ตอนที่14
วันจันทร์และอังคารของผมผ่านไปอย่างสงบสุข สงบสุขมากจนน่ากลัว ไม่มีแกงค์สามแยกปากหมาเข้ามาแซวเข้ามาจีบ ไม่มีขนมของเส้นที่มักฝากต่อๆกันมา ไม่มีจดหมายจีบมุกเสี่ยวกับลายมือห่วยๆ วันนี้ซึ่งเป็นวันพุธเองก็สงบสุขเช่นกัน และสาเหตุทั้งหมดมาจากภาพในงานดนตรีสดที่ผมกับฟรานนั่งซบกันทำให้เรตติ้งของผมลดฮวบฮาบ
ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องน่ายินดีมากๆ ผมไม่เคยแฮปปี้กับการโดนจีบ และผมก็คาดหวังอย่างยิ่งว่าเรตติ้งของฟรานจะตกเช่นเดียวกันผม ทว่าผมกลับคิดผิดมหันต์!
‘S FRAN : ขอโทษนะสีคราม โดนรุ่นพี่บังคับให้ไปคุยงาน
วันนี้เป็นวันที่ผมกับฟรานนัดกันไว้ว่าจะไปกินข้าวกลางวันที่ร้านพี่เชนด้วยกันแต่ทุกอย่างก็พังไม่เป็นท่า
BLUE SKY : ไม่เป็นไร
‘S FRAN : จะกลับคอนโดเลยมั้ย
BLUE SKY : ว่าจะนั่งเล่นคอมที่ห้องสมุดอะ กลับห้องไปเปิดแอร์เปลืองไฟ
‘S FRAN : งั้นเลิกแล้วผมไปหานะ
ผมกดล็อคจอมือถือ เก็บข้าวของใส่กระเป๋าและเดินคอตกออกจากโรงอาหาร ผมอุตส่าห์ตั้งตารอวันนี้แท้ๆแต่จะโทษฟรานก็ไม่ได้ ต้องไปโทษรุ่นพี่ของเขาโน่น! มานัดอะไรวันนี้ไม่ดูตาม้าตาเรือ ฮึ่ยยยย
แต่ก็เอาเถอะ ฟรานบอกว่าเลิกแล้วจะมาหาเพราะงั้นผมรอได้ นานเท่าไหร่ก็จะรอ!
ผมจองเครื่องคอมในห้องสมุด เวลาแบบนี้มีเครื่องว่างเหลือเฟือ ผมเลือกตัวริมสุดเพราะต้องการความสงบก่อนกดเปิดเว็บดูซีรี่ส์ของนอก ครับ ซีรี่ส์ที่ผมชอบดูตั้งแต่เด็กคือซีรี่ส์ญี่ปุ่นซึ่งมันหาแบบซับไทยแทบไม่ได้ การหัดเรียนภาษาญี่ปุ่นของผมมันเริ่มมาจากจุดนี้ จุดที่ยามะพี่เล่นเรื่อง proposal daisakusen แล้วผมเสพติดเป็นบ้าเป็นหลัง จนตอนนี้ผมได้มาถึงจุดที่ดูซีรี่ส์โดยไม่พึงซับ!
เป็นที่มาของสีครามอักษร เอกญี่ปุ่นด้วยประการฉะนี้
เนื่องจากผมไม่รู้ว่าฟรานจะมาเมื่อไหร่ผมเลยเลือกเรื่องที่ความยาวตอนแค่20นาทีดู เผื่อเขามาผมจะได้ตัดจบง่ายๆผลปรากฏว่าผมดูจนจบเรื่องไปเรื่องนึงฟรานก็ยังไม่มา...
มองออกไปนอกหน้าต่างตอนนี้ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีส้มแล้ว ผมเริ่มเป็นห่วงเลยหยิบมือถือขึ้นมาเช็คดูแต่ไม่มีการติดต่ออะไรจากฟรานเลย ผมชั่งใจว่าจะโทรเข้าไปตามดีมั้ย จะดูน่ารำคาญรึป่าว
“รออีกนิดละกัน”ผมตัดสินใจเช่นนั้นก่อนจะเปิดหาเรื่องใหม่ดู
ตอนนอนดูอยู่บ้านกับเปิดดูค่าเวลารอใครสักคนความสนุกมันต่างกันจริงๆ พระอาทิตย์จะตกดินแล้วและเพิ่มเริ่มเมื่อยคอไปหมดฟรานก็ยังไม่โผล่หัวมา!
“ถ้าไม่มาจริงๆจะกลับละนะ!”ผมตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ปากประกาศว่าจะไม่รอแต่ตูดยังแช่อยู่กับเบาะ
“หง่า...อีกสักสิบนาทีละกัน”
ฉับพลันมือถือของผมก็มีแจ้งเตือนเข้า ผมรีบหยิบขึ้นมาอ่านก่อนจะต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ ฟรานบอกว่ากำลังมา ผมคลี่ยิ้มก่อนกดปิดเครื่องและหยิบของออกมานั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือแทน ใช้เวลารออีกไม่นานร่างสูงก็เดินกระหืดกระหอบเข้ามา ผมมองฟรานในชุดนักศึกษาไม่ถูกระเบียบ ชายเสื้อหลุดรุ่นแถมเหงื่อยังท่วมตัวด้วยสายตาสงสัย
“ขอโทษที่มาช้า...”เจ้าตัวทำหน้ารู้สึกผิดพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
ผมเกือบใจอ่อนแต่ของแบบนี้มันต้องมีบทบาทกันมาก ยอมมากเดี๋ยวได้ใจ
“ไปทำอะไรมาล่ะ”ผมถามเสียงเรียบ
“อาจารย์กับรุ่นพี่เรียกไปคุย”
“เรื่อง?”
“มีเด็กคณะอื่นติดต่อให้ผมไปช่วยเล่นดนตรีในงานเยอะมาก”
“เช่นคณะอะไรบ้าง?”
“เอ่อ เท่าที่จำได้ก็มีพยาบาล วิทยาศาสตร์ คุรุ...”แต่ละคณะที่พูดมามันคณะผู้หญิงเยอะกว่าผู้ชายทั้งนั้นเลยนี่หว่า รู้วัตถุประสงค์ของคนเชิญเลยนะ แหมมม เด็กดุริยางค์มีเป็นพันคนดันเลือกเจาะจงมาที่ฟรานซึ่งเรียนสาขาแต่งเพลง อยากจะแหมมมมไปให้ถึงพลูโต
ผมเรตติ้งตกแต่ฟรานดันเรตติ้งแรงเหมือนเดิมแบบนี้มันขี้โกงนี่!
ฟรานคงจับรังสีไม่พอใจของผมได้เจ้าตัวจึงรีบกล่าวต่อว่า”แต่ผมปฏิเสธไปหมดแล้ว”
“อ้าว...”
“ผมอยากมาหาสีครามเร็วๆ ถ้าตกลงรับงานพวกเขาจะให้ผมอยู่คุยต่ออีก”
ชิบ กลายเป็นผมทำให้ฟรานเสียงานซะงั้น”พี่ไม่เป็นไร คราวหลังเลือกงานเถอะยังไงงานก็สำคัญนะ”
“แต่สีครามสำคัญกว่า”
ว๊ายยยย พูดแบบนี้ต้องการอะไร ยอมแล้ว ยอมทั้งตัวทั้งใจเลยจ้า
“บะ...บ้า...”ผมงุบงิบตอบด้วยใบหน้าขึ้นสี
“เมื่อกี้ผมโทรไปถามพี่เชน พี่เขาบอกว่าร้านคิวยาวเลย เราคงต้องไปกินที่อื่น”ฟรานกล่าว
“อ้อ”
“สีครามมีที่ที่อยากไปมั้ย”เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงเลิกงานพอดีพวกร้านหน้ามอของผมเต็มไปด้วยนักศึกษาและมนุษย์เงินเดือนฟรานเลยเสนอให้ไปกินที่อื่น
ให้ผมเลือกสินะ ได้! งั้นผมขอเลือก”คอนโดพี่”
“ก็ได้ งั้นผมไปส่งนะ”ใบหน้าหล่อๆของเด็กดุริยางค์ตรงหน้าผมเจื่อนไปทันที ดูท่าจะเข้าใจผิดสินะ
“พี่หมายถึงซื้อของสดกลับไปทำกินที่ห้องกันเถอะ สุกี้เป็นไง! อ๊ะหรือขี้เกียจล้าง งั้นเราสั่งพิซซ่ามานั่งกินดีปะ”นี่เป็นเดิมพันครั้งใหญ่ของผมเลยนะ มันคือการชวนฟรานขึ้นห้องครั้งที่สอง!
คราวก่อนเคยชวนแล้วนก คราวนี้ถ้านกอีกล่ะก็...
“พิซซ่าละกัน”
“เย้!! อุ่ย...เรามาสั่งกันเถอะ กลับถึงห้องเขาจะได้มาส่งพอดีไม่ต้องรอนาน”ผมเฉไฉเปลี่ยนเรื่องแทบไม่ทัน เมื่อกี้หลุดดีใจออกนอกหน้าเกินไปหน่อย ดีที่ฟรานไม่ทันเอะใจอะไรผมเลยเนียนๆหยิบมือถือออกมาเปิดเว็บเลือกหน้ากันไป พอเลือกเสร็จก็ซ้อนเจ้ามอเตอร์ไซค์คันเดิมกลับห้อง
ตอนเดินนำเข้าลิฟต์ในผมเต้นแรงมาก แบบม๊ากกก มากกก พยามรักษาอาการสุดชีวิตตรงกันข้ามกับฟรานที่ยังคงสีหน้านิ่งปนอึนตามแบบฉบับของเจ้าตัว และเมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องผมก็ตื่นเต้นหนักกว่าเดิม ตั้งแต่เกิดมานี่เป็นครั้งแรกที่พาคนที่ชอบเข้าห้อง!
“นะ นั่งตรงนี้ก่อนสิ...เอา เอาน้ำอะไรมั้ย”
“นี่ห้องสีครามเองนะอย่าเกร็งสิ”โฮกกกก นี่ผมแสดงอาการจัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอฟรานที่ปกติยิ้มยากถึงยิ้มออกมาทั้งทางปากและทางแววตาแบบนั้น
ผมหัวเราะแหะๆก่อนเดินไปนั่งบนโซฟาซะเอง ไม่เสริฟน้ำมันละถ้าหิวก็ไปรินเอาเอง
เปิดทีวีดูไปเรื่อยเหลือบมองคนที่นั่งเฉยๆอยู่ข้างกายไปปด้วยยิ่งรู้สึกเกร็งหนักกว่าเดิมผมจึงหยิบมือถือขึ้นมาดู“เดี๋ยวนะ...”
เมื่อวานผมกดติดตามเพจทวงคืนสีครามไว้ครับ เอาไว้สอดส่องระวังตัวแทนฟรานเนื่องจากเจ้าตัวไม่ได้ไลค์ไว้ และโพสต์ล่าสุดของแอดมินเพจก็ขึ้นมาบนสุดของไทม์ไลน์พอดี
‘ไอ้เด็กกาก เล่นดนตรีไม่เป็นวันนี้มันปฏิเสธงานไป5งาน หวายๆ สงสัยจังว่าเล่นดนตรีไม่เป็นแล้วแต่งเพลงเป็นได้ยังไง’
“เชี่ย!”ผมถึงกับสบถออกเสียง การที่ฟรานปฏิเสธไม่รับงานมันแปลเป็นฟรานเล่นดนตรีไม่เป็นได้ไงวะ!
“อะไรเหรอ”
“ฟรานรับสักงานเหอะพี่ว่า เอางานที่ได้โชว์สกิลเยอะๆ”ล้อเด็กดุริยางค์ว่าเล่นดนตรีไม่เป็นมันหยามศักดิ์ศรีกันเกินไป
“ทำไมจู่ๆถึงพูดขึ้นมาเหรอ”
“มีคนหาว่าฟรานเล่นดนตรีไม่เป็นเลยพยามเลี่ยง พี่อ่านแล้วขึ้น!”
“ผมเล่นเปียโนกับกีตาร์เป็น”
“นั่นไง! แบบนี้ยิ่งอยู่เฉยไม่ได้แล้วนะ!”
“สีครามไม่ต้องห่วง ผมมีวิธีจัดการกับเรื่องนี้”
คำพูดเมื่อครู่ของฟรานทำให้ผมหุบปากสนิท กลัวว่ายิ่งพูดอีกฝ่ายจะยิ่งรำคาญซะเปล่าๆ ผมนั่งหน้าเจื่อนเหงือกแห้งเงียบๆจนกระทั่งเด็กพิซซ่ามาถึง ผมเป็นคนลงไปเอาในฐานะเจ้าบ้านปล่อยฟรานไว้ข้างบน ขึ้นมาถึงก็พบว่าเขาจัดโต๊ะเรียบร้อยและนั่งรออยู่แล้ว
“แล้วเอ่อ...เราจะไปร้านพี่เชนกันอีกเมื่อไหร่เหรอ”หลังจากอาหารมาพวกเราก็เงียบไปเลย ผมกลัวฟรานจะโกรธผมที่ไปยุ่มย่ามกับชีวิตของเขามากเกินไปผมจึงพยามชวนคุบเพื่อบรรยากาศผ่อนคลาย
“ต้องดูก่อน ช่วงนี้ผมยุ่งๆ”
“อ้อ...”จบเห่ คำว่าดูก่อนสามารถแปลไทยเป็นไทยได้ว่าไม่ไปแล้ว ผมยิ้มเจื่อนให้อีกฝ่ายแทนคำตอบ
“จะสอบแล้ว”เสียงทุ้มกล่าวเสริม ผมเงยหน้าขึ้นมาจากจานอย่างมีความหวังนิดนึง”สีครามตั้งใจอ่านหนังสือเถอะ”
ขอคิดในแง่ดีว่าคนโปรดของผมไม่อยากให้ผมเสียการเรียนได้รึป่าว วันจันทร์หน้าเป็นวันสอบกลางภาควันแรกแล้วจริงๆถ้าเป็นปกติแม้แต่วันนี้ผมก็ต้องขลุกตัวอยู่ในห้องเพื่ออ่านหนังสือสอบ
“คณะฟรานก็มีสอบเหมือนกันใช่มั้ย”
“อืม ทั้งทฤษฎีกับปฏิบัติเลย”
“สู้ๆนะ”
“สีครามด้วย”
“ถ้าพี่อ่านหนังสือเบื่อๆพี่โทรไปหาได้มั้ย”
“ได้สิ ผมจะดีดกีตาร์ให้ฟัง”
“ดีจัง ได้ยินอย่างนี้ชักอยากเบื่อๆเร็วๆแล้วสิ”ผมยิ้มแก้มแทบแตก
“ไม่ต้องรอเบื่อหรอก คิดถึงก็โทรมาได้”ตอบแบบนี้หนังสือหนังหาไม่ต้องอ่านมันละมะ หอบข้าวหอบของมาอยู่ห้องพี่เลยเหอะ!
“งั้นวันนี้ไหนๆก็มาแล้วร้องเพลงให้พี่ฟังสักเพลงสิ!”
“ไม่มีกีตาร์...”
“ร้องสดไง!”คนฟังทำหน้าแบบ พี่อยากฟังเสียงผมเปล่าๆขนาดนั้นเลยเหรอ? ก่อนจะสบตาผมกลับมาอย่างต่อต้าน ระหว่างเราไม่มีคำพูด ทำเพียงจ้องตากันไปเรื่อยๆราวกับใครเบือนหน้าหนีก่อนจะเป็นฝ่ายแพ้
“ก็ได้ เอาไว้โทรไปให้ร้องให้ฟังวันหลังก็ได้!”ผมยกมือยอมแพ้พลางลุกขึ้นเก็บจานไปล้าง เด็กโข่งที่ดื้อไม่ยอมร้องเพลงให้ผมฟังเดินตามมาที่ซิงค์ด้วยสีหน้ารู้สึกผิด มือหนาพยามยื่นเข้ามาแย่งจานผมไปล้างแต่ก็โดนผมปัดออกอย่างรำคาญ
“อย่าซนน่า! ไปนั่งนิ่งๆตรงโน้นไป๊”
“แต่สีครามโกรธ...”
“ไม่ได้โกรธ!”แค่งอน รู้จักมั้ยคำว่างอนน่ะ ฮึ!
“ผมร้องเพลงโดยไม่มีกีตาร์ให้สีครามฟังตอนนี้ไม่ได้จริงๆ”
“รู้แล้วจ้า ฟรานมีเหตุผลของฟรานนั่นแหละจ้า พี่ไม่ได้โกรธสักนิดจ้า”
“เพราะผมเขิน”
“ใช่ๆ เพราะฟรานเขิน ฮะ อะไรนะ!? เขินเหรอ เขินพี่เนี่ยนะ!? บ้าเหรอเล่นให้พี่ดูคนเดียวก็เขินแล้วเนี่ยนะ งี้ที่พวกในเพจคุยกันก็จริงอะดิว่าฟรานไม่กล้าขึ้นเวทีอะ”ผมหันไปถามด้วยความตกใจ
“บนเวทีผมเล่นได้ แต่เล่นให้สีครามฟังผมเขิน!”คนถูกกระตุ้นต่อมศักดิ์ศรีเถียงด้วยน้ำเสียงที่แข็งขึ้นบ้าง ขมวดคิ้วมุ่นให้ผมรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง”ตอนม.ปลายผมเรียนสาขาดนตรีคลาสสิค ขึ้นเวทีมาไม่รู้กี่ครั้ง”
อ้าว แบบนี้ปัญหามันอยู่ที่กูนี่หว่า เล่นให้คนเป็นร้อยฟังได้แต่กับผมคนเดียวทำไม่ได้
“ทำไมอะ”
“ไม่บอก”
“ฟรานอ่า...พี่ทำอะไรผิด”
“สีครามไม่ได้ทำอะไร ผมก็บอกอยู่นี่ว่าเขิน”
“แล้วทำไมต้องเขินพี่แค่คนเดียวด้วยเล่า!”
“ก็มัน!...”ก็มันอะไร หันกลับมาตอบกันก่อนดิเห้ยเดินหนีกลับไปนั่งโซฟาแบบนี้จะถือว่าป๊อดนะเว้ย!
-----------------------------
นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการไล่ตามความฝันของนายเอก
ใช่ค่ะ ความฝันของสีครามคือการชวนฟรานขึ้นห้อง
และ ณ วันนี้เวลานี้...มันได้เป็นจริงแล้ว!!! #ลุกขึ้นปรบมือ #ชมสีครามหน่อยพยามมาหลายตอนแล้ว