►Love me #จับเพื่อนทำเมีย : ตอนที่ 24 บทส่งท้าย 100% [23-8-18] (ตอนจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ►Love me #จับเพื่อนทำเมีย : ตอนที่ 24 บทส่งท้าย 100% [23-8-18] (ตอนจบ)  (อ่าน 334409 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ดีใจแทนพลมีคนห่วงใยด้วย :a2:

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
21 ศึกชิงเมีย

“มีใครเป็นคนต่างชาติไหม จะได้พาไปซื้อตั๋ว” พี่ริวแซว ทุกคนหัวเราะ พากันไปซื้อดอกไม้ เขามีกฎใหม่ไม่ให้จุดธูปแล้วล่ะครับ รักษามลภาวะ ซึ่งผมว่าดีแล้ว เพราะกลัวคนไม่ระวังเอาธูปจิ้มหลังเอา

วัดพระธาตุดอยสุเทพเป็นวัดที่สวยมาก มนุษย์สิบคน ยกโขยงกันไปเดินรอบเจดีย์ พี่เรย์นำหัวขบวน ต่อด้วยมิค ไมค์ ฝุ่น พี่ริว ผม แมท ไวท์ ดิวและกู้รั้งท้าย

ใจผมอยากเป็นคนเดินตามหลังฝุ่นมันมากกว่า

ช่วงแรกๆ ยังรวบรวมสติไม่ได้ เดินถือดอกไม้ตามหลังพี่ริว สมองคิดวุ่นไปหมด ทั้งเรื่องฝุ่นและเรื่องอื่นๆ

เพราะจำนวนคนที่เยอะ ทำให้การเดินก้าวไปได้ค่อนข้างช้า ยิ่งช้า สติที่กระจายของผมจึงค่อยๆ รวมตัวกันกลายเป็นความนิ่ง ผมพยายามทำจิตใจให้สงบ คนห่างไกลวัดวาแบบผม ทำได้แค่ขอพรเรื่องฝุ่นเข้าไว้เท่านั้น

สาธุ ขอให้ฝุ่นรักขอให้ฝุ่นหลง ขอให้รักเรามั่นคง และทุกคนยอมรับได้เป็นอย่างดี

พอเดินกันเรียบร้อยก็พากันถ่ายรูปตามอัธยาศัย ทั้งด้านในและด้านนอก คนกลุ่มผมไม่ใช่พวกชอบทำบุญกันโดยพื้นฐานอยู่แล้ว แค่นี้ก็พอ ด้านนอกมีวิวที่ค่อนข้างสวย จุดนี้พวกเราได้ถ่ายรูปกับวิวกันสมใจ และเป็นที่แรกที่ผมได้ถ่ายคู่กับฝุ่น เพราะพี่เรย์เขาดึงพี่ริวไปถ่ายคู่กันตามประสาลูกพี่ลูกน้อง แม้จะแค่ภาพเดียว แต่มันก็ทำให้ผมมีความสุขแล้ว

พักเดียวพี่ริวก็มาลากฝุ่นไปต่อ ฝุ่นมันคงดูออกว่าผมกับพี่ริวกำลังทำสงครามกันอยู่ แต่มันก็ยังนิ่งๆ ของมันไปตามประสา

เราลงจากวัดพระธาตุดอยสุเทพกันตอน 11 โมง แวะเข้ามช.ก่อนเพื่อไปยลอ่างแก้วในตำนานของใครหลายๆ คน ถ่ายรูปอัปเฟซกันไปตามประสา ผมยืนสูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึกที่สุด หันไปมองใครบางคนที่ยืนมองอยู่เหมือนกัน

ผมหยิบมือถือมากดถ่ายฝุ่นไปหลายแชะ ซูมภาพมันเข้ามาใกล้ๆ จังหวะหนึ่งมันหันมาสบตา ผมจ้องตามัน ยิ้มให้นิดหนึ่งส่งผ่านความรักไปให้ เขาว่าอ่างแก้ว เป็นอ่างที่คนมีความรักมักมาพลอดรักกัน และเป็นอ่างที่คนอกหัก มักมาทิ้งลมหายใจไว้ที่นี่ด้วย
ไม่ได้มาฆ่าตัวตายนะครับ แค่มาทำมิวสิกเฉยๆ คงได้อารมณ์พอๆ กับได้เดินตากฝนหรือเปิดน้ำยืนเศร้าใต้ฝักบัวล่ะมั้ง ที่นี่บรรยากาศดีมาก กล้องห่วยขนาดไหนรูปก็ออกมาสวย

ผมกับฝุ่นยืนกันอยู่ค่อนข้างไกล แต่ผมไม่สนใจระยะทางนั้น ส่งผ่านความรักผ่านดวงตาไปหาคนที่มองมานั้น พักหนึ่งพี่ริวก็มาดึงความสนใจของฝุ่นไปจากผมอีก ผมหันกลับมามองอ่างแก้วตามเดิม

“โดนกีดกันขั้นรุนแรงเชียวนะมึง นี่แค่อดีตพี่รหัส ถ้าเป็นพ่อหรือแม่เขามึงจะทำยังไงวะ” แมทเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆ
นั่นน่ะสิ

“นึกอยากยอมแพ้รึยัง”

ผมเหลือบมองคนพูด มันพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งยุกึ่งท้าทาย สรุปมึงจะสนับสนุนหรือจะห้ามปรามกูเอาให้แน่
ผมหันไปมองฝุ่นอีกที เห็นมันยิ้มแล้วแทบจะละลายลงกับพื้น

“ไม่ว่ะ กูไม่ยอม” ผมตอบตรงๆ
แมทหัวเราะหึๆ

“งั้นสู้ต่อไปเพื่อน”

ผมพยักหน้า ฝุ่นหันมาสบตาผมอีกรอบ ก่อนมันจะเบี่ยงหลบมองไปทางอื่น

ท้องพากันร้องแล้ว เราจึงขนขบวนกันไปกินก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่นิมมานเหมินทร์ซอย 17 กินเสร็จจะได้เที่ยวร้านไอเบอร์รี่ของพี่โน้ตได้เลย (มันอยู่ข้างกัน) อร่อยมากครับ คนเต็มร้าน นั่งคอยกันนานเลย พออิ่มเราก็ยกโขยงกันไปร้านพี่โน้ตต่อ คราวนี้สนุกถ่ายรูปอัปเฟซกันสุดๆ โดยเฉพาะมาสคอตพี่อุดมที่เป็นรูปหน้าคนนั้น ตอนนี้มันเปลี่ยนจากสีเหลืองมาเป็นสีชมพูแจ๋วแหววแล้ว

กู้กับดิวกอดขาหมาคนละข้างแย่งกันถ่าย ผมยืนเท่ตามสไตล์ อยากได้ภาพคู่กับฝุ่นบ้าง ผมเดินไปดึงฝุ่นมาถ่ายด้วย ซึ่งไอ้พี่ริวก็ไม่ได้ขัดขวางอะไร เรายืนคู่กันธรรมดาสำหรับภาพแรก ภาพที่สองผมกอดคอมันไว้อย่างเพื่อนทั่วไป

พี่ริวเข้าไปถ่ายต่อ ยืนเท่ไปตามประสา ก่อนจะกวักมือเรียกฝุ่นเข้าไปบ้าง ฝุ่นมันไม่ปฏิเสธ วิ่งเข้าไปหา ภาพแรกยืนข้างกัน ภาพที่สองพี่แกกอดคอเหมือนที่ผมทำ คิดว่าพี่แกจะหยุดอยู่แค่นั้น แต่แกหันไปหอมแก้มฝุ่นเบาๆ ที

ผมตาโตแทบจะทันที ฝุ่นมันยังตกใจ พี่ริวหัวเราะหึๆ มองตาผม

เจตนาของพี่ริวคืออะไร ชอบฝุ่น หรือแค่ต้องการกวนประสาทผมเท่านั้น ผมมองพี่ริวตาขวาง ประกาศชัดเลยว่าไม่พอใจ

พี่เรย์ถ่ายบ้าง ลากเอาฝุ่นไปถ่ายด้วยอีกคน ฮ็อตจังเมียกู ดีแต่ว่าพี่แกไม่ได้เอาฝุ่นไปกอดหรือหอมแบบพี่ริว หลังจากนั้นพี่เรย์ก็มาลากมิคไปถ่ายบ้าง สิบคนกว่าจะได้รูปกันครบ เล่นเอาเหนื่อย แถมยังต้องสลับให้คนอื่นเขาถ่ายด้วย ไม่งั้นมีเฮ นักท่องเที่ยวเยอะเป็นมด อาจจะเพราะเสาร์อาทิตย์ด้วย

พอหนำใจเราก็พากันไปสั่งเค้กกิน ราคาโหดเหมือนกัน สั่งไปไม่กี่อย่าง จ่ายไปหลายร้อย สั่งใครสั่งมันครับ

แต่อร่อยดีครับ ฝุ่นมันได้กินฟรีเพราะอดีตพี่รหัสมันเลี้ยง ทำให้ทุกคนต่างพากันอิจฉา พี่เรย์ไปขลุกอยู่กับมิคพ่วงเอาเพื่อนผมไปด้วย เพราะเด็กนั่นไอเดียพุ่งขึ้นมากะทันหัน (อาจจะเพราะอยู่ในร้านของนักสร้างผลงานศิลปะอย่างพี่อุดม) มิคพกกระดาษกับดินสอมาด้วย นั่งวาดยิกๆ โดยมีพี่เรย์มองอยู่ข้างๆ อีกด้านเป็นไมค์ที่มองน้องมันวาดตาแป๋ว

กู้สั่งมาเป็นกระบุงโกย ดิวคู่หูมันตามเล็มไปเล็กๆ น้อยๆ

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้นั่งข้างฝุ่นด้วย อีกด้านเป็นพี่ริว

“กินเยอะๆ ตัวจะได้โตๆ” พี่ริวบอก

“ด้านบนคงไม่ได้แต่ด้านข้างล่ะไม่จำกัด” ฝุ่นมันกวนกลับ ผมหัวเราะกับมุกนั้น สะกิดแขนมันเบาๆ ฝุ่นหันมามอง ผมตักเค้กชิ้นที่ผมกำลังกินอยู่ไปไว้ใกล้ปากฝุ่น

“ลองชิมดู อันนี้อร่อย” ผมไม่ได้ตั้งใจจะเรียกความสนใจจากมันหรอกนะครับ แต่เค้กชิ้นนี้อร่อยจริงๆ ฝุ่นมองหน้าผม โอกาสที่มันจะปฏิเสธมี 50/50 แต่มันก็อ้าปากงับ ขยับเคี้ยว พอรสชาติต้องลิ้นดวงตามันวาวขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

“อร่อย”

“ชอบใช่ไหม งั้นเอาไปกิน” ผมเลื่อนเค้กครึ่งก้อนที่เหลือไปให้

“แล้วมึงไม่กิน”

“พอแล้ว แค่อยากลองชิมดู”

มันพยักหน้า รับไปวางไว้ใกล้ๆ ตักกินทีละคำ คำเล็กๆ

“ป้อนพี่หน่อยสิฝุ่น อยากลองชิมบ้าง”

“เอาเลยครับ” ฝุ่นมันเลื่อนเค้กของผมเมื่อกี้ไปใกล้

“ป้อนดิ อดีตพี่รหัสขอร้องเชียวนา”

“ผมว่าพี่กินเองดีกว่า ผู้ชายป้อนกันมันไม่เหมาะ”

พี่ริวเลิกคิ้วสูง

“ทีเมื่อกี้พลป้อน ฝุ่นไม่เห็นปฏิเสธ”

ฝุ่นมันนิ่งไป ผมยกยิ้ม ผมผัวมันนี่ครับ พี่เป็นแค่อดีตพี่รหัสเท่านั้น ฝุ่นไม่พูดอะไรอีก ตักเค้กชิ้นนั้นไปป้อนพี่ริว

“อร่อย” พี่ริวมองฝุ่นตาเยิ้ม เท้าผมกระตุกยิกๆ แต่รู้ว่าเขาจงใจรวนผมจึงไม่พูดอะไร


เรานั่งคุยกันต่ออีกพักก็พากันมุ่งตรงสู่วัดถ้ำอุโมงค์ วัดโบราณของจังหวัดเชียงใหม่ที่เต็มไปด้วยสถานที่โบราณ แค่องค์เจดีย์ก็ร่วม 700 ปีเข้าไปแล้ว เราเข้าไปกราบสักการบูชาพระประธานก่อน แล้วถึงออกมาถ่ายรูปกันยังจุดต่างๆ
ผมเห็นฝุ่นมันยืนดูเศียรเก่าโบราณตั้งเรียงกัน ผมเดินเข้าไปใกล้ อาศัยจังหวะที่ไม่มีใครสนใจจับมือมันไว้เบาๆ ฝุ่นหันมามอง ผมกระชับมือเบาๆ ส่งยิ้มให้แล้วคลายปล่อย

แค่เสี้ยวไม่ถึงสิบวินาทีกับสัมผัสเล็กๆ นั้น เชื่อกันหรือเปล่าว่ามีอานุภาพมากมายให้ใจผมสั่นไหวแค่ไหน

หลังจากนั้นเจ้าถิ่นก็พาเรากลับเข้าเมืองเพื่อไปเช็กอินที่พัก เราจะพักกันในเกสต์เฮ้าส์ใกล้ๆ กับร้านของอาพี่เรย์นั่นแหละ จอดรถไว้ข้างถนน พากันหิ้วกระเป๋าเดินเข้าไป

เราพักกันห้องละ 2 คน กู้คู่กับดิวตามเดิม แมทคู่กับไวท์ เพราะไมค์จะนอนกับน้องมันเอง พอได้กุญแจมา ผมก็หันไปชวนฝุ่น แต่พี่ริวฉุดข้อมือฝุ่นไว้

“ไปนอนกับพลมัน กูจะนอนกับน้องรหัสกู” พี่ริวบอกพี่เรย์ คราวนี้ผมไม่ยอมอย่างที่แล้วๆ มา ขยับไปจับฝุ่นมาไว้ข้างๆ มองพี่ริวตาขวาง บอกด้วยสายตาว่ายังไงผมก็ไม่ยอม

“พล ปล่อยกูก่อน พี่ริว ผมนอนกับมันก็ได้ครับ”

พี่ริวยกยิ้ม จับแขนฝุ่นดึงเข้าหาตัวเอง

“เฮ้ย ริว พอเหอะ สงสารฝุ่นบ้าง” พี่เรย์ช่วยพูดให้

“ไม่ว่ะ กูจะนอนกับน้องรหัสกู เราก็เหมือนกัน คิดเหรอว่านอนกับมันจะได้นอนดีๆ ไม่ต้องนอนครางทั้งคืนรึไง”

แก้มฝุ่นแดงก่ำ ต่อให้มันเป็นเรื่องจริงก็เถอะ ฝุ่นมันมองผมนิดหนึ่ง ทำท่าคิด

เวรล่ะ ถ้าให้เลือกระหว่างมานอนครางให้ผมฟัง กับอยู่กับอดีตพี่รหัส มันก็ต้องเลือก…

“กูจะนอนกับพี่ริว”

นั่นไง ซื้อหวยไอ้ฝุ่นยังไงก็ถูก ผมหน้าบูด

“ฝุ่น” ผมร้องขอเสียงอ่อย

“ไปกันเถอะ” แล้วมันก็หันหลังให้ผมดื้อๆ ผมมองตามตาละห้อย แมทเดินมาตบหลังผมเบาๆ แล้วเดินเลยไป พอๆ กับไมค์ที่พา
น้องมันเดินนำไปก่อน ตามไปติดๆ ด้วยดิวกับกู้ เหลือไว้แค่ผมกับพี่เรย์เท่านั้น

“ห้องอะไร”

“A6 ครับ”

“มาสิ” พี่เรย์ยื่นมือมาขอกุญแจ ผมยื่นให้อย่างเสียไม่ได้

“พี่ริวเขาเกลียดผมเหรอ” ผมถามตรงๆ

“มีใครเขาชอบคนที่มารังแกน้องตัวเองบ้าง ต่อให้เป็นแค่อดีตพี่รหัส แต่จำไว้เลยว่าริวมันรักฝุ่นเหมือนน้องเหมือนนุ่ง ไม่งั้นไม่
ฝากฝังให้พี่ดูแลดีขนาดนี้หรอก ตอนอยู่มันดูแลฝุ่นอย่างกับเจ้าชาย”

ผมหน้าตึง

“พี่ริวเขาคิดอะไรกับฝุ่นหรือเปล่า”

คนตัวสูงไล่ๆ กับผมชะงัก

“พี่น้อง”

“แน่ใจเหรอครับ”

พี่เรย์มองตา

“แน่สิ” เขาตบหลังผมเบาๆ “ไม่มีอะไรหรอก พักผ่อนเถอะ เดี๋ยวต้องไปเดินเล่นถนนวัวลายกันต่อ”

ผมพยักหน้าเดินเข้าห้อง ห้องเล็กมาก ภายในมีเพียงเตียงขนาดควีนไซซ์สะอาดๆ หนึ่งหลัง ข้างกันเป็นตู้เสื้อผ้า มีทีวีตั้งอยู่บนโต๊ะแถวๆ ปลายเตียงอีกหนึ่งเครื่องเท่านั้น พี่เรย์ให้สิทธิ์ผมอาบน้ำก่อนในฐานะรุ่นพี่ ผมทำตาม พอแล้วเสร็จถึงได้ออกมานอนรอบนเตียง ให้พี่เรย์ได้อาบต่อ นึกไปถึงใครอีกคน

ผมหยิบมือถือมากดไลน์ส่งข้อความหาฝุ่น

‘คิดถึง’

สั้นๆ ครับ แล้วส่งสติกเกอร์ลูกหมากำลังเหงาหงอยไปให้ ไม่หวังว่าจะได้คำตอบอะไรจากมันหรอกครับ เพราะมันไม่เคยตอบไลน์ผมเลย แต่ขึ้นข้อความว่าอ่านแล้ว

‘บ้ารึไง เพิ่งห่างกันเมื่อกี้’

ผมเบิกตากว้าง เด้งลุกขึ้นนั่งทันที เพ่งมองข้อความดีๆ อีกที

ฝุ่นมันตอบไลน์ผมด้วย!!

ผมรีบรัวนิ้วตอบกลับทันทีหลังได้สติ

‘เป็นครั้งแรกเลยนะฝุ่นที่มึงตอบไลน์กู ดีใจจัง’

มันเงียบไปสักพัก ก่อนข้อความใหม่จะเด้งขึ้นมา

‘ประสาท’

ผมฉีกยิ้มกว้างกับคำต่อว่านั้น ทวนอ่านอย่างมีความสุข อยากกอดมันฉิบหาย แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะโดนพี่ริวขวางทางอยู่

‘ฝุ่น มึงดูพี่มึงดิ เขากีดขวางทางรักกู’ ผมอ้อนกลับหวังร้องขอความเห็นใจ

‘ก็เขารักกู’

‘รักแบบไหน’

‘แบบพี่แบบน้อง’

ผมไม่พิมพ์แล้วครับ ไม่ทันใจ โทรไลน์หามันเลย มันรับสายทันที

“พี่ริวล่ะ”

“อาบน้ำ”

“มึงอาบรึยัง”

“อาบแล้ว พี่เขาให้กูอาบก่อน”

ผมหัวเราะ

“เหมือนกัน” ผมกัดปากเบาๆ

“ฝุ่น”

“อะไร”

“คิดถึง”

“ประสาท” อารมณ์เวลาอ่านข้อความกับได้ยินเสียงจริงๆ ไม่ต่างกันเลย ผมเหลือบมองไปทางห้องน้ำ

“มึงอยู่ห้องไหน”

“A9”

ผมรีบลุกพรวดจากที่นอน กดปิดมือถือโดยไม่บอกกล่าวอะไร วิ่งลิ่วๆ ไปเคาะห้อง พักเดียวฝุ่นมันก็เปิด พอมองเข้าไปไม่เห็นใครผมก็สอดตัวเข้าไปทันที จับมันจูบแรงๆ

“คิดถึงใจจะขาด”

“...พล อือ พอ…” มันครางออกมาเบาๆ เมื่อผมซุกซอกคอมันแรง “พล เดี๋ยว พี่ริวอาบน้ำอยู่”

ผมไม่สนครับ จับมันผลักถอยร่นแล้วล้มลงไปนอนหงายบนเตียง

“พล” ฝุ่นพยายามเบาเสียงปรามลง แต่ผมไม่สน คิดถึงจะแย่ ผมซุกซอกคอ เลิกชายเสื้อมันขึ้นสูงจนหัวนมโผล่ อ้าปากงับทันที
ฝุ่นสะดุ้งเฮือก ครางสะท้าน มือหนึ่งจับหัว อีกมือหนึ่งจับแขนผมไว้

กริ๊ก…

เสียงลูกบิดดังเบาๆ ผมเงยหน้าจากซอกคอฝุ่นมอง พี่ริวยืนตะลึงอยู่หน้าห้องน้ำในสภาพผ้าขนหนูพันเอวเอาไว้หมิ่นเหม่ กล้ามเนื้อแน่นหนัน คงชอบออกกำลังกายอยู่เป็นนิจ ออร่าผู้นำเต็มร้อย จะให้ผมไว้ใจให้ฝุ่นอยู่กับคนแบบนี้ได้ยังไงกัน

“ทำอะไรของมึง!”

ฝุ่นรีบดันผมลุก พลิกหันไปมองด้วยผิวแก้มแดงก่ำ

“คิดถึงเมียเลยย่องเข้ามาหา”

“มึง!!” พี่มันถลาจะเข้ามาหา ฝุ่นกั้นกลางไว้ทันที

“พล มึงออกไปก่อน พี่ริวรีบแต่งตัวเถอะ ผมหิวแล้ว”

ผมจ้องคนตัวสูงเท่ากันตาขวาง ก่อนก้มมองฝุ่นอีกที แก้มมันเรื่อแดง รสจูบของผมทำให้ปากมันเจ่อช้ำนิดๆ ผมยกมือเกลี่ยแผ่วเบา ยอมเป็นฝ่ายล่าถอย เดินออกจากห้องมันกลับเข้าห้องตัวเองไป

พี่เรย์ออกมาจากห้องน้ำพอดี

“ไปไหนมา”

“ไปหาฝุ่น”

พี่เรย์เลิกคิ้วสูง ยกยิ้มแล้วหัวเราะ

“อารมณ์ค้างรึไง” เขาคงเดาออกจากบางสิ่งของผม 

ผมไม่ได้ตอบ เดินเลยเขาเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย พอออกไปพี่เรย์ก็แต่งตัวเสร็จแล้ว

“เบาขึ้นไหม”

“ตัวเบา แต่ใจหนัก” ผมสารภาพตามตรง พี่เรย์หัวเราะ

“พี่เคยเล่าให้ริวฟังว่าเราทำฝุ่นไว้โหดมาก รายนั้นเลยค่อนข้างเป็นห่วงฝุ่น”

ผมทำหน้ายุ่งยาก เถียงไม่ออก เพราะเวลาผมฮีตจัดๆ ผมก็หนักกับฝุ่นมากจริงๆ

เราพากันออกไปสมทบกันที่ประตูท่าแพเพื่อหาของกินกันแถวนั้น เดินครับ จากที่พัก ไม่ไกลมาก นั่งกินไป ชมวิวท่าแพไป สวยดี ผมกับพี่ริวนั่งเขม่นกันโดยมีฝุ่นอยู่ตรงกลาง พี่มันโอบไหล่ฝุ่นไว้ ฝุ่นมันไม่ขัดขืนพี่มันเองหรอก แต่ถ้าผมทำบ้างมันคงไม่ยอม
หันมองไปอีกด้าน มิคกำลังกินอาหาร โดยมีไมค์คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ดูแลไม่ต่างกับพี่เรย์ที่ขนาบอยู่ข้างกัน มิคยังไม่หยุดร่างๆ ลบๆ อะไรสักอย่างที่น่าจะเป็นสร้อยคอลงบนกระดาษ ผมเลิกสนใจคนทั้งสามหันมากินต่อ ทริปสุดท้ายของวันนี้คือเดินถนนวัวลาย ผมยังไม่เคยเดิน เคยไปแต่ถนนคนเดินวันอาทิตย์เท่านั้น ตื่นตาตื่นใจพอควรครับ ผมพยายามเอาตัวเข้าไปเดินใกล้ๆ ฝุ่นโดยมีสายตาเขม่นจากพี่ริว

ผมไม่สน ฝุ่นมันได้ของมาหลายชิ้นเลย ส่วนใหญ่คงเอาไปฝากคนที่บ้าน ผมทำหน้าที่ถือของให้เหมือนเดิม ตอนแรกเดินกันเป็นกลุ่มใหญ่ แต่หลังๆ ก็ต่างแยกกันเป็นกลุ่มย่อยเพื่อดูของที่ชอบ คนเยอะด้วย คนสิบคนเดินกันเป็นกลุ่มเคลื่อนที่ลำบาก

พี่เรย์กับไมค์แล้วก็มิค จะสนใจพวกสร้อยคอและเครื่องประดับที่เขาเอามาขาย แวะเข้าร้านข้างทางไปแล้ว พวกกู้กับดิวจะหยุดที่โซนของกินเป็นส่วนใหญ่ ล่าสุดที่เห็นคือกำลังต่อคิวเพื่อซื้อลูกชิ้นปิ้งอยู่ แมทกับไวท์มุ่งตรงเข้าหาเสื้อผ้าแนวที่ตัวเองชอบทันที
ตอนนี้กลุ่มที่พากันเดินหน้าต่อจึงเหลือแค่ผม ฝุ่นแล้วก็พี่ริวที่เดินประกบฝุ่นอย่างกับแฟนมากกว่าผมที่เป็นแฟนจริงๆ เสียอีก

ฝุ่นยกตุ๊กตาทำมือลายไทยที่เพิ่งซื้อมาเมื่อกี้ขึ้นดู

“ยัยฝันคงชอบ เด็กนั่นชอบสะสมตุ๊กตา”

“คิดว่าชอบสะสมหนังสือซะอีก”

ฝุ่นสายหัว

“ตุ๊กตา กูว่าอนาคต ถ้าไม่เปิดร้านขายตุ๊กตา ก็น่าจะตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์แน่ๆ”

ผมหัวเราะตาม ดีละครั้งหน้าถ้าไปเจอกัน ผมจะได้รู้ว่าควรจะซื้ออะไรไปฝากน้องแฟน

“เออ พล พอดีกูลืมของไว้ที่ร้านขายพวกสมุดทำมือเมื่อกี้ ย้อนกลับไปเอาให้ได้ป่ะ จะรอตรงนี้” พี่ริวหันมาร้องขอกันดื้อๆ
แม้จะเป็นคำขอ แต่น้ำเสียงดูไม่ได้เป็นคำขอแม้แต่น้อย เหมือนเป็นคำสั่งกลายๆ ให้ต้องทำมากกว่า ผมขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจ แต่ไงก็เป็นรุ่นพี่ แถมยังเป็นคนที่ฝุ่นนับถืออีก ผมรับปากเดินย้อนกลับไปตามทางเดิม มองซ้ายมองขวา ทั้งมองหาเพื่อนๆ ที่น่าจะพากันเดินตามมา หรือว่าร้านสมุดทำมือที่ว่า

ไม่เจอเพื่อนครับ เจอร้านทำมือไม่ห่าง

“โทษครับ พอดีพี่ชายผมเขาลืมถุงสมุดทำมือไว้ ไม่ทราบว่า…”

“โอ้ อยู่นี่เลยค่ะ!” เจ้าของร้านรีบบอก “เห็นมันวางอยู่ริมๆ แผง ยังคิดอยู่เลยว่าเป็นของใคร คนเยอะ ดีนะที่ไม่มีใครหยิบไปก่อน”

ผมยิ้ม รับมาถือ บอกขอบคุณแล้วเดินกลับทางเดิม ผมยกดู ถอนหายใจแรง

“ยังไม่แก่เลย ความจำเสื่อมซะแล้ว” ผมพยายามจดจำว่าฝุ่นกับพี่ริวรอกันอยู่ตรงไหน แต่พอเดินมาถึงที่เดิมจริง กลับมองไม่เห็นสองคนนั้น 

“อ้าว” ผมกวาดมองไปรอบๆ เผื่อขี้เกียจยืนรอเฉยๆ แล้วเดินดูของอะไรใกล้ๆ แต่ในระยะที่สายตามองเห็นไม่มีเลยครับ

ผมรีบหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหา ฝุ่นมันดันปิดมือถือ

อะไรวะ ปกติมันไม่เคยปิดมือถือนะ

ผมตัดสินใจโทรหาเพื่อนๆ กู้กับดิวนั่งซัดขนมจีนกันต่อ แมทกับไวท์กำลังซื้อเสื้อผ้ากันอยู่ตามเดิม ส่วนพวกพี่เรย์แวะร้านเครื่องเงินกลางทาง ไม่มีใครเห็นพวกฝุ่นเลย คาดว่าคงเดินนำไปก่อนไกลแล้ว

ผมตัดสินใจขอเบอร์ติดต่อพี่ริวจากพี่เรย์ รายนั้นให้มาง่ายๆ แต่พอโทรหาจริงพี่ริวกลับปิดเครื่องเหมือนกัน
ผมกัดกราม

พี่ริวจงใจแกล้งแยกผมกับฝุ่นแน่ๆ ผมเลิกโทร ยัดมือถือใส่กางเกงตามเดิมตัดสินใจเดินหา ผมก้าวเร็วๆ กวาดสายตาทั้งซ้ายและขวา จากจุดที่นัดยันไปถึงปลายทางก็ไม่เจอ

ผมผ่อนลมหายใจออกช้าๆ กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะเดินหาอีกรอบ รออยู่ปลายทางแบบนี้หรือเดินย้อนกลับไปรอที่ต้นทางดี
ผมตัดสินใจเดินย้อนหาอีกรอบ คราวนี้เดินให้ช้าลง แวะเข้าทุกซอยเท่าที่จะเห็น กลางๆ ซอยเห็นพวกแมทกับไวท์ ในมือถือข้าวของมากันคนละถุง

“เจอฝุ่นกับพี่ริวไหมล่ะ”

“ไม่เจอ พี่มันแกล้งกูแน่ๆ” ผมบอกอย่างหัวเสีย แมทตบไหล่ผมเบาๆ

“อย่าไปตามหาเลย ไปเดินด้วยกันป่ะ”

“ไม่ละ ขี้เกียจ พวกมึงไปเดินต่อเถอะ เดี๋ยวกูออกไปรอปากทางออก”

“ไม่ต้องไปรอหรอก เสียเวลาน่า”

ผมส่ายหัวยืนยัน พวกมันไม่เซ้าซี้อีก เห็นพวกพี่เรย์เป็นกลุ่มถัดไป ผมเดินเข้าไปถามก็ไม่มีใครเห็น น้องมิคมองมาด้วยความเป็นห่วง คงเพราะเห็นหน้าบูดๆ ของผมล่ะมั้ง ผมขอตัว เห็นกู้กับดิวเดินดูดน้ำมาตามทาง พวกมันชวนเดินไปด้วยกัน แต่ผมขอไปยืนรอปากทางออกแทนตามเดิม ผมยืนอยู่ในจุดที่เด่น แต่ไม่เกะกะใคร สายตามองไปยังเส้นทางที่ทุกคนจะพากันเดินออกมา สีหน้าบูดสนิท

ผมหยิบมือถือมาโทรหาอีกรอบ กดโทรเข้าเครื่องของฝุ่นก่อน แต่มันยังปิดเครื่องเหมือนเดิม ผมกดไปยังเบอร์ของพี่ริวต่อ คราวนี้มีเสียงสัญญาณ ผมรอด้วยใจจดจ่อ มันดังอยู่สองรอบปลายสายถึงกดรับ

“พี่ริว”

“มีไร” พี่มันถามกลับมาด้วยน้ำเสียงชวนเตะ

“พี่เอาฝุ่นไปไว้ไหน”

“เอ๋ ตอนนี้เราอยู่กันตรงไหนน้า” พี่มันทอดเสียง “รู้สึกว่าจะเป็นโรงแรมระดับสามดาว การตกแต่งภายในสวยดีนะ เตียงก็สวย คาดว่าคืนนี้ฝุ่นคงหลับสบาย”

ผมกำหมัดแน่นจนเจ็บไปหมด กำลังจะอ้าปากถามว่าโรงแรมอะไรอีกฝ่ายก็ปิดมือถือหนี

ผมสบถคำหยาบออกมา กดหาอีกรอบ แต่คราวนี้เขาปิดเครื่อง ผมขยับอีกครั้งเพื่อไปตามหาโรงแรมที่ว่า แต่เดินยังไม่ถึงสามก้าวเสียงเมสเสจก็ดังขึ้นตามด้วยเสียงเรียกเข้า ผมเบรกเท้าลงกึก ล้วงหยิบขึ้นมามอง แค่เห็นชื่อเจ้าของเบอร์หัวใจผมก็เต้นแรงแล้ว ผมรีบกดรับทันที ถามกลับด้วยน้ำเสียงเร่าร้อน

“มึงอยู่ไหนฝุ่น” ผมนึกภาพว่ามันอาจกำลังถูกพี่ริวบังคับเอาแบบที่ผมเคยทำยิ่งทำให้รู้สึกร้อนใจ

“แล้วมึงล่ะ” มันถามกลับ

“กูรออยู่ปากทางออก มึงอยู่ไหน กูจะรีบไปหา”

“ไม่ต้องหรอก รออยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวกูไปหาเอง”

หัวใจผมไหวแรงไปกับสิ่งที่ฝุ่นพูด

“พี่ริวล่ะ” เพราะเมื่อกี้พี่มันบอกว่าอยู่โรงแรมกับฝุ่น

“กูแยกทางกับพี่เขา พอดีเขามีเพื่อนรุ่นพี่เป็นเจ้าของโรงแรมอยู่แถวนี้จะเข้าไปทักทาย บอกให้กูกลับไปหามึงก่อน”

ผมกัดกราม ใจที่ร้อนดังไฟสุ่มเบาบางลง ผมบอกไม่ถูกว่าควรจะเกลียดพี่ริวดีหรือเปล่า

“เดี๋ยวกูเดินไปรับระหว่างทางฝุ่น”

“ไม่ต้องหรอกพล เดินไปเดินมาเสียเวลา รออยู่นั่นแหละ กูถึงกลางทางแล้ว”

ผมจำใจรับปาก ยืนรอด้วยหัวใจเต้นแรง ชะเง้อคอมองใครสักคนที่น่าจะเป็นฝุ่น


(มีต่อ) https://goo.gl/mGv8Pa
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2018 06:16:48 โดย memew »

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
บางทีนี่ก็รำคาญฝุ่น ไม่ใช่มีใจให้พลละหรอ
รำคาญมากกว่าคือพี่ริวตอนนี้
นี่แค่อดีต พี่รหัส จะหวงอะไรนัก บางอย่างก็เกินไปป่ะ
กวนมากๆ ขอให้เจอหมัด เจอบาทาพลซักทีเถอะ

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
โถ่พลลลล ไม่น่าแพ้เลย สู้เค้านะ

ออฟไลน์ Minari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฝุ่นนี่มีใจให้พลจริงไหมเนี่ยย ไม่เห็นพลจะพิเศษกว่าเพื่อนคนอื่นตรงไหนเลยอะ ขอให้มีตัวแปรมาทำให้ฝุ่นหึง ให้ฝุ่นหวงบ้างเถอะ มีแต่พลที่หวง พี่ริวนี่เกินเบอร์พี่รหัสมาก หวงไรขนาดนั้น ถึงจะรักเหมือนน้องแท้ๆแต่นี่เกินไปโว้ยย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
คงได้หึงตลอดทริปแน่ๆ พล  :hao3:

ออฟไลน์ FonJuz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
บางทีก็สงสารพล คือแสดงออกทุกอย่าง
แต่ฝุ่นนี่สิ เอาไงดีเรา รักหรือไม่รัก
หาตัวกระตุ้นให้ฝุ่นที อยากเห็นฝุ่นหึง 5555

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
อดทน ไว้.. พล.. แค่มาเที่ยว.. เดี๋ยวกลับแล้ว

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เริ่มหมั่นไส้พี่ริวละ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
โดนพี่ริวแก้แค้นแทนฝุ่นแล้วอิกระทิง

ออฟไลน์ soul love

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
พลใจร้อน
ฝุ่นไม่ชัดเจน
พี่ริวเล่นมากไป
อ่านไปก็โมโหไป หวังว่าอะไรๆจะชัดเจนขึ้น

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
พลดูเป็นห่วงฝุ่นมากเลย
ฝุ่นชัดเจนหน่อยย พลทำขนาดนี้แล้ว
พี่ริวอะไรเนี่ยอย่าแกล้งพลหน่อยเลย สงสาร  o18

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
(ต่อค่ะ)

ผมเห็นแล้วครับ เดินลิบๆ มานู่น ผมไม่รอให้มันเดินมาถึง รีบเดินสวนเข้าไปหาทันที

“ฝุ่น” ผมโอบกอดมันแน่น มันรีบดันตัวออกทันที

“ประสาทแล้วพล ทำเหมือนไม่เจอกันเป็นชาติไปได้” มันบ่นอุบ

“โทษที กูดีใจ ใจกูหายหมดเลย” 
มันตบแขนผมเบาๆ ปลอบใจ

“พี่ริวไม่ได้ทำอะไรมึงใช่ไหม”

มันตบหัวผมแรงที

“อดีตพี่รหัสกูพล เขาแค่อยากแกล้งมึง”

“หัวใจกูแทบวาย”

“บ้า” มันอ้อมแอ้มด่า “จะยืนอยู่นี่หรือจะกลับกับกู”

“เดินพอแล้วเหรอ” 

มันพยักหน้า 

“มานี่ เดี๋ยวกูถือให้” ผมรวบเอาของทุกชิ้นที่มันถืออยู่มารวมกับของที่ผมถืออยู่ก่อนหน้า มีถุงหนึ่งใหญ่มากเป็นพิเศษ แต่น้ำหนักเบา มันถูกห่อด้วยกระดาษสีชมพูอ่อนจนรอบ ผมยกขึ้นดู

“อะไร”

“ของฝาก”

ผมพยักหน้า ไม่ได้ถามต่อว่าของฝากให้ใครและข้างในนั้นคืออะไร รวบของทุกอย่างไปหิ้วด้วยมือเดียว หันไปจับมือฝุ่น
แปลกที่รอบนี้ฝุ่นมันไม่ขัดขืนอะไร ผมไม่ได้จับแบบผสานหรอกครับ แค่จับแบบกอบกุม ให้รู้ว่าผมรักและอยากปกป้องมันแค่ไหน

“ตอนที่กูเดินย้อนไปเอาของให้พี่ริว เขาพามึงไปไหน แล้วทำไมปิดมือถือ”

มันถอนหายใจแรง 

“พาเข้าซอยแถวๆ นั้นแหละ เขาเป็นคนปิดมือถือกูเอง บอกว่าเคืองที่มึงชอบบังคับและเคยทำเรื่องแบบนั้นไว้กับกู แถวนั้นมันมีร้านขายตุ๊กตาส่งออกอยู่ กูได้ไอ้นั่นมาจากร้านซอยนั้นแหละ” ฝุ่นบุ้ยปากมายังถุงขนาดใหญ่ที่ผมถืออยู่

อ๋อ คงเป็นตุ๊กตาไปให้น้องฝันนั่นแหละ

ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ กระชับจับมือมันแน่นขึ้น มีคนพากันมองเราสองคนด้วย แต่เสหลบเสียอย่างรู้มารยาท แอบมองคนข้างๆ ดูว่าฝุ่นจะมีปฏิกิริยาอะไร เห็นมันยังนิ่งๆ ผมเลยนิ่งตาม

ผมไม่อายอยู่แล้ว แต่รู้ว่าฝุ่นยังไม่พร้อม ผมไม่คิดจะปล่อยมือมันจนกว่ามันจะสลัดออกเอง

ฝุ่นหยุดอยู่ยังร้านขายเครื่องดื่มระหว่างทาง หยิบเงินซื้อน้ำเปล่าเย็นๆ มาหนึ่งขวด ผมมองงงๆ เพราะปกติฝุ่นมันไม่กินน้ำเย็น มันเปิดฝา เสียบหลอดลงไป แล้วเอามายื่นให้ใกล้ปาก ผมมองอึ้ง แต่ก็ยอมอ้าปากงับน้ำเข้าไป ดื่มอึกๆ

...ยอมรับว่าหิวน้ำจริงๆ...



เราเดินมาถึงที่พักกันในเวลาไม่นาน ผมฉุดมือมันให้หยุดยืนอยู่กับที่ 

“ไปเดินเล่นกับกูต่ออีกนิดได้ไหม นะ ยี่สิบนาทีก็ยังดี” ผมต่อรอง มันมองหน้าผม

“เอาของไปเก็บก่อนละกัน”

ผมฉีกยิ้มกว้าง เอาของเข้าไปเก็บที่ห้องฝุ่น แล้วพากันเดินออกมาจากที่พัก เดินไปคนละเส้นทางกับถนนวัวลาย เชียงใหม่ก็เหมือนกรุงเทพฯ ยิ่งดึกยิ่งคึก ผู้คนนักท่องเที่ยวร้านรวง แต่บรรยากาศดูสงบมากกว่า ผมจับมือฝุ่นมากุมอย่างเคย ซึ่งฝุ่นก็ไม่ได้ขัดขืน พากันเดินช้าๆ ไปตามท้องถนน คนมองกันบ้าง แต่ผมไม่สน

ผมมีเวลาแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น

ผมบีบคลึงมือมันเบาๆ ตลอดทาง กระทั่งรู้สึกว่าไกลมากละ ผมจึงเบรกตัวลง

“เมื่อยรึยัง”

ฝุ่นพยักหน้า ผมยิ้ม ลูบหัวมันเบาๆ

“งั้นกลับกันเถอะ”

มันครางรับในลำคอ เราพากันเดินกลับ ผมเดินไปส่งมันถึงหน้าห้อง มองตา ก้มหอมแก้มเบาๆ

“ฝันดีนะฝุ่น เจอกันอีกทีพรุ่งนี้” ผมจับมือมันมาวางไว้บนหัวใจตัวเอง

“รักมึงนะ” ผมจูบหน้าผากมันไปอีกรอบ บริการเปิดประตูให้ ฝุ่นก้าวเข้าไปภายใน ผมยิ้มให้มันที มันค่อยๆ ปิดประตูลง

ผมยืนนิ่งอยู่กับที่ ดีใจกับพัฒนาการเล็กๆ ที่เกิดขึ้น ผมขยับหันหลัง เตรียมจะเดินกลับห้องบ้าง แต่ประตูที่ปิดสนิทเมื่อกี้เปิดออกอีกครั้ง ผมหันไปมอง

“พี่ริวยังไม่กลับ” มันบอกนิ่งๆ ผมมองงงๆ “จะเข้ามานั่งเล่นก่อนไหมล่ะ” ผมไม่เสียเวลาคิดแม้แต่นิดเดียว แทบจะวาร์ปเข้าไป
ภายในเสี้ยววินาที เข้าได้ก็ปิดประตูลงกลอนเรียบร้อย จับมันดันถอยหลังจนมันล้มลงบนที่นอน

“เดี๋ยวพล กูให้เข้ามานั่งเล่นเฉยๆ!”

“โทษที” ผมรู้เจตนาของมันดีครับแต่ผมอดใจไว้ไม่ไหวจริงๆ “กูต้องการมึง” ผมซุกซอกคอมันทันที

“เดี๋ยวพี่ริวมา”

ผมไม่ฟังคำท้วงของมัน เลื่อนปากขึ้นไปจูบ สอดมือเข้าไปหยอกเย้ายอดอกเม็ดเล็ก

“พล อะ อย่า..อืม อ๊า…” ร่างกายมันจดจำทุกสัมผัสจากผมได้ดี ผมรีบปลดปราการเบื้องล่างของมันทันที เวลามีไม่เยอะครับ
เพราะไม่รู้ว่าไอ้พี่ริวจะกลับมาเป็นมารขวางความรักของผมกับมันอีกเมื่อไหร่

ผมรีบขยับเพื่อทำให้ตัวเองเป็นอิสระเช่นกัน จับฝุ่นพลิกคว่ำ ผมเลื่อนหน้าต่ำลงไปปรนเปรอแยกขยายกลีบนิ่มด้วยลิ้นก่อน พอได้ที่แล้วถึงพลิกมันกลับมามองหน้าเหมือนเดิมทำการเชื่อมร่างทันที

ฝุ่นครางสะท้าน สองขาสั่นริก ภายในบีบรัดแน่น มันคงรู้สึกกดดัน ผมโยกไหวอย่างนุ่มนวล พยายามไม่ปล่อยกระทิงเปลี่ยวออกมาทำร้ายมัน เอวโยกไหว ปากแนบปาก เรียวลิ้นรุกล้ำ มือหนึ่งค้ำร่าง อีกมือปรนเปรอหัวนมน้อยๆ ของมัน มันเลื่อนมือขึ้นมาโอบกอดผม สายตาที่มองมาฉ่ำเยิ้มวิงวอนร้องขอ

“ให้ตาย มึงจะทำให้กูหลงมึงไปถึงไหนฝุ่น แค่นี้กูก็จะบ้าตายแล้วนะ” ผมถอนปากออกมาคำราม ก้มงับติ่งหูลากต่ำไปที่ลำคอ ฝุ่นกดหัวผมต่ำลงไปอีก ผมรู้ว่าเป้าหมายมันคือที่ไหน รีบร่นเสื้อมันสูง พุ่งปากเข้าหายอดอกเม็ดเล็กๆ นั้นทันที ตวัดปรนเปรอ
ตอนแรกจะรีบทำให้มันเสร็จไปเร็วๆ ก่อนใครจะกลับมา แต่เห็นว่าฝุ่นกำลังมีความสุขผมจึงไม่อยากเร่งเวลามาก

“พล” ฝุ่นกระซิบเรียก ผมเงยหน้ามองมันตาเชื่อม “พอแล้ว”

ผมมองมันด้วยสายตาสุดแสนเสียดาย หันมาเร่งจังหวะเพื่อให้เราไปถึงปลายทางอย่างรวดเร็ว
ผมหอบหายใจแรง

“กูอยากย้อนเวลากลับไปแล้วไม่รู้สึกอะไรกับมึงจังฝุ่น”

“ทำไม” มันถามมาเสียงอ่อน

“เพราะนับวันกูรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้า หายใจเข้าเป็นมึง หายใจออกเป็นมึง ไม่มีมึงเหมือนคนขาดออกซิเจน กูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนเลยนะ” ผมค่อยๆ ถอนตัวออก น้ำจากภายในของมันไหลเลอะออกมาข้างนอก

“โทษที ครั้งหน้ากูพยายามจะปล่อยข้างนอก หรือไม่จะหาถุงยางมาพกติดตัว”

มันก้มหน้าหลุบสายตา

“ขอทิชชูหน่อย”

ผมส่ายหัว เก็บน้องเข้าไปในกางเกง โฉบอุ้มมันไว้ในอ้อมแขนในท่าเจ้าหญิง

“ล้างในห้องน้ำดีกว่า เดี๋ยวกูทำให้”

“ไม่ต้องพล เดี๋ยวมึงก็หื่นอีก”

“กูสัญญาว่าจะไม่หื่น”

มันทำสีหน้าไม่เชื่อ ผมยิ้ม คำพูดไม่สำคัญเท่าการกระทำ ผมพามันเดินเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยมันยืน จับมันหันหลัง เลิกเสื้อขึ้นสูง จับขามันแหวกกว้างนิดหนึ่ง แทรกนิ้วเข้าไปภายในเพื่อให้น้ำผมไหลลงมา ฉีดน้ำเข้าไปเบาๆ เพื่อล้างให้สะอาดที่สุด 
ถามว่าพลน้อยตื่นไหม

โห เจอเสียงครางของมันเข้าตอนแทรกนิ้วเข้าไปล้าง ด้านขนาดไหนก็ตื่น แต่ผมพยายามอดทน พอล้างให้มันเรียบร้อยก็หยิบผ้าขนหนูมาพันรอบเอวให้

“จะอาบน้ำก่อนไหม”

มันหันมามองผม มองต่ำลงไปด้านล่าง

“เดี๋ยวกูออกไปจัดการข้างนอกได้ มึงอาบน้ำไปเถอะ จะได้ออกไปนอนหลับพักผ่อน”

มันพยักหน้า ผมเดินออกจากห้องน้ำไป สักพักก็ได้ยินเสียงน้ำไหล ผมยืนค้ำประตูห้องน้ำ ล้วงหยิบพลน้อยออกมาขยับ จินตนาการไปต่างๆ นานาถึงเรือนร่างของมัน ถึงน้ำเสียงของมัน แต่ทำยังไงมันก็ไม่เสร็จสักทีจนฝุ่นมันเปิดประตูออกมา มันตกใจที่เห็นผมยืนชักว่าวอยู่

ผมรีบเก็บน้องเข้ากางเกงทั้งที่ความต้องการยังเต็มเปี่ยม

“โทษที มันไม่ยอมเสร็จ รีบไปแต่งตัวเถอะ” ผมเร่ง มันนิ่งมองผม ผมหันไปหาวิวอย่างอื่นที่ไม่ใช่ฝุ่น

ได้ยินเสียงขยับให้เดากันเองว่าฝุ่นคงกำลังผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ ผมเดินไปหยิบรีโมตมาเปิดทีวี ไล่หาช่องอะไรไปเรื่อยๆ น้องผมยังไม่ลงเลย ผมลุกยืน กะจะเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองอีกรอบ

“พล”

ผมชะงักเพราะเสียงเรียกนั้น หันไปมอง ฝุ่นมันแต่งตัวเรียบร้อยแล้วครับ

ผมยืนคอย ปวดหน่วงไปหมด กัดกรามแน่นอย่างอดทน พอมันขยับเข้ามาใกล้ ผมรีบขยับถอยห่างทันที

“โทษที ความอดทนกูใกล้หมดแล้ว เดี๋ยวกูจะรีบเข้าไปจัดการในห้องน้ำ”

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวกูจัดการให้”

ผมมองคนพูดงงๆ มันเดินเข้ามาชิด คลายเข็มขัด ปลดกระดุมรูดซิปยีนส์ผมลง ล้วงหยิบน้องผมออกมา

ผมตาโตเมื่อมันย่อตัวลงไปคุกเข่าแล้วจัดการปรนเปรอให้ผมด้วยปาก

“ฝุ่น!” กลีบปากชุ่มฉ่ำห่อรับเอาน้องของผมเข้าไปภายใน ลิ้นตวัดผสมดูดดึง ผมเคยจินตนาการแบบนี้มาก่อน แต่ไม่คิดว่าฝุ่นจะกล้าทำให้จริงๆ

ผมจับหัวมันไว้ทันที ครางซี้ดรับตามสไตล์ ผมเคยทำให้มันบ่อยๆ มันคงจดจำเทคนิคพวกนั้นมาทำให้ผมบ้าง มันห่อปากดูดมาสองที เท่านั้นแหละ พุ่งเลยครับ ผมขยำหัวฝุ่นแน่น ฉีดน้ำรดหน้ามันเต็มๆ ฝุ่นใช้หลังมือเช็ด ผมหอบแฮก

...เอ็กซ์ดีจัง...

ผมค่อยๆ เกลี่ยคราบน้ำขาวๆ ของตัวเองบนแก้มมันมาให้มันเลีย และฝุ่นก็ทำตามดีๆ ดีดตัวลุกยืน ผมเก็บน้องเข้าที่เช่นกัน

“บางทีพวกนั้นอาจกลับมาแล้ว”

ผมรวบจับมันมากอด

“รักมึงฉิบหาย” ผมหอมหัวมันไปเบาๆ ที ได้ยินเสียงเคาะห้องแรง ผมถอนหายใจ เดาได้เลยว่าเป็นใคร ผมคลายปล่อย ฝุ่นมันเดินไปเปิด พี่ริวยืนหน้าหงิกอยู่ตรงนั้น ด้านหลังเป็นพี่เรย์ มิคไมค์ แล้วก็ฝูงเพื่อนผมอีกทั้งโขยง

“พวกมึงสองคน แอบมาทำอะไรกันในห้องสองคนวะ”

ผมยักไหล่

“ทำเรื่องที่กูกับฝุ่นทำด้วยกันเป็นประจำแทบทุกคืน” ผมเหลือบมองฝุ่น มันมองผมปรามๆ ผมหัวเราะหึๆ เหลือบมองพี่ริวที่มองมาตาขวาง พี่มันดึงฝุ่นเข้าไปใกล้ ตะปบมือลงบนเนินเนื้อนุ่มนิ่ม ฝุ่นสะดุ้งเฮือก เผลอครางออกมาเบาๆ มันคงไม่ได้เกิดอารมณ์กับพี่ริวหรอกครับ น่าจะยังเซนซิทีฟเพราะผมเพิ่งทำไปหยกๆ มากกว่า ผมรีบถลาเข้าไปคว้าฝุ่นเข้าหาตัวทันที

“ทำอะไร!”





tbc
 :pighaun:

ขอบคุณ รีไพล์  tiwai_fern นะคะ คอมเมนต์ย้าวยาว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2018 05:39:45 โดย memew »

ออฟไลน์ Bringmelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คืออึดอัดใจกับพี่ริวมาก ไม่รู้เพราะเราเป็นคนคล้ายพลรึเปล่า แต่เป็นเราเราหึงนะคือตอนนี้ฝุ่นไม่ได้ยอมรับเป็นแฟนแต่ฝุ่นมีอะไรกับเราแล้วเต็มใจขนาดนี้ถึงส่วนใหญ่จะเป็นเพราะพลบังคับก็เถอะแต่ถามหน่อยถ้าฝุ่นปฏิเสธแบบเด็ดขาดจริงๆว่าไม่ชอบทำไมจะทำไม่ได้มันยิ่งทำให้เห็นว่าฝุ่นก็น่าจะมีใจให้พลอ่ะ แล้วพี่ริวก็วอแวเกินจนน่ารำคาญทเป็นเราอาจจะทนไม่ได้เท่าพลเลยด้วยซ้ำ แล้วคนเค้าจะมีอะไรกันทำไมต้องมาเป็นเดือดเป็นร้อน เราจะโกรธฝุ่นไปด้วยนะเนี่ยที่ฝุ่นรู้แต่ปล่อยให้พี่เค้าแกล้งพลอยู่นั่น เอาจริงเริ่มจะรำคานพี่ริวมากๆแล้ว ไม่ได้อยากรุ้สึกแบบนี้เลย

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
สมกับชืีอตอนจริงๆ บางทีก็หงุดหงิดริวบางทีก็สมย้ำหน้าพลนะที่โดนแกล้งแบบนี้หวังว่าริวคงไม่อะไรมากนะ
 :m25: ยังคงเส้นคงวาความหื่นดีจริงๆพล

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
พลหื่นไปแล้ววว ไม่กลัวพี่ริวกลับมาเห็นเลยยย
ฝุ่นเริ่มมีปฏิกิริยาต่อพลที่ดีขึ้น ลุ้นๆๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ฟินเพราะความน่ารักของฝุ่นเลยนะ ส่วนอีพี่ริวมันบ้าปะ

ออฟไลน์ taku_kimu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

พี่รหัสหรือพ่อวะเนี่ย เกินเบอร์ไปแร้ววว  :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Minari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เราเป็นคนเดียวไหมที่ยังคิดว่าพี่รหัสฝุ่นเกินเบอร์อยู่55555 เข้าใจว่าห่วง หวง ได้ตามประสาพี่น้อง แต่นี่ก็เกิ๊นน ยังดีที่ฝุ่น ยังพอหาเวลามาคุยกับพลบ้าง ส่วนนังพลล แกต้องหัดคุมตัวเองเข้าไว้นะ อย่างอื่นคือดีแล้ว55555

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ศึกชิงเมีย
.. จริงๆ... 555.. แลกกันหมัดต่อหมัด

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
:: บทที่ 22 กำไล..หัวใจ ::

พี่ริวยักไหล่

“อยากพิสูจน์อะไรบางอย่าง” แล้วหันไปมองฝุ่นดุๆ

“อย่าเพิ่งทะเลาะกันเลยพี่ ครบวงแบบนี้เรามาสนุกกับไอ้นี่กันดีกว่า”

ผมเพิ่งสังเกตว่ากู้มันมาพร้อมถุงของกินเป็นพะเนิน มีเครื่องดื่มมึนเมาและไพ่ด้วย
ผมดึงฝุ่นลงไปนั่งข้างๆ ถึงพี่ริวจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ อีกด้านก็เถอะ เราเน้นกินกันอ่อนๆ ไม่เอาให้เมา แค่กรึ่มๆ เน้นเล่นไพ่กันมากกว่า เฮฮาจนพี่เรย์ต้องคอยปราม เพราะเสียงดังรบกวนคนอื่น

พี่เรย์กับฝุ่นเป็นสองคนที่ไม่ดื่ม ขนาดมิคมันยังขอดื่มเลย พี่เรย์ปราม แต่ไมค์มันไม่ห้าม ตอนนี้สองคนนั้นนั่งขนาบมิคอยู่ มิคจิบไปแค่คำเดียวก็เบ้หน้า

“ไม่อร่อยใช่ไหม งั้นไม่ต้องกิน” พี่เรย์รีบหยิบแก้วเหล้าในมือมิคออก

“เห็นพี่ๆ กินกันคิดว่าอร่อย”

“กินไปงั้นแหละ เอ้านี่” แล้วไมค์ก็ส่งสไปร์ทกลับมาให้เหมือนเดิม

“พี่เรย์กับพี่ริวนี่นิสัยต่างกันจังเลยนะครับ ทั้งที่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ” แมทมันให้ข้อคิด “พี่อ่ะ” มันชี้นิ้วที่มีแก้วเหล้าอ่อนๆ ในมือใส่หน้าพี่ริว “ตอนแรกผมคิดอยู่ว่าพี่นิสัยเหมือนใคร ตอนนี้ผมรู้ละ”
“ใครวะ” ไมค์ละสายตาจากน้องถามรูมเมตมันเอง แมทยกยิ้ม ชี้มาทางผม
ผมเลิกคิ้วสูงมอง คล้ายเหรอวะ

“พี่มีแฟนยังพี่ริว” เสกู้ถาม

“มีแล้ว”

“ใครพี่ สวยไหม”

“เอาคนไหนล่ะ มีสิบกว่าคน”

“หูยยย แฟนหรือคู่นอนครับ”

“พี่เป็นคนของประชาชน”

“พูดเหมือนมึงสมัยก่อนเลยว่ะพล”

ผมจิ๊ปาก ไม่ได้รู้สึกดีเลยสักนิด ฝุ่นมันหาวหวอด

“นอนก่อนก็ได้นะฝุ่น” ผมบอก มันไม่ค้าน พยักหน้า คลานขึ้นเตียงไป

“เมื่อกี้โดนหนักเหรอฝุ่น”

ฝุ่นยกนิ้วกลางให้ไวท์คนถาม ทิ้งตัวลงนอน ผมลุกไปขยับปรับผ้าห่มให้อย่างที่ผมชอบทำทุกคืน ก้มหอมแก้มมันเบาๆ ที ได้ยินเสียงโห่เสียงแซว

“หูย ต้องดูแลมันดีขนาดนี้เลยเหรอวะพล กูว่ามึงนี่อาการหนักแล้วนะ”

ผมยักไหล่

“กูรักของกู”

ฝุ่นหลับไปทันทีที่หัวแตะหมอน พี่เรย์หาวบ้าง ขอตัวกลับ ผมยังนั่งอยู่ที่เดิม เอาตามจริงแล้วผมไม่ได้อยู่เพื่อดื่ม แต่ต้องการอยู่เฝ้าคนหลับมากกว่า

กระทั่งเที่ยงคืน แมทถึงได้ชวนทุกคนกลับ ผมลุกอย่างอิดออด ช่วยทุกคนเก็บขยะทิ้ง เดินไปก้มจูบคนที่กำลังหลับสนิทอีกรอบแผ่วเบา กระซิบความในใจใกล้หูมันนิดหนึ่ง

พี่ริวกอดอกมองมาด้วยสีหน้ากวนๆ

“ห้ามแตะเนื้อต้องตัวฝุ่นเด็ดขาด”

พี่ริวเลิกคิ้ว

“ไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อนแฮะ อยากลองอยู่เหมือนกัน ฝุ่นน่ารักด้วย”

“มึง” ผมขยับเข้าไปกระชากจับคอเสื้อพี่ริวแรง แมทที่ยังไม่ได้ไปไหนรีบจับผมไว้ทันที

“มึง พี่เขาก็กวนโมโหมึงเล่นมึงยังจะไปเต้นตามอีก พี่ริวก็พอได้แล้ว จะลองใจอะไรกันนักกันหนา”

ผมหันไปมองหน้าแมท ลองใจอะไรใครวะ

พี่ริวหัวเราะหึๆ

“รีบออกไปกันได้แล้ว กูง่วง” แล้วพี่มันก็ผลักผมออกจากห้อง แมทรีบดึงผมออกห่างจากประตูทันที

“อย่าไปเต้นตามพี่เขาดิพล เขาไม่ได้คิดอะไรกับฝุ่นหรอก แค่เป็นห่วงน้องห่วงนุ่งผสมหมั่นไส้เลยแกล้งมึงหนักแค่นั้น”
ผมยังหน้าบึ้ง มันตบไหล่ผมเบาๆ

“ไปกันได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้ตื่นเที่ยวกันต่อแต่เช้า ว่าแต่เมื่อกี้ได้กินฝุ่นมันป่ะ”

“รอบเดียว รอบสองมันใช้ปากให้กู”

แมทชะงักกึก ผมก็นิ่งค้าง ฉิบหาย เผลอตอบไปเฉย

“มันยอมใช้ปากให้มึงเหรอ”

ผมพยักหน้า

“พอดีน้องกูตื่น พยายามว่าวให้มันลง แต่มันไม่ลง ฝุ่นมันเลยช่วย”
แมทเลิกคิ้วสูง ยิ้มนิดๆ ตบหลังผมเบาๆ

“ไปเถอะ นอนๆ ฝันดีมึง”

ผมพยักหน้า เดินกลับเข้าห้อง พี่เรย์กำลังอาบน้ำอยู่ ผมนั่งคอย

“หน้าเหี่ยวเชียว” พี่แกทักทันทีที่เห็นหน้าผม
ผมถอนหายใจแรง

“ถ้ามีใครสักคนแย่งเมียพี่ไปต่อหน้าต่อหน้า พี่จะสดใสไม่ออก”

พี่เรย์หัวเราะหึๆ

“รักฝุ่นมากเลยเหรอ”

“มากจนตัวผมเองยังตกใจ” ผมสารภาพ “ตั้งแต่เกิดมา ผมยังไม่เคยรักใครแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ ไม่ใช่เพราะฝุ่นเป็นผู้ชายคนแรกที่ผมนอนด้วย แต่เพราะฝุ่นเป็นฝุ่นนี่แหละ ผมพร้อมดูแลมัน ก้าวเคียงไปกับมัน จะพบเจอสุขหรือทุกข์ก็อยากมีมันอยู่เคียงข้าง”

“อืม” พี่เรย์พยักหน้า ท่อนล่างพันผ้าเช็ดตัวไว้หมิ่นเหม่ ท่อนบนคล้องผ้าเช็ดหัวผืนเล็กกว่าขยี้เบาๆ เขาก้มมองตัวเอง

หุ่นแกดีครับ

“มองแล้วเป็นไง เกิดอารมณ์บ้างรึเปล่า” พี่แกถามมาเรียบๆ คล้ายจะลองใจ ผมเบ้หน้า

“พี่หล่อนะ แต่ไม่ไหวครับ ผู้ชายที่ทำให้ผมเกิดอารมณ์ได้มีแค่ฝุ่นพี่ คนอื่นเฉยๆ”

“แปลกนะ มันก็ร่างกายผู้ชายเหมือนกัน”

“ผมถึงบอกว่าต้องเป็นฝุ่นเท่านั้น ผมอาบน้ำก่อนละ”

คนสูงวัยกว่าพยักหน้า เดินไปแต่งตัว ผมคว้าผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำบ้าง ออกไปก็เห็นเพื่อนร่วมห้องนอนนิ่งบนเตียงแล้ว กรนฟี้แล้วด้วย
หลับง่ายจริงๆ    

ผมทิ้งตัวลงนอน คิดถึงใครบางคนอีกห้อง อยากไลน์ไปหา แต่มันหลับไปแล้ว ผมกดข่มดวงตาลง พยายามพาสติตัวเองหลับใหลไป

คนอื่นสดใสกันขนาดไหนไม่รู้ แต่ผมโคตรอึน แฮงค์ด้วย นอนน้อยด้วย พี่เรย์ปลุกเพราะจะพาไปกินอาหารเช้าด้วยกันยังร้านมีชื่อไม่ห่างร้านอาเท่าไหร่ หลังจากนั้นจะพากันกลับมาเก็บของเพื่อเช็กเอาท์แล้วพากันไปร้านอา ถัดไปคือเช่ามอเตอร์ไซค์เที่ยวม่อนแจ่มกัน

ออกไปก็เห็นฝุ่นรออยู่ก่อนแล้ว หน้าตาสดใสผิดกันลิบลับกับเพื่อนๆ ขาดื่มของผมหรือแม้กระทั่งตัวผมเอง ของผมนี่คิดถึงเมียครับ นอนไม่หลับ ผมเดินเข้าไปหาฝุ่นโดยไม่สนใจใคร จูบปากมันไปเบาๆ ที เพื่อนๆ ในกลุ่มพากันโห่แซว พี่ริวไม่เห็นเพราะมัวก้มหน้าเล่นมือถืออยู่

ฝุ่นทุบอกผมดังอั้ก ผมหัวเราะ กระซิบให้มันได้ยิน

“คิดถึง ไม่ได้นอนกอดมึง นอนไม่หลับ แวะเข้าไปหาช่วงช่วงกับหลินฮุ่ยตอนนี้พวกมันคงคิดว่ากูเป็นพวกเดียวกันแน่ๆ” ผมชี้ให้ดูใต้ตาตัวเอง มันคล้ำจริงๆ ครับ

ฝุ่นหัวเราะ

“เอาใบบัวบกหน่อยไหม” มันแซว

“เอามึงดีกว่า รับรองหายขาดภายในสามนาที”

มันทุบผมมาอีกรอบ ผมร้องโอ๊ยออกมาแต่สีหน้ายังยิ้ม

พี่เรย์ต้อนพาพวกเราออกจากที่พักแล้วเดินครับ พี่แกบอกไม่ไกล เขาเปิดกันเช้า คำว่าไม่ไกลของแกนี่คือเดินกันเป็นกิโล แต่สนุกดี เพราะวิวข้างทางสวย เดินคุยกันไปตามทาง ผมไม่ห่างฝุ่น ถึงแม้อีกด้านจะเป็นพี่ริวก็เถอะ พี่เรย์ขึ้นไปดูแลลูกศิษย์ตัวน้อยของตัวเองตามเดิม ประกบข้างด้วยไมค์พี่ชายมันเอง

“ทำไมพี่ไม่สอบเข้ามหา’ลัยในเชียงใหม่” แมทมันถามพี่ริว รายนั้นหันไปตอบ

“เบื่อสาวเชียงใหม่แล้ว อยากได้สาวกรุงเทพฯมากกว่า” ไม่รู้ว่าตอบตามจริงหรือว่าแค่มุกขำๆ แมทมันหัวเราะ ชวนคุยเรื่องอื่นไปต่อ

ไม่รู้ว่ามันจงใจช่วยผมหรือเปล่า ผมยิ้ม ฉวยโอกาสนั้นกุมมือฝุ่น ฝุ่นชักมือกลับ แต่พอผมฉวยมารอบสองมันก็ยอมให้ผมกุมดีๆ

“กูมาเชียงใหม่ครั้งแรกตอนประถม กับครอบครัว ครั้งที่สองกับเพื่อนๆ ตอนเรียนมอต้น หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกจนขึ้นปีสามนี่แหละ”

ผมหันไปมองมันกรุ้มกริ่ม

“ครั้งแรกมากับครอบครัว ครั้งที่สองมากับเพื่อน ครั้งที่สามมากับแฟน” มันผลักหัวผมแรง ผมหัวเราะ “ครั้งหน้าเราน่าจะมากับลูกๆ ของเรานะ”

“กูท้องไม่ได้พล”

“งั้นกูจะปั๊มจนกว่ามึงจะท้อง” ผมยิงมุกเดิม

“ประสาท”

เราเดินกันมาถึงร้านที่ว่า เป็นร้านที่มีทั้งโจ๊ก ข้าวต้ม ปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้ และอาหารตามสั่ง คนเยอะ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เราพากันนั่ง ลงมือสั่งแล้วกิน คนที่มีความสุขสุดหนีไม่พ้นกู้นักกินประจำกลุ่มเรา

ระหว่างรออาหาร พี่ริวยังสนุกอยู่กับการคุยกับแมท ไวท์สุมหัวส่องเฟซร่วมกับไอ้กู้และดิว ในขณะที่พี่เรย์กับไมค์กำลังมองมิคร่างแบบตามเดิม

“ฝันดีไหม” ผมถามคนข้างตัว มันส่ายหัว

“หลับสนิททั้งคืน”

ผมเกลี่ยแก้มมันเบาๆ เขี่ยเส้นผมที่ระหน้าออกให้

“ผมยาวแล้วน่ารักขึ้นเยอะ”

“พรุ่งนี้กูจะไปตัด”

ผมหัวเราะ

“ต่อให้มึงหัวโล้นมึงก็ยังน่ารักสำหรับกูนะฝุ่น”

แก้มคนฟังแดงขึ้นนิดๆ

“งั้นกูจะไปสกินเฮด”

“ถ้ามึงทำเดี๋ยวกูทำด้วย”

“ประสาท”

ผมหาวหวอดขึ้นมาอีกรอบ

“เอากาแฟโบราณสักแก้วไหม” มันชี้ไปยังกาแฟโบราณที่เขาชงแบบใส่แก้วตูดจีบใบเล็กๆ แก้วละสิบบาทร้านข้างๆ คนสูงวัยนั่งกินกันหน้าสลอน

“มีด้วยเหรอวะ” กู้เงยหน้ามอง พอเห็นก็ตาวาว รีบลุกไปสั่ง พอๆ กับผมและเพื่อนร่วมโต๊ะคนอื่นๆ ง่วงเต็มแก่แล้วครับ ได้กันมาคนละแก้ว ดีว่าเขาให้เอามาทานร่วมกันได้

“อร่อย” กินแล้วชื่นใจ

“แค่ได้กลิ่นก็ตาค้างแล้ว”

“มึงเซนซิทีฟกับกาแฟด้วยเหรอ”

“คาเฟอีนทุกชนิด”

ผมพยักหน้า เลื่อนน้ำเปล่าไม่ใส่น้ำแข็งไปให้

อาหารมาพอดี ผมขยับเข้าไปชิดฝุ่น เนียนทานด้วยมือเดียว อีกมือโอบเอวมันไว้อย่างที่ผมชอบทำประจำ อร่อยดีครับ ผมตักแบ่งตับให้ฝุ่นตามเดิม ส่วนมันก็ตักหมูที่เขาคลุกเป็นก้อนกลมๆ มาให้ เพราะมันรู้ว่าผมชอบ

“ใจ” ผมตอบเบาๆ ยกน้ำเปล่าเย็นๆ ที่ทางร้านนำมาเสิร์ฟดื่ม

เหลือบมองฝั่งตรงข้าม พี่ริวหรี่ตามองมาคล้ายจะหาเรื่อง แต่เดี๋ยวเดียวก็ต้องละสายตาเพราะแมทมันชวนคุยต่อ



มื้อเช้าผ่านไปด้วยความเรียบง่าย พอจ่ายเงินพี่เรย์ก็พาเราไปร้านอาแกทันที เดินกลับครับ เพื่อย่อยอาหาร ร้านของแกเป็นตึกแถวหนึ่งคูหาบนถนนคนเดิน เครื่องเงินทั้งร้าน เปิดร้านแล้วด้วย เพราะแกอยู่ร้านเองตลอด พวกเรายกโขยงกันเข้าไป อาแกรู้อยู่แล้วว่าเราจะมาจึงออกมาต้อนรับ มีพนักงานขายหนึ่งคน เป็นผู้ชาย

พวกเราเดินดูของภายใน ข้างล่างเป็นร้าน ชั้นสองกับชั้นสามเป็นแผนกผลิตงาน มีคนงานแบบกินนอนอยู่ห้าคน ชั้นสี่เป็นที่พัก ซึ่งแกนอนอยู่ห้องใหญ่โซนด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นของคนงานที่แกเลี้ยงไว้ทำงาน อยู่กินกันแบบพี่น้อง (มีบ้านครับ แต่แกอยู่นี่ตลอดมากกว่า)

อามีโรงงานทำเซรามิกด้วย อยู่สันกำแพง หน้าร้านก็อยู่สันกำแพงเลย ตอนนี้ให้ภรรยาและลูกสาวที่ยังเรียนอยู่ทั้งสองคนเป็นคนดูแล เดี๋ยวดูร้านเครื่องเงินแล้วแกจะพาไปเที่ยวชมโรงงานของแกด้วย

เราเดินดูของแต่ละชิ้น มันสวยมากจริงๆ

“นี่ไง ผลงานของมิคทั้งหมด” อาชี้ให้ดู ซึ่งอาจะมีชื่อเจ้าของผลงานไว้ด้านบนคล้ายจะเป็นแกลเลอรีกลายๆ

“สวยจัง เก่งมากเลยมิค”

“เด็กมีพรสวรรค์น่ะ” อาชม แล้วพาเราเดินขึ้นไปดูฝ่ายผลิต ที่นี่ไม่มีเวลาเริ่มหรือหยุดทำงาน งานแต่ละชิ้นเป็นงานฝีมือ ทำเสร็จงานผ่านก็ได้เงิน เพราะงั้นบางคนจึงลุกขึ้นมาทำงานบ้าง บางคนยังไม่

ผมกับฝุ่นพากันเดินไปดูช่างกำลังค่อยๆ บรรจงแกะสลัก

“บางทีอาก็พาพนักงานลงไปนั่งทำให้นักท่องเที่ยวดูด้านล่าง เพลินๆ เปลี่ยนบรรยากาศ” อาว่า

“ว่าแต่คนไหนล่ะที่เรย์เอาสร้อยข้อมือผิดไซซ์ไปให้”

“นู่นครับ” พี่เรย์ชี้มาที่ฝุ่น ฝุ่นยกข้อมือให้ดู

“ชิ้นนั้นอาชอบมากเลยนะ เสียแต่เจ้าของไม่ยอมให้ทำลอกเลียนแบบ ตอนนี้จึงมีแค่สองชิ้นเท่านั้น”

ฝุ่นยิ้ม ผมลอบถอนหายใจแรง ยิ่งอามาตอกย้ำแบบนี้ คงไม่มีทางที่ฝุ่นจะยอมถอดมันออกเพื่อผมแน่ๆ

พวกเราขนขบวนกันมุ่งตรงไปยังสันกำแพงเพื่อดูโรงงานเซรามิกของแก กว้างขนาดสามตึกแถวรวมกันได้ ภายในไม่ได้กั้นห้อง เป็นลานโล่งมีเพียงหลังคาทำจากเมทัลชีตล้อมตัวอาคารด้วยอิฐเพียงครึ่งเพื่อกันฝนสาดแต่ให้แสงเข้าได้สะดวก

บางจุดมีเปิดกว้างให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชม มันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่เลย ตอนที่เรามานักท่องเที่ยวก็เริ่มทยอยมากันเยอะแล้ว มีทั้งจีนและฝรั่ง คนไทยบ้างประปราย

จุดที่ผมสนใจคือการขึ้นรูปเครื่องปั้นดินเผา เขามีให้เราลองทำด้วย ผมทดลองทำดู เบี้ยวไม่เป็นท่า สนุกดีครับ แต่ละคนพยายามกันมาก ผมทดลองอีกรอบ กระทั่งได้แก้วทรงเบี้ยวๆ ออกมาหนึ่งชิ้น ฝุ่นได้ถ้วยเบี้ยวพอกัน เพื่อนๆ ผมแต่ละคนก็พากันสนุกลองทำดู

พี่เรย์กับพี่ริวเขาทำกันเป็น ขึ้นรูปได้อย่างสวยงาม มิคขอให้พี่เรย์ช่วยสอน โดยมีไมค์ช่วยกันทำ ไวท์กับดิวยืนลุ้นเสกู้ที่กำลังเพ่งสมาธิจรดนิ้วขึ้นรูปถ้วย ก่อนมันจะพากันเบี้ยว ปลิวหวือออกจากฐานจนต้องรีบวิ่งไปเอา

แมทยังไม่ปล่อยพี่ริว รายนั้นกำลังตั้งหน้าตั้งตาสอนแมทให้ค่อยๆ ขึ้นรูปชาม สงสัยว่ายืนอยู่ฝั่งเดียวกันแล้วสอนไม่ถนัด รายนั้นถึงได้ขยับไปยืนขนาบหลังแมทแล้วประคองมือแมทในรูปแบบที่ถูกต้อง ขึ้นเป็นรูปชามใบใหญ่ขนาดชามเปล

ผมเลิกสนใจคนอื่น หยิบมือถือมากดถ่ายรูปฝุ่นที่กำลังขึ้นรูปถ้วยอีกชิ้น ผมเก็บมือถือ หยิบดินเหนียวขนาดเท่าเหรียญสิบมาปั้นเล่น ตอนเด็กๆ ผมชอบเล่นดินน้ำมัน แต่ส่วนใหญ่เอามาอุดหูตัวเองเล่นจนแม่สั่งห้าม พอปั้นได้ก็เดินไปหาฝุ่น

มันหยุดมือเปื้อนๆ ออกจากแท่นแล้วล่ะครับ ผมยิ้ม ยื่นสิ่งที่ปั้นเสร็จเมื่อกี้ไปให้ แต่กำไว้ในมือ มันหลุบตามอง 

“อะไร”

“รับไปสิ เดี๋ยวรู้เอง”

มันทำท่าไม่ไว้ใจ แต่ก็แบมือออกมารอรับ ผมวางสิ่งนั้นลงบนมือฝุ่นเบาๆ ฝุ่นก้มมองก่อนเงยหน้ามองผมอีกรอบ
ผมปั้นเป็นรูปหัวใจครับ

“ควักออกมาจากอกกูเลย เมื่อกี้”

มันหัวเราะกับคำผม

“เพิ่งรู้ว่ามึงเป็นคนใจดำ”

“แค่ภายนอก ข้างในเป็นสีแดง เพราะมันกำลังร้อนรุ่ม คิดถึงแต่มึง ลึกเข้าไปอีกเป็นสีขาว เพราะมันรักมึงด้วยความบริสุทธิ์ใจ”

มันนิ่งไป แล้วเอาหัวใจผมไปบี้ต่อหน้าต่อตา ผมหน้าเบี้ยว

ทำร้ายจิตใจกูจัง!

ฝุ่นขยับปั้นๆ พักหนึ่งก็ได้กระทิงมาให้ผมหนึ่งตัว

ผมหัวเราะรับมาดู

“น่ารักดี” ผมเอาดินก้อนเดียวกันมาบี้ แล้วปั้นเป็นรูปควายคืนให้

มันหัวเราะ รับไปบี้ แล้วปั้นเป็นรูปแมวแทน พอมันส่งคืนผมก็ปั้นหมา พอหายเหนียวก็ชุบน้ำหน่อย งูก็มีครับ แต่ผมแซวมันว่าเหมือนหนอนมากกว่า มันคงนึกสนุก หาดินเหนียวมาอีกก้อน ปั้นโดยไม่ต้องรอกัน

“ทำไรกันสองคน” ไวท์เดินมาถาม

“หาของกินให้มึงไง เอานี่ไป บานาน่า” ผมกระแดะภาษาอังกฤษยื่นให้ มันรับกล้วยไซซ์มินิของผมไปดู

“ปัญญาอ่อนว่ะ” แล้วมันก็หัวเราะ ยื่นไปให้ฝุ่นทำเหมือนจะป้อน

“อ่ะ มึงแดกดิ๊ แค่นี้กูไม่อิ่มหรอก”

ฝุ่นผงะหน้าไปด้านหลัง

“ฝุ่นมันกินประจำอยู่แล้ว ลูกใหญ่และยาวกว่านี้เยอะ” แล้วผมก็ต้องกระโดดเหยงเพราะฝุ่นมันเตะหน้าแข้งผมแรง ไวท์ขำก๊าก

“งั้นเดี๋ยวกูทำเอาไปป้อนแมทบ้างดีกว่า” ไวท์หันไปหยิบดินมาขนาดใหญ่ขึ้น บรรจงปั้นเป็นรูปกล้วยหอม เดินโทงๆ ไปหาแมท ยื่นกล้วยหอมให้ ดินแทบชิดปาก มันได้ลูกถีบเบาๆ กลับมาบ้างเหมือนกัน พี่ริวหัวเราะร่วน หยิบกล้วยลูกนั้นขึ้นดู

“ปั้นสวยดีนี่”

“ตอนเด็กๆ ผมชอบปั้นดินน้ำมันเล่น” ไวท์มันว่า

“เอ้า เพื่อนอุตส่าห์ใจดีเอากล้วยมาให้ กินซะสิ” พี่ริวหันไปทางแมท ยื่นกล้วยใกล้ปาก แมทถลึงตากลับ รายนั้นหัวเราะร่วน

“ขอกูถ่ายรูปหน่อย แมทมึงถือดิ๊” ไวท์หยิบกล้วยจากมือพี่ริวไปให้แมทถือ มันจึงถือให้ ชูกล้วยข้างแก้ม ฉีกยิ้มชี้นิ้วให้ดู ไวท์กดถ่ายไปหนึ่งแชะ

“เออ สวย ๆ ขออีกภาพ ทำท่ากินดิ๊” ไวท์มันสั่งต่อ ไอ้นั่นก็ทำตาม พี่ริวหัวเราะควักมือถือมาถ่ายด้วย

“ตลก” พอถ่ายเสร็จก็ลดมือถือลงมอง แมทมันรีบโยนกล้วยลูกนั้นไว้บนแท่น วิ่งไปดูภาพของไวท์

“ทุเรศว่ะ ลบๆ”

“กล้วยกู” ไวท์ชักมือถือหนี แมทหันไปทางพี่ริวแทน

“ขอดูหน่อยพี่ริว”

รายนั้นยื่นให้ดูดีๆ มันเบ้หน้า

“ลบเลย”

พี่ริวเลิกคิ้ว เก็บมือถือลงกระเป๋าเฉย หันไปหยิบกล้วยลูกนั้นผสมน้ำเล็กน้อยขึ้นรูปเป็นถ้วยญี่ปุ่นอีกใบ ยัดเข้าเตาอบ
หลังจากเล่นดินกันจนหนำใจเขาก็พาเราไปดูช่างเพ้นต์ช่างทำลวดลาย เร็วมาก ฝีมือเนียนด้วย สิบใบลายเหมือนกันเด๊ะจนเหมือนทำจากเครื่องจักรมากกว่าแรงงานมือ

เขาเอางานที่เป็นเกรดซีมาให้เราลองละเลงเล่น สนุกไม่แพ้ขั้นตอนการขึ้นรูปเลยครับ ผมพยายามทำให้สวยที่สุด แต่มันออกมาเหมือนผลงานของเด็กอนุบาลยังไงพิกล ฝุ่นมันเพ้นต์ซะน่ารักเลย เพิ่งรู้ว่ามันเองก็มีฝีมือในการวาดรูปเหมือนกัน วาดเส้นเป็นตัวการ์ตูนแนวจิบิ เป็นเด็กผู้หญิงใส่แว่นขยิบตาข้างหนึ่ง

“น่ารักจัง” ผมชม เนียนขยับเข้าไปจนไหล่ชิดไหล่

“ฝันน่ะ” อ๋อ มันวาดน้องฝันครับ ผมแกล้งเขยิบหน้าเข้าไปใกล้มันอีกเพื่อดูใกล้ๆ มันเอนหน้าหนี ใช้ไหล่กระแทกไหล่ผมเพื่อผลักออก

ผมหัวเราะหึๆ หันกลับมาวาดของตัวเองต่อ เอาง่ายๆ เลยครับ ลงสีขาว วาดต้นไม้ บ้านหนึ่งหลัง พระอาทิตย์ กอหญ้าและทางน้ำไหล อนุบาลได้ใจ

“พวกที่วาดรูปเก่งๆ นี่เขาทำได้ไงกันวะ”

“ฝึกบ่อยๆ ก็ทำได้เอง วาดรูปก็เหมือนเขียนหนังสือ ถ้ามึงสามารถเขียนหนังสือให้คนอ่านได้ก็สามารถวาดรูปให้สวยได้เหมือนกัน เพียงแต่ต้องฝึกทุกวันเท่านั้น”

ผมพยักหน้า หยิบอีกชิ้น เลือกเอาชิ้นเล็กๆ หน่อย แล้วเพ้นต์สีขาวลงไปทั้งแก้ว แต้มสีแดงวาดเป็นรูปหัวใจ มีศรปักตรงกลาง ด้านซ้ายเขียนฝุ่น ด้านขวาเขียนว่าพล ผมฉีกยิ้ม ยื่นไปให้มันดู มันใช้สีละเลงแก้วผมจนเละ

“ไอ้ฝุ่น!!”

ผมโวยวาย มันหัวเราะร่วน ผมไม่ยอมแพ้ เอามาทำสีใหม่ คราวนี้ไม่เขียนฝุ่นพลแล้วครับ แต่เขียนว่า ‘ควายถึกกับกระทิงเปลี่ยว’ แทน มันหันมามอง ไม่ว่าอะไร ผมเอาไปเข้าเตาอบเพื่อให้สีแห้งเร็วขึ้น พวกนี้อาเขาให้เราเก็บไว้เป็นที่ระลึกครับ

พี่เรย์ตะโกนเรียกเพื่อจะพาไปกินข้าวซอยเจ้าอร่อย มาเชียงใหม่ ไม่ได้กินข้าวซอยก็ถือว่ามาไม่ถึงเชียงใหม่

เป็นร้านอาหารริมน้ำครับ บรรยากาศดีมาก ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย สั่งไปแผล็บเดียวก็ได้กินแล้ว อร่อยมาก ผมเบิ้ลไปสองชามตามเดิม ตักแบ่งให้ฝุ่นนิดหน่อยเพราะดูท่ามันจะไม่อิ่มแต่ก็ไม่อยากสั่งเพิ่ม

หมดมื้อเที่ยง เราพากันย้อนกลับไปเอาเซรามิกที่ทำกันไว้ แห้งกันหมดแล้วครับ ถ้วยญี่ปุ่นของพี่ริวอย่างเก๋ พี่มันไม่เก็บเอง ยื่นให้แมทซึ่งรายนั้นก็รับไปดีๆ มันยิ่งชอบสะสมอะไรแปลกๆ อยู่ด้วย

ผมได้แก้วที่เขียนว่า ควายถึก ศรหัวใจแล้วก็กระทิงเปลี่ยว ออกมาอย่างสวยเลยครับ ฝุ่นก็ได้แก้วลายน้องฝันของมันไป หิ้วถุงบอกลาอาแล้วกลับขึ้นรถ

(มีต่อ)>>

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2018 19:39:34 โดย memew »

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
หมั่นไส้กระทิง ออดอ้อนตลอดเวลา

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :hao6:หวานๆ ฝุ่นน่าจะมีใจให้แล้วละ

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
พลกล้ามากที่จุ๊บฝุ่นต่อหน้าเพื่อนหลายคน 5555 :hao7:
ฝุ่นเขินมั้ยยย เริ่มน่ารักขึ้นแล้วอ่ะะะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ใครเป็นแฟนริวนะ เผือกๆ  :hao3:

ออฟไลน์ Bringmelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หมั้นไส้พลจริงๆ เหมือนโดนฝุ่นทำของรักแต่ฝุ่น สนใจแต่ฝุ่น

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
(ต่อค่ะ)

ทริปสุดท้ายคือเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไปม่อนแจ่ม ฝุ่นมันจะเช่าขับของมันเอง แต่ผมรั้งไว้แล้วขอให้มันมานั่งกับผมแทน โดยให้เหตุผลว่าสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เก็บเงินเอาไว้ซื้อหนังสือดีกว่า คนระมัดระวังการใช้เงินอย่างมันจึงยอม

แมทขอนั่งซ้อนท้ายไปกับพี่ริวโดยให้เหตุผลว่าไม่ถนัดขับมอ’ไซค์ขึ้นดอย พี่ริวหันมองมาทางฝุ่น รายนั้นคงอยากให้ฝุ่นซ้อนท้าย

“ไปด้วยกันนี่แหละ ไปพี่ขึ้นรถ” มันขึ้นนั่งก่อนทันทีเว้นที่ด้านหน้าไว้ให้คนขับ ผมหัวเราะหึๆ

พี่ริวสวมหมวกกันน็อก ก้าวขึ้นไปนั่ง แมทหันมามอง ยกสองนิ้วจรดปลายคิ้วให้รู้ว่ามันก็พยายามช่วยผมเต็มที่เหมือนกัน
มิคที่ปกติจะติดพี่ชายตลอดมารอบนี้ขอไปกับพี่เรย์เฉย ไมค์มันเลยได้เป็นคนขับให้ไวท์ ส่วนกู้กับดิว กู้ขับดิวซ้อนท้าย ผมสวมหมวกกันน็อกบ้าง ฝุ่นทำตาม ผมหันไปยิ้มให้ก้าวขึ้นนำไปก่อน มันขึ้นมาซ้อน ผมค่อยๆ บิดคันเร่งตามฝูงเพื่อนๆ ไป

สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ อากาศกำลังเย็นสบาย ผมไม่ได้ขับเร็วมาก รั้งท้ายฝูงเพื่อน ผมชอบอารมณ์เวลาโดนฝุ่นโอบกอดแบบนี้จัง

หรือว่าจะซื้อมอเตอร์ไซค์ไว้ใช้สักคันดี

รถพาเรามาถึงม่อนแจ่มโดยสวัสดิภาพ ท้องฟ้าโปร่งใสมาก มองไปทางไหนก็สวย พวกเรารีบหยิบมือถือมากดถ่าย ทั้งภาพเดี่ยวและภาพหมู่ สนุกสนานกันไป พอหนำใจผมก็ชวนฝุ่นไปเดินเล่นรอบๆ

ผมจับมือฝุ่น พาเดินเลี่ยงไปยังจุดที่คนน้อย ไปดูวิวภูเขาและที่เขาปลูกผักแบบขั้นบันได

ผมจับมือฝุ่นขึ้นมาจูบเบาๆ ยกแนบหัวใจ

“รักมึงนะ”

มันไม่ตอบอะไร มองไปทางภูเขาขั้นบันไดนั้น ที่นี่มีดอกหญ้าเยอะครับ แต่ละดอกสวยๆ ทั้งนั้นเลย

ผมยิ้ม ปล่อยมือฝุ่นออก หันไปมอง

“มึงรออยู่นี่นะ” แล้วผมก็เดินไปตรงหน้า ย่อตัวลงนั่ง หันหลังให้เพื่อไม่ให้ฝุ่นรู้ว่าผมกำลังทำอะไร

ผมเด็ดดอกหญ้ามาสองต้น เลือกเอาต้นที่ก้านยาวหน่อย ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นดอกอะไร สีมันออกขาวปนเหลือง ผมจับมันถักไขว้จนกลายเป็นกำไล ดึงมาอีกต้น พันจนรอบ และดึงมาอีกหลายๆ ต้น ทำแบบเดิมไปเรื่อยๆ จนดูแข็งแรง พอเห็นว่าสวยงามได้ที่ถึงได้ลุก หันกลับไปมอง ฝุ่นยังยืนคอย

ผมยิ้ม ซ่อนสิ่งที่ทำไว้ด้านหลัง เดินเข้าไปใกล้ ยืนห่างจากฝุ่นประมาณหนึ่งศอก ฝุ่นเงยหน้ามอง

“อะไร”

“ยื่นมือมาก่อน”

มันทำหน้าไม่ไว้ใจ

“ไม่ใช่แย้ หนู หรืองูหรอกน่า” ผมพูดปนขำ มันยื่นมือซ้ายที่มีสร้อยพี่เรย์ให้ ผมส่ายหัว พยักหน้าไปยังอีกข้าง มันค่อยๆ ยื่นมือข้างนั้นมาให้ ผมยิ้ม จับมือข้างนั้นไว้กันมันชักหนี เลื่อนกำไลดอกไม้มาให้มันดู

มันตะลึงไปนิด ผมยกมือนั้นจูบเบาๆ ค่อยๆ สวมกำไลใส่ข้อมือ

“หมั้นไว้ก่อนนะฝุ่น ทำงานเก็บเงินได้เมื่อไหร่จะรีบส่งแม่ไปสู่ขอ”

“บ้ารึเปล่าพล” มันทำท่าจะชักมือกลับ แต่ผมยึดไว้ ยกขึ้นมาทาบหัวใจตัวเอง

“บ้าเพราะมึงนั่นแหละ ฟังเสียงหัวใจกูซะก่อน”

ครับ มันคงจับความผิดปกติได้ เพราะตอนนี้มันเต้นรัวเร็วเลย ผมมองตามัน ฝุ่นหลุบสายตาหนี

“อย่าเพิ่งถอดได้ไหม จนกว่าจะขึ้นรถ ถึงเวลานั้นมึงจะโยนทิ้งก็ไม่ว่า” ผมร้องขอ

“รับปากสิ” ผมร้องขออีกรอบเมื่อมันไม่พูดอะไร

“มันแต๋วไปนะพล”

“นะ” ผมร้องขอเสียงอ่อน มันเม้มปากแน่น

“นะ” ผมใส่เสียงออดอ้อนเข้าไปอีก บิลด์หน้าอ้อนใส่มันด้วย

“ก็ได้”

ผมฉีกยิ้มกว้าง กระชับจับมือมันแน่นยกขึ้นจูบ

“ขอบใจ”

“ปล่อยได้แล้ว”

“ขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหม”

มันมองตาผม พยักหน้า ผมรีบหยิบมือถือมากดถ่าย เอาเฉพาะมือมันครับ กางออกไปหาวิวภูเขาด้านหน้า อัปเฟซขึ้นสถานะสั้นๆ

‘ยังเรียนไม่จบ หมั้นไว้ก่อนด้วยดอกไม้ไร้ราคา เก็บตังค์ได้เมื่อไหร่ จะส่งแม่ไปสู่ขอ จะเปลี่ยนกำไลดอกไม้มาเป็นกำไลทองคำ
แทน รอก่อนนะ’

ฝุ่นยกมือถือมันดูบ้าง อ่านข้อความ ผมยิ้ม ต่อให้มันไม่ยอมรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ

“ห่าพล มึงโคตรสวีต!!!” ไอ้กู้มันตะโกนด่ามาแต่ไกล มันคงเห็นผมอัปสถานะ ผมหัวเราะหึๆ ไม่ได้สนใจพวกมันจับมือฝุ่นมากุม มองวิวตรงหน้าไปเงียบๆ

ได้ยินเสียงไลน์ดังเบาๆ ผมหยิบขึ้นมากดดู ฝุ่นเหลือบมองตาม เป็นข้อความจากไอ้กู้ครับ ผมเปิดดูก็เห็นเป็นรูปคนสองคนท่ามกลางวิวขุนเขา คนหนึ่งคือผม อีกคนคือฝุ่น เรายืนหันหลังให้กล้อง สองมือจับกันไว้ บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ

‘ไม่ต้องขอบใจกู’

มันส่งข้อความตามมา ผมหันไปมองพร้อมฝุ่น มันโบกมือให้นิดหนึ่ง เพราะระยะค่อนข้างไกล ผมกดส่งข้อความกลับไปสั้นๆ

‘ใจเพื่อน’

ผมกดส่งภาพนั้นต่อไปให้ฝุ่น มันยกมือถือเปิดดู เม้มปากแน่น ไม่พูดอะไร ผมเก็บมือถือมองวิวตามเดิม

เพราะฝุ่น มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนเมฆมีปีก ท้องฟ้ากลายเป็นสีชมพู อากาศลื่นไหลเข้าปอดซึมออกมาทางผิวหนังเป็นเสียงแผ่วๆ ว่า ‘มีความสุขจัง’

ท้องฟ้ากระจ่างใส เมฆหลายก้อนเกาะกลุ่มกันสวยงาม ผมชี้ไปยังเมฆก้อนหนึ่งไม่ห่าง

“เหมือนกระต่าย”

“เหมือนแมวมากกว่า”

“กระต่ายสิ หูยาวๆ”

“แมว”

ผมหัวเราะหึๆ

“นั่นเหมือนไดโดเสาร์”

“เหมือนหมี”

ผมหัวเราะ

“สายตามีปัญหาป่ะเนี่ย”

“กูเห็นเป็นหมี”

“แต่กูเห็นเป็นไดโดเสาร์ นั่นเหมือนภูเขาไฟระเบิด”

“ต้นสน”

ไม่เถียงครับ เพราะมันมองได้สองอย่าง แล้วแต่ว่าสายตาใครจะมองยังไง

“หมา” ผมชี้ไปยังเมฆอีกก้อน

“อ้าว มึงขึ้นไปทำอะไรอยู่บนนั้นน่ะ” มันหัวเราะร่วนออกมา ผมหัวเราะตาม ดีใจครับ วันนี้ผมทำให้ฝุ่นหัวเราะเพราะผมได้ตั้งหลายรอบ





สี่โมงพวกพี่ๆ ก็ชวนลงเพื่อไปหาซื้อของฝากกันที่กาดหลวงก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ผมกับฝุ่นพากันเดินเข้าไปสมทบทุกคน

“โห ฝุ่น กำไลใหม่มึงสวยว่ะ แพงไหม”

“แพง” ผมตอบให้ “ซื้อมาด้วยหัวใจทั้งดวงเชียว” พวกมันพากันโห่แซว ไม่มีมารขวางอย่างพี่ริวก็ง่ายหน่อย เพราะรายนั้นถูกแมทดึงห่างหายไปอีกด้านนู่น

ขากลับฝุ่นขอขับ ซึ่งผมไม่ขัดครับ แดดโรยตัวอ่อนแสง พอมันขึ้นได้ผมก็นั่งชิด โอบกอดเอวมันแน่น

“ขยับหน่อยพล”

“กูกลัวตก”

“รถจะคว่ำตายเพราะมึงกอดกูแน่นแบบนี้นี่แหละ”

ผมหัวเราะ ขยับห่างนิด แต่ก็ยังกอดมันอยู่ ไม่ได้กวนอะไรมันมากหรอกครับ เพราะต้องระวัง ทางมันเล็ก

จนลงมาถึงด้านล่าง เราขับเลยไปที่กาดหลวงเพื่อไปหาซื้อของ ได้ของมาเยอะมาก โดยเฉพาะแคบหมู ขากลับผมขับ ฝุ่นถือของ พอเอาของขึ้นรถเสร็จเราก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่ร้าน

สนุกดีครับ

“อยากนั่งรถแดงกันไหม” พี่เรย์ถาม พวกเราพากันขานรับ พี่แกจึงพาทุกคนไปโบกรถแดง รถแดงจอดกึกลงตรงหน้า จะพากันไปกินข้าวแถวๆ ถนนนิมมาน เป็นร้านของญาติๆ กันนี่แหละ

ผมดึงฝุ่นมานั่งคู่กัน ให้อารมณ์แบบนั่งรถตุ๊กๆ แต่มารยาทการขับดีกว่า เราไม่ได้เหมา เพราะงั้นเขาจึงจอดมาตลอดทางเพื่อให้คนขึ้นๆ ลงๆ ได้อารมณ์นักท่องเที่ยวสุดๆ

รถวิ่งมาถึงถนนนิมมานโดยสวัสดิภาพ พวกเราได้ที่นั่งวิวดี เปิดเมนูสั่งอาหาร รสชาติอร่อยสุดๆ 

ที่สำคัญ ฟรี!

มันจะอร่อยขึ้นก็ตรงนี้แหละ มีข้าวซอยด้วย อร่อยมาก ผมกับฝุ่นกินกันคนละครึ่ง มันทำให้ผมรู้ว่าการใช้ชีวิตโดยมีอีกคนเพิ่มเข้ามานั้นดียังไง

แน่นอนว่าบนเส้นทางของชีวิตคู่คงไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ คงมีเรื่องให้บาดหมางใจกันบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่ผมพร้อมแล้วที่จะก้าวเดินไปกับมัน หันหน้าคุยกันดีๆ

ขากลับเราโบกรถกลับกันอีกรอบ ผมกับฝุ่นเราแนบชิดกันมากขึ้น มันยังสวมกำไลดอกหญ้าที่ผมให้ไว้อยู่

เราเดินท้องโย้กลับมาที่รถ โบกมือลาเชียงใหม่ เมืองแห่งความสงบ มารอบนี้ผมได้นั่งคู่กับฝุ่น เพราะมิคไปนั่งคู่กับพี่เรย์ แมทประกบพี่ริว ไมค์ไปนั่งคู่กับไวท์ กู้คู่กับดิวตามเดิม ผมให้ฝุ่นนั่งด้านใน ตัวเองนั่งด้านนอก

รถค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากที่จอดช้าๆ ได้ยินเสียงพูดคุยกันมาเบาๆ ผมกับฝุ่นพอกัน แต่นั่งไปได้แค่ครึ่งชั่วโมงความง่วงก็แทรก ผมจับมือฝุ่น

“ง่วง”

“นอนไปดิ”

ผมยิ้ม จับมือมันมาวางไว้บนอก “กูจะฝันถึงมึง” ขยับเข้าไปชิด “ฝันเปียกด้วย” มันทุบอกผมแรง ผมหัวเราะหึๆ หลับไปทั้งอย่างนั้น


tbc 
ขอบคุณทุกคอมเมนต์จ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2018 05:41:33 โดย memew »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
หมั่นไส้
ว่าแต่ฝุ่นนี่ใจแข็งมากๆเลยนะเนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด