22..คำ (เชื้อ) เชิญ
เฮ้อ วันจันทร์ที่แสนเหนื่อย เป็นคนขี้เกียจทำงานตั้งแต่เมื่อไรนะ
บาสยืนมองโรงงานแล้วกระดกเครื่องดื่มชูกำลังจนหมดขวดทิ้งลงถังขยะแล้วขยับหมวกให้เอาที่เข้าทางเดินเข้าโรงงาน
จากที่เปิดดูแฟ้มเอกสาร อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ไฟไหม้อีกแล้วมีงานต้องเคลียร์เยอะเลย
เข้ามานั่งในห้องได้ไม่นานคลังก็โผล่หน้าเข้ามาหา
“รับทรัพย์ครับคุณเพื่อน”
คลังโผล่มาแค่หน้าพร้อมกับยื่นสลิปเงินเดือนให้ บาสยิ้มให้แล้วรับมา ส่วนคลังคงเอาสลิปไปแจกคนอื่นต่อ
แต่เมื่อเปิดดูก็ต้องตกใจ เงินเดือนขึ้น!
เฮ้ย! มันเพิ่มมามากจำนวนหนึ่งเลย ทำเอาบาสตกใจดูอีกรอบให้แน่ใจ ไม่มีวี่แวว ไม่รู้อะไรเลย ทำไมเงินถึงขึ้นเยอะขนาดนี้
บาสเก็บความแปลกใจไว้ในใจแล้วออกไปทำงาน
“กำหนดตรวจเช็คสภาพเครื่องประจำปีวันเสาร์นี้เหมือนเดิมนะครับ ไม่เปลี่ยนแล้ว”
“ครับ”
บาสพูดกับพนักงานประจำเครื่องให้เตรียมตัวแล้วยืนดูเขาทำงาน
“บาส”
บาสหันกลับไปตามเสียงเมื่อเห็นว่าเป็นบงกชจึงเดินเข้าไปหา
“ครับพี่บง”
“สี่โมงเดี๋ยวไปประชุมกับพี่นะ”
“ครับ”
บาสรับคำสั่ง บงกชยิ้มเย็นแบบฉบับของเธอให้แล้วเดินผ่านไป
“พี่บงครับ”
บาสเรียก บงกชจึงหันกลับมา บาสเดินเข้าไปหาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจถามออกไป
“ผมรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ควรเอามาพูด แต่ผมอยากรู้จริงๆ”
บาสพูดถึงแค่นั้นก็หยุดไป จนบงกชพูด
“พูดมาเถอะ”
บาสสบตาบงกชแล้วตัดสินใจถามออกไป
“ทำไมเงินเดือนผมถึงขึ้นเยอะขนาดนั้นครับ”
บงกชไม่ตอบคำถามแต่ถามกลับ
“แล้วมันไม่ดีหรอ”
“มันเยอะเกินความสามารถที่ผมมี”
บงกชมองมานิ่งๆแล้วเดินเข้ามาหา
“เธอดูถูกตัวเองมากเกินไปแล้วนะบาส ถ้าเธอไม่มีความสามารถ จะมาเป็นมือขวาพี่ได้หรอ”
ทั้งคู่สบตากันบงกชยิ้มบาสจึงยิ้มตาม นี้เป็นครั้งแรกที่บงกชยิ้มให้บาสกว้างขนาดนี้
“ขอบคุณครับ”
“ขอบคุณความสามารถตัวเองเถอะ อย่าลืมขอบคุณทิคเขาด้วยนะ”
ทิค
บาสหุบยิ้มทันทีมองบงกชด้วยสายตาไม่เข้าใจและบงกชดูออกเธอจึงไขข้อสงสัยให้
“วิศวะที่ได้ไปดูงานที่กาญครั้งนี้ไม่ใช่ว่าได้ไปเฉยๆผู้ใหญ่เขาคัดแล้วว่ามีความสามารถแล้วทิคเขาก็สนับสนุนเธอมากเลยนะ เธอโชคดีมากนะที่มีเพื่อนดีแบบทิค”
บงกชเดินไปแล้วแต่บาสยังยืนอยู่ที่เดิม
คำพูดของบงกชทำให้เขาแปลกใจมาก ที่เขาได้ไปเพราะทิคหรอ ที่เงินเดือนขึ้นก็เพราะทิคหรอ
ทำไมทิคไม่เคยบอก
“พี่บาส”
“พี่บาสคะ!”
แรงสะกิดที่แขนทำให้บาสหลุดจากภวังค์มอง เป็นบริ้งที่ยืนมองเขาด้วยสายตาสงสัย
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ปะ..เปล่าครับพี่คิดอะไรเพลินๆไปหน่อย”
บริ้งพยักหน้าเข้าใจแล้วยิ้มให้
“วันนี้บริ้งขอเลี้ยงข้าวพี่บาสนะคะ”
“หือ เนื่องในโอกาสอะไร”
บาสยิ้มถาม
“บริ้งสอบทดสอบได้คะแนนที่หนึ่งของนักศึกษาฝึกงานแหละ”
“จริงหรอ! เก่งมากๆ”
บาสยิ้มกว้างให้อีกรอบยกนิ้วโป้งให้คนตรงหน้า
“เด็กพี่บาสซะอย่าง ถือว่าบริ้งเลี้ยงขอบคุณคำปรึกษาและความรู้ที่พี่บาสบอกสอนบริ้งมาตลอดนะคะ”
“เอ๊ กินอะไรดีน๊า”
“ให้เวลาคิดถึงเที่ยงนะคะ”
บริ้งพูดแล้วยิ้มให้ ทั้งคู่จึงยิ้มขำใส่กันแล้วแยกกันไปทำงานของตัวเอง
บาสยังคงวุ่นอยู่กับการดูเครื่องและตอนนี้ทำอยู่กับคลังโดยแบ่งหน้าที่กัน บาสคนทำ คลังคนเช็คลงแฟ้ม
“เร็วมึงกูหิว”
“หิวแล้วทำอะไรได้มันยังไม่ถึงเวลาพัก”
“ก็แอบกินสิวะ!”
บาสหันมองคลังส่ายหน้าเอือมๆให้แล้วหันกลับไปตั้งใจดูเครื่องต่อ
“เออว่า”
“เอ้าหรอ เห็นกำหนดยังไม่แน่นอน”
รู้ว่าคลังคุยโทรศัพท์แต่บาสก็ไม่ได้สนใจ
“เคๆเดี๋ยวกูบอกให้”
“เออไอ้ทิค กูลืมสมุดไว้บนโต๊ะมึงอะ เห็นปะเล่มสีน้ำเงิน”
ชื่อของทิคทำให้บาสชะงักมือ แล้วแอบฟังเนียนๆ
“เออ เก็บไว้ให้ด้วย กูไปทำงานแอสมึงแล้วไปนั่งเขียนที่โต๊ะมึงดิเลยลืมไว้ มึงจะเห็นกูได้ไงมึงไปดูงานกับไอ้บาส เออๆแค่นี้แหละ”
พอคลังวางสายบาสจึงรีบหันกลับไปทำงานต่อ แต่ได้ครู่หนึ่งก็หยุดมืออีก แล้วหันไปหาคลังที่กำลังเขียนอยู่
“คลัง”
“ว่า”
คลังตอบรับแต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นจดจ่อกับการเขียน
“ทิคมีโรคประจำตัวอะไรวะมึงรู้ไหม”
คลังเงยหน้าขึ้นสบตากับบาสที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว
“โรคประจำตัว”
บาสพยักหน้าเมื่อคลังทวนคำถาม คลังเหมือนจะคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงตอบ
“มันก็ไม่เคยบอกนะ แต่มันก็ไม่เห็นป่วยเป็นอะไร มันเครียดบ่อยเลยทำให้มันดูหงอยบางช่วงเฉยๆมั้ง”
ไหนทิคบอกว่ามีโรคประจำตัว แล้วทำไมคลังที่เป็นเพื่อนถึงไม่รู้
“มีอะไรหรือเปล่า”
คำถามของคลังทำให้บาสหันกลับไปหา
“เปล่า ไปดูงานด้วยกันแล้วกูเห็นทิคกินยาเยอะอะ เลยสงสัย”
บาสเบี่ยงประเด็นไม่อยากให้คลังรู้ว่าทิคไปไม่สบายที่นั่น
“ยาแก้เครียดของมันละมั้ง มึงก็น่าจะพอรู้ว่ามันเป็นคนจริงจังทุกเรื่องคนเก่งเด็กเรียนแบบมันก็เหมือนจะบ้าแบบนั้นแหละ แต่จริงๆไม่มีอะไรหรอก”
คำพูดของคลังทำเอาบาสหันมอง อุทานด้วยน้ำเสียงตกใจ
“บ้า”
“กูพูดเล่นไอ้นี้”
คลังตะคอกใส่แล้วพูดต่อ
“พี่มันเป็นหมอเลยนะเว้ยจะบ้าได้ยังไง สวยอย่างนี่!”
คลังพูดพร้อมกับยกนิ้วโป้งการันตี
โห..ครอบครัวโคตรสมบูรณ์แบบอะ การงานดีกันทั้งบ้าน ฐานะก็ดี เขาเพิ่งรู้ว่าทิคมีพี่เป็นหมอ ที่คลังพูดก็น่าจะจริงลูกทำงานดีคงเรียนดีๆมาพ่อแม่คงเป็นคนรวยที่จริงจัง สมัยเรียนทิคคงเป็นเด็กเรียนน่าดูถึงทำงานเก่งขนาดนี้
อ่อ! แบบนี้สินะถึงทำให้ทิคเป็นคนจริงจังแข็งทื่อไม่ค่อยเข้าหาใคร เพราะครอบครัวเขามีครบให้อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องพึ่งใคร
บาสคิดแล้วแอบเบะปากด้วยความหมั่นไส้เมื่อคิดถึงสิ่งที่ทิคทำกับเขา
“กูหิวไม่ไหวแล้วไปหาของกินก่อน แล้วก็ตามไปนะมึง!”
คลังโพล่งขึ้นแล้วลุกขึ้นยืนยื่นแฟ้มให้บาสเดินออกไปโดยที่ไม่รอคำตอบจากบาสเลย บาสเห็นแบบนั้นก็ตะโกนตามหลัง
“ระวังพี่บงดีๆนะมึง!”
“แม่จะรู้เพราะมึงเนี้ยแหละไอ้บาส!”
คลังตะโกนกลับมาทำเอาบาสหัวเราะ เขามองตามคลังจนสุดสายตาแล้วหันกลับมาทำงานต่อเหลืออีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว
เกลียดการเช็คสายไฟอะไรเยอะๆแบบนี้มาก มากที่สุดในแปดโลก ยุ่งยาก วุ่นวาย ละเอียด บาสคิ้วผูกโบว์ด้วยความเครียดกับความละเอียดของงาน เขากลายเป็นคนขี้บ่นกับงานแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร
“ใครเขาบอกให้ทำแบบนั้น”
เสียงที่ดังมาจากบนหัวทำให้บาสเงยหน้าขึ้นมองด้วยความไม่พอใจ คนยิ่งเครียดๆอยู่ใครมาพูดแบบนี้ ทำแบบนี้แล้วมันยังไง แบบนี้มันถูกตามที่เรียนมาแล้วก็ปฏิบัติอยู่ทุกวันมันผิดตรงไหน
แต่พอเงยหน้าก็มองก็ต้องตกใจเมื่อคนๆนั้นคือทิค
ทิคยืนมองสบตากับบาสอยู่ครู่หนึ่งแล้วนั่งยองๆลงข้างๆปัดมือทิคออกจากสายไฟที่จับค้างอยู่
บาสมองทิคทำแล้วอึ้งนิดๆทิคก็ทำแบบที่เขาทำนั้นแหละ แต่มันเร็วและดูชำนาญมากทิคพับสายไฟเก็บสวยอย่างกับใช้เครื่องจักร ยอมรับเลยว่าเขาพับสายไฟเก็บไม่ค่อยสวยตั้งแต่สมัยเรียน
“ประหยัดเวลาได้ตั้งเยอะ แล้วยังไม่ต้องเสี่ยงมือเป็นแผลด้วย”
ทิคพูดพร้อมกับทำไปด้วย
มึงจะหล่อไปไหนเนี้ย!!!
“มหาลัยมึงสอนแบบนี้ด้วยหรอ”
เรียนมหาลัยคนรวยมาแน่เลย
“เปล่า คิดเอง”
กูดูโง่เลย!!!
บาสแอบเบะปากด้วยความหมั่นไส้
“เรียนมารู้จักต่อยอดเองบ้างก็ดีนะ มึงนะ”
“ทำงานตามขั้นตอนเว้ย คิวเอมาตรวจถึงไม่เคยได้กิน”
ทิคแสยะยิ้มมองคนแถไปเรื่อยในเมื่อที่เขาทำก็ทำตามขั้นตอน บาสยิ้มเยาะกลับ ทั้งคู่ยิ้มแล้วจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้น และเป็นทิคที่หลบตา
“ไปไกลๆเหม็นเหงื่อ”
ทิคดันตัวบาสที่นั่งยองๆแค่เบาๆบาสก็เสียหลักไปแล้ว บาสไม่ยอมดันตัวเองขึ้นแล้วผลักทิคคืนแต่ฝ่ายนั้นมีสติอยู่ตลอดเวลาจึงจับแขนบาสไว้เซกันไปทั้งคู่แต่ไม่ถึงกับล้ม
“กูดูเครื่องมาเป็นชั่วโมงร้อนก็ต้องมีเหงื่อไหม”
ตั้งแต่กลับมาจากกาญรู้สึกว่าพวกเขาจะคุยกันได้สนิทใจมากขึ้น ไม่ใช่เจอหน้ากันแล้วคุยแต่เรื่องจริงจังเครียดไปซะหมด
“มาทำไร”
“มาหาไอ้คลัง”
บาสพยักหน้าเข้าใจ คงที่คุยโทรศัพท์กันเมื่อกี้
“มันไปหาของกิน ไปหาดิ”
บาสชี้บอกแล้วก้มลงจดที่เพิ่งจัดการเสร็จลงแฟ้มแทนคลัง
แต่เมื่อรู้สึกว่าทิคยังนั่งอยู่ที่เดิมทั้งที่บอกไปแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมอง
“มีไร”
บาสเลิกคิ้วถามยิ้มๆเมื่อทิคยังนั่งอยู่ที่เดิม
“นั่งเฉยๆทำไม”
เอาที่มึงสบายใจ!!
“เออ! คลังมันเล่าว่ามึงมีพี่เป็นหมอสวยด้วย จริงอ่อ”
บาสถามด้วยสายตาและน้ำเสียงติดเล่น
“จริง”
“หูย ครอบครัวมึงน่าสนใจ พี่มึงมีแฟนยังอ๊า”
ทิคกระตุกยิ้มมองคนที่เหมือนจะอยากรู้มากครู่หนึ่งแล้วตอบ
“ไปบ้านกูไหมละ”
คำพูดของทิคทำให้บาสหันมอง
“มึงจะรู้ ว่ามีคนที่น่าสนใจมากกว่าพี่กูอีก”
ทิคยิ้มให้ทิ้งท้ายแล้วลุกขึ้นเดินออกไปเลย บาสได้แต่มองตามด้วยความไม่เข้าใจ อะไรของเขา พวกฉลาดๆนี้ชอบพูดอะไรให้คิดเนอะ
สวัสดีทู้กคนนนนนน
งื้อออ หายไปนานนมมาก เขาติดทำอะไรหลายๆอย่างเลยไม่มีเวลาได้มาลงสักที วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดีสักที ดีใจมากอะที่ถึงไม่ได้ลงก็ยังมีคนอ่านที่น่ารักยังเข้ามาทวงให้รีบมาลง
เขาหายไปนานๆอย่าเพิ่งโกรธหรือรำคาญเน้อ เขาพยายามแล้ว