ตอนที่ 27
“ สวัสดีครับน้องวิว แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ “ เสียงของผมที่เอ่ยทัก ชวนให้ทุกคนเงียบไป อาจเพราะรูปประโยคนั้นดูเหมือนว่าผมเคยรู้จักกับอีกฝ่ายมาก่อน เลยทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจโดยเฉพาะพี่ชายของคนที่ผมเอ่ยทัก
“ เจทักเหมือน เคยรู้จักวิวเลย “ เมดพูดขึ้นแต่ผมที่ยังไม่ทันจะตอบ น้องชายของคนถามก็ตะโกนปฎิเสธออกมาจนมีพิรุธ
“ ไม่ร้จัก! ” มันทำหน้าตึงใส่ผมตอนที่พูดออกมา ฉายแววความก้าวร้าวจนคนเป็นพี่ต้องปราม
“ วิว ทำไมพูดแบบนั้นว่ะ นั่นพี่เจนะ เค้าเป็นผู้ใหญ่กว่ามึงให้เกียรติเค้าหน่อย “ วิวมองหน้าพี่ชายตัวเองที่เอ่ยติมัน พลางหันมองผมด้วยท่าทางตกประหม่า แววตาที่เคยใช้ขู่ผมด้วยสายตาไม่สนใจ มาบัดนี้มันกลับมองผมด้วยสายตาที่กำลังรู้สึกกลัวอย่างที่สุด
แววตาเรียวนั่นสั่นไหว มีคำขอร้องเป็นร้อยเป็นพันหลั่งไหลออกมาจากแววตานั้น ผมยกยิ้มให้มันตอนที่สบสายตานั้น ก่อนจะหมุนเก้าอี้กลับมาหาบาร์เทนเดอร์สองคนที่ยืนอยู่ หยิบมือถือที่อยู่ข้างตัว ผมกดส่งข้อความเข้าไปในกลุ่ม ‘ ชมรมคนรักแฟนพี่อาฟ ’
[ @dday @ai มึงสองคนช่วยพาไปเมดออกไปหน่อย กูมีธุระจะคุยกับไอ้เด็กวิวนี่ ]
[ พี่มึงรู้จักเด็กนี่มาก่อนเหรอวะ ] ไอ้อัยย์ถามกลับ ผมก็ตอบ
[ เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง ตอนนี้จัดการเอาไปเมดออกไปก่อน กูมีเรื่องจะคุยกับเด็กนี่ ]
“ พี่เมด ไอ้หมูตุ๋นมันจะคลอดรึยังอะ “ ไอ้เดย์พูดขึ้นหลังจากที่เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอมือถือ
หมูตุ๋น เป็นแมวจรจัดสีเทาแซมดำที่เข้ามาอยู่ในบริเวณผับเมื่อสองวันก่อน มันเป็นแมวท้องแก่ใกล้คลอดที่แอบเข้ามาอยู่หลังตู้ยามเพื่อหาที่พักพิงในการคลอดลูก เวลานั้นเราเลิกงานพอดีเมดหันไปเห็นยามพยายามไล่มันไปเพราะกลัวว่าไอ้อาฟจะดุที่มีแมวมาอยู่ในเขตผับ แต่ไอ้เมดก็ออกตัวช่วยไว้ก่อน
‘ ไม่เป็นอะไรหรอกลุงยอด ให้มันอยู่ตรงนั้นแหละ อาฟไม่ว่าอะไรหรอก สงสารมัน ’ พูดกับลุงยามออกไปแบบนั้นโดยไม่ถามแฟนตัวเองสักคำ เมดหันมายิ้มให้ไอ้อาฟก่อนจะพูดสั้นๆแค่ว่า ‘ เนอะ มึงให้อยู่แหละ อาฟใจดีจะตาย ’ พูดรวบหัวรวบหางแฟนตัวเองเรียบร้อย พลางยื่นมือมาจับมือไอ้อาฟไว้ แกว่งเบาๆ ใช้สายตายิ้มมองอ้อนหน่อยๆ สุดท้ายก็ไปไหนไม่รอดต้องอนุญาติทำตามความต้องการของอีกคนไป
ผมที่ตอนนั้นได้แต่ยิ้มแซวกับความใจอ่อนจนไอ้อาฟได้แต่หันไปทางอื่น แต่มาตอนนี้ผมก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่า เรากำลังให้ที่พักพิงกับแมวท้องแก่หรือเลี้ยงแมวท้องแก่กันแน่
เพราะหลังจากวันนั้น เมดก็ตั้งชื่อให้มันว่าหมูตุ๋น จัดการอาบน้ำให้เรียบร้อย ส่วนไอ้เดย์ทาสแมวอยู่แล้วก็จัดการซื้อปลอกคอให้ ไอ้อัยย์ก็ซื้อชามใส่อาหารอย่างดี ส่วนพนักงานเสิร์ฟทุกคนก็ช่วยกันออกค่าอาหารแมว จนตอนนี้จากหลังตู้ยาม มันก็ย้ายตัวเองไปอยู่ให้ห้องสต๊าฟผับแล้ว
โดยมีเงื่อนไขเดียวคือจากไอ้อาฟคือ ทุกคนต้องช่วยกันดูแล และห้ามสร้างความเดือดร้อน เพราะถ้าเกิดขึ้นเมื่อไหร่มันจะเตะแมวท้องกลมนี่ออกไปจากผับทันทีและไม่สนด้วยว่าจะท้องแก่แค่ไหน
“ ยังเลยมั้ง แต่อีกไม่นานแล้วละพี่เมดว่า ท้องมันใหญ่จนเดินจะไม่ไหวแล้วอะ “
“ อ้วนด้วยแหละ “ ไอ้อัยย์เสริม “ กินวันละห้ามื้อได้ “
“ พวกพี่ยามมื้อแรก พี่ซองมื้อสอง เด็กเสิร์ฟมื้อสาม กูสี่ พี่เมดก่อนกลับห้า ไม่รู้อ้วนเพราะท้องหรือเพราะแดกแล้วตอนนี้ “
“ หมูตุ๋นมันน่ารักไง รู้จักฝากตัว ขี้อ้อนด้วย จับอาบน้ำยังนิ่งเลยโคตรผิดวิสัยแมว ”
“ จริง โคตรเชื่อง น่าจะถูกทิ้งมาอะกูว่า “ เดย์บอก “ แต่ก็ยกเว้นสัดพี่นะ เจียมตัวมากเหมือนรู้ว่าไอ้นี่แหละ ตัวอันตรายถ้าเผลอไปยุ่งมันต้องเตะกูออกจากผับแน่นอน “
“ เมื่อวานตอนพี่เมดเข้าไปหามันก็กระโดดมานั่งตักนะ “ ไอ้อัยย์เสริม “ อ้อนกันตั้งนาน แต่พอเฮียเดินเข้ามาตามพี่เมดไอ้หมูตุ๋นมันก็เดินลงไปแล้วก็ไปนั่งเบียดมุมห้องตรงที่นอนเลย น่าเอ็นดู “
“ สมกับฉายา ผู้ชายที่น่ากลัวที่สุดใน throw up กลัวกันตั้งแต่พนักงานทุกระดับ ยันแมวตัวเล็กๆที่เลี้ยงไว้ “
“ ก็ไม่ได้ดุขนาดนั้น ขี้เว่อร์กันไปเอง “ เมดมันเถียงแทนไอ้อาฟ “ คนมันแค่ไม่ชอบยิ้ม “
“ ส่วนคนนี้ก็ใจดีที่สุดใน throw up แล้ว “ ไอ้เดย์เดินออกจากส่วนบาร์ไปกอดแขนแฟนพี่ชายตัวเองไว้ “ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นนางฟ้า throw up .ต้นแบบนางเอกของดิสนีย์ทุกตัวบนโลก เป็นที่รักของทุกคน ยันสัตว์ทุกชนิดในผับ “
“ ก็มากไปละ ก็ไม่ขนาดนั้นมั้งน้อง วันก่อนพี่เมดยังด่าพี่แม่บ้านที่ทำความสะอาดโถส้วมไม่สะอาดอยู่เลยมั้ยละ “
“ เป็นการด่าที่หยาบมากอะบอกเลย“ อัยย์เสริมขึ้นมา “ พี่แม่บ้านทำไมทำแบบนี้ครับ ยังเป็นคราบเหลืองอยู่เลยมันดูไม่น่าเข้านะครับ เราต้องให้ห้องน้ำสะอาดตลอดเวลา พร้อมใช้งานสำหรับแขกนะ เพราะถ้ามันไม่สะอาดแขกก็ไม่อยากจะมาอีก ห้องน้ำเป็นภาพลักษณ์สำคัญนะครับ ถ้ามันไม่น่าเข้าก็จะไม่มีใครมา มาครับพี่ แล้วพี่เมดใส่ถุงมือยาง ข้างนึงจับที่ขัดส้อม อีกข้างน้ำยาล้าง ก่อนจะหันไปพูดกับพี่แม่บ้าน เมดจะทำให้ดูเอง! แล้วซ้อกูก็ลงมือขัดส้วมเลยจ้า ” ทุกคนหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังแม้แต่คนหน้าเครียดอย่างไอ้วิว ก็ยังหลุดยิ้มกับเรื่องที่ถูกเล่าขึ้นมาก่อนยิ้มนั้นจะหุบลงในตอนที่ผมพูดเสริม
“ แต่วันนั้นได้ใจพี่แม่บ้านกันมากเลยนะ ถึงขั้นมาชมกับพี่ซองว่า น้องเมดน่ารักมากลงมาช่วยขัดส้วมให้ดูเป็นตัวอย่างด้วย แถมยังบอกอีกว่า พี่แม่บ้านคือคนสำคัญนะ ถ้าขาดไปสักคนผับก็จะไม่สะอาดเพราะความสะอาดมันคือหน้าตาของสถานที่และที่พักผ่อนทุกที่ แถมพอขัดส้อมเสร็จก็ออกไปซื้อขนมมาฝากพี่ๆอีก สุดที่เลิฟของทุกทีม ทุกวันนี้แม่บ้านขัดส้วมกันลืมตาย กลัวน้องเมดรู้สึกไม่ดีที่ส้วมไม่สะอาด “ ผมหันไปแซวอีกคนก็ส่ายหน้าไปมาเหมือนจะปฎิเสธแบบทุกที่
“ ก็ทำไปตามหน้าที่ อยากให้มันออกมาดีไง “
“ งั้นพี่เมดไปดูไอ้หมูตุ๋นกับน้องเดย์หน่อย น้องเดย์คิดว่าจะเอามันไปหาหมอดูว่า มันคลอดเองได้มั้ย ถ้าไม่ได้จะได้เอาไปไว้ที่โรงพยาบาลสัตว์ “
“ เอางั้นก็ได้ “ เมดตอบรับก่อนจะหันไปหาน้องชายตัวเอง “ ไปด้วยกันวิว ไปดูแมวกัน ไอ้หมูตุ๋นน่ารักมากๆ “
“ ไม่เอาอะพี่เมด วิวแพ้ขนแมว “ คนที่ยืนนิ่งอยู่นานเอ่ยพูดขึ้น คนเป็นพี่ก็พยักหน้ารับ
“ อ่า จริงด้วยนะ งั้น.. “
“ เดี๋ยววิวอยู่ตรงนี้แหละ จะนั่งคุยกับพี่เจสักหน่อย ”
“ สองคนนี้เหมือนรู้จักกันมาก่อนเลย ตอนแรกทักกันก็เหมือนรู้จักกันมาก่อน “
“ ก็รู้จักกันมาก่อนนะ “ ผมบอกออกไปเสียงเรียบๆ ก่อนที่เด็กคนที่ยืนข้างไอ้เมดจะตะโกนตัดคำนั้นออกมาอีกครั้ง
“ ไม่รู้จัก! ” มันเถียงผมก่อนจะหันไปบอกพี่ชายตัวเอง “ ไม่รู้จักนะพี่เมด “ ผมยกยิ้มกับท่าทางที่มีพิรุธของมัน ถ้าพี่มันจะรู้เรื่องของเรา ผมไม่คิดว่าเมดมันจะรู้จากผมหรอก แต่รู้จากท่าทางมีพิรุธของน้องชายตัวเองมากกว่า และถ้าเป็นแบบนั้นแผนที่วางไว้ก็คงจะพังไม่เป็นท่า
“ ก็รู้จักกันตอนที่เมดแนะนำให้รู้จักผ่านรูปเมื่อวันก่อนไง “ ผมบอกเมดออกไปแบบนั้นก่อนจะยิ้มให้อีกคน “ ที่บอกว่า ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งก็เพราะว่า ตอนนั้นเมดแนะนำให้รู้จักแล้ว ตอนนี้ก็เหมือนได้รู้จักอีกครั้งแต่เป็นตัวจริงไง “
“ งั้นเหรอ “ เมดถามแบบไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ก่อนไอ้เดย์ไอ้อัยย์จะพามันเดินลากออกไปเพื่อไม่ให้ถามต่อ
“ ไปๆ ไปหาไอ้หมูตุ๋นกันดีกว่า เดี๋ยวสัดพี่มาไม่ทันได้ทำอะไรกันพอดี “
เหลือทิ้งไว้แค่ผมกับอีกคนที่ยังยืนนิ่งไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เรามองหน้ากันนิ่งๆจนสุดท้ายเป็นผมที่หลุดยกยิ้มขึ้นมาก่อน
“ เป็นไง เชื่อในทฤษฎีโลกกลมขึ้นมาบ้างมั้ย “
“ มึงมันเหี้ย “ นั่นคือประโยคแรกที่อีกคนเอ่ยออกมา “ กูแม่งน่าจะเอะใจตั้งแต่ที่มึงบอกว่ามาที่ผับนี้ทุกวันแล้ว น่าจะคิดได้ว่า คนบ้าอะไรจะไปผับทุกวัน ถ้าเป็นแบบนั้นมันก็ต้องพวกที่ทำงานที่ผับแล้ว ”
“ ฉลาดช้าไปหน่อยก็ช่วยไม่ได้นะครับ “
“ โชคแค่เข้าข้างมึงมากกว่าก็เท่านั้น “ อีกฝ่ายว่าเสียงเรียบผมก็พยักหน้ารับยิ้มๆกับคำพูดนั้น
“ ก็ตามนั้น กูก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน “
“ กูรู้นะว่ามึงกำลังคิดจะทำอะไร “
“ ทำอะไรดีละ “ ผมถามมันกลับ “ แบบว่าบอกเรื่องของเรากับพี่ชายมึงดีมั้ย “
“ อย่านะไอ้สัด “
“ ทำไมละ น่าตื่นเต้นดีออก “ ยักคิ้วให้มันที่นิ่งไป ใบหน้าที่กำลังโกรธมือเล็กนั่นกำมือตัวเองไว้แน่น “ เจอกันมาก่อนที่ผับแห่งนึง แล้วก็ได้กันที่คอนโดของเมดด้วยนะ แถมคนที่ชวนยังเป็นน้องชายที่สุดแสนจะน่ารัก หนำซ้ำยังขโมยเงินกูไปอีกห้าพัน ..อ้อ ไม่สิ มึงขายตัวให้กูห้าพัน “
“ กูไมได้ขาย! ”
“ จุ๊ๆ เสียงดัง เมดได้ยินขึ้นมากูไม่รับผิดชอบนะ “
“ มึงจะเอายังไงก็ว่ามาเลยดีกว่า จะเอาคืนใช่มั้ย ส่งเลขบัญชีมาสิกูจะโอนเงินคืนให้ “ มือล้วงเข้าไปในกางเกงที่ใส่ หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาก่อนจะมองหน้าผม “ บอกเลขบัญชีมึงมาสิ กูจะโอนให้เดี๋ยวนี้เลย “
“ ใครบอกว่ากูอยากจะได้เงินคืน “
“ แล้วมึงต้องการอะไร “ อีกคนถามด้วยแววตาหาเรื่อง
“ ไม่รู้สิ อะไรก็ได้สักอย่างที่ทำให้กูมีเรี่ยวแรงมากพอที่จะปิดความลับนี้ละมั้ง “
“ มึงแม่งเหี้ยวะ มึงทำแบบนี้เพื่ออะไรวะ กูแม่งก็ยังเด็กมั้ย ทำไมถึงต้องคิดถึงขั้นจะเอาเรื่องนี้มาแบล็คเมล์กู “
“ เด็ก เหรอวะ ? “ ผมถามย้ำ “ ตอนมึงทำ คิดมั้ยว่าเป็นเด็ก มึงกล้าขโมยเงินกู กล้าเรียนตำรวจ กล้าทำทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้กูจนตรอก แต่พอมึงจนตรอกบ้างมึงก็เอาคำว่า มึงเป็นเด็กมาอ้างกับกู หนูน้อยมึงไม่เด็กตั้งแต่ขายตัวให้กูแล้ว “
“ กูบอกว่ากูไม่ได้ขาย แล้วเงินพวกนั้นมันก็แค่ค่าที่พักมันก็เท่านั้น “ อีกฝ่ายเถียงออกมาแบบไม่ยอมกัน “ มึงไม่มีทางเอาเรื่องนี้มาขู่กูได้หรอก จำไว้ “
“ งั้นเหรอ “ ผมพยักหน้ารับยิ้มๆกับอีกคนที่จ้องมองแบบไม่วางตา มือของมันกำกันแน่น รวมทั้งริมฝีปากที่ก็เม้มเข้าหากันด้วยความโกรธ มันรู้ว่ามันกำลังแพ้และกำลังดิ้นพล่านอย่างสุดตัวเพื่อที่จะไม่ต้องยอมจำนนให้ผม “ ไม่กลัว งั้นก็ไปหาไอ้เมดกัน “ ทำทีเป็นจะลุกจากเก้าอี้ที่นั่งแต่ทว่าอีกคนกลับมาขวางไว้
“ มึงจะไปไหน “
“ ไปหาไอ้เมดไง ก็มึงบอกมึงไม่กลัว กูจะไปบอกมันด้วยว่าน้องมันขายตัวให้กูเมื่ออาทิตย์ก่อน “
“ อย่าเสือก “
“ คิดให้ดีก่อนจะพูดไอ้หนู “ ผมย้ำมัน “ กูไมได้เสือกแต่กูเป็นผู้เสียหายที่โดนเด็กอย่างมึงขโมยเงินไปตั้งห้าพัน มึงบอกว่ามึงยังไม่บรรลุนิติภาวะเพราะงั้นกูต้องบอกผู้ปกครองมึงนั่นมันก็ถูกแล้ว ไอ้เมดมันดูแลน้องชายตัวเองยังไงถึงปล่อยให้มาขโมยเงินคนอื่นได้ แล้วปล่อยเข้าผับไปได้ยังไงตั้งแต่อายุแค่นี้ “
“ พี่เมดไม่เกี่ยวอะไรด้วย แล้วเรื่องนี้มันก็เรื่องของกู ชีวิตกูไม่เกี่ยวอะไรกับพี่เมด “ อีกฝ่ายเสียงสั่นมันคงกลัวอยู่มาก ในแววตาของมันบอกกับผมว่า สิ่งที่มันกลัวที่สุดตอนนี้ก็คือ กลัวที่พี่ชายมันต้องเสียใจ มันมีคำถามอีกหลายข้อที่ผมอยากจะถามมัน คือถ้าเค้าสำคัญกับมึงขนาดนี้ทำไมมึงไม่ทำตัวเองให้ดี พ่อแม่ก็เลี้ยงดูอย่างดีมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำอะไรแบบนั้น “ มึงจะเอายังไงก็ว่ามาเลยดีกว่า “
“ เอางั้นเลย “ ผมถามย้ำ
“ มึงไม่ต้องเอาพี่เมดมาขู่กู พูดมาเลยดีกว่า มึงมีแผนอะไร จะให้กูทำอะไรก็ว่ามา “ อีกฝ่ายบอกก่อนจะจ้องตาผม
“ ฉลาดดีจังเลย “ เอื้อมมือไปจับคางมันอีกคนก็สะบัดออก ผมยกยิ้มให้มันที่อีกคนมองตาผมด้วยความโกรธที่เหมือนจะมากขึ้น
“ อย่ามาแตะต้องตัวกู ”
“ สายไปแล้วมั้ง คำนั้นน่ะ เพราะกูแตะต้องมึงมาลึกซึ้งกว่าที่มึงจะพูดอะไรแบบนั้นได้แล้วนะ แล้วอีกอย่างคือมึงไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะต่อรองอะไรกับกูได้นะวิว แล้วที่กูอยากจะให้มึงจำไว้อย่างนึงก็คือ มึงควรทำตัวเป็นเด็กดีอย่างที่กูบอกให้ทำ ไม่อย่างงั้นกูอาจจะพลั้งปากบอกไอ้เมดก็ได้ “
“ หมายความว่ายังไง มึงคิดจะทำอะไรกู “ ผมยกยิ้มให้กับคำพูดของอีกคน พลางทำท่าคิด “ ตอนนี้กูยังคิดไม่ออกหรอก ว่าจะให้มึงทำอะไร เอาเป็นว่า เอาไลน์มึงมาดีกว่า “ หยิบมือถือขึ้นมาอีกคนก็ถาม
“ ทำไมกูต้องให้ “
“ เพราะมึงไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธกูไง เอาไลน์มึงมา “ ยื่นมือถือไปให้มันอีกคนก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะกดจิ้มอยู่สองสามครั้งแล้วส่งกลับมาให้ผม ภาพดิสขึ้นโชว์เป็นรูปของอีกคน “ แล้วถ้าเกิดว่ากูทักไป มึงตอบกูช้า บล็อก หรือว่าไม่ทำตามคำสั่ง คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น “ อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรในตอนนั้นมันทำได้แค่มองหน้าผมด้วยสายตาโกรธเคืองอย่างที่สุด แววตาเรียวที่จ้องมาสาบานเลยว่าถ้าตอนนี้มันมีมีดก็คงจ้วงแทงผมไม่ยั้งมือแน่นอน “ มึงเล่นผิดคนแล้ว รู้ไว้ซะ “
“ ถ้ากูทำตามมึง มึงจะไม่บอกพี่เมดใช่มั้ย “
“ ใช่ “
“ แล้วกูเชื่อมึงได้แค่ไหน ว่ามึงจะไม่หักหลังกู “
“ มากกว่าตัวมึง ที่หลอกกูขึ้นไปนอนด้วยแล้วสุดท้ายขโมยเงินกู “ ผมตอบมันอีกคนก็ถอนหายใจออกมา
“ กูจะบอกให้นะ ว่ากูไม่ได้หลอกมึงขึ้นไปที่คอนโด เรื่องเซ็กส์มันก็วันไนท์ “
“ แล้วเรื่องเงินห้าพันของกูที่มึงเอาออกจากกระเป๋าไปมันหมายความว่าไง “ มันที่กำลังจะเอ่ยเถียงผมก็พูดดักขึ้นก่อน “ ไม่ใช่ค่าโรงแรม กูรู้ ขอเหตุผลอื่น ทำไมมึงร้อนเงิน หรือมีอะไรที่มึงอยากจะได้ “
“ กูแค่เห็นเงินในกระเป๋าแล้วก็อยากได้ ก็เลยขโมย “ มันตอบออกมาสั้นๆ แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย รู้สึกเหมือนแค่พื้นฐานจิตใจมันไม่ใช่คนร้ายกาจ มันยังรู้สึกแคร์ครอบครัว และที่สำคัญคือมันรักพี่ชายอย่างไอ้เมดมาก แต่เหตุผลที่มาทำตัวแบบนี้ มันเพราะอะไรวะ
เรามองหน้ากันอยู่แบบนั้นสักพัก ผมมีคำถามที่อยากจะถามมันอีกเยอะ ถ้าเป็นไปได้อยากจะจับมันมานั่งคุยให้รู้เรื่องในสิ่งที่มันคิด ที่มันทำ แต่ทว่าทุกอย่างกลับถูกริดรอนออกไปจากความคิดอย่างฉับพลันเมื่อเสียงเอะอะที่หายไปนานจะดังขึ้นมาจากด้านหลัง ทั้งสามคนที่ไปดูไอ้หมูตุ๋นคงกลับออกมาแล้ว ตอนนั้นผมเลยทำได้แค่ทิ้งท้ายด้วยการยกยิ้มให้มัน ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ พลางกระซิบที่ข้างหูนั้น
“ แต่จะว่าไป โลกเรามันกลมกว่าที่คิดนะ มึงว่ามั้ย “
“ คุยอะไรกันอยู่ “ คนที่เดินเข้ามาเอ่ยถาม เมดหันมองผมทีมองน้องชายตัวเองอีกที มันที่ยิ้มกว้างด้วยความสุข ตอนนั้นวิวก็หันไปมองพี่ชายตัวเองก่อนจะเอ่ยถามเรื่องอื่น
“ หมูตุ๋นเป็นยังไงบ้างอะพี่เมด ตกลงจะคลอดยัง “
“ ยังหรอกมั้ง ยังแข็งแรงเลย แต่พรุ่งนี้คิดว่าพี่เมดกับน้องเดย์จะพาไปหาหมอน่ะ จะได้รู้ว่ามันท้องลูกกี่ตัวด้วย “
“ อื้ม อย่างงั้นเหรอ “ มันยิ้มให้พี่ชายตัวเอง เมดก็เอื้อมมือมากอดคอน้องชายไว้ แววตาเรียวที่มองไปทางอีกคนด้วยความรู้สึกรัก มองจากมุมนี้ผมก็พอเข้าใจว่า มันไม่แปลกหรอกที่เด็กคนนั้นจะยอมทำตามผมโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น แทนการบอกความจริงกับพี่ชายตัวเอง
ขนาดเป็นคนนอกที่ไม่ใช่ครอบครัว อย่างผมยังรู้สึกเลยว่า เมดมันเป็นคนที่ทั้งใจดี แล้วก็ใส่ใจความรู้สึกของคนอื่น และเพราะแบบนั้นผมเลยรู้สึกว่า ไม่อยากทำให้มันรู้สึกไม่ดี เลยออกปากเตือนไอ้อาฟเรื่องความปากหมาอยู่บ่อยๆ ขนาดตัวผมยังรู้สึกแบบนี้ แล้วน้องชายมันที่เป็นถึงคนในครอบครัวที่ถูกเมดเอาใจใส่มาตั้งแต่เด็ก ทำไมจะรู้สึกไม่เหมือนกัน บางทีอาจจะยิ่งกว่าด้วยซ้ำ แต่ก็นั่นแหละ ไม่ว่ายังไงก็หาเหตุผลไม่ได้เลยว่า ทำไมมันถึงมาทำอะไรแบบนี้
“ หิวยัง เดี๋ยวเราไปกินอะไรอร่อยๆกันมั้ย ก่อนกลับคอนโด “ เมดถามน้องชายตัวเอง มือที่ลูบหัวอีกคนไม่หยุด แต่อีกฝ่ายก็แค่ส่ายหน้า
“ ยังไม่ค่อยหิว แต่ถ้าพี่เมดพี่อาฟอยากกิน ก็ได้เลย “
“ แล้วเราจะกินอะไร “
“ อะไรก็ได้ “
“ มาแปลก “ เมดแซวน้องชายตัวเอง “ ปกติเรื่องเมนูมึงชอบเลือก แล้วทุกคนต้องตามใจมึงไม่ใช่เหรอ “
“ นั่นมันพ่อกับแม่มั้ยละพี่เมด “
“ ไปกัน “ เสียงที่ดังมาจากฝั่งประตูสต๊าฟที่ปิดลง ไอ้อาฟเดินออกมาพร้อมสายชาร์จมือถือที่มันบอกจะมาเอาแต่ทว่าของแค่นั้นกับเวลาใช้ไปก็ดูไม่ค่อยสมดุลกันสักเท่าไหร่ น้องชายมันก็เลยเอ่ยแซว
“ กูคิดว่าสัดพี่มึงไปนั่งผลิตสายชาร์จอยู่ซะอีก โคตรนาน “
“ กูขี้อยู่ “ มันตอบสั้นๆก่อนจะหันไปหาน้องมัน “ มึงมีปัญหามั้ย “
“ อ๋อ ไม่มีจ้ะ “ ยกไหว้พี่ชายตัวเองหลังจากตอบเสร็จ ทั้งไอ้เดย์ไอ้อัยย์วิ่งเข้าไปในส่วนของบาร์เหมือนกำลังหาที่กำบัง ก่อนที่อาฟจะหันหันมาหาผมที่ยักคิ้วให้มันแค่ครั้งเดียว เป็นการตอบรับว่าสิ่งที่ตั้งใจจะทำก็ได้ทำเรียบร้อยแล้ว
“ ไป “ หันไปบอกไอ้เมดที่ก็พยักหน้ารับ แล้วตอนนั้นวิวก็หันมาทางเรามันยกมือไหว้ตามมารยาทของคนอายุน้อยกว่า
“ วิวไปแล้วนะพี่เดย์ พี่อัยย์ แล้วก็ พี่เจ “
“ เจอกันครับ “ ผมตอบมันยิ้มๆ แต่อีกคนก็แค่มอง ไม่ได้ตอบอะไร ก็แน่นอนว่ามันไม่สิทธิ์ที่จะปฎิเสธอะไรอยู่แล้ว เพราะความลับของมันตอนนี้อยู่ในกำมือผม
..............................................................