ตอนที่18
“คราม ตอนเที่ยงคนไม่พอจริงๆต้องผลัดกันไปกินข้าว ครามช่วยอยู่เฝ้าโต๊ะแทนได้มั้ยเดี๋ยวเราซื้อข้าวกล่องมาฝาก”ทำไมคนอื่นมันได้ไปกินข้าวแต่ข้าพเจ้าต้องนั่งเฝ้าโต๊ะวะครับ ตรรกมึงป่วยมาก ผมมองหน้ายัยเบลล์กระดิ่งแมวด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์
“เบลล์ก็อยู่เฝ้าสิ เดี๋ยวเราซื้อข้าวกล่องมาฝาก!”ผมกระแทกปากกาลงกับโต๊ะอย่างแรงจนน้องๆม.ปลายที่กำลังต่อแถมเตรียมลงชื่อรับของชำร่วยฟรีสะดุ้งโหยง
ใช่แล้ว วันนี้คือวันโอเพ่นเฮาส์นั่นเอง
ฟรานนัดผมให้ไปที่โรงอาหารตอนเที่ยงโดยที่ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมากไปกว่านั้น หนำซ้ำผมยังต้องนั่งปั้นยิ้มเหงือกแห้งนั่งประจำการอยู่ที่โต๊ะลงทะเบียนตั้งแต่เจ้าไม่ได้กระดิกตัวไปไหนเนื่องจากคณะผมมีนโยบายเชิญชวนชายแท้มาเรียนอักษรเลยเกณฑ์คนหน้าตาดีมานั่งรับแขกเยอะๆ ผมกับเบลล์ก็เป็นหนึ่งในนั้น
บางทีก็คิดนะว่าผู้ชายที่โดนผมตกเข้าคณะอะ มันจะเป็นชายแท้ได้ยังไงวะ
อยากเจอฟรานจัง เบื่อขี้หน้าเด็กหัวเกรียนพวกนี้แล้ว ทั้งวันผมไม่ได้เจอเขาเลยแต่จากแจ้งเตือนเพจทวงคืนผู้งานดีจากเด็กอักษรทำให้ผมเห็นฟรานผ่านทางไลฟ์ เจ้าตัวทำงานช่วยส่วนกลางอยู่ที่โรงอาหารกลาง ร้องเพลงเชิญชวนเด็กไปดูคณะต่างๆ
อันที่จริงฟรานไม่ได้เป็นคนร้องหรอก รายนี้นั่งดีดกีตาร์เงียบๆส่วนคนที่ถือไมค์คือไอ้เซ็ต
“คราม! เป็นผู้ชายซะเปล่ามาโยนงานให้ผู้หญิงแบบนี้ได้ไง”
“โหยยย แล้วเป็นผู้หญิงมันโยนงานให้ผู้ชายงี้ก็ได้เหรอ บ้า!”
“เอ๊ะ อย่าพูดจาหยาบคายต่อหน้าน้องๆนะเสียภาพรักษ์คณะหมด! ไม่รู้แหละ ฉันจะไปกินข้าว ปะอิอออย แดกข้าวที่โรงอาหารกัน”อ้าววววว เชี่ยยยยย ผมลากเสียงสบถหยาบคายในใจพร้อมส่งสายตาสาปแช่งไปให้แกงค์ชะนีที่เดินสะบัดตูดออกจากโต๊ะลงทะเบียน
ทีนี้น้องที่ต่อแถวพวกนางอยู่ก็ต้องย้ายก้นมาต่อแถมผมแทนทำให้คิวยาวขึ้นไปอีก
แบบนี้ก็ได้เหรอ!?
“จะเที่ยงอยู่แล้ว...TT”ผมมองนาฬิกาน้ำตานองหน้า ใจนึกอยากโทรหาไอ้เต้ยให้ช่วยมาเปลี่ยนตัวแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเพื่อนรักต้องทำหน้าที่สันทนาการ ตั้งแต่ตี5ตอนนี้ยังไม่ได้พัก
“น้องๆช่วยรีบลงชื่อกันหน่อยครับ! พี่ปิดลงทะเบียนตอนเที่ยงนะ!!”
“ได้ไงคะน้องคราม! ของชำร่วยยังเหลือตั้งเยอะอย่าทำงานแบบส่งๆสิคะ พูดจาพล่อยๆว่าจะปิดทั้งๆที่ลังของแจกยังเหลืออีกเป็นกองแบบนี้เด็กจะมองภาพลักษณ์คณะเราเป็นยังไง?”ก็มองแบบ...คณะนี้ทำไมใช้แรงงานแต่พี่น่ารักคนนี้อ่า ปล่อยพี่คนนี้เขาไปหาผู้ชายได้แล้ว
แต่ผมก็ทำได้แค่โอดครวญในใจเพราะเจ๊คนที่เข้ามาเฉ่งผมคือประธานปี4
ฮรึก
“พี่จ๋าครับ ผมหิวข้าว ช่วยมาเปลี่ยนตัวกับผมแป๊ปได้มั้ย”เอาวะ ของแบบนี้ลองเสี่ยงขอดูเผื่อได้
“ฝากเพื่อนซื้อสิคะ! พี่มีงานอื่นต้องทำอีกเยอะ อย่าเอาเรื่องไร้สาระมาหนักหัวพี่นักเลยลูก”พูดจบแม่นางก็เดินสะบัดบ็อบจากไป เออ บาย ในเมื่อพี่พูดเองว่ามันไร้สาระผมก็จะเท
“น้องครับ ลงชื่อตรงนี้แล้วก็หยิบของในกล่องไปได้เลยนะ”ผมกล่าวกับน้องในแถวพลางหยิบลังขึ้นมาวางบนโต๊ะเสร็จสรรพ กะว่าพวกเบลล์กลับมาก็พอดีของในลังนี้หมดพวกนางจะได้หยิบลังใหม่มาแจกน้อง
“...”น้องในแถวที่เห็นเหตการณ์ทั้งหมดมองผมด้วยสายตาแบบว่า เอิ่ม พี่จะทำแบบนี้จริงๆเหรอคะ แต่ผมไม่แคร์! ผมเคยอ่านนิยายมาเยอะ หลายเรื่องที่นางเอกไปไม่ทันนัดสำคัญของพระเอกทำให้ทั้งสองคนต้องคลาดแคล้วกันไป ผมจะไม่ยอมให้เรื่องโง่ๆแบบนั้นเกิดขึ้นกับตัวเองเด็ดขาด!
“น้องคราม”
ใครอีก!
ผมหันขวับไปตามเสียงเรียกก่อนจะพบเข้ากับ...พี่ตฤณ
“เบลล์ไปกินข้าวแล้ว พี่นั่งรอก่อนสิอีกสักพักก็คงกลับมา”ถ้าช่วยเฝ้าโต๊ะให้ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
“พี่มาหาเรา ไม่ได้มาหาเบลล์”พี่เขาทำหน้าเศร้าขณะเดินเข้ามาหาผม”ขอคุยด้วยหน่อย”
“ผมจะไปกินข้าว”อุปสรรคเยอะจังโว้ยยยยย
“แป๊ปเดียว”
“ผมหิว”
“ไม่นานนะ ขอร้องล่ะ”
“ก็ได้ ถ้าพี่สัญญาว่าคุยจบพี่จะอยู่เฝ้าโต๊ะลงทะเบียนแทนผม”เอางี้แม่งเลย พี่ตฤณอึ้งไปสามวิก่อนจะกัดฟันพยักหน้าตกลง ผมฉีกยิ้มร้ายให้พี่เขาไปหนึ่งทีก่อนเดินนำไปหามุมสงบซึ่งวันงานแบบนี้มุมสงบหายากมากกกกก กว่าจะหาเจอก็กินเวลาไปหลายนาที ผมมองนาฬิกาด้วยใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ
“พี่มีเรื่องจะถามเรา...คือว่า กับเด็กดุริยางค์คนนั้น...สีครามชอบเหรอ”
“คำนี้ผมยังไม่เคยบอกเขาเลย คงพูดให้พี่ฟังก่อนไม่ได้”
“โอเค ไม่เป็นไร พี่ว่าพี่ได้คำตอบแล้วล่ะ กลับเถอะ”เท่านี้เรอะ! ที่ถ่อสังขารมาซะไกลก็เพื่อถามเท่านี้น่ะเหรอ
ไม่ดิ ผมว่าพี่ตฤณน่าจะมีอีกหลายเรื่องที่อยากถามแต่หมดแรงจะถามไปแล้วต่างหาก ปกติแผ่นหลังกว้างๆของผู้ชายช่างตื๊อคนนี้จะเหยียดตรงอย่างผ่าเผย แต่บัดนี้มันดูห่อเหี่ยว ขนาดเดินนำอยู่ทำให้ผมไม่เห็นหน้าแต่พี่เขาคงไม่โอเคจริงๆ
“ผมขอโทษ”
“ไม่เป็นไร ครามไม่เคยทำอะไรเป็นการให้ความหวังพี่สักครั้งพี่ผิดเองที่...ตัดสินใจเลิกกับเบลล์ในตอนนั้น”
“เบลล์นิสัยน่ารำคาญ พี่เลิกๆไปได้ก็ดี คนใหม่ขอให้พี่เจอแบบนิสัยดีๆนะ”
“อืม...แล้วเบลล์ก็จะตามไปราวีคนนั้นแทนสินะ”
“ฮะๆๆๆ ดีเลย! ชีวิตผมจะได้สงบสุขสักที!”นี่เป็นครั้งแรกเลยรึป่าวที่คุยกับพี่ตฤณได้ยาวขนาดนี้ เออเว้ย คนเราพออกหักก็พูดเก่งขึ้นมางี้เหรอ พอเรากลับมาที่โต๊ะลงทะเบียนพี่อดีตเดือนคณะบริหารก็นั่งลงประจำตำแหน่งพร้อมแจกร้อยยิ้มการค้าให้แก่เด็กๆที่สนใจจะเข้าคณะอักษร
“ไปนะพี่”ผมเอ่ยอย่างปราศจากความเกรงใจ
พี่ตฤณโบกมือไล่ผมพร้อมรอยยิ้ม นี่นับเป็นการบอกว่าจะตัดใจจากผมแล้วสินะ ดีๆ หลังจากนี้ผมกับฟรานจะได้อยู่กันอย่างสงบสุข
พอโยนงานเสร็จผมก็รีบจ้ำอ้าวไปยังโรงอาหารกลางทันที วันแบบนี้อย่าหวังจะขึ้นรถรางเลย ทางเดินยังแทบไม่มี ผมวิ่งซิกแซกมาไกลจนหอบแฮ่ก วิ่งไปห่วงเวลาไป พอเข้ามาถึงโรงอาหารผมก็ต้องอ้าปากค้าง
ข้างนอกคนว่าเยอะแล้ว ในนี้แม่งเยอะกว่าเยอะ!
เนื่องจากเป็นเวลาเที่ยงที่คนมากินข้าวกลางวันและการแสดงดนตรีสดจากสองหนุ่มแห่งคณะดุริยางค์
ผมแทบจะล้มทั้งยืนเมื่อมองไปทางเวทีเตี้ยๆข้างหลังสุดของโรงอาหารแล้วพบว่ามันถูกห้อมล้อมด้วยสายน้อยสาวใหญ่ตั้งแต่วัยม.ต้นจนถึงนักศึกษาป.โท
ได้แฟนคลับเพิ่มอีกแล้วสินะ...
แล้วผมต้องทำไงอะ ยืนฟังเสียงจากตรงนี้ส่วนหน้ามือกีตาร์ผมต้องเปิดดูจากไลฟ์ในเพจทวงคืนผู้งานดีงั้นรึ?
ฟรานจะรู้มั้ยว่าผมอยู่ตรงนี้! เอาไงดี แสดงอยู่แบบนี้คงรับโทรศัพท์ไม่ได้หรอกมั้ง ระ หรือผมต้องกระโดดเหยงๆตะโกนเรียกชื่อฟรานดังๆ เหอะๆ ไม่น่าได้ผลเพราะเสียงในโรงอาหารตอนนี้ดังมาก
“ฮือออ...หรือว่าจะไม่เห็นเราเลยร้องเพลงที่จะร้องให้เราไปแล้ว...”ผมเริ่มคิดมากจิตฟุ้งซ่านไปเรื่อยในขณะที่เด็กผมทองนามเซ็ตเริ่มร้องเพลงต่อไป
[เพลงต่อไปที่จะร้องคือเพลงเคมีนะครับ ใครร้องได้ช่วยผมร้องไปด้วยกันได้เลย ส่วนใครสนใจอยากเข้าคณะวิทยาศาสตร์เคมี สามารถขึ้นรถรางสายสีแดงไปลงที่ป้าย...]โอ้โห โฆษณาแฝงได้ล้ำลึกมาก
ผมมองเด็กบนเวทีเริ่มเล่นเพลงเคมีของเต็น ธีรภัค ทั้งเพลงมีท่อนที่เกี่ยวกับเคมีแค่’เคมีตรงกันใช่ไหม คือคำตอบของหัวใจ ที่ทำให้ฉันนั้นรักเธอ’แต่ก็จับโยงไปโปรโมทคณะวิทย์ได้
พอเพลงนี้จบเซ็ตก็พักดื่มน้ำและถามผู้ชมต่ออย่าร่าเริงว่า[ต่อไปอยากฟังเพลงคณะอะไรดีครับ! หือออ อะไรนะดังๆหน่อยไม่ได้ยินเลย!]
“i*&!_(@*#&*!y#h#hnhwywhต--)(#_(!*($&*#$&^%”ร้อยคนร้อยเสียง ใครเรียนคณะไหนอยู่ ใครอยากเข้าคณะอะไรก็แข่งกันตะเบ็งขึ้นไปบนเวที ผมมองภาพปลาสวายแย่งขนมปังในน้ำนั่งอย่างเหนื่อยหัวใจ
ผมแทรกตัวเข้าไปไม่ไหวแน่ๆ TT
[อักษรเหรอ!? มีคนอยากฟังเพลงคณะอักษรใช่มั้ย เอ...เอาไงดีนะ คณะนี้ขอเก็บไว้ก่อนได้ปะไม่รู้เจ้าของคณะเขามาถึงรึยัง เอางี้ผมขอร้องเพลงยาใจก่อนแล้วกัน! เพลงค่อนข้างเก่าแล้วแต่ถ้าใครสนใจอยากเข้าคณะเภสัชล่ะก็...]
ยาดีที่คุณนั้นมีให้มา ช่วยรักษาใจ
ยาใจที่ให้คือการอภัย ขอบคุณนะ
เชี่ย หลังจากไอ้เซ็ตชักแม่น้ำทั้ง5สายเอามาโยงเพลงยาใจเข้ากับคณะเภสัชสำเร็จเจ้าตัวก็เริ่มร้อง เพลงนี้ผมไม่เคยฟังแต่อดคิดไม่ได้ว่าวิธีประชาสัมพันธ์งานของปีนี้เจ๋งดี ฮ่ะๆ
“ของอักษรจะเป็นเพลงอะไรนะ”ผมเริ่มคิดไอเดียต่างๆ แต่เท่าที่ฟังเซ็ตพูดเมื่อกี้เพลงคณะอักษรนี่แหละที่ฟรานอยากให้ผมฟัง นั่นไง เจ้าตัวเริ่มดีดกีตาร์ไปมองซ้ายมองขวาไปแล้ว กำลังหาผมอยู่แหงๆ
ผมพยามโบกมือ ขึ้นไปยืนตรงบันไดจะได้เด่นๆ ในที่สุดฟรานก็มองหาผมเจอ จากที่ไกลๆตรงนี้ผมมองเห็นรอยยิ้มของเขาไม่ชัดแต่ถ้าไม่ได้ตาฝาดเมื่อกี้ฟรานต้องยิ้มให้ผมแน่ๆ! เสียงกรี๊ดเบาๆจากสาวๆหน้าเวทีช่วยยืนยันว่ารอยยิ้มเมื่อกี้เป็นรอยยิ้มแรกของฟรานตั้งแต่ขึ้นเวทีมา
[เอาล่ะ ต่อไปเป็นคิวของคณะอักษรแล้ว! ขอบอกไว้ก่อนว่าเพลงนี้ไม่มีการแถโปรโมทคณะอะไรทั้งสิ้น! เพราะเพลงนี้เพื่อนผมจะร้องให้เด็กอักษรคนนึงฟัง!! ใครอยากรู้ว่าว่าที่แฟนมันหน้าตาเป็นยังไงตามไปเจอได้ที่คณะอักษรตึกที่อยู่ติดกับลานจอดรถ2 วันนี้คณะอักษรมีบูทจากทุกสาขา ไม่ว่าจะญี่ปุ่น ฝรั่งเศส...]
ผู้ชมไม่ให้ความสนใจกับที่ตั้งของคณะอักษรสักนิด สาวๆทั้งหลายมองหน้ากันเลิ่กลั่กตั้งแต่ฟรานวางกีตาร์ยืนรอให้เซ็ตพูดจบเงียบๆ
พวกที่เรียนมหาลัยและรู้ข่าวฟรานกับผมไม่ค่อยช็อคเท่าไหร่ แต่สงสารน้องๆมัธยมแฮะ คร่ำครวญกันใหญ่ว่าพี่หล่อคนนี้มีแฟนแล้วงั้นหรือ ผมอยากเดินไปกอดพวกเธอพร้อมกระซิบบอกว่ายังหรอกหนู พี่หล่อเขายังไม่มีแฟนแต่กำลังจะมีคือพี่ไง อิอิ
[อ่า...]
เขิน!
อาการเขินชัดมาก...
พ่อหนุ่มขี้อายของผมพอจับไมค์ปุ๊ปหูก็เริ่มแดงทันที ภาพที่เห็นทำให้สาวน้อยที่ใจเสียเมื่อครู่กลับมายิ้มอย่างเอ็นดูอีกครั้ง”สู้ๆนะคะพี่ หนูจะเชียร์ให้พี่สมหวังค่ะ!”น้องที่ยืนอยู่ใกล้ผมตะโกนออกมา ไม่รู้ว่าคนบนเวทีได้ยินมั้ยแต่ตอนนี้เจ้าตอนทำสมาธิได้แล้วและให้ไปส่งสัญญาณให้นักดนตรีเริ่มขึ้นอินโทร
“อะ...”
เพลงนี้ผมรู้จัก แต่คนอื่นคงไม่รู้จักกันหรอก
เพราะมันคือเพลงภาษาญี่ปุ่น
แบบนี้รู้เลยนะว่าคนที่ฟรานร้องให้ฟังต้องเรียนเอกญี่ปุ่นแน่ๆ...
Chiisana Koi No Uta (
Little love song) เพลงประกอบซีรี่ส์ที่ยามะพีเล่น หนึ่งในแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมเข้าเรียนในเอกญี่ปุ่นนี้ ด้วยความที่ชอบเป็นทุนเดิมยิ่งได้ฟรานมาร้องไห้ฟังผมยิ่งคิดว่ามันเพราะมากขึ้นอีกไม่รู้กี่เท่า
hiroi uchuu no kazu aru hitotsu aoi chikyuu no hiroi sekai de
ณ โลกอันกว้างใหญ่สีฟ้าครามที่มีเพียงหนึ่งเดียวใบนี้
chiisana koi no omoi wa todoku chiisana shima no anata no moto e
จะส่งความรู้สึกแห่งรักเล็กๆนี้ไปให้ถึงเธอที่อยู่บนเกาะเล็กๆ
anata to deai toki wa nagareru
หลังจากพบกับเธอกาลเวลาก็ผ่านมาเรื่อยๆ
ร้องมาถึงท่อนนี้คนรอบตัวเริ่มหันไปถามคนข้างๆว่าเพลงนี้คือเพลงอะไร ทุกคนอยากได้ชื่อเพลงจะได้เปิดกูเกิลเพื่อดูความหมายของมัน ในที่นี้คงมีคนที่ฟังออกโดยไม่ต้องเปิดเน็ตหาแค่เพียงไม่กี่คน และผมก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ว่า
hibiku ha tooku haruka kanata e yasashii uta wa sekai wo kaeru
สิ่งที่ดังก้องจะสื่อไปให้ถึงอีกฝั่งที่อยู่ห่างไกล ด้วยบทเพลงที่แสนอ่อนโยนนี้จะเปลี่ยนแปลงโลก(ของเธอ)เอง
hora anata ni totte daiji na hito hodo sugu soba ni iru no
ดูสิ สำหรับเธอแล้วเป็นคนที่แสนสำคัญ คนที่คิดแบบนั้นอยู่ข้างๆเธอนี่เองนะ
tada anata ni dake todoite hoshii hibike koi no uta
แค่อยากจะสื่อไปให้ถึงเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เพลงรักที่ดังก้องอยู่นี้
ตายยยยย เจอท่อนนี้เข้าไปไม่ตายก็บ้าแล้ว ไม่ได้ร้องแค่ปาก แต่ทั้งตานี่โฟกัสมาที่ผมแค่คนเดียวจริงๆ มองแถมยังยิ้มให้จนเด็กน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆผมระทวยจนแทบเข่าอ่อน
nigirishimeta te hanasu koto naku omoi wa tsuyoku eien chikau
มือที่กุมกันไว้นั้นฉันจะไม่มีวันปล่อยเด็ดขาด ด้วยความรู้สึกที่หนักแน่นนี้ขอสาบานไปตลอดกาล
eien no fuchi kitto boku wa iu omoi kawarazu onaji kotoba wo
ในบั้นปลายของความนิรันดร์ ฉันก็ยังจะพูดคำเดิม ด้วยความรู้สึกที่ไม่เปลี่ยนแปลง
soredemo tarizu namida ni kawari yorokobi ni nari
ถึงแม้ตัวฉันก็ยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนน้ำตาให้เป็นความยินดีได้
kotoba ni dekizu tada dakishimeru tada dakishimeru
ไม่อาจเอ่ยคำพูดอะไรได้เลย ทำได้เพียงโอบกอดไว้ ทำได้แค่กอดเธอไว้เท่านั้น
hora anata ni totte daiji na hito hodo sugu soba ni iru no
ดูสิ สำหรับเธอแล้ว สำหรับเธอแล้วเป็นคนที่แสนสำคัญ คนที่คิดแบบนั้นอยู่ข้างๆเธอนี่เองนะ
tada anata ni dake todoite hoshii hibike koi no uta
แค่อยากจะสื่อไปให้ถึงเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เพลงรักที่ดังก้องอยู่นี้
มาถึงท่อนนี้คนเริ่มจับเนื้อเพลงที่ฟรานร้องและเอาไปเปิดเน็ตหาจนได้ชื่อเพลงพร้อมคำแปลมาแล้วเรียบร้อย แต่ผมไม่รู้สึกหวงหรอกนะ เพราะสารที่คนร้องต้องการจะสื่อน่ะ...มันมาถึงผมทั้งหมดแล้ว
ในขณะที่คนอื่นก้มดูคำแปลบนจอผมก็ส่งยิ้มให้เขา เป็นช่วงเวลาไม่กี่นาทีสั้นๆที่จะประทับอยู่ในใจผมไปจนวันตาย
https://www.youtube.com/watch?v=Woorod1gJ_w
นี่ลิ้งค์เพลงที่ฟรานร้องนะจ๊ะ ในคลิปฝังซับแบบเปิด/ปิด คำบรรยายไว้ ใครเปิดไม่เป็นก็เมนชั่นมาถามได้ 555