แต่ใบหน้านั้นพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตากลมหลุบลง ควันจึงเอ่ยปากอีกครั้ง

“งั้นก็ว่ามาสิ กูรอฟังอยู่”

“กูอยากให้เราคุยกันดี ๆ กูไม่อยากให้มันเป็นอย่างนี้เลย กูอึดอัดว่ะ” ไอติมพูดเสียงเบา เขานอนคิดว่าตลอดเวลาที่อยู่ในห้องนอน ในเมื่อทุกอย่างมันเริ่มบิดเบี้ยวไปจากกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้ เขากับควันก็ควรจะหาทางออกให้กับความสัมพันธ์ในครั้งนี้เสียที

“อึดอัดตรงไหน มึงอึดอัดที่อยู่กับกูงั้นเหรอ”

“ไม่ใช่...ไม่ใช่อย่างนั้น”

“แล้ว...”

“ถ้ามึงบอกว่าชอบกูจริง Friend with benefit มันต้องจบลง”

ไอติมรีบบอกในสิ่งที่เขาคิดเอาไว้ให้ควันได้รับรู้ เกิดความเงียบขึ้นรอบตัวพวกเขาอีกครั้ง ต่างคนต่างไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมาอีก เนิ่นนานจนไอติมแทบจะหายใจไม่ออก เสียงทุ้มจึงเปล่งออกมาในที่สุด

“มึงรังเกียจกูขนาดนั้นเลยเหรอวะ”

“ไม่ใช่...”

“กูมันดูน่าสมเพชมากมั้ยวะไอติม เรียกร้องความสนใจกับมึงอย่างนี้ มึงยังไม่สนใจ เอาแต่จะขอยกเลิกกฎของเราอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ หรือว่ากูควรจะตัดใจจากมึงเหรอวะ”

“...”

“ขอโทษนะที่กูไม่ใช่พระรองในนิยายที่จะต้องหลบทางให้กับพระเอกของมึง”

เสียงทุ้มนั้นหนักแน่นและจริงจังจนไอติมสัมผัสได้ ชั่วแวบนึง หัวใจดวงน้อยกลับรู้สึกอุ่นวาบอย่างน่าประหลาด ไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตนี้เขาจะมีความสำคัญต่อใครบางคนมากขนาดนี้ ความรู้สึกของควันที่ไอติมสัมผัสได้นั้นมันทำให้ใจของเขาเริ่มเขว...

“ทำไมต้องเป็นกูวะควัน ทั้ง ๆ ที่คนอื่นดีกว่ากูตั้งเยอะ”

ไอติมถามอย่างไม่เข้าใจ เขาถามตัวเองตั้งแต่ได้รู้ความจริงว่าควันรู้สึกยังไงกับตัวเอง ไอติมก็ยังหาคำตอบนั้นไม่ได้ว่าเขามีดีอะไร...เขามันก็แค่คนใจโลเลคนหนึ่ง...แค่คนที่เอาคนดี ๆ ตรงหน้าไปเป็นตัวแทนของใครอีกคนหนึ่ง...

“กูก็หาคำตอบให้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นมึง ทั้ง ๆ ที่มีผู้หญิงเข้ามาคุยกับกูมากมาย แต่หลังจากที่เราเลือกที่จะอยู่ในความสัมพันธ์นั้น กูก็หยุดทุกอย่าง กูไม่เคยรู้สึกอยากดูแลใครเพราะทั้งชีวิตนี้กูมีทั้งพ่อ แม่ ไอ้หมอกที่มันดูแลกู...แต่มึงเป็นคนแรกที่กูรู้สึกอย่างนั้น...เวลาที่มึงร้องไห้ เวลาที่มึงรู้สึกเหนื่อย เวลาที่มึงท้อ กูรู้สึกอยากดูแลมึง อยากทำให้มึงยิ้ม ทำให้มึงหัวเราะ...”

“...”

“...เพราะเวลาที่มึงยิ้มมึงน่ารักที่สุดเลย รู้ป่ะ”


คำตอบของควันทำเอาไอติมอึ้งจนไปต่อไม่ถูก จู่ ๆ ก็รู้สึกขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เมื่อนึกไปถึงยามที่ท้อในช่วงประกวดเพราะเรียนไม่ทันเพื่อน ควันก็จะคอยติวหนังสือให้เขาดึกดื่นจนเข้าใจ ยามที่เหนื่อยจากการซ้อมของกองประกวด ควันที่คอยมารับก็จะพาเขาไปหากินอะไรอร่อย ๆ เสมอจนไอติมรู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลดทิ้ง หรือแม้แต่ยามที่ร้องไห้เพราะพี่กร ควันก็คอยปลอบ คอยนั่งอยู่เป็นเพื่อนเขาแม้ว่าจะไม่รู้เลยว่าไอติมกำลังเสียใจเรื่องอะไร

ไอติมพึ่งได้รู้ในตอนนี้ว่าคนที่เขาควรใส่ใจที่สุดคือคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า...

“อึ้งเลยล่ะสิ ตื้นตันจนพูดไม่ออกเลยงั้นเหรอ”

ควันถามยิ้ม ๆ พร้อมกับยกมือขึ้นกุมแก้มนิ่ม แล้วใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาใสที่ไหลออกจากหางตาของคนตัวเล็กช้า ๆ พร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นที่ยังคงติดตรึงอยู่ตรงหน้า

“ทำไมต้องทำดีกับกูขนาดนี้วะ...กูมันไม่มีค่าพอให้มึงแคร์ขนาดนั้นเลย” ไอติมพึมพำเสียงแผ่ว แต่ควันกลับได้ยินมันชัดเจน ถึงแม้ว่าควันจะไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ไอติมสื่อมันหมายถึงอะไร แต่เขาก็ยังยิ้มให้กับไอติมเช่นเดิม

“มึงรู้ได้ไงว่าตัวมึงไม่มีค่า อย่าประเมินตัวเองแบบนั้นสิ”

“ควัน...มึง...”

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ถ้ามึงซึ้งใจกูมาก มึงก็ให้กูจีบดิ อยากได้มาเป็นแฟนว่ะ”

นี่แหละ จังหวะนี้แหละ ขอกันโต้ง ๆ อย่างนี้เลย ควันไม่เห็นว่าโอกาสไหนจะดีกว่าตอนนี้แล้ว ยิ่งเห็นแววตาสั่นไหวเหมือนกับว่ากำลังใช้ความคิดนั้นแล้วควันจึงยอมอยู่นิ่ง ๆ แม้ว่าอยากจะจับไอ้เจ้าตัวดีมาจูบแรง ๆ สักที แต่ก็ต้องอดใจไว้ เย็นไว้เจ้าควัน! ช้า ๆ ได้พล้าเล่มงาม มึงต้องอดใจไว้!

“มึงพูดไรออกมาวะ เราเป็นเพื่อนกันนะ”

“คนเป็นแฟน เขาก็เริ่มจากการเป็นเพื่อนทั้งนั้นแหละ ความจริงเราก็ข้ามขั้นไปนานแล้วนี่...โอ๊ย!”

พอพูดอย่างนี้ ฝ่ามือขาว ๆ ก็ฟาดลงที่ท่อนแขนหนาโดยอัตโนมัติทันที ดวงตากลมนั้นเบิกกว้างกว่าปกติเล็กน้อย ไม่คิดว่าควันจะพูดถึงเรื่องอย่างว่าได้หน้าตาเฉยแบบนี้ คนเราเขินเป็นนะเว้ย

“เขินเหรอ หน้าแดงหมดแล้วว่ะฮ่าฮ่า เวลามึงเขินก็น่ารักไปอีกแบบนะ แบบนี้กูก็ชอบ”

“หยุดพูดเลยนะควัน” ยิ่งพูดแบบนี้ ไอ้หน้ามันยิ่งจะแดงขึ้นเรื่อย ๆ ให้ตายเถอะ แล้วทำไมเขาต้องเผลอใจเต้นแรงเพราะยิ้มกว้าง ๆ ของควันด้วย แปลกมาก แปลกที่สุด ไอ้หัวใจเอ้ย ทำไมถึงได้เต้นแรงแบบนี้นะ

“ไม่หยุด กูชอบที่มึงเป็นแบบนี้ ดูดิ หน้าก็แดง หูก็แดง”

“ถ้าไม่หยุดไม่ต้องมาจีบกูเลย”

“อะไรนะ!”

ควันที่กำลังจะแกล้งต่อถึงกลับเบรกแทบไม่ทัน เมื่อกี้นี้เขาหูฝาดรึเปล่า ไอติมบอกว่าถ้าไม่หยุดแกล้งจะไม่ให้จีบ

“งั้นถ้าหยุดแกล้งแล้วจะจีบได้งั้นเหรอ”

“อะ...เออ...นั้นแหละ จะหยุดแกล้งได้ยัง”

ไอติมก็ตะกุกตะกักไม่น้อย เมื่อกี้เผลอพูดอะไรออกไป จะให้แก้ตัวก็ไม่ทันแล้ว ไหน ๆ ก็มาถึงจุดนี้แล้วถ้าเขาลองปล่อยตัวปล่อยใจดูบ้างสักครั้ง เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง บางทีมันอาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้

“ถ้ากูหยุดแกล้ง มึงจะให้กูจีบใช่มั้ย”

“เออ ถามย้ำจัง ไม่เข้าใจรึไง”

“ก็อยากจะถามย้ำ เผื่อเมื่อกี้กูหูฝาดไง”

ตอนนี้ควันคิดว่าเขาคงเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก ไม่แกล้งก็ได้ว่ะ นี่ขนาดเลิกแกล้งแล้ว หน้าขาว ๆ นั้นก็ยังแดงไม่หยุด คนอะไรวะ น่ารักเป็นบ้า

“สรุปว่าตอนนี้มึงกับกูไม่ได้เป็น Friend with benefit กันแล้ว”

“เราเป็นแค่เพื่อนกัน และหลังจากนี้กูจะจีบมึงมาเป็นแฟน”

“ย้ำจังวะ ถ้าแน่จริงก็จีบให้ติดแล้วกัน”

ไอติมอดจะหมั่นไส้คนที่ยังยิ้มไม่หุบไม่ได้ แต่ถึงจะคิดอย่างนั้น เขาก็รู้สึกใจฟูขึ้นมาอย่างน่าประหลาด เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีค่ามากขนาดนี้ ไม่เคยสนใจว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไรเพราะเอาแค่ตัวเองเป็นที่ตั้งมาโดยเสมอ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ไอติมดึงตัวเองออกมาจากวังวนของพี่กรที่ไอติมเอาแต่จมอยู่ในนั้นมานานนับสองปี

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตั้งใจไว้ในตอนนี้มันผิดแผนไปหมด เขาที่รอคอยไปเที่ยวพร้อมพี่กร สุดท้ายก็ไม่ได้ไป คิดว่าจะเลิกไอ้ความสัมพันธ์บ้า ๆ ระหว่าเขาและควัน สุดท้ายก็กลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้ควันจีบแทน...ไอติมไม่รู้หรอกว่าหนทางข้างหน้ามันจะเป็นอย่างไร ก็ได้แต่หวังว่าสิ่งที่ตัดสินใจไปในวันนี้นั้นจะไม่ทำให้เขาเสียใจในภายหลังก็พอแล้ว



-------------------

คอมเมนต์เป็นกำลังใจให้หน่อยนะคะ
ขอบคุณค่ะ



ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เข้าที่เข้าทางสักทีนะ

ออฟไลน์ FanclubPong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ยอมรับและเปิดใจให้ควันเถอะ คนที่เห็นคุณค่าของเรา

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
เป็นแฟนกันเถอะน่านะ นะ นะ
 :hao6:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เดินหน้าจีบให้เต็มที่ !!!

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
รีบจีบไอติมให้ติดนะควัน

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Dearbliss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
บทที่ 17
เดทแรก


ไม่ว่าเวลาจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่ไอติมก็ยังไม่ชินเสียทีกับวิธีการจีบของควัน...

เริ่มต้นจากการมารับที่คอนโดตั้งแต่เช้า...เช้าชนิดที่ว่าไอติมยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ แต่ไอ้คนที่ตั้งหน้าตั้งตาจีบก็มากดกริ่งก่อกวนเขาจนไม่ต้องพึ่งนาฬิกาปลุกเลย พออาบน้ำเสร็จแล้วแต่งตัวออกมาจากห้องนอนก็จะเจอถ้วยโจ๊กและปาท่องโก๋รอเขาอยู่แล้ว ข้าง ๆ กันนั้นเป็นแก้วโอวัลตินร้อนพร้อมกับไอ้คนที่ยิ้มหน้าแป้นแล้นข้าง ๆ หลังจากทานมื้อเช้าด้วยกันเสร็จ เขาและควันถึงจะไปเรียนด้วยกันอย่างนี้ทุกวัน

พอมาถึงที่คณะ ก็เดินเข้าไปประจำที่นั่งของตัวเองเหมือนอย่างเคย ไม่มีใครสังเกตความเปลี่ยนแปลงของพวกเขาทั้งสอง เพราะทุกคนต่างเคยชินกับภาพของเพื่อนสนิทต่างไซส์คู่นี้อยู่แล้ว

“สวัสดีตอนเช้าค่ะนักศึกษา มาต่อกันที่สไลด์ล่าสุดที่เมื่อวานอาจารย์ค้างไว้เลยแล้วกัน...”

“วินทร์กับพีชไม่มาเหรอ” ไอติมหันไปถามควันที่เริ่มเปิดสไลด์ในไอแพดของตัวเอง ควันจึงหันไปมองรอบกายตนก่อนจะหันมาส่ายหน้าแทนคำตอบ

“ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เห็นพวกมันบอกเลยว่าจะโดดกัน”

“งั้นเดี๋ยวลองทักไลน์ดู” ไอติมพึมพำแล้วรีบถามในแชทกลุ่มของพวกเขาทั้งสี่คน โชคดีที่พวกเขานั่งอยู่บนสโลปชั้นบนสุด แถมอาจารย์ก็ยังมองแต่สไลด์ในจอ เลยไม่ต้องกลัวอาจารย์จะดุที่เล่นโทรศัพท์ในห้องเรียนอย่างนี้

I-tim : @win @Peach. หายไปไหนกัน ทำไมไม่มาเรียน

ทันทีที่ส่งข้อความไป ข้อความก็ถูกอ่านโดยทันที แต่ก็ยังไม่มีการตอบกลับ ไอติมนั่งรออยู่เกือบนาที ข้อความจากเพื่อนทั้งสองคนถึงส่งเข้ามา

Peach. : กูลืมบอกว่าจะไปรับเฮียกูที่สนามบินอ่ะ แกพึ่งกลับมาจากอเมริกา ฝากเช็คชื่อหน่อยแล้วกัน

I-tim : โอเค เดี๋ยวเซ็นชื่อให้

Peach. : แต้งค์ครับเพื่อนร๊ากกกกกกกกกก

win : เช็คชื่อให้กูด้วย พึ่งนอนตอนตี 5 ไม่มีแรงจะไปเรียนล่ะ

I-tim : เค

“พวกมันไม่มา เดี๋ยวเซ็นชื่อให้พวกมันด้วย”

“อืม งั้นเราก็เรียนกันเถอะ”

.

.

“ก่อนเลิกคลาสวันนี้ อาจารย์จะให้นักศึกษาไปศึกษาหัวข้อนี้มา เรื่องนี้อาจารย์จะไม่สอน แต่ให้ไปทำรายงานค้นคว้ามา จับคู่กับแล้วทำสไลด์นำเสนอให้เพื่อน ๆ ได้เรียนรู้ไปด้วยกัน ถ้ามีอะไรสงสัยมาถามอาจารย์เพิ่มเติมได้ วันนี้พอแค่นี้ค่ะ”

อาจารย์ปิดสไลด์ลงแล้ว นักศึกษาหลายคนก็รีบเก็บของแล้วลุกออกจากห้องเรียนเพราะมีเรียนวิชาเสรีต่อ บางกลุ่มก็วิ่งไปถามรายละเอียดของงานที่อาจารย์สั่ง และบางคนก็ยังคงมองหาเพื่อนจับคู่กันทำรายงานอยู่

“เอาไงดีเรา จับคู่กันเหมือนเดิมเหรอ” ควันถามไอติมที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าอย่างไม่รีบร้อน

“ไปคุยกับสองคนนั้นก่อนดีมั้ย กูว่าพวกมันอาจจะงงก็ได้เพราะมันไม่ได้เรียนคาบนี้”

“ก็จริง...แต่ปล่อยมันไปก่อนเถอะ วันนี้เราไปเที่ยวกันดีมั้ย”

“เที่ยวที่ไหน” ไอติมขมวดคิ้วแล้วลุกขึ้นยืนตามควันที่ดึงมือเขาไปกุมไว้แล้วลากออกมาจากห้องเรียนด้วยกัน เมื่อมาถึงลานจอดรถแล้วควันถึงปล่อยมือไอติมให้เป็นอิสระ

“อยากไปเที่ยวที่ไหนล่ะ กูพามึงไปได้ทุกที่เลย วันนี้เราว่างแล้วนี่”

“ไม่อ่ะ กูอยากนอน” ไม่พูดเปล่า ยังหาวโชว์ให้ควันต้องหลุดยิ้มด้วย ก็เพราะอ่านหนังสือจนดึกดื่น นอกจากจะนอนไม่พอแล้ว ไอ้รอยคล้ำใต้ตายังฉายชัดขึ้นมาจนไอติมจะได้นับญาติกับหมีแพนด้าแล้ว

“งั้นกูมีสถานที่หนึ่งที่อยากพามึงไป มั่นใจว่ามึงจะต้องนอนหลับฝันดีแน่”

“ที่ไหนวะ”

“เดี๋ยวไปถึงก็รู้”


*


ไอติมเงยหน้ามองป้ายชื่ออาคารที่เด่นหราอยู่ตรงหน้า ได้คำตอบแล้วหลังจากที่ควันปล่อยให้สงสัยแล้วเดินตามควันขึ้นรถไฟฟ้ามาอย่างงง ๆ ดวงตากลมหันไปมองรถทัวร์ที่ปล่อยนักเรียนตัวเล็ก ๆ วิ่งลงมาจากรถเพื่อเข้าไปในอาคาร ก่อนจะหันมาถามควันอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“จะพากูมานอนที่ท้องฟ้าจำลองงั้นเหรอ”

“อืม แอร์เย็นจะตาย มึงหลับสบายแน่” ได้คำตอบพร้อมรอยยิ้ม แถมยังยักคิ้วให้อีกหนึ่งทีด้วย

“ไม่รู้ว่าจะได้นอนมั้ย แต่ได้มาแล้วก็ขอย้อนวัยหน่อยแล้วกัน”

ไอติมเดินนำหน้าไปก่อน แต่เพียงไม่กี่ก้าว คนตัวสูงก็เดินมาข้างกันก่อนจะดึงมือขาวไปกุมเอาไว้แล้วเดินไปพร้อมกัน ไอติมเหลือบมองฝ่ามือใหญ่ที่กุมมือเขาไว้ในตอนนี้แล้วรู้สึกอุ่นวาบในหัวใจขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ทั้ง ๆ ที่การกระทำอย่างนี้เขาได้รับจากควันจนคิดว่าเคยชินแล้ว แต่แปลก...ที่หัวใจกลับเต้นแรงกว่าที่ควรจะเป็น

หรือบางที...นี่อาจจะเรียกว่าเดทแรกระหว่างพวกเขาอย่างนั้นเหรอ?

“เอาตั๋วผู้ใหญ่สองใบครับ”

“รอบการแสดงไหนดีคะ”

“รอบบ่ายสามครับ”

หลังจากซื้อบัตรเข้าชมท้องฟ้าจำลองแล้ว ควันยังซื้อบัตรเข้าชมนิทรรศการมาเพื่อเดินเล่นระหว่างรอรอบการแสดงอีกด้วย ไอติมที่ง่วงงุนเพราะนอนไม่พอกลับตื่นตาตื่นใจที่ได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง คนตัวเล็กเดินนำหน้าควันไปอ่านป้ายนิทรรศการ แล้วมองเด็กประถมที่กำลังเล่นของเล่นกันอย่างสนุกสนาน

รอยยิ้มหวาน ๆ เริ่มปรากฏบนใบหน้า ไอติมยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพเหล่านั้นเอาไว้ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเขานั้นก็ถูกใครบางคนยกกล้องโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพเหล่านั้นเก็บไว้เช่นกัน

“ไอติม”

“หืม?”

แชะ!

ควันอมยิ้มเพียงเล็กน้อย เมื่อได้ภาพเผลอ ๆ นั้นมาเก็บไว้ แล้วยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว

“แอบถ่ายภาพกูเหรอ”

“อืม”

“เห้ย เอามาดูหน่อยดิ หน้ากูตอนเผลอหน้าเกลียดรึเปล่า ถ้าจะถ่ายก็บอกดี ๆ ก็ได้นะ”

“ไม่บอกหรอก กูชอบถ่ายตอนมึงเผลอ...น่ารักดี : )”

หลังจากเดินชมนิทรรศการอยู่ได้พักใหญ่ ก็ถึงเวลาเข้าชมการแสดงแล้ว ควันพาไอติมไปนั่งเบาะหลังสุด ซึ่งมีแค่พวกเขาสองคน รอบการแสดงนี้คนไม่เยอะเท่าไร ได้ความเป็นส่วนตัวราวกับว่าพวกเขาเหมารอบการแสดงนี้เป็นแค่ของตัวเองเท่านั้น

“คิดถึงตอนเด็ก ๆ เนอะ”

“...”

“ไม่คิดเลยว่าจะมีใครพามานั่งดูดาวแบบนี้อีก”

ไอติมพึมพำในขณะที่มองการแสดงท้องฟ้าจำลองจากระบบดิจิตัล หลายปีก่อนในตอนที่เขายังเด็ก พ่อแม่ก็พาเขากับพี่ไอซ์มาเที่ยวท้องฟ้าจำลองอย่างนี้ เด็กชายไอติมในตอนนั้นตื่นตาตื่นใจกับทุกอย่าง ในตอนนั้นที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา เขาคิดว่าเขามีความสุขมากกว่านี้ เมื่อโตขึ้นมา ต่างคนต่างยุ่งกับงานของตัวเอง ถ้าจะให้เขาร้องไห้งอแงเหมือนเด็กเพื่อให้พ่อแม่สนใจเขาบ้างก็คงทำไม่ได้ ไอติมจึงต้องพยายามมีความสุขกับทุก ๆ วันด้วยตัวเอง แม้ว่าการใช้ชีวิตเพียงคนเดียวในโลกใบใหญ่อย่างนี้จะไม่สนุกเอาเสียเลย แต่เขาก็ต้องหัดที่จะเรียนรู้และอยู่กับมันให้ได้

“คิดอะไรอยู่”

เสียงทุ้มกระซิบถาม ฝ่ามือบางถูกดึงเข้าไปกุมอีกครั้ง และคราวนี้มันถูกบีบเบา ๆ ราวกับว่ากำลังปลอบประโลมกันอยู่

“เปล่า”

“กูอยู่ตรงนี้”

“...”

“อยู่ข้าง ๆ มึง”

“...”

“ให้กูเป็นความสบายใจของมึงได้มั้ย”

ไอติมหันไปมองหน้าคนที่นั่งข้าง ๆ แม้ว่ารอบกายจะมืดมิด แต่กระนั้นเขากลับเห็นแววตาของควันได้อย่างชัดเจน มันทั้งหนักแน่น และมั่นคง...

อย่างน้อยในโลกที่เงียบเหงาของเขา ก็ยังมีใครบางคนที่เข้ามาแต่งแต้มสีสันให้กับชีวิตของเขาได้สดใสกว่าที่เคยเป็นอยู่

“ขอเวลากูหน่อยนะควัน”

“...”

“แล้วสักวันกูจะให้มึงเป็นทุกอย่างสำหรับกูเลย”

*

หลังจากดูการแสดงท้องฟ้าจำลองเสร็จแล้ว ทั้งสองคนก็เดินออกมารอขึ้นรถไฟฟ้าเพื่อกลับไปยังจุดมุ่งหมายเดิม

“หายง่วงรึยัง”

“หืม”

ไอติมเอียงคอมองควันที่ถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ใบหน้าหล่อเพียงแค่อมยิ้ม อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นหยิกแก้มนิ่มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะอากาศร้อนตรงหน้า

“โอ๊ย หยิกแก้มกูทำไมเนี่ย”

“หมั่นเขี้ยว”

“ตลกล่ะ”

“แล้วสรุปว่าหายง่วงยัง เมื่อกี้เห็นนั่งดูดาวตาแป๋วเลย อยากไปเที่ยวไหนต่อมั้ย”

ควันนึกไปถึงตอนที่ชวนไอติมไปเที่ยวแล้วเจ้าตัวอิดออดอยากกลับไปนอน แต่พอพามาถึงท้องฟ้าจำลองกลับตื่นเต้นราวกับเด็ก ๆ ยิ่งตอนที่ไอติมตั้งใจดูการแสดงนั้น เขาไม่สามารถละสายตาไปจากคนที่นั่งข้าง ๆ ได้เลย เพียงแค่คิดว่าเมื่อการแสดงจบแล้วทริปของเราในวันนี้ก็จบลงไปด้วย ควันรู้สึกว่ามันไม่คุ้มเอาเสียเลย ควันจึงอยากพาไอติมไปเที่ยวต่ออีกสักนิด

“เที่ยวไหนอ่ะ สยามเหรอ” ไอติมก็คิดอะไรไม่ออกเหมือนกัน ที่เที่ยวในกรุงเทพมันจะมีสักกี่ทีกัน

“ถ้างั้นก็ไปสยามกัน แล้วหลังจากนั้นเราก็ไปเดินเล่นที่หอศิลป์ดีมั้ย”

“วันนี้จะเอาให้ครบทั้งวิทยาศาสตร์ ทั้งศิลปะเลยสินะ” ไอติมเอ่ยขึ้น แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธความคิดของเขา สุดท้ายก็ซื้อตั๋วรถไฟฟ้าไปสยามด้วยกัน ใช้เวลาไม่นาน นักศึกษาคณะแพทย์ทั้งสองคนก็มาถึงจุดหมาย

หลังจากออกจากรถไฟฟ้าที่อัดกันเป็นปลากระป๋อง ไอติมก็รีบเดินตามร่างสูงตรงหน้าที่ก้าวฉับ ๆ รีบหนีจากฝูงคนที่ทยอยออกมาจากรถไฟฟ้า แต่เพราะขาสั้นกว่าเป็นคืบ ไอติมจึงต้องพยายามวิ่งตามให้ทัน แต่กลุ่มชาวต่างชาติที่เดินผ่านหน้าเขาไปแล้วขวางเขาเอาไว้ก็ทำให้ไอติมเสียจังหวะในการเดิน คนตัวเล็กมองหาควันที่เดินนำไปก่อนแล้ว จนเดินออกมาจากสถานีก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของคนตัวสูง ไอติมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาควัน แต่ยังไม่ทันได้โทรออก ข้อมือก็ถูกคว้าเอาไว้เสียก่อน

“หาตั้งนาน กูตกใจแทบแย่ตอนที่หลงกับมึง”

เสียงตื่น ๆ ของควันพร้อมกับเหงื่อที่เกาะรอบกรอบหน้าบ่งบอกให้รู้ว่าอีกคนก็ร้อนใจไม่แพ้กันที่พลัดหลงกันแบบนี้ ไอติมโล่งใจที่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่ได้พลัดหลงกันนาน ดวงตากลมเหลือบมองมือที่ถูกกุมเอาไว้แล้วเดินไปพร้อม ๆ กันกับเขา ไอติมจึงบีบมือควันเบา ๆ เพื่อเป็นการขอบคุณ

“ขอบคุณนะ”

“ขอบคุณทำไม มันเป็นหน้าที่กูอยู่แล้วที่ต้องดูแลมึง”

“แต่ก็ขอบคุณ”

“ถ้าซึ้งใจมากก็มาเป็นแฟนกูเลยดีกว่า”

“จีบให้ติดก่อนแล้วค่อยว่ากันนะ”

“นี่ยังไม่ติดอีกเหรอ”

“ยังเว้ย”

“ใจแข็งจังวะ แบบนี้แหละกูชอบ”

“เลอะเทอะจริง”

ไอติมส่ายหัวให้กับคนที่เดินอยู่เคียงข้าง บทสนทนาไร้สาระที่ควันขยันหยอดเขาทุกวันนั้นไอติมได้ยินมันจนเริ่มชินเสียแล้ว แต่ที่ไม่ชินเสียทีก็ไอ้อาการหัวใจเต้นแรงผิดปกตินี่แหละ ไอติมรู้ว่ามันอันตรายแต่ก็ยังยอมปล่อยให้มันเต้นแรงอยู่อย่างนั้น

“เลอะเทอะแล้วชอบมั้ยล่ะ”

“...”

“มึงชอบมั้ยกูก็ไม่รู้ แต่ที่รู้อ่ะ...คือกูชอบมึง

หัวใจคนเราจะเข้มแข็งได้มากสักเท่าไรไอติมไม่รู้...

แต่ที่รู้ตอนนี้คือหัวใจไอติมมันจะระเบิดอยู่แล้วว้อยยยยยยยยยย



.

.


สยามสแควร์...ย่านการค้าที่มักมีเหล่านิสิต นักศึกษา และวัยรุ่นเดินเที่ยวกันอยู่หนาแน่น...ควันและไอติมก็เป็นหนึ่งในหลายพันคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ ดวงตากลมใสมองไปทั่วบริเวณ เดินเข้าเดินออกร้านรวงต่าง ๆ โดยมีร่างสูงเดินตามไม่ห่าง

“ควัน...กูอยากได้เสื้อยืดตัวนั้นอ่ะ”

“ก็ลองเข้าไปดูสิ”

“อย่าพึ่งเบื่อกูก่อนล่ะ นาน ๆ จะได้มาเที่ยวแบบนี้ ขอเที่ยวหน่อยแล้วกัน”

“ตามใจเลยครับ”

พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มไม่พอ ทำไมต้องเอาฝ่ามือใหญ่ ๆ มาขยี้ผมด้วยก็ไม่รู้ ไม่รู้เลยรึไงว่าทำแบบนี้มันไม่ดีต่อหัวใจกันเลยสักนิด

“เหนื่อยยัง กินสตาร์บัคป่ะ”

“เอาดิ มึงอยากกินไรล่ะควัน”

“คาปูมั้ง มึงล่ะ ชาเขียวปั่นเหมือนเดิม?”

“อืม รู้ใจกูจริง ๆ เลยแหะ”

“ถ้าเป็นเรื่องของมึง ไม่มีอะไรที่กูจำไม่ได้หรอก”

อ่า...โดนไปอีกหนึ่งดอกเน้น ๆ

หลังจากใช้เวลาอยู่ในศูนย์การค้านานเกือบสองชั่วโมง คนทั้งคู่ก็เลือกที่จะไปหอศิลปฯ กันต่อโดยเดินผ่าน Skywalk เพื่อไปยังจุดมุ่งหมาย เมื่อมาถึงหอศิลปฯ แล้วควันก็ฝากของไว้ที่ล็อกเกอร์ แล้วเดินไปพร้อมกับไอติมที่ยืนรออยู่ด้านหลัง

“คิดยังไงถึงพามาเที่ยวที่นี่กันนะ”

ไอติมพึมพำเสียงเบาให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน เพราะไม่อยากรบกวนคนอื่นที่กำลังเดินดูนิทรรศการอยู่

“ซึมซับอารมณ์แอ็บสแตร๊กส์ไง หรือมึงไม่มี?”

“มันก็มีอยู่...แต่บางทีก็อาจจะเข้าไม่ถึง”

ไอติมมองดูรูปภาพชวนงงตรงหน้า ที่ดูอย่างไรก็ตีความไม่ออก ได้แต่เดินเกาหัวแล้วเข้าไปอ่านรายละเอียดของภาพเพื่อจะได้เข้าใจความหมายของภาพที่ศิลปินต้องการจะสื่อ

ควันได้แต่อมยิ้มกับภาพตรงหน้า ไอติมในตอนนี้ราวกับเด็กน้อยที่กำลังเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยรู้มาก่อน คนตัวเล็กเดินดูงานศิลปะพร้อมอ่านคำอธิบายทุกภาพอย่างตั้งใจ รู้ตัวอีกที ควันก็ไม่ได้สนใจในงานศิลปะตรงหน้าเสียแล้ว

เพราะสายตาของเขาในตอนนี้มันตรึงอยู่แค่คนตัวเล็กตรงหน้าเท่านั้น...

“ควัน”

“...”

“ควัน!”

“ห๊ะ ว่าอะไร”

“เรียกตั้งนานแล้วก็ไม่หัน ใจลอยไปถึงไหนแล้วเนี่ย”

“ก็ใจลอยไปถึงมึงนั้นแหละ”

“พอเลย หยอดเก่งเกินไปแล้วนะ”

“แล้วชอบมั้ยล่ะ”

“ไม่บอกเว้ย”

ไอติมพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติอีกครั้ง วันนี้ทั้งวันหัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะไปเสียหมด ต้องโทษควันเลยที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้

“ไม่แกล้งล่ะ แล้วมีอะไรวะ”

“จะถามว่าเราจะกลับกันตอนไหน”

“อยากกลับแล้วเหรอ”

“เปล่า ก็แค่ถามเฉย ๆ”

“เรากลับกันตอนนี้ก็ได้ กว่าจะเดินทางอีกก็เป็นชั่วโมง”

และแล้วทริปในวันนี้ก็จบลง ควันเดินไปเอาของที่ล็อกเกอร์ แล้วทั้งคู่ก็พากันเดินขึ้น BTS เพื่อไปยังสถานีเดิม กว่าจะมาถึงคอนโดของไอติมได้ก็สามทุ่มพอดิบพอดี

“ขบคุณนะสำหรับวันนี้” ไอติมอมยิ้ม ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความสุขจากสิ่งที่ได้รับในวันนี้

“ขอแค่มึงชอบ กูก็ดีใจแล้ว”

“ชอบมาก ๆ ขอบคุณที่พากูไปเที่ยว...”

“...”

“ไว้วันหลังเราไปด้วยกันอีกนะ”

แค่ได้ยินประโยคนั้นของไอติม ควันก็แทบจะเก็บรอยยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ ความพยายามและความดันทุรังของเขามันไม่เสียเปล่าจริง ๆ แค่ไอติมชอบในสิ่งที่เขาทำให้มันก็ดีมากแล้ว

“ขึ้นห้องได้แล้ว กูก็ต้องกลับแล้วเหมือนกัน”

“อืม ไปแล้ว พรุ่งนี้เจอกันใหม่”

“ครับ ฝันดีนะ”

“มึงก็...ฝันดีเหมือนกัน”

ไอติมโบกมือหยอย ๆ ให้ควันจนกระทั่งรถยนต์คันสวยเคลื่อนผ่านไป ใบหน้าเนียนยังคงเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม แล้วหอบเอาถุงเสื้อผ้าที่พึ่งซื้อมาใหม่ขึ้นห้องอย่างสบายอารมณ์

นานแล้วที่ไอติมไม่ได้รู้สึกมีความสุขแบบที่ไม่ต้องกังวลอะไรอย่างนี้ ไม่ได้รู้สึกสบายใจเพียงเพราะอยู่ใกล้กับใครคนหนึ่ง ไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตของเขามีสีสันมากขนาดนี้

เป็นครั้งแรกที่ไอติมรู้สึกว่าโลกสีเทาของเขามันสดใสมากขึ้นกว่าทุกครั้ง

การที่เปิดใจรับใครสักคนหนึ่ง มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น


 Rrrrrrrrrrrrr


คิดอะไรเพลิน ๆ อยู่เพียงคนเดียว เสียงร้องของโทรศัพท์ก็กระชากความคิดจมจ่อมของไอติมออกมาสู่โลกของความจริง เมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ ไอติมก็ไม่ลังเลที่จะรับเลย

“สวัสดีครับ...อะไรดลใจให้พี่ชายสุดที่รักโทรมาหากันน๊า”

[พึ่งออกเวรครับน้องรัก ไม่คิดถึงพี่ชายคนนี้เลยรึไง]

“คิดถึงสิครับ อยากเจอพี่ไอซ์จังเลย”

[มาหาพี่ที่เชียงรายสิ อากาศช่วงนี้กำลังดีด้วย]

“เดี๋ยวปิดเทอมแล้วจะไปอยู่ด้วยสักเดือนดีมั้ย”

[มาเลย พร้อมต้อนรับน้องชายเสมอ]

“เตรียมตัวเอาไว้เลย ผมไปถล่มถึงเชียงรายแน่”

[จะรอแล้วกัน...ว่าแต่ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ พี่ไม่ค่อยมีเวลาโทรมาหาเลย]

“ก็โอเคครับ ช่วงแรกก็เหงานิดหน่อย แต่ตอนนี้ไม่เหงาแล้วครับ ผมมีเพื่อนเยอะแยะเลยนะ นี่ก็พึ่งไปเที่ยวกับเพื่อนมา”

[ได้ยินอย่างนี้พี่ก็ดีใจ ถ้ามีอะไรอยากปรึกษาก็โทรมาหาได้เสมอ ยังไงพี่ก็เคยผ่านจุดนั้นมาก่อน เข้าใจมั้ย อย่าเก็บเรื่องต่าง ๆ เอาไว้กับตัวเองคนเดียว มีอะไรไม่สบายใจ อย่าลืมว่ายังมีพี่อยู่ตรงนี้]

พอได้ยินอย่างนั้น ไอติมก็เผลอกัดปากตัวเองอย่างลืมตัว...ราวกับพี่ไอซ์กำลังใจอ่านเขาอยู่แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ตรงหน้า สมแล้วที่เป็นพี่แท้ ๆ ของเขา เพียงแค่ได้คุยด้วยก็รู้แล้วว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไรอยู่

“พี่ไอซ์...งั้นผมขอปรึกษาสักเรื่องได้มั้ย”

[มีอะไรจะเล่าให้พี่ฟังล่ะเจ้าตัวเล็ก]

“ผม...ผมไม่แน่ใจว่าผมควรจะพูดดีมั้ย”

[พี่มีเวลารอฟังไอติมทั้งคืนเลย]

“ผมกำลังไม่แน่ใจว่าตอนนี้ผมกำลังรู้สึกยังไงอยู่...ผมแอบชอบคน ๆ นึง...ชอบมานานแล้ว และไม่เคยคิดว่าจะเปลี่ยนใจไปง่าย ๆ...แต่แล้ววันหนึ่ง คนอีกคนก็เข้ามาบอกว่าชอบผม เขาทำให้ผมรู้สึกดี ทำให้ผมรู้สึกมีค่า...แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าผมสมควรจะได้รับความรักเหล่านั้นมั้ย”

[ทำไมล่ะ]

“ผมไม่รู้...ตอนนี้ผมสับสนไปหมดเลย ถ้าจะให้ผมตัดใจจากคนที่ผมชอบมันก็ยาก แต่กับอีกคนผมก็ไม่อยากเสียเขาไป”

[น้องเราทำไมฮอตจัง...สมัยพี่เรียนอยู่ไม่เห็นจะมีใครมาจีบเลย]

“พี่ไอซ์! ไหนบอกว่าจะเป็นที่ปรึกษาให้ไง” ไอติมแหวเสียงหลง อุตส่าห์จริงจังแล้ว แต่น้ำเสียงปลายสายยังคงแซวเขาไม่เลิก คิดผิดหรือคิดถูกก็ไม่รู้ที่ปรึกษาเรื่องนี้กับพี่ไอซ์เนี่ย

[ไม่แกล้งล่ะ...พี่ไอซ์คลับฟรายเดย์จะให้คำปรึกษาแล้วน๊า]

“ผมก็รอฟังอยู่เนี่ย”

[พี่ว่าไอติมควรลองเปิดใจดูนะ]

“หมายความว่าไงครับ”

[จากที่พี่ฟังมา ไอติมเหมือนยังไม่กล้าที่จะยอมรับอีกคน ทั้ง ๆ ที่เขาก็ทำให้ไอติมรู้สึกดี แล้วไอติมก็เอาแต่ไปสนใจคนที่ไอติมชอบ แล้วพี่ถามหน่อยว่าคน ๆ นั้น ได้ทำอะไรให้ไอติมรู้สึกดีบ้างรึเปล่า...]

“...” ไอติมไม่ได้ตอบ แต่เขารู้แน่ชัดว่าพี่กรไม่เคยให้ความหวังเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

[...อย่าไปกลัว อย่าคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับความรักเหล่านั้น เราลองดูก่อนก็ไม่ได้เสียหายนี่นา...ถ้าน้องชายของพี่ตัดสินใจเลือกทางที่ถูก น้องชายของพี่ก็จะมีความสุข แต่ถ้าไอติมเลือกทางเดินผิดไป ก็แค่ถอยหลังกลับมา อย่าลืมว่าด้านหลังยังมีพี่ ยังมีครอบครัวของเราคอยรอกอดปลอบอยู่ตรงนี้เสมอ]

“พี่ไอซ์ว่าผมควรจะเลือกเดินทางไหนดีครับ”

[เรื่องอย่างนี้พี่ตัดสินใจแทนไอติมไม่ได้หรอก เพราะพี่ไม่ได้อยู่ตรงนั้นกับไอติม ไม่ได้รู้จักว่าคนที่ไอติมชอบและคนที่ชอบไอติมเป็นใคร]

“...”

[พี่อยากให้ไอติมลองคิดดี ๆ ถามหัวใจตัวเองดูไอติมจะรู้คำตอบเองนั้นแหละ]

“ผม...ผมคิดว่าผมพอมีคำตอบแล้ว”

[อ่าฮะ...ถ้ามันทำให้น้องชายพี่มีความสุขก็ทำไปเถอะ ถ้าไม่ลองเสี่ยงดู แล้วเราจะรู้จักกับคำว่ารักได้ไงล่ะ จริงมั้ย]

ใช่ ไอติมควรต้องเสี่ยงดู ไม่ว่าทางที่เขาจะเลือกหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เขาก็อยากจะลองเดินไปให้สุดทางดู ถึงปลายทางมันจะดีหรือร้ายยังไง เขาก็ควรจะลองกล้าเผชิญกับมันดูสักครั้ง


-----------------------------


ช็อคมากที่มาเช็คดูแล้วพบว่าตอนนี้กับตอนที่แล้วห่างกัน1เดือนพอดี :sad4:
นักอ่านคงหายไปหมดแล้วแน่เลยฮืออออออออออ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ควันมีหวังแล้วเว้ยเฮ้ย

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Dearbliss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
บทที่ 18
ความในใจจากเพื่อนสนิท


[วันนี้จะไปหาตอนค่ำ ๆ หน่อยนะ]

“รู้แล้ว เมื่อวานก็บอกแล้ว ย้ำเก่งจัง”

[ก็กลัวว่าจะลืมไง ไม่ต้องกลัวว่าจะหนีไปเถลไถลที่ไหน สัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือสามัญ]

“รู้แล้วเหอะว่าจะกลับบ้านน่ะ จะไปเถลไถลตรงไหนกัน”

[ไว้คราวหน้าจะพามึงไปด้วย ไปเล่นกับไอ้เปี๊ยก ไปหาพ่อกับแม่]

“อือ”

[คิดถึงนะ]

“ไม่ได้เจอกัน 12 ชั่วโมงก็คิดถึงแล้วเหรอ”

[ใช่ คิดถึงมากกกกกกกกกกกกกก]

“พอเลย กลับบ้านไปได้แล้วไป แค่นี้แหละนะ”

พูดจบก็กดวางสายโดยไม่ยอมรอฟังเสียงโวยวายจากคนปลายสายทันที พอเงยหน้าขึ้นมองกระจกตรงหน้า ไอติมก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย คนตรงหน้าเขานี่กำลังมีความสุขขนาดไหนกันนะ…

ตั้งแต่ยอมรับกับใจตัวเองว่าจะยอมเปิดใจให้ควันดูสักครั้ง เขาก็พบว่ามันไม่ได้แย่เลย ตรงกันข้ามทุกอย่างกลับดีมาก ๆ เพียงแค่ละสายตาที่เอาแต่มองหาคนอื่นกลับมามองคนข้างกาย ไอติมก็พบว่าสิ่งที่ดีที่สุดมันก็อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง

วันนี้เป็นวันหยุด ควันบอกตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าวันนี้เจ้าตัวจะกลับบ้านพร้อมกับหมอก นั้นทำให้วันนี้ไอติมไม่มีเจ้าตัววุ่นวายอยู่ด้วยเหมือนทุกวัน และประจวบเหมาะกับที่รุ่นพี่ที่(เคย)แอบปลื้มทักมาชวนไปกินขนมหวาน ดังนั้นไอติมจึงตอบตกลงไปอย่างเต็มใจ

ไอติมเลือกที่จะปฏิเสธพี่กรที่บอกว่าจะมารับถึงคอนโด และใช้รถตัวเองบ้างสักครั้งหลังจากที่มีสารถีขับให้นั่งเป็นประจำ แต่วันนี้สารถีกลับบ้าน เขาเลยต้องขับรถเองบ้างแล้ว

เมื่อมาถึงที่ร้านขนมซึ่งนัดกับพี่กรเอาไว้ เพียงแค่มองเข้าไปในร้านก็เห็นรุ่นพี่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว ไอติมจึงเดินเข้าไปหาพร้อมกับยกมือไหว้อย่างสุภาพ

“สวัสดีครับพี่กร มานานรึยังเนี่ย”

“พี่ก็พึ่งมาถึงเหมือนกัน นั่งก่อนสิ”

“ครับ...แล้วพี่แจนไม่มาด้วยเหรอครับ”

“แจนไปออกค่ายกับชมรม...จะกินอะไรดี พี่ให้ไอติมเลือกเลย” พูดแล้วก็ส่งเมนูมาให้ไอติมเลือกแทน ดวงตากลมกวาดตามองเมนูแล้วก็สั่งของหวานมาสองอย่างก่อนจะส่งคืนพนักงานไป

“แล้วพี่กรมีอะไรอยากจะคุยกับผมเหรอ ถึงได้ชวนออกมาอย่างนี้อ่ะครับ”

“ก็เลี้ยงแทนที่เราไม่ได้ไปเที่ยวทะเลกันไง ความจริงก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอก วันนี้ว่างพอดีหลังจากที่สอบเสร็จไปเมื่อวานเลยชวนออกมาหาอะไรอร่อย ๆ ทานด้วยกัน แล้วไอติมล่ะช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง”

“ผมเหรอ...ก็ดีครับ หลังจากผ่านช่วงประกวดมาผมก็มีเวลามากขึ้น ตอนนี้ก็อ่านหนังสือไล่ตามเพื่อนจนทันแล้ว ดีที่มีควันช่วยติวให้ผมอีกแรง ไม่งั้นผมคงแย่แน่ ๆ”

“ดีแล้วแหละ ถ้ามีอะไรก็ปรึกษาพี่ได้เสมอเลยนะ”

“ได้เลยครับ” ไอติมอมยิ้มเพียงเล็กน้อย แล้วก็หันไปรับของหวานที่พนักงานเอามาเสิร์ฟ เมื่อทั้งโต๊ะเหลือเพียงแค่เขากับพี่กรอีกครั้ง ดวงตากลม ๆ นั้นก็แอบเหลือบมองกรที่กำลังโฟกัสกับจานขนมตรงหน้า แล้วพยายามเรียบเรียงความคิดในหัวอีกสักนิด

“ไอติม”

“ครับ”

“พี่ถามอะไรหน่อยดิ”

ไอติมกระพริบตาปริบ ๆ อยู่สองที แล้วจึงพยักหน้าอนุญาตให้พี่กรถามเขาได้

“ตอนนี้ความรู้สึกไอติมยังเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า”

ไอติมแอบตกใจไม่ได้กับคำถามที่พี่กรโพล่งออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ก็เพราะว่าเรื่องที่ไอติมกำลังคิดไม่ตกอยู่ในตอนนี้ก็คือเรื่องเดียวกันกับที่พี่กรกำลังถาม

“ผม...ไม่รู้สิ...เอาตรง ๆ เลยนะ ผมก็ไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกของผมมันเปลี่ยนไปรึยัง แต่ตอนนี้ผมก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองเพื่อพี่อีกแล้ว เมื่อก่อนผมอาจจะยังรอ เพราะผมหวังว่าสักวันพี่อาจจะรักผมกลับบ้าง แต่ผ่านมานานถึงสองปี พี่กับพี่แจนก็ยังรักกันดี แล้วผมจะยังขังตัวเองไว้กับความรู้สึกในอดีตทำไม ผมก็ควรที่จะมูฟออนได้แล้ว”

“ได้ยินอย่างนี้พี่ก็โล่งใจ”

“...”

“หลังจากนี้ไอติมจะสนิทใจกับพี่ชายคนนี้แล้วใช่มั้ย”

“ครับ แล้วพี่กรอยากมีน้องชายอย่างผมมั้ยล่ะ”

“อยากมีสิ ไม่งั้นจะพามาเลี้ยงขนมอย่างนี้เหรอ...ว่าแต่อยากรู้จังว่าใครที่สามารถพิชิตใจไอติมได้นะ ว่าง ๆ ก็พามาให้พี่รู้จักบ้างสิ...หรือบางทีพี่อาจจะรู้จักอยู่แล้ว”

เสียงที่แฝงไปด้วยเลศนัยพร้อมกับดวงตาเป็นประกายของกรนั้น ไอติมรู้ว่าโกหกหรือเฉไฉไปก็คงไม่มีประโยชน์ ก็คงต้องยอมรับตอนนี้แหละว่าคน ๆ นั้นคือใคร

“พี่กรก็คงจะมีคำตอบในใจแล้วใช่มั้ยล่ะว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร ยังต้องให้ผมมาแนะนำอีกเหรอ”

“ก็รู้จักในฐานะน้องในคณะคนหนึ่ง ก็อยากรู้จักในฐานะแฟนของไอติมด้วยนี่นา”

“ยังไม่ได้เป็นแฟนเลยเหอะ”

“ถ้างั้นเป็นแฟนแล้วอย่าลืมพามาแนะนำตัวด้วยแล้วกัน ไม่งั้นโกรธแน่”

“คร๊าบบบบ สัญญาว่าจะพามาแนะนำเร็ว ๆ นี้แหละ ตอนนี้รีบกินบิงซูก่อนเลย ละลายหมดแล้วเนี่ยเห็นมั้ย”



*



พอได้พูดเปิดอกกับพี่กรครั้งแรก ไอติมก็รู้สึกราวกับยกภูเขาออกจากอก เหมือนกับว่าบ่วงที่รัดคออยู่นั้นมันคลายออกไปจนไอติมไม่ต้องกังวลอะไรอีกต่อไปแล้ว

“คิดอะไรอยู่หืม เห็นนั่งนิ่งมานานแล้วนะ”

เสียงทุ้มเรียกสติของเขาให้กลับมาสู่ความจริง ไอติมมองหน้าควันที่หลังจากกลับมาจากบ้านก็มาหาเขาทันทีในเวลาสี่ทุ่มครึ่ง เชื่อเขาเลย

“ก็แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ ไปเดินเล่นกันดีมั้ย”

“เดินเล่น? ตอนหกทุ่มเนี่ยนะ?”

“ไม่อยากเดินเล่นก็ตามใจ งั้นนอนแล้วนะ ง่วงแล้ว” พูดจบไอติมก็เดินไปหาเตียงนุ่ม ๆ ทันที แต่ก็ช้ากว่าควันที่จับแขนขาวไว้ได้ทัน แล้วดึงให้คนตัวเล็กกว่ามานั่งข้างกันเหมือนเดิม

“พูดเล่นเหอะ ไปเดินเล่นก็ไปดิ ดีเหมือนกัน ตอนนี้เริ่มหิวล่ะ ไปซื้อโจ๊กกินกันเถอะ”

หลังจากตกลงกันได้ ตอนนี้ทั้งสองคนก็มาหยุดอยู่ร้านโจ๊กหน้าปากซอย ที่ในเวลาดึกดื่นขนาดนี้ลูกค้าแถบรั้วมหาวิทยาลัยก็ยังคงกินอาหารมื้อดึกกันอยู่จนเต็มแทบทุกโต๊ะ

“เหมือนเดิมใช่มั้ย” เสียงทุ้มหันมาถาม ไอติมถึงพยักหน้าเออออตอบไป

“ป้าครับ เอาโจ๊กหมูเด้งพิเศษหนึ่ง แล้วก็โจ๊กหมูเด้งใส่ไข่ไม่ใส่ขิงอีกหนึ่งถ้วยนะป้า”

ไอติมมองควันที่สั่งเมนูโจ๊กของเขาได้อย่างแม่นยำแล้วก็ฉุกคิดในใจได้อีกครั้ง บนโลกใบนี้จะมีใครที่ใส่ใจเขาได้มากขนาดนี้อีกรึเปล่านะ ทำไมต้องทำดีมากขนาดนี้กันด้วย

ไอติมมองถ้วยโจ๊กหมูเด้งใส่ไข่ไม่ใส่ขิงตรงหน้าแล้วก็แอบอมยิ้มอยู่คนเดียวเงียบ ๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ควันจำสิ่งที่เขาชอบได้ ของหวาน น้ำปั่น กาแฟ หรือแม้แต่รหัสนักศึกษาของเขาควันก็ยังจำได้

“ควัน”

“ว่า?”

“มีเรื่องของกูที่มึงยังไม่รู้อีกมั้ยวะ ทำไมมึงจำของที่กูชอบได้ดีจัง”

“แล้วทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ เรื่องแค่นี้เอง” พูดพลางเทน้ำใบเตยต้มใส่แก้วตรงหน้าของไอติมให้ด้วย คนตัวเล็กกว่ามองการกระทำเหล่านั้นเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไรอีกจนกระทั่งพวกเขากินโจ๊กด้วยกันจนหมด

“ควัน เดินเล่นกันก่อนดีมั้ย ยังไม่อยากกลับห้องเลย”

“เอาสิ เดินย่อยสักหน่อยก็คงดี” ควันไม่ได้ปฏิเสธ อีกทั้งฝ่ามือหนายังคว้ามือบางมากุมไว้ น่าแปลกที่ครั้งนี้ไอติมตอบสนองเขาแตกต่างกว่าทุกครั้ง ครั้งนี้ฝ่ามือนั้นมันบีบเขาเบา ๆ แล้วดึงให้คนตัวสูงกว่าเข้ามาใกล้กันอีกนิด

“อ้อนกันอย่างนี้ คืนนี้ไม่อยากนอนรึไง”

“อ้อนตรงไหน พูดอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย”

“ก็อ้อนตรงนี้แหละ เดี๋ยวจับกดเข้าพุ่มไม้ข้างทางเลยดีมั้ย” ควันแกล้งเหย้าแหย่คนตัวเล็ก ไอติมหลุดขำกับความคิดประหลาด ๆ นั้นของควัน ใบหน้าน่ารักเงยหน้าสบตากับคนตัวสูงกว่าแล้วยิ้มแป้น

“กูรู้ว่ามึงไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก”

“อย่าท้าเสือนะน้อง พี่ขอเตือนไว้ก่อน”

“น่ากลัวจังเลย...อื้อ!”

พูดไม่ได้ทันขาดคำ ริมฝีปากบางก็ถูกโฉบเฉี่ยวความหวานหอมไปอย่างรวดเร็ว ดีที่ตรงนี้มันไม่มีคนพลุกพล่าน ไอติมเลยแน่ใจว่าคงไม่มีใครเห็นว่าเมื่อครู่นี้ควันแอบขโมยจูบเขา

“อย่าไปทำหน้าแบบนี้กับใครอีกนะ ไม่งั้นเขาฉุดมึงแน่”

“...”

“แม่งโคตรน่ารักเลย กูยังแทบจะทนไม่ไหวเลยไอ้เชี่ยติม ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้กำลังจีบมึงอยู่ กูลากมึงเข้าพุ่มไม้แน่นอน”

โอเค ตอนนี้ไอติมคิดว่าเขาคงกำลังจะระเบิดแล้วล่ะ

สาม

สอง

หนึ่ง

ตู้ม!!!




.

.


เพราะไอ้คำเสี่ยว ๆ ของควันที่ทำให้เอาไอติมมึนงงจนถูกควันพากลับมาที่คอนโดได้สำเร็จ สิ่งที่คิดว่าจะพูดออกไปสุดท้ายไอติมก็ไม่ได้พูดมันออกมาเสียที

“ปิดไฟแล้วนะ”

“อือ”

เมื่อไฟในห้องปิดลง พื้นที่ข้างกายอ่อนยวบลงเมื่อมีใครอีกคนที่ล้มตัวลงนอนอยู่เคียงข้างกัน คนตัวเล็กหันหน้าเข้าหาอกแกร่ง และอ้อมกอดอบอุ่นก็โอบล้อมเขาเอาไว้อย่างเช่นทุกคืนที่ผ่านมา

“ฝันดีนะครับ”

เสียงทุ้มกระซิบแผ่วเบากล่อมให้เขาเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่เขามีความสุขมากจริง ๆ แค่มีควันอยู่ข้างกายแบบนี้ เขาก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีกต่อไปแล้ว ก่อนที่สติจะหลุดลอยออกไป ริมฝีปากบางก็พึมพำเบา ๆ หวังว่าคนที่กอดเขาเอาไว้จะได้ยิน

“ฝันดีเหมือนกันนะ”


*


ติ้ง

ติ้ง

ติ้ง

ไอติมละสายตาจากหน้าจอบนโปรเจคเตอร์ ชำเลืองมองโทรศัพท์ตัวเองที่ร้องเบา ๆ อยู่ในกระเป๋าเป้ เขาลืมปิดเสียงโทรศัพท์ในขณะเข้าเรียนเลคเชอร์ แต่โชคดีที่เสียงข้อความมันไม่ได้ดังมากพอที่จะรบกวนเพื่อน ๆ ที่กำลังตั้งใจเรียนกันอยู่ ไอติมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความแชทจากเพื่อนต่างคณะคนนี้

Punnawit thanawatchai : ไอติม ว่างรึเปล่าอ่ะ

Punnawit thanawatchai : พอดีว่ามีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือหน่อย

Punnawit thanawatchai : ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ

ปุณณวิช ธนาวัฒน์ชัย...หรือบลู เดือนคณะวิทยาศาสตร์ แฟนของหมอกซึ่งเป็นฝาแฝดของควันที่พึ่งเปิดตัวโครม ๆ กันในโซเชี่ยลเมื่อไม่นานมานี้ทักเขามาทำไมกันนะ ถึงจะสงสัย แต่เอาไว้เลิกคลาสแล้วค่อยถามคงจะไม่สาย

I-tim wattanawutsakul : เราเรียนอยู่อ่ะ เดี๋ยวเลิกแล้วจะทักไปนะ

หลังจากเลิกเรียนไอติมก็รีบทักไปหาบลูทันที เมื่อรู้ว่าบลูอยากจะขอความช่วยเหลือจากควันเพราะว่าเจ้าตัวอยากจะเซอร์ไพร์สวันเกิดของหมอกในวันศุกร์นี้ พอรู้อย่างนั้นไอติมก็นึกได้ว่าวันนั้นมันก็ต้องเป็นวันเกิดของควันด้วย แต่ไอ้คนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงหน้าเขากลับไม่ได้มีท่าทีตื่นเต้นอะไรเลย ทั้ง ๆ ที่ก็ใกล้จะถึงวันเกิดตัวเองแล้ว

“เดี๋ยวบลูจะมาหานะ”

ควันเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือที่จะสอบในวันศุกร์นี้ขึ้นมามองคนที่อยู่ตรงข้าม นึกอยู่ไม่นานว่าบุคคลที่จะมาหาคือใคร จึงถามไอติมกลับไปอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“หืม? บลู...แฟนไอ้หมอกน่ะนะ”

“อืม เดี๋ยวออกไปรับบลูก่อน ตอนนี้รออยู่ที่หน้าคณะ”

พูดเสร็จคนตัวเล็กก็เดินออกมาจากห้องสมุดที่มานั่งหลบแดดอ่านหนังสือกับควันเพียงสองคน เมื่อมาถึงที่หน้าคณะแพทยศาสตร์ก็เห็นคนน่ารักยืนจ้องป้ายคณะไม่หยุด ตากลมโตรับกับผิวขาวที่มันเจือสีแดงนิดหน่อยเพราะอากาศร้อนทำให้เดือนคณะวิทยาศาสตร์เปล่งประกายได้ไม่ยากเลย

“มานานรึยัง” ไอติมเป็นฝ่ายทักก่อน เมื่อเห็นเขาแล้วบลูก็เบิกตาอย่างตื่นเต้นเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับไป

“ไม่นานหรอก พึ่งมาถึงน่ะ”

“แดดแรงเนอะ ดูสิหน้าแดงหมดแล้ว” อดแซวไม่ได้ เพราะผิวขาวใสนั้นมันแดงปลั่งจนน่ารักไปหมด ไอติมจึงรีบพาบลูเข้ามาด้านในตึกเพื่อหลบไอความร้อนจากแสงพระอาทิตย์ก่อนที่ผิวขาว ๆ นั่นจะคล้ำไปเสียก่อน พอเข้ามาในห้องสมุดแล้วพามาถึงโต๊ะของพวกเขาแล้ว ควันจึงเงยหน้าขึ้นมาทักบลูที่ยังเกร็งไม่เลิก

“ว่าไงบลู ไม่ได้เจอกันนานเลย ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่กัน”

ควันยิ้มเล็ก ๆ ให้กับบลู เมื่อเห็นท่าทางเงอะงะของบลูแล้ว ไอติมจึงดึงให้บลูนั่งข้าง ๆ ตนเอง

“บลูบอกว่าวันศุกร์นี้เป็นวันเกิดหมอก” ไอติมตอบแทนบลูที่ยังไม่กล้าพูดกับควันสักเท่าไร

“วันศุกร์นี้เหรอ...อ้อ! ใช่ ๆ เกือบลืมไปเลยว่าจะถึงวันเกิดแล้วนี่หว่า”

“เหอะ วันเกิดตัวเองยังลืม คุยกันเองแล้วกันว่าจะทำอะไร”  ไอติมนึกทึ่งจริง ๆ ไม่คิดว่าควันก็จะลืมวันเกิดตัวเองเหมือนกัน ได้แต่ส่ายหัวอย่างระอา แล้วปล่อยให้บลูได้คุยกับควันตามที่ขอ ส่วนเขาก็จะขอนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ ไปแล้วกัน

สุดท้ายจากที่คิดว่าจะขอนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ ไอติมก็ตั้งใจฟังตาแป๋ว แถมยังเสนอไอเดียเพื่อเซอร์ไพร์สฝาแฝดของควันร่วมด้วย จนอาสาจะช่วยบลูในวันที่จะเซอร์ไพร์สหมอกอีกด้วย

หลังจากที่บลูกลับไป ไอติมและควันก็ยังนั่งอ่านหนังสือกันจนพระอาทิตย์คล้อย ถึงได้ออกมาจากห้องสมุดด้วยกัน

“แล้ววันศุกร์นี้ก็วันเกิดมึงด้วยนี่นา จะเลี้ยงอะไรเพื่อนล่ะ”

ไอติมถามขึ้นมาในขณะที่รออาหารตามสั่ง ควันที่กำลังเล่นเกมในโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นมองไอติมแล้วกดปิดโทรศัพท์ของตัวเองลง

“อยากกินอะไรล่ะ เนื้อย่างเหรอ หรือจะไปกินเหล้า...ไม่รู้ดิ ไม่ค่อยสนใจวันเกิดตัวเองเท่าไรว่ะ มันก็แค่วันวันหนึ่งเท่านั้นแหละ”

“แสดงว่ามึงไม่เคยตื่นเต้นกับวันเกิดตัวเองเลยงั้นเหรอ”

“อืม...ไม่รู้แหะ ที่บ้านก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรอยู่แล้ว ก็แค่มานั่งกินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาแค่นั้น กูกับหมอกเลยไม่เคยตื่นเต้นกับวันเกิดตัวเองเลย”

.

.

คำพูดของควันยังคงตกค้างอยู่ในใจของไอติมจนถึงตอนนี้ คนบ้าอะไรไม่สนใจวันเกิดตัวเองเลยสักนิด ต่างจากเขาที่พอรู้ว่าอีกไม่กี่วันจะถึงวันเกิดของควันแล้ว กลับตื่นเต้นแทนจนต้องมาเปิดเว็บต่าง ๆ เพื่อหาไอเดียทำของขวัญให้ควันเสียอย่างนั้น

Rrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ร้องดังขึ้น ดึงไอติมให้หลุดจากภวังค์ เมื่อมองชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอในเวลานี้ ไอติมก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะรับสาย

“ว่าไงพีช”

[ไอติม ทำไรอยู่วะ]

“ก็นอนเล่นอยู่ที่ห้องอ่ะ มีอะไรเหรอ”

[กูมีเรื่องอยากปรึกษาว่ะ คุยกับมึงตอนนี้ได้มั้ย] เสียงจากปลายสายนั้นติดจะตื่นเต้นจนไอติมจับสังเกตได้

“คุยได้ดิ ว่ามาเลย”

[คืองี้...เรื่องนี้กูยังไม่ได้คุยกับใคร มึงเป็นคนแรกเลยที่กูคุยด้วย เพราะคิดว่ามึงน่าไว้ใจที่สุด และคงให้คำปรึกษากูได้ดีที่สุด]

“อ่าฮะ รอฟังอยู่”

[คือ...]

“...”

[กูแอบชอบเพื่อนว่ะ]

“เพื่อน?”

[อย่ารังเกียจกูนะ ถ้ากูจะบอกว่ากูชอบเพื่อนสนิทตัวเอง]

“เห้ย! อย่าบอกนะว่ามึงชอบไอ้วินทร์” ไอติมถามอย่างตกใจ แต่คำตอบในประโยคถัดมาของพีชกลับทำเอาไอติมรู้สึกว่าโลกมันหยุดหมุนไปดื้อ ๆ

[เปล่า กูไม่ได้ชอบไอ้วินทร์]

“หมายความว่า...”

[กูชอบควัน]

“มึง..ชอบควัน?”

ไอติมไม่แน่ใจนักว่าเสียงตอนนี้ของเขาเป็นยังไง แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองในสิ่งที่พีชกำลังบอกให้เขารับรู้

[ใช่ ตั้งแต่ที่มันช่วยกูตอนที่โดนรถชน กูคิดว่าความรู้สึกของกูมันแน่ชัดทุกวัน จนกูมั่นใจแล้วจริง ๆ ว่ากูชอบมัน...ชอบแบบที่คน ๆ หนึ่งจะมีความรู้สึกดี ๆ ให้ใครอีกคนหนึ่ง]

“งะ...งั้นเหรอ...”

[ที่กูตัดสินใจบอกมึงเพราะกูเห็นว่ามึงสนิทกับควันที่สุดแล้วในกลุ่มเรา กูอยากให้มึงช่วยกูหน่อยได้มั้ยวะ]

“จะให้ช่วยอะไรล่ะ เรื่องของตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย” ประโยคสุดท้ายนั้นเบาเสียจนอีกฝั่งสายฟังไม่ได้ศัพท์

[ก็ช่วยกูจีบไอ้ควันไง วันศุกร์นี้เป็นวันเกิดมันกูแอบเห็นมาจากบัตรประชาชนของมัน เริ่มจากเราไปซื้อของขวัญให้มันด้วยกันดีมั้ย”

“เอาที่มึงว่าดีนั้นแหละ” ไอติมไม่รู้ว่าเขาจะต้องตอบอะไร จึงทำได้แค่เออออไปเท่านั้น

[แสดงว่ามึงสนใจจะช่วยกูแล้วใช่มั้ย ดีมากเพื่อนรักกกกกกก]

“จะพยายามช่วยเท่าที่ทำได้แล้วกัน มีอะไรอีกรึเปล่า...กูว่าจะอ่านหนังสือสักหน่อย” ยิ่งพูด ไอติมยิ่งรู้ว่าเสียงของเขากำลังสั่น ตัดจบไปเสียตั้งแต่ตอนนี้คงจะดีก่อนที่เขาจะไม่ไหวจริง ๆ

[ไม่มีแล้ว งั้นพรุ่งนี้หลังเลิกเรียนเราไปเลือกของขวัญให้ควันด้วยกัน โอเค๊?]

“อืม แค่นี้นะ”

ไอติมวางสายลงพร้อมกับความรู้สึกที่แปลกไป ดวงตากลมมองหน้าจอแมคบุ๊กที่ยังคงปรากฏภาพไอเดียของขวัญต่าง ๆ ตรงหน้า จู่ ๆ ก็รู้สึกหายใจไม่ออก ขอบตาที่ไร้น้ำตามานานกลับร้อนผ่าวจนน้ำใส ๆ กลิ้งตกจากหางตา...

ราวกับแสงสว่างที่ปลายทางนั้นจางหายไป และไอติมก็หลงทางอยู่ในความมืดอีกครั้ง ถ้าเขาก้าวเท้าผิดไปเพียงก้าวเดียว เขาอาจจะพลาดท่าตกเหวลึกเลยก็ได้...เขาไม่รู้เลยว่าควรจะต้องเดินหน้าต่อไปอย่างไร

ไอติมไม่รู้อะไรเลย...


-------------------------------------------


เอาแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไอติมกำลังจะชัดเจน พีชมาทำไมตอนนี้คะรู๊กกกกกกก


ตอนนี้คงจะเป็นตอนสุดท้ายของปีนี้เพราะดองเก่งมาก5555
ก็ขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าเลยนะคะ ขอบคุณที่ยังติดตามกัน
นิยายเราอาจจะไม่ได้ดี ยังมีจุดบกพร่องอยู่เยอะ จะพยายามปรับปรุงไปเรื่อยๆ
ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันในปีนี้ และหวังว่าในปีหน้า ปีต่อๆไป จะยังคงอยู่ด้วยกันอย่างนี้
ถ้าไม่มีนักอ่าน ไม่มีคอมเมนต์ เราคงไม่มีกำลังใจในการแต่งนิยายออกมาแน่ๆ
ขอบคุณนักอ่านทุกคนจริงๆค่ะ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า ในปีหน้า
สวัสดีปีใหม่ 2562 ค่ะ <3






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ง่า...พีชช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยนะ  เด๋วตีตายเลย

ออฟไลน์ Dearbliss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
บทที่ 19
ของขวัญวันเกิด


เป็นภาพปกติที่เมื่อเลิกคลาสแล้วทุกคนในห้องจะรีบเก็บของบนโต๊ะและสลายตัวอย่างรวดเร็ว และเป็นปกติของกลุ่มหลังห้องที่เมื่อเก็บของเสร็จแล้วจะออกไปกันเป็นกลุ่ม แต่วันนี้ทุกอย่างกลับดูแปลกไป

“เห้ย พวกมึงจะไปไหนกันวะ ไม่ชวนพวกกูหน่อยเหรอ” วินทร์ตะโกนถามทั้งไอติมและพีชที่เรียนเสร็จแล้วก็รีบเก็บของออกไปกันสองคนหน้าตาเฉย โดยไม่เอ่ยปากชวนเขากับควันเลยแม้แต่น้อย

“ไม่บอกเว้ย กูจะไปกับไอติมแค่สองคน” พีชหันมาตอบกลับ ก่อนจะลากแขนไอติมให้ไปด้วยกัน ทิ้งให้ควันและวินทร์ยืนมองด้วยความสงสัยว่าสองคนนั้นกำลังมีความลับอะไรกันอยู่

“พวกมันสองคนไปกันแล้ว งั้นเราก็แยกย้ายเหอะว่ะ”ควันพูดเสียงเนือย ๆ วันนี้ต้องลุกจากเตียงมาเรียนเพราะมีควิซตอนเช้า ตอนนี้ว่างแล้วก็ขอนอนพักเอาแรงสักหน่อยคงจะดี

“เออ กูนัดสาวไว้พอดี งั้นวันนี้ทางใครทางมันแล้วกัน”



.

.


“ไอติมมึงว่าอันนี้ดีมั้ย...ควันจะชอบรึเปล่า”

“...”

“ไอติม”

“ห๊ะ ว่าไงนะ”

เสียงของพีชดังจนเดือนคณะแพทยศาสตร์สะดุ้ง ไอติมถูกดึงออกมาจากภวังค์อีกครั้งในรอบวันนี้ พีชจึงทวนถามอีกรอบพร้อมกับชูของในมือให้ไอติมดูด้วย

“อันนี้มึงว่าดีมั้ย คิดว่าควันจะชอบรึเปล่า”

ไอติมมองนาฬิกาข้อมือเรือนแพงสองเรือนที่พีชยกขึ้นมาเปรียบเทียบ นิ่งคิดอยู่สักพักก็ส่ายหน้าช้า ๆ

“ไม่แน่ใจว่าจะชอบรึเปล่า แต่เคยเห็นควันใส่แต่นาฬิกาสีดำยี่ห้อโปรดของมันอันเดียว ไม่เคยเปลี่ยนเลย มันคงจะไม่ใช่คนสะสมนาฬิกาพวกนี้หรอก”

“งั้นเหรอ...”

“พีช ความจริงแล้วกู...”

“อย่างพึ่งพูด เราไปดูอย่างอื่นกันก่อนดีกว่า”

พีชจูงแขนไอติมเดินออกจากร้านนาฬิกาทันที ไม่ปล่อยโอกาสให้ไอติมได้พูดอะไรเลย ทั้งสองคนเดินเข้าเดินออกทุกร้านที่คิดว่าสามารถนำมาเป็นของขวัญวันเกิดให้ควันได้ จนมาหยุดอยู่หน้าร้านเครื่องประดับร้านหนึ่ง

“มึงว่าควันจะชอบรึเปล่าถ้ากูจะซื้อหมวกให้”

“ก็ดีมั้ง”

“มั้งอีกล่ะ มีอะไรที่มึงแน่ใจบ้างมั้ยเนี่ยไอติม กูกลัวซื้อของขวัญให้ควันแล้วมันจะไม่ชอบอ่ะ” พีชยู่ปากอย่างเป็นกังวลเมื่อถามอะไรไปไอติมก็ไม่ให้ความชัดเจนเลยสักนิด

“กูว่าถ้ามึงซื้ออะไรให้ มันก็คงจะดีใจหมดนั้นแหละ” ไอติมตบไหล่พีชอย่างให้กำลังใจ แล้วพยายามเลือกหมวกลวดลายต่าง ๆ ตรงหน้าช่วยอีกแรง

“แบบนี้ดีมั้ย สีดำไม่สกปรกง่ายด้วย”

“ไอติม มึงว่าควันมันชอบอะไรที่สุดวะ กูจะได้ซื้อให้เลย”

พอพีชถามอย่างนั้น ไอติมจึงนิ่งคิดอีกสักพัก นั้นสิ...เขารู้อะไรเกี่ยวกับควันบ้างกันนะ ถ้าพีชถามคำถามนี้กับควันว่าไอติมชอบอะไรมากที่สุด ควันอาจจะตอบได้เลยทันที แต่พอเป็นไอติม...เขาก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าควันชอบอะไรบ้าง ช่างเป็นคนที่โง่งมอะไรขนาดนี้กันนะ

“ว่าไงไอติม มึงรู้รึเปล่าว่าควันชอบอะไร”

“กูก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”

“อ่าว”น้ำเสียงของพีชนั้นผิดหวังไม่น้อย ไอติมจึงพยายามคิดอย่างรวดเร็ว แล้วตอบก่อนที่พีชจะงอนในที่สุด

“แต่ว่ากูเคยสังเกตนะ ควันมันชอบฉีดน้ำหอม มึงก็ซื้อน้ำหอมให้มันสิ มันน่าจะชอบนะ”

“เออ จริงด้วย งั้นไปเลือกน้ำหอมกัน”

ไอติมช่วยพีชเลือกกลิ่นน้ำหอมที่คิดว่าควันน่าจะชอบที่สุดจ่ายเงินและห่อของขวัญเรียบร้อยแล้ว พีชจึงชวนทานอาหารเย็นด้วยกันก่อนจะไปส่งไอติมที่คอนโด

“ขอบคุณนะที่มาช่วยเลือกของขวัญด้วย”

“ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง งั้นกูไปก่อนนะ”

“อืม แล้วเจอกันพรุ่งนี้”

ไอติมออกมาจากรถของพีชแล้วยืนส่งจนพีชขับออกไปนอกคอนโด เมื่อเหลือเขาอยู่เพียงคนเดียว ไอติมก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาพยายามหาจังหวะแล้วที่จะบอกความจริงเรื่องของเขาและควัน แต่ก็ไม่มีโอกาสเสียที จึงได้แต่ปลง แล้วหันหลังเดินเข้าคอนโดเงียบ ๆ คนเดียว

เมื่อเปิดประตูห้องตัวเอง ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศก็กระทบหน้าเต็ม ๆ ไอติมวางกระเป๋าตัวเองเสร็จก็เห็นร่างสูงสมส่วนนอนกลางโซฟาอย่างสบายใจ โทรทัศน์ยังคงเปิดเพื่อไม่ให้ห้องนั้นเงียบเกินไป ผ้าห่มผืนบางนั้นกองอยู่ที่ปลายเท้า ไอติมส่ายหัวเบา ๆ กับสภาพที่เห็นแล้วดึงผ้าห่มขึ้นห่มจนถึงอกคนตัวสูง แล้วเก็บเศษซากขนมบนโต๊ะลงถังขยะเงียบ ๆ คนเดียว

“เห้อ นี่ห้องใครกันแน่วะเนี่ย”

บ่นเสียงเบาเงียบ ๆ เพียงคนเดียว หารู้ไม่ว่าคนที่นอนหลับอยู่ตื่นตั้งแต่ที่ไอติมเข้ามาในห้องแล้ว แต่ยังคงแกล้งหลับตาอยู่อย่างนั้น จนได้ยินเสียงพึมพำเบา ๆ นั้นแหละ ท่อนแขนหนาจึงตวัดรวบเอวบางตรงหน้าให้ล้มลงบนตัวเขาทันที

“เฮ้ย! ตกใจหมด”

ไอติมร้องเสียงหลง เมื่อถูกควันรวบกอดเอาไว้ ควันยิ้มบาง ๆ มองแก้มขาวตรงหน้าแล้วอดไม่ได้ที่จะยืดมันเล่นเสียหน่อย

“เมื่อกี้ใครบ่นว่าอะไรนะ”

“ไม่ได้บ่นโว้ย”

“ก็เมื่อกี้ได้ยินอยู่”

“งือออ เจ็บบบ” ไอติมร้องเสียงอ่อยเมื่อถูกคั้นแก้มไม่หยุด สุดท้ายควันก็ยอมปล่อยแก้มนิ่ม มองคนตัวเล็กที่คลานลงจากตัวของเขาแล้วนั่งจุมปุ๊กลงที่พื้น

“ไปไหนกับพีชมาวะ”

“ไม่บอก”

“หัดมีความลับนะ”

“คนเรามันก็ต้องมีความลับกันบ้างสิ” ไอติมบ่ายเบี่ยงและสุดท้ายก็เก็บความลับเอาไว้เพียงคนเดียวอีกครั้ง ควันไม่ได้ถามอะไรอีก เพราะถ้าไอติมคิดจะบอกคงไม่ต้องให้เขาเอ่ยปากถามเองอย่างนี้

“หิวแล้ววะ นอนรอมึงกลับมาโคตรนาน กินไรดีวะ”

“กูกินข้าวกับพีชมาแล้วอ่ะ กินมาม่าคัพแทนได้มั้ย เหมือนจะเหลืออยู่หนึ่งถ้วย”

“ไม่เอา พากูไปกินหน่อยดิ หน้าปากซอยก็ได้”

ควันยังไงก็ยังเป็นควัน คนตัวสูงลุกขึ้นแล้วดึงแขนไอติมให้ลุกขึ้นตาม ไอติมจึงยอมออกมากินข้าวเป็นเพื่อนควัน มองดูคนตัวสูงที่กำลังสั่งเมนูก๋วยเตี๋ยวกับป้าแม่ค้าแล้วก็จำไว้ในใจว่าควันมักจะกิน ‘บะหมี่แห้งเนื้อรวมพิเศษ’

“ควัน มึงลองเดาหน่อยสิว่าถ้ากูจะสั่งก๋วยเตี๋ยวกูจะสั่งเมนูอะไร”

ไอติมลองถามควันดูว่าเมนูคราวนี้ควันจะรู้ใจเขาอีกรึเปล่าว่าไอติมชอบอะไร ดวงตาคมเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์แล้วมองอย่างสงสัยว่าทำไมไอติมถึงมาถามคำถามลองใจอะไรตอนนี้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับเขา

“มึงจะสั่งเส้นเล็กหมูตุ๋นไม่งอกไม่ถั่วพิเศษลูกชิ้น”

“ทำไมถึงรู้ว่ากูจะสั่งอะไร”ไอติมอดแปลกใจไม่ได้ เป็นอีกครั้งที่ควันรู้ในสิ่งที่เขาชอบอีกแล้ว

“ไม่เห็นจะยากเลย มาร้านนี้ทีไรมึงก็สั่งแต่เมนูนี้ตลอด”

ไอติมพยักหน้าหงึกหงัก แล้วแสร้งยกโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นแก้เก้อ ในโทรศัพท์นั้นก็สร้างโน้ตใหม่ขึ้นมาเงียบ ๆ พิมพ์ลงไปอย่างรวดเร็วเพื่อบันทึกสิ่งที่ได้รู้จากควันมาบ้าง

1. ก๋วยเตี๋ยวที่ควันชอบ: บะหมี่แห้งเนื้อรวมพิเศษ

ควันเอาใจใส่เขาถึงขนาดนี้ มันก็ถึงเวลาที่เขาควรจะเอาใจใส่ควันกลับบ้างแล้วเหมือนกัน...

รอหน่อยนะ แล้วสักวันกูจะใส่ใจมึงให้ได้มากเท่าที่มึงใส่ใจกูเลย



*



พรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดของควันแล้ว และวันพรุ่งนี้นั้นก็เป็นวันที่พวกเขาจะต้องสอบย่อยแถมยังต้องพรีเซนต์งานอีกเช่นกัน วันนี้หลังจากเลิกเรียน กลุ่ม F4 จึงรีบไปรวมพลกันที่ห้องของพีชทันที

“ซวยแล้วว่ะ กูลืมเอาแมคบุ๊คมาจากห้อง เดี๋ยวกลับไปเอาที่คอนโดแป๊บนึงนะ”

ควันรีบบอกเพื่อน ๆ หลังจากพบว่าในรถของเขาไม่มีแลปท็อปสำหรับนำไปรายงานกับเพื่อน ๆ แถมข้อมูลงานต่าง ๆ ก็อยู่ในแลปท็อปของเขาเกือบทั้งหมดเมื่อได้ยินอย่างนั้นสามคนที่เหลือจึงกระโดดขึ้นรถของพีชแล้วมุ่งหน้าไปก่อน ส่วนควันก็รีบขับรถกลับคอนโดตัวเองเพื่อไปเอาอุปกรณ์การทำรายงานให้ครบก่อนจะตามไปสมทบทีหลัง

เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องก็เจอฝาแฝดตัวเองที่นั่งอยู่โซฟาหน้าทีวี ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับโทรศัพท์อยู่เพียงคนเดียว ท่าทางเหมือนคนบ้าจนน่าหมั่นไส้

“เบื่อจริ๊ง คนมีความรัก”

“อิจฉากูเหรอ” หมอกถามทั้งที่ใบหน้ายังเปื้อนรอยยิ้ม ควันเพียงแค่ยักไหล่พลางปลดเนคไทออก

“จะอิจฉาทำไม เห็นพี่กูมีความสุข กูก็ดีใจด้วยครับ”

“หน้ามึงตอแหลมากน้องรัก...เอ้อ มีพัสดุส่งมาหามึงนะ กูเอาของวางไว้ในห้องมึงแล้ว”

“หืม? พัสดุเหรอ กูว่ากูไม่ได้สั่งอะไรนะ” ควันขมวดคิ้วมุ่น แล้วลุกเดินเข้าไปห้องนอนเพื่อดูพัสดุที่หมอกว่า แต่ยังไม่ทันก้าวขาเข้าห้องนอน เสียงทุ้มก็ลอยตามหลังมาแซวมาอีกระลอก

“ไม่ใช่มึงไปพรีออเดอร์หนังโป๊แล้วพึ่งส่งมาเหรอ คิดดูดี ๆ”

“ควายเถอะครับสัสหมอก ของอย่างนี้กูไม่พรีออเดอร์ให้เสียเวลาหรอกโว้ย ไปซื้อที่ร้านดีกว่าเลยมั้ย คิดนิดนึง”

กวนกันตามประสาพี่น้องเสร็จแล้วร่างสูงก็เดินเข้ามาในห้องนอนตัวเอง เห็นพัสดุจ่าหน้าซองถึงเขา แต่ไม่ได้ระบุชื่อผู้ส่งมา ควันรีบคลายความสงสัยด้วยการฉีกซองสีน้ำตาลทันที และเมื่อเจอสิ่งของข้างในนั้น ดวงตาคมก็หรี่ลงแล้วหยิบมันขึ้นมาจ้องชัด ๆ ให้แน่ใจอีกครั้ง

มันเป็นภาพที่แอบถ่ายผู้ชายสองคนในร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง สีหน้าดูมีความสุข ยิ้มแย้ม หัวเราะ ราวกับคู่รักก็ไม่ปาน...

และแน่นอนว่าสองคนในภาพนั้นเขารู้จักเป็นอย่างดี คนแรกนั้นคือรุ่นพี่ปีสามที่เป็นถึงอดีตเดือนคณะแพทยศาสตร์ ส่วนอีกคนก็เป็นเดือนคณะแพทยศาสตร์ในปีนี้

พี่กรกับไอติม...

ไปนัดเจอกันตอนไหน ทำไมเขาไม่รู้เรื่อง แล้วสรุปว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้เป็นอย่างไรกันแน่ เขาจะมั่นใจในตัวไอติมได้รึเปล่า...หรือบางทีความรู้สึกของเขาที่มีต่อไอติมมันอาจจะส่งไปไม่ถึงใจของคนรับเลยก็ได้...



ควันไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งภาพนั้นมาให้เขา และนั้นทำให้เขาไม่สามารถสลัดความกังวลใจในตอนนี้ได้เลย ดวงตาคมนั่งมองคนที่กำลังพิมพ์งานอย่างตั้งใจอยู่ตรงข้ามซึ่งจับคู่ทำรายงานกับวินทร์เงียบ ๆ อยากโพล่งถามในสิ่งที่สงสัยเสียตอนนี้เลย แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเพื่อนทั้งสองคนไม่มีใครรู้ความสัมพันธ์ของพวกเขา แล้วจะถามตอนนี้เลยมันก็ไม่ใช่เรื่อง

“ควัน เป็นอะไรทำไมนั่งเงียบแบบนี้วะ”

พีชที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ทักคนตัวสูง จึงทำให้ทั้งวินทร์และไอติมเงยหน้าจากหน้าจอแลปท็อปขึ้นมามองเขาด้วย

“เปล่า กูเงียบแล้วมันผิดปกติเหรอ”ควันปฏิเสธ แล้วแกล้งยิ้มกลบเกลื่อน วินทร์และไอติมจึงก้มหน้าทำรายงานต่อ ส่วนเขาก็แสร้งทำเป็นเปิดหนังสือเพื่อดูเนื้อหาสำหรับทำรายงานเพื่อไม่ให้พีชถามขึ้นมาอีก

“มึงดูแปลก ๆ นะ”

พีชพูดเป็นครั้งสุดท้าย แล้วจึงกลับไปพิมพ์รายงานต่อ ควันไม่ได้สนใจคำพูดของพีชเลยสักนิด ดวงตาคมนั้นเหลือบมองไอติมอีกครั้ง แล้วสลัดเรื่องกวนใจทั้งหมดออกเพื่อเคลียร์งานตรงหน้าให้จบเสียที



กว่าจะทำรายงานและติวหนังสือด้วยกันเสร็จก็ตีสองพอดี วินทร์ขอติดรถควันกลับด้วย เมื่อส่งวินทร์ถึงคอนโดแล้ว รถยนต์สีดำคันสวยจึงพุ่งทะยานไปตามท้องถนนอย่างรวดเร็ว ไอติมมองท่าทางแปลก ๆ ของควันที่เขาสังเกตได้ตั้งแต่ที่ทำรายงานแล้วจึงเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

“เป็นอะไรรึเปล่า วันนี้ดูเงียบแปลก ๆ เครียดเหรอ”

“อืม เครียด” เสียงทุ้มตอบกลับ ไอติมจับน้ำเสียงนั้นที่ห้วนสั้นได้แต่ก็ไม่เข้าใจว่าควันเป็นอะไร

“เครียดเรื่องจะสอบพรุ่งนี้เหรอ มึงไม่น่าจะเครียดนะ สอบทีไรก็ท็อปตลอด”

“ไม่ได้เครียดเรื่องนั้น”

“แล้ว...”

“ไอติม” เสียงของไอติมที่กำลังถามนั้นหยุดลง เมื่อควันเรียกชื่อของเจ้าตัวพร้อมกับรถที่จอดลง ไอติมหันไปมองควันในความมืด ไม่ทันได้เอ่ยถามอะไร สัมผัสหนัก ๆ ก็โฉบลงมาที่ริมฝีปาก ไอติมตกใจไม่น้อยแต่ก็จูบตอบกลับไปอย่างไม่เข้าใจ

ริมฝีปากหนาขบเม้มอย่างเอาแต่ใจ ดูดดึงจนเกิดเสียงในความเงียบ ร่างเล็กกว่าถูกดึงเข้ามาให้นั่งบนตักทั้งที่ริมฝีปากยังคงเชื่อมกัน ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในโพรงปากหวานเชื่อม กวาดกินความหอมหวานอย่างตะกละตะกลาม สัมผัสเหล่านั้นทำเอาคนตัวเล็กกว่าถึงกับเบลอไปชั่วขณะ แต่แล้วสัมผัสทุกอย่างก็หยุดลง ริมฝีปากของทั้งสองผละออกจากกัน

“ใจของมึงมีกูอยู่บ้างมั้ยวะไอติม”

“มึงเป็นอะไรวะควัน”

“ที่ผ่านมา ที่กูพยายามจีบมึง กูเข้าไปอยู่ในใจมึงได้สักเสี้ยวหนึ่งรึยัง”

น้ำเสียงนั้นมันแหบแห้งและแผ่วเบาจนไอติมใจกระตุก เขาไม่เคยเห็นควันในมุมนี้เลย และไอติมก็ไม่เข้าใจว่าควันเป็นอะไรไป ถึงถามเขาด้วยคำถามอย่างนี้

“มีสิ ทำไมจะไม่มี...มึงทำดีกับกูขนาดนี้นี่นา”

“งั้นเหรอ”

“อืม”

“ถ้างั้นตอนนี้เราเป็นแฟนกันได้รึยัง”

เสียงทุ้มถามขึ้นท่ามกลางความเงียบอย่างหนักแน่น แต่กระนั้นแววตาที่ไอติมเห็นตรงหน้ามันกลับสั่นไหวจนไอติมรับรู้ได้ว่าในตอนนี้ควันไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด ไม่เหมือนควันที่เขารู้จักเลยแม้แต่นิดเดียว

“กลัวเหรอ” ไอติมถามย้อนกลับ มือขาวเผลอไล้กรอบหน้าของคนตรงหน้า แล้วกุมแก้มทั้งสองข้างของควันเอาไว้

“ยอมรับว่ากลัว”

“งั้นต่อไปนี้ไม่ต้องกลัวแล้วนะ”

“...”

“เพราะมึงชนะใจกูแล้วควัน”

สิ้นคำนั้นริมฝีปากอิ่มก็จรดลงแนบกับริมฝีปากของควันอีกครั้ง ไอติมหลับตาลงและบรรจงจูบอย่างลึกซึ้งหวังถ่ายทอดความรู้สึกที่เขาไม่สามารถอธิบายมันได้ผ่านสัมผัสทางกายให้ควันได้รู้ สองแขนโอบรอบลำคอแกร่ง บดเบียดร่างกายแนบกับร่างหนาที่โอบกอดเขาเอาไว้จนแน่น

“มึงจะทำกูตบะแตกอยู่แล้วไอติม”

ควันกัดฟันพูด หัวใจเต้นรัวกับการกระทำของร่างเล็กที่ยังนั่งอยู่บนตักของเขา ดวงตากลมนั้นปรือตามองราวกับยั่วยวน ไม่มีเสียงตอบกลับนอกจากรสจูบที่ปลายคางช้า ๆ ซ้ำ ๆ และควันก็จะไม่ทนอีกแล้ว

ร่างสูงปรับเบาะให้เอนต่ำจนสุด จับท้ายทอยของร่างด้านบนไว้แล้วประกบจูบด้วยรสร้อนแรง และไอติมก็ตอบสนองกลับมาอย่างถึงพริกถึงขิง ริมฝีปากร้อนบดคลึงจนปากอิ่มบวมเจ่อ ไอติมโดนจับให้นอนหงายทับร่างกายใหญ่ และริมฝีปากร้ายกาจของควันก็ลากไล้ผ่านลำคอเบา ๆ ให้ไอติมจั๊กจี้เล่น สองมือก็สอดเข้าไปใต้ร่มผ้าของคนที่นอนทับอยู่ด้านบน บดเม็ดทับทิมอันเล็กจนไอติมสะดุ้ง กายขาวบิดพลิ้วไปมา ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อมือหยาบกร้านเลื่อนต่ำจากหน้าอกไปปดตะขอกางเกงแล้วล้วงเข้าไปจับแท่งเนื้อร้อนของเขาเอาไว้ จมูกโด่งเกลี่ยอยู่บริเวณแก้มขาวชื้นเหงื่อ กระซิบเสียงแผ่วที่ข้างใบหูขาวเบา ๆ

“วันนี้อยู่บนนะ”

“อะ...อือ”

“จะให้ขย่มให้ดู”

“ระ...รู้แล้วหน่า”

ไอติมตอบเสียงสั่น ก่อนจะโดนจับหันให้กลับมามองหน้าควัน พร้อมกับที่อาภรณ์ท่อนล่างของเขาถูกควันถอดออกไปกองอยู่ที่หัวเข่า มือขาวก็ปลดหัวเข็มขัดของคนด้านล่างออกบ้าง ค่อย ๆ ดึงซิปกางเกงลงจนเจอกับขอบชั้นในสีดำยี่ห้อ Calvin Klein ร่างเล็กเผลอสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อแตะมันผ่านเนื้อผ้าเบา ๆ ท่อนเนื้อตรงหน้าก็แข็งขื่นสู้มือของเขาเสียแล้ว

“อ่ะ...ควัน อย่าพึ่ง”

ไอติมร้องเสียงหลงเมื่อมือซุกซนของคนตรงหน้าจับที่แก้มก้นแถมยังขย้ำจนเขาร้องเจ็บ ควันไม่ฟังคำห้ามปรามแล้วแทรกนิ้วชี้เพื่อเบิกทางทันที ไอติมสะดุ้งเกร็ง รีบถอดชั้นในเจ้าปัญหาออก จับความเป็นชายของควันเอาไว้เพียงแค่นั้นลำแท่งนั้นก็ตั้งตรงพร้อมออกศึกทันที

“โทษทีนะ พอดีเป็นคนขึ้นง่าย”

“ไอ้...”

จะด่าก็ด่าไม่ออกเพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไอติมก็เป็นคนเริ่มทั้งหมด คนตัวเล็กโดนยกอุ้มขึ้น แล้วสะโพกของเขาก็ถูกดันลงมาช้า ๆ  เพียงแค่โดนแท่งเนื้อร้อนที่มาจ่ออยู่ที่ช่องทางแทนนิ้ว ไอติมก็เกร็งไปหมด

“ออนท็อปให้ดูเป็นบุญตาหน่อยสิแฟน”

คำว่า ‘แฟน’ ที่ออกจากปากควันทำเอาแก้มขาวถึงกับแดงระเรื่อ แม้ว่าควันจะไม่เห็นเพราะว่ามันมืด แต่ไอติมก็รู้ดีว่าตอนนี้เขากำลังเขินมากแค่ไหน ยิ่งกับท่าทางแปลกพิลึกในตอนนี้อีก ทำไมต้องมาทำอะไรพิสดารในรถด้วยเนี่ย

“อ่ะ! ควัน อย่าพึ่ง”

ไอติมร้องเสียงหลง เมื่อไม่กล้ากดตัวลงไป ควันจึงดันสะโพกขึ้นมาแทนจนแท่งเนื้อร้อนเสียบคาเข้าไปในร่างกายเล็กเสียแล้ว ไอติมบีบรัดจนแน่นเพราะห่างหายจากกิจกรรมอย่างว่าไปนาน ควันได้แต่กัดปากข่มอารมณ์ที่อยากจะกระแทกคนตรงหน้าแรง ๆ แล้วให้ไอติมดำเนินจังหวะรักครั้งนี้แทน

“หายเจ็บยัง”

“อะ...อือ”

“เอาเลยดิ จะรออะไร”

สิ้นคำนั้น ฝ่ามือกร้านก็จับสะโพกกลมมนยกขึ้นลงสอดผสานกับกายแกร่งของเขา ไอติมสะดุ้งเป็นระยะเมื่อท่อนเนื้อนั้นสะกิดโดนปุ่มกระสันทำเอาขนลุกเกลียว และเมื่อจังหวะรักที่ค่อย ๆ ดำเนินไปอย่างเชื่องช้าเริ่มร้อนแรงขึ้น คนที่ควันพยายามให้เป็นคนคุมเกมรักครั้งนี้เริ่มขยับสะโพกเร็วขึ้นและแรงขึ้น ควันจึงนอนมองใบหน้าด้านบนที่กำลังเสร็จสมอารมณ์หมายแทน

“อ่ะ...สะ...เสียว”

“อื้อ!”

ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางควันก็ยิ่งได้ใจ สวนสะโพกย้อนคืนจนไอติมสั่นไปทั้งร่าง ร่างเล็กกระเด้งกระดอนอยู่บนร่างของเขานั้นเป็นภาพที่สวยงามอะไรขนาดนี้ เหงื่อกาฬผุดขึ้นตามกรอบหน้ายิ่งทำให้ไอติมดูเซ็กซี่มากขึ้นกว่าเดิม ใบหน้าเนียนเชิดขึ้นและหลับตา เสียงร้องคราง กับท่าทางร้อนแรงนั้นมันทำเอาควันทนไม่ไหว อุ้มคนด้านบนเอาไว้ แล้วกระแทกจากด้านล่างขึ้นไปแรง ๆ

“อ๊า...ควัน...ฮะ...เสียว...ไม่ไหวแล้ว...แรง...แรงอีก...อึก”

สิ้นคำนั้นอีกไม่กี่วินาทีต่อมา หยาดน้ำสีขาวขุ่นก็ฉีดเลอะลอนท้องของควันจนเปรอะเปื้อนไปหมด ไอติมที่ปลดปล่อยแล้วซบหน้าลงกับลาดไหล่แกร่ง ส่วนควันก็กระแทกสะโพกอีกสองครั้ง ก็ปล่อยลูกรักนับล้านในร่างกายไอติมเสียจนหมด

“ขอโทษนะที่ปล่อยข้างใน มันฉุกละหุกไปหน่อย” ควันบอกอย่างรู้สึกผิด เขาไม่เคยลืมกฎของไอติม แต่ว่าคนตัวเล็กนั้นแหละที่มายั่วยวนเอาตอนนี้ ถุงยางในรถก็ไม่มี จังหวะนี้จะให้ขับรถกลับเอาในถุงยางที่ห้องงั้นเหรอ บอกเลยว่าควันไม่ทำหรอก

“ไม่เป็นไร...เสร็จแล้วใช่มั้ย” ไอติมกระซิบเสียงแหบแห้ง นี่เป็นครั้งที่สองที่ควันปล่อยด้านในอย่างนี้ ไอติมรู้สึกอึดอัดไปหมด เพียงแค่คิดว่าถ้าควันยังอารมณ์ค้างอยู่ เห็นทีคืนนี้เขาคงจะไม่ได้นอนแน่

“ถึงจะไม่เสร็จก็ไม่ทำอีกแล้ว พรุ่งนี้สอบเสร็จเมื่อไรค่อยจัดหนักแบบคอมโบไปเลย”

“ไอ้หื่นกามเอ้ย” ไอติมสบถเสียงเบา เท่านั้นก็เรียกเสียงหัวเราะจากควันได้ไม่ยาก ริมฝีปากร้อนจูบขมับบาง ๆ ก่อนจะกระซิบข้างหูไอติมให้คนตัวเล็กเขินเล่น

“แล้วเมื่อกี้ใครเริ่มก่อนครับ”

“ไม่รู้”

“หึหึ ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรครับคุณแฟน”

“อื้อ แฟนก็แฟน”

ไอติมอมยิ้มแล้วหลับตาลงเพื่อรับจูบหอมหวานจากคนตรงหน้า แล้วผละออกมาเพื่อกลับไปนั่งที่เบาะของตัวเองทั้ง ๆ ที่ขายังสั่นอยู่ แต่งตัวจนเรียบร้อยแล้วควันก็หยิบเสื้อคลุมของตัวเองมาคลุมท่อนล่างของไอติมไว้ เสร็จแล้วก็รีบสวมกางเกงก่อนจะพาแฟนคนใหม่กลับไปพักผ่อนเสียทีแต่ก่อนจะได้ออกรถ ควันก็หลุดยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงพึมพำแผ่วเบาจากคนด้านข้าง

“สุขสันต์วันเกิดนะควัน”


เมื่อมาถึงคอนโดของไอติม ควันก็อุ้มคนตัวเล็กที่หลับสนิทเข้ามาในคอนโดเงียบ ๆ วางเจ้าของห้องลงบนเตียง ไอติมขยับตัวเพื่อหามุมสบายก่อนจะนิ่งไป ดวงตาคมจ้องมองคนที่ผล็อยหลับไปแล้ว เกลี่ยเส้นผมนุ่มเบา ๆ แล้วลากมาที่พวงแก้มขาว พลางนึกสะท้อนไปถึงสิ่งที่เห็นเมื่อตอนกลางวัน แม้ควันจะไม่รู้ว่าใครที่ส่งรูปนั้นมาให้เขา ไม่รู้จุดประสงค์ว่าเจ้าของภาพต้องการอะไร แต่เขากลับได้ในสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้มาแทน...คำว่าแฟนจากไอติม มันคือการผูกมัดที่เขารอคอยมันมาตลอด และควันก็สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าเขาจะดูแล และรักษาความรักครั้งนี้ให้สมกับที่เขาสู้เพื่อให้ได้มันมา

ควันยิ้มให้กับคนที่นอนหลับอีกครั้ง ใบหน้าคมคายก้มลงแตะกลีบปากนั้นเบา ๆ หวังว่าคนที่นิทราไปแล้วจะหลับฝันดี

“มึงเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดเลยรู้มั้ยไอติม”



-----------------------------------------------

ตอนใหม่มาแล้วจ้า ฟินแบบจุกๆ
ใครแวะเข้ามาอ่านแล้วขอคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้หน่อยนะคะ
จะได้มีแรงปั่นกันต่อไป อาจจะมาอัพช้าบ้าง เข้าใจเราด้วยเนอะว่าตอนกลางวันก็ทำงาน
มีเวลาเขียนนิยายแค่ตอนกลางคืน บางวันทำงานเหนื่อยก็หมดแรง
บางวันก็ไฟมอด ต้องเข็นตัวเองมานั่งคิดพล็อต พยายามปั่นสุดแรง มันเลยช้าหน่อย ;-;

ส่วนเรื่องต่อไปที่จะคุยคือตอนนี้นิยายเราก็ผ่านกลางเรื่องมาแล้ว(รึเปล่า)
เลยอยากจะมาว่ามีใครสนใจเรื่องรวมเล่มรึเปล่า
ตอนนี้ไม่มีอะไรเลย นิยายก็ยังแต่งไม่จบ แต่ต้องคิดแล้วว่าถ้ามีคนสนใจจะได้เริ่มหาคนวาดปก คุยกับโรงพิมพ์อ่ะค่ะ
ส่วนนิยายเรื่องนี้ น่าจะมีประมาณ25ตอน(หรือมากกว่านั้น) ถ้ามีคนสนใจฝากแวะไปทำแบบสอบถามให้หน่อยนะคะ
ขอบคุณทุกคนค่ะ
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScI3eeRZQfNU9cJsdlFPWJTlc4OsqqFXzFI3DQsfv_ZiOfgxQ/viewform

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

มีความตะหงิดว่า อิคนส่งภาพมาให้  น่าจะเป็น "พีช" อ่ะ


ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0

ออฟไลน์ maplub_oyaya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ FanclubPong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ของขวัญวันเกิดที่ยอดเยี่ยมมาก ชอบจังเวลาควันมีความหึงไอติม

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
คิดถึงพี่ควันและไอติมมมม
คุณคนเขียนเป็นยังไงบ้างแล้วค้า

ถ้าว่างอย่าลืมแวะมาส่งข่าวกันน้า
ยังคงรอคอยเสมอจ้ะ สู้ๆน้าาาา

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
พีชแอบชอบควันแล้วแน่ๆ
ส่วนควันก็ใจเย็นๆลูกเอ๊ยย ทางนี้เชียร์เต็มที่
ไอติมก็ใจแข็งจริงๆ ยอมรับเลย

ออฟไลน์ imkhimaut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไม่อยากให้มีดราม่าเลยอะแม่ ปวดใจจจจจ แงงงงงงง

 :hao5:

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
มาต่อเร็วๆนะ

รอลุ้นหนักมาก o13

ออฟไลน์ imkhimaut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ lcortsess

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-3

ออฟไลน์ marsmarseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฮือออน้องงงงง เหมือนจะสวยแล้ว ได้เป็นแฟนแล้ว แต่พีชนี่สิยังไงต่ออมกกกก

ออฟไลน์ Musashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-13
หลังจากอาบน้ำสระผมเสร็จ ไอติมก็หย่อนกายลงนั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แม้ว่าเส้นผมจะยังคงเปียกน้ำแต่เจ้าตัวก็ขี้เกียจจะใส่ใจเลยปล่อยให้ผมมันเปียกอยู่แบบนั้นแล้วเริ่มทาครีมบำรุงหน้าเหมือนกับทุก ๆ วันที่ผ่านมา
อ่านเจอมาเยอะ สระผมแล้วไม่เช็ดแต่แต่งตัวเลยทั้งๆที่ผมเปียก สำหรับเราต้องเช็ดจนผมเกือบแห้งแล้วค่อยแต่งตัวเพราะถ้าแต่งตัวเลยน้ำจะไหลมาเปียกเสื้อ เราทำผิดๆมาตลอดเหรอเนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด