พิมพ์หน้านี้ - [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ไมเลอร์ ที่ 02-02-2018 19:45:37

หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 02-02-2018 19:45:37
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

เปิดเรื่องใหม่ในนามปากกา 'ไมเลอร์' ครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: กรงรักร้ายของนายซาตาน(Mpreg)-Intro-อัพ-02-02-2018
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 02-02-2018 19:48:16
INTRODUCTION

"ดูแลตัวเองดีๆนะลูก" แก้วกานดาเอ่ยกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพร้อมกับเข้าสวมกอดอย่างแนบแน่น
วันนี้ลูกชายของเธอกำลังจะเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาหลังจากที่กลับมาเยี่ยมทางบ้านในช่วงซัมเมอร์

"ครับแม่ผมจะดูแลตัวเองดีๆ จะโทรกลับมาบ้านบ่อยๆจนแม่ต้องรำคาญเลยล่ะ" นภัทรเอ่ยกับผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มหวาน เขายอมรับว่าตอนนี้รู้สึกใจหายมากที่จะได้ห่างจากครอบครัวอีกครั้ง

"ทำให้ได้อย่างที่พูดล่ะกัน" แก้วกานดายิ้มให้ลูกชาย

"มาให้พ่อกอดหน่อยไอ้ลูกชาย" ทรงพลเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นลูกชายและภรรยาร่ำลากันได้สักพัก เขาเองก็ใจหายไม่น้อยที่ลูกชายคนเล็กต้องห่างอกอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทรงพลกลับรู้สึกเป็นห่วงลูกมากเป็นพิเศษเขารู้สึกแบบนั้นไม่รู้ว่าทำไม

"ผมคงคิดถึงคุณพ่อมากๆเลยครับ" นภัทรเอ่ยขณะกำลังสวมกอดผู้เป็นพ่อ

"ถ้าถึงแล้วรีบโทรหาพ่อด้วยล่ะ"

"ครับพ่อ"

นภัทรผละจากอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อแล้วก็หันไปยิ้มให้พี่ชายของตนที่กำลังยืนรออยู่ข้างๆ ไม่มีพี่ชายคนไหนบนโลกใบนี้ที่จะดีกับน้องชายได้เท่าคนนี้อีกแล้ว ตั้งแต่เด็กจนโตเขามีพี่ชายคนนี้คอยดูแลปกป้องมาตลอด ไม่เคยให้ใครมาแกล้งหรือทำร้ายได้เลย นั่นมันทำให้เขารักพี่ชายคนนี้มากที่สุด

"ตั้งใจเรียนล่ะภัทรบริษัทของเรารอการกลับมาของน้องอยู่นะ" นดลเอ่ยกับน้องชายพลางเอามือวางบนไหล่บางแล้วยิ้มให้

"แค่มีพี่ดลคนเดียวก็เพียงพอแล้วพี่ชายผมเก่งที่สุด" นภัทรเอ่ยชมพี่ชาย

"ไม่เก่งอย่างเดียวแถมยังหล่อด้วยนะจะบอกให้ ฮ่าๆ" นดลเอ่ยขำๆก่อนที่จะสวมกอดน้องชายสุดที่รัก น้องชายคนนี้เป็นคนที่อ่อนแอและมองโลกในแง่ดีในทุกๆเรื่อง นั่นทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงน้องคนนี้ตลอดเวลาเพราะกลัวพวกมารสังคมจะใช้ความอ่อนโยนของนภัทรมาหลอกลวงหรือทำร้ายเอาได้

"หวังว่ากลับมาคราวหน้าผมจะได้มีพี่สะใภ้กับเค้าบ้างนะครับ"

"พี่จะพยายามหาให้ได้ละกัน ฮ่าๆๆ"

"หล่อแล้วอย่าเลือกมากเดี๋ยวจะขึ้นคานเอานะ" นภัทรเอ่ยแซวพี่ชาย

"ถ้าจะมีเดี๋ยวมันก็มาเองล่ะไอ้น้อง"

สนทนากันได้สักพักใหญ่ทั้งหมดก็ต้องกลับบ้านกันก่อนนั่นเพราะเหลือเวลาตั้งชั่วโมงเศษๆกว่าจะเครื่องจะออก

"ก่อนกลับเรามาเซลฟี่กันก่อนนะครับ" นภัทรเอ่ยขึ้นก่อนที่จวนจะถึงเวลากลับ

"มาเดี๋ยวพี่ถ่ายเอง" นดลเอ่ยแล้วก็รับโทรศัพท์มือถือจากน้องชายมาถ่ายรูปพร้อมกันทั้งสี่คน

"เดินทางปลอดภัยนะลูก" แก้วกานดาเอ่ยพร้อมกับโผกอดลูกชายอีกครั้ง

"พ่อไปล่ะ เดินทางปลอดภัยนะไอ้ลูกชาย"

"ครับพ่อ" นภัทรเอ่ยแล้วเปลี่ยนมาสวมกอดผู้เป็นพ่อแทน

"ไปล่ะภัทรดูและตัวเองดีๆ ถ้าขึ้นเครื่องแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะ"

"ครับพี่ดล" นภัทรว่าแล้วก็ยิ้มให้พี่ชาย

หลังจากที่ทั้งสามคนกลับไปหมดแล้ว นภัทรก็ต้องนั่งรออีกเป็นเวลาชั่วโมงเศษ เขาจองเที่ยวบินรอบดึกจึงต้องให้พ่อกับแม่รวมถึงพี่ชายกลับบ้านก่อนนั่นเพราะหากรอให้ถึงเวลามันอาจจะดึกไป

อีกมุมหนึ่งของสนามบิน
"นายครับเจอเป้าหมายแล้ว" เสียงชายชุดดำกำลังคุยสายกับผู้เป็นเจ้านาย

"อย่าให้พลาดล่ะ" ปลายสายเอ่ยกับลูกน้องด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

"ผมจะไม่ทำให้นายผิดหวังแน่นอนครับ"

"ฉันจะรอที่เกาะพรุ่งนี้เช้าหวังว่าฉันจะได้เห็นผลงานดีๆของพวกแกนะ"

"ครับนาย"

สิ้นเสียงลูกน้อง 'เคลวิน' ก็วางสายแล้วแสยะยิ้มออกมา เขานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานภายในห้อง มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องเอาคืนพวกมันที่เคยทำลายชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ของเขา พวกมันจะได้รู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง

"แล้วเจอกัน......นภัทร"


////////////////////////////////////////
ฝากเรื่องใหม่ไว้ด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: กรงรักร้ายของนายซาตาน(Mpreg)-Intro-อัพ-02-02-2018
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 02-02-2018 20:02:02
ติดตามมมมมมมม
หัวข้อ: Re: กรงรักร้ายของนายซาตาน(Mpreg)-Intro-อัพ-02-02-2018
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 02-02-2018 20:12:55
ตามมม :katai5:
หัวข้อ: กรงรักร้ายของนายซาตาน(Mpreg)-CH1-เสียทั้งกายและใจ-อัพ-02-02-2018
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 02-02-2018 20:32:36
CHAPTER  1  เสียทั้งกายและใจ


@เกาะบลูซี
   เกาะบลูซีเป็นเกาะแฝดส่วนตัวของตระกูลเมอร์เรย์  ซึ่งเกาะพี่บลูซีคือเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าตัว  โดยจะเปิดโรงแรมระดับห้าดาวคอยต้อนรับลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ  ส่วนเกาะน้องบลูซีจะเป็นที่พักผ่อนส่วนตัวของผู้เป็นเจ้าของเกาะ

   คู่สามีภรรยานักธุรกิจชาวอังกฤษผู้ไร้ซึ่งทายาทสืบสกุล แต่เมื่อสิบหกปีก่อนหน้านี้พวกเขามาเที่ยวและหาทำเลเพื่อทำธุรกิจที่เมืองไทย  ได้เจอและถูกชะตากับเด็กน้อยกำพร้าคนหนึ่งชื่อ ‘วิน’ และได้รับอุปการะเป็นบุตรบุญธรรม  พาไปเลี้ยงดูและส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษและได้ส่งมาบริหารโรงแรมที่เกาะส่วนตัวแห่งนี้  โดยนานๆทีจะมาที่เมืองไทยเพื่อมาเยี่ยมเยียนลูกชาย
 
   ตอนนี้เป็นเช้าของวันใหม่หลังจากที่นภัทรโดนลูกน้องของเคลวินจับตัวมาไว้ที่บ้านพักบนเนินเขาสูงด้านหนึ่งเป็นหน้าผาสูงชันส่วนทางออกมีทางเดียวและมีคนของเคลวินเฝ้ายามอยู่ตลอดเวลายากที่จะสามารถหนีออกไปได้  เขาถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้บนเตียงไม่สามารถที่จะขยับตัวได้เลยแม้แต่น้อย

   เสียงนกร้องในยามเช้าทำให้นภัทรค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ  จากภาพที่เบลอๆค่อยๆชัดขึ้นเรื่อยๆตอนนี้เขาตื่นขึ้นมาในสถานที่ไม่คุ้นตา  นภัทรพยายามที่จะขยับตัวแต่มันแต่เขาก็ทำไม่ได้เพราะกำลังถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ด้วยน้ำมือของโจรพวกนั้นที่มาดักจับตัวเขาเมื่อคืนนี้

   “นี่มันที่ไหนกัน” นภัทรเอ่ยออกมาเสียงเบา

   “มันอยู่ข้างในครับนาย”

   นภัทรได้ยินเสียงคนพูดดังมาจากข้างนอกเขาก็ต้องหลับตาลงแล้วนอนนิ่งๆเอาไว้ไม่ให้พวกมันรู้ว่าเขาได้รู้สึกตัวแล้ว
   “พวกมึงกลับไปที่โรงแรมก่อนเดี๋ยวที่นี่กูจัดการเอง”

   นภัทรนอนฟังเสียงของหนุ่มนิรนามที่กำลังสั่งลูกน้อง ทำไมนะเขาถึงรู้สึกคุ้นหูกับเสียงพูดนี้มากเหลือเกิน

   แอ๊ดดดดดด

   เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงเดินเข้ามาเรื่อยๆ ตอนนี้หัวใจของนภัทรเต้นแรงด้วยความกลัวแต่เขายังคงนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น

   “ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง หึหึ” เสียงเข้มของเคลวินเอ่ยออกมาพร้อมกับหัวเราะในลำคออย่างพอใจ

   “ลูกชายที่คนพวกแกรักนักรักหนาจะต้องย่อยยับด้วยน้ำมือของฉัน” ว่าแล้วเคลวินก็เอื้อมมือหนาไปเชยคางของร่างบางที่กำลังนอนนิ่งอยู่ แต่ไม่ทันไรเขาก็ต้องร้องออกมาเสียงดัง

   “โอ๊ย!!!! เหี้ยเอ้ย” เคลวินร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวดนั่นเพราะมือของเขาโดนร่างบางกัดจนต้องใช้มืออีกข้างบีบที่ปากบางจนนภัทรต้องยอมปล่อย

   “มึงกล้ามากที่กล้าทำกับกูแบบนี้” เคลวินเอ่ยเสียงแข็งด้วยความโมโห

   “ปะ…ปล่อยนะ” นภัทรเอ่ยพร้อมกับจ้องหน้าคนที่กำลังทำร้ายตัวเอง

   เมื่อเพ่งมองใบหน้าคมคายนั้นอย่างตั้งใจนภัทรก็ต้องยิ้มออกมาทั้งๆที่กำลังโดนบีบที่คางเรียวอยู่

   “พี่วิน…พี่วินใช่ไหม” นภัทรเอ่ยออกมาอย่างไม่มั่นใจ พร้อมกันนั้นน้ำตามันก็ไหลออกมาจากหางตาอย่างดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้ง  คนที่อยู่ในความทรงจำในวัยเด็กของเขาและไม่เคยลืมมาตลอด พี่วินที่เคยแสนดีและอ่อนโยนคอยปกป้องดูแลเขามาตลอด

   “กูไม่ใช่พี่วินของมึง  ไม่ต้องมาทำดีใจจนน้ำตาแตกกูไม่ใจอ่อนให้หรอก” เคลวินเอ่ยเสียงแข็งแล้วก็เอามือผลักใบหน้าของนภัทรจนล้มลงไปนอนที่เตียง

   “ทำไมพี่วินทำแบบนี้ พี่จับตัวผมมาทำไมอ่ะ” นภัทรเอ่ยถามด้วยความสงสัย

   “เพราะกูต้องการแก้แค้นพ่อกับแม่มึงไง ครอบครัวมึงแม่งเหี้ยโคตรๆ มึงต้องชดใช้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น”

   “พ่อกับแม่ผมทำอะไร  ท่านทั้งสองรักพี่วินมาก  พี่ต้องเข้าใจผิดแน่ๆเลยครับ ปล่อยผมเถอะนะผมจะไปบอกท่านว่าผมเจอพี่แล้วท่านคงดีใจมาก” นภัทรเอ่ยพร้อมกับมองด้วยสายตาที่เว้าวอน

   “ปล่อยมึงไปให้โง่น่ะสิ มึงต้องอยู่ที่นี่จนกว่ากูจะทำให้มึงย่อยยับจนกูพอใจ  แล้วตอนนั้นกูถึงจะให้พ่อกับแม่มึงรู้ว่ามึงอยู่ที่นี่  และแน่นอนถึงตอนนั้นมึงคงไม่มีศักดิ์ศรีเหลือพอที่จะแบกหน้าไปเจอใครได้อีกแล้ว ฮ่าๆๆ” เคลวินหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ

   “ทำไมพี่วินพูดแบบนี้ รู้ไหมว่าภัทรคิดถึงพี่วินมาตลอด  ไม่เคยลืมเลยแม้แต่วันเดียว พี่ยังจะทำร้ายผมได้ลงคออีกหรือ” นภัทรเงยหน้าขึ้นมาพูดกับคนตัวโตพร้อมกับร้องไห้ไปด้วย

   เขาจำได้ว่าตอนที่วินหายตัวออกไปจากบ้านนั้นเขาถามพ่อกับแม่ตลอดเวลาว่าวินหายไปไหน  แต่ก็ไม่ได้คำตอบจากท่านทั้งสองคน  พ่อกับแม่บอกเพียงแค่ว่าวินไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด  เขารู้แค่นั้นและก็ได้แต่เฝ้ามองที่ประตูรั้วบ้านมาตั้งแต่เด็กจนโต  เผื่อว่าวันหนึ่งวินจะกลับมาแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีวี่แววของพี่ชายคนนั้น คนที่ดีกับเขามาตลอด

   “มึงอย่ามาพูดถึงอดีตกูลืมมันไปหมดแล้ว ไอ้วินคนนั้นมันได้ตายไปจากโลกนี้แล้วเหลือแต่กูคนที่ชื่อ ‘เคลวิน’ มึงมองหน้ากูไว้กูชื่อเคลวินไม่ได้ชื่อวินจำไว้ด้วย” เคลวินเอามือจิ้มไปที่หน้าผากของร่างบางจนศีรษะของเขาต้องโน้มเอนไปตามแรงของน้ำหนักมือ

   “ผมไม่เชื่อ! พี่วินยังเป็นคนเดิมใช่ไหม พี่วินคนที่ดีกับผม พี่วินคนที่เคยปกป้องผม คนนั้นยังอยู่นี่ใช่ไหมครับ ฮือๆๆ” นภัทรร้องไห้เสียงดังจนคนที่กำลังยืนดูอยู่นั้นเริ่มรำคาญ

   “หยุดร้อง ถ้ามึงไม่เชื่อกูจะทำให้มึงเชื่อเองว่ากูคนนี้ไม่ใช่ไอ้วินที่แสนดีของมึงอีกต่อไป” ว่าแล้วเคลวินก็นั่งลงข้างๆแล้วก็แก้มัดให้จนร่างบางเป็นอิสระ

   “พี่วินปล่อยผมแล้ว พี่วินคนเดิมของผมกลับมาแล้ว” นภัทรยิ้มออกมาอย่างดีใจแล้วก็รีบโผเข้าไปกอดคนที่เพิ่งจะแก้มัดให้
   เคลวินยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจแล้วก็จับไหล่บางทั้งสองข้างให้ห่างจากตัว  แล้วจ้องหน้าก่อนที่จะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์จนทำให้นภัทรถึงกับกลัวรอยยิ้มนั่น

   “พร้อมรึยัง” เคลวินเอ่ยถาม

   “พะ…พร้อมอะไรครับ” นภัทรถามออกมาด้วยเสียงตะกุกตะกัก เขาเดาใจคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ออกเลยจริงๆ แววตาที่ไร้ความปราณีบวกกับรอยยิ้มที่แสนจะโหดเหี้ยมนั้นมันช่างน่ากลัวมากเหลือเกิน

   “พร้อมที่จะเป็นเมียกูไง” ว่าแล้วเคลวินก็ผลักร่างบางลงแล้วคร่อมตัวไว้ทันที

   “ปล่อยผมนะพี่วิน บอกให้ปล่อยไง ฮึก ฮือๆๆ” นภัทรร้องไห้ออกมาเพราะความกลัว พี่วินที่เขาเคยรู้จักได้ตายไปจากโลกนี้แล้วจริงๆสินะ ตอนนี้เหลือแค่นายเคลวินคนที่ใจร้ายและโหดเหี้ยมเท่านั้น

   เคลวินฉีกเสื้อคอวีแขนยาวของนภัทรออกอย่างง่ายดายแล้วเขวี้ยงทิ้งอย่างไม่ใยดี  หลังจากนั้นก็ปลดตะขอกางเกงยีนส์ยี่ห้อดังออกจนร่างบางเหลือเพียงชั้นในสีขาวเพียงตัวเดียว

   “ปล่อยยยย ฮือๆๆ”

   นภัทรพยายามใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีขัดขืนและต่อสู้  แต่นั่นไม่เป็นผลเพราะตัวของเคลวินแข็งแกร่งและบึกบึนเนื่องจากผ่านการเข้าฟิตเนสมาอย่างสม่ำเสมอ  จนทำให้รูปร่างของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆและกล้ามท้องที่เป็นลอนสวยงามจนน่าสัมผัส  แต่ในตอนนี้นภัทรกลับรู้สึกขยะแขยงร่างกายอันกำยำนี้เหลือเกิน

   “ร้องไห้ดังๆเลย ร้องออกมากูชอบเห็นความเสียใจ ความผิดหวังของมึง มันทำให้กูรู้สึกสะใจมาก ร้องออกมา!” เคลวินตะคอกใส่เสียงดังพร้อมกับระดมจูบไปทั่วใบหน้าสวยรูปไข่ และที่ผิวขาวอมชมพูดูสะอาดสะอ้านนั่นก็ทำให้เคลวินหลงไหลอย่างบอกไม่ถูก เขารู้สึกอิ่มเอมและรู้สึกสะใจไปพร้อมๆกัน

   “ไปตายซะไอ้เลว ฮือๆๆ” นภัทรสบถคำหยาบออกมาจนทำให้เคลวินยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ

   “ในที่สุดธาตุแท้มึงก็ออกมาแล้วสินะ ดี! มันจะได้สมน้ำสมเนื้อกับกูคืนนี้มึงได้เจอกูแน่” เคลวินเอ่ยก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงไปจูบที่ริมฝีปากบากอย่างดูดดื่มและรุนแรง  จนร่างบางต้องใช้มือทั้งสองข้างทุบไปที่แผ่นหลังของคนตัวโตเพราะเจ็บที่ริมฝีปาก  น้ำตามันก็ไหลออกมาไม่หยุด เขาเกลียดคนๆนี้ทำไมพี่วินที่แสนดีในวัยเด็กของเขาถึงได้ป่าเถื่อนแบบนี้

   จ๊วบบบบบบ!!!!

   “อื้ออออ”

   ตอนนี้ทั้งสองร่างเปลือยเปล่าไม่มีอาภรณ์ปกคลุมเรืองร่างแม้แต่ชิ้นเดียว นภัทรอยู่ภายใต้อ้อมอกแกร่งโดยจำยอม  เขาไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวตามใจได้เลยแม้แต่น้อย คนที่คุมเกมส์นี้คือเคลวินคนเดียวเท่านั้น เขาประสานนิ้วมือเรียวแล้วตรึงไว้กับที่นอนนุ่ม

   “พร้อมที่จะเป็นเมียกูรึยัง” เคลวินยิ้มพร้อมกับทำหน้าหื่นใส่จนคนที่อยู่ใต้ร่างทนดูไม่ได้ถึงกับเอียงหน้าหนี

   “มองหน้ากู คนที่จะเป็นผัวมึงในอีกไม่ช้า” เคลวินสั่งแต่นภัทรยังคงนิ่งอยู่อย่างนั้นพร้อมกับน้ำใสๆที่มันไหลออกจากหางตาไม่ขาดสาย

   “มึงกล้าขัดคำสั่งกูเหรอห๊ะ” เขาปล่อยมือข้างหนึ่งแล้วเปลี่ยนมาบีบที่คางเรียวแทนเพื่อบังคับให้หันหน้ามามองที่เขา

   ถุย!!

   นภัทรได้ทีก็ถ่มน้ำลายใส่หน้าเคลวินทันที จนตอนนี้คนตัวโตหน้าแดงจัดเพราะความโกรธ

   เพี๊ยะ!!!!

   นภัทรหันหน้าไปตามแรงตบจนเลือดไหลออกมาที่มุมปาก นั่นยิ่งทำให้น้ำตามันยิ่งไหลพรุ่งพรูออกมาเพราะความเจ็บปวด

   “ไอ้เลว มึงจะทำอะไรก็รีบทำกูจะได้ไม่ต้องทนเห็นหน้ามึง ไม่ต้องทนอยู่ใกล้กับมึงแบบนี้” นภัทรพูดเสียงแข็งใส่

   “กูเอามึงแน่ แต่มึงคิดเหรอว่ากูจะเอามึงแค่ครั้งเดียว กูจะเอามึงจนกว่ากูจะพอใจ ฮ่าๆๆ” พูดแล้วเคลวินก็หัวเราะออกมาอย่างพอใจ

   “ไอ้เหี้ย ไอ้เลว มึงไปตายซะ กูเกลียดมึง!!” นภัทรตะโกนออกมาอย่างเหลืออดราวกับคนบ้า จนทำให้เคลวินต้องรวบตัวเอาไว้แล้วเบียดช่วงล่างไปที่หว่างขาของนภัทรแล้วแยกขาทั้งสองข้างออกจากัน  หลังจากนั้นก็จ่อแก่นกายแท่งใหญ่ที่แข็งได้ที่ถูไถไปที่ช่องทางหลังของร่างบางอย่างสนุกสนาน

   “เกลียดกูมากใช่ไหม ดี! กูจะทำให้มึงเกลียดกูกว่านี้อีก อ้าส์!!!!!” พูดจบแล้วเคลวินก็ยัดแก่นกายเข้าไปพรวดเดียวจนสุดทำให้ร่างบางถึงกับสะดุ้งทันที

   “โอ้ยยยยย!!! จะ….เจ็บ ไอ้เลว” นภัทรร้องออกมาเสียงดังด้วยความเจ็บปวด  เหมือนร่างกายของเขามันจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ นี่คือครั้งแรกของเขาและมันเป็นครั้งแรกที่สุดแสนจะอัปยศ

   “ร้องออกมาดังๆกูชอบ ฮ่าๆๆๆๆ” เคลวินหัวเราะเสียงดังด้วยความพอใจพร้อมกับขยับเอวไปด้วยไม่ให้ขาดช่วงเลยแม้แต่วินาทีเดียว

   เขาสอนบทรักและยัดเยียดแก่นกายเข้าไปในตัวร่างบางซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่มีวี่แววว่าเรี่ยวแรงของเขาจะหมดลงแต่อย่างใด  เขายังคงพอใจของเล่นชิ้นใหม่ที่สุดแสนจะพิเศษมันทั้งสุขสมและสะใจไปพร้อมๆกัน  และที่สำคัญเขาพอใจกับเสียงครางใต้ร่างนี้มากเป็นพิเศษจนไม่อยากจะหยุดมันเลยแม้แต่วินาทีเดียว

*_*_*_*_*_*



   “ฮึกๆๆ”

         หลังจากผ่านบทรักที่สุดแสนจะป่าเถื่อนหลายต่อหลายรอบ ตอนนี้นภัทรนอนกอดตัวเองเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง  พร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เขาไม่เคยเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้มาก่อนและที่สำคัญคนที่ทำร้ายเขากลับเป็นคนในความทรงจำที่เขาเคยประทับใจอีกด้วย  แต่หลังจากนี้ไปมันคงไม่มีทางที่เขาจะกลับไปญาติดีกับคนแบบนั้นได้อีกแล้ว

   “ร้องซะให้พอเดี๋ยวมึงก็จะชินเอง” เคลวินที่กำลังนอนหายใจหอบเหนื่อยอยู่เปลี่ยนท่าทีมากอดร่างบางจากด้านหลังเอาไว้  แล้วระดมจูบไปที่ไหล่ขาวและลำคอ จนนภัทรรู้สึกสะอิดสะเอียนมากเหลือเกิน

   “อย่ามาแตะเนื้อต้องตัวกูอีกคนเลวอย่างมึงมันต่ำเกินกว่าที่จะมาทำแบบนี้กับกู” นภัทรเอ่ยออกมาเสียงแข็งแล้วขยับตัวออกไปห่างๆอย่างทุลักทุเลเพราะยังเจ็บที่ช่วงล่างมากเหลือเกิน

   “ใช่! คนต่ำๆอย่างกูนี่แหละเป็นผัวมึงแล้ว ฮ่าๆๆ” เคลวินเอ่ยพร้อมกับขยับตัวไปใกล้ๆ  แล้วเอื้อมมือไปเกี่ยวเอวร่างบางเอาไว้หลังจากนั้นก็ดึงเข้ามาแนบชิดกับร่างอันเปลือยเปล่าของตัวเอง

   “กูเกลียดมึงอย่ามาใช้คำนั้นกับกู” นภัทรพยายามขัดขืนแล้วพยุงตัวขึ้นเพื่อหาเสื้อผ้ามาใส่ แต่เสื้อเขาเพิ่งจะโดนคนตัวโตฉีกมันขาดไปแล้วจึงได้แต่เพียงใส่กางเกงเท่านั้น

   เคลวินมองร่างบางอย่างพอใจแล้วก็ลุกขึ้นนั่งบนเตียง

   “เดี๋ยวกูให้คนไปซื้อเสื้อผ้ามาให้รวมทั้งข้าวด้วยอยู่ในห้องนี้ห้ามออกไปไหนจนกว่ากูจะสั่ง”

   เคลวินเดินไปใส่กางเกงเช่นเดียวกันแล้วเอาเสื้อพาดไว้บนบ่า

   นภัทรยังคงนั่งกอดเข่าอยู่ที่มุมห้องไม่พูดไม่จา

   “ถ้ากูเห็นมึงไปเสนอหน้าข้างนอกรับรองมึงได้เจอดีแน่ ถ้าไม่เชื่อกันก็อย่าหาว่ากูไม่เตือน” เคลวินสั่งแล้วก็เดินออกมาไปจากห้องทันที

   เมื่อเห็นว่าคนตัวโตออกไปจากห้องแล้วก็รีบวิ่งไปล็อกห้องเอาไว้  อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาอุ่นใจไปเปาะหนึ่งแล้วก็กลับมานั่งที่เดิม

   “พ่อครับ แม่ครับ ผมกลัวมากเหลือเกิน ฮือๆๆ”
นภัทรนั่งกอดเข่าก้มหน้าร้องไห้อยู่อย่างนั้นในตอนนี้เขาคิดถึงครอบครัวมากเหลือเกิน  สิ่งที่ได้เจอวันนี้มันช่างโหดร้ายเกินกว่าที่จะรับมันได้


        ต่อไปนี้คงไม่มีพี่วินอีกแล้วสินะ….ไม่มีอีกแล้ว


/////////////////////////////////////////////////////////////
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ
หัวข้อ: Re: กรงรักร้ายของนายซาตาน(Mpreg)-CH-1 เสียทั้งกายและใจ-Update-02-02-2018
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 02-02-2018 20:53:47
บวกเป็ดโล้ด  o13 ชอบแนวนี้  :impress2:

แนวโหด เถื่อน ตบจูบ และท้องได้   :hao3:

ตาม ตาม ตามจ้า  :mew1:
หัวข้อ: กรงรักร้ายของนายซาตาน[MPREG]-CH2-สถานะใหม่-(03-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 03-02-2018 10:25:58
CHAPTER  2  สถานะใหม่



   ปัง! ปัง! ปัง!

   “เปิดประตูเดี๋ยวนี้”

        เสียงทุบประตูดังขึ้นปลุกให้นภัทรที่กำลังนั่งกอดเข่าอยู่ที่มุมห้องตื่นขึ้นมา

   “ถ้าไม่เปิดกูจะพังเข้าไป” เสียงเคลวินดังมาจากด้านนอก  แต่นภัทรเองยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย เขารู้ดีว่ายังไงเคลวินก็เข้ามาได้อยู่ดีจะลุกหรือไม่ลุกไปเปิดประตูมันก็ไม่ต่างกัน

   “ได้มึงเจอกูแน่” สิ้นสียงของเคลวินประตูก็ดังขึ้นอีกครั้งและตอนนี้มันรุนแรงกว่าครั้งแรกมาก

   ปัง! เพล้ง!

   เสียงดังขึ้นจนทำให้นภัทรถึงกับสะดุ้ง เขารู้สึกหวาดกลัวกับเสียงนั่นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิม

   “มึงกล้าดียังไงขัดคำสั่งกู ลุกขึ้นมา” เคลวินกระชากแขนร่างบางให้ลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล

   “โอ๊ย! เจ็บ!”

   นภัทรเอ่ยเสียงลอดไรฟันออกมาด้วยความเจ็บปวด ทุกส่วนในร่างกายเขามันบอบช้ำมากเหลือเกินจากการกระทำที่ป่าเถื่อนของคนตัวโต

   “อย่ามาทำสำออย”

   “อย่ามาจับตัว” นภัทรเอ่ยแล้วถลึงตาใส่

   “ทำอย่างกับกูอยากถูกเนื้อต้องตัวมึงซะอย่างนั้นล่ะ”

   “ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยแล้วออกไปเดี๋ยวนี้” นภัทรยังคงต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่ได้รู้สึกกลัวแต่อย่างใด

   “กูไปแน่ ถ้ามึงไม่อยากได้ของที่กูเอามาให้ กูก็จะเอามันกลับไป” ว่าแล้วเคลวินก็เดินไปหยิบถุงข้าวและเสื้อผ้าที่สั่งให้ลูกน้องซื้อมาจะเดินออกไปจากห้อง

   “เดี๋ยว! เอากลับคืนมากูอยากได้” นภัทรจำเป็นต้องยอมเอ่ยขอร้องนั่นเพราะตอนนี้รู้สึกหิวมากเนื่องจากยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่เมื่อวาน  แถมตอนนี้เขาก็มีแค่กางเกงยีนส์เพียงตัวเดียวที่ห้อหุ้มร่างกาย ตอนนี้เขาจะต้องไม่อ่อนแอให้นายนั่นเห็นและต้องมีแรงเพื่อที่จะหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้

   เคลวินโยนถุงเสื้อผ้าให้นภัทรพร้อมกับวางถุงข้าวไว้บนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ

   “กินข้าวแล้วก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ กูให้เวลายี่สิบนาทีเสร็จแล้วออกไปหากูข้างนอกห้ามเลทเด็ดขาด” เคลวินสั่งก่อนที่จะเดินออกไป

   นภัทรเดินไปหยิบข้าวกล่องขึ้นมาแล้วก็รีบกินด้วยความหิวโหย ตั้งแต่เกิดมาชีวิตเขาไม่เคยตกต่ำขนาดนี้มาก่อน แต่พอนึกถึงครอบครัวขึ้นมามันก็ทำให้เขามีแรงฮึดสู้ขึ้นมาอีก  แต่สิ่งที่เขาต้องการรู้ตอนนี้คืออะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เคลวินเกลียดครอบครัวเขาขนาดนี้เขาต้องรู้ให้ได้

   “ผมคิดถึงพ่อกับแม่มากเหลือเกิน ผมต้องหาทางออกจากที่นี่ให้ได้”

   หลังจากที่นภัทรทานข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ก็เข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สดชื่นแล้วเดินออกไปหาเคลวินตามคำสั่ง  ตอนนี้เขาต้องจำยอมทำทุกอย่างตามที่เคลวินสั่งนั่นเพราะเขารู้ว่าหากขัดใจจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
   
   “ออกมาแล้วเหรอ” เคลวินเอ่ยถามพร้อมกับมองใบหน้าหวานที่กลับกลายเป็นใบหน้าบึ้งตึงไปซะแล้ว

   นี่เป็นครั้งแรกที่นภัทรได้เดินออกมาสูดบรรยากาศข้างนอกห้อง  เขาพบว่านอกจากบ้านพักหลังเล็กๆที่เขาเพิ่งจะออกมาแล้วนั้นก็ยังมีคฤหาสน์หลังใหญ่อยู่อีกฝั่ง โดยที่ฝั่งด้านหน้าคฤหาสน์ก็เป็นหน้าผาสูงชันที่เห็นวิวของท้องฟ้าและน้ำทะเลสุดลูกหูลูกตา ดูมุมไหนก็ไม่เห็นจะมีทางออกเลยแม้แต่ทางเดียว

   “มองหาทางหนีอยู่รึไง?” เคลวินเอ่ยถามเมื่อเห็นร่างบางมองซ้ายมองขวาโดยที่ไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย

   “ปะ…เปล่า” นภัทรตอบขณะยืนอยู่

   “นั่งลงสิ” เคลวินสั่ง

   นภัทรได้ยินก็ยอมนั่งลงแต่โดยดี แต่ไม่ยอมมองหน้าคนที่กำลังสั่งเลยแม้แต่น้อย

   “มึงเห็นบ้านหลังนั้นไหม” เคลวินเอ่ยถามอีกครั้ง

   “เห็น ทำไม?” นภัทรหันไปมองแล้วตอบ

   “วันนี้ช่วงเย็นๆกูจะพามึงไปอยู่ที่นั่นเตรียมตัวให้พร้อม”

   “ทำไมต้องบอกด้วยล่ะถึงเวลามึงก็พากูไปเลยสิ ยังไงกูก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว”  นภัทรเอ่ยเสียงแข็ง

   “มีหลายเรื่องที่มึงต้องรู้และปฏิบัติตามหากเข้าไปอยู่ที่นั่น” เคลวินเอ่ยพร้อมกับจิบน้ำชาไปด้วยอย่างสบายใจ

   “ก็ว่ามาสิ”

   “มึงไปอยู่ที่นั่นในฐานะคนใช้ มีหน้าที่คอยปรนนิบัติกูและทำงานร่วมกับคนอื่นๆโดยไม่มีข้อแม้และห้ามเกี่ยงงาน”
   ในใจตอนนี้นภัทรรู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อยที่ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอย่างที่เขาเข้าใจ  อย่างน้อยเขาอาจจะมีเพื่อนที่อาจจะช่วยให้ออกไปจากที่นี่ได้

   “ไม่มีปัญหา”

   “กูจะบอกไว้ก่อนว่า คนที่บ้านหลังนั้นล้วนแต่เป็นคนของกูและจงรักภักดิ์ดีกับกูทั้งนั้น มึงอย่าคิดว่าจะมีคนช่วยมึงออกไปจากที่นี่เพราะไม่งั้นมึงอาจจะไม่มีชีวิตรอดกลับไปหาครอบครัวมึงอีก  และอีกอย่างมึงต้องเรียกกูว่าคุณเคลวินอย่างที่คนอื่นๆเรียก ห้ามเรียกกูมึงเด็ดขาดไม่งั้นมึงโดนดีแน่”

   “มีอะไรจะสั่งอีกไหม” นภัทรทำหน้าเบื่อหน่าย

   “มี…คืนนี้เตรียมตัวไว้ด้วยล่ะ” เคลวินพูดแล้วยกยิ้มให้

   นภัทรได้ยินก็สะบัดหน้าหนีแล้วเดินเข้าไปในห้องทันที

   “ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ” นภัทรนั่งลงบนเตียงแล้วก็เอามือทุบหมอนเพื่อระบายอารมณ์  เขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไงดีถึงจะหลุดพ้นไปจากตรงนี้ได้

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


   “ป้าภาครับผมพาคนรับใช้คนใหม่มาฝากให้ป้าดูแลด้วย” เคลวินเอ่ยกับป้าภาซึ่งป็นแม่บ้านเก่าแก่ของที่นี่

   “ได้ค่ะคุณเคลวิน ไม่ทราบว่าจะให้พักที่ห้องไหนค่ะ” ป้าภาถามเพราะดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วไอ้หนูคนนี้ไม่น่าจะใช่คนใช้ธรรมดาแน่ๆ หล่อนรู้สึกสงสัยเลยถามออกไป

   “ให้พักที่ห้องคนใช้ ป้าใช้งานได้เต็มที่เลยนะ” เคลวินบอกแล้วปรายตาไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ หลังจากนั้นก็เดินขึ้นไปชั้นบน

   นภัทรยิ้มให้ป้าภาแล้วก็ยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม  อย่างน้อยการรู้จักสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีเอาไว้น่าจะเป็นผลดีกับเขามากกว่า

   “ไหว้พระเถอะจ๊ะ ว่าแต่เอ็งชื่ออะไรล่ะ” ป้าภาเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มให้

   “ผมชื่อนภัทรครับ เรียกผมว่าภัทรเฉยๆก็ได้ครับป้าภา” เขาพูดแล้วยิ้มให้

   “รูปร่างหน้าตาผิวพรรณไม่น่าเป็นคนใช้เลยดูสิ” ป้าภาเอ่ยพร้อมกับเข้ามาจับมือของนภัทรพลิกไปมา

   “เอ่อ…ขนาดนั้นเลยเหรอครับป้า  ยังไงซะตอนนี้ผมก็เป็นคนใช้แล้วคงไม่ต้องมีอะไรสงสัยแล้วมั้งครับ” นภัทรยิ้มให้

   “เดี๋ยวป้าจะพาเอ็งไปที่ห้องพักก่อนละกันเดี๋ยวค่อยแจงงานให้อีกที” ป้าภาบอก

   “ครับป้า”

   นภัทรเดินตามหลังป้าภาไปพร้อมกับสังเกตสิ่งต่างๆภายในบ้าน คฤหาสน์หลังนี้ใหญ่โตราวกับราชวัง แต่เขาไม่ยักเห็นคนพลุกพล่านเลยแม้แต่น้อย

   “นี่ห้องเอ็งนะ  ว่าแต่ไม่มีของใช้อะไรติดตัวมาเลยเหรอ” ป้าภาถาม

   นภัทรมองหน้าแล้วยิ้มแหยๆให้ ในวันที่เขาโดนจับตัวมานั้นของทุกอย่างมันอยู่ที่สนามบินทั้งหมดมีเพียงเสื้อผ้าและโทรศัพท์มือถือติดตัวมาก็เท่านั้น  แต่ช่างโชคร้ายที่โทรศัพท์มือถือเขากลับโดนพวกมันเอาไปซะอีก  คิดแล้วก็เจ็บใจมากเหลือเกิน

   “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวป้าไปเอาของป้ามาให้ก่อนละกันแล้ววันหลังค่อยไปซื้อเอาเอง” ป้าภาบอก

   “แถวนี้มีร้านขายของด้วยเหรอป้า” นภัทรถามด้วยความสนใจ

   “บนเกาะนี้มันไม่มีหรอก ถ้าจะมีก็อีกเกาะโน่นนักท่องเที่ยวเยอะคุณเคลวินเลยเปิดให้คนมาเช่าพื้นที่ขายของ  แต่ถ้าจะไปก็ต้องแจ้งคุณเคลวินก่อนเดี๋ยวป้าไปเอาของมาให้เอ็งก่อนนะ” ป้าภาบอกแล้วก็เดินออกไปทันที

   นภัทรเปิดประตูเข้าไปในห้องแถวเล็กๆที่มีประมาณสิบกว่าห้องเรียงรายกันอยู่  เมื่อเปิดเข้าไปภายในห้องก็พบว่ามีเฟอร์นิเจอร์ครบครันไม่ว่าจะเป็นตู้ เตียง จะดีก็ตรงที่มีห้องน้ำในตัวนี่ล่ะที่ทำให้เขาพอจะอุ่นใจได้

   หลังจากนั้นนภัทรก็เดินออกมาจากห้องแล้วเดินไปดูรอบๆบริเวณนั้น  พื้นที่ขนาดใหญ่บนเนินเขาสูงแบบนี้ถ้าเดินหนีออกไปก็คงจะไม่รอดแน่ๆ และอีกอย่างเขาเองก็ไม่ชำนาญทางเขาต้องตีสนิทกับคนที่นี่เพื่อหาลู่ทางหนีออกไป ตอนนี้ในหัวของนภัทรคิดได้แค่นี้และน่าจะเป็นทางเดียวที่ดีที่สุดแล้ว

   “นายๆ มาใหม่เหรอ” เป็นเอกคนสวนของที่นี่เอ่ยทักทาย

   เอกเป็นหนุ่มใต้ผิวเข้มโครงหน้าคมคายได้รูปตามฉบับหนุ่มใต้แท้ๆ  เขาเดินถอดเสื้อแล้วเอาพาดบ่าไว้เผยให้เห็นเรือนกายอันกำยำหลังจากกลับมาจากทำงาน

   “เอ่อ…ครับผมมาใหม่” นภัทรตอบรับอย่างงงๆ พร้อมกับมองหน้าผู้ทักทาย

   “เราชื่อเอกเป็นคนสวนที่นี่ นายล่ะชื่ออะไร” เอกถามพร้อมกับยิ้มให้

   “เราชื่อภัทร ยินดีที่รู้จักนะ” นภัทรยิ้มให้

   “เช่นกันๆ อยู่ห้องนี้เหรอ” เอกชี้ไปที่ห้องพักห้องใหม่ของนภัทร

   “ใช่ๆ”

   “เฮ้ย ดีเลยจะได้มีเพื่อนคุย เราอยู่ห้องข้างๆนี่เอง” เอกบอกพร้อมกับแสดงสีหน้าท่าทางตื่นเต้น  นั่นเพราะที่นี่มีคนน้อยและส่วนมากจะเป็นผู้หญิงอีกต่างหาก เขาเลยแทบจะหาเพื่อนคุยไม่ได้เลย

   “จริงสิ ดีเลยเวลาเรามีอะไรสงสัยจะได้ถามเอก” นภัทรบอก

   “ได้เลยๆ เดี๋ยวเราเข้าไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวช่วงเย็นๆเราไปกินข้าวด้วยกัน” ว่าแล้วเอกก็เดินยิ้มเข้าไปในห้องพักทันที
   นภัทรยืนยิ้มอยู่อย่างนั้นหลังจากที่ได้มีเพื่อนคุยทำให้เขารู้สึกว่าการอยู่ที่นี่มันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด อย่างน้อยก็มีป้าภาและเอกที่เป็นคนนิสัยดีพอที่เขาจะคบหาได้  แต่ถึงกระนั้นตอนนี้เขายังคงไม่ไว้ใจใครที่นี่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะต่างก็เป็นลูกน้องของเคลวินทั้งนั้น

   “คิดจะเอาไอ้เอกเป็นผัวอีกคนรึไง”

   นภัทรหันไปมองยังต้นเสียงก็พบว่าเป็นเคลวินที่กำลังยืนมองดูเขาอยู่ เขามองหน้าเคลวินอย่างไม่สบอารมณ์แล้วก็หันหลังกลับเข้าไปในห้องทันที

   “จะไปไหนแค่นี้ทนฟังไม่ได่รึไง” เคลวินยังคงพูดจากวนใส่แล้วเอื้อมมือไปจับต้นแขนของร่างบางเอาไว้

   “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” นภัทรพยายามสะบัดแขนเพื่อให้หลุดพ้นจากการเกาะกุม แต่นั่นทำให้เคลวินกลับรวบตัวของร่างบางมากอดไว้

   “ไม่ปล่อยผัวจะกอดเมียไม่ได้รึไง” เคลวินพยายามรวบตัวนภัทรเอาไว้แน่น

   “หยุดพูดอะไรต่ำๆ เดี๋ยวนี้ผมไม่ใช่เมียใครทั้งนั้น ปล่อยเดี๋ยวคนก็มาเห็นหรอก” นภัทรเอ่ยพร้อมกับมองไปรอบๆว่ามีใครอยู่แถวนี้หรือเปล่า

   “ใครเห็นก็ช่างมันที่นี่มันที่ของกูใครหน้าไหนจะกล้ามาหือ” เคลวินมองหน้าแผ่รังสีอัมหิตใส่

   นภัทรมองหน้าเคลวินแล้วก็เกิดอาการหมั่นไส้  จึงใช้เท้าเตะไปที่หน้าแข้งของอีกฝ่ายจนเคลวินเผลอปล่อยตัวเขา

   “โอ๊ย!! มึงกล้าเตะกูเหรอ”  เคลวินชี้หน้าคาดโทษพร้อมกับก้มเอามือไปลูบที่หน้าแข้งของตัวเอง ขณะเดียวกันนภัทรก็รีบวิ่งเข้าไปในห้อง

   “อย่าเข้ามา” นภัทรกำลังจะปิดประตูแต่โดนเคลวินจับไว้ได้ทัน  แล้วก็เบียดตัวเข้ามาในห้องได้สำเร็จ

   “ปิดประตูสิ อ้าวจะยืนบื้ออยู่ทำไมจะปิดไม่ใช่เหรอ” เคลวินทำหน้ากวนใส่

   “อยู่ในนี้คนเดียวละกัน” นภัทรเอ่ยก่อนที่จะเดินออกไป แต่เคลวินกลับคว้าตัวเอาไว้แล้วปิดประตูทันที

   เขาเหวี่ยงตัวร่างบางไปที่เตียงนอนแล้วล้มตัวทับร่างบางเอาไว้

   “คุณจะทำอะไรปล่อยผมเดี๋ยวนี้” นภัทรพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากอ้อมอกแกร่ง

   “ในห้องนี้ก็ไม่เลวนะ” ว่าแล้วเคลวินก็ก้มหน้าลงไปลิ้มลองความหวานของริมฝีปากน้อยๆนั้นอย่างสนุกสนาน

   “อื้ออออ” นภัทรส่งเสียงครางในลำคอพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างดันที่อกแกร่งไว้

   จ๊วบ!!!!

   “อ่อยยยย” นภัทรยังคงส่งเสียงอ้อแอ้ออกมา เคลวินใช้มือข้างหนึ่งถลกเสื้อของร่างบางขึ้นจนเห็นยอดอกสีกลีบกุหลาบ เขาใช้มือสัมผัสมันเบาๆจนร่างบางรู้สึกสยิวไปทั่วร่าง

   “ห้ามร้องถ้าไม่อยากให้ไอ้เอกมันได้ยิน” เคลวินชี้หน้าก่อนที่จะก้มลงไปไซร้ที่ซอกคอขาวต่อ

   “เลว! อ๊ะ!”  นภัทรก่นด่าก่อนที่จะร้องเสียงหลงหลังจากที่โดนคนตัวโตใช้ลิ้นตวัดเลียวนที่ยอดอกสีชมพู

   เคลวินได้ยินเสียงร้องของร่างบางถึงกับยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการต่อ

   ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

   “ภัทร…ป้าเอาของมาให้” เสียงป้าภาเอ่ยเรียกทำให้นภัทรเริ่มใจชื้นขึ้นมา

   “ครับป้าเดี๋ยวผมออกไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”

   นภัทรได้ทีก็รีบตะโกนตอบกลับออกไป เขายิ้มให้เคลวินอย่างผู้ชนะที่ตอนนี้สามารถหยุดการกระทำของอีกฝ่ายได้  เคลวินจำต้องลุกขึ้นจากเตียงอย่างอารมณ์เสีย

   ส่วนนภัทรเองก็รีบจัดแจงเสื้อผ้าให้อยู่ในสภาพปกติแล้วก็รีบเดินไปเปิดประตูทันที

   “ขอบคุณนะครับป้า” นภัทรเปิดประตูแล้วรับของมา

   ส่วนป้าภาเองเห็นเคลวินยืนอยู่ในห้องก็ประหลาดใจที่เจ้านายนั้นมาอยู่ในห้องคนรับใช้คนใหม่  หล่อนนึกสงสัยว่าทำไมเคลวินถึงได้ลงมาคลุกคลีกับลูกจ้างถึงขนาดนี้  ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเลยที่จะย่างกรายเข้ามาบริเวณนี้ ส่วนมากจะเป็นการเรียกไปพบเสียมากกว่า

   “อ้าว! คุณเคลวินมาทำอะไรที่นี่คะ” ป้าภาถาม

   เคลวินเองก็ทำหน้าเหรอหราเพราะไม่รู้ว่าจะตอบแม่บ้านคนโปรดว่าอย่างไรดี

   “เอ่อ…ผมมาดูความเรียบร้อยของภัทรมันน่ะครับป้าภา  เดี๋ยวผมไปก่อนล่ะไม่มีอะไรแล้วนี่” เคลวินตอบพลางเอามือลูบที่หลังคอไปด้วย

   นภัทรเองก็ยืนยิ้มอยู่ในใจที่ตอนนี้คนตัวโตไม่สามารถทำอะไรเขาได้

   “ออค่ะ…คุณเคลวิน” ป้าภายิ้มให้

   ก่อนที่เคลวินจะเดินออกจากห้องก็ปรายตามองรางบาง  สายตาของเขาเหมือนคาดโทษเอาไว้แต่นภัทรเองกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

   “ขาดเหลืออะไรบอกป้าได้นะ เดี๋ยวป้าไปเตรียมข้าวเย็นให้คุณเคลวินก่อน”

   “ป้ามีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”

   “เดี๋ยวเอ็งเตรียมข้าวของในห้องก่อนละกันเดี๋ยวตอนเย็นๆค่อยไปช่วยป้า” ป้าภาบอกแล้วก็ยิ้มให้

   “ก็ได้ครับ ขอบคุณป้ามากๆนะครับ” นภัทรยิ้มให้

        แล้วป้าภาก็เดินออกจากห้อง

   นภัทรจัดแจงของที่ป้าภานำมาให้เข้าตู้แล้วพลางคิดถึงเรื่องที่มันเกิดขึ้นไปด้วย  จริงๆแล้วในช่วงเวลานี้เขาควรจะต้องได้ไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายที่ต่างประเทศแล้ว  แต่ตอนนี้กลับโดนจับตัวมาที่นี่ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่ามันคือที่ไหน  แน่นอนว่าอีกไม่นานทางบ้านเขาจะต้องรู้อย่างแน่นอนว่าเขาหายตัวไปและจะต้องออกตามหาเขาอย่างแน่นอน

   “หวังว่าทุกคนคงจะตามหาผมจนเจอนะครับ ผมจะรอวันนั้น”

   นภัทรพูดเบาๆกับตัวเองพลางมองไปรอบๆห้องที่กำลังจะกลายเป็นที่พักพิงส่วนตัวนับต่อจากนี้ไป
   

///////////////////////////////////////////
หัวข้อ: Re: กรงรักร้ายของนายซาตาน[MPREG]-CH2-สถานะใหม่-(03-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 03-02-2018 13:21:58
ติดตามจ้า :L2:
หัวข้อ: กรงรักร้ายของนายซาตาน[MPREG]-CH3-ความจริง-(03-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 03-02-2018 16:22:35
CHAPTER  3  ความจริง


   “คุณคะเมื่อเช้านี้เจ้าหน้าที่สนามบินโทรมาแจ้งว่ากระเป๋าของตาภัทรถูกวางทิ้งไว้ที่สนามบินค่ะ” แก้วกานดาเอ่ยกับสามีด้วยอาการตระหนกเพราะกำลังเป็นห่วงลูกชายคนเล็ก

   “ผมว่าแล้วไงนภัทรยังไม่โทรฯกลับมาเลย ตั้งแต่วันนั้นแถมโทรฯหายังไม่ติดอีก” ทรงพลเพิ่งกลับมาจากบริษัทก็ได้รับข่าวร้ายทันที

   “เราจะทำยังไงกันดีคะ”

   “แล้วนดลล่ะรู้เรื่องยัง”

   “ตอนนี้ตาดลไปขอดูกล้องวงจรปิดที่สนามบินค่ะ”

   “ใครที่มันกล้าทำร้ายลูกเรา ผมจะเล่นมันให้ถึงตายเลยคอยดู” ทรงพลเอ่ยด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม

   “ฉันกลัวว่าลูกจะเราจะเป็นอะไรไปค่ะ ตาภัทรแกสู้คนซะที่ไหนกันอ่อนแอซะขนาดนั้น” แก้วกานดาเอ่ยอย่างลนลาน

   “เดี๋ยวรอ-นดล-ก่อนว่าเรื่องมันเป็นยังไง เราค่อยไปแจ้งความกัน”

   “ฉันภาวนาขออย่าให้ตาภัทรเป็นอะไรไปเลย”



   ไม่นานนัก-นดล-ก็เดินเข้ามา

   “ตาดลได้เรื่องว่าไงบ้างลูก”

   “ผมขอเปิดดูกล้องวงจรปิดที่สนามบินมาแล้วครับ น้องโดนลักพาตัวไปจริงๆ แต่ยังไม่รู้ว่าพวกมันเป็นใคร”

   แก้วกานดามองหน้าผู้เป็นสามีทันที

   “คุณเคยมีปัญหาทางธุรกิจกับใครไหม? เพราะตัวนภัทรเองฉันมั่นใจว่าลูกไม่มีทางมีเรื่องกับใครแน่นอน”

   “ผมไม่เคยมีปัญหากับใครเลยนะ” ทรงพลยืนยัน

   “ผมว่าเราต้องแจ้งความแล้วล่ะครับ ตอนนี้น้องก็หายตัวไปเกินยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วด้วย ผมกลัวว่าพวกมันจะทำร้ายน้อง” นดลเสนอความคิดเห็น

   “แต่พ่อว่ารอก่อน ถ้าเป็นการลักพาตัวมันต้องรู้ว่านภัทรเป็นใคร และอีกไม่นานมันจะต้องติดต่อกลับมาเพื่อยื่นข้อเสนออย่างแน่นอน” ทรงพลมั่นใจในความคิดของตัวเอง

   “เราจะนั่งรอกันอย่างนี้เหรอคะฉันทำใจไม่ได้ ฉันเป็นห่วงลูก” แก้วกานดาโวยวายเสียงดัง

   “ใครๆก็ห่วงลูกกันทั้งนั้นล่ะ คุณใจเย็นๆสิ” ทรงพลตวาดใส่จนทั้ง-นดล-และแก้วกานดาต่างก็เงียบทันที

   “เชื่อผมมันต้องโทรมาแน่ เปิดโทรศัพท์ไว้ตลอดละกัน ไม่ใครก็ใครในสามคนเรานี่ล่ะรอรับโทรศัพท์ได้เลย”

   “ถ้างั้นวันนี้ผมไม่เข้าบริษัทนะครับพ่อ ผมจะรอรับโทรศัพท์น้อง” นดลบอก

   “รออยู่นี่ทั้งสามคนนั่นล่ะ” ทรงพลเอ่ย

ทั้งสามคนนั่งเครียดกันอยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างใจจดใจจ่อ โดยไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว



@เกาะบลูซี

   “ป้าภาครับเรียก-นภัทร-ให้มาหาผมหน่อยตอนนี้เลย”

   “ได้ค่ะ...รอสักครู่นะคะคุณเคลวิน”

   ป้าภาเดินมาเรียกนภัทรที่กำลังล้างจานอยู่ในครัว

   “นภัทรวางมือก่อนคุณเคลวินเรียกให้ไปหาที่ห้องทำงาน” เมื่อได้ยินชื่อของอีกคนทำให้นภัทรถึงกับทำหน้าเซ็งขึ้นมาทันที

   “เค้ามีอะไรรึเปล่าครับป้า”

   “ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันรีบไปเถอะเดี๋ยวคุณเค้าจะดุเอา”

   “ครับป้า”

   นภัทรรีบล้างมือแล้วเดินมาที่ห้องทำงานของเคลวินทันที

   ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

   “เข้ามาแล้วล็อกประตูด้วย” เขาสั่ง แต่มีหรือที่-นภัทร-จะทำตาม เขาเพียงปิดประตูไว้เท่านั้นเพราะกลัวว่าอีกคนจะรังแกเหมือนครานั้นอีก

   “บอกให้ล็อกไงล่ะอย่าดื้อสิวะ” เคลวินสั่งอีกครั้งฟังจากเสียงประตู  เขาก็รู้แล้วว่าร่างบางไม่ได้ทำตามคำสั่งทั้งหมด

   นภัทรจำต้องเดินกลับไปล็อกลูกบิดประตูไว้แล้วเดินเข้ามาใหม่อีกครั้ง

   “นั่งลงสิ” เขาสั่ง เคลวินนั่งขาไขว่ห้างอยู่ที่เก้าอี้ด้วยสีหน้าสบายๆ

   นภัทรนั่งลงแล้วก้มหน้าทันที เขาไม่อยากแม้แต่จะเห็นหน้าคนใจร้ายคนนี้

   “อ่ะ”

   ปึก!

   เคลวินโยนโทรศัพท์มือถือของ-นภัทร-ลงบนโต๊ะเสียงดัง จนทำให้ร่างบางเงยหน้าขึ้นมาดู เมื่อเห็นโทรศัพท์มือถือของตัวเองนอนแอ้งแม้งอยู่บนโต๊ะก็ยิ้มออกมาทันที หรือว่าเคลวินจะปล่อยตัวเขาแล้ว

   “นี่พี่...” นภัทรลืมตัวไปจึงเปลี่ยนคำพูดใหม่อีกครั้ง “นี่คุณจะคืนให้ผมเหรอ?”

   “ใช่” เคลวินมองหน้า

   “ขอบคุณนะครับ” นภัทรรีบหยิบขึ้นมาแล้วก็เปิดเครื่องทันที

   “ไม่คิดว่ามันจะง่ายไปหน่อยเหรอที่กูคืนให้มึง” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

   นภัทรหุบยิ้มแล้วมองหน้าอย่างไม่เข้าใจ

   “คุณมีแผนอะไรอีก”

   “ตอนนี้ที่บ้านมึงคงจะรู้แล้วล่ะว่ามึงหายตัวไป แต่กูว่ามันคงยังไม่กล้าโทรฯแจ้งความแน่เพราะกลัวมึงจะเป็นอันตราย กูจะให้มึงโทรฯหาที่บ้านสักหน่อย บอกพวกมันว่าตอนนี้มึงสบายดีอยู่กับผัวที่นี่” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์

   “ทำไมจะไม่กล้าแจ้งความล่ะลูกเค้าหายไปทั้งคน แน่นอนอีกไม่นานตำรวจก็จะมาจับคุณ รู้อย่างนี้แล้วก็รีบส่งตัวผมกลับบ้านเถอะ คุณจะได้ไม่ต้อง...” เขายังพูดไม่จบคนตัวสูงก็รีบพูดตัดบททันที

   “มึงคิดว่ากูกลัวขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่งั้นกูไม่จับมึงมาอย่างนี้หรอก มึงคงไม่รู้สินะว่ากูมีอิทธิพลมากแค่ไหน กูอยากให้ที่บ้านมึงรู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง หึหึ” เขาแสยะยิ้มออกมา

   “ทำไมถึงเลวได้ขนาดนี้ แล้วตกลงพ่อกับแม่ผมทำอะไรให้คุณ ถึงต้องมาลงที่ผมอย่างนี้”

   “จริงๆกูก็ไม่แน่ใจหรอกว่าแม่มึงมีส่วนรู้เห็นไหม แต่พ่อของมึงนั่นล่ะตัวดี  ถ้าฆ่าได้กูก็จะฆ่าแต่ทำอย่างนั้นมันไม่สะใจหรอก  จับลูกมันมาทำเมียบำเรออย่างนี้สะใจกว่าเยอะเลย ฮ่าๆๆ มึงว่าไหม?”

   “คุณมันบ้าไปแล้ว ไอ้โรคจิต!” นภัทรพยายามจะวิ่งออกไปจากห้อง ในเมื่อเขาได้โทรศัพท์มือถือคืนมาแล้ว  ต้องหาทางโทรฯไปแจ้งความให้ได้

   เคลวินรีบลุกขึ้นไปคว้าตัวร่างบางแล้วรวบตัวไว้ “มึงคิดว่าจะหนีกูพ้นเหรอถ้ามึงอยากตายก็ออกไปเลย” เขาขู่ “รีบโทรฯไปหาที่บ้านมึงเดี๋ยวนี้ โทรสิวะ!” เขาตะคอกใส่เสียงดังจนร่างบางสั่นไปทั้งตัว

   “ปล่อยก่อนสิมันโทรไม่ได้เห็นไหม” นภัทรพยายามดิ้นไปมาในอ้อมแขนแกร่ง

   เคลวินปล่อยร่างบางทันทีแล้วจ้องมองทุกอิริยาบถ หลังจากนั้น-นภัทร-ก็กดเบอร์โทรฯออกหาพ่อของตัวเองทันที

   “ฮัลโล พ่อครับ”

   (“นั่นภัทรใช่ไหมลูก! ลูกอยู่ไหน ใครจับตัวลูกไปบอกพ่อมาพ่อจะรีบไปจัดการมันเดี๋ยวนี้”) ทรงพลรีบเอ่ยทันทีที่ได้ยินเสียงลูกชาย

   “ผมปลอดภัยดีแต่พ่อมาช่วยผมด้วยนะครับ ผมอยู่ที่....” นภัทรพูดยังไม่ทันจบเคลวินก็รีบแย่งโทรศัพท์มือถือไปก่อน

   “เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะ” นภัทรพยายามจะแย่ง

   “หยุด! แล้วนั่งลงเดี๋ยวนี้” เขาสั่ง

   นภัทรได้แต่ยอมนั่งลงตามคำสั่ง แล้วฟังสิ่งที่เคลวินจะเอ่ยกับพ่อของตัวเอง เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าแท้ที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่  ทำไมเคลวินถึงได้จงเกลียดจงชังครอบครัวเขาขนาดนี้

   “สวัสดีครับคุณอาสุดที่รัก” เคลวินพูดจากวนใส่

   (“มึงเป็นใคร มึงจับตัวลูกกูไว้ที่ไหนบอกมา กูมีเงินมึงต้องการเท่าไหร่กูก็จะให้”) ทรงพลรีบเอ่ยออกมา

   “โธ่ คุณอาครับอย่าเพิ่งรีบร้อนสิ เอ๊ะไม่สิต้องเรียกคุณพ่อตาสินะ เพราะตอนนี้ลูกชายของคุณพ่อเป็นเมียผมเรียบร้อยแล้ว หึหึ” เขาเอ่ยออกมาด้วยเสียงเย็นยะเยือก

   (“ไอ้สารเลวมึงทำอย่างนี้กับลูกกูได้ยังไง กูจะตามฆ่ามึงให้ได้”) ทรงพลพูดด้วยอารมณ์เดือนพล่าน ในที่สุดสิ่งที่เขากลัวก็เกิดขึ้น นภัทรไม่ได้ปกติเหมือนคนทั่วไป ลูกชายของเขาสามารถตั้งครรภ์ได้ เขาภาวนาอย่าให้นภัทรตั้งครรภ์เลยไม่งั้นมันจะเป็นตราบาปกับลูกเขาไปตลอดชีวิต

   “อย่าเพิ่งโมโหไปเลยครับคุณพ่อตา ผมเพิ่งจะเอามันไปครั้งเดียวเองนะ วันนี้ก็ว่าจะจัดอีกสักรอบให้มันหายอยาก ฮ่าๆ” เขาหัวเราะออกมาอย่างสะใจ

   (“มึงต้องการอะไรบอกกูมา เรามาตกลงกันดีๆ”) ทรงพลพยายามใจเย็นลง  เพื่อให้การเจรจามีผลดีมากขึ้น

   “ผมก็ต้องการลูกชายพ่อไงครับ ตอนนี้ก็สมหวังแล้ว เอาเป็นว่าคุณพ่อตาไม่ต้องห่วงนะครับผมจะทรมานลูกคุณพ่อให้มากๆ ให้สมกับที่คุณพ่อเคยทำให้คนอื่นต้องเจ็บปวดมาก่อน” เคลวินเค้นเสียงหนักขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต

   (“หมายความว่าไงกูไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อนมึงอย่ามามั่ว ถ้ากูรู้ว่ามึงอยู่ที่ไหนมึงตายแน่ ไอ้สัด!”)

   “มึงคงจำไม่ได้สินะเมื่อยี่สิบปีก่อนมึงทำอะไรใครไว้ มึงลองนึกดูสิ!” เคลวินเปลี่ยนสรรพนามทันทีเมื่ออารมณ์เริ่มเดือดขึ้น

   ทรงพลได้ยินก็นึกถึงเรื่องนั้นทันที เมื่อยี่สิบปีก่อนกับอุบัติเหตุที่ทำให้เพื่อนรักพร้อมกับภรรยาต้องจบชีวิตลงโดยมีเขาอยู่เบื้องหลังในการตายครั้งนี้ จะเหลือก็แค่เพียงลูกชายของทั้งสองที่หนีออกจากบ้านไป  หลังจากได้ยินเขาคุยโทรศัพท์พูดคุยเรื่องการจ้างวานตัดสายเบรครถในวันนั้น เมื่อเด็กชายรู้ตัวว่าเขาเห็นมันก็รีบวิ่งหนีออกไปจากบ้านแล้วไม่กลับเข้ามาอีกเลย  หรือว่าที่คนคุยสายด้วยจะเป็น ‘วิน’ เด็กชายคนนั้น  ลูกชายของเพื่อนที่เคยหนีออกจากบ้านไป

   (“มึงคือไอ้วิน?”) เขาถามออกมาอย่างไม่แน่ใจ

   “ความจำดีนี่”

   (“กูนึกว่ามึงจะตายห่าไปแล้วซะอีก”)

   “กูยังไม่ตายง่ายๆหรอก เพราะกูจะมาเอาคืนพวกมึงให้สาสมกับที่มึงฆ่าพ่อแม่กู นี่มันแค่เริ่มต้น”

   (“ถ้ามึงไม่คืนลูกมาให้กู กูจะเอาตำรวจลากคอมึงเข้าตะรางให้ได้คอยดู”) ทรงพลขู่

   “เอาสิ๊ ถ้าคิดว่าทำแล้วลูกชายมึงจะปลอดภัยก็เอาเลย กูรับรองว่าลูกมึงจะได้ทรมานก่อนตาย ถ้ามึงยังรักลูกอย่าแม้แต่จะคิด  มึงไม่ต้องห่วงหรอกกูจะให้มันติดต่อมึงไปเป็นระยะๆ  เพื่อให้พวกมึงรู้ว่าว่ามันยังมีชีวิตอยู่ เมื่อไหร่ที่กูเห็นมึงใกล้จะตายกูถึงจะให้มันกลับไปดูใจมึงละกัน ถ้ามึงยากเห็นหน้าลูกเร็วๆก็ให้รีบตายซะ”

   ตู๊ดๆๆๆ

   พูดจบเคลวินก็ตัดสายไป แล้วหันไปมองร่างบางที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่บนโต๊ะ

   “มึงคงรู้แล้วสินะว่าพ่อมึงเลวขนาดไหน” เขาเดินเข้าไปเอามือหนาบีบที่ปลายคาง  แล้วออกแรงบีบจนร่างบางรู้สึกเจ็บ

   “ผมไม่เชื่อว่าพ่อจะทำอย่างนั้น” นภัทรจ้องหน้า

   “ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงกูจะมาทำอย่างนี้กับมึงทำไม คิดสิๆ” เคลวินใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าผากของร่างบางจนศีรษะเหวี่ยงไปตามแรง

   “มันอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้ครับพี่วิน ลองคิดดูอีกทีนะครับ” นภัทรพยายามพูดดีด้วยหวังว่าคนตัวโตจะใจอ่อน แต่ไม่มีทางที่จะทำให้ความแค้นในใจเขามันลดลงได้

   “มึงอย่ามาเรียกกูพี่ กูไม่มีทางนับญาติกับมึงหรอก กูไม่มีทางลืมวันนั้น หลังจากที่พ่อแม่กูรถคว่ำตายกูบังเอิญได้ยินพ่อมึงคุยโทรศัพท์บอกให้ไอ้คนที่ไปตัดสายเบรครถพ่อกูหนีไปกลบดาน และที่กูหนีมาเพราะมันจะเล่นงานกูอีกไง กูเลยต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกมาจากบ้านของพ่อแม่กู  ที่พวกมึงใช้คุ้มกะลาหัวนอนอยู่ทุกวันนี้ แถมยังมีบริษัทที่พ่อกูสร้างมากับมืออีก กูไม่ฆ่าพวกมึงล้างตระกุลก็ดีเท่าไหร่แล้ว” เคลวินเอ่ยเรื่องราวในอดีตให้ร่างบางฟัง ในขณะใบหน้าเขาแดงก่ำด้วยความโกรธแค้น

   เคลวินจ้องหน้าร่างบางแล้วก็รู้สึกรำคาญ  ที่เห็นดวงดาแดงก่ำและเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา
 
   เพี๊ยะ!

   เขาใช้มือหนาฟาดไปที่แก้มขาวของร่างบางอย่างแรง จนใบหน้าแดงก่ำและสะบัดไปตามแรงตบ

   “อย่ามาสำออยต่อหน้ากู”

   “ฮึก ถ้าคุณทำอย่างนี้แล้วมันจะช่วยชดใช้เรื่องในอดีตได้ ผมก็จะอยู่ที่นี่ให้คุณทรมานจนกว่าคุณจะพอใจ” นภัทรนั่งน้ำตาซึม เขาไม่นึกเลยว่าพ่อของตัวเองจะกล้าทำกับเพื่อนรักได้ถึงขนาดนี้ พ่อที่แสนดีของเขากลับกลายเป็นคนที่เลวร้ายไปเสียแล้ว

   “แน่นอนมึงจะอยู่ให้กูเอาจนกว่าจะพอใจ และมึงอย่าคิดหนีเด็ดขาดเพราะไม่งั้นกูจะเล่นมึงให้หนักเลยคอยดู” เคลวินขู่

   “ตอนนี้ผมรู้และเข้าใจทุกอย่างแล้ว คุณจะทำอะไรกับผมก็เชิญแต่ขออย่างเดียว อย่ายุ่งกับครอบครัวผมได้ไหม ขอให้ทุกอย่างมันจบที่ผมคนเดียว” นภัทรพยายามพูด

   “ถ้ามึงอยู่ที่นี่กับกูรับรองว่ากูจะไม่ไปยุ่งกับครอบครัวมึงอีก” เคลวินสัญญา แต่ที่จริงแล้วในใจเขากลับไม่ได้คิดแบบนั้น เรื่องมันไม่ได้จบแค่ที่นภัทรอย่างแน่นอนนี่คือแค่น้ำจิ้มเท่านั้น

   “ผมไปได้รึยัง”

   “ไปได้ แต่เอามือถือมึงคืนมาก่อน”

   นภัทรจำใจยื่นโทรศัพท์มือถือคืนให้คนตัวโตแล้วเดินออกไป  เขาต้องเข้มแข็งให้ได้เพื่อทุกคนในครอบครัว  แต่อีกใจนึงก็รู้สึกเห็นใจเคลวินอยู่เหมือนกันที่เจอเรื่องร้ายๆนั่นตั้งแต่เด็ก เขาคงเก็บกดมากจริงๆถึงได้กลับมาเอาคืนครอบครัวเขาขนาดนี้ และเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับที่เขาเคยรู้จักในวัยเด็ก

   “เดี๋ยวก่อน!” เคลวินเอ่ยก่อนร่างบางจะก้าวขาพ้นจากประตูห้อง

   นภัทรหันหน้ากลับมามองอย่างสงสัย

   “คืนนี้สองทุ่มมาหากูที่ห้องด้วย” เขาสั่งก่อนจะก้มหน้าลงทำงานต่อ

   นภัทรเดินออกมาจากห้องด้วยน้ำตา เขาไม่นึกเลยว่าจะมาเจอทั้งเรื่องดีและร้ายในเวลาเดียวกันอย่างนี้  เรื่องดีก็คือเขาได้เจอคนที่เคยคิดถึงและโหยหามาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต แต่เรื่องร้ายเขากลับได้รับรู้เรื่องราวราวของพ่อตัวเองที่เคยฆ่าคนมาก่อน ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเขาจะพยายามทำใจอยู่ที่นี่ให้ได้  ถึงแม้ว่าจะโดนทำร้ายไม่ว่าจะร่างกายหรือจิตใจมากแค่ไหนก็ตาม

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
   


   “เป็นไปได้ยังไงคะคุณ!” แก้วกานดาเอ่ยกับสามีด้วยความสงสัย หล่อนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กชายที่เธอเห็นมาตั้งแต่เด็ก และหนีออกจากบ้านไปไม่เคยหวนกลับมาที่นี่อีก เจอกันอีกครั้งก็จับตัวลูกชายคนเล็กของหล่อนไป

   “มันเป็นไปแล้ว มันคือไอ้วินคนนั้น” ทรงพลพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

   “แล้วทำไมวินต้องมาลักพาตัวน้องไปด้วยล่ะครับ ผมงงไปหมดแล้วเนี่ยเค้าแค้นอะไรเรานักหนา” นดลเอ่ยกับผู้เป็นพ่อ เขาเองก็ไม่เคยรู้เรื่องทั้งหมดมาก่อนเลย

   “จริงด้วยค่ะหรือว่าคุณไปทำอะไรไว้ บอกฉันมานะไม่งั้นวินมันคงไม่มาแก้แค้นเราแบบนี้หรอก” แก้วดานดาพยายามคาดคั้นผู้เป็นสามี จนทรงพลเริ่มราคาญ

   “หยุด! มันไม่มีอะไรทั้งนั้นล่ะ เรื่องมันจบมานานแล้วอย่าไปรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก ตอนนี้เราควรหาทางเอาตัวนภัทรกลับมาดีกว่าไหม” ทรงพลบอก

   “ใช่ค่ะ! เราควรรีบหาทางเอาตัวนภัทรกลับมา แต่ถ้าไม่รู้ต้นสายปลายเหตุเราก็ไม่มีทางที่จะได้ตัวนภัทรคืนมาง่ายๆแน่ ตอนนี้เราต้องแจ้งความแล้วล่ะ” หล่อนว่าแล้วรีบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมา

   “หยุดเดี๋ยวนี้! เราจะไม่แจ้งความเด็ดขาด มันขู่ว่าถ้าเรื่องถึงตำรวจมันจะทรมานลูกเรา”

   “โธ่! นภัทรลูกแม่ ฮือๆๆ แม่จะช่วยอะไรลูกไม่ได้เลยหรือนี่” เธอร้องไห้ร้องห่มเสียงดังจนแทบจะเป็นลม

   “คุณแม่ครับใจเย็นๆ เราค่อยคิดหาทางกัน ผมจะหาวิธีเอาตัวน้องมาให้ได้” นดลพยุงผู้เป็นแม่มานั่งที่โซฟา

   “ตอนนี้ที่พ่อห่วงมากก็มีเรื่องเดียวนั่นล่ะ” ทรงพลเปรยออกมากับลูกชาย

   “พ่อกลัวว่าน้องจะท้องหรือครับ” นดลถาม

   “ใช่ ถ้าเป็นอย่างนั้นพ่อกลัวว่าน้องจะรับตัวเองไม่ได้ เพราะเรายังไม่เคยบอกนภัทรมาก่อนว่าเค้าพิเศษกว่าผู้ชายทั่วไปนั่นคือสามารถตั้งท้องได้  ถ้ามันเป็นอย่างนั้นพ่อจะไม่มีวันให้มันได้เกิดมาลืมตาดูโลกใบนี้แน่ พ่อไม่มีทางให้เลือดเลวๆของมันมาแปดเปื้อนเราแน่”

   “มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพ่อคิดก็ได้นะครับ น้องคงไม่โชคร้ายขนาดนั้น”

   “พ่อก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น”

   ทรงพลแสดงสีหน้าเกรี้ยวกราดเมื่อนึกถึงคนที่กำลังจับตัวลูกชายคนเล็กไป เขาคิดแล้วว่ามันต้องมีวันนี้แต่ไม่นึกว่ามันจะเกิดกับลูกชายของตัวเองแทนที่จะเป็นเขาเอง

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
   
   

TBC.............
หัวข้อ: Re: [MPREG] กรงรักร้ายของนายซาตาน [Ch.3-ความจริง]-(03-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 03-02-2018 19:59:33
รอตอนตีอไปๆๆ
หัวข้อ: Re: [MPREG] กรงรักร้ายของนายซาตาน [Ch.3-ความจริง]-(03-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 03-02-2018 23:00:30
สรุปพ่อของภัทรเป็นคนฆ่าพ่อแม่พระเอกจริงๆเหรอเนี่ย :ling3:
หัวข้อ: Re: [MPREG] กรงรักร้ายของนายซาตาน [Ch.3-ความจริง]-(03-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 04-02-2018 00:18:23
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [MPREG] กรงรักร้ายของนายซาตาน [Ch.3-ความจริง]-(03-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-02-2018 04:01:28
พ่อทำกรรม  ลูกรับกรรม ซวยเต็ม ๆ เลย หลานภัทร  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [MPREG] กรงรักร้ายของนายซาตาน [Ch.3-ความจริง]-(03-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: armize ที่ 04-02-2018 12:00:19
ตามตาม
หัวข้อ: [MPREG] กรงรักร้ายของนายซาตาน [Ch.4-ซวยซ้ำซ้อน]-(04-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 04-02-2018 14:02:01
CHAPTER  4 ซวยซ้ำซ้อน


   นภัทรยืนเหม่อขณะช่วยป้าภาล้างจานอยู่ในครัว ไม่น่าเชื่อเลยว่าหนุ่มนักเรียนนอกอย่างเขาจะต้องมาเป็นคนรับใช้ล้างจานงกๆอยู่อย่างนี้ แถมยังโดนย่ำยีสารพัดอีกต่างหาก เขาได้แต่หวังว่าความดีที่จะทำต่อจากนี้ไป  จะสามารถช่วยให้ความแค้นที่เคลวินมีมันลดน้อยลงไป เขาไม่มั่นใจว่ามันจะได้ผลหรือเปล่าแต่อย่างน้อยมันก็น่าจะดีกับครอบครัวของเขา ที่เคลวินสัญญาว่าจะไม่ไปยุ่งวุ่นวายด้วยอีก

   “ภัทร”

   “เจ้าภัทร!”

   ป้าภาเรียกเมื่อเห็นว่าหนุ่มน้อยหน้าหวานข้างๆกำลังยืนเหม่ออยู่

   “คะ...ครับป้าภา มีอะไรเหรอครับ” เมื่อสติกลับคืนมาเขาก็หันไปหาป้าภาทันที

   “เอ็งยืนเหม่ออะไรเนี่ย”

   “ผมก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยล่ะครับป้า”

   “ป้าถามเอ็งจริงๆนะ คุณเคลวินทำร้ายเอ็งมาเหรอ ดูหน้าเอ็งแดงๆเหมือนโดนตบมาเลย” ป้าภาถามด้วยความสงสัย หล่อนสังเกตที่ใบหน้าของนภัทรมีรอยแดงอยู่จนเห็นได้ชัด

   “ก็อย่างที่ป้าเข้าใจนั่นล่ะครับ ผมโอเคไม่เป็นไรครับป้า” เขายิ้ม

   “เอ็งพยายามอย่าไปทำอะไรให้คุณเค้าโมโหละกัน ป้าจะบอกให้นะคุณเคลวินน่ะถ้าดีก็ดีใจหาย แต่ถ้าร้ายก็สุดๆเหมือนกัน” ป้าภาแนะนำ

   “ครับป้าผมจะพยายาม”

   “ป้าอยากถามเอ็งหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่กล้า” ป้าภาทำหน้าอึกอักเหมือนคันปากอยากจะถามซะเต็มประดา

   “ป้าถามมาเถอะถ้าผมตอบได้ก็จะตอบ” เขามองหน้าแล้วยิ้มให้

   “นี่เอ็งโดนลักพาตัวมารึเปล่า เพราะดูท่าทางคุณเคลวิลจะไม่ชอบขี้หน้าเอ็งเลย แถมยังชอบทำร้ายๆใส่อยู่บ่อยๆอีกต่างหาก”

   “ใช่ครับผมโดนจับตัวมา แต่ผมคงไม่พยายามที่จะหนีออกไปหรอก ผมจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะทำให้เค้าหายแค้นครอบครัวผม แต่ผมบอกป้าได้เท่านี้นะครับ”  เขาบอกด้วยสีหน้าเศร้าเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้

   “ป้าว่าแล้วมันต้องเป็นอย่างนี้ เอาเป็นว่าถ้ามีอะไรให้ป้าช่วยก็บอก แต่ถ้ามันเป็นเรื่องที่คุณเคลวินสั่งมาป้าเองก็ช่วยเอ็งไม่ได้จริงๆนะ เอ็งเข้าใจป้านะ”

   “ขอบคุณครับป้า แค่ป้ามีน้ำใจกับผมก็ดีใจมากแล้ว ส่วนเรื่องนั้นถ้าเค้าจะทำอะไรกับผม ผมทำใจไว้แล้วล่ะ” เขายิ้มให้แต่เป็นยิ้มที่มีความทุกข์แฝงอยู่ในนั้น

   “สู้ๆละกันป้าก็ได้แต่เอาใจช่วย” ป้าภาให้กำลังใจเอามือจับที่ไหล่บางแล้วบีบเบาๆ

   ในระหว่างนั้นก็มีเสียงเล็กแหลมของใครบางคนเอ่ยแทรกขึ้นมา

   “ชีวิตน่าสงสารจังเลยเนาะ” ขวัญสาวใช้ในบ้านอีกคนเดินเข้ามาแล้วพูดประชดประชัน หล่อนไม่ชอบขี้หน้านภัทรเลย  นั่นเพราะหล่อนแอบเห็นร่างบางเข้าไปในห้องของเคลวินช่วงเวลาดึกๆดื่นๆอยู่บ่อยครั้ง  ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคำสั่งของเคลวินเองก็ตาม  หล่อนแอบชอบเคลวินตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ามาเป็นสาวใช้ที่นี่ จนเวลาก็ล่วงเลยมาจะสองปีแล้ว  แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำให้เคลวินสนใจหล่อนได้เลยแม้แต่น้อย  แต่กับนภัทรเองแม้เพิ่งจะมาอยู่ได้ไม่กี่วัน  กลับถูกเคลวินเรียกตัวเข้าไปในห้องซะอย่างนั้น ทำให้หล่อนเกลียดผู้ชายตัวเล็กๆคนนี้ซะเหลือเกิน

   “อะไรของมึงอีขวัญ” ป้าภาเอ่ยเมื่อเห็นท่าทีน่าหมั่นไส้ของหล่อน

   “เปล่าหนูก็แค่พูดลอยๆใครจะรับไปก็เชิญ” หล่อนยักไหล่เหมือนไม่ได้แคร์ผู้หญิงที่แก่คราวแม่เลยแม้แต่น้อย

   “มึงมันมักใหญ่ใฝ่สูง กูรู้นะว่ามึงหวังจะเป็นคุณนายของบ้านหลังนี้ กูจะบอกอะไรให้นะว่ามึงไม่มีทางหรอกโว้ย มึงลืมไปแล้วรึไงว่าคุณเคลวินน่ะมีคุณเมญ่าอยู่แล้ว จำใส่กะโหลกไว้ด้วยอีขวัญ” ป้าภาด่าฉอดๆพร้อมกับชี้หน้าไปด้วย

   “แล้วไงใครแคร์ถ้ายังไม่ได้แต่งงานจดทะเบียนก็ถือว่าฉันยังมีสิทธิ์”

   “ป้าอย่าไปพูดกับคนประเภทนี้เลยครับเสียเวลาเปล่าๆ” นภัทรเอ่ยกับป้าภาด้วยท่าทีสุภาพสมกับเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะหน้าตาทางสังคมที่ดี

   “แกอย่ามาทำเป็นปากดี ฉันเห็นแกเข้าไปในห้องคุณเคลวินเกือบทุกวัน แกมันก็ไม่ได้ต่างจากฉันหรอกไอ้นภัทร” ขวัญว่า
   นภัทรได้แต่มองหน้าอย่างเหนื่อยใจ ตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่ขวัญไม่เคยมองเขาด้วยสายตาที่เป็นมิตรเลย ตอนแรกก็ยังงงๆ แต่ตอนนี้เขาพอจะรู้แล้วว่าเพราะอะไร

   “ฉันไม่เคยคิดอยากจะมาอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำเธออย่ามาพูดแบบนั้น ถ้าเธออยากได้ก็เอาไปเลยแล้วก็บอกเค้าด้วยว่าอย่ามายุ่งกับฉัน”

   “ทำให้มันได้อย่างที่พูดละกัน แล้วฉันจะคอยดู” ขวัญถลึงตาใส่แล้วเดินออกไป

   “เอ็งอย่าไปใส่ใจมันเลยภัทร อีนี่มันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เข้ามาในบ้านหลังนี้แล้ว”

   “ครับป้าผมจะพยายามไม่ใส่ใจ”

   เขายิ้มให้ป้าภาก่อนจะลงมือล้างจานต่อให้เสร็จ

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


   หลังจากขวัญเดินหน้าบึ้งออกมาจากครัวหล่อนก็มาเจอกับภาพบาดตาทันที  เคลวินเดินมาพร้อมกับเมญ่า  โดยทั้งสองเดินควงแขนหยอกล้อกระหนุงกระหนิงเล่นกันอย่างสนุกสนาน

   “ขวัญมานี่ซิ” เคลวินกวักมือเรียกสาวใช้ให้เดินเข้าไปหา  ขวัญเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มกว้างแล้วเดินเข้าไปทันที

   “บอกนภัทรเอาน้ำมาเสิร์ฟคุณเมญ่ากับฉันหน่อยสิ”

   “คือขวัญเอามาให้เองก็ได้นะคะ” เธออาสา

   “ฉันบอกว่าให้นภัทรเอามาก็ตามนั้น” เขาทำหน้าเข้มใส่เมื่อโดนสาวใช้ขัดใจ

   “ค่ะๆ เดี๋ยวขวัญจะไปบอกเดี๋ยวนี้” หล่อนหน้าเสียแล้วเดินเข้าไปในครัวทันที

   เมญ่าที่ยืนควงแขนอยู่นั้นหันมาเอ่ยกับชายหนุ่ม

   “นภัทรนี่คือคนใช้ใหม่ที่บ้านคุณเหรอคะเคลวิน” เมญ่าเอ่ยถาม เพราะหล่อนไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน

   “ครับเพิ่งรับมา” เขายิ้มให้

   “ออค่ะ” เธอตอบแค่นั้นไม่ได้ว่าอะไรต่อก่อนที่ทั้งสองจะเดินเข้าไปนั่งรอที่ห้องรับแขก



   ไม่นานหลังจากนั้นนภัทรก็เดินมาพร้อมกับถาดแก้วน้ำเย็น  เขาปรายตามองชายหนุ่มก่อนจะค่อยๆยกแก้วน้ำไปวางให้คนตัวโต หลังจากนั้นก็ยกไปวางให้เมญ่าอีกที แต่ด้วยความไม่ระวังทำให้แก้วน้ำหดรดบนกระโปรงของหญิงสาวจนเปียกชุ่ม

   “ว้าย! ทำไมแกสะเพร่าอย่างนี้” เมญ่าลุกขึ้นยืนแล้วร้องโวยวายเสียงดัง

   “ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” เขายกมือขึ้นไหว้ปรกๆ

   “นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะ ถ้าตั้งใจจะไม่รดบนหัวฉันเลยเหรอ!” หล่อนชี้หน้า

   “นี่คุณ...” เขาจะพูดต่อแต่โดนคนตัวโตพูดขัดไว้

   “กราบขอโทษคุณเมญ่าเดี๋ยวนี้” เคลวินเอ่ยเสียงเข้มพร้อมกับมองหน้าอย่างเย็นยะเยือก

   “ก็ผมไหว้ขอโทษแล้วไงครับ” นภัทรชักสีหน้าใส่อย่างไม่พอใจ นี่ไม่ใช่พ่อแม่เขาสักหน่อยทำไมจะต้องทำถึงขนาดนั้นด้วย

   “จะกราบไม่กราบ” เขาจ้องเขม็งมาที่ร่างบาง

   “ไม่!” นภัทรยังยืนยัน

   “จะเอาอย่างนั้นก็ได้ถ้ามึงไม่อยากโดนกูขังไว้ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันอีก ให้มึงเลือกเอาละกัน” เขาขู่

   นภัทรจ้องมองชายหนุ่มด้วยความโมโห แต่ก็จะยอมทำตามอย่างน้อยมันก็ดีกว่าโดนขัง  แค่คิดมันก็น่ากลัวมากเหลือเกิน  อีกอย่างอยู่ที่นี่เขาก็ไม่ได้มีศักดิ์ศรีอะไรเหลือแล้วจะกราบหรือไม่กราบก็คงเหมือนเดิม

   “ได้ผมจะยอมกราบ” เขาค่อยๆนั่งลงตรงหน้าเมญ่าแล้วก้มลงกราบด้วยน้ำตา เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเขาก็จ้องมาชายหนุ่มอีกครั้งด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ

   เมญ่ายิ้มออกมาอย่างสะใจ ใครก็ตามที่ทำให้หล่อนไม่พอใจจะต้องโดนอย่างนี้ล่ะ

   “พอใจรึยังครับเมญ่า” ชายหนุ่มถาม

   “ก็โอเคค่ะ แต่วันหลังอย่าให้มีแบบนี้อีกนะฉันไม่พอแค่นี้แน่” หล่อนบอก

   “ได้ยินที่คุณเมญ่าบอกรึยัง” เคลวินถามย้ำ

   “ครับ ผมได้ยินและจะพยายามไม่สะเพร่าอีก” นภัทรยอมรับทุกอย่างแล้วก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

   “ถ้างั้นผมขอตัวไปเอามาให้ใหม่นะครับ” เขาบอกแล้วหยิบแก้วน้ำที่มันหกขึ้นมาไว้บนถาด

   “เดี๋ยวเอามาให้ฉันใหม่ด้วย” เคลวินสั่ง แต่นภัทรกลับมองหน้าอย่างสงสัย นั่นเพราะแก้วน้ำที่เขาเพิ่งจะยกไปวางให้ยังคงอยู่ที่โต๊ะ

   “คุณจะเอาน้ำอะไรอีกครับ” เขาถามชายหนุ่ม

   เคลวิลยิ้มแล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมาก่อนจะสาดเข้าที่ใบหน้าของนภัทรทันที

   “อะไรกันเนี่ย! มันจะมากไปแล้วนะ!” นภัทรว่าพลางเอามือลูบที่ใบหน้าตัวเองไปด้วย

   “น้ำฉันมันหมดแล้วไปเอามาให้ใหม่หน่อยนะ” เคลวินยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ

   นภัทรได้แต่มองจ้องหน้าชายหนุ่มแต่ไม่สามารถพูดอะไรได้ ทุกอย่างมันจุกอยู่ในอก เขาต้องพยายามทำใจให้ได้ว่าอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร ซึ่งมันไม่ใช่แค่คนรับใช้แต่มันคือนักโทษดีๆนั่นเอง

   “คุณโกรธแทนเมญ่าขนาดนั้นเลยเหรอคะเคลวิน เมญ่ารักคุณจังเลยค่ะ” หล่อนควงแขนแล้วเอ่ยออกมา

   “ใครทำคุณก็เหมือนทำผมเหมือนกัน”

   เขามองหน้านภัทรไปด้วย ส่วนร่างบางได้แต่ก้มเก็บแก้วใส่ถาดแล้วเดินออกมาทันที  เมื่อหันหลังมาแล้วเขาก็ปล่อยโฮออกมาด้วยความอัดอั้นตันใจ  แล้วเดินเข้าไปในครัวทันที

   “เอ็งร้องไห้ทำไมภัทร ใครทำอะไรเอ็ง” ป้าภากำลังหั่นผักอยู่เมื่อเห็นก็รีบเดินเข้ามาหาแล้วเอ่ยถามทันที

   “ฮึก ไม่มีอะไรครับป้า” เขาพยายามจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา

   “คุณเคลวินทำเอ็งใช่ไหม” ป้าภาถามอย่างรู้ทัน

   เขาพยักหน้าก่อนจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เมื่อโดนป้าภาถาม

   “ทำไมถึงได้ทำกันขนาดนี้นะ”

   “ไม่เป็นไรครับป้า เดี๋ยวผมจะต้องเอาน้ำไปให้เค้าใหม่อีกรอบก่อน เค้าจะว่าผมช้าอีก” นภัทรบอกพร้อมกับเช็ดน้ำตาไปด้วย

   “มานี่ป้าเอาไปเอง” ป้าภาบอก

   “แต่....” เขาพยายามแย้ง

   “ไม่เป็นไรป้าเอาไปเอง  ส่วนเอ็งไปเปลี่ยนเสื้อก่อนเถอะเปียกไปหมดแล้วเนี่ย”

   “ขอบคุณมากครับป้า” เขายิ้มให้

   นภัทรรีบเดินกลับไปที่ห้องพักเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ก่อนจะเดินกลับเข้ามาใหม่อีกครั้งแล้วเจอขวัญยืนขวางอยู่ที่หน้าห้องครัวเหมือนหล่อนตั้งใจจะรอเขาซะอย่างนั้น

   “สมน้ำหน้าจังเลย” หล่อนพูดจาเยาะเย้ย

   “หลีก! ฉันจะเข้าไปทำงานต่อ”

   “ก็ไปเข้าไปสิ” หล่อนว่าแต่ก็ยังไม่ยอมเปิดทางให้

   นภัทรขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงจึงพยายามเดินเบี่ยงตัวเข้ามา  แต่ก็โดนขวัญขัดขาเอาไว้ทำให้เขาต้องล้มลงหัวคะมำ

   “โอ๊ย! นี่เธอจะมากไปแล้วนะ” นภัทรมองแรงไปที่หญิงสาว  แต่เจ้าหล่อนกับเบ้ปากอย่างไม่แคร์เลยแม้แต่น้อย

   “แกล้มลงไปเองนะฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ไปดีกว่า” หล่อนยิ้มเยาะก่อนจะเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี

   “ทำไมคนบ้านนี้ถึงได้ใจคอโหดเหี้ยมกันอย่างนี้นะ”

          เขานั่งบ่นพลางค่อยๆนวดที่ข้อมือตัวเองไปด้วย “โอ๊ย! ทำไมปวดอย่างนี้เนี่ย”

         ไม่นานหลังจากนั้นป้าภาก็เดินเข้ามาเจอนภัทรนั่งอยู่ที่พื้น

         “อ้าวภัทรเอ็งเป็นอะไรไปอีกเนี่ย” หล่อนถามเสียงดัง

   “ผมหกล้มครับป้า” เขาทำหน้าเหยเกไปด้วยเพราะกำลังเจ็บที่ข้อมือ

   “นั่นข้อมือเอ็งเป็นอะไรมาให้ป้าดูซิ” หล่อนนั่งลงแล้วค่อยๆจับที่ข้อมือของร่างบาง

   “โอ๊ย! ป้าผมเจ็บ” เขาร้องออกมาเสียงดัง

   “สงสัยมันจะเคล็ด เดี๋ยวป้าเอายามาทาให้แล้ววันนี้เอ็งก็ไปพักผ่อนก่อนละกัน ถ้าฝืนเดี๋ยวมันจะหายช้าไปอีก เวรกรรมจริงๆเลย” หล่อนส่ายหน้าเบาๆเมื่อรับรู้สิ่งที่นภัทรโดนมาทั้งวัน

   “ป้าทำคนเดียวจะไหวเหรอครับ” เขาถามด้วยความเป็นห่วง

   “ห่วงตัวเองก่อนเถอะ ป้าอยู่ที่นี่มานานไม่ต้องห่วง พอดีล่ะจะเรียกอีขวัญมามันช่วยซะหน่อย เอาแต่แต่งตัวสวยอู้ไปวันๆ  อย่างกับคุณเคลวินจะชายตาแลมันซะอย่างนั้นล่ะฉันสมเพชมันจริงๆ”

   “ขอบคุณครับป้า”

   หลังจากนั้นป้าภาก็ไปหยิบยามาทาที่ข้อมอให้แล้วนภัทรก็เดินกลับไปที่ห้องพักอีกครั้ง วันนี้มันเป็นวันบ้าบ้ออะไรกันเนี่ย ทำไมเขาต้องเจอแต่คนใจร้ายอย่างนี้  ถ้าไม่มีป้าภาเขาจะอยู่ที่นี่ได้อย่างไรนะ นภัทรนั่งคิดในใจ ก่อนจะค่อยๆเอนหลังลงบนเตียงแล้วหลับตาลงเพื่อนอนพักผ่อน

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


   “เคลวินคะช่วงนี้โรงแรมคุณแขกเยอะเหมือนกันนะ ตอนที่เมญ่านั่งรอคุณที่ล็อบบี้เห็นมาเช็คอินกันเยอะแยะเชียว”

   “ครับช่วงนี้ไฮซีซั่น ส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน”

   “อย่างนี้คุณก็คงยุ่งมากเลยสิ ไหนจะเรื่องต้อนรับแขกไหนจะเรื่องการก่อสร้างตึกใหม่อีก”

         ตอนนี้ที่โรงแรมกำลังมีการสร้างตึกใหม่ เพื่อขยายพื้นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยอะขึ้นทุกปีๆ

   “ก็พอสมควรครับ”

   “ถ้ามีอะไรให้เมญ่าช่วยก็บอกนะคะ”

   “ครับผม” เขายิ้ม

   เคลวินมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือเมื่อเห็นว่าเริ่มดึกแล้วก็เอ่ยกับหญิงสาวทันที

   “นี่ก็ดึกแล้วคุณจะกลับเลยไหมครับ”

   “คืนนี้เมญ่าขอนอนที่นี่นะคะ จะได้นวดผ่อนคลายให้คุณด้วยไง” หล่อนเขยิบเข้ามาชิดแล้วใช้นิวเรียวงามเกลี่ยที่บริเวณแผงอกแกร่งของชายหนุ่ม

   “ได้สิครับ สำหรับเมญ่าผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” เขายิ้มพร้อมกับจับมือนั้นไว้แล้วยกขึ้นมาจุมพิตทันที

   “คุณนี่ไม่เคยขัดใจเมญ่าเลยสักครั้ง ไม่มีผู้ชายคนไหนดีเท่าคุณอีกแล้วนะเนี่ย” หล่อนว่าแล้วก็โน้มใบหน้าขึ้นไปหอมแก้มชายหนุ่มทันที

   “งั้นคืนนี้คุณก็ห้ามขัดใจผมนะ” เขาจ้องหญิงสาวด้วยสายตาหื่นแล้วยิ้มให้

   “แน่นอนค่ะเมญ่าจะตามใจคุณทุกอย่าง”

   ทั้งสองจ้องตากันอย่างหวานซึ้ง ใบหน้าที่เย้ายวนของเมญ่ามันปลุกความเป็นชายของเคลวินขึ้นมา  ก่อนที่เขาจะประกบจูบหล่อนหลังจากนั้นทั้งสองก็พากันไปต่อที่ห้องนอนของเคลวินทันที
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


////////////////////////
TBC.......................
หัวข้อ: Re: [MPREG] กรงรักร้ายของนายซาตาน [Ch.4-ซวยซ้ำซ้อน]-(04-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 04-02-2018 18:00:34
เควิลกับเมญ่าเหมาะกันมาก :katai3:
หัวข้อ: [MPREG] กรงรักร้ายของนายซาตาน [Ch.5-ออกนอกกรง]-(04-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 04-02-2018 19:47:50
CHAPTER  5  ออกนอกกรง


   “คุณพ่อครับ” นดลเดินเข้าไปทักผู้เป็นพ่อขณะอยู่ในห้องทำงาน

   “ว่าไงนดล” ทรงพลหันไปมองลูกชาย เขากำลังนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของลูกชายคนเล็กรวมถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยทำไว้

   “คุณพ่อนั่งคิดเรื่องน้องอยู่เหรอครับ” เขาสังเกตเห็นสีหน้าของพ่อไม่ค่อยดีนัก

   “อืม พ่อคิดว่าจะหาทางช่วยน้องยังไงดี” เขาเอ่ย

   “พ่อครับ เรื่องน้องพ่อไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวผมจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง คุณพ่อไปจัดการงานที่บริษัทให้เรียบร้อยเถอะครับ เพราะอีกไม่กี่วันเห็นว่าจะมีผู้ถือหุ้นรายใหม่จากอเมริกามาเซ็นต์สัญญาไม่ใช่หรือครับ”

   “ใช่...โชคดีที่เราได้ผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่มีเงินทุนหนา ต่อไปบริษัทเราก็จะมีเงินลงทุนมากขึ้นแล้วล่ะ หมดห่วงไปอีกเปาะ” ทรงพลเอ่ยกับลูกชาย

   ตอนนี้ที่บริษัทขาดทุนมาหลายปีติดต่อกันจนทำให้ทุนจม ไม่มีกำไรงอกเงยขึ้นมาเลย ส่วนรายจ่ายก็มีมากมายจนต้องหาผู้ถือหุ้นรายใหม่  มาช่วยสนับสนุนเงินทุนในการพัฒนาโรงงานและสินค้าให้ดีขึ้น และผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่เป็นเศรษฐีชาวอเมริกัน  มีเงินทุนหนามากและรวยติดอันดับต้นๆของอเมริกาเลยทีเดียว

   “ดีแล้วล่ะครับโรงงานเราจะได้มีอะไรดีๆขึ้นมาบ้าง ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆก็เริ่มบ่นๆกันแล้วผมกลัวว่าพวกเค้าจะขายหุ้นทิ้งพวกเราไปซะก่อน  ส่วนเรื่องน้องพ่อไม่ต้องห่วงผมมั่นใจว่าจะตามตัวน้องมาได้แน่นอน” นดลเอ่ยด้วยความมั่นใจ

   “ช่วงนี้พ่อฝากเรื่องน้องด้วยนะลูก ถ้าเรื่องผู้ถือหุ้นเสร็จเรียบร้อยแล้วพ่อก็จะมาช่วยอีกแรง”

   “ครับพ่อ”

   ตอนนี้เรื่องบริษัทก็กำลังคลี่คลายได้แล้ว  เหลือแค่เรื่องนภัทรที่นดลกำลังเป็นห่วง เขาได้แต่หวังว่าวินที่เขาเคยรู้จักในสมัยเด็กจะยังคงมีความอ่อนโยนหลงเหลืออยู่บ้าง จำได้ว่าตอนนั้นสองคนตัดติดกันตลอดอย่างกับคู่รัก  เขาหวังว่าวินจะยังคงไม่ลืมความสัมพันธ์ดีๆในสมัยเด็กหรอกนะ และอีกเรื่องหนึ่งที่เขาอยากรู้คือทำไมวินต้องแค้นครอบครัวเขาได้ถึงขนาดนี้  มันต้องมีเรื่องอะไรที่พ่อของตัวเองปิดบังไว้อย่างแน่นอน
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

   เย็นวันนี้เคลวินกลับมาทานข้าวที่บ้าน  ป้าภาและขวัญเตรียมสำรับไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว  ก่อนะจะลงมือทานเขาก็มองหาร่างบางที่ปกติจะมายืนอยู่พร้อมกับป้าภาเป็นประจำ

   “คุณเคลวินมองหาใครหรือคะ” ป้าภาเอ่ยถาม

   “นี่นภัทรไปไหนทำไมไม่เห็นมาช่วยป้า”

   “ป้าให้มันไปพักเองค่ะ ตอนนี้มือมันเจ็บมันยกอะไรหนักๆไม่ค่อยได้”

   “แล้วไปทำอีท่าไหนล่ะ” เขาถาม

   “ภัทรมันหกล้มในครัวค่ะคุณเคลวิน”

   ขวัญที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ยิ้มอย่างสะใจที่ทำให้คนที่หล่อนเกลียดเจ็บตัวได้

   “อืม ถ้างั้นทุกคนไปเถอะ”

   เขาว่าแล้วก็ลงมือทานข้าวทันที  ในใจก็นึกเป็นห่วงร่างบางว่าจะเป็นอะไรมากหรือเปล่า


@ บ้านพักคนใช้

           “จันทร์เจ้าขาขอให้เขาคนนั้นกลับมาเป็นคนเดิมด้วยนะครับ” นภัทรเอ่ยเบาๆขณะนั่งอยู่ที่หน้าระเบียงห้องพัก ท่ามกลางเสียงซู่ซ่าจากน้ำทะเลที่ซัดคลื่นเข้ามากระทบฝั่ง  เขาจ้องมองไปยังท้องฟ้าที่มีพระจันทร์กำลังส่องแสงสว่างไสว  ท่ามกลางดวงดาวนับร้อยนับพันสุดลูกหูลูกตา  มองแล้วก็ทำให้รู้สึกสบายใจไปได้อีกเปาะหนึ่ง

         “มานั่งเพ้อฝันอะไรแถวนี้” เคลวินเดินเข้ามาหา

   “ไม่เกี่ยวกับคุณ” เขาเห็นหน้าคนตัวโตแล้วก็หมดอารมณ์ทันที จึงลุกขึ้นจะเดินเข้าไปในห้อง

   “เดี๋ยว!” เคลวินจับที่ข้อมือร่างบางไว้

   “โอ๊ย!” นภัทรร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แล้วมองหน้าคนตัวโตทันที

   “เจ็บจริงสินะกูนึกว่ามึงแกล้งเจ็บเพื่ออยากอู้งาน”

   “ปล่อยผมเจ็บ!”

   “ยิ่งเจ็บยิ่งดีกูยิ่งสะใจ เวลาเห็นหน้ามึงเจ็บกูนึกถึงหน้าพ่อมึงทันที โคตรสะใจเลยว่ะ” เขาพูดด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม

   “ถ้าคุณทำแล้วมีความสุขก็ทำไป ผมบอกแล้วว่าจะอยู่ที่นี่เพื่อชดใช้ให้คุณ อย่าไปยุ่งกับครอบครัวผมตามสัญญาก็แล้วกัน” เขาบอก

   “ได้! กูสัญญา แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่มึงต้องทำหน้าที่แล้ว” เขาปล่อยมือร่างบางแล้วอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาว

   “ผมทำอะไรไม่ได้แล้วนี่” นภัทรเอียงหน้าหนี ก่อนที่เคลวินจะอุ้มร่างบางเข้าในไปห้องพักทันที

   ปัง!

   เสียงปิดประตูดังขึ้งหลังจากนั้นร่างอันบอบบางก็ถูกโยนลงบนเตียง นภัทรได้แต่นั่งอยู่อย่างนั้นไม่แม้แต่จะมองหน้าคนตัวโตด้วยซ้ำ  เคลวินค่อยๆถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกพร้อมกับมองหน้าร่างบางด้วยสายตาที่เหยียดหยาม ก่อนจะยืนล่อนจ้อนโดยมีเจ้าโลกที่กำลังกระดกขึ้นลงบ่งบอกว่าพร้อมใช้งาน

   “ยอมแบบนี้ก็ดีกูจะได้ไม่ต้องออกแรงเยอะ” เขาว่าแล้วก็ขึ้นไปบนเตียงคร่อมตัวร่างบางเอาไว้ ก่อนจะใช้มือหนาสัมผัสที่คางเรียวรั้งใบหน้าหวานให้หันมามองตัวเอง

   “จะทำอะไรก็รีบทำ คุณจะได้ออกไปจากที่นี่ซะที” นภัทรเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ตอนนี้เขาพอจะทำใจรองรับอารมณ์ของคนตัวโตได้แล้ว เขาจะไม่อ่อนแออย่างที่เคยเป็นมา เขาจะเข้มแข็งเพื่อรอวันที่จะได้กลับไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวอีกครั้ง

   “อยากมาขนาดนั้นเลยเหรอ ฮึ” เขาค่อยๆโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะคลอเคลียที่บริเวณพวงแก้ม ลมหายใจอุ่นๆของเคลวินเป่ารดทำให้ร่างบางขนลุกซู่ไปทั้งตัว คนตัวโตเห็นอย่างนั้นก็ยกยิ้มออกมาอย่างพอใจ

   นภัทรหลบตาลงทันทีที่คนตัวโตจ้องหน้า เมื่อไหร่เขาจะรีบทำให้มันจบๆไปซะทีนภัทรคิดในใจ

   เคลวินค่อยๆจุมพิตที่แก้มขาวไปเรื่อยๆพร้อมกันนั้นก็ปลดเปลื้องอาภรณ์ของร่างบางไปด้วย ตอนนี้ผิวขาวสว่างของร่างบางดึงดูดความสนใจของสายตาคมของเขา  ก่อนจะผลักร่างบางให้นอนราบลงบนเตียงแล้วประกบจูบทันที เขาตรึงข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้บนเตียงจนทำให้ร่างบางถึงกับร้องออกมา

   “โอ้ย!” นภัทรจ้องหน้าคนตัวโตแล้วร้องออกมา จนเคลวินเองก็ชะงักไปนิดหน่อย เขาลืมไปว่าข้อมือของร่างบางกำลังเจ็บอยู่

   “โทษทีนะ” เขาปล่อยมือของร่างบางให้เป็นอิสระ ก่อนจะเอามือทั้งสองข้างสอดเข้าไปที่แผ่นหลังแล้วจ้องตาร่างบางอีกครั้ง

   “พี่วิน” เขาเผลอเอ่ยชื่อนี้ออกมา เมื่อจ้องเข้าไปลึกๆแล้วเขาเห็นวินอยู่ในนั้น เสียงเอ่ยขอโทษเมื่อสักครู่ทำให้นึกถึงเมื่อตอนยังเป็นเด็กที่วินเคยทำให้เขาหกล้มแล้วเอ่ยขอโทษ  สิ่งที่วินเคยทำร่วมกับเขามามันยังคงอยู่ในความทรงจำไม่เคยเลือนหาย

   “อย่าเรียกชื่อนั้นอีกกูไม่ชอบ” เขาบอกแค่นั้นก่อนจะประกบจูบทันที เขาบดริมฝีปากรุนแรงอย่างช่ำชอง ไม่นานนักก็สอดลิ้นเย็นเข้าไปในโพรงปากแล้วตวัดไปมาอย่างชำนิชำนาญ

   “อืม” เสียงครางในลำคอบ่งบอกถึงความพอใจของคนตัวโต

   เคลวินตักตวงความหวานที่ริมฝีปากเสร็จแล้ว  ก็เลื่อนใบหน้าคมลงมาที่ซอกคอขาวแล้วใช้ริมฝีปากดูดเม้มเพื่อประทับรอยแสดงความเป็นเจ้าของเอาไว้

   “อย่าทำ!” เข้าเอ่ยห้าม

   “มึงจะกลัวอะไร ใครๆที่นี่ก็รู้ว่ามึงน่ะเป็นของกูอยู่แล้ว” เคลวินบอกอย่างไม่ใส่ใจแล้วลงมือต่อ

   เขาต้องยอมรับความจริงสิ่งที่เคลวินพูด เพราะคนที่นี่รู้ดีว่าเขาเป็นทาสบำเรอกามให้เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ หลายครั้งก็รู้สึกอายที่ต้องมาทำอะไรอย่างนี้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ

   “อ๊ะ!”

   นภัทรร้องเสียงหลงเมื่อคนตัวโตใช้ลินสากสัมผัสที่ยอดอกสีชมพูอ่อนจนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลาย หลังจากนั้นก็ใช้ปากครอบครองดูดเม้มสลับข้างไปมา จนร่างบางแอ่นอกรับสัมผัสนั้นอย่างช่วยไม่ได้

   “มึงนี่ไม่เคยทำให้กูเบื่อได้เลยจริงๆ” เขาว่าเสียงกระเส่าเมื่อเห็นท่าทียั่วยวนของร่างบางที่มันเผลอแสดงออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

   “ซี๊ดส์!”

   เคลวินสูดปากเสียงดังเมื่อเขาค่อยๆดันแก่นกายเข้าไปเรื่อยๆจนสุด ร่างบางเองก็ดิ้นพล่านไปมาด้วยความเจ็บปวดที่ช่องทางแต่มันแผ่สะท้านไปทั่วร่างกาย

   “อื้อ”

   นภัทรพยายามจะไม่ให้มีเสียงของตัวเองเล็ดลอดออกมา แต่มันก็ห้ามไม่ได้นั่นเพราะคนตัวโตเริ่มขยับแก่นกายเข้าออกจนมันรู้สึกเสียวซ่านมากเหลือเกิน

   เคลวินใช้ความชำนาญสอนบทรักให้กับร่างบาง เขาขยับเอวถี่รัวจนบั้นท้ายของร่างบางอยู่ไม่สุข อีกทั้งตอนนี้เขาเองก็ใช้ลิ้นสากสัมผัสเลียวนที่ยอดอกไปด้วย ส่วนร่างบางได้แต่นอนหลับตาพริ้มอยู่อย่างนั้น เคลวินเชยชมเรือนร่างอยู่นานจนตอนนี้ของเหลวในร่างกายเริ่มจะไหลมาจ่อที่ปลายแท่งร้อนแล้ว

   “อ๊ะ ซีดส์!”

        เคลวินส่งเสียงครวญครางออกมาเพราะตอนนี้ของเหลวพร้อมที่จะพุ่งออกมาแล้ว
        “อ้าๆๆ”  เขารัวบั้นท้ายอย่างกระหน่ำก่อนจะกระตุกอยู่หลายครั้ง  เมื่อน้ำรักพุ่งกระฉูดเข้าไปในตัวของร่างบางจนหมด
   นภัทรรู้สึกได้ถึงแรงพุ่งของของเหลวอุ่นที่มันยังคงคั่งค้างอยู่ในช่องทางของเขา เมื่อจบบทรักเคลวินก็นอนฟุบอยู่บนตัวร่างบาง  ก่อนจะระดมจูบไปทั่วราวกับว่ารู้สึกพอใจในตัวร่างบางมากเหลือเกิน แต่ตัวนภัทรเองกลับรู้สึกอึดอัดและคับแน่นที่ส่วนล่างมากเหลือเกิน

   “มึงอยากเสร็จไหมล่ะ” เขาว่าแล้วเอื้อมมือไปจับที่ส่วนกลางของร่างบางทันที

   “ไม่! คุณรีบออกไปเถอะ ผมจะพักผ่อน” ร่างบางบอกแล้วปัดมือออก

   “แต่กูอยากอีกว่ะ” เขารู้สึกยังไม่อิ่นเอมขณะที่แท่งร้อนที่อยู่ในช่องทางของร่างบางยังคงแข็งขันอยู่

   “ผมขอร้องล่ะคุณก็รู้แขนผมยังเจ็บอยู่” นภัทรพยายามขอร้อง

   “ก็ได้วะ!” เขาว่าก่อนะจะถอนแก่นกายออกโดยเร็วจนของเหลวสีขาวขุ่นค่อยๆไหลออกมา จนนภัทรเองก็รู้เสียววาบและผ่อนคลายมากขึ้น

   “.......” นภัทรได้แต่นอนหลับตาไม่ยอมมองหน้าคนตัวโต

   “พรุ่งนี้เช้าเตรียมตัวให้พร้อมกูจะพาไปหาหมอ” เขาบอก

   “อืม”

       นภัทรตอบเสียงสั้นๆทั้งที่ยังหลับตาอยู่ เพราะความเหนื่อยทำให้ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย ทุกครั้งที่มีอะไรกับเคลวินเขามักจะรุนแรงเสมอ บางวันก็เรียกเข้าไปหาที่ห้อง  บางวันก็ลงมาที่ห้องพักเขา แต่เคลวินไม่เคยจะป้องกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาเองก็กังวลว่าจะติดโรคกับคนตัวโตอยู่เหมือนกัน
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


   หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว  นภัทรมานั่งรอเคลวินที่หน้าบ้านตามที่เขาได้นัดเอาไว้  นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ออกไปนอกบริเวณพื้นที่คฤหาสน์หลังนี้

   “เดิมตามมา” เคลวินสั่งเมื่อเดินมาถึง

   นภัทรได้แต่มองหน้าแล้วเดินตามอย่างว่าง่าย

   “แล้วอย่าปากมากล่ะถ้าไม่อยากตาย กูพามึงไปหาหมอถือว่าเป็นบุญของมึงแล้ว” เขาสั่งอีกครั้ง

   “ครับ” ตอบสั้นๆก่อนจะขึ้นรถ 

        เคลวินออกรถไปทันทีหลังจากนั้น  นภัทรมองบรรยากาศสองข้างทางด้วยความตื่นตาตื่นใจ ที่นี่เป็นเกาะขนาดใหญ่แต่เขาไม่รู้ว่ามันชื่อเกาะอะไร อยู่ตรงไหนของประเทศไทย แต่ที่รู้คือมันเป็นเกาะที่สวยงามมาก

   ตอนนี้รถมาจอดที่หน้าศูนย์การแพทย์ประจำเกาะเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นศูนย์การแพทย์ขนาดไม่ใหญ่มาก  แต่ก็มีเครื่องมือทันที่สมัยและครบครัน นั่นเพราะเคลวินต้องการให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจที่จะมาเที่ยวที่นี่มากขึ้น

   “ลงมาสินั่งบื้ออยู่ได้” เขาสั่งเมื่อเปิดประตูรถลงไปแล้วแต่ร่างบางกลับยังคงนั่งอยู่

   ร่างบางได้ยินก็รีบลงมาทันที  หลังจากนั้นเคลวินก็นำหน้าเดินเข้าข้างใน  ขณะเดินตามหลังคนตัวโตเขาสังเกตว่าพนักงานทั้งหมด ซึ่งส่วนมากจะเป็นพยาบาลต่างก็ยกมือขึ้นไหว้เขาตลอดทาง  จนมาถึงห้องตรวจห้องหนึ่งที่มี่แผ่นป้ายติดหน้าห้องว่า ‘นายแพทย์กิตติพงษ์ รัตนโชติสกุล’ เคลวินถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปโดยที่ไม่ได้เคาะประตูห้องเลยแม้แต่น้อย

   “กูมีคนไข้มาให้รักษา” เคลวินบอก ขณะนายแพทย์คนนั้นกำลังนั่งเขียนเอกสารอยู่บนโต๊ะ

   “มีมารยาทบ้างก็ได้นะครับไอ้คุณเคลวิน” นายแพทย์กิตติพงษ์หรือหมอพงษ์ ของคนทั่วไปที่เรียกกัน ที่จริงแล้วเขาเป็นเพื่อนกับเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ พงษ์และเคลวินเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา  เมื่อจบการศึกษาเขาก็ชวนเพื่อนมาเป็นแพทย์ประจำที่นี่ด้วยค่าตอบแทนที่สูงลิ่วพอสมควร

   “มึงเคยเห็นกูมีมารยาทกับมึงรึเปล่าล่ะ” เขาบอกหน้านิ่ง

   “ก็สันดานมึงเป็นแบบนั้น แล้วไหนล่ะคนป่วยมึง” พงษ์มองไปด้านหลังเคลวินแต่ก็ไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียว

   เคลวิลเองก็หันหลังกลับไปมองแต่ไม่เจอร่างบางก็ชักสีหน้าทันที

   “เฮ้ย! หรือว่ามันจะหนีไปแล้ววะ!” เขาพูดแล้วก็รีบวิ่งออกไปนอกห้องทันที

TBC...
หัวข้อ: Re: [MPREG] กรงรักร้ายของนายซาตาน [Ch.5-ออกนอกกรง]-(04-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-02-2018 03:19:35
สงสารภัทร เจอแต่คนนิสัยเลว ๆ ทั้งนั้น อ้อ.... เว้นป้าแกไว้สักคน  :katai1:
หัวข้อ: Re: [MPREG] กรงรักร้ายของนายซาตาน [Ch.5-ออกนอกกรง]-(04-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-02-2018 06:57:10
เจ้านายก็ข่มเหง  :fire:
สาวใช้ก็รังแก  :angry2:
ต่อไปน่าจะฆ่าภัทรแน่  :z6:
ความอิจฉา ริษยา และอยากได้เคลวิน นางทำได้แน่
เคลวิน ก็ก้แค้น แบบสะใจตัวเอง ทำเกินไปมั้ย  :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: [MPREG] กรงรักร้ายของนายซาตาน [Ch.6-เพื่อนบ้าน]-(05-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 05-02-2018 12:10:39
CHAPTER 6 เพื่อนบ้าน


   เคลวินรีบเดินออกมาหน้าห้องก็เห็นร่างบางกำลังรอยืนอยู่  เขาถอนหายใจเสียงดังเพราะรู้สึกโล่งอกที่ร่างบางไม่ได้หนีอย่างที่คิดไว้

   “ทำไมไม่เข้าไปข้างใน!” เขาตวาดลั่น

   “ก็ผมนึกว่าคุณให้รอข้างนอกก่อนไง ใครจะไปรู้ล่ะ”
 
   “หน้าตาไม่น่าซื่อบื้อเลย เดินนำหน้าไปก่อนเลย” เขายืนรอให้ร่างบางเดินเข้าไปก่อน

   เมื่อเข้ามาในห้องตรวจแล้วร่างบางก็ยกมือขึ้นไหว้นายแพทย์ที่นั่งหล่อส่งยิ้มให้อยู่ที่โต๊ะ

   “สวัสดีครับคุณหมอ”

   “สวัสดีครับ เป็นอะไรมาไหนให้หมอดูหน่อย”

   “คือผมหกล้มแล้วปวดข้อมือครับหมอ”

   “ไหนให้หมอดูหน่อยสิ”

   ว่าแล้วนภัทรก็ยื่นมือให้คุณหมอตรวจดูทันที เคลวินเองที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างๆก็ปรายตามองมาเป็นระยะๆ

   “โอ๊ย! มันปวดครับหมอเบาๆ” นภัทรร้องออกมาเสียงดังขณะพงษ์จับที่ข้อมือเพื่อสังเกตอาการ

   “อย่ามาสำออย ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านกูนะโว้ย” เขาว่าให้ร่างบางอย่างหงุดหงิด

   “ไอ้คุณเคลวิน ผมรักษาคนไข้อยู่ครับอย่าเพิ่งมาเสือก ออกไปก่อนเลย” พงษ์เอ็ดให้เพื่อน
เมื่อได้ยินคุณหมอเอ่ยอย่างนั้นกับคนตัวโตนภัทรก็อดขำไม่ได้

   “ไม่โว้ย” เขาว่าแล้วก็นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ที่เดิม

   “ถ้าไม่ก็นั่งเป็นใบ้อยู่เฉยๆครับ” พงษ์สั่งก่อนจะหันไปหาร่างบางอีกครั้ง

   “ถ้าปวดขนาดนี้ลองไปเอ็กซ์เรย์ดูละกันนะครับ เดี๋ยวหมอจะให้พยาบาลพาไปเอ็กซ์เรย์”

   “ครับหมอ” เขายิ้มให้

   พงษ์กดโทรฯหาพยาบาลข้างนอก ระหว่างนั่งรอก็คุยกับนภัทรไปพลางๆ

   “ว่าแต่คนไข้ชื่ออะไรครับ หมอชื่อพงษ์นะ” เขาแนะนำตัว จริงๆก็มีข้อสงสัยหลายอย่างแต่เขาคงจะเอ่ยถามกับเพื่อนตัวเองมากกว่าจะคนที่อยู่ตรงหน้า

   “ผมชื่อ-นภัทร-ครับคุณหมอ เรียกสั้นๆว่าภัทรก็ได้” ร่างบางยิ้มให้

   “ยินดีที่รู้จักนะครับน้องภัทร”

   “เช่นกันครับคุณหมอ”

   ไม่นานพยาบาลก็เดินเข้ามาในห้อง

   “มาพอดีเลย พาคนไข้ไปเอ็กซ์เรย์ที่ข้อมือขวาให้ผมหน่อย เสร็จแล้วก็พากลับมาที่นี่นะครับ” เขาสั่งพยาบาลสาว

   “ค่ะคุณหมอ” หล่อนยิ้มให้พงษ์

   แต่ระหว่างนั้นเคลวินกลับพูดแทรกขึ้นมา

   “คุณพยาบาลรบกวนช่วยดูอย่าให้คลาดสายตานะครับ ไม่งั้นผมจะถือว่าเป็นความผิดคุณ” เขาสั่งพยาบาลไว้ เพราะยังกลัวว่าร่างบางจะคิดหนีแม้ว่าจะเคยสัญญาไว้แล้วก็ตาม

   “ค่ะคุณเคลวิน” หล่อนตอบ

   นภัทรมองหน้าคนตัวโตก่อนจะถอนหายใจเสียงดังอย่างเบื่อหน่าย เขาเองก็เคยบอกแล้วแต่ทำไมไม่เชื่อใจกันเลย นี่สินะนิสัยของโจรเขาคิดในใจ

   “ผมไม่หนีไปไหนหรอกน่า” เขาบอกแค่นั้นก่อนจะหันไปมองหน้าพยาบาลสาว

   “เชิญทางนี้เลยค่ะ” เธอยิ้มให้ร่างบางก่อนจะเดินนำหน้าไป

   เมื่อประตูห้องถูกปิดลงแล้ว  คุณหมอสุดหล่อก็หันไปจ้องมองเพื่อนตัวดีด้วยใบหน้าที่มีคำถามมากมาย

   “ใคร?”

   เป็นคำถามแรกที่เอ่ยออกมา เคลวินได้ยินก็ตอบอย่างไม่ใส่ใจ

   “เด็กกูเองเพิ่งไปลักพาตัวมา” เขาตอบตรงๆ

   “ไอ้เหี้ย! มึงไปเอาลูกเค้ามาทำอย่างนี้ได้ไงเนี่ย!” พงษ์ตะโกนด่าเพื่อนแต่เจ้าตัวกลับไม่ได้สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย

   “กูมีเหตุผลน่า” เขาตอบ

   “แล้วมึงทำใช่ไหมรอยที่คอน้องเค้าน่ะ” พงษ์ถามต่อเพราะเขาสังเกตเห็นรอยแดงเป็นจ้ำๆที่บริเวณซอกคอขาวของร่างบาง

   “อืม เมื่อคืนนี่เอง” เขาตอบหน้าตาเฉย

   “กูดูตาเดียวก็รู้ว่าน้องเค้าไม่ได้เต็มใจมากับมึงเลย ระวังพ่อแม่เค้าจะแจ้งตำรวจมาจับมึงนะโว้ย กูเตือนด้วยความหวังดี”

   “ไม่มีทางเพราะกูรู้จักพ่อกับแม่มันดี พวกมันไม่กล้าแจ้งความแน่นอนกูมั่นใจ”

   “กูล่ะปวดกะบาลกับมึงจริงๆ เป็นผู้บริหารดีๆไม่ชอบเสือกอยากเป็นโจรซะงั้น” พงษ์ไม่รู้จะพูดยังไงให้เพื่อนของเขาคิดได้ จะสงสารก็แต่นภัทรที่คงจะคิดถึงบ้านน่าดู ลองได้อยู่ที่นี่แล้วเขารู้ได้เลยว่าไม่มีทางออกไปจากเกาะได้ง่ายๆแน่  ยกเว้นเคลวินจะเป็นคนพาออกไปซะเอง

   “ไม่ต้องห่วงเรื่องของกูหรอก กูรู้ว่ากำลังทำอะไร รับรองกูไม่ทำให้มันตายหรอกน่า เอาแค่ทรมานก็พอ หึๆ” เคลวินแสยะยิ้มออกมาอย่างสะใจ

   “ไอ้โรคจิตเอ๊ย! หรือว่ามึงหลงรักน้องเค้าแล้ว มึงไม่เคยได้ยินเหรอว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิดน่ะ”

   “ไม่มีทางโว้ยคนอย่างกูไม่ได้หลงอะไรได้ง่ายๆขนาดนั้น” เคลวินพูดอย่างมั่นใจ

   “เออๆ กูจะคอยดูแต่กูขอร้องมึงไว้ละกันว่าอย่ารุนแรงกับน้องเค้ามาก ดูท่าทางน้องเค้าบอบบางน่าดู”

   “กูไม่รับปากโว้ยแต่จะรับไว้พิจารณาละกัน ฮ่าๆ” เขาพูดแล้วขำออกมา

   ระหว่างนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

   ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

   พยาบาลสาวเดินเข้ามาพร้อมกับซองสีน้ำตาล ส่วนนภัทรก็เดินตามหลังมาติดๆ

   “นี่ผลเอ็กซ์เรย์ค่ะคุณหมอ”

   “ขอบคุณครับ เดี๋ยวคุณออกไปรอข้างนอกก่อนละกัน” เขาสั่งพยาบาล จริงๆแล้วถ้าเป็นคนไข้รายอื่นๆก็จะมีพยาบาลอยู่ในห้องด้วย  แต่นี่ถือว่าเป็นเคสพิเศษของเจ้าของเกาะจึงต้องให้ความเป็นส่วนตัวเป็นพิเศษ

   “เชิญนั่งครับน้องภัทร”

   “ขอบคุณครับ”

   นภัทรนั่งลงก่อนที่พงษ์จะเปิดซองแล้วดึงแผ่นฟิล์มขึ้นมาตรวจดูความผิดปกติ

   “อืม...ผลเอ็กซ์เรย์ไม่มีความผิดปกตินะครับ กระดูกไม่มีรอยร้าวถือว่าโชคดีมากๆ คงจะเป็นอาการข้อมือแพลงธรรมดานี่ล่ะครับ  คือเส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อที่ยึดอยู่รอบๆข้อต่อมีอาจมีการฉีกขาด ทำให้มีอาการปวดหรือเจ็บ พยายามอย่าเคลื่อนไหวข้อมือนะครับช่วงนี้ เดี๋ยวหมอจะสั่งยาให้ไปทาละกันเนาะ” พงษ์อธิบายให้นภัทรเข้าใจและบอกวิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง

   “ขอบคุณครับคุณหมอ”

   “เอานี่ไว้ครับเผื่อได้ใช้” เขายื่นนามบัตรให้แล้วยิ้มให้หนุ่มน้อย

   “ขอบคุณครับ” นภัทรรับมาแล้วมองหน้าคุณหมอเหมือนมีคำถาม แต่เขาเองก็ได้แต่ยิ้มตอบ

   “เสร็จแล้วเชิญไปรับยาที่ห้องจ่ายยาข้างนอกเลยนะครับ”

   “ขอบคุณอีกครั้งนะครับคุณหมอ”

   “ยินดีครับ”

   “เสร็จแล้วใช่ป่ะจะได้กลับสักที” เคลวินยืนขึ้นบิดขี้เกียจไปมา

   “เสร็จแล้วครับเจ้านาย เชิญพาน้องภัทรไปรับยาด้านนอกได้เลย”

   “เออ ขอบใจละกัน ส่วนมึงตามกูมา” เขาเอ่ยกับเพื่อนก่อนจะหันไปตวาดใส่ร่างบางที่กำลังนั่งอยู่

   ก่อนออกจากห้องนภัทรก็ไม่ลืมที่จะยกมือขึ้นไหว้พงษ์อีกครั้ง

   นภัทรเดินตามหลังคนตัวโตออกจากห้องแต่จู่ๆคนข้างหน้าก็หยุดเดิน จนร่างบางเกือบจะเดินชนดีที่เขาตั้งสติได้ทันก่อนจะหยุดชะงักห่างจากคนตัวโตแค่ไม่กี่เซนฯ

   “มึงเดินนำหน้าไปเลยกูไม่ไว้ใจมึง” เขาบอก

   “คุณจะกลัวอ่ะไรล่ะในเมื่อคนที่นี่ก็คนของคุณทั้งนั้น” ร่างบางบอก ซึ่งมันคือความจริงแต่คนตัวโตก็ไม่วางใจอยู่ดี

   “กูไว้ใจตัวเองจบมะ” เขาบอกแค่นั่นก่อนจะดุนหลังร่างบางให้รีบเดินไป

   เมื่อรับยามาเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนก็เดินมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถ  ก่อนจะถึงรถเพียงไม่กี่ก้าวเคลวินก็บังเอิญสังเกตเห็นวิศวกรหนุ่มที่มาคุมงานก่อสร้างตึกใหม่กำลังเดินมาพอดี

   “เข้าไปนั่งรอในรถก่อนเดี๋ยวกูมา” เขาบอกก่อนร่างบางจะเปิดประตูเข้าไปนั่งรอในรถ

   เคลวินเดินเข้าไปทักทายวิศวกรหนุ่มทันทีหลังจากนั้น

   “คุณกันต์!” เขาเอ่ยทักก่อนที่กันต์จะหยุดชะงัก

   “อ้าว! คุณเคลวิน มีอะไรรึเปล่าครับ”

   “เจอตัวคุณพอดีเลย ผมจะมาแจ้งคุณว่าเรามีประชุมเรื่องความคืบหน้าการก่อสร้างตึกน่ะครับ”

   “อ๋อ แล้วประชุมวันไหนครับผมจะได้เคลียร์งานรอ”

   “พรุ่งนี้บ่ายโมงที่ห้องประชุมใหญ่ของโรงแรมครับ”

   “ขอบคุณนะครับที่มาแจ้งด้วยตัวเองเลย” กันต์ตอบอย่างเกรงใจ

   “ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณไม่สบายรึเปล่า” เคลวินถาม

   “ใช่ครับ...พอดีผมเป็นหวัดมาหลายวันแล้วยังไม่หายซะทีเลยจะมาหาหมอซะหน่อย  แล้วคุณเคลวินล่ะครับไม่สบายหรือว่ามาธุระ”

   “เอ่อ...พอดีผมพาคนงานที่บ้านมาน่ะครับมันไม่สบาย”

   “แล้วอยู่ไหนล่ะครับไม่เห็นมีเลย” กันต์มองซ้ายมองขวาเพื่อหาคนที่เคลวินอ้างถึง

   “มันอยู่ในรถน่ะครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมไปก่อนละกันครับ แล้วเจอกันพรุ่งนี้”

   “ได้ๆครับ แล้วเจอกันพรุ่งนี้”

   ทั้งสองโบกมือลากันก่อนที่จะแยกย้าย เมื่อเคลวินขึ้นมาบนรถแล้วก็เห็นร่างบางนั่งหลับอยู่ ใบหน้าหวานนั้นเหมือนมีแรงดึงดูดให้เขาต้องจ้องมองอยู่อย่างนั้น ไม่นานภาพและเสียงในวัยเด็กก็ฉายขึ้นในหัว ‘พี่วินครับ น้องภัทรเอาขนมมาให้ / พี่วินครับ รอน้องภัทรด้วย’ ภาพและเสียงในความทรงจำทำให้เคลวินมองร่างบางด้วยสายตาที่อ่อนโยนขึ้น  ก่อนจะค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ

   “ไม่” เมื่อได้สติเขาก็สะบัดหน้าไปมาเพื่อสลัดความคิดนั้นออกไป  ก่อนจะบึ่งรถกลับไปที่คฤหาสน์ทันที

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



@ เกาะเพิร์ล

   เกาะเพิร์ลเป็นเกาะส่วนตัวที่มีพื้นที่และขนาดใกล้เคียงกับเกาะบลูซี และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีโรงแรมขนาดใหญ่ไม่ต่างกัน จะบอกว่าทั้งสองเกาะเป็นคู่แข่งกันก็ว่าได้ ‘อิทธิ จงกิจไพศาล’ ทายาทหนุ่มหล่อไฟแรงของนักธุรกิจดังในจังหวัด  เขามาบริหารที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว  และตอนนี้ผู้บริหารหนุ่มก็กำลังนอนพักผ่อนที่เตียงอาบแดดข้างสระว่ายน้ำ  พร้อมกับสวมแว่นกันแดดแบรนด์ดัง  ในรีสอร์ทส่วนตัวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก
 
   “นายครับ” ชายหนุ่มรูปร่างสันทัดในชุดดำสองคนเดินเข้ามาเอ่ยทักผู้เป็นเจ้านาย

   “ได้อะไรมาบ้าง” เขาเอ่ยถามพร้อมกับถอดแว่นกันแดดอก 

         เขาสั่งให้ลูกน้องทั้งสองคนไปสังเกตการณ์ที่เกาะบลูซี โดยเฉพาะเคลวินที่เขาให้จับตาดูทุกฝีเก้าเพื่อจ้องจะหาทางเล่นงาน ทั้งสองมีเรื่องบาดหมางกันเมื่อปลายปีที่แล้ว  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแย่งลูกค้าและการรุกล้ำเขตน่านน้ำของกันและกัน

   ชายชุดดำยื่นกล้องถ่ายรูปให้ เขาเปิดดูเมื่อเห็นภาพในกล้องก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัย  แล้วกดภาพดูไปเรื่อยๆ ก่อนจะซูมไปที่รูปๆหนึ่งเพื่อที่จะได้เห็นใบหน้าหวานนั้นชัดขึ้น

   “นี่ใคร?” อิทธิถามลูกน้องก่อนะยืนกล้องให้ดู

   “ผู้ชายหน้าหวานคนนี้น่าจะเป็นคนในบ้านของไอ้เคลวินครับนาย มันพามาหาหมอแล้วก็พากลับไปที่บ้านด้วย”

   “ไปสืบมาว่าผู้ชายหน้าหวานคนนี้เป็นใคร กูชักจะสนใจซะแล้วสิ” อิทธิยกยิ้มที่มุมปากพร้อมกับมองไปที่ใบหน้าหวานในกล้องด้วยความสนใจ

   “ครับนาย ขอเวลาอีกสักสองสามวัน เพราะตอนนี้ที่เกาะมันเข้มงวดเรื่องการเข้าออกมากเป็นพิเศษ”

   “ระวังตัวด้วยล่ะ”

   “ครับนาย”

   “ไปได้”

   เขานั่งดูรูปไปเรื่อยๆอีกครั้ง ทำไมเขาเห็นใบหน้าหวานครั้งแรกก็รู้สึกสนใจอย่างบอกไม่ถูก

   “ไม่ว่านายจะเป็นใครและเป็นอะไรกับไอ้เคลวิน ฉันก็จะเอานายมาเป็นของฉันให้ได้”

   เขาแสยะยิ้มออกมาก่อนจะวางกล้องถ่ายรูปลงที่โต๊ะไม้ข้างๆ  หยิบแก้วไวน์มาดื่มแล้วนอนอาบแดดต่อไปอย่างสบายใจ

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


TBC

////////////////////
อ่านแล้วช่วยคอมเมนท์กันด้วยนะคร้าบบ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [MPREG] กรงรักร้ายของนายซาตาน [Ch.6-เพื่อนบ้าน]-(05-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 05-02-2018 12:11:32
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [MPREG] กรงรักร้ายของนายซาตาน [Ch.6-เพื่อนบ้าน]-(05-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 05-02-2018 14:01:58
 :mew1: me
หัวข้อ: Re: [MPREG] กรงรักร้ายของนายซาตาน [Ch.6-เพื่อนบ้าน]-(05-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-02-2018 15:08:14
ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.6-เพื่อนบ้าน]-(05-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-02-2018 23:45:11
ขอให้หายไว ๆ นะหลานภัทร  :กอด1:
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.7-คลิปเด็ด]-(06-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 06-02-2018 00:04:29
CHAPTER

-7-

คลิปเด็ด




@ ศูนย์การแพทย์บลูซี


           “เชิญค่ะ”

          พยาบาลสาวสวยเอ่ยพร้อมกับคอยยืนเปิดประตูให้กับคนไข้หนุ่มหล่อ

            “ขอบคุณครับ” กันต์ยิ้มให้แล้วเดินเข้ามาข้างใน ก่อนที่พยาบาลสาวจะปิดประตูห้องตรวจแล้วเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆนายแพทย์

            “สวัสดีครับหมอ” กันต์ยิ้มให้นายแพทย์หนุ่มหน้าใสที่กำลังนั่งมองมาที่เขา


            “ทำไมปล่อยให้ตัวเองเป็นหวัดมาหลายวันขนาดนี้ล่ะครับ” พงษ์ถามคนไข้หนุ่มหล่อ เมื่อดูที่ใบซักประวัติคนไข้ก่อนเข้ามาในห้อง

            “ก็ผมคิดว่ามันจะหายเองได้ไงครับหมอ” กันต์บอกหน้าตาเฉย เขามีนิสัยกวนๆทำให้หลายคนที่เจอครั้งแรกอาจจะรู้สึกเหม็นขี้หน้า ไม่เว้นแม้กระทั่งนายแพทย์หนุ่มที่กำลังตรวจอาการเขาอยู่ในขณะนี้

            “หมอเห็นหลายรายแล้ว พูดแบบนี้แหละไม่กี่วันก็ได้เผาแล้ว” พงษ์ว่าให้ชายหนุ่ม

            กันต์ได้ยินก็ชักสีหน้าใส่คุณหมอหน้าหล่อทันที อยู่ดีๆก็มาแช่งกันซะอย่างนี้

            “อ้าวคุณหมอ! ทำไมพูดหมาๆอย่างนี้ล่ะครับ ผมมาที่นี่เพื่อให้หมอช่วยรักษานะไม่ใช่มาให้แช่งกัน”

            “คุณนั่นล่ะหยุดกวนตีนได้แล้ว  หมอไม่ได้แช่งแต่พูดความจริงคนไทยก็อย่างนี้ล่ะกว่าจะมาหาหมอได้ก็ต้องปล่อยให้ตัวเองเจ็บหนักก่อน  พออาการหนักขึ้นการรักษาก็ยากขึ้น พอผลการรักษาไม่เป็นอย่างที่หวังก็โทษหมอซะงั้น” พงษ์ว่า

             “นี่หมอเก็บกดมาจากไหนรึเปล่าครับเนี่ย” เขาไม่เคยเห็นหมอคนไหนขี้บ่นขนาดนี้มาก่อน

             “ถลกเสื้อขึ้นครับ” พงษ์ไม่ใส่ใจคำพูดของกันต์ ก่อนจะสั่งให้ถลกเสื้อขึ้นเพื่อที่จะใช้สเตธโธสโคปฟังเสียงการเต้นของหัวใจและปอด

            “เฮ้ย! หมอจะทำอะไรผมอ่ะ” กันต์ทำท่าตกใจพร้อมกับกอดตัวเองไว้

            “จะให้หมอตรวจรึเปล่าล่ะครับ ถ้าอยากหายก็ช่วยทำตามที่หมอสั่งด้วยครับ” พงษ์ชักสีหน้าใส่จริงๆแล้วคนเป็นหมอไม่ควรจะปฏิบัติต่อผู้ป่วยอย่างนี้  แต่เขาก็อดไม่ได้กับความกวนตีนของอีกฝ่าย

            “โอเคๆ จะทำอะไรก็ทำผมยอมหมดล่ะครับ” ว่าแล้วกันต์ก็ค่อยๆถลกเสื้อยืดขึ้นจนเลยกล้ามอกขึ้นไป  เผยให้เห็นหุ่นที่สมส่วนและกล้ามเนื้อแน่น พร้อมกับซิกแพ็คเป็นลอนๆที่หน้าท้อง  กันต์กระตุกที่กล้ามเนื้อหน้าอกสลับกันไปมาเพื่อกวนคุณหมอหน้าหล่อก่อนจะยิ้มกวนๆให้ “ตรวจเลยครับหมอ”

           พงษ์เห็นอย่างนั้นก็รู้สึกเหนื่อยใจกับคนไข้รายนี้มากเหลือเกิน ก่อนจะค่อยๆกดสเตธลงบนตัวของกันต์เพื่อสังเกตอาการ

           “คุณไม่จำเป็นจะต้องกระตักหัวนมคุณอย่างนั้นก็ได้มันรบกวนสมาธิหมอครับ” เขาพยายามพูดให้สุภาพเข้าไว้

            “จริงเร้อ...ผมเห็นที่อื่นไม่จำเป็นต้องให้ถอดขนาดนี้เลยหรือว่าหมออยากเห็นซิกแพ็คผมครับ” เขาว่าพลางจ้องใบหน้าขาวใสของคุณหมอหนุ่มอย่างสนใจ

            “การตรวจที่ถูกต้องมันต้องฟังเสียงจากตัวคนไข้โดยไม่ผ่านเสื้อผ้าครับ คุณอย่าคิดเข้าข้างตัวเองไปหน่อยเลยครับ เคสอื่นเยอะกว่านี้หมอก็เคยตรวจมาแล้วอยู่นิ่งๆ” เขาว่าแล้วก็ปลดสเตธออกจากหูก่อนจะคาดไว้ที่บริเวณลำคอเหมือนเดิม

            “เสร็จแล้วไม่มีอะไรผิดปกติ  นอกจากอาการปวดศีรษะ คัดจมูก น้ำมูกไหลตามที่ได้แจ้งพยาบาลไว้ก่อนหน้านี้ คุณมีอาการอย่างอื่นร่วมด้วยไหมครับ”

            “มีครับหมอ” กันต์พูดแล้วยกยิ้มอย่างมีเลศนัย

            “อาการอะไรครับ” พงษ์มองหน้ารอคำตอบ

            “ตอนนี้หัวใจผมเต้นแรงมากเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเจอหน้าหมอรึเปล่าครับ ช่วยตรวจดูอีกครั้งได้ไหมครับ” เขาถลกเสื้อยืดขึ้นอีกครั้งแล้วเอานิ้วจิ้มไปที่กลางยอดอกด้านซ้าย พร้อมกับยิ้มกวนๆให้จนพยาบาลที่ยืนอยู่นั้นกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่

            พงษ์ทำหน้าไม่ถูกเมื่อโดนคนไข้หน้าหล่อขี้กวนจู่โจมด้วยคำพูดอย่างไม่ทันตั้งตัวอย่างนี้

            “สงสัยหมอต้องเช็คสมองคนไข้ด้วยแล้วมั้งเนี่ย พูดจาเลอะเลือน เสร็จแล้วครับเชิญรับยาด้านนอก คุณพยาบาลครับเชิญคนไข้ออกไปข้างนอกด้วย” เขาสั่งก่อนจะก้มหน้าลงเขียนเอกสารบนโต๊ะ  โดยไม่ใส่ใจคนไข้หนุ่มหล่อที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

            “เชิญทางนี้ค่ะ” พยาบาลสาวเดินไปเปิดประตูให้

            “ผมไปก่อนนะครับหมอ” เขายังกวนไม่เลิก

            “เชิญครับ หมอขอให้หายเร็วๆนะครับแล้วก็อย่าเจ็บอย่าป่วยอีก หมอขี้เกียจตรวจคนไข้ประเภทคุณ”

            “ยิ่งหมอพูดแบบนี้ผมยิ่งจะป่วยบ่อยๆ แล้วเจอกันครับ” กันต์ยักคิ้วเข้มแล้วยิ้มให้ก่อนจะเดินออกไป

            เมื่อเดินออกมาหน้าห้องตรวจแล้วเขาก็มองไปที่หน้าประตูห้องก่อนจะอ่านชื่อที่อยู่ในป้าย

            “นายแพทย์กิตติพงษ์ รัตนโชติสกุล ผมชักจะสนใจคุณแล้วสิคุณหมอหน้าหวาน” ว่าแล้วก็เดินไปรอรับยาที่ห้องจ่ายยาทันที
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            หลังจากพักรักษาตัวอยู่เป็นอาทิตย์ตอนนี้ข้อมือของนภัทรก็หายเป็นปกติดีแล้ว วันนี้เขารู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษนั่นเพราะ ‘หมูแดง’ เด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบหลานชายของป้าภา  ซึ่งจะมาอยู่ที่นี่เป็นประจำทุกวันหยุด       

            “หมูแดงของพี่คิดถึงจังเลยคร้าบบ” นภัทรว่าพร้อมกับเดินเข้าไปกอดเจ้าตัวน้อย  ที่นั่งจ้ำม่ำอยู่บนเก้าอี้ข้างๆป้าภาในครัว

            “พี่ภัทรมาแล้ววววว! หมูแดงคิดถึงพี่ภัทรมากๆเลยครับ” เจ้าตัวน้อยว่าพร้อมกับบรรจงหอมแก้มขาวๆของร่างบางด้วยความคิดถึง

            “พี่ก็คิดถึงหมูแดงมากๆเลย รอให้ถึงวันหยุดเร็วๆจะได้เจอหน้าเจ้าหนูน้อยคนนี้ไง” นภัทรเอามือบี้จมูกเจ้าตัวน้อยเล่นด้วยความมันเขี้ยว

            “มันนั่งบ่นหาเอ็งอยู่นี่ล่ะ พามันออกไปจากครัวหน่อยภัทร ป้าล่ะรำคาญมัน” ป้าภาว่าพลางเช็ดจานไปด้วย

            “ได้ครับป้า ผมกำลังตากผ้าอยู่พอดี เดี๋ยวพาหมูแดงออกไปด้วย” เขาบอกป้าภา

            “หมูแดงก็ไม่อยากอยู่ที่นี่กับยายไม่เห็นสนุกเลย ยิ่งพี่ขวัญหมูแดงยิ่งไม่ชอบ หน้าบูดตลอดเหมือนกินขี้มาเลยอ่ะครับ” เจ้าเด็กน้อยว่าให้จนขวัญที่ช่วยป้าภาเช็ดจานอยู่นั้นถึงกับถลึงตาใส่

            “หน็อย! เป็นเด็กเป็นเล็กมาทำเป็นปากดี เดี๋ยวแม่ตบให้เลย” ขวัญยกไม้ยกมือใส่

            “มึงอย่ามาทำเป็นด่าหลานกูเลยอีขวัญ ไอ้หมูแดงมันก็พูดถูกของมัน หน้าตาก็สะสวยแต่มึงน่ะชอบทำหน้าบูดหน้าบึ้งตลอด เด็กมันยังรู้เลย”

            “ป้าอ่ะฉันไม่ช่วยแล้วนะ” ขวัญว่าแล้วก็วางผ้าลง

            “มึงอย่านะวันนี้มึงเพิ่งจะทำการทำงาน อย่าให้กูต้องฟ้องคุณเคลวิน” ป้าภาขู่

            “ก็ได้ๆ รีบๆทำจะได้เสร็จซะที” หล่อนว่า

            นภัทรมองดูหญิงสาวก็อดที่จะสงสารขวัญไม่ได้ หล่อนมีดีที่ความสวยอย่างเดียวแต่จิตใจกลับไม่ได้สวยเหมือนหน้าตา ชอบอิจฉาคนอื่นและมีความทะเยอทะยานสูงเกินตัว ทำให้ความสวยของหล่อนมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย ถึงแม้ว่าเขาจะเคยเจ็บตัวเพราะขวัญมาแล้วแต่ก็ไม่ได้ฝังใจอะไร แต่ก็ไม่ได้ชะล่าใจกลับระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัวอีก

            “หมูแดงเราไปกันเถอะครับ” เขาจูงมือเจ้าตัวเล็กออกไปจากครัวไปตากผ้าที่หลังบ้านให้เสร็จ หลังจากปั่นมาเกือบครึ่งวันนั่นเพราะมีทั้งเสื้อผ้าของเคลวินและผ้าม่านที่ปลดออกมาเกือบทั่วทั้งบ้าน  กองเป็นพะเนินอยู่แต่ก็ยังดีที่เคลวินไม่ใจดำจนเกินไปยังให้ใช้เรื่องซักผ้าปั่นได้

            “เย้ๆ เหม็นขี้ๆ ไปดีกว่า” หมูแดงแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ขวัญก่อนจะรีบวิ่งออกไปพร้อมกับนภัทร

            เมื่อออกมาข้างนอกแล้วนภัทรก็รีบพาเจ้าตัวน้อยมาที่ลานหลังบ้าน  ตอนนี้มีตะกร้าผ้าใบใหญ่หลายใบเตรียมพร้อมรอการผึ่งแดดให้แห้ง  ลานตากผ้าหลังบ้านจะเป็นลานโล่งสามารถมองเห็นท้องทะเลและท้องฟ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา  เชือกถูกขึงไว้บนเสาสี่ถึงห้าเส้นเพื่อใช้เป็นราวตากผ้า นภัทรหยิบผ้าขึ้นมาพาดวางทีละตัวๆ โดยมีเจ้าตัวเล็กคอยหยิบจากตะกร้าส่งให้

            “พี่ภัทรจะอยู่ที่นี่นานไหมอ่ะครับ” อยู่ๆหมูแดงก็ถามขึ้นมาจนร่างบางถึงกับชะงักนิดหน่อย

            “ถ้าหมูแดงมาที่นี่บ่อยๆพี่ภัทรก็จะอยู่นานๆโอเคไหมครับ” เขายิ้มให้เจ้าตัวเล็ก

            “เย้ๆๆ หมูแดงจะมาทุกอาทิตย์เลยคร้าบบ อยู่กับพี่ภัทรสนุกดี” เจ้าตัวน้อยเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีดีใจ

            “แล้วอย่าลืมเอาการบ้านมาทำด้วยนะ”

            “พี่ภัทรช่วยหมูแดงทำด้วยนะคร้าบบ”

            “ได้สิ...เดี๋ยวพี่ภัทรช่วยทำนะครับ” เขาย่อตัวให้สูงพอดีเจ้าตัวน้อยก่อนจะเอามือเรียวไปขยี้ผมเล่นอย่างเอ็นดู

            “คร้าบบบ” เจ้าตัวน้อยยิ้มจนตาหยี เห็นแล้วก็ทำให้เขาอยากมีเจ้าตัวน้อยอย่างนี้บ้างคงจะมีความสุขน่าดู  แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้วเพราะศักดิ์ศรีความเป็นชายของเขา  มันได้ถูกทำลายด้วยน้ำมือของเจ้าของเกาะแห่งนี้ไปแล้ว

            ขณะที่นภัทรกำลังยืนตากผ้าอยู่นั้น เคลวินก็เดินค่อยๆเดินเข้ามาอย่างเงียบๆแล้วนั่งลงข้างๆเจ้าตัวเล็กก่อนจะส่งสัญญาณห้ามส่งเสียง  แล้วเป็นคนยื่นผ้าให้แทน

            “หมูแดงเหนื่อยยังครับ” ร่างบางเอ่ยพลางตากผ้าไปด้วย เมื่อไม่ได้ยินเสียงเจ้าตัวเล็กตอบกลับก็หันมามอง สิ่งที่เขาเห็นตอนนี้คือเคลวินกำลังนั่งยองๆอยู่ข้างหมูแดง

            “หมูแดงเหนื่อยแล้วครับ” เคลวินตอบแทนเจ้าตัวน้อย

            “นี่คุณผมกำลังถามหมูแดงไม่ได้ถามคุณซะหน่อย” นภัทรชักสีหน้าใส่

            “ก็กูจะตอบแทนหมูแดงแล้วจะทำไม” เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วหันไปเอ่ยกับหมูแดง “หมูแดงคงเหนื่อยมากสินะที่โดนคนใจร้ายใช้งานซะหนักเลย”

            “เปล่านะครับ หมูแดงเต็มใจช่วยพี่ภัทรสนุกดี” เจ้าตัวน้อยยิ้มให้ นภัทรได้ยินก็รู้สึกสะใจที่คำตอบของเด็กตัวเล็กๆ  ทำให้คนตัวโตถึงกับหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ

            “เห็นไหมล่ะอย่ามโนไปเองว่าคนอื่นเค้าจะคิดแบบคุณ”

            “ก็มึงใช้แรงงานเด็กนี่หว่า กูให้มึงทำคนเดียวเสือกให้หมูแดงมาช่วยซะงั้น” เขาว่า

            “ขนาดเด็กยังไม่ใจแคบอย่างคุณเลย ลองพิจารณาตัวเองบ้างก็ดีนะว่าเคยคิดดี ทำดีกับคนอื่นบ้างไหมก่อนจะว่าคนอื่น” ร่างบางว่าให้

            “อยู่ที่นี่สิ่งที่กูพูดคือสิ่งที่ถูกต้องทุกอย่างจำเอาไว้”

            ร่างบางได้ยินกลับไม่สนใจ แต่หันไปพูดกับหมูแดงแทน

            “หมูแดงจำไว้นะครับว่าอย่าเชื่อใจคนอื่นง่ายๆ คนบางคนดูแค่หน้าตาอาจจะเหมือนว่าเป็นคนจิตใจดีแต่แท้ที่จริงแล้วเค้าอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่เราคิดก็ได้นะ” ร่างบางเอ่ยกับเจ้าตัวน้อยที่อยู่ตรงหน้า แต่แท้ที่จริงแล้วมันคือการพูดประชดประชันคนตัวโต ซึ่งเคลวินเองก็รู้ดีแต่ไม่อยากจะทำอะไรรุนแรงต่อหน้าเด็ก ใจจริงเขาอยากกระชากตัวร่างบางเข้ามาสำเร็จโทษซะให้เข็ดหลาบที่บังอาจมาต่อปากต่อคำกับเขา

            “หมูแดงจะเชื่อพี่ที่ภัทรพูดครับ” เจ้าเด็กน้อยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ร่างบางทำเหมือนคนตัวโตเป็นธาตุเป็นอากาศที่ไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น

            “ป่ะเราไปกันเถอะ” ร่างบางยื่นมือให้หมูแดงจับก่อนจะเดินออกไป

            “เดี๋ยว!” เคลวินรีบเอ่ยห้ามไว้ก่อน

            “มีอะไรอีกครับผมจะรีบไปเตรียมข้าวเย็นช่วยป้าภา” ร่างบางอ้าง

            “คืนนี้ขึ้นไปหากูด้วย” ร่างบางได้ยินก็ต้องถอนหายใจ

            “ครับ...แล้วผมจะขึ้นไป” ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเอาชนะร่างบางเรื่องเมื่อสักครู่ได้  แต่เขาก็สามารถเอาชนะร่างบางเรื่องนี้ได้อยู่ดี คิดแล้วก็ยกยิ้มที่มุมปากอย่างผู้มีชัย

            “พี่ภัทรขึ้นไปทำอะไรกับคุณท่านครับ” อยู่ๆเจ้าตัวน้อยก็เอ่ยถาม จนร่างบางถึงกับหน้าแดงก่ำขึ้นมาเพราะไม่รู้จะตอบคำถามยังไงดี

            “เอ่อ...พี่ภัทรไป...” เขาคิดหาคำพูดยังไม่ได้แต่คนตัวโตกลับชิงตอบก่อน

            “พี่ภัทรเค้าเข้าไปทำหน้าที่เมียที่ดีไงหมูแดง” เคลวินยักคิ้วให้ร่างบาง

            “อ้าว! พี่ภัทรเป็นเมียคุณท่านเหรอครับ” หมูแดงมองหน้าร่างบางอย่างงงๆ

            “คุณพูดอะไรออกมาเนี่ย เดี๋ยวเด็กก็เข้าใจผิดหรอก” เขาเอ็ดให้คนตัวโตแล้วหันไปเอ่ยกับหมูแดง “หมูแดงอย่าไปเชื่อคุณท่านนะครับ คุณท่านเค้าล้อเล่นพี่ภัทรขึ้นไปช่วยทำงานบ้านครับหมูแดง” ร่างบางนั่งลงตรงหน้าแล้วเอ่ยกับเจ้าตัวน้อยให้เข้าใจ

            “ครับหมูแดงเข้าใจแล้ว พี่ภัทรไปช่วยคุณท่านทำงานบ้าน” หมูแดงพูดแล้วยิ้มตาตี่

            “ดีมากครับ” นภัทรยิ้มให้แล้วเอามือลูบที่เรือนผมของเจ้าตัวน้อยอย่างเอ็นดู

            “มึงนี่ดูท่าจะเลี้ยงเด็กเก่งเนาะ กูทำให้สักคนเอาไหม?” เคลวินพูดขำๆ

            “คุณหยุดพูดได้แล้วแค่นี้หมูแดงก็สับสนจะแย่แล้ว” นภัทรหันไปเอ็ดให้คนตัวโต

            “ไปกันเถอะหมูแดง” ร่างบางยืนขึ้นแล้วจูงมือเจ้าตัวน้อยเข้าไปในบ้านทันที

            เคลวินมองตามหลังทั้งสองคนแล้วยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว  เวลานภัทรอยู่กับหมูแดงเขารับรู้ได้ถึงความเป็นแม่ในตัวนภัทร ถ้านภัทรเป็นผู้หญิงก็คงจะดี เขาจะทำให้นภัทรท้องไม่มีพ่อ ให้ไอ้พวกบ้านนั้นอับอายขายขี้หน้าชาวบ้านเค้าไปทั่ว แต่คืนนี้ล่ะเขาจะทำให้พวกมันรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยเลยทีเดียว
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            “ยาย” เจ้าหมูแดงส่งเสียงร้องรีบวิ่งเข้ามาหายายในครัว โดยมีนภัทรเดินตามหลังมาติดๆ

            “ตะโกนมาเสียงดังเชียวไอ้เด็กคนนี้” ป้าภาเอ็ดหลานชายตัวน้อย

            “หมูแดงมีอะไรจะถามยาย” หมูแดงเดินมาเกาะแขนผู้เป็นยายแล้วทำหน้าเหมือนมีคำถามสงสัย

            “มีอะไรว่ามาสิยายรอฟังเอ็งอยู่เนี่ย” ป้าภายืนเอามือเท้าสะเอวมองดูหลานตัวน้อย

            “ทำไมคุณท่านบอกว่าพี่ภัทรเป็นเมียคุณท่าน แล้วคนเป็นเมียต้องทำยังไงบ้างอ่ะคร้าบบ” เจ้าหมูแดงทำหน้าสงสัย  ป้าภาได้ยินก็หันไปมองหน้านภัทรทันที  ตอนนี้ร่างบางทำหน้าไม่ถูกเมื่อได้ยินคำถามของเด็กชายตัวน้อย

            “เอ็งได้ยินมาจากไหน เป็นเด็กเป็นเล็กถามอะไรก็ไม่รู้ ถ้าเอ็งอยากรู้เวลากลับไปหาพ่อแม่เอ็งก็ถามมันดู” ป้าภาว่าให้หลาน

            “ก็หนูแดงสงสัยนี่นา” เจ้าตัวน้อยเกาศีรษะแกร็กๆ

            “ทำตัวเป็นคุณนายของบ้านนี้เข้าไปทุกวัน ระวังเถอะจะโดนคุณเคลวินเขี่ยลงมาเข้าสักวัน” ขวัญเบะปากใส่

            “เธอไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉันหรอกขวัญ อย่างน้อยฉันก็ได้สิ่งที่เธออยากได้แต่ไม่เคยได้” นภัทรตอบกลับ

            “ปากดีนักนะ” ขวัญยกมือขึ้นเตรียมจะตบ แต่นภัทรคว้าสากกะเบือบนโต๊ะทำกับข้าวไว้ได้แล้วยกขึ้นบ้าง

            “เอาสิ!” ทั้งสองมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร

            “โอ๊ย! พอกันทั้งสองคนรีบจัดโต๊ะให้คุณเคลวินเดี๋ยวนี้” ป้าภาตะโกนเสียงดังห้ามทั้งสองคน จนต่างคนต่างก็ยอมลดอารมณ์ให้อ่อนลง

            “ยายห้ามทำไมหมูแดงกำลังสนุกอยู่เลยคร้าบบ” หมูแดงยิ้มพร้อมกับปรบมือเสียงดัง

            “ไอ้นี่ก็อีกคน” ป้าภาชี้หน้าหลานชายตัวน้อย

            “หมูแดงเรามาช่วยยายเตรียมกับข้าวกันก่อนดีกว่าเนาะแล้วค่อยมาทานข้าวกัน” นภัทรรีบคว้าตัวหมูแดงเข้ากอดคอเอาไว้

            “คร้าบบบหมูแดงกำลังหิวพอดีเลย”





            หลังจากทั้งหมดเตรียมกับข้าวมื้อเย็นบนโต๊ะให้เคลวินเรียบร้อยแล้ว  ก็กลับมาทานข้าวกันในครัวหลังจากนั้นก็พากันกลับไปห้องพักของแต่ละคน  แต่วันนี้นภัทรไม่ได้จบการทำงานของวันเพียงแค่นั้น  เขาต้องขึ้นไปหาเคลวินตามคำสั่งอีก

            เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ร่างบางก็เดินออกจากห้องมุ่งตรงไปยังห้องนอนของเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่  เมื่อถึงหน้าห้องแล้วนภัทรก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อรวบรวมสติก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปเคาะประตูห้อง

            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

            ร่างบางเปิดประตูเข้าไปในห้องเหมือนทุกครั้ง เมื่อย่างกรายเข้าไปก็แปลกใจที่ไม่เห็นคนตัวโตนอนอยู่บนเตียงเหมือนทุกครั้ง จึงมองไปรอบๆเพื่อหาเจ้าของห้อง

            “คุณเคลวิน! คุณอยู่ไหน” นภัทรสอดส่องสายตาหาแต่ก็ไม่เจอ แต่ทันใดนั้นเขาก็ต้องตกใจเมื่อมีคนเข้ามาสวมกอดจากด้านหลัง

            “เฮ้ย! คุณเล่นอะไรเนี่ย ปล่อย!” นภัทรพยายามดิ้นไปมา ปกติแล้วมันไม่ใช่อย่างนี้ เคลวินไม่เคยต้องมาหลบๆซ่อนๆเล่นกันอย่างกับเด็ก

            “ไม่ปล่อย!” เขากอดร่างบางพร้อมกับพาเดินไปบนเตียง

            “ทำไมต้องทำอะไรอย่างนี้ด้วย”

            “มันจะได้ตื่นเต้นไง มึงไม่ชอบเหรอ” เคลวินว่าพร้อมกับใช้เชือกมัดมือร่างบางไว้กับหัวเตียง

            “อะไรกันเนี่ยทำไมต้องมัดด้วยไม่เอ้า!” ร่างบางพยายามดิ้นแต่ไม่อาจต้านแรงของคนตัวโตไปได้  จนตอนนี้มือทั้งสองข้างโดนมัดไว้กับหัวเตียงเรียบร้อยแล้ว

            “อยากเล่นอะไรสนุกๆมั๊ยจ๊ะ” คนตัวโตคร่อมตัวร่างบางเอาไว้

            “ไม่นะ! อย่าบอกนะว่าคุณเป็นพวกซาดิตส์วิตถาร” ร่างบางพยายามสะบัดมือทั้งสองข้างพร้อมกับดิ้นไปมาเพื่อให้เชือกหลุด

            “ไม่ใช่โว้ย มีอะไรที่น่าสนุกกว่านั้นอีกเยอะมึงดูนี่สิ” คนตัวโตยกโทรศัพท์มือถือของร่างบางที่ยึดไว้ขึ้นให้ดู

            “มือถือผมคุณคิดจะทำอะไร”

            “กูเคยบอกมึงแล้วไงว่ากูจะให้มึงโทรไปหาที่บ้านมึงเป็นระยะๆ เพื่อให้พวกมันรู้ว่ามึงยังอยู่ดีกินดีมีความสุข วันนี้กูก็เลยจะอัดคลิบสั้นๆส่งไปให้พวกมันดูซะหน่อย  ให้พวกมันรู้ว่ามึงมีความสุขมากกก” เคลวินเปิดเครื่องขึ้นมาแล้วเปิดกล้องเตรียมพร้อมที่จะอัดวิดีโอ

            “ไม่นะ! ผมขอร้องเถอนะอย่าทำอย่างนี้เลย ขอร้องล่ะ” ร่างบางพยายามอ้อนวอนขอร้อง แต่มีหรือที่คนตัวโตจะยอมใจอ่อน เพราะเขารู้ดีว่าถ้าคนบ้านนั้นได้ดูคลิปเด็ดๆนี้ดีไม่ดีอาจจะช็อคตายไปเลยก็เป็นได้ คิดแล้วก็ทำให้เขาสะใจมากเหลือเกิน

            “ยิ่งมึงอ้อนวอนขอร้องยิ่งดี พวกมันจะได้รู้ว่ามึงน่ะทรมานมากแค่ไหน หึๆ”

            ว่าแล้วคนตัวโตก็เริ่มจัดการกับร่างบางตามที่เขาต้องการพร้อมกับเริ่มบันทึกวิดีโอไปด้วย....
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.7-คลิปเด็ด]-(06-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-02-2018 01:18:55
เลวของแท้จริง ๆ เลย คุณวินเนี้ย  o12
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.7-คลิปเด็ด]-(06-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 06-02-2018 07:43:51
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.7-คลิปเด็ด]-(06-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-02-2018 12:12:42
เลวมากกก!!
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.7-คลิปเด็ด]-(06-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 06-02-2018 14:23:08
จะรอดูวันที่พี่วินร้องไห้เช็ดหัวเข่า
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.8-สถานที่ลับ]-(07-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 07-02-2018 17:39:09
CHAPTER  8  สถานที่ลับ



            หลังจากสงครามแห่งกามารมณ์ได้จบลงไปแล้ว เคลวินก็คลายเชือกที่ข้อมือออกให้ ในขณะที่ร่างบางนั้นกำลังนอนหันหลังสะอึ้นไห้อยู่บนเตียง เขารู้สึกเจ็บปวดมากเหลือเกิน  เมื่อรู้ว่าครอบครัวของตัวเองจะได้เห็นคลิปอุบาทว์นั่น เมื่อไหร่เคลวินถึงจะพอใจสักที  ยิ่งคิดน้ำตามันก็ยิ่งไหลลงมาเป็นสายไม่ยอมหยุดเสียที

            “สะใจคุณพอรึยัง ฮึก” ร่างบางจ้องหน้าด้วยดวงตาที่แดงก่ำ  เนื่องจากจากการผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก

            “โคตรพอใจเลยว่ะ” เขาว่าพลางเกลี่ยที่แก้มขาวของร่างบางอย่างเบามือ แต่เจ้าตัวกลับสะบัดหน้าหนี

            “ดูคลิปเราไหม ไม่สิคลิปมึงโดนเอาเพราะมันเห็นแต่หน้ามึงคนเดียว ฮ่าๆ” เขาว่าพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความสะใจ

            “ไอ้เลว! แค่นี้ยังไม่พอใจอีกเหรอ ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย ฮึก” ร่างบางตวาดแหวใส่

            “อย่ามาปากดีกับกู! มึงไม่มีทางหยุดกูได้หรอกจนกว่าพ่อของมึงจะตายกูถึงจะพอใจ แต่ก่อนตายกูอยากให้มันทรมานใจแทบขาดซะก่อน” เคลวินยิ้มเหี้ยม

            “เอามานี่!” ร่างบางพยายามแย่งโทรศัพท์มือถือคืนมา แต่คนตัวโตกลับยกขึ้นเหนือศีรษะ  ก่อนจะใช้มือหนาฟาดไปที่แก้มขาวอย่างแรง  จนร่างบางฟลุบลงที่เตียงแล้วก้มหน้าร้องไห้

            “มึงไม่มีทางหยุดกูได้หรอก” เขาว่าแล้วก็จัดการส่งข้อความนั้นไปให้ทรงพลทันที “เรียบร้อย...ตอนนี้ก็รอให้มันโทรกลับมา” เขาบอกร่างบาง ไม่นานนักก็มีสายโทรเข้าจากทรงพลอย่างที่เขาพูดจริงๆ

            Rrrrr….

            “ว่าไงครับคุณพ่อตา” เขาพูดจากวนใส่ อีกฝั่งเดือดจนน้ำตาแทบจะไหลเมื่อได้เห็นคลิปที่เพิ่งจะถูกส่งไป

            (“มึงทำอะไรลูกกู!”) ตอนนี้ทรงพลนั่งอยู่ในห้องทำงานที่บริษัท โชคดีที่แก้วกานดาไม่ได้อยู่ด้วยไม่งั้นหล่อนคงจะร้องไห้ร้องห่มจนอกแตกตายอย่างแน่นอน

            “อ้าว! คุณพ่อดูแล้วยังจะมาถามผมอีกเหรอครับ ไม่มีตารึไง!”

            (“ไอ้เหี้ย! กูไม่มีทางปล่อยมึงไว้แน่ กูจะตามฆ่ามึงไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”) เขาพูดด้วยความโมโห

            “โอ๊ยกลัวจังเลยครับ ก่อนมึงจะตามมาฆ่ากู  มึงช่วยไปตรวจวัดความดันของมึงก่อนนะ  ว่ามันสูงไปถึงไหนแล้วหลังจากได้ดูคลิป   ถ้าคิดถึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมากนัก ก็ดูคลิปที่กูส่งให้ไปพลางๆก่อนละกัน ฮ่าๆ” เขาหัวเราะเยาะเย้ยคู่สาย

            (“ไอ้ระยำ!”) เขาสบถออกมาพร้อมกับทุบกำปั้นลงที่โต๊ะทำงานเสียงดัง

            “คุณพ่อครับไม่ต้องเป็นห่วงผมนะ ผมสบายดีครับ คุณพ่อไม่ต้องเล่นตามเกมส์มันนะ” ร่างบางตะโกนเสียงดังเพื่อให้ผู้เป็นพ่อที่อยู่ในสายได้ยิน

            (“นภัทรลูกพ่อ”) เขาเอ่ยเมื่อได้ยินเสียงลูกชาย

            “มึงอยากพูดกับลูกของมึงไหมล่ะ” เคลวินเอ่ยถาม

            (“ถ้ามึงยังมีความเป็นคนอยู่ให้นภัทรมาคุยกับกูเดี๋ยวนี้”) ทรงพลว่า

            “ได้! แต่มึงต้องอ้อนวอนขอร้องกูก่อน คุณวินครับผมขอพูดกับลูกชายหน่อยครับ มึงกล้าพูดไหมล่ะ” เคลวินยื่นข้อเสนอให้

            (“ไม่มีทาง...กูไม่มีทางอ้อนวอนขอร้องคนอย่างมึงหรอก”)

            “ศักดิ์ศรีมึงเยอะเหลือเกินนะ ไม่เป็นไรถ้ามึงไม่อยากพูดกับลูกชายมึงกูก็จะวางสายแค่นี้”

            (“เดี๋ยวก่อน!”) ในที่สุดเขาก็ห้ามความคิดถึงลูกชายไม่ไหว  จำต้องยอมลดทิฐิลง

            “ว่าไงหรือมึงจะยอม!”

            (“กูยอมแล้ว”) ทรงพลเอ่ย

            “ถ้างั้นก็ว่ามากูรอฟังอยู่” ทุกบทสนทนานภัทรได้ยินมาตลอดนั่นเพราะเคลวินเปิดลำโพงให้ได้ยินด้วย

            “คุณพ่ออย่านะครับ คุณพ่อไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้” ร่างบางตะโกนมา

            “มึงหุบปากเดี๋ยวนี้!” เขาชี้หน้าร่างบาง

            ทรงพลนั่งทำใจสักพักก่อนจะกรอกเสียงผ่านสายไป

            (“คุณเคลวินครับผมขอพูดกับลูกชาย...หน่อยครับ”) ประโยคที่เอ่ยออกมาเขาต้องฝืนใจมากเหลือเกิน ไม่เคยมีใครมาบังคับให้เขาทำอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย

            นภัทรได้ยินก็น้ำตาไหลทันที เขาสงสารพ่อของตัวเอง พ่อของเขาเป็นผู้บริหารที่มีคนนับหน้าถือตามากมาย แต่ต้องมาขอร้องอ้อนวอนไอ้คนเลวที่อยู่ตรงหน้าเขา มันเป็นอะไรที่เขารับไม่ได้จริงๆ

            “มึงได้ยินสิ่งที่พ่อมึงพูดรึยัง พ่อมึงคงรักมึงมากสินะ กูคิดถูกแล้วที่จับตัวมึงมา ฮ่าๆ” เคลวินหัวเราะเสียงดังอย่างพอใจ ก่อนจะกรอกเสียงผ่านสายไป “โทษทีว่ะโทรศัพท์แบตจะหมดแล้วเอาไว้ครั้งหน้าละกันกูจะให้โอกาสมึงพูดใหม่ แค่นี้นะ” พูดจบเลควินก็วางสายไป

            ทางฝั่งทรงพลเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็แทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่  ตอนนี้ดวงตาของเขาแดงก่ำเพราะแค้นมากเหลือเกิน เขาเสียเหลี่ยมให้ไอ้เด็กเมื่อวานซืนมันน่าโมโหนัก ตอนนี้เพลิงแค้นในใจทรงพลมันยิ่งปะทุขึ้นมาอีก  “กูจะส่งมึงไปอยู่กับพ่อแม่มึงให้ได้กูสัญญา” ทรงพลเค้นเสียงออกมาด้วยความเคียดแค้น

            เมื่อร่างบางได้ยินและได้เห็นสิ่งที่เคลวินทำกับพ่อของตัวเอง  ก็คว้าหมอนที่อยู่ข้างๆปาใส่คนตัวสูงทันที

            “ไอ้เลว! ทำไมถึงทำอย่างนี้ รู้ไหมคุณพ่อจะเสียใจแค่ไหน” ร่างบางไม่พูดเปล่ายังเข้าไปทุบตีคนตัวโตอีกต่างหาก

            “เสียใจสิยิ่งดี กูยิ่งสะใจ มึงเองหยุดได้แล้ว!” เคลวินพยายามรวบมือร่างบางเอาไว้ แล้วทุ่มตัวลงบนเตียงอีกครั้ง ก่อนจะจ้องหน้าอย่างเหลืออด “ถ้ามึงยังบ้าไม่เลิกกูจะส่งคนไปจัดการพ่อกับแม่มึง หรือมึงต้องการอย่างนั้น” เขาขู่

            “ไม่นะ อย่าทำอย่างนั้นเด็ดขาด ต่อไปผมจะไม่ดื้อกับคุณแล้วผมสัญญา” ร่างบางได้ยินสิ่งที่คนตัวโตพูดก็รีบเปลี่ยนท่าทีอ่อนลงทันที

            “ต้องให้กูขู่ใช่ไหม มึงถึงจะยอมเชื่อฟัง”

            “ต่อไปนี้ผมจะเชื่อฟังคุณทุกอย่าง ขอแค่อย่าไปทำร้ายคนในครอบครัวผมเลย ถ้าตายแทนได้ผมก็จะทำเพื่อชดใช้สิ่งที่คุณพ่อเคยทำไว้” ร่างบางเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง

            “กูไม่ยอมให้มึงตายหรอก ถ้ามึงตายแล้วกูจะเอาอะไรต่อรองกับพวกมันล่ะ เอามึงมาเป็นที่ระบายอารมณ์มันสนุกกว่าเยอะมึงว่ามั้ย” เขาจ้องตาร่างบางก่อนจะใช้มือหนาลูบไล้ไปที่ไหล่บาง ผิวที่ขาวนวลเนียนลื่นมือ ทำให้คนตัวโตพอใจก่อนจะดึงผ้าห่มที่คลุมร่างออกจนเหลือเพียงเรือนร่างที่เปลือยเปล่า

            “มึงนี่ก็ยั่วกูดีเหลือเกินนะ”

            เคลวินไม่สามารถอดทนกับเรืองร่างอันยั่วยวนของร่างบางได้ จึงเริ่มบทรักอีกครั้งแม้เพิ่งจะผ่านพ้นไปไม่ถึงชั่วโมง  ร่างบางได้แต่จำยอมโดยไม่มีท่าทีอิดออดเลยแม้แต่น้อย  นั่นเพราะเขากลัวจะทำให้คนตัวโตโมโห   จนพาลคิดไปทำร้ายคนในครอบครัวของตนเอง บทรักมันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนตอนนี้ร่างอันบอบบางเริ่มบอบช้ำไปทั่วทั้งร่าง
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            วันนี้นดลเดินสายไปสืบข้อมูลของวินตลอดทั้งวัน  โดยมีเพียงแค่รูปถ่ายวัยเด็กใบเดียวที่ค้นได้ในบ้านเป็นจุดเริ่มต้น  เขาจำได้ว่าวินหนีออกจากบ้านในเมื่อตอนอายุได้เจ็ดขวบ แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลยถึงตอนนี้ก็ผ่านมาหลายปี  เขาเองก็ยังมืดแปดด้านไม่รู้จะต้องเริ่มตรงจุดไหน  ทำได้เพียงไปขอดูประวัติอาชญกรจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยใช้ชื่อและนามสกุลของในวัยเด็กวิน  แต่ก็ไม่มีข้อมูลว่าเคยมีประวัติต้องดคีมาก่อน เป้าหมายต่อไปก็คือสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กน้อยอายุเท่านั้นจะไปไหนไม่ได้ถ้าไม่มีคนคอยช่วยเหลือเขาคิดอย่างนั้น ตอนนี้เขากำลังขับรถกลับบ้านพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ยังไงเขาจะต้องหาทางช่วยเหลือน้องชายสุดที่รักให้ได้ แต่ขณะขับรถอยู่ก็มีสายเข้ามาเขาจึงใส่หูฟังทันที

            “ว่าไงไอ้กันต์” เขาทักทายปลายสายด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง

            (“มึงทำเชี่ยอะไรอยู่ ไม่เห็นโทรหาเพื่อนฝูงมั่งเลย”) ปลายสายตะโกนแหวดเสียงดัง

            นดลและกันต์เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่มัธยม  ตอนนี้ก็ยังติดต่อและสนิทกันอยู่เหมือนเดิม  ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมากี่ปีแล้วก็ตาม

            “กูขับรถอยู่ โทษทีว่ะช่วงนี้ที่บ้านกูมีเรื่องเลยไม่มีเวลาโทรหาใครเลย”

            (“มีเรื่องอะไรวะบอกกูได้ป่ะ”) กันต์ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

            “กูเห็นว่ามึงเป็นเพื่อนสนิทกูนะ รู้แล้วมึงห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด” นดลบอกเพื่อน

            (“มันขนาดนั้นเลยเหรอวะ”) กันต์ถามด้วยความสงสัย

            “เออ ตอนนี้ที่บ้านกูไม่มีใครนอนหลับสนิทได้แม้แต่คืนเดียว เพราะน้องชายกูโดนลักพาตัว”

            (“โดนลักพาตัว! ใครวะกล้าทำกับน้องภัทรกูขนาดนั้น แล้วแจ้งความยัง?”) กันต์ได้ยินก็รู้สึกตกใจก่อนจะถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

            “มึงไม่รู้จักหรอกว่ามันเป็นใครแต่กูรู้จักมันดี มันชื่อวินเป็นลูกชายเพื่อนพ่อกูเอง สมัยเด็กๆมันก็เคยอยู่ในบ้านหลังเดียวกับกูด้วย เรื่องแจ้งความตอนนี้ยังเพราะพวกกูกลัวว่ามันจะฆ่าภัทร”

            (“อ้าว! มันก็รู้จักคนในครอบครัวมึง แล้วมันจะทำไปเพื่ออะไรหรือว่าต้องการเงิน”)

            “มันไม่ได้ต้องการเงินหรอกมึงรู้แค่นี้พอ ตอนนี้กูกำลังแกะรอยมันอยู่ ดูท่าแล้วมันน่าจะไม่ธรรมดาแน่นอน”

            (”มีอะไรให้ช่วยก็บอกกูได้นะเพื่อน”)

            “ขอบใจมึงมาก ว่าแต่ตอนนี้มึงอยู่ที่ไหนวะ ทำไมกูได้ยินเสียงเหมือนคลื่นน้ำทะเล” นดลได้ยินเสียงคลื่นน้ำทะเลดังแทรกผ่านสายมาเป็นช่วงๆ

            (“ถูกแล้วกูนั่งอยู่ริมทะเลนี่ล่ะ กูมาทำงานที่นี่ได้สองอาทิตย์แล้ว”)

            “ที่นี่ของมึงมันคือที่ไหนล่ะกูจะรู้ไหม”

            (“กูอยู่พังงาโว้ย เป็นเกาะส่วนตัว เจ้าของโคตรรวยตอนนี้กำลังสร้างโรงแรมเพิ่มอีกหนึ่งตึก พ่อกูเลยส่งมาคุมงานที่นี่”)

            “ดีว่ะได้ทำงานไปด้วยเที่ยวไปด้วย  บรรยากาศที่นั่นคงจะดีน่าดู”

            (“ก็ดีว่ะแถมคนที่นี่ยังน่ารักอีกด้วย”) กันต์ว่าพลางคิดถึงใบหน้าคุณหมอหน้าหวาน  ที่เจอกันเมื่ออาทิตย์ก่อน

            “แหนะๆๆ มึงพูดอย่างนี้แสดงว่าเจอสาวถูกใจแล้วล่ะดิ” นดลแซวเพื่อน

            (“ไม่ใช่สาวหรอกว่ะแต่เป็นหนุ่มที่แม่งหน้าโคตรหวานและที่สำคัญโคตรกวนตีนอีกต่างหาก”) กันต์ยกยิ้มที่มุมปากเมื่อเอ่ยถึงอีกคน

            “มึงเปลี่ยนแนวแล้วไง?” นดลเอ่ยถามเพราะแต่ก่อนเขาเคยเห็นกันต์ควงแต่สาวๆทรงโตทั้งนั้น

            (“กูไม่รู้ว่ะเห็นครั้งแรกแล้วมันสปาร์คทันที ลองดูก็ไม่เสียหายชายได้ชายคือยอดชายมึงไม่เคยได้ยินเหรอวะ”)

            “เออ! กูก็ไม่ได้ว่าอะไรขอให้มึงได้เจาะไข่แดงเค้าละกันเพื่อน”

            (“ขอบใจว่ะอีกไม่นานแน่นอน ฮ่าๆ ถ้ามึงว่างๆก็แวะมาเยี่ยมเยียนกูบ้างนะเว้ย”)

            “เออๆ ถ้าว่างนะแต่ตอนนี้กูยังวุ่นๆอยู่เลย เอาไว้ถ้ามีโอกาสกูจะแวะไปหา”

            (“โอเค ขอให้มึงหาน้องภัทรให้เจอนะเว้ย กูเอาใจช่วยกูต้องวางสายไปดูงานก่อน”)

            “เคๆแล้วเจอกัน”

            นดลวางสายแล้วก็ตั้งใจบึ่งรถกลับไปที่บ้านทันที

            เมื่อล้อหมุนมาจอดที่หน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว  นดลก็ลงมาจากรถแล้วโยนกุญแจให้คนขับรถขับไปจอด ส่วนตัวเองก็เดินเข้ามาในบ้าน  ตอนนี้ผู้เป็นแม่กำลังนั่งใจจดใจจ่อรอการกลับมาของเขา  ช่วงนี้แก้วกานดามักจะเข้าห้องพระสวดมนตร์อยู่บ่อยครั้ง  เพื่อทำสมาธิและขออธิษฐานให้ลูกชายคนเล็กแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง

            “ตาดลได้ข่าวอะไรบ้างลูก” แก้วกานดาลุกขึ้นยืนแล้วรีบเดินเข้าไปหาลูกชาย

            “แม่ครับใจเย็นๆนั่งลงก่อน” นดลพยุงผู้เป็นแม่มานั่งที่โซฟาเหมือนเดิม

            “แม่ร้อนใจ อยากรู้ข่าวน้องเร็วๆ” แก้วกานดาเอ่ยกับลูกชาย

            “แม่ครับตอนนี้ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเลย แต่อีกไม่นานผมมั่นใจว่าเราจะตามตัวน้องเจอแน่นอน” นดลให้สัญญากับผู้เป็นแม่

            “นดลต้องช่วยน้องให้ได้นะลูก” เธอเอ่ยกับลูกชายด้วยสีหน้าที่ยังพอมีหวัง

            ระหว่างนั้นทรงพลก็เดินเข้ามาหลังกลับจากบริษัท เขาเห็นสองแม่ลูกนั่งอยู่ด้วยกันก็เดินเข้าไปหาทันที

            “วันนี้เป็นไงบ้างนดล” ทรงพลเอ่ยถามลูกชาย

            “ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยครับพ่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะลองไปถามที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าดูอีกที”

            “ยังไงก็รีบๆด้วยละกันพ่อเป็นห่วงน้อง ถ้าคุยกับแม่เสร็จแล้วขึ้นไปหาพ่อที่ห้องทำงานหน่อยนะ”

            “ครับพ่อ” 

            ทรงพลเดินขึ้นไปข้างบนทันทีหลังจากนั้น

            “แม่ครับผมขึ้นไปหาคุณพ่อก่อนนะครับ แม่อย่าคิดอะไรมากผมมั่นใจว่าจะต้องตามตัวน้องเจอเร็วๆนี้แน่นอน”

            เขาสัญญากับผู้เป็นแม่อีกครั้ง  ก่อนจะเดินขึ้นไปหาผู้เป็นพ่อที่ห้องทำงานทันที

            “พ่อครับมีอะไรรึเปล่า” นดลเดินเข้ามาแล้วเอ่ยถาม

            “วันนี้ไอ้วินมันติดต่อมา” เขาพูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก จริงๆแล้วเขาไม่อยากให้นดลเห็นคลิปที่เคลวินส่งมาให้  แต่มันจำเป็นที่จะต้องให้ลูกชายได้รับรู้เพื่อที่จะทำให้นดลโกรธแค้นวินมากขึ้น และเพิ่มแรงจูงใจให้นดลหาทางตามตัวนภัทรกลับมาให้ได้เร็วที่สุด

            “มันว่าไงครับพ่อ!” นดลรีบเดินเข้ามาใกล้ๆ

            “มันส่งนี่มาให้พ่อดู แกดูเอาเองว่ามันทำอะไรน้องบ้าง” ทรงพลยื่นโทรศัพท์มือถือให้ลูกชายดู

            นดลเปิดดูคลิปแล้วก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมาทันที ดวงตาเริ่มแดงก่ำหลังจากนั้นน้ำใสๆมันก็ค่อยๆไหลลงมาเป็นสาย น้องชายสุดที่รักของเขาต้องโดนย่ำยีถึงเพียงนี้เลยเหรอเนี่ย  ตอนนี้ไฟแค้นในใจมันได้เริ่มปะทุขึ้นมาแล้ว เขาจะต้องเอาคืนไอ้คนที่มันย่ำยีน้องเขาให้มันสาสมถึงที่สุด

            “โธ่ นภัทรน้องพี่ ฮึก” นดลสะอึ้นไห้ออกมา “พี่จะจัดการมันแล้วพาน้องกลับมาให้ได้”

            “ตอนนี้มันเริ่มรุกเราหนักมากขึ้น เราต้องรีบหาที่อยู่มันให้ได้” ทรงพลเอ่ย

            “ครับพ่อผมจะเร่งจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

            จากที่เป็นคนที่มีเหตุมีผลมาตลอดแต่ตอนนี้เขาไม่สนเหตุผลอะไรแล้ว  เขาไม่อยากรู้แล้วว่าวินทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร แต่ตอนนี้เขาคิดเพียงว่าจะทำยังไงที่จะเอาคืนให้สาสมและพาตัวน้องชายสุดที่รักกลับมาให้ได้
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบจะสองเดือนแล้ว  นภัทรยังไม่เคยมีโอกาสได้ออกไปสัมผัสบรรยากาศข้างนอกคฤหาสน์หลังนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว  จะมีก็เพียงแค่ตอนที่เคลวินพาเขาไปหาหมอพงษ์ก็แค่นั้น  เขายังคงทำหน้าที่เมียบำเรอให้กับคนตัวโตอยู่เรื่อยๆ  โดยที่เคลวินเองก็ไม่มีท่าทีว่าจะหมดความเสน่หากับเรือนร่างของเขาเลยแม้แต่น้อย วันไหนที่เมญ่ามาค้างคืนนั่นแหละเป็นวันที่เขารู้สึกว่าตัวเองมีเวลาเป็นส่วนตัวมากที่สุด เพราะเคลวินจะไม่มายุ่งกับเขาเลยทั้งวัน

            วันนี้เมญ่ามาค้างคืนที่บ้านหลังนี้ ส่วนเคลวินเองก็ขลุกตัวอยู่กับเจ้าหล่อนทั้งวัน  ตอนนี้ร่างบางนั่งอยู่ที่หน้าห้องพักซึ่งเป็นที่ประจำ  การมานั่งอยู่ตรงนี้ทีไรมักจะทำให้เขาผ่อนคลายความเครียดได้ตลอดเวลา เมื่อแหงนมองดูดวงดาวบนท้องฟ้าทำให้เขารู้สึกว่าโลกมันก็ไม่ได้กว้างเลยสักนิด  ทุกคนยังคงอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน  คิดอย่างนี้แล้วมันก็ทำให้คลายความคิดถึงครอบครัวไปได้บ้าง

            “ภัทร! มานั่งทำอะไรคนเดียวตรงนี้” เอกเดินออกมาจากห้องพักแล้วนั่งลงข้างๆ

            “นั่งดูดาวไปเรื่อยๆอ่ะ ก็เราออกไปไหนไม่ได้ไง  มีที่นี่ที่เดียวที่พอจะทำให้รู้สึกเหมือนไม่ถูกขังไว้”

            “ถามจริงอึดอัดมากไหม เราไม่เคยเห็นภัทรได้ออกไปจากนอกรั้วบ้านหลังนี้เลย” เอกมองหน้า ร่างบางเองก็หันมายิ้มให้

            “มากกก” เขาลากเสียงยาวก่อนจะแค่นหัวเราะออกมา “แต่จะทำยังไงได้ล่ะ”

            “เอางี้เรามีสถานที่ลับที่นึง เราชอบออกไปบ่อยๆ ภัทรอยากไปไหม” เอกถามก่อนที่ร่างบางจะพยักหน้ารับทันที

            “ไปๆ เราอยากไป” ร่างบางทำหน้าตื่นเต้นเมื่อได้รู้ว่ากำลังจะได้มีโอกาสไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้าง

            “เรื่องนี้เรารู้กันแค่สองคนนะ ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด” เอกบอก

            “โอเคเราสัญญา”

            “ตอนนี้ยังไม่ดึกมาก ยังพอมีเวลาถ้างั้นตามเรามา”

            ว่าแล้วนภัทรก็เดินตามชายหนุ่มไปทันที
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.8-สถานที่ลับ]-(07-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 07-02-2018 20:24:40
ไปไหนอ่ะน้องภัทร
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.8-สถานที่ลับ]-(07-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-02-2018 20:58:54
เอกจะทำอะไรภัทรหรือเปล่านะ  :ruready
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.8-สถานที่ลับ]-(07-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 07-02-2018 21:52:51
อยากอ่านต่อมากๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.9-แพ้ท้อง]-(08-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 08-02-2018 16:31:07
CHAPTER  9 แพ้ท้อง



            “เดินระวังหน่อยนะภัทรกิ่งไม้มันเยอะ” เอกว่าพลางค่อยๆหยิบกิ่งไม้ข้างหน้าออก ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ที่บริเวณข้างๆกำแพงบ้านที่มีพุ่มไม้หนาปกคลุมอยู่

            “มันจะมีทางออกไปได้ยังไงอ่ะเอก กำแพงออกจะสูงขนาดนี้” ร่างบางมองไปที่กำแพงสูงเกือบสองเท่าตัวเขา  ดูแล้วไม่น่าจะมีทางออก

            “มีสิเชื่อเรา ข้างบนมันสูงเราก็ลงไปด้านล่างสิ ต้องลำบากนิดนึงนะ” เอกบอกก่อนจะนำหน้ามุดเข้าไปในพุ่มไม้

            ร่างบางตามหลังเอกไปติดๆ เมื่อมุดเข้าไปในพุ่มไม้หนาข้างกำแพง  ก็พบว่าในนั้นมีหลุมขนาดใหญ่ที่คนจะสามารถมุดผ่านออกไปได้  เขาเดาว่านั่นคงเป็นทางที่จะทะลุออกไปด้านนอกแน่ๆ

            “ยื่นมือมาเดี๋ยวเราช่วย” เอกว่าพลางยื่นมือมารอหลังจากออกไปถึงปลายทางได้แล้ว

            “อื้ม ขอบใจ” ร่างบางยื่นมือไปจับ ก่อนที่เอกจะดึงตัวให้ลุกขึ้นยืนได้

            นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ร่างบางได้มีโอกาสออกมานอกกรง โดยไม่มีคนตัวโตคอยควบคุม  และนี่ก็เป็นครั้งที่เขาจะได้สัมผัสกับน้ำทะเลเป็นครั้งแรก  หลังจากมาอยู่ที่นี่เกือบสองเดือนแล้ว

            “เฮ้ย! สวยมาก” ร่างบางเอ่ยออกมาเมื่อเห็นท้องฟ้ากว้างเต็มไปด้วยดวงดาวนับร้อยนับพันดวง ที่กำลังส่องสว่างอยู่เต็มท้องฟ้า และที่สำคัญเขาได้ซึมซับกับบรรยากาศของท้องทะเลอย่างใกล้ๆ ข้างๆกันนั้นก็มีโขดหินขนาดใหญ่ มันเป็นบรรยากาศที่สุดแสนประทับใจมากที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา

            “ใช่มันสวยมาก ช่วงกลางวันเราสามารถมาเล่นน้ำทะเลได้นะ โชคดีที่ตรงนี้มันเป็นหาดทรายไม่เหมือนตรงข้างๆที่มีแต่โขดหิน” เอกบอก

            “แล้วเอกเจอที่นี่ได้ไงอ่ะ”

            “ลืมไปแล้วเหรอว่าเราเป็นคนทำสวน ตอนที่เรามาตัดแต่งกิ่งไม้เราบังเอิญตกเข้าไปที่โพรงนั้น  พอเห็นว่ามันเป็นโพรงก็เลยลองเข้าไปดู  ลอดไปเรื่อยๆออกมาก็เจออย่างที่เราเห็นกันตอนนี้ไงล่ะ” เอกอธิบาย

            “เราอยากสัมผัสน้ำทะเล” ร่างบางชี้ไปที่ริมทะเลที่มีคลื่นซัดมาเป็นระยะๆ

            “ไปสิ...ป่ะ”

            รองเท้าแตะของทั้งสองถูกถอดวางไว้บนพื้นทรายก่อนจะเดินลงไปสัมผัสน้ำทะเล  ร่างบางรู้สึกผ่อนคลายมากเหลือเกินที่ได้ใช้เท้าเปล่าๆย่ำบนพื้นทรายในน้ำทะเลอย่างนี้ อย่างน้อยตอนนี้เขาก็พอจะมีสถานที่ให้ได้พักผ่อนหย่อนใจบ้าง

            “ภัทรเราถามอะไรหน่อยสิ” เอกว่าขณะทั้งสองกำลังนั่งอยู่ริมหาด

            “ได้...ถามมาสิ” ร่างบางหันไปยิ้มให้

            “ที่บ้านรู้ไหมว่านายอยู่ที่นี่” เอกมองหน้า

            “จริงๆก็ไม่รู้หรอก เราเองก็ไม่อยากให้รู้ด้วย” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับถอนหายใจเสียงดัง

            “อ้าว! ทำไมล่ะนายไม่อยากไปจากที่นี่เหรอ เราพูดตรงๆเราสงสารภัทร ไม่งั้นเราไม่พามาที่นี่หรอกเผื่อภัทรอยากจะหนีไป” เอกเอ่ยด้วยสีหน้าที่มีแต่ความห่วงใย

            “อยากมันก็อยากอยู่ล่ะ แต่ถ้าเราไปแล้วจะทำให้ครอบครัวเดือดร้อนเราก็ไม่อยากไปหรอก เราจะอยู่ที่นี่จนกว่าเค้าจะพอใจหรือไม่ก็ตายกันไปข้างนึงเลย”

            “เฮ้ย! เรื่องมันหนักหนาขนาดนี้เลยเหรอ”

            “ก็หนักพอสมควร แต่เราทำใจแล้วล่ะว่าจะอยู่ที่นี่ต่อไป ถึงแม้ว่าจะเจ็บสักแค่ไหนเราก็จะอยู่ อย่างน้อยๆก็มีเอก ป้าภาและหมูแดงที่คอยเป็นเพื่อนคุย ไม่ใจร้ายเหมือนายคนนั้น” ร่างบางยิ้มให้

            “แต่ถ้าภัทรอยากหนีเราช่วยได้นะ” เอกทำหน้าจริงจัง

            “ไม่เป็นไรหรอกเอก เราจะไม่ทำให้เอกต้องเดือดร้อนเพราะเราแน่ นายก็รู้ว่านายนั่นร้ายกาจมากแค่ไหน  ถ้าเค้ารู้ว่าเอกช่วยเราดีไม่มีเอกอาจจะโดนเค้าฆ่าตายก็ได้นะ”

            “ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง” เอกแสดงสีหน้าไม่ได้ตื่นกลัวเลยแม้แต่น้อย

            “ไม่รู้ล่ะ เอาเป็นว่าเราจะไม่หนี  แต่เราจะออกมาที่นี่บ้างเวลาเครียดๆ  เอกคงจะไม่ว่านะ” ร่างบางเอ่ยถาม

            “เฮ๊ย! เราจะไปว่าทำไมที่นี่ไม่ใช่ของเราซะหน่อย ภัทรจะมาตอนไหนก็มาได้เลย เพียงแต่อย่าให้ใครรู้ใครเห็นก็แล้วกัน” เขาแนะนำ

            “ก็เอกเป็นคนพาเรามา เอกก็ต้องเป็นเจ้าของที่นี่  เราต้องขออนุญาตก่อนน่ะสิ”

            “บ้าแล้ว...พูดเหมือนในหนังเลยเนาะ เอาเป็นว่าอย่าให้ใครเห็นก็แล้วกัน”

            “โอเคเราสัญญาว่าจะระวังตัวไม่ให้ใครเห็น”

            “เราว่ากลับกันก่อนดีไหม...เดี๋ยวมีคนสงสัยว่าเราหายไปไหนกันซะนานเชียว” เอกว่า

            “ป่ะถ้างั้นกลับกัน แล้ววันหลังค่อยมาใหม่เนาะ” ร่างบางยิ้มให้ก่อนะจะเดินกลับเข้ามาภายในรั้วบ้าน

           

             ตอนนี้ทั้งสองคนก็เดินมาถึงหอพักพอดีและบังเอิญเจอกับขวัญเข้า

            “นี่พวกแกไปทำอะไรกันมาค่ำๆมืดๆ หรือว่า...” หล่อนว่าแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย

            “อะไรขวัญ เอ็งอย่าคิดอะไรบ้าๆนะเว้ย” เอกบอก

            “แล้วพวกแกไปไหนมาทำไมไม่บอกล่ะ ทำอย่างนี้มีพิรุธนะบอกมา!” หล่อนชี้หน้าทั้งสองคนอย่างจับผิด

            “พวกเราจะไปไหนมาไหนจำเป็นต้องรายงานเธอด้วยเหรอขวัญ ฉันรู้นะว่าเธอไม่ได้เกิดมาเป็นผู้ลากมากดี แต่อย่างน้อยๆก็หัดมีมารยาทซะบ้าง ไม่ใช่อยากรู้เรื่องของชาวบ้านเค้าไปทั่ว ไปเถอะเอกไร้สาระ” ร่างบางว่าให้ก่อนจะเดินแยกย้ายเข้าห้อง

            “ไปล่ะอีคนไม่มีมารยาท” เอกล้อก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในห้อง

            “กรี๊ดๆๆๆๆ ไอ้พวกบ้า พวกแกกล้าว่าฉันอย่างนี้ได้ยังไง ฉันจะเอาคืนพวกแกแน่” หล่อนตะโกนลั่นก่อนจะถลึงตามองตามหลังร่างบางไป “ฉันจะบอกเรื่องนี้ให้คุณเคลวินรู้ แกจะต้องโดนคุณเคลวินเฉดหัวทิ้งแน่นอนไอ้นภัทร” หล่อนว่าแล้วก็เดินกลับเข้าห้องพักไป

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            “ฮัลโล แด๊ด ยูสบายดีไหม”

            เคลวินคุยสายกับพ่อและแม่บุญธรรมชาวอเมริกันตั้งแต่เช้า  เขาตั้งใจจะโทรฯไปสอบถามความคืบหน้าเรื่องการซื้อหุ้นที่เมืองไทย  ตอนนี้พ่อกับแม่ของเขาได้กลับอเมริกาไปแล้ว ครั้งหน้าถึงจะได้แวะมาหาเพราะต้องรีบกลับไปประชุมกับหุ้นส่วนใหญ่ที่โน่นก่อน

             “แด๊ดสบายดี แล้วยูล่ะ”

            “ไอสบายดี แล้วมัมล่ะอยู่ตรงนั้นไหม” เขาถามหาผู้เป็นแม่

            “ไอสบายดีลูกรัก” หญิงสูงวัยเอ่ยแทรกสายเข้ามา

            “ไอคิดถึงยูทั้งสองคนมากๆ”

            “พวกเราก็คิดถึงยู  ไอต้องขอโทษยูด้วยที่ไปกรุงเทพฯเมื่ออาทิตย์ก่อน ไม่ได้แวะไปหาเพราะติดประชุมด่วนที่นี่ เอาไว้คราวหน้ามัมกับแด๊ดจะไปพักผ่อนที่นั่นสักอาทิตย์”

            “โอเครีบๆมานะครับ ว่าแต่เรื่องซื้อหุ้นที่กรุงเทพฯแด๊ดจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ” นี่คือประเด็นหลักที่เขาอยากรู้

            “ทุกอย่างเรียบร้อยอย่างที่ยูต้องการ ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับยูแล้วว่าจะจัดการต่อยังไง”

            “ขอบคุณครับแด๊ด เดี๋ยวเรื่องนี้ผมขอจัดการต่อเอง แด๊ดช่วยส่งรายชื่อผู้ร่วมหุ้นทั้งหมดมาให้ผมหน่อยนะครับ” เขาบอก

            “โอเคเดี๋ยวไอจะส่งไปให้ ไอต้องวางสายก่อนนะจะเข้าประชุมแล้ว”

            “ครับแด๊ดบาย”

            “บาย”

            หลังจากวางสายแล้วเคลวินก็แสยะยิ้มออกมาทันที “กูจะทำให้พวกมึงไม่เหลืออะไรติดตัวเลยแม้แต่อย่างเดียว”

           

            หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นั่งรอเมญาอยู่ที่ปลายเตียง ส่วนเจ้าหล่อนกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ  เขาเบื่อผู้หญิงก็ตรงนี้ล่ะทำอะไรก็ชักช้า

            “เมญ่าผมลงไปรอข้างล่างนะ” เขาบอกแค่นั้นก่อนจะเดินลงไปทันทีโดยไม่รอให้หญิงสาวตอบกลับ

            เคลวินเดินลงมาข้างล่างก็เห็นขวัญยืนรออยู่แล้ว หล่อนมองหน้าเหมือนมีเรื่องจะพูดด้วยเลยเดินเข้าไปหา

            “มีอะไรรึเปล่าขวัญ” เขาถาม

            “คุณเคลวินคะหนูมีเรื่องจะบอก”

            “เรื่องสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอถึงได้มายืนรออย่างนี้” เขาทำหน้าสงสัย

            “เรื่องนภัทรค่ะ”

            “นภัทร...นภัทรไปทำอะไรมางั้นเหรอ” เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัยหรือว่าร่างบางไปสร้างเรื่องอะไรไว้

            “เมื่อคืนนี้หนูเห็นภัทรเดินออกมากับเอกจากสวนข้างบ้านค่ะ ไม่รู้ว่าไปทำอะไรกัน พอสองคนนั้นเห็นหนูก็ทำท่าตกใจแล้วรีบกลับเข้าห้องเลยค่ะ หนูเลยมาบอกคุณเคลวินเอาไว้เผื่อจะโดนนายนั่นหลอกเอา” หล่อนพูดอย่างไหลลื่นไม่มีสะดุดเลยแม้แต่น้อย

            เคลวินได้ยินก็หน้าเปลี่ยนสีทันที นี่นภัทรกล้าสวมเขาให้เขางั้นเหรอ แถมยังเป็นคนสวนอีกด้วย

            “ไปตามมันสองคนมาที่นี่เดี๋ยวนี้” เขาสั่งเสียงดังก่อนที่ขวัญจะรีบเดินไปทันที

            “พวกมึงเสร็จแน่กูล่ะสะใจโว้ย!” ขวัญเดินไปพูดไปด้วยอย่างสะใจ

            เมื่อเดินเข้าไปในครัวก็บังเอิญเจอทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็นเอก นภัทร และป้าภา

            “สุมหัวกันอยู่ที่นี่พอดี” หล่อนกอดอกแล้วยิ้มเยาะให้

            “พูดให้ดีๆนะโว้ยอีขวัญที่นี่มีทั้งหัวหงอกหัวดำ  มึงจะพูดจะจาอะไรก็ระวังปากหน่อย” ป้าภาชี้หน้าด่า

            “ฉันไม่ได้หมายถึงป้าซะหน่อย ฉันบอกพวกมันสองคนนั่นล่ะ คุณเคลวินให้มาตามไปพบตอนนี้เลย” หล่อนว่า

            “คุณเคลวินมีเรื่องอะไรจะคุยกับข้าวะ ร้อยวันพันปีไม่เห็นท่านจะเรียกไปหาสักกะที” เอกว่าก่อนจะนึกอะไรออก “นี่อย่าบอกนะว่าเอ็งเอาเรื่องเมื่อคืนไปบอกท่าน” เอกชี้หน้า

            “ไม่รู้ล่ะไปแก้ตัวกับคุณเคลวินเอาเองละกัน ฉันไปละ รีบตามมาเร็วๆคุณเคลวินรออยู่” หล่อนว่าก่อนจะสะบัดตูดเดินออกไปจากครัวทันที

            “เราทำให้เอกเดือดร้อนไปด้วยเลยเนี่ย” ร่างบางพูดอย่างรู้สึกผิดที่ทำให้คนดีๆอย่างเอกต้องโดนหางเลขไปด้วย

            “พวกเอ็งมีอะไรให้ป้าช่วยไหมล่ะ” ป้าภาถาม

            ทั้งสองมองหน้ากันแล้วคุยกับป้าภาสักพักก่อนจะเดินไปหาเคลวินที่ห้องโถงใหญ่

            “คุณเคลวินมีอะไรหรือเปล่าครับ” เอกถามทันทีที่เดินมาถึง

            “เมื่อคืนพวกเอ็งไปไหนกันมา” เขาถามเอกแต่สายตากลับจ้องมองไปที่ร่างบาง

            “มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆนะครับ” เอกปฏิเสธ

            “มึงตอบไม่ตรงคำถาม กูถามว่าพวกมึงไปไหนกันมา” เขาเริ่มขึ้นเสียง

            “มันเป็นความผิดของผมเอง!” ร่างบางเอ่ยแทรกขึ้นมา

            “มึงบอกมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น พวกมึงไปทำอะไรกันที่สวนข้างบ้าน” เขาว่าพร้อมกับยื่นมือไปจับที่ต้นแขนของร่างบางแล้วบีบไว้แน่น

            “ผมเป็นคนชวนเอกไปเดินเล่นเฉยๆ แล้วพวกเราก็ไม่ได้ทำอะไรเลวๆอย่างที่คุณคิดแน่นอน” ร่างบางบอก

            “จริงๆนะครับคุณเคลวิน ผมกับภัทรไม่ได้มีอะไรกันเกินเลยจริงๆ” เอกยืนยันอีกเสียง

            “แล้วทำไมต้องทำลับๆล่อๆ แล้วตอนที่พวกแกเห็นฉันทำไมต้องตกใจด้วย” ขวัญอ้าง

            คนตัวโตมองหน้าร่างบางเพื่อหาคำอธิบาย

            “ก็คนมันตกใจจะให้ทำหน้ายังไงล่ะ” ร่างบางหันหน้าไปมองขวัญ

            ระหว่างนั้นเมญ่าแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินลงมาเจอเหตุการณ์เข้าพอดี

            “เกิดอะไรขึ้นคะเคลวิน” หล่อนมองหน้าชายหนุ่ม

            “ไม่มีอะไรครับแค่กำลังจับผิดคน” เขาว่า

            นภัทรได้กลิ่นน้ำหอมจากเมญ่าก็รู้สึกพะอืดพะอมทันที เขาต้องเอามือปิดที่ปากเอาไว้  แต่ก็ยังไปไหนไม่ได้เพราะต้องเคลียร์เรื่องนี้กับคนตัวสูงให้เสร็จเสียก่อน

            “ภัทรเป็นอะไรไหม” เอกถามด้วยความเป็นห่วง  แต่สายตาของคนตัวโตกลับจ้องมองด้วยสายตาที่แข็งกร้าวแสดงถึงความไม่พอใจออกมา

            “จบได้รึยังจะได้รีบไป” ร่างบางเอ่ยเพราะตอนนี้เริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว

            “นี่แกทำไมพูดกับเจ้านายไม่มีหางเสียงอย่างนี้” หล่อนตวาดใส่ร่างบางทันที

            “คุณอยู่ห่างๆผมหน่อยมันเหม็น” ร่างบางบอก เจ้าหล่อนได้ยินก็ปรี๊ดแตกขึ้นมาทันที

            “กรี๊ดๆๆ ไอ้บ้าแกว่าฉันเหม็นเหรอ รู้ไหมว่าน้ำหมอที่ฉันใช้สั่งตรงมาจากฝรั่งเศสเชียวนะ เคลวินต้องจัดการมันให้เมญ่านะคะ ไม่งั้นเมญ่าไม่ยอมจริงๆด้วย”

            ขวัญเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มเยาะอย่างสะใจที่นภัทรโดนข้อหาตั้งสองคดี เรื่องกับเอกยังไม่จบแล้วยังมีเรื่องกับเมญ่าอีก หล่อนเห็นแล้วก็สะใจมากเหลือเกิน

            “เมญ่าเงียบก่อนเดี๋ยวผมจัดการให้” เขาบอกกับหญิงสาวที่กำลังยืนควงแขนอยู่ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับร่างบางทันที “ขอโทษคุณเมญ่าเดี๋ยวนี้” เขาสั่ง

            “ขอโทษครับ” เขาเอ่ยขอโทษทันทีเพราะจริงๆแล้วไม่ได้มีเจตนาที่จะว่าหล่อนเช่นนั้น เพียงแต่ในตอนนั้นเขารู้สึกเหม็นจริงๆแล้วก็พลั้งปากออกมา

            “ทำไมไม่ไหว้ฉันด้วยล่ะ” หล่อนว่า ร่างบางเห็นอย่างนั้นก็ยอมยกมือขึ้นไหว้ทันทีเพราะเขาไม่อยากมีเรื่อง เนื่องจากอยากออกไปจากตรงนี้แล้ว

            “คุณต้องการอะไรอีกไหมครับ” ร่างบางเอ่ยถาม เมญ่าเองก็ปรายตามองแล้วเบะปากใส่

            “คุณเคลวินคะเรื่องของเอกกับนภัทร ป้าขอยืนยันว่ามันไม่ได้มีอะไรจริงๆค่ะ เพราะตอนนั้นป้าก็อยู่ด้วยแต่ป้าเดินกลับมาก่อนอีขวัญมันก็เลยเข้าใจผิดเข้า” ป้าภาที่อยู่ในเหตุการณ์ตลอดเอ่ยขึ้นมา

            “ไม่จริง ป้าโกหกป้าไม่ได้อยู่กับพวกมัน” ขวัญโวยวาย

            “มึงนั่นล่ะบ้าไปเองอีขวัญสองคนนี้เค้าไม่ทำต่ำๆอย่างที่มึงคิดหรอก” ป้าภาว่าให้

            เมื่อได้ยินคำยืนยันจากปากป้าภาเคลวินเองก็เริ่มคล้อยตาม นั่นเพราะที่นี่เขาเกรงใจป้าภาที่สุดแล้ว

            “ขวัญ” เขามองหน้าสาวใช้ด้วยสายตาที่ดุดัน

            “ค่ะคุณเคลวิน” หล่อนก้มหน้าเพราะตอนนี้รู้แล้วว่าเคลวินน่าจะไม่พอใจหล่อนเอามากๆ

            “ต่อไปนี้ถ้าไม่รู้อะไรจริงห้ามมาบอกฉันเด็ดขาด เสียเวลา” เขาสั่ง

            “ค่ะ” หล่อนตอบเสียงอ่อย

            “แยกย้ายกันไปได้แล้ว ทำให้อารมณ์เสียแต่เช้าเลย” เคลวินตะโกนเสียงดังลั่นเมื่อรู้ความจริง ถึงแม้ป้าภาจะยืนยันด้วยตัวเองแต่ใช่ว่าเขาจะไว้ใจร่างบาง  ยังไงซะเขาก็ยังหวงอยู่ดี

            “อุ๊ก..อ้วกกก” ร่างบางกำลังจะเดินกลับไป  แต่ทำท่าจะอาเจียนออกมาซะอย่างนั้นจนป้าภาที่ยืนอยู่ข้างๆรีบพยุงเอาไว้

            “ภัทรเอ็งเป็นอะไรกันแน่เนี่ย” ป้าภาถามอย่างเป็นห่วง ก่อนที่ร่างบางจะส่ายมือปฏิเสธ ส่วนมืออีกข้างก็ปิดที่ปากเอาไว้ แล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำหลังครัวทันที

            เคลวินมองตามหลังร่างบางอย่างเป็นห่วง จนเมญ่าที่ยืนอยู่ข้างๆสังเกตเห็นแล้วเขย่าแขนชายหนุ่มทันที

            “เคลวินคะ ไปกันเถอะเดี๋ยวเมญ่าขึ้นเครื่องไม่ทันกันพอดี” หล่อนบอก วันนี้เมญ่าจะเดินทางกลับกรุงเทพฯหลังจากมาอยู่ที่นี่ได้สามวันแล้ว  เพื่อมาร่วมประชุมกับบริษัทที่หล่อนนั่งแท่นเป็นผู้บริหารอยู่

            “ครับ...ถ้างั้นก็ออกไปกันเลย” เขาว่าแต่ภายในใจยังคงเป็นห่วงร่างบางอยู่ดี

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



////////////////////////
ตอนนี้น้องภัทรกำลังจะเข้าสู่โหมดท้องอ่อนๆแล้วน้าาาา
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.9-แพ้ท้อง]-(08-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 08-02-2018 17:14:51
ท้องเเล้วววววว รีบมาต่อน้าาาาาาอยากอ่านต่อเเล้ววว
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.9-แพ้ท้อง]-(08-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-02-2018 20:34:37
เคลวินสักวันแกจะรู้สึก หึๆ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.9-แพ้ท้อง]-(08-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 08-02-2018 23:05:48
รอตอนต่อไปจ้า :L2:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.9-แพ้ท้อง]-(08-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 09-02-2018 00:29:25
เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกมากๆ
สงสารภัทรอ่ะที่ต้องมารับกรรมแทนพ่อ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.9-แพ้ท้อง]-(08-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-02-2018 02:14:02
แพ้ท้องเสียแล้ว หวังว่าชะนีขวัญคงไม่ทำอะไรให้ลูกในท้องภัทรเป็นอันตรายนะ  :mew4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.9-แพ้ท้อง]-(08-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-02-2018 07:50:54
ท้องแล้วๆ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.9-แพ้ท้อง]-(08-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 09-02-2018 07:59:50
ท้องแล้วก็ดีใจนะ แต่พ่อเด็กยังเลวอยู่อ่ะ สงสารน้อง
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.9-แพ้ท้อง]-(08-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 09-02-2018 09:07:03
ท้องแล้ว แต่ก็กลัวเสียเหลือเกินเพราะอยู่ท่ามกลางเสือ สิงห์ กระทิง แรด แบบนี้ จะรอดจากการแท้งหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.9-แพ้ท้อง]-(08-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 09-02-2018 12:08:03
ท้องแล้ว กลิ่นมาม่าก็มา  :ling3:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.9-แพ้ท้อง]-(08-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: shoky_9 ที่ 09-02-2018 18:25:56
 :mew1:
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.10-ความจริงที่ต้องรับให้ได้]-(10-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 10-02-2018 11:04:00
CHAPTER  10  ความจริงที่ต้องรับให้ได้



          “ภัทรเอ็งไหวไหมวะ” ป้าภาเอ่ยถามพร้อมกับใช้มือลูบที่แผ่นหลังของร่างบางไปด้วย

            “อ้วกกก!!!”

            “หวะ...ไหวครับป้า” ร่างบางเอ่ยหลังจากขย้อนของเหลวในท้องออกมาจนหมด แล้วก็บ้วนปากจนสะอาด

            “ป้าว่าเอ็งไปหาหมอดีไหมวะ เดี๋ยวป้าจะไปบอกคุณเคลวินให้”

            “ไม่เป็นไรป้าผมโอเค” ร่างบางยิ้มให้แต่สีหน้ากลับแดงก่ำ มีน้ำตาซึมที่หางตาเล็กน้อย  จากการขย้อนเจ้าของเหลวในท้องออกมาเมื่อสักครู่

            “ถ้างั้นเอ็งไปพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวจะทรุดหนักกว่านี้” ป้าภาบอก

            “แต่ผมไหวจริงๆนะครับป้า” ร่างบางยังยืนยัน

            “อย่ามาทำเป็นเก่ง ไปพักก่อนเถอะหายดีแล้วค่อยมาช่วยป้า”

            “ขอบคุณครับป้า ถ้างั้นผมขอตัวกลับห้องพักก่อนนะครับ”

            “ถ้ายังไม่หายดีก็อย่าฝืนมาล่ะ”

            “ครับ เอ้อป้า แล้วหมูแดงล่ะ” เขาถามเมื่อไม่เห็นเจ้าตัวน้อย

            “แม่มันมารับตั้งแต่เช้ามืดแล้ว เห็นว่าจะไปเที่ยวกัน” ป้าภาบอก

            “อ๋อ” ร่างบางพยักหน้าเมื่อได้ยิน ก่อนจะหันไปหาป้าภาอีกครั้ง “วันนี้ขอบคุณป้ามากนะครับ ถ้าป้าไม่มาช่วยเรื่องก็คงไม่จบ”

            “ไม่เป็นไรแต่คราวหลังจะทำอะไรก็ระวังอีขวัญมันด้วยล่ะ อีนี่มันร้ายกาจนัก” ป้าภาบอก

            “ครับป้า ผมไปล่ะ”

            พูดจบร่างบางก็เดินตรงไปยังห้องพักของตัวเองทันที  พอมาถึงก็เอนหลังลงที่เตียงเพื่อที่จะนอนพักผ่อน  ในใจก็คิดว่าทำไมอยู่ๆเขาถึงรู้สึกเหม็นกลิ่นน้ำหอมของเมญ่า  จนต้องมีอาการคลื่นไส้อาเจียนหนักขนาดนี้ ทั้งๆที่แต่ก่อนเขาเองก็ยังเคยใช้น้ำหอมกลิ่นนี้ด้วยซ้ำ คิดแล้วก็ค่อยๆหลับตาลงจนหลับไปในที่สุด

            หลังจากไปส่งเมญ่าที่ท่าเรือเรียบร้อยแล้ว  เคลวินก็วนรถกลับมาที่บ้านอีกครั้ง  เพราะในใจยังคงนึกเป็นห่วงร่างบางอยู่ตลอดเวลา  เมื่อมาถึงบ้านก็เดินตรงไปที่ห้องครัวทันที

            “อ้าว! คุณเคลวินกลับมาเร็วจังเลยค่ะ” ป้าภาเอ่ยถามเมื่อเห็นเจ้านายเดินเข้ามาในครัว

            “พอดีผมลืมของครับป้า แล้วนภัทรล่ะไปไหน?” เขาว่าพลางปรายตามองหาร่างบางทั่วทั้งห้อง

            “ป้าให้มันไปพักค่ะคุณเคลวิน” ป้าภาบอกแต่ในใจก็พอจะรู้ว่าเจ้านายหนุ่ม  กำลังเป็นห่วงนภัทรมากแค่ไหน เพราะสีหน้าที่แสดงออกมามันฟ้องได้อย่างชัดเจน

            “อ๋อ...ไม่มีอะไรแล้วป้าทำงานต่อเถอะ” ว่าแล้วก็เดินออกไป  ตรงดิ่งไปยังห้องพักของร่างบางทันที  โดยไม่ลืมที่จะหยิบกุญแจสำรองห้องพักคนงานไปด้วย

            เคลวินเดินมาถึงหน้าห้องพักของร่างบางแล้วใช้กุญแจสำรองไขเข้าไป  เขาค่อยๆแง้มประตูแล้วชะโงกหน้าเข้าไปดู  ก็พบว่าร่างบางกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง  เมื่อเห็นอย่างนั้นก็ค่อยๆเดินเข้าไปอย่างเบาเสียง

            เขายืนมองร่างบางด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง ก่อนจะค่อยๆนั่งลงที่เตียงแล้วเอามือเกลี่ยไรผมของร่างบางออก  เผยให้เห็นใบหน้ารียวรูปไข่ ผิวพรรรณขาวนวลเขียนและริมฝีปากหยักได้รูป ไม่ผิดเพี้ยนจากน้องภัทรในวัยเด็กที่เขาเคยรู้จัก เคลวินใช้มือหนาไปสัมผัสที่ริมฝีปากบางอย่างเบามือ  ก่อนที่ร่างบางจะขยับตัวนิดหน่อย  แล้วเอามือคนตัวสูงแนบที่แก้มขาวใสแล้วยิ้มออกมา  มีหรือคนที่จิตใจแข็งดั่งหินอย่างเคลวินจะไม่อ่อนไหวตามเมื่อเห็นร้อยยิ้มนั่น เขาเองก็เผลอยิ้มออกมาเช่นกัน

            “พ่อครับ พ่อใช่ไหม ผมคิดถึงพ่อ” ร่างบางละเมอออกมาเบาๆ  พร้อมกับใช้แก้มขาวซุกไซร้ที่ฝ่ามือหนานั่นด้วยรอยยิ้ม

            เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างสูงก็มีสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที  พร้อมกับดึงมือออกจากแก้มขาวนั้นโดยเร็ว  เขาลืมตัวไปว่านี่คือลูกชายของศัตรู  น้องภัทรคนนั้นได้ตายไปจากใจเขาแล้ว เคลวินได้แต่คิดหลอกตัวเองเมื่อนึกถึงความแค้นที่มันรอการสะสางอยู่

            “นี่คุณ!” ร่างบางรู้สึกตัวก็เห็นคนตัวสูงนั่งอยู่ข้างๆจึงพยายามลุกขึ้นนั่ง

            “ทำไม? ตกใจอะไรขนาดนั้น” ร่างสูงมองหน้าเคืองๆ

            “ก็ตกใจสิคุณเข้ามาในห้องผมได้ยังไง” ร่างสูงไม่ตอบแต่กลับชูกุญแจสำรองขึ้นให้ดูพร้อมกับยกยิ้ม

            “ที่นี่มันบ้านกู กูจะทำอะไรก็ได้ มึงลืมไปแล้วเหรอ” เคลวินเอ่ย

            “ใช่ที่นี่มันบ้านของคุณ แต่ห้องนี้มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของผม คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาถ้าผมไม่อนุญาต”

            “ทำไมกูต้องขออนุญาตมึงด้วย ขนาดตัวมึงเองกูยังไม่ต้องขออนุญาตเลย จะเอาเมื่อไหร่ก็ได้” ร่างสูงว่าพร้อมกับเอื้อมมือไปเชยคางเรียวไว้

            “ต่ำ” ร่างบางว่าพร้อมกับสะบัดหน้าหนี

            “แสดงว่ามึงเองก็ต่ำยิ่งกว่ากูอีก เพราะมึงโดนไอ้คนต่ำๆคนนี้เอาทุกคืน” ร่างสูงว่าให้พร้อมกับยกยิ้มอย่างสะใจ

            “ออกไปจากห้องผมเดี๋ยวนี้ ออกไป! อ้วกกก” ร่างบางตวาดแหวใส่ก่อนที่ทุกอย่างในท้องมันจะดันขึ้นมาจุกที่ลำคอ  จนร่างบางต้องวิ่งแจ้นไปที่ห้องน้ำ

            เคลวินมีสีหน้าตกใจเล็กน้อยพร้อมกับเดินไปหาร่างบางในห้องน้ำ  เขาได้แต่มองดูอยู่ห่างๆ

            “นี่มึงยังไม่หายดีเหรอวะ”

            “คุณไม่ต้องห่วงหรอกผมยังไม่ตายง่ายๆ ยังอยู่ให้คุณทรมานได้อีกนาน” ร่างบางหันมาเอ่ยกับคนตัวสูง ก่อนที่ของเหลวมันจะตีขึ้นมาที่ลำคออีกครั้ง

            “อ้วกกก!!”

            “กูว่ามึงไปหาหมอดีไหมวะ” เมื่อเห็นท่าไม่ดีคนตัวสูงก็เอ่ยขึ้นมา

            “ไม่!คุณออกไปเถอะ”

            “อ้วกจนไส้จะออกมาแล้วยังจะมาปากเก่งอีก” ร่างสูงดุ

            “ไม่ต้องมายุ่งกับผม ออกไป!” ร่างบางตวาดแหวใส่

            “มึงนี่นะ” เขาไม่ว่าเปล่าแต่เดินไปช้อนตัวร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาว ก่อนจะพาออกมาจากห้องน้ำ

            “ทำอะไรเนี่ย! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” ร่างบางว่าพลางใช้กำปั้นน้อยๆทุบไปที่แผงอกแกร่ง

            “ก็มึงดื้อไงกูเลยต้องทำอย่างนี้ หยุดมือของมึงเดี๋ยวนี้ กูจะพาไปหาหมอ”

            “ไม่เอาผมไม่ไป! ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้” ร่างบางยังดื้อ

            “ถ้ามึงดิ้นอีกกูจะพามึงไปโยนทิ้งที่ทะเลเดี๋ยวนี้ล่ะ” คนตัวโตขู่ เมื่อได้ยินอย่างนั้นร่างบางก็นิ่งเงียบทันที

            หลังจากนั้นคนตัวโตก็อุ้มร่างบางไปที่รถแล้วขับออกไปทันที
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



@ ศูนย์การแพทย์บลูซี

            “คุณหมอคะคุณเคลวินมารอพบด้านนอกพร้อมกับคนไข้ที่ชื่อนภัทรค่ะ” พยาบาลสาวสวยเดินเข้ามาในห้องตรวจ ก่อนจะเอ่ยกับนายแพทย์ที่กำลังตรวจรักษาคนไข้รายหนึ่งอยู่

            “บอกให้รอก่อนตอนนี้ผมติดคนไข้อยู่คิวสุดท้ายแล้วพอดี” พงษ์บอก

            “ค่ะ”

            ว่าแล้วพยาบาลก็เดินออกไปจากห้องทันที

            “รอสักครู่นะคะคุณเคลวินตอนนี้คุณหมอติดคนไข้อยู่ แต่คงไม่นานค่ะเพราะเป็นคิวสุดท้ายแล้ว” เธอเดินเข้าไปหาเคลวินที่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้  ส่วนร่างบางตอนนี้กำลังวัดความดัน  พร้อมกับถูกซักประวัติอาการป่วยโดยพยาบาลอยู่ในห้องข้างๆ

            “ครับไม่เป็นไร” เขาบอกแค่นั้นแต่ในใจกลับรู้สึกร้อนรนมาก เพราะอยากให้ร่างบางได้รับการตรวจเร็วๆ

            ไม่นานนักคนที่เขากำลังเป็นห่วงก็เดินเข้ามานั่งข้างๆ

            “เสร็จแล้ว?” คนตัวสูงมองหน้า

            “อืม” ร่างบางตอบเสียงอ่อยๆ  เพราะหมดแรงไปกับการอาเจียนก่อนหน้านี้

            ระหว่างรอพยาบาลคนเดิมก็เดินเข้ามาหา

            “เชิญด้านในได้เลยค่ะคุณหมอตรวจคนไข้เสร็จแล้ว” เธอบอกก่อนจะเดินนำหน้าไป

            ภายในห้องตรวจ

            “สวัสดีครับคุณหมอ” นภัทรยกมือไหว้

            “สวัสดีครับน้องภัทรวันนี้เป็นอะไรมาเอ่ย” พงษ์เอ่ยถามพร้อมกับดูข้อมูลที่พยาบาลซักประวัติอาการมาก่อนหน้านี้

            “คือผมคลื่นไส้อาเจียนแล้วก็เวียนศีรษะครับ น่าจะแพ้กลิ่นน้ำหอมของคุณเมญ่า” ร่างบางแจ้งอาการให้หมอฟัง

            “หืม! แพ้น้ำหอม” พงษ์ทำหน้าสงสัย

            “ครับผมได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวคุณเมญ่าเมื่อเช้านี้  ก็รู้สึกเหม็นแล้วอาเจียนออกมา  ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมก็เคยใช้น้ำหอมกลิ่นนี้นะครับ  ก็ยังงงๆอยู่เหมือนกันว่าแพ้ได้ยังไง”

            “หมอว่าไม่น่าจะแพ้นะครับถ้าเคยใช้” พงษ์ว่าพลางมองดูที่ใบซักประวัติก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีกรั้ง “อืม...น้ำหนักตัวน้องภัทรขึ้นมาเยอะเลยนะครับ  ดูมีน้ำมีนวลขึ้นสงสัยไอ้เคลวินมันจะเลี้ยงดี” พงษ์เปรียบเทียบน้ำหนักจากครั้งก่อน  แล้วก็มองคนไข้ที่นั่งอยู่ตรงหน้า

            “มึงจะถามอะไรนักหนาวะ ตรวจแม่งให้หมดทุกอย่างเลยเอาให้ละเอียด” เคลวินที่นั่งร้อนใจอยู่เอ่ยขึ้นแทรก

            “ผมกำลังตรวจคนไข้อยู่ครับ ผมเป็นหมอนะครับ กรุณาหุบปาก” พงษ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ก่อนจะส่งตายตาอำมหิตให้เพื่อน

            “เออกูรู้ว่ามึงเป็นหมอแต่กูใจร้อนโว้ย อยากรู้ว่ามันเป็นอะไร” เคลวินเอ่ยอย่างลืมตัว  ว่ากำลังแสดงออกถึงความเป็นห่วงร่างบางจนเห็นได้ชัด

            “มึงห่วงน้องว่างั้น?” พงษ์เอ่ยถาม

            “เปล่าใครห่วงมันวะ กูรีบกูมีธุระ” เคลวินทำหน้าเหรอหราเมื่อโดนจับผิดได้

            “ถ้ารีบก็ไปก่อน ให้น้องภัทรอยู่กับกูที่นี่ก่อน” พงษ์ยื่นข้อเสนอให้

            “ไม่โว้ยกูรอได้” เคลวินพูดหน้าตาเฉย

            “มึงนี่นะ” พงษ์ส่ายหน้าไปมาอย่างเบื่อหน่ายกับนิสัยของเพื่อน

            เมื่อปะทะฝีปากกับเพื่อนเสร็จเรียบร้อยแล้ว พงษ์ก็หันมาเอ่ยกับคนไข้ที่นั่งอยู่ตรงหน้า

            “น้องภัทรเดี๋ยวเดินตามคุณพยาบาลไปนะครับ”

            “ครับหมอ”

            หลังจากนั้นพงษ์ก็เขียนเอกสารบางอย่างบนโต๊ะแล้วก็ยื่นให้กับพยาบาล

            “พาคนไข้ไปตรวจตามที่ผมระบุไว้ให้ครบทุกอย่างนะครับ” เขายื่นเอกสารให้พยาบาล

            เมื่อพยาบาลสาวมองดูแล้วก็ทำหน้าสงสัย “คุณหมอค่ะนี่มัน...” หล่อนมองหน้าพงษ์

            “เอาตามนั้นครับรีบไปเถอะ” เขารีบพูดตัดบทก่อนจะพยักหน้าให้กับพยาบาล

            “ค่ะๆ” หล่อนตอบรับก่อนจะหันไปเอ่ยกับร่างบาง “คนไข้เชิญด้านนี้ค่ะ”

            ร่างบางเดินตามหลังพยาบาลไปอย่างว่าง่าย

            พงษ์นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดมองเอกสารบนโต๊ะ  ก่อนจะหันไปหาเพื่อนที่กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่อย่างสบายใจ

            “ไอ้เคลวินกูมีเรื่องจะถาม แล้วตอบก็ช่วยตอบตามความจริงด้วยนะครับ”

            “มึงมีอะไรว่ามา”

            “มึงมีอะไรกับน้องภัทรแล้วใช่ไหมวะ” พงษ์ทำหน้าจริงจัง

            “เออ เอาบ่อยด้วย ทำไมมึงต้องทำหน้าจริงจังขนาดนั้นด้วยวะ” เคลวินตอบหน้าตาเฉย

            “แล้วเวลามีอะไรกันมึงใส่ถุงยางป่ะ”

            “ไม่...เอาสดๆ กูคิดว่ามันชอบนะ เห็นทำหน้าเสียวตลอดเลยเวลากูปล่อยใน” เขาพูดขำๆ แต่คุณหมอกลับไม่ขำด้วย

            “ไอ้เหี้ย! มึงไม่กลัวน้องเค้าจะติดโรคจากมึงเหรอวะ” พงษ์ว่าให้เพื่อน แต่ในใจที่เขากังวลมันไม่ใช่เรื่องนี้

            “กูน่ะสิที่ต้องกลัวติดโรคจากมัน เพราะเอากับคนอื่นกูก็ใส่ถุงตลอด แต่มันเป็นผู้ชายไงท้องไม่ได้กูก็เลยไม่ใส่สะใจดี” เคลวินบอกเพื่อนหน้าตาเฉย

            “แค่นี้ล่ะ”

            “อ้าว! กูนึกว่ามึงจะถามเจาะลึกอีกว่ากูเอากับมันท่าไหนบ้าง” เคลวินพูดติดตลก

            “กูไม่ได้โรตจิตขนาดนั้นโว้ย มึงมีธุระก็ไปทำก่อนได้ กว่าน้องภัทรจะมาก็อีกนาน” พงษ์บอก

            “ทำไมมึงถึงอยากให้กูไปจังวะไอ้นี่  กูอยู่ได้ขี้เกียจกลับมาอีกรอบ”

            “เออๆก็แล้วแต่มึงละกัน”

            พูดแค่นั้นต่างคนก็ต่างเงียบแล้วนั่งรอนภัทรกลับมา

            ไม่นานนักโทรศัพท์มือถือของเคลวินก็มีเสียงดังขึ้น

            Rrrrr….

            “ว่าไงคุณนพ” เคลวินรับสาย

            (“คุณเคลวินครับเกิดเรื่องขึ้นแล้วครับ”)

            “เกิดอะไรขึ้น”

            (“มีคนเจอกระเป๋าปริศนามาวางไว้ที่หน้าล็อบบี้โรงแรมครับ สงสัยว่าจะเป็นระเบิด ตอนนี้ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว คุณเคลวินรีบมาเลยครับนักท่องเที่ยวแตกตื่นกันวุ่นวายมากครับ”)

            “ได้ๆเดี๋ยวผมไปตอนนี้เลย” เขาเอ่ยแล้วรีบลุกขึ้นยืน  หลังจากนั้นก็หันไปเอ่ยกับพงษ์

            “มึงเกิดเรื่องที่โรงแรม เดี๋ยวกูไปก่อนนะเสร็จเรื่องแล้วจะมารับ ถ้าไงฝากมันด้วยนะ”

            “โอเคมึงรีบไปเถอะ ทางนี้กูดูแลให้เอง” พงษ์บอกอย่างเข้าใจ

            เมื่อพูดกับเพื่อนเสร็จเคลวินก็รีบเดินออกไปอย่างเร่งรีบ

            ไม่นานหลังจากนั้นนภัทรและพยาบาลก็เดินเข้ามาในห้อง  พยาบาลยื่นผลตรวจให้ด้วยสีหน้าแปลกๆ

            “นี่ค่ะหมอผลการตรวจ” พยาบาลยื่นให้ พงษ์มองดูแวบหนึ่ก่อนจะหันไปหาพยาบาล

            “คุณออกไปก่อนนะ ผมขอคุยกับคนไข้เป็นการส่วนตัว”

            “ค่ะ” เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเดินออกไป

            พงษ์นั่งอ่านผลตรวจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองร่าง ที่นั่งลุ้นรอผลการตรวจอยู่

            “น้องภัทร” พงษ์เอ่ยก่อนจะถอนหายใจเสียงดัง เพราะกลัวว่าถ้าร่างบางรู้ผลอาจจะทำให้ช็อคได้

            “ว่าไงครับหมอ ผลการตรวจเป็นยังไงบ้าง”

            “ต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันเกิดเรื่องมหัศจรรย์อย่างนี้ขึ้น ตอนหมอเรียนที่อเมริกาก็เคยเกิดเคสอย่างนี้ขึ้นมาหลายเคสอยู่เหมือนกัน” เขาพยายามพูดให้ร่างบางเข้าใจก่อนจะบอกความจริง

            “นี่หมอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ผมงงไปหมดแล้ว” ร่างบางทำหน้าสงสัย

            “ถ้าหมอบอกรับปากได้ไหมว่าจะตั้งสติให้ได้” พงษ์บอก

            “หมอผมเป็นอะไรกันแน่” ร่างบางเริ่มกลัวขึ้นมาว่าตัวเองจะเป็นโรคร้ายแรง

            “น้องภัทรครับ...ผลการตรวจบอกว่าน้องภัทรกำลังตั้งครรภ์”

            “นี่หมอบอกว่าผมท้องงั้นเหรอครับ หมอนี่ก็เป็นคนตลกนะ” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับขำออกมา

            “หมอไม่ได้พูดเล่นนะครับ น้องภัทรกำลังตั้งท้องได้สี่สัปดาห์แล้ว” พงษ์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

            “จะ...จะเป็นไปได้ยังไงครับผมเป็นผู้ชายนะ” ร่างบางค่อยๆหุบยิ้มลงเมื่อได้รับคำยืนยันจากปากหมออีกครั้ง

            “น้องภัทรเป็นผู้ชายที่พิเศษกว่าคนทั่วไปไงครับ น้องภัทรมีมดลูกสามารถตั้งครรภ์ได้  จริงๆแล้วทางพ่อหรือแม่ของน้องก็น่าจะรู้นะครับท่านไม่เคยบอกอะไรเลยหรือ?” พงษ์ถาม

            “ไม่ครับ...ท่านไม่เคยบอกอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย”

            “แสดงว่าท่านคงอยากให้น้องภัทรใช้ชีวิตตามปกติของผู้ชายทั่วไป”

            “หมอครับช่วยยืนยันอีกทีได้ไหมว่าผมไม่ได้หูฝาด” ร่างบางนั่งหน้าซีดอยู่บนเก้าอี้ ตอนนี้ในหัวมันรู้สึกสับสนไปหมด และพยายามคิดว่ามันเป็นแค่ฝันเท่านั้น

            “หมอขอยืนยันครับว่าน้องภัทรกำลังท้อง”

            สิ้นเสียงของพงษ์น้ำใสๆที่ดวงตาสวยก็ไหลลงมาเป็นสาย เขาทั้งตกใจ เสียใจ ดีใจและกลัว ความรู้สึกทั้งหมดมันตีกันจนร่างบางเริ่มเวียนหัว  หลังจากนั้นภาพของคุณหมอที่อยู่ตรงหน้ามันก็ค่อยๆเลือนรางลงเรื่อยๆ  ก่อนที่ทุกอย่างมันจะดับวูบไปในที่สุด...

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.10-ความจริงที่ต้องรับให้ได้]-(10-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 10-02-2018 11:30:18
อยากอ่านตอนต่อไปหล่าววววว
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.10-ความจริงที่ต้องรับให้ได้]-(10-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 10-02-2018 11:35:48
คงอีกนานกว่าจะมีความสุข
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.10-ความจริงที่ต้องรับให้ได้]-(10-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Puring Pudding ที่ 10-02-2018 13:03:42
อิหนูภัทรของเจ๊  :mew6:  :z3:เริ่มรู้สึกถึงความม่ามาแล้วน่าสงสารอ่ะ :sad4: :o12:
คนเขียนมาต่อเร็วๆน่ะคะ รอๆๆ
สู้ๆน่ะคะ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.10-ความจริงที่ต้องรับให้ได้]-(10-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 10-02-2018 13:38:24
โอ้ยยย สงสารอิน้องแท้ :hao5:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.10-ความจริงที่ต้องรับให้ได้]-(10-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 10-02-2018 13:49:51
สงสารภัทร เดาว่าน้องคงไม่บอกวินหรอกเพราะวินเคยบอกว่าถ้าเป็นผู้หญิงวินจะทำให้ท้องไม่มีพ่อนี่ แต่ก็ห่วงน้องนั่นแหละเนอะ ผิดที่พ่อคนเดียวเลย
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.10-ความจริงที่ต้องรับให้ได้]-(10-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 10-02-2018 15:47:43
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.10-ความจริงที่ต้องรับให้ได้]-(10-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 10-02-2018 16:02:31
ขอตอนต่อไปด่วนเลยค่ะ :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.10-ความจริงที่ต้องรับให้ได้]-(10-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 10-02-2018 22:19:31
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.10-ความจริงที่ต้องรับให้ได้]-(10-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-02-2018 22:40:36
ถ้าซาตาน รู้ จะต้องไม่เชื่อแน่ๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.10-ความจริงที่ต้องรับให้ได้]-(10-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 10-02-2018 23:25:03
เอาแล้ว ๆ  o22 กลิ่นมาม่ามาแล้ว  :sad4: :o12:

รอจ้ารอ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.10-ความจริงที่ต้องรับให้ได้]-(10-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 11-02-2018 02:06:07
โถ่น้องภัทรลูก~~
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.10-ความจริงที่ต้องรับให้ได้]-(10-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-02-2018 04:29:13
หนีไปตอนนี้เลยไปไหม มีโอกาสแล้วนิ แต่ภัทรเคยบอกว่าไม่หนี สรุปจะหนีดี หรือไม่หนีดีนะ  :hao4:
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.11-ฮีโร่ที่ร้าย]-(12-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 12-02-2018 16:06:35
CHAPTER  11  ฮีโร่ที่ร้าย



          ร่างบางค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆเมื่อเริ่มรู้สึกตัว ตอนนี้เขากำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องตรวจของพงษ์  เมื่อเห็นอย่างนั้นก็ปรายตามองไปรอบๆห้อง  เห็นเพียงหมอพงษ์นั่งเขียนเอกสารอยู่คนเดียว

            “คุณหมอครับ”

            “อ้าว! น้องภัทรตื่นแล้วเหรอ” เขารีบเดินมาที่เตียงก่อนจะค่อยๆพยุงร่างบางขึ้นนั่ง

            “ผมเป็นอะไรไปครับเนี่ย” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับมองหน้า

            “น้องภัทรเป็นลมครับ แล้วตอนนี้เป็นไงบ้างดีขึ้นยัง?”

            “อ๋อ...ผมดีขึ้นแล้วครับ” ร่างบางบอกก่อนจะมองเหมือนหาใครบางคน

            “แล้วนี่มองหาไอ้เคลวินเหรอ?” พงษ์เอ่ยถาม

            “ครับ...เค้าไปไหนเหรอครับคุณหมอ”

            “พอดีที่โรงแรมมีเรื่องนิดหน่อย มันเลยเข้าไปจัดการ น้องภัทรพักผ่อนรอที่นี่ก่อนนะครับ” พงษ์ยิ้มให้

            “คุณหมอครับ ผมมีเรื่องจะขอร้อง”

            “เรื่องอะไรครับ ถ้าหมอทำได้ก็ยินดี” เขายิ้ม

            “คือเรื่องท้องหมออย่าเพิ่งบอกคุณเคลวินได้ไหมครับ”

            “อ้าว! ทำไมล่ะ”

            “คือเรื่องนี้ผมจะขอบอกเค้าเองน่ะครับ”

            “ได้สิ หมอจะไม่บอกมันละกัน หมอสัญญา”

            “ขอบคุณครับ” ร่างบางรู้สึกโล่งใจที่พงษ์ยืนยันที่จะรับปาก

            “ถ้างั้นน้องภัทรนอนพักผ่อนต่อเถอะครับ ส่วนเรื่องลูกหมอขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”

            “ขอบคุณครับ แต่จริงๆแล้วผมอยากให้มันเป็นแค่ความฝัน” ร่างบางมีสีหน้าหนักใจ

            “มันคือเรื่องจริงแล้วครับ หรือว่าน้องภัทรไม่ดีใจที่มีเจ้าตัวเล็ก” พงษ์ถาม

            “ไม่ครับ ผมดีใจมากแต่...” ร่างบางทำหน้าหนักใจ  เพราะไม่อยากเอ่ยประโยคที่กำลังคิดอยู่ในหัว

            “เพราะไอ้เคลวินใช่ไหม หมอเข้าใจว่าน้องภัทรคงไม่อยากให้ลูกเกิดมามีพ่ออย่างมัน”

            “จริงๆแล้วมันก็ไม่เชิงหรอกครับคุณหมอ เพียงแต่ผมคิดว่าลูกไม่ควรเกิดมารับกรรมไปพร้อมกับผมด้วย” ร่างบางบอกด้วยสีหน้ากังวล

            “อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลยครับน้องภัทร จริงๆหมอก็ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องนี้หรอกนะ แต่ตอนนี้ยังไงเราก็มีน้องแล้วต้องเข้มแข็งเข้าไว้เพื่อลูก ส่วนไอ้เคลวินเท่าที่หมอเป็นเพื่อนกับมันมาหลายปี  มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นซะทีเดียวหรอกนะ  ดีไม่ดีถ้ามันรู้ว่ากำลังจะมีลูกความสัมพันธ์ระหว่างน้องภัทรกับมันอาจจะดีขึ้นก็ได้  แต่ถ้ามันไม่ไหวจริงๆก็บอกหมอจะได้ลองคุยกับมันให้  ”

            “ขอบคุณครับ...ผมจะพยายามเข้มแข็งเข้าไว้เพื่อลูก” ร่างบางถอนหายใจเสียงดัง  ก่อนจะยิ้มให้กับคุณหมอหน้าหวาน

            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

            พยาบาลสาวเคาะประตูก่อนเปิดเข้ามา

            “คุณหมอคะมีคนมารับคนไข้แล้วค่ะ”

            พงษ์ทำหน้าสงสัยก่อนจะเอ่ยถาม

            “ใครครับคุณพยาบาล”

            “เป็นผู้ชายชุดดำคนนึงเค้าบอกว่าคุณเคลวินไม่ว่างให้มารับแทนค่ะ” เธอบอก

            “ออ ถ้างั้นบอกให้รอสักครู่เดี๋ยวหมอจะพาคนไข้ออกไปเอง”

            “ค่ะ” เธอรับคำก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

            “น้องภัทรครับ สงสัยไอ้เคลวินมันจะยุ่งอยู่เลยให้ลูกน้องมารับแทน เดี๋ยวหมอจะพาไปรับยาข้างนอกนะครับแล้วค่อยกลับ”

            “ครับคุณหมอ”

            ร่างบางค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกไปพร้อมกับพงษ์ ข้างนอกมีชายชุดดำยืนรออยู่ ร่างบางมองแล้วก็รู้สึกไม่คุ้นหน้า  แต่ในใจก็คิดว่าคงเป็นลูกน้องของเคลวินนั่นล่ะ เพราะนายนั่นมีลูกน้องประเภทหน้าเหี้ยมๆหลายคน  เมื่อรับยาเสร็จแล้วพงษ์ก็พาร่างบางเดินมาหาชายชุดดำที่ยืนรออยู่

            “อย่าลืมทานยาให้ตรงเวลานะน้องภัทร” พงษ์บอกแล้วยิ้มให้

            “ครับคุณหมอ” ร่างบางยกมือขึ้นไหว้

            “เอาเป็นว่าต่อไปให้เรียกพี่ว่าพี่หมอพงษ์ดีกว่าเนาะ จะได้ดูคุ้นเคยกัน”

            “ได้ครับพี่หมอพงษ์”

            “ฝากด้วยนะครับ” เขาบอกกับชายชุดดำ

            “ครับคุณหมอ”

            “ถ้างั้นผมไปก่อนนะครับพี่หมอพงษ์”

            “ครับ...ดูแลตัวเองดีๆนะ” พงษ์บอกก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน ส่วนร่างบางก็เดินตามหลังชายชุดดำออกไป

เมื่อเดินไปถึงลานจอดรถร่างบางก็มองหารถยนต์

            “รถคันไหนครับ?” ร่างบางเอ่ยถาม

            “คือรถมันเสียน่ะครับคุณเคลวินเลยให้ขับมอเตอร์ไซต์มารับ” เขาเอ่ย ร่างบางได้ยินก็รู้สึกแปลกๆ เพราะรถที่บ้านของเคลวินมีหลายคันมาก ทำไมเขาถึงได้ให้ลูกน้องขับรถมอเตอร์ไซต์มารับอย่างนี้  หรือว่าเขาคิดจะแกล้งร่างบางได้แต่คิดในใจ

            “ออ...ถ้างั้นรีบกลับกันเถอะครับ” ร่างบางบอก ตอนนี้เขาเองก็อยากกลับเต็มทนแล้ว

            เมื่อชายหนุ่มสตาร์ทเครื่องแล้ว  ร่างบางก็ขึ้นซ้อนท้ายก่อนจะขับออกไปทันที

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            เมื่อขับรถมาถึงโรงแรมแล้วเคลวินก็รีบจอด  แล้วเดินตรงดิ่งเข้าไปในล็อบบี้โรงแรมทันที  ตอนนี้นักท่องเที่ยวจำนวนมาก  กำลังพากันวิ่งแตกตื่นออกมาจากตรงนั้น  โดยมีเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดกำลังพยายาม  เปิดดูภายในกระเป๋าสีดำใบขนาดกลางๆ ที่ถูกวางไว้ตรงบริเวณข้างกระถางต้นไม้  ทุกคนต่างก็ลุ้นให้สิ่งที่อยู่ข้างในนั้นไม่ใช่ระเบิดอย่างที่เข้าใจ  เมื่อเจ้าเหน้าที่เปิดกระเป๋าได้แล้วก็หยิบของในนั้นออกมา พบว่ามันคือนาฬิกาปลุกไม่ใช่ระเบิดแต่อย่างใด เมื่อเห็นอย่างนั้นเคลวินก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งใจ แล้วเดินเข้าไปดูจุดเกิดเหตุใกล้ๆ  ในใจตอนนี้คิดว่าอาจจะมีคนตั้งใจมาป่วนและคนแรกที่เขานึกถึงนั่นไม่ใช่ใครนอกจากอิทธิ

            “โชคดีนะครับที่ไม่ใช่ระเบิดอย่างที่เข้าใจกัน” สารวัตรหนุ่มหล่อเอ่ยกับผู้เป็นเจ้าของโรงแรม

            “ขอบคุณสารวัตรมากนะครับที่มาช่วยเคลียร์  จนสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ผมเองก็รู้สึกโล่งใจที่มันไม่ใช่ระเบิดอย่างที่ทุกคนเข้าใจกัน” เขาพูดอย่างโล่งอก

            “ยินดีครับ แล้วคุณเคลวินคนสงสัยใครเป็นพิเศษรึเปล่าครับ”

            “ตอนนี้ยังไม่สงสัยใครครับ เอาเป็นว่าผมขอดูกล้องวงจรปิดก่อนละกันครับ ถ้ามีความคืบหน้ายังไงเดี๋ยวผมจะส่งหลักฐานให้สารวัตรอีกทีนะครับ”

            “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมกับลูกน้องต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ”

            “ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”

            เคลวินยกมือไหว้ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดจะเดินทางกลับไป

            “คุณนพดลครับ” เคลวินเอ่ยกับผู้จัดการโรงแรมที่ยืนอยู่ข้างๆ

            “ครับคุณเคลวิน”

            “ไปเปิดกล้องวงจรปิดทุกตัวดูว่าใครเป็นคนเอากระเป๋าใบนี้มาวางไว้ แล้วเอาวิดีโอทั้งหมดส่งมาให้ผมด้วยนะ” เขาสั่ง

            “ได้ครับคุณเคลวิน” ผู้จัดการโรงแรมรับคำสั่ง

            “คุณช่วยไปประชาสัมพันธ์ให้แขกทุกคนเข้าใจด้วยว่า  สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น  ไม่มีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น”

            “ได้ครับคุณเคลวิน”

            “เดี๋ยวผมขอตัวไปรับคนงานที่ศูนย์การแพทย์ก่อน” เมื่อเรื่องราวทั้งหมดจบลงด้วยดี ตอนนี้เขาก็นึกถึงร่างบางที่กำลังรออยู่ทันที

            “เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเองครับ”

            “ถ้างั้นก็ฝากด้วย” เขาว่าพร้อมกับใช้มือหนาตบที่ต้นแขนของลูกน้องเบาๆ เชิงฝากฝังเรื่องเอาไว้

            เมื่อออกมาจากโรงแรมแล้วเคลวินก็บึ่งรถตรงมาที่ศูนย์การแพทย์ทันที  แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องตรวจของพงษ์  ก็เจอเพียงแค่นายแพทย์หนุ่มหน้าหวานนั่งอยู่คนเดียวในห้อง

            “อ้าว! มึงเสร็จธุระแล้วเหรอวะ”

            “เออสิวะ พอเรื่องที่โรงแรมคลี่คลายแล้วกูก็รีบมารับมันนี่ล่ะ มันไปไหนแล้วล่ะ” เคลวินมองหาร่างบาง

            “อ้าว! ยังไม่แก่เลยเป็นโรคอัลไซเมอร์ไปซะแล้วเพื่อนกู มึงบอกให้ลูกน้องมารับน้องภัทรกลับไม่ใช่เหรอ” พงษ์บอกเพื่อน

            “ไม่เว้ยกูไม่ได้บอกใครมารับมันเลย ตายห่าแล้วไง! หรือว่าจะมีคนมาพามันหนีไปแล้ว” เคลวินเอ่ยด้วยท่าทีตกใจ

            “กูว่าไม่ใช่หรอก ไม่มีใครรู้ว่าน้องภัทรอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ กูว่าน่าจะเป็นพวกศัตรูมึงมากกว่า” พงษ์ว่า

            “หรือจะเป็นไอ้อิทธิ” เขาบ่นพึมพำเบาๆ “กูต้องไปแล้ว มันน่าจะไปที่ท่าเรือ” เคลวินว่าก่อนจะรีบวิ่งออกไปทันที

            “เฮ้ย! กูไปด้วย”

            พงษ์พยายามจะวิ่งตามออกไปแต่ไม่ทันเแล้ว เพราะเคลวินบึ่งรถออกไปไม่กี่วินาทีก่อนหน้า

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            ชายชุดดำขับรถจอดมาที่ท่าเรือ  ร่างบางเห็นอย่างนั้นก็เอะใจทันทีว่าทำไมถึงพาตัวเองมาที่นี่

            “นี่มันท่าเรือไม่ใช่บ้านคุณเคลวินนี่” ร่างบางเอ่ยถามพร้อมกับลงจากรถ

            “คุณเคลวินให้ผมพาคุณไปอีกเกาะนึง เชิญขึ้นเรือครับ” เขาผายมือให้ร่างบางขึ้นไปบนเรือ  ที่ได้จอดเตรียมไว้แล้ว  โดยมีคนขับอีกคนนั่งรออยู่

            “ไม่! จนกว่าผมจะได้คุยกับคุณเคลวินก่อน” ร่างบางปฏิเสธเพราะตอนนี้เริ่มไม่ไว้ใจ

            “ผมบอกให้คุณขึ้นไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับค่อยๆควักปืนขึ้นมาขู่ ร่างบางเห็นอย่างนั้นก็ตกใจจนถุงยาที่ถือมาด้วยหล่นลงพื้น

            “นี่นายเป็นใครกันแน่” ร่างบางพยายามถอยหลัง

            “หยุด! ถ้าวิ่งกูยิงแน่ ขึ้นไปบนเรือเดี๋ยวนี้” เขายังขู่ ตอนนี้ร่างบางเริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว เขามองซ้ายมองขวาแต่ก็ยังไม่เจอใครสักคน  ในใจเขากลับคิดถึงร่างสูงเป็นคนแรกคนที่พอจะช่วยเขาได้ในตอนนี้

            “คุณเคลวินช่วยด้วย!” เขาตะโกนพร้อมมองผ่านหลังชายชุดดำไป ทำให้ชายหนุ่มหันหลังมองตาม ร่างบางจึงใช้โอกาสนี้รีบวิ่งหนีไป

            “นี่มึงกล้าหลอกกูเหรอ!” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับวิ่งตามร่างบางในระยะประชิด  ก่อนจะรั้งตัวเอาไว้ได้  ร่างบางดิ้นพล่านเพื่อให้ตัวเองเป็นอิสระแต่ไม่เป็นผล

            “ปล่อยนะ! ปล่อยเดี๋ยวนี้!” ร่างบางสะบัดตัวไปมา

            “หุบปากเดี๋ยวนี้ถ้าไม่อยากตาย” เขาว่าพลางลากตัวร่างบางไปด้วยจวบจนจะถึงเรือ

            “คุณเคลวินช่วยผมด้วย” ร่างบางมองเห็นคนตัวโตกำลังวิ่งมาก็ตะโกนร้องเรียกทันที

            “นภัทร!” เคลวินตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นร่างบางกำลังโดนฉุดขึ้นเรือไปต่อหน้าต่อตา “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เขารีบวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

            ตอนนี้ชายชุดดำได้พาร่างบางขึ้นไปบนเรือเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับมัดมือมัดเท้าเอาไว้  ร่างบางพยายามดิ้นแต่ไม่เป็นผล ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บที่ข้อมือ

            “พวกแกเป็นใคร จะพาฉันไปที่ไหน” ร่างบางเอ่ยถาม

            “ไม่ต้องถามมาก พวกกูก็จะพามึงไปขึ้นสวรรค์ไงล่ะ ฮ่าๆๆ” ชายทั้งสองคนหัวเราะเสียงดังอย่างพอใจ

            “แต่ฉันไม่เคยมีเรื่องกับใครเลยนะ ทำไมต้องมาทำกันถึงขนาดนี้” ร่างบางตะโกนถาม

            “มึงไม่เคยมีเรื่องกับใคร แต่ไอ้เคลวินมันเคยไง แล้วมึงก็เป็นคนของมันนั่นแหละเหตุผลว่าทำไมพวกกูถึงต้องจับตัวมึงมา” ชายชุดดำที่ไปรับตัวร่างบางมาเอ่ยขึ้น “ออกเรือ” เขาสั่งอีกคน

            เคลวินรีบวิ่งมาจวนจะถึงแต่ก็ไม่ทัน  เพราะเรือได้ออกไปจากท่าเรียบร้อยแล้ว “โธ่โว้ย!” เขาสบถออกมาเสียงดังก่อนจะมองหาเรือลำที่ว่างแล้วรีบขึ้นขับตามไปทันที

            เคลวินขับเรือตามหลังมาในระยะประชิดแต่ชายชุดดำกลับยิงปืนใส่  ทำให้เขาต้องเว้นระยะห่างให้มากขึ้นก่อนจะยิงโต้ตอบกลับไป ดีที่ก่อนลงจากรถเขาไม่ลืมที่จะหยิบปืนมาด้วย คนอย่างเคลวินไปไหนมาไหนเขาจะต้องมีปืนใกล้มือไว้ตลอดเวลาอยู่แล้ว

            ปัง!

            “เหี้ยแล้วไง!”

            ร่างสูงสบถออกมาเมื่อเรือที่เขากำลังขับถูกยิงจนรั่ว เมื่อเห็นอย่างนั้นเขาก็ตั้งใจเล็งเป้าไปที่ชายชุดดำที่ยืนอยู่ข้างๆร่างบาง ก่อนจะลั่นไกทันที

            ปัง!

            ตูม!

           โชคดีที่เขาเล็งปืนได้แม่นจนทำให้ชายชุดดำโดนยิงจนตกลงจากเรือไป  หลังจากนั้นก็ขับเรือเร่งขึ้นไปขนาบข้าง  ก่อนจะรีบเดินขึ้นไปยืนตรงขอบเรือแล้วกระโดดข้ามไปยังเรืออีกลำ แต่ก็พลาดจนเขาต้องเกาะอยู่ข้างๆเรือ  เมื่อชายชุดดำที่ขับเรืออยู่เห็นอย่างนั้นก็จอดเรือทันทีเพื่อจะมาจัดการกับชายหนุ่ม

            “คุณเคลวินระวัง!” ร่างบางตะโกนออกมาเมื่อชายชุดดำลุกขึ้นเดินตรงมาที่เคลวิน ขณะนั้นเขาก็ปีนป่ายขึ้นมาที่เรือได้สำเร็จ  แต่ก็โดนชายชุดดำซัดหมัดเข้าที่ใบหน้าจนล้มลง  เคลวินลุกขึ้นก่อนจะซัดหมัดคืนไปบ้าง  ทั้งสองคนต่างก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร  ร่างบางทำได้แต่มองอย่างร้อนใจเพราะกลัวว่าคนตัวโตจะโดนทำร้าย  ก่อนที่ชายชุดจะสังเกตเห็นปืนที่หล่นอยู่แล้วรีบหยิบขึ้นมา

            “มึงไม่รอดแน่” เขาเล็งปืนมาที่เคลวินก่อนจะยิ้มที่มุมปากอย่างผูมีชัย

            “ก่อนตายกูขอฝากข้อความไปหานายมึงหน่อย” เขาพยายามถ่วงเวลาหาทางออก

            “ได้...ถือว่าเป็นคำขอของคนกำลังจะตายหึๆ” เขายกยิ้ม

            “ไปตายซะไอ้เลว!” ร่างบางว่าพร้อมกับยกเท้าที่ถูกมัดเข้าด้วยกัน ถีบไปที่หน้าแข้งของชายชุดดำจนเซล้ม  ส่วนคนตัวโตได้ทีรีบเข้าไปแย่งปืนมาทันที

            ผลั่ก!

            ตูม!

            เคลวินแย่งปืนมาได้ก่อนจะถีบชายชุดดำจนตกลงจากเรือ  เขาปืนเล็งลงไปขู่เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มพยายามจะปีนขึ้นมา

            “หยุด! ถ้ามึงไม่อยากตาย” เมื่อได้ยินอย่างนั้นชายชุดดำก็หยุดชะงักก่อนจะมองหน้าร่างสูง

            “อย่าฆ่าผมเลยครับ ผมมีลูกเมียที่ต้องดูแล” เขายกมือขึ้นไหว้อย่างลนลาน

            “กูจะไม่ฆ่ามึงแต่ให้กลับไปบอกเจ้านายมึงด้วยว่ากูจะไปเอาคืนมันแน่นอน” พูดจบเขาก็ลั่นไกยิงปืนลงไปในน้ำสี่นัดติดต่อกันเพื่อขู่จนชายชุดดำสั่นไปทั้งตัว “ว่ายน้ำกลับไปที่เกาะของพวกมึงเดี๋ยวนี้ก่อนที่กูจะเอาปืนยิงกบาลมึง”  เมื่อได้ยินก็รีบว่ายน้ำออกไปจากเรือทันที

            ตอนนี้เรือจอดอยู่กลางทะเล  ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลากลางวันแต่ท้องฟ้ากลับมืดครื้ม  ปกคลุมไปสุดลูกหูลูกตา ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ค่อยดีนัก  เสียงฟ้าผ่าฟ้าร้องแข่งขันกันระงม  แรงลมพัดโบกรุนแรง  พร้อมกับมีฝนตกลงมาปรอยๆ

            “แม่งพายุเข้าอีกซวยจริงๆ” เขาว่าแล้วก็นั่งลงตรงหน้าร่างบางพร้อมกับชักสีหน้าใส่ “เพราะมึงคนเดียวเลย” เขาบ่นแต่ก็ยอมแกะเชือกออกให้

            “ขอบคุณนะครับ ฮือๆ” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับร้องไห้ออกมาเสียงดัง เมื่อมือเป็นอิสระแล้วก็โผเข้าไปกอดคนตัวสูงทันที  ร่างสูงนั่งนิ่งไม่ได้เอ่ยอะไร ก่อนจะทำหน้าเหรอหราเพราะรู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก  หัวใจมันกำลังเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เมื่อควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้  เขาก็พยายามคลายอ้อมกอดร่างบางออกแต่ก็ไม่เป็นผล  ยิ่งพยายามแกะมือออกแต่ร่างบางยิ่งกอดแน่นขึ้นไปอีกไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย

            “มึงจะกอดอะไรกูนักหนาวะ กูอึดอัดโว้ย!” ร่างสูงเอ่ยแก้เขินพร้อมกับทำหน้าเหรอหรา  เมื่อได้สติร่างบางก็ยอมคลายอ้อมแขนออกมา  แล้วเอาหลังมือเช็ดน้ำตาที่แก้มขาวไปด้วย

            “ขอโทษครับ ผมลืมตัวไป” ร่างบางเอ่ยขอโทษแล้วพยายามทำสีหน้าให้ปกติ “พาผมกลับไปที่เกาะเถอะถ้างั้น” ร่างบางเอ่ยอย่างน้อยใจ

            “กลับไปให้ตายน่ะสิ มึงไม่เห็นเหรอว่าพายุกำลังเข้า เราต้องเข้าฝั่งที่ใกล้ที่สุดก่อนไม่งั้นได้ตายคู่แน่”

            ร่างสูงตวาดใส่ก่อนจะเดินไปที่หัวเรือแล้วขับฝ่าคลื่นออกไปทันที

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


////////////////////////////////////////////////////
ขอบคุณที่ชอบกันนะครับ เห็นทุกคอมเม้นท์แล้วมีความสุขมากๆเลยครับ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.11-ฮีโร่ที่ร้าย]-(12-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-02-2018 16:34:29
เคลวินเป็นไบโพลาร์555
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.11-ฮีโร่ที่ร้าย]-(12-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า ที่ 12-02-2018 17:35:36
นี่ถ้ารู้ว่าน้องท้องจะเป็นไงนะอิคุณพ่อ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.11-ฮีโร่ที่ร้าย]-(12-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 12-02-2018 17:54:35
มาต่อบ่อยๆๆๆกว่านี้ได้ไหมๆๆๆขอร้องงว
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.11-ฮีโร่ที่ร้าย]-(12-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 12-02-2018 18:03:09
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.11-ฮีโร่ที่ร้าย]-(12-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-02-2018 22:16:57
เกลียดพระเอก!
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.11-ฮีโร่ที่ร้าย]-(12-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 12-02-2018 22:30:04
ติดเกาะสิครับทีนี้
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.11-ฮีโร่ที่ร้าย]-(12-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-02-2018 23:34:43
ล่องเรือกลางทะเลและพายุ แถมต้องหลบพวกศัตรูอีก โอ้ย  ฟินจะตาย  :o8:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.11-ฮีโร่ที่ร้าย]-(12-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 13-02-2018 00:03:36
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.11-ฮีโร่ที่ร้าย]-(12-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 13-02-2018 04:45:46
อยากให้รู้ว่าน้องท้อจริงๆเลยดูซิจะทำยังไงยังจะทำร้ายน้องอยู่มั้ย
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.12-เกาะสวาท]-(15-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 15-02-2018 00:10:43
CHAPTER   12  เกาะสวาท



          “รีบลงไปก่อนกู เร็ว!”       

           เคลวินตะโกนสั่งเมื่อขับเรือฝ่าพายุมาเทียบฝั่งของเกาะร้างแห่งหนึ่ง  พร้อมกับโยนสมอเรือลงไปในน้ำเพื่อไม่ให้คลื่นซัดลอยเข้าไปในทะเลอีกครั้ง  ร่างบางได้ยินคำสั่งก็ค่อยๆกระโดดลงไปรอที่ฝั่ง  ยืนมองดูคนตัวสูงเก็บข้าวของที่มีอยู่บนเรือใส่ถุงผ้าอย่างเร่งรีบ  ในขณะที่บรรยากาศก็ครื้มฟ้าครื้มฝนดูน่ากลัวมากเหลือเกิน

            “คุณเร็วๆสิ! ฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆแล้ว” ร่างบางตะโกนเร่งเมื่อเห็นว่าฝนกำลังตั้งเค้า  ตกหนักขึ้นมาเรื่อยๆ

            “มึงจะตะโกนทำเหี้ยอะไรวะ  กูเร่งจะตายห่าอยู่ไม่เห็นเหรอเนี่ย” คนตัวสูงตะเบงเสียงกลับไป

ร่างบางหน้าเหวอทันทีที่ได้ยิน  เพราะที่ตะโกนบอกนั่นเพราะเป็นห่วงคนตัวโต  แต่เมื่อเป็นอย่างนี้ต่อไปเขาจะพยายามสงบปากสงบคำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ‘ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาปจริงๆ’ คิดแล้วก็น้อยใจอยู่ไม่น้อย

            “ตามมาสิ ยืนบื้ออยู่ได้” เคลวินตวาดใส่ร่างบางอีกครั้งเมื่อลงมาจากเรือแล้ว  พร้อมกับเดินนำหน้าเข้าไปยังเกาะ

            เกาะนี้เป็นเกาะร้างอยู่ห่างจากเกาะบลูซีพอสมควร  ถึงแม้จะเป็นเกาะไม่ใหญ่มากแต่ก็มีต้นไม้นานาชนิดเกิดขึ้นปกคลุมไปทั่วทั้งเกาะ  ทำให้พอมีที่หลบฝนสำหรับทั้งสองคน ร่างสูงส่องไฟฉายเดินนำเข้าไปในป่าแล้วสังเกตหาต้นไม้ใหญ่  พอที่จะเป็นที่กำบังจากทั้งลมและฝนได้  ขณะที่ร่างบางก็เดินตามหลังมาในระยะประชิดด้วยความตื่นกลัว  เมื่อถึงบริเวณต้นไม้ใหญ่คนตัวสูงก็หยุดแล้วมองไปรอบๆ ก่อนจะวางถุงผ้าใบใหญ่ลงที่พื้น

            “คืนนี้เราจะนอนที่นี่” คนตัวสูงหันมาเอ่ยกับร่างบาง

            “นอนได้จริงๆนะครับ ดูแล้วมันน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้” ฟังจากน้ำเสียงคนตัวสูงก็รู้ทันที  ว่าร่างบางนั้นกำลังรู้สึกกลัวมากเพียงใด

            “หรือมึงจะไปนอนริมหาดให้พายุซัดมึงลงไปตายในน้ำ” ร่างสูงว่าให้

            “ผมก็แค่ถามทำไมต้องพูดประชดกันด้วย” ร่างบางทำหน้าบึ้งตึงใส่ราวกับงอนคนตัวโตซะเหลือเกิน

            “อย่าทำหน้าอย่างนั้น...คนอย่างกูไม่มีทางง้อมึงหรอก”

            “ผมก็ไม่ได้หวังให้คุณง้อผมหรอก มันน่าขยะแขยงจะตาย” ว่าแล้วร่างบางก็สะบัดหน้าหนี  พร้อมกับนั่งลงที่พื้นกอดเข่าตากฝนอยู่อย่างนั้น

            “ขยะแขยงก็อย่ามาเข้าใกล้กูละกัน มึงอย่าลืมนะว่าเราอยู่บนเกาะนี้แค่สองคน ดีไม่ดีกูอาจจะปล่อยมึงไว้ที่นี่คนเดียวก็ได้” ร่างบางได้ยินก็นั่งนิ่งไม่ได้สนใจคำพูดของคนตัวสูงเลยแม้แต่น้อย

            เปรี้ยง!

            “อ๊ากกก!!!”

            ร่างบางร้องลั่นแล้วรีบลุกขึ้นไปกอดคนตัวโตทันทีที่ได้ยินเสียงฟ้าผ่า

            นภัทรหลับตาปี๋กอดคนตัวสูงเอาไว้แน่น   ส่วนเคลวินก็เลิกคิ้วแล้วยกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ  เห็นไหมล่ะพูดยังไม่ทันขาดคำร่างบางก็วิ่งแจ้นมากอดเขาซะแล้ว  เขารู้สึกหมั่นไส้คนปากเก่งซะเต็มประดา

            “ไหนบอกว่าขยะแขยงกูไง?” เมื่อไม่มีทีท่าว่าร่างบางจะคลายอ้อมกอด  คนตัวสูงก็เอ่ยแซวขึ้นมาทันที

            “กะ...ก็คนมันกลัวนี่นา ขอโทษละกันถ้ามันทำให้คุณอึดอัด” ร่างบางทำหน้าไม่ถูกพร้อมกับคลายอ้อมกอดทันทีเมื่อได้สติ

            “กูก็ไม่ได้ว่าอะไร มึงจะกอดกูทั้งคืนกูก็ไม่ว่า” คนตัวสูงยักคิ้วให้

            “ไม่มีทาง” ร่างบางเห็นแล้วก็หมั่นไส้ก่อนจะนั่งลงที่พื้นเหมือนเดิม

            คนตัวสูงเห็นอย่างนั้นก็ส่ายหน้าเบาๆให้กับคนอวดดี ก่อนจะหยิบของในถุงผ้าใบใหญ่ที่ขนมาจากเรือออกมา  โชคดีที่ในนั้นมีแต่ของจำเป็นไม่ว่าจะเป็น มีดอีโต้ ไฟแช็ค และยังมีผ้าใบผืนขนาดกลางๆที่พอจะทำเป็นหลังคาหลบฝนได้

            “มึงอยู่นี่ก่อนเดี๋ยวกูจะไปตัดไม้มาทำที่หลบฝน” คนตัวสูงบอก  ก่

            เมื่อร่างบางได้ยินหันขวับมามองแล้วลุกขึ้นยืนทันที

            “ผมไปด้วย”

            “อยู่ที่นี่ล่ะไปด้วยก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรือมึงกลัว”

            “ปะ...เปล่าไม่ได้กลัวสักหน่อย” ร่างบางพยายามแสดงออกว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกเหมือนที่คนตัวสูงกล่าวหา

            “ถ้าไม่กลัวก็รออยู่นี่ไปก็เกะกะกูเฉยๆ” ว่าแล้วคนตัวสูงก็หยิบมีดอีโต้ขึ้นมาแล้วเดินออกไป

            “คุณ” ร่างบางเห็นอย่างนั้นก็รีบตะโกนตามหลังไปทันที เมื่อได้ยินเสียงคนตัวสูงก็หันขวับมามองทันที

            “มึงมีอะไรอีกวะ วุ่นวายจัง” คนตัวสูงทำหน้าดุใส่

            “รีบกลับมานะ” ถึงแม้จะกลัวเสียหน้ามากเพียงใด แต่ร่างบางก็จำเป็นต้องเอ่ยออกไปเพราะตอนนี้  ความกลัวมันขึ้นสมองจนห้ามปากตัวเองไม่ได้แล้ว

            “เออ..มึงก็ระวังตัวด้วยล่ะสัตว์ป่าที่นี่แม่งยิ่งดุๆอยู่ด้วย” ร่างสูงบอกหน้านิ่งก่อนจะหันกลับไปยิ้ม  ได้แกล้งร่างบางมันก็สนุกดีไม่น้อยเลยทีเดียว

            หลังจากคนตัวสูงเดินหายวับเข้าไปในป่า  ร่างบางก็นั่งกอดเข่าอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่  ที่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมในรัศมีที่พอจะเป็นที่กำบังเม็ดฝน  ที่กำลังโปรยปรายลงมาได้พอสมควร  แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีน้ำหยดลงมาจนทำให้ร่างบางตัวเปียกปอนได้เหมือนเดิม

            ท่ามกลางป่าทึบ  ฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย  บวกกับเสียงฟ้าร้องเป็นระยะๆพอให้หัวใจได้ตื่นกลัว ร่างบางเริ่มอยู่ไม่สุขได้แต่มองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง  เขากลัวเหลือเกินว่าจะมีตัวอะไรโผล่เข้ามาทำร้ายจนตั้งตัวไม่ทัน

            เมื่ออากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ร่างบางที่มีเพียงเสื้อยืดบางๆปกคลุมร่างกาย  ก็เริ่มสั่นเทาด้วยความหนาวเหน็บ  พลางคิดในใจว่าเมื่อไหร่คนตัวสูงจะกลับมาสักที  เพราะตอนนี้เคลวินหายเข้าไปในป่านานหลายนาทีแล้ว

            “เมื่อไหร่จะรีบกลับมาเนี่ย คนยิ่งกลัวๆอยู่ด้วย”  ร่างบางบ่นออกมา  ในขณะที่คางก็เริ่มสั่นจนฟันกระทบกันรัวๆ

            เปรี้ยง! เปรี้ยง!

            เสียงฟ้าร้องถี่รัวยิ่งทำให้ความกลัวเพิ่มมากขึ้นไปอีก  เสียงแปลกๆดังขึ้นรอบๆบริเวณนั้น  ทำให้ร่างบางต้องหันไปมองอยู่บ่อยครั้ง ถ้านานกว่านี้มีหวังเขาได้เป็นบ้าตายอยู่ตรงนี้แน่ๆ

            แคร่ก! สวบ!

            เสียงดังมาจากด้านหลังทำให้ร่างบางรีบหันขวับไปมองทันที  แต่ก็ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ

            “คุณ! ใช่คุณรึเปล่า?”

            “........”

            เมื่อไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ร่างบางก็หันกลับคืนมาแล้วก็นั่งชันเข่าก้มหน้า  ไม่รับรู้อะไรแล้วทั้งนั้น

            “ไม่กลัว  ไม่กลัว  ไม่กลัว มันไม่มีอะไรทั้งนั้น” ร่างบางได้แต่เปล่งเสียงออกมาไม่ขาดสายเพื่อข่มความกลัวเอาไว้

            “อ๊ากกกกก!!!!!” เหมือนสิ่งที่ทำอยู่นั้นมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย  ร่างบางปรี๊ดแตกเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรมาสะกิดที่ไหล่ของตัวเอง “คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกด้วย ลูกกลัวเหลือเกิน ฮือๆๆ” ร่างบางยกมือขึ้นไหว้ปรกๆ

            “ฮ่าๆๆๆ ตลกฉิบหาย” เป็นเคลวินนั่นเองที่แอบย่องเข้ามาอย่างเงียบๆ แล้วสะกิดที่ไหล่ของร่างบาง  เขาเห็นอย่างนั้นก็หัวเราะเสียงดังอย่างสะใจซะเหลือเกิน

            “คุณ! นี่คุณแกล้งผมเหรอ” ร่างบางลุกขึ้นยืนกร่างใส่ทันที  ที่เห็นคนตัวสูงกำลังยืนหัวเราะอยู่

            “ใคร...ใครแกล้งมึง กูก็มาของกูดีๆมึงนั่นล่ะเสือกโวยวายไปเอง” ร่างสูงยักไหล่ไม่ยอมรับข้อกล่าวหา

            “ก็คุณเข้ามาเงียบๆจงใจให้ผมตกใจกลัว ถ้าอย่างนี้ไม่เรียกว่าแกล้งจะเรียกว่าอะไรล่ะ” ร่างบางตวาดแหวใส่

            “ก็ไม่รู้สิ” ร่างสูงเบ้ปาก

            “คุณนี่มัน”

            “อะไร...มึงจะทำอะไรกู เห็นกูอารมณ์ดีหน่อยจะเล่นหัวกูเลยเหรอ” ร่างสูงว่าให้เมื่อเห็นร่างบางกำลังจะยกกำปั้นน้อยๆขึ้นใส่

            ด้วยความโมโหทำให้ร่างบางลืมตัว  ก่อนจะค่อยๆลดมือลง

            “ผมไม่กล้าทำอะไรคุณหรอก” ร่างบางเอ่ย

            “รู้ตัวก็ดี คราวหลังอย่ามากร่างใส่กู” คนตัวสูงพูดเสียงเข้ม “มาทำตัวให้เป็นประโยชน์หน่อย ช่วยกูจับทีดิ๊” เคลวินเอ่ยขณะถือท่อนไม้ที่ตัดมาได้  เตรียมมัดใส่กับผ้าใบเพื่อทำหลังคากันฝน

            “ผมไม่เคยทำอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย ดูท่าคุณจะถนัดเรื่องแบบนี้นะ เรื่องใช้แรงงาน” ร่างบางเอ่ยขณะช่วยถือไม้

            “ใช่สินะ มึงเป็นลูกคุณหนู พ่อแม่มึงคงไม่เคยให้ทำงานหนัก มึงต้องขอบคุณที่กูจับตัวมึงมา จะได้ไม่ต้องเป็นคุณหนูตีนแดงเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ” คนตัวสูงเอ่ยพร้อมกับหยิบเชือกมามัดผ้าใบ

            “ไม่พูดแดกดันผมสักวันจะได้ไหม”

            “มันน่าไหมล่ะ...ก็มึงชอบกวนตีนกู”

            “ผมมะ(ไม่ได้กวนตีนซะหน่อย)....” ร่างบางกำลังจะอ้าปากเอ่ยตอบโต้  แต่โดนคนตัวสูงดักทางไว้ก่อน

            “หุบปาก! แล้วจับอย่างเดียว” คนตัวสูงยื่นคำขาด ก่อนที่ร่างบางจะเงียบแล้วเม้มปากเอาไว้แน่น

            ทั้งสองคนช่วยกันทำหลังคาบังฝนอยู่นานจนเสร็จเรียบร้อย

            “ตอนนี้ถึงหน้าที่มึงแล้ว” คนตัวสูงเอ่ย

            “หน้าที่ผม” ร่างบางชี้มาที่ตัวเอง

            “ใช่...หน้าที่มึงไปหาใบไม้มารองนั่งไง หรือมึงจะนอนบนพื้นดินอย่างนี้”

            “แล้วให้ไปเอาที่ไหนล่ะ” ร่างบางเอ่ยถาม  จริงๆแล้วเขาไม่ได้โง่ถึงขนาดนั้น  แต่เพราะความกลัวอยากให้คนตัวสูงไปด้วยจึงต้องเอ่ยออกไป

            “โธ่โว้ย!” คนตัวสูงตะโกนเสียงดังอย่างเหลืออด  กับความซื่อบื้อของคนที่อยู่ตรงหน้า “นี่มึงโง่จริงๆหรือแกล้งโง่กันแน่ มึงไม่มีตารึไงมองไปรอบๆซิ นั่นอะไร ต้นไม้ ใบไม้ เห็นไหม!” ร่างสูงเอื้อมมือไปจับที่หลังคอของร่างบางให้หันไปมองตามที่เขาชี้

            “คุณก็ไปด้วยสิ มันจะได้เสร็จเร็วๆไง” ร่างบางเอ่ยเสียงเบา

            “สรุปกลัวว่างั้น” ร่างสูงมองหน้าเพื่อรอให้อีกฝ่ายตอบคำถาม “ถ้ามึงบอกว่ากลัวกูจะไปด้วย” ยังไงซะเขาก็ต้องเอาชนะร่างบางให้ได้

            “ชะ...ใช่ผมกลัว แล้วจะไปได้ยังล่ะ” ร่างบางก้มหน้าตอบ

            “ก็แค่นั้น...ตามกูมา” คนตัวโตพูดแล้วก็เดินนำหน้าไป  ร่างบางยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะเดินตามไป ถึงแม้ครั้งนี้จะแพ้แต่ก็เต็มไปด้วยความสะใจ

            เมื่อเก็บใบไม้มาปูจนเต็มพื้นที่เรียบร้อยแล้ว  คนตัวสูงก็เดินไปเก็บฟืนมาเพื่อใช้ก่อไฟ  ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะเปียกเนื่องจากฝนตก  แต่เขาก็พอจะมีวิธีที่สามารถทำให้มันติดไฟได้

            “ฟืนเปียกอย่างนี้มันจะติดไฟได้เหรอคุณ” ร่างบางเอ่ยถามอย่างสงสัย

            “สมองปลาอย่างมึงมันจะไปรู้อะไร นั่งหุบปากอยู่เฉยๆเถอะ ก่อนที่กูจะอารมณ์เสียเพราะมึงไปมากกว่านี้” เสียงเข้มตวาดใส่

            “ทำไมต้องตวาดใส่ขนาดนี้ด้วยล่ะ” ร่างบางพูดเสียงอ่อย  คนตัวโตถอนหายใจเสียงดังเมื่อเห็นท่าทีของร่างบาง

            “เออๆ อ่อนแอ บอบบางซะเหลือเกิน มึงนั่งผ่าฝืนอยู่ตรงนี้ก่อนละกัน ผ่าให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ เดี๋ยวกูไปที่เรือแป๊บนึง”

            “คุณจะให้ผมอยู่ที่นี่คนเดียวอีกเหรอ” ร่างบางมีสีหน้ากังวล

            “เออ อยู่ไม่ได้ก็ต้องอยู่ แล้วก็ไม่ต้องตามกูมานะ” คนตัวสูงชี้หน้าก่อนจะเดินไปเอาน้ำมันที่เรือ  เพื่อนำมาเป็นเชื้อเพลิงให้ก่อไฟได้ง่ายขึ้น  ส่วนร่างบางก็นั่งลงที่เดิมอย่างระแวดระวัง  พร้อมกับใช้มีดอีโต้ผ่าฝืนตามคำสั่งของคนตัวสูง

            หลังจากทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็นั่งเพิ่มอุณหภูมิให้กับร่างกาย  โดยการนั่งข้างๆกองไฟที่กำลังลุกโชน  ตอนนี้คนตัวสูงเอาสูทที่ใส่มาด้วยผึ่งไฟให้แห้ง พร้อมๆกับการเผลอปรายตามองร่างบางไปด้วย ตอนที่ร่างบางไม่ดื้อ ไม่เถียงเขา มันก็น่าทะนุถนอมอยู่เหมือนกันนะเขาคิดในใจ  ก่อนจะยิ้มน้อยๆออกมาอย่างลืมตัว

            ตอนนี้ฝนเริ่มซาลงเรื่อยๆ มีเพียงเสียงคำรามของท้องฟ้าดังมาเป็นระยะๆ ยังไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากของทั้งสองฝ่าย เงียบอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะจะได้ไม่โดนคนตัวสูงว่าให้นภัทรนั่งคิดในใจ  แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ร่างบางนึกอยากรู้เรื่องราวของคนตัวสูงก่อนที่จะมาเป็นเคลวินในตอนนี้

            “คุณเคลวินครับ”

            ร่างสูงหลุดจากภวังค์ทันทีที่ได้ยินเสียงนั่น  ก่อนจะทำหน้าเหรอหราแล้วทำทีมองไปที่กองไฟแล้วหันไปหาร่างบางอีกครั้ง

            “มีอะไร!” เขาเอ่ยเสียงเข้ม

            “หลังจากหนีออกมาจากบ้านแล้วชีวิตคุณเป็นยังไงบ้าง แล้วทำไมถึงได้มาเป็นคุณเคลวินอย่างทุกวันนี้ พอจะเล่าให้ผมฟังได้ไหม” ร่างบางมองคนตัวสูงด้วยแววตาที่ดูจริงใจ ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงอยู่ในนั้น

            “นี่มึงคิดว่ากูจะบอกมึงเหรอ” เขาตอบกลับ

            “รู้ไหมตอนนั้นผมร้องไห้เป็นเดือนกว่าจะทำใจได้  ไม่ใช่คุณคนเดียวที่เจ็บปวดแต่ผมเองก็เจ็บไม่น้อยไปกว่าคุณเช่นกัน ที่อยู่ๆคนที่ผมรักเหมือนพี่ชายแท้ๆหายตัวไป” ร่างบางระบายความรู้สึกทั้งหมดที่เก็บไว้มาตลอดให้อีกฝ่ายรับรู้

            ร่างสูงได้ยินหัวใจก็อ่อนวูบลงทันที  เขาไม่เคยนึกถึงจิตใจของร่างบางเลยแม้แต่น้อย  เพราะมัวคิดถึงแต่เรื่องการแก้แค้น  จะเอายังไงดีกับหัวใจนะเขาเองก็สับสนอยู่ไม่ใช่น้อย  ยิ่งได้เห็นใบหน้าที่ใสซื่อไม่ได้มีพิษสงใดๆ  ทำให้ความรู้สึกผิดมันเกิดขึ้นในใจเขาเป็นระยะๆ

            “ไม่ต้องมาพูดให้ดูน่าสงสารอย่างนั้นหรอก  กูไม่มีทางหลงกลมึงแน่” ปากกับหัวใจมันก็ยังไม่ตรงกันอยู่ดี

            “ผมไม่ได้อยากให้คุณเห็นใจหรือสงสารอะไรทั้งนั้น ผมแค่อยากรู้เพราะอย่างน้อยมันจะช่วยคลายปมในใจที่มีมานานของผมได้”

            “ได้กูจะเล่า...ถือซะว่าเป็นการทำทานให้มึงละกัน” ร่างสูงตอบก่อนจะหันหน้าไปกลับไปที่กองไฟอีกครั้ง “หลังจากที่กูหนีออกจากบ้าน กูไม่รู้หรอกว่าจะไปที่ไหน กูคิดแค่ว่าอยากไปให้พ้นๆบ้านหลังนั้น เพราะกลัวว่าพ่อของมึงจะฆ่ากูอีกคน  คนอย่างมึงคงไม่รู้หรอกว่าการนอนข้างถนนโดยไม่มีเตียงนุ่มๆเหมือนแต่ก่อน  การไปนั่งขอทานเพื่อเอาเศษเงินเล็กน้อยมาประทังชีวิตไปวันๆ  การคุ้ยอาหารตามถังขยะมากินนั้นมันเป็นยังไง กูอยู่อย่างนั้นเป็นเดือน จนวันนึงขณะที่กูนั่งขอทานอยู่มีโจรวิ่งราวกระเป๋าเจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า   กูก็เลยเข้าไปช่วยจับโจรไว้ได้แล้วเอากระเป๋ามาคืนให้  เค้าสงสารเห็นกูเป็นเด็กเร่ร่อนเลยพาไปอยู่ที่นั่นด้วย   หลังจากนั้นไม่นานกูก็โชคดีที่พ่อแม่ชาวอเมริกันมาอุปการะรับเป็นลูกบุญธรรม  เขาพากูไปเลี้ยงดูอย่างดีและเรียนในมหาวิทยาลัยดังที่อเมริกา  และที่โชคดียิ่งกว่านั้นที่พ่อกับแม่บุญธรรมกูรวยมาก ไม่งั้นกูคงไม่ได้เป็นเคลวินอย่างทุกวันนี้หรอก” ร่างสูงพูดจบก็หันไปมองร่างบาง  ที่ตอนนี้น้ำตานองหน้าจ้องมองมาที่เขาอยู่

            เมื่อได้ฟังเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมาของเคลวิน  นภัทรก็ปล่อยโฮออกมาทันที  เขารู้สึกสงสารและเห็นใจคนตัวโตที่ต้องเผชิญความลำบากเพียงลำพัง  เป็นเพราะพ่อของเขาคนเดียวแท้ๆที่ทำให้เรื่องราวมันบานปลายอย่างนี้  แต่ถึงยังไงก็ตามพ่อก็ยังเป็นพ่อ เขาไม่สามารถเกลียดได้ลงคอ  ส่วนคนตัวโตถึงแม้จะเคยทำร้ายเขาต่างๆนาๆ  เมื่อได้ยินอย่างนี้ความโกรธในใจที่มีอยู่มันก็หายไปในพริบตา  เขาต้องชดใช้ให้เคลวินให้ถึงที่สุดจนกว่าเขาจะพอใจ  เขาเต็มใจที่จะทำมัน

            “ซึ้งขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงขนาดกับร้องไห้” เคลวินยกยิ้มเพราะคิดว่าร่างบางคงรู้สึกสมเพชตัวเอง

            “...........”

            ร่างบางไม่ตอบแต่ยังคงจ้องหน้าคนตัวโต ก่อนจะโผเข้าไปสวมกอดทันที  ถึงแม้อ้อมกอดนี้จะไม่สามารถทดแทนความสูญเสียในอดีตของคนตัวโตได้ แต่เขาก็อยากจะมอบมันให้ ตอนนั้นคนตัวโตคงจะเหงามากเหลือเกินที่เสียทั้งพ่อและแม่ แถมยังต้องหนีออกจากบ้านที่เติบโตมา ร่างบางเอาแต่ร้องไห้และกอดคนตัวโตอยู่อย่างนั้นไม่มีทีท่าว่าจะคลายอ้อมกอดไปง่ายๆ

            “ขอโทษนะครับ…’พี่วิน’”

            เคลวินอึ้งกับการกระทำของร่างบาง  มือทั้งสองข้างปล่อยลงข้างลำตัวตามแรงโน้มถ่วงของโลก  ทำไมใจของเขามันต้องเต้นแรงอย่างนี้ด้วย ทำไมอ้อมกอดนี้มันช่างอบอุ่นมากเหลือเกิน  ราวกับว่าความสุขในช่วงวัยเด็กมันกลับคืนมา  ในใจตอนนี้มันเรียกร้องให้เขาตอบสนองสิ่งที่ร่างบางกำลังทำ  มือหนาทั้งสองข้างค่อยๆยกขึ้นมาโอบที่แผ่นหลังอย่างช้าๆ  แล้วค่อยๆกดแรงลงไปเรื่อยๆจนร่างทั้งสองแนบชิด  เคลวินหลับตาพริ้มราวกับว่าโหยหาอ้อมกอดนี้มาแสนนาน ทั้งสองกอดกันอย่างนั้นอยู่นานก่อนที่คนตัวโตจะคลายอ้อมกอด  แล้วผลักร่างบางให้นอนราบลงที่พื้นแล้วตรึงมือทั้งสองข้างเอาไว้

            “มึ่งยั่วกูเองนะ...น้องภัทร”

            คนตัวสูงจ้องตาเป็นประกาย มือหนาที่ตรึงมือร่างบางเอาไว้เปลี่ยนมาสัมผัสที่แก้มขาวนวลอย่างเบามือ  หลังจากนั้นก็โน้มใบหน้าลงมาประกบจูบอย่างอ่อนโยน  เขามอบความสุขให้กับร่างบางข้างๆกองไฟที่กำลังลุกโชน  แต่ความร้อนของเปลวไฟก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้  เท่ากับไฟรักที่อยู่ในทรวงของทั้งสองคนในตอนนี้

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*




////////////////////////////////////////////////
เกลียดคนที่ปากกับใจไม่ตรงกันจริงๆเลย
ขอบคุณที่ติดตามนะคร้าบบบ ช่วยคอมเม้นท์กันด้วยนะคร้าบบ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.12-เกาะสวาท]-(15-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 15-02-2018 00:28:08
สับสนเข้าไปค่ะๆๆๆๆๆ เดี๋ยวก็แพ้ภัยตัวเอง ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.12-เกาะสวาท]-(15-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-02-2018 00:56:55
ชีวิตของพี่วินรันทดเหลือคณานับ ความแค้นก็ใหญ่หลวงนัก และเป็นความซวยของอีน้องเต็ม ๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.12-เกาะสวาท]-(15-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 15-02-2018 01:09:17
จะคอยดูนะจ๊ะเคลวิน หึๆๆ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.12-เกาะสวาท]-(15-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 15-02-2018 04:27:36
จะคอยดูเควินจะทำยังไงต่อไป
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.12-เกาะสวาท]-(15-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 15-02-2018 08:14:18
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.12-เกาะสวาท]-(15-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-02-2018 08:43:45
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.12-เกาะสวาท]-(15-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 15-02-2018 23:37:26
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.12-เกาะสวาท]-(15-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-02-2018 00:18:10
จะรออ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.12-เกาะสวาท]-(15-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 16-02-2018 03:17:28
"ไฟรักที่อยูาในทรวง"  อหหหหรักกันแล้วอ่ออออออ
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 16-02-2018 21:18:15
CHAPTER  13  เจอตัว



          แสงแดดอ่อนๆลอดผ่านแมกไม้ในยามเช้า  ลงมาตกกระทบบนสองเรือนกายที่กำลังนอนหลับใหล  กอดก่ายกันโดยไม่มีทีท่าว่าจะยอมตื่นแม้แต่น้อย  ความอ่อนล้าทำให้ทั้งสองร่างยังคงนอนหลับนิ่ง  กองไฟที่เคยลุกโชนในค่ำคืนที่ผ่านมา  กลับมอดไหม้เหลือเพียงเถ้าถ่านที่เย็นเฉียบ  แต่เมื่อเจ้านกน้อยทั้งหลายพร้อมใจกันส่งเสียงร้องดังเจื้อยแจ้วก็ทำให้ร่างบางเริ่มขยับตัว  เปลือกตาค่อยๆคลี่ขึ้นอย่างช้าๆ  แสงแดดจ้าทำให้ต้องหรี่ตาลงแต่เมื่อปรับสภาพได้ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นอีกครั้ง  ร่างบางพยายามขยับกายแต่รู้สึกหน่วงๆเหมือนมีอะไรมารั้งตัวไว้  เมื่อหันไปมองก็เป็นคนตัวสูงนั่นเองที่กำลังนอนกอดเขาเอาไว้จากด้านหลัง  ก่อนจะค่อยๆแกะมือออกแล้วทำท่าจะลุกขึ้น

            “นอนต่อห้ามลุก” เสียงเข้มเอ่ยพร้อมกับรั้งตัวร่างบางมานอนกอดไว้ดังเดิม

            “มันเช้าแล้ว...ผมว่าเรารีบกลับไปที่เกาะกันเถอะ” ร่างบางเอ่ยกับคนตัวสูง

            “เกาะมันไม่หนีไปไหนหรอกน่า กูยังไม่อยากลุก” ว่าแล้วก็กระชับอ้อมกอดอีกครั้ง ก่อนจะกดจมูกลงที่พวงแก้มขาว  แล้วสูดเอาออกซิเจนเข้าปอดฟอดใหญ่

            ร่างบางได้แต่นิ่งไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป แต่หน้ากลับเปลี่ยนสีขึ้นมาทันที ทำไมต้องทำแบบนี้ให้หัวใจของเขาสั่นไหวด้วยนะ ร่างบางไม่เข้าใจเลยจริงๆ

            นอนอยู่อย่างนั้นได้สักพัก เมื่อคนตัวสูงพอใจแล้วก็ปล่อยให้ร่างบางเป็นอิสระ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วบิดขี้เกียจไปมา

            “ลุกขึ้นดิไม่กลับเหรอ” ร่างสูงเอ่ย เขาจงใจแกล้งคนที่นอนนิ่งอยู่ นภัทรค่อยๆลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองค้อนใส่  เขาขี้เกียจปรับตัวให้เข้ากับอารมณ์ของคนที่อยู่ตรงหน้านี้เหลือเกิน

            ขณะกำลังเก็บของอยู่นั้นร่างบางก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมา  ก่อนจะรีบวิ่งไปขย้อนเจ้าของเหลวในท้องออกมา

            “อ้วกกก!!!”

            เมื่อร่างสูงเห็นก็ตกใจแล้วรีบกระโจนเข้าไปหา  แต่ก็ต้องดึงตัวเองกลับมาก่อนที่จะถึงตัวร่างบาง

            “ตกลงมึงเป็นอะไรกันแน่” เขาจ้องมองร่างบางอย่างไม่วางตา

            ร่างบางได้ยินก็กรอกลูกตาไปมาด้วยความลุกลี้ลุกลน

            “ผะ...ผมไม่เป็นไรครับ  หมอบอกมันเป็นแค่อาการของคนเครียดจัด” ร่างบางอ้างออกไป

            “แน่นะ” เหมือนคนตัวสูงไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน

            “คุณไม่เชื่อแล้วจะถามทำไมล่ะ”

            “กูก็ถามไปงั้นล่ะ ยังทรมานมึงไม่สะใจเลยกลัวว่ามึงจะตายเอาซะก่อน” เสียงเข้มเอ่ยอย่างไม่รักษาน้ำใจร่างบางเลยแม้แต่น้อย

            “คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมยังไม่ตายง่ายๆ ยังอยู่ให้คุณทรมานได้อีกนาน” ร่างบางเอ่ยแค่นั้น  แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาเก็บของ  เดินรุดหน้าไปที่เรือทันที

            “ทำเป็นงอน คนอย่างกูไม่มีทางง้อมึงหรอก” คนตัวสูงเอ่ยก่อนจะแบกถุงผ้าเดินตามไป

            หลังจากพายุสงบลงตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนี้ท้องฟ้าในยามเช้าก็ปลอดโปร่งเหมือนในทุกๆวัน โชคดีที่เรือยังคงจอดอยู่ที่เดิมไม่ได้ถูกพายุซัดหลุดลอยไป  ร่างบางขึ้นไปนั่งบนเรือรอคนตัวสูง  ไม่พูดไม่จาเลยแม้แต่คำเดียว

            ตุบ!

            ร่างบางสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงดัง  จากการที่คนตัวสูงโยนถุงผ้าใบใหญ่ขึ้นมาบนเรือ  ก่อนจะมองแรงใส่ตัวต้นเหตุที่กำลังปีนป่ายขึ้นมาบนเรือ ช่วงหลังๆไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกหงุดหงิดตลอดเวลาที่เห็นหน้าคนตัวโต

            “มึงจะฆ่ากูรึไงถึงได้มองอย่างนั้น” คนตัวสูงตะโกนลั่น

            “ผมไม่บังอาจหรอก”

            “เดี๋ยวนี้ชอบต่อปากต่อคำกับกูจังนะ หรือกูใจดีไปมึงถึงได้กล้าอย่างนี้” เมื่อขึ้นมาบนเรือแล้วเขาก็ยืนเท้าสะเอวจ้องหน้าร่างบาง

            “ต่อไปนี้ผมจะไม่พูดกับคุณแม้แต่คำเดียว เอาเป็นว่าถ้าคุณถามผมถึงจะตอบจะได้ถูกใจคุณ” ร่างบางบอกก่อนจะนั่งพิงหลังกับเรือแล้วหลับตาลง

            “ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน”

            “.........”

            ร่างบางไม่ตอบยังคงนั่งหลับตานิ่งอยู่อย่างนั้น

            ส่วนคนตัวสูงก็เข้าไปนั่งที่หัวเรือแล้วสตาร์ทเครื่องขับออกไปทันที

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            เมื่อเรือเทียบท่าที่เกาะบลูซีแล้วคนตัวสูงก็ดับเครื่องลง  ก่อนจะหันไปมองร่างบางที่กำลังนอนหลับนิ่งอยู่  ที่ท่าเรือมีลูกน้องหลายคนกำลังยืนรอรับอย่างใจจดใจจ่อ  รวมถึงพงษ์และกันต์เมื่อเห็นเคลวินก็ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ

            เคลวินหันไปโบกไม้โบกมือให้ทุกคน ก่อนจะหันมามองร่างบางอีกครั้งแล้วใช้เท้าเตะเบาๆที่ขาเพื่อปลุก

            “มึงถึงแล้ว ตื่นๆ”  ร่างบางไม่มีทีท่าว่าจะตื่น  เห็นอย่างนั้นเขาก็นั่งลงแล้วเขย่าตัวแรงขึ้น  ร่างบางยังคงนอนนิ่งก่อนจะล้มตัวลงบนพื้นเรือ “เฮ๊ย! มึงเป็นอะไรวะ” ร่างสูงเอ่ยด้วยความตกใจก่อนจะใช้หลังมือสัมผัสที่บริเวณหน้าผากปรากฏว่าร่างบางตัวร้อนผิดปกติ  จึงตัดสินใจอุ้มลงจากเรือแล้วเดินเข้าไปหาทุกคน

            “น้องภัทรเป็นอะไรวะ” พงษ์ถามเมื่อเห็นเพื่อนอุ้มร่างบางลงมา

            “สงสัยจะเป็นไข้ ตัวร้อนจี๋เลยรถมึงอยู่ไหน” ร่างสูงเอ่ยถามอย่างรนลาน

            “ตามกูมา” ว่าแล้วพงษ์ก็เดินนำหน้าไป ส่วนกันต์ก็เดินไปพร้อมกับเคลวิน

            กันต์เห็นนภัทรครั้งแรกก็รู้สึกตกใจมาก  ไม่นึกเลยว่าแท้ที่จริงแล้วนภัทรอยู่ใกล้ๆเขานี่เอง  กันต์ยังคงทำตัวเป็นปกติราวกับไม่เคยรู้จักกับนภัทรมาก่อน  เขารอให้นภัทรฟื้นขึ้นมาจากไข้ซะก่อนถึงจะเข้าไปแสดงตัว  และมีความมั่นใจแล้วว่าคนที่ลักพาตัวนภัทรมาคือเคลวิน  นั่นทำให้เขาหนักใจไม่น้อยว่าการจะพาตัวนภัทรออกไปจากที่นี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

            “นี่คุณจะตามมาทำไม” พงษ์ถามเมื่อกันต์ขึ้นรถมานั่งอยู่ข้างๆ  หลังจากช่วยเปิดประตูรถให้เคลวินพาร่างบางไปนั่งที่เบาะหลังเรียบร้อยแล้ว

            “ก็ผมจะไปช่วยคุณไง รีบขับไปดิ๊” กันต์ว่า พงษ์กำลังจะอ้าปากตอบโต้แต่โดนเพื่อนพูดตัดบทไว้ก่อน

            “มึงรีบขับไปเลยอย่ามาเยอะตอนนี้” เคลวินตะโกนสั่งเพื่อน กันต์ทำหน้าทะเล้นใส่คนขับทันทีที่ได้ยิน พงษ์มองค้อนใส่คนที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างขัดใจแล้วรีบขับรถออกไปทันที

            เมื่อถึงศูนย์การแพทย์แล้วเจ้าหน้าที่ก็รีบนำร่างบางขึ้นรถเข็นเข้าไปด้านในทันที  พงษ์รีบเดินตามไปช่วยตรวจอาการและดูแลอย่างใกล้ชิด  จนตอนนี้ร่างบางเริ่มมีอาการดีขึ้น และอยู่ในห้องพิเศษของทางศูนย์การแพทย์เรียบร้อยแล้ว

            “ตกลงใครเป็นคนจับตัวน้องภัทรไป” พงษ์เอ่ยถามขณะนั่งอยู่ในห้อง

            “ลูกน้องไอ้อิทธิ”

            “แล้วทำไมมันต้องมาจับต้องน้องภัทรไปล่ะแทนที่ละเล่นงานมึง” พงษ์เอ่ยอย่างสงสัย

            “กูก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นไอ้นี่” เขาว่าพลางมองไปที่ร่างบาง “แต่กูเดาว่ามันต้องมาสังเกตการณ์ก่อนหน้านี้แล้ว  และคิดว่านภัทรคือคนรักของกู”

            “จะเป็นครั้งก่อนรึเปล่าที่มึงพาน้องภัทรมาหากูที่นี่”

            “อาจจะเป็นไปได้ เพราะถ้าเป็นในบ้านกูมันคงไม่มีทางเข้าไปได้แน่นอน”

            “ถ้างั้นเราต้องระวังตัวมากขึ้น แล้วตอนไปติดเกาะด้วยกันน้องภัทรได้บอกอะไรมึงไหม” พงษ์มองหน้าเพื่อนลุ้นรอฟังคำตอบ

            “เปล่านี่...ทำไมเหรอ” เคลวินมองหน้าเพื่อนอย่างสงสัย “พวกมึงมีอะไรปิดบังกูอยู่รึเปล่า?”

            “เปล่าโว้ย กูก็แค่ถามไปงั้น” พงษ์เบ้ปาก

            “อย่าให้กูรู้ก็แล้วกัน..ไม่งั้นกูเอามันตายแน่” เคลวินเอ่ยเสียงเข้ม

            “ช่วงนี้มึงก็อย่ารุนแรงกับน้องมันนักเลย ถือว่ากูขอร้องเพราะร่างกายน้องไม่ค่อยจะแข็งแรง มึงก็เห็นๆอยู่” พงษ์ช่วยนภัทรได้แค่นี้จริงๆ เขารับปากแล้วว่าจะไม่บอกเรื่องนั้น

            “เออๆ กูจะพยายามละกัน”

            “อย่าลืมที่พูดล่ะ” พงษ์ชี้หน้าเพื่อน “มึงกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ ทางนี้กูจะดูแลให้เอง” พงษ์เอ่ยกับเพื่อน

            “เออ ฝากด้วยละกัน” เคลวินเอ่ยพลางมองร่างบางที่กำลังนอนนิ่งอยู่บนเตียง

            “ดูท่าทางมึงจะเป็นห่วงน้องภัทรน่าดูเลยนะเนี่ย” พงษ์แซวเพื่อน

            “บ้า! ใครห่วงมัน กูแค่กลัวว่ามันจะตายก่อนได้ทรมานมันไง”

            ว่าแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที

            พงษ์มองตามหลังเพื่อนไปก่อนจะเอ่ยเบาๆ

            “ไอ้ปากแข็งเอ้ย มองตากูก็รู้แล้วว่ามึงห่วงน้องภัทรขนาดไหน”

            พงษ์เอ่ยยิ้มๆพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ

            ในระหว่างนั้นพงษ์เองคงลืมไปแล้วว่ายังมีชายหนุ่มอีกคนอยู่ในห้องด้วย

            “คุณ!” กันต์เอ่ยทักคุณหมอหนุ่มหน้าหวาน

            “อ้าว! คุณยังอยู่นี่อีกเหรอ”

            “เฮ้อ! มัวแต่คุยกับคุณเคลวินจนลืมผมไปซะงั้น” กันต์บ่นให้ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ

            “ก็คุณมันเป็นส่วนเกินไง ผมบอกไม่ให้มาด้วยตั้งแต่แรกแล้วแต่ก็ยังเสือกมาด้วย” พงษ์ว่าให้

            “เป็นหมอประสาอะไร ปากหมาฉิบหาย” กันต์เดินเข้ามาใกล้ๆก่อนที่ทั้งสองจะยืนเผชิญหน้ากัน

            “ผมปากหมาเฉพาะกับคุณนี่ล่ะ คนอื่นๆเค้าไม่เคยมากวนตีนผมอย่างนี้” พงษ์เองก็จ้องหน้าอย่างไม่ลดละ

            “ผมชักจะอยากรู้แล้วสิว่าหมอปากหมาอย่างคุณ ปากจะหวานขนาดไหน” ว่าแล้วกันต์ก็กระชับตัวคุณหมอหน้าหวานเข้ามากอดไว้แน่น จนใบหน้าทั้งสองคนห่างกันเพียงแค่คืบ

            “คะ...คุณจะทำอะไร ปล่อยผม!” พงษ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว ก่อนจะพยายามไม่สบตาอีกคน

            “กลัวเหรอครับคุณหมอ ฮึ” กันต์ว่าพร้อมกับค่อยๆเคลื่อนใบหน้าคมเข้าไปใกล้เรื่อยๆแล้วจ้องที่ริมฝีปากบางอย่างไม่วางตา  จนคนที่กำลังอยู่ในอ้อมกอดต้องเม้มปากเอาไว้แล้วหลับตาปี๋ทันที  กันต์ยิ้มออกมาทันทีที่ได้แกล้งคุณหมอหนุ่ม ก่อนที่จะเปลี่ยนเป้าหมายจากริมฝีปากบางเป็นแก้มขาวๆแทน

            ฟอด!!!

            “อี๋ ไอ้บ้า” คุณหมอหน้าหวานด่าซึ่งๆหน้า  แต่ใบหน้ากลับเปลี่ยนสีซะอย่างนั้น

            “ถ้าคุณด่ามาอีก  ผมจะทำมากกว่านี้แน่ เอาสิ!” กันต์ขู่  เมื่อได้ยินอย่างนั้นพงษ์ก็นิ่งทันที

            “โอเคผมหยุดแล้ว ถ้างั้นก็ปล่อยผมซะที นี่มันในห้องพักคนไข้นะ”

            “แล้วไงน้องภัทรก็ยังไม่ตื่นซะหน่อย” กันต์บอกอย่างไม่แคร์

            “นี่คุณ...รู้จักน้องภัทรมาก่อนเหรอ” พงษ์เอ่ยเมื่อผิดสังเกต

            “ปะ...เปล่าซะหน่อย จำไม่ได้เหรอว่าคุณเรียกชื่อน้องภัทรตอนอยู่ที่ท่าเรือ  ซะดังขนาดนั้นใครไม่ได้ยินก็บ้าแล้ว” กันต์แก้ตัวไป

            เมื่อนึกได้คุณหมอหน้าหวานก็คลายสงสัย  ใช่จริงๆตอนนั้นเขาเรียกชื่อน้องภัทรซะเสียงดัง คนแถวนั้นต่างก็ได้ยินกันถ้วนหน้า

            “ปล่อย!” คุณหมอหน้าหวานถลึงตาใส่  ตอนนี้ก็ได้หอมแก้มพอหอมปากหอมคอแล้ว  กันต์ก็ยอมปล่อยแต่โดยดี

            ผัวะ!

            เมื่อเป็นอิสระแล้วพงษ์ก็ไม่ปล่อยโอกาสให้เสียเปล่า  เขากำหมัดแน่นแล้วซัดไปที่แก้มของชายหนุ่มทันที

            “ถือว่าหายกัน” พงษ์ยกยิ้มในขณะที่กันต์กำลังใช้นิ้วหัวแม่มือ  ปาดเลือดที่ซึมออกมาจากมุมปาก

            “หมัดหนักเหมือนกันนี่ครับคุณหมอ”

            “แน่นอน อยากลองอีกสักหมัดไหมล่ะ” พงษ์ว่าพร้อมกับชูกำปั้นขึ้นท้า

            “เอาไว้วันหลังละกันครับ ตอนนี้ผมขอยอมแพ้” กันต์ยกมือขึ้นยอมศิโรราบ

            “ยอมแพ้แล้วก็ออกไปได้ เชิญ” พงษ์ว่าพร้อมกับผายมือไปที่ประตู

            “ก่อนผมจะออกไป  ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”

            “ว่ามาถ้าผมตอบได้”

            “น้องภัทรเป็นอะไรกับคุณเคลวิน”

            กันต์มองหน้าคุณหมอหน้าหวาน  แต่เจ้าตัวกลับหลบตา

            “เอ่อ..น้องภัทรเป็นคนงานในบ้าน” พงษ์ตอบ

            “คนงานใบบ้าน? แล้วทำไมต้องมีคนลักพาตัวน้องภัทรไปด้วยล่ะครับ แสดงว่าน้องภัทรนี่จะต้องมีความสำคัญกับคุณเคลวินมากแน่ๆเลย” กันต์แสร้งพูดแต่ที่จริงแล้วเขารู้อยู่แก่ใจว่านภัทรโดนเคลวินจับตัวมา

            “คุณอย่ามาถามเซ้าซี้ มันไม่ใช่เรื่องอะไรของคุณ ออกไปซะทีสิ” พงษ์ออกปากไล่

            “คุณดูมีพิรุธเหมือนปิดบังอะไรเอาไว้” กันต์ยังพยายามเซ้าซี้ต่อ

            “คุณนี่ท่าทางจะบ้าไปแล้ว ดูหนังสืบสวนสอบสวนเยอะไปป่ะเนี่ย”

            “คุณคิดผิดแล้ว..ผมน่ะชอบดูหนังโป๊สุดๆไปเลยล่ะ เอาไว้วันหลังผมจะชวนคุณหมอไปดูด้วยกันเอามะ” กันต์ยักคิ้วพร้อมกับทำหน้าทะเล้นใส่

            “ผมเริ่มเหลืออดกับคุณแล้วนะ รีบออกไปเลยก่อนที่ผมจะเรียก รปภ.” พงษ์เสยผมพร้อมกับเอามือเท้าสะเอวไว้ด้วยความโมโห

            “ไปก็ได้ครับ เอาไว้ผมจะมาใหม่นะครับคุณหมอหน้าหวานของผม” กันต์ว่าพร้อมกับจะยื่นมือไปจับที่แก้มขาวๆของพงษ์ แต่เจ้าตัวยกหมัดขึ้นป้องกันตัวไว้

            “ลองดูสิผมได้ต่อยคุณแน่”

            กันต์ยกมือขึ้นป้องตัวเอง

            “ยอมแล้วครับๆ”

            “ยอมแล้วก็ไปซะทีสิโว้ย” พงษ์เริ่มเหลืออดมากขึ้นทุกที

            “ไปแล้วอย่าคิดถึงผมนะครับคุณหมอ” กันต์ยังเล่นไม่เลิก

            “ไม่ทีทาง” พงษ์พูดเน้นเสียง

            “ผมไปจริงๆละ ฝากดูแลน้องภัทรด้วยละกันครับ” กันต์รีบเอามือปิดปากตัวเองไว้  พงษ์มองหน้าอย่างสงสัย “ไม่ต้องมองอย่างนั้นหรอก ไม่มีอะไรผมก็แค่เป็นห่วงน้องก็เท่านั้น หรือว่าคุณหึงผม”

            “เปล่าซักหน่อย ก็คุณพูดราวกับว่าคุ้นเคยกับน้องภัทรมาก่อนซะอย่างนั้น”

            “คุณหมอนี่มโนเก่งเนาะ ผมไปล่ะ” กันต์ยิ้มพร้อมกับโบกไม้โบกมือให้ก่อนจะเดินออกจาห้องไป

            “ตัวเองทำตัวน่าสงสัยแล้วยังจะมาว่าคนอื่นชอบมโนอีก ชิ”

            พงษ์กอดอกพร้อมกับมองตามหลังคนขี้กวนไป
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            หลังออกมาจากห้องกันต์ก็เดินตรงดิ่งออกมาที่ลับตาคน ก่อนจะกดโทรฯออกหาเพื่อนสนิททันที

            “ฮัลโลไอ้ดล”

            (“ว่าไงมึง ทำเสียงซะเหมือนเจอผีมาซะอย่างนั้น”) นดลเอ่ยแซวเพื่อน

            “ยิ่งกว่าเจอผีอีกมึง โคตรของโคตรจะบังเอิญเลย” กันต์เอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

            (“มีอะไรว่ามา กูชักอยากจะรู้แล้วว่ามึงไปเจออะไรมา”)

            “วันนี้กูเจอน้องภัทรโว้ย”

            (“เฮ๊ย! จริงดิวะ มึงเจอน้องกูที่ไหน น้องกูเป็นยังไงบ้าง บอกมาเร็วๆ”) นดลเอ่ยออกมาด้วยความดีใจเมื่อได้ยิน ในที่สุดวันที่เขารอคอยก็มาถึงสักที

            “มึงใจเย็นๆก่อน เดี๋ยวกูจะโทรฯไปอีกทีตอนนี้ยังไม่สะดวกว่ะ” กันต์ว่าพลางมองซ้ายมองขวาไปด้วย  เขากลัวว่าจะมีใครได้ยินเอา  เพราะที่นี่มีแต่ลูกน้องของเคลวินทั้งนั้น

            (“เออๆ มึงรีบโทรฯมานะเว้ยกูอยากรู้จนอดใจไม่ไหวแล้วเนี่ย”)

            “เออ..แค่นี้ล่ะ”

            พูดจบกันต์ก็วางสายแล้วรีบกลับไปที่ห้องพักส่วนตัวทันที

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 16-02-2018 21:31:07
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 16-02-2018 22:01:29
ค้าง!!!!  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 16-02-2018 22:08:54
ทำไมทุกอย่างดูเร็วๆรีบๆไปหมดเลย... :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-02-2018 22:14:56
แพ้ท้องแบบนี้ ร่างกายอ่อนแอแบบนี้ จะรอดไหม
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-02-2018 00:15:17
รอๆ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-02-2018 00:24:41
จะมีใครเริ่มสงสัยในตัวกันต์บ้างหรือยังนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 17-02-2018 01:01:12
ตัดให้ขาดเลยฉับๆๆ ค้างสิคะคุณผู้เขียน
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 17-02-2018 06:41:37
เจอภัทรแล้ว
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 17-02-2018 09:29:22
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-02-2018 11:09:42
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 17-02-2018 17:27:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: สาว801 ที่ 17-02-2018 19:51:54
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 17-02-2018 20:26:12
กันต์จะช่วยพาน้องหนีออกมาได้ไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 18-02-2018 01:49:55
คนอยากได้น้องคืนก็ใช่อยู่หรอก แต่ตัวน้องเองอยากไปหรือเปล่านี่อีกเรื่อง
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.13-เจอตัว]-(16-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 19-02-2018 16:21:39
ค้างคาาาา..  :katai4:
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.14-เบาะแส]-(20-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 20-02-2018 14:30:28
CHAPTER  14  เบาะแส



@ ศูนย์การแพทย์บลูซี

            กันต์รีบเข้ามาที่ศูนย์การแพทย์ตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนที่จะมีใครเข้ามาเห็นเขาต้องรีบเข้าไปคุยกับนภัทรให้ได้  ตอนนี้ภายในห้องมีเพียงพยาบาลที่เดินเข้ามาดูแลความเรียบร้อย  ส่วนนภัทรเองตอนนี้ก็รู้สึกตัวแล้ว และอาการไข้ก็ดีขึ้นตามลำดับ

            “อีกสักพักคุณหมอก็จะเข้ามาตรวจแล้ว คนไข้รอสักครู่นะคะ ถ้ามีอะไรก็กดกริ่งเรียกพยาบาลได้ค่ะ” พยาบาลสาวเอ่ยกับนภัทร

            “ขอบคุณครับ”

            พยาบาลสาวเดินออกไปได้ไม่นาน  กันต์ก็เดินเข้ามาในห้องก่อนจะล็อคประตูเอาไว้

            “น้องภัทร” กันต์เอ่ยกับร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง

            “พี่กันต์! พี่มาที่นี่ได้ยัง” ร่างบางพยุงตัวลุกขึ้นด้วยความตกใจ

            “พี่มาทำงานที่นี่  น้องภัทรไม่ต้องห่วงนะพี่โทรบอกไอ้ดลแล้ว  อีกไม่นานมันคงมารับตัวน้องภัทรแน่นอน  อดใจรอแป๊บนึงนะครับ” กันต์เอ่ยอย่างเร่งรีบเกรงว่าจะมีคนเข้ามาซะก่อน

            “พี่กันต์บอกเรื่องนี้กับพี่ดลแล้วเหรอครับ” ร่างบางถามย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ  เขาบอกกับเคลวินเองว่าจะไม่ยอมไปไหนจนกว่าคนตัวสูงจะพอใจ  ถ้าหากพี่ชายมารับเขากลับไปจริงๆ  นภัทรกลัวว่าเคลวินจะยิ่งโกรธแค้นและหันไปเล่นงานคนในครอบครัวแทน

            “ใช่พี่บอกมันแล้วตั้งแต่เมื่อวาน”

            “พี่กันต์ครับผมขอร้องล่ะ  ช่วยโทรฯไปบอกพี่ดลด้วยว่าพี่เข้าใจผิด  ที่เห็นแค่คนหน้าคล้ายเท่านั้น ผมขอร้องล่ะครับ” นภัทรเอ่ยกับกันต์อย่างกังวลใจ

            “ทำไมล่ะครับน้องภัทร น้องภัทรไม่อยากออกไปจากที่นี่ ไม่อยากกลับไปอยู่กับครอบครัวเหรอครับ” กันต์เอ่ยออกมาอย่างไม่เข้าใจคนที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย  ไหนนดลบอกว่านภัทรโดนจับตัวมา  แต่เจ้าตัวกลับไม่อยากจะกลับบ้านเลยด้วยซ้ำ  เขาเริ่มสับสนไปหมดแล้ว

            “ผมอยากกลับใจแทบขาด ผมคิดถึงพ่อกับแม่ คิดถึงพี่ดล  แต่ถ้าผมกลับพวกเค้าก็จะต้องเดือดร้อน พี่กันต์ครับผมขอร้อง ช่วยทำยังไงก็ได้ให้พี่ดลไม่มาที่นี่ นะครับ” ร่างบางจับมือกันต์เอาไว้พร้อมกับอ้อนวอนขอร้องด้วยน้ำตา

            “น้องภัทรไม่ต้องกลัวนะครับ  จะไม่มีใครทำร้ายคนในครอบครัวน้องภัทรได้แน่นอน  ถ้าน้องภัทรกลับไปทุกอย่างก็จะจบเชื่อพี่” กันต์พยายามโน้มน้าวร่างบางให้คล้อยตาม

            “ไม่! ผมไม่มีทางออกไปจากเกาะนี้แน่นอน  ถึงแม้พี่ดลจะมารับผมถึงที่นี่ผมก็ไม่มีทางกลับ ถ้าพี่ไม่มีอะไรแล้วก็เชิญออกไปจากห้องนี้ครับ” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับนอนลงบนเตียงแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง

            “โอเคครับ พี่จะทำตามที่น้องภัทรขอร้อง” กันต์ยอมในความใจเด็ดของนภัทร  ถึงแม้ว่าเขาจะทำตามแต่ยังไงซะ  เมื่ออยู่ที่นี่เขาก็ต้องดูแลนภัทรแทนเพื่อนเท่าที่จะทำได้

            “จริงๆนะครับ” นภัทรลุกขึ้นนั่งทันที

            “ครับเดี๋ยวพี่จะบอกมันตอนนี้เลย เพราะเมื่อคืนมันบอกว่าจะรีบบินมาที่นี่เลย”

            “ถ้างั้นก็รีบโทรฯเลยครับ”

            สิ้นเสียงร่างบางกันต์กดโทรฯออกหาเพื่อนทันที

            “ฮัลโลไอ้ดลมึงถึงไหนแล้ววะ”  กันต์เปิดสปีกเกอร์โฟนให้ร่างบางได้ยินด้วย

            (“กูกำลังจะออกจากบ้าน”)

            “ไอ้ดลกูขอโทษมึงด้วยว่ะ กูตาฝาดไปเองว่าเป็นน้องภัทร  แต่จริงๆแล้วไม่ใช่น้องภัทรอย่างที่กูเข้าใจ  มึงไม่ต้องมาแล้ว ขอโทษทีว่ะเพื่อน” กันต์อ้างเหตุผลทั้งหมดเพื่อให้นดลเชื่อ

            (“มึงแน่ใจนะว่าดูผิดจริงๆ ถึงไม่ใช่กูก็จะไปให้เห็นกับตา”) นดลยังคงไม่ยอมที่จะรับฟัง

            “มึงไม่ต้องมาหรอก เสียเวลาเปล่าว่ะ กูขอโทษมึงจริงๆนะเว้ย มึงเอาเวลาไปตามหาที่อื่นจะดีกว่าไหม  หรือมึงไม่เชื่อใจกูวะไอ้ดล” กันต์พยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อนให้คล้อยตาม

            (“ไม่ใช่อย่างนั้นโว้ยกูก็แค่เป็นห่วงน้องมากก็เท่านั้น กูขอโทษละกันที่ไม่เชื่อมึง เอาเป็นว่ากูไม่ไปแล้วก็ได้”) นดลเอ่ยกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงหมดหวัง

            ร่างบางที่กำลังนั่งฟังอยู่นั้น  ต้องเอามือปิดปากตัวเองไว้เพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นดังเข้าไปในสาย

            “มึงอย่าเพิ่งท้อนะเว้ย  กูเชื่อว่าสักวันมึงต้องตามน้องภัทรเจอแน่นอน” กันต์ปลอบใจเพื่อน

            (“ขอบใจมึงมากว่ะ”)

            “ถ้างั้นแค่นี้ก่อนนะเว้ยสู้ๆเพื่อน”

            (“เออๆแค่นี้ล่ะ”)

            เมื่อกันต์วางสายแล้วร่างบางก็ปล่อยโฮออกมาเสียงดัง  จนกันต์ต้องเดินเข้าไปกอดปลอบ

            “ไม่เป็นไรนะครับน้องภัทร เดี๋ยวทุกอย่างมันจะดีเอง” กันต์เอ่ยพร้อมกับลูบที่ศรีษะเบาๆ

            “ผมคิดถึงทุกคน ฮึก แต่ต้องทนอยู่ที่นี่ให้ได้”

            “น้องภัทรยังมีพี่นะครับ ถ้ามันไม่ไหวจริงๆก็บอกพี่ พี่จะพาเราออกไปจากที่นี่เอง” กันต์เอ่ย

            “ขอบคุณนะครับ แต่ผมคงไม่รบกวนพี่กันต์  ผมไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนเพราะผมแน่นอน”

            “ทำไมถึงดื้ออย่างนี้นะเรา ต่อไปนี้ไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวแล้วนะ  เพราะพี่จะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนน้องภัทรเอง”

            “ครับพี่กันต์ ขอบคุณสำหรับความหวังดีนะครับ” ร่างบางโอบกอดเพื่อนพี่ชายอย่างแนบแน่น  ราวกับว่ากำลังกอดพี่ชายของตัวเองอยู่

            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

            เสียงเคาะประตูดังขึ้น  ทำให้ทั้งสองผละออกจากกัน  ก่อนที่กันต์จะเป็นคนเดินไปเปิดประตู  คนที่มาเคาะประตูห้องไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเคลวินนั่นเอง

            “อ้าวคุณกันต์ มาที่นี่ได้ไงครับ แล้วทำไมต้องล็อกด้วยล่ะ” เคลวินเอ่ยถามอย่างสงสัย

            “เอ่อ พอดีผมมาพบหมอพงษ์น่ะครับ นึกว่าอยู่ที่นี่เลยมาดู  แต่ห้องผมไม่ได้ล็อกนะครับ อ้อ รู้แล้วน่าจะเป็นคุณพยาบาล  ที่ออกไปก่อนหน้านี้เผลอกดล็อกแน่ๆเลย” กันต์ทำท่านึกก่อนจะยิ้มออกมา

            “อ่อครับ” เคลวินไม่ได้เอะใจอะไรก่อนจะเดินเข้ามาข้างในห้อง

            ส่วนกันต์ก็เดินเข้ามาหาร่างบางอีกครั้งเพื่อเอ่ยคำลาก่อนจะกลับออกไป

            “น้องภัทรพี่กลับแล้วนะครับ หายไวๆนะ”

            “ขอบคุณครับพี่กันต์” ร่างบางยกมือขึ้นไหว้ สวนกันต์ก็ยิ้มให้

            “ผมกลับก่อนนะครับคุณเคลวิน”

            “ครับ”

            หลังจากนั้นกันต์ก็เดินออกจากห้องไป  ตอนนี้ในห้องเหลือเพียงเคลวินกับนภัทรเพียงลำพัง  คนตัวสูงปรายตามองอย่างไม่เต็มตา เพราะยังไม่รู้จะเริ่มต้นเอ่ยกับร่างบางยังไงดี  ส่วนร่างบางเมื่อเห็นคนตัวสูงก็หลับตา แล้วนอนหันหลังให้

            “กูมารับกลับบ้าน” คนตัวสูงเอ่ยอย่างไม่เต็มเสียงนัก  เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างบางก็หันหน้ากลับมามอง

            “คุณหมอให้ผมกลับได้แล้วเหรอ?” ร่างบางเอ่ยถาม

            “ไม่รู้ล่ะวันนี้ยังไงมึงก็ต้องกลับ” คนตัวสูงยืนยันตัวโก่ง

            “จะเอาคนไข้ผมกลับบ้าน ถามผมรึยังครับท่านประธาน” เสียงพงษ์ดังเข้ามาก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึงในอีกไม่กีวินาที

            “จะถามหรือไม่ถามยังไงวันนี้มันก็ต้องกลับอยู่ดี” คนตัวสูงเอ่ย

            “ถ้างั้นออกไปรอข้างนอกก่อนสักครู่นะครับ ผมขอตรวจคนไข้เพียงลำพัง” พงษ์เอ่ยพร้อมกับผายมือเชิญเจ้าของเกาะออกไปนอกห้อง

            “ทำไมต้องออกไปข้างนอกด้วยวะ แค่ตรวจหรือว่าพวกมึงจะทำอะไรกัน” คนตัวสูงเอ่ยอย่างไม่ไว้ใจ

            “มึงคิดได้แค่นี้เหรอวะ ไอ้เพื่อนเลวออกไปเดี๋ยวนี้ เร้ว!” พงษ์มองแรงพร้อมกับเอ่ยปากไล่อีกครั้ง

            “เออๆก็ได้วะ ห้ามนานล่ะ” เคลวินเอ่ยอย่างจำใจก่อนจะเดินออกไป

            พงษ์เดินไปที่ประตูก่อนจะกดล็อคเพื่อให้แน่ใจว่าเคลวินจะไม่แอบเข้ามาได้ยิน

            “ปลอดภัยแล้ว” พงษ์เอ่ยพร้อมกับยิ้มให้ “ตอนนี้ไข้ก็ลดลงแล้ว วันนี้กลับบ้านได้แล้วนะครับ”

            “ขอบคุณครับพี่หมอ” ร่างบางยกมือไหว้

            “แล้วตอนนี้เรายังแพ้ท้องอยู่ไหม”

            “ก็มีบ้างครับ แต่ก็น้อยลงมากแล้ว”

            “เมื่อไหร่เราจะบอกไอ้เคลวิน ยิ่งนานวันท้องก็ยิ่งโตนะ ยังไงสักวันมันก็ต้องรู้อยู่ดี” พงษ์เอ่ย

            “ผมกำลังทำใจอยู่ครับ  ผมกลัว...” ร่างบางทำหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด

            “น้องภัทรกลัวอะไรครับ”

            “ผมกลัวว่าถ้าเค้ารู้แล้วจะทำร้ายลูกของผมอีกคน”

            “ไม่มีพ่อที่ไหนกล้าทำร้ายลูกของตัวเองหรอกนะ อย่าเพิ่งคิดอะไรไปก่อนเลย  ตอนนี้เราอย่าคิดมาก  เพราะถ้าเครียดมันอาจจะส่งผลต่อสุขภาพและเด็กในท้องได้นะ  เพื่อลูกน้องภัทรต้องเข้มแข็งเข้าไว้  มีอะไรปรึกษาพี่ได้นะครับ” พงษ์พยายามเอ่ยให้คนที่อยู่ตรงหน้ารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

            “ขอบคุณครับพี่หมอ ผมจะพยายามไม่คิดมากเพื่อลูกในท้อง”

            “ดีแล้ว” พงษ์ยิ้มให้

            ปัง! ปัง! ปัง!

            “เมื่อไหร่จะเสร็จโว้ย!”

            เสียงเข้มโวยวายมาจากด้านนอก  ทำให้ทั้งสองคนหันไปมองพร้อมกัน

            “เบื่อมันจริงๆ” พงษ์เอ่ยกับร่างบางพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ

            “ขนาดพี่เป็นเพื่อนเค้ายังเบื่อขนาดนี้ คิดดูผมอยู่ด้วยกันทุกวันจะน่าเบื่อขนาดไหน” ร่างบางเอ่ย

            “พี่เข้าใจน้องภัทรนะ พี่จะไปเปิดประตูให้มันก่อน เดี๋ยวมันจะบ้ามากกว่านี้”

             พูดจบพงษ์ก็เดินไปเปิดประตูให้เพื่อนทันที

            “มึงจะล็อคทำเหี้ยอะไรวะ” ร่างสูงโวยวายให้เพื่อนพร้อมกับเดินเข้ามาด้านใน

            “ก็กูรำคาญมึงอ่ะ” พงษ์เอ่ยแค่นั้นก่อนจะเดินตามหลังไป

            “กลับบ้านลุก!” คนตัวสูงเอ่ยเสียงห้วน

            “ตอนนี้เลยเหรอครับ” ร่างบางเอ่ยถาม

            “ใช่! ตอนนี้เลย อย่ามัวโอ้เอ้รีบลุกขึ้นมาเลย” คนตัวสูงเอ่ยย้ำอีกครั้ง

            “มึงนี่ก็เร่งน้องมันจัง น้องภัทรเพิ่งจะหายป่วยนะโว้ย”

            “แล้วไง! ก็กูจะทำ” คนตัวสูงเอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้าน

            “พี่หมอครับผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ร่างบางเอ่ย

            “โอเคคครับแล้วว่างๆพี่จะไปเล่นที่บ้านด้วย”

            “ครับ”

            ร่างบางลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะเดินออกมาในชุดไปรเวท

            “เดี๋ยวพี่จะพาไปรับยาก่อน...ป่ะ” พงษ์เอ่ยพร้อมกับโอบไหล่ร่างบางเดินนำหน้าไป




            เมื่อรับยาเสร็จแล้วร่างบางก็ยกมือไหว้พงษ์อีกครั้ง  ก่อนจะขึ้นรถกลับไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่ เมื่อรถจอดเทียบที่หน้าบ้าน  ป้าภาและเอกก็ยืนรออยู่ด้วยสีหน้าและท่าทางที่เป็นห่วง

            “ภัทรเอ็งเป็นไงบ้างวะ ป้าเป็นห่วงเอ็งมากๆเลย” เมื่อลงจากรถแล้วป้าภาก็เดินมาจับมือร่างบาง  พร้อมกับสอบถามด้วยความเป็นห่วง

            “ผมไม่เป็นไรแล้วครับป้า ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง” ร่างบางเอ่ยอย่างอ่อนโยน

            “เห็นภัทรไม่เป็นอะไร เราก็โล่งใจ” เอกว่า

            “ขอบคุณนะเอก” ร่างบางยิ้มให้

            “จะคุยกันอีกนานไหม  เข้าบ้านซะที” คนตัวสูงเอ่ยเสียงเข้ม

            “ถ้างั้นผมขอตัวกลับห้องก่อนนะครับ” ร่างบางเอ่ยกับคนตัวสูง

            “ไม่ต้องไปที่ห้องนั้นแล้ว กูย้ายของมึงมาที่ห้องกูหมดแล้ว” คนตัวสูงเอ่ย

            “อะไรนะ! ทำไมต้องย้ายด้วยล่ะ  ไม่เอาผมไม่มีทางอยู่ห้องเดียวกับคุณแน่!” ร่างบางเอ่ยเสียงแข็ง

            “มึงไม่มีสิทธิ์มาต่อรองอะไรทั้งนั้น ทำตามที่กูสั่ง” ว่าแล้วคนตัวสูงก็เดินเข้าไปด้านในทันที

            ร่างบางทำหน้าเซ็งๆก่อนจะหันไปหาป้าภาและเอก  ถ้าหากย้ายเข้าไปอยู่ในห้องกับคนตัวสูงแล้ว  การทำตัวก็ยิ่งจะลำบากขึ้นไปอีก

            “ทนๆเอานะภัทร ป้าว่าคุณเคลวินท่านคงเป็นห่วงเอ็งนั่นล่ะ” ป้าภาพยายามพูดให้ร่างบางสบายใจ

            “เป็นห่วงเหรอป้า จะแกล้งกันล่ะสิไม่ว่า  ผมอยู่ห้องเก่ายังมีอิสระกว่า  แถมยังไม่รู้สึกอึดอัดอีกด้วย”

            “ยังไงก็ต้องทำใจล่ะภัทรเอ้ย  เอ็งก็รู้ดีว่าคุณเคลวินเอ่ยอะไรออกไปแล้ว  ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามนั้น”

            “ครับป้าผมก็บ่นไปงั้นล่ะ ยังไงก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วนี่” ร่างบางพยายามฝืนยิ้มออกมา

            “ป่ะเข้าไปในครัวดีกว่าป้าเตรียมอาหารไว้ให้เอ็งเยอะแยะเลย”

            หลังจากนั้นทั้งสามคนก็เดินเข้าไปในครัวโดยพร้อมเพียงกัน  ส่วนขวัญที่แอบซุ่มดูอยู่ห่างๆก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์  เมื่อเห็นร่างบางกลับมาที่บ้านหลังนี้อีกครั้ง

            “แกน่าจะตายๆไปซะไอ้ภัทร” พูดจบขวัญก็เดินกลับไปทำงานต่อ

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



@ กรุงเทพมหานคร

            หลังจากผิดหวังในการตามหาเบาะแสของเคลวินมาก่อนหน้านี้หลายต่อหลายครั้ง  วันนี้นดลก็เดินหน้าสู้อีกครั้ง  เขามาที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง  จากการเดินสายไปหลายๆที่แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าสักที  แต่เขาไม่เคยรู้สึกท้อแท้และเหน็ดเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย  นดลถือซองเอกสารเดินเข้ามาหาเจ้าหน้าที่ก่อนจะยกมือไหว้

            “สวัสดีครับ ผมนดล ที่โทรมาเมื่อวานนี้” เขาเอ่ยกับเจ้าหน้าที่หญิง

            “สวัสดีค่ะเชิญทางนี้ค่ะคุณนดล” เธอว่าพร้อมกับผายมือเชิญเข้าไปในห้องรับรอง

            เมื่อมาถึงแล้วนดลก็ยื่นซองให้  มันคือเงินที่เขาจะนำมาบริจาคให้กับเด็กๆ  ทุกครั้งที่เขาไปสถานที่แบบนี้  ก็จะบริจาคเงินไปด้วยทุกครั้งเผื่อว่าผลบุญกุศล  จะช่วยให้เขาตามหาน้องชายเจอเข้าสักวันนึง

            “นี่ครับเงินที่ผมจะบริจาคเพื่อเป็นค่าอาหารของเด็กๆ” เขายื่นให้

            “ขอบคุณมากๆเลยนะคะคุณนดล  เป็นบุญของเด็กๆจริงๆที่มีคนใจบุญอย่างคุณมาช่วยเหลือ” เธอรับมาแล้วก็ยิ้มให้

            “ที่นี่เปิดมานานรึยังครับ”

            “เกือบสี่สิบปีแล้วค่ะ  นานมากจนเด็กๆที่นี่โตขึ้นไปได้ดิบได้ดีก็หลายคน  แล้วก็จะกลับมาช่วยเหลือน้องๆเป็นทอดๆค่ะ  โชคดีว่าเด็กที่เติบโตมาจากที่นี่ล้วนเป็นเด็กนิสัยดีกันทั้งนั้น  ทำให้พวกเค้าไม่เคยจะลืมน้องๆที่อยู่ที่นี่เลยสักคน”

            “แล้วคุณทำงานที่นี่นานรึยังครับ”

            “ก็ตั้งแต่ก่อตั้งที่นี่เลยค่ะ” เธอตอบ

            “นานขนาดนี้แสดงว่าคุณก็รู้จักเด็กเกือบทุกคนเลยสินะครับ” ที่เขาถามประเด็นนี้ก็เพราะว่า  ถ้าหากเจ้าหน้าที่หญิงคนนี้เป็นคนเก่าคนแก่ที่อยู่มานาน  อาจจะรู้จักคนที่เขาตามหาอยู่แน่นอน  ถ้าหากว่าวินเคยอยู่ที่นี่มาก่อนจริงๆ

            “ใช่ค่ะ” เธอยิ้ม

             “ดีเลยครับวันนี้ที่ผมมาที่นี่  ก็เพราะจะมาตามหาคนๆนึง  ที่เคยหายไปจากบ้านเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน นี่ครับคุณพอจะรู้จักบ้างไหม” นดลยื่นรูปถ่ายให้ดู

            เธอหยิบรูปขึ้นมาดูใกล้ๆ ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วมองหน้านดลทันที

            “คุณกับเด็กในรูปนี้เป็นอะไรกันคะ” เธอเอ่ยถาม

            “ผมเป็นญาติเค้าครับ  ตามหามานานหลายปีแล้ว” นดลอ้างไป

            “วินเคยอยู่ที่นี่ได้ประมาณสองปีค่ะ” เธอเอ่ยขึ้น

            “จริงดิครับ! แล้วตอนนี้เค้าอยู่ที่ไหนครับ แล้วผมจะติดต่อเค้าได้ยังไง” นดลเอ่ยด้วยความตื่นเต้นดีใจ  ในที่สุดเขาก็ได้เบาะแสของคนที่จับตัวน้องชายไปสักที

            “วินถูกรับเลี้ยงจากพ่อแม่บุญธรรมชาวอเมริกันค่ะ จนเรียนจบจากที่โน่นก็กลับมาดูแลกิจการของครอบครัวที่เมืองไทย  เป็นกิจการโรงแรมที่เกาะส่วนตัวในจังหวัดพังงาค่ะ  นี่ค่ะเบอร์โทรศัพท์” เธอเล่าทุกอย่างให้ฟังอย่างไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นเรื่องดีซะอีกที่ ‘วิน’ เด็กข้างถนนที่เคยช่วยเหลือเธอจากการโดนโจรวิ่งราว  และเธอก็ได้ช่วยเหลือตอบโดยการให้เข้ามาอยู่ที่นี่  จะได้เจอกับญาติของตัวเองสักที

            “ขอบคุณมากๆนะครับสำหรับข้อมูล ผมดีใจมากๆที่จะได้เจอวินอีกครั้ง” นดลเอ่ยด้วยร้อยยิ้มที่มีความหวัง

            “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็อยากให้วินได้เจอกับครอบครัวเหมือนกัน” เธอยิ้ม

            “ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”

            “ค่ะ”

            นดลรีบบึ่งรถออกมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าทันทีหลังจากนั้น เขาประติดประต่อเรื่องทั้งหมดเข้าด้วยกัน  กันต์เคยบอกว่าทำงานอยู่ในเกาะส่วนตัวแห่งหนึ่งที่ชื่อบลูซีในจังหวัดพังงา  ส่วนเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าวินมาดูแลกิจการที่เกาะส่วนตัวในจังหวัดพังงา  ซึ่งมันสอดคล้องกันไปหมดทุกอย่าง  ตอนแรกที่กันต์โทรมาบอกว่าเจอตัวนภัทรแล้ว  น้ำเสียงมีความมั่นอกมั่นใจมาก  แต่ทำไมอยู่ๆถึงกลับคำซะอย่างนั้น  เรื่องนี้เขาจะต้องพิสูจน์ความจริงทั้งหมดด้วยตัวเอง  เขาจะไปที่เกาะบลูซีเพื่อไปค้นหาความจริงและพาตัวน้องชายกลับมาให้จงได้

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


----------------------------------------------
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.14-เบาะแส]-(20-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-02-2018 15:25:02
อยากให้แยกกันสักที เผื่อคนบางคนจะได้รู้สกบ้าง
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.14-เบาะแส]-(20-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 20-02-2018 15:35:41
พื้นฐานวินคือเป็นคนดีอ่ะ เรื่องนี้ผิดที่พ่อภัทรเต็มๆเลย อยากเห็นตอนเขารักกัน ดูและลูกด้วยกันงี้ อีกนานนนนนนนนแน่เลย  :hao4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.14-เบาะแส]-(20-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 20-02-2018 17:59:38
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.14-เบาะแส]-(20-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-02-2018 18:26:32
พื้นฐานวินคือเป็นคนดีอ่ะ เรื่องนี้ผิดที่พ่อภัทรเต็มๆเลย อยากเห็นตอนเขารักกัน ดูและลูกด้วยกันงี้ อีกนานนนนนนนนแน่เลย  :hao4:

ก็หวังไว้
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.14-เบาะแส]-(20-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-02-2018 23:40:57
ใกล้แล้วพี่ดล
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.14-เบาะแส]-(20-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 21-02-2018 00:00:55
อยากให้เคลียร์ปัญหากันได้ไวๆ เป็นห่วงน้องจัง
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.14-เบาะแส]-(20-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-02-2018 04:04:12
จะปิดเรื่องท้องได้นานแค่ไหนนะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.14-เบาะแส]-(20-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: tumtok ที่ 21-02-2018 22:19:01
อยากเห็นหน้าตัวเล็กแล้ว :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.14-เบาะแส]-(20-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 21-02-2018 22:19:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.14-เบาะแส]-(20-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-02-2018 01:56:13
แหมๆๆเคลวิน ทีงี้ล่ะให้ภัทรมานอนด้วย
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.15-อุบัติเหตุ]-(22-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 22-02-2018 15:40:22
CHAPTER  15  อุบัติเหตุ



            “ทำไมต้องย้ายผมมาที่นี่ด้วยล่ะ เกลียดผมมากไม่ใช่เหรอ” ร่างบางเอ่ยขณะยืนมองคนตัวสูงนอนพิงหลังอยู่บนเตียงนอน

            “ก็เพราะเกลียดไงถึงได้ย้ายมึงมาที่นี่ มึงจะได้อยู่ในสายตากูตลอด” คนตัวสูงยกยิ้มที่มุมปาก

            “ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่มีทางหนีไปไหนแน่นอน” ร่างบางยังยืนยันคำพูดเดิมที่เคยพูดไว้

            “กูไม่เชื่อใจมึงหรอก มึงมันก็เลวเหมือนพ่อมึง”

            “เมื่อไหร่คุณจะเลิกเจ้าคิดเจ้าแค้นซะที ทำไปมันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นหรอก” ร่างบางเอ่ยก่อนจะเดินไปข้างเตียงแล้วปูที่นอน

            “กูไม่มีทางเลิกจนกว่าครอบครัวมึงจะฉิบหายวอด กูจะทำให้พวกมึงทุกคนไม่มีความสุขไปตลอดฃีวิต หึหึ” เคลวินแสยะยิ้มอย่างพอใจ “นั่นมึงจะทำอะไร?” เขาเอ่ยเมื่อเห็นร่างบางกำลังปูที่นอนอยู่

            “ปูที่นอน...ไม่มีตารึไง” ร่างบางว่าให้

            “เดี๋ยวนี้มึงปากดีขึ้นทุกวันเลยนะ มึงลืมไปแล้วเหรอว่าอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร อย่าปากดีให้มากนัก ขึ้นมานอนกับกูบนนี้ เดี๋ยวนี้!” คนตัวสูงสั่ง

            “ไม่ผมจะนอนตรงนี้” ร่างบางยังคงดื้อ

            “อย่ามาอวดดีกับกู ขึ้นมา!”

            “ไม่!”

            ร่างบางยังคงดื้อแล้วนอนลงอย่างไม่ได้สนใจคำสั่งของคนตัวสูงเลยแม้แต่น้อย

            “มึงคิดว่ากูจะใจดีไม่ทำอะไรมึงงั้นเหรอ” คนตัวสูงเอ่ยด้วยความโมโห  แล้วลุกขึ้นมาอุ้มร่างบางขึ้นไปบนเตียง

            “ผมเกลียดคุณ!” ร่างบางตวาดแหวใส่ก่อนจะลงมาจากเตียง

            “ถ้ามึงลงกูจัดหนักมึงแน่!” คนตัวสูงชี้หน้าขู่   ร่างบางเห็นอย่างนั้นก็ยอมนั่งนิ่งๆแล้วนอนลงอย่างเสียมิได้

            ร่างบางนอนตะแคงข้างก่อนจะหลับตาลง  เขาต้องทนอยู่ที่นี่กับคนไม่มีหัวใจนานขนาดไหนนะ  ตอนนี้ชักจะเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า  คนตัวสูงจะรักษาสัญญาได้มากน้อยเพียงไหน  ว่าจะไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับครอบครัวเขา

            “กูรู้มึงยังไม่หลับ” คนตัวสูงกระซิบเบาๆข้างใบหูพร้อมกระชับเอวบางเขามากอดไว้แน่น

            “คุณเคลวินผมอึดอัด ปล่อยให้ผมนอนดีๆเถอะนะครับ” ร่างบางเอ่ยปากขอร้อง

            “ไม่!  ถ้ามึงยังดิ้นกูเอามึงแน่” ร่างบางได้ยินก็หน้าเปลี่ยนสีทันที  ทำไมหัวใจมันต้องเต้นแรงด้วยนะ นภัทรไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ เขานอนนิ่งราวกับเป็นหมอนข้างให้คนตัวสูงกอดซะอย่างนั้น

            “กลัวกูเอาขนาดนั้นเลยเหรอ” คนตัวสูงรู้สึกสะใจที่แกล้งคนที่อยู่ในอ้อมกอดได้

            “...........” ร่างบางไม่ตอบได้แต่นอนนิ่ง

            เคลวินนอนกอดร่างบางแล้วยิ้มอยู่อย่างนั้น  เขามีความสุขมากเหลือเกินที่ได้นอนกอดคนตัวเล็กอย่างนี้  เหมือนสมัยยังเป็นเด็กที่นภัทรมักจะหอบตุ๊กตาเดินเข้ามาในห้องนอนเขา  แล้วนอนซุกในอ้อมกอดของเขาอย่างนี้อยู่บ่อยๆ  เขายังไม่ลืมช่วงเวลานั้นเลยแม้แต่น้อย



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



เช้าวันรุ่งขึ้น

            “เมื่อคืนเป็นไงบ้างภัทร” ป้าภาถามทันทีที่ร่างบางเดินเข้ามาในครัว

            “โอ๊ย! ป้าจะถามทำไมล่ะคงจะระริกระรี้น่ะสิ ได้ขึ้นไปนอนบนห้องกับคุณเคลวิน  สมใจอยากเค้าล่ะ” ขวัญชิงพูดตัดหน้าก่อน

            “อีขวัญกูถามภัทรไม่ได้ถามถึง อีนี่ชอบเสือกจริงๆ” ป้าภาเท้าสะเอวด่า มืออีกข้างก็ถือตะหลิวชี้หน้า

            “ช่างเค้าเถอะป้า” ร่างบางเอ่ยก่อนจะหันหน้าไปหาขวัญ “เมื่อคืนผมกะว่าจะนอนที่พื้นแต่คุณเคลวินน่ะสิ อุ้มผมขึ้นไปนอนบนเตียงด้วยเฉยเลย แถมยังนอนกอดทั้งคืนอีกด้วยครับป้า” นภัทรตั้งใจพูดให้ขวัญเดือดเนื้อร้อนใจ  ซึ่งมันก็ได้ผลขวัญทำหน้าบูดบึ้งอย่างออกนอกหน้า  สายตามองมาที่เขานั้นปานจะฆ่ากันซะให้ได้

            “ถ้าเป็นอย่างนี้อีกไม่นานเอ็งคงได้เป็นคุณผู้หญิงของบ้านหลังนี้แน่นอน” ป้าภาก็เล่นด้วยเพราะรู้ว่าถ้าพูดอย่างนี้แล้ว  ขวัญจะดิ้นพล่านมากสักแค่ไหน

            “ป้าก็ว่าไป” นภัทรทำท่าเขินอายเมื่อถูกป้าภาแซว  ก่อนจะปรายตามองขวัญอย่างเหยียดๆ  คนอย่างขวัญต้องเจออย่างนี้ชอบอิจฉาคนอื่นดีนัก ร่างบางคิดในใจ

            “ฉันไม่ช่วยแล้วขอตัว!” ว่าแล้วขวัญก็วางจานที่กำลังเช็ดอยู่ลงที่โต๊ะเสียงดัง  ก่อนจะเดินสะบัดตูดออกไปจากห้องครัวทันที

            “สมน้ำหน้าอีคางคกขึ้นวอ หน็อยอยากเป็นคุณนายของบ้านหลังนี้  คุณเคลวินไม่มีทางเอามึงมาเป็นเมียหรอกโว้ย” ป้าภาตะโกนตามหลังไป

            “ป้าพอแล้วอย่าไปเสียเวลากับคนประเภทนี้เลย”

            “แล้ววันนี้ทำอะไรบ้างครับ เดี๋ยวผมช่วยทำต่อเอง”

            “แกงส้มชะอมทอด แล้วก็ผัดผักรวมมิตร เอ็งช่วยเด็ดชะอมให้ป้าละกัน” ป้าภาบอกแล้วยื่นถุงชะอมให้    เมื่อร่างบางได้กลิ่นก็รู้สึกเหม็นขึ้นมาทันที

            “ป้ามันเหม็นอ่ะ ขอผมทำอย่างอื่นได้ไหม  ไม่งั้นต้องอ้วกออกมาแน่ๆ” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับเอามือปิดที่จมูกไว้

            “เอ็งเป็นอะไรกันแน่วะ ถ้าเอ็งเป็นผู้หญิงป้าคิดว่าเอ็งคงท้องแน่ๆ” ป้าภาเอ่ยติดตลก

            “เอ่อ...” ร่างบางกำลังคิดว่าจะบอกป้าภาดีหรือไม่  เพราะถึงยังไงอีกไม่นานก็คงจะรู้อยู่ดี

            “ทำไมวะหรือเอ็งท้องจริงๆ” ป้าภายังคงเล่นไม่เลิก

            “ถ้าผมท้องจริงๆล่ะครับป้า”

            “จะเป็นไปได้ยังไงวะเอ็งเป็นผู้ชายนะภัทร” เหมือนป้าภายังไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน

            “มันเป็นไปแล้วครับป้า  ผมเองก็ยังงๆเหมือนกัน แต่ป้าอย่าเพิ่งไปบอกใครนะครับโดยเฉพาะคุณเคลวิน” ร่างบางเอ่ย

            “ถ้าเป็นอย่างนั้นป้าก็ดีใจกับเอ้งด้วยนะโว้ย แล้วทำไมถึงยังไม่บอกคุณเคลวินล่ะ ท่านคงดีใจที่จะได้มีลูก”

            “ผมกลัว...ถ้าเค้ารู้ว่าผมท้องเค้าจะทำร้ายลูกผม” ร่างบางเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นกังวล

            “ป้าว่าคุณเคลวินก็ดูเป็นห่วงเอ็งอยู่นะ ถึงแม้บางครั้งท่านจะดูใจร้ายแต่ถึงยังไง  ลูกในท้องก็เป็นลูกของท่าน  ท่านคงไม่ใจร้ายทำร้ายลูกเมียได้ลงคอหรอกน่า” ป้าภาแนะนำ

            “แต่ผมก็ยังกลัวอยู่ดี”

            “เอาเป็นว่าป้าจะไม่บอกใครก็แล้วกัน ให้เอ็งตัดสินใจเองว่าจะบอกหรือไม่บอก  ดีแล้วที่บอกป้าจะได้ช่วยดูแลเอ็ง”

            “ขอบคุณครับป้า” ร่างบางยกมือขึ้นไหว้

            “ไม่เป็นไรเอ็งก็เหมือนลูกหลานป้านั่นล่ะ” ป้าภายิ้มให้

            หลังจากนั้นทั้งสองก็ช่วยกันทำอาหาร  ในขณะนั้นมีสายตาของใครบางคนกำลังจ้องมองอย่างเป็นเดือดเป็นร้อน  ขวัญบังเอิญเดินเข้ามาได้ยินเข้า  ก่อนที่เธอจะถลึงตามองนภัทรอย่างอาฆาตแค้น

            “ฉันไม่มีทางให้ลูกของแกได้ลืมตาขึ้นมาดูโลกแน่นอน”

            ขวัญกำมือแน่นก่อนจะเดินออกไปทันที



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            “อ้าว! คุณหมอทำไมวันนี้มาหาผมถึงที่นี่ได้ล่ะ” กันต์เห็นคุณหมอหน้าหวานเดินเข้ามาก็รู้สึกประหลาดใจ  เพราะตอนนี้เขาอยู่ที่ไซต์งานก่อสร้าง

            “ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ พอจะมีเวลาไปคุยกับผมสักครู่ไหม” พงษ์เอ่ย

            “ได้เลยครับผมมีเวลาให้คุณหมอตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้ว”

            “ถ้างั้นก็ขึ้นรถมากับผม” ว่าแล้วพงษ์ก็เดินนำหน้าไปที่รถ

            กันต์เดินตามหลังไปด้วยคำถามมากมาย ทำไมวันนี้พงษ์มาหาเขาถึงที่นี่  แสดงว่าต้องมีเรื่องอะไรสำคัญอย่างแน่นอน

            เมื่อถึงร้านกาแฟแห่งหนึ่งพงษ์ก็จอดรถ  แล้วเดินนำหน้าเข้าไปโดยไม่พูดไม่จากับคนที่เขาพามาเลยแม้แต่คำเดียว

            “สรุปว่าคุณมีเรื่องอะไรงั้นเหรอครับ” กันต์เอ่ยถามเมื่อทั้งสองนั่งอยู่ในร้านแล้ว

            “วันนั้นผมแอบได้ยินคุณคุยกับน้องภัทร” พงษ์เริ่มบทสนทนาที่ทำให้กันต์ถึงกับหุบยิ้มลงทันที  วันนั้นเขาเข้ามาก่อนกันต์เพียงไม่กี่วินาที  แต่บังเอิญเข้าไปล้างมือในห้องน้ำก่อน  เมื่อเดินออกมาก็ได้ยินกันต์คุยกับนภัทรอยู่จึงแอบฟังจนจบ  วันนี้เขาจึงต้องการรู้ความจริงทั้งหมดเผื่อว่าจะสามารถช่วยแก้ไขอะไรได้บ้าง

            “เป็นหมอประสาอะไรแอบฟังความลับของคนไข้” กันต์ว่าให้

            “ที่ผมมาวันนี้เพราะหวังดีกับน้องภัทรนะ ผมอยากช่วยน้องจริงๆ” พงษ์ยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง

            “ผมจะเชื่อใจคุณได้สักแค่ไหนเชียว คุณเองก็เป็นเพื่อนคุณเคลวินนี่” กันต์มองหน้าคุณหมออย่างไม่ไว้ใจ

            “คุณไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร แค่น้องภัทรเชื่อใจผมก็เพียงพอแล้ว  แต่ตอนนี้ผมอยากรู้เรื่องทั้งหมด ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

            “แล้วทำไมไม่ไปถามเพื่อนคุณล่ะ” กันต์ตามย้อน

            “ถ้าถามแล้วมันบอกผมจะถ่อสังขารมาหาคุณอย่างนี้ไหมล่ะ” คุณหมอหน้าหวานเอ็ดให้

            “แล้วคุณคิดว่าผมจะบอกคุณงั้นเหรอ” กันต์ยกยิ้มที่มุมปากเขาอยากรู้ว่า  เมื่อถึงทางตันคุณหมอหน้าหวานจะทำยังไง

            “ก็ได้ถ้าคุณไม่บอก  ผมจะเป็นคนบอกเอง” พงษ์ยักคิ้วให้อย่างกับผู้ชนะ

            “บอกอะไรผมงงกับคุณแล้วเนี่ย” กันต์เกาหัวแกรกๆ

            “ก็บอกเคลวินไงว่าคุณเคยรู้จักกับน้องภัทรและครอบครัวมาก่อน  ถ้ามันรู้รับรองคุณไม่มีทางได้เห็นน้องภัทรอีกแน่นอน”

            “คุณนี่ร้ายจริงๆ สมแล้วที่ผมหมายตาคุณไว้ตั้งแต่แรก” กันต์ส่งสายตากรุ้มกริ่มให้

            “อย่ามานอกเรื่อง เล่ามาว่าน้องภัทรเป็นใครแล้วทำไมไอ้เคลวินต้องจับตัวมาที่นี่” พงษ์ทำหน้านิ่งไม่เล่นด้วย

            “โอเคๆ เล่าก็ได้ น้องภัทรเป็นน้องชายของเพื่อนสนิทผมเอง  รู้จักกันตั้งแต่เด็กแล้วตอนนี้ไอ้ดลเพื่อนผม  มันกำลังตามหาตัวน้องชายให้วุ่นเลย  ส่วนสาเหตุที่คุณเคลวินลักพาตัวน้องภัทรมาผมเองก็ไม่รู้หรอก  มันบอกแค่ว่าคนที่ลักพาตัวน้องชายมันมา  เป็นลูกชายของเพื่อนพ่อมันและก็เคยอยู่ในบ้านหลังนั้นมาก่อนอีกต่างหาก”

            “ถ้าเคยอยู่ในบ้านเดียวกัน  แสดงว่าไอ้เคลวินกับน้องภัทรต้องรู้จักกันมาก่อน  ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันเคยมีญาติที่ไหน  มันเคยบอกแค่ว่ามันโตมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า  แล้วถูกอุปการะเลี้ยงดูจากพ่อแม่บุญธรรมชาวอเมริกันก็เท่านั้น  แสดงว่ามันต้องมีเรื่องเกิดขึ้นกับเคลวินในสมัยเด็กอย่างแน่นอนมันถึงได้แค้นหนักขนาดนี้” พงษ์เอ่ยออกมาซะยาวยืด

            “คุณนี่มโนเก่งจริงๆนะเนี่ย”

            “ก็มันจริงไหมล่ะ ตอนนี้เราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว มาร่วมมือกันช่วยน้องภัทรไหมล่ะ”

            “จะช่วยยังไงล่ะในเมื่อผมจะพาพี่ชายเค้ามารับตัวกลับ  น้องภัทรเองยังไม่อยากไปเลย  หรือว่าน้องภัทรจะหลงรักคุณเคลวินเข้าให้แล้ว” กันต์ว่า

            “ใช่เหรอ? คนอย่างไอ้เคลวินนี่นะน้องภัทรจะมารักมาชอบ ผมว่ามันน่าจะมีเรื่องขู่น้องไว้แน่นอน” พงษ์สันนิษฐาน

            “อาจจะเป็นไปได้  ตอนนี้ผมเริ่มงงกับคุณแล้ว สรุปคุณอยู่ข้างไหนกันแน่” กันต์ถามอย่างสงสัย  เพราะพงษ์เป็นเพื่อนสนิทกับเคลวิน  แต่กลับมาช่วยนภัทรซะอย่างนั้น

            “ผมไม่ได้อยู่ข้างใครทั้งนั้น ผมอยู่ข้างความถูกต้องถ้าเพื่อนผมมันทำผิด  ผมก็ต้องเตือนสติมันให้กลับตัวกลับใจ  เพราะตอนนี้มันกำลังจะมี...” พงษ์เกือบเอ่ยประโยคสำคัญออกไป  ดีที่เขาดึงสติไว้ได้ทันก่อนที่คำนั้นจะหลุดออกมา

            “กำลังจะมีอะไร” กันต์มองหน้าคุณหมอด้วยความสงสัย

            “ปะ...เปล่าครับ ไม่มีอะไรผมก็พูดมั่วๆไปงั้นล่ะ” พงษ์พยายามแก้ตัว

            “คุณนี่ก็มีลับลมคมในไม่ต่างจากเพื่อนคุณเลยนะเนี่ย”

            “อย่ามากล่าวหาผมนะ ผมหมดเรื่องจะคุยกับคุณแล้ว” พงษ์รีบตัดบท

            “แต่ผมอยากจะคุยกับคุณต่ออีกนี่ครับ อยู่ต่ออีกนิดนะ” กันต์ยิ้มอ้อน

            “แป๊บเดียวนะ”

            “ครับผม”

            เมื่ออ้อนคุณหมอได้สำเร็จกันต์ก็ยิ้มกว้างทันที  ทั้งสองพูดคุยและสั่งเครื่องดื่มมาทาน  และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ซึ่งกันและกันของทั้งสองคน



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            นภัทรลงมาช่วยป้าภาทำกับข้าวในห้องครัว  เพราะวันนี้พงษ์ขอเคลวินเข้ามาเยี่ยมร่างบาง  โดยไม่ลืมที่จะชวนกันต์มาด้วย  กับข้าวทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงของหวานที่วันนี้ป้าภาตั้งใจจะทำบัวลอยไข่หวาน  แต่ในระหว่างนวดแป้งอยู่นั้นป้าภาเกิดปวดห้องน้ำขึ้นมากระทัน  จึงฝากนภัทรช่วยทำต่อ

            “ภัทรป้าไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ฝากเอ็งช่วยนวดแป้งต่อด้วย”

            “ได้ครับป้า” นภัทรวางมือจากการเช็ดจานแล้วมาช่วยนวดแป้งต่อ

            “ป้าไปล่ะ” พูดจบป้าภาก็รีบวิ่งแจ้นเข้าไปที่ห้องน้ำซึ่งอยู่ห่างจากครัวพอประมาณ

            นวดแป้งไปได้สักพักขวัญก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในครัว

            “ภัทรป้าภาหกล้มในห้องน้ำ!” ร่างบางได้ยินก็รู้สึกตัวชาทันทีเพราะกลัวว่าป้าภาจะเป็นอะไรไป

            “ป้าภา!” ร่างบางเอ่ยเบาๆแล้วรีบเดินออกไปทันที

            ขวัญรีบเดินนำหน้าไปก่อนอย่างเร่งรีบ  ก่อนจะถึงหน้าห้องน้ำเพียงไม่กี่ก้าวร่างบางก็ต้องตกใจอีกครั้ง  เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถทรงตัวได้จากการเหยียบบนพื้นที่ลื่น  ราวกับว่ามีคนมาราดน้ำมันไว้ซะอย่างนั้น ร่างบางล้มคว่ำลงจนศีรษะกระแทกพื้น  ตอนนี้ทุกอย่างที่มองเห็นมันดูพร่ามัวไปหมด  ร่างบางมองเห็นคลับคล้ายคลับคลาขวัญกำลังยืนจ้องมองมาที่เขา  ก่อนจะร้องขอความช่วยเหลือ

            “ชะ...ช่วยด้วย” ร่างบางเริ่มรู้สึกเจ็บที่ท้องขึ้นมาก่อนจะเอามือกุมไว้ตัวงอ  เขาห่วงเจ้าตัวน้อยมากเหลือเกิน  ลูกจะต้องอยู่กับแม่นะ...ลูกจะต้องไม่เป็นอะไร ร่างบางคิดในใจก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลง

            “แกคิดเหรอว่าฉันจะปล่อยแกและลูกมาเสวยสุขต่อหน้าต่อตาฉัน”

            ขวัญยิ้มเยาะก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



------------------------------------------------------

สงสารน้องภัทรเจอเรื่องราวไม่เว้นแต่ละวัน  สู้ๆนะจ๊ะนภัทร อิอิ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.15-อุบัติเหตุ]-(22-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-02-2018 15:55:00
นังขวัญชัย นักดอกไม้ อยากตบจริงๆ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.15-อุบัติเหตุ]-(22-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 22-02-2018 16:26:56
ถ้าเรื่องนี้ถึงหูเคลวิน
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.15-อุบัติเหตุ]-(22-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-02-2018 16:45:14
แท้งไม่แท้งให้อะไรเสี่ยงทายดี
 :ling3:  เพลีย
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.15-อุบัติเหตุ]-(22-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-02-2018 16:49:20
อีขวัญเลวมาก!!
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.15-อุบัติเหตุ]-(22-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-02-2018 18:14:12
อยากให้เวรกรรมตามสนองนังมารขวัญ  :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.15-อุบัติเหตุ]-(22-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 22-02-2018 19:38:19
ให้ขวัญ :z6:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.15-อุบัติเหตุ]-(22-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 22-02-2018 21:54:27
ขอให้ขวัญได้รับผมกรรมที่ทำร้ายคนอื่นไวๆ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.15-อุบัติเหตุ]-(22-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 22-02-2018 22:54:47
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.15-อุบัติเหตุ]-(22-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 22-02-2018 23:26:53
ค้าง  :a5: :serius2: :z13:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.15-อุบัติเหตุ]-(22-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-02-2018 02:11:38
รอดูนังวินจะว่าไง  :m16:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.15-อุบัติเหตุ]-(22-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: booboos ที่ 23-02-2018 05:32:16
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.15-อุบัติเหตุ]-(22-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: kittvara ที่ 23-02-2018 21:28:57
คนอ่านมโนไปไกลแล้วว่านายเอกจะเป็นยังไง
แง๊ ~~~~~ น้องภัทรอย่าเป็นอะไรไปนะ
งือออออ
มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.16-บทลงโทษ]-(24-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 24-02-2018 23:48:38
CHAPTER  16  บทลงโทษ



            “ว้าย! ภัทร” ป้าภาตะโกนเสียงดังหลังจากออกมาเจอร่างบางนอนฟุบอยู่ที่พื้น  ก่อนจะรีบวิ่งมาพยุงตัวเอาไว้ “ช่วยด้วย! ใครอยู่ใกล้ๆมาช่วยไอ้ภัทรที!” ป้าภาร้องเสียงดังเรียกให้คนมาช่วย

            พงษ์และกันต์ที่เพิ่งจะมาถึงบังเอิญได้ยินเข้าก็รีบบึ่งมาตามเสียงทันที

            “คุณหมอคะช่วยไอ้ภัทรมันด้วยค่ะ” ป้าภาเอ่ยออกมาด้วยความลนลาน

            “ป้าใจเย็นๆนะครับ เกิดอะไรขึ้น” พงษ์เอ่ยถามด้วยสีหน้าตระหนก

            “ป้าออกมาจากห้องน้ำก็เจอภัทรมันนอนอยู่ที่พื้นแล้วค่ะ ป้ากลัว...กลัวว่ามันจะแท้งลูก” ป้าภาตกใจมากจนเผลอพูดความลับที่เพิ่งจะได้รู้ออกมา

            “แท้งลูกงั้นเหรอ” กันต์เอ่ยเบาๆพร้อมกับหันมามองพงษ์เหมือนมีคำถาม

            “คุณอย่าเพิ่งสงสัยอะไรตอนนี้ เรารีบพาน้องภัทรไปที่ศูนย์การแพทย์ก่อนเร็ว!”

            “โอเคๆ มาผมอุ้มเอง” ว่าแล้วกันต์ก็เดินเข้าไปช้อนตัวร่างบางขึ้นมา

            “ป้าไม่ต้องห่วงนะ ได้ข่าวยังไงผมจะโทรมาบอกละกัน” พงษ์เอ่ยเมื่อเห็นว่าหญิงสูงวัยที่อยู่ตรงหน้า  เป็นห่วงนภัทรมากขนาดไหน

            “ค่ะ ฝากมันด้วยนะหมอ”

            “ไม่ต้องห่วงครับ”

            กันต์อุ้มร่างบางเดินไปก็เจอกับเคลวินเข้าพอดี

            “เกิดอะไรขึ้น!”

            “น้องภัทรหกล้ม พวกกูกำลังจะพาไปที่ศูนย์การแพทย์” พงษ์ที่เดินตามหลังกันต์มาเป็นคนตอบ

            “กูไปด้วย”

            ระหว่างทางเคลวินที่นั่งกระวนกระวายใจอยู่ข้างคนขับ  ก็หันมามองร่างบางที่นอนนิ่งไม่ได้สติอยู่บ่อยๆ  ส่วนพงษ์ที่พยุงตัวร่างบางเอาไว้นั้นก็มีความกังวลใจ  กลัวว่าเจ้าตัวเล็กในท้องนั้นอาจจะได้รับอันตราย

            เมื่อรถมาจอดที่หน้าศูนย์การแพทย์แล้ว  บุรุษพยาบาลก็มารับตัวร่างบางเข้าไปในห้องฉุกเฉิน

            “รอข้างนอกก่อน” พงษ์เอ่ยกับสองหนุ่มแล้วเดินเข้าไปด้านใน

            ทั้งสองนั่งรออยู่ข้างนอกอย่างเงียบๆ  ก่อนที่กันต์จะปรายตามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ และพบว่าเคลวินกำลังทำหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด  เห็นอย่างนั้นก็มีคำถามเกิดขึ้นภายในใจ  ว่าเคลวินคิดยังไงกับนภัทรกันแน่เป็นห่วงเป็นใยแต่ก็ลักพาตัวมาซะอย่างนั้น  เขาอยากจะรู้ความจริงทั้งหมดซะแล้วสิ

            “คุณเคลวินไม่ต้องห่วงนะครับ น้องภัทรอยู่ในมือหมอแล้วปลอดภัยแน่นอน” กันต์เอ่ยกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

            “ครับ” เขาตอบสั้นๆแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตารอต่อไป

            อยู่ๆกันต์ก็นึกถึงคำพูดของป้าภาขึ้นมา ทำไมป้าภาพูดจาแปลกๆ คำว่า ‘แท้ง’ มันใช้กับคนมีลูก  ถ้าหากนภัทรเป็นผู้หญิงเขาคงไม่ได้แปลกใจอะไร  แต่นี่นภัทรเป็นผู้ชายมันคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

            “คุณเคลวินครับ” กันต์เอ่ยถามอีกครั้ง

            “ว่าไงครับ”

            “ผมถามจริงๆ น้องภัทรกับคุณเป็นอะไรกัน ทำไมคุณถึงได้เป็นห่วงน้องภัทรขนาดนี้” กันต์ถามไปตรงๆ

            เคลวินทำหน้าไม่ถูกเมื่อเจอคำถามที่มันแทงใจ  ก่อนจะขยับริมฝีปากตอบออกไป

            “มันเป็นคนของผมครับ” เขาตอบแค่นั้น

            “เป็นคนของคุณนี่หมายถึง....” กันต์ยอมเสียมารยาทถามต่อ  แต่ในขณะนั้นพงษ์ก็เดินออกมาจากห้องพอดี  ทำให้ทั้งสองหันไปสนใจพงษ์แทน

            “น้องภัทรเป็นไงบ้างคุณ” กันต์เอ่ยถาม

            “หัวแตกเย็บสามเข็ม  ตอนนี้ทำแผลให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ต้องนอนค้างที่นี่อีกคืนนึง  เพื่อเอ็กซ์เรย์ดูอีกครั้งว่าไม่มีความผิดปกติอะไร” พงษ์เอ่ย

            “แล้วเรื่องนั้นล่ะ” กันต์มองหน้าคุณหมอ

            “เดี๋ยวเราค่อยคุยกันทีหลัง” พงษ์ตอบไปเพราะกลัวว่าเคลวินจะสงสัย

            “เรื่องอะไร มึงมีอะไรปิดบังกูอยู่รึเปล่า?” เคลวินมองหน้าเพื่อนอย่างไม่ไว้ใจ

            “ไม่มี้” พงษ์ตอบเสียงสูงจนผิดสังเกต

            “ทำไมมึงต้องทำเสียงสูงด้วย”

            “เปล้า...มึงนี่เป็นพวกชอบจับผิดคนตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” พงษ์ว่าให้เพื่อน

            “อย่าให้กูรู้นะ ไม่งั้นมึงโดนแน่” เคลวินชี้หน้าเพื่อนอย่างเอาเรื่อง

            “มึงจะทำอะไรกูวะ ที่นี่ไม่ใช่คฤหาสน์มึงนะโว้ย”

            “ไม่รู้ล่ะ ว่าแต่ไอ้นั่นมันอยู่ห้องไหน”

            “อยู่ห้องเดิมนั่นล่ะ ตอนนี้น้องมันหลับอยู่”

            เมื่อเพื่อนบอกอย่างนั้นเคลวินก็เดินตรงไปหาร่างบางทันที

            หลังจากเคลวินเดินออกไปจากตรงนั้นแล้ว กันต์ก็ถามคำถามที่มันยังคงค้างคาใจกับคุณหมอหน้าหวานทันที

            “จะบอกผมได้รึยังเรื่องนั้น”

            “เรื่องอะไรล่ะ” พงษ์ทำเหมือนไม่รู้เรื่อง

            “อย่ามาเนียนสรุปน้องภัทรท้องจริงๆเหรอ”

            “อื้ม” พงษ์พยักหน้า “แต่อย่าให้ไอ้เคลวินรู้เรื่องนี้เด็ดขาดนะเพราะน้องภัทรขอเอาไว้”

            “ผมไม่บอกแน่ แต่ผมงงว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง” กันต์ทำหน้าเหมือนอยากรู้มากเหลือเกิน

            “ไม่ต้องงงหรอก มันเกิดขึ้นได้แต่เคสอย่างนี้เกิดขึ้นได้น้อยมาก  และน้องภัทรเป็นหนึ่งในนั้นที่สามารถตั้งครรภ์ได้  ส่วนเจ้าตัวเองก็ไม่รู้เรื่องมาก่อนทำให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น” พงษ์อธิบายให้กันต์ฟัง

            “สรุปแล้วเด็กยังอยู่ไหม”

            “ถือว่าเด็กมันยังมีบุญ เด็กยังอยู่ผมเองก็โล่งใจเหมือนกัน”

            พงษ์เองก็ถอนหายใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ  เมื่อเห็นเพื่อนรักกำลังทำหน้าเหี้ยมมองมา  งานเข้าแล้วไงเขาจะแก้ตัวกับเคลวินว่ายังไงดีเนี่ยพงษ์คิดในใจ

            “เป็นอะไรคุณ” กันต์ถามเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของคุณหมอหน้าหวาน

            “ไหนมึงบอกไม่มีเรื่องอะไรปิดบังกูไง!” เคลวินเดินเข้ามาก่อนจะไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนเก้าอี้

            “กูขอโทษ มันจำเป็นจริงๆนะเว้ย”

            “จำเป็นเหี้ยอะไร ถ้ากูรู้มันคิดว่ากูจะฆ่าลูกตัวเองได้ลงคอเลยเหรอ” เคลวินเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง

            “มึงก็รู้อยู่แก่ใจว่ามึงพาน้องภัทรมาที่นี่ด้วยวิธีไหน  แล้วจะไม่ให้น้องมันคิดอย่างนั้นได้ไงวะ” พงษ์พยายามอธิบายเหตุผล

            “..............” เคลวินยังคงเงียบ

            “มึงเงียบอย่างนี้แสดงว่ามึงเข้าใจน้องแล้วใช่ไหมล่ะ”

            “เอาเป็นว่ามึงอย่าบอกมันก็แล้วกันว่ากูรู้เรื่องแล้ว...มันจะได้สบายใจ” อารมณ์ของเคลวินเริ่มอ่อนลง

            “เออ กูไม่บอกน้องภัทรแน่นอน นายก็ด้วยนะห้ามพูดเด็ดขาด” พงษ์หันไปเอ่ยกับกันต์

            “สัญญาครับผมไม่บอกแน่นอน” กันต์ชูสามนิ้วขึ้น

            “คืนนี้มึงจะอยู่เฝ้าน้องปะล่ะ”

            “อืม...กูจะอยู่เฝ้าเอง”

            “ถ้างั้นเดี๋ยวกูโทรฯไปบอกป้าภาก่อนก็แล้วกัน แกจะได้ไม่เป็นห่วง”

            “โอเค เดี๋ยวกูจะเข้าไปข้างในก่อน”

            “โอเคๆ”

            ระหว่างเดินเคลวินก็คิดถึงเรื่องลูกไปด้วย  นี่เขากำลังจะมีลูกจริงๆเหรอเนี่ย เขากำลังจะมีเจ้าตัวเล็ก  คิดแล้วก็ยิ้มน้อยๆออกมาด้วยความดีใจ  เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วก็เดินตรงไปที่เตียง  เขามองหน้าคนป่วยด้วยความเป็นห่วง  มันจะเป็นไปได้ไหมหากร่างบางจะอยู่กับเขาที่นี่ตลอดไป  เป็นแม่ของลูกและเป็นภรรยาที่ดี  ถ้าเขาลืมความแค้นในอดีตได้ก็คงดีสินะ  เขาจะทำอย่างที่คิดและไม่มีทางให้คนที่นอนอยู่ตรงหน้านี้เจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย

            “นี่มึงกำลังจะมีลูกให้กูจริงๆเหรอเนี่ย”

ร่างสูงเอ่ยเบาๆพร้อมกับใช้มือหนาลูบที่เรือนผมของร่างบางไปด้วย  เมื่อทุกอย่างเป็นเช่นนี้แล้ว  เขาควรจะทำอย่างไรต่อไปดี  จะหยุดทุกอย่างแล้วอยู่กับลูกกับเมีย  แต่พ่อแม่ของเขาล่ะจะต้องตายเปล่าอย่างนั้นเหรอ  ถ้าเลือกที่จะทำลายคนพวกนั้นต่อไปร่างบางก็ต้องเจ็บปวดไปด้วย  และสักวันต้องหาทางพาลูกหนีเขาไปอย่างแน่นอน  ไม่ว่าจะเลือกทางไหนมันก็เจ็บปวดเหมือนกันหมด  คิดแล้วก็ปวดหัวไม่น้อย

            “กูควรจะทำยังไงต่อไปดี”

            เขาเอ่ยออกมาเบาๆก่อนจะทิ้งตัวลงที่โซฟาข้างๆอย่างอ่อนล้า


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            “ป้าภาน้องภัทรปลอดภัยแล้วนะครับไม่ต้องเป็นห่วง”

            (“โล่งอกไปทีค่ะแล้วเด็กในท้องล่ะคะเป็นยังไงบ้าง”)

            “เด็กยังอยู่ครับ โชคดีมากๆ”

            (“ได้ยินอย่างนี้ป้าก็นอนหลับแล้วล่ะคืนนี้”)

            “ถ้าเอ็กซ์เรย์สมองแล้วไม่มีอะไรผิดปกติ พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วครับ”

            (“ขอบคุณนะคะคุณหมอที่มาส่งข่าว  มาพรุ่งนี้ก็ดีป้าจะได้จัดการกับคนที่มันคิดจะทำร้ายไอ้ภัทรมัน”)

            “หมายความว่าไงครับป้า”

            (“ป้ามาดูที่เกิดเหตุมันมีคนมาราดน้ำมันพืชไว้  หมายว่าจะให้ไอ้ภัทรมันลื่นแล้วก็ล้ม รอคุณเคลวินกลับมาก่อนป้าจะให้ท่านจัดการมันซะให้เข็ด”)

            “มีใครในบ้านที่คิดร้ายกับน้องภัทรอย่างนั้นเหรอครับ” พงษ์ถามด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้นภัทรกำลังตั้งครรภ์อยู่  ถ้ามีคนไม่หวังดีอยู่ในบ้านเขากลัวว่าสักวัน  อาจจะเกิดเรื่องขึ้นอีกจนทำให้นภัทรแท้งลูกก็เป็นได้

            (“มีอยู่คนเดียวนี่ล่ะค่ะอีขวัญมันอยากเป็นเมียคุณเคลวินจนตัวสั่น  แต่ท่านไม่เอามันเลยไม่ชอบขี้หน้าไอ้ภัทรนะค่ะคุณหมอ”)

            “ถ้างั้นผมฝากป้าช่วยดูแลน้องภัทรด้วยนะครับ ผมกลัวว่าเค้าจะทำร้ายน้องอีก ครั้งหน้าไม่รู้ว่าเด็กในท้องจะโชคดีเหมือนครั้งนี้หรือเปล่า”

            (“ได้ค่ะป้าจะดูแลภัทรมันเอง คุณหมอไม่ต้องห่วงนะคะ”)

            “ขอบคุณนะครับป้า ถ้างั้นผมขอวางสายก่อนนะครับ”

            (“สวัสดีค่ะคุณหมอ”)

            หลังจากวางสายป้าภาแล้วพงษ์ก็หันไปมองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า  ตอนนี้ทั้งสองอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

            “สรุปว่าที่น้องภัทรหกล้มมีคนตั้งใจแกล้งเหรอ” กันต์เอ่ยถาม

            “อื้ม รู้อย่างนี้แล้วก็ยิ่งเป็นห่วงน้องภัทร หวังว่าไอ้เคลวินมันจะรักลูกรักเมียมัน จัดการกับคนนั้นให้เด็ดขาด”

            “เท่าที่ผมสังเกตดูคุณเคลวินก็เป็นห่วงน้องภัทรอยู่ไม่น้อยนะ  อยากรู้จังว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้คุณเคลวินจับตัวน้องภัทรมา”

            “ถ้าอยากรู้ก็ไปถามเพื่อนคุณสิ”

            “มันไม่มีทางบอกผมหรอก แสดงว่าคงเป็นเรื่องคอขาดบาดตายแน่นอน  เพราะผมกับไอ้ดลไม่เคยมีความลับต่อกันจะมีก็คราวนี้ล่ะ”

            “ถ้างั้นเราก็รออย่างนี้ต่อไปละกัน ความลับมันไม่มีในโลกหรอกสักวันเราจะต้องรู้แน่นอน”

            “ใช่ความลับไม่มีในโลก แล้วคุณล่ะอยากรู้ความลับผมไหม” กันต์ส่งสายตากรุ้มกริ่มให้

            “ความลับอะไร ผมไม่เห็นอยากรู้เลย” พงษ์ทำท่าไม่สนใจแล้วก้มหน้าลงจัดการกับอาหารในจานต่อ

            “คุณไม่อยากรู้แต่ผมอยากจะบอก...ผมชอบคุณนะครับคุณหมอ” กันต์เผยความในใจต่อหน้า  จนคุณหมอหน้าหวานแทบสำลักอาหารที่เพิ่งจะทานเข้าไป

            “แค่กๆ” พงษ์ต้องจิบน้ำเพื่อทำให้คล่องคอ “คุณพูดบ้าอะไรเนี่ย!” เขาเอ่ยแต่หน้ากลับเปลี่ยนสีจนสังเกตได้

            “ทำไมต้องหน้าแดงด้วย แสดงว่าคุณเองก็ชอบผมใช่ไหมล่ะ” กันต์ชี้หน้าเพื่อจับผิด

            “ใครจะชอบคนอย่างคุณ  กวนตีนฉิบหาย” พงษ์เอ่ยพร้อมกับเขี่ยกับข้าวในจานเล่นแก้เขิน

            “อ่ะเขินๆ เขี่ยเข้าไปข้าวอ่ะ คุณไม่ค่อยมีพิรุธเลยนะคุณหมอ” กันต์เอ่ยแซว เห็นอย่างนั้นเขาก็ใจชื้นขึ้นมาบ้าง  ถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป  อย่างน้อยคนที่อยู่ตรงหน้าน่าจะมีใจให้เขาอยู่บ้าง

            “ใครเขินวะ กินต่อสิจะได้รีบๆกลับกัน”

            “เอ๊ะ! หรือว่าเราจะไปกินต่อที่ห้องคุณดี” กันต์ยังไม่เลิกกวน

            “อย่ามโน”

             พงษ์ทำหน้าดุใส่ ส่วนกันต์เองก็ได้แต่ยิ้มรับอย่างพอใจ



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            วันรุ่งขึ้นหลังจากตรวจร่างกายซ้ำอีกรอบ  ผลออกมาว่าปกติเคลวินก็พาร่างบางกลับมาที่บ้าน  เมื่อมาถึงป้าภาก็มายืนรออยู่เช่นเคย

            “เอ็งเป็นไงบ้างภัทร”

            “หายดีแล้วครับป้าไม่ต้องเป็นห่วง แล้วป้าล่ะเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนไหม” ร่างบางเอ่ยถามเพราะก่อนจะหมดสติ  จำได้ว่าขวัญบอกว่าป้าภาหกล้มในห้องน้ำ

            “เอ็งหมายความว่ายังไงวะ” ป้าภาทำหน้างงๆ

            “ก็ขวัญบอกว่าป้าหกล้มในห้องน้ำ ผมเลยรีบเข้าไปดูแต่ดันมาลื่นล้มเองซะก่อน”

            “อ้อเป็นอย่างนี้นี่เอง” ป้าภาเริ่มประติดประต่อเรื่องจนเข้าใจ ก่อนจะเอ่ยกับเคลวินทันที “คุณเคลวินคะที่ไอ้ภัทรมันล้ม  เรื่องทั้งหมดนังขวัญมันเป็นคนจัดฉากค่ะ มันเอาน้ำมันพืชไปราดลงบนพื้น  แล้วหลอกให้ไอ้ภัทรมันเดินมาลื่นจนหกล้ม  ถ้าปล่อยมันเอาไว้ป้าว่าคราวหน้าภัทรมันอาจจะถึงตายได้เลยนะคะ” ป้าภาบอก

            “นี่เป็นฝีมือขวัญงั้นเหรอครับ” นภัทรเองก็เริ่มจะเข้าใจแล้ว

            เมื่อเจ้าของบ้านได้ยินก็หน้าขึ้นสีทันที  ขวัญก่อเรื่องใส่ร้ายนภัทรมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ก็ทำให้ถึงกับเลือดตกยางออก ไม่ได้แล้วเขาจะต้องจัดการให้เด็ดขาด

            “เรียกขวัญมาพบผมเดี๋ยวนี้” เขาเอ่ยกับป้าภา

            “ค่ะคุณเคลวิน”

            เมื่อป้าภาเดินเข้าไปด้านใน  คนตัวสูงก็พยุงร่างบางจะพาเดินเข้าไปในบ้าน

            “ผมเดินเองได้” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับมองใบหน้าคม

            “อย่าทำเป็นเก่งเดินไปดีๆ” น้ำเสียงที่เอ่ยไม่ได้แข็งกระด้างเหมือนเช่นเคย  ทำให้ร่างบางรู้สึกแปลกใจ  แต่ก็ยอมปล่อยให้อีกคนเดินพยุงเข้าไปด้านในแต่โดยดี

            เมื่อเดินเข้าไปถึงห้องโถง ขวัญและป้าภาก็ยืนรออยู่แล้ว  ท่าทางของขวัญนั้นลุกลี้ลุกลนราวกับคนมีความผิด  หล่อนไม่ยอมสบตากับผู้เป็นเจ้าของบ้านเลยแม้แต่น้อย

            “ขวัญ” เสียงเย็นยะเยือกเอ่ยขึ้น  ทำให้สาวใช้ถึงกับขนลุกชัน

            “ค่ะคุณเคลวิน” เธอตอบเสียงสั่น

            “เธอทำอย่างที่ป้าภาบอกหรือเปล่า”

            “เปล่านะคะหนูไม่ได้ทำ หนูไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น” ขวัญปฏิเสธเสียงแข็ง

            “ถึงขนาดนี้แล้วมึงยังจะปากแข็งอีกเหรอวะ  หรือจะต้องให้เรื่องถึงตำรวจมึงถึงจะยอมรับ” ป้าภาอดไม่ได้เลยระเบิดอารมณ์ออกมา

            “ก็ฉันไม่ได้ทำนี่ป้า จะให้ยอมรับอะไรล่ะ”

            “เธอบอกฉันว่าป้าภาหกล้มในห้องน้ำ มันหมายความว่ายังไง  ในเมื่อป้าภาไม่ได้หกล้มอย่างที่เธอบอก” ร่างบางที่ยืนอยู่เอ่ยถาม

            “ฉันไม่ได้พูดเธอน่ะเพ้อไปเอง” เธอเอ่ยแล้วหันไปหาผู้เป็นเจ้านาย “คุณเคลวินหนูไม่ได้ทำจริงๆนะคะ”

            “ขนาดมีพยานสองคนยืนยันเรื่องทั้งหมดขนาดนี้แล้ว เธอยังจะปากแข็งอีกเหรอขวัญ” ร่างสูงเอ่ยเสียงเข้ม

            “ก็พวกมันโกหกไงคะ ใช่สิหนูไม่เคยอยู่ในสายตาคุณเคลวินเลย ทำอะไรก็คงผิดไปหมด” เธอตวาดแหวเสียงดัง

            “อีนี่มันชักจะเหิมเกริมแล้ว ขอโทษคุณเคลวินเดี๋ยวนี้” ป้าภาเริ่มขึ้นเสียงใส่

            “ไม่เป็นไรป้าผมไม่ถือ” เขาพูดอย่างใจเย็นเมื่อเห็นอย่างนั้นขวัญก็ยิ้มเยาะใส่ป้าภาทันที “ฉันให้เวลาเก็บของครึ่งชั่วโมง  แล้วจะให้คนไปส่งที่ท่าเรือ ส่วนเงินเดือนงวดสุดท้ายฉันจะให้ป้าภาเอาไปให้”

            “ไม่นะคะ คุณเคลวินจะทำอย่างนี้กับหนูไม่ได้ หนูรักคุณมาตลอดทำไมถึงใจร้ายไล่หนูออกไปจากที่นี่ด้วย ฮือๆๆ หนูยอมรับแล้ว หนูขอโทษที่โกหกคุณ ให้หนูอยู่ที่นี่ต่อเถอะนะคะคุณเคลวิน ฮือๆๆ” เธอร้องไห้ร้องห่มเสียงดัง  แล้วนั่งกอดขาผู้เป็นเจ้านายอย่างอาลัยอาวรณ์

            “ที่ฉันไม่ส่งเธอให้ตำรวจก็ถือว่าใจดีมากแล้วนะ อยู่ต่อไปก็มีแต่จะทำให้คนอื่นเดือดร้อน” เคลวินเอ่ยอย่างไม่ยี่หระก่อนจะกระเถิบขาออกมาให้หลุดพ้นจากการเกาะกุม  แล้วหันไปเอ่ยกับร่างบาง “ป่ะขึ้นห้องกัน”

            นภัทรมองขวัญอย่างเวทนา  ก่อนจะเดินขึ้นไปด้านบนตามคำสั่งของคนตัวสูง  เขาไม่นึกเลยว่าเคลวินจะทำถึงขนาดนี้....เพราะต้องการปกป้องเขา



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.16-บทลงโทษ]-(24-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-02-2018 23:57:51
ในที่สุด
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.16-บทลงโทษ]-(24-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 25-02-2018 00:36:26
ไอ้วิ่นจะดับแค้นได้ไหม ถ้าได้ก็ดีต่อน้องมากเลย
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.16-บทลงโทษ]-(24-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-02-2018 00:59:22
จับชะนีขวัญไปปล่อยนอกเกาะ ได้แต่หวังว่าจะไม่มาก่อเหตุร้ายอะไรอีกนะ สังวรณ์ใจไงไม่รู้ ตีชะนี มันต้องตีให้กระดูกเชิงกรานหัก  o12
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.16-บทลงโทษ]-(24-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: kittvara ที่ 25-02-2018 01:21:02
โล่งอก~~~~
น้องภัทรไม่เป็นอะไรมาก
เหลือแต่เครียร์ฝั่งของพระเอกว่าจะเอายังไง...
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.16-บทลงโทษ]-(24-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 25-02-2018 06:20:05
รักภัทรก็พูดมาเหอะ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.16-บทลงโทษ]-(24-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 25-02-2018 08:29:10
ติมตามต่อออ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.16-บทลงโทษ]-(24-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 25-02-2018 08:47:03
เคลวินรู้แล้วจะยังไงต่อ?
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.16-บทลงโทษ]-(24-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 25-02-2018 17:37:31
ขวัญคงกลับมาแก้แค้นสักวัน ที่น่ากลัวคือเมญ่าละมั้ง
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.16-บทลงโทษ]-(24-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 25-02-2018 21:17:41
เคลวินรู้ว่าภัทรท้องแล้ว จทำยังไงต่อล่ะ จะแก้แค้นต่อไปหรือจะแก้ไขปรับปรุงตัวเอง เลิกแค้นเลิกทำร้ายกัน
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.16-บทลงโทษ]-(24-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-02-2018 23:08:21
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.16-บทลงโทษ]-(24-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 25-02-2018 23:13:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.16-บทลงโทษ]-(24-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 26-02-2018 03:22:55
แค่คำว่า เจ้าตัวเล็ก ที่เคลวินคิดในใจเราก็แพ้แล้วอ่ะค่ะ ใจบางไปหมดกับความคิดถึงการจะมีลูกเมีย จะดูแลเขาไม่ให้เจ็บ มันแบบพูดยากแต่ปริ่มมมมม ไม่อยากให้มีอะไรมาทำให้พี่เขาคิดร้ายเลย แล้วยิ่งขวัญโดนไล่ออกคงหาทางมาเอาคืน(มโนไปอี๊กก) เป็นห่วงน้องภัทรกับเจ้า ตัว เล็กกกกก งื้อ กร้าวใจกับคำนี้ของเคลวิน ไม่ไหวๆๆๆๆ

มาต่อเร็วๆนะคะ /เกาะกระทู้   :hao5:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.16-บทลงโทษ]-(24-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-02-2018 06:16:09
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.16-บทลงโทษ]-(24-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 26-02-2018 12:23:51
อยากให้เมียกับลูกอยู่ด้วยก็ทำดีกับเขานะ พี่วิน
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.17-เมื่อเธอขอ ฉันก็จะยอมให้]-(27-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 27-02-2018 18:04:14
CHAPTER  17  เมื่อเธอขอ ฉันก็จะยอมให้



          หลังจากถูกนายจ้างไล่ตะเพิดออกจากบ้านอย่างกะทันหัน  ขวัญก็ถูกนำตัวมาส่งที่ท่าเรือพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่สองใบ  หล่อนยืนร้องไห้ร้องห่มเสียงดังจนคนแถวนั้นต่างก็หันมามองเป็นตาเดียวกัน  แต่มีหรือหญิงสาวที่จิตใจแข็งกระด้างอย่างขวัญจะมียางอายหลงเหลืออยู่

            “มองอะไรกัน!” เธอตวาดแหวใส่ชาวบ้านชาวช่องที่กำลังมองมา  ก่อนจะขึ้นเรือโดยสารเพื่อที่จะขึ้นฝั่งในเมือง  เข้าไปหาที่พักกายก่อนจะหางานทำหลังจากนั้น

            เมื่อขึ้นฝั่งแล้วเธอก็สะพายกระเป๋าเดินไปตามทางอย่างไร้จุดหมาย  ในใจก็คิดถึงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา  สักวันหล่อนจะต้องเอาคืนคนบ้านนั้นให้จงได้  โดยเฉพาะเคลวินหล่อนจะทำให้เขาคนนั้นเป็นคนมาง้องอนหล่อนกลับไปที่นั่นด้วยตัวเอง  คิดแล้วก็ยิ้มกริ่มขึ้นมาอย่างสะใจ  ก่อนจะบังเอิญเห็นชายหนุ่มท่าทางภูมิฐาน  มีลูกน้องหลายคนยืนล้อมหน้าล้อมหลังอยู่  เธอจำได้ดีว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นลูกชายของคนใหญ่คนโตในจังหวัดและเป็นเจ้าของเกาะเพิร์ลอีกด้วย  เธอพยายามนึกชื่อแต่ก็นึกไม่ออก  แต่นั่นมันไม่ใช่ปัญหาเพราะเขาคนนี้ล่ะจะเป็นที่พึ่งใหม่ของเธอ  คิดแล้วขวัญก็เดินตรงไปหาชายหนุ่มทันที

            “คุณคะ สวัสดีค่ะ” ขวัญยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับส่งยิ้มให้

            ลูกน้องของอิทธิเห็นอย่างนั้นก็เดินมากั้นไม่ให้หญิงสาวได้เข้าใกล้ตัวผู้เป็นเจ้านาย

            “ถอยก่อน”  อิทธิสั่งลูกน้อง  เมื่อได้ยินคำสั่งผู้เป็นเจ้านาย  ชายชุดดำทั้งสองก็ถอยออกมา ทำให้ขวัญยิ้มกริ่มอย่างพอใจ

            “เธอเป็นใครรู้จักฉันด้วยเหรอ” อิทธิขมวดคิ้วมองหญิงสาวอย่างสงสัย

            “ทำไมฉันจะไม่รู้จักคุณล่ะคะ ก็คุณป็นถึงลูกชายของนักธุรกิจดังของจังหวัดนี้”

            “แล้วเธอมีอะไร บอกมาตรงๆอย่าอ้อมค้อม”

            “คือว่า...ฮึก ตอนนี้หนูกำลังตกงานค่ะ คุณพอจะมีงานให้ฉันทำบ้างไหมคะ” เธอว่าพร้อมกับทำทีเป็นร้องไห้ออกมาให้ชายหนุ่มรู้สึกสงสาร

            “ฉันยังไม่รู้จักเธอดีเลย  เธอเป็นใครมาจากไหน อยู่ๆก็จะมาของานฉันทำ เธอคิดว่าฉันเป็นเด็กอมมือรึยังไงห๊ะ!” อิทธิเอ่ยเสียงแข็ง  จนหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าก้มลงอย่างตื่นกลัว

            “ขอโทษค่ะที่อยู่ๆหนูก็เดินเข้ามาทักคุณ  พอดีฉันเพิ่งโดนไล่ออกมาจากเกาะบลูซีค่ะ ฉันไม่มีที่ไปจริงๆ ฮึก ฮือๆ” ขวัญปล่อยโฮออกมาเสียงดัง  จนคนแถวนั้นเริ่มหันมามอง

            เมื่อได้ยินชื่อเกาะบลูซีอิทธิก็หูผึ่งทันที  เขาชักเริ่มจะสนใจในตัวหญิงสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าแล้วล่ะสิ  การส่งคนเข้าไปสืบข้อมูลของเกาะนั้นมันไม่ค่อยจะได้ข้อมูลที่อยากได้เท่าที่ควร  แต่ถ้ารับเธอคนนี้มาเป็นพวกอาจจะมีผลดีกับการทำลายเกาะนั้นก็เป็นได้

            “ใครเป็นคนไล่เธอออกมา?”

            “คุณเคลวินค่ะ”

            “แล้วทำไมมันถึงไล่เธอออกมาล่ะ”

            “คือ...” ขวัญกำลังคิดเรื่องที่จะทำให้เธอดูดีในสายตาชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า “หนูโดนใส่ร้ายว่าจงใจทำให้เมียของคุณเคลวินหกล้มค่ะ  จริงๆแล้วมันเป็นอุบัติเหตุหนูไม่ได้ทำ  แต่หนูเป็นแค่คนใช้นี่คะมีหรือที่คุณเคลวินจะเชื่อคนใช้มากกว่าเมียตัวเอง”

            “ไอ้เคลวินมันมีเมียด้วยเหรอ?” เขาอยากถามเพื่อความมั่นใจว่าจะใช่ผู้ชายหน้าหวานคนนั้นที่เขาสนใจหรือเปล่า

            “มันเป็นผู้ชายที่คุณเคลวินพามาอยู่ด้วยได้สักพักแล้วล่ะค่ะ” เธอบอก

            “ฉันจะรับเธอเข้าทำงานก็แล้วกัน”

            ขวัญได้ยินก็ยิ้มขึ้นมาทันที ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ปรกๆด้วยความดีใจ

            “ขอบคุณค่ะคุณ..” เธอมองหน้าเจ้านายคนใหม่เพราะยังไม่รู้จักชื่อ

            “ฉันอิทธิ แล้วเธอล่ะชื่ออะไร” เขาเอ่ยถามหญิงสาว

            “หนูชื่อขวัญค่ะคุณอิทธิ” เธอยิ้มกริ่ม

            “เดี๋ยวเธอไปรอที่เรือก็แล้วกัน ฉันจะตามไป”

            “ค่ะคุณอิทธิ” เธอเอ่ยอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน  ราวกับว่าเป็นหญิงสาวที่ใสซื่อซะอย่างนั้น  คนอย่างขวัญทำได้ทุกอย่างเพื่อสิ่งที่เธอต้องการ

            หลังจากนั้นอิทธิก็สั่งให้ลูกน้องพาขวัญไปรอที่เรือ  ส่วนตัวเองก็เดินไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่กำลังยืนสนทนากันว่าจะเลือกไปที่ไหนดีระหว่างเกาะบลูซีหรือเกาะเพิร์ล  อิทธิเข้าไปทักทายนักท่องเที่ยวก่อนจะแจ้งว่าตอนนี้เกาะบลูซีกำลังมีกลุ่มก่อการร้ายแฝงตัวอยู่  ทำให้ช่วงนี้ที่นั่นค่อนข้างอันตราย ที่เขาลงทุนใส่ร้ายเกาะบลูซีและมารับนักท่องเที่ยวด้วยตัวเองอย่างนี้  นั่นเพราะรายได้ของเกาะเพิร์ลลดน้อยลงมากในช่วงสองสามเดือนมานี้  จึงจำเป็นต้องหาทางเอาตัวรอดให้ได้  ขณะคุยกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่นั้น  ก็มีชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดี กำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างๆ

            “ครับพ่อ..ผมถึงท่าเรือแล้วกำลังหาทางเข้าเกาะบลูซี ผมสัญญาว่าจะพาน้องกลับบ้านให้ได้”

            “พ่อไม่ต้องห่วงครับ ยิ่งรู่ว่าที่นั่นเป็นเกาะของมันผมยิ่งต้องระวังตัวครับ”

            “แค่นี้ก่อนนะครับพ่อ”

            เป็นนดลเองที่โทรฯคุยกับผู้เป็นพ่อ  ในที่สุดเขาก็มาถึงท่าเรือแล้ว และตอนนี้กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี  เพื่อจะเข้าไปเกาะนั้นได้อย่างปลอดภัยและไม่ทำให้เคลวินจับได้

            สิ้นเสียงการสนทนา  อิทธิก็หันไปสนใจนักท่องเที่ยวหนุ่มชาวไทยคนนั้นทันที

            “สวัสดีครับ” อิทธิเอ่ยทักทาย

            “เอ่อ...สวัสดีครับ” นดลทำหน้างงเพราะอยู่ๆก็มีคนแปลกหน้ามาทักทาย

            “เห็นว่าคุณกำลังจะไปที่เกาะบลูซี” อิทธิเอ่ย

            “ใช่ครับ ผมกำลังจะไปที่นั่น”

            “ผมช่วยคุณได้นะครับ  ผมชื่ออิทธิเป็นเจ้าของเกาะเพิร์ล  ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับเกาะบลูซี ผมต้องออกตัวก่อนว่าผมกับเจ้าของเกาะบลูซีไม่ค่อยจะกินเส้นกัน  ฟังจากที่คุณพูดเมื่อสักครู่ผมคิดว่าเราน่าจะมีศัตรูคนเดียวกันใช่ไหมครับ” อิทธิเอ่ยกับชายหนุ่มอย่างรู้ทัน  ฟังจากการพูดโทรศัพท์เมื่อสักครู่  เขาพอจะเดาออกว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นน่าจะไม่ชอบใจเคลวินมากนัก

            “ผมนดลครับ  ที่คุณพูดมาถูกต้องผมมาที่นี่เพราะมีเรื่องที่จะสะสางกับไอ้เคลวิน” นดลยิ้มอย่างพอใจเมื่อเขาได้เจอคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน  อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว  การมีพรรคพวกเป็นคนพื้นที่น่าจะช่วยให้การพาน้องชายสุดที่รักกลับบ้านนั้นง่ายยิ่งขึ้น

            “เอาเป็นว่าคุณไปพักที่เกาะผมก่อนก็แล้วกัน  แล้วเราค่อยคุยเรื่องนี้กันต่อดีไหมครับ” อิทธิแนะนำ

            “ได้ครับไม่มีปัญหา” นดลยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ

            “ถ้างั้นเชิญทางนี้ครับ” เขาผายมือไปที่ท่าเรื่อ  ซึ่งมีเรือส่วนตัวจอดอยู่ไม่ไกลนัก

            นดลไม่รอช้ารีบเดินไป  อิทธิยิ้มอย่างพอใจที่ตอนนี้โชคเริ่มเข้าข้างเขาแล้ว  ศัตรูของเคลวินมารวมตัวกันที่เกาะเขา  คนอย่างเคลวินไม่มีทางที่จะเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน  ถึงแม้ว่าการชิงตัวร่างบางในวันนั้นจะล้มเหลว  แต่จากนี้ไปเขาไม่มีทางให้ความผิดพลาดมันเกิดขึ้นซ้ำอีกอย่างแน่นอน



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            “สวัสดีครับคุณอำนาจ”

            (“สวัสดีครับคุณเคลวิน”)

            “เรื่องหุ้นที่ผมจะขอซื้อไม่ทราบว่าตัดสินใจรึยังครับ”

            (“จริงๆผมก็อยากขายให้นะครับแต่ติดที่ว่าราคาที่คุณเสนอมายังไมค่อยจะถูกใจผมสักเท่าไร”)

            “ถ้างั้นผมจะเพิ่มขึ้นให้อีกห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของราคาที่เสนอไป คุณอำนาจจะพอพิจารณาได้ไหมครับ”

            (“อืม...ผมตกลงครับ”)

            “ถ้าอย่างนั้นผมจะให้ลูกน้องขึ้นไปทำสัญญาที่กรุงเทพฯนะครับ แล้วเช็คเงินสดจะได้ในวันนั้นเลย”

            (“ได้ครับคุณเคลวินถ้ายังไงติดต่อมานะครับ”)

            “ครับผม ขอบคุณคุณอำนาจมากนะครับ”

            เคลวินยิ้มอย่างพอใจเมื่อเขาสามารถเกลี้ยกล่อม  ให้หนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัทขายหุ้นให้กับเขาได้  ในที่สุดทุกอย่างก็ตกอยู่ในกำมือเขาแล้ว  รอให้ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยรับรองพวกมันจะต้อง  ตกแตกตายโดยเฉพาะนายทรงพลที่จะต้องเจ็บปวดมากกว่าใคร

            นภัทรเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากเคลวินวางสายไปไม่กี่นาที  วันนี้คนตัวสูงตั้งใจว่าจะอยู่บ้านพักผ่อน  เพื่อจะได้มีเวลาอยู่กับร่างบางบ้าง  หลังจากรู้ความจริงว่าตัวเองกำลังจะมีลูก  ทุกอย่างที่เกี่ยวกับร่างบางก็ทำให้เคลวินใส่ใจขึ้นมากกว่าแต่ก่อน

            “วันนี้คุณไม่ไปทำงานเหรอครับ” ร่างบางเอ่ยถามเมื่อเห็นคนตัวสูงใส่ชุดไปรเวทนั่งอยู่ปลายเตียง

            “วันนี้กูหยุด”

            “คนอย่างคุณมีวันหยุดกับเขาด้วยเหรอ?” ร่างบางถามด้วยความสงสัย  เพราะปกติถึงแม้จะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์  คนตัวสูงก็เข้าไปดูงานที่โรงแรมตลอด

            “ก็เออสิวะ กูก็ต้องการมีเวลาพักผ่อนบ้างสิวะ แล้วมึงล่ะกินยารึยัง”  เขาเอ่ยไม่เต็มเสียงนัก  เพราะมันยังไม่ชินกับการที่จะต้อง  แสดงความเป็นห่วงเป็นใยร่างบาง

            “ยังไม่ได้กินอ่ะ ทำไมเหรอ” ร่างบางเอ่ยหน้าตาเฉยก่อนจะก้มลงหยิบถุงยา

            “มึงนี่นะสายป่านนี้แล้วยังไม่กินอีก  เดี๋ยวร่างกายก็แย่เอาหรอก” คนตัวสูงบ่นเสียงดังอย่างลืมตัว  จนร่างบางยืนมองตาปริบๆอย่างงงงวย

            “คุณ! นี่มันยังเช้าอยู่เลยนะ  ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กินจะให้ผมรีบไปไหน”

            “ถ้างั้นก็รีบๆลงไปกินข้าวเลย” ชายหนุ่มทำหน้าเหรอหราเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังโดนร่างบางจับผิดอยู่

            ‘วันนี้สงสัยผีจะเข้ามั้ง’ ร่างบางได้แต่คิดในใจ

            นภัทรเดินเข้าไปในครัวก็เห็นป้าภากำลังงุ่นกับการทำกับข้าว  เขาจึงเดินเข้าไปทักทายและอาสาช่วย

            “สวัสดีครับป้า” นภัทรยกมือไหว้เหมือนเช่นปกติทุกวันที่เจอกัน

            “ดีจ๊ะภัทร! ป้ากำลังวุ่นๆพอดีเลย” ป้าภาเอ่ยขณะกำลังหั่นมะเขืออยู่อย่างชำนาญมือ

            “วันนี้ทำอะไรบ้างครับ ให้ผมช่วยอะไรดี” ร่างบางเดินเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะชะเง้อมองของที่ป้าภาได้จัดเตรียมไว้บนโต๊ะ

            “วันนี้วันหยุดคุณเคลวินป้าจะทำอาหารที่ท่านชอบ ก็จะมีแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ปลาตะเพียนราดพริกแล้วก็ไข่เจียวสาหร่ายหมูสับ”

            เมื่อได้ยินชื่อเมนูไข่เจียวสาหร่ายหมูสับ  ทำให้ร่างบางนึกถึงสมัยเด็กๆขึ้นมาทันที วันนั้นเขาและวินวิ่งซุกซนเข้าไปในครัวตามประสาเด็ก  ขณะที่แม่ของเขาและวินกำลังช่วยกันทำอาหารเช้าให้กับทุกคนในบ้าน  ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีความสุขมากเขายังจำความรู้สึกนั้นได้ดี  แม่ของวินกำลังทำไข่เจียวหมูสับ  ไข่เจียวถูกปรุงรสไว้ในถ้วยเรียบร้อย  ส่วนข้างๆเป็นวัตถุดิบสำหรับทำแกงจืดประกอบด้วยผักต่างๆรวมถึงสาหร่าย  เขาและวินแอบหยิบมากินแล้วรู้สึกว่ามันอร่อย  เลยช่วยกันหยิบไปใส่ถ้วยไข่ที่วางอยู่ข้างๆ  เมื่อแม่ของวินเห็นก็เอ็ดเอา  แต่ก็ยอมเจียวให้ทั้งที่มันเป็นอย่างนั้นล่ะ  พอเจียวเสร็จเรียบร้อยมาลองกินก็อร่อยมาก  จนวันหลังวินต้องอ้อนผู้เป็นแม่ทำให้ทานทุกๆเช้าไม่เคยขาดเลย

            “เดี๋ยวผมช่วยทำไข่เจียวสาหร่ายหมูสับละกันครับป้า” นภัทรอาสา

            “เดี๋ยวป้าบอกวิธีทำละกันจะได้ถูกใจคุณเคลวิน”

            “ไม่เป็นไรครับป้าผมเคยทานแถมยังเคยทำอยู่บ่อยๆด้วย”

            “แน่นะโว้ย ป้ากลัวว่าคุณเคลวินจะด่าเอาน่ะสิถ้ารสชาติไม่ถูกปาก”  ป้าภาเอ่ยอย่างกังวล

            “เชื่อผมครับป้า ถ้าไม่ถูกใจเค้าผมยอมโดนด่าเอง” เขายิ้มให้ป้าภา

            “ถ้างั้นก็รีบๆทำเถอะป้าจะได้ตั้งโต๊ะ”

            “ครับป้า”

            ร่างบางตั้งใจทำให้ทุกอย่างให้เหมือนกับสมัยเด็กๆที่เคยทาน  ในใจลึกๆก็ยังหวังว่าจิตใจที่เคยอ่อนโยนเมื่อครั้งยังเป็นเด็กของเคลวินน่าจะยังคงหลงเหลืออยู่  เพราะขนาดเมนูที่เคยทานในวัยเด็กเคลวินก็ยังไม่เคยลืม  รวมถึงหลายๆเรื่องที่เขาเคยสังเกตมาตลอดระยะเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน  หรือเขาจะใช้โอกาสนี้เปลี่ยนใจผู้ชายที่เขาเคยรักและศรัทธามาก่อน  ให้กลับมาเป็นพี่วินคนเดิมของเขาให้ได้


            ขณะป้าภาและนภัทรกำลังช่วยกันจัดโต๊ะอาหาร  เคลวินก็เดินลงมาพอดี

            “วันนี้มีอะไรทานบ้างครับป้า” เจ้าของบ้านเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร  และใบหน้าที่แลดูมีความสุขกว่าทุกๆวัน

            “วันนี้มีกับข้าวสามอย่าง แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ปลาตะเพียนราดพริก แล้วก็ไข่เจียวสาหร่ายหมูสับค่ะ”

            “หืม! ของโปรดผมทั้งนั้นเลยนะเนี่ย” คนตัวสูงมองดูอาหารบนโต๊ะแล้วยิ้มอย่างพอใจ  ก่อนจะปรายตามองดูร่างบางที่ยืน

            “ก็วันนี้คุณเคลวินหยุดทั้งทีป้าเลยจัดหนักให้เลยค่ะ อ้อ! แต่ไข่เจียวสาหร่ายหมูสับเจ้าภัทรมันเป็นคนอาสาทำให้คุณเคลวินทานด้วยตัวเองเลยนะคะ” ป้าภาบอกก่อนจะหันหน้าไปมองหนุ่มน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆ  เจ้าของชื่อที่ถูกกล่าวถึงมองหน้าป้าภาแวบหนึ่งแล้วส่ายหน้าให้สื่อว่าไม่น่าบอกเลย  ก่อนจะรีบถือถาดเดินออกไปจากโต๊ะ

            “เดี๋ยวจะไปไหน!” คนตัวสูงห้ามเอาไว้ก่อน

            “ผมจะเข้าไปในครัว”

            “มานั่งกินข้าวกับกูเดี๋ยวนี้” คนตัวสูงสั่ง “ป้าภามานั่งทานด้วยกันก็ได้ครับ ตอนนี้บ้านเราก็มีเท่านี้แล้วผมไม่ถือหรอก” เคลวินหันไปเอ่ยกับป้าภาที่เขานับถือเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง

            “ป้าขอตัวนะคะ ป้าทานในครัวจะสะดวกกว่า  ภัทรเอ็งรีบมานั่งทานข้าวเป็นเพื่อนคุณเคลวินเร็วๆ ยิ่งกำลังท้องกำลังไส้ด้วยทานที่นี่ล่ะจะได้สะดวก” ป้าภาบอก

            “แต่ผมอยากทานกับป้านี่นา” ร่างบางทำท่าทีอิดออด

            “เถอะน่าป้าไปก่อนล่ะ” ป้าภาจับตัวร่างบางให้นั่งลงที่เก้าอี้ก่อนจะเดินออกไป

            เมื่อเหลือเพียงสองคนตามลำพัง  บรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็เงียบสงบ ก่อนที่คนตัวสูงจะเป็นคนทำลายความเงียบลง

            “ไหนขอชิมฝีมือมึงหน่อยซิว่าจะอร่อยสู้ป้าภาได้รึเปล่า” ว่าแล้วก็ตักไข่เจียวพร้อมข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย

            “เป็นไงบ้างถูกปากคุณรึเปล่า” ร่างบางจ้องหน้ารอลุ้นคำตอบ  เพราะเขาตั้งใจทำสุดๆแล้ว  หากยังไม่ถูกปากคนตัวสูงก็จะไม่ขอทำอีกเด็ดขาด

            “ก็พอใช้ได้” ถึงแม้จะเอ่ยอย่างนั้นแต่คนตัวสูงก็ตักมาทานอยู่บ่อยครั้ง  ทำให้ร่างบางรู้ทันแล้วยิ้มออกมาอย่างดีใจ

            “ทานเยอะๆนะ” ต่อไปนี้เขาจะทำตัวให้เหมือนกับเมื่อครั้งที่ทั้งสองคนยังเป็นเด็ก  เขาอยากลองดูเผื่อว่าจะสามารถทำให้เคลวิน  ล้มเลิกความตั้งใจที่จะแก้แค้นได้  เขาไม่ได้ทำเพื่อครอบครัวเพียงแค่ฝ่ายเดียว  แต่เขาทำเพื่อทุกคนที่อยู่รอบข้าง  ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่จะได้อยู่อย่างสงบสุข  ส่วนเขาและเคลวินก็จะได้ใช้ชีวิตคู่อยู่ที่นี่สามคนพ่อแม่ลูก  เขาภาวนาให้มันเป็นอย่างที่คิด

            “มึงเองก็กินเยอะๆร่างกายจะได้แข็งแรง” คนตัวสูงไม่ว่าเปล่า  เขาตักกับข้าวให้กับร่างบางด้วย

            “ขอบคุณนะครับ” ร่างบางยิ้มให้  เขารู้สึกว่าวันนี้เคลวินจะดูเป็นห่วงเป็นใยเขาผิดปกติกว่าทุกวัน  นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นดีๆที่เขาจะขออะไรบางอย่างกับคนตัวสูง “คุณเคลวินครับ”

            “ว่าไง” คนตัวสูงมองหน้าเพื่อรอฟังสิ่งที่ร่างบางจะเอ่ย

            “คือ...ผมขออะไรบางอย่างได้ไหม”

            “ว่ามาสิถ้ากูให้ได้กูก็จะให้”

            “คุณให้ผมได้แน่นอน  เพราะสิ่งที่ผมจะขอมันเป็นอะไรที่ผมเคยทำมาก่อนหน้านี้แล้ว”

            “อะไรของมึงวะ” คนตัวสูงเริ่มงงกับคำพูดของร่างบาง

            “ผมอยากจะขอเรียกคุณว่า ‘พี่วิน’ เหมือนเมื่อครั้งที่เรายังเป็นเด็กได้ไหมครับ” ร่างบางจ้องไปที่นัยน์ตาเข้มอย่างไม่กระพริบตา  ในใจก็ภาวนาให้คนตัวสูงตอบรับสิ่งที่เขาขอในครั้งนี้ด้วย

            คนตัวสูงนิ่งอย่างเห็นได้ชัด  จนร่างบางเริ่มไม่มั่นใจว่าสิ่งที่จะออกจากปากคนที่อยู่ตรงหน้านั้น  มันจะตรงกับความต้องการของเขาหรือไม่

            “ถ้ามึงอยากเรียกอย่างนั้นกูก็ไม่ว่าอะไร  แต่กูคงไม่เรียกมึงว่าน้องภัทรหรอกนะ” เขาเอ่ยแค่นั้นก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารต่อ  ร่าวกับว่าเพื่อเป็นการแก้อาการเขินของตัวเอง

            “ขอบคุณนะครับพี่วิน” ร่างบางยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ส่วนคนตัวสูงก็ได้แต่พยักหน้าให้ รอยยิ้มที่มุมปากของเขานั้น  ทำให้หัวใจของร่างบางพองโตมากเหลือเกิน  รู้ล่ะน่าว่าเขินร่างบางยิ้มกริ่มในใจ

 ในที่สุดเขาก็ได้พี่วินคนเดิมกลับมาแล้ว  ถึงแม้จะกลับมาเพียงแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์  แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้ศัตรูของเคลวินเริ่มมารวมตัวกันแล้ว ไม่อยากจะคิดต่อเลย....
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.17-เมื่อเธอขอ ฉันก็จะยอมให้]-(27-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 27-02-2018 18:18:39
เอาใจช่วยน้องภัทร แต่นังขวัญมันร้ายจริงๆนะต้องตบ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.17-เมื่อเธอขอ ฉันก็จะยอมให้]-(27-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 27-02-2018 18:18:50
พี่วินนนน
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.17-เมื่อเธอขอ ฉันก็จะยอมให้]-(27-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 27-02-2018 18:51:50
จะหนักมั้ยครับ จากนี้
เมื่อศัตรูมารวมกัน


          :katai1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.17-เมื่อเธอขอ ฉันก็จะยอมให้]-(27-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-02-2018 19:07:13
สงสัยต้องบอกให้ลูกในท้องช่วยดลใจ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.17-เมื่อเธอขอ ฉันก็จะยอมให้]-(27-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 27-02-2018 19:32:14
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.17-เมื่อเธอขอ ฉันก็จะยอมให้]-(27-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 27-02-2018 20:01:50
แหมมมมมมมมม อยากแหมคนซึน


ปล.ลองลดการใช้คำซ้ำลงก็จะอ่านได้ลื่นไหลมากขุ้นนะคะ คำว่า "ร่างบาง" นี่มาซ้ำมาถี่มาก
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.17-เมื่อเธอขอ ฉันก็จะยอมให้]-(27-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-02-2018 20:56:45
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.17-เมื่อเธอขอ ฉันก็จะยอมให้]-(27-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Nekosama ที่ 27-02-2018 21:34:49
ขวัญเลี้ยงเสียข้าวสุกมาก .....
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.17-เมื่อเธอขอ ฉันก็จะยอมให้]-(27-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 27-02-2018 21:44:48
ก่อนอื่นคืองงค่ะ สรุปจะให้วินปิดเรื่องรู้ว่าภัทรท้องกับภัทรแต่ทำไมป้าถึงพูดเรื่องท้องเหมือนเรื่องปกตืตอนที่อยู่กันครบคนอ่ะคะ

ตัวร้ายรวมตัวหรือคนโง่รวมตัวก็ไม่รู้สิแบบนี้ รวมๆคือคนร้ายที่โง่ละกัน เจอกันคุยกันไม่กี่ประโยคก็เชื่อใจร่วมมือกันเลยหรอ...

พี่วินของน้องภัทรเริ่มอุ่นๆกันแล้ววววว รักกันๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.17-เมื่อเธอขอ ฉันก็จะยอมให้]-(27-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-02-2018 03:49:36
จะสุขสงบไปได้กี่ตอนนะ สงสัย ๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.17-เมื่อเธอขอ ฉันก็จะยอมให้]-(27-02-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 28-02-2018 08:24:28
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.18-สัญญาลวง]-(01-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 01-03-2018 17:06:08
CHAPTER  18  สัญญาลวง



           หลังทานข้าวเช้าเสร็จแล้วนภัทรก็ช่วยป้าภาเก็บโต๊ะ  ก่อนจะไปทำหน้าที่ประจำนั่นคือการซักผ้ากองโต  หลังจากขวัญถูกไล่ออกไปแล้วทำให้งานบ้านตกอยู่ที่ป้าภาเกือบทั้งหมด  นภัทรจึงต้องขยันเป็นพิเศษเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของหัวหน้าแม่บ้านที่เขารักและเคารพ

            “ป้าภาเดี๋ยวผมไปปั่นผ้าก่อนนะครับ” เสียงหวานเอ่ยกับหญิงสูงวัยขณะยืนถือตะกร้าผ้าใบใหญ่

            “ถ้าทำไม่ไหว็บอกป้านะ เดี๋ยวป้าไปทำต่อให้” น้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงทำให้นภัทรถึงกับยิ้มออกมา

            “ผมไหวครับป้าท้องนะไม่ใช่พิการซะหน่อย” เขายิ้ม

            “จ้าถ้างั้นก็รีบไปทำเถอะแดดกำลังจ้าได้ที่พอดี”

            “ครับป้า” นภัทรเอ่ยกับป้าภาแล้วเดินถือตะกร้าไปที่หลังบ้าน

             ขณะนั่งรอเวลาเพื่อนำผ้าไปตาก  อยู่ๆก็คิดถึงครอบครัวขึ้นมาทันที  ป่านนี้ทางบ้านจะวุ่นวายกันขนาดไหนนะกับการตามหาตัวเขา  โดยเฉพาะแม่คงจะกินไม่ได้นอนไม่หลับเป็นแน่  หากมีโอกาสนภัทรก็อยากจะกลับไปกอดทุกคนให้หายคิดถึง  เขาจะอดทนรอวันนั้นวันที่ทุกอย่างลงเอยด้วยดี

            นั่งรออยู่เกือบชั่วโมงนภัทรก็เอาผ้าออกมาจากเครื่องแล้วเดินถือตะกร้าไปที่ลานตากผ้า  วันนี้อากาศปลอดโปร่ง ลมพัดโชยเย็นสบาย  เขาต้องรีบตากผ้าให้เสร็จก่อนที่แดดจะร้อนไปมากกว่านี้  ขณะกำลังตากผ้าตัวแรกก็มีมือปริศนามาจับมือของเขาเอาไว้  เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นพี่วินของเขานั่นเองที่กำลังยืนยิ้มแฉ่งให้

            “พี่วิน!” เสียงหวานเอ่ยขึ้นก่อนที่จะหลบตาลง  เมื่อสายตาคมคู่นั้นจ้องมาปานจะกลืนกินเขาไปทั้งตัวเสียให้ได้

            “เดี๋ยวกูทำให้เองมา” คนตัวสูงไม่ว่าเปล่า  กลับหยิบผ้าที่อยู่ในตะกร้าขึ้นมาสะบัดอย่างเก้ๆกังๆ มันทำให้ทุกอย่างดูไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย  เห็นอย่างนั้นนภัทรก็อดขำไม่ได้

            “ทำไม่เป็นก็ไม่ต้องทำหรอกครับ  เดี๋ยวผมทำแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว” เขากลัวว่ามันจะไม่เสร็จเอาน่ะสิ

            “แค่นี้ก็สบายมากมึงนั่นแหล่ะนั่งเฉยๆ”

            “แล้วทำไมต้องมาช่วยผมด้วยล่ะ ปกติเห็นสั่งตลอด”

            “ไม่มีเหตุผลไม่ดีรึไงที่กูมาช่วยมึง”

            “ก็ดีครับ  ผมชอบที่พี่เป็นแบบนี้” นภัทรจ้องหน้าชายหนุ่มก่อนที่เขาจะยิ้มให้  เคลวินเปลี่ยนไปแล้วรอยยิ้มที่จริงใจอย่างนี้นภัทรไม่เคยได้เห็นมันมาก่อนหลังจากอยู่ที่นี่มานาน  เขาอยากรู้จังว่าอะไรที่ทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้

            “ถ้ามึงชอบแบบนี้กูก็จะเป็นแบบนี้” เขายักคิ้วให้จนร่างบางที่เห็นแทบจะละลายกองอยู่ที่พื้น  ใบหน้าที่หล่อเหลาตามฉบับหนุ่มไทยแท้  นัยน์ตาคมเปรียบดังอาวุธลับที่คอยคว้าหัวใจของสาวๆ  โดยรวมแล้วมันช่างสมบูรณ์แบบเสียนี่กระไร

            เห็นเคลวินเป็นอย่างนี้แล้วนภัทรก็เริ่มวางใจที่จะบอกความจริงเรื่องลูก  เจ้าตัวเล็กกำลังจะโตขึ้นเรื่อยๆยังไงซะเคลวินก็ต้องรู้อยู่ดี

            “พี่วินครับผมมีเรื่องจะบอก” คนตัวสูงหันมามองขณะตากผ้าตัวสุดท้ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว  จึงเดินเข้ามานั่งลงตรงหน้าก่อนจะจ้องตาคนตัวเล็กอย่างไม่กระพริบตา

            “ว่ามาสิกูรอฟังอยู่”

            “มันอาจจะฟังดูเหลือเชื่อ  แต่มันคือเรื่องจริงนะครับ”

            “รีบพูดมาสิกูเริ่มอยากรู้ซะแล้วสิ” เขาทำหน้าเหมือนอยากรู้ซะเต็มประดา

            “คือ...ผมท้องครับ ผมรู้ว่ามันอาจจะเหลือเชื่อแต่ตอนนี้เจ้าตัวเล็กอยู่ในท้องผมแล้วครับ  ไม่เชื่อก็ไปถามพี่หมอพงษ์ก็ได้” เสียงหวานรัวแทบหายใจไม่ทันเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองพูด

            “ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้กูเชื่อมึง” เขายิ้มพร้อมกับใช้มือหนาจับที่ไหล่บางทั้งสองข้างเอาไว้

            “ทำไมถึงได้เชื่อง่ายขนาดนั้นล่ะ” นภัทรเริ่มสงสัย

            “จริงๆกูรู้อยู่แล้วแต่รอให้มึงเป็นคนมาบอกด้วยตัวเอง”

            “นี่สินะเหตุผลที่พี่ทำดีกับผมก็เพราะลูกนี่เอง” ความน้อยใจเกิดขึ้นทันทีที่รู้ว่าอีกฝ่ายทราบเรื่องก่อนหน้าแล้ว  นภัทรอดคิดไม่ได้ว่าที่เคลวินทำดีกับเขานั้นเพราะเห็นแก่ลูกในท้อง

            “กูยอมรับว่าที่กูทำดีกับมึงก็เพราะลูก” เมื่อได้ยินประโยคนั้นนภัทรถึงกับน้ำตาซึมออกมาทันที “นั่นเป็นแค่ส่วนนึงแต่จริงๆแล้วเพราะมึงคือคนที่กูอยากใช้ชีวิตด้วยจนแก่เฒ่า  กูไม่เคยลืมน้องภัทรที่น่ารักของกูเลยแม้แต่น้อย  มันจะสายไปไหมที่กูจะขอโทษกับสิ่งที่เคยทำกับมึง  เรามาเริ่มต้นสร้างครอบครัวกันใหม่นะ”

            “ผมไม่ได้หูฝาดใช่ไหมครับพี่วิน พี่วินคนเดิมของผมกลับมาแล้วใช่ไหม ฮึก” มือเรียวค่อยๆเอื้อมไปลูบไล้ที่พวงแก้มของคนที่อยู่ตรงหน้า  ก่อนจะโผเข้ากอดชายหนุ่มอย่างแนบแน่น  นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกอย่างนี้มาก่อน

            “พี่อยู่ตรงนี้แล้วครับ พี่วินคนเดิมของน้องภัทรอยู่ตรงนี้แล้ว ต่อไปนี้เราจะสร้างครอบที่อบอุ่นกันที่นี่นะครับ” มือหนาลูบไล้ที่เรือนผมเบาๆอย่างอ่อนโยน

            “ครับ...ผมจะไม่ไปไหนผมจะอยู่กับพี่วินที่นี่ ฮือๆ” ร่างบางปล่อยโฮเสียงดังราวกับเด็กน้อย  เมื่อเห็นอย่างนั้นเคลวินถึงกับยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู

            “โอ๋ๆ อย่าร้องนะครับคนดีของพี่”

            “ก็คนมันดีใจนี่นา” ร่างบางสะอื้นก่อนจะผละตัวออกมา

            เคลวินใช้มือหนาเกลี่ยหยดน้ำใสๆที่แก้มขาวออกให้อย่างเบามือ

            “ต่อไปนี้พี่จะไม่ยุ่งวุ่นวายกับครอบครัวเราแล้วนะ  ขอแค่น้องภัทรอยู่กับพี่ที่นี่ก็พอใจแล้ว  ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับลูกเมียของพี่อีกแล้ว” ชายหนุ่มจ้องตาเอ่ยประโยคมัดใจร่างบาง

            “จริงๆนะครับ ผมดีใจที่สุดในโลกเลยที่พี่วินคนเดิมกลับมาหาผมแล้ว  ผมสัญญาว่าจะไม่ไปไหนผมจะอยู่กับพี่ที่นี่” ร่างบางโผเข้ากอดชายหนุ่มอีกครั้งก่อนจะกอดรัดเอาไว้แน่น  ราวกับว่าไม่ยอมให้ผู้ชายคนนี้จากไปไหนได้อีกแล้ว

            เมื่อซื้อใจนภัทรได้แล้วเคลวินก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ  เขารักลูกรักเมียก็จริงแต่คำสัญญาที่พูดออกไปก็เพื่อให้นภัทรสบายใจเท่านั้น  เขาคงหยุดความแค้นนี้ไม่ได้เพราะอีกไม่นานทุกอย่างก็จะสำเร็จแล้ว


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



@ เกาะเพิร์ล

            “เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันกับไอ้เคลวินเป็นศัตรูกัน” อิทธิเอ่ยกับหญิงสาวที่นั่งพับเพียบอยู่บนพื้น  หลังจากให้เจ้าตัวไปพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนจะเรียกตัวมา  เพื่อซักถามข้อสงสัยและทำความเข้าใจในการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่

            “หนูทราบดีค่ะไม่งั้นหนูไม่มาพึ่งใบบุญคุณอิทธิที่นี่หรอกค่ะ” เธอเอ่ยเอาใจเจ้านายคนใหม่

            “เธอนี่ฉลาดไม่เบาเอาตัวรอดเก่ง  ถ้าเธอจงรักภักดิ์ดีกับฉันรับรองว่าฉันจะดูแลเธออย่างดี  แต่วันไหนที่เธอหักหลังฉันมันก็จะตรงข้ามกัน  ฉันไม่มีทางจะปล่อยเธอออกไปจากเกาะนี้แน่ หวังว่าเธอคงจะเข้าใจและทำตัวให้ดีสมกับที่ฉันไว้ใจเธอนะขวัญ”

            “ค่ะคุณอิทธิ หนูไม่มีทางหักหลังคุณแน่นอน ถ้าหากอยากรู้อะไรเกี่ยวกับบ้านหลังนั้นหนูก็จะบอกทุกอย่างเลยค่ะ” เธอพร้อมจะทำทุกอย่างทำลายที่นั่น

            “ดีฉันชอบคนแบบนี้ เอาเป็นว่าถ้าหากฉันต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมจะเรียกเธออีกที ตอนนี้ออกไปได้”

            “ค่ะคุณอิทธิ”

            เธอยกมือไหว้ก่อนจะค่อยๆลุกเดินออกไปจากตรงนั้น  ไม่นานนักนดลก็เดินเข้ามา

            “คุณให้คนไปตามผมที่ห้องมีอะไรรึเปล่าครับ” นดลเอ่ยถามเมื่อมาถึง

            “นั่งก่อนครับ  ขอโทษที่รบกวนคุณนะครับ”

            “ไม่เป็นไรครับ”

            “ที่ผมให้ลูกน้องไปเชิญคุณมาที่นี่  ก็เพราะอยากคุยเรื่องไอ้เคลวินครับ” วันนี้เขาต้องรู้เรื่องราวทั้งหมดให้ได้  และที่สำคัญเขาอยากรู้ว่านดลจะรู้จักกับหนุ่มหน้าหวานที่เขาต้องการตัวอยู่ตอนนี้หรือไม่

            “ไม่มีปัญหาครับ  พูดถึงถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะไปฆ่ามันให้ตายซะวันนี้พรุ่งนี้เลย” สีหน้าของนดลเปลี่ยนไปเมื่อเอ่ยถึงชื่อของศัตรูที่จับตัวน้องชายไป ยิ่งอยู่ใกล้เจ้าตัวมากเท่าไหร่ยิ่งรู้สึกอยากจะไปจัดการให้เร็วมากขึ้นเท่านั้น

            “ใจเย็นๆครับรับรองคุณได้จัดการมันแน่  แต่เราต้องวางแผนให้ดีซะก่อนไอ้นี่มันฉลาด  ผมเคยจะจัดการกับมันหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักที  คุณพอจะเล่ารายละเอียดให้ผมฟังได้ไหมว่าคุณกับไอ้เคลวินมีความแค้นอะไรกันอยู่”

            “ที่ผมใจเย็นไม่ไหวก็เพราะมันลักพาตัวน้องชายผมมาครับ  ตอนนี้ไม่รู้จะป็นตายร้ายดียังไงบ้าง  ผมใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะแกะรอยตามหามันจนรู้ว่ามันอยู่ที่เกาะบลูซี”

            “น้องชายคุณใช่คนนี้ไหมครับ” อิทธิเปิดรูปที่เคยให้ลูกน้องแอบถ่ายมาให้นดลดู

            “ใช่ครับ!” นดลเห็นภาพของน้องชายถึงกับตกใจแล้วยิ้มออกมาอย่างมีความหวังทันที “นี่คุณไปแอบถ่ายมาได้ยังไงครับ”

            “ก็อย่างที่บอกว่าไอ้เคลวินมันเป็นศัตรูของผม ผมเลยสั่งให้ลูกน้องไปสังเกตความเคลื่อนไหวมัน”

            “คุณจะพาผมเข้าไปที่นั่นได้เร็วสุดวันไหนครับ ผมอดรนทนไม่ไหวแล้ว  ผมคิดถึงน้องชายมากเหลือเกิน” ดูจากสีหน้าของนดล  อิทธิก็พอจะรู้ว่าความต้องการนั้นมากมายขนาดไหน

            “ก่อนอื่นเราต้องวางแผนหาทางเข้าไปที่บ้านของไอ้เคลวินให้ได้ก่อน  เพราะมันไม่ให้คนภายนอกเข้าไปที่บ้านมันได้ง่ายๆ  แถมรอบบ้านยังมีคนคอยคุ้มกันอย่างแน่นหนาอีกต่างหาก” อิทธิเล่ารายละเอียดที่ตัวเองรู้ให้นดลฟัง

            “หนูรู้ทางเข้าไปที่นั่นค่ะ” เสียงขวัญเอ่ยแทรกเข้ามาระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน

อิทธิหันไปมองคนรับใช้คนใหม่อย่างสนใจ

            “เข้ามานี่ก่อน” ขวัญเดินเข้ามาแล้วนั่งลงข้างๆโซฟาที่อิทธินั่งอยู่

            “ผมลืมบอกคุณนดลไปว่าขวัญเคยเป็นสาวใช้ที่บ้านไอ้เคลวินมาก่อน” เมื่อได้ยินนดลก็หูผึ่งขึ้นมาทันที  เพราะคิดว่าขวัญคงจะรู้จักกับน้องชายของตัวเองอย่างแน่นอน

            “เธอรู้จักกับน้องชายฉันไหม นภัทรน่ะ!”

            “รู้จักค่ะ รู้จักดีด้วย” คราวนี้ล่ะที่เธอจะเอาคืนคนบ้านนั้นให้สาสม

            “เล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหมว่าไอ้เคลวินมันทำร้ายอะไรน้องชายฉันบ้าง”

            “หนูก็ไม่เห็นว่าคุณเคลวินจะทำอะไรนภัทรเลยนะคะ ตรงกันข้ามคุณเคลวินกลับดูแลนภัทรดีมากเสียด้วยซ้ำ  และอีกอย่างนภัทรเองก็เต็มใจที่จะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนั้น  จนตอนนี้ได้เสียเป็นเมียคุณเคลวินเรียบร้อยแล้ว” เธอบอกกับนดลหน้าตาเฉยพร้อมกับยิ้มเยาะในใจ

            “ไม่จริง! นภัทรไม่มีทางญาติดีกับไอ้คนที่มันทำร้ายตัวเองแน่นอน เธอน่ะโกหก!” นดลชี้หน้าหญิงสาวอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยินมา  ไม่มีทางที่น้องชายของเขาจะทำเรื่องอย่างนั้นกับศัตรูของครอบครัวอย่างแน่นอน

            “หนูไม่ได้โกหกนะคะ สิ่งที่หนูพูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ตอนนี้นภัทรมีความสุขดีแถมเค้ายังเคยบอกหนูอีกด้วยว่า  จะไม่กลับบ้านอย่างแน่นอนเพราะอยากอยู่ที่นั่นกับคนที่เค้ารัก” ขวัญยืนยันท่าเดียวว่าสิ่งที่เธอพูดมานั้นเป็นความจริง  เธอรู้ว่านภัทรกำลังตั้งท้องนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม  เธอจึงคิดว่านภัทรไม่มีทางออกไปจากเกาะบลูซีอย่างแน่นอน

            “ถึงยังไงฉันก็ไม่เชื่อเธอน้องชายฉันไม่ใช่คนแบบนั้น” นดลยังยืนกรานความคิดของตัวเอง  เพราะรู้จักนิสัยของน้องชายตัวเองดี

            “คุณไม่เชื่อหนูก็ไม่เป็นไรค่ะแต่รับรองว่านภัทรไม่มีทางกลับไปกับคุณอย่างแน่นอน”

            “เอาล่ะพอเรื่องนี้ก่อน  ที่เธอบอกว่ารู้จักทางเข้าไปที่บ้านไอ้เคลวิน  ไหนเล่ามาซิว่าจะเข้าไปทางไหน” ก่อนจะไปกันใหญ่อิทธิจึงรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อน

            “ข้างกำแพงบ้านหลังนั้นมันมีทางลับออกมาด้านนอกค่ะ  หนูเคยเห็นนภัทรแอบออกมานั่งเล่นอยู่หลายครั้ง  และไม่มีคนมาเฝ้าเหมือนฝั่งด้านหน้าค่ะ”  หลังจากวันที่เธอหน้าแตกจากการกล่าวหานภัทรและเอก  หลังจากนั้นเธอก็คอยจับตาดูคนทั้งสองคนอยู่บ่อยครั้ง  และในที่สุดก็ได้รู้ว่าที่ตรงนั้นมันมีทางออกไปข้างนอกได้

            “ดีเลยอย่างน้อยเราก็พอจะมีทางเข้าไปที่นั่นแล้ว” อิทธิเอ่ย

            “ถ้าหากนภัทรไม่ยอมกลับไปกับคุณ คุณจะทำยังไงคะ” ขวัญเอ่ยถามนดล

            “ไม่มีทาง! นภัทรต้องกลับบ้านกับฉันอย่างแน่นอน” นดลเอ่ยด้วยความมั่นใจ

            “รอดูก็แล้วกันค่ะว่าจะเป็นเหมือนอย่างที่หนูพูดไหม” เธอมองหน้านดลอย่างมั่นใจเช่นกัน  ก่อนจะหันไปเอ่ยกับอิทธิต่อ “ถ้าอยากรู้อะไรถามหนูได้เลยนะคะ หนูรู้จักที่นั่นทุกซอกทุกมุมเป็นอย่างดี”

            “โอเคขอบใจเธอมาก” อิทธิหันไปถามนดลต่อ “แล้วคุณนดลล่ะครับมีอะไรจะถามขวัญอีกรึเปล่า?”

            “มีครับ”

            “ถ้างั้นเชิญตามสบายนะครับ  ผมขอตัวออกไปคุยกับลูกน้องก่อนสักครู่” อิทธิลุกขึ้นยืนก่อนจะเอ่ยกับสาวใช้อีกครั้ง “เธออยู่นี่ให้ข้อมูลคุณนดลต่อละกันนะ”

            “ค่ะคุณอิทธิ”

            เมื่ออิทธิเดินออกไปแล้ว  นดลก็เริ่มซักถามสิ่งที่เขาอยากรู้เกี่ยวกับน้องชายขณะอยู่ที่บ้านหลังนั้น  โดยไม่รู้เลยว่าผู้ที่ให้ข้อมูลอยู่นั้นเป็นคู่อริของน้องชายตัวเองมาก่อน


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.18-สัญญาลวง]-(01-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-03-2018 19:59:50
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.18-สัญญาลวง]-(01-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 01-03-2018 22:24:02
ติดตามจ้าาา
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.18-สัญญาลวง]-(01-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-03-2018 23:07:19
วินโกหก!
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.18-สัญญาลวง]-(01-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 01-03-2018 23:33:26
นี่มันนางงูพิษจริงๆ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.18-สัญญาลวง]-(01-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-03-2018 00:06:23
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.18-สัญญาลวง]-(01-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-03-2018 00:43:27
เป็นไงล่ะ ผลของการปล่อยชะนีไป จับได้จะตบให้กลิ้งเลย  :beat:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.18-สัญญาลวง]-(01-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 02-03-2018 03:02:32
ไม่หวังให้วินญาติดีกับพ่อภัทรเลย เพราะพ่อภัทรขนาดออกมาแค่ไม่กี่ฉากแต่เลวแน่นอนอ่ะ ฆ่าคนอื่นไม่พอตอนนี้ยังเหมือนหลอกใช้พี่ภัทรที่ไม่รู้ความผิดตัวเองอีก แต่หวังให้วินอภัยให้นะ เพราะมันดีกับวินเองอ่ะ

รำคาญตัวร้ายเรื่องนี้ที่สุดเลยค่ะ บทตัวร้ายดูเป็นคนโง่แบบน่ารำคาญจริงๆหรือแค่บทไม่ส่งก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.18-สัญญาลวง]-(01-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 02-03-2018 06:22:20
น้องภัทรลูกกกกนังวินมันตอแหลลลล
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.18-สัญญาลวง]-(01-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 02-03-2018 08:34:12
ขวัญน่าตบอ่ะ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.18-สัญญาลวง]-(01-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: pepo17 ที่ 02-03-2018 14:43:14
 :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.18-สัญญาลวง]-(01-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 02-03-2018 15:42:52
ระวังเถอะเมียจะพาลูกหนีมาหลอกกันแบบนี้ได้ไงกัน
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.18-สัญญาลวง]-(01-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 02-03-2018 15:46:10
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.18-สัญญาลวง]-(01-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 02-03-2018 16:19:21
นังพี่วิน :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.19-ผู้บุกรุก]-(05-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 05-03-2018 18:02:10
CHAPTER

-19-

ผู้บุกรุก



          Rrrrr….

            “ว่าไงวะไอ้ดล” เพื่อนรักโทรฯมาขณะกันต์กำลังยืนอยู่ที่ไซต์งาน

            (“มึงทำอะไรอยู่วะ”)

            “กูทำงานอยู่...แล้วมึงล่ะอยู่ไหน”

            (“กูก็มาเที่ยวพักผ่อนไงวะ”)

            “อ้าว! มึงไม่ตามหาน้องภัทรแล้วเหรอวะ” ความสงสัยเริ่มเกิดขึ้นในหัวของกันต์ทันที  ทำไมเพื่อนรักถึงได้มีน้ำเสียงเหมือนคนกำลังมีความสุขมาก  ไม่เหมือนคนที่กำลังตามหาน้องชายจากการโดนลักพาตัวไปเลยแม้แต่น้อย

            (“ไม่ว่ะกูเจอตัวน้องกูแล้ว”)

            “นี่มึงอยู่ไหนกันแน่วะไอ้ดล” เมื่อได้ยินอย่างนั้นกันต์ถึงกับตกใจขึ้นมาทันที  เพื่อนบอกว่าเจอตัวนภัทรแล้วแสดงว่านดลต้องอยู่แถวๆนี้  นั่นทำให้เขาเริ่มห่วงความปลอดภัยของเพื่อนซะแล้ว

            (“ทำไมมึงดูหัวร้อนจังวะไอ้กันต์มึงมีอะไรปิดบังกูอยู่ใช่ไหม?”)

            “ตกลงว่ามึงอยู่ไหนตอนนี้บอกกูมาดิ!”

            (“มึงไม่ต้องรู้หรอกว่ากูอยู่ไหน มึงมีอะไรจะสารภาพก็รีบอกมาก่อนที่กูจะตัดขาดความเป็นเพื่อนกับมึง”)

            “กูขอโทษที่ต้องโกหกมึงเรื่องน้องภัทร แต่กูมีเหตุผลนะโว้ย” ในที่สุดเขาก็ต้องพูดความจริงกับเพื่อน

            (“มึงรู้ว่าน้องกูอยู่ที่เกาะนั่นแต่มึงก็เลือกที่จะโกหก กูเสียความรู้สึกกับมึงจริงๆว่ะไอ้กันต์”)

            “มึงฟังกูก่อนนะเว้ย ที่กูต้องโกหกเพราะน้องภัทรขอร้องกูไว้”

            (“ไม่จริงน้องกูไม่มีวันทำอย่างนั้นเด็ดขาด!”)

            “มันคือเรื่องจริงน้องภัทรกะ.....” พูดยังไม่ทันจบสายก็ถูดตัดไปซะก่อน

            กันต์พยายามโทรกลับแต่เจ้าตัวกลับตัดสายแล้วก็ปิดเครื่องไปในที่สุด  เขากลัวว่าเพื่อนจะทำอะไรโง่ๆ ลงไป  ถ้าหากเคลวินจับได้มีหวังไม่รอดอย่างแน่นอน  นั่งคิดได้สักพักกันต์ก็ตัดสินใจโทรฯไปปรึกษาคุณหมอหน้าหวานที่กำลังจะกลายเป็นคนรู้ใจในเร็วๆนี้

            “ฮัลโลคุณหมอว่างคุยสักครู่ไหมครับ”

            (“มีอะไรคุณ ทำเสียงซะดูตื่นเต้นเชียว”) พงษ์เอ่ยแซว

            “เพื่อนผมน่ะสิมันรู้แล้วว่าน้องภัทรอยู่ที่นี่แถมตอนนี้ก็น่าจะอยู่แถวๆนี้ด้วย  ผมกลัวว่าเพื่อนคุณจะจับได้แล้วฆ่าไอ้ดลก่อนจะได้เจอกับน้องภัทร” กันต์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

            (“เดี๋ยว! ใจเย็นๆคุณ เพื่อนผมมันไม่ได้ป่าเถื่อนขนาดนั้นนะ”)

            “คุณยังจะเข้าข้างเพื่อนคุณอีกเหรอ ไม่ป่าเถื่อนเลยลักพาตัวน้องภัทรมาที่นี่ แถมยังทำลูกชายเค้าท้องอีกต่างหาก”

            (“ผมไม่ได้เข้าข้างแต่คุณน่ะตื่นตูมไปเอง เรื่องมันยังไม่ได้เกิดขึ้นเลยนะ”)

            “หรือคุณต้องให้เพื่อนผมตายก่อนถึงจะพอใจห๊ะ!” กันต์เริ่มโวยวายเสียงดังอย่างลืมตัว

            (“ถ้ามีอารมณ์อย่างนี้ก็ไม่ต้องมาคุยกัน แค่นี้นะ”) คุณหมอเองก็เริ่มมีอารมณ์เหมือนกัน  ทั้งๆที่พยายามจะสงบสติอารมณ์แล้วก็ตาม

            “เดี๋ยวคุณ! ผมขอโทษพอดีเป็นห่วงเพื่อนมากไปหน่อย”

             (“ผมรู้แต่คุณต้องมีสติมากกว่านี้”)

            “ผมผิดไปแล้วครับ!  ที่โทรฯหาคุณเพราะอยากให้ช่วยพาผมไปหาน้องภัทรที่บ้านหน่อยได้ไหมครับ”

            (“คราวหลังถ้าจะโทรมาห้ามใช้อารมณ์แบบนี้อีกเข้าใจไหม”) ปลายสายสั่ง

            “คร้าบบ! ผมผิดไปแล้วครับคุณหมอสุดที่รัก” เมื่อรู้ว่าตัวเองผิดกันต์ก็พยายามพูดออดอ้อน

            (“อย่ามาลามปาม เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมโทรหาไอ้เคลวินก่อนละกัน  ถ้าโอเคแล้วจะโทรบอกอีกที”)

            “ขอบคุณครับ...ไม่ผิดหวังจริงๆเลยที่รักของผมเนี่ย”

            (“ผมขี้เกียจคุยกับคุณแล้วแค่นี้นะ”) พูดจบพงษ์ก็ตัดสายไป

            กันต์เกาหัวแกร็กๆ ทันที

            “วันนี้เป็นวันอะไรวะมีแต่คนตัดสายกูจัง...”



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            พงษ์โทรไปขออนุญาตเพื่อนเรียบร้อยแล้วก็พากันต์เข้าไปที่บ้านในเย็นวันนั้น  เมื่อทานมื้อเย็นเสร็จแล้วกันต์และพงษ์ก็ออกมาคุยกับนภัทรที่สวนข้างบ้าน

            “ช่วงนี้เป็นไงบ้างน้องไอ้เคลวินมันทำอะไรเรารึเปล่า” เมื่อปลอดเจ้าของบ้านพงษ์ก็เริ่มยิงคำถามทันที

            “ช่วงนี้โอเคมากเลยครับพี่วินเค้าดีกับผมมาก” นภัทรยิ้มกว้างเมื่อเอ่ยถึงชื่อของชายหนุ่ม

            “พี่วิน?” พงษ์แทบไม่เชื่อหูตัวเอง  เขาอึ้งกับความสัมพันธ์ของทั้งสองคนที่ดีขึ้นมากถึงขนาดนี้

            “ใช่ครับ ผมเรียกคุณเคลวินว่าพี่วินเหมือนสมัยเด็กๆ”

            “พี่อยากรู้จังว่าทำไมคุณเคลวินถึงได้จับตัวน้องภัทรมาที่นี่ในเมื่อก็เคยรู้จักกันมาก่อน” กันต์ไม่อ้อมค้อมเขาอยากรู้เรื่องทั้งหมด

            “คือเรื่องนี้ผมบอกไม่ได้จริงๆครับ มันค่อนข้างจะละเอียดอ่อน” เมื่อได้ยินคำถาม  นภัทรถึงกับหุบยิ้มทันที

            “คุณถามอะไรก็ไม่รู้” พงษ์ทำหน้าดุใส่อีกคนก่อนจะหันไปเอ่ยกับนภัทร “ไม่ต้องไปคิดอะไรมากแล้วนะน้องภัทร แค่เรามีความสุขก็พอแล้ว” เขายิ้มให้

            “ครับพี่กันต์ผมจะพยายามไม่คิดมาก” เริ่มมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหวานขึ้นมาบ้าง

            กันต์และพงษ์มองหน้ากันก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องนดลให้กับนภัทรได้รับรู้  บางครั้งมันอาจจะดีหากให้สองพี่น้องได้คุยกันก่อนที่จะเกิดเรื่องใหญ่โตขึ้น

            “มีอะไรรึเปล่าครับพี่สองคนดูแปลกๆ” นภัทรมองหน้าทั้งสองคนสลับกันไปมา

            “ภัทรพี่มีเรื่องจะบอก คือตอนนี้ไอ้ดลมันรู้แล้วว่าภัทรอยู่ไหน”

            “ไหนพี่กันต์บอกว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้พี่ดลรู้ไงครับ” ร่างบางมีสีหน้าตกใจเมื่อได้ยิน  ในใจก็เกิดความกังวลว่าพี่ชายของตัวเองจะบุ่มบ่ามทำอะไรลงไป

            “พี่ไม่ได้บอกคิดว่ามันคงสืบเองจนรู้เรื่อง  พี่คิดว่าตอนนี้มันคงวนเวียนอยู่แถวนี้แน่นอน”

            “พี่กันต์ผมอยากคุยกับพี่ดล ผมจะบอกให้เค้ากลับบ้านไปก่อนเพราะตอนนี้ทุกอย่างมันกำลังจะลงตัว ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนกับเรื่องนี้อีก”

          “เดี๋ยวพี่จะลองโทรหามันดู ช่วงเช้ามันโทรฯแล้วทะเลาะกับพี่แล้วมันก็ตัดสายไป  ถ้ามันเห็นเบอร์พี่โทรฯไปอีกไม่รู้มันจะรับสายรึเปล่านะสิ” กันต์บอก

            “คุณเอาเบอร์ผมโทรฯไปไหมเผื่อเค้าจะรับสาย” พงษ์ยื่นโทรศัพท์ให้

            กันต์รับมาแล้วกดโทรฯออกหาเพื่อนรักทันที  นภัทรเองก็นั่งรออย่างใจจดใจจ่อนานมากแล้วที่เขาไม่ได้ยินเสียงพี่ชายสุดที่รัก  มันรู้สึกตื่นเต้นมากจนน้ำใสๆเริ่มปริ่มที่ดวงตาสวย

            “รับไหมคุณ?” พงษ์เองก็นั่งลุ้นอยู่ไม่น้อย

            “ยังเลย”

            เมื่อได้ยินอย่างนั้นนภัทรก็เริ่มใจไม่ดี

            “ฮัลโล ได้ดลมึงอย่าเพิ่งวางนะโว้ยตอนนี้กูอยู่กับน้องภัทร น้องเค้าอยากคุยกับมึง”

            กันต์ยื่นโทรศัพท์มือถือให้กับนภัทรทันที

            “ฮัลโลครับพี่ดล” น้ำตามันไหลมงมาโดยอัตโนมัติเมื่อได้ยินเสียงพี่ชายครั้งแรกในรอบหลายเดือน

            (“ภัทรเป็นยังไงบ้าง! พี่คิดถึงภัทรมากเลยรู้ไหม”) นดลเองก็ไม่ต่างกันเขาเอ่ยกับน้องชายด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ  ถ้าหากเป็นไปได้เขาจะเข้าไปรับตัวน้องชายกลับบ้านซะตอนนี้เลย

            “ภัทรก็คิดถึงพี่มาก ฮึก… พี่ไม่ต้องห่วงภัทรสบายดี”

            (“หมายความว่าไงภัทร”) นดลเริ่มสงสัย

            “ก็อย่างที่ภัทรพูด...ตอนนี้ภัทรสบายดีพี่วินไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ภัทรรู้ว่าพี่อยู่แถวนี้พี่ดลกลับบ้านเถอะนะครับ  แล้วก็ฝากบอกคุณพ่อคุณแม่ด้วยว่าภัทรคิดถึงท่านทั้งสองมาก” นภัทรตัดสินใจเอ่ยออกไป  หากนดลได้ยินอย่างนี้แล้วอาจจะวางใจแล้วยอมกลับไปก็เป็นได้

            (“มันบังคับให้วินพูดใช่ไหมบอกพี่มา”) น้ำเสียงเริ่มดังขึ้นมาเรื่อยๆ

            “ไม่ใช่ครับพี่วินไม่ได้บังคับอะไรทั้งนั้นภัทรเต็มใจจะอยู่ที่นี่เอง พี่กลับไปบอกพ่อกับแม่ด้วยนะครับ ถ้าหากเป็นไปได้ภัทรจะกลับไปเยี่ยมท่านแน่นอน”

            (“พี่ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้ออกจากปากน้องชายของพี่  รู้ไหมว่าตั้งแต่น้องถูกลักพาตัวมาไม่มีใครนอนหลับสนิทแม้แต่วันเดียว  ทุกคนที่บ้านเป็นห่วงน้องมาก คุณแม่ต้องเข้าวัดทุกวันเพื่อสวดมนตร์ขอพรให้น้องปลอดภัย  แล้วทำไมถึงได้เป็นคนอย่างนี้เสียแรงที่พ่อกับแม่เป็นห่วง สิ่งที่ทุกคนทำมามันเปล่าประโยชน์จริงๆ”) นดลพล่ามซะยาวเหยียดเขาไม่นึกเลยว่าสิ่งที่ขวัญพูดจะเป็นความจริง  หรือว่าน้องชายของเขาจะถูกวินล้างสมองไปแล้ว

            “พี่ดลมันไม่ใช่อย่างนั้นนะ  สิ่งที่ภัทรทำทั้งหมดเพราะไม่อยากให้ทุกคนต้องเดือดร้อน  ภัทรจะอยู่ที่นี่จะไม่ไปไหนทั้งนั้น” นภัทรยังคงยืนยันคำพูดของตัวเอง

            (“ไม่จริง! ภัทรทำเพื่อตัวเองต่างหากพี่ไม่มีทางให้เราอยู่ที่นั่น พี่จะพาภัทรกลับบ้านไปหาพ่อแม่ให้ได้”)

            “พี่ดลอย่าทำอย่างนั้นเด็ดขาดมันอันตราย กลับบ้านไปเถอะนะครับภัทรขอร้อง” น้ำเสียงของนภัทรแสดงถึงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน

            (“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้วแค่นี้ล่ะ”)

            พูดจบนดลก็วางสายไปทันที

            “พี่ดล...พี่ดลครับ! ฮือๆๆ” นภัทรร้องไห้เสียงดังราวกับจะขาดใจเสียให้ได้  ตอนนี้นดลกำลังเข้าใจเขาผิด  ทุกอย่างกำลังจะผ่านไปได้ด้วยดีแล้วแท้ๆ เขากลัวว่านดลจะบุกเข้ามาที่นี่จนทำให้เคลวินโกรธและทำร้ายเอาได้

            “น้องภัทรใจเย็นๆ” พงษ์จับมือน้อยๆของนภัทรเอาไว้แน่นเพื่อให้กำลังใจ

            “อีกไม่นานมันต้องบุกมาที่นี่แน่นอน  ผมกลัวว่าเพื่อนคุณจะทำอะไรเพื่อนผมซะแล้วสิ” กันต์เอ่ยพร้อมกับมองหน้าคุณหมอหนุ่ม

            “ที่นี่ใช่ว่าจะเข้ามาได้ง่ายๆ  ถ้าไม่ใช่คนในเข้ามาไม่ได้อยู่แล้วล่ะ เพื่อนคุณคงไม่คิดสั้นขนาดนั้นแน่นอน”  พงษ์เตือนสติ

            “ก็ใช่ น้องภัทรไม่ต้องห่วงหรอกไอ้ดลไม่มีทางเข้ามาที่นี่ได้แน่นอน  อย่าว่าแต่ที่นี่เลยที่เกาะใหญ่โน่นมันก็ไม่น่าจะเข้ามาได้” กันต์เอามือหนาไปจับที่ไหล่บางของนภัทรเอาไว้เชิงปลอบใจ

            “ขอบคุณพี่ๆทั้งสองคนมากนะครับที่คอยอยู่ข้างๆมาตลอด ผมคิดว่าหากพี่ดลไม่เข้ามาถึงที่นี่คงจะไม่โดนทำร้ายแน่นอน” เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้ก็ทำให้นภัทรใจชื้นขึ้นมาบ้าง

            “พี่ก็หวังว่าอย่างนั้น” กันต์เอ่ย

            “เอาเป็นว่าตอนนี้น้องภัทรก็อย่าเพิ่งคิดมากละกันเดี๋ยวจะส่งผลถึงลูกในท้องเอา” พงษ์แนะนำเพราะกลัวว่าเด็กในท้องจะได้รับผลกระทบจากภาวะเครียดของผู้เป็นแม่

            “ครับพี่หมอ”

            “เข้าไปในบ้านกันเถอะเดี๋ยวไอ้เพื่อนตัวดีของพี่มันจะดุเอา  ที่พาลูกกับเมียมันออกมานั่งตากน้ำค้างซะนาน”

            เคลวินกำลังนั่งตรวจเอกสารอยู่ที่ห้องนั่งเล่นไปพลางๆขณะรอทั้งสามคน  เมื่อเห็นนภัทรเดินเข้ามาเขาก็ยกยิ้มขึ้นมาทันที

            “พาเมียกูไปทำอะไรตั้งนานสองนานวะ”

            “ห่างกันแป๊บเดียวไม่ได้ไงวะ” พงษ์ตอบกลับ

            นภัทรเดินเข้าไปนั่งข้างๆก่อนที่คนตัวสูงจะโอบกอดที่ไหลบางเอาไว้

            “แหมๆห่วงจังนะเมียน่ะ” เมื่อเห็นเพื่อนทำท่าทางห่วงนภัทรพงษ์ก็ถึงกับยิ้มขึ้นมา

            “ก็กูมีของกูคนเดียวนี่นา” เคลวินยิ่งกระชับไหล่ร่างบางแน่นขึ้น

            “ถ้างั้นพวกกูไม่กวนละ” พงษ์ว่าแล้วก็เอ่ยกับนภัทรต่อ “พี่กลับก่อนนะน้องภัทร”

            “สวัสดีครับพี่หมอ” นภัทรยกมือขึ้นไหว้พงษ์และกันต์

            “อย่าคิดมากนะน้องพี่ไปล่ะ”

            “ครับพี่กันต์

             เมื่อพงษ์และกันกลับไปแล้วเคลวินก็หันมามองหน้าร่างบาง  ก่อนจะสังเกตเห็นว่าดวงตาของคนที่อยู่ตรงหน้านั้นแดงก่ำเหมือนกับคนที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มา

            “ทำไมตาแดงๆอย่างนั้น”

            “ไม่มีอะไรครับตอนออกไปข้างนอกมีแมลงเข้าตาแต่พี่หมอเอาออกให้แล้ว” ร่างบางพยายามหลบตา

            “อ๋อ...นึกว่าเป็นอะไรซะอีกพี่เป็นห่วงเรานะมีอะไรบอกพี่ได้  แล้วเมื่อกี้คุยอะไรกันซะนานเชียว”   

            “ไม่มีอะไรครับพี่หมอเค้ามาแนะนำเรื่องการดูและสุขภาพครับ” นภัทรยิ้มให้

            “ดีแล้วดูแลตัวเองดีๆพี่จะได้หายห่วง” มือข้างหนึ่งก็โอบที่ไหล่บางเอาไว้  แต่อีกข้างก็เกลี่ยไรผมที่ปรกใบหน้าสวยออกอย่างเบามือ

            “พี่วินครับผมจะมีโอกาสได้กลับไปหาพ่อแม่บ้างไหม?” ร่างบางตัดสินใจถามพร้อมกับก้มหน้ากลัวคำตอบที่ได้ยินจะไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ในใจ

            “มีสิครับ...รอน้องภัทรคลอดลูกแล้วพี่จะพากลับไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ แล้วพี่ก็จะเข้าไปกราบขอโทษท่านที่เคยทำไม่ดีกับน้องภัทรเอาไว้”

            เมื่อได้ยินอย่างนั้นนภัทรถึงกับยิ้มออกมาทันที  ไม่มีอะไรที่จะต้องคลางแคลงใจกับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว

            “ขอบคุณนะครับพี่วิน” ร่างบางกอดเคลวินเอาไว้แน่น

            “ไม่เป็นไรครับเพื่อเมียกับลูกพี่ยอมทำได้ทุกอย่าง” เขาเอ่ยเอาใจนภัทร

            “ขอบคุณครับที่ทำเพื่อผมกับลูก ผมสัญญาว่าจะอยู่ข้างๆพี่วินที่นี่ตลอดไป”

            ทั้งสองกอดกันอย่างแนบแน่นราวกับว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายของกันและกัน  เคลวินรู้สึกมีความสุขมากเหลือเกินเมื่อมีนภัทรอยู่ข้างกาย  เขาไม่มีทางจะพาคนๆนี้กลับไปที่นั่น ลูกกับเมียของเขาจะมีไม่ทางกลับไปอยู่กับคนเลวๆพวกนั้นอย่างแน่นอน


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-* 
 



เช้าวันต่อมา

            “พี่ไปทำงานก่อนนะครับ”

            “ครับพี่วิน”

            “อย่าทำงานหนักล่ะ ฝากบอกป้าภาด้วยนะวันนี้จะมีแม่บ้านคนใหม่มาแล้ว ป้าภาจะได้สบายขึ้นไปหน่อย”

            “ครับเดี๋ยวผมจะบอกให้”

            เคลวินไม่ยอมเดินไปสักทีจนนภัทรมองหน้าด้วยความสัยสัย

            “ทำไมยังไม่ไปอีกล่ะครับเดี๋ยวสายนะ”

            “วันนี้พี่อยากได้กำลังใจก่อนไป” ไม่ว่าเปล่าเคลวินกลับทำแก้มป่องแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆร่างบาง

            ฟอด!

            “พอใจรึยัง?” ใบหน้าเปลี่ยนสีขึ้นมาทันทีหลังจากได้หอมแก้มชายหนุ่มไปแล้ว

            “ยัง”

            ฟอด!

            เคลวินหอมแก้มทั้งสองข้างของนภัทรก่อนจะลงท้ายที่ตรงกลางหน้าผากนุ่ม  สายตาและรอยยิ้มที่ส่งมาให้นั้นทำให้คนที่อยู่ตรงหน้าแทบจะละลาย  นี่คือการใช้ชีวิตคู่อย่างเป็นทางการครั้งแรกเลยก็ว่าได้ การได้เดินมาส่งคนรักออกไปทำงานทุกเช้าและคอยดูแลหลังจากที่เค้ากลับมา  มันเป็นอะไรที่เกินฝันของภัทรจริงๆ

            “ไปได้แล่ว”

            “เย็นนี้เจอกันนะครับ” เขายิ้มให้

            เมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากรั้วบ้านไปแล้วนภัทรจึงเดินกลับเข้ามา  เขาเดินไปหาป้าภาที่ครัวเพื่อแจ้งเรื่องที่เคลวินได้ฝากเอาไว้  ช่วงนี้ป้าภาทำงานหนักมากหากมีคนมาช่วยก็คงจะแบ่งเบางานได้ไม่น้อย  ในใจก็ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้คนที่มาใหม่นั้นมีนิสัยเหมือนขวัญเลย

            “ป้าภาครับผมมีข่าวดีจะบอก”

            “ข่าวอะไรภัทร” ป้าภาเงยหน้าขึ้นมามองขณะเช็ดจานอยู่บนโต๊ะ

            “วันนี้จะมีคนมาช่วยป้าแล้วนะพี่วินเค้าฝากบอกมา”

            “จริงเหรอวะ”

            “จริงสิป้า ต่อไปนี้ป้าจะได้สบายขึ้นแล้วนะ”

            “ขอให้อย่านิสัยเหมือนอีขวัญก็พอ ถ้าเป็นแบบนั้นป้าจะให้คุณเคลวินไล่ออกทันทีเลย”

            “คงไม่เหมือนหรอกมั้งครับป้าอย่าคิดมากสิ”

            “เดี๋ยวป้าออกไปหลังบ้านแป๊บนึงนะ จะเอาพริกไปผึ่งแดดซะหน่อยเดี๋ยวจะขึ้นราเอา”

            “เดี่ยวผมทำให้ก็ได้ครับป้า”

            “ไม่เป็นไรเอ็งเช็ดจานแทนป้าก็แล้วกัน ป้าไปแป๊บเดียว” ป้าภาว่าแล้วก็ถือถุงพริกกับกระจาดใบใหญ่เดินออกไป

            นภัทรนั่งเช็ดจานจนเสร็จเรียบร้อย  นี่ก็ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีแล้วทำไมป้าภายังไม่กลับเข้ามาอีก  จึงเดินออกไปดูที่หลังบ้านแต่ก็ไม่เห็นป้าภาแม้แต่เงา

            “ป้าภาครับ!” นภัทรตะโกนเรียกเสียงดัง  ก่อนจะเดินไปพบป้าภานอนไม่ได้สติอยู่ที่พื้น “ป้าภา! ป้าเป็นอะไร!” ร่างบางรีบนั่งลงไปพยุงป้าภาขึ้นหลังจากนั้นก็เขย่าตัวเบาๆหวังว่าจะให้รู้สึกตัว  แต่ก็ไม่ได้ผลจึงตะโกนเรียกเอกเพื่อให้มาช่วยอุ้มเข้าไปในบ้าน

            “เอก! ช่วยด้วยป้าภาเป็นลม! เอก…อยู่แถวนี้รึเปล่า” ตะโกนไปหลายรอบแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเอกจะมา  ก่อนจะได้ยินเสียงของใครบางคนดังมาจากด้านหลัง

            “ไม่ต้องตะโกนเรียกให้เสียเวลาหรอก ไอ้นั่นมันสลบอยู่ในสวนโน่น”

            เสียงที่คุ้นเคยทำให้ร่างบางถึงกับเบิกตากว้างและหันกลับไปมองทันที  เมื่อรู้ว่าเจ้าของเสียงเป็นใครกลับยิ่งทำให้นภัทรต้องตกใจมากกว่าเดิมเสียอีก

           "พี่ดล!”

            “ตกใจมากเหรอที่เห็นพี่ที่นี่”


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



///////////////////////////////////////////////

หลอกกันจนวินาทีสุดท้ายเลยนะเคลวิน....

ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะครับ  เห็นคอมเมนท์แล้วมีกำลังใจมากๆเลย
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.19-ผู้บุกรุก]-(05-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-03-2018 19:00:17
เสร็จแน่  ทีนี้เอาไงล่ะพี่วิน
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.19-ผู้บุกรุก]-(05-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 05-03-2018 19:33:09
วินมันร้าจจจจ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.19-ผู้บุกรุก]-(05-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-03-2018 20:05:56
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.19-ผู้บุกรุก]-(05-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-03-2018 00:29:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.19-ผู้บุกรุก]-(05-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 06-03-2018 01:15:07
พี่ดลมาได้ไงอ่ะ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.19-ผู้บุกรุก]-(05-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 06-03-2018 01:16:47
วินพาภัทรไปอเมริกาเลยๆๆๆๆๆๆ ดลนี่ไม่รู้อะไรแล้วคิดเองเออเองเชื่อคนที่เพิ่งรู้จักมากกว่าน้องตัวเองอีก ทุบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.19-ผู้บุกรุก]-(05-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-03-2018 02:16:38
บอกแล้วไง ปล่อยชะนีไป มันก็แว้งกัดเข้าให้ เป็นไงล่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.19-ผู้บุกรุก]-(05-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-03-2018 17:16:00
ดลเข้ามาแล้ว!
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.19-ผู้บุกรุก]-(05-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 06-03-2018 18:37:58
เอาแล้วไงดลมาแล้ว
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.19-ผู้บุกรุก]-(05-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 07-03-2018 17:15:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.19-ผู้บุกรุก]-(05-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Nekosama ที่ 08-03-2018 11:20:04
ดลรู้รึเปล่าว่าพ่อตัวเองมีความผิด ภัทรเลยโดนจับ ....
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.20-จากลา]-(09-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 09-03-2018 18:14:17
CHAPTER

-20-

จากลา



          “พี่มาที่นี่ได้ยังไง” เมื่อเห็นพี่ชายสุดที่รักก็รีบโผเข้าไปสวมกอดทันที

            “พี่มารับเรากลับบ้านไง กลับไปกับพี่นะ”

            “ภัทรบอกแล้วไงว่าไม่ต้องมาที่นี่มันอันตราย!”

            “นั่นไงพี่ถึงต้องพาภัทรกลับบ้านไปกันเถอะเร็ว!” ว่าแล้วก็ดึงแขนน้องชายให้เดินตามไป

            “ไม่! พี่ดลกลับไปคนเดียวเถอะผมไม่กลับไปด้วยหรอก” นภัทรสลัดข้อมือออกจนหลุด

            “ถ้าภัทรไม่กลับกับพี่  พี่ก็จะอยู่รอจนกว่าไอ้วินมันจะมา ให้มันรู้ไปเลยว่าใครจะตายก่อนกัน”

            “ไม่นะพี่ดลที่นี่มันบ้านของพี่วินยังไงพี่ก็ไม่มีทางเอาชนะได้หรอก”

            “พี่จะสู้กับมันถึงตายพี่ก็ยอม” นดลรู้ดีว่าน้องชายคงไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองเป็นอะไรแน่นอน จึงออกอุบายนี้เพื่อกดดัน

            “พี่ดลทำไมถึงดื้อแบบนี้ ภัทรขอร้องล่ะกลับไปเถอะ” ทำไมจะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเขาด้วยนะ  เลือกไม่ได้จริงๆว่าจะอยู่ฝั่งไหน  ถ้าขืนอยู่ที่นี่ต่อไปมีหวังพี่ชายได้ตายด้วยน้ำมือเคลวินแน่นอน  แต่ถ้ากลับไปพร้อมกับพี่ชาย  ทุกคนก็คงจะโดนเคลวินเล่นงานเหมือนกัน  ตอนนี้คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรักษาชีวิตพี่ชายของตัวเองเอาไว้

            “ถ้าภัทรอยากเห็นพี่ตายก็อยู่ที่นี่ต่อ พี่จะไม่ไปไหนทั้งนั้น” นดลยังยืนยันคำพูด

            “พี่ดลทำไมต้องทำให้ภัทรลำบากใจด้วย ฮึก ฮือๆ” นภัทรทรุดลงนั่งกับพื้นน้ำตานองหน้า จนคนเป็นพี่ต้องนั่งลงกอดปลอบใจ

            “กลับบ้านกับพี่นะคนดี พ่อกับแม่รอเราอยู่ไม่มีใครรักเราจริงเท่าพ่อกับแม่แล้วนะ” เขาเอาน้ำเย็นเข้าลูบ

            “ครับ...ผมจะกลับบ้านกับพี่ดล” นภัทรเอ่ยกับพี่ชาย

            “พี่ดีใจที่น้องคิดได้ป่ะไปกันเถอะเดี๋ยวไอ้วินจะกลับมาเจอซะก่อน” นดลยิ้มออกเมื่อได้ยินน้องชายบอกอย่างนั้น ก่อนจะพยุงให้ลุกขึ้น

            “ผมขอตัวขึ้นไปเก็บของข้างบนสักครู่นะครับ”

            “อย่านานนะพี่จะรออยู่ตรงนี้”

            “ครับ”

            นภัทรรับคำพี่ชายก่อนจะเดินขึ้นไปเก็บของจำเป็นบางส่วนและได้เขียนโน๊ตทิ้งไว้ในห้องเพื่อบอกลาเคลวิน  ถึงแม้ช่วงแรกๆจะมีแต่ความทรงจำที่เลวร้ายแต่นานวันเขากลับรู้สึกผูกพันธ์กับที่นี่มากเหลือเกิน  ทั้งๆที่ทุกอย่างกำลังจะดีอยู่แล้วทำไมต้องมีเรื่องให้เขาต้องทุกข์ใจอีกด้วยนะ


            “พี่วินครับผมขอโทษที่ไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้ได้  แต่ผมสัญญาว่าจะเลี้ยงดูเจ้าตัวเล็กในท้องให้ดีที่สุดไม่ต้องเป็นห่วง  ผมมีความสุขมากที่ได้พี่วินคนเดิมกลับมาแถมยังเป็นพ่อของลูกอีกด้วย  หากเรามีบุญวาสนาต่อกันคงได้พบกันอีก  ผมขอให้เรื่องทั้งหมดมันจบสิ้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปนะครับ”

            รักพี่วินเสมอ

            นภัทร




            นภัทรทิ้งกระดาษแผ่นเล็กๆไว้บนโต๊ะข้างเตียงนอน ก่อนจะเดินร้องไห้ออกจากห้องไป

            “กลับบ้านกันนะภัทร”

            “ครับพี่ดล”

            นดลโอบไหล่น้องชายเดินไปยังข้างกำแพงบ้าน  โดยที่นภัทรเองยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่ยอมหยุด  ก่อนจะเอะใจว่าพี่ชายรู้ทางเข้ามาที่นี่ได้ยังไงในเมื่อมีแค่เขากับเอกเท่านั้นที่รู้ทางออกนี้

            “พี่ดลรู้ทางลับนี้ได้ยังไงครับ” นภัทรมองหน้าพี่ชายด้วยความสงสัย

            “เราออกไปกันก่อนเดี๋ยวค่อยคุยกันเรื่องนี้” นดลบอกแค่นั้นก่อนจะพาน้องชายมุดออกไปข้างนอกกำแพง

            ออกมาข้างนอกก็มีเรือมาจอดรออยู่แล้ว  ก่อนที่นภัทรจะเห็นหญิงสาวที่คุ้นหน้าคุ้นตานั่งอยู่บนนั้นพร้อมกับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง  นี่พี่ชายของเขาไปรู้จักคนประเภทนี้ได้ยังไงกัน

            “ขวัญ!” ร่างบางสบถออกมาเบาๆ

            “ใช่ขวัญนี่ล่ะที่เป็นคนบอกทางเข้าไปที่นั่น ต้องขอบใจเธอที่ช่วยให้พี่พาน้องกลับบ้านได้สำเร็จ”

            “พี่รู้จักขวัญได้ยังไง”

            “ขวัญเป็นสาวใช้ในบ้านคนที่พี่รู้จัก เค้าอยู่ที่เรือโน่นไงป่ะไปกันเถอะ” นดลดุนหลังน้องชายให้รีบเดินไปที่เรือ

            เมื่อเดินมาถึงขวัญก็มองมาที่นภัทรด้วยสายตาที่เป็นมิตรพร้อมกับยิ้มให้  รู้ทันทีว่าการเล่นละครของขวัญมันเริ่มต้นขึ้นแล้ว  แล้วเขาล่ะจะเล่นละครตามขวัญหรือเลือกที่จะพูดความจริง

            “ภัทรจริงๆด้วย” ขวัญตะโกนมาด้วยความดีใจ

            “ทำไมเธอต้องเล่นละครว่าดีใจขนาดนั้นด้วยล่ะขวัญ” นภัทรเหลือบตามองอย่างรำคาญใจ  ผู้หญิงคนนี้ทำร้ายเขามาครั้งแล้วครั้งเล่าไม่มีทางที่จะเชื่อใจได้อีกแม้แต่ครั้งเดียว

            “ทำไมเธอพูดอย่างนั้นล่ะภัทร  ฉันอุตส่าห์บอกทางพี่ชายเธอจนช่วยพาออกมาจากที่นั่นได้นะ  อ้อ..ฉันลืมไปว่าเธอคงไม่อยากออกมานักหรอก เพราะตอนนี้เธอกำลัง...” ขวัญว่าพร้อมกับมองดูที่หน้าท้องของนภัทร  จากสายตาที่มองมาทำให้นภัทรสงสัยว่าขวัญอาจจะรู้เรื่องที่เขาท้องแล้วก็เป็นได้

            “หุบปากเดี๋ยวนี้!” นภัทรตวาดใส่

            “พอๆๆ ขึ้นเรือเร็วครับจะได้รีบไปกัน” อิทธิเอ่ยแทรกขึ้นมา

            “เราจะไปไหนกันครับพี่ดล” นภัทรหันไปถามพี่ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ  เขายังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าอิทธิคือคนที่ให้ลูกน้องมาลักพาตัวในตอนนั้น  ทุกอย่างเกี่ยวกับอิทธิจึงเป็นการรู้จักที่เริ่มต้นจากศูนย์

            “คืนนี้เราไปพักที่เกาะเพิร์ลก่อนพรุ่งนี้พี่ถึงจะพาเรากลับ”

            “ครับ”




@ เกาะเพิร์ล

            เมื่อมาถึงเกาะเพิร์ลแล้วนภัทรก็เริ่มซักถามสิ่งที่เขาสงสัยทันที  ตอนนี้ทั้งหมดกำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขก  นภัทรมองหน้าขวัญและอิทธิสลับไปมา

            “ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับคุณนภัทร” อิทธิยิ้มให้

            “ยินดีที่รู้จักครับคุณอิทธิ สรุปว่าคุณกับพี่ชายผมรู้จักกันได้ยังไง รวมถึงขวัญด้วยอีกคน”

            “มันเป็นเรื่องบังเอิญครับ สงสัยฟ้าดินคงจะเป็นใจให้เราทั้งหมดมาพบและได้รู้จักกัน  ถึงได้ช่วยคุณออกมาจากที่นั่นได้” สายตาเจ้าเล่ห์ที่มองมานั้นทำให้นภัทรรู้สึกไม่ไว้ใจผู้ชายคนนี้แม้แต่น้อย  ทำไมพี่ชายของเขาถึงได้ไว้ใจคนแบบนี้นะ

            “สรุปผมต้องขอบคุณฟ้าดินใช่ไหมครับเนี่ย” นภัทรพูดติดตลกก่อนจะหันไปเอ่ยกับพี่ชาย “พี่ดลพรุ่งนี้เรากลับกันตั้งแต่เช้าเลยนะครับภัทรอยากจะกอดคุณพ่อคุณแม่จะแย่แล้ว” เขาไม่อยากอยู่ที่นี่นานด้วยเพราะอิทธิผู้ที่เป็นเจ้าของเกาะซึ่งไม่น่าไว้ใจ  แถมยังมีขวัญอีกคนที่ร้ายใช่ย่อยเขากลัวว่าคนพวกนี้จะคิดทำอะไรสกปรกๆ

            “ทำไมไม่พักผ่อนอยู่ที่นี่สักสองสามคืนก่อนล่ะครับ ไหนๆก็ได้มาแล้วอยู่พักผ่อนต่ออีกหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้งครับ” อิทธิเอ่ยกับนดล  ในเมื่อนภัทรมาหาเขาถึงที่แล้วไม่มีทางที่จะปล่อยให้รอดมือไปได้อย่างแน่นอน

            “พอดีผมโทรบอกพ่อกับแม่เอาไว้แล้วครับคุณอิทธิต้องขอโทษด้วย  ถ้ามีโอกาสผมจะกลับมาเที่ยวที่เกาะนี้แน่นอนครับ”

            “เสียดายจังแต่ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจ  เอาเป็นว่าคืนนี้ผมจะเลี้ยงส่งคุณทั้งสองก็แล้วกันนะครับ”

            “จริงๆไม่ต้องก็ได้นะครับ ที่คุณช่วยพาผมไปรับตัวน้องชายมาก็เกรงใจจะแย่แล้ว” นดลเอ่ยอย่างเกรงใจ

            “ไม่เป็นไรครับผมยินดีเพื่อมิตรภาพของพวกเราครับ”

            “พี่ดลครับผมเหนื่อยอยากพักผ่อนแล้ว” นภัทรเอ่ยแทรกขึ้นมา เขาเบื่อขี้หน้าคนพวกนี้รู้สึกอึดอัดมากเหลือเกิน

            “ถ้างั้นผมขอตัวพาน้องชายไปพักผ่อนก่อนนะครับ”

            “เชิญตามสบายครับ”

            นภัทรเดินตามพี่ชายไปหลังจากนั้น  ตอนนี้ก็เหลือเพียงอิทธิและขวัญอยู่เพียงลำพัง  ขวัญมองตาเดียวก็รู้ว่าอิทธิสนใจนภัทรมากเพียงใด ทำไมใครๆก็ต้องสนใจนภัทรด้วยนะหากกำจัดไปให้พ้นๆหล่อนคงอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจ

            “คุณอิทธิสนใจนภัทรเหรอคะ?” เธอเอ่ยถามเมื่อเห็นอิทธิยังคงเหม่อลอยมองตามหลังนภัทรอยู่

            “คนอะไรจะน่ารักขนาดนี้วะ เสียดายที่พรุ่งนี้ก็จะกลับแล้ว” ถึงแม้เขาจะเคยให้ลูกน้องไปลักพาตัวนภัทรมา  แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะแตะเนื้อต้องตัวนภัทรได้เลย  เพราะยังมีพี่ชายอยู่ข้างกายตลอด คิดแล้วก็รู้สึกเสียดายมากเหลือเกิน

            “คุณอิทธิอยากได้นภัทรไหมล่ะคะหนูมีวิธี” เมื่อได้ยินอย่างนั้นอิทธิก็หูผึ่งรีบหันมามองขวัญทันที  สีหน้าของชายหนุ่มไม่บอกก็รู้ว่าสนใจมากขนาดไหน  ขวัญยกยิ้มอย่างพอใจที่ทุกอย่างที่คิดในหัวกำลังจะกลายเป็นจริง

            “เธอมีแผนอะไรว่ามา” อิทธิกวักมือเรียกให้ขวัญเข้ามาใกล้ๆก่อนที่เจ้าหล่อนจะมองซ้ายมองขวาแล้วรีบเดินเข่าไปหาเจ้านายทันที



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



@ เกาะบลูซี

            “มันเกิดขึ้นได้ยังไง!” เคลวินตะโกนเสียงดังด้วยความเกรี้ยวกราดกับคนงานทั้งสอง  ป้าภาและเอกกำลังนั่งอยู่ที่พื้นด้วยอาการมึนงง  ตอนเกิดเรื่องเมื่อรู้สึกตัวป้าภาก็รีบโทรฯหาเคลวินทันทีไม่นานหลังจากนั้นเจ้าของบ้านก็รีบบึ่งรถกลับมาที่บ้าน

            “ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะอยู่ดีๆก็มีคนเอาผ้าอุดจมูกหลังจากนั้นป้าก็หมดสติจำอะไรไม่ได้เลยค่ะ  รู้ตัวอีกทีก็ตามหาเจ้าภัทรมันแต่ก็ไม่เจอแล้ว” ป้าภาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง

            “แล้วเอ็งล่ะเอกเห็นอะไรบ้างไหม” เคลวินหันไปถามคนสวนอีกที

            “ผมก็โดนเหมือนป้าภาครับ”

            เพล้ง!

            “แม่งโว้ย! ลูกกับเมียกูอยู่ที่ไหนวะเนี่ย” แจกันที่วางอยู่บนโต๊ะถูกปัดหล่นลงพื้นแตกกระจุยกระจาย  เพื่อเป็นที่ระบายอารมณ์ของผู้เป็นเจ้าของบ้าน  ตอนนี้ในใจเขาเป็นห่วงลูกกับเมียมากเหลือเกิน ใครกันที่มันกล้าเข้ามาหยามเขาถึงที่นี่  คนแรกที่เคลวินคิดในหัวนั่นคืออิทธิเพราะครั้งก่อนก็เป็นฝีมือของมันที่ทำให้เขาและนภัทรเกือบตายมาแล้ว  นั่งเครียดได้สักพักก็นึกอะไรออก เขาลืมกล้องวงจรปิดไปได้ยังไงไม่รอช้าเคลวินรีบขึ้นไปเปิดกล้องวงจรปิดดู

            ภาพที่เห็นต้องทำให้เขาคิดใหม่  ไม่ใช่อิทธิอย่างที่คาดเดาเอาไว้แต่กลับเป็นนดล  คนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะเข้ามาที่นี่ได้หรือว่านภัทรแอบติดต่อกับนดลแล้วถือโอกาสที่เขาไม่อยู่บ้านหนีออกไป  นี่นภัทรโกหกเขามาตลอดอย่างนั้นเหรอ ไหนบอกกันว่าจะไม่มีทางออกไปจากที่นี่ ไหนบอกกันว่าจะอยู่กับพี่วินคนนี้ มันเจ็บจี๊ดๆที่หัวใจมากเหลือเกิน มือที่กำอยู่นั้นสั่นเทาด้วยความโมโห

            เมื่อรู้เส้นทางการหลบหนีเคลวินก็เดินลงมาข้างล่างทันที  คนแรกที่เขาจะต้องถามนั่นคือเอก  จำได้ว่าขวัญเคยบอกเห็นทั้งสองคนเดินออกมาจากสวนข้างบ้าน  มันเป็นทางเดียวกับที่พวกนั้นใช้หลบหนีเขาจะต้องรู้ความจริงให้ได้

            “เอกตามฉันมา” เคลวินเดินนำหน้าไปที่สวนข้างบ้านโดยมีเอกและป้าภาเดินตามหลังไป

            เมื่อถึงข้างกำแพงแล้วเคลวินก็เริ่มยิงคำถามทันที

            “พวกมันพากันหนีออกทางนี้มึงมีอะไรจะบอกกูไหม!” เขาตวาดลั่นใส่คนสวนหนุ่ม

            “ทางนี้มีผมกับนภัทรรู้กันแค่สองคนครับคุณเคลวิน  มันมีโพรงสามารถออกไปข้างนอกได้  ผมขอโทษที่ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับคุณเคลวินเลยครับ” เอกพูดด้วยความสำนึกผิด

            “กูไม่โทษมึงหรอกคนที่สมควรโดนก็คือไอ้นภัทรมันแอบติดต่อพี่ชายมัน คิดเหรอว่าพวกมึงจะหนีกูพ้น”

            “ป้าว่านภัทรมันคงไม่ได้ทำอย่างนั้นหรอกค่ะคุณเคลวิน  มันกำลังท้องกำลังไส้และอีกอย่างตอนนี้เจ้าภัทรกับคุณเคลวินก็ไม่ได้มีปัญหากันแล้วนี่คะ” ป้าภาเอ่ยหล่อนไม่เชื่อว่าคนอย่างนภัทรจะกล้าหนีออกไปจากที่นี่  ถึงแม้จะรู้จักกันแค่ไม่กี่เดือนแต่ก็รู้ดีว่านภัทรไม่ใช่คนชอบโกหกหรือไม่รักษาสัญญา

            “มันเล่นละครตบตาทุกคนน่ะสิป้า”

            “คุณเคลวินใจเย็นๆนะคะมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิดก็ได้ ป้ายังเชื่อมั่นในตัวเจ้าภัทรมันไม่มีทางทิ้งคุณเคลวินไปแน่นอน มันต้องมีความจำเป็นถึงได้ทำอย่างนั้นลงไป”

            “ผมไม่มีทางเชื่อใจคนอย่างมันแล้วครับป้า มันจะต้องได้รับบทเรียนจากการที่ทำกับผมในครั้งนี้” พูดจบก็เดินกลับเข้าไปในบ้านทันที   

            เคลวินเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนก็เจอกับกระดาษแผ่นเล็กๆที่วางไว้บนโต๊ะ เขาหยิบขึ้นมาอ่านก่อนที่น้ำตาของลูกผู้ชายมันจะไหลลงมาอย่างช้าๆ นานจนจำไม่ได้แล้วที่ผู้ชายเข้มแข็งคนนี้เคยร้องไห้  ดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้อย่างหนักหน่วง  เปลือกตาค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆเมื่อเขาเอนกายลงบนเตียงนอน  คิดว่าจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นขึ้นมาแต่แล้วฝันมันก็สลายไปในพริบตา  เขาไม่น่าใจอ่อนกับไอ้ลูกศัตรูคนนั้นเลย  เขาไม่น่าเอามันเข้ามาในห้องหัวใจเลยแม้แต่น้อย

            หลังจากนอนพักสายตาอยู่นานเคลวินก็ลุกขึ้นไปเปิดเอาของบางอย่างในลิ้นชักออกมา  มันคือหนังสือคู่มือการเป็นคุณพ่อมือใหม่ที่เขาตั้งใจซื้อมาอ่าน  เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นคุณพ่อในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า  ตอนนี้สิ่งที่เขาฝันมาตลอดมันได้พังลงแล้ว  เคลวินฉีกมันเป็นชิ้นเล็กๆจนหล่นกระจายไปบนพื้น

            “ทุกอย่างไม่มีทางจบอยู่แค่นี้แน่นอนจำไว้นภัทร”



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



@ เกาะเพิร์ล

            ในที่สุดค่ำคืนที่อิทธิรอคอยก็มาถึงเขาสั่งให้ลูกน้องจัดเตรียมงานเลี้ยงเล็กๆนอกบ้านบรรยายกาศติดริมทะเล ทั้งหมดกำลังนั่งทานอาหารมื้อเย็นอยู่บนโต๊ะโดยมีขวัญและสาวใช้อีกคนคอยเสิร์ฟอาหารอยู่ไม่ห่าง

            “ขอบคุณสำหรับการเลี้ยงส่งที่สุดแสนจะวิเศษนะครับ” นดลเอ่ยขอบคุณเจ้าของเกาะ

            “ไม่เป็นไรครับผมเต็มใจทานกันเยอะๆเลยนะครับ” คนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะเอ่ยกับทั้งสองคน

            “ครับ” นดลรับคำ

            “รู้สึกยังไงบ้างครับที่ออกจากขุมนรกนั่นได้” อิทธิเอ่ยถามเมื่อนั่งทานไปได้สักพัก

            “ที่นั่นไม่ใช่ขุมนรกครับทุกคนที่นั่นดีกับผมมาก” นภัทรตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย

            “สงสัยจะอยู่นานจนสนิทกับคนที่นั่นไปแล้ว แต่ถึงยังไงคงไม่มีที่ไหนจะมีความสุขเท่าบ้านของตัวเองหรอก ใช่ไหมครับคุณดล” เขารู้ว่านภัทรไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไรจึงได้หันไปขอความคิดเห็นจากนดล

            “ใช่ครับ ไม่มีที่ไหนอยู่แล้วมีความสุขเท่าที่บ้านอีกแล้ว” นดลจงใจพูดประชดประชันน้องชายของตัวเอง

            “ผมดีใจที่คุณดลตามหาน้องจนเจอแล้วพากลับบ้านอย่างปลอดภัย ที่บ้านคุณดลคงจะดีใจกันมาก  แต่ดูท่าทางน้องคุณคงอยากจะอยู่กับไอ้เคลวินมากกว่านะครับ ฮาๆ” อิทธิพูดติดตลกแต่นภัทรกลับไม่ขำไปด้วย

            “ผมขอตัวก่อนนะครับบรรยากาศเริ่มเน่าแล้ว” พูดจบนภัทรก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน  เมื่อเห็นอย่างนั้นนดลก็รีบตามน้องชายไป

            “ผมต้องขอโทษแทนน้องชายด้วยนะครับ แกคงโดนไอ้เคลวินมันล้างสมองเลยทำตัวไม่น่ารักอย่างนี้”

            “ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจ คุณดลตามไปเถอะดูท่าคงจะหนักน่าดู”

            “ถ้างั้นผมขอตัวสักครู่นะครับ”

            นดลเดินตามน้องชายไป

            ขวัญที่กำลังยืนอยู่ที่เตาบาร์บีคิวก็เดินเข้ามาหาอิทธิทันที

            “คุณอิทธิเข้าไปรอในห้องก่อนนะคะ อีกไม่นานยานอนหลับก็คงออกฤทธิ์  ขวัญจะพานภัทรเข้าไปหาคุณที่ห้องเอง” ในที่สุดแผนที่ขวัญได้วางไว้ก็ใกล้จะสำเร็จแล้ว

            “ขอบใจเธอมากถ้าเสร็จงานนี้ฉันจะมีรางวัลใหญ่ให้” อิทธิมองหน้าหญิงสาวอย่างพอใจก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก  คืนนี้ล่ะที่เขาจะได้รวบหัวรวบหางลิ้มลองความหอมหวานของคนที่เคยอยากได้มาตลอด

            “ขอบคุณค่ะคุณอิทธิ รับรองว่าหนูจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน”

            อิทธิรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอย่างบอกไม่ถูก  ทำไมถึงได้มีความต้องการมากขนาดนี้นะ

            “คุณอิทธิเป็นอะไรรึเปล่าคะ?”

            “มะ..ไม่มีอะไร ฉันไปล่ะ”

            “ค่ะ”

            หลังจากอิทธิเดินไปแล้วขวัญก็ยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ   อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าทุกอย่างมันก็จะเสร็จเรียบร้อยแล้วสินะ ขวัญรีบวางมือแล้วเดินเข้าไปหานภัทรที่ห้องทันที

            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

            ขวัญยืนรออยู่หน้าประตู

            “เธอมีอะไร” นภัทรเห็นขวัญก็ทำหน้ายุ่งใส่ทันที

            “รีบออกไปจากเกาะนี้ซะฉันเตรียมเรือไว้ให้แล้ว ถ้าไม่ออกไปคืนนี้รับรองเธอไม่ได้ออกไปแน่นอน” ขวัญเอ่ยขึ้น

            นภัทรทำหน้าสงสัยทันทีก่อนที่นดลจะเดินมาสมทบ

            “มีอะไรรึเปล่าภัทร” นดลเอ่ยถาม

            “เธอหมายความว่ายังไง” นภัทนมองหน้าขวัญอย่างไม่เข้าใจ  ทำไมอยู่ๆขวัญถึงได้พูดเหมือนกำลังจะช่วยเหลือตัวเองซะอย่างนั้นทั้งๆที่แต่ก่อนจ้องแต่จะเล่นงาน

            “ก็หมายความอย่างที่พูดนั่นล่ะ  เธอจำได้ไหมตอนที่โดนลักพาตัวไปคนที่อยู่เบื้องหลังก็คือคุณอิทธินี่ล่ะ”

            “เธอรู้ได้ยังไง?” เมื่อได้ยินนภัทรก็นึกถึงวันนั้นทันที  เคลวินบอกกับคนที่จับตัวเขาว่าให้ไปบอกลูกพี่  แต่ก็ไม่ได้ถามว่าคนๆนั้นคือใคร คิดแล้วมันอาจจะเป็นเรื่องจริงอย่างที่ขวัญพูดก็เป็นได้

            “ไม่ต้องถามให้มากความเอาเป็นว่าฉันรู้ละกันน่า รีบๆพาพี่ชายเธอกลับบ้านซะแล้วอย่ามาที่นี่อีกเด็ดขาด” ขวัญย้ำ

            “เธอช่วยฉันทำไม?”

            “เปล่าฉันกำลังช่วยตัวเองต่างหาก ถ้าเธอไม่อยู่ที่นี่ทุกคนก็ไม่ต้องสนใจเธอ ไปแล้วก็อย่ากลับมาล่ะ”

            “ถึงยังไงก็ขอบใจเธอละกัน” เธอเอ่ยกับขวัญแล้วหันไปหาพี่ชายที่ยืนฟังอย่างงงๆ “พี่ดลเรารีบไปกันเถอะแล้วค่อยคุยเรื่องนี้...ป่ะ”

            “ตอนนี้ลูกน้องคุณอิทธินั่งกินบาร์บีคิวอยู่ด้านหน้าเธอต้องอ้อมด้านหลังไปที่ท่าเรือ” ขวัญบอกอีกรอบ

            นภัทรรีบพาพี่ชายเดินออกไปโดยเร็ว ส่วนขวัญก็เดินไปที่ห้องนอนของตัวเองเพื่อเปลี่ยนชุดก่อนจะเดินตรงไปยังห้องของอิทธิ  ตอนนี้ยาปลุกเซ็กส์คงกำลังออกฤทธิ์เต็มที่แล้วเธอจะต้องเป็นนายหญิงของที่นี่ให้ได้

            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

            อิทธิเปิดประตูออกมาก่อนจะมองหาใครบางคนที่ขวัญบอกว่าจะพามาหาที่ห้อง

            “ไหนล่ะนภัทร” เขาเอ่ย  อิทธิหน้าแดงก่ำพร้อมกับขบเม้มที่ริมฝีปากบ่งบอกถึงความต้องการอย่างเต็มที่  ตอนนี้เขาไม่สามารถทนความต้องการของตัวเองได้เลยเจ้าโลกมันแข็งตัวจนตุงทะลุกางเกงออกมา  เมื่อเห็นชุดที่ขวัญใส่ก็ยิ่งปลุกอารมณ์มากยิ่งขึ้น ชุดนอนซีทรูสีขาวบางมองเห็นทะลุไปยังผิวขาวข้างใน  ทรวดทรงที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน  เนินอกขนาดเต็มมือถูกปกปิดด้วยยกทรงสีแดงเพลิง ส่วนข้างล่างก็มีเพียงชั้นในลูกไม้ตัวจิ๋วปกปิดของสงวนเอาไว้

            “นภัทรหลับไปแล้วค่ะเคาะห้องยังไงก็ไม่เปิด ขวัญขอโทษนะคะที่ทำให้คุณผิดหวัง” เธอเอื้อมมือเรียวไปเกลี่ยที่แผงอกของอิทธิอย่างเย้ายวน  ก่อนที่ชายหนุ่มจะคว้ามือเธอเอาไว้แล้วรวบตัวเข้าไปในห้อง

            ไม่มีคำเอ่ยใดๆออกจากปากของอิทธิเลยแม้แต่น้อยเพราะฤทธิ์ยาทำให้เขาลืมเรื่องนภัทรไปชั่วขณะ  แล้วหันไปสนใจกับหญิงสาวที่เข้ามาถูกจังหวะพอดี  บทรักที่เกิดจากความไม่ตั้งใจของอิทธิเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อบรรเทาความกำหนัด  ทว่านั่นมันช่างถูกใจหญิงสาวที่นอนส่งเสียงรัญจวนอยู่ใต้ร่างแกร่งของเขามากเหลือเกิน

            ‘กว่าคุณจะรู้สึกตัวไอ้ภัทรมันคงกลับถึงกรุงเทพฯแล้วแน่นอน’ ขวัญคิดในใจพร้อมกับยิ้มที่มุมปากขณะถูกแก่นกายของอิทธิยัดเยียดเข้ามาอย่างไม่เป็นจังหวะ



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



-----------------------------------------------------------
หลังจากนี้ทุกอย่างจะกลับไปที่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดแล้วน้าาาาา
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.20-จากลา]-(09-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-03-2018 18:34:34
ขวัญ.......
ในที่สุด ขวัญก็ไม่นก  o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.20-จากลา]-(09-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-03-2018 18:53:39
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.20-จากลา]-(09-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 09-03-2018 20:07:23
boring
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.20-จากลา]-(09-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-03-2018 23:54:35
คนที่น่าสงสารที่สุดคือภัทร
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.20-จากลา]-(09-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-03-2018 03:42:43
อีวิน โทษภัทรอีกแล้ว บ้านออกใหญ่โต ไม่มีกล้องวงจรปิดเลยหรือไง  :3125:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.20-จากลา]-(09-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 10-03-2018 04:22:03
วินไม่เคยเข้าใจภัทรเลย
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.20-จากลา]-(09-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 10-03-2018 08:08:09
วนลูปกลับไปอีกครั้ง
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.20-จากลา]-(09-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 11-03-2018 10:35:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.21-น้องอุ่นรัก]-(11-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 11-03-2018 21:43:10
CHAPTER

-21-

น้องอุ่นรัก



          สามปีผ่านไป

          ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

            “คุณแม่ฮับน้องอุ่นอยากกินติม” เจ้าตัวน้อยเต้นโหยงๆพร้อมกับชี้ไปที่ร้านไอศกรีมขณะเดินมาพร้อมกับผู้เป็นแม่และลุง

            “น้องอุ่นอยู่นิ่งๆสิครับเดี๋ยวคุณแม่พาไปนะ” นภัทรบอกกับลูกชาย

            “เย้ๆ ไปกันเลยฮับ” เด็กชายปรบมือเสียงดังด้วยความดีใจก่อนจะจูงมือแม่และลุงเข้าไปในร้าน

            สามปีที่ผ่านมานภัทรให้กำเนิดลูกชายและได้ตั้งชื่อว่า ‘อุ่นรัก’ ถึงแม้จะเกิดมาไม่มีพ่อคอยอยู่ข้างๆเหมือนคนอื่น  แต่ก็อยากให้ลูกชายนั้นเป็นเด็กที่ไม่ขาดอะไรโดยเฉพาะความรักและความอบอุ่น  จึงได้ตั้งชื่อนี้เพื่อเป็นศิริมงคลให้แก่ลูกชายเติบโตขึ้นเป็นเด็กที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความอบอุ่นสมกับชื่อ

            นภัทรไม่เคยติดต่อกลับไปที่เกาะนั้นอีกเลยตั้งแต่ออกมาวันนั้น  แม้ใจจริงอยากจะโทรไปถามข่าวคราวแต่ก็เลือกที่จะตัดขาดแล้วเดินหน้าต่อไป  เขาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เติมเต็มความรักและความอบอุ่นให้กับลูกชายได้ไม่แพ้เด็กคนอื่นๆที่มีครบทั้งพ่อและแม่  ถ้าหากถามว่าคิดถึงเขาคนนั้นไหมนภัทรคงตอบได้เต็มปากว่าคิดถึงมาก  และรู้สึกดีใจที่เคลวินรักษาสัญญาว่าจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับครอบครัวเขาอีก  เพราะตลอดสองปีที่ผ่านมาครอบครัวอยู่กันอย่างมีความสุขไม่มีเหตุร้ายใดๆเกิดขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว

            “คุณแม่ฮับทำไมคนอื่นเค้ามีทั้งพ่อและแม่ แล้วพ่อของน้องอุ่นไปไหนฮับ” เด็กชายอุ่นรักชี้ไปที่โต๊ะข้างๆที่มีพ่อแม่ลูกนั่งทานไอศกรีมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา อุ่นรักเป็นเด็กฉลาดชอบสังเกตและมักจะตั้งคำถามไปพร้อมๆเสมอ

            “น้องอุ่นจำไม่ได้เหรอครับที่แม่บอกว่าคุณพ่ออยู่บนสวรรค์โน่นไง คุณพ่อมาหาน้องอุ่นไม่ได้อีกแล้ว  แม่จะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้หนูเองนะลูก” เขาพยายามทำความเข้าใจกับลูกชายตัวน้อย

             “มีลุงด้วยอีกคนนะครับน้องอุ่น” นดลยิ้มให้หลานชาย

             “แต่น้องอุ่นอยากเห็นหน้าพ่อ พ่อน้องอุ่นจะหล่อเหมือนพ่อคนอื่นไหมนะ” เจ้าหนูทำหน้าเศร้า

            “เอาไว้วันหลังแม่จะหารูปคุณพ่อมาให้หนูดูนะ  แต่ตอนนี้ต้องกินไอติมก่อนเดี๋ยวมันจะละลาย แม่ไม่รู้ด้วยนะ” นภัทรชี้ไปที่ถ้วยไอศกรีมที่กำลังดูดความร้อนค่อยๆหลอมตัวลงเรื่อยๆ

            “จริงๆนะฮับ เย้ๆ น้องอุ่นจะกินให้หมดเยย” ว่าแล้วเด็กชายอุ่นรักก็รีบตักไอศกรีมทานอย่างเอร็ดอร่อย  โดยมีผู้เป็นแม่คอยเอากระดาษทิชชู่เช็ดที่ขอบปากให้อยู่ไม่ห่าง

            หลังจากทานไอศกรีมเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ทั้งหมดก็กลับมาที่บ้าน  รถหรูยี่ห้อดังจากยุโรปค่อยๆเคลื่อนล้อเข้ามาในรั้วบ้าน  ก่อนจะจอดที่หน้าบ้านแล้วทั้งหมดก็ลงไปส่วนคนขับรถก็ขับไปจอดที่โรงรถหลังจากนั้น

            “คุณยายฮับน้องอุ่นกลับมาแย้ว” เจ้าตัวน้อยรีบวิ่งแจ้นเข้าไปสวมกอดผู้เป็นยาย  ที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น

            “ไปเที่ยวไหนมาบ้างครับหลานยาย” แก้วกานดาหอมแก้มหลานชายฟอดใหญ่แล้วอุ้มมานั่งที่ตัก

            “วันนี้น้องอุ่นได้ดูหนังแล้วก็กินติมด้วยฮับ อร่อยที่สุดเยย” ท่าทางร่าเริงของลูกชายทำให้นภัทรค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย  อีกไม่นานคงลืมเรื่องรูปถ่ายที่เขาเคยสัญญาไว้แล้วสินะ

            “ภัทรพี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ” นดลเอ่ยกับน้องชาย

            “ได้ครับพี่ดล” เขาตอบรับแล้วหันไปเอ่ยกับผู้เป็นแม่ “แม่ฝากอุ่นรักด้วยนะครับผมขอตัวไปคุยกับพี่ดลก่อนสักครู่”

            “จ๊ะเดี๋ยวเจ้าตัวน้อยแม่ดูแลให้เอง” เธอยิ้มอย่างเต็มใจ

            หลังกลับมาจากเกาะได้สองสัปดาห์นภัทรก็บอกกับทุกคนว่าเขากำลังตั้งท้อง  ตอนแรกทุกคนก็ตกใจอยู่ไม่ใช่น้อยแต่ไม่นานก็ทำใจและยอมรับได้  แต่คนที่ทำใจอยู่นานนั้นกลับเป็นทรงพล  เขาเคยสั่งให้นภัทรไปทำแทงค์เพราะรับไม่ได้ที่เด็กในท้องคือเลือดเนื้อเชื้อไขของวิน  มันเหมือนเป็นหอกข้างแคร่ให้เขาต้องนึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ได้ทำกับพ่อแม่ของวินเอาไว้

            เมื่อเดินมาอีกฝั่งหนึ่งของบ้านนดลก็เอ่ยถามน้องชายทันที

            “เรื่องรูปของไอ้นั่นภัทรจะเอามาให้ลูกเห็นจริงๆเหรอ”

            “เปล่าครับพี่ดลผมก็โกหกแกไปอย่างนั้นล่ะ อีกไม่นานแกคงลืมไปเองพี่ดลไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอก” เขายิ้มให้พี่ชาย

            “พี่รู้นะว่าภัทรยังคิดถึงมันอยู่ นี่ก็ผ่านมาจะสามปีแล้วภัทรควรจะลืมมันให้ได้  คนอย่างนั้นมันไม่มีค่ามากพอที่จะเป็นพ่อและสามีของใครเลย” เขาไม่ชอบใจเลยเมื่อรู้ว่าน้องชายยังคงคิดถึงวินอยู่  ถึงแม้ว่าจะเป็นพ่อของหลานก็ตามแต่วินคือศัตรูของครอบครัว  ไม่มีทางที่เขาจะให้คนอย่างนั้นมาเป็นน้องเขยอย่างแน่นอน

            “ผมลืมเค้าไม่ได้หรอกครับพี่ดล  เค้าคือพ่อของลูกและเป็นคนที่ผมรัก  พี่เองก็รู้ว่าพ่อของเราทำอะไรพ่อกับแม่เค้าไว้บ้าง  เค้าเป็นฝ่ายโดนกระทำมาตั้งแต่ต้นด้วยน้ำมือของพ่อเรา  ที่ภัทรทนเจ็บปวดอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะลูกและทุกคน  ไม่งั้นคงจะกลับไปหาพี่วินที่เกาะนั่นแล้ว” นภัทรเผยความรู้สึกที่อัดอั้นในใจมานานให้พี่ชายฟัง

            “เรื่องมันผ่านไปนานแล้วภัทรก็ควรลืมเรื่องนี้ไปซะ ตอนนี้ครอบครัวเรามีความสุขเหมือนเดิมแล้ว  ไม่ควรนึกถึงเรื่องนี้ให้มันเสียบรรยากาศ” นดลเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ  ถึงแม้จะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าพ่อของตัวเองเป็นคนผิดตั้งแต่ต้น  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะพ่อก็คือพ่อ  เขาคงทำได้แค่เพียงประคับประครองครอบครัวให้มีความสุขอย่างนี้ตลอดไป

            “เชิญพี่ดลหลอกตัวเองไปเถอะครับ ผมทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก” นภัทรรีบเดินออกไปจากตรงนั้น  เขาไม่อยากฟังคำพูดที่เห็นแก่ตัวของพี่ชายให้มันกระดากหู



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            @ บริษัท DECO ACCESS

            “คุณทำอย่างนี้ได้ยังไง!คุณอำนาจ” ทรงพลตะเบงเสียงผ่านสายด้วยความโมโหเมื่อรู้ว่าหุ้นส่วนรายใหญ่ของบริษัทได้ขายหุ้นให้กับผู้ถือรายหนึ่ง  จนทำให้ตอนนี้สิทธิ์ขาดการบริหารงานนั้นไม่ใช่ของเขาอีกต่อไปแล้ว  เก้าอี้ที่กำลังนั่งอยู่นี้อีกไม่นานก็ต้องตกเป็นของคนอื่นไปเสียแล้ว

            (“ผมขอโทษจริงๆครับคุณทรงพล แต่คุณก็รู้ว่านี่คือธุรกิจถ้ามีโอกาสขนาดนี้แล้วผมไม่รีบคว้าไว้ก็โง่เต็มที แค่นี้นะครับขอให้คุณโชคดี”)

            ตู๊ดๆๆๆ

            สายถูกตัดไปทำให้ทรงพลแทบเป็นบ้า  ตอนนี้ไม่มีทางไหนที่จะรักษาตำแหน่งประธานบริษัทไว้ได้แล้ว  เขาต้องเสียมันให้กับคนอื่นจริงๆเหรอเนี่ย

            “โถ่โว้ยย!!!” ทรงพลสบถออกมาเสียงดังพร้อมกับขว้างปาข้าวของบนโต๊ะทำงานกระจุยกระจาย  เขานั่งกุมขมับด้วยความหมดหวัง

            Rrrrr….

            เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้นทำลายความเงียบภายในห้อง  เขานั่งฟังมันอยู่นานก่อนจะตัดสินใจรับสาย

            “ฮัลโล”

            (“สวัสดีครับคุณทรงพล”) เสียงที่ไม่คุ้นหูเอ่ยผ่านสายมา

            “คุณเป็นใครรู้จักผมได้ยังไง” ทรงพลขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

            (“ผมเป็นผู้ช่วยของท่านประธานคนใหม่ครับ จะมาแจ้งให้คุณทรงพลทราบว่าพรุ่งนี้ท่านจะเข้ามาทำงานวันแรก ขอให้เก็บของออกจากห้องให้หมดภายในวันนี้ด้วยนะครับ”)

            ทรงพลกำหมัดแน่นจนสั่น ไม่ทันไรก็คิดจะมาแทนที่เขาซะแล้ว

            “ผมทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วนี่จะทำอะไรก็ทำแค่นี้ล่ะ”

            ทรงพลวางสายโดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดตอบ  ไม่รู้จะไปบอกลูกกับเมียอย่างไรดี  โดยเฉพาะนดลที่เขาหวังจะให้มาบริหารงานแทนในอีกไม่นาน  แต่ทุกอย่างมันก็ไม่เป็นอย่างที่หวังซะแล้ว  เขารู้สึกสงสารลูกชายมากเหลือเกิน

            เมื่อกลับมาถึงบ้านทรงพลก็เจอกับลูกเมียนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา  ก่อนจะเดินเข้าไปอุ้มหลานชายตัวน้อยขึ้นมาหอมแก้มด้วยความเอ็นดู

            “ให้ตาหอมแก้มให้ชื่นใจหน่อยซิเจ้าตัวเล็ก” ทรงพลยอมรับว่าช่วงแรกๆยังไม่อยากจะยอมรับหลานชายคนนี้เพราะเขาเกลียดวินมากเหลือเกิน  แต่ด้วยความน่ารักของอุ่นรักทำให้เขาเปิดใจยอมรับเด็กคนนี้อย่างไม่มีข้อแม้

            “วันนี้งานหนักเหรอครับคุณพ่อทำไมถึงทำหน้าเครียดๆ” นภัทรสังเกตเห็นสีหน้าของผู้เป็นพ่อไม่ค่อยดีนัก

            “ก็นิดหน่อยลูก” ทรงพลปล่อยเจ้าตัวเล็กลงก่อนจะถอนหายใจเสียงดัง

            “มีอะไรรึเปล่าคุณ?” แก้วดานดาเอ่ยถามอีกครั้ง

            “ตอนนี้ผมโดนปลดจากตำแหน่งประธานบริษัทแล้ว” เขาตัดสินใจบอกความจริงให้ทุกคนทราบ เพราะไม่มีเหตุผลใดๆที่จะต้องปกปิดแล้ว

            “เป็นไปได้ยังไงครับคุณพ่อ!” นดลไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยินเลยแม้แต่น้อย  เพราะทุกอย่างมันไม่น่าจะเป็นไปได้

            “มันเป็นไปแล้วลูกคุณอำนาจขายหุ้นให้กับคนอื่นไปแล้ว  ทำให้ตอนนี้หุ้นที่เรามีไม่มากพอที่จะนั่งแท่นประธานได้อีกแล้ว  ก่อนจะมามันยังให้ลูกน้องโทรมาสั่งให้พ่อเก็บของออกจากห้องอยู่เลย” ทรงพลเอ่ยด้วยความเคียดแค้น  ไม่นึกว่าคนที่คุ้นเคยอย่างอำนาจจะกล้าขายหุ้นให้กับคนอื่น  ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าขายแล้วจะทำให้ตำแหน่งประธานบริษัทของเขาต้องถูกแย่งไป

            “ทำไมคุณอำนาจทำอย่างนี้ อุตส่าห์ไว้ใจมาตลอดแล้วทีนี้เราจะทำยังไงกันดีครับคุณพ่อ”

            “ตอนนี้เราไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรทั้งนั้นแล้ว  ต้องรอดูท่าทีของมันก่อนว่าจะมาแนวไหน  พ่อไม่มีทางให้มันนั่งเก้าอี้ของพ่อได้นานขนาดนั้นหรอก” ทรงพลเอ่ยด้วยสายตาเกรี้ยวกราด

            “ผมจะช่วยคุณพ่อเอง” นดลเอ่ย

            “เรื่องนี้เราต้องทำกันอย่างระมัดระวัง  ถึงขนาดกับซื้อใจคุณอำนาจได้ดูท่ามันคงจะไม่ใช่เล่นๆแน่นอน”

            “ครับคุณพ่อ”

            “แก้ปัญหาด้วยสตินะคะคุณอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเด็ดขาด” แก้วกานดาเอ่ยด้วยความเป็นห่วง  ตอนนี้เธอไม่ได้เข้าไปที่บริษัทนานมากแล้ว  สืบเนื่องมาตั้งแต่เมื่อครั้งนภัทรโดนลักพาตัวไป  เธอเข้าวัดฟังธรรมตลอดจนเคยชินและทำอย่างนั้นมาจนถึงบัดนี้

            “คนอย่างผมไม่มีทางเสียท่าพวกมันอย่างแน่นอน” เขาเอ่ยกับภรรยา

            “ภัทรว่าเราไปทานข้าวกันเลยดีไหมครับ ตอนนี้โต๊ะน่าจะตั้งเสร็จแล้ว” นภัทรเห็นว่าทุกคนกำลังเครียดอยู่จึงพยายามเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้น

            “น้องอุ่นหิวข้าวแล้วฮับ” เจ้าตัวน้อยจูงมือผู้เป็นแม่เดินนำหน้าทุกคนไป

            “เอาไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกทีนะครับคุณพ่อ” นดลเอ่ย

            ทรงพลไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้าให้กับลูกชายคนโตแล้วเดินไปที่โต๊ะสำรับหลังจากนั้น



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            ทานมื้อเย็นเสร็จแล้วนภัทรก็พาลูกชายตัวน้อยขึ้นมาอาบน้ำแล้วเตรียมตัวเข้านอน  ทุกคืนเขาจะต้องอ่านนิทานให้ลูกชายฟังไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่เจ้าตัวซนจะยอมหลับ

            “คุณแม่อย่าลืมเอารูปคุณพ่อมาให้น้องอุ่นดูนะฮับ” เจ้าตัวน้อยใส่ชุดนอนลายหมีพูนั่งยิ้มแป้นบนเตียง  ใบหน้าจิ้มลิ้มถูกทาด้วยแป้งจนขาวโพลน ดูน่ารักน่าชังไม่น้อย

            นภัทรชะงักนิดหน่อยหลังจากได้ยินลูกชายเอ่ยทวงสัญญาที่ให้ไว้เมื่อช่วงบ่าย  เขานึกว่าเจ้าตัวเล็กจะลืมไปแล้วเสียอีก

            “ได้ครับเอาไว้ถ้าแม่หาเจอแล้วจะเอามาให้น้องอุ่นดูนะครับ” เขาจำต้องโกหกลูกชายอีกครั้ง  นภัทรเลี้ยงลูกชายให้เป็นเด็กดีมาโดยตลอด  แต่สิ่งที่เขากำลังทำอยู่นั้นมันกลับเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับลูกชายเลย  แต่หากมันจำเป็นเขาก็ต้องทำเพื่อให้ทุกอย่างมันออกมาดีที่สุด

            “น้องอุ่นจะรอนะฮับ” เจ้าตัวน้อยคงง่วงมากแล้วจึงได้อ้าปากหาวหวอด  พร้อมกับเปลือกตาที่ค่อยๆปรือลงแทบจะปิดแล้ว

            นภัทรอ่านนิทานให้ลูกชายฟังไปได้สักพักเจ้าตัวน้อยก็หลับ  เขาจุมพิตที่หน้าผากน้อยๆนั่นอย่างอ่อนโยนแล้วห่มผ้าให้  เขาอยากให้พี่วินมาเห็นเจ้าตัวน้อยตอนนี้เหลือเกิน  คนๆนั้นคงจะยิ้มไม่ยอมหุบถ้าได้เห็นความน่ารักน่าชังของอุ่นรัก  เด็กชายที่มีโครงหน้าไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อเลยแม้แต่น้อย

            ก่อนจะลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำก็ได้ยินเสียงข้อความเข้าจึงทิ้งตัวลงนั่งเหมือนเดิมแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือมาดู

            “พี่วิน!”

            นภัทรเบิกตากว้างด้วยความตกใจ  เบอร์แปลกที่ส่งข้อความมาเป็นภาพถ่ายของเคลวินที่กำลังยิ้ม เขาจำได้ดีว่าฉากหลังนั้นคือห้องนอนของเคลวินเอง  ไม่ถึงนาทีก็มีข้อความส่งตามมาอีกครั้ง

‘ลูกมันโตพอที่จะได้รู้ความจริงแล้วว่าพ่อมันเป็นใคร...แล้วเจอกัน”


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.21-น้องอุ่นรัก]-(11-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 11-03-2018 23:22:10
ภัทรยังรักวินอยู่ แต่วินคงไม่รู้และคงมาแก้แค้นอย่างเดียวแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.21-น้องอุ่นรัก]-(11-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 11-03-2018 23:40:46
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.21-น้องอุ่นรัก]-(11-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-03-2018 23:56:04
อีวิน ผ่านมาหลายปีละ รู้อะไรเพิ่มเติมจากเดิมหรือยัง ไม่ใช่มาลงที่ภัทรอีกนะ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.21-น้องอุ่นรัก]-(11-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-03-2018 00:34:35
วินคัมแบค
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.21-น้องอุ่นรัก]-(11-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-03-2018 00:51:14
แหมๆๆ พี่วินเปิดตัวทีเล่นใหญ่นะ555
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.21-น้องอุ่นรัก]-(11-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-03-2018 02:09:16
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.21-น้องอุ่นรัก]-(11-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 12-03-2018 07:05:36
จะเจอกันเเล้วววว
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.21-น้องอุ่นรัก]-(11-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 12-03-2018 07:41:36
เอาดลกับอิพ่อไปปล่อยที่ดาวร้างแม่ม รกโลก  :z6:

เป็นประธานบริษัทแต่ไม่ได้เป็นผู้ถือที่ถือหุ้นมากสุด? แปลกๆนะคะ

เฮียวินอิสคัมแบคคคคคคค  :hao3:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.21-น้องอุ่นรัก]-(11-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 12-03-2018 13:42:59
พี่วินจะกลับมาแล้ว น้องอุ่นจะได้รู้จักพ่อแล้ว
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.22-ทวงคืน]-(12-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 12-03-2018 22:52:53
CHAPTER

-22-

ทวงคืน



          หนุ่มหล่อมาดเข้มสวมชุดสูทตามฉบับสากลท่าทางดูภูมิฐาน  สาวเท้าก้าวเข้ามาในบริษัทพร้อมกับผู้ช่วยทั้งสองด้วยความมั่นอกมั่นใจ  พนักงานสาวเกือบทั้งบริษัทที่เห็นต่างก็กรี๊ดกร๊าดมองตาเป็นมัน  ทุกคนพอจะมองออกว่าเขาคนนี้คือท่านประธานคนใหม่ของบริษัท  เพราะข่าวนี้เป็นที่ซุบซิบของพนักงานทุกคนก่อนหน้าเพียงไม่กี่วัน

            “สวัสดีค่ะท่านประธาน ดิฉันจัดห้องทำงานไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ” เลขาคนเก่าของทรงพลที่ตอนนี้เปลี่ยนฝั่งมาสวามิภักดิ์ต่อประธานบริษัทคนใหม่เอ่ยอย่างเอาใจ

            “ขอบใจนะ” เขาเอ่ยแค่นั้นแล้วเปิดประตูเข้าไป

            เคลวินกวาดสายตามองรอบๆห้องด้วยความคิดถึง  ในที่สุดเขาก็ได้เข้ามาที่นี่อีกครั้ง  หลังจากใช้เวลาอยู่หลายปีซื้อใจผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ  แล้วยื่นข้อเสนอที่คุ้มค่าทยอยซื้อหุ้นมาจนมีสัดส่วนมากที่สุดในบริษัท  ทำให้สามารถโค่นทรงพลที่นั่งแท่นประธานอยู่หลายปีลงได้สำเร็จ  ตอนนี้บริษัทที่พ่อเขาเคยสร้างมาได้อยู่ในกำมือเขาเรียบร้อยแล้ว  จะเหลือก็เพียงบ้านหลังนั้นที่อีกไม่นานเขาก็จะเข้าไปทวงสิทธิ์คืนมา

            “คุณพ่อครับผมกลับมาทวงทุกอย่างคืนให้แล้วนะครับ” เขามองผ่านกระจกออกไปดูทิวทัศน์ของตึกสูงระฟ้าเรียงรายจนสุดลูกหูลูกตา  ช่วงวัยเด็กเขาเคยร้องไห้งอแงตามพ่อมานั่งเล่นซุกซนอยู่ในห้องนี้ ตอนนั้นรอบๆยังเป็นป่าไม้ไม่ได้มีตึกรามบ้านช่องมากมายขนาดนี้

            “ท่านประธานครับตอนนี้ผู้ถือหุ้นและผู้จัดการทุกคนรอในห้องประชุมแล้วครับ”

            เคลวินหันกลับมาแล้วเอ่ยกับลูกน้อง

            “เดี๋ยวผมตามไป”

            “ครับ”

            เขาอยากรู้จังว่าทรงพลจะทำหน้ายังไงเมื่อรู้ว่าประธานคนใหม่ที่มานั่งเก้าอี้แทนคือเขา  มันคงจะเป็นอะไรที่สะใจไม่น้อย



            ห้องประชุม

            เคลวินเดินเข้าไปก็เห็นทุกคนนั่งรออยู่จนเต็มห้องแล้ว  เขาปรายตามองหาคนที่อยากเจอที่สุดในตอนนี้  ก่อนจะเจอว่านั่งอยู่ไม่ไกลจากหัวโต๊ะ  แวบแรกที่สายตาทั้งสองประสานกันเคลวินรับรู้ได้ถึงแรงอาฆาต  หากไม่มีคนอื่นๆนั่งร่วมห้องอยู่ด้วยเขาคิดว่าทรงพลคงกระโจนเข้ามาชกหน้าเขาแล้วแน่นอน

            เมื่อเห็นหน้าของประธานบริษัทคนใหม่ทรงพลแทบช็อค  ถึงแม้เวลาจะผ่านมานานสักแค่ไหนเขายังคงจำแววตาคู่นั้นได้ดี  มุมปากที่ยกยิ้มขึ้นมาเหมือนจะเยาะเย้ยทำให้ทรงพลมองด้วยสายตาแข็งกร้าว  มือที่วางอยู่หน้าขากำจนสั่นระรัว  จนลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆคอยกุมเอาไว้เพื่อเตือนสติให้เย็นลง

            “สวัสดีครับทุกคน ผม เคลวิน เมอร์เรย์ ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการในฐานะประธานคนใหม่ของบริษัท  ผมสัญญาว่าจะบริหารงานด้วยความโปร่งใส  และทำทุกอย่างเพื่อให้ผลประกอบการที่ขาดทุนมาตลอดมีกำไรขึ้นมาได้  ขอให้ทุกคนเชื่อใจผมเราจะเดินหน้าไปพร้อมกัน ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”  พูดจบก็มีเสียงปรบมือดังระงมไปทั่วทั้งห้อง  เคลวินโค้งคำนับให้กับทุกคนแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ “ตอนนี้ทุกคนก็ได้รู้จักผมแล้ว ต่อไปผมอยากรู้จักกับทุกคน โปรดแนะนำชื่อและตำแหน่งให้ผมรู้จักด้วยครับเริ่มจากฝั่งนี้” เขาผายมือไปฝั่งตรงข้ามกับทรงพล

            ทุกคนยืนขึ้นแนะนำตัวเรียงกันไปจนถึงนดลที่นั่งอยู่ข้างผู้เป็นพ่อ  เขาทำท่าอิดออดแต่ก็ยอมลุกขึ้นแนะนำตัวแต่โดยดี

            “ผมนดล ตั้งสกุล ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการครับ” เขาเอ่ยอย่างไม่เต็มใจนักก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้เหมือนเดิม

สีหน้าเซ็งๆของนดลทำให้เคลวินถึงกับแสยะยิ้มออกมา  เขายังคงนิ่งไม่ได้เอ่ยอะไรถามอะไร  นดลไม่ใช่เป้าหมายหลักแต่คนที่นั่งข้างๆต่างหากที่เขาอยากจะเล่นงานตอนนี้

            “คุณทำไมไม่แนะนำตัวล่ะครับ” เคลวินเอ่ยถามเมื่อทรงพลไม่ยอมลุกขึ้นแนะนำตัวสักที

            “คุณพ่อครับทำๆไปก่อน” นดลกระซิบข้างหูผู้เป็นพ่อ

            “ผมทรงพล ตั้งสกุลครับ” เขาแนะนำตัวขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้

            “โปรดยืนขึ้นด้วยครับ อย่าทำตัวแปลกแยกกว่าคนอื่น” เสียงเข้มออกคำสั่ง

            เมื่อได้ยินคำสั่งทำให้ทรงพลยิ่งเดือดดาลขึ้นไปอีก  ความโกรธแค้นมันทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นเท่าตัวจนแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจน  ผิดจากเคลวินที่นั่งทำหน้านิ่งๆไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไร

            “ผมทรงผล ตั้งสกุล..ครับ” ทรงพลยอมลุกขึ้นยืนพร้อมกับถอนหายใจเสียงดัง

            “โปรดแจ้งตำแหน่งด้วยครับ” เคลวินยังคงแกล้งไม่เลิก เขารู้ดีว่าตอนนี้ทรงพลไม่มีตำแหน่งใดๆในบริษัทแล้ว  เพราะเป็นแค่หนึ่งในผู้ถือหุ้นเท่านั้น

            “ไม่มีตำแหน่ง” ทรงพลแสดงสีหน้าเกรี๊ยวกราด

            “โอ๊ะโอ ผมลืมไปเลยว่าเพิ่งแย่งตำแหน่งคุณมา  เอาอย่างนี้ในฐานะที่คุณบริหารงานที่นี่มานาน ผมจะแต่งตั้งตำแหน่งใหม่ให้รับรองเป็นงานสบายแน่นอน  เมื่อเช้าตอนเข้ามาผมเห็นยามหน้าบริษัทมีแค่คนเดียว  ผมเห็นลุงแกดูเหงาๆ เดี๋ยวยังไงเลิกประชุมแล้วคุณไปรับชุดที่ฝ่ายบุคคลด้วยนะ ไปเป็นยามที่หน้าบริษัทเป็นเพื่อนลุงคนนั้นท่าจะดี”

            “มันจะมากไปแล้วนะ!” ในที่สุดทรงพลก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้  เขาทุบโต๊ะเสียงดังแล้วลุกขึ้นยืนท้าทาย

            “พ่อครับใจเย็นๆ” นดลพยายามเตือนสติผู้เป็นพ่อ

            “มันหยามเกียรติพ่อขนาดนี้  พ่อทนไม่ไหวแล้ว!” เขาเอ่ยกับลูกชาย

            “ใจเย็นๆสิครับคุณทรงพล ผมไม่ได้บังคับคุณซะหน่อยถ้าคุณไม่ชอบตำแหน่งนี้มีตำแหน่งอื่นๆ เยอะแยะเลย ไม่ว่าจะเป็นคนสวนหรือว่าพ่อบ้านเลือกได้ตามสบายเลย” เคลวินเอ่ยอย่างใจเย็น

            “กูไม่ทำอะไรทั้งนั้นไอ้สารเลว มึงมาแย่งตำแหน่งกูแล้วยังมาทำอย่างนี้อีก คนอย่างมึงไม่ได้ตายดีแน่” ทรงพลชี้หน้าตวาดลั่นใส่

            “พวกคุณให้คนอย่างนี้มานั่งเก้าอี้เป็นประธานนานขนาดนี้ได้ยังไง วุฒิภาวะต่ำอารมณ์ร้อนอย่างนี้ มิน่าล่ะผลกำไรของบริษัทถึงได้ติดลบมาหลายปี  เอาเป็นว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคุณทรงพลไม่มีอำนาจหน้าที่หรือตำแหน่งใดๆในบริษัทนี้  รวมถึงคุณนดลด้วยอีกคนผมขอปลดคุณจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการนับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป” เคลวินเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจัง  สีหน้าท่าทางเริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ

            ทุกคนในห้องประชุมนั่งนิ่งไม่ได้โต้ตอบอะไร  เพียงแต่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

            “กูไม่จบแค่นี้แน่จำไว้” ทรงพลชี้หน้าก่อนจะเดินออกไปจากห้องด้วยความโมโห  ส่วนดลก็มองหน้าเคลวินอย่างเดือดดาลไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อ

            “มึงคิดว่าทำอย่างนี้แล้วพวกกูจะยอมจนมุม มึงคิดผิด” นดลรีบเดินตามหลังผู้เป็นพ่อออกไป

            “วันนี้ปิดประชุมแค่นี้ก่อนครับ ถ้ายังไงผมจะเชิญทุกคนมาประชุมใหม่อีกครั้งครับ” เขาเอ่ยแล้วทุกคนก็ทยอยเดินออกจากห้องไป

            เคลวินนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ด้วยความสะใจ  นี่มันแค่เริ่มต้นมันยังมีอะไรอีกเยอะที่พวกนั้นจะต้องเจอ  เขายิ้มออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            หลังจากทรงพลและนดลกลับมาถึงบ้าน

            “โถ่โว้ย!” ทรงพลเริ่มระบายอารมณ์เสียงดังเมื่อมาถึงบ้าน

            “คุณพ่อใจเย็นๆครับ”

            “พ่อใจเย็นไม่ได้แล้วมันหยามเราขนาดนี้พ่อยอมไม่ได้” ไม่มีท่าทีว่าอารมณ์เกรี้ยวกราดของทรงพลจะลดน้อยลงเลย

            “เกิดอะไรขึ้นคุณ” แก้วกานดาเดินออกมาจากครัวพร้อมนภัทรและเด็กชายอุ่นรัก

            “ก็ประธานบริษัทคนใหม่มันคือไอ้วิน มันไล่ผมกับนดลออกมาจากบริษัทอย่างกับหมา”

            “คุณพระ!” แก้วกานดาเอามือทาบอกด้วยความตกใจ  ไม่ต่างจากนภัทรที่แทบจะล้มทั้งยืน  เขาสังหรณ์ใจตั้งแต่ที่เคลวินส่งข้อความมาเมื่อคืนนี้แล้ว  ไม่คิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้  เขาคิดผิดที่นึกว่าเคลวินจะรักษาสัญญา

            “แล้วทีนี้คุณพ่อจะทำยังไงครับ” นภัทรถามผู้เป็นพ่อ

            “ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว พ่อกับนดลไม่มีสิทธิ์มีเสียงในบริษัทอีกแล้ว” ทรงพลเอ่ยอย่างหมดหวัง

            “ไม่เป็นไรนะครับคุณพ่ออย่างน้อยเราก็ยังมีหุ้นอยู่ ไม่ต้องทำงานเราก็ยังมีเงินใช้ช่วงนี้คุณพ่อก็ถือซะว่าเป็นการพักผ่อนไปในตัวนะครับ” นภัทรพยายามพูดให้ผู้เป็นพ่อสบายใจ

            “คงต้องเป็นอย่างนั้นล่ะลูก พ่อขอตัวขึ้นข้างบนก่อนละกัน” ทรงพลเดินคอตกขึ้นข้างบนอย่างหมดอาลัยตายอยาก

ลูกชายทั้งสองคนมองตามหลังผู้เป็นพ่อด้วยความสงสารก่อนจะหันมามองหน้ากัน

            “เป็นไงล่ะยังรักมันลงอยู่ไหม?” นดลเอ่ยกับน้องชาย

            “ทำไมพี่ดลพูดอย่างนั้นล่ะครับ ทุกวันนี้ผมก็เลือกครอบครัวไม่ได้เลือกเค้าพี่จะพูดให้มันได้อะไรขึ้นมา”

            “เพราะถูกบังคับไงล่ะ ถ้าเลือกได้ภัทรคงจะไปอยู่กับมันแล้ว พี่จะไม่มีทางให้มันได้เห็นหน้าลูกแน่นอน” นดลเอ่ย

            “พี่ดลหมายความว่ายังไง” นภัทรเริ่มไม่ไว้ใจพี่ชาย

            “ก็หมายความอย่างที่พูดต่อไปนี้ภัทรกับลูกห้ามออกไปข้างนอกเด็ดขาด”

            “พี่ทำอย่างนี้ไม่ได้นะ” นภัทรตวาดลั่นใส่พี่ชาย

            “นั่นสิทำไมดลทำอย่างนี้ล่ะลูก” แก้วกานดาก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดของลลูกชายคนโต

            “มันทำกับเราได้ผมก็จะทำกับมัน ทำตามที่ผมพูดแล้วทุกอย่างจะดีเอง” นดลเดินขึ้นข้างบนไป

            นภัทรมองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยความผิดหวังและเสียใจกับสิ่งที่พี่ชายทำ  ลำพังเขาเองถ้าไม่ให้ออกจากบ้านคงไม่เป็นไร  แต่ลูกชายไม่ควรมาโดนขังไว้อย่างนี้เด็กควรจะได้ไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้าง

            “รอพี่เค้าใจเย็นกว่านี้ก่อนนะลูก ค่อยคุยกันอีกครั้ง” แก้วกานดาปลอบใจลูกชาย

            “คุงแม่ฮับทำไมคุงลุงต้องห้ามเราออกไปข้างนอกด้วยล่ะฮับ” เด็กชายมองหน้าผู้เป็นแม่ตาแป๋ว

            “ไม่มีอะไรลูก น้องอุ่นไม่ต้องห่วงนะเดี๋ยวแม่จะไปคุยกับคุณลุงเอง  เดี๋ยวเราก็ได้ไปเที่ยวกันเหมือนเดิม แต่ตอนนี้น้องอุ่นเล่นอยู่ในบ้านก่อนนะครับ” นภัทรนั่งลงพูดกับลูกชาย

            “ฮับคุงแม่น้องอุ่นเป็นเด็กดี น้องอุ่นจะเชื่อฟังคุงแม่ฮับ”

            “ดีมากลูก”

            เขากอดลูกชายเอาไว้แน่น ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งลูกชายที่น่ารักคนนี้มาให้  เขาไม่มีทางยอมให้ใครหน้าไหนมาพรากลูกไปจากอกได้แน่นอน

            มื้อเย็นของวันนั้นบนโต๊ะอาหาร  บรรยากาศไม่ได้ครึกครื้นเหมือนวันก่อนๆเลยแม้แต่น้อย  ทุกคนปิดปากเงียบไม่เอ่ยหยอกล้อเล่นกันเหมือนแต่ก่อน  มีเพียงเจ้าตัวเล็กที่นั่งทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อยไม่ได้สนใจอะไรเลยแม้แต่น้อย

            “คุณทำไมไม่ทานล่ะคะ” แก้วกานดานั่งทนดูไม่ได้เมื่อเห็นสามีนั่งเขี่ยข้าวในจานอย่างเหม่อลอย

            “ผมไม่ค่อยหิว”

            “ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ขึ้นไปพักผ่อนล่ะคะ”

            “เราเคยนั่งทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทุกวัน  ถึงผมจะทานไม่ลงแต่ก็อยากให้มันเป็นเหมือนเดิม” เขาเอ่ยกับภรรยาด้วยสีหน้าไมค่อยดีนัก

            “ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนเลยค่ะ ทุกอย่างมันต้องมีทางออกเพียงแต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้” แก้วกานดาเอ่ย

            “ถ้ามันจำเป็นผมก็ต้องทำ  ผมคิดหาทางออกไว้แล้วล่ะ” แววตาที่เศร้าสร้อยกลับกายเป็นเกรี้ยวกราดขึ้นมาในทันที  จนแก้วกานดารู้สึกตกใจกลัวกับท่าทีของผู้เป็นสามี

            นภัทรกลัวเหลือเกินว่าประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอยเมื่อได้ยินผู้เป็นพ่อพูดเป็นนัยอย่างนั้น

            ในระหว่างนั้นยามหน้าประตูก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา

            “ท่านครับมีคนพยายามจะเข้ามาผมห้ามแล้วแต่พวกมันมากันหลายคนผมสู้ไม่ไหว”

            “ใครกันที่มันกล้าทำอย่างนี้!” ทรงพลลุกขึ้นทันทีที่ได้ยิน

            “สวัสดีครับทุกคน ขอโทษด้วยที่มาขัดจังหวะการทานอาหารมื้อเย็น”เคลวินเดินเข้ามาด้วยท่าทีสบายๆ

            “มึงกล้าเข้ามาถึงที่นี่เลยเหรอวะ!” ทรงพลรีบเดินเข้าไปหาแต่นดลรีบจับแขนเอาไว้ได้ทัน

            “ก็ที่นี่มันบ้านของพ่อกูทำไมกูจะเข้ามาไม่ได้ล่ะ” ท่าทีของเคลวินเริ่มแข็งกร้าวขึ้น  เขาปรายตามองนภัทรด้วยความอาฆาตแค้น  ทั้งสองมองตากันอย่างไม่ลดละ  นภัทรรู้สึกผิดหวังที่เคลวินไม่ยอมรักษาสัญญา  เขายังยืนกรานที่จะเลือกครอบครัวเป็นอันดับแรก

            “นี่มันบ้านกูมึงไม่มีสิทธิ์ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!” ทรงพลตะโกนลั่นพร้อมกับชี้หน้า

            “เอานี่ไปอ่านซะมึงจะได้รู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นของใคร วันนี้กูมาทวงสิทธิ์ทุกอย่างที่เป็นของพ่อแม่กู พวกมึงเสวยสุขกันมามากพอแล้ว” ทุกอย่างที่นี่ยังคงเป็นชื่อพ่อของเขา  เคลวินให้ทนายจัดการเรื่องสิทธิ์การครอบครองให้เรียบร้อยแล้ว

            “มึงได้นั่งเป็นประธานบริษัทแล้วยังไม่พอใจอีกเหรอวะ” นดลทนไม่ไหวจึงตะโกนว่า

            “มันเป็นสิทธิ์ของกูตั้งแต่ต้นแล้ว พวกมึงต่างหากที่ยังไม่พออีกเหรอวะ พ่อมึงฆ่าพ่อกับแม่กูนี่ถือว่ามันยังน้อยไปกับสิ่งที่พวกมึงได้รับ” เคลวินเอ่ยประโยคนี้ออกมาทำให้ทุกคนต่างก็ทำหน้าไม่ถูก  มันคือเรื่องจริงที่ทุกคนต้องยอมรับ  แต่มีหรือที่ทรงพลจะยอม

            “มึงทำอะไรกูไม่ได้หรอกเรื่องมันผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว ตำรวจเอาผิดอะไรกูไม่ได้หรอกโว้ย!” ทรงพลแสยะยิ้มอย่างผู้มีชัย  แต่เคลวินกลับยืนนิ่งไม่ได้รู้สึกอะไร

            “มึงก็คอยดูแล้วกัน” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เอาของขึ้นไปเก็บที่ห้องใหญ่ข้างบน” เขาสั่งลูกน้อง

            “หยุดเดี๋ยวนี้ไม่งั้นกูแจ้งตำรวจแน่” นดลเอ่ยออกมา

            “ไม่ต้องกลัวที่นี่บ้านกูเอาขึ้นไปเลย ส่วนของมันที่อยู่ในห้องเอาออกมากองไว้ข้างล่างให้หมด” เขาสั่งลูกน้องก็ยอมทำตามในทันที  ครั้งนี้เคลวินพาลูกน้องมาด้วยสิบกว่าคน  ถ้าไม่ทำอย่างนี้คนอย่างทรงพลไม่ยอมจำนนแน่นอน

            “พอได้แล้วพี่วิน!” นภัทรทนไม่ได้จึงตะโกนขึ้นมา

            “กูนึกว่ามึงจะเป็นใบ้ซะอีก” เคลวินแสยะยิ้มใส่  ก่อนจะสะดุดตากับเด็กชายที่ยืนหลบอยู่หลังนภัทร  สายตาคู่นั้นมองมาที่เขาด้วยความหวาดกลัว  มันทำให้ความรู้สึกผิดเกิดขึ้นในใจแต่ถึงยังไงเขาก็ต้องทำมันต่อไป

            “ผมขอร้องล่ะหยุดเถอะ  แค่นี้คุณพ่อก็เสียใจมากพอแล้ว” ยิ่งพูดน้ำตายิ่งไหลลงมา  นภัทรจ้องหน้าชายหนุ่มผ่านม่านน้ำตา

            “กูเห็นแก่มึงละกันเอาเป็นว่ากูจะไม่ยึดห้องพ่อของมึงแล้ว” เขาเอ่ยกับร่างบางแล้วตะโกนสั่งลูกน้องที่กำลังขนของขึ้นไป “พวกมึงหยุดก่อนเอาของทั้งหมดไปไว้ที่ห้องของนภัทร”

            “อย่าทำอย่างนั้นเลยนะวินป้าขอร้องล่ะ เห็นแก่ตาอุ่นเถอะนะ” แก้วกานดาเอ่ยขอร้องเอาไว้  เพราะกลัวว่าเคลวินจะไปทำร้ายลูกชายต่อหน้าหลาน  หล่อนกลัวว่าเด็กจะมีปัญหา  อุ่นรักถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีไม่ควรมาเจอเรื่องอย่างนี้

            “คุณไม่มีสิทธิ์ออกความคิดเห็น  เอาเป็นว่าถ้าหากทุกคนอยากอยู่บ้านหลังนี้ต่อ ต้องเชื่อฟังคำสั่งของฉันแต่เพียงผู้เดียว” เคลวินมองไปที่สาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างหลังลูกชายแล้วเอ่ยขึ้นมา “เธอ!” เขาชี้หน้า

            “นะ...หนูเหรอคะ” เธอพูดตะกุกตะกักด้วยความกลัว

            “ใช่..เธอพาพวกนี้ขึ้นไปที่ห้องของนภัทรเอาของไปเก็บเดี๋ยวนี้”

            เธอมองหน้านภัทรก่อนที่เจ้าของห้องจะพยักหน้าให้เชิงอนุญาต

            “ดะ...ได้ค่ะ”

            “น้องอุ่นครับขึ้นไปข้างบนกับพี่แก้วก่อนนะ เดี๋ยวแม่ตามไป” นภัทรเอ่ยกับลูกชาย

            “ฮับคุงแม่” เด็กชายพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนที่แก้วจะอุ้มพาขึ้นไปข้างบน

            เคลวินมองตามลูกชายตัวน้อยด้วยความเอ็นดู  นี่สินะลูกชายที่เขาเฝ้ารอคอยที่จะได้เห็นหน้ามาตลอดหลายปี  จากนี้ไปลูกต้องอยู่กับเขาเท่านั้นไม่มีใครจะมาพรากไปได้อีกแล้ว


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.22-ทวงคืน]-(12-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-03-2018 23:45:12
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.22-ทวงคืน]-(12-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 13-03-2018 00:06:52
เป็นการย้ายมาอยู่กับลูกที่น่ากลัวมาก
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.22-ทวงคืน]-(12-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-03-2018 01:48:14
จะทำอะไรที่รุนแรงก็หลบ ๆ น้องอุ่นหน่อยนะ เกรงใจน้องอุ่นบ้าง  :katai3:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.22-ทวงคืน]-(12-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-03-2018 02:21:04
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.22-ทวงคืน]-(12-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 13-03-2018 02:27:09
คุณพ่อกับพี่ชายนี่ร้ายมากกกก  ลูกเขยเลยมาเหนือชั้นกว่า ต้องร้ายยิ่งกว่า หอบเอาลูกเมียไปอยู่เกาะเถอะวินสงสารภัทร
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.22-ทวงคืน]-(12-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 13-03-2018 04:33:25
#ทีมวิน ค่ะ ชูป้ายไฟ ยังอ่านอยู่เพราะรอโมเม้นคุณพ่อคุณลูกวินอุ่นเลยนะ อ่อ รอความชิบหาย(ขอโทษที่ใช้คำหยาบค่ะ)ของพ่อภัทรด้วย
ถ้าไม่สำนึกผิดก็ขอบทสรุปที่สมกับสิ่งที่ทำด้วยค่ะ ถ้าบทสรุปคือครอบครัวสุขสันต์วินคงน่าสงสารมากที่ต้องทนเห็นหน้าคนที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเอง เพราะตอนนี้ครอบครัวภัทรไม่สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำเลยสักนิด เลวจนเป็นสันดานแล้วมั้ง แม่ภัทรก็มือถือสากปากถือศีลมากเว่อ เข้าวัดทำบุญเพื่ออะไรอ่ะคะถ้าใจยังไม่ดีเลย

ตอนนี้ดีใจที่คนเขียนเก็บรายละเอียดและมีความสมเหตุสมผลมากกว่าตอนก่อนหน้านี้ ถึงบางจุดจะยังขัดแย้งในตัวเองอยู่แต่เราว่าดีขึ้น เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :katai3:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.22-ทวงคืน]-(12-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 13-03-2018 04:38:06
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.22-ทวงคืน]-(12-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-03-2018 10:22:18
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.22-ทวงคืน]-(12-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 13-03-2018 11:28:46
วินเอ้ยยย จะทำอะไรก็ห่วงลูกห่วงเมียบ้างเด้อ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.22-ทวงคืน]-(12-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 13-03-2018 15:46:38
ทำไมคุณพ่อกับคุณพี่ชายไม่มีสามัญสำนึกในสิ่งที่เคยทำไว้กับวินเลยเหรอค่ะ หน้าด้านเสียจริง
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.22-ทวงคืน]-(12-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 13-03-2018 23:12:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.22-ทวงคืน]-(12-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 14-03-2018 05:35:17
เกลียดครอบครัวของนายเอกมากกกกก คือเชื้อพ่อแพร่แรงมาก นายเอกโดนเก็บมาเลี้ยงเหรอ? 55555555
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 14-03-2018 12:53:49
CHAPTER

-23-

แผนร้าย


          “ต่อไปนี้คนของกูจะเฝ้าที่นี่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง โปรดปฏิบัติตัวให้เป็นผู้อาศัยที่ดีด้วย” เคลวินยืนตะโกนสั่งเสียงดัง  ทุกต่างจ้องหน้าผู้มาใหม่ด้วยความเคียดแค้น  โดยเฉพาะทรงพลและลูกชายคนโตที่หากแม้นสามารถฆ่าให้ตายตรงหน้าได้คงทำไปแล้ว

            “จากบ้านที่เคยอบอุ่นกลับกลายเป็นคุกไปแล้วซะงั้น” นภัทรทนไม่ไหวจึงเอ่ยขึ้นมา

            “มึงคุ้นเคยกับการอยู่แบบนี้ไม่ใช่เหรอ” เคลวินมองหน้าร่างบางแล้วยิ้มที่มุมปาก

            “ผมเกลียดคุณ! จะทำอะไรก็เชิญตามสบายเพราะถึงยังไงที่นี่ก็เป็นของคุณไปแล้วนี่” ร่างบางเอ่ยประชดประชัน

            “พวกกูไม่มีทางอยู่ที่นี่ให้มึงกดหัวแน่ กูจะพาลูกเมียออกไปจากที่นี่เชิญมึงอยู่ไปคนเดียวเถอะ” ทรงพลที่ยืนนิ่งอยู่นานเอ่ยขึ้น  เขาไม่มีทางเสียศักดิ์ศรีให้เด็กเมื่อวานซืนมาบังคับข่มขู่ได้อย่างแน่นอน

            “ใครจะไปก็ช่างหัวพวกมึง  แต่นภัทรกับลูกห้ามไปไหนทั้งนั้น”

            “ไม่! ผมจะไปกับพ่อใครหน้าไหนก็ห้ามไม่ได้ทั้งนั้น” นภัทรตวาดแหวใส่ด้วยความโมโห

            “ถ้ามึงต้องการอย่างนั้นก็ได้..แต่ลูกต้องอยู่กับกูเชิญตามสบาย” เขารู้ดีว่าถ้าเอาเรื่องลูกมาอ้างยังไงซะนภัทรก็ต้องไม่ไปไหน

            “ไม่มีทางลูกต้องไปกับผม” นภัทรยืนกราน

            “พวกมึงไปเฝ้าหน้าห้องนอนนภัทรเอาไว้ห้ามให้ใครเข้าไปยกเว้นกูคนเดียว”

            “ครับ”

            นดลยืนทนฟังเคลวินขู่บังคับน้องชายไม่ไหวจึงเอ่ยขึ้น

            “มึงจะมากไปแล้วนะไอ้วิน” ยืนตัวสั่นเขาอยากจะควักหัวใจของไอ้คนนี้ออกมาสับเป็นชิ้นๆซะเหลือเกิน

            “ไม่มากเกินไปหรอกครับคุณพี่เมีย ก็อย่างที่บอกแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่พ่อของมึงทำไว้” ท่าทางกวนตีนของเคลวินทำให้นดลถึงกับจะวิ่งเข้าใส่แต่ผู้เป็นพ่อได้ห้ามเอาไว้ก่อน

            “เอาเป็นว่าทุกคนอยู่ที่นี่เดี๋ยวฉันไปเอง” ทรงพลตัดสินใจเอ่ยขึ้น

            “พ่อ! / พ่อ! / คุณ!” ทั้งสามคนเอ่ยขึ้นพร้อมกันด้วยความตกใจ

            “คุณไม่ต้องห่วงถ้าผมหาบ้านใหม่ได้ผมจะกลับมารับทุกคนไปอยู่ด้วยแน่นอน แต่ตอนนี้ทุกคนต้องอยู่ที่นี่ก่อน” เขาเอ่ยกับภรรยา

            “ฉันขอไปกับคุณได้ไหมคะ” แก้วกานดารู้สึกเป็นห่วงสามี

            “คุณอยู่ดูแลลูกที่นี่ล่ะไม่ต้องห่วง  ผมสัญญาว่าจะมารับคุณกับลูกแน่นอน” ทรงพลกอดภรรยาและลูกทั้งสองคนพร้อมๆกัน

            แปะๆๆ

            “ช่างเป็นครอบครัวที่แสนอบอุ่นเสียจริง แต่เสียดายวันนี้ต้องแยกทางกันซะแล้ว  เดินทางปลอดภัยละกันนะกูขอขึ้นไปหาลูกก่อน”

            เมื่อเห็นอย่างนั้นนภัทรก็รู้สึกเป็นห่วงลูกขึ้นมาทันที

            “ผมขึ้นไปหาลูกก่อนนะครับ”

            “ไปเถอะลูกพ่อสัญญาจะกลับมาลูกรับแน่นอน” ทรงพลเอ่ยกับลูกชาย

            “ครับคุณพ่อ ดูแลตัวเองด้วยนะครับ”

            เมื่อคุยกับพ่อเสร็จแล้วนภัทรก็รีบวิ่งตามขึ้นไปทันที  เขาจะไม่ยอมปล่อยให้คนๆนี้อยู่กับลูกตามลำพังแน่นอน

            เมื่อถึงหน้าห้อง

            “หยุดเดี๋ยวนี้!” นภัทรวิ่งตามมาจนถึงหน้าห้องก็ตะโกนห้ามก่อนที่เคลวินจะเปิดประตูเข้าไป

            “มึงไม่มีสิทธิ์มาห้ามกู”

            “ผมรู้ว่าห้ามคุณไม่ได้แต่ผมมีเรื่องจะขอร้อง”

            “เรื่องอะไร?”

            “อุ่นรักกถูกเลี้ยงมาอย่างดี คุณอย่าทำอะไรให้แกรู้สึกไม่ดีเลยนะผมสงสารลูก”  สิ่งที่นภัทรพูดออกมามันเต็มไปด้วยความจริงใจ  ถึงแม้เขาจะเกลียดแค้นคนที่อยู่ตรงหน้ามากเพียงใดก็ตาม  แต่คงไม่สามารถห้ามให้พ่อกับลูกพบกันได้  เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วเขาอยากให้ลูกมีความทรงจำดีๆกับคนเป็นพ่อ  เผื่อในอนาคตอุ่นรักจะไปคุยกับคนอี่นได้ว่าพ่อของแกไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ทุกคนเห็น

            “กูไม่ทำอย่างนั้นกับลูกกูแน่”

            ทั้งสองเข้าไปในห้องก็เจอเจ้าตัวน้อยนั่งอยู่กับพี่เลี้ยง  สายตาที่มองมายังเคลวินทำให้เจ้าตัวรู้สึกว่าลูกชายกำลังกลัวอย่างเห็นได้ชัด  นภัทรรีบเดินเข้าไปหาลูกชายก่อนบอกให้พี่เลี้ยงออกไป

            “แก้วไปพักผ่อนเถอะเดี๋ยวฉันจัดการเอง”

            “ค่ะคุณภัทร”

            หลังจากแก้วออกไปแล้วเคลวินก็ค่อยๆเดินเข้าไปหาลูกชาย

            “คุงแม่ฮับเค้าเข้ามาทำไม” อุ่นรักชี้ไปที่พ่อของตัวเอง

            “น้องอุ่นครับน้องอุ่นเคยบอกว่าอยากมีพ่อเหมือนคนอื่นใช่ไหมครับ”

            “ฮับคุงแม่”

            “นี่ไงพ่อที่น้องอุ่นอยากเจอ พ่อวินของลูกไงครับ” นภัทรพยายามทำความเข้าใจกับลูกชาย  เจ้าตัวเล็กยังทำหน้างงอยู่

            “ไม่จริงพ่อน้องอุ่นไม่ใช่คนใจร้าย น้องอุ่นกลัวฮับคุงแม่” อุ่นรักกอดผู้เป็นแม่แน่น 

            “น้องอุ่นครับนี่พ่อเอง ต่อจากนี้พ่อจะมาอยู่กับน้องอุ่นแล้วนะครับ” เคลวินเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะเอื้อมมือไปจับแขนลูกชาย

            “อย่ามาจับน้องอุ่น น้องอุ่นกลัว ไปไกลๆ” อุ่นรักกอดแม่แน่นขึ้นซุกหน้าที่อ้อมอกไม่ยอมสบตาแม้แต่น้อย

            “น้องอุ่นครับอย่าดื้อสิ”

            “น้องอุ่นไม่อยากเห็นหน้า น้องอุ่นกลัว”

            เคลวินได้ยินอย่างนั้นก็ทำหน้าจ๋อย เขาคงเลวในสายตาลูกมากสินะถึงขนาดไม่อยากเห็นหน้าอย่างนี้  นภัทรมองหน้าพ่อของลูกด้วยความเห็นใจ  แต่มองอีกมุมนึงมันก็สมควรแล้วที่จะต้องโดนอย่างนี้ในเมื่อกล้าทำแล้วก็ต้องกล้ารับผลที่จะเกิดขึ้น

            “ตอนนี้ลูกยังไม่พร้อมรออีกหน่อยละกันครับ” นภัทรเอ่ยปลอบใจ

            สีหน้าที่ชายหนุ่มมองมานั้นนภัทรไม่สามารถเดาความรู้สึกออกได้เลย  มันก้ำกึ่งระหว่างความไว้ใจและความเกลียดชัง

            อุ่นรักกอดแม่เอาไว้จนหลับไปในที่สุด  นภัทรอุ้มลูกไปนอนบนเตียงก่อนจะหันไปมองหน้าผู้ร่วมห้องคนใหม่  เขามองทุกอิริยาบถที่นภัทรทำในห้องอย่างไม่วางตา

            “กูไม่ผิดหวังเลยที่มึงเป็นแม่ของลูกกู เสียอย่างเดียวที่มึงเป็นลูกของไอ้นั่น  ไม่งั้นทุกอย่างมันอาจจะดีกว่านี้”

            “แต่ผมผิดหวังในตัวคุณ  ถ้าหากเลือกได้ก็คงไม่อยากให้เป็นพ่อของลูก”

            เมื่อได้ยินอย่างนั้นเคลวินก็คว้าที่ต้นแขนของนภัทรเอาไว้ก่อนจะลากออกห่างจากเตียงนอน  เพราะกลัวว่าเจ้าตัวเล็กจะตื่นเอาเสียก่อน

            “มึงเป็นคนเลือกทุกอย่างเอง  ถ้ามึงเลือกที่จะอยู่กับกูที่นั่นเรื่องมันก็คงจะจบไปแล้ว” นภัทรส่ายหน้าเมื่อได้ยินสิ่งที่เคลวินเอ่ย

            “ไม่จริง! คุณไม่มีทางยอมหยุดเรื่องนี้ คุณไม่เคยแคร์ผมกับลูกเลยแม้แต่น้อย ถ้าคุณแคร์ทุกอย่างมันคงไม่เป็นแบบนี้”

            “มึงรักพ่อแม่มึง กูก็รักพ่อแม่กูเหมือนกัน ถ้ากูฆ่าพ่อแม่มึงตายบ้างมึงจะรู้สึกยังไง” คนตัวสูงแสยะยิ้มเมื่อเห็นหน้าเจื่อนๆของอีกคน  คงเป็นคำพูดที่แทงใจดำไม่น้อย “เห็นไหมล่ะมึงพูดไม่ออก แล้วทีนี้เข้าใจกูรึยังว่าทำไมถึงลืมเรื่องนี้ไม่ได้”

            “เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วผมคงทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องปกป้องคนที่ผมรัก ถ้าใครมาทำร้ายครอบครัวผม ก็ไม่ยอมปล่อยมันไว้เหมือนกัน” เขาไม่อยากจะเอ่ยประโยคนี้ออกมาเลยแม้แต่น้อย  แต่สถานการณ์ทุกอย่างมันบังคับให้เขาต้องเลือกอย่างนี้ น้ำตามันไหลลงพร้อมกับคำพูดที่เอื้องเอ่ยออกไป

            “ดี! พูดอย่างนี้กูจะได้ตัดสินใจอะไรง่ายขึ้น หลังจากจัดการเรื่องที่นี่เสร็จเรียบร้อยแล้วกูจะพาอุ่นรักกลับไปอยู่กับกูที่เกาะ ส่วนมึงเลือกที่จะอยู่กับครอบครัวก็เชิญไสหัวออกไปพร้อมกับพ่อแม่มึงเถอะ”

            “ไม่มีทางลูกต้องอยู่กับผมเท่านั้น” เมื่อได้ยินอย่างนั้นยิ่งทำให้นภัทรแทบเป็นบ้า  ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ใจร้ายมากขนาดนี้

            “ได้กูจัดให้เดี๋ยวจะเสกลูกให้มึงอีกคนละกัน” พูดจบเคลวินก็ไซร้ซอกคอขาวอย่างบ้าคลั่งราวกับโหยหาสิ่งนี้มานานแสนนาน นภัทรได้แต่ใช้กำปั้นทุบที่แผงอกแกร่งเต็มแรง

            “ปล่อยนะไอ้วสารเลว!”

            “ร้องดังๆสิลูกจะได้ตื่นขึ้นมาเห็นพ่อกับแม่มันเล่นจ้ำจี้กัน” รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏบนใบหน้าจนนภัรหมั่นไส่ซะเต็มประดา

            “เลว! ผมจะไม่มีวันอภัยให้คุณเด็ดขาด จำไว้!” แววตาที่ส่งถึงคนตัวโตมันเป็นแววตาที่ผิดหวังอย่างแรง  ความเห็นใจที่เคยมีมันหมดลงไปแล้ว  หากเขากล้าจะทำอย่างนี้อีกครั้งก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเผาผีกันแล้ว

            “มึงเองก็ไม่เคยมีเยื่อใยกับกูตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่”

            “อื้อ”

            ริมฝีปากบางถูกประกบอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน  เขาบดจูบริมฝีปากอย่างรุนแรงจนนภัทรรู้สึกเจ็บมากเหลือเกิน  ไม่นานหลังจากนั้นก็รูสึกหวิวเหมือนตัวลอยได้ก่อนที่แผ่นหลังจะแนบชิดกับพรมที่พื้นห้อง  คนตัวสูงตรึงร่างบางเอาไว้ก่อนจะเสพสมกับเรือนร่างที่โหยหามานาน  ไม่มีเสียงสะอื้นไห้และเสียงเอื้อนเอ่ยใดๆออกมาจากปากนภัทรเลยแม้แต่แอะเดียว  เขาได้แต่นอนน้ำตานองหน้าระบายความอัดอั้นในใจ ไม่มีทางให้ลูกชายตื่นขึ้นมาเห็นภาพที่มันบัดสีอย่างนี้เด็ดขาด



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


            ช่วงหลายวันมานี้นดลไม่ยอมออกจากบ้านไปไหน  เพราะกลัวว่าคนของเคลวินจะทำร้ายแม่และน้องชาย  ถึงแม้ว่ามันจะอึดอัดมากแค่ไหนแต่ก็ต้องทน  เพราะอีกไม่นานแผนการที่เขาได้คุยกับผู้เป็นพ่อไว้ก็จะสำเร็จ

            “ฮัลโลไอ้กันต์กูมีเรื่องจะให้มึงช่วยหน่อย” เขาตัดสินใจโทรหาเพื่อนรักเพื่อขอความช่วยเหลือ

            (“เรื่องอะไรวะบอกมาเลยกูยินดี ว่าแต่ช่วงนี้มึงเงียบๆไปนะมีอะไรรึเปล่าเพื่อน”)

            ตอนนี้กันต์ได้ย้ายกลับมาทำงานที่กรุงเทพแล้วหลังจากโครงการที่เกาะบลูซีเสร็จเรียบร้อย  โดยไม่ลืมที่จะพาแฟนหมอหน้าหวานกลับมาด้วย  ทั้งสองใช้เวลาคบหาดูใจกันอยู่นานจนตัดสินใจที่จะมาใช้ชีวิตร่วมกันที่กรุงเทพฯ  โดยพงษ์ได้เปิดคลินิกรักษาคนไข้ไปพร้อมๆกับการเป็นอาจารย์หมอในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง  ช่วงที่กลับมาอยู่กรุงเทพใหม่ๆทั้งสองคนได้มาแวะเวียนเยี่ยมนภัทรอยู่หลายครั้ง  จนคุ้นเคยกับครอบครัวของนภัทรเป็นอย่างดี

            “วันพรุ่งนี้กูว่าจะพาแม่และน้องไปขออยู่กับมึงสักพัก”

            (“มันเกิดอะไรขึ้นวะดล”) กันต์ถามเพื่อนด้วยความตกใจ

            “มีปัญหานิดหน่อยว่ะถ้าเคลียร์เรื่องนี้แล้วกูจะมารับตัวกลับแน่นอน”

            (“มึงบอกกูไม่ได้เหรอวะว่าเรื่องอะไร กูเป็นเพื่อนมึงนะเว้ย”)

            “ตอนนี้กูยังบอกอะไรไม่ได้จริงๆ เอาเป็นว่าช่วงนี้ที่บ้านกูมีปัญหารู้แค่นี้ก็แล้วกัน”

            (“โอเคๆถ้ายังไงกูจะให้คนเตรียมห้องไว้ให้ ดีเหมือนกันกูกับพงษ์คิดถึงน้องอุ่นจะแย่แล้ว”)

            “แค่สองคนน้องอุ่นจะไปอยู่กับกู”

            (“อ้าวทำไมล่ะ  มึงจะพาน้องอุ่นไปอยู่ไหนกันแน่วะ”) กันต์เริ่มสงสัยเพื่อนตัวเองขึ้นมา

            “เดี๋ยวกูจะบอกทีหลัง”

            (“เออถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกกูแล้วกัน”)

            “ขอบใจมากมึงเป็นเพื่อนคนเดียวคนที่กูไว้ใจที่สุด”

            (“มึงไม่ต้องห่วงกูจะดูแลทุกคนแทนมึงเอง”)  ในใจก็คิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนเขากันแน่

            “เดี๋ยวกูจะโทรไปอีกทีนะ”

            (“เออๆกูเป็นห่วงมึงนะเว้ย จะทำอะไรก็คิดให้ดีๆกูแนะนำมึงได้แค่นี้ล่ะ”)

            “มึงไม่ต้องเป็นห่วงกูว่ากูคิดดีที่สุดแล้ว”     



            นดลวางสายเพื่อนก็โทรออกไปหาผู้เป็นพ่อต่อทันที

            “พ่อครับโอเคแล้ว”

            (“ดีมากลูกแล้วยาล่ะพร้อมรึยัง”)

            “ผมเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วครับ”

            (“ถ้างั้นก็จัดการเลย  พ่ออดใจรอจัดการมันไม่ไหวแล้ว”)

            “อีกไม่นานเราจะได้ทุกอย่างกลับคืนมาแน่นอนครับพ่อ”

            นดลแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจ  อีกไม่นานเขาก็จะได้ทุกอย่างกลับคืนมาแน่นอน


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*




--------------------------------------
จากนี้ไปก็จะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้วนะคร้าบบ  มันใกล้ถึงจุดจบของเรื่องนี้แล้ว ฮึก...
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 14-03-2018 13:07:40
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 14-03-2018 13:13:07
ดีใจที่ภัทรมีโอกาสได้ไปเรียนเมืองนอกมาหลายปี ถ้าอยู่กับครอบครัวตลอดคงไม่ต่างกับดลที่ได้สันดานพ่อมาเต็มๆ

ทีมวิน
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-03-2018 14:36:09
ดลจะพาหนีออกจากบ้านได่ไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 14-03-2018 15:28:43
รู้สึกเห็นใจพระเอกมากเลย ทำไมนายเอกไม่เห็นใจบ้างก็เข้าใจนะว่าครอบครัวของสำคัญ
แต่พระเอกจะให้ลืมความแค้นมันคงเป็นไปไม่ได้หรอก
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Altasia ที่ 14-03-2018 18:24:35
ชอบคำพูดพระเอก นายเอกรักครอบครัวได้ แล้วทำไมพระเอกจะรักบ้างไม่ได้ หลายคนอาจจะคิดให้พระเอกอโหสิเพื่อเริ่มต้นใหม่กับนายเอก เราก็คิดว่าพระเอกก็คงอยากทำแบบนั้น ถ้าเพียงจะได้เห็นความรู้สึกผิดของพ่อนายเอกหรือคำขอโทษจากใจจริงสักนิด แต่นี่นอกจากไม่สำนึกแล้ว ยังลอยหน้าลอยตาคิดวางแผนร้ายอีกล่ะ แล้วจะให้พระเอกลืมอดีตได้อย่างไร
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 14-03-2018 18:45:11
อย่าบอกนะว่าพ่อลูกจะเอาน้องอุ่นเป็นตัวประกัน  แค่คิดก็เลวแล้ว
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 14-03-2018 18:52:12
 :hao3:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-03-2018 22:25:44
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 14-03-2018 23:22:23
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 14-03-2018 23:31:30
 ทำไมนดลไม่ห้ามพ่อ รู้ว่าพ่อผิดก็ยังส่งเสริม
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 14-03-2018 23:39:42
นดลนี่ได้พ่อมาเต็มเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 15-03-2018 00:09:00
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 15-03-2018 00:32:29
เป็นครอบครัวที่เห็นแก่ตัวจริงๆ ยังไม่สำนึกในการกระทำ กระทำความผิดซ้ำๆ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Nekosama ที่ 15-03-2018 08:59:13
สนับสนุนให้อุ่นรักมีน้องค่ะ 555555
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-03-2018 09:13:20
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 15-03-2018 15:29:41
ชอบคำพูดพระเอก นายเอกรักครอบครัวได้ แล้วทำไมพระเอกจะรักบ้างไม่ได้ หลายคนอาจจะคิดให้พระเอกอโหสิเพื่อเริ่มต้นใหม่กับนายเอก เราก็คิดว่าพระเอกก็คงอยากทำแบบนั้น ถ้าเพียงจะได้เห็นความรู้สึกผิดของพ่อนายเอกหรือคำขอโทษจากใจจริงสักนิด แต่นี่นอกจากไม่สำนึกแล้ว ยังลอยหน้าลอยตาคิดวางแผนร้ายอีกล่ะ แล้วจะให้พระเอกลืมอดีตได้อย่างไร
เห็นด้วยย คือเราอ่านเรายังแค้นอะ เป็นพระเอกคงไม่มีใจดีด้วยแบบนี้หรอก
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.24-วินาทีอันตราย]-(15-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 15-03-2018 19:21:09
CHAPTER

-24-

วินาทีอันตราย



          ก่อนถึงเวลาทานมื้อเที่ยงไม่นานนดลก็เริ่มแผนการที่ได้วางไว้  โดยแอบย่องเข้าไปในครัวแล้วแอบใส่ยานอนหลับลงไปในเหยือกน้ำเย็นที่เตรียมไว้สำหรับตั้งโต๊ะ  รวมถึงถังน้ำที่เตรียมไว้สำหรับคนงานในบ้านและลูกน้องของเคลวิน

            “อ้าวดลไม่ทานข้าวเหรอลูก” เมื่อเห็นว่าลูกชายเดินผ่านโต๊ะสำรับไปแก้วกานดาจึงเอ่ยถาม

            “ทานก่อนเลยครับแม่ผมยังไม่หิว”

            “อย่าคิดมากจนลืมทานข้าวนะลูก หิวตอนไหนก็อย่าลืมมาทานนะ”

            “ครับแม่”

            นดลเดินออกมานอกบ้านเพื่อมาดูผลงานที่ทำไว้  ลูกน้องของเคลวินกำลังทานข้าวเที่ยงอย่างเอร็ดอร่อยโดยมีโดยมีถังน้ำวางอยู่ข้างๆ  ตอนนี้ก็รอเวลาให้ยาจะออกฤทธิ์เท่านั้นทุกอย่างก็จะเรียบร้อย

            หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงทุกอย่างในบ้านก็เงียบสงบ  คนงานทั้งหมดนอนหลับอยู่ตามจุดต่างๆของบ้าน  ส่วนแก้วกานดา นดลและอุ่นรัก ต่างก็นอนไม่ได้สติอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น    นดลทยอยอุ้มทุกคนขึ้นรถยนต์ที่จอดรออยู่หน้าบ้านแล้วรีบขับออกไป

            นดลขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านเช่าหลังหนึ่งซึ่งเป็นที่นัดหมายกับผู้เป็นพ่อ เมื่อมาถึงเขาก็อุ้มหลานชายตัวน้อยเข้าไปข้างในทันที

            “เดี๋ยวผมไปส่งแม่และน้องที่บ้านไอ้กันต์ก่อนนะครับ”

            “โอเคเดี๋ยวทางนี้พ่อจัดการเอง”

            “พ่อจะให้ผมโทรหาไอ้นั่นเลยดีไหม”

            “ไม่เป็นไรเดี๋ยวพ่อจัดการเองไปเถอะ” เขายิ้มให้ลูกชาย

             นดลเดินกลับไปที่รถแล้วขับออกไปหลังจากนั้น

             ทรงพลไม่อยากจะทำอย่างนี้เลยแม่แต่น้อยแต่เขาเองก็ไม่มีทางเลือก  ตอนนี้คนที่เคลวินแคร์มากที่สุดก็คงจะเป็นลูก  เขาจึงใช้โอกาสนี้เพื่อกดดันให้เคลวินทำตามที่เขาต้องการ  ทรงพลอุ้มหลานชายไปนอนบนเตียง  หลังจากนั้นก็เดินออกมาโทรศัพท์ที่หน้าบ้าน

            “สวัสดีครับท่านประธาน” เสียงเย็นยะเยือกเอ่ยผ่านสายไป

            “นั่นใคร?”

            “มึงจำกูไม่ได้เหรอคนที่ฆ่าพ่อกับแม่มึงไง หึหึ” เสียงคำรามในลำคออย่างผู้มีชัยดังขึ้น  ทำให้เคลวินถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้วก็ถึงบางอ้อ

            “กูไม่ว่างคุยเรื่องไร้สาระกับมึงหรอกนะ”

            “คนอย่างกูไม่เคยไร้สาระ  ที่โทรมาเพราะกูอยากนัดมึงเพื่อเคลียร์ปัญหาทั้งหมด”

            “มึงคิดว่ากูจะยอมไปงั้นเหรอไม่มีอะไรต้องเคลียร์อีก  เพราะกูได้ทุกอย่างคืนมาหมดแล้ว” เคลวินไม่สนใจคำพูดนั่นเลยแม้แต่น้อย

            “มันอาจจะมีบางอย่างที่มึงต้องเสียไปถ้าไม่มาเจอกู”

            “มึงหมายความว่าไง พูดมาตรงๆสิวะ” เสียงเข้มเริ่มหงุดหงิดกับความเจ้าเล่ห์ของทรงพล

            “ไปเจอกูที่ดาดฟ้าของตึกร้างวันเวิร์ลตอนบ่ายสาม  ไม่งั้นมึงจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าอุ่นรักอีกตลอดชีวิต” ปลายสายขู่

            “มึงไม่กล้าหรอกลูกกูก็หลานมึง กูไม่หลงกลมึงหรอก” ถึงแม้จะพูดออกไปอย่างนั้น  แต่ในใจกลับเริ่มรู้สึกเป็นห่วงลูกชายขึ้นมาแล้ว

            “จะคิดอย่างนั้นก็ช่างหัวมึง  ตอนแรกที่รู้ว่านภัทรท้องกับมึงกูสั่งมันให้ไปทำแทงค์แต่เพราะสงสารลูกกูเลยเปลี่ยนใจ  แต่สำหรับอุ่นรักมันมีสายเลือดชั่วๆของมึงทำไมกูจะฆ่ามันไม่ได้ล่ะ  มึงก็รู้ว่ากูฆ่าได้ทุกคนถ้าบังอาจมาขวางทางกูเหมือนกับพ่อแม่มึงไงล่ะ ฮ่าๆๆ”  ทรงพลหัวเราะเยาะเสียงดัง

            “ไอ้สัตว์นรก! ถ้าลูกกูเจ็บแม้แต่ปลายเล็บกูเอามึงตายแน่” เขาไม่น่าปล่อยลูกไว้ที่บ้านหลังนั้นเลย

            “เตรียมเอกสารโอนบ้านและหุ้นมาให้กูเพื่อแลกกับตัวอุ่นรัก  หลังจากนั้นมึงกับลูกก็ไสหัวไปจากชีวิตพวกกูซะ  ถ้าเลยบ่ายสามไปแล้วมึงไม่มาทุกอย่างก็จบ กูจะรอเจอมึงที่นั่น”

            ตู๊ดๆๆๆ

            หลังจากวางสายเคลวินโทรกลับไปที่บ้านทันที  เมื่อรู้ว่าทุกคนถูกวางยานอนหลับทั้งลูกและเมียหายตัวไปกันหมด  ทำให้เขานั่งคิดเรื่องนี้อยู่สักพักเพื่อชั่งใจ  มองดูที่นาฬิกาข้อมือตอนนี้เวลาก็เดินไปเรื่อยๆเข้าใกล้บ่ายสามแล้ว “เอาวะไปก็ไป” หลังจากนั้นก็โทรเรียกลูกน้องคนสนิทเข้ามาหาที่ห้อง



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            บ้านของกันต์

            ปี๊บๆ

            เสียงแตรรถดังขึ้นก่อนที่คนเฝ้าประตูหน้าบ้านจะเปิดให้  นดลขับรถเข้าในรั้วบ้านก็เห็นเพื่อนยืนรออยู่แล้ว

            “ทำไมทุกคนถึงได้หลับไม่รู้เรื่องอย่างนี้วะดล” กันต์มองผ่านกระจกเข้าไปก็เห็นทั้งสองคนนอนไม่ได้สติ

            “สงสัยจะเพลียล่ะมั้ง” นดลพูดส่งๆไปเพราะไม่รู้จะสรรหาคำแก้ตัวยังไงดี

            กันต์เปิดประตูรถแล้วพยายามปลุกนภัทรให้ตื่น  แต่ไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย

            “หลับลึกอย่างกับโดนวางยามาซะอย่างนั้นล่ะ” กันต์เปรยออกมาเบาๆ

            “มึงอุ้มน้องกูเข้าไปละกัน” เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนเอ่ยออกมา  นดลก็ทำหน้าเหรอหราราวกับคนมีความผิดซะอย่างนั้น

            “โอเคมึงพาคุณแม่เข้าไปก่อนเดี๋ยวกูตามไป” กันต์เอ่ย

            นดลพยักหน้าแล้วอุ้มผู้เป็นแม่เข้าไปในบ้าน  ส่วนกันต์มองตามหลังไปเหมือนมีคำถามคาใจ  สภาพอย่างนี้ต้องโดนวางยามาแน่ๆ  แต่ก็ไม่อยากจะคิดอะไรบ้าๆว่าคนที่วางยาอาจจะเป็นเพื่อนของเขาเอง    “ฝากแม่กับน้องด้วยนะกูต้องไปแล้ว”

             ท่าทางเร่งรีบของนดลทำให้กันต์มองอย่างสงสัย  ตั้งแต่ที่พาแม่และน้องมาฝากไว้โดยไม่มีอุ่นรักมันก็แปลกมากพอแล้ว  แถมยังมาในสภาพนอนไม่ได้สติอย่างนี้  เขาคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องเล็กๆอย่างแน่นอน

            “มึงเอาน้องอุ่นไปไว้ไหน” กันต์มองหน้าเพื่อนเหมือนกำลังมองผู้ต้องสงสัยซะอย่างนั้น

            “อุ่นรักอยู่กับพ่อกู” เขาพยายามเลี่ยงที่จะสบตา

            “ทำไมต้องเอาไปไว้กับคุณอาทรงพลล่ะ  แล้วบ้านมึงล่ะเกิดอะไรขึ้นถึงต้องแยกย้ายกันออกมาอย่างนี้” กันต์ถามทุกคำถามที่มันค้างคาใจ

            “มาถึงขึ้นนี้กูก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังมึงแล้ว  ตอนนี้พวกกูเป็นคนไร้บ้านไร้อาชีพไปซะแล้ว”

            “มันเกิดอะไรขึ้นวะ! มึงเห็นกูเป็นเพื่อนอยู่รึเปล่าวะไอ้ดล  ถ้ามึงบอกกูก่อนหน้านี้ก็พอจะมีทางช่วยเหลือมึงได้บ้าง” กันต์ขึ้นเสียงใส่เมื่อรู้ความจริง  เรื่องมันใหญ่ขนาดนี้ทำไมเพื่อนต้องปิดเขาจนต้องเลยเถิดมาถึงตอนนี้

            “ถึงมึงรู้ก็ช่วยอะไรพวกกูไม่ได้หรอกเพราะคนที่มันมายึดทุกอย่างคืนจากพวกกูคือไอ้วิน”

            “คุณเคลวินน่ะเหรอ!” กันต์ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย

            “ใช่ตอนนี้มันยึดบ้านที่พวกกูเคยอยู่ตั้งแต่เด็กจนโต  มันปลดตำแหน่งกูและพ่อจนไม่มีอำนาจใดๆในบริษัท  พวกกูไม่เหลืออะไรแล้วว่ะกันต์” สีหน้าที่เคียดแค้นของนดลทำให้กันต์เริ่มกลัวว่าสิ่งที่กำลังจะทำอยู่นั้นอาจจะร้ายแรงเกินกว่าที่เขาคิดไว้

            “มึงจะบอกกูได้รึยังว่าตกลงคุณเคลวินเป็นใครทำไมถึงได้มีสิทธิ์ทำกับพวกมึงถึงขนาดนั้น”

            “ไอ้วินมันคือลูกชายเจ้าของบ้านหลังนั้นที่ตายไปเมื่อยี่สิบปีก่อน”

            “แล้วทำไมคุณเคลวินต้องแค้นพวกมึงขนาดนี้วะ มึงบอกกูได้ไหม?”

            “เรื่องนี้กูขอไม่ตอบนะแต่รู้ไว้ว่ามันเลวก็พอ  มันลักพาตัวน้องกูไปจนตั้งท้อง  แถมตอนนี้มันยังมาแย่งทุกอย่างไปจากกูอีก  กูไม่ปล่อยมันไว้แน่” สายตาที่อาฆาตแค้นจ้องมองไปอย่างไร้จุดหมาย  กันต์ไม่เคยเห็นท่าทีอย่างนี้ของเพื่อนมาก่อนเลย

            “กูรู้ว่ามึงแค้นเค้ามากแต่อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามนะเว้ยกูเป็นห่วงมึง” กันต์จับไหล่เพื่อนเอาไว้  พร้อมส่งสายตาที่เป็นห่วงไปให้

            “มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกูถึงได้ไว้ใจพาแม่และน้องมาฝากไว้  มึงห้ามให้ทั้งสองคนออกจากบ้านเด็ดขาด  จนกว่ากูจะกลับมา ขอบใจมากนะเพื่อนฝากด้วย” นดลยิ้มให้เพื่อนแล้วรีบเดินออกไป

            ก่อนจะเดินพ้นประตูหน้าบ้านไปก็มีสายโทรเข้ามา  นดลมองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าปลอดคนแล้วจึงกดรับสาย

            “ฮัลโลพ่อ”

            (“ไปส่งแม่และน้องเรียบร้อยและใช่ไหม”)

            “เรียบร้อยแล้วครับ แล้วพ่อล่ะครับโทรหาไอ้วินรึยัง”

            (“เรียบร้อยแล้ว  พ่อนัดมันที่ดาดฟ้าของตึกร้างวันเวิร์ลตอนบ่ายสาม”)

            เมื่อได้ยินอย่างนั้นนดลก็ยิ้มที่มุมปากด้วยความสะใจ  วันนี้ล่ะจะเป็นวันตายของไอ้วิน

            “บ่ายสามที่ตึกร้างวันเวิร์ลพ่อเลือกที่ตายให้มันได้เหมาะมากจริงๆครับ หึหึ” นดลส่งเสียงคำรามในลำคออย่างโหดเหี้ยม

            (“แค่นี้ก่อนะลูกอุ่นรักเริ่มรู้สึกตัวแล้ว”)

            “ครับพ่อผมจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”

            นดลวางสายแล้วก็ขับรถออกไปโดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังบังเอิญได้ยินที่พูดเมื่อสักครู่  พงษ์นั่นเองที่เดินเข้ามาแล้วเผลอทำส้มที่ซื้อมาหล่นตรงบริเวณพุ่มไม้หน้าบ้าน  เมื่อได้ยินนดลคุยสายกับพ่อก็จำเป็นต้องนั่งอยู่อย่างนั้นหากแสดงตัวออกไปกลัวจะเสียมารยาท  แต่นั่นทำให้เขาได้ยินความลับที่ทั้งสองกำลังวางแผนฆ่าเพื่อนของตัวเองอยู่  ช่วงหลังมานี้พงษ์ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนเลยทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเคลวินมักจะโทรมาถามข่าวคราวของลูกชายบ่อยๆ  นึกไม่ถึงเลยว่าเคลวินจะมาที่กรุงเทพจนเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น

            “อ้าวมาแล้วเหรอคุณ!” กันต์ยิ้มให้คนรักทันทีที่เห็นหน้า  แต่ต้องหุบยิ้มพร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อเห็นหน้าตาตื่นของอีกคน

            “เกิดเรื่องขึ้นแล้วคุณ!” พงษ์เอ่ยเสียงดังโดยไม่รู้ว่ามีสองร่างกำลังนอนหลับไหลอยู่บนโซฟา

            “เกิดอะไรขึ้นทำไมทำหน้าตาตื่นมาซะอย่างนั้น”

            “ก็เพื่อนคุณน่ะสิกำลังจะฆ่าเพื่อนผม”

            “อะ...อะไรนะ ไอ้ดลน่ะเหรอ?” เมื่อได้ยินอย่างนั้นกันต์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ  มันเป็นอย่างที่เขาสังหรณ์ใจจริงๆ

            “ใช่วันนี้บ่ายสามที่ตึกร้างวันเวิร์ลเค้านัดเจอกันที่นั่น ผมจะไปช่วยเพื่อนผม”

            “ผมไปด้วย” กันต์มองเวลาที่นาฬิกาข้อมือก็พบว่าเหลืออีกแค่หนึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลานัดแล้ว

            “ก่อนอื่นเราต้องแจ้งตำรวจก่อน” พงษ์กำลังจะกดโทรออกแต่โดนอีกคนห้ามเอาไว้

            “คุณอย่าโทรเลยผมกลัวว่าไอ้ดลจะโดนจับ” กันต์ยึดโทรศัพท์ของคนรักเอาไว้

            “เอาคืนมานะ! คุณทำอย่างนี้ไม่ได้ผมไม่ยอมให้เพื่อนคุณฆ่าเพื่อนผมแน่”  พงษ์มองหน้าแฟนหนุ่มด้วยความผิดหวัง  ไม่นึกเลยว่าจะเห็นแก่เพื่อนจนลืมความถูกต้องไป

            “เราจะไปห้ามไอ้ดลด้วยกัน ผมมั่นใจว่าถ้าเราไปทันเวลามันจะต้องไม่เกิดอะไรขึ้นแน่นอนเชื่อผม” กันต์จับมือคนรักแล้วมองตาเพื่อให้ความมั่นใจ  พงษ์จะพยักหน้าตอบรับก่อนจะมองเห็นนภัทรกำลังนั่งน้ำตาไหลพรากจ้องมองทั้งสองคน

            “น้องภัทร!”

            กันต์มองหน้าพงษ์ด้วยความตกใจก่อนจะหันกลับไปมองคนที่อยู่ข้างหลัง

            “มันไม่จริงใช่ไหมครับพี่ดลไม่ได้ทำอย่างนั้นจริงๆใช่ไหม ฮือๆ” นภัทรร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ  คนที่เขารักทั้งสองกำลังจะฆ่ากันเอง  เมื่อตั้งสติได้นภัทรก็มองหาลูกชายตัวน้อยทันที “แล้วอุ่นรักล่ะครับ อุ่นรักไปไหน” เมื่อไม่เห็นลูกชายนภัทรก็ตกใจพร้อมกวาดสายตามองไปทั่วบ้าน

            “ไอ้ดลมันพาน้องภัทรกับแม่มาฝากพี่ไว้  แต่อุ่นรักมันบอกว่าอยู่กับคุณพ่อ”

            “พี่ดลคิดจะทำอะไรกันแน่ทำไมต้องแยกอุ่นรักไปอยู่กับคุณพ่อหรือว่า......” เขาอยากให้มันเป็นแค่ความฝัน  พี่ชายของตัวเองคงไม่ได้ใช้ลูกชายเป็นตัวล่อให้เคลวินไปหาหรอกนะ “ทำไมพี่ดลถึงทำอย่างนี้ ฮือๆๆ พาผมไปที่นั่นด้วยคนนะครับ ป่ะไปกันเถอะ” นภัทรลุกขึ้นแม้ว่าจะยังมึนๆที่ศีรษะอยู่ก็ตาม  เขาเซล้มลงบนพื้นก่อนที่พงษ์จะเข้ามาพยุงเอาไว้

            “น้องภัทรไม่ต้องไปหรอกนะอยู่ที่นี่รอฟังข่าวดีกว่าพวกพี่สองคนจะโทรมาบอกเป็นระยะๆ” พงษ์บอก

            “ขอผมไปด้วยเถอนะครับ ถ้าผมไม่ได้ไปต้องอกแตกตายแน่นอน” นภัทรยกมือไหว้ปรกๆ

            เมื่อเห็นว่าใกล้เวลาเข้ามาแล้วกันต์ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมให้นภัทรไปด้วยจะได้ไม่ต้องเสียเวลามากกว่านี้

            “ตอนนี้เราไม่มีเวลาแล้วรีบไปกันเถอะเดี๋ยวจะไม่ทันการ”

            “ถ้างั้นมานี่เดี๋ยวพี่พยุงไปขึ้นรถ” พงษ์เอ่ย

            กันต์ไม่ลืมที่จะสั่งคนรับใช้ให้ดูแลแก้วกานดาที่นอนไม่ได้สติอยู่ แล้วพาทั้งสองคนขับรถออกไปทันที



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            ตึกร้างวันเวิร์ล

            “ฮือๆๆ คุงตามัดน้องอุ่นทำไม” เด็กชายตัวน้อยถูกมัดมือมัดเท้าไว้บนเก้าอี้  ท่ามกลางแดดจ้าบนดาดฟ้าของตึกร้างที่มีความสูงถึงยี่สิบชั้น  นดลมองดูหลานชายตัวน้อยด้วยความสงสารไม่ต่างไปจากผู้เป็นตาที่มองหลานด้วยสายตาละห้อย

            “น้องอุ่นอดทนอีกนิดนะเดี๋ยวตาจะพากลับบ้านเรา”

            “น้องอุ่นจะหาแม่ คุงตาใจร้าย ฮือๆ” อุ่นรักร้องไห้งอแงเสียงดังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

            “เงียบเดี๋ยวนี้!” นดลต้องใช้ไม้แข็งไม่งั้นอุ่นรักคงไม่มีทางหยุดร้องไห้แน่

            “ฮึก คุณลุงก็ใจร้าย”  เมื่อได้ยินเสียงตวาดของลุงอุ่นรักก็เงียบทันที แต่ก็ยังมีเสียงสะอื้นอยู่เป็นระยะๆ

            “คุณพ่อครับทำไมมันยังไม่มาอีก หรือว่ามันจะเบี้ยวเรา” นดลหันไปถามผู้เป็นพ่อ

            “มันต้องมาสิลูกมันอยู่ที่นี่”

            แววตาที่ทรงพลจ้องมองหาหลานชายนั้นเป็นแววตาของความอาฆาตแค้น วันนี้เขาไม่มีทางปล่อยให้เคลวินรอดไปได้อีกอย่างแน่นอน

            “ไอ้ชาติชั่วขนาดหลานมึงยังไม่เว้น!” ในที่สุดคนที่รอคอยก็มาถึง  เคลวินเดินเข้ามาพร้อมกับซองเอกสารที่ทรงพลต้องการอยู่ในมือ

            “ในที่สุดมึงก็มา” ทรงพลแสยะยิ้มออกมา

            “กูรักลูกไม่เหมือนมึงกล้าทำอย่างนี้แม้กระทั่งกับหลานตัวเอง”

            “กูไม่สนถ้ามันทำให้กูได้สิ่งที่ต้องการ ยกมือขึ้นเดี๋ยวนี้” เขาสั่งพร้อมกับควักปืนที่เหน็บไว้ด้านหลังออกมาเล็งไปที่เคลวิน “นดลตรวจดูว่ามันพกอาวุธมาด้วยรึเปล่า  แล้วเอาซองนั้นมาตรวจดูว่าเรียบร้อยแล้วรึยัง” เขาสั่งลูกชาย

            “ครับพ่อ” นดลตรวจตามร่างกายของเคลวินแต่ก็ไม่พบอะไร ก่อนจะหยิบซองเอกสารในมือมาแล้วตรวจดู  เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนดลก็พยักหน้าให้ผู้เป็นพ่อ

            “กูพาลูกกลับไปได้รึยัง” เคลวินไม่รอคำตอบกลับเดินไปหาลูกชายที่มีสีหน้าตื่นกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใบหน้าจิ้มลิ้มเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ผิวที่เคยขาวใสกลับแดงไหม้จากการโดนแดดเป็นเวลานาน เคลวินคลายเชือกที่มัดมือมัดเท้าออกให้ลูกชาย

            “กูจะให้มึงได้ล่ำลาลูกชายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไม่มีโอกาส วันนี้มึงไม่รอดแน่” ทรงพลเล็งปืนไปที่เคลวินพร้อมที่จะเหนี่ยวไกยิงทุกวินาที

            “มึงคิดเหรอว่ากูจะโง่ให้พวกมึงได้ทุกอย่างคืนไปง่ายๆ ถึงวันนี้กูจะตายไปก็ไม่เสียใจเพราะกูได้ทำเพื่อลูก  แต่คนอย่างพวกมึงมันไม่มีศักดิ์ศรี เอาเด็กมาบังหน้าผู้หญิงบางคนยังแมนกว่ามึงเลย  ไอ้ชาติหมามึงควรเอากระโปรงมาใส่แทน มึงดูสิหลานตัวแค่นี้มึงยังเอามาเป็นตัวประกันได้ ตากแดดจนตัวแดงไปหมดแถมยังเอาเชือกมัดจนผิวแดงช้ำ  ตกลงมึงรักลูกหลานหรือตัวเองมากว่ากันวะ” สีหน้าที่เคียดแค้น แววตาที่ดุกร้าวมองไปยังอดีตเพื่อนสนิทของผู้เป็นพ่อ

            “มึงไม่ตายดีแน่!”

            ปัง!

            เคลวินผลักตัวลูกชายให้พ้นไปจากวิถีกระสุน ทำให้ตัวเองต้องโดนลูกตะกั่วยิงเข้าไปที่หัวไหล่ด้านซ้าย  ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนที่พื้นทำหน้าเกยเกด้วยความเจ็บปวด  ถึงแม้ว่าจะมีหลานชายตัวน้อยยืนอยู่ข้างๆแต่ทรงพลก็ยังลั่นไกปืนอย่างกับคนไร้สติ

            “พ่อ! กล้ายิงไปได้ยังไงอุ่นรักอยู่กับมันนะพ่อ” นดลตะโกนลั่นเมื่อเห็นว่าพ่อของตัวเองลั่นไกปืน  ก่อนจะรีบวิ่งไปกอดเจ้าตัวเล็กที่นั่งร้องไห้เสียงดังอยู่ที่พื้น

            “มันปากดี มันต้องตายเหมือนพ่อกับแม่มัน” ทรงพลไม่สนใจคำทัดทานของลูกชายก่อนจะเดินเข้าไปเอาเท้าเหยียบที่ข้อมือเอาไว้  เคลวินต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดก่อนจะเงยขึ้นมามองแล้วยิ้มเยาะใส่

            “ถ้ากูเป็นอะไรไปพวกมึงไม่มีที่ซุกหัวนอนแน่ ก่อนจะมากูเขียนพินัยกรรมเอาไว้แล้วหากกูตายไปให้ยกบ้านและทรัพย์สมบัติที่มีให้สาธารณกุศล  ส่วนที่พวกมึงได้ไปก็ถือว่าเป็นโมฆะ”

            “โถ่โว้ย! มึงเก่งนักใช่ไหม”

            พลั๊วะ!

            ปึกๆๆ

            ทรงพลใช้เท้าเตะไปที่ใบหน้าของเคลวินจนนอนฟุบลงที่พื้นแล้วอัดเข้าที่ท้องอีกหลายครั้ง  ก่อนจะมองดูผลงานของตัวเองอย่างสะใจ

            “ถ้ามึงตายไม่ได้ กูก็จะให้มึงพิการไปตลอดชีวิต มึงคิดว่ามึงจะฉลาดกว่ากูงั้นเหรอวะไอ้กระจอก” ทรงพลยืนแสยะยิ้มอย่างผู้มีชัย

            เคลวินนอนอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดเมื่อเห็นทรงพลเล็งปืนมาที่หัวเข่าของตัวเองก็มีสีหน้าเป็นกังวล  วินาทีนี้เขาจะหาทางออกให้กับตัวเองอย่างไรได้...



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



----------------------------------------

ตอนหน้าก็ถึงบทสรุปของเรื่องนี้แล้วนะครับ....
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.24-วินาทีอันตราย]-(15-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-03-2018 19:44:13
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.24-วินาทีอันตราย]-(15-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 15-03-2018 20:09:08
ค้างอย่างแรง  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.24-วินาทีอันตราย]-(15-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 15-03-2018 20:18:40
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.24-วินาทีอันตราย]-(15-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-03-2018 20:42:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.24-วินาทีอันตราย]-(15-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 15-03-2018 20:42:18
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้
จะว่าไงดีล่ะ เรามองว่า ผิดทั้งคู่อ่ะ
ทรงพล เองก็เลว  แต่วินเองก็ไม่ควรจะไปลงที่ภัทรป่ะ ควรจะไปจัดกาทรงพลสิ
ไม่ใช่ทำแบบนี้  สุดท้ายเป็นยังไง  ดลก็โต้กลับเหมือนกัน  เลวกันไปเลวกันมาแบบนี้ ก็ไม่จบไม่สิ้น

แอบลุ้นตอนจบว่า ภัทรกับวิน จะลงเอยกันมั้ย  เอาตามจริงมันเป็นไปไม่ได้เลย
เพราะวินเองก็ไม่เคยปล่อยวาง ส่วนทรงพลก็เลวร้ายเกินไป  ยิ่งถ้ามีใครสักคนในสามคนนี้เป็นอะไรไป  มันยิ่งยาก
คนในครอบครัว กับผัว มันเลือกยากนะ ถึงจะบอกว่าต้องชดใช้  แต่ความรู้สึกของภัทรล่ะ รับไหวหรอ
ส่วนตัวอยากให้จบแบบเรียลๆ (ย้ำว่า คหสต.) 
แต่ก็เอาตามที่  คนเขียนวางพล๊อตไว้เลยจร้า
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.24-วินาทีอันตราย]-(15-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Nekosama ที่ 15-03-2018 21:15:41
นดลไม่ได้เข้าใจถึงการโดนยึดบ้านพ่อแม่โดนฆ่าบริษัทโดนยึดและถูกสั่งเก็บเลยสินะ .... ยังมีน่ามาด่าคนอื่นเลวอีก ชั่วช้าหอยสังข์จริงๆ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.24-วินาทีอันตราย]-(15-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 15-03-2018 22:48:39
เห็นแก่ตัวจริงๆนะทรงพล เข้าคุกไปสำนึกผิดดีกว่านด
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.24-วินาทีอันตราย]-(15-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 15-03-2018 22:48:59
เห็นแก่ตัวจริงๆนะทรงพล เข้าคุกไปสำนึกผิดดีกว่านด
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.24-วินาทีอันตราย]-(15-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 15-03-2018 23:45:50
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.24-วินาทีอันตราย]-(15-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 16-03-2018 00:08:04
ทรงพลนี้เหมือนหยุดไม่ได้จะกลับตัวอะไรก็สาย รักตัวเองมากกว่าลูกหลานอีก
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.24-วินาทีอันตราย]-(15-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 16-03-2018 01:03:59
ถ้าทำให้ทรงพลตายไม่ได้ก็ให้มันติดคุกตลอดชีวิตไปเหอะ  :z6:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.24-วินาทีอันตราย]-(15-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-03-2018 01:13:22
แค้นมาก ๆ เลย  แค้นหลานคนแต่งมาก มาทำให้อยากรู้ อยากเผือก แล้วก็จากไป  :katai1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.24-วินาทีอันตราย]-(15-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-03-2018 02:31:56
ทรงพลนี่เลวมาก เลวที่สุด นดลก็โง่เข้าข้างพ่อ เลวมากเช่นกัน สงสารน้องอุ่นที่ต้องมาเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้ตั้งแต่เล็ก
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.24-วินาทีอันตราย]-(15-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 16-03-2018 20:24:55
ร้ายยยยมากทรงพล
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 16-03-2018 21:05:19
CHAPTER

-25-

อวสาน



             “ภัทร!”

              ทรงพลหันไปมองที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อลูกชายคนเล็ก  แต่มันเป็นแค่กลลวงของเคลวินเท่านั้น  เขาใช้วินาทีนี้จับขาเก้าอี้ฟาดไปที่มือของทรงพล  จนปืนที่อยู่ในมือหลุดกระเด็นไปอีกทาง

            “พ่อ!” นดลอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อเสียท่าให้เคลวินจนนอนกองลงที่พื้น

            เคลวินนั่งคร่อมทรงพลเอาไว้แล้วซัดกำปั้นใส่ไม่ยั้งจนเลือดกลบปาก

            “วันนี้กูจะล้างแค้นให้พ่อกับแม่กู” เคลวินกำหมัดเอาไว้จนสั่นส่วนมืออีกข้างก็กระชากคอเสื้อทรงพลเอาไว้

            “มึงรู้ไหมว่ากูฆ่าพ่อแม่มึงทำไม” ทรงพลยิ้มเยาะแม้ใบหน้าจะยับเยินอยู่มากก็ตาม

            “มึงมันโลภไง ต้องการสมบัติของพ่อแม่กู คงไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากนี้ไอ้สัตว์”

            “นั่นก็ส่วนนึงแต่จริงๆแล้วกูจะบอกให้เอาบุญนะ วันนั้นกูกะจะฆ่าพ่อมึงคนเดียวแต่แม่มึงเสือกไปด้วยเลยต้องตายด้วยกัน  มึงคงไม่รู้สินะว่ากูกับแม่มึงเป็นชู้กัน ถ้าหากมันยังมีชีวิตอยู่ตอนนี้ก็คงจะเป็นเมียกูอีกคน  ฮ่าๆๆ” ทรงพลนอนหัวเราะอย่างสะใจ

            “ไม่จริงแม่กูไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่มึงโกหก!” เคลวินส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เชื่อ  แม่ของเขาไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่นอน  เขารัวหมัดใส่หน้าทรงพลไม่ยั้งจนรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจ่อที่ศีรษะจึงหยุดโดยอัตโนมัติ

            “หยุดทำพ่อกูไม่งั้นมึงตายแน่” เป็นนดลที่หยิบปืนมาแล้วจ่อที่ศีรษะของเคลวินเอาไว้  ทรงพลได้โอกาสก็ลุกขึ้นแล้วใช้หัวแม่มือเช็ดเลือดที่มุมปากออกอย่างเจ็บปวด

            “มึงเก่งนักใช่ไหมห๊ะ!” ทรงพลได้ทีก็ซัดหมัดคืนจนเคลวินสะบักสะบอมไม่น้อย

            เจ้าตัวเล็กที่ยืนมองอยู่นั้นเริ่มหวาดกลัวกับสิ่งที่เห็นก่อนจะมองผู้เป็นพ่ออย่างไม่วางตา  เสียงที่แม่เคยพร่ำบอกว่าเคลวินคือพ่อดังอยู่ในหูไม่หยุด  เด็กชายกลัวจะเสียพ่อไปอีกครั้งก็ตะโกนออกมาทันที

            “อย่าทำพ่อน้องอุ่นนะฮับ”

            เคลวินน้ำตาไหลทันทีที่ได้ยินลูกชายเรียกพ่อเป็นครั้งแรก รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าด้วยความดีใจ  แม้จะโดนเตะเข้าที่เท้าอยู่หลายต่อหลายครั้งเขาก็ไม่ละสายตาจากลูกชาย  ก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะรีบวิ่งมาห้ามลุงและตาไม่ให้ทำร้ายพ่อของตัวเอง

            “อย่าทำพ่อน้องอุ่น ลุงกับตาใจร้าย ออกไป”

อุ่นรักดึงที่ชายเสื้อของทรงพลเอาไว้เพื่อให้หยุดการกระทำ แต่เจ้าตัวกลับหงุดหงิดจนเผลอผลักหลานชายจนล้มลงกับพื้น

            “ฮือๆๆ คุงตาใจร้าย”

            “อุ่นรักลูกแม่!” นภัทรขึ้นมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดีจึงรีบวิ่งเข้ามาพยุงลูกชายตัวน้อยกอดเอาไว้

            “ภัทร!” นดลอุทานออกมาเมื่อเห็นน้องชายของตัวเอง

            “คุณพ่อหยุดซะทีเถอะ อย่าทำร้ายคนอื่นอีกเลย ฮือๆๆ” เขาจ้องมองไปยังเคลวินที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้น  ใบหน้าที่บวมช้ำ บวกกับเลือดที่แปดเปื้อนไปทั้งเนื้อทั้งตัวทำให้นภัทรรู้สึกใจคอไม่ดีเลย

            “พาลูกกลับไปเดี๋ยวนี้!” ทรงพลตะโกนบอกลูกชาย

            “คุณลุงปล่อยเคลวินเถอะ ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะแจ้งตำรวจนะครับ” พงษ์ยืนร้อนใจเป็นห่วงเพื่อนเมื่อเห็นสภาพที่ไม่เหลือเค้าโครงของเคลวินเลยแม้แต่น้อย

            “พวกมึงจะมาทำไมกันวะแผนกูกำลังจะเรียบร้อยอยู่แล้วเชียว  พวกมึงทำให้กูไม่มีทางเลือกเองนะ” ทรงพลแย่งปืนจากลูกชายมาแล้วเล็งไปที่เคลวิน “พวกมึงกลับไปให้หมดไม่งั้นกูยิงไอ้นี่แน่”

            “พ่ออย่า!” นภัทรตะโกนลั่นเขาฝากลูกไว้กับพงษ์แล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดเคลวินเอาไว้

            “ภัทรออกไปเดี๋ยวนี้” นดลบอกน้องชายพร้อมกับกับพยายามดึงตัวออก

            “ไม่! ผมไม่ไปถ้าพ่อจะฆ่าก็ฆ่าผมไปด้วย” นภัทรร้องไห้เสียงดังพร้อมกับกอดชายคนรักเอาไว้  เคลวินจ้องหน้าแล้วยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่รู้ว่านภัทรยังรักเขาอยู่  เปลือกตาที่ค่อยๆปรือลงอย่างช้าๆทำให้นภัทรตกใจก่อนจะเขย่าตัวให้อีกคนมีสติเอาไว้ “พี่วินอย่าเป็นอะไรไปนะครับ ผมรักพี่นะ ฮือๆๆ” มือหนาที่เปื้อนเลือดแดงฉานค่อยๆยกขึ้นมาจับที่แก้มของนภัทรเอาไว้

“พะ...พี่..รักภัทร” รอยยิ้มน้อยๆปรากฏบนใบหน้า ก่อนที่มือหนาจะร่วงลงกองอยู่ที่พื้น  พร้อมกับเปลือกตาที่ปิดลงสนิท

            “พี่วิน!!! ไม่นะ” นภัทรร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับกอดชายคนรักเอาไว้

            “ไอ้วิน!” พงษ์ที่ยืนกอดอุ่นรักเอาไว้ตะโกนเสียงดังพร้อมกับร้องไห้ออกมา  แต่เขาไม่สามารถเข้ามาได้เพราะทรงพลยังถือปืนคุมอยู่ไม่ห่าง

            เจ้าตัวเล็กเองก็ไม่ต่างจากผู้เป็นแม่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด

            “ไอ้ดลมึงอย่าทำผิดอีกเลย เพื่อนคนเดิมของกูหายไปไหนแล้ววะ มึงก็เห็นว่าทั้งสองคนรักกันมากแค่ไหนหรือมึงไม่รักน้องมึงแล้ววะ” กันต์มองหน้าเพื่อนด้วยความผิดหวัง

            “กู...ขอโทษว่ะ” นดลได้ยินก็ทำหน้าหงอยขึ้นมาทันที นี่เรื่องมันเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ได้ยังไง  เป็นเพราะว่าเขารักน้อง รักพ่อ รักทุกคนในครอบครัว เลยลืมความเป็นตัวเอง ลืมความจริงที่มันเกิดขึ้นว่าทุกอย่างมันเริ่มต้นมาจากพ่อของเขา หรือควรจะหยุดอยู่แค่ตรงนี้กัน นดลรู้สึกลังเลในใจ

            “ไม่ต้องไปฟังมันลูก ตอนนี้เรากำลังจะทำสำเร็จแล้วไม่มีใครมาขวางเราได้ เอาตัวนภัทรออกไป” ทรงพลเอ่ยอย่างกับคนเสียสติ

            “พ่อครับผมว่าเราหยุดกันซะทีเถอะนะ ถ้าพ่อไม่ไปฆ่าพ่อกับแม่ไอ้วินเรื่องทุกอย่างมันก็ไม่บานปลายมาถึงตอนนี้” เขาก้มหน้าร้องไห้เอ่ยกับผู้เป็นพ่อ

            “มึงเชื่อพวกมันมากกว่ากูเหรอวะไอ้ลูกเลว” ทรงพลตะโกนด่าลูกชาย  ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนตัวคนเดียวแล้ว  ที่นี่ไม่มีใครอยู่ข้างเขาแม้แต่คนเดียวแม้กระทั่งลูกชายที่เคยร่วมหัวจมท้ายด้วยกันมาตลอด  เป็นเพราะไอ้วินคนเดียวตอนนี้เขาไม่ห่วงอะไรแล้วคิดอย่างเดียวคือจัดการมันให้ตาย ทุกอย่างจะได้จบเสียที

            “พวกมึงบังคับกูเองนะ” ทรงพลเล็งปืนไปที่เคลวินแม้จะเห็นอยู่ว่าลูกชายคนเล็กกำลังกอดเอาไว้เขาก็ยังจะทำมัน  ตอนนี้ไม่มีอะไรสามารถหยุดทรงพลได้อีกแล้ว “พ่อขอโทษนะภัทรลูกเป็นคนเลือกอย่างนี้เอง ตายด้วยกันซะให้หมด”

            “ไม่นะพ่อ!” นดลรีบวิ่งเข้าไปแย่งปืนผู้เป็นพ่อเอาไว้

            “ปล่อยนะไอ้ลูกเลวมึงกล้าลองดีกับกูเหรอ!”

            ทั้งสองฉุดกระชากยื้อแย่งปืนกันอยู่นานจนมีเสียงปืนดังขึ้น

            ปัง!

            “พ่อ! พี่ดล!” นภัทรหันมามองแล้วตะโกนเสียงดัง

            ร่างของนดลค่อยๆร่วงลงที่พื้นพร้อมกับมีเลือดออกจากการโดนยิงที่หน้าท้อง  ทรงพลเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นคนยิงลูกชาย  ก่อนจะทิ้งปืนแล้วมาพยุงเอาไว้พร้อมกับร้องไห้เสียงดังอย่างไร้สติ

            “ดลพ่อขอโทษ ฮือๆ พ่อไม่ได้ตั้งใจยิงลูก” เหมือนสติของทรงพลมันหลุดลอยไป  เขากอดลูกชายเอาไว้อย่างบ้าคลั่ง

            “พี่ดลอย่าเป็นอะไรนะครับ ฮือๆๆ” นภัทรรีบผละมาหาพี่ชายแต่โดนผู้เป็นพ่อผลักตัวออกไป

            “มึงอย่ามายุ่งกับลูกชายกูออกไป!” ทรงพลกอดลูกชายเอาไว้ราวกับจะไม่ให้ใครยื้อแย่งไปได้

            ขณะเดียวกันกันต์ก็รีบไปหยิบปืนมาไว้เพื่อกันความผิดพลาด  ส่วนพงษ์ก็โทรเรียกรถพยาบาลทันที

            บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ  ทรงพลกอดลูกชายเอาไว้อยู่อย่างนั้นไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้  ส่วนนภัทรก็ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ข้างๆราวจะขาดใจ





            โรงพยาบาล

            รถเข็นนอนทั้งสองคันถูกเข็นเข้าไปในห้องไอซียู  นดลและเคลวินถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากนั้น  ส่วนทรงพลถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจในสภาพที่คลุ้มคลั่ง

            นภัทรนั่งกอดลูกชายร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่หน้าห้องเพื่อรอดูอาการของคนที่เขารักทั้งสอง  โดยมีพงษ์และกันต์นั่งให้กำลังใจอยู่ข้างๆ  เขาภาวนาขอให้ทุกคนปลอดภัย

            “อย่าคิดอะไรมากนะน้องภัทรพี่เชื่อว่าทุกคนต้องปลอดภัย” พงษ์เอามือวางบนบ่าแล้วบีบเบาๆให้กำลังใจ

            “ขอบคุณครับพี่หมอ ผมก็หวังอย่างนั้น” เขายิ้มให้พร้อมกับน้ำตา

            “คุงแม่ฮับคุงพ่อกับคุงลุงจะตายมั้ย” เจ้าตัวน้อยเงยหน้าขึ้นมาถาม

            “ไม่ครับคุณพ่อกับคุณลุงต้องปลอดภัยน้องอุ่นไม่ต้องห่วงนะครับ” เขาบอกกับลูกชาย

            “คุงพ่อมาช่วยน้องอุ่น น้องอุ่นรักคุงพ่อ น้องอุ่นไม่กลัวคุงพ่อแล้ว” เด็กน้อยเอ่ยด้วยความไร้เดียงสา  นภัทรรู้สึกดีใจที่ลูกชายเข้าใจและยอมรับเคลวินได้  อย่างน้อยมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่ายินดี

            หลังจากนั้นไม่นานคุณหมอก็เดินออกมา นภัทรรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปถามด้วยความกลัว เขากลัวว่าต้องเสียใครสักคนไป

            “คุณหมอครับเป็นยังไงบ้าง” เมื่อเห็นสีหน้าของนายแพทย์นภัทรก็รู้สึกใจคอไม่ดี

            “หมอมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายจะบอกครับ”

            เมื่อได้ยินอย่างนั้นนภัทรก็หน้าซีดขึ้นมาทันที  เขาแล้วรู้ว่าต้องมีใครสักคนที่รอดและอีกคนต้องเสียชีวิตอย่างแน่นอน

            “น้องภัทรทำใจดีๆเข้าไว้” กันต์รีบมาพยุงนภัทรเอาไว้  ในใจก็อยากให้คนที่รอดชีวิตนั้นคือเพื่อนของตัวเอง  ถึงแม้มันจะเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวแต่เขาก็อยากให้คนที่รอดชีวิตคือนดล

            “หมอขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับคุณนดลโดนยิงถูกจุดสัญทำให้เสียเลือดมากหมอพยายามที่สุดแล้วครับ” นภัทรนั่งทรุดลงกับพื้นกอดลูดชายด้วยความเสียใจ

            “พี่ดล ฮือๆๆ ไม่จริงใช่ไหม”

            “คุงแม่อย่าร้องนะฮับ” อุ่นรักเอื้อมมือน้อยๆไปเช็ดน้ำตาที่แก้มให้ผู้เป็นแม่ เขากอดลูกชายเอาไว้แน่น

            ส่วนกันต์เองก็นั่งกุมขมับด้วยความเจ็บปวด  ไม่มีเสียงสะอื้นดังออกมาจาปากมีเพียงน้ำตาที่มันไหลลงมาเป็นสาย  เพื่อนที่เขารักได้จากโลกใบนี้ไปแล้ว

            “แล้วเพื่อนผมล่ะครับคุณหมอ” พงษ์เอ่ยถามอีกครั้ง

            “คนไข้อีกคนปลอดภัยแล้วครับ” พงษ์ได้ยินอย่างนั้นก็โล่งใจ

            นภัทรยังทำใจเรื่องพี่ชายของตัวเองไม่ได้  แต่ก็ยังใจชื้นขึ้นมาบ้างที่อีกคนปลอดภัยอย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องสูญเสียคนที่รักไปหมดทุกคน

            “คุณพ่อปลอดภัยแล้วลูก” เขาพร่ำบอกกับลูกชาย

            “ต่อไปนี้น้องอุ่นจะมีพ่อเหมือนคนอื่นแล้วใช่ไหมครับ” เจ้าตัวน้อยมองผู้เป็นแม่ตาแป๋ว

            “ใช่แล้วครับ” เขานั่งกอดลูกชายอยู่ที่พื้นอยู่อย่างนั้นโดยมีกันต์และพงษ์ปลอบใจอยู่ข้างๆ




            หลายวันต่อมา

            หลังจากงานศพของนดลเสร็จเรียบร้อยแล้วนภัทรกับแม่ก็เดินทางมาเยี่ยมทรงพลที่โรงพยาบาล  ตั้งแต่เกิดเหตุวันนั้นทรงพลเอาแค่คลุ้มคลั่งราวกับคนเสียสติพูดจาไม่รู้เรื่อง  จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยทางจิตแห่งหนึ่ง

            “โธ่คุณ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ฮือๆ” แก้วกานดาปล่อยโฮเมื่อเดินเข้ามาเห็นสภาพของสามี  หลังจากเสียลูกชายไปแล้วเธอก็ต้องมาเห็นสภาพอย่างนี้อีกมันเป็นอะไรที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต

            “ทำไมพ่อถึงเป็นอย่างนี้ล่ะครับ” นภัทรเอ่ยถามนายแพทย์เจ้าของไข้เมื่อเห็นสภาพพ่อของตัวเองนั่งกอเข่าอยู่ที่มุมห้อง  ดวงตาเหม่อลอยไม่สนใจสิ่งรอบข้างและไม่รู้แม้กระทั่งว่าลูกกับเมียกำลังอยู่ตรงหน้านี้แล้ว

            “ตั้งแต่ถูกส่งตัวมาที่นี่คนไข้เอาแต่คลุ้มคลั่งจนทางเราต้องมัดเอาไว้กับเตียง  ตอนนี้ก็ถือว่าดีขึ้นมากเลยปล่อยให้คนไข้ได้อยู่ในห้องโดยไม่ต้องมัดเอาไว้เหมือนตอนแรก แต่ยังไงซะคนไข้ก็ต้องรักษาตัวอยู่ที่นี่อีกนานครับ” คุณหมออธิบาย

            “แล้วมีโอกาสหายเป็นปกติไหมครับ”

            “คงยากครับเพราะคนไข้ได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจมากพอสมควร เคสอย่างนี้แทบไม่มีโอกาสหายเป็นปกติเลยครับ ที่พูดไม่ได้ตัดกำลังใจนะครับเพียงแต่อยากให้พวกคุณยอมรับและให้กำลังใจผู้ป่วยมากๆก็เท่านั้น”

            “ไม่เป็นไรครับคุณหมอพวกผมโอเคถึงแม้จะมีโอกาสหายไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซนต์ผมกับแม่ก็จะรอต่อไป”

            “ถ้างั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ”

            “ขอบคุณครับคุณหมอ” นภัทรยกมือไหว้หลังจากนั้นคุณหมอก็เดินออกไป

            “คุงตาเป็นอะไรฮับคุงแม่” อุ่นรักมองผู้เป็นตาด้วยความสงสัย

            “คุณตาไม่เป็นไรครับน้องอุ่นสวัสดีคุณตารึยังครับ”

            “สวัสดีฮับคุงตา” เจ้าตัวน้อยยกมือไหว้ผู้เป็นตาทันทีที่ถูกแม่ถาม

            “คุณพ่อต้องหายนะครับ คุณพ่อไม่ต้องคิดมากเรื่องพี่ดลนะ พี่ดลไม่ได้โกรธคุณพ่อเลยนะครับ” เขาเอ่ยกับพ่อโดยที่เจ้าตัวกำลังนั่งนิ่งเหมือนไม่ได้รับฟังอะไรเลย

            นภัทรกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้จึงอุ้มลูกชายออกไปรอข้างนอก  เขาหดหู่ใจเมื่อเห็นภาพนี้

            “คุณต้องสู้นะคะ ฮึก” แก้วกานดาต้องหยุดพูดเพื่อร้องไห้ก่อนจะตั้งสติเอ่ยกับสามีอีกครั้ง “ตอนนี้งานศพตาดลเสร็จเรียบร้อยแล้วนะ ลูกไปสบายแล้วคุณไม่ต้องห่วง” ขณะพี่เธอกำลังพูดอยู่นั้นทรงพลก็เอ่ยลอยๆออกมาจนเธอรู้สึกตกใจ

            “นดลลูกพ่อ” ทรงพลมองไปยังผนังห้องแล้วยิ้มออกมา

            “เอาไว้ฉันจะมาเยี่ยมคุณใหม่นะคะ” เธอเอ่ยกับสามีพร้อมกับจับมือไว้  ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง

            ขณะทั้งสามคนเดินออกมาหน้าโรงพยาบาลเพื่อเตรียมตัวจะกลับบ้าน  ก็ได้ยินเสียงดังโวยวายจากในโรงพยาบาล  ก่อนจะได้ยินเสียงคนตะโกนดังมา “ช่วยด้วยคนถูกรถชน!

            “แม่ครับฝากอุ่นรักด้วยนะผมจะไปดูเผื่อจะช่วยอะไรเค้าได้บ้าง”

            “ไปด้วยกันนี่ล่ะลูก..ป่ะ”

            หลังจากนั้นทั้งสามคนก็เดินไปดูที่เกิดเหตุด้วยกัน  เมื่อไปถึงก็มีฝูงชนกำลังยืนมุงดูโดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกำลังเข้าไปช่วยเหลือ

            ภาพที่เห็นนั้นทำให้นภัทรแทบจะเป็นลม

            “พ่อ!”

            .........



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            ต่อด้านล่างครับ
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 16-03-2018 21:09:34
ต่อ...........
           

             สองปีต่อมา

            “คุณแม่เหนื่อยไหมครับ”

            “แม่ไม่เหนื่อยเลยครับ น้องอุ่นล่ะเหนื่อยไหมลูก”

            “น้องอุ่นก็ไม่เหนื่อยครับ” เด็กชายมีโครงหน้าดูหล่อเหลาไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อ  นภัทรมองหน้าลูกชายทีไรจำต้องคิดถึงใบหน้าผู้ชายคนนั้นทุกครั้ง

            เด็กชายตัวน้อยในวันนั้นตอนนี้เติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่ฉลาดและขยันตัวเป็นเกียว  นภัทรเช่าห้องเปิดร้านขายขนมเล็กๆแถบชานเมือง  เลี้ยงดูลูกชายเพียงลำพังโดยตัดการติดต่อกับทุกคนเพื่อลืมเรื่องราวที่มันเจ็บปวดทั้งหลายที่ผ่านมา ส่วนแก้วกานดาทนกับความทุกข์ใจไม่ไหวหลังจากต้องสูญเสียสามีและลูกชายคนโต  เธอจึงตัดสินใจบวชชีตลอดชีวิตอุทิศกายให้กับศาสนาเพื่อให้ธรรมะบรรเทาความเจ็บปวดภายในใจ

            หลังจากช่วยกันตัดใบตองเตรียมสำหรับการทำขนมพรุ่งนี้เสร็จแล้ว

            “คุณแม่ครับน้องอุ่นขอไปเล่นกับเพื่อนได้ไหมครับ”

            “ได้สิลูกระวังรถราด้วยนะเดี๋ยวจะโดนเฉี่ยวชนเอา แม่ทำกับข้าวเสร็จแล้วเดี๋ยวจะไปเรียกละกัน” อุ่นรักได้รับอนุญาตก็ยิ้มแป้นแล้วรีบใส่รองเท้าออกไปเล่นกับเพื่อนที่อยู่ถัดไปอีกซอย

            นภัทรเก็บของหน้าร้านแล้วก็เข้าไปในครัว หลังจากทำกับข้าวไปได้สักพักเขาก็ได้ยินเสียงเปิดประตูจึงเดินออกไปดูและคิดว่าน่าจะเป็นลูกชาย

            “น้องอุ่นกลับมาเร็วจังครับ” เขาเอ่ยแม้จะยังไม่เห็นหน้าลูกชายก็ตาม

            “ภัทร!”

            “พี่วิน!”

            เป็นเคลวินเองที่กำลังยืนยิ้มให้ ใบหน้าของชายหนุ่มดูโทรมไปเยอะกว่าเมื่อสองปีก่อน  หนวดเครายาวเฟื้อยราวกับไม่เคยตัดโกนมาก่อน  แต่นภัทรก็จำหน้าผู้ชายที่เขารักได้เป็นอย่างดี  แม้จะดีใจที่ได้เห็นหน้าอีกครั้งแต่นภัทรก็ยังคงทำเป็นเหมือนไม่รู้สึกอะไร

            “คุณมาที่นี่ทำไม” เสียงสั่นเครือเอ่ยออกไป ดวงตาแดงก่ำมีน้ำใสๆคลออยู่หากแค่กระพริบตาเพียงครั้งเดียวก็อาจจะไหลลงมาเป็นสาย

            “พี่มาตามหาหัวใจที่หายไป” ร้อยยิ้มปรากฏบนใบหน้าคม

นภัทรหัวใจอ่อนยวบเมื่อเห็นน้ำตาของลูกผู้ชายไหลลงมาเป็นสาย

            “ผมกับลูกอยู่ที่นี่มีความสุขดีพี่กลับไปซะเถอะ ที่ผ่านมามันมีแต่เรื่องเจ็บปวดจนผมไม่อยากกลับไปเจออะไรเก่าๆอีกแล้ว” นภัทรบอกเหตุผลกับเคลวินไป

            “พี่ขอโทษกับสิ่งที่ผ่านมา ให้โอกาสพี่อีกสักครั้งนะครับเรามาเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน  พี่สัญญาจะไม่ทำให้ภัทรกับลูกเสียใจ พี่คิดถึงภัทรกับลูกทุกวัน ไม่มีวันไหนที่พี่จะนอนหลับตาลงได้เลย” เคลวินนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าพร้อมกับกอดร่างบางเอาไว้แน่น  เสียงสะอื้นของชายหนุ่มทำให้นภัทรถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่  เขาเองก็ยังรักและคิดถึงคนๆนี้มาโดยตลอด

            “พี่วินลุกขึ้นเถอะ” เขาค่อยๆแกะมือชายหนุ่มออก

            “พี่รู้ว่าสิ่งที่เคยทำมามันร้ายแรงมากจนทำให้น้องภัทรต้องเสียทั้งพ่อและพี่ชายไป ถ้าพี่ไม่คิดแก้แค้นเรื่องทุกอย่างมันก็คงไม่เกิดขึ้น  ถึงแม้ว่าภัทรจะไม่อภัยให้แต่พี่ก็จะรักภัทรตลอดไป ดูแลตัวเองดีๆนะ” เคลวินก้มหน้าเดินออกไปอย่างช้าๆ

            นภัทรมองตามหลังชายหนุ่มก่อนจะวิ่งไปกอดจากด้านหลังแล้วร้องไห้เสียงดัง

            “พี่วินจะทิ้งผมกับลูกไปได้ลงคอเหรอครับ ฮึก” เสียงสะอื้นปนกับคำพูดเปรยออกมาจนคนที่ได้ยินถึงกับปล่อยโฮไม่ต่างกัน เคลวินกุมมือน้อยๆนั่นเอาไว้อย่างแนบแน่น

            “พี่ไม่มีวันทิ้งภัทรและลูกไปไหนแน่นอนครับ” เคลวินพร่ำบอกกับร่างบางใกล้ๆใบหู  ขณะหันกลับมาโอบกอดเอาไว้

            “แม่กอดกับใครครับเนี่ย!” อุ่นรักกลับมาเจอก็วิ่งเข้ามาแยกทั้งสองคนออกจากกันทันที  นภัทรมองหน้าเคลวินแล้วทั้งสองก็ยิ้มให้กัน

            “ลูกจำไม่ได้เหรอครับว่าคนนี้เป็นใคร” อุ่นรักมองหน้าผู้เป็นพ่อด้วยสีหน้างงๆ สองปีก่อนที่เคยเห็นนั้นเคลวินไม่ได้โทรมและมีหนวดผมยาวเฟื้อยอย่างนี้

            “น้องอุ่นจำไม่ได้หรอกครับหน้าตาอย่างกับโจรขนาดนี้”

            เคลวินถึงกับขำเมื่อได้ยินลูกชายว่าตัวเอง

            “น้องอุ่นจำพ่อไม่ได้เหรอครับ นี่พ่อเอง” เขานั่งลงพูดกับลูกชาย

            “ไม่จริงคุณพ่อน้องอุ่นหล่อกว่านี้ตั้งเยอะ”

            “นี่คือพ่อวินของน้องอุ่นจริงๆครับ” นภัทรบอกกับลูกชาย

            “แม่ไม่ได้โกหกน้องอุ่นใช่ไหมครับ” เด็กชายมองหน้าผู้เป็นแม่

            “ไม่ได้โกหกครับเข้าไปหาพ่อเค้าสิ”

            อุ่นรักค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆมองอย่างพินิจพิจารณาแล้วสวมกอดผู้เป็นพ่อ

            “น้องอุ่นมีพ่อจริงๆแล้ว คุณพ่อห้ามหายไปไหนอีกนะครับ”

            “พ่อจะอยู่กับน้องอุ่นตลอดไปเลยครับ”

            นภัทรยืนมองสามีและลูกชายกอดกันด้วยความปลื้มใจ  สีหน้าของอุ่นรักดูมีความสุขขึ้นมากเมื่อได้รู้ว่าตัวเองจะมีพ่อเหมือนเด็กคนอื่นๆ  บางทีเขาเองก็ผิดที่เลือกพาลูกชายหนีมาอยู่ที่นี่ทำให้อุ่นรักขาดพ่อไปอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้เขาจะไม่มีวันให้อุ่นรักต้องโดนเด็กคนอื่นๆล้อเลียนเรื่องพ่ออีกเด็ดขาด

            “คุณแม่ครับน้องอุ่นขอยืมตัวคุณพ่อไปอวดเพื่อนๆหน่อยนะครับ” อุ่นรักเอ่ยด้วยความตื่นเต้น

            “ได้สิลูกแต่ต้องพาคุณพ่อไปร้านตัดผมก่อนนะ ไม่งั้นได้อายเพื่อนแน่” เขาเอ่ยกับลูกชาย

            “ได้เลยครับ” อุ่นรักเอ่ยกับแม่แล้วหันหน้าไปหาพ่ออีกครั้ง “คุณพ่อไปกันเถอะครับ” เคลวินยิ้มเมื่อเห็นท่าทีร่าเริงของลูกชายแล้วอุ้มออกไปทันที





            เกาะบลูซี

            เคลวินพาลูกและเมียกลับมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง  คนที่ตั้งหน้าตั้งตารอก็คงจะไม่ใช่ใครนอกจากป้าภาและเอก  ที่เมื่อรู้ว่านภัทรจะกลับมาได้เตรียมทำอาหารและจัดงานเลี้ยงไว้ต้อนรับอย่างอบอุ่น

            “ป้าภาสวัสดีครับ” นภัทรยกมือไหว้เมื่อเห็นผู้ใหญ่ที่คุ้นเคยและดีกับเขามาโดยตลอด

            “ภัทร! ป้าคิดถึงเอ็งเหลือเกิน แล้วนี่ลูกชายเอ็งใช่ไหม” ทั้งสองกอดกันแน่นก่อนที่ป้าภาจะมองเห็นเด็กชายหน้าตาจิ้มลิ้มยืนอยู่ข้างๆ

            “ใช่ครับป้า” เขาเอ่ยกับป้าภาแล้วหันมาเอ่ยกับลูกชาย “น้องอุ่นครับไหว้ยายภากับลุงเอกสิลูก” เขาบอกกับลูกชาย  เจ้าตัวเล็กก็ทำตามอย่างว่าง่าย

            “สวัสดีครับยายภา ลุงเอก ผมชื่ออุ่นรักครับเป็นลูกแม่ภัทรกับพ่อวิน” เจ้าตัวน้อยเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วราวกับคุ้นเคยกับคนทั้งสองมาก่อน  ทั้งเอกและป้าภาเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มให้อย่างเอ็นดู  ทั้งสองต่างก็คิดว่าเด็กคนนี้นิสัยน่ารักไม่ต่างจากนภัทรเลยแม้แต่น้อย

            “ป้าเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว”

            “เตรียมอะไรป้า” นภัทรถามด้วยความสงสัย

            “พี่โทรมาสั่งป้าภาไว้เองล่ะ วันนี้เราจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับภัทรกับลูก  รู้ไหมว่าพี่ชวนใครมาด้วย”

            “ใครอ่ะครับ” นภัทรเอ่ยถาม

            “ไอ้พงษ์กับคุณกันต์ไง ทั้งสองคนคิดถึงภัทรมากเลยรู้ไหม ตั้งแต่ภัทรกับลูกหนีไปทั้งสองก็ช่วยกันตามหามาโดยตลอด” เขาบอก

            “ผมรู้สึกผิดจังที่ทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนอย่างนี้” นภัทรรู้สึกผิดเมื่อได้ยินสิ่งที่เคลวินเอ่ย

            “ไม่ต้องคิดมากนะครับ  อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยมันผ่านไป อย่าลืมสิว่าตอนนี้เราเริ่มต้นใหม่กันแล้วนะ”

            “ครับพี่วิน” เขายิ้มให้

            “เข้าไปข้างในกันเถอะ”

            ก้าวแรกที่เข้าไปในบ้านนภัทรรู้สึกเหมือนเพิ่งห่างจากที่นี่ไปแค่ไม่กี่วัน  ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง  จะมีก็แต่เจ้าของบ้านหลังนี้ที่เปลี่ยนไปจากที่ร้ายสุดๆกลับกลายมาเป็นคนที่รักเขามาก

            งานเลี้ยงตอนเย็นถูกจัดที่ลานข้างบ้าน  ไฟสลับสีถูกประดับตกแต่งตามต้นไม้และพุ่มไม้บริเวณนั้นอย่างสวยงาม  บวกกับบรรยากาศที่มองเห็นทิวทัศน์ของท้องทะเลกว้างจนสุดลูกหูลูกตา  ท่ามกลางดวงดาวนับพันที่ส่องแสงระยิบระยับจนสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้าในยามค่ำตืน

            แกร๊ง!

            “เอ้าชน!” ตอนนี้ทั้งสี่คนมารวมตัวกันอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายกันมานาน

            กันต์และพงษ์ใช้ชีวิตคู่ที่กรุงเทพอย่างมีความสุข  โดยที่ครอบครัวทั้งสองต่างก็เห็นชอบด้วย

            “พี่ดีใจพี่น้องภัทรกลับมาอยู่ที่นี่กับไอ้เคลวินมันอีกครั้ง  รู้ไหมช่วงที่น้องภัทรกับลูกหนีไปพี่ว่าสภาพมันไม่ต่างจากศพเดินได้เลยล่ะ ประมาณว่าขาดเธอขาดใจอะไรประมาณนั้น” พงษ์เอ่ยกับนภัทร

            “ขนาดนั้นเลยเหรอพี่หมอ” นภัทรมองหน้าคนรักที่นั่งอยู่ถัดจากลูกชายไป  แต่คนที่โดนพาดพิงกลับหยอกล้อเล่นกับลูกชายเพื่อแก้อาการเขิน

            “ถามเจ้าตัวมันสิ มันน่าจะอธิบายได้ดีกว่าพี่อีกนะ” พงษ์โบ้ยไปให้เพื่อนตอบเอง

            “ก็คนมันคิดถึงเมียกับลูกนี่นา นอนกอดหมอนข้างมันไม่อุ่นเท่ากอดลูกกอดเมียนะเว้ย” ถึงแม้จะเขินๆหน่อยแต่เคลวินก็ยอมเอ่ยออกมา

            “ใครจะเหมือนมึงไอ้พงษ์มีสามีนอนกอดอยู่ทุกวัน จะไปเหงาอะไรล่ะ” เคลวินแซวเพื่อนกลับ

            “ชอบนอนอ้อนด้วยนะครับคุณเคลวิน ผมนี่ต้องเอาใจสุดๆ” กันต์เสริมเคลวินอีกเสียง

            “ใครให้เอาเรื่องบนเตียงมาพูดอย่างนี้ห๊ะ” พงษ์ตีที่ต้นแขนของแฟนหนุ่มเต็มแรง

            “โอ๊ย! เจ็บนะครับที่รัก”

            “อย่ามาตอแหลกลับบ้านเจอดีแน่” พงษ์ชี้หน้าคาดโทษ

            “คุณแม่ครับน้องอุ่นอยากไปดูดาวตรงนั้น” อุ่นรักชี้ไปที่ลานโล่งไม่มีต้นไม้บดบังทำให้เห็นดวงดาวอย่างชัดเจน

            “เดี๋ยวแม่พาไปนะครับ” เขาเอ่ยกับลูกชายแล้วหันไปบอกกับทุกคน “ผมพาน้องอุ่นไปดูดาวตรงนั้นก่อนนะครับ”

            “ตามสบายเลยน้องภัทร เจ้าตัวเล็กนี่ก็ชอบอะไรโรแมนติกจังเลยนะ” พงษ์จับที่แก้มหลานชายเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยว

            “เมียกับลูกจะไปแล้วข้าพเจ้าจะช้าอยู่ใย เชิญจู๋จี๋กันตามสบายเลยนะ” เคลวินเอ่ยกับแขกทั้งสองคน

            สามคนพ่อแม่ลูกจูงมือกันไปดูดาวที่ส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องฟ้า  อุ่นรักดูท่าทางตื่นเต้นมากกว่าใครๆจ้องแทบตาไม่กระพริบ

            “น้องอุ่นว่าดาวกับคุณแม่อะไรสวยกว่ากันครับ” เคลวินถามลูกชายขณะเจ้าตัวเล็กกำลังจ้องมองอย่างตั้งใจ

            เด็กชายตัวน้อยมองหน้าผู้เป็นแม่กับดวงดาวบนท้องฟ้าสลับกันไปมา

            “สวยเท่ากันครับ คุณแม่สวยเหมือนดาวเลย”

            “ปากหวานจริงเชียวลูกชายคนนี้” นภัทรยิ้มพร้อมกับยีผมลูกชายเล่นอย่างเอ็นดู

            “แล้วคุณพ่อว่าคุณแม่กับดาวอะรไสวยกว่ากัน” ลูกชายย้อนถามผู้เป็นพ่อ

            เคลวินได้ยินคำถามก็จ้องหน้านภัทรทันที  เขาส่งสายตาหวานเยิ้มเป็นประกายไปให้จนอีกคนถึงกับเขินอายทำหน้าไม่ถูก

            “พ่อว่าดาวนับร้อยนับพันรวมกันยังไม่สวยเท่าคุณแม่คนเดียวเลยครับ” เขาเอ่ยกับลูกชายแต่สายตายังคงจ้องมองไปยังร่างบาง ก่อนจะโน้มใบหน้าไปจุมพิตที่พวงแก้มขาวอย่างบรรจง

            “น้องอุ่นอยากโดนหอมแก้มบ้างจังเลย” เด็กชายส่งเสียงล้อเลียนเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อหอมแก้มแม่

            “เป็นเด็กขี้อิจฉาตั้งแต่เมื่อไหร่กันฮึเรา” นภัทรว่าลูกชาย

            ทั้งเคลวินและนภัทรนั่งลงขนาบข้างลูกชายแล้วยิ้มให้กัน  หลังจากนั้นก็บรรจงหอมแก้มเจ้าตัวเล็กพร้อมกัน  อุ่นรักเบิกตากว้างแล้วยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่ตอนนี้มีทั้งพ่อและแม่อยู่เคียงข้างตลอดไป....





รักแท้คือการให้อภัยซึ่งกันและกัน

THE END





-------------------------------

เย้จบแล้ว หากมีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะครับ ฝากติดตามเรื่องต่อๆไปด้วยนะครับ  ขอบคุณที่ติดตามมาโดยตลอดครับผม
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 16-03-2018 21:17:06
.

.

 :pig4:  :pig4:  :pig4:  :pig4:  :pig4:

..
.
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 16-03-2018 21:31:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 16-03-2018 22:03:28
กว่าจะได้เจอได้รักกันอีกครั้ง..หมอนเปียก ทิชชู่หมดม้วน :m15:

ขอพิเศษใส่ไข่สักตอนสองตอนได้มั้ยคะ..อยากให้น้องอุ่นมีน้อง :hao3:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-03-2018 22:29:45
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-03-2018 23:17:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-03-2018 00:26:38
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-03-2018 00:37:10
จบแล้วววววววววววววว เศร้าไปนิดกับการจากไปของใครบางคน สุดท้ายก็เป็นครอบครัวสุขสันต์จนได้  :mew3:

ปล. ชะนีขวัญ สุดท้ายได้เป็นคุณนายสุขสบายดีหรือเปล่านะ  o18
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-03-2018 07:19:58
จะจบยังไงนะ?
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 17-03-2018 09:35:14
อยากรู้ว่าขวัญจะได้อย่างที่ใจต้องการหรือเปล่านะ หรือจะไปหกละเหอยู่กันแน่เพราะเล่นวางยาแบบนั้น
ไม่มีผู้ชายที่ไหนเขาชอบหรอกนะ

ปล.ขอตอนพิเศษด้วยก็ดีนะคะ ซักตอนสองตอน
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 17-03-2018 10:40:23
จบไวไปหน่อยเเต่ถือว่ากล่าวถึงทุกตัวละครได้สมบูรณ์ :mew1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 17-03-2018 11:48:19
ขอตอนพิเศษของขวัญด้วยว่าจะลงเอยยังไง ติดใจมาก 55
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 17-03-2018 14:05:21
จบแล้ว  สงสารดล ไม่น่าตายเลย
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 17-03-2018 19:39:49
 :hao3:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 18-03-2018 01:05:24
ดลไม่น่าตายเลยอะ  :hao5: คนที่ควรตายมีแค่พ่อภัทรคนเดียว สุขแต่ไม่สุด ฮือ  :sad4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-03-2018 09:56:56
จบแล้ว ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-03-2018 10:56:24
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 18-03-2018 12:08:43
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์นะครับ รับรองว่ามีตอนพิเศษแน่นอนรอติดตามกันด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 19-03-2018 08:51:03
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 19-03-2018 09:39:56
ทำไมอ่านตอนจบแล้วขำก็ไม่รู้555555
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonphug ที่ 20-03-2018 20:47:52
สนุกมากแล้วก็เกลียดพ่อภัทรมากเช่นกัน
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: oppapp ที่ 21-03-2018 08:26:38
ขอตอนพิเศษเถอะ อยากเห็นภัทรกับวินมีความสุข
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 21-03-2018 12:49:02
แล้วขวัญอ่ะยังไงๆ คุณนายไรงี้ป่ะ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.25-อวสาน]-(16-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 21-03-2018 19:15:26
สุดท้ายคนไม่ดี ก็ไม่มีที่ยืน
สงสารนดลที่หลงผิดไปชั่วขณะ

สงสารนภัทรที่ต้องมารับกรรมกับสิ่งที่ไม่ได้ก่อ
แต่ด้วยความดี จิตใจดี และพยายามต่อสู้
สุดท้ายคนพ่ายก็ยอมแพ้ไปเอง

วินคือคนดีที่ถูกรังแกแบบไม่มีทางเลือก
หลายเป็นคนร้ายในสายตาคนที่รักไปในทันที

ต้องขอบคุณนภัทรที่จิตใจดี และเลี้ยงอุ่นรักมาดี

กันต์พงษ์คือเพื่อนแท้นะ แต่ไม่ทันการณ์

ขอบคุณมากนะคะ นิยายน่าติดตามมากค่ะ
หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 22-03-2018 20:58:52
CHAPTER

-26-

ตอนพิเศษ



          เกาะเพิร์ล

            ใครจะคิดว่าชีวิตของผู้หญิงที่อยากได้อยากมีและมักใหญ่ใฝ่สูงอย่างขวัญจะมีวันนี้  วันที่เธอได้สิ่งที่ต้องการแม้มันจะมาจากแผนการร้ายๆก็ตาม  ตอนนี้เธอได้เป็นนายหญิงของเกาะเพิร์ลอย่างออกหน้าออกตา  นั่นเพราะหลังจากได้วางแผนรวบหัวรวบหางอิทธิในวันนั้น  เธอได้ตั้งท้องลูกชายและเมื่อทางบ้านของอิทธิรู้เรื่องเข้าก็ดีอกดีใจกันยกใหญ่ที่ได้หลานชายคนแรกของตระกูล  หลังจากนั้นก็บังคับให้อิทธิแต่งงานกับขวัญเพื่อให้หลานที่เกิดมามีแม่ที่คู่ควรกับชาติกำเนิด  อิทธิจึงจำต้องทำตามเพราะไม่งั้นทรัพย์สมบัติที่มีอยู่คงจะโดนลิปคืนไปหมด

            “ตาอรรถตั้งใจหน่อยลูก” ขวัญในชุดเรียบหรูสมกับฐานะการเป็นนายหญิงของที่นี่ เธอกำลังยืนดูลูกชายเรียนว่ายน้ำกับครูที่จ้างมาสอนโดยเฉพาะ

            ส่วนอิทธิวันนี้เข้าไปที่โรงแรม  หลังจากต้องทนอยู่กับขวัญมานานหลายปีจนลูกชายโต  เขารู้สึกเหมือนติดคุกแต่ก็ทำอะไรขวัญไม่ได้  ไม่น่าเชื่อว่าสาวใช้ที่เขารับมาวันนั้นจะกลายเป็นแม่ของลูกเขาในวันนี้  แถมผู้หญิงคนนี้ยังมีพ่อของเขาคอยหนุนหลังอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย  ขวัญเป็นคนเข้ากับคนง่ายและประจบประแจงเก่ง  เขาผิดเองที่ไว้ใจคนอย่างขวัญจนทำให้ชีวิตเป็นอย่างนี้  แต่ยังโชคดีที่มีลูกชายพอให้มีกำลังใจเวลากลับจากทำงานอยู่บ้าง

             หลังจากเรียนว่ายน้ำเสร็จแล้ว อรรถพันธ์ หรือ อรรถ  เด็กชายที่เติบโตมาท่ามกลางความไม่ลงรอยกันของพ่อและแม่  ทำให้อรรถเป็นเด็กดื้อและเอาแต่ใจ

            “คุณแม่ครับผมหิวแล้ว” เด็กชายเดินมาหาผู้เป็นแม่ก่อนจะนั่งลงที่ตักทันที

            “ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนค่อยลงมากิน เดี๋ยวแม่จะเตรียมไว้ให้” เธอว่าพลางเอาผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมให้กับลูกชาย

            “ไม่เอาจะกินตอนนี้” เด็กชายเริ่มโวยวาย  จนผู้เป็นแม่ต้องตามใจ

             “ได้จ๊ะๆเดี๋ยวแม่จะให้คนเอามาให้เดี๋ยวนี้เลย” เธอเอ่ยกับลูกชายก่อนจะตะโกนสั่งคนรับใช้ “นี่เธอเตรียมสำรับมาให้ลูกชายฉันที่นี่เดี๋ยวนี้เลยเร็วๆ” เธอสั่งก่อนที่สาวใช้จะรีบปฏิบัติตามโดยเร็ว

            “คุณแม่ครับวันนี้คุณพ่อจะกลับบ้านไหม” เด็กชายเอ่ยถามเพราะช่วงหลังผู้เป็นพ่อมักจะค้างที่โรงแรมอยู่บ่อยๆ

            “มาสิจ๊ะถ้าลูกชายแม่ถามหาซะขนาดนี้แล้ว เอางี้เดี๋ยวแม่โทรบอกคุณพ่อก่อนนะลูก”

            ว่าแล้วเธอก็โทรออกหาสามีทันที

            “ฮัลโลคุณ”

            (“มีอะไรฉันยุ่งอยู่”)

            “วันนี้กลับบ้านด้วยนะคะลูกถามหาคุณ”

            (“วันนี้คงไม่ได้หรอกฉันติดงาน”)

            “งานสำคัญกว่าลูกรึยังไงคะ  ไม่รู้ล่ะยังไงวันนี้คุณก็ต้องมาแค่นี้ล่ะ” เธอแสยะยิ้มเพราะรู้ว่ายังไงอิทธิก็ต้องกลับมาเมื่อเอาลูกชายมาอ้าง

            อิทธิถอนหายใจเสียงดังเมื่อถูกอีกคนวางสายตัดหน้าไป  ทำไมชีวิตเขาต้องมาเจอเรื่องบ้าๆอย่างนี้ด้วยนะ  จากแต่ก่อนใครๆก็ยกย่องให้เป็นเสือ  แต่ทุกวันนี้กลับกลายเป็นลูกแมวดีๆนี่เอง



*-*-*-*-*-*



            เกาะบลูซี

            วันนี้เคลวินพาลูกและเมียมาพักผ่อนที่รีสอร์ทที่สร้างขึ้นใหม่ข้างๆโรงแรม  นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพาทั้งสองคนออกมาเที่ยวนอกบ้าน  หลังจากสัญญากับลูกชายไว้ว่าจะพามาเล่นน้ำทะเล

            “เย้! คุณพ่อมาแล้วว!” เจ้าตัวน้อยกระโดดโหยงๆเมื่อเห็นพ่อถือแก้วน้ำแดงมา  หลังจากนั่งรออยู่นาน

            “อ่ะนี่น้ำแดงของน้องอุ่น  ชาเชียวของหมูแดง  ชาเย็นของป้าภา  อ้าวแล้วแม่ของเราไปไหนล่ะ” เคลวินยื่นเครื่องดื่มที่ซื้อมาให้กับทุกคน

            “คุณแม่ไปเปลี่ยนชุดครับ พวกเราจะลงไปเล่นน้ำทะเลกัน” อุ่นรักตอบผู้เป็นพ่อ

            “อ้าวทำไมไม่มีใครบอกพ่อเลย ถ้างั้นเดี๋ยวพ่อไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ”

            “ครับคุณพ่อ”

            “ผมฝากอุ่นรักด้วยนะครับป้าภา”

            “ได้ค่ะคุณเคลวิน”

            เคลวินเดินไปที่ห้องเปลี่ยนชุดของรีสอร์ท  ก่อนจะเดินสวนทางกับร่างบาง  เขาต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจแล้วรีบจูงมือกลับเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดใหม่อีกครั้ง

            “จะดึงผมกลับมาทำไมเนี่ยยยยย” นภัทรลากเสียงยาวเมื่ออยู่ๆก็โดนลากตัวกลับมาโดยไม่รู้สาเหตุ

            “ไม่รู้จริงๆเหรอที่พี่ลากตัวกลับมาเพราะอะไร” เคลวินยืนทำหน้ายักษ์ใส่

            “หึ แล้วเพราะอะไรอ่ะงงไปหมดแล้วเนี่ย” ร่างบางทำหน้ามุ่ยใส่

            “ดูสภาพเราสิใส่เข้าไปได้ยังไง เสื้อบางขนาดนี้เวลาเปียกน้ำคนอื่นก็เห็นหมดดิ ดูกางเกงสิสั้นทบจะเห็นแก้มกันอยู่แล้วเนี่ย เปลี่ยนใหม่เลย!” เคลวินโวยวายใส่

            นภัทรยิ้มขึ้นมาทันทีที่รู้สาเหตุของการโดนลากตัวกลับมา

            “ไม่เอาใส่แบบนี้มันสบายตัวดี ใครเห็นก็ช่างสิไม่เห็นจะแคร์” ร่างบางทำหน้าตายไม่ได้ใส่ใจอะไร

            “ไม่เอาพี่ไม่ยอม  ขาอ่อนของภัทรพี่ต้องได้เห็นคนเดียวเท่านั้น ไปเปลี่ยนใหม่เลย!” เสียงเข้มยังคงสั่งไม่ยอมหยุด

            “ไม่! จะออกไปแล้ว” นภัทรรีบวิ่งออกมาแต่โดนคนตัวสูงจับตัวเอาไว้แล้วพยายามจะถอดเสื้อและกางเกงออก

            “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะพี่วิน! บ้าไปแล้วเหรอเนี่ย” ร่างบางพยายายามดิ้นหนีแต่โดนอีกคนกอดเอาไว้แน่น

            “จะถอดเองดีๆหรือให้พี่ถอด ถ้าพี่ถอดมันไม่จบง่ายๆนะจะบอกให้”  เคลวินยื่นข้อเสนอให้

            “โอเคครับๆ ผมเปลี่ยนเองก็ได้ จะให้ใส่แบบไหนล่ะ” เมื่อแกล้งยั่วอีกคนให้โมโหได้แล้วนภัทรก็ยอมแต่โดยดี

            “อ่ะนี่เสื้อยืดสีดำ  แล้วนี่กางเกงสีฟ้ายาวเลยเข่านิดหน่อยน่าจะเหมาะ” คนตัวสูงเลือกเสื้อผ้าแล้วยื่นให้

            “โด่ว! มันใส่ไม่สบายตัวเลยอ่ะ ใส่สั้นๆมันว่ายน้ำได้สะดวกกว่าเยอะเลย” ร่างบางทำท่าทางอิดออด

            “อย่าอิดออดใส่ไปเลย” เคลวินยิ้มออกเมื่อสั่งให้อีกคนยอมเปลี่ยนชุดได้

            หลังจากใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วนภัทรก็หันไปมองคนตัวสูงว่าจะใส่ชุดยังไงออกไป

            “แล้วทำไมตัวเองถึงใส่แค่กางเกงตัวเดียวอ่ะไม่ยุติธรรมเลย” เคลวินยืนยิ้มใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว  ทำเอานภัทรถึงกับโมโหขึ้นมาทันที

            “ก็พี่เป็นผู้ชายใส่ยังไงก็ได้” เคลวินยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ

            “ผมก็เป็นผู้ชายเหมือนกันแล้วทำไมจะใส่เหมือนี่วินไม่ได้” ร่างบางเริ่มโวยวายเสียงดัง

            “ก็ภัทรเป็นผู้ชายที่ไม่ใช่ผู้ชายเหมือนพี่ไง” เคลวินไม่รู้จะอธิบายยังไง

            “ไม่เหมือนตรงไหนก็มีเหมือนกันหมดทุกอย่าง”

            “ไม่เหมือนก็คือไม่เหมือนอย่ามาเถียงรีบๆออกไปกันเถอะลูกรอนานแล้วเนี่ย” เคลวินรีบตัดบทแล้วจับมือร่างบางเดินออกไป

            “ไม่เอาไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าจะได้ใส่ชุดเดิม” เขาไม่ยอมให้เคลวินเอาเปรียบได้ฝ่ายเดียวแน่

            “ก็บอกไม่ให้ใส่ไงครับ ออกไปกันเถอะนะ” เคลวินเริ่มใช้ไม้อ่อนแต่ดูเหมือนว่าร่างบางยังคงงอนไม่เลิก

            “.......”

            “ก็ได้พี่ยอมให้ใส่แต่พี่ต้องเป็นคนใส่ให้นะถ้างั้น” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าหล่อ นภัทรมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ

            “พี่วินหมายความว่าไง”

            “ก็หมายความว่างี้ไงล่ะ”

            เคลวินเดินไปล็อกประตูห้องแล้วเดินเข้ามากอดร่างบางเอาไว้  หลังจากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าของร่างบางออกทันที

            “ทำบ้าอะไรเนี่ย!” นภัทรเริ่มโวยวาย

            “ขี้งอน เอาแต่ใจดีนักต้องโดนทำโทษ”

            หลังจากไม่มีอาภรณ์ปกปิดเรือนร่างแล้วเคลวินก็จัดการเริ่มบรรเลงบทรักทันที  แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่กี่นาทีเขาก็สามารถทำได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง  ในห้องเปลี่ยนชุดบรรยากาศก็ไม่เลวเลยทีเดียวเคลวินยิ้มกริ่มอย่างพอใจ  วันนี้ล่ะเขาจะทำน้องให้อุ่นรักให้จงได้

            หลังจากบทรักจบลงไป

            “ทำไมคุณพ่อกับคุณแม่หายไปนานจังเลยคร้าบบ” เด็กชายตัวน้อยนั่งรอพ่อกับแม่อยู่นาน  เมื่อเห็นจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

            “พ่อช่วยแม่เปลี่ยนชุดอยู่ครับลูก” เคลวินยกยิ้มกวนๆให้กับร่างบาง

            ท้ายที่สุดแล้วนภัทรก็ไม่ได้ใส่ชุดที่ตัวเองชอบ  หลังจากเสร็จกิจกรรมรักเขาก็หมดอารมณ์ที่จะลงไปเล่นน้ำแล้ว  และอีกอย่างยังไงเคลวินก็ไม่มีทางให้ใส่อยู่ดี

            “คุณพ่อครับน้องอุ่นอยากมีน้องจังเลย  ดูสิเด็กคนนั้นมีน้องน่ารักมากๆเลยครับ” อุ่นรักชี้ไปที่บริเวณชายหาดที่มีเด็กชายกำลังหยอกล้อเล่นกับน้องสาวตัวเล็กอยู่อย่างสนุกสนาน

            “อีกไม่นานหรอกครับน้องอุ่นตอนนี้พ่อจัดการให้เรียบร้อยแล้ว”

            “เย้! น้องอุ่นกำลังจะมีน้องแล้ว” อุ่นรักกระโดดโหยงด้วยความดีใจ

            นภัทรได้ยินอย่างนั้นก็หน้าแดงขึ้นมาทันที  แล้วกำหมัดชกไปที่ต้นแขนของคนตัวสูงเต็มแรง

            “โอ๊ย! เจ็บนะครับที่รัก” เคลวินยิ้มอย่างพอใจ

            “ยังจะมายิ้มอีกเดี๋ยวโดนต่อยคว่ำเลย ไปโกหกลูกทำไมเนี่ย” นภัทรชูกำปั้นใส่เหมือนจะเอาเรื่องอีกครั้ง

            “กลัวแล้วครับๆ”

            เขาเดินห่างออกมาแล้วอุ้มลูกชายขึ้น

            “เราลงไปเล่นนี้กันเถอะครับ วันนี้คุณแม่คงเล่นไม่ได้แล้วเดี๋ยวจะแสบเอา” คนตัวสูงยิ้มกวนพร้อมกับยักคิ้วให้   นภัทรได้แต่ชักสีหน้าใส่พร้อมกับชี้หน้าคาดโทษ

            เคลวินอุ้มลูกชายลงไปที่ชายหาดโดยมีนภัทรยืนกางร่มเดินตามหลังไปพร้อมกับหมูแดงและป้าภาที่เดินตามอยู่ไม่ห่าง

            อีกไม่นานอุ่นรักก็จะมีน้องสมใจอยากซะแล้วสิ....







-------------------------------------------------------

จบตอนพิเศษแล้วนะครับ ถ้าหากมีเวลาก็อาจจะเขียนลงเรื่อยๆ ไม่แน่อาจจะมีภาคต่อรุ่นลูกอีกก็เป็นได้รอให้มีเวลาก่อนนะคร้าบบ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-03-2018 08:14:41
รอน้องของอุ่นรัก
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.23-แผนร้าย]-(14-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 23-03-2018 16:26:23
เห็นด้วยกับคอมเม้นท์นี้ ถ้าพ่อกับพี่ของน้องภัทรสำนึกผิด พระเอกอย่างพี่วินคงจะเห็นกับเมียกับลูกพอให้อภัยได้บ้าง แต่นี้ไม่มีเลยอ่ะ ก็สมควรแล้วที่พระเอกไม่ให้อภัย แล้วแผนร้ายนี่อย่าบอกว่าจะเอาหลานตัวเองเป็นตัวประกันนะ ถ้าแบบนั้นก็เลวทั้งตาทั้งลุงอ่ะบอกเลย  :m31: :fire:

ชอบคำพูดพระเอก นายเอกรักครอบครัวได้ แล้วทำไมพระเอกจะรักบ้างไม่ได้ หลายคนอาจจะคิดให้พระเอกอโหสิเพื่อเริ่มต้นใหม่กับนายเอก เราก็คิดว่าพระเอกก็คงอยากทำแบบนั้น ถ้าเพียงจะได้เห็นความรู้สึกผิดของพ่อนายเอกหรือคำขอโทษจากใจจริงสักนิด แต่นี่นอกจากไม่สำนึกแล้ว ยังลอยหน้าลอยตาคิดวางแผนร้ายอีกล่ะ แล้วจะให้พระเอกลืมอดีตได้อย่างไร
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 23-03-2018 16:45:24
 :impress2:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: monkeytwin ที่ 28-03-2018 18:27:49
 :L2:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 28-03-2018 19:03:41
 :-[
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: zysygy ที่ 21-08-2018 16:02:13
ครอบครัวนี้หลังจากผ่านเรื่องร้ายๆมาแล้ว ก็ขอให้มีความสุขกันถ้วนหน้านะจร้า
ปล.ถ้าเขียนภาคต่อเกี่ยวกับความรักของอุ่นรักจะดีมาก
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 22-08-2018 09:21:33
กว่าจะมีความสุข พร้อมครอบครัว

เราก็เสียน้ำตาไปเป็นปี๊บ

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 22-08-2018 10:38:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: ไมเลอร์ ที่ 23-08-2018 22:59:56
ตอนนี้มีภาคต่อแล้วนะครับ ตามลิงค์เลยครับผม

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68199.0
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 11-02-2019 00:31:19
 :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณนักเขียนมาก  สำหรับเนื้อเรื่องที่ เข้มข้น
อ่านได้เพลินๆ ครั้งเดียวจบ
จะส่งกำลังใจให้มีผลงานต่อๆไปน้าาาา
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-02-2019 13:57:13
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 12-02-2019 19:20:54
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 01-08-2019 02:19:30
เป็นเรื่องผูกปมดราม่าได้ถึงเครื่องมาก

ส่วนตัวทีมพระเอก

นดลหลงผิดดีนัก ก็ตายไปจ้า

พ่อนางก็...อืม บ๊ายยยย

นภัทร คือน่าสงสาร รับกรรมแทนพ่อ อิพี่ก็เอาชีวิตตัวเองมาขู่บังคับน้อง

แต่มันก็ดูสมเหตสมผลทุกปม

เขียนดีมาก กระชับ

ไม่ได้เม้นยาว ๆ นานแล้ว

ขอบคุณครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 01-08-2019 21:50:41
คือดีงาม  ขอบใจหลาย :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 12-08-2019 10:10:13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: BankkunG23 ที่ 20-08-2019 12:32:29
สุดยอดเลยครับ
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: PanGii ที่ 20-08-2019 23:05:49
สุดท้ายแล้วหลงน้องอุ่นซะงั้น น่ารักจังเลยลูกกกก
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 12:03:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: Bebii123 ที่ 09-06-2020 14:15:26
ครบรส!!! :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 09-06-2020 18:59:40
คิดถึง.. กลับมาอ่านใหม่อีกรอบ...
สนุกและอ่านเพลินเหมือนเดิม..
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
เริ่มหัวข้อโดย: habanice ที่ 05-10-2021 23:11:53
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
สั้นแต่สนุก