Porn Star ✮ เมื่อผมเป็นดาราหนังเอวี [UPDATE 17/9/18] P.5 ✮ ACT 18 REJECT ✮
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Porn Star ✮ เมื่อผมเป็นดาราหนังเอวี [UPDATE 17/9/18] P.5 ✮ ACT 18 REJECT ✮  (อ่าน 37272 ครั้ง)

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :monkeysad:  :z6: หวังว่าพ่อเลี้ยงคงไม่ตามมารังควานอีกนะ

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
น้องน่าสงสารอ่ะ น้องยังใสใส คุณรามช่วยค่อยๆสอนน้องหน่อยนะ

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
รู้สึกปวดหัวหนักกว่าเดิม เมื่อเทพโผล่มา โอ่ยย  :katai1:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อิน้องนี่จะนำพาความเดือดร้อนมาแค่ไหนนะ ทำไมต้องเข้ามาวุ่นวายในชีวิตปรานต์ด้วย คนอุตส่าห์หนีมาแล้วยังจะตามมาอีก มาดีไม่ดีก็ไม่รุ้อีก

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สนุกมากเลยค่ะ ติดตามนะคะะ :-[

ออฟไลน์ Victor.yuriyurio

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :angry2: :-[ทำไม ให้น้องต้องทนกับเด็กผีด้วยยย อยากเอาไม้เรียวไปตีมัน :z6:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
สงสัย มีเบื้องหลัง

ออฟไลน์ skies

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พ่อหาเจอแล้ว เลยส่งเจ้าเทพมาตามดูรึเปล่านะ

ออฟไลน์ Mr.Sedsawa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอ้ยยยยย เด็กนี่มันร้ายยยยย55555555555 ขำสุดก็ตาเพื่อนพระเอกเนี่ย55555555555 โดนจับค่าาา ฮือออ5555555555 สมน้ำสมเนื้อ พี่จะยังไม่หัวร้อนใส่หนูนะน้องเทพ แต่ถ้าทำไรน้องปรานต์แม่ละก็ หึหึหึ เห็นดีกันค่ะลูก

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ขอบคุณมากค่ะ เราอดใจไม่ไหวจริงๆเลยต้องไปอ่านในธัญ ขอบคุณมากนะคะ เป็นเรื่องที่น่ารักมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Pornncc23

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Pornncc23

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ MilkTea

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
[ACT 13]


"กลับมาแล้วเหรอครับ"

ราเมศยิ้มให้กับร่างบอบบางที่เดินมารับเขาทั้งชุดกันเปื้อน ร่างสูงสง่าถอดรองเท้าแล้วเดินไปหอมแก้มเด็กหนุ่มฟอดใหญ่ แล้วตามมาอีกหลายฟอด เดี๋ยวนี้เขาชักติดใจผิวแก้มเนียนใสแดงระเรื่อและเสียงประท้วงเบา ๆ ดังจากลูกแมวน้อยของเขา

"บ้าจัง... พี่นี่"

ชายหนุ่มยิ้มแป้น อดไม่ได้ที่จะดึงร่างเล็กมาหอมอีกหลายฟอด ในใจก็นึกขำตัวเองอยู่ไม่น้อย จะมีสักกี่คนที่ถูกด่าว่าบ้าแล้วกลับมีความสุขชื่นมื่นได้ขนาดนี้

เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม ไม่ว่าปรานต์จะทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมดในสายตาของเขา อีกใจก็หวาดหวั่นอยู่ลึก ๆ ว่าวันหนึ่งที่ไม่มีเด็กคนนี้อยู่เคียงข้างเขาแล้วจะเป็นอย่างไร

เขาเพิ่งเข้าใจว่า การใช้ชีวิตกับคนคนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ --- น่ากลัวแค่ไหน

"พี่ราม ข้าวเช้าพร้อมแล้วครับ ว่าแต่พี่หายไปไหนมา ผมตื่นมาไม่เจอ"

"ไปทำธุระให้กรนิดหน่อยน่ะ"

ร่างสูงยิ้มบาง ก่อนที่สายตาคมจะไปสะดุดเข้ากับเด็กหนุ่มอีกคนที่เดินเข้ามาในห้องรับแขก

"อรุณสวัสดิ์ เทพ เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหม?"

"อรุณสวัสดิ์ครับ เมื่อคืนหลับฝันดีทั้งคืน ตื่นมาไม่เมาค้าง สบายใจดีครับ"

"แล้วกลับมาเองยังไงล่ะ? กรไม่ได้มาส่งนี่"

"แท็กซี่มาสิครับ ดึกดื่นขนาดนั้นจะหารถเมล์ที่ไหน"

"อ้าว เทพ เมื่อคืนพี่กรไม่ได้มาส่งหรอกเหรอ"

ปรานต์อุทานด้วยความแปลกใจ ลึก ๆ ก็เคืองอยู่เหมือนกันที่อีกฝ่ายปล่อยให้น้องชายของเขากลับบ้านมาตามลำพังทั้ง ๆ ที่รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะมาส่งถึงบ้าน

"วันหลังก็โทรมาเรียกให้ไปรับสิ เทพ โชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น รู้ไหมว่ามันอันตราย"

รชตกลอกตาไปมา "รู้แล้วล่ะน่า..." เขาหันหลังเดินหนีเข้าห้องอาหารแล้วนั่งประจำที่ "ผมหิวแล้ว รีบ ๆ มากันซะทีสิครับ"

"เด็กคนนี้นี่... ไม่ไหวเลย"

ราเมศอมยิ้มกับท่าทีห่วงน้องชายของอีกฝ่าย ดูเอาสิ ขี้บ่นอย่างกับเป็นคุณแม่ก็ไม่ปาน ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็เด็กไม่ต่างกันแท้ ๆ คิดพลางปรายตามองคนที่นั่งอยู่อีกห้องหนึ่ง

รายนั้นก็พอกัน ท่าทางจะดีใจที่พี่ชายเป็นห่วงไม่น้อยเลย นั่งก้มหน้าซ่อนอาการเขินอยู่นั่นล่ะ พี่น้องคู่นี้นี่พอกันเลยจริง ๆ มือใหญ่ตบศีรษะมนเบา ๆ แล้วโอบบ่าบางเดินเข้าห้องอาหารไปด้วยกัน



*****



เด็กชายตัวน้อยนั่งยอง ๆ อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในรั้วคฤหาสน์หลังโต เขากำลังจ้องมองตั๊กแตนสีเขียวใบหญ้าด้วยดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกลมโตอย่างสนอกสนใจ ก่อนจะอุทานดังเมื่อสิ่งมีชีวิตตัวจ้อยนั้นกระโดดหนีเข้าพุ่มไม้ไป

"อ๊ะ!!"

"คิก..."

เสียงหัวเราะเบาๆที่ดังจากด้านหลังทำให้เจ้าของร่างน้อยหันกลับไปมองด้วยความแปลกใจ เบื้องหน้าปรากฏร่างของเด็กชายอีกคนหนึ่งที่ดูจะโตกว่ากันไม่เท่าไหร่ เมื่อเด็กน้อยนึกขึ้นได้ว่าถูกหัวเราะ จึงทำหน้าบึ้งขึ้นมาในทันที ปากเล็กสีแดงยู่จนจมูกเล็ก ๆ พลอยย่นไปด้วย

"นายเป็นใครน่ะ? เข้ามาในบ้านของเราได้ยังไง?"

"คุณพ่อคุณแม่ของนายรับเรามาเลี้ยง เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง"

"รับมาเลี้ยงหมายความว่ายังไง?"

หนูน้อยเพิ่งอายุเพียงไม่กี่ขวบ จึงยังไม่เข้าใจความหมายของอีกฝ่ายดีนัก

"แล้วพ่อแม่ของนายไปอยู่ที่ไหน?"

เด็กชายที่มาใหม่ทำหน้าเศร้าลงไปถนัดตา ก่อนที่เสียงใสจะเอ่ยคำพูดที่บาดหัวใจของเจ้าตัวเป็นอย่างมาก

"ตายแล้ว..."

เขาทรุดกายลงนั่งลงไปกับพื้นหญ้า พยายามสะกัดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา แต่ก็ทำได้ยากเหลือเกินเมื่อคิดถึงช่วงเวลาที่อบอุ่นในสมัยที่เขายังมีครอบครัวสมบูรณ์

เด็กชายตัวน้อยนิ่งไปเมื่อเห็นผู้โตกว่าร้องไห้ออกมาอย่างเงียบ ๆ ในใจอดแปลกใจไม่ได้ เวลาที่เขาร้องไห้จะมีเพียงสามเวลาเท่านั้น คือเวลาโกรธ เวลาไม่ได้ดั่งใจ และเวลาที่พ่อกับแม่ทะเลาะกัน แต่เขาจะปล่อยโฮเสียงดังชนิดที่ไม่ว่าใครทำอะไรอยู่ก็ต้องหันมาสนใจและปลอบโยนในทันที เขาจึงไม่เคยรู้ว่าคนเราสามารถปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบเชียบเช่นนี้ได้ด้วยหรือ

ขาเล็กค่อยๆเขยิบเข้าใกล้คนที่นั่งก้มหน้าอยู่ไม่ห่างอย่างช้า ๆ พร้อมกับยื่นมือไปสะกิดบ่าที่สั่นระริกตรงหน้าเบา ๆ

"... นี่ เป็นอะไรไปเหรอ?"

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบ เด็กชายก็ทำหน้ามุ่ยแล้วหันหน้าหนีอย่างไม่พอใจ เขากำลังจะลุกไปที่อื่นอยู่แล้ว แต่ไม่รู้อะไรทำให้เขาเปลี่ยนใจ

"เดี๋ยวมานะ"

เจ้าตัวน้อยวิ่งไปจากที่นั่น ทิ้งให้อีกร่างที่ทุกข์ระทมนั่งกลั้นน้ำตาอยู่เพียงลำพัง แต่เพียงไม่นาน เสียงฝีเท้าสั้น ๆ ถี่ ๆ ก็ดังใกล้เข้ามาจนทำให้เด็กชายต้องเงยหน้ามองด้วยความแปลกใจ

"นี่ ให้นะ"

สิ่งที่อยู่ในมือป้อม ๆ ของเด็กชายตัวน้อยคือดอกเดซี่สีขาวหนึ่งดอก ใบหน้ากลมแดงระเรื่อด้วยไอแดดและความเหนื่อยจากการวิ่งข้ามสวนไปเด็ดเอาดอกไม้ดอกสวยมาให้

"... เราไม่รู้ว่านายเป็นอะไร แต่ว่าอย่าร้องไห้เลยนะ ถ้านายเหงา เราจะเป็นเพื่อนให้นายเอง"

ดวงตาสีน้ำตาลเต็มไปด้วยแววไร้เดียงสา คำพูดเหล่านั้นล้วนมาจากใจ ทำให้เด็กชายอีกคนรู้สึกดีขึ้นแล้วรับดอกไม้ดอกนั้นมาถือเอาไว้

"ขอบใจนะ"

เด็กทั้งสองยิ้มให้กัน

"เราชื่อเทพนะ นายชื่ออะไร?"

"ฉันชื่อ..........."



*****



"ปรานต์........"

เสียงที่ดังลอดประตูห้องนอนออกมาส่งผลให้เจ้าของร่างเล็กที่นอนขดอยู่บนโซฟาตัวใหญ่รู้สึกตัวตื่นขึ้น รชตขมวดคิ้วมุ่นอย่างหงุดหงิดที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมากลางดึกเช่นนี้ เด็กหนุ่มปรายสายตามองไปทางประตูห้องนอนที่ปิดอยู่ แต่กลับมีเสียงดังลอดออกมาเป็นระยะ

ดวงตาสีน้ำตาลสวยทอดมองนาฬิกาสไตล์โมเดิร์นเรือนใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนัง ถึงได้รู้ว่านี่เพิ่งห้าทุ่มครึ่งเท่านั้น เขาเพิ่งได้หลับไปไม่ถึงชั่วโมง หลังจากซัดอาหารเย็นฝีมือพี่ชายตามด้วยแขวะกันเล็กน้อยพอเป็นพิธี อาจเป็นเพราะคืนก่อนหน้านี้เขาแทบไม่ได้นอนเลยล่ะมั้ง

ไม่รู้ป่านนี้หมอนั่นเป็นยังไงบ้าง แต่ยังไงราเมศก็คงไปช่วยประกันตัวออกมาอยู่แล้วล่ะนะ จะว่าไปแล้ว ไม่รู้รามทนคบตาแก่นั่นไปได้ยังไง หื่นซะขนาดนั้น แถมดูวิปริตอีกต่างหาก ดีนะเขาไหวตัวทัน ไม่อย่างนั้นมีหวังเสียครั้งแรกให้กับตาโรคจิตคนนั้นแหง ๆ

รชตเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อรินน้ำเปล่าดื่มแก้คอแห้ง เขายืนพิงเคาน์เตอร์ครัวพร้อมยกแก้วน้ำขึ้นจิบ น้ำแร่ที่ไหลผ่านลำคอแห้งผากทำให้รู้สึกดีขึ้นมาก

เขาฝันถึงสมัยที่เป็นเด็กอีกแล้ว ตั้งแต่ปรานต์ออกจากบ้านไป เขาก็ยิ่งฝันถึงเรื่องนี้บ่อยมากขึ้น ช่วงเวลาหลังจากนั้นเป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุขมากจริง ๆ การได้มีพี่ชายที่น่ารักมาอยู่ด้วยกัน เขาซึ่งเป็นลูกคนเดียวที่เหงามาตลอดเพราะครอบครัวไม่มีเวลาให้จึงติดพี่ชายยิ่งกว่าใคร

--- แต่ปรานต์กลับทิ้งเขาไป

ที่จริงเขาก็รู้ว่าบิดาของเขาไม่ใช่คนดีอะไร ในตอนเด็กอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่พอโตขึ้นมาก็พอจะรู้ว่ากิจการที่บ้านคืออะไร และทำไมเขาถึงอยากได้อะไรก็ไม่เคยมีใครขัด และรีบนำมาให้ถึงที่ทุกครั้ง

จนกระทั่งวันที่เขาอายุครบสิบขวบ เมื่อทุกคนส่งเขาเข้านอนแล้ว เขาตื่นขึ้นกลางดึกไม่พบปรานต์จึงเดินตามหา ถึงได้พบกับความจริงที่ว่าผู้เป็นพ่อแท้ ๆ ของเขารับปรานต์มาเลี้ยงเพื่อการใด

ถ้าหากปรานต์เอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเขาล่ะก็ ต่อให้เป็นพ่อแท้ ๆ เขาก็ยอมต่อกรด้วย

แต่ปรานต์ไม่เคยปริปากพูดถึงเรื่องนี้กับเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยมีเรื่องอะไรปิดบังปรานต์เลยแท้ ๆ นี่ปรานต์จะเห็นว่าเขาเด็กกว่า ประสบการณ์ก็ไม่มีจึงช่วยอะไรไม่ได้

เขาไม่ยอมยกโทษให้หรอก ไม่มีวัน ---

รชตทิ้งแก้วน้ำไว้ในอ่างล้างจานพร้อมกับเดินกลับไปที่โซฟา แต่ก่อนจะทิ้งตัวลงนอน เขากลับได้ยินเสียงที่ดังลอดออกมา --- ชัดเต็มสองรูหู

"อะ อ๊า... พี่ราม...!"

ใบหน้าเนียนแดงวาบในพริบตา นี่เขาอยู่ในบ้านด้วยนะ ทำอะไรกันอยู่ในห้องเนี่ย ประเจิดประเจ้อจริง เด็กหนุ่มยืนตัวแข็งทื่ออย่างทำอะไรไม่ถูก เขาหลับตาลงแล้วนั่งลงบนโซฟาเพื่อทำใจให้เฉยเข้าไว้ แต่หัวใจกลับเต้นรัวเป็นตีกลองเมื่อได้ยินเสียงครางหวานดังลอดออกมาอย่างต่อเนื่อง

--- นี่ตาแก่นั่นก็ลามกไม่แพ้กันสินะ มิน่าถึงได้ซี้กันกับภากรได้!

เขาต้องไปต่อว่าหน่อยละ แบบนี้พี่ชายของเขามีหวังช้ำหมด นี่หนีพ่อมาเจอคนที่หื่นยิ่งกว่าพ่อรึเปล่าเนี่ย?!

ขาเรียวก้าวเข้าใกล้ห้องนอนอย่างช้า ๆ แล้วจึงเห็นว่าประตูห้องนอนนั้นปิดไว้ไม่สนิท มิน่าล่ะเขาถึงได้ยินเสียงชัดแจ๋วขนาดนี้ ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตแอบมองลอดประตูเข้าไป แล้วปากที่ปกติเจื้อยแจ้วเสมอก็ถึงกับปิดสนิทกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้า

"อ๊ะ... พี่ราม ตะ ตรงนั้น... อ๊า....!"

“ชอบใช่ไหม ตรงนี้ไงครับ จุดที่น้องปรานต์รู้สึกดี”

“พี่ราม... พี่ราม...... อื้ออ”

“ดีไหม หืม? ตอบพี่สิครับคนดี”

“อะ อ๊า.... ดี... ดีครับ...”

มือเล็กปัดป่ายไปทั่วแผ่นหลังกว้างเมื่อเรือนกายบอบบางถูกโอบกอดเอาไว้ด้วยร่างกายอันเต็มไปด้วยลอนกล้ามอันงามสง่า ริมฝีปากคู่สวยพยายามปิดกลั้นเสียงร้องน่าอายไม่ให้เล็ดรอดออกไป แต่กลับถูกประกบปิดแล้วรุกไล่ด้วยปลายลิ้นจนสติที่พยายามรั้งเอาไว้กระเจิดกระเจิงไกล

"ฮึก... อื้มมม..."

ราเมศเล็มริมฝีปากแดงช้ำพร้อมบีบเคล้นเรือนกายที่เบ่งบานอยู่ในฝ่ามือหนาอุ่นร้อน ปรานต์ทอดกายแหงนหน้าให้ร่างสูงลิ้มรสเรือนคอขาวเนียนได้อย่างย่ามใจ

ดวงตาคู่สวยปรือปรอยมองร่างสูงใหญ่ที่เคลื่อนกายเข้าใกล้พร้อมยกเรียวขาบางขึ้นสูงแล้วรั้งให้อ้าออกกว้าง ผิวแก้มที่แดงจัดไปด้วยแรงอารมณ์กระตุ้นให้ชายหนุ่มรู้สึกอยากกลืนกินร่างบอบบางตรงหน้าอย่างรุนแรงให้มากกว่านี้ อยากฝากฝังร่องรอยไว้บนเรือนร่างอันงดงามนี้ทุกสัดส่วน ให้ทุกคนได้รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

--- แต่เขาก็ทำไม่ลง แค่เพียงถูกมองด้วยดวงตาชื้นน้ำที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกคู่นั้น เขาก็รู้ว่าต้องทะนุถนอมเจ้าของดวงตาคู่นี้เอาไว้ให้ดีที่สุด เพราะ ณ วันนี้เขารู้แล้วว่าคนตรงหน้าของเขานี้สำคัญมากเพียงใด

ปลายลิ้นไล้เลียยอดอกสีชมพูเบา ๆ รับรู้ได้ถึงอาการบิดเร่าของร่างข้างใต้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรุกเร้าหนักหน่วงมากขึ้นจนเด็กหนุ่มถึงจิกกำผ้าปูที่นอนด้วยความเสียวกระสันต์

"พี่ราม..."

เจ้าของนามเงยหน้าขึ้น คลี่ยิ้มเมื่อเห็นดวงตาคู่งามปรอยมองมาอย่างออดอ้อน

"... ครับ?"

แม้ว่าใบหน้างามจะแดงอยู่แล้ว แต่ทุกครั้งที่ถูกขานรับด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเช่นนี้ ปรานต์รู้สึกได้ว่าหน้าร้อนซู่ยิ่งกว่าเดิม

"... อย่าเอาแต่แกล้งผมสิครับ"

"หืม... แล้วน้องปรานต์อยากให้ทำยังไงล่ะครับ?"

เด็กหนุ่มขบเม้มเรียวปากที่แดงเจ่อด้วยอาการน่ารักจนราเมศอดใจไม่ไหว ต้องเลื่อนกายขึ้นแนบจูบอีกนับครั้งไม่ถ้วน

"อื้มมม อะ... อ๊ะ!"

ปรานต์สะท้านกายวาบเมื่อถูกมือใหญ่ร้อนจัดขยับรูดส่วนอ่อนไหวเป็นจังหวะรัวเร็ว เด็กหนุ่มหายใจขัดด้วยความอายเมื่อรู้ว่าตอนนี้ตนเองเปิดกว้างแค่ไหน เรียวขาทั้งสองข้างถูกแยกออกแล้วดันขึ้นสูงพาดกับบ่าหนา ในขณะที่ราเมศเองก็จ้องมองเรือนกายงดงามตรงหน้าอย่างไม่ปิดบัง ช่องทางสีชมพูกระตุกน้อย ๆ อย่างเชิญชวนให้ฝังกายเข้าไป

ชายหนุ่มเผยอริมฝีปากหอบหายใจหนักขณะที่ร่างบางเองก็รู้สึกตื่นเต้นกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของอีกฝ่ายจนเผลอแลบปลายลิ้นเลียเรียวปากอย่างปรารถนาไม่ต่างกัน

เด็กหนุ่มปิดตาลงเมื่อรับรู้ถึงส่วนที่ร้อนที่สุดที่แนบชิดกับช่องทางด้านหลัง ก่อนจะอ้าปากเปล่งเสียงร้องเมื่อร่างสูงค่อย ๆ กดความใหญ่โตเข้ามาในเรือนกาย

"อะ... อ๊า...!"

ความบีบรัดและอุ่นร้อนที่ไม่เคยเปลี่ยนทำให้ราเมศอดไม่ได้ที่จะสอดแทรกกายเข้าไปทีเดียวจนสุด เรียกอาการผวาเฮือกจากร่างด้านใต้ด้วยความเจ็บระคนกระสันต์เสียว ชายหนุ่มเลื่อนใบหน้าลงคลอเคลียกับจมูกโด่งรั้น พร้อมจูบซับน้ำตาที่คลอนัยน์ตาคู่งามอย่างอ่อนโยน

"เจ็บรึเปล่า..? ขอโทษนะ"

"อื้อ ไม่เป็นไรครับ"

เพราะเป็นราเมศ ต่อให้ต้องเจ็บปวดมากมายอีกสักเท่าไหร่ เขาก็ไม่นึกเสียใจ

ถ้าเพื่อผู้ชายคนนี้แล้ว ต่อให้เขาต้องเสียสละสิ่งสำคัญที่สุดในหัวใจไป --- เขาก็ไม่ลังเล

"รัก..."

คำพูดสั้น ๆ ที่สื่อได้ลึกซึ้งถึงความรู้สึกในหัวใจ ราเมศแนบหน้าผากกับหน้าผากมนชื้นเหงื่อแล้วมองลึกเข้าไปในดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักคู่นั้น

ปรานต์ไม่เคยเชื่อในพระเจ้า เพราะเขาต้องสูญเสียพ่อแม่ที่แท้จริงไปตั้งแต่ยังเล็ก ต้องระเห็จไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ขาดการดูแล ได้อาหารตกถึงท้องเพียงวันละมื้อสองมื้อ และเมื่อมีคนรับไปเลี้ยง เขาก็ยังต้องดิ้นรนอย่างยากลำบากด้วยตัวเองเนื่องจากครอบครัวเพียงแค่ต้องการเขาไปเป็นเครื่องมือระบายอารมณ์

เด็กที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมอย่างเขา จึงไม่เคยมีพระเจ้าอยู่ในหัวใจ ทั้ง ๆ ที่ผู้เป็นมารดาแท้ ๆ เคยพร่ำสอนให้ประสานมือแล้วอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้าทุกเมื่อเชื่อวัน

แต่ในวันนี้ ณ เวลานี้ --- ที่เขาอยู่ในอ้อมกอดของคนที่รักเขา --- ราเมศที่เขารัก

หัวใจของเขารู้สึกขอบคุณโชคชะตาที่ได้พาให้เขามาพบกับผู้ชายคนนี้ และหากโชคชะตานี้พระเจ้าเป็นผู้ลิขิตล่ะก็ เขาก็พร้อมจะเชื่อในพระเจ้าที่ไม่ทอดทิ้งเขาอีกครั้ง

"ผมก็รักพี่..."

ราเมศจูบใบหน้าหวานซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งหน้าผาก แก้มเนียนใสที่แดงปลั่ง จมูกโด่งรั้นที่เขารัก และริมฝีปากคู่สวยที่หวานล้ำที่สุดในโลก ก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลงรักอย่างอ่อนโยนทว่าร้อนแรงเสียจนปรานต์ต้องจิกกำผ้าปูที่นอนไว้แทนหลักยึด

"อะ... ฮึก อ๊ะ อ๊า!!"

"อา.... อึก....... ปรานต์.... อา…!"

เสียงครางต่ำทำให้เด็กหนุ่มอีกคนที่ยืนตัวแข็งอยู่หน้าประตูห้องหน้าร้อนวาบเสียจนต้องเลื่อนมือขึ้นจับผิวแก้มของตนเอง เขาเม้มริมฝีปากเมื่อรับรู้ได้ถึงตัวตนของเขาที่อยู่ใต้ร่มผ้า

เด็กหนุ่มระบายลมหายใจเบา ๆ พร้อมกับหันหลังกลับไปที่โซฟา แล้วก็ต้องสะดุ้งจนแล้วร้องออกมาลั่นเมื่อพบกับเงาร่างสูงที่ยืนซ้อนหลังอยู่แนบชิดไม่รู้นานแค่ไหน

มือใหญ่ตะปบเรียวปากสวยเอาไว้ได้ทันก่อนที่ร่างเล็กจะกรีดร้องออกมา ดีนะที่บนเตียงร้อนแรงเสียจนไม่สนใจใคร ภากรยิ้มน้อย ๆ พร้อมกับอุ้มร่างที่เบาหวิวนั้นขึ้นแล้วมุ่งหน้าไปที่โซฟา

"หัดถ้ำมองด้วยเหรอเรา?"

"บ้า... พี่นั่นแหละมายืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วเข้ามาได้ยังไง?"

รชตทั้งอายทั้งตกใจ คนบ้าอะไรจู่ ๆ มายืนซะชิดแบบนั้นตั้งนานไม่เรียก ท่าทางจะเพี้ยน

"คีย์การ์ดสิเจ้าหนู คิดว่าฉันกับรามรู้จักกันมานานแค่ไหนแล้ว"

"อ้อ ลืมไป พวกพี่มันคู่หูคู่หื่นนี่นะ"

"หึหึ ปากดีเชียวนะ" เขาไล้ปลายนิ้วไปตามผิวแก้มที่แดงระเรื่อ "ว่าแต่... เป็นยังไงบ้าง?"

"อะไร? อ๊ะ!! " รชตสะดุ้งเมื่อมือใหญ่จับหมับเข้าที่เป้ากางเกง "ทำบ้าอะไร?!"

"ชู่ว์ เบา ๆ สิน้อง อยากให้สองคนนั้นรู้เหรอว่านายแอบดูพวกเขาเมคเลิฟกันน่ะ?"

"ไม่ได้แอบดู!"

"จริงเหรอ? แล้วที่เป็นอยู่ตรงนี้นี่เพราะอะไรกันน้า?"

ภากรยิ้มกริ่มเมื่อเอวบางเผลอหยัดเข้าหาสัมผัสที่ช่ำชองโดยไม่รู้ตัว

"อะ... อ๊ะ..... ปล่อยนะ....."

"ให้พี่ช่วยดีกว่าน่า"

เอ่ยพลางเลื่อนมือเข้าไปใต้เสื้อเนื้อบาง ขณะมืออีกข้างไล้เข้าไปจับสัมผัสผิวกายร้อนผ่าวโดยตรง ส่วนอ่อนไหวที่สั่นระริกอยู่ในมือของเขาทำให้ภากรรู้สึกเป็นผู้ชนะอย่างบอกไม่ถูก

"นี่ไง... แข็งซะขนาดนี้ ยังจะบอกว่าไม่ได้แอบดูอีกเหรอ?"

"บ้า... ที่สุด...."

เสียงก่นด่าที่ไม่รู้ว่าด่าใครระหว่างภากรหรือตัวเขาเองที่ไร้เรี่ยวแรงราวกับถูกดูดพลังไปหมด ยิ่งมือร้อนขยับรูดเร็วแค่ไหน เขาก็เหมือนกับสติหลุดลอยเสียจนนึกอะไรไม่ออก นอกจากปล่อยให้อีกฝ่ายลวนลามได้ตามใจชอบ

"ฮึก... อะ... อ๊ะ!!"

เด็กหนุ่มสะดุ้งเมื่อปลายลิ้นแตะสัมผัสเข้ากับยอดอกสีสวยพร้อมกับดูดดึงอย่างแรง มือหนาฟอนเฟ้นทั่วเรือนร่างเพรียวอย่างหมั่นเขี้ยว ผิวแก้มก้นถูกขยำเสียจนรชตเชื่อว่าต้องเป็นรอยช้ำในวันพรุ่งนี้เป็นแน่ แต่เขาก็ไม่มีแรงจะต่อภากรเนื่องจากส่วนที่ไวสัมผัสถูกรุกเร้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ช้าร่างเล็กก็กระตุกแล้วปลดปล่อยออกมาเต็มฝ่ามือใหญ่

"อะ... ฮ้า......"

"ออกมาเยอะเลยนี่เรา ไม่ค่อยได้ช่วยตัวเองใช่ไหม?"

รชตหน้าแดงวาบพร้อมกับรีบสวนกลับไป "ถามบ้าอะไรของพี่"

"อ้าว ก็อายุสิบสี่แล้วไม่ใช่เหรอ ปกติเขาก็ทำกันทุกวันแหละ นี่อย่าบอกนะว่ายังเวอร์จิ้นอยู่ กับผู้หญิงก็ยังไม่เคย?"

"คะ ใครว่าไม่เคยกันล่ะ"

"งั้นเหรอ"

ภากรหัวเราะในลำคอ เด็กเอ๊ยเด็ก คิดจะหลอกผู้ใหญ่น่ะยังเร็วไปสิบปี

"ถ้าอย่างนั้น... เรามาทำแบบในห้องนั้นกัน คงไม่เป็นไรใช่ไหม?"

"... เอ๊ะ?"

"ก็นายบอกเองว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก พี่ก็ไม่ต้องเกรงใจถูกไหม? หรือว่ากลัว?"

"ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลย!"

ชายหนุ่มร่างสูงคลี่ยิ้มหวานตามแบบฉบับเพลย์บอยหน้าหวานที่สุดในกรุงเทพมหานคร แต่ในสายตาของรชต หมอนี่มันเฟคชัด ๆ แววตาปีศาจร้ายขนาดนี้ยังมาแอ๊บยิ้มหวานให้คนอื่นตายใจอีก

"งั้น... เรามาต่อจากเมื่อคืนกันเถอะ ดีไหม?"


 
 

TBC.

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เทพนี่ อุปนิสัย ยังไงกันนะ   

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
น้องเทพพพพพพพพพพพ โดนไม่โดนนนน หนูจะรอดมั้ยยย แงๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
โดนซ้ำซ้อน ..

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
งานนี้เทพจะรอดตัวไหมนะ :hao3:

ออฟไลน์ MilkTea

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
[ACT 14]



ปลายลิ้นร้อนรุกไล่ไปตามแนวบ่าบอบบาง ผิวกายเนียนนุ่มลื่นของเด็กหนุ่มทำให้หัวใจของภากรผู้ช่ำชองรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ อาจเป็นเพราะความสดใหม่ของร่างข้างใต้ที่ทำทีเป็นเก่งกล้า ทั้ง ๆ ที่มือเล็กอดไม่ได้ที่จะกำแน่นอย่างอดทนกับความรู้สึกประหลาดที่ไม่เคยรู้จัก ชายหนุ่มคลี่ยิ้มบางพร้อมกับแหวกเสื้อนอนเนื้อนุ่มออก เผยผิวอันกระจ่างใสเต็มสองตา

"พี่..."

"หืม?"

ภากรผู้แสนมั่นใจในชั้นเชิงเงยหน้าพร้อมคลี่ยิ้มหวานให้กับเสียงเรียกนั้น ตั้งแต่เกิดมาสามสิบปี ไม่เคยมีเด็กหนุ่มคนไหนปฏิเสธรสสัมผัสที่เขามอบให้เลยแม้แต่คนเดียว

แต่แล้วเขาก็ต้องแปลกใจ เพราะแทนที่เขาจะได้เห็นดวงตาหวานเยิ้มจากร่างตรงหน้า กลับเป็นดวงตาที่หรี่มองแบบเบื่อหน่ายสุดขีด

"พี่รู้อะไรไหม... หัวพี่ตรงกลางกระหม่อมน่ะ ล้านเป็นหย่อมแล้วนะ"

รชตสั่นศีรษะไปมาอย่างนึกระอากับสีหน้าตกตะลึงนั่น

"นี่ไม่รู้ตัวเลยล่ะสิท่า การทำผมทรงเดิมนานๆมันจะทำให้หัวล้านได้ เปลี่ยนทรง เปลี่ยนแสกบ้าง เนี่ยดูสิ ระวังเถอะได้หัวล้านใสแจ๋วตั้งแต่ยังไม่ทันแก่"

อารมณ์ที่พลุ่งพล่านจากการลิ้มรสความอ่อนเยาว์ของเด็กหนุ่มวัยขบเผาะดับวูบประหนึ่งลาวาเจอสารที่ทำให้ดับลงสู่จุดเยือกแข็งในเสี้ยววินาที

"ลุกไปได้รึยัง มันหนักนะพี่"

ภากรผละจากร่างที่เอนนอนอยู่บนโซฟาด้วยอาการบอกไม่ถูก เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ใจไม่อยากจะเชื่อ แต่สายตาที่มองมากลับทำให้จิตใจของเขาเชื่อเต็มร้อยแล้วหดหู่ในพริบตา

"นาย.. เทพใช่ไหม?"

"อื้ม นี่คุยกันมาตั้งนานเพิ่งจะรู้เหรอไง"

รชตลุกขึ้นยืนพลางจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง มือเล็กรูดซิปกางเกงขึ้นแม้ว่ามันจะเปื้อนคราบที่เขาเป็นคนปล่อยออกมาเอง แต่ช่างเถอะ ไว้ค่อยซักทีหลัง ดีกว่าเดินโทง ๆ ต่อหน้าตาหื่นคนนี้

"ดึกแล้ว เดี๋ยวผมจะนอนละล่ะ พี่ก็รีบ ๆ กลับบ้านล่ะ"

มือใหญ่ตะปบเข้ากับไหล่บางทั้งสองข้าง ส่งผลให้เจ้าของร่างงามถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อพบกับอาการรุนแรงจากร่างตรงหน้าที่มักจะดูสุภาพนุ่มนวลเสมอ

ดวงตาคมที่เปล่งประกายกล้าที่จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนทำเอาหัวใจของร่างเล็กเต้นรัวด้วยความตกใจระคนอึ้งนิด ๆ --- ที่จู่ ๆ ตาแก่เพลย์บอยคนนี้ก็ดูมีเสน่ห์ขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

"พี่จะทำให้นายตกหลุมรักพี่ให้ได้ คอยดูไว้เถอะ"

".... หา?"

"นายจะต้องร้องขอสัมผัสจากพี่ในไม่กี่วันนี้ล่ะ"

ภากรเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ ทว่าจริงจังเสียจนเด็กหนุ่มขาแทบทรุด ราวกับถูกจับจ้องลึกเข้าไปถึงภายในเรือนกาย

"เตรียมใจไว้เลยนะ เทพ"

เอ่ยจบ ชายหนุ่มก็เดินกลับไปทางประตูเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน ทิ้งไว้เพียงความร้อนที่ทิ้งค้างเอาไว้ที่เรือนบ่าบอบบาง --- และเรือนร่างที่ร้อนวาบขึ้นมาจนเห็นได้ชัดผ่านกางเกงเนื้อบาง แค่เพียงถูกจับจ้องด้วยดวงตาล่าเหยื่อที่จริงจังคู่นั้นเท่านั้น

*****



"ขอบตาคล้ำเชียว ไม่ได้นอนเหรอ เทพ"

เจ้าของนามหันไปตามเสียงหวานที่เหมือนจะแหบกว่าทุกวันด้วยสายตาแปลกใจ ในใจอดลิงโลดขึ้นมาไม่ได้ที่พี่ชายใส่ใจในตัวเขามากกว่าที่คิด อีกใจก็รู้สึกหงุดหงิด ด้วยรู้ดีว่าสาเหตุที่ทำให้พี่ชายของเขาเสียงแหบคืออะไร ก็เมื่อคืนร้องเสียงดังซะขนาดนั้น ไม่แหบก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

"อืม ก็ประมาณนั้น ไม่ค่อยสบายใจ"

"ไม่สบายใจ? เรื่องอะไร?"

"ก็..." เด็กหนุ่มเหล่ไปทางร่างสูงใหญ่ที่นั่งจิบกาแฟอยู่ที่โต๊ะอาหาร "แค่ระแวงนิดหน่อย เพราะคนบางคนปล่อยให้ขโมย (พรหมจรรย์) เข้าออกบ้านได้ตลอดเวลา ผมเลยนอนไม่เป็นสุขเท่าไหร่"

"หมายความว่าไง?"

"เปล่า ไม่ต้องสนใจหรอก"

รชตลอบถอนหายใจ เขาเคืองราม เคืองมากด้วย ยิ่งราเมศมาดีด้วยก็ยิ่งเคือง เพราะราเมศนั่นล่ะที่แย่งปรานต์ไปจากเขา ถ้าไม่มีคนช่วยเหลือ ป่านนี้ปรานต์ก็คงไม่มีที่ไป แล้วก็ยอมกลับบ้านแต่โดยดีแล้ว

เขาเหลือบมองร่างที่ยังคงกางหนังสือพิมพ์อ่านอย่างสบายอารมณ์ในเช้าวันใหม่อย่างสุดเซ็ง ตอนแรกแค่อยากมาสืบและก่อกวนพี่ชายเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาเริ่มสังเกตเห็นได้ว่าชายสูงวัยผู้นี้เป็นคนสำคัญของพี่ชายมากทีเดียว

"เฮ้อ ทำไมนายถึงได้เอาแต่ชวนคนอื่นทะเลาะนะ" ปรานต์บ่นพึมพำพลางสั่นศีรษะอย่างนึกหน่ายใจ "นายน่าจะกลับบ้านไปนะ ในเมื่ออยู่ที่นี่แล้วก็ไม่สบายใจจนนอนไม่หลับแบบนี้"

รชตทอดสายตามองร่างของผู้เป็นพี่ชายที่เดินกลับไปที่ครัวด้วยสายตาว่างเปล่า เป็นประโยคสั้น ๆ ที่ทำให้เขาเจ็บลึกข้างในใจ

"พี่ปรานต์... ไม่อยากให้ผมอยู่ใกล้ ๆ เหรอ?"

เสียงใสที่ดังแผ่ว ๆ ไปไม่ถึงหูของร่างบางผู้เป็นพี่ชาย แต่ก็ทำให้เจ้าตัวหน้าแดงวาบเมื่อรู้ตัวว่าเพิ่งหลุดพูดอะไรออกไป

"ถ้าอย่างนั้น ผมจะกลับบ้าน"

"หา?"

"ในเมื่อพี่รำคาญ ผมก็จะกลับบ้าน"

ปรานต์อ้าปากค้างด้วยความงุนงง เด็กคนนี้บทจะมาก็มา บทจะไปก็ไปง่าย ๆ ทีตอนเขาขอร้องให้กลับไปแทบตายก็ไม่กลับ จู่ ๆ วันนี้ก็บอกจะกลับบ้านเองซะอย่างนั้น

"เอาจริงเหรอ?"

เทพคลี่ยิ้มน้อย ๆ "แน่นอน แต่พี่รอดูละกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้"

เด็กหนุ่มหน้าซีดไปทันตาเมื่อได้ฟังดังนั้น "นายจะทำอะไร?"

"... ผมก็แค่กลับบ้าน ไปรายงานพ่อแม่ว่าเกิดอะไรขึ้นในหลายวันที่ผ่านมาบ้างเท่านั้นแหละ นี่เป็นสิ่งที่ผมตั้งใจจะทำอยู่แล้ว พี่ก็รู้ดีนี่นา"

"ทำแบบนั้นไม่ได้นะ!"

มือใหญ่วางลงบนบ่าบอบบางที่สั่นระริก ปรานต์เงยหน้ามองใบหน้าคมที่มีแววจริงจัง ทว่านิ่งสงบด้วยสายตาไม่เข้าใจ

"พี่ราม?"

"ถ้าเทพอยากกลับบ้าน ก็ให้เขากลับเถอะ"

เจ้าของนามชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ สิ่งที่เขาต้องการได้ยินไม่ใช่ประโยคนี้ เขาไม่ต้องการคำบอกลา แต่เขาอยากจะให้ปรานต์รั้งเขาเอาไว้ต่างหาก ดวงตาคู่สวยแข็งกร้าวจ้องปะทะกับนัยน์ตาคมที่ดูเฉยชาอย่างโกรธเคือง พนันได้เลยว่าอีกฝ่ายรู้ดีว่าเขาต้องการอะไร แต่กลับมาขวาง!!

"ได้! แล้วได้เห็นกันแน่ว่าบ้านผมทำอะไรได้บ้าง! พี่เตรียมบอกลาที่นี่ได้เลย!"

เด็กหนุ่มผลุนผลันออกจากห้องไป โดยมีปรานต์ทำท่าจะวิ่งตามแต่ก็ถูกมือหนารั้งเอาไว้

"พี่ราม แบบนี้ไม่ดีแน่ๆเลยครับ พ่อ... อาจจะทำอะไรก็ได้"

ร่างสูงใหญ่ดึงร่างตรงหน้ามากอดเอาไว้แน่น เขาหลับตาลงแล้วจูบขมับของปรานต์อย่างทะนุถนอม

"ปรานต์... ไม่ต้องเป็นห่วง... ให้พี่จัดการเอง"

"พี่ราม...?"

ร่างหนาแทบระงับการสั่นสะท้านของร่างกายตนเองเอาไว้ไม่ได้ เพียงแค่คิดว่าปรานต์จะถูกพรากไปจากเขา เขาก็แทบสูญเสียการควบคุมตนเองไปโดยสิ้นเชิง

--- หากไม่มีเด็กคนนี้อยู่ เขานึกไม่ออกจริง ๆ ว่าจะเริ่มวันต่อไปได้อย่างไร

"นาย... อยู่กับพี่ตรงนี้ก็พอ"



*****



"ว่าไงนะ?!"

เสียงทุ้มที่เข้มขึ้นขณะคุยโทรศัพท์ส่งผลให้ร่างบอบบางที่กำลังนั่งเช็ดเรือนผมนุ่มที่เปียกชื้นอยู่บนเตียงหันไปมองทางต้นเสียงด้วยความประหลาดใจ ยิ่งได้เห็นสีหน้าตึงเครียดของร่างสูงก็ยิ่งทวีความสงสัยระคนไม่สบายใจมากขึ้น มือบางวางผ้าขนหนูผืนหนาลงแล้วก้าวลงจากเตียงไปหาร่างที่ยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าแล้ววางมือลงบนบ่าอันแข็งแกร่งอย่างกังวล

ดวงตาที่มักจะฉายแววอ่อนโยนอยู่เสมอ บัดนี้เป็นประกายกร้าวอย่างคนโกรธแค้นจนปรานต์ถึงกับหน้าซีดด้วยความหวาดหวั่น --- กลัวว่าจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น

--- กลัวว่าเรื่องร้ายนั้นจะมีต้นเหตุมาจากเขา

"โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ"

เด็กหนุ่มรีบเอ่ยถามอย่างร้อนใจในทันทีที่อีกฝ่ายวางหู "เกิดอะไรขึ้นครับ?"

"สตูดิโอไฟไหม้น่ะ"

"หา?!"

".... เบสมั่นใจว่าการควบคุมดูแลดีพอ ไม่มีทางที่จะเกิดแก๊สรั่วหรืออะไรได้แน่"

ราเมศขบริมฝีปากด้วยความโกรธ โชคดีแค่ไหนที่วันนี้ไม่มีการถ่ายทำ สต๊าฟจึงหนีออกมาได้ทันการ

"นี่เป็นการวางเพลิง"

ปรานต์รู้สึกเย็นวาบราวกับถูกราดด้วยน้ำเย็นจัดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า คำพูดของเทพแว่บเข้ามาในโสตประสาทในทันที มือเล็กกำแน่นอย่างไม่สบายใจ เขาเชื่อว่าครอบครัวที่เขาจากมานั้นกล้าทำเรื่องแบบนี้อย่างแน่นอน

ชายหนุ่มมีสีหน้าโกรธแค้นอย่างเห็นได้ชัด "เบสกับพี่จะต้องสืบให้ได้ว่าใครทำ พี่จะไม่ยกโทษให้เด็ดขาด"

ปรานต์หน้าซีดเผือดเมื่อได้ฟังดังนั้น เขารู้ดีว่าราเมศรักงานที่กำลังทำ แม้ว่ามันอาจจะดูไม่เหมาะสมในสายตาของหลาย ๆ คน แต่ชายหนุ่มตั้งใจ ทั้งดูแลร่างกาย และเตรียมพร้อมในการถ่ายทำเป็นอย่างดีเสมอ ถ้าหากสตูดิโออันเป็นที่ทำงานถูกวางเพลิงเช่นนี้ก็ต้องรู้สึกเจ็บแค้นเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว

แล้วถ้าหากราเมศรู้ว่า นี่เป็นฝีมือของครอบครัวของเขาล่ะก็ ---

ราเมศ --- ก็คงจะพลอยเกลียดเขาไปด้วยแน่!

"ปรานต์ อยู่ที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวฉันออกไปคุยกับเบสแล้วจะกลับมา"

ราเมศเอ่ยพลางคว้าเสื้อคลุมมาสวมอย่างเร่งรีบ โดยมีเด็กหนุ่มเดินตามต้อย ๆ ไม่ยอมห่าง มือเล็กรั้งชายเสื้อคลุมเอาไว้เบา ๆ จนใบหน้าคมต้องหันกลับไปมองด้วยสายตาแปลกใจ

"หืม? เป็นอะไรรึเปล่า?"

เด็กหนุ่มกอดร่างสูงใหญ่แล้วเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะคลี่ยิ้มน้อยๆแล้วพูดว่า

"... รีบไปรีบกลับนะครับ"

"อืม แน่นอนอยู่แล้ว"

ปรานต์ทอดสายตามองร่างที่ผลุนผลันออกจากห้องไป ไออุ่นยังคงติดตรึงอยู่บนเรือนกายไม่หายห่าง มือบอบบางยกขึ้นสวมกอดตนเอง เขาหลับตาลงอย่างช้า ๆ

คิดถึงวันแรกที่เขาได้พบกับราเมศที่สตูดิโอ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังจดจำความรู้สึกตื่นตระหนกกับบทรักครั้งแรกที่ประสบมาไม่ลืมเลือน

เขายังจำได้ว่าหัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น และยิ่งทวีหนักกว่าเดิมเมื่อราเมศยิ้มให้กำลังใจ

มือใหญ่ที่สอนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเขา ตลอดจนปกป้องเขามาตลอดไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใด มือที่โอบกอดเขาที่ผวาตื่นจากฝันร้าย มือที่คอยปลอบประโลมให้เขาสบายใจ

--- ราเมศคือที่พักพิงของเขา

ไม่สิ  ไม่ใช่แค่เพียงเขาเท่านั้น

ราเมศยังมีความสำคัญกับใครอีกหลายคนมาก ทั้งเพื่อน ทั้งครอบครัว ล้วนรักราเมศกันทั้งนั้น

แต่เขากำลังทำลายคนอื่นที่รักราเมศ เพราะมีเขาอยู่ที่นี่ อยู่ตรงนี้กับราเมศ

มือเล็กหยิบโทรศัพท์มือถือที่ชายหนุ่มซื้อให้มากำเอาไว้ชั่วครู่ ก่อนจะกลั้นใจกดหมายเลขโทรศัพท์ที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพียงไม่นานก็มีคนมารับสาย เสียงอันแสนคุ้นหูทำให้เขาชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยตอบรับออกไป

"ผมเองครับ แม่"



*****



ปรานต์สะพายเป้ขึ้นไหล่ ขาเรียวมุ่งหน้าไปยังประตูบานสูงที่กำลังจะพาเขาออกไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงอันแสนโหดร้ายและไม่น่าจดจำ ก่อนที่ดวงหน้าหวานจะหันกลับไปมองห้องโถงกว้างอีกครั้ง เขากำหมัดแน่นเมื่อรู้ดีว่าตนเองไม่อยากจากที่แห่งนี้ไปเลยแม้เพียงเสี้ยววัน

ทว่า การมีตัวตนของเขา รังแต่จะทำให้ทุกคนที่ดีต่อเขาเดือดร้อน

เด็กหนุ่มระบายลมหายใจ แล้วเมินหน้าหนีกลับไปทางประตูอีกครั้ง หยดน้ำรินอาบผิวแก้มใสโดยไม่ทันรู้ตัว

อย่างน้อย อยากจะกอดราเมศแน่น ๆ อีกสักครั้ง

อยากจะเห็นรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นนั้นอีกสักครั้ง

'ฉันรักนาย'

ถ้อยคำอันแสนอบอุ่นและเปี่ยมไปด้วยความรักล้นปรี่ยังคงสะท้อนอยู่ในหัวใจ

รอยยิ้มที่แสนสุข และดวงตาอันแสนอ่อนโยนที่มองเขาอย่างเอ็นดูและแสนรักอยู่เสมอ

ราเมศที่รักเขา ราเมศที่เขารัก

ไม่มีแล้วนะ เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้วนะ

--- ถึงเวลาตื่นจากฝันอันแสนหวานนี้เสียที



 
 

TBC.


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนแรกชื่อเทพ ตอนนี้ชื่อนรก  เด็กผีมาก

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ช่างเป็นครอบครัวที่  พ่อ แม่ ลูก  ไม่ปกติสักคนเลยสินะนั่น

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ทำไมคิดเอง ตัดสินใจเอง ไม่บอกพี่รามเลยจะได้ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ ทำแบบนี้ไม่ดีเลยจริงๆ นะปรานต์

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ปรานต์...ทำไมไม่รอพี่รามก่อน

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
หนูลูกกกกก ทำไมไม่บอกคนอื่นนน ฮืออออ บอกพี่รามหน่อยยยย

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ MilkTea

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
[ACT 15]



​"กลับมาแล้วเหรอ ปรานต์"

หญิงผู้เป็นมารดาโผเข้ากอดร่างสูงเพรียวของบุตรบุญธรรมที่ยืนอยู่หน้าบ้าน เด็กหนุ่มผงะไปเล็กน้อยพลางมองใบหน้าอันเต็มไปด้วยความห่วงใยของร่างตรงหน้า

"เป็นยังไงบ้าง? ปลอดภัยดีรึเปล่า? ได้ทานอาหารครบทุกมื้อไหม? แม่เป็นห่วงลูกมากเลย"

ปรานต์ขบริมฝีปากโดยไม่ทันรู้ตัว ดวงตาสีน้ำตาลสวยหลุบลงมองต่ำอย่างรู้สึกผิด เขาหนีไปโดยไม่บอกกล่าว แน่นอนว่าย่อมนำพาซึ่งความเป็นห่วงจากร่างตรงหน้าเขารู้ดี

"ขอโทษครับ แม่"

มารดาของเขาไม่เคยทำร้ายเขา ไม่เคยแม้แต่จะรู้เรื่องว่าผู้เป็นสามีทำอะไรกับลูกชายเอาไว้บ้าง เธอดีกับเขาเสมอมา แต่เพียงแค่นั้นไม่สามารถทำให้เขาอดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนทนอยู่ต่อไปได้

"แม่ครับ... พ่อล่ะ?"

"อยู่บนห้องน่ะลูก นี่ดึกมากแล้ว พ่อคงหลับไปแล้วล่ะ"

ปรานต์ถอนหายใจอย่างโล่งอก กว่าจะนั่งแท็กซี่มาถึงที่นี่ได้ก็กินเวลาไปพอสมควร เขาดีใจที่ยังไม่ต้องพบกับคนที่ไม่อยากพบหน้าในตอนนี้ อย่างน้อยก็หลับสนิทได้อีกคืน

--- รึเปล่านะ?

เด็กหนุ่มเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนห้องเดิมที่เขาอาศัยอยู่มานานหลายปี ผ้านวม ที่นอน เครื่องใช้ต่าง ๆ ยังอยู่สภาพเดิมทุกอย่าง ร่างบอบบางทิ้งกายลงกับผืนเตียง พร้อมซุกใบหน้าลงกับหมอนใบใหญ่สีขาวที่เย็นเยียบอย่างหงอยเหงา หวังว่าจะหลับได้ในไม่กี่นาทีนี้

--- แต่มันไม่ง่ายเลย ไม่ง่ายเลยจริงๆ

เขาคิดถึงไออุ่นจากร่างอันแข็งแกร่งที่โอบกอดเขาเอาไว้ด้วยอ้อมแขนอันอบอุ่นนั้นอยู่ทุกคืน

--- คืนนี้ไม่มีราเมศแล้ว ไม่สิ จากนี้ไปจะไม่มีราเมศอีกแล้ว

คิดซะว่ามันเป็นแค่เพียงความฝันเถอะ ปรานต์ เจ้าชายในฝันคนนั้นไม่ได้มีอยู่จริง จะไม่มีวันได้พบกันอีกต่อไปแล้ว!

*****



ราเมศกำมือแน่นเมื่อเห็นแผ่นกระดาษสีขาวที่มีข้อความเพียงสั้น ๆ ทว่าบาดลึกเข้าไปในหัวใจของเขายิ่งกว่าสิ่งใด

'ผมขอโทษ ... ผมรักคุณ'

ร่างสูงวิ่งไปทั่วเพ้นท์เฮ้าส์ แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า ไม่เหลือแม้สิ่งใดไว้ดูต่างหน้าปรานต์ เขากัดฟันกรอดด้วยความเครียดและกังวล เขาหยุดกระวนกระวายใจไม่ได้ จึงเดินไปมาทั่วบ้านเพื่อควบคุมสติอารมณ์

มือหนากระชากผ้าม่านเปิดออก พร้อมกับมองลงไปยังทิวทัศน์ยามค่ำคืน เขามั่นใจว่าที่เดียวที่ปรานต์จะไปก็คือบ้าน ใช่ ก็แค่ไปรับตัวเด็กหนุ่มกลับมาจากบ้านก็ไม่เห็นจะยากตรงไหน

แต่ว่า ---

ชายหนุ่มเพิ่งรู้สึกตัว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบ้านของปรานต์อยู่ที่ไหน

ใช่ เขาไม่เคยถาม ไม่เคยคิดจะถามด้วย การมีปรานต์อยู่ข้าง ๆ คอยตามติดพึ่งพาอยู่ตลอดเวลาทำให้เขาวางใจ ว่าปรานต์ไม่มีที่ไหนไปนอกจากอยู่กับเขาที่นี่ แม้แต่เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่มี เพราะปรานต์อยู่กับเขาตลอดเวลาจนเขาไม่เห็นความจำเป็นจะต้องขอเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ ไม่สิ แม้แต่โทรศัพท์มือถือที่เขาซื้อให้ปรานต์ ก็ยังวางอยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้นเห็นได้ชัดว่าปรานต์ไม่ได้เอาอะไรก็ตามที่ทำให้เขาตามตัวได้ติดตัวออกไปเลย

ประเทศไทยนั้นแสนกว้างใหญ่ หนำซ้ำเขายังไม่แน่ใจว่าบ้านของปรานต์อยู่ที่ไหนเลย แม้เพียงชื่อจังหวัดยังไม่เคยรับรู้

"เด็กโง่เอ๊ย!!"

จะมีที่ไหนปลอดภัยมากไปกว่าที่นี่ --- ในอ้อมแขนของเขา

หากทำได้ เขาอยากจะโอบกอดปรานต์เอาไว้ตลอดเวลา เป็นทั้งที่พักพิงและบ้านของเด็กคนนั้น

อยากจะให้เด็กคนนั้นฝากชีวิตเอาไว้กับเขา เช่นเดียวกันกับที่เขาอยากจะมีปรานต์ยิ้มอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป เพราะเด็กคนนี้เป็นเสมือนแสงสว่างของเขา แสงอันอบอุ่นที่สาดส่องลงมาทุกคราที่เขาเจ็บปวดหรือไม่สบายใจ

แค่เพียงมีปรานต์อยู่ด้วย เขาก็สามารถยิ้มออกมาได้ไม่ว่าเมื่อไหร่

แบบนี้แล้ว เด็กคนนั้นยังหนีไปจากเขาอย่างนั้นหรือ --- เขาไม่ยอมหรอก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตามกลับมาให้ได้!

"ฮัลโหล เบส... ช่วยอะไรฉันหน่อยสิ"



*****



แสงตะวันส่องลอดผ้าม่านสีฟ้าอ่อนเข้ามาในห้องนอน เด็กหนุ่มปรือตาขึ้นอย่างยากเย็น รู้สึกเหมือนเพิ่งได้หลับไปไม่ถึงชั่วโมง แต่ครั้นจะข่มตาหลับต่อก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเคียงข้างกายไม่มีไออุ่นจากร่างของบุคคลอันเป็นที่รักอยู่เหมือนเคยเสียแล้ว

ปรานต์ยันกายขึ้น พร้อมกับเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา ดวงตาในกระจกที่มองมาอิดโรย ขอบตาก็ดำคล้ำราวกับคนอดนอนมานานปี อาจเป็นเพราะเขาเป็นโรคภูมิแพ้อยู่เป็นทุนเดิมแล้ว เมื่อไม่ได้พักผ่อนกอปรกับความเครียดที่รุมเร้าทำให้แสดงออกทางร่างกายอย่างชัดเจนเช่นนี้ มือบางหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าพร้อมกับให้กำลังใจตนเองอย่างเงียบ ๆ เขาจะยอมแพ้ไม่ได้ จะอ่อนแอแบบนี้ต่อไปไม่ได้

เด็กหนุ่มนั่งลงหน้าโต๊ะทำงานพร้อมกับถอนหายใจ เบื้องหน้าเป็นหนังสือชีววิทยาที่เขาวางทิ้งเอาไว้ตั้งแต่ก่อนหนีออกจากบ้าน ในตอนนี้ก็ยังวางอยู่ที่เดิม มือเรียวไล่ไปตามปกหนังสือแล้วเปิดอ่านถึงหน้าที่อ่านค้างเอาไว้ ป่านนี้เพื่อน ๆ ของเขาคงเรียนไปไกลโข เขาคงต้องรีบทบทวนก่อนที่จะตามไม่ทันเสียแล้ว

"... พี่?"

เสียงใสที่ดังจากด้านหลังส่งผลให้ปรานต์หันไปมองด้วยสายตานิ่ง ๆ ก่อนจะเมินหนีกลับมาจดจ้องทางหนังสือเรียนที่ห่างหายไปนานตามเดิม แต่รชตไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายเมินเฉยต่อเขาโดยง่าย

"ทำไมพี่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้?"

มือเล็กคว้าข้อมือบอบบางเพื่อรั้งไว้ให้หันมาสนใจดังเดิม ทว่าเด็กหนุ่มผู้เป็นพี่ชายกลับสะบัดข้อมือหนี

"... พี่ปรานต์?"

เจ้าของนามไม่ยอมสบตา จะว่าเขาโกรธก็ใช่ ถ้าว่ากันตรง ๆ เขาโกรธมากจริง ๆ ที่รชตทำให้ทุกคนในกองถ่ายต้องเดือดร้อน ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าครอบครัวนี้เป็นคนประเภทไหน ผู้เป็นแม่ที่ไม่เคยรู้เรื่องอะไร กับผู้เป็นพ่อที่เลือดเย็นมากพอที่จะทำร้ายใครก็ตามที่เข้ามาขัดขวางความต้องการ

"พี่โกรธผมเหรอ? ผมขอโทษที่พูดไม่ดีในวันนั้น... ผมไม่ได้ตั้งใจ ที่จริงผม..."

ปรานต์ขัดจังหวะอย่างไม่ต้องการจะฟังอีกต่อไป "นายเลิกพูดมากซะทีเถอะ ไม่ว่านายจะตั้งใจหรือไม่ ผลลัพธ์ก็ออกมาไม่ต่างกันไม่ใช่เหรอไง?"

"... ผมไม่คิดว่าพี่จะกลับบ้านมาจริง ๆ"

ปรานต์รู้สึกเหมือนกับถูกยั่วโมโห เขาเขวี้ยงปากกาลงบนโต๊ะพร้อมกับหันมาเผชิญหน้า เขาไม่ใส่ใจสีหน้าตกตะลึงจากผู้เป็นน้องชาย สำหรับเขาแล้ว ครั้งนี้เด็กหนุ่มทำเกินไปจริง ๆ

"นายเคยคิดถึงอะไรบ้างนอกจากความต้องการของตัวเอง?! ดีแต่เอาแต่ใจทุกครั้ง ไม่ว่าอยากได้อะไรก็ต้องได้! นายเคยคิดถึงความรู้สึกของคนรอบข้างบ้างไหม?! คนอย่างนายน่ะ... ไม่มีใครเขารักหรอก!!"

ปรานต์ชะงักเมื่อเงยหน้ามองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ยืนกำมือที่สั่นระริกเอาไว้แน่น

ดวงตาสีน้ำตาลสวยปล่อยให้หยดน้ำค่อย ๆ ร่วงเผาะลงมา ขณะที่ริมฝีปากเจื้อยแจ้วที่เขาคาดไว้ว่าต้องพ่นคำหยาบออกมากลับเม้มนิ่งราวกับกำลังสะกดกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้อย่างยากลำบาก แววตาตัดพ้อระคนเจ็บปวดที่จ้องมองมาทำให้เขาเจ็บยอกในอก

แต่ครั้งนี้เขาจะใจอ่อนไม่ได้ --- อย่าไปหลงกลเด็กคนนี้

"พี่ไม่อยากเห็นหน้านายแล้ว ออกไปซะ"

เจ้าของร่างที่สั่นเทิ้มใช้เวลาสักครู่ก่อนจะยอมก้าวเดินออกจากห้องส่วนตัวของปรานต์ไปตามคำสั่งอย่างเงียบ ๆ ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกโกรธที่ปนเปไปกับความรู้สึกผิดในใจของปรานต์ โดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าด้วยเหตุผลใด ในเมื่อรชตทำผิดร้ายแรงขนาดนี้ เขาไม่ควรจะรู้สึกผิดแค่เพียงเพราะได้เห็นน้ำตาของน้องชายคนนี้ไม่ใช่หรือ

ใช่ --- เด็กคนนี้ช่วงชิงความสุขของเขาไป แล้วยังทำร้ายคนที่เขารักและช่วยเหลือเขามาตลอด --- อย่ายอมยกโทษให้ง่ายๆเชียว

คิดพลางระบายลมหายใจแล้วหันมาสนใจหนังสือเรียนต่อ เขาขาดเรียนไปนานจนต้องทบทวนบทเรียนที่ไม่ได้เข้าเรียน ดีที่ปกติแล้วเขาเป็นนักเรียนดีเด่นมาตลอด ต่อให้ไม่เข้าเรียนก็สามารถยื่นลาย้อนหลังโดยอ้างเหตุผลส่วนตัวก็ยังสามารถเข้าสอบได้

เขาอยากรีบ ๆ เรียนให้จบแล้วหางานเร็ว ๆ จะได้ออกจากบ้านหลังนี้ไปเสียที

เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นอีกครั้ง เด็กหนุ่มไม่ได้หันไปมอง เพียงแต่เอ่ยเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงติดจะรำคาญ

"ยังมีอะไรอีกล่ะ?"

"ผัวะ!!"

ใบหน้างดงามสะบัดไปด้านข้างเมื่อถูกกำปั้นลุ่น ๆ ต่อยมาอย่างรุนแรง ตามด้วยฝ่าเท้าหนาหนักที่ถีบร่างเล็กจนตกเก้าอี้แล้วกระทืบซ้ำอย่างไม่ออมมือ

"ไอ้เด็กเนรคุณ! มึงคิดว่ากูจะหามึงไม่เจอเหรอ?! มึงกล้าดียังไงถึงหนีออกจากบ้าน!!"

เสียงตะคอกกราดใส่อย่างรุนแรงไม่แพ้แรงกระทืบที่ซ้ำหนักจนเด็กหนุ่มพูดอะไรไม่ออกนอกจากส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดระคนตกใจ

"มึงร่านนักใช่ไหม ไปถ่ายหนังแบบนั้น มึงอยากจะฉีกหน้าครอบครัวขนาดนั้นเลยใช่ไหม!!"

มือหนาจิกเรือนผมนุ่มจนใบหน้าสวยที่มีรอยฟกช้ำแหงนหงาย

"มึงอยากเจอดีแบบนั้นก็น่าจะบอกตั้งแต่แรก... กูจะได้จัดให้!"

ทีแรกเด็กหนุ่มยังไม่เข้าใจคำพูดของอีกฝ่ายเนื่องจากเจ็บไปหมดทั้งตัวจนเบลอ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่ออีกฝ่ายมัดข้อมือของเขาเอาไว้ด้วยเน็กไทแล้วลากออกไปจากห้องอย่างรุนแรง

"เดี๋ยว...! ปล่อยผมนะ!"

"หุบปากนะ!!"

ฝ่ามือใหญ่ตบแก้มเนียนอย่างแรงจนเด็กหนุ่มรับรู้ได้ถึงรสชาติของเลือดที่กบปาก

"มึงตามกูมา!"

"พ่อ... พ่อจะทำอะไร?"

"กูจะให้มึงถ่ายหนังจนมึงพอใจเลย รอเงียบๆเถอะ!"

เด็กหนุ่มหน้าซีดจนขาวเมื่อได้ยินดังนั้น เขาพยายามขืนกายไม่ไปตามอีกฝ่าย แต่แรงกระชากที่รุนแรงเสียจนร่างของเขาแทบปลิวไปตามลำแขนแกร่งทำให้เด็กหนุ่มจำต้องโดนโยนขึ้นรถไปในเวลาอันสั้น

"พ่อ อย่าทำแบบนี้!"

"มึงไม่ต้องมาเรียกกูว่าพ่อ มึงไม่ใช่ลูกกู!"

ปรานต์ขบริมฝีปากพลางกลั้นน้ำตา ใช่ เขาเองก็ไม่ได้อยากจะถูกย่ำยีทางเพศตั้งแต่เด็กแบบนี้ เคยคิดไม่รู้กี่ครั้งว่าถ้าชายตรงหน้าไม่ได้รับเขามาเลี้ยง เขาก็คงไม่ต้องลิ้มรสความอดสูเช่นนี้

ในขณะเดียวกัน ในบางครั้งเขาก็ยังรู้สึกถึงความโชคดีที่ได้มีโอกาสได้เรียนหนังสือ มีอาหารตกถึงท้องอย่างพอดีทุกมื้อ และในบางครั้ง เขาก็ตื้นตันที่ยังมีคนเห็นเขาเป็นลูก

ปรานต์ได้แต่กลั้นสะอื้นตลอดทาง สายตามองออกไปยังพื้นถนนที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วตามความเร็วของรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผู้เป็นพ่อนั่งเงียบไม่พูดอะไรราวกับกำลังข่มกลั้นอารมณ์โกรธอยู่ตลอดเวลา คล้ายกับลูกระเบิดที่พร้อมระเบิดออกมาเต็มที่

เด็กหนุ่มถูกลากเข้าไปในโรงแรมหรูระดับห้าดาวที่บิดาของเขาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างเงียบ ๆ พยายามไม่ใส่ใจสายตาของคนรอบข้างที่มองมาด้วยความแปลกใจเพราะบาดแผลตามร่างกายของเขา ปรานต์นึกอยากจะวิ่งหนีไปให้พ้น ๆ แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางหลุดพ้นไปได้ ไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็ต้องจับเขากลับมาได้อยู่ดี แต่ถึงจะเตรียมใจไว้แบบนั้น เขาก็ยังควบคุมร่างกายไม่ให้สั่นตลอดการขึ้นลิฟต์ไม่ได้

เขาก้าวตามผู้เป็นพ่อไปยังชั้นวีไอพี เด็กหนุ่มเหลือบซ้ายแลขวาอย่างหวาดหวั่นอย่างไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ ดวงตาคู่สวยหลุบลงมองต่ำเพียงปลายเท้าของบิดาและตนเองเท่านั้น จนในที่สุดฝีเท้าก็หยุดลงพร้อมเสียงประตูที่ปิดตามมา

"ที่นี่?"

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นพบกับชายวัยกลางคนรุ่นเดียวกับพ่อของเขาอีกสี่คน ทุกคนล้วนนั่งอยู่บนโซฟาหนังสีน้ำตาลเข้มในห้องสูทวีไอพีที่ตกแต่งในสไตล์ยุโรป

"เด็กคนนี้เหรอ?"

"ใช่"

"... พ่อครับ? นี่มันเรื่องอะไร?"

ชายร่างสูงเพียงแค่ปรายตามองร่างตรงหน้าชั่วครู่ ก่อนจะยกเท้าขึ้นถีบร่างบอบบางลงไปกองกับพื้นแล้วเตะอัดท้องจนร่างเล็กถลาไปกระแทกกับผนังห้องอย่างแรง เด็กหนุ่มจุกจนพูดไม่ออก ซ้ำยังเจ็บแปลบทั่วร่าง โดยเฉพาะไหล่ขวาที่ถูกกระทืบซ้ำหลายครั้ง เขาเริ่มไม่แน่ใจว่ามีส่วนไหนของร่างกายหักบ้างรึเปล่า แต่ความรับรู้ทั้งหมดกลับพุ่งไปที่คำพูดเบา ๆ จากร่างที่ยืนอยู่เหนือเขา

"ปล้ำมัน... อย่าลืมถ่ายคลิปไว้ให้ดีด้วยล่ะ"

"ได้จริง ๆ เหรอ? ผิวสวยจริง ๆ ไม่น่ารุนแรงเลย ช้ำหมด"

"ไม่ซ้อมมันแล้วมันจะยอมตามมาง่าย ๆ รึไง"

"เออแต่นี่ขนาดหน้าบวมก็ยังน่ารักเลยว่ะ เด็ดจริง ๆ เด็กมึง"

"เออ รีบ ๆ เข้าล่ะ เดี๋ยวเมียกูรู้ว่ามันหายไปแล้วจะโทรตามกับกู"

มือหนาหลายคู่ดึงร่างเล็กที่สิ้นเรี่ยวแรงขึ้นไปบนเตียงพร้อมกับช่วยกันปลดกระดุมเสื้ออย่างว่องไว ขณะที่เด็กหนุ่มที่ตกตะลึงพยายามปัดป้องอย่างอ่อนแรง แต่ก็ถูกมือใหญ่กดรั้งไว้กับผืนเตียง ดวงตาคู่สวยฉายแววตื่นตระหนกเมื่อชายร่างท้วมคนหนึ่งหยิบกล้องวิดีโอมาซูมใบหน้าและเรือนกายของเขาที่ถูกขึงไว้ด้วยมือหลายคู่

"ไม่!!"

"อุดปากมันไว้สิ!"

"อย่าดื้อน่า!!"

"... เอายาให้มัน"

เด็กหนุ่มพยายามพลิกกายหนี แต่ก็ถูกลากกลับไปนอนหงายเหมือนเดิม ก่อนที่จะดวงตาคู่สวยจะเบิกกว้างเมื่อผู้เป็นพ่อถือเข็มฉีดยาเดินมาใกล้ ลำแขนบางถูกจับแน่นจนไร้ทางหนี และถูกปักเข็มลงมาในไม่ช้า

"อย่า.... พ่อครับ... อย่า!"

น้ำตาที่รินอาบผิวแก้มที่บวมช้ำไม่ทำให้คนเหล่านั้นสงสารหรือเห็นใจแม้แต่น้อย กลับยิ่งทวีความอยากกระหายมากขึ้นตามอารมณ์ดิบของบุคคลชั้นต่ำ

"แบบนี้จะได้รู้สึกดี ๆ ไงล่ะ... อีกไม่กี่นาทีมึงจะอ้าขาร้องครางขอให้พวกกูกระแทกเข้าไปในตัวมึงแรง ๆ ไม่ต้องห่วง รับรองสมอยากมึงแน่ กูจะเอาให้มึงเดินไม่ได้ไปเป็นเดือนเลย"

"ฮ่า ๆ พูดเกินไป ไม่ต้องกลัวนะ ก็แค่นั่งไม่ได้ไม่กี่วัน แต่หลังจากนั้นก็จะอยากได้อะไรแบบนี้อีก ถึงตอนนั้นเดี๋ยวเรียกคนมาเพิ่มให้ดีไหม"

เสียงหัวเราะที่ฟังดูน่าสะพรึงกลัวทำให้เด็กหนุ่มหลั่งน้ำตาออกมาอีกครั้ง ร่างหนาแทรกเข้ามากลางหว่างขาบอบบางพร้อมกับปลดเข็มขัดแล้วรูดซิปกางเกงยีนส์ของเด็กหนุ่มลง เผยให้เห็นต้นขาขาวเนียนและกางเกงในสีดำที่ราเมศเป็นคนซื้อให้ มือสากดึงกางเกงในเนื้อบางลงอย่างเร่งร้อนพร้อมตะโบมโลมไล้ผิวเนียนนุ่มที่ให้สัมผัสน่าหลงใหลอย่างตะกละตะกลาม

"... อย่า!! ช่วยด้วย!!"

ปรานต์สะบัดกายดิ้นหนีสัมผัสที่น่าขยะแขยงนั้น ทว่าความช่ำชองของบุคคลตรงหน้าตลอดจนฤทธิ์ของยาที่เริ่มได้ผลกลับทำให้ร่างกายไม่รักดีนี้เริ่มตอบสนอง ส่วนอ่อนไหวชูชันจนร่างหนาอดไม่ได้ที่จะขยี้ความร้อนจัดนั่นด้วยฝ่ามือหยาบกร้านอย่างรุนแรง ส่งผลให้เด็กหนุ่มบิดกายเร่าด้วยความเจ็บปวดจนแทบร้องไม่ออก

"กูไม่ไหวแล้วว่ะ เริ่มเลยได้ไหม"

"เอาสิ มันออกไปร่านหาผัวนอกบ้านมานานขนาดนี้ คงโดนมาจนพรุนแล้ว"

"เออแค่เห็นหน้ามันก็เกิดอารมณ์แล้วว่ะ เด็กนี่มันยั่วจริง ๆ"

ปรานต์พยายามออกแรงสุดชีวิตเพื่อขืนกายหนีจากร่างที่เคลื่อนกายเข้ามาใกล้ หยาดน้ำรินกลบตาเสียจนมองอะไรไม่เห็น เสียงกรีดร้องของเขาดังก้องเสียจนฟังไม่ได้ศัพท์ และยิ่งทวีขึ้นเมื่อเรียวขาทั้งสองข้างถูกแยกออกกว้างแล้วรั้งขึ้นสูง

ไม่ ---

เสียงหัวเราะรอบกายดั่งเสียงของปีศาจร้าย

--- ปีศาจที่กำลังจะทำลายโลกของเขาให้พังทลายนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป


 
 
 
TBC.

ออฟไลน์ Minnie~Moo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-1
จะเป็นอะไรมั๊ยถ้าจะบอกส่า "สมน้ำหน้า" คือรู้อยู่แล้วว่ากลับมาจะเจออะไร ก็ยังจะกลับมา นางเอกนิยายน้ำเน่าโคตรๆ  เบื่อออออ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เอ้า ทำไมมาดาร์คแบบนี้ล่ะ จะมีใครมาช่วยมั้ยเนี่ยะ
แต่เรื่องเทพคิดว่าเทพไม่ได้ฟ้องพ่ออ่ะ ปรานน่าจะเข้าใจผิดมั้ง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด