>>อุบัติรักฟีโรโมน<< Omegaverse - ตอนพิเศษ ขำๆ วันช๊อต [28-05-62]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >>อุบัติรักฟีโรโมน<< Omegaverse - ตอนพิเศษ ขำๆ วันช๊อต [28-05-62]  (อ่าน 245109 ครั้ง)

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อีธานจะจัดการไงดีนะ หึหึหึ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ในที่สุดท่านประธานก็ได้ข้อมูลที่เป็นความจริงสักที  :hao5:

ออฟไลน์ Ta_ii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อีธานรู้เรื่องแล้ว ขอวิธีจัดการพวกนั้นให้สะใจหน่อยนะนักเขียน เราแค้นแทนภูริมากเลย :katai4:

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
จัดการหนักๆไปเลยจ้า

ออฟไลน์ Naamtaan22

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
THANK YOU  :mew1:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ยุ่งของมาก ซับซ้อนมากด้วย
นี่ใช่ไหมคนที่ไม่สนใจโอเมก้า
แต่ทุกอย่างที่ทำ และเปลี่ยนไป เพราะภูริ

ภูริเป็นคนคิดค่อนข้างบวกเลยล่ะ
ทนทำใจผ่านหลายอย่างมาได้ขนาดนี้
ทั้งเรื่องแม่ เรื่องน้อง เรื่องงาน เรื่องเงิน
ทุกอย่างคือพังมาก แต่สู้มากเหมือนกัน

อีธานทำให้เห็นผลนะ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เราชอบนิยายของคุณguนะสู้ๆ รออ่านเสมอ โอ๊ยอีธานรู้งานแล้วอย่างนี้ต้องจัดหนัก

ออฟไลน์ pan19891990

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนแรกเราเองก็แอบขัดใจกับนิสัยของภูริเหมือนกัน แต่พออ่านมาเรื่อยๆเรากลับชอบcharacter ของนาง เหมือนกับที่ความเห็นข้างบนๆบอกว่าการที่ภูริเป็นแบบนี้ทำให้หลายๆคนรักนางชอบนาง  และทำให้อีธานเริ่มคิดที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่าง เพราะถ้าภูเป็นคนไม่ยอมคนเรื่องก็คงไม่ดำเนินมาแบบนี้ เราชอบนิยายเรื่องนี้มากๆ ส่วนตัวคิดว่าคุณคนเขียน ทำได้ดีแล้วค่ะ เป็นนิยายแนวomegaverseที่เราชอบมากที่สุดเลย เราว่านิยายเรื่องนี้ดูตรงกับชีวิตจริงแค่อยู่ในโลกของomegaverseเฉยๆ
เป็นกำลังใจให้นะคะ รอติดตามตอนต่อไปค่ะ  :impress2:

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
เหมือนอีธานจะดีขึ้นนะ ใส่ใจคนอื่นมาขึ้น

ออฟไลน์ Konzen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ คุณอีธานต้องปกป้องคุณภูริด้วยน้า TT
ขอให้คุณอลันมีคู่เป็นโอเมก้า จะได้เปลี่ยนความคิดและเราจะได้ลุ้นด้วย อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
:hao7: :hao7: :hao7:อ่านความเห็นแล้วอดไม่ได้ 

ความรู้สึกของคนอ่านก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนจริงๆ  บางคนเป็นคนสู้คนก็จะไม่ชอบคนแบบภูริที่เอาแต่เงียบ ไม่แก้ตัว

คหสต ลองมาคิดดูค่ะ พื้นเพครอบครัวของภูริไม่ได้เอื้ออำนวยให้ภูริเป็นคนยอมหักไม่ยอมงอ ถ้านางเป็นคนแบบนั้นนางก็คงเริ่มตั้งแต่ในบ้านกับแม่ตัวเอง เรื่องราวมันคงเปลี่ยนไปภูริก็เป็นอีกแบบหนึ่งไปเลย  สำหรับเรามองว่าการมองโลกในแง่ดีของภูริเป็นกลไกการป้องกันตัวแบบหนึ่ง(เห็นในคหข้างบน) มันทำให้ภูริเป็นที่รักของคนส่วนใหญ่(ที่ไม่ได้หมั่นไส้นาง)  ถ้าหากว่าภูริเป็นคนสู้คน ผลกระทบอีกแบบหนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นก็คือคนจะคิดว่าภูริเป็นตัวปัญหา สร้างปัญหา(เพราะนางจะมีปัญหากับชนชั้นบริหารบ่อยไปเลยค่ะ)

อีกทั้งคีย์เวิร์ดของเรื่องนี้คือสภาพสังคมแบบโลกของโอเมก้า ที่มีการแบ่งชนชั้น เหยียดชนชั้นกันอย่างรุนแรง  อย่างแนวคิดของอลันนั้นเราเข้าใจว่าเป็นแนวคิดทั่วไปของชนชั้นอัลฟ่า ชนชั้นที่เกิดมาพร้อมกับอำนาจในมือ อลันเองก็ไมไ่ด้คลุกคลีกับโอเมก้าหรือเบต้าแบบใกล้ชิด(อย่างน้อยก็ยังไม่ได้เห็นในเนื้อเรื่อง) แนวความคิด การกระทำของอลันคือแบบอย่างที่เป็นไปตามสภาพของสังคมในเรื่องนี้ (เท่าที่เราอ่านมานะคะ)  อย่างอิธานเองถ้านางไม่โอเคด้วย อัลฟ่าแบบวิชุตานางยังไม่ปรายตามองเลย

เรากำลังรู้สึกว่าเนื้อเรื่องกำลังมีการเปลี่ยนแปลง อิธานเริ่มให้มีการสืบข้อมูลแล้ว อ่านๆมาอาจจะรู้สึกอะไรๆมันเกิดช้ามากๆ เราไม่แน่ใจว่าตั้งแต่เกิดเรื่องในลิฟท์มาจนทุกวันนี้เวลาผ่านมาเท่าไหร่แล้วเพราะว่าในเรื่องไม่ได้ระบุเท่าไหร่อันเป็นปกติของเรื่องนี้ที่ให้คนอ่านเดา/ตีความเอาเอง

คุณนักเขียน ซีอีโอคนอื่นๆน่าจะเรียกว่า กรรมการบริหาร หรืออะไรไหมคะ ปกติ ซีอีโอแต่ละที่จะมีคนเดียวไหมเอ่ย?

ป.ล ขอให้อิธานไล่อลันออกเถอะค่ะ ไม่ก็ขอให้มันโดนสารกลายพันธ์ไปบ้าง เผื่อจะรู้สึกตัวขึ้นมาบ้าง




ชอบความคิดเห็นนี้อ่ะ
แบบถ้าภูริยอมหักไม่ยอมงอ คงจัดดารกับบ้านตัวเองไปแล้ว และหลายๆคนก็เอ็นดูคาแรตเตอร์แบบนี้
.
โดยเฉพาะ เกลียดนิสัยแบบอลันมากก อยากให้ลองมายืนจุดนี้ที่เป็นโอเมก้าบ้าง เหมือนอัลฟ่าห่วยแตกที่โลกแคบ คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่ แบบทีอัลฟ่าไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงอะไรหรอกนะ   แค่มันไม่ฮีตทุกเดือนเหมือนโอเมก้าไง   บางทีโอเมก้าอาจฉลาดกว่าแต่ถูกจำกัดด้วยร่างกายแบบนี้ เหมือนคนเป็นประจำเดือนอ่ะ มี่แม่งปวดท้องทุกเดือนจนต้องหยุดทุกกิจกรรม และโอเมก้าร่างกายมันเป็นอะไรที่เลวร้ายกว่านั้น
.
อิธาน  นายใกล้บทความพระเอกล่ะ 5555 :katai2-1:

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
ความจริงแล้ว บริษัทของอีธานต้องรับผิดชอบในเรื่องของสารเคมีจากห้อง Lab
ที่รั่วไหลจนทำให้ภูริเปลี่ยนจากเบต้าเป็นโอเมก้า มันส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของภูริโดยตรงเลย

 o13

ออฟไลน์ Hnggnh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนนี้แซ่บเว่อร์ น่าติดตามเหมือนเดิม อีธานออกโรงแล้วได้ขจัดพวกตัวปัญหาด้วย ความรู้สึกเราคือ เราชอบนิสัยของภูรินะคะ บางทีมันก็มีคนนิสัยแบบนี้อยู่แล้วอะคะ ไม่สู้ก็ไม่ได้แพ้นี่เนอะ เพราะในด้านจิตใจนี่ชนะไปแล้ว เล่อกที่จะมองโลกในอีกแบบ พวกที่ดิ้นก็คงเป็นพวกแบบพิชิต ในความรู้สึกคือภูริโคตรจะเท่ รักความคิดภูริมากคะ สู้ได้นะ เอาเรื่องไปบอกอีธานก็ได้ร้องเรียนคนแผนกอื่นก็เป็นพยานได้ แต่เลือกจะจัดการความรู้สึกตัวเองแล้วย่อยมันออกในทัศนคติที่ดี ที่เราคิดคือคอมเม้นต์มันก็ส่วนนึงอะเนอะ เอาที่คนแต่งอยากให้เป็นดีที่สุดคะ เพราะยังไงคนอ่านก็เป็นกำลังใจและแสดงออกความคิดเห็นส่วนนึง แต่ที่สำคัญที่คนอ่านเสพคือความคิดของนักเขียนคะ สู้ๆนะคะ เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดคะ เป็นกำลังใจให้เสมอคะ  :-[ :กอด1:

ออฟไลน์ MR.J

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อีธานเก็ทแล้วก็รีบจัดการเลยนะเพราะมันเฟะมากตอนนี้ปล่อยไว้ต่อไปไม่ได้แล้ว

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ส่วนตัวว่านิสัยแบบภูรินี้มีจริง  ความอัตคัตยากจนไม่ได้ทำให้เกิดการปกป้องผลประโยชน์อย่างเข้มข้นเสมอไป บางครั้งทำให้เกิดการปล่อยวางเพราะป่วยการที่จะดิ้นรน และบ่อยครั้งที่เราจะเห็นการทำบุญการบริจาค จากคนที่มีฐานะด้อยกว่าในสังคม  และเห็นความงกความเห็นแก่ตัวในผู้มีอันจะกิน

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชนชั้นล่างไม่เรียกร้อง  คือเขาไม่เห็นช่องทางหรือเรียกร้องไปก็เหนื่อยเปล่า  ดีไม่ดีถูกเก็บ... การถูกเก็บ การถูกปิดปากมีจริงในสังคมขณะนี้  ไม่ต้องพูดไปถึงโลกของโอเมก้าเวิร์สที่การเหยียดรุนแรงกว่ามาก
นั่นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผู้บริหารเบื้องบนต้องเรียนรู้ในการใส่ใจลูกน้องระดับล่าง ต้องเป็นผู้มีธรรมาภิบาล
การประเมินลูกน้องรายบุคคล(ระดับล่าง)  ผู้บริหารระดับสูงไม่ได้มีหน้าที่มาตรวจสอบค่ะ ทำแค่เซ็นอนุมัติ ถ้ามีข้อสงสัยทีม HRจะให้เครดิตในคำตอบของหัวหน้า

เป็นกำลังใจให้ผู้แต่งค่ะ  คิดว่าไม่ต้องปรับปรุงอะไร  แก้ไขแค่คำผิดก็พอค่ะ

ออฟไลน์ Kumamon_Kung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ในที่สุดอีธานก็รู้สักที!!  :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
จัดการเลย   :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ awfsp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
จัดการมันให้หมด อย่าปล่อยให้เค้าลวนลามเมียแบบนั้นนะท่านประธาน

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
รอนะ

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 :katai4: :katai4: :katai4:
ไรท์.. รอนะคะ.. รีบมาน้าาาา..  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sweetie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ลำไยภูริอ่ะ อะไรก็ช่างมัน ปล่อยผ่าน ไม่พูดอธิบายปกป้องตัวเองเลย เอาแต่คิดนั่นคิดนี่ แล้วก็คิดไปเอง :z6:

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
อีธานก็จัดการสะทีม่ะ รำคานล่ะน่ะ
เหนมั้ยว่าภูริน่าสงสารแค่ไหน

ออฟไลน์ MinorMa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
คนเขียนแต่งดีมากเลยอ่ะ เข้ามาอ่านรวดเดียวจบเลย สนุกมากกกก มาต่อตอนต่อไปเร็วๆน้า

ออฟไลน์ lemonphug

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ถึงภูริจะไม่เต็ม แต่เราก็อยากให้มีคนดูแล

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
รอดูว่าอีธานจะจัดการเรื่องนี้ยังไง

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>....ตอนที่ 25 [100%]....<

อีธานสั่งให้ลูกน้องของเขาเฝ้าจับตาดูต่อไป เก็บเกี่ยวคำพูดและการกระทำของเหล่าพนักงานเอาไว้ให้มากที่สุดแล้วทำรายงานอย่างละเอียดเพื่อส่งให้เขา ทุกคนขานรับเป็นอย่างดี ถ้าจะบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันกระทบอะไรบริษัทตรงไหน...แน่นอน มันเยอะทีเดียว ทั้งภาพลักษณ์บริษัท คุณภาพคนและที่สำคัญ...มันผิดกฎ

อีธานจะไม่มานั่งนึกว่าตัวเองผิดกฎที่ทำอะไรรุ่มร่ามในบริษัทตัวเอง จะว่ายังไงก็ช่าง เรื่องของเขาเป็นเรื่องยกเว้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์ได้รับอภิสิทธิ์เทียบเท่ากับผู้บริหารอย่างเขาเด็ดขาด อีกอย่าง...ดูยังไงคนที่โดนกระทำก็ไม่ได้เต็มใจ!

จัดการงานตัวเองเรียบร้อยเขาก็ไม่รีรอที่จะลงไปหาภูริ วันนี้เขามีนัดทานอาหารค่ำกับลูกค้าแต่เขาได้ขอยกเลิกไปตั้งแต่เช้าโดยอ้างว่าติดธุระสำคัญ ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ได้สำคัญถึงขนาดนั้นหรอก เขาแค่จะพาภูริไปรับน้องสาวกลับบ้านเท่านั้นเอง

แผนกของภูริยังมีคนทำงานอยู่หลายคน อีธานมองเห็นร่างโปร่งของภูริตั้งแต่ประตูลิฟต์เปิดออก อีกฝ่ายกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารพร้อมกับพิมพ์บางอย่างลงคอมพ์ด้วยความไว อีกฝากหนึ่งมีคนกำลังเดินผ่านโต๊ะของภูริ อีธานไม่ได้ให้ความสนใจเพราะเขากะว่าจะตรงเข้าไปหาภูริอย่างเดียว

ทว่า...ไอ้คนคนนั้นดั้นเตะปลั๊กของภูริจนมันหลุด!

“เฮ้ย!” ร่างโปร่งเด้งตัวด้วยควาวมตกใจขั้นสุด

ทำไมเหรอ...เดาสิทำไม เดาได้ไหม ไม่ได้จะเฉลยให้ฟัง ก็คอมพ์ที่กำลังคีย์งานด้วยความเร่งรีบมันดับไปต่อหน้าต่อตา ดับไปโดยที่ยังไม่ได้กดเซฟเลยน่ะเซ่! โอ้มายก๊อด ร้องไห้ ร้องไห้หนักมาก ภาษาอังกฤษล้วนๆ ด้วยที่ต้องพิมพ์

“โทษทีนะ...นายวางปลั๊กเอาไว้ไม่ดีเอง” ไม่ดีบ้านมึงอะ กูวางไว้ที่เดิมที่มันก็อยู่ของมันดีๆ อย่างนั้นทุกวัน มันไม่มีทางมีขาแล้วกระดื้บเดินไปขวางเท้ามึงได้ไอ้ฟาย! ความในใจนั้นเกรี้ยวกราดขัดกับรอยยิ้มเจื่อนบนใบหน้ามาก

ก็รู้ว่ามันตอแหล แล้วมันตอแหลเพราะอะไร? เพราะต้องการแกล้งเขาไง ถ้าเขาดีดดิ้นก็เข้าทางมันดิ เรื่องไร นิ่งได้ก็นิ่งเอาไว้ ภูรินั่งขยับไปเสียบปลั๊กทุกอันให้เข้าที่เหมือนเดิมแล้วเดินกลับมานั่งเปิดคอมพ์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่มองหน้าไอ้คนแกล้งเขาด้วย พวกนี้แหละที่เรียกว่าไอ้กระจอก...ไอ้ห่วยที่ไม่มีปัญญาหาผลงานให้ตัวเองได้ก็เลยต้องมาแกล้งคนที่สู้ไม่ได้อย่างเขา

แน่จริงมึงตัวตัวกะกูปะล่ะ!

อยากตะโกนแบบนี้ใส่หน้าแม่งฉิบเป๋งเลย แต่ทำไม่ได้ ขืนทำก็เกิดเรื่องอีก...รับรองว่าเรื่องนี้จะลากยาวไปถึงสี่ห้าร้อยหน้าเอสี่แน่ๆ และเชื่อดิ คนเขียนมันขี้เกียจ บ้าเหอะ...นี่เขาคิดบ้าอะไรกันนะ เหตุผลง่ายๆ ของภูริน่ะมันก็แค่...ไม่อยากมีปัญหามากไปกว่านี้

คิดว่าเขาไม่รู้เหรอว่าที่วันนี้เขาโดนแกล้งรุนแรงขึ้นนั้นเป็นเพราะอะไร เพราะวันก่อนเขาหักหน้าพิชัยด้วยการจะไปลางานกับท่านประธาน แล้ววันนี้ก็ยังจะไปควงคู่หมั้นหัวหน้าเพื่อไปกินอะไรๆ ใต้สะดือกันอีก ปัญหามันเกิดเพราะเขาใช่ไหม...หรือมันเกิดเพราะพิชัยไม่ชอบขี้หน้าเขาอยู่แล้ว

อะอะ...ไม่ต้องตอกย้ำนะ เขารู้ว่าคำตอบน่ะมันข้อหลัง เขาไม่ได้ผิดอะไรอยู่แล้วนี่ กับคุณปุ้ยก็กินกันมาหลายรอบแล้ว ที่พิชัยไม่พอใจมันก็เป็นมานานแล้ว อาจจะเพราะกลายเป็นโอเมก้าก็ได้...อะไรๆ มันก็เลยเข้าทางไอ้พวกเวรนั้นมากขึ้น

ก่นด่าในใจอยู่ครู่หนึ่ง ไอ้แขนที่เขาได้ถกเสื้อขึ้นจนมาถึงข้อศอกก้เกิดเหตุการณ์ผิดปกติ มีมวลสารพลังงานบางอย่างกำลังแผ่ซ่านแล้วขนก็ดันลุก! ภูริรู้คร่าวๆ ว่าคงเป็นคนนั้นที่กำลังมา ช่างเถอะ...เอางานก่อนเว้ย!

แต่คนที่ไม่คุ้นชินกับอีธานนั้นหันขวับไปมอง ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นกำลังจับจ้องมาที่ตนเองราวกับจะด่าทอที่ตนเองนั้นได้รังแกคนของท่านประธาน แต่คนเราอะ ถ้าไม่มีหลักฐานมาแบจะจะมันก็ไม่มีทางยอมรับหรอก มันเลยรีบก้มหน้าแล้วสาวเท้าหนีไปอีกทาง ปล่อยให้อีธานเดินไวๆ เข้ามาที่โต๊ะของภูริ

“กลับบ้าน” มาถึงโต๊ะไม่พอ มาออกคำสั่งด้วย ภูริส่ายหน้าโดยที่ไม่ได้ละสายตาจากจอคอมพ์

มาแล้วเว้ยมาแล้ว...ภูริรีบเปิดโปรแกรมที่เขาใช้ทำงานทันที เอกสารยังวางอยู่บนโต๊ะแล้วเขาก็ไม่รีรอที่จะคีย์งานเข้าไป คือ...เขาก็อยากกลับบ้านไปพัก แต่ที่มันไปไม่ได้เพราะงานนี่แหละ ถ้าทิ้งงาน พรุ่งนี้งานจะเยอะขึ้น บวกกับที่เหล่าคนบ้าอำนาจโยนมาให้อีก ทีนี้ละมึงเอ้ย...งานตัวเองไม่เดินแน่นอน

แต่เมื่อกี้อะ เขาพิมพ์จนมันใกล้เสร็จแล้วนะเว้ย เหลืออีกแค่ไม่กี่หน้าก็สามารถเซฟแล้วกลับบ้านได้ย่างสบายใจ โฮ...ร้องไห้ ขอร้องไห้ดังๆ เลยได้ไหม นี่ต้องมานั่งพิมพ์ใหม่ สิบกว่าหน้า บ้าไปแล้ว เหนื่อยก็เหนื่อย หิวก็หิว...แล้วนี่อะไร ยักษ์วัดแจ้งเหรอ?

“ผมบอกให้กลับบ้าน” น้ำเสียงไม่พอใจของอีธานทำเอาภูริสะดุ้งเล็กน้อย อย่า...เขากลัวแล้ว แต่ทิ้งงานไม่ได้จีจีนะ

“ไม่ได้ครับ ผมต้องทำงานก่อน เมื่อครู่คอมพ์ดับเลยยังไม่เสร็จ” ภูริพูดโดยไม่มองหน้าอีกฝ่าย เขากำลังอ่านแล้วท่องจำก่อนจะพิมพ์มันลงไปในหน้ากระดาษสีขาว เห็นบ้างไหมว่าตอนนี้คนที่เขามอบตำแหน่งยักษ์ให้หน้าเริ่มเหมือนยักษ์จริงๆ เข้าไปทุกทีแล้ว

เอกสารในมือของเขาโดนอีธานแย่งไป คราวนี้จะพูดโดยไม่มองหน้าอีกฝ่ายอีกก็ไม่ได้ ภูริจำต้องมองอีธาน ส่งสายตาปิ๊งๆ ด้วย กะว่าความระยิบระยับในดวงตาคู่นี้จะทำให้อีธานเอาเอกสารมาคืนเขาแล้วเขาก็จะได้ทำงานต่อให้เสร็จเสียที แต่ไม่...อีธานไม่คืน!

อ่า...ตอนนี้อีธานโกรธแล้วล่ะ

ภูริรู้ได้ไงเหรอ อันนี้ต้องบอกก่อนว่าเป็นความสามารถล้วนๆ เขารู้มันทั้งที่อีกฝ่ายก็แค่ยืนจ้องหน้าเขานิ่งๆ เนี่ยแหละ แต่รังสีฆ่าฟันรุนแรงมาก อยากให้คุณมาอยู่แทนที่ผมจริงๆ จะได้เป็นตัวตายตัวแทน ฮื่อ...ภูริไม่ได้อยากดื้อนะ แต่เขาก็มีเหตุจำเป็นของเขาอะ

“ก็ให้ไอ้คนที่มันทำคอมพ์ดับมารับผิดชอบสิ คุณทำมันดับหรือเปล่าล่ะ ถ้าไม่ก็ไม่ต้องทำแล้ว...” อีธานเหลือบตามองไปยังคนทำ ฝ่ายนั้นสะดุ้งก่อนจะรับก้มหนาก้มตาเก็บของใส่กระเป๋าด้วยความเร่งรีบ

หายนะมาเยือนข้าพเจ้าอีกแล้วบ่หนิ วันนี้แจ็กพ๊อตมันยังลงมที่เขาไม่พอเหรอ? ถ้าเกิดเขาเดินเข้าไปสั่งอัลฟ่าคนนั้นให้มารับผิดชอบล่ะก็ แน่นอนวันนี้ไอ้นั่นมันจะทำ แต่พรุ่งนี้คนที่โดนเอาคืนมันคือเขายังไงล่ะ อย่าหาว่าเขาขี้ขลาดเลยนะ...แต่เขาเรียนรู้ที่จะอยู่รอดเท่านั้นเอง

เฮ้อ...ขอถอนหายใจสักเล็กน้อย ตอนนี้อีธานกำลังโมโหและเขาจะใช้อารมณ์กับอีธานไม่ได้ ดูดีมะ เห่อๆ ก็ไม่เคยใช้อารมณ์กับอีธานได้ยกเว้นเมื่อวานนี้อะ เมื่อวานอารมณ์เขาไม่ดีจริงๆ ง่ะ อันนั้นไม่ได้ตั้งใจนะเว้ย ย้อนเวลากลับไปได้ก็จะเลือกเงียบ ไม่ปากดีแบบนั้นใส่อีธานแน่ๆ เพราะเขาไม่ได้จะโชคดีได้กลับมาทำงานแบบนี้ทุกครั้งที่ทะเลาะกับอีธานเสียหน่อย วันดีคืนดีอีธานโมโหไล่ออกแม่มเลย ตาย...กูตายยยยย

“ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ผมเป็นแค่โอเมก้านะ...โอเมก้าจะไปสั่งอัลฟ่าได้ยังไง ต่อให้อยู่ในตำแหน่งเดียวกัน แต่ด้วยชนชั้นทางเพศภาพที่สองนี้ผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี” นี่ใจเย็นอธิบายให้มันเข้าใจที่สุดแล้ว และต้องเสียงเบาที่สุดด้วยเพราะไม่งั้นคนอื่นก็จะกระจ่างในทันทีว่าเขานั้นได้กลายร่างไปเป็นที่เรียบร้อย

ถามว่าทุกวันนี้ทุกคนเขายังเชื่อว่าภูริเป็นเบต้าไหม? บอกเลยว่าไม่ แต่คนเราเว้ย...ถ้าเราไม่ยอมรับเสียอย่าง ใครก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ไม่ยอมรับแม้ว่าฟีโรโมนนั้นจะฟุ้งไม่เป็นเวลาล่ำเวลาเลยก็เถอะ แถเข้าไว้ แล้ววันหนึ่งเรื่องนี้ก็จะเงียบไปเองนั่นแหละ

“งั้นเดี๋ยวผมจัดการเอง” เฮ้ยยยยย หยุดเลยนะ หยุดเดี๋ยวบัดนี้ เอ้ย หยุดบัดเดี๋ยวนี้สิ!

ทันทีที่อีธานวางเอกสารและเคลื่อนตัวไปทางเพื่อนร่วมงานคนนั้น ภูริก็ลุกขึ้นแล้วคว้าแขนอีธานอย่างไว ใจจะวาย...หัวใจนี่เต้นตุ้มๆ ต๋อมๆ กันเลยทีเดียว แต่การรั้งเอาไว้ก็ทำให้สายตาพิฆาตพุ่งตรงมาทางภูริ พรุนแล้ว...ร่างกายเป็นรูไปหมดแล้วเนี่ย อะไรจะจ้องกันขนาดนั้น

เขาไม่ได้ตั้งใจจะปกป้องคนผิดนะเว้ย อย่าคิดว่าเขาเป็นคนดีขนาดนั้น มันไม่ใช่...ภูริเป็นแค่คนเทาๆ คนหนึ่งเนี่ยแหละ ถ้าอีธานทำอะไรฝ่ายนั้น รับรอง..การกลั่นแกล้งที่มันมีมากยู่แล้วในตอนนี้มันจะทวีขึ้นอีก เขาน่ะแค่ปกป้องตัวเอง

อย่าลืมสิ ระหว่างเขากับอีธานน่ะ...มันเป็นคู่กันแค่ชั่วคราว ตอนนี้อีธานออกโรงปกป้องเขา อยู่ข้างเขาเพราะทนไม่ได้ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่เมื่อยาแก้คู่แท้ถูกสร้างจนสำเร็จ เขาก็ต้องใช้ชีวิตร่วมอยู่กับคนพวกนี้ต่อไป ในขณะที่อีธานจะกลับไปอยู่จุดเดิมที่อีธานเคยอยู่

จุดที่แค่เดินผ่านหน้ากันยังเป็นไปไม่ได้...

“ถ้าคุณทำแบบนั้น วันต่อไปและต่อๆ ไปผมจะโดนแกล้งมากขึ้นอีก” รอยยิ้มบางๆ ของภูริไม่ช่วยให้อีธานใจเย็นขึ้น แต่นั่นก็เป็นเหตุผลที่เข้าใจได้

“คุณกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวผมทำงานเสร็จแล้วจะรีบกลับ” เมื่อเห็นว่าอีธานเงียบไป ภูริก็พูดขึ้นอีก น้ำเสียงสบายๆ และรอยยิ้มซุกซนทำให้ดูเหมือนเขาไม่ได้ไล่อีกฝ่าย แค่บอกกลายๆ ว่ากลับไปรอที่บ้านซะ เขาจะอยู่ทำงาน

“แล้วน้องล่ะ ไม่ไปรับน้องคุณเหรอไง”

“แม่ไปรับแล้วครับ ค่าใช้จ่ายผมก็โอนให้แม่แล้วเรียบร้อย” ผิดคาดไปหมด อีธานหงุดหงิด เขาดึงแขนตัวเองออกจากฝ่ามือของภูริแล้วจ้องหน้าไม่วางตา

ยืนเกาหัวจะโดนด่าว่าเป็นลิงปะนะ ตอนนี้ไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไงเพราะแรงกดดันมาเยอะมาก เขาทำอะไรผิดเหรอ? ทำไมอีธานต้องมาถึงแล้วอารมณ์เสียใส่เขาโครมๆ แบบนี้เนี่ย เฮ้อ...ไม่ว่าใครก็มาอารมณ์เสียใส่เขาทุกทีสิหน่า

อีธานเห็นความลุกลนใต้รอยยิ้มบางๆ ของภูริ เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรกับคนดื้อคนนี้ได้อีก โมโหก็โมโห หงุดหงิดก็หงุดหงิดจะแย่ แต่ถ้าไปลงอารมณ์ใส่ภูริอีกมีหวังทะเลาะกันแน่ แล้วไงวะ...เขาต้องแคร์ปะว่าตัวเองจะมาทะเลาะกับคู่ตัวเองเนี่ย

บ้าเอ้ย!

เอาล่ะ...เรามายืนจ้องตากันดีกว่า ใครหลบสายตาก่อนแพ้ดีไหม แล้วคนแพ้ก็ต้องเลี้ยงอาหารที่คนชนะอยากจะกิน เอ...ไม่ดีกว่า เกิดเขาแพ้อีธานขึ้นมา เขาไม่มีทางหาเงินมาเลี้ยงอาหารมื้อหนึ่งของอีธานได้แน่ เมื่อวานนี้อีธานพาไปเลี้ยง เขายังจำตัวแลขในบิลเก็บเงินได้อยู่เลย เห็นแล้วอยากจะร้องอู้หูววววดังๆ แต่ตอนนั้นเศร้าไง ก็เลยไม่ได้ร้องออกไปอย่างใจนึก เพราะงั้นนะ...อย่าท้าอะไรที่ตัวเองทำไม่ได้เป็นดีที่สุด

แต่ว่า...เมื่อไหร่จะตัดสินใจสักที อยากทำงานต่อแล้วเนี่ย งานไม่เสร็จไม่ได้กลับบ้านไปพักเว้ยเฮ้ย จะอยู่ที่นี่ยันเช้าก็คงไม่ดี งานเขาเยอะมาก เยอะมากๆ จนอยากจะเอากระดาษเอกสารพวกนี้ไปชั่งกิโลขายแทนจัดเก็บเข้าแฟ้มเสียอีก รับรองเลย...เงินเข้าเยอะแน่ เพราะเอกสารเยอะมาก

ภูริเริ่มมองหน้าอีธานที ละสายตาไปมองหน้าจอกับเอกสารที เป็นการเหลือบตาขึ้นลงเร็วๆ หลายรอบติดต่อกัน คือกะว่าทำแบบนี้แล้วอีธานไม่เห็นแน่ๆ แต่คนจ้องหน้ากันอยู่มันจะไม่เห็นได้ยังไงล่ะ

“พวกคุณทำงานกันเสร็จยัง...” อีธานหันไปถามคนอื่นที่ทำท่าเหมือนจะลุกก็ไม่กล้าลุก มองซ้ายมองขวาเหมือนในนี้จะมีการฆาตกรรมกันเกิดขึ้นอยู่ได้

“เอ่อ...เสร็จแล้วครับ”

“เสร็จแล้วก็กลับไปได้แล้ว” น้ำเสียงดูราบเรียบ แต่ความไม่พอใจนี่พุ่งแทงอกลูกน้องทุกคนอย่างเท่าเทียม คาดว่าข้างในของพกวเขาคงมีเลือดคั่งอยู่ เอามีดกรีดทีนี่เลือดพุ่งปรี๊ดๆ กันเลยทีเดียว

“เฮ้อ...อัลฟ่ามันก็เป็นกันแบบนี้ไง”

“คุณว่าอะไรนะ” กำลังจะนั่งลงคีย์งานอยู่แล้ว อีธานดันหันมาตะคอกถาม ไม่ใช่ตะคอกเสียงดังหรอก...มันเป็นการตะคอกที่เสียงเบาจนแทบจะเอาทรโข่งไปจ่อปากอีธาน

“ก็บอกว่า...อัลฟ่าก็เป็นกันแบบนี้ บ้าอำนาจ คุณดูข่าวไหม...ข่าวที่เขาบอกว่าตอนนี้อัลฟ่าแท้ลดลงเยอะมาก” ใช้น้ำเสียงดีๆ คำพูดคำจาดูเรื่อยเปื่อยแต่ก็ขัดใจอีธานอยู่ดี ก็อีธานตอนนี้อารมณ์กำลังขึ้นไง

นี่...ผมขึ้นให้สักสองทีแล้วจะเย็นลงไหม?

“ฮ่าๆ” สึด...นึกแล้วก็ขำ เสือกขำออกเสียงด้วยไง

“หัวเราะอะไร!” ภูริกรอกตาสองที

“เปล่าครับ นึกถึงมุกตลกในเฟซบุ๊ก” มุกตลกบ้าไรไม่มีทั้งนั้นอะ หาทางเอาตัวรอดเฉยๆ เลยเหอะ

“มันใช่เวลาที่คุณมานั่งนึกมุกตลกอะไรตอนนี้ไหมครับ?”

“แล้วจะให้ผมนั่งร้องไห้ไงล่ะ ผมนั่งนะ...จะทำงานต่อแล้ว” ว่าแล้วก็นั่งลง คว้าเอกสารมาอ่านและเริ่มคีย์งานต่อแทบจะทันที

ไม่ใช่อีธานอยากกลับบ้านคนเดียวนี่ เขาก็อยากกลับนะ อยากอาบน้ำอาบท่าหาอะไรกินแล้วก็นอนตีพุงไปเรื่อยเปื่อย ถ้าให้ดีต้องมีเบียร์เย็นๆ สักขวด รับรองการนอนเล่นจะสบายขึ้นเป็นอีกเท่าตัว แต่ก็แค่คิดนะ...เงินหมดล่ะ

เขามีเงินอยู่พันสองนิดๆ เศษอย่าไปนับเลยอนาถใจเปล่าๆ แล้วเมื่อบ่ายกว่าๆ ก็ลงไปเอาเงินเข้าบัญชีให้แม่ไปหนึ่งพัน ตอนนี้เลยเหลือแค่สองร้อย...คิดดูดิ สองร้อยใช้ทั้งเดือน! ใครมันจะไปสามารถเท่าไอ้ภูคนนี้ ไม่มีอีกแล้วล่ะ เดี๋ยวเหลือเวลาอีกราวๆ สองอาทิตย์ใช่มะ เปลี่ยนจากกาแฟถุงเป็นซองก็ซื้อซองละห้าบาทเอา สิบสี่วันก็ไม่เกินร้อยหนึ่ง กินแบบถุงได้ด้วยนะ ส่วนอาหารนี่ก็มาม่า...ซื้อมาม่าเลย เอามาต้มกินที่ทำงาน สบาย!

เอาล่ะ เรามาพักเรื่องคำนวณเงินที่แสนจะปวดหัวเอาไว้ก่อน ภูริมีงานต้องรีบทำแล้วเขาก็อยากให้มันเสร็จไวๆ เมื่อเขาวางเรื่องเครียดลงได้ สิบนิ้วที่คาอยู่บนคีย์บอร์ดก็เริ่มเคลื่อนไหว ความพลิ้วบอกกับคนมองได้ดีมากว่าเขาน่ะเจนงานพิมพ์เป็นที่สุด

เสียงคีย์บอร์ดที่ไม่ได้ดังอะไรมากมายกลายเป็นเสียงเดียวที่อีธานได้ยินอยู่ตอนนี้ เขาเสยผมตัวเองเล็กน้อยขณะมองร่างโปร่งที่นั่งอยู่ข้างหน้าเขา ความหงุดหงิดมันมีนะ แล้วเขาก็ยังเคืองภูริอยู่ไม่ใช่น้อย แต่ดูสิ...ดูภูริทำงานดิ แล้วแบบนี้เขาจะไปต่อว่าอะไรอีกฝ่ายได้ล่ะ

อีธานเดินไปที่อีกโต๊ะ ลากเก้าอี้มานั่งข้างกายภูริ มองดูอีกฝ่ายเหลือบตาไปทางเอกสารข้างคีย์บอร์ดที ทางหน้าจอที เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา อืม...ภูริทำงานได้ไวกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก อีธานจะคีย์งานได้ไม่คล่องเหมือนที่ภูริกำลังทำอยู่นี่เลย

“ไม่กลับเหรอ” คำถามมาแต่ไม่ได้หันมามองคู่สนทนา

“รอ” ตามนั้นเลยครับ ภูริไม่ใคร่จะใส่ใจ การมีอีธานนั่งอยู่ด้วยหรือไม่มีก็ค่าเท่ากัน เพราะมันไม่ได้ทำงานเขาช้าลงหรือเร็วขึ้นแต่อย่างใด

นั่งรออีกแล้ว เมื่อวานก็นั่งรอภูริอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งครึ่งวัน ก็รู้ดีหรอกว่าตัวเองไม่มีเวลาว่างมานั่งเล่นเรื่อยเปื่อยแบบนี้ แต่เขาเคลียร์งานไปแล้วนี่วันนี้อะ ทิ้งนัดไปด้วยเพื่อจะได้พาภูริไปรับน้องสาว แล้วนี่อะไร...มันต่างกับที่วางแผนเอาไว้หมดเลยนะ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้หงุดหงิด ไหนจะไปยอมไอ้อัลฟ่าพวกนั้นอีก เอาเรื่องได้แล้วแท้ๆ ก็ยังจะมายิ้มบอกไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ตลกเหอะ...เป็นคนดีมากก็โดนรังแกมากแบบนี้แหละ

“นั่งโดยไม่หงุดหงิดได้ปะครับ” นั่งเฉยๆ แล้วแต่ความไม่พอใจของอีธานมันกระจายอยู่อะ แล้วภูริก็เสือกอยู่ตรงนี้คนเดียว รับแรงกดดันไปคนเดียวอะสิ

“ใครมันจะเลิกหงุดหงิดได้ คุณน่ะไปยอมมันทำไมนักหนา ทีไอ้ตอนนั้นเห็นคนถูกรังแกยังพุ่งเข้าไปช่วยไม่ดูสังขาลตัวเอง แล้วทีนี้เขามาทำตัวเองดันไม่ยอมทำอะไรเลย คุณบ้าปะถามจริง ความกล้าหาญที่พาคุณพุ่งไปช่วยคนอื่นวันนั้นน่ะมันหายไปไหนหมดฮะ” ได้ทีก็พูดยาวเลยน้า อัดอั้นตันใจอะไรขนาดนั้นเหรอไง ภูริยิ้มขำ เขาไม่ได้รู้สึกซีเรียสอะไรกับคำบ่นของอีธานเลย

ก็นะ...ถ้าเป็นเขาเองเลือกจะเข้าไปช่วยเหลือใครสักคนหนึ่ง แล้วคนคนนั้นดันไม่ยอมรับความช่วยเหลือแล้วปล่อยให้คนอื่นรังแกตัวเองต่อ เขาก็คงจะรู้สึกไม่ดีเหมือนกันนั่นแหละ แต่สถานการณ์มันไม่เหมือนกันละเนาะ นี่มันไม่ใช่เรื่องที่ยอมกันไม่ได้เสียเมื่อไหร่ อะไรที่เราปล่อยผ่านได้ก็ปล่อยมันไปเพราะนั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขา

“มันไม่เหมือนกันนี่นา...” ว่าแล้วก็พลิกกระดาษไปอีกหน้า เพียงไม่ถึงยี่สิบนาทีภูริก็พิมพ์เสร็จไปหน้าหนึ่งแล้ว
 
“ไม่เหมือนกันตรงไหน? เขาแกล้งคุณกับไอ้คนพวกนั้นรุมแกล้งคนอื่น”

“ตรงที่ที่นั่นมันไม่ใช่ที่ทำงานผม” ภูริสวนกลับอย่างไว เพราะนี่คือความต่างที่ทำให้เขาไม่สู้ใครในนี้ทั้งนั้น

“ที่ทำงานคุณก็สู้ได้ รายงานไปเบื้องบนบ้างก็ได้ไม่ใช่เอาแต่ก้มหน้ายอมมันอย่างเดียว คิดว่ายอมมันไปมากๆ แล้วมันจะเลิกแกล้งเหรอ คุณนี่มันน่าหงุดหงิดจริงๆ”

“คุณแค่กำลังอารมณ์เสีย กินกาแฟไหม...จืดหน่อยนะ” ไม่หน่อยหรอก มันละลายหมดแล้วเหลือแต่น้ำก้นถุง อีธานก็รู้ เขากินของตัวเองมาก่อนหน้านี้ทำไมจะไม่รู้ล่ะ เพราะงั้นก็เลยไม่กินกาแฟถุงเดียวกับภูริ

“เออ ผมอารมณ์เสีย” อีธานกอดอกตัวเองก่อนจะเสหน้ามองไปทางอื่น

ทั้งชั้นมีแค่เขากับภูริสองคน เสียงแอร์ เสียงลมหายใจและเสียงคีย์บอร์ดเป็นเหล่าเสียงที่มีอยู่ อีธานค่อนข้างจะชอบความสงบแบบนี้ มันให้อารมณ์คล้ายกับว่าเขาได้อยู่ในห้องทำงานของตัวเอง ไม่ต้องมีใครมากมาย ไม่วุ่นวายและไม่มีเสียงพูดคุยจุกจิกอย่างกับนกมารวมฝูงกัน

เขามองสำรวจรอบด้านได้พักหนึ่ง ไม่มีอะไรให้มองแล้วก็หันกลับมาพักสายตาที่ภูริ รู้ว่าต้องรอแบบนี้เอางานมานั่งเซ็นไปด้วยก็ดีหรอก รอเฉยๆ มันค่อนข้างจะน่าเบื่อเหมือนกันสำหรับคนที่ต้องทำอะไรอยู่ตลอดเวลาอย่างอีธาน เขาเป็นพวกอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ อยู่เฉยๆ แล้วสมองมันจะฟุ้งซ่านประมาณหนึ่ง สุดท้ายแล้วเขาก็วนกลับไปคิดเรื่องงาน เรื่องกำหนดการต่างๆ วนไปวนมาอยู่ดี

ขณะที่ภูริไม่มีอะไรอยู่ในสมองเพราะตาของเขากำลังลาย ตั้งสติเข้าไว้ลูกพี่ งานนี้เราต้องผ่านพ้นมันไปได้อย่างง่ายดาย ภูริพยายามบอกกับตัวเองว่าคีย์งานใหม่แค่นี้ไม่ครณามือเขาหรอก เยอะกว่านี้ในเวลาที่สั้นกว่านี้เขาก็ทำมาแล้ว แต่ไม่เนี้ยบนะ เละพอตัว

โห่...จะเอาสามสิบหน้าในเวลาสามสิบนาที คนสั่งก็บ้า ไอ้คนรับคำสั่งก็ไม่รู้จะหาคำไหนไปอ้าง เพราะคนสั่งเล่นบอกว่าถ้าไม่ทันนายต้องรับผิดชอบกับลูกค้าเอาเอง ป๊าดดดด หน้าที่เขาก็ไม่ใช่ ไหงความรับผิดชอบมาตกที่เขาก็ไม่รู้ แล้วเป็นไง..ภูริก็โดนด่าเพราะงานเสร็จแต่คำผิดเยอะไปหมดเลยไง

จากเหตุกาณ์ที่โดนเร่งขนาดนั้นทำให้เขาเป็นคนตั้งสมาธิกับการคีย์งานเป็นพิเศษ ต้องเร็ว ต้องไว และผิดน้อยที่สุด เขาตั้งใจเอาไว้เป็นการส่วนตัวว่าจะไม่ผิดพลาดให้หัวหน้าด่าเขาได้อีก แต่คนก็คือคน ความผิดพลาดมันเป็นของคู่กันอยู่แล้ว ขนาดเครื่องจักรที่ถูกเซทติ้งมาอย่างดียังมีผิดพลาดหรือเออเร่อเลยอะ

“คุณหิวเปล่า ลงไปหาอะไรกินก่อนก็ได้นะ” แต่ถึงจะปั่นงานหยิกๆ ภูริก็ยังนึกถึงคนข้างๆ อันนี้ก็ต้องขอบคุณน้องสาวที่น่ารัก ผู้มาป่วนพี่ชายตอนทำงานบ่อยๆ ภูริจึงมีสกิลตั้งสติพิมพ์งานพร้อมคุยไปด้วยได้ แต่...มันจะเป็นการคุยที่ภูริใช้สมองยั้งคิดยั้งทำได้น้อยมาก

“ผมไหมต้องถามคุณน่ะ เมื่อเที่ยงกินอะไรล่ะ...”

“พี่ปุ้ยเลี้ยงข้าวผัดหมูครับ”

“เลี้ยงทั้งทีดีกว่านั้นไม่ได้หรือไง” อ่าว...เลี้ยงแค่นี้ก็บุญแล้วเหอะ เพราะภูริไม่สามารถหาเงินมากินเองได้ครับผม

“แค่นี้ก็ดีแล้วสำหรับผม”

“มักน้อยเนอะ”

“ไม่หรอก ผมก็มักมากนะ...มักมากในกามณ์อะ ฮ่าๆ” มุกอะไร...เล่นมุกแบบนี้กับประธานบริษัท สมแล้วที่คีย์งานไปคุยไป สมองมันทำงานประมวลผลไม่ทันจริงจริ๊งงงง

....100%...

ตั้งใจจะอัปเมื่อวาน แต่เราพ่ายแพ้ให้กับความง่วงค่ะ แฮ่ >,< คอมเมนต์หลายๆ อันทำเอาเราอยากสปอยตอนต่อไปเลย แต่ก็เลือกเงียบดีกว่า ของอย่างนี้อยากให้รอลุ้นไปด้วยกันจริงๆ ค่ะ แต่มีอันหนึ่งที่คิดว่าควรตอบไขข้อข้องใจคือไทม์ไลน์

เราเป็นคนเขียนเรื่องแบบกระดื้บมากค่ะ หนึ่งวันในเรื่องกินไปสองสามตอนเลยนะคะ ดังนั้นตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ในลิฟต์จนถึงตอนปัจจุบัน อีธานและภูริยังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไม่ถึงสองอาทิตย์เลยค่ะ แ​ฮ่ๆ

เราเคยพยายามเขียนให้ไทม์ไลน์มันไวกว่านี้ แต่เราทำไม่ได้จีจีค่ะ มีข้อคิดเห็นยังไงก็แสดงได้เต็มที่นะคะ ขอบคุณทุกๆ คอมเมนต์มากเลย เราเข้ามาอ่านทุกวันเลยค่ะ ^^

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
อย่างน้อยก็เริ่มเห็นอะไรๆมากขึ้น

 :L2: :L1: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-08-2018 13:20:02 โดย Billie »

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
รอตอนต่อไปจ้าาาา

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อ่านทีลุ้นทีว่ามันจะไปจบตอนๆไหน อยากอ่านยาวๆ5555556

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ขำ55556

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด