#เพลงรักที่หายไป หนูด้วง+พี่โอบอุ้ม 20 ตอนจบ สารบัญหน้าแรก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เพลงรักที่หายไป หนูด้วง+พี่โอบอุ้ม 20 ตอนจบ สารบัญหน้าแรก  (อ่าน 88973 ครั้ง)

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
เพลงรักที่หายไป

เพลงรักที่ 16 ที่ว่าง
ศิลปิน Pause


งานปาร์ตี้ฉลองวันเกิดของนายหัวพยนต์ยังคงดำเนินต่อไป แต่เจ้าของวันเกิดและแขกเหรื่อที่รุ่นราวคราวเดียวกับนายหัวพยนต์ต่างพากันขอตัวกลับ ปล่อยให้เด็กรุ่นลูกรุ่นหลานได้สนุกสนานกันต่ออย่างเต็มที่ วงดนตรีที่พญาจ้างมาเริ่มเล่นเพลงที่มีจังหวะคึกครื้นให้เหล่าวัยรุ่นได้โยกย้ายส่ายเอวกันอย่างสะใจ

แก้วไม่ได้อยู่ในห้องจัดเลี้ยงเพราะเธออยากออกมาเดินสำรวจความสวยงามหรูหราของโรงแรมภูมิเทพมากกว่า ในใจก็คิดว่าหากเธอได้เป็นลูกหลานคนในตระกูลนี้เหมือนอย่างหนูด้วงก็คงจะดี แค่เวลาไม่กี่วันที่เธอได้ใช้ชีวิตแบบคนมีเงินมันทำให้เธอไม่อยากกลับไปเป็นนักเรียนทุนแบบเดิมที่ต้องใช้จ่ายอย่างกระเหม็ดกระแหม่อีก บอกใครไปก็คงไม่มีใครเข้าใจ ทุกคนก็คงคิดว่าเธอทะเยอทะยาน เพื่อนส่วนใหญ่ก็เกิดมาบนกองเงินกองทองกันทั้งนั้น ไม่มีใครรู้หรอกว่าการไม่มีมันน่าหดหู่แค่ไหน แม้ว่าพยายามทำตัวให้ดีแต่ก็ไม่อยู่ในสายตา ไม่เป็นที่ยอมรับ

แก้วเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณสระน้ำ มันเงียบจนเธอเกือบจะเดินกลับ ถ้าไม่ได้ยินเสียงคนคุยกันเสียก่อน

“โอบ อาตัดสินใจบอกคุณเชนเรื่องของน้องไม้น้องหม่อนไปแล้วนะ”

แก้วได้ยินเสียงสั่นเครือของผู้หญิงคนหนึ่ง คำว่า ‘โอบ’ ทำให้แก้วหยุดชะงักแล้วแอบเดินหาต้นตอของเสียง

“แล้วเขาว่ายังไงครับ”

“เขาโกรธอา”

“อาก็รู้ว่าเขาจะโกรธ ทำไมอาถึงสารภาพกับเขา”

“อาสงสารน้องแฝด พวกเขาอยู่ใกล้แม่แค่เอื้อมแต่กลับไม่รู้”

“แล้วอาไม่สงสารน้องไหมเหรอครับ”

พเยียอึ้งไป สุดท้ายเธอก็ร้องไห้ออกมาด้วยความกดดัน เธอสับสนและไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไร เคยคิดว่าตัวเองทนได้หากต้องเจอใบไม้กับใบหม่อนในฐานะลูกชายของโอบอุ้ม แต่เมื่อได้เจอน้องแฝด เธอกลับอยากมีโอกาสที่จะเรียกเด็กทั้งสองคนว่าลูกบ้าง อยากให้ลูกรู้ว่าเธอคือคนที่ให้กำเนิด เมื่อทนต่อไปไม่ได้จึงไปสารภาพกับสามี รู้ทั้งรู้ว่าเขาคงรับไม่ได้ แต่เธอก็หวังว่าเวลาที่มันล่วงเลยมาจนป่านนี้ เขาน่าจะเข้าใจและยอมอภัยให้เธอ เธออยากให้เขายอมรับใบไม้กับใบหม่อน อยากให้น้องไหมรู้ว่ายังมีพี่ชายอีกสองคน

“ใบไม้กับใบหม่อนเขาได้รับความรักจากผมในฐานะพ่อมาตลอด เขาคุ้นชินแล้วกับการไม่มีแม่ แต่น้องไหมเขาจะอยู่ยังไงครับถ้าพ่อกับแม่จะแยกไปคนละทาง”

“แต่อา...”

“อากลับไปคุยกับคุณเชนให้เข้าใจก่อนดีกว่าครับ เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่ สำหรับน้องแฝดผมจะดูแลเขาให้ดีที่สุดอย่างที่เคยบอกเอาไว้ อาเยียไม่ต้องกังวลว่าเขาจะไม่มีความสุข”

“อาจะกลับไปคุยกับคุณเชนให้เข้าใจ อาขอโทษที่เคยขลาดกลัว เลือกทำในสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย แต่อายืนยันว่าอารักน้องไม้กับน้องหม่อน อาอยากใช้ชีวิตที่เหลือทำหน้าที่แม่ให้น้องแฝดบ้าง โอบเข้าใจอานะ”

แก้วยกมือขึ้นปิดปากเมื่อได้ยินบทสนทนาของคนทั้งคู่ เธอตัดสินใจไม่อยู่ฟังต่อจนจบแล้วหันหลังกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยงทันที ใครจะไปคิดว่าที่แท้คนรักของหนูด้วงจะได้เสียกับอาของตัวเองจนมีลูกด้วยกัน มิน่าพี่แปะถึงบอกว่าพี่โอบไม่เคยบอกว่าใครเป็นแม่ของเด็ก เธอคิดว่าหนูด้วงจะต้องได้รู้เรื่องนี้

ส่วนโอบอุ้ม เมื่อพเยียไปแล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจ อยากกลับไปหาหนูด้วงแต่ก็รู้สึกไม่สบายใจจึงอยากนั่งแช่ขาที่สระน้ำอีกสักพัก เขาไม่คิดว่าอาพเยียจะยอมแลกชีวิตที่สมบูรณ์แบบเพื่อน้องแฝด ก่อนนั้นอาเคยหวาดกลัวว่าน้องแฝดจะเป็นต้นเหตุให้อนาคตที่ฝันไว้พังทลาย แต่มาวันนี้อากลับยอมทิ้งทุกอย่างไปอย่างง่ายดาย แต่มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายดายสำหรับทุกคน คิดแล้วเขาก็เริ่มโทษตัวเองที่ตัดสินใจกลับมาที่เกาะ เขาอาจจะเป็นคนนำความยุ่งยากกลับเข้ามาในครอบครัวของผู้มีพระคุณ

“พี่โอบ”

“หนูด้วง เป็นอะไรครับ ทำไมทำหน้าแบบนั้น แล้ววิ่งมาเหรอ หอบเชียว”

หนูด้วงไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าแบบไหน รู้แต่ว่าไม่อยากเชื่อในสิ่งที่แก้วเล่าให้ฟัง แต่การที่ใบหม่อนมีใบหน้าคล้ายตัวเองหรือการที่ใบไม้มีส่วนคล้ายยุงพญาก็ทำให้คล้อยตามเรื่องที่แก้วนำมาบอกได้ ไม่ว่าความจริงคืออะไรหนูด้วงก็อยากได้ยินจากปากของพี่โอบเอง ทีแรกทุกคนที่ได้ยินสิ่งที่แก้วบอกต่างพากันตกใจและเตรียมจะตามมา แต่หนูด้วงห้ามเอาไว้เพราะไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้

“พี่โอบมีอะไรอยากบอกหนูไหมฮะ” หนูด้วงถามพลางทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ คนรัก

“มี”

“หนูพร้อมจะฟังแล้ว”

โอบอุ้มหันมาจ้องตาอีกฝ่ายก่อนจะโน้มใบหน้าไปจุมพิตคนที่เป็นดั่งดวงใจ เนิ่นนานจนอีกฝ่ายต้องดันอกของเขาออก ดวงตาที่เต็มไปด้วยคำถามทำให้โอบอุ้มรู้ว่ามันถึงเวลาแล้ว

“ไปอยู่ที่อังกฤษกันไหม” โอบอุ้มถาม คนถูกถามแสดงสีหน้าตกใจ

“แบบอยู่ตลอดไปเหรอฮะ”

“อืม”

“หนูพร้อมจะไปกับพี่ทุกที แต่หนูไม่อยากให้พี่หนีปัญหา”

“รู้ได้ไงว่าพี่มีปัญหา...หื้ม” โอบอุ้มเชยคางคนฉลาดขึ้นมาก่อนจะหอมไปที่หน้าผาก

“พี่มีอะไรจะบอกหนูอีกไหม” หนูด้วงไม่ตอบคำถามของพี่โอบแต่กลับถามคำถามเดิมซ้ำอีกครั้ง

“น้องแฝดเป็นลูกของอาเยีย” ในที่สุดโอบอุ้มก็ตัดสินใจบอกเรื่องนี้ให้หนูด้วงฟัง เขารู้ว่าหนูด้วงคงรู้เรื่องนี้ถึงได้วิ่งกระหืดกระหอบมาพร้อมกับหน้าตาที่เตรียมจะร้องไห้ได้ตลอดเวลา เพียงแต่เขาไม่แน่ใจว่าหนูด้วงรู้มาจากไหน

“กับ...พี่เหรอ” หนูด้วงถามเสียงสั่น หยดน้ำใสคลออยู่ที่ขอบตา

“คิดว่าพี่จะมีอะไรกับใครได้นอกจากหนูเหรอครับ หัวใจของพี่เป็นของหนู ร่างกายก็ด้วย”


หนูด้วงได้ยินคำตอบก็โผกอดโอบอุ้มทันที ความหนักอึ้งที่ทับอยู่ในใจก็มลายหายไป แค่พี่โอบอุ้มบอก หนูด้วงเชื่อว่ามันคือความจริง


“ใครบอกหนูว่าน้องแฝดคือลูกของพี่กับอาเยีย” โอบอุ้มขมวดคิ้วถาม เขาไม่คิดว่าหนูด้วงจะคิดเรื่องแบบนี้ด้วยตัวเอง

“ช่างมันเถอะฮะ แค่พี่โอบบอกว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ หนูเชื่อ”

“เชื่อแต่ร้องไห้ขี้มูกโป่งเชียว” โอบอุ้มเช็ดน้ำตาให้น้อง

“ก็หนูดีใจที่พี่โอบถูกหนูเปิดบริสุทธิ์ แล้วใครคือพ่อของน้องแฝดครับ พี่เล่าให้หนูฟังได้ไหม”

“อันที่จริงพี่รับปากอาเยียเอาไว้ว่าจะไม่พูด แต่ถ้าพี่ไม่เล่าอาจจะทำให้คนสำคัญของพี่ต้องเสียใจ พี่ยอมผิดคำพูดกับคนอื่นดีกว่า”

“งั้นไม่ต้องเล่าก็ได้นะฮะ” หนูด้วงไม่อยากให้พี่โอบผิดคำสัญญากับคนอื่นจึงเปลี่ยนใจ

“ไม่เป็นไร หนูด้วงจะมาเป็นแม่ของน้องแฝด ก็ควรรู้ประวัติของลูกๆ จริงไหมครับ” โอบอุ้มพูดอย่างเอาใจและหอมที่หน้าผากของหนูด้วงอีกครั้ง เห็นน้ำตาของน้องก็พลอยทำให้ใจสั่น ไม่อยากเห็นน้องต้องร้องไห้อีกจึงเริ่มเล่าเรื่องของน้องแฝดให้หนูด้วงฟัง

‘พ่อผู้ให้กำเนิดของใบไม้กับใบหม่อนชื่ออามิราน เขาเป็นคนรักเก่าของพเยีย หลังจากที่พเยียคลอดน้องแฝดแล้วกลับมาเมืองไทย ตอนนั้นโอบอุ้มยอมรับว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากมากๆ เพราะตัวเองก็เป็นแค่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่ยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยเลยด้วยซ้ำ ไม่เคยเลี้ยงเด็กเล็กๆ ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นจากอะไร และนอกจากการเลี้ยงดูแล้วก็ยังมีเรื่องการมีตัวตนของน้องแฝดบนโลกใบนี้อีก ถึงพเยียจะเซ็นมอบสิทธิ์ให้ แต่การจะรับเด็กมาเป็นลูกบุญธรรมในต่างประเทศนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

เรื่องการเลี้ยงดูน้องแฝด เรียกว่าคงเป็นโชคดีของเด็กน้อยทั้งสองคน หญิงสาวคนหนึ่งมาคลอดลูกอยู่ห้องติดกันกับพเยีย เธอเสียลูกไปทั้งที่เด็กเพิ่งคลอดออกมาได้ไม่กี่ชั่วโมง เมื่อเธอรู้ว่าแม่ของน้องแฝดหายไป เธอจึงอาสาให้น้องแฝดได้ทานน้ำนมของเธอและช่วยเลี้ยงดูน้องแฝดให้ในวันที่โอบอุ้มต้องไปเรียน เธอบอกว่าการได้ดูแลน้องแฝดเป็นการช่วยเยียวยาจิตใจของเธอเช่นกัน เธอช่วยดูแลจนน้องแฝดเกือบครบสองขวบ เธอจำต้องย้ายไปอยู่ที่เมืองอื่น โอบอุ้มจึงเริ่มเป็นคุณพ่อแบบเต็มตัวเพราะเวลานั้นก็เรียนจบพอดี แต่สิ่งที่หนักใจคือเรื่องเงิน โอบอุ้มต้องหางานทำเพราะไม่อยากขอเงินของพญา ถึงพเยียแอบส่งเงินมาให้ทุกเดือน แต่นั่นคือเงินของน้องแฝด เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ของเด็กทั้งสองคน โอบอุ้มอยากสร้างฐานะด้วยตัวเองเพราะอยากให้ทุกคนที่เมืองไทยมั่นใจเมื่อถึงเวลาที่เขาจะกลับไปขออนุญาตให้หนูด้วงมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน’

“แล้วพี่โอบทำยังไงฮะ ถ้าไปทำงาน แล้วใครจะเลี้ยงน้องแฝด หรือเอาไปฝากสถานรับเลี้ยงเด็ก”

“ทีแรกก็คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ก่อนที่พี่จะได้งานทำ อามิรานก็มาหาพี่ที่บ้าน”

“เขามาทำไมฮะ หรือว่าเขารู้ว่าน้องแฝดคือลูก” หนูด้วงทำตาโต

โอบอุ้มยิ้มขำเมื่อคนที่ร้องไห้เมื่อครู่กลับมาทำตาโตพร้อมกับท่าทางที่อยากจะฟังต่อใจจะขาด เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียอรรถรสในการฟังจึงรีบเล่าต่อ

‘อามิรานมาถามโอบอุ้มตรงๆ ว่าเด็กทั้งสองคนคือลูกชายของเขาใช่หรือไม่ โอบอุ้มก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฝ่ายนั้นรู้ได้ยังไง ทีแรกก็ลังเลที่จะบอก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจบอกความจริง เขาคิดว่ามันเป็นสิทธิ์ของคนที่เป็นพ่อควรจะได้รู้เรื่องเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง อามิรานร้องไห้อย่างหนักเมื่อรับรู้ ฝ่ายนั้นไม่พูดอะไร นั่งดูน้องแฝดจนเด็กทั้งคู่เข้านอนถึงได้กลับไป

แต่หลังจากวันนั้นอามิรานก็มาที่บ้านทุกวัน ไม่ได้มามือเปล่า มาพร้อมกับข้าวของเครื่องใช้ของเด็ก เขาบอกให้โอบอุ้มไปหางานทำ ส่วนเขาจะช่วยดูแลเด็กๆ ให้เอง แต่โอบอุ้มไม่เสี่ยงที่จะทิ้งน้องแฝดเอาไว้จึงรับงานมาทำที่บ้านแทน โอบอุ้มเริ่มสงสัยว่าอามิรานไปเอาเงินมากมายมาจากไหนเพราะเท่าที่รู้มา อามิรานเป็นคนไม่ทำงานทำการ ใช้ชีวิตไปวันๆ แบบไม่มีอนาคต โอบอุ้มกลัวว่าเงินที่อามิรานนำมาจะเป็นเงินที่ผิดกฎหมายจึงตัดสินใจพูดกับอามิรานตรงๆ ว่าไม่อยากให้อามิรานซื้ออะไรต่ออะไรมาให้น้องแฝดอีก

อีกวันอามิรานกลับมาพร้อมกับทนาย โอบอุ้มตกใจมากเพราะคิดว่าอามิรานจะให้ทนายทำเรื่องรับบุตรไปเลี้ยงดูเอง แต่เมื่อรับรู้จุดประสงค์ของอามิรานแล้วโอบอุ้มยอมรับว่าตัวเองตกใจหนักกว่าเดิม’

“ทำไมฮะ เกิดอะไรขึ้น”

“อามิรานให้ทนายมาทำเรื่องยกมรดกของตัวเองให้น้องแฝด และยกสิทธิ์การดูแลให้พี่ ให้ทนายช่วยทำเรื่องเอกสารจนน้องแฝดได้เป็นลูกของพี่ตามกฎหมายที่ถูกต้อง”

“มรดกอะไรเหรอฮะ ไหนว่าเขาไม่มีอนาคตไง”

“เขาทำตัวให้คนอื่นเข้าใจแบบนั้นเพราะเขารู้สึกสิ้นหวังในชีวิต พ่อของอามิรานเป็นถึงเชื้อพระวงศ์จากประเทศหนึ่ง พี่ไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัวของเขามากนัก อามิรานเล่าว่าเขากับแม่ย้ายมาอยู่ที่ฮาวายหลังจากที่แม่เลิกกับพ่อ แม่นำเงินที่ได้มาจากพ่อซื้อที่ดินหลายผืน เผอิญที่ดินผืนนั้นเป็นแหล่งน้ำมัน แม่เขาจึงทำเงินได้มหาศาล แต่สุดท้ายเขาต้องเสียแม่ไปจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว อามิรานรู้สึกว่าตัวเองไม่เหลือใคร จนมาเจออาพเยีย เขาไม่ได้บอกว่าตัวเองมีเงินเพราะอยากให้คนที่เขารักมองที่ตัวตนของเขา”

“หนูว่าน้าเยียไม่ได้รักคนที่ฐานะหรอกฮะ แต่ที่ไม่เลือกคงเพราะไม่มั่นใจกับอนาคตมากกว่า” หนูด้วงคิดแบบนั้น การที่น้าเยียมีอะไรกับอามิรานจนท้องได้แปลว่าลึกๆ ในใจน้าเยียต้องรักผู้ชายคนนี้เหมือนกันถึงยอมให้เกิดเรื่องพลาดพลั้งนี้ขึ้นได้ 

“แล้วทำไมคุณอามิรานถึงยอมยกน้องแฝดให้พี่ง่ายๆ หนูว่าเขารักน้องแฝดนะฮะ” หนูด้วงถามต่อ

“เขากำลังจะตาย” หลังจากที่โอบอุ้มพูดจบหนูด้วงก็ทำท่าตกใจ โอบอุ้มยกมือขึ้นเสยผมให้น้องก่อนจะเกลี่ยที่แก้มเบาๆ “ที่เขาเสียใจคือเขารู้ช้าไปว่าอาเยียท้อง เขาทำตัวแย่ๆ แบบคนไร้อนาคต ยอมปล่อยมืออาเยียไปเพราะรู้ว่าตัวเองไม่ดีพอ อยากให้อาเยียไปเจอคนที่ดีกว่า เคยฟังเพลงที่ว่างไหม คุณอามิรานหัดร้องเพลงนี้ทั้งที่พูดไทยไม่ได้ เขาบอกว่าเป็นเพลงที่อาเยียเปิดฟังบ่อยๆ เขาขอร้องพี่ว่าถ้าน้องแฝดโตจนเข้าใจเรื่องราวอะไรได้แล้วให้เปิดคลิปที่เขาร้องเพลงไทยให้น้องแฝดดู เขาอยากให้เด็กๆ รู้ว่าพ่อผู้ให้กำเนิดรักเขามาก และไม่ได้อยากทอดทิ้งพวกเขาไป”

“ไม่เคยฟังเลยฮะ หนูอยากเห็นคลิปจัง”

“มันอยู่ในคอม พี่เองก็ไม่เคยดู อยากให้น้องแฝดได้ดูก่อนใคร”

“งั้นพี่ร้องเพลงที่ว่างให้หนูฟังหน่อยนะ”

โอบอุ้มร้องเพลงที่ว่างของวงพอซให้หนูด้วงฟัง เนื้อเพลงมันทำให้หนูด้วงน้ำตาคลอ ครั้งหนึ่งตัวเองกับพี่โอบก็เคยห่างกันเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นความมั่นคงของหัวใจ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการต้องทนให้คนที่รักอยู่ห่างกาย คุณอามิรานจะเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องเห็นคนที่ตัวเองรักแต่งงานกับคนอื่น ต้องเจ็บปวดแค่ไหนที่เห็นลูกของตัวเองเรียกคนอื่นว่าพ่อ แค่คิดน้ำตาของหนูด้วงก็ร่วงอีกจนได้

“พอคุณอามิรานรู้ว่าอาเยียทิ้งน้องแฝดเขายิ่งเสียใจ เพราะเขาคนเดียวที่ทำร้ายคนถึงสี่คน”

“สี่คน เขาหมายถึงพี่ด้วยใช่ไหมฮะ” หนูด้วงคว้ามือโอบอุ้มมาจูบ นึกสงสารทุกคนจับใจ ถึงมันมีเรื่องที่ไม่ถูกต้องแต่มันก็ไม่มีใครผิด ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะความรัก ทั้งรักคนอื่นและรักตัวเอง

“แต่พี่บอกกับเขาว่าน้องแฝดคือสิ่งที่ดีในชีวิตพี่ น้องแฝดเข้ามาทำให้ชีวิตของพี่มีความหมายมากขึ้น น้องแฝดทำให้พี่อภัยให้พ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ก่อนหน้านี้พี่เคยน้อยใจว่าทำไมพ่อแม่ถึงทอดทิ้งพี่ แต่วันนี้พี่นึกขอบคุณเขาที่ไม่ตัดสินใจหยุดลมหายใจของพี่มากกว่า เขาให้โอกาสพี่ได้ลืมตามาดูโลก ให้พี่ได้มาเจอป๊า ได้มาเจอหนู ได้เจอน้องแฝด พี่ว่าตัวเองโชคดีมาก จริงไหม”

“จริงฮะ พี่โอบไม่ต้องน้อยใจแล้ว พี่โอบมีครอบครัวที่อบอุ่นแล้ว” หนูด้วงกอดรัดโอบอุ้มจนแน่น

“หนูอยากรู้ไหมว่าคุณอามิรานทิ้งอะไรเอาไว้ให้น้องแฝดบ้างหลังจากที่เสียชีวิตไปแล้ว” โอบอุ้มหอมศีรษะทุยก่อนจะถาม หนูด้วงรีบเด้งตัวออกมาแล้วทำหน้าอยากรู้สุดๆ จนโอบอุ้มขำ

“หนูสงสารคุณอามิรานจัง แต่หนูก็อยากรู้ฮะ”

“เกาะแสงแดดทั้งเกาะเป็นของน้องแฝด ทั้งรีสอร์ตแสงแรก ทั้งมหาวิทยาลัยที่หนูด้วงเรียนอยู่ ยังมีเงินสดและพันธบัตรอีก ตอนนี้แค่รอน้องแฝดบรรลุนิติภาวะก็จะได้ครอบครองทุกอย่าง”

“อู้หูวววววววววว” หนูด้วงส่งเสียงออกมาด้วยความตื่นเต้น

“เมื่อถึงวันที่ทั้งคู่บรรลุนิติภาวะ น้องแฝดจะได้ใช้ชีวิตที่ตัวเองเลือก เมื่อถึงวันนั้นพี่อยากจะไปในทางที่ตัวเองเลือกบ้างเหมือนกัน หนูพร้อมจะไปกับพี่ไหม”

“ไปฮะ หนูจะไปกับพี่ทุกที่”

“หนูอยากไปที่ไหน”

“หนูเลือกไม่ถูกหรอกฮะ”

“เอาสถานที่ที่หนูด้วงคิดว่าอยากไป ไปแล้วจะมีความสุข” โอบอุ้มแนะ หนูด้วงทำท่าคิดก่อนจะแนบมือไปทาบบนแผ่นอกของพี่โอบ

“ตรงนี้ เวลาหนูได้แอบอิงอกของพี่โอบหนูมีความสุข หนูสบายใจ ให้หนูอยู่ตรงนี้ตลอดไปนะ”

“ยินดีครับ”

“ให้น้องด้าวไปด้วยนะฮะ”

“แล้วถ้าน้องด้าวอยากอยู่กับน้องไม้น้องหม่อนล่ะ” โอบอุ้มแกล้งถาม

“ก็ได้ก็ได้ ให้อยู่เป็นเพื่อนน้องแฝดก็ได้”

“หนูยอมสละน้องด้าวได้จริงเหรอครับ” โอบอุ้มแปลกใจที่หนูด้วงจะยอมสละของหวงให้คนอื่น

“ได้สิฮะ น้องแฝดเป็นน้องของหนูนี่นา ถ้าหนูเหงา เราสองคนก็มาทำลูกกันบ่อยๆ เราจะได้มีลูกเพิ่ม ดีไหมฮะ”

“ทะเล้น” โอบอุ้มทนความออดอ้อนของอีกฝ่ายไม่ได้เลยรวบตัวมาจูบ

“เมื่อคืนเราทำอะไรกันน้า หนูนึกไม่ออกแล้ว สงสัยหนูต้องให้พี่โอบช่วยทบทวน” พอถูกรุกจูบอย่างร้อนแรงหนูด้วงยิ่งอ้อนหนักกว่าเดิม

“กลับห้องกัน พี่อยากทบทวนบทเรียนให้คนขี้ลืมแล้ว” โอบอุ้มลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือไป หนูด้วงจึงส่งมือให้พี่โอบช่วยดึงขึ้น

“หนูมีน้องชื่อใบไม้ใบหม่อนใบไหม แต่หนูเป็นหนอนด้วง เห็นจะไม่ได้การ สงสัยต้องเปลี่ยนชื่อเป็นใบบ้างแล้ว ชื่ออะไรดีฮะพี่โอบ ช่วยหนูคิดหน่อย ใบอะไรดี” หนูด้วงถามระหว่างทาง

“ไบโพล่าไหม”

“พี่โอบ! นั่นมันโรคนี่ฮะ”

“เดี๋ยวก็ร้องไห้ขี้มูกโป่ง เดี๋ยวก็ยิ้มจนแก้มจะแตก พี่ว่ามันก็เหมาะกับหนูด้วงนะครับ”

“จะแกล้งว่าหนูเหรอ แน่จริงอย่าวิ่งหนีหนูสิ มาให้หนูปล้ำซะดีๆ พี่โอบ รอหนูด้วยสิฮะ” เสียงโวยวายของหนูด้วงค่อยๆ เบาลงเมื่อเจ้าของเสียงทิ้งระยะห่างจากบริเวณสระว่ายน้ำไป

เชนตั้งใจจะเดินออกมาหาที่สูบบุหรี่เพราะกำลังเครียดเรื่องอดีตของภรรยาจึงมาได้ยินเรื่องราวของเด็กแฝดเข้าพอดี จากที่โกรธและคิดไม่ออกว่าควรทำยังไงที่จะไม่ต้องรับผิดชอบเด็กทั้งสองคน ทุกสิ่งที่นี่มันควรเป็นของใบไหมลูกสาวคนเดียวของตัวเองกับพเยีย แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าสิ่งที่เขาควรรีบทำให้เร็วที่สุดคือการรับลูกติดทั้งสองคนของภรรยามาเลี้ยงดูด้วยตัวเอง

 
มีต่อด้านล่าง

V
V
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-11-2018 08:28:15 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ต่อจากด้านบน


เมื่อหนูด้วงกับโอบอุ้มเดินกลับมาถึงห้องจัดเลี้ยงก็เห็นกลุ่มเพื่อนนั่งหน้าเครียดกันอยู่ แก้วเป็นคนเดียวที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะกำลังโดนน้องเกลต่อว่าเรื่องที่ทำให้หนูด้วงต้องเสียใจ

“ทำไมทำหน้าเครียดกันแบบนี้” โอบอุ้มถามเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทุกคน

“สรุปว่ามันจริงไหมหนูด้วง” นกฮูกถามแทรกขึ้นมา

“ไม่จริง แต่ขอยังไม่เล่านะ เอาเป็นว่ามันไม่จริง แล้วทุกคนก็กลับมาสนุกได้แล้ว ทำหน้าเครียดแบบนี้เดี๋ยวยุงก็มาถามว่าเป็นอะไรกัน ขอให้เรื่องนี้มันจบลงแค่นี้ ได้ไหม” หนูด้วงตอบคำถามของเพื่อนก่อนจะขอร้องให้ทุกคนเก็บเรื่องนี้เอาไว้ก่อน

“ฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด” น้องเกลยังนึกเคืองความสอดรู้สอดเห็นของแก้ว ตอนที่แก้วมาบอกหนูด้วง ท่าทางของแก้วเหมือนสะใจที่เห็นหนูด้วงเสียใจ นึกแล้วยังโมโหไม่หาย

“เราขอคุยกับแก้วหน่อยนะ” หนูด้วงพูดจบก็เดินนำออกไปที่นอกห้องจัดเลี้ยง

แก้วหน้าเสียเมื่อเห็นท่าทีจริงจังของหนูด้วงแต่ก็ยอมเดินตามออกไป เพราะถึงให้อยู่ก็รู้สึกแย่อยู่ดี ตอนนี้ทุกสายตาที่มองมาก็แทนคำตำหนิได้โดยไม่ต้องพูด

“เราไม่ได้อยากให้หนูด้วงเสียใจ ได้ยินมาก็รีบมาบอก เพราะหนูด้วงคือเพื่อนของเรา เราก็ไม่อยากให้เพื่อนเราถูกหลอก” แก้วรีบอธิบาย

“เราคือเพื่อนของแก้วจริงๆ ใช่ไหม”

“ทำไมถามอย่างนั้น”

“เรารู้ว่าคนที่เขียนด่าเราคือแก้ว”

“ไม่จริง หนูด้วงเอามาจากไหน ต้องมีใครใส่ร้ายเรา”

“น้องด้าวบอก”

“อะไรนะ นี่หนูด้วงเชื่อตุ๊กตาเอเลี่ยนเนี่ยนะ”

“เธอคงไม่รู้จักน้องด้าวดี งั้นดูนี่นะ” หนูด้วงหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วหยิบภาพส่งให้แก้ว เป็นภาพตอนที่แก้วกำลังเขียนด่าหนูด้วง มุมกล้องที่ถ่ายก็มาจากตัวน้องด้าวนั่นเอง หนูด้วงเอาน้องด้าวมาวางก่อนจะกดเปิดกล้องและตั้งถ่ายอัตโนมัติเอาไว้

“เรา...เรา”

“แก้วไม่ชอบเราแล้วทำไมถึงอยากมาเป็นเพื่อนกับเรา”

“หนูด้วงมีทุกอย่าง มีแต่คนรักคนเอาใจ ทำอะไรก็มีแต่คนเออออตามไปหมด หนูด้วงคงไม่เข้าใจคนที่อยู่นอกสายตาคนอื่นหรอก”

“แล้วมันเกี่ยวกับความเป็นเพื่อนด้วยเหรอ”

“ก็ถ้าเราได้มีเพื่อนอย่างหนูด้วงหรือเป็นหนึ่งในกลุ่มของหนูด้วง คนอื่นจะมองเห็นเรา คนรวยๆ ใครก็อยากเข้าหาทั้งนั้น”

“ในสายตาของแก้วคนรวยดียังไง แค่เด่นแค่นั้นเหรอ”

“ถ้าเราเดือดร้อน เขาก็ช่วยเหลือเราได้”

“ผิดแล้ว ถ้าอยากได้เพื่อนที่ช่วยเหลือแก้วได้ เพื่อนคนนั้นไม่ใช่แค่เพื่อนที่รวย แต่ต้องเป็นเพื่อนที่มีน้ำใจ”

แก้วอึ้งไปเพราะเถียงไม่ออก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็คิดว่าหนูด้วงไม่มีวันเข้าใจคนอย่างเธออยู่ดี เกิดมามีแต่คนรุมล้อมเอาใจ  คนที่ไม่เคยสัมผัสกับความทุกข์อย่างหนูด้วงจะมาเข้าใจคนที่ไร้ตัวตนอย่างเธอได้ยังไงกัน

“ถ้าแก้วอยากมีเพื่อนแบบไหน แก้วต้องเป็นเพื่อนแบบนั้นด้วยเหมือนกัน ต่อให้มีเงินมากมายก็ทำให้ใครรักไม่ได้ถ้าไม่มีความจริงใจ เรากับกลุ่มเดอะซูไม่ได้รักกันเพราะรวยหรือเพราะเงิน เราดูแลกันมาตั้งแต่เด็ก ไม่มีใครเอาใจหรือตามใจใครตลอดเวลา แต่พวกเราอยู่กันอย่างเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนเป็น”

“หนูด้วงรู้ว่าเราเขียนด่าแล้วทำไมยังให้เรามาที่นี่ด้วย ต้องการให้เราเห็นอะไร”

“เราไม่ได้อยากให้แก้วมาบ้านเราเพื่อเห็นว่าเรามีอะไรบ้าง แต่เราอยากให้ที่บ้านของเราเห็นมากกว่าว่าแก้วคือเพื่อนของเรา” หนูด้วงพูดจบแก้วก็ร้องไห้ออกมา

แก้วรู้สึกเสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป เพราะความอิจฉาอยากได้อยากมี อยากทัดเทียมกับคนอื่น ไม่ได้ตั้งใจเขียนด่าหนูด้วงเพราะเกลียด แต่แค่หาวิธีทำให้ตัวเองเข้าหาหนูด้วงได้ อยากให้หนูด้วงรับตัวเองเข้ามาเป็นเพื่อนรักในกลุ่มโดยไม่สนใจว่าวิธีนั้นมันผิด

“ยังอยากเป็นเพื่อนเราไหม” หนูด้วงถาม

“ได้เหรอ เรายังเป็นเพื่อนหนูด้วงได้เหรอ”

“ต้องเป็นคนดี คนมีน้ำใจนะ ต้องจริงใจ ทำได้รึเปล่า”

“ได้ เราจะทำ ให้โอกาสเรานะ”

“ได้สิ ชื่อแก้ว เป็นนกแก้วไง กลุ่มเดอะซูยินดีต้อนรับ”

“แต่ว่า...” แก้วคิดว่าคนอื่นคงไม่ยอมรับเธอง่ายๆ เหมือนหนูด้วง โดยเฉพาะน้องเกล

“แก้วต้องพิสูจน์ตัวเอง เราทำได้แค่เชื่อใจแก้ว แต่แก้วจะทำลายความเชื่อใจอีกไหมก็แล้วแต่แก้ว ทุกอย่างแก้ไขได้”

“ตกลง เราจะทำให้ให้ทุกคนเห็น เราขอโทษนะหนูด้วง”

“เราให้อภัย จริงๆ เรากอดแก้วได้นะ แก้วไม่ใช่ผู้ชาย พี่โอบไม่หึงหรอก” หนูด้วงทำท่าคิด แก้วหัวเราะทั้งน้ำตาก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้าไปสวมกอดหนูด้วง

คนอื่นที่แอบดูอยู่ก็พากันถอนหายใจ บางคนก็ลอบยิ้มเมื่อทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดี มีแต่น้องเกลและสิงโตที่ดูจะหงุดหงิดมากเมื่อเห็นหนูด้วงเชื่อใจคนง่ายๆ ตามเคย แต่ทั้งคู่ก็เข้าใจดี เพราะหนูด้วงใจดีแบบนี้เสมอเพื่อนๆ ถึงได้รักหนูด้วง รักและเป็นห่วงมากที่สุด

 
……

เช้าวันรุ่งขึ้นพญาให้คนไปปลุกเด็กๆ เพราะจะพาไปฝึกทำขนมกับนับตังค์ ไหนๆ ก็มาเที่ยวที่เกาะแล้วก็ไม่อยากให้มานอนตื่นสายแล้วปล่อยเวลาให้สูญไป เมื่อทุกคนรู้ว่าจะได้ไปเรียนทำขนมก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่ แม้หลายคนที่ทำขนมไม่เป็นก็อยากจะลองเพราะรู้มาว่าฝีมือมัมๆ ของหนูด้วงอร่อยที่สุดในจักรวาล

“หอมจังเลยฮะ มัมๆ ทำก๋วยเตี๋ยวแน่ๆ หนูจำกลิ่นได้” หนูด้วงส่งเสียงชื่นชมมาก่อนตัว เมื่อนับตังค์ละมือจากเครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยวเจ้าของเสียงถึงโผล่เข้ามาพอดี

“เรื่องนี้ล่ะไวจริงๆ นะตัวแสบ มัมทำก๋วยเตี๋ยวโบราณให้ทุกคนกินก่อนเรียนทำขนม ลวกเครื่องทั้งหมดให้แล้ว ที่เหลือมาจัดการกันเองนะ”

“ได้เลยฮะ มัมไปพักก่อน เดี๋ยวหนูกินกันเสร็จแล้วจะตั้งใจเรียนฮะ”

“มาให้มัมหอมแบบพัดลมก่อน” นับตังค์อ้าแขนออก หนูด้วงโผเข้าหาแล้วเป็นฝ่ายหอมแก้มนับตังค์เอง เพื่อนคนอื่นๆ เห็นก็อดยิ้มตามในความน่ารักของทั้งคู่ไม่ได้

“พอแล้ว อายเพื่อนบ้าง ทุกคนลวกเส้นกันตามชอบเลยนะ ไม่ต้องรีบ แต่อย่าให้รอนาน” นับตังค์แกล้งขู่

“น้องหม่อนไม่รีบแต่น้องหม่อนขอกินสามชามได้ไหมครับพี่ตัง”

“เรียกพี่ตังแบบนี้ให้ห้าชามเลย”

“เย่” น้องหม่อนชูมือชูไม้ดีใจ ไม่สนสายตาของพี่ชายที่เตือนเรื่องการกินเลยสักนิด

เมื่อโอบอุ้มทำก๋วยเตี๋ยวให้น้องแฝดแล้วก็พาทั้งคู่ไปนั่งกินรวมกับคนอื่นๆ จากนั้นตัวเองก็กลับไปนั่งกินกับหนูด้วงที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมผา เป็นสถานที่โปรดที่เคยมานั่งเล่นกันตั้งแต่ที่นี่ยังเป็นแค่บ่อน้ำพุร้อน

“พี่โอบ พี่โอบ ดูหนูนะ” หนูด้วงเรียกอีกฝ่ายให้หันมาสนใจตัวเอง เมื่อพี่โอบหันมามองก็รีบคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากก่อนจะสูดเส้นดัง ‘ซู๊ด’ โชว์

โอบอุ้มรู้ทันทีว่าหนูด้วงต้องการอะไร ฝ่ายนั้นไม่ได้อยากโชว์การสูดเส้นก๋วยเตี๋ยว น้องชอบทำแบบนี้ตั้งแต่ยังเด็กๆ เพียงเพื่อต้องการให้เขาช่วยเช็ดน้ำก๋วยเตี๋ยวที่กระเด็นจากปลายเส้นมาเปรอะหน้าให้ต่างหาก

“กินเลอะเทอะ” โอบอุ้มหยิบทิชชูมาซับน้ำก๋วยเตี๋ยวที่เปื้อนแก้มออกให้ อยากจะถามหนูด้วงว่าการอ้อนแบบนี้มันคุ้มค่ากว่าการยอมให้น้ำซุปเปื้อนหน้าตรงไหน แต่คำตอบคงอยู่บนใบหน้าของหนูด้วงแล้ว ขนาดโดนดุว่าเลอะเทอะ เจ้าตัวยังยิ้มแฉ่งไม่หุบ

“พี่โอบ ดูหนูอีกทีนะ” หนูด้วงเตรียมสูดเส้นก๋วยเตี๋ยวอีกครั้ง แต่โดนมือของพี่โอบห้ามเอาไว้

“เดี๋ยวมันกระเด็นเข้าตา”

“แต่ว่า…” หนูด้วงหน้าหงอยเพราะก๋วยเตี๋ยวยังไม่หมดชามเลย ยังอ้อนไม่หนำใจ

“ถ้ากินเลอะเทอะพี่ต้องเช็ดหน้าหนูด้วยทิชชู แต่ถ้ากินไม่เลอะเทอะเดี๋ยวพี่เช็ดแก้มให้…” โอบอุ้มโน้มใบหน้าไปกระซิบข้างหูคนขี้อ้อน “ด้วยปากของพี่ ดีไหมครับ”

หนูด้วงตาเป็นประกายพร้อมกับระบายยิ้ม “ก็ได้ก็ได้ หนูไม่สูดก๋วยเตี๋ยวให้เลอะเทอะแล้ว” พูดจบก็ยกชามก๋วยเตี๋ยวขึ้นแล้วค่อยๆ ซดจนหมดชาม

“ว่าแล้วเชียว” โอบอุ้มนึกไว้ไม่มีผิด หนูด้วงก็คือหนูด้วง ทั้งอ้อนทั้งแสบไม่มีใครเกิน เจ้าตัวไม่รู้รึไง ไม่ต้องหาวิธีมาอ้อนเขาก็อยากจะหอมจะกอดน้องทุกเวลา ถ้ากลืนกินน้องได้เขาคงจัดการไม่เหลือ

“พี่โอบรักหนูไหม” เจ้าตัวแสบวางชามก๋วยเตี๋ยวลงก่อนจะหันมาถาม

“อย่ากลัวว่าพี่จะไม่รัก กลัวว่าพี่จะรักหนูมากจนกินหนูเข้าไปดีกว่า”

“เนื้อหนูไม่อร่อยหรอก ถ้าจะกินหนู ปล้ำหนูดีกว่า” หนูด้วงป้องปากกระซิบอีกฝ่ายทั้งที่ไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น เล่นมุกเองก็เขินเองจึงหัวเราะคิกคักแก้เขิน

“ถ้าปล้ำมันต้องมีขัดขืน แต่หนูด้วงสมยอมพี่ทุกที จริงไหม” โอบอุ้มถามพลางขำ หนูด้วงทำท่าคิดก่อนจะเห็นจริงตามที่พี่โอบว่า

“ก็จริง อาน้องก็บอกให้รู้จักขัดขืนบ้าง แต่พอพี่โอบจูบหนูทีไร หนูก็ลืมขัดขืนทุกที ก็ได้ก็ได้ คืนนี้หนูจะขัดขืนนะฮะ”

“พี่รักหนูจัง” โอบอุ้มยิ้มบางๆ ก่อนจะหอมที่หน้าผากของอีกฝ่าย ทุกกิริยาท่าทางของน้องมันทำให้เขาควบคุมอาการไม่ค่อยได้ น้องน่ารักจนอยากพากลับห้องทุกเวลา

ส่วนคนถูกหอมยิ้มจนตาหยี ถ้าต้องยิ้มกว้างกว่านี้คงต้องไปหาหมอเพราะขากรรไกรคงจะค้าง ก็เวลาพี่โอบบอกรักทีไรหัวใจของหนูด้วงมันเต้นแรงทุกที หนูด้วงคงต้องหาวิธีให้พี่โอบบอกรักบ่อยๆ หัวใจมันจะได้ชิน

“ทำไมนาโมไม่นั่งกินกับน้องหม่อน น้องหม่อนเดินหาจนเมื่อยขาเลย” น้องหม่อนเดินถือชามก๋วยเตี๋ยวตามหาพ่ออยู่นาน จนมาเห็นว่าพ่อและพี่หนูด้วงแอบมากินก๋วยเตี๋ยวกันสองคนที่ใต้ต้นไม้

“โต๊ะมันเต็มไงครับ”

“น้องหม่อนจะเอาอีกชาม นาโมไปทำให้หน่อย”

“ครับๆ” โอบอุ้มรีบลุกขึ้นเพราะไม่อยากให้น้องหม่อนงอแง

“คุณโอบ ต้องรีบกลับไปที่เกาะแสงแดดกันแล้วครับ” ก้านวิ่งเข้ามา สีหน้าเครียดจนหนูด้วงต้องรีบลุกขึ้นยืนตามโอบอุ้มเพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“เกิดอะไรขึ้นครับ” โอบอุ้มถาม

“ป้าประนอมโทรมาบอกพี่ว่าบ้านและร้านของคุณโอบถูกรื้อค้น กล้องวงจรปิดก็ถูกทำลายเลยไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร” ก้านรีบบอก

“ฝีมือนังดาวเรืองน่ะสิ” เสียงของนายหัวพยนต์ดังแทรกมา สีหน้าดุดันของนายหัวพยนต์ทำให้ทุกคนพากันเกรงกลัว

“เป็นไปได้ไงครับ ดาวเรืองติดคุกตลอดชีวิตไม่ใช่เหรอครับ” มีคุณเดินเข้ามาสมทบเมื่อเห็นนายหัวพยนต์พาลูกน้องขึ้นมาบนนี้เต็มไปหมด

“มันได้รับอภัยโทษ ถูกปล่อยตัวออกมาได้หลายวันแล้ว มีคนเห็นมันไปที่เกาะแสงแดด”

“หนูว่า...” หนูด้วงจะพูดอะไรออกมาแต่โอบอุ้มคว้ามือของหนูไปบีบเสียก่อน หนูด้วงจึงไม่พูดต่อ

“หนูด้วงกับเด็กๆ อย่าเพิ่งกลับไปที่เกาะแสงแดด อยู่ที่นี่ก่อน ให้ตาหาตัวมันให้เจอเสียก่อน”

“ไม่ได้ฮะ หนูต้องกลับไปเรียน”

“หนูด้วง!” นายหัวพยนต์หัวเสียเมื่อหนูด้วงไม่เชื่อฟัง

“หนูจะกลับฮะ หนูหนีไปตลอดชีวิตไม่ได้ แล้วก็ไม่มีใครปกป้องหนูได้ตลอดชีวิต”

“ตามใจจนเคยตัว ตาไม่ให้กลับ” นายหัวพยนต์ตวาดเสียงดัง “พวกมึงพาหนูด้วงกลับไปที่โรงแรม”

“คุณปู่ครับ อย่าทำแบบนี้เลย ให้ผมดูแลหนูด้วงเองนะครับ” โอบอุ้มเข้ามาขวาง

“เรื่องอื่นฉันยอมมามากแล้ว แต่เรื่องนี้ยอมไม่ได้”

“แต่คุณตาบอกเองว่าอภัยให้เขาแล้ว ทำไมต้องไปจัดการเขาอีกฮะ ทำไมไม่เลิกแล้วต่อกัน”

“เพราะตาไม่อยากเสียหนูไป ตาจะปกป้องหนูจนลมหายใจสุดท้ายของตา” นายหัวพยนต์ตอบเสียงสั่น สิ่งที่กลัวมาตลอดชีวิตก็เกิดขึ้นจริง ขนาดกำชับสารวัตรแล้วว่าอย่าให้คนที่เคยทำร้ายหนูด้วงรอดพ้นจากที่คุมขัง แต่สุดท้ายแล้วผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นก็ได้รับอิสรภาพจนได้

“ก็ได้ก็ได้ แต่หนูไม่อยากไปอยู่ที่โรงแรม ให้หนูกลับไปที่วังของเรา ให้น้องแฝดอยู่กับแด๊ดดี้ไปก่อนนะฮะ ส่วนคนอื่นๆ ให้พักที่นี่ พรุ่งนี้ค่อยกลับ” หนูด้วงไม่ได้เถียงคุณตาอีกเมื่อเห็นว่าสิ่งที่อีกฝ่ายทำก็เพื่อตัวเอง แต่ขอร้องที่จะไปอยู่ ‘วังของเรา’ ซึ่งหมายถึงบ้านที่ตลาดแทน

“ก็ได้ แล้วตาจะให้คนไปส่งเพื่อนๆ ของหนูด้วงกลับมหา’ลัยพรุ่งนี้เช้า แต่หนูด้วงต้องอยู่ที่นี่ พวกมึงดูแลนายน้อยให้ดี ถ้านายน้อยได้รับอันตรายพวกมึงรู้ใช่ไหมว่าจะเป็นยังไง แล้วนี่พญามันไปไหน ไปตามมันมาหาฉันเดี๋ยวนี้” นายหัวพยนต์ยังคงเกรี้ยวกราดใส่ลูกน้องจนไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา

มีคุณกับนับตังค์ก็ไม่อยากเข้าไปขัดขวางคำสั่ง รู้ดีว่าที่นายหัวพยนต์เป็นแบบนี้เพราะเป็นห่วงหนูด้วงอย่างสุดหัวใจ ความร้ายกาจของดาวเรืองที่ผ่านๆ มาก็ไม่ธรรมดาเอาเสียเลย ขนาดคนอยู่เยอะแยะยังลักพาตัวหนูด้วงไปได้ การให้ลูกน้องของนายหัวพยนต์ช่วยดูแลหนูด้วงไปก่อนก็เป็นเรื่องที่ดี แต่สิ่งที่นับตังค์กังวลก็คือวิธีการที่นายหัวจะจัดการกับดาวเรือง เมื่อนายหัวพยนต์กลับไปแล้วจึงรีบต่อสายหาเทียมฟ้าเพื่อให้คอยยับยั้งหากนายหัวพยนต์และพญาใช้ความรุนแรงในการจัดการครั้งนี้

 
โปรดติดตามตอนต่อไป

ขอบคุณที่ยังติดตามนะคะพี่จ๋าน้องจ๋า
ตั้งแต่ตอนนี้ไปเลิฟคงไม่ได้ลงเนื้อเพลงแล้วนะคะ เพราะกลัวเรื่องลิขสิทธิ์
และตอนเก่าๆ จะตามไปแก้ไขทีหลัง ขอบคุณที่รอและเอ็นดูหนูด้วงเสมอนะคะ

‪....รัก...
   


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-11-2018 20:21:22 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
เราเชื่อว่าไม่ใช่ดาวเรืองแน่นอน  :serius2: ต้องเป็นคนที่ทำร้ายโอบอุ้มตอนเด็กแน่ ๆ   :z6: และที่สำคัญได้แต่หวังว่าความโลภและความเห็นแก่ได้ของเชนจะทำอันตรายน้องไม้กับน้องหม่อนไม่ได้  :call:

ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
หนูด้วงยังน่ารักเช่นเดิม โดยเฉพาะ “ก็หนูดีใจที่พี่โอบถูกหนูเปิดบริสุทธิ์"
อ่านแล้วขำก๊ากกกเลยค่ะ

ส่วนเคส "เชน" จะฮุบสมบัติน้องแฝด ... อย่าดราม่าจัดนักนะคะ
จิตใจอ่อนแอ ฮือ ฮือ ..

แค่นังดาวเรืองพ้นคุกมาได้ ก็ใจสั่นแล้ว
แอบลุ้นให้ยุงไปแอบจัดการมันขั้นเด็ดขาดจริงจริ๊งงงง

สำหรับเรื่อง เนื้อเพลง ... ลงแค่บางส่วนก็ผิดลิขสิทธิ์เหรอคะ
ในเมื่อเราลงบางส่วน และใส่ชื่อเพลง ชื่อคนร้องครบถ้วน
แปลกดีนะคะเรื่องนี้

เอาว่า เอาใจช่วยค่ะ และว่ายังไงว่าตามกันค่ะ ... :mew1:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
หนูด้วงฮาเบรคดราม่าเป็นระยะๆ กำลังเข้มข้นเลย รอๆ :mew2:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :mew1: หนูด้วงน่ารัก ตอนเด็กๆก็ทุกพอแล้ว โตมาอย่าดราม่าเยอะเลยนะลูก

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อิเชน  แกมันร้ายนะ  นี่คงไม่ได้รักเพยียจริง ๆ หรอก 

คงแต่งด้วยเพราะหวังสมบัติสินะ  ชิส์


ส่วนคนที่รื้อบ้าน คงเป็นคนที่เคยทำร้ายโอบอุ้มเมื่อตอนเด็ก ๆ อ่ะแหละ (ก็จำชื่อไม่ได้อ่ะ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
เปนกำลังใจให้คนแต่งนะค่า

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ cross

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เสียใจนะอิคุณเชน พี่โอบมีสิทธทุกอย่างในตัวน้องไม้น้องหม่อน เพราะพ่อแท้ๆทำเรื่องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว อย่าโลภ เพราะเด็กๆเป็นเจ้าของเกาะ คุณมึงจะไม่เหลืออะไร แม้แต่ครอบครัว

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
สมกับที่เป็นหนูเลยลูกเอ้ยยย ให้อภัยคนเก่ง ต่อไปก็รอดูว่าแก้วจะดีได้อย่างที่รับปากหรือเปล่า
ที่อิแม่ไม่คาดคิดคือโตมาลูกจะอยากโดนพี่โอบกินได้ขนาดเน้ 55555555555555 อะไรนี่คืออารั้ยยยยยยยย
“เมื่อคืนเราทำอะไรกันน้า หนูนึกไม่ออกแล้ว สงสัยหนูต้องให้พี่โอบช่วยทบทวน” พอถูกรุกจูบอย่างร้อนแรงหนูด้วงยิ่งอ้อนหนักกว่าเดิม

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
คนที่เกาะไม่น่ากลัวเท่าคุณเชน คนที่ไม่จริงใจไม่หวังดีกับน้องแฝด กำลังมีแผนรร้ายในใจ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
คนที่ร้ายที่สุดจะเป็นคุณเชนรึป่าว

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
หนูด้วงก็คือหนูด้วงเป็นคนจิตใจดีเสมอ

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ที่ไปพังร้านไม่ดาวเรือง ก็คงเป็นอิตาสามารถ
เลวร้ายหน่อย ก็แพ็คคู่ :hao5: ส่วนคุณเชนนี่หวังได้สมบัติของแฝดแน่ๆ :katai1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-11-2018 00:46:19 โดย Al2iskiren »

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ลุ้นๆๆว่าจะมีเรื่องอะไรมาให้พีคได้อีก ระดับเลิฟแล้วต้องไม่ธรรมดา สามีพเยียไม่น่าใช่ แต่ใครจะรู้ล่ะ.....ตามอ่านกันต่อไปจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-11-2018 01:48:47 โดย i.am.wee »

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
เชนร้ายหรือนี้ ตอนแรกคิดว่าจะมาเป็นภาระ แต่พอได้ยินว่ามีสมบัติคิดจะไปฮุบ เฮอะ
หนูด้วงน่ารัก น่าหยิกเหมือนเดิม  :mew1:   :pig4:  :L2:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอ๊ยยยย หนูด้วง อาน้องสอนดีไป หรือศิษย์ทำเกินไป
มีเรียกร้อง มีอ้อนนะคะ แถมยังไม่มีห้ามพี่เลย
มีแต่ชวนพี่ไปทำไร หนูต้องเล่นตัวบ้างไง 5555

หนูด้วงเหมือนจะบอกอะไรหรือเปล่า
แล้วดาวเรืองทำจริงหรอ

ความลับไม่มีในโลกจริงๆ ค่ะ
แล้วพเยียก็ดันมาเจอคนที่รักเงินซะงั้น
โอบอุ้มอย่าปล่อยน้องไม้น้องหม่อนไปนะ


ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
พี่โอบต้องระวังเชนดีๆนะ ไม่น่าไว้ใจเลย  :katai1:

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
เพลงรักที่หายไป

เพลงรักที่ 17 ห่วงหา
ศิลปิน Banana boat

‘หนูด้วง เจ้าสบายดีใช่ไหม เจ้าคงยังเด็กอาจจะไม่เข้าใจอะไร แต่ปู่ก็อยากจะให้เจ้าเก็บเอาไว้ดูเมื่อโตขึ้น ปู่ขอให้เจ้าเป็นเด็กดี โตขึ้นมาแล้วทำคุณประโยชน์ให้แผ่นดิน ปู่ขอให้เจ้ามีความเมตตาและมีน้ำใจต่อทุกคนที่พบเจอ ขอบคุณที่เจ้าเข้ามาสร้างรอยยิ้มและสร้างความสุขให้ปู่ในช่วงชีวิตสุดท้าย ปู่อยากจะอยู่ดูแลเจ้าจนโต แต่ธรรมชาติมันไม่เอื้ออำนวยปู่เลยจริงๆ ได้แต่หวังว่าคนที่ปู่ส่งมาให้อยู่กับเจ้าเขาจะเติมเต็มสิ่งที่เจ้าขาดให้สมบูรณ์ได้ เขาจะทำให้เจ้าเป็นคนที่มีความสุข ปู่รักเจ้าเหลือเกินหนูด้วงเอ้ย ฝากหนูพดด้วงด้วยนะนับตังค์ ฝากหัวใจของปู่ด้วย แค่นี้ก่อนแล้วกัน ฉันต้องไปดูหนูด้วงแล้ว’


คลิปวิดีโอของคุณอนันต์ถูกฉายวนซ้ำไปซ้ำมา ชายสูงวัยผู้นี้คือผู้ที่เปลี่ยนชีวิตของหนูด้วงเมื่อครั้งยังเยาว์วัย เปรียบเสมือนผู้ที่หยิบยื่นชีวิตใหม่ให้ทั้งที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับหนูด้วงเลย นั่นเพราะความเมตตาในหัวใจของท่านที่เผื่อแผ่มาถึงผู้อื่น ท่านจากไปตั้งแต่หนูด้วงยังเล็กมาก ร่องรอยของความทรงจำมีเพียงน้อยนิด ภาพจากวีดีโอนี้จึงเป็นของสำคัญที่ทำให้หนูด้วงระลึกถึงคำสอนของท่านได้เท่าที่ต้องการ ยามใดที่หัวใจมันอ่อนล้า หนูด้วงมักจะหยิบมาเปิดดูเสมอ


“คุณปู่ คุณปู่กำลังมองมาที่หนูรึเปล่าฮะ หนูทำในสิ่งที่ถูกแล้วใช่ไหมฮะ” หนูด้วงลูบใบหน้าของคุณปู่อนันต์ผ่านจอโทรทัศน์ ใบหน้าที่ดูอบอุ่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา “ใครต่อใครก็บอกว่าหนูชอบใจอ่อน ชอบไว้ใจคนง่ายๆ หนูรู้ว่าจิตใจของคนมันยากแท้จะหยั่งถึง แต่ถ้าเราไม่ให้โอกาสเขา เราก็จะเสียโอกาสไปเหมือนกัน คนบางคนอาจจะเคยทำไม่ดีเอาไว้ แต่เขาอาจจะเป็นคนดีที่สุดสำหรับเราได้ในสักวันหนึ่ง ปู่ฮะ...หนูเชื่อว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้”


โอบอุ้มแอบดูหนูด้วงอยู่พักใหญ่แล้ว เห็นน้องกำลังนั่งดูคลิปวีดีโอที่คุณปู่อนันต์ฝากน้าตังเอาไว้ให้น้องดูเมื่อโตขึ้น เขาจึงไม่ได้เข้ามากวน จนเห็นว่าน้องกดปิดแล้วถึงได้เข้ามา ใบหน้าที่เศร้าหมองของน้องทำให้โอบอุ้มนึกสงสารจับใจ


“หนูทำดีที่สุดแล้ว พี่เชื่อว่าคุณปู่อนันต์ต้องภูมิใจในตัวหนู”

“พี่โอบ ยังไม่ได้กลับบ้านเหรอฮะ” หนูด้วงโผมาสวมกอดโอบอุ้มเอาไว้ นึกว่าพี่โอบกลับไปที่เกาะแสงแดดแล้ว

“พี่จะกลับได้ยังไงถ้าหนูด้วงไม่กลับไปกับพี่ พี่บอกแล้วไง ต่อจากนี้ไปเราจะไม่แยกจากกัน”

“แต่ว่าคุณตาไม่ให้หนูกลับ”

“ท่านห่วงความปลอดภัยของหนู แต่ถ้าหนูจะกลับ พี่ก็จะพากลับ”

“แล้วน้องแฝดล่ะฮะ”

“น้าตังบอกว่าให้อยู่ที่นี่ไปก่อนเพราะไม่รู้ว่าคนร้ายต้องการอะไร พี่เลยว่าจะกลับไปดูสถานการณ์ก่อน”

“ถ้าหนูกลับคุณตาจะโกรธพี่”

“หนูไม่อยากให้ท่านทำรุนแรงกับดาวเรืองไม่ใช่เหรอ หนูอยากกลับไปคุยกับดาวเรืองใช่ไหม”

“พี่รู้เหรอฮะว่าหนูติดต่อกับแม่ เอ้ย! พี่เรือง” หนูด้วงหน้าตื่นเมื่อถูกจับได้

“พี่รู้มานานแล้ว รู้ตั้งแต่ครั้งแรกที่หนูไปเยี่ยมดาวเรือง ถึงพี่จะอยู่ไกลแต่พี่ไม่เคยปล่อยให้หนูคลาดสายตาหรอกครับ”

“หนูอยากให้โอกาสพี่เรือง เขาเคยทำร้ายหนูก็จริง เขาจะฆ่าหนูก็ได้แต่ก็ไม่ได้ทำ นั่นถือว่าเขาให้โอกาสหนู การที่พี่เรืองอยู่ในคุกเป็นสิบๆ ปีก็ถือว่าถูกลงโทษแล้ว การที่เขาไม่เหลือใครยิ่งเป็นการลงโทษที่หนักกว่าติดคุก หนูแค่อยากให้พี่เรืองรู้ว่ายังมีหนู ชีวิตที่รู้ว่าตัวเองยังมีใครอาจจะทำให้พี่เรืองอยากเป็นคนที่ดีขึ้น”

“หนูคิดว่าดาวเรืองไม่ได้รื้อบ้านของเราใช่ไหม” เมื่อหนูด้วงได้ยินพี่โอบพูดว่า ‘บ้านของเรา’ ดวงตาที่ดูเศร้าก็วาววับขึ้นทันที

“ฮะ หนูว่าพี่เรืองไม่ได้เป็นคนรื้อค้นบ้านของเรา” หนูด้วงระบายยิ้มหวานจนโอบอุ้มอดไม่ได้ที่จะทาบทับริมฝีปากไปที่รอยยิ้มนั้น

“สรุปอยากกลับไปกับพี่ไหมครับ”

“ลูกน้องคุณตาเต็มไปหมดเลย แค่ก้าวออกไปหนูก็โดนจับกลับเข้ามาในบ้านแน่ๆ หนูไม่ชอบความรุนแรง”

“ไม่ใช้กำลังก็ต้องใช้สมองไงครับผู้วิเศษ” โอบอุ้มยกยิ้มก่อนจะกระซิบบางอย่าง หนูด้วงได้ฟังแล้วหัวเราะชอบใจก่อนจะพยักหน้าแทนคำตอบรับ


ไม่นานโอบอุ้มกับหนูด้วงก็เดินออกมาจากสำนักงานของพญา บรรดาลูกน้องที่นายหัวพยนต์ส่งมาดูแลนายน้อยรีบพากันมายืนขวางเอาไว้


“นายน้อยจะไปไหนไม่ได้นะครับ” หนึ่งในทีมดูแลรีบออกปากห้าม

“พี่ๆ กลัวเดือดร้อนกันเหรอฮะ”

“ก็ใช่สิครับนายน้อย พวกผมไม่ได้อยากทำ แต่ถ้าขัดคำสั่งนายหัวพวกผมตายแน่ๆ”

“ขัดคำสั่งคุณตาอะไม่ตายหรอกครับ แต่ถ้าขัดคำสั่งหนู พวกพี่ไม่มีอนาคตแน่ๆ” หนูด้วงเห็นกลุ่มคนเบื้องหน้าทำหน้าอึ้งไปจึงรีบพูดต่อ “วันนี้หนูเป็นนายน้อย แต่ในอนาคตหนูจะเป็นนายใหญ่ หนูคงไม่จ้างคนที่ลิดรอนอิสรภาพของหนูในวันนี้ จะว่าไป ไม่ต้องรอให้หนูเป็นนายใหญ่ หนูแค่บอกยุงพญาว่าพวกพี่กักขังหนู พี่ว่าคุณตากับยุง ใครโหดกว่ากัน”

“โธ่นายน้อย อย่าทำแบบนี้เลยครับ พวกผมลำบากใจ”

“พี่ต้องเลือกแล้วฮะ ลำบากใจกับลำบากกายและตกงาน พี่จะเลือกอะไร ก็ได้ก็ได้ มาเจอกันครึ่งทาง หนูสัญญาว่าจะให้พวกพี่ทุกคนตามหนูไปที่เกาะแสงแดดด้วย ถือว่าพี่ดูแลหนูอย่างดีตามคำสั่งคุณตา และหนูมีวิธีพูดจนคุณตาไม่ลงโทษพวกพี่แน่ๆ” หนูด้วงประเมินในใจว่าทุกคนกำลังคล้อยตาม แต่เห็นว่าทุกคนยังไม่ยอมตกลงจึงคิดจะทำตามแผนขั้นเด็ดขาด ใบหน้าที่ยิ้มแย้มละมุนละม่อมเปลี่ยนเป็นขึงขัง รอยยิ้มสดใสกลายเป็นยิ้มแบบเหี้ยมเกรียม “หนูจะถามครั้งสุดท้าย หนูไม่ใช่คนใจดีอย่างที่พวกพี่คิดหรอกนะ อย่าให้หนูต้องร้ายเลย”


ดวงตาที่ดุดันของนายน้อยทำเอาลูกน้องของนายหัวยนต์ขนลุกซู่ รับใช้คนตระกูลภูมิเทพมาหลายปีมีหรือที่จะไม่รู้ว่านายน้อยมีความสำคัญแค่ไหน นายพญายังต้องยอมให้ทุกครั้งไป นายหัวพยนต์ก็แก่มากแล้ว จะคุ้มกะลาหัวพวกมันได้อีกสักเท่าไหร่ ส่วนคุณพเยียและคุณเชนถึงจะเป็นใหญ่ในโรมแรม แต่ในอาณาจักรภูมิเทพแห่งนี้ทุกคนรู้ดีว่าสุดท้ายแล้วจะตกเป็นของใคร


“ครับนายน้อย พวกเราจะทำตามคำสั่งของนายน้อยครับ” เมื่อคนที่ดูเป็นหัวหน้าตอบตกลง คนอื่นๆ จึงไม่มีใครคัดค้าน


หนูด้วงอยากจะกระโดดโลดเต้นดีใจเมื่อแผนที่พี่โอบวางเอาไว้สำเร็จไปได้ด้วยดี แต่ก็จำต้องรักษามาดนายน้อยผู้ดุดันเอาไว้ก่อน มีแต่โอบอุ้มที่กลั้นขำ นึกในใจว่าหนูด้วงน่าจะเรียนสายละครมากกว่าดนตรี การแสดงในครั้งนี้โอบอุ้มให้คะแนนเต็มร้อยเลยทีเดียว

……


พเยียเพิ่งได้ข่าวมาว่าที่เกาะแสงแดดเกิดเรื่องขึ้น เธอนึกห่วงลูกชายทั้งสองคนจึงรีบโทรหาโอบอุ้ม เมื่อได้รับคำตอบว่าน้องแฝดอยู่กับนับตังค์จึงรีบไปหา ก่อนหน้านี้คุณเชนเพิ่งให้คำตอบกับเธอว่ายินดีให้เธอรับน้องแฝดมาเลี้ยงดูอย่างออกหน้าออกตาในฐานะลูกชาย และเขาก็ยินดีที่จะเป็นพ่อให้น้องแฝดเช่นกัน เธอซาบซึ้งในความรักที่คุณเชนมีต่อเธอ ไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะง่ายดายแบบนี้ เขาเป็นคนอีโก้สูง การที่ยอมให้เธอเปิดเผยเรื่องน้องแฝดย่อมมีคำนินทาถึงตัวเขาด้วย แต่เขากลับไม่สนและเปิดใจรับ มันทำให้เธอคิดว่าตัวเองเลือกคนไม่ผิดมาเป็นคู่ชีวิต


“เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นแบบนี้ค่ะ เยียรู้ว่าตัวเองผิด วันนี้จึงอยากทำให้มันถูก ให้เยียพาเด็กๆ ไปอยู่ด้วยในระยะนี้ก่อนนะคะ” พเยียเล่าทุกอย่างให้มีคุณกับนับตังค์ฟัง เธออยากพาใบไม้กับใบหม่อนไปดูแลให้ก่อน หากโอบอุ้มจัดการเรื่องวุ่นวายที่เกาะแสงแดดเรียบร้อยแล้วค่อยมาตกลงว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้

“ตังว่าคุณเยียควรขออนุญาตผู้ปกครองของน้องแฝดครับ ตังคงให้เด็กๆ ไปด้วยไม่ได้ถ้าน้องโอบไม่ได้อนุญาต” นับตังค์ยอมรับว่าอึ้งไปเมื่อได้รับรู้ราวทั้งหมด สิ่งหนึ่งที่แน่ชัดในใจของนับตังค์คือหนูด้วงได้คนรักที่มีจิตใจประเสริฐและเสียสละ รู้สึกดีใจที่หลานได้คนที่ดีมาอยู่ข้างกาย

“ก็ได้ค่ะ เยียจะโทรไปขอน้องโอบตอนนี้เลย” พเยียต่อสายหาโอบอุ้ม บอกความต้องการไป เมื่ออีกฝ่ายตอบกลับมาพเยียก็หน้าเสีย แต่เธอก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร สักพักถึงยื่นโทรศัพท์ให้นับตังค์ “น้องโอบจะคุยด้วยค่ะ”


นับตังค์รับโทรศัพท์ไปคุยต่อ เขาไม่ได้พูดอะไร มีแต่คำว่า ‘อืม’ แทนการตอบรับ กดวางสายแล้วถึงยื่นโทรศัพท์คืนพเยีย พเยียน้ำตาคลอเพราะโอบอุ้มปฏิเสธที่จะให้น้องแฝดไปกับเธอ เธอก็ไม่กล้าโวยวายทั้งที่ในใจรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรง


“น้องโอบบอกว่าขอถามน้องแฝดก่อน คงกลัวว่าเรื่องราวมันเร็วเกินไปแล้วน้องแฝดจะตั้งรับไม่ทัน แต่น้องโอบบอกว่าถ้าน้องแฝดเต็มใจไปด้วย พรุ่งนี้จะให้ตังเป็นคนไปส่งน้องแฝดที่โรงแรมเอง ขอแค่ว่าให้ไปในฐานะหลานของคุณเยียก่อน” นับตังค์บอกถึงความต้องการของโอบอุ้ม

“ได้ค่ะได้ แบบนั้นก็ได้ค่ะ แค่ให้โอกาสเยียได้ใช้เวลากับลูกบ้าง”

“คุณเชนเขายอมรับได้จริงเหรอครับ” มีคุณถาม เขารู้จักสามีของพเยียมาก่อนที่จะมาแต่งงานกับพเยีย และคิดว่าไม่น่าใช่คนที่ยอมรับความผิดพลาดของคนอื่นง่ายๆ

“ค่ะ คุณเชนยินดีรับน้องแฝดเป็นลูก” พเยียบอกด้วยความดีใจ

“ครับ ถ้าวันนี้คุณเยียไม่ได้มีธุระอะไร จะเข้าไปเล่นกับน้องแฝดก็ได้นะครับ นั่งเล่นกันอยู่ที่สวนหลังบ้าน” นับตังค์อยากเห็นว่าน้องแฝดรับคนแปลกหน้าอย่างพเยียได้แค่ไหนจึงเชิญชวน

“ขอบคุณมากนะตัง” พเยียยิ้มกว้างเมื่อทุกคนเข้าใจเธอและไม่ตำหนิเรื่องราวในอดีต เธอรีบขอตัวเข้าไปหาลูกชายทั้งสองคน


หลังจากที่พเยียเดินออกไปแล้ว นับตังค์กับมีคุณก็มองหน้ากันแล้วถอนหายใจ ต่างคนต่างรู้ว่าเรื่องนี้มันคงไม่ง่ายสำหรับใบไม้กับใบหม่อน เด็กทั้งสองคนรักโอบอุ้มมาก แค่รู้ว่าโอบอุ้มจะกลับไปเกาะแสงแดดแล้วทิ้งตัวเองไว้ที่นี่ ใบหม่อนก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น น้องไม้ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าที่คิด เข้าใจสถานการณ์ได้ดี และปลอบใบหม่อนจนหยุดร้องไห้ได้เมื่อครู่นี่เอง แต่เรื่องนี้ทั้งเขาและมีคุณเป็นคนนอก คงทำได้แต่เฝ้าดูห่างๆ และหวังว่าทุกอย่างมันคงจะลงเอยได้ด้วยดี


แค่เวลาไม่กี่ชั่วโมงที่พเยียได้ใกล้ชิดกับน้องแฝดก็ทำให้เธอแทบไม่อยากออกห่างจากเด็กทั้งสองคน ใบไม้ดูมีความคิดความอ่านโตเกินวัย เป็นพี่ดูแลน้องได้ทั้งที่อายุเท่ากัน ส่วนใบหม่อนเป็นเด็กขี้อ้อน พูดจาท่าทางก็สมวัย เป็นเด็กเจ้าเนื้อที่ดูน่ารักน่ากอด ทั้งสองคนมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด


“ทำไมคุณไม่ให้เราเรียกว่าย่าแล้วครับ ถ้าไม่ให้เรียกว่าย่าจะให้เรียกว่าอะไร” น้องไม้ถามพเยียที่มาอยู่ด้วยตั้งแต่เช้า

“คือ..ย่าไม่มีลูกผู้ชาย ย่าเลยขออนุญาตพ่อของใบไม้กับใบหม่อนมาเป็นแม่บุญธรรมให้หนูไงคะ”

“แม่บุญธรรมคืออะไรเหรอน้องไม้” น้องหม่อนถามพี่ชาย

“แม่ปลอมๆ มั้ง” น้องไม้ตอบตามที่เข้าใจ แต่คำว่าแม่ปลอมๆ ทำเอาพเยียพูดไม่ออก

“งั้นถ้าคุณย่าจะมาเป็นแม่ปลอมๆ น้องหม่อนต้องเรียกคุณย่าว่าอะไร” ใบหม่อนหันไปถามพเยีย

“เรียกว่าม่ามี๊ดีไหมคะ” พเยียรีบเสนอ เด็กทั้งสองคนหันไปมองหน้ากัน สีหน้าชั่งใจจนพเยียต้องรีบอธิบายเพิ่ม “ย่ามีแต่ลูกสาว อยากจะมีลูกชายบ้าง ลูกสาวของย่าเขาติดคุณพ่อของเขา ย่าเหงา แล้วน้องไม้กับน้องหม่อนก็น่ารักมากๆ ย่ามีความสุขเวลาได้อยู่กับหนูทั้งสองคน ให้ย่าได้เป็นมามี๊ของหนูได้ไหมคะ” พเยียน้ำตาคลอ กลัวว่าลูกจะปฏิเสธ

“ถ้านาโมไม่ว่าหนูเป็นลูกปลอมๆ ให้ก็ได้ ใช่ไหมน้องไม้” น้องหม่อนสงสารผู้หญิงสุดสวยตรงหน้า คุณครูเคยสอนว่าผู้หญิงเป็นเพศที่ผู้ชายต้องให้เกียรติและไม่ควรทำให้เสียใจ น้องหม่อนเลยไม่อยากให้คุณย่าต้องมีน้ำตา

“อือ” น้องไม้พยักหน้า “ถ้านาโมไม่ว่า”

“ม่ามี๊ดีใจที่สุดเลย ขอให้ม่ามี๊กอดได้ไหมคะ” พเยียกางแขนออก น้องหม่อนขยับเข้าไปหาก่อนน้องไม้ พเยียรีบดึงน้องไม้ให้เข้ามาในอ้อมกอดก่อนจะโอบกระชับและร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ


นับตังค์แอบดูอยู่ก็ลอบถอนหายใจ แม้โอบอุ้มบอกให้รอแต่พเยียก็อดใจไม่ไหวจนได้ นับตังค์เข้าใจว่าหัวอกของคนเป็นแม่รู้สึกอย่างไร กลัวลูกไม่รัก กลัวลูกไม่สนใจ ขนาดนับตังค์เองไม่ได้เป็นผู้ให้กำเนิดหนูด้วง แต่ก็รักเด็กน้อยอย่างสุดหัวใจ เมื่อครั้งที่หนูด้วงหายตัวไปหัวใจแทบสลาย นับตังค์จึงไม่คิดตำหนิสิ่งที่พเยียเคยตัดสินใจในอดีต ทุกคนย่อมผิดพลาดกันได้ เมื่อเห็นน้องไม้กับน้องหม่อนพยายามปลอบใจพเยียก็อดยิ้มไม่ได้ สุดท้ายสายเลือดย่อมเข้มข้นเสมอ


 
……

เช้าวันถัดมานายหัวยนต์ให้คนเรือไปรับเพื่อนๆ ของหนูด้วงกลับไปที่เกาะ เขาแวะไปหาหนูด้วงที่บ้านตลาด เมื่อเห็นว่าหนูด้วงยังอยู่ก็โล่งใจ แม้จะสงสารหนูด้วงที่ดูซึมเศร้าแต่เขายอมให้หลานไปเสี่ยงไม่ได้ เมื่อเห็นว่าหนูด้วงไม่ดื้อรั้น แถมตอนนี้พญาไปอยู่ที่เกาะแสงแดดแล้ว คิดว่าลูกชายคงจัดการทุกอย่างได้ เขาจึงกลับไปที่โรงแรมด้วยความสบายใจ


หลังจากที่นายหัวพยนต์ไปแล้ว เรือยอร์ชลำใหญ่ก็วกกลับมารับหนูด้วงกับโอบอุ้มที่ท่าเรือ เพื่อนๆ ของหนูด้วงตกใจที่หนูด้วงกล้าขัดคำสั่งของคุณตา กลุ่มเพื่อนสนิทตกใจแต่ไม่แปลกใจเพราะรู้ดีว่าหนูด้วงเหมือนเด็กหัวอ่อน แต่อันที่จริงแล้วมีความเด็ดเดี่ยวเข้มแข็งมากกว่าภาพลักษณ์ภายนอก บทจะไม่ยอมก็ไม่ยอมท่าเดียว ทุกคนจึงกำชับว่าให้หนูด้วงดูแลตัวเองให้ดี ซึ่งหนูด้วงรับปากว่าจะอยู่กับโอบอุ้มไม่ให้ห่างและให้คนของนายหัวพยนต์ดูแลอย่างใกล้ชิด


เมื่อมาถึงท่าเรือของเกาะแสงแดดแล้ว ก้านเป็นคนเอารถมารับเด็กๆ กลับไปที่มหาวิทยาลัย จากนั้นถึงพาหนูด้วงกับโอบอุ้มกลับมาที่บ้าน ซึ่งพญากับเทียมฟ้ารออยู่ที่บ้านของโอบอุ้มแล้ว ทั้งคู่มาที่เกาะนี้ตั้งแต่ลูกน้องส่งข่าวมาบอก แต่มาถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ข่าวของดาวเรืองเลย ตำรวจไม่สามารถออกหมายจับให้ได้เพราะไม่มีหลักฐานว่าดาวเรืองเป็นคนทำ ที่สำคัญดาวเรืองไม่ได้หนีออกจากคุก เธอถูกปล่อยตัวออกมาอย่างถูกต้อง ที่ทำได้ตอนนี้คือเฝ้าระวังและจับตามองคนแปลกหน้าที่เข้ามาที่เกาะแห่งนี้


“ตำรวจเขามาถ่ายรูปเก็บหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ป๊าเลยให้ป้านอมทำความสะอาดให้เลย บ้านน่าอยู่ดีนะ ร้านก็สวย” พญาสำรวจที่นี่ทุกซอกทุกมุม นึกชื่นชมลูกชายที่สร้างทุกอย่างด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เขารู้จากตะวันว่าโอบอุ้มเป็นคนเก่ง งานบริหารของมหาวิทยาลัยก็ได้โอบอุ้มดูแลให้ทั้งหมด แถมตะวันยังบอกว่าเจ้าอุ้มยังรู้จักเล่นหุ้น ทำเงินได้มากอยู่ ตอนอยู่ที่เมืองนอก งานอะไรที่ทำได้เจ้าอุ้มก็รับมาทำโดยไม่เกี่ยงว่าจะได้เงินมากน้อยหรือจะหนักหนาแค่ไหน เขายังคิดในใจว่าถ้าเป็นตัวเองคงทำไม่ได้เท่าลูกชายคนนี้ 

“ผมอยากให้ป๊าภูมิใจ”

“ป๊าภูมิใจในตัวอุ้ม” พญาเดินมาโยกศีรษะของลูกชายก่อนจะมองหลานรัก “ไปขู่อะไรลูกน้องคุณตา พวกมันกลัวจนหัวหดกันหมด”

“ยุงรู้ได้ไงฮะ” หนูด้วงหน้าจ๋อย นึกในใจว่าต้องมีคนมาฟ้องพี่ก้าน แล้วพี่ก้านก็มาฟ้องยุงอีกทีแน่ๆ

“ฮ่าๆๆ รู้ได้ไงไม่สำคัญ ว่าแต่ไอ้เสือน้อยคิดจะเป็นนายใหญ่แล้วเหรอ” พญาหัวเราะชอบใจ

“ยุงไม่ภูมิใจในตัวหนูใช่ไหมล่ะฮะ” หนูด้วงทำหน้ามุ่ยก่อนจะหนีไปนั่งกอดอกที่โซฟา

“งอน งอนอีก” พญารีบเดินไปง้อหลาน “น้าภูมิใจในตัวหนูด้วงที่สุดแล้ว เกิดเป็นพยัคฆ์มันต้องดุแบบนี้แหละ”

“จริงนะฮะ”

“จริง น้าเคยโกหกด้วยเหรอ”

“เคย”

“เคย” หนูด้วงกับเทียมฟ้าตอบขึ้นพร้อมกัน

“กูจะเสียการปกครองเพราะหลานกับเมียนี่แหละ ดุกูกันจริงๆ ไปเจ้าอุ้ม ไปดูข้าวของว่าครบไหม มีอะไรหายไปบ้าง”

“ครับป๊า” โอบอุ้มขำป๊าที่ต้องยอมให้หนูด้วงกับอาน้องทุกที


เมื่อสำรวจแล้วว่าไม่มีอะไรหายไปก็ยิ่งแปลกใจว่าคนที่มาค้นบ้านต้องการอะไร กล้องวงจรปิดถูกตัดสายจนใช้การไม่ได้ แต่โอบอุ้มไม่คิดว่าเป็นคนใน เพราะถ้าเป็นคนที่เข้านอกออกในบ้านหลังนี้ย่อมต้องรู้ดีว่าโอบอุ้มไม่ได้เก็บของสำคัญเอาไว้ที่นี่เลยสักชิ้น


หลังจากที่โอบอุ้มโทรคุยกับตำรวจเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยเสร็จแล้วพญากับเทียมฟ้าจึงขอตัวกลับ ทั้งสองคนไปพักกับตะวันและก้าน ลูกน้องของพญาและนายหัวพยนต์ยังกระจายอยู่เต็มเกาะ ก้านให้ความเห็นว่าคนที่เข้ามารื้อบ้านมีสองประเภท หนึ่งคือพวกไม่รู้จริงๆ ว่าที่นี่คือบ้านของใคร แค่เข้ามาหาของมีค่าแต่ไม่พบอะไรจึงกลับไป อีกประเภทคือคนที่ใจกล้าบ้าบิ่น อยากลองเข้าถ้ำเสือโดยไม่เกรงกลัว กล้าเข้ามาในถิ่นที่พญาคุมเพราะต้องการท้าทายอำนาจ ซึ่งพญายอมรับว่าคนประเภทหลังคือคนที่พญากังวล เพราะในอดีตเขาทำลายล้างพวกค้ายาเสพติด ถึงระดับหัวหน้าจะถูกจับกุมตัวไปแล้ว แต่ยังมีพรรคพวกมันเหลืออยู่แน่ๆ เหตุนี้จึงทำให้พญาต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง


เมื่อพญาและเทียมฟ้ากลับไปแล้วหนูด้วงจึงขอร้องให้โอบอุ้มพาตัวเองมาที่ท้ายตลาด โอบอุ้มพาหนูด้วงมาถึงบ้านเช่าหลังหนึ่ง ตัวบ้านมืดสนิทเหมือนไม่มีใครอยู่ หนูด้วงพยายามกดกริ่งอยู่นานแต่ไม่มีการตอบรับ


“แน่ใจหรือว่าอยู่ที่นี่”

“หนูเป็นคนเช่าให้เองฮะ วันก่อนพี่เรืองยังโทรมาบอกว่าเข้าบ้านได้แล้ว ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องพี่เรืองก็ปิดเครื่อง”

“จะลองเข้าไปไหม”

“ไม่เป็นไรฮะ ถ้าพี่เขาอยากติดต่อหนู เขาคงโทรมาเอง กลับกันเถอะฮะ” หนูด้วงถอนหายใจ ได้แต่หวังว่าดาวเรืองจะรับรู้ว่าหนูด้วงมีความจริงใจให้ ทุกคำพูดที่เคยพูดเอาไว้ หนูด้วงคิดแบบนั้นจริงๆ


มีต่อด้านล่าง
V
V
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-11-2018 18:19:00 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
 
ต่อจากด้านบน


เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ที่หน้าบ้านแล้ว สักพักใหญ่ ไฟในบ้านก็ถูกเปิด คนที่หนูด้วงมาหาพลิกตัวออกจากการถูกกอดรัด ใบหน้าเหี้ยมโหดของคนกอดเริ่มแสยะยิ้มด้วยความพอใจ


“กูดีใจนะที่มึงตัดสินใจรวมมือกับกู พวกมันทำลายชีวิตของเรา” สามารถเชยคางของดาวเรืองขึ้นมาพร้อมกับเลียไปที่แก้มขาวด้วยความหื่นกระหาย

“ฉันเพิ่งจะออกจากคุก ถ้าพี่อยากแก้แค้นต้องใจเย็น อย่าเพิ่งทำอะไรให้คนสงสัยฉัน”

“กูไม่อยากใจเย็นแล้ว อยู่อย่างลำบากเพราะไอ้สัตว์พวกนั้นจนค่อนชีวิต แล้วมึงจะรออะไร ยังไงมันก็ไม่ไว้ใจมึง แค่ทำดีกับมึงเพราะจะเลี้ยงมึงไว้เหมือนหมาเชื่องๆ ถ้ามันไว้ใจมึงจริง เมื่อกี้มันจะแห่พาลูกน้องมันมาทำไมตั้งเยอะ” สามารถรู้สึกหงุดหงิดเมื่อนึกถึงความลำบากที่ตัวเองได้รับ

“ทำไมฉันจะไม่รู้ว่านายหัวพยนต์ต้องการให้ฉันอยู่ในคุกตลอดชีวิต พี่ไม่รู้จักพวกมันเท่าฉันหรอก ถ้าพวกมันทำร้ายได้ง่ายๆ มันคงตายกันไปนานแล้ว ไม่มีอิทธิพลมาถึงตอนนี้หรอกนะ จะทำการใหญ่ต้องรอบคอบ พี่ไม่เคยต้องถูกคุมขังเหมือนฉันนี่”

“กูไม่อยากรอแล้ว คนของไอ้พญามันมามากขึ้นทุกวัน ถ้ามันคิดค้นประวัติคนทั้งเกาะขึ้นมากูจะอยู่ลำบาก”

“พี่แค่อยากฆ่าพวกมันเหรอ”

“กูอยากทำให้ไอ้พญาเจ็บช้ำน้ำใจมากที่สุด”

“แล้วที่พี่คิดไว้ พี่จะทำอะไร”

“ทีแรกกูว่าจะฆ่าไอ้สัตว์ กูหมายถึงไอ้โอบ แต่มันเป็นแค่เด็กที่ไอ้พญาเก็บไปเลี้ยง มันคงไม่เสียใจเท่าไหร่ กูเลยเปลี่ยนใจมาที่ไอ้เด็กตุ๊ดคนนั้น กูจะเอาไอ้เด็กนั้นมาทำเมีย ทำแรงๆ จนมันตายคาอกกู สะใจดีโว้ย ไอ้พญามันรักของมันมาก มันต้องตรอมใจตายตามไปด้วย ได้ข่าวว่าไอ้เด็กนั่นมันเป็นเมียไอ้สัตว์โอบด้วยใช่ไหม ดี! ยิงปืนนัดเดียวนกตายทั้งสองตัว”

“แล้วพี่ไม่กลัวไอ้พญามันกลับฆ่าพี่เหรอ”

“ไม่กลัว ถึงกูไม่ทำอะไรพวกมันชีวิตกูก็คงไม่ได้ดีไปกว่านี้ กูมันเหมือนหมาจนตรอก ก่อนจะตายขอแค่ได้สะใจ ให้มันใจสลายตายไปช้าๆ แค่นี้กูก็ตายตาหลับแล้ว”

“พี่ไม่ได้เข้าใกล้เด็กนั่นง่ายๆ หรอก”

“กูถึงอยากให้มึงช่วยไง ไอ้เด็กนั่นมันห่วงมึงไม่ใช่รึไง เดี๋ยวพรุ่งนี้มึงโทรหามันว่ามึงไม่สบาย ให้มันมาดูมึง บอกให้มาคนเดียวเพราะมึงกลัวคนอื่น”

“มันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอพี่”

“เอาน่า กูจะเบี่ยงเบนความสนใจพวกไอ้พญาเอง แล้วมึงค่อยโทรไปตามมัน นี่ยานอนหลับ เอาให้มันกิน แล้วกูจะพามันไปอยู่ที่อื่นไม่ให้เดือดร้อนมึงหรอก”

“ฉันช่วยก็ได้ แล้วคืนนี้พี่จะค้างที่นี่ไหม”

“ไม่ เดี๋ยวกูจะแอบออกไปด้านหลัง คนไอ้พญามันกระจายเต็มไปหมด แต่มันจำกูไม่ได้ กูไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่ากูมาหามึง แล้วนั่นตุ๊กตาอะไรวะ น่าเกลียดชิบหาย” สามารถมองไปที่ตุ๊กตารูปร่างประหลาดที่ตั้งอยู่ที่หัวเตียงของดาวเรือง

“พี่กลัวมันเหรอ”

“กลัวทำไม มันก็แค่ตุ๊กตา” สามารถทำหน้าเหยียดใส่ตุ๊กตาเอเลี่ยนที่เก่าโทรมก่อนจะมองดาวเรืองตั้งแต่หัวจรดเท้า “กูก็อยากนอนกับมึงนะ รูปร่างมึงยังน่ากินเหมือนเดิม แต่กูขออั้นเอาไว้ให้ไอ้เด็กด้วงมันดีกว่า ไม่ได้เอากับเด็กผู้ชายมานานแล้ว แค่คิดกูก็อยากแล้ว หึ...กูไปก่อนจะของขึ้นดีกว่า”


ดาวเรืองมองตามแผ่นหลังของสามารถไปจนลับตา ดวงตาที่เรียบสนิทยากจะเดาออกว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไร มือเรียวเอื้อมไปหยิบตุ๊กตาที่สามารถด่าว่าน่าเกลียดมาอุ้มก่อนจะกดไปมือของตุ๊กตา เสียงของเด็กน้อยที่เธอทั้งรักทั้งชังลอดดังออกมาหลังเสียงสัญญาณ


ตี๊ดดด


‘พี่เรืองอยากเป็นแม่ของหนูเหรอฮะ ก็ได้ก็ได้ แม่เรือง...หนูจะอัดเสียงใส่น้องด้าวเอาไว้ให้ แม่เรืองจะได้เอาไว้ฟัง หนูฝากผู้คุมเอาไว้ แม่เรืองจะมาฟังได้ตอนพัก น้องด้าวอยู่ที่ผู้คุมเรือนกลางนะฮะ แม่เรืองต้องรักษาสุขภาพนะ เรามาเริ่มต้นกันใหม่ หนูจะไม่ดื้อไม่ร้องไห้ให้แม่เรืองหงุดหงิด อย่าเกลียดหนูเลยนะฮะ หนูอยากให้แม่เรืองรักหนู ถ้าแม่เรืองได้ออกมาเมื่อไหร่ หนูจะดูแลแม่เรืองเอง เราดีกันนะฮะ’


ดาวเรืองกอดตุ๊กตาที่เคยเกลียดมันจนจับใจเอาไว้แน่น เธอกดมืออีกข้างของตุ๊กตา เสียงเพลง ‘ห่วงหา’ ที่เธอโปรดปรานก็เริ่มบรรเลง เป็นเสียงของหนูด้วงร้องเอาไว้ให้ตามคำขอของเธอ เธอฟังมันอย่างไม่รู้เบื่อ ชีวิตของเธอเหมือนอย่างในเพลงทุกประโยค ทุกครั้งที่หนูด้วงมาเยี่ยมเธอที่คุกก็มักจะพูดกับเธอก่อนกลับว่า ‘แม่เรืองยังมีหนูนะฮะ’

‘ไม่เห็นมีใครรักฉันเลย ไม่มีใครจะคอยซับน้ำตา ไม่มีคนห่วงใย ในยามที่ใจฉันมันอ่อนล้า
ไม่เห็นมีใครคิดถึงฉันเลย ไม่มีใครอยากจะเสียเวลา ไม่มีคนใส่ใจ ถูกโยนทิ้งไว้ตามลำพัง’
 
ตี๊ดดด

 
……


เมื่อคืนนี้หนูด้วงได้รับข้อความจากดาวเรืองว่าไม่สบาย แต่ไม่ต้องเป็นห่วงและไม่ต้องมาหา เธอฝากเด็กข้างบ้านซื้อยาและข้าวให้แล้ว ถ้าอาการดีขึ้นจะติดต่อหนูด้วงไปเอง หนูด้วงเอาข้อความให้โอบอุ้มอ่าน ในใจก็นึกเป็นห่วงเพราะดาวเรืองไม่มีใคร โอบอุ้มเห็นท่าทางซึมเศร้าก็รู้ว่าหนูด้วงกำลังคิดอะไร เขากลัวน้องหนีไปคนเดียวจึงบอกว่าจะเป็นคนพาหนูด้วงไปเยี่ยมดาวเรืองเอง


“หนูไม่อยากให้ยุงรู้ อยากได้คุยกับแม่ เอ้ย! กับพี่เรืองก่อนฮะ หนูกลัวยุงใจร้อน”

“พี่รู้ว่าหนูเป็นคนมีเมตตา แต่เราต้องไม่ทำให้ใครเป็นห่วงด้วยการเอาตัวเองไปเสี่ยง พี่ยอมพาหนูไป แต่ยังไงก็ต้องให้มีคนตามไปด้วย พี่จะบอกพวกเขาเองว่าให้รออยู่แค่บริเวณนั้น”

“ก็ได้ก็ได้ แล้วเรื่องน้องแฝดละฮะ สรุปว่าพี่ยอมให้น้องแฝดไปอยู่กับน้าเยียเหรอฮะ” หนูด้วงถามเพราะเห็นว่าเมื่อครู่โอบอุ้มคุยกับน้องไม้น้องหม่อนเรื่องที่จะให้ไปอยู่ที่โรงแรมชั่วคราว

“พี่ให้ทั้งสองคนตัดสินใจเอง”

“น้องแฝดว่ายังไงฮะ”

“เด็กๆ อยากไป” โอบอุ้มพูดพลางถอนหายใจ

“พี่ไม่อยากให้เด็กๆ ไปเหรอฮะ”

“ไม่รู้สิ พี่รู้สึกเป็นห่วง อันที่จริงถ้าคุณเชนเขายอมรับน้องแฝดได้มันก็เป็นเรื่องดี พวกเขาจะได้ไปอยู่กับแม่ที่แท้จริง”

“หนูรู้ว่าพี่ไม่อยากให้น้องแฝดไปอยู่กับคนอื่น”

“ทำไมถึงคิดแบบนั้น”

“เพราะหนูก็ไม่อยากให้น้องแฝดไป” หนูด้วงถอนหายใจบ้าง อยากสร้างครอบครัวที่มีพี่โอบและน้องแฝด อยากให้บ้านนี้อยู่กันพร้อมหน้า

“มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะยกร้องแฝดไปไว้ตรงนั้นตรงนี้ อย่าเพิ่งคิดมาก หนูลุกไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้ไปเยี่ยมดาวเรืองกัน”

“อาบให้หนูหน่อย ก็หนูบอกแล้วว่าแขนหนูสั้น ถูหลังไม่ถึงฮะ”

“ถูหลังอย่างเดียวใช่ไหมครับ”

“หนูเคยบอกแล้วไง หลวงพ่อเคยบอกว่า ตักบาตรอย่าถามพระนะโยม” หนูด้วงพูดพลางหัวเราะคิกคัก


แล้วหนูด้วงก็ต้องหยุดขำเมื่อพี่โอบทิ้งตัวลงนั่งคุกเข่าตรงหน้า สายตาคมกริบที่คุ้นเคยมองจ้องมาทำให้ใจเต้นระรัว ร่างกายตื่นไปทุกส่วนเพียงแค่ปลายนิ้วของพี่โอบลอดใต้เสื้อเข้ามาสัมผัสแผ่วเบา นิ้วหัวแม่มือหมุนคลึงอยู่ที่สองติ่งเล็กๆ บริเวณหน้าอก มันก็เป็นเพียงแค่สัมผัส แต่ทำไมหนูด้วงรู้สึกว่าความตื่นเต้นเร้าร้อนมันวิ่งแล่นอยู่ภายในร่างกาย


“พอดีแฟนของพี่ไม่ใช่พระ พี่ถามได้ใช่ไหมครับ หนูอยากให้พี่ถูหลังให้อย่างเดียวเหรอ” โอบอุ้มถามพลางใช้มืออีกข้างลูบผ่านเอวอีกฝ่ายไปยังก้อนเนื้อแน่นด้านหลัง เขาออกแรงบีบเพื่อกระตุ้นให้อีกฝ่ายยอมพูด

“หนูอยากให้ทำอย่างอื่นด้วย”

“อย่างเช่นอะไรครับ” แม้อีกฝ่ายเริ่มหายใจติดๆ ขัดๆ แต่โอบอุ้มก็ยังแกล้งถาม

“เหมือนเมื่อคืน”

“พี่จำไม่ได้ ความจำของพี่ไม่ดีเหมือนของหนูด้วง”

“พี่...โอบ...” หนูด้วงหน้าแดง ไม่ใช่เพราะเริ่มขัดเขิน แต่เพราะปลายนิ้วของพี่โอบที่บดคลึงยอดอกอยู่มันซุกซนลงมาในกางเกงในตัวน้อยของหนูด้วงแล้ว

“ครับ” โอบอุ้มตอบรับสั้นๆ มือก็เกี่ยวกางเกงตัวน้อยให้หลุดออกมากองอยู่ที่ข้อเท้าของน้อง

“อย่าทำหนู” โอบอุ้มเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อหนูด้วงร้องห้าม

“ไม่ต้องการให้พี่ทำแบบนี้เหรอครับ” โอบอุ้มหยุดการกระทำแล้วถามอีกฝ่าย คนถูกถามหน้าเหรอหรา โอบอุ้มเดาไม่ออกว่าฝ่ายนั้นกำลังคิดอะไร เขาเลยจะดึงกางเกงของน้องขึ้นมาสวมใส่ให้อย่างเดิม แต่น้องก็คว้าข้อมือของเขาเอาไว้ก่อน

“เมื่อคืนหนูลืมขัดขืนพี่โอบอย่างที่อาน้องสอน เมื่อกี้เลยลองขัดขืนดู ทำไมพี่โอบถอดใจง่ายจังฮะ” หนูด้วงทำหน้างอ

“อ้าว พี่นึกว่าหนูไม่ต้องการพี่จริงๆ” โอบอุ้มอยากจะขำแต่ไม่กล้าแม้แต่จะยิ้ม กลัวทำให้น้องงอนและเสียใจ

“หนูไม่มีวันไม่ต้องการพี่ หนูจะโทรบอกอาน้องว่าหนูจะไม่ขัดขืนพี่โอบอีกต่อไปแล้ว ไม่ดีเลย หนูไม่ชอบ หรือพี่โอบไม่ต้องการหนูจริงๆ” หนูด้วงกลัวพี่โอบจะเบื่อถึงพยายามทุกทางที่จะสร้างความแปลกใหม่ให้กับคนรัก แต่เมื่อกี้มันทำให้หนูด้วงใจหาย คิดว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการตัวเองถึงหยุดได้ง่ายๆ

“จะให้พี่บอกอีกกี่ครั้ง พี่รักหนู ต้องการหนูมากว่าใครๆ ในโลก”

“บอกทุกวันทุกวัน”

“ตกลงครับ พี่จะบอกหนูทุกวัน ต้องการหนูทุกวัน”

“หนูจะไม่ขัดขืนพี่แล้ว หนูขอถอดเสื้อก่อนนะฮะ จะได้ไม่ช้า พี่โอบถอดของพี่โอบเลย วันนี้เอากลิ่นลาเวนเดอร์ หนูใส่หมวกให้นะฮะ” หนูด้วงจัดการเรื่องใส่ถุงยางให้พี่โอบน้อยอย่างคล่องแคล้ว เสร็จแล้วจึงยิ้มกว้าง “เสร็จแล้ว เป็นเด็กดีนะพี่โอบน้อย แล้วพี่อยากให้หนูบอกจริงๆ เหรอฮะว่าอยากให้ทำอะไรหนูบ้าง ก็ได้ก็ได้ หนูอยากให้พี่...อ๊ะ”


หนูด้วงพูดยังไม่ทันจบโอบอุ้มก็ดันตัวให้ลงไปนอนราบ เสื้อนอนตัวบางของน้องถูกเขาถอดออกให้อย่างรวดเร็ว ความใสซื่อตรงไปตรงมาของหนูด้วงคือการยั่วอารมณ์ของเขาให้เตลิดได้ทุกครั้งไป ปากที่ช่างเจรจาอิ่มอวบเชิญชวนให้ทาบทับและสอดปลายลิ้นไปกว้านชิมความหวานภายใน ผิวเนื้ออิ่มเต็มมือทำให้เขาอยากบีบเคล้น อยากบดเบียดและละเลียดชิมไปทุกส่วน เสียงครวญครางของน้องเหมือนเสียงเพลงที่เร้าใจให้รู้สึกฮึกเหิม


หนูด้วงเกร็งร่างกายและเผลอจิกที่บ่าของพี่โอบเมื่อฝ่ายนั้นซุกไซ้ไปที่โคนขาอ่อนด้านใน พี่โอบรู้จักร่างกายของหนูด้วงดียิ่งกว่าตัวของหนูด้วงเอง ยิ่งความอุ่นสากลากเลียที่โคนเนื้ออ่อนๆ หนูด้วงถึงกับแอ่นตัวและส่งเสียงน่าอายออกมาอย่างห้ามไม่ได้ มันซาบซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย ร่างกายบิดเร้าโดยอัตโนมัติ เป็นความสุขสมที่แสนทรมาน


โอบอุ้มไล่ชิมรอบบริเวณส่วนที่ตื่นตัวอย่างเต็มที่ของน้อง ลงน้ำหนักลิ้นอย่างรู้จุด แต่เหมือนจงใจแกล้งละเว้นส่วนนั้นเอาไว้ จนกระทั่งน้องร้องขอด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร โอบอุ้มจึงตามใจคนขี้อ้อนด้วยการครอบครองส่วนสำคัญเอาไว้และดื่มด่ำมันอย่างใจเย็น


“พี่โอบชิมหนูแบบนี้ หนูจะตายไหมฮะ” หนูด้วงเงยหน้ามาถาม


ดวงตาหวานเยิ้มของน้องทำให้โอบอุ้มอยากจะครอบครองน้องให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่เขาปรารถนาที่จะให้หนูด้วงมีความสุขให้ได้มากที่สุด จึงยังคงปรนเปรออย่างต่อเนื่อง รุกทั้งบนและล่างจนอีกฝ่ายเกือบขาดใจตายจริงๆ เมื่อเห็นหนูด้วงใกล้ถึงปลายทางเขาจึงทอดถอนริมฝีปากออกและแทรกตัวเข้าหาน้องช้าๆ ร่างกายที่เริ่มคุ้นเคยกันทำให้การสอดประสานเป็นไปด้วยดี เมื่อโอบอุ้มเริ่มขยับตัวช้าๆ หนูด้วงก็พรูลมหายใจออกมา คนน้องกอดรัดร่างกายที่แข็งแรงของคนพี่เอาไว้แน่น ส่วนบนก็แลกจุมพิตกันด้วยความเร้าร้อน ส่วนร่างก็ขยับเคลื่อนเป็นจังหวะที่ร้อนแรง


เมื่อร่างกายตอบรับกันดีส่งผลให้อารมณ์เริ่มพุ่งพล่านและทะยานขึ้นสูง เลือดลมสูบฉีดจนสัมผัสได้ถึงกลไกลภายในที่มันสะท้านไปทั่วร่างกาย ปลายทางมาถึงพร้อมกันราวกับนัดหมายเอาไว้ มันอัดแน่นแต่ล่องลอย แม้บรรยายอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่มีหนึ่งประโยคที่ทั้งคู่ต่างบอกกันและกันได้


“หนูมีความสุข”

“พี่ก็มีความสุข”


‘อยากมีความรัก ต้องการความทรงจำ ขอเพียงใครซักคนหนึ่ง มีใครสักคน...คอยห่วงหา’


 
โปรดติดตามตอนต่อไป


ขอบคุณที่ยังติดตามนะคะพี่จ๋าน้องจ๋า
หนูด้วงอัพเกรด คุยกับโอบน้อยแล้วเหรอลู๊กกกก
ทะเล้นทะลึ่งไม่มีใครเกิน แต่ก็น่ารักเสมอเนอะ
ขอบคุณที่เอ็นดูหนูด้วงตั้งแต่เล็กจนโตนะคะพี่จ๋า

มีพี่จ๋าสงสัยว่าทำไมหนูด้วงอ้อยเยอะแบบนี้นะ 5555 ให้นึกภาพตาม
เวลาเรามีแฟน แฟนที่ผูกพันกันมาก
แล้วพอเรามีอะไรลึกซึ้งต่อกัน เห็นอะไรๆ กันหมดจนหายเขิน
โดยเฉพาะพี่โอบที่ดูแลคอยอาบน้ำให้ตัวเองมาตั้งแต่เด็ก
พอมีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง
(หนูด้วงไม่รู้ว่ามีเหล่าพี่จ๋าแอบดูอยู่พร้อมก้านมะยม 55555555)
 มันเลยไม่มีอะไรให้ต้องอายแล้วไงคะ
อยากอ้อนเขาอย่างเดียว 555‬
ขอให้อิ่มเอมกับความอ้อยของเจ้าตัวแสบนะคะ

...รัก... 



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-11-2018 20:23:14 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
พี่โอบดูแลน้องด้วงดีๆนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ดาวเรืองอย่าทำร้ายหนูด้วงนะขอให้ดาวเรืองตลบหลังสามารถทีเถอะ

ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขอให้ดาวเรืองกลับตัวจริงๆเถอะ ติดคุกมาสิบปีคงคิดำด้เเล้วล่ะ หรือสุดท้ายดาวเรืองจะฆ่าไอ้สามารถจนตัวเองต้องตายด้วย เศร้าแทน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด