>>อุบัติรักฟีโรโมน<< Omegaverse - ตอนพิเศษ ขำๆ วันช๊อต [28-05-62]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >>อุบัติรักฟีโรโมน<< Omegaverse - ตอนพิเศษ ขำๆ วันช๊อต [28-05-62]  (อ่าน 305233 ครั้ง)

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
พบคนปากแข็ง แต่โมโหยามเขาโดนรังแก ยาแก้คู่แท้ผลิตสำเร็จจะยังอยากใช้ป่าวน้า อาการแสดงชัดขนาดนี้
 :L2:  :pig4:  :กอด1:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ลุ้นๆ ตอนต่อไปมาเร็วๆนะ

รายงานเบื้องบน
แล้วเบื้องบนจะเชื่อโอเมก้าต๊อกต๋อย
หรือจะเชื่ออัลฟ่าผู้สูงส่งล่ะ คิดซิคิด

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ต้องจัดการรรรรร

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
ผมชั่งใจอยู่นานเหมือนกันนะครับเรื่องคอมเมนท์เรื่องนี้ มันค่อนข้างสองจิตสองใจเหมือนกัน คืออย่างนี้ครับ

ผมพออ่านโทนเรื่องและแนวการบรรยายตอนแรกก็รู้สึกหงุดหงิดเหมือนกันนะครับ เดินเรื่องช้า และไม่ hit ประเด็นสักที (เรื่องความลำบากของภูริ) คู่พระนางโพรเกรสช้ามาก ด้วยว่าฝั่งนึงก็คอยเอาแต่ด่าและทัศนคติติดลบตั้งแต่ตอนแรก (อีธาน) อีกฝั่งก็นั่งใช้ชีวิตไปเรื่อยๆแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไรที่ทำให้เนื้อเรื่องคืบหน้าไปเลย อ่านแล้วเลยรู้สึกแปลกๆ

ที่อยากแนะนำก็อาจจะเหมือนกับคนอ่านหลายคนที่คอมเมนท์ครับ ถ้าเกิดว่าประเด็นของเรื่องคือเราจะเน้นการปรับทัศนคติของอีธานที่มีต่อเผ่าพันธุ์โอเมก้า เรื่องควรจะปูพื้นฐานของเวิร์สมามากกว่านี้ คือ เราควรจะใส่บทบรรยายเวิร์สมาประมาณสองสามตอนแรก แล้วแทรกทัศนคติของ ‘สังคม’ ในเรื่องที่มีต่อเผ่าพันธุ์ต่างๆ ลงไปในแต่ละบทด้วย เพื่อทำให้คนอ่านเห็นพื้นหลังของเวิร์สแน่นขึ้นและเข้าใจสภาพสังคมในจินตนาการที่เราจะสื่อ เพราะถ้าพื้นหลังไม่แน่น การจะมาเล่นกับเรื่องปรับทัศนคติตัวละคร จะเป็นอะไรที่คนอ่านงงมากและไม่อินครับ

สารภาพตามตรงว่าด้วยข้อด้อยด้านบน ทำให้ผมรำคาญมากเวลาเรื่องเป็นบทบรรยายของอีธาน เรื่องจากเราไม่เข้าใจพื้นหลัง แล้วทัศนคติอีธานก็เป็นแบบติดลบ จงใจโยนทุกเรื่องออกมาให้คนอื่นตลอด เอาแต่ด่าๆๆโดยไม่สนใจสภาพแวดล้อมของอีกฝ่ายเลย มันทำให้ผมหงุดหงิดครับ ซึ่งนี่ก็นำไปสู่เรื่องถัดมาที่ผมเห็นเป็นประเด็นกัน แต่สำหรับผม อันนี้ผมคิดว่าไม่เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าผิดที่ผิดทางเท่าไหร่ คือเรื่อง นิสัยของภูริ

เอาจริงๆนิสัยของภูริก็อย่างที่หลายๆท่านบอกไป ว่าดูค่อนข้างน่ารำคาญ แล้วอมพะนำ ชีวิตลำบากขนาดนี้ทำไมไม่อธิบายให้คนที่เอาแต่ด่าอย่างอีธานรู้ จะได้ไม่มาหงุดหงิดใส่ตลอดเวลา ตอนแรกผมก็คิดอย่างนั้นครับ แต่พออ่านๆไป ผมคิดว่านิสัยตรงนี้ของภูริค่อนข้างอธิบายได้ตามตรรกะในเรื่องนะ คือ เนื่องจากภูริเป็นเบต้า เป็นสถานะสังคมของคนทั่วๆไป จืดจางและจืดชืด ใช้ชีวิตไปวันๆ ภูริโดนที่บ้านกดดันอยู่ค่อนข้างมาก เขาเป็นคนดีในเนื้อแท้นะครับ แม้จะมีบางส่วนเคยคิดว่าอยากให้น้องออกมาทำงานไปเรียนไป แต่พอแม่บอกว่าอย่า ภูริก็โอเค ยอมแบกความทุกข์เอาไว้ด้วยตัวเอง มันสื่อให้เห็นว่าภูริเป็นคนที่ไม่มีปากมีเสียง ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ที่บ้านแล้ว ดังนั้นก็เลยทำให้ภูริเป็นคนยอมคน อะไรยอมได้ก็ยอมๆไป และวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้คนมีนิสัยยอมแบบนี้ไม่เป็นบ้าตาย คือสมองจะบังคับให้เค้ามองโลกในแง่ดีครับ ถ้าสังเกต ภูริมีนิสัยบางครั้งคือฟังๆอยู่แหละ แต่แท้จริงแล้วไม่ได้ฟัง นั่นเพราะเค้ารู้ดีว่าฟังๆคำบ่นไปก็เอามาคิดมากไม่ได้ ด้วยนิสัยของเค้าที่เป็นคนยอมคน ถ้ามาคิดมากเรื่องคำตำหนิอีกคงชีวิตบ้าตาย สมองกับจิตใจเลยสั่งให้ละๆไปบ้าง และด้วยนิสัยแบบนี้ พอมาถึงที่ทำงาน โดนกลั่นแกล้ง จะไปเอาคืนก็ไม่รู้จะทำยังไงให้ตัวเองไม่โดนลูกหลงอะ คือเค้าคงกลัวแหละ ภาระที่บ้านของภูริมีค่อนข้างเยอะ ภูริเสี่ยงตกงานไม่ได้ ผลเลยทำให้เค้าต้องยอมรับ (แต่ลองสังเกตสิครับ ตอนภูริเอาคืนก็คือตอนที่คิดว่าพวกนั้นจะสาวมาหาภูริไม่ได้แน่ๆ เช่น ตอนมอมยาพิชัยกับพวกที่ห้องคาราโอเกะ) และผมคิดว่าด้วยนิสัยแบบนี้นี่แหละ ทำให้ภูริเป็นคนไม่อธิบายอะไรหรือสาธยายเรื่องความลำบากของชีวิตตัวเองให้คนอื่นได้ฟัง อาจจะกลัวโดนคนอื่นแกล้งเพิ่มอีกทำให้ชีวิตวุ่นวาย เพราะชีวิตภูริพึ่งตัวเองมาตลอด คงไม่ใช่นิสัยของเขาที่จะไปร้องขอความช่วยเหลือจากใคร เพราะเคยขอแล้วแต่ไม่ได้ (อย่างตอนที่ไปบอกแม่ แม่ก็ว่ากลับมาให้ภูริต้องพึ่งตัวเอง ต้องเป็นที่ยืนให้คนอื่น) มันก็เลยทำให้เค้าเป็นคนไม่อธิบาย เพราะอธิบายไปก็ไม่ได้แปลว่าอีกฝ่ายจะช่วย จะเห็นใจ หรือแม้กระทั่งอาจจะซ้ำเติมหรือเอาเรื่องไปพูดทำให้ภูริโดนแกล้งมากขึ้นอีกด้วยซ้ำ แถมอีธานก็มีทัศนคติแย่ๆ ปากจัดกับเบต้าแล้วก็โอเมก้าขนาดนั้น คนแบบภูริจะไปอธิบายเรื่องขอความเห็นใจเหรอครับ? ไม่มีทาง

นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมภูริไม่สู้คน ไม่อธิบาย ยอมๆไปให้โดนโขกสับเพื่อที่จะได้ไม่ตกงาน แล้วก็คิดจะพึ่งแต่ตัวเอง เพราะคนอื่นมันไม่ได้ส่งนัยยะอะไรว่าจะให้ความช่วยเหลือได้ เรื่องปูมาด้วยว่าภูริคงไม่มีเพื่อน มันเลยทำให้เขาไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร เลยต้องตกอยู่ในมุมปัญหาของชีวิตแบบนี้ครับ เพราะฉะนั้น ภูริจะมีนิสัยแบบในเรื่อง มันก็ไม่แปลกหรอก แค่ว่ามันทำให้นักอ่านอย่างเราหงุดหงิด เพราะเรื่องไม่โพรเกรสสักทีนี่แหละครับ

ออฟไลน์ MR.J

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ภูริพังแผนอีธานหมดเลยเป็นไงอีธานต้องมานั่งดูภูริทำงาน55555555555555555555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อ่านๆไปลุ้นไป  :ling1: :ling1: :ling1:
อย่างน้อยอีธาน ก็เห็นว่ามีคนเตะปลั๊กหลุด
แล้วไม่มารับผิดชอบงานที่หายไปแทนภูริ
ออกโรงแทนแล้ว  แต่ภูริก็รั้งห้ามอีก
เพราะมันจะมาเอาคืนมากขึ้น โดนแกล้งมากขึ้น  OMG มันช่าง เ-ี้ย หลุดนรกแท้ทรู

อย่างน้อยภูริ ก็อดทนเก่ง เอ่อ.......ลีลาดีกว่าพิชัย  กร๊ากกกกกกกกกกก   :m20: :laugh: :m20:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อีธานเป็นคนที่มองลงมาจากที่สูงมาตลอดไม่มีวันเข้าใจคนธรรมดาที่มองจากข้างล่างขึ้นไปแบบภูริหรอก ขัดแย้งกับผู้มีอำนาจไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเลย

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
หึ! เพิ่งจะมาอะไรๆกันตอนนี้คะคุณอีธาน!

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อ่านแล้วหัวร้อนมาก  :m31:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ภูริลูกกก
ต้องสู้คนบ้างนะ :hao5:

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
หุหุ ก็เหมือนมานั่งเฝ้าแฟน

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
เหมือนภูริเริ่มบอกเหตุผลของตัวเองทีละนิดแล้วหรือเปล่า? (แต่ก็เฉพาะตอนเบลอๆ หรือจำเป็นสินะ) บอกไปเหอะภูริ มากน้อยยังไงก็ถือว่าบอกไปแล้ว เขาจะไม่เชื่อก็เรื่องของเขาเนอะ

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
อยากอ่านต่อแล้ว

ออฟไลน์ Konzen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รอให้คุณภูริมีโอกาสแล้วไปตบหัวพวกที่แกล้งๆสักหน่อย หมั่นไส้เหลือเกิน 555555 :fcuk:
คุณอีธานเค้าจะรู้ตัวไหมว่าเขาทำเพื่อคุณภูริมากกว่าที่ตัวเองคิด ถึงขนาดยกเลิกนัดเพื่อจะมารับคุณภูริไปโรงพยาบาล

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ฮ่าๆๆ น้องรู้ตัวว่าเป็นคนหื่น
นั่นสินะ ได้ยามาจะใช้ลงหรืออีธาน
ทำเกินหน้าเกินตาจากที่พูดไว้มากกก
ปล.ช่วยแก้คำผิด ปั่นงานยิกๆ ไม่น่าใช่ หยิกๆ
     ยิก คือ ทำติดต่อกันถี่ๆ

ออฟไลน์ Nunng

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เอ็นดูภูริมากเลย ชอบความคิดบวกของภูริมากๆ ถึงบางทีมันจะคันใจอยากให้อีธานได้รู้ความจริงบ้างก็เถอะ
สนุกมากเลยค่ะ รอติดตามนะค้าาา
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ
 :katai2-1:

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
อยากมีหนุ่มๆมานั่งเฝ้า เหมือนอีธานนั่งเฝ้าภูริจัง

เราว่านิยายน่ารักตรงที่พระเอกขี้บ่น แล้วนายเอกเฉไฉ
ส่วนตัวชอบเพราะความโรแมนติคที่แฝงอยู่ในนิยาย
ประเด็นเรื่องการถูกแกล้งในที่ทำงาน เลยไม่ซีเรียสมาก เพราะถูกแกล้งยังไงก็ยังทำลายตัวตนของภูริลงไม่ได้ ยังแบกงานคนอื่นไปยิ้มไปได้อยู่

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
ลงเอยกันแล้วอย่าลืมเอาคืนด้วยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
อยากให้อีธานจัดระเบียบสังคมในที่ทำงานอย่างจริงจัง
ไม่งั้นพวกอัลฟ่างี่เง่าก็ทำตัวกร่างไม่เลิก
และภูริกับโอเมก้าคนอื่นๆก็ต้องยอมอยู่ร่ำไป
อ่านแล้วรำคาญใจกับการต้องจำยอมเพื่อเงินเดือนและสวัสดิการ แล everything ที่ต้องทน

ออฟไลน์ aommaboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อยากให้อีธานจัดการเองเลย ไล่มันออกไป้

ออฟไลน์ sweetie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มาแล้ว อีธานมาแล้ว จัดการมันเลย :hao7: :fire:

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
รอน้า

ออฟไลน์ joborcusier

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คนเลวจะได้รับผลกรรมแล้ว  :katai2-1:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อีธานรีบจัดการเรื่องนี้เร็วๆนะ

ออฟไลน์ Naamtaan22

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ถ้าจำไม่ผิดเหมือนว่าผ่านไป3ตอนแล้วเวลาในเรื่องยังไม่หมดวันเลย 555 เอิ่ม สปีดขึ้นอีกนิดนึงก็ได้นะ แต่ก็ยังรออ่านอยู่นะ อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว จะเดินเรื่องยังไงต่อน้าอยากรู้จริงๆ

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>….ตอนที่ 26 [100%]….<

มุกไร้สาระพรรค์นั้นไม่สามารถทำให้อีธานขำได้ ก็เลยมีแค่ภูริที่นั่งหัวเราะเหมือนคนบ้าอยู่เพียงลำพัง ถ้าเขาหันมาเห็นสีหน้าของอีธาน เขาอาจจะขำจนท้องแข็งตายก็ได้ เพราะหน้าอีธานตอนนี้คือมองตัวประหลาดอยู่ชัดๆ

“ผมว่าผมต้องไปเช็กสมองมั้งล่ะ ฮ่าๆ” ยัง...ยังหัวเราะไม่เลิก เคยขำค้างไหม อารมณ์ภูริตอนนี้มันเป็นแบบนั้นแหละ เล่นเอง ตบเอง หัวเราะเองเสร็จสรรพ ตั้งคณะตกทีนี้ไม่ต้องจ้างใครเพิ่มเลยนะ ภูริคนเดียวจะรับทำทุกหน้าที่เอง เจ๋งปะล่ะ...รับเองคนเดียวด้วย

เอ...หรือเขาควรทำอาชีพเสริมเป็นตลกคาเฟ่นะ? ไม่ดี เขาว่ามุกที่เขาเล่นมันขำอยู่แค่คนเดียวเท่านั้นแหละ คนที่ขำคือเขาไง ถ้าไปรับจ้างเล่นตลกคงมีคนตะเพิดไล่ออกจากร้านแน่นอน เพราะถ้าอยู่ต่อร้านอาจจะเจ๊งได้

“ผมก็คิดอย่างนั้น” อีธานส่ายหัวหน่ายๆ คุยกันทีไรก็เบี่ยงไปเรื่องอื่น ไม่พอ...ชอบหัวเราะโพล่งขึ้นมาอีก สมองของหมอนี่มันมีอะไรอยู่ข้างในกันนะ

“คุณชอบดูตลกไหม” คำถามอะไรอีกล่ะ? อีธานแปลกใจแต่เขาก็ส่ายหน้า แล้วไอ้การส่ายหน้าเนี่ยมันทำให้ภูริที่พิมพ์งานอยู่เห็นเยอะ!

“อ่าว...เงียบเลย”

“ตอบแล้ว”

“ตอนไหน?” คุยกับเขาแต่ไม่ยอมมองหน้า อีธานหงุดหงิดเล็กๆ เขาเลยเอาสองมือประกบหน้าอีกฝ่ายแล้วจับพลิกมามามองหน้าตัวเอง

“ตอนนี้ไง คุณไม่มองหน้าผมเองนะ เคยบอกแล้วว่าเวลาสนทนากับใครก็ช่วยมองหน้าคู่สนทนาของคุณด้วย ไม่ใช่มองนั่นมองนี่เรื่อยเปื่อย มันเสียมารยาท” หน้าอีธานอยู่ใกล้มาก ลมหายใจฟืดฟาดของอีกฝ่ายก็กระทบหน้าเขาทุกคำพูด ภูริยิ้ม...ยิ้มแบบที่ชอบยิ้มให้กับทุกคนนั่นแหละ

“ถ้าผมพูดไปมองหน้าคุณไป งานผมจะเสร็จไหมล่ะครับ หืม...” เจอคำถามนี้เข้าไปอีธานก็นิ่ง

“คุยไปทำงานไปเถอะเนอะ” ภูริจับมือของอีธานออกจากหน้าของตัวเบาๆ รอยยิ้มที่ยังคงอยู่นั้นทำให้อีธานไม่โกรธการกระทำของภูริ

“อืม ผมไม่ชอบดูตลก ยิ่งตลกของคนไทยผมยิ่งไม่ค่อยชอบเท่าไหร่...ไม่รู้สิ ไม่เก็ตมั้ง” คนฟังพยักหน้า

“แต่ผมชอบดูนะ มันจรรโลงใจดี ดูขำๆ แก้เครียดดีนะคุณ”

“อ่านหนังสือก็แก้เครียดได้ ได้ประโยชน์กว่าด้วย คุณเองก็หัดอ่านให้มันเยอะๆ เผื่อจะเอามาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน พนักงานขายอย่างคุณน่าจะเหมาะกับเรื่องการพูดโน้มน้าวคน ยิ่งขายได้เยอะ...ค่าคอมพ์ของคุณมันก็จะเยอะขึ้นด้วยนะ” เขาไม่ปฏิเสธสิ่งที่อีธานแนะนำหรอกนะ แต่เขาสายฟังกับดูอะ ไม่ใช่สายอ่านเท่าไหร่ เรื่องพวกนั้นเขาศึกษาเอาไว้เสมอแม้จะไม่ค่อยได้ใช้นัก

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ” ภูริหันมายิ้มกว้างๆ ให้อีธานวูบหนึ่งแล้วกลับไปพิมพ์งานต่อ

“นี่...”

“ครับ?”

“วันนี้ผมเห็นคุณโดนแกล้งเยอะมาก ถามจริงๆ นะ...ทำไมคุณถึงต้องยอมมากขนาดนั้น” อีธานฝ้ามองสีหน้าของอีกฝ่าย ดูปฏิกิริยาว่าภูริจะแสดงอะไรออกมาให้เขาเห็น และเมื่อได้ฟังคำถาม อีกฝ่ายก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ

“ผมโดนแกล้งบ่อยนะ บ่อยมาก แล้วที่ไม่สู้ก็เพราะว่าสู้ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ผมเป็นแค่ผู้น้อย...ถ้าหือก็เท่ากับสร้างศัตรู ทีนี้ก็จะทำงานยากขึ้นไปอีก คุณนึกออกไหม...สมมตินะว่าลูกค้าคุณคนหนึ่งมีปฏิกิริยาต่อคุณในด้านลบมากๆ หรือปากหมา พูดจาไม่ได้เรื่องแล้วก็กวนประสาทคุณโคตรๆ คุณจะด่าเขากลับไหม...จะว่าเขาหรือเปล่าว่าเขากำลังทำกิริยาแย่ใส่คุณอยู่ คิดว่าเขาเป็นลูกค้าที่มีอิทธิพลต่อคุณมากๆ ด้วยนะ” ภูริพูดเรื่อยเปื่อย ใช้ความรู้สึกมากกว่าสมองเพราะสมองเขากำลังจำประโยคที่ต้องพิมพ์ ส่วนคนที่ไม่ได้ทำอะไรอย่างอีธานก็ครุ่นคิดตาม

ถ้าเอาตามคำพูดของภูริ ลูกค้าคนนี้มีอิทธิพลต่อบริษัทมาก อีธานก็คงต้องยอมอ่อนข้อไปแล้วก็หาวิธีอื่นเข้าหา วิธีที่อ่อนโยนขึ้นแล้วตะล่อมให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีจะได้ไม่เกรี้ยวกราดใส่เขา ไอ้ลูกค้าเอาแต่ใจน่ะอีธานเข้าใจ แต่ลูกค้าที่แย่ขนาดนั้นเขายังไม่เคยเจอเท่าไหร่ คิดว่าถ้าเจอ...คงยอมนั่นแหละ เพราะถ้าไม่ยอมอ่อนข้อให้ก็เท่ากับสร้างปัญหาให้บริษัท เขาไม่รู้ว่าลูกค้าคนหนึ่งคนเนี้ยจะมีคอนเนกชั่นกับใครที่ไหนบ้าง คำว่าปากต่อปากมันใช้ได้กับทุกสังคมจริงๆ สร้างปัญหากับหนึ่งเจ้าเท่ากับสร้างปัญหากับอีกหลายๆ เจ้าเลย

“เงียบนี่คิดตามอยู่ใช่ไหมน้า...”

“ใช่”

“งั้นพอเข้าใจไหมครับ ว่าทำไมผมถึงไม่ตอบโต้”

“อืม แต่แล้วทำไมคุณไม่หาทางออกที่มันดีกว่าการยอมไปเรื่อยๆ ล่ะ ผมว่ามันต้องมีสักทางที่ทำให้คุณทำงานได้เหมือนคนอื่นแล้วก็ไม่ต้องโดนแกล้งอยู่แบบนี้” หวนกลับมาที่กรณีของภูริ อีธานคิดว่าคนอย่างภูริน่าจะมีทางออกดีๆ ให้กับปัญหาตัวเองได้ ส่วนทางไหนอันนี้เขาก็ไม่รู้หรอก

“เพราะผมไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่ชอบผมไง ผมก็เลยแก้ปัญหานี้ไม่ได้ เวลาเราจะแก้ปัญหาอะไรสักอย่างเราต้องหาจุดเริ่มต้นของปัญหาก่อนใช่ไหมครับ” ตอนนี้ภูริพิมพ์ได้ห้าหน้าแล้ว ใกล้ล่ะ...ความสำเร็จอยู่แค่เอื้อมเท่านั้น!

“ในผลการทำงานของคุณ คุณไม่ได้ค่าคอมพ์มาเป็นปีแล้วด้วยเหตุผลที่ว่าคุณทะเลาะกับลูกค้า คุณทะเลาะกับลูกค้าจนโดนสั่งห้ามออกไปทำงานข้างนอก” อีธานเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ท่าทางที่ผ่อนคลายมากขึ้นนี้มาจากเขาไม่โกรธเท่าไหร่แล้ว มีแค่สมาธิที่จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ภูริกำลังเล่า

เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของภูริคนเดียวก็จริง แต่มันอาจจะทำให้อีธานเห็นถึงปัญหาหลายๆ ด้านที่เขาไม่เคยสังเกตมาก่อนก็ได้ อย่างเรื่องยอดของยาที่มานั่งสนใจตอนรู้ว่าภูริไม่เคยออกไปเสนอขายที่ไหน โอทีภูริก็ไม่มี ความแปลกนี้ทำให้อีธานเริ่มสนใจที่จะเรียนรู้ปัญหา

“ฮ่าๆ ทะเลาะเหรอ...ผมดูเป็นคนหัวร้อนไหมล่ะ”

“ไม่” ภูริดูเป็นคนใจเย็นแล้วก็อารมณ์ดีอยู่เสมอ ขนาดมีปัญหาก็ยังยิ้ม ขนาดเขาโกรธก็ยังหามุกมาให้ตัวเองหัวเราะ คนแบบนี้ดูเป็นคนหัวร้อนตรงไหน?

“ใช่ ผมไม่ใช่คนหัวร้อน เพราะถ้าผมอารมณ์ร้อนออฟฟิตก็แตกไปนานแล้วล่ะครับ ส่วนที่มีการรายงานไปว่าผมทะเลาะกับลูกค้าจนเป็นเหตุให้ผมถูกกักตัวให้ทำงานแค่ออฟฟิตนี้ผมเพิ่งรู้ ช่วงที่เข้ามาทำงานใหม่ๆ ผมก็ออกไปขายของตามปกติเนาะ ตามหน้าที่ของตัวเอง ยอดขายจัดว่าดี แน่นอน..ผมเก่งมาก ฮ่าๆ แล้ว...ขายไปขายมาอีท่าไหนไม่รู้ หัวหน้าก็ไม่ให้ลูกค้ากับผม กลายเป็นงานเอกสารกับงานรับรองลูกค้าผ่านหน้าเว็บของเราเสียมากกว่า เอ...นี่มันเป็นการฟ้องหรือเปล่าเนี่ย” ภูริหยุดมือแล้วหันมามองหน้าอีธาน ตาที่ไม่ค่อยจะโตเท่าไหร่นั้นเบิกโพรงขึ้นนิดๆ เพราะเขากลัวว่าจะมีปัญหาตามมา

“ฟ้องมาเถอะ ผมไม่เคยฟังความข้างเดียวอยู่แล้ว” อยากจะร้องว่า...เหรอ หลายครั้งอีธานก็ฟังความข้างเดียวเถอะ ไม่เคยถามเหตุผลเขาหรอก

“คร้าบ ไม่ฟังความข้างเดียวคร้าบ”

“ประชดผมเหรอ?”

“นิดหนึ่ง แต่ช่างมันเถอะ ผมเล่าก็ได้ พอผมต้องอยู่แต่ออฟฟิตก็มีเรื่องเข้าหู ประมาณว่าคุณพิชัยถูกนินทาลับหลังว่าเป็นถึงอัลฟ่าแต่ผลงานสู้เบต้าอย่างผมไม่ได้ ไอ้ที่เข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้ได้คงจะเพราะเป็นญาติกับกรรมการบริหาร อันนี้ผมก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก งานนอกก็ยังมีประปรายแม้จะน้อยลงจนเหลือแค่สามสี่เจ้าเท่านั้น จนมาช่วงที่ผมเริ่มมีสาวๆ มั้ง...อันนี้คงไม่ได้ผิดกฎใช่ไหมที่ผมกินกับหญิงสาวในที่ทำงานเนี่ย”

“ผิด! ถ้าคุณกินกันที่นี่”

“แต่คุณกินผมที่นี่หนิ” ภูริหันมายิ้มล้อๆ แต่อีธานไม่ขำ

“ผมทำได้คนเดียว” เป็นการตัดบทที่น่าตบปากจริงๆ เลยให้ตาย

“คร้าบบบบบ ทำได้คนเดียว”

“เล่าต่อสิ” ภูริไหวไหล่เล็กน้อย

“มีคนหนึ่งเธอเป็นคู่หมั้นของหัวหน้าผมครับ ผมไม่รู้มาก่อนนะ ก็...ปกติที่อัลฟ่าสาวจะหาความสุขใส่ตัวเองกับชายหนุ่มเบต้าที่พวกเธอพอใจ มันก็ไม่ได้บ่อย นานๆ ครั้ง เรียกว่าอะไร...ฟรีเซ็กซ์มะ คงประมาณนั้นแหละ เราต่างมีความสุข จบ แล้วก็แยกย้าย แต่หลังจากที่ผมมีอะไรกับคู่หมั้นของหัวหหน้าได้สองสามครั้ง งานนอกของผมก็หมดลงไป พอผมถามเขาก็ไม่ตอบ กลายเป็นด่าผมเรื่องงานแทน...นับแต่นั้นมาผมก็ทำงานอยู่แค่ในนี้ มีโอทีบ้างแต่ก็...มันหายไป” ภูริพิมพ์งานใกล้เสร็จเต็มที มาถึงตรงที่คอมพ์มันดับแล้ว อีกนิดเดียวเท่าน้านนนนนน

“คุณไม่คิดจะเรียกร้องสิทธิ์ของคุณบ้างเหรอ ผมว่านี่มันเกินไปนะ...ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พอใจคุณแต่เขาก็น่าจะแยกแยะอารมณ์ส่วนตนกับงานออกจากกันสิ” พออีธานพูดมาอย่างนี้ภูริก็หัวเราะ

“คุณคิดว่าทุกคนเป็นเหมือนคุณหรือไงล่ะ นี่...คนที่สามารถควบคุมอารมณ์ส่วนตนโดยไม่เอามารวมกับงานได้ในบริษัทนี้น่ะมีแค่ไม่กี่คนหรอกนะครับ หรือคุณไม่รู้? อืม...ผมก็ไม่รู้ว่าคุณทำงานยังไงนะ หน้าที่ของคุณมีอะไรบ้างอันนี้ผมก็ไม่รู้จริงๆ แต่ทุกอย่างอะ...มันต้องเอาตัวเองลงไปอยู่ ต้องใกล้ชิดถึงจะรู้ ท้องน้ำที่เราเห็น...เราไม่รู้ว่ามันตื้นหรือลึก จนกว่าเราจะโดดลงไปนะ” โห! พูดโคตรดี เรารางวัลนักพูดดีเด่นมาที ภูริคนนี้จะเอาไปประดับหัวเตียงเลย เวลาล้มตัวนอนจะได้มองเห็นแล้วชื่นใจก่อนนอน

“อ่านจากหนังสือเล่มไหนมาเนี่ย” แล้วดูคนฟัง ไม่เชื่อว่านี่ออกมาจากสมองอันน้อยนิดของเขาซะงั้น

“ผมไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่น้องผมขอบอ่านนะ”

“เหรอ งั้นน้องคุณก็ฉลาดกว่า...”

“อ่านนิยายเกย์อะ ฮ่าๆ!” ภูริระเบิดเสียงหัวเราะออกมาไม่เกรงใจหูคนฟังเลยสักนิด ก็เขาขำนี่ นึกดูดิ...น้องเขานะขยันอ่านนิยายพวกนี้มากกว่าหนังสือเรียนอีก ดีอย่างที่ไม่บ้าตามเก็บเล่ม อ่านแค่ในเว็บ ถ้าเก็บเล่มด้วยเขาคงจะยิ่งกว่าจนเสียอีก

“ไอ้บ้าเอ้ย คุณกับน้องคุณนี่ไม่ต่างะไรกันเลยนะ มีแต่เรื่องไร้สาระในชีวิต เพราะแบบนี้พวกคุณถึงยังอยู่แค่ที่เดิม หัดถีบตัวเองไปให้ไกลกว่าเดิมบ้างสิคุณ อย่างเรื่องที่คุณโดนหัวหน้าไม่ให้ออกงานนอกนี่คุณก็เรียกร้องสิทธิ์บ้าง มันคือรายได้ของคุณนะ แล้วโอทีเนี่ยคุณได้มันบ้างหรือเปล่า ต้องมานั่งทำงานงกๆ แต่รายได้เท่าคนทำงานสบายๆ มันไม่แฟร์เลย” อีธานพอรู้หลายอย่าง แต่ก็หลายอย่างที่เขาเลือกจะไม่พูด

อย่างงานตอนนี้ที่ภูริทำเขาก็รู้ว่ามันไม่ใช่ของภูริ เขาไม่เอ่ยมันขึ้นมา ไม่ยกประเด็นนี้เพราะลองดูว่าภูริจะพูดมันขึ้นมาไหม แต่ภูริไม่พูดเลย เขาขายคนอื่นน้อยมาก มีแต่เรื่องตัวเองกับความไม่เข้าใจมุมของตัวเอง ไม่ใส่อารมณ์ในคำที่เล่า อีธานไม่รู้ว่ากำลังฟังภูริฟ้องความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น แต่ภูริแค่เล่าเรื่องตัวเองให้เขาฟังมากกว่า

อีกอย่าง...เขาไม่เห็นว่าภูริจะเครียดกับมัน

“เรื่องที่คุณว่าไร้สาระมันอาจเป็นสีสันที่แสนสดในชีวิตของคนอื่นก็ได้นะ แต่ละคนก็มีวิธีผ่อนคลายต่างกันใช่ไหมล่ะ คุณชอบอ่านหนังสือวิชาการ ผมชอบดูตลก แล้วไงอะ...เราก็ทำเพื่อคลายเครียด จริงจังชีวิตมากระวังตายก่อนได้ใช้ชีวิตนะคุณ แค่นี้ก็เครียดอยู่แล้ว อ่า....เสร็จแล้วโว้ย!” ชูสองแขนขึ้นฟ้าแล้วกำหมัด เย้!

“มองโลกแง่ดีกับโง่มันแค่เส้นบางๆ นะ”

“ผมเป็นคนโง่” เซฟงานให้ไวเลยมึงเอ้ย เดี๋ยวกุ๊กกู๋ตัวไหนเดินมาเตะสายไฟคอมพ์ดับอีกร้องไห้ตายหงเลย

อีธานมองดูภูริยิ้มอย่างมีความสุข เป็นความสุขง่ายๆ ที่มาจากการเคลียร์งานในส่วนนี้ของตัวเองเรียบร้อย เขารู้ ภูริมักหาความสุขจากอะไรก็ตามรอบตัว แต่เขาก็แอบคิดนะ...ถ้าทนแล้วมันลำบากขนาดนี้ต้องทนทำไม

“คุณเคยคิดจะลาออกไหม ที่ใหม่อาจจะดีกว่าที่นี่”

“คุณจะไล่ผมออกเหรอ?” ภูริที่กำลังดีใจกับงานเสร็จหันมามองหน้าอีธาน มันราบเรียบและเต็มไปด้วยความงงงวย

“ผมแค่สงสัย เท่าที่ฟังมาก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีเลย ทนไปทำไม”

“เฮ้อ...คุณคงไม่เคยอดทนอะไรสินะ ผมเคยคิดจะลาออก เคยอยากหนีตรงนี้ไปเหมือนกัน แต่ลองคิดดูอีกที สังคมมันก็เป็นแบบนี้ หนีจากที่นี่ก็ต้องไปเจอที่อื่น ไปปรับตัวใหม่ ทำความเข้าใจใหม่ เหนื่อยอยู่ดี อีกอย่างที่สำคัญเลย ผมศึกษาสวัสดิการหลายๆ บริษัทแล้ว ไม่มีที่ไหนเหมาะเท่าที่นี่ การที่ผมสามารถซื้อยาในราคาพนักงานได้มันช่วยผมได้เยอะเลยนะ ประกันสังคมเองก็ครอบคลุมได้ถึงครอบครัวด้วย ที่อื่นๆ อะหายากมากเลยนะคุณ ผมก็เลยทนน่ะ” ภูริยิ้มบางๆ ให้กับตัวเอง และนั่นก็คือเหตุผลจริงๆ ที่เขาทนอยู่ทุกวันนี้นั่นแหละ

อีธานมองดูภูริจัดการกับงานและเอกสารบนโต๊ะตัวเองเงียบๆ พออะไรเรียบร้อยอีกฝ่ายก็เอาเป้ราคาถูกสะพายบ่า ภูริส่งยิ้มให้เขา ยิ้มแห่งชัยชนะอะไรเถือกๆ นั้นแหละ แค่เคลียร์งานเสร็จนี่มันน่าภูมิใจขนาดนั้นเลยเหรอ

“หิวเนอะ คุณเลี้ยงข้าวหน่อยสิ”

“ผมมานั่งรอคุณแล้วยังต้องเลี้ยงข้าวคุณอีกเหรอ? เงินล่ะไปไหนหมด”

“จ่ายค่ารักษาน้องหมดแล้วล่ะ อิอิ” ยิ้มตาหยี จะขอเขากินทั้งทีก็ต้องอารมณ์ดีเข้าไว้ นี่อุตส่าห์หน้าด้านขอเลยนะเว้ย แต่อย่างว่า...ปากท้องต้องมาก่อน หน้าบางมาทีหลังเนอะ

“ถ้ามันไม่มีทำไมไม่บอกผมล่ะ” อีธานเดินนำไปที่ลิฟต์ เขาเผลอเสนอความช่วยเหลือให้กับภูริโดยไม่ทันคิด แต่คิดอีกที...ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เงินแค่นั้นไม่ได้กระเทือนอะไรเขาเท่าไหร่

“ผมไม่อยากกเดือดร้อนใครนะ เลี้ยงข้าวผมนี่ก็เป็นบุญคุณท่วมหัวแล้ว”

“ผมเลี้ยงคุณหลายรอบมาก ป่านนี้บุญคุณของผมคงท่วมตัวจนคุณใช้ไม่หมดแล้วล่ะ” อีธานก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นบุญคุณอะไรหรอก

“นั่นสิเนอะ เอาเป็นว่า...ผมจะพยายามหามาใช้นะครับ” ทั้งคู่เดินเข้าลิฟต์ อีธานกดหมายเลขชั้นล่างสุดก่อนจะหันมามองรอยยิ้มของภูริ

“ไม่ต้องหรอก ถือว่าเป็นค่าตัว” ได้ยินงี้แล้วเจ็บจี๊ด

“แบบที่คุณปุ้ยเขาทำไง...” เจ็บซ้ำรอบสอง เหมือนโดนแดกดัน นี่ค่าตัวเขามีค่าแค่อาหารมื้อต่อมื้อหรือไง

“ตามนั้น” แต่ภูริก็ไม่ได้มีอะไรเอาไปเถียง ข้าวมื้อหนึ่งก็ต่อชีวิตใช่ไหมล่ะ งั้นก็คุ้มค่าก็ได้...ฟินด้วย อิ่มด้วย แฟร์ดี

ภูริรู้ว่าคำพูดของอีธานนั้นร้ายกาจ เหมือนโดนดูถูกประมาณนั้น แต่เขากลับรู้สึกว่าอีธานก็แค่ประชดพอไม่พอใจที่เขาไปอะไรๆ กับคนอื่น ไม่งั้นจะยกประเด็นคุณปุ้ยขึ้นมาทำไม ถ้าแค่จะหยามเขาอะ...ไม่ต้องเอาคนอื่นมาเกี่ยวเลยด้วยซ้ำ จริงไหมล่ะ

โอเค ผัวชั่วคราวงอนก็ต้องง้อ อาจจะคืนนี้? หรืออีกไม่กี่นาทีนี้ในรถดีล่ะ? ค่ำคืนนี้บนเตียงคงจะดีกว่าเพราะว่าตอนนี้เขาหิวแล้วเขาก็ไม่มีแรง ขาอ่อนไปหมดแล้วจ้า อีธานมาเห็นเขาตอนนั่งทำงานสบายๆ ก็จริง แต่เมื่อบ่ายเขาก็เดินว่อนไปเกือบทั่วบริษัทเพื่อส่งงานเจ้านั้นบ้าง เจ้านี้บ้าง บางส่วนไม่ได้เกี่ยวอะไรกับแผนกเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ก็นะ...เขาขอให้ช่วยเขาหน่อย ภูริก็เลยช่วย

เคยดูฟ้ามีตาไหมล่ะ คนทำดี สักวันก็ต้องได้ดี แค่สักวันนั้นมันนานหน่อย แล้ว...ทำไมคนทำดีต้องโดนแกล้ง ง่ายๆ มารมันชอบพจญยังไงล่ะ ก็คิดเสียว่ามันเป็นอุปสรรคขำๆ ที่เข้ามาในแต่ละวันของชีวิต

ติดอยู่อย่าง...ไอ้การแกล้งด้วยการลวนลามนี่ไม่โอเควะ!

วันนี้โดนขู่กัดคอไปกี่คนแล้วนะ? ภูริไม่ได้จำ รู้แต่คนที่เข้ามาแตะนู้นนิดแตะนี่หน่อยก็เอาแต่พูดทำนองนี้ ว่ากลิ่นฟีโรโมนของเขาฟุ้งบ้างล่ะ ไอ้ส่วนกลิ่นอะไรนั่นเขาไม่รู้เพราะไม่ได้กลิ่นตัวเอง แต่เชื่อว่ายาต้านมีผลต่อเขาได้ไม่เต็มประสิทธิภาพของมันหรอก ภูริติดใจแค่ขู่กัดคอ พวกมันเป็นแวมไพร์เหรอ...เอะอะจะกัดคอกันท่าเดียว สงสัยหิวมาก ซื้อลาบเลือดให้เอาไหหม

“นี่เดินดูทางบ้างสิ เอาแต่เดินเหม่ออยู่ได้ เกิดมีทงมีท่อตกลงไปเดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก” ไม่พูดเปล่า อีธานเอามือโอบเอวที่เล็กกว่าของภูริเอาไว้แล้วลากให้หลบกรวยที่เอาไว้กั้นทางวิ่งของรถ ภูริก็เดินตามไปง่ายๆ ไม่ดีดดิ้นเพราะนี่ไม่ใช่ช่วงเวลาเล่นตัว

มันเลยจุดนั้นมาแล้วคุณเอ้ย!

“ถ้าโดนกัดคอแล้วผมจะไม่สามารถมีอะไรกับคนอื่นนอกจากคนที่กัดคอเราได้ใช่ไหม” ภูริถามขึ้น ขัดกับการเตือนของอีธาน

“ใช่สิ คุณไม่เคยเรียนเกี่ยวกับโอเมก้ามาก่อนเหรอ ตอนนี้คุณกลายเป็นโอเมก้าแล้วนะ คุณต้องเรียนรู้เอาไว้บ้างว่าชนชั้นนี้มันมีอะไรที่ต้องระวัง ยาต้านที่ผมให้กินก็กินบ่อยๆ ลองสังเกตคนรอบข้างดูว่าเขามีปฏิกิริยาอะไรกับเราไหม เพราะส่วนใหญ่แล้วโอเมก้าไม่ค่อยได้กลิ่นของตัวเองหรอก ฮีตขึ้นมาบางทียังไม่รู้ตัวเองเลย ระวังเถอะ...จับคู่มั่วซวยทั้งชีวิตนะคุณ”

“แล้วทำไมคุณไม่กัดผมไปให้รู้แล้วรู้รอด” ภูริเงยหน้ามองอีธาน เล่นตัวสูงกว่าเขานี่

ตอนที่เล่นชักเย่อกันก็มาอาการคล้ายกับอยากจะขบ อยากจะกัดร่างกายของเขาอยู่เสมอ แต่อีธานก็ไม่เคยทำแบบนั้นกับภูริ อาจจฝังเขี้ยวลงบนไหล่บ้าง ไหปลาร้าบ้าง แต่ไอ้หลังคอจุดสำคัญเนี่ยอีธานไม่ได้แตะต้องเลยนอกจากเลียให้จั๊กจี้เล่น

“ยาแก้คู่แท้มันทำได้เพราะฮอโมนบางอย่างในร่างกายเรามีปฏิริยากับคู่ของเรา ยาแก้จะเปลี่ยนส่วนนั้น ทำให้ปฏิกิรยาของฮอโมนที่จูนเข้าหากันติดนั้นแยกออกจากกัน แต่คุณก็ยังเป็นโอเมก้า การวิจัยของเรายังไม่ก้าวหน้าพอที่จะสร้างยาเพื่อรักษาโอเมก้าที่โดนจับคู่แล้ว” ฉิบ...มีใครเขาใจไหม ภูริไม่เข้าใจ ภูริขาดสารอาหารไปเลี้ยงสมอง

“คู่แท้มันเป็นได้ยังไงอะ”

“ก็เกิดจากฮอโมนไง...”

“ฮอโมน...”

“อย่าถามว่าฮอโมนเกิดจากอะไรนะ เพราะถ้าคุณถาม ผมจะโยนหนังสือให้คุณหนึ่งเล่ม แล้วให้คุณไปหาคำตอบมันเอาเอง” หนังสือเนี่ยนะ เอามาเป็นยานอนหลับเขาหรือยังไงละ เบะปาก...ชิ!

อีธานปล่อยมือจากเอวของภูริเมื่อเดินมาถึงรถ เขาปลดล็อกแล้วต่างคนต่างก็เดินเข้าไปนั่งประจำที่ ภูริเอากระเป๋าตัวเองวางไว้ตรงพื้น เอาเข็มขัดนิรภัยมาคาดก่อนจะเอนกายแล้วหลับตาลง

สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขานั้นเป็นอะไรที่ยากเกินทำความเข้าใจจริงๆ สารเคมีที่รั่วในวันนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมได้ มันเปลี่ยนที่ตรงไหน ฮอโมน หรือยันรหัสพันธุกรรม ภูริเรียนมาน้อย ไม่ใช่นักวิทด้วย...คิดวิเคราะห์แบบนักวิทไม่เป็นหรอก แต่จากสรุปคำพูดของอีธาน ยาแก้ที่จะสร้างนั้นแค่ปรับเปลี่ยนฮอโมนที่ตอบสนองกันในคู่แห่งโชคชะตา แค่นั้น...แก้อะไรที่ลึกลงไปมากกว่านั้นอย่างการจับคู่ผูกมัดไม่ได้

ถ้างั้น...การที่อีธานไม่ยอมกัดก็เพื่อตัวเขาเองสินะ

….100%….

ขอโทษที่หายไปนานค่ะ อะไรที่มีคนแนะนำไว้จะเอากลับไปแก้ไขปรับปรุงนะคะ ส่วนเรื่องของการอัป จะพยายามมาถี่กว่านี้ค่ะ ขอโทษอีกครั้งที่ทำให้รอนะคะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ดีที่เค้าคุยกันมากขึ้น

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
อีธานจะรักษาภูริทำไมคะTT

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด