[MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [MPREG]<กรงรักร้ายของนายซาตาน> [Ch.26-ตอนพิเศษ]-(22-03-2018)  (อ่าน 63438 ครั้ง)

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ภัทรยังรักวินอยู่ แต่วินคงไม่รู้และคงมาแก้แค้นอย่างเดียวแน่ๆ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อีวิน ผ่านมาหลายปีละ รู้อะไรเพิ่มเติมจากเดิมหรือยัง ไม่ใช่มาลงที่ภัทรอีกนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แหมๆๆ พี่วินเปิดตัวทีเล่นใหญ่นะ555

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
จะเจอกันเเล้วววว

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เอาดลกับอิพ่อไปปล่อยที่ดาวร้างแม่ม รกโลก  :z6:

เป็นประธานบริษัทแต่ไม่ได้เป็นผู้ถือที่ถือหุ้นมากสุด? แปลกๆนะคะ

เฮียวินอิสคัมแบคคคคคคค  :hao3:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พี่วินจะกลับมาแล้ว น้องอุ่นจะได้รู้จักพ่อแล้ว

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER

-22-

ทวงคืน



          หนุ่มหล่อมาดเข้มสวมชุดสูทตามฉบับสากลท่าทางดูภูมิฐาน  สาวเท้าก้าวเข้ามาในบริษัทพร้อมกับผู้ช่วยทั้งสองด้วยความมั่นอกมั่นใจ  พนักงานสาวเกือบทั้งบริษัทที่เห็นต่างก็กรี๊ดกร๊าดมองตาเป็นมัน  ทุกคนพอจะมองออกว่าเขาคนนี้คือท่านประธานคนใหม่ของบริษัท  เพราะข่าวนี้เป็นที่ซุบซิบของพนักงานทุกคนก่อนหน้าเพียงไม่กี่วัน

            “สวัสดีค่ะท่านประธาน ดิฉันจัดห้องทำงานไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ” เลขาคนเก่าของทรงพลที่ตอนนี้เปลี่ยนฝั่งมาสวามิภักดิ์ต่อประธานบริษัทคนใหม่เอ่ยอย่างเอาใจ

            “ขอบใจนะ” เขาเอ่ยแค่นั้นแล้วเปิดประตูเข้าไป

            เคลวินกวาดสายตามองรอบๆห้องด้วยความคิดถึง  ในที่สุดเขาก็ได้เข้ามาที่นี่อีกครั้ง  หลังจากใช้เวลาอยู่หลายปีซื้อใจผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ  แล้วยื่นข้อเสนอที่คุ้มค่าทยอยซื้อหุ้นมาจนมีสัดส่วนมากที่สุดในบริษัท  ทำให้สามารถโค่นทรงพลที่นั่งแท่นประธานอยู่หลายปีลงได้สำเร็จ  ตอนนี้บริษัทที่พ่อเขาเคยสร้างมาได้อยู่ในกำมือเขาเรียบร้อยแล้ว  จะเหลือก็เพียงบ้านหลังนั้นที่อีกไม่นานเขาก็จะเข้าไปทวงสิทธิ์คืนมา

            “คุณพ่อครับผมกลับมาทวงทุกอย่างคืนให้แล้วนะครับ” เขามองผ่านกระจกออกไปดูทิวทัศน์ของตึกสูงระฟ้าเรียงรายจนสุดลูกหูลูกตา  ช่วงวัยเด็กเขาเคยร้องไห้งอแงตามพ่อมานั่งเล่นซุกซนอยู่ในห้องนี้ ตอนนั้นรอบๆยังเป็นป่าไม้ไม่ได้มีตึกรามบ้านช่องมากมายขนาดนี้

            “ท่านประธานครับตอนนี้ผู้ถือหุ้นและผู้จัดการทุกคนรอในห้องประชุมแล้วครับ”

            เคลวินหันกลับมาแล้วเอ่ยกับลูกน้อง

            “เดี๋ยวผมตามไป”

            “ครับ”

            เขาอยากรู้จังว่าทรงพลจะทำหน้ายังไงเมื่อรู้ว่าประธานคนใหม่ที่มานั่งเก้าอี้แทนคือเขา  มันคงจะเป็นอะไรที่สะใจไม่น้อย



            ห้องประชุม

            เคลวินเดินเข้าไปก็เห็นทุกคนนั่งรออยู่จนเต็มห้องแล้ว  เขาปรายตามองหาคนที่อยากเจอที่สุดในตอนนี้  ก่อนจะเจอว่านั่งอยู่ไม่ไกลจากหัวโต๊ะ  แวบแรกที่สายตาทั้งสองประสานกันเคลวินรับรู้ได้ถึงแรงอาฆาต  หากไม่มีคนอื่นๆนั่งร่วมห้องอยู่ด้วยเขาคิดว่าทรงพลคงกระโจนเข้ามาชกหน้าเขาแล้วแน่นอน

            เมื่อเห็นหน้าของประธานบริษัทคนใหม่ทรงพลแทบช็อค  ถึงแม้เวลาจะผ่านมานานสักแค่ไหนเขายังคงจำแววตาคู่นั้นได้ดี  มุมปากที่ยกยิ้มขึ้นมาเหมือนจะเยาะเย้ยทำให้ทรงพลมองด้วยสายตาแข็งกร้าว  มือที่วางอยู่หน้าขากำจนสั่นระรัว  จนลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆคอยกุมเอาไว้เพื่อเตือนสติให้เย็นลง

            “สวัสดีครับทุกคน ผม เคลวิน เมอร์เรย์ ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการในฐานะประธานคนใหม่ของบริษัท  ผมสัญญาว่าจะบริหารงานด้วยความโปร่งใส  และทำทุกอย่างเพื่อให้ผลประกอบการที่ขาดทุนมาตลอดมีกำไรขึ้นมาได้  ขอให้ทุกคนเชื่อใจผมเราจะเดินหน้าไปพร้อมกัน ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”  พูดจบก็มีเสียงปรบมือดังระงมไปทั่วทั้งห้อง  เคลวินโค้งคำนับให้กับทุกคนแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ “ตอนนี้ทุกคนก็ได้รู้จักผมแล้ว ต่อไปผมอยากรู้จักกับทุกคน โปรดแนะนำชื่อและตำแหน่งให้ผมรู้จักด้วยครับเริ่มจากฝั่งนี้” เขาผายมือไปฝั่งตรงข้ามกับทรงพล

            ทุกคนยืนขึ้นแนะนำตัวเรียงกันไปจนถึงนดลที่นั่งอยู่ข้างผู้เป็นพ่อ  เขาทำท่าอิดออดแต่ก็ยอมลุกขึ้นแนะนำตัวแต่โดยดี

            “ผมนดล ตั้งสกุล ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการครับ” เขาเอ่ยอย่างไม่เต็มใจนักก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้เหมือนเดิม

สีหน้าเซ็งๆของนดลทำให้เคลวินถึงกับแสยะยิ้มออกมา  เขายังคงนิ่งไม่ได้เอ่ยอะไรถามอะไร  นดลไม่ใช่เป้าหมายหลักแต่คนที่นั่งข้างๆต่างหากที่เขาอยากจะเล่นงานตอนนี้

            “คุณทำไมไม่แนะนำตัวล่ะครับ” เคลวินเอ่ยถามเมื่อทรงพลไม่ยอมลุกขึ้นแนะนำตัวสักที

            “คุณพ่อครับทำๆไปก่อน” นดลกระซิบข้างหูผู้เป็นพ่อ

            “ผมทรงพล ตั้งสกุลครับ” เขาแนะนำตัวขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้

            “โปรดยืนขึ้นด้วยครับ อย่าทำตัวแปลกแยกกว่าคนอื่น” เสียงเข้มออกคำสั่ง

            เมื่อได้ยินคำสั่งทำให้ทรงพลยิ่งเดือดดาลขึ้นไปอีก  ความโกรธแค้นมันทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นเท่าตัวจนแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจน  ผิดจากเคลวินที่นั่งทำหน้านิ่งๆไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไร

            “ผมทรงผล ตั้งสกุล..ครับ” ทรงพลยอมลุกขึ้นยืนพร้อมกับถอนหายใจเสียงดัง

            “โปรดแจ้งตำแหน่งด้วยครับ” เคลวินยังคงแกล้งไม่เลิก เขารู้ดีว่าตอนนี้ทรงพลไม่มีตำแหน่งใดๆในบริษัทแล้ว  เพราะเป็นแค่หนึ่งในผู้ถือหุ้นเท่านั้น

            “ไม่มีตำแหน่ง” ทรงพลแสดงสีหน้าเกรี๊ยวกราด

            “โอ๊ะโอ ผมลืมไปเลยว่าเพิ่งแย่งตำแหน่งคุณมา  เอาอย่างนี้ในฐานะที่คุณบริหารงานที่นี่มานาน ผมจะแต่งตั้งตำแหน่งใหม่ให้รับรองเป็นงานสบายแน่นอน  เมื่อเช้าตอนเข้ามาผมเห็นยามหน้าบริษัทมีแค่คนเดียว  ผมเห็นลุงแกดูเหงาๆ เดี๋ยวยังไงเลิกประชุมแล้วคุณไปรับชุดที่ฝ่ายบุคคลด้วยนะ ไปเป็นยามที่หน้าบริษัทเป็นเพื่อนลุงคนนั้นท่าจะดี”

            “มันจะมากไปแล้วนะ!” ในที่สุดทรงพลก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้  เขาทุบโต๊ะเสียงดังแล้วลุกขึ้นยืนท้าทาย

            “พ่อครับใจเย็นๆ” นดลพยายามเตือนสติผู้เป็นพ่อ

            “มันหยามเกียรติพ่อขนาดนี้  พ่อทนไม่ไหวแล้ว!” เขาเอ่ยกับลูกชาย

            “ใจเย็นๆสิครับคุณทรงพล ผมไม่ได้บังคับคุณซะหน่อยถ้าคุณไม่ชอบตำแหน่งนี้มีตำแหน่งอื่นๆ เยอะแยะเลย ไม่ว่าจะเป็นคนสวนหรือว่าพ่อบ้านเลือกได้ตามสบายเลย” เคลวินเอ่ยอย่างใจเย็น

            “กูไม่ทำอะไรทั้งนั้นไอ้สารเลว มึงมาแย่งตำแหน่งกูแล้วยังมาทำอย่างนี้อีก คนอย่างมึงไม่ได้ตายดีแน่” ทรงพลชี้หน้าตวาดลั่นใส่

            “พวกคุณให้คนอย่างนี้มานั่งเก้าอี้เป็นประธานนานขนาดนี้ได้ยังไง วุฒิภาวะต่ำอารมณ์ร้อนอย่างนี้ มิน่าล่ะผลกำไรของบริษัทถึงได้ติดลบมาหลายปี  เอาเป็นว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคุณทรงพลไม่มีอำนาจหน้าที่หรือตำแหน่งใดๆในบริษัทนี้  รวมถึงคุณนดลด้วยอีกคนผมขอปลดคุณจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการนับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป” เคลวินเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจัง  สีหน้าท่าทางเริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ

            ทุกคนในห้องประชุมนั่งนิ่งไม่ได้โต้ตอบอะไร  เพียงแต่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

            “กูไม่จบแค่นี้แน่จำไว้” ทรงพลชี้หน้าก่อนจะเดินออกไปจากห้องด้วยความโมโห  ส่วนดลก็มองหน้าเคลวินอย่างเดือดดาลไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อ

            “มึงคิดว่าทำอย่างนี้แล้วพวกกูจะยอมจนมุม มึงคิดผิด” นดลรีบเดินตามหลังผู้เป็นพ่อออกไป

            “วันนี้ปิดประชุมแค่นี้ก่อนครับ ถ้ายังไงผมจะเชิญทุกคนมาประชุมใหม่อีกครั้งครับ” เขาเอ่ยแล้วทุกคนก็ทยอยเดินออกจากห้องไป

            เคลวินนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ด้วยความสะใจ  นี่มันแค่เริ่มต้นมันยังมีอะไรอีกเยอะที่พวกนั้นจะต้องเจอ  เขายิ้มออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



            หลังจากทรงพลและนดลกลับมาถึงบ้าน

            “โถ่โว้ย!” ทรงพลเริ่มระบายอารมณ์เสียงดังเมื่อมาถึงบ้าน

            “คุณพ่อใจเย็นๆครับ”

            “พ่อใจเย็นไม่ได้แล้วมันหยามเราขนาดนี้พ่อยอมไม่ได้” ไม่มีท่าทีว่าอารมณ์เกรี้ยวกราดของทรงพลจะลดน้อยลงเลย

            “เกิดอะไรขึ้นคุณ” แก้วกานดาเดินออกมาจากครัวพร้อมนภัทรและเด็กชายอุ่นรัก

            “ก็ประธานบริษัทคนใหม่มันคือไอ้วิน มันไล่ผมกับนดลออกมาจากบริษัทอย่างกับหมา”

            “คุณพระ!” แก้วกานดาเอามือทาบอกด้วยความตกใจ  ไม่ต่างจากนภัทรที่แทบจะล้มทั้งยืน  เขาสังหรณ์ใจตั้งแต่ที่เคลวินส่งข้อความมาเมื่อคืนนี้แล้ว  ไม่คิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้  เขาคิดผิดที่นึกว่าเคลวินจะรักษาสัญญา

            “แล้วทีนี้คุณพ่อจะทำยังไงครับ” นภัทรถามผู้เป็นพ่อ

            “ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว พ่อกับนดลไม่มีสิทธิ์มีเสียงในบริษัทอีกแล้ว” ทรงพลเอ่ยอย่างหมดหวัง

            “ไม่เป็นไรนะครับคุณพ่ออย่างน้อยเราก็ยังมีหุ้นอยู่ ไม่ต้องทำงานเราก็ยังมีเงินใช้ช่วงนี้คุณพ่อก็ถือซะว่าเป็นการพักผ่อนไปในตัวนะครับ” นภัทรพยายามพูดให้ผู้เป็นพ่อสบายใจ

            “คงต้องเป็นอย่างนั้นล่ะลูก พ่อขอตัวขึ้นข้างบนก่อนละกัน” ทรงพลเดินคอตกขึ้นข้างบนอย่างหมดอาลัยตายอยาก

ลูกชายทั้งสองคนมองตามหลังผู้เป็นพ่อด้วยความสงสารก่อนจะหันมามองหน้ากัน

            “เป็นไงล่ะยังรักมันลงอยู่ไหม?” นดลเอ่ยกับน้องชาย

            “ทำไมพี่ดลพูดอย่างนั้นล่ะครับ ทุกวันนี้ผมก็เลือกครอบครัวไม่ได้เลือกเค้าพี่จะพูดให้มันได้อะไรขึ้นมา”

            “เพราะถูกบังคับไงล่ะ ถ้าเลือกได้ภัทรคงจะไปอยู่กับมันแล้ว พี่จะไม่มีทางให้มันได้เห็นหน้าลูกแน่นอน” นดลเอ่ย

            “พี่ดลหมายความว่ายังไง” นภัทรเริ่มไม่ไว้ใจพี่ชาย

            “ก็หมายความอย่างที่พูดต่อไปนี้ภัทรกับลูกห้ามออกไปข้างนอกเด็ดขาด”

            “พี่ทำอย่างนี้ไม่ได้นะ” นภัทรตวาดลั่นใส่พี่ชาย

            “นั่นสิทำไมดลทำอย่างนี้ล่ะลูก” แก้วกานดาก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดของลลูกชายคนโต

            “มันทำกับเราได้ผมก็จะทำกับมัน ทำตามที่ผมพูดแล้วทุกอย่างจะดีเอง” นดลเดินขึ้นข้างบนไป

            นภัทรมองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยความผิดหวังและเสียใจกับสิ่งที่พี่ชายทำ  ลำพังเขาเองถ้าไม่ให้ออกจากบ้านคงไม่เป็นไร  แต่ลูกชายไม่ควรมาโดนขังไว้อย่างนี้เด็กควรจะได้ไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้าง

            “รอพี่เค้าใจเย็นกว่านี้ก่อนนะลูก ค่อยคุยกันอีกครั้ง” แก้วกานดาปลอบใจลูกชาย

            “คุงแม่ฮับทำไมคุงลุงต้องห้ามเราออกไปข้างนอกด้วยล่ะฮับ” เด็กชายมองหน้าผู้เป็นแม่ตาแป๋ว

            “ไม่มีอะไรลูก น้องอุ่นไม่ต้องห่วงนะเดี๋ยวแม่จะไปคุยกับคุณลุงเอง  เดี๋ยวเราก็ได้ไปเที่ยวกันเหมือนเดิม แต่ตอนนี้น้องอุ่นเล่นอยู่ในบ้านก่อนนะครับ” นภัทรนั่งลงพูดกับลูกชาย

            “ฮับคุงแม่น้องอุ่นเป็นเด็กดี น้องอุ่นจะเชื่อฟังคุงแม่ฮับ”

            “ดีมากลูก”

            เขากอดลูกชายเอาไว้แน่น ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งลูกชายที่น่ารักคนนี้มาให้  เขาไม่มีทางยอมให้ใครหน้าไหนมาพรากลูกไปจากอกได้แน่นอน

            มื้อเย็นของวันนั้นบนโต๊ะอาหาร  บรรยากาศไม่ได้ครึกครื้นเหมือนวันก่อนๆเลยแม้แต่น้อย  ทุกคนปิดปากเงียบไม่เอ่ยหยอกล้อเล่นกันเหมือนแต่ก่อน  มีเพียงเจ้าตัวเล็กที่นั่งทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อยไม่ได้สนใจอะไรเลยแม้แต่น้อย

            “คุณทำไมไม่ทานล่ะคะ” แก้วกานดานั่งทนดูไม่ได้เมื่อเห็นสามีนั่งเขี่ยข้าวในจานอย่างเหม่อลอย

            “ผมไม่ค่อยหิว”

            “ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ขึ้นไปพักผ่อนล่ะคะ”

            “เราเคยนั่งทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทุกวัน  ถึงผมจะทานไม่ลงแต่ก็อยากให้มันเป็นเหมือนเดิม” เขาเอ่ยกับภรรยาด้วยสีหน้าไมค่อยดีนัก

            “ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนเลยค่ะ ทุกอย่างมันต้องมีทางออกเพียงแต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้” แก้วกานดาเอ่ย

            “ถ้ามันจำเป็นผมก็ต้องทำ  ผมคิดหาทางออกไว้แล้วล่ะ” แววตาที่เศร้าสร้อยกลับกายเป็นเกรี้ยวกราดขึ้นมาในทันที  จนแก้วกานดารู้สึกตกใจกลัวกับท่าทีของผู้เป็นสามี

            นภัทรกลัวเหลือเกินว่าประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอยเมื่อได้ยินผู้เป็นพ่อพูดเป็นนัยอย่างนั้น

            ในระหว่างนั้นยามหน้าประตูก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา

            “ท่านครับมีคนพยายามจะเข้ามาผมห้ามแล้วแต่พวกมันมากันหลายคนผมสู้ไม่ไหว”

            “ใครกันที่มันกล้าทำอย่างนี้!” ทรงพลลุกขึ้นทันทีที่ได้ยิน

            “สวัสดีครับทุกคน ขอโทษด้วยที่มาขัดจังหวะการทานอาหารมื้อเย็น”เคลวินเดินเข้ามาด้วยท่าทีสบายๆ

            “มึงกล้าเข้ามาถึงที่นี่เลยเหรอวะ!” ทรงพลรีบเดินเข้าไปหาแต่นดลรีบจับแขนเอาไว้ได้ทัน

            “ก็ที่นี่มันบ้านของพ่อกูทำไมกูจะเข้ามาไม่ได้ล่ะ” ท่าทีของเคลวินเริ่มแข็งกร้าวขึ้น  เขาปรายตามองนภัทรด้วยความอาฆาตแค้น  ทั้งสองมองตากันอย่างไม่ลดละ  นภัทรรู้สึกผิดหวังที่เคลวินไม่ยอมรักษาสัญญา  เขายังยืนกรานที่จะเลือกครอบครัวเป็นอันดับแรก

            “นี่มันบ้านกูมึงไม่มีสิทธิ์ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!” ทรงพลตะโกนลั่นพร้อมกับชี้หน้า

            “เอานี่ไปอ่านซะมึงจะได้รู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นของใคร วันนี้กูมาทวงสิทธิ์ทุกอย่างที่เป็นของพ่อแม่กู พวกมึงเสวยสุขกันมามากพอแล้ว” ทุกอย่างที่นี่ยังคงเป็นชื่อพ่อของเขา  เคลวินให้ทนายจัดการเรื่องสิทธิ์การครอบครองให้เรียบร้อยแล้ว

            “มึงได้นั่งเป็นประธานบริษัทแล้วยังไม่พอใจอีกเหรอวะ” นดลทนไม่ไหวจึงตะโกนว่า

            “มันเป็นสิทธิ์ของกูตั้งแต่ต้นแล้ว พวกมึงต่างหากที่ยังไม่พออีกเหรอวะ พ่อมึงฆ่าพ่อกับแม่กูนี่ถือว่ามันยังน้อยไปกับสิ่งที่พวกมึงได้รับ” เคลวินเอ่ยประโยคนี้ออกมาทำให้ทุกคนต่างก็ทำหน้าไม่ถูก  มันคือเรื่องจริงที่ทุกคนต้องยอมรับ  แต่มีหรือที่ทรงพลจะยอม

            “มึงทำอะไรกูไม่ได้หรอกเรื่องมันผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว ตำรวจเอาผิดอะไรกูไม่ได้หรอกโว้ย!” ทรงพลแสยะยิ้มอย่างผู้มีชัย  แต่เคลวินกลับยืนนิ่งไม่ได้รู้สึกอะไร

            “มึงก็คอยดูแล้วกัน” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เอาของขึ้นไปเก็บที่ห้องใหญ่ข้างบน” เขาสั่งลูกน้อง

            “หยุดเดี๋ยวนี้ไม่งั้นกูแจ้งตำรวจแน่” นดลเอ่ยออกมา

            “ไม่ต้องกลัวที่นี่บ้านกูเอาขึ้นไปเลย ส่วนของมันที่อยู่ในห้องเอาออกมากองไว้ข้างล่างให้หมด” เขาสั่งลูกน้องก็ยอมทำตามในทันที  ครั้งนี้เคลวินพาลูกน้องมาด้วยสิบกว่าคน  ถ้าไม่ทำอย่างนี้คนอย่างทรงพลไม่ยอมจำนนแน่นอน

            “พอได้แล้วพี่วิน!” นภัทรทนไม่ได้จึงตะโกนขึ้นมา

            “กูนึกว่ามึงจะเป็นใบ้ซะอีก” เคลวินแสยะยิ้มใส่  ก่อนจะสะดุดตากับเด็กชายที่ยืนหลบอยู่หลังนภัทร  สายตาคู่นั้นมองมาที่เขาด้วยความหวาดกลัว  มันทำให้ความรู้สึกผิดเกิดขึ้นในใจแต่ถึงยังไงเขาก็ต้องทำมันต่อไป

            “ผมขอร้องล่ะหยุดเถอะ  แค่นี้คุณพ่อก็เสียใจมากพอแล้ว” ยิ่งพูดน้ำตายิ่งไหลลงมา  นภัทรจ้องหน้าชายหนุ่มผ่านม่านน้ำตา

            “กูเห็นแก่มึงละกันเอาเป็นว่ากูจะไม่ยึดห้องพ่อของมึงแล้ว” เขาเอ่ยกับร่างบางแล้วตะโกนสั่งลูกน้องที่กำลังขนของขึ้นไป “พวกมึงหยุดก่อนเอาของทั้งหมดไปไว้ที่ห้องของนภัทร”

            “อย่าทำอย่างนั้นเลยนะวินป้าขอร้องล่ะ เห็นแก่ตาอุ่นเถอะนะ” แก้วกานดาเอ่ยขอร้องเอาไว้  เพราะกลัวว่าเคลวินจะไปทำร้ายลูกชายต่อหน้าหลาน  หล่อนกลัวว่าเด็กจะมีปัญหา  อุ่นรักถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีไม่ควรมาเจอเรื่องอย่างนี้

            “คุณไม่มีสิทธิ์ออกความคิดเห็น  เอาเป็นว่าถ้าหากทุกคนอยากอยู่บ้านหลังนี้ต่อ ต้องเชื่อฟังคำสั่งของฉันแต่เพียงผู้เดียว” เคลวินมองไปที่สาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างหลังลูกชายแล้วเอ่ยขึ้นมา “เธอ!” เขาชี้หน้า

            “นะ...หนูเหรอคะ” เธอพูดตะกุกตะกักด้วยความกลัว

            “ใช่..เธอพาพวกนี้ขึ้นไปที่ห้องของนภัทรเอาของไปเก็บเดี๋ยวนี้”

            เธอมองหน้านภัทรก่อนที่เจ้าของห้องจะพยักหน้าให้เชิงอนุญาต

            “ดะ...ได้ค่ะ”

            “น้องอุ่นครับขึ้นไปข้างบนกับพี่แก้วก่อนนะ เดี๋ยวแม่ตามไป” นภัทรเอ่ยกับลูกชาย

            “ฮับคุงแม่” เด็กชายพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนที่แก้วจะอุ้มพาขึ้นไปข้างบน

            เคลวินมองตามลูกชายตัวน้อยด้วยความเอ็นดู  นี่สินะลูกชายที่เขาเฝ้ารอคอยที่จะได้เห็นหน้ามาตลอดหลายปี  จากนี้ไปลูกต้องอยู่กับเขาเท่านั้นไม่มีใครจะมาพรากไปได้อีกแล้ว


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เป็นการย้ายมาอยู่กับลูกที่น่ากลัวมาก

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
จะทำอะไรที่รุนแรงก็หลบ ๆ น้องอุ่นหน่อยนะ เกรงใจน้องอุ่นบ้าง  :katai3:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
คุณพ่อกับพี่ชายนี่ร้ายมากกกก  ลูกเขยเลยมาเหนือชั้นกว่า ต้องร้ายยิ่งกว่า หอบเอาลูกเมียไปอยู่เกาะเถอะวินสงสารภัทร

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
#ทีมวิน ค่ะ ชูป้ายไฟ ยังอ่านอยู่เพราะรอโมเม้นคุณพ่อคุณลูกวินอุ่นเลยนะ อ่อ รอความชิบหาย(ขอโทษที่ใช้คำหยาบค่ะ)ของพ่อภัทรด้วย
ถ้าไม่สำนึกผิดก็ขอบทสรุปที่สมกับสิ่งที่ทำด้วยค่ะ ถ้าบทสรุปคือครอบครัวสุขสันต์วินคงน่าสงสารมากที่ต้องทนเห็นหน้าคนที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเอง เพราะตอนนี้ครอบครัวภัทรไม่สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำเลยสักนิด เลวจนเป็นสันดานแล้วมั้ง แม่ภัทรก็มือถือสากปากถือศีลมากเว่อ เข้าวัดทำบุญเพื่ออะไรอ่ะคะถ้าใจยังไม่ดีเลย

ตอนนี้ดีใจที่คนเขียนเก็บรายละเอียดและมีความสมเหตุสมผลมากกว่าตอนก่อนหน้านี้ ถึงบางจุดจะยังขัดแย้งในตัวเองอยู่แต่เราว่าดีขึ้น เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :katai3:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
วินเอ้ยยย จะทำอะไรก็ห่วงลูกห่วงเมียบ้างเด้อ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ทำไมคุณพ่อกับคุณพี่ชายไม่มีสามัญสำนึกในสิ่งที่เคยทำไว้กับวินเลยเหรอค่ะ หน้าด้านเสียจริง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เกลียดครอบครัวของนายเอกมากกกกก คือเชื้อพ่อแพร่แรงมาก นายเอกโดนเก็บมาเลี้ยงเหรอ? 55555555

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
CHAPTER

-23-

แผนร้าย


          “ต่อไปนี้คนของกูจะเฝ้าที่นี่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง โปรดปฏิบัติตัวให้เป็นผู้อาศัยที่ดีด้วย” เคลวินยืนตะโกนสั่งเสียงดัง  ทุกต่างจ้องหน้าผู้มาใหม่ด้วยความเคียดแค้น  โดยเฉพาะทรงพลและลูกชายคนโตที่หากแม้นสามารถฆ่าให้ตายตรงหน้าได้คงทำไปแล้ว

            “จากบ้านที่เคยอบอุ่นกลับกลายเป็นคุกไปแล้วซะงั้น” นภัทรทนไม่ไหวจึงเอ่ยขึ้นมา

            “มึงคุ้นเคยกับการอยู่แบบนี้ไม่ใช่เหรอ” เคลวินมองหน้าร่างบางแล้วยิ้มที่มุมปาก

            “ผมเกลียดคุณ! จะทำอะไรก็เชิญตามสบายเพราะถึงยังไงที่นี่ก็เป็นของคุณไปแล้วนี่” ร่างบางเอ่ยประชดประชัน

            “พวกกูไม่มีทางอยู่ที่นี่ให้มึงกดหัวแน่ กูจะพาลูกเมียออกไปจากที่นี่เชิญมึงอยู่ไปคนเดียวเถอะ” ทรงพลที่ยืนนิ่งอยู่นานเอ่ยขึ้น  เขาไม่มีทางเสียศักดิ์ศรีให้เด็กเมื่อวานซืนมาบังคับข่มขู่ได้อย่างแน่นอน

            “ใครจะไปก็ช่างหัวพวกมึง  แต่นภัทรกับลูกห้ามไปไหนทั้งนั้น”

            “ไม่! ผมจะไปกับพ่อใครหน้าไหนก็ห้ามไม่ได้ทั้งนั้น” นภัทรตวาดแหวใส่ด้วยความโมโห

            “ถ้ามึงต้องการอย่างนั้นก็ได้..แต่ลูกต้องอยู่กับกูเชิญตามสบาย” เขารู้ดีว่าถ้าเอาเรื่องลูกมาอ้างยังไงซะนภัทรก็ต้องไม่ไปไหน

            “ไม่มีทางลูกต้องไปกับผม” นภัทรยืนกราน

            “พวกมึงไปเฝ้าหน้าห้องนอนนภัทรเอาไว้ห้ามให้ใครเข้าไปยกเว้นกูคนเดียว”

            “ครับ”

            นดลยืนทนฟังเคลวินขู่บังคับน้องชายไม่ไหวจึงเอ่ยขึ้น

            “มึงจะมากไปแล้วนะไอ้วิน” ยืนตัวสั่นเขาอยากจะควักหัวใจของไอ้คนนี้ออกมาสับเป็นชิ้นๆซะเหลือเกิน

            “ไม่มากเกินไปหรอกครับคุณพี่เมีย ก็อย่างที่บอกแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่พ่อของมึงทำไว้” ท่าทางกวนตีนของเคลวินทำให้นดลถึงกับจะวิ่งเข้าใส่แต่ผู้เป็นพ่อได้ห้ามเอาไว้ก่อน

            “เอาเป็นว่าทุกคนอยู่ที่นี่เดี๋ยวฉันไปเอง” ทรงพลตัดสินใจเอ่ยขึ้น

            “พ่อ! / พ่อ! / คุณ!” ทั้งสามคนเอ่ยขึ้นพร้อมกันด้วยความตกใจ

            “คุณไม่ต้องห่วงถ้าผมหาบ้านใหม่ได้ผมจะกลับมารับทุกคนไปอยู่ด้วยแน่นอน แต่ตอนนี้ทุกคนต้องอยู่ที่นี่ก่อน” เขาเอ่ยกับภรรยา

            “ฉันขอไปกับคุณได้ไหมคะ” แก้วกานดารู้สึกเป็นห่วงสามี

            “คุณอยู่ดูแลลูกที่นี่ล่ะไม่ต้องห่วง  ผมสัญญาว่าจะมารับคุณกับลูกแน่นอน” ทรงพลกอดภรรยาและลูกทั้งสองคนพร้อมๆกัน

            แปะๆๆ

            “ช่างเป็นครอบครัวที่แสนอบอุ่นเสียจริง แต่เสียดายวันนี้ต้องแยกทางกันซะแล้ว  เดินทางปลอดภัยละกันนะกูขอขึ้นไปหาลูกก่อน”

            เมื่อเห็นอย่างนั้นนภัทรก็รู้สึกเป็นห่วงลูกขึ้นมาทันที

            “ผมขึ้นไปหาลูกก่อนนะครับ”

            “ไปเถอะลูกพ่อสัญญาจะกลับมาลูกรับแน่นอน” ทรงพลเอ่ยกับลูกชาย

            “ครับคุณพ่อ ดูแลตัวเองด้วยนะครับ”

            เมื่อคุยกับพ่อเสร็จแล้วนภัทรก็รีบวิ่งตามขึ้นไปทันที  เขาจะไม่ยอมปล่อยให้คนๆนี้อยู่กับลูกตามลำพังแน่นอน

            เมื่อถึงหน้าห้อง

            “หยุดเดี๋ยวนี้!” นภัทรวิ่งตามมาจนถึงหน้าห้องก็ตะโกนห้ามก่อนที่เคลวินจะเปิดประตูเข้าไป

            “มึงไม่มีสิทธิ์มาห้ามกู”

            “ผมรู้ว่าห้ามคุณไม่ได้แต่ผมมีเรื่องจะขอร้อง”

            “เรื่องอะไร?”

            “อุ่นรักกถูกเลี้ยงมาอย่างดี คุณอย่าทำอะไรให้แกรู้สึกไม่ดีเลยนะผมสงสารลูก”  สิ่งที่นภัทรพูดออกมามันเต็มไปด้วยความจริงใจ  ถึงแม้เขาจะเกลียดแค้นคนที่อยู่ตรงหน้ามากเพียงใดก็ตาม  แต่คงไม่สามารถห้ามให้พ่อกับลูกพบกันได้  เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วเขาอยากให้ลูกมีความทรงจำดีๆกับคนเป็นพ่อ  เผื่อในอนาคตอุ่นรักจะไปคุยกับคนอี่นได้ว่าพ่อของแกไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ทุกคนเห็น

            “กูไม่ทำอย่างนั้นกับลูกกูแน่”

            ทั้งสองเข้าไปในห้องก็เจอเจ้าตัวน้อยนั่งอยู่กับพี่เลี้ยง  สายตาที่มองมายังเคลวินทำให้เจ้าตัวรู้สึกว่าลูกชายกำลังกลัวอย่างเห็นได้ชัด  นภัทรรีบเดินเข้าไปหาลูกชายก่อนบอกให้พี่เลี้ยงออกไป

            “แก้วไปพักผ่อนเถอะเดี๋ยวฉันจัดการเอง”

            “ค่ะคุณภัทร”

            หลังจากแก้วออกไปแล้วเคลวินก็ค่อยๆเดินเข้าไปหาลูกชาย

            “คุงแม่ฮับเค้าเข้ามาทำไม” อุ่นรักชี้ไปที่พ่อของตัวเอง

            “น้องอุ่นครับน้องอุ่นเคยบอกว่าอยากมีพ่อเหมือนคนอื่นใช่ไหมครับ”

            “ฮับคุงแม่”

            “นี่ไงพ่อที่น้องอุ่นอยากเจอ พ่อวินของลูกไงครับ” นภัทรพยายามทำความเข้าใจกับลูกชาย  เจ้าตัวเล็กยังทำหน้างงอยู่

            “ไม่จริงพ่อน้องอุ่นไม่ใช่คนใจร้าย น้องอุ่นกลัวฮับคุงแม่” อุ่นรักกอดผู้เป็นแม่แน่น 

            “น้องอุ่นครับนี่พ่อเอง ต่อจากนี้พ่อจะมาอยู่กับน้องอุ่นแล้วนะครับ” เคลวินเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะเอื้อมมือไปจับแขนลูกชาย

            “อย่ามาจับน้องอุ่น น้องอุ่นกลัว ไปไกลๆ” อุ่นรักกอดแม่แน่นขึ้นซุกหน้าที่อ้อมอกไม่ยอมสบตาแม้แต่น้อย

            “น้องอุ่นครับอย่าดื้อสิ”

            “น้องอุ่นไม่อยากเห็นหน้า น้องอุ่นกลัว”

            เคลวินได้ยินอย่างนั้นก็ทำหน้าจ๋อย เขาคงเลวในสายตาลูกมากสินะถึงขนาดไม่อยากเห็นหน้าอย่างนี้  นภัทรมองหน้าพ่อของลูกด้วยความเห็นใจ  แต่มองอีกมุมนึงมันก็สมควรแล้วที่จะต้องโดนอย่างนี้ในเมื่อกล้าทำแล้วก็ต้องกล้ารับผลที่จะเกิดขึ้น

            “ตอนนี้ลูกยังไม่พร้อมรออีกหน่อยละกันครับ” นภัทรเอ่ยปลอบใจ

            สีหน้าที่ชายหนุ่มมองมานั้นนภัทรไม่สามารถเดาความรู้สึกออกได้เลย  มันก้ำกึ่งระหว่างความไว้ใจและความเกลียดชัง

            อุ่นรักกอดแม่เอาไว้จนหลับไปในที่สุด  นภัทรอุ้มลูกไปนอนบนเตียงก่อนจะหันไปมองหน้าผู้ร่วมห้องคนใหม่  เขามองทุกอิริยาบถที่นภัทรทำในห้องอย่างไม่วางตา

            “กูไม่ผิดหวังเลยที่มึงเป็นแม่ของลูกกู เสียอย่างเดียวที่มึงเป็นลูกของไอ้นั่น  ไม่งั้นทุกอย่างมันอาจจะดีกว่านี้”

            “แต่ผมผิดหวังในตัวคุณ  ถ้าหากเลือกได้ก็คงไม่อยากให้เป็นพ่อของลูก”

            เมื่อได้ยินอย่างนั้นเคลวินก็คว้าที่ต้นแขนของนภัทรเอาไว้ก่อนจะลากออกห่างจากเตียงนอน  เพราะกลัวว่าเจ้าตัวเล็กจะตื่นเอาเสียก่อน

            “มึงเป็นคนเลือกทุกอย่างเอง  ถ้ามึงเลือกที่จะอยู่กับกูที่นั่นเรื่องมันก็คงจะจบไปแล้ว” นภัทรส่ายหน้าเมื่อได้ยินสิ่งที่เคลวินเอ่ย

            “ไม่จริง! คุณไม่มีทางยอมหยุดเรื่องนี้ คุณไม่เคยแคร์ผมกับลูกเลยแม้แต่น้อย ถ้าคุณแคร์ทุกอย่างมันคงไม่เป็นแบบนี้”

            “มึงรักพ่อแม่มึง กูก็รักพ่อแม่กูเหมือนกัน ถ้ากูฆ่าพ่อแม่มึงตายบ้างมึงจะรู้สึกยังไง” คนตัวสูงแสยะยิ้มเมื่อเห็นหน้าเจื่อนๆของอีกคน  คงเป็นคำพูดที่แทงใจดำไม่น้อย “เห็นไหมล่ะมึงพูดไม่ออก แล้วทีนี้เข้าใจกูรึยังว่าทำไมถึงลืมเรื่องนี้ไม่ได้”

            “เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วผมคงทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องปกป้องคนที่ผมรัก ถ้าใครมาทำร้ายครอบครัวผม ก็ไม่ยอมปล่อยมันไว้เหมือนกัน” เขาไม่อยากจะเอ่ยประโยคนี้ออกมาเลยแม้แต่น้อย  แต่สถานการณ์ทุกอย่างมันบังคับให้เขาต้องเลือกอย่างนี้ น้ำตามันไหลลงพร้อมกับคำพูดที่เอื้องเอ่ยออกไป

            “ดี! พูดอย่างนี้กูจะได้ตัดสินใจอะไรง่ายขึ้น หลังจากจัดการเรื่องที่นี่เสร็จเรียบร้อยแล้วกูจะพาอุ่นรักกลับไปอยู่กับกูที่เกาะ ส่วนมึงเลือกที่จะอยู่กับครอบครัวก็เชิญไสหัวออกไปพร้อมกับพ่อแม่มึงเถอะ”

            “ไม่มีทางลูกต้องอยู่กับผมเท่านั้น” เมื่อได้ยินอย่างนั้นยิ่งทำให้นภัทรแทบเป็นบ้า  ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ใจร้ายมากขนาดนี้

            “ได้กูจัดให้เดี๋ยวจะเสกลูกให้มึงอีกคนละกัน” พูดจบเคลวินก็ไซร้ซอกคอขาวอย่างบ้าคลั่งราวกับโหยหาสิ่งนี้มานานแสนนาน นภัทรได้แต่ใช้กำปั้นทุบที่แผงอกแกร่งเต็มแรง

            “ปล่อยนะไอ้วสารเลว!”

            “ร้องดังๆสิลูกจะได้ตื่นขึ้นมาเห็นพ่อกับแม่มันเล่นจ้ำจี้กัน” รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏบนใบหน้าจนนภัรหมั่นไส่ซะเต็มประดา

            “เลว! ผมจะไม่มีวันอภัยให้คุณเด็ดขาด จำไว้!” แววตาที่ส่งถึงคนตัวโตมันเป็นแววตาที่ผิดหวังอย่างแรง  ความเห็นใจที่เคยมีมันหมดลงไปแล้ว  หากเขากล้าจะทำอย่างนี้อีกครั้งก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเผาผีกันแล้ว

            “มึงเองก็ไม่เคยมีเยื่อใยกับกูตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่”

            “อื้อ”

            ริมฝีปากบางถูกประกบอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน  เขาบดจูบริมฝีปากอย่างรุนแรงจนนภัทรรู้สึกเจ็บมากเหลือเกิน  ไม่นานหลังจากนั้นก็รูสึกหวิวเหมือนตัวลอยได้ก่อนที่แผ่นหลังจะแนบชิดกับพรมที่พื้นห้อง  คนตัวสูงตรึงร่างบางเอาไว้ก่อนจะเสพสมกับเรือนร่างที่โหยหามานาน  ไม่มีเสียงสะอื้นไห้และเสียงเอื้อนเอ่ยใดๆออกมาจากปากนภัทรเลยแม้แต่แอะเดียว  เขาได้แต่นอนน้ำตานองหน้าระบายความอัดอั้นในใจ ไม่มีทางให้ลูกชายตื่นขึ้นมาเห็นภาพที่มันบัดสีอย่างนี้เด็ดขาด



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


            ช่วงหลายวันมานี้นดลไม่ยอมออกจากบ้านไปไหน  เพราะกลัวว่าคนของเคลวินจะทำร้ายแม่และน้องชาย  ถึงแม้ว่ามันจะอึดอัดมากแค่ไหนแต่ก็ต้องทน  เพราะอีกไม่นานแผนการที่เขาได้คุยกับผู้เป็นพ่อไว้ก็จะสำเร็จ

            “ฮัลโลไอ้กันต์กูมีเรื่องจะให้มึงช่วยหน่อย” เขาตัดสินใจโทรหาเพื่อนรักเพื่อขอความช่วยเหลือ

            (“เรื่องอะไรวะบอกมาเลยกูยินดี ว่าแต่ช่วงนี้มึงเงียบๆไปนะมีอะไรรึเปล่าเพื่อน”)

            ตอนนี้กันต์ได้ย้ายกลับมาทำงานที่กรุงเทพแล้วหลังจากโครงการที่เกาะบลูซีเสร็จเรียบร้อย  โดยไม่ลืมที่จะพาแฟนหมอหน้าหวานกลับมาด้วย  ทั้งสองใช้เวลาคบหาดูใจกันอยู่นานจนตัดสินใจที่จะมาใช้ชีวิตร่วมกันที่กรุงเทพฯ  โดยพงษ์ได้เปิดคลินิกรักษาคนไข้ไปพร้อมๆกับการเป็นอาจารย์หมอในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง  ช่วงที่กลับมาอยู่กรุงเทพใหม่ๆทั้งสองคนได้มาแวะเวียนเยี่ยมนภัทรอยู่หลายครั้ง  จนคุ้นเคยกับครอบครัวของนภัทรเป็นอย่างดี

            “วันพรุ่งนี้กูว่าจะพาแม่และน้องไปขออยู่กับมึงสักพัก”

            (“มันเกิดอะไรขึ้นวะดล”) กันต์ถามเพื่อนด้วยความตกใจ

            “มีปัญหานิดหน่อยว่ะถ้าเคลียร์เรื่องนี้แล้วกูจะมารับตัวกลับแน่นอน”

            (“มึงบอกกูไม่ได้เหรอวะว่าเรื่องอะไร กูเป็นเพื่อนมึงนะเว้ย”)

            “ตอนนี้กูยังบอกอะไรไม่ได้จริงๆ เอาเป็นว่าช่วงนี้ที่บ้านกูมีปัญหารู้แค่นี้ก็แล้วกัน”

            (“โอเคๆถ้ายังไงกูจะให้คนเตรียมห้องไว้ให้ ดีเหมือนกันกูกับพงษ์คิดถึงน้องอุ่นจะแย่แล้ว”)

            “แค่สองคนน้องอุ่นจะไปอยู่กับกู”

            (“อ้าวทำไมล่ะ  มึงจะพาน้องอุ่นไปอยู่ไหนกันแน่วะ”) กันต์เริ่มสงสัยเพื่อนตัวเองขึ้นมา

            “เดี๋ยวกูจะบอกทีหลัง”

            (“เออถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกกูแล้วกัน”)

            “ขอบใจมากมึงเป็นเพื่อนคนเดียวคนที่กูไว้ใจที่สุด”

            (“มึงไม่ต้องห่วงกูจะดูแลทุกคนแทนมึงเอง”)  ในใจก็คิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนเขากันแน่

            “เดี๋ยวกูจะโทรไปอีกทีนะ”

            (“เออๆกูเป็นห่วงมึงนะเว้ย จะทำอะไรก็คิดให้ดีๆกูแนะนำมึงได้แค่นี้ล่ะ”)

            “มึงไม่ต้องเป็นห่วงกูว่ากูคิดดีที่สุดแล้ว”     



            นดลวางสายเพื่อนก็โทรออกไปหาผู้เป็นพ่อต่อทันที

            “พ่อครับโอเคแล้ว”

            (“ดีมากลูกแล้วยาล่ะพร้อมรึยัง”)

            “ผมเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วครับ”

            (“ถ้างั้นก็จัดการเลย  พ่ออดใจรอจัดการมันไม่ไหวแล้ว”)

            “อีกไม่นานเราจะได้ทุกอย่างกลับคืนมาแน่นอนครับพ่อ”

            นดลแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจ  อีกไม่นานเขาก็จะได้ทุกอย่างกลับคืนมาแน่นอน


*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*




--------------------------------------
จากนี้ไปก็จะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้วนะคร้าบบ  มันใกล้ถึงจุดจบของเรื่องนี้แล้ว ฮึก...

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ดีใจที่ภัทรมีโอกาสได้ไปเรียนเมืองนอกมาหลายปี ถ้าอยู่กับครอบครัวตลอดคงไม่ต่างกับดลที่ได้สันดานพ่อมาเต็มๆ

ทีมวิน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ดลจะพาหนีออกจากบ้านได่ไหมเนี่ย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
รู้สึกเห็นใจพระเอกมากเลย ทำไมนายเอกไม่เห็นใจบ้างก็เข้าใจนะว่าครอบครัวของสำคัญ
แต่พระเอกจะให้ลืมความแค้นมันคงเป็นไปไม่ได้หรอก

ออฟไลน์ Altasia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ชอบคำพูดพระเอก นายเอกรักครอบครัวได้ แล้วทำไมพระเอกจะรักบ้างไม่ได้ หลายคนอาจจะคิดให้พระเอกอโหสิเพื่อเริ่มต้นใหม่กับนายเอก เราก็คิดว่าพระเอกก็คงอยากทำแบบนั้น ถ้าเพียงจะได้เห็นความรู้สึกผิดของพ่อนายเอกหรือคำขอโทษจากใจจริงสักนิด แต่นี่นอกจากไม่สำนึกแล้ว ยังลอยหน้าลอยตาคิดวางแผนร้ายอีกล่ะ แล้วจะให้พระเอกลืมอดีตได้อย่างไร

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
อย่าบอกนะว่าพ่อลูกจะเอาน้องอุ่นเป็นตัวประกัน  แค่คิดก็เลวแล้ว

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด