[MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)  (อ่าน 63370 ครั้ง)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ไปไหนอ่ะน้องภัทร

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เอกจะทำอะไรภัทรหรือเปล่านะ  :ruready

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
อยากอ่านต่อมากๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER  9 แพ้ท้อง



            “เดินระวังหน่อยนะภัทรกิ่งไม้มันเยอะ” เอกว่าพลางค่อยๆหยิบกิ่งไม้ข้างหน้าออก ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ที่บริเวณข้างๆกำแพงบ้านที่มีพุ่มไม้หนาปกคลุมอยู่

            “มันจะมีทางออกไปได้ยังไงอ่ะเอก กำแพงออกจะสูงขนาดนี้” ร่างบางมองไปที่กำแพงสูงเกือบสองเท่าตัวเขา  ดูแล้วไม่น่าจะมีทางออก

            “มีสิเชื่อเรา ข้างบนมันสูงเราก็ลงไปด้านล่างสิ ต้องลำบากนิดนึงนะ” เอกบอกก่อนจะนำหน้ามุดเข้าไปในพุ่มไม้

            ร่างบางตามหลังเอกไปติดๆ เมื่อมุดเข้าไปในพุ่มไม้หนาข้างกำแพง  ก็พบว่าในนั้นมีหลุมขนาดใหญ่ที่คนจะสามารถมุดผ่านออกไปได้  เขาเดาว่านั่นคงเป็นทางที่จะทะลุออกไปด้านนอกแน่ๆ

            “ยื่นมือมาเดี๋ยวเราช่วย” เอกว่าพลางยื่นมือมารอหลังจากออกไปถึงปลายทางได้แล้ว

            “อื้ม ขอบใจ” ร่างบางยื่นมือไปจับ ก่อนที่เอกจะดึงตัวให้ลุกขึ้นยืนได้

            นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ร่างบางได้มีโอกาสออกมานอกกรง โดยไม่มีคนตัวโตคอยควบคุม  และนี่ก็เป็นครั้งที่เขาจะได้สัมผัสกับน้ำทะเลเป็นครั้งแรก  หลังจากมาอยู่ที่นี่เกือบสองเดือนแล้ว

            “เฮ้ย! สวยมาก” ร่างบางเอ่ยออกมาเมื่อเห็นท้องฟ้ากว้างเต็มไปด้วยดวงดาวนับร้อยนับพันดวง ที่กำลังส่องสว่างอยู่เต็มท้องฟ้า และที่สำคัญเขาได้ซึมซับกับบรรยากาศของท้องทะเลอย่างใกล้ๆ ข้างๆกันนั้นก็มีโขดหินขนาดใหญ่ มันเป็นบรรยากาศที่สุดแสนประทับใจมากที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา

            “ใช่มันสวยมาก ช่วงกลางวันเราสามารถมาเล่นน้ำทะเลได้นะ โชคดีที่ตรงนี้มันเป็นหาดทรายไม่เหมือนตรงข้างๆที่มีแต่โขดหิน” เอกบอก

            “แล้วเอกเจอที่นี่ได้ไงอ่ะ”

            “ลืมไปแล้วเหรอว่าเราเป็นคนทำสวน ตอนที่เรามาตัดแต่งกิ่งไม้เราบังเอิญตกเข้าไปที่โพรงนั้น  พอเห็นว่ามันเป็นโพรงก็เลยลองเข้าไปดู  ลอดไปเรื่อยๆออกมาก็เจออย่างที่เราเห็นกันตอนนี้ไงล่ะ” เอกอธิบาย

            “เราอยากสัมผัสน้ำทะเล” ร่างบางชี้ไปที่ริมทะเลที่มีคลื่นซัดมาเป็นระยะๆ

            “ไปสิ...ป่ะ”

            รองเท้าแตะของทั้งสองถูกถอดวางไว้บนพื้นทรายก่อนจะเดินลงไปสัมผัสน้ำทะเล  ร่างบางรู้สึกผ่อนคลายมากเหลือเกินที่ได้ใช้เท้าเปล่าๆย่ำบนพื้นทรายในน้ำทะเลอย่างนี้ อย่างน้อยตอนนี้เขาก็พอจะมีสถานที่ให้ได้พักผ่อนหย่อนใจบ้าง

            “ภัทรเราถามอะไรหน่อยสิ” เอกว่าขณะทั้งสองกำลังนั่งอยู่ริมหาด

            “ได้...ถามมาสิ” ร่างบางหันไปยิ้มให้

            “ที่บ้านรู้ไหมว่านายอยู่ที่นี่” เอกมองหน้า

            “จริงๆก็ไม่รู้หรอก เราเองก็ไม่อยากให้รู้ด้วย” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับถอนหายใจเสียงดัง

            “อ้าว! ทำไมล่ะนายไม่อยากไปจากที่นี่เหรอ เราพูดตรงๆเราสงสารภัทร ไม่งั้นเราไม่พามาที่นี่หรอกเผื่อภัทรอยากจะหนีไป” เอกเอ่ยด้วยสีหน้าที่มีแต่ความห่วงใย

            “อยากมันก็อยากอยู่ล่ะ แต่ถ้าเราไปแล้วจะทำให้ครอบครัวเดือดร้อนเราก็ไม่อยากไปหรอก เราจะอยู่ที่นี่จนกว่าเค้าจะพอใจหรือไม่ก็ตายกันไปข้างนึงเลย”

            “เฮ้ย! เรื่องมันหนักหนาขนาดนี้เลยเหรอ”

            “ก็หนักพอสมควร แต่เราทำใจแล้วล่ะว่าจะอยู่ที่นี่ต่อไป ถึงแม้ว่าจะเจ็บสักแค่ไหนเราก็จะอยู่ อย่างน้อยๆก็มีเอก ป้าภาและหมูแดงที่คอยเป็นเพื่อนคุย ไม่ใจร้ายเหมือนายคนนั้น” ร่างบางยิ้มให้

            “แต่ถ้าภัทรอยากหนีเราช่วยได้นะ” เอกทำหน้าจริงจัง

            “ไม่เป็นไรหรอกเอก เราจะไม่ทำให้เอกต้องเดือดร้อนเพราะเราแน่ นายก็รู้ว่านายนั่นร้ายกาจมากแค่ไหน  ถ้าเค้ารู้ว่าเอกช่วยเราดีไม่มีเอกอาจจะโดนเค้าฆ่าตายก็ได้นะ”

            “ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง” เอกแสดงสีหน้าไม่ได้ตื่นกลัวเลยแม้แต่น้อย

            “ไม่รู้ล่ะ เอาเป็นว่าเราจะไม่หนี  แต่เราจะออกมาที่นี่บ้างเวลาเครียดๆ  เอกคงจะไม่ว่านะ” ร่างบางเอ่ยถาม

            “เฮ๊ย! เราจะไปว่าทำไมที่นี่ไม่ใช่ของเราซะหน่อย ภัทรจะมาตอนไหนก็มาได้เลย เพียงแต่อย่าให้ใครรู้ใครเห็นก็แล้วกัน” เขาแนะนำ

            “ก็เอกเป็นคนพาเรามา เอกก็ต้องเป็นเจ้าของที่นี่  เราต้องขออนุญาตก่อนน่ะสิ”

            “บ้าแล้ว...พูดเหมือนในหนังเลยเนาะ เอาเป็นว่าอย่าให้ใครเห็นก็แล้วกัน”

            “โอเคเราสัญญาว่าจะระวังตัวไม่ให้ใครเห็น”

            “เราว่ากลับกันก่อนดีไหม...เดี๋ยวมีคนสงสัยว่าเราหายไปไหนกันซะนานเชียว” เอกว่า

            “ป่ะถ้างั้นกลับกัน แล้ววันหลังค่อยมาใหม่เนาะ” ร่างบางยิ้มให้ก่อนะจะเดินกลับเข้ามาภายในรั้วบ้าน

           

             ตอนนี้ทั้งสองคนก็เดินมาถึงหอพักพอดีและบังเอิญเจอกับขวัญเข้า

            “นี่พวกแกไปทำอะไรกันมาค่ำๆมืดๆ หรือว่า...” หล่อนว่าแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย

            “อะไรขวัญ เอ็งอย่าคิดอะไรบ้าๆนะเว้ย” เอกบอก

            “แล้วพวกแกไปไหนมาทำไมไม่บอกล่ะ ทำอย่างนี้มีพิรุธนะบอกมา!” หล่อนชี้หน้าทั้งสองคนอย่างจับผิด

            “พวกเราจะไปไหนมาไหนจำเป็นต้องรายงานเธอด้วยเหรอขวัญ ฉันรู้นะว่าเธอไม่ได้เกิดมาเป็นผู้ลากมากดี แต่อย่างน้อยๆก็หัดมีมารยาทซะบ้าง ไม่ใช่อยากรู้เรื่องของชาวบ้านเค้าไปทั่ว ไปเถอะเอกไร้สาระ” ร่างบางว่าให้ก่อนจะเดินแยกย้ายเข้าห้อง

            “ไปล่ะอีคนไม่มีมารยาท” เอกล้อก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในห้อง

            “กรี๊ดๆๆๆๆ ไอ้พวกบ้า พวกแกกล้าว่าฉันอย่างนี้ได้ยังไง ฉันจะเอาคืนพวกแกแน่” หล่อนตะโกนลั่นก่อนจะถลึงตามองตามหลังร่างบางไป “ฉันจะบอกเรื่องนี้ให้คุณเคลวินรู้ แกจะต้องโดนคุณเคลวินเฉดหัวทิ้งแน่นอนไอ้นภัทร” หล่อนว่าแล้วก็เดินกลับเข้าห้องพักไป

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            “ฮัลโล แด๊ด ยูสบายดีไหม”

            เคลวินคุยสายกับพ่อและแม่บุญธรรมชาวอเมริกันตั้งแต่เช้า  เขาตั้งใจจะโทรฯไปสอบถามความคืบหน้าเรื่องการซื้อหุ้นที่เมืองไทย  ตอนนี้พ่อกับแม่ของเขาได้กลับอเมริกาไปแล้ว ครั้งหน้าถึงจะได้แวะมาหาเพราะต้องรีบกลับไปประชุมกับหุ้นส่วนใหญ่ที่โน่นก่อน

             “แด๊ดสบายดี แล้วยูล่ะ”

            “ไอสบายดี แล้วมัมล่ะอยู่ตรงนั้นไหม” เขาถามหาผู้เป็นแม่

            “ไอสบายดีลูกรัก” หญิงสูงวัยเอ่ยแทรกสายเข้ามา

            “ไอคิดถึงยูทั้งสองคนมากๆ”

            “พวกเราก็คิดถึงยู  ไอต้องขอโทษยูด้วยที่ไปกรุงเทพฯเมื่ออาทิตย์ก่อน ไม่ได้แวะไปหาเพราะติดประชุมด่วนที่นี่ เอาไว้คราวหน้ามัมกับแด๊ดจะไปพักผ่อนที่นั่นสักอาทิตย์”

            “โอเครีบๆมานะครับ ว่าแต่เรื่องซื้อหุ้นที่กรุงเทพฯแด๊ดจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ” นี่คือประเด็นหลักที่เขาอยากรู้

            “ทุกอย่างเรียบร้อยอย่างที่ยูต้องการ ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับยูแล้วว่าจะจัดการต่อยังไง”

            “ขอบคุณครับแด๊ด เดี๋ยวเรื่องนี้ผมขอจัดการต่อเอง แด๊ดช่วยส่งรายชื่อผู้ร่วมหุ้นทั้งหมดมาให้ผมหน่อยนะครับ” เขาบอก

            “โอเคเดี๋ยวไอจะส่งไปให้ ไอต้องวางสายก่อนนะจะเข้าประชุมแล้ว”

            “ครับแด๊ดบาย”

            “บาย”

            หลังจากวางสายแล้วเคลวินก็แสยะยิ้มออกมาทันที “กูจะทำให้พวกมึงไม่เหลืออะไรติดตัวเลยแม้แต่อย่างเดียว”

           

            หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นั่งรอเมญาอยู่ที่ปลายเตียง ส่วนเจ้าหล่อนกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ  เขาเบื่อผู้หญิงก็ตรงนี้ล่ะทำอะไรก็ชักช้า

            “เมญ่าผมลงไปรอข้างล่างนะ” เขาบอกแค่นั้นก่อนจะเดินลงไปทันทีโดยไม่รอให้หญิงสาวตอบกลับ

            เคลวินเดินลงมาข้างล่างก็เห็นขวัญยืนรออยู่แล้ว หล่อนมองหน้าเหมือนมีเรื่องจะพูดด้วยเลยเดินเข้าไปหา

            “มีอะไรรึเปล่าขวัญ” เขาถาม

            “คุณเคลวินคะหนูมีเรื่องจะบอก”

            “เรื่องสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอถึงได้มายืนรออย่างนี้” เขาทำหน้าสงสัย

            “เรื่องนภัทรค่ะ”

            “นภัทร...นภัทรไปทำอะไรมางั้นเหรอ” เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัยหรือว่าร่างบางไปสร้างเรื่องอะไรไว้

            “เมื่อคืนนี้หนูเห็นภัทรเดินออกมากับเอกจากสวนข้างบ้านค่ะ ไม่รู้ว่าไปทำอะไรกัน พอสองคนนั้นเห็นหนูก็ทำท่าตกใจแล้วรีบกลับเข้าห้องเลยค่ะ หนูเลยมาบอกคุณเคลวินเอาไว้เผื่อจะโดนนายนั่นหลอกเอา” หล่อนพูดอย่างไหลลื่นไม่มีสะดุดเลยแม้แต่น้อย

            เคลวินได้ยินก็หน้าเปลี่ยนสีทันที นี่นภัทรกล้าสวมเขาให้เขางั้นเหรอ แถมยังเป็นคนสวนอีกด้วย

            “ไปตามมันสองคนมาที่นี่เดี๋ยวนี้” เขาสั่งเสียงดังก่อนที่ขวัญจะรีบเดินไปทันที

            “พวกมึงเสร็จแน่กูล่ะสะใจโว้ย!” ขวัญเดินไปพูดไปด้วยอย่างสะใจ

            เมื่อเดินเข้าไปในครัวก็บังเอิญเจอทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็นเอก นภัทร และป้าภา

            “สุมหัวกันอยู่ที่นี่พอดี” หล่อนกอดอกแล้วยิ้มเยาะให้

            “พูดให้ดีๆนะโว้ยอีขวัญที่นี่มีทั้งหัวหงอกหัวดำ  มึงจะพูดจะจาอะไรก็ระวังปากหน่อย” ป้าภาชี้หน้าด่า

            “ฉันไม่ได้หมายถึงป้าซะหน่อย ฉันบอกพวกมันสองคนนั่นล่ะ คุณเคลวินให้มาตามไปพบตอนนี้เลย” หล่อนว่า

            “คุณเคลวินมีเรื่องอะไรจะคุยกับข้าวะ ร้อยวันพันปีไม่เห็นท่านจะเรียกไปหาสักกะที” เอกว่าก่อนจะนึกอะไรออก “นี่อย่าบอกนะว่าเอ็งเอาเรื่องเมื่อคืนไปบอกท่าน” เอกชี้หน้า

            “ไม่รู้ล่ะไปแก้ตัวกับคุณเคลวินเอาเองละกัน ฉันไปละ รีบตามมาเร็วๆคุณเคลวินรออยู่” หล่อนว่าก่อนจะสะบัดตูดเดินออกไปจากครัวทันที

            “เราทำให้เอกเดือดร้อนไปด้วยเลยเนี่ย” ร่างบางพูดอย่างรู้สึกผิดที่ทำให้คนดีๆอย่างเอกต้องโดนหางเลขไปด้วย

            “พวกเอ็งมีอะไรให้ป้าช่วยไหมล่ะ” ป้าภาถาม

            ทั้งสองมองหน้ากันแล้วคุยกับป้าภาสักพักก่อนจะเดินไปหาเคลวินที่ห้องโถงใหญ่

            “คุณเคลวินมีอะไรหรือเปล่าครับ” เอกถามทันทีที่เดินมาถึง

            “เมื่อคืนพวกเอ็งไปไหนกันมา” เขาถามเอกแต่สายตากลับจ้องมองไปที่ร่างบาง

            “มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆนะครับ” เอกปฏิเสธ

            “มึงตอบไม่ตรงคำถาม กูถามว่าพวกมึงไปไหนกันมา” เขาเริ่มขึ้นเสียง

            “มันเป็นความผิดของผมเอง!” ร่างบางเอ่ยแทรกขึ้นมา

            “มึงบอกมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น พวกมึงไปทำอะไรกันที่สวนข้างบ้าน” เขาว่าพร้อมกับยื่นมือไปจับที่ต้นแขนของร่างบางแล้วบีบไว้แน่น

            “ผมเป็นคนชวนเอกไปเดินเล่นเฉยๆ แล้วพวกเราก็ไม่ได้ทำอะไรเลวๆอย่างที่คุณคิดแน่นอน” ร่างบางบอก

            “จริงๆนะครับคุณเคลวิน ผมกับภัทรไม่ได้มีอะไรกันเกินเลยจริงๆ” เอกยืนยันอีกเสียง

            “แล้วทำไมต้องทำลับๆล่อๆ แล้วตอนที่พวกแกเห็นฉันทำไมต้องตกใจด้วย” ขวัญอ้าง

            คนตัวโตมองหน้าร่างบางเพื่อหาคำอธิบาย

            “ก็คนมันตกใจจะให้ทำหน้ายังไงล่ะ” ร่างบางหันหน้าไปมองขวัญ

            ระหว่างนั้นเมญ่าแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินลงมาเจอเหตุการณ์เข้าพอดี

            “เกิดอะไรขึ้นคะเคลวิน” หล่อนมองหน้าชายหนุ่ม

            “ไม่มีอะไรครับแค่กำลังจับผิดคน” เขาว่า

            นภัทรได้กลิ่นน้ำหอมจากเมญ่าก็รู้สึกพะอืดพะอมทันที เขาต้องเอามือปิดที่ปากเอาไว้  แต่ก็ยังไปไหนไม่ได้เพราะต้องเคลียร์เรื่องนี้กับคนตัวสูงให้เสร็จเสียก่อน

            “ภัทรเป็นอะไรไหม” เอกถามด้วยความเป็นห่วง  แต่สายตาของคนตัวโตกลับจ้องมองด้วยสายตาที่แข็งกร้าวแสดงถึงความไม่พอใจออกมา

            “จบได้รึยังจะได้รีบไป” ร่างบางเอ่ยเพราะตอนนี้เริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว

            “นี่แกทำไมพูดกับเจ้านายไม่มีหางเสียงอย่างนี้” หล่อนตวาดใส่ร่างบางทันที

            “คุณอยู่ห่างๆผมหน่อยมันเหม็น” ร่างบางบอก เจ้าหล่อนได้ยินก็ปรี๊ดแตกขึ้นมาทันที

            “กรี๊ดๆๆ ไอ้บ้าแกว่าฉันเหม็นเหรอ รู้ไหมว่าน้ำหมอที่ฉันใช้สั่งตรงมาจากฝรั่งเศสเชียวนะ เคลวินต้องจัดการมันให้เมญ่านะคะ ไม่งั้นเมญ่าไม่ยอมจริงๆด้วย”

            ขวัญเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มเยาะอย่างสะใจที่นภัทรโดนข้อหาตั้งสองคดี เรื่องกับเอกยังไม่จบแล้วยังมีเรื่องกับเมญ่าอีก หล่อนเห็นแล้วก็สะใจมากเหลือเกิน

            “เมญ่าเงียบก่อนเดี๋ยวผมจัดการให้” เขาบอกกับหญิงสาวที่กำลังยืนควงแขนอยู่ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับร่างบางทันที “ขอโทษคุณเมญ่าเดี๋ยวนี้” เขาสั่ง

            “ขอโทษครับ” เขาเอ่ยขอโทษทันทีเพราะจริงๆแล้วไม่ได้มีเจตนาที่จะว่าหล่อนเช่นนั้น เพียงแต่ในตอนนั้นเขารู้สึกเหม็นจริงๆแล้วก็พลั้งปากออกมา

            “ทำไมไม่ไหว้ฉันด้วยล่ะ” หล่อนว่า ร่างบางเห็นอย่างนั้นก็ยอมยกมือขึ้นไหว้ทันทีเพราะเขาไม่อยากมีเรื่อง เนื่องจากอยากออกไปจากตรงนี้แล้ว

            “คุณต้องการอะไรอีกไหมครับ” ร่างบางเอ่ยถาม เมญ่าเองก็ปรายตามองแล้วเบะปากใส่

            “คุณเคลวินคะเรื่องของเอกกับนภัทร ป้าขอยืนยันว่ามันไม่ได้มีอะไรจริงๆค่ะ เพราะตอนนั้นป้าก็อยู่ด้วยแต่ป้าเดินกลับมาก่อนอีขวัญมันก็เลยเข้าใจผิดเข้า” ป้าภาที่อยู่ในเหตุการณ์ตลอดเอ่ยขึ้นมา

            “ไม่จริง ป้าโกหกป้าไม่ได้อยู่กับพวกมัน” ขวัญโวยวาย

            “มึงนั่นล่ะบ้าไปเองอีขวัญสองคนนี้เค้าไม่ทำต่ำๆอย่างที่มึงคิดหรอก” ป้าภาว่าให้

            เมื่อได้ยินคำยืนยันจากปากป้าภาเคลวินเองก็เริ่มคล้อยตาม นั่นเพราะที่นี่เขาเกรงใจป้าภาที่สุดแล้ว

            “ขวัญ” เขามองหน้าสาวใช้ด้วยสายตาที่ดุดัน

            “ค่ะคุณเคลวิน” หล่อนก้มหน้าเพราะตอนนี้รู้แล้วว่าเคลวินน่าจะไม่พอใจหล่อนเอามากๆ

            “ต่อไปนี้ถ้าไม่รู้อะไรจริงห้ามมาบอกฉันเด็ดขาด เสียเวลา” เขาสั่ง

            “ค่ะ” หล่อนตอบเสียงอ่อย

            “แยกย้ายกันไปได้แล้ว ทำให้อารมณ์เสียแต่เช้าเลย” เคลวินตะโกนเสียงดังลั่นเมื่อรู้ความจริง ถึงแม้ป้าภาจะยืนยันด้วยตัวเองแต่ใช่ว่าเขาจะไว้ใจร่างบาง  ยังไงซะเขาก็ยังหวงอยู่ดี

            “อุ๊ก..อ้วกกก” ร่างบางกำลังจะเดินกลับไป  แต่ทำท่าจะอาเจียนออกมาซะอย่างนั้นจนป้าภาที่ยืนอยู่ข้างๆรีบพยุงเอาไว้

            “ภัทรเอ็งเป็นอะไรกันแน่เนี่ย” ป้าภาถามอย่างเป็นห่วง ก่อนที่ร่างบางจะส่ายมือปฏิเสธ ส่วนมืออีกข้างก็ปิดที่ปากเอาไว้ แล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำหลังครัวทันที

            เคลวินมองตามหลังร่างบางอย่างเป็นห่วง จนเมญ่าที่ยืนอยู่ข้างๆสังเกตเห็นแล้วเขย่าแขนชายหนุ่มทันที

            “เคลวินคะ ไปกันเถอะเดี๋ยวเมญ่าขึ้นเครื่องไม่ทันกันพอดี” หล่อนบอก วันนี้เมญ่าจะเดินทางกลับกรุงเทพฯหลังจากมาอยู่ที่นี่ได้สามวันแล้ว  เพื่อมาร่วมประชุมกับบริษัทที่หล่อนนั่งแท่นเป็นผู้บริหารอยู่

            “ครับ...ถ้างั้นก็ออกไปกันเลย” เขาว่าแต่ภายในใจยังคงเป็นห่วงร่างบางอยู่ดี

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



////////////////////////
ตอนนี้น้องภัทรกำลังจะเข้าสู่โหมดท้องอ่อนๆแล้วน้าาาา

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ท้องเเล้วววววว รีบมาต่อน้าาาาาาอยากอ่านต่อเเล้ววว

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เคลวินสักวันแกจะรู้สึก หึๆ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
รอตอนต่อไปจ้า :L2:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกมากๆ
สงสารภัทรอ่ะที่ต้องมารับกรรมแทนพ่อ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แพ้ท้องเสียแล้ว หวังว่าชะนีขวัญคงไม่ทำอะไรให้ลูกในท้องภัทรเป็นอันตรายนะ  :mew4:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ท้องแล้วๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ท้องแล้วก็ดีใจนะ แต่พ่อเด็กยังเลวอยู่อ่ะ สงสารน้อง

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ท้องแล้ว แต่ก็กลัวเสียเหลือเกินเพราะอยู่ท่ามกลางเสือ สิงห์ กระทิง แรด แบบนี้ จะรอดจากการแท้งหรือเปล่า

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ท้องแล้ว กลิ่นมาม่าก็มา  :ling3:

ออฟไลน์ shoky_9

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER  10  ความจริงที่ต้องรับให้ได้



          “ภัทรเอ็งไหวไหมวะ” ป้าภาเอ่ยถามพร้อมกับใช้มือลูบที่แผ่นหลังของร่างบางไปด้วย

            “อ้วกกก!!!”

            “หวะ...ไหวครับป้า” ร่างบางเอ่ยหลังจากขย้อนของเหลวในท้องออกมาจนหมด แล้วก็บ้วนปากจนสะอาด

            “ป้าว่าเอ็งไปหาหมอดีไหมวะ เดี๋ยวป้าจะไปบอกคุณเคลวินให้”

            “ไม่เป็นไรป้าผมโอเค” ร่างบางยิ้มให้แต่สีหน้ากลับแดงก่ำ มีน้ำตาซึมที่หางตาเล็กน้อย  จากการขย้อนเจ้าของเหลวในท้องออกมาเมื่อสักครู่

            “ถ้างั้นเอ็งไปพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวจะทรุดหนักกว่านี้” ป้าภาบอก

            “แต่ผมไหวจริงๆนะครับป้า” ร่างบางยังยืนยัน

            “อย่ามาทำเป็นเก่ง ไปพักก่อนเถอะหายดีแล้วค่อยมาช่วยป้า”

            “ขอบคุณครับป้า ถ้างั้นผมขอตัวกลับห้องพักก่อนนะครับ”

            “ถ้ายังไม่หายดีก็อย่าฝืนมาล่ะ”

            “ครับ เอ้อป้า แล้วหมูแดงล่ะ” เขาถามเมื่อไม่เห็นเจ้าตัวน้อย

            “แม่มันมารับตั้งแต่เช้ามืดแล้ว เห็นว่าจะไปเที่ยวกัน” ป้าภาบอก

            “อ๋อ” ร่างบางพยักหน้าเมื่อได้ยิน ก่อนจะหันไปหาป้าภาอีกครั้ง “วันนี้ขอบคุณป้ามากนะครับ ถ้าป้าไม่มาช่วยเรื่องก็คงไม่จบ”

            “ไม่เป็นไรแต่คราวหลังจะทำอะไรก็ระวังอีขวัญมันด้วยล่ะ อีนี่มันร้ายกาจนัก” ป้าภาบอก

            “ครับป้า ผมไปล่ะ”

            พูดจบร่างบางก็เดินตรงไปยังห้องพักของตัวเองทันที  พอมาถึงก็เอนหลังลงที่เตียงเพื่อที่จะนอนพักผ่อน  ในใจก็คิดว่าทำไมอยู่ๆเขาถึงรู้สึกเหม็นกลิ่นน้ำหอมของเมญ่า  จนต้องมีอาการคลื่นไส้อาเจียนหนักขนาดนี้ ทั้งๆที่แต่ก่อนเขาเองก็ยังเคยใช้น้ำหอมกลิ่นนี้ด้วยซ้ำ คิดแล้วก็ค่อยๆหลับตาลงจนหลับไปในที่สุด

            หลังจากไปส่งเมญ่าที่ท่าเรือเรียบร้อยแล้ว  เคลวินก็วนรถกลับมาที่บ้านอีกครั้ง  เพราะในใจยังคงนึกเป็นห่วงร่างบางอยู่ตลอดเวลา  เมื่อมาถึงบ้านก็เดินตรงไปที่ห้องครัวทันที

            “อ้าว! คุณเคลวินกลับมาเร็วจังเลยค่ะ” ป้าภาเอ่ยถามเมื่อเห็นเจ้านายเดินเข้ามาในครัว

            “พอดีผมลืมของครับป้า แล้วนภัทรล่ะไปไหน?” เขาว่าพลางปรายตามองหาร่างบางทั่วทั้งห้อง

            “ป้าให้มันไปพักค่ะคุณเคลวิน” ป้าภาบอกแต่ในใจก็พอจะรู้ว่าเจ้านายหนุ่ม  กำลังเป็นห่วงนภัทรมากแค่ไหน เพราะสีหน้าที่แสดงออกมามันฟ้องได้อย่างชัดเจน

            “อ๋อ...ไม่มีอะไรแล้วป้าทำงานต่อเถอะ” ว่าแล้วก็เดินออกไป  ตรงดิ่งไปยังห้องพักของร่างบางทันที  โดยไม่ลืมที่จะหยิบกุญแจสำรองห้องพักคนงานไปด้วย

            เคลวินเดินมาถึงหน้าห้องพักของร่างบางแล้วใช้กุญแจสำรองไขเข้าไป  เขาค่อยๆแง้มประตูแล้วชะโงกหน้าเข้าไปดู  ก็พบว่าร่างบางกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง  เมื่อเห็นอย่างนั้นก็ค่อยๆเดินเข้าไปอย่างเบาเสียง

            เขายืนมองร่างบางด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง ก่อนจะค่อยๆนั่งลงที่เตียงแล้วเอามือเกลี่ยไรผมของร่างบางออก  เผยให้เห็นใบหน้ารียวรูปไข่ ผิวพรรรณขาวนวลเขียนและริมฝีปากหยักได้รูป ไม่ผิดเพี้ยนจากน้องภัทรในวัยเด็กที่เขาเคยรู้จัก เคลวินใช้มือหนาไปสัมผัสที่ริมฝีปากบางอย่างเบามือ  ก่อนที่ร่างบางจะขยับตัวนิดหน่อย  แล้วเอามือคนตัวสูงแนบที่แก้มขาวใสแล้วยิ้มออกมา  มีหรือคนที่จิตใจแข็งดั่งหินอย่างเคลวินจะไม่อ่อนไหวตามเมื่อเห็นร้อยยิ้มนั่น เขาเองก็เผลอยิ้มออกมาเช่นกัน

            “พ่อครับ พ่อใช่ไหม ผมคิดถึงพ่อ” ร่างบางละเมอออกมาเบาๆ  พร้อมกับใช้แก้มขาวซุกไซร้ที่ฝ่ามือหนานั่นด้วยรอยยิ้ม

            เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างสูงก็มีสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที  พร้อมกับดึงมือออกจากแก้มขาวนั้นโดยเร็ว  เขาลืมตัวไปว่านี่คือลูกชายของศัตรู  น้องภัทรคนนั้นได้ตายไปจากใจเขาแล้ว เคลวินได้แต่คิดหลอกตัวเองเมื่อนึกถึงความแค้นที่มันรอการสะสางอยู่

            “นี่คุณ!” ร่างบางรู้สึกตัวก็เห็นคนตัวสูงนั่งอยู่ข้างๆจึงพยายามลุกขึ้นนั่ง

            “ทำไม? ตกใจอะไรขนาดนั้น” ร่างสูงมองหน้าเคืองๆ

            “ก็ตกใจสิคุณเข้ามาในห้องผมได้ยังไง” ร่างสูงไม่ตอบแต่กลับชูกุญแจสำรองขึ้นให้ดูพร้อมกับยกยิ้ม

            “ที่นี่มันบ้านกู กูจะทำอะไรก็ได้ มึงลืมไปแล้วเหรอ” เคลวินเอ่ย

            “ใช่ที่นี่มันบ้านของคุณ แต่ห้องนี้มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของผม คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาถ้าผมไม่อนุญาต”

            “ทำไมกูต้องขออนุญาตมึงด้วย ขนาดตัวมึงเองกูยังไม่ต้องขออนุญาตเลย จะเอาเมื่อไหร่ก็ได้” ร่างสูงว่าพร้อมกับเอื้อมมือไปเชยคางเรียวไว้

            “ต่ำ” ร่างบางว่าพร้อมกับสะบัดหน้าหนี

            “แสดงว่ามึงเองก็ต่ำยิ่งกว่ากูอีก เพราะมึงโดนไอ้คนต่ำๆคนนี้เอาทุกคืน” ร่างสูงว่าให้พร้อมกับยกยิ้มอย่างสะใจ

            “ออกไปจากห้องผมเดี๋ยวนี้ ออกไป! อ้วกกก” ร่างบางตวาดแหวใส่ก่อนที่ทุกอย่างในท้องมันจะดันขึ้นมาจุกที่ลำคอ  จนร่างบางต้องวิ่งแจ้นไปที่ห้องน้ำ

            เคลวินมีสีหน้าตกใจเล็กน้อยพร้อมกับเดินไปหาร่างบางในห้องน้ำ  เขาได้แต่มองดูอยู่ห่างๆ

            “นี่มึงยังไม่หายดีเหรอวะ”

            “คุณไม่ต้องห่วงหรอกผมยังไม่ตายง่ายๆ ยังอยู่ให้คุณทรมานได้อีกนาน” ร่างบางหันมาเอ่ยกับคนตัวสูง ก่อนที่ของเหลวมันจะตีขึ้นมาที่ลำคออีกครั้ง

            “อ้วกกก!!”

            “กูว่ามึงไปหาหมอดีไหมวะ” เมื่อเห็นท่าไม่ดีคนตัวสูงก็เอ่ยขึ้นมา

            “ไม่!คุณออกไปเถอะ”

            “อ้วกจนไส้จะออกมาแล้วยังจะมาปากเก่งอีก” ร่างสูงดุ

            “ไม่ต้องมายุ่งกับผม ออกไป!” ร่างบางตวาดแหวใส่

            “มึงนี่นะ” เขาไม่ว่าเปล่าแต่เดินไปช้อนตัวร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาว ก่อนจะพาออกมาจากห้องน้ำ

            “ทำอะไรเนี่ย! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” ร่างบางว่าพลางใช้กำปั้นน้อยๆทุบไปที่แผงอกแกร่ง

            “ก็มึงดื้อไงกูเลยต้องทำอย่างนี้ หยุดมือของมึงเดี๋ยวนี้ กูจะพาไปหาหมอ”

            “ไม่เอาผมไม่ไป! ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้” ร่างบางยังดื้อ

            “ถ้ามึงดิ้นอีกกูจะพามึงไปโยนทิ้งที่ทะเลเดี๋ยวนี้ล่ะ” คนตัวโตขู่ เมื่อได้ยินอย่างนั้นร่างบางก็นิ่งเงียบทันที

            หลังจากนั้นคนตัวโตก็อุ้มร่างบางไปที่รถแล้วขับออกไปทันที
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



@ ศูนย์การแพทย์บลูซี

            “คุณหมอคะคุณเคลวินมารอพบด้านนอกพร้อมกับคนไข้ที่ชื่อนภัทรค่ะ” พยาบาลสาวสวยเดินเข้ามาในห้องตรวจ ก่อนจะเอ่ยกับนายแพทย์ที่กำลังตรวจรักษาคนไข้รายหนึ่งอยู่

            “บอกให้รอก่อนตอนนี้ผมติดคนไข้อยู่คิวสุดท้ายแล้วพอดี” พงษ์บอก

            “ค่ะ”

            ว่าแล้วพยาบาลก็เดินออกไปจากห้องทันที

            “รอสักครู่นะคะคุณเคลวินตอนนี้คุณหมอติดคนไข้อยู่ แต่คงไม่นานค่ะเพราะเป็นคิวสุดท้ายแล้ว” เธอเดินเข้าไปหาเคลวินที่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้  ส่วนร่างบางตอนนี้กำลังวัดความดัน  พร้อมกับถูกซักประวัติอาการป่วยโดยพยาบาลอยู่ในห้องข้างๆ

            “ครับไม่เป็นไร” เขาบอกแค่นั้นแต่ในใจกลับรู้สึกร้อนรนมาก เพราะอยากให้ร่างบางได้รับการตรวจเร็วๆ

            ไม่นานนักคนที่เขากำลังเป็นห่วงก็เดินเข้ามานั่งข้างๆ

            “เสร็จแล้ว?” คนตัวสูงมองหน้า

            “อืม” ร่างบางตอบเสียงอ่อยๆ  เพราะหมดแรงไปกับการอาเจียนก่อนหน้านี้

            ระหว่างรอพยาบาลคนเดิมก็เดินเข้ามาหา

            “เชิญด้านในได้เลยค่ะคุณหมอตรวจคนไข้เสร็จแล้ว” เธอบอกก่อนจะเดินนำหน้าไป

            ภายในห้องตรวจ

            “สวัสดีครับคุณหมอ” นภัทรยกมือไหว้

            “สวัสดีครับน้องภัทรวันนี้เป็นอะไรมาเอ่ย” พงษ์เอ่ยถามพร้อมกับดูข้อมูลที่พยาบาลซักประวัติอาการมาก่อนหน้านี้

            “คือผมคลื่นไส้อาเจียนแล้วก็เวียนศีรษะครับ น่าจะแพ้กลิ่นน้ำหอมของคุณเมญ่า” ร่างบางแจ้งอาการให้หมอฟัง

            “หืม! แพ้น้ำหอม” พงษ์ทำหน้าสงสัย

            “ครับผมได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวคุณเมญ่าเมื่อเช้านี้  ก็รู้สึกเหม็นแล้วอาเจียนออกมา  ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมก็เคยใช้น้ำหอมกลิ่นนี้นะครับ  ก็ยังงงๆอยู่เหมือนกันว่าแพ้ได้ยังไง”

            “หมอว่าไม่น่าจะแพ้นะครับถ้าเคยใช้” พงษ์ว่าพลางมองดูที่ใบซักประวัติก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีกรั้ง “อืม...น้ำหนักตัวน้องภัทรขึ้นมาเยอะเลยนะครับ  ดูมีน้ำมีนวลขึ้นสงสัยไอ้เคลวินมันจะเลี้ยงดี” พงษ์เปรียบเทียบน้ำหนักจากครั้งก่อน  แล้วก็มองคนไข้ที่นั่งอยู่ตรงหน้า

            “มึงจะถามอะไรนักหนาวะ ตรวจแม่งให้หมดทุกอย่างเลยเอาให้ละเอียด” เคลวินที่นั่งร้อนใจอยู่เอ่ยขึ้นแทรก

            “ผมกำลังตรวจคนไข้อยู่ครับ ผมเป็นหมอนะครับ กรุณาหุบปาก” พงษ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ก่อนจะส่งตายตาอำมหิตให้เพื่อน

            “เออกูรู้ว่ามึงเป็นหมอแต่กูใจร้อนโว้ย อยากรู้ว่ามันเป็นอะไร” เคลวินเอ่ยอย่างลืมตัว  ว่ากำลังแสดงออกถึงความเป็นห่วงร่างบางจนเห็นได้ชัด

            “มึงห่วงน้องว่างั้น?” พงษ์เอ่ยถาม

            “เปล่าใครห่วงมันวะ กูรีบกูมีธุระ” เคลวินทำหน้าเหรอหราเมื่อโดนจับผิดได้

            “ถ้ารีบก็ไปก่อน ให้น้องภัทรอยู่กับกูที่นี่ก่อน” พงษ์ยื่นข้อเสนอให้

            “ไม่โว้ยกูรอได้” เคลวินพูดหน้าตาเฉย

            “มึงนี่นะ” พงษ์ส่ายหน้าไปมาอย่างเบื่อหน่ายกับนิสัยของเพื่อน

            เมื่อปะทะฝีปากกับเพื่อนเสร็จเรียบร้อยแล้ว พงษ์ก็หันมาเอ่ยกับคนไข้ที่นั่งอยู่ตรงหน้า

            “น้องภัทรเดี๋ยวเดินตามคุณพยาบาลไปนะครับ”

            “ครับหมอ”

            หลังจากนั้นพงษ์ก็เขียนเอกสารบางอย่างบนโต๊ะแล้วก็ยื่นให้กับพยาบาล

            “พาคนไข้ไปตรวจตามที่ผมระบุไว้ให้ครบทุกอย่างนะครับ” เขายื่นเอกสารให้พยาบาล

            เมื่อพยาบาลสาวมองดูแล้วก็ทำหน้าสงสัย “คุณหมอค่ะนี่มัน...” หล่อนมองหน้าพงษ์

            “เอาตามนั้นครับรีบไปเถอะ” เขารีบพูดตัดบทก่อนจะพยักหน้าให้กับพยาบาล

            “ค่ะๆ” หล่อนตอบรับก่อนจะหันไปเอ่ยกับร่างบาง “คนไข้เชิญด้านนี้ค่ะ”

            ร่างบางเดินตามหลังพยาบาลไปอย่างว่าง่าย

            พงษ์นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดมองเอกสารบนโต๊ะ  ก่อนจะหันไปหาเพื่อนที่กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่อย่างสบายใจ

            “ไอ้เคลวินกูมีเรื่องจะถาม แล้วตอบก็ช่วยตอบตามความจริงด้วยนะครับ”

            “มึงมีอะไรว่ามา”

            “มึงมีอะไรกับน้องภัทรแล้วใช่ไหมวะ” พงษ์ทำหน้าจริงจัง

            “เออ เอาบ่อยด้วย ทำไมมึงต้องทำหน้าจริงจังขนาดนั้นด้วยวะ” เคลวินตอบหน้าตาเฉย

            “แล้วเวลามีอะไรกันมึงใส่ถุงยางป่ะ”

            “ไม่...เอาสดๆ กูคิดว่ามันชอบนะ เห็นทำหน้าเสียวตลอดเลยเวลากูปล่อยใน” เขาพูดขำๆ แต่คุณหมอกลับไม่ขำด้วย

            “ไอ้เหี้ย! มึงไม่กลัวน้องเค้าจะติดโรคจากมึงเหรอวะ” พงษ์ว่าให้เพื่อน แต่ในใจที่เขากังวลมันไม่ใช่เรื่องนี้

            “กูน่ะสิที่ต้องกลัวติดโรคจากมัน เพราะเอากับคนอื่นกูก็ใส่ถุงตลอด แต่มันเป็นผู้ชายไงท้องไม่ได้กูก็เลยไม่ใส่สะใจดี” เคลวินบอกเพื่อนหน้าตาเฉย

            “แค่นี้ล่ะ”

            “อ้าว! กูนึกว่ามึงจะถามเจาะลึกอีกว่ากูเอากับมันท่าไหนบ้าง” เคลวินพูดติดตลก

            “กูไม่ได้โรตจิตขนาดนั้นโว้ย มึงมีธุระก็ไปทำก่อนได้ กว่าน้องภัทรจะมาก็อีกนาน” พงษ์บอก

            “ทำไมมึงถึงอยากให้กูไปจังวะไอ้นี่  กูอยู่ได้ขี้เกียจกลับมาอีกรอบ”

            “เออๆก็แล้วแต่มึงละกัน”

            พูดแค่นั้นต่างคนก็ต่างเงียบแล้วนั่งรอนภัทรกลับมา

            ไม่นานนักโทรศัพท์มือถือของเคลวินก็มีเสียงดังขึ้น

            Rrrrr….

            “ว่าไงคุณนพ” เคลวินรับสาย

            (“คุณเคลวินครับเกิดเรื่องขึ้นแล้วครับ”)

            “เกิดอะไรขึ้น”

            (“มีคนเจอกระเป๋าปริศนามาวางไว้ที่หน้าล็อบบี้โรงแรมครับ สงสัยว่าจะเป็นระเบิด ตอนนี้ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว คุณเคลวินรีบมาเลยครับนักท่องเที่ยวแตกตื่นกันวุ่นวายมากครับ”)

            “ได้ๆเดี๋ยวผมไปตอนนี้เลย” เขาเอ่ยแล้วรีบลุกขึ้นยืน  หลังจากนั้นก็หันไปเอ่ยกับพงษ์

            “มึงเกิดเรื่องที่โรงแรม เดี๋ยวกูไปก่อนนะเสร็จเรื่องแล้วจะมารับ ถ้าไงฝากมันด้วยนะ”

            “โอเคมึงรีบไปเถอะ ทางนี้กูดูแลให้เอง” พงษ์บอกอย่างเข้าใจ

            เมื่อพูดกับเพื่อนเสร็จเคลวินก็รีบเดินออกไปอย่างเร่งรีบ

            ไม่นานหลังจากนั้นนภัทรและพยาบาลก็เดินเข้ามาในห้อง  พยาบาลยื่นผลตรวจให้ด้วยสีหน้าแปลกๆ

            “นี่ค่ะหมอผลการตรวจ” พยาบาลยื่นให้ พงษ์มองดูแวบหนึ่ก่อนจะหันไปหาพยาบาล

            “คุณออกไปก่อนนะ ผมขอคุยกับคนไข้เป็นการส่วนตัว”

            “ค่ะ” เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเดินออกไป

            พงษ์นั่งอ่านผลตรวจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองร่าง ที่นั่งลุ้นรอผลการตรวจอยู่

            “น้องภัทร” พงษ์เอ่ยก่อนจะถอนหายใจเสียงดัง เพราะกลัวว่าถ้าร่างบางรู้ผลอาจจะทำให้ช็อคได้

            “ว่าไงครับหมอ ผลการตรวจเป็นยังไงบ้าง”

            “ต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันเกิดเรื่องมหัศจรรย์อย่างนี้ขึ้น ตอนหมอเรียนที่อเมริกาก็เคยเกิดเคสอย่างนี้ขึ้นมาหลายเคสอยู่เหมือนกัน” เขาพยายามพูดให้ร่างบางเข้าใจก่อนจะบอกความจริง

            “นี่หมอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ผมงงไปหมดแล้ว” ร่างบางทำหน้าสงสัย

            “ถ้าหมอบอกรับปากได้ไหมว่าจะตั้งสติให้ได้” พงษ์บอก

            “หมอผมเป็นอะไรกันแน่” ร่างบางเริ่มกลัวขึ้นมาว่าตัวเองจะเป็นโรคร้ายแรง

            “น้องภัทรครับ...ผลการตรวจบอกว่าน้องภัทรกำลังตั้งครรภ์”

            “นี่หมอบอกว่าผมท้องงั้นเหรอครับ หมอนี่ก็เป็นคนตลกนะ” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับขำออกมา

            “หมอไม่ได้พูดเล่นนะครับ น้องภัทรกำลังตั้งท้องได้สี่สัปดาห์แล้ว” พงษ์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

            “จะ...จะเป็นไปได้ยังไงครับผมเป็นผู้ชายนะ” ร่างบางค่อยๆหุบยิ้มลงเมื่อได้รับคำยืนยันจากปากหมออีกครั้ง

            “น้องภัทรเป็นผู้ชายที่พิเศษกว่าคนทั่วไปไงครับ น้องภัทรมีมดลูกสามารถตั้งครรภ์ได้  จริงๆแล้วทางพ่อหรือแม่ของน้องก็น่าจะรู้นะครับท่านไม่เคยบอกอะไรเลยหรือ?” พงษ์ถาม

            “ไม่ครับ...ท่านไม่เคยบอกอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย”

            “แสดงว่าท่านคงอยากให้น้องภัทรใช้ชีวิตตามปกติของผู้ชายทั่วไป”

            “หมอครับช่วยยืนยันอีกทีได้ไหมว่าผมไม่ได้หูฝาด” ร่างบางนั่งหน้าซีดอยู่บนเก้าอี้ ตอนนี้ในหัวมันรู้สึกสับสนไปหมด และพยายามคิดว่ามันเป็นแค่ฝันเท่านั้น

            “หมอขอยืนยันครับว่าน้องภัทรกำลังท้อง”

            สิ้นเสียงของพงษ์น้ำใสๆที่ดวงตาสวยก็ไหลลงมาเป็นสาย เขาทั้งตกใจ เสียใจ ดีใจและกลัว ความรู้สึกทั้งหมดมันตีกันจนร่างบางเริ่มเวียนหัว  หลังจากนั้นภาพของคุณหมอที่อยู่ตรงหน้ามันก็ค่อยๆเลือนรางลงเรื่อยๆ  ก่อนที่ทุกอย่างมันจะดับวูบไปในที่สุด...

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
อยากอ่านตอนต่อไปหล่าววววว

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คงอีกนานกว่าจะมีความสุข

ออฟไลน์ Puring Pudding

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อิหนูภัทรของเจ๊  :mew6:  :z3:เริ่มรู้สึกถึงความม่ามาแล้วน่าสงสารอ่ะ :sad4: :o12:
คนเขียนมาต่อเร็วๆน่ะคะ รอๆๆ
สู้ๆน่ะคะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
โอ้ยยย สงสารอิน้องแท้ :hao5:

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
สงสารภัทร เดาว่าน้องคงไม่บอกวินหรอกเพราะวินเคยบอกว่าถ้าเป็นผู้หญิงวินจะทำให้ท้องไม่มีพ่อนี่ แต่ก็ห่วงน้องนั่นแหละเนอะ ผิดที่พ่อคนเดียวเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ขอตอนต่อไปด่วนเลยค่ะ :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ถ้าซาตาน รู้ จะต้องไม่เชื่อแน่ๆ  :serius2:

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เอาแล้ว ๆ  o22 กลิ่นมาม่ามาแล้ว  :sad4: :o12:

รอจ้ารอ  :impress2:

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หนีไปตอนนี้เลยไปไหม มีโอกาสแล้วนิ แต่ภัทรเคยบอกว่าไม่หนี สรุปจะหนีดี หรือไม่หนีดีนะ  :hao4:

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER  11  ฮีโร่ที่ร้าย



          ร่างบางค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆเมื่อเริ่มรู้สึกตัว ตอนนี้เขากำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องตรวจของพงษ์  เมื่อเห็นอย่างนั้นก็ปรายตามองไปรอบๆห้อง  เห็นเพียงหมอพงษ์นั่งเขียนเอกสารอยู่คนเดียว

            “คุณหมอครับ”

            “อ้าว! น้องภัทรตื่นแล้วเหรอ” เขารีบเดินมาที่เตียงก่อนจะค่อยๆพยุงร่างบางขึ้นนั่ง

            “ผมเป็นอะไรไปครับเนี่ย” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับมองหน้า

            “น้องภัทรเป็นลมครับ แล้วตอนนี้เป็นไงบ้างดีขึ้นยัง?”

            “อ๋อ...ผมดีขึ้นแล้วครับ” ร่างบางบอกก่อนจะมองเหมือนหาใครบางคน

            “แล้วนี่มองหาไอ้เคลวินเหรอ?” พงษ์เอ่ยถาม

            “ครับ...เค้าไปไหนเหรอครับคุณหมอ”

            “พอดีที่โรงแรมมีเรื่องนิดหน่อย มันเลยเข้าไปจัดการ น้องภัทรพักผ่อนรอที่นี่ก่อนนะครับ” พงษ์ยิ้มให้

            “คุณหมอครับ ผมมีเรื่องจะขอร้อง”

            “เรื่องอะไรครับ ถ้าหมอทำได้ก็ยินดี” เขายิ้ม

            “คือเรื่องท้องหมออย่าเพิ่งบอกคุณเคลวินได้ไหมครับ”

            “อ้าว! ทำไมล่ะ”

            “คือเรื่องนี้ผมจะขอบอกเค้าเองน่ะครับ”

            “ได้สิ หมอจะไม่บอกมันละกัน หมอสัญญา”

            “ขอบคุณครับ” ร่างบางรู้สึกโล่งใจที่พงษ์ยืนยันที่จะรับปาก

            “ถ้างั้นน้องภัทรนอนพักผ่อนต่อเถอะครับ ส่วนเรื่องลูกหมอขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”

            “ขอบคุณครับ แต่จริงๆแล้วผมอยากให้มันเป็นแค่ความฝัน” ร่างบางมีสีหน้าหนักใจ

            “มันคือเรื่องจริงแล้วครับ หรือว่าน้องภัทรไม่ดีใจที่มีเจ้าตัวเล็ก” พงษ์ถาม

            “ไม่ครับ ผมดีใจมากแต่...” ร่างบางทำหน้าหนักใจ  เพราะไม่อยากเอ่ยประโยคที่กำลังคิดอยู่ในหัว

            “เพราะไอ้เคลวินใช่ไหม หมอเข้าใจว่าน้องภัทรคงไม่อยากให้ลูกเกิดมามีพ่ออย่างมัน”

            “จริงๆแล้วมันก็ไม่เชิงหรอกครับคุณหมอ เพียงแต่ผมคิดว่าลูกไม่ควรเกิดมารับกรรมไปพร้อมกับผมด้วย” ร่างบางบอกด้วยสีหน้ากังวล

            “อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลยครับน้องภัทร จริงๆหมอก็ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องนี้หรอกนะ แต่ตอนนี้ยังไงเราก็มีน้องแล้วต้องเข้มแข็งเข้าไว้เพื่อลูก ส่วนไอ้เคลวินเท่าที่หมอเป็นเพื่อนกับมันมาหลายปี  มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นซะทีเดียวหรอกนะ  ดีไม่ดีถ้ามันรู้ว่ากำลังจะมีลูกความสัมพันธ์ระหว่างน้องภัทรกับมันอาจจะดีขึ้นก็ได้  แต่ถ้ามันไม่ไหวจริงๆก็บอกหมอจะได้ลองคุยกับมันให้  ”

            “ขอบคุณครับ...ผมจะพยายามเข้มแข็งเข้าไว้เพื่อลูก” ร่างบางถอนหายใจเสียงดัง  ก่อนจะยิ้มให้กับคุณหมอหน้าหวาน

            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

            พยาบาลสาวเคาะประตูก่อนเปิดเข้ามา

            “คุณหมอคะมีคนมารับคนไข้แล้วค่ะ”

            พงษ์ทำหน้าสงสัยก่อนจะเอ่ยถาม

            “ใครครับคุณพยาบาล”

            “เป็นผู้ชายชุดดำคนนึงเค้าบอกว่าคุณเคลวินไม่ว่างให้มารับแทนค่ะ” เธอบอก

            “ออ ถ้างั้นบอกให้รอสักครู่เดี๋ยวหมอจะพาคนไข้ออกไปเอง”

            “ค่ะ” เธอรับคำก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

            “น้องภัทรครับ สงสัยไอ้เคลวินมันจะยุ่งอยู่เลยให้ลูกน้องมารับแทน เดี๋ยวหมอจะพาไปรับยาข้างนอกนะครับแล้วค่อยกลับ”

            “ครับคุณหมอ”

            ร่างบางค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกไปพร้อมกับพงษ์ ข้างนอกมีชายชุดดำยืนรออยู่ ร่างบางมองแล้วก็รู้สึกไม่คุ้นหน้า  แต่ในใจก็คิดว่าคงเป็นลูกน้องของเคลวินนั่นล่ะ เพราะนายนั่นมีลูกน้องประเภทหน้าเหี้ยมๆหลายคน  เมื่อรับยาเสร็จแล้วพงษ์ก็พาร่างบางเดินมาหาชายชุดดำที่ยืนรออยู่

            “อย่าลืมทานยาให้ตรงเวลานะน้องภัทร” พงษ์บอกแล้วยิ้มให้

            “ครับคุณหมอ” ร่างบางยกมือขึ้นไหว้

            “เอาเป็นว่าต่อไปให้เรียกพี่ว่าพี่หมอพงษ์ดีกว่าเนาะ จะได้ดูคุ้นเคยกัน”

            “ได้ครับพี่หมอพงษ์”

            “ฝากด้วยนะครับ” เขาบอกกับชายชุดดำ

            “ครับคุณหมอ”

            “ถ้างั้นผมไปก่อนนะครับพี่หมอพงษ์”

            “ครับ...ดูแลตัวเองดีๆนะ” พงษ์บอกก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน ส่วนร่างบางก็เดินตามหลังชายชุดดำออกไป

เมื่อเดินไปถึงลานจอดรถร่างบางก็มองหารถยนต์

            “รถคันไหนครับ?” ร่างบางเอ่ยถาม

            “คือรถมันเสียน่ะครับคุณเคลวินเลยให้ขับมอเตอร์ไซต์มารับ” เขาเอ่ย ร่างบางได้ยินก็รู้สึกแปลกๆ เพราะรถที่บ้านของเคลวินมีหลายคันมาก ทำไมเขาถึงได้ให้ลูกน้องขับรถมอเตอร์ไซต์มารับอย่างนี้  หรือว่าเขาคิดจะแกล้งร่างบางได้แต่คิดในใจ

            “ออ...ถ้างั้นรีบกลับกันเถอะครับ” ร่างบางบอก ตอนนี้เขาเองก็อยากกลับเต็มทนแล้ว

            เมื่อชายหนุ่มสตาร์ทเครื่องแล้ว  ร่างบางก็ขึ้นซ้อนท้ายก่อนจะขับออกไปทันที

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            เมื่อขับรถมาถึงโรงแรมแล้วเคลวินก็รีบจอด  แล้วเดินตรงดิ่งเข้าไปในล็อบบี้โรงแรมทันที  ตอนนี้นักท่องเที่ยวจำนวนมาก  กำลังพากันวิ่งแตกตื่นออกมาจากตรงนั้น  โดยมีเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดกำลังพยายาม  เปิดดูภายในกระเป๋าสีดำใบขนาดกลางๆ ที่ถูกวางไว้ตรงบริเวณข้างกระถางต้นไม้  ทุกคนต่างก็ลุ้นให้สิ่งที่อยู่ข้างในนั้นไม่ใช่ระเบิดอย่างที่เข้าใจ  เมื่อเจ้าเหน้าที่เปิดกระเป๋าได้แล้วก็หยิบของในนั้นออกมา พบว่ามันคือนาฬิกาปลุกไม่ใช่ระเบิดแต่อย่างใด เมื่อเห็นอย่างนั้นเคลวินก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งใจ แล้วเดินเข้าไปดูจุดเกิดเหตุใกล้ๆ  ในใจตอนนี้คิดว่าอาจจะมีคนตั้งใจมาป่วนและคนแรกที่เขานึกถึงนั่นไม่ใช่ใครนอกจากอิทธิ

            “โชคดีนะครับที่ไม่ใช่ระเบิดอย่างที่เข้าใจกัน” สารวัตรหนุ่มหล่อเอ่ยกับผู้เป็นเจ้าของโรงแรม

            “ขอบคุณสารวัตรมากนะครับที่มาช่วยเคลียร์  จนสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ผมเองก็รู้สึกโล่งใจที่มันไม่ใช่ระเบิดอย่างที่ทุกคนเข้าใจกัน” เขาพูดอย่างโล่งอก

            “ยินดีครับ แล้วคุณเคลวินคนสงสัยใครเป็นพิเศษรึเปล่าครับ”

            “ตอนนี้ยังไม่สงสัยใครครับ เอาเป็นว่าผมขอดูกล้องวงจรปิดก่อนละกันครับ ถ้ามีความคืบหน้ายังไงเดี๋ยวผมจะส่งหลักฐานให้สารวัตรอีกทีนะครับ”

            “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมกับลูกน้องต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ”

            “ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”

            เคลวินยกมือไหว้ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดจะเดินทางกลับไป

            “คุณนพดลครับ” เคลวินเอ่ยกับผู้จัดการโรงแรมที่ยืนอยู่ข้างๆ

            “ครับคุณเคลวิน”

            “ไปเปิดกล้องวงจรปิดทุกตัวดูว่าใครเป็นคนเอากระเป๋าใบนี้มาวางไว้ แล้วเอาวิดีโอทั้งหมดส่งมาให้ผมด้วยนะ” เขาสั่ง

            “ได้ครับคุณเคลวิน” ผู้จัดการโรงแรมรับคำสั่ง

            “คุณช่วยไปประชาสัมพันธ์ให้แขกทุกคนเข้าใจด้วยว่า  สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น  ไม่มีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น”

            “ได้ครับคุณเคลวิน”

            “เดี๋ยวผมขอตัวไปรับคนงานที่ศูนย์การแพทย์ก่อน” เมื่อเรื่องราวทั้งหมดจบลงด้วยดี ตอนนี้เขาก็นึกถึงร่างบางที่กำลังรออยู่ทันที

            “เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเองครับ”

            “ถ้างั้นก็ฝากด้วย” เขาว่าพร้อมกับใช้มือหนาตบที่ต้นแขนของลูกน้องเบาๆ เชิงฝากฝังเรื่องเอาไว้

            เมื่อออกมาจากโรงแรมแล้วเคลวินก็บึ่งรถตรงมาที่ศูนย์การแพทย์ทันที  แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องตรวจของพงษ์  ก็เจอเพียงแค่นายแพทย์หนุ่มหน้าหวานนั่งอยู่คนเดียวในห้อง

            “อ้าว! มึงเสร็จธุระแล้วเหรอวะ”

            “เออสิวะ พอเรื่องที่โรงแรมคลี่คลายแล้วกูก็รีบมารับมันนี่ล่ะ มันไปไหนแล้วล่ะ” เคลวินมองหาร่างบาง

            “อ้าว! ยังไม่แก่เลยเป็นโรคอัลไซเมอร์ไปซะแล้วเพื่อนกู มึงบอกให้ลูกน้องมารับน้องภัทรกลับไม่ใช่เหรอ” พงษ์บอกเพื่อน

            “ไม่เว้ยกูไม่ได้บอกใครมารับมันเลย ตายห่าแล้วไง! หรือว่าจะมีคนมาพามันหนีไปแล้ว” เคลวินเอ่ยด้วยท่าทีตกใจ

            “กูว่าไม่ใช่หรอก ไม่มีใครรู้ว่าน้องภัทรอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ กูว่าน่าจะเป็นพวกศัตรูมึงมากกว่า” พงษ์ว่า

            “หรือจะเป็นไอ้อิทธิ” เขาบ่นพึมพำเบาๆ “กูต้องไปแล้ว มันน่าจะไปที่ท่าเรือ” เคลวินว่าก่อนจะรีบวิ่งออกไปทันที

            “เฮ้ย! กูไปด้วย”

            พงษ์พยายามจะวิ่งตามออกไปแต่ไม่ทันเแล้ว เพราะเคลวินบึ่งรถออกไปไม่กี่วินาทีก่อนหน้า

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            ชายชุดดำขับรถจอดมาที่ท่าเรือ  ร่างบางเห็นอย่างนั้นก็เอะใจทันทีว่าทำไมถึงพาตัวเองมาที่นี่

            “นี่มันท่าเรือไม่ใช่บ้านคุณเคลวินนี่” ร่างบางเอ่ยถามพร้อมกับลงจากรถ

            “คุณเคลวินให้ผมพาคุณไปอีกเกาะนึง เชิญขึ้นเรือครับ” เขาผายมือให้ร่างบางขึ้นไปบนเรือ  ที่ได้จอดเตรียมไว้แล้ว  โดยมีคนขับอีกคนนั่งรออยู่

            “ไม่! จนกว่าผมจะได้คุยกับคุณเคลวินก่อน” ร่างบางปฏิเสธเพราะตอนนี้เริ่มไม่ไว้ใจ

            “ผมบอกให้คุณขึ้นไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับค่อยๆควักปืนขึ้นมาขู่ ร่างบางเห็นอย่างนั้นก็ตกใจจนถุงยาที่ถือมาด้วยหล่นลงพื้น

            “นี่นายเป็นใครกันแน่” ร่างบางพยายามถอยหลัง

            “หยุด! ถ้าวิ่งกูยิงแน่ ขึ้นไปบนเรือเดี๋ยวนี้” เขายังขู่ ตอนนี้ร่างบางเริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว เขามองซ้ายมองขวาแต่ก็ยังไม่เจอใครสักคน  ในใจเขากลับคิดถึงร่างสูงเป็นคนแรกคนที่พอจะช่วยเขาได้ในตอนนี้

            “คุณเคลวินช่วยด้วย!” เขาตะโกนพร้อมมองผ่านหลังชายชุดดำไป ทำให้ชายหนุ่มหันหลังมองตาม ร่างบางจึงใช้โอกาสนี้รีบวิ่งหนีไป

            “นี่มึงกล้าหลอกกูเหรอ!” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับวิ่งตามร่างบางในระยะประชิด  ก่อนจะรั้งตัวเอาไว้ได้  ร่างบางดิ้นพล่านเพื่อให้ตัวเองเป็นอิสระแต่ไม่เป็นผล

            “ปล่อยนะ! ปล่อยเดี๋ยวนี้!” ร่างบางสะบัดตัวไปมา

            “หุบปากเดี๋ยวนี้ถ้าไม่อยากตาย” เขาว่าพลางลากตัวร่างบางไปด้วยจวบจนจะถึงเรือ

            “คุณเคลวินช่วยผมด้วย” ร่างบางมองเห็นคนตัวโตกำลังวิ่งมาก็ตะโกนร้องเรียกทันที

            “นภัทร!” เคลวินตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นร่างบางกำลังโดนฉุดขึ้นเรือไปต่อหน้าต่อตา “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เขารีบวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

            ตอนนี้ชายชุดดำได้พาร่างบางขึ้นไปบนเรือเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับมัดมือมัดเท้าเอาไว้  ร่างบางพยายามดิ้นแต่ไม่เป็นผล ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บที่ข้อมือ

            “พวกแกเป็นใคร จะพาฉันไปที่ไหน” ร่างบางเอ่ยถาม

            “ไม่ต้องถามมาก พวกกูก็จะพามึงไปขึ้นสวรรค์ไงล่ะ ฮ่าๆๆ” ชายทั้งสองคนหัวเราะเสียงดังอย่างพอใจ

            “แต่ฉันไม่เคยมีเรื่องกับใครเลยนะ ทำไมต้องมาทำกันถึงขนาดนี้” ร่างบางตะโกนถาม

            “มึงไม่เคยมีเรื่องกับใคร แต่ไอ้เคลวินมันเคยไง แล้วมึงก็เป็นคนของมันนั่นแหละเหตุผลว่าทำไมพวกกูถึงต้องจับตัวมึงมา” ชายชุดดำที่ไปรับตัวร่างบางมาเอ่ยขึ้น “ออกเรือ” เขาสั่งอีกคน

            เคลวินรีบวิ่งมาจวนจะถึงแต่ก็ไม่ทัน  เพราะเรือได้ออกไปจากท่าเรียบร้อยแล้ว “โธ่โว้ย!” เขาสบถออกมาเสียงดังก่อนจะมองหาเรือลำที่ว่างแล้วรีบขึ้นขับตามไปทันที

            เคลวินขับเรือตามหลังมาในระยะประชิดแต่ชายชุดดำกลับยิงปืนใส่  ทำให้เขาต้องเว้นระยะห่างให้มากขึ้นก่อนจะยิงโต้ตอบกลับไป ดีที่ก่อนลงจากรถเขาไม่ลืมที่จะหยิบปืนมาด้วย คนอย่างเคลวินไปไหนมาไหนเขาจะต้องมีปืนใกล้มือไว้ตลอดเวลาอยู่แล้ว

            ปัง!

            “เหี้ยแล้วไง!”

            ร่างสูงสบถออกมาเมื่อเรือที่เขากำลังขับถูกยิงจนรั่ว เมื่อเห็นอย่างนั้นเขาก็ตั้งใจเล็งเป้าไปที่ชายชุดดำที่ยืนอยู่ข้างๆร่างบาง ก่อนจะลั่นไกทันที

            ปัง!

            ตูม!

           โชคดีที่เขาเล็งปืนได้แม่นจนทำให้ชายชุดดำโดนยิงจนตกลงจากเรือไป  หลังจากนั้นก็ขับเรือเร่งขึ้นไปขนาบข้าง  ก่อนจะรีบเดินขึ้นไปยืนตรงขอบเรือแล้วกระโดดข้ามไปยังเรืออีกลำ แต่ก็พลาดจนเขาต้องเกาะอยู่ข้างๆเรือ  เมื่อชายชุดดำที่ขับเรืออยู่เห็นอย่างนั้นก็จอดเรือทันทีเพื่อจะมาจัดการกับชายหนุ่ม

            “คุณเคลวินระวัง!” ร่างบางตะโกนออกมาเมื่อชายชุดดำลุกขึ้นเดินตรงมาที่เคลวิน ขณะนั้นเขาก็ปีนป่ายขึ้นมาที่เรือได้สำเร็จ  แต่ก็โดนชายชุดดำซัดหมัดเข้าที่ใบหน้าจนล้มลง  เคลวินลุกขึ้นก่อนจะซัดหมัดคืนไปบ้าง  ทั้งสองคนต่างก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร  ร่างบางทำได้แต่มองอย่างร้อนใจเพราะกลัวว่าคนตัวโตจะโดนทำร้าย  ก่อนที่ชายชุดจะสังเกตเห็นปืนที่หล่นอยู่แล้วรีบหยิบขึ้นมา

            “มึงไม่รอดแน่” เขาเล็งปืนมาที่เคลวินก่อนจะยิ้มที่มุมปากอย่างผูมีชัย

            “ก่อนตายกูขอฝากข้อความไปหานายมึงหน่อย” เขาพยายามถ่วงเวลาหาทางออก

            “ได้...ถือว่าเป็นคำขอของคนกำลังจะตายหึๆ” เขายกยิ้ม

            “ไปตายซะไอ้เลว!” ร่างบางว่าพร้อมกับยกเท้าที่ถูกมัดเข้าด้วยกัน ถีบไปที่หน้าแข้งของชายชุดดำจนเซล้ม  ส่วนคนตัวโตได้ทีรีบเข้าไปแย่งปืนมาทันที

            ผลั่ก!

            ตูม!

            เคลวินแย่งปืนมาได้ก่อนจะถีบชายชุดดำจนตกลงจากเรือ  เขาปืนเล็งลงไปขู่เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มพยายามจะปีนขึ้นมา

            “หยุด! ถ้ามึงไม่อยากตาย” เมื่อได้ยินอย่างนั้นชายชุดดำก็หยุดชะงักก่อนจะมองหน้าร่างสูง

            “อย่าฆ่าผมเลยครับ ผมมีลูกเมียที่ต้องดูแล” เขายกมือขึ้นไหว้อย่างลนลาน

            “กูจะไม่ฆ่ามึงแต่ให้กลับไปบอกเจ้านายมึงด้วยว่ากูจะไปเอาคืนมันแน่นอน” พูดจบเขาก็ลั่นไกยิงปืนลงไปในน้ำสี่นัดติดต่อกันเพื่อขู่จนชายชุดดำสั่นไปทั้งตัว “ว่ายน้ำกลับไปที่เกาะของพวกมึงเดี๋ยวนี้ก่อนที่กูจะเอาปืนยิงกบาลมึง”  เมื่อได้ยินก็รีบว่ายน้ำออกไปจากเรือทันที

            ตอนนี้เรือจอดอยู่กลางทะเล  ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลากลางวันแต่ท้องฟ้ากลับมืดครื้ม  ปกคลุมไปสุดลูกหูลูกตา ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ค่อยดีนัก  เสียงฟ้าผ่าฟ้าร้องแข่งขันกันระงม  แรงลมพัดโบกรุนแรง  พร้อมกับมีฝนตกลงมาปรอยๆ

            “แม่งพายุเข้าอีกซวยจริงๆ” เขาว่าแล้วก็นั่งลงตรงหน้าร่างบางพร้อมกับชักสีหน้าใส่ “เพราะมึงคนเดียวเลย” เขาบ่นแต่ก็ยอมแกะเชือกออกให้

            “ขอบคุณนะครับ ฮือๆ” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับร้องไห้ออกมาเสียงดัง เมื่อมือเป็นอิสระแล้วก็โผเข้าไปกอดคนตัวสูงทันที  ร่างสูงนั่งนิ่งไม่ได้เอ่ยอะไร ก่อนจะทำหน้าเหรอหราเพราะรู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก  หัวใจมันกำลังเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เมื่อควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้  เขาก็พยายามคลายอ้อมกอดร่างบางออกแต่ก็ไม่เป็นผล  ยิ่งพยายามแกะมือออกแต่ร่างบางยิ่งกอดแน่นขึ้นไปอีกไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย

            “มึงจะกอดอะไรกูนักหนาวะ กูอึดอัดโว้ย!” ร่างสูงเอ่ยแก้เขินพร้อมกับทำหน้าเหรอหรา  เมื่อได้สติร่างบางก็ยอมคลายอ้อมแขนออกมา  แล้วเอาหลังมือเช็ดน้ำตาที่แก้มขาวไปด้วย

            “ขอโทษครับ ผมลืมตัวไป” ร่างบางเอ่ยขอโทษแล้วพยายามทำสีหน้าให้ปกติ “พาผมกลับไปที่เกาะเถอะถ้างั้น” ร่างบางเอ่ยอย่างน้อยใจ

            “กลับไปให้ตายน่ะสิ มึงไม่เห็นเหรอว่าพายุกำลังเข้า เราต้องเข้าฝั่งที่ใกล้ที่สุดก่อนไม่งั้นได้ตายคู่แน่”

            ร่างสูงตวาดใส่ก่อนจะเดินไปที่หัวเรือแล้วขับฝ่าคลื่นออกไปทันที

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


////////////////////////////////////////////////////
ขอบคุณที่ชอบกันนะครับ เห็นทุกคอมเม้นท์แล้วมีความสุขมากๆเลยครับ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เคลวินเป็นไบโพลาร์555

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
นี่ถ้ารู้ว่าน้องท้องจะเป็นไงนะอิคุณพ่อ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด