❤️::::แม่พันธุ์จำเป็น[MpreG]::::❤️ตอนที่ 22 มีกันตลอดไป(จบ) l Up:16-06-2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤️::::แม่พันธุ์จำเป็น[MpreG]::::❤️ตอนที่ 22 มีกันตลอดไป(จบ) l Up:16-06-2018  (อ่าน 109034 ครั้ง)

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
น่ารักกกกกกก

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :mew6: ขนาดน้องเพิ่งท้องยังรู้สึกเศร้าขนาดนี้ ไม่ยังจะนึกถึงวันที่น้องคลอดออกมาเลย ฮืออออออ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
-๑๔-

พักรบ พบรัก



            หลังจากตระเวนเที่ยวอยู่ในเมืองพัทยาได้สองวันจนหนำใจแล้ว วันนี้นักบินก็พาปลาวาฬนั่งเรือข้ามฟากมาที่เกาะล้าน เจ้าตัวรู้สึกพอใจที่การพาอีกฝ่ายมาเที่ยวในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จดังที่ได้ตั้งปณิธานไว้ตั้งแต่แรก นั่นคือทำให้ปลาวาฬคลายเครียดและมีความสุขขึ้น ในแต่ละวันมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะตลอดทาง อาจจะมีการงอนกันบ้างนิดหน่อยแต่ก็ถือว่าเป็นสีสันทำให้ทริปนี้ดูมีรสชาติมากขึ้น

            หลังจากเข้าไปเช็กอินและเก็บสัมภาระไว้ในรีสอร์ตแล้ว ทั้งสองก็ลงมาเดินเล่นที่ริมหาดก่อนเป็นอันดับแรก น้ำทะเลที่นี่ใสสะอาดกว่าริมหาดพัทยามากทำให้ปลาวาฬยิ้มกว้างทันทีที่เห็น ก่อนจะเดินไปเหยียบย่ำบนพื้นทรายที่อยู่ตรงหน้า ปลาวาฬก็ถอดรองเท้าแตะแล้วก้มลงไปหยิบมาถือไว้ เขารู้สึกว่าการเดินเท้าเปล่าบนหาดทรายขาวเช่นนี้ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและลืมเรื่องที่มันบั่นทอนจิตใจได้ดีเลยทีเดียว

            “นี่คุณ...ถอดรองเท้าสิ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนนิ่งปลาวาฬก็รีบหันไปแนะนำให้ทำตามทันที

            “ไม่เอาอ่ะขี้เกียจถือ” นักบินปฏิเสธเสียงแข็งแล้วเดินนำหน้าไป ปลาวาฬแยกเขี้ยวใส่เมื่อโดนขัดใจแล้วก็รีบเดินตามหลังไปติดๆ

            “คุณดูสิน้ำทะเลที่นี่ใสกว่าหาดจอมเทียนมากเลยเนาะว่าไหม” จากที่เคยลงไปเล่นน้ำทะเลที่หาดจอมเทียนมาเมื่อวาน เจ้าตัวก็เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้หลงรักทะเลมากเหลือเกิน หากมีโอกาสก็อยากไปใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนเกาะที่ห่างไกลผู้คนสักครั้งในชีวิต คงจะมีความสุขกายและสบายใจมากเหลือเกิน

            “ถึงพามาที่นี่ไงล่ะ” นักบินหันหน้ามาตอบ

            “ขอบคุณนะ” ปลาวาฬเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจนอีกฝ่ายแทบจะไม่ได้ยิน จึงถามย้ำอีกครั้ง

            “ว่าไงนะ”

            “ของดีมีครั้งเดียว” ด้วยความเขินอายทำให้ปลาวาฬรีบสาวเท้าเดินบนหาดทรายขาวนำหน้าไปก่อน

            “นี่นายเดี๋ยวสิ” นักบินยิมน้อยๆออกมาแล้วตะโกนตามหลังไป “จะรีบไปไหนเนี่ย”

            “ก็รีบตามมาให้ทันสิ” ร่างเล็กหันกลับไปเอ่ยกับอีกฝ่าย

            “เราจะนั่งที่เก้าอี้หรือเดินไปเรื่อยๆกันดีล่ะ” นักบินถามความคิดเห็นเพราะตรงหน้ามีเก้าอี้ชายหาดให้เช่า เผื่อว่าอีกฝ่ายต้องการนั่งพักผ่อนหย่อนใจ เพราะตอนนี้แดดเริ่มจะร้อนขึ้นเรื่อยๆแล้ว

            “เดินไปเรื่อยๆดีกว่าหรือถ้าคุณอยากนั่ง ก็นั่งรอที่นี่ก่อนนะผมไปคนเดียวได้” ปลาวาฬเอ่ย

            “ถ้าไปก็ไปด้วยกันดิ เผื่อนายไปก่อเรื่องฉันขี้เกียจตามไปเคลียร์ให้” นักบินไม่วายที่จะล้ออีกฝ่ายเล่นเหมือนเดิม

            “พูดอย่างนี้ก็อย่ามาด้วยกันเลยดีกว่า” ว่าแล้วก็แลบลิ้นใส่อีกฝ่าย ก่อนจะหันไปสนใจวิวสวยๆของท้องทะเลสุดลูกหูลูกตาแทน

            “ฉันล้อเล่นหรอกน่า” พูดจบก็ยื่นมือหนาไปคว้ามืออีกฝ่ายเอาไว้ แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

            ปลาวาฬหันขวับมามองทันทีแต่นักบินกลับทำหน้าตาเฉย ทำเป็นมองไปเรื่อยเปื่อย

            “คุณ” เรียกครั้งแรกแต่นักบินกลับนิ่งเฉยไม่แม้แต่จะหันมามอง “นี่คุณ” ปลาวาฬจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้งเพิ่มระดับเสียงขึ้นมาเล็กน้อย

            “อะไร!” เจ้าตัวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

            “มือคุณน่ะ” ว่าแล้วปลาวาฬก็ปรายตาลงมามองที่มือของตัวเอง ที่กำลังโดนเกาะกุมด้วยมือหนาอย่างแนบแน่น

            “ใช่! มือฉันแล้วไงอ่ะ?”

            “แล้วจะมาจับมือผมทำไม” ปลาวาฬเอ่ยขึ้นเสียงสูง

            “ก็อยากจับอ่ะแล้วจะทำไม” พูดจบก็ยื่นใบหน้าคมเข้าไปใกล้ๆจนปลาวาฬต้องเบนหน้าหนีทันที

            “แต่ผมไม่อยากให้จับไง...นี่มันมือผม” เดินไปด้วยกันอย่างนี้มีหวังคนได้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นแฟนกันแน่นอน

            “ฉันกลัวว่านายจะหกล้มไง จับมือไว้อย่างนี้จะได้มั่นใจว่านายกับลูกในท้องจะปลอดภัย นายไม่เชื่อใจฉันเหรอ” นักบินจ้องตาอีกฝ่ายอย่างหวานซึ้ง ทำให้ดวงตาคู่สวยเหมือนกำลังต้องมนตร์ ยอมเชื่อฟังอย่างง่ายดาย

            “เชื่อ” ปลาวาฬตอบกลับเสียงเบา

            “ถ้าเชื่อก็เดินจับมือไปพร้อมกัน...ป่ะ” ว่าแล้วก็ยิ้มพร้อมกับยักคิ้วเข้มให้ ก่อนจะมองตรงไปข้างหน้าแล้วก้าวขาเดินไปพร้อมๆกัน ปลาวาฬได้แต่นิ่งเงียบเดินไปด้วยความรู้สึกดี

            “คุณ..ถามอะไรหน่อยดิ” เดินมาได้สักพักปลาวาฬก็หันไปเอ่ยถามอีกฝ่าย

            “ว่ามาดิ” นักบินหันมายิ้มให้

            “คุณรู้สึกเสียใจมากไหมที่มีอะไรกับผู้หญิงไม่ได้”

            “ทำไมนายถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ” นักบินขมวดคิ้วมองด้วยความสงสัย

            “ถ้าคุณไม่สะดวกตอบก็ไม่เป็นไรนะ”

            “ทำไมฉันจะตอบไม่ได้ล่ะ” เจ้าตัวยิ้มให้

             “ผมอยากรู้ความรู้สึกลึกๆในใจคุณว่ามันหนักหนามากแค่ไหน ถึงขนาดต้องยอมมีอะไรกับผู้ชาย”

            “ตอนแรกที่รู้ว่าตัวเองแพ้อย่างหนักเวลาจับตัวผู้หญิง ฉันรู้สึกแย่มากคิดว่าตัวเองไม่มีน้ำยาเอาซะเลย เกิดมามีดีทั้งหล่อทั้งรวยและจู๋ใหญ่(ปลาวาฬหันขวับมามองหน้าทันที) แต่ก็ไม่สามารถอึ๊บกับผู้หญิงได้ มันรู้สึกหงุดหงิดมากจนฉันเครียดไปพักใหญ่ แฟนก็ต้องทิ้งเพราะไม่สามารถให้ความสุขกับเธอได้ ตอนนั้นฉันเฮิร์ทสุดๆเลยล่ะ แถมคุณแม่ยังอยากได้หลานขึ้นมาอีก ตอนแรกคุณแม่ก็ว่าจะให้ทำเด็กหลอดแก้ว แต่ฉันไม่เห็นด้วย” มาถึงตอนนี้ปลาวาฬก็เริ่มสงสัยเข้าไปใหญ่ จริงๆมันก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนั้นแล้วไม่ใช่เหรอ

               “อ้าว! ทำไมล่ะ” เจ้าตัวทำหน้าสงสัย

               “เพราะฉันรู้ว่ายังมีพวกผู้ชายท้องได้อย่างพวกนาย เลยตั้งใจจะให้มาอุ้มท้องให้โดยวิธีทางธรรมชาติไม่ต้องพึ่งวิทยาศาสตร์ ฉันจะได้รู้สึกว่าตัวเองมีน้ำยาไงล่ะ และที่สำคัญฉันไม่เคยอึ๊บใครมาก่อนหากไม่ทำอย่างนี้มีหวังได้ชักว่าวไปตลอดชีวิตแน่” นักบินเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง แต่ยังมีบางเรื่องที่เขาไม่ได้พูดออกมาเพราะกลัวว่าจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่

            “ที่แท้ก็กลัวว่าตัวเองจะไม่ได้อึ๊บนั่นเอง” ปลาวาฬเอ่ยออกมาเบาๆ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง “แล้ว...คุณรู้สึกยังไงเวลามีอะไรกับผู้ชาย”

            “ก็เสียวอ่ะดิถามได้” นักบินยิ้มกริ่มออกมาทันที

            “ในหัวคุณคิดแต่เรื่องพรรค์นี้สินะ...ผมหมายถึงรู้สึกรังเกียจหรือสะอิดสะเอียนอะไรแบบนั้นน่ะ เคยรู้สึกบ้างหรือเปล่า” ที่ถามอย่างนั้นออกไปเพราะอยากรู้ว่าเวลามีอะไรกัน นักบินตั้งใจหรือแค่ฝืนเล่นละครให้ดูสมจริงเท่านั้น หากเป็นอย่างหลังคงจะได้รางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำยอดเยี่ยมเป็นแน่

            “ตอนแรกกลัวๆเพราะฉันชอบผู้หญิงมาตลอด อยู่ๆจะให้ไปมีอะไรกับผู้ชายมันก็ไม่ใช่ป่ะ แต่พอรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นนายความกลัวก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยล่ะ” ใบหน้าหล่อยิ้มที่มุมปากแล้วยักคิ้วให้

            “อย่าบอกนะว่าคุณแอบชอบผมตั้งแต่แรกเจอ ผมนี่ก็มีเสน่ห์เหมือนกันนะเนี่ย” ปลาวาฬยิ้มกริ่มด้วยความภูมิใจ

เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดออกมาอย่างนั้น ทำเอานักบินถึงกับทำหน้าเหวอแล้วปรายตามองไปทางอื่นทันที

            “ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย ก็แค่เห็นว่านายปากดีฉันเลยอยากแกล้งนายมากกว่า อย่างนายไม่ใช่สเปคฉันหรอก” นักบินไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาแก้ตัวแล้ว

            “คุณเองก็ไม่ใช่สเปคผมเหมือนกันนั่นล่ะ คนอะไรจะชอบแกล้ง ขี้หื่น ขี้บ่น ขี้เก๊ก” ว่าแล้วปลาวาฬก็แลบลิ้นออกมาด้วยความหมั่นไส้ แสดงว่าช่วงที่ผ่านมาที่เขารู้สึกดีด้วยมันก็แค่เป็นการคิดไปเองฝ่ายเดียว ได้ยินอย่างนี้แล้วเขาไม่มีทางจะเผลอใจให้กับนายนั่นอีกเป็นอันขาด...ถ้าทำได้

            “ขี้อะไรอีกพูดมาให้หมดฉันจะได้พูดบ้าง” นักบินหยุดเดินทำให้อีกฝ่ายต้องหยุดตามไปด้วยเพราะทั้งสองกำลังจับมือกันอยู่

            “คิดไม่ออกพอแค่นี้ก่อน แล้วจะหยุดเดินทำไมเนี่ยไปต่อสิ”

            “ก็ฉันจะบอกนายไง...ว่ายังเหลือขี้อะไรอีกบ้าง” นักบินยิ้มมุมปากพร้อมกับทำหน้าเจ้าเล่ห์ สถานการณ์อย่างนี้ทำให้ปลาวาฬรู้ทันทีว่าตัวเองกำลังจะเจอกับอะไร

            “ผมไม่อยากรู้แล้วเดินต่อกันเถอะ”

            “แต่ฉันอยากบอกว่าฉันก็เป็นคนขี้เล่นเหมือนกันนะ” พูดจบก็อุ้มอีกฝ่ายขึ้นในท่าเจ้าสาวแล้วเดินลงไปในน้ำทะเล

            “ทำบ้าอะไรเนี่ยปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้เลย” มือเรียวทั้งสองข้างทุบไปที่อกของอีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

            ตูมมม!!!

            นักบินไม่สนใจกลับโยนร่างเล็กลงไปในน้ำทะเลทันที หลังจากนั้นก็ว่ายตามลงไป แล้วกอดเอาไว้จากด้านหลัง

            “ขี้เล่นป่ะ” เสียงเข้มเอ่ยข้างใบหู ส่วนมือหนายังคงกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่น

            “ไม่! ขี้แกล้งมากกว่า” พูดแล้วปลาวาฬก็หยิกไปที่แขนของนักบินเต็มแรง

            “โอ๊ย! เจ็บนะเนี่ย” นักบินยอมปล่อยอีกฝ่ายให้เป็นอิสระแล้วยกแขนขึ้นมาดูว่าเป็นแผลหรือเปล่า เพราะอีกฝ่ายหยิกซะเจ็บไปถึงกระดูกเลยทีเดียว

            “สมน้ำหน้า” พูดแล้วเจ้าตัวก็รีบเดินขึ้นฝั่งทันที

             เมื่อนักบินได้สติก็รีบเดินตามไปติดๆ ก่อนจะถึงฝั่งนักบินก็ดึงขาเรียวเอาไว้เสียก่อน แล้วลากลงมาในน้ำอีกครั้ง ครั้งนี้เขากอดร่างเล็กจากด้านหน้าทำให้ทั้งสองสบตากันอย่างไม่ได้ตั้งใจ

            “ทำไมชอบแกล้งผม” ปลาวาฬเอ่ยถามขณะจ้องตากับอีกฝ่าย

            “ก็ชอบดื้ออ่ะ” นักบินตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ทำให้ปลาวาฬหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที

            “แล้วมองหน้าทำไม...ปล่อยดิ”

            “ก็อยากมองจะทำไม” ว่าแล้วก็ทำหน้ายียวนใส่

            “เหรอ” ครั้งนี้เป็นฝ่ายที่ปลาวาฬต้องยิ้มที่มุมปากบ้าง เพราะมือเรียวกำลังล้วงเข้าไปในกางเกงแล้วคว้าหมับเข้าที่พวงสวรรค์เต็มกำมือ ทำให้ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของนักบินกลับกลายเป็นตรงกันข้ามทันที

            “ปะ...ปล่อยให้ไข่ฉันเป็นอิสระเถอะอย่าทำอะไรมันเลย มันไม่เกี่ยวด้วยเลยนะ” นักบินพยายามพูดอย่างใจเย็น โน้มน้าวให้อีกฝ่ายยอมปล่อยมือ

            “ไอ้ไข่นี่ล่ะตัวดีที่สุดเลย บีบให้แตกเลยดีไหมเนี่ย” พูดแล้วก็ลงน้ำหนักมือบีบแรงขึ้น จนทำให้นักบินถึงกับทำหน้าเหยเกด้วยความอึดอัดปนเสียวเต็มทน

            “โอะ..โอ๊ย ปะ...ปล่อยเถอะนะครับบ” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มเอาจริง นักบินก็เริ่มอ้อนวอนขอร้องทันที

            “ฮ่าๆๆ เวลาคุณทำหน้าอย่างนี้โคตรตลกเลยอ่ะ เอาอีกๆอ้อนวอนขอร้องผมสิ” ปลาวาฬหัวเราะลั่นเมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนักของอีกฝ่าย

            “พอใจรึยัง!”

            “พอใจแล้วไปก่อนล่ะ” ปลาวาฬปล่อยมือจากพวงสวรรค์ของอีกฝ่ายแล้วรีบว่ายน้ำขึ้นไปบนฝั่ง มีหรือที่นักบินจะปล่อยให้อีกฝ่ายลอยหน้าลอยตาไปได้ง่ายๆ เจ้าตัวรีบว่ายน้ำตามไปคว้าหมับที่ข้อเท้าอีกฝ่ายจนปลาวาฬนอนราบลงกันพื้นทราย แล้วนักบินก็รีบคร่อมตัวร่างเล็กพร้อมกับตรึงข้อมือเอาไว้

            “ยังไม่เข็ดอีกรึไง” ปลาวาฬเอ่ยสีหน้าไม่ได้รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย ออกจะยั่วยวนอีกฝ่ายหน่อยๆด้วยซ้ำ

            “ไม่..เพราะตอนนี้ฉันเป็นต่อแล้ว” ทั้งสองจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร

            “จะทำอะไรก็รีบทำผมขี้เกียจเล่นกับคุณแล้ว” ปลาวาฬจ้องเข้าไปในดวงตาคมคู่นั้นพร้อมกับเอ่ยท้าทาย

            “คราวนี้ฉันเอาจริงนะ” ว่าแล้วก็โน้มใบหน้าลงไปจุมพิตที่หน้าผากนุ่ม “นี่สำหรับที่นายอวดดีกับฉัน” หลังจากนั้นก็จุมพิตที่แก้มทั้งสองข้างสลับกัน “นี่สำหรับที่นายหยิกมือฉัน”

            “มีปัญญาเอาคืนแค่นี้เองเหรอ” ร่างเล็กยังคงเอ่ยท้าทายไม่ยอมหยุด

            “นายได้เจอฉันแน่...และนี่สำหรับที่นายบีบไข่ฉัน” เจ้าของเสียงยกยิ้มที่มุมปากแล้วก้มลงไปประกบจูบริมฝีปากบางทันที แม้จะอยู่ริมชายหาดที่มีผู้คนเดินพลุกพล่านแต่เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ขอแค่ได้จัดการกับไอ้เด็กดื้อที่เกือบทำให้เขาเป็นหมันไปซะแล้ว แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายเหมือนจะเต็มใจยั่วยวนให้เขาต้องทำอย่างนี้ ราวกับว่ามีความต้องการไม่ต่างกันแม้แต่น้อย

            “พอใจรึยังผมอยากไปล้างตัวแล้ว” หลังจากนักบินผละริมฝีปากออกไปแล้ว เจ้าตัวก็รีบเอ่ยขึ้นก่อนที่จะมีอะไรเกินเลยไปกว่านี้ ตอนนี้เริ่มเหนียวตัวจากการเล่นน้ำทะเลมาเสียนาน แถมยังต้องทนต่อสายตาของใครต่อใครที่เดินผ่านไปมาอีกด้วย

            “โอเค๊..ค่อยไปว่ากันต่อบนห้อง” ว่าแล้วนักบินก็ลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือหนาให้อีกฝ่ายจับเพื่อพยุงตัวขึ้น

            “ฝันไปเหอะ” ปลาวาฬเอ่ยก่อนจะเดินนำหน้าตรงไปยังรีสอร์ตซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก

            ขณะเดินกลับไปอยู่ๆนักบินก็เอ่ยขึ้นมา ทำเอาคนที่กำลังเดินนำหน้าอยู่นั้นถึงกับชะงักงันแล้วหยุดเดินทันที

            “วันนี้สนุกจังเลยเนาะว่าไหม” นักบินยังคงยิ้มให้

            “สนุกที่ได้แกล้งผมหรือเปล่า” จากวันแรกที่ได้เจอกันจนมาถึงตอนนี้ หลายสิ่งหลายอย่างในตัวนักบินเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ได้มาอยู่มาเที่ยวด้วยกันเพียงสองคน ทำให้ปลาวาฬได้เห็นในอีกหลายๆมุมของนักบินอย่างชัดเจนขึ้น และเปิดใจยอมรับว่าอีกฝ่ายก็เป็นผู้ชายที่น่าคบหาคนหนึ่งเลยทีเดียว

            “เปล่าสนุกที่ได้มากับนายสองต่อสองไง...หรือนายไม่สนุก” นักบินจ้องหน้ารอคำตอบที่หวังในใจ

            “ก็...สนุกดีนั่นแหละ” ปลาวาฬตอบแบบส่งๆไปเพราะรู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก

            “ถ้าอย่างนั้นเรามาทำข้อตกลงกันดีไหม”

            เมื่อได้ยินอย่างนั้นปลาวาฬก็มองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่วางใจทันที

            “ข้อตกลงอะไร!”

            “อย่าเพิ่งทำหน้าอย่างนั้นสิ ข้อตกลงที่ฉันจะบอกก็คือ ต่อไปนี้เรามาสงบศึกกันดีไหม” นักบินพยักหน้าหงึกๆหวังให้อีกฝ่ายเห็นดีเห็นงามด้วย

            “ผมเองไม่มีปัญหาอยู่แล้วว่าแต่คุณเถอะจะทำได้หรือเปล่า”

            “ฉันต่างหากที่ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว นายนั่นล่ะจะทำได้หรือเปล่า ไหนจะตัดขนฉัน ไหนจะบีบไข่ฉัน มีแต่วีรกรรมแสบๆทั้งนั้นเลย” พูดแล้วนักบินก็รู้สึกเสียววาบที่หว่างขาทันที

            “ก็คุณเป็นคนเริ่มก่อนนี่นา ผมเลยต้องป้องกันตัว” ปลาวาฬยังคงไม่ยอมแพ้ เพราะทุกอย่างที่เขาทำไปเพราะโดนรังแกก่อนตลอด

            “โอเคๆ ถ้าจะหาคนผิดตอนนี้คงไม่จบแน่นอน เอาเป็นว่าจากนี้ไปเราจะญาติดีกันไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง” นักบินยกมือทั้งสองข้างขึ้นเพื่อขอยอมแพ้ยุติสงคราม

            “ไม่มีปัญหา...ดีจะตายผมจะได้ไม่ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวอีก” ปลาวาฬยิ้มหน้าระรื่นแล้วเดินนำหน้าเข้าไปในรีสอร์ต

            ส่วนนักบินก็เดินตามหลังไปติดๆแล้วก็เอ่ยออกมาเบาๆ

            “ใครบอกนาย”

            “คุณว่าอะไรนะ?” ปลาวาฬได้ยินเสียงแว่วเข้าหูก็หันกลับมาถามทันที

            “ปะ...เปล่าฉันแค่พูดว่าดีจะตาย เยี่ยม กู๊ด” นักบินยิ้มแหยๆแล้วยกนิ้วโป้งขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อใจ

            “ก็แล้วไป” ปลาวาฬจ้องหน้าจับผิดแล้วสะบัดหน้าหนีเดินต่อไปทันที

            นักบินได้แต่พรูลมออกจากปากอย่างโล่งใจ แล้วรีบเดินตามหลังไปอย่างอารมณ์ดี

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :laugh:


ต่อแขนต่อขา ลูกไปเรื่อยๆ

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
คิดอะไรอยุ่นักบินรู้นะ :oo1: :z1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
จงรัก จงหลงปลาวาฬ  :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เริ่มรู้สึกดีด้วยแล้วล่ะซิ

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
น่ารักกกกกกกกกดดดดดกกดกดดดดดดด

ชอบบบบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เริ่มชอบกันแล้ว :mew2:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
โดนจับกินทุกวันแน่น้องปลาวาฬ

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
-๑๕-

ความจริงที่แสนเจ็บปวด



            วันนี้เงินและมอสมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวอีกครั้ง และคนที่มารับออเดอร์ก็ยังคงเป็นบอลอีกเช่นเคย วันที่บอลป่วยทั้งสองมาถามที่อยู่จากเจ้าของร้าน แต่กลับต้องผิดหวังเพราะเจ้าของร้านบอกให้มาถามกับเจ้าตัวเองหากกลับมาทำงานแล้ว

            “เป็นไงบ้างวะ ดีขึ้นหรือยัง” มอสเอ่ยถามพร้อมกับจ้องใบหน้าของเพื่อน แสดงถึงความเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย

            “อืมยังไม่ตาย จะเอาอะไรก็รีบว่ามา” บอลทำหน้านิ่งแม้สายตาจะเหลือบมองมือของคนทั้งสองที่จับกันไว้บนโต๊ะอย่างไม่วางตา

            “เดี๋ยวก่อนดิวะ...กูจะแนะนำให้รู้จักกับแฟนกูสักหน่อย...นี่เงินแฟนกูเอง” มอสแนะนำเงินให้รู้จักพร้อมกับจ้องหน้าเพื่อนเพื่อดูปฏิกิริยา

            บอลยังคงทำหน้านิ่งไม่ได้รู้สึกอะไรทำให้มอสรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

            “ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เงินเอ่ยออกไปพร้อมกับส่งยิ้มให้อีกฝ่าย

            “เช่นกันครับ” บอลตอบ

            “เอาเหมือนเดิมพูดแค่นี้พอจะเข้าใจนะ” มอสเอ่ยกระแทกเสียงขึ้นมาเหมือนรู้สึกไม่พอใจอีกฝ่าย ทำให้เงินรีบกุมมือเอาไว้ เพื่อเตือนสติให้เพื่อนอารมณ์เย็นขึ้น

            “เราก็สั่งเหมือนมอสครับ” เงินยิ้มแห้งๆให้อีกฝ่าย

            “รอสักครู่นะครับ”

            หลังจากบอลเดินออกไปแล้ว เงินก็เอ่ยเตือนสติเพื่อนทันที

            “มอสเป็นอะไรไปอ่ะ”

            “ก็มันไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย เราหงุดหงิดเราโมโหมันคงไม่ได้รักเราเหมือนเดิมแล้วล่ะมั้ง” มอสตอบพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ

            “เอาน่าอย่าเพิ่งตีโพยตีพายไป มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่มอสคิดก็ได้นะ” เงินพยายามปลอบใจอีกฝ่าย

            “อย่างที่เราเคยบอกว่ามันเป็นคนที่เก็บความรู้สึกไม่ค่อยจะอยู่ ถ้ามันยังรักเราป่านนี้มันคงร้องไห้ตาแดงต่อหน้าเราไปแล้ว” มอสเอ่ย

            “คนเรามันเปลี่ยนแปลงกันได้ ตอนนี้บอลอาจจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้ว นิสัยบางอย่างอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้นะอย่าเพิ่งด่วนสรุปไปสิ”

            “เราจะเชื่อเงินรอดูอีกสักพักก่อน แต่ถ้ามันไม่มีอะไรคืบหน้าเราก็ต้องยอมแพ้แล้วล่ะ” มอสเอ่ยอย่างตัดพ้อ

            “แค่นี้ก็ท้อแล้วรักจริงหรือเปล่าเนี่ย” เงินพูดหยอก

            “รักจริงดิแต่...เราคิดว่าตอนนี้เวรกรรมมันกำลังตามสนองเราอ่ะ เหมือนที่เคยทำไว้กับมันในตอนนั้น” พูดแล้วมอสก็ทำหน้าเศร้าทันที นึกถึงสีหน้าของบอลในตอนนั้นยิ่งรู้สึกสงสาร

            “เอาน่าวันพระไม่ได้มีหนเดียว อย่าเพิ่งไปคิดมากอย่างน้อยตอนนี้เราก็ได้เห็นหน้าเขาทุกวัน แค่นี้มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ” เงินพูดให้กำลังใจเพื่อน

            “ก็ใช่..ขอบใจเงินมากที่คอยเตือนสติเรา”

            “ไม่เป็นไรจ้าเราเพื่อนกันนี่นา”

            อีกฟากหนึ่งหลังจากบอลไปรับออเดอร์มาแล้ว ก็วานกับเพื่อนร่วมงานให้ไปเสิร์ฟแทน ส่วนเจ้าตัวขอไปเข้าห้องน้ำ เมื่อเข้าไปในห้องน้ำแล้วก็นั่งบนชักโครกปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มลงมาเป็นสาย เพื่อระบายความเจ็บปวดที่มอสตามมายัดเยียดให้เขาถึงที่นี่ อุตส่าห์หนีออกมาจากวังวนนั้นได้แล้ว แต่อีกฝ่ายก็ตามมาเพิ่มระดับความเจ็บปวดให้อีกเป็นเท่าตัว

*-*-*-*-*-*-*

            ช่วงเวลาสามวันแห่งความสุขและความสนุกสนานหมดลงไปแล้ว แต่ความรู้สึกดีๆของคนทั้งสองก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ทว่าไม่มีใครที่จะกล้าฟันธงกับความรู้สึกของตัวเองว่ามันคืออะไรกันแน่ ในทุกๆวันนักบินยังคงดูแลปลาวาฬไม่เคยห่างเพราะตอนนี้น้ำหนักตัวของอีกฝ่ายเริ่มเพิ่มมากขึ้น แถมยังมีอาการแพ้ท้องอยู่เรื่อยๆนั่นทำให้คนทั้งสองแทบจะตัวติดกันตลอดเวลา

            หลังกลับมาจากเที่ยวได้หลายวัน อาการแพ้ท้องของปลาวาฬก็เริ่มปรากฏให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ทำเอาคนที่ดูแลแทบจะห่างไม่ได้เลย เพราะเป็นห่วงว่าจะเกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม หรือวิงเวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้

            อ้วกกก!!

            ขณะกำลังนั่งอ่านคู่มือการดูแลตัวเองที่คุณหมอนำมาให้ ปลาวาฬก็รู้สึกคลื่นไส้จนต้องรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ นักบินเห็นอย่างนั้นก็รีบวิ่งตามหลังไป พร้อมกับลูบหลังป้อยๆ อยู่ไม่ห่างกาย

            “เป็นไงบ้าง” นักบินเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

            “ดีขึ้นแล้ว” ปลาวาฬตอบขณะกำลังลุกขึ้นยืน ใบหน้าที่เคยขาวใสกลับแดงก่ำจากการสำรอกเอาของเหลวในท้องออกมา

            “ค่อยๆเดินเดี๋ยวก็ได้ล้มเอาหรอก” นักบินเอ่ยขณะพยุงตัวร่างเล็กออกมาจากห้องน้ำ

            เมื่อมาถึงโซฟาแล้วนักบินก็นำยาดมไปให้อีกฝ่ายดมเพื่อให้รู้สึกดีขึ้น ปลาวาฬเอาแต่นั่งนิ่งอย่างหมดแรงทำเอานักบินถึงกับรู้สึกสงสารขึ้นมา

            “ดีขึ้นยัง”

            “อื้ม...ไม่ต้องห่วงหรอกผมยังไหว”

            “ยังมาทำเป็นปากเก่งอีก นอนพักผ่อนเถอะเดี๋ยวฉันจะช่วยนวดขาให้” แม้จะรู้สึกเขินๆแต่นักบินก็ยอมทำเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลายมากที่สุดเท่าที่เขาจะช่วยได้

            “จริงดิ..ถ้างั้นผมจะนอนแล้วนะ” ว่าแล้วปลาวาฬก็นอนราบลงบนโซฟา โดยพาดขาไปวางไว้บนตักของนักบิน

            “ฉันนวดให้ทุกวันเลยดีไหม ลูกในท้องจะได้รู้สึกผ่อนคลายไปด้วย” นักบินเอ่ยขณะบีบเคล้นไปที่ขาของอีกฝ่ายอย่างเบาแรง

            “รู้สึกดีจัง คุณไปเรียนนวดมาจากไหนหรือเปล่าเนี่ย” ปลาวาฬทำหน้าเคลิ้มเมื่อนักบินเริ่มนวดไปได้สักพัก ทำเอาคนที่โดนชมถึงกับยิ้มน้อยๆออกมา

            “เปล่า..ดีขนาดนั้นเลยเหรอ”

            “อื้ม..ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครนวดให้ผมอย่างนี้มาก่อนเลยนะ” เจ้าตัวพูดพร้อมกับลูบที่ท้องตัวเองไปด้วย พลางคิดในใจว่าหากได้อยู่กับลูกพร้อมกับนักบินคงจะเป็นอะไรที่ดีไม่น้อย

            “เอาไว้วันหลังนายนวดให้ฉันบ้าง...นวดบนเตียงนะ” ว่าแล้วนักบินก็ยักคิ้วให้อย่างมีเลศนัย

            “ไม่มีทาง...ผมกำลังท้องอยู่นะ” ปลาวาฬรีบปฏิเสธทันที

            “ฉันล้อเล่นหรอกน่า ถ้าขืนทำอย่างนั้นมีหวังคุณแม่ได้ด่าฉันทั้งปีแน่นอน”

            “ผมง่วงจัง” อยู่ๆปลาวาฬก็เอ่ยขึ้นมา แล้วอ้าปากหาวหวอดทำเอาคนที่กำลังมองอยู่ถึงกับขำออกมา เมื่อหมดฤทธิ์แล้วก็เหมือนกับลูกแมวเชื่องๆตัวหนึ่งเท่านั้นเองสินะ นักบินคิดในใจ

            “ง่วงก็นอนสิจะรออะไร เดี๋ยวฉันจะนวดให้จนกว่านายจะหลับ” รอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนทำให้คนที่นอนอยู่นั่นยิ้มตอบ ขณะที่เปลือกตาก็ค่อยๆปรือลงมาอย่างช้าๆ

            “ตั้งแต่ที่เราสงบศึกกันคุณดูเป็นคนดีขึ้นนะ”

            “นายเองก็ไม่ดื้อเหมือนแต่ก่อน”

            “อื้ม...ไม่ดื้อแล้ว....” ว่าแล้วปลาวาฬก็หลับตาลงทันที หลังจากนั้นก็เข้าสู่ห้วงนิทราทำเอาคนที่มองดูอยู่นั้นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วไปนั่งลงข้างๆจ้องใบหน้าเรียวรูปไข่ที่กำลังหลับอยู่บนโซฟา ขนตาเป็นแพยาวทำให้ดวงตาคู่สวยดูมีเสน่ห์ ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อนก็ช่างยั่วให้เขาต้องการสัมผัสมันเสียเหลือเกิน นักบินค่อยๆโน้มใบเข้าไปหมายจะจุมพิตที่กลางหน้าผากนุ่ม แต่ระหว่างนั้นกลับมีสายโทรเข้ามาเสียก่อน จึงเปลี่ยนแผนรีบลุกขึ้นเดินออกไปจากตรงนั้น เพราะกลัวว่าจะรบกวนคนที่กำลังนอนหลับอยู่

            สายที่โทรเข้ามาทำให้นักบินถึงกับคิดหนัก เพราะมันคือสายของ ‘เมย์’ แฟนเก่าของเจ้าตัวนั่นเอง นักบินยืนมองหน้าจอมือถือชั่งใจอยู่นานก่อนจะกดรับสาย

            “ว่าไงเมย์” น้ำเสียงของนักบินไม่ได้รู้สึกดีใจแม้แต่น้อย ทั้งที่แต่ก่อนเขาแทบจะเป็นจะตายตอนที่เลิกรากัน

            [“เมย์คิดถึงคุณจังเลยค่ะนักบิน สบายดีไหมคะ] เสียงหวานที่คุ้นเคยเอ่ยผ่านสายมา

            “ผมสบายดีว่าแต่อยู่ๆทำไมถึงโทรมาล่ะ”

            [“ก็เมย์คิดถึงคุณไงคะ แล้วก็มาถามข่าวคราวเรื่องลูกของคุณด้วย ว่าแต่เด็กคนนั้นท้องหรือยังคะ”]

            “ท้องแล้วอีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะต้องไปอัลตร้าซาวน์แล้ว” นักบินยังคงทำเสียงเรียบนิ่งไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับการพูดคุยกับคนรักเก่า

            [“ว้าว! ดีใจด้วยนะคะแล้วอย่าลืมสัญญาที่คุณเคยบอกกับเมย์ไว้นะ เมย์ยินดีเสมอเพราะถึงยังไงคุณก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายที่เมย์รักมากที่สุดคนหนึ่ง”] หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นไม่น้อย

            “ผมไม่ลืมหรอกว่าแต่คุณเถอะตอนนี้มีน้องหรือยัง” เมย์เป็นแฟนคนแรกและคนเดียวที่นักบินรักมาก เพราะเป็นคนที่เข้าใจเขาทุกอย่าง แม้หล่อนจะรู้ว่านักบินเป็นโรคแพ้ผู้หญิงไม่สามารถแตะเนื้อต้องตัวเหมือนคู่รักคนอื่นๆได้ แต่ก็ยังให้กำลังใจอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมาถึงห้าปี ก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายบอกเลิกเพราะต้องการมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเหมือนคนอื่นๆ และย้ายไปอยู่กับแฟนใหม่ที่คบซ้อนระหว่างคบกับนักบินที่ต่างประเทศจนถึงตอนนี้

            “ฉันเองก็ไม่ต่างจากคุณหรอกค่ะ ฉันมีปัญหาเรื่องมดลูกเลยทำให้มีลูกยาก จนตอนนี้ความสัมพันธ์กับแจ็คสันก็แย่เข้าไปทุกทีๆ จะเลิกกันเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ฉันเองก็รู้สึกเบื่อๆอยากกลับเมืองไทยเหมือนกัน” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ เมื่อรู้ว่าคนรักเก่ากำลังจะมีลูกยิ่งทำให้เธอรู้สึกดีใจ และตั้งใจว่าจะกลับไปทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ตั้งแต่ก่อนมาเมืองนอก

            “ชีวิตคู่ก็อย่างนี้ล่ะคุณมีโอกาสก็ทำมันให้ดีสิ ส่วนเรื่องลูกอยู่ๆกันไปเดี๋ยวก็มีเองล่ะ หรือถ้าไม่มีจริงๆคุณก็ยังมีสัญญากับผมอยู่ไม่ใช่หรือไง” นักบินไม่อยากเอ่ยคำนี้ออกไปเลย เพราะกลัวว่าวันที่อีกฝ่ายมาจริงๆแล้วคงจะลำบากใจน่าดู

            [“ยินดีด้วยอีกครั้งนะคะนักบิน ถ้ายังไงก็อย่าลืมโทรมาบอกเมย์ด้วยนะว่าได้ลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย”]

            “ครับเมย์”

            [“ถ้างั้นเมย์ขอวางสายก่อนนะคะจะต้องออกไปชอปปิ้งกับแจ็คสันแล้ว”]

            “ครับแค่นี้ล่ะดูแลตัวเองดีๆด้วย”

            [“คุณก็เช่นกันนะบาย”]

            “บาย”

            หลังจากวางสายไปแล้ว นักบินก็เดินกลับมาหาปลาวาฬที่โซฟาในห้องนั่งเล่นอีกครั้ง แต่ก็ไม่เห็นอีกฝ่ายแล้ว จึงเดินตามหาไปทั่วทั้งบ้านแต่ก็ไม่พบ เมื่อเห็นสาวใช้คนหนึ่งกำลังเดินมาก็เอ่ยถามทันที

            “นงค์เห็นคุณปลาวาฬบ้างหรือเปล่า” เจ้าตัวเอ่ยด้วยท่าทีร้อนใจราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหนีไปซะอย่างนั้น

            “ไม่เห็นนะคะ นงค์เพิ่งมาจากสวนหลังบ้าน” สาวใช้เอ่ย

            “ไม่เป็นไรไปทำงานต่อเถอะ” เมื่อไม่ได้ความก็ปัดมือไล่ให้ไปทำงานที่ได้รับมอบหมาย แล้วยืนเท้าสะเอวอารมณ์เสียอยู่คนเดียว เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นลมเป็นแล้งไปน่ะสิ ถ้าหากหกล้มขึ้นมาแล้วลูกในท้องจะเป็นยังไง คิดแล้วก็ยิ่งโมโหหนักเข้าไปใหญ่

            “นายไปไหนกันแน่เนี่ย” อยู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่าอาจจะขึ้นไปบนห้องนอนจึงรีบวิ่งขึ้นไปหาทันที ในใจก็คิดว่าจะอบรมเรื่องการปฏิบัติตัวให้เสียใหม่

            เมื่อเดินมาถึงแล้วก็เปิดประตูเข้าไป นักบินเข่าแทบทรุดเมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า นักรบกำลังก้มลงไปจูบคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง เจ้าตัวกำหมัดโดยไม่รู้ตัว ทำไมถึงได้รู้สึกเหมือนกำลังโดนสวมเขาซะอย่างนั้น เหมือนครั้งที่เมย์เคยทำกับเขา มันช่างรู้สึกเจ็บปวดและทรมานมากเหลือเกิน

            “นักรบแกกำลังทำอะไร” น้ำเสียงแข็งกระด้างเอ่ยกับน้องชายของตัวเอง

            “พี่นักบิน!” เมื่อได้ยินเสียงพี่ชายนักรบก็รีบผละจากริมฝีปากของปลาวาฬ แล้วรีบลุกขึ้นเดินออกห่างจากเตียงทันที

            “แกออกมาคุยกับพี่ข้างนอกเดี๋ยวนี้” นักบินเอ่ยกับน้องชายด้วยความโมโห เขาไม่นึกเลยว่ามันจะเกิดเรื่องบ้าๆอย่างนี้ขึ้นมา

            นักรบยืนตัวสั่นแล้วเดินตามหลังพี่ชายออกมานอกห้องทันที เจ้าตัวเอาแต่ก้มหน้าไม่กล้าสบตาเพราะรู้สึกละอายใจที่ทำอย่างนั้นกับปลาวาฬลงไป แต่เขาก็ไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้เพราะปลาวาฬคือคนที่ตรงสเปคทุกอย่างไม่ผิดเพี้ยน

            “แกกำลังทำบ้าอะไร รู้ทั้งรู้ว่าปลาวาฬเป็นอะไรกับฉัน” เมื่อออกมานอกห้องแล้ว นักบินก็เริ่มบทสนทนาขึ้นมาทันที เจ้าตัวกัดกรามจนใบหน้าสั่นบ่งบอกว่ากำลังรู้สึกโมโหมากแค่ไหน

            “ผมขอโทษ แต่ผมแอบรักปลาวาฬมานานแล้ว ผมห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆครับพี่” นักรบยกมือไหว้พี่ชายพร้อมกล่าวขอโทษ สีหน้าของเจ้าตัวแสดงออกชัดเจนว่ากำลังรู้สึกผิดมากเหลือเกิน

            “ตัดใจซะมันเป็นไปไม่ได้หรอก” นักบินกัดฟันพูดกับน้องชาย ทั้งที่ในใจก็รู้ว่าคนที่ไม่มีสิทธิ์คือเขาเอง หากปลาวาฬคลอดลูกแล้วทั้งสองก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก

            “ทำไมมันจะเป็นไปไม่ได้ล่ะครับ ในเมื่อพี่กับปลาวาฬเองก็ไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย ก็จริงที่พี่กับปลาวาฬมีอะไรกันแล้ว แต่นั่นมันก็เป็นแค่การจ้างงานเท่านั้นเองไม่ใช่หรือครับ” เขาพยายามตัดใจจากปลาวาฬมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่สามารถทำได้สักที

            “ใช่มันเป็นแค่การจ้างงานแต่...แกคิดว่าคุณแม่จะรับได้เหรอที่พี่กับน้องจะมีเมียคนเดียวกัน” หากไม่เอาเรื่องนี้มาอ้างเขาก็ไม่รู้จะหาเหตุผลข้อไหนมาทำให้น้องชายเปลี่ยนใจได้

            “คุณแม่รักปลาวาฬเหมือนกับลูกคนหนึ่ง ผมว่าท่านต้องรับได้แน่นอนพี่ไม่ต้องกลัวเรื่องนั้นหรอก ถ้าหากในอนาคตปลาวาฬคลอดลูกแล้ว ก็จะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดต่างๆ ถึงตอนนั้นแล้วผมจะจีบปลาวาฬอย่างเปิดเผยและเป็นคนบอกกับทุกคนเอง” นักรบเอ่ยด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่น

            “แกนี่มันดื้อจริงๆ ฉันบอกว่าไม่ได้ยังไงล่ะทำใจซะเถอะ” นักบินหันหน้าหนีไปอีกทางเขาไม่อยากจะฟังคำพูดใดๆจากปากน้องชายอีกแล้ว

            “พี่มีสิทธิ์อะไรมาห้ามผม ปลาวาฬไม่ใช่สมบัติของพี่ซะหน่อย ผมจะไม่ยอมตัดใจจากปลาวาฬเด็ดขาด”

            “ทำไมจะไม่มีสิทธิ์เพราะปลาวาฬเป็นเมียฉันไง” ในที่สุดนักบินก็ไม่สามารถห้ามปากตัวเองได้ เขาหลุดคำว่าเมียออกมาให้น้องชายได้ยิน บ่งบอกว่ากำลังหึงหวงอีกฝ่ายอย่างเต็มที่

            “อย่าบอกนะว่าพี่ชอบปลาวาฬ” นักรบจ้องหน้าพี่ชายลุ้นคำตอบ

            “ฉันไม่ได้ชอบ!”

            “ถ้าพี่ไม่ได้ชอบ ผมขอเถอะนะให้โอกาสผมได้จีบปลาวาฬ ผมสัญญาว่าระหว่างนี้จะไม่ทำให้ปลาวาฬลำบากใจแม้แต่นิดเดียว” นักรบมองพี่ชายด้วยสีหน้าที่จริงจัง ทำเอานักบินถึงกับจุกอกพูดไม่ออกแม้แต่สักคำ ดูท่าทางน้องชายของตัวเองคงจะชอบปลาวาฬมากจริงๆ

            “ได้ฉันจะไม่ห้ามแกแต่ห้ามให้ปลาวาฬรู้เรื่องนี้จนกว่าจะคลอด ฉันห่วงสุขภาพของปลาวาฬและลูกในท้อง” นักบินเอ่ยกับน้องชาย แต่สีหน้าไม่ต่างจากคนกำลังสิ้นหวังในชีวิต

            “ครับพี่ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้ปลาวาฬลำบากใจ ขอบคุณพี่มากๆเลยนะครับ” ว่าแล้วนักรบก็ยิ้มร่าโผเข้ากอดขอบคุณพี่ชายสุดที่รัก แม้จะไม่ได้แสดงออกให้ปลาวาฬรับรู้แม้แต่น้อย แต่ความจริงนักรบกลับแอบมองปลาวาฬอยู่ตลอดเวลา แม้ในบางครั้งจะเชียร์ให้พี่ชายเอาอกเอาใจอีกฝ่าย แต่เจ้าตัวกลับไปนั่งทุกข์ใจในห้องนอนอยู่บ่อยครั้ง เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นก็ทำให้รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก

             “แกลงไปก่อนเถอะฉันจะเข้าไปเฝ้าปลาวาฬในห้อง”

            “ครับพี่”

            หลังจากน้องชายลงไปแล้วนักบินก็เปิดประตูเข้าไปในห้อง ก่อนจะนั่งลงข้างๆเตียงแล้วจ้องหน้าคนที่กำลังนอนหลับอยู่ เขาคงจะมองอีกฝ่ายได้เต็มตาเพียงตอนที่นอนหลับอยู่เท่านั้นแล้วสินะ ทำไมเรื่องอย่างนี้มันต้องเกิดขึ้นตอนที่อะไรกำลังจะเป็นไปด้วยดี ทุกอย่างกำลังจะลงตัวอยู่แล้วแท้ๆ มันยากเหลือเกินที่จะทำตัวไม่เหมือนเดิมทั้งๆที่ใจยังคงโหยหาอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา มันรู้สึกเหมือนตอนที่เขาเสียเมย์ให้ผู้ชายคนอื่นไป เขารู้แล้วว่าความรู้สึกที่มีต่อปลาวาฬมันคืออะไร ‘มันคือความรัก’ ที่ก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว มารู้อีกทีก็ต้องเจออุปสรรคเข้าให้ซะแล้ว

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ทุกอย่างกำลังจะไปได้ด้วยดีแล้วเชียว

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ถ้าเลิกปากแข็งมันก็จะดีกว่านี้ไง พูดตรงๆมันจะตายหรา รักก็บอกว่ารัก ปากแข็งนักก็ให้น้องชายดูแลปลาวาฬแทนไป :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :hao4:


ทำไมต้องทำให้ยาก พ่อคู๊นนนนน

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แหมมมม คุณเองก็ยังมีคุณเมย์รออยู่ไม่ใช่หรือไง? แล้วยังจะมากั๊กน้องปลาวาฬไว้อีกทำไมล่ะ
ถ้าไม่ชัดเจนก็ อดนะคะคุณ แหมมมมมม

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
งานงอกเป็นดอกเห็ดเลยทีเดียว

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
จะกั๊กน้องไว้ทำไมในเมื่อตัวเองยังไม่บอกเลิกสัญญากับยัยเมย์เลย ส่วนยัยเมย์บอกตามตรงถ้าเราเป็นนักบินคงไม่กลับไปหาอีกหรอกเพราะตอนคบกันยังทนเราที่ให้ความสุขไม่ได้จนต้องคบซ้อนแล้วอ้างว่าอยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้วคิดเหรอว่ากลับมาคบอีกจะซื่อสัตย์กับเราได้อ่ะเมินซะเถอะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เรื่องนี้ถ้าปลาวาฬรู้จะเป็นไงนะ  :hao3:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
กำลังหวานแท้ๆมีอุปสรคคมาให้ทดสอบซะงั้น

ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
กำลังจะเอาใจช่วยอยู่แล้วเชียว แต่ลงเอยแบบนี้ไม่ไหวเด้อ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แปลกๆนะทั้งนักบิน.........นักรบ...... :really2: :really2: :really2:

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อ่านตอนนี้จบคือ...... :a5: อิหยังวะ นักบินก็ดูอะไรไม่รู้อ่ะ

ไหนจะสัญญาอะไรกับยัยเมย์ไหนนั่น  ฮร่อยย ปลาวาฬรู้คงจบไม่สวย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด