Chapter 15: More and more
เสียงหายใจกระหืดหอบน้อยๆ ดังลอดจากริมฝีปากของเด็กหนุ่มมาให้ได้ยินหลังจากที่ริมฝีปากบางสีสวยนั่นถูกกลืนกินด้วยชายหนุ่มอีกคนมาครู่หนึ่ง
ออสตินถือว่าเสียงนั้นเป็นเสียงโปรดของเขารองมาจากเสียงดนตรีคลาสสิกบรรเลงที่ชอบเปิดฟังขณะขับรถ เขาผละริมฝีปากออกมาเล็กน้อย เปิดช่องทางให้กานต์หายใจได้สะดวก เมื่ออีกฝ่ายตักตวงอากาศเข้าปอด เขาก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้อีกครั้ง
“จะต่อไหม”
ไม่ต้องให้กานต์ตอบก็รู้คำตอบชัดเจนดี ดวงตาหวานฉ่ำของเด็กหนุ่มที่มองยังคนถามนั้นกะพริบปริบเล็กน้อย ก่อนน้ำเสียงแหบแห้งจะดังขึ้นแผ่วเบา
“ต่อครับ”
ออสตินยิ้มกริ่ม “แต่เราจูบกันมากว่าสิบนาทีแล้วนะ”
“ให้จูบเป็นชั่วโมงยังได้เลยครับ ถ้าคนที่ผมจูบด้วยคือแด๊ดดี้”
กานต์ตอบอย่างเอาใจ นี่ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ออสตินโปรดปราน ตั้งแต่วันที่เขายอมละทิฐิตนเอง... ไม่สิ ไม่ใช่ ต้องบอกว่าตั้งแต่วันที่เขาตบะแตก ยอมอะลุ่มอล่วยให้กับความปรารถนาของเด็กหนุ่มตรงหน้า ก็ไม่มีวันใดเลยที่ทั้งสองจะไม่ได้จูบกัน
ยิ่งจูบ...ยิ่งถลำลึก
จากวันละเพียงไม่กี่นาที ก็เริ่มเพิ่มเวลามากขึ้นเรื่อยๆ
จากวันละครั้ง ก็เริ่มหลายครั้งต่อวัน จะเรียกว่าทุกครั้งที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันหรือมีเวลาว่างก็ได้
กลายเป็นกิจกรรมสุดโปรดของทั้งคู่ไปแล้ว...
แต่...มันก็ยังเป็นแค่จูบ
ถึงรสจูบนั้นมันจะหวานหอมหรือชวนให้ดิ่งลงสู่หุบเหวอเวจีแห่งความราคะมากแค่ไหน ทว่าออสตินก็ไม่ยอมทำอะไรไปมากกว่านั้นนอกจากจูบ การสัมผัสน่ะเหรอ...มีเพียงลูบไล้ใบหน้าและต้นคอของอีกฝ่ายเป็นครั้งคราวเท่านั้น ส่วนอื่นที่ต่ำกว่าคอลงไปไม่เคยแตะต้องเลยแม้แต่น้อย
ซึ่ง...มันขัดใจลูกเลี้ยงของเขาเป็นอย่างยิ่ง!
วันนี้ก็เช่นกันที่กานต์ขัดใจ เขาจูบกับออสตินมากว่าสิบนาทีแล้วอย่างที่อีกฝ่ายว่า จูบเสียจนเพลิงแห่งความกำหนัดของเขาพวยพุ่งไปทั่วสรรพางค์ ร่างกายตอบสนองต่อแรงเสน่หานั้นจนแสดงออกมาให้เห็นชัดเจน ทว่าออสตินก็ยังทำเฉยจนเขาต้องเป็นฝ่ายชักชวน
“แต่ถ้าแด๊ดดี้ไม่อยากจะจูบแล้ว จะทำอย่างอื่นก็ได้นะครับ”
ถึงประโยคนี้ คนฟังเลิกคิ้วสูง
“ทำอย่างอื่น?”
“ก็แบบว่า...อย่างอื่นที่มากกว่าจูบ”
พูดไปก็หน้าร้อนไป ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกที่กานต์พูดไปแบบนั้น แต่ในทุกครั้งที่พูด เขาก็ยังเขินอายอยู่ดี เพราะหลังจากพูดแล้ว เขามักถูกดวงตาคู่สวยของออสตินจับจ้องเขม็ง
“ไม่ได้เหรอครับ?”
ไม่ทันที่ออสตินจะได้ตอบแท้ๆ เพียงความเงียบเข้ามาครอบครองครู่เดียว กานต์ก็เป็นฝ่ายเอ่ยถามออกมา และคำตอบนั้น...
“อืม ไม่ได้”
...ก็ยังเหมือนเดิมเช่นทุกครั้ง
เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมา คิดในแง่ดีว่าออสตินยอมอ่อนข้อให้เขามากแล้ว ก่อนหน้านี้แม้แต่จับมือยังแทบไม่ได้จับเลยเถอะถ้าเขาไม่เป็นฝ่ายแอบไปจับ
เอาเถอะ วันนี้เขายอมแพ้ก็ได้ แต่วันอื่นไม่ยอมหรอก
“แล้วจะเอายังไงต่อ จะจูบต่อหรือจะไปหาอะไรกิน?”
ออสตินถามหลังจากเห็นเด็กหนุ่มนั่งหน้ามุ่ยอยู่บนโซฟาข้างๆ
“จูบต่อสิครับ เรื่องกินไว้ทีหลัง”
เป็นเด็กที่ซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองดี... ออสตินยกยิ้ม ก่อนขยับใบหน้าเข้าไปหาอีกครั้ง
“ถ้างั้นอย่าบ่นว่าหิวให้ฉันได้ยินเชียว”
มือประคองซีกหน้าอ่อนเยาว์ ประทับจูบลงไปบนกลีบปากสีแดงระเรื่ออีกครั้ง
จูบในครั้งนี้ยังคงนุ่มนวล... กานต์เผยอริมฝีปากตอบรับและเปิดทางให้ลิ้นร้อนของอีกฝ่ายเข้ามารุกรานทางด้านใน ปลายลิ้นของเขาเป็นฝ่ายเกี่ยวกระหวัดดึงรัดให้ออสตินก้าวล่วงเข้ามาตักตวงความหวานจากเขาด้วยซ้ำ
ออสตินจะไม่มีวันปริปากออกมาแม้แต่คำเดียวว่ากานต์แก่แดด เพราะหนึ่ง...วัยรุ่นที่อเมริกาสมัยนี้ใครๆ ก็ทำกัน และสอง...เขาชอบ
...ชอบที่จะเป็นที่ปรารถนาของเด็กหนุ่มคนนี้
ยิ่งได้ลิ้มรสหวานมากเข้า จูบนั้นก็ยิ่งดูดดื่ม มือสากลูบไล้ไปตามแก้วนวลและลำคอ กระนั้นก็ยังไม่ลงต่ำไปกว่านี้ หากแต่เพียงเท่านั้นก็มากพอแล้วที่จะโหมไฟเสน่หาในตัวของเด็กหนุ่มให้ทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าแห่งความปรารถนา
ความร้อนรุ่มแล่นพล่านไปทั่วกาย กานต์รู้ว่าตอนนี้ตัวเองต้องการอะไร
เขาต้องการออสติน สเวน...
ต้องการผู้ชายตรงหน้า...
ต้องการจนทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว...
จากที่นั่งจูบดีๆ สงบเสงี่ยมเรียบร้อยก็เป็นฝ่ายถลาเข้าหา ดุนดันจูบอย่างจาบจ้วง สองมือผลักให้ออสตินนั่งพิงไปกับพนักโซฟา ก่อนที่จะปีนขึ้นมานั่งคร่อมบนตักของชายหนุ่มไว้
ออสตินไม่ห้ามด้วยเห็นว่าไม่เป็นไร หากแต่เขาก็ต้องคิดผิดเมื่อจู่ๆ กานต์ก็สาละวนกับการปลดเข็มขัดกางเกงของตัวเอง ก่อนจะปลดกระดุมกางเกงยีนออกจนบ็อกซ์เซอร์บางๆ ปรากฏให้เห็นตรงหน้า
“กานต์”
ออสตินจับไหล่อีกฝ่ายแล้วดันออกห่างเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็เรียกชื่อเพื่อดึงสติ กานต์มองใบหน้าคร้ามด้วยสายตาเว้าวอนราวกับรู้ว่ากำลังจะถูกห้ามทำอะไร
“แด๊ดดี้...ผมไม่ไหว”
ไม่ไหวจริงอย่างที่ปากว่า แค่ออสตินหลุบสายตาลงต่ำก็เห็นชัดเจนว่ากึ่งกลางลำตัวของเด็กหนุ่มนั้นเป็นเนินนูนเพียงใด
“แต่เราสัญญากันแล้วว่าแค่จูบ”
ออสตินว่าเสียงเรียบ เมื่อครู่นี้เขาเผลอลอบกลืนน้ำลายก่อนจะพูดประโยคนี้ด้วยซ้ำ หากแต่กานต์กลับไม่ฟัง แสดงอาการดื้อดึงออกมา
“ขอร้องล่ะครับ ครั้งเดียวก็ได้ ขอมากกว่าจูบหน่อย”
ดวงตาสีนิลยามเต็มไปด้วยแรงแห่งความเสน่หาช่างยั่วยวนและฉ่ำหวานเป็นอย่างมาก ออสตินพยายามสบตาคู่นั้นของคนตรงหน้าด้วยความสงบ เขารู้ว่ากานต์ต้องการให้ตอบสนองอารมณ์นี้มากเพียงใด เขาเองก็ต้องการ แต่...ทำไม่ได้
“ฉันจะไม่ทำมากกว่าจูบ ที่เราสัญญากันน่ะจำได้ไหม จริงๆ แล้วเราจูบกันได้แค่วันละครั้งเท่านั้นด้วยซ้ำ ที่เลยเถิดมาถึงขนาดนี้ ฉันยอมให้เธอเท่าไรแล้ว อย่าดื้อนะกานต์”
ดูท่าจะไม่ฟังก็เลยดุเสียงเข้มน้อยๆ กานต์เม้มริมฝีปากไปครู่ ดูเหมือนจะฟังแต่คำพูดของคนตรงหน้ากลับขัดใจเขา
“แด๊ดดี้ก็น่าจะรู้นี่ครับว่าถ้าผมได้จูบ ผมจะต้องอยากได้มากกว่านี้”
“ใช่ ฉันรู้”
“แล้วแด๊ดดี้จะยอมให้ผมจูบทำไม ในเมื่อรู้อยู่แล้ว ความผิดของแด๊ดดี้นั่นแหละ”
“เดี๋ยวนี้รู้จักเถียงเหรอ”
พอเห็นว่ากานต์เริ่มยอกย้อน ออสตินก็แสร้งว่าเสียงเข้มหากแต่ราบเรียบออกไป และได้ผลฉับพลัน กานต์เม้มริมฝีปากไปอีกระลอก ก่อนจะว่าออกมา
“ขอโทษครับ” แต่ก็ไม่วายเถียงอีก “แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของผมนี่ถ้าผมอยากจะได้มากกว่านี้น่ะ”
ถูกต้องอย่างที่กานต์ว่า... ไม่ใช่ความผิดของเขาเลยแม้แต่น้อย เป็นความผิดของออสตินคนเดียวที่ทนต่อความต้องการของตัวเองไม่ไหว ยิ่งมีตัวกระตุ้นอย่างกานต์มาออดอ้อนออเซาะให้เห็น ความตั้งใจของเขาที่ว่าจะเป็นพ่อเลี้ยงที่ดีอะไรนั่นก็พังทลายลงมาไม่เป็นท่า
มันยาก...
ยากมากเหลือเกินที่จะควบคุมความต้องการของตัวเองและเก็บไว้ให้มิดชิด ทั้งๆ ที่จริงแล้วเขาอยากจะขยำขยี้ร่างเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่มตรงหน้าให้สาแก่ใจ
อยากจะทำให้ครวญครางกระเส่าร้องเรียกแต่ชื่อเขา...
อยากทำให้บิดเร่าทุรนทุรายทุกครั้งที่ถูกเขาสัมผัสไปทุกอณูผิวหนัง...
ช่างเป็นความคิดที่ผิดบาปเหลือเกิน...
“เอาเป็นว่ามากกว่านี้ไม่ได้ เข้าใจนะ”
สุดท้ายแล้ว ออสตินก็ต้องตัดบทเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะไม่คิดถึงการทำอะไรถลำลึก กานต์พยักหน้ารับ ทำท่าเหมือนยอมแพ้
“งั้นผมขอจูบอีกครั้งนะครับ”
ออสตินครางตอบรับ ก่อนที่กานต์จะโน้มใบหน้าเข้ามาจูบเขาอีกครั้ง ขณะที่ออสตินอดคิดไม่ได้เลยว่าการที่ลูกเลี้ยงของเขาเชื่อฟังอย่างนี้ก็ดีแล้ว เพราะถ้ายังดึงดันและดื้อดึงต่อไปล่ะก็ มีหวังเขาได้ถูกด้านมืดในจิตใจตัวเองเข้าครอบครองแน่
ทว่า...หารู้ไม่ว่ามันเป็นแผนการของเจ้าลูกเลี้ยงตัวแสบ เพราะทันทีที่ได้รับอนุญาต กานต์ก็ประกบปากจูบ ก่อนจะเลื่อนมือทั้งสองข้างลงต่ำไปแกะกระดุมกางเกงของออสตินอย่างซุกซน มือเกือบจะสัมผัสส่วนกลางลำตัวของอีกฝ่ายอยู่แล้วเชียว หากแต่ออสตินรู้สึกตัวก่อน รีบคว้ามือทั้งสองข้างนั้นออก ผละริมฝีปากแล้วมองหน้าเจ้าเด็กดื้ออย่างดุๆ
“กานต์ บอกว่าไม่ได้ไง”
กานต์ยู่ปาก เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากัน
“ครั้งเดียวเองครับ”
“ไม่ได้”
“นิดเดียวก็ได้ แค่ภายนอก” ยังจะมีหน้ามาต่อรองอีก
“นิดเดียวก็ไม่ได้”
ถูกขัดมาอย่างนี้ กานต์ก็นิ่งไปครู่ คิดหาหนทางทันใด
“ให้ผมใช้ปากให้ก็ได้นะครับ”
ถึงตอนนี้ ออสตินก็เบิกตาโต
เล่นอย่างนี้เลยเหรอ?
ในหัวเผลอคิดถึงตอนที่ส่วนกลางของลำตัวเขาถูกเด็กหนุ่มตรงหน้ากลืนกินอย่างกระหายไปแล้วด้วย ก่อนที่ออสตินจะกะพริบตาปริบๆ เพื่อไล่ความคิดบาปช้านั้นแล้วว่าเสียงเขียว
“อย่าพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องกานต์ ฉันบอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้”
“แด๊ดดี้...ครั้งเดียว”
“ไม่ได้กานต์...”
ออสตินปฏิเสธอีกครั้งจนได้ กานต์สุดจะทนแล้ว เขาอยากถูกสัมผัสจะแย่ ออสตินอยากจะทำอะไรก็จะยินยอมให้ทำโดยไม่มีข้อแม้เลย โดยไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้าเขาสุดจะทนมากกว่าอีก
ก็จะให้ออสตินทนอย่างไรได้ไหว ในเมื่อเด็กหนุ่มมานั่งคร่อมตัวเขาแบบนี้ อีกทั้งยังปลดเปลื้องช่วงล่างออกมาให้เห็นเต็มสองตา ส่วนนั้นแข็งขืนบ่งบอกชัดเจนว่าปรารถนาในตัวเขาแค่ไหน มิหนำซ้ำยังมาบอกว่าจะใช้ปากทำรักให้อีก เขาควบคุมตัวเองได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว!
หากแต่เมื่อได้ดื้อครั้งหนึ่งแล้ว กานต์ก็อดที่จะดื้ออีกครั้งไม่ได้ ออกปากต่อรองมาอีก
“แต่ผม...”
“เธออยากให้ฉันติดคุกข้อหาพรากผู้เยาว์หรือไง เธอเพิ่งจะสิบเจ็ด”
คราวนี้กานต์ถึงกับหุบปากฉับ มองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง แต่ก็ไม่วายจะพึมพำ
“ผมไม่บอกใครหรอก เชื่อผมสิ”
ถึงตอนนี้ ออสตินแทบกลั้นหัวเราะไม่ไหว เผลอหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย ความตึงเครียดน้อยๆ ก่อนหน้านั้นมลายหายไปเพราะคำพูดซื่อๆ ของอีกฝ่ายทันที การหัวเราะออกมาในเวลาไม่เหมาะสมนั้นทำเอาเด็กหนุ่มหน้าง้ำ
“ขำอะไรน่ะครับ ไม่มีเรื่องอะไรให้ขำสักหน่อย”
ออสตินไม่พูดอะไร แต่ก็หยุดหัวเราะไม่ได้
“ให้ตาย ทำอะไรสักอย่างเถอะ อย่ามัวแต่หัวเราะผมได้ไหม ไม่งั้นผมจะช่วยตัวเองตรงหน้าแด๊ดดี้แล้วนะ”
กานต์ว่าประชดเมื่อเห็นว่าออสตินไม่ยอมทำอะไรเขาสักที แต่แล้วก็ต้องเบิกตาโตเมื่ออีกฝ่ายพูดออกมา
“ก็เอาสิ”
“หา?”
“ที่บอกว่าจะช่วยตัวเองตรงหน้าฉันน่ะ ก็เอาสิ”
“อะ...เอาจริงเหรอครับ?”
“อืม ทำสิ”
ตอนนี้หน้าถึงกับร้อนเห่อเลยทีเดียว ยิ่งเห็นสายตาที่ออสตินจับจ้องมานิ่งๆ กานต์ก็รับรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดเล่นแน่
“งะ...งั้นเดี๋ยวผมนั่งตรงนี้”
กานต์รู้ว่าเลี่ยงไม่ได้แน่ เลยค่อยๆ ถอยลงจากตัวของออสตินไปนั่งข้างๆ หากแต่ไม่ทันจะได้ลง เอวเขาก็ถูกออสตินจับไว้มั่น
“ไม่ต้อง”
“...”
“ถ้าจะทำก็ทำบนนี้นี่แหละ”
“แต่...”
“ทำบนตัวฉัน ฉันจะได้เห็นชัดๆ”
ใครมันจะไปทำได้กันเล่า!
“แต่ผม...”
“เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าอยากทำมากกว่าจูบ ฉันก็ให้ทำแล้วนี่ไง”
พอจะเถียงก็ถูกดักคอ ตอนนี้เองที่กานต์รู้สึกตัวว่า...เขาไม่ควรต่อกรกับผู้ชายคนนี้!
“หรือเธอจะไม่อยากทำ?”
พอถูกถามออกมาอีก กานต์ก็อึกๆ อักๆ
“เอ่อ...”
“ถ้าไม่อยากทำก็ถือว่าเธอเสียสิทธิ์ในครั้งนี้ แล้วมันจะไม่มีอีกเป็นครั้งที่สอง อย่าพูดเรื่องอื่นนอกจากจูบอีก โอเคไหม?”
เข้าใจชัดเจนเลยว่าออสตินเล่นแง่ไม่ให้เด็กหนุ่มกล้ายั่วยวนหรือต่อรองใดๆ อีก แต่...กานต์มาถึงขั้นนี้แล้วนะ เขาไม่หยุดหรอก
เด็กหนุ่มขบคิด... ถึงตอนนี้จะไม่ได้ถูกสัมผัส แต่ถ้าเขาตอบรับข้อเสนอ ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะมีโอกาสได้ทำอะไรมากกว่านี้ ดังนั้นครั้งนี้เขาจะยอมอับอายเพื่อโอกาสดีๆ ในอนาคตก็ได้!
“ผมจะทำครับ!”
จู่ๆ ก็ตอบเสียงดัง ออสตินแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นอีกฝ่ายตอบรับง่ายๆ แต่เขาก็ไม่ถามเหตุผลหรอก ยิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งรู้ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าเขานั้นดื้อด้านแค่ไหน แม้ว่าภายนอกจะดูเป็นคนเงียบๆ เรียบร้อยก็เถอะ
“ก็เอาสิ ตามสบายเลย ฉันจะดู”
ออสตินว่า เอนหลังพิงด้วยท่าทางสบายๆ แขนข้างหนึ่งวางเรียบไปกับพนักโซฟา พลันยกขึ้นเท้าศีรษะ ทอดสายตามองเด็กหนุ่มที่นั่งเงอะๆ งะๆ อยู่บนตักเขา
กานต์ทำอะไรไม่ถูกไปครู่ พอควบคุมสติได้ก็ถอยลงมายืนบนพื้น ถอดกางเกงออกจนเหลือแต่ช่วงล่างเปลือยเปล่า ส่วนงดงามของบุรุษเพศที่โผล่วับแวบมาให้เห็นใต้ชายเสื้อทำเอาออสตินเลิกคิ้วน้อยๆ มุมปากยกยิ้มอย่างพึงใจระคนขบขันกับการกระทำของเด็กหนุ่ม
กานต์หนีได้แท้ๆ บ่ายเบี่ยงไม่ทำก็ได้...แต่เขาไม่หนี เลือกที่จะเผชิญหน้า พอถอดกางเกงเสร็จก็ขึ้นมานั่งคร่อมบนตักของออสตินอีกครั้งด้วยต่างหาก จากนั้นก็ดูกระอักกระอ่วนพร้อมกับใบหน้าที่แดงจัดขึ้นมา
“ผะ...ผม...”
“ทำไปเถอะ ฉันจะไม่วิจารณ์อะไรทั้งนั้น ตามสบาย”
กานต์ไม่ได้จะพูดเรื่องนี้สักหน่อย! เขาจะบอกว่าอย่าจ้องมากต่างหาก!
แต่เหมือนจะไร้ประโยชน์ เพราะตอนนี้ออสตินจ้องเขาเขม็งไปแล้ว จ้องทั้งใบหน้า จ้องทั้ง...ส่วนล่าง
ความเขินอายพลุ่งพล่านราวกับอณูเล็กๆ ที่กระจายไปทั่วร่างกาย อันที่จริงแล้วการถูกจ้องแบบนี้ อารมณ์ที่มีอยู่มันควรหดหาย ทว่า...สำหรับกานต์กลับไม่ใช่
ยิ่งถูกสายตาคู่นั้นจับจ้อง...ความร้อนก็แล่นพล่านไปทั่วร่างกายไปมากกว่าเดิม
กานต์สูดหายใจเข้าปอดลึก มือเอื้อมไปกอบกุมส่วนที่แข็งขืนพลันค่อยๆ รูดรั้งแผ่วเบา ขณะเดียวกันก็เหลือบไปสบตาของออสตินด้วย
สายตานั้น...ทำให้เขารู้สึกราวกับถูกตะโบมลูบไล้ไปทั่วทุกสัดส่วนของร่างกาย
เป็นสัมผัสที่ช่างหยาบโลนและจาบจ้วง... ขณะเดียวกันก็ร้อนแรงเสียจนเขาไม่สามารถทนรับมันไว้ได้ไหว
เป็นเพียงการมองนิ่งๆ แท้ๆ หากแต่ทำให้กานต์สั่นสะท้านได้เสียจนเผลอส่งเสียงครางกระเส่าออกมา
สายตาของออสตินช่างอันตราย...
ไม่...ไม่ใช่ ผู้ชายคนนี้อันตรายเกินไป... อันตรายต่อหัวใจและความรู้สึกของเขาเป็นอย่างมาก...
แวบหนึ่งก็รู้สึกเหมือนมีผีเสื้อนับพันตัวบินว่อนในช่องท้อง กานต์รับรู้ได้ทันทีว่าอีกไม่กี่อึดใจ เขาจะต้องถูกเทวทูตกระชากขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์แน่ ดังนั้นจึงรีบหยุดมือ มองหน้าออสตินพลางว่าอึกๆ อักๆ
“แด๊ดดี้ครับ คือ...ผม...”
“ไม่เป็นไร ทำให้จบ”
ได้รับอนุญาต กานต์ก็ทำท่าจะทิ้งตัวลงมานั่งข้างๆ
“งั้นเดี๋ยวผมนั่ง...
“ทำบนนี้แหละ”
ไม่ทันไรก็ถูกรั้งเอวเอาไว้ กานต์หน้าแดงเรื่อขึ้นมากว่าเดิม
“แต่เดี๋ยวมันจะเปื้อน...”
“ฉันบอกว่าไม่เป็นไร”
ประโยคเรียบง่ายแท้ๆ แต่กลับทำให้กานต์ใจเต้นระส่ำราวกับไปพบเจอเรื่องตื่นเต้น และยิ่งทวีมากขึ้นไปอีกเมื่อออสตินไม่อยู่เฉย โน้มหน้าเข้ามากระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูเล็ก
“ทำให้จบสิกานต์...”
จากนั้นก็อ้าปากขบเม้มเบาๆ
เท่านั้นกานต์ก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป ความอัดแน่นที่คั่งค้างอยู่ภายในถูกปลดปล่อยออกมาเป็นสาย ร่างกายกระตุกรุนแรงอยู่ไม่กี่ครั้ง เด็กหนุ่มก็ทิ้งตัวลงซบหน้าเข้ากับซอกคอแกร่งของคนตรงหน้า หอบหายใจน้อยๆ ก่อนจะบ่นพึมพำออกมา
“ให้ตายสิครับ เพราะแด๊ดดี้เลย เพราะแด๊ดคนเดียว”
ออสตินยกมือขึ้นลูบท้ายทอยของคนบนตัวเบาๆ พลางหัวเราะขบขัน
“ฉันทำไม”
“แด๊ดดี้เม้มปลายหูผม”
“แล้วมันทำไม”
“มะ...มันก็...”
“มันทำไมล่ะ”
“มัน...” กานต์เว้นจังหวะไปเล็กน้อย ก่อนจะซุกหน้าลงบนซอกคอนั้นมากกว่าเดิม ว่าเสียงอู้อี้ “มันก็ทำให้ผมเสร็จน่ะสิครับ โธ่เอ๊ย ผมไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ”
ออสตินถึงกับหัวเราะในลำคอ พอใจอยู่ไม่น้อยที่เด็กหนุ่มถึงฝั่งฝันด้วยเขา...
...เขาการขบเม้มเบาๆ ที่ใบหูเท่านั้น
“แต่ก็ดีไม่ใช่เหรอ”
ออสตินยังจะมีหน้าใช้มือข้างที่ว่างปาดเอาคราบของเหลวที่ซึมผ่านเนื้อผ้าบริเวณหน้าท้องของตนเองขึ้นมาอยู่ในระดับสายตา จังหวะเดียวกับที่กานต์ผละใบหน้าออกมาเห็นพอดี เท่านั้นพวงแก้มนวลก็แดงเรื่อเสียยิ่งกว่ามะเขือเทศ
“แด๊ดดี้!”
รีบปัดมือของออสตินให้ออกห่างทันใด
ให้ตายเถอะพระเจ้า! นี่เขาทำอะไรลงไปเนี่ย!
ออสตินไม่ถือสา กลับหัวเราะให้ท่าทางนั้น ก่อนที่จะพยุงไหล่เด็กหนุ่มทั้งสองข้างไว้ ถามด้วยน้ำเสียงที่ค่อนไปทางเอ็นดู
“อยากอาบน้ำไหม”
กานต์พยักหน้าหงึกหงึก... อยากสิ ตอนนี้เขาอยากจะไปให้พ้นหน้าออสตินจะแย่ อายจนไม่รู้จะสู้หน้าอย่างไรแล้ว!
ออสตินปล่อยมือออกจากไหล่ กานต์ก็รีบทิ้งตัวลงไปยืนบนพื้น คว้าเอากางเกงของตัวเองที่ถอดทิ้งไว้มาถือแล้วรีบก้าวเร็วๆ ขึ้นไปชั้นบน
ชายหนุ่มมองตาม หัวเราะในลำคอออกมาอีกเล็กน้อยก่อนจะนึกสนุกอะไรขึ้นมาบางอย่าง
อยากได้มากกว่าจูบอย่างนั้นเหรอ?
ถ้าอย่างนั้น... เขาจะสนองอีกสักหน่อยก็แล้วกัน
คิดได้ดังนั้นก็ก้าวขึ้นชั้นบนตามมา กานต์ที่กำลังจะพุ่งไปเข้าห้องน้ำเห็นอีกฝ่ายก็ชะงักขาทันควัน ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย
“มะ...มีอะไรครับ”
“อยากอาบน้ำด้วยกันไหม”
คนถูกถามเบิกตาโตทันใด
เมื่อกี้เขาได้ยินว่า Take a bath ไม่ใช่ Take a shower…
“แด๊ดดี้หมายถึง...?”
“อยากแช่น้ำด้วยกันไหม ฉันหมายถึงในอ่าง”
คราวนี้เข้าใจชัดเจนเลยว่าก่อนหน้านั้นได้ยินว่าอะไร พ่อเลี้ยงของเขาคงตั้งใจจะแกล้งให้เขาอับอายมากกว่าเดิมสินะ
“งั้นก็หมายความว่าแด๊ดดี้กับผมจะแก้ผ้าแช่น้ำด้วยกัน?”
ถามไปตรงๆ อย่างนั้น ออสตินก็ตอบตรงๆ
“ใช่”
“แบบว่าไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น?”
“อืม คงไม่มีใครใส่เสื้อผ้าอาบน้ำหรอกนะ”
นั่นไง ตั้งใจจะแกล้งเขาให้เขินอายกว่าเดิมจริงๆ ด้วย
แต่ว่า...
“เอาสิครับ”
...กานต์ไม่ปฏิเสธหรอก โอกาสดีงามอย่างนี้มาถึงแล้ว เรื่องอะไรจะปล่อยให้ผ่านไปกันล่ะ เขาอยากจะเห็นร่างกายของออสตินแบบไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นมานานแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปรองน้ำไว้ เดี๋ยวฉันตามไป”
กานต์ยิ้มกว้าง วิ่งพรวดเข้าไปจัดการเปิดน้ำอุ่นใส่อ่างอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ออสตินมองตามหลังพลางอมยิ้ม
ตั้งใจจะแกล้งให้เด็กหนุ่มเขินอายกว่าเดิมเหรอ?
ไม่หรอก... ไม่ใช่...
ขนาดกานต์ยังต้องการมากกว่าจูบเลย แล้วทำไมออสตินจะไม่ต้องการมากกว่าจูบบ้างเหมือนกันล่ะ
ที่เขาเห็นเด็กหนุ่มทำอะไรต่อมิอะไรตรงหน้าเขาเมื่อกี้นี้มันทำให้เขาอยากจะเห็นสีหน้าที่หลบซ่อนไว้ของกานต์มากกว่านี้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สีหน้ายามที่...
คิดแล้วก็ต้องยกมือขึ้นปิดปากเพื่อระงับความคิดตนเอง...
พระเจ้า! เขาเริ่มกลายเป็นตาลุงหื่นกามไปแล้วสินะ
ถ้าโดนจับข้อหาพรากผู้เยาว์หรือทำอนาจารเด็กในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เขาจะไม่แปลกใจตัวเองเลย
เด็กมันยั่วเป็นอย่างนี้นี่เอง...
-------------------------------------
รู้ว่ารอกัน มาต่อให้เลยก็ได้ค่ะ ฮา
แด๊ดนี่แค่มองเฉยๆ ก็ทำนุ้งกานต์ใจแตกได้ ร้ายมาก 555
ตอนใหม่เจอกันอีกทีวันไหนยังไม่รู้นะคะ รอก่อนเน้อ