[MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)  (อ่าน 63445 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
 ทำไมนดลไม่ห้ามพ่อ รู้ว่าพ่อผิดก็ยังส่งเสริม

ออฟไลน์ padloms

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
นดลนี่ได้พ่อมาเต็มเลยนะเนี่ย

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เป็นครอบครัวที่เห็นแก่ตัวจริงๆ ยังไม่สำนึกในการกระทำ กระทำความผิดซ้ำๆ

ออฟไลน์ Nekosama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สนับสนุนให้อุ่นรักมีน้องค่ะ 555555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ชอบคำพูดพระเอก นายเอกรักครอบครัวได้ แล้วทำไมพระเอกจะรักบ้างไม่ได้ หลายคนอาจจะคิดให้พระเอกอโหสิเพื่อเริ่มต้นใหม่กับนายเอก เราก็คิดว่าพระเอกก็คงอยากทำแบบนั้น ถ้าเพียงจะได้เห็นความรู้สึกผิดของพ่อนายเอกหรือคำขอโทษจากใจจริงสักนิด แต่นี่นอกจากไม่สำนึกแล้ว ยังลอยหน้าลอยตาคิดวางแผนร้ายอีกล่ะ แล้วจะให้พระเอกลืมอดีตได้อย่างไร
เห็นด้วยย คือเราอ่านเรายังแค้นอะ เป็นพระเอกคงไม่มีใจดีด้วยแบบนี้หรอก

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER

-24-

วินาทีอันตราย



          ก่อนถึงเวลาทานมื้อเที่ยงไม่นานนดลก็เริ่มแผนการที่ได้วางไว้  โดยแอบย่องเข้าไปในครัวแล้วแอบใส่ยานอนหลับลงไปในเหยือกน้ำเย็นที่เตรียมไว้สำหรับตั้งโต๊ะ  รวมถึงถังน้ำที่เตรียมไว้สำหรับคนงานในบ้านและลูกน้องของเคลวิน

            “อ้าวดลไม่ทานข้าวเหรอลูก” เมื่อเห็นว่าลูกชายเดินผ่านโต๊ะสำรับไปแก้วกานดาจึงเอ่ยถาม

            “ทานก่อนเลยครับแม่ผมยังไม่หิว”

            “อย่าคิดมากจนลืมทานข้าวนะลูก หิวตอนไหนก็อย่าลืมมาทานนะ”

            “ครับแม่”

            นดลเดินออกมานอกบ้านเพื่อมาดูผลงานที่ทำไว้  ลูกน้องของเคลวินกำลังทานข้าวเที่ยงอย่างเอร็ดอร่อยโดยมีโดยมีถังน้ำวางอยู่ข้างๆ  ตอนนี้ก็รอเวลาให้ยาจะออกฤทธิ์เท่านั้นทุกอย่างก็จะเรียบร้อย

            หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงทุกอย่างในบ้านก็เงียบสงบ  คนงานทั้งหมดนอนหลับอยู่ตามจุดต่างๆของบ้าน  ส่วนแก้วกานดา นดลและอุ่นรัก ต่างก็นอนไม่ได้สติอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น    นดลทยอยอุ้มทุกคนขึ้นรถยนต์ที่จอดรออยู่หน้าบ้านแล้วรีบขับออกไป

            นดลขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านเช่าหลังหนึ่งซึ่งเป็นที่นัดหมายกับผู้เป็นพ่อ เมื่อมาถึงเขาก็อุ้มหลานชายตัวน้อยเข้าไปข้างในทันที

            “เดี๋ยวผมไปส่งแม่และน้องที่บ้านไอ้กันต์ก่อนนะครับ”

            “โอเคเดี๋ยวทางนี้พ่อจัดการเอง”

            “พ่อจะให้ผมโทรหาไอ้นั่นเลยดีไหม”

            “ไม่เป็นไรเดี๋ยวพ่อจัดการเองไปเถอะ” เขายิ้มให้ลูกชาย

             นดลเดินกลับไปที่รถแล้วขับออกไปหลังจากนั้น

             ทรงพลไม่อยากจะทำอย่างนี้เลยแม่แต่น้อยแต่เขาเองก็ไม่มีทางเลือก  ตอนนี้คนที่เคลวินแคร์มากที่สุดก็คงจะเป็นลูก  เขาจึงใช้โอกาสนี้เพื่อกดดันให้เคลวินทำตามที่เขาต้องการ  ทรงพลอุ้มหลานชายไปนอนบนเตียง  หลังจากนั้นก็เดินออกมาโทรศัพท์ที่หน้าบ้าน

            “สวัสดีครับท่านประธาน” เสียงเย็นยะเยือกเอ่ยผ่านสายไป

            “นั่นใคร?”

            “มึงจำกูไม่ได้เหรอคนที่ฆ่าพ่อกับแม่มึงไง หึหึ” เสียงคำรามในลำคออย่างผู้มีชัยดังขึ้น  ทำให้เคลวินถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้วก็ถึงบางอ้อ

            “กูไม่ว่างคุยเรื่องไร้สาระกับมึงหรอกนะ”

            “คนอย่างกูไม่เคยไร้สาระ  ที่โทรมาเพราะกูอยากนัดมึงเพื่อเคลียร์ปัญหาทั้งหมด”

            “มึงคิดว่ากูจะยอมไปงั้นเหรอไม่มีอะไรต้องเคลียร์อีก  เพราะกูได้ทุกอย่างคืนมาหมดแล้ว” เคลวินไม่สนใจคำพูดนั่นเลยแม้แต่น้อย

            “มันอาจจะมีบางอย่างที่มึงต้องเสียไปถ้าไม่มาเจอกู”

            “มึงหมายความว่าไง พูดมาตรงๆสิวะ” เสียงเข้มเริ่มหงุดหงิดกับความเจ้าเล่ห์ของทรงพล

            “ไปเจอกูที่ดาดฟ้าของตึกร้างวันเวิร์ลตอนบ่ายสาม  ไม่งั้นมึงจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าอุ่นรักอีกตลอดชีวิต” ปลายสายขู่

            “มึงไม่กล้าหรอกลูกกูก็หลานมึง กูไม่หลงกลมึงหรอก” ถึงแม้จะพูดออกไปอย่างนั้น  แต่ในใจกลับเริ่มรู้สึกเป็นห่วงลูกชายขึ้นมาแล้ว

            “จะคิดอย่างนั้นก็ช่างหัวมึง  ตอนแรกที่รู้ว่านภัทรท้องกับมึงกูสั่งมันให้ไปทำแทงค์แต่เพราะสงสารลูกกูเลยเปลี่ยนใจ  แต่สำหรับอุ่นรักมันมีสายเลือดชั่วๆของมึงทำไมกูจะฆ่ามันไม่ได้ล่ะ  มึงก็รู้ว่ากูฆ่าได้ทุกคนถ้าบังอาจมาขวางทางกูเหมือนกับพ่อแม่มึงไงล่ะ ฮ่าๆๆ”  ทรงพลหัวเราะเยาะเสียงดัง

            “ไอ้สัตว์นรก! ถ้าลูกกูเจ็บแม้แต่ปลายเล็บกูเอามึงตายแน่” เขาไม่น่าปล่อยลูกไว้ที่บ้านหลังนั้นเลย

            “เตรียมเอกสารโอนบ้านและหุ้นมาให้กูเพื่อแลกกับตัวอุ่นรัก  หลังจากนั้นมึงกับลูกก็ไสหัวไปจากชีวิตพวกกูซะ  ถ้าเลยบ่ายสามไปแล้วมึงไม่มาทุกอย่างก็จบ กูจะรอเจอมึงที่นั่น”

            ตู๊ดๆๆๆ

            หลังจากวางสายเคลวินโทรกลับไปที่บ้านทันที  เมื่อรู้ว่าทุกคนถูกวางยานอนหลับทั้งลูกและเมียหายตัวไปกันหมด  ทำให้เขานั่งคิดเรื่องนี้อยู่สักพักเพื่อชั่งใจ  มองดูที่นาฬิกาข้อมือตอนนี้เวลาก็เดินไปเรื่อยๆเข้าใกล้บ่ายสามแล้ว “เอาวะไปก็ไป” หลังจากนั้นก็โทรเรียกลูกน้องคนสนิทเข้ามาหาที่ห้อง



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            บ้านของกันต์

            ปี๊บๆ

            เสียงแตรรถดังขึ้นก่อนที่คนเฝ้าประตูหน้าบ้านจะเปิดให้  นดลขับรถเข้าในรั้วบ้านก็เห็นเพื่อนยืนรออยู่แล้ว

            “ทำไมทุกคนถึงได้หลับไม่รู้เรื่องอย่างนี้วะดล” กันต์มองผ่านกระจกเข้าไปก็เห็นทั้งสองคนนอนไม่ได้สติ

            “สงสัยจะเพลียล่ะมั้ง” นดลพูดส่งๆไปเพราะไม่รู้จะสรรหาคำแก้ตัวยังไงดี

            กันต์เปิดประตูรถแล้วพยายามปลุกนภัทรให้ตื่น  แต่ไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย

            “หลับลึกอย่างกับโดนวางยามาซะอย่างนั้นล่ะ” กันต์เปรยออกมาเบาๆ

            “มึงอุ้มน้องกูเข้าไปละกัน” เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนเอ่ยออกมา  นดลก็ทำหน้าเหรอหราราวกับคนมีความผิดซะอย่างนั้น

            “โอเคมึงพาคุณแม่เข้าไปก่อนเดี๋ยวกูตามไป” กันต์เอ่ย

            นดลพยักหน้าแล้วอุ้มผู้เป็นแม่เข้าไปในบ้าน  ส่วนกันต์มองตามหลังไปเหมือนมีคำถามคาใจ  สภาพอย่างนี้ต้องโดนวางยามาแน่ๆ  แต่ก็ไม่อยากจะคิดอะไรบ้าๆว่าคนที่วางยาอาจจะเป็นเพื่อนของเขาเอง    “ฝากแม่กับน้องด้วยนะกูต้องไปแล้ว”

             ท่าทางเร่งรีบของนดลทำให้กันต์มองอย่างสงสัย  ตั้งแต่ที่พาแม่และน้องมาฝากไว้โดยไม่มีอุ่นรักมันก็แปลกมากพอแล้ว  แถมยังมาในสภาพนอนไม่ได้สติอย่างนี้  เขาคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องเล็กๆอย่างแน่นอน

            “มึงเอาน้องอุ่นไปไว้ไหน” กันต์มองหน้าเพื่อนเหมือนกำลังมองผู้ต้องสงสัยซะอย่างนั้น

            “อุ่นรักอยู่กับพ่อกู” เขาพยายามเลี่ยงที่จะสบตา

            “ทำไมต้องเอาไปไว้กับคุณอาทรงพลล่ะ  แล้วบ้านมึงล่ะเกิดอะไรขึ้นถึงต้องแยกย้ายกันออกมาอย่างนี้” กันต์ถามทุกคำถามที่มันค้างคาใจ

            “มาถึงขึ้นนี้กูก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังมึงแล้ว  ตอนนี้พวกกูเป็นคนไร้บ้านไร้อาชีพไปซะแล้ว”

            “มันเกิดอะไรขึ้นวะ! มึงเห็นกูเป็นเพื่อนอยู่รึเปล่าวะไอ้ดล  ถ้ามึงบอกกูก่อนหน้านี้ก็พอจะมีทางช่วยเหลือมึงได้บ้าง” กันต์ขึ้นเสียงใส่เมื่อรู้ความจริง  เรื่องมันใหญ่ขนาดนี้ทำไมเพื่อนต้องปิดเขาจนต้องเลยเถิดมาถึงตอนนี้

            “ถึงมึงรู้ก็ช่วยอะไรพวกกูไม่ได้หรอกเพราะคนที่มันมายึดทุกอย่างคืนจากพวกกูคือไอ้วิน”

            “คุณเคลวินน่ะเหรอ!” กันต์ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย

            “ใช่ตอนนี้มันยึดบ้านที่พวกกูเคยอยู่ตั้งแต่เด็กจนโต  มันปลดตำแหน่งกูและพ่อจนไม่มีอำนาจใดๆในบริษัท  พวกกูไม่เหลืออะไรแล้วว่ะกันต์” สีหน้าที่เคียดแค้นของนดลทำให้กันต์เริ่มกลัวว่าสิ่งที่กำลังจะทำอยู่นั้นอาจจะร้ายแรงเกินกว่าที่เขาคิดไว้

            “มึงจะบอกกูได้รึยังว่าตกลงคุณเคลวินเป็นใครทำไมถึงได้มีสิทธิ์ทำกับพวกมึงถึงขนาดนั้น”

            “ไอ้วินมันคือลูกชายเจ้าของบ้านหลังนั้นที่ตายไปเมื่อยี่สิบปีก่อน”

            “แล้วทำไมคุณเคลวินต้องแค้นพวกมึงขนาดนี้วะ มึงบอกกูได้ไหม?”

            “เรื่องนี้กูขอไม่ตอบนะแต่รู้ไว้ว่ามันเลวก็พอ  มันลักพาตัวน้องกูไปจนตั้งท้อง  แถมตอนนี้มันยังมาแย่งทุกอย่างไปจากกูอีก  กูไม่ปล่อยมันไว้แน่” สายตาที่อาฆาตแค้นจ้องมองไปอย่างไร้จุดหมาย  กันต์ไม่เคยเห็นท่าทีอย่างนี้ของเพื่อนมาก่อนเลย

            “กูรู้ว่ามึงแค้นเค้ามากแต่อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามนะเว้ยกูเป็นห่วงมึง” กันต์จับไหล่เพื่อนเอาไว้  พร้อมส่งสายตาที่เป็นห่วงไปให้

            “มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกูถึงได้ไว้ใจพาแม่และน้องมาฝากไว้  มึงห้ามให้ทั้งสองคนออกจากบ้านเด็ดขาด  จนกว่ากูจะกลับมา ขอบใจมากนะเพื่อนฝากด้วย” นดลยิ้มให้เพื่อนแล้วรีบเดินออกไป

            ก่อนจะเดินพ้นประตูหน้าบ้านไปก็มีสายโทรเข้ามา  นดลมองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าปลอดคนแล้วจึงกดรับสาย

            “ฮัลโลพ่อ”

            (“ไปส่งแม่และน้องเรียบร้อยและใช่ไหม”)

            “เรียบร้อยแล้วครับ แล้วพ่อล่ะครับโทรหาไอ้วินรึยัง”

            (“เรียบร้อยแล้ว  พ่อนัดมันที่ดาดฟ้าของตึกร้างวันเวิร์ลตอนบ่ายสาม”)

            เมื่อได้ยินอย่างนั้นนดลก็ยิ้มที่มุมปากด้วยความสะใจ  วันนี้ล่ะจะเป็นวันตายของไอ้วิน

            “บ่ายสามที่ตึกร้างวันเวิร์ลพ่อเลือกที่ตายให้มันได้เหมาะมากจริงๆครับ หึหึ” นดลส่งเสียงคำรามในลำคออย่างโหดเหี้ยม

            (“แค่นี้ก่อนะลูกอุ่นรักเริ่มรู้สึกตัวแล้ว”)

            “ครับพ่อผมจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”

            นดลวางสายแล้วก็ขับรถออกไปโดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังบังเอิญได้ยินที่พูดเมื่อสักครู่  พงษ์นั่นเองที่เดินเข้ามาแล้วเผลอทำส้มที่ซื้อมาหล่นตรงบริเวณพุ่มไม้หน้าบ้าน  เมื่อได้ยินนดลคุยสายกับพ่อก็จำเป็นต้องนั่งอยู่อย่างนั้นหากแสดงตัวออกไปกลัวจะเสียมารยาท  แต่นั่นทำให้เขาได้ยินความลับที่ทั้งสองกำลังวางแผนฆ่าเพื่อนของตัวเองอยู่  ช่วงหลังมานี้พงษ์ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนเลยทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเคลวินมักจะโทรมาถามข่าวคราวของลูกชายบ่อยๆ  นึกไม่ถึงเลยว่าเคลวินจะมาที่กรุงเทพจนเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น

            “อ้าวมาแล้วเหรอคุณ!” กันต์ยิ้มให้คนรักทันทีที่เห็นหน้า  แต่ต้องหุบยิ้มพร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อเห็นหน้าตาตื่นของอีกคน

            “เกิดเรื่องขึ้นแล้วคุณ!” พงษ์เอ่ยเสียงดังโดยไม่รู้ว่ามีสองร่างกำลังนอนหลับไหลอยู่บนโซฟา

            “เกิดอะไรขึ้นทำไมทำหน้าตาตื่นมาซะอย่างนั้น”

            “ก็เพื่อนคุณน่ะสิกำลังจะฆ่าเพื่อนผม”

            “อะ...อะไรนะ ไอ้ดลน่ะเหรอ?” เมื่อได้ยินอย่างนั้นกันต์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ  มันเป็นอย่างที่เขาสังหรณ์ใจจริงๆ

            “ใช่วันนี้บ่ายสามที่ตึกร้างวันเวิร์ลเค้านัดเจอกันที่นั่น ผมจะไปช่วยเพื่อนผม”

            “ผมไปด้วย” กันต์มองเวลาที่นาฬิกาข้อมือก็พบว่าเหลืออีกแค่หนึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลานัดแล้ว

            “ก่อนอื่นเราต้องแจ้งตำรวจก่อน” พงษ์กำลังจะกดโทรออกแต่โดนอีกคนห้ามเอาไว้

            “คุณอย่าโทรเลยผมกลัวว่าไอ้ดลจะโดนจับ” กันต์ยึดโทรศัพท์ของคนรักเอาไว้

            “เอาคืนมานะ! คุณทำอย่างนี้ไม่ได้ผมไม่ยอมให้เพื่อนคุณฆ่าเพื่อนผมแน่”  พงษ์มองหน้าแฟนหนุ่มด้วยความผิดหวัง  ไม่นึกเลยว่าจะเห็นแก่เพื่อนจนลืมความถูกต้องไป

            “เราจะไปห้ามไอ้ดลด้วยกัน ผมมั่นใจว่าถ้าเราไปทันเวลามันจะต้องไม่เกิดอะไรขึ้นแน่นอนเชื่อผม” กันต์จับมือคนรักแล้วมองตาเพื่อให้ความมั่นใจ  พงษ์จะพยักหน้าตอบรับก่อนจะมองเห็นนภัทรกำลังนั่งน้ำตาไหลพรากจ้องมองทั้งสองคน

            “น้องภัทร!”

            กันต์มองหน้าพงษ์ด้วยความตกใจก่อนจะหันกลับไปมองคนที่อยู่ข้างหลัง

            “มันไม่จริงใช่ไหมครับพี่ดลไม่ได้ทำอย่างนั้นจริงๆใช่ไหม ฮือๆ” นภัทรร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ  คนที่เขารักทั้งสองกำลังจะฆ่ากันเอง  เมื่อตั้งสติได้นภัทรก็มองหาลูกชายตัวน้อยทันที “แล้วอุ่นรักล่ะครับ อุ่นรักไปไหน” เมื่อไม่เห็นลูกชายนภัทรก็ตกใจพร้อมกวาดสายตามองไปทั่วบ้าน

            “ไอ้ดลมันพาน้องภัทรกับแม่มาฝากพี่ไว้  แต่อุ่นรักมันบอกว่าอยู่กับคุณพ่อ”

            “พี่ดลคิดจะทำอะไรกันแน่ทำไมต้องแยกอุ่นรักไปอยู่กับคุณพ่อหรือว่า......” เขาอยากให้มันเป็นแค่ความฝัน  พี่ชายของตัวเองคงไม่ได้ใช้ลูกชายเป็นตัวล่อให้เคลวินไปหาหรอกนะ “ทำไมพี่ดลถึงทำอย่างนี้ ฮือๆๆ พาผมไปที่นั่นด้วยคนนะครับ ป่ะไปกันเถอะ” นภัทรลุกขึ้นแม้ว่าจะยังมึนๆที่ศีรษะอยู่ก็ตาม  เขาเซล้มลงบนพื้นก่อนที่พงษ์จะเข้ามาพยุงเอาไว้

            “น้องภัทรไม่ต้องไปหรอกนะอยู่ที่นี่รอฟังข่าวดีกว่าพวกพี่สองคนจะโทรมาบอกเป็นระยะๆ” พงษ์บอก

            “ขอผมไปด้วยเถอนะครับ ถ้าผมไม่ได้ไปต้องอกแตกตายแน่นอน” นภัทรยกมือไหว้ปรกๆ

            เมื่อเห็นว่าใกล้เวลาเข้ามาแล้วกันต์ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมให้นภัทรไปด้วยจะได้ไม่ต้องเสียเวลามากกว่านี้

            “ตอนนี้เราไม่มีเวลาแล้วรีบไปกันเถอะเดี๋ยวจะไม่ทันการ”

            “ถ้างั้นมานี่เดี๋ยวพี่พยุงไปขึ้นรถ” พงษ์เอ่ย

            กันต์ไม่ลืมที่จะสั่งคนรับใช้ให้ดูแลแก้วกานดาที่นอนไม่ได้สติอยู่ แล้วพาทั้งสองคนขับรถออกไปทันที



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            ตึกร้างวันเวิร์ล

            “ฮือๆๆ คุงตามัดน้องอุ่นทำไม” เด็กชายตัวน้อยถูกมัดมือมัดเท้าไว้บนเก้าอี้  ท่ามกลางแดดจ้าบนดาดฟ้าของตึกร้างที่มีความสูงถึงยี่สิบชั้น  นดลมองดูหลานชายตัวน้อยด้วยความสงสารไม่ต่างไปจากผู้เป็นตาที่มองหลานด้วยสายตาละห้อย

            “น้องอุ่นอดทนอีกนิดนะเดี๋ยวตาจะพากลับบ้านเรา”

            “น้องอุ่นจะหาแม่ คุงตาใจร้าย ฮือๆ” อุ่นรักร้องไห้งอแงเสียงดังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

            “เงียบเดี๋ยวนี้!” นดลต้องใช้ไม้แข็งไม่งั้นอุ่นรักคงไม่มีทางหยุดร้องไห้แน่

            “ฮึก คุณลุงก็ใจร้าย”  เมื่อได้ยินเสียงตวาดของลุงอุ่นรักก็เงียบทันที แต่ก็ยังมีเสียงสะอื้นอยู่เป็นระยะๆ

            “คุณพ่อครับทำไมมันยังไม่มาอีก หรือว่ามันจะเบี้ยวเรา” นดลหันไปถามผู้เป็นพ่อ

            “มันต้องมาสิลูกมันอยู่ที่นี่”

            แววตาที่ทรงพลจ้องมองหาหลานชายนั้นเป็นแววตาของความอาฆาตแค้น วันนี้เขาไม่มีทางปล่อยให้เคลวินรอดไปได้อีกอย่างแน่นอน

            “ไอ้ชาติชั่วขนาดหลานมึงยังไม่เว้น!” ในที่สุดคนที่รอคอยก็มาถึง  เคลวินเดินเข้ามาพร้อมกับซองเอกสารที่ทรงพลต้องการอยู่ในมือ

            “ในที่สุดมึงก็มา” ทรงพลแสยะยิ้มออกมา

            “กูรักลูกไม่เหมือนมึงกล้าทำอย่างนี้แม้กระทั่งกับหลานตัวเอง”

            “กูไม่สนถ้ามันทำให้กูได้สิ่งที่ต้องการ ยกมือขึ้นเดี๋ยวนี้” เขาสั่งพร้อมกับควักปืนที่เหน็บไว้ด้านหลังออกมาเล็งไปที่เคลวิน “นดลตรวจดูว่ามันพกอาวุธมาด้วยรึเปล่า  แล้วเอาซองนั้นมาตรวจดูว่าเรียบร้อยแล้วรึยัง” เขาสั่งลูกชาย

            “ครับพ่อ” นดลตรวจตามร่างกายของเคลวินแต่ก็ไม่พบอะไร ก่อนจะหยิบซองเอกสารในมือมาแล้วตรวจดู  เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนดลก็พยักหน้าให้ผู้เป็นพ่อ

            “กูพาลูกกลับไปได้รึยัง” เคลวินไม่รอคำตอบกลับเดินไปหาลูกชายที่มีสีหน้าตื่นกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใบหน้าจิ้มลิ้มเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ผิวที่เคยขาวใสกลับแดงไหม้จากการโดนแดดเป็นเวลานาน เคลวินคลายเชือกที่มัดมือมัดเท้าออกให้ลูกชาย

            “กูจะให้มึงได้ล่ำลาลูกชายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไม่มีโอกาส วันนี้มึงไม่รอดแน่” ทรงพลเล็งปืนไปที่เคลวินพร้อมที่จะเหนี่ยวไกยิงทุกวินาที

            “มึงคิดเหรอว่ากูจะโง่ให้พวกมึงได้ทุกอย่างคืนไปง่ายๆ ถึงวันนี้กูจะตายไปก็ไม่เสียใจเพราะกูได้ทำเพื่อลูก  แต่คนอย่างพวกมึงมันไม่มีศักดิ์ศรี เอาเด็กมาบังหน้าผู้หญิงบางคนยังแมนกว่ามึงเลย  ไอ้ชาติหมามึงควรเอากระโปรงมาใส่แทน มึงดูสิหลานตัวแค่นี้มึงยังเอามาเป็นตัวประกันได้ ตากแดดจนตัวแดงไปหมดแถมยังเอาเชือกมัดจนผิวแดงช้ำ  ตกลงมึงรักลูกหลานหรือตัวเองมากว่ากันวะ” สีหน้าที่เคียดแค้น แววตาที่ดุกร้าวมองไปยังอดีตเพื่อนสนิทของผู้เป็นพ่อ

            “มึงไม่ตายดีแน่!”

            ปัง!

            เคลวินผลักตัวลูกชายให้พ้นไปจากวิถีกระสุน ทำให้ตัวเองต้องโดนลูกตะกั่วยิงเข้าไปที่หัวไหล่ด้านซ้าย  ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนที่พื้นทำหน้าเกยเกด้วยความเจ็บปวด  ถึงแม้ว่าจะมีหลานชายตัวน้อยยืนอยู่ข้างๆแต่ทรงพลก็ยังลั่นไกปืนอย่างกับคนไร้สติ

            “พ่อ! กล้ายิงไปได้ยังไงอุ่นรักอยู่กับมันนะพ่อ” นดลตะโกนลั่นเมื่อเห็นว่าพ่อของตัวเองลั่นไกปืน  ก่อนจะรีบวิ่งไปกอดเจ้าตัวเล็กที่นั่งร้องไห้เสียงดังอยู่ที่พื้น

            “มันปากดี มันต้องตายเหมือนพ่อกับแม่มัน” ทรงพลไม่สนใจคำทัดทานของลูกชายก่อนจะเดินเข้าไปเอาเท้าเหยียบที่ข้อมือเอาไว้  เคลวินต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดก่อนจะเงยขึ้นมามองแล้วยิ้มเยาะใส่

            “ถ้ากูเป็นอะไรไปพวกมึงไม่มีที่ซุกหัวนอนแน่ ก่อนจะมากูเขียนพินัยกรรมเอาไว้แล้วหากกูตายไปให้ยกบ้านและทรัพย์สมบัติที่มีให้สาธารณกุศล  ส่วนที่พวกมึงได้ไปก็ถือว่าเป็นโมฆะ”

            “โถ่โว้ย! มึงเก่งนักใช่ไหม”

            พลั๊วะ!

            ปึกๆๆ

            ทรงพลใช้เท้าเตะไปที่ใบหน้าของเคลวินจนนอนฟุบลงที่พื้นแล้วอัดเข้าที่ท้องอีกหลายครั้ง  ก่อนจะมองดูผลงานของตัวเองอย่างสะใจ

            “ถ้ามึงตายไม่ได้ กูก็จะให้มึงพิการไปตลอดชีวิต มึงคิดว่ามึงจะฉลาดกว่ากูงั้นเหรอวะไอ้กระจอก” ทรงพลยืนแสยะยิ้มอย่างผู้มีชัย

            เคลวินนอนอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดเมื่อเห็นทรงพลเล็งปืนมาที่หัวเข่าของตัวเองก็มีสีหน้าเป็นกังวล  วินาทีนี้เขาจะหาทางออกให้กับตัวเองอย่างไรได้...



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



----------------------------------------

ตอนหน้าก็ถึงบทสรุปของเรื่องนี้แล้วนะครับ....

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ค้างอย่างแรง  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้
จะว่าไงดีล่ะ เรามองว่า ผิดทั้งคู่อ่ะ
ทรงพล เองก็เลว  แต่วินเองก็ไม่ควรจะไปลงที่ภัทรป่ะ ควรจะไปจัดกาทรงพลสิ
ไม่ใช่ทำแบบนี้  สุดท้ายเป็นยังไง  ดลก็โต้กลับเหมือนกัน  เลวกันไปเลวกันมาแบบนี้ ก็ไม่จบไม่สิ้น

แอบลุ้นตอนจบว่า ภัทรกับวิน จะลงเอยกันมั้ย  เอาตามจริงมันเป็นไปไม่ได้เลย
เพราะวินเองก็ไม่เคยปล่อยวาง ส่วนทรงพลก็เลวร้ายเกินไป  ยิ่งถ้ามีใครสักคนในสามคนนี้เป็นอะไรไป  มันยิ่งยาก
คนในครอบครัว กับผัว มันเลือกยากนะ ถึงจะบอกว่าต้องชดใช้  แต่ความรู้สึกของภัทรล่ะ รับไหวหรอ
ส่วนตัวอยากให้จบแบบเรียลๆ (ย้ำว่า คหสต.) 
แต่ก็เอาตามที่  คนเขียนวางพล๊อตไว้เลยจร้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-03-2018 20:59:58 โดย yymomo »

ออฟไลน์ Nekosama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นดลไม่ได้เข้าใจถึงการโดนยึดบ้านพ่อแม่โดนฆ่าบริษัทโดนยึดและถูกสั่งเก็บเลยสินะ .... ยังมีน่ามาด่าคนอื่นเลวอีก ชั่วช้าหอยสังข์จริงๆ

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เห็นแก่ตัวจริงๆนะทรงพล เข้าคุกไปสำนึกผิดดีกว่านด

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เห็นแก่ตัวจริงๆนะทรงพล เข้าคุกไปสำนึกผิดดีกว่านด

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

 :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ padloms

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ทรงพลนี้เหมือนหยุดไม่ได้จะกลับตัวอะไรก็สาย รักตัวเองมากกว่าลูกหลานอีก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ถ้าทำให้ทรงพลตายไม่ได้ก็ให้มันติดคุกตลอดชีวิตไปเหอะ  :z6:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แค้นมาก ๆ เลย  แค้นหลานคนแต่งมาก มาทำให้อยากรู้ อยากเผือก แล้วก็จากไป  :katai1:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ทรงพลนี่เลวมาก เลวที่สุด นดลก็โง่เข้าข้างพ่อ เลวมากเช่นกัน สงสารน้องอุ่นที่ต้องมาเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้ตั้งแต่เล็ก

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ร้ายยยยมากทรงพล

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER

-25-

อวสาน



             “ภัทร!”

              ทรงพลหันไปมองที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อลูกชายคนเล็ก  แต่มันเป็นแค่กลลวงของเคลวินเท่านั้น  เขาใช้วินาทีนี้จับขาเก้าอี้ฟาดไปที่มือของทรงพล  จนปืนที่อยู่ในมือหลุดกระเด็นไปอีกทาง

            “พ่อ!” นดลอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อเสียท่าให้เคลวินจนนอนกองลงที่พื้น

            เคลวินนั่งคร่อมทรงพลเอาไว้แล้วซัดกำปั้นใส่ไม่ยั้งจนเลือดกลบปาก

            “วันนี้กูจะล้างแค้นให้พ่อกับแม่กู” เคลวินกำหมัดเอาไว้จนสั่นส่วนมืออีกข้างก็กระชากคอเสื้อทรงพลเอาไว้

            “มึงรู้ไหมว่ากูฆ่าพ่อแม่มึงทำไม” ทรงพลยิ้มเยาะแม้ใบหน้าจะยับเยินอยู่มากก็ตาม

            “มึงมันโลภไง ต้องการสมบัติของพ่อแม่กู คงไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากนี้ไอ้สัตว์”

            “นั่นก็ส่วนนึงแต่จริงๆแล้วกูจะบอกให้เอาบุญนะ วันนั้นกูกะจะฆ่าพ่อมึงคนเดียวแต่แม่มึงเสือกไปด้วยเลยต้องตายด้วยกัน  มึงคงไม่รู้สินะว่ากูกับแม่มึงเป็นชู้กัน ถ้าหากมันยังมีชีวิตอยู่ตอนนี้ก็คงจะเป็นเมียกูอีกคน  ฮ่าๆๆ” ทรงพลนอนหัวเราะอย่างสะใจ

            “ไม่จริงแม่กูไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่มึงโกหก!” เคลวินส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เชื่อ  แม่ของเขาไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่นอน  เขารัวหมัดใส่หน้าทรงพลไม่ยั้งจนรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจ่อที่ศีรษะจึงหยุดโดยอัตโนมัติ

            “หยุดทำพ่อกูไม่งั้นมึงตายแน่” เป็นนดลที่หยิบปืนมาแล้วจ่อที่ศีรษะของเคลวินเอาไว้  ทรงพลได้โอกาสก็ลุกขึ้นแล้วใช้หัวแม่มือเช็ดเลือดที่มุมปากออกอย่างเจ็บปวด

            “มึงเก่งนักใช่ไหมห๊ะ!” ทรงพลได้ทีก็ซัดหมัดคืนจนเคลวินสะบักสะบอมไม่น้อย

            เจ้าตัวเล็กที่ยืนมองอยู่นั้นเริ่มหวาดกลัวกับสิ่งที่เห็นก่อนจะมองผู้เป็นพ่ออย่างไม่วางตา  เสียงที่แม่เคยพร่ำบอกว่าเคลวินคือพ่อดังอยู่ในหูไม่หยุด  เด็กชายกลัวจะเสียพ่อไปอีกครั้งก็ตะโกนออกมาทันที

            “อย่าทำพ่อน้องอุ่นนะฮับ”

            เคลวินน้ำตาไหลทันทีที่ได้ยินลูกชายเรียกพ่อเป็นครั้งแรก รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าด้วยความดีใจ  แม้จะโดนเตะเข้าที่เท้าอยู่หลายต่อหลายครั้งเขาก็ไม่ละสายตาจากลูกชาย  ก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะรีบวิ่งมาห้ามลุงและตาไม่ให้ทำร้ายพ่อของตัวเอง

            “อย่าทำพ่อน้องอุ่น ลุงกับตาใจร้าย ออกไป”

อุ่นรักดึงที่ชายเสื้อของทรงพลเอาไว้เพื่อให้หยุดการกระทำ แต่เจ้าตัวกลับหงุดหงิดจนเผลอผลักหลานชายจนล้มลงกับพื้น

            “ฮือๆๆ คุงตาใจร้าย”

            “อุ่นรักลูกแม่!” นภัทรขึ้นมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดีจึงรีบวิ่งเข้ามาพยุงลูกชายตัวน้อยกอดเอาไว้

            “ภัทร!” นดลอุทานออกมาเมื่อเห็นน้องชายของตัวเอง

            “คุณพ่อหยุดซะทีเถอะ อย่าทำร้ายคนอื่นอีกเลย ฮือๆๆ” เขาจ้องมองไปยังเคลวินที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้น  ใบหน้าที่บวมช้ำ บวกกับเลือดที่แปดเปื้อนไปทั้งเนื้อทั้งตัวทำให้นภัทรรู้สึกใจคอไม่ดีเลย

            “พาลูกกลับไปเดี๋ยวนี้!” ทรงพลตะโกนบอกลูกชาย

            “คุณลุงปล่อยเคลวินเถอะ ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะแจ้งตำรวจนะครับ” พงษ์ยืนร้อนใจเป็นห่วงเพื่อนเมื่อเห็นสภาพที่ไม่เหลือเค้าโครงของเคลวินเลยแม้แต่น้อย

            “พวกมึงจะมาทำไมกันวะแผนกูกำลังจะเรียบร้อยอยู่แล้วเชียว  พวกมึงทำให้กูไม่มีทางเลือกเองนะ” ทรงพลแย่งปืนจากลูกชายมาแล้วเล็งไปที่เคลวิน “พวกมึงกลับไปให้หมดไม่งั้นกูยิงไอ้นี่แน่”

            “พ่ออย่า!” นภัทรตะโกนลั่นเขาฝากลูกไว้กับพงษ์แล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดเคลวินเอาไว้

            “ภัทรออกไปเดี๋ยวนี้” นดลบอกน้องชายพร้อมกับกับพยายามดึงตัวออก

            “ไม่! ผมไม่ไปถ้าพ่อจะฆ่าก็ฆ่าผมไปด้วย” นภัทรร้องไห้เสียงดังพร้อมกับกอดชายคนรักเอาไว้  เคลวินจ้องหน้าแล้วยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่รู้ว่านภัทรยังรักเขาอยู่  เปลือกตาที่ค่อยๆปรือลงอย่างช้าๆทำให้นภัทรตกใจก่อนจะเขย่าตัวให้อีกคนมีสติเอาไว้ “พี่วินอย่าเป็นอะไรไปนะครับ ผมรักพี่นะ ฮือๆๆ” มือหนาที่เปื้อนเลือดแดงฉานค่อยๆยกขึ้นมาจับที่แก้มของนภัทรเอาไว้

“พะ...พี่..รักภัทร” รอยยิ้มน้อยๆปรากฏบนใบหน้า ก่อนที่มือหนาจะร่วงลงกองอยู่ที่พื้น  พร้อมกับเปลือกตาที่ปิดลงสนิท

            “พี่วิน!!! ไม่นะ” นภัทรร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับกอดชายคนรักเอาไว้

            “ไอ้วิน!” พงษ์ที่ยืนกอดอุ่นรักเอาไว้ตะโกนเสียงดังพร้อมกับร้องไห้ออกมา  แต่เขาไม่สามารถเข้ามาได้เพราะทรงพลยังถือปืนคุมอยู่ไม่ห่าง

            เจ้าตัวเล็กเองก็ไม่ต่างจากผู้เป็นแม่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด

            “ไอ้ดลมึงอย่าทำผิดอีกเลย เพื่อนคนเดิมของกูหายไปไหนแล้ววะ มึงก็เห็นว่าทั้งสองคนรักกันมากแค่ไหนหรือมึงไม่รักน้องมึงแล้ววะ” กันต์มองหน้าเพื่อนด้วยความผิดหวัง

            “กู...ขอโทษว่ะ” นดลได้ยินก็ทำหน้าหงอยขึ้นมาทันที นี่เรื่องมันเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ได้ยังไง  เป็นเพราะว่าเขารักน้อง รักพ่อ รักทุกคนในครอบครัว เลยลืมความเป็นตัวเอง ลืมความจริงที่มันเกิดขึ้นว่าทุกอย่างมันเริ่มต้นมาจากพ่อของเขา หรือควรจะหยุดอยู่แค่ตรงนี้กัน นดลรู้สึกลังเลในใจ

            “ไม่ต้องไปฟังมันลูก ตอนนี้เรากำลังจะทำสำเร็จแล้วไม่มีใครมาขวางเราได้ เอาตัวนภัทรออกไป” ทรงพลเอ่ยอย่างกับคนเสียสติ

            “พ่อครับผมว่าเราหยุดกันซะทีเถอะนะ ถ้าพ่อไม่ไปฆ่าพ่อกับแม่ไอ้วินเรื่องทุกอย่างมันก็ไม่บานปลายมาถึงตอนนี้” เขาก้มหน้าร้องไห้เอ่ยกับผู้เป็นพ่อ

            “มึงเชื่อพวกมันมากกว่ากูเหรอวะไอ้ลูกเลว” ทรงพลตะโกนด่าลูกชาย  ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนตัวคนเดียวแล้ว  ที่นี่ไม่มีใครอยู่ข้างเขาแม้แต่คนเดียวแม้กระทั่งลูกชายที่เคยร่วมหัวจมท้ายด้วยกันมาตลอด  เป็นเพราะไอ้วินคนเดียวตอนนี้เขาไม่ห่วงอะไรแล้วคิดอย่างเดียวคือจัดการมันให้ตาย ทุกอย่างจะได้จบเสียที

            “พวกมึงบังคับกูเองนะ” ทรงพลเล็งปืนไปที่เคลวินแม้จะเห็นอยู่ว่าลูกชายคนเล็กกำลังกอดเอาไว้เขาก็ยังจะทำมัน  ตอนนี้ไม่มีอะไรสามารถหยุดทรงพลได้อีกแล้ว “พ่อขอโทษนะภัทรลูกเป็นคนเลือกอย่างนี้เอง ตายด้วยกันซะให้หมด”

            “ไม่นะพ่อ!” นดลรีบวิ่งเข้าไปแย่งปืนผู้เป็นพ่อเอาไว้

            “ปล่อยนะไอ้ลูกเลวมึงกล้าลองดีกับกูเหรอ!”

            ทั้งสองฉุดกระชากยื้อแย่งปืนกันอยู่นานจนมีเสียงปืนดังขึ้น

            ปัง!

            “พ่อ! พี่ดล!” นภัทรหันมามองแล้วตะโกนเสียงดัง

            ร่างของนดลค่อยๆร่วงลงที่พื้นพร้อมกับมีเลือดออกจากการโดนยิงที่หน้าท้อง  ทรงพลเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นคนยิงลูกชาย  ก่อนจะทิ้งปืนแล้วมาพยุงเอาไว้พร้อมกับร้องไห้เสียงดังอย่างไร้สติ

            “ดลพ่อขอโทษ ฮือๆ พ่อไม่ได้ตั้งใจยิงลูก” เหมือนสติของทรงพลมันหลุดลอยไป  เขากอดลูกชายเอาไว้อย่างบ้าคลั่ง

            “พี่ดลอย่าเป็นอะไรนะครับ ฮือๆๆ” นภัทรรีบผละมาหาพี่ชายแต่โดนผู้เป็นพ่อผลักตัวออกไป

            “มึงอย่ามายุ่งกับลูกชายกูออกไป!” ทรงพลกอดลูกชายเอาไว้ราวกับจะไม่ให้ใครยื้อแย่งไปได้

            ขณะเดียวกันกันต์ก็รีบไปหยิบปืนมาไว้เพื่อกันความผิดพลาด  ส่วนพงษ์ก็โทรเรียกรถพยาบาลทันที

            บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ  ทรงพลกอดลูกชายเอาไว้อยู่อย่างนั้นไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้  ส่วนนภัทรก็ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ข้างๆราวจะขาดใจ





            โรงพยาบาล

            รถเข็นนอนทั้งสองคันถูกเข็นเข้าไปในห้องไอซียู  นดลและเคลวินถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากนั้น  ส่วนทรงพลถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจในสภาพที่คลุ้มคลั่ง

            นภัทรนั่งกอดลูกชายร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่หน้าห้องเพื่อรอดูอาการของคนที่เขารักทั้งสอง  โดยมีพงษ์และกันต์นั่งให้กำลังใจอยู่ข้างๆ  เขาภาวนาขอให้ทุกคนปลอดภัย

            “อย่าคิดอะไรมากนะน้องภัทรพี่เชื่อว่าทุกคนต้องปลอดภัย” พงษ์เอามือวางบนบ่าแล้วบีบเบาๆให้กำลังใจ

            “ขอบคุณครับพี่หมอ ผมก็หวังอย่างนั้น” เขายิ้มให้พร้อมกับน้ำตา

            “คุงแม่ฮับคุงพ่อกับคุงลุงจะตายมั้ย” เจ้าตัวน้อยเงยหน้าขึ้นมาถาม

            “ไม่ครับคุณพ่อกับคุณลุงต้องปลอดภัยน้องอุ่นไม่ต้องห่วงนะครับ” เขาบอกกับลูกชาย

            “คุงพ่อมาช่วยน้องอุ่น น้องอุ่นรักคุงพ่อ น้องอุ่นไม่กลัวคุงพ่อแล้ว” เด็กน้อยเอ่ยด้วยความไร้เดียงสา  นภัทรรู้สึกดีใจที่ลูกชายเข้าใจและยอมรับเคลวินได้  อย่างน้อยมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่ายินดี

            หลังจากนั้นไม่นานคุณหมอก็เดินออกมา นภัทรรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปถามด้วยความกลัว เขากลัวว่าต้องเสียใครสักคนไป

            “คุณหมอครับเป็นยังไงบ้าง” เมื่อเห็นสีหน้าของนายแพทย์นภัทรก็รู้สึกใจคอไม่ดี

            “หมอมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายจะบอกครับ”

            เมื่อได้ยินอย่างนั้นนภัทรก็หน้าซีดขึ้นมาทันที  เขาแล้วรู้ว่าต้องมีใครสักคนที่รอดและอีกคนต้องเสียชีวิตอย่างแน่นอน

            “น้องภัทรทำใจดีๆเข้าไว้” กันต์รีบมาพยุงนภัทรเอาไว้  ในใจก็อยากให้คนที่รอดชีวิตนั้นคือเพื่อนของตัวเอง  ถึงแม้มันจะเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวแต่เขาก็อยากให้คนที่รอดชีวิตคือนดล

            “หมอขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับคุณนดลโดนยิงถูกจุดสัญทำให้เสียเลือดมากหมอพยายามที่สุดแล้วครับ” นภัทรนั่งทรุดลงกับพื้นกอดลูดชายด้วยความเสียใจ

            “พี่ดล ฮือๆๆ ไม่จริงใช่ไหม”

            “คุงแม่อย่าร้องนะฮับ” อุ่นรักเอื้อมมือน้อยๆไปเช็ดน้ำตาที่แก้มให้ผู้เป็นแม่ เขากอดลูกชายเอาไว้แน่น

            ส่วนกันต์เองก็นั่งกุมขมับด้วยความเจ็บปวด  ไม่มีเสียงสะอื้นดังออกมาจาปากมีเพียงน้ำตาที่มันไหลลงมาเป็นสาย  เพื่อนที่เขารักได้จากโลกใบนี้ไปแล้ว

            “แล้วเพื่อนผมล่ะครับคุณหมอ” พงษ์เอ่ยถามอีกครั้ง

            “คนไข้อีกคนปลอดภัยแล้วครับ” พงษ์ได้ยินอย่างนั้นก็โล่งใจ

            นภัทรยังทำใจเรื่องพี่ชายของตัวเองไม่ได้  แต่ก็ยังใจชื้นขึ้นมาบ้างที่อีกคนปลอดภัยอย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องสูญเสียคนที่รักไปหมดทุกคน

            “คุณพ่อปลอดภัยแล้วลูก” เขาพร่ำบอกกับลูกชาย

            “ต่อไปนี้น้องอุ่นจะมีพ่อเหมือนคนอื่นแล้วใช่ไหมครับ” เจ้าตัวน้อยมองผู้เป็นแม่ตาแป๋ว

            “ใช่แล้วครับ” เขานั่งกอดลูกชายอยู่ที่พื้นอยู่อย่างนั้นโดยมีกันต์และพงษ์ปลอบใจอยู่ข้างๆ




            หลายวันต่อมา

            หลังจากงานศพของนดลเสร็จเรียบร้อยแล้วนภัทรกับแม่ก็เดินทางมาเยี่ยมทรงพลที่โรงพยาบาล  ตั้งแต่เกิดเหตุวันนั้นทรงพลเอาแค่คลุ้มคลั่งราวกับคนเสียสติพูดจาไม่รู้เรื่อง  จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยทางจิตแห่งหนึ่ง

            “โธ่คุณ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ฮือๆ” แก้วกานดาปล่อยโฮเมื่อเดินเข้ามาเห็นสภาพของสามี  หลังจากเสียลูกชายไปแล้วเธอก็ต้องมาเห็นสภาพอย่างนี้อีกมันเป็นอะไรที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต

            “ทำไมพ่อถึงเป็นอย่างนี้ล่ะครับ” นภัทรเอ่ยถามนายแพทย์เจ้าของไข้เมื่อเห็นสภาพพ่อของตัวเองนั่งกอเข่าอยู่ที่มุมห้อง  ดวงตาเหม่อลอยไม่สนใจสิ่งรอบข้างและไม่รู้แม้กระทั่งว่าลูกกับเมียกำลังอยู่ตรงหน้านี้แล้ว

            “ตั้งแต่ถูกส่งตัวมาที่นี่คนไข้เอาแต่คลุ้มคลั่งจนทางเราต้องมัดเอาไว้กับเตียง  ตอนนี้ก็ถือว่าดีขึ้นมากเลยปล่อยให้คนไข้ได้อยู่ในห้องโดยไม่ต้องมัดเอาไว้เหมือนตอนแรก แต่ยังไงซะคนไข้ก็ต้องรักษาตัวอยู่ที่นี่อีกนานครับ” คุณหมออธิบาย

            “แล้วมีโอกาสหายเป็นปกติไหมครับ”

            “คงยากครับเพราะคนไข้ได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจมากพอสมควร เคสอย่างนี้แทบไม่มีโอกาสหายเป็นปกติเลยครับ ที่พูดไม่ได้ตัดกำลังใจนะครับเพียงแต่อยากให้พวกคุณยอมรับและให้กำลังใจผู้ป่วยมากๆก็เท่านั้น”

            “ไม่เป็นไรครับคุณหมอพวกผมโอเคถึงแม้จะมีโอกาสหายไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซนต์ผมกับแม่ก็จะรอต่อไป”

            “ถ้างั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ”

            “ขอบคุณครับคุณหมอ” นภัทรยกมือไหว้หลังจากนั้นคุณหมอก็เดินออกไป

            “คุงตาเป็นอะไรฮับคุงแม่” อุ่นรักมองผู้เป็นตาด้วยความสงสัย

            “คุณตาไม่เป็นไรครับน้องอุ่นสวัสดีคุณตารึยังครับ”

            “สวัสดีฮับคุงตา” เจ้าตัวน้อยยกมือไหว้ผู้เป็นตาทันทีที่ถูกแม่ถาม

            “คุณพ่อต้องหายนะครับ คุณพ่อไม่ต้องคิดมากเรื่องพี่ดลนะ พี่ดลไม่ได้โกรธคุณพ่อเลยนะครับ” เขาเอ่ยกับพ่อโดยที่เจ้าตัวกำลังนั่งนิ่งเหมือนไม่ได้รับฟังอะไรเลย

            นภัทรกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้จึงอุ้มลูกชายออกไปรอข้างนอก  เขาหดหู่ใจเมื่อเห็นภาพนี้

            “คุณต้องสู้นะคะ ฮึก” แก้วกานดาต้องหยุดพูดเพื่อร้องไห้ก่อนจะตั้งสติเอ่ยกับสามีอีกครั้ง “ตอนนี้งานศพตาดลเสร็จเรียบร้อยแล้วนะ ลูกไปสบายแล้วคุณไม่ต้องห่วง” ขณะพี่เธอกำลังพูดอยู่นั้นทรงพลก็เอ่ยลอยๆออกมาจนเธอรู้สึกตกใจ

            “นดลลูกพ่อ” ทรงพลมองไปยังผนังห้องแล้วยิ้มออกมา

            “เอาไว้ฉันจะมาเยี่ยมคุณใหม่นะคะ” เธอเอ่ยกับสามีพร้อมกับจับมือไว้  ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง

            ขณะทั้งสามคนเดินออกมาหน้าโรงพยาบาลเพื่อเตรียมตัวจะกลับบ้าน  ก็ได้ยินเสียงดังโวยวายจากในโรงพยาบาล  ก่อนจะได้ยินเสียงคนตะโกนดังมา “ช่วยด้วยคนถูกรถชน!

            “แม่ครับฝากอุ่นรักด้วยนะผมจะไปดูเผื่อจะช่วยอะไรเค้าได้บ้าง”

            “ไปด้วยกันนี่ล่ะลูก..ป่ะ”

            หลังจากนั้นทั้งสามคนก็เดินไปดูที่เกิดเหตุด้วยกัน  เมื่อไปถึงก็มีฝูงชนกำลังยืนมุงดูโดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกำลังเข้าไปช่วยเหลือ

            ภาพที่เห็นนั้นทำให้นภัทรแทบจะเป็นลม

            “พ่อ!”

            .........



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            ต่อด้านล่างครับ

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
ต่อ...........
           

             สองปีต่อมา

            “คุณแม่เหนื่อยไหมครับ”

            “แม่ไม่เหนื่อยเลยครับ น้องอุ่นล่ะเหนื่อยไหมลูก”

            “น้องอุ่นก็ไม่เหนื่อยครับ” เด็กชายมีโครงหน้าดูหล่อเหลาไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อ  นภัทรมองหน้าลูกชายทีไรจำต้องคิดถึงใบหน้าผู้ชายคนนั้นทุกครั้ง

            เด็กชายตัวน้อยในวันนั้นตอนนี้เติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่ฉลาดและขยันตัวเป็นเกียว  นภัทรเช่าห้องเปิดร้านขายขนมเล็กๆแถบชานเมือง  เลี้ยงดูลูกชายเพียงลำพังโดยตัดการติดต่อกับทุกคนเพื่อลืมเรื่องราวที่มันเจ็บปวดทั้งหลายที่ผ่านมา ส่วนแก้วกานดาทนกับความทุกข์ใจไม่ไหวหลังจากต้องสูญเสียสามีและลูกชายคนโต  เธอจึงตัดสินใจบวชชีตลอดชีวิตอุทิศกายให้กับศาสนาเพื่อให้ธรรมะบรรเทาความเจ็บปวดภายในใจ

            หลังจากช่วยกันตัดใบตองเตรียมสำหรับการทำขนมพรุ่งนี้เสร็จแล้ว

            “คุณแม่ครับน้องอุ่นขอไปเล่นกับเพื่อนได้ไหมครับ”

            “ได้สิลูกระวังรถราด้วยนะเดี๋ยวจะโดนเฉี่ยวชนเอา แม่ทำกับข้าวเสร็จแล้วเดี๋ยวจะไปเรียกละกัน” อุ่นรักได้รับอนุญาตก็ยิ้มแป้นแล้วรีบใส่รองเท้าออกไปเล่นกับเพื่อนที่อยู่ถัดไปอีกซอย

            นภัทรเก็บของหน้าร้านแล้วก็เข้าไปในครัว หลังจากทำกับข้าวไปได้สักพักเขาก็ได้ยินเสียงเปิดประตูจึงเดินออกไปดูและคิดว่าน่าจะเป็นลูกชาย

            “น้องอุ่นกลับมาเร็วจังครับ” เขาเอ่ยแม้จะยังไม่เห็นหน้าลูกชายก็ตาม

            “ภัทร!”

            “พี่วิน!”

            เป็นเคลวินเองที่กำลังยืนยิ้มให้ ใบหน้าของชายหนุ่มดูโทรมไปเยอะกว่าเมื่อสองปีก่อน  หนวดเครายาวเฟื้อยราวกับไม่เคยตัดโกนมาก่อน  แต่นภัทรก็จำหน้าผู้ชายที่เขารักได้เป็นอย่างดี  แม้จะดีใจที่ได้เห็นหน้าอีกครั้งแต่นภัทรก็ยังคงทำเป็นเหมือนไม่รู้สึกอะไร

            “คุณมาที่นี่ทำไม” เสียงสั่นเครือเอ่ยออกไป ดวงตาแดงก่ำมีน้ำใสๆคลออยู่หากแค่กระพริบตาเพียงครั้งเดียวก็อาจจะไหลลงมาเป็นสาย

            “พี่มาตามหาหัวใจที่หายไป” ร้อยยิ้มปรากฏบนใบหน้าคม

นภัทรหัวใจอ่อนยวบเมื่อเห็นน้ำตาของลูกผู้ชายไหลลงมาเป็นสาย

            “ผมกับลูกอยู่ที่นี่มีความสุขดีพี่กลับไปซะเถอะ ที่ผ่านมามันมีแต่เรื่องเจ็บปวดจนผมไม่อยากกลับไปเจออะไรเก่าๆอีกแล้ว” นภัทรบอกเหตุผลกับเคลวินไป

            “พี่ขอโทษกับสิ่งที่ผ่านมา ให้โอกาสพี่อีกสักครั้งนะครับเรามาเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน  พี่สัญญาจะไม่ทำให้ภัทรกับลูกเสียใจ พี่คิดถึงภัทรกับลูกทุกวัน ไม่มีวันไหนที่พี่จะนอนหลับตาลงได้เลย” เคลวินนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าพร้อมกับกอดร่างบางเอาไว้แน่น  เสียงสะอื้นของชายหนุ่มทำให้นภัทรถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่  เขาเองก็ยังรักและคิดถึงคนๆนี้มาโดยตลอด

            “พี่วินลุกขึ้นเถอะ” เขาค่อยๆแกะมือชายหนุ่มออก

            “พี่รู้ว่าสิ่งที่เคยทำมามันร้ายแรงมากจนทำให้น้องภัทรต้องเสียทั้งพ่อและพี่ชายไป ถ้าพี่ไม่คิดแก้แค้นเรื่องทุกอย่างมันก็คงไม่เกิดขึ้น  ถึงแม้ว่าภัทรจะไม่อภัยให้แต่พี่ก็จะรักภัทรตลอดไป ดูแลตัวเองดีๆนะ” เคลวินก้มหน้าเดินออกไปอย่างช้าๆ

            นภัทรมองตามหลังชายหนุ่มก่อนจะวิ่งไปกอดจากด้านหลังแล้วร้องไห้เสียงดัง

            “พี่วินจะทิ้งผมกับลูกไปได้ลงคอเหรอครับ ฮึก” เสียงสะอื้นปนกับคำพูดเปรยออกมาจนคนที่ได้ยินถึงกับปล่อยโฮไม่ต่างกัน เคลวินกุมมือน้อยๆนั่นเอาไว้อย่างแนบแน่น

            “พี่ไม่มีวันทิ้งภัทรและลูกไปไหนแน่นอนครับ” เคลวินพร่ำบอกกับร่างบางใกล้ๆใบหู  ขณะหันกลับมาโอบกอดเอาไว้

            “แม่กอดกับใครครับเนี่ย!” อุ่นรักกลับมาเจอก็วิ่งเข้ามาแยกทั้งสองคนออกจากกันทันที  นภัทรมองหน้าเคลวินแล้วทั้งสองก็ยิ้มให้กัน

            “ลูกจำไม่ได้เหรอครับว่าคนนี้เป็นใคร” อุ่นรักมองหน้าผู้เป็นพ่อด้วยสีหน้างงๆ สองปีก่อนที่เคยเห็นนั้นเคลวินไม่ได้โทรมและมีหนวดผมยาวเฟื้อยอย่างนี้

            “น้องอุ่นจำไม่ได้หรอกครับหน้าตาอย่างกับโจรขนาดนี้”

            เคลวินถึงกับขำเมื่อได้ยินลูกชายว่าตัวเอง

            “น้องอุ่นจำพ่อไม่ได้เหรอครับ นี่พ่อเอง” เขานั่งลงพูดกับลูกชาย

            “ไม่จริงคุณพ่อน้องอุ่นหล่อกว่านี้ตั้งเยอะ”

            “นี่คือพ่อวินของน้องอุ่นจริงๆครับ” นภัทรบอกกับลูกชาย

            “แม่ไม่ได้โกหกน้องอุ่นใช่ไหมครับ” เด็กชายมองหน้าผู้เป็นแม่

            “ไม่ได้โกหกครับเข้าไปหาพ่อเค้าสิ”

            อุ่นรักค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆมองอย่างพินิจพิจารณาแล้วสวมกอดผู้เป็นพ่อ

            “น้องอุ่นมีพ่อจริงๆแล้ว คุณพ่อห้ามหายไปไหนอีกนะครับ”

            “พ่อจะอยู่กับน้องอุ่นตลอดไปเลยครับ”

            นภัทรยืนมองสามีและลูกชายกอดกันด้วยความปลื้มใจ  สีหน้าของอุ่นรักดูมีความสุขขึ้นมากเมื่อได้รู้ว่าตัวเองจะมีพ่อเหมือนเด็กคนอื่นๆ  บางทีเขาเองก็ผิดที่เลือกพาลูกชายหนีมาอยู่ที่นี่ทำให้อุ่นรักขาดพ่อไปอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้เขาจะไม่มีวันให้อุ่นรักต้องโดนเด็กคนอื่นๆล้อเลียนเรื่องพ่ออีกเด็ดขาด

            “คุณแม่ครับน้องอุ่นขอยืมตัวคุณพ่อไปอวดเพื่อนๆหน่อยนะครับ” อุ่นรักเอ่ยด้วยความตื่นเต้น

            “ได้สิลูกแต่ต้องพาคุณพ่อไปร้านตัดผมก่อนนะ ไม่งั้นได้อายเพื่อนแน่” เขาเอ่ยกับลูกชาย

            “ได้เลยครับ” อุ่นรักเอ่ยกับแม่แล้วหันหน้าไปหาพ่ออีกครั้ง “คุณพ่อไปกันเถอะครับ” เคลวินยิ้มเมื่อเห็นท่าทีร่าเริงของลูกชายแล้วอุ้มออกไปทันที





            เกาะบลูซี

            เคลวินพาลูกและเมียกลับมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง  คนที่ตั้งหน้าตั้งตารอก็คงจะไม่ใช่ใครนอกจากป้าภาและเอก  ที่เมื่อรู้ว่านภัทรจะกลับมาได้เตรียมทำอาหารและจัดงานเลี้ยงไว้ต้อนรับอย่างอบอุ่น

            “ป้าภาสวัสดีครับ” นภัทรยกมือไหว้เมื่อเห็นผู้ใหญ่ที่คุ้นเคยและดีกับเขามาโดยตลอด

            “ภัทร! ป้าคิดถึงเอ็งเหลือเกิน แล้วนี่ลูกชายเอ็งใช่ไหม” ทั้งสองกอดกันแน่นก่อนที่ป้าภาจะมองเห็นเด็กชายหน้าตาจิ้มลิ้มยืนอยู่ข้างๆ

            “ใช่ครับป้า” เขาเอ่ยกับป้าภาแล้วหันมาเอ่ยกับลูกชาย “น้องอุ่นครับไหว้ยายภากับลุงเอกสิลูก” เขาบอกกับลูกชาย  เจ้าตัวเล็กก็ทำตามอย่างว่าง่าย

            “สวัสดีครับยายภา ลุงเอก ผมชื่ออุ่นรักครับเป็นลูกแม่ภัทรกับพ่อวิน” เจ้าตัวน้อยเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วราวกับคุ้นเคยกับคนทั้งสองมาก่อน  ทั้งเอกและป้าภาเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มให้อย่างเอ็นดู  ทั้งสองต่างก็คิดว่าเด็กคนนี้นิสัยน่ารักไม่ต่างจากนภัทรเลยแม้แต่น้อย

            “ป้าเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว”

            “เตรียมอะไรป้า” นภัทรถามด้วยความสงสัย

            “พี่โทรมาสั่งป้าภาไว้เองล่ะ วันนี้เราจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับภัทรกับลูก  รู้ไหมว่าพี่ชวนใครมาด้วย”

            “ใครอ่ะครับ” นภัทรเอ่ยถาม

            “ไอ้พงษ์กับคุณกันต์ไง ทั้งสองคนคิดถึงภัทรมากเลยรู้ไหม ตั้งแต่ภัทรกับลูกหนีไปทั้งสองก็ช่วยกันตามหามาโดยตลอด” เขาบอก

            “ผมรู้สึกผิดจังที่ทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนอย่างนี้” นภัทรรู้สึกผิดเมื่อได้ยินสิ่งที่เคลวินเอ่ย

            “ไม่ต้องคิดมากนะครับ  อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยมันผ่านไป อย่าลืมสิว่าตอนนี้เราเริ่มต้นใหม่กันแล้วนะ”

            “ครับพี่วิน” เขายิ้มให้

            “เข้าไปข้างในกันเถอะ”

            ก้าวแรกที่เข้าไปในบ้านนภัทรรู้สึกเหมือนเพิ่งห่างจากที่นี่ไปแค่ไม่กี่วัน  ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง  จะมีก็แต่เจ้าของบ้านหลังนี้ที่เปลี่ยนไปจากที่ร้ายสุดๆกลับกลายมาเป็นคนที่รักเขามาก

            งานเลี้ยงตอนเย็นถูกจัดที่ลานข้างบ้าน  ไฟสลับสีถูกประดับตกแต่งตามต้นไม้และพุ่มไม้บริเวณนั้นอย่างสวยงาม  บวกกับบรรยากาศที่มองเห็นทิวทัศน์ของท้องทะเลกว้างจนสุดลูกหูลูกตา  ท่ามกลางดวงดาวนับพันที่ส่องแสงระยิบระยับจนสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้าในยามค่ำตืน

            แกร๊ง!

            “เอ้าชน!” ตอนนี้ทั้งสี่คนมารวมตัวกันอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายกันมานาน

            กันต์และพงษ์ใช้ชีวิตคู่ที่กรุงเทพอย่างมีความสุข  โดยที่ครอบครัวทั้งสองต่างก็เห็นชอบด้วย

            “พี่ดีใจพี่น้องภัทรกลับมาอยู่ที่นี่กับไอ้เคลวินมันอีกครั้ง  รู้ไหมช่วงที่น้องภัทรกับลูกหนีไปพี่ว่าสภาพมันไม่ต่างจากศพเดินได้เลยล่ะ ประมาณว่าขาดเธอขาดใจอะไรประมาณนั้น” พงษ์เอ่ยกับนภัทร

            “ขนาดนั้นเลยเหรอพี่หมอ” นภัทรมองหน้าคนรักที่นั่งอยู่ถัดจากลูกชายไป  แต่คนที่โดนพาดพิงกลับหยอกล้อเล่นกับลูกชายเพื่อแก้อาการเขิน

            “ถามเจ้าตัวมันสิ มันน่าจะอธิบายได้ดีกว่าพี่อีกนะ” พงษ์โบ้ยไปให้เพื่อนตอบเอง

            “ก็คนมันคิดถึงเมียกับลูกนี่นา นอนกอดหมอนข้างมันไม่อุ่นเท่ากอดลูกกอดเมียนะเว้ย” ถึงแม้จะเขินๆหน่อยแต่เคลวินก็ยอมเอ่ยออกมา

            “ใครจะเหมือนมึงไอ้พงษ์มีสามีนอนกอดอยู่ทุกวัน จะไปเหงาอะไรล่ะ” เคลวินแซวเพื่อนกลับ

            “ชอบนอนอ้อนด้วยนะครับคุณเคลวิน ผมนี่ต้องเอาใจสุดๆ” กันต์เสริมเคลวินอีกเสียง

            “ใครให้เอาเรื่องบนเตียงมาพูดอย่างนี้ห๊ะ” พงษ์ตีที่ต้นแขนของแฟนหนุ่มเต็มแรง

            “โอ๊ย! เจ็บนะครับที่รัก”

            “อย่ามาตอแหลกลับบ้านเจอดีแน่” พงษ์ชี้หน้าคาดโทษ

            “คุณแม่ครับน้องอุ่นอยากไปดูดาวตรงนั้น” อุ่นรักชี้ไปที่ลานโล่งไม่มีต้นไม้บดบังทำให้เห็นดวงดาวอย่างชัดเจน

            “เดี๋ยวแม่พาไปนะครับ” เขาเอ่ยกับลูกชายแล้วหันไปบอกกับทุกคน “ผมพาน้องอุ่นไปดูดาวตรงนั้นก่อนนะครับ”

            “ตามสบายเลยน้องภัทร เจ้าตัวเล็กนี่ก็ชอบอะไรโรแมนติกจังเลยนะ” พงษ์จับที่แก้มหลานชายเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยว

            “เมียกับลูกจะไปแล้วข้าพเจ้าจะช้าอยู่ใย เชิญจู๋จี๋กันตามสบายเลยนะ” เคลวินเอ่ยกับแขกทั้งสองคน

            สามคนพ่อแม่ลูกจูงมือกันไปดูดาวที่ส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องฟ้า  อุ่นรักดูท่าทางตื่นเต้นมากกว่าใครๆจ้องแทบตาไม่กระพริบ

            “น้องอุ่นว่าดาวกับคุณแม่อะไรสวยกว่ากันครับ” เคลวินถามลูกชายขณะเจ้าตัวเล็กกำลังจ้องมองอย่างตั้งใจ

            เด็กชายตัวน้อยมองหน้าผู้เป็นแม่กับดวงดาวบนท้องฟ้าสลับกันไปมา

            “สวยเท่ากันครับ คุณแม่สวยเหมือนดาวเลย”

            “ปากหวานจริงเชียวลูกชายคนนี้” นภัทรยิ้มพร้อมกับยีผมลูกชายเล่นอย่างเอ็นดู

            “แล้วคุณพ่อว่าคุณแม่กับดาวอะรไสวยกว่ากัน” ลูกชายย้อนถามผู้เป็นพ่อ

            เคลวินได้ยินคำถามก็จ้องหน้านภัทรทันที  เขาส่งสายตาหวานเยิ้มเป็นประกายไปให้จนอีกคนถึงกับเขินอายทำหน้าไม่ถูก

            “พ่อว่าดาวนับร้อยนับพันรวมกันยังไม่สวยเท่าคุณแม่คนเดียวเลยครับ” เขาเอ่ยกับลูกชายแต่สายตายังคงจ้องมองไปยังร่างบาง ก่อนจะโน้มใบหน้าไปจุมพิตที่พวงแก้มขาวอย่างบรรจง

            “น้องอุ่นอยากโดนหอมแก้มบ้างจังเลย” เด็กชายส่งเสียงล้อเลียนเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อหอมแก้มแม่

            “เป็นเด็กขี้อิจฉาตั้งแต่เมื่อไหร่กันฮึเรา” นภัทรว่าลูกชาย

            ทั้งเคลวินและนภัทรนั่งลงขนาบข้างลูกชายแล้วยิ้มให้กัน  หลังจากนั้นก็บรรจงหอมแก้มเจ้าตัวเล็กพร้อมกัน  อุ่นรักเบิกตากว้างแล้วยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่ตอนนี้มีทั้งพ่อและแม่อยู่เคียงข้างตลอดไป....





รักแท้คือการให้อภัยซึ่งกันและกัน

THE END





-------------------------------

เย้จบแล้ว หากมีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะครับ ฝากติดตามเรื่องต่อๆไปด้วยนะครับ  ขอบคุณที่ติดตามมาโดยตลอดครับผม

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
.

.

 :pig4:  :pig4:  :pig4:  :pig4:  :pig4:

..
.

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
กว่าจะได้เจอได้รักกันอีกครั้ง..หมอนเปียก ทิชชู่หมดม้วน :m15:

ขอพิเศษใส่ไข่สักตอนสองตอนได้มั้ยคะ..อยากให้น้องอุ่นมีน้อง :hao3:

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด