Porn Star ✮ เมื่อผมเป็นดาราหนังเอวี [UPDATE 17/9/18] P.5 ✮ ACT 18 REJECT ✮
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Porn Star ✮ เมื่อผมเป็นดาราหนังเอวี [UPDATE 17/9/18] P.5 ✮ ACT 18 REJECT ✮  (อ่าน 37444 ครั้ง)

ออฟไลน์ MilkTea

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
[ACT 6]



​"เฮ้ย ราม ทำไมมาเร็วจังวะ ไหนว่าต้องส่งเด็กก่อนไง"

เสียงทุ้มนุ่มฟังรื่นหูดังขึ้นพร้อมกับแขนหนัก ๆ ที่วางพาดลงบนบ่า แสดงถึงความสนิทสนมได้เป็นอย่างดี ร่างที่เพิ่งมาใหม่นั่งลงที่บาร์เคียงข้างร่างสูงที่นั่งที่ประจำอยู่ก่อนแล้ว

"ขอเตอกีล่าซันไรส์"

"วันนี้นึกยังไงเปลี่ยนรสล่ะ กร?"

"แหม คนเราก็ต้องมีเปลี่ยนอารมณ์กันบ้าง นายเป็นไงบ้างล่ะ?"

"ก็ดี ไม่ค่อยเจอนายเลยนะ ไปคั่วอยู่กับใครล่ะ"

"ปากคอเราะร้ายไม่เปลี่ยนเลยนะ ฉันออกจะรักเดียวใจเดียวขนาดนี้"

"รักเดียวใจเดียว แต่แค่ไม่จบอยู่ที่คนคนเดียวงั้นสิ?"

"รู้ทันอีก หึหึ" กร หรือภากร หัวเราะในลำคอ "ตอนนี้เก็บเด็กมาเลี้ยงอยู่คนหนึ่ง ยังไม่คุ้นมือเท่าไหร่ แต่เชื่องดี... อีกไม่นานคงฝึกได้"

"นี่นายพูดอย่างกับนั่นไม่ใช่คน"

ราเมศทำหน้าแหย เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายมีรสนิยมแบบไหน ซึ่งไม่ใช่แบบที่เขาประทับใจเท่าไหร่ แต่ก็อย่างว่า คนเราลางเนื้อชอบลางยา ไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบอะไรเหมือนๆกัน เขาก็ไม่มีสิทธิ์จะไปวิจารณ์ด้วย ตราบใดที่เพื่อนของเขายังไม่ได้ไปฉุดใครมาบังคับข่มขืนน่ะนะ

"ไปเก็บมาจากไหนล่ะ? ระวังเหอะ คุกนะคุก"

"เด็กมันยั่วเองนะ ฉันไม่ได้บังคับซะหน่อย อายุก็ตั้งสิบเก้าเข้าไปแล้ว ไม่ใช่เด็กอะไรขนาดนั้นแล้ว"

ฟังถึงตรงนี้ราเมศถึงกับชะงัก หยักยิ้มไม่ออกอยู่ชั่วครู่

"นั่นสินะ.. ถึงยังไงก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะ นายก็ระวัง ๆ หน่อยละกัน"

"อืม แล้วนายล่ะเป็นไง? แหม ๆ เดี๋ยวนี้มีส่งเด็กด้วย ไปงาบมาจากไหนล่ะ? คนอย่างนายปกติเห็นไม่เคยส่งใครนี่ คงไม่ใช่เด็กม.ปลายอะไรแบบนี้หรอกนะ"

มือแกร่งคว้าแก้วใสที่บรรจุเครื่องดื่มสีสวยยกขึ้นจิบ รสชาติในแบบที่แตกต่างจากทุกวันทำให้เขาไม่คุ้นลิ้นอยู่ชั่วครู่ แต่ก็รสดีไปอีกแบบ เขาเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนที่ปกติเป็นเพลย์บอยชนิดที่เรียกว่านอนกับใครไม่ซ้ำหน้าทำหน้าพิลึกแบบพูดอะไรไม่ออกเถียงอะไรไม่ขึ้น ซ้ำยังหน้าขึ้นสีเรื่อนิด ๆ อีกต่างหาก

"เฮ้ อย่าบอกนะว่าเรื่องจริงน่ะ?"

เมื่อเห็นเพื่อนไม่พูดอะไร ภากรจึงฟันธงเรียบร้อยทันทีว่าเป็นเรื่องจริง

"เฮ้ย ราม เอาจริงน่ะ?"

"เอาจริงอะไรของนาย"

"ก็... เด็กขนาดนั้น ไม่ใช่สเป็คนายไม่ใช่รึไง?"

"ก็ไม่ใช่น่ะสิ ตัวแค่นั้นขนยังไม่ทันขึ้นด้วยซ้ำ!"

"กินไปแล้ว?!"

ราเมศยกแก้วขึ้นซดแทนคำตอบ เขาถอนหายใจยาว ไม่คิดว่าจู่ ๆ จะต้องมาเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนสนิทฟัง มิหนำซ้ำเจ้าบ้านี่ดันออกอาการซะเว่อร์เกินจริงอีกต่างหาก

"ก็แค่เด็กม.ปลายคนเดียว อะไรนักหนา"

"ก็เพราะปกติแล้วนายไม่ทำน่ะสิ"

"ฉันไม่ได้เต็มใจซะหน่อย ไอ้เบสต่างหาก"

"ประธานน่ะเหรอ.. อย่าบอกนะว่าเด็กคนนั้นเล่นหนัง..........!!"

มือหนาตะปบริมฝีปากที่กำลังจะพ่นคดีอาชญากรรมออกมากลางผับเอาไว้ได้ทัน

"เฮ้ย เบา ๆ สิวะ!"

"แล้วนายทำไปจริงๆ!"

"ก็เออสิวะ งานนี่หว่า"

"งานเหรอ... มันก็จริงน่ะนะ ประธานคงวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว คงไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น แต่ว่าทำไมนายถึงต้องไปส่งเด็กคนนั้นด้วยล่ะ?"

"อ้อ... ก็.... ก็เขายังเด็ก ตัวก็เล็กนิดเดียว"

".................. อืมมมมมมม"

"มาองมาอืมอะไรของนาย"

"เปล๊า ไม่มีอะไร"

ภากรฉีกยิ้มกว้าง ถ้ายิ้มกว้างถึงใบหูได้คงทำไปแล้ว จัดว่าเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นราเมศในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ ก็สนุกดีไปอีกแบบ เอาเถอะ โตๆกันแล้ว คงรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรแหละ

------------ หวังว่านะ

"พูดมากจริง กลับบ้านละ"

"อ้าวเฮ้ย โห่ ไรวะ โกรธด้วย ยังไม่ทันได้พูดไรเลย"

"ไม่รู้เว้ย ไปแล้ว!" เอ่ยพลางวางเงินเอาไว้แล้วลุกจากเก้าอี้ในทันที

"ห่วงเด็กที่บ้านก็สารภาพมาเหอะน่า!"

ภากรตะโกนไล่หลังไป ก่อนจะหันมาหัวเราะอยู่คนเดียวที่บาร์เครื่องดื่ม

ดีนะที่ร้านนี้เป็นร้านประจำของพวกเขา จึงไม่มีใครสนใจหรือถือสาอะไร เขาเองก็เริ่มคิดถึงคนใหม่ที่บ้านแล้วเหมือนกันแฮะ คืนนี้กลับไปหาอะไรสนุก ๆ ทำแทนก็ละกัน



*****



ราเมศปรายสายตามองนาฬิกาข้อมือขณะควานหาคีย์การ์ดในกระเป๋า ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าให้เด็กหนุ่มไปเมื่อตอนเย็น เขาจึงต้องกดกริ่งเรียกให้ร่างเล็กวิ่งมาเปิดประตูรับ ดีที่เขากลับไม่ดึกเท่าไหร่ ไม่งั้นเขาคงลำบากใจเล็ก ๆ ที่ต้องปลุกเด็กหนุ่มให้ลุกมาเปิดประตูให้ คราวหน้าคงต้องทำคีย์การ์ดสำรองไว้แล้วล่ะมั้ง

ชายหนุ่มตาเหลือกเมื่อรู้สึกตัวว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นี่เขาคิดจะทำคีย์การ์ดสำรองเพื่อเด็กคนเดียวเนี่ยนะ! ไม่สมเป็นราเมศเอาซะเลย

"กลับมาแล้วเหรอครับ"

ร่างในชุดนอนสีขาวที่เขาช่วยเลือกซื้อในวันนั้นเปิดประตูให้พร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ เขาก้าวเข้าไปแล้วจึงปิดประตู

"กลับเร็วกว่าที่ผมคิดนะครับ นึกว่าจะดึกกว่านี้ซะอีก"

"อืม"

ร่างสูงรูดเน็กไทออก ก่อนทิ้งกายลงบนโซฟาตัวใหญ่อย่างสับสนกับความคิดที่วิ่งพล่านอยู่ในสมองจนมึนไปหมด

"นายง่วงรึยังล่ะ ไปนอนก่อนได้เลยนะ พี่กะจะดื่มต่อซะหน่อย"

ปรานต์ไม่ตอบคำ เขายืนลังเลอยู่ชั่วครู่ แล้วขาเรียวก็เดินมาหยุดที่โซฟาตัวใหญ่

"................."

"?"

เด็กหนุ่มรวบรวมความกล้า นั่งลงเคียงข้างร่างสูงที่ทอดสายตามองอย่างงุนงง ใบหน้าหวานแดงจัดราวกับลูกตำลึงสุก

ราเมศขมวดคิ้ว เขายังไม่ค่อยเข้าใจปฏิกิริยาของอีกฝ่ายนักว่าต้องการอะไร แต่ครั้นจะคะยั้นคะยอให้พูดก็กระไรอยู่ รอให้เป็นฝ่ายเอ่ยออกมาเองน่าจะดีกว่า

"เอ่อ..."

"อืม?"

เขาทำเสียงในลำคอเพื่อบอกให้รู้ว่ากำลังฟังอยู่

"คือ..."

"ว่ามาสิ"

"ผม... เอ่อ... แบบว่า..."

"นี่ ต้องให้จูบเรียกสติสักทีไหม"

หลุดพูดออกไปแล้วเพิ่งรู้สึกตัวว่าร่างที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไม่ใช่คู่ขาที่เขาพูดเล่น (แต่เอาจริง) ด้วยประจำ เขากัดริมฝีปากตนเองเมื่ออีกฝ่ายเงียบกริบราวกับตกตะลึงไปแล้ว

"... ปรานต์"

ชายหนุ่มหันหน้าไปมองร่างเล็กที่อึกอักอยู่ข้างๆ เรียกอาการชะงักจากร่างตรงหน้าราวกับตกใจที่จู่ ๆ เขาหันไปสบตาด้วย ส่งผลให้เขาหัวเราะขึ้นจมูกเบา ๆ มือใหญ่ขยี้ลงบนเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่มอย่างเอ็นดูอาการที่เหมือนแมวตื่นตระหนกนั่น

"พี่ไม่ทำอะไรนายหรอกน่า ทีนี้จะบอกได้รึยังว่าเป็นอะไรไป?"

"พรุ่งนี้..."

ราเมศหยุดฟังเมื่อได้ยินคำพูดที่ฟังรู้เรื่องเป็นคำแรกหลุดออกมาจากริมฝีปากคู่สวย

"พรุ่งนี้พี่ว่างไหมครับ?"

"พี่เหรอ... อืม ว่าง ทำไมเหรอ?"

"คือว่า... ผมแค่อยากจะบอกว่า ถ้าพี่ไม่ลำบากล่ะก็..."

จู่ ๆ เด็กหนุ่มก็ก้มหน้างุดแล้วลดเสียงลง ผิวแก้มที่แดงเรื่อขึ้นมาน้อย ๆ ดูน่ารักซะจนราเมศใจเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว

"เหมือนกับว่าผมจะได้บทแปลกๆมาอีกแล้ว ถ้าหากพรุ่งนี้พี่พอจะมีเวลา... ช่วย..."

"อ้อ นายอยากให้พี่เทรนให้อีก?"

"ก็... ประมาณนั้น คือผมไม่สันทัดเรื่องแบบนี้เท่าไหร่"

ราเมศคลี่ยิ้มบาง เขาเชื่อเรื่องที่เด็กหนุ่มไม่ประสีประสากับเรื่องบนเตียง แต่เรื่องฝีมือเขาไม่แน่ใจเลย ถ้าหากว่าการเทรนครั้งเดียวจะทำให้อีกฝ่ายเรียนรู้ไวเสียจนทำเอาดารานำอย่างเขาแทบขาดสติคาฉากได้

"ได้สิ ไหนล่ะบทนาย?"

"นี่ครับ"

ปรานต์ยื่นสมุดสีขาวเล่มบางให้กับร่างตรงหน้า เขานั่งกุมมือรอให้ชายหนุ่มกวาดสายตาอ่านบทอย่างรวดเร็ว สีหน้าดูดีที่ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วมุ่นทำเอาปรานต์ใจไม่ค่อยดีเลย

ว่ากันตามตรงแล้ว เด็กหนุ่มไม่ค่อยเข้าใจบทที่อ่านคร่าว ๆ ไปมากเท่าไหร่ เขายังงงว่านี่เขาเป็นดาราหนังโป๊หรือหนังแอ๊คชั่นเลือดสาดกันแน่ ทำไมถึงมีฉากที่เขาถูกมัดแล้วเฆี่ยนด้วยแส้ด้วย

ราเมศเอามือกุมศีรษะ ในใจนึกอยากจะกระชากคอเสื้อประธานบริษัทมาชกสักสองสามทีให้มันได้สติซะหน่อยว่าเด็กตรงหน้านี่เพิ่งจะอายุสิบหก

แม้จะไม่แปลกใจนักที่ประธานผู้โหยหากำไรจะสรรหาฉากไม่ซ้ำรูปแบบมาให้ปรานต์แสดง ก็ถ้าแม้แต่เขายังมองเห็นทักษะของปรานต์ มีหรือที่พัลลภจะพลาด

พัลลภเป็นเพื่อนที่ดี แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นนักธุรกิจที่วางแผนหาเงินเก่งจนไม่น่าคบ

ดวงตาคมมองบทบาทที่ร่างเล็กต้องแสดงแล้วรู้สึกขนลุก ขนาดเขายังออกตัวไว้ตั้งแต่แรกเลยว่าจะไม่มีวันเล่นบท SM เป็นอันขาด ต่อให้จ่ายค่าจ้างดีแค่ไหนเขาก็ไม่ยอม

ไม่ใช่เพราะอะไร เขาก็แค่ไม่ชอบเท่านั้น เขาไม่พบว่าการสะบัดแส้ฟาดคนอื่นมันน่าสนุกตรงไหน หรือจะช่วยสร้างอารมณ์หวามให้เขาได้อย่างไร เขาจึงไม่เคยรับบทบาททำนองนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

ราเมศอ้าปากพูดอะไรไม่ออก ในใจนึกหาทางเอาตัวรอดสุดชีวิต แต่ครั้นจะปฏิเสธไม่ยอมเทรนให้ แล้วปล่อยให้เด็กตรงหน้าไปเผชิญความซาดิสต์แบบนั้นตามลำพังก็ไม่ใช่วิสัยสุภาพบุรุษอย่างเขาเสียด้วย

เขาปรายตามองร่างเล็กที่นั่งกระพริบตาปริบ ๆ อยู่ข้าง ๆ ก่อนจะหัวใจเต้นรัวเมื่อพบว่าตนเองกำลังถูกดวงตาคู่โตจดจ้องอย่างคาดหวังจะได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

เด็กหนุ่มเงยหน้ามองใบหน้าคมตาแป๋วเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอ่านบทจบ ก่อนที่เสียงใสจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้ราเมศตัดสินใจได้ในทันทีว่า เขาคงหนีไม่พ้นต้อง 'สอนงาน' ให้เจ้าตัวเล็กตรงหน้านี้อีกแล้ว

"พี่พอจะรู้วิธีทำให้ตอนถูกตีไม่ค่อยเจ็บไหมครับ?"

'นี่นายจะทำให้ฉันหลงรักความใสซื่อของเจ้าตัวเล็กคนนี้ให้ได้เลยใช่ไหม เบส!!'

"ช่วยสอนผมได้ไหมครับ?"

"... อืม พี่ไม่อยากรับปากหรอกนะ บอกตรงๆ พี่ว่านายยังไม่เหมาะจะรับบทแบบนี้ มันรุนแรงเกินไป"

"แต่ว่า ถ้าพี่เบสสั่งมา ผมก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ?"

"มันก็... ไม่เชิงหรอกนะ นายมีสิทธิ์ที่จะแย้งถ้าหากว่านายไม่พร้อมกับบทบาทบางอย่าง ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะมีความสุขเมื่อถูกเฆี่ยนด้วยแส้"

"... สำหรับผม มันฟังดูน่ากลัวมากเลยล่ะ"

"ก็ไม่แปลกหรอก ขนาดพี่ยังไม่ยอมเล่นบทแบบนี้เลย"

"จริงเหรอครับ?"

"อืม พี่บอกเบสไว้ว่ายังไงซะพี่ก็ไม่เล่นบทนี้ คนทั่วไปก็พอเล่นได้อยู่ถ้าอยู่ในวงการนี้นานๆ แต่พี่ไม่คิดเลยว่าหมอนั่นจะให้นายรับบทนี้ทั้งๆที่นี่เพิ่งเป็นครั้งที่สามของนาย แถมนายก็ยังเพิ่งอายุสิบหกด้วย!"

ปรานต์นิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ บอกตามตรงเขายังไม่เข้าใจว่าบทที่เขาได้รับมันคืออะไรกันแน่ คนปกติจะมีความสุขเมื่อถูกตีอย่างนั้นเหรอ?

"มีคนที่ถูกตีแล้วมีอารมณ์ด้วยเหรอครับ?"

"มันก็แล้วแต่คน พี่เองก็มีเพื่อนที่ชอบสไตล์นั้นเหมือนกัน"

"จริงเหรอครับ งั้นรบกวนพี่โทรหาเขาให้หน่อยได้ไหม?"

"โทรหา? เพื่ออะไรล่ะ?"

ราเมศเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจที่จู่ ๆ อีกฝ่ายนึกสนใจในตัวเพื่อนผู้มีรสนิยมแปลกของเขาขึ้นมา

"ก็เผื่อจะถามเทคนิคจากเขาไงครับ ว่าผมควรจะทำแบบไหนถึงจะเจ็บน้อยที่สุด... ที่จริงก็อยากให้เขามาสอนผมเลยแหละ แต่ว่าเกรงใจ ผมไม่รู้จักเพื่อนของพี่"

"นายจะบ้าเหรอไง นี่นายคิดจะรับบทนี้จริงๆเหรอ?!"

ราเมศเผลอตะคอกออกไปแล้วก็นิ่งอึ้ง เขาไม่ได้ตั้งใจจะเสียงดังใส่เด็กหนุ่มที่นั่งหน้าเสียอยู่ข้างๆด้วยความตกใจเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อเห็นร่างเล็กดูกระตือรือร้นจะรับบทนี้เสียเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเอาซะเลยแบบนี้ เขาก็อดอารมณ์ขึ้นไม่ได้

"เอาล่ะ ถ้านายอยากเล่นพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก ไว้จะโทรหาหมอนั่นให้ถ้านายต้องการขนาดนั้น"

เอ่ยจบก็ลุกขึ้นแล้วจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ แต่เขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อรับรู้ถึงแรงกอดจากด้านหลัง

ราเมศหยุดยืนนิ่ง ไม่พูดอะไร ในขณะที่เด็กหนุ่มที่กอดเอวของเขาเอาไว้แน่นก็ไม่พูดอะไรเช่นเดียวกัน

"เป็นอะไร?"

"... ผมขอโทษ"

"ขอโทษอะไร นายไม่ผิดอะไรสักหน่อย"

ราเมศจับข้อมือบางแล้วดึงให้ปล่อยจากเอว เด็กหนุ่มจึงถอยไปด้านหลังเล็กน้อยเมื่อเขาหันไปเผชิญหน้าตรง ๆ ใบหน้างามเจือแววหวาดหวั่นจนเขาได้แต่ถอนหายใจออกมายาว

"ฟังนะ พี่สามารถโทรเรียกให้หมอนั่นมาสอนนายได้ทุกเมื่อถ้านายต้องการแบบนั้นจริง ๆ แต่พี่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าเมื่อเริ่มแล้วก็หยุดไม่ได้แล้วนะ ถึงนายจะร้องไห้ ไม่ว่าจะในฉากหรือในการเทรน จะไม่มีการออมมือหรือหยุด นายพร้อมจริงรึเปล่าล่ะ?"

ปรานต์ก้มหน้าลง เขาพยายามไล่น้ำตาที่คลอดวงตาคู่สวย แต่ชายหนุ่มกลับใช้มือประคองใบหน้าหวานให้เงยหน้าสบตากันตรง ๆ เมื่อเห็นหยดน้ำที่รื้นดวงตาคู่โต ราเมศก็ระบายลมหายใจออกมาแล้วลูบศีรษะมนอย่างอ่อนโยน

"ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม... แต่ฉันไม่อยากให้นายต้องถูกทำให้แปดเปื้อนเพราะวงการนี้เลย"

แล้วเด็กหนุ่มก็ต้องปล่อยให้น้ำตารินไหลต่อหน้าชายผู้นี้อีกจนได้ ทั้งชีวิตที่ผ่านมา เขาไม่เคยพบใครที่เอาใจใส่เขามากขนาดนี้มาก่อนเลย ใครที่เข้าใจเบื้องลึกของหัวใจของเขา ใครที่คอยเป็นห่วงเป็นใย ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวพันใดทางสายเลือดแม้แต่น้อยแบบนี้

มือเล็กเลื่อนขึ้นมาจับมือแกร่งที่ประคองแก้มใสทั้งสองข้างเอาไว้ ก่อนที่ปรานต์จะหลับตาลงเมื่อราเมศใช้ปลายนิ้วซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน

"วันนี้พักผ่อนก่อนดีกว่า เรื่องนี้ค่อยคิดกันอีกทีว่าจะเอายังไง ดีไหม?"

"... ครับ"

เด็กหนุ่มพยักหน้ารับคำ เขามองลึกเข้าไปในดวงตาคม ก่อนจะเอ่ยถาม

"พี่โกรธผมรึเปล่า?"

"ไม่โกรธสักหน่อย"

"แล้วเมื่อกี้พี่โกรธผมเรื่องอะไรเหรอครับ? คราวหน้าผมจะได้ระวัง ไม่ทำอีก.. ผมไม่อยากให้พี่โกรธผมเลย"

ราเมศนิ่งเงียบ เขาโกรธปรานต์เรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?

ตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้แค่ว่าทันทีที่คิดว่าอีกฝ่ายอยากเทรนกับภากร ความหงุดหงิดก็พุ่งปรี๊ดจนควบคุมไม่อยู่ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยแลกคู่นอนกับกรที่เป็นเพื่อนสนิทสุด ๆ มาก่อน แต่พอเป็นปรานต์แล้ว เขากลับไม่พอใจขึ้นมา

เป็นเพราะอะไรกัน*?*

มือหนาลูบศีรษะมนเบา ๆ

"ไม่มีอะไรหรอก เอาล่ะ ไปพักผ่อนได้แล้ว"

ทว่าปรานต์ยังไม่ยอมเลิกรา มือบอบบางคว้าชายเสื้อของร่างตรงหน้าเอาไว้แล้วดึงเบา ๆ พร้อมกับช้อนตามองด้วยดวงตากลมโตคู่สวย

"พี่เกลียดผมแล้วเหรอ...?"

ความอดทนของราเมศเหมือนจะขาดผึงในเสี้ยวพริบตาที่มองภาพนั้น ร่างสูงเหมือนหัวใจจะหยุดเต้นเมื่อได้เห็นเด็กหนุ่มเงยหน้ามองด้วยสายตาหวานจนแทบจะละลายเขาได้ในไม่กี่วินาที บวกกับชุดนอนผ้าเนื้อบางสีขาวที่ดูจะไซส์ใหญ่เกินเด็กหนุ่มไปหน่อย จึงทำให้เมื่อมองจากมุมสูงแล้ว สามารถเห็นผิวเนื้อใต้ร่มผ้าได้อย่างชัดเจน

ผิวขาวเนียนและยอดอกสีชมพูที่สามารถมองเห็นได้อย่างวับ ๆ แวม ๆ กำลังจะทำให้เขา --- ขาดสติ


 
 
 
 
TBC.

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :z10: :hao6: :z10: :hao6: :hao6: รามตกหลุมพรางแสดงเองแน่ ๆ  :hao6: :hao6: :z10: :z10: :hao6:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

แผนสูงนะเนี่ยเบส  หุหุ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เหมือนเบสอยากทำหน้าที่พ่อสื่อนะเนี่ย ยัดเหยียดแต่บทแปลกๆ ให้รามเทรนให้น้องนะเนี่ย

ออฟไลน์ SoSweetCB

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สงสารน้องเลย ดีที่ได้มาเจอกับรามก่อน
ไม่คิดว่าจะเจอพล็อตนิยายแบบนี้ เรากำลังอยากอ่านแนวถ่ายแบบถ่ายหนัง
จะติดตามตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ฉากสุดท้ายคือขาดสติไปเลย น้องยั่วไม่รู้ตัวว

ออฟไลน์ Hapmar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น้องงงงงงงงงงง :haun4: :ling1:

ออฟไลน์ Hananijinji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องขี้อ้อนขนาดนี้ใครจะกล้าตีหนูได้ลงคอออออ :z10:

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
บอกไปเลยว่าไม่อยากให้นอนกับคนอื่น

ออฟไลน์ MilkTea

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
​[ACT 7]



"พี่ไม่มีทางเกลียดนายหรอกน่า"

"แต่พี่ไม่ยอมบอกผมนี่นาว่าโกรธผมเรื่องอะไร"

"แบบนั้นจะถือว่าเกลียดกันแล้วเหรอ?"

"ก็มัน..."

"งั้นพี่จะพิสูจน์ว่าพี่ไม่ได้เกลียดนาย"

"... ยังไงเหรอครับ?"

ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม แล้วคว้าร่างเล็กมาอุ้มเอาไว้ราวกับเป็นเจ้าหญิงน้อย

"อ๊ะ!!!"

ร่างสูงใหญ่โอบอุ้มเรือนกายเพรียวเอาไว้แนบอก ส่งผลให้เด็กหนุ่มรีบกำเสื้อเชิ้ตสีดำของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นด้วยความตกใจ ราเมศหัวเราะเบา ๆ แล้วโยกร่างที่อยู่ในอ้อมแขนไปมาอย่างหมั่นเขี้ยว

"เจ้าตัวเล็ก ตัวเบาขนาดนี้ไม่ต้องกลัวตกหรอกน่า พี่อุ้มไหว"

ปรานต์หน้าแดงระเรื่อ ไม่รู้ว่าเขาอายอะไรกันแน่ระหว่างการถูกเรียกด้วยชื่อเล่น 'เจ้าตัวเล็ก' ที่อีกฝ่ายเรียกจนติดปาก หรือการถูกอุ้มแนบชิดใกล้เสียจนได้ยินเสียงหัวใจ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่มีเวลาจะมาคิดอะไรมาก เมื่อร่างของเขาถูกวางลงบนเตียงใหญ่อย่างแผ่วเบา

ริมฝีปากหยักที่จรดลงใกล้ใบหน้างาม ส่งผลให้เจ้าของดวงหน้าหวานเกร็งกายด้วยความตื่นเต้น อีกทั้งยังเขินจากการถูกดวงตาคมเปี่ยมเสน่ห์จับจ้องในระยะประชิด

ราเมศประทับจูบแผ่วเบาหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ เลาะเล็มไปตามเรียวปากสีชมพูอ่อนนุ่ม แล้วไล้ปลายลิ้นเลาะเข้าไปในโพรงปากงาม ลิ้มรสหอมหวานของร่างเยาว์ที่สั่นสะท้านจากรสจูบที่แสนหวาน มือเล็กปัดป่ายไปมาบนแผ่นหลังกว้างอย่างปรารถนาจะสัมผัสความร้อนระอุจากเรือนกายใหญ่

ชายหนุ่มลอบยิ้มเมื่อรับรู้ได้ถึงอาการร้อนรนนั่น เขาคลายริมฝีปากออกจากความหวานล้ำ แล้วผละจากร่างบอบบางที่เปลือยเปล่าโดยที่เจ้าของร่างยังไม่ทันรู้ตัว ดวงตาคมที่กวาดสำรวจทั่วเรือนร่างทำให้ใบหน้างดงามแดงระเรื่อ ก่อนที่เขาจะยิ่งอายเสียจนต้องขบเม้มริมฝีปากของตนเองเมื่อได้ยินเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยดัง

"แยกขาออกซิ ปรานต์"

ปรานต์ยังไม่กล้าทำตามที่ร่างสูงเอ่ยเอื้อน เขาสั่นศีรษะน้อยๆพลางทอดสายตามองร่างสูงที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า มือใหญ่ค่อย ๆ รูดซิปกางเกงลง เผยให้เห็นส่วนร้อนจัดที่ใหญ่โตจนเขาแทบไม่กล้ามอง ทว่ากลับละสายตาไปไม่ได้ เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตนเองคล้ายกับต้องการชิมรสความแข็งแกร่งนั้น แต่ร่างสูงกลับสะกดเขาเอาไว้ด้วยประโยคเดิมอีกครั้ง

"นายต้องการพี่ใช่ไหม... พี่เองก็ต้องการนายเหมือนกัน เพราะงั้น แยกขาออก... ให้พี่เห็นร่างกายทุกส่วนของนาย ปรานต์"

เจ้าของใบหน้าแดงจัดค่อยๆขยับขาแยกออกน้อย ๆ ปฏิกิริยาเขินอายไม่แตกต่างจากครั้งแรกส่งผลให้ราเมศพึงใจนัก ยิ่งได้เห็นส่วนที่ชูชันด้วยแรงอารมณ์ ยิ่งทำให้ร่างหนาอยากครอบครองเป็นเจ้าของเรือนกายบอบบางนี้โดยเร็ว แต่เขาก็ยั้งใจไว้ก่อน

คืนนี้เขาอยากจะทำให้เด็กหนุ่มเป็นฝ่ายเรียกร้องสัมผัสจากเขาด้วยตนเอง อยากจะทำให้ริมฝีปากสีสดสวยคู่นั้นร้องเรียกแต่ชื่อของเขา อยากจะเป็นเพียงภาพเดียวที่สะท้อนอยู่ในดวงตาหวานฉ่ำคู่นั้น อยากจะเป็นเจ้าของเรือนร่างอันไร้ที่ตินี้แต่เพียงผู้เดียว

ชายหนุ่มยิ้มขำตัวเอง เขาไม่เคยปรารถนาใครมากถึงเพียงนี้มาก่อน โดยเฉพาะเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่เคยที่จะเป็นเป้าหมายของเขาเลย จะบอกว่าเป็นเพราะความสดใหม่อย่างนั้นรึเปล่า เขาก็ยังให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้

"เด็กดี..."

ราเมศเอ่ยเบาๆเมื่อเด็กหนุ่มรับปลายนิ้วของเขาเข้าไปอย่างว่าง่าย เรือนกายสั่นระริกอย่างเขินอายและริมฝีปากงามที่ขบเม้มแน่นเพื่อกลั้นเสียงร้องแลดูผิดกันกับช่องทางร้อนจัดที่ดูดกลืนนิ้วยาวของเขาเข้าไปจนราเมศต้องอมยิ้มน้อยๆอย่างนึกขำ ช่างเป็นร่างกายที่เรียนรู้ไวผิดกับอุปนิสัยขี้อายเสียจริง

ชายหนุ่มก้มลงชิมรสยอดอกสีชมพูที่ชูชันราวกับรอคอยให้เขาดูดเม้มลิ้มความหอมหวาน ผิวกายเนียนสะท้านวาบเมื่อเรียวปากหยักฝากฝังร่องรอยไว้จนทั่ว มือบอบบางเริ่มจิกกำผ้าปูที่นอนเนื้อดีเมื่อมือร้อนเริ่มเลื่อนลงไปตามขาอ่อน ทิ้งสัมผัสวูบวาบให้ปรารถนามากยิ่งขึ้น แต่แล้วกลับผละจากเมื่อเลื่อนมือใกล้ถึงส่วนอ่อนไหว

ปรานต์ส่งเสียงประท้วงในลำคอเบาๆ เมื่อชายหนุ่มจงใจบีบคลึงแก้มก้นเนียน แต่ไม่ยอมแตะต้องส่วนที่แข็งขึงด้านหน้า ขณะที่ริมฝีปากร้อนจัดยังคงทำหน้าที่ไม่ยอมหยุด จนเด็กหนุ่มเริ่มไม่แน่ใจว่ามีส่วนใดบนผิวกายของเขาที่ชายหนุ่มยังไม่ได้ลิ้มลองอีกหรือไม่

"อ๊ะ...พี่... ราม"

เอวบางหยัดเกร็งเมื่อจู่ๆเจ้าของร่างหนาก็นาบฝ่ามือเข้ากับส่วนร้อนผ่าวตรงหน้า หยาดน้ำแรกหลั่งรินราวกับหยดน้ำตา เชิญชวนให้ริมฝีปากอุ่นร้อนตรงเข้าครอบครองอย่างคนกระหาย เรียกเสียงหวานกรีดดังด้วยความเสียวสะท้าน

"อ๊า...! พี่... อ๊ะ....อา!"

ปรานต์เม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงร้องที่น่าอาย แต่กลับถูกปลายนิ้วเรียวอีกข้างสอดเข้าไปพัวพันกับเรียวลิ้น เด็กหนุ่มดูดปลายนิ้วเรียวทั้งสองพร้อมกับขบเม้ม กระตุ้นอารมณ์ชายหนุ่มให้พุ่งสูงยิ่งขึ้น

ราเมศดูดซับส่วนอ่อนไหวที่สั่นระริกอยู่ในช่องปาก เขารู้สึกได้ว่าร่างตรงหน้าเริ่มเกร็งกายมากขึ้น จึงได้ถอนริมฝีปากออกแล้วสอดปลายลิ้นเข้าไปในช่องทางสีชมพู

"อ๊า! พี่ราม..! ยะ อย่า... ตรงนั้นมัน..."

ชายหนุ่มไม่ฟังเสียง เขาใช้นิ้วโป้งทั้งสองข้างแหวกแยกช่องทางพลางแทรกเรียวลิ้นเข้าไปลึกยิ่งขึ้น จนเด็กหนุ่มแอ่นกายแผ่นหลังไม่ติดเตียง ปลายเท้าจิกผ้าปูที่นอนจนยับย่น หยดน้ำตารินอาบใบหน้าด้วยความหฤหรรษ์ ก่อนที่ร่างงามจะกระตุกเกร็งแล้วปลดปล่อยออกมาจนเปรอะหน้าท้องเรียบเนียน

"อะ... อา....."

เด็กหนุ่มปรือตาลงพลางหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนที่ใบหน้าหวานจะแดงวาบเมื่อรับรู้ได้ถึงส่วนร้อนจัดที่แนบชิดช่องทางสีสวยอยู่ เขาปิดตาลงเมื่อร่างสูงค่อย ๆ กดกายเข้าไปทีละน้อยอย่างเนิบช้า ค่อยเป็นค่อยไป ทว่าใบหน้างามก็ยังแสดงท่าทีอึดอัดออกมาอย่างเสียไม่ได้

ความใหญ่โตที่เบียดแทรกเข้ามาทำให้เขาต้องอ้าปากหายใจเพื่อคลายอาการเกร็ง พยายามรับทั้งหมดของรามเข้ามาให้ได้ เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายพยายามอดทนมากที่จะไม่แทรกกายเข้ามารวดเดียว และยังต้องนิ่งค้างไว้เพื่อให้เขาปรับตัวได้ก่อน

ราเมศเอาใจใส่แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นนี้ ปรานต์จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะมอบความสุขให้กับชายหนุ่มเช่นเดียวกัน

"อึก.... อา..... ปรานต์..."

ราเมศแทบจะกลั้นหายใจเมื่อพบกับความร้อนผ่าวที่หนั่นแน่นยิ่งกว่าลาวา ความคับแน่นของเด็กหนุ่มที่ตอดรัดท่อนลำของเขาอยู่กำลังจะทำให้เขาคลั่ง อยากกระแทกกระทั้นเข้าไปจนสุดในคราเดียว แต่ก็รู้ดีว่าหากทำแบบนั้น เด็กหนุ่มจะยิ่งเจ็บปวดมากกว่านี้ เขาจึงอดทนอย่างเต็มที่

ในใจเขาอดสงสัยไม่ได้ว่า คู่ขาที่เขาใส่ใจในเรื่องแบบนี้คนล่าสุดคือคนไหน แต่ในสมองกลับเบลอจัด นึกอะไรไม่ออก ทุกสิ่งทุกอย่างไปรวมอยู่ ณ จุดที่เชื่อมกันเป็นหนึ่งเดียวอยู่เท่านั้น

"... พี่ราม"

"... หืม?"

"ผม... พอจะไหวแล้วครับ" เด็กหนุ่มหน้าแดงน้อยๆเมื่อพูดอะไรแบบนี้ออกไป

“อาฮะ แล้ว...?”

ปรานต์หน้าแดงเรื่อเมื่อมองเห็นประกายซุกซนในแววตาคู่คม

“พี่แกล้งผม!”

“เปล่าแกล้งซะหน่อย”

“แล้วทำไม...?”

“ทำไมอะไร?”

ผิวแก้มใสแดงจัด เรียวปากคู่สวยเม้มนิ่งอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่เสียงหวานจะเอื้อนเอ่ย

"พี่ช่วยเข้ามาได้ไหมครับ... อ๊ะ! อะ.... อ๊า!"

พูดยังไม่ทันขาดคำ ชายหนุ่มก็แทรกกายเข้าไปจนสุดในทันทีราวกับรอคอยมานานจนแทบทนไม่ไหว ร่างเพรียวสั่นไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้นถี่กระชั้นเสียจนเสียงครางหวานดังไม่เป็นภาษา

เรียวขาขาวถูกแยกออกกว้างกว่าเคย แล้วรั้งขึ้นสูงจนเขารับรู้ได้ถึงความแนบชิดเมื่อรามสอดแทรกกายเข้ามาลึกที่สุด ความร้อนจัดที่เต้นตุบอยู่ภายในทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เขาดีใจที่มีราเมศเป็นคนแรกของเขาในการเข้าฉาก และในวันนี้ นอกฉาก เขาก็ยิ่งดีใจที่มีราเมศเป็นคนแรกของเขาเช่นกัน

"อ๊ะ..."

ปรานต์อุทานเบาๆเมื่อจู่ๆการเคลื่อนไหวที่ดุดันราวกับม้าป่าก็หยุดชะงักลงเสียดื้อๆ ขณะที่ราเมศคลี่ยิ้มบาง ก่อนที่ลำแขนแกร่งจะโอบรอบเอวบอบบางแล้วดึงให้ร่างงามนั่งบนตักทั้งๆที่ยังมีเขาอยู่ในเรือนกายนั้น

"พี่ราม...?"

"นี่... ตอนนี้ปรานต์เป็นของใคร?"

"... อะ เอ๊ะ ผม..."

"เป็นของพี่ใช่ไหม ปรานต์?"

คำสุดท้ายชายหนุ่มจงใจแนบริมฝีปากเข้าชิดกับใบหูบางแล้วกระซิบด้วยเสียงทุ้มนุ่มหวาน พร้อมกับเป่าลมหายใจร้อนรินรดซอกคอขาวกระจ่างจนร่างบอบบางสั่นสะท้าน

"ไหนตอบมาซิ..."

"ครับ... ผมเป็นของพี่ราม..."

ราเมศคลี่ยิ้มบาง "น่ารักมาก... ปรานต์”

เด็กหนุ่มหน้าแดงจนไม่รู้จะแดงอย่างไร ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมวันนี้ราเมศถึงได้หวานกับเขาขนาดนี้

“วันนี้เรามาเล่นเกมกัน"

"เล่นเกม?"

ปรานต์ทำหน้างุนงงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากตอนนี้เขาถูกเติมเต็มด้วยความใหญ่โตที่แข็งขึงอยู่ในกายจนแทบจะอยู่เรียกสติมาพูดคุยกันไม่ไหวแล้วด้วยซ้ำ แล้วยังจะมาเล่นเกมอะไรกันอีกล่ะ

"ใช่... เกมที่ว่าไม่ต้องใช้สมองมาก มีแค่ความอดทนอย่างเดียวพอ"

ราเมศไล้ปลายนิ้วไปตามผิวแก้มนุ่มที่แดงระเรื่ออย่างเอ็นดู

"ใครอดทนได้มากที่สุดเป็นฝ่ายชนะ"

"แล้ว... เล่นยังไงล่ะครับ?"

"ก็แค่... ขยับ"

เอ่ยพลางกระแทกกายสวนขึ้นจนร่างเล็กสะดุ้งเฮือก ร้องอุทานดังด้วยความเสียวกระสันต์จนขาแทบทรุด

"พี่จะทำเต็มที่ให้นายเสร็จให้ได้... ส่วนนายเองก็ทำยังไงก็ได้ให้พี่เสร็จ ใครเสร็จก่อนก็แพ้... ง่ายๆใช่ไหมล่ะ?"

เด็กหนุ่มหน้าแดงจัดพลางจ้องมองสีหน้าทะเล้นของอีกฝ่ายอย่างไม่อยากเชื่อ

"พี่ล้อผมเล่นใช่ไหม?"

ราเมศไม่ตอบคำถามนั้น กลับจงใจเคลื่อนกายกระแทกจนเด็กหนุ่มถึงกับต้องจิกปลายเล็บลงบนบ่าหนาเพื่อกลั้นอาการเสียววูบในช่องท้อง

"คนแพ้ต้องถูกลงโทษนะ..."

"ฮึก... อื๊ออ..."

"เอ้า อย่าอยู่เฉยๆสิ... ขยับ... แบบนี้ไง"

มือใหญ่จับสะโพกบางเอาไว้แล้วยกขึ้นลงอย่างช้าๆ ขณะดวงตาทอดมองดวงหน้าที่เต็มไปด้วยความรัญจวนของเด็กหนุ่ม เขากดศีรษะมนลงมาแนบจูบอย่างอดไม่ได้ ขณะมืออีกข้างยังคงกดสะโพกงามให้รับความปรารถนาของเขาจนลึกสุดอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปลี่ยนมุมประกบปากอย่างดูดดื่ม

"... อืม แบบนั้นล่ะ"

เขาเอ่ยพลางเลื่อนมือมารูดรั้งส่วนอ่อนไหวที่อยู่ตรงหน้า ส่งผลให้ร่างเล็กที่เริ่มขยับกายได้เองเคลื่อนกายช้าลง ราเมศได้โอกาสจึงกระแทกกายจนลึกสวนขึ้นไปอีกนับครั้งไม่ถ้วน

"อะ.. อ๊ะ! อา... อะ....!"

ปรานต์กดสะโพกรับแรงกระแทกสวนขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เขานึกอะไรไม่ออก ทุกสิ่งทุกอย่างไปรวมกัน ณ ช่องทางสีสวยที่ถูกเสียดสีด้วยแท่งร้อนจัดราวกับไฟ ยิ่งราเมศรุกเร้ารุนแรงเพียงใด เขาก็ยิ่งมีอารมณ์มากขึ้นจนใกล้ถึงจุดสูงสุด ก่อนที่ร่างเล็กจะบีบรัดความแข็งแกร่งเอาไว้แน่นแล้วปลดปล่อยออกมาจนเลอะหน้าท้องที่เต็มไปด้วยลอนกล้ามหนา

การตอดรัดที่รุนแรงทำให้รามขบริมฝีปากพลางครางในลำคอ ก่อนจะสวนกายหนัก ๆ เข้าไปอีกไม่กี่ทีก็ปล่อยสายน้ำร้อนจัดเข้าไปในเรือนกายบอบบาง แล้วทิ้งกายลงกับเตียงพร้อมกันกับร่างเล็กที่ทาบทับตามมา เขาลูบแผ่นหลังเนียนชื้นเหงื่อเบา ๆ พลางระบายรอยยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นดวงตาคู่โตสวยปรือปรอยมองมา

"... ผมแพ้"

"ไม่หรอก... เราเสมอกัน"

เด็กหนุ่มยิ้มให้กับใบหน้าอ่อนโยนนั่น ก่อนจะปิดตาครางเบา ๆ เมื่อราเมศค่อยๆถอนกายออก

"พี่ราม..."

"นอนซะ... เด็กดี"

เด็กหนุ่มหลับตาลงเมื่ออีกฝ่ายลูบศีรษะของเขาอย่างเอ็นดู น่าแปลกที่ปกติแล้วเขาไม่ชอบให้ใครมองว่าเขาเป็นเด็ก เพราะเขาผ่านเรื่องมากมายเสียจนเขารู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่กับชายหนุ่มคนนี้ เขากลับพึงพอใจเมื่อได้รับการปลอบประโลมและการดูแลที่อ่อนโยนราวกับเขาเป็นเพียงเด็กตัวน้อยคนหนึ่งเท่านั้น


 
 
TBC.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เสียตัวทุกวันเลย

ออฟไลน์ SoSweetCB

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
บอกว่าน้องเป็นของตัวเองแล้วแล้วจะรับเลี้ยงส่งเสียมั้ยจ๊ะคุณราม  :-[

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
บทเรียนต่อไปล่ะจ๊ะพี่ราม

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พี่รามอย่ามาเล่นๆ กับน้องนะคะสงสารน้องเขา

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ชอบเล่นเกมจังเลยยย ทำไงดี อิอิ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พี่รามหลงเสน่ห์หญ้าอ่อนแล้ว555

ออฟไลน์ Hananijinji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่รามต้องคิดอะไรกับน้องแน่ๆเลยจ้า

ออฟไลน์ MilkTea

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
[ACT 8]




"เลื่อนการถ่ายทำเหรอครับ?"

"ใช่ เมื่อกี้เบสโทรมาบอกว่ามีปัญหาอะไรนิดหน่อย เพราะฉะนั้นวันนี้นายไม่ต้องไปทำงานก็ได้"

"เหรอครับ.."

ปรานต์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เนื่องจากเขายังไม่รู้จะทำอย่างไรกับบท SM ที่ได้รับ เด็กหนุ่มเดินตามร่างสูงใหญ่ที่สวมชุดสูทสีดำต้อย ๆ อย่างไม่รู้จะทำอย่างไร

"พี่จะไปไหนเหรอครับ?"

"ว่าจะออกไปดูหน่อยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ปกติแล้วเบสไม่ใช่คนเลื่อนงานกระชั้นชิดแบบนี้ นายรอที่นี่แหละ"

"ครับ

เด็กหนุ่มรับคำพร้อมกับมองตามแผ่นหลังหนาไปจนกระทั่งประตูห้องปิดลง ในใจอดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขารู้ไปก็คงช่วยอะไรไม่ได้ เด็กหนุ่มยักไหล่แล้วมุ่งหน้าไปที่ Mac Book รุ่นใหม่ที่ราเมศเพิ่งซื้อมาให้เขาเมื่อวาน หลังจากที่เขาบ่นว่าแล็ปท็อปของราเมศอืดอาดเหมือนคนแก่

มือเล็กคลิกเข้าเว็บไซต์ทั่วไป ก่อนจะเช็คอีเมล์แล้วทำหน้านิ่งไปเมื่อพบกับเมล์จำนวนมากที่ส่งมาจากครอบครัวที่เขาหนีมา แค่เห็นเพียงหัวข้อเมล์ เขาก็รู้ว่าฝ่ายนั้นไม่เคยเปลี่ยนวิสัยความรุนแรง ที่ร้ายกว่านั้นคือดูคร่าว ๆ แล้วเขากำลังถูกตามหาอยู่ ปรานต์ปิดหน้าจอนั้นทิ้งแล้วฟุบหน้าลงกับผืนเตียง

ถ้าหากว่าเขามีปีกบินไปไหนก็ได้ล่ะก็ เขาจะบินหนีไปให้ไกลที่สุด --- ไกลจนไม่มีใครสามารถตามหาเขาได้พบ ในที่ที่เขาจะไม่ต้องทำให้คนอื่นเดือดร้อนแม้เพียงคนเดียว

แม้ว่าในตอนนี้ ที่ที่เขาอยากจะอยู่จะมีเพียงที่นี่ที่เดียวก็ตาม --- แต่ว่าที่นี่ไม่ใช่ 'ที่อยู่' ของเขา



*****



"ว่าไงนะ?"

"ก็อย่างที่บอกนั่นล่ะ ต้องยอมรับว่าครอบครัวของเด็กคนนั้นทำธุรกิจใหญ่พอตัวอยู่ ถึงได้ตามหาจนเจอง่ายดายขนาดนี้"

พัลลภเอ่ยพร้อมกับจิบไวน์ชั้นดีอย่างบอกรสไม่ถูก

"เล่นมาขู่กันแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้ คงให้เด็กคนนั้นมาถ่ายทำด้วยไม่ได้แล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเขาก็จะมาจับตัวไป"

"จับตัว? นี่เป็นคำพูดของคนในครอบครัวเหรอ?"

"... จากที่ดู ฉันก็ไม่คิดหรอกว่าครอบครัวนี้จะรักกันดี ไม่อย่างนั้นเด็กคนนั้นคงไม่หนีออกมาหรอกใช่ไหมล่ะ อีกอย่าง จากที่ฉันให้คนไปสืบมาเมื่อกี้ เจ้าของธุรกิจดูจะชอบความรุนแรง เหมือนจะเป็นตัวพ่อในตลาดมืดด้วย"

ราเมศนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างตัดสินใจได้

"ฉันไปล่ะ"

"ไปไหน?"

"กลับ... ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้เด็กคนนี้กลับไปเจอพ่อแม่เฮงซวยแบบนั้นอีก"

"หมายความว่าไง นายจะเลี้ยงเด็กคนนี้เองรึไง?"

"ถ้าจำเป็นฉันก็จะทำ ตราบใดที่ฉันยังไม่วางใจว่าปรานต์จะสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย ฉันก็จะดูแลเขาเอง และถ้าปรานต์ไม่อยากจะกลับบ้านหลังนั้นจริง ๆ เขาก็จะอยู่กับฉันจนกว่าจะถึงวันที่โตพอที่จะดูแลตัวเองได้จริงๆ แค่เด็กคนเดียว ฉันเลี้ยงได้อยู่แล้ว"

"นาย... เอาจริงเหรอ?"

"ฉันดูเหมือนกำลังล้อเล่นหรือไงล่ะ?"

"... ถ้านายตัดสินใจแบบนั้นจริงๆ ฉันจะร่วมมือด้วยอีกแรง"

"นายจะทำอะไร?"

พัลลภยิ้มบาง "ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ทำให้ฝ่ายนั้นรู้... ว่าที่นี่ อำนาจเป็นของใคร"



*****



เสียงประตูส่งผลให้เจ้าของร่างบอบบางที่ทำอาหารอยู่ในครัวผละจากเตาแล้วมุ่งหน้าไปยังร่างสูงที่เพิ่งก้าวเข้ามาในห้องรับแขก ใบหน้างดงามฉายแววประหลาดใจที่ชายหนุ่มกลับมารวดเร็วเช่นนี้

"ทำไมกลับมาเร็วจังล่ะครับ? คุยกับพี่เบสเรียบร้อยแล้วเหรอ?"

ดวงตาคู่โตสวยเต็มไปด้วยแววสงสัย เจ้าของใบหน้าน่ารักเอียงคอเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบคำ แต่กลับจ้องมองมาอย่างเงียบๆ

"ฮัลโหล? พี่ยังอยู่กับผมรึเปล่าครับ?"

มือเล็กเริ่มโบกไปมาใกล้ใบหน้าคม ท่าทางน่าเอ็นดูแบบนี้ทำให้ราเมศอดไม่ใจไม่ไหวจนต้องคว้าร่างของเด็กหนุ่มมากอดเอาไว้

"อ๊ะ พี่ราม..."

"... ใครสอนให้ทำตัวน่ารักแบบนี้ หืม?"

เสียงทุ้มเอ่ยเบา ๆ ไร้ซึ่งแววตำหนิแต่อย่างใด แก้มใสแดงระเรื่อเมื่อริมฝีปากหยักกระซิบชิดริมหูจนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดได้อย่างชัดเจน

"ปรานต์..."

"ครับ...? พี่เป็นอะไรไปรึเปล่า?"

"... เปล่า"

ราเมศเอ่ยเบา ๆ ก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเล็กน้อย แล้วปล่อยร่างเล็กออก

"ทำอะไรอยู่ที่ครัวล่ะ?"

"อ๊า! จริงด้วย!" เสียงใสร้องลั่นพร้อมกับร่างเพรียวที่รีบหันหลังวิ่งกลับไปที่ครัวในทันที "ผมลืมไปเลยว่าเปิดเตาทิ้งไว้ ผมต้มมาม่าอยู่ครับ พี่จะทานด้วยกันไหม?"

"... กินแต่ของแบบนี้นะเรา"

ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกมายาว พลางเดินตามไปชะโงกหน้าข้ามไหล่บางเพื่อดูว่าปรานต์ต้มอะไรอยู่ในหม้อบ้าง

"เติมเนื้อกับผักลงไปด้วยสิ มีแต่เส้นแบบนี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพซะที่ไหน"

"ก็ผมนึกว่าจะกินคนเดียวนี่นา จะเรื่องมากทำไมให้วุ่นวาย"

"แน่ะ หาว่าพี่เรื่องมากเหรอ" ปลายนิ้วเรียวเอื้อมมาบีบจมูกโด่งรั้นเบาๆ "นี่พี่พูดเพราะเป็นห่วงนายหรอกนะ"

"ก็ถ้าทำให้พี่กินผมก็คงใส่อย่างอื่นลงไปด้วยแหละครับ แต่ผมกินคนเดียวก็ไม่เลยไม่ได้คิดอะไรมากนี่นา ไว้คราวหน้าผมจะทำตามที่พี่บอก โอเคไหมครับ?"

"เฮ้อ นายนี่นะ ไหลไปได้เรื่อยๆจริงๆ"

เขาขยี้เรือนผมนุ่มนิ่มจนกระจัดกระจาย เรียกเสียงร้องโวยจากร่างเล็ก

"ยกไปนั่งกินที่โต๊ะก่อนไป เดี๋ยวพี่ทำกับข้าวอย่างอื่นไปให้"

"เอ๋? พี่ทำอาหารเป็นด้วยเหรอครับ?"

"พูดแบบนั้นหมายความว่าไง?"

"เห็นพี่เบสบอกว่าพี่ไม่ดูแลตัวเอง บ้านก็รก ไม่ทำความสะอาด อาหารก็ไม่ค่อยกิน"

พูดจบก็นึกถึงการใช้ชีวิตของร่างสูงที่ผ่านมา เขายังไม่เคยเห็นอีกฝ่ายทำอาหารกินเองก็จริง แต่ว่าเรื่องที่ว่า 'ไม่ดูแลตัวเอง' นี่ไม่ใช่เลย ราเมศใส่ใจเรื่องอาหารการกินและการใช้ชีวิตดียิ่งกว่าเขาซะอีก ถึงขนาดต้องให้แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดสัปดาห์ละสามครั้งเลยทีเดียว

"ก็... ไม่อย่างนั้นพี่เบสจะส่งผมมาอยู่กับพี่ทำไมกันล่ะ?"

ราเมศหยักรอยยิ้มอย่างขบขันสีหน้างุนงงของเด็กหนุ่ม อยากจะบอกว่าไม่มีอะไรมากหรอกถ้าเป็นพัลลภล่ะก็ อะไรที่คิดว่าจะทำให้เขาวุ่นวายได้ หมอนั่นทำหมดนั่นล่ะ ไม่รู้ชาติที่แล้วเคยทำกรรมอะไรไว้กันนักหนา

"เอาเถอะ ไปนั่งที่โต๊ะก่อน เส้นอืดหมดแล้ว" เอ่ยพลางช่วยร่างตรงหน้าถอดผ้ากันเปื้อนสีขาวของเขาที่เขาไม่เคยคิดจะใส่เลยแม้แต่ครั้งเดียว "เดี๋ยวรอชิมฝีมือทำอาหารของพี่ละกัน"

"ครับ"

ปรานต์ยิ้มรับ พร้อมกับยกชามมาม่าไปที่โต๊ะอาหารที่อยู่ในห้องถัดไป ในใจอดตื่นเต้นไม่ได้ว่ารสชาติอาหารของชายหนุ่มจะเป็นอย่างไร แต่เพียงไม่นานความตื่นเต้นก็เริ่มกลายเป็นความหวาดหวั่นปนระแวงเมื่อได้ยินเสียงร้องลั่นดังออกมาจากในครัวเป็นพัก ๆ ซ้ำยังได้กลิ่นเหม็นไหม้ออกมาอีกต่างหาก

"... นี่สรุปว่าทำอะไรอยู่ในครัวกันแน่เนี่ย"

"มาแล้ว ๆ"

ร่างสูงเดินออกมาจากครัว ในมือมีจานอาหารใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยผักที่ผัดมาพูนจาน

"ผัดผักสูตรพิเศษ"

ดวงตากลมโตหรี่มองอาหารตรงหน้าอย่างไม่ไว้วางใจ เพราะนอกจากใบเขียว ๆ ของผักแล้ว เขาไม่เห็นอย่างอื่นในจานเลย

"มีแต่ผักอะ"

"แน่นอนสิ ผัดผักกับเนื้อด้วยกันใช้ได้ซะที่ไหน อาหารเสียรสหมด แล้วนายก็ไม่ค่อยได้กินผักใช่ไหมล่ะ นี่ กินเข้าไปเยอะ ๆ เลยนะ พี่ไม่ได้ใช้น้ำมันด้วย รับรองว่าไม่มีคอเลสเตอรอลแน่นอน"

บางครั้งปรานต์ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า นี่เขาอยู่กับดาราหนังโป๊หรือว่าคุณแม่บ้านชีวจิตกันแน่ แต่บ่นมากไปก็ใช่ที่ เขาจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตากินมาม่าไปพร้อมกับผัดผักจานโตนั้น โดยมีร่างสูงตักข้าวมานั่งกินด้วยกันอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ก็ยอมรับว่ารสชาติก็ออกมาดีกว่าที่คิดเยอะเลยทีเดียว

"เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?"

"หืม? เรื่องอะไร?"

"พี่ดูเงียบผิดปกตินะ"

"ปกติพี่ก็ไม่ใช่คนพูดมากอยู่แล้ว"

"ใช่ แต่ว่าสีหน้าของพี่ดูไม่ค่อยดี เหมือนกำลังกังวลอะไรอยู่... พี่เบสเป็นยังไงบ้างครับ? พี่ยังไม่เล่าให้ผมฟังเลย"

ชายหนุ่มระบายลมหายใจที่ไม่สามารถปิดบังความรู้สึกได้มิด

"ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่มีปัญหาอะไรนิดหน่อย แต่ว่าเดี๋ยวหมอนั่นก็จัดการได้"

"จริงเหรอครับ ถ้าเป็นแบบนั้นทำไมพี่ต้องกังวลด้วยล่ะ?"

"คิดมาก พี่ไม่ได้กังวลอะไรสักหน่อย ไม่มีอะไรหรอกน่า"

"....."

เด็กหนุ่มไม่ตอบคำ ได้แต่ทำหน้ามุ่ยแล้วยกจานไปเก็บที่อ่างล้างจาน เขาไม่สบายใจเลยที่ร่างสูงดูมีทีท่าคล้ายกับปกปิดอะไรบางอย่าง แล้วเขาก็เชื่อว่า 'อะไรบางอย่าง' นั้นเกี่ยวข้องกับเขาด้วย มือเล็กรับจานของร่างสูงที่เดินมาสมทบ ก่อนจะอุทานดังเมื่อจู่ ๆ มือใหญ่ก็โอบรอบเอวบอบบางเอาไว้อย่างหลวม ๆ

"พี่นี่... ผมตกใจหมด เดี๋ยวทำจานแตกหรอกครับ"

"ไม่เห็นเป็นไรเลย"

ริมฝีปากร้อนไล่ไปตามแนวกรอบใบหน้างดงามจนเด็กหนุ่มตัวสั่นสะท้านคล้ายกับจะยืนไม่อยู่ จนต้องพิงกายกับร่างที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังแล้วปล่อยให้จานวางทิ้งไว้ในอ่างอย่างนั้นก่อน

"คนดี หงุดหงิดพี่ใช่ไหม...?"

ใบหน้าหวานแดงระเรื่อเมื่อถูกเรียกแบบนั้น แต่ก็ต้องรีบสลัดความอายทิ้งไปให้หมด เขาจะยอมใจอ่อนไม่ได้

"เปล่าครับ"

ปรานต์เอ่ยเสียงนิ่งๆ ทำเอาหัวใจร่างสูงตกไปที่ตาตุ่ม แต่ราเมศก็ไม่ยอมบอกความจริงออกไปเหมือนกัน เขาไม่อยากให้เด็กหนุ่มรู้สึกผิด

"อย่าโกรธสิครับ... นะ ดีกันนะ"

ปรานต์งับริมฝีปากไว้เพื่อกลั้นยิ้ม ดีนะที่ราเมศยืนอยู่ข้างหลัง ไม่อย่างนั้นคงเห็นว่าเขาต้องอดทนแค่ไหนที่จะไม่หัวเราะออกมา

"งั้นพี่บอกผมมาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่"

"ไว้บอกวันหลังนะ ดีกัน ๆ"

"ไม่เอา บอกผมก่อนสิ"

"ดีกันก่อน"

"บอกผมก่อน"

"งั้นก็ไม่บอก"

"ขี้โกง!"

เด็กหนุ่มหันหน้าไปหาร่างสูงที่ก้มใบหน้าลงใกล้จนริมฝีปากเกือบจะชนกัน เขาชะงักไปแล้วค่อย ๆ เขยิบใบหน้าหนีออกมา แต่กลับถูกมือแกร่งรั้งไว้แล้วแนบเรียวปากลงจูบอย่างเนิ่นนาน

"... อื้ม"

กว่าจะคลายริมฝีปากออก ปรานต์ก็สติกระเจิดกระเจิงนึกอะไรไม่ออกไปเรียบร้อย ชายหนุ่มแอบยิ้มในใจแล้วรีบเปลี่ยนเรื่องในทันที

"ออกไปข้างนอกกันไหม?"

"เอ๊ะ?"

ราเมศยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าแปลกใจของอีกฝ่ายที่ยังเรียกสติมาไม่ครบดี

"ก็บ่นว่าเบื่ออยู่บ้านไม่ใช่เหรอ ยังไงพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องทำงาน... คืนนี้เราไปเที่ยวกันดีไหม?"

เขาหัวเราะออกมาเมื่อมองเห็นประกายวิบวับด้วยความดีใจในดวงตาคู่โตสวย รู้สึกว่าเด็กหนุ่มน่าเอ็นดูจนต้องกอดร่างเล็กแน่น ๆ อีกครั้งแล้วจึงปล่อยมือ

"แต่งตัวยี่สิบนาทีทันไหม?"

"ขอแค่สิบนาทีเท่านั้นแหละครับ!"

ปรานต์เอ่ยแล้วรีบพุ่งเข้าห้องนอนไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงชายหนุ่มและจานที่ยังล้างไม่เสร็จที่ร่างสูงจำต้องสานต่อเอง

ในใจรู้สึกกังวล ไม่รู้ว่าจะปิดบังเรื่องนี้ไว้จากปรานต์ได้อีกนานแค่ไหน เขาได้แต่ภาวนาขอให้ให้เด็กหนุ่มรู้เรื่องที่เกิดขึ้น แม้จะไม่รู้เหตุผลว่าเหตุใดจึงได้หวาดกลัวขนาดนี้

--- กลัวราวกับจะสูญเสียปรานต์ไปได้ทุกเสี้ยววินาทีอย่างไรอย่างนั้น

เขาไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน ทั้งๆที่เขากับปรานต์ก็เพิ่งจะได้พบกันเพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่กลับรู้สึกว่าไม่อยากจะให้ร่างเล็กไปจากเขาแม้เพียงชั่วข้ามวัน


 
 

TBC.


ออฟไลน์ SoSweetCB

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ช่วยดูแลปกป้องน้องด้วยน้าาาาาา สงสารน้อง
อย่าให้ใครมาทำร้ายน้องอีก  :sad4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
อย่างนี้เขาเรียกว่าชอบโดยไม่รู้ตัวค่ะพี่ราม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ดูแลน้องด้วย

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
อย่าทำอะไรน้องนะ
จัดการมัน

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อยากรู้ข้อสรุปว่า  ใครจะมีอิทธิพลมากกว่ากัน  ระหว่างพี่เบสกับพ่อเลี้ยงของปรานต์

ออฟไลน์ Pankwun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ครอบครัวที่ปรานต์หนีมา
ไม่ได้รักปรานต์ ไม่ใช่ครอบครัวอบอุ่น
ทำเป็นมีเมตตารับเด็กกพร้ามาเลี้ยงบังหน้า
แต่ความจริงมีแต่ใช้ประโยชน์ ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก  เลวววววววววววว  :fire: :fire: :fire:
เบส สู้ๆ 

ราม ปรานต์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Hapmar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นุ้งปรานต์สู้ๆนะ พี่รามดูแลน้องดีๆนะ

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
ดีใจที่เจ้าตัวเล็กเจอคนดีๆ ติดตามค่าา

ออฟไลน์ MilkTea

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
[ACT 9]



​เสียงเพลงแจ๊สบรรเลงในร้านที่ประดับด้วยแสงสว่างสลัวเล็กน้อย รับกับเสียงพูดคุยของลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจชั้นแนวหน้า และเสียงแก้วกระทบกันเบาๆ เป็นบรรยากาศที่ชวนให้นั่งจิบเครื่องดื่มชั้นดีแก้วโปรด ขณะสนทนากับคนสนิทไปพลางๆ ที่นี่เป็นหนึ่งในร้านประจำของรามที่มักจะมากับภากรหรือไม่ก็พัลลภเสมอ สำหรับวันสบาย ๆ ที่ไม่ต้องการแสงสีเสียง พวกเขาก็มักจะมานั่งกันที่นี่

"เหมือนเดิมนะครับ คุณราม"

"ครับ แต่เบาหน่อยดีกว่า วันนี้ผมต้องขับรถเอง"

อันที่จริงเขาก็ขับรถกลับบ้านเองทุกครั้งที่มานั่นล่ะ แต่ต่างจากวันที่เขามึน ๆ แต่ก็ยังซิ่งรถกลับบ้านได้อย่างสบายใจเฉิบตรงที่วันนี้มีเด็กหนุ่มมาด้วย เขารู้สึกถึงความรับผิดชอบที่ต้องพาปรานต์กลับบ้านอย่างปลอดภัย

คิดพลางปรายตามองร่างบางที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ที่พยายามเก็บอาการตื่นเต้นไม่มองซ้ายมองขวา แต่ก็ยังฉายชัดในแววตาเป็นประกายคู่นั้นจนเขาต้องยิ้มออกมา

"พี่ราม ให้ผมดื่มแบบพี่บ้างได้ไหมครับ?"

"หืม... แต่นายยังไม่บรรลุนิติภาวะนะ"

แล้วเขาก็ต้องอ่อนใจเมื่อเจ้าตัวเล็กของเขาทำหน้ามุ่ยแล้วยู่ปากแดง ๆ จนน่าจับมาจูบเสียให้เข็ด

"ถ้าพี่จะไม่ให้ผมดื่มแล้วจะพาผมมาร้านแบบนี้ทำไม ขี้โกงนี่"

เอ่ยจบก็สะบัดหน้าพรืดไปอีกทางจนราเมศต้องยอมกระซิบสั่งให้บาร์เทนเดอร์นำค็อกเทลแบบอ่อนมาให้เด็กหนุ่มที่ทำตาโตเมื่อได้เห็นของเหลวสีฟ้าสวยตรงหน้า

"เอ้า ให้แก้วเดียวนะ"

"ครับ!"

ปรานต์ยิ้มกว้างในแบบที่ราเมศไม่มีวันทำเพราะกลัวตีนกาขึ้นในภายภาคหน้า มือเล็กคว้าแก้วทรงสูงมาถือไว้แล้วจ้องราวกับจะมองให้ทะลุว่าในของเหลวนั้นมีส่วนผสมอะไรบ้าง ก่อนจะยกขึ้นจรดริมฝีปากแล้วจิบทีละน้อย ขณะมีราเมศเท้าแขนมองอยู่ข้าง ๆ

ตอนแรกเด็กหนุ่มขมวดคิ้ว ทำสีหน้าแปลก ๆ กับรสชาติแบบใหม่ที่ได้รับ หวานปนซ่า แล้วทิ้งรสขมไว้ที่ปลายลิ้น เป็นเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ของสูตรค็อกเทลที่นี่ เขานึกว่าปรานต์จะไม่ชอบ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าใบหน้าหวานระบายไปด้วยรอยยิ้ม

"ชอบไหม?"

"อื้ม ครับ! อร่อยแบบ... แปลก ๆ แต่ก็ดีครับ"

ราเมศยิ้มให้กับสีหน้าระรื่นนั่น เขาเริ่มสังเกตเห็นว่าตั้งแต่มีเด็กหนุ่มอยู่ข้างๆ เขายิ้มมากขึ้น หัวเราะบ่อยขึ้น และรู้สึกผ่อนคลายยิ่งกว่าทุกที

"ก็ดีแล้ว แต่อย่าดื่มเร็วมาก... หวาน ๆ แบบนี้จะเมาเร็วรู้ไหม"

"จริงเหรอครับ ผมนึกว่าหวาน ๆ แบบนี้จะอ่อน ไม่น่าเมาง่ายนะ"

ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ เช่นเดียวกันกับหนุ่ม บาร์เทนเดอร์คู่ซี้ของเขาเองก็หัวเราะเบา ๆ อย่างเอ็นดูเช่นกัน

"ระวังโดนมอมนะแบบนี้"

ปรานต์เอียงคอน้อย ๆ เรียวปากหวานเชื่อมคลี่ยิ้ม

"... พี่จะมอมผมเหรอ?"

ราเมศเบิกตากว้างกับคำพูดน่ารักของอีกฝ่าย "บ้าเหรอ พี่หมายถึงว่า ระวังโดนคนอื่นมอมต่างหาก"

ท่าทีลุกลี้ลุกลนทำให้นราเดชรู้สึกแปลกใจจนแทบรินไวน์ให้ลูกค้าคนอื่นหก ยังดีที่เขาคุมตัวเองไว้ได้ทัน และเมื่อเสิร์ฟลูกค้าคนอื่นเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินมาหาเพื่อนสนิทแล้วทักทาย

"ว่าไง หนุ่ม สบายดีไหม?"

"ก็เรื่อย ๆ ดี นายล่ะ ไม่ค่อยเห็นตัวเลยนะช่วงนี้ ที่แท้มีเด็กนี่เอง"

เขาปรายตามองไปทางร่างบอบบางที่ยังคงกำแก้วสีสวยไม่ปล่อยราวกับกลัวคนจะมาแย่ง ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูชวนให้หลงใหล เขาเข้าใจอยู่หรอก แต่ความไร้เดียงสาที่เป็นออร่าออกมาอย่างเห็นได้ชัดเนี่ยสิ ไม่ใช่พวกแกล้งทำซะด้วย คนอย่างเขาดูใครไม่เคยผิดอยู่แล้ว อดสงสัยไม่ได้จริง ๆ ว่าเพื่อนเขาเล่นกับอะไรอยู่ หนุ่มคิดพลางแอบกระซิบระหว่างที่เด็กหนุ่มยังใจจดใจจ่อกับของมึนเมาในมือ

"นี่ราม น้องคนนี้ยังเด็กใช่ไหมเนี่ย? เดี๋ยวนี้นายเปลี่ยนสเป็คแล้วเหรอ?"

"เฮ้ย บ้า พูดอะไร"

ราเมศรีบกระซิบตอบอย่างรวดเร็ว เขาปรายตามอง 'เด็ก' ที่ว่า แล้วก็ต้องระบายลมหายใจออกมาอย่างไม่ค่อยเข้าใจ คนอย่างเขาเนี่ยนะจะหลงเด็ก ไม่มีทางซะล่ะ ก็คงเป็นเพราะเขายังไม่เคยเจอเด็กใหม่ที่ใสซื่อขนาดนี้เท่านั้นล่ะ เลยทำให้ติดเด็กคนนี้ชั่วคราว เดี๋ยวพอเวลาผ่านไป เขาก็คงชินไปเอง แล้วก็คงกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมได้

"นี่เด็กที่เบสฝากให้ดูแล... ก็เท่านั้นแหละ"

"อ้อ เดี๋ยวนี้นายเป็นที่รับฝากเลี้ยงเด็กแล้วเหรอ"

"หนุ่ม.. ปากดีไม่เปลี่ยนเลยนะ หน้าตาก็สวยดีแท้ ๆ"

ราเมศเอ่ยพลางหยักรอยยิ้มร้ายในแบบฉบับดารานำ ทำเอาคนที่ถูกเรียกเช่นนั้นอดขนลุกซู่ไม่ได้ หนุ่มรู้ดีว่าราเมศไม่นอนกับเพื่อน แต่อะไร ๆ ก็ไม่แน่นอนกับผู้ชายคนนี้

เขายังไม่พร้อมที่จะถูกนักแสดงหนังโป๊สุดฮอตคนนี้ลากขึ้นเตียงไปกระทำชำเราแบบนั้น เขาจึงรีบเบี่ยงประเด็นที่ทางร่างเล็กที่นั่งอยู่ด้านข้างในทันที

"ว่าแต่นายไม่คิดจะแนะนำน้องคนนี้ให้ฉันรู้จักหน่อยเหรอ"

"... นายก็ถามเองสิ ปากก็มีนี่"

เขาหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นทีท่าลุกลี้ลุกลนหาคนช่วยของนราเดชเพื่อนสนิท เขาก็ทำขู่ไปงั้นแหละ เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะคว้าเพื่อนขึ้นเตียงอยู่แล้ว

"ได้เลย สวัสดีครับ หนุ่มครับ ยินดีที่ได้รู้จัก"

"อ๊ะ... ผม ปรานต์ครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน"

"ปรานต์อายุเท่าไหร่เหรอ? จะได้เรียกแทนตัวเองถูกไง"

นราเดชยิ้มอย่างสดใสขณะปรายตามองไปทางชายหนุ่มร่างสูงที่ทำตาเหลือกแต่ก็ไม่สามารถห้ามอะไรเขาเอาไว้ได้ ประเมินหมอนี่ต่ำเกินไปแล้ว

ตอนแรกเด็กหนุ่มเอ่ยเบาเสียจนเขาไม่ได้ยิน จนต้องเอาหูเข้าไปใกล้ ๆ เมื่อได้ฟังอายุที่แท้จริงของร่างที่นั่งอยู่ที่บาร์เท่านั้นล่ะ เขาถึงได้ทำตาโตใส่ผู้เป็นเพื่อนโทษฐานพาเด็กอายุต่ำกว่าเกณฑ์เข้ามาในร้าน นี่คงใช้สิทธิพิเศษของสมาชิกวีไอพีแน่ถึงได้เดินเข้ามาสบาย ๆ ไม่เกรงกฎหมายเช่นนี้

"นายนี่ หาเรื่องให้ฉันจริง ๆ ถ้าหัวหน้ารู้ฉันจะเป็นยังไงรู้ไหม"

"จะไปรู้ได้ไง งานนายนี่ไม่ใช่งานฉัน"

"พูดดีนะนาย คิดถึงเพื่อนบ้างไหมเนี่ย"

"คิดถึงสิ ไม่งั้นจะมาหาเหรอ"

"ถ้ามาแบบนี้ไม่ต้องมาดีกว่ามั้ง... เอาเถอะ ยอมให้วันนึง อย่าทำแบบนี้บ่อยนักนะ เดี๋ยวฉันจะเดือดร้อนเข้าสักวัน"

ราเมศหัวเราะเบา ๆ "รู้แล้วน่า ถ้านายโดนไล่ออก ฉันจะรับผิดชอบด้วยการพานายเข้าวงการละกัน แบบนี้โอเคไหม?"

"ไม่โอเค!"

ปรานต์อดหัวเราะออกมาด้วยคนไม่ได้ นราเดชคงอายุมากกว่าเขาไม่กี่ปี ถึงได้ดูเป็นกันเองแบบที่เขาสามารถพูดคุยด้วยได้โดยไม่ต้องเกร็ง ชายหนุ่มเห็นว่าร่างเล็กยิ้มได้ หัวเราะได้แบบนี้เขาก็สบายใจที่พามาที่นี่

พวกเขานั่งพูดคุยหยอกล้อกันเช่นนั้นไปอีกพักใหญ่ รู้สึกตัวอีกทีก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ปกติเขาก็ยังไม่กลับบ้านในเวลานี้หรอก แต่เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มเริ่มตาปรือ จึงได้มองนาฬิกาแล้วหันไปหาหนุ่มให้คิดเงิน

"จะกลับแล้วเหรอ?"

"อืม วันนี้กลับก่อนดีกว่า ปรานต์ง่วงแล้วด้วย"

"ผมยังไม่ง่วงซะหน่อย"

พูดจบก็หาวออกมาอย่างอดไม่ได้ ทำเอาทั้งสองคนหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู แม้แต่หนุ่มก็ยังรู้สึกว่าเด็กคนนี้น่ารัก เพราะเป็นคนที่ไร้เดียงสาแบบธรรมชาติ ไม่ได้เสแสร้งทำตัวน่ารัก แต่น่ารักแบบนั้นอยู่แล้ว

"... ผมยังอยากคุยกับพี่หนุ่มอีกนะ"

"เอาไว้วันหลังก็ได้ ให้รามพามาบ่อยๆนะ พี่ก็อยากคุยกับปรานต์เหมือนกัน"

ราเมศอดเหล่นราเดชที่ยืนเช็ดแก้วอยู่ไม่ได้ ทีตอนแรกล่ะทำเป็นห้าม อย่าพามาอีกนะ แต่มาตอนนี้ พอคุยกันถูกคอเข้าหน่อยเท่านั้นล่ะ บอกให้พามาบ่อย ๆ เชียวนะ

"เครดิตฉันไปก่อนนะ ไว้เจอกัน"

"ขอบคุณมากนะ เจอกัน"

ร่างสูงลุกจากเก้าอี้ พร้อมกับช่วยพยุงร่างบางที่เซน้อย ๆ เนื่องจากเสียสมดุล

"เมารึเปล่า?"

"เปล่าครับ แค่มึนนิดหน่อย กินไปแค่แก้วเดียวเอง ไม่เมาหรอกครับ"

"ไม่เมาก็ดีแล้ว ไม่งั้นถ้าเมาค้างพรุ่งนี้เช้าจะปวดหัว"

"อื้ม... ไม่เมาครับ เห็นไหม ยังเดินเองได้อยู่เลย"

ปรานต์เอ่ยพร้อมกับหมุนตัวแสดงให้เห็นว่ายังสามารถควบคุมการทรงตัวได้อยู่ พวกเขาหยุดรอสัญญาณไฟเพื่อข้ามถนนไปยังลานจอดรถ ก่อนที่เด็กหนุ่มจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกจากด้านหลัง

"พี่ปรานต์!"

เจ้าของนามหันไปตามเสียงใสที่ร้องดังอย่างไม่อยากเชื่อหู ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพบกับร่างบอบบางที่ไม่คาดฝันว่าจะได้พบกันอีก

"เทพ?"

"พี่หายไปไหนมา?! รู้ไหมว่าผมเป็นห่วงพี่แค่ไหน?!"

ร่างเล็กโผเข้าสวมกอดร่างสูงกว่าของผู้เป็นพี่ชาย

"พี่ปลอดภัยดีรึเปล่า? ได้กินครบทุกมื้อไหม? ทำไมหายไปแบบนี้?"

มือนุ่มลูบไปตามแนวใบหน้างดงาม ขณะทอดสายตามองสีหน้าตกตะลึงของอีกฝ่ายด้วยดวงตาคลอหยดน้ำใส

"ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ได้?"

"ถามได้ ผมก็ออกตามหาพี่น่ะสิ เราเป็นพี่น้องกันนะ"

เด็กหนุ่มร่างบางปล่อยให้น้ำตารินไหลออกมา ขณะยังคงกอดร่างของพี่ชายเอาไว้ไม่ห่าง

"พี่ทิ้งผมไปได้ยังไง รู้ไหมว่าผมคิดถึงพี่มากแค่ไหน?"

ราเมศอดแปลกใจไม่ได้ที่ปรานต์ยืนอึ้ง มือเรียวไม่แม้แต่จะโอบกอดร่างเล็กของผู้เป็นน้องชายที่คร่ำครวญอยู่ตรงหน้าเลยสักนิด เขาคิดว่าร่างเพรียวของเขาคงกำลังตกใจที่จู่ ๆ น้องชายก็โผล่มาอยู่ตรงหน้า ก็น่าจะตกใจอยู่หรอก เขาเองก็ตกใจเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ตกใจที่จู่ๆมีเด็กหนุ่มโผล่มา

แต่ตกใจ --- ที่พวกเขาสามารถถูกพบตัวได้ง่ายดายเช่นนี้ ขนาดเด็กคนหนึ่งยังหาพวกเขาจนเจอได้เองเชียวหรือ

"พี่ไปอยู่ที่ไหนมา? ทำไมไม่กลับบ้านของเราซะที? ผมรอพี่ทุกวันเลยนะ"

"......"

ปรานต์จับร่างเล็กให้ถอยออกไปแล้วกัดริมฝีปากเงียบ ความเงียบที่น่าอึดอัดส่งผลให้บรรยากาศไม่ดีเสียจนราเมศต้องเป็นฝ่ายแทรกขึ้นมาเอง

"เราไปที่รถกันก่อนไหม?"

"คุณเป็นใคร?"

เสียงใสดังขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาคู่สวยสีเดียวกันกับปรานต์ของเขา แต่ประกายในดวงตาแตกต่างกันราวกับไม่ใช่พี่น้องกันอย่างไรอย่างนั้น

"... คุณจับตัวพี่ชายของผมไว้อย่างนั้นเหรอ?"

"ไม่ใช่นะ เทพ พี่มาขออยู่กับเขาเอง อย่าเสียมารยาทสิ" ปรานต์รีบห้ามเมื่อร่างเล็กทำท่าจะปรี่เข้าหาชายหนุ่ม "ขอโทษครับ พี่ราม... ผมขอคุยกับน้องตามลำพังก่อนได้ไหม?"

ราเมศรู้สึกตัวชาไปชั่วขณะ เขาไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะขอให้เขาถอยห่างออกไป แต่การได้ฟังประโยคนี้ก็ทำให้เขารู้สึกตัวว่า เขาเองก็เป็นเสมือน'คนนอก'ของร่างตรงหน้าที่เพิ่งจะพบกันได้ไม่กี่วัน ก็แค่ให้ที่พักอาศัยเพียงชั่วคราวเท่านั้น จะมีส่วนก้าวก่ายเรื่องภายในครอบครัวได้อย่างไร แต่ครั้นจะให้เขาปล่อยร่างเล็กคลาดสายตา เขาก็ไม่สบายใจอีก ด้วยกลัวว่าครอบครัวนั้นจะจับตัวปรานต์กลับไป

"ตกลง พี่จะรออยู่ฝั่งตรงข้ามนะ เผื่อมีอะไร..."

"ครับ..."

ร่างเพรียวทั้งสองรอให้ราเมศเดินข้ามถนนไปจนพ้นระยะที่จะได้ยิน ปรานต์จึงหันกลับมาที่ร่างของผู้เป็นน้องชายที่ยืนอมยิ้มอยู่ข้าง ๆ

"นายมาทำไม?"

"ก็บอกไปตั้งแต่แรกแล้ว... มาตามหา 'คุณพี่ชายสุดที่รัก' น่ะสิ"

"เหอะ บอกมาตรงๆเหอะน่า นายต้องการอะไรกันแน่? คนอย่างนายไม่มีวันพูดจาดี ๆ แบบเมื่อกี้ได้หรอก"

"หยาบคายจังนะคุณพี่... ผมออกจะเป็น 'เด็กดี' ทำตามที่คุณพ่อคุณแม่ขอร้อง"

"... พวกเขาให้นายมาตามหาฉันเหรอ"

"ก็ไม่เชิง พวกเขาตามหาพี่อยู่ต่างหาก แต่ผมก็แค่อยากตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วพอดีผมไปเจอเว็บล่าสุดที่พี่เข้า ก็เลยพอจะคลำ ๆ ทางได้"

"เว็บที่พี่เข้า...."

ปรานต์หน้าซีดเมื่อเขานึกถึงเว็บที่เขาเปิดไว้ล่าสุดด้วยคอมพิวเตอร์ในห้องนอนของเขา นั่นคือเว็บไซต์ของบริษัทที่เขาสมัครไว้ก่อนจะมาที่กรุงเทพฯ

"แต่เครื่องล็อคพาสเวิร์ดไว้นี่นา"

"... พี่ประเมินผมต่ำไปนะ พี่คิดเหรอว่าพาสเวิร์ดแค่นั้นจะซ่อนความลับของพี่จากผมได้ ไม่มีวันซะล่ะ"

"นาย... นายต้องการอะไร?"

"ผมเหรอ... ผมก็แค่อยากอยู่กับพี่ชายเท่านั้นเอง ผมบอกแล้วว่าผมคิดถึงพี่นะครับพี่ปรานต์ พี่ใจร้ายทิ้งผมไว้ที่บ้านหลังนั้นคนเดียว ไม่กลัวบ้างเหรอว่าผมจะโดนแบบที่พี่โดนประจำน่ะ"

ปรานต์หน้าซีดลงเมื่อได้ฟังดังนั้น ความทรงจำเลวร้ายผุดเข้ามาในสมองอย่างรวดเร็ว มือเรียวจิกกำจนเล็บจิกเข้าเนื้อเรียกสติของเขาเอาไว้ได้

"พ่อไม่เคยทำอะไรนาย... ตลอดมามีแต่ฉันที่โดนทำร้ายไม่ใช่รึไง"

"ก็ถูกของพี่นะ... แต่นั่นล่ะ พี่ต้องให้ผมอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นผมจะเอาซีดีนี่ไปให้พ่อกับแม่ดู"

รชตล้วงเอาซีดีที่เขาซื้อมาจากร้านที่เขาสนิทสนมด้วยออกมา

"รู้ไหมว่าหว่านล้อมเจ้าของร้านแทบตายกว่าจะได้มา..."

ภาพหน้าปกซีดีที่เป็นรูปของเขากับราเมศทำให้ใบหน้างามซีดเผือดลงไปทันตา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคืออะไร

"จะเป็นยังไงนะถ้าพ่อกับแม่รู้ว่าลูกชายมารับจ๊อบแบบนี้ ผมว่าพวกเขาก็หาพี่เกือบจะเจอแล้วนะตอนไปค้นกองถ่ายทำนั่น เพียงแต่เขาคงไม่คิดว่างานของพี่จะเป็นถึงนักแสดงในกองนั้น..."

รชตหัวเราะคิกคักอย่างสาแก่ใจเมื่อเห็นสีหน้าขาวซีดที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นของผู้เป็นพี่ชาย

"พ่อแม่คงแจ้งตำรวจจับคนในกองนั้นได้หมดด้วย... ดีออกนะ ทำเพื่อสังคมด้วย"

"นาย... ทำแบบนั้นไม่ได้นะ"

"ผมทำแน่ ถ้าหากพี่ไม่ทำตามคำพูดของผม"

"นายต้องการอะไร..."

"ผมจะดูซะหน่อยว่าพี่อยู่แบบไหนตั้งแต่หนีออกจากบ้านมา"

"แต่นั่นไม่ใช่บ้านของฉัน"

"ผมไม่สน ถ้าพี่ไม่ยอม ก็เตรียมตัวเจอดีได้เลย เอาสิ... ผมไม่ยอมให้เรื่องนี้จบไปง่าย ๆ แน่ พี่ปรานต์"

รชตยิ้มหวาน เป็นรอยยิ้มที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องพูดว่าเป็นรอยยิ้มของเทวทูตจากสวรรค์ แต่สำหรับปรานต์ นี่เป็นรอยยิ้มที่นรกสร้างมาโดยแท้

ราเมศทอดสายตามองร่างที่ยืนคุยกันหน้าดำคร่ำเครียดอยู่จากฝั่งตรงข้ามอย่างหวั่นใจ จากลางสังหรณ์แล้ว เขารู้สึกว่าเรื่องเลวร้ายกำลังจะตามมาในไม่ช้านี้ ก็ได้แต่หวังว่าลางสังหรณ์ของเขาจะไม่เป็นจริงเท่านั้น ---

 
 
 
TBC.

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
นี่ไม่ไว้ใจ และไม่ชอบน้องของปรานต์เลย
ดูไม่น่าจะมาดีอ่ะ

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
ทำไมไม่หลุดพ้นซักที

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด