❤️::::แม่พันธุ์จำเป็น[MpreG]::::❤️ตอนที่ 22 มีกันตลอดไป(จบ) l Up:16-06-2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤️::::แม่พันธุ์จำเป็น[MpreG]::::❤️ตอนที่ 22 มีกันตลอดไป(จบ) l Up:16-06-2018  (อ่าน 108956 ครั้ง)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
คลอดแล้ววววว

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
นักรบ นี่ไวมากเจอปลาวาฬ ไม่เท่าไร ก็รักก็ชอบมาก
แถมขั้นตราตรึง อกหักถึงกับเดินทางไปรักษาแผลใจต่างประเทศเลย

ชื่อลูกแฝดบ้านนี้ ปลาดาว  น่ารัก
แต่นักสู้ นี่คงเป็นชื่อแรกในประเทศไทย
จะต้องมีคำว่า  นัก  ตามพ่อให้ได้สินะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
-๑๙-

ผู้มาเยือน


            หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปปลาวาฬออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว ช่วงแรกๆ เจ้าตัวแทบทำอะไรเองไม่ได้เลยเพราะยังเจ็บแผลผ่าตัดที่ท้องอยู่ ทำให้ทุกอย่างตกเป็นหน้าที่ของนักบินโดยอัตโนมัติ ทว่านักบินกลับทำหน้าที่ไม่ได้ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าคุณหญิงจะสั่งให้จ้างพี่เลี้ยงมาช่วย แต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมเพราะอยากจะทำหน้าที่พ่อด้วยตัวเองให้ดีที่สุดเสียก่อน

            อุแว้ๆๆ

            “คุณลูกร้อง” ขณะที่ปลาวาฬกำลังป้อนนมลูกสาวอยู่นั้น ลูกชายอีกคนที่นอนอยู่บนเบาะนุ่มก็ร้องเสียงดังขึ้นมา ทำเอาคนเป็นพ่อที่กำลังนอนอยู่ข้างๆ ถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย เมื่อคืนนี้เจ้าตัวก็แทบไม่ได้นอนเพราะเจ้าตัวน้อยทั้งสองร้องไห้งอแงแข่งกันแทบทั้งคืน

            “ตัวน้อยของพ่อเป็นอะไรครับ อย่างอแงสิ เอ่เอ้..” นักบินลุกขึ้นมาอุ้มลูกชายขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด แล้วแกว่งไปมาเบาๆ เพื่อให้ลูกชายหยุดร้องแต่ก็ไม่ได้ผล

            อุแว้ๆๆ

            “เอานมป้อนลูกสิคุณ สงสัยจะหิว” ปลาวาฬเอ่ยแนะนำพร้อมกับขำเมื่อเห็นสภาพของนักบิน ขอบตาล่างคล้ำอย่างกับหมีแพนด้า ผมที่เคยเรียบตรงกับฟูขึ้นมาอย่างกับโดนไฟฟ้าช็อต เขาบอกแล้วว่าให้จ้างพี่เลี้ยงแต่ก็ไม่ยอม เป็นไงล่ะทีนี้สภาพแทบดูไม่ได้เลย

            “โอเคๆ” ว่าแล้วก็วางลูกชายไว้บนเบาะนอนก่อนจะเดินไปหยิบขวดนม ที่ปลาวาฬชงไว้เมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ แล้วเดินกลับมาอุ้มลูกชายเอาไว้ในอ้อมแขนเหมือนเดิม หลังจากนั้นก็ป้อนนมทันที

            จ๊วบๆๆ

            “เงียบเลยสงสัยจะหิวมากสินะลูกพ่อ” เมื่อเห็นลูกชายดื่มนมอย่างกระหายหิว นักบินก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง แล้วจ้องมองอยู่อย่างนั้นพร้อมกับยิ้มอยู่ตลอดเวลา

            “ผมบอกให้จ้างพี่เลี้ยงก็ไม่ยอม เป็นไงล่ะสภาพดูไม่ได้เลย” ปลาวาฬเอ่ยพร้อมกับขำออกมา

            “เหนื่อยแต่มีความสุขอย่างนี้...ฉันยอม อีกไม่นานคงจะชินแล้วล่ะ ว่าแต่นายเถอะหายเจ็บแผลหรือยัง” นักบินถามกลับ

            “ก็ไม่ค่อยเจ็บแล้วครับ แต่ตอนนี้เริ่มคันมากกว่า”

            “อย่าไปเกามันล่ะอีกแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หายแล้ว อีกสักสัปดาห์แล้วเราค่อยมาทำน้องให้ปลาดาวกับนักสู้กันอีกนะ” นักบินยังคงตั้งตารอวันที่จะได้เชยชมเรือนร่างของอีกฝ่ายอยู่เสมอ

            “หื่นไม่เลิกเลยนะคุณ คราวนี้ผมไม่ยอมคุณง่ายๆหรอกบอกไว้เลย” ปลาวาฬแยกเขี้ยวใส่อีกฝ่ายทันที

            “นายไม่สงสารฉันเหรออดอยากปากแห้งมานานแล้วนะ” นักบินเริ่มใช้บทอ้อน

            “ไม่ล่ะ...ผมสงสารตัวเองมากกว่า โดนทีแทบจะฉีกแต่ถ้าคุณไปลดขนาดไอ้นั่นมาผมอาจจะยอมก็ได้นะ” ปลาวาฬเอ่ยแนะนำพร้อมกับยักคิ้วให้ เพราะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้

            “จะบ้าเหรอ! มีแต่คนอยากทำให้มันใหญ่ขึ้น มาบอกให้ลดขนาดมันทำได้ที่ไหนกันล่ะ อย่ามาเฉไฉไปหน่อยเลย ช่วงนี้มันเป็นโอกาสที่เหมาะแล้ว ถ้าเผื่อลูกโตขึ้นมามีหวังไม่ได้ทำอะไรกันแน่ๆ คงจะป่วนน่าดู”

            “คุณคิดการณ์ไกลเกินไปป่ะ ถ้าคุณทำดีอย่างนี้ต่อไปผมคงไม่ใจร้ายหรอกน่า”

            “จริงๆนะ นายพูดแล้วห้ามคืนคำเด็ดขาด” เมื่อได้ยินคนรักพูดอย่างนั้นนักบินก็ทำสีหน้าดีใจยกใหญ่ ปลาวาฬถึงกับขำกับท่าทางตื่นเต้นดีใจของนักบิน คนหื่นยังไงก็คงหื่นวันยังค่ำสินะ

            “ผมไม่บิดพลิ้วหรอกน่าแต่ขอเวลาอีกสักพักก็แล้วกันนะ” ปลาวาฬเอ่ยกับอีกฝ่าย อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นรางวัลให้กับความทุ่มเทก็แล้วกัน

            “ได้ยินย่างนี้แล้วก็หายเหนื่อยทันทีเลย” นักบินยิ้มกริ่มด้วยความดีใจ

            “คุณนี่นะ...ว่าแต่นักรบจะกลับมาวันไหนนะ” ปลาวาฬนึกขึ้นได้ว่าใกล้ถึงวันที่นักรบจะกลับมาจากต่างประเทศแล้ว จึงเอ่ยถามขึ้นมาทันที

            “สัปดาห์หน้านี้ล่ะ มันเห็นรูปหลานแล้วยิ่งอยากกลับมาเร็วๆ สงสัยคงจะอยากกอดมาก” นักบินเอ่ย เขาคุยกับน้องชายเมื่อหลายวันก่อน ตอนนี้นักรบทำใจเรื่องปลาวาฬได้แล้ว แถมยังมีคนรู้ใจที่บังเอิญไปเจอกันที่โน่นอีกด้วย

            “ดีใจจัง จะได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วสินะ” ปลาวาฬเองก็คิดถึงนักรบอยู่ไม่น้อย อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ เหลือเกิน คงจะเป็นวันที่ดีอีกวันหนึ่งแน่นอน

            “ฉันเองก็ดีใจที่ทุกอย่างมันลงเอยได้ด้วยดี” นักบินมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาที่หวานซึ้ง ทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกขึ้นมาทันที

            “ถ้าลูกหลับแล้วไปซักผ้าอ้อมด้วยนะคุณ” ปลาวาฬอยากแกล้งอีกฝ่าย จึงเปลี่ยนเรื่องกะทันหันพร้อมกับขำออกมา

            “อ้าว! กำลังจะซึ้งอยู่แล้วเชียวไหงเป็นงี้ไปได้” นักบินหุบยิ้มทันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยออกมา ก่อนจะทำหน้าบูดบึ้ง

            “แล้วจะทำไหมล่ะ” ปลาวาฬเอ่ยเสียงเข้มหวังจะขู่อีกฝ่าย

            “ทำครับๆ อย่าดุสิ” นักบินรีบตอบรับโดยเร็ว ตอนนี้คำสั่งของปลาวาฬกลายเป็นประกาศิตที่มีพลังอำนาจสำหรับเขาไปแล้ว

            ปลาวาฬพอใจกับท่าทีของคนรักที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่เพราะสามารถสั่งการอีกฝ่ายได้ แต่เพราะรู้สึกดีกับความน่ารักและเอาใจใส่ของนักบิน ที่มีให้เขาไม่เคยน้อยลงจากเดิมเลย นั่นทำให้ปลาวาฬมั่นใจว่าจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้ไปได้ตลอดชีวิต...

*-*-*-*-*-*
            และแล้วก็ถึงวันที่นักรบกลับมาเมืองไทย นักบินเป็นคนขับรถไปรับน้องชายที่สนามบินด้วยตัวเอง พอเจอหน้าทั้งสองก็กอดกันอย่างแนบแน่นด้วยความคิดถึง ก่อนจะรีบกลับมาที่บ้านโดยด่วน เพราะนักรบอยากเห็นหน้าหลานแฝดเต็มทนแล้ว

            บรรยากาศหน้าบ้านมหาธำรงกุลอบอวลไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม นั่นเพราะคุณหญิงและสามีพร้อมกับคนรับใช้ต่างก็มาต้อนรับที่หน้าบ้าน ราวกับว่านักรบห่างบ้านไปเป็นสิบๆปีซะอย่างนั้น เมื่อรถมาจอดเทียบที่หน้าบ้าน นักรบก็รีบลงมาแล้วเดินเข้าไปกอดบิดามารดาทันที

            “สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่” นักรบยกมือไหว้แล้วรีบเข้าไปโอบกอดบุพการีทั้งสองคนด้วยความคิดถึง

            “ลูกดูผอมไปนะนักรบ” คุณหญิงฉัตรฉายเอ่ยพร้อมทั้งน้ำตา มือเรียวก็คลำตามตัวลูกชายไปด้วย เพื่อสำรวจความเปลี่ยนแปลง

            “ไม่ใช่ผอมครับคุณแม่ แต่หุ่นดีขึ้นต่างหากล่ะ” เจ้าตัวแก้ต่างด้วยรอยยิ้ม

            “แต่แม่ว่าผอมนะ” คุณหญิงยังยืนยันสิ่งที่ตัวเองเห็นอยู่ตรงหน้า

            “ลูกบอกว่าหุ่นดีคุณก็ยังไม่เชื่ออีก” เกริกไกรเอ่ยขัดคอภรรยาอีกเช่นเคย

            “เงียบปากไปเลยคุณฉันคุยกับลูกสองคน” ว่าแล้วก็จูงมือลูกชายเข้าไปในบ้าน ตรงไปหาปลาวาฬและหลานทั้งสองคนทันที ส่วนเกริกไกรได้แต่ทำหน้าจ๋อยเพราะโดนภรรยาด่าให้อีกตามเคย นักบินได้แต่ยิ้มให้กับความพ่อแง่แม่งอนกันของบิดามารดา

            นักรบเดินจูงมือมารดาเข้าไปหาปลาวาฬกับหลานในบ้าน เมื่อทั้งสองเห็นหน้ากันก็ยิ้มด้วยความดีใจ ส่วนคุณหญิงก็เดินไปในครัวเพื่อสั่งให้แม่บ้านทำกับข้าวมื้อพิเศษเลี้ยงต้อนรับลูกชายกลับมาบ้าน

            “ว่าไงครับคุณแม่ลูกอ่อน!” นักรบเอ่ยทักขึ้นก่อน ขณะที่ปลาวาฬนั่งไกวเปลลูกทั้งสองคนที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ในเปลอู่

            “นักรบ! คิดถึงจังเลยอ่ะ” เมื่อเห็นเพื่อนปลาวาฬก็ยิ้มด้วยความดีใจ

            นักรบเดินเข้าไปนั่งข้างๆแล้วทั้งสองก็กอดกันด้วยความคิดถึง ตอนนี้สำหรับนักรบแล้วสถานะของปลาวาฬคือพี่สะใภ้และเป็นเพื่อนที่เข้าใจ ไม่มีอะไรเกินเลยเหมือนแต่ก่อนแล้ว และนักบินเองก็รู้และเข้าใจเป็นอย่างดี

            “คิดถึงเหมือนกัน....ตอนนี้เราอยากเห็นหน้าหลานแล้วอ่ะ” เมื่อผละจากอ้อมกอดแล้วนักรบก็มองไปที่เปลอู่ทั้งสองข้างสลับกันไปมา

            “กำลังหลับอยู่เลย ทางซ้ายพี่สาวชื่อปลาดาว ส่วนขวามือน้องชายชื่อนักสู้” ปลาวาฬเอ่ย

            นักรบชะโงกหน้าเข้าไปมองหลานสาวก่อน ตามด้วยหลานชาย เจ้าตัวยิ้มออกมาตลอดเวลาขณะมองดูความน่ารักจิ้มลิ้มของเด็กทารกที่กำลังนอนอยู่ในเปลอู่

            “น่ารักน่าชังทั้งสองคนเลย พี่นักบินเก่งจริงๆ เลยหน้าตาเหมือนพ่ออย่างกับแกะทั้งสองคนเลย” นักรบเอ่ยปากชมพี่ชายที่เพิ่งจะเดินมาถึง

            “แน่นอนอยู่แล้วไอ้น้อง รออีกสักปีสองปีอาจจะมีแฝดคู่ใหม่เกิดขึ้นอีกก็เป็นได้” เจ้าตัวเอ่ยพร้อมส่งสายตาหื่นไปให้คนรัก แต่ปลาวาฬกลับเบ้ปากไม่มีทางเห็นด้วยอย่างแน่นอน

            “แค่สองคนก็เลี้ยงให้มันรอดก่อนเถอะคุณ” ปลาวาฬดุให้

            “รอดอยู่แล้วนายก็เห็นนี่ว่าฉันดูแลลูกดีขนาดไหน” นักบินเอ่ยด้วยความภาคภูมิใจกับการตั้งใจเลี้ยงลูกตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

            “ให้มันไหวตลอดเถอะอย่ามาบ่นให้ได้ยินก็แล้วกัน”

            “คร้าบบที่รัก” นักรบยิ้มให้อีกฝ่าย

            “ไปอยู่ที่โน่นเป็นไงบ้างนักรบ แล้วเจอใครถูกใจบ้างไหมน๊า” ปลาวาฬหันไปสนใจเอ่ยถามนักรบ

            “ก็ดีนะได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แถมยังเจอกับใครบางคนที่นิสัยคล้ายๆ กับปลาวาฬด้วย” เมื่อเอ่ยถึงใครคนนั้นนักรบก็ยิ้มกริ่มออกมาทันที ทำเอาปลาวาฬและนักบินมองหน้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น

            “อย่าบอกนะว่าแกกำลังมีความรัก” นักบินได้ยินก็หูผึ่งทันที เขาอยากให้น้องชายสมหวังกับความรักบ้าง

            “ก็ไม่เชิงอ่ะพี่ แต่ก็มีความรู้สึกดีๆให้กัน ตอนนี้ยังคิดถึงอยู่เลย ฮ่าๆ” นักรบตอบพี่ชายพร้อมกับหัวเราะออกมา

            “ถึงขนาดนี้ถ้าไม่เรียกว่ารักคงไม่ใช่แล้วมั้ง ถ้ารักก็เดินหน้าเลยอย่าปล่อยให้เสียเวลาเหมือนคู่เรานะ” ปลาวาฬเอ่ยแนะนำ

            “คร้าบเพื่อน” นักรบยิ้มให้ สื่อว่าพร้อมรับคำแนะนำไปปฏิบัติตามอย่างแน่นอน

            “เห็นแกมีความสุขพี่ก็อุ่นใจจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดมากไปกว่านี้”

            “รู้สึกผิดเรื่องอะไรอ่ะคุณ” ปลาวาฬได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มสงสัยขึ้นมาทันที

            “ไม่มีอะไรหรอกปลาวาฬ พี่นักบินหมายถึงมีเมียก่อนเราไง คงกลัวว่าเราจะอิจฉาน่ะสิ ใช่ไหมพี่” นักรบอยากให้เรื่องที่เขาเคยแอบชอบปลาวาฬมันเป็นความลับตลอดไป

            “ใช่ๆๆ อย่างที่นักรบพูดนั่นล่ะ” นักบินตอบรับโดยเร็ว

            “อ๋อ...ก็นึกว่าเรื่องอะไร” ปลาวาฬพยักหน้ารับเหมือนเข้าใจเป็นอย่างดี

             “ว่าแต่เมื่อไหร่จะตื่นกันนะหลานอาอยากอุ้มเต็มทีแล้วเนี่ย” นักรบบ่นออกมาแล้วมองไปที่เปลอู่ของหลานทั้งสองคน

            “น่าจะใกล้แล้วล่ะเพราะนอนมาหลายชั่วโมงแล้ว อีกไม่นานก็คงร้องแข่งกันแล้ว” ปลาวาฬเอ่ย

            “ถ้าอย่างนั้นเราขึ้นไปบนห้องก่อนนะเดี๋ยวจะลงมาหาใหม่”

            “โอเคจ้า” ปลาวาฬยิ้มตอบรับ

            หลังจากนั้นนักรบก็เดินขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง เพื่อไปอาบน้ำให้สดชื่นแล้วก็นอนงีบสักพัก หลังจากนั่งเครื่องมาหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้

            “ที่รักเหนื่อยไหมครับ” หลังจากน้องชายเดินออกไปแล้ว นักบินก็เดินไปนั่งซ้อนหลังแล้วกอดเอาไว้ พร้อมกับเอ่ยถามคนรักทันที

            “ผมต้องถามคุณมากกว่าว่าเหนื่อยไหม” ปลาวาฬตอบกลับด้วยคำถาม

            “แค่เห็นหน้านายกับลูกความเหนื่อยมันก็หายเป็นปลิดทิ้งทันที” เจ้าตัวตอบพร้อมกับหอมแก้มคนที่อยู่ในอ้อมกอดฟอดใหญ่

            “ปากหวานจริงๆ เลยนะช่วงหลังมานี้” ปลาวาฬเอ่ยขณะที่ใบหน้าแดงก่ำราวกับลูกตำลึง แม้จะไม่ได้มีอะไรกันมานาน แต่นักบินก็ชอบมาแต๊ะอั๋งเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้อยู่ตลอดเวลา ไม่ทิ้งลายความหื่นแม้แต่น้อย

            “ก็รู้ว่าต้องการอะไรอยู่นี่นา” น้ำเสียงออดอ้อนเปรยข้างใบหูทำเอาปลาวาฬถึงกับตัวอ่อนปวกเปียก คนอะไรจะทำให้เขารู้สึกได้ถึงความหื่นอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเพียงลำพังอย่างนี้

            “ใกล้แล้วล่ะรออีกนิดนึง” ปลาวาฬเอ่ยให้ความหวัง

            “จริงดิครับที่รัก” เมื่อได้ยินอย่างนั้น นักบินก็เอ่ยเสียงหวานขึ้นมาทันที บ่งบอกว่าเจ้าตัวแทบจะทนความต้องการไม่ได้แล้ว

            “จริง...ครั้งนี้ไม่ได้ล้อเล่นนะถือเป็นการตอบแทนที่คุณตั้งใจเลี้ยงลูกเป็นอย่างดีมาตลอด”

            “ขอบคุณนะครับที่รัก ใจจริงสามีอยากให้มันเป็นคืนนี้ซะด้วยซ้ำ” น้ำเสียงที่แหบพร่าเอ่ยข้างใบหูทำเอาปลาวาฬถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมา

            “ไม่ใช่คืนนี้แน่นอนบอกไว้ก่อนเลย” ปลาวาฬรีบเอ่ยดับฝันของใครบางคนขึ้นมาทันที แต่ถึงกระนั้นนักบินก็ยังคงคลอเคลียที่ซอกคอขาวอยู่ตลอดเวลา

            นักบินมัวแต่ยุ่งๆ กับการเลี้ยงลูกแฝด ทำให้เจ้าตัวลืมเรื่องเมย์ไปโดยปริยาย ลืมแม้กระทั่งว่าวันใดวันหนึ่งเจ้าหล่อนอาจจะโผล่เข้ามาทวงคำสัญญา และอาจจะทำให้ตนและปลาวาฬเข้าใจผิดกันก็เป็นได้ นักบินเองยังไม่ได้คิดหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ไว้ก่อนเลยสักนิดเดียว

            หลายวันต่อมาขณะนักบินกำลังนั่งหยอกล้อเล่นกับลูกทั้งสองคนอยู่นั้น ก็มีสายโทรเข้ามาหา เมื่อได้ยินเสียงเจ้าตัวก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างๆแล้วมองดูหน้าจอ ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้เจ้าตัวถึงกับหน้าซีด เพราะมันคือสายของอดีตคนรักนั่นเอง หลังจากอึ้งอยู่สักพักไม่ยอมรับสายเสียที ปลาวาฬจึงหันไปมองด้วยความสงสัยแล้วเอ่ยถาม...

            “ทำไมไม่รับสายล่ะคุณ”

            “เอ่อ...เบอร์ไม่คุ้นสงสัยจะโทรมาผิดมั้ง” ว่าแล้วก็ตัดสายไป

            “ไม่คุ้นก็น่าจะรับนะเผื่อเป็นเพื่อนคุณเปลี่ยนเบอร์มาล่ะ” ปลาวาฬยังคงสนใจกับเรื่องนี้อยู่ ช่วงหลายเดือนมานี้นักบินจะไม่ได้เข้าสังคมกับเพื่อนๆ สักเท่าไร เพราะทุ่มเวลาทั้งหมดให้เมียกับลูก ใจจริงปลาวาฬก็อยากให้อีกฝ่ายออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง เพราะกลัวจะเครียดและเบื่อไปเสียก่อน

            “ไม่หรอกช่างมันเถอะ” พูดจบยังไม่ถึงนาทีเมย์ก็โทรมาอีกครั้ง

            Rrrrr….

            นักบินรีบตัดสายอีกครั้งแล้วก็ปิดเครื่อง ทำเอาปลาวาฬถึงกับทำหน้าสงสัยขึ้นมาทันที

            “ทำไมคุณไม่รับสาย แถมยังปิดเครื่องอีกด้วย มีอะไรปิดบังผมอยู่หรือเปล่า” ปลาวาฬเริ่มทำเสียงดุขึ้นมา โชคดีที่เจ้าตัวน้อยทั้งสองที่นอนอยู่บนเบาะไม่ได้งอแง จึงทำให้ปลาวาฬมีเวลาซักเอาความจริงจากปากอีกฝ่าย

            “ก็ฉันไม่รู้จักว่าเป็นสายใครไง รำคาญจะแย่ อย่าไปสนใจมันเลย” นักบินรีบหาข้อแก้ตัวไปเรื่อย ในใจก็หวังว่าอีกฝ่ายจะเชื่อ

            “จริงนะไม่ใช่ว่าแอบไปมีใคร ไม่งั้นผมเอาคุณตายแน่” ปลาวาฬขู่ซะเสียงเย็นยะเยือก ทำเอาคนที่ได้ยินถึงกับหน้าเจื่อนพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ

            “จริงครับที่รัก เชื่อใจเขานะ อย่าทำหน้าดุอย่างนั้นสิลูกเริ่มจะไม่ปลื้มแล้วนะนั่น” นักบินเริ่มเอาลูกมาเป็นข้ออ้าง เวลาปลาวาฬดุขึ้นมาแล้วมันช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน

            “อย่าให้มีนะ...ครั้งนี้ผมจะยอมเชื่อ”

            “คร้าบบ จะมีเวลาที่ไหนไปมีกิ๊กล่ะ วันๆ ก็อยู่แต่กับลูกกับเมียนี่นา”

            เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนยันนักหนาปลาวาฬก็เริ่มจะเชื่อใจ แล้วกลับเข้าสู่โหมดปกติเหมือนเดิม หลังจากนั้นทั้งสองก็หยอกล้อเล่นกันกับลูกน้อยอย่างมีความสุข แต่ระหว่างนั้นก็มีเสียงหวานของใครบางคนตะโกนเรียกนักบิน

            “นักบินคะทำไมไม่รับสายเมย์เลยอ่ะ”

            หญิงสาวหน้าตาสะสวยในชุดเดรสสีแดงเพลิงแฟชั่นจ๋า ยืนยิ่มแฉ่งอยู่ตรงหน้า ทำเอานักบินถึงกับอึ้งหัวใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที คาดไม่ถึงว่าการตัดสายเมย์ในครั้งนี้จะทำให้เรื่องมันยุ่งขึ้นไปอีก เมื่อสักครู่เขายิ่งโกหกอีกฝ่ายเอาไว้ด้วย เจ้าตัวเข้าใจคำว่า ‘งานเข้า’ อย่างถ่องแท้ก็วันนี้นี่ล่ะ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2018 17:12:54 โดย ไมเลอร์ »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
เหอะๆๆๆ งานเข้าแน่ๆแล้ว ยังไงก็จัดการให้เรียบร้อยซะตั้งแต่ตอนนี้ล่ะนักบิน เดี๋ยวน้องปลาวาฬหอบลูกหนีไปไม่รู้ด้วย

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ตอนหน้าได้เจอคุณแฟนเก่าแน่เลย

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1

“เงียบเลยสงสัยจะหิวมากสินะลูกพ่อ” เมื่อเห็นลูกชายดื่มนมอย่างกระหายหิว นักรบก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง แล้วจ้องมองอยู่อย่างนั้นพร้อมกับยิ้มอยู่ตลอดเวลา


อันนี้น่าจะพิมพ์ผิดนะคะ คงจะเป็น นักบิน

-------------------------------
นั่นไง! มาแล้ว! นางมาแล้ววว

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
รีบเคลียร์ให้เสร็จซะล่ะนักบิน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นึกถึงชะนี มาทันทีเลย ซวยแล้วๆๆ  :hao3:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
นางมันร้ายยยยยเมย์

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
รีบๆเคลียร์ให้จบนะนักบิน ก่อนที่ปลาวาฬจะหอบลูกหนีไปซะก่อน

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
มาแล้วๆๆ ตัวมาร :hao3:

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
หึๆๆ.. ยังไงๆค่ะ..

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
ว่าละ นางมาละ
งานจะไม่เข้า ถ้าชัดเจนนะนักบิน
สัญญาในอดีต ก็ให้มันผ่านไปสิ ไม่เป็นตามที่คิดแล้วหนิ
ก็ตอนนี้มีคนที่รักกะลูกละไง
คนรักเก่าอะไรนั่น ให้เป็นแม่ของลูกนั่นก็ไม่ต้องแล้วป่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
-๒o-

แกล้ง


            “มะ...เมย์มาได้ไงเนี่ย” นักบินตอบรับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ตอนนี้แทบไม่กล้าหันไปมองคนที่อยู่ข้างๆเลย เพราะกลัวว่าจะเห็นสายตาที่อำมหิตคู่นั้น ไม่ใช่อะไรเขาแค่กลัวว่าปลาวาฬจะน้อยใจที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้มาก่อน

            เมย์เดินนวยนาดเข้ามาหานักบิน พลันสายตาคู่สวยก็มองปลาวาฬด้วยความสงสัย พร้อมกับนึกในใจว่าคงจะเป็นคนที่มารับจ้างอุ้มท้องให้อย่างแน่นอน

            “ก็นั่งเครื่องมาสิคะ โทรหาคุณก็ไม่รับแถมยังปิดเครื่องอีกต่างหาก แต่ก็ช่างเถอะยังไงก็มาถึงแล้วไหนคะลูกของเรา” เมย์ถามพร้อมกับมองไปยังเด็กทารกทั้งสองคนที่นอนอยู่บนเบาะนุ่ม เห็นอย่างนั้นเจ้าหล่อนก็ยิ้มด้วยความเอ็นดู มือเรียวก็ลูบท้องตัวเองไปด้วย

            “ลูกเรางั้นเหรอ?” ปลาวาฬได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มไม่พอใจ อยู่ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็มาขี้ตู่ว่าลูกของเขาเป็นลูก มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ แถมนักบินยังไม่รีบจัดการอะไรเลย ยิ่งรู้สึกโมโหเข้าไปใหญ่ เขาอยากจะรู้เต็มทนแล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้มีอิทธิพลกับนักบินอย่างนี้

            “ใช่ลูกของฉันกับนักบินไง นายเป็นคนที่รับจ้างอุ้มท้องสินะ นักบินสัญญากับฉันแล้วว่าจะให้ฉันเป็นแม่ของเด็ก นายมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” เมย์ยังไม่รู้ว่าตอนนี้นักบินได้ฉีกสัญญานั้นไปแล้ว และทั้งสองก็อยู่ในสถานะคนรักโดยที่เธอเองก็คาดไม่ถึง

            “มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ” นักบินไม่รู้ว่าจะแก้ตัวกับใครก่อนดี เพราะตอนนี้ทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างก็เข้าใจกันคนละแบบ เมย์เข้าใจว่าปลาวาฬเป็นแค่ลูกจ้าง ส่วนปลาวาฬเข้าใจว่าเมย์เป็นกิ๊กของนักบิน

            “ยังไง! / ยังไง!” ปลาวาฬและเมย์ประสานเสียงพูดขึ้นพร้อมกัน ทำเอานักบินถึงกับกุมขมับด้วยความกลุ้มใจ พร้อมกับมองหน้าทั้งสองคนสลับไปมา

            “ก่อนอื่นขอแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกันก่อนนะ ปลาวาฬนี่เมย์เป็นเอ่อ...แฟนเก่าฉันเอง ส่วนเมย์นี่ปลาวาฬนะเป็นเมียผมเอง” เขาคิดว่าหากแนะนำตัวให้รู้จักกันเช่นนี้แล้ว จะทำให้ปลาวาฬและเมย์รู้สถานะของตัวเองและอีกฝ่าย เขาพลาดตรงที่ยังไม่ได้บอกเมย์เรื่องเขากับปลาวาฬ สำหรับเมย์แล้วมันไม่น่าเป็นปัญหาอะไรเลย เพราะเมย์เป็นคนเข้าใจอะไรง่ายๆ ห่วงแต่ปลาวาฬนี่ล่ะที่อาจจะโกรธเป็นฟืนป็นไฟ เพราะอยู่ดีๆก็มีผู้หญิงมาหาเขาถึงบ้าน ถึงแม้จะเป็นแฟนเก่าก็เถอะ

            “นักบินหมายความว่ายังไง เมียงั้นเหรอเมย์เริ่มงงไปหมดแล้ว” เมย์มองหน้าถามนักบินด้วยความสับสน ก่อนหน้านั้นนักบินไม่เคยบอกหล่อนเลย ว่าจะเปลี่ยนสถานะปลาวาฬจากลูกจ้างไปเป็นเมีย

            “ก็อย่างที่เมย์ได้ยินนั่นล่ะ ปลาวาฬเป็นเมียเราแล้ว เรากับปลาวาฬรักกัน เรื่องสัญญาของเราคงเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะ” นักบินรีบบอกให้เมย์รู้ตัวเพราะอยากจะเอาใจปลาวาฬที่ยืนมองตาขวางอยู่ เวลาหึงหวงอย่างนี้ทำเอานักบินรู้สึกเสียวสันหลังวาบอยู่ไม่น้อย

            “ทำไมนักบินไม่บอกเมย์ก่อนหน้านี้ล่ะ เมย์จะได้ไม่ต้องมาขายขี้หน้าอย่างนี้” เมย์เริ่มขึ้นเสียงใส่ทันที เจ้าหล่อนรู้สึกเสียหน้ามากเหลือเกิน ตอนนี้แทบจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีแล้ว

            “ผมขอโทษนะเมย์ ก่อนหน้านี้กำลังยุ่งๆ กับเรื่องลูกเลยไม่มีโอกาสโทรไปบอกเมย์เลย” นักบินเองก็รู้สึกผิดที่ทำให้อดีตคนรัก ต้องบินมาทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ถึงที่นี่

            ปลาวาฬพอจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังโกรธที่นักบินไม่เคยบอกเรื่องที่เคยสัญญากับอดีตคนรัก ตอนนี้เขากลับรู้สึกเห็นใจเมย์มากกว่า จากตอนแรกที่ออกอาการหึงหวงกลับกลายเป็นว่าเริ่มอ่อนลง รอดูท่าทีของเมย์ก่อนว่าจะมาไม้ไหนกันแน่ ผู้หญิงคนนี้สินะที่เคยทิ้งนักบินไป

            “ผมจะอยู่กับลูกก่อนละกัน คุณรีบไปเคลียร์กับคุณเมย์เถอะ” ปลาวาฬเอ่ยแล้วหันไปสนใจลูกทั้งสองคน ที่กำลังนอนอยู่บนเบาะอย่างน่ารักน่าชัง

            “เมย์จะไม่เคลียร์กับคุณแต่เมย์จะเคลียร์กับนายคนนี้” เมย์ชี้มาที่ปลาวาฬ ทำเอาเจ้าตัวอึ้งและตกใจไปพร้อมๆ กัน เพราะคิดว่าคนที่ต้องเคลียร์เรื่องนี้คือนักบินไม่ใช่เขา

            “ปลาวาฬไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลยนะ เมย์เข้าใจหน่อยสิปกติเมย์ไม่ใช่คนอย่างนี้นี่นา” นักบินเอ่ยด้วยความร้อนใจกลัวว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้น

            “ไม่เป็นไรครับผมจะคุยกับคุณเมย์เอง ฝากลูกด้วยเดี๋ยวกลับมา” ปลาวาฬลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาเมย์ทันที เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าทำไมเมย์ถึงอยากจะคุยกับเขามากขนาดนี้ มาถึงตอนนี้แล้วเขาไม่มีทางยอมจากคนที่รักไปไหนอย่างแน่นอน

            “ถ้างั้นก็คุยกันตรงนี้ล่ะ” นักบินตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล หากมีเขาอยู่ด้วยมันน่าจะดีที่สุด

            “ไม่! เมย์จะคุยกับนายคนนี้สองต่อสอง คุณไม่ต้องห่วงว่าเมย์จะทำอะไรคนของคุณหรอกค่ะ เมย์ไม่คิดสั้นขนาดนั้นแน่” เมย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

            “ถ้างั้นไปที่ศาลาในสวนละกันครับ ตามผมมา” ปลาวาฬเดินนำหน้าหญิงสาวไป โดยไม่ลืมที่จะมองแรงใส่นักบิน เหมือนเป็นการคาดโทษเอาไว้ซะอย่างนั้น

            หลังจากทั้งสองคนเดินไปแล้วนักบินที่นั่งเฝ้าลูกแฝดอยู่ก็รู้สึกเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด กลัวว่าจะเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทขึ้นมา เพราะปลาวาฬเพิ่งผ่าตัดคลอดลูกมาไม่นาน หวังว่าคงจะไม่เป็นอย่างนั้นหรอกนะ

            ปลาวาฬเดินนำหน้าเมย์มาถึงศาลาในสวน ก็เชิญเจ้าหล่อนนั่งลงก่อนที่ตัวเองจะนั่งตามลงไป หลังจากนั้นบทสนทนาก็เริ่มต้นขึ้น...

            “คุณมีเรื่องอะไรจะเคลียร์กับผมงั้นเหรอครับ” ปลาวาฬคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติ พร้อมกับมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร เขาไม่อยากจะมีเรื่องกับใคร ที่มานี่ก็เพราะอยากจะเคลียร์เรื่องทุกอย่างให้มันชัดเจน

            “นายรักนักบินจริงๆ งั้นเหรอ ไม่ใช่ว่าเห็นแก่เงินหรอกนะ” เมย์ถามออกไปตรงๆ สายตาก็จับจ้องอีกฝ่ายอย่างจับผิด

            “ใช่! ผมกับคุณนักบินเรารักกันมาก ผมยอมรับว่าผมมันจนแต่ตอนนี้เรื่องเงินมันไม่สำคัญสำหรับผมแล้ว ขอแค่มีลูกและคุณนักบินอยู่ข้างๆก็พอใจแล้ว” ปลาวาฬตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ เมย์ได้ยินก็พยักหน้าราวกับเข้าใจในสิ่งที่ได้ยินเป็นอย่างดี แต่เจ้าหล่อนกลับไม่ยอมหยุดแค่นั้น

            “นักบินเคยสัญญากับฉันว่า ถึงจะเลิกกันแล้วก็จะให้ฉันเป็นแม่ของลูกเท่านั้น ตอนนี้ฉันกลับมาทวงคำสัญญาแล้ว เธอคิดว่าฉันควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี” เมย์อยากรู้ว่าปลาวาฬจะแก้ปัญหากับเรื่องนี้ยังไง จริงๆเธอเองก็รู้ว่าคนที่ต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ควรจะเป็นนักบินมากกว่า แต่เธอต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง

            “เรื่องนี้คนที่ผิดจริงๆแล้วก็คือคุณนักบิน ที่ไม่ยอมเคลียร์อะไรให้มันเรียบร้อย แต่เรื่องมันก็เกิดขึ้นมาแล้ว ผมจะยอมให้คุณเป็นแม่ทูนหัวของลูกผม มันน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว เพราะมันไม่ใช่ความผิดของคุณผมเองก็เข้าใจ” ปลาวาฬพยายามวางปัญหาให้มันอยู่ตรงกลางให้มากที่สุด เพราะไม่อยากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องรู้สึกไม่ดี นักบินเองก็จะได้ไม่ต้องเสียคำพูด ส่วนเมย์ก็อุตส่าห์มาถึงที่นี่แล้วเขาเองก็รู้สึกเห็นใจอยู่ไม่น้อย

            “ถ้าฉันอยากให้นายออกไปจากชีวิตนักบินล่ะ”

            “ผมคงทำให้คุณไม่ได้ เพราะตอนนี้เรารักกันมาก เราจะสร้างครอบครัวด้วยกัน หวังว่าคุณคงจะเข้าใจนะครับ” ปลาวาฬไม่มีทางยอมให้ผู้หญิงคนนี้มาทำลายชีวิตครอบครัวของเขาแน่นอน ไม่ว่าจะยังไงเขาก็จะอยู่ที่นี่กับลูกและคนรักไม่จากไปไหน                   

            “แล้วนายรู้ได้ยังไงว่านักบินจะรักนายจริง เขาอาจจะอยากให้นายมาดูแลลูกพอโตแล้วก็อาจจะเฉดหัวทิ้งก็ได้ ฉันรู้จักนักบินดีคนที่มีประโยชน์กับเขา เขาก็จะทำดีอย่างนี้ด้วยเสมอล่ะ” เมย์สังเกตเห็นใบหน้าที่เริ่มเป็นกังวลของอีกฝ่ายก็ยิ้มมุมปากทันที

            “ผมมั่นใจว่าถึงยังไงคุณนักบินก็ไม่มีทางคิดอย่างนั้นแน่นอน คุณไม่ต้องมาปั่นหัวให้ผมลังเลใจหรอก ถึงยังไงซะผมก็ยังยืนยันคำเดิม ว่าจะอยู่ที่นี่ต่อในฐานะแม่ของลูก แต่ถ้าคุณอยากจะเป็นแม่ทูนหัวผมก็ไม่ขัดข้องอะไร ตามนี้นะครับถ้าไม่มีอะไรผมขอตัวเข้าไปหาลูกข้างในก่อน” แม้สีหน้าจะมีความกังวลแต่คำพูดและน้ำเสียงที่สื่อออกมามันยังคงหนักแน่นเช่นเดิม เจ้าตัวรู้ว่าตอนนี้เมย์กำลังปั่นหัวเขา และไม่มีทางหลงกลอีกฝ่ายแน่นอน

            “เดี๋ยวฉันยังพูดไม่จบ นั่งลงก่อนสิ” เมย์รีบเอ่ยก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินออกไปจากศาลา หลังจากได้พูดคุยกันมาสักพัก ทำให้เมย์รู้สึกได้ว่าปลาวาฬเป็นคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผลมากพอสมควร ไม่น่าจะมาคบกับนักบินเพราะเงินอย่างที่เธอเข้าใจตั้งแต่แรกแน่นอน

            “คุณว่ามาเถอะผมต้องรีบเข้าไปดูลูกแล้ว ไม่รู้ป่านนี้จะร้องไห้งอแงอยู่หรือเปล่า” ปลาวาฬปฏิเสธที่จะนั่งลง เพราะเขาคิดว่าได้พูดทุกอย่างออกไปหมดแล้วไม่มีอะไรค้างคาในใจอีกต่อไป

            “จริงๆ แล้วตอนนี้ฉันกำลังตั้งท้อง” เมย์ตัดสินใจบอกความจริงกับปลาวาฬ จริงๆ แล้วที่เธอกลับมาเมืองไทยในครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อทวงคำสัญญาอะไรเลย เพียงแต่จะมาช่วยนักบินเลี้ยงดูลูกเพราะถึงยังไงก็ได้ให้สัญญากับอีกฝ่ายไว้แล้ว โดยไม่รู้มาก่อนว่าตอนนี้นักบินได้ตกหลุมรักแม่ตัวจริงของเด็กไปเสียแล้ว แต่หากนักบินบอกเธอก่อนหน้านี้เธอก็ยังจะมา เพราะต้องการเห็นหน้าหลานและบอกข่าวดีให้นักบินรู้อีกด้วย และตั้งใจจะมาเรียนรู้การเลี้ยงดูเด็กอ่อนด้วย เผื่อว่าเธอจะนำประสบการณ์ไปเลี้ยงดูลูกที่กำลังจะคลอดออกมาในอีกไม่ช้า

            “อะไรนะ! คุณกำลังตั้งท้องงั้นเหรอ” ปลาวาฬได้ยินก็นั่งลงที่เก้าอี้ทันที เขาอยากรู้ว่าอีกฝ่ายบอกความจริงต้องการอะไรกันแน่ และมั่นใจว่ามันคงไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เขาจต้องลำบากใจแน่นอน

            “ที่ฉันอยากออกมาเคลียร์กับนายตามลำพัง เพราะอยากรู้ว่านายรักนักบินจริงๆหรือเปล่า ฉันเคยนอกใจและทิ้งเขาไปแล้วครั้งหนึ่ง ไม่อยากให้นักบินต้องเสียใจแบบนั้นอีก เมื่อฉันมั่นใจแล้วว่าเธอรักนักบินจริงๆ คำสัญญาพวกนั้นก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ดีซะอีกฉันจะได้มาช่วยนายเลี้ยงลูก เผื่อเวลาฉันคลอดจะได้เลี้ยงลูกเองได้” เมย์เปิดอกบอกความรู้สึกในใจทั้งหมดให้ปลาวาฬฟัง เพราะตัวเธอเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับนักบินแล้ว ตอนนี้ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้นเอง

            “ยินดีด้วยจริงๆครับ ผมยังจำความรู้สึกนั้นได้ดีตอนตั้งท้องใหม่ๆมันมีความสุขมากเหลือเกิน ผมยังยืนยันคำเดิมว่าหากคุณอยากเป็นแม่ทูนหัวของลูกผมก็ยินดี” ท่าทีของคนทั้งสองเริ่มอ่อนลงและเป็นไปในทางที่ดีขึ้นเมื่อได้เปิดใจกัน

            “ขอบใจจ้ะ ฉันยินดีที่จะเป็นคุณแม่ร่วมกันกับนาย เอาเป็นว่าฉันขอรบกวนเรียนรู้การเลี้ยงลูกจากนายไปสักระยะแล้วค่อยกลับต่างประเทศก็แล้วกัน ไม่ต้องห่วงเรื่องฉันกับนักบินเพราะมันไม่มีอะไรแล้ว ระหว่างเราทั้งสองคนเป็นแค่เพื่อนกัน” เมย์ให้คำยืนยันเพื่อให้ปลาวาฬสบายใจ

            “ผมเชื่อคุณครับ” ปลาวาฬยิ้มให้เจ้าหล่อน

            “ทำไมเธอถึงเชื่อใจฉันเร็วนักล่ะ” เมย์เอ่ย

            “คุณเชื่อว่าผมรักคุณนักบินจริงๆ แล้วทำไมเรื่องแค่นี้ผมจะไม่เชื่อใจคุณบ้างล่ะครับ” ปลาวาฬยิ้มให้สื่อถึงความจริงใจ

             “ถ้าอย่างนั้นเรื่องของเราก็จบเพียงเท่านี้ก็แล้วกันนะ” เมย์ยิ้มให้

             “ครับ...แต่มีข้อสงสัยอยากถามคุณเมย์เรื่องหนึ่ง ที่ว่าคุณนักบินแพ้ผู้หญิงมันคือเรื่องจริงเหรอครับ” เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาอยากรู้เอามากๆ 

              “ใช่! นี่ล่ะคือสาเหตุที่ทำให้ฉันไปมีคนอื่นและก็บอกเลิกนักบิน เธอเองยังคงไม่เคยเห็นสินะ”

              “คุณช่วยผมอย่างหนึ่งได้ไหม” ปลาวาฬเริ่มคิดอะไรดีๆออกแล้ว เขาอยากจะสั่งสอนนักบินที่ไม่มีความชัดเจนในหลายๆเรื่อง ทำให้คนอื่นต้องเดือดเนื้อร้อนใจไปตามๆกัน

            “ได้สิว่ามาเลยจ้ะ” เมย์ยิ้มให้เธอยินดีช่วยเหลืออีกฝ่ายเต็มที่หากเธอทำมันได้

            หลังจากส่งยิ้มให้เมย์แล้วปลาวาฬก็เล่าเรื่องที่จะให้หญิงสาวช่วยทำ เมย์ได้ยินก็ยิ้มแล้วพยักหน้าหงึกบ่งบอกว่าเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินเข้ามาในบ้านอีกครั้ง

            “ไปคุยอะไรกันซะนานเชียว” เมื่อเห็นคนทั้งสองเดินกลับมาพร้อมกันนักบินก็เอ่ยถามทันที ตอนนี้ปลาดาวและนักสู้นอนหลับปุ๋ยอยู่ในเปลอู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นยิ่งทำให้เรื่องทุกอย่างง่ายขึ้นไปอีก

            “คุณมานี่หน่อยสิผมมีบางอย่างจะบอก” ปลาวาฬที่กำลังยืนอยู่ข้างเมย์เอ่ยเรียกคนรักให้มาหา

            “สรุปตกลงกันได้แล้วเหรอ” นักบินเอ่ยถามด้วยสีหน้าสงสัย ขณะเดียวกันก็ลุกขึ้นไปหาทั้งสองคน โดยพยายามไม่อยู่ใกล้กับเมย์ เพราะเขารู้ดีว่าฝ่ายหญิงอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้

            “สรุปได้แล้วเมย์กับปลาวาฬเห็นตรงกันว่า.........” เมย์เอ่ยเว้นไว้เพื่อให้นักบินอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นไปอีก

            “ว่ายังไงบอกมาเร็วๆ ดิผมอยากรู้จะแย่แล้วเนี่ย” นักบินลืมตัวจึงเดินเข้าไปหาเมย์ใกล้ๆ เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มอยู่ในระยะพอเหมาะแล้วทั้งสองก็ส่งยิ้มให้กัน สื่อว่าถึงเวลาแล้วที่นักบินจะต้องได้รับการลงโทษจากคนทั้งสอง

            “ว่าจะทำให้นักบินนึกถึงอาการแพ้ผู้หญิงอีกครั้งน่ะสิคะ” ว่าแล้วเมย์ก็จัดการโอบกอดนักบินเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ส่วนปลาวาฬก็รีบเดินออกห่างพร้อมกับขำออกมาด้วยความสะใจ

            “ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะเมย์ ไม่เอาแบบนี้นะผมกลัว” นักบินพยายามสลัดตัวหญิงสาวออกทันที

เมย์เองก็ยอมปล่อยแล้วเดินออกมาดูผลงานของตัวเอง

            “อย่าบอกนะว่ารวมหัวกันแกล้งผม” นักบินเริ่มครั่นเนื้อครั่นตัว ใบหน้าแดงก่ำ มือหนาก็เกาตามตัวเพราะเริ่มคันไปทุกสัดส่วน ของเหลวที่อยู่ในท้องเริ่มไหลดันสวนขึ้นมาจนจุกที่ลำคอ

            อ้วกกกก!!!!

            ก่อนที่พื้นมันจะเลอะไปเสียก่อนนักบินก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อเอาของเหลวในท้องทั้งหมดออกมา ส่วนปลาวาฬและเมย์ต่างก็ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจในผลงานของตัวเอง

            ปลาวาฬได้เห็นกับตาก็วันนี้ล่ะว่าอาการแพ้ผู้หญิงขั้นรุนแรงมันเป็นยังไง...




----------------------------------------------------
สงสารเมย์ ใครๆก็ด่านาง นางไม่ได้ร้ายเลยน้า ขอโทษนางเดี๋ยวเน้ 555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
แง้ ขอโทษจ้าที่เรามองเธอผิดไปนะคุณเมย์

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
สมน้ำหน้านักบิน
สมควรโดนแกล้งละ
แกนี่ไม่ยอมเคลียร์กับเมย์แต่แรก
ดีที่นางเปนคนดี เข้าใจง่าย แถมมีลูกของตัวเองแล้ว
ไม่งั้นคงวุ้นจริงๆ
 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
อ้าววววว คดีพลิกหลงว่านางซะตั้งนาน ขอโทษนะเมย์ นี่แพ้ผู้หญิงหนักขนาดนี้เลย o22 ดีแล้วๆๆจะได้ไม่นอกใจปลาวาฬ

ออฟไลน์ booboos

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
 :m20:  แพ้หนักเลย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โอเค เรื่องทุกอย่างเคลียร์

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หนูเมย์ เป็นชะนีที่น่ารักมากเลยนะ  :L2:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ทั้งขำ ทั้งสงสารนักบิน โดนรุมแกล้งซะงั้น 55555

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
​-๒๑-

Blow Job


            อ้วกก!!!

            นักบินนั่งอย่างหมดสภาพอยู่บนพื้นห้องน้ำ มือหนาทั้งสองข้างจับที่ขอบชักโครกเอาไว้เพื่อให้ทรงตัวได้ ยื่นใบหน้าคมเข้าไปตรงกลางเพื่อขย้อนเอาของเหลวในท้องออกมาจนเกือบหมดไส้หมดพุง ใบหน้าที่เคยขาวใสกลับแดงก่ำจากอาการแพ้ เหงื่อกาฬผุดไหลออกมาจากผิวหนังอยู่ไม่ขาดสาย ส่วนปลาวาฬนั่งอยู่ข้างหลังใช้มือเรียวลูบที่แผ่นหลังของคนรักป้อยๆ ทว่าใบหน้าหวานกลับขำออกมาไม่ยอมหยุด

            “คุณโอเคหรือยัง?” คนที่เฝ้าดูอาการอยู่ไม่ห่างกายเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แต่ท่าทีของนักบินกลับเหมือนไม่เต็มใจยอมรับความห่วงใยจากอีกฝ่ายเลย เขายังรู้สึกน้อยใจที่ปลาวาฬรวมหัวกับเมย์เล่นงานซะจนแทบไม่เหลือสภาพเลย

            “อย่ามาตบหัวแล้วลูบหลังเลย ทำไมถึงทำกับผัวได้ลงคอ” หลังจากโก่งคออ้วกออกมาจนหมดแล้ว นักบินก็นั่งอย่างหมดสภาพพิงผนังห้องน้ำ มือหนาก็เกาที่แขนและลำตัวไปด้วยจนผิวแดงเป็นจ้ำๆ เกือบทั้งตัว

            “ก็โดนผัวหลอกก่อนไง ถ้าบอกกันดีๆ ตั้งแต่แรกคงไม่ต้องมีการเจ็บตัวอย่างนี้ นี่ถือว่าเป็นบทเรียนนะคราวหน้าอย่าได้ประพฤติตัวอย่างนี้อีก” ปลาวาฬนั่งเทศนาให้อีกฝ่ายฟังและปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด

            “โอเคๆ แล้วลูกล่ะอยู่กับใคร” แม้จะอยู่ในสภาพแย่ แต่เจ้าตัวก็ยังรู้สึกเป็นห่วงลูกทั้งสองคนอยู่ตลอดเวลา

            “ฝากไว้กับคุณหญิงอ่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกลูกหลับอยู่ ลุกขึ้นเดี๋ยวผมพาขึ้นไปอาบน้ำข้างบน” เมื่อแกล้งอีกฝ่ายจนพอใจแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่ปลาวาฬจะดูแลเพื่อให้นักบินคืนสภาพโดยเร็วที่สุด เห็นอย่างนี้ก็รู้สึกสงสารอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าเปอเซ็นต์ความสะใจจะเยอะกว่าอยู่มากโข

            “ไม่ต้อง! ฉันดูแลตัวเองได้” นักรบปฏิเสธที่จะรับความช่วยเหลือก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นยืน แต่ปลาวาฬกลับไม่ยอมยังพยายามไปช่วยจับแขนพยุงขึ้นให้จงได้

            “ทำเป็นงอนไปได้นะคุณอ่ะ...ป่ะขึ้นห้องไปอาบน้ำกัน” ปลาวาฬยังคงยิ้มให้อีกฝ่าย

            “นายต้องอาบให้ฉันนะไม่งั้นไม่หายงอนด้วย” นักบินยื่นข้อเสนอเพื่อจะยอมขึ้นไปแต่โดยดี

            “โอเคๆ ผมยอมก็ได้” ปลาวาฬยอมตอบรับข้อเสนอโดยง่าย เพราะตั้งใจอยู่แล้วว่าจะมาเอาใจนักบิน เพื่อชดเชยความผิดเมื่อสักครู่

            “ถ้างั้นก็รีบไปเถอะคันจะแย่แล้วเนี่ย หนักกว่าโดนหมามุ่ยซะอีก” นักบินบ่นขณะเดินออกมาจากห้องน้ำ

            ทั้งสองเดินมาถึงห้องนั่งเล่น คุณหญิงที่กำลังนั่งพูดคุยอยู่กับเมย์ข้างเปลอู่ของหลานแฝด สังเกตเห็นก็เอ่ยถามขึ้นมาทันที

            “เป็นยังไงบ้างไอ้ลูกตัวดี” คุณหญิงฉัตรฉายเอ่ยถามพร้อมกับขำออกมา สื่อว่ารู้สึกสะใจมากเหลือเกิน

            “ยังไม่ตายครับแม่ ยิ้มอย่างนี้คงสะใจมากสินะ” นักบินเอ่ยประชดประชันมารดา

            “แน่นอนย่ะ” คุณหญิงตอบพร้อมกับเชิดหน้าใส่ลูกชาย

            “เมย์ขอโทษด้วยนะคะ ถือว่าเป็นการทักทายจากเพื่อนก็แล้วกัน” เมย์เองก็ยิ้มไม่หุบเมื่อเห็นสภาพของอดีตคนรัก

            “เมย์ก็อีกคนไม่นึกเลยว่าจะทำกันได้” นักบินเอ่ยก่อนจะเมินหน้าหนีไปอีกทาง สื่อว่ารู้สึกเข็ดขยาดกับผู้หญิงคนนี้มาก

            “ผมฝากลูกด้วยนะครับ เดี๋ยวจะพาคุณนักบินขึ้นไปอาบน้ำก่อน” ปลาวาฬเอ่ยกับคนทั้งสอง

            “ไม่ต้องห่วงจ้ะเดี๋ยวฉันจะดูแลหลานเอง พานักบินขึ้นไปเร็วๆ เถอะเห็นสภาพแล้วน่าเวทนาจริงๆ” คุณหญิงเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

            “ขอบคุณครับ”

            เอ่ยขอบคุณคุณหญิงแล้ว ปลาวาฬก็พานักบินขึ้นมาบนห้องนอน เพื่ออาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สดชื่นขึ้น แล้วทายาที่บริเวณผิวหนังที่ตอนนี้กำลังขึ้นผดมานิดหน่อยแล้ว

            “เข้าไปอาบสิคุณ” เมื่อถึงห้องแล้วปลาวาฬก็ปล่อยแขนแล้วบอกให้อีกฝ่ายเข้าไปในห้องน้ำ แต่นักบินกลับยืนนิ่งไม่ยอมทำอะไรเลย เหมือนรอให้ปลาวาฬจัดการทุกอย่างให้

            “ไม่เอานายต้องรับผิดชอบโดยการทำให้ฉันทุกอย่างตั้งแต่ถอดเสื้อผ้า” ท่าทีของนักบินราวกับเด็กอนุบาลที่กำลังรอคนตามใจซะอย่างนั้น ทำเอาปลาวาฬถึงกับถอนหายใจเสียงดัง

            “โอเคๆ ยืนนิ่งๆ ผมจะถอดเสื้อผ้าให้” ว่าแล้วก็ถลกเสื้อยืดของนักบินออกมา จนเผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรงบ่งบอกว่าอีกฝ่ายดูแลตัวเองดีมากเหลือเกิน หลังจากนั้นมือเรียวก็ร่นกางเกงบอลลงมาพร้อมกับกางเกงชั้นในสีดำจนเผยให้เห็นแก่นกายที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี มันกำลังผงาดง้ำอยู่ตรงหน้าบ่งบอกว่ากำลังพร้อมรบมากแค่ไหน แต่ปลาวาฬกลับทำเมินเฉยเหมือนไม่ได้สนใจภาพที่เห็นตรงหน้าเลย

            “เสร็จแล้วก็เดินเข้าไปดิ หรือเดินเองไม่ได้แล้ว” ปลาวาฬเอ่ยประชดประชันอีกฝ่าย

            “ประชดประชันเก่งนักนะเดี๋ยวก็จับกดซะหรอก” นักบินว่าแล้วก็เดินนำหน้าเข้าไปในห้องน้ำแต่โดยดี ก่อนจะนั่งไปในอ่างน้ำ ส่วนปลาวาฬก็เปิดน้ำให้แล้วนั่งบนตั่งเล็กๆเพื่อรอให้น้ำเต็ม

            “ค่อยยังชั่วหรือยังโดนน้ำเย็นๆ” ปลาวาฬถามอาการของคนรัก มือเรียวก็แกว่งไกวอยู่ในอ่างคั่นเวลา

            “ค่อยยังชั่วแล้ว แต่ไม่เล่นแบบนี้อีกแล้วนะฉันใจจะขาด” น้ำเสียงของนักบินบ่งบอกว่ารู้สึกกลัวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่มากเหลือเกิน หลังจากนั้นมือหนาก็คว้ามือเรียวที่อยู่ในน้ำมาจับเอาไว้

            “ครับผม...แค่อยากรู้ว่าเวลาคุณโดนตัวผู้หญิงมันจะเป็นยังไง ตอนนี้หายสงสัยแล้ว ฮ่าๆ” ปลาวาฬขำออกมาเบาๆ แต่สายตาหวานกลับจ้องเข้าไปในดวงตาคมอย่างหวานซึ้ง

            “จากนี้ไปคนที่ฉันจะแตะเนื้อต้องตัวมีแค่นายคนเดียวรู้ไหม” นักบินเอ่ยเสียงหล่อให้คำสัญญา

            “พูดแล้วก็ทำให้ได้ล่ะ...ปล่อยมือเดี๋ยวผมจะไปหยิบฟองน้ำกับครีมอาบน้ำมาถูตัวให้คุณ” นักบินได้ยินก็ยอมปล่อยมืออีกฝ่ายแต่โดยดี

            ปลาวาฬเดินไปหยิบฟองน้ำถูตัวและครีมอาบน้ำมาแล้วนั่งบนตั่งตัวเดิม หลังจากนั้นก็บีบครีมอาบน้ำลงไปบนฟองน้ำพอประมาณ แล้วนำไปถูแขนให้คนที่อยู่ในอ่าง นักบินนั่งยิ้มกริ่มอย่างสบายใจ และรู้สึกสบายตัวมากเหลือเกิน อยากให้มีอย่างนี้ทุกวันมันคงจะดีไม่น้อย

            “คุณรู้ไหมตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยทำอย่างนี้ให้ใครเลยนะ” พูดไปก็ใช้ฟองน้ำถูแขนให้อีกฝ่ายไปด้วย ก่อนจะไล่ไปจนถึงแผ่นหลังกว้าง ตอนนี้ในอ่างเต็มไปด้วยฟองน้ำ รวมถึงบนตัวของนักบินเองก็ฟูฟ่องไปด้วยฟองจากครีมอาบน้ำเช่นเดียวกัน

            “ดีใจจังฉันได้เป็นคนแรกของนายหลายๆ อย่างเลย โดยเฉพาะเปิดซิงนายนี่ถือว่าเป็นอะไรที่ฉันภูมิใจที่สุดเลยรู้ป่ะ” เมื่ออาการแพ้ดีขึ้นมากนักบินก็เริ่มออกอาการหื่นทันที ทำเอาปลาวาฬถึงหมั่นไส้จนอยากหยิกให้เนื้อหลุดเลยทีเดียว

            “ปากเก่งอย่างนี้แสดงว่าหายดีแล้วสินะ ผมจะได้รีบลงไปดูลูก” ดวงตาคู่สวยมองหน้าคนรักเหมือนจะขู่ให้สงบปากสงบคำ

            “ตัวมันหายคันแล้วอ่ะ แต่ไอ้นี่มันยังไม่ลงเลยอ่ะทำยังไงดี” นักบินชี้ไปที่กลางกายของตัวเอง แท่งร้อนมันกำลังผงกหัวหงึกๆอยู่ในน้ำ ปลาวาฬเห็นอย่างนั้นก็ตีเข้าที่ต้นแขนทันที

            “ยังจะมาลามกอีกนะ” ปลาวาฬเอ่ยเสียงลอดไรฟันออกมา ใบหน้าที่เคยขาวปานหยวกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ

            “ก็มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ช่วยเขาหน่อยนะที่รักนะ...นะ...” นักบินพยายามอ้อนวอนขอร้องอีกฝ่ายอย่างเต็มที่ เขาไม่หวังถึงขนาดกับจะต้องมีอะไรกันอย่างลึกซึ้ง แต่แค่ช่วยให้ความกำหนัดที่มีอยู่ในตัวมันลดลงไปบ้างก็พอ

            “คุณก็รู้ว่าร่างกายผมยังไม่พร้อมอ่ะ...ช่วยตัวเองไปก่อนเถอะ” ร่างเล็กตอบกลับอย่างเขินอาย เพราะตอนนี้นักบินได้จับมือเรียวไปกุมส่วนนั้นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ทว่าปลาวาฬกลับไม่ยอมชักมือกลับมายังคงลูบไล้เจ้ามังกรผงาดตัวนั้นอย่างเพลินมือ ซึ่งขัดกับคำพูดของเจ้าตัวราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ

            “ไม่ต้องถึงขนาดนั้นแค่ใช้ปากเอง...นะครับที่รัก” นักบินเริ่มโปรยคำหวานให้อีกฝ่ายยอมใจอ่อนโดยง่าย ในใจก็คิดว่าคงยอมเพราะมือเรียวกำน้องชายของตัวเองไว้แน่นรูดขึ้นลงอย่างสบายมือเลยทีเดียว

            “โอเคก็ได้....เร็วๆ จะได้รีบลงไป” ปลาวาฬก้มหน้าตอบด้วยความเขินอาย นานมากแล้วที่เขาและนักบินไม่ได้มีบรรยากาศที่คุกรุ่นไปด้วยความต้องการอย่างนี้ ถือว่าเป็นการเอาใจคนรักก็แล้วกัน

            นักบินลุกขึ้นแล้วเดินออกมามาจากอ่างน้ำขณะที่ตัวเองยังล่อนจ้อน ก่อนจะนั่งลงบนขอบอ่างเพื่อให้อีกฝ่ายช่วยได้อย่างถนัด ปลาวาฬนั่งอยู่ตรงหว่างขาจ้องมองแท่งร้อนที่ผงกหัว ราวกับเป็นการเชิญชวนให้เข้าไปครอบครองมันโดยเร็ว

            ปลาวาฬเงยหน้าขึ้นไปจ้องมองคนรักด้วยสายตาที่หวานเยิ้ม ก่อนที่นักบินจึงผงกศีรษะตอบรับ สื่อว่าเขาพร้อมแล้วที่จะให้อีกฝ่ายได้ครอบครองแก่นกายแท่งนี้ เมื่อลิ้นเย็นสัมผัสตรงส่วนบนของแท่งร้อน นักบินก็สูดปากออกมาด้วยความเสียวซ่านทันที

            “อา...อย่างนั้นล่ะครับคนดี” ใบหน้าหล่อคมทำหน้าเหยเก ก้มมองทุกวินาทีที่อีกฝ่ายปรนเปรอน้องชายของตัวเอง มือหนาทั้งสองข้างจับที่เรือนผมของปลาวาฬเอาไว้หลวมๆ เพื่อควบคุมจังหวะ

            “ซี้ดส์!!!! เก่งจังเลยครับที่รัก” โพรงปากของปลาวาฬครอบครองแท่งร้อนจนมิด ก่อนจะรูดขึ้นลงเป็นจังหวะที่เนิบนาบ เพื่อตอบสนองอีกฝ่ายให้มีความสุขอย่างเต็มที่ ท่อนขาแกร่งของนักบินเกร็งแน่นไม่ขยับเขยื้อน มีเพียงนิ้วเท้าที่กระดุกกระดิกไปมาเพื่อระบายความกำหนัดที่ส่งมาจากตรงกลางกาย

            บ๊วบๆๆ                                       

            ปลาวาฬเริ่มเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเรื่อย เมื่อรู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังใกล้จะถึงฝั่งฝันแล้ว รับรู้ได้จากมือหนาที่จับบริเวณศีรษะเอาไว้ เริ่มเร่งจังหวะโยกเข้าหาแก่นกายเร็วขึ้น สัมพันธ์กับสะโพกที่เด้งเอาแก่นกายเข้ามาในปากของปลาวาฬอย่างระรัว ขาแกร่งของนักบินเกร็งแน่นมากขึ้น เมื่อของเหลวสีขาวขุ่นเริ่มไหลปะทุพร้อมที่จะออกมาจากแท่งร้อนเต็มทีแล้ว

            “ซี้ดส์!! มะ...ไม่ไหวแล้วว ตะ....แตกแล้วววววว!!” นักบินตะโกนสุดเสียง กระตุกสะโพกอยู่เนืองๆเมื่อของเหลวสีขาวขุ่นพุ่งออกมาจากแก่นกายอย่างท่วมท้น ไหลเข้าไปในโพรงปากคนรักจนหมดเกลี้ยง มือหนายังคงบังคับไม่ให้อีกฝ่ายยอมถอนใบหน้าไปไหน

            “อื้อ....อ่อยยย” ปลาวาฬพยายามเอ่ยประท้วงในลำคอไม่เป็นภาษา แม้ว่าแท่งร้อนจะอ่อนตัวลงมาแล้ว แต่ของเหลวสีขาวขุ่นยังคับแน่นอยู่ในปาก เขาอยากจะบ้วนมันทิ้งเต็มทนแล้ว

            นักบินที่กำลังเงยหน้าหลับตาพริ้มเริ่มได้สติแล้วลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนจะยอมปล่อยมือออกจากศีรษะของปลาวาฬ ครั้งนี้เจ้าตัวรู้สึกว่าน้ำรักออกมามากกว่าปกติ เพราะมันไม่ได้ถูกปลดปล่อยมานานหลายวันแล้ว

            “ห้ามคายทิ้งเด็ดขาดต้องกินให้หมดด้วย...ไม่งั้นฉันจะถือว่านายรังเกียจฉัน” เมื่อเห็นคนรักกำลังจะไปบ้วนน้ำรักในปากทิ้งที่ชักโครก นักบินก็รีบเอ่ยสั่งขัดไว้ก่อน ปลาวาฬรีบหันขวับมามองค้อนใส่ทันที แต่นักบินกลับชี้หน้าคาดโทษเอาไว้ ทำให้จำเป็นต้องกลืนน้ำรักลงคอแล้วไปบ้วนปาก นักบินได้แต่ยิ้มอย่างพอใจก่อนจะรีบลงอ่างไปล้างตัว

            “แหวะ!!! จะอ้วก” เมื่อล้างปากมาแล้วก็ส่งเสียงบ่นให้ได้ยิน

            “อร่อยไหมครับที่รัก ผัวอุตส่าห์เก็บไว้ตั้งหลายวันเลยนะนั่น” นักบินแซวคนรักด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

            “อร่อยบ้าบอน่ะสิ...คาวจะตายอาบน้ำต่อเลยนะผมขอไปดื่มน้ำก่อน ไม่ไหวแล้ว”

            “เดี๋ยวฉันตามลงไปละกัน....ตอนนี้เริ่มสบายตัวแล้ว” นักบินเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

            ปลาวาฬรีบเดินไปเปิดน้ำในตู้เย็นดื่มจนเกือบหมดขวดเพื่อล้างกลิ่นคาวในปาก หลังจากนั้นจึงเดินลงไปข้างล่าง

            เมื่อเดินมาถึงคุณหญิงก็เอ่ยถามหาลูกชายทันที

            “อ้าว! ตานักบินล่ะ”

            “เอ่อ...กำลังอาบน้ำอยู่ครับ เห็นว่าดีขึ้นแล้วผมเลยขอตัวลงมาก่อน” ปลาวาฬยังรู้สึกเขินไม่หาย แต่ก็พยายามไม่มีพิรุจให้คนทั้งสองเห็น

            “ทำไมหน้าแดงๆ อย่างนั้นล่ะปลาวาฬหรือว่าจะแพ้ฉันเหมือนนักบินไปซะแล้ว” เมย์เอ่ยแซวเมื่อเห็นสีหน้าแดงระเรื่อของอีกฝ่าย ท่าทีเงอะงะของปลาวาฬต่างจากเมื่อสักครู่มาก เธอจึงมั่นใจว่านักบินจะต้องทำอะไรแผลงๆ กับหนุ่มน้อยคนนี้มาอย่างแน่นอน

            “เปล่าครับสงสัยจะร้อนไปหน่อย” ปลาวาฬยิ้มแห้งๆ ให้กับคนทั้งสอง แล้วนั่งลงข้างเปลอู่ของลูกน้อยทันทีเพื่อแก้อาการเขิน แม้ว่าคนทั้งสองจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อสักครู่นี้ก็ตาม

            “หนูปลาวาฬไม่สบายหรือเปล่าจ๊ะฉันว่าแอร์ก็เย็นอยู่นะ” คุณหญิงยังสงสัยไม่เลิก เอ่ยถามลูกสะใภ้ด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าจะไม่สบายเพราะมัวแต่ดูแลลูกน้อยจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง

            “ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆครับ” เจ้าตัวส่งยิ้มให้คุณหญิงฉัตรฉาย สื่อว่าตัวเองยังคงสบายดีไม่ได้มีปัญหาสุขภาพแต่อย่างใด

            “ดีแล้วจ้ะถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันจะพาหนูเมย์เอาของขึ้นไปเก็บบนห้องก่อนละกันนะ เดี๋ยวค่อยลงมาช่วยเลี้ยงตาหนูอีกที” คุณหญิงเอ่ย

            “เชิญตามสบายเลยครับเดี๋ยวทางนี้ผมดูแลเอง”

            “เดี๋ยวฉันลงมานะจ๊ะ” เมย์เอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มให้ ก่อนจะเดินไปพร้อมกับคุณหญิงฉัตรฉาย โดยมีสาวใช้ถือกระเป๋าใบใหญ่ตามหลังไป



            สักพักนักบินก็เดินลงมาพร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่ ใบหน้าคมส่งยิ้มให้มาแต่ไกลทำเอาปลาวาฬถึงกับหลบตาไม่กล้ามองหน้า เจ้าตัวยังนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่อยู่ตลอดเวลา รู้สึกอายตัวเองอยู่ไม่น้อยไม่รู้ยอมทำไปได้ยังไง

            “วันนี้เด็กๆ นอนเพลินเลยนะป่านนี้ยังไม่ตื่นเลย” นักบินนั่งหมับลงข้างหลังแล้วเอาคางมาเกยที่ไหลบางอย่างออดอ้อน

            “อื้ม...คุณนอนพักก่อนก็ได้นะเดี๋ยวผมดูลูกเอง”

            “ได้แต่ฉันจะนอนตรงนี้นะ เผื่อลูกตื่นขึ้นมาจะได้ช่วยนายดูลูกด้วยไง” ว่าแล้วนักบินก็เขยิบตัวมานอนหนุนตัก แล้วเงยหน้ามองคนรักพร้อมกับส่งยิ่มให้

            “เอาหมอนมาหนุนดีๆสิ เดี๋ยวคนก็มาเห็นหรอกไม่อายหรือไง” ปลาวาฬมองไปรอบๆดูว่ามีใครอยู่แถวนี้บ้าง โชคดีที่ในห้องนั่งเล่นนี้ไม่มีใครเดินพลุกพล่านไปมาสักเท่าไร

            “จะอายทำไมใครๆ ก็รู้ว่าเราสองคนเป็นผัวเมียกันแล้ว แถมที่นี่มันบ้านฉันนะคนกันเองทั้งนั้น” มือหนาเอื้อมไปสัมผัสแก้มขาวนวลอย่างเบามือ ส่งผ่านความรักที่มีให้จนอีกฝ่ายรู้สึกได้

            “ก็ผมไม่หน้าด้านอย่างคุณนี่นา ทำอะไรได้ทุกที่ทุกเวลาไม่อายฟ้าดินแม้แต่น้อย” ปลาวาฬเอื้อมมือเรียวมาหยิกเบาๆ ที่แก้มของคนรักเช่นเดียวกัน

            “ฉันถือคติที่ว่า ‘ด้านได้อายอด’ ถ้าไม่อย่างนั้นเมื่อครู่ฉันคงไม่กล่อมให้นายช่วยฉันจนเสร็จอย่างนั้นได้หรอก” นักบินเอ่ยถึงเรื่องเมื่อสักครู่ทำเอาปลาวาฬถึงกับหน้าเปลี่ยนสีขึ้นมาอีกครั้ง

            “หยุดพูดเรื่องนี้เลยไม่งั้นผมไม่ให้คุณนอนหนุนตักแน่” เจ้าของตักนุ่มขู่

            “โอเคๆหยุดก็หยุด ยังไงก็เสร็จแล้วไม่รู้จะเอามาพูดอีกทำไมเนาะ”

             พูดจบก็คว้ามือเรียวมาจับแนบอกแกร่งเอาไว้ ก่อนจะหลับตาลงนอน ปลาวาฬคิดในใจว่าจะด่าให้อีกสักรอบแต่ก็ต้องหยุดชะงัก เพราะมือเรียวที่โดนเกาะกุมไว้ มันรู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจ เหมือนต้องการบอกเขาว่า ‘ฉันรักนาย’ อยู่อย่างนั้นซ้ำๆไม่มีวันจบสิ้น





----------------------------------------------------------------------------

ประกาศตอนหน้าก็จะจบแล้วนะครับ ส่วนตอนพิเศษจะลงแค่ที่ Jamplay เพราะมีสัญญากับที่นั่นไว้อาจจะติดเหรียญด้วย ฝากติดตามด้วยนะครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2018 17:28:35 โดย ไมเลอร์ »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด