คืองงอะ อีธานก็ถามตรงๆนะ ว่าคุณมอมยาพวกนั้นทำไม นั่นหัวหน้างานคุณนะ มันไม่ใช่การใส่ความหรือดูถูกด้วยซ้ำนะ มันคือความจริงหนิที่ภูริวางยากลับพวกนั้น หรือไม่จริง? ก็แค่ตอบกลับไปสิว่าผมเห็นว่าเขาใส่ยาในเหล้าผมก่อน ผมเลยเทคืนใส่แก้วเขา แค่เนี้ย คืองงว่าทำไมไม่แก้ตัว เออถ้าแก้ตัวแล้วอีธานใส่ร้ายกลับว่านายโกหก นายมันเลว โอเมก้าความคิดต่ำๆ ไรงี้ อันนี้ค่อยน่าโกรธอีธานหน่อยอะ นี่พอถามย้ำในรถผมถามจริงทำไมทำงี้ก็ยังตอบตัดบทซะงั้นอะ อะไรของเธออออออ
อยากให้คุยกันด้วยเหตุผลนะ ถึงอีธานจะดูถูกภูริกลับมาก่อนได้ถามหาความ แต่นั่นคือมุมมองของบุคคลที่3อะ บุคคลผู้ที่เพิ่งมาถึงที่เกิดเหตุและเห็นภูริยิ้มและแอบมองห้องคาราโอเกะนึงอยู่ พอไปดูก็เห็นคนมั่วซุมกัน พอถามก็ได้ความว่าถูกวางยา แล้วจะให้เข้าใจว่าไง? ให้ถามแค่ว่าใครวางยาพวกนั้นหรอ? ทั้งๆที่เห็นอยู่ว่านางยิ้มอยู่หน้าประตู และบอกเองว่าโดนวางยามั้งครับ ถ้าเป็นคนอื่นวางยา และตัวเองมาพบ ป่านนี้เราคงทำแหยงและไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับห้องคาราโอเกะนี้อะ เพราะเราไม่รู้ว่าเขาโดนวางยา คิดว่าแค่มามั่วซุมกันตามรสนิยมตัวเอง แต่ถ้าอีธานรู้ความจริงแล้ว ยังไงก็ต้องหาความจริงแบบจริงๆให้ได้อยู่ดี ระดับประธานอะเธอ ระดับความคิดคู่ชีวิต ระดับคนที่ตอนนี้เริ่มแอบมองภูริและแอบชอบนางแต่มันซึนอะ ไม่ก็ใช้เหตุผลว่าอีธานเป็นประธานบริษัทนะเห้ย โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วอะ ความคิดด้านเหตุผลก็สูงพอแล้ว ดูได้จากการระงับอารมณ์และถามย้ำในรถอะ คือผมต้องการความจริงเว้ย หมายความว่ายังเชื่อในตัวภูริอยู่ไง ยังไม่เชื่อว่าภูริทำมัน และถ้าหากนางทำจริงมันต้องมีเบื้องลึกกว่านั้น บอกเลยเซ็งภูรินิสัยงี่เง่าแบบนี้มาก เจ็บปวดใจที่เค้าดูถูกก็ไม่ควรใส่อารมณ์และประชดกลับว่าเออกูทำเองอะ แล้วจะทำไม? โตๆกันแล้วควรคุยด้วยเหตุผลนะ อย่างน้อยตัวเองได้บอกความจริงกับเค้าไป เค้าจะเชื่อไม่เชื่อก็อยู่ในส่วนของเค้า เราได้พูดในส่วนของเราไปหมดแล้ว อย่าเอานิสัยเด็กผู้หญิงงี่เง่ามาใส่หัวสิลูก
ถ้าบอกความจริงและอีธานยังซ้ำเติมและไม่เชื่อในตอนแรกนั้น ปล่อยหน้าที่ด่ามันให้กับคนอ่านเองเถอะค่ะ
ตอนหน้าให้อีธานรู้ความจริงก่อนเยกันนะ เยกันไปละไม่มีอารมณ์ร่วมด้วยเลยอะ ชอบนะที่นางเล่นกลับได้เจ็บแสบดี แต่แอบเซ็งตอนท้ายบทเนี่ยแหละ เฮ้อ