ตอนที่ 25 : โชคดีที่วันนี้มีคุณพระจันทร์ [End]“กลับกันได้แล้ว” พี่ซินออกปากไล่ เมื่อหนุ่มๆ มีวันว่างตรงกันและพร้อมใจกันมาอยู่ที่ร้าน
“ไอ้ปอนไอ้ตฤน มึงสองตัวกลับได้แล้ว”
“มึงต่างหากที่ต้องกลับ มาก็ทำร้านวุ่นวาย” ปอนไม่ยอมถูกรามไล่ฝ่ายเดียว
“เสียใจ กูใช้อภิสิทธิ์แฟนเจ้าของร้านตัดสินใจ”
“ราม~” พี่ซินร้องเสียงหลง เมื่อเจ้าตัวพูดเต็มปากเต็มคำ ไม่สนใจสักนิดว่ามีลูกค้าอยู่ในร้าน ที่ผ่านมากลายเป็นพี่ซินที่ต้องคอยหลบให้ขณะที่รามกลับทำทุกอย่างอย่างเปิดเผย ทำเอาผู้จัดการส่วนตัวถึงกับกุมขยับ ต้องอาศัยพี่ซินเป็นตัวช่วย
“ก็ผมเป็นจริงๆ”
ผมยิ้มขำเมื่อเห็นความดื้อตาใสของราม อดภูมิใจแทนพี่ซินไม่ได้
“กลับกันทั้งหมดนั่นแหละ พี่กับว่านจะได้ทำงานสะดวก”
“ที่เมื่อก่อนให้เรามาเรียกลูกค้าให้แต่เดี๋ยวนี้ไล่จัง” คุณแฟนเจ้าของร้านบ่นขิงบ่นข่า พี่ซินถึงกับส่ายหน้า
“ก็เอาไว้มาวันที่ร้านจัดงาน วันแบบนี้อยู่กันครบมันแน่นร้าน” ผมรู้ว่าพี่ซินอยากให้กลับไปพักผ่อนกันมากกว่า เพราะแต่ละคนทั้งทำงานทั้งเรียนหนัก แต่ไม่มีใครยอมขยับ พี่ซินจึงเสนอข้อเสนอใหม่
“เอางี้หนุ่มๆ ไปหาที่อยู่ก่อน เดี๋ยวเย็นนี้กินข้าวเย็นพร้อมกัน”
“ตกลงครับ” ปอนยิ้มให้พี่ซิน “แต่ผมว่าไปทำอะไรกินที่บ้านพี่ซินดีไหม จะได้ส่วนตัวหน่อย”
“พี่ยังไงก็ได้ แต่กลัวจะเบื่อฝีมือทำกับข้าวพี่กันน่ะสิ”
“ไม่มีทาง”
ไม่ต้องให้ผมเฉลยผมว่าทุกคนเดาได้ว่าใครเป็นคนพูดขึ้น ถึงตอนนี้พี่ซินก็ยังอดหน้าแดงไม่ได้ บ่อยครั้งที่อยู่กันสองคนในร้าน พี่ซินจะพูดเสมอว่าทุกวันนี้ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองฝันไป
“เอาตามนั้น” ตฤนตัดสินใจให้ เมื่อทุกคนตกลงกันได้แล้วสามหนุ่มจึงถูกไล่ออกจากร้าน
“ว่านถ้ากล้ามาถึงแล้วบอกให้โทรหาผมด้วยนะ”
“ผมว่าไม่ต้องบอกมั้ง น่าจะมีคนรายงานตัวก่อน” ผมยิ้มแซวปอน แต่อย่าหวังว่าอีกฝ่ายจะเขินหรือายครับ ปอนยักคิ้วให้ผม ดวงตาเป็นประกาย
ผมมองตามหลังสามหนุ่มด้วยใบหน้าติดรอยยิ้ม พี่ซินเดินเข้ามาหยุดยืนข้างๆ
“คู่นี้จะเป็นยังไงนะ”
“ต้องให้ผมตอบจริงๆ เหรอครับ” ผมหันไปยิ้มให้พี่ซิน
“ฮ่าๆ กล้าน่าจะไม่รอดใช่ไหม”
“ผมว่าไม่รอดมานานแล้วมากกว่าครับ”
พี่ซินหัวเราะชอบใจคำตอบของผม ก่อนดวงตาจะเหม่อมองไปข้างหน้า “บางทีพี่ก็อดแปลกใจไม่ได้นะ ว่าทำไมเราถึงอยู่ในสายตาของสามคนนั้น”
“เพราะว่าเราต่างมีพระจันทร์เป็นของตัวเองยังไงละครับ”
“หือ?” พี่ซินหันกลับมามองหน้าผม “ว่านหมายถึงอะไร”
“หมายถึงคนที่ทำให้เรายิ้มได้ คนที่ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย คนที่ทำให้เราเป็นตัวของตัวเอง พระจันทร์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับว่าเราขาดหรือต้องการสิ่งไหน”
“รามเคยเรียกร้านนี้ว่าหลุมหลบภัย” สายตาของพี่ซินเวลาพูดถึงรามอ่อนหวานจนผมรู้สึกได้
“ครับ ตัวผมเองเวลามีคนถามว่าเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงกล้าคบกับตฤน ผมจะตอบไปว่าผมมั่นใจว่าผมดีพอ คนอาจจะมองว่าผมไม่รู้จักมองหนังหน้าตัวเอง แต่ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ถ้าเราไม่ดีพอเขาจะเลือกเราไหม ถ้าไม่มั่นใจในความรู้สึกของคนรักแล้ว เราจะรักกันได้ยังไง”
“ว่านพูดแบบนี้ต่อไปพี่ไม่กล้าไม่มั่นใจในตัวเองแล้ว”
“ก็มันจริงนี่ครับ ต่อให้คนทั้งโลกจะคิดยังไงกับพี่ซิน ใครจะว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ สุดท้ายรามเท่านั้นที่รู้ ความสุขจะเป็นคำตอบว่าคนสองคนเหมาะสมกันหรือไม่ ไม่ใช่สายตาของคนที่มองเข้ามา ดังนั้นพี่ซินต้องมั่นใจว่าพี่ซินคือคนที่ทำให้รามมีความสุขที่สุด”
“อืม” พี่ซินพยักหน้า “พรุ่งนี้แถลงข่าวเปิดตัวเลยไหม”
“ฮ่าๆ อย่าพูดเล่นไปนะครับ ขืนรามมาได้ยินพรุ่งนี้พี่ซินได้แถลงข่าวจริงๆ แน่”
พี่ซินกำลังจะตอบผม แต่เสียงเปิดประตูดังขึ้นมาเสียก่อน กล้ายิ้มให้พวกผมก่อนมองซ้ายมองขวา
“หายไปไหนกันหมด”
“พี่ไล่ให้ออกไปหาอะไรทำกัน ไม่อย่างนั้นแน่นร้าน”
“อ๋อ” กล้าพยักหน้าเข้าใจ หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วโทรออก “มาถึงแล้ว”
ผมกับพี่ซินลอบยิ้มให้กัน บางคู่อาจจะรู้ตัวช้า บางคู่อาจจะรู้ตัวเร็ว แต่ไม่มีคู่ไหนต้องห่วงอีกแล้ว
• • • • • • • •
“ตฤน พระจันทร์เต็มดวง” ผมชี้ออกไปนอกหน้าต่างรถ ตฤนเหลือบตามามองก่อนหันกลับไปมองถนนเหมือนเดิม
“อยากนั่งรถเล่นไหม”
“อืม” ผมพยักหน้า
ผมกับตฤนยังแยกกันอยู่เหมือนเดิม ตฤนไปกลับระหว่างคอนโดกับบ้าน ส่วนผมอยู่หอพักใกล้กับร้านหนังสือ มีบางวันเท่านั้นที่แวะไปค้างกับตฤนที่คอนโด เหตุผลเพราะผมไม่อยากให้ที่บ้านของตฤนมาเจอ ไม่ใช่เพราะกลัวพ่อแม่ของตฤนไม่ยอมรับ แต่เป็นเพราะผมอยากปล่อยเวลาอีกนิดให้เราเรียนจบเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ถ้าถึงตอนนั้นเรายังมั่นคงต่อกัน รักกันเหมือนเดิมเราจะจับมือกันไปบอกกับท่านด้วยตัวเอง
“ตฤน” ผมหันไปเรียกตฤน “ไปสวนสาธารณะข้างร้าน over the moon กันไหม”
“ไปสิ”
ตฤนจอดรถที่เดิมด้วยรถคันเดิมที่ผมเจอ ผมยิ้มกว้างเหมือนเช่นทุกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องในวันนั้น
“สวนใกล้จะปิดแล้ว” ตฤนดูนาฬิกาที่ข้อมือ
“ไปเดินเล่นย่อยอาหารกันสักรอบแล้วค่อยกลับ น่าจะพอดี”
“เอาสิ”
ตฤนเดินเคียงข้างผมไปช้าๆ คอยจับเอวผมดึงไม่ให้ชนกับคนอื่น เพราะผมเอาแต่แหงนเงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์
“ทำไมถึงชอบมองพระจันทร์นัก”
“เห็นแล้วคิดถึงตฤน ตฤนเป็นพระจันทร์ของผมไม่รู้เหรอ”
ใบหน้าของผมถูกตฤนจับให้หันไปมอง
“ฉันอยู่ตรงนี้ จะมองอย่างอื่นแทนทำไม”
ผมยิ้มกว้างจนตาหยี หน้ายังถูกตฤนจับเอาไว้ “หึงแม้กระทั่งพระจันทร์เหรอ น่ารักนะเรา” ตฤนปล่อยมือแทบไม่ทัน ใบหน้าหันไปมองทางอื่น สีแดงเรื่อที่ผมชอบปรากฎขึ้นบนใบหน้า
“เหมือนเพิ่งผ่านไปไม่กี่วันเอง วันที่ผมเจอตฤนที่นี่”
“รำลึกความหลังเป็นคนแก่ไปได้” ถ้าไม่ขัดผมก็ไม่ใช่ตฤนหรอกครับ
“ไม่ดีเหรอ ผมจะได้จำความรู้สึกแรกที่เราเจอกันได้”
“ลืมไปก็ได้นะฉันไม่ว่า”
“ไม่โรแมนติกเลย” ผมบ่นพึมพำกับตัวเอง
“ฉันเตะรถมันโรแมนติกตรงไหนหะกระต่ายเอ๋อ”
“ฮ่าๆ “ โธ่ที่แท้ก็กลัวตัวเองเสียฟอร์ม ผมนึกอะไรขึ้นได้จึงซ่อนรอยยิ้ม พยายามตีหน้าตาย หันไปมองตฤน
“แต่ถ้าวันนั้นผมเจอตฤนแบบเท่ๆ หล่อๆ ผมคงไม่มีกำลังใจ และผมก็อาจไม่ได้เป็นแฟนคลับของตฤนนะ อาจจะเดินไหล่หอคอตกผ่านไปเลยก็ได้”
สีหน้าของตฤนค่อยๆ เปลี่ยน ผมต้องกลั้นยิ้มแทบตาย เจ้าตัวทำหน้าเหมือนไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับผมดี ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ
“เอาเถอะจะจำฉันทำตัวโคตรเปิ่น ดูไม่เอาไหนแค่ไหนก็ตามใจนาย เอาที่พอใจเลย”
“ฮ่าๆ”” ผมหัวเราะออกมาเสียงดัง ตาพราวจนตฤนจับได้ว่าผมตั้งใจแกล้ง
“เดี๋ยวเถอะ! กระต่ายเอ๋อ” ตฤนตีหน้ายักษ์ใส่ผม แน่นอนว่าผมต้องรีบทำให้อีกฝ่ายใจอ่อนด้วยการส่งยิ้มกว้างไปให้
“ผมรักตฤน”
ตฤนชะงัก สีหน้าดูประหลาด ครึ่งยิ้มครึ่งบึ้ง ก่อนรอยยิ้มจะจุดขึ้นแบบคนปลงตก “ฉันจะทำยังไงกับนายดีนะกระต่ายเอ๋อ”
“ง่ายมาก”
“ยังไง”
“แค่รักผมก็พอ”
ตฤนจ้องตาผม ก่อนถอนใจออกมายาวๆ แต่ผมรู้ว่ามันเป็นการถอนใจเพราะความสุข
“เฮ้อ” ตฤนดึงผมเข้าไปกอดไหล่ ดึงให้ก้าวเดินไปด้วยกัน
“ตฤนถอนใจทำไม”
“ฉันกำลังสงสัยน่ะสิ”
“สงสัยอะไรเหรอ” ผมแหงนหน้าขึ้นมอง ตฤนก้มหน้าลงมาหา ยิ้มใส่นัยน์ตาผม
“สงสัยว่าฉันจะรักนายมากกว่านี้อีกได้ไหม ในเมื่อตอนนี้ฉันรักนายมากที่สุดแล้ว”
ดวงตาผมเบิกกว้าง หัวใจเต้นรัว ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้ออกมาจากปากของตฤน
“หึๆ ฉันก็ทำให้นายไปไม่ถูกได้เหมือนกันละน่า”
“ตฤน~”
หลอกให้ผมดีใจเก้อจนได้ คนอะไรร้ายกาจชะมัด ผมหน้ามุ่ย บ่นพึมพำๆ อยู่ในคอ ตฤนส่งสายตาล้อเลียน
“สมควรโดนแล้ว นายชอบแกล้งฉัน”
“แต่ผมไม่เคยเอาคำว่ารักมาล้อเล่นนี่”
“แล้วฉันทำที่ไหน ที่พูดไปจริงทุกคำ”
หน้ามุ่ยๆ ของผมคลายออก หัวใจกลับมาพองโตอีกครั้ง รอยยิ้มกว้างของผมทำให้ตฤนยิ้มตาม
“ฉันเป็นคนไม่พูดหวาน ไม่โรแมนติก แต่ฉันจะอยู่ตรงนี้กับนายเสมอ ไม่ปล่อยมือนายไปไหน”
“อื้อ”
“นายเป็นเหตุผลของรอยยิ้มของฉัน จำไว้นะกระต่ายเอ๋อ”
ผมกระชับมือให้แน่นขึ้นเพื่อบอกให้ตฤนรู้ว่าผมรับรู้ความรู้สึกที่ตฤนมีให้ ไม่ต้องบอกรักผมบ่อยๆ ก็ได้ ขอแค่ยังอยู่ด้วยกันตรงนี้ เคียงข้างกันไปแบบนี้ก็พอ
ผมมองขึ้นไปบนท้องฟ้า พระจันทร์ส่องแสงนวลตา เราต่างมี “คุณพระจันทร์” เป็นของตัวเอง คนที่ทำให้ยิ้มได้เมื่อเหนื่อยล้า คนที่แค่คิดถึงก็มีความสุข คนที่เป็นกำลังใจ เป็นไหล่ให้พักพิง คนที่เป็นเหตุผลให้เรายิ้ม วันนี้ผมเจอพระจันทร์ของผมแล้ว หวังว่าทุกคนจะเจอคุณพระจันทร์ของตัวเองเช่นกัน
โชคดีที่วันนี้มีคุณพระจันทร์ ผมโชคดีที่มีตฤน -Happy Ending-** ฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยนะคะ มีเด็กน่ารักเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือโตมาเป็นนายเอก ^^
บลูมารัก** ซีรีส์โชคดีที่วันนี้มีคุณพระจันทร์เปิดพรีออเดอร์ ถึงวันที่ 5 ก.ค. 61 นี้นะคะ เผื่อท่านใดสนใจรับกระต่ายเอ๋อไปเลี้ยงค่า ><
LINK รายละเอียด >>
>>รายละเอียดพรีออเดอร์คุณพระจันทร์<<ตอนพิเศษภายในเล่ม :ตอนพิเศษ 1 : ความขี้หึงของคุณหมีหน้าบึ้ง (ตฤน&ว่าน)
ตอนพิเศษ 2 : คำตอบของกล้า (กล้า&ปอน)
ตอนพิเศษ 3 : ชีวิตของแฟนคลับ (ตฤน&ว่าน)
ตอนพิเศษ 4 :คำนั้น (ราม&ซิน)
ตอนพิเศษ 5 : เหตุผล (กล้า&ปอน)
ตอนพิเศษ 6 : ฉันดีใจที่มีเธอ (ตฤน&ว่าน)
สุดท้ายนี้ ขอบคุณนักอ่านทุกท่านนะคะ ที่ติดตามกันมาจนจบ หวังว่านิยายเรื่องนี้จะทำให้ยิ้มได้และมีความสุขค่ะ / Darin